EGAT Biznews (Issue 3/2020)

Page 1

ADVANCING ENERGY SOLUTIONS FOR A CHANGING WORLD

Achieving Efficiency เบื้องหลังความส�าเร็จ ทีมบ�ารุงรักษาไฟฟ้า และบ�ารุงรักษาเครื่องกล โรงไฟฟ้าล�าตะคอง ชลภาวัฒนา Intelligent Solution ความสมาร์ท ในแบบญี่ปุ่น กับอุตสาหกรรม อัจฉริยะ ‘Fujisawa’ Sustainable Smart Town เมืองสีเขียวต้นแบบ แห่งนวัตกรรม พลังงานของญี่ปุ่น Riding the Solar Wave โครงการโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ บนทุ่นลอยน�้า ความก้าวหน้าของธุรกิจพลังงาน กับโลกที่ก�าลังเปลี่ยนไป โดย คุณโคจิ นิชิคาวะ จาก MHPS
MAY-JUN 2020 / VOL 8 ISSUE 3

O&M AND ENGINEERING SERVICES FOR

RE WIND TURBINE

กฟผ. พร้อมให้บริการงานที่ปรึกษา วิศวกรรมก่อสร้าง งานเดินเครื่อง และบำารุงรักษาโรงไฟฟ้า Wind Turbine รวมทั้งการซ่อมอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ เพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์สามารถ ทำางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความพร้อมสำาหรับการเดินเครื่อง

www.egatbusiness.com

+66 (0) 2436 7488

+66 (0) 95 554 6142

msd3@egat.co.th

เชื่อถือได้ และไม่เสียโอกาสในการผลิต กระแสไฟฟ้า
SERVICES บริการงานที่ปรึกษา โครงการศึกษาพลังงานลม ก่อนงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า Wind Turbine บริการงานที่ปรึกษา ก่อสร้างโรงไฟฟ้า Wind Turbine บริการงานเดินเครื่อง โรงไฟฟ้า Wind Turbine บริการงานบำ า รุงรักษา โรงไฟฟ้า Wind Turbine
ประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างน้อยร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับบริษัทผู้ผลิต (OEM) มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดูแลโรงไฟฟ้าตลอดอายุ สัญญา พร้อมหน่วยงาน สนับสนุนจาก กฟผ. มีบริการด่วนพร้อมสำ า หรับ งานฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ลดความเสี่ยงจากการ หยุดเดินเครื่องเนื่องจาก การบำ า รุงรักษาที่ไม่ถูกต้อง
BENEFITS

กฟผ. ได้มาเล่าให้เราฟังถึงบทบาทและหน้าที่

รังสินี ประกิจ บรรณาธิการ
ส วัสดีคุณผู้อ่าน EGAT Biznews ทุกท่านค่ะ ในช่วงเวลา ที่ยากล� า บากจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ท�าให้ พวกเราทุกคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และเพิ่มความรับผิดชอบต่อสังคม จนท� า ใ ห้เกิดนิยาม ‘New Normal’ หรือ ‘ความปกติใหม่’ ในแง่ของ พลังงานก็เช่นกัน มนุษย์เรายังคงต้องใช้พลังงานไฟฟ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป รูปแบบในการบริโภคและการผลิต ก็ต้องเปลี่ยนแปลง โลกให้ความส� า คัญกับการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และองค์กรชั้นน�าด้านพลังงาน หลายแห่งก็มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเช่นกัน เราขอน�าเสนอเรื่องราวของบริษัทชั้นน�าด้านพลังงานจากประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับเกียรติจาก คุณโคจิ นิชิคาวะ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จ�ากัด (MHPS) มาแบ่งปันมุมมองอันเฉียบคม ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีอันทันสมัย ในการผลิตไฟฟ้า แนวโน้มของการใช้พลังงานหมุนเวียน และเรื่องราวประทับใจในความร่วมมือ กับ กฟผ. แม้ญี่ปุ่นจะได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี แต่พวกเขาก็ไม่เคยหยุดการคิดค้น พัฒนา เฉกเช่นเดียวกันกับ กฟผ. เรายังคงพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวในคอลัมน์ Superior Experience ที่คุณฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้อ�านวยการ ฝ่ายพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน�้าและพลังงานหมุนเวียน
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยน�้า แห่งแรก ของไทย ส่วนในคอลัมน์ Succeed พบกับเบื้องหลังความส� า เร็จของฝ่ายบ� า รุงรักษาไฟฟ้า และฝ่ายบ�ารุงรักษาเครื่องกลในการดูแลโรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา ส� า หรับคอลัมน์ Business Venue เราจะพาไปเยือน ‘ฟูจิซาว่า เมืองอัจริยะอย่างยั่งยืน’
พร้อมกับอ่านแนวคิด ‘4 ความอัจริยะในแบบญี่ปุ่น’ กับคอลัมน์ Business Analytic นอกจาก ความโดดเด่นในด้านเทคโนโลยีแล้ว ญี่ปุ่นยังขึ้นชื่อว่าเป็นชนชาติที่มีระเบียบวินัยดีเยี่ยม คอลัมน์ Enjoy Life จะพาไปศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกให้มีความรับผิดชอบในสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนคอลัมน์ Healthy Corner มาอ่านวิธีการกินอาหารให้เหมาะกับดีเอ็นเอของตัวเอง สุดท้ายนี้ ทีมงาน EGAT Biznews ขอเป็นก�าลังใจให้ผู้อ่านทุกท่านฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปด้วยกัน รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ egatbusiness.com Ӏ 3
New Normal
เมืองซึ่งเป็นต้นแบบแห่งนวัตกรรมพลังงานและการพัฒนาความน่าอยู่ของชุมชนเมืองในญี่ปุ่น
Contents MAY - JUN 2020 / VOL 8 ISSUE 3 8 Executive View Advancing Energy Solutions for a Changing World ความก้าวหน้า ของธุรกิจพลังงาน กับโลกที่ก�าลังเปลี่ยนไป 22 6 Bizmove ข่าวและกิจกรรม 18 Business Venue ‘Fujisawa’ Sustainable Smart Town เมืองสีเขียวต้นแบบนวัตกรรม พลังงานของญี่ปุ่น 22 Succeed Achieving Efficiency เบื้องหลังความส�าเร็จ ทีมบ�ารุงรักษาไฟฟ้า และบ�ารุงรักษาเครื่องกล โรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา 26 Superior Experience Riding the Solar Wave โครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน�้า 30 Business Analytic Intelligent Solution ความสมาร์ทแบบญี่ปุ่น กับอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพียงสแกน QR Code และแสดงความคิดเห็น กับ EGAT Biznews Vol 8 Issue 3 ตั้งแต่วันนี้ - 30 กรกฎาคม 2563 ลุ้นรับบัตร Stabucks Gift Card มูลค่า 100 บาท จ�านวน 15 รางวัล 4
บรรณาธิการอาวุโส สมคิด ประดิษฐ์เสรี บรรณาธิการบริหาร รังสินี ประกิจ กองบรรณาธิการ ลักษณ์ชลิตา พรรคอนันท์ มนทิรา วรวัฒน์ ภริษา ธรรมวัฒนา ภาพ U-Media Photography ศิลปกรรม ชาญสิริ มีเหล่าดี นิติกร เอี่ยมกลั่น ณฐกร มหารักษ์ ผลิตและจัดพิมพ์ บริษัท ยูโทเปีย มีเดีย อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จ�ากัด นิตยสาร อีแกทบิซนิวส์ ฝ่ายจัดการธุรกิจ ชั้น 11 อาคาร ท.103 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เลขที่ 53 หมู่ที่ 2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ต�าบลบางกรวย อ�าเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ : 0-2436-7416 อีเมล : egat_biznews@egat.co.th นิตยสาร อีแกทบิซนิวส์ จัดท�าขึ้นเพื่อเป็นสื่อในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สาระประโยชน์และเพิ่มพูนความรู้ รวมทั้งประชาสัมพันธ์
บทความและรูปภาพในวารสารฯ สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย การน�าบทความ หรือรูปภาพไปเผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษรจาก กฟผ. เท่านั้น E-MAGAZINE 18 34 Healthy Corner Feeding Your DNA กินตามดีเอ็นเอ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า 36 Enjoy Life Japanese Parenting Culture เลี้ยงลูกอย่างไรให้รู้จัก รับผิดชอบสไตล์ญี่ปุ่น 38 Horoscope เช็คดวงประจ�าราศี ระหว่างเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน
ด้านธุรกิจเกี่ยวเนื่องและอื่น ๆ ของ กฟผ. ทั้งนี้

LNG Receiving Facilities ภาคใต้ เพื่อความมั่นคง

12 พฤษภาคม 2563 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จ�ากัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) สองรัฐวิสาหกิจหลัก ของประเทศที่มีพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคง ทางพลังงาน ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือ ศึกษาโอกาสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อ ที่จะรองรับการน�

กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. และ ปตท. ประเดิม มอบแอลกอฮอล์ให้ รพ.สต. 76 แห่ง ในจังหวัดนนทบุรี ก่อนเดินหน้ากระจาย ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ปตท. จับมือ กฟผ. ร่วมศึกษาและ พัฒนาโครงการ
า เข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) หรือ LNG Receiving Facilities ส� า หรับการรับ เก็บและแปรสภาพก๊าซ LNG ในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน 20 เมษายน 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน น�าคณะ ผู้บริหารกระทรวงพลังงาน อาทิ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานและ ประธานกรรมการ กฟผ. นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานและ กรรมการ กฟผ. ผู้บริหาร กฟผ. น�าโดย นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. และ นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการ ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และผู้บริหาร บริษัท ปตท. จ�ากัด (มหาชน) ร่วมส่งมอบแอลกอฮอล์ โครงการพลังงานร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต� า บล โดยมีนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้แทนรับมอบแอลกอฮอล์ ณ ศาลาว่าการจังหวัดนนทบุรี กฟผ.–กัลฟ์ จากพิษโควิด-19มอบถุงยังชีพช่วยผู้เดือดร้อน ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ 6 พฤษภาคม 2563 นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะรองผู้ว่าการ กฟผ. ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จ�ากัด (มหาชน) น�าโดย นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายบุญชัย ถิราติ กรรมการบริหาร และนายสิตมน รัตนาวะดี ผู้ช่วยฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม พร้อมด้วยนายวัชรเดช เกียรติชานน นายอ�าเภอ บางกรวย นายสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย ลงพื้นที่ แจกจ่ายถุงยังชีพบรรจุข้าวสารอาหารที่จ�าเป็นต่อการด�ารงชีพให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 ภายใต้โครงการ ‘รวมพลังฝ่าวิกฤต โควิด-19’ ซึ่งในวันนี้แจกเป็นครั้งแรก จ� า นวน 2,400 ถุง โดยน� า สิ่งของ บริจาครวมไว้ที่วัด 9 แห่งในพื้นที่อ�าเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อแจกจ่าย ให้กับครอบครัวผู้ป่วยต่อไป 6
ทางพลังงาน

คัดหลั่งของผู้ป่วยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ โดยได้มอบตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันบวกและลบ เสากดแอลกอฮอล์เจลแบบเท้าเหยียบ

พันธมิตรกลุ่มมิตรผล สนับสนุนเอทานอล ผลิตเจลอนามัย ‘น�้ า ใจ’ กฟผ. ส่งต่อสังคม กฟผ.-กปน. ร่วมลงนาม MOU เดินหน้าแลกเปลี่ยนความรู้ การอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน�้า 15 พฤษภาคม 2563 นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการอนุรักษ์และการฟื้นฟูแหล่งน�้ า ระยะที่ 3 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 19 อาคาร ท.103 กฟผ. ส�านักงานใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์น�้า รวมทั้ง สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมต่อไปในอนาคต 8 เมษายน 2563 นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทน กฟผ. รับมอบเอทานอล ล็อตแรก จ�านวน 5,000 ลิตร ส�าหรับน�ามาผลิตเจลอนามัย ‘น�้าใจ’ กฟผ. จากกลุ่มมิตรผล น�าโดย นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ รองประธานกรรมการ บริษัทและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล และคณะ เพื่อส่งต่อ ความช่วยเหลือไปยังประชาชน หน่วยงานทุกภาคส่วน นับเป็นความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ในการบรรเทาวิกฤติสถานการณ์การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กฟผ. เดินหน้ามอบตู้เก็บ สิ่งส่งตรวจความดันบวก และลบ เสริมเกราะป้องกัน ให้บุคลากรทางการแพทย์ 29 เมษายน 2563 นายสุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหาร เป็นผู้แทน กฟผ. เดินทางไป มอบอุปกรณ์เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัส สารคัดหลั่งและจ� า กัดพื้นที่การฟุ้งกระจายสาร
พร้อมเจล อนามัย
ให้แก่สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน และโรงพยาบาลบางกรวย 2 egatbusiness.com 7
‘น�้าใจ’ กฟผ. และฉากกั้นอะคริลิกป้องกันเชื้อ

ADVANCING ENERGY SOLUTIONS FOR A CHANGING WORLD

มิตซูบิชิ

กับ กฟผ. นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา MHPS ได้กลายเป็นผู้ให้บริการหลักในตลาด พลังงานไทย เราได้ส่งมอบโรงไฟฟ้า ที่ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้มีความ เหมาะสมกับการใช้งานและจุดมุ่งหมาย ของการผลิตไฟฟ้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งประกอบไปด้วย โรงไฟฟ้าพลังไอน�้าที่ใช้ ถ่านหินหรือน�้ามันเป็นเชื้อเพลิง

ธุรกิจของบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ ในประเทศไทย (รวมถึงบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ และ บริษัท ฮิตาชิในอดีต) เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2511 ในโครงการก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งถือเป็น
และโรงไฟฟ้า พลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (Gas Turbine Combined Cycle: GTCC) โดยจาก บันทึกติดตามผลของเรา MHPS มีก� า ลัง การผลิตติดตั้งรวมในประเทศไทยมากกว่า 25 กิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับร้อยละ 50 ของก� า ลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ในปัจจุบัน การจะก้าวเป็นบริษัทธุรกิจพลังงานระดับโลกได้นั้น จะต้องมีความเชี่ยวชาญ ในหลากหลายแขนงและต้องมีความสามารถในการประสานทุกองค์ความรู้ เข้าด้วยกัน คุณโคจิ นิชิคาวะ ประธานและกรรมการผู้จัดการ
จ�ากัด มาเล่าให้เราฟัง
โครงการแรกที่เราได้มีโอกาสร่วมงาน
บริษัท
ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย)
ห ากกล่าวถึงการประสบความส�าเร็จ ในตลาดพลังงานของยุคปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ จ�าเป็นต้องมีความ สามารถรอบด้าน ต้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย บุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ และมีการบริการที่ครอบคลุมถึงทุกความ ต้องการ บริษัทยังจ� า เป็นต้องร่วมมือกับ ลูกค้าและชุมชนเพื่อตอบสนองโจทย์ ความต้องการด้านพลังงานต่าง ๆ นอกจากนี้ บริษัทต้องสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไปพร้อม ๆ กันด้วย คุณโคจิ นิชิคาวะ ประธานและกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จ�ากัด หรือ MHPS ประเทศไทย กล่าวว่า MHPS ได้ปฏิบัติ ตามค�ากล่าวข้างต้นและนอกเหนือจากนั้น โดยเขายังสัญญาว่าบริษัทจะน�าเอาความรู้ ความช�านาญนี้ก้าวเข้าสู่แบรนด์ใหม่ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ (Mitsubishi Power) พร้อมทั้ง ความมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปเป็นผู้น�าในธุรกิจ พลังงาน ซึ่งไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ต้องครอบคลุมไปทั่วทุกมุมโลกด้วย ช่วยเล่าให้ฟังถึงจุดก� า เ นิดทางธุรกิจ ของบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จ� ากัด (Mitsubishi Hitachi Power Systems: MHPS) ในประเทศไทย และหลักส�าคัญของธุรกิจคืออะไร MHPS จะด�ำเนินกำรเปลี่ยนชื่อบริษัทภำยหลังเสร็จสิ้นกำรโอนหุ้นทั้งหมดที่ถือโดยบริษัท ฮิตำชิ จ�ำกัด ไปยังบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จ�ำกัด โดยมิตซูบิชิ พำวเวอร์ จะเริ่มด�ำเนินกำรภำยใต้ชื่อใหม่ พร้อมเครื่องหมำยกำรค้ำทรีไดมอนด์หลังจำกได้รับกำรอนุมัติจำกหน่วยงำนต่อต้ำนกำรผูกขำดต่ำง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 8
egatbusiness.com Ӏ 9
10 10

To succeed in today’s energy market, companies need to be well-rounded with advanced technologies, experienced personnel, and comprehensive services. They also must partner with their customers and communities to deliver solutions that meet energy requirements while supporting environmental conservation.

Mr. Koji Nishikawa, President and Managing Director of Mitsubishi Hitachi Power Systems (Thailand), says that MHPS does all that and more. He also promises that the company will bring this expertise forward when it steps into its new “Mitsubishi Power” brand and aims to continue growing its leadership in the energy sector not just in Thailand, but around the world.

What is the origin of Mitsubishi Hitachi Power Systems (MHPS) in Thailand? What are its key offerings?

MHPS’ business in Thailand (including former operations as Mitsubishi Heavy Industries and Hitachi) started in 1968 with the construction of the Queen Sirikit Dam – our first project with EGAT (Electricity Generating Authority of Thailand). Since then, we have been an all-around player in the Thai power market. We supply power plants

tailored to different applications and generation needs, including coal- and oil-fired steam power plants and gas turbine combined cycle (GTCC) power plants. The total capacity of our track record (installed base) in Thailand is well over 25GW, equivalent to 50% of the country’s current power generation capacity.

With a commitment to meeting budget and scheduling requirements, MHPS provides Engineering, Procurement and Construction (EPC) services for entire power plants. This includes supplying core equipment such as gas turbines, steam turbines, boilers, generators, distributed control systems and air quality control systems (AQCS). We also offer operation and maintenance support integrated with MHPS-TOMONI, our proprietary suite of digital power plant solutions.

Apart from these critical power generation technologies, MHPS provides cutting-edge solutions to help Thailand in its journey towards clean energy and decarbonization. Our J-Series Air Cooled (JAC) gas turbines are the world’s most efficient, resulting in significant reductions in carbon emissions. Just last year, we completed a shipment of JAC gas turbines to a GTCC power plant project in Chonburi province –the first shipment of 8 units which

altogether will add 5,300 MW of electricity to the grid. MHPS also continues to develop technologies to deploy hydrogen as a non-carbon fuel, and has solid oxide fuel cells (SOFC) and battery energy storage systems (BESS) offerings that will aid in decarbonization.

MHPS has a great reputation in providing advanced technologies and power plant services. What is the real secret behind this success?

There are two main factors. Firstly, using our own technologies, we are able to handle the entire production of power plants and their core equipment from technological development, design and manufacturing to construction, commissioning and after-sales service. This ensures that we can deliver high-quality products and services to our customers. Likewise, we are the industry leader in conducting meticulous product validation before market introduction and shipment to customers. For our large-scale gas turbines, we do these tests at our GTCC demonstration facility at Takasago Works, where the power generated is sent to the local utility company for commercial use. The testing occurs over an extended period and under real power demand conditions. We recently completed the commissioning of T-Point 2, our next-generation J-Class GTCC power plant and validation facility, and there is none other like it in the world!

Secondly, at every step of the way, MHPS maintains a strong

Being a world-class energy solution company requires having expertise in multiple disciplines and the ability to harmonize all this knowledge together.
14
MHPS will change its name following the complete transfer of all stock held by Hitachi, Ltd. to Mitsubishi Heavy Industries, Ltd. ‘Mitsubishi Power’ will begin operating under the new name and brand logo with the three diamonds once it receives approvals from various antitrust authorities.
egatbusiness.com Ӏ 15

customer focus. One of our internal mottos is “CS First!” or “Customer Satisfaction First!” We strive to provide constant support to our customers so that we can earn their trust and respect while doing the same with the communities they serve. If customers face any trouble and need immediate support, we quickly dispatch our engineers to help them

MHPS is upgrading existing power plants with our latest advanced technologies that improve plant efficiency and contribute to reducing CO2 emissions.

Hydrogen gas turbine

Hydrogen, a non-carbon fuel that can be produced from either fossil fuels or renewable sources, will be key to decarbonizing the power

capture systems (CCS) which will decarbonize coal plants while utilizing captured CO2 for enhanced oil recovery. In 2016, we completed the installation of Petra Nova, the world’s largest CCS plant in Texas, USA.

Further to carbon storage, we now have a project under development to demonstrate the viability of combining CO 2 recovered from fossil fuels with hydrogen generated from water electrolysis to produce methanol.

Solid Oxide Fuel Cells (SOFC)

recover and maintain high availability and reliability of their power plants. Moreover, our innovative products and solutions are founded on our intimate understanding of our customers’ needs and backed by our comprehensive and proven technology.

These remarks are easy to say but it takes lot of effort and dedication to ensure that MHPS always fulfills its commitments and goes above and beyond for its customers.

In addition to providing the most advanced technologies and great services, MHPS also cares about the environment. Can you tell us more about how MHPS is addressing global shifts towards renewable energy?

MHPS supports the global trend towards a low- or zero-carbon society – balancing the need to meet present energy demands with that of reducing carbon emissions. We are on track to deliver advanced technologies to support these efforts. Reduction of CO 2 emissions at existing power plants

generation and mobility industries in the near future. MHPS already has a track record of operating gas turbines for more than 3 million hours using hydrogen-rich by-product gas from steel mills and refineries. Our goal is to increase the proportion of hydrogen in fueling our advanced class gas turbines. To this end, we have designed our existing gas turbine models to require only minor modifications to eventually run on 100% hydrogen. To date, we have achieved 30% hydrogen co-firing with natural gas and are on our way to 100% hydrogen firing by 2025.

Carbon recycling

While it is important to increase renewable power generation, we also understand that existing steam power generation systems are essential to meet energy demands in the near term. As such, capture and treatment of carbon emissions from more traditional power plants are part of our long-term decarbonization strategy.

Mitsubishi Heavy Industries (MHI) Group has been working with MHPS to provide industry-leading carbon

Fuel cells differ from conventional power generation systems in that they can use hydrogen as a carbonfree power source. With built-in electrochemical converters, SOFCs can combine hydrogen and oxygen in the air to produce energy without the CO2 by-product while delivering high efficiencies over 70%.

In 2017, we introduced MEGAMIE, with its versatility in using different types of fuel – from city gas and LPG in local infrastructure to methane gas from sludge, food waste and agricultural waste. MEGAMIE can also accommodate hydrogen from different sources.

The technologies mentioned above are part of the “decarbonization” family within MHPS’ range of offerings. We believe that complementing existing power generation systems with cutting-edge technology is a more sustainable and economical solution to decarbonize society. We base this philosophy on our experience in Japan where rather than relying on a single energy source, multiple sources, including fossil fuels and renewables, are utilized in different proportions to ensure energy security. MHPS hopes to collaborate with EGAT to equip Thailand with similar technologies and solutions.

16
MHPS supports the global trend towards a low- or zero-carbon society – balancing the need to meet present energy demands with that of reducing carbon emissions.

What are the most cost-effective resources for renewable energy now and in the future? How important is energy storage to the future energy industry?

MHPS is committed to developing technologies that support countries as they transition to cleaner energy systems. Currently, we see renewable energy sources like solar and wind becoming more cost-effective globally. However, because renewables are subject to environmental fluctuations (for instance, intermittent sunlight and wind), they require some sort of power back up. To sustain reliable power supply in the present, renewables need to be combined with other energy sources that can meet the gap in baseload power.

One way to optimize renewable energy sources in the near term is through energy storage systems. These can work with solar energy systems to fix the problem of the “duck curve”, which illustrates the timing imbalance between peak demand and renewable energy production. Similarly, energy storage systems can help reduce wind power variation from wind turbines as well as increase operational flexibility of gas turbines. For longterm storage (including seasonal storage), hydrogen, created by using excess solar energy to drive electrolyzers, can be a solution for the future.

In Thailand, MHPS has been working with Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT) on various projects. Marking its 51th anniversary this year, EGAT has enjoyed a long reputation as one of the leaders in electricity generation and power plant maintenance and operation in Thailand and Asia. How do you feel

about the cooperation between the two organizations?

Supporting EGAT over the past half century has allowed us to cultivate a deep partnership beyond just a seller-buyer relationship. EGAT and MHPS have complementary capabilities that have shown great potential for integration, especially in the maintenance business. We have demonstrated this through collaborations to serve customers in Thailand and overseas either directly or through our joint venture, EGAT Diamond Service (EDS).

Another remarkable example of the cooperation between EGAT and MHPS is the Power Plant Operation and Maintenance Collaboration (POMCO). When we started POMCO in 2009, our aim was to expand business together through knowledge exchange. One of the most significant achievements of this collaboration was introducing comprehensive rotor inspection (CRI) functions at the Nong Chock facility. Today, power plant operators from Thailand and abroad send their rotors to Nong Chock for CRI.

EGAT has unsurpassed know-how in operations and maintenance, and its appetite for cutting-edge technologies has led to MHPS’ own technological advancement. We are grateful and honored to partner with EGAT and sincerely hope that our cooperation will continue to move forward and be further reinforced.

In your view, what are the strengths of Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT) service and what has impressed you most?

EGAT’s strengths lie with its staff whose years of experience in operating and maintaining power plants allow them to swiftly respond to customer demands. Supported by a flexible organization and

access to leading-edge tools and equipment, EGAT is able to work under tight schedules and provide complete maintenance for entire power plants. MHPS itself utilizes EGAT maintenance services at the Khanom Power Plant and Ratchaburi Power (RPCL) Power Plant, under the LTSA contract between MHPS and customers. We have seen first-hand EGAT’s commitment to quality and customer service.

Moreover, EGAT and MHPS cooperate to support other customers including IPPs and various industrials which own MHPS power generation facilities. As the electric power generation business is important for national security, most of the maintenance works are conducted under strong time pressure. We greatly appreciate EGAT’s continued support on these critical projects.

What are MHPS’ plans to develop the company and empower society to grow more sustainably? How can EGAT support MHPS in attaining these goals?

Paying close attention to our customers’ needs is essential for us to continue to be a reliable and competitive solution provider amidst the constantly evolving power sector. We are privileged and honored to have POMCO as a platform to discuss joint business development opportunities with EGAT and better understand problems from our customers’ perspectives. In addition to the operation and maintenance support that EGAT provides, we hope that it will be able to support us as an MHPS-certified Technical Advisor or Trainer.

As MHPS looks to its future in an ever-changing energy landscape, we hope to continue this fruitful partnership with EGAT in the decades to come.

egatbusiness.com Ӏ 17

‘Fujisawa’ Sustainable Smart Town

18
ประเทศญี่ปุ่นมีการส่งเสริมและพัฒนา เมืองให้ก้าวสู่ความเป็น Smart City โดยอาศัยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสร้าง สังคมคุณภาพและมีความเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนผู้อยู่อาศัย เรื่อง นิธิศ โสระฐี

ในเขตคานากาว่า ‘Fujisawa Sustainable Smart Town (Fujisawa SST)’ คือ หนึ่งในชุมชนที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบ

โดยชุมชน แห่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือกัน ของภาครัฐและภาคเอกชนหลายราย โดยเฉพาะผู้พัฒนาโครงการอย่างพานา โซนิค (Panasonic) ซึ่งเป็นผู้น�าทางด้านเทคโนโลยีชั้นน�าระดับโลก ที่ได้เนรมิตพื้นที่ กว่า 19 เฮกเตอร์ (ประมาณ 190,000 ตาราง เมตร) สร้างเป็นชุมชนเมืองแห่งอนาคต ขึ้นมา ประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยกว่า 1,000 หลังคาเรือน โดยมีการออกแบบจัดวาง โครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อรองรับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ใน 5 มุมมอง คือ ด้านความปลอดภัย ด้าน สุขภาพ ด้านสังคม ด้านการคมนาคม และ ด้านพลังงาน ซึ่งมีบริษัทพานาโซนิคเป็น

egatbusiness.com Ӏ 19 ค วามตระหนักในปัญหาเรื่อง สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นไปทั่ว ทุกมุมโลก นับตั้งแต่การลงนาม ในสนธิสัญญา COP21 (21st Conference of Parties) ในปี ค.ศ. 2015 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยประเทศกลุ่มสมาชิก ได้ท� า ความตกลงร่วมกันที่จะลดปริมาณ ก๊าซเรือนกระจกลงจากเดิมให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งจากสนธิสัญญา ดังกล่าวจะเห็นได้ว่า นี่คืออีกหนึ่งก้าวส�าคัญ ของการด� า เนินการด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศของโลก โดยเฉพาะปัญหา โลกร้อนและภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและดูจะทวีความรุนแรง มากยิ่งขึ้น จนถือเป็นความท้าทายอัน ยิ่งใหญ่ของโลกในขณะนี้ จากข้อตกลงในสนธิสัญญา COP21 สิ่งนี้ ได้กลายเป็นหมุดหมายที่น�าไปสู่การต่อยอด ของโปรเจกต์ต่าง ๆ มากมายในหลากหลาย ประเทศ โดยมีเป้าหมายร่วมกันนั่นคือ การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และประเทศญี่ปุ่นก็คือหนึ่งในตัวอย่างของ การสร้างสรรค์โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการ พัฒนาเมืองอัจฉริยะ (smart city) หรือ เมืองยั่งยืน (sustainable city) ซึ่งจุดเริ่มต้น ของแนวคิดนี้เกิดขึ้นภายหลังจากเหตุภัยพิบัติ ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2011 เมื่อแผ่นดินไหว ได้ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มหลาย เมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ท� า ให้ญี่ปุ่นต้องประสบกับปัญหาการ ขาดแคลนพลังงานครั้งใหญ่ และนั่นได้ ก่อให้เกิดแนวคิดการสร้างเมืองในรูปแบบ ใหม่ที่เรียกว่า ‘Sustainable Smart Town’ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาด้านพลังงานนั่นเอง
ณ ชุมชนแห่งหนึ่ง
ผู้สานพลังและน� า เสนอนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เมืองบรรลุเป้าหมายครบทั้ง 3 ด้าน คือ เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย ด้านพลังงาน และเป้าหมายด้านความมั่นคง และความปลอดภัย ซึ่งหากใครมีโอกาสได้ มาเยือนเมืองแห่งนี้ ย่อมสัมผัสได้ถึงความ น่าอยู่ของเมืองเป็นอย่างมาก เนื่องด้วย ท�าเลของเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของ กรุงโตเกียว ท� า ให้สถานที่แห่งนี้มีความ fujisawasst.com
ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว
ของเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

สอดคล้องระหว่างสภาพแวดล้อมของเมือง และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเมือง ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่ เงียบสงบและอากาศที่สดชื่น ยิ่งไปกว่านั้น ภายในชุมชนยังมีการวางแผนพัฒนาการใช้ ประโยชน์ที่ดินแบบผสมผสาน (mix land used) เพราะนอกจากจะประกอบด้วย ที่พักอาศัยแล้ว ก็ยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์และ

พลังงาน ดูจะถูกหยิบยกให้เป็นพระเอก ในการพัฒนาเมืองนี้อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยบ้านทุกหลังจะมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง และมีระบบกักเก็บ พลังงานชนิดแบตเตอรี่หรือเทคโนโลยี เซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) ที่ท�างานร่วมกับ ระบบบริหารจัดการพลังงานภายในบ้าน

(Home Energy Management System : SMART HEMS) ซึ่งจะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ เกิดประโยชน์สูงสุด

‘Self-Creation and Self-Consumption of Energy’

Metering และในกรณีที่เกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เมืองฟูจิซาว่าจะต้องสามารถด� า ร งอยู่ได้ โดยมีพลังงานไว้ใช้ในส่วนที่จ�าเป็นถึง 3 วัน นอกจากนี้ ภายในบ้านจะมีการเชื่อมต่อ อุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านระบบ Internet of Things (IoT) โดยเจ้าของบ้านสามารถที่จะ มอนิเตอร์และสั่งการอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง

ต่อสิ่งแวดล้อม

70 ด้วยการติดตั้ง ระบบการจัดการและอนุรักษ์พลังงาน เช่น

20
ๆ ด้วยเช่นกัน และเมื่อลงลึกไปถึงรายละเอียดของ นวัตกรรมทันสมัยที่ถูกน� า มาใช้ในการ สร้างสรรค์เมืองแห่งนี้ นวัตกรรมด้าน
พื้นที่สาธารณะประโยชน์อื่น
ภายใต้คอนเซ็ปต์
กล้องวงจรปิดในการป้องกันอันตรายจาก คนภายนอก รวมถึงการใช้หลอดไฟ LED ระบบเซ็นเซอร์ที่จะส่องสว่างเมื่อมีคน เดินผ่านเท่านั้น อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า เป้าหมาย ของการสร้างเมือง Fujisawa SST นั้น มีหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้านอนุรักษ์ พลังงาน และด้านความมั่นคงปลอดภัย โดยสามารถอธิบายได้ดังนี้ CO 2 70% Reduction การตั้ง เป้าหมายเพื่อสร้างสังคมที่เป็นมิตร
โดยลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ
า รอง ส�าหรับการเก็บพลังงาน และแหล่งพลังงาน อื่น ๆ เป็นต้น Water Consumption 30% Reduction การตั้งเป้าหมายเพื่อสร้าง สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการ ลดการใช้น�้าร้อยละ 30 ด้วยการน�าน�้าฝน ที่กักเก็บไว้มาใช้ทดแทนในการช� า ระล้าง สุขภัณฑ์ในห้องน�้าและรดน�้าต้นไม้ Renewable Energy Utilization Rate 30% over การตั้งเป้าหมายเพื่อ สร้างสังคมอนุรักษ์พลังงาน โดยการหันมา ใช้พลังงานทดแทน นอกจากนี้ ในชุมชน เมืองยั่งยืน (sustainable city) นับเป็นกรอบแนวคิดที่ได้รับการขานรับ จากหลากหลายเมืองชั้นน� า ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การสร้าง สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดีและการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้าง ความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบส�าคัญที่จะน�าไปสู่คุณภาพ ชีวิตที่ดีของพลเมือง ส� า หรับประเทศไทย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้วาง ‘Roadmap เมืองไทยน่าอยู่อย่างยั่งยืน ปี พ.ศ. 2560-2579’ โดยก�าหนด แผนการด�าเนินงานเป็นระยะปักหมุด
สู่สังคมสีเขียว’
ซึ่งไฟที่เหลือใช้จริง ๆ จะถูกรับซื้อ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านระบบ Net
ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ บ้านทุกหลัง ถูกออกแบบให้มีช่องทางรับลม เพื่อลด การใช้เครื่องปรับอากาศ และอาศัยกลไกของ
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน แต่ละหลัง การติดตั้งแบตเตอรี่ส�
5 ปี เพื่อสร้าง ‘ท้องถิ่นไทยน่าอยู่อย่างยั่งยืน
ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

Fujisawa SST ให้ความส� า คัญในเรื่อง

ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการ

เมื่อหันกลับมามองในประเทศไทย ปัจจุบันนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ถือเป็นกลไกส�าคัญของรัฐบาลที่จะช่วยลด ความเหลื่อมล�้ า และกระจายความเจริญ อย่างเท่าเทียมกันในทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งสอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12

Thailand 4.0 และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมประเทศไทย ทั้งนี้ นวัตกรรมพลังงานหรือ smart energy ได้ถูกน� า มาเป็นส่วนหนึ่งใน การก� า หนดหลักเกณฑ์เมืองอัจฉริยะใน ประเทศไทย โดยเป็น 1 ใน 7 หัวข้อของ ตัวชี้วัด ซึ่งมีการก�าหนดหัวข้อต่าง ๆ ที่จะต้อง สร้างให้เกิดขึ้นภายในเมือง เช่น การสร้าง แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ การจัดหา

และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน โดยหนึ่งในองค์กรด้านพลังงานที่จะเข้ามา มีบทบาทในการสนับสนุนแนวทางการ พัฒนาดังกล่าวก็คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้วยวิสัยทัศน์ ที่ก� า หนดไว้ว่า ‘Innovate Power Solution for a Better Life’ จึงท�าให้ กฟผ. มีแผนยุทธศาสตร์หลักที่จะน�

ประกอบร่างให้เมืองธรรมดากลายเป็น เมืองอัจฉริยะและกลายเป็นเมืองยั่งยืน ต่อไปได้ในอนาคต และจะส่งผลกระทบทาง

egatbusiness.com Ӏ 21 แห่งนี้ยังส่งเสริมให้มีการใช้ยานพาหนะ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย Lifeline Maintenance for 3 Days การตั้งเป้าหมายของการอยู่อาศัยอย่าง ต่อเนื่องของชุมชน ในกรณีหากเกิดเหตุ ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ ผู้คนก็ยังคงสามารถ อยู่อาศัยภายในเมืองต่อเนื่องได้ 3 วัน จนกว่าภาครัฐหรือหน่วยงานส่วนกลาง จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ ภายในชุมชนเมือง Fujisawa SST ยังเน้นในเรื่องความส�าคัญ ทางกายภาพของสภาพแวดล้อมของชุมชน และการมีระบบเชื่อมต่อภายในที่ดี ด้วยการ ใช้ประโยชน์ที่ดินและกิจกรรมทางสังคม ที่ผสมผสาน รวมทั้งการสร้างพื้นที่สีเขียว ผ่านการจัดภูมิทัศน์และก� า หนดต� า แหน่ง พื้นที่สวนหย่อมให้สัมพันธ์กับพื้นที่ใช้สอย ซึ่งก่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างโซนนิ่ง พื้นที่ที่พักอาศัย แหล่งการค้า แหล่ง นันทนาการ และแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้ ผู้อยู่อาศัยในเมืองนี้สามารถเข้าถึงได้อย่าง สะดวกและอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างพฤติกรรมการใช้ชีวิต ด้วยการเดินเท้าและปั่นจักรยานเป็นหลัก
ที่สมบูรณ์ของชุมชน
และติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน การบริหาร จัดการพลังงาน และการน� า นวัตกรรม
ๆ มาใช้
องค์ความร ศักยภาพ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน ไฟฟ้า มาประยุกต์ สานต่อ สร้างสรรค์ และให้บริการนวัตกรรมพลังงาน
ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคของ ประเทศไทย ซึ่งนวัตกรรมพลังงานถือเป็น
สิ่งแวดล้อม
สภาพแวดล้อมของชุมชนด้วยการใช้ประโยชน์ จากที่ดินและกิจกรรมทางสังคมที่ผสมผสาน
ลดการใช้พลังงานและสร้างสุขภาพพลานามัย
โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจ
ต่าง
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ ใช้พลังงาน ลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
ไฟฟ้า
พื้นฐานปัจจัยที่ส� า คัญในการต่อยอดและ ด�ารงอยู่ของนวัตกรรมด้านอื่น ๆ ที่จะมา
บวกโดยตรงต่อมวลมนุษยชาติ
และโลกใบนี้อย่างแท้จริง
fujisawasst.com fujisawasst.com

Achieving Efficiency

เรื่องราวเบื้องหลังการท�างานที่น่าสนใจของทีมบ�ารุงรักษา โรงไฟฟ้าลาตะคองชลภาวัฒนา รวมถึงบทบาทในอนาคตของโรงไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน ที่มาช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับ กระบวนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. มากยิ่งขึ้น เรื่อง นิธิศ โสระฐี เรียบเรียง กนกพรรณ ลิ้มเจริญ ภาพ วุฒิพงษ์ ค�ำประไพ 22

ส�าหรับโรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา ถือเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ของ กฟผ. ที่ประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าพลังน�้า

ทั้งนี้ ภารกิจในการบ�ารุงรักษาถือเป็นหัวใจ ส�าคัญของโรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา เป็นอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้จะมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการเดินเครื่องและผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งตัวโรงไฟฟ้าพลังน�้าแบบสูบกลับ ถือว่า เป็นเสมือนแบตเตอรี่ส� า รองขนาดใหญ่

กฟผ. ในฐานะที่ กฟผ. เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่มี

ประสบการณ์มาอย่างยาวนานมากกว่า 51 ปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ กฟผ. จะมีความ เชี่ยวชาญในงานเดินเครื่องและบ�ารุงรักษา โรงไฟฟ้า (Operation & Maintenance : O&M) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่ งานบ�ารุงรักษาด้านไฟฟ้าและด้านเครื่องกล

ขนาดใหญ่ที่มีความจ�
ต่อความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงให้ความส�าคัญกับ ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบ� า รุงรักษา โรงไฟฟ้าในส่วนต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลัก ของงานเดินเครื่องและบ�ารุงรักษา
เปรียบเสมือนทีมหมอที่คอยดูแลสุขภาพ โรงไฟฟ้า
ความส�าเร็จของงาน บ�ารุงรักษาโรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวโดยตัวแทนจาก ฝ่ายบ� า รุงรักษาไฟฟ้าและฝ่ายบ� า รุงรักษา เครื่องกล ประกอบด้วย คุณประวิทย์ จันทร์เอี่ยม หัวหน้ากองเทคโนโลยีและ ทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ฝ่ายบ�ารุงรักษาไฟฟ้า, คุณชวนิทธิ์ โสสนุ้ย หัวหน้าแผนกบ�ารุงรักษา ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน กองบ�ารุงรักษาไฟฟ้า ระบบควบคุมและพลังงานหมุนเวียน คุณธนพล ซื่อนิธิกุล หัวหน้ากองโรงไฟฟ้า พลังงานน�้าและพลังงานหมุนเวียน ฝ่ายบ�ารุง รักษาเครื่องกล คุณภาสวร วรรณกาญจน์ หัวหน้าแผนกวิศวกรรมโรงไฟฟ้าพลังน�้ า และพลังงานหมุนเวียน ฝ่ายบ� า รุงรักษา เครื่องกล คุณฉัตรชัย ภูกาบเพชร หัวหน้า กองบ� า รุงรักษาโรงไฟฟ้าล� า ตะคองชลภา วัฒนา และคุณกฤษณุ บรรจงจิตต์ วิศวกร ระดับ 7 แผนกบ�ารุงรักษาไฟฟ้าพลังงาน หมุนเวียน กองบ� า รุงรักษาไฟฟ้าระบบ ควบคุมและพลังงานหมุนเวียน
พราะโรงไฟฟ้าคือเครื่องยนต์
า เป็นจะต้อง เดินเครื่องตลอดเวลา เพื่อให้ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอ
(Operation & Maintenance : O&M) ที่มีหน้าที่
ตัวอย่างเช่น
และโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยที่โรงไฟฟ้า ล� า ตะคองชลภาวัฒนา ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังน�้าแบบสูบกลับขนาด 1,000 เมกะวัตต์ มีลักษณะเป็นโรงไฟฟ้าใต้ดิน แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังลม จ�านวน 14 ต้น ซึ่งมี ก�าลังผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 26.5 เมกะวัตต์
ที่สามารถเก็บกระแสไฟฟ้า ในกรณีที่ กฟผ. มีความจ�าเป็นที่จะต้องเสริมระบบ
ศักยภำพรอบด้ำนของงำน บริกำรด้ำนกำรบ�ำรุงรักษำ ของ
คุณฉัตรชัย ภูกาบเพชร หัวหน้ากองบ�ารุงรักษา โรงไฟฟ้าล�าตะคอง ชลภาวัฒนา ‘ฝ่ำยบ�ำรุงรักษำไฟฟ้ำ และฝ่ำยบ�ำรุงรักษำเครื่องกล’ หัวใจส�ำคัญที่ช่วยส่งเสริม สมรรถนะและประสิทธิภำพ ให้กับโรงไฟฟ้ำ กฟผ. หากกล่าวถึงงานด้านการบ�ารุงรักษาของ กฟผ. ฝ่ายบ า รุงรักษาไฟฟ้าและฝ่ายบ� า รุงรักษา เครื่องกล ถือเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลัก ในการบ�ารุงรักษาด้านไฟฟ้าและด้านเครื่องกล ให้กับโรงไฟฟ้า กฟผ. ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงไฟฟ้าพลังความ ร้อนร่วมและกังหันก๊าซ โรงไฟฟ้าพลังน�้ า และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนหรือ พลังงานทดแทนทุกรูปแบบ นอกจากการ ให้บริการบ�ารุงรักษาแก่โรงไฟฟ้าทั้งหมดของ กฟผ. แล้ว ยังมีการให้บริการในรูปแบบ ธุรกิจส�าหรับลูกค้าโรงไฟฟ้าเอกชนอีกด้วย โรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังน�้าแบบสูบกลับขนาด 1,000 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังลม จ�านวน 14 ต้น ซึ่งมีก�าลังผลิต ติดตั้งรวมทั้งสิ้น 26.5 เมกะวัตต์ egatbusiness.com Ӏ 23

ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ก�าลัง,

กังหัน

ทั้งนี้ สภาพร่างกายของทีมบุคลากรที่ต้องได้รับ การตรวจสอบเป็นพิเศษ เพราะจะต้อง ท�างานอยู่บนที่สูงเหนือจากระดับพื้นดินถึง

ทีมงานจะต้องวางแผน วิเคราะห์ปัญหา และเข้าแก้ไขให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มากที่สุดเพื่อให้กังหันทุกยูนิตพร้อมที่จะผลิต

ก็จะต้องเลือกใช้เครื่องมือที่เฉพาะด้าน

ความรู้แบบครบวงจรโดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนา บุคลากรด้านงานเดินเครื่องและบ�ารุงรักษา โรงไฟฟ้า เพื่อให้มีความรู้ทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ และยังมีศูนย์ฝึกอบรม ในด้านอื่น ๆ ที่ถือเป็นองค์ประกอบส�าคัญ ที่ช่วยเสริมศักยภาพการท�างานให้กับบุคลากร ในสายงานบ�ารุงรักษาของ กฟผ. ได้อย่างดีเยี่ยม อาทิ ศูนย์พัฒนางานเชื่อมและทดสอบฝีมือ ช่างเชื่อมสากล ศูนย์มาตรวิทยาและสอบเทียบ เครื่องมือวัด กฟผ. (Metrology and Calibration Center) เป็นต้น ควำมแตกต่ำงในงำนบ�ำรุงรักษำ โรงไฟฟ้ำพื้นฐำนและโรงไฟฟ้ำ จำกพลังงำนหมุนเวียน เมื่อพิจารณาถึงโรงไฟฟ้าพื้นฐานจะพบว่า การบริหารจัดการของโรงไฟฟ้าจะค่อนข้าง มีความยาก เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจะเป็น โรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ดูเหมือนง่ายแต่ก็ ไม่ได้ง่ายเสมอไป เพราะโรงไฟฟ้าดังกล่าว มีปริมาณยูนิตที่มากกว่า ดังนั้น รูปแบบในการ บริหารจัดการก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อย ที่มีความแตกต่างกันไป ส�าหรับในส่วนของ เทคโนโลยีที่ใช้ในการบ�ารุงรักษาทั้งทางด้าน ไฟฟ้าและเครื่องกลนั้น อาจจะไม่ได้มี ความแตกต่างกันมากนัก และส่วนใหญ่ สามารถน� า มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้ แต่สิ่งส� า คัญที่ถือได้ว่ามีความแตกต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดเจนก็คือ บุคลากรที่ท�างาน ด้านการบ�ารุงรักษา ตัวอย่างเช่น งานเดิน เครื่องและบ� า รุงรักษาโรงไฟฟ้ากังหันลม ล�าตะคองชลภาวัฒนา ทีมบุคลากรที่ท�างาน ด้านการบ�ารุงรักษาไฟฟ้า จ�าเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องได้รับฝึกฝนทักษะเฉพาะด้าน อาทิ ความรู้ความสามารถทางด้านไฟฟ้าก�าลัง,
ไฟฟ้าได้ตลอดเวลา เครื่องมือในการท�างาน
ระบบควบคุม
ผสมผสานกับการท�างานบนที่สูง
90 เมตร ทีมบุคลากรดังกล่าวจะต้องท�างาน แข่งขันกับเวลา เมื่อใดที่กังหันลมเกิดปัญหา
กับการท�างานบนที่สูง รวมถึงการฝึกอบรม เฉพาะด้าน อาทิ การอบรมการปฏิบัติงาน บนที่สูงด้วยเทคนิคการใช้เชือก การอบรม ความปลอดภัยในการท�างานบนที่สูง รวมถึง การช่วยชีวิตบนที่สูง ให้เป็นไปตามมาตรฐาน สากลที่ทั่วโลกยอมรับ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของ สภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะต้องมีการน�าระบบ การพยากรณ์อากาศเข้ามาใช้ประกอบ ในการท� า งาน เพื่อหลีกเลี่ยงฝน พายุ หรือฟ้าผ่า ควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยี ในกำรผลิตไฟฟ้ำจำกพลังงำน หมุนเวียนในยุคปัจจุบัน ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงไฟฟ้าพลังงาน หมุนเวียนเกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กฟผ. ผู้ผลิตไฟฟ้า ที่มีประสบการณ์ มากกว่า 51 ปี มีความเชี่ยวชาญ ด้านงานบ� า รุงรักษา ในหลากหลายด้าน เท่านั้น หากแต่ยังมีหน่วยงานบ�ารุงรักษา ในด้า นอื่น ๆ อาทิ ด้านโยธา ด้านงาน เคมีโรงไฟฟ้า ด้านงานอะไหล่ ซึ่งมีงานผลิต อะไหล่เครื่องจักร และอุปกรณ์โรงไฟฟ้า โดยมีโรงซ่อม ทดสอบ ตรวจสอบ และปรับ สมดุลเครื่องจักรหมุน (Rotor) ขนาดใหญ่ ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และงานสนับสนุน วิศวกรรมและอื่น ๆ เช่น การให้ค�าปรึกษา ปัญหาด้านต่าง ๆ ของโรงไฟฟ้า พร้อมแนวทาง การแก้ไขที่ถูกต้อง และงานทดสอบ ประสิทธิภาพเครื่องจักร ประเมินสภาพ เครื่องจักรและเครื่องมือ อุปกรณ์โรงไฟฟ้า ฯลฯ ภายใต้ศักยภาพของทีมงานระดับ มืออาชีพ พร้อมองค์ความรู้และประสบการณ์ การท� า งานที่สั่งสมมายาวนาน รวมถึง ระบบการท�างานที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน ระดับสากล นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้มีการจัดตั้ง ศูนย์ทดสอบและรับรองมาตรฐานอาชีพ (Competency Certification Center : CCC) ซึ่งเป็นศูนย์ทดสอบและรับรอง ความสามารถบุคลากรของ กฟผ. ให้มี มาตรฐานในระดับสากล รวมทั้งอบรม 24 โรงไฟฟ้าล�าตะคอง ถือเป็นโรงไฟฟ้าใต้ดิน แห่งแรกและแห่งเดียว ของประเทศไทย

(โซลาร์เซลล์) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม (กังหันลม) ซึ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ทันสมัยส่งผลให้ราคาของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง ไปเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกัน

ระหว่างพลังงานหมุนเวียนกับเชื้อเพลิง ฟอสซิล การพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน

ตลอดจนการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มี ความทันสมัย (Grid Modernization) เพื่อให้

สามารถน�าพลังงานหมุนเวียนมาปรับใช้ได้

อย่างเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อ

ความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้าในภาพรวม

รวมถึงการน�านวัตกรรมและเทคโนโลยีด้าน

พลังงานมาบูรณาการให้สอดรับกับทิศทาง การพัฒนาด้านพลังงานของโลกในอนาคต โรงไฟฟ้าล�าตะคองชลภาวัฒนา คือหนึ่ง ในตัวอย่างของการน� า เ ทคโนโลยีทันสมัย มาใช้ในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าพลังงาน

ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ซึ่งโรงไฟฟ้าล�าตะคอง ชลภาวัฒนา เป็นโรงไฟฟ้าพลังน�้าแบบสูบกลับ (Pumped-Storage) และเป็นระบบกักเก็บ

พลังงานไฟฟ้ารูปแบบหนึ่งที่มีต้นทุนต่อ

Fuel Cell) เพื่อจ่ายไฟฟ้าในช่วง

กังหันลมมักจะผลิตไฟฟ้าได้มากในช่วงเวลา กลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการ ไฟฟ้าต�่า จึงน�าพลังงานที่ผลิตได้นี้มาเก็บไว้

โดยมีโครงการน�าร่องที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ล�าตะคอง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อจ่ายไฟ ให้กับศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ล�าตะคอง

เป้ำหมำยกำรพัฒนำในอนำคต ด้ำนกำรบ�ำรุงรักษำโรงไฟฟ้ำ ของ กฟผ.

การให้บริการด้านงานบ� า รุงรักษาที่มี คุณภาพและได้มาตรฐานทั้งในด้านความ ปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม นับเป็นเป้าหมาย หลักที่ กฟผ. ยึดมั่นมาโดยตลอดนับตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบันและจะยังคงด�าเนินต่อไป ในอนาคต ซึ่งความท้าทายส�าคัญของทีมงาน

ลูกค้าต้องการ ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ลดระยะเวลาในการซ่อมบ� า รุง รวมไปถึง การลดค่าใช้จ่ายต้นทุนในการด�

สิ่งที่ กฟผ. ได้ให้ ความส� า คัญมาโดยตลอดก็คือการสร้าง ความมั่นคงด้านพลังงาน
ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสาน
โดยเฉพาะการ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและ
หมุนเวียนที่ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลา นั่นคือ
หน่วยไฟฟ้าต�่ า ที่สุด และสามารถลด คาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตไฟฟ้าได้ เนื่องจากส่งเสริมให้เกิดการน� า พ ลังงาน หมุนเวียนที่มีความไม่แน่นอนมาผลิตไฟฟ้า ได้มากยิ่งขึ้น โดยจะน� า กระแสไฟฟ้าจาก ระบบการผลิตของประเทศในช่วงที่มีการใช้ ไฟฟ้าน้อย คือ ช่วงหลังเที่ยงคืนจนถึงเช้ามาใช้ สูบน�้าจากอ่างเก็บน�้าที่มีอยู่เดิม ขึ้นไปเก็บ พักไว้ในอ่างพักน�้ า ตอนบนที่สร้างขึ้นใหม่ แล้วปล่อยน�้าลงมาผ่านเครื่องก�าเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงที่มีความ ต้องการใช้ไฟฟ้าสูงในแต่ละวัน นอกจากนี้ ยังมีระบบกักเก็บพลังงาน ด้วยเซลล์เชื้อเพลิงร่วมกับพลังงานลม (Wind Hydrogen Hybrid System) นับเป็น เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานไฟฟ้ารูปแบบ ใหม่ที่ กฟผ. ได้น�านวัตกรรมชิ้นนี้มาใช้เป็น แห่งแรกของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นการกักเก็บ พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบก๊าซไฮโดรเจน เมื่อกังหันลมผลิตไฟฟ้าได้มากเกินความ ต้องการของระบบ ไฟฟ้าจะถูกน� า ไปจ่าย ให้กับเครื่อง Electrolyzer หรือเครื่องแยก น�้าด้วยไฟฟ้า ซึ่งจะท�าหน้าที่แยกน�้า (H2O) ที่อยู่ที่เครื่อง Electrolyzer ออกเป็นก๊าซ ออกซิเจน (O 2) และก๊าซไฮโดรเจน (H2) โดยที่ก๊าซไฮโดรเจนจะถูกน� า ไปกักเก็บ ในถังบรรจุก๊าซไฮโดรเจน ก่อนน� า ก๊าซ ไฮโดรเจนมาผลิตไฟฟ้าโดยผ่านเซลล์เชื้อเพลิง (Hydrogen
ที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง โดยส่วนมากแล้ว
บ�ารุงรักษาของ กฟผ. นั่นคือ
เพื่อให้โรงไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด ในด้านการผลิตไฟฟ้า อีกทั้งในแง่ของธุรกิจ การบริการก็จะต้องก่อให้เกิดผลก�าไรตามที่
การด�าเนินงาน
า เนินงาน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด นอกจากนี้ ก็ยังมีแผนในการพัฒนาระบบการท� า งาน และการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าล� า ตะคอง ชลภาวัฒนา คือ ตัวอย่างของการน� า เทคโนโลยีทันสมัย มาใช้ในการบริหาร จัดการโรงไฟฟ้า egatbusiness.com Ӏ 25 ภาพ คุณภาสวร วรรณกาญจน์

Riding the Solar Wave

ประเทศไทยก�ำลังจะได้เป็นเจ้ำของระบบผลิตพลังงำนไฟฟ้ำ

Hydro-Floating Solar Hybrid

า ลังการ ผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยก็คือ การพัฒนาไฟฟ้าจากพลังงานน�้า และพลังงานหมุนเวียน คุณฉัตรชัย มาวงศ์

นวยการฝ่ายพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน�้ า และพลังงานหมุนเวียน กฟผ. เล่าให้เราฟัง ถึงบทบาทและหน้าที่ของฝ่ายในส่วน ที่เกี่ยวข้องกับโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์ แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยน�้า โครงการ ที่ก�าลังจะเป็นความภูมิใจของคนไทย “ฝ่ายพัฒนาพลังน�้ า และพลังงาน หมุนเวียน (อพพ.) มีหน้าที่หลักก็คือ พัฒนา โรงไฟฟ้าพลังน�้ า และพลังงานหมุนเวียน ตามแผน PDP (แผนพัฒนาก�าลังการผลิตไฟฟ้า ของประเทศไทย)

และยังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพพลังงาน แสงอาทิตย์ค่อนข้างสูงในไทย”

“การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสง อาทิตย์ยังมีข้อจ� า กัด ขึ้นอยู่กับสภาพ

ภูมิอากาศที่มีความผันผวน และไม่แน่นอน

มีแดดก็มีไฟ ไม่มีแดดก็ไม่มีไฟ

ผู้อ�
โดยค�านึงถึงราคาต้นทุน
ต่อชุมชน
ก็จะประกอบไปด้วยงานวิศวกรรมโรงไฟฟ้า งานบริหารการก่อสร้างโรงไฟฟ้า งานติดตั้ง และทดสอบโรงไฟฟ้า งานปรับปรุงโรงไฟฟ้า พลังน�้ า งานโรงไฟฟ้าพลังน�้ า ท ้ายเขื่อน ชลประทาน งานบริการงานวิศวกรรมและ ก่อสร้าง รวมทั้งงานบริหารสัญญาก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังน�้าใน สปป.ลาว นี่คือภารกิจหลัก ในภาพรวม” “ตามแผนพัฒนาก� า ลังการผลิตไฟฟ้า ของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 (PDP 2018) กฟผ. ได้รับมอบหมายให้พัฒนา โครงการโรงไฟฟ้า ก็มีทั้งโรงไฟฟ้าพลังงาน ความร้อนและพลังงานหมุนเวียน ในสัดส่วน ของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทาง กฟผ. ได้รับมอบหมายให้พัฒนา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บนทุ่นลอยน�้าร่วมกับ โรงไฟฟ้าพลังน�้า หรือ Hydro-Floating Solar Hybrid Project ตามเขื่อนต่าง ๆ ของ กฟผ. มีก�าลังผลิต รวม 2,725 เมกะวัตต์ (MW) โดยมีการ น�าร่องก่อน 2 โครงการ ที่เขื่อนสิรินธร 45 เมกะวัตต์ และที่เขื่อนอุบลรัตน์ ก�าลังการผลิต 24 เมกะวัตต์ โดยมีแผนจ่ายกระแสไฟฟ้า เข้าระบบ (COD) ในปี 2563 และ 2566 ตามล� า ดับ ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะอยู่ใน 9 เขื่อน 16 โครงการ ก็จะทยอยเข้าตามแผน เรื่อย ๆ” คุณฉัตรชัยอธิบายว่า “ทาง กฟผ. ยังร่วมมือ กับภาคส่วนอื่น เช่น SCG Chemical ซึ่งมีความ เชี่ยวชาญด้านเม็ดพลาสติก HDPE (High Density Polyethylene) ที่ใช้ท�าทุ่นลอยน�้า และหน่วยงานของกองทัพเรือ ที่มีความ เชี่ยวชาญระบบยึดโยงในทะเล ในระดับ น�้าลึก ส�าหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์ แสงอาทิตย์ ติดตั้งบนทุ่นลอยน�้า (HydroFloating Solar Hybrid) ซึ่งเริ่มต้นที่ โรงไฟฟ้าพลังน�้าเขื่อนสิรินธรนั้น
นึ่งในแผนการพัฒนาก�
ที่ต�่าที่สามารถแข่งขันได้ เลือกใช้เทคโนโลยี ที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงผลกระทบ
สังคมและสิ่งแวดล้อมนะครับ
ก็เนื่องจาก กฟผ. มีงานวิจัยทุ่นลอยน�้าขนาดเล็กที่นั่น
เราจะท� า ยังไงเพื่อลดความผันผวนของพลังงาน หมุนเวียน
และ ‘พลังงานแสงอาทิตย์ บนทุ่นลอยน�้า’ เพื่อให้ระบบมีความยืดหยุ่น และสร้างเสถียรภาพให้พลังงาน ก็เลยเลือก เขื่อนสิรินธร ปัจจุบัน เราอาจกล่าวได้ว่า นี่เป็น โครงการ Hydro-Floating Solar Hybrid ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งก็จะมีความ ท้าทายอยู่หลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องของ การออกแบบ ก็ต้องออกแบบอุปกรณ์ลอยน�้า โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ บนทุ่นลอยน�้าแห่งแรกอยู่ที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
เลยต้องมาคิดคอนเซปต์เป็น ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานระหว่าง ‘พลังงานน�้า’
ที่ใหญ่ที่สุด คุณฉัตรชัย มำวงศ์ ผู้อยู่เบื้องหลังโครงกำรมีควำมภูมิใจที่จะเล่ำรำยละเอียดให้เรำฟัง เรื่อง วรรณากร ทองเสริม เรียบเรียง บุษบง รักษาทรัพย์ ภาพ วุฒิพงษ์ ค�าประไพ 26
egatbusiness.com Ӏ 27

การติดตั้งแผงเซลล์ใกล้น�้าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 5-20

(โซลาร์) หลายคนบอกว่าแผงอะไรก็ได้ไปลอยน�้ า แต่หลังจากพิจารณาสภาพแวดล้อมของ

ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานที่ต้องวาง

และยังมีการเคลื่อนไหวของผิวน�้าตลอดเวลา เป็นแผงแบบ Double Glass ไม่มีอัตรา ความชื้นซึมผ่านเข้าไปในแผงเซลล์ได้เลย

และการติดตั้ง แผงเซลล์ใกล้น�้ายังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 5-20

(Cooling Effect) เมื่อเทียบกับการติดตั้งโครงการ โซลาร์ฟาร์มบนดินและโครงการโซลาร์บน

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่และ สภาพอากาศ

คือการ ผสมผสานระหว่าง ‘พลังงานแสงอาทิตย์’

‘พลังน�้า’ โดย

พลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันให้มาก ที่สุด

ความเข้มของแสงแดดจะเริ่มผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ตั้งแต่

โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์

โครงการโซลาร์เซลล์ ลอยน�้ า แบบไฮบริด คือระบบผลิตไฟฟ้า ผสมผสานระหว่าง ‘พลังน�้ า จากเขื่อน’ และ ‘พลังงานแสงอาทิตย์’ จากโซลาร์เซลล์ ลอยน�้ า บนเขื่อน ทางพลังงาน เริ่มต้นจากการผลิตไฟฟ้า พลังน�้ า โดยเขื่อนที่ กฟผ. ก� า กับดูแลนั้น เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ใช้เพื่อการเกษตร การชลประทานและรักษาคุณภาพล� า น�้ า ต่าง ๆ การผลิตไฟเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ดังนั้น การปล่อยน�้า จ ะไม่ได้ขึ้นกับ กฟผ. แต่จะ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารจัดการ ทรัพยากรน�้ า โดยจะพิจารณาจากเกณฑ์
หรือที่เรียกว่า Rule-Curve
อ่างเก็บน�้าในแต่ละช่วงเวลาที่ก�าหนด เพื่อให้ มีปริมาตรว่างส� า หรับรับปริมาณน�้ า หลาก ที่จะไหลเข้าอ่างเก็บน�้า โดยไม่เกิดการไหล ล้นอ่างซึ่งจะก่อให้เกิดอุทกภัยในบริเวณ ด้านท้ายอ่างเก็บน�้า หรือหากเกิดการไหล ล้นอ่างเก็บน�้ า ก็จะเกิดในระดับน้อยที่สุด ส� า ห รับช่วงฤดูแล้งจะรักษาปริมาณน�้ า ไ ว้ ในอ่างเก็บน�้าในแต่ละช่วงเวลาที่ก�าหนดไว้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดน�้ า แห้งขอ ง อ่างเก็บน�้า” “เราจะต้องเอาลักษณะนี้มาศึกษา เพื่อออกแบบ EMS อีกทั้งจะต้องศึกษา ข้อมูลความเข้มของแสงแดด ซึ่งส่วนใหญ่ มีอยู่แค่ช่วงกลางวัน ก็จะเริ่มผลิตพลังงาน แสงอาทิตย์ได้ตั้งแต่ 7-8 โมง พลังงานก็จะ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสูงสุดในช่วง Peak ถึงเที่ยง บ่าย ๆ ก็จะลดลง โดยพฤติกรรมการผลิต ไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์จะมีลักษณะเป็น Curve เหมือนระฆังคว�่า
เดิมเราใช้พลังงานน�้าเพื่อ Cut
3 ช่วงเวลาคือ
ค�่า ทีนี้ ตอนเช้า บ่าย เราไม่ต้องใช้แล้ว เพราะ มีแสงอาทิตย์ เราก็เอาตัวน�้าไปเสริม Peak ช่วงค�่ า ได้มากขึ้น ช่วยลดการใช้ฟอสซิล ในภาพรวมของประเทศลงไปได้” ในฐานะที่เป็นพลังงาน ‘สะอาด’ ย่อมมี ค� า ถามว่า
ทั้งหมด ใช้พื้นที่ในการติดตั้งประมาณ 450 ไร่ เป็นสภาพอ่างเปิด มีทั้งลมแรง คลื่น ระดับ น�้าขึ้นลง 5 เมตร ระดับความลึกของน�้ า 30 เมตร” “อีกอันนึงก็คือการเลือกใช้แผง
พื้นที่ติดตั้งแล้ว จึงเลือกใช้แผงโซลาร์
จากความเย็นของน�้าใต้แผ่น
รวมไปถึงทุ่นโซลาร์ฟาร์มลอยน�้า ที่คลุมอยู่บนผิวน�้า ยังช่วยลดการระเหยของน�้า ที่กักเก็บไว้ใช้ได้อีกด้วย”
ร่วมกับ
โซลาร์เซลล์จะผลิต ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน และน�าพลังน�้ามาเสริม ในช่วงที่ความเข้มแสงไม่เพียงพอ หรือใน ช่วงกลางคืน พร้อมน� า ระบบการจัดการ พลังงาน (Energy Management System: EMS) มาควบคุมการส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า จึงช่วยลดความไม่แน่นอนของพลังงาน หมุนเวียน ท� า ให้สามารถผลิตไฟฟ้า ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความมั่นคง
ควบคุมระดับน�้าในอ่างเก็บน�้า
โดยในช่วงฤดูฝนจะพร่องน�้าจาก
เราจะเอา 2 Curve นี้ มารวมกันยังไงให้มีเสถียรภาพด้วย โดยการ ออกแบบเบื้องต้นเราพยายามจะจ่าย
Peak ซึ่งจะเกิดขึ้น
เช้า บ่าย
แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยน�้าและการติดตั้ง
แผงโซลาร์เซลล์ใกล้ผิวน�้าซึ่งมีความชื้นสูง
ท�าให้มีอายุใช้งานยาวนาน
หลังคาทั่วไป
“การผลิตไฟฟ้าระบบไฮบริด
7-8 โมง จากนั้นพลังงานจะเพิ่มขึ้นจนสูงสุดถึงในช่วงเที่ยง และจะลดลงในช่วงบ่าย 28

ซับซ้อนอะไร มันมีแผง Double Glass และทุ่นรองรับแผง มีอุปกรณ์หลักในการ แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ไปเป็นไฟฟ้า กระแสสลับ (AC) และจ่ายเข้าระบบต่อไป

า (Mooring System) ที่จะต้องยึดทุ่นให้อยู่

เราเลือกใช้วัสดุพลาสติก HDPE (High Density Polyethylene) ที่มี UV Stabilizer ที่สามารถทนรังสี UV ด้วย สามารถใช้งานได้ตลอดอายุโรงไฟฟ้า

วัสดุดังกล่าวเป็นวัสดุประเภทเดียว

กับท่อส่งน�้ า ประปาหรือเรียกได้ว่าเป็น

Food Grade ใช้กับน�้ า ดื่มได้ ซึ่งไม่เป็น

อันตรายต่อสัตว์น�้ า และสิ่งแวดล้อม

โดยทุ่นลอยน�้ า ที่ติดตั้งนี้ไม่ได้ปกคลุม

ผิวน�้ า ทั้งหมด จะมีส่วนที่เป็นช่องเปิด

ให้อากาศถ่ายเทเข้าสู่ผิวน�้ า ได้ ท� า ให้ อากาศและแสงสามารถผ่านไปยังผิวน�้าได้

ที่ส� า คัญโครงการพลังงานสะอาดแห่งนี้

อย่าง SCG ก็เริ่มท�าที่บ่อน�้าในโรงงานของเขา หลายคนก็มาดูงานที่เราแล้วก็เอาไป ประยุกต์ใช้ ส่วนในแถบประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะมีที่เวียดนาม ลาว เริ่มพัฒนาโซลาร์ ลอยน�้าที่เขื่อน

ยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ชาติในภาพรวม “ในอดีต พลังงานหมุนเวียนมีความ ผันผวน ท�าให้ระบบ Main Power Grid มีปัญหา

“ถามว่าโซลาร์ลอยน�้ า ถ้ามีเยอะที่สุด อยู่ที่ไหน ก็น่าจะอยู่ที่จีน แต่ถ้าถามถึง Hydro-Floating Solar Hybrid ที่ใหญ่ ที่สุดในโลก อยู่ที่นี่ครับ 45 เมกะวัตต์” ทุ่นลอยน�้ า ชนิด HDPE มีความเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ คุณฉัตรชัยมีค�าตอบ “Floating Solar จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้
นอกนั้นก็คืออุปกรณ์ที่ยึดโยงอยู่ใต้น�้
กับที่ตลอดเวลาที่น�้
ขึ้น-ลง อย่างตัวทุ่น
ยังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO 2 ) ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ประมาณ 47,000 ตันต่อปี ทั้งยังช่วย ลดการน� า เข้าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจาก ต่างประเทศอีกด้วย” “นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นอุปกรณ์ ที่สามารถติดตั้งได้ง่าย เร็ว จึงไม่กระทบ ต่อพื้นที่ตรงนั้น เพียงแค่จัดเตรียมพื้นที่ วางของ ประกอบ แล้วก็ไถลลงน�้านะครับ ไม่ต้องใช้เครื่องจักรใหญ่ อุปกรณ์หลักของ โรงไฟฟ้าวางอยู่บนผิวน�้ า ซึ่งอยู่ภายใน ขอบเขตของโครงการที่เราก�าหนด ท�าให้เรา วางแผนควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้” คุณฉัตรชัยยังเล่าถึงความพยายาม หาช่องทางดึงผู้ร่วมประมูลงานระดับโลก ให้หันมาสนใจ โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน�้า ที่แปลกใหม่ เพราะความเป็นระบบไฮบริด จนในที่สุดก็ท� า ได้ส� า เร็จ ได้ทั้งผู้ร่วมงาน ร่วมลงทุนที่น่าพอใจในราคาที่เขาบอกว่า “เป็นราคาที่ดีที่สุดในโลก” และการลงทุน กับระบบโซลาร์ลอยน�้ า ในครั้งนี้จะท� า ให้ เกิดแรงกระเพื่อมในวงการพลังงานของไทย ขณะเดียวกันก็ก� า ลังเป็นที่สนใจในหลาย ประเทศ “มันคือแรงกระตุ้นหนึ่งให้หลาย ๆ คน ได้หันมาพัฒนาโครงการโซลาร์ลอยน�้าในไทย
ทางฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซียก็เริ่มใช้โซลาร์ลอยน�้ า ถ้าทาง ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นโซลาร์ลอยน�้าในอ่าง ทางการเกษตร ขนาด 1-2 เมกะวัตต์ แต่ของจีน ใหญ่มาก เยอะแยะไปหมด น�้ามีที่ไหนเขาก็ เอาไปวางหมดครับ ถ้าจะถามว่าโซลาร์ ลอยน�้ า ถ้ามีเยอะที่สุดอยู่ที่ไหนก็น่าจะอยู่ ที่จีน แต่ถ้าถามถึง Hydro-Floating Solar Hybrid ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ครับ 45 เมกะวัตต์” คุณฉัตรชัยมองว่า ที่สุดแล้วการพัฒนา พลังงานหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพลังงาน หมุนเวียนและน�ามาใช้ร่วมกัน จะเป็นการ เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานได้อย่าง
คอนเซปต์ของเราตัวนี้ คือพยายาม รวมพลังงานเป็น Hybrid เพื่อให้มีความ ยืดหยุ่น พลังงานมีหลายรูปแบบในการบริหารจัดการ และมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยไม่ กระทบต่อ Main Power Grid ความเสถียรภาพ ไม่จ�าเป็นต้องเท่าพลังงานฟอสซิล โดยเลือก ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ผสมผสานกัน ถ้ายังหยุด ความเสี่ยงไม่ได้ ก็มีทางออกต่าง ๆ ขยาย วงกว้างออกไปอีก เช่น Smart Grid Solutions เราผสมผสานหลาย ๆ อย่าง เพื่อคุมโครงการของเราให้ขยาย พัฒนา โครงการได้อย่างเต็มที่ก็อาจจะเป็น 100200 เมกะวัตต์ขึ้นไป” “สุดท้าย ถ้าเราพัฒนาได้ถึงตรงนั้น ถ้าจะ สร้างความมั่นคงให้พลังงานหมุนเวียน ก็ต้อง มีศูนย์ควบคุม (RE Control Center) เป็น เรื่องของ AI (Artificial Intelligence) เข้ามา ช่วยประมวลผล ต้องบอกได้ว่า ณ เวลานี้ เรามีพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ได้กี่เมกะวัตต์ แล้วเราก็เสริมเข้าไปในระบบ เป็นการ เสริมความมั่นคงให้ตัวระบบ โดยเราจะต้อง Forecast อีกหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่อง ภูมิอากาศ ดีมานด์พลังงานต่าง ๆ แล้วใช้ AI ประมวลผล Big Data นั้น ๆ ครับ ซึ่งจากที่ได้ กล่าวมาทั้งหมด ก็จะเป็นการจัดการเพื่อให้ เกิดประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวม” egatbusiness.com Ӏ 29

Intelligent Solution

Smart Industry

งไม่ใช่เรื่องเกินจริงหากจะกล่าวว่า

มักจะเป็นประเทศในล�าดับต้น ๆ ที่ทุกคน จะต้องนึกถึง ดังเช่นในช่วงเวลานี้ที่แวดวง อุตสาหกรรมทั่วโลกต่างก็ก�าลังเข้าสู่ช่วงเวลา ของการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อีกครั้ง และสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ การน� า ‘ระบบอัจฉริยะ’

ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิตที่มีความทันสมัย การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เอื้อ

ในวันที่โลกยุคดิจิทัลก้าวล�้าไปข้างหน้าอย่าง รวดเร็ว ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในแวดวงอุตสาหกรรมทั่วโลก ดังเช่นประเทศญี่ปุ่น ที่มีการน�า ‘ระบบอัจฉริยะ’ เข้ามาเป็นฟันเฟืองหลัก เพื่อก้าวไปสู่การเป็น
เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการศึกษา ความเป็นไปในด้านความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ‘ประเทศญี่ปุ่น’
หรือที่เรียก กันสั้น ๆ ว่า ‘สมาร์ท (smart)’ เข้ามา เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตของภาค อุตสาหกรรม เพื่อยกระดับสู่การเป็น Smart Industry หรือโรงงานอัจฉริยะ
ต่อการท� า งานให้สะดวก ง่ายดาย และมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องของ การประหยัดพลังงานและการให้ความใส่ใจ ในสิ่งแวดล้อม โดยระบบสมาร์ทเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่หลาย ๆ สถานประกอบการใน ภาคอุตสาหกรรมต่างหันมาใช้และให้ความ ส�าคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นกุญแจ ส� า คัญที่จะช่วยสร้างภาพลักษณ์และ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับภาค อุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาจากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการจัดวางรูปแบบของ สถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ โรงงานอัจฉริยะได้รับการยกย่องว่าเป็นวิธี ที่จะท�าให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถประสบ ความส� า ดิจิทัลอย่างแท้จริงเร็จในการมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลง โดยในโรงงานเหล่านี้ หุ่นยนต์และเครื่องจักรจะรับข้อมูลที่ ถ่ายทอดตามเวลาจริงจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ เอาไว้ เพื่อเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับความ ต้องการใหม่ พร้อมบริหารจัดการกระบวน การผลิตทั้งหมดแบบอัตโนมัติ การลงทุนในหุ่นยนต์และ การส่งเสริมนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการท�างานมากขึ้น เรื่อง นิธิศ โสระฐี 30
egatbusiness.com Ӏ 31

จัดงานนิทรรศการและงานแฟร์ด้าน เครื่องจักรและระบบการผลิตที่ทันสมัย

ให้ภาคอุตสาหกรรมได้เรียนรู้เทคโนโลยี นวัตกรรมที่จ� า เป็น ทั้งนี้ จากความใส่ใจ ในกระบวนการดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจที่ วันนี้ประเทศญี่ปุ่นจะยังคงไว้ซึ่งสถานะ

ยังควรจะต้องพัฒนาความสามารถเฉพาะ

เทคโนโลยีและนวัตกรรม อัจฉริยะ (smart technology & innovation)

การน�าเอาระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวนการทาง อุตสาหกรรม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใน

กระบวนการผลิตและการท� า งานที่มี ประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลเสียให้น้อยลง ที่สุด ซึ่งเทคโนโลยีที่มีความจ�าเป็นส�าหรับ โรงงานอุตสาหกรรมในยุคใหม่คือ IoT (Internet of Things) โดยเป็นการน�าระบบ

ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีระดับ ชั้นน�าของโลก และมีการน�าระบบ ‘สมาร์ท’ เข้ามาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมกันอย่าง มากมาย ซึ่งจะเห็นได้จากการน� า ระบบ ไอโอที หุ่นยนต์ เทคโนโลยีเพื่อความ ปลอดภัย และระบบการวิเคราะห์ข้อมูล ต่าง ๆ มาใช้ในการด�าเนินงานหลายประเภท ยิ่งไปกว่านั้น ระบบสมาร์ทต่าง ๆ ของ ประเทศญี่ปุ่น ยังถือเป็นระบบต้นแบบ และถูกน� า ไปใช้อย่างแพร่หลายใน ภาคอุตสาหกรรมของหลายประเทศ ทั่วโลก รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมและ โรงงานอุตสาหกรรมในไทย นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่นยังให้ความส�
คัญกับการ
เพื่อแบ่งปันข่าวสารข้อมูล ตลอดจนกระตุ้น
ความเป็นผู้น� า ด้านอุตสาหกรรมระดับ แถวหน้าของโลกอย่างแท้จริง นายทาดาชิ โยชิดะ ประธานสมาคม บริหารจัดการประเทศญี่ปุ่น (Japan Management Association) หรือ JMA ได้กล่าวไว้ว่า “Smart Industry หรือโรงงาน อัจฉริยะจะไม่ใช่แนวคิดในการพัฒนา ภาคอุตสาหกรรมอีกต่อไป หากแต่จะเป็น คนอัจฉริยะ (smart people) การพัฒนาก� า ลังคนให้มีทักษะและมี ความพร้อมกับการท� า ง านร่วมกับภาค อุตสาหกรรมในยุคใหม่จะเริ่มตั้งแต่ ในสถาบันการศึกษา เช่น ทักษะการ เขียน Coding ทักษะด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมเฉพาะทาง รวมไปถึงการ ผลิตบุคลากรอย่าง ‘วิศวกร’ ที่สามารถ รองรับความต้องการและผลกระทบทาง อุตสาหกรรม เช่น วิศวกรด้านความเสี่ยง วิศวกรการเงิน วิศวกรด้านไอโอที นอกจากนี้
ทางที่หุ่นยนต์หรือ
มนุษย์ได้
AI ไม่สามารถทดแทน
เพื่อรับมือกับแนวโน้มการถูก แทนที่แรงงานด้วยเครื่องมือดังกล่าว ในอนาคต
อินเทอร์เน็ตมาเชื่อมโยงกับระบบต่าง ๆ ภายในสถานประกอบการ เพื่อให้การ สั่งการท�างานมีความง่ายดาย รวดเร็ว และ สามารถกระท�าได้ในทุกที่ทุกเวลา ส่วนต่อมา คือเรื่องของ Big Data ซึ่งจะเป็นระบบที่ วิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อท�านายพฤติกรรม การเตือนภัย แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงช่วยในการตัดสินใจให้ง่ายและมี ประสิทธิภาพมากขึ้น ตามมาด้วยหุ่นยนต์
เศรษฐกิจให้กับภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี’ พัฒนาการและการปฏิวัติรูปแบบโรงงาน ใหม่ที่หลาย ๆ ระบบจะต้องมีความเป็น อัจฉริยะ มีฟังก์ชันการใช้งานที่ชาญฉลาด และมีเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิต ที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ทั้งนี้ หนทางในการที่จะก้าวไปสู่การเป็นโรงงาน อัจฉริยะ สถานประกอบการต่าง ๆ จะต้อง มีคุณสมบัติของความเป็น ‘สมาร์ท’ 4 ประการ ได้แก่ คนอัจริยะ (smart people) เทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะ (smart technology & innovation) การบูรณาการ วิศวกรรมการซ่อมบ�ารุงรักษาแบบอัจฉริยะ (smart maintenance) และการบูรณาการ ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้มี ความอัจฉริยะ (smart environment & community) 32
‘เทคโนโลยีระบบสมาร์ทเป็นกุญแจส� า คัญ ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์และเพิ่มมูลค่าทาง

พื้นที่หรือบรรยากาศที่มีความเสี่ยง การผลิต ที่มีความต่อเนื่องหรือระยะเวลาที่ยาวนาน

SMART คือ

5 หลักการส�าหรับตั้งเป้าหมาย

การด�าเนินงาน ได้แก่

1. Speci fic เป้าหมายต้องมี ลักษณะเฉพาะเจาะจงและชัดเจน

2. Measurable สามารถวัดผล ได้ในทางสถิติ

3. Achievable เป้าหมายต้อง สามารถบรรลุผลได้จริง

4. Real istic เป้าหมายต้อง สอดคล้องกับความเป็นจริง

5. Timely ต้องมีการก� า หนด

ที่ดีในการด�าเนินธุรกิจเพื่อวัดผล
ซึ่งจะมีหน้าที่ในการท� า งานทดแทนส่วนที่ มนุษย์ไม่สามารถท�าได้ เช่น การท�างานใน
รวมถึงระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชี ธุรกรรมออนไลน์ (Blockchain) ซึ่งเป็น ระบบที่จะช่วยรักษาความปลอดภัย ของข้อมูล ความลับของบริษัท และการ เก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และสุดท้ายคือ ระบบ AI ซึ่งเป็นระบบที่มีความช� า นาญ เฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ คุณภาพของสินค้า การค�านวณ การตรวจ จับความผิดพลาดจากการด� า เนินงาน เป็นต้น การบูรณาการวิศวกรรมการ ซ่อมบ�ารุงรักษาแบบอัจฉริยะ (smart maintenance) การบูรณาการระหว่างวิศวกรรมการซ่อม บ�ารุงรักษา ระบบการบริหารจัดการการผลิต ระบบสารสนเทศ การวิเคราะห์ข้อมูล การเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต Cloud Computing และ Big Data พร้อมน�าข้อมูล สารสนเทศต่าง ๆ มาใช้ในการวิเคราะห์และ ท�านายล่วงหน้าว่า เครื่องจักรหรือสายการ ผลิตใดมีแนวโน้มที่จะมีปัญหา โดยในการ ยกระดับ smart maintenance ดังกล่าว จะช่วยให้สถานประกอบการทราบถึงข้อมูล สภาพการท� า งานของเครื่องจักรและ เหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้น ช่วยให้การแก้ไข และป้องกันปัญหาสามารถท� า ได้อย่าง ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การมีระบบบ� า รุงรักษาอย่างชาญฉลาด ยังช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมลดค่าใช้จ่าย ในการซ่อมแซมได้มากยิ่งขึ้น การบูรณาการสิ่งแวดล้อม และชุมชนให้มีความอัจฉริยะ (smart environment & community) การจัดการบรรยากาศและสภาพแวดล้อม ให้เอื้อต่อการท�างาน เช่น พื้นที่ที่สามารถ แลกเปลี่ยนแนวความคิดเพื่อการสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ ๆ รวมทั้งให้ความส�าคัญในการบริหาร จัดการหรือมีโซลูชันที่ช่วยลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เทคโนโลยีในการก�าจัด มลพิษทั้งทางบก ทางน�้ า ทางอากาศ และนวัตกรรมการน� า กลับมาใช้ใหม่ การก�าจัดกากขยะอุตสาหกรรมและกากขยะ อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปจนถึงการมีส่วนร่วม กับชุมชนในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อ การอยู่อาศัย เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรม กับชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเติบโต และยั่งยืน
ประเทศญี่ปุ่น egatbusiness.com Ӏ 33
ระยะเวลาในการวัดผลที่ชัดเจน
พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ในจังหวัดชิซูโอกะ

Feeding Your DNA

(เว้นแต่คุณจะเป็นฝาแฝดที่เกิดจากไข่ ใบเดียวกัน) มีหน้าที่เก็บข้อมูลทาง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต มนุษย์เราจะได้รับ รหัสพันธุกรรมจากพ่อและแม่อย่างละครึ่ง และข้อมูลที่ส่งผ่านจากพ่อแม่มาถึง ตัวเรานี้เองที่ก�าหนดความเป็นตัวเรา ตั้งแต่ รูปร่าง หน้าตา ไปจนถึงแนวโน้มทางสุขภาพ

ปัจจุบันมีเทรนด์สุขภาพที่ก� า ลังได้รับ ความนิยมมากในต่างประเทศ และตอนนี้ ก็เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นในไทย นั่นก็คือ โภชนพันธุศาสตร์ หรือศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง กับโภชนาการและพันธุกรรมมนุษย์

แม้ในต่างประเทศจะมี การใช้ประโยชน์จาก Nutrigenomics มานาน แต่ส�าหรับคนไทยแล้ว ยังถือว่าเป็นสิ่งใหม่ ศาสตร์ที่ว่าด้วยการ เลือกอาหารให้สัมพันธ์ กับดีเอ็นเอของเรานี้ มีประโยชน์อย่างไร ลองติดตาม ร หัสพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ (DNA) เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวบุคคล ที่แทบจะไม่มีโอกาสเหมือนกันเลย
ถ้าจะอธิบายแบบง่าย ๆ โภชนพันธุศาสตร์ หรือ Nutrigenomics ก็คือองค์ความรู้ที่ เกี่ยวพันกันระหว่างอาหาร การรับประทาน และรหัสพันธุกรรม โภชนพันธุศาสตร์ คือ เรื่อง วรรณากร ทองเสริม 34
โภชนพันธุศาสตร์คืออะไร

ความต้องการ

สารอาหาร ลักษณะการย่อยและดูดซึม

สารอาหาร ความไวในการตอบสนองของเซลล์

า งานของอวัยวะหรือเซลล์

www.nhealth-asia.com

• คลินิกสุขภาพและความงามไธรฟ์ www.thrivewellnessth.com การตรวจสายพันธุกรรมสามารถท�าได้ หลายวิธีแบบง่าย ๆ ก็คือการใช้ส� า ลีพัน ปลายไม้เพื่อกวาดเก็บเยื่อบุบริเวณกระพุ้งแก้ม (แบบที่เราเคยเห็นในหนังทีวีชุด CSI) หรือเพียงเก็บตัวอย่างน�้ า ลายในปริมาณ ที่ก� า หนด แต่การตรวจวิเคราะห์อาจใช้ เวลานานสักหน่อย โดยเฉลี่ยแล้วใช้เวลา ราว 3-4 สัปดาห์

จึงจะรู้ผล

ยังต้องส่งตัวอย่างไปตรวจที่ห้องแล็บ ในต่างประเทศ ส่วนอัตราค่าบริการก็มีหลากหลาย

ที่หวังผลพิเศษ เช่น นักกีฬาที่ต้องใช้

กล้ามเนื้อเยอะ คนที่ต้องการชะลอวัยให้ ดูอ่อนเยาว์ รวมถึงคนที่มีปัญหาในการ ลดน�้าหนักและการออกก�าลังกาย เช่น ผู้ที่

อาจพบว่าตามสายพันธุกรรม

การใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมซึ่งได้จากการ เก็บตัวอย่างจากน�้ า ลา ยหรือเนื้อเยื่อไป วิเคราะห์ แล้วน�าผลลัพธ์ที่ได้มาเป็นตัวช่วย ก� า หนดสารอาหารที่เราควรรับประทาน รวมถึงการจัดอาหารในแต่ละมื้อให้เหมาะสม เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ในทางสุขภาพ นักโภชนพันธุศาสตร์จะน� า ข้อมูลดีเอ็นเอ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น
เฉพาะบุคคลที่มีต่ออาหารประเภทต่าง ๆ อัตราการเผาผลาญอาหาร อัตราความเสี่ยง ของการเกิดโรค ประสิทธิภาพการควบคุม ความอยากอาหาร เป็นต้น มาประยุกต์ใช้ สร้างเป็นแผนโภชนาการเฉพาะบุคคล ขึ้นมา เพื่อให้ตรงตามความต้องการของ เจ้าของดีเอ็นเอ การเลือกกินตามรหัส พันธุกรรมช่วยเราได้อย่างไร ข้อมูลจากดีเอ็นเอของเราท� า ให้เรารู้ว่า
ต่าง ๆ ของเราตอบสนองต่อสารอาหารต่าง ๆ อย่างไร สิ่งเหล่านี้ท�าให้นักโภชนพันธุศาสตร์ รู้ได้ว่ามีสารอาหารใดบ้างที่เรายังขาด และควรเสริมเข้าไป สารอาหารใดที่เรา ไม่ควรรับประทาน ตลอดจนปริมาณอาหาร แต่ละชนิดที่เหมาะสม ซึ่งจะมีผลต่อการ ออกแบบมื้ออาหาร ทั้งในส่วนของการเลือก วัตถุดิบ วิธีปรุง และจ�านวนมื้อต่อวัน การจัด มื้ออาหารเช่นนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาเชิง สุขภาพให้เจ้าของดีเอ็นเอ โดยเฉพาะ คนป่วย คนที่มีโรคประจ�าตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง รวมถึงคนในกลุ่ม
ร่างกายของเรามีจุดเด่น จุดด้อยตรงไหน กระบวนการท�
อ้วนง่าย
เป็นผู้ที่ตอบสนองต่ออาหารประเภท คาร์โบไฮเดรตได้ดีกว่าคนทั่วไป เป็นต้น เราจะรู้ข้อมูลดีเอ็นเอของเรา ได้จากไหน ตอบแบบก�าปั้นทุบดินเลยว่า ต้องไปตรวจ ที่โรงพยาบาลหรือสถาบันที่มีบริการตรวจ ดีเอ็นเอ เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะรู้ข้อมูลตรง นี้ได้ ซึ่งปัจจุบัน ในไทยก็มีบริการตรวจหา สายพันธุกรรมหรือ Genetic Testing หลายแห่ง ส่วนใหญ่แล้วตามโรงพยาบาล จะเป็นการตรวจเพื่อประโยชน์ในการรักษา โรคเป็นหลัก เช่น การตรวจหาความเสี่ยง ของโรคมะเร็ง โรคหัวใจในสายพันธุกรรม เป็นต้น แต่ก็มีไม่น้อยที่รับตรวจเพื่อน�าไปใช้ ประกอบการวางแผนโภชนาการและ ประโยชน์ด้านการชะลอวัย ได้แก่ • โรงพยาบาลสมิติเวช แผนก Life Center www.samitivejhospitals.com • โรงพยาบาลกรุงเทพ ศูนย์เวชศาสตร์ ชะลอวัย www.bangkokhospital.com • โรงพยาบาลพญาไท ศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ เซ็นเตอร์ www.phyathai.com • บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ www.thaistemlife.co.th • บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์
เพราะส่วนใหญ่
ช่วงราคา
ๆ ไปจนถึงเฉียดแสน
การตรวจของผู้ให้บริการแต่ละแห่ง ดีเอ็นเอ (DNA) คือค�ำย่อมำจำกสำรพันธุกรรมที่ชื่อว่ำ กรดดีออกซีไรโบ นิวคลีอิก (Deoxyribonucleic Acid) ซึ่งเป็นจ�ำพวกกรดนิวคลีอิก (Nucleic Acid) หรือกรดที่สำมำรถพบได้ในส่วนของใจกลำงของเซลล์ ซึ่งดีเอ็นเอมักพบ อยู่ในส่วนของนิวเคลียสของเซลล์โดยพันตัวอยู่บนโครโมโซม และดีเอ็นเอมักพบ ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เช่น คน, สัตว์, พืช, เห็ดรำ, แบคทีเรีย, ไวรัส เป็นต้น ซึ่งมีหน้ำที่เก็บข้อมูลทำงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ๆ เอำไว้ และถ่ำยทอด ลักษณะไปยังสิ่งมีชีวิตรุ่นถัดไป egatbusiness.com 35
ตั้งแต่อยู่ในระดับหลักหมื่นต้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ

Japanese Parenting Culture

ค นญี่ปุ่นนั้นมีสังคมที่มุ่งเน้นเรื่อง ความกลมกลืนของส่วนรวม มากกว่าความโดดเด่นของปัจเจก ชาวญี่ปุ่นจะยกให้ ‘สังคม’ อยู่เหนือความ ส�าคัญของตัวเองเสมอ พฤติกรรมที่ละเมิด กฎเกณฑ์สาธารณะคือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ส�าหรับชนชาตินี้ ค่านิยมเช่นนี้ไม่ใช่จะสร้างขึ้นได้ในเวลา ไม่กี่วัน หากเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่ เยาว์วัย ลองไปดูกันว่าพ่อแม่ชาวญี่ปุ่น เลี้ยงลูกกันอย่างไร เพื่อให้ได้ประชากร ที่มีคุณภาพ มีจิตสาธารณะและเคารพ กฎเกณฑ์สังคม วางระเบียบและฝึกฝนตั้งแต่เด็ก ในญี่ปุ่นนั้นผู้ที่ท� า หน้าที่เลี้ยงลูกเป็นหลัก มักจะเป็นแม่ ซึ่งจะมีความใกล้ชิดกับลูกมาก แม่ไปไหน ลูกไปด้วย เรียกว่าตัวติดกันเกือบ ตลอดเวลา จึงเป็นบุคคลส�าคัญในการปลูกฝัง ลักษณะนิสัยของลูก เด็กญี่ปุ่นมักจะเติบโตมากับค� า ว่า กฎระเบียบ นี่คือสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องเรียนรู้ ตั้งแต่เริ่มรู้ความ คุณแม่ชาวญี่ปุ่นจะตั้ง กฎระเบียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เหมาะสมกับ วัยของลูกอยู่เสมอ เช่น มีการก� า หนดให้ ลูกกิน-นอนเป็นเวลา แม่ ๆ ส่วนใหญ่จะไม่ อนุญาตให้ลูก ๆ ดูทีวีหรือเล่นโทรศัพท์มือถือ ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นชนชาติที่รักษาระเบียบวินัยได้ดีเยี่ยม พวกเขามีวิธีอบรม ลูกหลานอย่างไร จึงปลูกฝังส�านึกให้คนเคารพกฎเกณฑ์สังคมอย่างเคร่งครัด
เรื่อง วรรณากร ทองเสริม 36

เบียดเบียนเวลา ของผู้นัดหมาย ด้วยการมาสาย

และลบให้ดี ในทางตรงกันข้าม

ก่อนอายุสองขวบ ของการเกิดอาการสมาธิสั้นเทียมเพราะรู้ดีว่าเป็นสาเหตุ ซึ่งจะส่งผล ต่อการอบรมและเลี้ยงดูในอนาคต ฝึกให้ลูกเป็นคนตรงต่อเวลา คุณสมบัติส�าคัญที่ปลูกฝังกันก็คือ การเป็น คนรักษาเวลา เด็กญี่ปุ่นจะถูกสั่งสอนว่าต้อง ให้ความส�าคัญแก่เวลาของผู้อื่นและส่วนรวม จึงไม่ควรเบียดเบียนเวลาของผู้นัดหมาย ด้วยการมาสาย นอกจากนี้ การรักษาเวลา ในการท� า กิจกรรมต่าง ๆ ก็ส� า คัญ เช่น การรับประทานอาหารให้เสร็จภายในเวลา ที่ก�าหนด เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ที่มีหน้าที่ เก็บกวาด ท�าความสะอาด ต้องเสียเวลารอ ปล่อยให้ลูกเดินทางไปโรงเรียน ด้วยตัวเอง เนื่องจากสังคมญี่ปุ่นมีความปลอดภัยสูง และพ่อแม่ก็มักจะให้ลูกเข้าเรียนที่โรงเรียน ใกล้บ้าน เด็ก ๆ จึงสามารถไปโรงเรียนได้ ด้วยการเดินเท้า การท�าเช่นนี้ เด็กจะถูกฝึก ให้มีความรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่วัยที่ เริ่มเข้าโรงเรียน เช่น ต้องไม่ไปโรงเรียนสาย ไม่เถลไถลออกนอกเส้นทางเมื่อถึงเวลา กลับบ้าน นอกจากนี้ การเดินรวมกลุ่มกัน ไปโรงเรียนของเด็ก ๆ ยังช่วยกระตุ้นให้เด็ก สร้างความสัมพันธ์กันในหมู่เพื่อนร่วมทาง ลดความรู้สึกเหลื่อมล�้าที่อาจเกิดขึ้น เพราะ ไม่ว่าทางบ้านจะรวยหรือจน เด็กก็ต้องเดิน ไปโรงเรียนเอง มอบหมายหน้าที่ให้ลูก ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน พ่อแม่และคุณครูในญี่ปุ่นจะมอบหมาย หน้าที่ให้เด็ก ๆ รับผิดชอบเสมอ พ่อแม่อาจ มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกท�า ในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะการแยกขยะ คนญี่ปุ่นจะถูกหัดให้แยกขยะเป็นตั้งแต่เล็ก นี่คือการปลูกฝังจิตส�านึกในการดูแลชุมชน ให้เด็ก ขณะที่ทางโรงเรียนก็จะมีการ จัดเวรท� า ความสะอาดห้องเรียนหรือ อุปกรณ์ประกอบการเรียนต่าง ๆ เพื่อปลูกฝัง ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินส่วนรวม รักษามารยาทและ เก็บความรู้สึกเสมอ เด็ก ๆ ชาวญี่ปุ่นมักถูกสอนให้พูดค� า ว ่า ‘ขอบคุณ’ และ ‘ขอโทษ’ ติดปากพร้อมกับ การโค้งค�านับ พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจะย�้าให้ลูก ๆ คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอและปฏิบัติตัวต่อผู้อื่น อย่างมีมารยาท เก็บง�าความรู้สึกทั้งในแง่บวก เด็กญี่ปุ่นถูกสอน ให้เป็นคนตรงต่อเวลา ต้องเห็นความส� า คัญ แก่เวลาของผู้อื่นและ ส่วนรวม จึงไม่ควร
และกลมกลืน ไม่ตามใจและไม่ปกป้องลูก แน่นอนว่าไม่มีเด็กคนไหนที่จะว่าง่าย ท�าตาม กฎระเบียบได้ตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่ลูก ๆ แสดงความไม่มีมารยาท ไม่เคารพกฎเกณฑ์ ที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นกฎในบ้านหรือนอกบ้าน พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจะไม่ปล่อยผ่าน ต้องมี การอบรมสั่งสอนอย่างจริงจัง ซึ่งมักกระท�า ในบ้านหรือในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เรียกได้ว่า การอบรมสั่งสอนลูกหลาน ของคนญี่ปุ่น ล้วนขึ้นอยู่กับแนวคิดของ การมองเห็นส่วนรวมเป็นเรื่องใหญ่กว่า ส่วนบุคคล คนญี่ปุ่นจึงเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
egatbusiness.com Ӏ 37
การแสดง ความรู้สึกอย่างเปิดเผยเกินไปถือเป็นเรื่อง เสียมารยาท ทั้งนี้ก็เพื่อให้เด็กสามารถ อยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมได้อย่างสงบ
ตามกฎเกณฑ์ของสังคมโดยไม่มีปัญหา สังคมญี่ปุ่นจึงมีระเบียบวินัยจนกลายเป็น เอกลักษณ์ประจ�าชาติที่คนทั่วโลกจดจ�า

EGATreat® Technology

กฟผ. ได้นำ�สูตรเคมีภัณฑ์ระบบหล่อเย็น EGATreat® เข้�ใช้ง�นทดแทนเคมีภัณฑ์ของบริษัท OEM ซึ่งส�ม�รถป้องกันก�รเกิดตะกรันในระบบ ทำ�ให้ก�รผลิตมีประสิทธิภ�พเพิ่มขึ้น และลดค่�ใช้จ่�ยได้ร้อยละ 35

SERVICES

Chemical Products

บริก � รผลิตสูตรเคมีภัณฑ์สำ�หรับ

โรงไฟฟ้�และโรงง�นอุตส�หกรรมต่�ง ๆ

EGATreat ® ผ่ � นก � รวิจัยและ

� จนได้ผลิตภัณฑ์ที่เหม � ะสม

มีประสิทธิภ � พสูงสุด ในร � ค � ที่คุ้มค่ � Chemical Supply บริก � รจัดห � เคมีภัณฑ์สำ�หรับ โรงไฟฟ้ � และโรงง � นอุตส � หกรรมต่ � ง ๆ เพื่อคว � มสะดวกและตอบสนอง ก � รใช้เคมีภัณฑ์อย่ � งทันท่วงที Chemical for Laboratory บริก � รจัดห � เคมีภัณฑ์พร้อมใช้ง � น สำ�หรับห้องปฏิบัติก � รเคมีวิเคร � ะห์ เพื่อตอบสนองคว � มต้องก � รในง � น ทดสอบ วิเคร � ะห ์และตรวจสอบ คุณภ � พน้ำ�ของระบบผลิตไฟฟ้ �
มีก � รใช้ส � รเคมีที่เหม � ะสม ทำ�ให้ส � ม � รถผลิตไฟฟ้ � ด้วยประสิทธิภ � พสูงสุด ป้องกันก � รหยุดทำ�ง � นของ อุปกรณ์ และคว � มถี่ในก � ร บำ�รุงรักษ � เพื่อให้โรงไฟฟ้ � มีสภ � พพร้อมเดินเครื่อง ป้องกันคว � มเสียห � ย ที่อ � จเกิดกับอุปกรณ์ ทำ�ให้อุปกรณ์มีอัตร � ก � รทำ�ง � นสูงสุด ลดค่ � ใช้จ่ � ย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตสูตรเคมีภัณฑ์ เพื่อก�รปรับแต่งคุณภ�พน้ำ�ในโรงไฟฟ้� และโรงง�นอุตส�หกรรมต่�ง ๆ รวมทั้งบริก�รจัดก�ร และให้คำ�แนะนำ�ในก�รใช้ส�รเคมีเพื่อให้เกิดประสิทธิภ�พ และประสิทธิผลสูงสุด โดยมีเคมีภัณฑ์แยกต�มระบบต่�ง ๆ ของอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้�อย่�งชัดเจน และส�ม�รถตอบสนอง ต่อคว�มต้องก�รก�รใช้ง�นได้อย่�งรวดเร็ว สูตรเคมีภัณฑ์ในชื่อ EGATreat® นั้นผ่�นกระบวนก�รวิจัย และพัฒน� (Research/Development and Testing) เพื่อประสิทธิผลสูงสุดสำ�หรับโรงไฟฟ้�อย่�งคุ้มค่�
ในชื่อ
พัฒน
BENEFITS
www.egatbusiness.com +66 (0) 2436 7488 +66 (0) 95 554 6142 msd3@egat.co.th

DAM INSPECTION AND SAFETY EVALUATION

ใช้ผลการตรวจสอบเขื่อน เพื่อลดหย่อนเบี้ยประกัน เสริมสร้างความมั่นคง

เรามีบริการตรวจสอบและประเมินความมั่นคงปลอดภัยเขื่อนเป็นประจำ า โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ความปลอดภัยเขื่อน กฟผ. ตามมาตรฐาน ICOLD (International Commission on Large Dams) และ USBR (United States Bureau of Reclamation) จากประเทศสหรัฐอเมริกา SERVICES Visual Inspection การตรวจสอบโดยการสังเกต ข้อบกพร่องของเขื่อนหรืออาคาร ว่ามีสิ่งใดผิดปกติไปบ้าง รวมทั้งสาเหตุ ที่ทำ า ให้เกิดความบกพร่องนั้น ๆ Dam Instrumentation Interpretation การแปลผลพฤติกรรมเขื่อนโดยอาศัย การติดตั้งเครื่องมือตรวจวัด ชนิดต่าง ๆ เพื่อติดตามและสังเกต ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น Dam Safety Evaluation จัดทำ า รายงานประเมินผล ภายหลังการตรวจสอบด้วยสายตา และการแปลผลจากเครื่องมือตรวจวัด พฤติกรรมเขื่อน เพื่อส่งมอบให้ลูกค้า
ปลอดภัยต่อชุมชนท้ายน้ำา และสามารถกักเก็บน้ำา ไว้ ใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้ตลอดอายุการใช้งาน” กฟผ. มีคำาตอบให้ท่าน www.egatbusiness.com +66 (0) 2436 7488 +66 (0) 95 554 6142 msd3@egat.co.th BENEFITS สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ภาครัฐและประชาชน ว่าเขื่อนมีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย วางแผนบำ า รุงรักษา เชิงป้องกันเพื่อลดค่าใช้จ่าย ในกรณีเกิดความเสียหาย ที่ไม่คาดคิด
แก่ระบบผลิตไฟฟ้า มั่นใจได้ว่าเขื่อนสามารถ กักเก็บน้ำาได้ตามวัตถุประสงค์ ทำ า ให้มีน้ำ า สำ า หรับเดินเครื่อง ผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ
“เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขื่อนของเรามีความมั่นคง

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.