smiana vol.05

Page 1

ภายในเล่ม…สัมภาษณ์พิเศษ “หมอกิ๊ฟ” ก่อนลงจากเก้าอี้ อามีรชมรมมุสลิม ม.อ.หาดใหญ่ หน้า 33

นากลับมาอ่ าน

ใหม่ ได้ เสมอ


อัสสลามุอะลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮฺวะบาเราะกาตุฮฺครับ... และแล้ วก็คลอด ออกมาได้ สกั ทีกบั วารสารสมิอฺนาเล่ม 5 มาพร้ อมกับการเปลีย่ นบางสิง่ บางอย่างที่ หลายๆอย่าง ยังไงก็ขอฝากเนื ้อฝากตัวด้ วยครับ อัลฮัมดุลลิ ลาฮฺ ขอชุกรู ฺตอ่ อัลลอฮฺกบั เนีย๊ ะมัตของพระองค์ในครัง้ นี ้ทีท่ าํ ให้ ทกุ อย่างผ่านมาได้ ด้วยดี แต่กว่าจะผ่านพ้ นมาได้ ก็เล่นเอาทีมงานสะบักสะบอมไปตามๆกัน ก็ถือว่ามันเป็ นเรื่ องปกติของการทํางานที่จะมีบททดสอบเข้ ามาทดสอบความแข็งแกร่ง ของเรา ถึงกระนันก็ ้ ขอให้ เรายืนหยัดและอดทน เช็คเนียตให้ ดีวา่ ทําไปเพื่ออะไร แค่นี ้ก็ เพียงพอแล้ วที่จะทําให้ เรานันฝ่ ้ าฟั นมันไปได้ โดยไม่ร้ ูสกึ ย่อท้ อ จากทีไ่ ด้ สงั เกตเห็นในปั จจุบนั จะพบว่าเหล่านักศึกษาได้ มกี ารตื่นตัวมากขึ ้นกับ การลุกขึ ้นมาเป็ นนักทํางานอิสลาม ซึง่ แต่ละคนก็มีวิธีการดําเนินงานที่แตกต่างกันไป ตามแต่ตนถนัด บ้ างก็จดั ค่าย อบรม สัมนา หรื ออาจจะเป็ นการทําวารสารเช่นนี ้ ซึง่ ปั จจุบนั ก็ได้ มีหลายเล่มออกมา แต่ละเล่มก็มีรูปแบบหรื อลักษณะที่แตกต่างกันออกไป สําหรับเล่ม 5 นี ้ special edition ฉบับรวมบทความกับ theme “ เราจะ สร้ างอิสลามบนซากปรักหักพังของญะฮิลิยะฮฺ ” จุดเริ่ มต้ นของธีมนี ้ก็คงเป็ นการที่ อยากจะให้ ทกุ คนนันตระหนั ้ กถึงบทบาทของตัวเองกับการที่ต้องใช้ ชีวิตในสังคมที่ดจู ะ ยํ่าแย่เช่นนี ้ เรามาเปลีย่ นแปลงตัวเองไปพร้ อมๆกับการตักเตือนผู้อื่นกัน เพราะอิสลาม คือความสมบูรณ์ที่สมดุลที่สดุ ... สําหรับพี่น้องที่ต้องการจะติ จะชม หรื อแนะนําอะไรดี ๆ ก็สามารถ comment ไปได้ ที่ smiana_hub@hotmail.com หรื อจะเข้ าไปทางสเปซ ก็ได้ ที่ http://smiana.spaces.live.com “ ไม่มีการกระทําอันใดที่จะเป็ นการประสงค์ร้ายต่อหมูค่ ณะยิ่งไปกว่าการปกปิ ดเรื่ องที่ ร้ ายแรงไว้ ” ด้ วยสลามและดุอา บรรณาธิการเด็กน้ อย" ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

มีอะไรในเล่ม >>> ของฝากจาก ซัยยิด กุฏุบ หน้า 2 เราจะวางอิสลามบนซากปรักหักพังได้อย่างไร… หน้า 3 (ส่วนหนึ่งจาก) แผนการทาลายเอกภาพของมุสลิม … หน้า 5 ก่อนอิสลามจะเข้มแข็ง หน้า 7 ปรากฏการณ์...ญะฮิลิยะฮฺคืนสู่เหย้า หน้า 9 ขออุทิศหน้ากระดาษแผ่นนี้ เพื่อปกป้องสุลต่าน อับดุลฮามิด ที่ 2 หน้า 11 ฝุ่น หน้า 13

ปลาตาย หน้า 15 เรื่องราวของคนทางาน หน้า 17 ชีวิต Islam ในสังคมญะฮิลิยะฮฺ หน้า 21 วงกลม หน้า 25 ก็แค่น้าอัดลม...กระป๋องนั้น หน้า 27 ฝัน หน้า 31 ลาก่อนอามีร หน้า 33 กาแฟในสวนยาง หน้า 36


ในร่มเงาแห่งอัลกุรอาน ...ที่ฉันอยู่ ฉันมองลงมาจากเบื้องสูงมายังอวิชา(ญาฮิลียะฮฺ)... ที่กาลังบิดเกลียวโหมกระหน่าบนผืนโลก ฉันมองลงมายังความหลงใหลของผู้อยู่บนนั้น ผู้ที่ผอมโซ... มองลงมายังความลาพองตนของผู้คนแห่งอวิชา จากสิ่งที่พวกเขาครอบครองอยู่ สิ่งที่ฉันเห็น... เป็นเพียงแค่ญาณทัศน์แบบเด็กๆ เป็นเพียงแค่จินตภาพแบบเด็กๆ เป็นเพียงแค่ความสนใจแบบเด็กๆ ดั่งผู้ใหญ่มองไปยังการละเล่นของเด็กๆ ที่เห็น... เป็นเพียงความมานะแบบเด็กๆ เป็นเพียงเด็กๆ... ที่ออกเสียงยังไม่ชัด!!! ฉันรู้สึกประหลาดใจยิ่ง... อะไรกันหนอ? มนุษย์พวกนี!้ !! เหตุใดหนอ? ที่พวกเขาถึงกับถอยลงไป ยังโคลนตมที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค เหตุใดหนอ? ที่พวกเขาไม่รับฟังเสียงเรียกร้องอันสูงส่ง เสียงเรียกร้องที่จะยกชีวิตของเขาขึ้นสู่เบื้องสูง เสียงเรียกร้องที่ให้ความดีงามแก่ชีวิตของเขา เสียงเรียกร้องที่จะชาระจิตวิญญาณของเขาให้บริสุทธิ์

ซัยยิด กุฏุบ ฝากมา


“ เราจะวางอิสลามบนซากปรักหักพังได้อย่างไร …” >> ฮิจเราะฮฺ มาชาอัลลอฮฺ การสรรเสริ ญทังมวลเป็ ้ นสิทธิของอัลลอฮฺ หากจะพูดถึงเรื่ องที่วา่ มีซาก ปรักหักพังเหล่านัน้ ควรจะเป็ นซากปรักหักพังของญาฮีลยิ ะฮฺไม่ใช่ของอัลอิสลาม แต่หากว่านัน่ เป็ นแค่เพียงความคิดในอุดมคติ ในขณะที่วา่ อิสลามได้ สวนกระแสทุกสิง่ ทุกอย่างนัน้ แต่กลับ กลายเป็ นว่า มุสลิมเองนันเป็ ้ นผู้สวนกระแสอิสลามเสียเอง อัสตัฆฟิ ร้ ุลลอฮฺ ในขณะเดียวกัน การทีเ่ ราจะวางอัลอิสลามลงบนซากปรักหักพังได้ นนั ้ เป็ นเรื่ องทีไ่ ม่ ง่าย และก็ไม่ยาก แต่มีข้อแม้ วา่ อิสลามบนซากปรักหักพังนัน้ คืออัลกุรอ่ าน และ อัซซุน นะฮฺ นักบวชเคร่งศาสนาชาวคริ สต์ กลับมารับอิสลามเนื่องจากการยอมจํานนต่ออัลลอฮฺ และ พระดํารัสของพระองค์ นัน่ คือ อัลกุรอ่าน แต่กลับกลายเป็ นว่า มุสลิมเรากลับทําให้ อลั กุรอ่าน กลายเป็ นสิง่ ที่เป็ นข้ อขัดแย้ ง ทังๆที ้ ่อลั ลอฮฺได้ ทรงตรัสไว้ ในอัลกรุอา่ นว่า “ คัมภีร์นีไ้ ม่ มีความสงสัยใดๆในนัน้ เป็ นคาแนะนาสาหรับบรรดาผู้ยาเกรง เท่ านัน้ ” (อัลบากอเราะห์ : 2) แต่กลับกลายเป็ นว่า แค่เพียงอายะฮฺที่สองของอัลกุรอ่าน มุสลิมกลับต้ องกลายเป็ นผู้ พ่ายแพ้ กลับต้ องกลายเป็ นผู้ที่มีกลุม่ ที่แตกแยกกันมากที่สดุ อัสตั ฆฟิ ร้ ุลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงชี ้ ทางนําแก่เราและท่านด้ วยเถิด อัลกุรอ่านเล่มเดียวกัน มุสลิมด้ วยกัน “ และเพื่อบรรดาผู้ร้ ูจะตระหนักว่ า แท้ จริงอัลกุรอ่ านนัน้ คือสัจธรรมจากพระ เจ้ าของเจ้ า เพื่อพวกเขาจะได้ ศรัทธาต่ อมัน (อัลกุรอ่ าน) แล้ วจิตใจของพวกเขาจะได้ นอบน้ อมต่ อมัน (อัลกุรอ่ าน) และแท้ จริงอัลลอฮฺทรงเป็ นผู้ชแี ้ นะบรรดาผู้ศรัทธาสู่ แนวทางอันเที่ยงตรง ” (อัลฮัจญ์ : 54) จะเอาอะไรอีกเล่า หากมุสลิมทุกคนได้ ใคร่ครวญและศึกษาอัลกุรอ่านอย่างจริ งจังแล้ ว ละก็ เราทุกคนก็จะมีเป้าหมายเดียวกัน คือการแสวงหาความโปรดปรานต่ออัลลอฮฺและเคารพ


4 ภักดีตอ่ อัลลอฮฺเพียงองค์เดียว(อิบาดิลละฮฺ)และเป็ นตัวแทนบนหน้ าแผ่นดิน(เคาะลีฟะตุลลอฮฺ) และเอาอัลกุรอ่านและอัซซุนนะฮฺมาเป็ นแนวทางในการดําเนินชีวิต และแน่นอน ว่าอิสลามคือสิง่ ทีด่ ที ่สี ดุ ในการวางบนซากปรักหักพัง และนัน่ คือ การทีเ่ รา ศรัทธาและการที่เราหันเหออกจากความญาฮีลยิ ะฮฺ ดังที่อลั ลอฮฺ (ซ.บ) ได้ ตรัสไว้ วา่ “ และเจ้ าจงอย่ าทอดสายตาของเจ้ าไปยังสิ่งที่เราได้ ให้ ความเพลิดเพลินแก่ บุคคลประเภทต่ างๆของพวกกุฟฟาร (ผู้ปฏิเสธ) ซึ่งความสุขสาราญในโลกดุนยา เพื่อ เราจะได้ ทดสอบพวกเขาในการนี ้ และการตอบแทนของพระเจ้ าของเจ้ านัน้ ดีย่ งิ กว่ า และจีรังยิ่งกว่ า ” (ฎอฮา : 131) “ ฉะนัน้ กี่เมืองมาแล้ ว เราได้ ทาลายมันโดยที่ชาวเมืองนัน้ อธรรม และมันได้ พังพาบลงมาและกี่บ่อนา้ ที่ถกู ทอดทิง้ (ใช้ การไม่ ได้ ) และกี่ปราสาทสูงที่ม่ นั คง พวกเขา มิได้ ออกเดินทางไปในแผ่ นดินดอกหรือ เพื่อหัวใจจะได้ พิจารณา เพื่อพวกเขาเอง หรือมีหูเพื่อสดับฟั งมัน เพราะแท้ จริง การมองของนัยน์ ตานัน้ มิได้ บอดดอก แต่ ว่า หัวใจที่อยู่ในทรวงอกต่ างหากที่บอด ” (อัลฮัจญ์ : 45-46) และแน่นอนว่าอิสลามคือสิง่ ที่วางบนซากปรักหักพังได้ ดีที่สดุ โดยที่มสุ ลิมนันจะต้ ้ อง มี รากฐานของตัวเองที่เข้ มแข็งเสียก่อนที่จะไปตังเป็ ้ นฐานบนซากปรักหักพังได้ เพราะหากมุสลิม สร้ างรากฐานของตัวเองได้ ไม่ดีแล้ วละก็ ฐานของเรา ก็จะแตกสลายลงมา และสุดท้ าย มุสลิมก็ จะกลายเป็ นซากปรักหักพังเสียเอง ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ ขณะนี ้เรายังมีเวลาเราจะต้ องมาสร้ าง ฐานแห่งอัลอิสลามให้ สมบูรณ์ เพื่อที่จะไปวางกลบความชัว่ ร้ าย และเพื่อได้ ประกาศชาริ อะฮฺ และอัลอิสลามบนหน้ าแผ่นดิน ฉันจะไม่เป็ นส่วนหนึง่ ของซากปรักหักพัง แต่ฉนั จะเป็ นส่วน หนึง่ ที่กลบซากปรักหักพัง........ อินชาอัลลอฮฺ.


5

(ส่วนหนึ่งจาก) แผนการทาลายเอกภาพของมุสลิม >> Ibnu Abdullah alhusaini มิชชันนารี คนหนึง่ ซึง่ มีนามว่า ลอเรนซ์ บราวน์ กล่าวไว้ วา่ " หากประเทศ มุสลิ มในโลกอาหรับมี ความสามัคคีเป็ นเอกภาพกัน แน่นอนพวกเขาจะกลายเป็ น ไม้ซุงของโลกขึ้นมาทันที แต่หากพวกเขาแตกแยกกัน พวกเขาก็จะกลายเป็ น สิ่ งของทีไ่ ม่มีค่าใดๆ และไม่มีอิทธิ พลใดๆ อีกเลย ดังนัน้ ปล่อยให้อาหรับและ มุสลิ มแตกแยกกันเถิ ด เผือ่ ว่าอานาจจะหลุดไปจากพวกเขา " ความเป็ นเอกภาพของมุสลิมทังโลกนั ้ น้ เป็ นสิ่งที่ชาติตะวันตก(ยิว) เกรง กลัวยิ่งนัก เพราะพลังของมุสลิมนันชาติ ้ ตะวันตก (ยิว) ไม่สามารถต้ านทานได้ ประวัตศิ าสตร์ ได้ พิสจู น์ความจริงข้ อนี ้มาแล้ ว ด้ วยการที่สองอภิมหาอํานาจโรมัน และเปอร์ เซียถูกโค่นล้ มอย่างราบคาบมาแล้ ว ในปี 1907 ได้ มีการประชุมใหญ่ทวั่ ประเทศของชาติตะวันตก(ยิว) ผู้เข้ าร่วม ประกอบไปด้ วย นักปรัชญา นักการเมือง ฯลฯ ซึง่ มีนายกรัฐมนตรี ของอังกฤษเป็ น ประธานในพิธี ในการปราศรัยตอนหนึง่ มีความว่า " อารยะธรรมตะวันตกถูกโจมตี ประสบกับความเสี ยหายและสาบสูญไปในที ส่ ดุ ฉะนัน้ เราต้องแสวงหาวิ ธีการที ่ ได้ผลเพือ่ ผดุงไว้ซึ่งอารยะธรรมของเราจากความเสียหาย " การประชุมดังกล่าวนันได้ ้ มีผลสรุปว่า จะต้ องมีการวางแผนการณ์ ไม่ให้ มี การจัดตังกลุ ้ ม่ สมาคม ชมรมหรื อองค์กรใดๆ ในประเทศตะวันออก(มุสลิม) เพราะ หากประชาชาติอิสลามมีความเป็ นเอกภาพแล้ วจะเป็ นอันตรายต่ออนาคตของชาติ ตะวันตก(ยิว) และในการประชุมสมัชชาดังกล่าวอีกเช่นกัน ได้ มีมติเป็ นเอกฉันท์วา่ จะต้ องสร้ างประเทศกลุม่ ชาตินิยมตะวันตก (ยิว) ในประเทศตะวันออก (มุสลิม)


6

ของคลองสุเอซ เพื่อต่อต้ านชาติอาหรับมุสลิมและสร้ างความแตกแยกให้ แก่กลุม่ ชาติอาหรับ ด้ วยเหตุนีอ้ ังกฤษจึงได้ ร่วมมือกับยิว เพื่อต่ อสู้ร่วมกันในการ สถาปนาประเทศ อิสราเอลบนแผ่ นดินปาเลสไตน์ จากประการดังกล่าวนี ้โยงใยไปสูก่ ารประกาศอิสรภาพจากความเป็ น อาหรับและอิสลาม ได้ มีการกล่าวถึงสโลแกนต่างๆ ที่มีการกล่าวขานกันว่า อาหรับ อารยะธรรมเมดิเตอร์ เรเนียนและอียิปต์มีความสัมพันธ์กนั และเป็ นส่วนหนึง่ ของ ชาติตะวันตก (ยิว) ได้ มีการเผยแผ่ความคิดเหล่านี ้โดยผ่านสื่อมวลชน สร้ าง ความรู้สกึ ชาตินิยมขึ ้นมาใหม่ ชาตินิยมฟาโรห์ ชาตินิยมโพเนเซียน ชาตินิยมอัสซี เรี ยนเกิดขึ ้นที่อียิปต์ ซีเรี ยและอิรัก และ ชาตินิยม ในบริเวณบ้ านเราก็เช่นกัน เผ่าพันธุ์ กลุม่ เหล่านี ้ได้ เริ่มก่อตัวขึ ้นมา ทันใดนันประเทศที ้ ่ปกครองด้ วยความ ร่วมมือของสมุนของประชาชาตินนๆ ั ้ ก็ร้อนเป็ นเชื ้อเพลิงปลุกพลังชาตินิยมขึ ้น ทําลายเอกภาพของประชาชาติทนั ที โป๊ ป ซีมอน กล่าวไว้ วา่ "เอกภาพของประชาชาติอิสลามนันเป็ ้ นความหวัง สูงสุดของประชาชาติอิลาม และมันเป็ นวิถีทางที่จะทําให้ เขาหลุดออกจากอํานาจ ของชาติตะวันตก(ยิว) หรื อนัยหนึง่ ก็คือ โซ่ตรวนของชาติตะวันตก(ยิว) ณ จุดนี ้เอง บทบาทของมิชชันนารี จงึ มีความสําคัญมากในการตัดทอนพลังของมุสลิม ด้ วยเหตุ นี ้ เราควรที่จะขัดขวางกระแสความเป็ นเอกภาพของพวกเขาด้ วยขบวนการ มิชชันนารี " และแล้ วเราก็สง่ พวกเขาไปทัว่ โลกเพื่อคานอํานาจอิสลาม. “ ไม่วา่ ฉันจะอยูใ่ นสภาพใด จะอยูก่ บั สิ่งที่ชอบหรื อไม่ชอบ ฉันก็ไม่กระไร เพราะฉันไม่อาจรู้ได้ วา่ “ความดี” จะอยูก่ บั สิ่งที่ฉนั ชอบหรื อ อยูก่ บั สิ่งที่ฉนั ไม่ชอบ ” ...อุมรั อิบนฺ ค็อฏฏ๊ อบ


ก่อนอิสลามจะเข้มแข็ง >> บ้ านครัว ตังแต่ ้ อดีตยันปั จจุบนั ทุกๆที่ ไม่วา่ ประเทศใด ผืนแผ่นดินไหนก็ตาม จะต้ องมีการต่อต้ านอิสลาม การต่อต้ านในทุกๆด้ าน ไม่วา่ จะเป็ นด้ านคําสอน ตัว บุคคล หลักปฏิบตั ิ มีการใส่ร้ายอิสลามต่างๆนานา ในอดีตกาลก็พบว่ามีการ ต่อต้ านอิสลามเช่นกัน และรุนแรงกว่ายุคของเราด้ วยซํ ้าไป เช่น มีการเอาหวีเหล็ก เผาไฟจนแดงร้ อน แล้ วหวีให้ กบั คนที่รับอิสลามจนหนังศรี ษะถลอกออกมา เนื่องจากความร้ อนของมัน มีการใช้ เลื่อยขนาดใหญ่เลื่อยคนที่รับอิสลามจนผ่าเป็ น สองซีก การต่อต้ านอิสลามอย่างหนักหน่วงนี ้ ทําให้ ทา่ นนบีท้อใจ หลายต่อหลาย ครัง้ ด้ วยกัน อัลลอฮฺจงึ ประทาน อายะฮฺที่ 11 ซุเราะฮฺ อัลมุซซัมมิล ว่า ‫َوذَ ْرنِي َو اْ ُم َ ِّذ ِ َي أُمواِي الَّن ْ َ ِ َوَ ِّذ ْ ُم ْ َِ اًلي‬ ความว่ า “ และจงปล่อยให้ ข้าอยูต่ ามลําพัง(พร้ อมกับ)บรรดาผู้กล่าวหากุเท็จ (ต่อคําสอนอิสลาม) บรรดาพวกที่อยูใ่ น ความฟุ้งเฟ้อนันเถิ ้ ด และจงให้ โอกาสแก่ พวกเขาด้ วยเวลาเพียงเล็กน้ อย ” ดัง่ ที่นบีของเราได้ บอกไว้ วา่ ดุนยานันคื ้ อสวรรค์ของเหล่าผู้ปฏิเสธแต่คือคุก ของมุสลิม และเช่นนี ้แหละอัลลอฮฺได้ กล่าวต่อไปในอายัตที่ 12 ซุเราะอฺเดียวกัน ‫ِ اَ َديَّْنلَا أَن َ اًلاا َو َج ِح اًل ا‬ ความว่ า “ แท้ จริง ณ เรา(ได้ เตรี ยมพร้ อมแก่พวกเขา ซึง่ )โซ่ตรวนและนรกที่เพลิง ไฟลุกโชน ” ยุคแรกๆทังหมดของอิ ้ สลามล้ วนมาจากบรรดาผู้ท่ีออ่ นแอ ยากจน ไม่มี ยศฐาบรรดาศักดิแ์ ต่อย่างใด มันเป็ นนัยสําคัญที่ชี ้ให้ เห็นว่า อิสลามไม่มีอะไรให้ อิสลามจึงเติบโตมาจากคนที่ไร้ คา่ ที่สดุ ในสังคม ถ้ าอิสลามยิ่งใหญ่มาจาก


8

คนที่มีฐานะ จะเป็ นเหตุให้ พวกเขาเหล่านัน้ อ้ างได้ วา่ อิสลามเติบโตขึ ้นมาเพราะ เขา เงินทองของเขา นันแหละทํ ้ าให้ อิสลามเข้ มแข็ง แต่ …ไม่ใช่เช่นนัน้ ตรงกันข้ าม อิสลามต่างหากที่สร้ างบรรดาคนที่ออ่ นแอทังหลายให้ ้ เข้ มแข็งขึ ้นมา

แต่ในปั จจุบนั นัน้ มีคนที่นบั ถือศาสนาอิสลามมากมายเหลือเกิน ประมาณ 1ใน3 ของจํานวนประชากรโลกเลยทีเดียว เป็ นศาสนาที่มีคนนับถือมากเป็ นอันดับ สองของโลกรองจากศาสนาคริสต์ มากจนเป็ นฟองนํ ้า มีมากแต่ไม่มีประโยชน์ ดังนันจึ ้ งต้ องมีกระบวนการตัรบียะฮฺขึ ้นมา สร้ างมุสลิมที่มีคณ ุ ภาพ ใช้ การ ได้ งานดะฮฺวะฮฺไม่ใช่วา่ ใครก็ทําได้ ต้ องใช้ ความอดทน อดกลัน้ ยอมทุม่ เท ทรัพย์สินต่างๆนานา ช่างอัศจรรย์โดยแท้ ที่อิสลามสามารถสร้ างคนที่ออ่ นแอให้ เข้ มแข็ง คนที่ขี ้ขลาดให้ กล้ าหาญ คนที่ไม่ร้ ูให้ เป็ นปั ญญาชน บรรดาบททดสอบ ต่างๆ คือ ซุนนะตุลลอฮฺ ที่ทําให้ อิสลามเข้ มแข็ง จึง ทาให้ ในยุคต้ นของอิสลามจึง ไม่ มีมุนาฟิ ก ที่ไม่ สามารถทนอยู่กับความลาบาก แต่ มุนาฟิ กจะเกิดขึ้นเมื่อ อิสลามเข้ มแข็งแล้ ว เขาเหล่านันรั ้ บอิสลามเพื่อผลประโยชน์ และบรรดาบท ทดสอบนี่แหละ ที่จะแยกระหว่างมุอฺมิน กับมุนาฟิ ก พึงทราบเถิดว่า เมื่อท่านได้ รับ ทดสอบจากอัลลอฮฺและท่านอดทน เมื่อนันถึ ้ งจะทําให้ ทา่ นเป็ นมุสลิมที่แท้ จริง… … อ้ างอิง >> ตัฟซิรอัซซิกริ ลหะกีม ดร.อิสมาอีล ลุฏฟี ย์ จะปะกียา ภาพประกอบ >> วินทร์ เลียวาริ ณ http://www.winbookclub.com/image.php


ปรากฏการณ์...ญะฮีลิยะฮฺคืนสู่เหย้า >> เพียงก้ อนดิน ท่ามกลางสังคมที่พฒ ั นาอย่างไม่หยุดยัง้ จะมีใครเคยมองไหมว่า สิง่ เลวร้ ายใน ยุคมืด กําลังค่อยๆคืบคลานเข้ ามาอีกครัง้ ทังๆที ้ ่อลั ลอฮฺได้ สง่ ท่านนบีมาเปลีย่ นแปลงสิง่ ชัว่ ร้ าย เหล่านันจนเกื ้ อบจะหมดไปในช่วงระยะเวลาหนึง่ ล่วงเลยมาจนถึงสมัยของบรรดาเศาะหะบะฮฺ และยุคสมัยแห่งการปกครองแบบอิสลาม แต่ ณ วันนี ้ ที่การปกครองอันสมบูรณ์แบบเหล่านัน้ ได้ ลม่ สลายไปไม่ถึงร้ อยปี แต่แปลกนะครับ ความป่ าเถื่อนเหล่านันได้ ้ ยา่ งกรายกลับเข้ ามาอีก ครัง้ และขยายอิทธิพลได้ รวดเร็ วมาก เข้ ามามีบทบาทในหลายๆสังคม ไม่พ้นแม้ กระทัง่ สังคม มุสลิมเรา แต่สง่ิ ทีเ่ ป็ นวิกฤติอกี อย่างหนึง่ ในสังคมเราปั จจุบนั ก็คอื การทีห่ ลายๆคนกลับนิง่ ดู ดาย ทนมองภาพเหล่านันอย่ ้ างเย็นชา จนหัวใจชินชากับทุกๆความเลวร้ าย คิดว่ามันเป็ นสิง่ ปกติ และคิดว่ามันไม่ใช่สงิ่ ที่ผิดอีกต่อไป... เพราะอะไรกันครับ ที่ทําให้ คนเหล่านันกล้ ้ าที่จะทํา มุอฺศิยตั (การฝ่ าฝื น ก่อเกิดความอัปยศ) เหล่านัน้ แล้ วกลับมองว่ามันเป็ นเรื่ องปรกติ เป็ นเรื่ อง ที่ใครๆก็ทํากัน ในขณะเดียวกัน ผู้คนอีกกลุม่ หนึง่ ที่ไม่ได้ กระทําการแต่ก็กลับนิ่งเฉย แล้ วมอง ว่าเป็ นเรื่ องปกติอีกเช่นกัน คนที่ไม่ได้ ทําก็ใช่วา่ จะรอดจากการถูกสอบสวนจากผู้อภิบาล เรา ต้ องกลับไปตอบคําถามกับพระองค์ ถึงการทําหน้ าที่ของการเป็ นเคาะลีฟะตุลลอฮฺ ฟิ ลอัรฎฺ (ตัวแทนของอัลลอฮฺบนหน้ าแผ่นดิน) ของเรา เราได้ เป็ นแบบอย่างที่ดีให้ กบั คนรอบข้ างหรื อ เปล่า เราได้ ตกั เตือน เรี ยกร้ องให้ ผ้ ทู ี่ยงั หลงผิดกลับสูห่ นทางของอัลลอฮฺหรื อเปล่า โดยเฉพาะ อย่างยิ่งกับการใช้ ชีวิตในแผ่นดินที่ไม่ได้ ปกครองด้ วยอิสลามเช่นนี ้ จําเป็ นอย่างยิ่งที่เราจะต้ อง ดูแลกันและกันในหมูพ่ ี่น้องร่วมสายเชือกของเรา หากเราลองไตร่ตรองกันสักนิด จะรู้สกึ ได้ วา่ ในสภาพที่เราจะต้ องใช้ ชีวิตอยูภ่ ายใต้ กฎเกณฑ์ของผู้ที่ปฏิเสธ

ภายใต้ สังคมญะฮิลิยะฮฺ

สังคมที่ไม่ ได้ ปกครองด้ วยอิสลามเช่ นนี ้ มันอาจจะยังไม่ ใช่ ส่ งิ ที่น่ากลัวสักเท่ าไหร่


หากแต่ เป็ นความพอใจที่จะอยู่ในสภาพสังคมเช่ นนีต้ ่ างหากที่น่ากลัวที่สุด ฉะนัน้ ก็ค10วร หมัน่ ตรวจเช็คหัวใจเรา เช็คเนียต(เจตนารมณ์) ของเราอยูส่ มํ่าเสมอ เพราะมันเปลีย่ นผันอยู่ ตลอดเวลา ควรตังเนี ้ ยตใหม่อยูเ่ สมอ บางคนและหลายๆคนอาจจะคิดว่ามันยาก ยากที่จะ เปลีย่ นแปลงสิง่ ไม่ดีเหล่านัน้ ยากที่จะฟื น้ ฟูสงั คมให้ กลับมาดี ผมจําคําพูดของพี่น้องร่วมสาย เชือกของเราคนหนึง่ ได้ พดู ไว้ วา่ ..อย่ างน้ อยๆสิ่งที่เราทาได้ ก็คือ การเอารัฐอิสลามมาไว้ ใน ใจของเรา และทาให้ มันซึมซับไปยังคนรอบข้ าง อิสลามจะกลับมายิ่งใหญ่ อีกครัง้ นี่ ไม่ ใช่ การเพ้ อฝั น แต่ มันเป็ นสัญญาจากอัลลอฮฺท่ ไี ด้ ให้ กับเรา.. ครับ ยังไงซะ อนาคตก็ ต้ องเป็ นของอิสลาม เพราะอัลลอฮฺได้ สญ ั ญาไว้ แล้ ว แต่กว่าจะถึงวันนัน้ บางคนก็ได้ รับบท ทดสอบ บ้ างก็ล้มลุกคลุกคลาน บางคนก็มองเห็นแล้ วว่าไม่ไหว ไม่รอด ก็ปล่อยตัวเองตกข้ าง ทาง สิง่ เหล่านี ้เลยทําให้ พวกเขาขาดทุน ไม่มีสว่ นร่วมในงานอิสลาม และในวันนันเราก็ ้ จะรู้สกึ เสียดายที่ไม่ได้ มีสว่ นร่วม สู้เราทําให้ ดีที่สดุ ไม่ดีกว่าหรื อ ซึง่ สิง่ เหล่านันเราสามารถทํ ้ าได้ แค่ ตระหนักถึงภาระหน้ าที่ของเรา พร้ อมทังคอยกระตุ ้ ้ นคนรอบข้ างไม่ให้ หลงใหลกับความป่ า เถื่อนเหล่านัน้ มาร่วมกันเปลีย่ นแปลงตัวเองพร้ อมทังเปลี ้ ย่ นแปลงสังคม ขัดเกลาตัวเอง พร้ อมๆกับตักเตือนผู้อื่น พยายามคลุกคลีกบั ผู้คน อย่าปลีกตัวออกจากสังคม ใช้ ชีวิตในสังคม อย่างอดทน อดทนต่อความเลวร้ ายของคนในสังคม อดทนต่อการกล่าวร้ ายและการทําร้ าย จากพวกเขา อย่าลืมว่าเราจะต้ องไม่พอใจกับระบอบญะฮีลยิ ะฮฺเช่นนี ้ และต้ องทําให้ สง่ิ เหล่านี ้หายไปจากสังคมให้ ได้ เราต้ องเปลี่ยนแปลงญะฮีลิยะฮฺเป็ นอิสลาม ไม่ ใช่ นา อิสลามให้ อยู่ร่วมกับญะฮีลิยะฮฺอย่ างปกติสุข เพราะหัวใจที่ปราศจากญะฮีลยิ ะฮฺเท่านัน้ คือผู้ชนะ พระองค์ไม่ได้ ทรงถามว่าสําเร็ จไหม แต่พระองค์จะทรงถามว่าเราทําหรื อเปล่า และ วันหนึง่ เมื่อสังคมอิสลามดีขึ ้น แม้ จะเป็ นส่วนเล็กน้ อยจากมือเรา ก็ขอจงภูมิใจเถิด ... “ ข้ อตัดสินสมัยญะฮิลิยะฮฺกระนั้นหรือที่พวกเขาปรารถนา และใครเล่ าทีจ่ ะมีข้อ ตัดสินดียงิ่ กว่ าอัลลอฮฺ สาหรั บกลุ่มชนที่เชื่อมั่น(ต่ ออัลลอฮฺ) ” (อัล-มาอิดะฮฺ:50)


ขออุทิศหน้ากระดาษแผ่นนี้ เพื่อปกป้องสุลต่าน อับดุลฮามิด ที่ 2 ขบวนการฟื้ นฟูอิสลาม มัรยัม ญะมีละฮฺ เขียน สํานักพิมพ์อิสลามิค อะเคเดมี

ในประวัติศาสตร์ ของโลกมุสลิมยุคนี้ ไม่มีผปู ้ กครองมุสลิมคนไหนที่ถูกเข้าใจ ผิด ถูกใส่ ร้ายป้ ายสี มากไปกว่า สุ ลต่ านอับดุลฮามิด ที่ 2 (Abdulhamid II)ซึ่ง ปกครองตุรกี(ออตโตมาน) และถูกพวกเติร์กโค่นอานาจลงใน ค.ศ.1918 ในประเทศยุโรป และอเมริ กา สุ ลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 เป็ นที่รู้จกั กันในฉายาว่า " อับดุล ไอ้ ฉิบหาย " นอกจากนี้แล้ว นักประวัติศาสตร์ ตะวันตก (โดยเฉพาะชาว อังกฤษ) ยังเรี ยกพระองค์วา่ "ทรราชย์" "เผด็จการ" "จอมสกปรก" "จอมโหด" และ "ไอ้บา้ " อีกด้วย พระองค์ถูกกล่าวหาว่าเป็ นผูป้ กครองที่มีแต่การคอรัปชัน่ และ อาฆาตพยาบาทพวกที่มิใช่มุสลิม และพวกที่ไม่ใช่ชาวเติร์ก แต่ที่สาคัญที่สุดคือ พระองค์ถูกกล่าวหาว่าเป็ นผูต้ อ้ งรับผิดชอบกับการสังหารหมู่ชาวอาร์ เมเนีย ดังนั้น ต่อไปนี้จึงขอให้เราพิจารณาจากจุดยืนของมุสลิมเติร์กว่า ข้อกล่าวหา ต่างๆ ดังที่กล่าวมานั้นเป็ นจริ งแค่ไหน และมีเหตุผลอะไรที่ทาให้พระองค์เป็ นที่ ชิงชังในตะวันตก สุ ลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 ขึ้นมามีอานาจในตอนที่อาณาจักรออตโตมานกาลัง จะแตกสลาย (ล่มสลายปี 1924) เพราะแรงกดดันจากภายนอกและความผุพงั จาก ภายในเอง และเนื่องจากว่าในตอนนั้นตุรกี (หมายถึง อาณาจักรอุษมานียะฮฺ นั่นเองผู้นาเสนอ) เป็ นผูท้ ี่มีอานาจเหนือสุ ดในโลกมุสลิม ดังนั้น คริ ส ตจักรจึงช่วยกัน สาปแช่งให้รัฐสุ ลต่านแห่งตุรกีลม้ สลายไปในเร็ ววันเร็ วคืน นับตั้งแต่พวกเติร์กยึด กรุ งคอนสแตนติโนเปิ ล (อดีตเมืองหลวงแห่ งอาณาจักรไบแซนติน ซึ่ งทายาทโรมัน และถือเป็ นศูนย์ กลางแห่ งคริ สจักรโรมันคาธอลิกก็ว่าได้ -ผู้นาเสนอ) ได้ใน ค.ศ.


12

1453 แล้ว พวกยุโรปคริ สเตียนก็ได้พยายามหาทางที่จะทาลายอาณาจักรออตโต มานอยูต่ ลอดเวลา เพราะพวกนี้มีความเชื่อมัน่ ว่า ถ้าหากพวกเติร์กถูกทาลายลงแล้ว อิสลามก็จะถูกทาลายลงด้วยเช่นเดียวกัน ระหว่างศตวรรษที่ 19 ศัตรู ที่สาคัญที่สุดของอาณาจักรออตโตมานก็คือ รัสเซีย และอังกฤษ ซึ่ งร่ วมมือกันทาสงครามไครเมียกับตุรกี ใน ค.ศ.1859 โดยหวัง ว่า ถ้าหากเอาชนะ "คนไข้ แห่ งยุโรป" (หมายถึง ประเทศตุรกีในตอนนั้น) ได้แล้ว ก็ จะแบ่งผลประโยชน์ในตุรกีระหว่างกัน แต่เมื่อรัสเซี ยและอังกฤษไม่สามารถจะใช้ พลังภายนอกทาลายอาณาจักรออตโตมานลงได้ พวกนี้จึงได้มาคิดทาลายจากภายใน ในเวลานั้น พื้นฐานปรัชญาทางการเมืองของอาณาจักรออตโตมานเป็ น "ระบบมิล ละฮฺ" ซึ่ งเป็ นระบบที่ประสานคนเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ และลัทธิ ต่างๆ เข้าไว้ ด้วยกัน โดยค นแต่ละกลุ่มเหล่านี้จะมีสิทธิ ในการดารงชีวติ เอกลักษณ์ทาง วัฒนธรรมของตนไว้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ตราบใดที่พวกออตโตมานยังมีอานาจ สู งสุ ดอยู่ ความคิดเรื่ องชาตินิยมของพวกตะวันตกก็ไม่สามารถที่จะแทรกแซงเข้า มาบ่อนทาลายความสามัคคีของคนในชาติได้ ในแผ่นดินอิสลาม ชาวอาหรับเคริ์ ด และเติร์กจะสมัครสมานสามัคคี และมีความเชื่อเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกัน ส่ วนพวก กรี ก เซิร์บ อาร์เมเนีย และชนกลุ่มน้อยคริ สเตียนอื่นๆ จะได้รับความเป็ ธรรมตาม หลักกฎหมายอิสลามอย่างเสมอภาค แต่ทุกกลุ่มต่างก็อยูร่ ่ วมกันอย่างสงบสุ ข แต่ อย่างไรก็ตาม เมื่ออานาจของออตโตมาน เริ่ มเสื่ อมทรุ ด อังกฤษ รัสเซี ย และ อเมริ กาก็มีโอกาสแทรกแซงเข้ามายุง่ ในเรื่ องของกิจการภายในมากขึ้นทุกที ภายใต้ขอ้ อ้างว่าเพื่อ "ปกป้อง" ชนกลุ่มน้อยคริ สเตียนท้องถิ่น ที่อยูก่ นั อย่าง สงบมาเป็ นเวลาศตวรรษ โดยที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนอะไร พวกจักรวรรดินิยม ได้ใช้อาวุธโฆษณาชวนเชื่อทุกอย่างที่ตนมีอยู่ ปลุกเร้าให้คนเหล่านี้เกลียดชังเติร์ก มุสลิม และสนับสนุนให้คนพวกนี้เป็ นกบฏต่อรัฐบาลด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ คน กลุ่มน้อยแต่ละกลุ่ม อันได้แก่พวกกรี ก เซิร์บ อาร์เมเนีย ยิว อาหรับ และเคิร์ด ได้ถูก พวกตัวแทนต่างชาติหลอกให้กลายเป็ นพวกก่อการโค่นล้มการปกครองกันไป หมด และเพื่อทาให้สถานการณ์เลวร้ายลง พวก "ปัญญาชน" ก็ได้เสนอว่าทางรอด ของตุรกีน้ นั มีอยูท่ างเดียวคือ การรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาใช้ ภายในประเทศ และผลจากความคิดที่เกิดจากการวางแผนของจักรวรรดินิยม โดยเฉพาะพวกฟรี เมสัน(องค์ลบั ของตะวันตก)ก็คือ ตุรกีตอ้ งวุน่ วายไปทัว่ ประเทศ


สุ ลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 ได้อุทิศชีวติ ของพระองค์เป็ นเวลา 30 ปี ในการ รักษาตุรกีไว้จากการถูกทาลาย ถ้าไม่นบั พวกมะฮฺดีในซูดานแล้ว พระองค์เป็ น ผูป้ กครองมุสลิมคนเดียวในยุคนั้นที่ต่อสู ้เพื่อความอยูร่ อดของประเทศ โดยไม่ คานึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวเลย และพระองค์ กท็ าสาเร็จด้ วยเหตุทพี่ ระองค์ สามารถทาลายแผนการชั่วร้ ายของพวกจักรวรรดินิยมต่ างชาติ และพวกฟรีเมสั น ได้ นี่เองทีเ่ ป็ นสาเหตุว่า ทาไมศัตรู ของพระองค์ จึงเกลียดพระองค์ เหลือเกิน สุ ลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 ถูกกล่าวหาว่า "คอรัปชัน่ " อีกในปี ค.ศ. 1899 เมื่อ ธีโอดอร์ เฮอร์เซิล ผูก้ ่อตั้งลัทธิ ไซออนิสต์สากลได้พยายามติดสิ นบนพระองค์ดว้ ย เงินจานวนมหาศาล เพื่อให้พระองค์ยกปาเลสไตน์ให้แก่พวกยิว แต่พระองค์ได้ ตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวว่า "จนกว่าอาณาจักรออตโตมานจะแตกสลาย และ ตาแหน่ งคอลีฟะฮฺจะถูกทาลายเท่ านั้น ยิวถึงจะอ้ างสิ ทธิในปาเลสไตน์ " ดังนั้น พระองค์จึงถูกโจมตีอย่างหนักทั้งที่ตลอดสมัยการปกครองของพระองค์เป็ นเวลา 30 ปี นั้น ตุรกีไม่เคยสู ญเสี ยดินแดนของตน (ให้ศตั รู -ผูน้ าเสนอ) แม้แต่เพียงเท่าฝ่ ามือ เมื่อพระองค์พยายามที่จะรักษาคุณค่าของอิสลามไว้ พวกตะวันตกก็ กล่าวหาว่าพระองค์ดาเนินนโยบายเผด็จการบ้าง ทรราชย์บา้ ง ก็แล้วพวกยังเติร์กขี้ ข้าตะวันตก(ลัทธิ kemalisim)ที่ข้ ึนมามีอานาจหลังจากพระองค์น้ นั สามารถทาได้ ดีกว่าพระองค์ไหม ? ด้วยการคุม้ ครอง และการสนับสนุนอย่างเป็ นทางการของ อังกฤษ อเมริ กา และรัสเซีย พวกหมอสอนศาสนาคริ สเตียน และพวกฟรี เมสัน ได้ ยัว่ ยุให้คนกลุ่มน้อยเกลียดชัง และทาการกบฏต่อรัฐบาล และเมื่อรัฐบาลถูกบังคับให้ ต้องดาเนินมาตรการที่เฉี ยบขาดต่อคนพวกนี้ พวกหมอสอนศาสนาเหล่านี้ก็ เพียงแต่ทาหน้าที่เช็ดน้ าตาแห่งชะตากรรมให้แก่คนเหล่านี้เท่านั้น การที่สุลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 ต้องดาเนินมาตรการเฉี ยบขาดรุ นแรงนั้น ก็เพราะว่าประชาชนไม่เปิ ดโอกาสให้พระองค์มีทางเลือกนัน่ เอง. “ อิสลาม คือความสมบูรณ์แบบปราศจากส่วนเกินและส่วนขาด ก่อให้ เกิดผลที่ “ดุลยภาพ” ที่พอดี และ “ความสงบนิ่ง” ที่แข็งแกร่ง ” …มุหมั มัด อะซัด (อดี ตยิ ว สู่นกั ฟื ้ นฟูร่วมสมัย)


..ฝุ่น.. >> อัสฮาบุลยามีน

ฝุ่นเป็นอนุภาคเล็กๆที่มองเห็น ังไม่ อาจจะย เคยได้ยินคนที่ชื่อฝุ่น ัว ได้ยากหากไม่เกิดการรวมต ั้ ักจะได้ หลายครงที่เราม ยินความ เสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่น ักจะมี บนตามท้องถนนม ฝุ่นเยอะ

ั้ บางครงเหมือนพวกเราทาเป็นไม่ ใส่ใจฝุ่น

และบางทีเราอาจจะไม่เคยรู้ความ ร้ายแรงของพายุไต้ฝุ่น

ัวเองให้ ถ้ามุสลิมสร้างต เข้มแข็ง ักจะหงุ แต่ม ดหงิดเมื่อมีฝุ่นเกาะ

ักจะแพ้ คนโดยส่วนใหญ่ม ฝุ่น

อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องของอิสลาม และเป็นแบบอย่างของมุสลิมที่ดีแล้ว

ถ้าหากไม่มฝ ี ุ่นก็คงจะดี ับฝุ เราอาจจะเปรียบได้ก ่น

ถ้าไม่มฝ ี ุ่นแม่บ้านก็คงตกงาน ัด ที่มีแต่คนคิดที่จะกาจ แต่ไม่เคยที่จะหมดไป ัดฝุ หลายคนอยากจะกาจ ่น

ักจะหาอุ ัดฝุ ม ปกรณ์มากาจ ่น ันหนึ ัวก ัน และว ่ง..เราอาจจะรวมต

ั้ บ่อยครงที่เราเห็นโฆษนาอุปกรณ์ เหมือนพายุไต้ฝุ่น ังท ที่มีพล าลายล้างมหาศาล ัดฝุ ังไม่ กาจ ่น แต่ฝุ่นก็ย หมดไป

ัตรู ทาลายศ ของอิสลามให้พินาศ บางคนชอบทาแป้งฝุ่นแทนการ ับ ั้ ทาแป้งตล บางครงเราอาจจะโดน ั้ และนาพาอิสลามให้รุ่งเรืองอีกครง แม่ บ น ่ เพราะไม่ ก วาดฝุ น ่ ในบ้ า น ัลลอฮฺ อินชาอ …


ปลาตาย >> หลานจุฬา

การดําเนินชีวติ ทีผ่ า่ นพ้ นไปในแต่ละวัน วันแล้ ววันเล่า กลางวันกลางคืน ทีค่ อย สับเปลีย่ นกัน โลกมันก็หมุนอยูอ่ ย่างนันไปเรื ้ ่ อยๆ ความสุขความทุกข์มีบ้างหายบ้ าง ความ สามัคคีความแตกแยกก็มีอย่างทัว่ ไปทุกหนทุกแห่งแตกต่างกันไป ที่ไหนบ้ างล่ะจะเป็ นร่มเงา อันมีแต่ความสุขความร่มเย็นความเป็ นหนึง่ เดียวกันในจุดหมายเดียวกันอันนิรันดร์ ในวันนี ้ สภาพบ้ านเมืองทีก่ ําลังมุง่ ไปข้ างหน้ าในการเจริ ญทางด้ านวัตถุ ระบบทุนนิยมที่ มีการแพร่สะพัดไปทัว่ ความแข่งขันอยูท่ วั่ ทุกหนทุกแห่ง มากมายด้ วยการตอบสนองอารมณ์ใน สันดานของมนุษย์ สิง่ ที่ผิดกลายเป็ นสิง่ ที่ถกู คุณค่าในจิตใจของมนุษย์กลับตกตํ่าถอยหลังลง ไปเรื่ อยๆ สิง่ ต่างๆเหล่านี ้มันก็ต้องเป็ นสิง่ ที่จะต้ องเกิดในยุคของเราอันสุดท้ ายนี ้ การยืดหยัดทีจ่ ะให้ อยูไ่ ด้ ยอ่ มลําบากมาก หลายคนไปไม่สจู่ ดุ หมาย ตกหลุมหลงทาง อ่อนแอย่อท้ อตามไปกับกระแสสังคมที่มากด้ วยกําลังจะฉุดให้ ทกุ คนคล้ อยตามไป การหยิ่ง ทนงตนในศักดิ์ศรี เชื่อมัน่ ในความสามรถ ความเก่งกาจของตนเอง ไม่ยอมรับว่าทุกอย่างมี ผู้สร้ าง มีผ้ บู รรดาลให้ ทกุ อย่างดําเนินไป มีสติปัญญาอันเฉียบแหลม แต่กลับไม่นําสิง่ รอบข้ าง ที่รับรู้ได้ นํามาคิด กลับนําสติปัญญาที่มีอยูม่ าทําหลาย มาสร้ างความเสียหายบนหน้ า แผ่นดิน ทุกวันนี ้มนุษย์ทงหลายต่ ั้ างหลงในดุนยา ทําอย่างไรที่ฉนั จะต้ องมี มีอย่างนันมี ้ อย่างนี ้ ให้ มากที่สดุ ห่างใกล้ ซงึ่ ความพอเพียง แลกทุกสิง่ ที่ต้องการแม้ จะต้ องคดโกง หรื อมาด้ วยความ ทุกข์ของคนอื่นก็ตาม ความอ่อนแอในจิตใจของมนุษย์ครอบงําสังคมทุกระดับ ชัน้ ดูไปดูมา ยุคนี ้ก็คงไม่ตา่ งอะไรกับยุคแห่งความโง่เขลา ถึงแม้ จะมีเทคโนโลยีตา่ งๆ ที่ยกระดับความ สะดวกสบายในชีวิตของมนุษย์ แต่แล้ วภายในใจกลับมืดมนไร้ ซงึ่ แสงสว่าง


16 น้ อยคนหนักที่จะตระหนัก จะใคร่ครวญ ตระหนักในสิง่ รอบตัว เพระว่า ไม่เคยเลย ไม่ เคยเลยที่จะรับรู้ นําสิง่ เท็จที่ได้ จากการใช้ สติปัญญาของตนเองคิด หรื อพยายามทุกวิธีทางใน การปิ ดกันในสิ ้ ง่ ที่เป็ นสัจธรรม นําความเท็จที่จากปั ญญาของตนที่หลงผิดมาเป็ นต้ นแบบใน การเรี ยนรู้ในสถาบันการศึกษา แล้ วอะไรล่ะจะเรี ยกหาสัจธรรมที่แท้ จริ งได้ สัจธรรมที่มีเพียง หนึง่ เดียว ที่ผา่ นกาลเวลามาเนิ่นนาน แต่อย่างไรสัจธรรมก็คงยังเป็ นสัจธรรมอยูต่ ลอดไป ไม่มี วันเสือ่ มคลาย แต่วนั นี ้มนุษย์กลับไม่เชื่อ ไม่ยอมรับ หรื อรู้แต่ก็ไม่นําสูก่ ารศรัทธา ปิ ดหูปิดตา ปิ ดใจปิ ดทุกอย่าง แน่นอนการตอบแทนอย่างสาสมจะต้ องเกิดขึ ้นอย่างแน่นอน ทุกการงานทีผ่ า่ น ทุกกาลเวลาที่พ้น อายุที่เพิ่ม ทรัพย์สนิ ที่หามาได้ รวมถึงความรู้ที่มี ทุกอย่างจะต้ องถูกสอบสวนอย่างแน่นอน หลายคนอาจจะพยายามหาหนทาง หนทางที่ นําไปสูค่ วามสุข แสงสว่างที่เป็ นความหวัง ร่มเงาแห่งสัจธรรม สําหรับอีกหลายคนที่ร้ ูสงิ่ ต่างๆ เหล่านี ้แล้ ว แต่ทําไมยังทําไม่ได้ เสียที ก็เพราะเมื่อเรารู้เราก็ต้องนํามาสูก่ ารปฏิบตั ิจริ ง พร้ อม ด้ วยความบริ สทุ ธิ์ใจอย่างร้ อยเปอร์ เซ็น ประดับประดาม ารยาทต่างๆ ให้ สวยงามอย่าง ครบถ้ วน ไม่ใช่เป็ นปลาตายของสังคมอยูอ่ ย่างไรก็อยูอ่ ย่างนัน้ ส่งกลิน่ เหม็นไปทัว่ สร้ างความ รังเกียจของผู้คนที่อยูร่ ่วมในสังคม วันแล้ ววันเล่าที่ผา่ นไปก็ไม่คิดที่จะปรับปรุงตนเอง หลง ตัวเองไปกับกระแสแห่งความมืดบอดของสังคม เมื่อเป็ นอย่างนี ้ก็คงเป็ นได้ แค่ปลาตายที่ไม่ได้ เกิดคุณอันใดแก่ตวั เองและสังคม พีน่ ้ องทีร่ ักครับ เราจะอยูอ่ ย่างไรในสังคม จะอยูอ่ ย่างไรที่อลั ลอฮฺพอใจเป็ นทีร่ ักของ ผู้คนในสังคม ทุกอย่างมีแบบแผนในร่มเงาแห่งอิสลาม เป็ นวิถีชีวิตแห่งสัจธรรม และวิถีเดียวที่ จะนําไปสูจ่ ดุ หมายอันนิรันดร์ กาล แต่ถามว่า ณ ตอนนี ้ ชีวิตของเรา มีอิสลามเป็ นร่มเงาใน ชีวิตมากแค่ไหนกัน อะไรที่ไม่ร้ ูก็จงเร่งศึกษา ควบคูไ่ ปกับการเตือนในหมูพ่ ี่น้องรอบข้ าง แล้ ว นําไปสูก่ ารปฏิบตั ิอนั สมบูรณ์ อะไรที่มนั ยังขาด อะไรที่มนั ยังต้ องเติมเต็มในชีวิตของมุสลิม เราจักต้ องเติมเต็มให้ มากที่สดุ ให้ วิถีชีวิตอยูใ่ นร่มเงาของอิสลาม มีแต่ความผาสุขทังโลกนี ้ ้ และโลกหน้ าที่เปี่ ยมล้ นด้ วยการตอบแทน แน่นอนว่าชัยชนะอยูก่ บั ผู้ที่ใคร่ครวญเท่านัน้


เรื่องราวของคนทางาน >> พรรคการเรี ยน ช่วงต้ นเดือนธันวาคมที่ผา่ นมาผู้เขียนได้ มีโอกาสร่วมค่าย ซึง่ จัดโดยธนาคาร แห่งหนึง่ กิจกรรมภายในค่ายส่วนใหญ่จะเป็ นในรูปแบบของการให้ วางแผน วาง กลยุทธ์ วางนโยบาย เอาง่ายๆว่าเกี่ยวข้ องกับการจัดการอย่างเป็ นระบบและมี ประสิทธิภาพนัน่ เอง สิ่งหนึง่ ที่ทําให้ ผมคิดว่าการไปค่ายครัง้ นี ้คุ้มค่าที่สดุ คือ ผมได้ ใช้ ชีวิตร่วมกับ อ.พิเชฏฐ์ กาลามเกษตร์ เป็ นเวลาสามวันกับสองคืน ไม่นา่ เชื่อนะ ครับว่า อาจารย์ที่มีตําแหน่งเป็ นถึงรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะมาร่วมใช้ ชีวิตในค่ายกระจอกๆ กินข้ าวกล่อง นอนที่นอนแย่ๆ คอยกวาดพื ้นให้ เด็กค่าย ความจริงสิ่งต่างๆเหล่านี ้ก็สร้ างความประทับใจให้ ผมมากมายแล้ วล่ะ แต่พอฟั ง เรื่ องราวที่กลัน่ กรองจากประสบการณ์ ความคิด และความรู้ทงหลายของอาจารย์ ั้ แล้ ว บอกได้ คําเดียวว่าโดนใจจริงๆ สิ่งที่ทา่ นพูดแล้ วทําให้ กระตุ้นต่อมความคิด ของผมคือเรื่ องราวที่เกี่ยวกับคนทัว่ ไปในสังคมที่ทํางาน อาจารย์บอกว่าสังคมเรา แบ่งคนได้ เป็ นสามประเภท ตามสภาพของคนและองค์กรที่ผ้ นู นรั ั ้ บใช้ 1.คือคนที่ดีร่วมกับญะมะอะฮฺ(องค์กร)ที่ดี องค์กรแบบนี ้สมบูรณ์แบบ ในความเป็ น จริงของสังคมมันก็มี เสียแต่วา่ มันมีน้อย และพลังขององค์กร ก็ไม่คอ่ ยเข้ มแข็งซัก เท่าไหร่ พลังขององค์กรในที่นี ้หมายถึง จํานวนคน ทุนทรัพย์ ทุนปั ญญา บารมีและ การยอมรับจากสังคม อํานาจทางทหาร ในระดับประเทศนันหายาก ้ ในระดับโลกก็ ยังพอมีให้ เห็นบ้ าง ผู้คนที่ร่วมงานในองค์กรนี ้เป็ นคนดี ความหมายของคนดีในที่นี ้ ใช้ มาตรฐานของอิสลาม คือมี อีหม่าน(ศรัทธา) อิบาดะฮฺ(การปฏิบตั ศิ าสนกิจ) อัค ลาก(กริยามารยาทที่ดี) ความรู้ที่ถกู ต้ องและมากมาย (แค่คนดีก็หายากแล้ ว) ความสามารถในทางดุนยาที่จําเป็ นต่อวิชาชีพของตนเอง และต้ องอยูใ่ นระดับ สูงสุดของวิชาชีพด้ วย ญะมะอะฮฺที่ดีก็คือญะมะอะฮฺที่ตอบสนองต่อคําสัง่


18

ของอัลลอฮฺและรอซูล นโยบายของญะมะอะฮฺต้องเป็ นไปเพื่อประกาศอิสลามบน หน้ าแผ่นดินนี ้ และมีความสามารถในการจัดการองค์กรได้ เป็ นระบบ มีวิธีการที่จะ บรรลุเป้าหมายอย่างชัดเจน มียทุ ธศาสตร์ ตา่ งๆ มีวิสยั ทัศน์ที่พร้ อมจะทํางานกัน เป็ นร้ อยๆปี และมีพลังขององค์ดงั ที่ผมได้ กล่าวมาข้ างต้ น 2.คนที่เลวกับญะมะอะฮฺที่เลว เลวคูก่ บั เลวแบบนี ้ไม่คอ่ ยมีอยูจ่ ริงเหมือนกัน เนื่องจากคนเลวกับคนเลวก็คดิ แต่เรื่ องจะหักหลังกันและกัน มองหาแต่ประโยชน์ ส่วนตน ยิ่งมาอยูก่ บั ญะมะอะฮฺที่เลวซึง่ แย่ทงเป ั ้ ้ าหมาย นโยบายและการจัดการ ต่างๆที่ไร้ เสถียรภาพ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เลยไม่คอ่ ยปรากฏกลุม่ ในลักษณะนี ้ 3.คนที่ดีกบั ญะมะอะฮฺที่เลว ในสังคมปั จจุบนั เรามีมสุ ลิมประเภทนี ้เยอะที่ดีสดุ ญะ มาอัตที่เลวในความหมายของอาจารย์คือ ญะมะอะฮฺไม่มีเป้าหมายและอุดมการณ์ ของอิสลาม ถึงแม้ วา่ ญะมะอะฮฺนนจะเต็ ั้ มไปด้ วยพลังต่างๆ ทังการเงิ ้ น จํานวน คน อํานาจบารมี กองกําลัง แต่เมื่อนโยบายไม่ได้ เป็ นไปเพื่ออิสลามหรื อมีนโยบาย เพื่อทําลายอิสลามก็ล้วนเป็ นญะมะอะฮฺที่เลวทังสิ ้ ้น ความเป็ นจริงของสังคมมัน บอกเราว่าตอนนี ้เรามีมสุ ลิมที่ดี เข้ าไปเป็ นผู้ตามในญะมะอะฮฺเหล่านี ้เต็มไปหมด ซึง่ มันก็เท่ากับว่า เรากลายเป็ นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสุดขององค์กรที่ไม่ได้ ทํางานเพื่ออิสลาม แต่การทํางานในองค์กรเช่นนี ้จะเป็ นเรื่ องที่ดีทนั ทีที่เราสามารถ ก้ าวขึ ้นไปอยูใ่ นจุดสูงสุดขององค์กร และสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้ตามที่ อยูใ่ นองค์กร ซึง่ ถ้ าเราสามารถทําเช่นนันได้ ้ เราก็จะได้ ญะมะอะฮฺที่ดีเพิ่มขึ ้นมาอีก หนึง่ อาจารย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น เราทํางานในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึง่ ในฐานะ ลูกน้ องของผู้อํานวยการโรงพยาบาลที่มีพฤติกรรมคอรัปชัน่ เราก็จะกลายเป็ น กลไกหนึง่ ของการคอรัปชัน่ ไปด้ วย ถึงแม้ วา่ เราจะเป็ นคนดีก็ตาม ทางออกคือเรา ต้ องพัฒนาศักยภาพความสามารถของเราให้ ขึ ้นไปเป็ นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี ้ ให้ ได้ และสร้ างความเปลี่ยนแปลงในหัวใจของผู้ตามด้ วยความสวยงามของ อิสลาม ผู้ตามทังหลายก็ ้ จะยอมรับในอิสลาม เช่นนี ้เราก็ไม่ต้องไปสร้ าง


19

โรงพยาบาลอิสลามแห่งใหม่ จะได้ โรงพยาบาลชุมชนแห่งนันเป็ ้ นโรงพยาบาลที่มี ระบบเป็ นอิสลามนัน่ เอง ซึง่ สามารถเชื่อมไปถึงสมัยที่ทา่ นรอซูลลุลลอฮ (ซ.ล.) ได้ สร้ างเมืองมะดีนะฮ ท่านก็ไม่ได้ สร้ างวัตถุขึ ้นมาใหม่ แต่ทา่ นไปเปลี่ยนหัวใจของ ชาวเมือง แล้ วท่านก็ได้ เมืองที่เป็ นอิสลามขึ ้นมาหนึง่ เมือง หลายต่อหลายครัง้ ที่เรา พบว่าคนดีหลายคนที่จะเข้ าไปเปลี่ยนแปลงองค์กรที่เลวให้ กลายเป็ นองค์กรที่ดีนนั ้ ไม่สามารถอดทนต่อความเย้ ายวนใจของระบบที่เลวได้ สุดท้ ายเขาเองก็ไม่สามารถ ที่จะไปสูต่ ําแหน่งผู้นําขององค์กร หรื อถ้ าเขาสามารถไปสูต่ รงนันได้ ้ มือของเขาก็ได้ เปื อ้ นโคลนตมที่องค์กรเลวแห่งนันได้ ้ สร้ างไว้ เสียแล้ ว อุปสรรคในโลกแห่งความเป็ นจริงก็คือเราไม่ได้ มีคนที่ดีเพียงพอจะขึ ้นมา เป็ นผู้นํา ทังในญะมะอะฮฺ ้ ที่ดีหรื อญะมะอะฮฺที่เลว ด้ วยเหตุเพราะระบบที่สร้ าง มุสลิมในโลกแห่งนี ้นันอ่ ้ อนแอ ประเทศมุสลิมทังหลายไม่ ้ มีอํานาจต่อรองในระดับ โลก ผู้นําประเทศมุสลิมไม่ได้ มีอดุ มการณ์และเป้าหมายเพื่ออิสลาม จํานวนมุสลิม ทีมากมายมหาศาลเป็ นอันดับสองของโลกกลับสวนทางกับจํานวนมุสลิมที่มี คุณภาพที่คดิ เป็ นสัดส่วนกันคงจะน้ อยที่สดุ ในโลก ในระดับภายในประเทศนัน้ มุสลิมเรี ยนในโรงเรี ยนที่ออ่ นแอทางด้ านวิชาการ อ่อนแอด้ านวินยั เมื่อโรงเรี ยนของ มุสลิมอ่อนแอ มุสลิมก็ไม่สามารถจะเข้ าไปสูม่ หาวิทยาลัยที่มีคณ ุ ภาพได้ ทําให้ เรา จะวนเวียนอยูก่ บั คนที่ไม่มีคณ ุ ภาพ กับระบบที่ไม่มีคณ ุ ภาพอย่างนี ้ต่อไป ทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่จะกรุยให้ เรามุง่ สูก่ ารมีญะมะอะฮฺที่ดีคือ การ รวบรวมคนที่มีคณ ุ ภาพทังหลาย ้ ให้ มีอดุ มการณ์ของอัลอิสลาม การต่อสู้ของ อิสลามจะประสบชัยชนะไม่ได้ ถ้าคุณภาพของเราไม่ดี และคุณภาพของคนจะไม่ สามารถพัฒนาได้ เลยหากไม่มีการอยูร่ ่วมกันของคนดี ใครอยากไปค่ายนี ้บ้ างครัง้ หน้ า

ยกมือขึ ้นครับ...



ชีวิต Islam ในสังคมญะฮิลิยะฮฺ >> ดอกหญ้ า ขอชุกรู ต่ออัลลอฮฺ (ซบ.) ที่ให้ ข้าพเจ้ าได้ เขียนบทความเรื่ องนี ้ ซึง่ เป็ นสิง่ ที่หลายๆ คน แม้ กระทัง่ ตัวข้ าพเจ้ าเองประสบ ณ ตอนนี ้ เมื่อกล่าวถึง สังคมญะฮีลยิ ะฮฺหลายคนคงจะ ปฏิเสธไม่ได้ วา่ ...สภาพการณ์ที่เกิดขึ ้นในสังคมญะฮีลยิ ะฮฺ เป็ นอีกเหตุผลหนึง่ ที่ทําให้ แนว ทางการทํางานเพื่ออิสลามในระบบถูกตังคํ ้ าถาม ทุกวันนี.้ ..ใครปฏิเสธบ้ างว่า มุสลิมมีใน ประเทศนี ้ ในสังคมนี ้มากขึ ้น มุสลิมะฮฺสามารถคลุมฮิญาบ ปิ ดหน้ า ไปเรี ยน ไปทํางานใน องค์กรญะฮีลยิ ะฮฺได้ มากขึ ้น มุสลิมสามารถปฏิบตั ิศาสนกิจในที่สาธารณะได้ มากขึ ้น และก็ สามารถก้ าวขึ ้นไปสูต่ ําแหน่งที่สงั คมส่วนใหญ่ยอมรับ เป็ นนักวิชาการ นักการเมือง ฯลฯ มากขึ ้น แต่ความเลวร้ ายในสังคมกลับไม่ได้ ลดลง ตรงกันข้ าม...กลับเพิ่มขึ ้นทังในด้ ้ าน ปริ มาณ และคุณภาพความชัว่ ทัง้ ๆ ที่คุณสมบัติประการสาคัญของสัจธรรมนัน้ ....คือ เมื่อมันไปปรากฏอยู่ท่ ไี หน มันจะต้ องทาลายความเท็จ ณ ที่น่ ันให้ หมดไป.... เช่นเดียวกับตัวของข้ าพเจ้ าทีเ่ ต็มไปด้ วยสิง่ แวดล้ อมของสังคมญะฮีลยิ ะฮฺ สิง่ แวดล้ อมทีเต็มไปด้ วยผู้คนต่างเชื ้อชาติ ต่างศาสนา วัฒนธรรม และต่างความคิด ซึง่ มุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะมุมมองในด้ านศาสนา บางคนมองอิสลามใน แง่ลบ และตีหน้ าว่าเป็ นศาสนาที่แปลกไปจากศาสนาอื่น มีกฎเกณฑ์ ข้ อบังคับมากมาย ที่ ต้ องปฏิบตั ิ และถูกตีหน้ าว่าเป็ นศาสนาที่กดขี่ขม่ เหงความเป็ นมนุษย์ เสมือนนกที่มีปีกแต่ไม่ สามารถบินได้ หลายคําถามที่ถาโถมเข้ ามา โดยเฉพาะคําถามเกี่ยวกับเรื่ องพระผู้เป็ นเจ้ า คุณจะรู้สกึ อย่างไรถ้ ามีคนถามคุณว่า Why you belief in god ? and How God influence your life ? ถ้ าหากวันนันคุ ้ ณไม่มีความรู้เกี่ยวกับพระเจ้ าล่ะ คุณจะตอบคําถาม เหล่านี ้อย่างไร เชื่อว่าเป็ นคําถามที่ยากสําหรับคนที่ไม่ร้ ูศาสนา แต่จะเป็ นคําถามที่ง่าย สําหรับคนที่พอจะรู้ศาสนา แต่ก็ยากที่จะอธิบายให้ กบั คนที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้ ามีจริ ง แถมต้ อง เป็ นภาษาอังกฤษที่ต้องหาศัพท์ที่ฟังแล้ วเข้ าใจง่าย สิง่ นี ้อาจจะเป็ นบททดสอบเล็กๆ น้ อยๆ ที่ได้ ประสบมา อาจจะเทียบไม่ได้ กบั อีกหลายคน หลายครัง้ ที่ถกู ทดสอบเพื่อวัดอีหม่านใน


22 ตัวเรา หลายคนอาจสงสัยว่าทําไมถึงเลือกที่จะอยูใ่ นสังคมแบบนี?้ อาจจะตอบไปว่าเป็ น ความบังเอิญที่ติดที่นี ้แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึง่ ทุกสิง่ ทุกอย่างบนโลกใบนี ้ไม่ใช่ความบังเอิญ หากแต่เป็ นความประสงค์ของพระองค์อลั ลอฮฺ (ซ.บ) ที่จะทดสอบอีหม่าน และศรัทธาในตัว บ่าวคนหนึง่ บางคนอาจจะถามต่อว่า ผู้ท่ ปี ฏิบัติตามศาสนานัน้ เวลาอยู่ในสังคมที่ ไม่ ใช่ สังคมมุสลิม เค้ าจะรับมือกับมันอย่ างไร โดยที่อยูใ่ นสังคมนันอย่ ้ างมีความสุขจริ งๆ หรื อหากไม่มีความสุข เค้ าก็อยูย่ งั ไง? คาตอบ ก็คงเป็ นเรื่ องปกติธรรมดาของคนหนึง่ คนใด ที่เพิ่งเข้ ามาสัมผัสกับ สังคมภายนอกอื่น เช่น สังคมในมหาวิทยาลัย ซึง่ เป็ นสังคมที่เต็มไปด้ วย สิง่ ที่เป็ นอุปสรรค และเป็ นบททดสอบสําคัญยิ่งสําหรับมุอฺมินผู้ศรัทธาทุกๆท่าน ที่เค้ าเหล่านัน้ จําต้ องเผชิญกับ สถานภาพของสังคมที่เสมือนสังคมญะฮิลยิ ะฮฺ (คือยุคประหนึง่ ไม่มีศาสนา ศีลธรรม) เพราะ สิง่ ที่เกิดขึ ้นในปั จจุบนั นัน้ ล้ วนเป็ นสิง่ ที่บนั่ ทอน และนํามาซึง่ การลดลงซึง่ อีหม่าน ความยํา เกรง ไม่วา่ จะเป็ นในเรื่ องของการแต่งกายของนักศึกษา หรื อรูปแบบการดําเนินชีวิตของ วัยรุ่นที่ถกู ปลูกฝั งด้ วยกับค่านิยมจากสังคมตะวันตกทังชายและหญิ ้ งนัน้ ปะปนคลุกคลีกนั อย่างเปิ ดเผย เป็ นต้ น ซึง่ แน่นอน ดัง่ ที่กล่าวมาแล้ วข้ างต้ นนัน้ ย่อมเป็ นสิง่ ที่ท้าทายและเป็ น บททดสอบอันใหญ่หลวงสําหรับมุสลิมทุกคนที่เค้ าจะต้ องสอบผ่านให้ จงได้ ด้ วยกับการ เรี ยนรู้และเสริ มสร้ างพลังอีหม่าน พลังศรัทธาให้ มากยิ่งขึ ้นกว่าที่เป็ นอยูจ่ ากชีวิตเดิมๆของ ตน..( เช่น การฟั งบรรยายศาสนา อ่านอัลกุรอาน อ่านหนังสือศาสนา ควบคูก่ บั หนังสือ สามัญที่เรี ยนอยู่ แล้ วงดเว้ น การอ่าน นิตยสารดารา นักร้ อง นิยาย การ์ ตนู ( เพราะสิง่ เหล่านี ้ย่อมเป็ นสิง่ ที่เบียดบังเวลาซึง่ การเรี ยนรู้ ในเรื่ องราวของศาสนาเป็ นสําคัญ ) ขอให้ ทา่ นยืนหยัด อดทนกับสิง่ ที่ทดสอบท่านในทุกๆประการ หากได้ ชื่อว่า เป็ น มุสลิมที่ศรัทธาและกําลังปฏิบตั ิในสิง่ ที่อิสลามสัง่ ใช้ แล้ วไซร้ ความแปลกหน้ า ความรู้สกึ ยากลําบาก หรื ออุปสรรค หรื อความรู้สกึ ที่โดดเดี่ยวอันเกิดจากการที่ผ้ คู นรอบข้ างกับสิง่ " มนุษย์คิ ดหรือว่า พวกเขาจะถูกทอดทิ้ง เพียงแต่พวกเขากล่าวว่าเราศรัทธา และพวกเขา จะไม่ถูกทดสอบกระนั้นหรือ ? "


23 ข้ างต้ นอย่างหลีกหนีไม่พ้น เพราะนัน่ คือบททดสอบหนึง่ ที่พระองค์อลั ลอฮ(ซ.บ)ทรงตรัสไว้ ในซูเราะห์ 29. Al-Ankaboot ไม่วา่ เขาจะเป็ นมุสลิมหรื อกาฟี รก็ตาม ไม่นําอิสลามนันมา ้ ปรับใช้ ในการดําเนินชีวิตแล้ ว ก็ยอ่ มเป็ นสิง่ ที่เรานัน้ ต้ องรับและฝื นอายะฮที่ 2 ซึง่ มีใจความ ว่า " มนุษย์ คิดหรือว่ า พวกเขาจะถูกทอดทิง้ เพียงแต่ พวกเขากล่ าวว่ าเราศรัทธา และ พวกเขาจะไม่ ถกู ทดสอบกระนัน้ หรือ ? " พึงรู้และพึงให้ เกิดความรู้สกึ นี ้เถิดว่า ความสุขใจที่แท้ จริ ง คือความสุขที่เกิดขึ ้นจาก การที่เรานันฝ่ ้ าซึง่ อุปสรรค และบททดสอบต่างๆผ่านไปได้ โดยที่เรานัน้ ยังยืนหยัดกับสิง่ ที่ อิสลามนันสั ้ ง่ ใช้ ให้ กระทําและละทิ ้งสิง่ ที่ถกู สัง่ ห้ ามต่างหากล่ะ มิใช่เกิดจากการที่เรานัน้ มี เพื่อนสนิท มีเพื่อนมากมาย แต่เค้ าเหล่านัน้ เป็ นส่วนหนึง่ ที่ทําให้ เรานัน้ ห่างไกลจากอัลลอฮ (ซ.บ) ที่สาํ คัญ เพื่อนที่ควรคบให้ ได้ อยูร่ ่วมกันในคณะเดียวกัน หรื อสาขาเดียวกันนัน้ ไม่ จําต้ องเป็ นเพื่อนที่เราคิดว่า นัน่ คือ เค้ าต้ องเป็ นเพื่อนสนิทเรา เค้ าต้ องเข้ าใจเราทุกอย่าง หรอกนะ (ให้ พอคบได้ เพื่อให้ อยูอ่ ย่างฉันท์มิตรภายในห้ อง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เพียงนันก็ ้ พอแล้ ว ) แต่เพื่อนที่เราควรเลือกคบหา ก็คือ กลุม่ ญะมาอะฮฺ ที่เข้ าใจศาสนามากกว่า เพื่อ เรานันจะได้ ้ มีพลังอีหม่าน พลังความรู้ในการเผชิญกับบททดสอบต่างๆและนําความรู้ เหล่านัน้ มาแบ่งปั นและตักเตือนกับเพื่อนที่เค้ ายังไม่เข้ าใจศาสนาอีกมากมาย ท้ ายที่สดุ นี ้ ให้ พิจารณาและประกอบความเข้ าใจ จากสิง่ ที่นําเสนอมาทังหมดนี ้ ้ด้ วยกับฮะ ดีษหนึง่ ที่วา่ "พวกเจ้ าจงยึดมั่นอัล-ญะมาอะฮฺ และจงระวังการแตกแยกเพราะ แท้ จริง ชัยฏอนจะอยู่พร้ อมกับผู้ท่ อี ยู่คนเดียว และมันจะไกลกว่ าจากผู้ท่ อี ยู่ 2 คน และผู้ใด ต้ องการจะอยู่ตรงกลางของสวรรค์ ดังนัน้ เขาจงสังกัดอยู่ในญะมะอะฮฺ " (บันทึกโดย อิมามอะหฺมดั ) เศาะฮาบะฮฺอาวุโสคือ ท่านอับดุลลอฮฺบินมัสอูด ได้ กล่าวว่า " ญะมาอะฮฺ คือสิ่ง ที่สอดคล้ องกับสัจธรรม แม้ ท่านจะอยู่(บนสัจธรรมนัน้ )เพียงลาพังก็ตาม" (บันทึกโดย อัล-ลาลิกาอีย)์


24 และที่ทา่ นรอซูล(ซ.ล)กล่าวไว้ วา่ "พวกท่ านจงกัดแนวทางสุนนะฮฺ (ของท่าน นบีและบรรดาคุละฟาอฺ) ด้ วยฟั นกราม (หมายถึงให้ ปฏิบัติตามอย่ างจริงจัง) และพวก ท่านจงระวังกิจกรรมที่ประดิษฐ์ ขึ ้นใหม่ (ในศาสนา) แท้ จริ ง ทุกกิจกรรมที่ประดิษฐ์ ขึ ้นใหม่ใน ศาสนาถือเป็ นบิดอะฮฺ และทุกๆ บิดอะฮฺถือว่าหลงผิด " (บันทึกโดยอบูดาวูด) หะดีษข้ างต้ นบ่งชี ้ว่า ให้ มสุ ลิมทุกคนยึดมัน่ ต่อสุนนะฮฺของท่านนบีอย่างจริ งจัง ประหนึง่ กัดด้ วยฟั นกราม (กัดแล้ วอย่าปล่อย) หรื อการที่มสุ ลิมคนหนึง่ คนใด ปฏิบตั ิสงิ่ หนึง่ สิง่ ใดที่มาจากหลักคําสอนของอิสลาม คนๆนันก็ ้ อย่าได้ ละเลยและปล่อยวาง ละทิ ้งไป ถึงแม้ วา่ เค้ าเหล่านันจะถู ้ กทดสอบมากมายอย่างไรก็ตาม เพราะนัน่ คือสิง่ ที่มสุ ลิมต้ อง ปฏิบตั ิอย่างครบถ้ วน เพื่อเป็ นเสบียงหนึง่ ของการกลับไปสูพ่ ระองค์อลั ลอฮ (ซ.บ) วัลลอฮ ฮุอะลัม...... จงขอนะ ดุอาอ์ ขอให้ ม่ นั คงในศาสนา

ยามุก็อลลิบัลกุลูบ ษับบิต ก็อลบีย์ อะลา ดีนิก “ โอ้ ผ้ ทู รงเปลี่ยนแปลงหัวใจเอ๋ ย (หมายถึงพระองค์ อัลลอฮฺ) ขอพระองค์ ทรงโปรด ทาให้ หัวใจของฉันมั่นคงในศาสนาของพระองค์ ด้วยเถิด ”

อันใดที่ฉนั ได้ ห้าม ท่านก็จงออกห่างจากมัน และอันใดที่ฉนั สัง่ ให้ ทํา ก็จง ปฏิบตั เิ ท่าที่สามารถ แท้ จริงบรรดาที่พินาศไปก่อนหน้ าพวกท่านคือพวกที่ ถามมากและพวกที่ไม่เชื่อฟั ง …(บันทึกโดย บุคอรี -มุสลิม )


...วงกลม... >> blackjack ดื ้อดึง 11 รอมฏอน 1448 “ แท้ จริงบรรดาผู้ศรัทธานัน้ เป็ นพี่น้องกัน ดังนัน้ พวกเจ้ าจงไกล่ เกลี่ ย ประนีประนอมกันระหว่ างพี่น้องทัง้ สองฝ่ ายของพวกเจ้ า และจงยาเกรงอัลลอฮฺเถิด หวังว่ าพวกเจ้ าจะได้ รับความเมตตา ” (อัลฮุญรุ อต:10) “ อัสลามูอาลัยกุมวะเราะฮมาตุลเลาะฮิวะบารอกาตุฮครับ บังฟาฎิล ผมอัฟวานครับบัง อัลฮัมดุลลิ ละฮ อื ้ม..บังครับ ตังแต่ ้ ที่ผมเข้ าร่วมค่ายเยาวชนมุสลิมครัง้ นัน้ ชีวิตผมเปลีย่ นไป มากเลยครับ ผมเลิกสูบบุหรี่ เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกดูหนัง เลิกเล่นกีต้าร์ เลิกใส่ขาสันเวลาเตะ ้ บอล เลิดพูดโกหก เลิกแซวผู้หญิง เลิกไปโรงเรี ยนสาย ผมอยากบอกบังว่า ผมทําสิง่ ที่บงั สอน ได้ แล้ วครับ ผมรี บเร่งกับการละหมาด และผมยังละหมาดเป็ นญามาอะฮฺอีกครับ ผมใช้ เวลา ศึกษาอัลกุรอานมากขึ ้น ถือศิลอดสุนตั ทุกสัปดาห์ ใช้ ชีวิตกับพี่น้องมากขึ ้น ที่สาํ คัญนะครับ ผม เข้ าใจแล้ วว่า ญามาอะฮที่บงั สอนผมมันเป็ นอย่างไร ขอบคุณบังมากครับที่ชี ้ทางให้ ผม ที่ สําคัญผมไม่ลมื ตื่นมาสูํดุ กลางคืนเพื่อขอบคุณอัลลอฮที่ไม่เคยลืมบ่าวที่ตํ่าต้ อยอย่างผม บังครับ ตอนนี ้ผมได้ เป็ นอามีรชมรมครับ แต่มนั ไม่ใช่เป็ นตัวชี ้วัดอะไรเลยว่าผมเป็ นคนที่ ดีที่สดุ ตอนนี ้ผมมีความสุขกับงานดะวะฮที่นี่ครับ พี่น้องที่นี่ให้ ความสําคัญกับฮาลากอฮฺ เราใช้ วงกลมนี ้ ในการศึกษาอัลกุรอาน ฮาดิส สุนนะฮต่างๆของท่านบี เราปรึกษาเรื่ องเรี ยน ปั ญหาที่ ประสบและเราได้ ร้ ูจกั พี่น้องมากขึ ้นหลายสิบเท่าเลยครับ แล้ วบังล่ะครับเป็ นอย่างไรบ้ าง สบายดีรึเปล่าครับ ที่ ม.อ. หาดใหญ่เป็ นอย่างไรบ้ างครับ ที่นนั่ ต้ องดีกว่า ที่ ม.นเรศวร ร้ อยเท่า เลยใช่มยครั ั ้ บบัง ผมอิจฉาบังมากเลยครับ ที่บงั และพี่น้องที่นนั่ เข้ มแข็ง อย่างไรก็ตามครับ ผม และพี่น้องที่นเรศวร รอต้ อนรับการมาทําค่ายของบังอยูน่ ะ่ ครับ ขออัลลอฮฺตอบแทนบังและพี่ น้ องทุกคนครับ อัสลามูอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮฮิวาบารอกาตุฮ ”


“ บังฟาฎิล มีไปรษณีย์จาก ม.นเรศวร มาถึงค่ะบัง ตังไว้ ้ บนโต๊ ะอย่าลืมรับน่ะ ” “ อ่อ ญะซากิลลาฮครับ ” ผมเดินไปหยิบจดหมายฉบับนันที ้ ่สง่ มาจากแดนไกล มันคงทําหน้ าที่ ได้ อย่างทรหดน่าดู กว่าจะถึงมือผู้รับ ผมชื่นชมมันมาก เพราะมันมีความอดทน มากกว่าผม ร้ อยเท่าเลย “อัลฮัมดุลลิ ละฮ ยินดีกบั อัฟวานด้ วย ” ผมพึมพําภายใน ด้ วยความตื ้นตันใจ และดีใจกับการ เปลีย่ นแปลงของน้ องชายผู้ร่วมเตาฮีดคนนี ้ ผมมีสมาชิกนักรบแนวหน้ าเพิ่มขึ ้นมาอีกคนแล้ ว แต่ก็ได้ ดีใจไม่นานหรอก เมื่อกลับมามองคนรอบข้ าง ผมเสียใจที่ผมไม่สามารถทําให้ น้องชาย สายเลือดเดียวกับผมอีกหลายคนเป็ นอย่างอัฟวานได้ ทังที ้ ่เขาก็ผา่ นจุดเปลีย่ นและจุดเริ่ มต้ น แบบเดียวกัน ตอนนี ้ น้ องชายผมหลายคน ก็เปรี ยบได้ ดงั่ เช่น ต้ นไม้ ชนิดหนึง่ … “ มันถูกตัดต่อยีนจนผู้คน เรี ยกมันว่าพืช GMO อันว่าชื่อนี ้เปรี ยบดัง่ ความ(เกือบ)สมบูรณ์แบบ รู้แล้ วว่าต้ นพืชต้ นนี ้จะให้ อะไรแก่เรา เรากําหนดฤดูที่ต้องการในการออกผลของมัน รออย่างตังใจและมั ้ น่ ใจว่ามันต้ อง ออกลักษณะผล ตามที่เราออกแบบยีนหรื อที่มนั ผ่านการตัดต่อยีนออกมา สรุปคือเรามัน่ ใจแน่ ชัดว่าโอกาสที่มนั ต้ องให้ ผลแก่เราตามที่เราคาดหวังนัน้ ต้ องมีสงู ถึง 80-90% แต่เชื่อไหม มัน กลับไม่เป็ นอย่างนัน้ น้ องชายผมผ่านค่ายตัรบียะฮ การขัดเกลาครัง้ แล้ วครัง้ เล่า ผ่านนาซีฮตั ครัง้ แล้ วครัง้ เล่า และผ่านการสัตยาบันปกติสาํ หรับค่ายเยาวชนนักทํางานมุสลิม ว่าจะกลับมา ทํางานเพื่ออิสลาม แม้ วา่ งานที่ทําจะส่งผลถึงความสุขที่ตวั เองจะได้ รับก็ตาม นันคื ้ อเขาจะเสีย ความสุขที่คนทัว่ ไปจะได้ รับ แต่ผลตอบแทนที่อลั ลอฮฺจะให้ นนั ้ มากกว่านันแน่ ้ ” “ แล้ วผมจะทํายังไงดี ทําไมเยาวชนผู้ผา่ นหลัก การตัรบียะฮฺมาและสังคมต่างก็คาดหวัง กลับ ไม่อยากจะทํางานศาสนากัน หรื อเราแค่ทอ่ งหลักการทํางานอันยิ่งใหญ่เหล่านี ้เพียงแค่ให้ เป็ น แต่ลมปากที่จะจางหายออกไป อย่างไร้ จดุ หมายกันแน่นะ ” “ ไม่ต้องทําอะไรหรอกค่ะบัง ” ภรรยาผมพูดจบแล้ วเธอก็หนั มายิ ้มให้ กบั ผม พร้ อมกับยื่นอะไร บางอย่าง(มันคือหนังสือเล่มนัน)เพื ้ ่อให้ ผมหาคําตอบแก่ชีวิต…


ก็แค่น้าอัดลม...กระป๋องนั้น โดย..ใบไม้ ไหว หลังจากเรี ยนเสร็ จในเที่ยงของวันหนึง่ ผมก็ซื ้อข้ าวห่อมาทานที่ หอตามปกติ ที่สาํ คัญคือ ผมไม่ลมื เปิ ดโน๊ ตบุ๊คทิ ้งไว้ ระหว่างทานข้ าวผมก็ เล่นของผมไปเรื่ อยๆ เปิ ด you tube ฟั งอนาชีด freedom will come ของ Zain Bhikha (แต่ผมว่าถ่วงทํานองมันทะแม่งๆอยูน่ ะ) ผมดู mv แล้ วแอบ สลดไม่ได้ นี่หรื อสภาพของพี่น้องมุสลิมเราในอีกซีกโลกหนึง่ "ฟิ ลสั ฏีน" ดินแดนที่ไม่เคยเงียบสงบ ว่างเว้ นจากเสียงปื น ระเบิด และสงคราม สาม จังหวัดที่วา่ แน่เมื่อเจอแบบนี ้คงต้ องชิดซ้ าย มีที่ไหนเข้ ามาอาศัยในบ้ าน เค้ าแล้ วขับไล่เจ้ าของบ้ านออกจากบ้ าน คงมีแต่ที่นี่ "ฟิ ลสั ฏีน" แห่งเดียวใน โลก เมื่อพ่อผู้ที่ไม่สามารถทนดูความหิวโหยของผู้เป็ นที่รักได้ ก็ต้องออก จากบ้ าน ไปเผชิญกับอันตรายที่รออยูข่ ้ างนอกอย่างช่วยไม่ได้ ทังที ้ ่ร้ ูอยู่ เต็มอกว่าเมื่อออกไปแล้ ว โอกาสที่จะกลับเข้ ามาอีกครัง้ แทบเป็ นไปไม่ได้ เลย ศัตรูอิสลามรายล้ อมอยูท่ วั่ ทุกทิศ แต่ถึงอย่างไรเค้ าก็ต้องกลับไปที่นนั่ ให้ ได้ เพราะที่นนั่ เค้ า..ยังมีคนที่เฝ้ ารอ ด้ วยความหวัง หวังที่จะได้ อยู่ พร้ อมหน้ ากันอีกครัง้ แต่!ศัตรูอิสลามหาได้ คิดเช่นนันไม่ ้ พวกมันรอเวลาที่มสุ ลิม จะออกมาให้ มนั สังหารเล่นที่ละคน สองคน พวกมันเข้ าไปในมัสยิดระราน กระทัง่ ผู้ศรัทธาที่กําลังปฏิบตั ิภารกิจต่อพระเจ้ าของเขาอย่างไม่ร้ ูสกึ ผิด ซํ ้า ยังโจมตีสถานศึกษาอีกหลายแห่ง ถ้ ายังจํากันได้ ในวันที่ 27 ธันวาคม 2551 อิสราเอลเลือกที่จะยิงจรวดโจมตีฟิลสั ฏีนในช่วงเวลาหลังเลิกเรี ยน ผู้ปกครองและเด็กๆ กําลังเดินทางจะกลับบ้ าน เพียงแค่ช่วงเวลาสันๆภาพรอยยิ ้ ้มและเสียงหัวเราะเหล่านันก็ ้ ได้ กลายเป็ นอดีตไปเสียแล้ ว ร่างอันไร้ วิญญาณที่อยูใ่ นอ้ อมกอดของบิดาเต็มไปด้ วยนํ ้าข้ นสีแดง สด หากแต่ใบหน้ านันเปื ้ อ้ นด้ วยร้ อยยิ ้มอย่างเห็นได้ ชดั ที่เป็ นเช่นนันเพราะเด็ ้ กน้ อยต่างรู้ดีวา่


28 พระเจ้ าของเค้ าได้ เตรี ยมสิง่ ใดไว้ ให้ คงเหลือแต่ผ้ ทู ี่มีชีวิตรอดจากการถูกโจมตีในครัง้ นันและ ้ พวกเราที่ต้องทนทุกข์กบั สิง่ ที่ซยั ฏอนในร่างมนุษย์เป็ นผู้ยดั เยียดให้ เมื่อห้ าสิบปี ที่แล้ ว พี่น้อง ของเราต่อสู้กบั ยิวด้ วยก้ อนหินปั จจุบนั ผ่านไปแล้ วห้ าสิบปี พี่น้องของเราก็ยงั คงต่อสู้กบั ยิวด้ วย ก้ อนหิน หากแต่สองมือนันพกเพี ้ ยงก้ อนหินแต่จิตใจติดอาวุธแห่งความเชื่อมัน่ ด้ วยอิสลาม พร้ อมที่จะยืนหยัดประจันหน้ าต่อสู้กบั ความอยุติธรรมที่เกิดขึ ้น พอมาถึงตรงนี ้..หายใจเข้ าลึกๆ (แล้ วอย่าลืมหายใจออกด้ วยล่ะ) ผมมองสังคมรอบๆตัวผม สังคม ม.อ.ที่ผมอยูต่ อนนี ้ จนผม ต้ องย้ อนถามตัวผมเองอีกครัง้ ว่า "ผมตังใจมาทํ ้ าอะไรที่นี่.. ?" ใช่ครับ ผมมาศึกษาหาความารู้ เลือกเรี ยนในสิง่ ที่ผมชอบ ผมถนัด เพื่อว่าวันหนึง่ ผมจะได้ ทําประโยชน์แก่สงั คมมุสลิมที่ผมอยู่ ได้ บ้าง และแล้ ววันนี ้ วันที่ผมได้ เป็ นนักศึกษา ม .อ.เต็มตัว เนียตของผมก็เริ่ มสัน่ คลอน ผมชัก ไม่แน่ใจแล้ วว่าที่ผมทําตอนนี ้มันเพื่ออะไร ? อะไรที่ทําให้ ผมต้ องวิ่งตามกระแสญาฮีลยี ะฮฺที่ถา โถมเข้ ามาในทุกๆอิริยาบทของการใช้ ชีวิต? อะไรที่ทําให้ ผมละเลยจากการศึกษาอิสลามอย่าง จริ งจัง ทังที ้ ่เราเองก็มีต้นแบบที่เป็ นแบบแผนของการดําเนินชีวิต เรามีรอซูล ซอฮาบัต ตาบิอีน และบรรดาสลาฟุซซอลิฮฺอีกมากมายที่เป็ นแบบอย่างแก่เราและจะไม่ทําให้ เราหันเหออกนอก แนวทางอันเที่ยงตรงนี ้ หาได้ ใช่เฟอร์ นานโด ตอร์ เรส ,ทอม ครูซ ,แดเนียล แรดคลิฟ ไม่ คนพวก นี ้ไม่ใช่ต้นแบบแก่เยาวชนของเรา..ผมหวังให้ เป็ นเช่นนัน้ “ เฮ้..มุฮฺซินดืม่ น้าอัดลมนีห่ น่อยมัย๊ เราเห็นนายนัง่ เครี ยดหน้าจอคอมนานแล้วนะ มี อะไรหรื อป่ าว ” ว่าแล้ วเพื่อนผมคนนันก็ ้ ดงึ ฝานํ ้าอัดลมออก เผยให้ ได้ ยินเสียงซ่ากระเด็น ออกมาจากกระป๋ องนัน้ พร้ อมทังกระดกกระป๋ ้ องขึ ้นจรดริ ม ฝี ปาก “ อ่า..สดชื ่นจังเลย ลอง หน่อยมัย๊ เราวางไว้นีน่ ะ ” มันยื่นนํ ้าอัดลมกระป๋ องนันมาให้ ้ ผมส่ายหน้ าและหันมาสนใจในสิง่ ที่ผมกําลังทําให้ ผมลําบากใจ จะว่าไปแล้ วมุสลิมเราก็ทําตัวเหมือนนํ ้าอัดลมที่เพิ่งเปิ ดใหม่ๆ ซ่า เดี๋ยวเดียวก็หาย พอมีปัญหาครัง้ นึงก็ลกุ ฮือครัง้ นึง อย่างเรื่ องเดินขบวนประท้ วงสินค้ าบอยคอต การ์ ตนู ล้ อเลียนท่านศาสดา มุสลิมทัว่ โลกต่างออกมาประณามการกระทําดังกล่าวไม่เว้ น กระทัง่ มุสลิมในประเทศไทย ถ้ าเรายังจํากันได้ แต่พอนานเข้ าเรื่ องราวต่างๆก็หายเข้ ากลีบเมฆ ไอ้ ศตั รูอิสลามเอ๋ย ตอนนี ้พวกแกคงกําลังหัวเราะเยาะกับความอ่อนแอของประชาชาตินี ้อยู่ ใช่มยั๊ สะใจมากล่ะสิ แต่ขอบอกไว้ ก่อนนะว่า พวกแกมีเวลาหัวเราะได้ ไม่นานหรอก เพราะ


29 ตอนนี ้พวกเราเยาวชนมุสลิมกําลังเรี ยนรู้และเริ่ มศึกษาการทํางานเพื่ออิสลามอย่างจริ งจัง คาด ว่าอีกไม่นานชัยชนะของประชาชาตินี ้คงอยูไ่ ม่ไกลเกินเอื ้อม อินชาอัลลอฮฺ แน่นอนว่าทุกชีวิตที่ สูญเสียไปในทุกสมรภูมิเราไม่สามารถเรี ยกคืนกลับมาได้ แต่เราสามารถยกเกียรติของอิสลาม ให้ สงู ส่งขึ ้นได้ แทนทีจ่ ะถกเถียงกันเรื่ องประเด็นปลีกย่อย เรามาร่วมกันหาแนวทางให้ อิสลาม กลับมายิ่งใหญ่อีกครัง้ จะเป็ นไปได้ ไหมว่า ถ้ าเรามุสลิมรวมตัวกัน คุณจบแพทย์ก็ไปรักษาคน ป่ วย คุณจบเภสัชฯก็ไปจ่ายยา คุณจบวิทย์ก็ไปเป็ นนักวิทยาศาสตร์ คิดค้ นและนําเสนอสิง่ ที่ อิสลามได้ บอกไว้ ใน อัล-กุรอานแก่คนทัว่ ไป คุณจบทรัพย์จบ อก.ก็ไปแปรผลผลิตให้ ฮาลาล ส่วนคุณจบ....อะไรก็วา่ ไป อีกทังปั ้ จจุบนั มุสลิมก็เข้ าไปมีบทบาทในทุกๆวงการ เชื่อสิวา่ ถ้ าเรามี เป้าหมายเดียวกันแล้ ว การก่อตังรั้ ฐคิลาฟะฮฺขึ ้นบนหน้ าแผ่นดินนี ้คงไม่ใช่เรื่ องยากอีกต่อไป ที่ สําคัญไม่ต้องน้ อยใจนะว่าเราได้ ลงแรงกาย แรงใจไปตังมากมาย ้ แล้ วทําไมอิสลามยังไม่ กลับมารุ่งโรจน์ในยุคสมัยของเรา เพราะบรรดานักต่อสู้เพื่ออิสลามรุ่นที่ผา่ นมาก็จําต้ องจากดุน ยาไป ทังที ้ ่ไม่มีโอกาสได้ เห็นชัยชนะหรื อธงของอิสลามพลิ ้วไหวเหนือผืนดินนันเลย ้ ต่อแต่นี ้ภาพความเดือดร้ อนของพี่น้องเรา ความสูญเสีย เสียงร้ องที่ดงั ระงมไปทัว่ ทุกแดนดินจะไม่ใช่เสียงที่ไม่มีใครได้ ยินอีกต่อไป ทันทีที่พวกเรารู้ขา่ วพี่น้องเรา อินชาอัลลอฮฺ ถ้ าพระองค์ทรงประสงค์พวกเราจะรี บรุ ดไปยังที่นนั่ ทันที แต่ขอให้ ร้ ูไว้ เลยว่า “ เราไม่เคยลืม พวกเขา ในดุอาอฺของเราเลย ”และพวกเรายังหวังอีกว่า...ให้ พวกเราได้ พลีชีพในหนทางของ พระองค์ ขอให้ พวกเราได้ ลิ ้มรสความหอมหวานในสวนสวรรค์ของพระองค์ด้วยเถิด... “ มุฮฺซิน ยิ้ มไรของนายว่ะ เมื ่อกี ้ยงั เห็นหน้าเครี ยดๆอยู่เลย ท่าจะบ้าแล้วเพือ่ นเรา เร็ ว..ไปละหมาดซุฮฺรีกนั ” ใช่ผมลืมซะสนิทเลย ผมยังไม่ได้ ละหมาด ผมนี่มนั แย่จริ งๆ ขอสวน สวรรค์จากพระองค์แต่ตวั เองยังละเลยการงานที่พระองค์กําชับใช้ ให้ ปฏิบตั ิ ผมรี บห่อข้ าวไว้ ค่อยมากินต่อตอนละหมาดเสร็ จล่ะกัน พลันสายตาผมก็ไปสะดุดกับนํ ้าอัดลมกระป๋ องนัน่ เข้ า มันถูกวางไว้ บนโต๊ ะอย่างดีปริ มาณของมันยังเต็มเปี่ ยม หากแต่ตอนนี ้มันไม่สง่ เสียงซ่าออกมา ให้ ผมได้ ยินแล้ วเท่านัน้ ผมกลัวเหลือเกินว่าจะเหมือนคํากล่าวของท่านศาสดา ที่กล่าวว่า “ มุสลิมนันมี ้ มากเฉกเช่นฟองนํ ้าในมหาสมุทร เมื่อมีมากก็แตกสลายได้ ง่าย ” เมื่อคิดได้ เช่นนี ้ ผมก็ต้องรี บไปขออภัยโทษจากพระองค์ที่ผมลืมเวลาสําคัญ...ใช่แล้ ว !...ผมลืมนัดกับเพื่อนคน


30 หนึง่ ไว้ ป่ านนี ้มันคงบ่นถึงผมอยูแ่ น่เลย ไว้ คอ่ ยกลับมาละหมาดตอนเสร็ จธุระล่ะกันนะผมไป แป๊ ปเดียวเอง ผมคว้ านํ ้าอัดลมกระป๋ องนันมาดื ้ ่มพรวดแล้ วรี บวิ่งออกจากห้ องทันที พร้ อมทัง้ โยนสิง่ นันลงในถั ้ งขยะหน้ าหอ “ เฮ้ ย รอนานมัย๊ ว่ะ โทดที ” ผมยกมือขึ ้นทัก มีเพื่อนสองคนรอ ผมอยูท่ ี่นนั่ “ ไม่นานหรอก เอ่อ..เมื่อกี ้นายทิ ้งอะไรในถังขยะอ่ะ มุฮฺซิน ” “ อ้ อ ไม่มีอะไรหรอก ก็ แค่นํ ้าอัดลม...กระป๋ องอ่ะ ไม่มีไรสําคัญหรอก ไปกันได้ ยงั ล่ะ...” ผมพูดพลางหันไปมองสิง่ ที่ อยูใ่ นถังขยะใบนัน้ คนอย่างมุฮฺซินยังมีอีกมากในสังคมนี ้.. รู้ทงรู ั ้ ้ วา่ อะไรเป็ นอะไร แต่ก็ยงั คงประพฤติตวั แบบเดิม ไม่มีการเปลีย่ นแปลงไป ในทางที่ดีขึ ้น น่ากลัวนะ ถ้ ามีคนแบบนี ้มากๆในสังคมมุสลิมเรา “ โอ้ มฮุ มั หมัด..คนที่ร้ ูกบั ไม่ร้ ูนนเท่ ั ้ ากันหรื อ ? ” เป็ นดํารัสที่พระองค์อลั ลอฮฺได้ กล่าวแก่ทา่ นศาสดาคนสุดท้ าย พระองค์ได้ กําชับใช้ ให้ เราศึกษาหาความรู้อิสลามแล้ วนํามา ปฏิบตั ิในทุกอิริยาบทแห่งการใช้ ชีวิต แต่..ในโลกแห่งความเป็ นจริ งเราศึกษาอิสลามตังแต่ ้ เล็ก จนโต ทําไมไม่ทําให้ อิสลามซึมซับเข้ าไปในจิตใจ...ทําไมยังทําตัวเหมือนเดิม.. ทําไมยังปล่อยให้ เรื่ องศาสนามีการพูดถึงเฉพาะแต่ในมัสยิด กับคนแก่ๆ เท่านันหรื ้ อ.. ทําไมยังคงเห็นความทุกข์ยากของพี่น้องเป็ นเรื่ องที่ไกลตัว ทําไม ทําไม และทําไม ??? เสียงรํ่ าไห้ ร้องเรี ยกอยูท่ ี่นนั่ ดังระงมออกไปไกลทุกที ถูกแย่งชิงกดขี่และเหยียบยํ่า กล้ ากล่าวอ้ างว่านี่คือบ้ านของข้ า หากมุสลิมอยูแ่ ยกเป็ นก๊ กเหล่า จะยืนหยัดยิ่งใหญ่และกล้ าแกร่ง ตื่นขึ ้นเถิดเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพราะเธอคือหางเสือของเรื อใบ

พลันพัดผ่านแว่วมาถึงที่นี่ นัน่ มันเสียงพี่น้องเราร่วมศรัทธา มันรุกลํ ้าดินแดนแห่งสัญญา หมดปั ญญาปกป้องพี่น้องเรา เมื่อไหร่เล่าอิสลามจะเข้ มแข็ง จะส่องแสงเหมือนอรุณที่สดใส จงใส่ใจฟื น้ ฟูและแก้ ไข จะนําไป สูห่ นทางอันเที่ยงตรง


โดย… IbNu_jAbAl (ลูกแห่งขุนเขา)

ฝัน... เพราะว่าฝันทาให้ใครหลายคนมีวันนี้ เพราะว่าฝันทาให้หลายคนจับปากกาขึ้นมาขีดเขียน เพราะว่าฝันทาให้โลกของเรา ไม่เคยหยุดนิ่ง ยังจาเรื่องราวของนักล่าฝันคนนั้นได้ไหม

… มูฮมั หมัด บิน มูรอด อัลฟาติหฺ ผู้พิชิตคอนสแตนติโนเปิ ล ด้ วยกับความฝั นใน วัยเด็ก ความฝั นที่จะเป็ นบุรุษซึง่ ท่านนบีเคยให้ สญ ั ญาไว้ ท่านบิชร์ อัลเฆาะนะวีย์ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวาซัลลัม กล่าวว่า “ แท้ จริงกรุ งคอนสแตนติโนเปิ ลจะถูกพิชิตโดยพวกเจ้ า และแท้ จริงอะมีร (ผู้ บัญชาการ หรือ แม่ ทัพ) ที่ดีท่ สี ุด คืออะมีรที่สามารถพิชิตมันและแท้ จริงกอง ทหารที่ดีท่ สี ุดคือกองทหารของอะมีรนัน้ ” (ศอเหี๊ยะ อัล-บุคอรี ย์)


32 ฝั น..ครัง้ หนึง่ ท่ านอุมัร อิบนุล ค็อฏฏ๊ อบ ได้ ชกั ชวนมิตรสหายที่กําลังชุมนุม ณ ที่ บ้ านหลังหนึง่ โดยให้ แต่ละคนจินตนาการดูวา่ มีสงิ่ ใดที่พวกเขาใฝ่ ฝั นมากเป็ นพิเศษในขณะนัน้ หนึง่ ในจํานวนนันก็ ้ เอ่ยปากพูดว่า “ ข้ าอยากให้ บ้านหลังนี ้เต็มไปด้ วยก้ อนทอง เพื่อ ข้ าจะได้ ไปใช้ จ่ายในหนทางของอัลลอฮ ซุบฮานะฮุวะตะอาลา ” อีกคนหนึง่ รี บพูดว่า “ ข้ า อยากให้ บ้านหลังนี ้เต็มไปด้ วยเพชรพลอย เพื่อข้ าจะได้ ใปใช้ จ่ายในหนทางของอัลลอฮ ซุบฮา นะฮุวะตะอาลา ” พวกเขาเหล่านันใฝ่ ้ ฝั นอยากได้ โน่น อยากได้ นี่สารพัดอย่าง จนไม่ร้ ูจะใฝ่ ฝั น สิง่ ใดอีกต่อไป “ พวกเราไม่ร้ ูจะใฝ่ ฝั นอะไรอีกต่อไปแล้ ว โอ้ ...ท่านอมีรุลมุอฺมินีน ” จากนัน้ ท่านอุมรั อิบนุล ค็อฏฏ๊ อบ จึงแสดงความคิดเห็นของตน บ้ างว่า “ ข้ าใฝ่ ฝั นสิง่ อื่นที่ แตกต่างจากพวกเจ้ า ข้ าใฝ่ ฝั นที่อยากจะเห็นคนห นุ่ มสาวจานวนหนึ่ง ที่เปี่ ยมไปด้ วย พลังแห่ งความสามารถ เหมือนกับ ท่านอบูอบุ ยั ดะฮ อิบนุ อัล ญะฮฺรอฮฺ ท่านมุอาซ บิน ญับ บาล และท่าน ซาลิม เมาลา อบีฮซู ยั ฟะฮ เพื่อที่จะได้ มาเป็ นแรงหนุนให้ ข้าเผยแพร่ศาสนา ต่อไป ” โอ้ บรรดาผู้ครอบครองความเป็ นหนุม่ สาวทังหลาย ้ ท่านได้ ยินเสียงเรี ยกร้ องนัน่ ไหม เสียงเรี ยก จากผู้นําของผู้ศรัทธาคงเป็ นเพราะท่านเห็น ท่านรู้ถึงศักยภาพของเยาวชน ท่านฝั น และหวัง ให้ เยาวชนเป็ นพลังและผู้สานต่อภารกิจของศาสนาอิสลามในอนาคตแม้ วา่ ฝั นของท่าน จะ เกิดขึ ้นจริ งบ้ างแล้ ว ในหลายๆยุคที่ผา่ นมา ดัง่ ที่เราได้ เห็น ได้ ประจักษ์ ถึงกองกําลังที่เรี ยกร้ อง สูส่ จั ธรรม พวกเขาเหล่านัน้ ล้ วนรวมตัวมาจากคนหนุม่ สาว โอ้ บรรดาพลังแห่งประชาชาติ คงจะดีไม่น้อย ถ้ าพวกท่าน ฝั น … ที่จะเห็นฝั นของอุมรั เป็ น จริ งอีกครัง้ ในยุคของเรา... เพราะเงื่อนไขในการทําให้ ความฝั นเป็ นจริ งนัน้ คือการนําความฝั น เหล่านันมาปฏิ ้ บตั นันเอง… ้

“ มุสลิมจะได้ รับผลตอบแทนในทุกเรื่ อง แม้ แต่ในบททดสอบที่เขาประสบ แม้ แต่ในรองเท้ าที่ขาด หรื อแม้ แต่สิ่งของที่อยูใ่ นมือของเขาแล้ วหายไป ถึงแม้ ในที่สดุ เขาจะพบว่ามันอยูใ่ นกระเป๋ าของเขาเองก็ตาม ” …อบูบกั รฺ อัศ-ศิดดีก


บทสนทนา [ Bod-Son-Ta-Na ]

>> โต๊ะปาเก

ลาก่อนอามี ร ชมรมมุสลิม ม.อ.หาดใหญ่ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ อัลลอฮฺได้ให้โอกาสผมได้มาสัมภาษณ์และเรี ยนรู ้แนวคิดอามีรชมรมของเราปี นี้ (2552) นายกิฟ๊ ลัน ดอเลาะ ซึ่งถือได้วา่ หาตัวพบได้ยากมาก(เกือบจะสูญพันธ์แล้วล่ะ ล้อเล่นน่ะ เห็นเครี ยดๆกัน ไม่อยากให้มองศาสนาเป็ นเรื่ องเครี ยด) เพื่อไม่ให้เป็ นการเสี ยบริ สุทธิ์ (ใจ) ก็ขอ เริ่ มที่คาถามแรกเลยล่ะกันครับ Q : กับการเป็ นอามีรมาเกือบปี แล้ วประสบปัญหาอะไรบ้ าง ? Ans : ก่อนอื่นก็คงต้องเกริ่ นก่อนว่างานก็จะประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่ วนการสร้ างสรรค์ คือ คิดว่าเราจะทาอะไรยังไง และส่วนที่สองซึ่งก็ตามส่วนแรกมาเหมือนเงา ก็คืองานส่ วนแก้ ปัญหา ซึ่งปั ญหาเหล่านี้ก็จะคอยบัน่ ทอนส่วนแรกให้มีประสิ ทธิภาพที่ลดน้อยถอยลง ผมขอยืมคากล่าว หนึ่งซึ่งเป็ นคากล่าวของบุรุษที่เคยร่ ารวยทรัพย์สินมากที่สุดในโลก บิลล์ เก ตต์ ซึ่งหลังจากที่ ประสบความสาเร็ จในด้านธุรกิจ เขาก็พยายามที่จะอุทิศตัวเพื่อจะสร้างสรรค์สงั คม แล้วเขาก็ บอกว่าการอุทิศตัวของเขาในครั้งนี้ทาให้เขาได้พบกับสัจธรรมข้อหนึ่งนั้นคือ “สิ่งทีบ่ ั่นทอน ความเจริญหาใช่ ความห่ วงใยทีม่ ไี ม่ พอ หากเป็ นความซับซ้ อนทีม่ มี ากเกินไป” แปลให้ง่ายก็คือที่ จริ ง ไม่ ใช่ ว่าเราไม่ อยากทีจ่ ะทาอะไร แต่ ปัญหาคือทาไมพอเราเริ่มทามันแล้ วมีปัญหาผุดขึน้ เยอะแยะไปหมด ซึ่งมันค่อนข้างตรงกับความรู ้สึกของผมตอนนั้นมาก ซึ่งถ้าคิดอีกทางหนึ่งมัน ก็เป็ นสิ่ งที่ดี มันทาให้ตอ้ งลงทุนมากกว่าที่คิด ซึ่งแน่นอนว่าผลตอบแทนก็ยอ่ มมากกว่าที่คาด ทั้งหมดที่สาธยายไปนั้นก็เพื่อจะให้เราเข้าใจและเป็ นกาลังใจให้กบั พวกเราว่าจะทาอะไรมันก็ เจอกับปั ญหาทั้งนั้นแหละ แต่ถา้ จะให้ผมอธิบายเป็ นรู ปธรรม ปั ญหาที่ถือว่าใหญ่ที่สุดที่คอยบัน่ ทอนประสิ ทธิภาพกิจกรรมการงานทั้งหลาย ก็คงเป็ นเรื่องของความเข้ าใจ ทีไ่ ม่ สามารถจะสร้ าง


34 ให้ เป็ นเอกภาพได้ เท่ าทีค่ วร ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ ผลของงานก็จะได้ไม่เต็มร้อย อุปมาเหมือนมี วัตถุที่มีแรงกระทาต่อมัน รวมเท่ากับหนึ่งร้อย ถ้าทั้งหมดไปทางเดียวกัน แรงลัพธ์ก็จะเท่ากับ หนึ่งร้อย แต่ถา้ แบ่งเป็ นสองทาง อย่างละห้าสิ บ ไปคนละทางแรงลัพธ์ก็จะลดน้อยถ่อยลง ยิง่ แบ่งเยอะมากเท่าไรแรงลัพธ์ก็จะยิง่ ลดลงไปเรื่ อยๆ Q : คิดว่ าอะไรคือความรับผิดชอบของนักศึกษามุสลิมต่ อสั งคมอิสลาม ? Ans : มีบทเรี ยนหนึ่งที่เป็ นบทเรี ยนจากอิสลามที่น่าสนใจสาหรับผูท้ ี่เป็ นมุสลิมควรเก็บเอามา คิด นั้นคือบทเรี ยนจากการลงโทษด้วยบาลา(ภัย)จากอัลลอฮฺ ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจคือ การลงบาลา จะลงครอบคลุมผูท้ ี่เกี่ยวข้องถึงแม้อาจจะไม่ใช่ผทู ้ ี่กระทาสิ่ งที่ชวั่ ร้ายก็ตาม ผมว่าสิ่ งที่เราได้จาก หลักการข้อนี้คือ อิสลามพยายามจะบอกเราว่า ความตกต่าความชัว่ ช้าที่เกิดขึ้นรอบๆตัวคุณนั้น มันเป็ นความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องหาวิธีที่จะจัดการกับมัน ถึงแม้วา่ ลูกหลาน หรื อว่าพี่ น้องของคุณจะยังสุขสบายดีก็ตาม ผมอยากจะให้พวกเราโดยเฉพาะหมู่นกั ศึกษาอยากให้เราเก็บ เอาปั ญหาทุกปั ญหารอบตัวเรามาเป็ นปั ญหาของเรา และทุ่มเทแรงกาย แรงใจ แรงคิด เพื่อแก้มนั ผมว่าอิสลามสอน อย่า งนั้นนะ ผมคิดว่ ามีโจทย์ หลายข้ อทีน่ ่ าสนใจสาหรับพวกเราทีจ่ ะหา คาตอบ มากกว่ าข้ อสอบทีเ่ ราทุ่มเทแรงกาย ใจ เกือบทั้งหมด ให้ กบั มันอยู่ ณ ตอนนี้ อยากให้ พวกเราลองหาคาตอบกับคาถามที่วา่ ทาไมมุสลิมในสามจังหวัดถึงติดยาเสพย์ติดกันมากมาย เรื่ อยมา โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แล้วเราจะจัดการกับมันยังไง ทาไมมุสลิมแถวบ้านเราถึงเป็ น โรคเอดส์กนั เยอะแยะมากมายซึ่งอันที่จริ งมันน่าจะเป็ นไปในทางตรงกันข้าม แล้วเราจะจัดการ กับมันยังไง ทาไมวิกฤตการณ์ทางด้านสุขภาพ มนุษยธรรมไม่วา่ จะเป็ นภาวะการขาดสารอาหาร ติดโรคร้ายในระดับโลกถึงเกิดกับมุสลิมเป็ นส่วนใหญ่ แล้วเราจะจัดการกับมันยังไง และอื่นๆ อีกมากมาย ผมว่านี้แหละความรับผิดชอบของเรา มันไม่ได้เล็กน้อยเลย Q : ปัญหาทีค ่ ุณหนักใจและอยากแก้ไขมากทีส่ ุ ด ? Ans : อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วในข้างต้นว่า สาหรับคนที่เป็ นมุสลิมนั้นความรับผิดชอบของเขา มากมายยิง่ นัก แต่ผมว่าสิ่ งที่สาคัญ คือการเตรี ยมบุคลากรให้พร้อม เพื่อไปประสบและจัดการ


35 กับปั ญหาเหล่านั้น ผมว่า ณ ตอนนี้เรามีบุคลากรที่เป็ นมุสลิมครบเกือบทุกด้านแล้วแต่ปัญหาคือ เขาเหล่านั้นหายไปไหน นั้นแหละคือสิ่ งที่ผมและคิดว่าอีกหลายๆคนก็คงหนักใจเช่นกัน ผมว่า หน้าที่ของนักทางานโดยเฉพาะในหมู่นกั ศึกษาจะต้องทาเป็ นวาระเร่ งด่วนคือ เราจะทายังไงให้ บรรดานักศึกษามุสลิมทีพ่ ร้ อมจะเป็ นกาลังหลักในอนาคตเมือ่ จบออกไป มีแนวคิดอิสลาม เห็น ความตกตา่ และปัญหาต่ างๆเป็ นความรับผิดชอบของเขาทีจ่ ะต้ องไปจัดการ ณ ตอนนี้ส่วนตัวผม คิดว่าเราจะต้องเติมเต็มในส่วนของคุณภาพ มากกว่าปริ มาณ Q : หลังจากนีค ้ ุณจะทาอะไรต่ อ เห็นว่ าใกล้สอบ NT (สอบใบประกอบ

วิชาชีพ) เตรียมตัวถึงไหนแล้วครับ ? Ans : อินชาอัลลอฮฺครับ ปี หน้าขึ้นปี สี่ ก็จะต้องให้เวลากับการเรี ยนมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ พยายามจะเตือนตัวเองตลอดว่า สาหรับมุสลิมแล้วความรับผิดชอบของเขามากมาย แน่นอนว่า ต้องมากกว่าการเรี ยนหนังสื อ(ซึ่งก็เป็ นความรับผิดชอบหลัก) โดยเฉพาะในช่วงที่ยงั ถือสถานะ หนุ่มสาวในอิสลาม อะไรที่เป็ นความรับผิดชอบของเรา แล้วเราจะทาอะไรกับมัน ส่วนในเรื่ อง ของการสอบก็คงต้อง กล่าว ญะซากัลลอฮฺ สาหรับความห่วงใหญ่จากพี่นอ้ งทั้งหลาย สาหรับ คาถามว่าเตรี ยมตัวถึงไหนก็ไม่รู้วา่ จะตอบยังไงดี แต่ก็ฝากพี่นอ้ งดุอาให้ดว้ ยล่ะกันครับ อิน ชาอัลลอฮฺ Q : อยากจะฝากอะไรถึงพีน ่ ้ องมุสลิมใน ม.อ.ของเราครับ ? Ans : ฝากสาหรับพี่นอ้ งมุสลิมทุกคน แล้วก็ตวั ผมเองด้วยว่า “อย่ าอยู่เฉย”

นอนตาแหน่ งอามีรในวันนีข้ องเขานั้น คือหน้ าที่ที่เขาได้ รับ ณ ตอนนี ้ “เท่าและแน่ นั้น ณ ขณะที่เขาก็ยงั คงมีหน้ าที่เช่ นเดียวกันกับพวกเราทุกคน คือการเป็ น

ตัวแทนของพระเจ้ า คือผู้ที่พระเจ้ ายืมมาเพื่อที่จะทางานให้ พระองค์ ในโลกแห่ งนี ้ หากพวกเราไม่ เคยคิดจะตอบรั บหน้ าที่นี้ พระองค์ นั้น ก็ไม่ ได้ เสี ยเปรี ยบหรื อ สูญเสี ยสิ่ งใดๆ หรอก นอกเสี ยแต่ ว่า พระองค์ ได้ สูญเสี ยบ่ าวคนหนึ่ง ที่พระองค์ ประสงค์ อย่ างยิ่งยวดบนตัวเขาสาหรั บสวนสวรรค์ แต่ เขาเองที่กลับปฏิ เสธมัน…


กาแฟในสวนยาง อิบรอฮีม ผมกําลังนัง่ จิบกาแฟ ในร้ านที่มีเจ้ าของร้ านเป็ นชายหนุม่ เครายาว เขาสารภาพมาว่าร้ านนี ้ขายไม่ดีเลย ต่างจากร้ านอื่นๆ ในบริเวณนี ้... ผมกระดกถ้ วยขึ ้นมาดื่มอึกสุดท้ าย เหลือเพียงคราบกาแฟที่ขอบถ้ วย เป็ นรอยปากของผมเอง ในแก้ วว่างเปล่า เช่นเดียวกับร้ านที่วา่ งจากผู้คน หนุม่ เครายาวเจ้ าของร้ าน ยื่นกาแฟถ้ วยใหม่ รสใหม่ ให้ ผมลองดื่มชิม "ญาซากัลลอฮฺ" "อยากให้ ลองชิมดู รสใหม่ของร้ านครับ" "อืม..กลิ่มหอมมาก ผมชอบลายครี มที่ลอยอยูบ่ นกาแฟ" "ผมตังใจทํ ้ ามากครับ เพราะเป็ นแก้ วสุดท้ ายของผมกับร้ านนี ้" "คุณหมายความว่าไง..." "ผมจะเซ้ งร้ านนี ้ ไปหางานอื่นทํา" "ทําไมล่ะ" "เพราะขายไม่ดี" ผมไม่กล้ าถามเซ้ าซี ้เขามากกว่านี ้ ได้ แต่แปลกใจว่าทําไมถึงขายไม่ได้ ทังๆ ้ ที่ยา่ นนี ้เป็ นย่านที่ขึ ้นชื่อที่สดุ ในด้ านกาแฟของประเทศ


ผมจึงได้ แต่สอดสายตาไปมองร้ านอื่นๆในละแวกใกล้ เคียง ก็มีผ้ คู นนัง่ ดื่มกันเต็ม จนโต๊ ะไม่วา่ ง ซึง่ ต่างจากร้ านที่ผมนัง่ ดื่มอยู่ ที่โต๊ ะเต็ม แต่วา่ งจากผู้คนเข้ ามานัง่ ดื่ม สายตาผมยังทอดไปยังร้ านบริเวณนี ้ มีร้านหนึง่ ที่ผมเห็นบรรยากาศข้ างในได้ ชดั เจน เป็ นร้ านที่มืดสลัว หนุม่ สาวนัง่ คุยกันอย่างเฮฮา อีกโต๊ ะข้ างๆ เป็ นชายล้ วน นัง่ คีบบุหรี่ สลับยกถ้ วยขึ ้นดื่ม ถัดจากโต๊ ะหนุม่ ล้ วน ก็เป็ นโต๊ ะของหญิงล้ วนที่นา่ รักด้ วยชุดแต่งกาย (ที่เหมือนไม่แต่งกาย) เพลงฮิตติดชาร์ ตยังคงกล่อมเหล่านักดื่ม อย่างมีความสุข ร้ านที่จะให้ ขายดีต้องเปิ ดเพลง (แม้ วา่ ศาสนาจะห้ าม) ร้ านที่จะให้ ขายดีต้องอย่ามีป้ายว่า "ห้ ามสูบบุหรี่ " ร้ านที่จะให้ ขายดีต้องมีหญิงสาวสวยๆ มาเสิร์ฟ หรื อว่าเป็ นความจริง ที่ จะให้ ร้านขายดีจําเป็ นต้ องมีของฮารอม ผมกระดกถ้ วยขึ ้นมาดื่มอึกสุดท้ าย เหลือเพียงคราบกาแฟที่ขอบถ้ วย เป็ นรอยปากของผมเอง ในแก้ วว่างเปล่า เช่นเดียวกับร้ านที่วา่ งจากผู้คน หนุม่ เครายาวเจ้ าของร้ าน ยื่นกาแฟถ้ วยใหม่ รสใหม่ ให้ ผมลองดื่มชิม "ญาซากัลลอฮฺ" "อยากให้ ลองชิม รสใหม่ของร้ านครับ" "อืม..กลิ่มหอมมาก ผมชอบลายครี มที่ลอยอยูบ่ นกาแฟ" "ผมตังใจทํ ้ ามากครับ เพราะเป็ นแก้ วสุดท้ ายของผมกับร้ านนี ้" "คุณหมายความว่าไง..." "ผมจะเซ้ งร้ านนี ้ ไปหางานอื่นทํา" "ทําไมไม่ขายต่อ" "เพราะขายไม่ดี จะกลับไปตัดยางที่บ้านเกิด " …



จาก… อุสตาสท่านหนึ่ง


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.