เบิกฟ้า ฉบับที่ # 22

Page 1

free copy

ฉบับที่ 22 เดือนมีนาคม พ.ศ.2557

ออกแบบปก : ชุติมา ประสานทรัพย์ www.facebook/petch chutima

ISSN 2350-9507

อย่าปล่อยให้

ศิลปะ กับลิขสิทธิ์ ความรักหายไป A-R-T

จากใจเรา

Life Coaching

ประเทศไทยในฝัน Around Me!


02 Editor Talk

มูลนิธิ​ด�ำรง​ชัย​ธรรม ก่อ​ตั้ง​ขึ้น​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2542 โดย​คุณ​ไพบูลย์ ด�ำรง​ชัย​ธรรม มูลนิธิ​ได้​มอบ​โอกาส​ทาง การ​ศึกษา​ให้​กับ​เยาวชน อีก​ทั้ง​ยัง​ส่ง​เสริม​ให้​เยาวชน​ได้​ ท�ำ​กิจกรรม​ต่างๆ เพื่อ​พัฒนา​ตนเอง​ตามศักยภาพ อาทิ กิจกรรม​โครงการ​สถานี​อาสา โครงการ​ยอ่ ​โลก​ทงั้ ​ใบ​ให้​เด็ก ​ไทย​ได้​รู้จัก และ​วารสาร​เบิก​ฟ้า บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ปราโมช รัฐวินิจ (กรรมการและผู้อ�ำนวยการมูลนิธิ) ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประธานกรรมการมูลนิธิ : ไพบูลย์ ด�ำรงชัยธรรม กรรมการและเลขานุการ : ฟ้าใหม่ ด�ำรงชัยธรรม กรรมการและเหรัญญิก : สุวิมล จึงโชติกะพิศิฐ กรรมการ : อรุณ วัชระสวัสดิ์ มานิจ โมฬีชาติ จิราภรณ์ วิญญรัตน์ ทอรุ้ง จรุงกิจอนันต์ สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา บุษบา ดาวเรือง ไชย ณ ศิลวันต์ ประภาวดี ธานีรนานนท์ ระฟ้า ด�ำรงชัยธรรม ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมมูลนิธิ : ไศล วาระวรรณ์

เข้าสูเ่ ดือนที่ 3 ของปี 2557 เวลาเดินสม�ำ่ เสมอ จึงดูเสมือน รวดเร็ว ช่วงปีใหม่หลายคนใช้ช่วงเวลานี้เป็นฤกษ์งามยามดี ประกาศความตั้งใจอย่างหาญกล้า จะเปลี่ยนความคุ้นชินเก่าๆ เริ่มต้นท�ำสิ่งใหม่ๆ จะมีเป้าหมายแห่งชีวิต จะตื่นเช้าไปเรียน ให้ทัน จะออกก�ำลังกาย จะลดความอ้วน จะเก็บเงินให้ได้เท่านั้น เท่านี้ จะผ่อนรถ จะเรียนฝึกภาษาอังกฤษ จะไปประกวดร้อง เพลง จะอ่านหนังสือทุกวัน จะจดเลกเชอร์เองไม่ลอกใคร จะลด การดืม่ กาแฟดืม่ น�้ำอัดลม จะเลิกกินอาหารฟาสฟูด้ จะจดบันทึก การใช้จ่ายเงิน จะไม่ซื้อเสื้อผ้าฟุ่มเฟือย จะเข้าเรียนทุกวิชา จะไม่รบกวนเงินจากพ่อแม่ วันนี้วกกลับมาตรวจสอบเป้าหมาย ที่ตั้งใจกันสักหน่อยดีไหม ปรบมือให้กบั คนทีย่ งั มุง่ มัน่ และพากเพียรอยูก่ บั เป้าหมาย ของตัวเอง ส่วนคนทีล่ มื ๆ เบลอๆ ในความตัง้ ใจไปแล้ว ส่วนใหญ่ เพราะปัจจัยจากตัวเองแทบทั้งนั้น ท่านปัญญานันทภิกขุ ได้ให้ ทัศนะเกี่ยวกับการชนะใจตัวเองไว้ว่า “คนส่วนใหญ่ขาดความ อดทน ตามใจตั ว เอง ปล่ อ ยอารมณ์ ไ ปตามอ� ำ นาจ สิ่งแวดล้อมไม่เคยก�ำราบตัวเอง จึงยากที่จะควบคุมตัวเอง จริงๆ แล้วการควบคุมตัวเองนั้นมันหนักเหนื่อยในชั้นต้น ความจริงสบายปลายมือ” ต่อสู้กับปีศาจในตัวคุณให้ส�ำเร็จ

โชค​ดี​นะ​คะ

หัวหน้ากองบรรณาธิการ ณัฏฐา ทับทอง กองบรรณาธิการ ทีมงานมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม

วารสารเบิกฟ้า ผลิตโดยมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม ส�ำนักงาน เลขที่ 50 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ : 02-669-9611-7, 02-669-9711-8 โทรสาร : 02-669-9614 E-mail : damrongchaitham@damrongchaitham.com Website : www.damrongchaitham.com Facebook : www.facebook.com/DMfoundation.dm จัดพิมพ์โดย บริษัท วงตะวัน จ�ำกัด 555 ถนนประชาอุทิศ แขวง ดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ : 02-981-1333 โทรสาร : 02-981-1340

พี่​เจี๊ยบ (ณัฏฐา ทับทอง)

หัวหน้ากองบรรณาธิการ www.facebook.com/berkfaa Natha_tub@damrongchaitham.com


CONTENTS :

Art Appreciation

4

Scitech

22

English for Fun

5

Wow! Asean

23

ก.เอ๋ย ก.ไก่

6

กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา

24

Hi! Japanese

7

Math Unlimited

25

คนเลว (ใช่ไหม) ของ โยชิดะ ชูอิจิ เรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษผ่าน Facebook สูตรจ�ำ…สะกดค�ำถูกต้อง 日本の人々に励ましを送る

ส่งก�ำลังใจให้ชาวญี่ปุ่น

DM Graduate

ถ้าไม่ท้อเสียก่อน เราจะส�ำเร็จ SME แบรนด์ทุเรียนทอดชายน้อย

12

Experience

14

ขะแมร์

ไปอวกาศกันเถอะ! หางเครื่อง

คณิตศาสตร์คืออะไร

8

Thinking Talking

เราต่างต้องตายไปในวันแดดสีเหลือง

Selfie โพสต์รูปแลกไลค์

26 Around Me!

: ประเทศไทยในฝัน

16

: พลังงานไทยอะไรเอ่ย?

เวทีคนเก่ง

30

มองชีวิตคิดดี

31

ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉนั รักการร้องเพลง

A-R-T

ศิลปะกับลิขสิทธิ์

16

Guidance

18

Life Coaching

20

Help for Health

21

หนอนหนังสือ

อย่าปล่อยให้ความรักหายไปจากใจเรา ระบบประกันสังคม

26

ไปทางไหนดี

20

MY COLUMNIST : คอลัมน์นิสต์ รับเชิญพิเศษ : มองชีวิตคิดดี โดย ดร.ศิริวรรณ เกษมศานต์กิดาการ อาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ • Life Coaching, Art Appreciation โดย ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ประจ�ำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย • Guidance โดย รอยฝัน (คุณสุรวิทย์ อัสพันธุ์) • Thinking Talking โดย คุณเมธา มาสขาว คอลัมน์นิสต์ กลุ่มบัณฑิตทุนมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม : English for Fun โดย จิรวัฒน์ มหาสาร บัณฑิตทุนรุ่นที่ 7 : เจ้าหน้าที่ประสานงานเอกสิทธิ์ทางการฑูต ณ สถานทูตอเมริกาประจ�ำประเทศไทย • ก.เอ๋ย ก.ไก่ โดย ยามเย็น (สนธยา สุขอิ่ม) บัณฑิตทุนรุ่น 6 : อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จ.ลพบุรี • Hi! Japanese โดย ครูหนาว (มานิต วงศ์มูล) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 6 : ครูสอนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียน อุตรดิตถ์ • Experience โดย กุ้งนาง (อนิจธิยา นิลบรรหาร) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 4 : นักศึกษาปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ ด้านการสอนภาษาอังกฤษมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี • A-R-T โดย MR.BOM (สุริยน แก้ววังสัน) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ บริษัท เฟอร์นิเทค จ�ำกัด • Help for Health โดย ภญ.บุ ษ บงก์ ธรรมมาสถิ ต ย์ กุ ล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : เภสัชกรประจ�ำโรงพยาบาลต�ำรวจ • Scitech โดย Spocky (ปรัชญา มณีทักษิณ) นักเรียนทุนรุ่นที่ 9 : นักศึกษาชั้นปีที่4 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี • Wow! Asean โดย สุวิมล จินะมูล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 6 : ผู้สื่อข่าว TNN24 • กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา โดย ร้อยตรีธนา ภัทรภาษิต บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : นายทหารสารวัตรสืบสวนสอบสวน กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (นสวส.พล.ปตอ.) • Math Unlimited โดย อนุวัตร จิรวัฒนพาณิช บัณฑิตทุนรุ่นที่ 3 : อาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต • Around Me! โดย นายพงษ์พัฒน์ สมณะคีรี บัณฑิตทุนรุ่นที่ 10 : ครูพิเศษ โรงเรียนโนนสังวิทยา จ.หนองบัวล�ำภู นายภูริพงศ์ ทศทิศไพศาล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 1 : Researcher บริษัท PTT Global Chemical Public Company Limited


04 Art Appreciation

ตัวละครหลักของเรือ่ งคือ ชิมสิ ุ ยูอชิ ิ ซึง่ เป็นชายหนุม่ ชนชัน้ แรงงานที่ ก�ำลังหลบหนีคดีฆาตกรรม อิชิบะชิ โยะชิโนะ หญิงสาวที่เขานัดเจอกับ เธอผ่านเวปไซต์หาคู่ เรื่องราวเลย เถิ ด ไปถึ ง การที่ ยู อิ ชิ ได้ ล ากเอา มะโกะเมะ มิ ต สึ โ ยะ พนั ก งาน สาวร้านขายเสื้อผ้า ซึ่งเป็นอีกคนที่

คนเลว (ใช่ไหม) ของ โยชิดะ ชูอิจิ ประกาศตนเองอย่างชัดเจนว่า เป็นวรรณกรรมแนวสืบสวนที่ยอมเปิดเผยพล็อตส�ำคัญให้ผู้อ่านทราบ เสียมากกว่า 70% แต่ผลลัพธ์นอกจากจะไม่ลดทอนอรรถรสในการติดตาม เรื่ อ งราวแล้ ว กลั บ เข้ ม ข้ น ในการติ ด ตาม เพราะหั ว ใจส� ำ คั ญ ของ วรรณกรรมเรื่องนี้หาใช่แค่การมุ่งไปสู่ประเด็นว่า “ใครท�ำกันแน่?-เขา ท�ำจริงหรือเปล่า?” ตรงกันข้ามผู้เขียนเลือกจะใช้ท่าทีใจเย็นค่อยๆ เล่า เรื่องผ่านมุมมองตัวละครทีละตัวละคร ทั้งตัวละครหลัก และตัวละครที่ดู เผินๆ เหมือนว่าไม่สลักส�ำคัญ ซึง่ เมือ่ ผูอ้ า่ นปะติดปะต่อเรือ่ งราวแต่ละส่วน เข้าด้วยกันแล้ว กลายเป็นแรงผลักดันเราไปสู่โศกนาฎกรรมที่น่าสะเทือน ใจท้ายเรื่อง

ชีวิตน�ำพาเรา มาสู่จุดนี้ ได้อย่างไร โดย blue

นัดพบเจอกันผ่านเวปหาคู่หลังการ ฆาตกรรม ให้ไปตกระก�ำล�ำบากด้วย กันระหว่างหลบหนีคดี วิ ธี ก ารเล่ า เรื่ อ งของ โยชิ ด ะ ชูอิจิ ช่วยให้ผู้อ่านได้ท�ำความรู้จักตัว ละครแต่ละตัวในอีกด้านที่ตัวละคร อื่นไม่ได้รับรู้ การกระท�ำที่ดูเหมือน ไม่มีเหตุผลในสายตาของคนอื่น มี เหตุผลเสมอเมือมองจากจิตใจเบื้อง ลึกของตัวละคร เขาท�ำให้เราตระหนัก ว่าทุกชีวติ ทีผ่ า่ นเข้ามาในชีวติ ของเรา เปรียบเสมือนภูเขาน�้ำแข็งโดดเดี่ยว ที่โผล่พ้นน�้ำและเคลื่อนเข้ามาเพื่อ

จากไปในวันหนึ่ง เราไม่มีวันรู้จักเขา และเธอได้หมด ค ว า ม ท ้ า ท า ย ที่ ผู ้ เ ขี ย น วรรณกรรมเรื่องนี้จึงไม่ใช่การเขียน วรณณกรรมสืบสวนเข้มข้น ตื่นเต้น หักมุม แต่กลับอยู่ที่ความพยายาม พาเราเข้ า ไปรู ้ จั ก โลกของผู ้ ค นทั้ ง หลายที่อาจเป็นใครก็ได้ใกล้ตัวเรา หนุ่มชนชั้นแรงงานที่มีประสบการณ์ วั ย เด็ ก ที่ น ่ า สะเทื อ นใจ หญิ ง สาว พนั ก งานขายประกั น ที่ มี ค วามฝั น จะจับหนุ่มนักศึกษาลูกเศรษฐี หนุ่ม เพลย์บอยที่สนุกกับการบริหารเสน่ห์ ใส่ ส าวๆ ไม่ เ ลื อ กหน้ า พนั ก งาน

ร้ายขายเสื้อผ้าที่อนาคตตีบตันโหย หาความรัก เจ้าของร้านตัดผมหน้า สถานีรถไฟที่กิจการใกล้เจ๊งและต้อง สูญเสียลูกสาว ยายแก่ที่ต้องดูแล สามี คู ่ ทุ ก ข์ คู ่ ย ากและอยู ่ กั บ หลาน ชายทีว่ นั หนึง่ กลายเป็นฆาตรกร ฯลฯ พวกมีชีวิตภายนอก-ภายใน มีเลือดเนื้อ ความรู้สึก เหตุผลของ การตัดสินและการกระท�ำ ที่ชวนให้ เราตั้งค�ำถามว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว หรือที่เราจะตัดสิน ดี-เลว ถูก-ผิด กับ ชีวิตคนอื่น เพราะบางทีเรายังต้อง ถามตนเองเหมือนกันว่า ชีวิตน�ำพา เรามาสู่จุดนี้ได้อย่างไร


English for Fun 05

เรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษผ่าน

facebook โดย Jirawat

facebook คือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่เป็นเสมือนเครือข่ายสังคม ที่จะช่วยให้เราเชื่อมต่อกับเพื่อนและคนอื่นๆเพื่อแชร์และติดตามข่าวสาร บางคนอาจใช้เวลาอยู่บนหน้า Facebook มากกว่าการอ่านต�ำราภาษา อังกฤษอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่าน การใช้งาน facebook ได้เช่นเดียวกัน ปั จ จุ บั น นี้ facebook ได้ มี การพั ฒ นาฟั ง ก์ ชั่ น ของการแสดง ความคิดเห็นหรือการโพสต์ข้อความ โดยที่ผู้ใช้สามารถแสดงอารมณ์หรือ ความรู้สึกต่อท้ายข้อความนั้นๆ โดย จะมีไอคอนใบหน้าเล็กๆ ที่จะแสดง อารมณ์ตามที่เราเลือก หากเราเลือก ใช้ภาษาอังกฤษระบบจะมีใบหน้า และค�ำศัพท์ให้เราเลือกสรรถึง 269 ค�ำ กันเลยทีเดียว เพียงในแต่ละวันที่ เราโพสต์ข้อความแล้วเปิดหาความ หมายที่ เ ราไม่ ท ราบและเรี ย นรู ้ ค� ำ ศัพท์เหล่านั้นไปพร้อมๆ กับการใช้ งานเราก็จะได้ศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก เยอะเลย อีกทั้งไอคอนที่แสดงบน หน้าจอยังช่วยให้เราเข้าใจอารมณ์ ได้ดีขึ้นอีกด้วย

ตัวอย่างค�ำศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคยที่สามารถเรียนรู้ได้จาก facebook

Enraged

= โกรธจัด

Mischievous = ซน, เกเร, ตัวป่วน

Perplexed

= ซับซ้อน, ซึ่งเข้าใจยาก

Exhausted

= เหน็ดเหนื่อย, หมดเรี่ยวแรง

Delighted

= ยินดีมาก, สุขใจ

เห็นไหมครับว่าการเรียนรูเ้ กิดขึน้ ได้ทกุ ทีเ่ พียงแค่เรารูว้ ธิ แี ละ มีการน�ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่าลืมฝึกฝนกันเยอะๆ นะครับ ภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด


06 ก.เอ๋ย ก.ไก่

สู...สะกดค�ตรจ� ำ ำถูกต้อง โดย ยามเย็น

ค� ำ ที่ มั ก สะกดผิ ด มี จ� ำ นวนมาก ปั ญ หาการสะกดค� ำ ไทยผิ ด จึ ง มี ใ ห้ เ ห็ น ตลอด ยิง่ มีเครือข่ายสังคมออนไลน์ยงิ่ ท�ำให้ โอกาสสะกดค�ำไทยผิดสูงมากขึ้น วิธีแก้ ปัญหาการสะกดค�ำไทยผิดมีหลากหลาย วิธี อย่างวิธีตามหลักของภาษาไทย เช่น ต้องรู้ว่า ค�ำที่มีพยัญชนะต้นเป็นอักษรต�่ำ ใช้สระเสียงยาว มีเสียงวรรณยุกต์ตรี จะใช้ รูปวรรณยุกต์โทเสมอ ตัวอย่างค�ำ “โน้ต เชิต้ เค้ก เพล้ง วุ้ย ว้าย ว้า ยี้ โย้เย้” แต่หลักดัง กล่าวค่อนข้างซับซ้อนท�ำให้จำ� ได้ยาก ยังไม่ เป็นที่นิยม วันนี้จึงขอน�ำเสนอสูตรการจ�ำที่เป็น สูตรเฉพาะบุคคลที่คิดขึ้นเพื่อท�ำให้จ�ำค�ำ ที่มักสะกดผิดได้ เชื่อว่าหลายคนจะคุ้นกับ วิธีนี้ อย่างเช่น

ตัวอย่างสูตรจ�ำค�ำเฉพาะบุคคล หลงใหล : ใช้ “ใ” เพราะค�ำว่า “หลง” คือวนไปมาเหมือนลักษณะของ “ใ” เหลวไหล : ใช้ “ไ” เพราะของเหลวต้องไหล อุโมงค์ : อุโมงค์โค้งใช้ “ค์” คฤหาสน์ : นอนได้ใช้ “น์” ครองราชย์ : มี “ย์” เหมือนกษัตริย์ นะคะ : เหมือนโยคะ ไม่มีไม้ตรี เต็นท์ : เต็นท์ที่ดีนอนได้ ๘ คน ใช้ไม้ไต่คู้เพราะเหมือนเลข ๘ โคม่า : คุณย่าอาการโคม่า สระอาเหมือนกัน ลายเซ็น : ลายเซ็นสั้น ๆ ไม่ต้องมี “ต์”

ขะมักเขม้น

ลายเซ็น

เกษียณอายุ

สับปะรด เห็นค�ำเหล่านีแ้ ล้ว เชือ่ ว่าทุกคนต้อง คิดถึงกิจกรรมที่อยู่คู่กับวิชาภาษาไทย “เขียนตามค�ำบอก” น้องๆ นักอ่านต้องเคย ผ่านกิจกรรมนีม้ าแน่นอน เขียนถูกบ้างผิด บ้าง สนุกสนาน ตื่นเต้น ลุ้นทุกค�ำเวลาที่ ครูเฉลย ค�ำไหนเขียนผิด ก็จะต้องไปคัด ลายมือค�ำนั้นลงสมุด

“อัศจรรย์” ท่องจ�ำว่า (อัด-ซะ-จอ-รอ-หัน-กา-รัน-ยอ) ท�ำให้ จ�ำได้ว่า ใช้ “จรรย์” “ปรารถนา” ท่องจ�ำว่า ปรา-รถ-นา ท�ำให้จ�ำได้ว่า ต้องมีค�ำว่า “รถ” ไม่ใช่ “ปราถนา” “โคตร” ท่องจ�ำว่า (โค-ตะ-ระ) ท�ำให้จำ� ได้วา่ สะกดด้วย “ตร” ยังมีค�ำที่มักสะกดค�ำผิดอีกจ�ำนวนมากที่ยังไม่มีหลักการจ�ำ หาก น้องๆ ลองคิดสูตรการจ�ำของตัวเองก็จะท�ำให้เขียนค�ำเหล่านั้นถูกต้อง อย่างเช่น สูตรการจ�ำ ค�ำว่า “ล�ำไย” (มักสะกดผิดเป็น “ล�ำใย”) สูตรที่ ๑ จ�ำว่า “ล�ำไยไม่ใช่ใยบัว” (ทุกคนจะรู้ว่า “ใยบัว” เท่านั้นที่ใช้ “ใ” เพราะอยู่ใน “๒๐ ม้วน จ�ำจงดี” “บ้าใบ้ถือใยบัว”) สูตรที่ ๒ จ�ำว่า “ล�ำไยเป็นต้นไม้” (ต้องใช้ “ไ” เหมือนค� ำว่า “ต้นไม้”) สูตรการจ�ำ ค�ำว่า “ลิฟต์” (มักสะกดผิดเป็น “ลิฟท์”) สูตรที่ ๑ จ�ำว่า “ขึ้นลิฟต์แล้วตื่นเต้นใช้ ต.เต่า” สูตรที่ ๒ จ�ำว่า “ลิฟต์ตกใช้ ต.เต่า” สูตรที่ ๓ จ�ำว่า “ลิฟต์เรียกตัวใช้ ต.เต่า”

*สูตรนี้ยังท�ำให้จ�ำได้ด้วยว่า ค�ำลักษณนามของ “ลิฟต์” คือ “ตัว”

ลองดูนะครับ สร้างสูตรการจ�ำค�ำสะกดผิดของตัวเอง จะได้ จ�ำค�ำนั้นได้เวลาเขียน ยิ่งแปลก ยิ่งจ�ำได้ สูตรของน้องคนไหน โดนใจอาจจะได้รับความนิยมมีคนน�ำไปท่องตามก็ได้นะครับ ยิ่ ง จ� ำ ได้ ก็ ยิ่ ง สะกดค� ำ ไทยถู ก ต้ อ ง ช่ ว ยให้ ภ าษาไทยไม่ วิ บั ติ อีกด้วย


Hi! Japanese 07

日本の人々に励ましを送る โดย ครูหนาว

ส่งก�ำลังใจให้ชาวญี่ปุ่น

いつも応援してるよ!頑張ってね!(อิสโึ มะ โอเอ็น ชิเต๊ะรุโย๊ะ! กัมบัต

เตะเนะ) : จะเป็นก�ำลังใจให้นะ สู้ๆ 日本の人々に励ましを送る

โอคุรุ) : ส่งก�ำลังใจให้ชาวญี่ปุ่น

สวัสดีครับ เพื่อให้อินเทรนด์ กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ฉบับนี้ครู เลยขอน�ำเสนอสถานการณ์พายุหมิ ะ ในประเทศญีป่ นุ่ ทีเ่ ป็นข่าวในปัจจุบนั ซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น ครั้ ง ที่ ร ้ า ยแรงที่ สุ ด ใน รอบ 45 ปีเลยทีเดียว แต่เนื่องจาก เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ได้ คนไทยในฐานะเพื่ อ นร่ ว มโลก เดียวกันก็ควรให้ก�ำลังใจซึ่งกันและ กั น สถานการณ์ พ ายุ หิ ม ะถล่ ม ที่ กรุงโตเกียวจะประสบกับหิมะและ น�้ำท่วมจากหิมะที่ละลายในหลาย เขต ท�ำให้เกิดอุบัติเหตุและกระทบ ต่อระบบคมนาคมจ�ำนวนมาก เช่น เกิ ด เหตุ ร ถไฟชนกั น ที่ ส ถานี โ มโตะ สุ มิ โ ยชิ และสนามบิ น ฮาเนดะได้ ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 600 เที่ยวบิน สร้ า งความเสี ย หายแก่ ชี วิ ต และ ทรัพย์สินจ�ำนวนไม่น้อย วันนี้ครูจึง ขอน� ำ เสนอค� ำ พู ด เกี่ ย วกั บ การให้ ก�ำลังใจ

がんばってね

(นิฮนโนะ ฮิโตะบิโตะนิ ฮะเกะมาชิโอะ

(กัมบัตเตะเนะ) : พยายามต่อไปนะ (สู้ต่อไปนะ)

おうえんしています

(โอเอนชิเตะอิมัส) : ก�ำลังเชียร์อยู่นะคะ/ครับ

ファイト (ไฟโตะ) : สู้ๆ 日本人のみんなさん、 頑張ってください!タイから祈っています。

(นิฮนจินโนะมินะซัง กัมบัตเตะคุดาไซ ไทคาระอิโนตเตะอิมัส) : ขอให้ชาวญี่ปุ่นทุกคนโชคดี! ! จากคนไทยทุกคน

三宝の保護で日本人や日本に いる外国人などが今回の災害を 乗り越えられるように祈っています。

(ซัมโปโนะ โฮะโกะเดะ นิฮนจินยะ นิฮนนิ อิรุไกโคะคุจินนะโดะกะ คนไกโนะซังไกโอะ โนะริโคเอะราเระรุโยนิ อิโนตเตะอิมัส) : ขออ�ำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองให้ชาวญี่ปุ่น และ ชาติต่างๆ รวมถึง คนไทย ในญี่ปุ่น ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว

ทัง้ หมดเป็นค�ำพูด ส�ำนวนทีไ่ ว้ให้กำ� ลังใจแก่กนั และกันในยามทีอ่ กี ฝ่ายหนึ่งมีความทุกข์ เดือดร้อน เราก็ควรให้ความช่วยเหลือ ให้ก�ำลังใจ โลกใบนี้จึงจะน่าอยู่มากขึ้นครับ


08 DM Graduate

ถ้าไม่ท้อเสียก่อน เราจะส�ำเร็จ SME แบรนด์ทุเรียนทอดชายน้อย

ชื่อ : น.ส. สาวิตรี ณรงค์น้อย (โอ๋) บัณฑิตทุน : รุ่นที่ 5 ของมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม

เชื่อว่าต้องมีบ้างที่คุณจะเคย เห็น หรือแม้แต่เคยซือ้ กินเองหรือเป็น ของฝาก ทุเรียนทอด กล้วยเล็บมือ นางอบแห้ง ในชื่อยี่ห้อ ชายน้อย ที่ มี ว างขายกระจายอยู ่ ทั่ ว ประเทศ ทั้ ง ใน 7-11 เดอะมอลล์ ทุ ก สาขา สยามพารากอน โลตัส โกลเด็นเพลส ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต และถ้าคุณได้ รู ้ จั ก ที่ ม าของเขาและเธอ การกิ น ผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ของ ชายน้อย อาจช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น น.ส. สาวิตรี ณรงค์น้อย (โอ๋) หนึง่ ในสองพีน่ อ้ งทีร่ ว่ มกันก่อตัง้ บริษทั ชายน้อยฟู้ด จ�ำกัด จะเล่าเรื่องราวเกี่ยว กับธุรกิจนี้ให้พวกเราได้ฟัง จากครอบครั ว ชาวสวนยางเล็ ก ๆ ในจังหวัดชุมพร ที่สูญเสียเสาหลักของ ครอบครัวไปตั้งแต่ตัวเองอายุ 5 ขวบ สิ่ง ที่ มี เ หลื อ อยู ่ ใ นตอนนั้ น คื อ แม่ พี่ ช าย พร้อมหนีส้ นิ อีกจ�ำนวนมหาศาลทีพ่ อ่ เหลือ ไว้ให้จากการลงทุนท�ำสวน และหลังจาก นั้นไม่กี่เดือนก็เหมือนมีมรสุมชีวิตอีกครั้ง เมือ่ พายุเกย์พดั เข้าถล่มจังหวัดชุมพรอย่าง หนัก มรสุมในครั้งนั้นโดนตัวบ้าน กิจการ เรือกสวนไร่นาทั้งหมด เสียหายอย่างไม่ เคยเป็นมาก่อน “ตอนนั้นลูกๆ ยังเล็กมาก


09

แม่พาพวกเราผ่านพ้นชีวิตช่วงนั้นมา ได้ อ ย่ า งไรแทบจะนึ ก ไม่ อ อกเลย ครอบครั ว เราต้ อ งกลั บ ไปเริ่ ม ต้ น ที่ ศู น ย์ อี ก ครั้ ง แม่ ไ ปท� ำ งานที่ ส วน มะม่วงที่จังหวัดตากอยู่กว่า 6 ปี แม่ เคยเล่ า ว่ า ช่ ว งเวลานั้ น เป็ น อะไรที่ หดหู่มาก ต้องจากลูกๆ และงานก็ หนักล�ำบากที่สุด ต้องใช้ความอดทน กับชีวิตมาก ตอนนั้นครอบครัวเรา ต่างอดทนกันคนละแบบ โอ๋เองก็ตอ้ ง อดทนช่ ว ยแม่ ด ้ ว ยการตั้ ง ใจเรี ย น ขยัน อ่านหนังสือ ไม่ทำ� ตัวเป็นปัญหา ให้แม่ตอ้ งเป็นห่วง จนประมาณโอ๋อยู่ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 แม่กก็ ลับมาอยู่ ที่ บ ้ า นด้ ว ยกั น ช่ ว งนั้ น แม่ ท� ำ ข้ า ว เหนียวปิ้งขาย ครอบครัวเราก็ได้อยู่ พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครัง้ จนวันหนึง่ โชคน่าจะเข้าข้างเราบ้างเพราะได้ อ่านหนังสือพิมพ์เดลินวิ ส์ กรอบเล็กๆ

จนวันหนึ่งโชคน่าจะเข้าข้างเราบ้าง เพราะได้อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ กรอบเล็กๆ ที่มีข้อความการเปิดรับสมัครทุนของ มูลนิธิด�ำรงชัยธรรม อ่านข้อความเห็นว่า ให้เขียนเรียงความส่งเข้าประกวด แล้วจะได้ทุนการศึกษา พอเห็นปุ๊บรู้เลยว่า ต้องเขียนแน่นอน บอกแม่ว่า จะเขียนเรียงความขอทุนนะ แต่แม่ก็เฉยๆ ยังคงห่อข้าวเหนียวต่อไป ที่มีข้อความการเปิดรับสมัครทุนของ มูลนิธดิ ำ� รงชัยธรรม อ่านข้อความเห็น ว่าให้เขียนเรียงความส่งเข้าประกวด แล้วจะได้ทุนการศึกษา พอเห็นปุ๊บรู้ เลยว่าต้องเขียนแน่นอน บอกแม่ว่า จะเขียนเรียงความขอทุนนะ แต่แม่ก็ เฉยๆ ยังคงห่อข้าวเหนียวต่อไป และ ทุนการศึกษานี่เองที่เป็นจุดพลิกผัน ชีวิตของโอ๋ในวันนี้” “แม้จะได้ทุนการศึกษาแบบ ครบวงจรให้ได้เรียนหนังสือ ซึ่งก็น่า จะช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวไปได้ บ้าง แต่โอ๋ก็ไม่เคยเห็นว่าแม่จะหยุด ท�ำงาน แม่ยังคงท�ำสวนและค้าขาย

มาโดยตลอด ชุ ม พรมี ส วนมี ผ ลไม้ เยอะ แม่ก็ขายมาเรื่อยๆ มังคุด เงาะ ขนุน ทุเรียน วันหนึ่งเราน�ำทุเรียนที่ เหลือจากการขายมาลองทอด ตัง้ ขาย หน้าบ้าน นิดๆ หน่อยๆ เหลือจากการ ขายก็ทอดกินกันในบ้าน ขายไปขาย มาเริ่ ม มี ค นมาซื้ อ มากขึ้ น โอ๋ ก็ เ ลย เสนอว่าควรมีสติก๊ เกอร์ยหี่ อ้ ไหม ก็ไป จัดการออกแบบสติ๊กเกอร์ติดถุง จ�ำ ได้ว่าสติ๊กเกอร์ตอนนั้นแพงมาก ร้าน ที่จะท�ำก็ไม่ค่อยมี จนมีจังหวะว่าพี่ ชายกลับมาจากกรุงเทพ ไม่มอี ะไรท�ำ ก็เลยคิดว่าน่าจะทอดทุเรียนขาย ครัง้ แรกส่ ง ขายแถวร้ า นขายของฝาก


10

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จากชีวิตติดศูนย์ แล้วจะเดินมาถึง การเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กๆ นี้ได้ เพราะปัญหา มีมาทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง ทั้งเรื่องวัตถุดิบ แรงงาน ก�ำลังการผลิต การขนส่ง การหาเงินหมุนเวียนลงทุน การสร้างตลาดใหม่ๆ แต่ทุกปัญหาเราทั้งครอบครัว จะมาปรึกษากัน

เพชรบุรี ก็ช่วยกันทั้งครอบครัว โอ๋ มีหน้าที่ออกแบบถุงสติ๊กเกอร์ ไปส่ง ของ ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง บางร้าน เบีย้ วไม่จา่ ยเงิน ก็เป็นประสบการณ์ ให้ครอบครัวเราได้เรียนรู้ ได้ลองผิด ลองถู ก ช่ ว งแรกๆ เราไปเข้ า ร่ ว ม โครงการหนึ่งต�ำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เข้ารับการประเมินผลผลิตภัณฑ์ ครัง้ แรกได้ 3 ดาว และได้มาออกงาน แสดงสินค้าที่เมืองทองธานี ตอนนั้น มาออกบู ท ขายของได้ ก� ำ ไรวั น ละ 7,000 บาท รูส้ กึ ดีใจมากทีเ่ ราประสบ ความส� ำ เร็ จ ในขั้ น หนึ่ ง จากนั้ น ก็ พยายามขยายตลาด ไปติดต่อตาม ร้ า นค้ า ต่ า งๆ มากขึ้ น จนปั จ จุ บั น สิ น ค้ า ของเราซึ่ ง ทั้ ง หมดคื อ การ แปรรูปผลไม้ เช่น ทุเรียนทอด กล้วย เล็บมือนางอบแห้ง เป็นต้น ได้มีวาง จ�ำหน่ายใน 7-11 เดอะมอลล์ทุก

สาขา ส� ำ หรั บ ปี นี้ ก็ ว างแผนว่ า จะ บุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น อย่าง เช่น จีน เพราะคนจีนชอบทุเรียนทอด มากๆ” ความอดทนส�ำคัญที่สุด ท�ำ อะไรก็ตามไม่ได้มแี ต่ความราบรืน่ ทุกอย่างล้วนมีความไม่พร้อมหรือ ลงตัวเหมาะเจาะเสียทั้งหมด แต่ เราต้ อ งอดทนและมี ก� ำ ลั ง ใจใน การแก้ ป ั ญ หาไปให้ ไ ด้ เธอบอก อย่างนั้น “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จาก ชีวิตติดศูนย์ แล้วจะเดินมาถึงการ เป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กๆ นี้ได้ เพราะปัญ หามีม าทุก วัน มากบ้าง น้อยบ้าง ทั้งเรื่องวัตถุดิบ แรงงาน ก�ำลังการผลิต การขนส่ง การหาเงิน หมุ น เวี ย นลงทุ น การสร้ า งตลาด ใหม่ๆ แต่ทุกปัญหาเราทั้งครอบครัว

จะมาปรึ ก ษากั น แม่ จ ะมี ค วาม เชี่ยวชาญเรื่องแหล่งวัตถุดิบ เดือนนี้ เราจะไปซื้อของที่ไหน ราคาต้นทุน เป็นอย่างไร ขับรถไประยองเป็นว่า เล่ น แม่ จ ะสอนเราพี่ น ้ อ งเสมอว่ า ความน่ า เชื่ อ ถื อ คุ ณ ภาพ ความ ซื่ อ สั ต ย์ เครื อ ข่ า ยเป็ น สิ่ ง ส� ำ คั ญ พยายามท�ำสินค้าเราให้มคี ณ ุ ภาพให้ มากทีส่ ดุ ให้ความส�ำคัญกับคุณภาพ การผลิต โรงงานมีมาตรฐาน GMP HACCP น�้ำมันที่ใช้สะอาดใหม่ทุก ครั้ง ลักษณะบรรจุภัณฑ์สีสันสดใส วัตถุดบิ ทีใ่ ช้ของดี รสชาติทเี่ ราชิมกัน แล้ ว ชิ ม กั น อี ก ไปทดลองให้ ก ลุ ่ ม ตัวอย่างชิม ติดต่อกับอาจารย์ทคี่ ณะ อุ ต สาหกรรมการผลิ ต อาหารที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ชว่ ย แนะน�ำเกี่ยวกับข้อมูลเชิง วิชาการที่


11

การมีธุรกิจเป็นของตัวเองส�ำหรับโอ๋ ช่วยให้เราเป็นนักแก้ปัญหา ได้เรียนรู้ ลองผิดลองถูกที่จะท�ำสิ่งใหม่ๆ และถ้า เราไม่ท้อเสียก่อน เราก็จะประสบความส�ำเร็จ อาจจะไม่โด่งดังเป็นธุรกิจร้อยล้าน แต่เราก็ภูมิใจที่เราประกอบอาชีพสุจริต ดูแลครอบครัวเรากันเองได้ และเป็นโอกาส ให้ทุกคนในครอบครัวได้คุยกัน ฟันฝ่า หลายๆ เรื่องด้วยกัน ตอนนี้คิดว่า ถ้าพ่อยังอยู่พ่อคงดีใจ

เหมาะกับอาหารของเรา ทั้งหมดเป็น สิง่ ทีเ่ ราพยายามเพือ่ ให้สนิ ค้าของเรา ได้รับการยอมรับ” “เรื่ อ งขยายตลาดในต่ า ง ประเทศ ปีที่ผ่านมา เราเลือกไปเปิด ตลาดที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่า ก็ลุยกัน ไปสองคนพี่น้อง ไปเดินถามในห้าง ของเขา จนสามารถส่งของไปขายได้ ปีนี้ก็พยายามจะขยายตลาดไปที่จีน ซึ่ ง เป็ น การเข้ า ร่ ว มโครงการของ รัฐบาลที่สนับสนุนการส่งออก ก็หวัง ว่าจะได้รับส่วนแบ่งมาได้บ้าง ธุรกิจ ของเราเป็นธุรกิจเล็กๆ ท�ำกันเองใน ครอบครัว เราต้องเรียนรู้เองทั้งหมด ตั้ ง แต่ ไ ปหาซื้ อ ทุ เ รี ย น ลงมื อ ทอด ช่วยกันกรอกใส่ถงุ เข้าไปติดต่อตลาด ท� ำ เอกสาร เรี ย นรู ้ เ รื่ อ งกฏหมายที่ เกี่ยวข้อง ส่งของ ตอนนี้ต้องเริ่มเรียน ภาษาพม่า ภาษาจีน เพิ่มเติมด้วย การมีธุรกิจเป็นของตัวเองส�ำหรับโอ๋

ช่วยให้เราเป็นนักแก้ปญ ั หา ได้เรียนรู้ ลองผิดลองถูกที่จะท�ำสิ่งใหม่ๆ และ ถ้าเราไม่ท้อเสียก่อน เราก็จะประสบ ความส�ำเร็จ อาจจะไม่โด่งดังเป็น ธุรกิจร้อยล้าน แต่เราก็ภูมิใจที่เรา ประกอบอาชีพสุจริต ดูแลครอบครัว เรากันเองได้ และเป็นโอกาสให้ทุก คนในครอบครั ว ได้ คุ ย กั น ฟั น ฝ่ า หลายๆ เรื่องด้วยกัน ตอนนี้คิดว่า ถ้า พ่อยังอยู่พ่อคงดีใจ” หวังว่าหลังจากนี้ หากท่าน ใดได้ มี โ อกาสได้ อุ ด หนุ น สิ น ค้ า ของแบรนด์ ชายน้อยฟู๊ด จ�ำกัด พวกท่านคงอิ่มท้อง และได้อิ่มใจ กั บ ความมานะพยายามของ ครอบครัวณรงค์น้อยนะคะ

ประวัติการศึกษา : - มัธยมศึกษา โรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร - ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร - ปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาอาชญวิทยาและงานยุติธรรม คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประวัติการท�ำงาน : - ต�ำแหน่ง บุคลากร 4 ฝ่ายทรัพยากรบุคคล การกีฬาแห่งประเทศไทย - ประกอบธุรกิจส่วนตัว บริษัท ชายน้อยฟู้ด จ�ำกัด วางขายทุเรียนอบทอด กล้วยอบทอด มะขามสามรส ในร้าน 7-11 และ ร้านโกลเดนเพลส ทุกสาขา


12 Thinking Talking

นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Blood Diamond ฉากสุดท้ายตอนที่ Leonardo DiCaprio พระเอกของเรื่องก�ำลังจะถึงแก่ความตายข้างหน้า ทิวผาสีทองและแดดสีเหลือง ขณะที่เลือดของเขาก็ซึมลงสู่พื้นทราย กลายเป็นสีเดียวกัน ดังค�ำล้อตอนหนึ่งในเรื่องที่ชายหนุ่มกอบทรายสีส้ม ขึ้นมาแล้วพูดว่า "This is Africa"

ป ไ ย า ต ง ้ อ ต ง ่ า ต า เร โดย เมธา มาสขาว

มั น เป็ น ฉากแห่ ง ความรั น ทด เศร้าใจแต่กร็ ะคนกับภาพความงดงาม ลึกซึง้ เมือ่ มองเห็นแดดสีเหลืองทาบผา สีทองดุจช่วงเวลาที่มีความหมายก่อน ฟ้ามืดซึ่งเป็นเหมือนฉากสุดท้ายแห่ง ชี วิ ต DiCaprio อาจจะไม่ มี วั น เห็ น ความสวยงามเช่นนัน้ ตราบทีเ่ ขายังไม่ เคย "ใกล้ตาย" แบบนี้ และอีกสาเหตุ หนึ่ง เพราะเขาไม่เคยสังเกตมัน! Blood Diamond บอกเล่ า เหตุการณ์ทางการเมืองที่น่าเศร้าของ มนุษยชาติ บทภาพยนตร์สร้างขึ้นโดย อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นใน ประเทศไลบีเรีย (Liberia) และเซียร์รา ลีโอน (Sierra Leone) ทางฝัง่ ตะวันตก ของทวีป แผ่นดินซึ่งเลือดสีแดงได้ไหล กลื น เป็ น สี เ ดี ย วกั น จริ ง ๆ ท่ า มกลาง สงครามกลางเมืองอันโหดร้ายทีส่ ดุ ครัง้ หนึ่ ง ในประวั ติ ศ าสตร์ ส มั ย ใหม่ ใ นปี 2534-2544 ซึ่ ง มี ผู ้ ค นล้ ม ตายกว่ า 200,000 คน ขณะทีอ่ กี หลายพันคนถูก กลุ่มกบฏตัดแขน ตัดขา หูหรือแม้แต่ จมูก อย่างโหดเหี้ยมทารุณ จากการ

กระท�ำของขบวนการ Revolutionary United Front (RUF) เมื่อไม่กี่ปีก่อน หลายคนคงได้ ทราบจากสื่อมวลชนว่า ศาลโลก ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ได้เริ่มพิจารณา คดี ข อง ชาร์ ล ส์ เทย์ เ ลอร์ อดี ต ประธานาธิ บ ดี ไ ลบี เ รี ย ในโทษฐาน มี บ ทบาทส� ำ คั ญ ในการฆาตกรรม ข่มขืนหมู่และมีส่วนเข่นฆ่าประชาชน มากมายนับแสนคนในช่วงสงคราม กลางเมืองกว่าทศวรรษทีเ่ ซียร์ราลีโอน เหมือนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ คณะอัยการได้ระบุในเอกสาร ค�ำฟ้องว่า เทย์เลอร์เป็นผู้จัดหาอาวุธ ฝึ ก การสู ้ ร บและควบคุ ม กลุ ่ ม กบฏ Revolutionary United Front (RUF) ที่ ออกมาเคลือ่ นไหวตัดแขนขาประชาชน ตลอดจนข่มขืนและสังหารหมูพ่ ลเรือน จ�ำนวนมาก ทั้งยังกดขี่บังคับให้เด็ก อายุเพียง 8 ปีเกณฑ์ทหาร ซึ่งเรื่องราว เหมือนกับที่เราดูในภาพยนตร์ไม่มีผิด และใครหลายคนคงไม่อาจคิดว่าจะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ในโลกของเรา ซึ่ ง ท� ำ ให้ ศ าลโลกลงมติ พิ พ ากษา

ลงโทษจ�ำคุกเขาถึง 50 ปีเมื่อกลางปี 2555 ที่ ผ ่ า นมา แต่ เ ขาได้ ใ ช้ สิ ท ธิ์ อุทธรณ์ ต่ อ มาเมื่ อ วั น ที่ 26 กั น ยายน 2556 ศาลพิเศษแห่งสหประชาชาติ กรณี เ ซี ย ร์ ร าลี โ อน ก็ ไ ด้ ป ระกาศยื่ น โทษจ�ำคุก 50 ปีต่ออดีตประธานาธิบดี ชาร์ ล ส์ เทย์ เ ลอร์ แห่ ง ไลบี เ รี ย ผู ้ นี้ ให้ มี ค วามผิ ด ฐานก่ อ คดี อ าญาต่ อ มวลมนุษยชาติและก่ออาชญากรรม สงคราม จากกรณีช่วยเหลือขบวนการ RUF ในช่ ว งสงครามกลางเมื อ งใน เซียร์ราลีโอน โดยการสนับสนุนอาวุธ สงครามเพื่อแลกกับการค้าเพชรผิด กฎหมาย จนเป็นที่มาของค�ำว่า “เพชร สีเลือด” ในประวัติศาสตร์อันน่ารันทด ของแอฟริกา บทเรียนของ This is Africa ใน เรื่อง Blood Diamond จึงท�ำให้ผม นึกถึงเหตุการณ์ในประเทศไทยขึ้นมา จับใจ ความน่ารันทดแห่งการสูญเสีย จากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการ เมืองในช่วงที่ผ่านมา เกิดขึ้นราวกับ พวกเขาไม่เคยเรียนรู้ประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2519, 17-20


13

พฤษภาคม 2535 ตลอดจนเหตุการณ์ ความรุ น แรงรายวั น ใน 3 จั ง หวั ด ชายแดนภาคใต้ การฆ่ า ตั ด ตอนใน สงครามยาเสพติ ด กระทั่ ง การ รัฐประหาร 2549 และเหตุการณ์ความ รุนแรงนับหลังจากนั้นมา ผู ้ ที่ อ ยู ่ เ บื้ อ งหลั ง สถานการณ์ ความรุนแรงใดๆ ในความขัดแย้งของ สังคมไทยจะไม่รตู้ วั บ้างหรืออย่างไรว่า เขาอาจจะต้องลงเอยในบั้นปลายชีวิต เหมือนชาร์ลส์ เทย์เลอร์ ในโลกจริง หรื อ สั ง คมไทยต้ อ งรอเหมื อ น DiCaprio ในภาพยนตร์ที่เห็นแดดสี เหลืองทาบผาสีทองที่งดงามก่อนตาย ถึงจะเห็นความหมายทีแ่ ท้จริงของชีวติ หากนั บ ดวงตะวั น ขึ้ น ลงเป็ น เหมือนจังหวะชีวติ ของคนเรา ยามดวง อาทิตย์ฉายแสงคงเป็นเหมือนเริม่ แรก ของการก้าวเดินเช่นชีวิตวัยหนุ่มสาว ความสดใสที่ตื่นพร้อมรับกับตะวันนั้น มั น เป็ น ความรู ้ สึ ก ที่ ชั ด เจนของวั ย แสวงหา แต่ ต ่ อ มาหลายคนในวั ย ฉกรรจ์ ก็ ต ้ อ งท� ำ งานหนั ก และรู ้ สึ ก

เหนื่อยล้าเหมือนเวลาเที่ยงวันยันบ่าย และอยากพักผ่อนนอนเล่นใต้ร่มไม้ ชายคาที่ มี ใ บบั ง ผู ้ ค นในวั ย ชราก็ เหมือนชีวติ ในยามเย็นทีอ่ ยากเดินเล่น พักผ่อนหย่อนคลายชีวิต เพื่อรอเวลา พลบค�่ำและแสงสุดท้ายของอาทิตย์ อัสดง ซึง่ บางคนก็หลับตาลงตามราตรี และไม่เคยได้ตื่นขึ้นมาอีก มนุษย์ทุกคนอาจจะเคยฝัน ถึงดินแดนแห่งสันติสุขที่ไม่เคยไป แผ่นดินที่สวยงามสงบ ทิวทัศน์ที่ งดงามท่ามกลางขอบฟ้าสีเหลือง ส้มเรื่อเรืองรอง แต่ระหว่างการใช้ ชี วิ ต ของคนเราต่ า งต้ อ งพบพาน หลายหลาก มนุษย์เราสร้างเรื่องไว้ มากมายให้ โ ลกจดจาร แต่ เ ป็ น ความดีหรือความเลวนั้น ท้ายที่สุด เมื่อหัวใจส่วนลึกถูกขุดค้นพบใน วันแดดสีเหลือง ความทรงจ�ำของ คนเราก็มักจะทวงถามทั้งน�้ำตาว่า เราได้ฝากเรื่องราวอะไรไว้บ้างใน วั น เวลาที่ ผ ่ า นมา จารึ ก ความดี ความงามอะไรไว้หรือไม่ในโลกใบ นี้ก่อนที่จะจากลา เหตุใดในวันแดด สีเหลืองท้องฟ้าจึงงดงามยิง่ นัก จนโลก

น่าอยู่กว่าที่คิด หรือเพราะมันเป็นวัน สุดท้ายของชีวิต? เราทุกคนต่างต้องตายไปในวัน แดดสีเหลือง แน่นอน ชีวติ จะย้อนกลับ มาทบทวนความทรงจ� ำ มากมายที่ สวยงามและเจ็บร้าว เราไม่อาจกลับมา แก้ไขอะไรได้เลย นอกจากรับรูเ้ พียงว่า แดดสีเหลืองเบือ้ งหน้านีส้ วยงามอย่าง ไม่ เ คยเห็ น มาก่ อ น ท� ำ ไมเราไม่ เ คย สังเกตมัน.. ดังที่ DiCaprio ร�ำพึงข้าง หน้าผานั้นในตอนท้ายเรื่อง อาจไม่จ�ำเป็นที่เราต้องพูดถึง ความไม่ ป ลอดภั ย บนท้ อ งถนนหรื อ อุบัติเหตุต่างๆ ในชีวิตประจ�ำวันที่จะ พรากเราไปจากโลกนี้ด้วยซ�้ำ หากเรา ยั ง ต้ อ งมี ชี วิ ต อยู ่ ท ่ า มกลางความขั ด แย้ ง กลิ่ น ควั น ดิ น ปื น และสงคราม กลางเมืองในโลกปัจจุบันที่ด�ำรงอยู่ เช่นนี้ ความรุนแรงจากความขัดแย้ง สามารถน�ำพาความสูญเสียคืบคลาน เข้ า หาทุ ก คนได้ ทุ ก เมื่ อ เชื่ อ วั น หาก สั ง คมไทยไม่ ไ ด้ ศึ ก ษาบทเรี ย นจาก ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เหตุใดมนุษย์ เราต่ า งต้ อ งรอที่ จ ะพบพานความ งดงามของแดดสีเหลืองนั้น เพียงชั่ว เสีย้ ววันแห่งชีวติ ทีจ่ ะนอนรอความตาย ในอนาคตเท่านั้น ที่ซึ่งมันคงจะอยู่กับ เราไม่นานนัก มนุษยชาติหลายยุคหลายสมัย เข่นฆ่ากันเพียงเพือ่ แย่งชิงอ�ำนาจ แทน การหยิบยืน่ ไมตรีและความรักในเพือ่ น มนุษย์ให้แก่กนั ผูค้ นในยุคทุนนิยมเอง ก็ผันชีวิตไปสู่การแก่งแย่งแข่งขันกัน มากขึน้ เพือ่ ครอบครองและเดินไปสูจ่ ดุ หมายแห่งปัจเจกที่โดดเดี่ยวต่อความ สัมพันธ์มากขึน้ เรือ่ ยๆ โดยไม่สนใจใคร แม้กระทั่งเดือนหรือตะวัน ผมคิดถึง This is Africa ใน ภาพยนตร์เรื่อง Blood Diamond แล้วได้แต่ตั้งค�ำถามว่า ก่อนที่เรา ต่างต้องตายไปในวันแดดสีเหลือง ท�ำไมเราไม่ร่วมกันสร้างฟ้าสีทอง


14 Experience

เพื่อนท่านหนึ่งของผู้เขียนเป็นคนไทยเขมรจากจังหวัดสุรินทร์ เล่าให้ฟงั ว่า ชาวไทยเขมรในภาคอีสานจะเรียกตนเองว่า เขมรสูง แล้ว เรียกชาวกัมพูชาว่า เขมรต�่ำ หลายคนอาจสงสัย เอ๋ ท�ำไมชาวไทย เขมรต้องเป็นเขมรสูง แล้วชาวกัมพูชาต้องเป็นเขมรต�่ำ มีการเปรียบ เปรยเสียดสีอะไรหรือเปล่า ไม่ใช่หรอกค่ะ จริงๆ เป็นการแยกตาม ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ฝั่งประเทศกัมพูชาเป็นที่ราบต�่ำ ส่วนชาว ไทยเขมรที่อยู่ในเขตจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงอยู่ ในที่ราบสูงนั่นเอง

ขะแมร์

เอ่ยถึงกัมพูชา หลายคนอาจนึกถึง ขอม ขะแมร์ เขมร แคมโบเดียน จริงๆ ก็ หมายถึงกัมพูชานั่นแหละค่ะ เพียงแต่ว่า “ขอม” จะออกแนวอลังการ มีปริศนาน่า ค้นหา เช่น อาณาจักรขอม กษัตริย์ขอม อักษรขอม ชาวกัมพูชาในปัจจุบนั จะเรียกตัว เองว่า “ขะแมร์” แต่คนไทยออกเสียงว่า เขมร ตามภาษาอังกฤษ ( Khmer) ถึงแม้วา่ ขะแมร์ กับ เขมร จะออกเสียงคล้ายกันมากๆ แต่บางทีชาวกัมพูชาได้ยินก็หงุดหงิด ถ้า ออกเสียง “ขะแมร์” จะน่าฟังกว่าเยอะ เพราะ ถ้าได้ยินค�ำว่า เขมร ทีไร ให้ความรู้สึกด้อย ค่า ไม่ให้เกียรติ อารมณ์เดียวกันกับที่บาง คนเรียกฝรั่งผิวด�ำว่านิโกร เรียกคนจีนว่า เจ๊ก อย่างไรอย่างนั้น บางทีพี่ไทยก็ใช้ค�ำว่า “เขมร” สื่อความหมายออกไปทางลบ เช่น ไสยศาสตร์เขมร เขมรดง ประมาณนี้ ส่วน ค�ำว่า แคมโบเดียน ฟังดูอินเตอร์เพราะเป็น ภาษาอั ง ฤษที่ ช าวตะวั น ตกหมายถึ ง ชาว กัมพูชานั่นเอง

ไทยกับกัมพูชามีความสัมพันธ์กนั มา นับพันปี มีการแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรม ระหว่างกัน รวมไปถึงภาษาทีใ่ ช้ดว้ ย เช่น การ ใช้ตัวเลข (๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙) ชาว กัมพูชาก็ใช้ตัวเลขแบบเดียวกัน ภาษาก็เช่น โดย กุ้งนาง เดียวกัน สมัยก่อนขอมถือว่ากษัตริย์อยู่ใน ฐานะสมมติเทพ ท�ำให้ไทยรับภาษาเข้ามาใช้ เป็นค�ำราชาศัพท์ เพราะถือว่าเป็นภาษาที่สูงส่งและสมเกียรติกับ กษัตริย์ แต่บางค�ำไทยก็ยมื มาใช้สำ� หรับคนธรรมดาทัว่ ไป เช่น ต�ำรวจ ท�ำเนียบ ช�ำนาญ ฯลฯ ถ้าจะค้นหาความมหัศจรรย์แห่งอารยธรรมขอมโบราณล่ะก็ ต้องไปกัมพูชาค่ะ โดยเฉพาะ นครวัดนครธม ดินแดนเรืองอ�ำนาจ ของกัมพูชาในยุคก่อน ตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ สร้างขึน้ ในสมัยพระเจ้าวรมันที่ 2 ถือเป็นศาสนสถานประจ�ำพระนคร ของพระองค์ เท่าทีเ่ ห็นตัวเทวสถานได้รบั การอนุรกั ษ์ดแู ลจากรัฐบาล กัมพูชาเป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ส�ำคัญเพียงแห่ง เดียวทีย่ งั เหลือรอดมาจนถึงปัจจุบนั แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของ พระวิษณุ ก่อนทีจ่ ะเปลีย่ นเป็น ศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิง่ ก่อสร้าง ทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็น ทีส่ ดุ ของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุง่ เรือง และได้กลาย มาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลง ทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย มีวลีเด็ดของ อาร์โนลด์ ทอย์นบี นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษที่มีโอกาสไปเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แห่งนี้ กล่าวไว้อย่างน่าประทับใจว่า “เห็นนครวัดก็ตายตาหลับแล้ว” การเดินทางเข้าไปในกัมพูชา นอกจากบินลัดฟ้ากับสายการ บินแอร์เอเชีย Legacy Air และ Cambodia Angkor Air แล้ว


15

ถ้าต้องการลัดเลาะทุ่งนาด้วยรถยนต์ (เช่า) ก็ สามารถเลือกเดินทางผ่านด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยท�ำวีซ่า On Arrival ณ ด่านศุลกากรได้เลย แต่ระหว่างการเดินทางอาจ จะต้องระวังเรื่องความปลอดภัย แต่อย่าระแวง เกินไป เพราะจริงๆ ชาวกัมพูชาก็น่ารักและ อัธยาศัยดี ขนาดเวลาที่ทักทายกัน ยังยกมือ พนมคล้ายๆ บ้านเรา เราเรียก การไหว้ บ้านเขา เรียก ซัมเปี๊ยะห์ (Sompiah) นอกจากการไหว้ แล้วกัมพูชายังมีศิลปวัฒนธรรมที่คล้ายคลึง กับไทยอยู่หลายเรื่อง เนื่องจากมีความสัมพันธ์ กับไทยมาก่อน เช่นที่สุโขทัยก็มีศิลปะขอมอยู่ มาก เช่น การท�ำตระกร้าหวาย เครื่องจักสาน เครื่องไม้ เครื่องเงิน หรือแม้แต่ผ้าทอมือ ผ้าทอ พื้นเมืองของกัมพูชาเรียกว่า ผ้าซัมปอต และ ผ้าปูม การแต่งกายของชาวกัมพูชาจะนุง่ ผ้าซัม ปอต (Sompot) เป็นผ้าทอมือ ถือว่าเป็นการ แต่งกายประจ�ำชาติ ส�ำหรับข้าราชการผู้ใหญ่ จะนุ่งผ้าโฮลกับเสื้อมีกระดุมสีทอง ในงานพิธี จะนุ่ง ผ้าโจงกระเบน เวลาไปวัดจะนุ่งผ้าม่วง ทั้งนี้ ซัมปอตมีหลายแบบซึ่งจะแตกต่างกันไป ตามชนชั้นทางสังคมของชาวกัมพูชา ถ้าใช้ใน

ชีวิตประจ�ำวันจะใช้วัสดุราคาไม่สูง ซึ่งจะส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น นิยมท�ำลวดลายตามขวาง ถ้าเป็นชนิดหรูหราจะทอด้ายเงินและ ด้ายทอง และหากใช้เวลาอยูใ่ นกัมพูชาระยะหนึง่ สิง่ ทีแ่ นะน�ำว่าไม่ควร พลาดก็คอื อาหารยอดนิยมของกัมพูชาทีต่ อ้ งไปกิน มีลกั ษณะคล้าย ห่อหมกของไทย มีชื่อว่า อาม็อก (Amok) เป็นเนื้อปลาหรือบางร้าน อาจจะใช้เนื้อไก่หรือเนื้อหอย ลวกด้วยพริกเครื่องแกงและกะทิ แล้ว ท�ำให้สกุ โดยการน�ำไปนึง่ แต่เนือ่ งจากกัมพูชามีภมู ปิ ระเทศทีม่ แี หล่ง น�้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางประเทศ อาม็อกจึงนิยมใช้เป็นเนื้อปลา และอีกเมนูเด็ดที่ชวนน�้ำลายไหลไม่ควรพลาดก็คือ ปลาร้าและ ปลาร้าทรงเครื่องที่ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารยอดนิยมของชาวกัมพูชา ทุกชนชั้น อันนี้ก็ไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน หลายปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเดินทางไป กัมพูชาไม่ขาดสาย แม้การเมืองของทัง้ 2 ประเทศจะมีปญ ั หากันบ้าง ตามที่เป็นข่าวแต่ในชายแดนประชาชนทั้ง 2 ประเทศก็ยังคงค้าขาย สินค้า เดินทางเข้าออกเพือ่ ติดต่อธุรกิจและท่องเทีย่ วกันอยูส่ ม�ำ่ เสมอ ถ้ามีโอกาสแวะเวียนไปท�ำความรู้จักเพื่อนบ้านของเรากันดูนะคะ


16 A-R-T

ศิลปะกับลิขสิทธิ์ (ตอนที่ 1)

เมื่อศิลปะถูกสร้างขึ้นมาจากความคิด ความสามารถ อันเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละ บุคคล ส่งผลให้เกิดเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่มี คุณค่าน่าชื่นชม แต่เมื่อภายหลังงานศิลปะ นอกจากจะให้แก่นหลักทางสุนทรีย์แล้ว งาน ศิลปะหลายชิ้นสามารถก�ำหนดมูลค่าและให้ ประโยชน์ทางการค้าได้ กลายเป็นการแสวงหา ผลประโยชน์จากศิลปะมากกว่าแก่นสารของ ผลงานมากขึ้น เมื่อผลประโยชน์มีให้แก่ผู้ที่มี “สิทธิ์” ในผลงานนั้นเท่านั้นและผลงานศิลปะที่ สามารถสร้ า งผลประโยชน์ เ ท่ า นั้ น ที่ เ ป็ น ที่ ต้องการในเชิงการค้า เพื่อให้ศิลปะไม่ถูกท�ำให้ กลายเป็นการค้ามากกว่าความจรรโลงแก่ มนุษย์และมีความสร้างสรรค์ จึงจ�ำเป็นต้องมี กฎหมายเพื่อคุ้มครองและปกป้องสิทธิ์ใน งานศิลปะ เพื่อให้เจ้าของสิทธิ์ในงานศิลปะ นั้นได้รับประโยชน์จากงานสร้างสรรค์ของ ตนเองอย่างเต็มที่ ป้องกันการละเมิดสิทธิ์ เพื่อผลประโยชน์ เ ช่ นเดี ยวกัน แต่ไร้ซึ่ง การสร้ า งสรรค์ จึ ง ได้ มี ก ารก� ำ หนดให้ มี “ลิขสิทธิ์” ที่จะช่วยให้ศิลปินสามารถ สร้างสรรค์ผลงานกันได้อย่างสร้างสรรค์ และมีก�ำลังใจมากยิ่งขึ้น ต่อจากนี้เราจะมาท�ำความรู้จักเกี่ยวกับ ลิขสิทธิ์กัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสิทธิ์ใน งานศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่พบเห็น ได้ทั่วไปในสังคม

โดย MR.BOM

ลิขสิทธิ์ คืออะไร

ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สนิ ทางปัญญาอย่างหนึง่ ซึง่ ไม่มรี ปู ร่างแต่สามารถถือเอาได้ และกฎหมายให้ความคุ้มครอง โดยให้เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้มีสิทธิแต่ผู้เดียว (Exclusive Rights) ที่จะกระท�ำการใดๆ ที่เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ที่ได้ ท�ำขึ้น โดยหลักแล้วกฎหมายลิขสิทธิ์นั้น จะคุ้มครองเฉพาะ รูปแบบของการแสดงออกของความคิด (Expression of Ideas) แต่จะไม่คุ้มครองถึงตัวความคิด ที่ยังไม่ได้ถ่ายทอด ให้ปรากฏออกมา งานลิขสิทธิ์ไม่จ�ำเป็นต้องมี "ความใหม่" (Novelty) ขอเพียงแต่ให้เกิดจากความคิดริเริ่มของตนเอง (Original) โดยไม่ลอกเลียนแบบใคร และเป็นการสร้างสรรค์ โดยใช้ความพยายามและสติปญ ั ญาในระดับหนึง่ ก็จะได้รบั การคุ้มครองตามกฎหมายแล้ว กฎหมายลิขสิทธิ์นั้นมุ่งคุ้มครองเจ้าของลิขสิทธิ์มิให้ ผู้อื่นลอกเลียนแบบหรือท� ำซ�้ำตลอดจนห้ามมิให้มีการใช้ ประโยชน์จากรูปแบบของการแสดงออกทางความคิดของ ผูส้ ร้างสรรค์โดยไม่ได้รบั อนุญาต ด้วยเหตุนอี้ ายุการคุม้ ครอง ลิขสิทธิ์จึงมีระยะยาวนานกว่าการคุ้มครองตัวความคิด ซึ่ง เป็น เรื่องของการคุ้มครองการประดิษฐ์ภายใต้กฎหมาย สิทธิบตั ร ทัง้ นีก้ ารคุม้ ครองดังกล่าวจะต้องไม่ขดั ต่อประโยชน์ ของสาธารณชนโดยรวมด้วย ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินประเภทที่สามารถ ซื้อ ขาย หรือ โอนสิทธิกันได้ ทั้งทางมรดก หรือโดยวิธีอื่นๆ การโอนสิทธิ์ ควรที่จะท�ำเป็นลายลักษณ์อักษร หรือท�ำเป็นสัญญาให้ ชัดเจน จะโอนสิทธิทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนก็ได้


17

งานสร้างสรรค์ทมี่ ลี ขิ สิทธิ์ ประกอบด้วยประเภทงาน ต่าง ๆ ดังนี้ งานวรรณกรรม เช่น หนังสือ จุลสาร สิง่ เขียน สิง่ พิมพ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ งานนาฏกรรม เช่น งานเกี่ยวกับการร� ำ การเต้น การท�ำท่าหรือ การแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว การแสดงโดยวิธีใบ้ งานศิลปกรรม เช่น งานทางด้านจิตรกรรม ประติมา กรรม ภาพพิ ม พ์ สถาปั ต ยกรรมถ่ า ยภาพ ภาพ ประกอบแผนที่ โครงสร้าง ศิลปะประยุกต์ และรวมทั้ง ภาพถ่ายและแผนผังของงานดังกล่าวด้วย งานดนตรีกรรม เช่น ท�ำนองและเนื้อร้องหรือท�ำนอง อย่างเดียว และรวมถึงโน้ตเพลงทีไ่ ด้แยกและเรียบเรียง เสียงประสานแล้ว งานโสตทัศนวัสดุ เช่น วีดีโอเทป แผ่นเลเซอร์ดิสก์ เป็นต้น งานภาพยนตร์ งานสิ่งบันทึกเสียง เช่น เทปเพลง แผ่นคอมแพ็คดิสก์ เป็นต้น งานแพร่เสียงภาพ เช่น การน�ำออกเผยแพร่ทางสถานี วิทยุกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ งานอื่นใดอันเป็นงานในแผนกวรรณคดี แผนก วิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ

• • • • • • • • •

การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์

สิทธิ์ในลิขสิทธิ์จะเกิดขึ้นโดยทันทีนับตั้งแต่ ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ผลงานโดยไม่ต้องจด ทะเบียน ดังนั้น เจ้าของลิขสิทธิ์จึงควรที่จะปกป้อง คุ ้ ม ครองสิ ท ธิ ข องตนเอง โดยการเก็ บ รวบรวม หลักฐานต่างๆ ทีไ่ ด้ทำ� การสร้างสรรค์ผลงานนัน้ ขึน้ เพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์สิทธิ หรือความเป็น เจ้าของในโอกาสต่อไป ตัวอย่างผลงานเพลงของศิลปิน 1 อัลบั้ม ไม่เพียง แต่จะให้ความบันเทิงเท่านัน้ แต่อดุ มไปด้วยลิขสิทธิห์ ลาย ประเภท ได้แก่

ลิขสิทธิ์ประเภทศิลปกรรม รูปภาพประกอบหน้าปก

ลิขสิทธิ์ประเภทดนตรีกรรม ท�ำนอง ค�ำร้อง โน้ตจังหวะ ลิขสิทธิ์ประเภทสิงบันทึกเสียง แผ่นวีซีดีบันทึกเสียง

ขอบคุณภาพจาก Flickr.com

งานสร้างสรรค์ที่มีลิขสิทธิ์

ผลงานที่ไม่ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์

ผลงานดังต่อไปนี้เป็นผลงานที่ไม่ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ ข่าวประจ�ำวัน และข้อเท็จจริง ที่มีลักษณะเป็นเพียง ข่ า วสาร อั น มิ ใ ช่ ง านในแผนกวรรณคดี แผนก วิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ค�ำสัง่ ค�ำชีแ้ จง และหนังสือ โต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใด ของรัฐหรือของท้องถิ่น ค�ำพิพากษา ค�ำสั่ง ค�ำวินิจฉัย และรายงานของทาง ราชการ ค�ำแปลและการรวบรวมสิ่งต่างๆ ตามข้อ 3.1 – 3.4 ที่กระทรวงทบวง กรมหรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือ ของท้องถิ่นจัดท�ำขึ้น

• •

• •

ลิขสิทธิ์ประเภทวรรณกรรม เนื้อเพลงหรือข้อความจากนักร้อง

ลิขสิทธิ์ประเภทงานภาพยนตร์ ภาพยนตร์ประกอบเพลง

พอจะเข้าใจได้แล้วว่ามีผลงานศิลปะแบบใดบ้างที่ ได้รับการคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ รูปแบบใด เพียงเกิดจากการริเริม่ สร้างสรรค์ดว้ ยตนเอง ไม่ ลอกเลียนแบบผูอ้ นื่ ก็นบั ได้วา่ เป็นผลงานศิลปะทีม่ คี ณ ุ ค่า อย่างยิง่ ในตอนหน้ามีเรือ่ งราวเกีย่ วกับเจ้าของลิขสิทธิ์ การ คุม้ ครองและประโยชน์ทจี่ ะได้รบั และตัวอย่างของผลงาน ศิลปะอันโด่งดังกับลิขสิทธิ์แห่งประวัติศาสตร์ ที่มา : กรมทรัพย์สินทางปัญญา , พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537


18 Guidance

5.00 น. ตื่นนอน

หากจะมีอาชีพหนึง่ ทีต่ อ้ งเป็นคนรักการอ่าน แบบยิ่งยวดที่สุด อาชีพที่ต้องเป็นคนรู้ไปทุกเรื่อง รวมถึง ชอบอยูก่ บั กองหนังสือ ชอบกลิน่ หมึก และ เสพติดเนื้อกระดาษเป็นชีวิตจิตใจ คงไม่มีอาชีพ ไหนอี ก แล้ ว ที่ จ ะได้ ใ กล้ ชิ ด หนั ง สื อ เท่ า กั บ บรรณารักษ์

7.30 น. กินมื้อเช้า

8.00 น. เปิดห้องสมุด

จุดเริ่มต้นที่ท�ำให้ฉันมาเป็นบรรณารักษ์ เริ่มมาจากการที่ เห็นครูบรรณารักษ์ทใี่ จดีทโี่ รงเรียน มาพูดคุยด้วย หาหนังสือสนุกๆ มาให้ยืมอ่าน ท�ำให้มีช่วงเวลาที่ฉันได้ไปคลุกคลีอยู่ในห้องสมุด ของโรงเรียน จริงๆ หนังสือในห้องสมุดของโรงเรียนก็ไม่เยอะมาก แต่กเ็ ยอะพอทีจ่ ะท�ำให้ฉนั อ่านไปเรือ่ ยๆ ไม่หมดห้องสักที และด้วย ความสนิทกับบรรณารักษ์ของโรงเรียน ท�ำให้ฉันได้ช่วยเหลืองาน ห้องสมุดของโรงเรียนง่ายๆ เช่นการจัดหนังสือเข้าชั้น จนในที่สุด ฉันก็คิดว่า ชีวิตนี้ฉันจะอยู่กับหนังสือนี่แหละ งั้นเรียนบรรณารักษ์ ดีกว่า

หนอนหนังสือ โดย รอยฝัน

9.00 น. ซ่อมหนังสือที่เสียหาย

ในระหว่างการเรียนท�ำให้ฉันรู้ว่า จริงๆ แล้ว บรรณารักษ์ทนี่ งั่ ยิม้ หวานรอคนมาขอความช่วยเหลือ มายืม-คืน หนังสือนั้น จริงๆ แล้วเขามีงานอีกหลาย อย่างที่ต้องท�ำ หนังสือที่ห้องสมุดมีผู้ใช้เป็นจ�ำนวน มาก บ้างก็เป็นคนดีมีมารยาท บ้างคนเข้าใจว่า หนังสือพวกนีเ้ ป็นของตนเอง ท�ำให้หนังสือเหล่านีโ้ ดน กระท�ำหลายๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นโดนฉีก โดนดึง โดนขีดเขียนใส่ นอกจากนีย้ งั โดนใช้งานมาก บางครัง้ ก็ จ ะมี บ างหน้ า ที่ ห ลุ ด ขาดบ้ า ง หน้ า ที่ แ รกของ บรรณารักษ์ก็คือ ต้องท�ำให้หนังสือเหล่านี้ ทนไม้ทน มือผิดหนังสือทั่วไป (อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Superbook) รวมถึงถ้าหนังสือเล่มไหนมีความเสียหายก็ ต้องซ่อมแซมให้เป็นอย่างดี เพื่อให้หนังสือหนึ่งเล่ม สามารถใช้งานได้นานๆ


19

11.00 น. สั่งซื้อหนังสือใหม่

แม้วา่ งานบรรณารักษ์จะต้องอยูก่ บั กองหนังสือ แต่ ในกองนัน้ ก็จะต้องเพิม่ มากขึน้ มากขึน้ เพราะถ้าห้องสมุด มีแต่หนังสือแบบเดิมๆ แล้วใครจะมาใช้ ดังนัน้ ฉันก็จะต้อง มีหน้าที่หาหนังสือใหม่ๆ มาให้เสริมทัพให้หนังสือในห้อง สมุดเสมอๆ แต่หอ้ งสมุดส่วนใหญ่ เช่น ห้องสมุดประชาชน ก็ ไ ม่ ไ ด้ มี เ งิ น มากที่ จ ะไปหาหนั ง สื อ ทุ ก เล่ ม ที่ ตี พิ ม พ์ ใ น ประเทศนี้มาครอบครอง บรรณรักษ์จึงต้องคอยเดาว่า หนังสือเล่มไหนที่คนที่มาห้องสมุดจะอยากอ่าน อยากยืม อยากดู อยากสัมผัส มากทีส่ ดุ ดังนัน้ หลังจากทีบ่ รรณารักษ์ ได้รายชื่อหนังสือ ภาพปก และเนื้อหาคร่าวๆ จากส�ำนัก พิมพ์ต่างๆ แล้ว จึงต้องเริ่มคาดเดาว่าเล่มไหนน่าซื้อมามี เนื้อหาดีแค่ไหน มีเนื้อหาอะไร แล้วคนจะชอบไหม เมื่อได้ แล้วก็จับยามสามตา เลือกหนังสือที่จะมาอยู่ในห้องสมุด จริงๆ ทีเ่ ล่ามาก็เกินไปนิด เพราะจริงๆ การเลือกหนังสือเข้า ห้องสมุดหลาย ๆ ครัง้ ก็ใช้วธิ งี า่ ยกว่านัน้ แค่เดินไปถามคน ที่มาห้องสมุดว่าอยากอ่านหนังสือเล่มไหน แล้วก็สั่งซื้อ เข้ามา

11.30 น. กินมื้อเที่ยง 12.00 น. ท�ำโครงการสนับสนุนการอ่าน

แม้ว่างานบรรณรักษ์จะดูเหมือนงานที่อยู่กันแต่ หนังสือ แต่จริงๆ แล้วงานบรรณารักษ์เป็นงานที่เกี่ยวกับ คนไม่ใช่น้อย อย่างเช่นจะมีคนมาสอบถามถึงหนังสือเล่ม นี้ เล่มนั้น บางครั้งก็มี ก็พาเขาไปหยิบ บางครั้งก็ไม่มีอาจ จะโดนยืมไป หรือห้องสมุดไม่ได้ซอื้ เก็บไว้ ฉันก็จำ� เป็นต้อง แนะน�ำหนังสือเล่มอื่นที่แทนได้ นอกจากนี้เรายังต้องจัด กิจกรรมต่างๆ ให้คนสนใจอ่านหนังสือ เพราะถ้าเราแค่เป็น ห้องสมุดที่นิ่ง ๆ รอคนมาใช้ คนก็อาจจะไม่มาใช้

14.00 น. รับบริการยืม-คืนหนังสือ 16.00 น. เก็บหนังสือเข้าชั้นหนังสือ

งานบรรณารักษ์คนอาจจะมองว่าน่าเบือ่ ท�ำงานซ�ำ้ ๆ เดิมๆ ทุกวัน ซึ่งก็จริง อีกทั้งยังเป็นงานที่ต้องเจอกับคนที่ หลายแบบ บางคนก็ยืมหนังสือไปแล้วไม่ยอมเอามาคืน บางคนก็โดนปรับเยอะมากเนือ่ งจากส่งหนังสือช้า ก็เลยไม่ คืนซะเลย บางคนก็เข้ามาคุยเสียงดังรบกวนคนอืน่ อาจจะ

เจอคนเอาขนมน�้ำเข้ามาทานในห้องสมุด ที่แปลกคือพอ เข้าไปบอกเขา กลับโดนด่ากลับมา อาจจะมีบางครั้งที่เรา ต้องเชิญคนที่ก่อกวนออกไป แต่ที่บอกมาทั้งหมดจริงๆ แล้วไม่ใช่งานบรรณารักษ์เลย แต่กต็ อ้ งท�ำ นอกจากนีง้ าน บรรณารักษ์เป็นงานบริการ จึงต้องปรับไปตามผู้ใช้ คน ส่ ว นมากในเวลาท� ำ งานไม่ เ ข้ า ห้ อ งสมุ ด หรอก จะอยู ่ ที่ท�ำงานหรือในห้องเรียน อาจจะมาในช่วงเที่ยงหรือเลิก งานแล้ว ห้องสมุดจึงต้องเปิดตอนเทีย่ ง อาจจะต้องกินข้าว เที่ยงเร็วหน่อยไม่ก็ช้าไปเลย และอาจจะต้องเลิกงานดึก

18.00 น. กินมื้อเย็น 20.00 น. ยืมหนังสือกลับบ้าน ปิดห้องสมุด

คนบางคนอาจจะคิดว่างานบรรณารักษ์เป็นงานที่ ล้าหลัง ตกยุคไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วเป็นงานส�ำหรับคนชอบ ความรู้ น่าจะเรียกว่าเป็นงานทีเ่ ป็นสมองของสังคม แต่ทกุ วันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก มีข้อมูลที่เก็บอยู่ในรูปอื่นๆ หลาย แบบ คนสมัยใหม่อาจไม่จ�ำเป็นต้องเข้าห้องสมุด เพราะ แค่หาใน Internet ก็มีข้อมูล แต่ข้อมูลเหล่านั้นเราจะเชื่อ ถือได้อย่างไร งานบรรณารักษ์ในยุคข้อมูลข่าวสารแบบนี้ การปรับบทบาทของบรรณารักษ์จะอย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่ ท้าทายคนท�ำอาชีพนี้ต่อไป

21.00 น. ถึงบ้าน อ่านหนังสือ นอน


20 Life Coaching

อย่าปล่อยให้

จากใจเรา ความรักหายไป โดย อรรถพล อนันตวรสกุล

ความขัดแย้งที่ก�ำลังเกิดขึ้นใน สังคมบ้านเราก�ำลังลุกลาม บานปลาย และเคลื่อนเข้ามาอยู่รายล้อมพวกเรา มากขึ้นทุกที กระทั่งหลายคนก็เผลอ ไผลปล่อยความคิดและจิตใจให้หล่น ลงไปติดกับดักความขัดแย้ง จ�ำแนก แยกแยะ แบ่งฝักฝ่าย ติดตามข้อมูล ข่าวสารในมุมมองที่ตนเลือกแล้วที่จะ เชื่อ แล้วค่อยๆ บ่มเพาะจนกลายเป็น ความรุนแรงในจิตใจ ผ่านค�ำพูด ข้อ เขียน ฯลฯ

เมื่อเรามองคนที่คิดเห็นตรงกับ เราเป็น ‘พวกเรา’ และคนที่คิดเห็นต่าง จากเราเป็น ‘พวกเขา’ แล้วย�้ำซ�้ำๆ ถึง ความต่าง จนหลงลืมไปว่านอกเหนือ ไปจากทัศนะต่อบ้านเมืองและการต่อสู้ แล้ว เราต่างอาจมีเป้าหมายเดียวกัน นัน่ คือสังคมทีด่ กี ว่าทีเ่ ป็นอยูส่ ำ� หรับทุก คน และในฐานะเพือ่ นมนุษย์ บางทีเรา อาจเหมือนกันมากกว่าที่เราคิด แต่เรา กลับไป “ติดกับ” อยูก่ บั ความขัดแย้งจน ดูเหมือนว่าจะหาทางออกได้ยากมาก ขึ้นทุกที

ไปสู่สภาวะที่ขาดการใช้สติ ใช้เหตุผล และไม่รับฟังกันอีกต่อไป

ผมเขี ย นความเรี ย งชิ้ น นี้ ใ น ค�่ำคืนที่ได้รับทราบข่าวการเสียชีวิต ของเด็กน้อยถึงสองคน และการบาด เจ็ บ กระทั่ ง เสี ย ชี วิ ต ของผู ้ ใ หญ่ อี ก จ�ำนวนหนึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วัน ตลอด เวลาหลายเดือนของความขัดแย้งเรา มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากเหตุ ปะทะ ลอบท�ำร้ายและสังหารมากขึ้น ทุกที และวันนี้ เด็กอายุเพียงห้าขวบ ตกเป็นเหยือ่ เนือ่ งจากผูใ้ หญ่มเี หตุผล ข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่เราไม่ บางประการในการน�ำพาเขาและเธอ ควรหลงลืมก็คอื ความขัดแย้งเป็นเรือ่ ง เข้าไปในพืน้ ทีก่ ารชุมนุม และพืน้ ทีใ่ กล้ ธรรมชาติของสังคมที่ผู้คนหลากหลาย เคียง มาอยูร่ วมกัน แต่การปล่อยให้ความขัด แย้งเติบโตจนกลายเป็นความเกลียด เด็กๆ ที่เสียชีวิตไม่สามรถ ชังนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ และต้องได้ ร้องขออะไรจากเราได้อีก เหลือ รับการจัดการอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะ แต่พวกเราที่ต้องส่งเสียงเรียกสติ หยุดยั้งรั้งไว้ไม่อยู่ ในประวัติศาสตร์ กันและกันว่า อย่าปล่อยให้ความ ของมนุษย์ และสถานการณ์ความขัด รักในเพือ่ นมนุษย์หายไปจากใจเรา แย้งจากทั่วทุกมุมโลกมีให้เราเรียนรู้ อย่าปล่อยให้ความเป็นเขาเป็นเรา อยูท่ วี่ า่ เรามองแล้วเห็นพิษภัยของมนัน ท�ำให้เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันกับ บ้างหรือเปล่า หรือปล่อยให้ความคิด เพื่อนร่วมชาติอย่างเพื่อนมนุษย์ รวมหมู่ และอารมณ์รวมหมู่น�ำพาเรา ได้อีกต่อไป


Help for Health 21

สืบเนือ่ งจากหัวข้อเดือนทีแ่ ล้ว ซึง่ พูดถึงระบบประกัน สุขภาพในประเทศไทย เดือนนี้จะมาเจาะลึกเรื่อง ระบบ ประกันสังคม หลังจากเกริ่นไปครั้งก่อนว่า สิทธิประโยชน์ ด้านการรักษาพยาบาลดูจะน้อยในสุด เมื่อเปรียบเทียบกับ สิทธิอื่นๆ ทั้งที่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน

ระบบประกันสังคม โดย ภญ.บุษบงก์ ธรรมมาสถิตย์กุล

ลองมาท�ำความรูจ้ กั กับระบบประกันสังคมให้มากขึน้ ส�ำหรับน้องๆ วัยก�ำลังศึกษาเล่าเรียนในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย หรือ อุดมศึกษาทีก่ ำ� ลังจะก้าวเข้าสูว่ ยั ท�ำงานมา เป็นมนุษย์เงินเดือน ก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบ ประกันสังคมได้ เพราะเป็นสวัสดิการภาคบังคับ หรืออาจ เข้าสู่ระบบประกันสังคมโดยสมัครใจ ก่อนอืน่ จะขอกล่าวถึงข้อจ�ำกัดของสิทธิระบบประกัน สุขภาพทุกสิทธิ คือ ไม่สามารถเบิกค่ายาหรือค่าหัตถการได้ ทั้งหมด เพราะยาบางชนิดในการรักษาโรคบางโรคมีราคา แพงหรือมีหลักฐานทางการแพทย์ว่า มีประสิทธิผลการ รักษาไม่คุ้มค่ากับราคายา จึงต้องมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขใน การสั่งใช้ยา เพื่อควบคุมงบประมาณของกองทุน ซึ่งแต่ละ กองทุนไม่ว่าจะเป็น สวัสดิการข้าราชการ กองทุนประกัน สุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) หรือกองทุนประกัน สังคม ล้วนแตกต่างกันในเชิงรายละเอียด จากประสบการณ์ การท�ำงานในโรงพยาบาลของผู้เขียน ตั้งข้อสังเกตว่า สิทธิ ประกันสังคมถูกจ�ำกัดการเบิกยาหลายชนิดมากกว่าสิทธิ อื่นๆ หลายครั้งผู้ประกันตนไม่เข้าใจว่า ท�ำไมต้องจ่ายเพิ่ม ส่วนเกินส่วนต่างในการรักษา หรือต้องช�ำระค่ายาบาง รายการ ทั้งที่ตนเองมีสิทธิประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่ระบบประกันสังคมก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว เพราะ เงินสมทบที่จ่ายเข้ากองทุนนั้นถูกน�ำไปจัดสรร สวัสดิการครอบคลุม 7 กรณี คือ 1) เจ็บป่วยหรือ ประสบอันตราย ซึ่งมีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงินสมทบมา

แล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน 2) คลอดบุตร 3) พิการหรือ ทุพพลภาพ 4) เสียชีวิต 5) สงเคราะห์บุตร 6) ว่างงาน มีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือน และถู ก เลิ ก จ้ า งหรื อ ลาออกหรื อ สิ้ น สุ ด สั ญ ญาจ้ า ง โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย กรณีถูกเลิกจ้างจะได้ รับเงินทดแทนระหว่างว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของเงินเดือน โดยค�ำนวณจาก ฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท แต่หาก ลาออกหรือสิน้ สุดสัญญาจ้างจะได้รบั เงินทดแทนปีละ ไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าเงินเดือน 7) เงินบ�ำนาญชราภาพ ซึ่งในกรณีดังกล่าว มีเงื่อนไขว่า ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสบทบเข้ากองทุนไม่ต�่ำกว่า 180 เดือน (15 ปี) นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ในด้านลดหย่อนภาษี โดยน�ำยอดเงินทีจ่ า่ ยสมทบเข้ากองทุนมาหักลดหย่อนภาษี ได้ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี และยังมีสวัสดิการ ภาคสมัครใจ คือ กองทุนส�ำรองเลีย้ งชีพ ซึง่ สามารถเลือก ออมเพือ่ เป็นหลักประกันให้กบั ตนเอง โดยออมได้สงู สุดร้อย ละ 15 ของเงินเดือน ซึง่ ในกรณีนนี้ ายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบ ให้กบั เราในอัตราทีไ่ ม่ตำ�่ กว่าลูกจ้างอีกด้วย เช่น เราจ่ายเงิน สมทบเข้ากองทุนส�ำรองเลีย้ งชีพร้อยละ 5 ของเงินเดือนคิด เป็น 1,000 บาท นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมให้เรา ไม่ต�่ำกว่า 1,000 บาท หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีสิทธิแต่ไม่เคยรู้ และไม่เคย ใช้สทิ ธิของตัวเองอย่างเต็มที่ ลองเข้าไปศึกษาเพิม่ เติมได้ที่ http://www.sso.go.th/ แล้วพบกันใหม่ในวารสารฉบับ เดือนเมษายน ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ สวัสดีค่ะ


22 Scitech

Selfie

ฉบับที่แล้วผมได้น�ำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการ บ�ำบัดโรคติดเทคโนโลยี ส�ำหรับหลายๆ คนที่ก�ำลังเมา มันส์กับการใช้งาน จนเลิกไม่ได้...

ฉบับนี้ผมมีศัพท์ใหม่มาแรง ที่ตอนนี้หลายๆ คน คงได้ ยิ น ค� ำ นี้ ต ามสื่ อ ต่ า งๆ เรี ย กว่ า เซลฟี (Selfie) หลายคนสงสัยว่ามันคืออะไร หมายความว่าอะไร ใน เมืองไทยคงยังไม่คนุ้ เคยกันมากนัก แต่สำ� หรับต่างประเทศ เป็นค�ำศัพท์ที่ถูก คณะผู้จัดท�ำพจนานุกรม ภาษาอังกฤษ ทีเ่ รารูจ้ กั กันดีชอื่ Oxford Dictionaries จัดให้เป็นค�ำศัพท์ แห่งปี 2013 โดยมีผู้นิยมใช้ ค�ำว่า Selfie เพิ่มขึ้น ทั่วโลกในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เริ่มใช้ครั้งแรกใน ปี 2545 ที่ ป ระเทศออสเตรเลี ย โดยผู ้ ใ ช้ อ ธิ บ าย ภาพถ่ายของตัวเอง ว่าเป็นภาพที่ถ่ายตัวเองด้วย กล้องมือถือ ปี 2547 ค�ำว่า Selfie ถูกน�ำมาใช้ครั้งแรก ในเว็บไซต์ Flicker และปี 2556 ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. มี ยอดใช้ทั้งโลก เพิ่มขึ้นเป็นจ�ำนวนมากอย่างน่าตกใจ มองย้อนกลับมาที่บ้านเรา ข้อมูลจากส�ำนักงานพัฒนา ธุรกรรมทางอิเลคทรอนิคส์ (องค์การมหาชน) ส�ำรวจการ ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในปี 2556 พบว่าในไทย มีประชาชน ใช้ Facebook ถึง 19 ล้านคน ใช้ Instagram ถึง 8 แสนคนต่อวัน และมีแนวโน้มเพิม่ มากขึน้ เรือ่ ยๆ โดยเฉลีย่ แล้วเพิ่มขึ้นเดือนละ 10 ล้านคน

โพสต์รปู แลกไลค์ โดย Spocky

เรือ่ งทีน่ า่ ห่วงตอนนีค้ อื ทัง้ ชายและหญิง โดยเฉพาะ วัยรุ่นนักเรียน นักศึกษา นิยมพฤติกรรมที่เรียกว่า Selfie กันมาก คือถ่ายรูปตัวเองในอิริยาบถต่างๆ แล้วน�ำไปเผย แพร่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ Facebook, Instagram ไม่ว่าจะท�ำอะไร ไปที่ไหน หรือกินอะไร เพื่อให้เพื่อนได้ รับรู้ และกดไลค์ รูปภาพ และข้อความ พฤติกรรมเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้ โดยเฉพาะเรื่ อ งความเชื่ อ มั่ น หรื อ ความมั่ น ใจใน ตนเอง ซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจ�ำวัน และส่งผล ต่ออนาคต การงาน และการพัฒนาประเทศอย่างคาด ไม่ถงึ ซึง่ จะมากหรือน้อยขึน้ อยูก่ บั แต่ละบุคคล บางคนลง รูปแล้วได้แค่ 2 ไลค์ เขาก็มีความสุขแล้วเพราะถือว่า พอแล้ว แต่บางคนต้องให้มียอดคนกดไลค์มากๆ พอมาก แล้วก็ยงิ่ ติด เพราะถือว่าเป็นรางวัล ในทางตรงกันข้าม หาก ได้รับการตอบรับน้อย ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง และท�ำใหม่ แล้วก็ยงั ไม่รบั การตอบรับ จะส่งผลต่อความคิดของตัวเอง ท�ำให้สูญเสียความมั่นใจ มีทัศนคติด้านลบ เช่น ไม่ชอบ ไม่พอใจรูปลักษณ์ตัวเอง แต่หากบุคคลนั้นสามารถรักษา ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้เป็นปกติได้ Selfie ก็ไม่ส่ง ผลกระทบต่ อ การด� ำ เนิ น ชี วิ ต ซึ่ ง ล่ า สุ ด หน่ ว ยงาน สาธารณสุขประเทศอังกฤษ ได้ประกาศว่า อาการเสพ ติดโซเชียลมีเดียถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง ในแต่ละปี มีชาวอังกฤษเข้ารับการบ�ำบัดมากกว่า 100 ราย! รู้อย่างนี้แล้วรีบส�ำรวจตัวเองกันดูนะครับ


Wow! Asean 23

น กั ! ศ เ ะ ถ อ า ก ว ปไ อ ินะมูล

โดย สุวิมล จ

สวัสดีค่ะ ชาวว้าวอาเซียน ท่ามกลางเหตุบา้ นการเมืองทีย่ งั คง ร้อนระอุ มีข่าวที่น่ายินดี ที่ น.ส. พิรดา เตชะวิจิตร์ ผู้หญิงไทย วัย 29 ปี ได้เป็น 1 ใน 23 คนจาก ทั่ ว โลกที่ จ ะได้ ท ะยานขึ้ น ไปสู ่ ห ้ ว ง อวกาศหลังจากที่เธอได้ใช้ความ พยายามและความรู้ความสามารถ ฝ่าด่านการทดสอบมาได้ โดยเธอจะ ได้ไปท่องอวกาศ ภายในปี 2558 นี้ พิรดาจึงเป็นหญิงไทยและคนไทย คนแรกทีจ่ ะได้สมั ผัสประสบการณ์นี้

ส�ำหรับในอาเซียนแล้ว ประเทศแรกที่มีนักบินอวกาศ และ ยานอวกาศ คือประเทศเวียดนามค่ะ เวียดนามเป็นชาติแรกในอาเซียนที่มีมนุษย์อวกาศชื่อ ของเขาคือ พลโท ฝาม-ตวน ถูกยิงขึ้นสู่วงโคจรโลกจากฐานในเมือง Saratov Oblast ประเทศรัฐเซีย เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม พ.ศ. 2523 พร้อมกับนักบินนัก อวกาศโซเวียตชื่อ วิคเตอร์ คอร์บาตโก วาสซิลีเยวิซ หากพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีด้านอวกาศแล้ว ไม่พูดถึง มาเลเซียคงไม่ได้ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความส�ำคัญกับการค้นคว้าวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีด้านนี้ โดยจัดตั้งองค์กรอวกาศของตนเอง ที่ใช้ชื่อว่า Malaysian Space Agency และยังมีนักบินอวกาศคนแรก ชื่อ ซีคห์ มุสซาฟาร์ ซูคอร์ เดินทางไปกับยาน โซยูซ-เอฟจี ของรัสเซีย มุ่งหน้าสู่สถานี อวกาศนานาชาติ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ซีคห์ มุสซาฟาร์ ซูคอร์ มีดีกรีเป็นถึงแพทย์ สาขาออร์โธปิดิก และนายแบบนอกเวลา นอกจากเป็นนักบินอวกาศคนแรก ของมาเลเซียแล้ว ยังเป็นนักบินอวกาศมุสลิมคนแรกที่สู่อวกาศในช่วงเทศกาล ถือศีลอดด้วย ภายหลังการกลับมาของนักบินอวกาศ มาเลเซียได้ถูกบันทึก ให้ เ ป็ น หนึ่ ง ในเอเชี ย ตะวั น ออกเฉี ย งใต้ ที่ มี ค วามก้ า วหน้ า ด้ า นอวกาศ ล�้ ำ หน้ า กว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ค่ะ อ้างอิง : http://www.thailandsusu.com/webboard/ index.php?topic=295707.0 ขอบคุณภาพ : http://vehicle.spokedark. tv/2013/09/13/suitless-in-space/#.UwfjHihYlBQ


24 กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา

เรื่องราวของ เดือน งามพร้อม หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักร้อง ลูกทุ่งชื่อก้องฟ้า แต่โชคชะตาพลิกผันให้เธอเป็นแค่ “หางเครื่อง” แต่ ไม่วา่ ปัญหาจะรุมเร้าเพียงใด เธอก็ไม่เคยละทิง้ ความฝันทีจ่ ะเป็นดาวจรัสฟ้า ในวงการเพลง โดยมีความรักจากผู้ชายชื่อ รวิ เป็นแรงผลักดัน

หางเครือ่ ง

โดย ธนา ภัทรภาษิต

ละครเรื่ อ งนี้ แ สดงออกถึ ง ศิ ล ปะและวั ฒ นธรรมของไทย ประเภท “การแสดงดนตรีลกู ทุง่ ” ซึง่ ประกอบไปด้วย นักร้อง นักดนตรี หางเครื่อง และทีมงานทุกฝ่าย ได้ อย่างน่าชื่นชมส่งเสริม และยังช่วย อนุรกั ษ์มรดกทางวัฒนธรรมทีจ่ บั ต้อง ไมได้อีกประการหนึ่ง จึงเห็นได้ว่า วั ฒ นธรรมเป็ น เรื่ อ งที่ มี ค วาม ส� ำ คั ญ ยิ่ ง ต่ อ สั ง คมและประเทศ ชาติ ดังนัน้ กระทรวงวัฒนธรรมจึง ได้เสนอ “ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วย มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ ได้ พ.ศ. ....” เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู คุ้มครอง ส่งเสริม และเพื่อรองรับ พันธกิจที่ประเทศไทยจะได้เข้าร่วม อนุ สั ญ ญาว่ า ด้ ว ยการสงวนรั ก ษา มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งในขณะนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มี ม ติ เ ห็ น ชอบร่ า งกฎหมายฉบั บ นี้

แล้ว ก�ำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการ พิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่ อ พิ จ ารณาประกาศใช้ เ ป็ น กฎหมายต่อไป “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับ ต้องไม่ได้” หมายความว่า ความรู้ การแสดงออก หรื อ ทั ก ษะทาง วั ฒ นธรรมที่ บุ ค คล กลุ ่ ม บุ ค คล หรือชุมชนยอมรับและรู้สึกร่วม กั น ซึ่ ง มี ก ารสื บ ทอดกั น มาจาก คนรุ ่ น หนึ่ ง ไปยั ง คนอี ก รุ ่ น หนึ่ ง ตัวอย่างสาขาต่างๆ เช่น ภาษา ศิ ล ปะการแสดง งานช่ า งฝี มื อ ดั้งเดิม วรรณกรรมพื้นบ้าน กีฬา ภู มิ ป ั ญ ญาไทย แนวปฏิ บั ติ ท าง สังคมพิธีกรรมและงานเทศกาล ความรู ้ แ ละแนวปฏิ บั ติ เ กี่ ย วกั บ

ธรรมชาติและจักรวาล เป็นต้น ถึงแม้ว่าร่างพระราชบัญญัติ ฉบั บ นี้ จ ะยั ง อยู ่ ใ นระหว่ า งการ พิจารณา ท�ำให้ไม่มีกฎหมายบังคับ ใช้โดยตรงกับการคุม้ ครองวัฒนธรรม ดังกล่าว แต่หน่วยงานของรัฐทีม่ สี ว่ น เกี่ยวข้อง คือ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ก็ ไ ด้ เ ริ่ ม ด� ำ เนิ น การประกาศขึ้ น ทะเบี ย นมรดกภู มิ ป ั ญ ญาทาง วัฒนธรรมต่อเนือ่ งมาตัง้ แต่ปี ๒๕๕๒ แล้วกว่า ๒๑๘ รายการ หวังว่ามรดกภูมิปัญญาทาง วัฒนธรรมจะด�ำรงอยูเ่ ป็นเอกลักษณ์ ของชาติสืบเนื่องชั่วลูกชั่วหลาน และ สามารถน�ำเอาความรูท้ างวัฒนธรรม ทั้ ง หลายมาประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ ห้ เ กิ ด ประโยชน์ สร้างรายได้และขับเคลือ่ น เศรษฐกิจไทยได้อีกทางหนึ่ง


Math Unlimited 25

ค�ำว่า คณิตศาสตร์ (ค�ำอ่าน: คะ-นิด-ตะสาด) มาจากค�ำว่า คณิต (การนับ หรือ ค�ำนวณ) และ ศาสตร์ (ความรู้ หรือ การศึกษา) ซึง่ รวมกัน มีความหมายโดยทั่วไปว่า การศึกษาเกี่ยวกับการ ค�ำนวณ หรือ วิชาทีเ่ กีย่ วกับการค�ำนวณ ค�ำนีต้ รง กับค�ำภาษาอังกฤษว่า Mathematics มาจากค�ำ ภาษากรีก (Mathema) แปลว่า วิทยาศาสตร์, ความรู้, และการเรียน และค�ำว่า Mathematiks แปลว่า รักที่จะเรียนรู้ 1

2

3

4

คอมพิวเตอร์ และทฤษฎีการสื่อสาร อีกด้วย ช่วงปี 1000-1500 เป็นระยะเวลาที่ยุโรปก�ำลังตกอยู่ในยุคมืด เพราะภูมิปัญญาโบราณต่างๆ ถูกทอดทิ้ง และอารยธรรมตกต�่ำ แต่ ความสนใจในวิทยาการด้านคณิตศาสตร์ยังบังเกิดขึ้นซึ่ง เมื่อ Gilbert แห่ง Aurillac (พ.ศ. 1481-1546) น�ำเลขอาหรับมาใช้ในวงการวิชาการ ของยุโรป และ Fibonacci แห่งเมือง Pisa ในอิตาลีได้ใช้วิธีการค�ำนวณ เลขของชาวอาหรับในการเรียบเรียงหนังสือชื่อ Liber a baci ซึ่งแปลว่า ต�ำราค�ำนวณในปี พ.ศ. 1745 หนังสือเล่มนี้มีโจทย์คณิตศาสตร์และ พีชคณิตมากมาย และมีลำ� ดับ Fibonacci (Fibonacci sequence) ด้วย ซึ่งล�ำดับนี้คือ ชุดเลข 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34 โดยตั้งแต่จ�ำนวนที่ 3

คณิตศาสตร์ คืใครอยากรู ออะไร้ยกมือขึ้น โดย อ.อนุวัตร จิรวัฒนพาณิช

5

1. อาร์คีมิดีส 3. เจ้าของทฤษฎี Game Theory 5. ปิแยร์ เดอ แฟร์มา 7.คาร์ล ฟรีดริช เกาส์

6

7

2. Rento Descartes 4. ปิทากอรัส 6. เลออน ฮาร์ด ออยเลอร์

เนื่ อ งจากคณิ ต ศาสตร์ นั้ น ใช้ ต รรกศาสตร์ สัญลักษณ์และสัญกรณ์คณิตศาสตร์ ซึง่ ท�ำให้กจิ กรรม ทุกอย่างกระท�ำผ่านขั้นตอนที่ชัดเจน เราจึงสามารถ พิจารณาคณิตศาสตร์ว่า เป็นระบบภาษาที่เพิ่มความ แม่นย�ำและชัดเจนให้กับภาษาธรรมชาติ ผ่านทาง ศัพท์และไวยากรณ์บางอย่าง ส�ำหรับการอธิบายและ ศึกษาความสัมพันธ์ทั้งทางกายภาพและนามธรรม คณิตศาสตร์ยังถูกจัดว่าเป็นศาสตร์สมบูรณ์ โดยไม่ จ�ำเป็นต้องมีการอ้างถึงใดๆ จากโลกภายนอก โครงสร้างต่างๆ ที่นักคณิตศาสตร์สนใจและ พิ จ ารณานั้ น มั ก จะมี ต ้ น ก� ำ เนิ ด จากวิ ท ยาศาสตร์ ธรรมชาติ และสังคมศาสตร์ โดยเฉพาะฟิสิกส์ และ เศรษฐศาสตร์ ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในปัจจุบัน ยัง เกี่ ย วข้ อ งกั บ การประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ นสาขาวิ ท ยาการ

ไปเป็นเลขที่ได้จากการรวมเลข 2 ตัวหน้าที่อยู่ติดมัน เช่น 2 = 1+1, 5 = 2+3 และ 34 = 13+21 เป็นต้น เมื่อถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ซึ่งเป็นเวลาที่ยุโรป มีการตื่นตัวทางวิชาการมาก เพราะมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัย มีการ ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์และมีการแปลต�ำราอาหรับเป็นภาษาละติน เช่น ในปี 1631 ได้มีการสร้างมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมือง Bologna ในอิตาลีให้นักศึกษาเรียนไวยากรณ์ ตรรกวิทยา เลขคณิต เรขาคณิต ดาราศาสตร์ และดนตรี ส่วนต�ำราที่ใช้คือ Elements ของ Euclid และ Almagest ของ Ptolemy ส่วนการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ในปี พ.ศ. 1983 โดย Johann Gutenbery นั้นก็ได้ท�ำให้ผลงานวิชาการต่างๆ แพร่สู่สังคมได้อย่าง กว้างขวางและรวดเร็วและนักศึกษาคณิตศาสตร์ในสมัยนั้น ต่างก็ได้ อ่านต�ำราชื่อ Summa de arithmetica geometrica, proportioni et proportionalita ของ Luca Pacioli ซึ่งหนา 600 หน้ากันทุกคนการรู้จัก ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ จึงท�ำให้วงการคณิตศาสตร์มีมาตรฐานการใช้ สัญลักษณ์ เช่น + - เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2032 ตามที่ Johann Widmanna เสนอ และในปี พ.ศ. 2100 Robert Record ก็เป็น นักคณิตศาสตร์คนแรกที่เสนอใช้เครื่องหมาย = แสดงการเท่ากัน ส่วน เครื่องหมาย × และ ÷ นั้น William Oughtred และ John Pell คือผู้ที่ น�ำมาใช้เป็นครัง้ แรกปี พ.ศ. 2174 และ 2211 ตามล�ำดับ และในหนังสือ ชือ่ De thiende ของ Simon Stevin ได้มกี ารใช้ทศนิยมเป็นครัง้ แรก ส่วน ต�ำราของ Johan de Witt ชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ชื่อ Elementa curvarum linearum มีการแสดงวิธีค�ำนวณแบบเรขาคณิตวิเคราะห์เป็นครั้งแรก


26 Around Me!

ประเทศไทยในฝั น แบบสังคมอารยะทีเ่ คารพหลักสิทธิมนุษยชน โดย พ. พัฒนคีรี

ประเทศไทยในฝัน ต่างจาก ประเทศไทยในความเป็นจริง มากน้อย เพียงใด สังคมอารยะ เป็นสังคมที่มีลักษณะอย่างไร แตกต่างจากสังคมไทย ในปัจจุบันหรือไม่ หลักสิทธิมนุษยชน ค�ำนี้เหมือนเคยได้ยินตั้งแต่สมัยเรียน วิชาสังคมศึกษาในโรงเรียน และเพราะเหตุใดเราจึงต้อง เคารพ หลักการนี้ การตอบโจทย์ประเทศไทยด้วยค�ำถามเหล่านีเ้ ป็นหน้าทีข่ องทุกคน และทุกค�ำตอบ ล้วนมีจุดยืนบนเสรีภาพทางความคิดที่ไม่พึงปิดกั้น เมื่อทุกคนพร้อมยอม รับฟังความเห็นที่แตกต่าง ประเทศไทยในฝันคงอยู่ไม่ไกลเกินจริง เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้น สุดลง จากนั้น 3 ปี ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกาศใช้ อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ธันวาคม 2491 เพื่ อ ก� ำ หนดหลั ก การและ มาตรฐานด้ า นสิ ท ธิ ม นุ ษ ยชนให้ สอดคล้องกับหลักส่งเสริมการเคารพ สิทธิมนุษยชนในกฎบัตร ระยะเวลา เกื อ บ 65 ปี ภายหลั ง การรั บ รอง ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน น่าสนใจว่าประชาชนไทยยังคงถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบ หรือถูกทรมานอัน โหดร้ายจากบุคคล องค์กร หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนมาตลอด เมื่อ ประชาชนหลายประเทศทั่ ว โลกยั ง

ประสบปัญหาความไม่เป็นธรรมใน ทางคดีความ ประชาชนชาวไทยก็มี ยถากรรมไม่ผิดแผกแตกต่างไปจาก คนอื่นนัก นอกจากปัญหาการละเมิดสิทธิ มนุษยชนในประเทศ ต่างประเทศก็มี ข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวของคนงานเก็บ เบอร์รชี่ าวไทยทีป่ ระเทศฟินแลนด์ การ ต่ อ สู ้ ข องแรงงานไทยที่ ไ ม่ ย อมกลั บ บ้ า นเพี ย งเพราะต้ อ งการเรี ย กร้ อ ง ความยุติธรรมจากบริษัทที่เอารัดเอา เปรียบ แรงงานเกษตรกรไทยผูพ้ ลัดถิน่ ไปขายแรงไกลบ้านเพราะหวังลืมตา อ้าปากและมีชีวิตที่ดีกว่า เมื่อวิถีชีวิต เกษตรกรชนบทไทยเปลี่ยนไป ต้นทุน

การผลิตที่สูงขึ้น แต่ราคาสินค้าเกษตร ยังคงตกต�่ำย�่ำแย่เหมือนเดิม ขณะที่ กลไกภาครั ฐ ยั ง คงล้ า สมั ย และไม่ พัฒนา ผู้รับบทหนักที่สุดก็คือชาวนา ในฐานะผูแ้ บกรับภาระหนีส้ นิ ส่วนผูท้ ี่ ได้ก�ำไรเสมอก็คือนายทุน ปัญหาการ ค้าแรงงานข้ามชาติจงึ เป็นอีกปัญหาที่ สะท้ อ นความเหลื่ อ มล�้ ำ ในสั ง คมได้ อย่างเด่นชัด การต่อสูข้ องแรงงานไทย ที่ ลุ ก ขึ้ น มาเรี ย กร้ อ งสิ ท ธิ ค วามเป็ น ธรรมในสั ง คมปั จ จุ บั น เริ่ ม มี ม ากขึ้ น ขณะที่ประวัติศาสตร์แรงงานไทยใน บทเรี ย นยั ง คงถู ก เลื อ กให้ เ ลื อ นหาย หรื อ ราวกั บ ไม่ เ คยมี ก ารต่ อ สู ้ ข อง แรงงานไทยในอดีตมาก่อน กระนั้น นักเรียนไทยก็ยงั ไม่นกึ แปลกใจหรือว่า เหตุใดปัจจุบันจึงมีม็อบแรงงานจาก หลากหลายอาชีพลุกขึ้นมาเรียกร้อง ความเป็นธรรมอยู่เสมอ หากเรี ย นรู ้ ป ระวั ติ ศ าสตร์ ความเป็นชาติ และ ความเป็นไทย หลายครั้ ง ที่ เ ราจะอดภาคภู มิ ใ จใน ประวัติความเป็นมาอันยาวนานของ ชนชาติไม่ได้ จึงไม่นา่ แปลกใจนักทีค่ น ไทยสมัยหนึ่งจะมีอุดมการณ์ความรัก ชาติอย่างสุดประมาณมิได้ ยิ่งถ้าเรา เห็ น ตรงกั น ว่ า ชาติ ไ ทยมี ค วามเป็ น อารยะ หรือเรียกว่า ศิวิไลซ์ มาตั้งแต่ สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ค�ำขวัญ สามสถาบันคู่ชาติอย่าง ชาติ ศาสน์ กษั ต ริ ย ์ ก็ ค งสามารถใช้ ไ ด้ กั บ ทุ ก สถานการณ์แม้ในปัจจุบัน แต่ความ จริ ง กลั บ ไม่ เ ป็ น เช่ น นั้ น แม้ ป ระวั ติ ศาสตร์แห่งชาติจะไม่พยายามสอนให้


27

คนในชาติ ตั้ ง ค� ำ ถามกั บ เรื่ อ งราวใน อดีตนัก ทว่าสังคมประชาธิปไตยก็มี หลักสิทธิและเสรีภาพที่จะแสดงออก เมื่อโลกเปลี่ยนไปและปัญหาเริ่มซับ ซ้อนมาก ปัญหาสามจังหวัดชายแดน ภาคใต้ทเี่ รือ้ รังมานานจะไม่อาจเข้าใจ ได้ ห ากเรามั ว แต่ ส รุ ป บทเรี ย นตาม ประวั ติ ศ าสตร์ ไ ทยแบบเหมารวม ชนชาติ 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภา 35 จนกระทั่งถึงพฤษภา 53 เหตุการณ์ หลายยุค หลายสมัย มีผคู้ นมากมายตกเป็นเครือ่ งมือ ของผูม้ อี ำ� นาจ ตลอดเส้นทางการต่อสู้ เรี ย กร้ อ งประชาธิ ป ไตยและความ ยุ ติ ธ รรมในสั ง คมตามสิ ท ธิ เ สรี ภ าพ ผู้คนที่พากันมาล้มตายด้วยความหวัง ล้มตายด้วยความศรัทธา มีหลายชีวิต ที่ตายไปโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลัง จากนัน้ สิง่ ทีน่ า่ กลัวทีส่ ดุ คือ เรือ่ งแบบ นี้จะเกิดขึ้นซ�้ำแล้วซ�้ำอีก จากความ หวังและความศรัทธาที่พวกเรามีอยู่ เมือ่ เรามีสทิ ธิทจี่ ะแสวงหาความ รู้และใช้สิทธิหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วน รวม แต่สงั คมไทยส่วนใหญ่กลับก�ำลัง แช่แข็งตัวเองอยู่กับวิถีไทยแบบเดิมๆ กล่าวคือ ต้องเชื่อฟังผู้ปกครอง รู้จักที่ ต�่ ำ ที่ สู ง การปกครองต้ อ งรวมศู น ย์ อ�ำนาจ ผู้น�ำมีอ�ำนาจเด็ดขาดสูงสุด บริหารจากบนลงล่าง การเมืองที่เป็น

ปั ญ หามั ก เกิ ด จากคนที่ คิ ด ต่ า งและ สร้างความแตกแยก จนเป็นที่มาของ วลี ที่ ว ่ า ต่ า งความคิ ด ผิ ด ถึ ง ตาย หากเราต้องการสังคมไทยสมัยใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตย เราจ�ำเป็นต้อง เปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการสร้างพลเมือง ไทยรุ่นใหม่ ดังนั้น การรู้จักทรัพยากร ของตัวเอง รู้จักประวัติศาสตร์ความ เป็นมาของชุมชนท้องถิ่น ตระหนักถึง สิทธิชุมชน เพราะการรู้จักศักยภาพ ของตนเองเป็นเรื่องส�ำคัญ เรื่องสิทธิ มนุษยชนจึงไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่จะเป็นรากฐานที่ท�ำให้เราตระหนัก ในคุณค่าความส�ำคัญของความเป็น อิสระในการเรียนรู้ มีโอกาสแสวงหา ความรูบ้ นพืน้ ฐานความเป็นจริงในทาง ภู มิ ศ าสตร์ ประวั ติ ศ าสตร์ สั ง คม วัฒนธรรม ประเทศไทยในฝัน อาจ ต่างจาก ประเทศไทยในความเป็น จริ ง ต้ อ งใช้ ร ะยะเวลาพอสมควร เพราะ สั ง คมอารยะ มิ ใ ช่ สั ง คมที่ เจริญทางด้านเศรษฐกิจเท่านั้น ดังจะ เห็นว่าแม้พัฒนาความเจริญทางวัตถุ เพิ่ ม มากขึ้ น แต่ ถ ้ า จิ ต ใจของคนใน สังคมยังโหดร้ายทารุณและเห็นแก่ตัว ปัญหาของสังคมก็คงถูกทิ้งไว้ให้เป็นที่ วิพากษ์วจิ ารณ์กนั ต่อไป กุญแจส�ำคัญ คื อ การปฏิ รู ป เศรษฐกิ จ การเมื อ ง สั ง คมวั ฒ นธรรม และการศึ ก ษาไป

พร้ อ มๆ กั บ การเปลี่ ย นแนวคิ ด และ สร้างพลเมืองไทยแบบใหม่ต่างหาก วิ ถี ไ ทยแบบใหม่ นี้ ย ่ อ มสร้ า งสั ง คม ประชาธิปไตยที่เข้มแข็งเพื่อให้ทันต่อ การเปลี่ ย นแปลงของโลก ศาลและ กระบวนการยุ ติ ธ รรมจ� ำ เป็ น ต้ อ งมี อิสระและเป็นที่พึ่งของสังคม ขณะที่ สื่อมวลชนต้องมีเสรีภาพและความรับ ผิ ด ชอบ เปิ ด กว้ า งและรั บ รู ้ ข ้ อ มู ล ข่าวสารที่รอบด้าน เพื่อฝึกให้คนคิด วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ สร้างสังคม ทีม่ สี ว่ นร่วม และไม่ชนี้ ำ� ความคิด โจทย์ ใหญ่ของสังคมไทยคือ เราจะพัฒนา สิทธิมนุษยชนที่มีลักษณะเฉพาะของ สังคมไทยยุคใหม่อย่างไร เพราะถ้า ประชาชนเริม่ ตระหนักถึงสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง อันเป็นสิทธิขั้น พื้นฐานที่มนุษย์เมื่อเกิดมาพึงได้รับ อย่างเท่าเทียมกัน และไม่มีการเลือก ปฏิ บั ติ ย่ อ มน� ำ ไปสู ่ ก ารตระหนั ก ถึ ง สิ ท ธิ ท างเศรษฐกิ จ สั ง คมและ วั ฒ นธรรม เมื่ อ ทุ ก คนตระหนั ก ถึ ง หน้าทีค่ วามรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน ก็ ย ่ อ มไม่ ล ะเมิ ด สิ ท ธิ เ สรี ภ าพของ ผู้อื่น ประเทศไทยแบบสังคมอารยะ ที่ แ ท้ จ ริ ง จึ ง อยู ่ ที่ ทุ ก คนว่ า พร้ อ มจะ เปลี่ยนแปลงไปด้วยกันหรือไม่ และ อีกไม่นานประเทศไทยในฝันของทุกคน ก็คงเป็นจริง


28 Around Me!

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวล้อฟรีก่อน เลยว่ า ผมเองไม่ ใ ช่ ผู ้ ที่ สั น ทั ด กรณี ห รื อ ท� ำ งานในด้ า นที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ พลั ง งาน โดยตรง บทความนี้จึงไม่ได้มีเจตนาจะมา ให้ เ ลคเชอร์ เ รื่ อ งพลั ง งานแต่ เ ป็ น การ แบ่งปันความคิดเห็นและข้อมูลแบบเล่าสูก่ นั ฟั ง มากกว่ า (ดั ง นั้ น จึ ง ขอสงวนความ รับผิดชอบใดๆ จากการน�ำบทความหรือ ส่วนหนึง่ ส่วนใดในบทความไปอ้างอิงใดต่อ นะครับ)

ทีเ่ ข้มแข็งท�ำให้ความมัง่ คัง่ ยังคงกระจุกอยูใ่ นกลุม่ ผูม้ สี ว่ นได้ ส่วนเสียกับธุรกิจน�้ำมันเป็นหลัก ในขณะที่ประเทศอย่าง สิงคโปร์หรือญี่ปุ่นที่ขาดทั้งทรัพยากรและแหล่งพลังงานแต่ สามารถพัฒนาได้โดยอาศัยประชากรทีม่ คี ณ ุ ภาพสูงผ่านการ ลงทุนในประเทศทีม่ ที รัพยากรและแหล่งพลังงานแทน ดังนัน้ จะเห็นได้ว่าพลังงานนั้นเป็นเรื่องส�ำคัญมากๆ ที่หลายๆ คน มักมองข้าม ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประเทศไทยเรายังคงไม่ เผชิญวิกฤติการขาดแคลนพลังงานจึงท�ำให้คนลืมที่จะให้ ความส�ำคัญไป พลังงานนัน้ มีได้หลายรูปแบบและวิถชี วี ติ ของเราก็ขบั เคลื่อนได้ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานครับ ตั้งแต่ พลังงานไฟฟ้าที่เปลี่ยนรูปไปเป็นหลายสิ่งหลายอย่างผ่าน อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ พลังงานพันธะเคมีทเี่ ปลีย่ น เป็นความร้อนหรืองานเชิงกลผ่านการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง พลังงานแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนรูปไปเป็นสารชีวมวลผ่านการ สังเคราะห์แสงของพืช พลังงานสนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนรูป เป็นแรงยกตัวและขับเคลือ่ นรถไฟฟ้า พลังงานคลืน่ ทีเ่ ปลีย่ น เป็นเสียงผ่านวิทยุ และอีกหลายๆ การ เปลี่ยนรูปแบบของพลังงานที่ช่วยสร้าง ความเจริญและพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ผูค้ นแต่การจะได้มาซึง่ พลังงานเหล่านี้ เรา ต้ อ งพิ จ ารณาเรื่ อ งการเข้ า ถึ ง แหล่ ง พลังงานและความสามารถในการพัฒนา แหล่ ง พลั ง งานเหล่ า นี้ ใ ห้ ใ ช้ ง านได้ ค รั บ แหล่งพลังงานทีว่ า่ นัน้ มีดว้ ยกันหลายแบบ ตั้งแต่ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างน�้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติซึ่ง เป็นแหล่งพลังงานหลักของประเทศไทยเรา ก็ยังมีแหล่ง พลังงานจากน�ำ้ ลม และแสงอาทิตย์ ซึง่ ก็เป็นแหล่งพลังงาน ที่เกิดขึ้นใหม่ได้และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมี แหล่งพลังงานอื่นๆ ที่เราอาจไม่ค่อยคุ้นเคยนัก เช่น ธาตุ กัมมันตรังสีอย่างพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานความร้อนใต้ พิภพ พืชพลังงานต่างๆ (ได้ไบโอดีเซลและไบโอเอทธานอล) สาหร่ายและจุลชีพต่างๆ (ให้สารเชื้อเพลิงหรือสารตั้งต้น ส�ำหรับการปรับโครงสร้างเคมีในขั้นต่อไป) ชีวมวล (ได้ก๊าซ ชีวภาพ) ถ่านหิน ก๊าซและน�้ำมันในหินดินดาน (Shale Gas และ Shale Oil) ไฮโดรเจน หรือแม้กระทั่งการเอาน�้ำมาใช้ เป็นเชื้อเพลิงโดยตรง ดังนัน้ แหล่งพลังงานนัน้ มีอยูม่ ากมายครับ แต่สจั ธรรม ข้อหนึง่ ของการพัฒนาและการน�ำพลังงานมาใช้กค็ อื แหล่ง พลังงานที่เกิดขึ้นยากและหาได้ยากมักจะน�ำมาใช้ได้ ง่าย ขณะทีแ่ หล่งพลังงานทีเ่ กิดขึน้ ง่ายและหาได้งา่ ยมัก จะน�ำมาใช้ได้ยาก ดังนั้นแม้แหล่งพลังงานจะมีอยู่หลาย

พลังงาน(ไทย) อะไรเอ่ย? โดย ภูริพงศ์ ทศทิศไพศาล

มาเข้าเรือ่ งกันเลยดีกว่า พลังงานนัน้ เป็น สิ่งส�ำคัญมากต่อการด�ำเนินชีวิตและคุณภาพ สังคมไม่ต่างจากปัจจัยสี่ของมนุษย์เรา ว่ากัน ว่าปัจจัยที่จะท�ำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ได้มี 3 สิง่ คือ ทรัพยากร แหล่งพลังงาน และ คุณภาพประชากร หากขาดอย่างใดอย่างหนึง่ ไปย่ อ มมี ผ ลต่ อ ศั ก ยภาพในการพั ฒ นาของ ประเทศและความผาสุกของคนในชาติ ตัวอย่าง เช่น ประเทศเมียนมาร์ที่แม้จะมีทรัพยากรอุดม สมบูรณ์แต่ขาดประชากรที่มีคุณภาพก็พัฒนา ได้ยาก หรือประเทศทางตะวันออกกลางทีแ่ ม้จะ มีน�้ำมันดิบมหาศาลแต่ขาดทรัพยากรก็ท�ำให้ เป็นอุปสรรคในการทีจ่ ะสร้างเศรษฐกิจรากหญ้า


29 รูปแบบ แต่จะสามารถน�ำมาใช้ได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นกับหลาย ปัจจัย เช่น ความคุ้มค่า ต้นทุนการพัฒนาขึ้นมาใช้ ความ พร้อมของเทคโนโลยี และการยอมรับของผู้คน ตัวอย่างเช่น พลังงานนิวเคลียร์ที่ถือว่าให้ความคุ้มค่าและมีเทคโนโลยีที่ พร้อมส�ำหรับการพัฒนา แต่กย็ งั ไม่ได้รบั การยอมรับจากผูค้ น ในหลายๆ ประเทศเนื่องจากความกังวลต่อความเสี่ยงด้าน อันตรายต่อชีวติ และสุขภาพรวมถึงสิง่ แวดล้อมในกรณีทเี่ กิด เหตุไม่คาดคิด ส�ำหรับประเทศไทยนั้น ในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันเราพึ่งพาแหล่งพลังงานจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ในการผลิตกระแสไฟฟ้าภายในประเทศ (ดังแสดงในรูปที่ 1) ซึ่งท�ำให้ก๊าซธรรมชาติที่ขุดได้ในอ่าวไทยนั้นไม่เพียงพอและ ต้องน�ำเข้าจากประเทศพม่า ในขณะที่แหล่งพลังงานจาก ถ่านหินก็เป็นอีกแหล่งพลังงานทีม่ ศี กั ยภาพมีความคุม้ ค่า (ดัง แสดงในรูปที่ 2) มีแหล่งถ่านหินปริมาณมากพอสมควรใน ประเทศ และเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินก็ได้รบั การ พั ฒ นามาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ดั ง เช่ น ที่ เ รี ย กกั น ว่ า เทคโนโลยี ถ่านหินสะอาด (Clean Coal Technology) ซึ่งหลายฝ่าย ประเมินว่าเป็นอีกทางเลือกของแหล่งพลังงานทีป่ ระเทศไทย ควรพัฒนาขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง เพราะยังติดปัญหาเรื่องความกังวลของประชาชนต่อผลกระ ทบทางสิ่งแวดล้อมจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในส่วนของภาคขนส่ง ประเทศเราพึ่งพาน�้ำมันเชื้อ เพลิงเป็นหลัก รวมถึงก๊าซทั้ง NGV (ซึ่งก็คือก๊าซธรรมชาติ) และ LPG (ก๊าซหุงต้ม) ซึ่งน�้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของ การกลั่นให้ได้เป็นน�้ำมันส�ำเร็จรูปชนิดต่างๆ นั้นเราต้องน�ำ เข้าจากประเทศทางตะวันออกกลางเป็นหลัก รวมทั้ง LPG ด้วย ในขณะที่ปริมาณน�้ำมันดิบที่ผลิตได้ภายในประเทศมี ปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการน�้ำมันเชื้อเพลิงของ ประเทศ (ประเทศไทยมีความต้องการน�ำ้ มันดิบประมาณวัน ละ 1 ล้านบาร์เรล ในขณะทีส่ ามารถผลิตน�ำ้ มันดิบในประเทศ ได้เพียงวันละประมาณ 2 แสนบาร์เรลเท่านั้น ทีเหลือจึงต้อง พึ่งพาการน�ำเข้าจากประเทศในกลุ่มโอเปก) ซึ่งรายละเอียด เรื่องเกี่ยวกับปริมาณส�ำรองน�้ำมันดิบและก๊าซรวมถึงการ ผลิตน�้ำมันจะยังคงไม่ขอกล่าวถึงในบทความนี้เพราะราย ละเอียดค่อนข้างเยอะครับ อย่างไรก็ตามสิง่ ทีเ่ ราควรต้องค�ำนึงถึงคือประเทศไทย เราไม่ได้มีแหล่งพลังงานส�ำรองมากนัก และก็ยังมีโจทย์ ให้ภาครัฐต้องขบคิดอีกมากว่าจะท�ำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหา การใช้ พ ลั ง งานอย่ า งสิ้ น เปลื อ งของคนในชาติ ไ ด้ อ ย่ า งมี ประสิทธิภาพ รวมถึงเร่งพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนอืน่ ขึน้ มาให้ทันท่วงที เพราะหากวันหนึ่งข้างหน้าประเทศต้อง

สูญเสียความมั่นคงทางพลังงาน คงต้องเกิด ผลกระทบอย่างมหาศาลต่อความเจริญของ ประเทศและการด�ำเนินชีวิตของประชาชน สิ่ง หนึง่ ทีเ่ ราสามารถช่วยกันท�ำได้ในวันนีก้ ค็ อื ค�ำนึงถึงการประหยัดพลังงานและปฏิบัติ ให้เคยชินในชีวิตประจ�ำวัน ซึ่งจะไม่เพียง ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากกระเป๋าสตางค์เรา เท่านั้น แต่ยังจะช่วยต่ออายุเวลาการใช้ พลังงานส�ำรองของประเทศให้ยาวนานขึน้ ส�ำหรับพวกเราในวันข้างหน้าด้วยครับ

รูปที่ 1 สัดส่วนแหล่งพลังงานในการผลิตกระแส ไฟฟ้าของประเทศไทย (อ้างอิงจาก http://inhumba.com/2008/02/67/what-is-energy-4/)

รูปที่ 2 ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย จากแหล่งพลังงานต่างๆ (อ้างอิงจาก http:// inhumba.com/2008/02/67/what-is-energy-4/) อ้างอิง : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi2/energy/energy.htm https://wiki.stjohn.ac.th/groups/poly_ordinarycourse1/ wiki/367c3/_2_.html http://www.ostc.thaiembdc.org/news_us/Feb52_12.html http://www.vcharkarn.com/electric/article/view.php?id=44258 http://inhumba.com/2008/02/67/what-is-energy-4/ http://www.eppo.go.th/coal/tech.html http://www.dmf.go.th/index.php?act=service&sec=annualReport


30 เวทีคนเก่ง

ฉันรักธรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์สอนให้ฉัน รักการร้องเพลง.... เพิ่มมากขึ้น

นางสาวกรองกาญจน์ บุญถนอม (ตาล) อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักเรียนทุนรุ่นที่ 8/2459 มูลนิธิด�ำรงชัยธรรม

“ตาลเป็ น คนหนึ่ ง เหมื อ นวั ย รุ ่ น หลายๆ คน ที่ ชื่ น ชอบการร้ อ ง เพลง และฝันว่าวันหนึง่ เราอาจจะได้มี โอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวงการ ดนตรีที่เป็นที่ชื่อเสียงในประเทศ” จากความฝั น ของเด็ ก ผู ้ ห ญิ ง ตัวเล็กๆ วันนี้ ตาล หรือ นางสาว กรองกาญจน์ บุญถนอม ได้สาน ฝั น ของตั ว เองส� ำ เร็ จ ไปอี ก ขั้ น ด้ ว ย การพาตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ TU BAND มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตาลเล่าว่าในชีวิตวัยเด็กเพราะชอบ ร้องเพลง จึงได้มีโอกาสท�ำกิจกรรม กั บ ทางโรงเรี ย นอยู ่ เ สมอ ส่ ง ผลให้ เป็ น คนชอบท� ำ กิ จ กรรม และกล้ า แสดงออกโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งช่วง มั ธ ยมศึ ก ษาตอนปลาย ในขณะที่ ก�ำลังหาข้อมูลเพื่อศึกษาต่อในระดับ ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คือ มหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ในดวงใจ ที่ อ ยากจะสอบเข้ า ไปเรี ย นให้ ไ ด้ นอกจากจะมีคณะสาขาวิชาที่อยาก เรียนแล้ว สิ่งส�ำคัญ ‘TU Band’ คือ แรงผลักดันที่ท�ำให้ตั้งใจเข้าไปยืนใน รั้วแม่โดมให้ได้ “ วั น แ ร ก ที่ เ ข ้ า ไ ป อ อ ดิ ชั่ น ยอมรับว่าตื่นเต้น และตกใจมากค่ะ เพราะมีนักศึกษาจ�ำนวนหลายร้อย คนเข้าร่วมออดิชั่นในครั้งนี้ด้วย แต่ ตาลก็ตั้งใจค่ะ พยายามบอกตัวเอง ว่าอย่าหวั่นไหวกับจ�ำนวนคนที่เห็น และแล้วก็ผ่านรอบแรกได้ค่ะ จากนั้น ก็รอ้ งเพลงในรอบที่ 2 เผือ่ ให้ได้รบั การ ยอมรับเป็นสมาชิกของ TU Band รอบ นี้ก็ตื่นเต้นเช่นเดียวกันค่ะ แต่สุดท้าย ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ได้เป็นสมาชิกของ TU Band แล้ว ดีใจมากๆ ค่ะ และ ที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตคือ การแสดง

คอนเสิร์ตในรอบสุดท้าย เป็นการโชว์ ศักยภาพการร้องเพลงของเรา ต้อง ร้องเพลงต่อหน้าคนดูหลายร้อยคน บนเวทีที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์” สิ่งส�ำคัญที่ตาลได้รับการจาก เข้ า ร่ ว ม TU Band นั้ น ตาลบอก ว่ า ไม่ ใ ช่ แ ค่ ก ารได้ ร ้ อ งเพลง ได้ ท� ำ กิจกรรมที่เรารักเท่านั้น แต่ตาลได้ ความรู้เกี่ยวกับดนตรี ตัวโน้ต การ ขับร้อง ที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพใน ตัวตาลให้มีเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น รู้จัก จุดเด่น จุดด้อยในตัวเอง เรียนรู้การ ท�ำงานเป็น ทีม ได้รับมิตรภาพจาก พี่ๆ เพื่อนๆ ในทีม และได้ใช้ความ สามารถทีม่ สี ร้างชือ่ เสียงให้กบั ตนเอง ครอบครัว และสถาบันการศึกษาอีก ด้วย


มองชีวิตคิดดี 31

ไปทางไหนดี?

โดย ดร.ศิริวรรณ เกษมศานต์กิดาการ

หลานๆ คะ

ในช่วงที่บ้านเมืองก�ำลังผจญกับวิกฤติ หลานๆ เองก็คงสับสนไม่รู้จะวางตัวอย่างไร บางครอบครัว พ่อไปทาง แม่ไปทาง แล้วลูกล่ะ? ป้าโชคดีได้อ่านงานของคุณการุณย์ เหมวนิช ที่เขียนถึงท่านเจ้าคุณนรฯ หรือท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต ท่านเห็นความเป็นอนิจจังของบ้านเมืองจนคิดเบื่อหน่าย ‘คือเมื่อล้นเกล้ารัชกาลที่ ๗ ทรงตั้งสมาคมเจ้า และนายปรีดี พนมยงค์ ตั้งสมาคมราษฏร์ขึ้นมา ท่านจึงพิจารณาว่าท่านไม่อาจไปใช้ชีวิตฆราวาส ได้อีกแน่นอน เพราะชีวิตฆราวาสเป็นชีวิตที่ต้องต่อสู้โดยไม่รู้ว่า จะต่อสู้ไปท�ำไม เพื่ออะไร ในเมื่อชีวิตนี้เป็นทุกข์ ควรต่อสู้เพื่อให้พ้นทุกข์มิดีกว่าหรือ?’ ในที่สุดท่านก็ใช้ชีวิตในเพศนักบวชตลอดชีวิต ท่านพากเพียร ฝึกฝนอบรมตนจนได้รับสมญาว่าเป็น ‘อรหันต์กลางกรุง’ สถานที่ปฏิบัติของท่านคือกุฏิเรียบง่ายธรรมดาที่วัดเทพศิรินทราวาส ป้าไม่ได้ชวนให้หลานๆ ไปบวชนะคะ แต่ป้าเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ทุกคน อยากให้หลานหาตัวเองให้พบ และท�ำตามอุดมการณ์ของตัวเอง ชีวิตนี้สั้นนัก ป้ามั่นใจว่าประเทศที่ก�ำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยเรา ต้องพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน แล้วพบกันค่ะ ป้า​เอง


“ไม่ใช่แค่ให้ โตได้ แต่อยากให้ โตดี”


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.