- ปกหน้า -
“วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
1
“วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
2
“เปดใจโครงการ OTOP กับสื่อประเทศญี่ปุน”
“เราจะสร างกระแสนิย มไทย ใหคน ไทยใช ข องไทย แล ว เราจะสร า งสิ น ค า ทาง วัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่น เพื่อขายกับ ชาวตางชาติ เชน อาหารไทย วัฒนธรรมไทย เสื้ อ ผ า ไทย นี่ เ ป น เป า หมายของเราที่ จ ะ ดําเนินการตอไป...” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (นายขวัญชัย วงศ์นิติกร) ให้สัมภาษณ์ประเด็นเกี่ยวกับโครงการจัดตั้งศูนย์แสดง จําหน่ายและกระจายสินค้า OTOP ใต้ทางด่วนกรุงเทพฯ สัมภาษณ์โดยหนังสือพิมพ์ Nishinippon Shimbun ประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น : อยากจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการ OTOP “...โครงการ OTOP ของเรา เราเพิ่งทํามา 11 ปกวา นับตั้งแตป 2544 ซึ่งก็เปนหนึ่งทศวรรษแลว โดยทางรัฐบาลไดพยายามแกปญหาความยากจน ภายใตปฎิณาณวา “ตองมีการเพิ่มรายได ลดรายจาย และ ขยายโอกาส ในการทํามาหากินของพี่นองประชาชนโดยเฉพาะคนในชนบท” โดยอาศัยภูมิปญญาของพี่นองที่ ตอยอดจากผลิตภัณฑทางการเกษตรในทองถิ่น ซึ่งรัฐบาลในสมัยนั้นก็ไปใชจากโครงการ OVOP ของญี่ปุนมา เปนตนแบบ และไดเชิญผูวาเมืองโออิตะ คุณวิระวิโกะ อิลามาชิ มาบรรยาย คาดการณใหกับประเทศไทย จากนั้นก็ดําเนินการจัดระบบระเบียบทางกฎหมายวาดวยการบริหารจัดการสินคา OTOP เปนระเบียบสํานัก นายกรัฐมนตรี กําหนดรูปแบบการบริหารสงเสริมการคาขายสินคา OTOP ใหกับประชาชน โดยเริ่มตนจาก การลงทะเบียนจากผูที่มีสินคาภูมิปญญาในทองถิ่นตําบล เริ่มตนตั้งแตป 2545 ตอนนั้นก็มีประมาณ 5,000 ผู ป ระกอบการ/สิ น คา ซึ่ง แบ ง ออกเป น 5 ประเภท เป น อาหาร เครื่องดื่ม ผ า และเครื่อ งแตง กาย ของใช ของตกแตง ของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไมใชอาหาร ใน 5 กลุมนี้เราก็ดําเนินการและกําหนดรูปแบบการบริหาร และบูรณาการ กระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวของ 6 กระทรวง โดยพาณิชยทําเรื่องตลาด อุตสาหกรรมทําเรื่อง การขยายกําลังการผลิต ทองเที่ยวก็จําเรื่องของหมูบาน แหลงบงชี้ทางภูมิปญญา กระทรวงมหาดไทยก็มี “วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
3
หนาที่รวบรวมจดทะเบียนผูประกอบการทั้งหมด แลวนําสินคาพัฒนา เอาสินคามาพัฒนาขึ้นโดยกําหนดเปน ระดับ 1-5 ดาว กระทรวงสาธารณสุขก็มาดูเรื่องมาตรฐานของสินคา วาตองปลอดภัยตอชีวิตและทรัพยสิน”
ญี่ปุ่น : ท่านมีไอเดียร์เกี่ยวกับเรื่อง OTOP ที่เปิดที่ใต้ทางด่วนทั้ง 3 แห่งอย่างไร?
ตลอดระยะเวลา 10 ป ที่ผานมา เรามีการประเมินผล เมื่อป 2556 พบวามีผูประกอบการ 70,000
กวา
ผลิตภัณฑที่ลงทะเบียน OTOP มียอดซื้อขายตอนนี้ 91,000 กวาลานบาท จาก 4,500 กวาลานบาท เปน การกาวกระโดดถึง 20 เทา แตเราก็พบปญหา ที่ผาน มาของโครงการ OTOP คือ ปญหาแรก คือเรื่องการ ควบคุ ม สิ น ค า ทั้ ง คุ ณ ภาพและปริ ม าณมั น ไม สม่ําเสมอ เพราะเวลาเขาสั่งเยอะๆเราทําใหเขาไมได ปญหาที่สอง คือเรื่องชองทางการจัดจําหนายไม เพียงพอ คือผลิตไดก็ไมรูจะเอาไปขายที่ไหน สวนใหญจะเปนสินคาชนบทก็จะขายกันอยูแคนั้น โอกาสที่มันจะ แพรหลายก็ยาก ซึ่งก็เปนปญหาอยางหนึ่งที่เราพยายามหาชองทางในการจัดจําหนายใหมากขึ้น เขาหางมาก ขึ้น เขาสนามบิน รานสะดวกซื้อใหมากขึ้น และปญหาที่สาม คือเรื่องการขาดแหลงเงินทุนสนับสนุนเวลาจะ ขยายกิจการ เนื่องจากผูผลิต OTOP จะเปนคนยากจนก็จะไมมีเงินทุนมากมาย ก็เลยขาดธนาคาร สถาบัน การเงิน สําหรับประเด็นทั้ง 3 ปญหานี้ เราก็ไดกําหนดแนวทางแกไขไวแลวในทศวรรตที่ 2 ดังนี้ ปญหาที่หนึ่ง เรื่องการควบคุมสินคาทั้งคุณภาพและปริมาณ เราก็เลียนแบบญี่ปุนก็คือให 1 จังหวัดตอ 1 มหาวิทยาลัยที่อยู ในภูมิภาคนั้น ใหจัดหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑของผูประกอบการ OTOP ทําแผนธุรกิจ ใช นวัตกรรมปรับปรุงคุณภาพสินคาใหมีมาตรฐาน เปนที่ตองการของประชาชนมากขึ้น โดยใชองคความรูจาก มหาวิทยาลัยเขาไปชวยเหลือสนับสนุนเพิ่มองคความรูใหแกผูประกอบการ OTOP ปญหาที่สอง คือ เรื่องชองทางการจัดจําหนาย เราก็มีการแบงหนาที่กันอยางชัดเจน โดยใหกระทรวง พาณิชยกับกระทรวงการตางประเทศนําสินคา OTOP ออกตางประเทศใหไดอยางนอยปหนึ่ง 1,200 ผลิตภัณฑ ไปในภายใต บริ บท เช น ครั ว ไทยสู ค รัว โลก สปาไทยสปาโลก อี ก ทางหนึ่ ง คื อ เนน เอาสิน คา จํา หน า ยตาม หางสรรพสินคาใหมากที่สุด จําหนายตามรานสะดวกซื้อใหมากที่สุด และก็เพิ่มชองทางการจัดจําหนายในเขต “วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
4
เมืองใหญ ๆ เชน เขตกรุงเทพฯ ภูเก็ต หาดใหญ เชียงใหม ใหมีสินคาโอทอปขายทั้งป ตลอดจนโครงการที่เปด ใตทางดวนฯ ก็ไดรวมมือกับการทางพิเศษแหงประเทศไทย โดยยกที่ดินใตทางดวนใหเราปรับปรุงเปนสถานที่ ขายสิ น ค า โอทอปให ชาวบ า นและคนชนบทซึ่ ง หมุ น เวี ย นกั น เข า มาจํ า หน า ยสิน ค า OTOP ซึ่ ง ได ฤ กษ เ ป ด “โครงการจัดตั้งศูนยแสดง จําหนาย และกระจายสินคา OTOP บริเวณใตทางดวนในกรุงเทพมหานคร” 3 แหง คือ ใตทางดวนรามอินทรา-เพลินจิต-สีลม อยางเปนทางการเรียบรอยแลว ปญหาที่สาม เรื่องเงินทุนสนับสนุน เราไดไปทํา MOU กับธนาคารของรัฐ เชน ออมสิน กรุงไทย ธกส เพื่อรองรับและสนับสนุนการขยายตัวของโอทอปในแตละจังหวัด อําเภอ พรอมชวยเหลือสนับสนุนใหเงินทุน ในการกูยืมเพื่อไปขยายผลิตภัณฑโอทอปใหมากขึ้น เพราะผูประกอบการจะตองผลิตสินคาจําหนายทั้งปใหได ไมใชผลิตเพื่อจําหนายแคเฉพาะชวงฤดูกาล ญี่ปุ่น : เป็นความคิดที่ดีมากเลยคะ แล้วก็น่าสนับสนุนมากเลยนะในส่วนของสื่อ...และในส่วนที่เขาบอกว่า สินค้า OTOP มันมีมาก มีทั้งคุณภาพดีและไม่ดี ส่วนสําหรับกลุ่มที่ทําแล้วคุณภาพไม่ค่อยดี พวกเขาก็ลําบากใช่ไหม? …ไมลําบาก เพราะสวนใหญที่คุณภาพไมดี เขาก็เพิ่งจะเริ่มเขามา ซึ่งเขาก็ตองมาผานกระบวนการใน การพัฒนา โดยเราตั้งเปาไว 5 แนวทาง 1. สินคา OTOP จะตองมีนวัตกรรม (Innovation) 2. สินคา OTOP จะตองมีการบอกเลาของประวัติของสินคาเพื่อสืบสานถึงภูมิปญญาทองถิ่น (Story to tell) 3. สินคา OTOP จะตองมีการวิจัยและพัฒนาเพื่อจะบอกสินคาของสินคา (R & D) 4. สินคา OTOP จะตองมีความโดเดน ไมเหมือนใคร (Positioning) และ 5. สินคาของเราตองมีตลาด (Marketing) มีวิธีการสงเสริมการขายใหได มากๆ ขายเปนกลุมมากๆ ไมงั้นเราก็เพิ่มยอดขายไมได และเราตองเพิ่มมูลคาของสินคาตลอดเวลา ญี่ปุ่น : ในหมูบ่ ้านที ั ญาที่เขาทําเองเขาก็อาจจะรู้สึกลําบาก ่เทคโนโลยียังไม่พัฒนา แล้วก็ภูมิปญ
และก็มีงานที่พัฒนายังไม่ถึง ท่านมีแนวทางอย่างไร?
เราใหสินคา ที่เขาผลิตที่ มาลงเขาจะตองเอาไปเขากระบวนการองคความรูกอนทั้งหมด กลาวคื อ ประเด็ น แรกสิ น ค า จะต อ งผ า นมาตรฐาน อาทิ เ ช น มาตรฐานอาหารและยา มาตรฐานผลิ ต ภั ณ ฑ ชุ ม ชน มาตรฐาน Clean food Good test มาตรฐานผลิตภัณฑทางการเกษตร เพราะวาผลิตภัณฑที่จะเปนสินคา OTOP ไดนั้นก็ตองผานมาตรฐาน และตองมีความพรอมพอสมควร เมื่อไดมาตรฐานแลวถึงจะเขากระบวนการ เพิ่มคุณคาทางผลิตภัณฑ เชน มาเรียนรูการทําแผนธุรกิจ การตั้งราคา การบรรจุหีบหอ การมาฝกทดลองขาย ในภูมิภาคในงานใหญๆในระดับจังหวัด มันตองมีกระบวนการในการพัฒนา เดี๋ยวนี้ไมยากแลวชนบทไมมี “วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
5
หมดแลว เขามีกลุมผูบริหาร OTOP ดวยกันเองในแตละจังหวัด แตละอําเภอ เปนเครือขายในการแลกเปลี่ยน เรียนรูซึ่งกันและกัน เมื่อ 10 ปที่แลวอาจจะลําบาก แตปจจุบันนี้ไมลําบากแลว เพราะวาลูกหลานของเขาเปนคนรุนใหม สมัยใหม สามารถสื่อสารทางเทคโนโลยี ทางอินเตอรเน็ต ทางสื่อ IT ไดหมดแลว อะไรที่ดีที่หนึ่งมันก็จะเห็นกัน ไดทุกที่ และเขาสามารถดูรูปแบบจากตางประเทศไดหมดแลว อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยแตละจังหวัดคอยเปนพี่ เลี้ยงชวยเหลืออยูจึงไมนาเปนหวง ญี่ปุ่น : ในฐานะที่เปนคนตางชาติ และตองการจะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องผลิตภัณฑ OTOP แตวา เวลาจะไปดู OTOP
มันหายากมากเลย ไมรูวาจะไปดูทไี่ หน คือเวลาเขาไปที่งาน OTOP มันจะมีผลิตภัณฑบางตัว คือเราไม มี หา งสรรพสิน ค า ที่ วา ดว ย OTOP โดยตรง เนื่อ งจากศั ก ยภาพของผูผ ลิตสิ น ค า OTOP
ไมสามารถทําอยางนั้นได สิ่งที่ทําไดก็คือเอาไปฝากหางตางๆขาย หรือก็ปหนึ่งอาจจะมีงานที่ทางราชการจัด ให 3 ครั้ง เชน งาน OTOP CITY งาน OTOP MIDYEAR และงาน OTOP ศิลปาชีพ ซึ่งเราเชิญผูประกอบการ มา 4,000 กวารายมาขายพรอมๆกัน เปน OTOP อยางเดียว แตมันก็เปนชวงเวลาสั้นๆ 9-10 วัน ยังไมมีใคร ที่มาลงทุนเปดราน OTOP โดยเฉพาะไมมี แตตอนนี้มีโครงการจัดตั้งศูนยแสดง จําหนาย และกระจายสินคา OTOP บริเวณใตทางดวน 3 แหง มีสินคา OTOP โดยเฉพาะ ซึ่งมีผูประกอบการสินคา OTOP ประมาน 400 รานคา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจําหนายที่ใตทางดวนสามารถเขาไป และที่สนามบินก็มีสินคา OTOP แตมันเปนชอปเล็กๆ สินคาอาจจะยังมีนอย ซึ่งทุกสนามบินตอนนี้มีหมดแลว เชน สนามบินจังหวัดภูเก็ต สนามบิน จัง หวั ดกระบี่ สนามบิน จัง หวัดเชีย งใหม สนามบิ น จัง หวัดอุดรธานี สนามบิ น จัง หวัดสุวรรณภู มิ สนามบินจังหวัดดอนเมือง ญี่ปุ่น : แลนดมารค ของ OTOP ไดรับความเชื่อถือมากใชไหม? ใช ค รั บ ...เพราะว า เราควบคุ ม คุ ณ ภาพ จะเป น OTOP ได นั้ น ต อ งมี ม าตรฐาน โดยมี ห น ว ยงาน คอยตรวจสอบเรื่องมาตรฐาน และการเปดพื้นที่แลนดมารคสินคา OTOP เปนการเปดโอการสใหสินคาที่ผลิต จากภูมิปญญาจริง ทําจากชาวบานจริง ใชทรัพยากรในทองถิ่นจริง ไมไดใชเครื่องจักรถาใชเครื่องจักรก็จะเปน SME ไมใช OTOP
“วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
6
ญี่ปุ่น : ทางรัฐบาลมีงบสนับสนุนเยอะไหม? และชาวบานที่เขาไดรับการสนับสนุน เขาวิจารณอะไรไหม? ใน 1 ป ทางรัฐบาลจะมีงบสนับสนุนประมาณ 2,000 กวาลาน แตงบประมาณจํานวนนี้ใชบริหาร
รวมกันทัง้ 6 กระทรวง 7 ถึง 8 กรม ทั้งกระทรวงพานิชย อุตสาหรรม มหาดไทย ญี ่ปุ่น : ชาวบานที่เขาไดรับการสนับสนุน เขาวิจารณอะไรไหม? สําหรับชาวบานที่ไดรับการสนับสนุน เขาก็ชอบใจ คือพอเขาจําหนายสินคาได ก็ชวยใหระบบเศรษฐกิจ ฐานรากเดินตอไปได ซึ่งแตเดิมอาชีพของเขาคือเปนเกษตรกร และเมื่อเขาพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรมา เปนสินคาOTOP มันก็เพิ่มมูลคาได คุณภาพชีวิตเขาก็ไมตองเสี่ยงรอแตน้ําฝนที่จะผลิตสินคาเกษตรอยางเดียว ชาวบานก็เริ่มคาขายเปน มีโอกาส มีรายไดเพิ่มมากขึ้นจากสินคาทางการเกษตร แลวเอาเงินเหลานี้มาสงเสีย ให ลูก หลานได เ รี ย นหนั ง สื อ มาพั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต มี ที่ อยู อาศั ย ที่ ดี ขึ้น มีย ารัก ษาโรค มีเ สื้ อผ า ที่ ทั น สมั ย มีพาหนะใชในการทํามาหากัน มีรายไดดี มีอาหารที่กินถูกสุขลักษณะ มันเปนเศรษฐกิจฐานรากที่แทจริง ญี่ปุ่น : ทําใหชาวบานเขาทํามาคาขายเปนใชไหม? ใชๆ เพราะวาคนสมัยกอนก็ไดแคทํานา ทําไร เดี๋ยวนี้ก็มกี ารจักรสานขาย ทอผาขาย แปรรูปขาวทําเปน ขาวไลเบอรไลลี่ ทําน้าํ ยาสระผมขาย ขายของไดทุกอยาง ผลิตผลไมกม็ าแกะสลักขาย แปรรูปไดทุกอยางเปน อาชีพเปนรายได และเปาหมายสุดทายที่เราอยากจะพัฒนาผลิตภัณฑโอทอปก็คือในป 58 เราเปด AEC เราทําสัญญา กับรัฐบาลไว เราจะทํายอดขายของ OTOP ใหได 100,000 ลานบาทประเด็นที่สองเราจะสรางกระแสนิยมไทย ใหคนไทยใชของไทยแลวเราจะสรางสินคาทางวัฒนธรรม และภูมิปญญาทองถิ่น เพือ่ ขายกับชาวตางชาติ เชน อาหารไทย วัฒนธรรมไทย เสื้อผาแบบไทย นีเ่ ปนเปาหมายของเราทีจ่ ะดําเนินการ
“วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
7
“เมื่อท่านเข้าใจในอาชีพของท่านแล้ว ท่านจะบริหารอย่างไรให้บรรลุเป้าหมาย” นายมนตรี นาคสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวในการเสวนาแนวทางการทํางานเชิงบริหาร โครงการปฐมนิเทศผู้บริหารระดับจังหวัด และข้าราชการระดับชํานาญการพิเศษ ณ วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
“เมื่อท่านอธิบดีมีนโยบายเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้ว ท่านก็ให้หลักการบริหารงานอีกหลายอย่างที่ผมทราบ ท่านก็พยายามกระตุ้นพวกเราให้ทํางานในฐานะผู้อํานวยการสูงสุด ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีฐานะที่ช่วยพวกเราคิด ตอบ ว่า เราควรวางตัว ความคิดอย่างไร ก็เลยเอาโอกาสนี้มาช่วยเราคิดข้อที่เป็นพื้นฐานก็คือ ฐานะอาชีพใน ราชการเราทําราชการเป็นอาชีพ” ...“แล้วเราเข้าใจอาชีพของเราหรือเปล่า ...อาชีพคือ เรารับเงิน งาน น้ําพักน้ําแรงที่เราทํา แต่อาชีพราชการมันแตกต่าง ภาคขยายที่ท่านจะเอาไป ทําในหน้าที่ของท่านที่จะตอบสนองนโยบายของอธิบดีให้ได้มากที่สุด คือ ท่านต้องเข้าใจอาชีพของท่าน ในฐานะ อาชีพราชการหรือยึดอาชีพจากการทํางาน “ถ้าเราอยู่บริษัทก็ง่ายนิดเดียวทําให้เถ้าแก่พอใจ นั่นคืออาชีพที่วัดได้ ว่าเจ้าของบริษัทพอใจ” เจ้าของบริษัทจะพอใจเมื่อท่านทํากําไรให้บริษัท แต่ภาคราชการในอาชีพ เราตกลงมัน เป็นอะไร วัดตรงไหน” อาชีพของเรา จึงทําเพื่อประชาชน ความพอใจ ความสุข ความดี จึงอยู่กับประชาชน ทั้งหมด อาชีพเราจึงทําเพื่อประชาชน เป็นอาชีพเดียวที่ยังประโยชน์โดยตรงกับสังคม อาจจะมีพ่อค้าทําส่วนหนึ่ง แต่เขาก็จะแฝงไปด้วยกําไร แต่ท่านเงินเดือนก็เท่าเดิม แต่ต้องทํางานหนักเพื่อบริการให้สังคม หรือ ทําเพื่อสังคม งานของเราจึงเป็นงานเพื่อสาธารณะ “งานอาชีพราชการ เป็นงานสาธารณะโดยแท้ เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อสังคมที่ดีขึ้น ท่านเป็น กลไกขององค์ ก ร องค์กรที่ ทํา ประโยชน์ใ ห้ ส าธารณะโดยตรง หรือ จะเรีย กว่า อาชี พ สาธารณะ คือ ทํา ให้ สาธารณะพอใจ ท่านจึงมีภาระอาชีพที่ทําเพื่อสาธารณะ” หลักการทําอาชีพเพื่อคนอื่น วิธีคิดของท่านจึงต้องกว้างและลึกลงไปถึงประโยชน์ของสาธารณะให้ได้ คือ เราต้องคิดมากกว่าคนอื่น และต้องทํางานมากกว่าคนอื่น ต้องคิดตระหนักในอาชีพของเรา และสิ่งที่ผมอยากจะ ฝาก “เมื่อท่านดํารงสถานะตําแหน่งที่สูงขึ้นในอาชีพเพื่อสาธารณะแล้ว วิธีคิดต้องคิดอย่างคําทํางานเพื่อสาธารณะ และตัวท่านเป็นส่วนหนึ่งของสมบัติสาธารณะ เราต้องมีความคิดและสนุกกับงานที่เราทํา เราทําเพื่อสาธารณะ วิธี “วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
8
คิดต้องคิดเพื่อสาธารณะที่เขาเรียกว่า “จิตสาธารณะ” ถ้าหากท่านไม่ได้ชัดเจนในบริบทที่ท่านอยู่ ด้วยสายตา สาธารณะ สังคม จังหวัด อําเภอ ที่ท่านอยู่ ซึ่งทุก ๆ สายตาเหล่านั้นจะคอยตรวจสอบท่านตลอดเวลา ตรวจสอบ แม้กระทั่งความรู้สึกว่า “ท่านทําอะไรให้เขาบ้าง?” เมื่อท่านเข้าใจในอาชีพของท่านแล้ว ท่านจะบริหารอย่างไรให้บรรลุเป้าหมาย สิ่งที่ท่านจะรู้สึกกับลูกน้อง ทีมงาน ท่านจะต้องรู้สึกว่าเขาเป็นคนพวกเดียวกับท่าน คิดว่าเขาเป็นคนสาธารณะแบบเดียวกับท่าน จะใช้งาน ส่วนตัวไม่ได้ จะใช้อย่างทาสไม่ได้ เพราะเขาก็คือสมบัติของสาธารณะเหมือนกัน ท่านต้องเห็นใจเขาที่สําคัญ คือ ต้องบํารุงรักษา ดูแลเอาใจใส่กัน ให้กําลังใจเขา เมื่อเขามีกําลังใจ เขาก็จะรักและชื่นชมท่านไปด้วยกัน แต่ถ้า ลูกน้องท่านไม่มีจิตสาธารณะ ท่านก็ต้องไปกระตุกความนึกคิดของเขาให้มีจิตสาธารณะมากขึ้น “ชํานาญการพิเศษ” เขาอยากจะดูว่าท่านจะมีอะไรพิเศษให้เขาแน่นเลย และสิ่งที่ท่านนึกคิดกับทีมงานจึง ต้องละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น และสร้างความรักในทีมงานมากขึ้น สอนเขามากขึ้น และอีกสิ่งที่สําคัญ คือ ความรู้สึกที่ เป็นเพื่อนร่วมอาชีพสาธารณะด้วยกัน ซึ่งผลประโยชน์ที่เราทําก็จะไปถึงชาวบ้าน ท่านต้องสร้างทีมงาน ที่จิตสํานึกต้องมั่น แนะเขา และท่านจะต้องเอาคนให้อยู่ คือ เอาลูกน้องให้อยู่ ทีมงานให้อยู่ คือ คนในที่นี้ คือ ประชาชน ชาวบ้าน รวมถึงลูกน้อง ถ้าท่านเอาอยู่ เขาจะนิยมท่าน และหากท่าน เอาทีมงานทํางานให้อยู่แสดงว่าท่านทํางานสําเร็จ และอีกหนึ่งความสําเร็จของนักบริหาร คือ การทําให้คนอื่น ทํ า งานสํ า เร็ จ จึ ง มี บ ริ บ ทสํ า คั ญ อยู่ที่ การสั่ง และ การสอนงาน ลูก น้ อ ง ท่ า นจะต้ อ งชี้ แ นะ และ เป็ น แบบอย่ า งให้ ลู ก น้ อ ง สร้ า ง ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทีมงาน แล้วมุ่งไปที่ความสําเร็จ ของงาน ร่วมกัน เพราะว่าการเอาคนให้อยู่ เป็ น ปั จ จั ย ที่ ช่ ว ยลดความเสี่ ย ง ทั้งหมด และทั้งหมดนั้น คือ การครองคนให้อยู่และก่อนจะครองคนให้อยู่ ท่านต้องครองตนให้ได้ก่อน ถือเป็น เงื่อนไขสําคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ผมขอให้ข้อคิดว่า “เป็นผู้บริหารที่มีความเป็นนักบริหารที่ดีตั้งแต่ศรีษะจรดปลาย เท้า” เห็นแล้วประทับใจ จะสามารสร้างความประทับใจให้ประชาชนได้ “ยศถาบรรดาศักดิ์ที่ได้มาพร้อมกับภาระ ถ้าท่านเข้าใจ ท่านจะมีความสุขกับภาระที่ท่านได้มา ซึ่ง ภาระหรืองานที่ท่านได้เป็นงานสาธารณะ ท่านจึงไม่สามารถเสพสุขส่วนตัวได้ แต่ถ้าท่านทํางานแล้วมีความสุข ในงาน ท่านถือเป็นปัจจัยของการบริหารทั้งหมด ท่านจักต้องใส่ปุ๋ยดูแล ลูกน้องของท่านให้เติบโต สั่ง สอน และให้เกียรติเขา เท่า ๆ กับที่ท่านเข้าใจเกียรติของท่าน ขอให้ท่านจงภูมิใจกับเกียรติยศศักดิ์ที่ได้มาในวันนี้ และเอาความภูมิใจใส่ไปที่ลูกน้องของท่านด้วยให้เขาภาคภูมิใจในงานที่ทํา”
“วารสารพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”
9