เบิกฟ้า ฉบับที่ #18

Page 1

free copy

ฉบับที่ 18 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2556

ออกแบบปก : ชุติมา ประสานทรัพย์ www.facebook/petch chutima

สีน�้ำ กวีและบทเพลง Art Appreciation

Young Designer ชุติมา ประสานทรัพย์ DM Graduate

แม่น�้ำสายส�ำคัญ Wow! Asean


02 Editor Talk

มูลนิธิ​ด�ำรง​ชัย​ธรรม ก่อ​ตั้ง​ขึ้น​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2542 โดย​คุณ​ไพบูลย์ ด�ำรง​ชัย​ธรรม มูลนิธิ​ได้​มอบ​โอกาส​ทาง การ​ศึกษา​ให้​กับ​เยาวชน อีก​ทั้ง​ยัง​ส่ง​เสริม​ให้​เยาวชน​ได้​ ท�ำ​กิจกรรม​ต่างๆ เพื่อ​พัฒนา​ตนเอง​ตามศักยภาพ อาทิ กิจกรรม​โครงการ​สถานี​อาสา โครงการ​ยอ่ ​โลก​ทงั้ ​ใบ​ให้​เด็ก ​ไทย​ได้​รู้จัก และ​วารสาร​เบิก​ฟ้า บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ปราโมช รัฐวินิจ (กรรมการและผู้อ�ำนวยการมูลนิธิ) ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประธานกรรมการมูลนิธิ : ไพบูลย์ ด�ำรงชัยธรรม กรรมการและเลขานุการ : ฟ้าใหม่ ด�ำรงชัยธรรม กรรมการและเหรัญญิก : สุวิมล จึงโชติกะพิศิฐ กรรมการ : อรุณ วัชระสวัสดิ์ มานิจ โมฬีชาติ จิราภรณ์ วิญญรัตน์ ทอรุ้ง จรุงกิจอนันต์ สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา บุษบา ดาวเรือง ไชย ณ ศิลวันต์ ประภาวดี ธานีรนานนท์ ระฟ้า ด�ำรงชัยธรรม ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมมูลนิธิ : ไศล วาระวรรณ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ ณัฏฐา ทับทอง กองบรรณาธิการ ทีมงานมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม

คิดเห็นอย่างไร เมื่อรับรู้ข้อมูลเรื่อง การจัดอันดับคุณภาพ การศึ ก ษาของประเทศในกลุ ่ ม อาเซี ย น ซึ่ ง ประเทศไทยเรา ได้คะแนนอยู่ในอันดับ 8 ถือว่าต�่ำที่สุด เป็นรองจากประเทศ เวียดนาม ที่ได้อันดับ 7 และประเทศกัมพูชา อันดับ 6 นอกจากเรื่องการส�ำรวจและจัดอันดับผลสัมฤทธิ์ ความ สามารถในการเรี ย นแล้ ว มี เ รื่ อ งอื่ น ๆ ที่ เ ป็ น เป้ า หมายทาง การศึกษาอีกไหมหนอ ในสมุดรายงานของเด็กๆ แต่ละเทอม ครูและผู้ปกครองจะเขียนแสดงความเห็นว่าเรามีความประพฤติ หรือลักษณะนิสัยอย่างไร ก็ถือเป็นความสัมฤทธิ์ในอีกแบบหนึ่ง ได้ มีน�้ำใจ ตั้งใจเรียน อ่อนน้อม รักการอ่าน มีความพยายาม เป็นผู้น�ำช่วยเหลือเพื่อน มีทักษะการแก้ปัญหา ช่วยงานบ้าน หารายได้ เ สริ ม หรื อ ตรงกั น ข้ า ม ขี้ เ กี ย จ ชอบแกล้ ง เพื่ อ น ไม่ตั้งใจเรียน มาเรียนสาย ก้าวร้าว ลักขโมย ฯลฯ พระหรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ปราชญ์แห่ง ยุคสมัย กล่าวไว้ว่า “การศึกษามีความหมายอย่างหนึ่งว่า เป็นการฝึกฝนพัฒนาคนให้รู้จักด�ำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ดีงาม” อาจไม่ต้องรอให้ใครมาประเมิน เด็กๆ ส�ำรวจตัวเอง ได้ เ ลย เรี ย นเก่ ง นิ สั ย ดี อั น นี้ ช นะเลิ ศ เรี ย นไม่ เ ก่ ง มากแต่ มี คุณลักษณะนิสัยที่ดีอันนี้พัฒนาได้ไปรอด เรียนเก่งแต่นิสัยไม่ดี อันนี้ต้องลุ้นอาจจะพอกล้อมแกล้มอยู่ได้ แต่อยู่แบบไม่ค่อย จะมีความสุขนัก ส่วนแบบสุดท้ายเรียนไม่เก่งแถมลักษณะนิสัย ก็ไม่เข้าท่าอีก แบบนี้ตอบเลยว่าอยู่ยากจริงๆ

โชค​ดนี​ ะ​คะ

วารสารเบิกฟ้า ผลิตโดยมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม ส�ำนักงาน เลขที่ 50 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ : 02-669-9611-7, 02-669-9711-8 โทรสาร : 02-669-9614 E-mail : damrongchaitham@damrongchaitham.com Website : www.damrongchaitham.com Facebook : www.facebook.com/DMfoundation.dm จัดพิมพ์โดย บริษัท วงตะวัน จ�ำกัด 555 ถนนประชาอุทิศ แขวง ดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ : 02-981-1333 โทรสาร : 02-981-1340

พี่​เจี๊ยบ (ณัฏฐา ทับทอง)

หัวหน้ากองบรรณาธิการ www.facebook.com/berkfaa Natha_tub@damrongchaitham.com


My Columnists 03

คอลัมน์นิสต์ รับเชิญพิเศษ :

มองชีวิตคิดดี โดย ดร.ศิริวรรณ เกษมศานต์กิดาการ อาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Life Coaching, Art Appreciation โดย ผศ. อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ประจ�ำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Guidance โดย รอยฝัน (คุณสุรวิทย์ อัสพันธุ์) Thinking Talking โดย คุณเมธา มาสขาว

คอลัมน์นิสต์ กลุ่มบัณฑิตทุน มูลนิธิด�ำรงชัยธรรม :

English for Fun โดย จิรวัฒน์ มหาสาร บัณฑิตทุนรุ่นที่ 7 : เจ้าหน้าที่ประสานงานเอกสิทธิ์ทางการฑูต ณ สถานทูตอเมริกาประจ�ำประเทศไทย ก.เอ๋ย ก.ไก่ โดย ยามเย็น (สนธยา สุขอิ่ม) บัณฑิตทุนรุ่นที่ ุ : อาจารย์ประจ�ำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลพบุรี Hi! Japanese โดย ครูหนาว (มานิต วงศ์มูล) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 6 : ครูสอนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนอุตรดิตถ์ Experience โดย กุ้งนาง (อนิจธิยา นิลบรรหาร) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 4 : นักศึกษาปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ ด้านการสอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี A-R-T โดย MR.BOM (สุริยน แก้ววังสัน) บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่นกัด Help for Health โดย ภญ.บุษบงก์ ธรรมมาสถิตย์กุล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : เภสัชกรประจ�ำโรงพยาบาลต�ำรวจ Scitech โดย Spocky (ปรัชญา มณีทักษิณ) นักเรียนทุนรุ่นที่ 9 : นักศึกษาชั้นปีที่4 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี Wow! Asean โดย สุวิมล จินะมูล บัณฑิตทุนรุ่นที่ 6 : ผู้สื่อข่าว TNN24 กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา โดย ธนา ภัทรภาษิต บัณฑิตทุนรุ่นที่ 11 : นายทหารสารวัตรสืบสวนสอบสวน พล.ปตอ. Math Unlimited โดย อนุวัตร จิรวัฒนพาณิช บัณฑิตทุนรุ่นที่ 3 : อาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต Around Me! โดย นายกรวิทย์ ไชยสุ บัณฑิตทุนรุ่น 7 : นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพด้านอาหาร คณะเกษตรเขตร้อน มหาวิทยาลัยแห่งชาติผิงตง ประเทศใต้หวัน


04 Art Appreciation

เป้ สีน�้ำ หรือ อรรณพ ศรีสัจจา เป็นศิลปินวาดภาพสีน�้ำจากบ้านแพ้วซึ่งเป็น ทีร่ จู้ กั กันมานานกว่าสามสิบปี งานเขียนสีนำ�้ ของเขาสะท้อนถึงความลุ่มหลงในการมอง แสงเงาของธรรมชาติที่สะท้อนอยู่บนผิวมัน ของใบไม้ และพลิ้วไหวของระลอกคลื่น

ผลงานของเขาได้รบั การยอมรับว่าน�ำแรงบันดาลใจจากสิง่ ละ อันพันละน้อยใกล้ตวั ตัง้ แต่ถว้ ยกาแฟ ใบไม้ ชีวติ บ้านสวน และชุมชน ริมน�้ำ มาน�ำเสนอได้อย่างมีชีวิตชีวาและงดงามจับใจ โดยเฉพาะ อย่ า งยิ่ ง ผลงานในช่ ว งหลั ง จากที่ เ ขาย้ อ นกลั บ ไปหารากเหง้ า ที่ บ้านแพ้ว ริมคลองด�ำเนินสะดวก จนกระทั่งย้ายไปตั้งโรงเรียน ธรรมชาติบ้านริมน�้ำ บนเรือกระแชงสอนวาดรูปสีน�้ำอยู่ในชุมชนริม แม่น�้ำนครชัยศรี อ.บางเลน จังหวัดนครปฐม จินตนาการ และทักษะที่พัฒนามาทั้งชีวิตท�ำให้พู่กันในมือ ของเขา ระบายหยดของสีน�้ำกลายเป็นเส้นเป็นสีเนรมิตให้บ้านไม้ เก่าๆ ริมน�้ำ เรือกระแชง กล้วยและใบตอง กระทั่งถ้วยกาแฟมีชีวิต สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในงานของเขานอกจากภาพสีน�้ำแล้ว ยัง ได้แก่ บทกวี ทีเ่ ขามักเขียนประกอบรูปภาพอย่างเรียบง่ายจับใจ เมือ่ ผสานกับตัวตนที่เคยเป็นนักร้อง/นักดนตรีอะคูสติก การชื่นชมงาน ของเขาจึงท�ำให้ผู้ชมที่รู้จักเขาเป็นอย่างดีจินตนาการถึงเสียงบทกวี และบทเพลงไปพร้อมๆ กับการชมภาพวาด และนึกสงสัยอยู่คราม ครั น ว่ า ระหว่ า งที่ เ ขาระบายสี น�้ ำ วาดภาพเหล่ า นั้ น บทกวี แ ละ บทเพลงบทไหนกันทีท่ ำ� ให้หวั ใจของจิตรกรอ่อนโยนขนาดทีม่ องเห็น สีในแสง และแสงในสีของหยดน�ำ้ ทีป่ ดั ปาดระบายจนเกิดเป็นระลอก คลื่น สายลมไหว และเงาใบไม้เช่นนี้ ปัจจุบัน เขาจัดกิจกรรมอบรมทางศิลปะ-ดนตรี-กวี รวมไปถึง กิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ อยู่ที่ จังหวัดนครปฐม ติดตามผลงานและ กิจกรรมของเขาได้ที่ http://www.peseenam.com/

สีน�้ำ กวี และบทเพลง โดย blue


English for Fun 05

I am in/on the car? โดย Jirawat

ในช่วงปิดภาคเรียนน้องๆ คงมีความสุขกับการพักผ่อนกันใน หลากหลายรูปแบบ บ้างก็กลับบ้าน ไปหาครอบครัว บ้างก็เดินทางไป พักผ่อนตามสถานทีต่ า่ งๆ ทัง้ หมด ล้วนอาศัยการเดินทางทัง้ สิน้ ฉบับ นี้ เ รามาเรี ย นรู ้ ภ าษาอั ง กฤษที่ เกีย่ วข้องกับการใช้ยวดยานพาหนะ กันดีกว่าครับ ในการเดิ น ทางสั ญ จรโดย หลักๆ จะมีทางรถยนต์ รถโดยสาร ประจำ�ทาง รถแท็ ก ซี่ รถไฟ และ เครื่ อ งบิ น เป็ น ต้ น แต่ รู้ ไ หมว่ า คำ� บุ พ บท หรื อ Preposition ของ ยานพาหนะแต่ ล ะประเภทใช้ ไ ม่ เหมือนกัน แล้วแตกต่างกันอย่างไร เรามาดูกันครับ Prepositions ทีเ่ ราใช้หลักๆใน ยานพาหนะจะมี 2 ตัวคือ “in” กับ "on” หลักการใช้มีดังนี้ครับ

Car / Taxi

หากเราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถแท็กซี่และจะบอก ว่าตอนนี้เรากำ�ลังอยู่บนรถ เราจะใช้ Preposition “in” เช่น “I am in the car going back to my hometown in Roi Et.” “ตอนนี้ฉันอยู่บนรถกำ�ลังกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด" สังเกตว่าเราจะไม่ใช้ on the car เพราะนั่นจะแปลว่า เรานั่งอยู่บน หลังคารถ ซึ่งเราจะใช้ on ได้ในกรณีที่เราไม่ได้พูดถึงเรื่องการเดินทาง เช่น อาจ จะบอกว่าเรากำ�ลังซ่อมหลังคารถอยู่

Train / Airplane / Bus / Ship

หากเราเดินทางโดยรถไฟ เครื่องบิน หรือรถโดยสารประจำ�ทาง เราจะใช้ Preposition “on” เช่น “I am on the train right now traveling to Chiang Mai with my family.” "ตอนนี้ฉันอยู่บนรถไฟกำ�ลังเดินทางไปเชียงใหม่กับครอบครัว" สังเกตว่าหากเป็น Public Transportation หรือระบบขนส่งมวลชนเราจะ ใช้ Preposition คำ�ว่า “on” โดยมาจากคำ�ว่า "on board” นั่นเองครับ หลักการใช้ Prepositions ไม่ได้มีหลักจำ�กัดที่ตายตัว น้องๆ ต้อง อาศัยการอ่านและฟังบ่อยๆ เรียนรู้ไปทีละนิดนะครับ เจอกันฉบับหน้า ฉบับนี้สวัสดีครับ


06 ก.เอ๋ย ก.ไก่

“ข่าวถอนปริญญาเอก ลอกเลียนผลงานวิทยานิพนธ์”

น้องๆ น่าจะเคยทราบเกีย่ วกับข่าวนี้ เพราะโด่งดังมากในวงวิชาการ ข่าวดังกล่าวได้ชว่ ยย�ำ้ เตือนให้เห็นว่า การแอบ อ้างหรือคัดลอกผลงานทางวิชาการของผูอ้ นื่ เป็นสิง่ ทีผ่ ดิ กฎหมาย และไม่ควรกระท�ำ เพราะผลงานทางวิชาการ งานเขียน ต่างๆ จะมีกฎหมายลิขสิทธิ์รองรับโดยอัตโนมัติ ด้วยความห่วงใย ก.เอ๋ย ก.ไก่ จึงน�ำวิธีการเขียนอ้างอิงมาฝากทุกคน ฉบับนี้จะขอแนะน�ำการอ้างอิงที่น้องๆ คุ้นเคยก็คือ การเขียน “บรรณานุกรม” ที่ต้องเขียนไว้ท้ายเล่มผลงาน ในที่นี้ จะขอแนะน�ำการเขียนบรรณานุกรมจากหนังสือ และสื่อสารสนเทศจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่น้องๆ นิยมน�ำมาอ้างใน งานเขียน

ระวัง! เป็นขโมย โดย ยามเย็น

ประเภทหนังสือ

ชื่อ/ชื่อสกุล./(ปีที่พิมพ์)./ชื่อหนังสือ/(ครั้งที่พิมพ์)./ สถานที่พิมพ์:/สำ�นักพิมพ์. ตัวอย่าง อังคาร จันทาทิพย์. (2556). หัวใจห้องที่ห้า (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ผจญภัย.

ประเภทสารสนเทศจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ชื่อผู้เขียน./(ปีที่แก้ไขหรือปรับปรุง)./ชื่อเรื่อง./สืบค้น/ เดือน/วันที่,/ปี,/จาก/แหล่ง ตัวอย่าง THAIBIZCOM. (2556). เราพร้อมหรือยังภาษาอังกฤษจะเป็น ภาษากลางของอาเซียน. สืบค้น ตุลาคม 3, 2556, จาก http://www. thaibizcom.com/ /2013/09/asean-english/ หมายเหตุ : 1. ใช้รูปแบบการอ้างอิงของ The Publication Manual of the American Psychological Association หรือ APA style 2. วิ ธี ก ารเขี ย นอ้ า งอิ ง มี ห ลายรู ป แบบ ขึ้ น อยู่ กั บ สถาบั น หรื อ หน่ ว ยงาน จะเลือกใช้รูปแบบใด 3. เครื่องหมาย (/) แทนเว้นวรรคหนึ่งตัวอักษร

เกร็ดความรู้ ไม่ต้องมีคำ�นำ�หน้าชื่อ ตำ�แหน่ง ทางวิชาการ กรณีผู้แต่งที่มี ฐานันดรศักดิ์ บรรดาศักดิ์ และยศ ให้กลับคำ�ที่ระบุไว้หลังชื่อสกุลโดย มีเครื่องหมาย (,) คั่น เช่น อนุมานราชธน, พระยา. ถ้าหนังสือพิมพ์ครั้งแรก ไม่ต้อง ระบุว่า พิมพ์ครั้งแรก หรือ พิมพ์ ครั้งที่ 1 ปรากฏปีที่พิมพ์ ใช้ อักษรย่หากไม่อ (ม.ป.ป.) ไม่ได้ระบุสถาน ที่จัดพิมพ์ ผู้จัดพิมพ์ สำ�นักพิมพ์ หรือโรงพิมพ์ ใช้อักษรย่อ (ม.ป.ท.)

กรมจะเรียง ตามอัการเรีกษรยงบรรณานุ ก-ฮ ถ้าอักษรตัวแรกซ้ำ� กันให้พิจารณาตามรูปสระเหมือน ลำ�ดับคำ�ในพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน


Hi! Japanese 07

ฬ ีก

ย า ็ น ว ป ิ เ เ ศ ษ ้ า ฮ ฮ ไ า ้ ฬ ี าก โดย ครูหนาว


08 DM Graduate

Young Designer ชุติมา ประสานทรัพย์ “Creative is not the finding of a thing , but the making something out of it after it is found” by James Russell Lowell

ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่การมองหาสิ่งใหม่ๆ แต่เป็นการสร้างสิ่งใหม่จากสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นแล้ว

หากเป็นคนในแวดวงแฟชั่นก็จะรู้ว่าในช่วงไม่กี่ปี ที่ผ่านมา วงการแฟชั่นไทยมีการเติบโตเป็นอย่างมาก ดี ไ ซน์ เ นอร์ ห น้ า ใหม่ ต ่ า งสนุ ก กั บ การผลิ ต ผลงานใน คอลเลคชั่นต่างๆ เพื่อถ่ายทอดแนวคิดและเอกลักษณ์ ในผลงานของตัวเอง รวมไปถึงสาวน้อยคนนี้ ‘เพชรน.ส.ชุติมา ประสานทรัพย์’ Young Designer ของ ชุดชัน้ ในแบรนด์ไทยวาโก้และผลิตภัณฑ์ในเครือ อาทิ pop line หญิงสาววัยสดใสกับงานออกแบบแฟชั่นชุดชั้นใน ชิ้นเล็กๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ๆ ที่อยู่ใกล้ตัวของผู้หญิงทุกคน เพชรเป็นบัณฑิตทุนรุ่นที่ 9/2553 ของมูลนิธิ ด�ำรงชัยธรรม จบการศึกษาจากสาขาประยุกต์ศิลป ศึ ก ษา คณะมั ณ ฑณศิ ล ป์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร “จริงๆ เพชรเรียนศิลปะมาทางด้านงานเพ้นท์ แต่ในช่วง การเรียนระดับชั้นปี 4 ได้มาฝึกงานที่ นิตยสาร her word ซึ่งเป็นนิตยสารแฟชั่น ซึ่งก็ได้เรียนรู้เรื่องของงานแฟชั่น ที่มากขึ้น ช่วงนั้นก็สนใจเรื่องของผ้า ลายผ้า เรื่องของสี ดูเป็นความลงตัวของศิลปะการแต่งกาย หลังจากฝึกงาน จบ บริษัทไทยวาโก้มาเปิดบูทรับสมัครงาน เลยลองยื่น portfolio วันนั้นสัมภาษณ์และลองท�ำงานตามโจทย์ที่ ได้รับ จนสุดท้ายก็ได้รับพิจารณาเข้าร่วมงาน ตอนนี้งาน ที่เพชรรับผิดชอบอยู่คือ ในส่วนของออกแบบชุดชั้นใน

ซึ่งมีทั้งเสื้อชั้นใน กางเกงใน ชุดนอน ชุดเก็บสรีระต่างๆ ที่กว่าจะได้แบบได้สินค้าสักชิ้น ก็ต้องประยุกต์เอาความรู้ ทั้งศาสตร์และศิลป์มารวมกันทั้งหมด ไม่ง่ายเลยนะคะ’’ ไม่ง่ายอย่างไร ลองไปฟังเพชรเล่าค่ะ “เริ่มแรกที่ เข้ามาท�ำงานเพชรยังไม่ได้ท�ำงานออกแบบเลยทันที แต่ ต้องไปเรียนเรื่องสรีระโครงสร้างร่างกาย หุ่น การวาด แพทเทิรน์ เรียนเรือ่ งพัฒนาการของคนในแต่ละช่วงวัย เช่น ส�ำหรับวัยเด็ก อายุ 5-12 ปี วัยนี้อาจจะยังไม่มีหน้าอก แต่ ต้องวางพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของร่างกายให้ เราก็จะ ออกแบบเป็นพวกเสือ้ กล้าม โตขึน้ มาอีกหน่อยช่วงอายุ 12 19 ปี เป็นวัยรุ่น ก็ต้องแบ่งออกไปอีก บางคนเป็นวัยรุ่นที่ มีหน้าอกขนาดเล็ก ก็อาจจะต้องการความมั่นใจ ก็ต้องมี เสื้อชั้นในที่มีฟองน�้ำเพิ่มขึ้นช่วยลดจุดบกพร่อง ในขณะ เดียวกันวัยรุน่ ทีม่ หี น้าอกขนาดใหญ่ เราก็ตอ้ งออกแบบเสือ้ ชั้นในที่สามารถช่วยเรื่องการจัดทรงให้ได้รูปสวย กระชับ สามารถท�ำกิจกรรมอืน่ ๆ ได้อย่างคล่องตัว เช่น ในกิจกรรม การเล่นกีฬาหรือออกก�ำลังกาย วัสดุแบบไหนทีช่ ว่ ยในการ รับน�ำ้ หนัก ดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบจากการออกก�ำลัง เรา นักออกแบบก็ตอ้ งท�ำความเข้าใจ เรือ่ งเนือ้ ผ้า ผ้าแบบไหน มีคุณสมบัติอย่างไร อุ้มน�้ำ ซับเหงื่อ ยืดหรือหดตัวอย่างไร


09

อารมณ์ความรู้สึกล้วนมีอิทธิพลกับผู้หญิง อย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่ดีไซน์เนอร์ ต้องเรียนรู้เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ ของการใช้งานและความชอบความรู้สึก ของผู้สวมใส่ สวยแต่ใส่ไม่สบายก็ถือว่า งานออกแบบไม่ตอบโจทย์ ฉะนั้นในหนึ่งชิ้นงาน กว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ส�ำหรับผู้บริโภค มีขั้นตอนที่ใช้เวลาและความใส่ใจไม่น้อยเลย

ชื่อ : น.ส.ชุติมา ประสานทรัพย์ (เพชร) บัณฑิตทุน : รุ่นที่ 9/2553 ของมูลนิธิด�ำรงชัยธรรม การศึกษา : สาขาประยุกต์ศิลปศึกษา คณะมัณฑณศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร การท�ำงาน : Designer ชุดชั้นในสตรี บริษัทในเครือไทยวาโก้ จ�ำกัด


10 ตะขอที่ใช้ต้องเป็นวัสดุอะไรที่จะไม่ท�ำให้เกิดการระคายเคือง สายบ่าซึ่งเป็นอุปกรณ์ส�ำคัญในการช่วยไม่ให้ผู้หญิงปวดหลัง ก็ต้องรู้และเลือกวัสดุที่เหมาะสม ลวดลายรวมถึงสีสันของผ้า ก็เป็นสิ่งที่ต้องค�ำนึงเพราะอารมณ์ความรู้สึกล้วนมีอิทธิพล กับผู้หญิงอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ ดีไซน์เนอร์ต้องเรียนรู้เพื่อ ตอบสนองวัตถุประสงค์ของการใช้งานและความชอบความรูส้ กึ ของผู้สวมใส่ สวยแต่ใส่ไม่สบายก็ถือว่างานออกแบบไม่ตอบ โจทย์ ฉะนัน้ ในหนึง่ ชิน้ งานกว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สำ� หรับ ผู้บริโภคมีขั้นตอนที่ใช้เวลาและความใส่ใจไม่น้อยเลย “แรงบันดาลใจในการท�ำงาน ความคิดสร้างสรรค์ เป็น เรื่องส�ำคัญมาก นักออกแบบที่ดี ต้องพยายามเรียนรู้ เปิดใจ และไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ มีการประยุกต์ ปรับให้ทุกอย่างให้ เข้ากับงานได้ เช่น เราเป็นนักออกแบบชุดชัน้ ใน แต่เราก็จำ� เป็น ทีจ่ ะต้องสนใจเทรนด์ แฟชัน่ อืน่ ๆ ด้วย ต้องดูกว้างๆ ดูแม้กระทัง่ เทรนด์เฟอร์นิเจอร์ เทรนด์รถยนต์ เทรนด์อาหาร เพราะศิลปะ ทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน เราก็เลือกเอามาปรับใช้กับงานเรา หลายครั้งเลยทีเดียวแรงบันดาลใจก็เกิดจากเรื่องใกล้ๆ ตัว เช่น ไปวิ่งออกก�ำลังกายที่สวนลุมฯ ไปเจอดอกไม้ รูปทรงของ ดอกไม้เล็กๆ น่ารักๆ สีหวานๆ เราก็เก็บภาพที่เราได้ไปพบเห็น มาวาดเป็นลายผ้า ไปกินอาหารเห็นการออกแบบจาน เห็น การผสมของสีอาหาร เราก็เอามาเป็นแรงบันดาลใจ การให้ อิสระทางความคิดกับตัวเอง จะช่วยให้เราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ แ ตกต่ า งออกไปจากเดิ ม ได้ ฉะนั้ น นั ก ออกแบบจึ ง ต้ อ งมี คุณสมบัติของการช่างสังเกต ติดตัวเสมอ’’ แม้ ศิ ล ปะจะถู ก หยิ บ ยกให้ เ ป็ น เรื่ อ งที่ ว ่ า ด้ ว ยความ สวยงาม แต่ชวี ติ การท�ำงานศิลปะก็ใช่วา่ จะมีแต่ความสวยงาม เสมอไป เพชรบอกว่าในการท�ำงานของเธอ มีอุปสรรคหรือ ปัญหาที่ต้องแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างง่ายๆ ในช่วง ของขั้นตอนการฟิตติ้งหรือการทดลองให้นางแบบมาสวมใส่ ชุดชัน้ ในทีเ่ ราออกแบบ บางครัง้ วัสดุทใี่ ช้อาจจะไม่เป็นไปอย่าง ทีค่ ดิ อาจจะต้องแก้แบบ ตัดเย็บใหม่ หรือแบบทีเ่ ราคิดว่าเหมาะ สม เมื่อมาใส่จริงก็อาจไม่สะดวก ดีไซน์เนอร์ก็ต้องพร้อมที่จะ แก้ไขปรับเปลี่ยนทันที ยิ่งเรื่องของทัศนคติสาวไทยกับการ พูดคุยเรื่องชุดชั้นใน ที่ไม่ค่อยกล้าเปิดเผย หรือยังเป็นเรื่องที่ สาวๆ ยังเขินอายที่จะพูดถึง การเลือกชุดชั้นในจึงเป็นกลายมา เป็นปัญหา เมื่อสาวๆ เลือกชุกชั้นในไม่สอดคล้องกับสรีระที่แท้ จริงของตัวเอง ไม่กล้าปรึกษาหรือไม่กล้าให้ขอ้ มูล นักออกแบบ


11 ก็ต้องท�ำการบ้านเพิ่มมากขึ้น เพราะจริงๆ แล้วการได้รับ ข้อมูลจากลูกค้าเป็นสิ่งที่นักออกแบบอยากได้เพื่อการ ออกแบบและพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของ ลูกค้ามากทีส่ ดุ เพชรเลยแอบกระซิบบอกว่าอยากให้สาวๆ เปิดใจกับเรื่องนี้เพิ่มขึ้นสักนิด

แรงบันดาลใจก็เกิดจากเรื่องใกล้ๆ ตัว เช่น ไปวิ่งออกก�ำลังกายที่สวนลุมฯ ไปเจอดอกไม้ รูปทรงของดอกไม้เล็กๆ น่ารักๆ สีหวานๆ เราก็เก็บภาพที่เราได้ไปพบเห็นมาวาดเป็น ลายผ้า ไปกินอาหารเห็นการออกแบบจาน เห็นการผสมของสีอาหาร เราก็เอามาเป็น แรงบันดาลใจ การให้อิสระทางความคิด กับตัวเอง จะช่วยให้เราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไปจากเดิมได้

แม้ จ ะเป็ น งานแฟชั่ น เล็ ก ๆ แต่ เ พชรก็ บ อกว่ า ส�ำหรับตัวเองถือเป็นอีกงานที่ท�ำแล้วมีความสุขและภาค ภูมิใจด้วย การเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยท�ำให้วัยรุ่นมั่นใจในตัว เองมากขึ้นในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงตามวัย หรือ การท�ำให้ผหู้ ญิงดูสวยสง่างาม หรือแม้แต่การเป็นส่วนหนึง่ ให้ผหู้ ญิงทีป่ ว่ ยเป็นโรคมะเร็งเต้านม บางรายทีต่ อ้ งตัดเต้า นมทิ้ง ได้กลับมามั่นใจและเติมเต็มการใช้ชีวิตประจ�ำวัน ได้อย่างมีความสุข ทั้งหมดนี้ถือเป็น ความภูมิใจเล็กๆเมื่อ ได้นึกถึง เมื่อพูดถึงการท�ำงานในอนาคต เพชรบอกว่า เธอ เป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ โดยได้ แรงบันดาลใจมาจากที่บ้าน สมัยก่อนที่บ้านอยู่กับคุณย่า ก็จะเห็นคุณย่าย้อมผ้าถุง ตอนเรียนที่ศิลปากรก็ได้เรียน การใช้วัสดุจากธรรมชาติมาย้อมสีผ้า ก็คิดว่าตัวเองอยาก ท�ำงานเรื่องผ้าออแกนิค ตอนนี้ก็เริ่มศึกษาเรื่องของเส้นใย ผ้าที่ได้จากธรรมชาติ เช่น เส้นใยจากข้าวโพด ต้นกล้วย วัสดุธรรมชาติเหล่านีม้ าทอเป็นผ้าได้ สที มี่ าจากธรรมชาติ ก็มมี ากมาย เป็นภูมปิ ญ ั ญญาของไทย เช่น มะเกลือ อัญชัน ใบเตย กาบมะพร้าว ใบหูกวาง เปลือกมังคุด ขมิน้ บางครัง้ สี ที่ ม าจากธรรมชาติ ใ ห้ เ ฉดสี ที่ ส วยกว่ า สี เ คมี ด ้ ว ยซ�้ ำ ที่ส�ำคัญติดทนไม่แพ้กัน แต่กระบวนการในการผลิตสี อาจจะมี ขั้ น ตอนที่ ม ากกว่ า สี เ คมี ก็ คิ ด ว่ า ถ้ า เราท� ำ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ ม าจากธรรมชาติ แ บบนี้ ไ ด้ ก็ จ ะช่ ว ยเรื่ อ ง การดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันด้วย และยังอาจเป็น ช่องทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นภูมปิ ญ ั ญาของไทย ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เป็นแฟชั่นที่ผสมผสานหลาย แนวคิดไว้ด้วยกันได้ เราจะมีความสุขกับการสร้างสรรค์ต่างๆ เมื่อ ไม่ ท�ำให้ ก ารออกแบบกลายเป็ น สิ่ ง ฟุ ่ ม เฟื อ ย แต่ พยายามท�ำให้งานออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ขอให้โลกนี้ได้สร้างสรรค์อย่างสวยงามนะคะ


12 Thinking Talking

เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ผ่านพ้นมา 40 ปีแล้ว ในฐานะของ ประวั ติ ศ าสตร์ ก ารปฏิ วั ติ ท างการ เมืองโดยคนหนุ่มสาวครั้งแรกของ เมืองไทย และเราได้ ‘ประชาธิปไตย ทางการเมือง’ มาจากการล้มรัฐบาล เผด็จการทหารในครานัน้ เป็นผลพวง ของการต่ อ สู ้ ม าจนถึ ง วั น ที่ เ รามี สิทธิเสรีภาพทางการเมืองในวันนี้,

ความฝันเดือนตุลา โดย เมธา มาสขาว

นักเรียน นักศึกษา คนหนุ่มสาวของเรานับล้านคน ลุกฮือขึ้นมาต่อสู้และชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหารเต็ม ถนนราชด�ำเนินในวันนั้น จนจอมพลถนอม กิตติขจร ผู้น�ำเผด็จการต้องลี้ภัยออกจากประเทศไทยไป ราวความฝันทีเ่ กิดขึน้ แล้วดับไปในเวลาเพียง 3 ปี ที่ เรามี สิ ท ธิ เ สรี ภ าพทางการเมื อ งอย่ า งเต็ ม ที่ เราเคยมี รัฐธรรมนูญทีด่ ที สี่ ดุ ในปี 2517 ขบวนการนิสติ นักศึกษาเบ่ง บานเต็มที่ พวกเขาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทางสังคม นอกจากนัน้ ยังสนับสนุนการต่อสูข้ องกรรมกรผูใ้ ช้แรงงาน ให้มีสิทธิในการท�ำงาน ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ สนับสนุน การต่อสู้ของชนชั้นชาวนาให้มีที่ดินท�ำกินเป็นของตนเอง ดังค�ำขวัญที่ว่า ‘ที่ดินต้องเป็นของผู้ถือคันไถ’ ชาวนาไทย ต้องไร้หนีส้ นิ แต่การต่อสูเ้ พือ่ ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อประชาธิปไตยสมบูรณ์ในขณะนั้น กลับไปกระทบ ชนชั้นน�ำผู้ยึดกุมอ�ำนาจเศรษฐกิจการเมืองเข้าอย่างจัง ผู้น�ำนิสิตนักศึกษา แกนน�ำกรรมกรและชาวนาถูกลอบ สังหารเป็นจ�ำนวนมากในช่วงปี 2518-2519 และต่อมาก็ เกิดเหตุการณ์ล้อมปราบนักศึกษาขึ้นในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งถือ

เป็นฝันร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัยที่ ผ่านมา ซึ่งเราเรียกวันนั้นว่า วันฆ่านกพิราบ.. อาจารย์ กิ ต ติ ศั ก ดิ์ ปรกติ คณะนิ ติ ศ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนร�ำลึกความหลังไว้ใน facebook ของตนเองว่า “วันนั้น นอกจากจารุพงษ์ ทอง สินธุ์แล้ว ยังมีเพื่อนนักศึกษาธรรมศาสตร์อีกหลายคนถูก ยิงด้วยกระสุนปืนจากระยะไกล เพื่อนนักศึกษารัฐศาสตร์ จุฬา คนหนึ่งถูกรุมท�ำร้ายจนตาย บางคนถูกจับแขวนคอ กับต้นมะขาม ทุบตีจนตาย ศพถูกเผาพร้อมยางรถยนต์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณชนบนท้องสนามหลวง ผู้เสียชีวิตบางรายไม่สามารถระบุชื่อได้ และหลายคน สู ญ หาย ไม่ พ บศพหรื อ ปรากฏอยู ่ ใ นรายงานของทาง ราชการ “เช้านั้น ก่อนจะมีการบุกเข้าจับกุมนักศึกษาใน ธรรมศาสตร์ ผมอยู่ที่ตึกคณะวารสาร เสียงปืนมาจากทุก ทิศทุกทาง กระสุนส่วนใหญ่พุ่งมาจากทิศทางหอประชุม ใหญ่ และจากพิพธิ ภัณฑ์ ระหว่างทีท่ �ำหน้าทีจ่ ดั ล�ำเลียงให้ คนวิง่ แทรกแนวกระสุนเพือ่ เข้าไปหลบทีต่ กึ โดม ผมต้องท�ำ หน้าทีป่ ลอบโยนให้ประชาชนทีห่ ลบวิถกี ระสุนกันอยูใ่ นตึก ให้อยูใ่ นความสงบ แต่ระงับความชุลมุนไม่ส�ำเร็จ ระหว่าง


13 ทีผ่ มพยายามตะโกนให้ทกุ คนสงบท่ามกลางเสียงหวีดร้อง ด้วยความกลัวนั้นเอง ก็มีนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายคน หนึ่ง ก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ และร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า “พ่อแม่พนี่ อ้ งขา วันนีห้ นูวา่ เราคงไม่รอดแน่แล้ว แต่ถา้ เรา ต้องตาย ขอให้คิดดูว่า เราควรตายด้วยความหวาดกลัว กระวนกระวาย หรือควรตายด้วยใจอันสงบ?” ทันใดนัน้ แม้ เสียงปืนและระเบิดจะยังดังค�ำรามสนั่นอยู่รอบตัว แต่ เหมือนผู้คนจะได้สติขึ้นมา แล้วก็สงบลงทันที ผมจึงพูด ต่อว่า ต่อไปเจ้าหน้าทีจ่ ะเข้ามาควบคุมตัว ขอให้ทกุ คนอยู่ ในความสงบ อย่าขัดขืน ผมใช้ประโยคที่เธอพูดไปปลอบ

ฟักไข่ในเล้า งบประมาณการปฏิรูปการศึกษาถือเป็น นโยบายหลักของรัฐบาลในการโอบอุ้มดูแลอนาคตของ สังคม แต่เมื่อกว่า 40 ปีก่อนเหมือนกับฝันร้ายของสังคม ไทย หลังจากนั้นเรายังผ่านการสูญเสียและความรุนแรง อีกหลายครั้งหลายหน ราวกับว่า แท้จริงแล้วต้นตอของ ปัญหาก็คือ สังคมไทยไม่อนุญาตให้คนหนุ่มสาวของเรา ใฝ่ฝันถึงอนาคต กว่ า 40 ปี ที่ เ ยาวชนคนหนุ ่ ม สาวต่ อ สู ้ เ พื่ อ ประชาธิปไตยทางการเมืองมาจนถึงวันนี้ วันที่เรามีสิทธิ

ใจผูค้ นในตึกจนครบทุกชัน้ ดูเหมือนทุกคนก็สงบลงได้ และ รอเวลาให้เจ้าหน้าทีเ่ ข้ามาควบคุมตัว ผมไม่ได้พบกับน้อง นักเรียนหญิงคนนั้นอีก และไม่รู้จักชื่อของเธอด้วยซ�้ำ แต่ ยังระลึกถึงค�ำพูดของเธอเสมอ แม้ทุกวันนี้ ในใจก็ภาวนา ให้เธอปลอดภัย เพราะเชือ่ ว่า ผูท้ คี่ รองสติได้มนั่ คง มีธรรม ในใจ แม้ในยามหน้าสิว่ หน้าขวานเช่นนัน้ คงจะหาทางรอด ชีวิตจนได้” การสูญเสียอนาคตของคนหนุ่มสาวร่วมสมัย ใน เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นั้น ท�ำให้พวกเขาต้องลุกขึ้น มาสร้างอนาคตด้วยตนเองใหม่หลังจากนั้น เพื่อยืนยันว่า การใฝ่ฝันถึงสังคมใหม่ไม่ใช่ความผิด พวกเขาจ�ำต้องเดิน ทางเข้าไปต่อสูใ้ นเขตป่าเขาร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทย ภายหลังบรรยากาศในเมืองเลวร้ายและ รุนแรงต่อเนือ่ ง นักศึกษาหลายคนถูกตามฆ่า ตามล่า ตาม จับอย่างป่าเถือ่ นยิง่ กว่ายุคเผด็จการใด รัฐบาลในขณะนัน้ ไม่เชื่อว่า คนหนุ่มสาวคือพลังสร้างสรรค์ และไม่ให้โอกาส พวกเขาได้ใฝ่ฝันและดูแลความฝันของพวกเขาให้เติบโต ผมนึกถึงสังคมไทยในฝัน ประเทศพัฒนาทั้งหลาย ในยุโรปที่มีประชาธิปไตยทางการเมือง เขาดูแลโอบอุ้ม เยาวชนคนหนุ่มสาวซึ่งเป็นอนาคตของชาติราวกับแม่ไก่

เสรีภาพมากขึ้น แต่เมื่อเราตื่นขึ้นมาพบกับความจริงใน วันนี้ ‘ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ’ ยังเป็นปัญหา ประเทศไทยมีความเหลือ่ มล�ำ้ อันดับต้นๆ ในเอเชีย ช่องว่าง ระหว่างคนจนกับคนรวยห่างกันสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของ โลก สังคมไทยมีความขัดแย้งกันมากขึ้น อาจเป็นเพราะที่ ผ่านมาเราต่อสู้กับอ�ำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรมเพื่อให้ได้มาซึ่ง ‘ประชาธิปไตยทางการเมือง’ แต่โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ยังถูกทุนผูกขาดครอบง�ำอยู่ และรอคอยการต่อสู้เพื่อ “ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ” จากคนรุน่ ใหม่ๆ ทีเ่ รียนรูบ้ ท เรียนในประวัติศาสตร์ ความฝันเดือนตุลาคือเจตนารมณ์ทงี่ ดงามเท่าทีค่ น หนุ่มสาวของเรารุ่นหนึ่งจะพึงมีให้แก่สังคมได้ ท�ำอย่างไร สังคมไทยจะเลิกท�ำลายความใฝ่ฝันที่สร้างสรรค์ของคน หนุ ่ ม สาว เลิ ก สร้ า งความเกลี ย ดชั ง บนความต่ า งทาง อุดมการณ์ทางการเมืองหรือความเชือ่ ทางสังคม ให้ทกุ คน มีสทิ ธิค์ ดิ มีสทิ ธิใ์ ฝ่ฝนั ถึงสังคมใหม่ทดี่ งี ามของเรา ช่วยกัน ดูแลความฝันและอนาคตของคนหนุ่มสาว ให้พวกเขา สรรค์สร้างสังคมที่ดีแห่งอนาคตร่วมกัน โดยบอกพวกเขา ว่า การใฝ่ฝนั ถึงสังคมใหม่ไม่ใช่ความผิด เพือ่ ให้สงั คมไทย เติบโต


14 Experience

ทานาห์ ล อต วิหารงูกลางมหาสมุทร โดย กุ้งนาง

เมือ่ พูดถึง ‘บาหลี’ หลายคนอาจสงสัยว่าอยูส่ ว่ น ไหนของโลก หรือ ใช่ที่เดียวกับ ‘มัลดีฟส์’ หรือเปล่า?

บาหลีเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย ส่วน มัลดีฟส์หรือสาธารณรัฐมัลดีฟส์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เฉียงใต้ของประเทศอินเดียและศรีลงั กา เมือ่ พูดถึงประเทศ อินโดนีเซียที่มีภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษากลางและมี วัฒนธรรมอิสลามเป็นวัฒนธรรมหลัก แต่จังหวัดบาหลีมี ภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตัวเองคือ ภาษาบาหลี นั่นเอง บาหลีเป็นชุมชนวัฒนธรรมฮินดูที่เข้มแข็งและมี รากฐานทางวัฒนธรรมที่ยาวนานและหยั่งรากลึกไม่ว่า เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน กระแสโลกาภิวตั น์กไ็ ม่สามารถ เปลี่ยนแปลงความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมของชาวบาหลี ได้ ประชากรที่มีกว่า 4 ล้านคนยังคงเอกลักษณ์ของตัวเอง ไว้ไม่เสื่อมคลาย นักท่องเทีย่ วสามารถเลือกเดินทางไปกับการบินไทย หรือสายการบินโลว์คอสท์อื่นๆ บินประมาณ 2 ชั่วโมงถึง สนามบินเดนปาซาร์ ส�ำหรับชาวไทยไม่ตอ้ งขอวีซา่ ใช้เพียง หนังสือเดินทางสามารถเที่ยวได้ทันที เวลาในบาหลีจะเร็ว กว่าเมืองไทย 1 ชัว่ โมง และด้วยความทีเ่ ป็นเกาะขนาดเล็ก มีพื้นที่จากเหนือจดใต้ 90 กิโลเมตร จากตะวันออกจด ตะวันตก 140 กิโลเมตร ท�ำให้ง่ายที่จะเดินทางท่องเที่ยว แบบสบายๆ ใน 1-2 วัน จึงแนะน�ำให้เช่ารถยนต์(ประมาณ 700-1,000 บาทต่อวัน) หรือ มอเตอร์ไซค์(ประมาณ 125150 บาท ต่อวัน) ตัวผู้เขียนเองมีโอกาสได้ไปศึกษาที่ มหาวิทยาลัยอูดายานา(Universitas Udayana) ซึง่ เป็น มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเดนบาซาร์ของ บาหลี ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2505 และนอกจากการเรียน ภาษาและวัฒนธรรมที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว ในช่วง ยามเย็นก็มักจะขับมอเตอร์ไซค์ไปสักการะ ทานาห์ลอต


15 วิหารงูอันศักดิ์สิทธิ์ (Tanah Lot) ซึ่งอยู่ห่างจากเดนปาซาร์เพียง 25 กิโลเมตร วัดแห่งนีส้ ร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 โดย นักบวชฮินดูจากเกาะ ชวานามดังห์ยัง นิราห์ทา (Danghyang Nirartha) ซึ่งท่านได้มอง เห็นแสงพวยพุง่ มาจากชายฝัง่ ด้านตะวันตก ท่านจึงเดินทางไปเจริญ สมาธิ ณ จุดดังกล่าว ต่อมามีผู้คนเลื่อมใสศรัทธามากมาย ท�ำให้ นักบวชท้องถิน่ ไม่พอใจ แต่ทา่ นนิราห์ ย้ายสถานทีเ่ จริญสมาธิไปยัง กลางมหาสมุทร ซึ่งเป็นจุดที่เรียกว่า ‘ทานาห์ลอต’ มีความหมายว่า ดินแดนในทะแล และเป็นที่ตั้งของวิหารทานาห์ลอตในเวลาต่อมา ทานาห์ ล อตตั้ ง อยู ่ บ นผาหิ น ริ ม ทะเลซึ่ ง เกิ ด จากการถู ก คลื่ น กั ด เซาะ หินด้านล่างของวิหารถูกลม ฝนและกระแสน�้ำซัดจนเกิดเป็น ร่องรอยลวดลายเป็นทางยาวคดเคี้ยวจนกลายเป็นถ�้ำน้อยใหญ่ คนที่นี่เชื่อกันว่าภายในถ�้ำมีงูเทพเจ้าค่อยปกป้องรักษาวิหารไม่ให้ คนชั่วมาท�ำลายวิหารนี้ได้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าเยี่ยมชมวิหาร แห่งนี้ ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้า 15,000 รูเปีย (50 บาท) แต่เข้าได้ เพียงรอบๆ บริเวณวิหารเท่านั้น เพราะภายในวิหารอนุญาตให้เข้า เฉพาะผู้ที่มาสักการะเท่านั้น ในยามเย็นทานาห์ลอตจะเป็นจุดชม พระอาทิตย์ตกทีส่ วยมากทีส่ ดุ ของบาหลี แม้วา่ จะไม่มหี าดทรายแต่ คลื่นขนาดย่อมๆ ที่ซัดโขดหินครั้งแล้วครั้งเล่าก็สะกดความรู้สึก ของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ที่ดึงดูดใจที่สุดในวิหารแห่งนี้คือ การ ได้ล้างหน้าด้วยน�้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดขึ้นมาจากกลางทะเลและการ เจิ ม หน้ า ด้ ว ยข้ า วสุ ก เพื่ อ เป็ น ศิ ริ ม งคล เชื่ อ กั น ว่ า ถ้ า ใครได้ ม า ล้างหน้าที่นี่จะมีอายุยืนยาวและอ่อนกว่าวัย ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ชาวไทยมักมีความเชื่อที่ว่าใครที่ได้มาล้างหน้าที่นี่จะได้กลับมา เยือนสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง ชาวบาหลีรักและหวงแหนวิหารแห่งนี้ มากเพราะถือว่าเป็นจุดรวมด้านจิตวิญญาณของคนที่นี่เลยทีเดียว และชาวบาหลีก็ภาคภูมิใจกับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตัวเอง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาสัมผัส นอกจากวิหารแล้วอีกอย่างหนึ่งที่ชอบมากคือ การรับถ่ายรูป ด้วยกล้องโพลาลอยด์ ซึ่งถือเป็นอาชีพหนึ่งของชาวบ้านที่นี่ แต่นับ วันจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะนักท่องเที่ยวต่างพกพากล้องดิจิตอล กัน คนที่รับถ่ายรูปแต่งกายด้วยชุดประจ�ำถิ่นและสอบถามนักท่อง เที่ยวด้วยวาจาสุภาพ ถ้านักท่องเที่ยวท่านไหนไม่สนใจเขาก็ไม่ดื้อ ให้ร�ำคาญใจ ค่าบริการต่อรูปประมาณ 30,000 รูเปีย(100 บาท) เสน่ห์ของการถ่ายรูปโพลาลอยด์คือ การรอดูว่ารูปที่เราถ่ายนั้นจะ ออกมาสวยงามแค่ไหนตื่นเต้นที่ได้สะบัดภาพและรอภาพบนฟิล์ม สีด�ำค่อยๆ เป็นรูปร่างและมีสีสัน แถมได้รูปเล็กๆ น่ารักใส่กระเป๋า สตางค์กลับบ้านอีกด้วย ถ้านักท่องเที่ยวท่านใดมีโอกาสได้ไปก็ใช้ บริการสักรูปสองรูปนะคะ ฉบับหน้าเรายังอยู่ที่บาหลี แล้วพบกันค่ะ


16 A-R-T

ศิลปะใช้ได้ โดย MR.BOM

เราต่างรู้กันว่าศิลปะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและ ความงามในตัว และในเหตุนเี้ องท�ำให้ศลิ ปะถูกน�ำ ไปใช้สร้างประโยชน์มากมายนอกเหนือจากการให้ ความงามเท่านัน้ หากแต่ศลิ ปะสามารถเพิม่ มูลค่า และสร้างคุณค่าให้กับสิ่งอื่นได้ด้วย ควบคู่ไปกับ ประโยชน์ใช้สอยที่ตอบสนองความต้องการของ ชีวติ ถ้าเราสังเกตรอบตัวเราดีๆ มีขา้ วของเครือ่ งใช้ รูปลักษณะต่างๆ ชวนให้เกิดประเด็นว่า แบบนีส้ วย นะ แบบนี้ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ อันนี้ชอบมาก ตัวนี้ตัวโปรดเลย ทรงนี้ไม่ถูกใจเลย ต่างๆ นาๆ เหล่านี้ล้วนเกิดจากการน�ำศิลปะเข้ามาประกอบ ในสิ่งของต่างๆให้เกิดการตอบสนองทางจิตใจ เกิดความงามทีเ่ ป็นทีย่ อมรับ จนท�ำให้เราตัดสินใจ เลื อ ก แม้ ว ่ า จะมี สิ่ ง ของแบบเดี ย วกั น ที่ ใ ช้ ไ ด้ เหมือนๆ กันอีกจ�ำนวนมาก แต่เพราะว่าสิ่งที่เรา เลือกถูกใจและสวยงามที่สุดส�ำหรับเรา

ลองนึกดูวา่ หากข้าวของเครือ่ งใช้ทงั้ หมดทัง้ มวล ถูกสร้าง ขึ้นด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิทยาการด้านเทคโนโลยี การ วิเคราะห์ตัวเลข การทดลองทางเคมี หรือการวิจัยทางสังคม เพียงเท่านั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งหนึ่งที่ตอบสนองความ ต้องการของเรา หน้าตารูปลักษณะที่ออกมาก็คงจะซื่อตรง บ่ง บอกถึงประโยชน์ใช้สอยอย่างตรงไปตรงมา เห็นแล้วรูเ้ ลยว่าคือ อะไร ใช้ทำ� อะไร แต่เมือ่ รสนิยมหรือความต้องการด้านจิตใจ ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงท�ำให้ศลิ ปะถูกน�ำมาใช้สร้าง ลักษณะที่เรียกว่า ความงาม ของแต่ละสิ่งของ เกิดเป็นรูป ลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เพื่อความต้องการแข่งขันที่จะ ตอบสนองทัง้ ปัจจัยการใช้งานและจิตใจของผูใ้ ช้ให้ได้มากทีส่ ดุ นอกเหนือจากจะเป็นเพียงเสื้อยืดธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง เมื่ อ มี ก ารน� ำ เอาศิ ล ปะมาสร้ า งสรรค์ ใ ห้ เ กิ ด ความสวยงาม โดนใจผู้ใช้ยิ่งขึ้น ท�ำให้เสื้อตัวนั้นมีมูลค่าสูงขึ้นกว่าเดิม และ นอกจากจะช่วยสร้างความงามให้แก่สิ่งของได้มีเอกลักษณ์ เฉพาะแล้ว ยังบ่งบอกไปถึงความเป็นตัวตนของทัง้ ผูส้ ร้างสรรค์ และผู้ใช้งานตามมาด้วย


17

ภาพซ้าย : เสื้อยืดโครงการ GIFTED ค่ายบูรณาการ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาพกลาง : Composition With Red, Yellow and Blue, Piet Mondrian, 1937–4.

ไม่ใช่แค่สงิ่ ของเท่านัน้ ทีน่ ำ� เอาศิลปะความงามมาใช้เพิม่ คุณค่า และมูลค่าให้สูงขึ้น แต่ศิลปะเองก็สามารถเพิ่มมูลค่าและคุณค่าได้ ด้วยการน�ำเอาสิง่ ของหรือประโยชน์ใช้สอยมาใช้ในวิธกี ารคล้ายๆ กัน เช่น ภาพวาด Composition With R Composition With Red, Yellow and Blue ของ Piet Mondrian ซึง่ เป็นศิลปะนามธรรม เป็นศิลปะภาพ จิตรกรรมสีน�้ำมันบนผ้าใบที่มีชื่อเสียงในยุคโมเดิร์น ได้ถูกน�ำแนวคิด ของผลงานมาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่มีประโยชน์ใช้สอย เก้าอีน้ งั่ พักผ่อนชือ่ Red and Blue Chair โดย Gerrit Rietveld ท�ำให้เกิดศิลปะในมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยที่ผลงานแม้จะ สามารถใช้งานได้ แต่ก็ไม่ได้มุ่งเน้นไปถึงการนั่งอันเป็นประโยชน์ ส�ำคัญของเก้าอี้ หากแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงผลงานศิลปะชิน้ ใหม่ ด้วยแนวความคิดเดิมอย่างน่าสนใจ มากกว่าการใช้เป็นเก้าอี้นั่งพัก ผ่อน การจัดวางไว้ทมี่ มุ ใดมุมหนึง่ ของห้อง น่าจะแสดงประโยชน์และ คุณค่าที่แท้จริงได้มากกว่า

ภาพขวา : Red and Blue Chair, Gerrit Rietveld, 1917.


18 Guidance

โดย รอยฝัน


19


20 Life Coaching

ความเรียงคราวนีพ้ เิ ศษกว่า ทุกครั้ง ผมเขียนขึ้นในระหว่าง การเดิ น ทางพั ก ผ่ อ นในต่ า ง ประเทศ เป็นการพักผ่อนยาวครั้ง แรกในรอบสองปีครึ่ง

เดินออกไปดูโลก โดย อรรถพล อนันตวรสกุล

บ่ อ ยครั้ ง การสาละวนอยู่ กั บ หน้ า ที่ ก ารงาน ทำ�ให้เราหลงลืมไปว่า เรากำ�ลังตื่นขึ้น และใช้เวลา แต่ละวันไปกับสิง่ ทีต่ อ้ งทำ�ในชีวติ ประจำ�วันจนค่อยๆ ทำ�บางส่วนในชีวติ เราหายไป... เราเหนือ่ ย เราล้า เรา ขาดพลังสร้างสรรค์ ขาดความกระตือรือร้นที่จะใช้ เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงในแต่ละวันอย่างเต็มที่ไปบ้างหรือ เปล่า ในวันที่ผมเริ่มรู้สึกตัวเช่นนั้น ผมเลือกจัดการ ตารางชีวิต ขอที่ทำ�งานลาพักแล้ว‘เดินออกไปดูโลก’ ผมเลือกมาที่โรมและฟลอเรนซ์ เพราะเหตุผล ง่ายๆ สองสามข้อ ข้อแรกมันเป็นดินแดนที่เป็นเมือง หลวงของการดืม่ กาแฟ มีรา้ นกาแฟอยูท่ กุ หัวมุมถนน

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟท้องถิ่นของคนที่นี่เข้มแข็งมาก ทำ�ให้ แม้แต่แฟรนไชส์กาแฟยี่ห้อดังก็เข้ามาทำ�ตลาดแทบไม่ได้ ข้อ สอง ทั้งสองเมืองคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของงานศิลปะตะวันตก ที่เป็นรากเหง้าและขุมความรู้ของโลก มีพิพิธภัณฑ์ดีๆ และ สถานที่ที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ให้ดูได้หลายวันไม่มีเบื่อ และข้อสาม ทั้งสองเมืองคือสถานที่ที่ผมไม่รู้จักผมพูดภาษา ของคนในท้องถิ่นไม่ได้ ผมเชื่อว่าการมาชีวิตอยู่ในสองเมืองนี้ ราวสิบกว่าวัน จะช่วยปลุกความกระหายใคร่รู้ สัญชาตญาณ ในการเอาตัวรอด และพลังของชีวิตกลับคืนมาได้ ผมมีโอกาสเตรียมตัวล่วงหน้าเพียงเล็กน้อย แผนการ เดินทางยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนวันต่อวัน อยู่กับสิ่งที่เห็นต่อหน้า อยู่กับเวลา ณ ขณะนั้น อยู่กับตนเอง ณ ปัจจุบันตลอด 24 ชั่วโมง ผมเลือกการออกมาเดินดูโลกภายนอก เพือ่ เปิดพืน้ ทีก่ าร เดินทางให้โลกภายในของตนเอง ยิ่งออกไปดูโลกกว้าง ตัวตน ของเรายิง่ เล็กลง ยิง่ เริม่ ต้นเดินทางสูโ่ ลกภายในหัวใจของเราก็ กว้างขวางมากขึ้น เราจะออกไปเดินดูโลกที่ไหน และเมื่อไหร่ดีครับ?


Help for Health 21

กว่าจะมาเป็น

ยา 1 เม็ด phase 1 phase 2

โดยส่ ว นใหญ่ นั้ น จุ ด ก� ำ เนิ ด ของยาเริ่ ม ต้ น ตั้ ง แต่ กระบวนการค้นหาสารส�ำคัญทีม่ ฤี ทธิต์ า่ งๆ ต่อร่างกาย ภาย ใต้ความมหัศจรรย์ทธี่ รรมชาติให้มา มนุษย์คน้ พบสิง่ ล�ำ้ ค่า ผ่านการลองผิดลองถูก สั่งสมประสบการณ์จากการน�ำ สิ่งต่างๆ เข้าปาก ลองชิม ลองกิน สิ่งใดเป็นพิษ สิ่งใด มี ป ระโยชน์ ถ่ า ยทอดจากรุ ่ น สู ่ รุ ่ น จึ ง มี ค� ำ เรี ย กที่ ว ่ า “ภูมิปัญญา” จากพืชหรือสิ่งต่างๆ ที่ธรรมชาติมอบให้ ถูก แปลงสภาพเป็นสารสกัด อาจเป็นของเหลวบริสุทธิ์หรือผง ผลึกสีต่างๆ เข้าสู่ห้องทดลอง เรียกการศึกษาวิจัยในขั้นนี้ ว่า “in vitro” หรือการศึกษาในหลอดทดลอง วัตถุประสงค์ เพื่อดูว่า สารสกัดดังกล่าวมีปฏิกิริยาอย่างไรในหลอด ทดลอง เมื่อผ่านกระบวนการนี้ไปก็เข้าสู่การทดลองในสิ่ง มีชีวิต คือ สัตว์ทดลอง (in vivo) ไม่ว่าจะเป็นหนู กระต่าย หมู ลิง แต่ที่เห็นบ่อยที่สุด คือ “หนู” จึงเป็นที่มาของค�ำว่า “หนูทดลอง” หรือ “หนูลองยา” ยกตัวอย่าง เช่น การศึกษา ยาแก้ปวด ก็จำ� เป็นต้องท�ำให้หนูเจ็บปวดด้วยวิธใี ดวิธหี นึง่ แล้วให้ยากับหนู จากนั้นก็เฝ้าสังเกต เหมือนดูรายการ reality show ว่าหนูตัวน้อยเหล่านั้นจะมีอาการหรือตอบ สนองอย่างไรเมื่อได้ยาเข้าไป เมื่อศึกษาในสัตว์ทดลอง จนแน่ใจแล้วว่ายามีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ซึ่งในราย ละเอียดนั้นจะมีการให้ยาในขนาดต่างๆ เพื่อค้นหาขนาด ยาต�ำ่ สุดทีใ่ ห้ผลในการรักษา และขนาดยาสูงสุดทีจ่ ะยังคง ใช้ยาได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดพิษ ตลอดจนเก็บข้อมูล อาการข้างเคียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสัตว์ทดลอง ขั้นตอน สุดท้ายคือการศึกษาทดลองในคน ที่เรียกว่า “การศึกษา ทางคลินิก” (Clinical study หรือ clinical trial) ซึ่งแบ่ง ย่อยเป็น 4 phases ได้แก่

เป็ น การศึ ก ษาในอาสาสมั ค รที่ มี สุ ข ภาพดี จ� ำ นวนน้ อ ยๆ ประมาณ 20-80 ราย เพื่อประเมินความปลอดภัยของยาใหม่ที่ ไม่เคยใช้ในคนมาก่อน โดยจะมีการศึกษาเกี่ยวกับว่า ยามีผล อย่างไรต่อร่างกายมนุษย์ ทั้งส่วนของผลการรักษาและอาการ ข้างเคียง และศึกษาว่าร่างกายท�ำอะไรกับยาบ้าง เช่น การกระจาย ของยาดังกล่าวไปยังเนือ้ เยือ่ ต่างๆ น�ำ้ เลือด น�ำ้ เหลือง, การขจัด ยาออกจากร่างกายผ่านตับไต ขับยาออกทางอุจจาระหรือ ปัสสาวะ ค่าครึ่งชีวิตของยา ระยะเวลาที่ยายังคงอยู่ในร่างกาย เป็นการศึกษาในผู้ป่วย และอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี จ�ำนวน มากขึ้นอีก ประมาณ 100-300 ราย เพื่อประเมินประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยแบ่งย่อยเป็น 2 ขัน้ ตอนคือ หาขนาดยา ที่เหมาะสมไม่เป็นพิษต่อจากการทดลอง phase 1 และศึกษา แบบมีกลุ่มควบคุม คือ มีทั้งกลุ่มที่ได้รับยาและไม่ได้รับยา เปรียบเทียบผลกัน

phase 3

เคยสงสั ย กั น ไหมว่ า “ท�ำไมยาเม็ดน้อยๆ มันฉลาด จัง?” ช่างแสนรู้เสียจริงๆ เรา ปวดหัว แค่กินยาลงกระเพาะ แต่ ย าเดิ น ทางไปออกฤทธิ์ ที่ สมองได้ตรงจุดอย่างไรกัน

เป็นการศึกษาในผูป้ ว่ ยทีม่ จี ำ� นวนมากขึน้ ถึง 1,000-3,000 ราย ซึ่งจะมีการออกแบบการศึกษาเพื่อลดอคติให้มากที่สุด คือ จะ ปกปิดทั้งผู้ป่วย และแพทย์ผู้รักษาไม่ให้ทราบว่าผู้ป่วยได้รับยา จริงหรือยาหลอก แต่ทั้งนี้การทดลองดังกล่าวต้องได้รับความ ยินยอมจากผู้ป่วย มีการควบคุมการได้รับยาให้เหมือนกัน ไม่ ให้ผู้ป่วยแต่ละกลุ่มรู้ว่าตนเองได้ยาใดอยู่ กล่าวคือ แม้กลุ่ม ควบคุมที่ไม่ได้รับยาใหม่ที่ท�ำการศึกษา แต่ก็จะได้รับยาหลอก (placebo) ทีผ่ ลิตลอกเลียนแบบให้เหมือนกับยาใหม่ทกุ ประการ

phase 4

โดย ภญ.บุษบงก์ ธรรมมาสถิตย์กุล

สุดท้ายคือ phase 4 เป็นขั้นตอนหลังจากที่ยาออกสู่ตลาด บริษัทยาสามารถจ�ำหน่ายได้ในโรงพยาบาลเพียงเท่านั้น ไม่ สามารถจ�ำหน่ายได้ในร้านยา ถึงแม้จะออกสู่ตลาดและมีการ ใช้ยาอย่างกว้างขวางแต่ยงั คงมีการติดตามเฝ้าระวังอาการข้าง เคียงในระยะยาว หรือทีเ่ รียกกันเป็นชือ่ เล่น ในวงการยา ว่า “ยา ติดสามเหลี่ยม” นั่นก็คือยาใหม่ที่ยังคงต้องมีการติดตามผล อย่างใกล้ชิด นั่นเอง

เมื่อมีโรคใหม่ๆ เกิดขึ้น ก็ยังคงต้องมีการคิดค้นตัวยาใหม่ขึ้น มาเรือ่ ยๆ หรือพัฒนายารักษาโรคเดิมให้ดยี งิ่ ๆ ขึน้ ไป ตราบใดทีม่ นุษย์ ยังคงมีชวี ติ คงหนีไม่พน้ ทีจ่ ะต้องพึง่ พายาอันเป็นปัจจัยสี่ ขอให้ผอู้ า่ น ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”


22 Scitech

Apple

Coca-Cola ก้าวสูแ่ บรนด์ทที่ รงคุณค่าทีส่ ดุ ในโลก แซง

โดย Spocky

วันนี้ผมจะพาไปดูผลส�ำรวจความนิยมของสินค้า (แบรนด์) ที่ทรง คุณค่าที่สุดในโลก ในปี 2013 โดยเว็บไซต์ Interbrand เผยรายงานฉบับ ล่าสุดเกี่ยวกับ 'แบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก' และเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่ Coca-Cola บริษัทน�้ำชื่อดังต้องถูกโค่นบัลลังก์ที่เคยครอบครอง มาอย่างยาวนาน โดยเปิดทางให้แก่ Apple ก้าวขึน้ แท่นครองต�ำแหน่งผูน้ ำ� แทน การยกให้ Apple เป็นแบรนด์ทที่ รงคุณค่าทีส่ ดุ ในโลกประจำ�ปี 2013 ทาง Interbrand ผู้จัดอันดับให้เหตุผลว่า "บ่อยครั้งที่มีบริษัทที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง ชีวิตของเรา ไม่ใช่เพียงแค่ตัวผลิตภัณฑ์แต่ยังรวมถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรซึ่ง ตลอด 13 ปีทผี่ า่ นมา Coca-Cola แสดงให้เห็นว่าเป็นแบรนด์ระดับโลกทีด่ ที สี่ ดุ แต่ในปีนี้ต้องขอมอบรางวัลอันทรงคุณค่านี้ให้กับ Apple ที่สามารถสร้างชื่อให้ กับแบรนด์ของตัวเองจนมีแฟนคลับไปทัว่ โลก รวมไปถึงการสร้างปรากฎการณ์ ของการเปิดตัว iPhone 5s กับ iPhone 5c นอกจากนี้ Apple ยังเป็นแบรนด์ที่ เข้ามาปฏิวัติการทำ�งาน การเล่น และการสื่อสารจนสามารถสร้างความสุขให้ กับคนทั่วโลก" ส่วนแบรนด์ที่ตามมาเป็นอันดับสองได้แก่ Google รองลงมาอันดับสาม เป็น Coca-Cola อดีตแชมป์ นอกนัน้ ยังมีบริษทั ด้านเทคโนโลยีชนั้ นำ�อืน่ ๆ อย่าง IBM, Microsoft, Samsung และ Intel ก็อยู่ในสิบอันดับแรกเช่นกัน เห็นไหม ครับว่าแบรนด์ไม่ใช่แค่เพียงสินค้า แต่ทกุ วันนีแ้ บรนด์เป็นเสมือนผูส้ ร้างประสบ การณ์ใหม่ๆ ให้กับเรา และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถครองใจผู้บริโภคได้ อย่างยาวนาน ดูรายละเอียดอันดับทั้งหมดได้ที่ www.interbrand.com


Wow! Asean 23

ช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับมหกรรมความเย็นฉ�่ำ ของสายฝน ฝนที่ ต กด้ ว ยอิ ท ธิ พ ลของพายุ ต ่ า งๆ ในฤดูกาลนีส้ ง่ ผลให้นำ�้ ในแม่นำ�้ สายส�ำคัญมีปริมาณเพิม่ สูงขึ้นจนท�ำให้พื้นที่ริมตลิ่งหลายจุดทีน�้ำเอ่อเข้าท่วม เช่นเดียวกับพื้นที่ทางน�้ำไหล

แม่น�้ำสายส�ำคัญ โดย สุวิมล จินะมูล

แม่นำ�้ สายหนึง่ ทีไ่ ด้รบั ความไว้วางใจว่าจะช่วยน�ำพามวลน�ำ้ ขนาดใหญ่ออก จากพื้นที่บ้านเรือนสายหนึ่งก็คือ แม่น�้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น�้ำขนาดใหญ่ สายส�ำคัญ ในอาเซียน แต่เดิมนัน้ ผูเ้ ขียนมีความเข้าในว่าแม่นำ�้ โขงนีเ้ องทีม่ คี วามยาวทีส่ ดุ ใน อาเซียน แต่เมื่อเข้าไปค้นข้อมูลเลยได้รู้ว่าที่จริงแล้วแม่น�้ำสายนี้เป็นสายหลักใน อาเซียนก็จริงแต่ยังมีแม่น�้ำสายอื่นที่มีความยาวและความส�ำคัญไม่แพ้กันค่ะ ถ้าเราเรียงล�ำดับแม่นำ�้ ทีม่ คี วามยาวมากทีส่ ดุ ในแต่ละประเทศของสมาชิก อาเซียนอันดับแรกเลยคือ แม่น�้ำอิรวดี แม่น�้ำสายเศรษฐกิจสายส�ำคัญของพม่า มีความยาวถึง 2,170 กิโลเมตร ประเทศลาวคือ แม่น�้ำโขง 1,850 กิโลเมตร ตาม มาติดๆ ด้วย แม่น�้ำคายากัน ของประเทศฟิลิปปินส์ในเกาะลูซอน ความยาว 1,524 กิโลเมตร ส่วนเวียดนามแม่นำ�้ สายทีย่ าวสุดคือ แม่นำ�้ แดง ความยาว1,149 กิโลเมตร ส่วนอันดับถัดมาคือ แม่น�้ำคาปัวส์ ในประเทศอินโดนีเซีย ความยาว 1,143 กิโลเมตรในเกาะบอร์เนียว ส�ำหรับประเทศไทยมี แม่น�้ำชี ความยาว 765 กิโลเมตรมาเข้าประกวด แม้จะค่อนข้างตื้นและมีน�้ำน้อยแต่ก็มีความยาวกว่า แม่น�้ำราจาง ในรัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ที่มีความยาว 563 กิโลเมตร แม่น�้ำ สายนี้เป็นสายส�ำคัญที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบากุนซึ่งเป็นแหล่งผลิต ไฟฟ้าที่ใหญ่สุดในมาเลเซีย ส่วนในกัมพูชาที่ส่วนใหญ่เป็นแม่น�้ำสายสั้นๆ เพราะมีแหล่งน�้ำส�ำคัญคือ ทะเลสาบ เราก็พบว่าแม่น�้ำโขงก็ครองแชมป์ยาวสุดในประเทศนี้ด้วยความยาว 500 กิโลเมตร ส�ำหรับเศรษฐีน�้ำมันอย่างบรูไน มี แม่น�้ำกัวลาเบไลท์ ยาวสุด ที่ 32 กิโลเมตร และอันดับสุดท้ายของพี่น้องอาเซียนเลย คือ แม่น�้ำคาลลัง ของ สิงค์โปร์ ระยะความยาวเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ


24 กฏหมายน่ารู้ กับ ธ.ธนา

ดาว เกี้ยว เดือน โดย ธนา ภัทรภาษิต

"เมื่อสาวสวยวัยใกล้ขึ้นคาน นึกอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ปฏิบัติการตามล่าหาสเปิร์มจึงเริ่มต้นขึ้น" ความคิดประหลาดๆ ของ "ประกายดาว" ช่างภาพสาวสวย วัยสามสิบ ผู้มีความมั่นใจในตัวเอง รักเด็ก แต่มีอาการเบื่อหน่าย ผูช้ ายสุด ๆ ทำ�ให้เกิดเรือ่ งราวสนุกสนาน น่าตืน่ เต้นตามมามากมาย ความฝันของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป แล้วลูกของเธอจะมีพ่อหรือ ไม่ คงต้องติดตามบทสรุปจากในละคร...แต่บทสรุปทางกฎหมาย นั้น เด็กคนใดจะเป็น "บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย" ของใครสักคน ได้อย่างไร!! ขอสรุปดังนี้ครับ สำ�หรับมารดาแล้ว บุตรทุกคนทีเ่ กิดมาจากครรภ์ของมารดา คนใด ก็ยอ่ มเป็นบุตรทีช่ อบด้วยกฎหมายของหญิงซึง่ เป็นมารดาผู้ ให้กำ�เนิดอยู่แล้ว แม้ว่ามารดาจะได้สมรสกับชายใดหรือไม่ก็ตาม กฎหมายก็บญ ั ญัตใิ ห้สอดคล้องกับกฎความเป็นจริงของธรรมชาติ ส่ วนบิ ด านั้ น โดยธรรมชาติ ผู้ ช ายไม่ ใ ช่ ผู้ ตั้ งครรภ์ จึ ง ไม่ สามารถระบุได้โดยปริยายเหมือนกรณีมารดาว่า ใครเป็นบิดาของ เด็กในครรภ์นั้นๆ กฎหมายจึงต้องบัญญัติไว้เสียให้ชัดเจน ว่ า หากมี ก รณี ดั ง ต่ อ ไปนี้ จึ ง จะเรี ย กได้ ว่ า ชายผู้ นั้ น เป็น "บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย" ของบุตร ได้แก่ ๑. เด็กเกิดในระหว่างที่บิดามารดาสมรสกัน ๒. บิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง (หลังจากเด็กเกิด) ๓. บิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร ๔. ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ดังนั้น ประกายดาวจะสมรสหรือไม่ เด็กที่จะเกิดมา ก็ยอ่ มเป็นบุตรทีช่ อบด้วยกฎหมายของประกายด้วยผูเ้ ป็น มารดาแน่นอน ส่วนคุณชายจันทรภาณุ จะได้เป็น "บิดา โดยชอบด้วยกฎหมาย" หรือไม่ ...ประกายดาวของเรา นอกจากจะต้องปฏิบัติการตามล่าหาสเปิร์มแล้ว ก็ต้อง ปฏิบัติการตามกฎหมายข้างบนนี้ด้วยนะครับ


Math Unlimited 25

แคลคูลัส คือ อะไร? มีความส�ำคัญอย่างไร? โดย อ.อนุวัตร จิรวัฒนพาณิช

สัญลักษณ์ QUOTE เรียกว่า อินทิกรัลไม่จ�ำกัดเขต (Indefinite Integral) สัญลักษณ์ QUOTE เรียกว่า เครือ่ งหมายอินทิกรัล (Integral symbol) ฟังก์ชนั f(x) เรียกว่า ตัวถูกอินทิเกรต หรือ อินทิแกรนด์ (Integrand) และสัญลักษณ์ dx เป็นตัวที่บ่งบอกให้ทราบว่าเราก�ำลังจะอินทิเกรตเทียบกับตัวแปร x เนื่องจากมีค�ำถามเกิดขึ้นว่า ถ้ามีฟังก์ชันที่ผ่านการอนุพันธ์มาให้แล้ว จะรู้ได้ยังไงว่ามันถูกอนุพันธ์มาจากอะไรค�ำถามนี้ตอบได้ง่ายๆ เพราะการ อนุพันธ์นั้นเป็นสูตรส�ำเร็จ ถ้าดูออกว่าการอนุพันธ์แต่ละครั้งมันท�ำอะไรกับ ฟังก์ชันบ้าง หากจะย้อนกลับไปหาต้นตอก่อนที่จะถูกอนุพันธ์ จะได้สูตรส�ำเร็จ ที่บอกว่าฟังก์ชันนี้ถูกอนุพันธ์มาจากอะไร นักคณิตศาสตร์ตั้งชื่อให้มันว่า Antiderivative เรียกชื่อไทยว่า ปฏิยานุพันธ์ (ปฏิ+อนุพันธ์) ซึ่งคือการย้อน กระบวนการหาอนุพันธ์การหาปฏิยานุพันธ์ท�ำให้เราได้สูตรย้อนกลับของการ หาอนุพันธ์ ซึ่งสูตรเหล่านี้เอาไปใช้ท�ำอย่างอื่นได้ด้วย คือการหาพื้นที่ใต้กราฟ ของฟังก์ชัน อย่างที่บอกไว้ตอนต้นๆ ว่าแคลคูลัสใช้ท�ำสองอย่างซึ่งเรขาคณิต ไม่เคยท�ำได้มาก่อน หนึ่งคือหาอัตราการเปลี่ยนแปลง ณ จุดจุดเดียว และใช้ หาพื้นที่ของรูปร่างที่เป็นเส้นโค้งๆ ยึกยือ ไม่เป็นเหลี่ยมๆ ได้ y

x

}

จากบทความฉบับทีผ่ า่ นมา พี่ได้กล่าวถึง ตอนที่ 1 อนุพันธ์ ของฟังก์ชัน (Derivative of the function) และได้อธิบายเกี่ยวกับ ประโยชน์ แ ละความส� ำ คั ญ ของ อนุพันธ์รวมทั้งความหมายอย่าง ง่ า ยๆ ต่ อ ไปจะเป็ น ตอนที่ 2 ปริ พั น ธ์ (integral) ซึ่งมีความ ส� ำ คั ญ ไม่ แ พ้ อ นุ พั น ธ์ ซึ่ ง เราจะ ได้ยนิ ชือ่ อนุพนั ธ์คกู่ บั ปริพนั ธ์เสมอ ปริ พั น ธ์ (integral) คื อ ฟังก์ชันที่ใช้หาพื้นที่ มวล ปริมาตร หรื อ ผลรวมต่ า งๆ เราอาจหา ปริพันธ์ได้หลายวิธี แต่ไม่ว่าหา ด้ ว ยวิ ธี ใ ด จะได้ ผ ลลั พ ธ์ เ ท่ า กั น เสมอ การหาปริพนั ธ์ (integration) เป็นกระบวนการทีต่ า่ งจาก การหา อนุพันธ์ แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกัน ปริ พั น ธ์ ต ่ า งจาก ปฏิ ย านุ พั น ธ์ แต่ ทั้ ง สองมี ค วามสั ม พั น ธ์ที่ใกล้ เคี ย งกั น ทฤษฎี บ ทมู ล ฐานของ แคลคู ลั ส จะอธิ บ ายว่ า ท� ำ ไม ปริ พั น ธ์ กั บ ปฏิ ย านุ พั น ธ์ ถึ ง เกี่ ย ว ข้องกัน ปริพันธ์แบบปฏิยานุพันธ์ คือ ปริพันธ์ไม่จ�ำกัดเขต (indefinite integral) แต่ปริพันธ์ที่กล่าว ถึ ง ด้ ว ยนั้ น จะกล่ า วถึ ง ปริ พั น ธ์ จ�ำกัดเขต (definite integral)ด้วย

ตอนที่ 2 ปริพันธ์ (integral)

f (x)

a

x

x1

* 1

x2

x2

*

x3

x3

*

xi-1 xi xi

*

xn-1

xn

b *

x


26 Around Me! ค�ำว่า “นวัตกรรมภูมิปัญญาเศรษกิจพอเพียง” หมายถึงอะไร ลองมาดูกันนะครับ นวัตกรรมภูมิปัญญา ท้องถิน่ เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ การจัดการใหม่ที่คิดค้น และพัฒนาจากองค์ความรู้และ ประสบการณ์ของชุมชน เพื่อแก้ปัญหา การประกอบอาชีพ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการเสริมสร้างสุขภาวะ อย่างเป็นระบบตามภูมสิ งั คมของชุมชน ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งรูปแบบและวิธีการด�ำเนินงาน ก็จะมีรูปแบบการจัดท�ำ ระบบข้อมูลนวัตกรรมโดยการสืบค้น รวบรวมนวัตกรรมจาก ทุกจังหวัด กลั่นกรองจัดท�ำเครือข่ายและระบบสารสนเทศ เพือ่ การเผยแพร่ในรูปแบบเว็บไซต์ ซีดรี อม และสือ่ อืน่ ๆ เพือ่ เป็นแหล่งความรู้แก่เกษตรกร เจ้าหน้าที่และบุคคลทั่วไป ผู้ด�ำเนินงานคือ สถาบันสร้างเสริมนวัตกรรมภูมิปัญญา เศรษฐกิจพอเพียง กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งสามารถแบ่ง แยกออกเป็น สาขา ดังนี้ 1. สาขาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ระบบการ ผลิตการเกษตรที่มีความสอดคล้อง สัมพันธ์ เกื้อกูลกับ ระบบนิเวศน์และทรัพยากรของแต่ละพืน้ ทีม่ กี ารใช้ปจั จัย

การผลิตหมุนเวียน ภายในฟาร์ม ผลผลิตทีไ่ ด้ (http://www. thaibizchina.com) มีความปลอดภัยและมีความหลาก หลายในแปลงเกษตรเพือ่ ลดความเสีย่ งทางเศรษฐกิจ อีกทัง้ มีกระบวนการศึกษา ค้นคว้า แลกเปลีย่ นความรูจ้ นสามารถ มีความรู้ ที่จะถ่ายทอดได้ ทั้งจากรุ่นพ่อแม่ด้วยกัน และ รุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูก จ�ำแนกได้ 5 ลักษณะคือ 1.1 วนเกษตร เป็นระบบการเกษตรที่น�ำหลักการ ความยัง่ ยืนของระบบป่าธรรมชาติ มาเป็นแนวทาง เน้นการ ปลูกพืชหลากหลาย ให้ความส�ำคัญกับพันธุ์พื้นบ้าน มีการ ลงทุนด้านปัจจัย การผลิต หรือการจัดการเกี่ยวข้องกับมิติ ทางสังคมและวัฒนธรรม เช่น สวนสมรม (สวนขนาดเล็ก ทีป่ ลูกผสมปนเปกันของผลไม้นานาชนิด ไม่มกี ารแยกแปลง แยกชนิด อาศัยธรรมชาติให้เกื้อกูลกันเอง) ในภาคใต้ เป็น มรดกตกทอดกันมาตัง้ แต่รนุ่ ปูร่ นุ่ ย่าตายาย พบทัว่ ไปบริเวณ พื้ น ที่ ลุ่ม ริม น�้ำ หรือที่ร าบต�่ำ มีพืชหลากหลายชนิดทั้ง พืช

โดย กรวิทย์ ไชยสุ


27 ดั้งเดิมและปลูกเสริมใหม่ 1.2 เกษตรผสมผสาน เป็นระบบการปลูกพืชและ เลีย้ งสัตว์หลายชนิดในพืน้ ทีเ่ ดียวกันและใช้ทรัพยากร ในไร่ นาอย่างเหมาะสมเกิดประโยชน์สงู สุด เพือ่ สร้างความสมดุล และความอุดมสมบูรณ์ให้กับสภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถ จ�ำแนกได้ตามกิจกรรมหลัก เช่น นาสวนผสมผสาน สวน ผสมผสาน สวนหลังบ้าน ส่วนใหญ่ระบบเกษตรผสมผสาน จะหมายถึงระบบการเกษตรที่มีนาข้าวเป็นหลักและมีการ ปลูกพืชผัก ไม้ผลไม้ยืนต้นและเลี้ยงสัตว์เพื่อความหลาก หลาย

รักษาคุณภาพ) ซึ่งประกอบด้วย การปรับปรุงพันธุ์ การ จัดการดิน น�้ำ ศัตรูพืช วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว การ บริหารฟาร์ม การท�ำแผนธุรกิจการผลิตพืช/ประมง/ปศุสัตว์ โดยแบ่งเป็น 5 สาขา ดังนี้ 1.พืชไร่/ข้าว, 2.พืชสวน, 3.พืช ผัก สมุนไพร ไม้ดอก-ไม้ประดับ, ประมง/ปศุสัตว์ และ 5.เครื่องมือ-เครื่องจักรกลการเกษตร 3.สาขาการแปรรูปและผลิตภัณฑ์ เทคนิคและ เทคโนโลยี ก ารจั ด การผลผลิ ต เพื่ อ เพิ่ ม มู ล ค่ า ผลผลิ ต การเกษตร แบ่งเป็น 3 ด้านคือ 1.การแปรรูปผลิตภัณฑ์, 2.หัตถกรรม ศิลปะประดิษฐ์ และ 3.ผ้าและสิ่งทอ

แหล่งที่มา : http://www.sewii.doae.go.th/Innovation/index-innovation.html (สถาบันสร้างเสริมนวัตกรรมภูมิปัญญา เศรษฐกิจพอเเพียง กรมส่งเสริมการเกษตร)

1.3 เกษตรอินทรีย์ เป็นระบบที่มีเป้าหมายเพื่อ อนุรกั ษ์และฟืน้ ฟูสงิ่ แวดล้อมด้วย การปฏิเสธการใช้สารเคมี สังเคราะห์ทุกชนิดในการผลิต รวมทั้งฮอร์โมนกระตุ้นการ เจริญเติบโตของพืชและสัตว์ชนิดต่างๆ เน้นการฟื้นฟูระบบ นิเวศเกษตรโดยเฉพาะการปรับปรุงดิน 1.4 เกษตรธรรมชาติ เป็นระบบเกษตรที่ไม่ใส่ปุ๋ย ไม่ไถพรวน ไม่กำ� จัดวัชพืช ไม่ใช้สารเคมีกำ� จัดแมลงศัตรูพชื 1.5 เกษตรทฤษฏีใหม่ตามแนวพระราชด�ำริ เป็น ระบบการเกษตรที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรง คิดค้นและค�ำนวณตามหลักวิชาการในการบริหารจัดการ ทรัพยากร ในการผลิตในด้านการเกษตร โดยให้เกษตรกรที่ มีที่ดินจ�ำนวนน้อย ท�ำการแบ่งสัดส่วนที่ ท�ำการเกษตรออก เป็น 4 ส่วนประกอบด้วยพื้นที่ 1) แหล่งน�้ำ 30%, 2) พื้นที่ ปลู ก ข้ า ว 30%, 3) พื้ น ที่ ป ลู ก ไม้ ยื น ต้ น พื ช ไร่ พื ช สวน 30% และ 4) พื้นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์และอื่นๆ 10% 2. สาขาการผลิต เทคโนโลยีการผลิตพืช ประมง ปศุ สั ต ว์ ที่ ไ ด้ รั บ การปรั บ ปรุ ง และพั ฒ นาการผลิ ต จาก ภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ เหมาะสมกับสภาพพืน้ ทีจ่ นสามารถเพิม่ ประสิทธิภาพ ผลผลิตได้ (ลดต้นทุน เพิ่มปริมาณผลผลิต

4.สาขาสถาบันเกษตรกร เป็นสถาบันเกษตรกรบน หลั ก การพึ่ ง พาตนเอง มี ร ะบบบริ ห ารจั ด การอย่ า งมี ประสิทธิภาพ เป็นที่พึ่งแก่เกษตรกร ในการแก้ปัญหาการ ประกอบอาชีพ ด้านการเกษตร และการยกระดับฐานะความ เป็ น อยู ่ ข องสมาชิ ก ประกอบด้ ว ย 4 กลุ ่ ม คื อ 1. กลุ ่ ม เกษตรกร, 2. กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร, 3. กลุ่มยุวเกษตรกร และ 4. กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 5. สาขาปราชญ์เกษตร บุคคล ที่มีการด�ำเนินชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแบบอย่างแก่บุคคล ทั่ ว ไปได้ มี ค วามสามารถโดดเด่ น ในการประยุ ก ต์ ใ ช้ เทคโนโลยี มี ค วามคิ ด ริ เ ริ่ ม สร้ า งสรรค์ แก้ ป ั ญ หาการ ประกอบอาชีพ และ พัฒนาอาชีพการเกษตรจนประสบผล ส� ำ เร็ จ โดยบุ ค คลประกอบด้ ว ย 1. เจ้ า หน้ า ที่ ส ่ ง เสริ ม การเกษตร และ 2. เกษตรกร ในส่ ว นข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น ก็ เ ข้ า ใจกั น แล้ ว นะครั บ กั บ นิยามค�ำว่า “นวัตกรรมภูมิปัญญาเศรษกิจพอเพียง” และ สาขา ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งฉบับต่อไปลองมาดูนะครับว่าจะ น�ำเสนอในรูปแบบนวัตกรรมและภูมิปัญญาของประเทศ เพื่อนบ้าน อะไรบ้าง รอติดตามต่อในฉบับหน้าครับ


28 Around Me!

ช่วงนี้มีเรื่องให้กลัดกลุ้มบ่อยๆค่ะ เวลาเครียดสิ่งแรกๆที่คิดถึงคือ ค�ำสอนเรื่อง โยนิโสมนสิการ ส�ำหรับบางคนชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูนัก โยนิโสมนสิการแปลว่า การ การท�ำในใจให้แยบคาย กล่าวคือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน เป็นหลักคิดทาง พุทธศาสนา อ่านมาถึงตรงนีอ้ ย่าได้คดิ ว่าพีจ่ ะมาสอนธรรมะอะไร จริงๆเรือ่ งนีพ้ ไี่ ด้เรียน ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจนักแต่เมื่อลอง เอามาใช้เป็นเครื่องมือจัดการกับปัญหาและความทุกข์ใจต่างๆถึงกับกล้าการันตีว่า เป็น เครื่องมือชุดวิเศษจริงๆค่ะ ช่วยคลี่คลายปัญหาและความรู้สึกในหลายๆวิกฤติได้จริงๆ ของแบบนีต้ อ้ งลองเองถึงจะรู้ วันนีพ้ ขี่ อเอาข้อมูลเกีย่ วกับโยนิโสมนสิการมาแนะน�ำต่อ ให้นอ้ งๆได้รจู้ กั และน้องๆสามารถหาข้อมูลและศึกษาเพิม่ เติมได้ในเว็บไซต์ตา่ งๆมากมาย google ช่วยคุณได้นะคะ

โยนิโสมนสิการคิ การดที่แยบคาย โดย ณัฏฐา ทับทอง (พี่เจี๊ยบ)

โยนิโสมนสิการหรือการคิดแบบแยบคายนี้มีวิธีคิด แยกย่อยออกเป็น 10 วิธีคือ 1. วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย (หรือคิดแบบ สืบสวน) วิธีคิดแบบนี้คือ การคิดแบบหาสาเหตุที่ท�ำให้ เกิดผลหรือเกิดเหตุการณ์ ว่ามีอะไรเป็นปัจจัยท�ำให้เกิด และมีความสัมพันธ์กนั อย่างไร เหมือนกับต�ำรวจหาสาเหตุ ที่เกิดเหตุร้ายหรือนักวิจัยหาสาเหตุต่างๆ ที่ท�ำให้เ กิด น�้ำท่วม บางคนขยันมากมายแต่สุดท้ายก็สอบได้คะแนน ไม่ด ี วิธคี ดิ แบบสืบสาวหาเหตุปจั จัยอาจจะช่วยให้เราเห็น จุดอ่อนบางอย่างก็เป็นได้นะคะ 2. วิธีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ (หรือการคิด เชิงวิเคราะห์) วิธนี เี้ ป็นการคิดแยกสิง่ ต่างๆ ออกเป็นส่วนๆ เช่น การวิเคราะห์ปญ ั หาทีเ่ กิดขึน้ ในองค์กร ก็แยกออกเป็น ฝ่ายบุคคล ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายการเงิน เป็นต้นแล้ววิเคราะห์ทีละฝ่าย โดยใช้วิธีคิดแบบอื่นมา ร่วมใช้ด้วย


29

อ้างอิง : พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

3. วิ ธี คิ ด แบบสามั ญ ลั ก ษณ์ (หรือแบบรู้เท่าทัน ธรรมดา) ผู้ ที่ส ามารถใช้วิธีคิด แบบนี้ได้ต้องเป็น ผู้รู้ห รือ มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ มาก่อน รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ รู้ว่าเป็นธรรมดา รู้ว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง ที่ปรากฏการณ์นั้นๆ เกิดขึ้น มีสาเหตุจากอะไร ท�ำให้เกิดผลอย่างไร จึงเป็นเรื่อง ธรรมดาที่ รู ้ แ ล้ ว ผู ้ ที่ ใ ช้ วิ ธี คิ ด แบบนี้ อ าจเรี ย กได้ ว ่ า เป็ น ผู้ช�ำนาญการหรือเชี่ยวชาญได้ สามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับ ผู้อื่นๆได้ 4. วิธีคิดแบบอริยสัจ (หรือกระบวนการแก้ปัญหา) โดยวิเคราะห์ ปัญหา (ทุกข์) หาสาเหตุของปัญหา (สมุทัย) ก� ำ หนดวั ต ถุ ป ระสงค์ ห รื อ เป้ า หมายในการแก้ ป ั ญ หา (นิโรธ) และก�ำหนดวิธีการแก้ปัญหา (มรรค) โดยคิดแบบ เป็นคู่ คือ วิเคราะห์หาปัญหาและสาเหตุพร้อมกัน เมื่อได้ ปัญหาและสาเหตุแล้วน�ำปัญหาที่ได้มาก�ำหนดเป้าหมาย และน�ำสาเหตุมาก�ำหนดเป็นแผนงาน โครงการ และกิจกรรม เพื่อแก้ปัญหาจนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5. วิธคี ดิ แบบอรรถธรรมสัมพันธ์ (หรือคิดตามหลัก การและความมุ่งหมาย) ธรรม แปลว่า หลักการ หลัก ความดีงาม หลักปฏิบัติที่ดี ส่วน อรรถ นั้นแปลว่าความ มุ่งหมาย วัตถุประสงค์ ประโยชน์ที่ต้องการ วิธีคิดแบบนี้ เป็นการคิดให้สอดคล้องสัมพันธ์กนั ระหว่างหลักการทีด่ แี ละ วัตถุประสงค์ที่ถูกต้องท�ำให้เกิดประโยชน์ที่ต้องการ

6. วิธีคิดแบบเห็นคุณโทษและทางออก (หรือ ข้อดี ข้อเสียและทางเลือก) วิธีนี้ใช้ร่วมกับวิธีอื่นด้วย เป็นการแยกแยะสิ่งที่มีอยู่ตามปกติมองให้เห็นข้อดี ข้อเสีย สิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นคุณ สิ่งที่เป็นโทษ และ เลือกท�ำ เลือกปฏิบตั แิ ต่สงิ่ ดี สิง่ ทีเ่ ป็นคุณ และหลีกเลีย่ ง สิ่งไม่ดี สิ่งที่เป็นโทษ จากสิ่งที่มีอยู่ เห็นอยู่ 7. วิ ธี คิ ด แบบคุ ณ ค่ า แท้ แ ละคุ ณ ค่ า เที ย ม เป็นวิธีคิดจ�ำแนกแยกออกระหว่างสิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่างแท้จริงและจ�ำเป็นต้องมี ต้องใช้หรือต้องท�ำงาน ตามบทบาทหน้าที ่ ซึง่ ถือว่ามีคณ ุ ค่าแท้ ซึง่ แตกต่างจาก คุณค่าเทียม เช่น แสวงหาสิ่งที่ไม่มีประโยชน์โดยตรง หรือมีแล้วก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้อย่างยั่งยืน หรือการไม่ ท�ำงานตามหน้าที่แต่ไปท�ำงานนอกหน้าที่ที่ไม่จ�ำเป็น เพื่อให้คนยอมรับ 8. วิธีคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม คือการคิดถึง วิ ธี ที่ จ ะน� ำ เอาประสบการณ์ ความรู ้ มาดั ด แปลง ปรับปรุงให้ดขี นึ้ เพือ่ เป็นตัวอย่างหรือแบบอย่างทีด่ เี ป็น ประโยชน์ต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม อันนี้แอบเติมต่อว่า เป็นการคิดแบบพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสค่ะ 9. วิธีคิดแบบเป็นอยู่ปัจจุบัน คือวิธีคิดโดย การมีสติอยู่กับปัจจุบัน โดยการเอาผลจากอดีตมา แก้ไขหรือปรับปรุงโดยไม่ไปค�ำนึงแต่เรื่องในอดีต และ มีสติในการคิดแก้ไขหรือปรับปรุงในเวลาปัจจุบัน โดย รู้ว่าการกระท�ำในปัจจุบันจะท�ำให้เกิดผลในอนาคต อย่างไร แต่ไม่ใช่เพ้อเหม่อลอยถึงอนาคตตลอดเวลา 10. วิธีคิดแบบวิภัชชวาท เป็นวิธีคิดประกอบ กับการใช้ค�ำพูดหรือการพูด โดยสรุปแล้วคล้ายกับน�ำ วิธีคิดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมาน�ำเสนอให้ได้รู้ตามที่ ได้คิดจ�ำแนก แยกแยะ คิดเป็นเหตุและผล คิดตาม ล�ำดับขั้นตอน คิดเป็นประเด็น ทั้ ง 10 วิ ธี ส ามารถน�ำมาใช้ ร วมกั น ได้ ใ น 1 เหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นวัยท�ำงานวัยเรียน ไม่ว่า จะเป็นปัญหาเรื่องเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องงาน เรื่องคน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ วิธคี ดิ แบบโยนิโสมนสิการช่วยได้เสมอ รับรองผล และเชื่อว่าใช้แล้วจะติดใจจริงๆ


30 เวทีคนเก่ง

เวทีคนเก่ง :

ภารกิจจิตอาสา

ลงมือท�ำได้เลยไม่ต้องรอ สันติ บุญทวีกูล หรือ เก้าเฟย นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขา เกษตรกรรม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากเด็กชาวเขาเผ่าอิ้วเมี่ยน (Iu-Mien) เติบโตมาด้วยความ ยากล�ำบาก ท�ำให้ได้เห็นปัญหาความทุกข์ต่างๆ ของตนเอง และเพื่อนมนุษย์คนอื่นมาตั้งแต่เด็ก มีเป้าหมายและความ ฝันว่าอยากเรียนต่อสูงๆ เพือ่ ทีจ่ ะได้กลับมาพัฒนาครอบครัว ชุมชน สังคมให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ “เมือ่ ผมเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย ผมตัง้ ค�ำถามตลอดว่า เรามาหาอะไร เอาอะไรกลับไปในเวลาสัน้ ๆ ของการเป็นนักศึกษา นี้ จึงอยากใช้เวลาว่างหลังจากการเรียนท�ำอะไรดีๆ เพื่อสังคม ดังนั้นรูปแบบกิจกรรมของผมจึงเป็นลักษณะการพัฒนา การให้ ให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่มีความทุกข์ยากถือเป็นการ ให้กำ� ลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กบั เขาได้ เพราะผมเคยผ่าน ชีวิตและประสบการณ์ในจุดนี้มาก่อน ผมจึงเลือกเป็นจิตอาสา” กิจกรรมอาสาส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ ชุมชน วัด สถาบัน การศึกษา เพราะ 3 แห่งนี้มีความสัมพันธ์กับสังคมโดยตรง ไม่ว่า จะเป็นการท�ำฝาย (โครงการ รวมพลังจิตอาสาพร้อมใจท�ำนาและ สร้างฝายถวายพ่อหลวง ครั้งที่ 1 ณ วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม อ�ำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่) / ร่วมกันอนุรักษ์ป่า (โครงการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ ห้วยบ้านห่าน

นายสันติ บุญทวีกูล (เก้าเฟย) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาเกษตรกรรม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นอมลอง ต.แม่สาบ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่) / พัฒนา โรงเรียนในชนบทห่างไกล (โครงการปรับปรุงห้อง สมุด เพือ่ เสริมสร้างแหล่งเรียนรูแ้ ก่นอ้ ง ณ โรงเรียน บ้านผาลั้ง ต.ห้วยชมพู อ.เมือง จ.เชียงราย) หรือ มอบเสื้อผ้า สิ่งของจ�ำเป็นให้กับน้องๆ บนดอยสูง (โครงการสานฝันปันน�้ำใจครั้งที่ 7 ณ โรงเรียน บ้านเลาสู ต�ำบลปงดอน อ�ำเภอแจ้ห่ม จังหวัด ล�ำปาง) เป็นต้น ในขณะทีเ่ ราเป็นเยาวชนสิง่ ส�ำคัญอย่างมาก ที่จะต้องมีระหว่างที่เราท�ำประโยชน์เพื่อผู้อื่นหรือ สังคมคือ ต้องมีกำ� ลังกาย ก�ำลังใจ ก�ำลังสติปญ ั ญา และเมือ่ มีโอกาสอย่ารีรอครับ ทุกคนสามารถลงมือ ลงแรง ลงใจ ช่วยพัฒนาสังคมได้ทันทีครับ”


มองชีวิตคิดดี 31

า ด ม ร ร ธ ง ่ ื อ เร ็ น เป ก ต สอบ โดย ดร.ศิริวรรณ เกษมศานต์กิดากา

สวัสดีค่ะหลานที่รัก

ช่วงนี้หลายคนคงรอลุ้นผลสอบกันอยู่ ใครเคยสอบตกบ้างเอ่ย? ป้าเองค่ะ!?! วิชาแรกของป้า F เคมี 5 หน่วยกิตค่ะ ตรี ญา ญ ปริ อน นต แน คะ ผล าน ายง ใบร ัชญา ไม่ใช่เคมี แล้วไง? ที่สุดป้าก็ได้ปริญญาเอกทางปร ร เห็นมั้ย สอบตกท�ำให้เรารู้ว่าเราถนัดอะไ รรจุเป็นผู้พิพากษาครั้งแรกเมื่อ 1996 บบ สอ น ั ก ริ อเม ชาว ชาย ร์ ลอ ไฟเ ่ ซี ก ็ แม คือไม่ผ่านค่ะ ตอนนั้นเขา อายุ 36 ปี ผลสอบครั้งแรก งเจลิส ซานดิเอโก ซานฟรานซิสโกฯ แม็กซี่ก็สอบใหม่ไปเรื่อยๆ ทั้งที่ลอสแอ อยู่ เขาก็สอบไป สอบไป เรื่อยๆ ตอนที่สอบครั้งแรกลูกชาย 2 คนยังเล็ก ูกชายมาสอบด้วย จนกระทั่งลูกชายจบกฎหมาย สอบจนล บ สอบจนลูกกลัวว่าพ่อจะตายคาห้องสอ อายุ 61 ปี และในที่สุด เขาก็ได้เป็นผู้พิพากษาเมื่อ ัคร 2 ล้านบาท สอบทั้งสิ้น 48 ครั้ง รวม 25 ปี เสียค่าสม ใช้เวลาในห้องสอบ 144 วัน ท�ำไมเขาไม่ยอมแพ้ ิพากษาได้ “ผมประเมินแล้วว่าผมสามารถเป็นผู้พ ่ยอมแพ้” ดังนั้นผมต้องสอบได้สักวันหนึ่ง หากไม มานะคะ ใช่แล้วค่ะ หลานรัก หากล้มแล้วลุกขึ้น อย่ายอมแพ้ ป้า​เอง


“ไม่ใช่แค่ให้ โตได้ แต่อยากให้ โตดี”


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.