อิฐก้อนแรก (สมิอฺนาบุ๊ค1)

Page 1



อิฐก้อนแรก

SMIANABOOKS ลาดับที่ 1


บรรณาธิการเล่ ม อิบนุ ซาการี ย์ยา พิสูจน์ อักษร หิบรุ ลอุมมะฮฺ ปก,รู ปเล่ ม กขค ภาพประกอบ ชาวนาเปื อ้ นยิ ้ม อาหารการกิน พี่น้องญะมาอะฮฺ ม.อ.หาดใหญ่ สํานักพิมพ์บ้านอัรกอม พิมพ์ ท่ ี โรงพิมพ์ ซาบิกูนการพิมพ์ 16 ย่างก้าวแห่งวรรณกรรมมุสลิม จากลูกหลานชาวมลายูรุ่นใหม่


วงเล่าของคนวางอิฐ

Romance in crime / ฮุดฮุด ………………………………………… 6 ของขวัญอันลํ ้าค่าที่สดุ สําหรับเราสองคน / นํ ้านึ่งปลาทู …………… ความฝั นของสองตายาย / กระหม่อม ………………………………. 8 บนตาข่าย (On Network) / ยาเขียว ………………………………… 13 Love, once upon a time. / ดอกไม้ สีเขียว ………………………… 16 ความสําคัญของการอยู่เป็ นญะมะอะฮฺ / อุมมุ อิบาดุรเราะฮฺมาน … 20 รูปนี ้ท่านได้ แต่ใดมา / พี่หนูดี ……………………………………….. 27 แสงที่ปลายอุโมงค์ / Qanita Abid ………………………………….. 32 ปลุกเด็กให้ ตื่น / คนมุมโต๊ ะ …………………………………………. 40 “เช้ าวันใหม่” ช่วงเวลาแห่งความสุข / ปลายปากกา ………………. 44 ด้ วยรักที่ไม่มวี นั น้ อยลง / คุง ปี กแย่ ………………………………… 50 รุ่งอรุณแห่งคาบสมุทรมลายู / อัซซาบาวีย์ …………………………. 53 ตัรบียะฮฺรักหรือตัรบียะฮฺโลกฯ / ชัรฟุดดีน อามิลี ………………….... 57 ยาเสพติดฯ / M.Fahmee Talib …………………………………….. 70 การเดินทางกลางแสงเงา / สันติพล ยวงใย ………………………… 78 อิฐก้ อนเเรก / หมีมลายู ……………………………………………… 80


เริ่มวางอิฐก้อนแรก เมื่อสมัยยังเรียนอยู่ในรั ้วปอเนาะ อุสตาซท่านหนึ่งได้ เคยบอกผมไว้ว่า ‚โลกนีถ้ ูกสร้ างให้สมดุล ระหว่างกลุ่มคนที ่ต่อสู้ไปสู่ความถูกต้อง กับ กลุ่มคนทีต่ ่อสูไ้ ปเพือ่ สิ่ งทีไ่ ม่ถูกต้อง‛ ผมจําคําสอนนี ้ จนวันนี ้ วันที่ชีวิต ได้ ผ่านอะไรมามากมาย คําสอนนั ้นก็เริ่มชัดเจนและเป็ นจริงมากขึ ้น ในขณะที่คนจํา นวนหนึ่งเรี ยกร้ องเชิญชวนไปสู่สิ่งที่ถูกต้ อ ง และห้ ามปรามการกระทําที่ไม่ถกู ต้ อง แต่ก็มีคนอีกจํานวนหนึ่งชมชอบ ที่จะทําสิ่งที่ ไม่ถูกต้ อ งเหมือ นกับว่า ตัวเองไม่เ คยรู้ เลยว่า สิ่ง เหล่านัน้ มันไม่ถกู ต้ อง ทั ้งที่จริง เขาเหล่านั ้นล้ วนรู้อยู่แก่ใจ เสมือนกับว่าที่ทําไป นั ้น ต้ องการที่จะเย้ ยหยันความถูกต้ องก็มิปาน แต่ที่ผมขัดใจกับคําสอนของอุสตาซ คือ ทําไมจํานวนคนที่ จะเรี ยกร้ องไปสู่สิ่งที่ถูก ถึงน้ อยกว่าจํานวนคนที่เย้ ย หยัน แต่ผมก็คิด ได้ ว่า เรานี ้ลืมง่ายเหลือเกินว่า ‚สวรรค์เป็ นที่อยู่ของคนส่วนน้ อย ไม่ใช่ ที่อยู่ของคนส่วนใหญ่‛ เป็ นคนส่วนน้ อย ที่พร้ อมจะสู้กบั เรื่องใหญ่ วารสาร สมิอฺ นาฯ เป็ นผลงานจากการรวมตัว ของเยาวชน นักศึกษามุสลิมภายใต้ ความฝั นที่เหมือนๆกัน ความฝั นที่จริ งๆแล้ วมัน คือหน้ าที่ คือ ‚การสถาปนาคุณธรรมแห่งอิสลามให้ เกิดขึ ้นในโลกนี ‛้ เราสํานึกในหน้ า ที่ เรารั กที่ จ ะอ่า น เราชอบที่ จ ะคิ ด เราอยากที่ จ ะ เขียน เราเลยใช้ ต้นทุนความรัก ความชอบ และความอยากดังกล่าว ใช้ จ่ายไปแก่อลั ลอฮฺ เพื่อให้ บรรลุซงึ่ หน้ าที่นั ้น


หลายคนมักถามว่า ทําไมเราถึงชอบที่ จะกล่าวถึงแต่ความ ล้ มเหลว จนโลกมันดูหม่นหมองไปหมด นั ้นก็เพราะ ‚เราคิ ดว่า ความ ล้มเหลวของมุสลิ ม แม้เพี ยงแค่คนเดี ยว ก็ ต้องถื อเอาว่ าเป็ นความ ล้มเหลวของเราทัง้ หมดด้วยเช่นกัน และทุกคนมี หน้าที ่ต้องรับผิ ดชอบ ไม่ใช่ซุกมันไว้ใต้พรมลายสวย แล้วคอยพร่ าถึงอดี ตอันรุ่ งเรื อง ทาเป็ น ไม่ รู้ไ ม่ ชี้ต่ อ ความล้ม เหลวของมุ สลิ ม ในยุค ปั จ จุ บั น เป็ นปลวกแห่ ง อารยธรรม ทีก่ ดั กิ นศาสนาของตนเองอย่างไร้เดียงสาและไม่รู้ตวั ‛ หนังสือเล่มเล็กๆนี ้ เป็ นพ็ อ กเก็ตบุ๊คเล่ม แรกที่อ อก(อย่ า ง รีบเร่งและเร่าร้ อน) โดยเพื่อนๆทีมงานวารสาร สมิอฺนา วะอะเฎาะอฺนา เพื่อแทนคําขอบคุณแด่พี่น้อง ผู้มาร่วมเป็ นสักขีพยาน ในงานวาลีมะฮฺ ระหว่าง นายกิ๊ฟลัน ดอเลาะ กับ นางสาวยัสมีน แมหะ ณ วันอาทิตย์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555 ในชื่อหนังสือว่า ‘อิฐก้ อนแรก’ ทีมงานตั ้งความหวังไว้ ลกึ ๆว่ า ความทุ่มเทของเรา จะเป็ น เสมือนเชื ้อเพลิงของตะเกียงไฟแห่งคุณธรรม ที่จะส่องไล่ความมืดมิด แห่งยุคสมัยให้ มลายหายสิ ้น และหวังเสมอว่าจะมีคนส่งต่อมันไป จะเป็ นอิฐก้ อนแรก ต้ องอึด! ‘กระหม่อม’


6 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 7

Romance in crime มะลายสิ ้น ความหวัง มีต่อรัฐ ท่านได้ อ้าง ชอบธรรม แต่ระราน

ลิขิตจิต จากเอกองค์ ผู้ทรงสรรค์ ให้ ผจญ ทหารพาล มารจัญไร

ทีแ่ ห่งนี ้ มีคนตาย นับพันศพ ฤาเลือดเรา ของเรา ไร้ ราคา

บานบุรี บานกลาง หว่างเสาหิน ใต้ เสาหิน มีคน ตายจากไป

กลางหัวใจ ดัง่ โดน สายฟ้าฟาด ผู้บริ สทุ ธิ์ ถูกฆ่า ก็เพราะเฮีย

ปอดที่ดี ใช้ ไว้ ฟอกอากาศ พึงรู้เถิด ชาวบ้ าน มีชีวิต

ท่ท่าานประหั นประหัตตประหาร ประหารแม้ แม้ชชาวบ้ าวบ้าานน ท่ท่าานได้ นได้ผผลาญ ลาญ งบแผ่ งบแผ่นนดิดินน แล้ แล้ววทิทิ้งไป ้งไป ให้ปประจั ระจันน บททดสอบ บททดสอบ ใจส่ ใจส่อองใส งใส ให้ ให้หหวั วั ใจ ใจ ทดสอบ ทดสอบ บทศรั บทศรัททธา ธา ให้ ขอโทษกลบพ่พ่นนกล่ กล่าาววช่ช่าางไร้ งไร้คค่า่า ขอโทษกลบ เขาจึงงฆ่ฆ่าาพวกเรา พวกเราแล้ แล้ววจากไป จากไป เขาจึ เหนือเสาหิน มีลกู เมีย รํ่าร้ องไห้ เสาหินไซร้ แบ่งแยก แตกลูกเมีย กระสุ กระสุนนสาด สาด กราดไป กราดไป ทํทําาลายเสี ลายเสียย ความเป็ ความเป็นธรรม นธรรม ช่างอ่อนเปลี นเปลี้ย้ย เพลี เพลียยจิจิต ปอดอําามาตย์ มาตย์ ใช้ใช้ฟฟอก อก ซึซึง่ ง่ ความผิ ความผิดด ปอดอํ ขอใช้ สทิ ธิ ์ ทวงถาม ความยุติธรรม

ความโรแมนติกซ่อความโรแมนติ นได้ ในการเสียกดสี ผมเชืในการเสี ่อเช่นนั ้นยดสี ซ่อนได้ ผมเชื่อเช่นนั ้น ...ฮุดฮุด...

...ฮุดฮุด...


8 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 9

ความฝันของสองตายาย กระหม่อม อันที่จริงผมก็ร้ ูสึกไม่ค่อยดีนกั กับการที่ต้องคุยเรื่องตัวเอง เพราะไม่แน่ใจว่า จุดที่ตวั เองยืนอยู่นี ้จะเรียกว่าประสบความสําเร็ จได้ หรื อยัง แต่ถ้าเราจะรอ ให้ ป ระสบความสํ า เร็ จ ก่ อ น ก็ ค งจะต้ อ งเขี ย นกั น บนสวรรค์ และคิ ด ว่ า ปั จจุบนั ขณะ เราก็น่าจะประสบความสําเร็จบ้ างในบางแง่ แต่สิ่งที่อยากจะ นําเสนอมากกว่าความสําเร็จของตัวเอง(ที่ไม่ได้ มมี ากมายอะไร) ก็ คือความ ดีที่ตวั เองได้ รับ ผมเกิดมาในชนบทที่แวดล้ อมไปด้ วยป่ าเขาลําเนาไพร และอาศัย อยู่กับตาและยายมาตังแต่ ้ เด็ก(ผมเป็ นหลานคนแรกของตายาย ตากับยาย จึงขอเลี ้ยงดู) และโชคดีที่ตาทวดเลือกที่จะปลูกบ้ านติดกับมัสญิด และมีตา เป็ นอิ มามประจํ า มัส ญิ ด ซึ่ ง ก็ มัก จะลากผมไปมัส ญิ ด ตัง้ แต่ เ ด็ ก จนเกิ ด ความรู้สึกหนึ่งกับผม ความรู้สึกผูกพันระหว่างชีวิตตัวเองกับมัส ญิ ด และมี วีรกรรมเยอะแยะมากมายระหว่างผมกับมัสญิ ดให้ คนในหมู่บ้านได้ พูดถึ ง ครัง้ แรกก็ ตอนผมอายุได้ สี่ข วบในช่ว งเดือนเราะมะฎอนและคื นนัน้ ไฟดับ


10 | อิฐก้อนแรก

ผมตกลงมาจากชัน้ สองของบะลาเศาะฮฺ เพราะกลัวความมืด เลยไปพิ ง ประตูที่ อ ยู่ใ กล้ แ ถวละหมาดที่ไ ม่ไ ด้ ล งกลอนเอาไว้ แล้ วก็ จํ า เหตุก ารณ์ ไม่ได้ จนกระทัง่ อยู่บนรถ และเมือ่ อายุได้ สิบขวบผมก็โดนงูกัดเพราะเดิน ไป เหยี ย บมัน เข้ า ขณะเดิ น ไปมัส ญิ ด หากเหตุการณ์ เ หล่ า นี เ้ กิ ด กั บคนที่ ไ ม่ ศรัท ธาในอัล ลอฮฺ เขาก็ ค งจะคิดว่ า คุณมัน ไม่ถูกโฉลกกั บมัส ญิ ดแล้ วล่ ะ ห่างๆ มันไว้ น่าจะดี แต่ยายผมไม่คิดเช่นนัน้ ยายบอกผมหลังจากโดนงูกัด ว่า “บาดแผลเหล่านีแ้ หละ จะเป็ นพยานในวันพิ พากษา พยานต่ อความดี ที่ เราได้กระทา” และนี ้คือสิ่งที่โชคดีเหนือความโชคดี ผมมีตากับยายที่รักใน อิส ลาม ยายมัก จะเล่ า ให้ ผมฟั ง เสมอๆว่ า แต่ ก่ อ นยายจะไปอาศัย อยู่ ที่ ปอเนาะเพื่อเรียนอิสลาม และเลือกที่จะตระเวนไปตามปอเนาะต่างๆ เพื่อ แสวงหาอิสลามที่ถูกต้ อง จนมาเจอสิ่งที่ยายคิดว่านัน้ คืออิสลามที่ถูกต้ อง (คือตอนที่ได้ เรียนกับญีแอ(ดร.อิสมาอีล ลุฏฟี )) นั่นคือ ‚อิสลามที่สามารถ เอามาใช้ ได้ ในทุกด้ านของชีวิต ‛ ยายผมไม่ร้ ู จักศัพท์ แสงอะไรมากมาย แก เลยไม่ร้ ูว่าไอ้ สิ่งที่แกกํ าลังจะบอกนัน้ มันมีคําที่รวบรัด และทันสมัยกว่าคือ อิสลามานุวฒ ั น์(Islaminization) ยายมักจะกล่าวชุกูร และบอกว่า “โชคดี แค่ไหนทีไ่ ม่ได้ตายในสภาพทีไ่ ม่รู้ว่าอิ สลามทีแ่ ท้จริ งเป็ นอย่างไร” และด้ วยอุดมการณ์ของตากับยาย ผมเลยถูกเลีย้ งดูมาพร้ อมกับ ความฝั นของยาย ยายมักจะบอกผมเสมอว่า อยากให้ ผมไปเรี ยนศาสนาที่ ซาอุดีอาระเบีย แล้ วกลับมาทํางานดะอฺวะฮฺและขอดุอาอ์ให้ กับยาย ยายไม่ เพียงแต่บอกเท่านัน้ ทุกสัปดาห์ที่ตากับยายไปฟั งบรรยายที่บราโอ(โรงเรี ยน บํารุงอิสลาม จ.ปั ตตานี) ก็จะลากผมไปด้ วย ทังที ้ ่ตอนนัน้ ผมอายุเพียงสาม สี่ขวบ ซึ่งก็ฟังอะไรไม่ร้ ู เรื่ อง จะเป็ นก็ แต่ไปเล่นซนกับน้ อง (ซึ่งตอนหลังตา กับยายลงมติว่า ถ้ าจะไปทังสองคนต้ ้ องแยกกันไป คนหนึ่งไปกับตา อีกคน ต้ องไปกับยาย) หรื อนอนบนตักของตาตอนเขากํ าลังบรรยาย แล้ วก็ ลาก ยายไปซือ้ เค้ กหลัง บรรยายเสร็ จ แต่เหตุผ ลที่ใหญ่ สุดคื อ อยากแวะเที่ย ว


อิฐก้อนแรก | 11

ตลาดชลประทานที่จะแวะกันทุกครัง้ ในขากลับ แต่สิ่งเหล่านัน้ ก็ ทําให้ ผมมี อะไรที่ต่างจากเด็กคนอื่นในหมูบ่ ้ าน ผมเกิดและเติบโตในยุคสมัยที่ยาเสพ ติดเฟื่ องฟูในพื ้นที่สามจังหวัด(ถึงตอนนี ้ ยุคสมัยนัน้ ก็ ยังไม่เคยตกตํ่า ) และ เกิดมาในหมูบ่ ้ านที่มชี ื่อในเรื่องยาเสพติด (แน่นอนว่าไม่ได้ มีชื่อในเรื่ องการ ปราบปราม ) ในหมู่บ้ านที่ มีเ ด็ก วัย รุ่ น คราวเดีย วกั น ที่ ไม่ข้ อ งแวะกั บ สิ่ ง เหล่านันก็ ้ มนี ้ อยจนนับหัวได้ ผมเติบโตพร้ อมกับมองว่ามันคือปั ญหา และ เราต้ องแก้ ไข ทัง้ ที่คิดไม่ออกเหมือนกั นว่าเราจะทําอะไร และไม่ร้ ู ด้วยว่ า ความคิดเหล่านี ้เกิดขึ ้นมาได้ อย่างไร ผมเติบโตมาพร้ อมกับความล้ มเหลวของเพื่อนรุ่นเดียวกัน ในทุก ปี ที่ผมและเพื่อนๆ โตขึน้ และได้ เลื่อนชัน้ เรี ยน ก็ จะมีเพื่อนจํานวนหนึ่งต้ อง ออกจากการเรี ยน และไปตามเส้ นทางใหม่ซึ่งมักจะลงเอยด้ วยยาเสพติด ในตอนนัน้ ผมเคยคิ ดว่าทํ าไมเขาถึ งเลือกทํ าเช่น นัน้ เคยคิดว่ าเพราะเขา เรียนไม่เก่งเขาจึงไม่อยากเรี ยน แต่มาคิดดูอีกที คิด อย่างนัน้ ก็ ไม่น่าจะถูก บางทีเขาเก่งกว่าเราอีก เขาชักลูกข่างวางไว้ บนมือได้ ทงั ้ ที่ผมไม่สามารถทํา ได้ ทุกครัง้ ที่แข่งดีดลูกแก้ วกับเพื่อน ผมมักจะเป็ นฝ่ ายแพ้ เ สมอๆ แต่พอมา คิด อย่ า งจริ ง จัง สิ่ง ที่ ผ มมีแ ต่ เ ขาไม่มีคื อ ความฝั น ของตายาย ตายายที่ กระชับ ในเรื่ อ งละหมาด และมัก จะแสดงความไม่พ อใจเมื่อ ผมไม่ ไ ป ละหมาดญะมาอะฮฺ และอี ก หลายๆ เรื่ อ งจนผมเข้ าใจและซึ ม ซั บ ความหมายของอิสลามที่ถกู ต้ องในความหมายของยาย ยายเลือกที่จะส่งผมเรี ยนหนังสือในโรงเรี ยนประถมเปิ ดใหม่ ซึ่ง เป็ นโรงเรียนเอกชนที่อยู่ใกล้ ตวั เมือง ทําให้ ยายต้ องเก็บออมเงินจํานวนมาก พอสมควรกับฐานะเราในตอนนัน้ เพื่อจะให้ ผมได้ เรียนในโรงเรี ยนนัน้ เพียง เพราะโรงเรียนนันมี ้ สอนวิชาศาสนา และมีครูที่จะคอยกําชับในเรื่ องศาสนา ยายจะบอกผมทุกครัง้ ที่ ยื่นเงินให้ ว่า “อาแบจะใช้เงิ นสิ้ นเปลื องเหมื อนคน อื ่นไม่ไ ด้นะ เราไม่ได้มีเงิ นเหมื อนคนอื ่นเขา” และท่า นก็ จะบอกตลอดว่ า


12 | อิฐก้อนแรก

“ยายอยากจะให้แบเรี ยนหนังสื อสูงๆ จะได้ไม่เป็ นเหมื อนยาย ที ่ตอนเด็ ก ยายไม่สบาย เลยไม่สามารถไปเรี ยนได้ สมัยนัน้ เขาบังคับให้ทุกคนต้องเข้า เรี ยน ใครทีไ่ ม่อยากเรี ยน จะต้องจ่ายค่าปรับ ยายเลยต้องจ่ ายค่ าปรับเพื ่อ ไม่เรี ยนหนังสือ” และยายก็ยํ ้าตลอดว่า “ความรู้ก็เปรี ยบเสมื อนเงิ น จาเป็ น ทีจ่ ะต้องมี เพือ่ การมีชิวิตอยู่” พอมาคิดดูอีกทีในตอนโตกับคําพูดของยาย ตอนนีเ้ ราก็ ยัง ต้ องจ่ า ยค่ า ปรั บ เพื่อ ไม่เรี ย น จ่ า ยค่ า ปรับ ให้ กั บ ความไม่ร้ ู เพียงแต่มองกันไม่ค่อยเห็น สุดท้ ายความฝั นของยายก็กลายเป็ นความฝั นของผม ผมก็ไม่ร้ ูว่า มั น เข้ ามาทางไหน และเกิ ด ขึ น้ ในวิ น าที ใด แต่ ม ารู้ อี ก ที ก็ ต อนอยู่ มหาวิทยาลัย ช่วงเวลาที่ผมอยากจะคบหากับเพื่อนที่มีความฝั นเหมือนกับ ยาย ความฝั นที่จะสร้ างและเผยแพร่วิถีชีวิตอิสลาม ขอให้ ความฝั นนี ้อยู่กับผมจนวันตาย _


อิฐก้อนแรก | 13

บนตาข่าย (On Network) ยาเขี ยว บนตาข่าย .......ทําให้ เรามีอิสระ บนตาข่าย .......ทําให้ เราติดต่อสื่อสารกับใครต่อใครได้ บนตาข่าย .......ทําให้ ใครบางคนที่เงียบขรึมกล้ าละเลงคําพูดจากความคิด ในใจออกมา บนตาข่าย .......ทําให้ เราได้ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บนตาข่าย .......ทําให้ เรารู้จกั เพื่อนใหม่มากขึ ้น รวมทังเพื ้ ่อนเก่าที่ทํา ตัวแปลกไปจากเดิม บนตาข่าย .......มีเรื่องเล่ามากมายที่ไม่เคยฟั งที่ไหนมาก่อน บนตาข่าย .......มีเวทีแสดงความคิดเห็นที่เราไม่กล้ าเอ่ยปากในวงนํ ้าชา บนตาข่าย .......เรามีบทบาทได้ ริเริ่มและสานต่องานหลายอย่าง บนตาข่าย .......เรามีเรื่องที่ยงั ทําให้ ต้องยืนอยู่บนมันอีกเยอะ คนบนตาข่าย จะรับรู้บ้างไหมว่า....


14 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 15

เด็กชายคนหนึ่ง รบเร้ าพ่อของเขาให้ เดินออกมาจากตาข่ายแล้ วพาเขาไป เตะฟุตบอล ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เฝ้ารอให้ ลูกสาวของเขาเดินออกมาจากหน้ าจอ นัน่ เพื่อพูดคุยกับพ่อบ้ าง เสียงอะซาน ณ เวลาหนึ่ง นั่งพิงพื น้ อย่างหมดหวังเพื่อให้ ชายหนุ่มเดิ น ออกจากตาข่ายมาเข้ าเฝ้าพระเจ้ าของเขาสักที กล้ ว ยไม้ ใกล้ ต ายต้ นหนึ่ง ยัง รอเวลารดนํ า้ จากหญิ ง สาวที่เ ป็ นเจ้ า ของ ต้ นไม้ ที่ไม่ยอมรามือจากตาข่ายเลย อาหารเย็นชืดชุดหนึ่ง เตรียมเดินทางสู่การบูดเน่าเพราะชายคนนัน้ ไม่มีที่ ท่าจะเดินออกมาจากตาข่ายเพื่อทานข้ าว หนังสือเก่ าๆเล่ มหนึ่ง ปล่อยให้ ตวั เองพัดไปมาตามแรงลม เพราะไม่มีใ คร สนใจจะอ่านเพียงเพราะมันไม่ได้ อยู่บนตาข่ายนัน่ เรามีเวลาหนึ่งส่ วนเท่ากัน เด็ก ชาย พ่อ เสียงอะซาน กล้ วยไม้ อาหารบนโต๊ ะ และหนังสือเล่มเก่าๆ ต่างก็รอเวลาที่คุณจะผละออกจากตา ข่ายราวกับใยแมงมุมเหนียวแน่น ที่ดกั เราไว้ โดยที่ไม่ร้ ูตวั เลยว่ามีแมงมุมตัว ใหญ่ คอยแทะกิ นเวลาซึ่งหมายถึ งชีวิ ตไปทีละน้ อย ตาข่ายยังคงพันทนา การผู้คนได้ เพิ่มขึ ้นมากมาย ตราบใดที่มนั ยังมีข้อดีเอาไว้ หลอกล่ออยู่ ลองตอบคําถามตัวคุณเอง ว่าในหนึ่งพันสี่ร้อยสี่สิบนาทีต่อหนึ่ง วันของคุณ คุณติดอยู่บนตาข่ายนานแค่ไหน มากไปหรือพอดี ตัวคุณเองรู้ดี ที่สดุ _


16 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 17

Love, once upon a time. ดอกไม้สีเขี ยว

Do you remember the often words of mine Love is like a butterfly Your attempt to reach, to touch Surely away it flees by Once you stay still in hush To you its dancing wings glide. A sublime Butterfly I met Once upon a time, In the garden of Fate, I kept silent and await Yet not anymore return flight Of such lovely butterfly.


18 | อิฐก้อนแรก

ฉันพูดเสมอว่า ความรักก็เหมือนผีเสื ้อ ยิ่งเอื ้อมมือไขว่คว้ า มักบินลับตา ห่างไกล แต่หากนิ่งเฉยไว้ มันกลับขยับปี กเข้ ามา ชิดใกล้ และแล้ ว ในสวนแห่งโชคชะตา เมือ่ ฉันพบผีเสื ้อแสนสง่า ที่พึงใจ ฉันชื่นชมอยู่เงียบๆ ด้ วยเกรงเจ้ าหนีวบั ลับหาย หวังสักวัน เจ้ าคงเห็นฉันดังดอกไม้ วันคืนล่วงไป เจ้ าบินเลยไกล ไม่กลับมา... คงจะแปลก... ถ้ าหัวใจไม่มรี ัก(ใครสักคนพูดเอาไว้ อย่างนัน้ ) ความรักที่ดีงาม เดินทางมาในเวลาที่เหมาะสม(ฉันเชื่อแบบนี ้) สําหรับมุสลิม ศรัทธาและเชื่อว่า พระเจ้ าได้ กําหนดคู่ครองเอาไว้ ให้ เราแล้ ว เวลาเพื่อนต่างศาสนิกหลายคนสงสัยและถามว่า ทําไมมุสลิมห้ ามมีแฟน ? เอ่อ... บางทีจะตอบให้ มนุษย์ทงมวลเข้ ั้ าใจก็ยากเหมือนกันนะ จะตอบอย่างไรดี ? หรือจะลองตอบเล่นๆ ว่า


อิฐก้อนแรก | 19

..........ไม่เอาอ่ะ เรากลัวอกหัก ขี ้เกียจร้ องไห้ แบบพวกแก เหนื่อย! ..........จะมีแฟนได้ ไง แค่ผ้ ชู ายมาเฉียดปลายนิ ้วยังไม่ได้ เลย(เฟ้ย!) ..........ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวสามีในอนาคตของเรารู้ เขาคงเสียใจ เราไม่อยากให้ เขาเสียใจ ..........ไม่เอาอ่ะ ถ้ าเราเคยมีแฟน(ก่อนแต่งงาน) สามีในอนาคตของเราก็คง เคยมีแฟนมาก่อน เราไม่ชอบแบบนันอ่ ้ ะ รู้สึกเสียฟอร์ ม ..........แม่สงั่ ว่า ห้ ามมีแฟน! ให้ มาเรียนหนังสือ! เห็นไหมว่าจะตอบให้ มนุษย์ทงมวลเข้ ั้ าใจนี่ ยากไม่ใช่เล่นเลยนะ แต่คงจะดีใช่ไหม? หากเรารู้ว่าได้ ครอบครองหัวใจสักดวงที่เป็ นของเรา และ ไม่เคยเป็ นของใครก่อนหน้ านี ้ ฉะนัน้ ความรักที่ดี คงเป็ นการให้ เกี ยรติและรักษาเกี ยรติซึ่งกัน และกัน เหมือนกลอนข้ างต้ นนี่ไง เพราะเราคงไม่ต้องการความรักที่เลยผ่านมาแล้ วเลยผ่านไปใช่ ไหม ? มุสลิมจึงถูกสัง่ ให้ เก็บความรักเอาไว้ ในหัวใจ และเก็บการแสดงออก ซึ่ ง ความรั ก นั น้ เอาไว้ จนกว่ า จะถึ ง เวลาที่ เ หมาะสมกั บ คนที่ คู่ ค วร จะ ครอบครองมันเท่านัน้ งงไหม ? ถ้ างง… คําตอบที่เยอะกว่านี ้อยู่ในอัลกุรอานนะ ^^ _


20 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 21

ความสาคัญของการอยูร่ ่วมกัน เป็นญะมาอะฮฺในอิสลาม อุมมุ อิ บาดุรเราะฮฺ มาน ความเป็ นญะมะอะฮฺในอิสลามนันเป็ ้ นเรื่องพิเศษ อิสลามไม่ได้ แยกศาสนา ออกจากสังคมและการเมือง ในทางกลับกัน ทุกแง่มมุ ของสังคมล้ วนแล้ วแต่ มีระบุอยู่ในชะรีอะฮฺ ชะรีอะฮฺคือกฎหมาย เป็ นที่มาของอํานาจการปกครอง เป็ นที่มาของข้ อกําหนดต่างๆ เป็ นพลังขับเคลื่อนของชุมชน ดังนัน้ ชุมชนจึง ขับเคลื่อนได้ ด้วยชะรีอะฮฺ ‚โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยาเกรงอัลลอฮฺ อย่ างแท้จ ริ งเถิ ด และ พวกเจ้าจงอย่าตายเป็ นอันขาดนอกจากในฐานะที ่พวกเจ้าเป็ นผู้นอบน้อม เท่านัน้ และพวกเจ้าจงยึ ดสายเชื อกของอัลลอฮฺ โดยพร้อมกันทัง้ หมด และ จงอย่าแตกแยกกัน และจาราลึ กถึ งความเมตตาของอัลลอฮฺ ที่มีให้แก่ พวก เจ้า ขณะทีพ่ วกเจ้าเป็ นศัตรูกนั แล้วพระองค์ ได้ทรงให้สนิ ทสนมกันระหว่าง หัวใจของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็ กลายเป็ นพี ่น้องกันด้วยความเมตตาของ พระองค์ และพวกเจ้าเคยปรากฏอยู่บนปากหลุมแห่งไฟนรก แล้วพระองค์ ก็


22 | อิฐก้อนแรก

ช่วยพวกเจ้าให้พน้ จากปากหลุมแห่งนรกนัน้ ในทานองนัน้ แหละ อัลลอฮฺ จะ ทรงแจกแจงแก่ พวกเจ้าซึ่ งบรรดาโองการของพระองค์ เพื ่อว่าพวกเจ้าจะ ได้รบั แนวทางอันถูกต้อง และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้าซึ่ งคณะหนึ่ งที ่จะเชิ ญ ชวนไปสู่ความดี และใช้ให้กระทาสิ่ งที ่ชอบ และห้ามมิ ให้กระทาสิ่ งที ่มิชอบ และชนเหล่านี ้แหละ พวกเขาคื อผู้ได้ รับความสาเร็ จ และพวกเจ้าจงอย่ า เป็ นเช่นบรรดาผูท้ ีแ่ ตกแยกและขัดแย้งกันหลังจากที ่บรรดาหลักฐานอันชัด แจ้ ง ได้ มายัง พวกเขาแล้ว และชนเหล่ า นี ้แ หละส าหรับ พวกเขา คื อ การ ลงโทษอันใหญ่หลวง‛ (อาลิอิมรอน : 102-105) ญะมะอะฮฺในอิสลามนัน้ ถูกกํ าหนดให้ พัฒนาต่อไปเป็ นรัฐบาล ชุมชนมุส ลิมในยุค แรกไม่ไ ด้ มีพ ลังขึ น้ มาได้ ด้ ว ยการงานไร้ แก่ น สารและ ถ้ อยคําที่อ่านผ่านลมปาก แต่พลังและอํานาจการปกครองนัน้ เกิดขึ ้นเพราะ วิ นัย และกฎเกณฑ์ ชุ มชนมุส ลิ มในสมัย นัน้ มีโ ครงสร้ างทางสัง คมและ การเมือง มีภาคส่วนที่รับผิดชอบเรื่ องการเงินและเศรษฐศาสตร์ มีผ้ ดู ูแ ล ด้ านการทหาร และมีการจัดการเพื่อความยุติธรรม จากท่ านอบู นะญี หฺ อัล -อิ รบาฎฺ อิ บนุ สาริ ยะฮฺ เราะฎิ ยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า: ‚ท่านเราะสูลลุ ลอฮฺ(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้ตักเตื อน เราด้ วยการตักเตื อนหนึ่ ง ที ่ท าให้จิ ตใจหวาดหวัน่ และน้ าตาเอ่อล้น แล้ว พวกเราก็กล่าวว่า: ‚โอ้เราะสูลลุ ลอฮฺ ประหนึ่งว่ามันคื อคาตักเตื อนของผู้จะ จากลา ดังนัน้ ท่านจงสัง่ เสี ยให้แก่ พวกเราเถิ ด ‛ ท่านกล่าวว่า : ‚ฉันขอสัง่ เสียพวกท่านให้มีความยาเกรงต่ออัลลอฮฺ ผู้ทรงเกี ยรติ และสูงส่งยิ่ ง และจง เชื ่อฟั งและปฏิ บตั ิ ตาม ถึ งแม้นว่าทาสคนหนึ่ งจะปกครองท่านก็ ตาม และ หากผูใ้ ดผูห้ นึ่งในหมู่พวกท่านมี ชีวิตยื นยาวต่ อไป เขาก็ จะได้พบกับความ ขัดแย้ งอัน มากมาย ดังนัน้ พวกท่านจงยึ ด ไว้ซึ่ง สุนนะฮฺ (แนวทาง)ของฉัน และสุนนะฮฺของบรรดาเคาะลี ฟะฮฺ ผู้ทรงธรรมที ่ได้รับทางนา จงกัดมันด้วย


อิฐก้อนแรก | 23

ฟั นกราม และพวกท่านจงพึ งระวังต่ ออุตริ กรรมทัง้ หลายในศาสนา เพราะ ทุกๆ อุตริ กรรม(บิ ดอะฮฺ ) นัน้ คื อความหลงผิ ด และทุกๆ ของความหลงผิ ด นัน้ อยู่ ในไฟนรก‛ หะดี ษบันทึ กโดยอบูดาวู ด 1 และอัต -ติ รมิ ซีย์ 2 และท่าน กล่าวว่า หะดี ษนีอ้ ยู่ในระดับหะสันเศาะหีห้ ฺ นี่คือความหมายของญะมะอะฮฺในสมัยแรกเริ่ มที่ชุมชนมุสลิมถูก ก่อตังขึ ้ ้นมา แต่ความหมายของญะมะอะฮฺในวันนี ้ น่าเสียดายที่มสุ ลิมกํ าลัง ปฏิ บัติ ต ามศาสนาที่ พ วกเขาได้ รั บ การอบรมมาจากประวัติ ศ าสตร์ ห รื อ วัฒนธรรมของพวกเขาเอง ซึ่งนี่ทําให้ พวกเขาแตกออกเป็ นกลุ่มชาติพัน ธ์ และทําให้ เกิดชุมชนมุสลิมที่แยกกันอยู่ตามถิ่นที่อยู่เดิมของแต่ละคน ‚สิ่ งทีอ่ ยู่ในชัน้ ฟ้าทัง้ หลายและสิ่ งทีอ่ ยู่ในแผ่นดิ นต่างแซ่ซ้องสดุดีต่ออัลลอฮฺ และพระองค์ เป็ น ผู้ทรงอานาจ ผู้ท รงปรี ชาญาณ โอ้บ รรดาผู้ศ รัทธาเอ๋ ย ทาไมพวกเจ้าจึ งกล้าพูดในสิ่ งทีพ่ วกเจ้าไม่ปฏิ บตั ิ เป็ นเรื ่องน่าเกลี ย ดยิ่ ง ณ ที ่อ ัลลอฮฺ ที ่พวกเจ้า พูด ในสิ่ งที ่พวกเจ้า ไม่ ปฏิ บตั ิ แท้จริ ง อัล ลอฮฺ ท รงรัก บรรดาผูท้ ีต่ ่อสู้ในทางของพระองค์ เป็ นแถวเดี ยวกัน ประหนึ่ งพวกเขาเป็ น อาคารทีย่ ึ ดมัน่ แข็งแรง‛ (อัศ-ศ็อฟ : 1-4) ในหลายประเทศมุส ลิ ม แนวคิ ด เรื่ อ งชาติ นิ ย มและการแยก ศาสนาออกจากการเมืองนันเป็ ้ นพลังขับเคลื่อนรัฐชาติของพวกเขา ชะรีอะฮฺ ไม่มคี วามสําคัญในด้ านการปกครองใดๆ ที่เป็ นรู ปธรรมเลย ในรัฐ อิสลาม สมัยใหม่เหล่านี ้ ความเป็ นสมัยใหม่เหล่านี ้ ความเป็ นญะมะอะฮฺถูกมองว่า เป็ นภัยและถูกจัดการอย่างโหดร้ าย มุสลิมที่อยู่เป็ นชนกลุ่มน้ อยในประเทศ 1 2

อบู ดาวูด, อัส -สุ นัน , ภาค: อัส -สุน นะฮฺ , บท: เจริ ญ รอยตามสุ น นะฮฺ , เลขที่ : 4607 อัต-ติ รฺมิซี ย์, อัล -ญามิอฺ, ภาค: ความรู้ , บท: ยึดสุ นนะฮฺ และห่างไกลจากอุตริ ก รรม, เลขที่: 2676


24 | อิฐก้อนแรก

ตะวัน ตกกํ า ลั ง ประสบกั บ วิ ก ฤตเรื่ อ งอัต ลัก ษณ์ ข องตนเองที่ มีค วาม ซับ ซ้ อ นเป็ นอย่ างมาก องค์ ก รมุสลิ ม หลายองค์ กรเกิ ดขึ น้ มาจากกลุ่ม มุสลิมที่มีชาติพันธ์ หรื อวัฒนธรรมเดียวกัน องค์ กรเหล่านีใ้ ช้ วัตรปฏิบัติ ตามแบบอิสลามเป็ นสิ่ง ลวงหลอกว่าพวกเขาคือญะมะอะฮฺมุสลิม แต่ ความจริ งแล้ ว พวกเขาไม่มีอะไรเกี่ ยวข้ องกับความเป็ นญะมะอะฮฺตาม แบบฉบับของอิสลามเลย อิมามและนักบรรยายในชุมชนมุสลิมเหล่านี ้ ต่างก็ ไม่มีอํ านาจในการตัดสินหรื อ ในทางการเมืองต่อคนของพวกเขา เลย อิมามพวกนีม้ ีบทบาทอยู่ในมัสยิดหรื อข้ องเกี่ ยวในเรื่ อง “ศาสนา” บางเรื่ อ งเท่ า นั น้ แต่ อิ ท ธิ พ ลของพวกเขาที่ มี ต่ อ ผู้ค นในเรื่ อ งสั ง คม การเมือง เศรษฐกิจ และการตัดสินนันมี ้ เพียงน้ อยนิดหรื อแทบจะไม่มีให้ เห็นเลยแม้ แต่น้อย ใช่ !เราเข้ าใจว่ าเรากํ า ลังอยู่ ท่ ามกลางอารยธรรมตะวัน ตก และเราจํ า เป็ นต้ อ งปรั บ และผสมผสานบางอย่ า งเพื่ อ ที่ เ ราจะได้ อ ยู่ ร่วมกับคนท้ องถิ่น และเพื่อเป็ นการรักษาหน้ าที่ของเราที่มีต่อสังคมที่เรา อยู่ อย่างไรก็ตาม การทําเช่นนี ้จะต้ องไม่เป็ นอุปสรรค และที่จริงแล้ วมันก็ ไม่ได้ เป็ นสิ่งที่กีดกันหรือทําให้ เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันเป็ นชุมชนของเรา เองได้ นี่ คือความหมายของคํ าว่ าญะมะอะฮฺ คื อเป็ นชุมชนที่ สมบูร ณ์ พร้ อมในตัวเอง ภายใต้ การนํา กฎเกณฑ์ และข้ อกํ าหนดจากอัลกุรอาน และสุนนะฮฺ จากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิ ยัลลอฮุอนั ฮุ เล่าว่า: ท่านเราะสู ลุลลอฮฺ กล่าวว่า: ‚พวกท่านจงอย่าอิ จฉาริ ษยากัน จงอย่ าทาที ให้ราคา สิ นค้าสูงขึ้น3 จงอย่าเกลียดชังกัน จงอย่าหมางเมิ นกัน จงอย่าขายสิ้ นค้า ตัดราคากัน และพวกท่านจงเป็ นบ่าวของอัลลอฮฺ ฉนั ท์ พี่น้องกัน มุสลิ ม เป็ นพีน่ อ้ งของมุสลิ ม ไม่อธรรมกัน ไม่ทอดทิ้ งกัน ไม่โกหกกัน และไม่ดู ถูกเหยี ยดหยามกัน ความยาเกรง(ตักวา)อยู่ทีน่ ี ่ - และท่านก็ ชี้ที่หน้าอก


อิฐก้อนแรก | 25

ของท่านสามครั้ง – เป็ นความชั่วช้าที ่เพี ยงพอแล้วสาหรับคนๆหนึ่ ง ใน การทีเ่ ขาดูถูกเหยี ยดหยามพี ่น้องมุสลิ มของเขา มุสลิ มทุกคนต่ อมุสลิ ม ด้วยกันเป็ นทีต่ ้องห้าม ซึ่ งเลือดเนือ้ ของเขา ทรัพย์ สินของเขา และเกี ยรติ ของเขา‛ หะดีษบันทึกโดยมุสลิม 4 จากท่ า นอบู ฮุร็ อ ยเราะฮฺ เราะฎิ ยัล ลอฮฺ อ ัน ฮุ จากท่ า นนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม) ท่านกล่าวว่า: ‚ใครก็ ตามที ่บรรเทาความ ทุกข์ ย ากของผู้ศ รัทธาจากบรรดาความทุกข์ ย ากต่ างๆ ของโลกดุนยา อัลลอฮฺ ก็ จะบรรเทาความทุก ข์ ยากของเขาจากบรรดาความทุกข์ ยาก ต่างๆ ของวันปรโลกเช่นกัน และใครก็ ตามที ่ให้ความสะดวกแก่ ผู้ขดั สน อัลลอฮฺ ก็ จะให้ความสะดวกแก่ เขาทัง้ ในโลกนี ้และโลกหน้า และใครก็ ตามทีป่ กปิ ด (สิ่ งทีน่ ่าละอายหรื อความผิ ด) 5 ของมุสลิ ม อัลลอฮฺก็จะทรง ปกปิ ดเขาทั้ง ในโลกนี ้แ ละโลกหน้ า และอัล ลอฮฺ พ ร้ อ มจะให้ ค วาม ช่ วยเหลื อบ่าว ตราบใดที ่บ่าวยังอยู่ ในการให้ความช่ วยเหลื อแก่ พี่น้อ ง ของเขา และผู้ใดก็ ต ามที ่เดิ นทางเพื ่อ แสวงหาความรู้ อัล ลอฮฺ จ ะทรง ประทานความง่ายดายแก่ เขาซึ่ งเส้นทางสู่สวรรค์ และไม่มีกลุ่มชนใดที ่ รวมตัวกัน ณ บ้านหลัง หนึ่ งในบรรดาบ้านของอัลลอฮฺ (มัสญิ ด ) โดยที ่

3

หมายถึงทํ า ที แ กล้ งชมสิ น ค้ า ว่าดี แล้ ว ถือโอกาสขึ ้นราคาสิ นค้ า โดยไม่เป็ นธรรม ท่า นอิบ นุ เราะญั บ กล่ า วว่า และอาจหมายรวมถึ ง การคดโกงในทุก ๆ รู ป แบบ (ญามิอฺ อัล-อุลูม วัลหิกมั 1/328) 4 มุสลิม, อัล-ญามิอ,ฺ ภาค: การซิ กิรฺ การดุอาอ์ การเตาบัต และการอิสติฆฟารฺ , บท: ความประเสริ ฐของการรวมตัวกันอ่านอัลกุรอาน, เลขที่ : 2699 5 คือความผิดที่ไม่ได้ กอ่ ความเดือดร้ อนหรื อเสียหายแก่ค นอื่นๆ และการเปิ ดเผยไม่มี ความจําเป็ นใดๆ ทั ้งสิ ้น และการปกปิ ดนั ้นมิได้ หมายความว่าไม่จําเป็ นต้ องตักเตือน แต่ให้ มีการตักเตือนอย่างลับๆ และไม่เปิ ดเผยต่อบุคคลอื่น


26 | อิฐก้อนแรก

พวกเขาอ่านคัมภีร์ของพระองค์ และศึ กษากันระหว่างพวกเขา นอกจาก ความสงบ(สะกี นะฮฺ) จะลงมายังพวกเขา และความเมตตา(เราะหฺมตั ) จะปกคลุมพวกเขา มลาอิ กะฮฺ จะห้อมล้อมพวกเขา และอัลลอฮฺ จะทรง ราลึกถึ งพวกเขา ท่ามกลางผูท้ ีอ่ ยู่กบั พระองค์ 6 และผูใ้ ดก็ตามที ่การงาน ของเขาขาดตกบกพร่ อ ง 7 เชื ้ อ สายและวงศ์ ต ระกู ล ของเขาก็ มิอ าจ ยกระดับเขาได้‛ หะดีษบันทึกโดยมุสลิม8 ด้ วยสํานวนนี ้ _ เรียบเรียงจาก “The Importance of Community in Islam” 9 โดย ชัยคฺ คอลิด ยาซีน

6

อิบนุ เราะญับ กล่าวว่า การรํ าลึกของอัลลอฮฺตอ่ บ่าวของพระองค์คือ การสรรเสริ ญเขา ท่ามกลางบรรดามลาอิกะฮฺของพระองค์ (ญามิอฺ อัล-อุลูม วัลหิกมั 1/346 ) 7 หมายถึงไม่ถงึ ขั ้นระดับของผู้ที่ทําศาสนกิจอย่างครบถ้ วนสมบูรณ์หรื อไม่ถงึ ขั ้นระดับของ ผู้ที่มีตําแหน่งสูงในวันปรโลก 8 มุสลิม, อัล-ญามิอฺ, ภาค: การซิกิรฺ การดุอาอ์ การเตาบัต และการอิสติฆฟารฺ , บท: ความ ประเสริ ฐของการรวมตัวกันอ่านอัลกุรอาน, เลขที่: 2699 9 http://articles.challengeyoursoul.com/index.php?articleId=6&categoryId=2


อิฐก้อนแรก | 27

รูปนี้ท่านได้แต่ใดมา พีห่ นูดี เจ้ าสาวงานนี ้บอก(สัง่ )ข้ าพเจ้ าว่า “ช่วย(ต้อง)เขี ยนเรื ่องที ่ ‘กระแทกสังคม’ มาให้หนึ่งเรื ่อง ให้เวลาสองวัน ” ไม่กําหนดหัวข้ อหรื อให้ รายละเอียดอะไร มากไปกว่านี ้ (ขอบคุณ) เมือ่ นําสเปคงานอันกว้ างยิ่งกว่าเจ้ าพระยาตอนนํ ้า ท่วมที่ท่านมีเสาวนีย์มาลองคิดดู ไม่ร้ ูเป็ นเพราะอคติในจิตสํานึกหรืออะไรที่ ทําให้ ภาพที่ปรากฏในหัวมีแต่ภาพหน้ าจอสีขาว แถบสี นํา้ เงิน และตัวเอฟ เด่นหรา... แค่เห็นลางๆ ก็ ร้ ู ว่ามันคือภาพของอาณาจักรที่ ประชากรเยอะ ที่สดุ ในโลกปั จจุบนั สาธารณรัฐที่หลายคนต้ องเข้ าไปประจําการทุกเช้ าเย็น และอาจลงแดงถ้ าไม่ได้ แวะเวียนเข้ าไปสักสาม-สี่วัน...โลกเสมือน(ที่เริ่ ม เลือนเข้ ากับโลกจริง)อันมีชื่อว่า ‘เฟสบุ๊ค’ ในประดาเรื่องน้ อยใหญ่เกี่ยวกับเฟสบุ๊คที่ข้าพเจ้ าอยากกระแทก ให้ ล้มโครมนัน้ รูปการ์ ตนู หญิงสาวหน้ าใสกิง้ คลุมหิญาบงามพริ ง้ ยิม้ หวาน วิ ้งๆ... ลอยเด่นหราขึ ้นมาก่อนใคร อยากรู้มากว่าน้ องนางหน้ าโอโม่เหล่านี ้มี


28 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 29

จุดกําเนิดมาจากที่ใดถึงได้ ฮอตฮิตกลายเป็ นเซเลบประจําเฟสบุ๊คของพี่น้อง มุสลิมทังหลายแหล่ ้ จะขอเล่าวิวฒ ั นาการของเหล่าตัวการ์ ตู นเหล่านีใ้ ห้ ฟังเท่าที่เคย เห็นนะคะ... ตอนแรกน้ องนางปรากฏตัวในฐานะผู้เชื ้อเชิญให้ ใครๆ มาคลุม หิญาบ เริ่มจากน้ องใส่หิญาบยิ ้มหวานธรรมดาเบฯ นัยว่าคลุมหิญาบแล้ วดู ดีน่ าเอ็ นดูออกนะเธอ มาคลุมหิ ญ าบกัน เถอะ...จากนัน้ เริ่ มมีอาแบหน้ า เกาหลีเคราหรอมแหรมโผล่มายิ ้มขรึมคู่ คราวนี ้มีถ้อยความทํานองว่าชายดี ที่ ไ หนๆ เขาก็ เ ลื อ กคนคลุมหิ ญ าบกั น นะเออ อยากได้ คนดี ก็ ทํ า ตัว ดี ๆ แต่งตัวดีๆ ก่อนสิจ๊ะ (ซึ่งมีคนนะศีฮะฮฺไปแล้ วว่าเป็ นวิธีคิดที่ ส่มุ เสี่ยงว่าจะ กระทบเรื่องความอิคลาศในการทําความดี )...แล้ วน้ องนางก็ เริ่ มเดินทางสู่ การเป็ นพรีเซ็นเตอร์ โครงการสร้ างครอบครัวอิสลามโดยสมบูรณ์ แบบ ซึ่งถ้ า พูดอย่างยุติธรรม มันก็มเี รื่องที่น่าชื่นชมในความพยายามอันนี ้ แต่ลักษณะ ของตัวการ์ ตนู ที่เหมือนกับการเอาการ์ ตูนญี่ ปน-เกาหลี ุ่ มาตัดต่อพันธุกรรม ให้ กลายเป็ น ‘อาเด๊ ะวุ่นจังกับอาบังเย็นชา’ มันชวนให้ ตงิดๆ ที่หัวใจ ยิ่งช่วง หลัง พัฒนาการของแอ๊ คชัน่ หวานๆ ระหว่างอาแบกับอาเด๊ ะยิ่งดูจะเลยเถิ ด ไปทุกที อาเด๊ ะเราอ้ อล้ อออกสื่ออย่างไม่ขวยเขินอีกต่อไปแล้ ว ขณะอาแบก็ ชัก แสดงออกเยอะขึ น้ เรื่ อ ยๆ แม้ จะใช้ ป ระกอบข้ อ ความที่สื่ อ ไปในทางคู่ สามี-ภรรยามากกว่าความสัมพันธ์อื่นใด แต่มนั ก็ดขู ดั ตาอยู่ดี...หรือเปล่า? เคยชวนเพื่อนๆ มาร่วมด้ วยช่วยกันถกเรื่องนี ้ บนความพยายามที่ จะให้ มฝี ่ ายค้ านคอยปกป้องการใช้ รูปภาพแบบนี ้ด้ วย เพื่อให้ ได้ เหตุผลของ ทังสองฝ่ ้ าย ส่วนมากการถกของเรามักจบลงที่ ...โอเค พวกเราอาจไม่ชอบ การใช้ ภ าพพวกนี ้ และคิ ด ว่ า ไม่ค่ อ ยจะเหมาะสม แต่ มัน ก็ ไ ม่ น่ า จะใช่ ความผิดชัดเจนถึ งขนาดต้ องไปนําเสนอความไม่เห็นด้ วยนี ต้ ่อสาธารณะ ตราบที่รูปภาพเหล่านันถู ้ กใช้ ประกอบเนื ้อหาที่ถูกต้ องตามหลักการชัดเจน


30 | อิฐก้อนแรก

ทว่าเมือ่ สบโอกาสให้ ได้ กระแทกอะไรสักอย่าง ณ ที่นี ้ ข้ าพเจ้ าก็ เห็นว่าเป็ น วาระอันดีที่จะลองเสนอความคิดเห็นเรื่องนี ้ดู ควรมิควรแล้ วแต่จะโปรด 1- ก่อนอื่นต้ องบอกก่อนว่าที่กําลังพูดถึ งคือรู ปการ์ ตูนเท่านัน้ ส่วนการนํา รูปมุสลิมะฮฺจริงๆ มาลง ไม่ว่าจะประกอบบทความชนิดใด ก็ไม่เห็นด้ วย ทังนั ้ น้ เพราะมันนํามาซึ่งฟิ ตนะฮฺโต้ งๆหลายประการ 2- ในส่วนของรูปการ์ ตนู มุสลิมะฮฺหน้ าวิง้ ที่บอกไป ส่วนตัวรู้ สึกว่าถ้ าเลี่ยง ได้ ก็น่าจะเลี่ยงไว้ ก่อน เราไม่ร้ ูเลยว่าในหมูค่ นที่ดมู นั จะมีหัวใจดวงใดมี โรคและอาจได้ รับผลกระทบจากภาพตัวการ์ ตูนหน้ าตาสะสวยเหล่านี ้ โดยเฉพาะภาพที่ มีก ารแสดงออกในเชิ ง คู่รั ก แม้ ว่ า จะใช้ ป ระกอบ ข้ อความที่สื่อให้ เห็นว่าเป็ นการแสดงความรักฉันสามี -ภรรยา แต่ก็ไม่ เคยรู้ว่าอิสลามสนับสนุนให้ มกี ารแสดงความรักระหว่างสามี -ภรรยาใน ที่ ส าธารณะ ไม่ ต้ อ งนั บ ว่ า หลายครั ง้ ภาพที่ ก่ อ ให้ เกิ ด จิ น ตนาการ เหล่านันถู ้ กนํามาใช้ ประกอบเนื ้อหาเกี่ยวกับความรักทัว่ ๆไปด้ วยซํ ้า 3- เรื่องที่ลึกลงไปกว่าฟิ ตนะฮฺที่อาจเกิดจากภาพเหล่านี ้ คือชุดความคิดที่ อยู่เบื ้องหลังมัน เรื่องนี ้น่าคิดนะคะ ทําไมเวลาเราพูดเรื่ องความรัก การ นิกาหฺ ชีวิตคู่ หรื ออะไรอื่นๆ ในหมวดนีแ้ ล้ วจะต้ องเอาภาพของชาย หญิงสวีตหวานมาประกอบด้ วย มันมีจดุ เริ่ มมาจากไหน วัฒนธรรมของ ใคร และเราต้ อ งการสื่ออะไรจากรู ป ภาพเหล่า นี ้ เพราะในทางศิลปะ การนําเสนอรู ปภาพย่อมมีนัยและให้ ความหมายบางอย่างหรื อหลาย อย่างเสมอ กํ า ลัง จะบอกว่ า ...เรากํ า ลัง ติ ด หล่ มแนวคิ ด โรแมนติ ก นิ ย มที่ เขมือบกินโลกทุกวันนี ้อยู่หรือเปล่า เมือ่ พูดถึงเรื่องราวเกี่ ยวกับคู่ครอง เราจึง นึกถึ งแต่มมุ โรแมนติกที่คล้ ายเอานิยายประโลมโลกของคนทั่วไปมาคลุม หิญาบ ไม่ได้ บอกว่าอิสลามปฏิเสธมุมโรแมนติกของชีวิตคู่ แอบโซลูทลี่ไม่ แต่ใครคิดเหมือนกันมัง่ ว่าความโรแมนติกในอิสลามมันเป็ นคนละโรแมนติก


อิฐก้อนแรก | 31

กับที่หนุ่มสาวทัว่ ไปทีเ่ พ้ อกันอยู่ทวั่ โลก เวลาเราอ่านหะดีษเรื่องความโรแมน ติกของท่านนบี มันให้ คนละความรู้ สึกกับเวลาอ่านบทความรักๆ ใคร่ ๆ ที่ นําเสนอในเฟสบุ๊ค ประกอบภาพอาแบจ้ อ งตาอาเด๊ ะลิ บลับ อย่ างแรกให้ ความหวานแต่สงบ อย่างหลังออกแนวหวานชวนเพ้ อ (หรื อถ้ าเป็ นคนหัวใจ ไม่ดีอย่างข้ าพเจ้ าก็ ร้ ู สึกคลื่นไส้ ไปเลย) และนี่คือสิ่ง ที่ตัวเองอยากตัง้ เป็ น หัวข้ อไว้ ให้ พี่น้องลองไปคิดต่อ...การนําเสนอเรื่ องความรักและการครองคู่ ของเราๆ ในทุ ก วั น นี ้ มัน ส่ ง ผลอย่ า งไรต่ อ หั ว ใจของเรา ใกล้ เคี ย งกั บ ความรู้ สึ กตอนอ่า นตัว บทว่า ด้ ว ยการนิ ก าหฺใ นอิ สลาม หรื อใกล้ เคี ยงกั บ ความรู้สึกตอนดูฉากสวีตพระ-นางในละครหัวคํ่ามากกว่ากัน? ยํ ้าอีกทีว่าข้ าพเจ้ าไม่ได้ ฟันธงว่าการใช้ รูปการ์ ตูนชุด ‘อาเด๊ ะ-อา แบรักนิรันดร์ ’ เหล่านีม้ นั ผิดบาปชัดเจน แค่อยากให้ ลองคิดดูให้ รอบคอบ ก่อนตัดสินใจใช้ กัน ไม่ใช่เห็นเขาแท๊ กมา เราก็กดไลค์และแชร์ โลดลูกเดียว ทุกครัง้ ที่นําเสนอเรื่อง/ภาพเกี่ยวกับความรัก การนิกาหฺ หรืออะไร พรรค์ นี(้ ซึ่ งเชื่อ เหลื อเกิ น ว่ าผู้นํา เสนอมีจุด เริ่ มที่ค วามปรารถนาดีล้ นใจ) โปรดทบทวนอี ก ครั ง้ ว่ าเราได้ นํ าเสนออย่า งสอดคล้ อ งกั บ เป้ าหมายของ บทบัญ ญัติเรื่ องนีใ้ นอิสลามหรื อเปล่า เป้าหมายที่ ว่า “ลิ ตัสกุ นู – เพื ่อให้ พวกเจ้าสงบ” สุบหานัลลอฮฺ – สงบ! คํานีน้ ่ารักที่สุดแล้ วในบรรดาคําที่ถูก เลือกใช้ เกี่ยวกับการครองคู่...แท้ ที่จริ งบทบัญญัติเรื่ องนีม้ ีมาก็ เพื่อเราๆ จะ ได้ สงบ ไม่ใช่ฟ้ งซ่ ุ าน เวิ่นเว้ อ และเพ้ อไปสามวัน ลองถามตัว เองว่า เราเคยได้ พบความสงบใจบ้ า งไหม...จาก เรื่องราวโรแมนติกของนิยายหวานแหวว ละครหลังข่าว หรือรูปภาพ ‘อาเด๊ ะ น่าแล-อาแบน่ารัก’ที่ออกงานคู่กันเกลื่อนเฟสบุ๊คอยู่ทกุ วัน! _


32 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 33

แสงที่ปลายอุโมงค์ Qanita Abid “อัลลอฮุอกั บัร อัลลอฮุอกั บัร” เสียงอะซานดังกังวานปลุกผู้คนในละแวกนัน้ ให้ ตื่นขึน้ ละหมาดแต่เช้ าตรู่ ครอบครัวของเธอย้ ายมาอาศัยอยู่ในย่านชุมชนมุสลิมแห่งนี ม้ านานนมแล้ ว แต่ ค วามเคยชิ น ไม่ ไ ด้ ทํ า ให้ ความรู้ สึ ก รํ า คาญใจของเธอลดลงสัก นิ ด บ่อยครัง้ เธอต้ องนอนโดยอุดหูฟังไว้ เพื่อไม่ให้ ตื่นก่อนเวลาอันควร -1เธอเติบโตมาในครอบครัวของพ่อค้ าชาวจีนที่พบรักกับสาวมุสลิม กิจวัตรประจําวันของเธอไม่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ เธอตื่นนอน อาบนํา้ แปรงฟั น ทานข้ าวเช้ า สะพายกระเป๋ าอันหนัก อึง้ ไว้ บ นบ่า สวมรองเท้ า คู่ กาย และเดินมุง่ หน้ าไปยังโรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้ านเกื อบกิ โล บางสัปดาห์ เธอก็ ไปเรี ยนโรงเรี ยนสอนฟั รฎูอีน* ตามคํา สั่งของแม่ แต่ ด้วยความที่ไ ม่ เข้ า ใจภาษาของครู สอนศาสนา แถมเพื่อ นๆ ยังชอบล้ อเลียนอีก ว่า “พู ด


34 | อิฐก้อนแรก

ภาษามลายูไม่ได้ เสียทีเกิ ดมาเป็ นมุสลิ ม” ยิ่งทําให้ เธอไม่ค่อยเต็มใจที่จะไป เรี ย น ไม่นานนัก เธอก็ อ อกจากโรงเรี ยน และไม่มีโ อกาสได้ ศึกษาศาสนา อิสลามอีกเลย เธอเข้ าเรี ยนในโรงเรี ยนมัธยมชื่อดังในต่างจังหวัด และใช้ เวลา ส่วนใหญ่หมดไปกับการอ่านหนังสือเตรี ยมสอบเข้ ามหาวิทยาลัย ไม่บ่อย นักที่เธอจะกลับมาเยี่ ยมที่บ้าน และกลับมาครัง้ นีอ้ ะไรๆ ก็ ดูเ ปลี่ยนไปใน สายตาเธอ สามีภรรยาข้ างบ้ านเป็ นมุสลิมทะเลาะกันเสียงดังโหวกเหวก เธอเพิ่งมาทราบทีหลังว่าผู้เป็ นสามีคนนี ้ติดยาเสพติด ชอบดื่ มสุรา เมื่อกลับ บ้ านก็ไม่วายที่จะทําให้ ภรรยาและลูกต้ องผวาทุกครัง้ ไป และเธอยังพบว่า มุสลิมอีกหลายคนก็ มีพฤติกรรมในลักษณะนี ้ ข่า วคราวที่ ไม่ค่ อยสู้ดีของ มุส ลิมไม่ไ ด้ มีแ ค่ใ นชุมชนของเธอเท่ า นัน้ บางครั ง้ สื่ อต่ า งๆ ไม่ว่า จะเป็ น หนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ก็นําเสนอภาพการประท้ วง การก่ อการร้ าย และ สงครามให้ เ ธอเห็ น อยู่เ นื อ งๆ จนเธอรู้ สึ ก เอื อ มระอากั บ มุส ลิ ม และตั ง้ ปณิธานไว้ ว่าชีวิตนี ้เธอจะไม่ขอนับถือศาสนาอิสลามไปจนวันตาย! -2ผลการเรี ย นที่ ดี เยี่ ย มในชัน้ มัธยมปลายทํ าให้ เ ธอได้ รับ ทุนเข้ า ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง กิ จวัตรของเธอก็ คงหนีไม่พ้นเรื่ อง การเรี ย น การอ่ า นหนั ง สื อ ในห้ อ งสมุด และการค้ น คว้ า หาความรู้ ทาง อิน เทอร์ เ น็ ต เธอจึ ง เป็ นนัก ศึ ก ษาเรี ย นดี อัน ดับต้ น ๆ ของชัน้ ปี มาตลอด บางครัง้ หากมีเวลาว่างเธอก็จะทํากิจกรรมที่สนใจกับก๊ วนเพื่อนสนิทสามสี่ คน ตลอดระยะเวลาสี่ปีเธอไม่เคยมีเพื่อนมุสลิ มเลยแม้ แต่คนเดียว ไม่สิ ... เธอเลือกที่จะไม่คบเพื่อนมุสลิมมากกว่า อันที่จริ งชัน้ สองของตึกกิ จกรรมที่ เธอเดินผ่านเกือบทุกวันนันมี ้ ห้อง “ชมรมมุสลิม” อยู่ แต่ไม่มีใครรู้ เลยว่าเธอ เคยเรียนฟั รฎอีู น และเธอ...เคยเป็ นมุสลิม


อิฐก้อนแรก | 35

เย็นวันนันขณะที ้ ่เธอกําลังรอรถเพื่อเดินทางกลับที่พัก สาวมุสลิม คนหนึ่งคลุมศีรษะและแต่งตัวเรียบร้ อยยืนรอรถอยู่ข้างๆ ส่งยิม้ ให้ เธออย่าง เป็ นมิตร หล่อนเข้ ามาทักทายเธออย่างสุภาพและพูดคุยด้ วยอัธยาศัยที่ดี โดยปกติแล้ วเธอไม่ใช่คนที่ไว้ ใจใครง่ายๆ แต่น่าแปลกที่คราวนี ้เธอกลับรู้ สึก ไว้ ใจหล่อน หล่อนช่วยทําให้ เธอคลายข้ อสงสัยเกี่ ยวกับอิสลามหลายอย่าง ซึ่งผิดกับภาพเก่าๆ ของมุสลิมที่เธอเคยพบเจอโดยสิ ้นเชิง เธอบอกกับหล่อน ว่า “ตอนเด็กๆ ฉันก็เป็ นมุสลิ มนะ” ก่อนที่ทงสองจะแยกจากกั ั้ น หล่อนได้ มอบคัมภีร์อัลกุรอานฉบับ แปลภาษาไทยให้ แก่เธอ เธออยากปฏิเสธใจจะขาด แต่สุดท้ ายก็ ต้องรับมา ตามมารยาท ระหว่างทางเธอได้ ตงปณิ ั ้ ธานอย่างแน่วแน่ว่ายังไงเสียเธอจะ ไม่ขออ่านหนังสือเล่มนีโ้ ดยเด็ดขาด และตัง้ ใจที่จะบริ จาคให้ แก่ ห้องสมุด เธอกลับ ถึ งบ้ านวางมันลงบนโต๊ ะไม้ ตัวเก่ า แล้ วล้ มตัวลงนอนด้ วยความ เหนื่อยล้ า -3เช้ าวันนี ้ท้ องฟ้าดูแจ่มใสกว่าทุกวัน หลังจากทําธุระส่วนตัวและ ทานข้ าวเช้ าเสร็จ เธอก็เดินกลับเข้ าไปในห้ องเพื่อหยิบสัมภาระต่างๆ เตรี ยม ตัวไปห้ องสมุดโดยไม่ลืมอัลกุรอานแปลไทยฉบับนัน้ เธอมองหามันบนโต๊ ะ ไม้ ตวั โปรด แต่ดเู หมือนว่าน้ องสาวจอมซนจะเปิ ดมันทิ ้งไว้ เธอเห็นตัวอักษร ภาษาอาหรับที่เรียงรายก็หวนนึกถึงสมัยที่เรียนฟั รฎอีู น เธอนั่งแน่นิ่งและชั่ง ใจอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจอ่านความหมายของมัน และพลิกไปเจอบทอัลมุอ์มิ นูน บทที่ ๒๓ โองการที่ 12-14 ความว่า “และขอสาบานว่า แน่นอนเราได้สร้างมนุษย์ มาจากธาตุแท้ของ ดิ น แล้วเราทาให้เขาเป็ นเชื ้ออสุจิอยู่ในทีพ่ กั อันมัน่ คง(คื อมดลูก) แล้วเราได้ ทาให้เชื ้ออสุจิกลายเป็ นก้อนเลือด แล้วเราได้ทาให้ก้อนเลือดกลายเป็ นก้อน


36 | อิฐก้อนแรก

เนือ้ แล้วเราได้ทาให้ก้อนเนื ้อกลายเป็ นกระดู ก แล้วเราหุ้มกระดู กนัน้ ด้วย เนือ้ แล้วเราได้เป่ าวิ ญญาณให้เขากลายเป็ นอี กรู ปร่ างหนึ่ ง ดังนัน้ อัลลอฮฺ ทรงจาเริ ญยิ่ ง ผูท้ รงเลิ ศแห่งปวงผูส้ ร้าง” เรื่องราวเหล่านีท้ ําเอานักศึกษาสาขาชีววิทยาระดับเกี ยรตินิยม อย่างเธอถึ ง กับอึง้ ทัง้ เรื่ องที่มนุษย์ ถูกสร้ างมาจากดิน การพัฒนาของตัว อ่อนในครรภ์ การสร้ างโลกและจักรวาล นํ ้าทะเลที่ไม่ผสมกัน และอีกมากที่ เธอไม่เคยรู้มาก่อน เธอพลิกอ่านมันหน้ าแล้ วหน้ าเล่าจนเวลาเกื อบจะเที่ยง วันจึงรีบรุดหน้ าเดินทางไปยังห้ องสมุด ไม่ใช่เพื่อบริจาคหนังสืออย่างที่ตงใจ ั้ ไว้ แต่กลับไปค้ นคว้ าหาความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามอย่างจริ งจัง เธอเข้ า ไปยืมหนังสือต่างๆ ที่ห้องชมรมมุสลิม ยิ่งศึกษาเธอก็ ยิ่งพบว่าอิสลามของ จากมุสลิมที่เธอเคยพบเจอและตามสื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ นนั ้ เป็ นคนละเรื่ อง กับคําสอนของอิสลามที่มอี ยู่ในอัลกุรอานและแบบอย่างของท่านศาสนทูต มุหัมมัด ที่ช าวมุสลิ มนับ ถื ออย่า งสิน้ เชิง เธอใช้ เวลาไปกั บ ศึก ษาศาสนา อิสลามจากหนังสือและเว็บไซต์ ต่างๆ รวมไปถึ งการซักถามปั ญหาจากผู้ร้ ู เธอมีเ พื่ อ นมุส ลิ มมากขึ น้ ทัง้ จากชมรมมุส ลิ มและเพื่ อ นที่ ติ ด ต่ อ กั น ทาง อินเทอร์ เน็ต สิ่งแรกที่เธอเรียนรู้คือการละหมาดเพราะรู้ ว่าสิ่งนีท้ ําให้ มสุ ลิม ใกล้ ชิดกับพระเจ้ า -4เพื่อนสนิทเริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปและเริ่ มตีตัวออกห่างเมื่อรู้ ว่าเธอหัน ไปศึก ษาศาสนาอิ ส ลาม เธอไม่ไ ด้ ไปไหนมาไหนกั บพวกเขาอย่ า งที่เ คย ครอบครัวก็เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ เพราะพักหลังเธอมักจะ ไม่ทานอาหารที่มสี ่วนผสมของเนื ้อสุกร เธอแต่งตัวปกปิ ดมิดชิดมากขึน้ เมื่อ ออกจากบ้ าน และไม่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเมือ่ สิ ้นสุดเทศกาลสอบปลาย ภาคอย่างที่เคยทํา พ่อของเธอแสดงอาการต่อต้ านและบอกว่าจะไม่ให้ เธอ


อิฐก้อนแรก | 37

เข้ าบ้ าน หากไม่เลิกศึกษาศาสนานี ้ ส่วนผู้เป็ นแม่ทําได้ แค่นิ่งเงียบเพราะไม่ อยากมีปัญหากับพ่อ เธอเริ่มรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวอ้ างว้ าง แต่ถึงกระนันก็ ้ ยังคงอธิษฐานให้ พ่อเข้ าใจเธอ และรอเวลาที่วันหนึ่งพ่อของเธอจะยอมรับ การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอในครัง้ นี ้ เธอรู้ ตัวเองดีว่าหัวใจของเธอศรัทธาในพระเจ้ าผู้ทรงอํานาจเพียง หนึ่งเดียว ผู้ที่อยู่เบื ้องหลังธรรมชาติ คอยกํ าหนดและควบคุมความเป็ นไป ของจักรวาลและทุกสรรพสิ่ง ซึ่งเธอเองก็ ยังไม่แน่ใจว่ าสิ่งที่เธอเชื่อนัน้ คื อ “อั ล ลอฮฺ ” ตามที่ มุส ลิ ม หลายคนเรี ย กกั น หรื อ เปล่ า ? แต่ เ ธอมั่น ใจว่ า ความรู้สึกเหล่านี ้ไม่ได้ เกิดขึ ้นเพราะความสิ ้นคิดอย่างแน่นอน เธอฝึ กถื อศีล อด ตื่ น นอนเร็ ว ขึ น้ เพื่ อ ละหมาดกลางคื น โดยทํ า อย่ า งลับ ๆ และไม่คิ ด รําคาญเสียงอาซานเหมือนแต่ก่อนอีกเลย ชีวิตของเธอเป็ นระบบระเบียบ และมีเป้าหมายมากขึ ้น เพราะเธอเชื่อว่าอัลลอฮฺไม่ได้ สร้ างทุกสิ่งขึน้ มาโดย ไม่มสี าระ ‚และข้ามิได้ สร้างญินและมนุษย์ มาเพื่ ออื่ นใดเว้ นแต่ เพื่ อเคารพภักดี ต่ อข้า” (อัซซาริ ยาต - บทที่ 51โองการที่ 56) -5ช่วงสุดท้ ายของชีวิตนักศึกษา เธอตัดสินใจนัดพบเพื่อนมุสลิมบาง คนเพื่อปฏิญาณตนรับอิสลามที่ห้อง “ชมรมมุสลิม” “อัชฮะดุอลั ลาอิ ลาฮะอิ ลลัลลอฮฺ วะอัชฮะดุอนั นะมุหมั มะดัรเราะ สูลลุ ลอฮฺ” (ไม่มีพระเจ้าอื ่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุหมั มัดเป็ นศาสนทูต ของพระองค์ ) เธอกล่าวปฏิญาณตนท่า มกลางพี่น้อ งมุสลิ มที่คอยให้ กํ าลังใจ บางคนกลัน้ นํา้ ตาไว้ ไม่อยู่ถึงกับร้ องไห้ ออกมาเพราะเธอได้ หวนกลับมาสู่ อ้ อมอกของอิสลามอีกครัง้ หนึ่ง หลังจากที่เคยปฏิเสธเนื่องจากความไม่ร้ ู ชื่อ


38 | อิฐก้อนแรก

ใหม่ของเธอคือ “ฮูดา” หมายถึง “ผู้ที่ได้ รับทางนําจากพระเจ้ า” และวันนีเ้ ธอ จึงได้ เข้ าใจอย่างถ่องแท้ ว่า เธอไม่อาจที่จะตัดสินอิสลามจากพฤติกรรมที่ไม่ ดีของมุสลิมได้ เพราะมนุษย์ ทุกคนย่อมมีความอ่อนแอและมีโอกาสทําสิ่ง ผิดพลาดกันได้ ทงนั ั ้ น้ เส้ นทางที่เธอเคยเลือกเดินอาจมืดมิดจนไม่ร้ ู ต้นสาย ปลายทาง แต่แล้ วก็ มีแสงส่องเข้ ามาที่ปลายอุโมงค์ ให้ เธอเห็นและเดินไป แม้ ว่าสังคมโลกจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างไร สิ่งที่ยังคงเป็ นสัจ ธรรมอยู่ไม่มวี นั เปลี่ยนแปลงตราบจนวันสุดท้ ายก็คืออิสลาม เธออําลาเพื่อนมุสลิมหลังจากเสร็ จสิน้ ภารกิ จ ระหว่างเดินทาง กลับบ้ านเธอรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถกู และไม่ร้ ูเลยว่าสถานการณ์ ข้างหน้ า จะเป็ นอย่างไร หากพ่ อรู้ ว่าเธอกลายเป็ นมุสลิมแล้ ว แต่สิ่ งที่เธอสบายใจ มากที่สดุ ในชีวิตคือการที่เธอได้ เป็ นมุสลิมแล้ ว เธอเปิ ดอัลกุรอานฉบับแปล ไทยพลิกไปที่ บทอาละอิ มรอน(บทที ่ 3) ที่เธอชอบและหันไปเจอโองการที่ 102 ความว่า “โอ้บรรดาผูศ้ รัทธาทัง้ หลาย! จงยาเกรงอัลลอฮฺ อย่ างแท้จริ งเถิ ด และพวกเจ้าจงอย่าตายเป็ นอันขาด นอกจากในฐานะทีพ่ วกเจ้าเป็ นมุสลิ มผู้ นอบน้อมเท่านัน้ ” “เอีย๊ ดดด...โครมมม” เสียงเบรคที่ดงั สนัน่ ทําให้ เธอต้ องละสายตา จากอัลกุรอานฉบับแปลไทยเล่มนัน้ รถยนต์ ที่เธอโดยสารเกิ ดพุ่งเข้ าชนกับ รถบรรทุก ขนาดใหญ่ ข้ างหน้ า อย่ า งจัง จนตั ว รถยนต์ เ ข้ าไปอยู่ ใ ต้ ท้ อง รถบรรทุก และทําให้ คนขับรถเสียชีวิตทันที ไม่นานรถพยาบาลและมูลนิธิ ป่ อเต็กตึ๊งก็มาถึง เธอได้ รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนําตัวส่งโรงพยาบาล เธอ เสียเลือดมากและทนพิษบาดแผลไม่ไหว ชัว่ ระยะเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก เข้ ารับอิสลามเธอก็สิ ้นลมหายใจ ผู้คนที่เฝ้าติดตามอาการของเธอเล่าให้ ฟังหลังจากนัน้ ว่า พวกเขา ต่างแปลกใจเมือ่ เห็นสีหน้ าของเธอที่ ไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลยสักนิ ด ริ ม


อิฐก้อนแรก | 39

ฝี ปากของเธอกลับอมยิ ม้ เล็ กๆไว้ ทัง้ ที่ เธอได้ รั บ บาดเจ็บ สาหัส ขนาดนัน้ หนัง สื อที่ เ คยอยู่ใ นมือเธอก่ อนหน้ า นัน้ กระเด็ น ตกไปข้ างทางและมีค น ละแวกนันเก็ ้ บมาได้ หน้ านันถู ้ กพับคัน่ ไว้ อย่างดีราวกับตังใจ... ้ และเธอก็เสียชีวิตในสภาพที่เป็ น “มุสลิ ม” จริงๆ _ ........................................... * การศึกษาวิชาศาสนาภาคบังคับ (สิ่งที่มสุ ลิมทุกคนจําเป็ นต้ องเรียนรู้ )


40 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 41

ปลุกให้เด็กตื่น คนมุมโต๊ะ เราเคยลองไปนัง่ คุยกับเด็กช่างถามสักคนไหม แล้ วจะรู้ ว่าคําถามของเด็ก สามารถทํา ให้ ห งายหลังได้ เลยทีเดี ยว แม้ ว่า ผมยังไม่มีลูกหรื อหลานตัว เล็กๆ ในวัยที่ช่างซกช่างถาม แต่หลังจากที่ได้ ฟังเรื่องราวของรุ่นพี่ที่แต่งงาน แล้ ว เกี่ยวกับลูกๆ ของเธอ ทําให้ ผมพอรู้ มาบ้ างเกี่ ยวกับการช่างถามของ เด็ก เธอเล่าให้ ผมฟั งว่า ตอนลูกของเธอกําลังนัง่ ดูหนังสือภาพเกี่ ยวกับหิมะ อยู่นัน้ ลูกของเธอก็ ได้ ถามว่า “บ้านเรามี หิมะได้ ไหม?” พอเธอตอบว่ า “ไม่ได้คะ” ลูกของเธอก็ถามอีกว่า “แล้ วหิมะมันจะตกเมื่อไหร่ ?” พอหนักๆ เข้ า เธอเกิ ดสงสัย ว่าลูกของเธอคงอยากจะเล่ นหิมะเหมือนตัว การ์ ตูนใน หนังสือ ‚แม่ช่วยพาไปหน่อย อยากเล่นหิ มะ‛ ผมฟั งแล้ วแอบขําในใจพลางคิดไปว่า ถ้ าเราชกมวยก็ ยังพอหลบ กันได้ แต่คําถามของเด็กนีส้ ิ จะหลบไปไหนพ้ น แม้ จะเลี่ยงตอบไปแบบหนึ่ง ก็จะไปเจอกับคําถามอีกแบบ จะเลี่ยงไม่ตอบก็ ไม่ได้ เพราะเขาจะถามแล้ ว ถามอีก จนกว่าเราจะหาคําตอบมาให้ เขาได้ แล้ วอย่าคิดว่าเราจะตอบส่ง เดชได้ นะ เพราะแม้ ว่าจะถามเหมือนเด็กๆ แต่เขาก็ ต้องการคําตอบที่มนั ดู


42 | อิฐก้อนแรก

ยิ่งใหญ่ให้ ค้ มุ กับที่เขาอุตส่าห์เสียเวลาคิดสงสัย ไม่ร้ ูว่าจะมีใครเห็นด้ วยหรือ เปล่าว่า เด็กๆเป็ นวัยที่ชอบตังคํ ้ าถาม ในขณะที่ผ้ ใู หญ่ เป็ นวัยที่ชอบเชื่อมัน่ ว่าตัวเองมีคําตอบ ซึ่ง นั่นอาจเป็ นสาเหตุที่ทําให้ ผ้ ใู หญ่ เลิกตัง้ คําถามเสี ย นมนานผ่านมา และสิ่งที่ตามหลัง การเลิกตัง้ คําถามก็ คือ ผู้ใหญ่ จะยึดมัน่ กั บ คํ า ตอบที่ มีจ นไม่ ย อมเปิ ดใจมองว่ า มัน อาจจะมีอี ก ร้ อยพัน คํ า ตอบ นอกเหนือจากนันก็ ้ เป็ นได้ ปั ญหาคือ เราไม่กล้ าตังคํ ้ าถามกับคําตอบที่เราเชื่อมัน่ ว่าถูกต้ อง และไม่กล้ าเอ่ยปากถาม เพราะกลัวจะถูกมองว่า ‘ถามอะไรโง่ๆ’ ทัง้ ที่บาง คําถามอาจจะทําให้ เราได้ ฉกุ คิดอะไรใหม่และทําในสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้ นักคิด นักประดิษฐ์ ชื่อดังทัง้ หลายในโลกนี ้ ไม่ใช่เป็ นสิ่งที่จ่ๆู ก็ ผุดขึน้ มาอย่ างกับดอกเห็ด แต่เ ป็ นเพราะว่า พวกเขาเลือกที่จ ะคิดและตัง้ คําถามอยู่เรื่ อยๆ ไม่เชื่อ อะไรง่ายๆ หรื อปิ ดหูปิดตาเชื่อไปซะทุกอย่าง จะ เป็ นไปได้ หรือเปล่าว่า ในตัวของนักคิด นักประดิษฐ์ ของโลกเหล่านี ้ มีความ เป็ นเด็กอยู่ในตัว มากกว่าความเป็ นผู้ใหญ่ ? ลองคิดดูว่า ถ้ าครัง้ หนึ่ง ไม่มี ใครมาตังคํ ้ าถามว่า ทําไมกลางคืนจะสว่างไม่ได้ ? ทําไมเราถึ งบินไม่ได้ ? ทําไมเราถึงลอยบนนํ ้าไม่ได้ ? หรื อทําไมเราถึ งคุยกันหรื อเห็นหน้ ากันข้ าม ประเทศไม่ได้ ? ป่ านนี ้เราคงจะไม่ได้ เห็นไฟฟ้า หลอดไฟ เครื่องบิน เรื อ หรื อ แม้ แต่โทรศัพท์ อินเทอร์ เน็ตที่เราใช้ กันทุกวันนี ้ หลายๆ ครั ง้ ผู้ใหญ่ อ าจสบประมาทว่ า การถามคื อ การแสดง ความไม่ร้ ู แต่ สํ าหรั บตัว เด็ กแล้ วนัน้ เขาจะไม่ส นใจ ที่ เขาถามไปเพราะ อยากรู้ บางทีผ้ ใู หญ่ เลื อกที่จะเชื่อ ในคําตอบที่ถูกที่สุด แต่เ ด็ก ก็ ไม่สนใจ เขาไม่คิดว่าคําตอบที่ได้ รับนัน้ คือคํ าตอบที่ถูกที่สุด เขาพร้ อมที่จะไม่เชื่ อ และสนุกกับการตังคํ ้ าถามต่อไป จนกว่าเขาจะได้ คําตอบที่พอใจ หรื ออย่าง น้ อยๆ ก็หมดแรงที่จะถามไปเอง


อิฐก้อนแรก | 43

พูดถึงเรื่องคําถาม-คําตอบแล้ ว เราลองมานึกอะไรเล่นๆ ดูว่า ถ้ า เราลองไปตังคํ ้ าถามกับเด็ก แทนที่เราจะหาคําตอบให้ กับเขาจะเป็ นอย่างไร เพราะด้ วยวัยที่บริสทุ ธ์ผดุ ผ่องและเต็มไปด้ วยจินตนาการมากมายของเด็ก นัน้ อาจจะมีคําตอบเจ๋งๆ ที่ทําให้ เราสามารถนําไปคิดต่อก็เป็ นได้ แต่...พอ เอาเข้ าจริง จากที่เราผ่านโลกมามากขึ ้นเรื่อยๆ นัน้ เราจะพบว่าไม่มคี ําตอบ ไหนที่ถูกต้ องที่สุดในทุกๆ เรื่ อง บางทีคําตอบอาจจะเป็ นคําถามข้ อต่อไป หรือบางทีคําถามก็ อาจเป็ นคําตอบในตัวของมันเอง ไม่ร้ ู ว่าเพราะมันเป็ น ความสับสนของคนอายุมากหรือเปล่า หรือว่าเป็ นเพราะความกวนประสาท ที่ชีวิตทํากับเราก็เป็ นได้ ยังไม่ได้ บอกใช่ไหมว่า ในที่สดุ แล้ วเธอก็พาลูกของเธอไปเล่นหิมะ แต่เป็ นหิมะจําลองนะ ลูกของเธออาจจะงงๆ ก็เห็นแม่เคยบอกนี่ว่า บ้ านเรา ไม่มหี ิมะ หรื ออาจสงสัยว่า ทําไมห้ องนีม้ นั ถึ งมีหิมะ แน่นอนว่าวันหนึ่งลูก ของเธอคงจะรู้คําตอบว่า หิมะที่เล่นอยู่น่ะ มันเป็ นของจําลอง และก็ อาจจะ รู้ได้ อีกเช่นกันว่า มีที่ไหนบ้ างที่หิมะมันจะตก หรื อไม่แน่ นะ ในอนาคตเธอ อาจจะได้ เล่นหิมะที่มนั ตกลงมาจริงๆ ที่บ้านเราก็เป็ นได้ ... อย่าลื มปลุก เด็กที่ มนั อยู่ ในตัว เราให้ ตื่นขึ น้ มาถามบ้ า ง เพราะ บางทีเขาอาจจะหลับมานานเกินไปแล้ ว _


44 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 45

“เช้าวันใหม่” ช่วงเวลาแห่งความสุข ปลายปากกา ﴾ ‫ُون‬ َْ ‫ِك َف ْل َي ْف َرحُوْ​ْا ه َُْو َخيْرْ ِّممَّا َيجْ َمع‬ َْ ‫للا َو ِب َرحْ َم ِت ِْه َف ِب َذل‬ ِّْ ‫ل‬ ِْ ْ‫ل ِب َفض‬ ْ​ْ ُ‫﴿ ق‬ “จงกล่าวเถิ ด (มุหมั มัด ) ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮฺ และ ด้วยความเมตตาของพระองค์ ดังกล่าวนัน้ พวกเขาจงดี ใจเถิ ด ซึ่ งมันดี ยิ่ง กว่าสิ่ งทีพ่ วกเขาสะสมไว้” (สูเราะฮฺยนู สุ 10 : 58) นักอรรถาธิบายอัลกุรอานกล่าวว่า “ความโปรดปรานของอัลลอฮฺ คื ออัลกุรอาน” ส่วน “ความเมตตาของพระองค์ คื ออัลอิ สลาม” ด้ วยทัง้ สอง สิ่งดังกล่าวเป็ นการสมควรอย่างยิ่งที่ปวงบ่าวของพระองค์จะดีใจและภูมิใจ อันเนื่องจากความโปรดปรานและเมตตาของอัลลอฮฺ ตะอาลา นัน้ ดียิ่งกว่า สิ่ง ที่ พวกเขาสะสมไว้ เป็ นต้ น ว่ าทรั พย์ ส มบัติ ก็ ดี ลูก หลานก็ ดี ตํ าแหน่ ง อํานาจหน้ าที่ก็ดี เหล่านี ท้ งั ้ หมดล้ ว นเป็ นสิ่งสูญสลายและไม่แน่น อน แต่ ทว่าสิ่งที่คงอยู่และจะติดตามเราไปในโลกหน้ า นัน่ ก็คือ “ความยาเกรง” ซึ่ง ถือเป็ นชุดเครื่องแบบของผู้ศรัทธาที่พวกเราได้ รักษา ยืนหยัด และดํารงไว้ ต่างหาก


46 | อิฐก้อนแรก

เวลาที่ผมอ่านอายะฮฺนีท้ ีไร ยังผลให้ หัวใจรู้ สึกอิ่มเอิบทุกครัง้ ไป หากเราลองใคร่ ค รวญและพิ จ ารณาถึ ง บุญ คุณและความโปรดปรานที่ พระองค์ อั ล ลอฮฺ ตะอาลา ประทานแก่ ป วงบ่ า วของพระองค์ แน่ แ ท้ สติปัญญาของเรามิอ าจคณานับได้ อันเนื่องจากความเมตตาและความ โปรดปรานของพระองค์นนช่ ั ้ างยิ่งใหญ่และมหาศาลจนนับไม่ถ้วน ผมจึ งอยากหยิบ ยกบางส่ วนจากความเมตตาและความโปรด ปรานอั น ล้ นพ้ น ของพระองค์ มาบอกเล่ า แก่ พี่ น้ อ ง โดยส่ ว นตัว ของผม ช่ ว งเวลาที่ ผ มประทับ ใจมากที่ สุด นั่น ก็ คื อ “ยามรุ่ ง อรุ ณ ” โดยเฉพาะ หลังจากที่รอยต่อของกลางคืนค่อยๆ มลายหายไปทีละเล็กทีละน้ อย แสง สว่างของกลางวันค่อยๆคืบคลานเข้ ามาแทนที่ ช่วงเวลาที่ไม่มืดจนเกิ นไป แต่พอที่จะมองไปยังสิ่งที่อยู่ไกลออกไปแล้ วรับรู้ได้ ว่าสิ่งนัน้ คืออะไร ผมเป็ น คนที่ชอบบันทึกภาพของยามเช้ าไว้ ในความทรงจํา เก็ บรายละเอียด พร้ อม ทังใส่ ้ คําอธิบายภาพเหล่านันไว้ ้ ในห้ วงคํานึง โดยส่วนตัวผมพัก อยู่ในหอพักภายในมหาวิท ยาลัยของรัฐแห่ ง หนึ่ง ซึ่งห้ องของผมอยู่ชนั ้ บนสุด ชัน้ 15 ทุกเช้ าผมชอบที่จะออกมายืนหน้ า ระเบีย งแล้ ว ทอดสายตาออกไปให้ ไ กลที่ สุดเท่ า ที่ส ายตาของผมจะมอง ออกไปได้ ผมใช้ เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ทว่าบทเรี ยนที่ผมได้ รับนัน้ ช่างมีค่า มหาศาล ชนิดที่ว่าไม่สามารถเก็ บบทเรี ยนเหล่านีม้ าจากห้ องบรรยาย แม้ จะเป็ นห้ องบรรยายที่บรรจุไปด้ วยเหล่าปั ญญาชนชันแนวหน้ ้ าทังหลาย ้ ยามเช้ าทํ า ให้ ผมได้ เห็ น การเริ่ ม ต้ นชี วิ ต ใหม่ข องสรรพสิ่ ง ที่ พระองค์ อัลลอฮฺทรงสร้ าง สายตาของผมหยุดอยู่ที่อ่างเก็ บนํา้ ขนาดใหญ่ ของมหาวิทยาลัย ...สายนํ า้ ถูกกระแสลมพัด ผ่า นส่ง ผลให้ ก ระแสนํ า้ ไหลไปตาม แรงลมเป็ นระลอกๆ


อิฐก้อนแรก | 47

...ใบไม้ ด อกไม้ ชูช่อ ไสวพัดแกว่งไปตามกระแสลมที่พัดผ่านมา และจากไป ...เสี ย งนกร้ องประสานเสี ย งกั น ดัง เป็ นระยะๆ ร้ อยเรี ย งเป็ น จังหวะและท่วงทํานองเสนาะหู บ้ างก็ บินออกไปหากิ น บ้ างก็ บินเล่นลมอยู่ บนเวหา เมือ่ แหงนหน้ าขึ ้นไปข้ างบนเห็นก้ อนเมฆลอยเป็ นกลุ่มก้ อนอยู่บน ท้ องฟ้า แสงของดวงตะวัน ค่อยๆสาดส่องลงมายังทุกสรรพสิ่ง เสมือนดั่ง เป็ นการบ่งบอกถึงการเริ่มต้ นชีวิตใหม่ของทุกชีวิต หลายครัง้ ที่ผมพยายาม ค้ นหาคําตอบถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี ้ ไม่ว่าจะเป็ นเสียงนกร้ องที่ส่งทอดต่อกัน การแกว่งไปตามแรงลมของใบไม้ การที่กระแสนํา้ ถูกลมพัด แล้ วสายนํา้ ก็ ไหลไปตามแรงลมเป็ นระลอก หรื อแม้ ก ระทั่ง ใบหญ้ าที่ ชูช่ อไสวไปตาม แรงลม คล้ ายๆ กับว่าสิ่งเหล่านี ้กําลังจะบอกอะไรผมหรือเปล่า ? คล้ ายๆ กับ ว่าสิ่งเหล่านี ้กําลังส่งสัญญาณบอกให้ ผมรับรู้ ถึงสัญลักษณ์ อะไรบางอย่าง เพราะเราอย่าลืมว่า “ด้วยการใคร่ครวญ จะนามาซึ่ งการขอบคุณ” อัลหัมดุลิลลาฮฺ ด้ วยความเมตตาของพระองค์ จนผมได้ มาเจอ คําตอบในอายะฮฺนี ้ ที่พระองค์อลั ลอฮฺทรงดํารัสไว้ ว่า ﴾ ‫ض َوه َُْو ْال َع ِزي ُْز ْال َحكِي ُْم‬ ْ ِ ْ‫ت َو َما فِي ْاْلَر‬ ِْ ‫لِل َما فِي ال َّس َم َاوا‬ َِّْ ِ ‫َّح‬ َْ ‫﴿ َسب‬ “สิ่ งทีอ่ ยู่ในชัน้ ฟ้าทัง้ หลายและสิ่ งทีอ่ ยู่ในแผ่นดิ นต่างแซ่ซ้องสดุดีแด่อลั ลอฮฺ และพระองค์ เป็ นผูท้ รงอานาจ ผูท้ รงปรี ชาญาณ” (สูเราะฮฺอศั ศ็อฟ 61 : 1) มาชาอัล ลอฮฺ ยิ่ งใหญ่ เ หลื อ เกิ น สวยงามเหลือ เกิ น สรรพสิ่ ง ที่ พระองค์อลั ลอฮฺ ตะอาลา สร้ างมา แม้ กระทัง่ ใบไม้ ต้ นหญ้ า ฝุ่ นละออง ทุก สรรพสิ่ ง ทัง้ ที่ มีชี วิ ตและไม่มีชี วิ ต ต่ า งก็ แ ซ่ ซ้ อ งสดุดี ให้ ค วามบ ริ สุท ธิ์ ให้


48 | อิฐก้อนแรก

เกียรติ ให้ ความยิ่งใหญ่ ให้ ความเกรี ยงไกร และให้ ความเป็ นพระเจ้ าองค์ เดียวแด่อลั ลอฮฺ พี่น้องครับ ณ เวลานี ้ ณ วินาทีนี ้ เราต้ องกลับมาใคร่ ครวญอีกทัง้ ทบทวนถึงนิอฺมตั ความโปรดปรานต่างๆ ที่พระองค์ อัลลอฮฺประทานแก่ เรา ความโปรดปรานและความเมตตาหนึ่งที่ผมอยากจะสําทับให้ แก่ ตัวของผม เองและพี่น้องทุกท่าน นัน่ ก็คือ ช่วงเวลาแห่งความสุข “ยามเช้าของทุกวัน” ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ،ِ‫ م َُعا ًفى فِي َج َس ِده‬،ِ‫ح ِم ْن ُك ْ​ْم آ ِم ًنا فِي سِ رْ ِبه‬ َْ ‫) َمنْ​ْ أَصْ َب‬ َ ‫ َف َكأ َ َّن َما ح‬،ِ‫وت َي ْو ِمه‬ (‫ت َل ُْه الدُّ ْن َيا‬ ْ​ْ ‫ِيز‬ ُْ ُ‫عِ ْندَ هُ ق‬ “ผูใ้ ดทีต่ ื ่นเช้ามาพบกับสภาวะทีส่ งบสุขไม่หวาดหวัน่ ต่ อชี วิต ไม่ เจ็บไข้ได้ป่วย มีอาหารการกิ นที ่หะลาลอย่ า งเพี ยงพอ เหมื อนกับว่าความ เปี ่ ยมสุขแห่งโลกนี ้ได้ ถูกจัดเตรี ยมไว้สาหรับเขา‛ (บันทึกโดย อัตติรมิซี ย์ หมายเลขหะดีษ 2346 ) พี่น้องครับกี่มากน้ อยแล้ วที่เราปล่อยปละละเลย ให้ ช่วงเวลาแห่ง ความสุขนี ้ผ่านพ้ นไปโดยที่เรากําลังนอนหลับอยู่บนเตียง กี่ครัง้ แล้ วครับที่เราปล่อยให้ ช่วงเวลานีผ้ ่านพ้ นไปโดยที่เราไม่ได้ อะไรเลยแม้ กระทัง่ การซิกรฺ (การรําลึกถึงพระนามของพระองค์ในยามเช้ า) เป็ นครั ง้ ที่ เ ท่ า ไหร่ แ ล้ วครั บ ที่ เ ราปล่ อ ยให้ เวลาแห่ ง ความ มหัศจรรย์นี ้ล่วงเลยไปโดยที่เราละทิง้ การงานอันลํา้ ค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ น การขอดุอ าอ์ การกล่ า วอิ ส ติ ฆ ฟารฺ (ขออภั ย โทษต่ อ พระองค์ ) รํ า ลึ ก ถึ ง พระองค์ด้วยการกล่าวซิกรุลลอฮฺด้วยบทรําลึกอันยิ่งใหญ่ที่ท่านนบีทิ ้งเอาไว้ ให้ เป็ นมรดกแก่พวกเรา หรือการละหมาดฎฮา(ละหมาดสองร็ อกอัตแต่ผล ุ บุญมากมายมหาศาลเทียบเท่าการบริ จาค) กี่ ครัง้ แล้ วที่เราปล่อยเวลาให้ หมดไปโดยที่เรายังคงแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอน


อิฐก้อนแรก | 49

โอ้ พี่น้องของผม ตื่นเถิดครับ ตื่นได้ แล้ วครับ ขอพวกเราทุกคนจง รีบเร่ งในการหวงแหนช่วงเวลาอันลํา้ ค่านีเ้ ถิ ด อย่าปล่อยให้ ช่วงเวลาแห่ง ความเมตตานี ้ผ่านพ้ นไปโดยที่เราไม่ได้ รับอะไรอีกเลย เพราะมิเช่นนัน้ แล้ ว เราอาจจะไม่มีโอกาสได้ ตักตวงแสวงหาความสงบสุขจากช่วงเวลานีอ้ ีกก็ เป็ นได้ “‫”وللا أعلم‬ ......ตื่นได้ แล้ วครับ _


50 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 51

ด้วยรักที่ไม่มีวันน้อยลง คุง ปี กแย่ เมือ่ ได้ สมั ผัสรสชาติแห่งดุอาอ์ ผมเฝ้าร้ องขอให้ ครึ่ งหนึ่งของชีวิตได้ สัมผัส กับไออุ่นรักที่บริ สุท ธิ์ แม้ ว่ามันอาจเป็ นเพียงความฝั นที่ เลือนราง แต่ผมก็ เฝ้าคอย อาจบางทีโลกนีแ้ สนกว้างใหญ่ หมอกและควันช่วยกันพรางตา มี ขอบรัว้ ขอบกาแพงสร้างมา ตึ กระฟ้าคอยบังเราอยู่… อาจมีสัก ครั ง้ ที่ เราสองคน ผ่ านทางที่ วกวน อยู่ใ กล้ ๆ กั น ใบไม้ เพียงใบหนึ่ง หล่นตอนที่เราเดินผ่าน ผมคงจะมองมัน เมือ่ คุณเดินผ่านมา บางที....พระองค์ยงั คงทดสอบถึงความอดทนของเราทัง้ คู่ อดทน ซึ่งความ “เร่าร้ อน” ที่อยู่ลึกลงไปในทรวงอก บางที....เราเผลอหลงระเริงกับโลกกว้ างใหญ่ใบนี ้จนลืมไปว่า เรา ยังมีหน้ าที่ต้องรับผิดชอบ


52 | อิฐก้อนแรก

บางที....เรายังสนุกกับชีวิตวัยรุ่น ละเลงทุกอย่างให้ ได้ ซึ่งความสุข บางที....เรายึดติดบางสิ่งที่คิดว่ามันใช่ แต่มนั กลับเป็ นสิ่งที่ไม่ใช่ บางที……… บางที…… บางที… อาจบางที.. หลายครัง้ ที่ผมสับสนกับการหาคําตอบให้ ตัวเอง แล้ วผมก็ ต้อง สะดุด พร้ อมดึงความรู้สึกตัวเองกลับมา ผมจะกังวลเรื่องราวเหล่านี ้ไปเพื่ออะไร เมื่อคนที่ผมร้ องขอดุอาอ์ คือเจ้ าของชีวิต เจ้ าของลมหายใจ… แต่ เราก็ ห ากันจนเจอ มันนานแค่ ไหนที ่ค อยคุณมา รู้สึกไหมว่ า ชี วิ ต คุ้มค่ า เมื ่อมี ใ ครสัก คนข้า งกาย เกิ ดมาเพื ่อ หาใครคนหนึ่ ง เป็ นคน ทีอ่ ลั ลอฮฺสร้างมาตรงใจ เราต่ างรู้ โลกมันแสนกว้างใหญ่ แต่ มนั คงไม่ยาก เกิ นไป ทีผ่ มจะพบคุณ(ด้วยพระประสงค์ ของอัลลอฮ)… และผมจะไม่มวี นั รักคุณน้ อยลง โอ้ !ภรรยาของผม _


อิฐก้อนแรก | 53

รุ่งอรุณแห่งคาบสมุทรมลายู อัซซาบาวี ย์ จุด เริ่ มต้ นในการอธิบ ายประวัติ ศ าสตร์ ลัท ธิ ความเชื่ อ ของผู้คนในสัง คม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่ มที่ การอธิบายว่า ผู้คนที่นีน้ ับถื อผี, บรรพบุรุษ , เชื่อในสิ่งเร้ นลับ เป็ นต้ น หลังจากนัน้ อิทธิพลของศาสนาจากอินเดียก็ เริ่ ม แพร่ขยายเข้ าสู่ผ้ คู นทัง้ ในส่วนของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู พุทธ แม้ ว่าจะมี การรับเอาศาสนาดังกล่าวข้ างต้ นแล้ ว ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยงั คง อนุรักษ์ วิถีความเชื่อแบบเก่า คือ ความเชื่อในสิ่งเร้ นลับ ความเปลี่ยนแปลงทางด้ านความเชื่อของผู้คนได้ แบ่งออกเป็ น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ในช่วงนีศ้ าสนาอิสลามได้ เริ่ มแพร่ ขยายสู่ดินแดนในภูมิภาคนี ้ กล่าวคือ ศาสนาพุทธเป็ นศาสนาของผู้คนในภาคพืน้ ทวีป ศาสนาอิสลาม เป็ นศาสนาของผู้คนในภาคพื ้นสมุทร ยกเว้ นฟิ ลิปปิ นส์ ว่ากันว่า จุดเริ่มต้ นของศาสนาอิสลามในภูมิภาคนี ้ ได้ เริ่ มต้ นมา จากการสถาปนารัฐ มะละกาขึน้ ซึ่ งหลัง จากนัน้ ศาสนาอิ ส ลามก็ ได้ เ ริ่ ม แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่บทสรุปที่จะกล่าวว่า คนมุสลิมใน -


54 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 55

ภูมิภาคนี ม้ ีมาพร้ อมกับรั ฐมะละกา ซึ่งก่ อ นหน้ า การสถาปนารัฐ มะละกา คนมุสลิมก็อาศัยอยู่ในที่นี่ รวมถึงสัญจรไปมากันมาก่อนแล้ ว รัฐมะละกา มีปฐมสุลต่านมีนามว่า อิสกันดาร์ ชาห์ มีนามเดิมว่า ปราเมศวร ซึ่งใน Sejarah Melayu (พงศาวดารรัฐมะละกา) ได้ ระบุไว้ ว่า สุลต่านท่านนี ้สืบเชื ้อสายมาจากอเล็กซานเดอร์ มหาราช (เป็ นข้ อความใน พงศวดาร “เซอจาเราะฮฺ มลายู” ในความเป็ นจริ งหาข้ อพิ สูจน์ ได้ ย าก) นอกเหนือ จากรัฐมะละกา เป็ นจุดเริ่ มต้ นของการแพร่ ข ยายอย่า งรวดเร็ ว ของอิสลามในคาบสมุทรมลายูแล้ ว ยังว่ากันว่า เป็ นจุดเริ่ มต้ นของ แนวคิด เชื ้อชาติมลายูอีกด้ วย อธิ บายมายื ดยาว แต่จ ริ ง ๆ แล้ วอยากจะบอกว่า ในภูมิภ าคนี ้ โดยเฉพาะในส่วนของคาบสมุทรมลายูนนั ้ พัฒนาการทางด้ านความเชื่ อ ของผู้คนเปลี่ยนจากการนับถื อผี สู่ การนับถื อศาสนาทัง้ พราหมณ์ , ฮินดู, พุทธ, อิสลาม ตามลําดับ ประเด็น ที่น่าสนใจ กล่า วได้ ว่า ศาสนาอิสลาม ได้ ทํา ให้ สังคม ของรัฐต่างๆ ในคาบสมุทรมลายู เข้ าสู่ ความทันสมัยและการมีอารยธรรม อันสูงส่ง จากคําพูดของ ศาสตราจารย์ มูหมั มัดนากิ บ อัลอัตตัส ได้ บอกว่า ‚อิ สลามได้เปลีย่ นแปลงลักษณะสาคัญและโลกทัศน์ ของอารย ธรรมมลายู-ชวา ไปสู่อารายธรรมทันสมัยอย่างแท้จริ ง‛ ขอย้ อนกลับไปสู่ยคุ ที่ศาสนาอิสลามยังไม่ได้ เป็ นที่รับความนิยม ของผู้คนในบริเวณนี ้อีกครัง้ ศาสนาเดิมคือ พราหมณ์ ฮินดู พุทธ มีบทบาท ไว้ แค่เพียงกับชนชันสู ้ งในสังคมเท่านัน้ ประชาชนโดยทัว่ ไปแทบเข้ าไม่ถึงใน หลักการของศาสนานันๆ ้ เลย ตัวอย่าง เราจะเห็นได้ ว่า ศาสนาถูกนําเอามา เป็ นเครื่ องมือในการปกครองของชนชัน้ สูง ความเชื่อในเรื่ องของจักรวาล วิทยา ที่เชื่ อกั นว่า กษั ต ริ ย์เ ป็ นเชือ้ สายของเทพเจ้ า เพื่อสร้ า งความชอบ ธรรมในการปกครอง รวมถึงการแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ของกษั ตริ ย์ผ่าน


56 | อิฐก้อนแรก

ทางการสร้ างพระราชวังอันใหญ่โตมโหฬาร รวมถึ งศาสนสถานที่มีความโอ่ อ่า พิธีกรรมต่างๆ มากมาย ล้ วนแต่ถูกจํากัดในวงของชนชัน้ สูง ประชาชน แทบไม่ได้ รับรู้ หรือเข้ าถึงในเรื่องราวดังกล่าวเลย แต่ การเข้ ามาของศาสนาอิส ลาม ชนชัน้ สูง และประชาชน ถูก รวมเข้ าเป็ นหนึ่งเดียวในสังคมผ่านทางความเชื่อในอิสลาม ประเด็นที่น่าสนใจต่อมา การเผยแพร่ ศาสนาอิสลามในบริ เวณ ได้ ถกู กระทําผ่านกลุ่มพ่อค้ าและซูฟี ไม่ได้ มีกองทัพใดๆ ของมุสลิมเข้ ามา เปลี่ยนแปลงผู้คนให้ รับนับถื อศาสนานี ้ ซึ่งต่างจากกรณีของชาวตะวันตก เช่ นประเทศ โปรตุเ กส สเปน ฮอลัน ดา(เนเธอร์ แลนด์ ) อังกฤษ ฝรั่ งเศส สหรัฐอเมริ กา ที่ได้ เข้ ามาล่ าอาณานิคม ฉกฉวยทรัพยากรธรรมชาติ ยึ ด อํ า นาจการปกครองของชนพื น้ เมือ ง และมีค วามพยายามปรั บ เปลี่ ย น ศาสนาของคนพืน้ เมือง ผ่านคณะมิชชันนารี่ ที่ทํางานกันอย่างขันแข็ง แต่ ภาพรวมแล้ วไม่ประสบความสําเร็จ เว้ นแต่กรณีของฟิ ลิปปิ นส์ที่เดียวเท่านัน้ ดิน แดนของคาบสมุทรมลายูต กเป็ นอาณานิ ค มของตะวัน ตก ทังหมด ้ ผู้คนในบริเวณนี ้เผชิญอยู่กับศาสนาใหม่ คือ ศาสนาคริสต์ แต่ผ้ คู น ส่วนใหญ่หยุดความเชื่อของตัวเองไว้ กับศาสนาแห่งสัจธรรมนั่นคือ ศาสนา อิสลาม และขณะนี ้ ศาสนาอิ ส ลามได้ แ พร่ ก ระจายสู่สัง คมคาบสมุท ร มลายู เปลี่ยนแปลงจากความคิดของผู้คนที่ยึดติดอยู่กับสิ่งเร้ นลับ ไปสู่การ มองโลกอย่างมีเหตุมผี ล ตามจิตวิญญาณของคัมภีร์อลั กุรอาน _


อิฐก้อนแรก | 57

ตัรบียะฮฺรัก หรือ ตัรบียะฮฺโลก โลกสูญเสียอะไรจากความหน่อมแน้มของหนุ่มสาวมุสลิม? ชัรฟุดดีน อามิ ลี เมือ่ หลายวันก่อนข้ าพเจ้ าได้ มีโอกาสพูดคุยปรับทุกข์ กับปิ ยมิตรผู้น้องท่าน หนึ่งจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านผู้น้องรายนีไ้ ด้ บอกเล่าเก้ าสิบแก่ ข้ าพเจ้ าว่า ณ ตอนนีเ้ ขาเข้ าไม่ค่อยได้ กับ ‚มุสลิมกระแสหลัก ‛ ในละแวก พืน้ ที่ดังกล่าวอันเนื่องมาจากพฤติกรรม ‚ฮาดคอร์ -บู๊‛ ในทางศาสนาของ เขา ในระยะหลังๆมา ซึ่ งตัวข้ าฯเองก็ ได้ ยิน ฟั ง มาจากผู้อื่น ว่า ผู้น้ องคนนี ้ หลังๆมาก็บ๊ ใู นเรื่องราวของศาสนาดีเหลือเกิน โดยเฉพาะความมุมานะที่จะ ต่อสู้กับพวกนัศรอนีย์ ในบ้ านเมืองเราที่กําลังอาศัยหน้ ากากลวงโลกว่าเป็ น อดีตมุสลิมที่เข้ ารับสัจธรรม จากคริ สต์ ศาสนาและกํ าลังขะมักเขม้ นสร้ า ง พันธกิจชี ้ทางสว่างแก่ปวงประชาราษฎรมุสลิมไทยอยู่ ณ ขณะนี ้ ผู้น้อ งของข้ าฯรายนีอ้ าจหาญถึ ง ขนาดบุกไปที่โ บสถ์ คริ สต์ เพื่ อ ตอบโต้ การบิด เบือ นอิ สลามของพวกเขาทัง้ ยัง เข้ า ไปต่อสู้กับ บรรดาศัต รู อิสลามทัง้ ในเฟสบุ๊ค ,เว็ บไซต์ ต่างๆมากมาย และที่สําคัญที่สุดคือการนัด เสวนาทางวิชาการกับพวกพยานยะโฮวาร์ หลังจากที่คริ สเตียนก๊ กนีเ้ ข้ าไป อาละวาดดึงมุสลิมะฮฺชาวยะลาคนหนึ่ง ไปเป็ นคริสเตียนและซํ ้าร้ ายไปกว่า


58 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 59

นันคื ้ อ การเข้ าไปเผยแพร่ศาสนาของพวกเขาแก่ มสุ ลิมในเขตรัชดาอันเป็ น เขตการทํางานสาขาหนึ่งของกลุ่มอัซซาบิกนู ด้ วยซํ ้า!! ที่เล่ามาทัง้ หมดนีก้ ็ ไ ม่ใช่อัน ด้ วยเป้ าประสงค์ อื่น ใดนอกจากว่ า เป็ นการหยิ บ ยกความดี ของผู้อื่ นมาเล่ าให้ ฟั ง กั นเป็ นแบบอย่ า ง ซึ่ ง โดย ส่วนตัวของข้ าพเจ้ าต้ องขอออกปากชื่นชมสหายผู้น้องคนนีจ้ ากใจจริ ง แต่ กระนันก็ ้ ตามในขณะที่ดวงจิตของข้ าฯกํ าลังดื่มดํ่าไปกับการชื่นชมสหายผู้ น้ อ งท่ า นนี อ้ ยู่นัน้ ก็ พ ลัน เหมือ นก้ อนหิ น ขนาดหนั ก ถูก เขวี ย้ งเข้ าใส่ ห้ ว ง ความคิดของข้ าฯ เมือ่ สหายผู้น้องเอ่ยออกมาว่า สิ่งที่เขากําลังดําเนินการไป ทัง้ หมดนัน้ แท้ จริ งแล้ ว ได้ ถูก ตํา หนิ จากผู้หลักผู้ใหญ่ ‚ใจปลาซิ ว ‛ ทัง้ ยัง ลุกลามบานปลายเป็ นการขัดแย้ งและได้ รับการดูหมิ่นจากพี่ๆ มุสลิมผู้ทรง ‚อิทธิพล‛ ต่ อน้ องๆ ในละแวกเรื อ นเคียงที่ สหายผู้น้องของข้ าฯกํ าลังเล่ า เรียนอยู่ ข้ าฯได้ ถามถึงเหตุผลในการคัดค้ านของพวกเขาทัง้ หลายที่มีต่อ สหายผู้ น้ องคนนี ซ้ ึ่ ง ทั ง้ หมดทั ง้ หลายก็ ล้ วนอยู่ ใ นคํ า คั ด ค้ านประเภท ‚สุญญากาศ‛ ที่ลอยเคว้ งคว้ างไม่มอี ะไรดีขึ ้นในการชี ้ทางสว่างแก่ผ้ ทู ี่ตนเอง ไปมองเขาว่า ‚ไม่ถกู ‛ ทังสิ ้ ้น คําคัดค้ านเหล่านันที ้ ่พอจะนึกออกก็มี ‚น้องยัง พื ้นฐานศาสนาไม่ดี ‛, ‚หน้าที ่หลักของเราไม่ใช่ เรื ่องพวกนี ้ ‛ , ‚เรื ่องพวกนี ้ ไม่ใช่แนวทางของเรา‛, ‚ก่อนจะต่อสูก้ บั ความเท็จเอาอีมานตัวเองให้ดีก่อน‛ และ ฯลฯ อีกมากมายทังปวงที ้ ่เราๆ ท่านๆ ก็คงจะพอนึกออกกันบ้ าง ข้ าฯนัง่ ทบทวนเรื่องในดวงจิตแต่เพียงถ่ ายเดียวว่าโลกทัศน์ อะไร กันหนอถึงได้ ดลใจบันดาลจิตเยาวชนให้ ร้ ูจกั มักคิดที่จะเอาเรื่องนัน้ เงื่อนไข นี ้ มาหักห้ ามผู้คนที่กําลังต่อสู้กับ ภัยร้ ายของสังคมมาตลอดเวลา คําอ้ า ง ที่ว่า ‚น้องยังพืน้ ฐานศาสนาไม่ดี ‛ ก็ ยังคงปรากฏคําถามว่าจะต้ องพื น้ ฐาน ในระดับใดถึ งจะดีในสายตาของผู้อ้าง หรื อจะเอาระดับพืน้ ฐานศาสนาดี แบบอิมามสุยตู ีย์ มุจตะฮิดท่านสุดท้ ายของประชาชาตินี ้หรือเปล่า แล้ วเอา


60 | อิฐก้อนแรก

อะไรเป็ นมาตรฐานตัดสินว่าระดับไหนถึงเรียกว่าพื ้นฐานดี ?? ‚หน้าทีห่ ลักของ เราไม่ใช่ เรื ่องพวกนี ้ ‛ แล้ วตกลงหน้ าที่หลักของ มุสลิมคืออะไร ? ‚เรื ่อง พวกนี ้ไม่ใช่ แนวทางของเรา‛ ถ้ าการต่อสู้เพื่อถล่มความ เท็ จ และต่ อ ต้ า นศัต รู อิ ส ลามในสัง คมไม่ใ ช่ แ นวทางของเราแล้ ว ตกลง เยาวชนทําอะไร ? ‚ก่อนจะต่อสูก้ บั ความเท็จเอาอีมานตัวเองให้ดีก่อน‛ คําถามก็ คือ ระดับใดที่จะเรียกว่าอีมานดี จะต้ องตัรบียะฮฺกันจนเข้ าขัน้ วะลียุลลอฮฺก่อน ใช่ไหมถึงจะทําได้ ?! เหล่านี ้คือคําถามที่ข้าพเจ้ าได้ ตงั ้ คําถามกลับเพื่อชีว้ ัดให้ เห็นถึ ง ความเสียหายของการวิ พากษ์ วิจารณ์ มสุ ลิมด้ วยกันอย่าง ‚ลอยๆ‛ เพราะ ในทางกฎหมายชะรี อะฮฺแล้ ว การที่แม้ นว่า ชายคนหนึ่งเป็ นคนชั่วทําซิน า เป็ นอาจิณ กินริบาอ์(ดอกเบี ้ย)กันจนหมดสํานึกแล้ วก็ ตาม ก็ ไม่มีหลักฐาน หลักการตรงไหนเลยแม้ แต่น้อยที่จะสั่งห้ ามตัวเขามิให้ ประกาศว่าอัลลอฮฺ คือพระเจ้ าองค์เดียว มีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่สาม อย่างที่กับพวกคริสต์ เตียน เชื่ อ ถื อ ก็ ห าไม่ ! แล้ ว กระไรกั น เล่ า เมื่อ สหายผู้น้ อ งของข้ า ฯออกมาต่ อ สู้ คัดค้ า นกับ พวกกาฟิ รอย่างเผ็ด ร้ อน ทว่า สิ่งที่ ได้ รับ การปฏิบัติ จากมุสลิ ม ทัง้ หลายก็ คือ คํา คัดค้ านอย่ างลอยๆ เพื่ อมิให้ ไปบอกแก่ ชาวคริ ส ต์ เ ตีย น ว่าอัลลอฮฺมหี นึ่งมิใช่สาม ด้ วยเหตุผลสุดด้ อยว่าสหายผู้น้องของข้ าพเจ้ านัน้ มีพื น้ ฐานศาสนาไม่ ดี แ ละอี มานอ่ อ น(ซึ่ ง ก็ ไ ม่มี อ ะไรพิ สูจ น์ ) ไปกระนั น้ ได้ !!!??! ปรากฏการณ์ของการชอบเอา ‚ความอ่อนแอ‛ หรื อ ‚ข้ อบกพร่ อง‛ ของมนุ ษ ย์ มาเป็ นเงื่ อ นไขในการหัก ห้ ามการต่ อ สู้หั ก ล้ า งความเท็ จ แด่ อิสลามในสังคมถื อ ว่าเป็ นปรากฏการณ์ วิประการ ที่ข้าฯพบเห็นมาอย่าง ยาวนานแล้ ว ในบ้ า นเมืองเรา และนั่นคื อ คํา ตอบที่ ว่า เหตุใ ดในกิ จกรรม ภายใต้ ร่มธงของอิสลาม ที่หนุ่มสาวมุสลิมกระทําอยู่ในปั จจุบันนีจ้ ึงอยู่ใน


อิฐก้อนแรก | 61

ลักษณะของการฟื น้ ฟูบคุ ลิกภาพของเยาวชนแต่เพียงถ่ ายเดียว จนแทบหา ขบวนการเคลื่อ นไหวทางศาสนาเพื่ อปฏิ วัติสัง คมโดยนํา้ มือของเยาวชน แท้ ๆ แทบไม่เจออีกแล้ วในปั จจุบนั ที่เห็นกันมีอยู่ก็คือเยาวชนมุ่งเน้ นแค่ การ พัฒนาตนเองให้ อยู่ในกรอบของศาสนา ซึ่งคิดๆดู ก็คล้ ายราวกับพฤติกรรม เห็นแก่ตวั ที่สกั แค่ขอให้ ตนพ้ นปากนรกก็พอแล้ ว ส่วนสังคมจะเป็ นอย่างไรก็ ช่างมัน! ความเท็จในสังคมตังมากมายกองสุ ้ มอยู่ทงั ้ โรคภัยไข้ เจ็บจากลัทธิ ประชาธิปไตย, ทุนนิยม, ชีอะฮฺ, โพสโมเดิร์น, กุรอานิยูน, คริ สเตียนพยาน ยะโฮวาร์ และอีกมากมายความเท็จทังปวงก็ ้ จะยังคงกองสุมในสังคมต่อไป จากความ ‚หน่อมแน้ ม‛ ของเยาวชนที่ได้ ถูกโลกทัศน์ และวาทกรรมเรื่ อ ง ของ "‚อีมานดี-อีมานอ่อน‛ ครอบศีรษะพวกเขาอยู่จนทําอะไรไม่ได้ เลยสัก อย่าง เพราะมัวแต่พะวงว่าฉันอีมานยังไม่ดี แต่ขณะเดียวกันเรื่องใดก็ ตามที่ เผอิญถูกจริตของหนุ่มสาว พวกเขาก็มกั จะแกล้ งลืมเงื่อนไขต่างๆ ที่พวกเขา ได้ ว างไว้ แต่ แ รก เช่น เรื่ อ งของการแต่ งงาน หรื อ การจัด บรรยาย , เขี ย น หนังสือว่าด้ วยเรื่องรักใคร่ของหนุ่มสาวมุสลิมจนประหนึ่งว่านีค้ ือเป้าหมาย สูงสุดของการทํางานอิสลามของหนุ่มสาว เหตุใดกันเล่าที่พอเรื่ องถูกจริ ต เช่นนี ้ได้ ถกู กระพือฮือโหม เรากลับไม่เห็นเยาวชนวางเงื่อนไขคัดค้ านแบบ เดียวกัน กลับไปบ้ างว่า ‚ก่อนจะแต่งงานเอาอีมานตัวเองให้ดีก่อน‛ บ้ างเสีย เล่า!!?!

‚ชีวินจักสัมบูรณ์ มิพอกพูนเพราะฤทธิ์รัก ชีวิตป้องปกปั กษ์ พิทกั ษ์ สตั ย์รกั แท้ เอย‛ ในขณะเดียวกันที่เยาวชนมุสลิมทําตัวดังเช่นที่ได้ ว่าไป แต่ในทางกลับกัน พวกเขาก็กลับเรียกร้ องให้ หนุ่มสาวฟื น้ ฟูอิสลามและก้ าวเข้ ามาจัดระเบียบ สังคมให้ เป็ นอิสลาม เรามักจะเห็นพวกเขาซาบซึง้ ไปกับรสชีวิตของเหล่ า


62 | อิฐก้อนแรก

บุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่างเช่นบรรดาเศาะหาบะฮฺ, เศาะลาฮุดดีน อัลอัยยูบีย์ และ ฝั นใฝ่ ที่จะเป็ นดัง่ กลุ่มชนที่ยิ่งใหญ่ในอดีตเช่นนี ้ แต่พวกเขาก็ ได้ แต่นั่งซึง้ กัน ไปมากกว่ า เพราะความหน่ อ มแน้ มของพวกเขาที่ ไ ม่ ไ ด้ ดํ า เนิ น ตาม กระบวนการเปลี่ยนโลกเพื่อ อิสลามที่บ รรดาบรรพชนผู้องอาจของเราได้ กระทํ า ก็ ใ นเมื่อ ในทางหนึ่ ง พวกเขาก็ ร้ องเรี ย กการปฏิ รู ป สัง คมให้ เ ป็ น อิสลามและไปไกลถึ งขนาดเรี ยกร้ องระบอบเคาะลีฟะฮฺ และการปกครอง ด้ วยรัฐธรรมนูญแห่งอัลกุรอาน ตลอดจนการญิ ฮาด แต่ในอีกทางหนึ่งพวก เขาก็ ก ลับ วางเงื่ อ นไขแปลกประหลาดที่ ขัด ขวางการไปสู่เ ป้ าหมายอั น ยิ่งใหญ่ ดังกล่าวตามที่ เราได้ กล่ าวไปแล้ ว แม้ กระทั่งคนๆ หนึ่ งจะออกมา ต่อสู้กับชีอะฮฺหรือคริสเตียนยังถูกหักห้ ามจากผู้ใหญ่ ทงั ้ หลายได้ แล้ วจะไป หวังลมแล้ งอันใดกับรัฐคิลาฟะฮฺหรือการใช้ กฎหมายชะรี อะฮฺที่ต้องแลกมา ด้ วยคมดาบและหยาดเลือดกันเล่า จะไปซาบซึง้ ในวีรกรรมของเศาะลาฮุด ดีนเพื่อการใด หากแม้ นแค่การต่อสู้กับความเท็จและศัตรู อิสลามพวกเราก็ ยังขยาดกลัว ทัง้ ที่เ ศาะลาฮุด ดีนทลายอิ ทธิพลของชีอะฮฺในอี ยิปต์ ขณะที่ พวกเรากลับขี ้ขลาดที่จะสู้กับชีอะฮฺ , ทัง้ ที่บรรดาเศาะหาบะฮฺต้องรบกันจน ชีวิตแทบจะหาไม่ เพื่อให้ อิสลามขจรขจายไปยังดินแดนต่างๆ ขณะที่พวก เราเพียงแค่การก้ าวมารั บงานเพื่อเผยแพร่ อิสลามแก่ ต่างศาสนิก , ตอบโต้ พวกคริสเตียน, ตอบโต้ พทุ ธ, พราหมณ์ และพวกปรัชญาวัตถุนิยมทัง้ หลาย ก็ยงั กระดากกลัวและตังแง่ ้ ปฏิเสธด้ วยเหตุผลอ่อนด้ อยว่า ‚ฉันยังไม่ดีพอ‛ ฯลฯ เพียงท่าเดียวมาตลอด เยาวชนเรี ยนรู้ ความสําเร็ จของบุคคลยุคอดีต จนซึ ง้ กับ มันมากพอแล้ ว แต่เ ยาวชนกลับไม่สนใจและคิดที่ จะเดินไปบน เส้ นทางที่ทําให้ บรรดาบรรพชนในอดีตมีความสําเร็ จเลย กระบวนการที่ทํา ให้ เขาเหล่านันเป็ ้ น ‚ประวัติศาสตร์ ‛ ไปนัน้ เยาวชนกลับไม่พูดถึ งและคิดที่ จะเอามาปฏิ บั ติ ใ ช้ แ ต่ อ ย่ า งใด การเรี ย นรู้ ประวัติ เ ศาะหาบะฮฺ ห รื อ ฮี โ ร่


อิฐก้อนแรก | 63

อิสลามอย่างที่ว่าไปก็ ไม่ได้ ดีหรื อสร้ างสรรค์ ไปกว่าการนั่งดูหนังไทยอย่าง พระนเรศวรเพื่อแสวงหาความซาบซึ ้งสนุกๆ เท่านัน้ ดังนันตราบใดที ้ ่การทํางานเพื่ออิสลามยังคงวางหลักอยู่บนฐาน คิดตื ้นๆ เช่นนี ้ก็คงต้ องนัง่ เพ้ อลมพกฝั นต่อไป ว่าสักวันหนึ่ง รัฐคิลาฟะฮฺและ การปกครองด้ วยกฎหมายอิ สลามจะเกิ ดขึน้ กระมัง !!? เพราะการได้ มาซึ่ง สองประการสุดท้ ายนี ้มิอาจหลีกหนีสงคราม(ญิ ฮาด)และการปลดแอกใดๆ ได้ อีก เพราะรั ฐคิลาฟะฮฺและระบอบการปกครองด้ วยกฎหมายอิสลามมิ อาจได้ มาในสภาพโลกปั จจุบนั นี ้ด้ วยการเดินไปขอให้ ประเทศหนึ่งประเทศ ใดแบ่งพื ้นที่ให้ เราเอาไปทํารัฐคิลาฟะฮฺ หรือขอให้ ผ้ นู ําของชาตินนั ้ ๆ เดินลง มาเพื่อให้ เคาะลีฟะฮฺขึ ้นปกครองแทนได้ หรอก เพราะฉะนั น้ อย่ า ให้ การทํ า งานอิ ส ลามเป็ นเพี ย งสนามเพื่ อ หนทางในการหาคู่ครองเท่านัน้ เพราะนัน่ จะเป็ นวัฏจักรอันมืดบอดที่สังคม มุสลิมต้ องประสบอย่างไม่มวี นั จบสิ ้น เนื่องจากเมือ่ ครัง้ เป็ นเยาวชนเราก็ ม่งุ พัฒนาตนเอง(และหาคู่ครองไปพลางๆ)กันลูกเดียว, เมือ่ ครัง้ แต่งงานไปเรา ก็ ม่งุ พัฒนาครอบครัวกันลูกเดี ยวอีก และเมื่อครัง้ มีบุตรเราก็ ม่งุ ดูแลบุต ร หลานของเรากันลูกเดียวอีก แล้ วท้ ายที่สดุ เราก็ตายไปโดยไม่ได้ ให้ อะไรกับ อิสลามมากไปกว่าสิ่งที่สัมพันธ์ เกี่ ยวข้ อ งกับตัวเองเท่านัน้ นี่คือวัฏจักรอัน มืดบอดที่จะกัดกร่อนความเจริญของโลกมุสลิม แล้ วโลกจะได้ รับอะไรจาก มุสลิมเมือ่ พวกเขาหน่อมแน้ มกันถึงเพียงนี?้ ?! บทความอันตํ่าต้ อยของสามัญชนอย่างข้ าฯชิน้ นีเ้ ป็ นเพียงความ พยายามที่จะทําการอธิบายถึ งปั ญหาความเฉื่ อยชาและกระบวนการที่ มืด บอดผิดพลาดบางอย่าง ซึ่งคอยฉุดรัง้ สภาวะการทํางานอิสลามของเยาวชน นักทํางานศาสนาทัง้ หลาย ซึ่งแน่นอนว่าการวิเคราะห์ วิพากษ์ ของข้ าฯนัน้ อาจมีทงถู ั ้ กและผิดก็ ได้ ในฐานะปุถุชนคนสามัญที่ไม่สํามะหาอะไรนักกับ โลกอันกว้ างใหญ่ไพศาลใบนี ้ และเพื่อเป็ นบทเรี ยนอุทาหรณ์ แก่ การพัฒนา


64 | อิฐก้อนแรก

ประชาชาติอิสลามนี ้ อาจจะต้ องมีการนําเสนอตัวอย่างความผิดพลาดของ นักทํางานศาสนาในอดีต ทังนี ้ ้มิได้ มเี จตนารมณ์ ในการขุดคุ้ยความผิดของ เหล่า ดาอีย์ ในอดี ต มาประจาน แต่ เพื่ อเป็ นอุท าหรณ์ แ ก่ ค วามไม่ห ลงผิ ด เหยียบซํ ้ารอยเดิมบนสายธารแห่งการทํางานนี ้เท่านัน้ ความคลุมเครือในเส้ นเขตแดนของการพัฒนาตนเอง ? ปั ญหาหนึ่งที่ข้าฯได้ หยิบยกมาวิพากษ์ ไปบ้ างแล้ วในตอนต้ นของ บทความก็ คื อ ปั ญ หาเรื่ องของการพัฒ นาตนเองซึ่ งแล้ วแต่ จะเรี ย กด้ ว ย คําศัพท์ ประการใดก็ ตามแต่ ปั ญหาที่ข้าฯหมายถึ งนัน้ ก็ คือปั ญหาในเรื่ อ ง ของเส้ นแบ่งหรือระดับชี ้วัดความสมบูรณ์ ในอีมานของเรา ปฏิเสธไม่ได้ เลย ว่า ในยุค สมัย แห่ งการดํ า รงชี พ อยู่บนระบอบสัง คมโสโครกของทุน นิ ย ม ประชาธิ ป ไตยนี ้ ความอ่ อ นแอในเรื่ อ งของอี มานนัน้ กลับ กลายมาเป็ น ประเด็นปั ญหาที่เหล่านักดาอีย์และหนุ่มสาวมุสลิมมากหน้ าหลายตาคิดไม่ ตกแก้ ไม่ออกทังสิ ้ ้น ข้ าพเจ้ ามิได้ มเี ป้าประสงค์ที่จะเข้ า ไปทําการวิพากษ์ ถึง วิธีการแก้ ปัญหาอีมานอ่อน เพราะหนังสือตําราที่อภิปรายถึ งทางออกของ ปั ญหานี ้ก็มมี ากพออยู่แล้ ว แต่สิ่งที่จําต้ องมาวิเคราะห์ เจาะลึกลงก็ คือโลก ทัศน์ ในเรื่ องของ ‚อี มานดี-อี มานอ่อ น‛ ที่ครอบงํา ความคิ ดของเยาวชน อย่างฝั งหัวนันได้ ้ ส่งผลร้ ายต่อการฟื ้นฟูอิสลามในรู ปลักษณ์ ที่ผิดทางผิดที่ อย่างไร สภาวะอีมานอ่อนแอเป็ นสภาวะที่ครอบงําดวงจิตของศรัทธาชน มาตลอดยุค สมัย แล้ ว การถูก พิ ษ ภัย ของอี ม านอ่ อ นเข้ าครอบงํ า จิ ต ใจ เยาวชนมุสลิมที่อยู่กําลังอยู่ในสภาพ ‚หวาดกลัว-หวาดระแวง‛ นัน้ ได้ ทําให้ เกิดการนิยามหรือเข้ าใจต่อคําว่า ‚การทํางานอิสลาม‛ ให้ เป็ นไปในทางที่ มักพุ่งเป้าไปยังความหมายที่ว่าทํางานเพื่อให้ มสุ ลิมเกิดอีมานที่ดีในศาสนา ทังยั ้ งควบคู่ไปกับความรู้สึกนึกคิดที่ว่ามุสลิมมีหน้ าที่ ‚หลัก‛ ในการพัฒนา ตนเอง โลกทัศน์ที่เข้ าใจว่าการเสริมสร้ างอีมานนัน้ เป็ นหน้ าที่หลักได้ ส่งผล


อิฐก้อนแรก | 65

ในทางรู ปธรรมผ่านการเกิ ดขึน้ ของกลุ่มศาสนา, ญะมาอะฮฺ, ชมรมมุสลิม ต่างๆ มากมาย กล่าวคือในหมู่กลุ่มนักทํางานศาสนาเหล่านีโ้ ดยมากก็ มกั พุ่งเป้าไม่พ้นไปจากการสรรสร้ างกระบวนการในการเสริ มสร้ างอีมานเสีย โดยมาก เช่น การทําหะละเกาะฮฺ, การทําค่ายฤดูร้อน เป็ นต้ น พิจารณาโดยพื ้นฐานแล้ วการมุง่ เสริมสร้ างอีมานนันเป็ ้ นสิ่งที่ดียิ่ง ในหลักการของอิสลาม แต่ทงั ้ นีแ้ ละทัง้ นัน้ การถูกโลกทัศน์ ในเรื่ องอีมานดี อีมานอ่อนชักนําไปในทางที่ผิดนันได้ ้ สร้ างความเสียหายต่อสังคมมุสลิมใน ระดับที่ ร้ายกาจยิ่ง ความเสียหายดังกล่ าวก็ คื อการมุ่งสร้ า งกระบวนการ เสริมสร้ างอีมานในรูปแบบต่างๆ เคียงคู่ไปกับการพุ่งเป้าสูงสุดของเยาวชน ไปที่ ก ารตั ร บี ย ะฮฺ ซึ่ ง สอดประสานอย่ า งลงตัว กั น ระหว่ า งทั ง้ 2 หน่ ว ย (กระบวนการและตัรบี ย ะฮฺ ) ในอัต ราที่ มาก จนก่ อให้ เ กิ ด การพิ จ ารณา ตนเองว่าเป็ นคนไม่ดีไม่พร้ อมอยู่เสมอ พูดง่ายๆ แล้ วก็ คือ โลกทัศน์ ในเรื่ อง ‚อีมานดี-อีมานอ่อ น‛ ได้ สร้ า งเงื่อ นไขอันไม่จําเป็ นบางอย่างแก่ เยาวชน ขึ ้นมา เงื่อนไขอันเป็ นปั ญหาสําคัญก็คือ การที่เยาวชนมุ่งคิดถึ งการพัฒนา ตนและอีมานเป็ นหน้ าที่หลักเหนือพันธกิจอื่นใด จนสร้ างอุปสรรคในการรับ ใช้ หรือต่อสู้อิสลามในระดับสังคมที่เหมาะสม ซึ่งดังกรณีที่ข้าพเจ้ าได้ หยิบ ยกไปว่า แม้ กระทั่งการต่อสู้กับชีอะฮฺ หรื อคริ สเตียน(และเรื่ องอื่น ๆ)เอง ก็ ยังคงถูกมองว่า ‚ไม่ใช่หน้ าที่หลัก ‛ ของเยาวชนหนุ่มสาวอิสลาม การเกิ ด ความเข้ าใจที่ผิดพลาดเช่นนีค้ ือคําตอบที่ว่าเหตุใดในสังคมมุสลิมในระยะ หลังมา การต่อสู้เพื่อจัดระเบียบสังคมหรื อหักล้ างความเท็จในสังคมจึงไม่ เกิ ดขึ น้ ในหมู่ปั ญญาชนมุสลิ มเฉกเช่ น ในยุค สมัยอดีต เพราะการนํ าเอา ความบกพร่องส่วนตนของมนุษย์มาเป็ นอุปสรรคในการหักห้ ามการต่อสู้ใน หนทางอิ ส ลามอั น มี อ ยู่ ใ นจิ ต ใจของเยาวชน ได้ ส่ ง ผลให้ เ ยาวชนหรื อ ขบวนการฟื น้ ฟูอิสลามในหมู่นักศึกษาร่ อยหรอลงจากภาวะของการมุ่ งขัด เกลาตนเองจากภายใน พิจารณาจากโลกทัศน์ เช่นนีแ้ ล้ วเยาวชนมุสลิมจะ


66 | อิฐก้อนแรก

ตกอยู่ ใ ต้ ห่ ว งโซ่ ข องการตั ร บี ย ะฮฺ ที่ ค อยคุ ม ขั ง พวกเขาตลอดไปจาก ข้ อเท็ จ จริ ง ที่ ว่ า ความอ่ อ นแอด้ านอี ม านของมนุ ษ ย์ นั น้ มี ขึ น้ -ลงอยู่ ตลอดเวลา การตังเงื ้ ่อนไขลอยๆ แก่ การทํางานอิสลามว่า ‚ต้ องเอาตัวเอง ให้ ดีก่อน แล้ วค่อยทําอย่างอื่น‛ จะถูกชักลากลงคลองจากข้ อเท็จจริงที่ว่าไม่ มีคําตอบจากใครเลยที่ว่าการตัรบียะฮฺตนเองให้ ดีนนั ้ ต้ องสิน้ สุดหรื อบรรลุ เป้าหมายในระดับใดอย่างเป็ นรูปธรรมถึงจะทําอย่างอื่นต่อได้ ? ในขณะที่การขึน้ -ลงของอีมานก็ เป็ นปั ญหาพืน้ ฐานของมนุษย์ ที่ ไม่มวี นั จบสิ ้นได้ เพราะมนุษย์ ไม่ใช่อิศมะฮฺหรื อปผู้ราศจากบาป ดังนัน้ โลก ทัศน์เช่นนี ้จะกักขังให้ เยาวชนคนหนุ่มสาวมุง่ การพัฒนาตนเองกันถ่ายเดียว จนขาดการก้ าวเข้ ามาปฏิวัติและต่อสู้กับโรคภัยไข้ เจ็บทางความเชื่อและ วัฒนธรรมในสังคมจากสาเหตุที่ต นเองยัง สลัด ตัวออกจากสภาวะอีมาน อ่อนในจินตนาการของพวกเขาไม่ได้ หรื อถ้ าพวกเขามุ่งกระโดดมาสู่การ ทํางานเพื่อสังคมเสียจริง โลกทัศน์ เรื่ องอีมานดี -อีมานอ่อนก็ จะบีบคัน้ พวก เขาให้ ทํางานที่ไม่พ้นเกลือกิ นด่าง นั่นคือทํางานเชิงตัรบียะฮฺแก่ สังคมกั น ต่อไปอีก!!!! สภาพดังกล่าวนี ้จะกลายเป็ นวัฏจักรที่มดื บอดและวนเวียนอยู่ใน วังวนเดิมๆ จนทําให้ สงั คมสูญเสียการต่อสู้เพื่อศาสนาในหนทางอื่น อันควร จะได้ รับจากแรงกายของเยาวชนหนุ่มสาวมากกว่านี ้ ที่ได้ วิพากษ์ มาทังหมดนี ้ ้มิใช่เพื่อการชี ้นําผู้อ่านว่าเราไม่ต้องตัรบี ยะฮฺหรื อ ใดๆ กั นอีกต่อไป หากแต่คําถามที่จะต้ องถูกให้ คําตอบหลั งการ วิ พ ากษ์ ทัง้ หมดก็ คื อ การเสริ มสร้ างอี มานหรื อ กระบวนการทัง้ หมดใน ขอบข่ายนี ้คือหน้ าที่หลักของเยาวชนมุสลิมดังที่เข้ าใจจริ งหรื อ ? คําตอบต่อ คําถามนี ้ก็คือ ตัรบียะฮฺหรือกระบวนการในการขัดเกลาอีมานแก่ ประชมคม มุสลิมนัน้ จะต้ องไม่ถูกถื อว่าเป็ นกระบวนการหลักหรื อกระบวนการสู งสุด ของประชาคมมุสลิม หากแต่จะถูกพิจารณาว่าเป็ นกระบวนการพื ้นฐานของ


อิฐก้อนแรก | 67

ประชมคมมุสลิมที่จะต้ องมีการกระทํ ากันเป็ นระยะๆ จากข้ อเท็จจริ งที่ว่ า อีมานของมนุษย์มกี ารขึ ้นลงเป็ นภาวะวิสัยอยู่แล้ ว หากการตัรบียะฮฺถูกถื อ ว่าเป็ นกระบวนการหลักเมื่อใด วัฏจักรอันมืดบอดในสังคมมุส ลิมก็ จะเกิ ด การวนเวียนเป็ นห่วงโซ่ที่ไม่จบสิ ้นดังที่ได้ กล่าวไป โดยทัง้ นีท้ งั ้ นัน้ เป้าหมาย สูงสุดของการสรรสร้ างมวลประชาชาติของท่านนบีมหุ ัมมัด (ศ็อลฯ) ขึน้ บน หน้ าพิ ภ พเป็ นการเฉพาะตามเจตนารมณ์ ข องอั ล ลอฮฺ (สุ บ ฯ) นั น้ ก็ เพื่อที่จะให้ พวกเขาเป็ นตัวแทน(เคาะลีฟะฮฺ) ของพระองค์ บนหน้ าแผ่นดินนี ้ ดังถ้ อยดํารัสที่ว่า ْ‫ت‬ َّ ‫ِين ءا َم ُنوْ​ْا مِ ْن ُك ْ​ْم َو َع ِملُوْ​ْا ال‬ َْ ‫للاُ الَّذ‬ َّْ َْ‫﴿ َو َعد‬ ِ ‫صـل َِحا‬ ْ ‫َل َيسْ َت ْخلِ َف َّن ُه ْ​ْم فِى ا‬ ﴾‫ين مِ ن َق ْبل ِ​ِه ْ​ْم‬ َْ ‫ف الَّ ِذ‬ َْ ‫ض َك َما اسْ َت ْخ َل‬ ْ ِ ْ‫الر‬ “อัลลอฮฺทรงสัญญากับบรรดาผูศ้ รัทธาในหมู่พวกเจ้าและบรรดา ผูก้ ระทาความดี ทงั้ หลายว่า แน่นอนพระองค์ จะทรงให้พวกเขาเป็ นตัวแทน สืบช่วงในแผ่นดิ น เสมื อนดังที ่พระองค์ ทรงให้บรรดาชนก่ อนพวกเขาเป็ น ตัวแทนสืบช่วงมาก่อนแล้ว” (อันนูร 24:55) จากโองการดั ง กล่ า วนี เ้ ราจะพบว่ า เป้ าหมายสูง สุด ที่ มีไ ว้ แ ด่ ประชาชาติอิสลามนี ้ ก็คือการเป็ นตัวแทนของอัลลอฮฺบนหน้ าแผ่นดินนี ้ เพื่อ ดําเนินกิจการทางโลกทังปวงให้ ้ เป็ นไปตามวิถีทางที่พระองค์ทรงประสงค์ ท่านอิบนิกะษี ร รอฮิมาฮุลลอฮฺ ปราชญ์ ด้านตัฟสีรแห่งมัซฮับชะฟิ อีย์ได้ ทําการอรรถาธิบายโองการนี ้ไว้ ว่า ‚(โองการนี)้ คื อข้อสัญญาจากพระองค์ อลั ลอฮฺ ตะอาลาและเราะ สูลของพระองค์ ว่าพระองค์ จะทรงมอบตาแหน่งเคาะลี ฟะฮฺ บนหน้าแผ่นดิ น แก่ประชาชาติ ของท่าน ซึ่ งหมายถึ งว่า(พวกเขา)นัน้ คื อผู้นาและผู้ปกครอง ของมวลมนุษยชาติ ‛


68 | อิฐก้อนแรก

จากโองการดังกล่าวเราจะพบว่าหน้ าที่หลักของประชาชาตินี ้ อัน ได้ ถูกมอบหมายแก่ พวกเขาจากอาณัติข องอัลลอฮฺนนั ้ ก็ คื อ การปกครอง หรือสร้ างระบอบการเมือง สังคม ให้ เป็ นอิสลามแก่โลกใบนี ้ หน้ าที่หลักของ ประชาชาติ นี ค้ ื อ การบริ ห ารจัด การโลกให้ เ ป็ นไปตามพระประสงค์ ข อง พระองค์ อัลลอฮฺ ดัง นัน้ กระบวนการหลัก จากฐานคิ ดประการนีเ้ มื่อนํามา ปรับใช้ กับการทํางานอิสลามนัน้ ก็ คือ บรรดามวลมุสลิมมีหน้ าที่ในการจัด ระเบียบสังคมและโลกให้ เป็ นไปตามกรอบของอิสลามซึ่งมิอาจที่จะปฏิเสธ หรือหลีกหนีเรื่องราวของการขัดแย้ งและต่อสู้กับพิษภัยในสังคมของเราได้ ดังนัน้ เราจึงไม่อาจที่จะสรุ ปได้ ว่าหน้ าที่หลักของเยาวชนนัน้ คือ การมุง่ ขัดเกลาพัฒนาตนเอง หากแต่หน้ าที่หลักของประชาชาติอิสลามนัน้ คือการมุง่ จัดระเบียบสังคมด้ วยรูปแบบต่างๆ เพื่อเปลี่ยนโลกไปสู่อิสลาม เพราะฉะนั น้ ตั ร บี ย ะฮฺ นัน้ เป็ นเพี ย งกระบวนการพื น้ ฐานของ ประชาชาติอิสลามที่จะหล่อหลอมให้ ประชาชาตินี ้อยู่ในครรลองคลองธรรม ที่ถูก ต้ องเท่า นัน้ แต่ทัง้ นี แ้ ล้ ว หน้ า ที่หลักของประชาชาตินีน้ ัน้ ก็ คื อการมุ่ง เปลี่ยนแปลงและจัดระเบียบโลกด้ วยการต่อสู้กับความเท็จทัง้ ปวงที่มีอยู่ใน สังคม โดยไม่นําเอาความอ่อนแอหรือความบกพร่ องส่วนตัวของเรามาเป็ น อุปสรรคในการรับใช้ หรื อต่อ สู้ในหนทางของอิส ลามเป็ นอันขาด ดังกรณี ตัวอย่า งของ อบูมิฮฺญัน อัษษะกอฟี ย์ นักรบมุสลิมผู้กล้ าหาญคนหนึ่งใน สมรภูมเิ กาะดิษียะฮฺที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดาเศาะหาบะฮฺอย่าง ท่า นสะอฺ ด บิน วัก กอส(เราะฎิยัล ลอฮุอันฮฺ ) ความรัก และกระหายในการ ญิ ฮาดของตัวเขาเป็ นที่โจษจัณฑ์ กันมาก แม้ ว่าตัวเขาจะมีปัญหาส่วนตัว อย่างร้ ายกาจ นัน่ ก็คือเขาเป็ นคนขี ้เหล้ า แต่กระนัน้ ก็ตามความขีเ้ มา(อีมาน อ่อน)ของเขานันไม่ ้ ได้ ถกู นํามาเป็ นอุปสรรคใดๆ เลยในการขวางกั น้ การต่อสู้ ของเขากับความเท็จในขณะนัน(คื ้ ออาณาจักรเปอร์ เซีย)


อิฐก้อนแรก | 69

จากอุทาหรณ์ดงั กล่าวเราสามารถที่จะสรุปในเบือ้ งต้ นได้ ว่า การ บกพร่องซึ่งอีมานในตัวมนุษย์นนจะไม่ ั้ ถกู ถือเป็ นเงื่อนไขในการหักห้ ามการ ต่อสู้กั บความเท็จดังความเข้ าใจผิด ๆ ของเยาวชนมุสลิมหนุ่มสาวในยุค ปั จจุบันนี ้ เพราะทัง้ ที่พวกเขาเองมิได้ มีพฤติกรรมที่กระทําบาปใหญ่ ด้ว ย การกินสุราอย่าง อบูมฮิ ฺญัน อัษษะกอฟี ย์ ก็ตาม แต่พวกเขากลับเลือกที่จะ ปวกเปี ยกจนไม่สามารถกระทําการณ์ ต่อสู้กับภัย ร้ ายในสังคมใดๆ ได้ อี ก ต่อไปนอกจากการมุ่งพัฒนาตนเองจากภายในแต่เพีย งถ่ ายเดี ยว ดังนัน้ คําถามที่เราได้ ถามไปในตอนต้ นที่ว่าการตัรบียะฮฺจะต้ องกระทําถึ งในระดับ ใดจึ งจะสามารถก้ าวเข้ า มาต่ อ สู้ใ นหนทางอิ ส ลามอย่ า งเป็ นรู ป ธรรมได้ คําตอบจึงมีอยู่ว่าการที่คนผู้หนึ่งแม้ จะกิ นเหล้ า , หรื อทําบาปใหญ่ แต่หาก หัวใจของเขากลับพร้ อ มที่จะพลีตนเพื่อปกป้องอิสลามได้ ย ามใดก็ ตามที่ อิสลามถูกคุกคามก็ถือว่าหัวใจของเขามีอีมานอยู่ในระดับที่สามารถกระทํา การต่อสู้กับศัตรูของอิสลามได้ แล้ ว ส่วนความบกพร่ องส่วนตัวนัน้ เป็ นสิ่งที่ จะต้ องพัฒนาต่อไปอย่างเป็ นระยะๆ และจะไม่เป็ นอุปสรรคขัดขวางการรับ ใช้ อิสลามของพวกเขา _


70 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 71

ยาเสพติด:วัฒนธรรมกระแสหลัก แห่งเยาวชนชายแดนใต้ M.Fahmee Talib ย้ อนไปซักเมือ่ 10 กว่าปี ที่แล้ ว ช่วงแรกที่มกี ารตื่นตัว การต่อต้ าน กระแสตะวันตกในสังคมมุสลิม มีการพยามเชิญชวนให้ เยาวชนมุสลิม ออก ห่างจากสิ่งที่เรียกว่า “วัฒนธรรมตะวันตก” ด้ วยการออกสโลแกน เป็ น 3 M คือ Music Movie Mc’donal หรื อว่า 5 S คือ Sport Song Sex Star Social ไม่ว่าจะย่อด้ วย 3 M หรือ 5 S ก็ตาม จะเห็นได้ ว่า คนในโลกมุสลิม มองเห็ นปั ญหาของการตามกระแสทางความคิ ดเป็ นเรื่ องสํ าคัญ กลัวว่ า เยาวชนมุสลิม จะคลัง่ ไคล้ ในกีฬา บ้ าดารา กิ นอาหารตะวันตก แสดงออก ทางเพศอย่างไร้ จริ ยธรรม หรื อการมีสังคมที่ผิดแปลกไปจากสิ่งที่รูปแบบ อิส ลามได้ ส อน แน่น อนว่า การเป็ นทาสทางความคิด นัน้ เป็ นเรื่ อ งที่ สร้ าง ความเสียหายที่ยิ่งใหญ่ แต่การที่เรามัวแต่ปกป้องเยาวชนจากการเป็ นทาส ของวัฒนธรรมตะวันตกเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะปกป้องอนาคต เยาวชนของเราได้ จะเห็นได้ ว่า ทัง้ 3 M และ 5 S ไม่มีการพูดถึ ง ยาเสพติด


72 | อิฐก้อนแรก

เลย ทังๆที ้ ่ เมือ่ 10 ปี ที่แล้ ว ปั ญหายาเสพติดก็ ไม่ใช่เรื่ องที่ยังไม่มี คนที่ติด ยาเสพติด (นับตัง้ แต่กัญชาขึน้ ไป) ในสมัย 10 ปี ที่แล้ วคือ กลุ่มคนที่ไม่มี อนาคตที่สดุ ในหมูบ่ ้ าน พูดง่ายๆคือเข็นไปทางอื่นไม่ไหวแล้ ว ก็ มาติดยากัน ซึ่ ง เป็ นสัด ส่ ว นที่ น้ อ ยมากเมื่ อ เที ย บกั บ เยาวชนทัง้ หมู่บ้ า น จนกระทั่ ง ปั จจุบนั ปั ญหาเรื่องยาเสพติดนี ้ ได้ กลายเป็ นปั ญหาหลักของพื ้นที่สาม จังหวัดชายแดนใต้ ทุกหมูบ่ ้ านที่มเี ยาวชนก็ต้องมีปัญหายาเสพติดควบคู่ไป ด้ วย เยาวชนที่แค่ไม่ติดยาเสพติดกลายเป็ นกลุ่มคนที่ดีที่สุดในหมู่บ้านและ แน่นอนเป็ นส่วนน้ อยของหมู่บ้านไปเลย ตามความคิดของผม ปั ญหายา เสพติดน่าจะเป็ นปั ญหาที่ใหญ่กว่าเรื่องความไม่สงบ เพราะปั ญหาความไม่ สงบนัน้ ทําลายชีวิตและความปลอดภัยของคนในพืน้ ที่ แต่ปัญหายาเสพ ติดนันเป็ ้ นสิ่งที่ทําลายล้ างทังความคิ ้ ด ชีวิต ความปลอดภัยและเยาวชนที่ เป็ นความหวังของสังคม เราปล่อยให้ ปัญหานี ้กลายเป็ นประเด็นที่ถกู ละเลย ได้ เช่นไร เราจะทําอะไรเพื่อแก้ ไขปั ญหานีไ้ ด้ บ้าง เป็ นโจทย์ สําคัญที่เราซึ่ง พอจะเป็ นความคาดหวังของสังคมมาร่วมกันรับรู้และแก้ ปัญหานี ้ร่วมกัน การเริ่ มต้ นของปั ญหา 1.ความเข้ าใจบทบัญญัติท่คี ลาดเคลื่อน ผมคิดว่าสิ่งที่สําคัญ ที่สดุ ของการเริ่มต้ นปั ญหานี ้ คือการที่ผ้ รู ้ ู ที่มีความรับผิดชอบสําคัญในการ ปลูกฝั งความคิดให้ ลกู หลานนัน้ มีความเข้ าใจที่คลาดเคลื่อนในบทบัญญัติ เกี่ ย วกั บ ยาเสพติ ด ของศาสนาอิ ส ลาม ความจริ ง แล้ ว มุส ลิ ม มีค วาม เคร่งครัดอย่างมากกับเรื่องอาหารการกิน เช่นที่มสุ ลิมไม่กินหมู ไม่แตะต้ อง สุนขั หรือมุสลิมไม่ดื่มเหล้ า (ถึ งแม้ บางคนจะดื่มก็ ดื่มแบบหลบๆซ่อนๆอยู่ ) เพราะเรื่องเหล่านี ้ได้ ถกู กล่าวอย่างชัดเจนในอัลกุรอาน และการปลูกฝั งให้ เยาวชนเกลียดชังกับความชั่วร้ ายทัง้ สามอย่างนีก้ ็ เป็ นไปอย่างเข้ มข้ น ใน การเรียนการสอนของโรงเรี ยนตาดีกา บทบัญญัติเรื่ องสุกร สุนัขและเหล้ า นัน้ เข้ มข้ นและชัดเจนมากจนทําให้ เรื่ อ งพวกนีก้ ลายเป็ นสัญ ลักษณ์ ของ


อิฐก้อนแรก | 73

มุสลิมไป เราสร้ างให้ เด็กของเราให้ กลัวสุกรและสุนขั จนกระทัง่ แค่เห็นก็ ต้อง เดินหนี หากมุสลิมเดินผ่านร้ านขายหมูย่าง ก็ ต้องรี บเดินหลบกลัวว่าควัน หมูย่างจะโดนเนือ้ ต้ องตัว เวลาเจอสุนัขเดินผ่า นก็ จะเดินหลีกเปิ ดทางให้ สุนขั เดินสะดวกๆ จะได้ ไม่ต้องมาถูกเนื ้อต้ องตัวกัน กระบวนการสร้ างความ เข้ มข้ นในการหลีกห่างจากสองสามประการที่ผมกล่าวมาข้ างต้ นนันกลั ้ บถูก ใช้ ไม่มากนัก มีเพียงบางพื ้นที่ที่ใช้ ในการสัง่ สอนลูกหลานให้ เกรง กลั ว หรื อ รู้ สึ ก ไม่ ดี กั บ ยาเสพติ ด ที่ กํ า ลั ง ระบาด ผู้ หลั ก ผู้ ใหญ่ พ่ อ แม่ ผู้ปกครองบางคนยังคิ ดว่านํา้ กระท่อมเป็ นสมุนไพรด้ วยซํา้ เวลาพูดเรื่ อ ง ลูกหลานเริ่ มลองกิ นนํ า้ กระท่อ ม บางครัง้ ก็ พูดเป็ นเรื่ องตลก บอกว่า เด็ ก กํ าลังเติบโต ให้ ลูกหลานทดลองใช้ ชีวิตไปก่ อน ว่าไปนั่นเลย นี่คือความ คลาดเคลื่อนในคําสอนของอิสลามอย่างชัดเจน เรายังแยกไม่ออกว่าสิ่งมึน เมาที่ทําร้ ายลูกหลานของเรานัน้ ไม่ได้ เข้ ามาในรู ปแบบของสุราเพียงอย่าง เดียว เราสามารถป้องกันลูกหลานของเราได้ ด้วยการสร้ างความตระหนักใน เรื่องบาปของสุรา แต่สิ่งมึนเมาที่ให้ ผลบาปเช่นเดียวกับสุรานัน้ เรากลับไม่ รวมกลุ่มพวกมันไปด้ วย ผมจะกล่าวถึงอายัตอัลกุรอานที่กล่าวถึ งเรื่ องสุรา ที่ทําให้ มสุ ลิม ส่ ว นใหญ่ ยัง คงเกรงกลัว บาปและสายตาของคนในสัง คมหากเสพสุร า อัลลอฮฺได้ กล่าวไว้ ใน ซูเราะฮ อัลมาอิดะฮฺ อายัตที่ 90 ว่า ُْ‫نصاب‬ َْ ِ‫﴿ َيا أَ ُّي َها الَّذ‬ َ َ‫ين آ َم ُنوْ​ْا ِإ َّن َما ْال َخمْ ُْر َو ْال َم ْيسِ ُْر َواْل‬ َ ‫ل ال َّشي‬ ﴾ ‫ُون‬ َْ ‫ان َفاجْ َت ِنبُوهُ َل َعلَّ ُك ْ​ْم ُت ْفلِْح‬ ِْ ‫ْط‬ ِْ ‫َواْلَ ْزالَ ُْم ِرجْ سْ مِّنْ​ْ َع َم‬ ความหมาย : ‚ผู้ศรัทธาทัง้ หลาย! ที ่จริ งสุราและการพนันและ แท่นหิ นสาหรับเชื อดสัตว์บูชายัญ และการเสีย่ งติ้ ว นัน้ เป็ นสิ่ งโสมมอันเกิ ด จากการกระทาของชัยฏอน ดังนัน้ พวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสีย เพือ่ ว่า พวกเจ้าจะได้รบั ความสาเร็จ‛


74 | อิฐก้อนแรก

ความคลาดเคลื่อนที่บรรดาผู้นําศาสนาในพื ้นเข้ าใจในอายัตนี ้คือ การเข้ าใจคําว่า ‫ خمر‬ซึ่งความหมายโดยตรงตัวของมันคือเหล้ า ก็ แปลไป ตรงๆว่ามันเป็ นเหล้ าอย่ างเดียว โดยอ้ างอิงหลักการทางฟิ กฮฺ (นิติศาสตร์ อิสลาม) เมือ่ สมัยหลายร้ อยปี ที่แล้ ว ซึ่งแน่นอนว่า ในหลายร้ อยปี ที่แล้ วสิ่ง มึนเมามีเ พียงไม่กี่ ชนิด โลกยัง ไม่ค้ นพบสารเสพติดที่ มีฤทธิ์ทํา ให้ มึนเมา (อาจจะกดประสาท กระตุ้นประสาท หลอนประสาทก็ ได้ ) โดยแท้ จริ งแล้ ว บรรดาผู้ร้ ูได้ อธิบายความหมายของคําว่า ‫ خمر‬อย่างชัดเจนว่าคือสิ่งที่ทํา ให้ สติสญ ู หาย หรือสูญเสียสตินนั่ เอง ดังนัน้ ของมึนเมา สารเสพติดทุกชนิด จึงเป็ นสิ่งที่อลั ลอฮได้ ห้ามไว้ อย่างชัดเจน เช่นกันกับเรื่ องบุหรี่ ที่บรรดาผู้นํา ศาสนายังไม่กล้ าฟั นธงให้ ชัดเจนว่ามันเป็ นสิ่งต้ องห้ ามแน่นอน เราจึงพบ เห็นเด็กๆสูบบุหรี่กันอย่างกลาดเกลื่อน และบุหรี่ นี่เองที่เป็ นประตู ส่ยู าเสพ ติดอันดับสูงกว่าอื่นๆ น่าเสียดายที่การปลูกฟั งให้ เด็กๆตัวเล็กๆรังเกี ยจยา เสพติดทังหลายเหมื ้ อนที่รังเกียจเหล้ านัน้ ไม่เกิดขึ ้นซักทีในพื ้นที่สามจังหวั ด หากการปลูกฝั งเรื่องพวกนี ้ เราสามารถทําได้ สําเร็ จก็ จะเป็ นเกราะป้องกัน ชันดี ้ ให้ ลกู หลานเยาวชนของเราในอนาคต 2.ภาวะไร้ การศึกษาในหมู่เยาวชนมุสลิม ผมเชื่อว่าการศึกษา เป็ นปราการที่สําคัญมากในการป้องกันเยาวชนจากปั ญหายาเสพติด เหตุ เพราะการเรียนการสอนในประเทศไทยนัน้ เป็ นการบังคับให้ นกั เรียนต้ องอยู่ ในพืน้ ที่โ รงเรี ยนอย่างน้ อยวันละ 8-10 ชั่วโมง แน่นอนว่าบริ เวณพืน้ ที่ใ น โรงเรียนย่อมถูกเข้ มงวดกวดขันในการดูแลเรื่องยาเสพติด นักเรี ยนที่เข้ าไป ในโรงเรียนย่อมมีความลําบาก ในการเสพยาแน่นอน ถึ งแม้ ว่าบางโรงเรี ยน นักเรียนใช้ เป็ นสถานที่ในการเสพและจําหน่ายยาเสพติดแต่ส่วนตัวผมเชื่อ ว่ายังเป็ นส่วนน้ อย อีกทังตั ้ วโรงเรียนเองโดยปณิธานของทุกๆโรงเรี ยนย่อม เหมื อ นกั น คื อ ทํ า ให้ นั ก เรี ย นมี ค วามรู้ ความสามารถ การมี ค วามรู้ ความสามารถทําให้ นกั เรียนตระหนักถึ งคุณค่าและหน้ าที่ที่ตัวเองควรต้ อง


อิฐก้อนแรก | 75

ปฏิบตั ิ รู้ถึงอันตรายของยาเสพติดที่จะมีต่ออนาคตของตัวเอง สถานะการ เป็ นนักเรียนจึงเป็ นการป้องกันเยาวชนจากปั ญหายาเสพติด แต่น่าเสียดาย ที่ห ลายๆครอบครั วไม่เข้ า ใจในความสํ า คัญ ของการศึก ษา ไม่ได้ เ ห็น ว่ า การศึ ก ษานัน้ เป็ นเครื่ อ งมือ ชัน้ ยอดในการพัฒ นาชี วิ ต จึ ง ไม่ไ ด้ เ ข้ มงวด กวดขันกับเรื่องการศึกษาให้ ลกู มากนัก เมื่อลูกงอแงไม่อยากเรี ยนก็ เห็นใจ ปล่อยให้ ลกู อยู่บ้านเฉยๆ ตัวลูกเองยังเด็กเกิ นกว่าจะทํางาน ไม่ร้ ู ว่าจะทํา อะไร ก็ต้องไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่ไม่ได้ เรียนด้ วยกัน กลายเป็ นสมาคมคน ไม่เรียน สุดท้ ายหากิ จกรรมอะไรอื่นไม่ได้ ก็ต้องจบด้ วยการร่ วมกันเสพยา เสพติ ด ปั ญ หาลู ก โซ่ ต ามมาคื อ ต้ องใช้ เงิ น ในการเสพยา จึ ง ต้ องทํ า อาชญากรรมร่ วมกันอีกเพื่อหาเงินมาเสพยา ปั ญหาที่วนไปเวียนมาเช่นนี ้ เกิดขึ ้นเกือบทุกพื ้นที่ ดังนันทางแก้ ้ คือการเข้ มงวดกวดขันให้ ลูกหลานตัง้ ใจ เรียน ภายใต้ ระบบการศึกษาที่เจริญสติปัญญาและบนความต้ องการที่จะมี อนาคตที่ดีต่อไป 3.ความอ่ อนแอของชุมชน เนื่องด้ วยปั ญหายาเสพติดในพืน้ ที่ สามจัง หวัดชายแดนใต้ เป็ นปั ญ หาที่แ ทบจะมองหาความช่ วยเหลือ จาก เจ้ าหน้ าที่รัฐบาลไม่ได้ เลยในทัศนะของผม ในบางพืน้ ที่พบว่าเจ้ าหน้ าที่รัฐ เองเสียด้ วยซํ ้าที่มีส่วนร่ วมกับขบวนการ ความซับซ้ อนที่เกี่ ยวข้ องกับเรื่ อง ความไม่สงบทําให้ เป็ นเรื่ องยากมากในการที่กลไกรัฐจะเข้ าถึ งทุกซอกมุม ของทุกชุมชน แต่กระนันก็ ้ เป็ นเรื่องที่น่าละอายเหลือเกิ นที่ชุมชนทุกชุมชนที่ มีมัส ยิ ด มี ผ้ ูใหญ่ บ้ าน มีโต๊ ะอิ มาม มีกํ า นัน มีนักการเมือ งท้ อ งถิ่ น เป็ น มุสลิ ม แต่ ไม่ส ามารถสร้ างความเข้ มแข็ งของชุมชนในรู ป แบบอิส ลามได้ เมือ่ พ่อค้ ายาเสพติดเป็ นเลือดเนื ้อเชือ้ ไขของคนในหมู่บ้าน เมื่อเด็กที่ต้มใบ กระท่อม รวมกลุ่มกันเสพยา ต่างก็ เป็ นลูกหลานของคนในชุมชน ที่คนใน ชุมชนเองก็เห็นคนพวกนี ้ตังแต่ ้ ยงั วิ่งเล่นแก้ ผ้า จากเด็กน้ อยที่ไร้ เดียงสาและ ไร้ กํา ลังใดๆที่ จะขัด ขืนคํ าสั่ง แห่ง ความปราถนาดีจากคนในชุมชนได้ แต่


76 | อิฐก้อนแรก

กลับ ไม่ป รากฏบุค คลใดๆในชุ มชนออกมาห้ า มปราม นี่ แ สดงถึ ง ความ อ่อนแออย่างมากของชุมชนมุสลิม ไม่เพียงไม่สามารถป้องกันลูกหลานของ ชุมชนแต่กลับ กลายเป็ นการส่งเสริ มลูกหลานของชุมชนเข้ า ไปสู่ระบบยา เสพติดไปเรื่ อยๆ การปล่อยให้ เยาวชนพวกนี เ้ สพยาโดยไม่มีแรงต้ านใดๆ เลยในชุมชน ถือเป็ นการสนับสนุนพวกเขาให้ เสพต่อไป ผมเคยได้ ยิ น เรื่ องราวของกํ านันคนหนึ่ ง ที่ มีพื น้ ที่ รั บผิ ดชอบใน ตํา บลหนึ่ งใน อ.รามัน กํ านันคนนี ม้ ีอิท ธิพ ล และพยามใช้ อิ ทธิ พลกํ า จัด บรรดาผู้ ขายที่ อ ยู่ ใ นตํ า บล ทุ ก ๆเดื อ นจะมี ก ารประชุ ม (ฮาลาเกาะฮ) ผู้ใหญ่ บ้ าน เพื่ อหารื อแนวทางในการแก้ ไขปั ญ หายาเสพติด กํ า นัน คนนี ้ พยามให้ เด็กทุกคนที่ติดยาเสพติดเข้ าไปบําบัด การมีผ้ นู ําชุมชนเช่นนีจ้ ึงจะ ทําให้ สงั คมเราสามารถต่อสู้กับปั ญหายาเสพติดได้ การต่อสู้กับยาเสพติด ถือเป็ นภารกิจแห่งการญีฮาด เพราะนี่เป็ นสิ่งที่ละเมิดคําสัง่ ของอัลลอฮและ เป็ นการบ่อนทําลายสังคมอย่างชัดเจน การเข้ าใจในภารกิจของการต่อสู้กั บ ยาเสพติ ด ว่ า เป็ นการญี ฮ าดเป็ นสิ่ ง สํ า คั ญ ที่ จ ะทํ า ให้ ทุ ก คนในชุ มชนมี กํ า ลัง ใจ เพราะการต่ อสู้นี เ้ ป็ นการพิ ทักษ์ ศาสนาของอัลลอฮฺ และอยู่ใ น เงื่อนไขการเชิดชูดํารัสของอัลลอฮฺให้ สูงส่ง การใช้ มาตรการรุ นแรงต่อทัง้ ผู้ เสพและผู้จําหน่ายยาเสพติด จึง ควรมี จะตัก เตือนเฉยๆไม่ได้ แ ล้ ว หาก บรรดาผู้นํ า ชุมชนมีค วามตระหนัก ในอํ า นาจและภาระหน้ า ที่ ที่ ตนเองมี หากสมาชิกในชุมชนเป็ นหูเป็ นตาดูแลลูกหลานเหมือนลูกหลานของตนเอง หากทุกคนในชุมชนปฏิบตั ิตนกรอบศาสนาอย่างเคร่ งครัด เราคงมีชุมชนที่ เข้ มแข็งห่างไกลจากปั ญหายาเสพติดเป็ นแน่ แน่นอนว่าการเผชิญหน้ ากับอารยธรรมแห่งความล้ าหลังอย่าง ยาเสพติ ดนัน้ เป็ นเรื่ อ งที่ห นัก หนามากกว่า การเผชิญ หน้ ากั บ อารยธรร ม สมัยใหม่อย่างตะวันตก เพราะอารยธรรมที่เผยแพร่ มาแบบคาดไม่ถึงอย่าง ยาเสพติ ดหยุดยัง้ ได้ ย ากมาก การสร้ า งความเข้ มแข็ ง จากพืน้ ฐานของ


อิฐก้อนแรก | 77

ศาสนาที่ดี น่าจะเป็ นเรื่ องที่สํา คัญที่สุดในการป้องกั นลูกหลานของเราใน อนาคต แต่หากเราไม่ช่วยเหลือสังคมจากสภาพที่เลวร้ าย ณ ปั จจุบันนีแ้ ล้ ว ก็ไม่แน่ว่า เราจะยังมีอนาคตที่ดีให้ ลกู หลานของเราอีกหรือเปล่า _


78 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 79

การเดินทางกลางแสงเงา 1 เธอห่มคลุมอาภรณ์ ซ่อนความเศร้ า สงบนิ่งในเงาเศร้ าแสงไฟ แพรหิญาบตกหายไปหนไหน ทิ ้งศรัทธาร่ วงผล็อยลงย่อยยับ นักดนตรี บรรเลงเพลงเร่ งจังหวะ เธอยกจิบบรั่นดีสีอําพัน เอ่ยตอบรับกับแขกชายแปลกหน้ า ภารกิจเริ่ มต้ นผจญภัย

งําเก็บกลืนเรื่ องเล่าประเภทไหน สงัดใจเงียบลึกเร้ นลึกลับ เสื ้อแขนสั ้นมาเผยไหล่อยู่ในผับ มาติดกับหลงเงาเศร้ าแสงจันทร์ ถี่กระชั ้น วาระหฤหรรษ์ เพิ่มดีกรี ความฝั นอันอําไพ ไปสูห่ ้ องชั ้นห้ าโรงแรมใกล้ เพื่อธนบัตรหลายใบยัดใส่มือ

2 ล่วงตีสองพอดี สารี ด๊ะ จําใจรับโลกวันนี ้ เป็ น, อยู,่ คือ-เธอห่มคลุมอาภรณ์ ซ่อนความเศร้ า คํ่าของคืนร้ องขับเพลงลับเร้ น บีบคั ้นให้ ยอมรับพระเจ้ าองค์ใหม่ หนีแสงแดดเร้ นไปในแสงเงา หลังจากผละจากชายไม่ร้ ูชื่อ เธอกลับสูห่ ้ องพักปลดปล่อยใจ

วางภาระผละจากชายไม่ร้ ูชอื่ เร่ งขวนขวายขายซื ้อ คืออยูเ่ ป็ น เลิกสนใจโลกใบเก่าเศร้ าแสนเข็ญ ท่วงทํานองลําเค็ญบีบเค้ นเรา เลิกศรัทธาพระเจ้ าในโลกใบเก่า โลกแสนสุขแสนเศร้ าเงาแสงไฟ ธนบัตรในมือ—คือราคามือถือใหม่ เดินทางไกลสูห่ ้ วงฝั น สู่วนั เช้ า

3 แดดแปดโมงโปร่ งมา ภาระใหม่ ปลุกเธอจากหลับใหล ฝั นแสนเหงา คลุมหิญาบออกเดินทางกลางแสงเงา ทิ ้งอาภรณ์ของความเศร้ าเข้ าห้ องเรี ยน สันติพล ยวงใย


80 | อิฐก้อนแรก


อิฐก้อนแรก | 81

อิฐก้อนแรก หมีมลายู

1 มัสญิดหลังใหญ่ในหมูบ่ ้ าน ดูดีมสี ง่าราศีนัก พืน้ ที่ปูด้วยกระเบื อ้ งเปอร์ เซีย นัน้ ถูกทักทอด้ วยเงินนับแสนบาทจากหน่วยงานรัฐที่ม่งุ นโยบายเทวัตถุใส่ ชุมชน โต๊ ะอิมามยืนยิ ้มอย่างภาคภูมใิ จข้ างรถแทรกเตอร์ สายตาเหม่อมอง ไปยังโดมทองอันโออ่าและใหญ่ โต และสวนนํา้ หน้ ามัสญิ ดที่แปลกตา แก เคยบอกว่า ‚ฉันจะทามันให้เหมือนทัชมาฮาล‛ คนแก่ คนเฒ่า ในหมู่บ้านนั่ง ผงกหัวหงิกๆในร้ านนํ ้าชา ‚มาฮาลๆอะไร ข้าไม่รู้จกั แต่ขา้ มัน่ ใจในมันสมอง ของนักเรี ยนนอกอย่ างอิ มามอาแว‛ ขณะที่อีกฝากหนึ่งของโต๊ ะ เด็กหนุ่ม ท่าทางหัวรุนแรงซึ่งชาวบ้ านมักก่ นด่าว่าชอบสร้ างความแตกแยก โต้ เถี ยง กับ ชีอ ะฮฺ ทุกวี่ วัน นั่ง เคี ย้ วปาท่ อ งโก๋ ห มุบหมับ พลางจิ บ นํา้ ชาอยู่ด้ วยนัน้ พึมพําขึ ้นมาว่า ‚ทัชมาฮาลมันกุบูรต่างหากเล่า กุบูรทีบ่ ิ ดอะฮฺ!‛


82 | อิฐก้อนแรก

2 อิมามอาแวขับรถเบนซ์ ผ่านมา สวนทางกับโต๊ ะสนิ หลังให้ ส ลามพอหอม ปากหอมคอ แกก็ บึ่งรถเบนซ์ คันงามปาดหน้ าไปอย่างไวว่องแบบที่ไม่เห็น แม้ แ ต่ฝุ่ น ได้ แต่ ทิง้ ควันให้ โ ต๊ ะสนิ สูดดมเป็ นของกํ านัล ปริ ญญาของโต๊ ะ อิมามทําให้ เขาทะนงตนและดูถูกผู้อื่น โต๊ ะสนิเป็ นชายชราคนหนึ่ง แต่เขา ไม่ได้ อยู่ที่ ร้านโกปี ในวัน ‚เสวนาทัชมาฮาล‛ แต่อ ย่างใด เขาเป็ นคนไม่มี ความรู้ เ พราะไม่ได้ รับ การศึก ษามาตัง้ แต่เด็ ก เขามีใบหน้ าดําเป็ นเหนี่ย ง หน้ ามูท่ ่อู ย่างกับปี๊ ปเผาไฟแถมยังผอมเหมือนยอดผักบุ้ง ตอนเด็กๆ พ่อแม่ มักพาออกไปจับเจ่าอยู่กับกองขยะ เป็ นคนขนขยะเทศบาลผู้โดนยัดเยียด ให้ เกลือ กกลัว้ ความสกปรก ก็ เ หมือ นพวกชาวนาผู้ถูก เหยีย บยํ่ าและถูก เรียกว่ากระดูกสันหลังของชาติอย่างเสแสร้ งนัน่ ล่ะ แต่ครอบครัวของโต๊ ะสนิ ก็ไม่ได้ ยากจนถึงขนาดต้ องเชือดเนื ้อตัวเองปิ ง้ กิน เขายังไม่ตายบนความจน และใช่ว่าพ่อแม่เขาไม่อยากทํางานอื่น แต่สงั คมเมืองอันโออ่าไม่เปิ ดโอกาส ให้ พวกเขาต่างหาก สังคมพูดว่าเขาต้ องมีปริ ญญาเสียก่ อน มิเช่นนัน้ ก็ อยู่ ร่วมชายคากันมิได้ โต๊ ะสนิใส่เสื ้อสีขาวเก่าๆ ผ้ าโสร่ งสีจืดชืด อมเหลือง และ ขี่จักรยานคันเก่ าที่สนิมเกาะไปแล้ วทั่วโครง มีถุงก๊ อบแก๊ บคู่ใจแขวนอยู่ที่ แฮนด์รถ ในนันมี ้ สก็อตไบรต์และนํ ้ายาล้ างจาน วันนี ้เป็ นวันที่ 8 ของคํ่าคืนเราะมะฎอน มัสญิ ดโดมทองดูคึกคัก เป็ นพิเศษ ผู้คนมากมายที่ไม่เ คยเห็นหน้ าค่าตามาก่ อน ต่างมาละศีลอด และทานข้ าวฟรี หลัง ละหมาดมัฆริ บอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เด็กเล็กเด็กโตอิ่ม หมีพีมนั กันถ้ ว นหน้ า โต๊ ะสนิอยู่ท้ ายเต็น ท์ หลัง สุด ส่ วนหน้ า สุดของเต็น ท์ เป็ นที่ ข องอิ มามอาแวและคณะกรรมการมัสญิ ด นั่ง จับ เจ่ า กิ นกั น อย่ า ง สําราญใจ บางวันพวกกํานันและ อบต. ก็จะมานัง่ ทานด้ วยกัน แต่ต้องเป็ น ส่วนหน้ าของเต็นท์เท่านัน้ พวก อบต.และนักการเมืองบางคนที่มาละหมาด ที่มสั ญิด บ้ างก็นงั่ กินไปพลางและหัวเราะขลุกขลักอยู่ในลําคออบควันบุหรี่


อิฐก้อนแรก | 83

ไปด้ วย โต๊ ะสนิคิดเองในใจว่า เมือ่ พวกเอ็งเคี ้ยวข้ าวอยู่ในปาก เอ็งเคยนึกถึง คนอื่นที่ไม่มกี ินบ้ างไหม? โต๊ ะสนิได้ เงินไม่กี่บาทต่อคืนในการกวาดล้ างจาน ข้ าวจานแกงของบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิที่มานั่งทานอาหารกัน หลังละหมาด อิชาอ์ ชายคนหนึ่งบ่นมุบมิบว่าแกตัวเหม็น ทําไมไม่ร้ ู จักอาบนํา้ อาบท่ามัง้ แกได้ แต่ยิ ้มเห่ยๆ และถอยหลังมาละหมาดแถวหลังสุดของมัสญิ ด แต่ก็ยัง มิวายโดนด่าและเหยียดหยาม เพราะที่ตรงนัน้ เป็ นที่ของพวกเด็กๆ ผู้ดีตีน ทอง ที่ตามพ่อมาละหมาดในช่วงที่มงี านรื่นเริงที่มสั ญิดเท่านัน้ บางคนก็ พูด กับโต๊ ะสนิว่าไปๆได้ ก็ดี จะอยู่ให้ เสียนํ ้าแกงก้ นถ้ วยของคนอื่นทําไมกัน โต๊ ะสนิจึ งตัดสิน ใจกลับ ไปอาบนํา้ ที่บ้าน แต่เพราะบ้ า นอยู่ไกล และไม่ได้ มรี ถเบนซ์เหมือนโต๊ ะอิมาม แกกลับมาที่ มสั ญิ ดอีกครัง้ เมื่อทุกคน ละหมาดตะรอวี หฺเ สร็ จแล้ ว แกเคลื่ อนไหวอย่ างว้ า เหว่ท่ ามกลางแสงไฟ สลัวๆ ที่เฉลียงมัสญิดซึ่งเปิ ดทิ ้งไว้ เสียงจิ ้งหรีดดังแว่วเสียงมา ปลอบให้ แกรู้ ว่าแกไม่ได้ อยู่ผ้ เู ดียวในโลกนี ้ จานชามที่ถกู ใช้ วางกองสูงเนินอยู่ที่ท้ายเต็นท์ แต่ไม่มคี นให้ เห็นแล้ ว หลายครัง้ หลายครา แกก็เบื่อหน่ายและละเหี่ยใจกับ สังคมแห่ง นี ้ ที่นี่ มีแต่ คนมีฐ านะและชอบดูถูกแกมาละหมาด แกจึ งชอบ ปลีกตัวขี่จกั รยานคันโปรดไปยังที่ที่หนึ่ง เป็ นมัสญิ ดเล็กๆ เก่ าๆ แกชอบไป ละหมาดและนั่ ง อ่ า นอั ล กุ ร อานที่ นั่ น (แม้ จ ะอ่ า นอย่ า งตะกุ ก ตะกั ก ) เป็ นมัสญิดที่ผ้ คู นอัธยาศัยดี ไม่ได้ มองเขาเป็ นอื่น น้ องจากคําว่า ‚พี่น้อง‛ 3 เขาเดินไปปิ ดทีวีดงั แช๊ ป! แล้ วหันมายิ ้มกับหนุ่มชาวเขาสองคน ‚เดี ๋ยวนีก้ าร ดะอฺ วะฮฺ อิสลามนัน้ ท าได้ หลายวิ ธี อย่ างที ่อ ั๊วเปิ ดให้พวกลื ้อ ดู เมื ่อกี ้ก็ ใช่ ‛ ชายหนุ่มถามเขาว่า ‚เราจะมีโอกาสไปนัง่ ฟั งบรรยายศาสนาในโรงแรมหรื อ ในทีด่ ี ๆ อย่างในทีวีไหมครับ‛ เขาตอบว่า ‚แน่นอน สักวัน…สักวัน อาก๋ งจะ พาพวกเธอไป‛


84 | อิฐก้อนแรก

อาก๋งเป็ นมุสลิมคนหนึ่ง ในอดีตเขาคือสหายคอมมิวนิสต์ วัย 70 ปี ผู้ตรึ งตราความภาคภูมิใจของดาวแดงบนหมวกเขียวไว้ บนหัว และคติ ประจําใจของนายใหญ่ คาร์ ล มาร์ กซ์ ‚ศาสนาคือสิ่ งมอมเมาประชาชน‛ อาก๋ งพาหนุ่มมุอัลลัฟชาวเขา 8 คนเข้ าเมืองกรุ งเพื่อเปิ ดโลกทัศน์ ความรู้ ศาสนาแก่พวกเขา พวกเขาตื่นตาตื่นใจกับภาพของตึกระฟ้า รถราที่วิ่งแล่น ไปมาและผู้คนที่สวมชุดสูทรองเท้ าหนัง เดินไปเดินมาอย่างสง่างาม ทว่า แลดูเหย่อหยิ่งและไม่มกี ารทักทายระหว่างกันบนทางเท้ า พวกเขาจับย่าม ที่มาจากบนดอยซึ่งถักทอด้ วยมือและนึกในใจว่า นี่หรือความเจริญ … อาก๋ ง พาพวกเขามายังมัสญิดหลังหนึ่งในเมืองกรุง มุอลั ลัฟเก่าแก่อย่างอาก๋ง เอ่ย ทักชายคนหนึ่ง ที่แนะนําตัวเองว่าเป็ นคณะกรรมการมัสญิ ดแห่งนี ้ อาก๋ ง เรียกหนุ่มชาวเขา 8 คนมาใกล้ ๆ มิพลันได้ เอื ้อนเอ่ยวาจาใดๆ ชายคนนัน้ ต่อ ว่ากลับมาทันที ‚นีม่ าจากป่ าจากเขาหรื อยังไงกัน เนื ้อตัวถึ งได้สกปรกแบบ นี ้ ออกไปเลย ทีน่ ีม่ สั ญิ ด!‛ พวกเขาได้ แต่ยืนอึ ้งตึงกับประโยคนัน้ ไม่เคยคิด ว่าโคลนที่ติดอยู่บนรองเท้ าแตะไร้ ยี่ห้อกับเนือ้ ตัวมอมแมมอันเป็ นร่ องรอย จากการเดิ น ทางมาแต่ ห นไกลเพื่ อ ศึ ก ษาอิ ส ลาม จะเป็ นความสกปรก สําหรับคน‚มุสลิม‛ที่เจริญแล้ วท่านนี ้ พวกเขา 6 คนตัดสินใจเดินทางกลับ ดอย เหลือเพียง 2 คนกับอาก๋ ง ผู้ป็นผลผลิตจากหยาดเหงื่อและแรงกาย ของชายวัย 70 ผู้ใช้ ชีวิตนับสิบๆ ปี อย่างเดียวดายเพื่อการดะอฺวะฮฺอิสลาม ในพื ้นที่อนั ลําบากนัน้ หายวับไปจากเขาในไม่กี่นาที อาก๋งเป็ นชายแก่ชรา แม้ จะเคยถือปื นลุยป่ าขึ ้นเขาเมือ่ ครัง้ ยังเป็ น สหายคอมมิวนิสต์ แต่ตอนนีอ้ าก๋ งทําได้ แต่เพียงหันหลังกลับดอย ทํางาน เพื่อพระเจ้ าบนสนามดะอฺวะฮฺอันยากลําบากนัน้ ต่อไป ก่ อนขึน้ ดอย อาก๋ ง ลงทุนพาหนุ่มชาวเขาสองคนที่เหลือลงใต้ แกบอกว่า ‚บางที มุสลิ มมลายู อาจไม่เป็ นแบบนีก้ ็ได้ ความเป็ นชนบทยังดูแลนิ สยั ใจคอพวกเขาอยู่ ‛ เวลา ใกล้ รุ่งสางแล้ ว พวกเขามาถึงปั ตตานีและหยุดละหมาดที่มสั ญิดแห่งหนึ่ง


อิฐก้อนแรก | 85

4 ในมัสญิดแห่งหนึ่ง… ศอลิหฺอ่านอัซการฺ ยามเช้ ายังไม่จบ เขาเป็ นเด็กหนุ่ม วัย 20 ต้ นๆ ที่จบจากโรงเรียนสามัญและเข้ าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ คนในหมูบ่ ้ านพูดกันว่าเขาเป็ นเด็กแก่แดดและชอบสร้ างความแตกแยกใน สังคม แต่บางคนก็มองว่าเขาเคร่งขรึมและดูน่าเกรงขามเกิ นตัว ‚ไม่ได้เรี ยน จบปอเนาะนี ่ ทาเป็ นเก่ง‛ ใครบางคนพูดไว้ เขาเคยเดินทางไปหมูบ่ ้ านข้ างเคียงเพื่อดูสัญญาณกิ ยามะฮฺ อัน หมายถึงมัสญิดอันโออ่างดงามแต่ไม่มคี นมาละหมาด และเคยนัง่ อยู่ในร้ าน นํ ้าชาข้ างมัสญิด ในวันที่ชาวบ้ านพูดคุยเรื่องสระนํ ้าหน้ ามัสญิดของพวกเขา บางทีด้วยอุดมการณ์ศาสนาอันแรงกล้ าจากการศึกษาด้ วยตนเองของเขา จึงทําให้ เร่าร้ อนอยู่ตลอดเวลา เขานึกถึงการเปลี่ยนการพูดคุยในร้ านนํา้ ชา ให้ เป็ นสนามดะอฺวะฮฺ เหมือนที่อิมามหะสัน อัลบันนา เคยทําไว้ ในหมู่บ้าน ของเขาที่อียิปต์ แต่นั่นล่ะ อุดมคติมันก็ เหมือนกับยา ใช่ว่ากิ นได้ ทุกเวลา ผู้คนในร้ านนํา้ ชาที่นี่สนใจแต่เพียงเรื่ องนกเขาชวาและฟุตบอลอังกฤษใน คืนวันเสาร์ เช่นกันกับโต๊ ะสนิ ชายชราข้ างหน้ าเขาในมัสญิ ดขณะนี ้ ที่หลับ ไปแล้ วหลังความพยายามอ่านอัลกุรอานหลังศุบหิของเขา ด้ วยฐานะและ รูปกายภายนอกผู้คนจึงไม่อยากจดจําเขานัก แต่โต๊ ะสนิก็มีความฝั น เขา อยากเป็ นดัง่ เช่นชายคนนันที ้ ่เขาเคยได้ ยินโต๊ ะครู ท่านหนึ่งได้ ฝากข้ อคิดไว้ ‚ชายหนุ่มทีห่ ล่อเหลา เขาอาจหนีสงครามมา แต่ชายแก่ทีพ่ ิ การแขนขาอาจ มาจากสมรภูมิรบที ่โชคเลื อด โดยที ่หามี ใครรู้ประวัติของทัง้ สองคนนัน้ ไม่ ว่ามาจากไหน?‛ โต๊ ะสนิยอมเป็ นชายชราที่ผ้ คู นรังเกียจ แต่เขาก็ไม่อยากให้ ใครได้ จดจําว่าเขาคือคนล้ างจาน 200 กว่าใบในความมืดมิดและเดียวดายตลอด คํ่าคืนเดือนเราะมะฏอน ที่ผ้ คู นมักชอบหยิบกิ นอาหารอย่างมิบันยะบันยัง และรังเกียจที่จะล้ างคราบแกงออกจากจานที่ตนเองใช้ เสมอ


86 | อิฐก้อนแรก

ก่อนรุ่งสางในมัสญิ ดแห่งเดียวกัน อาก๋ งกับหนุ่มมุสลิมใหม่ชาว ดอย นั่งสนทนาพาที เรื่ องราวศาสนากับพี่น้องตับลีฆ กลุ่มหนึ่งที่มาพัก ณ มัสญิดเล็กๆ แห่งนี ้ได้ สามวันแล้ ว ดูเหมือนพวกเขาจะคุยกันถูกคอทีเดีย ว อุปสรรคและความเศร้ าโศกที่ป ระสบมาระหว่างทาง เหมือนถูกชะล้ า งไป พร้ อมๆกับการปรากฏของแสงอาทิตย์อนั เจิดจรัสในยามเช้ า… ทว่าความเช้ ายังมิทนั กราย ความตายก็ย่างกรายเข้ ามา เกิ ดเหตุ ระทึกขวัญเมื่อกลุ่มนักรบปั ตตานีตัวแทนแห่งความอัดอัน้ ที่กลืนกิ นความ ทรมานมายาวนานจากเจ้ าหน้ าที่รัฐ ก่อเหตุแอบซุ่มยิงเจ้ าหน้ าที่ทหารหลาย จุดในเช้ าวันเดียวกัน พวกเขาถูกเจ้ าหน้ าที่รัฐพร้ อมอาวุธสงครามไล่ต้อน มายังมัสญิดแห่งนี ้… กลุ่มชายชุดเขียวพร้ อมรบ ได้ ล้อมมัสญิ ด พลางป่ าว ประกาศแก่ประชาชนที่มามุงดูอย่างโอหังในวาจาและเคลื่อนไหวแช่มช้ อย ราวกับอาการนักเทศน์ – มารร้ ายในเปลือกนักเทศน์ ‚พีน่ อ้ งครับ ข้างในนัน้ มีผกู้ ่อความไม่สงบหลบซ่อนอยู่‛ เขาเรียกเราว่าพี่น้องอย่างไม่ละอายปาก พวกเขาตัดสินใจกระหนํ่ายิงเข้ าไปในมัสญิ ดแห่งนัน้ นี่ไม่ใช่การตัดสินใจ อย่างหน้ ามืดตาบอดเท่านัน้ แต่เพราะหัวใจที่ มนั ดําทะมึนและสกปรกมา อย่างยาวนานของคนชุดเขียวส่วนใหญ่ ซึ่งถูกสั่งสอนมาแล้ วว่า พวกที่อยู่ ในมัสญิดตอนนี ้ รวมถึงพวกมันทังหมดในพื ้ ้นที่สามจังหวัด ไม่ใช่พวกเรา!!! (ศุภรา จันทร์ ชิดฟ้า นิตยสารสารคดี ’2548) เป็ นเวลาหลายสิ บนาที กลิ่ นควัน และดิ น ปื นกระจายฟุ้งไปทั่ว อาณาบริ เ วณบ้ า นของอัล ลอฮฺ ที่ ไ ม่ใ ช่ ผ้ ูก่ อ ความไม่ส งบเข้ า ไปหลบอยู่ เท่านัน้ แต่ยังรวมถึ ง ศอลิหฺ เด็กหนุ่มผู้ยืนหยัดในสัจธรรม พี่น้องตับลีฆ ผู้ สมถะ อาก๋งกับเด็กหนุ่มชาวดอยผู้ใฝ่ หาพระเจ้ า และโต๊ ะสนิ ผู้กําความไฝ่ ฝั นอยากเป็ นมุญาฮิดีน แต่ต้องจากไปก่อนที่จะรู้ ตัวว่าเกิ ดอะไรขึน้ ถุงก๊ อบ แก๊ บใส่อปุ กรณ์ล้างจานของแกที่แขวนอยู่กับรถจักรยานคันเก่าสนิมเกาะ


อิฐก้อนแรก | 87

หน้ า มัส ญิ ด นั น้ ฉี ก ขาดกระจุ ย พร้ อมกั บ การล้ ม ลงของจัก รยานคู่ ชี วิ ต กระสุนของผู้พิทกั ษ์ สนั ติราษฏร์ มักถูกใช้ เพื่อสังหารเหล่าแพะแกะอยู่เสมอ คน 3 คนที่ทํางานเพื่อพระเจ้ าอย่างเดียวดาย ไม่ร้ ู จักกัน และไม่ ถูกรู้จกั จากผู้คน ต้ องมาตายด้ วยกัน ให้ ตายเถอะ เท่ชะมัด! ด้ วยการเริ่มต้ นของคนเล็กๆ สักวันหนึ่ง… ก่ อนที่ลูกหลานเราจะ หลงทางไปมากกว่านี ้ เราจะตระหนักได้ ว่า ชีอะฮฺไม่ใช่มิตรของอิสลาม สัก วันหนึ่ง… มุสลิมจะรู้สึกว่ายังมีผ้ อู ยู่ในถิ่นทุรกันดารอีกมากมาย ยังรอคอย สัจ ธรรมจากเราอยู่ และสัก วันหนึ่ ง… เราจะเข้ าใจว่า ถ้ า ไม่มีค นอย่ า ง โต๊ ะสนิ ก็อย่าได้ หวังว่าคนรวยจะลงมาล้ างจานด้ วยตนเอง และเราจะเข้ าใจ ว่าคนบางคนที่ดยู ากจน น่าเกลียด แต่ทําไมอัลลอฮฺถึงได้ รักเขามาก ‚วันนีเ้ ราขาดคนทีจ่ ะยอมตนเป็ นก้อนอิ ฐก้อนแรกทีท่ ิ้ งลงไปและก็ จมอยู่ทีน่ นั่ เพือ่ ทีจ่ ะให้ก้อนอืน่ ๆถม ทับตนอยู่ ที่นนั่ และเสร็ จแล้ว เจ้าก้อน ทีจ่ ะปรากฏเป็ นที ่รู้จักของสังคมก็ คือ ก้อนที ่อยู่ เหนื อก้อนอื ่นสุด ส่วนก้อน แรกนัน้ ก็จมดิ นอยู่นนั่ เอง เราหาคนอย่างนีไ้ ม่ค่อยได้ จึ งไม่ค่อยมีอะไรที ่ใหม่ ทีม่ ีคุณค่าออกมา‛ ครู โกมล คี มทอง ’2513 ครู ประชาบาลของเด็กๆผู้ยากไร้ ผู้ถูกสังหารบนเส้ นทางแห่งอุดมการณ์

"พวกท่านคื อส่วนหนึ่ งของโลกอิ สลาม จึ งจาเป็ นที ่พวกท่านทุก คนต้ องเตรี ยมตัวของเขาเอง เพื ่อจะเป็ นอิ ฐ ก้อนที ่ใ ช้การได้ สาหรับ งาน ก่อสร้าง เพือ่ พวกเราจะเป็ นคน(หนุ่มสาว)ที ่อุตสาหะ ผู้มีศรัทธาและถื อคา สัตย์ ผูม้ ีดวงใจอันใสสะอาด ผู้มีความคิ ดที ่ชัดเจน มี รากฐานที ่ลึกล้ า เมื ่อ พวกเรามีคุณสมบัติเช่ นนี ้แล้ว ก็ จงเชื ่อฉันเถิ ดว่า พวกเราสามารถเปลี ่ยน กระแสธารแห่งความชัว่ ร้ายได้อย่างแน่นอน" เมาลานา สัยยิด อบุลหะสัน อาลีย์ อันนัดวีย์ อุลามาอ์ของเรา _


ั “ผูม้ สี ติปญญาที ่อยูท่ ่ามกลางคนโง่ มักถูกหัวเราะเยาะ” - ดันเต อาลีกเี อรี -



Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.