The reds magazine 10

Page 1

1

September 2013 - The Reds


2

The Reds - September 2013


3

จบกันไปแล้ว ส�ำหรับฤดูกาลที่น่าประทับใจ ขณะที่ The Reds Magazine ก็ยังยืน อยู่ได้ จนกระทั่งถึงเล่มนี้ เล่ม 10 ที่อาจแปลกตาว่า ท�ำไม กลับกลายเป็นรูป สาวกหงส์แดง ขึ้นหน้าปก แทนที่จะเป็นภาพนักเตะ หรือ ภาพผู้จัดการทีม อาจเป็นเพราะเล่มนี้เราเมามัน กับการเฉลิมฉลองการเป็นรองแชมป์ได้อย่างภาคภูมิ มันเป็นก้าวเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะใกล้เคียง บวกกับบรรยากาศการเชียร์นัดสุดท้ายที่หลายคนยังตราตรึง การเป็นรองแชมป์ ที่ล่าตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 101 ลูก ใครบอกว่า มันธรรมดา ? การเป็น รองแชมป์ ที่ ศูนย์หน้าคนเก่งอย่าง หลุยส์ ซัวเรส คว้ารางวัลส่วนบุคคลมากมายทั้งในเกาะ อังกฤษและในฐานะนักเตะยุโรป ใครว่า ไม่น่าสนใจ ? สถิติมากมาย ความทรงจ�ำหลากหลาย และ รอยยิ้มเปื้อนหน้าของเหล่า เดอะ คอป ยังไม่จางหาย มันน่าจดจ�ำเอาเรื่องทีเดียว The Reds Magazine Extra ฉบับ 10.5 คงได้รวบรวมเรื่องราวและสถิติมากมาย เหล่านั้นเอาไว้ แต่ทั้งหมดยังคงรอดูความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ว่า จะออกมาแบบไหน รูปแบบยังไง แต่ในส่วนของเล่มปกติ เรายังคงเดินหน้าต่อไป ใกล้ครบรอบปี ดูเหมือนเรื่อง ราวที่ต้องกระท�ำ ยังคงนอนรออยู่อย่างสงบนิ่ง บางเรื่องได้รเิ่มต้นไปแล้วเล็กๆ อย่างเรื่องการ ออกแบบเสื้อมาจ�ำหน่าย โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะน�ำไปท�ำบุญ นั้น ถึงตอนนี้ก็อวดโฉมกันมาแล้ว และยังมีอีกหลายเรื่องที่หลายคนยังอยากท�ำ ก็แค่หวังว่าเมื่อไหร่เรื่องราวดีดีเกิดขึ้น จะได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้อ่านทุกท่าน โดยทั่วกัน การิน ธนะอมรทัต บรรณาธิการ

September 2013 - The Reds


4

The Reds - September 2013


5

September 2013 - The Reds


6

T his is Anfield

The Reds - September 2013


7

September 2013 - The Reds


8

The Reds - September 2013


9

จากรายงานข่าวทีเ่ ข้ามาเกีย่ วกับ Adam Lallana ว่าจะมีลุ้นย้ายมาอยู่กับ Liverpool, เรามาวิเคราะห์ กันว่ากองกลางรายนี้จะเหมาะสมกับสโมสรหงส์แดง หรือไม่ หากว่านี่คือการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องแล้วของ Brendan Rodgers เป็นเวลามาสามสัปดาห์แล้วดาวเตะ Southampton และทีมชาติอังกฤษรายนี้เป็นข่าวกับ Liverpool ครับเป็นรายงานที่มาจากสื่อหลายส�ำนัก และแน่นอน ที่สุดเป็นรายงานข่าวที่ออกมาจากหนังสือพิมพ์ชื่อดัง อย่าง The Telegraph, The Telegraph ได้รายงานข่าวว่า “Liverpool นัน้ เป็นทีค่ าดหมายว่าเตรียมทีจ่ ะลงทุนดึงนักเตะใหม่ เข้ามาประมาณ 5 คน เพื่อเตรียมทีมส�ำหรับลุยศึก ChampionsLeagueในฤดูกาลใหม่”-หนึง่ ในนัน้ ก็คอื ดาวเตะวัย 25 ปี นาย Lallana รายนี้ โดยเล็งผลเลิศ ไปที่ดาวเตะรายนี้สามารถรับบทบาทตรง “ช่องว่าง” ด้านหลัง Luis Suárez และ Daniel Sturridge. หลังจากเล่นได้อย่างน่าประทับใจอย่างมากใน ฤดูกาลนี้บนเวที Premier League - แถมมีชื่อไปอยู่ใน PFA Team of the Season เมื่อสัปดาห์ก่อน - คุณค่า ของ Lallana พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด และราคาของ เขาน่าที่จะอยู่ระหว่าง 15 ล้านถึง 25 ล้านปอนด์ หาก Brendan Rodgers สามารถคว้าตัวกองกลาง สารพัดประโยชน์รายนี้ ด้วยราคาที่เหมาะสม งานนี้ Lallana น่าที่จะสนใจข้อเสนอที่จะได้ย้ายไปอยู่กับ Liverpool โดยเฉพาะกับแนวการเล่นแบบกองกลาง รูปทรง Dynamic จุดแข็ง จุดแข็งของ Lallana ก็คือการเล่นเกมรุก ทักษะ การกระชากลากเลื้อย มีสมองเป็นเลิศ ที่ส�ำคัญก็คือ เขา มีศักยภาพในการเป็น Playmaker เขาเล่นฟุตบอลได้ดที งั้ สองเท้า มีจงั หวะการเคลือ่ น ไหวที่หลากหลายจับทางได้ยาก Lallana มีความ สามารถในการลากหลบแนวรับ และตามสถิติของทาง Squawka ดาวเตะวัย 25 ปีรายนี้กระชากบอลหลบคู่ แข่งถึง 69 ครั้ง และประสบความส�ำเร็จถึง 56 % เรียก ฟาวล์ได้ถึง 74 September 2013 - The Reds


10

เมื่อน�ำไปเปรียบเทียบกับ Coutinho ท�ำได้ 58 (57% ส�ำเร็จ) และ Sterling 83 (62% ส�ำเร็จ), ดังนั้น Lallana ก็ถือว่าใช้ได้เลย กับการเล่นให้กบั SouthamptonในฐานะPlaymaker ตัวหลักของทีม, Lallana นั้นมีสายตามุ่งมั่น ที่จะสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมอย่างมาก ฤดูกาล นี้ Lallana ได้สร้างโอกาสให้กับทีมถึง 65 ครั้ง เรียก ได้ว่ามากกว่า Phillipe Coutinho เสียอีก; ในฐานะ หาช่องท�ำประตูเองนั้น ดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ก็ ถือว่าไม่เลว เพราะยิงไปแล้ว 9 ประตูในเวที Premier League ฤดูกาลนี้ เขาไม่เพียงแค่เล่นเกมรุกอย่างเดียว และมาอ่อน เกมรับเหมือนนักเตะคนอื่นๆ Lallana มีประสิทธิภาพ อย่างสูงมากๆ ในการเล่นเกมรับ ซึ่งตรงนี้เหมาะสมกับ ปรัชญาการท�ำทีมของ Rodgers ที่ชอบให้กองกลาง เล่นเพรสซิ่งแบบไร้ความเหนื่อยและเต็มไปด้วยพลัง ฤดูกาลนี้ Lallana ตัดบอลได้ถึง 37 ครั้ง ซึ่งมากกว่ากอง กลางแนวรุกของ Liverpool ทุกๆ คน กล่าวคือเหนือ กว่า - Jordan Henderson, Raheem Sterling, PhillipeCoutinho และ Joe Allen จุดอ่อน โดยรวมแล้ว Lallana ถือได้ว่าเป็นนักเตะที่เล่น ได้หลากหลายมากๆ สารพัดประโยชน์ ซึ่งท�ำให้มอง หาข้อผิดพลาดในการเล่นของเขายากหน่อย แต่ก็อย่าง ว่าครับ ไม่มีนักเตะคนใดที่สมบูรณ์แบบ ข้อแรกเลย Lallana เป็นนักเตะที่ชอบลากเลื้อย หลบคู่แข่งมากๆ ความมุ่งมั่นของเขา และการตัดสินใจ ของเขามักจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะจากสถิติ หลากหลายส�ำนัก เราได้เห็นว่าเขานั้นสูญเสียการครอง บอลไปถึง 2.4 ครั้งต่อเกม เมื่อน�ำไปเปรียบเทียบกับ Coutinho (1.4), Sterling (1.9) และ Allen (1.1) ตรงนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงพอควร นอกเหนือจากนั้น ถึงแม้ว่าเขานั้นจะมีความมุ่ง มั่นที่จะสร้างสรรค์เกม สร้างสรรค์โอกาสท�ำประตูให้ ทีม แต่ Lallana ท�ำได้แค่ 6 assists เองในฤดูกาลนี้ แต่หากเขาได้อยู่ในทีมที่เกมรุกไหลลื่นของ Rodgers สถิติตรงนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นได้ The Reds - September 2013


11

September 2013 - The Reds


12

The Reds - September 2013


13

สไตล์การเล่น เพื่อสรุปสไตล์การเล่นที่ Lallana จะน�ำมาให้ กับทีมของ Rodgers นั้น ก็คือความน่าตื่นตาตื่นใจใน การเล่นเกมรุก และสามารถวิง่ ขึน้ ลงได้แบบไม่รจู้ กั เหน็ด เหนื่อย พูดง่ายๆ ว่าเติมพลังให้กับแดนกลาง โดยเฉพาะ ในบทบาท Playmaker ที่อาจจะดู Traditional ได้ ด้วย ศักยภาพและความมั่นใจของเขากับการพาบอล ไปกับเท้า วิ่งเข้าหาคู่แข่งท�ำให้เพิ่มความร้ายกาจให้ กับแนวรุกของ Liverpool ให้ Direct มากขึ้น ไม่ แพ้ Coutinho และ Sterling ; แล้วก็อย่างที่บอกกัน ก่อนหน้านี้ เขานั้นสามารถเล่นเกมรับได้ดีเสียด้วย ที่ ส�ำคัญเขามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเกมรับด้วย ไม่ใช่เอา แต่บกุ อย่างเดียว พอโดนตัดบอลแล้วเดินเล่นอะไรแบบ นั้น ซึ่งตรงนี้น่าจะตรงใจ Rodgers นอกเหนือจากนัน้ , Lallana เป็นนักเตะทีม่ รี ะเบียบ วินัยอย่างสูงในการเล่นบอล - จนท�ำให้เขากลายเป็น กัปตันของ Southampton - และการตัดสินใจของเขา ก็ไม่ค่อยจะมีข้อผิดพลาดซักเท่าไหร่ เขาเป็นคนที่เล่น ได้นิ่งและใจเย็น โดยเฉพาะกับการเล่นบอลสั้น เขาเหมาะ Liverpool แค่ไหน ? จุดแข็งทั้งหมดของเขา ก็คือเขาเป็นนักเตะที่ ค่อนข้างจะสารพัดประโยชน์ ในฤดูกาลภายใต้การท�ำ ทีมของ Mauricio Pochettino นี้ เขาถูกโยกไปเล่น หลากหลายบทบาท - 12 ครั้งทางปีกขวาและซ้าย, และ 10 ครั้งในบทบาทผู้เล่นหมายเลข 10 ซึ่งตรงนี้เหมาอย่างมากกับสไตล์ของ Rodgers ที่นิยมการเล่นเกมรุกอย่างไหลลื่น นั่นหมายความว่า Lallana จะเข้ากับระบบกองกลางรูปทรง Diamond และระบบ 4-3-3 ที่ใช้กันในฤดูกาลนี้ เมื่อรวมกันกับ Sterling, Coutinho, Henderson, Allen และ Suso ที่ก�ำลังจะกลับมา, Lallana จะเป็นตัวเลือกในเกมรุกอีกคนที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ Rodgers ซึ่งแน่นอนฤดูกาลใหม่นี้ต้องมีการ Rotate ที ม เพื่ อ การพร้ อ มส� ำ หรั บ เกมการแข่ ง ขั น ที่ ม ากชึ้ น อย่างเวที UCL ซึ่ง Liverpool โหยหา ----------------------------September 2013 - The Reds


14

The Reds - September 2013


15

September 2013 - The Reds


16

C over Story

The Reds - September 2013


17

September 2013 - The Reds


18

แม้ว่าฤดูกาลนี้จะจบลงโดยไร้แชมป์ ไร้ถ้วย แต่ เชื่อมั่นว่าไม่ไร้ความสุข เป็นฤดูกาลที่สาวกหงส์แดง ทุกคนมีแต่ความสุขอย่างแน่นอน โดยเฉพาะทั้งก่อน และหลังแมตช์สุดท้าย เปี๊ยกได้มีโอกาสไปออกช่อง ไทยรัฐทีวี ปะทะแฟนคลับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องบอก เลยว่าสาวกลิเวอร์พูล 11 คนที่ไปออกรายการทุกคน ไปออกด้วยใจ จัดเครื่องประดับ ธง ของเล่นต่างๆ ที่ เป็นลิเวอร์พูลไปแสดงพลัง อย่างเต็มที่ หมวก ผ้า พันคอ พร้อมกันทุกคน ..................................................... ก่อนที่พวกเราจะได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ ก็อัน เนื่ อ งมาจากทางสต๊าฟฟ์ผู้ดูแ ลทั้ง เพจและเว็บ บอร์ดของ Liverpool Thailand Fanclub (LTF) ก�ำลังร้อนรนใจในการหาผู้ไปออกรายการถ่ายทอดสด อย่างกะทันหัน แน่นอน เปี๊ยกไม่ลังเลที่จะเป็นส่วนร่วม ในการช่วยเหลือและไปแสดงพลังความเป็นลิเวอร์พูล ในครั้งนี้แน่นอน จากนั้น เปี๊ยก ก็คอยหาและชักชวน พี่ๆ และเพื่อนๆ ที่คอยออกท�ำกิจกรรม ออกงานเพื่อ เป็นตัวแทน ลิเวอร์พูล มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยกัน บางคนก็ว่างบางคนก็ไม่ว่าง แต่สุดท้ายเราก็หาสมาชิก ที่จะไปร่วมท�ำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ได้ 11 คน เท่าจ�ำนวน นักเตะพอดี ..................................................... พวกเราเดินทางไปถึง ไทยรัฐ รวมตัวครบตั้งแต่ 9 โมงครึ่ง ยัง งงๆ แบบว่าไม่มีใครมาต้อนรับ นั่งรอกัน ไม่รู้เรื่องเป็นม๊อบโดนทิ้งเพราะว่ายังไม่มีใครรู้ว่าเราไป กันผิดที่ ทุกคนยังไม่ได้ใส่เสื้อแดง แต่เอาไปเปลี่ยนกัน ตามสถานการณ์บ้านเมือง จนมาถึงช่วงประมาณ 10 โมง เราเพิ่งจะมารู้ว่าที่ที่เรานั่งถ่ายรูปหมู่ นั่งรอมันเป็น ส�ำนักพิมพ์ซะงั้น 5555 .... แน่นอนสุดท้ายก็ต้องยกพล เคลื่อนขบวนไป ไทยรัฐทีวี ตึกส�ำนักงาน ตามระเบียบ และแล้วพวกเราก็ถงึ สตูดโิ อโดยสวัสดิภาพ เข้าไปพนักงาน ทุกคนต้อนรับดีมาก เรารีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ เข้าไปก็ เจอ แฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แฟนทีมที่เราก�ำลังต้อง ปะทะฝีปากด้วยก�ำลังนั่งรอพร้อมส่งสายตามองพวก เราสื่ออารมณ์ว่า มาช้าจุงเบย.... ทุกคนรีบเข้าห้องน�้ำ จัดแจงเปลี่ยนเสื้อ ออกมาส�ำรวจเสื้อผ้าหน้าผมก่อน ออกรายการถ่ายทอดสด The Reds - September 2013


19

September 2013 - The Reds


20

The Reds - September 2013


21

บอกตามตรงเลยว่า ความรูส้ กึ ไม่คอ่ ยตืน่ เต้นเพราะ เหมือนเป็นอะไรที่เราท�ำจนชินและคุ้นเคยอยู่แล้ว คือ พูดออกไปจากใจ แสดงความเป็น ลิเวอร์พูลแบบตัวตน ของเราเลยไม่มีเกร็ง ตอนออกจากห้องน�้ำทุกคนแดง เถือกกันหมด เสื้อผ้า เครื่องประดับ หมวก ผ้าพันคอ แว่นตา ธงสัญลักษณ์ พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทุก คนเต็มที่กับชีวิตมาก แบบว่าอย่างกับ ม๊อบกู้แอนฟิลด์ แบบนั้นแหละ ... ออกมาจากห้องน�้ำแฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกับตกตะลึง ต�ำลึงสุดๆ แอบได้ยินเสียงแว่วๆ ..... “โอ้วววว น่ากลัวมาก” ไม่รู้ว่าที่น่ากลัวนี่คืออะไร หน้า ตาหรือการเตรียมความพร้อมของเรากันแน่นะ 5555 ถึงแม้เราจะมากันช้าเพราะไปรอผิดที่ แต่เวลาก่อน ถ่ายทอดสดก็เหลือเยอะมาก เลยได้ถ่ายรูปกันแบบ ความจุ memory จะเต็มก่อนไปงานรวมตัว รียูเนี่ยน หรือ Red Party Power กิจกรรมรวมพลสาวกหงส์ แดง ที่ ร้านพี่บูม ประธานชมรม Liverpool Thailand Fanclub (LTF) ร้านดงตาล ณ ร�ำเพย ที่ตั้งอยู่ ภายใน สนามกอล์ฟชลประทาน ปากเกร็ด นนทบุรี ซะ อีก ไม่มีการแจ้งสคริปหรือรายละเอียดว่าเราต้องตอบ ค�ำถามอะไรบ้างทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีการ ก�ำหนดกฏเกณฑ์อะไรมากมาย ทุกคนเลยสนุกสนาน ไม่ได้ตื่นเต้น พี่บ่าว สาวก ลิเวอร์พูล คนสุดท้ายที่เดิน ทางถึงช้าสุด เดินเข้ามาพร้อมแบนเนอร์ป้ายไวนิลแผ่น ใหญ่แสดงความเป็น The Kop พร้อมธงอีก 3-4 อัน แฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เห็นแล้วชอบใจมากเลยมาขอ ร่วมถ่ายรูปด้วย พนักงานที่นั่นรู้สึกมีความสุขไปกับ พวกเราด้วยแถมแอบแซว นี่กะฉลองแชมป์รึเปล่า ผู้ บริหารของไทยรัฐทีวี เป็น สาวกลิเวอร์พูล เหมือนกัน มาต้อนรับเราด้วย แกก็ตกใจที่เห็น แฟนหงส์ จัดเต็ม เลยประทับใจขอร่วมแชะภาพเป็นที่ระลึก ก่อนถ่าย รายการ ..................................................... แฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รู้สึกเป็นกันเองมาก่อน เข้ารายการ ถ่ายรูปเล่นจนถึงเวลาถ่ายถอดสด พี่ตั๋ง และ พี่บี ผู้อาวุโสและถือเป็น ตัวพ่อตัวแม่ ของ แฟน ลิเวอร์พูล ที่ไปในวันนั้นเป็นแกนน�ำในการพูด พี่ตั๋ง แก ก็มาดนิง่ แบบผูท้ รงความรูต้ อบได้ทกุ ค�ำถาม พีบ่ ี เจ้าแม่ หงส์แดง ก็นั่งท่าสง่า ส่วนที่เหลือก็เป็น Background September 2013 - The Reds


22

แฟนแมนเชลเตอร์ ซิตี้ ก็แสดงทัศนคติได้ดี ฝ่าย ลิเวอร์พูลก็ไม่แพ้กัน แต่ไม่มีการแขวะกัน พิธีกรก็ถาม แบบเป็นกันเอง พูดจาชัดถ้อยชัดค�ำไม่มีสะดุด เสียงดัง ฟังชัด ทุกอย่างสนุกสนานและแน่นอนเป็นอะไรที่น่า ประทับใจอีกหนึ่งงานเกี่ยวกับกิจกรรมของลิเวอร์พูล ที่ได้ร่วมท�ำ หลังจากจบรายการ พวกเราก็ถ่ายรูปเล่น ในสตูดิโอไทยรัฐอย่างสนุกสนาน ก่อนที่สตูดิโอแห่งนี้ ต้องใช้ถ่ายทอดสดรายการต่อไป นักข่าวก็มาถ่ายด้วย พนักงานก็มาร่วมด้วย แฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาขอ ถ่ายรูป เราก็ไปร่วมถ่ายกับ แฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย 5555 แบบว่านี่ราวกับงานรวมญาติ จนถึงเวลา บอกลา พี่สาว พนักงานไทยรัฐทีวี บอกว่าถ้าลิเวอร์พูล ได้แชมป์จะเชิญเรามาออกงานอีกในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราทุกคนเลยพร้อมใจกันบอกไปว่ายินดี แต่ไม่ได้ แชมป์ไม่มานะ โฮะๆ ..................................................... เมื่อเสร็จภารกิจบุก ไทยรัฐทีวี แล้ว พวกเราก็ รวมพลไปรับประทานอาหารกลางวันที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ก่อนที่จะเดินทางไปยัง ร้านดงตาล ณ ร�ำเพย บางคนก็เปลี่ยนเสื้อ พี่บางคนก็ยังใส่ชุดแสดงความเป็น ลิเวอร์พูล พวกเราเข้าไปในร้าน ทุกคนต่างมองพวกเรา เหมือนม๊อบจะมาบุกจี้ร้านอย่างนั้นแหละ ก็ยกมากัน เยอะแถมบางคนไม่ได้เปลี่ยนเสื้ออีก แน่นอนสิ... ท�ำไม จะไม่โดนมอง นัง่ ทานข้าวไปด้วย เมาท์มอยฝอยกระจาย กันสนุกปาก จนถึงเวลาอิ่มกันเต็มที่ จ่ายเงินเดินออก จากร้าน ไปเจอ Shop Manchester United มัว รีรออะไร แน่นอนพวกเราไม่รีรอ เดินตรงดิ่งเข้าไปที่ Shop พร้อมโพสต์ท่าทันที ต้องรีบสั่งให้พี่คนถ่ายกด แชะรูปเร็วๆ เนื่องจากทุกสายตาในห้างเริ่มจับจ้อง รู้สึก ได้ถึงพลังงานบางอย่างว่า ถ้าไม่หยุดโพสต์ท่าถ่ายรูป อาจจะโดนกระทืบกันได้ หลังจากนั้นพวกเราก็รีบเคลื่อนพลไปจองตั๋วที่ นั่งที่ ร้านดงตาล ณ ร�ำเพย ร้านของครอบครัวหงส์แดง ก่อนใคร ไปถึงยังไม่มีใครมา แต่สถานที่ถูกจัดเตรียม ไว้ให้พนี่ อ้ งเหล่าหงส์แดงทีจ่ ะมาร่วมใจเชียร์บอลในวันนี้ เรียบร้อย พวกเรามาถึงก่อนได้ถ่ายรูปเล่นกันกลุ่มแรก ในแกลลอรี่ ที่ พี่ บู ม จั ด ขึ้ น เพื่ อ งานปิ ด ฤดู ก าลนี้ โ ดย เฉพาะ พร้อม ถ้วยพรีเมียร์ลีกจ�ำลอง ที่ยืมชาวบ้าน The Reds - September 2013


23

September 2013 - The Reds


24

The Reds - September 2013


25

มาอีกครั้ง ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่ายืมมาทีไรมีอาถรรพ์ทุกครั้งไป ด้านนอก พอดีทีมงานลืมบันไดไว้ตรงป้ายไวนิล แผ่นใหญ่ที่เขียนว่า MAKE US DREAM พอดี พี่ชาติ สาวกลิเวอร์พูลที่มาพร้อมกับเครื่องประดับแบบจัด เต็ม แกก็คิดอยากขึ้นไปปักธงบนยอดขึ้นมา แกได้ปีน บันได้ขึ้นไปปักธงเหนือไวนิลป้ายแผ่นเบ้อเริ่มที่เขียน ว่า MAKE US DREAM เป็นนัยสื่อว่า “จะออกไปแตะ ขอบฟ้าาาาาา” สุดยอดจริงๆ เวลาเดินผ่านไปไว ผู้คน เริ่มเดินทางมาถึงร้าน พวกเราย้ายที่นั่งจากห้องแอร์สู่ บรรยากาศข้างนอกที่สามารถแหกปากได้เต็มที่ ข้างใน ก็ให้สปอนเซอร์และคนที่อยากทานข้าวนั่งกันเป็นห้อง แอร์ มีดนตรีสด แต่ข้างนอกก็ได้ยินเพราะล�ำโพงต่อ ออกมา งานนี้ ไทยรัฐทีวี ก็ตามมาเก็บภาพบรรยากาศ ด้วยมีการสัมภาษณ์พี่พี่ที่บนไว้ ก่อนเกม พร้อมน�ำกล่อง มาให้เราเปิดถ่ายทอดสดจากช่องไทยรัฐอีกด้วย สุดๆ ไปเลย ..................................................... ทุกคนแห่กันมา บางคนบ้านอยู่ไกลมาก บางคน อยู่ต่างจังหวัดก็มากัน เพราะจริงๆ แล้วแต่ละคนที่มา เรารู้จักแทบหมดใน Facebook แค่ยังไม่เคยเจอตัว จริงกัน งานนี้เลยเรียกได้ว่านอกจากจะเป็นงานรวมพล เชียร์บอลปิดฤดูกาลแล้วยังเป็น งานรียเู นีย่ นคืนสูเ่ หย้า ครั้งใหญ่ส�ำหรับเปี๊ยกบางใหญ่ และเป็นงานรียูเนี่ยน ส�ำหรับพี่พี่หลายคนๆ ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในเว็บบอร์ด LTF อีกด้วย .... พวกเราถ่ายรูปรอเวลาลิเวอร์พูลเตะ ในสนาม ทุกกล้องมีเกิน 100 รูปชัวร์ๆ ส�ำหรับงานใน วันนั้น ก่อนบอลเตะเราร้อง YNWA ตามคนในสนาม ชูผ้าพันคอและทุกคนที่ร้องได้ก็แหกปากร้องกัน วินาที ที่บอลเริ่มเตะทุกคนตั้งหน้าตั้งตาดู โดนน�ำก่อนอีกครั้ง ทุกคนเริ่มเงียบๆ แล้วก็แบบว่าเริ่มจะมีเสียงโอ๊ยยยยย สู้เค้าสิๆ สู้ๆ บางคนเครียดเงียบไม่มีเสียงเลย บางคนไม่ นั่งเลยนั่งไม่ลง หันไปมองรอบๆ รวมถึงข้างในคนโคตร เยอะเลย โต๊ะเก้าอี้แทบไม่พอ แต่หันไปทางไหนก็คน รู้จักแทบทั้งนั้น รู้สึกดีมีความสุข พักครึ่งเราโดนน�ำไปก่อน จากการท�ำเข้าประตู ตัวเอง ช่วงพักเราก็ไปเข้าห้องน�้ำ จากนั้นกลับมานั่งที่ ส่วนผลอีกคู่ไม่ต้องพูดถึง แมนซิตี้ ก็น�ำแล้ว ดังนั้นตอน นี้เราท�ำหน้าที่ของเราคือการเชียร์ให้ดีที่สุด และช่วย September 2013 - The Reds


26

The Reds - September 2013


27

September 2013 - The Reds


28

The Reds - September 2013


29

September 2013 - The Reds


30

The Reds - September 2013


31

September 2013 - The Reds


32

ลุ้นนัดสุดท้ายขอจบด้วยชัยชนะ กลับมาครึ่งหลังเราก็ ลุ้นประตูกันแบบว่านั่งแทบไม่ติด ทุกคนส่งเสียงเชียร์ และและประตูตีเสมอก็มาทุกคนเฮกันแบบว่าสุดๆ มี แกนน�ำส่งเสียง ลิเวอร์พูล สู้ๆ มีเสียง เอาอีกๆ เชียร์ กันมันมากหัวกระเซิง แบบว่า มันสุดขั้วจริงๆ จาก นั้นประตูขึ้นน�ำก็มาไม่ต้องบอกว่าบางคนนี่ดีใจสุดๆ เปี๊ยกกระโดดขึ้นเก้าอี้กับ พี่บี เลยทีเดียว เฮกันแบบ ว่า แชมป์โว้ยยย 5555 ..................................................... เกมจบลง ผลอีกคู่ก็จบลงด้วยชัยชนะ พวกเรา ก็ยินดีกับ แฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย แต่ทุกคนเกม จบลงก็ชนแก้วฉลองชัยของเราเอง ถ่ายรูปหมู่ ก่อน แยกย้าย ส่งเสียง ลิเวอร์พูลๆๆๆๆ กันแบบไม่อายใคร อย่างกับว่าวันนี้เราได้แชมป์แล้ว ทุกคนบ้ากล้องมาก บอลจบอารมณ์คา้ งยังคงถ่ายรูปทัง้ เซลฟี่ ทัง้ รูปหมู่ แสดง ความรู้สึกถึงและแล้วเราก็หากันจนเจอ เป็นอะไรที่สุด มัน เชียร์แบบครอบครัวจริงๆ หลายคนขนของมาแลก กันในงานนี้เพราะกว่าจะเจอกันตัวเป็นๆ คงไม่มีบ่อย ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันกลับแต่บางคนก็อยู่กินต่อ ถอด เสื้อเมาแอ๋อยู่ ร้านพี่บูม ต่อ ไม่อยากแฉเลยนะเนี่ย .... คนเริ่มจางกลับกันแต่แน่นอนความทรงจ�ำในวันนี้ตรา ตรึงใจทุกคนไม่มีวันลืม เปี๊ยกเชื่อแบบนั้น ..................................................... อีกแห่งหนึ่งที่หงส์เหนือ พี่ต่อ ประธานชมรม ลิเวอร์พูลสาขาภาคเหนือ หรือ หงส์อีสาน หงส์ทั่วไทย ทุกภาค ที่มีการจัดงานหรือดูอยู่กันที่บ้านก็คงไม่ต่าง กัน บรรยากาศก็คงจะเป็นเหมือนครอบครัวและความ สุขแบบที่พวกเราสัมผัสได้ในร้านวันนั้น ทุกคนคงมี ความสุขกับการได้ออกมาเชียร์ทีมรัก เพราะในวันนั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่ติดท�ำงาน หรือเด็กๆ ที่พ่อแม่ยังไม่ให้ ออกจากบ้าน ก็เดินทางออกมาเชียร์ ออกมารวมตัว ครั้งใหญ่ตามสถานที่ต่างๆ แทบทั้งสิ้น ..................................................... คงต้องขอกล่าวขอบคุณ พี่บูม สต๊าฟทุกคน ผู้มี ส่วนเกีย่ วข้อง ทีจ่ ดั งานนีข้ นึ้ มา Liverpool Thailand Fanclub หรือ LTF ถือได้วา่ เป็นบ้านหลังแรกของ เปีย๊ ก ตัง้ แต่เข้ามาเป็น สาวกลิเวอร์พลู จนวันนีก้ ย็ งั คงรักบ้าน หลั ง นี้ ไ ม่ เ ปลี่ ย นแปลงเพราะให้ ค วามรู ้ สึ ก เหมื อ น The Reds - September 2013


33

September 2013 - The Reds


34

The Reds - September 2013


35

ครอบครัว ตลอดเวลาที่ผ่านมา 8 ปี ตั้งแต่เริ่มรู้จักเว็บนี้ หงส์แดง มีกองเชียร์อยู่ทั่วประเทศแต่อย่างน้อยกลุ่ม LTF ที่ไป รียูเนี่ยน กัน ณ ดงตาลก็รู้จักกันแทบหมด ทุกคน มี 300 ก็รู้จักเกือบหมด บางคนในโลกโซเชี่ยล ไม่กล้าคุยกันก็มาเจอและทักทายกันในงานนี้ และคง ได้ความรู้สึกเดียวกันกลับไปแบบที่ เปี๊ยก รู้สึก ..................................................... ฤดูกาลที่แสนวิเเศษเดินทางมาอย่างยาวนาน ลิเวอร์พูลได้สร้างความประทับใจให้แฟนบอลทั่วโลก ตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่นจนแมตช์สุดท้าย ฤดูกาลแห่งรักที่ท�ำ ให้เราหลายๆ คนที่ไม่ได้พบเจอตัวเป็นๆ หรือเจอกัน หลายๆ งานแต่ไม่มีโอกาสได้คุยโคจรมาพบกัน วันนี้แม้ ทีมพวกเราได้รองแชมป์ แต่เหมือนได้แชมป์ ท�ำให้เราได้ ครอบครัว มิตรภาพ ความทรงจ�ำของการปิดฤดูกาล ที่ดีที่สุดกลับมา และจะจดจ�ำไปตลอดกาลไม่มีวันลืม เชื่อมั่นว่า The Kop ทั่วโลก ทั้งที่ แอนฟิลด์ และ ประเทศไทย ประเทศอื่นๆ สัมผัสความรู้สึกนี้ได้ ความ รู้สึกที่สัมผัสได้ด้วยใจ เข้าใจความหมายนักเตะคนที่ 12 และค�ำว่า You’ll never walk alone อย่างแท้จริง แน่นอนส่วนตัวเปี๊ยกเองและเชื่อมั่นว่า สาวก ลิเวอร์พลู อีกหลายคนยังคงปรบมือสนับสนุน ร็อดเจอร์ และนักเตะให้เดินหน้าสู้ต่อ มีก�ำลังใจในการพร้อมรบ ฤดูกาลหน้า เราเชียร์เพราะรักไม่ได้เชียร์เพราะแชมป์ เสียงร้อง You’ll never walk alone ยังดังก้อง กังวานที่ สนามแอนฟิลด์ และหัวใจของ The Kop ทั่ว โลก ก่อนนกหวีดสุดท้ายจะเป่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แสดงว่า เราเป็น สาวกลิเวอร์พูล เพียงแค่ลมปาก ไม่ได้หมาย ความแค่ว่าเราเชียร์บอลให้ได้แชมป์อย่างเดียว แต่ พวก เราคือ ครอบครัวใหญ่ ที่มีมิตรภาพอันทรงพลัง สื่อให้ ทั่วโลกได้รับรู้ว่า We are very proud to say we are a Liverpool supporter นี่แหละคือสิ่งที่ท�ำให้ สโมสรลิเวอร์พูล มีเสน่ห์และ แอนฟิลด์ ยังคงเต็มไป ด้วยมนต์ขลังตลอดกาล You’ll never walk alone. I’m very proud to say I’m a liverpool supporter. Love Liverpool Football Club เปี๊ยกบางใหญ่ September 2013 - The Reds


36

The Reds - September 2013


37

September 2013 - The Reds


38

ส�ำหรับอาถรรพ์ตามความเชือ่ ของคนไทยแล้ว ทีม่ กั เรียกว่า Thailand Only มันมีอยูจ่ ริงนะ ไม่เชือ่ อย่าลบหลู!่ !! สกูป๊ เล็กๆ ในฉบับนีข้ อกล่าวถึง พีบ่ มู ประธานชมรม Liverpool Thailand Fanclub (LTF) หน่อยแล้วกัน ได้ขา่ วว่า ถ้าแกท�ำแบบนีท้ ไี รเป็นอันได้เรือ่ งทุกที เพราะของมันแร๊งงงงงงง ..... แกท�ำอะไรไว้นะ หุหุ มันก็ไม่มอี ะไรมากแค่แกไปยืมถ้วยพรีเมียร์ชาวบ้านเค้ามา ถ้วยจ�ำลองของแฟนเชลซี แล้วเอาริบบิน้ สีฟา้ ของเค้าออก สัง่ ท�ำริบบิน้ สีแดงใหม่ของเราติดใส่ลงไปแทนเท่านัน้ เอง แล้วทุกครัง้ ทีแ่ กท�ำแบบนีป้ รากฏการณ์ แพ้ เงิบ วืด ก็จะบังเกิดทุกครัง้ ไม่เชือ่ อย่าลบหลูอ่ าถรรพ์นมี้ จี ริงๆ ทางสต๊าฟฟ์ตอ้ งขอร้องให้แกเอาถ้วยไปคืน สุดท้ายมันก็ยงั ตัง้ อยูจ่ นจบฤดูกาล ตัง้ แต่แพ้แมตช์ เชลซี ยัน นิวคาสเซิล แล้วเราก็วดื แชมป์ ความผิดแกเลยนะเนีย่ 555555 ข�ำขันกันไปฉบับ Thailand Only นะจ๊ะ มีอกี หลายคนส่งความเชือ่ กันเข้ามามากในเฟสบุค๊ เดีย๋ วรวบรวมลงให้ฉบับหน้าแล้วมาตามดูกนั ใครบ้างหนอจะได้ขนึ้ นิตยสารของเรา ^^ ส่วนด้านข้างนีค้ อื รูปต้นเหตุนะขอรับ เอาไปคืนด่วนเลย พีบ่ มู มมมมมม สืบเรือ่ งโดย : เปีย๊ กบางใหญ่

The Reds - September 2013


39

September 2013 - The Reds


40

The Reds - September 2013


41

September 2013 - The Reds


42

R eds Corner

The Reds - September 2013


43

September 2013 - The Reds


44

วันเวลาผ่านไปเร็วนะครับ.. เผลอนิดเดียว ฤดูกาลที่ยาวนานของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกก็รูดม่านลง ซะแล้ว พร้อมกับความดีใจ เสียใจ ผิดหวัง ของแฟน บอลทีมต่างๆ ที่ติดตามเชียร์ทีมรักกันมาตลอดทั้ง ซีซั่น ส่วนพวกที่ตามกระแสไปวันๆ เห็นทีมไหนชนะ บ่อยๆ ก็ยกเอาตัวเองมาตู่ว่าเชียร์ทีมนั้น ทีมนี้บ้าง เอามาล้อมาทับถมคนอื่นบ้าง พวกนี้ขอไม่นับว่าเป็น แฟนบอลละกันนะครับ เพราะในสายตาผมบุคคลดัง กล่าวไม่เหมาะสมที่จะเป็นแฟนบอลทีมใดเลยสักทีม บนโลกนี้ด้วยซ�้ำไป และไม่อยากจะกล่าวถึงด้วย (นี่ ขนาดไม่อยาก อิอิ) บางคนก็ติดตามกันตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น ช่วงเปิด ตลาดซื้อ-ขายกันเลยด้วยซ�้ำ และจากผลส�ำรวจของ “The Reds Magazine Poll” ท�ำให้ทราบว่า “ช่วงที่ตลาดซื้อขายก�ำลังท�ำการอยู่นั้นปุ่ม F5 บน คีย์บอร์ดมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจาก การเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดนักเตะ กันทุกวินาทีเลยทีเดียว ฮ่าๆ” ส�ำหรับผมทุกๆ อย่างมันเริ่มขึ้นตั้งแต่สิ้นสุด ฤดูกาล 2012-2013 ผมเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของ ทีมมาโดยตลอด ลุ้นข่าวการซื้อ-ขาย จนตกเป็นหนึ่ง ในผู้ที่ต้องสูญเสียปุ่ม F5 ไปอีกคน และผมก็เฝ้ารอ วันนั้น วันที่ทีมรักกลับมาเหยียบ แผ่นดินสยาม อีก ครา ถ้าจะบอกว่าซีซั่นที่แสนจะชื่นมื่นของผมเริ่ม จากตอนนั้นก็คงไม่ผิดนัก การกลับมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้สร้าง กระแสที่แรงอยู่แล้วของแฟนบอลให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น แม้ตอนนั้นจะมีข่าวการย้ายทีมของ ซัวเรส กระพือ ออกมาอย่างไม่ขาดสายก็ตามที รวมทั้งสีหน้าและ อาการของเขาตลอดเวลาที่ อ ยู ่ ที่ นี่ เ หมื อ นคนอม แหม่ม เอ้ย!! อมทุกข์ของคนทั้งโลกไว้ยังไงยังงั้น... ท�ำให้อดคิดไม่ได้ว่าเขาไปแน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ ยินดีที่จะอยู่กับเราและตั้งเป้าหมายเป็นพันธะสัญญา ใจร่วมกันว่า “ลิเวอร์พูลจะต้องติดท็อปโฟร์ ไปเล่น แชมป์เปี้ยนลีก” ไม่อย่างนั้นเขามีสิทธิ์ที่จะย้ายออก แม้ว่า ซัวเรส จะมีโทษแบนติดตัว ท�ำให้ถูกแบนยาว The Reds - September 2013


45

September 2013 - The Reds


46

The Reds - September 2013


47

10 เกมส์พ่วงมาถึงฤดูกาล 2013-2014 อีก 5 เกมส์ ท�ำให้เขาไม่มีโอกาสลงสนามในเกมส์ลีกในช่วงนั้น และผลงานการออกตัวของ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ค่อยจะดี เท่าไรนัก แต่หลังจากที่ ซัวเรส กลับมาทีมเหมือนได้ นักเตะใหม่ ซัวเรส คนนี้ไม่ใช่คนที่เจ้าอารมณ์ ไม่ใช่ คนที่จ้องแต่จะเล่นตุกติกนอกเกมส์ ไม่ใช่คนที่จะ จ้องแต่พุ่ง เพราะวันนี้ ซัวเรส เติบโตขึ้น เรียนรู้ที่จะ ใช้ใช้ชีวิตในประเทศนี้มากขึ้น แม้ว่าเขาจะต้องโทษ แบนไปเกือบ 20 เกมส์จากการ งับแขน อิวาโนวิช แบน10 นัด, เหยียดผิว เอฟร่า แบน 8 นัด, ชูนิ้วกลาง ให้ แฟนบอลฟูแล่ม แบน 1 นัด แต่ค�ำถามในใจของ ผมกลับดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า “ทีคนอื่น ท�ำไมโดนน้อยจัง หรือคนๆ นี้ชื่อซัวเรสและอยู่ลิเวอร์พูลเลยต้องคูณ ความสะใจเข้าไปอีกหน่อยในการลงโทษ” ขอโทษ เถอะนะบทลงโทษของซั ว เรสมั ก จะรุ น แรงกว่ า คนอื่นซึ่งผมก็ไม่เข้าใจและได้แต่บ่นกับตัวเองเป็น ภาษาตากาล็อกว่า “ช่างแม่ม” แต่จนแล้วจนรอด ซัวเรส ก็กลับมาระเบิดตาข่ายคู่แข่งเป็นว่าเล่น จับ คู่กับสเตอร์ริจด์จนผู้คนตั้งฉายาให้คู่หูคู่นี้แบบง่ายๆ แต่เก๋ว่า SAS !! โดยเฉพาะผลงานของ ซัวเรซ ในฤดูกาลนี้ ซัดไป 31 ประตูจากการลงเล่น 32 นัด ท�ำสถิติยิง 31 ประตู สูงสุดในหนึ่งฤดูกาลแข่งขัน ตั้งแต่ใช้ระบบแข่งขัน 38 นัด เทียบเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ อลัน เชียร์เรอร์ และเป็นผู้เล่นลิเวอร์พูลคนแรกนับตั้งแต่ เอียน รัช ที่ยิงได้ 30 ประตูในหนึ่งฤดูกาลในลีกสูงสุด ที่ท�ำได้ในปี 1987 นอกจากนี้ ซัวเรส ยังคว้ารางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าว ฟุตบอลอังกฤษ หรือ FWA หลังจากได้รับคะแนน โหวตสูงถึง 52 เปอร์เซนต์ ท�ำให้เป็นนักเตะจากถิ่น แอนฟิลด์ คนที่ 12 ที่คว้ารางวัลนี้ไปครอง และยัง คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนัก ฟุตบอลอาชีพอังกฤษ หรือ PFA มาครอง ซึ่งนับ เป็นรางวัลที่สองของ ซัวเรส ในปีนี้ นอกจากนี้ ซัวเรส จัดการกดแฮตทริก คว้า 3 รางวัลของสโมสร ได้แก่ นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี, นักเตะยอดเยี่ยม (จาก September 2013 - The Reds


48

สโมสรกับแฟนบอล) และ ประตูสุดสวยแห่งปี ใน งานประกาศรางวัลส่งท้ายฤดูกาล 2013-14 ของ สโมสร “ลิเวอร์พูล” จากลูกวอลเล่ย์สุดสวยระยะ 40 หลา ในเกมที่พบกับ นอริช ซิตี้ อีกด้วย!! ท�ำให้ เขาติด ทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกของ PFA 2014 ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง เจอร์ราร์ด ที่ท�ำได้ 13 ประตู 14 แอสซิสต์ และ สเตอร์ริดจ์ ที่ท�ำได้ 21 ประตู บรรดาผู้เล่นที่เกือบจะถูกขายออกไปกลับท�ำ ผลงานได้ขึ้นผิดหูผิดตา เช่น สเคอร์เทล ที่ท�ำประตู ส�ำคัญๆ ช่วยทีมได้เยอะ แต่ก็ยิงทีมตัวเองเยอะจน น่าปวดหัวเหมือนกัน นอกจากนี้พัฒนาการของผู้เล่น อายุน้อยอย่าง เฮ็นเดอร์สัน, สเตอร์ริ่ง, มินโญเลต์ รวมทั้ง สเตอร์ริจด์ เป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจ... และ มั่นใจได้ว่า ในฤดูกาลหน้าพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาเหล่านี้ก็มีส่วนส�ำคัญที่ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล มาถึงจุดๆ นี้ได้อย่างเหนือความ คาดหมายของการติดท็อปโฟร์ เพราะ ลิเวอร์พูล ได้ ลุ ้ น แชมป์ จ นเกมส์ สุ ด ท้ า ยของฤดู ก าลและเป็ น อันว่า “ลิเวอร์พูลจะกลับคืนสู่เวทียุโรปอีกครั้ง” ดัง ที่ ร็อดเจอร์ เคยให้สัญญาเอาไว้ แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กัน ว่า ลิเวอร์พูล ยังต้องแก้ไขและพัฒนาอีกหลายจุด โดยเฉพาะเกมส์รับอันเปื่อยยุ่ยประหนึ่งหมูตุ๋นข้าง คอนโด เพราะผลงานการเสียประตูเมื่อเทียบกับ 7 อันดับแรกจะเห็นได้ว่าไม่ไหวจริงๆ (เชลซี 27, แมน ซิ 37, เอฟเวอตัน 39, อาร์เซนอล 41, แมนยู 41, ลิเวอร์พูล 50, สเปอร์ 51) และตลอดการลงเล่น 19 นัดที่ ลิเวอร์พูล ออกมาเล่นนอกบ้านนั้น เสียประตู ถึง 15 นัด และถ้านับเฉพาะผลงานนอกบ้านในตอน นี้ มีแค่ 5 ทีมเท่านั้นที่เสียประตูมากกว่าลิเวอร์พูล โดย 4 ใน 5 ทีมนั้นเป็น 4 ทีมล่างสุดของตารางอีก ด้วย น�้ำตาจะไหล!! และให้ตายเถอะครับ ลิเวอร์พูล ที่อยู่อันดับ 2 ของตาราง เสียประตูมากกว่า คริสตัล พาเลซ (48) ซึ่งอยู่อันดับที่ 12 ด้วยซ�้ำไป เห็นหรือ ยังครับว่า แม้เหตุการณ์ช็อคแฟนบอลและนักเตะที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค จนถึงขั้นที่ ซัวเรส และนักเตะ The Reds - September 2013


49

September 2013 - The Reds


50

The Reds - September 2013


51

อีกหลายคนต้องหลั่งน�้ำตานั้น แทบจะปิดประตูการ ได้แชมป์ลีกสุดสุดของเราไปเลย แต่ถ้ามองภาพรวม แล้วฤดูกาลนี้มันเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ให้ตายเถอะ ตัง้ แต่ผมดูบอลมาไม่เคยมีความสุข เท่าปีนี้เลย แม้แต่ปี 2005 ที่พลิกชนะ มิลาน ยังไม่รู้สึก ดีขนาดนีเ้ ลย พูดตรงๆ นีข่ นาดไม่ได้แชมป์อะไรเลยนะ เนี่ย ส�ำหรับผมนี่คือปีที่ดีที่สุดหลังจาก เคนนี่ ดัลกลิซ คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายให้ ลิเวอร์พูล... แค่นี้มันก็ ยอดเยี่ยมแล้ว 50 ประตูที่เราเสียในลีกปีนี้แม้จะเป็น สถิติที่ยอดแย่ในหลายปีที่ผ่านมา แต่เรายิงได้ 101 ประตูซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมา 100 กว่าปีมาแล้ว และมัน จะถูกแก้ไขอย่างเต็มที่แน่นอนในเรื่องนี้ และในแผง กองหลังคงได้มีการบูรณะกันมโหฬารแน่นอน ก่อน จากกันขอทิ้งสถิติและผลงานของทีมไว้ให้ดูกันเล่นๆ ว่าเราควรภูมิใจกับทีมชุดนี้มากแค่ไหน เพราะอย่าง น้อยพวกเขาก็พาค�่ำคืนแห่ง UCL กลับมาสู่ แอน ฟิลด์อีกครั้ง อย่างที่มันควรจะเป็น!! SEASON 2013/2014 - SEASON 2012/2013 38 GAMES 38 26 WON 15 6 LOST 9 6 DRAW 13 101 GF 70 50 GA 43 84 PIONTS 58 2 STANDING 7 สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอบคุณ “ทีมลิเวอร์พูล” ขอบคุณ “แฟนบอลลิเวอร์พูล” ทุกคน ฤดูกาลนี้เป็น ปีที่สุดยอดจริงๆ ฤดูกาลหน้าเรามาร่วมต่อสู้ด้วยกัน ใหม่“คนเราล้มได้พลาดได้แต่จงลุกขึน้ มาอีกครัง้ อย่าง เข้มแข็ง สักวันความส�ำเร็จจะต้องมาถึงและจงยืดอก รับอย่างภาคภูมิใจ” #YNWA “Fall 7 times, stand up 8” - “ล้ม 7 ครั้ง, ลุก 8 ครั้ง” September 2013 - The Reds


52

The Reds - September 2013


53

September 2013 - The Reds


54

R ed Shadows

The Reds - September 2013


55

September 2013 - The Reds


56

จากความทะยานฟ้าของ Raheem Sterling และ Jon Flanagan ที่น�ำพาตัวเองกลายเป็นตัวจริง และตัวหลักของทีมได้ในฤดูกาลนี้ ได้มีการคาดหมาย ต่างๆ นาๆ ว่า ใครอีกเล่าที่จะก้าวกระโดดขึ้นมาสู่ทีม ชุดใหญ่ของ Liverpool ได้ส�ำเร็จ -----------------------------นักเตะประเภท “ก�ำลังเสริม” Suso และ Andre Wisdom ได้ก้าวขึ้นมาเล่น ชุดใหญ่กันแล้ว แต่เมื่อพวกเขากลับคืนสู่สโมสรอีกครั้ง ในซัมเมอร์นี้ พวกเขาจะต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ อีกครั้ง เพราะยังไม่มีสัญญานชัดเจนใดๆ ว่าพวกเขาจะ มีต�ำแหน่งในทีมชุดใหญ่อย่างมั่นคงอย่างที่คาดหวังไว้ Suso Suso นั่นเอาตามจริงเลย น่าที่จะตัดสินใจอยู่ กับ Liverpool ในฤดูกาล 2013/14 ที่ผ่านมาจริงๆ เขาคงจะเป็ น นั ก เตะที่ เ ป็ น ก� ำ ลั ง เสริ ม ที่ มี ป ระโยชน์ ในสถานการณ์ จ� ำ เป็ น ในช่ ว งหลายครั้ ง ในฤดู ก าลนี้ กระนั้ น เขากลั บ ตั ด สิ น ใจไปเก็ บ ชั่ ว โมงบิ น ที่ อื่ น เพื่ อ โอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงในเวที PrimeraLiga จริงๆ แล้วมันเป็นการยากที่จะมาตัดสินว่าถูกหรือผิด ในช่วงกระบวนการพัฒนาของดาวรุ่ง โดยเฉพาะเมื่อ ต้องไปเล่นกับทีมที่ต้องหนีตกชั้น และมันยากที่จะ ตัดสินนักเตะที่ไปเล่นในลีคที่เน้นเทคนิคมากกว่า แต่ เล่นบอลช้ากว่าเวที Premier League ความจริงก็ คือ Suso ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และเป็นสัญญานที่ ดีเพราะเขาโชว์ฟอร์มได้ดี. ช่วง pre-season จะเป็นช่วงเวลาที่ส�ำคัญ ส�ำหรับดาวรุ่ง หาก Suso ยังคงไร้อาการบาดเจ็บ และ ไม่ถูกเรียกไปติดทีมเยาวชน เขาน่าที่จะทุ่มเทอย่าง เต็มที่เพื่อแลกกับโอกาสที่จะแสดงศักยภาพของเขาให้ Brendan Rodgers ได้เห็นว่าเขานั้นเป็นอะไรที่มา กกว่าแค่นักเตะก�ำลังเสริม หาไม่แล้วเขาก็มีอ๊อปชั่นที่ จะไปเก็บชั่วโมงบินอีกครั้ง ความคาดหมายในฤดูกาล 2014/15 : เขาน่าที่ จะได้รับโอกาสในการลงเล่นในระบบ ที่เน้นแดนกลาง เป็นแบบ “Diamond Midfield” แต่เขาคงยากที่จะ The Reds - September 2013


57

September 2013 - The Reds


58

The Reds - September 2013


59

ได้รับโอกาสลงเล่นบ่อยๆ ในบทบาท No.10 Role เพราะตรงจุดนี้การแข่งขันสูงมาก ผมไม่เห็นประโยชน์ ในการจับเขาไปเล่นทางกราบในระบบ 4-3-3 เพราะ เขาขาดความเร็ว ไม่จี๊ดจ๊าด ดูแล้วเขาคงจะเป็นได้แค่ “นักเตะตัวก�ำลังเสริม” ต่อไป และอาจจะต้องไปเก็บ ชั่วโมงบินที่อื่นอีก หากว่าเขาได้ลงเล่นไม่มากพอ Andre Wisdom Andre Wisdom เป็นนักเตะที่แข็งแกร่ง เต็ม เปี่ยมไปด้วยพลัง เขานั้นลงเล่นอย่างต่อเนื่องให้กับ Derby County ในเวที The Championship เขา น่าจะได้ลงเล่นมากขึ้นที่ Liverpool หากว่าเขานั้น เลือกที่จะอยู่กับทีมตอนนั้น เพราะมองยังไงเขาก็เป็น ตัวเลือกแรกก่อน Flanagan ด้วยซ�้ำก่อนที่จะไปเล่น แบบยืมตัว Wisdom นั้นโดยแรกเริ่มเลยเป็น Centre Back แต่เขาได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่ครั้งแรกๆ ด้วยการเป็นแบ็ค เขามีความเร็ว มีพลัง แต่ไม่ใช่ตัวรุกโดยธรรมชาติ เขา ควรจะได้รับโอกาสมากขึ้นในฤดูกาลหน้า เมื่อ Liverpool กลับคืนสู่เวที Champions League ความคาดหมายในฤดูกาล 2014/15 : แน่นอน ว่าเขาจะได้รบั โอกาสลงเล่นในต�ำแหน่งแบ็คขวา แต่ยาก ที่จะได้รับโอกาสลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ การไปเก็บชั่วโมง บินในเวที Championship ในต�ำแหน่ง Centre Back น่าจะเป็นการดีส�ำหรับเขาหากว่าเขาไม่ได้รับโอกาส ลงเล่นมากพอที่ Liverpool -----------------------------ผู้จบการศึกษาระดับ U21 ที่มีประสบการณ์เล่นทีมชุดใหญ่มาแล้ว Conor Coady Conor Coady นั้นเก่งกาจและพัฒนาขึ้นจาก การไปเก็บชั่วโมงบินที่ Sheffield United เขาอาจจะ ขาดซึ่งเทคนิคอย่างที่ Brendan Rodgers ต้องการ ที่จะให้กองกลางมี แต่เขามีจุดสมดุลย์ของร่างกายใน แบบเดียวกับ Jon Flanagan ตรงนี้ต้องดูว่าเขาจะ สามารถสร้างประทับใจให้กบั Brendan Rodgers มาก September 2013 - The Reds


60

แค่ไหนในช่วง Pre-season ความคาดหมายในฤดูกาล 2014/15 : สิ่งที่ น่าจะเป็นไปได้ที่สุดก็คือเขาคงจะต้องไปเก็บชั่วโมงบิน ต่อ เพื่อลงเล่นอย่างต่อเนื่องในเวที Championship กระนั้นคนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้มาก่อนกับ Jon Flanagan เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว แต่สุดท้ายเขากลับมาเป็นตัว หลักของทีมซะงั้น ตรงนี้ไม่มีใครฟันธงได้หรอกครับ Jack Robinson Jack Robinson ได้ประสบการณ์อันมีค่าใน การไปเก็บชั่วโมงบินที่เวที The Championship เขา น่าจะรู้สึกว่าเขานั้นน่าจะได้รับโอกาสในการเล่นแบ็ค ซ้าย มันยังไม่ชัดเจนว่า Brendan Rodgers มองเห็น คุณค่าในตัว Robinson แค่ไหน แต่ช่วง Pre-season นี่แหล่ะที่จะเป็นตัวก�ำหนดชะตากรรมของเขา ความคาดหมายในฤดูกาล2014/15 : การเก็บ ชั่วโมงบินทั้งในเวที Championship หรือ Premier League น่าจะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น -----------------------------ดีเกินกว่าที่จะอยู่ ในระดับ U 21 ต่อไป Jordon Ibe Jordon Ibe นั้นร่างกายพัฒนาเพื่อที่จะก้าวขึ้น มาเป็นนักเตะระดับ Premier League, ยังมีข้อลังเล ใจว่าทางด้านเทคนิคแล้วเขาดีพอหรือยัง? และเขานั้น สามารถรักษาความคงเส้นคงวาในการเล่นได้ตลอด รอดฝั่งหรือไม่? ผมนั้นรู้สึกว่าตรงนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา แล้วล่ะ ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดอย่างเต็ม ประสิทธิภาพให้กับ Liverpool ชุดใหญ่ได้ แต่เขาน่า จะต้องรอคอยอีกหนึ่งปีเป็นอย่างน้อย ความคาดหมายในฤดูกาล 2014/15 : เขาน่า จะต้องไปเก็บชั่วโมงบินอีกซักฤดูกาลในเวที Championship และลงเล่นอย่างต่อเนื่อง Ryan McLaughlin Ryan McLaughlin นั้นอยู่ในสถานะที่ดีมากๆ ที่จะขึ้นชั้นมาได้ เขามีพลังขับเคลื่อนที่ดี มีความเร็ว The Reds - September 2013


61

September 2013 - The Reds


62

The Reds - September 2013


63

ใช้ได้ เขาเป็นแบ็คที่เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ แต่เขา เหมือนจะดวงซวยที่ต้องบาดเจ็บบ่อย ท�ำให้พัฒนาของ เขาต้องสะดุดเป็นระยะๆ เขาควรได้รับในช่วง Preseason และผมมั่นใจว่าหากเขาได้รับโอกาส เขาจะ สร้างความประทับใจได้แน่ ความคาดหมายในฤดูกาล 2014/15 : หากว่า เขาสร้างความประทับใจได้ในช่วง Pre-season เขาจะ ได้รับโอกาสที่จะเป็น “นักเตะก�ำลังเสริม” หาไม่แล้ว เขาคงจะต้องไปเก็บชั่วโมงบินที่อื่น Brad Smith Brad Smith เป็นแบ็คซ้ายที่มีความรวดเร็ว มากๆ แต่ตอนที่ได้รับโอกาสตอนต้นฤดูกาลที่ผ่านมา เขานั้นตื่นสนาม โดยเนื้อแท้เขานั้นเล่นดีกว่าวันที่เขา ลงเล่นที่ Stamford Bridge วันนั้นเยอะ การประสาน งานของเขากับ Raheem Sterling ในทีมระดับ U18 เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ยังคงค�ำถามหรือข้อ ลังเลใจเรื่องการเล่นเกมรับของเขา โดยเฉพาะการรับ มือจากการเปิดด้านข้าง กระนั้นความเร็วของเขาคือ สินทรัพย์อันมีค่ามากๆ ของเขา เขายังคงต้องพิสูจน์ตัว เองในแง่ของการเล่นเกมรับ แต่เขาน่าจะได้รับโอกาส เพราะในทีมระดับ U21 เขาถือได้ว่าเป็นนักเตะที่โชว์ ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดคนนึงของฤดูกาลนี้ ความคาดหมายในฤดูกาล2014/15 : เขาควร ได้ลงเล่นบ่อยๆ ในช่วง Pre-season ไม่งั้นแล้วก็ควรที่ จะไปเก็บชั่วโมงบินในระดับ The Championship เพื่อการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง หากว่าเขาสร้างความ ประทับใจได้ เขาคงจะได้รับโอกาสในการเป็นนักเตะ ทีมชุดใหญ่ในอนาคต ที่ส�ำคัญที่สุดก็คือเขาจะต้อง เคลียร์เรื่องอาการบาดเจ็บเสียให้หมดเพื่อที่จะได้ไม่ หยุดพัฒนาการของตัวเอง Joao Carlos Texeria Joao Carlos Texeria พัฒนาตัวเองอย่างดี เยี่ยมในฤดูกาลนี้ แม้ว่าจะไม่ประสบความส�ำเร็จใน การไปเก็บชั่วโมงบินที่ Brentford ก็ตาม เขาสร้าง ความประทับใจให้กับ Brendan Rodgers ในตอน ซ้อมกับทีมชุดใหญ่มากๆ ประทับใจมากขนาดที่หนีบ September 2013 - The Reds


64

นักเตะคนนี้ไปเยือน Fulham ด้วย... Texeria มี เทคนิคที่ยอดเยี่ยม หากว่าเขาขยันและมีความมุ่ง มั่นบวกจุดศูนย์ถ่วงทางร่างกายมีการพัฒนาให้เทียบ เท่ากับพรสวรรค์ของเขา แน่นอนเขาจะได้รับโอกาส ลงเล่นในทีมชุดใหญ่แน่ สิ่งที่ยากล�ำบากที่สุดส�ำหรับเขาก็คือ การปรับ ตัวของเขา มันเป็นอะไรที่ยากส�ำหรับดาวรุ่งมากๆ ที่จะ ลงเล่นในแดนกลางให้กับทีมชุดใหญ่ได้ ส่วนใหญ่แล้ว ดาวรุ่งพวกนี้หากเล่นเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่จะเริ่มทีมชุด ใหญ่ด้วยการเป็นแบ็ค ส่วนคนที่เล่นต�ำแหน่ง Centre midfield และกองหน้า มักจะถูกจับให้เล่นทางกราบ ไปก่อน ปัญหาส�ำหรับนักเตะบางคนอย่าง Texeria ก็คือเขาไม่ใช่นักเตะที่ถนัดเล่นทางกราบ เขาไม่มี ความเร็วที่จะควบหนีคู่แข่ง จึงมักที่จะล็อคเขาในแทน ปัญหาเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับ Suso ...สองคนนี้ถนัดการ เล่นต�ำแหน่ง cm หรือ am มากกว่า ประเด็นก็คือไอ้ ต�ำแหน่งที่พวกเขาอยากเล่นเป็นต�ำแหน่งส�ำคัญมากๆ ของทีมชุดใหญ่ และดาวรุ่งนั้นยากที่จะรับมือกับแรง กดดันตรงนี้ได้ แต่ทั้งหมดนี้อาจจะเปลี่ยนได้หากว่า ทีมเล่นแบบ Diamond บ่อยขึ้น. ความคาดหมายในฤดูกาล 2014/15 : เขานั้น เล่นได้เตะตา Brendan Rodgers มากในอดีต และ ฤดูกาลนี้เขาก็น่าจะสร้างความประทับใจได้อีก โดย เฉพาะในเวที Pre-season หากว่าเขาไปเก็บชั่วโมง บินอีกซักหน่อยน่าจะเพิ่มความเก๋าเกมให้กับเขาได้ มากขึ้น -----------------------------มันยากที่จะฟันธงได้ว่าใครเล่าที่จะเป็นนักเตะ คนต่อไปที่จะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ ช่วง Pre-season จึงเป็นอะไรที่ส�ำคัญมากๆ ส�ำหรับดาวรุ่งทุกๆ คน ผมคิดว่ายังมีโอกาสพอควรส�ำหรับต�ำแหน่งแบ็ค หากว่าเราไม่สามารถเซ็นนักเตะระดับบิ๊กเข้ามาได้ใน ต�ำแหน่งที่ว่า เท่ากับว่านี่จะเป็นโอกาสที่ส�ำคัญมากๆ ส�ำหรับ Ryan McLaughlin และ Brad Smith ผมมั่นใจเช่นกันส�ำหรับ Jordan Ibe, Suso หรือ Joao Carlos Texeria ว่าทั้งหมดนี้จะสร้าง ความประทับใจได้ในช่วง Pre-season The Reds - September 2013


65

September 2013 - The Reds


66

The Reds - September 2013


67

September 2013 - The Reds


68

T he Academy

The Reds - September 2013


69

September 2013 - The Reds


70

ก็จบไปแล้ว ส�ำหรับเกมการแข่งขัน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก และฟุตบอลลีกในระดับ U-21 ซึ่งทั้ง 2 ระดับของ ทีมลิเวอร์พูล ก็ไม่ประสบความส�ำเร็จ กับ การคว้าแชมป์ลีก โดยในทีมชุดใหญ่ ก็สามารถเข้าป้าย เพียงแค่ต�ำแหน่งรองแชมป์ แต่มันก็เป็นความภาคภูมิ ใจอย่างดีที่สุดแล้ว ที่พลพรรคลูกทีมของ เบรนแดน ร๊อดเจอร์ สามารถพาทีมมาได้ไกลขนาดนี้ ซึ่งเรียกได้ ว่า เกินคาดไปพอสมควร !! จากผลส�ำเร็จของลิเวอร์พูลในทีมชุดนี้ และ การ สร้างทีมของ ร๊อดเจอร์ ที่มุ่งเน้นในเรื่องของดาวรุ่ง นั้น จึงท�ำให้ ทีมชาติอังกฤษเองก็ได้ผลผลิตนักเตะดาวรุ่ง ไว้ประดับทีมเช่นกัน .. ซึ่งล่าสุดจากการประกาศราย ชื่อนักเตะที่จะไปลุยท�ำศึกฟุตบอลโลกกลางปีนี้ ก็มี ดาวรุ่งของทีม ที่สร้างจาก อคาเดมี่ ของทีมติดทีมไป ด้วย “ราฮีม สเตอร์ริ่ง” ขณะที่ อีก 1 เจ้าหนูดาวเตะ “จอน ฟลานาแกน” ก็มีชื่ออยู่ในกลุ่ม แสตนด์บาย ของทีม โอกาสอาจจะมีไม่มาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับปิด โอกาสมากนัก ผมเองคงไม่ถึงกับต้องแช่งใครให้บาด เจ็บ เพื่อให้ จอน ฟลานาแกน มีโอกาสติดทีมไปบอล โลกหรอกนะครับ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าตัวเขาเองมีโอกาส ที่จะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก เขาเองจะไม่ท�ำให้แฟน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษผิดหวังแน่ๆ ... ในการประกาศผลงานวัล นักเตะดาวรุ่งยอด เยี่ยมแห่งปี ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ที่ในฉบับที่ แล้ว ผมมั่นใจว่า ราฮีม สเตอร์ริ่ง นั้นมีโอกาสไม่น้อย และคู่ควรกับต�ำแหน่งนี้ ... แต่ในที่สุด ผลปรากฏว่า เป็น เอแด็ง อาซาร์ มิดฟิลด์ของ ทีมเชลซี ได้รางวัล ไปครอง ถ้าถามโดยความเห็น ส่วนตัว ก็ถือว่าไม่ พลิ กล๊อค มากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ว่า สเตอร์ริ่ง จะอ่อน ด้อยไปกว่า อาซาร์ เลยสักนิด ซึ่งถ้า สเตอร์ริ่ง ยังคง ท�ำผลงานได้ดีต่อเนื่องในฤดูกาลหน้า โอกาสที่เขาจะ ได้รับการเสนอชื่อรวมไปถึงได้รับรางวัลก็ยังคงมี และส�ำหรับ สโมสรลิเวอร์พูล เมื่อต้นเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดงาน “The LFC Players’ Awards Dinner 2014” ซึ่งเป็นการ ประกาศผลรางวัลต่างๆมากมาย เช่น นักเตะแห่งปี จากการให้คะแนนของสโมสร และ จากการโหวต ของแฟนๆ, ประตูยอดเยี่ยม, รางวัล บิลล์ แชงค์ลี่ย,์ The Reds - September 2013


71

September 2013 - The Reds


72

The Reds - September 2013


73

รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมส�ำหรับนักฟุตบอลหญิง และ ที่ส�ำคัญก็ยังมีการประกาศ รางวัลนักเตะทีมอคาเดมี่ ยอดเยี่ยมแห่งปี ด้วย ... ในส่วนของรางวัล นักเตะอคาเดมีย่ อดเยีย่ มแห่ง ปีของสโมสรลิเวอร์พูล 2014 นั้น รางวัลนี้ตกเป็นของ “Jordan Rossiter” ที่เล่นในต�ำแหน่งมิดฟิลด์ให้กับ ทีม U18 และ U21 .... โดยหลังจากได้รบั รางวัล “จอร์แดน รอสซิเตอร์” ก็ได้กล่าวสั้นๆ ในงานว่า “เชื่อไหม ?? ว่าตั้งแต่เริ่ม ฤดูกาล ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะได้รับรางวัล อันทรงเกียรตินี้ เพราะแบบนีไ้ ง ผมถึงได้ดใี จอย่างสุดๆ และรอให้เปิดตัวในฤดูกาลหน้าแทบไม่ไหวแล้ว” รอสซิเตอร์ ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า “จริงๆ แล้วทีม ในอคาเดมี่ ยังมีดาวรุ่งฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมอยู่อีกหลาย คน ซึ่งถ้าในทีมไม่มีพวกเขาผมก็คงไม่ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ .. เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องท�ำคือเราจะยังต้องไม่ พอใจกับฟอร์มการเล่นของเราตอนนี้ ซึ่งบางครั้งเรา จะท�ำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วก็ตามที แต่มันก็ จะเป็นเหมือนดาบ 2 คม ที่จะท�ำให้ตัวเราเองหยุดการ พัฒนาฝีเท้าต่อไป” “ผมรู้สึกดีมากจริงๆ ส�ำหรับฤดูกาลนี้ที่มันเป็น ปีที่ยอดเยี่ยมของผม ซึ่งมันก็ไม่กดดันอะไรเลย กลับ เป็ น เรื่ อ งดี เ สี ย ด้ ว ยซ�้ ำ ที่ ไ ด้ รั บ การยอมรั บ จากทุ ก คน หลังจากนี้ผมคงต้องพยายามยกระดับฝีเท้า ให้ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ สัปดาห์” รอสซิเตอร์ กล่าว ทิ้งท้าย .. นอกจากการได้รบั รางวัลนีแ้ ล้ว ผลจากฟอร์มการ เล่นอันยอดเยี่ยมของ “จอร์แดน รอสซิเตอร์” นั้นก็ ท�ำให้ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม สโมสร ลิเวอร์พูล ก็ได้ประกาศว่า “จอร์แดน รอสซิเตอร์” นั้น ถูกเลื่อนชั้นให้ขึ้นมาเล่นในระดับนักเตะอาชีพแล้ว และ ถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้แล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสเกมกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งในฤดูกาล หน้าเชื่อว่า โอกาสเขากับทีมชุดใหญ่คงมีแน่ๆ ซึ่งอาจ จะเป็นถ้วย คาร์ลิ่งคัพ หรือ เอฟเอคัพ ... ส�ำหรับ ในคอลัมน์ของผม ฉบับนี้ จะส่งท้ายด้วย การเปิดประวัติ นักเตะดาวรุ่งอคาเดมี่ยอดเยี่ยมแห่งปี “จอร์แดน รอสซิเตอร์” แล้วกันนะครับ .. September 2013 - The Reds


74

“จอร์แดน รอสซิเตอร์” ถือเป็นผลิตผลของ อคาเดมี่ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง ซึ่งตัวเขาเองเปิดตัว กับทีม U18 ในเกมที่ ลิเวอร์พูล U18 พ่ายแพ้ให้กับ ทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน U18 ไป 4-3 ซึ่งเกมนั้น “จอร์แดน รอสซิเตอร์” ลงมาเล่นเป็นตัวส�ำรองใน นาทีที่ 70 .. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2012 ซึ่งตรงกับวัน เกิดครบรอบอายุ 15 ปีของเขาพอดี .. โดยหลังจากนั้น Alex Inglethorpe โค้ชทีม ส�ำรอง ก็ได้เรียก รอสซิเตอร์ มาติดทีมชุด U19 เพื่อลง เล่นใน The NextGen Series โดยจะเปิดบ้านต้อนรับ การมาเยือนของทีม อินเตอร์ มิลาน ในวันที่ 8 มกราคม The Reds - September 2013

2013 โดยเกมนั้น ลิเวอร์พูล เอาชนะไปได้ 4-1 รอสซิเตอร์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในช่วงนาทีสุดท้าย รอสซิเตอร์ ได้รับค�ำชมอย่างมากในเวลาถัดมา หลายคนน�ำไปเปรียบเทียบกับ สตีวี่ จี ซึ่งมีพละก�ำลัง ความแข็งแกร่ง ดุดัน ซึ่งในฤดูกาล 2012-13 ก็ลงเล่น ให้กับทีมชุด U18 ไปถึง 15 เกม รวมไปถึงยังเคยได้ รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า รอส ซิเตอร์ นั้นคือ 1 ในนักเตะดาวรุ่งอคาเดมี่ ที่ได้รับการ จับตามองมากที่สุดในขณะนี้ ในฤดูกาล 2013-14 ... รอสซิเตอร์ ได้รับโอกาส มากขึ้นในการเลื่อนขึ้นมาเล่นในระดับ U21 เรียกได้


75

ว่าได้ลงเล่นอย่างถาวรเลยส�ำหรับทีมชุด U21 และก็ สามารถท�ำประตูแรกให้กับทีมชุด U21 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2013 จากจังหวะที่ จอนแดน ไอบ์ ได้ บอลเปิดมาจากทางด้านซ้าย ก่อนที่ จอร์แดน ไอบ์ จะ แตะบอลมากลางประตู และ รอสซิเตอร์ ที่อยู่บริเวณ กลางประตู ยิงเข้าไปนิ่มๆ และหลังจากนั้น รอสซิเตอร์ ก็ยังคงท�ำผลงานได้อย่างดีต่อเนื่อง จนท�ำให้ เบรนแดน ร๊อดเจอร์ ตัดสินใจที่จะเรียก รอสซิเตอร์ ติดทีม ลิเวอร์พูลชุดใหญ่ ในเกมที่ ลิเวอร์พูล พบกับ เชลซี ใน ช่วงก่อนปีใหม่ ซึ่งในขณะนั้น ลิเวอร์พูล ทีมชุดใหญ่มี ปัญหากับอาการบาดเจ็บของนักเตะหลายๆ คน

สรุปในฤดูกาลนี้ ลงเล่นให้กับทีมชุด U21 ไป ทั้งหมด 19 เกม และท�ำไปได้ 3 ประตู ... ก่อนที่จะเซ็น สัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงเดือน มีนาคม และ ได้รับรางวัล Academy Player of the Season 2014 ไปครอง ... ในฤดูกาลหน้า เชือ่ ว่า “จอร์แดน รอสซิเตอร์” น่า จะได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่บ้าง โอกาสในลีกอาจจะ ยังไม่มีที่ว่างแต่เชื่อว่าใน ถ้วยลีกคัพ น่าจะได้รับโอกาส แน่นอน .. ยังไงทีมงาน The Reds Magazine ขอเป็น ก�ำลังใจให้กับดาวรุ่งของทีมผู้นี้ ให้ก้าวขึ้นมาเป็น ก�ำลังหลักเหมือนกัปตันทีมคนปัจจุบันให้ได้ต่อไป ... September 2013 - The Reds


76

T he Match

The Reds - September 2013


77

September 2013 - The Reds


78

Liverpool 2-0 Chelsea แมตช์นี้ใหญ่หลวงนัก เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล จะต้องทุ่มเทท�ำศึกหนักอีกครั้งกับ การพบเจอทีมอย่าง เชลซี แน่นอนความหวังของเรามีเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือต้องก�ำชัยชนะ ในแมตช์นี้ให้ได้ ทัพหงส์แดง ร็อดเจอร์ส่งชุดใหญ่ลงสนาม ส่วนทางฝั่ง เชลซี ของ มูรินโญ่ มีการ เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและพักตัวหลักบางตัวเพื่อไปทุ่มเทให้กับการเล่น ถ้วยยุโรปถ้วยใหญ่ในกลางสัปดาห์ ก่อนหน้าเกมนี้จะเริ่ม เปี๊ยก มีโอกาสได้ไปร่วมงานแถลงข่าวในฐานะสื่อมวลชนของ มติชน โดยเป็นการแถลงข่าวอย่างไม่เป็นทางการของทาง อสมท. ที่จัดขึ้น มี รอบบี้ ฟาวเลอร์ ฑูตสโมสร ลิเวอร์พูลประจ�ำประเทศไทยให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้ โดยทางอสมท. จะมีการเซ็นสัญญา เป็นผู้สนับสนุนหลักกับ ลิเวอร์พูล เป็นระยะเวลา 3 ปี มีกิจกรรมเอาใจแฟนบอลลิเวอร์พูลอย่าง เต็มอิ่มกันเลยทีเดียว ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นคงต้องติดตามข่าวสารกันต่อไป โดยฟาวเลอร์ให้ สัมภาษณ์ว่าเค้าคิดว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถเก็บชัยชนะนัดนี้ได้ โดยชนะ 2-0 แม้ว่าจะเป็นงาน ที่ยากล�ำบากก็ตาม ครึ่งแรกต้องบอกเลยว่า ลิเวอร์พูล ครองเกมและครองบอลได้เหนือกว่า เชลซี เนื่องจากวัน นี้ เชลซี มาอย่างมหาอุดหรือที่เขาเรียกกันว่า แทคติครถบัสของมูรินโญ่ ลิเวอร์พูลครองเกมได้ ดีกว่าแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะท�ำลายแผงรถบัสที่อัดแน่นกันอยู่หน้ากรอบเขตโทษเพื่อจังหวะใน การยิงประตูได้เลย เล่นไปจนเข้าสูช่ ว่ งทดเวลาในครึง่ แรก รูปเกมแทบไม่มอี ะไรเลย เกมก�ำลังจะจบ แต่แล้วไม่รู้เหตุอันใด ด้วย วิถีแห่งลิเวอร์พูล หรือชะตาฟ้าลิขิตที่ลิขิตมาว่าปีนี้ยังไม่ใช่ปีของ ลิเวอร์พูล ภาพที่จ�ำได้ติดตา คือจังหวะการลื่นล้มราวกับมีใครมาสกัดขา หรือมีคนเอากล้วยปาลง มาวางแกล้ง เจอร์ราร์ด เจอร์ราร์ดกัปตันผู้เป็นหัวใจหลักลื่นล้มลงยังสวยงาม เป็นเหตุให้บอลเข้า ทาง เดม บ้า บา ฉกบอลไปยิงไม่เหลือซาก เป็นความผิดพลาดก่อนนกหวีดจะเป่าหมดเวลาเพียง แค่ไม่กี่วินาที เจอร์ราร์ดหน้าซีด เป็นจุดเดียวที่เปลี่ยนเกมส�ำหรับ การที่ เจอร์ราร์ดสะดุดลื่น The Reds - September 2013


79

September 2013 - The Reds


80

The Reds - September 2013


81

หญ้าใน แอนฟิลด์ กลัวทีมไม่ได้ลุ้นกับแชมป์ลีกสุดสุดสมัยที่ 19 ในครั้งนี้ วิถีแห่งลิเวอร์พูล เลย จัดให้ แฟนลิเวอร์พูล รวมถึง เปี๊ยก ได้ช็อคกับสิ่งที่เห็น ค�ำถามคือ เซ็นเตอร์แบ๊กไปไหน? T^T แต่ยังไงก็ตามก็ยังมีก�ำลังใจบอลแข่ง 90 นาที เหลืออีก 45 นาทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ “อยากออกไป แตะขอบฟ้า แต่เดมบ้าบาไม่เข้าใจ” ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เชลซี ยังคงแผนมหาอุด รถบัสยังคงแข็งแกร่ง ลิเวอร์พูล เจาะไม่ เข้า เกมนี้ท�ำเอานึกถึงเกมในฟุตบอลถ้วยยุโรปตอน บาร์เซโลน่า พบ เชลซี เป็นอย่างมาก ครอง บอล ครองเกม พยายามเจาะแต่ไม่สามารถท�ำอะไรได้ เป็นเกมที่อึดอัด เชลซี ก็ไม่คิดที่จะตอบโต้ ดูแล้วแบบว่านี่กะไม่เล่นบอลกันแล้วใช่ไหม อุดมหาอุดไม่เปิดแลก จนกระทั่งสุดท้ายก็เป็นการ ผิดพลาดของ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง วิลเลี่ยน จึงได้มีชื่อเป็นผู้ท�ำประตูฝัง บุกมาชนะ 2-0 ในแมตช์นี้ เกมนี้ไม่ขอชมว่าเป็นเกมที่สะเด่าคลาสสิคแพ้แบบหมดท่าให้เหมือน แมน ซิตี้ และแพ้ หอย เองนัดที่แล้ว เพราะมันมาเล่นแบบ ทีมส�ำรอง มหาอุด คือบ่องตง มันไม่ใช่เทคติกซะเท่าไหร่ มารับรอสวนได้คือโชคดีไม่ได้ก็ตามแผน .... อีกอย่างไม่รู้สินะ เเทคติก? แต่สงสัย เชลซี ไม่ว่า ใครคุม ก็แทคติคเดียวกันมหาอุดโต้กลับเพื่อเป็น เดอะวินเนอร์ และก็เริ่มจะเข้ากันหนักๆ ในตอนท้าย ประกอบกับการถ่วงเวลาอันน่าเกลียดของ โคล ไปดื่มน�้ำ??? ขอชมแค่คนเดียว มาร์ก ชวาร์เซอร์ .... พี่แกเล่นดีที่สุดในทีมแล้ว แม้ ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายบุกแต่ก็เจาะไม่เข้า แต่วันนี้ไม่ติไม่ได้จริงๆ ครึ่งหลัง เจอร์ราร์ด เน้นมากเกินไป กดดันอยากแก้ตัวแต่กลายเป็นเสียของไปเยอะ รวมถึงการจ่ายบอล มันเหมือน กดดันตัวเองว่าต้องชนะ ต้องยิงได้ เกมแบบนี้ให้ความรู้สึกเหมือน บาร์ซ่า เจอ เชลซี ครองบอล มากกว่าแต่ปิดประตูไม่ได้ แต่จากรูปเกมนักเตะทุกคนก็ท�ำดีที่สุดแล้วนะขอรับ พยายามจะท�ำประตู แต่จริงๆ อยาก ให้ พี่โหด เล่นเป็นกองหน้าในเกมนี้จัง เราต้องการลูกบอมบ์เข้าและโขกใส่ อย่าไปกลัว วิถีของ ลิเวอร์พูล หาก แมน ซิตี้ แพ้ในค�่ำคืนนี้อะไรจะเกิดขึ้น แม้แมตช์หน้าเราต้องเยือน คริสตัล พาเลช แต่เชื่อมั่นว่า ไม่เจอแทคติคมหาอุดแบบ เชลซี เราคงได้เฮแน่นอน เปี๊ยก ถึงกับเอาพระขึ้นมาพนม ขอพรขอ 1 ลูกเถอะ ใครก็ได้ยิงที ตอนเราโดนน�ำแค่ 1 ลูก จารย์ข้างสนามยิ่งยกทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาทียิ่งรู้สึกดีใจ เอาลุ้นเว้ยบุกขนาดนี้ต้องมีประตู........ สุดท้ายมีจริงๆ จากจังหวะพลาดของสเตอร์ริดจ์ แต่วันนี้ขอบคุณ ตอร์เรส แล้วกัน แกไม่ยิงเอง ไม่มีชื่อเป็นคนยิงแต่แอสซิสให้ วิลเลี่ยน แทน แต่ขนลุกมากๆ เลยนะเพลง You’ll never walk alone คนยังเต็มสนามแม้ตอนก�ำลังจะแพ้ มันคือการปลุกก�ำลังใจนักเตะชั้นเยี่ยมเหมือนใน แมตช์ปาฏิหาริย์อิสตันบูล “เชื่อมั่นและศรัทธาปาฏิหาริย์จะบังเกิด” อย่าดิ้นกันสิอีก 2 ก้าว แต่ว่าไป ฟาวเลอร์ เดาสกอร์แม่นจริงแฮะ 2-0 แต่ผิดฝั่งไปหน่อย นะ!!! ถ้าเราชนะหมดในแมตช์ที่เหลือจะห่วงอะไร เหลือเยือน คริสตัล พาเลซ และกลับมารับ ถ้วยที่ แอนฟิลด์ ในแมตช์ชนะ นิวคลาสเซิล โว้ยยยยยยย ปล. สไตล์การเล่นของเชลซีเป็นสไตล์ที่ไม่ชอบที่สุดตั้งแต่เชียร์บอลมาเลยเกลียดมัน ไม่ รอดจากตราหมีหรอก เชื่อดิฟันธง !!!! เปี๊ยกบางใหญ่ September 2013 - The Reds


82

T he Match

The Reds - September 2013


83

September 2013 - The Reds


84

The Reds - September 2013


85

Crystal Palace 3-3 Liverpool เกมนี้ ลิเวอร์พูล ต้องบุกมายังถิ่นของ ปราสาทเรือนแก้ว โดย 3 แต้มเท่านั้นคือสิ่งที่ต้องการ แน่นอน ลิเวอร์พูล ส่งขุนพลทัพใหญ่สุดเท่าที่มีลงสนามเดินหน้าท�ำศึกในครั้งนี้ โดยไม่ว่าอะไรจะ เกิดขึ้น กองเชียร์ทุกคนขอให้แค่พวกเค้าเล่นอย่างสุดหัวใจ พวกเราในฐานะสาวกลิเวอร์พูลพร้อม ใจเดินเคียงข้างสโมสรไปตลอดกาล ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ครองเกมได้เหนือกว่า และแล้วก็สามารถปิดสกอร์ได้จากโจ อัลเลน นับเป็นประตูที่ อัลเลน ท�ำได้โดยห่างจากลูกแรกที่เค้าเคยท�ำประตูให้ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ย้าย มานานโข สาวกลิเวอร์พูลรวมถึง เปี๊ยก ยิ้มเบาๆ พร้อมคิดว่าไม่น่าจะยาก 3 แต้มเห็นๆ จบครึ่ง แรกไปด้วยการขึ้นน�ำของทีมรัก เครื่องจักรสีแดง ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้น ลิเวอร์พูล ยังคงเดินหน้าบุกเพื่อหวังท�ำประตูให้ได้มากที่สุด ลดระยะ ห่างประตูได้เสียกับ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแล้วนาทีที่ 53 สเตอร์ริดจ์ ก็ได้ยิงประตูสมใจ ลูก ที่ 2 เครื่องจักรสีแดง ยังไม่หยุดแค่นั้น อีก 2 นาทีถัดมา เปี๊ยก และพวกเราทุกคนก็ได้เฮกันอีก ครั้งเมื่อ ซัวเรส ต�ำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด ทั้งในฐานะผู้ท�ำประตูและแอสซิส ซัลโวประตูที่ 31 ของ ตัวเองในฤดูกาลนี้ ซึ่ง ท�ำลายสถิติสโมสร ไปเรียบร้อยแล้ว หากแต่เหลือเพียงท�ำลายสถิติ อลัน เชียร์เรอร์ อีก 5 ลูกเท่านั้น เครื่องจักรสีแดง เดินหน้าบุกเต็มก�ำลังเพื่อประตูที่ 4 เข้าสู่ช่วง 10 หน้าทีสุดท้าย เครื่องจักรสีแดง ยังคงไม่ผ่อนเกม แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็เกิดขึ้น นาทีที่ 79 คริสตัล พาเลซ มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่หลังของเรายืนกันห่าง จาก ประตูนี้เองเป็นเหตุให้ทีมเจ้าบ้านฮึดสู้ขึ้นมา ถัดมาเพียงไม่กี่นาที นาทีที่ 81 คริสตัล พาเลซ มา ได้ลูกที่ 2 ตามมาเป็น 3 ประตู ต่อ 2 เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น เปี๊ยกก�ำลังช๊อคกับสิ่ง ที่เกิดขึ้น นั่งดูสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกในรอบสุดท้าย เชียร์ รอนนี่ โอซุลลิแวน ก็ก�ำลังตาม มาร์ค เซลบี้ อยู่ นี่ต้องมาบีบหัวใจกับเกมลุ้นให้ ลิเวอร์พูล เครื่องไม่ช็อต แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากโดนลูกที่ 2 ไป เครื่องจักรสีแดง เริ่มรวน โดน พาเลซ โหม September 2013 - The Reds


86

บุกหนักมาก แล้วสิ่งที่แฟนบอลทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ได้เกิด นาทีที่ 88 หรือ 7 นาทีจากลูกตี ไข่แตกเท่านั้น คริสตัล พาเลซ โกงความตายยิงลูกตีเสมอลูกที่ 3 ได้ท�ำเอาแทบอยากร้องไห้ จน จบเกม ลิเวอร์พูล ก็ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้ตามที่ตั้งใจไว้ ได้เพียงแบ่งแต้ม 1 คะแน สุดแสนจะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นค�ำพูด แทบไม่อยากบรรยายอะไรมากมายส�ำหรับ อารมณ์ ณ ตอนนั้น ทุกอย่างเพอร์เฟค เกมรุกเพอร์เฟค แทคติคเพอร์เฟค วางหมากมาเพอร์เฟค ส�ำหรับร๊อดเจอร์ แต่สิ่งที่ไม่เพอร์เฟคคือ เกมรับลิเวอร์พูล หลายๆ นัด เซนเตอร์แบ๊กทั้ง 2-3 หายไปไหน??? มีแต่ ฟลาโน่ ที่ดูจะรู้ต�ำแหน่งหน้าที่ แปลงร่างเป็นศูนย์หน้าแล้วลืมต�ำแหน่งตัว เองหลายครั้งหลายครา เห็น เจอร์ราร์ด และ ซัวเรส และนักเตะทุกคนรวมถึง ร๊อดเจอร์ ที่ทุ่มเท ถึงกับร้องไห้ออกมาแบบนี้ แทบอยากจะร้องตาม แต่คงไม่มีอะไรจะปลอบใจได้ดีกว่า คุณท�ำดี ที่สุดแล้ว พวกคุณจะไม่มีวันเดินอย่างเดียวดาย แมตช์นี้ท�ำให้ แฟนบอลลิเวอร์พูล หลายๆ คน รวมถึง เปี๊ยก เข้าใจถึงความรู้สึกในวันที่เรา โกงความตาย ยิงตีเสมอ เอซี มิลาน ที่ อิสตันบูล ปี 2005 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 มาครองได้ ส�ำเร็จ โดยเข้าใจถึงหัวอก แฟนบอลเอซี มิลาน เลยว่า การโดนโกงความตายปล้นชัยชนะ นักเตะ ถึงกับทรุดและร้องไห้ มันเป็นแบบไหน ทั้งที่มีหวังและยังอยู่บนเส้นทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามท้ายที่สุดก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สงครามยังไม่สิ้นสุด กลางสัปดาห์ ได้แต่ภาวนาหากชะตาฟ้าลิขิตให้ปีนี้ ลิเวอร์พูล ต้องเป็นแชมป์ เรือต้องล่มโดยแพ้เท่านั้น หากเรือ ล่มแพ้ เราจะไปลุ้นกันในแมตช์สุดท้ายที่ แอนฟิลด์ ทันที อย่าเพิ่งหมดก�ำลังใจ Only Believe and Make Us Dream เชื่อมั่นและศรัทธา ปาฏิหาริย์จะบังเกิด ณ ตอนที่เขียนนี้เราก็ได้รู้ผลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเรียบร้อยแล้ว ความหวังในการคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีกของ ลิเวอร์พูล ยังมี แม้ว่าริบหรี่ก็ตาม แฟนบอลลิเวอร์พูลในประเทศไทยรวมถึง หลายประเทศทั่วโลกต่างพร้อมใจเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นสีแดง พร้อมตราสโมสร ตรานกลิเวอร์ เบิร์ด หรือ รูปโปรไฟล์ที่แสดงว่าเป็นสาวกลิเวอร์พูล จนโด่งดังไปยังส�ำนักข่าวประเทศอังกฤษ และตอนนี้นักเตะลิเวอร์พูลอาจจะรับรู้ได้ถึงสิ่งเหล่านี้ที่พวกเราท�ำกัน อยู่ “เชื่อมั่นและศรัทธา ปาฏิหาริย์จะบังเกิด” ยังคงสะท้อนก้องอยู่ในหัวใจของ เปี๊ยก เสมอ อีกไม่กี่วันก็จะถึงแมตช์ สุดท้าย แมตช์ส่งท้ายฤดูกาล 2013-2014 แมตช์สุดท้าย ลิเวอร์พูล จะปิดฤดูกาลนี้ด้วยการลง เตะใน สนามแอนฟิลด์ และพวกเราก็จะได้รู้กันจริงๆ ว่าสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะได้สามารถ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 24 ปีมาครองได้หรือไม่ แต่ท้ายที่สุดแน่นอนไม่ว่าฤดูกาลนี้ผลจะออก มาเป็นเช่นไร แฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกยังคงเป็นนักเตะคนที่ 12 คอยสนับสนุนพร้อมเดินเคียง ข้างสโมสรไปตลอดกาลไม่มีวันสิ้นสุด “ส�ำหรับแฟนบอลบางทีมและบางคนเท่นั้นไม่เข้าใจหรอกว่าสิ่งที่พวกเราก�ำลังท�ำอยู่ มันเป็นมากกว่าค�ำพูดแค่ว่าเราคือสาวกลิเวอร์พูล และอาจเป็นมากกว่ามิตรภาพ แต่พวกเรา คือครอบครัว” “For only some fan of another team don’t understand Liverpool fans do, It is bigger than words to say we’re Liverpool Fans. It is bigger than friendship but It shows that we’re the biggest family.” เปี๊ยกบางใหญ่ The Reds - September 2013


87

September 2013 - The Reds


88

T he Match

The Reds - September 2013


89

September 2013 - The Reds


90

Liverpool 2-1 Newcastle แมตซ์ปิดฤดูกาลเดินทางมาถึงเรียบร้อย ในตอนนี้แม้ว่าความหวังในการแตะถ้วยพรีเมียร์ ลีกจะริบหรี่ แต่สิ่งที่ต้องท�ำในวันนี้คือท�ำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งนักเตะ ผจก. และกองเชียร์ ท�ำหน้าที่ให้ดีที่สุดผลอีกคู่คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาฟ้าลิขิต เกมสุดท้าย เปี๊ยก ได้เดินทางไปยังสถานที่ที่คุ้นเคย ไปเชียร์กับเหล่า สาวกลิเวอร์พูล ที่ รู้จักคุ้นเคยดี ณ ร้านดงตาล ณ ร�ำเพย ร้านพี่บูมประธานชมรม Liverpool Thailand Fanclub เช่นเดิม งานนี้จัดเต็มทั้ง เครื่องราง ทั้ง ธง ผ้าพันคอ แบบว่า สุดเหวี่ยง จัดเต็มไปเลย แมตช์สุดท้ายแล้ว ไม่มีอะไรจะเสีย ทุกคนที่มาก็เต็มที่กับชีวิต ด้วยความหวังที่ว่าขอชัยชนะส่ง ท้ายฤดูกาล แม้จะไม่ได้ครอบครองถ้วยพรีเมียร์ลีกก็ตาม ครึ่งแรกเกมเริ่มขึ้นเครื่องจักรสีแดงแลดูเล่นอึดอัดจุกเสียด ท�ำเอาพวกเรากองเชียร์ แทบ อยู่ไม่สุข ใจหายใจคว�่ำ อึดอัด บรรยากาศครึ่งแรกอึมครึม หน้าตาแต่ละคนเหมือนคนท้องผูก ไม่ ได้ขับถ่ายมาเป็นเวลาหลายวัน นิวคาสเซิล มาแบบไม่ยอมจริงๆ ไม่รู้มาฮึดอะไร ยอมๆ ไปเถอะ นะ เปี๊ยก ได้แต่ภาวนา ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ประตูขึ้นน�ำก่อนจากลูกที่ ซัวเรสได้ท�ำการฟรีคิก เร็วบอลย้อยเข้าตาข่าย แต่ ฟิว ดาวน์ แกไม่ให้ จริงๆ มันต้องได้นะ ฟิว ดาวน์ ชี้ นกหวีดๆ ฟัง เสียงนกหวีด ปี๊ดๆ แล้วค่อยเป่าเข้าใจไหมฮะ อยากจะเอาระเบิดไปปาบ้านแกจริงๆ หึย ทว่านาทีที่ 20 บุรุษกองหลังจอมท�ำประตูก็จัดการท�ำบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ท�ำไมเอ๊ะ ไม่มีเสียงเย้ ทุกคนเงียบและสตั๊นท์แบบว่าช็อคจ้า ... มันผิดฝั่งครับพี่น้องครับ สเคอร์เทล จอม โหด สกัดเข้าประตูตัวเองชนิดที่ว่าสวยงามเลยทีเดียว โอ้วพระช่วยกล้วยทอด อัลไลกัน อยากจะ ร้องไห้ ฟิว ดาวน์ ผู้ตัดสินในครั้งนี้ก็โหดเหี้ยมซะเหลือเกิน....รู้สึกใจปวดร้าวเหมือนโดนแทง แถม เกมดูท่าทางจะเป็นรองอีก ทุกคนในร้านที่ไปเชียร์กันนั่งเงียบๆ แถมอีกฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ ประตูน�ำ วิลล่า อีก จะดีใจก็แต่ผล แมนยู กับ เชลซี นี่แหละที่โดนน�ำ ท�ำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา หน่อย จนจบครึ่งแรกก็ยังไม่มีฝ่ายไหนท�ำประตูเพิ่มได้ เอาวะ ครึ่งหลังเราต้องกลับมาได้สิ ตอนพักครึ่งเราโห่ร้อง ลิเวอร์พูลๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ใช่ อะไร เรียกขวัญก�ำลังใจกองเชียร์ 55555 เพราะตอนนั้นรู้สึกเหมือนเคว้ง โดนหักอกซะอย่างนั้น เอาน่ะ เปี๊ยก คอยเรียกก�ำลังใจ สู้โว้ยยย เราต้องกลับมาได้ ที่นี่แอนด์ฟิลด์ นักเตะลงไปโชว์ฝีเท้า ความเป็นนรกของทีมเยือนหน่อย สู้เค้า!!! ครึ่งหลังเริ่มขึ้นเกมอาจจะยังคงดูอึดอัด แต่ ลิเวอร์พูล ก็กลับมาพยายามบุกทวงประตูคืน และแล้วๆๆๆๆๆ จากการแอสซิสของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แดเนี่ยล แอกเกอร์ ท่านรองของเรา จัดการลูกประตูตีเสมอได้ส�ำเร็จในนาทีที่ 63 ทุกคนในร้านเฮกันดังลั่น เปี๊ยก เฮดีใจกระโดด แบบ ไม่อายใคร มันต้องอย่างนี้ เครื่องจักรสีแดง เอาอีก เอาอีก ลิเวอร์พูล สู้ สู้ เสียงตะโกนส่งก�ำลัง The Reds - September 2013


91

September 2013 - The Reds


92

The Reds - September 2013


93

ใจไปถึง แอนฟิลด์ ดังมาก กระหึ่มเลยทีเดียว ถัดมาอีก 2 นาที สิ่งที่แฟนบอล เครื่องจักสีแดง ต้องการมาตลอดเกมก็มาถึง นาทีที่ 65 เจอร์ราร์ด คนเดิม แอสซิสเหมือนเดิมส่งบอลให้ เฮียริดจ์ มีชื่อในการท�ำประตู เป็นประตูขึ้นน�ำ ที่เรียกเสียงเชียร์ได้อย่างกระหึ่มก้องกังวานทั้งในแอนด์ฟิลด์และทุกแห่งทั่วประเทศไทย เชื่อมัน ว่า แฟนหงส์แดง ทุกคน ณ จุดนี้ส่งเสียงลั่นมาก เปี๊ยก กระโดดเป็นลิง ขึ้นเก้าอี้ พี่ๆ บางคนหมุน ผ้าพันคอ โบกธงด้วยความสะใจ สะเด่าไปเลยอีน้อง มันยอดเยี่ยมกระเทียมดองที่สุดในสามโลก นาทีที่ 66 แฟนลิเวอร์พลู ได้เฮดังๆ กันอีกครัง้ แต่ไม่ใช่อะไรนะครับ ฟิว ดาวน์ ควักเหลืองแดง แจกให้ผู้เล่น นิวคาสเซิล เหลือ 10 คนนะครับ เอาอีก เอาประตูอีก ขอเฮีย หลุยส์ ท�ำลูก ที่ 32 เป็น ประตูที่มากที่สุดในยุโรปในปีนี้ทีซิ จะได้ไม่ต้องแบ่ง รองเท้าทองค�ำยุโรป คนละข้างกับโรนัลโด้ แม้ว่า นิวคาสเซิล จะเหลือ 10 คนแต่ก็ไม่ได้ย่อท้อนะ ยังคงมีการบุกท�ำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องนังลุ้นเยี่ยวเหนียวอีกตามเคย นาทีที่ 87 เราได้เฮกันอีกรอบ ฟิว ดาวน์ วันนี้เฮีย แกหล่อจัง ควักแดงเพียวไล่นักเตะนิวคาสเซิ่ลออกไปอีก 1 คน ตอนแกจะควักหลังจากการเข้า สกัดอันน่าเกลียดในครั้งนี้ ทุกคนลุกขึ้น แดง แดง แดง ภาวนาอย่างกับลุ้นหวยเลขท้าย 3 ตัว หรือ รางวัลที่หนึ่งเลยไม่อยากบรรยาย แน่นอนพอควักแดงออกมาเท่านั้นแหละ เปี๊ยก และบรรดาคน อื่นๆ เฮ แชมป์โว้ยยยยยยย !!! อ่อไม่ใช่ 5555+ แบบว่าลืมตัวไปนิดนึงเอง คิคิ นิวคาสเซิล เหลือ 9 คนแต่ทว่าเราก็ท�ำอะไรไม่ได้จบเกมไปด้วยชัยชนะที่ แอนฟิลด์ ใน แมตช์ปิดท้ายฤดูกาลอย่างสวยงาม และแน่นอนเราไม่ได้จับถ้วยพรีเมียร์ลีกในปีนี้ ถ้วยยังคง วนอยู่ที่ เมืองแมนเชสเตอร์ ต่อไป ก็ขอแสดงความยินดีกับ ทีมเรือใบ ด้วยที่คว้าแชมป์ในปีนี้ สงครามอันยาวนานเปลี่ยนต�ำแหน่งจ่าฝูงไปไปมามา สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็กลับมาอยู่ในต�ำแหน่ง ที่คู่ควร บิ๊กโฟร์ พร้อมลุยถ้วยใหญ่ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ในฤดูกาลหน้าตามที่คาดหวังเอาไว้ต้น ฤดูกาล จริงแล้วเราต้องการแค่พื้นที่ยุโรป แต่เราได้ลุ้นแชมป์นะเออ นักเตะเราที่ซื้อก็ใช้เงินน้อยที่สุดแต่ได้รองแชมป์แถมตัวทดแทนก็ไม่มี ดังนั้น ทีมแมนเชส เตอร์ ซิตี้ เหมาะสมแล้วส�ำหรับการได้แชมป์ในปีนี้ ลงทุนไปเยอะ นักเตะก็ดีกว่า ลิเวอร์พูล ต้อง ยกให้เค้าไป ปรบมือรัว รัว ส่วน ลิเวอร์พูล แน่นอนเราไม่ได้แชมป์แต่กวาดรางวัลทุกสาขา โดย เฉพาะ ซัวเรส กวาดมาไม่เหลือซากเลย ร็อดเจอร์ส อีก ได้รางวัลกันถ้วนหน้า และรายได้รวม สูงสุดเราได้อันดับ 1 เป็นแชมป์เห็นๆ แม้ไม่ได้ถ้วยแต่เรารวยสุดนะฮร้าบบบบ .... แน่นอนเงิน นี้ต้องเอาไปเตรียมซื้อนักเตะช่วงตลาดเปิด กรกฎาคม ต้องปิดดีลให้ได้และอย่าต่อราคาจนน่า เกลียดอีกล่ะ เปี๊ยกขอร้องง ปิดฤดูกาลสมบูรณ์แบบ แต่เรายังมีทีมหญิง Liverpool Ladies ให้ลุ้นป้องกันแชมป์นะ ยังไงก็อย่าลืมตามเชียร์ ส่วนบอลถ้วยลีกอื่นๆ ตอนนี้คงรู้ผลหมดแล้วล่ะ ก็รอดู ฟุตบอลโลก ที่ จะลงฟาดแข้งในอีกไม่ช้าที่ บราซิล พร้อมฟุตบอลดาร์บี้แมตช์ครั้งแรกในเวทีถ้วยยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เอามันไปก่อนจะเปิดฤดูกาลอีกครั้ง Season 2014 / 2015 ฤดูกาลหน้าขับเคี่ยว กันมันหยดแน่นอน ก็ขอปิดหลังเกมฉบับที่ 10 พร้อมแมตช์ปิดฤดูกาลแต่เพียงเท่านี้ พบหลังเกมกับเปี๊ยก บางใหญ่ได้อีกในฤดูกาลหน้า และฉบับหน้าจะมีเรื่องราวดีดีอะไรให้ผู้อ่านได้อ่านต้องรอ ติดตามชม ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ชะเอิง เอย..... เปี๊ยกบางใหญ่ September 2013 - The Reds


94

The Reds - September 2013


95

September 2013 - The Reds


96

The Reds - September 2013


97

September 2013 - The Reds


98

The Reds - September 2013


99

September 2013 - The Reds


100

The Reds - September 2013


101

September 2013 - The Reds


102

A rticle

The Reds - September 2013


103

September 2013 - The Reds


104

The Reds - September 2013


105

Hatem Ben Arfa เป็นนักเตะอีกคนที่เป็นข่าว กับ Liverpool เรียกได้ว่าเป็นข่าวมาอย่างยาวนาน ไม่ต�่ำกว่า 12 เดื่อน แต่ชายผู้นี้ไม่น่าจะเหมาะกับการ เล่นในถิ่น Anfield… ครับมีรายงานข่าวเข้ามาล่าสุด ว่า Liverpool เตรียมยื่น 6 ล้านปอนด์ซื้อ Ben Arfa ไปร่วมทีม สื่อลงข่าวว่า “Ben Arfa เป็นข่าวกับหงส์ แดงตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้ว แต่เขาได้ส่งสัญญานไปว่า เขานั้นมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสัญญากับ Newcastle ก่อนที่ล่าสุดเขาจะมีปัญหากับ Alan Pardew สืบ เนื่องจากพฤติกรรมและนิสัยที่ไม่ไหวจะเคลียร์” --------------------------------------ด้วยพฤติกรรมดังกล่าวท�ำให้เขาต้องถูกสั่งให้ ไปซ้อมคนเดียว ห่างไกลจากทีมชุดใหญ่ และข่าวก็ยิ่ง เพิ่มความร้อนแรงเข้าไปอีกเมื่อ Ben Arfa ประกาศ พร้อมที่จะย้ายทีม โดยไม่สนว่าปัญหาของ Pardew ณ ช่วงท้ายฤดูกาลมีมากขนาดไหน เรียกว่าเติมเชื้อไฟ เข้าไปอีก เมื่อวิเคราะห์แล้ว หากการย้ายมาอยู่กับหงส์ แดงของ Hatem Ben Arfa เป็นเรื่องจริง ต้องถือได้ ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ Rodgers ในฐานะ ที่ก�ำลังพยายามเสริมความแกร่งให้กับทีมเพื่อลุยศึก Champions League ฤดูกาลหน้า --------------------------------------จุดแข็ง ในฐานะกองกลางตัวรุก Ben Arfa สร้างชื่อ เสียงขึ้นมาจากความ dynamic และศักยภาพของเขา ในการไปกับบอล เขามักจะถูกโยกจับไปเล่นทางกราบ ในยุคของ Pardew พูดง่ายๆ ก็คือเป้าหมายของ Ben Arfa คือวิ่งเข้าไปใส่แบ็ค สร้างช่องว่างและบีบให้แบ็ค กระท�ำความผิดพลาด เมื่อดูจากสถิติของ Squawka, Ben Arfa ถือได้ ว่าเป็นหนึง่ ในนักเตะระดับท๊อปของ Premier League ที่ ท� ำ ลายแนวรั บ ได้ อ ย่ า งต่ อ เนื่ อ งและเต็ ม ไปด้ ว ย ประสิทธิภาพ หากมองภาพรวมแล้ว ดาวเตะชาวฝรั่งเศสราย นี้ท�ำลายแนวรับได้ระดับเดียวกับเป้าหมายอีกคนของ September 2013 - The Reds


106

Liverpool อย่าง Adam Lallana และถูกแบบอยู่ ระหว่างสองสุดยอดอย่าง Raheem Sterling และ Luis Suarez จุดแข็งของ Ben Arfa คือเท้าซ้าย ย้อนเวลา ไปสมัยที่อยู่ Marseille เขาเรียกได้ว่า ยิงด้วยซ้ายนี่ ไม่ต้องรับ เข้าหมด เขานั้นยิงประตูยอดเยี่ยมประจ�ำ เดือนได้หลายครั้งในช่วงเวลาปีที่อยู่กับ Newcastle ตัวอย่างที่ดีที่น�ำมาเอ่ยอ้างถึงเท้าซ้ายของ Ben Arfa ก็คือประตูสุดยอดปรากฎการณ์ที่เขายิง Fuham ตอนเปิดฤดูกาลนี้ --------------------------------------จุดอ่อน ถึงแม้ว่าเขานั้นจะมีศักยภาพไปกับบอลได้อย่าง ยอดเยี่ยม มีทักษะใช้เท้าแจ่มแจ๋วแค่ไหน แต่ Ben Arfa เป็นนักเตะที่ไม่ชอบลงมาช่วยเกมรับ ชอบยืนรอ บอล พูดง่ายๆ คือ ขี้เกียจ สิ่งที่เขาได้รับการวิจารณ์มากที่สุดในทีม Newcastle ก็คือความไม่ทุ่มเทท�ำงานในสนามเลย แล้วยิ่ง สมัยนี้นอกจากเล่นเกมรุกเต็มตัวแล้ว ต้องรู้จักวิ่งลงมา ช่วยบีบแบ็คของคู่แข่งในช่วงจังหว่ะสวนกลับด้วย เรา ได้เห็นบ่อยครั้งที่ แบ็คอย่าง Mathieu Debuchy ถูก ปล่อยให้รับมือคู่แข่งแบบโดดเดี่ยว ทั้งๆ ที่ Ben Arfa เป็นผู้ท�ำเสียบอลและโดนสวนกลับ ซึ่ง Ben Arfa ก็ ไม่สนที่จะลงมาช่วย แล้วจากสถิติของทาง Squawka, ในจ�ำนวน 13 ครั้งที่ดาวเตะฝรั่งเศสรายนี้เข้าแท็คเกิ้ล ผลออกมาว่า เขาประสบความส�ำเร็จเพียงแค่ 23 % เท่านั้น ฤดูกาล นี้ทั้ง 27 นัดที่เขาลงเล่นให้กับ Newcastle เขาเข้า แท็คเกิ้ลและชนะคู่แข่งเพียงแค่ 7 ครั้งเท่านั้น --------------------------------------สไตล์การเล่น เมื่อวิเคราะห์จากทักษะโดยรวม Ben Arfa นั้น สามารถเปรียบได้ดั่งนักเตะที่ทรงคุณค่า ความยอดเยี่ยมของเขากับลูกบอล การท�ำลาย แนวรับคู่แข่ง ในวันที่ท๊อปฟอร์ม Ben Arfa จะเหมือน ทะยานฟ้าในสนาม The Reds - September 2013


107

September 2013 - The Reds


108

The Reds - September 2013


109

กระนั้นศักยภาพเหล่านี้มักจะถูกวิเคราะห์จาก ผู้เชี่ยวชาญว่า Ben Arfa พึ่งพาความขยันของเพื่อน ร่วมทีม ช่วยแย่งบอล แล้วจ่ายให้กับเขาเพื่อโชว์สเต็ป เข้าท�ำ คือเรื่องแบบนี้จะมีประสิทธิภาพอย่างมากเมื่อ มี Yohan Cabaye มาสวมบทบาท Playmaker แล้วการที่เขาย้ายออกไปสู่ PSG เมื่อมกราคม เราจึง ได้เห็นว่า Ben Arfa ถึงกับหมดลายไปเลย --------------------------------------เหตุผลว่าท�ำไมเขาจึงไม่เหมาะกับ Liverpool ด้วยระบบการเล่นของ Rodgers กับ Liverpool เขาได้สร้างมาตรฐานความขยันหมั่นเพียรขึ้นใน ทีม วิ่งขึ้นวิ่งลง เล่นเพื่อกันและกัน บีบคั้นคู่แข่งในยาม ที่คู่แข่งครองบอล สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ Ben Arfa ไม่มี เลย ตรงนี้นี่แหล่ะที่ชัดเจนว่าท�ำไมดาวเตะชาวฝรั่งเศส จึงไม่เหมาะกับการย้ายมา Anfield นี่ไม่ได้หมายความว่า Ben Arfa เป็นนักเตะที่ แย่ แต่เขาเหมาะกับทีมที่นักเตะทุกๆ คนพร้อมจะถัก ทอเส้นทางสายไหมให้กับตัวเขา และใช้ประโยชน์ จากความจัดจ้านของเขา ซึ่ง ณ ตรงนี้มองเห็นอยู่ ทีมหนึ่งก็คือ Arsenal แต่ทีมของ Rodgers อย่าง Liverpool ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากนักเตะที่เล่น ได้ เ พี ย งเศษหนึ่ ง ส่ ว นสามของสนามบอลเท่ า นั้ น อย่างเขา

September 2013 - The Reds


110

M arnz Present

The Reds - September 2013


111

September 2013 - The Reds


112

ผ่านไปแล้วกับฤดูกาลที่แสนมหัศจรรย์ เป็นฤดู กาลที่ยอดเยี่ยมฤดูกาลหนึ่งเลยทีเดียว และแน่นอนว่า จะเป็นฤดูกาลแห่งความทรงจ�ำของหลายๆ คน เสียง สรรเสริญเยินยอมาจากทั่วทุกมุมปากเหล่าเดอะ คอป อย่างไม่ขาดสาย โดยในส่วนของนักเตะ ดูเหมือน หลุยส์ ซัวเรส กับ กัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะได้รับค�ำ ชื่นชมเป็นพิเศษ โดยรายแรกสามารถคว้ารางวัลส่วน ตัวไปเป็นกระบุง ขณะที่รายหลังท�ำหน้าที่ในต�ำแหน่ง ใหม่ได้อย่างลงตัว และขับเคลื่อนเครื่องจักรสีแดงให้ ร้อนแรงแบบเกินห้ามใจ ส่วนบุคคลที่ดูเหมือนจะโดนสรรเสริญมากมาย เป็นพิเศษ คงหนีไม่พ้นผู้จัดการหนุ่ม Brendan Rodgers ชายวัย 41 ปี ชาวไอร์แลนด์เหนือ ที่ปลุกปั้นทีม จนสามารถท้าชิงแชมป์ลีคได้อย่างใกล้เคียงที่สุดใน รอบ 24 ปี แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ในทุกผู้คนล้วนมีจุด เปราะบางอยู่บ้างเสมอ บทความนี้เลยขอเจาะจุดอ่อน BR กันสักนิด จริงหรือไม่ ใช่หรือผิด ก็ตามแต่ท่าน พิจารณา เรือ่ งแรกเลย มันปนเประหว่างการใช้เงินจับจ่าย ใช้สอย กับ การมองศักยภาพนักเตะไม่ขาด ที่ดูเหมือน จะเป็นจุดอ่อนที่มองเห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจน โดย ผ่านไป 2 ปี Brendan Rodgers ซื้อนักเตะเข้ามา แล้วทั้งหมด 15 คน รวมยืม ใช้เงินไปแล้วราว 98.1 ล้านปอนด์ โดยแบ่งเป็นปีแรกใช้เงินไป ราว 49.3 ล้าน ปอนด์ กับนักเตะ 7 คน ขณะที่ปี 2 ใช้เงินไปราว 48.8 ล้านปอนด์ กับนักเตะ 6 ราย กับ 2 นักเตะยืมตัว ค�ำถามผลุดพรายโดยพลันว่า ใน 15 คนที่ผ่านเข้ามา มีคุ้มค่าแบบคุ้มทุกเพนนี กี่คน ? ที่เห็นๆ ว่าพิสูจน์ ตัวเองได้แล้ว ดูเหมือนทั้ง 15 คน จะมีแค่ สเตอร์ริดจ์ และ คูตินโย่ เท่านั้น ที่ผ่านการทดสอบ และเรียกรอย ยิ้มให้ เดอะ คอป ได้อย่างไม่เคอะเขิน มีคนแอบๆ มา กระซิบ ว่า อีกคน คือ มินโญเลต์ ไง คนนี้ผมกลับยังไม่ แน่ใจ ก็ในเมื่อปี 2012/2013 Pepe Reina ลงสนาม ในลีค 31 นัด โดนทะลวงตาข่าย 30 กว่าประตู ขณะ ที่ มินโญเลต์ ปีนี้ โดนไป 50 ประตู ใน 38 นัด จะมอง แบบไหนดี จะบวกลบคูณหารกันอย่างไร ? โดยข้อเท็จจริงที่เราๆ รู้กันอยู่ว่า ทีมเราเองไม่ ได้มีงบประมาณแบบล้นเหลือ การจับจ่ายใช้สอยใน The Reds - September 2013


113

September 2013 - The Reds


114

The Reds - September 2013


115

แต่ละเม็ดเงินน่าจะเล็งผลเลิศ หรืออย่างน้อยก็น่าจะ ตอบแทนเม็ดเงินนั้นได้กลับมาซัก 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ ดูเหมือนว่าหลายๆ จ�ำนวนเงินเรากลับท�ำตัวเหมือน ทีมมหาเศรษฐี ที่หว่านๆ ซื้อมาก่อน ใช้ได้หรือไม่ได้ ค่อยว่ากันทีหลัง Fabio Borini ที่ลง 19 นัด ยิงลีค 1 ประตู ยิงบอลถ้วย 1 ประตู แล้วให้ยืมตัวฤดูกาลใน ฤดูกาลที่สอง.. เอิ่ม นั่น 10 ล้านปอนด์ นะครับ หรือ อย่างราย Tiago Ilori ที่ทุ่มซื้อมา 7 ล้านปอนด์ เพื่อ ปล่อยยืม OMG!!! นี่ยังไม่นับรวม Aspas, Alberto 2 คน อีก เกือบ 14 ล้านปอนด์ ที่ดูๆ แล้วอาจหมด อนาคตในอีกไม่นาน ที่ตลกที่สุด คือ การบอกให้ เฮนโด้ Jordan Henderson หาทีมใหม่ได้เลย เมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่าน มา แต่เหมือนเป็นความโชคดีของพวกเรา ที่เจ้าหนุ่ม คนนี้ตัดสินใจที่จะอยู่สู้ต่อ จนสามารถยึดต�ำแหน่งเป็น ตัวหลักได้อย่างแข็งแกร่ง นึกไม่ออกเช่นกัน ว่า หาก เฮนโด้ เลือกไปตามที่ BR บอก ทีมลิเวอร์พูล ที่ขาดตัว จักรส�ำคัญเฟืองหนึ่งแบบ เฮนโด้ ไป สุดท้ายเราจะอยู่ ตรงไหนของตาราง ? เรือ่ งถัดมา คงหนีไม่พน้ การขันเกมรับ ทีด่ เู หมือน ว่า ต้องวางหมาก วางเกม และ วางต�ำแหน่งนักเตะ ให้ ยืดหยุ่นกว่านี้ ไม่ต้องดูไกลครับ ดูแค่แมตช์เจอ เชลซี กับ แมตช์เจอ คริสตัล พาเลซ ที่ ซัวเรส น�้ำตาตก สอง แมตช์นี้น่าจะให้ค�ำตอบได้พอสมควร เอาแมตช์ เชลซี ก่อน ตรงลูกที่ เจอร์ราร์ด พลาด จะเห็นได้ชัดว่า เซ็น เตอร์แบ็ค ทั้งสองตัวกลาง แปลงร่างซุปเปอร์ไซย่า ไป เป็น วิงแบ็ค ขณะที่ วิงแบ็ค แปลงร่างกลับกลายเป็น ปีก ปล่อยให้ เจอร์ราร์ด กลายพันธ์ จนเป็นเซ็นเตอร์ แบ็คเดี่ยวคนเดียว และแน่นอนทั้งสองลูกที่เกิดขึ้นใน เกมนั้น ต�ำแหน่งยืนมันเป็นเหมือนกันอย่างกับแกะ แล้วให้ชายวัย 33 ปี วิ่งไล่ เดม บ้า บา หรือ วิลเลี่ยน เนี่ย นะ !! ค�ำถาม คือ หากวางต�ำแหน่งให้เซ็นเตอร์แบ็ค คอย ซัพพอร์ทหลังเจอร์ราร์ด ตามต�ำแหน่ง และ หน้าที่ที่มัน ควรจะเป็น มันจะดีกว่านีไ้ หม ? มันจะป้องกันโศกนาฏกรรม แบบแมตช์นั้นได้หรือเปล่า ? อีกนัด นัดเยือน ปราสาทเรือนแก้ว หลังน�ำ 3-0 เป๊ะๆ ครับ ผมไม่แน่ใจว่า ช่องถ่ายทอดมีกราฟฟิคขึ้น September 2013 - The Reds


116

ไหม (เพราะส่วนตัวผมดูจากทางอินเตอร์เนท) ว่า หลัง 3-0 แล้ว เกลน จอห์นสัน ยังยืนเลยเส้นกลางสนาม ไปอยู่ด้านคู่ต่อสู้ ซึ่งมี เกรียนสยาม หลายคนชอบด่า นักเตะมาก ว่า ชอบขึ้นไปแล้วลงไม่ทัน แต่ถ้าคุณดู เกมกับ คริสตัล พาเลซ ที่มีกราฟฟิค วงกลมขึ้น คุณ จะเห็นเลย ว่า ฟลานาแกน เอง ก็ยืนอีกด้าน ในไลน์ เดียวกัน มันท�ำให้เราสามารถสรุปได้ง่ายว่า ที่สองคน ไลน์เดียวกันนี้ มันไม่ได้เกิดจากตัวนักเตะเอง แต่ มัน น่าจะเกิดขึ้นมาจากการซ้อม มาจากต�ำแหน่งที่ผู้ จัดการระบุ หรือคุณว่าไง ? เรื่องสุดท้าย คงไม่พ้นเรื่องความเขี้ยว หรือ ความเก๋าเกม ที่ ร๊อดเจอร์ส คงต้องค่อยๆ สั่งสม บาง ครั้งการตั้งรับ บางครั้งการเล่นบอลน่าเบื่อบ้าง มัน อาจขัดใจสาวก หรือ เหล่า เดอะ คอป พันธ์ดีเดือด แต่หากท้ายสุดเราสามารถหยิบฉวยโทรฟี่ไว้ได้ อัน ไหนถึงจะเป็นความอิ่มเอมที่แท้จริงของเหล่ากองเชียร์ ทรงบอลแบบนี้ในมุมผู้เขียนเองดูไปไม่ต่างกันเท่าไหร่ นัก กับทรงบอลสมัยก่อน สมัย รอย อีแวนท์ ที่เหล่า นักเตะต่างเข้าถลุงประตูคู่ต่อสู้กันอย่างมันเท้า แต่ท้าย สุดเราได้อะไร เรากลับได้ผู้จัดการที่ไม่ประสบความ ส�ำเร็จในลีคสูงสุดเพิ่มมาอีกคน แม้ทรงบอลนั้นจะยัง ติดตาอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ก็ตาม อีกแล้ว ที่ต้องเอ่ยถึงเกมกับ เชลซี และเกมกับ คริสตัล พาเลซ ซึ่งถึงตรงนี้เองผมเองก็ยังไม่เข้าใจซัก นิดว่า ท้ายครึ่งแรกในเกม เชลซี ท�ำไมผู้จัดการถึงให้ นักเตะดันสูงกันขนาดนั้น ทั้งที่เราสามารถเพลย์เซฟ เพื่อ 1 แต้ม และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคแบบแน่นอน 1 แต้มเกมเชลซี มันมีค่ามหาศาลกับโอกาสที่อยู่ในมือ ผมว่าผมเองก็พอเข้าใจนะ กับการอยากเป็นผู้ชนะแบบ มีสไตล์ ประมาณว่าจะแชมป์ทั้งที ต้องแชมป์แบบเดิน หน้าลุย ไม่ต้องมีกลยุทธอื่น ไม่ต้องมีต�ำราพิชัยอื่นมา ท�ำให้ต้องศึกษา ใช้ต�ำราพิชัยเดียวเป็นต�ำราพิชัยส่วน ตัว แถมอีกเรื่องว่าถ้าชนะอาจารย์ตัวแสบอย่าง มูริน โญ่ ได้ ด้วยต�ำราพิชัยของตัวเอง คงเป็นเรื่องสุขใจแบบ หาเปรียบยาก แต่พอมันพลาดมันเลยกลายเป็นเราทิ้ง โอกาสที่มันอยู่ในมือเรา แถมท�ำให้ความกดดันเกิดขึ้น อีกเยอะ จนท�ำให้เกมที่น่าจะชนะง่ายๆ อย่างเกม พาเลซ เลยมีจุดจบคนละแบบ มุมผมคือเราทิ้งแชมป์ The Reds - September 2013


117

September 2013 - The Reds


118

The Reds - September 2013


119

เพราะ 1 แต้ม ในเกมเชลซี ที่ เขี ย นมาทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ไม่ ไ ด้ ห มายความว่ า Brendan Rodgers เป็นผู้จัดการที่ไม่คู่ควร ผู้เขียนเอง แค่มองมุมในแบบที่ควรปรับปรุง ลองมาคิดเล่นๆ ทั้งที่ เรามักพูดเสมอ ว่า ในโลกฟุตบอล ไม่มี ค�ำ ว่า “ถ้า” แต่ลองมา “ถ้า” กันซักหน่อย “ถ้า” เม็ดเงินทั้งหมด 98.1 ล้านปอนด์ หักค่าตัว สเตอร์ริดจ์ และ คูตินโย่ ที่รวมกันราว 20.5 ล้านปอนด์ นั่นหมายถึงเราจะมีเงินเหลือ เกือบ 70 ล้านปอนด์กัน เลยทีเดียว ต่อจากนั้นท่านผู้อ่านก็จินตนาการกันเอา เอง ? อย่าเอาไปเทียบกับ คิง เคนนี่ กันล่ะ เพราะ ถึงยังไง คิง เคนนี่ ก็คุ้มกว่า เพราะฟุตบอล ท้ายสุดก็ เทียบกันที่ โทรฟี่ อยู่ดี หรือ “ถ้า” “ทรงบอล” ที่จะเอื้อเกมรับให้มาก ขึ้น มากกว่า “ทรงบอล” ที่ทั้งหมดเอื้อไปให้เกมรุก เท่านั้นในแบบทุกวันนี้ มันจะดีกว่านี้ไหม เพราะนี่ ขนาดปีนี้ สเคอร์เทล ออกจะท๊อปฟอร์ม ติดอันดับ Clearence of Europe แต่เราโดนไปถึง 50 ประตู ดู แล้วมันไม่ใช่แปลความหมายว่า “พลาด” แต่ดูเหมือน มันจะเรียกว่า “หายนะ” ไม่ยาก และแน่นอนมันไม่ใช่ เพิ่งเกิดขึ้นในเมื่อปีที่แล้ว เราโดนถล่มไป 43 ประตู จาก ทรงบอลเดิม ผู้จัดการเดิม ท�ำให้อดพาลคิดต่อไปไม่ ได้ว่า หาก สเคอร์เทล ไม่ท๊อปฟอร์ม ปีนี้เราเองควรจะ โดนซักกี่ประตู 60 หรือ 70 ประตูไหม ถึงจะสมควร ? และ “ถ้า” สุดท้าย “ถ้า” เราไม่ต้องอยากชนะ มาก แค่หยิบแต้มส�ำคัญติดมือให้ได้ในเกมเชลซี ผมว่า เกมคริสตัล พาเลซ จะมีบั้นปลายคนละอย่าง ถ้า ผ่อน หนักผ่อนเบา รับ-รุก-บุก-ถอย ตามเกม ตามโอกาส บางทีเราอาจปลื้มปริ่มไปแล้วกับโทรฟี่ที่รอคอย ก็แค่หยอกเย้า เอากันพอเหมาะ เพราะผมเชื่อ ว่า Brendan Rodgers ก็พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กับทีมเรา ที่ก�ำลังเติบโตอย่างแข็งแรง ยังมีอีกหลาย อุปสรรครอการทดสอบ ยังมีอีกหลายการหกล้ม เพื่อ ให้เราต้องยืนหยัดใหม่ ไม่มีอะไรยาก หากคุณยังก้าว เดิน ผมยังรอโทรฟีอ่ ยูน่ ะ เพราะผูจ้ ดั การเต็มตัว-เต็ม ฤดูกาล ของลิเวอร์พูล ทุกคน ยังไม่มีใครเคยพลาด โทรฟี่มาก่อน หากนับมาตั้งแต่สมัยปู่บิลล์ September 2013 - The Reds


120

หมดฤดูกาล หมดบอลแข่ง แล้วท�ำอะไรดีกันล่ะทีนี้ ยังครับ ยังมี มหกรรมฟุตบอลโลก เฝ้าดูนักเตะของเราที่ติดทีม ชาติ ใครจะได้แชมป์ไปครอบครอง และยังมีเรื่องราวมากมายส�ำหรับ ทีมรักของพวกเรา ตั้งแต่ตลาดซื้อ-ขาย ใครจะมา ใครจะไป อีกเยอะ แน่นอน ส�ำหรับในปีนี้ ข่าวลือหลายเรื่องยังคงโหมกระหน�่ำ ไม่แพ้ปี ที่แล้วเลย ตั้งแต่กรณี ราชันย์ชุดขาว อยากได้ ซัวเรส ในราคา 100 ล้านปอนด์ หรือคนนั้นอยากมา คนนี้ต้องขาย ยังไม่ทันไร เสียงวิพากษ์ วิจารณ์ก็หนาหู และเต็มไทม์ไลน์กันไปหมด เหมือนเดิมครับ เกรียนสยาม ยังคงท�ำหน้าที่เหนียวแน่น ปีที่แล้ว ออกตัวกันแรงกรณีไล่ ซัวเรส ทั้งไล่ให้รีบขายๆ ไป หลังเจอกรณีกัดแขน อิวานโนวิช หรือรีบให้ขายๆ ไป หลังมีข่าวลือ ว่า หลุยส์ งอแง อยาก ย้าย บ้างก็บอกว่า 40 ล้านปอนด์ ก็ปล่อยได้แล้ว บ้างก็บอกว่า ขายไป เถอะ ซัวเรส อยู่ไปก็เสียระบบ เพราะเล่นเป็นทีมไม่เป็น อยากรู้จริงๆ ว่า เขาเหล่านั้น ปีที่ผ่านมาเชียร์ลิเวอร์พูลได้อย่างไร และ เชียร์กันแบบ ไหน ทั้งที่น่าจะทั้ง กลืนน�้ำลายตัวเอง และ ทั้งน่าที่จะ ถ่มน�้ำลายรดฟ้า ปีนี้เช่นกัน เกรียนสยาม กับ กระแสการไล่ให้ขาย สเคอร์เทล แทนที่จะ ขาย ท่านรอง กับการไล่ให้ขาย เกล็น จอห์นสัน ดูเหมือนว่าจะดังกัน เป็นพิเศษ คงต้องคอยติดตามว่า เรื่องราวปีนี้จะเข้มข้นแค่ไหน บิ๊กเซอร์ไพร์ส ปีนี้จะมีไหม ทั้งนักเตะเข้า และนักเตะที่ต้องจากลา และไม่ว่าใครจะมา ใครจะไป ผมยังเชื่อมั่น ว่า คุณจะไม่เดินเดียวดาย You’ll Never Walk Alone การิน ธนะอมรทัต บรรณาธิการ The Reds - September 2013


121

หากคุณพลาด ติดตามลิ้งค์ทุกฉบับ ได้ที่

September 2013 - The Reds


122

The Reds - September 2013


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.