ฝ่าวิกฤติประเทศไทยด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

Page 1

ฝ่าวิกฤติประเทศไทย

ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ คาตักเตือนและจุดยืนของอิสลามต่อสถานการณ์บ้านเมือง ในประเทศ สาหรับมุสลิมและคนไทยทุกคนในห้วงเวลานี้ โดย ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี อับดุลเอาว์วัล สิดิ ถอดความจากภาษามลายู อายะฮฺ บิน อุมัร เรียบเรียง



สารบัญ : ฝ่ าวิกฤติประเทศไทยด้ วยหั วใจที่ บริ สุทธิ์ ………………...…......................……4 แถลงการณ์ : กรณี วิกฤติความขัดแย้ งทางการเมืองในประเทศไทย.……........11


ฝ่าวิกฤติประเทศไทยด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ ส่วนหนึ่งจากบรรยายธรรมประจาสัปดาห์ (มัญลิสอิลมีย์) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556, ปารามิแต ยะลา โดย ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี อับดุลเอาว์วัล สิดิ ถอดความจากภาษามลายู / อายะฮฺ บิน อุมัร เรียบเรียง

วิถีแห่งการตักเตือนนั้นสวยงามเสมอ ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปราณีผู้ทรงเมตตาเสมอ มวลการสรรเสริญล้วนเป็น กรรมสิทธิ์ของพระองค์ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติจงมีแด่มูฮัมหมัด ศาสน ฑูตของพระเจ้าผู้ได้รับบัญชาจากพระเจ้าที่มีเกียรติ ขอความสันติจงมีแด่วงศ์วานของ ท่าน และบรรดาสหายของท่านทั้งหมด... ศาสนาคือการนะศีหะฮฺ (การตักเตือน) นะศีหะฮฺคือหน้าที่ของมุสลิม ท่านศาสน ทูตรับรองว่าศาสนานั้น คือการตักเตือ นกัน ดัง นั้นเมื่อ ไม่มีการตักตือ น แน่น อนความ หายนะย่อมเกิดขึ้นแก่คนคนนั้น ทั้งความหายนะในโลกนี้และในโลกหน้า เพราะเหตุนี้ แหละการการตักเตือนจึงเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคน ซึ่งสิ่งนี้ฉันได้เขียนอธิบายไว้แล้วใน หนังสือ “การนะศีหะฮฺคือจิตวิญญาณของการเป็นอุมมะฮฺวาหิดะฮฺ (ประชาชาติ เดียวกัน)” เป้าหมายของอุมมะฮฺวาหิดะฮฺนั้น คือการที่จะเผยแผ่ความเมตตาสู่โลกทั้ง ผอง ไม่ใช่เพื่อที่จะรวมตัวพวกเราเอาไว้เพื่อไปรังแกคนอื่น หาใช่เช่นนั้นไม่ แต่ทว่าการ เป็น อุมมะฮฺว าหิด ะฮฺนั้ น คื อการสร้ างพลัง ของพวกเราเพื่อ ที่จะสามารถเผยแผ่ค วาม เมตตาสู่โลกทั้งมวล นี่คือสิ่งที่สาคัญที่สุด ขอให้พวกเราอย่าได้ลืมในสิ่งนี้ การรวมตัวของ เรานั้นคือการรวมตัวบนหลักการแห่งความเมตตาของพระเจ้า ไม่ใช่การรวมตัวเพื่อที่จะ เบียดเบียนรังแกผู้อื่น ดังนั้นในเวลานี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราจะทาการตักเตือนแก่ บรรดาผู้นามุสลิมและบรรดาผู้นาในประเทศของเรา เพื่อให้เกิดความสอดคล้องตามคา


ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา : 5

สอนของท่านนบี (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ที่ว่า “การนะศีหะฮฺเพื่ออัลลอฮฺ เราะซูล ของพระองค์ แด่บรรดาผู้นามุสลิม และประชาชนมุสลิมทั้งหมด” “ความสันติคือสิ่งทีด่ ีเลิศทีส่ ุด” (อัลกุรอานได้บอกไว้) ‘อัศศุลห์’ คือ ความสันติ มาเถิดเรามาคิดด้วยวิธีการที่ดี จงอย่าได้เป็นคนที่ก้าวร้าวถึงแม้ว่าสิ่งที่เราคิดจะถูกต้องก็ ตาม เราในฐานะมุสลิมเราต้องมีจุดยืนในสิ่งที่กาลังเกิดขึ้น สิ่งที่กาลังเกิดขึ้นบนโลกนี้ สิ่ง ที่กาลังเกิดขึ้นในประเทศของเรา และกาลังเริ่มลุกลามถึงจังหวัดต่างๆของเรา ถ้าหากเรา ไม่ช่วยกันยับยั้ง ช่วยกันหาทางออก แน่นอนการลงโทษจากพระเจ้าจะทาให้เราได้ลิ้มรส สิ่งที่เกิดขึ้นไปพร้อมกั บกลุ่มคนที่ถูกลงโทษ ความโกลาหลวุ่นวายที่กาลังเกิดขึ้นในวันนี้ เป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้วว่ามันคือ มุศีบะฮฺ (บททดสอบ) ที่จะเป็นผลให้เกิดการลงโทษจากพระ เจ้าต่างๆนานา ดังที่อัลลอฮฺได้ดารัสไว้ในอัลกุรอานความว่า “และพวกเจ้าจงเฝ้าระวัง การลงโทษ ซึ่งมันจะไม่ประสบแก่บรรดาผู้อธรรมในหมู่พวกเจ้าเพียงเท่านั้น และ จงรู้เถิดว่าอัลลอฮฺคือผู้ที่รุนแรงในการลงโทษ” (อัลอันฟาล อายะห์ที่ ๒๕) ฉันจึงใคร่ขอกล่าวให้เราทุกคนได้ราลึกถึงต่อตัวเอง ต่อพี่น้องทุกคน ต่อครูบา อาจารย์ นั กวิชาการ นักเรี ยน นั กศึกษา ผู้น ามุสลิ มทุกคนให้เ ฝ้าระวังความโกลาหล วุ่นวายในขณะนี้ ไม่มีข้อสงสัยใดๆว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือฟิตนะฮฺ (ความโกลาหลวุ่นวาย) ที่จะ นาพาการลงโทษของพระเจ้าตามมา ถ้าเราไม่ร่วมกันหยุดยั้งถ้าเราไม่ร่วมกันจากัดการ เจริญเติบโตของมัน มันจะค่อยๆเติบโตลุกลามขยายผลออกไปในวงกว้างได้ ในความคิดเห็นของฉันในเวลานี้ ผู้ที่จะทาการตักเตือนสติของผู้คนให้เข้าใจถึง ความหายนะที่จะเกิดขึ้นได้ดีที่สุดก็คือมุสลิม พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย เรามาร่วมกันเจรจา มาร่วมกันตักเตือนพูดคุยหาทางออกด้วยกันเถิด มาช่วยกันหาทางออก อย่าให้เกิดทาง ตันที่นาไปสู่สภาพที่ไร้ทางออกจนทาให้เกิดความวุ่นวายปะทุขึ้นมาที่ใครก็ไม่อาจจะหลีก หนีได้ เพราะว่าการลงโทษของพระเจ้าที่จะตามมานั้นมันจะไม่โดนเฉพาะเพียงแค่กลุ่ม คนที่เดินออกไป (ประท้วง) เท่านั้น แต่มันจะโดนพวกเราทุกคนที่อาศัยร่วมชายคาอยู่ใน ประเทศเดียวกันนี้


6 : ฝ่าวิกฤตประเทศไทยด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

จงออกมาคุ้มครองความดีงามอันสูงสุดกันเถิด เรานั้นไม่มีความต้องการที่จะเลือกข้างใดข้างหนึ่ง แต่เราต้องการที่จะคุ้มครอง ความดีงาม ที่ตรงไหนมีความดีงาม เราก็ต้องคุ้มครองรักษาความดีงามนั้นไว้ อะไรที่ไม่ดี เราก็อย่าไปยึดติดกับมัน สิ่งที่ดีเราก็ต้องรักษาให้มันดารงอยู่ไว้ แต่การคุ้มครองของเรา นั้นต้องไม่ใช้วิธีการที่ให้เกิดการนองเลือด การรักษาสิ่งที่ดีงามต้องไม่ให้เกิดการนองเลือด ดังเช่นเราทาการห้ามปรามความชั่ว ท่านศาสนทูตกล่าวว่า “ใครก็ตามในหมู่พวกเจ้า เห็ น สิ่ ง ที่ มิ ช อบก็จ งเปลี่ ย นแปลงมั น ด้ ว ยมื อ (อ านาจ) ของเขา ถ้ า หากเขาไม่ สามารถทามันได้ก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยลิ้นของเขา ถ้าหากเขาไม่สามารถก็จง เปลี่ ย นแปลงมั น ด้ ว ยใจของเขา และสิ่ ง สุ ด ท้ า ยคื อ ระดั บ ที่ อ่ อ นแอที่ สุ ด ของ ศรัทธา” การตักเตือนกันในที่นี้มีอีกความหมายหนึ่งคือความบริสุทธิ์ใจ ก็เพราะไร้ความ บริสุทธิ์ใจ เหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้จึงได้เกิดขึ้น วิธีการที่ดีงามจึงไม่ปรากฏให้เห็น เรา เห็นแต่การด่าทอไปมาระหว่างกันเท่านั้น ฝ่ายหนึ่งก็ด่าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเสียหาย อีกฝ่าย หนึ่งก็ด่าอีกฝ่ายหนึ่งให้เสียหายไปตามๆกัน ศาสนาอิสลามนั้น ปฏิเสธพฤติกรรมหรือการ กระทาเช่นเหล่าทั้งหมด ไม่วามาจากฝ่ายใดก็ตาม ใครไปด่าทอใคร อิสลามไม่สนับสนุน การกระทาดังกล่าวนั้น ใครก็ตามที่กล่าวร้ายด่าทอให้คนอื่นเสียหาย อิสลามจะไม่ สนับสนุน ใครก็ตามที่ทาให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายอิสลามไม่สนับสนุน ใครก็ ตามที่ยุยงให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทะเลาะกันจนเกิดความวุ่นวาย อิสลามไม่สนับสนุน อิ ส ลามสนั บ สนุ น เฉพาะการท าสิ่ ง ที่ ดี ง ามอย่ า งเดี ย วเท่ า นั้ น จิ ต ใจที่ ส ะอาด บริสุทธิ์ การกระทาที่สะอาดบริสุทธิ์ ภาษาที่บริสุทธิ์ มารยาทที่ดี การใช้ภาษาที่ นิ่มนวล นั่นคืออิสลาม ไม่ใช่การไปร่วมกันด่าทอคนโน้นคนนี้ ถึงขั้นที่มีนักวิชาการ ศาสนาขึ้นไปด่าทอคนโน้นคนนี้ สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่อิสลามและอิสลามก็ไม่เกี่ ยวข้องใดๆ จากสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องประชาชนมุสลิมที่เข้าร่วมการชุมนุมทุกท่านจงระวัง รักษาความดีงามเอาไว้ ถ้าหากท่านต้องการที่จะเข้าร่วมการชุมนุมก็ขอให้ชุมนุมบน


ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา : 7

พื้นฐานของการตักเตือนซึ่งกันและกัน จงอย่าได้ไปว่าด่าทออีกฝ่าย เพราะพระเจ้าของเรา ทรงห้ามเราไม่ให้เราด่าทอว่าร้ายฝ่ายตรงข้าม ถึงแม้เขาจะเป็นคนไม่ดี ไม่เรียบร้อยเราก็ จะไปด่าทอเขาไม่ได้ เราในฐานะมุสลิมผู้ศรัทธา อย่าได้ไปร่วมกิจกรรมการด่าทอผู้อื่นเลย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเราเห็นสตรีจานวนมากที่เข้าข้างฝ่ายนู้นเข้าข้างฝ่ายนี้ แล้วก็ช่วยกันด่าทอว่าร้าย ระหว่างกัน พากันโห่ร้องเต้นรา ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อิสลามไม่อนุญาตทั้งสิ้น ถ้า จะเข้าไปเพื่อไกล่เกลี่ย ถ้าจะเข้าไปด้วยความบริสุทธิ์ใจในการตักเตือน บอกว่าเราอย่า ทะเลาะกัน เรามาพูดคุยเจรจากันดีๆ มาคุยกันว่าเราต้องการอะไรกัน อันนั้นทาได้ นี่คื อ สิ่งที่อิสลามสอน เพราะด้ วยการเจรจาด้วยค าพูดที่ นิ่มนวลในการตักเตื อนจะให้เกิ ด ความหวังให้อีกฝ่ายเกิดจิตสานึกและคิดใคร่ครวญหรืออาจจะทาให้เขายาเกรงต่ออัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) ลองดูสิ สิ่งที่อัลลอฮฺสอนเรา พระองค์สอนให้ศาสนทูตและผู้ ศรัทธาทั้งหลายเวลาที่จะเผชิ ญหน้ากับความชั่วร้ายให้เผชิญหน้าด้วยความสุภาพ ต้อง เผชิญหน้าด้วยความนิ่มนวล พบปะผู้คนด้วยใบหน้าที่ยิ้ม แย้มแจ่มใส เราไม่ต้องการเห็น ภาพของความแข็งกระด้างของจิตใจ ด้วยเหตุเช่นนี้ขอให้ทุกคนระวังรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ ด้วยความหวังที่ว่าจะให้เกิดจิตสานึกในบุคคลที่ เราตักเตือน เพื่อให้เขานั้น ได้ ราลึกถึงตัวตนและให้เขาได้ใช้สติปัญญาที่ดี เมื่อเขาราลึกถึงตัวตนของเขาได้ เขาก็จะใช้ สติปัญญาในทางที่ดี และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นก็จะนาพาทั้งหมดสู่จุดจบที่ลงเอยด้วยดี แต่ถ้า หากเป็นการใช้วิธีการที่ใช้อารมณ์อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้ ขอให้เข้าใจว่ามันกาลังถึงจุด อันตรายมากๆ ความอันตรายของมันนั้นใหญ่หลวง ถ้าหากว่าเราเป็นคนมุสลิมด้วยกัน เราต้องเรียกร้องให้ทุกฝ่ายกลับสู่แนวทางของอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ อัลลอฮฺ ตรัสว่า “ถ้าหากผู้ศรัทธาสองกลุ่มเกิดการทะเลาะวิวาทกัน จงไกล่เกลี่ยระหว่างทั้ง สองให้เกิดความสันติระหว่างกัน แต่ถ้าหากว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดละเมิดต่ออีกฝ่าย หนึ่ง ก็จงบีบบังคับฝ่ายที่ละเมิดจนกระทั่งกลับเข้าสู่การยอมจานนต่อพระบัญชา ของอัลลอฮฺ และถ้าหากยอมจานนแล้ว ก็จงไกล่เกลี่ยระหว่างทั้งสองด้วยความ


8 : ฝ่าวิกฤตประเทศไทยด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

ยุติธรรม และจงผดุงความยุติธรรมไว้เพราะอัลลอฮฺนั้นรักบรรดาผู้ที่ยุติธรรม” (อัลฮูญุรอต อายะห์ที่ ๙) อิสลามสั่งใช้ให้เรานั้นสันติต่อกัน เจรจาต่อกัน อิสลามสั่งใช้ให้เรามาร่วมกัน หาทางออก ไม่ใช่ช่วยกันใส่ฟืนเชื้อเพลิงในไฟที่เผาผลาญระหว่างทั้งสองฝ่าย โอ้มุสลิม ทั้งหลายจงอย่าได้ไปเพิ่มเชื้อเพลิงให้ไฟทางโน้นให้ไฟทางนี้ยิ่งเผาไหม้รุนแรง อย่าเถิด อย่าได้ทาเลย โอ้พี่น้องชาวไทย พวกท่านก็เช่นกันจงอย่าได้ไปเพิ่มเติมเชื้อเพลิงให้ไฟที่ กาลังจะเผาผลาญทั้งสองฝ่าย จงห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้ให้มากที่สุด ประเทศชาติจะล่มจมก็เพราะคนไม่ดีและคนที่ไม่ห้ามปรามสิ่งที่ไม่ดี วันนี้เราได้ยินว่ามีเสียงเรียกร้องสู่ประชาธิปไตย ก็เอาประชาธิปไตยมาเป็นตัว ตั้งสิ จะตีความอย่างไรก็ค่อยว่ากันไปได้ โอ้พี่น้องชาวไทยขอให้พวกท่านตระหนักต่อ หลักการประชาธิปไตยที่พวกท่านยึดถือกันเถิด เราในฐานะมุสลิม เราต้องนาไปสู่การ ยอมจ านนต่ อหลัก การที่ อัลลอฮฺได้บั ญญั ติไว้ อัลกุร อานว่ าอย่า งไร ท่า นศาสนทู ตว่ า อย่างไร อันนั้นคือสิ่งที่เรายึดถือ กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่สาคัญคือ การเจรจาและการ พูดคุย มาพูดคุย มานั่งใช้สติปัญญา จงอย่าได้ใช้อารมณ์ อารมณ์คือ ชัยฏอน (มารร้าย) ถ้าทั้งสองฝ่ายใช้อารมณ์ แน่นอนไฟต้องลุกไหม้ ไม่มี ทางอื่นที่จะเป็น ทางออกได้ และไฟนี้มันอาจจะบานปลายทาลายพวกเรา (คนอื่นๆ) ที่อาศัยอยู่ ในประเทศนี้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการตักเตือนกันถือเป็นสิ่งวาญิบ (จาเป็นต้องทา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้) โอ้สื่อมวลชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ หรือโทรทัศน์ ฯลฯ จงตื่นเถิด ตื่นเพื่อการตักเตือน เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถหาทางออกได้ อย่าให้ถึงวิกฤติจนไม่สามารถหาทางออกได้ พี่น้อ งที่รั กทุก ท่า น ฉั นมาตัก เตือ นเพื่ อจะได้ ช่วยกัน หาทางออก เพื่ อการอยู่ ด้วยกันในประเทศของเรา เราต้องการที่จะขออภัยโทษจากพระเจ้าของเรานั่นเอง และ บางทีพวกเขาอาจยาเกรงอัลลอฮฺขึ้นมาก็ได้ อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ทาหน้าที่ของเราแล้ว


ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา : 9

หน้าที่ที่แท้จริงของมุสลิมและคนไทยทุกคน โอ้มุสลิมทั้งหลาย มาเถิดมาร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ของเรา โอ้พี่น้องมุสลิมทั้งชาย และหญิง มากันเถิดมาช่วยกันร่วมตักเตือนแก่พี่น้องของเราที่กาลังทะเลาะกัน ในเมื่อพี่ น้องเรามีปัญหาเราก็ตักเตือนให้เขาหาทางออกให้ได้ เราจงอย่าได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ ฟิ ต นะฮฺ (ความวุ่ น วาย) บานปลายอี ก เลย จ าเป็ น จะต้ อ งมี ผู้ที่ มี จิ ต ใจที่ บ ริ สุท ธิ์ ที่ ต้องการที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายอยู่ดีกินดี มีอนาคตที่ดี ไม่ใช่ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายเสียหาย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียหาย เราไม่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น ให้ทั้งสองฝ่ายได้รับชัยชนะ ไปพร้อมๆกัน นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ เพราะเราอยู่ในประเทศเดียวกัน หันกลับมาร่วมกัน พัฒนาประเทศชาติจะดีกว่า เพราะเหตุนี้จงระวังให้มาก ด้วยเหตุนี้แหละที่เราจาเป็นต้อง ชี้นาต้องตักเตือนเพื่อที่จะกล่าวขออภัยโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นจากอัลลอฮฺ ถ้าหากว่าการ ลงโทษนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ อินชาอัลลอฮฺ (หากอัลลอฮฺประสงค์) เราจะปลอดภัยจากการ ลงโทษเพราะเราปฏิบัติหน้าที่ของเราแล้ว เพราะถ้าหากพวกเขาเหล่านั้ นไม่สนใจในการ เตือนสติของเรา เราบอกกับเขาแล้วให้ทาอย่างนี้ ช่วยกันบอกเขาแล้ว ถ้าทุกคนต่า ง ช่วยกันตักเตือน ฉันเตือนสติ คุณเตือนสติ โทรทัศน์เตือนสติ วิทยุเตือนสติ หนังสือพิมพ์ เตือนสติ มีการแถลงข่าวเตือนสติทุกคน ทั้งหมดช่วยกันเตือนสติ ในการคุตบะห์วันศุกร์ (เทศนาก่อนนมาซวันศุกร์) ก็ช่วยกันเตือนสติ ถ้าหลังจากนี้แล้วพวกเขายังไม่ฟังอีก ยังยืน กรานกับการกระทาของพวกเขาอีก อย่างน้อยเราก็ได้ทาหน้าที่ของเราแล้ว ที่เหลือก็ มอบหมายต่อ อัลลอฮฺ ขอให้พวกเราช่วยเหลือกันทุกวิถีทาง ทุกหนทางเท่าที่พวกเรามีความสามารถ เพราะสิ่ง ที่ เกิดขึ้น ในขณะนี้ นั้นเป็นสิ่ง ที่ยากลาบากมากดั่งที่พวกเราทุกคนได้รับรู้ ณ ตอนนี้ ค วามเสี ย หายที่ เ กิ ด ขึ้น ก็ ม ากพอแล้ ว มหาวิ ท ยาลั ย หลายแห่ ง ต้ อ งหยุ ด เรี ย น นักเรียนไม่ได้เรียนกันตั้งกี่วันแล้ว โครงการดีๆต่างๆต้องล้มเลิกไปกี่โครงการ เศรษฐกิจ ต้องสูญเสียนับเป็นพันพัน ล้าน ขอให้ทุกคนคิดดู ด้วยเหตุนี้ในนามที่เราเป็นมุสลิม เรา ต้องเรียกร้องทุกคนให้ช่วยกันส่งเสียง คนทุกระดับช่วยกันส่งเสียง โดยเฉพาะผู้นาต้อง


10 : ฝ่าวิกฤตประเทศไทยด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

ช่วยกันส่งเสียง ส่งเสียงเพื่อให้ช่วยกันหาทางออก ให้นั่งเจรจากัน เราหาทางออก เราต้อง มีทางออก แน่นอนทุกอย่างต้องมีทางออก ในโลกนี้ไม่มีทางตัน ทุกอย่างมีทางออกถ้าเรา ใช้สติปัญญาที่ดี ใช้ความมุ่งมั่น ใช้ความบริสุทธิ์ใจของเราอย่างแท้จริง อัลลอฮฺจะให้ ทางออกแก่เรา อินชาอัลลอฮฺ แต่หากพี่น้องคนใดจะเข้าไปร่วมชุมนุมกับเขาด้วย ขอให้พี่น้องเข้าร่วมในฐานะ “อันนาศิหุลอะมีน” (ผู้ตักเตือนที่ซื่อสัตย์) ในฐานะผู้ตักเตือนที่น่าเชื่อถือ เราต้องยึดคา สอนของท่านศาสนทูต นั่นคือท่านคือผู้ตักเตือนที่ซื่อสัตย์ที่ได้รับความไว้วางใจ ถ้าจะเข้า ร่ว มกั บ ทุก ฝ่ า ยก็ จงเข้ า ร่ วมในฐานะผู้ ที่ ช่ วยหาทางออก นี่คื อ หน้ า ที่ข องเราที่ จ ะต้ อ ง รับผิดชอบต่อหน้าอัลลอฮฺ (สุบฮานะฮูวะตะอาลา) โอ้ลูกหลานของเรามุสลิมทั้งหลาย จงอย่าได้ออกไปเลย บรรดาสตรีทั้งหลาย สถานที่แห่งนั้นไม่ใช่สถานที่ของพวกเธอ ถ้าจะแสดงออกก็แสดงออกจากที่ของเรา อย่า ออกไปเต้นราให้เหล่าบุรุษได้ยลโฉมเลย ถ้าจะแสดงออกกันในหมู่สตรีไม่เป็นไร อย่าทา แบบนั้นกันเลย ถึงแม้จะใส่หิญาบแล้วก็ทาไม่ได้ เพราะเหตุนี้ขอให้เราทุกคนมาช่วยกัน หาทางออก พี่น้องทุกคน ลูกหลานทุกคน เหล่าผู้นามุสลิมทั้งหมด วันนี้เป็นวันที่เราต้อง จับตาดูเป็นพิเศษ เกรงว่าจะเป็นเหตุให้เรื่องนี้บานปลาย เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้เรา นั้นเป็นต้นเหตุที่จะทาให้พระองค์ยกการลงโทษของพระองค์ ถ้าหากว่าพระองค์จะลงโทษ ในครั้งนี้ จากคนที่เป็นมุสลิมและพี่น้องของเรา จากพี่น้องชาวไทยทั้งปวงให้เกิดความ ปลอดภัยไม่เกิดความหายนะในประเทศที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน อินชาอัลลอฮฺ ดังนั้นฉันจึงขอเชิญชวนพวกเราทุกคนร่วมกันตักเตือน ฉันขอนะศีหะฮฺตัวฉันเอง บรรดาผู้นา รัฐบาล ฝ่ายค้าน และพี่น้องทุกฝ่าย นักพูดของทุกพรรคทั้งที่เป็นมุสลิมและ ไม่ใช่มุสลิม ขอเรียกร้องให้ทุกคนใช้สติปัญญา จงกลับไปสู่สิ่งที่เราศรัทธา ถ้าศรัทธาต่อ ประชาธิปไตยก็กลับไปหาประชาธิปไตยที่แท้จริง ถ้าศรัทธาต่ออิสลามก็กลับไปหาอิสลาม ที่แท้จริง อินชาอัลลอฮฺ สุดท้ายนี้ฉันขอสั่งเสียต่อตัวฉันเองและทุกท่านให้เชื่อฟังและยา เกรงต่ออัลลอฮฺเพื่อที่พวกเราจะได้ประสบความสาเร็จ.


แถลงการณ์

กรณีวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย โดย ชัยค์ ดร.อิสมาอีล ลุฏฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี

จากสถานการณ์วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งมีการชุมนุม ของประชาชนเป็นจานวนมาก ทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ครอบคลุมพื้นที่ ในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันของ ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย อันจะก่อให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและ ประชาชนทั่ ว ประเทศอย่ า งใหญ่ ห ลวงและกว้ า งขวาง ทั้ ง ในทางเศรษฐกิ จ สั ง คม การศึกษา การเมืองและความมั่นคงของชาติ ข้า พเจ้า ในนามของอธิ การบดี มหาวิ ท ยาลัย ฟาฏอนี (มหาวิท ยาลั ยอิ สลาม ยะลา) คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา ใคร่ขอแถลงและเสนอแนวทาง แก้ปัญหาวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้ ดังนี้ (1) สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในทัศนะของศาสนาอิสลาม ถือว่า เป็นฟิต นะฮฺ (ความโกลาหลและวุ่นวาย) ซึ่งเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และศาสนิกชนทุกศาสนา โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมทั้ง หลาย ต้องร่วมกันยุติปัญหาความ ขัดแย้ง ร่วมกันหาทางออก ถ้าทุกฝ่ายเพิกเฉยไม่รีบหาทางยุติปัญหา ความขัดแย้งเกิดที่ เกิ ด ขึ้ น จะขยายตั ว ลุ ก ลามและบานปลาย สร้ า งความเสี ย หายแก่ ป ระเทศชาติ แ ละ ประชาชนอย่างใหญ่หลวง (2) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนั กวิชาการ ผู้บริหาร สถาบันการศึกษา นักการเมืองทุกระดับ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ทหารและตารวจ ผู้นา


12 : แถลงการณ์ : กรณีวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย

และผู้รู้ทางศาสนา ผู้นาองค์กรเอกชน นักธุรกิจ ผู้นาสตรี นิสิต นักศึกษา มาช่วยกันให้สติ แนะนา ตักเตือน ระดมความคิด สานเสวนา เพื่อระงับยับยั้งฝ่ายต่างๆที่กาลังขัดแย้ งกัน ให้ใช้ความอดทน อดกลั้น หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การเผชิญหน้าและปะทะกัน การ ละเมิดกฎหมาย ตลอดจนร่วมกันผลักดันให้ทุกฝ่ายหันมาใช้กระบวนการสันติวิธี และการสานเสวนา พูดคุยเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน (3 ) ตามหลักการอิสลาม ความขัดแย้งและแตกแยกกันของประชาชน ถือเป็นสิ่งมุนกัร (สิ่ ง ที่ มิ ช อบ) สร้ า งความเสี ย หายต่ อ ประเทศชาติ เ ป็ น อย่ า งมาก จึ ง เป็ น หน้ า ที่ ข อง ประชาชน ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นจะต้องช่วยกันหาทางยุติความขัดแย้งและนา ความสันติสุขสมานฉันท์ของประชาชนให้กลับคืนมา ทั้งด้วยอานาจ (มือ) คาพูดและด้วย หัวใจของเขา (การรังเกียจสิ่งที่ไม่ดี) ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ทั้งที่เป็นมุสลิมและศา สนิกอื่นทั้งหลาย ช่วยกันเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย เสนอแนะทางออก เพื่อให้เกิด ความปรองดอง ความรั ก สามั ค คี แ ละความสั น ติ สุ ข สมานฉั น ท์ ข องคนในประเทศ หลีกเลี่ยงการยั่วยุและเติมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งให้เกิดความแตกแยก การปะทะและ เผชิญหน้ากันของประชาชน นอกจากนั้น ในการเข้าไปมีบทบาทในการนาซีฮัต (ตักเตือน) และระงับยับยั้งในสิ่งมุนกัร (สิ่งที่มิชอบ) นั้น ขอวิ งวอนให้ทุ กฝ่า ยใช้วิ ธีการที่ ดี มี มารยาท สุภาพอ่ อนโยน ละมุน ละม่อ ม อดทน อดกลั้น บนพื้นฐานของหลักการศาสนาและกฎหมาย ศาสนาอิสลามห้ามมิให้ใช้ วิธีการที่ไม่ถูกต้อง เช่น การด่าทอ นินทาว่าร้าย พูดจากหยาบคาย ไม่สุภาพ พูดเท็จ ลามกอนาจาร การละเมิด โจมตีใส่ร้าย ตลอดจนการละเมิดกฎหมาย เป็นต้น (4) ขอเรียกร้องให้บรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง ใช้สื่อในสังกัดนาเสนอทางออก ยุติความ แตกแยก และความขัดแย้งของประชาชน โปรดหลีกเลี่ยงการนาเสนอข่าวในลักษณะที่ เป็นการยั่วยุและเติมเชื้อไฟความขัดแย้งให้ ลุกลามบานปลาย เพราะผู้ที่บอบช้าและ


ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา : 13

เสียหายมากที่สุดจากวิกฤติครั้งนี้ คือประเทศชาติและประชาชน สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองให้ ปลอดภัยจากไฟแห่งฟิตนะห์ (ความวุ่นวายและแตกแยกกันของประชาชน) ซึ่งมันไม่ใช่ เพียงแค่การสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบเฉพาะคู่ขัดแย้งเท่านั้น แต่มันจะส่งผล และสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนส่วนอื่นๆที่บริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เช่นกัน ขอเชิญชวนชนชาวไทยทุกภาคส่วน ผนึกกาลังกัน ร่วมฝ่าวิกฤติ ยุติความขัดแย้ง นาสันติสุขและความรู้รักสามัคคีของประชาชนกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด

1 ธันวาคม 2556, ด้วยรักและห่วงใย


14 : แถลงการณ์ : กรณีวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย

เพิ่มเติม :  แถลงการณ์ ชัยค์ ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี

(อัพโหลดขึ้นเมื่อ 1/12/2556) http://youtu.be/eA-C0nk6PRs  บรรยายธรรมประจาสัปดาห์ (มัญลิสอิลมีย์) โดย ชัยค์ ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา

(วันที่ 30/11/2556, (ฉบับเต็ม,ภาษามลายู)) http://youtu.be/5aa0njyLnko  ความหมายโองการอัลกุรอานในเนื้อหาหนังสือเล่มนี้ จะแปลเป็นภาษาไทยตามการให้

ความหมายของตัฟซีรบะฆอวีย์ (‫ معالم التنزيل‬: ‫ )تفسير البغوي المسمى‬ของอิมาม อบู มุฮัมมัด หุสเสน บิน มัสอูด อัลบะฆอวีย์ (‫ )ابومحمد حسین بن مسعود بغوی‬เป็นหลัก



ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Page : ชัยค์ ดร.อิสมาอีลลุฏฟี จะปะกียา | www.facebook.com/drIsmailLutfi วารสารสมิอฺนา วะอะเฏาะอฺนา | www.facebook.com/smianaJournal


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.