ไอดิน print

Page 1


เขียนโดย อนันตกาล อาร์ตเวิร์ค Nazezus พิสูจน์อักษร หนูนัตสึ พิมพ์ครั้งที่ 1 เมษายน 2556 ติดต่อ: anuntakan.kan@gmail.com : https://www.facebook.com/pages/อนันตกาล/209273842449250


เสียงฝนทีต่ กกระทบกับกระจกท�ำให้รา่ งเพรียวบางทีน่ อนซบอยู่ ที่แผ่นอกของชายสูงวัยเงยหน้าขึ้นมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ฝนที่

ตกหนักท่ามกลางความมืดและแสงไฟจากยอดตึกสูงใจกลางเมือง ท�ำให้รู้สึก หดหู่และหนาวเย็น ร่างเพรียวบางขยับลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหยิบเสื้อที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา สวมแล้วเคลื่อนตัวขึ้นเดินไปยืนมองข้างหน้าต่าง "จะรีบลุกไปไหน เรียวไผ่" ชายสูงวัยขยับลุกอย่างเกียจคร้าน เขามองภาพร่างเพรียวระหงที่ยืน อยู่อย่างชื่นชม สายตาส�ำรวจผิวกายขาวละเอียดอย่างคนไม่เคยออกแดด มอง ไล่ตั้งแต่ขาเรียวยาวที่โผล่พ้นชายเสื้อ เลื่อนขึ้นมาถึงช่วงเอวเพรียวที่ดูบอบบาง เข้าไปอีกเมื่อประกอบกับความสูงของร่างโปร่ง "ฝนตกหนักนะครับ ศาสตราจารย์"


ไอดิน...กลิ่นรัก น�้ำเสียงของวรินธรนั้นเฉยเมย สายตาของเขามองต�่ำลงไปยังแสงไฟ จราจรที่ติดขัดเบื้องล่าง "ตกหนักแบบนี้แป๊บเดียวก็หยุด ว่าแต่มานี่มา อากาศเย็นแบบนี้ ควร จะมานอนกอดกันมากกว่าไปยืนเหงาแบบนั้นนะ" ชายสูงวัยตบมือลงที่ข้างเตียงเรียกร่างเพรียวให้เข้ามาหา ทันทีที่เดิน ใกล้เข้ามา ร่างของเขาก็ถูกรวบตัวลงมากอดบนเตียงนอน "งานวิจัยดูเหมือนจะผ่านแล้วนะ เรียวไผ่" ริมฝีปากอุ่นซุกไซร้ลงที่ซอกคอขาวอย่างหวงแหน "เพราะได้ศาสตราจารย์ช่วยสนับสนุนผม" วรินธรยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะขยับเข้าหอมแก้มอีกฝ่าย อย่างเอาใจ พร้อมกับโอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้แล้วซุกซ่อนสายตาที่เฉยชา "ไผ่ ถ้ า งานวิ จั ย คราวนี้ ผ ่ า นแล้ ว จะเอายั ง ไงต่ อ ต� ำ แหน่ ง ผู ้ ช ่ ว ย ศาสตราจารย์ยังว่าง" จากค�ำพูดของชายสูงวัยท�ำให้วรินธรหัวเราะออกมาแผ่วเบา สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ต�ำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ เขาต้องการก็แค่ ความส�ำเร็จในการวิจัยเท่านั้น "คงหางานวิจัยอย่างอื่นท�ำ ผมชอบวิจัยตามใจตัวเองมากกว่า คุณก็รู้" รอยยิ้มของวรินธรนั้นอ่อนหวานยั่วเย้าชวนมอง ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่ ช้อนมองขึน้ อย่างออดอ้อนและริมฝีปากทีแ่ ย้มยิม้ น้อยๆ ท�ำให้เขานัน้ ดูออ่ นหวาน น่าถนอม เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ ท�ำให้ชายสูงวัยรีบยกโทรศัพท์ของตน ขึ้นมามอง "ดูเหมือนภรรยาของศาสตราจารย์จะโทรมานะครับ" 2


อนันตกาล

วรินธรยิ้มทั้งๆ ที่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนเลยสักนิด เขามองภาพชายสูงวัย ทีร่ บี ลุกขึน้ ใส่เสือ้ ผ้า เพือ่ กลับบ้านไปหาภรรยาและลูกของตนทีบ่ า้ นด้วยรอยยิม้ อ่อนหวาน ทันทีทปี่ ระตูหอ้ งถูกปิดลงใบหน้าทีม่ รี อยยิม้ ก็กลับเฉยเมย สายตาของ เขามองกลับไปทีน่ อกหน้าต่าง มองบรรยากาศของเมืองหลวงทีน่ บั วันยิง่ เหมือน สุสานขนาดใหญ่เข้าไปทุกที เมืองก�ำลังจะตาย ตายเพราะขาดต้นไม้หล่อเลี้ยง เช่นเดียวกับจิตใจ ของเขาที่ก�ำลังจะแห้งเหี่ยวไปช้าๆ qr qr qr

3


เสียงรองเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะที่ดังอยู่ไม่ไกล ท�ำให้วรินธร ที่นั่งอ่านเอกสารอยู่เงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน ทันทีที่ได้เห็นว่าเป็นใครนั้น

ท�ำให้ร่างโปร่งถอนหายใจออกยาว "เหนื่อยเหรอไผ่" ร่างสูงของชายหนุม่ ผูเ้ ป็นหนึง่ ในบรรดาใครหลายคนทีเ่ ข้ามาติดพันเขา "งานวิจัยมันต้องอ่านและค้นคว้าแทบตลอดเวลา มันท�ำให้ผมรู้สึก เหนื่อยมาก" วรินธรขยับมือขึ้นดึงสันจมูกตัวเองพร้อมหลับตาลงเพื่อพักสายตา "ท่าทางแบบนี้คงยังไม่ได้กินข้าวสิแน่เลย ผมว่าจะพาคุณไปทาน อาหารอร่อยๆ ดีกว่า" ภูชิตขยิบตาให้อย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มร่างสูงขยับเลื่อนเก้าอี้ พร้อม กับดึงร่างเพรียวบางขึ้นยืนอย่างเอาใจ


อนันตกาล

วรินธรท�ำเพียงยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่าย ร่างเพรียวหันกลับไปมองห้องท�ำงานอย่างเหนื่อยล้า ความรู้สึก กระตือรือร้นยามอยูท่ นี่ หี่ ายไป ทุกอย่างรอบกายยังคงเหมือนเดิม แต่เป็นตัวเขา ที่เปลี่ยนไป "ไผ่ ไปสิครับ เป็นอะไรไป" ภูชิตถามร่างเพรียวอย่างเป็นห่วง "แค่เหนื่อยๆ ไปเถอะ พอดีเลยผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ" วรินธรเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิม้ ก่อนขยับขึน้ เดินเคียงข้างชายหนุม่ และ ก้าวออกไปด้วยกัน qr qr qr

เมื่อถึงร้านอาหารแล้วทั้งคู่สั่งอาหารทานและคุยเรื่องต่างๆ ด้วยกัน เรียวไผ่มองใบหน้าหล่อเหลาและร่างกายที่แข็งแรงสมส่วน ด้วยความรู้สึก เฉยเมย ภูชิตจัดว่าเป็นชายที่มีรูปร่างหน้าตา และฐานะที่เพียบพร้อม ยิ่ง ประกอบกับชื่อเสียงเกี่ยวกับการเพาะช�ำกล้วยไม้ รวมทั้งการชนะการประกวด พันธุ์กล้วยไม้มากมาย ท�ำให้ผู้คนสนใจในตัวของชายหนุ่ม เพราะความช่วยเหลือและเส้นสายของชายหนุ่มตรงหน้าท�ำให้เขา สามารถค้นคว้าวิจัยและท�ำการทดลองเกี่ยวกับต้นไม้หายากได้อย่างไม่ปัญหา "เป็นอะไรไผ่" ชายหนุม่ ถามอย่างห่วงใย เมือ่ เห็นสายตาของวรินธรทีม่ องเขาดูอยูน่ นั้ เหม่อลอย แม้รอยยิ้มน้อยๆ จะยังคงอยู่ แต่มันกลับดูแห้งแล้งราวกับจะหายไป 5


ไอดิน...กลิ่นรัก "เหนื่อยน่ะครับ" "ดูแลตัวเองดีๆ หน่อยสิ คุณท�ำงานหนักเกินไปแล้ว" "ก็คงอย่างนั้น" วรินธรเสหยิบน�ำ้ ขึน้ ดืม่ เขาก�ำลังใช้ความคิดว่าควรใช้คำ� พูดตัดสัมพันธ์ กับอีกฝ่ายเช่นไร "คุณภู ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ" ชายหนุ่มเลิกคิ้วเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย "เรื่องอะไร" น�ำ้ เสียงของเขานัน้ ทุม้ ต�ำ่ น่าฟัง เมือ่ นานมาแล้วเขายังฟังด้วยความรูส้ กึ เคลิบเคลิ้ม แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นเขาที่เฉยชาลง "เรื่องของเรา" วริ น ธรเอ่ ย ออกมาอย่ า งเชื่ อ งช้ า แต่ สี ห น้ า ของชายหนุ ่ ม กลั บ ไม่ เปลี่ยนแปลง "เรื่องของเรามีอะไรไม่ดี" ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย วรินธรส่ายศีรษะไปมา ก่อนยกแก้วน�้ำด้าน ข้างขึ้นจิบ "ไม่มีอะไรไม่ดี แต่เราไปด้วยกันไม่ได้ ตอนนี้ผมเบื่อแล้วกับความ สัมพันธ์ของเรา" "เบื่อ" ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง เขาย�้ำเหมือนไม่แน่ใจ "ใช่เบื่อ คุณมีคนของคุณ ผมมีงานของผม เราไม่มีความจ�ำเป็นที่ต้อง ติดต่อกัน" ประโยคนี้ถูกเอ่ยออกไป และเขาก็ต้องแปลกใจที่หัวใจของตนเองนั้น 6


อนันตกาล

กระตุกขึ้นมา "งานวิจัยคุณเสร็จแล้วสินะ" ภูชิตพูดเหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร แทนค�ำตอบ วรินธรพยักหน้าช้าๆ "คุณก็มีคนของคุณ" น�้ำเสียงของร่างโปร่งเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด "ฟังจากน�้ำเสียงแสดงว่าคุณก็มีผมอยู่ในใจ" "ผมมีคุณอยู่ในใจแล้วมีความหมายอะไร ช่วยอะไรได้ไหม" เสียงของเขานั้นสั่นสะท้าน ตลอดเวลาเขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขามีสิ่งที่เรียก ว่าความผูกพัน เขาไม่ได้รักแต่ก็ผูกพันกับคนตรงหน้า หรืออาจจะรักแต่ท�ำเป็น ไม่รู้ "ไม่ช่วยอะไรเลย" ภูชติ กล่าวออกมาอย่างเศร้าหมอง เขามองใบหน้าทีแ่ สดงออกถึงความ รู้สึกเจ็บปวดที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้ เรียวไผ่ส�ำหรับเขาเป็นคนที่สวยงาม บอบบางน่าถนอม แม้จะอยากอยู่เคียงข้าง แต่เขาก็มีคนของเขาที่ต้องดูแล รวมทั้งความ สัมพันธ์ที่มีจุดเริ่มต้นจากการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ มันท�ำให้เขาคิดว่าไม่คุ้ม ที่จะเสี่ยง "ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขนะ เรียวไผ่" น�ำ้ เสียงของภูชติ นัน้ อ่อนโยน ชายหนุม่ จับมือของร่างโปร่งขึน้ มาจุมพิต แผ่วเบาก่อนลุกขึ้นและก้าวเดินออกไป ปล่อยให้ร่างโปร่งบางนั่งอยู่ตรงนั้น พร้อมความรู้สึกเจ็บปวดที่ตนเองไม่เคยรู้ "คุณก็เช่นกัน" 7


ไอดิน...กลิ่นรัก วรินธรเอ่ยขึ้นมาแผ่วเบา เฝ้ามองแผ่นหลังที่ก้าวเดินออกไป ในตอน แรกเขานึกว่าเขารักภูชิต แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย สิ่งที่เขามีให้คือความผูกพัน ไม่ใช่ความรัก เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดมากมาย ยามที่อีกฝ่ายก้าวออกไปจากชีวิต "ที่เหลือก็แค่ศาสตราจารย์สินะ" วรินธรเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะเป็น ปัญหาหนักที่สุดในตอนนี้ แค่เพียงคิดถึงชายสูงวัย เรียวไผ่ก็รู้สึกล�ำบากใจขึ้นมาทันที ไม่ใช่เพราะรัก หรือ ผูกพัน แต่เพราะความสัมพันธ์ในตอนนี้คงเหลือ เพียงปัญหาที่จะตามมาเท่านั้น qr qr qr

"คุณควรจะผ่อนคลายลงบ้างนะครับ" ค�ำพูดของจิตแพทย์หนุ่มท�ำให้เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ภายใต้แว่นกรอบเงินที่ซุกซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ "พูดง่ายนะครับหมอ" วรินธรตอบกลับออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจกวน เขามองใบหน้าจิตแพทย์ หนุ่มพร้อมยิ้มให้น้อยๆ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มเช่นกัน "คนเราเวลาป่วยมักไม่รู้ตัว" "ถ้าไม่รู้ตัวผมจะมาหาหมอเหรอครับ" วรินธรสวนกลับไปทันที นัน่ ท�ำให้จติ แพทย์หนุม่ ผูใ้ ห้คำ� ปรึกษาของเขา หัวเราะออกมา 8


อนันตกาล

"คุณไม่ได้เสนอโครงการวิจัยนะครับ นี่คุณมาปรึกษาจิตแพทย์" ค�ำพูดสบายๆ ของคุณหมอธรรศกฤตท�ำให้วรินธรรูต้ วั เขายิม้ อายๆ ให้ กับจิตแพทย์ประจ�ำตัว เมื่อรู้สึกได้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อให้รู้ "แล้วผมต้องท�ำยังไง ในเมื่อตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนก�ำลังจะแห้งเหี่ยว เฉาตายจากข้างใน" น�้ำเสียงของเขาอ่อนล้า จนธรรศกฤตต้องถอนหายใจ "คุณวรินธร บางทีการที่คุณอยู่ที่เดิม ท�ำเรื่องเดิม และปัญหาต่างๆ ที่ รุมเร้า มันก็ทำ� ให้คณ ุ รูส้ กึ เหนือ่ ยและท้อแท้ได้ จิตใจของคนเราไม่เหมือนกัน การ แบกรับเรื่องต่างๆ มันท�ำได้ไม่เท่ากัน และในบางครั้งคนเราก็ต้องการสิ่งที่เรียก ว่าชาร์จแบต ผมแนะน�ำให้คุณท�ำในสิ่งที่คุณชอบ คุณอาจจะไปเที่ยวหรือหา กิจกรรมใหม่ๆ ท�ำนอกจากงานวิจัย" วรินธรตั้งใจฟังสิ่งที่จิตแพทย์แนะน�ำอย่างตั้งใจ "ผมชอบต้นไม้" ค�ำพูดของเขาท�ำให้จิตแพทย์ประจ�ำตัวยิ้ม "แต่ผมไม่รู้จะไปไหน มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึก" เขาซบหน้าลงกับโต๊ะ แค่หลับตาลงเขารู้สึกเหมือนก�ำลังถูกล้อมรอบ โดยสุสาน รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่กลางสุสานขนาดใหญ่ พอเขาเล่าให้หมอธรรศกฤตฟัง คุณหมอก็ท�ำท่าราวกับครุ่นคิดอะไร บางอย่าง "บางทีเมืองหลวงอาจไม่นา่ อยูส่ ำ� หรับคุณ ลองไปอยูต่ า่ งจังหวัดสักพัก ไหม ถ้าคุณชอบต้นไม้ป่าไม้ คุณก็น่าจะไปเที่ยวได้ ยังไงคุณก็เคยไปวิจัยพันธ์ไม้ ในป่าอยู่แล้ว ว่าแต่การวิจัยครั้งล่าสุดของคุณที่คุณได้ลงพื้นที่ ผ่านมานานแค่ 9


ไอดิน...กลิ่นรัก ไหนแล้วครับ" ค�ำพูดของหมอธรรศกฤตท�ำให้วรินธรหลับตานึก ว่านานเท่าไหร่แล้ว ที่เขาติดแหงกอยู่ที่โต๊ะท�ำงานและกองเอกสาร "สองปีหรือสามนี่แหละ ไม่แน่ใจ" "คุณวรินธร ผมว่าคุณควรพักผ่อนให้มาก คนเราบางทีก็ต้องหาอะไร อย่างอื่นท�ำบ้าง คุณเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคร้ายแรง ผมแนะน�ำให้คุณพักผ่อน มากๆ และหาสิ่งที่เรียกว่าอาหารใจดู" "ไม่จ่ายยาให้ผมเหรอ" เขาถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ เพราะไม่ว่าจะมาสักกี่ครั้ง คุณหมอ ธรรศกฤตก็ให้เพียงค�ำปรึกษาและพูดคุยเท่านั้น "ถ้าจ่ายยาให้ ก็คงเป็นยานอนหลับและคลายเครียด ซึ่งผมว่าคุณไม่ จ�ำเป็นต้องใช้ เอาไว้ถ้าหาทางแก้ไม่ได้หรือไม่ดีขึ้นเราค่อยมาคุยกันใหม่ดีไหม" เขาพยักหน้ารับพร้อมกับกล่าวลาคุณหมอ แล้วเดินกลับออกมา เขา คิดอะไรหลายอย่าง ผู้คนท�ำให้เขาเบื่อหน่าย เมืองที่เหมือนสุสานท�ำให้เขารู้สึก เหมือนก�ำลังจะตาย "ขอโทษครับ" วรินธรเอ่ยขอโทษอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเดินชนเข้ากับใครบางคน เขาก้มลงเก็บโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นให้ แต่พอเงยหน้าขึ้นเขาก็ พบกับสายตาต�ำหนิติเตียนที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะกระแทกเท้าเดิน จากไปอย่างฉุนเฉียว วรินธนธรมองใบหน้าหล่อเหลาคุ้นตา ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเคยเจอ ที่ไหนมาก่อน จนเขานึกออกว่าอีกฝ่ายคือ ระพีพัฒน์เป็นนายแบบหรือว่าดารา ที่สาวๆ ในทีมวิจัยของเขาคลั่งไคล้แล้วก็อดข�ำไม่ได้ 10


อนันตกาล

"ขนาดดารายังมีอาการทางจิต" ที่เขากล้าคิดอย่างนั้นเพราะทางที่อีกฝ่ายเดินไปนั้นคือแผนกจิตเวช แบบนีค้ งไม่ใช่เรือ่ งแปลกทีเ่ ขามีอาการทางจิต พอคิดแบบนีแ้ ล้วเขารูส้ กึ สบายใจ ขึ้นเล็กน้อย ตลอดทางที่กลับบ้าน เขาคิดตลอดว่าเขาต้องการอะไร เป็นเวลานาน แค่ไหนแล้ว ที่ความรู้สึกเบื่อหน่ายในตัวเขาเริ่มต้นขึ้น และมันก�ำลังกัดกินเขา จากภายใน สิ่งที่เขาต้องการมาจากภายใน สิ่งที่เขาต้องการจากส่วนลึกในใจ สิ่ง นั้นก็คือผืนดิน ใช่เขาต้องการผืนดิน เขาอยากได้กลิ่นไอของแสงแดด อยากได้สัมผัสผืนดินที่อบอุ่นชุ่มชื้น อยากสัมผัสถึงใบไม้ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เขารักและต้องการ เขาห่างไกลมันเพราะ งานวิจัยและการทดลองมากมายที่ดึงรั้งเขาไว้ที่ห้องแลบ "ต้องติดต่อธีรวิทย์" วรินธรนึกถึงธีรวิทย์เพือ่ นในวัยเยาว์ทไี่ ปเป็นแพทย์ประจ�ำดอยหรือเขา ทีไ่ หนสักที่ ตามอุดมการณ์ทยี่ งิ่ ใหญ่ทเี่ ขาเคยล้อเลียน เห็นทีคงต้องไปเยียนเพือ่ น สักเดือนพร้อมโครงงานวิจัยอะไรสักอย่างที่ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างโปร่งบางเริ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นมา เขามองออกไปนอก หน้าต่าง มองดูเหล่าป้ายหลุมศพขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบกาย ก่อนจะหลับตาลง ช้าๆ จินตนาการถึงภาพต้นไม้ใบหญ้า แค่เพียงที่เท่านั้นเขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา ทันที "รอก่อนนะผืนดิน อีกไม่นานเราจะเจอกัน" 11


สิ่งที่เรียวไผ่คาดคิดไว้นั้นไม่ผิดเลยสักนิด หลังจากบอกเลิกความ

สัมพันธ์กับศาสตราจารย์เกรียงไกร สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาคือการตามตื้อ แม้ทางฝ่ายนั้นจะไม่ได้แสดง อาการออกนอกหน้านอกตา เพราะยังคงแคร์หน้าตาทางสังคม แต่พอลับหลัง ทั้งส่งข้อความทั้งดักรอ จนเขาแทบจะอยู่อย่างสงบไม่ได้ ดีที่เขาสามารถติดต่อ ธีรวิทย์ได้แล้ว คิดว่าไม่เกินสิ้นเดือนเขาคงสามารถไปหาอีกฝ่ายได้ "ดูท�ำหน้าเข้า เกิดอะไรขึ้นเรียวไผ่" เสียงทักทายของภูชิตดังขึ้นมา พอเขาหันหลังกลับไป ชายหนุ่มในชุด สูทภูมิฐานยิ้มน้อยๆ พร้อมยื่นแก้วไวน์ให้ หลังจากวันนัน้ ทีบ่ อกเลิกความสัมพันธ์ ภูชติ ไม่มที า่ ทีเปลีย่ นไปเลยสัก นิด ยังคงเป็นมิตรทีด่ กี บั เขาอยูเ่ ช่นเดิม จะต่างก็ตรงทีท่ งั้ คูต่ ดั เรือ่ งความสัมพันธ์


อนันตกาล

ทางกายทิ้ง "เรื่องน่าเบื่อหลายๆ อย่าง แล้วไม่เข้าใจว่า ท�ำไมถึงมีงานแฟชั่นโชว์ที่ นี่ได้" เรียวไผ่หนั ไปถามภูชติ ทัง้ ทีเ่ ป็นงานเลีย้ งเกีย่ วกับคนในวงการกล้วยไม้ แต่กลับมีการเดินแฟชั่นโชว์ขึ้น ทั้งที่คนส่วนใหญ่เป็นผู้เกี่ยวข้องด้านพันธ์ไม้ "เห็นว่าลูกสาวคุณหญิงสักคนเป็นตัวตั้งตัวตี แล้วเดี๋ยวจะมีการเรียก เงินบริจาคในตอนท้ายจากการประมูลของ ของพวกนายแบบ นางแบบก็ถอื เป็น สีสันของงานก็ได้ ดีออก ผมชอบอยู่ท่ามกลางคนหน้าตาดี หรือเรียวไผ่อิจฉาที่ พวกนั้นหล่อกว่า" "ภูชิต" เรียวไผ่หนั ไปดุคนทีห่ ยอกล้อเขา ส่วนภูชติ ได้แต่หวั เราะชอบใจ สายตา ของชายหนุ่มมองไปบนเวที "ผมเคยเจอคนนั้น" เรียวไผ่ชี้ไปที่นายแบบที่เดินหน้าบึ้งตึงอยู่บนเวที เขาจ�ำได้ว่าเขาเจอ คนๆ นี้ที่โรงพยาบาล "คนนั้นเหรอ นั่นระพีพัฒน์ ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงเรวดี มีแฟน สาวชื่อลินรดา เป็นนางเอกของช่องไหนสักช่อง หลังๆ มานี้อยู่ในช่วงขาขึ้นเห็น ว่างานชุกสุดๆ แต่ก็อาจจะเป็นเพราะบารมีแม่" "รู้ดีจริง" ร่างเพรียวบางเบ้หน้าใส่ชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ "ก็แค่เคยสนใจ" "สนใจหรือเคยลองดู" เรียวไผ่ถามภูชิตอย่างรู้ทัน แต่สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นเสียงหัวเราะ 13


ไอดิน...กลิ่นรัก "บ้าแล้วไผ่นั่นน่ะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณหญิงเรวดีเชียวนะ ฐานะทางสังคมของเธอใช่ยอ่ ยเสียเมือ่ ไหร่ ไปยุง่ สุม่ สีส่ มุ่ ห้าได้ทไี่ หน เห็นผมเป็น แบบนี้ ผมเองก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควรนะ ถามแบบนี้หรือว่าคุณหึงผมหรือไง" ค�ำโต้ตอบของภูชิตท�ำให้เรียวไผ่สะอึก เขาไม่ได้หึงหวง เขารู้ดีว่าภูชิต เป็นยังไง แต่ลึกๆ ในใจเขาคงเรียกได้ว่า 'หมาหวงก้าง' แม้จะตัดความสัมพันธ์ไปแล้ว แต่ก็ยังคงอยากเป็นเจ้าของ ไม่สกิ ค็ นมันเคยได้เป็นเจ้าของก็ตอ้ งรูส้ กึ หงุดหงิดเป็นธรรมดา เรียวไผ่ สัมผัสได้ถึงสายตาของคนบางคนที่มองมา พอเขาหันไปก็พบกับสายตาของ ศาสตราจารย์เกรียงไกรที่มองมา "สวัสดีทั้งสองคน" ชายสูงวัยเข้ามาทักทายชายหนุ่มทั้งสอง พร้อมรับไหว้ภูชิตด้วยท่าที เป็นมิตร "สวัสดีครับศาสตราจารย์ เป็นยังไงบ้างไม่เจอกันนานเลยนะครับ" ภูชิตทักทายศาสตราจารย์เกรียงไกรด้วยมารยาทอันดี สายตาของคน สองคนประสานกัน ศาสตราจารย์ซุกซ่อนความรู้สึกหึงหวงไว้ในส่วนลึกใน แววตา "งานประกวดกล้วยไม้คราวนี้ คุณภูชติ คิดจะกวาดรางวัลอีกหรือเปล่า" เมื่อเห็นว่าสองคนเริ่มคุยกัน เรียวไผ่ปลีกตัวออกมาอย่างช้าๆ ก่อนจะ เลี่ยงไปที่มุมหนึ่งของงาน บรรยากาศและผู้คนที่พลุกพล่านท�ำให้เขารู้สึกอึดอัด แม้จะเคยชินกับการปั้นหน้าใส่ผู้คน แต่สภาพจิตใจของเขาในเวลานี้ ท�ำให้อยากหลีกหนีมากกว่า เรียวไผ่วักน�้ำล้างหน้าแล้วเงยหน้ามองตนเองในกระจก เขามองเห็น แต่สีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ความแห้งแล้งในใจท�ำให้ใบหน้าเขาค่อนข้างหม่นหมอง 14


อนันตกาล

ในตอนนี้เขาก�ำลังเสนอโครงการวิจัยพันธุ์ไม้สมุนไพรในป่าที่สามารถ น�ำมาสกัดเป็นยารักษาโรค ซึ่งกว่าโครงการจะผ่านและได้รับเงินทุนคงต้องใช้ เวลาอีกสักพัก เขาคาดว่ากว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยอย่างเร็วก็คงใช้เวลาประมานหนึ่ง เดือน ซึ่งทางภูชิตเองก็รับปากว่าจะช่วยเขาให้โครงการผ่านได้เร็วขึ้น เสียงประตูเปิดท�ำให้เรียวไผ่สะดุ้ง พอหันกลับไปพบว่าเป็นใครท�ำให้ร่างเพรียวบางรีบเดินหนีออกจาก ห้องน�้ำทันที "เดี๋ยวไผ่" ศาสตราจารย์เกรียงไกรดึงรัง้ ข้อมือเขาเอาไว้ เรียวไผ่หนั ไปมองก่อนจะ สะบัดมือออกพร้อมยิ้มน้อยๆ "มีธุระอะไรกับผมครับศาสตราจารย์" เขาเน้นค�ำว่าธุระอย่างชัดเจน พยายามแสดงเจตนารมณ์ที่จะไม่ข้อง เกี่ยวกับอีกฝ่ายอย่างออกนอกหน้า "ท�ำไมท�ำตัวเป็นคนอื่น ไผ่อย่าลืมสิว่าเราเป็นอะไรกัน" ศาสตราจารย์พูดเสียงขุ่น ด้วยใบหน้าถมึงทึงพร้อมย่างสามขุมเข้ามา ใกล้ เรียวไผ่ขยับถอยหลังหนีก่อนจะยืดตัวตรงและจ้องหน้าศาสตราจารย์นิ่ง "ก็ที่ปรึกษางานวิจัยยังไงล่ะครับ" เขาตอบออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่เมือ่ ชายสูงวัยท�ำท่าจะปรีเ่ ข้า มาเท่านั้น "ศาสตราจารย์อย่าลืมสิครับ ว่าศาสตราจารย์มภี รรยาและลูกอยูแ่ ล้ว" เรียวไผ่ยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายห่วงหน้าตาทางสังคม ของตัวเองมากแค่ไหน ซึง่ มันก็ได้ผลเมือ่ ผูส้ งู วัยกว่าท�ำท่าทางเหมือนได้สติวา่ ตน 15


ไอดิน...กลิ่นรัก ก�ำลังจะท�ำอะไร "ท�ำไมเธอถึงยกเลิกความสัมพันธ์ของเรา แล้วจะหนีไปที่อื่น ต�ำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของฉันยังว่าง ฉันอยากให้เธอมาท�ำมันนะ เรียวไผ่" ชายสูงวัยมองร่างเพรียวบางอย่างอ้อนวอน แต่สิ่งที่ได้รับคือสายตาที่ เย็นชา "ขอบคุณนะครับ ผมขอรับไว้แค่ความหวังดี ไม่ว่ายังไงผมก็จะไป ส่วน ความสัมพันธ์ของเรา ผมว่าศาสตราจารย์ลืมมันไปซะก็ดี" พูดยังไม่ทนั ขาดค�ำ ร่างของเรียวไผ่กถ็ กู ศาสตราจารย์เหวีย่ งเข้าปะทะ กับก�ำแพงอย่างแรง เขาหันไปถึงกับผงะ เมื่อเห็นใบหน้าถมึงทึงของศาสตราจารย์ อีกฝ่าย ก�ำลังขาดสติ "ฉันให้เธอทุกอย่างแต่ท�ำไมเธอยังคิดจะทิ้งฉันไปอีก" ยังไม่ทนั ทีอกี ฝ่ายจะตัง้ ตัว ศีรษะของเขาก็ถกู กระชากให้แหงนหน้าขึน้ สบตา "ศาสตราจารย์ จะท�ำอะไรตั้งสติให้ดีก่อน" เรียวไผ่พูดเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว เขาไม่เคยเห็นชายสูงวัยใน สภาพนี้มาก่อน "มาเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ของฉัน" ศาสตราจารย์ออกค�ำสั่งกับเรียวไผ่ แต่พอเขาส่ายหน้า ร่างเพรียวบาง ก็ถูกจับศีรษะให้ไปกระแทกกับก�ำแพงอย่างแรงจนเขารู้สึกปวดแปลบด้านใน ศีรษะ "สัญญามาสิเรียวไผ่" "หลีกทางไปไอ้แก่ เกะกะ" 16


อนันตกาล

ก่อนที่เขาจะโดนท�ำร้ายมากไปกว่านี้ มีเสียงเรียกขึ้นมาจากด้านหลัง เมื่อรู้ว่าไม่ได้อยู่ตามล�ำพัง ศาสตราจารย์เกรียงไกรรีบถอยห่างจากเรียวไผ่ทันที ร่างสูงโปร่งของนายแบบหนุ่มยืนอยู่ท่ีทางเดิน สายตาของเขามองทั้ง คู่ด้วยสายตาเหยียดหยาม "หลีกไอ้แก่" ระพีพัฒน์ย�้ำอีกครั้ง เมื่อทางเดินของตนถูกขวางเอาไว้จากคนทั้งสอง "พูดจาให้มันดีๆ หน่อยสิคุณ" ศาสตราจารย์เกรียงไกรพูดเสียงขุ่น เมื่อได้ยินน�้ำเสียงดูถูกของนาย แบบหนุม่ แต่สงิ่ ทีไ่ ด้รบั กลับมา คือสายตาดูถกู ดูแคลนทีแ่ สดงออกอย่างไม่ปดิ บัง "ไม่จ�ำเป็นต้องพูดดี กับพวกต�่ำชั้น ถอยไป" ไม่มกี ารอ่อนข้อและลดละ ระพีพฒ ั น์ยนื นิง่ จ้องมองศาสตราจารย์กอ่ น จะแสยะยิ้ม "รู้อะไรไหมไอ้โง่ ว่าที่นี่มันมีกล้องวงจรปิด" ค�ำพูดของระพีพัฒน์ท�ำให้ชายสูงวัยหน้าชา เขามองไปรอบๆ อย่าง ตกใจ กลัวและหันมามองหน้าระพีพัฒน์ที่ยืนท�ำหน้าเฉยเมย ก่อนจะวิ่งหนีไป เรียวไผ่มองภาพตรงหน้าด้วยสติทเี่ ริม่ จะลางเลือน เขามองคนตรงหน้า ด้วยสายตาขอบคุณ ร่างกายของเขาบอบช�้ำจนแทบจะขยับไม่ได้ "เป็นอะไรหรือเปล่า" เรียวไผ่ถูกถามพร้อมกับสัมผัสได้ถึงแรงเตะเบาๆ ที่ต้นขา "ถ้าตายแล้วไม่ต้องตอบ ถ้ายังไม่ตายก็ตอบด้วย" นายแบบหนุ่มเตะเบาๆ เป็นการสะกิดเรียกสติ "ยังไม่ตาย" 17


ไอดิน...กลิ่นรัก พอเขาตอบเท่านัน้ นายแบบหนุม่ ถึงนัง่ ยองๆ ลงมา ตลอดเวลาอีกฝ่าย ไม่แม้แต่จะสัมผัสตัวเขา เมือ่ เห็นว่าเรียวไผ่ยงั มีสตินายแบบหนุม่ ท�ำเพียงยืนอยูข่ า้ งๆ โดยไม่พดู อะไร ส่วนเรียวไผ่เองนัน้ ก็รสู้ กึ ปวดหัวจนแทบระเบิด เขาไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้า จะยืนอยู่ท�ำไม ทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดจะช่วยเขาสักนิด "รสนิยมผู้ชายนายแย่ชะมัด" ค�ำพูดนี้ ท�ำให้เขาเงยหน้าขึ้น มองระพีพัฒน์ที่ยืนกอดอกมองเขาอยู่ ตรงหน้า ท่าทางแบบนั้นของนายแบบหนุ่ม ท�ำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า วันนี้มันวันซวยอะไรของเขากันนะ ถูกท�ำร้ายแถมเจอคนไม่รู้จักมา พูดจาเยาะเย้ย ตอนแรกก็เหมือนจะช่วยแต่กลับมายืนมองดูเขาหน้าตาเฉย แบบนีม้ นั คนบ้าชัดๆ เรียวไผ่ก่นด่าระพีพัฒน์อยู่ในใจด้วยสติที่เริ่มจะเลือนลาง "เป็นอะไรมากไหม เนี่ย" เสียงเรียกคุ้นหูท�ำให้เขาพยายามบังคับตนเองขึ้นมอง ทั้งๆ ที่สติของ เขาเริ่มจะพล่าเลือน "หมอธรรศกฤต" เรียวไผ่เค้นเสียงเรียกชื่อจิตแพทย์ประจ�ำตัวก่อนที่ทุกอย่างจะวูบลง qr qr qr

18


อนันตกาล

สิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาคือเพดานห้องสีขาว ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือ โรงพยาบาล เรียวไผ่ขยับตัวลุกขึน้ นัง่ อย่างยากล�ำบากเมือ่ รูส้ กึ เจ็บแปลบทีศ่ รี ษะ "ฟื้นแล้วเหรอ" น�้ำเสียงคุ้นหูท�ำให้ร่างเพรียวหันไปตามทิศทางของเสียงเรียก แล้วเขา ก็ได้พบกับนายแบบหนุ่มที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟาคู่กับหมอธรรศกฤต จิตแพทย์หนุม่ ท�ำเพียงยิม้ และเดินไปกดกริง่ เรียกพยาบาลทีอ่ ยูข่ า้ งเตียง "คุณหมดสติไปไม่นาน ให้หมอเช็คแล้ว ไม่มีอะไรกระทบกระเทือน เดี๋ยวคุณหมอก็จะเข้ามาดูอาการแล้ว" ธรรศกฤตยิ้มด้วยรอยยิ้มสุภาพ สักพักหนึ่งเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา คุณหมอในเสื้อกราวด์สีขาวก้าวเข้ามา "ไม่มีอะไรผิดปกติตรงไหนนะครับ นอกจากรอยฟกช�้ำ แค่พักผ่อนสัก คืนก็กลับบ้านได้" หมอกลับออกไปเมื่อตรวจทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วรินธรหันกลับมามองจิตแพทย์หนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเตียง "ผมนึกว่าคุณเป็นคนตรวจผม" ค�ำถามของเขาท�ำให้ธรรศกฤตหัวเราะ "อาชีพผมคืออะไร จ�ำได้ไหมครับ" "จิตแพทย์" "พอดีระหว่างสลบ คุณคลั่งท�ำร้ายนางพยาบาล ผมเลยต้องมาดูแลว่า ต้องจัดยาเพิ่มให้ไหม" วรินธรได้ยินค�ำตอบของธรรศกฤตได้แต่นิ่งตกใจ "ผมล้อเล่น" ท่าทีหยอกล้อของธรรศกฤตท�ำให้วรินธรรู้สึกโล่งใจ 19


ไอดิน...กลิ่นรัก

"จะกลับได้หรือยัง พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า" เสียงของนายแบบหนุ่มดังขึ้นมา "อ๊ะ คุณ" วรินธรร้องขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าช่วยเขาเอาไว้ "ขอบคุณครับ" วรินธรรีบร้อนร้องออกไป "ไม่เป็นไร คราวหน้าเลือกผู้ชายให้ดีกว่านี้หน่อยเถอะ คราวนี้ยังโชคดี ถ้าตายขึ้นมามันไม่คุ้มกัน" แม้จะรูส้ กึ ว่าเป็นการต่อว่า แต่นำ�้ เสียงของนายแบบหนุม่ ฟังดูเรือ่ ยเฉือ่ ย และเหนื่อยหน่าย "น้องพี" เสียงปรามของธรรศกฤตท�ำให้นายแบบหนุ่มหน้าหงิกงอ "ปลอดภัยก็ดีแล้ว ถ้ายังไง ผมขอตัวก่อนนะ พรุ่งนี้ผมมีงานต้องท�ำ แต่เช้า" ธรรศกฤตออกปากกล่าวลา แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องไป จิตแพทย์หนุ่มก็หันกลับมา "ผมว่าคุณระวังตัวไว้กด็ นี ะ ความหึงหวงมันฆ่าคนตายมานักต่อนักแล้ว" ธรรศกฤตกล่าวเตือนแล้วเดินจากไป ทิ้งวรินธรที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง อย่างครุ่นคิด qr qr qr

20


อนันตกาล

ในตอนเช้าภูชิตที่มารับร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของร่างเพรียว ที่ ตอนนี้ใบหน้าเขียวช�้ำเพราะแรงตบ "ให้ตายซิ ไม่คิดเลยนะ ว่าศาสตราจารย์เกรียงไกร จะรุนแรงได้ถึง ขนาดนี้" ชายหนุม่ ใช้สายตาส�ำรวจร่างเพรียวทีด่ อู อ่ นแรงแล้วอดทีจ่ ะบ่นออกมา ไม่ได้ "ผมก็เหมือนกัน" เรียวไผ่ถอนหายใจด้วยความเหนือ่ ยหน่าย กับความสัมพันธ์ลกึ ซึง้ ทีต่ ดั ไม่ขาด "แล้วนี่คุณจะท�ำยังไงต่อไป" ภูชิตถามเรียวไผ่ที่ยังคงดูอ่อนเพลีย "ต้องจัดการให้เด็ดขาดน่ะซิ คงไม่ยอื้ หรอก ยือ้ ไปก็เท่านัน้ ผมกลัวตาย เหมือนกันนะ" เรียวไผ่ก�ำลังคิดถึงอนาคตของตนเอง "นี่คุณ" เรียวไผ่ท�ำเสียงดุ เมื่อร่างสูงใหญ่ขยับเข้ามาโอบกอดเขา "นิดหน่อยน่า" น�ำ้ เสียงทีไ่ ม่จริงจังกับความอบอุน่ ทีไ่ ด้รบั หลังจากทีต่ อ้ งเผชิญหน้ากับ เรื่องวุ่นวายมากมาย ท�ำให้เรียวไผ่ผ่อนแรงซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง "ไผ่ควรจะจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาดนะ ไม่อย่างนั้นตัวคุณเองนั่นแหละ ที่จะเดือดร้อน" เสียงทุ้มต�่ำที่กระซิบด้วยความห่วงใย ท�ำให้ร่างเพรียวตอบรับอย่าง ว่าง่าย 21


ไอดิน...กลิ่นรัก เรียวไผ่รู้ดีว่าถ้าเขาไม่จัดการเรื่องศาสตราจารย์เกรียงไกรให้เรียบร้อย เขาเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน "มีอะไรที่ผมพอจะช่วยคุณได้บ้าง" เสียงทุ้มต�่ำของภูชิต ท�ำให้ร่างเพรียวขยับกอดชายหนุ่มแน่น "ขออยู่แบบนี้สักพักก็พอ" ความอบอุน่ และความเห็นใจทีภ่ ชู ติ มอบให้ชว่ ยปลอบโยนร่างกายและ หัวใจที่เหนื่อยล้า การที่เขามาท�ำงานโดยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช�้ำ ท�ำให้เกิดเสียง ครหานินทามากมาย แต่เรียวไผ่ก็ใช่ว่าจะใส่ใจ เขาจงใจที่จะน�ำสภาพที่บอบช�้ำ มาให้ศาสตราจารย์เกรียงไกรเห็น "ไผ่" เสียงเรียกแหบพร่าเบาหวิวดังขึ้น เมื่อชายสูงวัยเห็นสภาพของชู้รัก "ครับศาสตราจารย์" รอยยิม้ เฉยชาและน�ำ้ เสียงเย็นชาท�ำให้ชายสูงวัยขยับเข้าจะแตะตัวแต่ เรียวไผ่กลับถอยหนี "ขอตัวนะครับ ผมต้องไปเตรียมเอกสารงานวิจัย" เรียวไผ่ถอยหนีออกมาอย่างไร้เยือ่ ใย แต่ถงึ อย่างนัน้ เขาก็ยงั ลอบสังเกต ศาสตราจารย์เกรียงไกร พอพ้นสายตาของศาสตราจารย์มาเท่านัน้ เพือ่ นร่วมงานต่างเข้ามารุม ล้อมร่างสูงโปร่งของเรียวไผ่ในทันที "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ดูสิหน้าตาสวยๆ เยินไปหมด ไปหาหมอมาหรือยัง" "นั่นสิ จะเป็นแผลเป็นไหมนี่ไผ่" เพื่อนร่วมงานผู้หญิงต่างรุมถามอย่างห่วงใย เรียวไผ่ได้แต่ยิ้มรับกับ 22


อนันตกาล

ความปรารถนาดีที่เธอเหล่านั้นหยิบยื่นให้ "ดันไปขวางทางคนเข้าน่ะครับ เลยเป็นแบบนี้" การเลีย่ งปัญหาทีจ่ ะสร้างผลกระทบในทีท่ ำ� งานถือเป็นการดีทสี่ ดุ เรียว ไผ่จึงเฉไฉไปที่เรื่องอื่นแทน ซึ่งก็ได้ผล เมื่อทุกคนหลงเชื่อเรื่องที่เขากุขึ้นมา เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างเพรียวที่หันไปยิ้มให้กับคนที่รออยู่ "ผมนึกว่าคุณกลับไปแล้ว" เรียวไผ่ทกั ภูชติ ทีน่ งั่ รอเขาอยูท่ โี่ ต๊ะท�ำงาน ร่างสูงของชายหนุม่ ยิม้ น้อยๆ "ก็แค่เป็นห่วง" น�ำ้ เสียงทีจ่ ริงจัง อ่อนโยนขัดกับท่าทางทีเล่นทีจริง ท�ำให้เรียวไผ่อดข�ำ ไม่ได้ "คนขี้เก๊ก" เสียงพึมพ�ำดังขึน้ พอทีเ่ จ้าตัวจะได้ยนิ แต่กอ่ นทีร่ า่ งเพรียวจะเดินไปถึง เก้าอี้ ภูชิตก็รวบร่างของเรียวไผ่เข้าสู่อ้อมกอด "ไม่เอาครับ" ฝ่ามือสัมผัสริมฝีปากของชายหนุ่มที่ก�ำลังโน้มเขาให้ก้มลงไปสัมผัส "นิดนึงไม่ได้หรือไง" ชายหนุ่มยังคงแกล้งหยอกล้อ แต่เรียวไผ่ยังคงปฏิเสธ "เสียดายชะมัด" ท่าทางที่ไม่ใส่ใจของชายหนุ่มท�ำให้ร่างเพรียวหัวเราะ ก่อนจะก้มลง จุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผาก "ขอบคุณนะที่เป็นห่วง เหวอ" ร่างที่ก�ำลังผละออกต้องเสียหลักล้มลง เมื่อภูชิตกระชากแขนของอีก ฝ่ายเข้ามาสู่อ้อมกอด 23


ไอดิน...กลิ่นรัก "อย่ายั่วผมให้มากนัก" รอยยิ้มและน�้ำเสียงต�ำหนิติเตียนขัดกับใบหน้ายิ้มแย้มที่เต็มไปด้วย เลศนัย "เพราะผมไม่แคร์หรอกนะ กับค�ำว่าศีลธรรม" เสียงกระซิบหยอกล้อที่ท�ำให้ร่างกายสั่นไหว เรียวไผ่กลบเกลื่อนด้วย รอยยิ้มยั่วเย้า "แต่ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนดี" ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช�้ำ บวกกับรอยยิ้มยั่วเย้า เศร้าสร้อย ยิ่ง ท�ำให้คนตรงหน้าดูบอบบางน่าถนอมขึ้นไปอีก "เฮ้อ แกล้งคุณนี่ไม่สนุกเลย" ภูชิตท�ำทีเป็นถอนหายใจแล้วลุกขึ้นบิดตัวอย่างเกียจคร้าน "ก็อย่ามาแกล้งผมสิครับ" เรียวไผ่ยังคงยิ้มเช่นเดียวกับภูชิต ต่างฝ่ายจ้องมองกันพร้อมปกปิดความรูส้ กึ ทีแ่ ท้จริงเอาไว้ ท�ำให้ระหว่าง ทั้งคู่มีก�ำแพงบางๆ ขวางกั้นไว้ และทั้งคู่ก็รู้สึกถึงมันได้ดีเช่นกัน ภูชิตถอนหายใจออกอีกครั้ง "ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะ ตาแก่นั่นไม่ปล่อยคุณไว้แน่" "ผมรู้" เมือ่ เห็นท่าทีของร่างโปร่ง ภูชติ ไม่พดู อะไรอีก ร่างสูงขยับลุกขึน้ ยืนเต็ม ความสูงก่อนจะยื่นหน้าเข้าหอมแก้มเรียวไผ่ "มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เช้านี้ผมมีนัดต้องไปแล้ว" ร่างสูงโปร่งท�ำเพียงหัวเราะแผ่วเบา ในใจเขารู้ดีว่าชายหนุ่มนัดใครไว้ 24


อนันตกาล

ภูชิตกลับไปแล้วเหลือเพียงเรียวไผ่ที่นั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะท�ำงาน ร่างเพรียวมองอกไปข้างนอกนอกหน้าต่าง อากาศร้อนระอุและ บรรยากาศในที่ท�ำงานเย็นชาที่แสนอึดอัดกับความสัมพันธ์ที่ยากจะเลิกรา ยิ่ง ท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกเบื่อหน่าย "ไผ่" เสียงเรียกของชายสูงวัยท�ำให้เรียวไผ่หันกลับไปที่หน้าประตู ศาสตราจารย์เกรียงไกรล็อคประตูแล้วก้าวเข้ามาดึงเขาเข้ากอด "เป็นอะไรมากหรือเปล่า ฉันขอโทษนะ ขอแค่ไผ่อย่าพูดอีกว่าเราจะ เลิกกัน ฉันจะไม่ท�ำกับไผ่แบบนั้นอีกแล้ว" ค�ำพูดของชายสูงวัยทีด่ งึ เขาเข้าสูอ้ อ้ มกอด ท�ำให้เรียวไผ่ได้แต่ซอ่ นรอย ยิ้มเย้ยหยันไว้ในอ้อมกอดของชายสูงวัย "แล้วลูกเมียของคุณล่ะครับ" "เรือ่ งของเราไม่เกีย่ วกับพวกนัน้ สิง่ ทีฉ่ นั จ้องการจริงๆ มีแค่ไผ่เท่านัน้ " เสียงราวกับเพ้อของศาสตราจารย์ท�ำให้เรียวไผ่ต้องคิดใหม่ "สัญญาซิไผ่ ว่าจะอยู่กับฉัน ไผ่เป็นของฉันใช่ไหม" ชายสูงวัยลูบไล้ใบหน้าฟกช�้ำแผ่วเบาอย่างหลงใหล ใบหน้าอ่อนเยาว์ ยัว่ เย้าให้ลมุ่ หลง แต่กลับให้ความรูส้ กึ บอบบางราวกับจะแตกสลาย แค่เพียงคิด ว่าคนตรงหน้าต้องกลายเป็นของคนอื่นเท่านั้น ศาสตราจารย์เกรียงไกรกอดรัดร่างเพรียวของเรียวไผ่แน่นราวกับว่า อีกฝ่ายจะลอยหายไป เรียวไผ่ไม่ได้กอดตอบ เขาปล่อยให้อกี ฝ่ายสัมผัสผิวกายตามแต่ใจด้วย ใบหน้าที่ครุ่นคิด จากตอนแรกที่คิดว่าจะจบความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเงียบๆ แต่ 25


ไอดิน...กลิ่นรัก เห็นทีอีกฝ่ายคงไม่คิดเช่นเดียวกับเขา การคุกคามของศาสตราจารย์เกรียงไกรที่มีต่อเขานั้นมากขึ้นทุกทีจน เรียวไผ่เริ่มรู้สึกอัดอึด ทั้งสายตาของเพื่อนร่วมงานที่เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ ของเขา เพียงแต่ยังไม่มีใครพูด แต่เรียวไผ่ก็รู้สึกได้ถึงสายที่สอดรู้สอดเห็น "ไผ่" เสียงกระซิบอย่างลุม่ หลงในผิวกายของชายสูงวัย ยิง่ ท�ำให้เรียวไผ่รสู้ กึ สะอิดสะเอียน "ภรรยาโทรมาแล้วนะครับ" เรียวไผ่เอ่ยถึงหญิงสาวที่ก�ำลังโทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของอีกฝ่าย ค� ำ แก้ ตั ว ที่ ไ ด้ ยิ น อยู ่ ป ระจ� ำ ที่ ช ายสู ง วั ย เอ่ ย ขึ้ น ท� ำ ให้ เรี ย วไผ่ ซ ่ อ นใบหน้ า สะอิดสะเอียนไว้ในเงามืด นับวันความรู้สึกของเขาที่มีต่อศาสตราจารย์มันยิ่งดิ่งลงเหว "ฉันไปก่อนนะไผ่ พรุ่งนี้เราจะเจอกันที่ท�ำงาน" เสียงกระซิบพร้อมกับจูบลา ที่เรียวไผ่ตอบรับอย่างขอไปที ทันทีที่ร่างของศาสตราจารย์เกรียงไกรพ้นจากประตู ใบหน้าของเรียว ไผ่ก็บึ้งตึงขึ้นมาโดยทันที การถูกผูกมัดที่นับวันยิ่งมากขึ้นจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ ท�ำให้จิตใจที่ แห้งแล้งยิ่งเหี่ยวเฉามากขึ้นทุกที ตอนแรกเรียวไผ่คดิ จะท�ำเรือ่ งเจ็บแสบจนลืมไม่ลงกับชายสูงวัย แต่เมือ่ ได้พบกับความหึงหวงทีอ่ กี ฝ่ายแสดงออก ท�ำให้เขาเกิดความกลัวทีจ่ ะถูกท�ำร้าย เรียวไผ่หยิบซองจดหมายตอบรับทีธ่ รี วิทย์สง่ มาให้แล้วยิม้ ออกมาน้อยๆ เขาอาจคิดง่ายไป ว่าการที่ห่างกันจะท�ำให้ศาสตราจารย์ลืมเขาได้ แต่ 26


อนันตกาล

ถึงลืมไม่ได้เขาก็ไม่คิดจะอยู่กับอีกฝ่าย เรียวไผ่เริม่ ต้นเขียนจดหมายลาออก พร้อมทัง้ ติดต่อภูชติ เรือ่ งทีเ่ ขาต้อง จากกรุงเทพฯ ไปไกล ส�ำหรับเขาในตอนนีแ้ ล้ว ความก้าวหน้าในหน้าทีก่ ารงานไม่ใช่สงิ่ ส�ำคัญ ที่ส�ำคัญคือการรดน�้ำจิตใจที่ก�ำลังเหี่ยวเฉาของเขาให้มีชีวิตชีวามากกว่า qr qr qr

27


แสงแดดสว่างจ้าจนท�ำให้ตาพร่า กับสัมภาระมากมายไม่ได้ ท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกหงุดหงิดหรือเบื่อหน่าย

"ให้ผมส่งแค่นี้จะพอเหรอ" ภูชิตถามขึ้นอย่างห่วงใย เขาตัดสินใจลาออกจากงานกระทันแล้วเก็บ เสื้อผ้า รวมทั้งของใช้หนีไปซ่อนตัวอยู่บนเขาที่ธีรวิทย์เพื่อนของเขาเป็นแพทย์ ประจ�ำอยู่ "แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว" "แต่ของของคุณมันไม่แค่นี้นี่สิ" ค�ำพูดติดตลกท�ำให้เรียวไผ่หัวเราะออกมา เมื่อรอบตัวของเขามีของ มากมายกองรวมกัน มีทั้งของเขาเองและของที่ธีรวิทย์ฝากซื้อ รอยยิ้มและใบหน้าที่สดใสของเรียวไผ่ที่ไม่ได้เห็นมานานท�ำให้ภูชิต ยกมือขึ้นขยี้ศีรษะ


อนันตกาล

"หากมีปัญหาอะไรติดต่อผมได้นะ" เรียวไผ่พยักหน้าตอบรับความห่วงใยที่ภูชิตมอบให้ "ดูแลตัวเองดีๆ และคนของคุณให้ดีๆ ล่ะ" ค�ำพูดของเขาท�ำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมา "ไม่ต้องย�้ำก็รู้ครับ ผมแค่อยากให้ไผ่รู้ว่าผมเป็นห่วง ถึงไม่ได้เป็นอะไร กันแล้ว แต่ผมก็ยังรู้สึกดีกับไผ่นะ" น�้ำเสียงสงบนิ่งของภูชิตราบเรียบไร้ซึ่งสิ่งเคลือบแฝง ท�ำให้เรียวไผ่ยิ้ม ออกมา ร่างเพรียวมองรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจ เรียวไผ่เขย่งตัวขึ้นหอม แก้มของชายหนุ่มแผ่วเบา "ขอให้คุณมีความสุข ไว้เจอกันตอนผมกลับมา" ท่าทางร่าเริงสดใสที่ไม่ได้เห็นมานาน ท�ำให้ภูชิตยิ้มกว้าง สายตาของ เขามองร่างเพรียวที่ขึ้นรถกระบะ แล้วหันกลับมาโบกมือลาอย่างร่าเริงแล้วได้ แต่ถอนหายใจ ภูชิตรู้มาตลอดถึงความรู้สึกของตนเอง ว่าตนนั้นถูกใจเรียวไผ่ ทั้งรูป ร่างหน้าตาที่ดูบอบบางน่าถนอม รวมทั้งรอยยิ้มยั่วเย้าที่เห็นแล้วอยากดึงเข้าสู่ อ้อมกอด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่มที างพัฒนาไปมากกว่าคูน่ อน รวม ทั้งตัวเขาเองก็มีพันธะที่ไม่อาจตัดขาด จนภูชิตอดรู้สึกไม่ได้ว่า ในสักวันหนึ่ง เขาต้องเห็นตัวเองซ้อนทับกับ ศาสตราจารย์เกรียงไกร ในวันที่เขาลุ่มหลงอีกฝ่ายจนถอนตัวไม่ขึ้น "ขอให้โชคดีนะเรียวไผ่" ชายหนุม่ ฝากเสียงกระซิบไปกับสายลม เมือ่ เห็นเพียงเงาของรถกระบะ ที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ไกลๆ 29


ไอดิน...กลิ่นรัก การเดินทางทีข่ ลุกขลักไม่ได้ทำ� ให้เรียวไผ่รสู้ กึ อึดอัด เขากลับรูส้ กึ สดชืน่ ขึ้นมาอย่างน่าประหลาด แม้รถจะกระเด้งกระดอน ตกหลุมตกหล่มจนท�ำให้เขาเมารถ แต่เรียว ไผ่ยังคงประคองเค้กในมือที่ธีรวิทย์ฝากซื้ออย่างระมัดระวัง "อุ๊ก" เสียงร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ รถก็แฉลบลงข้างทางเมื่อคนขับหักหลบ หมูป่าที่วิ่งตัดหน้ารถ "เป็นอะไรหรือเปล่า พ่อหนุ่ม" เสียงของคนขับถามอย่างเป็นห่วง เมื่อหน้าผากของเรียวไผ่กระแทก เข้ากับคอนโซลรถ "ไม่เป็นไรครับ ผมยังสบายดี" เรียวไผ่ยังคงยิ้มแย้ม แม้จะรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ที่หน้าผากก็ตามที ร่างเพรียวก้มมองเค้กในมือที่กลิ้งหล่นลงพื้นแล้วประคองมาไว้บนตัก อีกครั้ง 'ขอโทษนะธี' เรียวไผ่ได้แต่ขอโทษเพื่อนอยู่ในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าเพื่อนของเขาคิด จะให้ใครสักคนมากกว่าจะกินเอง สังเกตได้จากขนมและของเล่นมากมายที่ถูก ฝากซื้อ เส้นทางยังคงคดเคีย้ วและขรุขระ แต่กลิน่ ไอของต้นไม้ทรี่ ายล้อมก่อให้ เกิดความสดชื่น จนเรียวไผ่ลืมเลือนอาการเมารถเป็นปลิดทิ้ง แสงแดดสว่างสดใสที่ทอดผ่านเงาไม้นั้นสวยงาม จนความรู้สึกเหนื่อย ล้าและเบื่อหน่ายที่มีต่อศาสตราจารย์เกรียงไกร ราวกับเป็นแค่เพียงอดีตที่ผ่าน มานานแสนนาน 30


อนันตกาล

หลังจากพ้นเงาของป่าไม้ สายตาของเรียวไผ่จงึ ได้เห็นหมูบ่ า้ นทีอ่ ยูบ่ น เขาซึ่งห่างไกลจากชุมชม สว่างสดใสด้วยแสงแดดยามบ่ายที่สาดส่องลงมาจน ตาพร่ามั่ว รถกระบะแล่นไปจอดที่ลานกว้าง ทันทีที่รถเข้าจอดคนในหมู่บ้านก็เริ่มปรากฏตัวออกมา ไม่นานนักร่าง สูงของธีรวิทย์ก็ก้าวเข้ามา "เป็นไงบ้างเรียวไผ่" หมอหนุ่มทักทายเพื่อนที่มีท่าทางอ่อนเพลีย "ไม่เจอกันนานเลยนะหมอ" ร่างเพรียวขยับเข้ากอดเพื่อนอย่างสนิทสนม "ของที่ฝากซื้อล่ะ" ค�ำถามของธีรวิทย์ทำ� ให้เรียวไผ่หวั เราะ เขายืน่ กล่องเค้กทีผ่ า่ นการกลิง้ ไปกลิ้งมาอยู่หลายครั้งให้กับหมอหนุ่ม "ให้ตายซิ เละหมด" ธีรวิทย์พึมพ�ำอย่างหัวเสีย "คิดว่ากว่าจะหอบขึ้นมาได้นี่มันง่ายนักเหรอ" เรียวไผ่เห็นท่าทางของเพื่อนจึงเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจของตัว เหมือนหมอหนุ่มจะเริ่มนึกได้ จึงยิ้มเจื่อนให้ "โทษที มีคนที่อยากให้น่ะ" น�้ำเสียงเขินอายของธีรวิทย์ท�ำให้เรียวไผ่เลิกคิ้ว "ไว้อธิบายทีหลัง" ธีรวิทย์ดุนหลังเพื่อนก่อนเดินน�ำไปยังที่พัก บ้านพักของเรียวไผ่เป็นบ้านพักไม่สิจะพูดให้ถูกก็คือห้องพักที่มีเพียง เตียงนอนและชั้นวางของเท่านั้น ของต่างๆ ถูกวางลงบนพื้น 31


ไอดิน...กลิ่นรัก "ฝากซื้อของเยอะแยะเชียว แถมเป็นของเด็กทั้งนั้น แอบไข่ทิ้งไว้ที่นี่ หรือไง" เรียวไผ่ถามธีรวิทย์ที่รื้อดูของฝากที่ตนหิ้วมา "บ้าเหรอ" ธีรวิทย์พูดเสียงดุ ทั้งที่ยังก้มดูข้าวของต่างๆ ที่เรียวไผ่ขนมา "มีคนที่อยากให้น่ะ" ท่าทางที่ดูเหมือนล�ำบากใจของธีรวิทย์ท�ำให้เรียวไผ่สนใจ "ใครน่ะ" ค�ำถามของเรียวไผ่ไม่ได้รบั ค�ำตอบ แต่ธรี วิทย์กลับหันหน้ามาหาร่างสูง โปร่งแทน "นายดีกว่า โผล่มาที่นี่ได้ มีเรื่องอะไรที่กรุงเทพฯ" ใบหน้าที่ก�ำลังยิ้มอยู่ยิ้มค้างกับค�ำถาม เรียวไผ่มองเพื่อนที่ยังคงยืนรอ ค�ำตอบอยู่แล้วถอนหายใจ "ก็เรื่องเดิมๆ" เขาเล่าเรือ่ งระหว่างเขาและศาสตราจารย์เกรียงไกรให้ธรี วิทย์ฟงั หมอ หนุ่มนั่งฟังไปเงียบๆ ระหว่างที่เขาเล่า ความรู้สึกอึดอัด กดดันที่ทนมาตลอดเริ่มเปลี่ยนเป็นน�้ำตา ตลอดมา เรียวไผ่ไม่เคยรู้เลย ว่าเขารู้สึกแย่กับเหตุการณ์เหล่านั้นขนาดไหน ธีรวิทย์ตบไหล่เพื่อนแผ่วเบาให้ก�ำลังใจ "ก็อยูท่ นี่ ไี่ ปสักพักก็ได้ ว่าแต่ ถามจริงๆ หลงรักศาสตราจารย์เกรียงไกร หรือเปล่า" "ไม่เลยสักนิด" เรียวไผ่ตอบกลับไปในทันทีโดยไม่ต้องคิด 32


อนันตกาล

ธีรวิทย์ถอนหายใจออกยาวอย่างโล่งอก "ฉันก็แค่เหนือ่ ยกับเรือ่ งบ้าๆ แต่ทนี่ ดี่ มี ากๆ เลย กลิน่ ของแสงแดด และ กลิ่นของหญ้า ที่แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกราวกับล่องลอย" ดวงตาเรียวค่อยๆ หลับตา สูดดมกลิ่นแสงแดดที่ปนมากับกลิ่นอับชื้น ของไม้กระดาน พร้อมกับจิตนาการว่าตนได้นอนอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจี "อย่าเพิง่ เพ้อ วันนีม้ อี ะไรต้องท�ำอีกตัง้ เยอะแยะ ต้องไปแนะน�ำนายให้ กับผู้ใหญ่บ้าน แล้วก็มีคนน�ำทางอีก นายอยากจะเข้าป่าไปดูพวกพืชสมุนไพร ไม่ใช่หรือไง" ค�ำพูดของธีรวิทย์ทำ� ให้เรียวไผ่นกึ ได้ ข้ออ้างทีเ่ ขาจะมาค้นคว้าพืชพันธ์ เพื่องานวิจัยในตอนแรก มันไม่จ�ำเป็นอีกแล้วแต่ในเมื่อมีโอกาสเรียวไผ่ก็ไม่รีรอ ที่จะตอบตกลง เงาเล็กๆ ที่ลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ประตูท�ำให้เรียวไผ่จ้องมอง "ว่ายังไงครับ" เรียวไผ่ยิ้มให้กับเด็กชายที่ยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ประตู "น�้ำมาท�ำอะไรที่นี่ครับ" เสียงของธีรวิทย์ดังขึ้น เมื่อร่างสูงหันมาเห็นร่างเล็กที่โผล่พ้นมาเพียง ศีรษะ เด็กชายมองทั้งสองคนแล้วหลบหน้าที่ก�ำแพง ก่อนจะค่อยๆ ชะเง้อ มองมาที่พวกเขาอีกครั้ง "พี่ธีเห็นแล้ว มานี่ครับน�้ำ เดี๋ยวพี่ธีจะแนะน�ำเพื่อนให้รู้จัก" เด็กชายมองออกไปที่ด้านนอกและหันกลับมามองทางด้านเขาอย่าง ลังเล "พี่มีขนมให้ด้วยนะ" 33


ไอดิน...กลิ่นรัก เรียวไผ่ยมิ้ ให้เด็กชายผิวคล�ำ้ อย่างอ่อนหวาน พร้อมทัง้ ย่อตัวลงนัง่ ยองๆ ลงกับพื้น "มาเล่นกันเถอะน้องน�้ำ" เด็กชายที่มีท่าทีลังเลมาตลอดวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กผอม บางวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีร่าเริงแจ่มใส "พี่ชื่อเรียวไผ่ เรียกว่าไผ่ก็ได้นะ" "เรียวไผ่" เด็กชายพูดตามช้าๆ "อื้อ เรียวไผ่ โอ๊ะ" ร่างเพรียวร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ เด็กชายยื่นหน้าเข้ามาจับที่แก้ม ของเขา "ขาวจัง" ผิวสีน�้ำผึ้งคล�้ำแดดของมือเล็กที่วางทาบทับที่แก้ม ตัดกับสีผิวขาวซีด อย่างเห็นได้ชัด "พี่ไม่ค่อยโดนแดดน่ะครับ แต่พี่มีขนมนะ" เรียวไผ่พยายามผูกสัมพันธ์กับเด็กชาย แต่ธีรวิทย์กลับเดินเข้ามาอุ้ม เด็กชายขึ้นสูง "พี่มีขนมกับของเล่นมาให้น�้ำด้วย ว่าแต่ลมอยู่ไหนครับน�้ำ" ธีรวิทย์ถามหาใครอีกคน เด็กชายบอกใบ้คร่าวๆ ก่อนที่หมอหนุ่มจะ หยิบของเดินจากไป "อยู่เป็นเพื่อนเรียวไผ่ก่อนนะ พี่เขาไม่รู้ทาง เดี๋ยวมานะเรียวไผ่ ไปท�ำ ธุระ เดี๋ยวจะมาพาไปทักทายคนในหมู่บ้าน นั่งพักไปก่อน" ธีรวิทย์พูดแค่นั้นและก้าวจากไป ทิ้งเขาไว้กับเด็กชาย แต่ในมือของ 34


อนันตกาล

หมอหนุ่มกลับหยิบเค้กที่เขาถือขึ้นมาด้วย "สงสัยจะหนีไปท�ำเรื่องไม่ดีแน่" "เรื่องไม่ดี" ค�ำพูดพึมพ�ำของเรียวไผ่ท�ำให้เด็กชายพูดทวนอย่างสงสัย "ก็อู้งานไงครับ พี่เดาว่าพี่ธีจะต้องหนีไปอู้งานแน่ๆ" ท่าทางไม่เข้าใจของเด็กชายท�ำให้เรียวไผ่หวั เราะ เขาอุม้ เด็กชายขึน้ สูง ก่อนจะพาไปนั่งทีเตียง "พี่มีขนมมาเต็มเลย เดี๋ยวพี่เอาขนมให้น้องน�้ำกินดีกว่า" แต่ก่อนที่เขาจะผละออก เด็กชายคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเขา "ว่าไงครับ" "สวย" ค�ำพูดสั้นๆ และดวงตาเป็นประกายของเด็กชาย ท�ำให้เรียวไผ่หยุด ชะงัด สร้อยข้อมือทองค�ำขาวรูปดาวฉายชัดในแววตาของเด็กชาย ร่างเพรียวขยับนั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นข้อมือให้น�้ำเห็นสร้อยที่ข้อมือ ชัดๆ ยามที่จี้รูปดาวดวงเล็กโดนแสงแดด มันจะสะท้อนแสงเป็นประกาย เด็กชายมองภาพนั้นด้วยดวงตาชื่นชม "ชอบเหรอ" เด็กชายพยักหน้ารับพร้อมมองร่างเพรียวขยับมือไปมา ซึง่ น�ำ้ ก็หมุนหัว ตามการเคลื่อนไหวของข้อมือ "พี่ให้เอาไหม" สร้อยข้อมือของขวัญที่เคยได้จากศาสตราจารย์เกรียงไกรเมื่อนานมา แล้ว เรียวไผ่ปลดมันออกอย่างรวดเร็ว "ไม่เอา" 35


ไอดิน...กลิ่นรัก เด็กชายส่ายหน้าทั้งที่ดวงตายังคงมองสร้อยข้อมือเส้นเล็กอยู่ "แม่สอนว่า ไม่ควรเอาของๆ คนอื่นมาเฉยๆ มันไม่ดี" น�้ำที่พยายามห้ามตนเองตามค�ำสอนของแม่นั้น ดูน่ารักน่าเอ็นดูจน เรียวไผ่อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "พี่ไม่ได้ให้น�้ำเฉยๆ แต่พี่มีข้อแลกเปลี่ยนน�้ำจะว่ายังไง" ท่าทางใสซื่อของเด็กชายท�ำให้เรียวไผ่อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ "ระหว่างที่น�้ำอยู่ที่นี่ น�้ำต้องเป็นเพื่อนของพี่ ได้ไหม" เรียวไผ่ยื่นข้อเสนอให้ "ไม่ต้องให้ก็เป็นเพื่อนกันได้" ค�ำตอบของเด็กชายท�ำให้ร่างเพรียวหัวเราะออกมาอีกครั้ง เขาปลด สร้อยข้อมือออกมา แล้วพันรอบข้อมือของเด็กชาย เพราะน�้ำยังเป็นเด็กท�ำให้ สร้อยข้อมือที่พอดีมือของเขา ต้องพันที่ข้อมือของน�้ำถึงสองรอบ "หลักฐานของการเป็นเพือ่ น น�ำ้ ต้องดูแลสร้อยข้อมือทีพ่ ใี่ ห้ดๆี นะ แล้ว ก็พาพี่เที่ยวถ้ามีโอกาสดีไหม" เมื่อได้ยินค�ำตอบ เด็กชายท�ำหน้าตาครุ่นคิด ก่อนจะยิ้มกว้างพร้อม พยักหน้าไปมา "ผมจะพาพี่ไปเที่ยวที่ล�ำธาร แล้วก็ดงกล้วยของพี่ดิน" "มีพี่ชายด้วยเหรอ" เมื่อเห็นเด็กชายพูดถึงพี่ เรียวไผ่จึงหาเรื่องชวนคุยสร้างความคุ้นเคย "มี 2 คน ผู้ชาย ชื่อ พี่ดินกับพี่ลม พี่ดินใจดีท�ำงานทั้งวัน ส่วนพี่ลมก็ ใจดี แต่ชอบแวบไปแวบมา น�้ำหาไม่ค่อยเจอ น�้ำชอบขี่คอพี่ดิน เพราะพี่ดินตัว ใหญ่แข็งแรง" เด็กชายท�ำท่าทางประกอบยามเล่าถึงพี่ชาย 36


อนันตกาล

เรียวไผ่นงั่ มองน�ำ้ ทีเ่ ล่าเรือ่ งพีช่ ายของตนด้วยท่าทางมีความสุขแล้วอด อิจฉาไม่ได้ เจ้าตัวเล็กเล่าโน่นเล่านี่พร้อมกับกินขนมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หลับ ไปด้วยความอ่อนเพลีย "เด็กหนอเด็ก" เรียวไผ่ลูบไล้เส้นผมหยาบกระด้างอย่างอ่อนโยน แล้วก้มลงมองเวลา ที่ข้อมือ ผ่านไปเกือบชัว่ โมงทีธ่ รี วิทย์หายตัวไป ร่างเพรียวอ้าปากหาวพร้อมกับ บิดขี้เกียจอย่างเหนื่อยล้า การเดินทางที่ยากล�ำบากและยาวนาน ท�ำให้ร่าง เพรียวรู้สึกอ่อนเพลีย ชายหนุ่มอ้าปากหาวกว้าง ก่อนล้มตัวลงนอนข้างร่างเล็กที่หลับอยู่ไม่ นานนักก็ผลอยหลับไป "น�้ำ" เสียงทุม้ ต�ำ่ ทีไ่ ด้ยนิ ท�ำให้เรียวไผ่ขยับตัวตืน่ ขึน้ อย่างเมือ่ ยล้า เงาร่างใหญ่ ทีย่ นื รีรอส่งเสียงเรียกแผ่วๆ ทีห่ น้าประตู ท�ำให้เรียวไผ่พยายามทีจ่ ะลืมตาเพือ่ ที่ จะพบผู้มาใหม่ ความรู้สึกอบอุ่นที่เงียบสงบแผ่ซ่านด้วยกลิ่นไอของแสงแดด ลอยเข้า มาประทะกับร่างกาย จนเรียวไผ่รู้สึกผ่อนคลาย "พี่ดิน" เสียงเรียกอย่างร่าเริงของเด็กชายดังขึ้นพร้อมกับเงาที่วิ่งหายไป ร่าง โปร่งพยายามฝืนลืมตาที่หนักอึ้งแต่ก็เห็นเพียงเงาด�ำทะมึนที่หน้าประตูเท่านั้น "เรียวไผ่ น�้ำไปก่อนนะ พี่ดินมาเรียกไปกินข้าว" เสียงเด็กชายร้องตะโกนก้อง เขาท�ำเพียงพยักหน้ารับ ทั้งๆ ที่สายตา ยังคงพร่ามัว ทันทีที่เด็กชายจากไป เรียวไผ่ทิ้งตัวลงนอนดังเดิม 37


ไอดิน...กลิ่นรัก เสียงกุกกักที่ดังอยู่ข้างตัวท�ำให้ร่างเพรียวลืมตาตื่นขึ้นมา เห็นร่างของ ธีรวิทย์ที่ก�ำลังเรียงโต๊ะและเก้าอี้ที่น�ำมาเพิ่มเติมให้ "หลับสบายเชียวนะ" น�้ำเสียงราวกับประชดประชันของธีรวิทย์ ท�ำให้เรียวไผ่ขมวดคิ้วแล้ว ต้องหัวเราะออกมา เมือ่ เห็นใบหน้าของธีรวิทย์มรี อยแดงเป็นทาง คล้ายกับรอย เล็บ "ไปโดนอะไรมาล่ะที่แก้ม" "แมวข่วน" ธีรวิทย์ตอบส่งๆ "แมวที่นี่แปลกเน๊อะ มี 4 นิ้ว แมวตัวไหนน้าอยากเห็นจัง" ค�ำพูดลอยๆ ของเรียวไผ่ทำ� ให้ธรี วิทย์มที า่ ทีหงุดหงิด แต่หมอหนุม่ ก็ยงั คงมีท่าทางสงบนิ่งต่อค�ำยั่วเย้าของเพื่อน "ไปหลอกเด็กที่ไหนมา" เรียวไผ่ขยับเข้าไปกระแซะหมอหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาจัดของให้เขาอยู่ เงียบๆ "เด็กที่ไหน โตแล้วน่า" "เหรอ ใช่เด็กที่มีผิวคล�้ำ ตาโต ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นหรือเปล่า โตกว่าน้องน�้ำนิดหน่อย" "รู้ได้ยังไง" ธีรวิทย์หนั มาถามเพือ่ นทีย่ นื ชิดติดกัน เรียวไผ่ยมิ้ ยัว่ เย้าก่อนจะชีน้ วิ้ ไป ที่ประตู เด็กชายสองคนยืนอยู่คู่กัน "ลม" เสียงของธีรวิทย์ร้องออกมาพร้อมกับเบิกตาโพลง 38


อนันตกาล

"แม่ให้เอาข้าวมาให้เพื่อนของหมอกิน เอาเข้าไปได้ไหม" เสียงแหบของเด็กหนุ่มท�ำให้เรียวไผ่ยิ้มกว้าง "ขอบคุณมากครับ น้องลมพี่ชายของน้องน�้ำเหรอ" เด็กหนุ่มไม่ตอบ แต่ก้าวขาถือถาดอาหารเข้ามาวางไว้ให้บนโต๊ะ เรียว ไผ่มองอาการของเพื่อนแล้วคาดเดาว่า เจ้าของรอยเล็บที่อยู่บนแก้มของหมอ หนุ่มคงเป็นเด็กคนนี้ ร่างสูงเพรียวของเด็กก�ำลังโต กับผิวสีนำ�้ ผึง้ คล�ำ้ แดดนวลเนียน ใบหน้า อ่อนเยาว์สดใส เสียงแหบที่เกิดจากเสียงแตก และบรรยากาศรอบกายที่แผ่ ออร่าความบริสุทธ์นั้น ท�ำให้เรียวไผ่อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เสน่ห์ของความเยาว์วัยที่คนรุ่นเขาเห็นก็ต้องอิจฉา "รู้สึกเห็นคุกขึ้นมาร�ำไร" ค�ำพูดลอยๆ ของเรียวไผ่ท�ำให้ธีรวิทย์สะดุ้งเฮือก เขาแน่ใจว่าเด็กตรงหน้าอายุไม่ถึง18 แน่ ถ้าจะให้เดา ก็คงจะอายุประ มาน 13-15 ปี เป็นอย่างมาก ถ้าธีรวิทย์สนใจเด็กขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะ เป็นยังไง "คุก คุก คุก" เสียงของเรียวไผ่ท�ำให้ธีรวิทย์เริ่มท�ำหน้าเครียด ผิดกับลมที่มองหน้า ของทั้งคู่อย่างสงสัย "เป็นอะไรหรือเปล่า" ค�ำถามของเด็กหนุ่มท�ำให้ร่างเพรียวยิ้มอ่อนหวานเป็นมิตร "แค่นำ�้ ลายติดคอน่ะ เลยไอนิดหน่อย นีแ่ ม่ของน้องลมท�ำมาให้พเี่ หรอ ครับ" เด็กชายพยักหน้ารับ 39


ไอดิน...กลิ่นรัก "ว่าแต่น้องลมอายุเท่าไหร่" ค�ำถามของเขาท�ำให้ลมขมวดคิ้ว "15" ค�ำตอบนั้นท�ำให้เรียวไผ่ตาโต ก่อนจะหันหน้าไปมองเพื่อน จากนิสัยของธีรวิทย์และท่าทางที่จ้องเขามาเขม็งนั้น เรียวไผ่ไม่อยาก จะคิดว่าคนตรงหน้าจะปล่อยให้ลมบริสุทธิ์ผุดผ่องโดยไม่แตะต้อง "เอาไว้จะซื้อโอเลี้ยงกับข้าวผัดไปเยี่ยมนะ" เรียวไผ่พูดความนัยที่รู้กันกับธีรวิทย์ "ฝันไปเถอะ" ธีรวิทย์พูดด้วยน�้ำเสียงเคร่งเครียด "คุยอะไรกัน" เหมือนลมจะทนไม่ไหวที่เห็นอาการของทั้งสอง "พีพ่ ดู ถึงคนโรคจิตน่ะ ลมระวังตัวไว้หน่อยก็ดนี ะ แถวนีม้ หี มาป่าใจร้าย อยู่ด้วย" ค�ำพูดมีเลศนัยของเรียวไผ่ ท�ำให้ลมขมวดคิว้ ก่อนทีจ่ ะทะลึง่ พรวดพลาด ลุกออกไปดื้อๆ "อ้าว" "ปากหาเรื่องจริงๆ เลยให้ตายสิ" ยังไม่ทนั ทีเ่ ขาจะพูดอะไร ธีรวิทย์กก็ า้ วฉับๆ ตามลมออกไปอย่างรวดเร็ว "น�้ำอยู่กับเรียวไผ่ก่อนนะ" ธีรวิทย์ตะโกนออกมา ก่อนจะก้าวตามลมหายไป ทิ้งเขากับน�้ำให้อยู่ ด้วยกันในห้อง เรียวไผ่มองอาหารในจานและมองเวลา เพิ่งบ่าย 3 โมงกว่าๆ เท่านั้น 40


อนันตกาล

"หิวไหมครับน้องน�้ำ" ร่างเพรียวถามเด็กชายที่นั่งมองเขาด้วยดวงตากลมโต "ไม่คับ" เด็กชายตอบด้วยเสียงดังฟังชัด รอยยิ้มซื่อบริสุทธิ์ทำ� ให้เรียวไผ่รู้สึก เหมือนน�้ำเป็นเทวดาตัวน้อย และโดยไม่รู้ตัวร่างเพรียวดึงเด็กชายเข้ามากอด แน่น "เหงาเหรอคับ" เด็กชายกอดตอบเขาพร้อมกับถามด้วยน�้ำเสียงสงสัย "ใช่ซิ พี่ไม่รู้จักใครเลย พี่ธีก็หนีพี่ไปแล้วเห็นไหม" "พี่หมอ ชอบไปเล่นกับพี่ลมสองคน วิ่งเล่นกันบ้างกอดกันบ้าง" ค�ำพูดของเด็กชายท�ำให้เรียวไผ่ท�ำตาโต "แล้วน้องน�้ำได้บอกคนอื่นบ้างหรือเปล่า" "ไม่ได้บอกครับ" ค�ำตอบของเด็กชายท�ำให้เรียวไผ่ถอนหายใจออกมา "เรื่องนี้เก็บไว้เป็นความลับนะ อย่าบอกใคร" เด็กชายใช้สายตากลมโตจ้องมองเขาอย่างสงสัย "ก็ถ้าบอกคนอื่น พี่ธีกับพี่ลมก็จะไม่ได้เล่นด้วยกันไง เพราะพี่หมอโต แล้วจะเล่นแบบเด็กๆ ไม่ได้ น�้ำก็รู้ใช่ไหม ว่าพี่หมอมีหน้าที่ดูแลคนในหมู่บ้าน" เมื่อได้ยินค�ำตอบเด็กชายพยักหน้ารับในทันที "เกี่ยวก้อยสัญญา ว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ" เรียวไผ่ยื่นนิ้วก้อยให้กับน�้ำ น�้ำมีท่าทีไม่เข้าใจ แล้วเขาก็จับมือของเด็ก ชายขึ้นมาเกี่ยวกันเอาไว้ "เขาเรียกเกี่ยวก้อยสัญญา" 41


ไอดิน...กลิ่นรัก เด็กชายยิ้มกว้างเมื่อได้ยินค�ำพูดของชายหนุ่ม ร่างเล็กนัง่ กินขนมอยูเ่ งียบๆ แล้วเดินไปเดินมาอยูใ่ นห้อง แล้วหันกลับ มามองเรียวไผ่ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนที่นอน "ไม่เบื่อเหรอ" เด็กชายถามชายหนุ่มที่นั่งอ่านเอกสารอยู่เงียบๆ "น้องน�้ำเบื่อเหรอครับ" เขาวางเอกสารลงบนเตียงแล้วขยับเข้าไปใกล้ "เรียวไผ่ไม่เบื่อเหรอ" น�้ำไม่ตอบค�ำถามแต่ถามย�้ำอยู่ที่เดิม อาการของเด็กชายท�ำให้เขาขยี้ ศีรษะเด็กชายอย่างเอ็นดู "ก็พี่ไม่รู้ว่าจะไปไหนนี่ครับ พี่ธีก็หายไปแล้ว" เด็กชายท�ำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะวิ่งไปที่หน้าประตูมองท้องฟ้าแล้ววิ่ง กลับมาหา "ไปเล่นที่สวนกัน ไปหาพี่ดินกันเถอะ เอาขนมไปด้วย" เด็กชายกึ่งลากกึ่งจูงเขาให้วิ่งตามไป ชายหนุ่มก้าวตามร่างเล็กๆ ที่วิ่งอย่างเริงร่า ท่ามกลางแสงตะวันอย่าง สดใส ยิ่งเมื่อเข้าเขตต้นไม้ ยิ่งให้ความรู้สึกว่าน�้ำคือภูติจิ๋วตัวน้อย ที่วิ่งอยู่ในป่า พอคิดถึงตรงนี้แล้วชายหนุ่มก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ น�้ำวิ่งอย่างคล่องแคล่วลัดเลาะไปเรื่อย ผ่านต้นไม้ ผืนหญ้าที่สดชื่น ไอ แดดหอมกรุ่นลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ "ระวังครับ" เรียวไผ่ดึงร่างเล็กที่ท�ำท่าจะกระโดดข้ามหล่มดิน แต่กลับพลาดจน เกือบหน้าทิ่ม 42


อนันตกาล

"ขอบคุณคับ" เด็กชายยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอ ก่อนจะกระโดดโลดเต้นวิ่งต่อไปข้าง หน้า ชายหนุ่มมองร่างเล็กที่วิ่งน�ำอย่างไม่มีสะดุด ไม่มีหลง แล้วอดทึ่งไม่ได้ กับความจ�ำของเด็กชาย "ดงกล้วยของพี่ดินอยู่ข้างหน้านี่" เสียงร้องของเด็กชายพร้อมกับร่างเล็กที่กระโดดโลดเต้นไปมาอย่าง ยินดีนั้นท�ำให้เรียวไผ่ยิ้มกว้าง แม้ตัวเองจะยืนหายใจหอบอยู่ก็ตาม ชายหนุ่มยืนพิงตัวกับต้นไม้ มองร่างเล็กที่ดูสดใสท่ามกลางแสงแดด ยามบ่ายด้วยลมหายใจเหนื่อยหอบ "นั่นไง พี่ดินอยู่นั่น" เรียวไผ่มองตามนิ้วเล็กๆ ชี้ไปตรงหน้า ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามบ่าย เงาร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก�ำลัง ฟันจอบลงบนดินอย่าง ขะมักเขม้น กล้ามเนื้อสมส่วนแน่นตึงขยับไปตามการ เคลื่อนไหวของผิวกาย ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นหน้าอกตึงแน่น ไล่ลงมาที่หน้าท้องลอนคลื่น ผิวสีเข้มคร้ามแดดมีหยดเหงื่อไหลย้อยเป็นทาง "พี่ดิน" เสียงเรียกของน�้ำ ท�ำให้คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมอง แสงแดดส่อง กระทบใบหน้าคมเข้มทีม่ เี หงือ่ ไหลย้อย เด็กหนุม่ ยกท่อนแขนก�ำย�ำขึน้ ปาดเหงือ่ บนหน้าผากช้าๆ เรียวไผ่มองภาพตรงหน้า ราวกับต้องมนต์สะกด เขาไม่อาจละสายตา จากร่างแข็งแรงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า "พี่ดิน" 43


ไอดิน...กลิ่นรัก เสียงของน�้ำท�ำให้ชายหนุ่มหลุดออกมาจากภวังค์ ทันทีที่รู้สึกตัว หัวใจของเขาเต้นแรง และลมหายใจหอบถี่ ความรู้สึก ร้อนรุม่ แล่นริว้ ไปทัว่ ร่าง แค่เพียงเด็กหนุม่ ผิวเข้มก้าวเข้ามา กลิน่ ไอของแสงแดด ที่ปนเปมากับเหงื่อผสมผสานกับกลิ่นดินที่แผ่ซ่านเข้ามา ท�ำให้เขารู้สึกราวกับ ก�ำลังหลอมละลาย "มาได้ไงน�้ำ" แค่เพียงได้ยนิ เสียงทุม้ ต�ำ่ ของคนตรงหน้า ใบหน้าของเรียวไผ่กแ็ ดงซ่าน "เรียวไผ่เหงา พาเรียวไผ่มาเล่น" เสียงของเด็กชายท�ำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว "เรียวไผ่" เสียงทุ้มต�่ำของดินถามอย่างฉงนสงสัย "ใช่ เรียวไผ่เหงา" "ท�ำไมไม่เรียกว่าพี่ล่ะ น�้ำ" "เรียกเรียวไผ่เฉยๆ ก็ได้" ชายหนุม่ แทรกบทสนทนาของทัง้ สอง และทันทีทไี่ ด้สบตาดวงตาสีเข้ม เรียวไผ่รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงจนใบหน้าขาวซีดเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด "แล้วเราอายุเท่าไหร่ล่ะ" "26" พอเรียวไผ่ตอบค�ำถามเท่านั้น ร่างสูงใหญ่ตรงหน้ากลับขมวดคิ้ว "แล้วดินล่ะครับ" "19" ค�ำตอบของเด็กหนุม่ ท�ำให้เรียวไผ่นงิ่ งัน ก่อนทีส่ ายตาของเขาจะไล่มอง ไปที่เรือนร่างสมส่วนแข็งแกร่งอีกครั้ง 44


อนันตกาล

ไม่ว่าจะเป็นไหล่กว้างตั้งตรง หน้าอกตึงแน่น และหน้าท้องเป็นลอน รวมทั้งใบหน้าคมเข้มที่ฉายแววครุ่นคิด สิ่งเหล่านี้แทบท�ำให้เขาไม่อยากเชื่อว่า คนตรงหน้ามีอายุเพียงเท่านี้ "พี่เรียวไผ่" เสียงทุ้มต�่ำที่ฟังแล้วชวนละลาย แต่ขัดหูตรงที่อีกฝ่ายเรียกเขาว่าพี่ "เรียกเรียวไผ่ เฉยๆ ก็ได้ อายุเราไม่ได้ต่างกันมาก" "7 ปีนี่นะ" ค�ำถามของดินท�ำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง อีกครั้ง "ผมไม่รจู้ กั ใครเลยนอกจากหมอ แล้วก็นอ้ งน�ำ้ เราอาจจะได้เป็นเพือ่ น กัน เรียกเรียวไผ่เถอะ" ดินมีท่าทีลังเล แต่ก็พยักหน้ารับ ร่างสูงใหญ่ขยับรับร่างเล็กที่ถาโถม เข้าใส่ "พี่ดิน ตรงโน้นมีผีเสื้อสีๆ ด้วย" เสียงร่าเริงของเด็กชายท�ำให้บรรยากาศผ่อนคลาย "เรียวไผ่ มาดูผีเสื้อกัน" เด็กชายกระโดดเข้ามากอดเขา พร้อมกับดึงมือให้เดินตาม "ระวัง" เพราะความเหม่อลอย ท�ำให้ร่างเพรียวสะดุดเข้ากับก้อนหินจนเสีย หลัก แต่ก่อนที่จะล้มลงวงแขนแข็งแกร่งขยับเข้าโอบรัดไม่ให้ล้มลง อุณหภูมริ อ้ นจัดทีส่ มั ผัสผ่านผิวกายและกลิน่ ไอของเพศชายก่อให้เกิด ความรู้สึกวาบหวามแล่นริ้วไปทั่วท้องน้อย "เจ็บไหม" "ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ" 45


ไอดิน...กลิ่นรัก เสียงของเขาสัน่ พร่าอย่างห้ามไม่อยู่ เมือ่ ต้องตกอยูใ่ นอ้อมกอดของคน ตรงหน้า "น�้ำ ระวังหน่อยสิ เรียวไผ่เกือบล้มแล้วเห็นไหม" ร่างสูงใหญ่นั่งยองๆ เพื่อให้เสมอกับร่างเล็กที่ยืนอยู่ "ขอโทษ อยากให้เรียวไผ่เห็นผีเสื้อ" "ไม่เป็นไรหรอก ไผ่เดินไม่ระวังเอง" เรียวไผ่ยิ้มให้กับทั้งคู่ก่อนที่จะเดินตามน�้ำที่วิ่งน�ำออกไป ชายหนุ่มใช้มือกุมหน้าอกที่ต�ำแหน่งของหัวใจ แค่เพียงได้เห็นคนตรง หน้า หัวใจก็เต้นแรงราวกับจะหลุดออกมา ตัง้ แต่เกิดมานีเ่ ป็นครัง้ แรกทีช่ ายหนุม่ รู้สึกเช่นนี้ qr qr qr

46


ในตอนเย็นธีรวิทย์ได้แนะน�ำเขาให้รู้จักกับครอบครัวของดิน และที่ส�ำคัญ คนน�ำทางที่จะพาเขาเข้าไปในป่าก็คือเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ท�ำให้

หัวใจของเขาเต้นแรง แม้จะจะสวมเสือ้ อ�ำพรางกล้ามเนือ้ สวย แต่ภาพกล้ามเนือ้ แข็งแรงก็ยงั คงติดตา ก่อให้เกิดความรู้สึกร้อนวูบวาบแล่นริ้วไปทั่วร่าง "น�้ำลายหยดแหมะๆ แล้ว" ธีรวิทย์แกล้งแซวเรียวไผ่ที่เอาแต่จ้องมองดินตาไม่กระพริบ "อย่างน้อยของฉันก็ไม่ใช่ผู้เยาว์นะ" เรียวไผ่กระซิบกับหมอหนุ่ม พร้อมกับมอบยิ้มอ่อนหวานให้ครอบครัว ของดิน "แล้วนี่ให้เจ้าดินน�ำทางเข้าป่านี่จะไหวเหรอ" พ่อของดินถามอย่างห่วงใย เนื่องจากรูปร่างที่บอบบางที่แค่เพียงชน


ไอดิน...กลิ่นรัก แรงๆ ก็อาจท�ำร้ายคนตรงหน้าให้บาดเจ็บได้ "ไหวสิครับ ก่อนหน้านีก้ เ็ คยไปเดินป่าหลายที่ เพิง่ จะมาช่วงไม่กปี่ หี ลัง ทีต่ อ้ งมาท�ำงานนัง่ โต๊ะ เลยห่างหายไป แต่พอมาอยูใ่ กล้ๆ แบบนี้ ผมก็รสู้ กึ สดชืน่ ขึ้นมาทันที" ค�ำพูดมัน่ อกมัน่ ใจของเรียวไผ่ ท�ำให้พอ่ และแม่ของเด็กหนุม่ มองอย่าง ไม่มั่นใจนัก "ดิน ดูแลพี่เขาดีๆ นะ" "นั่นสิ น้าก็อดเป็นห่วงหนูเรียวไผ่ไม่ได้ ถึงจะเป็นผู้ชายก็เถอะ แต่ดู อรชอนอ้อนแอ้นซะจนกลัวว่าจะไปหกล้ม แขนขาหัก" เรียวไผ่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินค�ำพูดของผู้อาวุโส "ไม่ตอ้ งห่วงครับคุณน้า ผมจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่เป็นภาระกับดินหรอก ครับ" ทันทีทสี่ บตากับเด็กหนุม่ ทีน่ งั่ มองอยูก่ อ่ น เรียวไผ่ยมิ้ ให้อย่างอ่อนหวาน และเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ แล้วอดลูบที่ใบหน้าร้อนผ่าวของตนไม่ได้ "เห็นคุณหมอบอกว่าจะไปอาทิตย์หรือสองอาทิตย์เลยงั้นหรือ" ผู้เป็นแม่ถามอย่างเป็นห่วง "ก็ประมานนั้นครับ เพราะต้องถ่ายภาพ หรืออาจจะต้องเก็บตัวอย่าง พืช หากจ�ำเป็น ถ้าทางคุณอาทั้งสองไม่สะดวก.." "ไม่หรอก ที่อาห่วงนะ ก็คือหนูไผ่ต่างหาก ถ้าดินคนเดียวไม่มีอะไรน่า ห่วง" ท่าทางที่แสดงออกถึงความจริงใจอย่างไม่ปิดบังของผู้อาวุโสทั้งสอง ท�ำให้เรียวไผ่ยิ้มเขินออกมา นานแล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสน�้ำใจที่ไร้ซึ่งสิ่งตอบแทน 48


อนันตกาล

"ขอบคุณมากครับ" ชายหนุ่มก้มลงไหว้ผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม "แล้วนี่จะเข้าป่าเมื่อไหร่กัน" "ถ้าทางคุณลุงสะดวกคงสักวันมะรืนน่ะครับ พรุ่งนี้ต้องเช็คความ เรียบร้อยของสัมภาระที่ขนแต่ถ้าทางคุณลุงไม่สะดวก ก็แล้วแต่ฝั่งคุณลุงเลย ครับ" ค�ำตอบของเรียวไผ่ทำ� ให้ไฟเรียกตัวดินเข้ามากระซิบกระซาบกันเงียบๆ ก่อนที่จะหันกลับมาที่ชายหนุ่ม "มะรืนนีก้ ไ็ ด้พรุง่ นีเ้ รียวไผ่กพ็ กั ผ่อนก่อน ส่วนทางนีไ้ ม่มอี ะไรมาก ส่วน งานของเจ้าดินจะให้เจ้าลมท�ำแทน" ท่าทางครุ่นคิดของผู้อาวุโสท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกเกรงใจ "ถ้าไม่สะดวกยัง.." "เดี๋ยวผมจะช่วยลมเองครับ คุณลุงไม่ต้องห่วง" เสียงของธีรวิทย์ดังขึ้นมากลางวงสนทนา "แต่ว่าหมอ" "ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวนเลย ครั้งนี้ผมก็มีส่วน เรียวไผ่เป็นเพื่อนสนิท ของผม อีกอย่างช่วงกลางวันผมก็ไม่ได้ท�ำอะไรมาก แค่ช่วยงานนิดหน่อย ผม เต็มใจช่วยครับ" ค�ำยืนยันหนักแน่นของธีรวิทย์ท�ำให้ผู้อาวุโสท�ำหน้าล�ำบากใจ "จะดีเหรอ หมอ งานสวนมันหนักนะ เดีย๋ วลุงท�ำกับเจ้าลมสองคนก็ได้" "ไม่เป็นไรครับคุณลุง ผมช่วยน้องลมเอง ส่วนที่บ้านพัก ให้น�้ำเฝ้าก็ได้ มีอะไรก็ไปเรียกผม เดียวผมก็มาถึงแล้ว ใช่ไหมน�้ำ" หมอหนุ่มหันไปหาแนวร่วมคือเจ้าตัวเล็ก ที่เงยหน้ามายิ้มร่าทันทีที่ที่ 49


ไอดิน...กลิ่นรัก ได้ยินชื่อตน "ตกลงแบบนี้นะครับ" ธีรวิทย์สรุปเอาเองเรียบร้อย จนผู้อาวุโสทั้งสองไม่สามารถโต้เถียงได้ qr qr qr

ท่ามกลางความมืดยามค�่ำคืน ร่างสองร่างเดินเคียงกันภายใต้แสงจาก กระบอกไฟฉายเงียบๆ จนผ่านพ้นบริเวณบ้านของดิน "เล็งน้องลมอยู่ใช่ไหม รีบฉวยโอกาสเสนอตัวเชียว" เรียวไผ่รู้ทันหมอหนุ่มที่กระตือรือร้นเกินเหตุ "แล้วใครล่ะ ที่น�้ำลายหยดแหมะๆ มองเด็กผู้ชายไม่วางตา" ธีรวิทย์กล่าวตอบโต้ร่างเพรียวระหงที่หยุดยืนกะทันหัน เรียวไผ่มองกลับไปที่บ้านของดิน แล้วออกเดินต่อไป "เป็นครั้งแรกเลย ที่ใจเต้นแรงขนาดนี้" ธีรวิทย์ถอนหายใจออกยาว แล้วเร่งฝีเท้าเดินให้พ้นจากอาณาเขตของ บ้านคน "เรือ่ งศาสตราจารย์เกรียงไกรยังไม่ทนั เคลียร์ ก็จะหาเรือ่ งอืน่ มาวุน่ วาย อีกแล้วเหรอ ไผ่ ถ้าไม่จริงจัง อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่านะ เขาไม่เหมือนพวกเรา" "ขอบคุณนะธีที่เตือน แล้วลมล่ะ จริงจังหรือเปล่า เด็กอายุ15 กับนาย ที่เป็นหมอ ผิดทั้งศีลธรรม ทั้งผิดกฎหมาย ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าพวกนายไปถึง ไหนแล้ว" เรียวไผ่มองร่างสูงที่ยืนนิ่งเมื่อโดนเขาสวนกลับ "กับลม ไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน" 50


อนันตกาล

ค�ำตอบนี้ท�ำให้เรียวไผ่หัวเราะ "ก็พอกันล่ะนะ" "เฮ้ อย่างน้อย ฉันก็รู้จักลมมาพักใหญ่แล้วนะ ไม่เหมือนนายที่เพิ่งเจอ ครั้งแรกก็น�้ำลายหยดแหมะๆ" เรียวไผ่ตบหลังธีรวิทย์เสียงดัง "เด็กมันมีอนาคตนะ" "พูดยังกับว่าดินไม่มีอนาคต 19เองนะแก" "น้องลมแค่15 เองนะ" พอพูดแบบนี้ทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกัน "กับลมน่ะ ฉันจริงจัง ว่าแต่นายเถอะ คิดยังไงกับดินกันแน่" เรียวไผ่นิ่งไป เมื่อธีรวิทย์ปรับโหมดเป็นจริงจัง "จะรู้ได้ไง เพิ่งเจอกันแค่ครั้งเดียว คุยกันนิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้าจะให้พูด ละก็ โคตรน่ากิน" เรียวไผ่ไม่รู้ว่าตนเองคิดยังไงกับเด็กหนุ่ม แต่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เขา รู้สึกราวกับยืนอยู่ใต้แสงแดดอบอุ่น "เฮ้อ แล้วนี่จะเข้าป่ากี่วันล่ะเนี่ย" ธีรวิทย์ชวนคุยเมื่อต้องเดินไปส่งเรียวไผ่เข้าที่พัก เรียวไผ่นงิ่ คิด ก�ำลังนึกว่าเขาต้องใช้เวลานานเท่าไหร่สำ� หรับการส�ำรวจ "ปกติทำ� กันทีมละ 2-3 คน ใช้เวลาประมาน 1 อาทิตย์ แต่นมี่ าคนเดียว ไม่น่าจะเกิน 2 อาทิตย์นะ อาจจะไวกว่านั้นต้องดูสภาพของป่าด้วย ฉันไม่เคย มาเดินป่าแถบนี้" เรียวไผ่คำ� นวณจากประสบการณ์ในอดีต ตามปกติเวลาออกส�ำรวจจะ ท�ำงานเป็นทีม แต่ครั้งนี้มีเพียงเขาคนเดียว และมีดินเป็นคนน�ำทาง ท�ำให้เขา 51


ไอดิน...กลิ่นรัก ต้องจัดการงานทุกอย่างเพียงล�ำพัง เรือ่ งถ่ายรูป กับจดบันทึกน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถา้ มีการเก็บตัวอย่างมันอาจ จะมีเรื่องยุ่งยาก "เหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนดีๆ ล่ะ เออปิดประตูดีๆ นะ กลางดึกที่นี่ อากาศเย็น กับระวังพวกงูด้วย" เรียวไผ่ยิ้มให้ธีรวิทย์ท่ีเดินจากไป เขาล้างหน้าแปรงฟันแล้วกางมุ้ง เตรียมเข้านอน แค่เพียงหลับตา ภาพของเด็กหนุ่มก็ลอยเด่นชัดขึ้นมา "ท่าจะเป็นเอามาก" เรียวไผ่ข�ำตัวเอง แล้วขยับตัวนอนลงอีกครั้ง เสียงจิง้ หรีดทีร่ อ้ งระงมท่ามกลางความมืด เสียงลมทีพ่ ดั พากิง่ ไม้จนสัน่ ไหว สิ่งเหล่านี้ย�้ำเตือนได้ดีว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับหมอน ปล่อยวางและลืมเลือนปัญหาต่างๆ ที่ อยู่ข้างหลัง แล้วนึกถึงความสุขของวันพักผ่อนที่ใกล้เข้ามาทุกที qr qr qr

ร่างเพรียวที่นอนซุกอยู่บนที่นอนขยับตัวบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยล้า ใบหน้าอ่อนหวานมองรอบห้องนอนผ่านมุง้ อย่างครุน่ คิด แล้วก็นกึ ได้วา่ ตนไม่ได้ อยู่ที่ห้องนอนในกรุงเทพ เรียวไผ่อ้าปากหาว แล้วก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลา 6โมง เช้า ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นเก็บที่นอนอย่างรวดเร็ว ถ้าที่นี่เป็นกรุงเทพ ก็ถือว่าเป็นเวลาเช้าตรู่ แต่ส�ำหรับหมู่บ้านบนเขา 52


อนันตกาล

แล้วถือว่าเป็นเวลาสายแล้ว ชายหนุ่มหยิบของออกไปจัดการธุระส่วนตัวที่ห้องน�้ำด้านนอกอย่าง รวดเร็ว แล้วเดินไปหาธีรวิทย์ที่บ้านพัก คนในหมู่บ้านจ้องมองผู้มาเยือนด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้ เรียวไผ่ท�ำได้ แค่เพียงส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เรียวไผ่เดินมองทิวทัศน์เขียวขจีด้วยรอยยิ้ม "ตื่นแล้วเหรอ" ร่างสูงใหญ่ของหมอหนุ่มนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่ม้านั่ง ทักทายทันทีที่เห็น เพื่อนของตน "ให้ไปอยู่ซะไกลเลยนะหมอ" "ที่นี่มันเป็นคลินิกด้วย ไม่สะดวกหรอกน่า เอากาแฟหน่อยไหม" "สักแก้วก็ดี" ร่างเพรียวขยับนั่งลงเคียงข้างหมอหนุ่ม "ก็ไปชงซิ" ธีรวิทย์พูดขึ้นมาหลังจากที่เรียวไผ่ นั่งลงเรียบร้อยแล้ว "เหี้..." เรียวไผ่ขยับปากด่าธีรวิทย์ดว้ ยความหมัน่ ไส้ แต่หมอหนุม่ กลับหัวเราะ ชอบใจที่ได้แกล้งเพื่อนของตน กาแฟร้อนยามเช้าท่ามกลางอากาศเย็น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมา อย่างรวดเร็ว "ตื่นเช้าจริงนะ" "อยู่มาตั้งหลายเดือน ชินแล้ว แล้วไผ่เป็นไงบ้าง" "คงต้องปรับตัวซักพัก บ้านพักดูดีนะ" 53


ไอดิน...กลิ่นรัก เมื่อวานไม่มีเวลาที่จะพิจารณาบ้านพักของหมอหนุ่ม บ้านไม้หลังเล็กที่มีระเบียงและม้านั่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบห้อง กว้างที่แบ่งเป็นส่วนๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องท�ำงาน ธีรวิทย์ใช้ฉากกั้นเพื่อ จัดสรร ท�ำให้ห้องเป็นสัดส่วนและเป็นระเบียบมากขึ้น "เข้ากันมาก กาแฟกับกล้วย" เรียวไผ่รับกล้วยน�้ำหว้าผลโตที่หมอหนุ่มยื่นมาให้ ปลอกเปลือกกิน เงียบๆ นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่เขาไม่ได้ดื่มด�่ำกับช่วงเวลายามเช้า หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ธีรวิทย์ต้องออกตรวจรอบๆ หมู่บ้าน หมอหนุ่มพาเรียวไผ่ไปแนะน�ำกับผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น ผู้คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และอากาศที่สดชื่น ท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกราวกับตัว เองมีชีวิตใหม่ ความวิตกกังวลและเบื่อหน่ายที่เคยมีมลายหายไปราวกับสาย หมอก "เรียวไผ่" เสียงเล็กๆ และแรงกระตุกจากด้านล่างท�ำให้รา่ งเพรียวก้มมองร่างเล็ก ของน�้ำที่กระตุกกางเกงเขาอยู่ "อรุณสวัสดิ์ครับน�้ำ" เรียวไผ่หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบดินทีเ่ ปือ้ นอยูบ่ นใบหน้าแผ่วเบาและ อ่อนโยน "มาอยู่นี่ได้ยังไง" เขามองรอบๆ ไม่เห็นวี่แววของคนในครอบครัวของน�้ำเลยสักคน "เดินมาคับ" ถ้าเป็นคนอื่นตอบเขาอาจคิดว่าเป็นการกวนประสาท แต่เพราะเป็นที่ 54


อนันตกาล

นี่ ท�ำให้เขารู้สึกว่านั่นคือใจจริง "มาคนเดียวเหรอ" เด็กชายส่ายหน้าและชี้ไปด้านหลังที่เป็นเขตของป่า "พี่ลมอยู่ตรงโน้น แต่เดี๋ยวก็จะไปเก็บผลไม้ในป่าแล้ว" เรียวไผ่มองตามที่เด็กชายชี้ แต่ก็เห็นเพียงต้นไม้เท่านั้น "เตรียมของไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง" ธีรวิทย์ถามขึ้น หลังจากออกมาบ้านคนไข้หลังสุดท้าย "อ้าวน�้ำ พี่ลมล่ะ" "อยู่ตรงโน้น" น�ำ้ ชีไ้ ปทีท่ ศิ ทางเดิม เขาเห็นหมอหนุม่ จ้องเขม็งตามนิว้ เล็ก แล้วท�ำหน้า นิ่วคิ้วขมวด "เห็นเหรอ" "เห็นซะที่ไหนล่ะ" หมอหนุ่มส่ายหน้าแล้วขยับมารับน�้ำไปอุ้มแทน "ของๆ นายเรียบร้อยหมดหรือยัง" หมอหนุ่มหันมาถามเขาอีกครั้ง "ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีอะไรต้องท�ำ ที่ต้องท�ำคือแบกมันเข้าป่า" "ดี น�้ำคับ เดี๋ยวเราจะไปบ้านน�้ำกันน้า ไปบอกพี่ลมแล้วน�้ำไปด้วยกัน กับพี่ธีนะครับ" เด็กชายพยักหน้ารับ เมื่อธีรวิทย์วางน�้ำลงกับพื้น ร่างเล็กก็วิ่งหายไป "ไปบ้านลม มีใครป่วยเหรอ" "ใช่ซะที่ไหน ก็ไปดูน่ะสิ ว่าพรุ่งนี้จะท�ำอะไรบ้าง คนบางคนล่อลวง ลูกชายคนโตของบ้านนั้นไปท�ำมิดีมิร้าย" 55


ไอดิน...กลิ่นรัก

"ใช่ซะที่ไหนเล่า" ร่างเพรียวปฏิเสธค�ำแหย่ของธีรวิทย์ทันที "อ๋อเหรอ" หมอหนุ่มยังแกล้งแซวเพื่อนที่เอาแต่ท�ำหน้าดุใส่อย่างสนุกสนาน qr qr qr

ในตอนเช้า แค่เพียงชายหนุ่มเปิดประตูมาเท่านั้นก็พบร่างสูงใหญ่ยืน พิงต้นไม้อยู่ไม่ไกล ร่างสูงใหญ่ในกางเกงขายาวสีซีด และเสื้อยืดสีเข้ม ท�ำให้ดิน ดูแปลกตากว่าครั้งก่อนที่เห็น ทันทีที่เห็นชายหนุ่ม ร่างสูงยืดตัวเต็มความสูง แม้จะมีเสื้อยืดปิดบัง กล้ามเนื้อสวยงาม แต่ร่างตรงหน้าก็ยังคงดูแข็งแรงสมชาย "มาเช้าจังนะครับ" เรียวไผ่ยิ้มทักทาย "สายแล้วต่างหาก อรุณสวัสดิ์เรียวไผ่" เสียงเล็กๆ ของน�้ำดังขึ้นจากด้านหลังของเด็กหนุ่ม เด็กชายโผล่มากจากด้านหลังพร้อมกับรอยยิ้ม ทันทีที่เรียวไผ่ยิ้มตอบ ร่างเล็กก็วิ่งมากอดขาเขาอย่างรวดเร็ว "มาได้ไงครับน�้ำ" "เดินมาไง" ค�ำตอบของเด็กชายท�ำให้เรียวไผ่ยิ้มค้างแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยิก แก้มของเด็กชายจนท�ำแก้มพองใส่ "ใจร้าย" 56


อนันตกาล

ท่าทางเง้างอนของน�้ำน่ารักน่าเอ็นดูจนอดที่จะหอมแก้มแดงๆ ไม่ได้ "เขิน" เด็กชายยกมือปิดหน้าปิดตาแล้วซบหน้าลงกับเข่า "เลิกเล่นได้แล้ว" เสียงทุ้มต�่ำพร้อมกับก�ำปั้นที่เขกลงบนศีรษะ ท�ำให้น�้ำแหงนหน้าจ้อง มองพี่ชายของตน "พี่ดินอะ" "ก่อนออกเดินทาง ไปกินข้าวที่บ้านก่อนนะ พ่อกับแม่รออยู่ เดี๋ยวผม ช่วยถือของ" ร่างสูงไม่สนใจน้องชายของตนที่ท�ำท่ากระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย "ไปช่วยกันถือของ" ดินดีดเข้าที่ปลายจมูกของเด็กชาย แต่น�้ำไหวตัวทัน วิ่งไปหลบที่ด้าน หลังของเรียวไผ่ "พี่ดินใจร้าย" เด็กหนุ่มส่ายศีรษะแล้วเดินน�ำเข้าไปด้านในห้อง ภายในห้องมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่และกระเป๋าใบเล็กวางอยู่คู่กัน "ในนี้มีอะไรเหรอ" ดินถามถึงกระเป๋าใบใหญ่ที่วางอยู่ตรงกลางห้อง" "อุปกรณ์ส�ำรวจ แล้วก็มีพวกอาหารกระป๋อง ส่วนใบนี้มีเสื้อผ้ากับ กระติกน�้ำ" "มีกระเป๋าอีกไหม" ค�ำถามของดินท�ำให้เรียวไผ่คิดว่าเด็กหนุ่มต้องการกระเป๋าเพิ่ม ร่าง เพรียวเดินไปหยิบกระเป๋าที่เก็บไว้มายื่นให้ร่างสูงอย่างรวดเร็ว 57


ไอดิน...กลิ่นรัก "แบ่งของในกระเป๋าใบใหญ่ใส่กระเป๋าอีกใบ แยกของที่ต้องระวังกับ ของหนักออกจากกัน" เรียวไผ่พยักหน้ารับและท�ำตาม แม้ในใจจะคิดว่าควรจะถือยังไงดี ไม่ ให้กระเป๋าเกะกะรุ่มร่าม กระเป๋าใบเดิมที่ใส่ของรวมกันไว้ เมื่อแบ่งของออก ก็ ใหญ่เกินความจ�ำเป็น คิดดังนั้น ร่างเพรียวขยับไปรื้อกระเป๋าที่ใส่ของเอาไว้ "เสร็จแล้ว" ไม่นานนัก เรียวไผ่ก็แยกของทั้งหมดออกจากกันได้ ร่างสูงที่นั่งจับน�้ำ ไม่ให้ซุกซนรบกวนเขายืดตัวขึ้นยืน "ใบไหนที่เป็นของที่ต้องระวัง" "ใบนี้ จะเป็นพวกอุปกรณ์ อ้าวดิน" พอเรียวไผ่ชี้ไปที่กระเป๋าที่อยู่ข้างกัน ร่างสูงใหญ่ก้มลงหยิบขึ้นแบกใส่ หลังในทันที "ใบนี้ผมช่วยถือเอง ไปกันเถอะ พ่อกับแม่รอนานแล้ว" เสียงทุ้มต�่ำก้องกังวาน ร่างสูงใหญ่รับร่างน�้ำที่กระโดดขึ้นกอด โดยมี เรียวไผ่ที่หยิบกระเป๋าเดินตามด้วยใบหน้าเขินอาย qr qr qr

"มากันแล้ว" เสียงของลมตะโกนบอกทางบ้านที่นั่งรออยู่ เขาเห็นร่างสูงของธีรวิทย์ อยู่ใกล้ๆ ทันทีทเี่ ห็นเขาทัง้ สอง ร่างปราดเปรียวของเด็กชายวิง่ เข้าไปด้านใน ส่วน ธีรวิทย์มองเขาด้วยสายตาล้อเลียน 58


อนันตกาล

"หน้าบานไม่หุบเชียวนะ" เสียงกระซิบของหมอหนุ่ม ท�ำให้เรียวไผ่รู้ตัวว่าตัวเองเอาแต่ยิ้ม แต่ การกระท�ำที่แสดงออกถึงน�้ำใจของดิน ท�ำเอาเขารู้สึกดีจนออกนอกหน้า "นายก็มาแต่เช้าเชียว" เรียวไผ่กระซิบแซวกลับ "มีเรื่องอะไรดีๆ ถึงยิ้มหน้าบานได้ขนาดนี้" ธีรวิทย์ไม่ยอมลดละ แต่เรียวไผ่ไม่คิดจะบอก ถึงความประทับใจในตัว ของเด็กหนุ่ม ร่างสูงถอยห่างออกทันที เมื่อเห็นเงาร่างของลมเดินพ้นออกมาจาก ประตูบ้าน อาหารมือ้ เช้าถูกเตรียมไว้ทแี่ คร่ไม้หน้าบ้าน พวกเขาล้อมวงทานอาหาร กันด้วยรอยยิม้ พ่อและแม่ของเด็กหนุม่ อวยพรและก�ำชับให้ดนิ ดูแลชายหนุม่ ให้ ดี ซึ่งดินพยักหน้ารับอย่างไม่อิดออด "นี่ข้าวกลางวัน กับข้าวเย็น เอาไว้กินด้วยกันทั้งคู่เลยนะ" ผู้เป็นแม่กล่าวเตือนพร้อมกับลูบศีรษะลูกชายของตน "ขอบคุณมากครับ" เรียวไผ่ยกมือไหว้โดยทันที "ไม่เป็นไรหรอกจ้า ดูแลตัวเองดีๆ นะ หนูเรียวไผ่ น้าเป็นห่วง" "ครับ ผมจะระวังครับ" เรียวไผ่ตอบรับด้วยรอยยิ้ม แม่ของชายหนุ่มยิ้มตอบพร้อมตบไหล่เขา เบาๆ อย่างให้ก�ำลังใจ qr qr qr 59


แค่เพียงเช้านี้เท่านั้น ร่างสูงตรงหน้าก็ท�ำเอาเรียวไผ่ใจเต้นไม่

เป็นส�่ำ ออกเดินทางแค่เพียงไม่นาน เขาดันสะดุดรากไม้เกือบจะเสียหลักล้ม

"ระวังครับ" เสียงทุ้มต�่ำกระซิบข้างหู พร้อมกับวงแขนแข็งแรงที่โอบรอบเอว กลิ่น ไอของแสงแดดลอยเข้ามาปะทะจมูกอย่างไม่ทันตั้งตัว จนแทบจะท�ำให้เข่าของ เรียวไผ่ไร้สิ้นเรียวแรง ดินยังคงไม่ปล่อย แต่กลับขมวดคิ้วอย่างสงสัย "ขอโทษนะครับ" ชายหนุ่มพูดแค่นั้นและใช้วงแขนโอบรัดเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม "ตัวเล็กจัง" แค่เพียงเสียงทุ้มต�่ำกระซิบที่ข้างหู หัวใจของเรียวไผ่ก็เต้นแรงจนแทบ จะทะลุออกมาข้างนอก แต่นี่เขาตกอยู่ในวงแขนแข็งแรง ใกล้จนสัมผัสถึง


อนันตกาล

อุณหภูมิของผิวกายตึงแน่นที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อตัวหลวม "เป็นอะไรหรือเปล่า" ดินถามอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ ร่างในวงแขนแทบจะทรุดลงอยู่ตรงนั้น แต่ดีที่เขาประคองเอาไว้ทัน "ไม่เป็นไร แค่ทรงตัวไม่อยู่เท่านั้น" ชายหนุ่มตอบเสียงหอบกระเส่า เมื่อความรู้สึกร้อนวูบวาบแล่นริ้วไป ทั่วร่าง "ไหวหรือเปล่า หน้าแดงๆ หรือจะพักสักหน่อย" "ก็ดี" เรียวไผ่ตอบด้วยใบหน้าเขินอายเมื่อต้องใกล้ชิดกับเด็กหนุ่ม ดินประคองร่างเพรียวของอีกฝ่ายให้ไปนัง่ พักทีใ่ ต้ตน้ ไม้กอ่ นจะหยิบน�ำ้ ส่งให้ดื่ม "ไม่ไหวก็บอกนะ" ท่าทางเป็นห่วงของเด็กหนุ่มท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกผิดขึ้นมา "ไหว ขอพักสักนะ ไม่ได้เดินป่ามานาน อีกสักพักก็เข้าทีเ่ ข้าทาง ขอโทษ ด้วยนะที่ท�ำให้ดินต้องช้าไปด้วย" เรียวไผ่ก้มหน้าลงซ่อนแก้มที่มีสีแดง เพราะความตื่นเต้นที่ต้องใกล้ชิด เด็กหนุ่มกะทันหัน แต่ดินกลับเข้าใจผิดคิดว่าเรียวไผ่เหนื่อยมาก เด็กหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูออกมาแล้วเทน�้ำใส่จนเปียกชุ่ม ก่อนจะยื่นให้เรียวไผ่ "ขอบคุณมากครับ" เรียวไผ่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยิ้มให้อย่างจริงใจ ใบหน้าคมที่มักจะเฉยเมยยิ้มตอบเขา ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม 61


ไอดิน...กลิ่นรัก "ดินเดินป่าบ่อยเหรอ" ร่างเพรียวพยายามหาเรื่องคุยเพื่อท�ำลายความเงียบ และก็ได้ผล เมื่อ ดินที่หันหน้ามองไปทางอื่นหันกลับมามองเขา "ก็บ่อยนะ แต่ส่วนใหญ่จะ 3-4 วัน นานสุดก็ประมานอาทิตย์นึงได้" "คนเดียว" "ใช่คนเดียว แต่ถ้าเดินใกล้ๆ วันหรือสองวัน อาจจะมีลมมาด้วย แล้ว เรียวไผ่ล่ะ" ดินถามกลับถึงตัวเขา "ถ้า 3-4 ปีก่อนก็เดินบ่อยนะ ไผ่ท�ำงานเกี่ยวกับพวกงานวิจัย ต้องออก ส�ำรวจโน่นนี่ แต่พอท�ำงานเข้าจริงๆ กลับต้องไปท�ำงานนัง่ โต๊ะ เลยห่างหายจาก อากาศสดชื่น และสีเขียวสดใส" ชายหนุม่ ยกแขนขึน้ ขนานกับพืน้ พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ เต็มปอด "กลิน่ ของป่า เป็นกลิน่ ทีห่ อมทีส่ ดุ โดยเฉพาะ กลิน่ ไอของดิน ทีเ่ ป็นต้น ก�ำเนิดของทุกอย่าง ก่อให้เกิดต้นไม้ ใบ หญ้า และพืชพรรณจนก่อเกิดเป็นป่า กว้างที่เราได้อยู่อาศัยจนถึงตอนนี้" เรี ย วไผ่ ห ลั บ ตาสู ด ดมกลิ่ น ไอของธรรมชาติ ที่ ต ลอดมาเขาได้ แ ต่ จินตนาการ "ขอโทษนะดิน ที่พูดอะไรเพ้อเจ้อ" เมื่อรู้สึกตัวร่างเพรียวเก็บมือไม้ที่ยื่นออกไปแล้วลูบผมอย่างเขินอาย "ไม่เห็นจะเพ้อเจ้อตรงไหน" เด็กหนุม่ พูดแค่นนั้ และถีบตัวลุกขึน้ ยืน แล้วยืน่ มือมาตรงหน้าของชาย หนุ่ม "เดินทางกันต่อเถอะ เดี๋ยวจะไปไม่ถึงที่พักก่อนมืด" 62


อนันตกาล

"อื้อ" เรียวไผ่ยิ้มรับ พร้อมกับจับมือยอมรับแรงดึงของเด็กหนุ่มก่อนจะลุก ขึ้นยืน ร่างสองร่างเดินเคียงข้างกัน ตลอดทางเด็กหนุ่มชี้ชวนให้เรียวไผ่ได้ดู สัตว์ป่าที่ออกหากิน "ระวัง" ดินดึงแขนของเรียวไผ่ทกี่ ำ� ลังจดจ่ออยูก่ บั การถ่ายรูป จนซวนเซ เพราะ มัวแต่ถ่ายรูปต้นไม้จนไม่ได้มองทาง ท�ำให้ชายหนุ่มเกือบเหยียบงูที่ก�ำลังเลื้อย ผ่านหน้า เรียวไผ่ตกใจจนมีสีหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด "งูอะไร" เรียวไผ่ถามดินที่ยืนอยู่ข้างกาย "ไม่รู้ เห็นไม่ชัด" เด็กหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจแล้วท�ำท่าจะก้าวเดินต่อ "เดี๋ยวสิดิน แถวนี้มีงูเยอะไหม" ค�ำถามของชายหนุ่มท�ำให้ดินหยุดเดินหันกลับมามองเหมือนสงสัย "เคยมาเดินป่าแล้วโดนงูกัดน่ะ ไม่อยากโดนกัดอีก" เรียวไผ่ตอบอย่างเขินๆ ท�ำให้ใบหน้าเฉยชาของเด็กหนุ่มยิ้มน้อยๆ ใบหน้าคมเข้มทีป่ กติเรียบเฉย แต่พอยิม้ เท่านัน้ เขารูส้ กึ ราวกับว่าโลกพลันสว่าง สดใสขึ้นมาทันที "ไม่โดนหรอกครับ ผมดูแลอยู่ทั้งคน" เสียงทุ้มต�่ำกับรอยยิ้มที่มอบให้ ท�ำให้เรียวไผ่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะ ทะลุออกมา 63


ไอดิน...กลิ่นรัก ถ้าท�ำได้เรียวไผ่คงแทบจะกระโดดร้องให้ลั่นป่า "เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าแดงเชียว" ดินถามเมื่อเห็นใบหน้าที่เคยขาวนวลแดงระเรื่อพร้อมกับเหงื่อที่ไหล ออกมาเป็นทาง "ตกใจเรื่องเมื่อกี้มากกว่าน่ะ" แม้ความจริงจะเป็นเพราะค�ำพูดของคนตรงหน้า แต่เรียวไผ่กไ็ ด้แต่คดิ ในใจ "อดทนเดินอีกนิด ข้างหน้ามีทพี่ กั น่าจะกินข้าวกลางวันได้ ตอนนี้ อย่า เพิ่งถ่ายรูปเลย แถวนี้งูชุม เลยจากนี้ไปหน่อย มีต้นไม้ไม่ต่างจากที่นี่" เรียวไผ่พยักหน้ารับแล้วปล่อยกล้องในมือห้อยลงที่คอ ทัง้ ทีเ่ ป็นเวลากลางวัน แต่เพราะต้นไม้ทหี่ นาทึบ ท�ำให้รม่ เงาของกิง่ ไม้ บดบังแสงแดดจนไม่รู้สึกถึงความร้อนของแสงแดด "เห็นแบบนี้แล้ว ไม่อยากอภัยให้พวกลักลอบตัดไม้ท�ำลายป่าเลยนะ" ชายหนุ่มพึมพ�ำออกมา เมื่อนึกถึงข่าวที่มักมีขบวนการลักลอบตัดไม้ ท�ำลายป่าให้เห็นอยู่เสมอ แต่ถึงจะจับยังไงก็ไม่มีวันหมด เมือ่ ผูม้ อี ทิ ธิพลยังมีสว่ นรูเ้ ห็นเป็นใจและกฎหมายยังไม่มคี วามศักดิส์ ทิ ธิ์ มากพอ "มีอะไรเหรอ ดิน" ร่างเพรียวถามดินที่หันมามองใบหน้าของเขา "สนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ" ค�ำตอบของดินท�ำให้เขาหัวเราะออกมา "ท�ำงานเกี่ยวกับพฤกษาศาสตร์ ก็ต้องรักต้นไม้สิครับ ต้นไม้นี่เป็นยิ่ง กว่าคนรักอีกนะ จริงไหมครับสุดหล่อ" 64


อนันตกาล

ท้ายเสียงเรียวไผ่หันไปหาต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ก่อนจะโน้มตัวลงใกล้ จุมพิตลงบนล�ำต้นแข็งแรง "วันนี้มีความสุขไหมครับ" การกระท�ำของเขาท�ำให้ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง "ตลกตรงไหน" ดวงตาเรียวจ้องมองอย่างเอาเรื่อง เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเอาแต่หัวเราะ "ก็ดูเรียวไผ่ท�ำ ไม่ต้องอ�ำผมถึงขนาดนั้นก็ได้" "ไม่ได้อ�ำสักหน่อย" บรรยากาศเงียบเชียบที่มีมาตั้งแต่เช้า เริ่มครื้นเครงขึ้นมา เมื่อร่าง เพรียวท้าวสะเอวแหงนหน้ามองร่างสูงใหญ่ที่เอาแต่หัวเราะ "ปกติคุณพูดกับต้นไม้ด้วย" ค�ำถามของเด็กหนุ่มท�ำให้เรียวไผ่หัวเราะ "ไม่ใช่แค่คุยนะ ตอนเรียน ผมเปิดเพลงให้มันฟัง แล้วก็ตั้งชื่อให้มัน อย่างที่ห้องผมมีกระบองเพชรอยู่ 2 ต้นในห้องรับแขก ชื่อ แมรี่ กับ แองจี้ สอง ต้นนั้นเป็นกระบองเพชรที่น่ารักเชียวล่ะ" เรียวไผ่นึกถึงคอนโดที่เขาใช้อาศัยนอนหลับ ถ้ามีเวลามากกว่านี้เขาก็ อยากท�ำสวนเล็กๆ ที่ระเบียง ท�ำเทอเรซปลูกกล้วยไม้แซมด้วยดอกมะลิ ตอน เช้าเขาจะตื่นมากล่าวอรุณสวัสดิ์ และระหว่างรดน�้ำ ก็เปิดเพลงคลาสสิคเบาๆ เคล้าคลอไปกับบรรยากาศที่สงบ "ยิ้มอะไร" เรียวไผ่ถามดินที่เอาแต่ยิ้มอยู่ท่าเดียว ร่างสูงไม่ตอบ แต่เร่งฝีเท้าเดินน�ำเขาไปด้านหน้า แต่กลับถูกมือของ เรียวไผ่ดึงชายเสื้อเอาไว้ 65


ไอดิน...กลิ่นรัก "ท�ำแบบนี้แล้วเหมือนน�้ำเลย" ค�ำพูดของดินท�ำให้เรียวไผ่ปล่อยมืออย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่แดงก�่ำ "อย่ามาล้อผู้ใหญ่เล่นแบบนี้สิ" เรียวไผ่พดู โดยไม่สบตา ทัง้ ๆ ทีเ่ ขาโตเกินกว่าจะมาเล่นอะไรแบบนีแ้ ล้ว แต่คนตรงหน้ากลับท�ำให้เขาท�ำตัวเหมือนเด็กๆ "ก็ท�ำตัวไม่เห็นเหมือนผู้ใหญ่เลย" ดินยิ้มกว้างก่อนจะเร่งฝีเท้าน�ำไปข้างหน้า "ดิน" เรียวไผ่ร้องเรียก ร่างสูงท�ำเพียงหันมามองแล้วยิ้มกว้าง "เดินตามมาสิครับ" น�้ำเสียงทุ้มกับกับท่าทางนิ่งเฉยจนเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายก�ำลังคิดอะไร อยู่ ท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกสนใจดินมากขึ้นกว่าเดิม ร่างเพรียวขยับตัววิ่งตามร่างที่ก้าวน�ำออกไปจนทิ้งระยะห่างพร้อม ตะโกนเรียก "รอด้วยสิ ดิน" เสียงตะโกนเรียกท�ำให้เด็กหนุ่มหันกลับมามองพร้อมกับยิ้มน้อยๆ แต่ ก็ยังคงไม่หยุดเดิน คราวนีเ้ รียวไผ่รสู้ กึ เหมือนตัวเองถูกกลัน่ แกล้งเล็กๆ แต่พอเห็นเด็กหนุม่ ตรงหน้าแล้ว การถูกแกล้งเล็กๆ น้อยๆ มันก็ไม่แย่สกั เท่าไร ถ้าต้องแลกกับการทีเ่ ขา จะได้รู้จักดินมากขึ้นอีกสัดนิด เรียวไผ่นั่งหอบอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อและลมหายใจที่ เหนื่อยหอบ เพราะการพยายามไล่กวดดินที่เอาแต่เดินน�ำเขาไม่ยอมรอจนตัว 66


อนันตกาล

เองต้องมานั่งหอบหมดแรงอยู่แบบนี้ "น�้ำครับ" ดินไม่มีทีท่าเหนื่อยเลยสักนิด เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม กับเขา "คืนนี้พักกันแถวนี้นะ อยู่ใกล้ล�ำธาร จะท�ำอะไรก็สะดวก" ชายหนุม่ พยักหน้ารับ พร้อมรับน�ำ้ ทีด่ นิ เดินไปตักมาจากล�ำธารทีอ่ ยูไ่ ม่ ไกลนักมาดื่ม "ท�ำไมไม่ไปนอนริมน�้ำเลย ปกติผมจะกางเต็นท์อยู่ริมน�้ำ" "คุณกลัวงูไม่ใช่เหรอ ริมน�้ำงูและสัตว์เลื้อยคลานมันเยอะ อยู่แถวนี้ แหละดีแล้ว" นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ท�ำให้ใจสั่น ยังมีท่าทีของเด็กหนุ่ม ที่แม้จะดูเหมือนไม่สนใจ แต่กลับใส่ใจ ในรายละเอียดเล็กๆ น้อย สิ่งเหล่านี้ยิ่ง ท�ำให้เรียวไผ่รู้สึกประทับใจในตัวดินมากขึ้นไปอีก "กินสิ" เด็กหนุ่มยื่นข้าวห่อใบตองกับหมูทอดที่มารดาของเขาเตรียมไว้มาให้ เรียวไผ่รับและคลี่ออกทานช้าๆ "เลยไปทางด้านขวามือ จะมีต้นไม้เหมือนที่เรียวไผ่เอาให้ดูในหนังสือ อยู่ แต่จ�ำไม่ได้นะว่าเยอะแค่ไหน แต่เห็นแล้วรู้สึกคุ้นตา" ดินชี้ไปทางขวามือ พร้อมกับบอกรายละเอียดที่นึกออก พอพูดแบบนี้ แล้ว ร่างเพรียวขยับตัวเปิดกระเป๋าหยิบสมุดบันทึกออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างสูงวางข้าวในมือลงกับพื้นก่อนจะยื่นมือมารับ แต่กลับถูกเรียวไผ่ ดึงออก "กินข้าวก่อนสิ เดี๋ยวค่อยดูก็ได้" 67


ไอดิน...กลิ่นรัก "ตอนไหนก็เหมือนกัน" ร่างสูงไม่สนใจแล้วเอื้อมมือจะดึงสมุดบันทึกในมือต่อ "ไม่ กินข้าวก่อน เดินมาเหนือ่ ยๆ ไผ่กเ็ หนือ่ ย ดินก็เหนือ่ ย จะให้ทำ� งาน ไม่หยุดได้ยังไง" ท่าทางจริงจังของชายหนุ่มท�ำให้ดินยอมกลับไปนั่งลงที่เดิม และทาน ข้าวที่กินค้างไว้ต่อเงียบๆ "ดิน" เรียวไผ่เรียกอย่างกล้าๆ กลัว เขาไม่แน่ใจว่าท�ำให้คนตรงหน้าไม่พอใจ หรือเปล่า "หืม" ชายหนุ่มส่งเสียงตอบกลับมาโดยไม่ได้หันมามอง "ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจท�ำให้โกรธ" แค่เพียงเดินทางวันแรก เขาก็ทำ� ให้ความสัมพันธ์ทมี่ ที า่ ทีวา่ จะดีขนึ้ ต้อง แย่ลง "ไม่ได้โกรธนี่ ดูโน่นสิ" เด็กหนุ่มชี้ไปที่ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล "อะไรเหรอ" เขาพยายามมองหาสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการบอก จะบอกว่าเห็นต้นไม้ที่ เขามาหา ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเป็นเพียงต้นไม้ปกติที่เห็นอยู่ได้ทั่วไป "กิ่งไม้ต้นนั้นน่ะ ลองมองดูดีๆ" พอดินบอกว่าเป็นกิ่งไม้ เรียวไผ่จึงพยายามเพ่งมองจนเห็นรังนกเล็กๆ ที่มีนกสองตัวก�ำลังบินหยอกล้อกันไปมาเหนือรัง "ชู่ว" 68


อนันตกาล

ดินส่งเสียงบอกให้เงียบ เมื่อเงี่ยหูฟังอยู่สักพัก เขาได้ยินเสียงร้องแผ่ว เบาดังประสานผสมผสานกับเสียงกระพือปีก และเสียงลมพัดก็ดังประสานกัน เป็นจังหวะ รับกับเสียงร้องของกระรอกทีด่ งั ลอยมาแต่ไกล ราวกับบทเพลงจาก ธรรมชาติ เรียวไผ่หลับตาลงช้าๆ เพื่อให้ประสาทสัมผัสของตนเด่นชัดขึ้น เสียง ร้องใสกังวานราวกับจะขับกล่อมบทเพลงต้อนรับผู้มาเยือน "เอาจนได้นะดิน" พอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นภาพที่เห็นคือภาพที่ร่างสูงใหญ่ก�ำลังเปิดสมุด บันทึกของเขา ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นมองพร้อมยิ้มออกมา "แถบโน้นดูเหมือนจะมีต้นนี้อยู่" เด็กหนุ่มยกสมุดขึ้นให้เขาเห็นภาพพร้อมกับรอยยิ้มที่มองเขาราวกับ ผู้ชนะ "ยอมแพ้แล้วครับ" เรียวไผ่ยกมือขึน้ ยอมแพ้ ใบหน้าสวยมองหน้าเด็กหนุม่ ทีเ่ อาแต่ทำ� หน้า นิ่งนั่งอยู่เงียบๆ "เมื่อกี้ให้ฟังเสียงนกดึงดูดความสนใจสินะ" เรียวไผ่เห็นท่าทางแบบนัน้ ของเด็กหนุม่ แล้วอดรูส้ กึ เหมือนตัวเองโดน หลอกล่อไม่ได้ "ท�ำไม ต้องท�ำแบบนั้นครับ" ดินถามด้วยเสียงทุ้มต�่ำ ที่อ่อนลงในท้ายประโยค เพราะไม่อยากให้ดู เหมือนคุกคามอีกฝ่าย แต่เขากลับรู้สึกราวกับอีกฝ่ายก�ำลังอ้อน ท�ำให้เรียวไผ่ รู้สึกล่องลอย 69


ไอดิน...กลิ่นรัก "ก็แกล้ง...แหย่ดินเล่น ไม่คิด..ว่าจะจริง.จัง" ความคิดทีข่ าดเป็นหายช่วงๆ ท�ำให้รา่ งเพรียวตอบค�ำถามออกไปอย่าง ตะกุกจะกัก แม้จะรู้ว่ามันเป็นการกระท�ำที่งี่เง่า แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมความ คิดและการกระท�ำของตนได้ เด็กหนุ่มไม่มีทีท่าจะสนใจเขาอีก ดินล้มตัวลงนอนโดยใช้รากไม้หนุน นอนต่างหมอน "จะนอนเต็นท์หรือนอนกลางแจ้ง" "เต็นท์" เรียวไผ่ตอบโดยไม่ต้องคิด เมื่อนึกถึงความสะดวกสบายที่จะได้รับ แม้ จะเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่คิดอยากนอนตากยุงอยู่กลางแจ้ง "พักกลางวันสักนิด" เสียงทุ้มต�่ำพูดพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ เรียวไผ่ไม่รู้ว่าดินหลับจริงหรือท�ำแค่เพียงหลับตา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ ไม่อาจละสายตาจากคนตรงหน้าได้ ร่างเพรียววางใบตองลงกับพื้น แล้วชันเข่าขึ้นสูง เขาแอบพิจารณา ใบหน้ายามหลับของเด็กหนุ่ม 'รักแรกพบ' คือสิ่งที่อธิบายจินตนาการเพ้อฝันในวัยเยาว์ อาจเกิดขึ้นจาก ฮอโมนที่พลุ่งพล่าน ที่เขาไม่น่าจะมี อาจเป็นเพราะหน้าตาคมเข้มและรูปร่าง ก�ำย�ำสมชายทีห่ าได้ยากยิง่ จากคนทีพ่ บเจอในเมืองกรุง ทีเ่ หล่าผูค้ นใช้ชวี ติ อย่าง เร่งรีบ ไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งลิ้มรสชาติอาหารอย่างเพลิดเพลิน ขนาดภูชิตที่ถือว่าเป็นคนที่ใส่ใจในสุขภาพ ก็ไม่ได้มีกล้ามเนื้อเรียงตัว 70


อนันตกาล

สวยงามเหมือนคนตรงหน้า กล้ามเนือ้ สวยงามจนเสือ้ ยืดตัวหลวมก็ไม่อาจบดบัง ความแข็งแรงก�ำย�ำให้พ้นจากสายตา สายตาของเรียวไผ่ไล่ลงไปยังหน้าท้องแบนทีฉ่ ายชัดอยูใ่ นความทรงจ�ำ ยิ่งนึกถึงผิวคร้ามแดดรับกับใบหน้าคมเข้มที่เกราะพราวไปด้วยหยาดเหงื่อ เรียวไผ่สะบัดหน้าไล่ความคิดที่เริ่มกระเจิดกระเจิงให้กลับเข้าที่ ชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นนั่งมองใบหน้าที่ประกอบด้วย คิ้วหนา ขนตางอน ยาว และจมูกที่โด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหนา ส่วนประกอบเครื่องหน้าคมเข้ม ท�ำให้ดินดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุจริง แต่ทั้งที่ๆ เป็นแค่เด็กแต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นมั่นคง และปลอดภัย อาจเพราะความใส่ใจเรือ่ งราวรอบตัว ขนาดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทีไ่ ม่คดิ ว่า อีกฝ่ายจะสนแต่ดินก็ยังใส่ใจ การขยับตัวของดินท�ำให้เรียวไผ่ท�ำทีเป็นก้มหน้าลงมองสมุดบันทึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง แล้วต้องพบกับดวงตาสีนิลที่จ้องมองเขาอยู่ "ตื่นไวจัง" "ผมแค่นอนหลับตา" ดินตอบกลับมาโดยที่ยังคงจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าของเขา เรียวไผ่กลบเกลือ่ นความหวัน่ ไหว ด้วยการแสร้งท�ำเป็นก้มหน้าลงอ่าน สมุดบันทึกอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงรู้สึกถึงสายตาของเด็กหนุ่มที่ยังคงมองอยู่ ยิ่งรู้สึกถึงสายตา ยิ่งท�ำให้หัวใจเต้นแรง "มองอะไรครับ" เรียวไผ่กระแอมไอแล้วถามกลับไป ดินไม่ตอบ แต่ขยับลุกขึ้นนั่งแล้ว บิดขี้เกียจ "อื้อ..." 71


ไอดิน...กลิ่นรัก เสียงครางแผ่วเบา ทุ้มต�่ำจนชวนจินตนาการไปถึงสิ่งอื่นยิ่งท�ำให้เรียว ไผ่ฟุ้งซ่านมากขึ้นไปอีก "เดี๋ยวผมไปหาที่กางเต็นท์นะ" และนี่เป็นอีกครั้งที่ดินท�ำเหมือนไม่สนใจเขาเสียดื้อๆ เด็กหนุม่ ขยับลุกขึน้ ยืนแล้วเดินวนไปวนมาก่อนจะเปลีย่ นทิศตรงไปยัง ล�ำธาร แล้วถอดเสื้อออก จังหวะที่ถอดเสื้อ เผยให้เห็นไหล่กว้าง ไล่ลงมาที่ปีกหลังแน่นตึง เลื้อย ลงมาถึงเอวสอบเพรียว ดินขยับวักน�้ำขึ้นมาล้างหน้าและลูบไล้ไปตามท่อนบนที่เปลือยเปล่า ราวกับจะขับไล่ความเหนียวเหนอะหนะให้พ้นจากผิวกาย "ไผ่ไม่ร้อนเหรอ" เสียงตะโกนถามที่ดังขึ้นท�ำให้เรียวไผ่อยากจะตอบเหลือเกินว่า ร้อน จนแทบจะไหม้ไปทั้งตัวอยู่แล้ว แต่เขาท�ำได้เพียงตอบไปอย่างตะกุกตะกักว่า "ไม่ร้อน..เท่าไหร่หรอก" ค�ำตอบที่ขัดแย้งกับความในใจที่อยากจะขยับเข้าไปลูบไล้ผิวกายของ อีกฝ่ายใจแทบขาด ชายหนุม่ สูดหายใจเข้าลึกๆ อีกครัง้ เมือ่ ดินเดินกลับมาทัง้ ทีท่ อ่ นบนยัง เปลือยเปล่า เด็กหนุ่มโยนเสื้อลงที่โคนต้นไม้ "กางเต็นท์ตรงโน้น ได้ไหม" "แล้วแต่ดินเลย" เรียวไผ่ไม่มปี ญ ั หากับการทีด่ นิ จะกางเต็นท์ตรงไหน แต่เขามีปญ ั หา คือ หัวใจที่เอาแต่เต้นไม่หยุดอยู่แบบนี้ 72


อนันตกาล

ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นหยิบเต็นท์ตามเด็กหนุ่มที่เดินน�ำไป "ผมช่วยครับ" ท่าทางคล่องเแคล่วที่ช่วยประกอบโคลงเต็นท์พร้อมกับตอกหมุดยึด ของดินนั้นช่วยเรียวไผ่ที่มัวแต่เงอะงะ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ "เห็นบอกว่าเดินป่าบ่อย นึกว่าจะคล่องกว่านี้" ค�ำพูดของดินท�ำให้รา่ งเพรียวท�ำหน้าหงิก แต่กเ็ พียงเสีย้ ววินาทีเท่านัน้ เรียวไผ่ก็เปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้ม "เคยแต่เดินทางเป็นคณะน่ะ นี่ครั้งแรกนะ ที่ออกมาส�ำรวจแค่สองคน ปกติไปเป็นกลุ่มใหญ่ อย่างน้อยก็มี 5 คนขึ้นไป" "ใช้คนขนาดนั้นเชียว" ดินถามอย่างสงสัย พลางจัดการส�ำรวจความแข็งแรงของตัวยึด "บางทีตอ้ งเก็บตัวอย่างน่ะ อีกอย่างคนเยอะช่วยกันดูทำ� อะไรก็สะดวก แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ก็คืออุ่นใจ" แม้จะชอบในธรรมชาติและรักต้นไม้มากเท่าไหร่ แต่เพราะพืน้ ฐานชีวติ ทีใ่ ช้ชวี ติ อยูใ่ นเมืองกรุงมาตลอด ท�ำให้เรียวไผ่ยอมรับว่าเสียงของป่า ยามค�ำ่ คืน เป็นเสียงที่ท�ำให้เขาอดกลัวไม่ได้ qr qr qr

73


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.