The Reds Magazine 11

Page 1

1

September 2013 - The Reds


2

The Reds - September 2013


3

หายหน้าหายตา และ เว้นวรรคกันไปหนึ่งเดือน มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย หนักหน่วง และ ตึงเครียดกันพอสมควร แต่แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไป The Reds Magazine ยังคงท�ำ หน้าที่อย่างที่มันควรจะเป็น เฉกเช่นเดิม หลังผ่านฤดูกาลที่แสนมีความสุขฤดูกาลหนึ่ง ตามติดด้วยเทศกาลบอลโลก ไม่ทันไร ฤดูกาลใหม่ก็ใกล้เข้ามา อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน ความเร้าใจ ความหวัง และ ความฝัน ก็จะกลับ มาเริ่มต้นอีกครั้ง เก่าไปใหม่มา มีพบก็ต้องมีลาจาก นี่คือสัจธรรมของทุกสิ่ง นักเตะหลายคนต้องย้ายออก ขณะที่หลายคนก้าวย่างเข้ามาทดแทน ต่างคนต่างเติมเต็มฝันในใจ คงมีอย่างเดียวเท่านั้นที่ นิรันดร์ คือ ความผูกพันธ์ในหัวใจของเหล่า เดอะ คอป กับ สโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งมีเพียงกรณี เดียวที่จักพรากจากกันได้ นั่นคือ ‘ความตาย’ ร่องรอยแห่งความสุข ร่องรอยความอิ่มเอม ยังคงเกลื่อนใบหน้าบรรดา เดอะ คอป ขณะเดียวกัน ความคาดหวังมากมายล้วนตกบนบ่า ร๊อดเจอร์ส อย่างช่วยไม่ได้ การน�ำพาทีม เป็นรองแชมป์ในขวบปีที่ผ่านมา การกลับสู่ค�่ำคืนยุโรปอีกครั้ง บวกกับการจากไปของคีย์แมน ส�ำคัญ อย่าง หลุยส์ ซัวเรส น่าจะเป็นบทพิสูจน์ครั้งส�ำคัญยิ่งส�ำหรับผู้จัดการหนุ่ม คงต้องให้ ‘ศรัทธา’ และ ‘แรงใจ’ เคียงข้างกันไป อีก 9 เดือน การิน ธนะอมรทัต บรรณาธิการ

September 2013 - The Reds


4

The Reds - September 2013


5

September 2013 - The Reds


6

The Reds - September 2013


7

September 2013 - The Reds


8

The Reds - September 2013


9

แคมเปญของหงส์แดงครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในวัน พุธ และบุคคลเหล่านี้คือบุคคลที่สามารถเฉิดฉายได้ ก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้น ---------------------------------ช่วง Pre-season หลายต่อหลายฝ่ายต่างลง ความเห็นกันว่า เป็นส่วนส�ำคัญมากๆ ของฤดูกาล ในขณะที่ ค นบางกลุ ่ ม มองว่ า เป็ น เรื่ อ งไร้ ป ระโยชน์ การแข่งขันหลายต่อหลายเกมติดต่อกันอย่างไม่เป็น ทางการเหล่านี้เพียงเพื่อเป็นอุปสรรค์ต่อประโยชน์ ด้านอื่น ว่ากันไปนั่น Brendan Rodgers และผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ในกรณีนี้ กลับมองไปที่ขวัญก�ำลังใจของทีมเป็นหลัก .. Pre-season เป็นอะไรที่เหมือนเป็นการเปิดโอกาส ที่จะลองแท็คติกที่แตกต่าง ได้จับตาดูนักเตะที่ต่างไป เพื่อน�ำมาใช้ประกอบการพิจารณาและเพิ่มเติมราย ละเอียดปลีกย่อยที่ปกติมองข้ามไปสู่ทีม และนี่ก็คือโอกาสของเหล่านักเตะเช่นกัน ไม่ว่า จะปรับตัวได้แล้วหรือไม่ นี่คือโอกาสที่พวกเขาจะได้ เรียกความฟิตกลับคืนเพื่อฤดูกาลใหม่ และเตือนความ จ�ำให้กับผู้จัดการทีมว่าพวกเขานั้นมีศักยภาพในตัวเอง อยู่ มีความสามารถอะไรบ้าง ---------------------------------ส�ำหรับทีม Liverpool นั้น, โอกาสเหล่านี้จะ เริ่มต้นในคืนวันพุธที่ต้องเดินทางไปเยือน Brondby, ก่อนที่จะเดินทางไปเยือน Preston, ไปสหรัฐอเมริกา และตบท้ายด้วยการเล่นในบ้านโดยเจอกับ Borussia Dortmund และนี่คือห้านักเตะที่มีศักยภาพพอที่จะสร้าง ปรากฏการณ์ได้ในช่วง Pre-season กับโอกาสที่พวก เขาก�ำลังจะได้มัน บุคคลเหล่านี้รวมไปถึงนักเตะชุด U-21 ที่ปกติยากที่จะมีโอกาสลงเล่นทีมชุดใหญ่ และ การที่นักเตะตัวหลักหลายๆ คนยังไม่กลับมาหลังจาก ศึกฟุตบอลโลก พวกเขาเหล่านี้ก็จะได้รับโอกาสโชว์ผล งานให้เป็นที่ต้องตาต้องใจ ซึ่งนั่นหมายถึงเกมที่จะต้อง เจอกับ Brondby และ Preston ---------------------------------September 2013 - The Reds


10

มีหลายต่อหลายฝ่ายให้ความสนใจกับชายที่ชื่อ Can ที่ซื้อมาจาก Bayer Leverkusen ด้วยราคาถึง10 ล้านปอนด์ ด้วยความที่เขานั้นมีความสามารถหลากหลาย เล่นได้หลายต�ำแหน่งและ ทั้งการยืนต�ำแหน่ง รวมไป ถึงแท็คติก ดาวเตะทีมชาติ Germany ชุด U-21 รายนี้จะสามารถใช้โอกาสนี้ให้ผู้จัดการทีมได้ทดสอบตัวเขาใน หลายบทบาทการเล่นในเกมอุ่นเครื่องมากมายเหล่านี้. ความเชื่อส่วนตัวของดาวเตะรายนี้ ก็คือ เขาคิดว่าต�ำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาก็คือกองกลางตัวรับ แต่ก็มี ศักยภาพที่จะเล่นกองกลางตัวรุกได้ด้วย ซึ่งตรงนี้คล้ายคลังกับ Jordan Henderson และ Joe Allen Steven Gerrard นั้นจะไม่กลับคืนสู่ทีมจนกว่าจะไปทัวร์ USA ดังนั้น Can สามารถใช้โอกาสนี้แสดง ศักยภาพในเกมรับของเขาได้อย่างเต็มที่ แล้วด้วยการที่ Henderson ก็ยังไม่กลับมา นี่คือโอกาสของเขาที่จะโชว์ ฝีเท้าและชั้นเชิงในเกมรุกของเขาให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยเช่นกัน. ในแผงกองกลาง มีเพียงแค่ Gerrard และ Henderson เท่านั้นที่ยังหยุดพักอยู่ นั่นหมายความว่า Can จะต้องท�ำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความประทับใจว่าเขานั้นดีกว่า Allen และ Lucas Leiva นั่นหมายความเช่น เดียวกันว่า เขาคือตัวเลือกแรกถัดจากสองคู่หูที่ยังไม่กลับมาข้างต้น

The Reds - September 2013


11

September 2013 - The Reds


12

The Reds - September 2013


13

มันเป็นปีที่ยากล�ำบากพอควรส�ำหรับดาวเตะชาวสเปนรายนี้ เจ็บเข่ามานาน และพลาดเกม Merseyside derby ก็ว่าแย่อยู่แล้ว ดันต้องมานั่งดู Jon Flanagan ดาวรุ่งหัวใจใหญ่ที่ยึดต�ำแหน่งแบ็คซ้ายไว้อย่างเหนียว แน่นและมั่นคง ท�ำให้งานนี้เจอกับรุ่นน้องที่เป็นของแข็งเข้าให้แล้ว. Enrique กลายเป็นบุคคลที่ถูกลืมในทีมของ Rodgers ไป ยิ่งมีข่าวว่าก�ำลังเฟ้นหาแบ็คซ้ายคนใหม่เข้ามา อีก ซึ่งรายชื่อที่ถูกส่งเข้าประกวดก็คือ Alberto Moreno, Ryan Bertrand และ Ben Davies – งานนี้แม้ Enrique จะกลับมาแล้วฟิตเพื่อลุยฤดูกาลใหม่ แต่ก็น่าหนักใจมิใช่น้อย และตัว Enrique เองก็ต้องแก้ปมตรงนี้ ให้กับตนเองด้วย ไม่มีใครช่วยได้ แบ็ควัย 28 ปีรายนี้ มีทั้งผลงานที่ดี และแย่ในยุคของ Rodgers แล้วนี่ ณ เวลา นี้ เขากลับมาสู่ทีมที่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนก่อนที่เขาบาดเจ็บไปเยอะมากๆ แบบนี้ด้วย ความเร็ว ความแกร่ง ประโยชน์สูงสุดในการไปกับลูกบอล เทียบชั้นได้กับความคาดหวังของหลายๆ ฝ่าย ที่มองว่าเขาเล่นได้เหมือนปีกซ้าย ตรงนี้เลยท�ำให้เขาพอมีหวังว่าจะไม่ถูกหลงลืมไปนานนัก หากครั้งนี้ไม่ผลิดอก ออกผลจริงๆ เขาก็จะกลายเป็น “ชายเมื่อวานซืน” ในทีม “ของอนาคต”

September 2013 - The Reds


14

Teixeira ได้ลงเล่นเพียงแค่ 8 นาทีในเกมที่มีความหมายส�ำหรับ Liverpool เท่านั้น แต่ ณ ช่วงเวลาแบบ นั้นก็เป็นช่วงเวลาส�ำคัญแห่งการลุ้นแชมป์ของทีมเลย ช่วยให้หงส์แดงได้จุดโทษช่วงทดเจ็บในเกมกับ Fulham ด้วยความว่องไวของจังหวะเท้าและการจ่ายบอลที่เร็วกว่า ดาวรุ่ง Portuguese รายนี้ได้แสดงให้เห็นว่า เขารอ คอยโอกาสแบบนี้มานานแล้ว เช่นเดียวกับแฟนบอลก็รอจะเห็นอะไรแบบนี้มานานแล้วเช่นกัน แม้หลายๆ ฝ่ายจะมองว่าไม่ควรสร้างความกดดันให้เด็กในซัมเมอร์นี้ แต่ Teixeira ได้ยกระดับความคาด หวังของแฟนบอลไปเรียบร้อยแล้วกับผลงานในเกมที่ west London และตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเขาแล้วที่จะโชว์ มันให้เห็นจะแจ้ง เข้าตากรรมการกันไปเลยในช่วง pre-season การแข่งขันภายในมีสูงขึ้นทุกวัน แม้ว่า Luis Suarez จะไม่อยู่แล้วก็ตาม, Teixeira จะต้องต่อสู้กับดาว เตะหน้าใหม่อย่าง Adam Lallana และ Lazar Markovic แถมยังต้องสู้กับนักเตะที่ปรับตัวได้แล้วในทีมอย่าง Philippe Coutinho และ Raheem Sterling ยังไม่หมด ยังมี Jordon Ibe และ Suso อีก

The Reds - September 2013


15

September 2013 - The Reds


16

The Reds - September 2013


17

ซัมเมอร์นี้เราได้เห็นความฝันของ Scouse คนนึงที่กลายเป็นจริงเอาในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง แต่ กระนั้นเขาเป็นกองหน้าที่ท�ำงานหนัก ขยันขันแข็งและร่ายการดีมากๆ เขายอมโยนวันหยุดของเขาทิ้ง เพื่อที่จะ กลับมาซ้อมกับทีมให้เร็วขึ้น ตรงนี้น่าจะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาต้องการมันมากขนาดไหน เกมหมากรุกนั้นมักจะมีชัยเหนือกันเพราะความภาคภูมิใจ และความมุ่งมั่น แต่ก็สร้างความฉงนให้กับ หลายๆ ฝ่ายเช่นกันตอนที่เขาถูกเซ็นคว้าตัวมาจาก Southampton ด้วยราคา 4 ล้านปอนด์ แน่นอนตรงนี้คือ ความสุขของลูกผู้ชายทุกๆ คนที่เมื่อยามเด็กเชียร์ The Kop แล้ววันนึงกลายเป็นจริงได้ แต่รอยยิ้มจะคงฉาบอยู่ ที่ใบหน้าทุกๆ ฝ่ายก็ต่อเมื่อดาวยิงรายนี้ “โชว์ฟอร์ม” ออกในสนามเท่านั้น หลังจากที่ปีนป่ายบันไดแห่งโชคชะตาในเส้นทางสายลูกหนังมาอย่างยาวนาน Lambert ตอนนี้ยืนอยู่ บนยอดภูแล้ว เขาคู่ควรได้มีบทบาทในทีมของ Rodgers แต่บทบาทที่เขาเล่นนั้นคืออะไร? และเขาจะเล่นมัน อย่างไร ตรงนี้เรายังคงมืดแปดด้าน Pre-season นี้เราได้แต่หวังว่าจะได้ค�ำตอบจากสองค�ำถามข้างต้น และน่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ Lambert แสดงศักยภาพให้เห็นว่าเขานั้นไม่ใช่แค่ การซื้อขายที่เพื่อสร้างดราม่าและเรื่องราวเคล้าน�้ำตาให้ปลื้ม ปริ่มกัน เขาสามารรถสร้างสรรค์ประตูได้ เช่นเดียวกับสามารถยิงมันได้เอง และเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขานั้น สามารถโชว์ฟอร์มออกได้อย่างคงเส้นคงวาในลีคฟุตบอลที่เล่นเกมเร็วอย่างยิ่งแบบนี้

September 2013 - The Reds


18

Rodgers ปรารถนาจะได้ centre back มาเพิ่งอีกซักคน ตรงนี้เราทุกฝ่ายรู้ดี เพราะข่าวตามล่าลายเซ็น ของ Dejan Lovren ยังคงมีอยู่อย่างเรื่อยๆ และในขณะที่การเฟ้นหากองหลังดีๆ ยังคงท�ำกันอยู่ หากมองคน ใกล้อย่างนักเตะระดับ U-21 ของทีม ตรงนี้อาจจะได้ช้างผือกที่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหาก็ได้. Jones นั้นเหมาะสมทุกๆอย่างกับสิ่งที่ Rodgers ต้องการในเกมรับ เขาแกร่ง มีความยืดหยุ่นทางร่างกาย สูง สมเป็นนักกีฬา เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และเล่นบอลด้วยเท้าได้ไม่มีที่ติอีก การที่เขาได้ถูกใส่เชื่อเป็นตัวส�ำรอง ในเกมที่เจอกับ Fulham เพื่อพฤษภาคมปี 2013 น่าจะช่วยไฮไลท์อนาคตของดาวเตะวัย 18 ปี รายนี้ได้ดี และดู เหมือนว่าเขาจะโดดเด่นกว่าใครทั้งหมดในทีม U-21 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว Martin Skrtel และ Daniel Agger ได้กลับมาซ้อมแล้ว แต่ Kolo Toure และ Mamadou Sakho ยัง คงไม่กลับมา Andre Wisdom นั้นตกเป็นเป้าหมายยืมตัวของ West Bromwich Albion นี่เท่ากับเป็นโอกาสที่ Jones จะเฉิดฉายได้ การโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนอาจจะไม่สามารถหยุดยั้ง การเฟ้นหา centre back คนใหม่ของสโมสรได้ แต่ตรงนี้จะช่วยเตือนใจได้ว่า ก�ำลังจะมีอะไรที่รอคอยเขาอยู่ใน อนาคต

The Reds - September 2013


19

September 2013 - The Reds


20

The Reds - September 2013


21

September 2013 - The Reds


22

3 ปีที่ Rodgers ให้สัญญาว่าจะพา Liverpool กลับไปเล่น “ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีค” ให้ได้และเขาก็ท�ำ ส�ำเร็จ (Mission complete!! Brendan!!) แม้ว่า ในปี แรกที่ เขาเข้ า มาคุ ม ที ม จะต้ อ งเจอกั บ อุ ป สรรค มากมายแต่ก็ร่วมกันฟันฝ่ามันออกมาจนพร้อมทั้งพา Liverpool จบอันดับ 7 แต่ในปีที่ 2 Liverpool ยุค Rodgers เล่นบอลได้สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจด้วยเกม รุกที่สุดแสนจะโหดเหี้ยม กะซวกตาข่ายคู่แข่งเป็นว่า เล่นไม่ว่าจะเหย้าหรือเยือน มันไม่ได้ส่งผลให้ความหิว กระหายในการท�ำประตูของ Liverpool ลดลงแม้แต่ น้อย มันท�ำให้ Liverpool ยุค Rodgers ในขวบปีที่ สองเก็บคะแนนได้ถึง 84 คะแนน มากกว่าปีก่อนถึง 23 คะแนน ถ้าไม่เรียกว่าการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมก็ไม่รู้ จะเรียกว่าอะไร?? ไม่เพียงเท่านี้สถิติการยิง 101 ประตู ก็ถือเป็นการยิงประตูสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร นับตั้งแต่ปี 1896 มันเยี่ยมมากใช่ไหมล่ะ! ไหนจะสถิติ ชนะในลีก 11 นัดติดดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 และ ชนะเกมเยือน 6 นัดติดเทียบเท่าสถิติเดิมของสโมสร อีกด้วย แต่ในทางกลับกันเกมรับคงเป็นอะไรที่ปวด หัวไม่น้อยส�ำหรับ Rodgers ที่โดนกระแทกไปถึง 50 ดอก..ถึงขนาดที่ผู้สันทัดกรณีกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ว่า “หาก Liverpool เสียประตูน้อยกว่านี้สัก 10 ลูก” ก็คงได้แชมป์ไปแล้ว!! แต่ก็นะ.. ปัญหานี้ Rodgers น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว และมันจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอนอย่างเร่งด่วน แต่จากผลงานอันยอดเยี่ยมของเขา Rodgers จึงได้ รับต�ำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมผู้จัดการ ลีค (LMA) หลังท�ำผลงานโดดเด่นพา Liverpool จบ อันดับ 2 พรีเมียร์ลีกพร้อมโควตากลับไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 โดย Rodgers ได้รับการโหวตจาก 92 สโมสรลีกระดับอาชีพ ให้คว้ารางวัลกุนซือโดดเด่นประจ�ำฤดูกาล 2013-14 ถือเป็นนายใหญ่ Liverpool คนแรกที่คว้าเกียรติยศ นี้ หลังจากปีที่แล้วได้อันดับ 7 แต่ฤดูกาลนี้ยิงไป 101 ประตู จบอันดับที่ 2 พรีเมียร์ลีก ได้ลุ้นแชมป์ลีกสูงสุด ของอังกฤษในรอบ 24 ปีจนถึงนัดสุดท้าย การมาของ Rodgers ท�ำให้ Liverpool มีทรง บอลที่ยอดเยี่ยมและมันเป็นส่วนส�ำคัญที่ท�ำให้นักเตะ The Reds - September 2013


23

September 2013 - The Reds


24

The Reds - September 2013


25

หลายคนที่เข้าใจในระบบการเล่นนี้เกิดการพัฒนา โดย เฉพาะ Suarez โดยวันที่ Rodgers มาถึง Liverpool เมื่อปี 2012 มีนักเตะคนส�ำคัญของลิเวอร์พูล 2 คน บอกเขาว่า Luis Suarez เป็นนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ทั้ง สองเคยเล่นด้วย สองคนนั้นคือ Jamie Carragher & Steven Gerrard และเมื่อ Rodgers ได้เห็นกับ ตาตัวเองในเมลวู้ด Suarez ที่มีทั้งพรสวรรค์ ความมุ่ง มั่น และคุณภาพในการเล่น ในปีแรกที่ Rodgers คุม ทีม Suarez ยิงให้ทีมไปทั้งสิ้น 23 ประตู จากการลง เล่น 30 นัด ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสุดๆ แต่ปีนี้ยอด เยี่ยมกว่าเดิมเมื่อ Suarez ยิงไป 31 ประตู จากการ ลงเล่น 33 นัด ก่อนคว้ารางวัล 2 รางวัลอันทรงเกียรติ จากพรีเมียร์ลีก, รางวัลนักเตะแห่งฤดูกาล และรางวัล นักเตะรองเท้าทองค�ำในฐานะผู้ท�ำประตูสูงสุด นี่เป็น รางวัลล่าสุดที่นักเตะหมายเลข 7 คว้ามาได้ หลังจาก ที่ก่อนหน้านี้เขามีชื่อเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ นอกจากนี้ Suarez คว้ายัง รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้ส่ือข่าว ฟุตบอลอังกฤษหรือ FWA หลังจากได้รับคะแนนโหวต สูงถึง 52 % ท�ำให้เป็นนักเตะจากถิ่นแอนฟิลด์คนที่ 12 ที่คว้ารางวัลนี้ไป ส่วนในสโมสร Suarez จัดการกด แฮตทริก คว้า 3 รางวัลของสโมสร ได้แก่ นักเตะยอด เยี่ยมแห่งปี, นักเตะยอดเยี่ยม (จากสโมสรกับแฟน บอล) และประตูสุดสวยแห่งปี ในงานประกาศรางวัล ส่งท้ายฤดูกาล 2013-14 ของ สโมสรลิเวอร์พูลจาก ลูกวอลเล่ย์สุดสวยระยะ 40 หลา ในเกมที่พบกับ นอ ริช ซิตี้ อีกด้วย!! ไม่หมดเพียงเท่านั้น Luis Suarez เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่ ยิง 10 ประตูภายในเดือนเดียว ซึ่ง Rodgers ก็กล่าว ถึงความภาคภูมิใจของตน ที่ได้เป็นผู้ฝึกสอนให้กับนัก เตะที่ถือว่าเป็นนักเตะระดับโลกอย่าง Luis Suarez แต่ส�ำหรับผมเขาทั้งคู่ต่างเรียนรู้กันและกันจนน�ำมาซึ่ง การพัฒนาของทีม ยิ่งไปกว่านั้น ฤดูกาล 2013-2014 น่าจะเป็น ฤดูกาลแห่งความทรงจ�ำของ Liverpool และใคร หลายๆ คน เพราะจากผลงานอันสุดยอดนี้ได้ถูกบันทึก สถิติเอาไว้มากมายแม้ไร้ซึ่งถ้วยแชมป์ก็ตาม ลองมาดู กันว่ามีสถิติที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง September 2013 - The Reds


26

- ยอดผู้ชมสูงสุดของฤดูกาลที่แอนฟิลด์ 44,822 คน ในเกมกับ สโต๊ค ซิตี้ นัดเปิดสนาม - ซิมง มิญโญเล่ต์ เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ลงเล่น ครบทุกนาที โดยลงเล่นไปทั้งสิ้น 3,420 นาที แต่หาก นับเฉพาะนักเตะ เอ้าท์ฟิลด์ มาร์ติน สเคอร์เทล คือ คนที่ลงเล่นมากที่สุด 3.221 นาที - ฤดูกาล 2013-2014 Liverpool ท�ำได้ 101 ประตู มากที่สุดในยุคของพรีเมียร์ลีก และมากสุดนับ จากฤดูกาล 1961-1962 - Liverpool ครองต�ำแหน่งจ่าฝูงได้ถึง 59 วัน และท�ำได้ 59 ประตูในครึ่งแรกของเกม เป็นสถิติสูงสุด ของสโมสร - Suarez เจ้าของรางวัล ดาวซัลโว ท�ำได้ 31 ประตู และมีถึง 9 เกมที่ Suarez ยิงได้มากกว่า 2 ประตู - Suarez & Sturridge ท�ำประตูรวมกัน 53 ประตู ซึ่งมากกว่า สโต๊ค, นิวคาสเซิ่ล, คริสตัล พาเลซ, เวสต์แฮม, ซันเดอร์แสนด์, แอสตัส วิลล่า, ฮัลล์, เว สบรอมวิช, นอริช, ฟูแล่ม และ คาร์ดิฟ ทั้งทีม - Liverpool เก็บชัยชนะได้ถึง 26 เกม ซึ่งมาก ที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก และยิงประตูได้ติดต่อกัน 25 เกม เป็นสถิติสูงสุดเท่าสถิติเดิมของสโมสร - Liverpool ยิงได้มากกว่า 3 ประตูขึ้นไป จาก 21 เกม และยิงได้มากกว่า 4 ประตูขึ้นไป จาก 11 เกม เป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก - Liverpool เก็บชัยชนะได้ 11 เกม ติดต่อกัน เทียบเท่าสถิติสูงสุดของสโมสร - Liverpool เก็บได้ 10 คลีนชีต และมีแค่ 1 ทีม ที่ Liverpool ไม่ชนะในพรีเมียร์ลีก คือ เชลซี !! มันเยี่ยมยอดมากใช่ไหมครับ ส�ำหรับผมนี่คือ ฤดูกาลที่น่าจดจ�ำที่มีทั้งความสนุก เร้าใจ ตื่นเต้น และ มีอารมณ์ร่วมมากที่สุดฤดูกาลหนึ่งเลยทีเดียว ขอบคุณ Rodgers ขอบคุณนักเตะ Liverpool ทุกๆ คน ขอบคุณ แฟนบอล Liverpool ทุกๆ ท่าน ที่เดินมาด้วยกันจน ถึงวันนี้ และเชื่อว่าจะยังคงเดินด้วยกันต่อไปอีกนาน แสนนาน นานจนกว่าบนโลกใบนี้จะไม่มีทีมฟุตบอลที่ ชื่อว่า Liverpool คงไม่มีค�ำพูดใดนอกเหนือไปจากค�ำ ว่า Thanks you Liverpool!! Thanks you Boss!! Thanks you The Kop!! The Reds - September 2013


27

September 2013 - The Reds


28

The Reds - September 2013


29

September 2013 - The Reds


30

The Reds - September 2013


31

September 2013 - The Reds


32

จากวันแรกที่ตลาดการซื้อขายได้เปิดตัว จนถึง ณ เวลานี้ ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญากับนักเตะไปแล้ว 4 ราย โดยเริ่มจาก ริคกี แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลานา 2 แข้งดีกรี ทีมชาติอังกฤษ ของ เซาท์แธมป์ตัน, เอ็มเร คาน มิดฟิลด์ ชาวเติร์ก จาก ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน และ ล่าสุด ลาซาร์ มาร์โควิช มิดฟิลด์ริมเส้นดีกรี ทีม ชาติเซอร์เบีย ที่ ลิเวอร์พูล ถึงกับยอมลงทุนจ่ายค่าฉีก สัญญา 20 ล้านปอนด์ ให้กับทาง “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิกา มหาอ�ำนาจลูกหนัง แห่งโปรตุเกส ในการซื้อ ขายนี้ เรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่งจึงผุดพรายขึ้นมากลาง อากาศอย่างช่วยไม่ได้ คือ ใครนะจะได้เป็นตัวจริง และงานนี้ ผลกระทบเต็มๆ ที่น่าสนใจ คงหนี ไม่พ้นนักเตะอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟิลิปป์ คูตินโญ โดยรายแรก อย่าง เฮนเดอร์สัน แม้จะได้รับ โอกาสให้ลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว จน หลายคนอาจปักใจเชื่อว่า นี่คือชายหนุ่มที่ยืนปักหลัก ในแดนกลางคู่กับ กัปตันไดนาโม อย่าง เจอร์ราร์ด เป็น แน่ แต่การเข้ามาของนักเตะใหม่แต่ละคน ดูจากทรง แล้ว เฮนโด้ เอง ก็พร้อมจะหลุดตัวจริงได้ไม่ยาก โดย เฉพาะการเข้ามาของ 2 นักเตะส�ำคัญ อย่าง ลัลลาน่า และ เอ็มเร คาน ขณะเดียวกันการต่อสู้ในทีมเดิมที่เคย ร้อนแรงอยู่แล้ว บวกกับดาวรุ่งอีกมากมาย งานนี้คง เป็นการช่วงชิงที่ไม่ธรรมดา ขณะที่ในรายของ ฟิลิปป์ คูตินโญ กลับดูจะ สาหัสมากกว่าในสถานการณ์ล่อแหลมสุดๆ การก้าว เข้ามาของ ลัลลาน่า กับ ลาซาร์ มาร์โควิช ถือเป็น การก้ า วเข้ า มาที่ มี ผลกระทบกับเจ้าตัว อย่างจังโดย ไม่ตอ้ งสงสัย หากเล่นหน้าสองคน โดยเอา แลมเบิรต์ ยืนคู่ สเตอร์ริดจ์ หัวไดมอนส์ คงไม่แคล้วที่จะเป็น สเตอร์ริ่ง หรือไม่ก็ ลัลลาน่า ขณะที่หากจัดทัพเล่น เป็นหน้าเดี่ยวโดยให้ สเตอร์ริดจ์ เป็นเป้า ปีก 2 ข้าง อย่างน้อยข้างหนึ่งคงโดนจับจองโดย สเตอร์ริ่ง อีกข้าง ล่ะ คูตี้ จะไหว ไหม ! ส�ำหรับการสอดแทรก ทั้งหมด ยังคงน่าติดตาม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ชายหนุ่มวัย 24 ปี ในวัน นี้ ก้าวเท้าสู่รั้ว แอนฟิลด์ เมื่อ 4 ฤดูกาลก่อน ด้วยสนน ค่าตัว 16 ล้านปอนด์ จากความคาดหวังมากมายกลับ The Reds - September 2013


33

September 2013 - The Reds


34

The Reds - September 2013


35

กลายเป็นดีลที่ขึ้นชื่อว่าล้มเหลวที่สุดดีลหนึ่งในปีนั้น ของพรีเมียร์ลีคกันเลยทีเดียว แต่ถึงวันนี้ดูเหมือนว่า บรรดา เดอะ คอป และ กูรู ต่างพร้อมยอมรับ และนี่ถือ เป็นดีลที่คุ้มค่าทุกเพนนีอย่างแท้จริงดีลหนึ่ง ถึงแม้จะ ต้องใช้เวลาเพาะบ่มกันอยู่พอสมควร โดยหากใครยัง จ�ำกันได้ ผู้จัดการใหม่ในปีถัดมา อย่าง เบรนดัน ร็อด เจอส์ ถึงกับเปิดโอกาสทันที ให้ เฮนโด้ หาทีมใหม่ได้เลย และนั่นคือการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว ที่ขอ พิสูจน์ตัวเองต่อในถิ่นแอนฟิลด์ และนั่นคือการตัดสิน ใจที่ยอดเยี่ยมที่มีต่อบรรดา เดอะ คอป ทั้งมวลด้วย เช่นกัน จากแพะในวันก่อน จากดีลล้มเหลวทีส่ ดุ ดีลหนึง่ ในอดีต จากนักเตะที่โดนสบประมาทโดยอดีตผู้จัดการ ทีมปิศาจแดง กลับกลายเป็นตัวจักรส�ำคัญตัวจักรหนึ่ง ในปีที่แล้วที่พา ลิเวอร์พูล บินสูง ถึงขั้นได้รองแชมป์ พรีเมียร์ลีค จนขนาดท�ำให้แฟนๆ โหยหา หลังโดน ใบแดง 3 นัด หลังไปเสียบ ซามีร์ นาสรี่ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดที่เราชนะไป 3-2 ก่อนปิด ฤดูกาล 4 นัด และแน่นอนว่านี่จะเป็นนักเตะคนส�ำคัญ ให้กับทีมชาติอังกฤษยุคใหม่ได้อีกยาวนาน พัฒนาการที่ส�ำคัญของ เฮนเดอร์สัน ดูเหมือน จะมีมาอย่างต่อเนื่อง จากนักเตะที่ดูเหมือนจะได้รับ การสนใจจากผู้จัดการน้อยกว่านักเตะรายอื่น กลับ กลายเป็นตัวหลักขึ้นมาได้ตลอดระยะเวลาปีกว่าๆ นั่น หมายถึงการเบียด โจ อัลเลน นักเตะค่าตัว 15 ล้าน ปอนด์ ที่ดูเหมือนผู้จัดการจะชอบพอเป็นพิเศษ กับ การเบียด ลูคัส เลว่า อดีตตัวท�ำลายเกมอันดับหนึ่ง ของทีมในอดีตลงได้อย่างราบคาบ การก้าวขึ้นมาเป็น ตัวเลือกแรกของผู้จัดการ เคียงข้าง สตีเวน เจอร์ราร์ด จึงนับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ส�ำหรับฤดูกาลที่จะมาถึง ล่ะ สิ่งเหล่านี้จะยังคงเพียงพออยู่หรือเปล่า เพราะนอก จากจะต้องต่อสู้ช่วงชิงกับนักเตะเก่าสองรายที่กล่าว ข้างต้นแล้ว ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่พร้อมช่วงชิง ต�ำแหน่งนีเ้ ป็นเดิมพัน ทัง้ คูตนิ โญ, ลัลลาน่า, เอ็มเร คาน โดยอาจรวมไปถึง สเตอร์ริ่ง, Markovic, Teixeira, Suso และ Ibe แต่โดยความเห็นส่วนตัว อย่างน้อย เฮนโด้ น่าจะยังมีโอกาสเป็นตัวจริงสูงมากกว่า 80 เปอร์เซนต์ กันเลยทีเดียวเลย ซึ่งยังไม่น่าหนักใจสัก September 2013 - The Reds


36

เท่าไหร่นัก และความมั่นใจของผู้เขียนคงไม่ได้เกินเลย หากเราจั บ ใจความแห่ ง ค� ำ พู ด ของเจ้ า ตั ว ที่ เ คยให้ สัมภาษณ์ไว้วา่ “เป้าหมายของผมคือการพัฒนาตัวเอง อยู่ตลอดเวลา ดังนั​ั้นผมจึงเต็มที่แบบร้อยเปอร์เซนต์ ทั้งในการแข่งขันและการฝึกซ้อม ผมเองรู้สึกปลาบ ปลื้มกับทุกค�ำชืน่ ชม แต่กอ็ ยากส่งต่อถ้อยค�ำดีๆ ไปยัง เหล่าสตาฟฟ์ด้วยเช่นกัน เพราะหากปราศจากกลุ่ม คนเหล่านี้ ตัวผมเองคงจะไม่สามารถเดินทางมาถึง จุดนี้ได้อย่างแน่นอน” แต่ในกรณีของรายต่อไปทีจ่ ะพูดถึง อย่าง ฟิลปิ ป์ คูตินโญ นี่ซิ ที่ดูน่าเป็นกังวลมากกว่าเล็กๆ เพราะดู เหมือนจะมีคู่แข่งที่มากมายกว่า ฟิลิปป์ คูตินโญ ถือเป็นหนึ่งในสองดีลที่ประสบ ความส�ำเร็จอย่างแท้จริง ของผู้จัดการทีมหนุ่มชาว ไอร์แลนด์เหนือ หากเทียบกับ 15 ดีลที่เคยเกิดขึ้นใน ช่วงระยะเวลา 2 ปี และแน่นอน อีกดีลที่ส�ำคัญ คือ การซื้อขายที่ยอดเยี่ยมในรายของ สเตอร์ริดจ์ ที่เกิด การซื้อ-ขายในเวลาไล่เรี่ยกัน คูตินโญ เปิดตัวเองบนสี เสื้อ ลิเวอร์พูล ได้อย่างน่าตื่นตะลึง ด้วยน�้ำหนักเท้าชั่ง ทอง และจังหวะปล่อยบอลตามช่องที่แสนมหัศจรรย์ ท�ำให้กองเชียร์หลายคนเทใจให้ทันทีอย่างไม่ยากนัก แต่ดูเหมือนว่า สิ่งต่างๆ เหล่านั้น อาจยังไม่พอกับการ การันตีต�ำแหน่งตัวจริงใดๆ ในฤดูกาลที่ก�ำลังจะเริ่มต้น จริงอยู่ที่เราอาจเห็น คูตี้ ลงเป็นตัวจริงในเกมไม่น้อย โดยปีที่แล้ว แม้จะต้องร้างลาสนามเพราะอาการบาด เจ็บไปถึง 5 นัด แต่ คูตินโญ ยังสามารถสอดแทรก เป็นตัวจริงได้ถึง 28 นัด และเป็นตัวส�ำรอง อีก 5 นัด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ใน 28 นัดที่ คูตินโญ ลงเล่น มีถึง 17 นัด ด้วยกันที่สุดท้ายเจ้าตัวต้องโดนเปลี่ยนตัวออก ซึ่ง คูตินโญ ถือว่าเป็นนักเตะที่โดนเปลี่ยนตัวออกมาก ที่สุดของทัพหงส์แดง แม้จะมีจุดเด่นในการปล่อยบอลออกจากเท้าที่ อาจท�ำให้มีส่วนได้-ส่วนเสียกับเกม แต่ความแม่นย�ำ ในการส่งลูกโดยรวมของ คูตินโญ เอง ก็ไม่ได้โดดเด่น ไปกว่านักเตะรายอื่น เพราะการส่งบอลโดยมีค่าเฉลี่ย 80.60 เปอร์เซนต์ นัน้ หากเทียบกับนักเตะในทีมด้วยกัน เองแล้ว หมอนี่ยังตามมาไกลๆ ถึงอันดับที่ 14 เลย The Reds - September 2013


37

September 2013 - The Reds


38

The Reds - September 2013


39

และแน่ น อนทั้ ง เรื่ อ งขนาดของร่ า งกายและการยื น ระยะที่ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนเล็กๆ อาจเป็นหนึ่งใน ข้อแม้ส�ำหรับการตัดสินใจเลือกทีมของผู้จัดการใน ฤดูกาลที่จะมาถึง ผนวกกับการต่อสู้ที่เข้มข้นของทัพ นักเตะ ที่หลายๆ คนล้วนมีสิทธิ์สอดแทรกได้เสมอ ซึ่ง นักเตะส�ำคัญๆ ที่ คูตินโญ จะต้องฝ่าฟันไปให้ได้ คงไม่ พ้น ลัลลาน่า มาร์โควิช สเตอร์ริ่ง และอีกคน น่าจะ เป็น โจ อัลเลน นี่ยังไม่นับรวมเหล่าดาวรุ่งที่พร้อมจะ ก้าวขึ้นมาเบียดในบางเกม อาจเป็นความกังวลส่วนตัวมากเกินไปหน่อย โดยจริงๆ แล้ว หลายๆ นักเตะ อย่าง ลูคัส เลว่า หรือ โจ อัลเลน ก็ตามที ดูเหมือนจะมีโอกาสตรงนี้น้อยกว่า 2 นักเตะที่กล่าวถึง แต่เพราะทั้ง ลูคัส และ อัลเลน ล้วนผ่านจุดที่ต้องการสนามเพื่อการพัฒนาการไปแล้ว ขณะเดียวกันผมอาจมองเห็นถึงศักยภาพ และพัฒนา การที่ดูเหมือนยังไม่สุดของนักเตะทั้งคู่ ซึ่งในรายของ ทั้ง เฮนโด้ และ คูตินโญ เองล้วนยังคงต้องการเกมจริง ในการก้าวขึ้นไปอีกระดับ ขณะที่นักเตะรายอื่นๆ อย่าง สเตอร์รงิ่ เอง ดูเหมือนไม่นา่ เป็นกังวลสักเท่าไหร่ เพราะ โอกาสในการติดตัวจริงอัตโนมัติดูเหมือนมีประตูที่เปิด กว้างมากกว่า การแข่งขันช่วงชิงต�ำแหน่งตัวจริงฤดูกาลที่จะ เริ่มคงไม่ธรรมดาแน่ เพราะจากทีมเล็ก เริ่มกลายเป็น ทีมล้น โดยเฉพาะกองกลางกับกองหลังที่แม้อาจมอง ได้ว่าเป็นการซื้อตัวและเหล่าขุมก�ำลังส�ำหรับอนาคต แต่ส�ำหรับบางรายอาจดูคลับคล้ายเริ่มเป็นส่วนเกิน รอวันปลดระวาง หรือไม่ก็รอเวลาจากกัน แม้เราอาจ เคยได้เห็นวิธีการจัดการของผู้จัดการหนุ่มมาบ้างแล้ว ในสองขวบปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังดูเหมือนว่าบางเหลี่ยม มุมอาจไม่ชัดเจน เพราะทั้ง 2 ปีที่ผ่านมาหลายๆ ต�ำแหน่งแม้จะมองว่าเป็นก�ำลังเสริม แต่โอกาสการได้ ลงไปลับแข้งบ้างของบางคนยังแทบไม่มี มีความสุขนะ ที่เห็นทีมดูใหญ่และมีกองก�ำลัง ล้นเหลือ แต่ขณะเดียวกัน หากเรื่องราวเหล่านี้ท�ำให้ นักเตะบางคนหาโอกาศพัฒนาตัวเองได้ยากขึ้น บางที มันก็สองจิตสองใจ คงต้องรอดู ว่า ท้ายสุดทั้ง เฮนโด้ และ คูตี้ จะ ไหวไหม ส�ำหรับการสอดแทรกเป็นตัวจริง September 2013 - The Reds


40

The Reds - September 2013


41

September 2013 - The Reds


42

The Reds - September 2013


43

แม้จะอ�ำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม ส�ำหรับอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษหมาดๆ อย่าง สตี เวน เจอร์ราร์ด แต่ก่อนหน้านี้เพียงไม่นานเท่าไหร่นัก อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ อย่างสุดหล่อ Beckham เคยได้ออกมาอ้อนวอนให้ สตีเวน ลองทบทวน และ หมายมั่นอยากให้อยู่กับทีมชาติไปอีกสักระยะ โดย อดีตกองกลางอสูรแดง ได้พูดถึง เจอร์ราร์ด ดังนี้ อดีตกองกลางและกัปตันทีมชาติอังกฤษ David Beckham ได้ออกมาวอนให้กัปตันคนปัจจุบันอย่าง Steven Gerrard ยังคงรับใช้ชาติต่อไปให้นานที่สุด เท่าที่จะท�ำได้ และเตือนกองกลาง Liverpool รายนี้ ว่า จะคิดถึงการรับใช้ชาติอย่างมากเมื่อคิดจะเลิกเล่น ที่ส�ำคัญ Beckham ยังเปิดใจอีกว่ากัปตันคนปัจจุบัน นี้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่เคยดวลแข้งกัน Gerrard นั้นน�ำทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอล โลกครั้งที่เพิ่งจบไปหมาดๆ แต่ ณ ตอนนี้ก�ำลังตัดสิน ใจซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจครั้งส�ำคัญที่สุด ว่าจะเลิก เล่น เลิกรับใช้ชาติหรือไม่ ด้วยอายุที่ปาเข้าไปปีที่ 34 แล้ว Gerrard แทบจะไม่มีเวลาเหลือให้กับทีมชาติ แล้วเพราะทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ครั้งต่อไป อายุของเขาก็ จะปาเข้าไป 36 แล้ว ซึ่งก็คือศึก 2016 European Championships กระนั้น Beckham ก็ยังคงเตือน สติให้เขารับใช้ชาติต่อไป Beckham นันไม่เคยประกาศเลิกเล่นให้กับทีม ชาติเลย แม้ว่าจะถอนตัวจากการเป็นกัปตันทีมและ โดนมองข้ามไปจากกุนซือ Steve McClaren และ เขาก็ได้ลงเล่นเกมสุดท้ายในนามทีมชาติเอาเมื่อวัย 34 ในปี 2009 โดยผลักดันตัวเองไปสู่แผนการท�ำทีม ของ Fabio Capello ได้ก่อนที่จะพลาดโอกาสไปเล่น ทัวร์นาเม้นท์สุดท้ายของชีวิตตัวเองในศึกฟุตบอลโลก ปี 2010 เพราะเกิดอาการบาดเจ็บ เขานั้นยอมรับว่าเขานั้นคิดถึงและอาลัยอาวรณ์ การรับใช้ชาติมากๆ เขาได้กล่าวว่า แม้ว่าเขานั้นจะ ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ โดยได้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษและ ได้เป็นกัปตันทีมเป็นเวลาหลายปี แต่สิ่งหนึ่งที่เขาคิด ค�ำนึงอยู่เสมอก็คือ เขานั้นคิดถึงการรับใช้ชาติมากๆ และคงคิดถึงไปจนตลอดชีวิตของเขา เขาคิดถึงการ เล่นให้กับ Manchester United, คิดถึงการเล่นให้ September 2013 - The Reds


44

กับ Real Madrid, แต่ที่โหยหายที่สุดก็คือ ทีมชาติ อังกฤษ เพราะอังกฤษคือความทะยานอยากอันสูงสุด ในชีวิตของเขา และทีมชาติอังกฤษก็มีความหมาย มากกว่าอะไรทั้งหมด Beckham ได้กล่าวยกย่อง Gerrard และได้ กล่าวว่ามันคงจะดีมิใช่น้อยหากว่ากัปตันคนปัจจุบัน จะยังคงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษต่อไป โดยเชื่อว่าทีม รวมคนอายุน้อยของ Roy Hodgson ต้องการประสบ การณ์ของ Gerrard มาเป็นตัวเติมเต็ม เขายังยกย่อง อีกว่า Steven Gerrard เป็นกัปตันที่ยอดเยี่ยมของ อังกฤษ และเป็นกัปตันที่ยอดเยี่ยมของ Liverpool ซึ่งถือได้ว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุด กองกลางที่ดีที่สุด ที่เขา เคยต่อสู้ด้วย เขาคิดว่ามันคงจะเยี่ยมหากว่า Steven ยังคง รับใช้ชาติต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผิดหวังกับทัวร์ นาเม้นท์ล่าสุดแบบนี้ ที่ทั้งทีมชาติต่างผิดหวัง แต่คน ที่แบกรับทุกๆ อย่างคือตัวกัปตัน ซึ่งจะต้องเสียใจมาก สุด และในฐานะกัปตัน Beckham เข้าใจดีถึงความ รู้สึกที่ต้องรับผิดชอบอย่างมากของความเป็นกัปตัน และตรงนี้ Stevie ก็ได้แบกรับสิ่งนี้มาเป็นเวลาหลาย ต่อหลายปีทั้งกับ Liverpool และทีมชาติอังกฤษ เขานั้นเป็นพลังขับเคลื่อนและแรงจูงใจให้กับทุกๆ คน อย่างแท้จริงมาตลอด แนวทางการเล่นของเขา ความ มุ่งมั่นและทุ่มเทของเขา หัวใจที่ควักออกมาเพื่อทีม เขาได้แสดงสิ่งเหล่านี้ให้เห็นมาหลายต่อหลายปีนักใน สนาม Beckham ต้องการเห็น Stevie เล่นต่อไป เพราะเขาคิดว่าเด็กอายุน้อยในทีมชาติต้องการใครซัก คนซึ่งเป็นเหมือนพี่เลี้ยง เป็นครูฝึก เป็นที่พึ่งพิง ต้อง การใครซักคนที่เป็นแรงกระตุ้น คนที่เคยสร้างความยิ่ง ใหญ่มาแล้ว และเขาคิดว่า Steve เป็นกัปตันผู้ยิ่งใหญ่ ของทั้ง Liverpool และ อังกฤษ Beckham รู้ดีว่ากัปตันคนปัจจุบันไม่ต้องการ ค�ำแนะน�ำใดๆ จากเขาหรอก แต่สงิ่ หนึง่ ทีต่ วั เขาอยาก จะพูดก็คือ หากว่ามีโอกาสรับใช้ชาติ จงท�ำมันให้ ยาวนานที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ The Reds - September 2013


45

September 2013 - The Reds


46

The Reds - September 2013


47

September 2013 - The Reds


48

The Reds - September 2013


49

September 2013 - The Reds


50

The Reds - September 2013


51

ในทีสุดเขาก็ไปแล้ว การเจรจาต้าอ้วยที่ผ่านกัน ไปสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ท�ำให้เราได้เห็นนักเตะที่ดี ที่สุดอันดับสามของโลกย้ายไปอยู่กับ Barcelona ด้วยสนนค่าตัว 75 ล้านปอนด์ หลายๆ ฝ่ายต่างมอง กันว่า “ถูกไป” โดยเฉพาะเมื่อน�ำไปเปรียบเทียบกับ สินค้าด้อยคุณภาพกว่าอย่าง Gareth Bale ที่ย้าย ไปแพงกว่านี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา กระนั้น หลายฝ่าย ก็ต่างพูดเช่นกันว่า Bale นั้นไม่เคยไปกัดใคร ไม่เคย มีปัญหาเรื่องการเหยียดผิว และไม่เคยโดนแบนยาวสี่ เดือน ดังนั้นราคา 75 ล้านปอนด์น่าที่จะเป็นราคาที่ ดีที่สุดที่เราควรจะหวัง และ Barcelona ก็ได้นักเตะ ที่มูลค่าจริงควรที่จะอยู่ที่ 100 ล้านปอนด์ไปแบบ ลด ราคา (ตามเหตุผลที่ได้กล่าวมาข้างต้น) ตอนนี้ทุกๆ อย่างมันผ่านไปแล้ว และ Liverpool จะต้องก้าวต่อไป ก็อย่างที่ Rodgers ได้กล่าว ไว้เกี่ยวกับการซื้อขายนักเตะครั้งนี้ : “หากจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ประวัติศาสตร์ของ สโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้สอนเรา ก็คือ Liverpool FC นัน้ ใหญ่กว่าผูเ้ ล่นผูใ้ ด ไม่วา่ เขาผูน้ นั้ จะเป็นซุปเปอร์สตาร์ แค่ไหนก็ตาม ผมหวังว่าแฟนบอลจะยังคงฝันต่อไป และเชื่อมั่นว่าเรานั้นก�ำลังก้าวไปข้างหน้า และพัฒนา ก้าวล�้ำไปร่วมกัน ด้วยความสามัคคีนี่แหล่ะที่จะน�ำพา เราไปสู่ความส�ำเร็จที่เราทุกๆ คนโหยหาและคู่ควรได้ มัน” เราจะต้องก้าวต่อไปและมองหาลู่ทางทดแทน Suarez ผมนั้นลังเลใจมิใช่น้อยว่าเราจะสามารถหา ใครมาทดแทนเขาได้ เพราะเขาเป็นนักเตะที่ไม่ใช่ว่า จะมีใครเสมอเหมือนเลย เอาง่ายๆ เลยมันยากมากที่ จะดึงใครท�ำนองนี้เข้ามาสู่ทีมได้อีก ยอดฝีมือระดับนี้ก็ มิใช่ว่าจะมีเยอะ ดังนั้นเราคงจะต้องหาลู่ทางทดแทน สิ่งที่หายไปนี้ด้วยลู่ทางอื่นๆ เริ่มแรกเลยเราต้องตั้ง ค�ำถามให้ตรงจุดก่อนว่า Suarez นั้นมอบอะไรให้กับ ทีมเรามาบ้าง ครับแล้วเขามอบอะไรให้กับทีม ? อย่างแรกเลยก็จ�ำนวนประตูที่เขาท�ำได้ ใน 33 เกมเขายิงไป 31 ประตู ในประวัติศาสตร์ของลีคนี้ ผม สงสัยอย่างมากว่าจะมีนักเตะกี่คนกันเล่าที่จะยิงประตู September 2013 - The Reds


52

ได้มากขนาด 0.94 ต่อนัด โดยไม่มีจุดโทษเลย อันนี้ค่า เฉลี่ยนะ นอกจากยิงประตูได้แล้ว ยังมีการท�ำ assist ของ เขาที่สูงถึง 12 ครั้ง ในเวที Premier League ฤดูกาล ที่ผ่านมา มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ท�ำได้มากกว่าเขา ตรงนี้ก็คือ Gerrard ที่ได้ 13 assists แต่กัปตันเราคน นี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนท�ำหน้าที่เตะมุมและเตะกินเปล่า เพราะงั้นจึงไม่แปลก ที่น่าสนใจก็คือ Lambert ก้าว ขึ้นมาอยู่อันดับสาม โดยท�ำได้ 10 assists จากจ�ำนวนตัวเลขอันเป็นสถิติที่กล่าวไว้ข้างต้น มันชัดเจนว่า Suarez นั้นก่อให้เกิดประตูได้ถึง 43 ประตูให้กับทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา เท่าที่รู้ยังมีจ�ำนวน จุดโทษอีก ถึง 9 ที่เขาโดนท�ำฟาวล์ นั่นเท่ากับว่าเขา เป็นคนก่อให้เกิดประตูกับทีมเราทั้งหมด 52 ประตู โอ้.. แม่เจ้า !! ตัวเลขทั้งหมดนี้ก่อเกิดขึ้นเพียงแค่ฤดูกาลที่แล้ว ฤดูกาลเดียว มันเหลือเชื่อมากๆ และหน้าที่ของเรา ตอนนี้ก็คือ จะท�ำอย่างไรถึงจะทดแทนไอ้ 52 ประตู ที่ว่า เมื่อ Suarez ไม่อยู่แล้ว คือไอ้ตัวเลขนี้มันคือ ครึ่งนึงของจ�ำนวน 101 ประตูที่ทั้งทีมท�ำได้ และหาก ไม่มีจ�ำนวนประตูเหล่านี้ เราอาจจะจบฤดูกาลด้วย ผลต่างประตูได้เสียที่ -1 นะนั่น โอเคนี่อาจจะไม่ใช่ วิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องอันว่าด้วยเรื่องความน่าจะเป็น หากว่าเราเอา Suarez ออกจากทีม เราคงจะไม่ได้ ลงเล่นโดยมีนักเตะแค่ 10 คนหรอก จะเป็นไม่ Aspas หรือ Moses ที่ได้ลงเล่น เอ๊ะหรือว่ามันจะดีกว่า หากว่าเราเล่น 10 คนจริงๆ (ข�ำๆนะครับ) 52 ประตูที่หายไปตรงนี้ เราจะต้องหาทาง ทดแทนอย่างไร? ที่ส�ำคัญคือจ�ำเป็นต้องทดแทน ไหม? โดยส่วนตัวแล้วผมไม่คิดจ�ำต้องต้องท�ำขนาด นั้น ทุกๆ อย่างขึ้นอยู่กับเป้าหมายของเราในฤดูกาล ใหม่ เราคงไม่จ�ำเป็นต้องยิงเยอะเอาเป็น 100 เหมือน ฤดูกาลก่อนอีก แม้ว่ามันจะดูเพลินก็ตาม ด้วยเกม Europe จะเพิ่มเข้ามา และมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะใน ทีม ความคาดหวังของฤดูกาลหน้าก็น่าจะแค่บินได้สูง หน่อยในเวที Europe หรือเรียกว่า Good Show มี The Reds - September 2013


53

September 2013 - The Reds


54

The Reds - September 2013


55

ผลงานดีในเวที FA Cup และได้ไปเล่นในเวที Champions League ฤดูกาล 2015/16 หากว่าเรามองที่ ผลต่างประตูได้เสียเฉลี่ยตามอันดับที่จบดังที่เห็นใน สถิติด้านข้าง เพือ่ คว้าอันดับ 4 นัน้ ผลต่างประตูได้เสียทีเ่ ราควร จะได้ก็น่าที่จะอยู่ราวๆ 30–35 หากวัดตรงนี้ก็ประมาณ จ�ำนวน 20 ประตูจาก 52 ประตูที่ Suarez 52 ท�ำได้ ทั้งหมดที่ไม่จ�ำเป็นต้องหามาทดแทน เมื่อพูดถึงทีมโดยรวมย้อนไปเมื่อเดือนพฤษภา คม, Rodgers ได้กล่าวถึงเกมรับว่า : “การเสียประตูของเราในปีนี้ที่บ้าน สามารถน�ำ ไปวิจารณ์ร่วมกับทีมระดับ Top ได้ ตรงนี้เพราะอาจ จะเป็นเรื่องของค�ำว่า This is Anfield และเราถูก คาดหวังให้ชนะ การไปเยือนคู่แข่งเกมใหญ่ๆเรานั้นก็ พอไหว เราก็แค่ต้องดีขึ้นและมีสมาธิที่มากขึ้นเวลาเรา เล่นเพื่อชัยชนะ เรานั้นเสียประตูมากเกินไปตอนที่เรา นั้นไล่ถล่มชาวบ้านไปแล้ว 5 หรือ 6 ลูก และตรงนี้แห ล่ะที่สร้างความเสียหายให้กับเรา” การไปเยือนคูแ่ ข่ง เราเสียสามประตูให้กบั Everton, Hull, Stoke, Cardiff และ Palace เราเสียสอง ประตูให้กับ Swansea, Newcastle, Arsenal, City, Chelsea, Fulham และ Norwich รวมแล้ว 29 ประตู. .. Rodgers ได้ชชี้ ดั ว่าเราควรจะต้องเหนียวแน่นกว่า นี้ในแนวรับ และหากว่าเราสามารถลดจ�ำนวนประตูที่ เสียลงเป็น 15 ได้ หรือแม้แต่ 14 เราก็ไม่จ�ำเป็นต้อง ทดแทนประตูที่หายไปของ Suarez แล้วก็มาเรือ่ งของนักเตะทีเ่ หลือของทีม.. Sterling นั้นมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน แต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เอาก็ตอนเพือนพฤศจิกายนไปแล้วเท่านั้น ก่อนหน้า นี้ หลายต่อหลายฝ่ายมองว่าเด็กคนนี้คงจ�ำเป็นต้อง ไปเก็บชั่วโมงบินที่อื่น เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าที่เป็น อยู่ตอนแรกๆ แต่เมื่อมองดูเขาตอนนี้สิ - ผลงานเต็ม ฤดูกาลของ Sterling นั้นมีศักยภาพพอที่จะยิงได้ 15 ประตู (เมื่อเปรียบเทียบกับ 9 ประตูและ 7 ที่เขา ท�ำได้ รวมไปถึงจ�ำนวนจุดโทษที่เขาฉกมาให้ทีมได้ September 2013 - The Reds


56

เมื่อฤดูกาลก่อน) Coutinho ยิงไป 5 และ assist 7 ครั้ง เขานั้นก็สามารถเพิ่มสถิติตรงนี้ได้ไม่ยาก แล้วก็ Henderson ที่ยิงไป 4 และ 7 assists, ซึ่งตรงนี้เขา สามารถปรัปปรุง เพิ่มความเนียนในจังหว่ะยิงประตู ได้บ้าง และในฐานะตัวหลักส�ำคัญในแดนหน้า เรา สามารถเห็นได้ว่า Sturridge จะยิงได้มากกว่า 21 ประตูอย่างที่เขาท�ำได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นหากว่าเราสามารถพัฒนาเกมรับให้ดีขึ้น ให้เสียแค่ 15 และเพิ่มจ�ำนวนประตูจาก Sterling, Coutinho, Henderson และ Sturridge จาก 39 มาเป็น 50 เท่ากับว่าผลต่างประตูได้เสียของเราก็จะ เป็น +26 และหากว่า Rickie Lambert ยิงได้ซัก 13 และ 10 assists Lallana กดไปซัก 9 และ 7 assists ผลต่างก็จะเป็น +35.. นี่ยังไม่รวมไปถึงโอกาสที่ Markovic อาจจะสร้างประตูให้กับเราได้ และเรายังมีเงิน อยู่อีก 75 ล้านปอนด์ที่ได้จากการขาย Suarez ซึ่งตรง นี้อาจจะท�ำให้เราได้นักเตะบิ๊กๆ เข้ามา ผลต่างประตู ได้เสียอาจจะเข้าใกล้ 51 อย่างที่เราได้ในฤดูกาลที่แล้ว ตรงนีจ้ ะท�ำให้เรายังคงได้ไปเล่นเวที Champions League ต่อในฤดูกาล 15/16 การได้ไป Champions League อย่างต่อเนื่องส�ำคัญส�ำหรับพัฒนาการของ สโมสรมากๆ มันช่วยเราให้ดึงดูดนักเตะ สปอนเซอร์ และรายได้พิเศษจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางทีวี ท�ำให้ เรามีเงินที่จะซื้อและจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะที่ดีที่สุด ในโลกให้มาอยู่กับเราได้มากขึ้น ----------------------------------บทความนี้อาจจะเป็นมุมมองโลกสวย แต่ก็หวัง ว่าผู้ที่ได้อ่านจะมีก�ำลังใจว่า ชีวิตยังไม่สิ้น แม้จะไร้ซึ่ง Suarez แล้ว เราเคยก้าวผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว หลัง จากที่นักเตะที่ดีที่สุดของเราได้จากทีมเราไป ไม่ว่าจะ Keegan, King Kenny, Fowler, McManaman, Owen, Torres… และตอนนี้ Suarez โปรดจดจ�ำไว้เสมอว่า Liverpool FC นั้นยิ่ง ใหญ่กว่านักเตะ ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นใคร ขอบคุณสถิติต่างๆ จาก Squawka.com ----------------------------------The Reds - September 2013


57

September 2013 - The Reds


58

The Reds - September 2013


59

September 2013 - The Reds


60

เมื่อมีศรัทธา เราจึงต้องยืนหยัด เพื่อความ ส�ำเร็จที่ปรารถนาและยิ่งใหญ่ .. จบฤดูกาลไปแบบชื่นมื่น และถึงแม้จะผิดหวัง บ้างเล็กๆ ที่ไม่สามารถประสบความส�ำเร็จกับการเป็น แชมป์เปี้ยนไปได้ แต่มันก็ไม่ได้ท�ำให้เรารู้สึกเสียใจหรือ ผิดหวังอย่างรุนแรงอะไร --------------------------------ลิเวอร์พูล สโมสรอันเป็นที่รัก จบฤดูกาลด้วย ต�ำแหน่งอันดับที่ 2 ของตาราง ซึ่งเชื่อว่า มันเป็นสิ่ง เราไม่ค่อยได้คาดคิดมากเสียเท่าไหร่ แต่ส�ำหรับผมก็ เคยพูดเกริ่นไว้ก่อนฤดูกาลจะเปิดแล้วว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสไม่น้อยที่จะประสบความส�ำเร็จอย่างมากใน ฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุปัจจัย ที่มีหลากหลาย ทั้งความไม่ พร้อมของทีมคู่แข่งในหลายๆ ทีม อีกทั้งความพร้อม ของ ทีมลิเวอร์พูล เองนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากมาก นักที่จะประสบความส�ำเร็จติดท๊อปโฟร์ แต่สิ่งที่ท�ำให้ พวกเราเหลือเชื่อนิดๆ คือ เรามีลุ้นแชมป์จนถึงนัด สุดท้าย แต่ถึงแม้มันจะไม่ได้ลุ้นจนวินาทีสุดท้ายก็ตาม แต่เชื่อว่า เดอะ คอป ทั่วโลกก็มีความสุขมากพอ ส�ำหรับความส�ำเร็จที่เราเดินมาได้จนถึงจุดๆ นี้ !! มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างมากมายใน ฤดูกาล 2013-14 รวมถึงมีสถิตทิ ดี่ หี ลากหลายในฤดูกาล นี้ ... และหนึ่งในนั้นคือการกลับมาเป็นยอดดาวซัลโว อีกครั้งของ “หลุยส์ ซัวเรส” กองหน้าฟอร์มดีอันดับ 1 ของโลก .. ฤดูกาล 2012-2013 หลุยส์ ซัวเรส ท�ำสกอร์ ในลีกมากถึง 23 ประตู แต่ก็ต้องหยุดสถิติการท�ำ ประตูไว้เพียงเท่านั้น หลังจากที่โดนแบนถึง 10 เกม เรื่องราวดราม่า ของ หลุยส์ ซัวเรส เกิดขึ้นมา อย่างมากมายภายหลังจากโดนแบน 10 เกมซึ่งมันต้อง ใช้ระยะเวลาในการใช้โทษแบนล่วงเลยมาถึงฤดูกาล 2013/14 ซึง่ หลายคนไม่เชือ่ ว่าเขาจะอยูต่ อ่ ใน แอนฟิลด์ ต่อ แต่เขาก็ถูกเกลี้ยกล่อมจนไม่ย้ายและกลับมาท๊อป ฟอร์มอีกครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมา และ ซัวเรส ก็แทบ จะเป็นนักเตะคนแรกๆ ในประวัติศาสตร์เลยที่สามารถ ท�ำประตูต่อ 1 ฤดูกาลได้เท่ากับหรือมากกว่า 30 ลูก The Reds - September 2013


61

September 2013 - The Reds


62

The Reds - September 2013


63

ติดต่อกัน .. (2012-13 = 30, 2013-14 = 31 ลูก) และนั้นคือเพียงส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ของ สโมสรลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2013-14 ... “เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” ผู้จัดการทีม ผู้มาสร้าง ความสุขให้กับ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ ความส�ำเร็จที่เป็นรูปธรรมกับการน�ำ ลิเวอร์พูล คว้า รองแชมป์มาครองได้ ซึ่งนั่นหมายถึงการที่ ลิเวอร์พูล จะได้กลับไปเล่นถ้วยสโมสรยุโรปอีกครั้ง และเป็นถ้วย ใบใหญ่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ สโมสรลิเวอร์พูล และ เดอะ คอป ทั่วโลก ปรารถนาอย่างมากกับผลส�ำเร็จครั้งนี้ ... ซึ่งนอกเหนือจากความส�ำเร็จที่เห็นได้อย่างเป็นรูป ธรรม ปรัชญาแนวทางการท�ำทีม รูปแบบการเล่น ยัง เป็นสิ่งที่ เดอะ คอป ทั่วโลก ปรารถนาจะเห็นอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานมากกว่า 2 ทศวรรษ .. และสิ่ง ที่เขาได้ท�ำมาตลอด 2 ฤดูกาล ล่าสุดเขาก็ได้รับรางวัล อย่างงามจาก ประธานสโมสร โดยสโมสรตกลงใจยื่น สัญญาฉบับใหม่ให้กับ ร็อดเจอร์ส และ ตัวเขาเอง ก็ ตอบรับกับสัญญาฉบับใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ... “เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” ได้สร้างระบบทีม ขึ้นมาโดยใช้แนวทางเดียวกันกับยอดโค้ช อย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า หรือ โยฮัน ครัพฟ์ มาผสมผสานกัน ซึ่ง ระบบการเล่นที่สวยงาม มันจะมีความเอนเตอร์เทรน อยู่ในรูปแบบนั้น .. ตลอดเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สโมสรลิเวอร์พูล ภายใต้การท�ำทีมของอดีตผู้จัดการ ทีมที่ผ่านมา ไม่ได้ใกล้เคียงกับรูปแบบการเล่นที่มี ประสิทธิภาพมากนัก นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ท�ำไม ลิเวอร์พูล ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา จึงไม่ค่อยมีมาตรฐาน ในการเล่นมากสักเท่าไหร่ ซึ่งผลงานในฤดูกาลนี้ มันอาจจะท�ำให้ เดอะ คอป ทั่วโลกพึงพอใจและมั่นใจว่า ร็อดเจอร์ส จะพา ทีมไปอยู่ในจุดที่ ลิเวอร์พูล ควรจะอยู่ ... แต่ก็อย่าได้ กระหยิ่มจนเกินตัวไปมากนัก เพราะยังมีงานหนักที่ ร็อดเจอร์ส จะต้องท�ำ จะต้องพัฒนาและปรับปรุงกัน อีกต่อไป แต่ถ้าถามว่าในฤดูกาลนี้ผลงานน่าจะประทับ ใจอย่างไร ค�ำตอบเดียวส�ำหรับผมคือ “ยอดเยี่ยม จริงๆ” ... นอกเหนือจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และ หลุยส์ ซัวเรส ที่เป็น 2 บุคคลส�ำคัญที่ท�ำให้ ลิเวอร์พูล September 2013 - The Reds


64

กลับมาประสบความส�ำเร็จได้อย่างดีเยี่ยมแล้วนั้น ถ้า พูดกันถึงหลักความจริง ก็ยังมีนักเตะอีกหลายๆคนที่ สามารถโชว์ฟอร์มทะลุขึ้นมา โดดเด่นในฤดูกาลนี้ ... “สตีเวน เจอร์ราร์ด” นักเตะที่มีอายุเกินหลัก 3 ไปแล้ว แต่ยังสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มได้สมกับการ เป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลจริงๆ ... นักเตะโดยส่วนมาก The Reds - September 2013

มักจะท๊อปฟอร์มหรือมีฟอร์มการเล่นที่ดีในช่วงอายุ 27-29 อาจจะมีบวกลบบ้างนิดหน่อย แต่โดยส่วนมาก แล้วถ้าอายุเกิน 30 ฟอร์มการเล่นก็มักจะร่วงโรย และ ถดถอย หรืออย่างน้อยก็ยังคงรักษามาตรฐาน ซึ่งมีไม่ มากนัก แต่ เจอร์ราร์ด ด้วยการที่เป็นนักเตะที่รักษา ความแข็งแกร่งของร่างกายไว้ได้อย่างดี และ การมี


65

ประสบการณ์ที่ดี ท�ำให้เขากลับมาท�ำในสิ่งที่หลายๆ คนท�ำไมได้ และยิ่งไปกว่านั้น เจอร์ราร์ด ยังสามารถ เล่นได้ดีกับบทบาทใหม่ ในการค้าแข้ง ซึ่งบางทีเขาอาจ จะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ด้วยระบบ ที่ ร็ อดเจอร์ส วางไว้ ก็ไม่ง่ายที่ใครจะเข้ามารับกับบทบาท นี้ได้ดี ... ดังเช่น ที่ เจอร์ราร์ด ท�ำได้ และเราก็หวังว่า

ในฤดูกาลหน้า เขาจะยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างดีอีกครั้ง เพื่อฝันสุดท้ายในชีวิตการค้าแข้งจะได้สมบูรณ์ ... “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - ราฮีม สเตอร์ริ่ง ฟิลิปป์ คูตินโญ” ... 3 มิดฟิลด์ดาวรุ่งก�ำลังหลักของ ทีม ... นอกจากเราจะมี เจอร์ราร์ด ที่ท�ำหน้าที่เป็นพี่ ใหญ่ในแผงมิดฟิลด์ไดมอนส์ แต่เรายังมีก�ำลังหลักที่ September 2013 - The Reds


66

The Reds - September 2013


67

เป็นดาวรุ่งของทีมเช่นกัน ซึ่งทั้ง 3 คนถือเป็นมิดฟิลด์ ตัวหลักของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา และไม่น่าเชื่อว่า ทั้ง 3 คน โดยเฉพาะ ราฮีม สเตอร์ริ่ง จะสามารถยืน ระยะฟอร์มการเล่นของตัวเองไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล ... ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เองก็พัฒนาฝีเท้าและ ทัศนคติในการเล่นได้อย่างดีเยี่ยม เข้าใจถึงระบบการ เล่นที่ ร็อดเจอร์ส วางไว้ เขาอาจจะไม่ใช่นักเตะที่มี ระดับมากนัก แต่ก็เป็นนักเตะที่ท�ำงานเพื่อทีมได้อย่าง ดี .... เช่นเดียวกับ ฟิลิปป์ คูตินโญ ที่ถึงแม้จะมีบาง ช่วงที่ฟอร์ม ดรอปๆ ลงไป แต่เขาก็ถือเป็นนักเตะที่ ทีมสามารถใช้งาน และหวังได้กับการเล่นของเขา และ ลูกยิงดับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงเป็นลูกยิงที่หลายคน คงจะไม่มีวันลืมไปได้เลย และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือในแผงเกมรับของ ทีม ถึงแม้ว่าจะช่วยในเกมรุกของทีมไว้ได้หลายครั้ง แต่ นับว่าโดยรวมผลงานในเกมรับถือว่าน่าใจหาย .. ผมไม่ อาจจะโทษใครได้เป็นรายบุคคล แต่สิ่งนี้น่าจะเป็นการ บ้านที่ ร็อดเจอร์ส จะต้องท�ำอย่างหนัก ไม่เพียงแค่ หาซื้อนักเตะที่มีระดับเข้าเสริมทีม แต่คงต้องท�ำความ เข้าใจในรูปแบบเกมรับด้วย ส�ำหรับโดยส่วนตัวผม ยังเชื่อว่า ด้วยฝีเท้าของนักเตะในต�ำแหน่งกองหลัง โดยเฉพาะเซนเตอร์แบค ลิเวอร์พูลมีดีไม่แพ้ทีมอื่นๆ แน่นอน แต่จะท�ำอย่างไรเหล่าให้นักเตะมีศักยภาพที่ดี คงต้องฝากไปที่ ร็อดเจอร์ส แล้วหล่ะ ส�ำหรับงานนี้ .. ส�ำหรับ เดอะ คอป คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ นอกเหนือจากค�ำว่ารอต่อไป รอกับฤดูกาลใหม่ที่ก�ำลัง จะมาถึง รอกับแชมป์ประวัติศาสตร์ ครั้งที่ 19 .... มัน การรอคอยที่เชื่อว่า เดอะ คอป ทุกคนพร้อมแล้วกับ สิ่งที่จะตามมาใน อนาคต .. ซึ่งไม่ว่า ในฤดูกาลหน้า หรือจะฤดูกาลไหนๆ พวกเราก็จะเต็มที่กับการส่งเสีย เชียร์ให้ก�ำลังใจ กับทีมลิเวอร์พูลของพวกเรา ... พวก เรามาร่วมกันส่งแรงพลังให้กับพวกเขา ต่อสู้เพื่อจะได้ รับความส�ำเร็จอย่างสูงสุดในฤดูกาล 2014 – 15 กัน ต่อไป ... # Together We Make It Better !!! # # Born a Red , Live a Red , Die a Red # # My Love My Passion My Life # @reds_marnia September 2013 - The Reds


68

The Reds - September 2013


69

September 2013 - The Reds


70

The Reds - September 2013


71

ปราการหลัง Liverpool นาย Martin Kelly ได้ใช้เวลาสองฤดูกาลล่าสุดด้วยการพักข้างสนาม และ นี่น่าที่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของดาวเตะวัย 24 ปี ราย นี้ที่จะใช้ช่วง pre-season ครั้งนี้ ที่จะก้าวขึ้นมาฉาย แสง หรือ อาจจะไม่ได้ไปต่อ --------------------------------ช่วง pre-season ครั้งนี้เหมือนเป็นการเปิด โอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับเหล่านักเตะ Liverpool ที่ยัง ลูกผีลูกคน รวมไปถึงนักเตะใหม่ๆ ให้สร้างผลงานอัน น่าประทับใจให้ Brendan Rodgers ได้เห็น โดยเกม อุ่นเครื่องนัดแรกๆ จะเป็นโอกาสที่ชัดเจนที่สุดเพราะ เหล่าบรรดาสตาร์ดังที่ไปร่วมศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่าน มา ต่างไม่อยู่กันทั้งหมด เพราะได้รับอนุญาตให้พัก ผ่อนและกลับมาซ้อมได้ล่าช้ากว่าพวกที่ไม่ได้ไป มีนักเตะอยู่คนหนึ่งที่น่าที่จะเป็นความหวังของ เหล่า สาวกหงส์แดง มาหลายปี แต่ก็ไม่เคยท�ำได้ถึงที่ สุดเสียที ชายคนนั้นก็คือเด็กท้องถิ่นอย่าง Martin Kelly Kelly เป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้แข็งแกร่งตั้งแต่ ได้รบั โอกาสให้ขนึ้ มาเล่นทีมชุดใหญ่ใน ฤดูกาล 2010/11 แต่เอาเข้าจริง Kelly มักประสบปัญหาเรือ่ งความคงเส้น คงวา และประเด็นที่ส�ำคัญที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ “ความ เปราะบาง” และ “อาการบาดเจ็บ” ที่ดูง่ายเกินไป จนท�ำให้ต้องพักรักษาตัวยาวนานหลายต่อหลายครั้ง หลายปีที่ผ่านมาจึงเข้าๆ ออกๆ ในทีมอยู่แบบนี้ ที่ ส�ำคัญอายุก็ไล่หลังมาเป็นเงาตามตัว pre-season หนนี้จึงน่าที่จะเป็นจุดเปลี่ยนผัน ที่ส�ำคัญที่สุดในการก�ำหนดชะตาชีวิตของ Kelly ว่า เป็นนักเตะที่ดีพอที่หงส์จะฝากผีฝากไข้ได้หรือไม่ และ นี่น่าที่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของดาวเตะรายนี้เช่นกัน ในยุคของ Rodgers ที่ Liverpool ผมบอกได้เลยว่านี่คือการร้องขอที่หนักหนา สาหัสพอควร เอาเป็นว่า Kelly จะมีศักยภาพที่จะเบิกทาง ให้ตัวเองไปอยู่ในแผนการของ Rodgers ได้หรือไม่ ด้วยการโชว์ฟอร์มทีโ่ ดดเด่นสุดยอดในช่วง pre-season ครั้งนี้ ? September 2013 - The Reds


72

ในฐานะเซ็นเตอร์ โอกาสลงสนามของ Kelly ครั้งสุดท้ายที่เกิด ขึ้นก็คือเกมที่หงส์แดงเอาชนะคู่แข่งอย่าง Shamrock Rovers 4-0 ในเกมอุ่นแข้งก่อนเปิดฤดูกาล ในเกมนั้น Kelly ถูกวางตัวในบทบาทเซ็นเตอร์ แบ็ค ซึ่งถือได้ว่าเขายืนได้มั่นคงอย่างมาก Shamrock Rovers แทบจะไม่สามารถเจาะเขาได้เลย เขานั้ น ส่ ง เสริ ม ตั ว เองให้ รุ ่ ง ได้ อี ก ด้ ว ยการยิ ง ประตูได้ในนาทีที่ 74 ถือได้ว่าเล่นได้ดีใช้ได้ในเกมนี้ใน ต�ำแหน่งเซ็นเตอร์ดังที่ว่า หลายต่ อ หลายคนต่ า งเชื่ อ ว่ า นี่ คื อ บทบาทใน ระยะยาวของ Kelly ในทีม Liverpool และคงจะ ก้าวขึ้นมาเป็นเซ็นเตอร์ทีมชุดใหญ่ได้ แต่ ณ ตอนนี้ อายุก็ปาเข้าไป 24 ปี แล้ว หากจะมีแววที่ดี ก็ควรจะ มีชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะต้องผ่านการกร�ำศึก การแข่งขันที่หนักและพิสูจน์ตัวเองว่ามั่นคงได้เพียง พอ, กระนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์จะผันแปรเป็น ตรงกันข้ามเมื่อทีมของ Rodgers นั้นดูเหมือนว่าจะ มีเซ็นเตอร์ที่ไว้ใจได้มากกว่าเขาอยู่หลายคน เรียกว่า อุดมไปด้วยเซ็นเตอร์ก็ได้ คนแรกเลย เซ็นเตอร์ชาว Slovakian นาย Martin Skrtel ที่มีฤดูกาล 2013/14 ที่น่าประทับใจ พอควร และถ่างเส้นทางของตัวเองให้ไปอยู่ในทีมใน ระยะยาวของ Rodgers ได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีเซ็นเตอร์ทีมชาติฝรั่งเศษ อย่าง Mamadou Sakho ที่น่าจะเป็นขุนพลหลักใน แนวรับของ Liverpool ไปอีกหลายปีจากนี้ เพราะ เขาได้ชื่อว่าเป็นเซ็นเตอร์อายุน้อยที่ดีที่สุดในโลกคน หนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้เซ็นเตอร์ชาว Danish อย่าง Daniel Agger แม้ว่าอาจจะดูมีแววต้องจากถิ่น Anfield ไป ในซัมเมอร์นี้ หากได้รับข้อเสนอที่ใช่จากทีมอื่น แต่เขา ก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหนียวแน่นอีกคน โดยเฉพาะฟอร์ม การเล่นในยามที่เขาสมบูรณ์จริงๆ มันเหนียวแน่นมาก เช่นเกมนัดสุดท้ายกับ Newcastle United มีรายงานข่าวเข้ามาเพิม่ เติมอีกระยะนีว้ า่ Rodgers อยากได้ปราการหลัง Southampton นาย Dejan The Reds - September 2013


73

September 2013 - The Reds


74

The Reds - September 2013


75

Lovren มาร่วมทีม ซึ่งหากได้ตัวมา แนวรับก็จะเหนียว แน่นขึ้นอีกมาก ซึ่งนั่นหมายถึงการขับเคี่ยวเพื่อจะได้ ลงสนามของ Kelly เอง ก็ดูจะยากขึ้นไปเป็นเงาตาม ตัว ตารางด้านข้างคือสถิติเปรียบเทียบ ฤดูกาลที่ Kelly เล่นได้ดีที่สุด กล่าวคือฤดูกาล 2011/12 แล้ว น�ำมาเปรียบเทียบกับเซ็นเตอร์คนอื่นๆ ที่ว่านี้, การแท็คเกิ้ล, การตัดบอล, การบล็อคการยิง และ การเคลียร์บอล (ทั้งหมดภายในเวลา 90 นาที) รวมไปถึงการจ่ายบอล เป็นตัวชีว้ ดั ศักยภาพของเซ็นเตอร์ ได้ดีภายในยุคที่ Rodgers ใช้ระบบการเล่นแบบโปร เกรสซีฟ ตรงนี้เห็นได้ชัดเจนว่า Kelly ในฤดูกาลที่ดีที่สุด ยังคงเทียบไม่ได้เลยกับคู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อคหรือตัดบอล จะดีหน่อยก็เรื่องแท็คเกิ้ล โอเค บล็อคอาจจะดีกว่าหลายคนบ้าง แต่เรื่องอื่นก็ไม่ไหว จะเคลียร์ ที่ส�ำคัญที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดก็คืออัตรา การจ่ายบอลที่ดูด้อยกว่ารายอื่นจริงๆ หลายฝ่ายอาจจะมองว่า ได้ฟอร์มที่ออกเป็น ตัวเลขแบบนี้ หากเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ในฤดูกาล ที่ไม่ใช่ฤดูกาลเดียวกัน มันไม่ได้แสดงความจริงซักเท่า ไหร่ กระนั้นสิ่งที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้ก็คือ อัตรา ความถี่ของอาการบาดเจ็บของ Kelly ตลอดหลาย ฤดูกาล การขาดหายซึ่งการลงสนาม เลยไปจ�ำกัด พัฒนาการของดาวเตะรายนี้ในทุกๆ ภาคส่วน ในฐานะแบ็คขวา Kelly ดูเหมือนจะสวมบทบาทนี้ได้ธรรมชาติ กว่าเพราะได้ลงเล่นในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทาง การหลายนัด และดาวเตะอังกฤษรายนี้ก็ถูกใช้ได้ถูก ท่วงท�ำนองของเกมเหลือเกินโดย Kenny Dalglish เมื่อมองไปที่ทางเลือก ณ ปัจจุบันของ Rodgers ในต�ำแหน่งแบ็คขวา ต่างก็เป็นนักเตะอังกฤษทั้งคู่อย่าง Glen Johnson และ Jon Flanagan รายหลังนี้คง จะมาแย่งต�ำแหน่งนี้ของรุ่นพี่ทันที หากว่า Liverpool จะเซ็นคว้าแบ็คซ้ายตัวใหม่ที่เป็นตัวที่จะใช้ในระยะ ยาวเสียที นอกจากนี้ยังมีตัวแปรเช่น Andre Wisdom September 2013 - The Reds


76

และ Ryan McLaughlin ที่จะกลับมาจากการยืมตัว ไปเล่นกับทีมระดับ Championship อย่าง Derby County และ Barnsley อีก ตัวแปรคู่นี้ถือได้ว่าเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่ออก ไปเก็บชั่วโมงบิน แล้วก็โชว์ฟอร์มได้ดีมีอนาคตเสียด้วย ซึ่งท�ำให้เห็นว่า คู่นี้น่าจะเป็นอะไรที่ Rodgers ฝาก ความหวังไว้พอควร ด้านข้างนี่คือสถิติของ Kelly ในต�ำแหน่งแบ็ค ขวาเมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ แล้ว ครั้งนี้ขอใช้ สถิติในฤดูกาลที่ Kelly เล่นดีที่สุดคือฤดูกาล 2011/12 มาเปรียบเทียบกับแบ็คขวารายอื่น การแท็คเกิ้ล และตัดบอล พอไหวอยู่ แต่การลาก ผ่านคูแ่ ข่งนีถ่ อื ว่าต�ำ่ ต้อยกว่าคนอืน่ มาก ยิง่ การเปิดจาก ด้านข้างนี่ ไม่ไหวจะเคลียร์ อัตราการจ่ายบอลส�ำเร็จ ที่เป็นสมดุลย์ส�ำคัญของโลกฟุตบอลสมัยใหม่ที่แบ็คจะ ต้องมีในตัวก็ยังคงเป็นปัญหาเช่นเดิม ตรบนี้หากมองที่สถิติ Kelly อาจจะพอสู้ไหวกับ Flanagan ในบทบาทแบ็คขวาที่เน้นเหนียวแน่น แต่ ไม่สร้างสรรค์เกมให้ไปข้างหน้าได้ ซึ่งในยุคของ Rodgers เขาชอบให้ทีมเล่นเกมรุกเป็นชีวิตจิตใจ และตรงนี้ Flanagan ดูจะมีใจที่เหี้ยมหาญและบ้าบิ่นกว่าดูกล้า เสี่ยงกว่า ที่ส�ำคัญอัตราจ่ายส�ำเร็จสมบูรณ์ให้เพื่อนถือ ว่าดีด้วย ไม่ได้โยนมั่วซั่ว โดนไม่ได้ก็จ่ายกลับกลางและ พยายามวิ่งท�ำทาง ท�ำให้ตรงนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ล�ำบาก ส�ำหรับ Kelly ในฤดูกาลใหม่นี้อย่างแน่ โดยรวมแล้ว คล้ายกับว่า Kelly เป็นตัวเลือก ที่ด้อยที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องอายุ หรือฟอร์มการเล่น เมื่อ เปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น McLaughlin ยังเป็นแค่ เด็กรอวันโตเท่านั้น ซึ่งก็แน่ละเขาอายุน้อยกว่า Kelly ตั้ง 5 ปี หนิ จะเก่งและแจ๋วกว่าก็กระไร ความรู้สึกของ Rodgers ต่อ Kelly แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ลงเล่นและอายุอานามก็เริ่ม จะไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ Rodgers ก็ยังคงให้ก�ำลังใจ และ ผลักดัน Kelly ตั้งแต่วันแรกของการคุมทีม เขาได้ กล่าวว่า “Martin นั้นเป็นเด็กที่โชคร้ายมากๆ เขามา บาดเจ็บเอาในช่วงเวลาส�ำคัญแบบนี้ แล้วยิ่งเรามีเกม The Reds - September 2013


77

September 2013 - The Reds


78

The Reds - September 2013


79

ที่จะต้องมีสมาธิและมุ่งเน้นผลการแข่งขันกันเกมต่อ เกมแบบนี้ มันยากที่เราจะให้โอกาสเขาได้ลงสนาม” “เกมกับ Shamrock Rovers ถือได้ว่าเป็น เกมแรกจากอีกหลายเกมในหลายเดือนจากนี้ เขาเล่น ในต�ำแหน่งเซ็นเตอร์ ซึ่งมันต่างจากต�ำแหน่งแบ็คขวา ที่เขาได้ลงเล่นเยอะหน่อย มันจะมีเกมการแข่งขันใน ปีหน้าส�ำหรับนักเตะในข่ายเดียวกับเขาที่จะได้ลงเล่น หากว่าเราสามารถเข้ารอบบอลถ้วยต่อไปเรื่อยๆ” ค�ำพูดท�ำนองนี้ สามารถสร้างความมั่นใจให้นัก เตะได้ และหลักฐานก็คือ การก้าวขึ้นมาฉายแสงของ เจ้าหนู Flanagan เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่ง Rodgers นั้นถือได้ว่าเป็นนักบริหารคนที่ดีที่สุดคนนึงในเวที Premier League เขานั้นคิดถูกเช่นกันว่าหงส์แดงต้องการนักเตะ ในแบบ Kelly บางทีอาจจะพอใจกับการได้มีส่วนใน การเล่นให้กับทีมชุดใหญ่บ้าง มีบทบาทบ้าง เพื่อเพิ่ม ทางเลื อ กและความแกร่ ง ให้ กั บ ที ม ที่ มี ข นาดเล็ ก ที่ จะต้องต่อสู้ในฟุตบอลหลายๆ รายการในฤดูกาล 2014/15 ปั ญ หาอาการบาดเจ็ บ คื อ ปั ญ หาที่ ใ หญ่ ที่ สุ ด ของ Kelly ซึ่งเขาต้องพิสูจนให้ผู้จัดการเห็นว่า ปัญหาตรงนี้มันผ่านไปแล้ว มันจบไปแล้ว ไม่มีซ�้ำซาก อีกแล้ว ซึ่งจะท�ำให้เขาสามารถเจริญรอยตามรุ่นน้อง อย่าง Flanagan เข้าไปอยู่ในห้วงความคิดค�ำนึงของ ผู้จัดการทีมได้ แต่นี่คือโอกาสสุดท้ายของเขาจริงๆ เส้นทาง ช่วง Pre-season จากนี้ไปจะเป็นเส้นทางที่ล�ำบาก และตึงเครียดที่สุดในชีวิตของ Kelly แต่หากต้องการ เป็น “ใครซักคน” คุณต้องทุ่มเท “เอาตรงนี้มาให้ ได้” และที่ส�ำคัญยิ่งกว่า “คุณมีวาสนาหรือไม่”

September 2013 - The Reds


80

The Reds - September 2013


81

September 2013 - The Reds


82

The Reds - September 2013


83

September 2013 - The Reds


84

The Reds - September 2013


85

ฟุตบอลโลกเวอร์ชั่นแซมบ้า 2014 จบลงไปด้วย ความชื่นมื่นของยอดทีมจากเมืองเบียร์และความน่า ผิดหวังของบรรดาทีมใหญ่ๆ หลายต่อหลายทีม แต่ ที่แน่ๆ ฟุตบอลโลกครั้งนี้มีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ สดับรับชมกันหลายอย่างหลายประการด้วยกัน เช่น การยิงประตูที่กระหน�่ำใส่กันอย่างถล่มทลาย, ทีมเล็ก สามารถต่อกรกับทีมใหญ่ๆ ได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันและ ทีมเล็กๆ หลายทีมก็ตบทีมใหญ่ๆ จนกลับบ้านแทบ ไม่ทันซะด้วยซ�้ำ และเหตุการณ์ช็อคโลกลูกหนังประหนึ่งว่าจัด ฉากเตรียมการเอาไว้แล้วก็คือ การ “กัดคู่แข่ง” ของ ซัวเรซ ที่เป็นประเด็นไปทั่วโลกจนน�ำมาซึ่งการแบน แบบบ้าคลั่งของ FIFA และตามด้วยการยื่นขอซื้อ ตัว ซัวเรซ จาก ลิเวอร์พูล ของ บาร์เซโลน่า ที่ไล่มา เป็นฉากๆ ซึ่ง ณ บัดนี้ ซัวเรซ ก็เป็นนักเตะในสังกัด ของ บาร์เซโลน่า เรียบร้อยแล้วโดยย้ายจากอ้อมอก ลิเวอร์พูล ด้วยสนนราคาค่าตัวประมาณ 75 ล้าน ปอนด์.. คงไม่มีอะไรจะพูดไปมากกว่านี้นอกซะจากค�ำ ว่า “ขอบคุณส�ำหรับทุกอย่าง ขอให้นายโชคดี” --------------------------------ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของ ลิเวอร์พูล กันดีกว่า เพราะหลายๆ คนคงทราบกันแล้วว่า ณ ตอนนี้เราได้ นักเตะหน้าใหม่คนไหนมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ แล้วบ้าง และในขณะที่ผมนั่งกระแทกแป้นพิมพ์อยู่นั้น ลิเวอร์พูลคว้านักเตะมาเสริมทีมแล้วทั้งสิ้น 4 รายด้วย กัน ไล่ตั้งแต่ เซอร์ไพรส์ดีล !! อย่าง ริคกี้ แลมเบิร์ต ตามด้วย เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลาน่า และคนล่าสุด ลาซาร์ มาร์โควิช ใช้เงินไปทั้งหมดทั้งสิ้นประมาณ 57 ล้านปอนด์ หากจะบอกว่าเป็นการเสริมแนวรุกเพื่อมาปิด ช่องโหว่ที่ ซัวเรซ ทิ้งเอาไว้ก็คงไม่ผิดนัก หากแต่ตอน แรก ร็อดเจอร์ เล็งนักเตะบางคนเพื่อดึงเข้ามาช่วยใน มิติของเกมส์รุกที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แม้สุดท้าย จะกลาย เป็นเพื่อทดแทนการจากไปของยอดดาวยิง หมายเลข 7 ก็ตาม... นอกจากนี้ก็ยังมีนักเตะอีกหลาย ต่อหลายคนที่ถูกหมายหัวเอาไว้ในต�ำแหน่งอื่นๆ อีก มากมายรวมทั้งได้ปล่อยนักเตะบางส่วนที่ไม่อยู่ใน September 2013 - The Reds


86

แผนการท�ำทีมออกไปบ้างแล้วด้วย สุดท้ายก็ต้องมา ดูกันละครับว่า “เก่าไป ใหม่มา” ใครจะจี๊ด!! ใครจะ ซี๊ด!! ใครจะอ๊า!! แต่หนึ่งในนักเตะที่ผมภาคภูมิใจน�ำเสนอ ได้แก่ ไอ้หนุ่มหน้ามล คนมีเครา จาก เซาท์แธมป์ตัน อดัน เอ้ย ! อดัม ลัลลาน่า ถ้าถามว่าเหตุใดผมถึงยกให้ ลัล The Reds - September 2013

ลาน่า เป็นดีลที่น่าจับตามอง.. นั่นเพราะว่าเขาคือหนึ่ง ในทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013-14, เขา คือหนึ่งในนักเตะที่พรสวรรค์ในพรีเมียร์ลีกและเป็น คนอังกฤษด้วย และที่ส�ำคัญ ลัลลาน่า มีลุ้นประเดิม สนามในเกมอย่างเป็นทางการกับ “หงส์แดง” นัด แรก ในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-15 ในเกมที่จะ


87

เปิดรัง แอนฟิลด์ พบกับต้นสังกัดเก่า ทันที ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้!! เริ่มน่าสนใจรึยังล่ะครับท่านผู้ชม (อ่าน) ยิ่งไปกว่านั้นหากใครได้ติดตามฟอร์มของพ่อ หนุ่มคนนี้มาบ้างก็น่าจะพอรู้ว่าเด็ดดวงแค่ไหน ผม เชื่อเหลือเกินว่าเขานี่แหล่ะคือความลงตัว คือพลัง ขับเคลื่อนที่เราตามหาในขณะที่กัปตันโรยราลงไป

ทุกวัน

แต่อย่างว่าแหล่ะครับ มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด เป็นธรรมดาของมนุษย์ จึงเกิดมีการเปรียบเทียบกัน ระหว่างดีลของ ลัลลาน่า และ โทนี่ โครส ที่ย้ายไป สวมชุดขาวเรียบร้อยแล้วด้วยค่าตัวประมาณ 24 ล้าน ปอนด์ ส่วน ลัลลาน่า นั้นค่าตัวตกประมาณ 25 ล้าน September 2013 - The Reds


88

The Reds - September 2013


89

ปอนด์ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งของสัญญาที่เราอาจดูจะ จ่ายแพง เพราะสัญญาส่วนตัวของนักเตะระบุว่าต้อง หักเปอร์เซนต์บางส่วนจ่ายให้ต้นสังกัดเก่า อย่าง บอร์น มัธ ด้วย ซึ่งมีแฟนบอลหลายคนถึงขนาดสบถค�ำด่าเป็น ภาษาตากาล็อกว่า “โง่” ผมจึงขอยกสถิติของทั้งคู่มา ให้ชมกันว่ามันเป็นอย่างไรและสมควรหรือไม่กับค�ำว่า “โง่” เห็นได้ชัดนะครับว่า ลัลลาน่า เป็นรอง โครส แค่เรื่องเดียวและนิดหน่อยด้วย แต่ที่เราต้องให้ความ ส�ำคัญก็คือ ลัลลาน่า คุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีกเป็นอย่าง ดี แต่ โครส ไม่ใช่!! มีใครยืนยันได้บ้างว่าเขาจะปรับตัว ได้เร็ว โอเคเขาเก่ง เขาคงจะปรับตัวได้ง่าย แต่มันจะ ดีกว่าไหมหากเรามีนักเตะที่คุ้นเคยกับการแข่งขันใน พรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว และอย่ามองข้ามรายละเอียดที่ว่า โครส เหลือสัญญากับทีมเก่าแค่ปีเดียว!! และรู้หรือไม่ว่า 4 ฤดูกาลหลังสุด ลัลลาน่า มีชื่อทีมยอดเยี่ยมแห่งปีทั้งสามดิวิชั่น คือของ ลีก วัน ในฤดูกาล 2010-11, แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 201112 และ พรีเมียร์ลีกปีล่าสุด 2013-2014 นอกจากนี้ระดับความหล่อของ ลัลลาน่า ยัง กระชากใจของบรรดาแม่ยกและพ่อยกทั้งหลายให้ กรี๊ดกร๊าดไปตามๆ กัน เท่านั้นยังไม่พอ ก่อนจะลาจาก บ้านหลังเก่าที่เขาค้าแข้งมานานกว่า 14 ปี อดัม ลัลลา นา จอมทัพตัวใหม่ของลิเวอร์พูล ลงทุนทุ่มเงินซื้อหน้า หนังสือพิมพ์เซาเธิร์น เดลี เอคโค เพื่อขอบคุณแฟน บอลเซาแธมป์ตัน ความว่า “ขอบคุณมากครับ ผม จะไม่มีวันลืมช่วงเวลาตลอด 14 ปีที่ผ่านมา มันจะ เป็นความทรงจ�ำของผมไปตลอดชีวิต ขอบคุณแฟน บอลเซาท์แธมป์ตันที่ให้การสนับสนุนผมมาตลอด พวกคุณจะอยู่ในใจผมไปตลอดกาล” อดัม ลัลลานา --------------------------------เห็นรึยังครับนอกจากฝีเท้าหล่อ, หน้าหล่อ แล้วใจยังหล่ออีกด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ยกให้เขาเป็น สุ ด ยอดนั ก เตะที่ น ่ า จั บ ตามองของฤดู ก าลที่ จ ะถึ ง นี้ ได้อย่างไร... จงอย่าเสียใจกับการไปของใครบางคน แต่จงเชื่อมั่นในคนที่ยังอยู่ ไม่มี SR แต่เรายังมี BR #YNWA# ดูบอลให้สนุกครับฤดูกาลใหม่ก�ำลังจะเริ่ม ต้นแล้ว.. September 2013 - The Reds


90

The Reds - September 2013


91

September 2013 - The Reds


92

Liverpool นั้นเริ่มต้นซัมเมอร์นี้อย่างว่องไวใน ตลาดซื้อขายนักเตะ โดยได้ตัวนักเตะเข้ามาแล้ว ไม่ว่า จะ Rickie Lambert, Adam Lallana, Emre Can หรือ Lazar Markovic ภารกิจเสริมเพิ่มทางเลือกในเกมรุก ไม่ว่าจะ กองกลางหรือกองหน้า ท�ำให้เราได้เห็น ณ ตอนนี้แล้ว ว่า Brendan Rodger ได้ลงทุนตรงนี้ไปแล้วกว่า 60 ล้านปอนด์ แล้วยิ่งขาย Luis Suarez ให้กับ Barcelona ยิ่งท�ำให้ตอนนี้มีเงินเข้ามาเพิ่มเติมอีกก้อนใหญ่ ตรงนี้ หลายๆ ฝ่ายต่างจดๆ จ้องๆดูว่า Brendan Rodger จะเอาอย่างไรต่อเพื่อลุยฤดูกาลใหม่ ไม่ว่าจะรายกาย ในประเทศหรือเวที Champion’s League ------------------------------กระนั้นเมื่อ Liverpool ประเดิมเกมอุ่นเครื่อง นัดแรกของ pre-season กับทีมอย่าง Brondby นักเตะใหม่ทั้งสี่ต่างไม่ได้ลงสนามเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเกมดังกล่าวแพ้ไป 2-1 แต่แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยความ พ่ายแพ้ ก็มีสัญญานดีๆ ที่ได้เห็นกันจากเด็กที่ชื่อว่า Jordan Ibe โชว์ฟอร์มให้เห็นว่าเขานั้นต้องการที่จะ เป็นส่วนส�ำคัญของแผนการท�ำทีมของ Rodgers ใน ฤดูกาลนี้ มันเป็นเพียงแค่ชั่วเวลาสองนาทีหลังจากที่เริ่ม เกมในครึ่งหลังที่ Ibe สร้างไฮไลท์ให้ตัวเองด้วยการ กระชากบอลแบบโซโล่พาเพลิน แสดงให้เห็นถึงความ เร็วที่จัดจ้านเข้าสู่เขตโทษของทาง Brondby เพื่อสร้าง โอกาสให้กับ Kristoffer Peterson ได้จบสกอร์ได้ แบบง่ายๆ ดาวรุ่งวัย 19 ปีรายนี้ ได้ถูกส่งตัวลงสนามเอา ตอนครึ่งหลังเหมือนเป็นการเพิ่มเติมความเร็วของเกม ให้กับ Liverpool ให้มากขึ้นในแง่ของเกมรุก ซึ่ง Ibe มีเต็มเปี่ยมทางด้านกราบซ้าย และสร้างปัญหาให้กับ ทีมเจ้าถิ่นพอควร Ibe นั้นมีศักยภาพเพียงพอที่จะได้รับโอกาสใน ฤดูกาลนี้ มากกว่าแค่เป็นตัวประกอบอดทนต่อไป ความ แกร่งและความเร็วของเขาเวลาที่ไปกับบอลในเกมดัง กล่าว แสดงให้เห็นถึงความสามารถ คุณภาพ ความมุ่ง มั่นและปรารถนาที่เขามีเต็มเปี่ยมที่จะเข้าไปท้าทาย The Reds - September 2013


93

September 2013 - The Reds


94

The Reds - September 2013


95

กับคู่แข่ง ซึ่งเกมที่คู่แข่งต้องการที่จะอุด Liverpool นักเตะแบบนีน้ า่ ทีจ่ ะสร้างความแตกต่างได้... Rodgers ได้ออกมาเปิดใจในนัดที่เจอกับ Chelsea ช่วงท้าย ฤดูกาลว่า มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ เล่นกับทีมที่มีกลยุทธเดียวคือ “อุด” เต็มอันตราศึก ยืนกันเต็มเขตโทษ.. Ibe ก็แค่นักเตะประเภทที่มีความ แกร่งและมีทักษะที่จะเป็นกุญแจที่จะปลดล็อคทีมคู่ แข่งที่มาเพื่อปิดประตูเฝ้าบ้านอย่างที่เราเห็นบ่อยๆ ที่ Anfield เพราะรู้ดีว่าการเล่นในบ้านนั้น Liverpool มักจะรุกเต็มที่เพื่อยิงประตูให้ได้ ------------------------------องค์ประกอบส�ำคัญที่เป็นเหตุผลว่า ท�ำไม Ibe จะก้าวขึ้นมาเป็นก�ำลังส�ำคัญของทีมได้ ก็คือ ไร้ความหวาดหวั่น ค�ำว่ากลัวนะหรือ? Ibeไม่รวู้ า่ ค�ำนัน้ สะกดอย่างไร หรอก นี่คือเด็กที่โหยหาการต่อสู้ตั้งแต่อายุ 15 แล้วมัน เริ่มต้นตอนที่เขาก้าวมาลงสนามในฐานะตัวส�ำรองให้ กับ Wycombe ในช่วงต่อเวลาพิเศษในเกม League Cup ที่เจอกับ Colchester การลงสนามครั้งนั้น สร้างสถิติให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลง สนามในนามทีมชุดใหญ่ของสโมสร และ Liverpool ก็เซ็นคว้าตัวเขามาในวัย 16 ปี ตอนเขาอยุ 17 เขาได้ลงประเดิมนัดแรกที่ Anfield แต่มันไม่มีผลต่อฟอร์มการเล่นของเขาเลย เขา โดดเด่นมากๆ มีความเร็วที่สามารถท�ำร้ายแบ็คของลูก ทีมปู่ Harry Redknapp ไม่กลัวที่จะกระชากเข้าใส่ เพื่อหาช่องว่างให้ทีมได้เปรียบ ความสามารถในการเล่นเกมรัรบของเขาก็ดีไม่ แพ้กัน เขาวิ่งมาช่วยซัพพอร์ต Jose Enrique ที่ยืน แบ็คซ้าย และผลที่ตามมาก็คือแย่งชิงการครอบครอง บอลกลับมาได้ เด็ ก คนนี้ ข าไม่ สั่ น เพื่ อ เจอกั บ บรรยากาศแห่ ง ความกดดัน เขาไม่กลัวในการที่จะสวมใส่เสื้อสีแดงลง สนาม แค่ใจตรงนี้กถ็ อื ว่าเหนือกว่าเด็กรุ่นเดียวกันเยอะ แล้ว September 2013 - The Reds


96

ความยืดหยุ่น Ibe เป็นนักเตะที่ถนัดเท้าขวา แต่เล่นทางกราบ ซ้าย ชอบที่จะตัดเข้าในเพื่อเปิดทางให้กับช่องว่างอื่นๆ ในแนวรุก ทัง้ นีท้ งั้ นัน้ ยังสามารถตัดเข้ามายิงได้เองด้วย แต่ เ ด็ ก คนนี้ เ องก็ ส ามารถเล่ น ทางกราบขวา ได้เช่นกัน รวมไปถึงเล่นตรงกลาง ก็อย่างที่แฟนบอล Liverpool ต่างรู้กันดี ว่า Rodgers ชอบให้นักเตะ ของเขามีความยืดหยุ่นทางแท็คติกและให้อิสรภาพใน การประกาศศักดา Ibe มีศักยภาพในการเล่นหลายบทบาทในเกม รุกได้ และเป็นที่ฝากผีฝากไข้ได้ในการลงมาช่วยแบ็ค แถมสามารถพลิกกลับมาเป็นเกมรุกได้ทันทีอย่างมี ประสิทธิภาพ เขานั้นอาจจะถูกใช้แบบเดียวกับ Raheem Sterling ที่เริ่มต้นเส้นทางของตนในทีมชุดใหญ่ด้วย การเป็นปีกมันตรงๆ ก่อนที่ Rodgers จะจับโยกมา เล่นหน้าต�่ำ ซึ่งความเร็วและทักษะของเขาสร้างปัญหา ให้กับกองหลังคู่แข่ง ทักษะของ Ibe จะช่วยให้เขาสร้างปรากฎการณ์ ในแบบเดียวกันได้ ------------------------------ความเป็นผู้ ใหญ่ แม้ว่าเขาจะอายุน้อยแต่ดูเหมือนว่าความคิดเขา จะเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกันเยอะ เขาไม่ใช่เด็กที่อยากจะโชว์สเต็ปเทพเพื่อให้โดด เด่น เพื่อให้ติ่งมากรี๊ด การได้เห็นเขาเล่นจะรู้เลยว่าเขา เงยหน้ามองคนอื่นเสมอเพื่อที่จะจ่ายบอลไปให้แล้ววิ่ง ไปสู่ที่ว่างเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับเพื่อนร่วมทีม เขารู้ว่า เพื่อนร่วมทีมนั้นอยู่ตรงไหนบ้าง ไม่ได้มองแค่ลูกบอล อย่างเดียว เขาได้บอลยาวในเกมที่เจอกับ QPR, และเขารู้ ว่าช่องว่างตรงนั้นไม่เพียงพอที่เขาจะฉกฉวยโอกาสท�ำ ประตูได้ เขาจึงโขกบอลต่อให้กับ Jordan Henderson ได้ยิง หลายต่อหลายครั้งที่เราได้เห็นเขาเข้ามา ในเขต 6 หลาแล้วแต่ก็เงยหน้ามองเพื่อนก่อนว่ายังไง อย่างเช่นในเกมที่เจอกับ QPR กองหลังรุมเขาอยู่ เขา จึงเปิดให้ Coutinho ที่ว่างกว่าและ Liverpool ก็ The Reds - September 2013


97

September 2013 - The Reds


98

The Reds - September 2013


99

ออกน�ำ เขาไม่ใช่เด็กทีเ่ ห็นแก่ตวั ทีส่ นใจแต่เกียรติยศส่วน ตัว เขาคือคนที่สามารถลุกขึ้นลุยศึกท่ามกลางสงคราม ที่เข้มข้นได้ ------------------------------ความไว้เนื้อเชื่อใจ Ibe นั้นโชคดีที่เขาได้มาอยู่กับ Liverpool ยุคที่ พร้อมจะโอบกอดดาวรุ่งที่มีศักยภาพเสมอ เขานั้นมี เพือ่ นดีๆ ที่ Anfield, Ibe จะได้รบั การยอมรับจากเพือ่ น ร่วมทีมและแต่ละคนก็พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลือ เขา ช่วยให้เขามีอิสรภาพในการปล่อยให้พรสวรรค์ของ เขาลงไปประจักษ์ในสนาม เขานั้นถูกล้อมรอบด้วยนักเตะมีฝีเท้าดีมากมาย และด้วยความสามารถโดยธรรมชาติของเขาแล้ว เขา จะได้รับโอกาสให้เจริญรุ่งเรืองได้ ไม่มีความเห็นแก่ตัวที่ Anfield, นักเตะอย่าง Coutinho, Sterling, Daniel Sturridge, Steven Gerrard, Adam Lallana และ Lazar Markovic ดูเป็นนักเตะที่พร้อมที่จะ assist ให้อีกคนได้ท�ำประตู เสมอ เพราะงั้นเราคงจะได้เห็น Ibe ได้บอลเยอะแน่ๆ ------------------------------Brendan Rodgers หากว่า Ibe ต้องการแค่เหตุผลเดียวที่จะเชื่อว่า เขาจะสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ Liverpool ได้ เขาก็แค่เดินไปเคาะประตูห้องท�ำงานของผู้จัดการทีม ของเขาเท่านั้น Rodgers นั้นชัดเจนว่าเป็นชายที่มีศรัทธาให้กับ ดาวรุ่ง ถาม Jon Flanagan, หรือ Sterling, หรือ Andre Wisdom, Martin Kelly, Suso และ Joao Tei xieira ดูสิ ดาวรุ่งทั้งหมดจากทีมส�ำรองได้ถูกโปรโมท ให้ขึ้นทีมชุด Seniors นักเตะทุกคนต่างได้รับความ ศรัทธาจาก Rodgers และนักเตะเหล่านี้ก็ตอบแทน ด้วยการโชว์ฟอร์มให้กับหงส์แดง วันเวลาที่ดาวรุ่ง Liverpool มาดับแดดิ้นเอา ตอนที่อายุ 21 หรือ 22 ในทีมชุดส�ำรอง มันผ่านไป September 2013 - The Reds


100

แล้ว

Rodgers ให้โอกาสนักเตะ และเขาก็ไม่หมด หวังในพวกเขาง่ายๆ แม้ว่าจะโชว์ฟอร์มไม่ดีสองหรือ สามเกม เขาให้เวลากับนักเตะเหล่านี้ที่จะเติมโตและมี ความมั่นใจในการเล่นในทีมชุดใหญมากขึ้น Ibe นั้นบอกตรงๆ เลยว่า เล่นเกินอายุมากๆ คือแบกน�้ำหนักเล่นกับรุ่นที่โตกว่า ในแบบเดียวกับที่ Raheem Sterling เคยท�ำมาแล้วตลอดสองฤดูกาล ที่ผ่านมา และตอนนี้คนหลังนี่ก็สามารถสร้างเครดิตให้ กับตัวเองจนเป็นตัวจริงแบบถาวรไปแล้ว ------------------------------นี่คือ pre-season tour ครั้งที่สามของ Ibe กับหงส์แดงนับตั้งแต่เข้าร่วม the Academy หลัง จากย้ายออกจาก Wycombe Wanderers เมื่อปี 2011 การขยายผลที่จะน�ำพาให้ตัวเขาเข้าไปอยู่ใน แผนการของ Brendan Rodger ฤดูกาลนี้เป็นอะไรที่ น่าสนใจมากๆ จากความสามารถที่สามารถเล่นได้ทั้ง หน้าและปีกแบบนี้. Ibe นั้นแน่นอนที่สุดมีความทะเยอทะยานที่จะ มีบทบาทที่ส�ำคัญกับทีม และมองข้ามช๊อตไปที่การที่ จะขอแย่งชิงต�ำแหน่งกับSterling,Sturridge,Coutinho และ Markovic ไปแล้ว เราคงมองได้ว่า ทางเลือกต่างๆ เปิดกว้างเหลือ เกิน ที่ส�ำคัญ Rodgers ยังมีเวลาพอส�ำหรับการ ตัดสินใจที่จะเลิแกใช้ใคร และระบบไหนในแง่ของ แนวรุกและแผงกองกลาง และยิ่งมีเวที Champions League เพิ่มเข้ามาในค�่ำคืนที่ Anfield แบบนี้ด้วย ยิ่งท�ำให้ดาวรุ่งอย่าง Ibe อาจผลิดอกออกผลได้อย่าง เต็มที่ ------------------------------ยังมีข้อสงสัยว่า Rodger จะเสริมทีมอย่างไร ต่อไป ในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ เพื่ออุดรอยช่องว่างที่ Suarez ทิ้งไว้ Ibe นั้นแน่นอนที่คงไม่ใช่คนๆ นั้นที่ จะมาอุดรอยของ Suarez แต่การมีเขาเป็นแบ็คอัพ ไว้เผื่อทางเลือกใหม่ๆ ก็ไม่เลวอยู่นะ ------------------------------The Reds - September 2013


101

September 2013 - The Reds


102

ผ่านพ้นกันไปอีกหนึ่งวาระ ถึงจะขลุกขลักกันบ้าง แต่โดยภาพ รวมของเล่มนี้คงต้องถือว่า อุดมไปด้วยข้อเขียนคุณภาพ ไม่น้อยกว่า เล่มอื่นๆ ที่ผ่านมา ความน่าสนใจตอนนี้น่าจะอยู่ที่นักเตะใหม่ กับ เหล่าเยาวชนเปี่ยม อนาคต จะท�ำได้ดีและเป็นที่ต้องตามากน้อยขนาดไหน ขณะที่บรรดา นักเตะเก่าที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยู่ในแผนจะแสดงฝีเท้าให้ประจักษ์ได้ หรือเปล่า ? ในช่วงพรีซีซั่น นี้ ถือเป็นช่วงที่น่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะ หลายๆ ต�ำแหน่งเริ่มทับซ้อนกันมากขึ้น ใครจะหลุดโผ ใครจะต้องจาก ลาเป็นรายต่อไป และ ใครจะก้าวเข้ามาเสริมทดแทน ดูเหมือนโปรแกรมดูจะเป็นใจส�ำหรับขาฮาร์ดคอร์ เพราะห้านัด แรก ก็ดูท่าจะสนุกกันซะแล้ว หลังตารางการแข่งขันระบุให้เราชนสอง ทีมใหญ่ก่อน ตั้งแต่หัววัน แม้จะเปิดตัวนัดแรกกับทีมแพแตกแบบ เซา ท์แทมป์ตัน จะดูไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่นัก แต่การเจอ เรือใบสีฟ้า แมน เชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดสอง กับการเจอ สเปอร์ ในนัดสาม โดยผู้จัดการใหม่ ที่ฝากฝีไม้ลายมือไว้ให้เราได้เห็นในปีที่ผ่านมา สองนัดนี้คงไม่ธรรมดาแน่ ส่วนแดงเดือดปีนี้เหมือนเปิดโอกาสให้ผู้จัดการใหม่ของ ปิศาจแดง ตั้ง ตัวกันก่อน เพราะกว่าจะได้เจอกันก็เกือบจะ บ๊อกซ์ซิ่งเดย์ ส่วนเล่มหน้านั้นนอกจากจะเป็นการต้อนรับฤดูกาลใหม่อย่างเป็น ทางการแล้ว โดยรูปเล่มเองน่าจะโดนปรับเปลี่ยนกันอยู่บ้างพอสมควร ขณะเดียวกันถือเป็นเล่มครบรอบหนึ่งปีอย่างเป็นทางการของเรา เหล่า คนท�ำงาน The Reds Magazine ส่วนจะมีอะไรแปลกตา ฉบับหน้า ว่ากัน การิน ธนะอมรทัต บรรณาธิการ

The Reds - September 2013


103

หากคุณพลาด ติดตามลิ้งค์ทุกฉบับ ได้ที่

September 2013 - The Reds


104

The Reds - September 2013


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.