ปีที่ 24 ฉบับที่ 87 ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564 New Normal New Diplomacy
โควิดคือวิกฤต หลายชีวิตต้องจากไป ล็อกดาวน์ใช่แค่ไทย โลกกว้างใหญ่ไร้เสรี เศรษฐกิจพังเสียหาย หมดรายได้งานไม่มี นักท่องเที่ยวหายหนี ปิดทุกที่แม้โรงเรียน ทุกอย่างต้องชะงัก เสียหายหนักชีวิตเปลี่ยน วิกฤตท�าผิดเพี้ยน ต้องปรับเปลี่ยนอย่างเข้าใจ วิกฤตคือโอกาส ประเทศชาติเดินต่อได้ เพราะคนรักร่วมใจ ร่วมแก้ไขร่วมมือกัน การแพทย์สาธารณสุข ไทยประยุกต์อย่างสร้างสรรค์ มาตรการสกัดกัน เข้มแข็งขันเห็นผลไว ทัวโลกจึงชื่นชม รับมือสมเป็นคนไทย จัดการโควิดได้ ด้วยวินัยเป็นขันตอน ทิศทางต่างประเทศ ปรับตามเหตุวิกฤตร้อน เร่งฟื้นเศรษฐกิจก่อน เน้นสะท้อนบทบาทไทย ส่งเสริมเชื่อมโยงกัน ร่วมสร้างสรรค์วิถีใหม่ ชูจุดแข็งของไทย digitalize ใช้ IT ใช้อาเซียนเป็นศูนย์ ร่วมมือคูณพูนทวี เศรษฐกิจฟื้นคืนดี วัคซีนมีทัวถึงกัน แรงงานพัฒนา เพิมคุณค่าพร้อมแข่งขัน นวัตกรรมน�าสร้างสรรค์ ลดเหลื่อมล�าพลันยังยืน คนไทยคือหัวใจ กงสุลไทยช่วยกลับคืน ต่างถินดินทุกผืน บัวแก้วยืนข้างคนไทย ทิศทางไทยในวิกฤต 2
โควิดกลับมารอบใหม่ แต่ไม่ตกใจเอาอยู่
ใส่ mask ล้างมือพร้อมสู้ อยู่ห่างเรารู้ป้องกัน เราไม่ล็อกดาวน์ประเทศ แต่รัฐแบ่งเขตสกัดกัน
เพื่อพยุงเศรษฐกิจส�าคัญ ปากท้องประจ�าวันประชา เร่งคิดผลิตวัคซีนใหม่ ฉีดได้ใช้จริงปีหน้า
คัดกรองต่างชาติเข้ามา เพื่อกระตุ้นเงินตราหมุนเวียน ประชุมจัดงานออนไลน์ New Normal ใหม่เริมเสถียร
วิกฤตพลิกเป็นโอกาส ทังชาติร่วมต้านภัยใหญ่
สมุนไพรยาไทยมากมี หมอเก่งรักษาดีขึนชื่อ อาหารเลิศรสเลื่องลือ ต่างชาติเชื่อถือมันใจ กระแสชื่นชมเชื่อมัน สร้างสรรค์เศรษฐกิจรายได้
เทคโนสื่อสารทันใจ ภูมิปัญญาไทยร�าลือ
หมุนเวียนเลี้ยงพี่น้องไทย กินดีอยู่ได้ยังยืน โอกาสไทยในวิกฤต 3 ชลทิพา วิญญุนาวรรณ นักการทูตช�านาญการ (ทีปรึกษา) กรมสารนิเทศ ร้อยกรอง
ทุกฝ่ายพร้อมใจปรับเปลี่ยน เรียนรู้รับมือร่วมใจ
สามารถประคับประคองตนเองและองค์กรให้เดินหน้าต่อไป
บทบรรณาธิการ วารสารวิทยุสราญรมย์ ฉบับที่ 85 (กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม 2563) ได้น�าเสนอเรื่องราวหลากหลายแง่มุมที่เกิดขึนท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโควิด-19 ภายใต้แนวคิด “ร่วมแรง ร่วมใจ สู้ภัยโควิด-19” มาถึงฉบับที่ 87 นี้ สถานการณ์โควิดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะห่างหายไปจากชีวิต ของพวกเราทุกคนและท�าให้เราตระหนักมากยิงขึนว่า วิกฤตครังนี้รุนแรง ลุ่มลึก และส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเรามากเพียงใด คงไม่มีใครปฏิเสธว่า วิกฤตครั งนี้ส่งผลอย่างรวดเร็วและขยายเป็น วงกว้างอย่างที่ไม่มีใครคาดเดาได้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นวีถีชีวิตประจ�า วัน รูปแบบของปฏิสัมพันธ์ การไปมาหาสู่และการอยู่ร่วมกันในสังคม ทั งระดับเล็ก (ครอบครัว ที่ท�างาน โรงเรียน) ระดับกลาง (หมู่บ้าน ชุมชน อ� าเภอ จังหวัด) ไปจนถึงระดับใหญ่ (ประเทศ ภูมิภาค และโลก) แต่เมื่อทุกคนเริ มตระหนัก เริ มใช้สติและการคิดวิเคราะห์เพื่อเรียนรู้ และท� าความเข้าใจกับสถานการณ์นี้มากขึ นก็ท�าให้เราทุกคนเข้าสู่ โหมดของการยอมรับและเตรียมความพร้อมให้กับตนเองและองค์กร เพื่อที่จะปรับตัวให้สามารถอยู่กับมันให้ได้อย่างน้อยก็ในอีก 2 - 3 ปี ข้างหน้า
ได้อย่างมั นคงปลอดภัย จนถึงวันนี้ คนไทยเริ มคุ้นชินกับการใช้ชีวิต ประจ� าวันที่ต้องให้ความใส่ใจในเรื่องสาธารณสุขมากขึ น และปรับตัว
4
New Normal New Diplomacy
การต่างประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัว ของการทูตรวมทั งนักการทูตในยุค New Normal ที่เรียกได้ว่าต้องปรับ
และเปลี่ยนกันเกือบจะตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสาร เราจึงพาท่านผู้อ่านไปท�าความรู้จักอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวง การต่างประเทศคนใหม่
จากวิถีชีวิตเดิมแทบจะทุกมิติเพื่อให้สอดรับกับ “ความปกติใหม่” หรือ “New Normal” วารสารวิทยุสราญรมย์ฉบับนี้จึงตั งใจที่จะน�าเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ
งเชิงรุกและเชิงรับในยุค New Normal นอกจากนี้ ยังมีสาระน่ารู้ด้านการต่างประเทศในหลากหลาย มุมมอง รวมทั งเกร็ดความรู้เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและพัฒนาการ ที่ส�าคัญของประเทศไทย อาทิ “ฟังเสียงคนรุ่นใหม่ในเรื่องการต่างประเทศ” “รูปแบบเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว BCG Model” “การย้ายถิ น กับโอกาสทางเศรษฐกิจของคนไทยในต่างแดน” “วันดี ๆ ที่สถานีกลางบางซื่อ
ชายแดนใต้” ปิดท้ายด้วยบทร้อยกรองอันไพเราะที่บอกเล่ามุมมองเกี่ยวกับ ประเทศไทยท่ามกลางวิกฤตในครังนี้ แล้วพบกันใหม่ในฉบับหน้า สวัสดีค่ะ (ชลธี จันทร์รัชชกูล) บรรณาธิการบริหาร 5
(นายธานี แสงรัตน์) ที่จะมาบอกเล่าถึงบทบาท หน้าที่อันท้าทายในการขับเคลื่อนการสื่อสารทั
: ศูนย์กลางระบบรางไทยที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน” และ “การทูตกับเยาวชน
สารบัญ 2 ทิศทางไทยในวิกฤต 3 โอกาสไทยในวิกฤต 8 “ธานี แสงรัตน์” กับบทบาทโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ ในยุค New Normal 18 บทบาทของกระทรวงบัวแก้ว ในช่วงเริมเปิดประเทศ 24 ผู้เสียสละที่ถูกลืม 32 Vaccine Diplomacy เพื่อภูมิภาคที่ปลอดภัย 36 การปรับตัวของนักการทูต ในยุคความปกติใหม่ “New Normal” ในการประชุมอาเซียน 42 การทูตเศรษฐกิจ ในยุคโลกผันผวน 46 ฟังเสียงคนรุ่นใหม่ ในเรื่องการต่างประเทศ 50 รูปแบบเศรษฐกิจ ชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว BCG Model 54 การย้ายถินกับโอกาส ทางเศรษฐกิจของ คนไทยในต่างแดน 8 24 72 6
60 วันดี ๆ ที่สถานีกลางบางซื่อ : ศูนย์กลางระบบรางไทย ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน 66 74 ปี ประเทศไทย กับสหประชาชาติ 72 นักการทูตแรกเข้า ยุค New Normal 128 New Normal : New Coolture วัฒนธรรมยุคใหม่จะคูล อย่างไรในยุคโควิด-19 138 การทูตกับเยาวชนชายแดนใต้ 144 บัวแก้วกับเยาวชน 148 น�าใจไทยไร้พรมแดน 138 36 46 7
การต่างประเทศคนใหม่ พร้อมกับ
รายการใหม่ล่าสุดของวิทยุสราญรมย์
เดือนตุลาคม 2563 ชาวสารนิเทศ เริ มต้นปีงบประมาณใหม่ ปี 2564 ไปพร้อมกับการต้อนรับอธิบดี กรมสารนิเทศหรือโฆษกกระทรวงการ ต่างประเทศคนใหม่ นายธานี แสงรัตน์ หรือ “อธิบดีหน่อย” วารสารวิทยุสราญรมย์ฉบับนี้ ขอน�า ท่านไปท� าความรู้จักกับอธิบดี ธานีฯ ในบางแง่มุม โดยเรียบเรียง บางส่วนจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “Spokesman LIVE! คุยรอบโลกกับ โฆษก กต.” ซึงถือเป็นการเปิดตัวอธิบดี กรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวง
ที่ด�าเนินรายการโดยอธิบดีธานีฯ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่อธิบดี มาร่วมขับเคลื่อนวิทยุสราญรมย์ของเรา ก่อนจะมาเป็นโฆษกกระทรวง การต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ ผมรับผิดชอบงานด้าน การทูตทวิภาคีที่กรมเอเชียตะวันออก มาหลายปี มีหน้าที่ดูแลและส่งเสริม ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศ เพื่อนบ้านและประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และ เวียดนาม จากนั นได้ด� า รงต� าแหน่ง กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ซึงมีเขตอาณาเกือบครึงประเทศสหรัฐฯ ชลทิพา วิญญุนาวรรณ นักการทูตช�านาญการ (ทีปรึกษา) กรมสารนิเทศ เรือง 8 านี สงรัตน กับบทบาท โฆษกกระทรวง การต่างประเทศ ในยุค New Normal “ภารกิจส�าคัญเร่งด่วน ของกรมสารนิเทศและ กระทรวงการต่างประเทศ คือ เพื่อให้ข้อเท็จจริงและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่างรวดเร็วแก่พี่น้อง ชาวไทยและชาวต่างชาติ ”
9
ก่อนได้รับแต่งตั งเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และปฏิบัติงานอยู่ 1 ปี 9 เดือน จนกระทั งได้รับความไว้วางใจจาก
การพ่วงต�าแหน่งโฆษกกระทรวง การต่างประเทศอีก 1 หมวกด้วย รู้สึกอย่างไรกับบทบาทโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ ผมมองว่า เป็นโอกาสที่ดี เพราะเป็น งานที่ท้าทายมาก ๆ และได้เรียนรู้อะไร ใหม่ ๆ เกือบทุกวัน ต้องมีความตื่นตัว อยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ความรวดเร็ว ในการติดต่อประสานงาน ติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แต่ก่อนที่จะสื่อสารอะไรออกไป ต้องมีความรอบคอบ พิจารณาผลดี 10
กระทรวงการต่างประเทศให้มารับ หน้าที่อธิบดีกรมสารนิเทศซึงหมายถึง
ผลเสีย หรือผลกระทบอย่างรอบด้าน จึงต้องมีทักษะหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การคิด ประมวล และวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารที่มาจากทุกสารทิศ แต่ไม่ว่า จะมีทักษะดีเพียงใด ผมเชื่อว่า การท� า งานสารนิเทศต้องมีทีมงาน ที่เข้มแข็งและสนับสนุนซึ่งกัน และกันในทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็น การตอบโต้ ชี้แจง การแถลงข่าว หรือการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งทั งหมดนี้เราต้องด�า เนินการ ทั งเชิงรุกและเชิงรับ โดยเฉพาะ ในช่วงนี้ที่ประเทศไทยเรามีเหตุการณ์ เกิดขึ นมากมาย ซึ งกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่ ชี้แจงท�าความเข้าใจกับประชาชน และสื่อมวลชนทังในและต่างประเทศ ภารกิจส�าคัญเร่งด่วน ของกรมสารนิเทศมีอะไรบ้าง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโควิด-19 ภารกิจส�าคัญเร่งด่วน ของกรมสารนิเทศและกระทรวง การต่างประเทศ คือ การประชาสัมพันธ์ เชิงรุกเพื่อให้ข้อเท็จจริงและสร้างความ เข้าใจที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วแก่พี่น้อง 11
“ผมมุ่งหวังว่า กรมสารนิเทศจะมีส่วน สนับสนุนความพยายาม ของรัฐบาลในการ ลดความเหลื่อมล�า และช่องว่างระหว่างวัย ผ่านการด�าเนินโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ” 12
ชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ มาตรการและนโยบายด้านสาธารณสุข การดูแลคุ้มครองและอ�า นวยความ สะดวกคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึง การส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี ความเชื่อมัน ต่อประเทศไทย ความเข้าใจเกี่ยวกับ บทบาทของสถาบันหลักของชาติ การเสริมสร้างความนิยมไทยใน ต่างประเทศ การขับเคลื่อนการทูต ดิจิทัลเพื่อเพิ มประสิทธิภาพในการ สื่อสารและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เอเปคของไทยในปี 2565 และ การเป็นประธาน BIMSTEC วาระปี 2564 - 2565 ของประเทศไทย นอกจากนี้ ผมมุ่งหวังว่า กรมสารนิเทศจะมีส่วนสนับสนุน ความพยายามของรัฐบาลในการ ลดความเหลื่อมล�าและช่องว่าง ระหว่างวัยผ่านการด�าเนินโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ และได้ให้ แนวทางการท�างานแก่ข้าราชการและ เจ้าหน้าที่บนพื้นฐานของ หลักการ 4Cs ได้แก่ 13
1. Continue สานต่อการ ประชาสัมพันธ์จุดแข็งของไทย
2. Celebrate ฉลองและส่งเสริม ความส�าเร็จของประเทศไทยและ คนไทยในทุกมิติ
3. Create/Creative สร้างสรรค์ เนื้อหาและช่องทางแพลตฟอร์ม
ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ
4. Circular ผนวกแนวคิด/ แนวปฏิบัติ 3Rs (Reduce – Reuse – Recycle) ในการท� างานทุกอย่าง
ใหม่ ๆ
ของกรมสารนิเทศ เพื่อลดผลกระทบ ต่อสิงแวดล้อม
ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีดิจิทัลท�าให้เราเชื่อมโยง ถึงกันได้สะดวกรวดเร็วมากขึ น แต่ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหลั งไหล อย่างรวดเร็วและกว้างขวางจนยาก จะควบคุม ทุกองค์กรต้องท�ำง ำน ด้ำนกำรสื่อสำรเชิงรุกอย่ำงมีกลยุทธ์ มำกขึนเพื่อให้ทันกำล ถูกต้อง และ น่ ำเชื่อถือ รูปแบบและช่องทำง กำรสื่อสำรต้องเข้ำถึงและเข้ำใจง่ำย ตอบโจทย์กลุ่มเป้ำหมำยที่หลำกหลำย กรมสำรนิเทศจึงต้องพัฒนำอย่ำงไม่ หยุดนิ งทั งด้ ำ นบุคล ำกร เครื่องมือ 14 กรมสารนิเทศ
ความท้าทายของการสื่อสาร
AM 1575 kHz)
(digital radio) ในอนาคต
แพลตฟอร์ม เช่น Clubhouse TikTok
และ Blockdit การเชื่อมโยงและสร้าง
ต่างประเทศ โดยเฉพาะสมาคม
และช่องทางการสื่อสาร อาทิ การเพิ
ผ่านรายการวิทยุทางคลื่น FM ทั วประเทศ การปรับภาพลักษณ์และ การด� าเนินงานของวิทยุสราญรมย์ (คลื่นความถี่
เป็นวิทยุ ดิจิทัล
รวมทัง
มช่องทางเผยแพร่งาน
เครือข่ายกับสื่อมวลชนไทยและ
ประเทศไทย นอกจากนี้ กรมสารนิเทศ อยู่ระหว่างการเสนอแนวคิดในการ จัดตังรางวัลการทูตสาธารณะ (Public Diplomacy Awards) เพื่อมอบให้ แก่บุคคลหรือองค์กรที่มีผลงานและ บทบาทส�าคัญในการสนับสนุนหรือ ตอบสนองนโยบายต่างประเทศของ ภาครัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มองไปข้างหน้า...ทิศทางการ ด�าเนินงานของกรมสารนิเทศ ภายใต้บริบทใหม่ของโลก ยุคโควิด-19 โควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้าง รวมถึงการด� าเนินงานทางการทูต ท่ามกลางอุปสรรคของการทูต แบบดั งเดิมในช่วงวิกฤตโควิด-19 การทูตดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาท มากขึ นอย่างเห็นได้ชัด และจะทวี ความส�าคัญมากยิงขึน หลังโควิด-19 15
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจ�า
กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถาน กงสุลใหญ่ทั วโลกได้ใช้การทูตดิจิทัล สนับสนุนและต่อยอดการด�าเนินงาน การทูตในทุกมิติโดยมีประชาชน เป็นศูนย์กลาง เช่น การดูแลพี่น้อง
ระดับประชาชน และการผลักดัน
กิจกรรมทางวัฒนธรรมแบบออนไลน์ ในหลายประเทศ รวมทั งโครงการ Digital Marketing for Thailand ที่กรมสารนิเทศริเริ มขึ นเพื่อ
สถานเอกอัครราชทูตและสถาน กงสุลใหญ่ในต่างประเทศในการเพิ ม แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อส่งเสริม ภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั นและ ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในกลุ่ม
16
คนไทยในต่างประเทศ การสานต่อ ภารกิจต่าง ๆ ทั งในระดับรัฐบาลและ
ผลประโยชน์ของไทยผ่านการประชุม ทางไกลทังในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ตลอดจนเสริมสร้างความนิยมไทย ผ่านการจัดงานเทศกาลไทยและ
เสริมสร้างขีดความสามารถของ
ประเทศและภูมิภาคที่เป็นตลาดที่มี ศักยภาพสูง เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟู เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย หลังโควิด-19
17
ณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรือง
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ที่นายกรัฐมนตรี
บทบาทของ กระทรวงบัวแก้ว ในช่วงเริม เปิดประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยปลัดกระทรวงฯ เป็นหัวหน้า ศูนย์ปฏิบัติการด้านต่างประเทศ (ศปก.กต) และตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมาก็ได้ร่วมหารือมาตรการกับ
เป็นประธาน
18
และหารือรายกรณี
19
20
สถานกงสุลใหญ่ไทยที่มีอยู่ประมาณ 100 แห่งทั วโลกก็ด�าเนินการในทาง ที่สอดคล้อง ภารกิจในการรับมือ
เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดกับ ทาง ศบค. ชุดเล็ก ซึ งจัดขึ นทุกวัน ในช่วงเวลา 08.30 น. อย่างต่อเนื่อง เพราะในการควบคุมการแพร่ระบาด มิติด้านต่างประเทศมีความส�าคัญมาก เกี่ยวโยงและสร้างผลกระทบใน หลายด้านที่อาจนึกไม่ถึง เกี่ยวโยงกับ การสร้างความสมดุลด้านการป้องกัน และการด� าเนินต่อของเศรษฐกิจ ความรู้สึกของคนที่พลัดพรากจาก ครอบครัว การดูแลคนไทยและเยาวชน ที่ติดอยู่ห่างไกลจากบ้าน ประเด็น แรงงานที่ติดอยู่ตามชายแดน รวมทั ง ความละเอียดอ่อนอื่น ๆ ในช่วงที่ไทยผ่อนคลายมาตรการ ต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ ทางสถานทูตและ
มีตั งแต่การแจก ถุงยังชีพ ดูแลคนไทยที่ติดโควิด-19 และช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ นักเรียน แรงงานไทยที่ต้องการกลับบ้าน ปัจจุบัน ได้ช่วยให้คนไทยกลับบ้าน กว่าแสนคน เกือบ 700 เที่ยวบิน และพัฒนาระบบ COE ให้เป็นระบบ ออนไลน์เพื่ออ�า นวยความสะดวก 21
โควิด-19 ของสถานทูตและสถาน กงสุลใหญ่ไทย
และมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย
เตรียมความพร้อมการตรวจลงตรา ประเภท
เข้ามาท่องเที่ยวแบบพ�านักระยะยาว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและ การท่องเที่ยว โดยด�าเนินการอย่างรัดกุม ทั งนี้ ตั งแต่ปลายเดือนกันยายน
ให้ชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะ เดินทางเข้าไทย และไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ เราขยายเปิดรับคนต่างชาติกลุ่มต่าง ๆ เพิ มขึ น กลุ่มผู้มีใบอนุญาตท�า งาน กลุ่มที่มีครอบครัวเป็นคนไทย และกลุ่มครูและนักเรียนต่างชาติ ทางสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ ก็ด�าเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เมื่อ 1 ตุลาคม 2563 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงฯ ได้หารือ กับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยในการประชุมของ ศบค. ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 ได้มีการหารือเรื่องรายละเอียด ของ Special Tourist Visa (STV) และกระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมการกงสุลได้สั งการให้
ที่มีมาตรการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย กระทรวง การต่างประเทศได้ตรวจลงตราให้ กลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มผู้พ�านักระยะยาว (Long Stay) กลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ ที่ถือบัตรเอเปค (APEC Business Travel Card) จาก 10 เขตเศรษฐกิจ ที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ในอัตราต�า 22
สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่
STV ซึงอนุญาตให้คนต่างชาติ
ล่าสุดได้จัดท� าระบบ COE ออนไลน์ เพื่อเพิ มความสะดวก รวดเร็วในการออกหนังสือรับรอง เข้าราชอาณาจักรไทยและมีการ ประสานงานกันทัวโลก ซึงได้เริมใช้ น� าร่องไปแล้วในสหราชอาณาจักร ฮ่องกง และเนเธอร์แลนด์ กลุ่มผู้ที่มาติดต่อธุรกิจระยะสั น และลงทุน กลุ่มผู้ที่มาพ�า นักระยะ สัน-ยาว ที่มีหลักทรัพย์แสดงไม่ต�ากว่า 500,000 บาท และกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ขอรับการตรวจลงตราประเภทพิเศษ STV โดยชาวต่างชาติที่มีความจ�าเป็น ด้านมนุษยธรรมและเศรษฐกิจได้เข้า ประเทศไทยแล้วกว่า 23,000 คน 23
ผู้เสียสละทีถูกลืม ผู้เสียสละทีถูกลืม สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในไทยขณะนี้น่าวิตกยิงนัก กระนั นก็ดี สถานการณ์ที่เกิดขึ น ในไทยยังถือว่าดีกว่าอีกหลายประเทศ ในโลกนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา ซึ งการแพร่ระบาดพุ่งสูงขึ นอย่างเห็น ได้ชัด โควิด-19 ที่ส่งผลสะเทือนโลก เมื่อปีที่ผ่านมา ยังคงอยู่กับพวกเรา ต่อไปในปีนี้ และยิ งทวีความรุนแรง มากขึ นทั วโลก แม้จะมีวัคซีนต้าน โควิด-19 ออกมาแล้ว ทังยังมีการเริม ฉีดวัคซีนให้กับผู้คนในหลายประเทศ แล้วก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทัวโลก ทะลุ 94 ล้านคนไปแล้ว และเชื่อว่า 24 วรรัตน์ ตานิกูจิ เผยแพร่ทางมติชนออนไลน์ เมือวันที 18 มกราคม 2564 เรือง
จะเดินหน้าต่อจนแตะ 100 ล้านคน ในเร็ว ๆ นี้ ด้านผู้เสียชีวิตสะสมก็ผ่าน หลัก 2 ล้านคนไปแล้วเช่นกัน กว่า 1 ปีกับการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ทั วโลก มีคนกลุ่มหนึ ง ที่คอยท�างานเพื่อช่วยเหลือคนไทย ในทุกมุมโลกอย่างเต็มความสามารถ พวกเขาทุ่มเทท�างานเพื่อช่วยเหลือ คนไทยให้ได้กลับบ้าน ไปเยี่ยมเยียน มอบสิงของเครื่องใช้ที่จ�าเป็น ให้ก�าลังใจ ให้ค�าปรึกษา และคอยดูแลช่วยเหลือ ในทุกเรื่องเท่าที่จะท�าได้ เพื่อให้คนไทย ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกได้อุ่นใจ ได้เดินทางกลับบ้านเกิด และได้รับ การดูแลในฐานะที่เป็นคนไทย แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากบ้านเกิด เมืองนอนก็ตาม คนเหล่านั นคือเจ้าหน้าที่ของ กระทรวงการต่างประเทศและ หน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้ทีมไทยแลนด์ 25
ำรแพร่ระบำ ดด้วยก ำ รจัดห ำ
ข้ำวของที่ขำดแคลน ไม่ว่ำจะเป็น
ของกินของใช้
ที่ประจ�ำกำรอยู่ในสถำนเอกอัครรำชทูต และสถ ำ นกงสุลใหญ่ไทยทั วโลก ซึงมีทังที่เป็นข้ำรำชกำร ลูกจ้ำงท้องถิน หรือแม้แต่ครอบครัวของพวกเขำ ตลอดจนข้ำรำ ชก ำ รกระทรวงก ำร ต่ ำงประเทศที่อยู่ในไทย โดยเฉพำะ ในกรมก ำรกงสุล ที่คอยท�ำหน้ำที่ ประส ำ นง ำ นในก ำ รอ�ำนวยคว ำม สะดวกให้คนไทยได้เดินทำ งกลับ บ้ำนเกิด ในช่วงเวลำที่ยำกล�ำบำก พวกเขำ ที่อยู่ในต่ำงประเทศต้องเผชิญกับ คว ำมเสี่ยงของกำรแพร่ระบำ ดของ โควิด-19 ที่รุนแรงกว่ำ ไทยในหล ำย ประเทศ ท่ ำ มกล ำ งคว ำ มย ำกล�ำบำก เหล่ำนัน พวกเขำไม่เพียงแต่ต้องดูแล ตัวเอง แต่ยังมีภำระหน้ำที่ส�ำคัญในกำร ดูแลคนไทยทุกคน ตั งแต่ในช่วงต้น ของก
แอลกอฮอล์ หน้ำกำกผ้ำ และหน้ำกำ กอน ำมัย เพื่อส่งไปให้ คนไทยที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ในเวลำต่อมำก็ต้องวำงแผน ประสำนงำนเพื่อพำคนไทยกลับบ้ำน ซึงไม่ใช่งำนง่ำย ยิงเฉพำะในช่วงต้น ๆ ที่ต้องมีกำรด�ำเนินกำรภำยใต้ข้อจ�ำกัด นำนัปกำรที่ไม่เคยพบเจอมำก่อน ทั งกำรจัดหำเที่ยวบินพิเศษ ท�ำระบบ ลงทะเบียนเพื่อจัดคิวให้คนเดินทำง 26
ก่อนหลัง จัดหาแพทย์ให้การรับรอง ผลการตรวจสุขภาพเพื่อยืนยันว่า ผู้เดินทางต้องไม่ติดโควิด-19 จัดหา อาหารและข้าวของให้กับคนไทย ที่จะเดินทางกลับบ้าน รวมถึงจัดหา ข้าวของต่าง ๆ ที่จ�าเป็นและขาดแคลน ให้กับคนไทยในเขตอาณาอย่างต่อเนื่อง ในบางพื้นที่มีค�าสังห้ามการเดินทาง ก็ต้องประสานงานกับทางการท้องถิ น เพื่อจัดรถไปรับคนไทยในแต่ละจุด หาใบอนุญาตส�าหรับการเดินทาง ของเที่ยวบิน (ไฟลท์เคลียร์แรนซ์) เพื่อให้เครื่องบินพิเศษสามารถ เดินทางมารับคนไทยได้ ในประเทศที่ ไม่มีสถานทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ไทย แต่มีคนไทยประสบปัญหา ก็ต้องหา ช่องทางที่จะช่วยเหลือและพาคนไทย เหล่านั นกลับมา ไม่ว่าจะผ่านกงสุล กิตติมศักดิ ไทย หรือผ่านหน่วยงาน ของมิตรประเทศที่พอจะอาศัย ไหว้วานกันได้ ทุกอย่างนี้ต้องท�า ภายใต้ข้อจ�ากัดมากมายและภายใต้
ทางแก้ไขและน�าคนไทยกลับบ้าน ให้ได้ในที่สุด พวกเขาต้องอยู่ห่างไกลจากคน ในครอบครัว เมื่อพ่อแม่เจ็บป่วย ก็ไม่อาจเดินทางกลับมาดูแล หลายคนท�าไม่ได้แม้แต่มาร่วมงานศพ ของบุพการี เพราะไม่สามารถเดินทาง กลับมาได้ ด้วยมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกัน ดูแลคนไทยในต่างประเทศ เนื่องจาก บุคลากรในสถานทูตและสถานกงสุล 27
สถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ไม่ว่าจะมีข้อจ�ากัดเพียงใดก็ต้องหา
เมื่อประเทศต่ำง
หรือล็อกดำวน์ก็ยังต้องท�ำงำนภำยใต้ สถ ำ นก ำรณ์ดังกล่ำวเพื่อช่วยเหลือ คนไทยต่อไป ท่ ำ มกล ำ งคว ำ มย ำก ล�ำบำกมำกมำยที่พบเจอ แต่เรื่องรำว เบื้องหลังเหล่ำนี้แทบจะไม่เป็นที่รับรู้ กันเสียด้วยซ�ำ ทร ำบหรือไม่ว่ำจนถึงขณะนี้ มีข้ำรำ ชก ำรและลูกจ้ำ งในสถ ำนทูต และสถำนกงสุลใหญ่ต่ำง ๆ ติดโควิด-19 ไปแล้วถึง 62 คน ใน 24 ส�ำนักงำน ผู้ป่วยมีทั งที่เป็นเอกอัครรำชทูต ภริยำทูต นักกำรทูต ไปจนถึงลูกจ้ำง ท้องถิ น ซึ งมีทั งที่เป็นคนไทยและ คนต่ ำ งช ำติ ผู้ที่ปฏิบัติงำ นด้ ำนกงสุล ในก ำรให้ควำมช่วยเหลือดูแลคนไทย โดยตรง ในบรรด ำผู้ที่ติดโควิด-19 จนถึงวันนี้ มีที่กลับมำเสียชีวิตในไทย 1 คน และเป็นลูกจ้ำงท้องถินต่ำงชำติ ที่เสียชีวิตในต่ำงประเทศอีก 2 คน ส่วนที่เหลือก็รักษำกันไปตำ มอ ำกำร เพรำะไม่ใช่ทุกประเทศที่จะมีมำตรกำร ดูแลคนป่วยดีเช่นในไทย และไม่ว่ำ จะระวังตัวมำกเพียงใด ด้วยลักษณะของ งำ นและคว ำมรับผิดชอบที่มีก็ท�ำให้ พวกเขำไม่มีทำงเลือกมำกนัก เนื่องจำก สิงที่ส�ำคัญที่สุดคือกำรช่วยเหลือดูแล คนไทยนันเอง ขณะที่ในส่วนของกรมกำรกงสุล ข้ำรำ ชก ำ รและเจ้ ำหน้ำที่ในกอง 28
ใหญ่แต่ละแห่งมีอยู่จ�ำกัด แม้ตนเอง เจ็บป่วยหรือกระทั งติดโควิด-19 ก็ต้องดูแลกันไปภำยใต้ข้อจ�ำกัดที่มี กำรด�ำรงชีวิตประจ�ำวันก็ไม่ใช่เรื่องง่ำย
ๆ ประกำศเคอร์ฟิว
คุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คน ไทยในต่างประเทศ ก็ทุ่มเทท�างานกัน 7 วันต่อสัปดาห์แบบไม่เคยหยุด มาต่อเนื่องกัน 10 เดือนเต็ม พวกเขา ต้องประสานงาน อ�านวยความสะดวก และจัดท� ารายงานคนไทยที่เดินทาง เข้า-ออกประเทศทุกวันแบบไม่มี วันหยุด ท� าให้ตั งแต่เริ มมีการน�า คนไทยกลับบ้านในวันที่ 4 เมษายน จนถึงขณะนี้ สามารถพาคนไทย กลับบ้านได้แล้ว 153,275 คน โดยเป็นการเดินทางกลับทางอากาศ 120,125 คน ทางบก 20,927 คน และทางน�า 2,223 คน ทุกคนท�างานกันอย่างเต็มก�าลัง ค่อย ๆ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึนทีละจุด คลายปมปัญหา ขจัดอุปสรรค เร่งท�างานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยให้ คนไทยได้กลับบ้าน ท่ามกลาง สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ดูจะ ทวีความรุนแรงเพิ มขึ นแข่งกับเวลา ที่เดินไปไม่หยุด จริงอยู่หากจะบอกว่าสิงที่พวกเขา ท�านันคือหน้าที่ ไม่ผิดที่จะบอกว่านัน 29
คือความรับผิดชอบ แต่ความทุ่มเท ที่พวกเขาลงแรงลงใจไป ไม่ควรถูก
ตีราคาด้วยค�าจ�ากัดความเพียงเท่านัน คนเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากบุคลากรทาง การแพทย์และหน่วยงานทุกหน่วยงาน ในไทยทุกวันนี้ ที่พยายามประคับ
ประคองให้เราผ่านสถานการณ์อันยาก ล�าบากนี้ไปให้ได้โดยเร็วที่สุด
และให้เกิด ความสูญเสียน้อยที่สุด แต่ภารกิจ ที่พวกเขาท�าคือการช่วยเหลือคนไทย ในต่างแดน สิงที่พวกเขาท�าจะส�าเร็จ ไปไม่ได้เลย หากพวกเราทุกคนไม่ ตระหนักว่า เราทุกคนต่างมีความรับ 30
ผิดชอบของตนที่จะท�ำให้สถำนกำรณ์ ไม่เลวร้ำ ยลงไปกว่ ำนี้ เพื่อที่เรำ จะ ผ่ำนพ้นควำมยำกล�ำบำกนี้ไปด้วยกัน ให้ได้ในเวลำที่รวดเร็วที่สุด “การทูตเพื่อประชาชน ทุกแห่งหน เราดูแล” เป็นสโลแกนของกรมกำรกงสุล กระทรวงก ำ รต่ ำ งประเทศ ทั งยัง เป็นสิ งที่ข้าราชการของกระทรวง การต่างประเทศทุกคนยึดมั นและ ลงมือท�าอย่างเต็มที่ตลอดช่วงเวลา แห่งความยากล� าบากที่ผ่านมา และยังคงเดินหน้าท�า ต่อไปตราบ เท่าที่สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ ยังไม่จบลง 31
Diplomacy
ในภูมิภาคอาเซียน มาเลเซียและ เมียนมายังคงเป็นประเทศที่มีจ�านวน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด ส�าหรับไทยก�าลังไต่ขึ น ranking ทุกวันอย่างน่าใจหาย อยู่ประมาณ ล�าดับที่ 130 กว่า ๆ จากเกือบ 200 ประเทศทัวโลก แต่ส�าหรับทุกประเทศ ทั วโลก ประเด็นที่ส�าคัญที่สุดในการ แก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 ณ วันนี้ คือ การสรรหาวัคซีนคุณภาพ ซึ งในปัจจุบันมีการวิจัยที่หลากหลาย และมีบริษัทที่ผลิตวัคซีนจ�านวนหนึ ง วัคซีนต้านโควิด-19 ควรเป็น global public goods หรือสินค้าสาธารณะ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ ต่อทุกคนและมีโอกาสในการน�ามาใช้ อย่างเท่าเทียม ซึงองค์การอนามัยโลก และผู้น�าหลายประเทศ รวมทั งนายก รัฐมนตรีของไทยก็ได้ย�าในสิงนี้ ปลอดภัย 33
ด้านการผลิตวัคซีน รวมไปถึงเรื่อง
การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัท
ประเด็น global public goods เป็นเรื่องที่ถกเถียงมาหลายปี ในเวทีของสหประชาชาติว่าอะไร ควรรวมอยู่ในกลุ่มนี้หรือไม่ บทบาท ของสหประชาชาติจึงมีความส�าคัญ และที่ส�าคัญอีกประการหนึ งคือ การโอนถ่ายในเรื่องเทคโนโลยี
เอกชนด้วย ประเทศไทยเองไม่ได้ปิดกั นว่า วัคซีนต้องมียี่ห้อใดยี่ห้อหนึ งและ เปิดโอกาสในการเจรจากับรัฐบาล บริษัทเอกชน และสถาบันวัคซีน ในหลายประเทศ เพื่อน�ามาซึงการจัดซื้อ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ และได้มาในช่วงเวลาที่เหมาะสม
กระทรวงการ ต่างประเทศเองได้มีส่วนช่วยในการ
การเจรจากับองค์กรต่าง ๆ หลายภาคส่วน โดยสถานทูตไทย ในต่างประเทศใช้เครือข่ายที่มีเพื่อเริม การพูดคุย ซึงเกิดขึนในหลายประเทศ เช่น อินเดีย รัสเซีย เยอรมนี จีน เป็นต้น ไม่ใช่เพียงในยุโรป โดยคาดว่า ไทยจะได้รับวัคซีน ซึ งผ่านมาตรฐาน อาหารและยาของประเทศต้นทาง และในไทยเอง เริมต้นเดือนกุมภาพันธ์ ต่อถึงพฤษภาคม 2564 นอกจากการเจรจาแล้ว Vaccine Diplomacy หรือ “การทูตเพื่อวัคซีน” ในวันนี้ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ โดยความต้องการวัคซีนของทุกประเทศ ทั วโลกได้เปิดประตูสู่การให้ความ 34
สามารถใช้ได้ทันกาล
“เปิดประตู”
(ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management: AHA Center)
ช่วยเหลือซึ งกันและกัน ปัจจัยความ สามารถในการผลิต ซื้อ และแจกจ่าย เพื่อส่งมอบเป็นความช่วยเหลือ ด้านความมั นคงทางสาธารณสุข เป็นปัจจัยหลัก ไทยเองเชื่อในความ ร่วมมือช่วยเหลือซึงกันและกัน และมี แผนที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศ เพื่อนบ้านด้านวัคซีน โดยเฉพาะ ประเทศที่มีแรงงานเข้ามาท�างานในไทย ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยก็มี ความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ด้วย เช่น อินเดียและจีน ไทยเองก็ได้รับความช่วยเหลือ ในระดับภูมิภาค แม้ไม่ใช่ในเรื่องวัคซีน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานงานกับศูนย์ประสานงาน อาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้าน มนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ
กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อรับสิงของช่วยเหลือของอาเซียน ในคลังเก็บสิ งของช่วยเหลือทางไกล ของอาเซียน (DELSA Satellite Warehouse) ที่ตังอยู่ที่จังหวัดชัยนาท เพื่อสนับสนุนการบริหารสถานการณ์ แพร่ระบาด รวมถึงจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงเป็นจ�านวนมาก เช่น อุปกรณ์เต็นท์ส�าหรับครอบครัว และชุดสุขอนามัยส่วนบุคคล ทั งนี้ คลังสิ งของช่วยเหลือทางไกลของ อาเซียนสามารถส่งสิ งของช่วยเหลือ ไปยัง 4 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ได้ภายใน 24 ชัวโมง 35
การปรับตัวของนักการทูตในยุคความปกติใหม่ คงจะเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ที่จะ ยอมรับว่าอาเซียนเป็นกรอบความ ร่วมมือระหว่างประเทศที่มีการ ประชุมมากที่สุด กว่าหนึ งพันการ ประชุมต่อปี นับตั งแต่การประชุม ระดับผู้น�า การประชุมระดับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาวุโส การประชุมของ คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 36 ภาโณตม์ ปรีชญานุต นักการทูตช�านาญการ (ทีปรึกษา) กรมสารนิเทศ เรือง
ของทั งสามเสาประชาคม การเมือง และความมันคง เศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรม ที่มีทั งการประชุมเหย้า และการประชุมเยือนกับประเทศ สมาชิกอาเซียนกันเอง และกับ ประเทศภาคีภายนอกของอาเซียน ซึงมีสถานะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ประเทศคู่เจรจา ประเทศคู่เจรจา เฉพาะสาขา เป็นต้น ในสถานการณ์การระบาดของ โรคโควิด-19 ย่อมส่งผลกระทบต่อ การท� างานของอาเซียน โดยเฉพาะ การจ� ากัดการเดินทางระหว่างกัน การประชุมในรูปแบบพบปะเห็น หน้ากัน (Face to Face) ลดทอน น้อยลงและถูกปรับเป็นรูปแบบการ ประชุมทางไกล (video conference) การประชุมสุดยอดอาเซียนสมัย พิเศษว่าด้วยโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 ถือเป็นการประชุม ระดับผู้น�าครังแรกในประวัติศาสตร์ 53 ปี ของอาเซียนที่ผู้น�าของอาเซียน 37
ประชุมผ่านจอมอนิเตอร์ผ่านระบบ
ทางไกล โดยไม่ต้องเดินทางออก
จากประเทศ และไม่มีการสัมผัสมือ
แบบ ASEAN Way
ในแง่การท�างานของเจ้าหน้าที่
นักการทูต หรือนักการทูตมืออาชีพ
ที่ต้องเตรียมเรื่องการประชุมและ
เดินทางร่วมประชุมย่อมต้องปรับ
ไปกับวิถีปกติใหม่ (New Normal)
การเดินทางที่ลดน้อยลงอาจจะได้ผลดี
ในแง่ของการประหยัดงบประมาณ
ย่อมน้อยลง การฝึกปรือวิทยายุทธ์
และเวลา โดยเฉพาะการเดินทาง ซึ งอาจได้มาทดแทนเวลาเพื่อใช้ เตรียมเนื้อหาสาระของการประชุม
อย่างไรก็ดี ประสบการณ์เข้าร่วม
จากผู้บริหารกระทรวง ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานที่เดินทางร่วมกัน
การเป็นนักการทูตก็ย่อมต้องเปลี่ยนไป ในขณะเดียวกัน ความใกล้ชิดกับ นักการทูตประเทศอาเซียนที่เคย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างทาง เดินหน้าห้องประชุม (corridor) หรือ โต๊ะกาแฟกลับเปลี่ยนเป็นการหารือ ทางข้อความหรือทางโทรศัพท์ ซึ งย่อมเป็นอุปสรรคไม่มากก็น้อย ต่อการเจรจาต่อรองทางการทูต 38
การประชุมระหว่างประเทศที่เรียนรู้
โดยที่แต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ในเรื่องวิธีการที่จะติดต่อสื่อสาร แอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร หรือชั นความลับของเอกสารที่จะมี การหารือกันได้ ความสนุกสนาน ในการเจรจาเอกสารการประชุมแบบ ซึง ๆ หน้าก็ลดน้อยลงไป ตามวิธีการ ที่เปลี่ยนไปเช่นกัน งานด้านพิธีการทูต (protocol) ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับ ยุคความปกติใหม่ ในการเดินทาง ไปประชุมนอกประเทศแต่ละครั ง นอกเหนือจากงานด้านสารัตถะ เช่น เตรียมประเด็นการสนทนา (Talking points) สุนทรพจน์ (Speech) สรุปผล และท�ารายงานการประชุม หรือแม้แต่ เป็นล่ามภาษา เจ้าหน้าที่การทูต ยังมีภารกิจด้านพิธีการทูต ได้แก่ พิธีการตรวจคนเข้าเมือง การจัดขบวน รถในการเดินทาง การเรียกคนขับรถ ซึ งในหลายกรณีไม่สามารถสื่อสาร ภาษาอังกฤษได้ การติดต่อประสานงาน ด้านโรงแรม การจัดโต๊ะอาหาร การจัดพิธีลงนาม การประสานงานกับ สายการบินย่อมลดน้อยลง ทักษะ การปฏิบัติงานในเรื่องดังกล่าวถือว่า ส�าคัญไม่น้อยไปกว่างานด้านสารัตถะ และเป็นทักษะที่นักการทูตต้องฝึกฝน และน�าไปปรับใช้เพื่อเป็นประโยชน์ ในการประจ�าการในต่างประเทศต่อไป เช่น ภารกิจอพยพเคลื่อนย้ายคนไทย ในกรณีภาวะฉุกเฉิน การจัดห้องประชุม 39
รวมถึงการจัดที่นั
มีประเด็นระดับนโยบายมากมาย ในอาเซียนที่ต้องได้รับการตัดสินใจ
และห้องจัดเลี้ยง
ง ของผู้ที่เข้าร่วมประชุมและผู้ร่วม โต๊ะอาหาร
การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และการเปลี่ยนแปลงเป็นคุณสมบัติ ที่ส�าคัญของนักการทูตมืออาชีพ การประชุมยุคความปกติใหม่ของ อาเซียน อาจเป็นรูปแบบของการผสม สองรูปแบบ (Hybrid) ระหว่าง (1) การประชุมในรูปแบบ
ซึ งยังจ�าเป็นอยู่ในระดับผู้น�า
รัฐมนตรีที่มีความส�าคัญ เนื่องจาก
คงไม่มีใครทราบได้ในเวลานี้ว่า การประชุมอาเซียนในวิถีแบบเดิม จะกลับมาได้เต็มรูปแบบเมื่อไหร่
Virtual
และ
กฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) ทั งนี้ อาจจะเป็นสิงที่อาเซียนกลับมา พิจารณาอย่างละเอียดในอนาคต ในเรื่องของรูปแบบการประชุม เมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ความเป็น ปกติ และ (2) การประชุมตามแบบเดิม (conventional) การส่งเสริมบทบาท ของนักการทูตที่ประจ�า การอยู่ใน ต่างประเทศโดยเฉพาะคณะกรรมการ ผู้แทนถาวรประจ�าอาเซียน
ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศ อินโดนีเซีย ในการขับเคลื่อนกลไก
40
หรือเคาะจากผู้น�าหรือรัฐมนตรี ตามระเบียบแบบแผนที่ก�า หนดไว้ใน
(Committee of Permanent Representatives to ASEAN)
ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศ คู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศ
ที่มีความปลอดภัยทางไซเบอร์และ
อย่าให้การพัฒนาภูมิภาคร่วมกัน
เทคโนโลยีด้วยความระมัดระวังและ เหมาะสม งานด้านพิธีการอาจลด
น้อยลง แต่การสืบทอดองค์ความรู้
การฝึกฝนทักษะภายในประเทศยังคง สามารถด� าเนินอยู่ได้ การขับเคลื่อน
อาเซียนยังคงด�าเนินอยู่ต่อไปและ
รวมทั งการส่งเสริมการท�า งานของ ส�านักงานเลขาธิการอาเซียนในการ ขับเคลื่อนกลไกต่าง ๆ ของอาเซียน
อาเซียนเองจ�าเป็นต้องพัฒนาฐานงาน หรือ platform รูปแบบของการประชุม
อย่างมีประสิทธิภาพและมีเอกภาพ
ชะงักงันด้วยอุปสรรคด้านสาธารณสุข เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการ พัฒนาอย่างยั งยืน และมีเป้าหมาย หลักคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชนในอาเซียนด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมตามที่มุ่งหมายไว้ ในส่วนของนักการทูตมืออาชีพ ควรมองโควิด-19 เป็นโอกาส ในยุค ความปกติใหม่นักการทูตมืออาชีพ ควรพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี ต้องเรียนรู้
ไม่ตกเทรนด์ และต้องใช้
ยังคงเป็นความท้าทายของอาชีพ นักการทูตที่ท�าให้การประชุมในกรอบ อาเซียนยังคงมีมนต์เสน่ห์ ผลักดัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมขึ น เกิดการพัฒนาภูมิภาคอย่างไม่หยุดนิง ในบริบทของรูปแบบการประชุมที่อาจ เปลี่ยนแปลงไป 41
ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและ
เพิมขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการ
ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวน จากสงครามการค้าและประสบกับ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 กระทรวงการต่างประเทศ ได้ด�าเนินงาน “การทูตเศรษฐกิจ” ใน เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ซึงสอดคล้องกับ นโยบายประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ชาติระยะ
ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสามารถ แข่งขันได้อย่างยังยืน กระทรวงการต่างประเทศมีแขนขา อยู่ทั วโลกคือ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทยใน ต่างประเทศ รวมถึงมีเครือข่ายกับ คณะทูตานุทูตต่างประเทศที่ประจ�า
4.0 และกรอบ
20 ปี ที่มุ่งสร้าง
ในประเทศไทย จึงได้น�าจุดเด่นนี้มาช่วย ผลักดัน “การทูตเศรษฐกิจ” ในการสร้าง
เพื่อเผชิญความผันผวนในยุคนี้
42 วรวุธ เชวงเกียรติ นักการทูตช�านาญการ (ทีปรึกษา) กรมสารนิเทศ เรือง
การทูต เศรษฐกิจ ในยุคโลกผันผวน
“ครัวไทยสู่ครัวโลก” เป็นหนึ ง ในนโยบายที่ได้ผลักดันต่อเนื่อง มาหลายปี โดยในช่วงปีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตและสถาน กงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมสาธิตและแข่งขัน การท� าอาหารไทย กิจกรรมเพิ มขีด ความสามารถพ่อครัวและแม่ครัวไทย กิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือกับ สถาบันอาหารที่อยู่ในต่างประเทศ เผยแพร่อาหารไทยผ่านช่องทาง สื่อออนไลน์ โดยเฉพาะกิจกรรม เผยแพร่อาหารไทยได้รับความนิยม อย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 3,000 คน 43
ของไทยในต่างประเทศได้อย่างยังยืน
ไม่เพียงกิจกรรมในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศยังได้จัด
กระทรวงการต่างประเทศยังได้ ส่งเสริมสินค้าและธุรกิจ“ฮาลาล” ของไทย เพื่อเพิ มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมทังการขยายตลาดในต่างประเทศ ในปีที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ ได้น�าผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมแสดง สินค้าในต่างประเทศ
รวมถึงได้สร้าง ความร่วมมือด้านฮาลาลกับหน่วยงาน ของต่างประเทศเพื่อให้เกิดการพัฒนา ด้านคุณภาพและส่งเสริม
“ฮาลาล”
กิจกรรมภายในประเทศเพื่อสร้าง
ในไทยเข้าร่วมกิจกรรม “MFA CEO Forum” เพื่อให้ผู้แทนต่างประเทศ ได้พบปะท� าความรู้จักกับผู้น�า ทาง ธุรกิจที่มีศักยภาพสูงของไทย และ เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคเอกชน และเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ซึงช่วย ให้เกิดความเชื่อมันต่อระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ อันจะน�ามาซึ งการค้า การลงทุนกับไทยที่เพิมพูนขึน ส�าหรับผู้ประกอบการและ ประชาชนทั วไป กระทรวงการ ต่างประเทศยังได้จัดท�า เว็บไซต์ globthailand.com ซึ งได้รวบรวม ข้อมูลแนวโน้มตลาดต่างประเทศ 44
โอกาสและช่องทางธุรกิจให้แก่ ผู้ประกอบการไทย โดยเชิญคณะ ทูตานุทูตต่างประเทศที่ประจ�า
เพื่อประโยชน์ต่อการตัดสินใจด�าเนิน ธุรกิจการค้าและการลงทุนใน ต่างประเทศ โดยเป็นข้อมูลเชิงลึก ของสถานเอกอัครราชทูตและ สถานกงสุลใหญ่ไทยที่อยู่ในแต่ละพื้นที่
และผู้คนในต่างประเทศ จึงสามารถ
ทันการณ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้
ในยุคที่โลกก�าลังเผชิญกับผลกระทบ ทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ผู้คนไม่สามารถเดินทาง ไปมาระหว่างกันได้เช่นในยามปกติ กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับ วิธีการท� างานเพื่อส่งเสริม “การทูต เศรษฐกิจ” ให้ยังด�าเนินต่อไปโดยอาศัย เทคโนโลยี เช่น การเข้าร่วมการประชุม ออนไลน์เพื่อหารือกับต่างประเทศ เกี่ยวกับความร่วมมือในการรับมือ โควิด-19 หรือการจัดสัมมนาออนไลน์ (webinar) หรือ podcast ที่เสริมสร้าง ความรู้แก่สาธารณชน เพื่อเตรียมพร้อม ส�าหรับโอกาสที่จะมาพร้อมกับวิกฤต ที่ก�าลังเกิดขึน หากมองในภาพรวม กระทรวง การต่างประเทศได้ “เชื่อมไทยสู่โลก เชื่อมโลกสู่ไทย” เพื่อเพิมขีดความ สามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับ ผู้ประกอบการไทยในภาวะเศรษฐกิจ โลกผันผวน ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ละเลยการให้องค์ความรู้แก่ ผู้ประกอบการและสาธารณชน ในประเทศ ซึ งจะน�าไปสู่การพัฒนา ทางเศรษฐกิจที่ยั งยืนในระยาว ขณะที่โลกยังเผชิญกับความผันผวน ในปัจจุบัน 45
ซึงมีความใกล้ชิดกับหน่วยงานท้องถิน
จับกระแสในต่างประเทศได้อย่าง
ก้าวทันสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปของโลก
ฟังเสียงคนรุ่นใหม่ ในเรืองการต่างประเทศ ในยุคที่เยาวชนไทยสนใจความ เป็นไปของบ้านเมืองมากขึ น โดยมี ข้อเสนอที่ล�าสมัยและต่างจากยุคก่อน จนคนรุ่น ลุงป้าน้าอาตามแทบไม่ทัน การท� าความเข้าใจช่องว่างทางความ คิดระหว่างรุ่น (generation gap) กลายเป็นเรื่องส�าคัญในการก�า หนด นโยบายสาธารณะ เพราะการที่คน ต่างยุคมองโลกใบเดียวกันด้วยมุมมอง ที่ไม่เหมือนกัน ย่อมส่งผลให้คาดหวัง อนาคตที่ต่างกันด้วย ซึ งรวมถึงเรื่อง การต่างประเทศ 46 ยาใจ บุนนาค นักการทูตช�านาญการ (ทีปรึกษา) กรมสารนิเทศ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที 18 ธันวาคม 2563 เรือง
47 ภารกิจหนึ งของกระทรวงการ ต่างประเทศ คือ การทูตสาธารณะ (public diplomacy) เพื่อให้ประชาชน เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างนโยบาย ต่างประเทศกับการพัฒนาประเทศ การทูตสาธารณะจึงเป็นโอกาสรับฟัง ความคิดเห็นของเยาวชนรุ่นใหม่ว่า ฝันให้ประเทศมุ่งหน้าไปทางไหน และจะใช้นโยบายต่างประเทศเป็น เครื่องมือได้อย่างไร มีหลายครั งที่กระทรวงการ ต่างประเทศจัดกิจกรรมให้เยาวชน แสดงความคิดเห็นและวิสัยทัศน์ในเวที ระหว่างประเทศ เช่น ในช่วงที่ไทยเป็น ประธานอาเซียนเมื่อปี 2562 ก็ได้จัด เวทีหารือระหว่างผู้น�าประเทศสมาชิก อาเซียนกับผู้แทนเยาวชนอาเซียน ประเทศละ 2 คน เพื่อให้ผู้น�าได้ฟัง ข้อเสนอแนะด้านการพัฒนาที่เยาวชน ช่วยกันระดมสมอง เชื่อไหมคะว่า ก่อนที่จะพบผู้น�า เยาวชนทั งหลายได้แลกเปลี่ยนความ เห็นกันกว่า 9 ชัวโมง โดยได้ข้อเสนอ 5 ประเด็นหลักในด้านการศึกษา สิ งแวดล้อม การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม การใช้สื่อออนไลน์ให้เกิดผล ประโยชน์สูงสุดต่อสังคม และแนวทาง ปฏิบัติเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ต่อสังคมสามารถแบ่งออกเป็น
การใช้ทรัพยากรสิงแวดล้อมอย่างยังยืน
กระทรวงการต่างประเทศยังร่วมมือ
ในงาน “Thailand
Sustainability Expo 2020”
ตุลาคม 2563 โดยมีผู้แทนเยาวชน
เศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ปี
หลายประเด็นย่อย เช่น การปรับปรุง
หลักสูตรการศึกษาให้ทันโลก และ
กับภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้ เยาวชนได้แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ แนวทางพัฒนาประเทศ เช่น ได้ร่วมมือ กับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จ�ากัด (มหาชน) และเครือข่าย Thailand Supply Chain จัดเสวนา “บทบาท ของเยาวชนต่อการบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาที่ยังยืน”
คณะมนตรี
เมื่อเดือน
ที่เข้าร่วมการประชุมเยาวชน
2562 และ 2563 (ECOSOC Youth Forum) และผู้แทนเยาวชนที่เข้าร่วม การประชุมเยาวชนสมัชชาใหญ่แห่ง สหประชาชาติ ปี 2562 (UNGA Youth
ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้วย นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้สัมภาษณ์เยาวชนออกรายการ 48
Delegation)