เบิกฟ้าฉบับที่ # 17

Page 1

free copy

ฉบับที่ 17 เดือนตุลาคม พ.ศ.2556

LOOK

DEEP INTO NATURE, AND THEN YOU WILL UNDERSTAND EVERYTHING BETTER. ออกแบบปก : ชุติมา ประสานทรัพย์ www.facebook/petch chutima

‘เด็กหนุ่มหัวใจสีเขียว’

ECO Design By สุริยน แก้ววังสัน

DM Graduate

Generation Me! Thinking Talking

ศิลปะ

กิจกรรมที่ท�ำให้เรา ได้พบกับความสุข เวทีคนเก่ง


02 Editor Talk

มูลนิธิ​ด�ำรง​ชัย​ธรรม ก่อ​ตั้ง​ขึ้น​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2542 โดย​คุณ​ไพบูลย์ ด�ำรง​ชัย​ธรรม มูลนิธิ​ได้​มอบ​โอกาส​ทาง การ​ศึกษา​ให้​กับ​เยาวชน อีก​ทั้ง​ยัง​ส่ง​เสริม​ให้​เยาวชน​ได้​ ท�ำ​กิจกรรม​ต่างๆ เพื่อ​พัฒนา​ตนเอง​ตามศักยภาพ อาทิ กิจกรรม​โครงการ​สถานี​อาสา โครงการ​ยอ่ ​โลก​ทงั้ ​ใบ​ให้​เด็ก ​ไทย​ได้​รู้จัก และ​วารสาร​เบิกฟ​ ้า บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ปราโมช รัฐวินิจ (กรรมการและผู้อ�ำนวยการมูลนิธิ) ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประธานกรรมการมูลนิธิ : ไพบูลย์ ด�ำรงชัยธรรม กรรมการและเลขานุการ : ฟ้าใหม่ ด�ำรงชัยธรรม กรรมการและเหรัญญิก : สุวิมล จึงโชติกะพิศิฐ กรรมการ : อรุณ วัชระสวัสดิ์ มานิจ โมฬีชาติ จิราภรณ์ วิญญรัตน์ ทอรุ้ง จรุงกิจอนันต์ สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา บุษบา ดาวเรือง ไชย ณ ศิลวันต์ ประภาวดี ธานีรนานนท์ ระฟ้า ด�ำรงชัยธรรม ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมมูลนิธิ : ไศล วาระวรรณ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ ณัฏฐา ทับทอง

เมื่อเดือนที่ผ่านมามีนักศึกษาที่ลงเรียนวิชาของ สาขา การศึกษาผู้ใหญ่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มาดูงานและแลกเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการท�ำงานเยาวชนกับ เจ้ า หน้ า ที่ มู ล นิ ธิ ด� ำ รงชั ย ธรรม หลั ง จากพู ด คุ ย สอบถามกั บ อาจาย์หัวหน้าภาควิชา จึงถึงบางอ้อเกี่ยวกับการเรียนการสอน ของสาชาวิ ช านี้ ว่ า มี แ นวคิ ด และความเชื่ อ ว่ า การศึ ก ษาคื อ การเรียนรู้ตลอดชีวิต แม้จะอยู่นอกระบบโรงเรียน นอกระบบ การศึกษาปกติแล้ว แต่การศึกษาก็ยังจ�ำเป็นส�ำหรับทุกๆ คน อยู่เสมอ กลับมานั่งนึกต่อ นั่นสินะ คงไม่มีใครแก่เกินเรียนจริงๆ เมื่อไม่กี่วันก่อนยังเห็นโครงการรับสมัครจิตอาสาไปช่วยสอน คุ ณ ลุ ง คุ ณ ป้ า เรี ย นรู ้ ก ารใช้ โ ทรศั พ ท์ Smart Phone ซึ่ ง ก็ หมายความว่าผู้สูงอายุก็อยากเข้าใจและเข้าถึงเทคโนโลยี เห็น การตื่นตัวของพ่อค้าแม่ค้าสมาชิกชุมชนโอท็อปในหลายจังหวัด รวมตัวกันเพื่อมาเรียนเรื่องรู้วิชาการตลาด การบริหารจัดการ เพิม่ มูลค่าของสินค้า เห็นเกษตรกรรายย่อยจากชนบทเข้ามาเรียน เพิม่ เติมเกีย่ วกับเทคโนโลยีทางการเกษตรในมหาวิทยาลัยชัน้ น�ำ เห็นแม่บา้ นกลุม่ ใหญ่ใช้เวลาในช่วงกลางวันมาเรียนท�ำงานฝีมอื และอีกหลายการพบเห็นกิจกรรมแห่งการเรียนรู้ นั่นสินะ ไม่มี ใครแก่เกินเรียนจริงๆ “คนที่คิดว่ารู้แล้วจะไม่ค่อยรู้ ส่วนคนที่คิดว่ายังไม่รู้ และอยากรู้ จะมีความรู้เพิ่มเติมเสมอ”

โชค​ดนี​ ะ​คะ

กองบรรณาธิการ ทีมงานมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม

วารสารเบิกฟ้า ผลิตโดยมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม ส�ำนักงาน เลขที่ 50 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ : 02-669-9611-7, 02-669-9711-8 โทรสาร : 02-669-9614 E-mail : damrongchaitham@damrongchaitham.com Website : www.damrongchaitham.com Facebook : www.facebook.com/DMfoundation.dm จัดพิมพ์โดย บริษัท วงตะวัน จ�ำกัด 555 ถนนประชาอุทิศ แขวง ดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ : 02-981-1333 โทรสาร : 02-981-1340

พี่​เจี๊ยบ (ณัฏฐา ทับทอง)

หัวหน้ากองบรรณาธิการ www.facebook.com/berkfaa Natha_tub@damrongchaitham.com


My Columnists 03

คอลัมน์นิสต์ รับเชิญพิเศษ :

มองชีวิตคิดดี โดย ดร.ศิริวรรณ เกษมศานต์กิดาการ อาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Life Coaching, Art Appreciation โดย ผศ. อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ประจ�ำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Guidance โดย รอยฝัน (คุณสุรวิทย์ อัสพันธุ์) Thinking Talking โดย คุณเมธา มาสขาว

คอลัมน์นิสต์ กลุ่มบัณฑิตทุน มูลนิธิด�ำรงชัยธรรม :

English for Fun โดย จิรวัฒน์ มหาสาร บัณฑิตทุนรุ่นที่ 7 : เจ้าหน้าที่ประสานงานเอกสิทธิ์ทางการฑูต ณ สถานทูตอเมริกาประจ�ำประเทศไทย ก.เอ๋ย ก.ไก่ โดย ยามเย็น (สนธยา สุขอิ่ม) บัณฑิตทุนรุ่นที่ ุ : อาจารย์พิเศษคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ Hi! Japanese โดย ครูหนาว (มานิต วงศ์มูล) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 6 : ครูสอนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนอุตรดิตถ์ Experience โดย กุ้งนาง (อนิจธิยา นิลบรรหาร) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 4 : นักศึกษาปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ ด้านการสอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี A-R-T โดย MR.BOM (สุริยน แก้ววังสัน) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่นกัด Help for Health โดย ภญ.บุษบงก์ ธรรมมาสถิตย์กุล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : เภสัชกรประจ�ำโรงพยาบาลต�ำรวจ Scitech โดย Spocky (ปรัชญา มณีทักษิณ) นักเรียนทุนรุ่นที่ 9 : นักศึกษาชั้นปีที่4 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี Wow! Asean โดย สุวิมล จินะมูล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 6 : ผู้สื่อข่าว TNN24 กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา โดย ธนา ภัทรภาษิต บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : นายทหารสารวัตรสืบสวนสอบสวน พล.ปตอ. Math Unlimited โดย อนุวัตร จิรวัฒนพาณิช บัณฑิตทุนรุ่นที่ 3 : อาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต Around Me! โดย นายอุดม นุสาโล บัณฑิตทุนรุ่น 2 : ผู้จัดการ ฝ่ายขายเคมีภัณฑ์ บจก. ไทยโพลีเคมิคอล และ พญ. ชุตินาถ ศักรินทร์กุล บัณฑิตทุนรุ่น 4 : จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ประจ�ำโรงพยาบาลแพร่


04 Art Appreciation

‘หัวใจห้องที่ห้า’ เป็นหนังสือรวมบทกวีร่วมสมัย ซึง่ ได้รบั รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยีย่ มแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของไทยประจ�ำปี 2556 โดยผู้ประพันธ์ อังคาร จันทาทิพย์ ซึ่งเป็นกวีหนุ่มใหญ่ไฟแรงที่มีความสามารถ และท�ำงานกวีนิพนธ์มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี และรวบรวมผลงานทีม่ คี รุ ภาพสม�ำ่ เสมอแล้ว 5 เล่ม อังคาร เติบโตมากับกลุ่มกวีหนุ่มที่เรียกว่า กลุ่มกวีหน้าราม ซึ่ง เป็นที่ชุมนุมของคนหนุ่มสาวที่สนใจในวรรณกรรมและกวี นิพนธ์มาตั้งแต่ทศวรรษ 2530 โดยอังคารถือเป็นกวีภาค อีสานรายที่ 3 ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อจาก ค�ำพูน บุญทวี และ ไพวรินทร์ ขาวงาม

ผลงานเรือ่ ง ‘หัวใจห้องทีห่ า้ ’ เป็นผลงานทีแ่ สดงวุฒิ ภาวะผ่านการประมวลประสบการณ์ชวี ติ ทีผ่ า่ นพบมา ทัง้ ยังประมวลชั้นเชิงฝีมือที่กลมกล่อมและครบถ้วน โดยเขา ได้แบ่งบทกวีนิพนธ์ออกเป็น 2 ส่วน บทตอนประกอบด้วย ภาคแรก ‘หัวใจห้องทีห่ า้ ’ ทีน่ ำ� มาเป็นชือ่ ของเล่มและภาค หลัง ‘นิทานเดินทาง’ อันเป็นเหมือนเรือ่ งเล่าแห่งวิสยั ทัศน์ ที่ล้วนมีเป้าหมายการสะท้อนเรื่องต่างๆ ไล่เรียงกันมา นับแต่ความอัศจรรย์ของอดีต จนกระทั้งถึงการเปลี่ยน แปลงภายในจิตใจของเราเอง

หัวใจห้องที่ห้า โดย blue

หุบลึก บ้านเรือน แม่น�้ำไหล รั้วขอบฟ้าสูงขึ้นไปหมู่เมฆขาว ห่มขุนเขาเหยียดยอดทอดเทือกยาว พราวพรืดพราวโอบอ้อมแขนกอดแผ่นดิน ดวงใจใฝ่ฝันสันติสุข ท่ามกลางทุกข์กระพือไฟไม่สุดสิ้น ชีวิตหยัดอยู่และรู้ยิน รักและหวังดั่งฝนรินลงดับร้อน หรมหุบลึก บ้านเรือน แม่น�้ำไหล คืนดวงใจใฝ่ฝันอันเก่าก่อน แผ่นดิน ผืนฟ้า เอื้ออาทร เป็นบ้านเกิด เรือนนอน นานแสนนาน เป็นบ้านเกิด เรือนนอน นานแสนนาน....


English for Fun 05

How long have you been here? โดย Jirawat

ฉบับที่แล้วเราพูดถึงการทักทาย บางทีการสนทนาอาจจบลงหลังจาก การทักทายหากไม่รู้ว่าจะถามต่ออะไรดี ถ้าเป็นเช่นนีล้ องมาศึกษาการใช้ประโยค ตัวอย่าง How long have you been here? เพื่อเป็นแนวทางดูนะครับ มาดู กันว่าเราสามารถน�ำมาดัดแปลงใช้กับ สถานการณ์อื่นๆ อย่างไรได้บ้าง How long have you been here? แปลว่า คุณอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว สังเกตุว่าเราจะไม่ใช้ How long are you here? หรือ How long were you here? แต่เราจะใช้ have you been here แทน หรือ have you + กริยาช่อง 3 เป็นโครงสร้างที่เรียกว่า Present Perfect ซึ่ ง จะใช้ เ มื่ อ พู ด ถึ ง เหตุ ก ารณ์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในอดีตและต่อเนือ่ งมาจนถึงปัจจุบนั หาก เราถามใครสักคนว่าเขาได้กระทำ�การใดๆ มานานแค่ไหนแล้ว คำ�ถามจะขึ้นต้นด้วย คำ�ว่า How long have you....? ส่วน คำ�ตอบจะเป็ น โครงสร้ า งเดี ย วกั น แต่ เปลี่ยนเป็นประโยคบอกเล่าเช่น I have been here for 5 years. แปลว่า ฉันอยู่ ที่นี่มา 5 ปีแล้ว เป็นต้น

How long have you known Mr. David? คุณรู้จักคุณเดวิดมานานแค่ไหนแล้ว I have known him for a very long time. ฉันรู้จักเขามานานมากแล้ว

สำ�หรับคำ�ตอบหากจะระบุระยะเวลาเราสามารถทำ�ได้ 2 แบบ คือ ใช้ for ตามด้วยช่วงระยะเวลา เช่น for 10 years หรือ for 2 hours เป็นต้น และใช้ since ตามด้วยจุดเริ่มต้นของการกระทำ�นั้นๆ เช่น since yesterday หรือ since 9 o'clock เป็นต้น เราสามารถนำ�หลักนีไ้ ปใช้กบั ประโยคคำ�ถามและประโยคบอกเล่า อื่นๆ ได้มากมายเพียงจำ�หลักที่ว่า คำ�ถาม : How long have you....? = คุณทำ�.... มานานแค่ไหนแล้ว คำ�ตอบ : I have.... since/for ..... อย่าลืมว่าตรง ... หลัง have ต้องเป็นกริยาช่องที่ 3 จากกริยา ทั้ง 3 ช่องนะครับ


06 ก.เอ๋ย ก.ไก่

ผู้เขียนได้มีโอกาสสอนการใช้ภาษาไทยให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาตรี จากการตรวจงานเขียนของนักศึกษาพบว่า ปัญหาที่พบและนักศึกษามองข้าม คิดว่าไม่บกพร่องคือ การเว้นวรรค

‘เว้นวรรค’ ทางภาษา โดย ยามเย็น

วันนี้จึงน�ำหลักเกณฑ์การเว้นวรรคส�ำหรับการเขียน หรือพิมพ์ข้อความมา แบ่งปันให้น้องๆ และผู้อ่านได้น�ำไปใช้ให้ถูกต้อง เพื่อให้งานเขียนถูกต้อง ชัดเจน และอ่านได้ตรงตามความต้องการของผูเ้ ขียน ในทีน่ จี้ ะขอยกตัวอย่างหลักเกณฑ์การ เว้นวรรคที่มักจะเว้นวรรคผิดเป็นประจ�ำ กรณีที่ ๑ ในประโยครวมเว้นวรรคเล็กหน้าค�ำเชือ่ มเท่านัน้ (ค�ำสันธาน) เช่น ‘และ’ ‘แต่’ ‘หรือ’ ตัวอย่าง “นักเรียนทุนมูลนิธิด�ำรงชัยธรรมจะได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบ ปริญญาตรี และได้เข้าร่วมกิจกรรมที่มูลนิธิฯจัดขึ้น” *กรณีที่เป็นประโยคสั้นหรือมีเพียง ๒ รายการ ให้เขียนติดกัน ตัวอย่าง “เขาขาดแคลนทุนทรัพย์และเรียนดีจึงได้รับทุน” “ส่งเอกสารด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์” กรณีที่ ๒ เว้นวรรคเล็กหลังค�ำว่า ‘ว่า’ ถ้าข้อความต่อมาเป็นประโยค ตัวอย่าง “จะเห็นว่า นักเรียนทุนมูลนิธิด�ำรงชัยธรรมเป็นคนโตได้และโตดี”

วรรค คือ ค�ำ ข้อความ หรือประโยคช่วงหนึ่งๆ การเว้นวรรค หมายถึง การเว้นช่องว่างระหว่าง วรรค การเว้นวรรค แบ่งออกเป็น การเว้นวรรคเล็ก มีระยะห่างระหว่างวรรค ประมาณเท่ า กั บ ความ กว้างของพยัญชนะ การเว้นวรรคใหญ่ มีระยะห่างระหว่างวรรค ประมาณ ๒ เท่ า ของ การเว้นวรรคเล็ก

กรณีที่ ๓ เว้นวรรคเล็กหน้าและหลังค�ำว่า ‘เช่น’ ‘ได้แก่’ ตัวอย่าง “คุณสมบัติ ได้แก่ ขาดแคลน เรียนดี ประพฤติดี และมีความสามารถ” “ความสามารถพิเศษมีหลากหลาย เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ” ฝากพิจารณางานเขียนของตัวเองด้วยนะครับว่า เว้นวรรคถูกต้องตามหลัก เกณฑ์การเว้นวรรคหรือไม่ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็มีความส�ำคัญต่องานเขียน และการพิมพ์ขอ้ ความ ท�ำให้เห็นว่า ผูเ้ ขียนสือ่ ความหมายได้ถกู ต้อง และเขียนอย่าง มีระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย

ที่ ม า : หนั ง สื อ หลั ก เกณฑ์ ก ารใช้ เครื่ อ งหมายวรรคตอนและเครื่ อ ง หมายอื่นๆ หลักเกณฑ์การเว้นวรรค หลั ก เกณฑ์ ก ารเขี ย นค� ำ ย่ อ ฉบั บ ราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่ ๖


Hi! Japanese 07

ฤดูกาลที่เปลี่ยนไป แต่ใจไม่เปลี่ยนแปลง ต ้ อ น รั บ ฤ ดู ฝ น อั น เ ย็ น ฉ�่ ำ อากาศเย็ น สบาย ท้ า ทายสายลม หนาวที่ก�ำลังจะมาถึง เป็นฤดูที่ใคร บางคนรอคอยโดยเฉพาะผู ้ ที่ ต ้ อ ง หวั ง พึ่ ง น�้ ำ ฝน ในการหาเลี้ ย งชี พ ชาวนา ชาวไร่ เกษตรกร แต่ในอีก มุ มหนึ่ ง ก็ เ ป็ น ที่ ไ ม่ พ อใจนัก หากมี มากเกินกว่าปกติแล้วสร้างความเสีย หายต่อทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน หรือการขนส่ง การคมนาคม การไม่ ประมาท จึงเป็นอีกวิธกี ารหนึง่ ทีท่ ำ� ให้ เราสามารถใช้ ชี วิ ต กั บ ธรรมชาติ ที่ เปลีย่ นแปลงไปได้ เข้าเรือ่ งดีกว่าครับ ส�ำหรับคราวนี้ครูจะพาทุกคนไปรู้จัก กับฤดูกาลของญี่ปุ่นกันครับ ถามว่า ญี่ ปุ ่ น มี กี่ ฤ ดู ค� ำ ตอบที่ จ ะได้ รั บ คื อ 4 ฤดู ได้แก่ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง 日本には はる、 なつ、 あき、 ふゆのきせつ があります。(นิฮนนิวะ ฮะรุ นัทสึ

อะคิ ฟุยุโนะ คิเซะสึกะอะริมัส) แล้วที่ญี่ปุ่นไม่มีฤดูฝนหรือไง จริงๆ แล้วทีญ ่ ปี่ นุ่ มีฝนตกหนักถึงสอง

ช่ ว ง ฤดู ฝ นในญี่ ปุ ่ น ก็ จ ะหมายถึ ง เดือนมิถนุ ายนก่อนเข้าฤดูรอ้ น なつ (นัทสึ) หรือเรียกว่าฤดูใบไม้ผลิ はる (ฮะรุ) นัน่ เอง ส่วนอีกช่วงหนึง่ ในเดือน กันยายน ก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นฤดูฝน เสียทีเดียว แต่เป็นฤดูของไต้ฝุ่น ซึ่ง รวมเอาทั้งฝน ทั้งลมพายุและฟ้าผ่า มาพร้อมๆ กัน แถมอาจจะมีน�้ำท่วม ในบางแห่งได้อีกต่างหาก นอกเหนือ นั้น ในฤดูอื่นๆ ก็อาจจะมีฝนตกได้ ในบางวัน หรือติดต่อกันหลายๆ วัน ที่ ท รมานที่ สุ ด ก็ ค งจะเป็ น ฝนที่ ต ก ในฤดูหนาว แค่หนาวอย่างเดียวก็ ทรมานคนเมืองร้อนอย่างเราๆ แล้ว บางวันยังมีฝนตก...ทัง้ เปียกทัง้ หนาว ให้ทรมานขึ้นไปอีก คนญี่ ปุ ่ น ส่ ว นใหญ่ จ ะฟั ง พยากรณ์อากาศก่อนนอนหรือก่อน ออกจากบ้าน หากมีรายงานว่าฝน จะตก จะได้เตรียมร่มติดตัวมาด้วย ร่ม ภาษาญี่ปุ่นพูดว่า かさ (คะสะ) พยากรณ์ ใ นญี่ ปุ ่ น นั้ น แม่ น มากถ้ า บอกว่าฝนจะตกต้องเตรียมร่มไว้ได้

โดย ครูหนาว

เลย และปกติตามร้านค้า ร้านอาหาร จะมีที่วางร่มอยู่หน้าร้านเพื่อที่เราจะ ได้ไม่ต้องเอาร่มเปียกติดตัวเข้าร้าน ส�ำหรับค�ำพูดที่แสดงถึงความ ห่วงใยหรือไว้สอบถามกันในช่วงฤดู นี้ ส่วนใหญ่ก็ต้องเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น おげんきですか。(โอะเก็ง คิเดสกะ) แปลว่า สบายดีไหม ถ้า สบายดีค�ำตอบมี 2 แบบ แบบสุภาพ ใช้ ต อบคนที่ อ าวุ โ สกว่ า จะตอบว่ า

は い 、お か げ さまで げんき です。(ไฮ้ โอะคาเกะสะมะเดะเก็ง

คิ เ ดส) หรื อ จะพู ด กั บ คนที่ อ าวุ โ ส น้อยกว่าว่า はい、げんきです。 (ไฮ้ เก็งคิเดส) แปลว่าสบายดี เป็นต้น ส่วนไม่สบาย เช่น เป็นหวัดจะพูดว่า かぜです。 (คะเซะเดส) เจ็ บ คอ จะพู ด ว่ า のどがいたいです。 (โนะโดะกะ อิไต้เดส) เป็นต้น สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนรักษา สุ ข ภาพกายใจให้ ส มบู ร ณ์ น ะครั บ おだいじに。(โอะไดจินิ)


08 DM Graduate

เด็กหนุ่มหัวใจสีเขียว

ECO Design by สุริยน แก้ววังสัน

ภาพของผู้คนในสังคมที่ตื่นตัวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม อาจไม่ใช่ แค่เพียงตามกระแสสังคมชั่วครั้งชั่วคราวต่อไปอีกแล้ว ในเมืองกรุง หรือในหัวเมืองใหญ่ๆ มีกลุ่มคนผู้นิยมหันมาใช้จักรยานเพื่อลดการ ใช้พลังงานน�้ำมันเป็นจ�ำนวนมาก ภาพการเดินขบวนของกลุ่มคน จ�ำนวนหนึ่งเพื่อต่อต้านการสร้างเขื่อนด้วยเชื่อว่าจะกระทบต่อผืนป่า แหล่งนิเวศน์ที่สมบูรณ์ที่สุดที่ประเทศเรามีอยู่ในตอนนี้ หรือการเริ่ม ตระหนักในเรื่องธรรมภิบาลของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งที่ หันมารณรงค์การใช้เทคโนโลยีสะอาดเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เรื่องราวเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ช่วยสะท้อนให้ผู้คนในสังคมร่วมกัน ตระหนักว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมคือเรื่องที่มนุษย์ต้องร่วมมือป้องกัน แก้ไขอย่างทันที นั่นเพราะสาเหตุที่ท�ำให้เกิดผลกระทบในวันนี้ ล้วน เกิดจากการกระท�ำของมนุษย์ทั้งสิ้น ที่ได้บั่นทอนธรรมชาติทั้งรู้ตัว และไม่รู้ตัว


09

งานที่ออกแบบต้องไม่เพียงแต่มุ่งเน้น ความสวยงาม หรือเพียงตอบโจทย์ ตามต้องการของผู้บริโภคเท่านั้น แต่นักออกแบบมืออาชีพต้องค�ำนึงถึง สิ่งแวดล้อมและสังคมควบคู่ไปด้วยเสมอ เพราะถือว่าผู้ออกแบบคือผู้ก�ำหนด พฤติกรรมของผู้ใช้ ออกแบบมาอย่างไร ผลจากการใช้ก็เป็นไปตามนั้น

ชื่อ : สุริยน แก้ววังสัน (บอม) บัณฑิตทุน : รุ่นที่ 11 ของมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม การศึกษา : บัณฑิตจากสาขาออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

“แม้ผมจะไม่ใช่นักอนุรักษ์โดยตรง แต่งานใน อาชีพของผม การใช้ชีวิตของผมก็มีส่วนร่วมในการ ช่ ว ยอนุ รั ก ษ์ สิ่ ง แวดล้ อ มในแนวทางของผม” เป็น ประโยคที่เด็กหนุ่ม ซึ่งเป็นแขกรับเชิญในคอลัมน์นี้พูดขึ้น มาว่า เขาเป็นคนหนึง่ ทีใ่ ห้ความสนใจและอยากให้ทกุ ๆ คน หันกลับมามองเรื่องนี้... เด็กหนุ่มวัย 22 ปี จากจังหวัดหนองบัวล�ำภู สุริยน แก้ววังสัน (บอม) บัณฑิตจากสาขาออกแบบ อุ ต ส า ห ก ร ร ม ค ณ ะ ส ถ า ป ั ต ย ก ร ร ม ศ า ส ต ร ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บัณฑิตทุนรุน่ ที่ 11 ของมูลนิธิ ด�ำรงชัยธรรม บอกว่าในมุมมองของคนรุน่ ใหม่ทเี่ รียนทาง ด้านการออกแบบ เขาได้รับแนวคิดจากอาจารย์หลายต่อ หลายท่าน ว่างานที่ออกแบบต้องไม่เพียงแต่มุ่งเน้นความ สวยงาม หรือเพียงตอบโจทย์ตามต้องการของผู้บริโภค เท่านั้น แต่นักออกแบบมืออาชีพต้องค�ำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคมควบคู่ไปด้วยเสมอ เพราะถือว่าผู้ออกแบบคือ ผู้ก�ำหนดพฤติกรรมของผู้ใช้ ออกแบบมาอย่างไร ผลจาก การใช้ ก็ เ ป็ น ไปตามนั้ น ดี ห รื อ ร้ า ยขึ้ น อยู ่ ตั้ ง แต่ ต อน ออกแบบ ซึ่งจากแนวคิดเหล่านี้ที่ได้รับการหล่อหลอม ผนวกกับตัวเขาเองเป็นเด็กในชนบทที่ผูกพันกับธรรมชาติ มาเกือบทั้งชีวิต เขาจึงเกิดมีค�ำถามมากมายเกี่ยวกับเรื่อง ของสิ่งแวดล้อม สิ่งที่เขาท�ำได้คือเริ่มต้นการออกแบบการ ใช้ชวี ติ ของตัวเองให้เป็นชีวติ ในแบบทีเ่ บียดเบียนธรรมชาติ แวดล้อมแต่นอ้ ย เน้นความเรียบง่ายและส�ำคัญคือไม่ตอ้ ง ฝืนตัวเอง เขาสนุกกับใช้จักรยานเป็นพาหนะพาตัวเอง เดินทางไปในที่ต่างๆ เคยปั่นจักรยานจากขอนแก่นกลับ บ้านที่หนองบัวล�ำภูบ่อยๆ อีกสิ่งที่เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ เรื่องยากในชีวิตคือการใช้ย่ามผ้าคู่ใจ 1 ใบเพื่อทดลองว่า จะสามารถลดการใช้ถุงพลาสติกได้แค่ไหน การฉีกซอง ขนมทีผ่ า่ นการคิดว่าจะมีวธิ กี ารใดบ้างทีเ่ ราสามารถท�ำให้ เกิดขยะน้อยที่สุด การฉีกขาดเลยสองชิ้น ก็ท�ำได้แต่อาจ ท�ำให้เราต้องเก็บขยะเพิม่ ขึน้ สองเท่า และมีโอกาสสูญหาย เป็นภาระแก่ผู้ดูแ ลความสะอาดอีกด้วย บอมบอกว่า ทั้งหมดที่เขาทดลองปฏิบัติกับตัวเอง ท้ายสุดแล้ว เขาพบ ว่าเราอาจจะไม่ได้ท�ำเพื่อสิ่งแวดล้อมซะทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วเราท�ำเพื่อตัวเราเอง เพราะเรากับสิ่งแวดล้อมไม่มีวัน แยกกันได้เด็ดขาด หลั ง เรี ย นจบมหาวิ ท ยาลั ย ด้ ว ยผลการเรี ย น เกียรตินิยมอันดับ 1 บอมได้เข้าท�ำงานที่กรุงเทพในด้าน การออกแบบ ได้ท�ำงานออกแบบของเล่นไม้กับบริษัท


10

ต้องการท�ำถุงขนมกล้วยแขก ก็ต้องรู้ก่อนว่ากล้วยแขกนั้น

ผลิตของเล่นรายใหญ่ของ มีต้นทุนเท่าไหร่ ส่วนประกอบอะไรบ้าง ขนาดเท่าไหร่ เมืองไทย “ที่นั่นผมได้เรียนรู้ ต้องการขายกี่บาท ขายให้ใคร ขายที่ไหน เมื่อไหร่ เกี่ยวกับอีโค ดีไซน์ (ECO ถุงที่จะเอามาท�ำนั้นมาจากไหน วัตถุดิบตั้งต้นคืออะไร Design) จากที่เคยสัมผัส จะต้องบรรจุกล้วยแขกยังไง ท้ายที่สุด เมื่อกินกล้วยแขกหมด เพียงตัวหนังสือในต�ำราตอน เรียนและทฤษฎีมากมายที่ ถุงนั้นจะไปไหน ถ้าเป็นขยะ จะเป็นขยะประเภทไหน ต้องเก็บยังไง อาจารย์เคยสอน หรือจาก สือ่ ต่างๆ ทีอ่ พั เดตกันอย่างต่อเนือ่ ง จนได้มโี อกาสเข้าไปท�ำงาน ในองค์กรที่มีแนวคิดสีเขียว (Green) ค�ำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและ สังคม ไปพร้อมๆ กับการเติบโตของธุรกิจ มีหลายองค์กรในเมือง ไทยที่ให้ความส�ำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม ผมได้เข้า ท�ำงานกับบุคลากรและกระบวนการท�ำงาน เพือ่ สร้างสรรค์ของ เล่นที่สร้างเสริมพัฒนาการเด็ก จากไม้ยางพารา โดยที่ไม้ ยางพารานัน้ หมดอายุการให้นำ�้ ยางแล้ว แทนทีไ่ ม้นนั้ จะถูกแปร สภาพไปเป็นถ่านสีด�ำ แต่ถูกน�ำกลับมาท�ำเป็นของเล่น สร้าง รายได้ให้แก่ชมุ ชนทีน่ นั่ อีกทางหนึง่ ยังไม่เพียงแต่ตน้ ไม้เท่านัน้ ทีใ่ ห้ประโยชน์กลายเป็นของเล่น แต่เศษขีเ้ ลือ่ ยและกิง่ ไม้ ยังถูก บดอัดกลายเป็นของเล่นแบบใหม่ได้อีกด้วย รวมถึงเศษไบไม้ หรือกิ่งไม้ที่ใช้การไม่ได้ ยังถูกน�ำไปท�ำเชื้อเพลิงผลิตกระแส ไฟฟ้าขายได้อีก นับว่าเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามาก จริงๆ ผมโชคดีที่ได้เริ่มต้นท�ำงานที่นี่เพราะนอกจากได้เห็นการ ท�ำงานออกแบบกับนักออกแบบทีม่ ดี กี รีจบมาจากต่างประเทศ หลายคน ทีใ่ ห้ความส�ำคัญและใส่ใจในรายละเอียดเรือ่ งของสิง่ แวดล้อมแบบจริงจังมากๆ ไม่เฉพาะแค่งานออกแบบ แต่พวก เขามีแนวคิดเหล่านี้ทั้งในงานและการด�ำเนินชีวิต เราเห็นการ แต่งกาย การกินอาหาร การใช้พลังงาน ไปจนถึงการสร้างสรรค์ ผลงานที่น่าประทับใจ ผมเคยถามพวกพี่เขาว่าท�ำไมถึงต้องท�ำ แบบนั้นด้วย ค�ำตอบที่ได้ คือ เพื่อตัวเองไม่ใช่อะไรอื่น มันเป็น เรื่องที่ง่ายมาก แม้ว่ามันจะไม่ค่อยสะดวกนัก แต่ก็ให้ผลดี ตอบแทนกลับมาเสมอ เรื่องที่ว่า ก็เป็นเรื่องพื้นฐานธรรมดา ใช้ บันไดแทนลิฟต์ ใช้กระดาษสองหน้า ลดการใช้พลังงาน ซึ่งทุก คนก็เห็นพ้องต้องกันอย่างดี ซึ่งผมคิดว่าหลายๆ ที่ก็คงจะท�ำ เหมือนๆ กัน แล้วแต่บริบทและความเหมาะสมกันไป” “โคมไฟจากเศษเหล็ก เฟอร์นิเจอร์จากเศษไม้ กระเป๋า จากถุงพลาสติกหรือจากถุงน�ำ้ เกลือ สินค้าแฟชัน่ จากใบกัญชา เหล่านี้เป็นสิ่งที่นักออกแบบพยายามตอบโจทย์ของการตอบ สนองการใช้งาน ดีไซน์ที่สวย และที่ผมบอกคือเรื่องของการ ค�ำนึงถึงสิง่ แวดล้อมและสังคม ดังนัน้ นักออกแบบจึงจ�ำเป็นต้อง


11 ศึกษาทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ก�ำลังท�ำ ผลประโยชน์หรือ ผลกระทบทีต่ ามมา เช่น ต้องการท�ำถุงขนมกล้วยแขก ก็ตอ้ ง รู้ก่อนว่ากล้วยแขกนั้น มีต้นทุนเท่าไหร่ ส่วนประกอบอะไร บ้าง ขนาดเท่าไหร่ ต้องการขายกีบ่ าท ขายให้ใคร ขายทีไ่ หน เมื่อไหร่ ถุงที่จะเอามาท�ำนั้นมาจากไหน วัตถุดิบตั้งต้นคือ อะไร จะต้องบรรจุกล้วยแขกยังไง ท้ายที่สุด เมื่อกินกล้วย แขกหมด ถุงนั้นจะไปไหน ถ้าเป็นขยะ จะเป็นขยะประเภท ไหน ต้องเก็บยังไง เป็นต้น ซึง่ ทุกๆ ส่วนก่อนจะถึงมือผูบ้ ริโภค ต้องจัดการให้ดี เพราะคนออกแบบไม่ได้ไปตามบอกคนกิน ทุกคนหรอกว่า แต่ละอย่างมายังไงและไปยังไง การท�ำให้ การสือ่ สารเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์เองเป็นวิธกี ารทีด่ ที สี่ ดุ เมือ่ ปีทแี่ ล้วผมส่ง ผลงานการออกแบบประกวดสร้างสรรค์ ผลงานจากวัสดุเหลือใช้ ในโครงการของ Toyota Eco DIY “ประกวดสิง่ ประดิษฐ์ เป็นมิตรต่อโลก” ผลงานของ ผมคือ เก้าอี้ Papercrete ที่ท�ำมาจากวัสดุคือกระดาษ ใช้แล้ว ปูนซีเมนต์ เศษกิ่งไม้แห้ง ในราคาต้นทุนเพียง 120 บาท ผลงานของผมได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งนั่นก็ เป็นอีกความภาคภูมิใจที่ได้รับการยอมรับในผลงาน แต่ที่ ผมรู้สึกภูมิใจมากไปกว่านั้นก็คือ ผม ผลงานของผมคือ เก้าอี้ Papercrete ที่ท�ำมาจากวัสดุคือ สามารถตอบตัวเองกับสิง่ ทีไ่ ด้เรียนมา ว่า อาชีพของผม ผลงานผลิตภัณฑ์ของ กระดาษใช้แล้ว ปูนซีเมนต์ เศษกิ่งไม้แห้ง ในราคาต้นทุน ผม สามารถสือ่ สารในเรือ่ งสิง่ แวดล้อม เพียง 120 บาท ผลงานของผมได้รับรางวัลชนะเลิศ กับผู้คนในสังคมกับผู้บริโภคได้ ซึ่ง ซึ่งนั่นก็เป็นอีกความภาคภูมิใจที่ได้รับการยอมรับในผลงาน ให้ เป็นวิธีการที่ผมพอใจ” แต่ที่ผมรู้สึก ภูมิใจมากไปกว่านั้นก็คือ ผมสามารถ ส�ำหรับผมมักมีค�ำถามที่เกิดขึ้น ตอบตัวเองกับสิ่งที่ได้เรียนมาว่า อาชีพของผม ผลงาน ในใจเกี่ ย วกั บ เรื่ อ งของสิ่ ง แวดล้ อ ม ผลิตภัณฑ์ของผมสามารถสื่อสารในเรื่องสิ่งแวดล้อม อยู่บ่อยๆ ยิ่งตอนนี้ผมมาใช้ชีวิตอยู่ ใจกลางเมืองหลวง บรรยากาศของ กับผู้คนในสังคมกับผู้บริโภคได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ผมพอใจ เมืองหลวง สิ่งแวดล้อมในเมืองหลวง มักท�ำให้ผมได้ใช้เวลาคิดเกีย่ วกับเรือ่ งทีอ่ ยูร่ อบตัวเหล่านีอ้ ยู่ บ่อยครั้ง สิ่งที่ผมท�ำได้มากที่สุดก็คือการคิด การหาค�ำตอบ ให้ตัวเอง การลงมือท�ำ ก้มหน้าท�ำงานสร้างสรรค์ในรูปแบบ ของผมต่อไป โดยมีความเชือ่ ในเรือ่ งของการรักษาสมดุลของ สิ่งแวดล้อมคู่ขนานไปด้วยเสมอ ผมพบว่าเราสามารถจะ เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้เมื่อเราเริ่มต้นที่ตัวเอง ถ้าเราเชื่อว่าโลกทั้งใบเชื่อมโยงกัน การท�ำสิ่ง เล็กๆ ของเราในวันนี้อาจช่วยชีวิตประชากรโลกในวัน ข้างหน้าได้ ผมตอบตัวเองว่าสิ่งที่ผมคิดนี้ ไม่ใช่เรื่อง เกินจริง


12 Thinking Talking

ในสังคมสมัยใหม่และในเมืองใหญ่หลายที่ อาจจะ กล่าวได้ว่า คนรุ่นใหม่ทุกวันนี้พกพาโทรศัพท์มือถือ Smart Phone กันแทบทุกคน หากไม่ใช่ iphone ก็ Samsung หากไม่ใช่ Samsung ก็ Nokia ไม่ใช่ Nokia ก็ HTC และอีกมากมาย

อะไรนะ

ค� ำ ถามที่ ส� ำ คั ญ คื อ ในสั ง คมเมื อ งใหญ่ เหตุ ใ ด พวกเราต่างคนต่างอยู่มากขึ้น โดดเดี่ยวตนเองมากขึ้น หรือไม่ เหตุใดเรามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ผู้คนกลับ เหมือนรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น หรือคนรุ่นใหม่สมัยนี้อยู่กับ ตนเองมากเกินไป? คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พฤติกรรมมนุษย์ของคนรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นพวกเราชอบถ่ายรูปตนเอง แล้ว Post ลงใน Social Network ต่างๆ รวมถึงอาหารการกินและสถานที่ ต่างๆ ที่ตนเองอยู่ จนกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ไปแล้วใน ขณะนี้ ซึ่งเหมือนเป็นการย่อโลกให้คนใกล้ชิดกันมากขึ้น ในโลก Internet แต่นา่ สนใจมากว่า พวกเราจ่อมจมอยูก่ บั โลก Internet หรือโลก Matrix ทางโทรศัพท์เหล่านั้นมาก ไปกว่าจะสนใจสังคมแวดล้อมรอบข้างจนเกินพอดีหรือไม่

GENERATION ME! โดย เมธา มาสขาว

อาจจะบอกได้ว่า ไม่มีใครแม้สักคนเดียวในสังคม เมืองใหญ่ที่ไม่พก ‘เครื่องติดตามตัว’ หรือ ‘เครื่องติดตาม โลก’ ดั ง กล่ า วเลย ไม่ นั บ รวมถึ ง ผู ้ ค นที่ ต กหล่ น และ ถู ก ลอยแพจากการพั ฒ นาที่ น อนเกลื อ กกายอยู ่ ต าม ข้างถนนสายต่างๆ คนรุ่นใหม่บางส่วนก็ใช้เพื่อการท�ำงานที่สะดวกขึ้น ติดต่อเชื่อมประสานชีวิตที่ง่ายขึ้น การหาข้อมูลที่รวดเร็ว บางส่วนก็ใช้เพียงเพื่อเล่นโปรแกรม Social-Media ต่างๆ เช่น บางส่วนอาจใช้เพื่อไว้ถ่ายภาพต่างๆ ไม่ต่างจากการ บันทึกความทรงจ�ำลงในโทรศัพท์ หรือบางส่วนก็อาจเพียง แค่ไว้โชว์พกพาตามกระแสบริโภคนิยมตามๆ กัน ไม่ ผิ ด ที่ เ รามี เ ทคโนโลยี ที่ ก ้ า วหน้ า และไม่ ผิ ด ที่ เทคโนโลยีเหล่านั้นใครมีเงินก็ซื้อไปใช้บริการได้ แต่การ ตรวจสอบคุณภาพของสังคมและผลกระทบจากเครือ่ งมือ เหล่านั้นก็เป็นสิ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่จะช่วยพัฒนา ความก้าวหน้าทางวิทยาการและความก้าวหน้าทางสังคม ไปพร้อมๆ กัน ยังมิต้องพูดถึงความก้าวหน้าทางจิตใจ ที่ถูกบั่นทอนให้ความส�ำคัญกันน้อยลงอย่างมากในโลก ปัจจุบัน

เราคุยกับโทรศัพท์มากขึ้น แต่คุยกับตนเองน้อยลง หรือไม่ พวกเราพบเจอกันตามร้านอาหารหรือสถานที่ ต่างๆ แต่กลับก้มลงคุยกับโทรศัพท์ของตนเองมากเกินไป หรือเปล่า จนการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ภายนอกของ มนุษย์แทบจะไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง หลายต่ อ หลายครั้ ง ที่ เ ราพบข่ า วเศร้ า ตามหน้ า หนังสือพิมพ์หรือข่าวทัว่ ไปมากมาย ชายหลายคนเดินข้าม ถนนโดนรถชนเสียชีวิตเพราะมัวแต่ดูโทรศัพท์แต่ลืมดูรถ นักศึกษาบางคนใส่หูฟังไว้ตลอดเวลาจนไม่ได้ยินเสียง รถไฟบี บ แตรเตื อ น น่ า เสี ย ดายที่ โ ทรศั พ ท์ ไ ม่ ไ ด้ เ ตื อ น อุบัติเหตุทุกอย่างเหล่านั้นไว้ด้วย นอกจาก ‘สติ’ ของเรา เองที่จะคอยเตือน เครื่ อ งมื อ สื่ อ สารเหล่ า นี้ แน่ น อนว่ า มี ป ระโยชน์ มากมายมหาศาลต่อมนุษยชาติ แต่ก็ควรเท่าที่พอดีกับ สติที่มีของผู้คนจนไม่เป็นภัยแก่ตนเอง นั่นเป็นเหตุผล ที่ว่า ท�ำไมเราต้องออกกฎหมายไม่ให้ใช้โทรศัพท์ขณะ ขับรถและยานพาหนะ เพราะมันได้ดึงเอาสติออกจาก การรับรู้สภาวะแวดล้อมรอบตัวไปอย่างชัดเจนจนเกิด อุบัติเหตุตามมาได้


13 ค� ำ ถามส� ำ คั ญ คื อ เทคโนโลยี เ หล่ า นี้ ไ ด้ ท� ำ ให้ พฤติกรรมมนุษย์เปลีย่ นไปอย่างสร้างสรรค์เพียงใด มนุษย์ เราได้เป็นนายเทคโนโลยีอย่างแท้จริง หรือจริงๆ แล้ว เทคโนโลยีเป็นนายเรา เมื่อไม่นานมานี้ นิตยสาร Time ได้เสนอข่าวชื่อ The Me Me Me Generation ซึ่งกล่าวถึงคนรุ่นใหม่ใน ปัจจุบันว่าเป็นพวก Millennials หรือกลุ่มคนที่มีอาการ ‘หลงตัวเอง’ สูงมาก เขาบอกว่าพวกเราเป็นพวกที่หมกมุ่น ในกิจกรรมที่ตนเองท�ำอยู่และชอบเรียกร้องความสนใจ ตลอดเวลา พวกเราให้คุณค่าเพื่อนฝูงด้วยกันมากไปกว่า พ่อแม่ และชอบเล่น facebook หรือ Line อย่างต่อเนื่อง ชอบถ่ายรูปตัวเองว่าก�ำลังท�ำ อะไรอยู่ หรือกินอะไร ถ่ายภาพ เสร็จก็นำ� รูปภาพลง Instagram อย่างรวดเร็ว และก็รอดูว่า จะมี ใครกด like รูปภาพของตัวเอง มากเท่าใด หรื อ พวกเรากลายเป็ น คนยุค Generation Me ที่หลง ตั ว เองที่ สุ ด ในประวั ติ ศ าสตร์ มนุษยชาติไปแล้ว เป็นกลุ่มคน ที่ ม องตั ว เองส� ำ คั ญ ที่ สุ ด และ เห็นว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของ ทุกสิ่งอย่าง ตามที่ Time อ้างข้อมูลของ The National Institutes of Health จากคนรุ่นปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ในยุคสมัย Baby Boomer ถึง Generation X และ Generation Y ในปัจจุบนั จากยุคสมัยที่ผู้คนมุ่งมั่นต่อส่วนรวมและการใช้ชีวิตอย่าง รับผิดชอบ มาจนถึงวัฒนธรรมของกลุ่มคนที่ให้ความ ส� ำ คั ญ กั บ เรื่ อ งความสมดุ ล ระหว่ า งงานกั บ ครอบครั ว (Work – life balance) จนถึงกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี จนมีความเป็นตัวของตัวเอง สูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข ซึ่งเป็นสภาพ ของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ผลพวงของเทคโนโลยีที่เรา ใช้ไม่เป็นเหล่านั้น กลับได้เปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์อย่าง น่ า กลั ว ในวั น นี้ ในวั น ที่ Generation Y ได้ก ลายเป็น Generation Me ไปเสียแล้ว ในยุค Generation Me พวกเราใจร้อนมากขึน้ สมาธิ สั้นลง เห็นแก่ตัวกันมากขึ้น และนิ่งสงบได้น้อยลงใน

สถานการณ์ต่างๆ พวกเราชอบอ่านและเขียน ข้อความสั้นลงๆ เรื่อยๆ จะว่าไป พวกเราอาจจะ อ่านหนังสือเล่มยาวๆ ไม่รู้เรื่องเท่ายุคสมัยก่อน เท่าใดนัก รูไ้ หมว่าคนรุน่ พวกเราสนใจแต่ตวั เอง ขนาดที่ Stamp ถึงกับแต่งเพลง “โอมจงเงย’ ขึ้นเตือนสติ แล้วสร้าง Music ที่พวกเราเป็น เหมือนซากศพในสังคมที่จ่อมจมจนลืมเพื่อนรอบข้าง เรายิ้มให้กันน้อยลง หงุดหงิดกันมากขึ้น สบตาเข้าใจกัน น้อยลง แต่บ่น Drama กันมากขึ้น! จริ ง ๆ แล้ ว พฤติ ก รรมมนุ ษ ย์ เ ปลี่ ย นได้ ห ากเรา มีสติ และ ‘กลับตัว’ Generation Me ก็เปลี่ยนได้ หากเราสนใจ สังคมมากขึ้นและ ‘กลับตัว’ M เป็นตัว W กลายเป็น Generation We แทน อย่าลืมว่า กล้องโทรศัพท์กล้องหน้าก็กลับเป็น กล้องหลังได้ และท�ำให้เ ราเห็นสภาพแวดล้อมชัดขึ้น มากกว่าการมองหน้าตัวเองเท่านั้น ยังมีเรื่องราวมากมาย บนโลกนี้ที่เรายังไม่เคยไปเห็นและเรียนรู้ ยังมีโอกาสอีก มากที่ผ่านเราไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เรา ‘หลงตัวเอง’ อยู่ กลับตัว กลับใจ กลับกล้อง กันเถอะครับ ช่ ว ยกั น เปลี่ ย นยุ ค สมั ย ของพวกเราจาก Generation Me เป็น Generation We กันเถอะ


14 Experience

‘ลาว’ โดย กุ้งนาง

กว่าสามชั่วโมงบนรถสามล้อเครื่องที่พา เรามุ่งหน้าไปยังแผ่นดินที่ทวดอยากกลับมาแต่ ไม่มีโอกาส นั่งเอียงซ้ายที เอียงขวาทีมองดูฝุ่น สี แ ดงปลิ ว กระจายไปตามแรงเคลื่ อ นของรถ สามล้อบวกกับบรรยากาศรอบข้างทางที่แสน สบาย บ้านเรือนหลังเล็กใหญ่เรียงรายสองข้าง ทาง เห็นป้ายโฆษณาสินค้าที่เขียนด้วยภาษา ลาวที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมอารยธรรมทางภาษา ภาษาไทยกับภาษาลาวคล้ายคลึงกันมันจึงไม่ ยากนักที่จะท�ำความเข้าใจ เราเดินทางมาถึงใจ กลางเวียงจันทน์ก็เกือบจะเที่ยงวัน พอลงรถ สามล้อได้ก็จ�้ำอ้าวเข้าไปยังตลาดเช้าและอีกไม่ กี่นาทีจากนั้น ก๋วยเตี๋ยวเส้นนุ่มเหนียวโรยผัก สีเขียวก็มาเสิร์ฟถึงที่ แต่ก๋วยเตี๋ยวที่นี่จะเสิร์ฟ พร้อมกับซอสพริกและกระปุกเล็กๆ ที่มีกะปิรส เด็ดซ่อนอยูข่ า้ งใน ซอสพริกนีพ่ อเข้าใจได้ เพราะ ช่วยเพิม่ รสชาติ แต่ยงั ไม่เคยลองกินก๋วยเตีย๋ วจิม้ กะปิสักที พอเราเปิดกระปุกกะปิก็รู้ว่าเราไม่ใช่ ลู ก ค้ า รายแรกที่ ไ ด้ ลิ้ ม ลองรสชาติ ข องกะปิ กระปุกนี้ รสชาติก๋วยเตี๋ยวใส่ซอสพริกจิ้มกะปิที่ ออกแนวหวานๆ เปรีย้ วๆ สนนราคาราว 60 บาท ก็อร่อยได้รสชาติไปอีกแบบค่ะ เมือ่ ท้องอิม่ ก็เริม่ สังเกตบรรยากาศรอบตัว หญิงสาวชาวลาวนุ่งผ้าซิ่นเดินจับจ่ายซื้อของ จังหวะการก้าวเดินเนิบๆ ไม่รีบร้อน รอยยิ้มบน หน้าที่ไร้เครื่องส�ำอางค์ อากาศใสๆ ไม่มีมลพิษ บนถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้ข้างทางที่

จุดเริ่มต้น ของการเดินทาง สะบายดีเวียงจันทน์

นานๆ จะมีรถยนต์ผ่านมาสักคัน บรรยากาศ สบายๆ แบบนี้ท�ำให้เราหวนคิดถึงภาพเมือง ไทยใน 40-50 ปีก่อนที่เคยเห็นในหนังสือ ระดับความสุขของนักเดินทางอย่างเราเพิม่ ขึน้ โดยทันทีเมือ่ ก้าวเข้าสูห่ อ้ งพักทีเ่ ราหาได้ใกล้ๆ กับตลาดเช้า ภายนอกที่มีตกแต่งด้วยดอก กล้วยไม้หลากสี มีเก้าอี้สีไม้เล็กๆ ไว้ให้นั่งพัก รอยยิม้ ทักทายของเจ้าของห้องพักพร้อมกล่าว ค�ำว่า ‘สะบายดี’ (สวัสดี) ราคาห้องพักก็ไม่ แพงมากนัก 750 บาท พักได้สองคน ในห้อง พักตกแต่งครบตามแบบตะวันตกเหมาะกับ การเอนกายพักผ่อนเป็นที่สุด


15

เราใช้เวลาช่วงบ่ายเก็บบรรยากาศของ ประตูชัย (Patuxai) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิต ในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ รอบๆ ประตู ชัยถูกตกแต่งเป็นสวนหย่อม หนุม่ สาวชาวลาวต่างก็มาเดินเล่นและ พักผ่อนกันที่นี่ สิ่งที่ดึงดูดใจที่สุด คือ การแต่งกายของสาวลาวที่ นุ่งผ้าซิ่นทอด้วยลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ดูสบายตา เราจ่าย ค่าเข้าชม ประมาณ 10 บาท แล้วก็เดินขึ้นบันไดเพื่อไปชมทิวทัศน์ เมืองเวียงจันทน์จากมุมบนสุดของประตูชัย ภายในประตูชัยเรา มองเห็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาวอย่าง ลงตัว แต่กข็ ดั ตากับรอยขีดบนผนังซึง่ น่าจะเป็นวัยรุน่ สมัยนีม้ ากกว่า เป็นศิลปะที่นักสถาปัตย์บรรจงสร้างไว้ ส�ำหรับนักเดินทางแล้วเรา จะเก็บบรรยากาศผ่านกล้องถ่ายรูป ประทับความสวยงามของแต่ละ สถานที่ผ่านความรู้สึก และจดจ�ำเรื่องราวดีดีระหว่างการเดินทาง ที่เกิดขึ้นไว้ในสมุดบันทึก เท่านี้ก็สุขใจแล้ว เราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปไหว้พระที่วัดสีเมือง ซึ่งเป็นวัดที่ เก่าแก่และเป็นทีต่ งั้ ของศาลหลักเมืองเวียงจันทน์ ตอนทีเ่ ราก้าวผ่าน ประตูวดั เหมือนทะลุผา่ นมิตขิ องเวลาและสัมผัสได้ถงึ ความอลังการ ของพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด ถึงแม้บางส่วนจะช�ำรุด

The world is a country which nobody ever yet knew by description; one must travel through it one’s self to be acquainted with it. - Lord Chesterfield -

โลกนี้คือดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักมันได้จากการบอกเล่า แต่คนเราจะต้องเดินทางท่องเที่ยวไปเพื่อท�ำความรู้จักกับมันด้วยตัวเอง

ไปตามกาลเวลาและก็ยังคงความสวยงามให้พุทธศาสนิกชนเข้ามากราบไหว้บูชาไม่ขาด สาย อีกทั้งไม่มีการขัดบรรยากาศการเดินชมด้วยการเสนอขายสินค้าหรือขายทัวร์เหมือน สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในกรุงเทพ การสานฝันของทวดจบลงแต่เสน่ห์ของเมืองเล็กๆ แสนสงบอย่างเวียงจันทน์ยังคงอยู่ในใจตลอดมา


16 A-R-T

มี ศิ ล ป ะ ม า ก ม า ย ห ล า ย ประเภทให้เราได้เลือกชืน่ ชม ไม่วา่ จะ เป็นศิลปะที่เราสร้างเองหรือคนอื่น สร้าง ไม่วา่ จะทัง้ ผูช้ ายหรือผูห้ ญิง ทุก คนต่างล้วนสัมผัสประสบการณ์ที่ได้ แตกต่ า งกั น ไป โดยเราเลื อ กที่ จ ะ ชื่นชมกับศิลปะในรูปแบบที่เราชอบ เป็นส่วนใหญ่ เพื่อความจรรโลงใจ และตอบสนองอารมณ์ของเราเอง แต่ มีศลิ ปะอยูร่ ปู แบบหนึง่ ทีท่ กุ คนเคยได้ สัมผัสหรือประสบเป็นผูส้ ร้างเองด้วย หลายคนชอบ หลายคนอาจจะไม่ ชอบ นั่นคือศิลปะบริสุทธิ์ เป็นศิลปะ ทีเ่ กิดจากจิตใจอัน บริสทุ ธิข์ องผูส้ ร้าง สร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะทีบ่ ริสทุ ธิ์ ทุกคนบนโลกเคยสร้างสิง่ นีเ้ อาไว้ เมือ่ ตอนเป็นเด็ก เด็กทีเ่ ป็นเสมือนผ้าขาว บริสุทธิ์ มีจิตใจและอารมณ์ที่บริสุทธิ์ ศิลปะทีเ่ ด็กๆ ได้ทำ� นัน้ จึงบริสทุ ธิต์ าม กั น ด้ ว ย นอกจากเด็ ก ๆ แล้ ว เมื่ อ ทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีเพียงไม่กี่ คนนักทีส่ ามารถสร้างสรรค์งานศิลปะ ทีบ่ ริสทุ ธิเ์ หมือนเด็กได้ และส่วนใหญ่ เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็ ใช่ ว ่ า จะมี เ พี ย งศิ ล ปิ น เท่ า นั้ น ที่ สามารถสร้างสรรค์งานศิลป์บริสุทธิ์ ได้ เราเองก็สามารถ หากเรามีจิตใจ เช่นเดียวกับเมื่อตอนเราเป็นเด็ก ศิลปะบริสทุ ธิ์ คืออะไร ศิลปะ บริสุทธิ์ เป็นศิลปะที่เกิดจากอารมณ์ ความรูส้ กึ ทีไ่ ม่ได้รบั การปรุงแต่งใดๆ เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะออกมาใน แบบที่ต้องการ โดยไม่ได้คำ�นึงถึงผล ตอบแทนหรือคำ�วิจารณ์ ทีจ่ ะตามมา เมื่อเสร็จสิ้นผลงาน ฟังดูง่าย และ

ศิลปะบริสุทธิ์ โดย MR.BOM

ภาพ ทะเล โดย MR.BOM


17

ก็น่าจะทำ�ไม่ยาก แน่นอนเป็นเรื่องที่ง่ายมาก คือ อยากทำ�ศิลปะออกมายังไง ก็ได้ ตามแต่ใจเรา เท่านั้นก็เป็นศิลป์บริสุทธิ์ แต่ว่าถ้าหาก ขณะที่กำ�ลังทำ�อยู่ นั้นมีความคิด ความกังวล สงสัยในผลงานอยู่นั้น อาจจะไม่ใช่ ถ้าบอกว่า จะทำ�อย่างไรก็ได้ แล้วงานศิลป์ของผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายจะ สลักสำ�คัญอะไร เราเองก็ทำ�ได้แบบนั้น แต่แม้ว่าเราจะสร้างผลงานได้เหมือน กับศิลปิน สิ่งที่แตกต่าง คือ ประสบการณ์และการสั่งสมความรู้อย่างยาวนาน สร้างผลงานศิลปะนับร้อยนับพัน เพื่อให้ถึงคำ�ว่าบริสุทธิ์ แล้วต่อจากนั้นศิลปิน เหล่ า นี้ ก็ จ ะสามารถสร้ า งงานได้ อ ย่ า งไม่ ต้ อ งสงสั ย ไม่ ว่ า จะกี่ ชิ้ น กี่ อ ย่ า ง เหมือนๆ กับการได้บรรลุขั้นสุดยอดของศิลปะ ตัวอย่างมีให้เราเห็นมากมาย ทัง้ อาจารย์ดา้ นภาพวาดชือ่ ดัง นักดนตรีชนั้ นำ�ของไทย นักกวีผยู้ งิ่ ใหญ่ในอดีต ครูสอนร้องรำ� ท่านเหล่านีไ้ ด้สร้างงานศิลปะ บริสทุ ธิอ์ อกมาจากจิตวิญญาณและตัวตนของตัวเองจริงๆ เกิดผลงานทีด่ ี ทำ�ให้

ภาพ Nude Green Leaves and Bust โดย Pablo Picasso

ขอบคุณภาพจาก digitaljournal.com

ประสบความสำ�เร็จในหน้าที่ตามมา ศิลปะบริสุทธิ์ โดยนัยลึกๆแล้วก็ คือ การทำ�ตรงนี้ให้ดีที่สุด ทำ�หน้าที่ของ ตัวเองให้ดีที่สุด มีสติและเชื่อมั่นใน ตนเอง แล้วผลที่ดีจะตามมาเอง ไม่ใช่แค่ศิลปินผู้โด่งดังเท่านั้น ที่สร้างผลงานเช่นนี้ได้ คนข้างบ้าน หรือศิลปินริมทางเดิน ก็สามารถสร้าง ผลงานนี้ได้เหมือนกัน แตกต่างกัน ตรงทีม่ ปี จั จัยทีจ่ ะส่งเสริมให้คนเหล่า นั้นได้แสดงศักยภาพให้สังคมส่วน ใหญ่ได้รับรู้มากเพียงใด ขอวกกลับไปทีเ่ ด็กสักเล็กน้อย เราเห็ น แล้ ว ว่ า ภาพที่ เ ด็ ก วาด ตั ว หนังสือทีเ่ ด็กเขียน เพลงทีเ่ ด็กร้อง ดิน ที่เด็กปั้น นั้นเกิดจากความบริสุทธิ์ ของเขาโดยแท้ ในมุมของผู้ใหญ่อาจ จะมีความงามมากน้อยเพียงแตกต่าง กัน แต่สำ�หรับเด็กคือสิง่ ทีเ่ ขาชืน่ ชอบ อย่างมากที่สุด ดั ง นั้ น การจะส่ ง เสริ ม ให้ ทุกคนรักในศิลปะ เริ่มจากในวัย เด็ก ไม่ใช่การให้เด็กมุง่ สร้างในสิง่ ที่สวยงามในสายตาผู้ใหญ่ ไม่ใช่ การมุ่งเพื่อได้รางวัลหรือคะแนน เยอะ เพราะอาจทำ�ให้เด็กที่ฝีมือ งานศิลป์ที่แตกต่างกัน กลายเป็น ขาดความมั่นใจ ไม่ชอบหรือเห็น แก่ตัวได้ เพราะเราทุกคนรู้ดีอยู่ แล้วว่าศิลปะไม่มผี ดิ ถูก ดังนัน้ การ ส่งเสริมศิลปะแก่เด็กจึงควรระวัง ไม่ ใ ห้ ก ลายเป็ น การปิ ด กั้ น เด็ ก เพราะนั่ น อาจจะเป็ น คำ�ตอบว่ า ทำ�ไมโตมาเราไม่ชอบศิลปะเอา เสียเลย


18 Guidance

เส้นทางสู่การเป็น

นักปลุกฝัน โดย รอยฝัน

ครั้งที่แล้วเราได้รู้จักกับอาชีพนักคอมพิวเตอร์ กราฟิก กันไปแล้ว ว่าเขาต้องท�ำงานโต้รุ่ง วุ่นวาย แค่ไหน เป็นงานที่ละเอียด และอาศัยจินตนาการ วันนี้ พี่รอยฝัน ก็จะมาแนะน�ำน้องๆ ว่า เราจะเรียนอะไร ถึงจะได้เป็น นักคอมพิวเตอร์กราฟิก จริงๆ แล้ว นักคอมพิวเตอร์กราฟิก ไม่ได้ต้องเรียน สาขาใดเป็นพิเศษ เพียงแต่เรามีทกั ษะในการใช้โปรแกรม อย่าง Illustrator, Photoshop, Maya, Flash หรือโปรแกรม กราฟิกอื่นๆ เพราะจริงๆ แล้วหลายบริษัทก็ใช้โปรแกรมที่ พัฒนาขึน้ มาเอง อีกทัง้ ความสามารถในการวาดรูป ก็ชว่ ย ให้สามารถท�ำงานในด้านนี้ได้ดีขึ้น เช่นกัน ที นี้ ส� ำ หรั บ น้ อ งๆ ที่ ยั ง ไงก็ ยั ง อยากเรี ย นใน มหาวิทยาลัยเท่านั้น ก็มีหลายมหาวิทยาลัยที่เปิดสอน ด้วย สาขานีม้ ชี อื่ แตกต่างกันออกไป (และมีเนือ้ หาแตกต่าง กันไปนิดหน่อยด้วยเช่นเดียวกัน) เช่น Computer Art, Multimedia, Graphic Design

ยกตั ว อย่ า งเช่ น สาขาวิ ท ยาการคอมพิ ว เตอร์ ประยุกต์ (มัลติมเี ดีย) ที่ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้า ธนบุรี (หรือที่เราเรียกว่า บางมด) สาขานี้เป็นหลักสูตรวิทยา ศาสตรบัณฑิต ก็ไม่ได้เรียนเฉพาะการท�ำ คอมพิวเตอร์ กราฟิก แต่ยังเรียนจิตวิทยา การวัดประเมิน เทคนิคการ ด้านภาพถ่าย สีสัน เสียง รวมถึงวิชาด้านสื่อสารมวลชน และด้านการผลิตโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนด้วย ต้อง บอกก่อนว่าอย่าสับสนกับ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ นะครับ อันนั้นเรียนแบบเน้นการเขียนโปรแกรมเป็นหลัก แต่สาขามัลติมีเดียเน้นการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อ การท� ำ สื่ อ สร้ า งสรรค์ เรี ย นไม่ ไ ด้ ลึ ก เท่ า วิ ท ยาการ คอมพิวเตอร์ แต่เรียนกว้างกว่า และหลักสูตรแบบนีย้ งั มีที่


19

สาขาเทคโนมัลติมเี ดียสร้างภาพเคลือ่ นไหว มหาวิทยาลัย แม่ฟ้าหลวง, สาขาแอนิเมชั่นมัลติมีเดีย มหาวิทยาลัย ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, สาขามัลติมเี ดียแอนิเมชัน่ มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฎ วไลอลงกรณ์ , สาขานวั ต กรรม ออกแบบสื่ อ มหาวิ ท ยาลั ย สงขลานคริ น ทร์ , สาขา คอมพิ ว เตอร์ แ อนิ เ มชั่ น มหาวิ ท ยาลั ย หอการค้ า ไทย เป็นต้น อีกสาขาหนึง่ ทีอ่ ยากยกตัวอย่างคือ คณะศิลปกรรม ศาสตร์ สาขานฤมิ ต ศิ ล ป์ เอกเรขศิ ล ป์ จุ ฬ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย สาขานี้เมื่อเข้าเรียนต้องสอบเกี่ยวกับการ ออกแบบ และการวาดภาพด้วย แต่ไม่ได้เรียนเน้นแต่การ ออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกเพียงอย่างเดียว แต่รวมไป ถึงเรียนการออกแบบสิ่งพิมพ์อื่นๆ เช่นแผ่นพับ หนังสือ นิ ต ยสาร บรรจุ ภั ณ ฑ์ (ซึ่ ง ทุ ก วั น นี้ ก็ อ อกแบบโดยใช้ คอมพิวเตอร์กันหมดแล้ว) สาขานี้เป็นหลักสูตรศิลปกรรม ศาสตรบัณฑิต นอกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วยัง มีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรลักษณะเดียวกันนี้ อาทิ สาขาออกแบบสือ่ สาร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, สาขานิ เ ทศศิ ล ป์ ภาคภาษาอั ง กฤษ มหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยีธนบุรี (ทีบ่ างมดมีทงั้ 2 แบบ คือ วท.บ. อยูค่ ณะ วิทยาศาสตร์ ส่วน ศป.บ. อยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์), สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, สาขา กราฟิกดีไซน์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สาขาออกแบบ นิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าลาดกระบัง จะเห็นได้วา่ หลักสูตรทัง้ สองแบบนีจ้ ะมีความมุง่ เน้น แตกต่างกัน หลักสูตรที่เป็นวิทยาศาสตรบัณฑิตจะ มุ่งไปในด้านการสอนเทคนิคทางคอมพิวเตอร์ มาก กว่าหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต แต่ หลั ก สู ต ร ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิตก็จะมุ่งไปในเรื่องของการ ออกแบบ มากกว่าหลักสูตรที่เป็นวิทยาศาสตรบัณฑิต การที่น้องจะเลือกเรียนแบบไหนก็ควรพิจารณาให้ดี การเตรียมตัวส�ำหรับหลักสูตรทัง้ สองแบบนีแ้ ตกต่าง กันเล็กน้อย คือ แบบที่เป็น หลักสูตร วท.บ. (วิทยาศาสตร บัณฑิต) น้องต้องเตรียมตัวแบบเด็ก วิทยาศาสตร์ นั่นคือ อาจจะมีการสอบวิชาด้านวิทยาศาสตร์ หรืออาจจะระบุวา่ ต้องเรียนในสายวิทยาศาสตร์มาในระดับมัธยมศึกษาตอน

ปลาย แต่ไม่ได้มีการสอบด้านการวาดภาพ และการ ออกแบบเพิ่มเติม แต่หลักสูตรที่เป็น ศป.บ (ศิลปกรรม ศาสตรบัณฑิต หรือ ศิลปบัณฑิต) ก็จะตรงข้ามกันคือ จะเน้นการสอบเกี่ยวกับการออกแบบ และวิชาด้านการ วาดภาพ หรือวิชาด้านการใช้โปรแกรมต่างๆ ดังนั้นหาก เราสนใจจะเรียนต่อในสาขาแบบไหนก็ต้องเตรียมตัว ให้เหมาะกับหลักสูตรนั้นด้วย ไม่เช่นนั้นน้องๆ ก็จะเสีย โอกาสไปเปล่าๆ ส�ำหรับฉบับนี้พี่รอยฝันก็ขอลาไปแต่เพียงเท่านี้ ส�ำหรับนักสร้างชีวิตให้กับตัวการ์ตูน หรือนักออกแบบ ตัวน้อย คงรู้แล้วว่าควรจะเลือกเรียนในหลักสูตรแบบใด ก็ขอให้ตั้งใจระยะเวลาขนาดนี้ยังมีเวลา ถ้าตั้งใจรับรอง ว่าได้เรียนสมใจอยากแน่นอน ส�ำหรับฉบับหน้า พี่รอยฝันจะเล่าถึงอาชีพ นักฝัน อีกอาชีพหนึ่ง แต่ไม่ได้เล่าเรื่องผ่านภาพ แต่เล่าเรื่องผ่าน ตัวอักษร แล้วเจอกันฉบับหน้าครับ


20 Life Coaching

ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผมได้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้คนที่ร่วมเดินกับ อ.ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และเครือข่ายสิ่งแวดล้อม ออกมาเคลือ่ นไหวคัดค้านรายงานวิเคราะห์ ผลกระทบด้านสิง่ แวดล้อมและสุขภาพของ โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์

เราก�ำลังสู้ กับอะไร! เพื่ออะไร! โดย อรรถพล อนันตวรสกุล

หลังจากเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองช่วงพฤษภา ทมิฬ ปี ๒๕๓๕ ผมไม่เคยคิดจะเข้าร่วมกับการเคลื่อนไหว ใดๆ ที่เป็นการออกมาเดินบนถนนอีก แม้จะเป็นวิถีทาง หนึ่งของการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย แต่ผมคิด ว่าเราควรใช้วธิ กี ารพูดคุยหาทางออกแบบอืน่ ๆ ได้มากกว่า การออกมายึดครองถนน แต่กรณีปา่ แม่วงก์ ท�ำให้ผมต้อง เปลี่ยนใจ และกลับมาเลือกใช้วิธีเดินปรากฏตัวบนท้อง ถนนอีกครั้ง ผมไม่สามารถไปร่วมเดินกับ อ.ศศิน ได้ตั้งแต่วัน แรกๆ ได้ แ ต่ ต ามดู รู ป ภาพและข่ า วที่ อ าจารย์ ท ยอย อัพโหลดผ่านเฟสบุค อาจารย์มีอาวุธต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ สังคมสนใจได้แค่นนั้ ไม่มสี อื่ มวลชนกระแสหลักมาท�ำข่าว จริงๆ ต้องบอกว่าตั้งแต่มีแรงผลักดันกลับมาสร้างเขื่อน ก็ แทบไม่มีข่าวจากช่องทางสื่อกระแสหลักอยู่แล้ว นั่นเป็น เหตุผลที่ อ.ศศินและทีมงานเลือกใช้การเดินเท้า ๓๘๘ กม. จากป่า สู่ใจกลางเมืองย่านปทุมวัน เพื่อเรียกร้องให้ผู้คน ลุกขึ้นตั้งค�ำถามว่าเราก�ำลังต่อสู้กับอะไร เพื่ออะไร

เราก�ำลังสู้กับความเงียบงันของสังคมซึ่งไม่มีโอกาสได้รู้ ความเป็นมาเป็นไปของโครงการเขื่อนที่จะสร้างในเขต พืน้ ทีป่ า่ อนุรักษ์ทมี่ คี วามเปราะบางมากทีส่ ุดและสมบูรณ์ มากที่สุดแห่งหนึ่งของบ้านเรา นักการเมืองบอกกับเราว่า เชื่อนนี้จะช่วยแก้ปัญหาน�้ำท่วมและเก็บกักน�้ำไว้ใช้ใน การเกษตรหน้าแล้ง แต่ขอ้ มูลทางวิชาการยืนยันชัดเจนว่า เขื่อนที่จะสร้างมีส่วนแก้ปัญหาน�้ำท่วมได้น้อยมาก และ การเก็บกักน�้ำก็ได้ไม่คุ้มค่ากับต้นทุนทางนิเวศของผืนป่า แม้เราจะอยู่ในสังคมแห่งข้อมูลข่าวสาร แต่น่าเสียดายที่ ข้อมูลข่าวสารจ�ำนวนมากถูกเก็บกักไว้หลังก�ำแพงเขื่อนที่ นักการเมืองสร้างไว้ ผมดีใจที่การเคลื่อนไหวในช่วงวันท้ายๆ ส่งผลให้ ผู้คนหลายพันหลายหมื่นพากันออกมาปรากฎตัวบนท้อง ถนนและใจกลางเมื อ ง เราออกมาเพื่ อ จะบอกว่ า เรา ต้องการรักษาต้นทุนป่าไม้ที่เป็นต้นน�้ำล�ำธารไว้ให้ลูก หลานของเราในอนาคต และเราไม่สามารถยอมรับการ ตัดสินใจใดๆ ทีไ่ ม่ชอบธรรมในเรือ่ งสิง่ แวดล้อมของทุกคน ได้อีกต่อไป เย็นวันนั้นฝนตกหนัก พวกเรายืนอยู่กลางสายฝน และผมดีใจที่ตะเกียงในใจของพวกเราสว่างเพียงพอจะ ร่วมกันส่องแสงให้ผู้คนวงกว้างได้เห็น


Help for Health 21

โรคเชื้อรา ที่มากับหน้าฝน โดย ภญ.บุษบงก์ ธรรมมาสถิตย์กุล

ฝนตกติดต่อกันมานานหลายเดือน หลายคนคงเผชิญปัญหา เสือ้ ผ้าไม่แห้ง เกิดความอับชื้น ปัญหาต่อมาคือความผิดปกติของผิวหนัง เช่น เริ่มมีอาการคัน เป็นขุย ผิวหนังเป็นด่างเป็นดวง หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

ความอับชื้นเป็นสภาวะที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของ เชื้อรา กลาก เกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักพบได้ บ่อยในหน้าฝนและคุน้ หูกนั ดี กลากมีลกั ษณะผืน่ นูนแดง มีขยุ เป็นวงขอบนูนแดง ตรงกลางซีดขาว อาจจะพบตุ่มน�้ำใสที่ ขอบ บางครัง้ เกิดซ้อนกันหลายวง เป็นได้หลายต�ำแหน่งทัว่ ร่างกาย มักพบที่บริเวณข้อพับ ขาหนีบ ล�ำตัว ศีรษะ แขน ขา เล็บ เท้า หรือตามซอกระหว่างนิว้ มักจะมีอาการคันมาก ส่วนเกลือ้ นมีลกั ษณะเป็นขุยๆ หรือสะเก็ดบางๆ เล็กๆ อาจ กระจายกันหรือติดกันเป็นปื้นใหญ่ สีต่างจากผิวปกติ อาจ เข้มขึน้ หรือจางลง มักเป็นบริเวณครึง่ ตัวบน แต่จะไม่คอ่ ยมี อาการคัน ยาทีใ่ ช้รกั ษามีทงั้ ชนิดใช้ภายนอกและชนิดรับประทาน ขึน้ กับความรุนแรงของโรค ยาชนิดรับประทานควรใช้ภายในการดูแล ของแพทย์หรือเภสัชกร ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะยาใช้ภายนอก หรือยาทา โดยจะขอแบ่งชนิดยาทาฆ่าเชื้อราให้เห็นเข้าใจง่ายๆ ออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้ คือ ยาทาที่มียาฆ่าเชื้อราเพียงอย่างเดียว และยาฆ่ า เชื้ อ ราสู ต รผสมกั บ สเตี ย รอยด์ โดยทั้ ง สองชนิ ด มี วัตถุประสงค์ในการใช้ที่ต่างกัน ยาทาที่มียาฆ่าเชื้อราเพียงอย่าง เดียวสามารถฆ่าเชือ้ ราได้กจ็ ริง แต่ไม่สามารถระงับอาการคันอัน เกิดจากเชือ้ ราได้ทนั ที เหมือนกับว่ายาไปแก้ทตี่ น้ เหตุ ต้องใช้ระยะ เวลากว่าจะก�ำจัดเชือ้ ราได้หมด ขณะทีอ่ าการคันนัน้ ยังคงด�ำเนิน อยู่ ส่วนยาฆ่าเชื้อราที่ผสมสเตียรอยด์ เหมาะแก่การรักษาโรค ผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราที่มักจะมีอาการคันร่วมด้วย แต่การใช้ยา ทาทีม่ สี ว่ นผสมของสเตียรอยด์ตอ่ เนือ่ งนานๆ ก็มผี ลเสีย เช่นท�ำให้ ผิวหนังบางลง ไวต่อแสงแดด อาจท�ำให้ผิวกระด�ำกระด่าง และ เป็นสิวจากสเตียรอยด์ได้ ในทางตรงกันข้าม การรักษาโรคผิวหนัง จากเชื้อรานั้นก็ต้องใช้ระยะเวลานานเช่นกัน จึงมีค�ำแนะน�ำการ ใช้ยาทาว่า “หากหายแล้ว ให้ทายาต่ออีก 1-2 สัปดาห์เพื่อ ให้หายขาด” ดังนั้นจึงขอแนะน�ำว่า การใช้ยาทาฆ่าเชื้อราที่มีส่วนผสม ของสเตียรอยด์ ควรใช้ในช่วงแรกมีอาการคัน จนหายคันจึงเปลีย่ น ไปใช้ยาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราเพียงอย่างเดียวส�ำหรับ

ทาต่ อ ให้ ห ายขาด เพื่ อ เป็ น หลี ก เลี่ ย งอาการไม่ พึ ง ประสงค์จากการใช้ยาทาสเตียรอยด์ติดต่อกันนานๆ การปฏิ บั ติ ตั ว ในหน้ า ฝนเพื่ อ ให้ ห ่ า งไกลโรค ผิวหนังจากเชื้อราที่น�ำมาฝากกัน ได้แก่ น�ำผ้าไปตาก แดด ไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ชื้นแฉะ เลือกเสื้อผ้าที่สามารถ ระบายอากาศได้ดี หากตากฝนเมือ่ กลับถึงทีพ่ กั ควรรีบ เปลีย่ นเสือ้ ผ้า อาบน�ำ้ ท�ำความสะอาดร่างกาย และเช็ด ตัว โดยเฉพาะซอกข้อพับให้แห้ง การใช้แป้งฝุ่นก็เป็น อีกหนึ่งตัวช่วยในการดูดซับความชื้นได้ดี ฤดูฝนก�ำลังจะผ่านไป ฤดูหนาวก�ำลังจะเข้ามา อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ช่วงอากาศเปลี่ยน อาจจะป่วยได้ง่ายๆ แล้วพบกันใหม่ฉบับต่อไปค่ะ


22 Scitech

เทคโนโลยีทเี่ รียกว่า

‘โฮโลแกรม’ โดย Spocky

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง แต่อีกหลายคน คงยังไม่รู้จัก “โฮโลแกรม” เป็นชื่อที่คุ้นหูกันในวงการ เทคโนโลยี เป็นการสร้างภาพ 3 มิติแบบลอยตัว หรือจะ เป็นการสื่อสารทางไกลที่ท�ำการส่งภาพบุคคลจริงจาก สถานที่หนึ่งมาปรากฎต่อหน้าเราได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ในภาพยนตร์เรื่อง iron man ที่มีการใช้โฮโลแกรมต่างๆ มากมายในฉาก แสดงให้เห็นถึงภาพ 3 มิติแบบลอยตัว พร้อมความสามารถในการควมคุม จัดการ ได้อย่างน่าทึ่ง ดูแล้วชวนตืน่ เต้นและให้ความรูส้ กึ เสมือนว่าเป็นส่วนหนึง่ ราวกับเกิดขึ้นจริงๆ แล้วรู้หรือไม่ว่า…เทคโนโลยีนี้ไม่ได้มีแค่เพียงที่ถูกสร้างขึ้นใน ภาพยนตร์ แต่ในปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้าน เทคโนโลยี ต่างศึกษาวิจยั เพือ่ สร้างเทคโนโลยีนใี้ ห้เกิดขึน้ จริงๆ และน�ำมา ใช้งานในชีวิตประจ�ำวัน ยกตัวอย่างใน คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ โฮโลแกรมในการสร้างตัวการ์ตูน ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นใน ขณะนั้น ให้ออกมาแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีได้อย่างสมจริง และ ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิปดีที่ผ่าน มา CNN ได้รายงานข่าวการเลือกตัง้ ผ่านการแสดงภาพแบบโฮโลแก รมเข้ามาในห้องส่ง โดยหลักการท�ำงานของมันคือ ทางฝัง่ ต้นทางจะ มีกล้องจ�ำนวน 35 ตัวจับภาพผู้สื่อข่าวจากมุมต่างๆ แทนที่จะแบ่ง หน้าจอสลับคนละครึ่ง ระหว่างห้องส่งกับผู้ที่ถูกสัมภาษณ์อยู่ภาค สนาม หรือทีอ่ นื่ ๆ อย่างทีเ่ ห็นกันปกติทวั่ ไป แต่โฆษกประจ�ำตัวของ โอบามาจะปรากฎในลักษณะ 3 มิติผ่านโฮโลแกรม แน่นอนว่าเทคโนโลยีลักษณะนี้ยังเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาอีกอย่าง มาก ซึง่ กว่าจะท�ำได้อย่างภาพยนตร์ Iron Man คงจะต้องใช้เวลาอีกหลาย ปี เ ลยที เ ดี ย ว แต่ อ ย่ า งน้ อ ยท� ำ ให้ เ ราเห็ น ว่ า ตอนนี้ เ ทคโนโลยี จ ากใน ภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป...


Wow! Asean 23

Wow! Asean ฉบับนี้ มาดูเรื่องราว เชิงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านกันบ้างนะคะ เมื่อ ไม่นานมานี้ ได้แวะเวียนไปที่ บ้านนายสุชาติ ทรั พย์ สิน ศิลปิ นแห่ งชาติ ซึ่งเปิดเป็น พิพธิ ภัณฑ์ หนังตะลุง จัดแสดงตัวหนังตะลุง มีทั้ง เทวดา ยั กษ์ เจ้า เมือง ตัวพระ ตัวนางผี รวมถึง ตัวเอียด ซึ่งเป็นตัวตลก หญิง นอกจากนีย้ งั มีตวั หนังจากแหล่งต่างๆ ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศในแต่ละยุคสมัย เช่น ตัวหนังในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวหนัง ของภาคกลาง ตัวหนังมุสลิม หรือวายังดูเละ ตัว หนัง ประโมทัย หรือหนังตะลุงอีสาน อีกทั้งยังมี ตัวหนังตลกอายุ 50-100 ปี อย่าง หนูนุ้ยเท่ง แก้ว สะหม้อ สายนุ้ย หลังขวัญเมือง เป็นต้น และยังมีการจัดแสดงเครื่องดนตรีที่ ใช้ในการ เชิด และที่น่าสนใจคือ ตัวหนังนานาชาติ เช่น อินเดีย จีน ตุรกี รวมถึง หนังตะลุงทีม่ กี ารเชิดอยู่ ในภูมภิ าค อาเซียน นอกจาก ไทย มาเลเซีย และ อินโดนีเซียแล้ว เมื่อเข้ามาในพิพิธภัณฑ์หนัง ตะลุงที่นี่ เราพบว่ามีร่องรอย การเล่นหนังตะลุง ใน กัมพูชา และ ลาว อีกด้วย ส่วนประเทศพม่า อาจารย์วาที ทรัพย์สิน อาจารย์ประจำ�ภาค

วัฒนธรรมอาเซียน โดย สุวิมล จินะมูล

วิ ช า วั ฒ นธรรมเพื่ อ การท่ อ งเที่ ย ว ในฐานะ ลู ก ชายคนโตของนายหนั ง อย่ า งนายสุ ช าติ ทรัพย์สนิ ศิลปินแห่งชาติผรู้ เิ ริม่ การเปิดบ้านเป็น พิพิธภัณฑ์ จากพระดำ�รัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว บอกว่าขณะนี้กำ�ลังอยู่ระหว่าง การรวบรวมข้ อ มู ล และหาหลั ก ฐานทาง ประวัติศาสตร์ศิลปะพื้นบ้านในรูปแบบของการ

เชิดหนังอย่างตะลุง เพิ่มเติม ตัวหนังตะลุงพื้น บ้านที่พบอยู่ในแถบอาเซียนนี้เป็นหลักฐาน ทางประวัติศาตร์อย่างดีว่า ที่ผ่านมาอาเซียน เรา ไม่ได้ผกู พันกันเพียงเรือ่ งเศรษฐกิจ แรงงาน หรือความมั่นคงทางการเมือง แต่ยังมีประเด็น เรื่ อ งวั ฒ นธรรมพื้ น บ้ า นที่ เ ชื่ อ มโยงเราชาว อาเซียนเข้าไว้ด้วยกัน


24 กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา

“ความรัก ที่ถูกคุมขัง รอวันโบยบิน จากปีก ที่ปกคลุม”

น่าปวดหัวนะครับ สำ�หรับชีวิตครอบครัวที่มีปัญหา ‘ปีกมาร’ เป็น ละครที่สะท้อนปัญหาของครอบครัวที่มี ‘มือที่สาม’ เข้ามาเกี่ยวข้อง และ ไม่ใช่มีรูปแบบเดียวเท่านั้น มือที่สามของชีวิตคู่ในเรื่องนี้ มีมาจากทั้ง แม่ ส ามี ที่ ห่ ว งลู ก ชายมากๆ และเด็ ก หนุ่ ม ที่ แ อบติ ด พั น ภรรยาคนอื่ น ปัญหาเหล่านี้จะดำ�เนินและคลี่คลายไปอย่างไร คงต้องติดตามในละคร ครับ ส่วนปัญหาด้านกฎหมายเรามาติดตามได้จากที่นี่ครับ อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านผูอ้ า่ นหลายท่านคงกำ�ลังเดาว่าผมจะเขียนเรือ่ ง “ชู้” หรือไม่ก็ ‘ฟ้องหย่า” ใช่ไหมครับ ... ขอตอบว่า “ไม่ครับ” แต่ขอหยิบเรือ่ ง ‘บ้านพร้อมทีด่ นิ และรถของแม่นางเอกทีย่ กให้เป็น ของขวัญแต่งงาน’ เป็นสินสมรสระหว่างสามีภรรยาหรือไม่ อย่างไร

ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ มาตรา ๑๔๗๔ สินสมรส ได้แก่ ทรัพย์สิน (๑) ที่คู่สมรส ได้มาระหว่างสมรส จากกรณี ตัวอย่างข้างต้น การทีแ่ ม่นางเอกตกลงใจยกทรัพย์สนิ อันได้แก่ บ้านพร้อมที่ดินและรถยนต์ ให้เป็นของขวัญ แต่งงาน ประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ ก. มีการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว (คือ จดทะเบียนสมรส) จึงจะมี ‘คู่สมรส’ และ ‘การได้มา ระหว่างสมรส’ และ ข. ผู้ให้เจตนาให้ทรัพย์สินแก่ ‘คู่สมรส’ มิใช่ให้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ เป็นการเฉพาะ (ไม่อย่างนัน้ จะกลายเป็น สินส่วนตัวของฝ่ายนั้นไป)

ปีกมาร โดย ธนา ภัทรภาษิต

ดังนั้น ถ้าพิจารณาได้ความว่า พระเอกนางเอก มี ก ารสมรสโดยชอบด้ ว ยกฎหมายแล้ ว และแม่ นางเอก(ผู้ให้) มีเจตนายกทรัพย์สินทั้งหมดดังกล่าว ข้างต้นให้แก่ คูส่ มรสทัง้ สองฝ่ายเป็นของขวัญแต่งงาน (ไม่ได้เจตนายกให้เป็นของส่วนตัวของนางเอกคนเดียว) บ้านพร้อมทีด่ นิ และรถยนต์เหล่านี้ ตามกฎหมายแล้วจึง ตกเป็น ‘สินสมรส’ ของทั้งพระเอกนางเอกซึ่งยังคง เป็นสามีภรรยากันอยู่ ณ ขณะเวลาทีม่ กี ารยกให้นนั้ ครับ

และฉบับหน้าจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับละครเรื่องใดนั้นต้อง ติดตามครับ รับรองว่าความรู้ทางด้านกฏหมายเข้มข้นไม่แพ้เนื้อเรื่องใน ละครแน่นอนครับ


Math Unlimited 25

แคลคูลัส คือ อะไร? มีความส�ำคัญอย่างไร? โดย อ.อนุวัตร จิรวัฒนพาณิช

ตอนที่ 1

อนุพันธ์ของฟังก์ชัน

(Derivative of the function)

ค�ำถามที่พบบ่อยส�ำหรับอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ และผู้สอนรายวิชาแคลคูลัส แคลคูลัส คือ อะไร เรียนแล้วเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง พี่ขอแบ่ง บทความนี้ออกเป็นสองตอนก็แล้วกัน ตอนที่ 1 อนุพันธ์ ของฟังก์ชัน (Derivative of the function) และ ตอน ที่ 2 ปริพันธ์ (integral) อนุพันธ์ของฟังก์ชัน มีความส�ำคัญต่อการศึกษา ด้ า นวิ ท ยาศาสตร์ มี ก ารน�ำไปใช้อย่า งแพร่ห ลายทาง วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การแพทย์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ อนุพันธ์ของฟังก์ชัน f ที่ x ในเชิงเรขาคณิต คือ ความชัน (slope) ของเส้นสัมผัส (tangent line) ของกราฟ f ที่ x เราไม่สามารถหาความชัน ของ เส้นสัมผัส จากฟังก์ชนั ทีก่ ำ� หนดให้โดยตรงได้ เพราะ ว่าเรารู้เพียงจุดบนเส้นสัมผัส ซึ่งก็คือ (x, f (x)) เท่านั้น ในทางอื่น เราจะประมาณความชันของเส้นสัมผัสด้วย เส้นตัด (secant line) หลายๆ เส้น ที่มีจุดตัดทั้ง 2 จุด อยู่ห่างกันเป็นระยะทางสั้นๆ เมื่อหา ลิมิต ของความชัน ของเส้นตัดทีจ่ ดุ ตัดอยูใ่ กล้กนั มากๆ เราจะได้ความชันของ เส้นสัมผัส ดังนั้น อาจนิยามอนุพันธ์ว่าคือ ลิมิตของ ความชันของเส้นตัดที่เข้าใกล้เส้นสัมผัส y

y=f(x)

(x,f(x)) (a,f(a))

0

a

x

x

อัตราการเปลีย่ น แปลงที่ ‘จุดเดียว’ ถ้ามี กราฟแสดงการเจริ ญ เติบโตของต้นไม้ เป็น กราฟที่ บ อกความสู ง ของต้นไม้ ณ เวลาต่างๆ ต้ น ไม้ ห นึ่ ง ต้ น มี ค วาม สู ง ค่ า เดี ย ว ณ เวลา

หนึ่งๆ ความสูงของต้นไม้จึงเป็นฟังก์ชัน มีอินพุตเป็น เวลา และให้ค่าความสูงออกมา เมื่อวาดกราฟฟังก์ชัน ความสูงของต้นไม้ เลือกจุดมาสองจุดบนเส้นโค้งของกราฟ แล้วลากเส้นตรงเชื่อมระหว่างกัน เราจะได้เส้นเอียงๆ (หรืออาจจะไม่เอียงก็ได้) มาเส้นหนึง่ ความชันของเส้นตรง เส้นนั้นเรียกว่าอัตราการเจริญเติบโตของต้นไม้ ถ้าใช้ เรขาคณิตเป็นเครื่องมือ เราจะต้องมีจุดสองจุดที่อยู่บน กราฟของฟังก์ชนั ลากเส้นเชือ่ มเข้าด้วยกันเพือ่ หาความชัน ถ้าเมื่อไหร่เกิดอยากหาอัตราการเปลี่ยนแปลงขณะหนึ่ง คือลงไปดูที่เวลาค่าใดค่าหนึ่งเป๊ะๆ ไม่เอาค่าเฉลี่ยบน ช่วงเวลา เราจะเกิดปัญหากับเรขาคณิตทันที เพราะมีเวลา และค่าของฟังก์ชันแค่จุดเดียว ไม่สามารถหาอัตราการ เปลี่ยนแปลงได้ แต่เรานิยามให้มันคือลิมิตของความชัน ระหว่างสองจุดรอบๆ บริเวณทีเ่ ราต้องการได้ เมือ่ มีสองจุด ในตอนแรกก็หาความชันกราฟได้ปกติ เมื่อสองจุดค่อย เคลื่อนเข้ามาหากัน ความชันกราฟก็จะเป็นค่าที่ค�ำนวณ บนช่วงเล็กลงเรื่อยๆ จนเมื่อสองจุดทับกัน ความชันก็จะ หายไปเพราะไม่สามารถค�ำนวณตรงๆ ได้ แต่เราจะนิยาม มันขึ้นมาให้เท่ากับค่าลิมิตของความชันที่ค�ำนวณจาก ช่วงแคบๆ รอบๆ จุดนั้น พร้อมกับตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า ‘อนุพันธ์’ ผลที่ได้คือเส้นสัมผัสกราฟที่จุด x จากเดิม ที่การวัดความชันต้องสร้าง 2 จุดที่อยู่ห่างกันแล้วลาก เส้นตรงเชื่อมสองจุดนั้น ถ้ากราฟเป็นเส้นโค้ง ความชัน กับเส้นกราฟจะตัดกัน (ไม่สัมผัสกัน) แต่เมื่อลากสองจุด ให้มาอยูต่ ดิ กัน จุดทีค่ ำ� นวณความชันของกราฟจะแตะกับ เส้นสัมผัสพอดี ความชันของกราฟ ณ ต�ำแหน่งนั้น จะ เท่ากับความชันของเส้นสัมผัสกราฟ และมีค่าเท่ากับ อนุพันธ์ที่เราก�ำลังค�ำนวณอยู่ ตอนนี้มีหลายค�ำที่ความหมายเหมือนกัน ได้แก่ ความชันของกราฟ ณ จุดจุดหนึ่ง ความชันของเส้นสัมผัส กราฟ อนุพนั ธ์ และอัตราการเปลีย่ นแปลงขณะหนึง่ ค�ำว่า ความชันเป็นความหมายในเชิงเรขาคณิต ส่วนอัตราการ เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นค�ำทั่วๆ ไป ค�ำว่าอนุพันธ์เป็นชื่อที่ หมายถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด


26 Around Me!

“สารต้านอนุมูลอิสระ” ทานทุกวัน ผิวพรรณผ่อง ช่วยปกป้อง ชะลอแก่ แลสดใส “สารกันเสื่อม” ล้วนส�ำคัญ ทุกวันวัย ไม่เว้นใน พลาสติก,ยาง ต่างเติมเต็ม มนุษย์เราเมื่อมีอายุมากขึ้น อวัยวะส่วนต่างๆ ใน ร่างกายผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน ย่อมอ่อนแอลงและ เสื่อมสภาพไปตามอายุ ผิวพรรณที่เคยสดใสเปล่งปลั่ง ก็ เปลีย่ นเป็นผิวหยาบเหีย่ วย่นเป็นสัจธรรม ร่างกายทีแ่ ข็งแรง สามารถท�ำงานต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ก็เสื่อมสภาพอ่อนแอ

สารต้านอนุมูลอิสระ...รักเธอนะ ลงไปตามวันเวลา ไม่สามารถปฏิบตั งิ านต่างๆ ได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพดังเช่นเคยปฏิบัติ การชะลอความเสื่อมของ ร่างกาย และด�ำรงไว้ซึ่งความสมบูรณ์แข็งแรงของอวัยวะ ต่างๆ ให้ได้ยาวนานที่สุด จึงเป็นเรื่องที่พึงปรารถนาของ มนุษย์ทุกคน และค�ำตอบที่ชัดเจนที่สุด อันเป็นเสมือน กุญแจส�ำคัญช่วยไขปัญหาไปสู่ผลลัพธ์ที่ทุกคนปรารถนา ก็คอื “สารต้านอนุมลู อิสระ” นัน่ เอง ด้วยเหตุนจี้ งึ ก่อให้เกิด การศึกษาวิจยั เกีย่ วกับสารดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนือ่ ง รวมทั้งมีการต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ อันเป็นประโยชน์ตอ่ มวลมนุษยชาติ นานาชนิดไม่วา่ จะเป็น อาหารหลัก อาหารเสริม รวมทั้งเครื่องส�ำอาง ฯลฯ เพื่อ เติมเต็มคุณภาพชีวิตให้สมบูรณ์และยืนยาวยิ่งขึ้น พลาสติกและยางก็ไม่ต่างไปจากมนุษย์ เมื่อมี การใช้งานไปเป็นเวลานาน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ เปลี่ยนแปลง ความร้อน ความเย็น ความชื้น มลภาวะ และปัจจัยด้านลบต่างๆ ที่พลาสติกและยางต้องพบ เจอ ก็ล้วนท�ำให้ผลิตภัณฑ์พลาสติกและยางเสื่อม สภาพได้เช่นกัน ดังนัน้ สารต้านอนุมลู อิสระจึงไม่เพียง มีความจ�ำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ดังเช่นมนุษย์เราเท่านั้น หากแต่ยังมีความส�ำคัญอย่างยิ่งยวดต่อสิ่งไม่มีชีวิต เช่นพลาสติกและยางด้วยเช่นกัน สารต้านอนุมูลอิสระ ในพลาสติ ก และยางอาจไม่ เ ป็ น ที่ รู ้ จั ก อย่ า งกว้ า งขวาง เท่ากับสารต้านอนุมูลอิสระในมนุษย์ก็ตาม แต่หากศึกษา

ท�ำความเข้าใจอย่างลึกซึง้ จะพบว่าบทบาทของสารดังกล่าว นั้ น มี ค วามอั ศ จรรย์ อ ย่ า งยิ่ ง สารต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระใน พลาสติกและยางมีชอื่ เรียกหลายชือ่ แตกต่างกันไป เช่น สาร กันเสื่อม สารกันเหลือง, สารยืดอายุพลาสติก, สารยืดอายุ ยาง หรืออีกหนึ่งชื่อที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางนั่นก็คือ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) นั่นเอง สารแอนตี้ออกซิแดนท์ เป็นสารที่ถูกเติมลงไปใน พลาสติกและยางสังเคราะห์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจาก ไฮโดรคาร์ บ อน ที่ มี ค วามว่ อ งไวต่ อ การเกิ ด ปฏิ กิ ริ ย า ออกซิเดชัน เมื่อเกิดปฏิกิริยาดังกล่าวขึ้นจะมีการสูญเสีย ไอออนไป ท�ำให้สารเกิดความไม่เสถียร ว่องไวกับปัจจัยเร้า ต่างๆ ท�ำให้เกิดปฏิกริ ยิ าลูกโซ่ได้งา่ ย ส่งผลให้พลาสติกและ ยางเกิดการเสื่อมสภาพในที่สุด ดังนั้นการยับยั้งหรือชะลอ การเกิดปฏิกิริยาดังกล่าว จึงมีความส�ำคัญต่ออายุการใช้ งานของผลิตภัณฑ์พลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง ตัวยับยั้ง ปฏิ กิ ริ ย าที่ ไ ม่ พึ ง ปรารถนาดั ง กล่ า วก็ คื อ สารแอนตี้ ออกซิแดนท์ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ สาร แอนตี้ออกซิแดนท์ปฐมภูมิ (Primary Antioxidant) กระบวนการต้านอนุมูลอิสระ จะเกิดขึ้นโดยการเพิ่ม อะตอมของอิ เ ล็ ก ตรอนหรื อ ไฮโดรเจนให้ กั บ สาร อนุ พั น ธ์ ตั ว อย่ า งสารในกลุ ่ ม นี้ ไ ด้ แ ก่ Phenolic Compound ฯลฯ ส่วนอีกหนึ่งประเภทที่จะกล่าวถึง ก็คือ สารแอนตี้ออกซิแ ดนท์ทุติยภูมิ (Secondary


27

ผลิตภัณฑ์หมดอายุก็จะน้อยลง การผลิตใหม่เพื่อทดแทน ของเสียก็ย่อมลดปริมาณลง เมื่อการผลิตลดลง การใช้ พลังงานต่างๆ ที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตก็ย่อมลดลง ตามไปด้วย การเผาผลาญพลังงาน และการปลดปล่อย มลพิษสู่สิ่งแวดล้อมก็ย่อมลดน้อยลง ที่ส�ำคัญ ก็คือปริมาณการใช้สารตั้งต้นหลักในการผลิต พลาสติกและยางสังเคราะห์ ซึง่ มาจากน�ำ้ มัน ดิบและก๊าซธรรมชาติก็จะลดน้อยลงอย่าง มีนัยส�ำคัญ อันจะส่งผลให้ปริมาณส�ำรอง

หมดหัวใจ โดย อุดม นุสาโล

Antioxidant) ซึ่งกระบวนการต้านอนุมูลอิสระ จะเกิด ขึ้นโดยการก�ำจัดตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน และการ ป้องกันสาเหตุตา่ งๆ ทีจ่ ะท�ำให้เกิดการออกซิเดชันได้ ตัวอย่างสารในกลุ่มนี้ได้แก่ Peroxide Decomposers, Phosphite Ester Composite ฯลฯ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ แม้จะมีราคาต่อหน่วยที่สูง แต่จากข้อมูลทีก่ ล่าวมาทัง้ หมด ย่อมสะท้อนให้ประจักษ์ถงึ คุณค่าและความมหัศจรรย์ของสารดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ในมุ ม มองของผู ้ เ ขี ย น จึ ง ขอสนั บ สนุ น อย่ า งเต็ ม ที่ ใ ห้ มี การส่งเสริมการใช้สารดังกล่าวให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นใน กระบวนการผลิตพลาสติกและยาง เพราะการเติมสาร ดั ง กล่ า วในปริ ม าณเพี ย งน้ อ ยนิ ด (โดยทั่ ว ไปประมาณ 0.1-0.5%) จะก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงสร้างสรรค์อย่างมหาศาล ผลลัพธ์ใกล้ตัวที่ชัดเจนก็คือ ช่วยป้องกันพลาสติกและ ยางเสือ่ มสภาพ ท�ำให้มคี วามทนทานมากยิง่ ขึน้ และมีอายุ การใช้งานทีย่ าวนานขึน้ เมือ่ พลาสติกและยางมีอายุการใช้ งานที่นานขึ้น ก็จะน�ำมาซึ่งผลลัพธ์เชิงบวกหลากหลายมิติ กล่าวคือ เมื่อพลาสติกและยางชนิดเดิม รูปร่างเดิม ผลิต จากขั้นตอนเดิม และใช้งานในลักษณะเดิม แต่ทนทานขึ้น ใช้งานได้นานขึ้น นั่นก็หมายความว่า ปริมาณของเสียจาก

ของต้นทุนพลังงานที่มีอยู่อย่างจ�ำกัด สามารถใช้ได้อย่าง มีป ระสิท ธิภาพและยาวนานขึ้น คุณค่า มหภาคอัน เกิด จากการใช้สารแอนตี้ออกซิแดนท์ในระดับจุลภาคนี้ จึง เป็น ความคุ้มค่า ที่อยู่เ หนือข้อโต้แย้งหรือข้อจ�ำกัดใดๆ คุ ณ ประโยชน์ ทั้ ง หมดที่ เ กิ ด ขึ้ น ย่ อ มจะหลอมรวมเป็ น คุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนของมวลมนุษยชาติในที่สุด การคิดดี พูดดี ท�ำดี และท�ำจิตใจให้ผ่องใส คืออีก หนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอดที่ไม่มีต้นทุน แต่สามารถ เติมเต็มความสุขของชีวิตเราได้ ฉันใดก็ฉันนั้น จิตส�ำนึก ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิง่ แวดล้อมรวมทัง้ การยึดมัน่ ในจรรยาบรรณธุรกิจของผู้ประกอบการทุกระดับ ก็คือ หนึ่ ง ในสารต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระชั้ น เลิ ศ ที่ ไ ม่ ต ้ อ งลงทุ น เชิ ง เศรษฐศาสตร์ แต่สามารถช่วยยกระดับวงการพลาสติกและ ยางให้มคี วามยัง่ ยืนได้อย่างไม่ยากเย็น ผูเ้ ขียนเองอาจไม่มี ความรูท้ ลี่ กึ ซึง้ แตกฉาน แต่ทกุ ความรูแ้ ละทุกประสบการณ์ ทีส่ มั ผัสกับ สารแอนตีอ้ อกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมลู อิสระ นี้ มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าสารมหัศจรรย์ชนิดนี้ คือ อัศวินม้าขาว ที่จะน�ำพามวลมนุษย์ก้าวข้ามวิกฤตพลังงาน ที่ร้อนระอุอยู่ในปัจจุบัน ไปสู่ความยั่งยืนทางพลังงานได้ อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไม่ยากเย็น จึงไม่เกินความเป็น จริงหากผู้เขียนจะขอกล่าวอย่างเต็มปากเต็มค�ำและเต็ม หัวใจว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ...รักเธอนะ หมดหัวใจ”


28 Around Me!

รับมือกับปัญหาวัยรุ่นได้ไม่ยาก...

แค่คิดต่าง โดย พญ. ชุตินาถ ศักรินทร์กุล

ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วพบเจอแต่ เรือ่ งสมหวัง ทุกคนล้วนแล้วแต่ตอ้ งเคย เจออุปสรรคในชีวิตกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ ว่าเราเลือกที่จะเครียดทุกข์ใจไปกับมัน หรือเลือกที่จะมองปัญหาในแง่บวกและ สูก้ บั มัน เพียงแค่เปลีย่ นมุมมอง คิดต่าง คิดบวก แล้วทุกอย่างก็จะไม่เป็นปัญหา ส�ำหรับเราอีกต่อไป.....ว่าแต่ เรื่องอะไร บ้างที่วัยรุ่น มักมองว่ามันคือปัญหา บ้างล่ะคะ

อันดับ 1 คงไม่พ้นเรื่องความสวยงามและรูป โฉมภายนอก โดยเฉพาะ เรือ่ งสิวๆ ทีท่ รงอานุภาพบัน่ ทอน ความมั่นใจของเราได้มากจริงๆ และสร้างปัญหาให้กับวัย รุ่น กว่า 35% ที่จะกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อน และหา แฟนไม่ได้ ...อย่ายอมให้สิ่งเหล่านี้ท�ำลายตัวเรา เพียงแค่ เปลี่ยนความคิดของเราใหม่ พร้อมบอกตัวเองว่า เราไม่ได้ เป็นสิวคนเดียวในโลก และเรายังเป็นวัยรุ่นอยู่นะไม่ได้แก่ เสียหน่อย อีกทั้งสิวยังเป็นเครื่องมือคัดแยกคนจริงใจ ให้ เราได้อกี ด้วย ว่า รักแท้หรือแค่หลงรูป ดังนัน้ สิง่ ทีท่ ำ� ได้คอื ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นและกลบสิวด้วยความมั่นใจ ในตนเอง !!!....เช่นเดียวกับเรือ่ งรูปร่างหน้าตา หากเกิดมา ไม่ได้หุ่นดีเหมือนดารา และพยายามที่จะลดน�้ำหนักลด ความอ้วนด้วยวิธีสารพัดก็ไม่เป็นผล หนทางสุดท้ายก็จง ใช้ ค วามอ้ ว นและรู ป ลั ก ษณ์ ที่ เ ราเป็ น มาเป็ น จุ ด ขาย ยอมรับในตัวตน มั่นใจในสิ่งที่ตนเองเป็น และอย่ามัวแต่

ดูถูกตนเองเพราะหากเรายังเรายังรัก ตัวเองไม่ได้แล้วจะให้ใครมารักเรากัน เล่า!! จริงมั้ยคะ ส�ำหรับสาวๆ ที่เกิดมา ไม่ได้ขาวอมชมพู ก็อย่ารู้สึกน้อยเนื้อ ต�ำ่ ใจจนเกินไป.... รูห้ รือไม่วา่ คนผิวคล�ำ้ มีโอกาสเสีย่ งเป็นมะเร็งผิวหนังน้อยกว่า คนผิวขาวนะคะ และนอกจากนี้เวลา เป็นสิวก็จะมองเห็นไม่ค่อยชัด เหมือน คนผิวขาว นัน่ แสดงให้เห็นว่า ยิง่ ผิวขาว มากก็ยงิ่ อ่อนแอมาก และสุดท้าย ความ ด�ำนี่แหละ ถ้าเรายอมรับและมั่นใจกับ มัน ขอบอกว่า เรามีโอกาสโดดเด่นและ แจ้งเกิดได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เลือก การแต่งกายให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ของเรานั่นเอง...


29

อันดับ 2 เรื่องของการมีแฟน ใครที่โหยหาการ มีคู่อย่าเพิ่งเสียใจหรือรู้สึกน้อยเนื้อต�่ำใจคนที่มีคู่แล้ว เพราะการมีคู่ไม่ใช่เครื่องชี้วัดว่า เราจะมีความสุขหรือ เราจะประสบความส�ำเร็จในชีวิตตลอดไป ก่อนอื่นตอบ ค�ำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อนว่า ท�ำไมต้องมีแฟน?? เป็นโสด ก็มีความสุขได้ มิใช่หรือ ?? เป็นคนโสดจะได้มีเวลาให้ ตัวเองมากขึ้น ใช้ชีวิตโสดให้คุ้ม และเมื่อถึงเวลาเจอคน ที่ใช่ จะได้ใช้ชีวิตอย่างคนมีพันธะได้เต็มที่ เพราะคนที่ใช่ ในเวลาที่เหงา กับคนที่ใช่ จริงๆ อาจเป็นคนละคนกัน!! ดังนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาดีกว่าค่ะ.... อันดับ 3 ในเรือ่ งเกีย่ วกับการเรียน บางคนก็รสู้ กึ เหนื่อยหน่ายกับการบ้าน แต่รู้มั้ยว่า การท�ำการบ้านน่ะ เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับตอนโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต้อง ท�ำงาน ยากกว่านี้หลายร้อยเท่า คล้ายๆ กับอาจารย์ของ เราที่ต้องตรวจการบ้านของนักเรียนเป็น ร้อยๆ ซะอีก ดังนั้น ก็หาวิธีจัดการกับการบ้านไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เถอะ เพราะประโยชน์ที่มากไปกว่านั้น คือท�ำให้เรารู้จัก ตนเอง ว่าชอบอะไร อยากเรียนอะไร จะได้ตดั สินใจส�ำหรับ เส้นทางอาชีพในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย

อันดับ 4 เรื่องปัญหาการใช้จ่าย มักมีสาเหตุ อันเนื่องมาจาก การใช้จ่ายเกินตัว ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย ไม่ประหยัดอดออม ไม่วางแผน และไม่ฉลาดในการใช้... อย่าลืมว่า ไม่ใช่คนจนทุกคน คือคนโง่ แต่คนโง่ทุกคน คือ คนจน จ�ำไว้เตือนสติตัวเอง ต้องรู้จักประมาณตน และใช้ เงินให้สมกับฐานะของตนเอง โดยยึดตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง เพราะคนที่รู้จักพอจะไม่เคยเจอกับความจน การเก็บหอมรอมริบประหยัดอดออม ในวัยเรียนสิง่ ทีท่ ำ� ได้ คือ งดกินขนมจุกจิกไม่มีประโยชน์ คุยโทรศัพท์ให้น้อยลง งดโหวตรายการโทรทัศน์ งดเทีย่ วดูหนังไร้สาระ มีตงั้ หลาย วิธี ลองตรึกตรองดูนะคะ ที่ส�ำคัญต้องจดท�ำบัญชีรายรับ รายจ่ า ยเพื่ อ เป็ น กระจกสะท้ อ นพฤติ ก รรมการใช้ เ งิ น ที่ไม่เหมาะสมและตัดทอนมันออกไปให้ได้ และจะได้ เหลือเงินเพื่อการออมอย่างฉลาด ส่งผลให้เรามีอนาคต ทางการเงินที่มั่นคง บวกกับความขยันหมั่นเพียร ก็จะ ท�ำให้ไม่เป็นโรคทรัพย์จางอย่างแน่นอนค่ะ เรื่องสุดท้ายในวันนี้ คือ ความขัดแย้งกับพ่อแม่ หลายคนมีไอดอลในใจ แต่ไม่ถูกใจพ่อแม่... อยากให้ลอง ตระหนักและตั้งสติทบทวนดูนึดนึงว่า...วันนี้ เราลงทุนมี ปัญหากับพ่อแม่ เพียงเพื่อคนที่ไม่รู้ด้วยซ�้ำว่า เรามีตัวตน อยู่บนโลกนี้ อยู่หรือไม่???? การมีไอดอลในดวงใจไม่ใช่ เรือ่ งผิด แต่สงิ่ ทีส่ ำ� คัญกว่า คือ เราเลือกเอาส่วนดีดา้ นไหน จากเขามาต่างหาก ไม่ใช่ยอมแลกสิ่งที่มีค่าในชีวิต เพื่อ อะไรที่ไม่ใช่สิ่งส�ำคัญ หรือเพราะเราส�ำคัญมันผิดไป !!! ดังนั้น พบกันครึ่งทาง และคุยกันด้วยเหตุผล คงจะเป็น ทางออกที่ดีที่สุดของปัญหานี้ค่ะ


30 เวทีคนเก่ง

น.ส.นภาภรณ์ เอลเลอร์มันน์ หรือ เจนนี่ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย จากผลงานการวาดรูป ถ่ายทอดความคิด มุมมอง ผ่านศิลปะ ที่สวยงาม จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน คือ “เจนนีส่ นิทกับแม่ และน้อง มากๆ ค่ะ ปกติทบี่ า้ นจะไม่คอ่ ยได้ออก ไปท่องเที่ยวที่ไหน แต่กิจกรรมที่เราท�ำร่วมกันเป็นประจ�ำคือ การวาดรูป ระบายสี รวมไปถึงงานประดิษฐ์ตา่ งๆ ส่วนหนึง่ คือแม่ชอบด้วย ท�ำให้เรา ซึมซับและถูกปลูกฝังไปโดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ” จากงานอดิเรกสู่ความสามารถที่น�ำชื่อเสียง รางวัล รวมไปถึง รายได้ มาสู่ครอบครัว เจนนี่เล่าว่าคุรครูเห็นความสามารถจึงส่งเสริม ชักน�ำให้เข้าร่วมประกวดวาดภาพในโครงการต่างๆ เมื่อได้รับรางวัล ส่ง ผลให้เจนนีพ่ ลิกจากงานอดิเรกให้กลายเป็นโอกาสของชีวติ รางวัลต่างๆ ยังช่วยสร้างรายได้ ท�ำให้เจนีแ่ บ่งเบาภาระของครอบครัวได้ไม่นอ้ ยทีเดียว “แม้วา่ แรงบันดาลใจเหล่านีค้ อื ต้องการล่ารางวัล เพราะขาดแคลน ทุนทรัพย์ แต่พอผ่านไปเรากลับรู้สึกหลงรัก ลงมือท�ำเพราะชอบหัวข้อ รูส้ กึ ท้าทาย อยากจะลงมือวาด และคิดเสมอว่าท�ำให้เต็มทีใ่ ห้ดที สี่ ดุ ก็นบั ว่าบรรลุเป้าหมายของเราแล้วค่ะ”

น.ส.นภาภรณ์ เอลเลอร์มันน์ (เจนี่) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศิลปะ

เวทีคนเก่ง :

กิจกรรมที่ท�ำให้เราได้พบกับความสุข และสิ่งส�ำคัญที่เจนนี่ได้รับจากศิลปะในมือ นอกจากรายได้ และ รางวัลต่างๆ นั้น คือ ได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ฝึกสมาธิ จิตใจเย็นสงบ และรับรู้ถึงความละเอียดอ่อนของตัวเองเวลาได้ลงมือวาดภาพ รวมถึง การได้ฝกึ คิดวิเคราะห์ตา่ งๆ ทัง้ จากการตีความโจทย์หวั ข้อ ทุกสิง่ ล้วนส่ง

ผลให้เจนนี่เกิดความสุขทุกครั้งที่ได้ลงมือวาด ภาพ และเจนี่ยังเชื่อมั่นเสมอว่าศิลปะไม่ใช่ เรื่องไกลตัวอย่างที่ใครๆ หลายๆ คนคิดค่ะ

ผลงานที่ผ่านมา

• รางวัลดีเยี่ยม ศิลปะเด็กแห่งเอเชีย ครั้งที่ 8 • รางวัล 1 ใน 8 จากการประกวดศิลปะเด็กแห่งเอเชีย ครั้งที่ 9 • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการประกวดวาดภาพและ แต่งกลอนสดในงานยุวกวี ครั้งที่ 29 • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 หัวข้อ "ดั๊บเบิ้ล เอ ปลูกกระดาษ ให้โลกใช้" • รางวัลชมเชย "ร้อยเรียงสิบดวงใจเป็นหนึง่ เดียว" เนือ่ งในโอกาส ครบรอบ 40 ปี อาเซียน กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รางวัลที่ 1 "ปฐมพยาบาล : ดูแลตนและคนรอบข้าง" ของสภากาชาดไทย รางวัลรองชนะเลิศ "รักชาติ รักษ์มวยไทย" และ "อนุรักษ์มวยไทย ให้ก้องไกลไปทั่วโลก" ของโครงการอีซูซุเยาวชนสัมพันธ์ 2552

• •


มองชีวิตคิดดี 31

สามโลร้อย

โดย ดร.ศิริวรรณ เกษมศานต์กิดาการ

สวัสดีค่ะหลานๆ ที่น่ารัก

ฉบับนี้หลานคงคิดว่าป้ามาแปลก … ไม่ได้ขายผ ลไม้หรอกค่ะ เหตุคือ วันก่อนพบลูกศิษย์ที่ไม่ได้พบกันมาปีนึง เดิมเป็นชายหนุ่มรูปงามสูง 180 ซม. หนัก 80 กิโ ล ไปไหนเก้งกวางกรูเกรียว มาปีนี้ “สามโลร้อย” ค่ะ คืออีกสามกิโลครบร้อยกิ โล ขึ้นมา 20 กิโลในปีเดียว หนุ่มคนนี้บอกว่ารับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ คื อสายกับดึกมากๆ ค่ะ ป้าเลยอยากแนะน�ำ คาถาลดความอ้วนของพระพุ ทธเจ้าค่ะ คาถานี้พระพุทธเจ้าท่านเมตตาพระราชทานแด่พ ระเจ้าปเสนทิโกศลนะคะ ความว่า มะนุชัสสะ สะทา สะตีมาโต มัตตัง ชานะโต ลัทธะโภชะเน ตะนุกุสสะ ภะวันติ เวทะนา สะณิกัง ชีระติ อายุ ปาละยัง ถอดความได้ว่า “ผู้มีสติรู้ตัวตลอดเวลาขณะ รับประทานอาหาร จะมีโรคน้อย แก่ช้า และอายุยืน” ค่ะ หลานๆ รับประทานอาหารอย่างมีสติหรือเปล ่าคะ ตั้งใจไว้เลย อีก 2-3 ค�ำจะอิ่มให้หยุด เหลือที่ไว้ส�ำ หรับน�้ำเปล่า ตั้งกฎไว้ว่า “จงรับประทานอาหารเช้าอย่างราชา อาหารกลางวันอย่างคนธรรมดา และอาหารเย็นอย่างยาจก” และหลังอาหารเย็นแปรงฟันทันที จะไม่มีอาหารดึ ก แล้วหลานจะเปลี่ยนพุงให้เป็นท้อง หวังว่าหลานป้าไม่มีใคร “สามโลร้อย” นะคะ ป้า​เอง


“ไม่ใช่แค่ให้ โตได้ แต่อยากให้ โตดี”


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.