เปลือยรัก

Page 1


เขียนโดย อนันตกาล อาร์ตเวิร์ค Nazezus พิสูจน์อักษร หนูนัตสึ พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกรฎาคม 2556 ติดต่อ: anuntakan.kan@gmail.com : https://www.facebook.com/pages/อนันตกาล


กระท่อมหลังเล็กและเพิงพักทีอ่ ยูด่ า้ นข้างให้ความรูส้ กึ ร่มรืน่ เหมาะ แก่การพักผ่อน สายลมที่พัดผ่านและแว่วเสียงนกร้องที่ห่างไกล ท�ำให้ธีรวิทย์ที่ ใช้เวลายามเย็นนั่งพักสมองด้วยการอ่านหนังสือ อดรู้สึกเกียจคร้านไม่ได้ เขาย้ายมาอยูท่ หี่ มูบ่ า้ นกลางป่าประมานเดือนกว่าแล้ว ธีรวิทย์เดินตาม ความฝันเมื่อวัยเยาว์ที่จะได้มาเป็นหมอประจ�ำชุมชมในสถานที่อันห่างไกลและ ขาดแคลนบุคลากร การเป็นหมออยู่บนเขาที่ห่างไกลจากแสงสี มันไม่ได้เลวร้ายมากนัก แม้ในช่วงแรกชายหนุม่ ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ จากทีเ่ ป็นคนนอนดึก ตื่นสาย ในตอนนี้เขากลายเป็นคนเข้านอนไวและตื่นเช้า อากาศทีน่ ดี่ แี ละคนในหมูบ่ า้ นทีม่ นี สิ ยั เอือ้ เฟือ้ โอบอ้อมอารีและความ อบอุ่นที่มอบให้ท�ำให้เขารู้สึกดีกับการมาเป็นแพทย์ประจ�ำหมู่บ้าน “หมอ หมอ หมอ ช่วยด้วย”


เปลือยรัก...กลางพงไพร เสียงสะอึกสะอื้นที่ดังจากด้านหลัง ท�ำให้เขาดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่าง รวดเร็ว ภาพเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นในสภาพมอมแมม ปรากฏขึ้นมาในสายตา “เป็นอะไรครับ หายใจเข้าลึกๆ มีอะไรค่อยๆ พูด” ชายหนุ่มลูบแผ่นหลังเล็กอย่างปลอบโยน เด็กชายพยายามกลั้นเสียง สะอื้นแต่ยังคงพูดไม่เป็นภาษา “ช่วยด้วย ฮึกก....ฮึก.ตกต้นไม้” “ไหนเจ็บตรงไหน” พอได้ยินค�ำว่าตกต้นไม้ ธีรวิทย์จับเด็กชายนั่งในทันที “ไม่ใช่..ฮึก..ฮึก พี่ผม..ตกต้น.....ขยับไม่ได้” “เดี๋ยวครับ ตกที่ไหน” แทนค�ำตอบนิ้วเล็กๆ ชี้เข้าไปในป่า “รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาอุปกรณ์ก่อน” ร่างสูงของชายหนุ่มหายเข้าไปในที่พักแล้วคว้ากระเป๋าพยาบาลออก มาทันที ทันทีที่เขาออกมา ก็พบเด็กชายยืนรอที่ทางลงเฉลียงและเมื่อเห็นเขา เท่านั้น ร่างเล็กก็ออกวิ่งอย่างคล่องแคล่วน�ำเขาไปในทันที ธีรวิทย์ก้าวตามร่างเล็กที่น�ำลิ่ว แม้จะตัวเล็กแต่กลับเคลื่อนไหว คล่องแคล่ว จนอดคิดว่าถ้าคลาดสายตาเขาคงหลงทาง เด็กชายวิ่งน�ำไปจนถึงก้อนหินก้อนใหญ่ พอเห็นว่าเขายังเดินล้าหลัง อยู่ เด็กชายวิ่งกลับมาดึงกระเป๋าพยาบาลออกไปถือเอง “พี่หมอ พี่ลมอยู่โน่น” เด็กชายกึง่ ลากกึง่ จูงจนธีรวิทย์ตอ้ งออกแรงวิง่ ทัง้ ทีเ่ หลือระยะทางเพียง 2


อนันตกาล

ไม่กี่ก้าว ด้านหลังก้อนหินมีเด็กชายนอนคู้ตัวอยู่บนพื้นดิน “เป็นอะไรหรือเปล่า” ธีรวิทย์เข้าสัมผัสร่างของเด็กชายที่นอนอยู่ ทันทีที่ได้สัมผัสเขารู้สึกถึง ความอบอุน่ ทีแ่ ล่นขึน้ มาจากปลายนิว้ เข้าสูร่ า่ งกาย ผิวกายทีเ่ นียนนุม่ สีนำ�้ ผึง้ เข้ม ใบหน้าที่มอมแมมและดวงตาสีด�ำกลมโตที่เปล่งประกาย “เจ็บขา” น�ำ้ เสียงทีเ่ จ็บปวดท�ำให้ธรี วิทย์ได้สติ เขาส�ำรวจขาทัง้ สองข้างไม่พบว่า หักหรือมีบาดแผลร้ายแรง มีเพียงรอยถลอกที่บวมช�้ำ “ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ขาน่าจะแพลง คิดว่านะ” ธีรวิทย์ขยับขาของเด็กชายไปมา “โอ๊ย เจ็บ เป็นหมอจริงเปล่าเนี่ย” เสียงแหบเล็กๆ ร้องออกมา เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ข้อเท้า “ไม่รเู้ หมือนกันว่าจริงไหม แต่ทรี่ ๆู้ ในหมูบ่ า้ นนีม้ พี เี่ ป็นหมอคนเดียว” ธีรวิทย์ตอบพลางมองดูใบหน้าที่บึ้งตึงของเด็กชาย แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อเห็นร่างเล็กๆ กอดปลอบเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้ตกใจ “ไม่เป็นไรแล้วน�้ำ พี่ไม่เป็นไรแล้ว อย่างร้องไม่เอานะเด็กดี เด็กดี” ภาพทีเ่ ด็กชายกอดปลอบน้องชายอย่างอ่อนโยนท�ำให้หมอหนุม่ อมยิม้ “ยิ้มอะไร” เด็กชายจ้องมองใบหน้าของธีรวิทย์อย่างเอาเรื่อง ธีรวิทย์ยมิ้ เล็กน้อย แต่กอ็ ดรูส้ กึ แปลกใจไม่ได้ทตี่ นเองไม่รสู้ กึ โกรธเคือง หรือไม่พอใจเด็กคนนี้เลย ตั้งแต่แรกเห็นเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง “พี่ชื่อธี” ธีรวิทย์แนะน�ำชื่อของตนเองแทนที่จะต่อปากต่อค�ำกับเด็กชาย 3


เปลือยรัก...กลางพงไพร “แล้วยังไง” ค�ำถามที่ตอบกลับมาให้ความรู้สึกว่าอีกฝ่ายก�ำลังกวน แต่ถ้ามองจาก น�้ำเสียงและแววตา ท�ำให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจ “เรียกพี่ว่า พี่ธี แล้วเราน่ะ ชื่ออะไร จะไม่แนะน�ำตัวหน่อยเหรอ หรือ ไม่มีคนสอน” “ลม ผมชื่อลม” น�้ำเสียงกระแทกกระทั้นถูกส่งกลับมาในทันที ซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าอีกฝ่าย ก�ำลังโกรธและไม่พอใจ “กลับกันได้แล้ว ถ้าพระอาทิตย์ตกดินแล้วจะเดินทางล�ำบาก” ธีรวิทย์เตือนเมื่อมองดูท้องฟ้าที่เริ่มจะมืดลง เขาขยับเข้าไปประคอง ร่างของลมที่พยายามจะลุกขึ้นแล้วก็ต้องเซล้มท�ำให้เขารวบเอวบางเข้ามาใกล้ จนกลายเป็นว่าตอนนี้เขาเป็นฝ่ายกอดลมเอาไว้ กลิ่นดิน กลิ่นหญ้าและกลิ่นไอ แดดให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติของผืนป่า “จะกอดอีกนานไหม” ลมพูดเหมือนตะคอกเมื่อเขาอยู่ใกล้นานเกินไป และถ้าสังเกตดีๆ จะ เห็นว่าผิวสีน�้ำผึ้งค่อยๆ แดงระเรื่อ “ให้เดินเองคงไม่ไหว พี่อุ้มแล้วกัน น�้ำน�ำทางให้พี่ได้ไหม” ธีรวิทย์หันไปถามเด็กชายที่มองตาแป๋วอยู่ใกล้ๆ ทันทีที่ได้ยินค�ำถาม ร่างเล็กๆ ก็ก้าวเดินน�ำออกไปอย่างรวดเร็ว “ไม่เห็นต้องอุ้มเลย” ลมบ่นพึมพ�ำเมื่อถูกตระกองกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม “ถ้าพี่ไม่อุ้ม ลมจะเดินไหวเหรอ” ค�ำถามของเขาท�ำให้ได้รับดวงตาขวางๆ ของเด็กชายแทนค�ำตอบ 4


อนันตกาล

“เขาว่ากันว่า หมอน่ะใจดี” “แล้วที่เขาว่ากันว่านี่ใครว่าล่ะครับ” พอถูกย้อนกลับ ท�ำให้ลมมองธีรวิทย์ด้วยใบหน้าบึ้งตึง เสียงร้องเพลง เจื้อยแจ้วของน�้ำที่เดินน�ำอยู่ด้านหน้าช่วยให้บรรยากาศไม่อึดอัดมากนัก ธีรวิทย์กระชับอ้อมกอดโดยการโยนขึน้ ลงเบาๆ เพือ่ ให้เคลือ่ นไหวถนัด มากขึ้น “กลัวตกเหรอ” ธีรวิทย์ถามปนข�ำ เมื่อเห็นลมกอดรัดเขาแน่น “หมอแกล้งผม” ทันทีที่ได้ยินค�ำถามลมเเหวใส่ทันที น�้ำวิ่งกลับมาหาอย่างรวดเร็วเมื่อ ได้ยินเสียงตะโกนของพี่ชาย “ไม่มีอะไรหรอกครับ เดินน�ำต่อไปพี่ลมเจ็บขาน่ะ พี่อุ้มไม่ดีเท่านั้น” พอได้ยนิ ค�ำตอบของธีรวิทย์ เด็กชายพยักหน้าหงึกๆ แล้ววิง่ ไปข้างหน้า “คนโกหก เจ้าเล่ห์” เสียงแหบยังคงโวยวาย แต่ธีรวิทย์ไม่สนใจจะต่อล้อต่อเถียง เขาต้อง เก็บแรงไว้เดินต่อไป “ถึงแล้ว” ธีรวิทย์พูดออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อถึงกระท่อม ระยะทางที่ค่อน ข้างไกลและการที่ต้องแบกน�้ำหนักของลมเอาไว้ ท�ำให้เขาเหงื่อแตกพลั่ก “น้องน�ำ้ ไปบอกพ่อกับแม่กอ่ นว่าพีล่ มต้องท�ำแผล เพราะข้อเท้าแพลง เดี๋ยวพี่หมอพาไปส่งที่บ้านเองไม่ต้องเป็นห่วง” “ดูแลพี่ลมดีๆ นะครับ” “ครับ พี่จะดูแลอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วง พี่สัญญา” 5


เปลือยรัก...กลางพงไพร พอได้รับค�ำสัญญาเท่านั้น เด็กชายยิ้มกว้างก่อนจะวิ่ง ดุ๊กๆ หายไป “จะท�ำอะไรน่ะ” เสียงลมร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ ธีรวิทย์อุ้มเขาเข้าไปในที่พักและวาง ลงบนเตียงนอน “แล้วเราคิดว่าพี่จะท�ำอะไรล่ะ” น�้ำเสียงหยอกล้อและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของธีรวิทย์ท�ำให้ลมหน้าแดง ธีรวิทย์ผละออกมาหยิบน�ำ้ ใส่กะละมังและผ้าสะอาดมาเช็ดบริเวณเท้า ที่เต็มไปด้วยดิน เขาค่อยๆ เช็ดอย่างแผ่วเบา พอคราบสกปรกพวกนั้นหลุดออก ไป เผยให้เห็นผิวนวลเนียน จนเขาอดไม่ได้ที่จะลูบไล้อย่างแผ่วเบา พอเงยหนา ขึ้นมาเขาพบกับดวงตาสีด�ำกลมโตใสแจ๋วเหมือนลูกแก้วที่ก�ำลังสั่นระริก ธีรวิทย์เหมือนตกอยูใ่ นมนต์ขลัง เขาเอือ้ มมือไปสัมผัสผิวแก้มเนียนนุม่ ไม่มีเสียงต่อต้านหรือขัดขืน ชายหนุ่มค่อยๆ เลื่อนตัวเข้าหาร่างตรงหน้าช้าๆ ตลอดเวลาสายตาของทั้งคู่ประสานกัน กลิ่นดินจางๆ ในทีแรกชัดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกลิ่นไอแดดที่เขาได้รับรู้เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน จูบเบาๆ ในที แรกให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่สว่างไสว จูบลึกซึ้งหวาน ฉ�่ำให้ความรู้สึกเหมือนนอนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า และอ้อมแขนที่ยกขึ้นมาโอบ กอดเขาท�ำให้เขารู้สึกถึงดวงอาทิตย์ที่อบอุ่น ร่างกายที่ยังไม่โตเต็มที่สั่นน้อยๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เรียนรู้สัมผัสจาก ปลายลิ้นที่รุกราน ธีรวิทย์ลูบไล้ไปตามร่างกายผอมที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตาม ประสาคนออกก�ำลังกาย เสียงครางแหบพร่าในล�ำคอท�ำให้ธีรวิทย์ผละออกมา ก่อนที่จะยากเกินถอนตัว ดวงตาสีด�ำเป็นประกายจ้องมองเขาอย่างเหม่อลอย ผิวสีน�้ำผึ้งแดง น้อยๆ พร้อมกับลมหายใจที่หอบกระชั้น 6


อนันตกาล

“จูบผมท�ำไม” ทันทีที่รู้ตัวร่างของเด็กชายสะดุ้งพร้อมกับยกมือขึ้นถูริมฝีปากตัวเอง ไปมา ธีรวิทย์นิ่งไปกับค�ำถามที่ถูกถาม ถ้าถามว่าจูบท�ำไม ค�ำถามนี้เป็น ค�ำถามที่เขาไม่ต้องการตอบ “ก็แค่อยากจูบ” ทันทีที่ได้ยินค�ำตอบเด็กชายชักสีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจ พอ เขายื่นมือเข้าจะกอดลมก็ดิ้นหนีในทันที “ลมไม่อยากสัมผัสพี่เหรอ” ธีรวิทย์ดึงมือของเด็กชายเข้ามาสัมผัสที่ตัวเขา สัมผัสที่หน้าอก สัมผัส ที่ต�ำแหน่งของหัวใจ นั่นท�ำให้ลมหยุดดิ้นและหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่ ยากจะเข้าใจ แต่เมื่อสายตาของทั้งคู่ประสานกัน เหมือนทุกอย่างตกอยู่ใน มนต์ขลัง ธีรวิทย์โน้มตัวลงไปหวังจะสัมผัสกับริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง พร้อมกับลม ที่หลับตาลงช้าๆ ราวกับรอรับจุมพิตจากเขา “หมอโรคจิต” ลมหายใจถีห่ อบกระชัน้ กับใบหน้าทีแ่ ดงก�ำ่ ยิง่ เพิม่ เสน่หเ์ ย้ายวนให้กบั ร่างตรงหน้า “บ้ากาม” ลมพูดอีกครั้งเมื่อริมฝีปากอุ่นประกบลงมาอีกครั้ง รสจูบที่อ่อนหวาน แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทั้งๆ ที่คนตรงหน้าเป็นเพียงแค่เด็ก แต่ความรู้สึกร้อนแรงที่ ประทุขึ้นในอกท�ำให้เหตุผลของเขาเลือนลางไป “เรียกพี่ธีสิ” ธีรวิทย์ส่งเสียงแหบพร่า พร้อมกับเชยคางของเด็กชายให้สบตา 7


เปลือยรัก...กลางพงไพร

“หมอบ้ากาม” ลมยังคงย�ำ้ อยูเ่ ช่นเดิม พร้อมกับธีรวิทย์ทปี่ ระกบปากจูบอีกครัง้ พร้อม กับร่างที่ดิ้นไปมาถูกกดลงกับเตียง “เรียกพี่ธีสิครับ” ธีรวิทย์ย�้ำค�ำเดิม ขณะที่ใบหน้าคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม เขาจุมพิต ไล่ไปตั้งแต่แก้ม เปลือกตา ขบเม้มที่ริมฝีปาก “พอแล้ว พี่ธี” น�้ำเสียงตกใจพร้อมกับร่างที่พยายามถอยหนี เมื่อธีรวิทย์ขยับขบเม้ม ที่ซอกคอ “คนผิดสัญญา” น�้ำเสียงกระเง้ากระงอดติดจะไม่พอใจเมื่อฝ่ามือของธีรวิทย์สัมผัสไป ทั่วร่างกาย “พี่ผิดสัญญาตรงไหน” ธีรวิทย์กระซิบที่ข้างหูอดไม่ได้ที่จะจุมพิตแผ่วเบาที่หูนุ่ม และทันทีที่ ผละออกเด็กชายยกแขนขึ้นถูปากตัวเองไปมา “เดี๋ยวก็ถลอกหมดหรอก” ธีรวิทย์จับมือทั้งสองข้างเอาไว้ พร้อมกับเผชิญหน้าลมที่จ้องมองมา อย่างเอาเรื่อง “ก็ใครให้ท�ำแบบนี้ หมอโรคจิต ลามก วิปริต อย่าเข้ามาใกล้เชียวนะ” ท่าทางของลมเหมือนแมวที่ก�ำลังขู่ฟ่อๆ ท�ำให้ธีรวิทย์อดยิ้มด้วยความ เอ็นดูไม่ได้ “ก็พี่อยากท�ำ แล้วท�ำไมลมไม่ขัดขืน” “ก็เจ็บขาไงล่ะ ไอ้หมอบ้า” 8


อนันตกาล

เขาตะโกนเสียงดังลั่นด้วยใบหน้าที่แดงก�่ำ พอรู้สึกตัวอีกทีธีรวิทย์ก็ ก�ำลังขยับเข้าใกล้อีกครั้ง “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นถีบจริงๆ ด้วย” ทันทีที่เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ฟังเด็กชายกระโดดลงจากเตียงอย่าง ว่องไวแต่ก็เสียหลักล้มลง “จะโดดลงมาท�ำไม” ธีรวิทย์ส่ายศีรษะพร้อมกับขยับเข้าอุ้มร่างเล็กขึ้นมาวางไว้บนเตียง “หมอจะเข้ามาท�ำไม” ธีรวิทย์ไม่สนใจค�ำถาม เขาก้มลงส�ำรวจข้อเท้าของลมอีกครั้ง แล้วก็ ต้องร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเจอก�ำปั้นทุบลงที่หัวไหล่ “หมอยังไม่ตอบผมเลย” “บอกให้เรียกพี่ธีไง” ธีรวิทย์ยังคงไม่สนใจ เขาขยับเข้าดูอาการของคนที่ท�ำหน้ามุ่ยใส่ “ท�ำไมต้องเรียกคนบ้ากามว่าพี่ด้วยล่ะ” ธีรวิทย์ท�ำท่าจะเถียง แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเจอดวงตาใสแจ๋วไร้พิษภัย แล้ว ท�ำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้ากามจริงๆ “ปล่อยนะ” ลมตะโกนลั่นเมื่อถูกรวบตัวขึ้นกอด ทั้งดิ้น ทั้งเตะไปมา ปากก็พูดจา ข่มขู่จะท�ำร้ายเขาทั้งๆ ที่ตนเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบแท้ๆ “ปล่อย” เสียงตะโกนดังแข่งกับเสียงหัวเราะชอบใจของธีรวิทย์ทกี่ ำ� ลังกอดปล�ำ้ ร่างของเด็กชาย “โอ๊ยย” 9


เปลือยรัก...กลางพงไพร เสียงร้องดังลัน่ พร้อมกับคมเขีย้ วทีฝ่ งั ลงบนไหล่หนาทีพ่ ยายามถอยหนี “ปล่อย เจ็บ พี่เจ็บ” ธีรวิทย์ที่เคยเป็นฝ่ายกอดรัดในตอนแรกกลับเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ร่าง ตรงหน้าปล่อยเขาออกแทน ลมทีก่ ดั ไม่ยอมปล่อยสุดท้ายก็ตอ้ งยอมแพ้เมือ่ ทาน แรงของชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ “กัดพี่ท�ำไมเนี่ย” “สมน�้ำหน้า” น�ำ้ เสียงเยาะเย้ยและหน้าตาสะใจทีก่ ดั เขาจนเลือดออกท�ำให้เขาอยาก คว้าร่างเล็กนั่นมาตีให้ก้นลาย ธีรวิทย์ได้แต่คิดในใจด้วยความหมั่นเขี้ยว เพราะสายตาหรือเพราะความระแวง ทันทีที่ธีรวิทย์จ้องมองริมฝีปาก ที่บวมช�้ำ ลมยกมือขึ้นปิดปากอย่างรวดเร็ว “ปากเป็นอะไรเหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยน�้ำเสียงที่ทุ้มต�่ำ จงใจแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนพร้อม กับเดินย่างสามขุมเข้าไป “เปล่า อย่าเข้ามานะ” ธีรวิทย์ขำ� กับค�ำขูแ่ ละขาทีย่ กขึน้ นัง่ ตัง้ ท่าจะถีบเขา และระยะห่างทีไ่ ม่ ถึงช่วงแขน แค่เขาขยับนิดเดียวลมก็หนีไปไหนไม่พ้น “เรียกพี่ธีสิครับเด็กดี” น�้ำเสียงอ่อนโยนถูกน�ำมาใช้ พร้อมกับร่างที่นั่งลงที่ข้างเตียง เมื่อท่าทีที่คุกคามหายไปท�ำให้เด็กชายสงบใจลุกขึ้นนั่งอย่างสงบแต่ก็ ไม่วายจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างระแวดระวัง “ท�ำไมต้องเรียกพี่ เรียกหมอไม่ได้เหรอ” ลมตัง้ ค�ำถามด้วยความสงสัย ในเมือ่ อีกฝ่ายเป็นหมอ เรียกหมอก็นา่ จะ 10


อนันตกาล

ถูกแล้ว “ก็อยากให้เรียกพี่ธีมากกว่านี่นา ถ้าไม่เรียกคงไม่ต้องบอกนะว่าพี่จะ ท�ำยังไง” ธีรวิทย์รวดเร็วกว่าค�ำพูดเมื่อเขาเข้าประกบร่างเล็กที่ยังไม่โตเต็มที่ ริมฝีปากเขาฉกวูบที่ริมฝีปากนุ่ม สัมผัสเรียวลิ้นเล็กที่ตื่นตระหนกก่อนที่ร่างเล็ก จะโอนอ่อนตามอีกครั้ง “เรียกพี่ธีได้หรือยัง” ธีรวิทย์กระซิบข้างหูด้วยน�้ำเสียงแหบพร่า พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอม สดชื่นของไอดินและกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า “หรือต้องให้พี่ย�้ำอีกครั้ง” ลมรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อธีรวิทย์ตั้งท่าจะย�้ำสัมผัส “พี่ธี พอใจหรือยัง” น�้ำเสียงที่เหวี่ยงในตอนท้าย บ่งบอกได้ดีว่าเจ้าตัวรู้สึกไม่พอใจที่ถูก บังคับ “ต่อไปเรียกพี่ธีนะ เรียกอีกครั้งสิ” “พี่ธี” เพราะเสียงที่ก�ำลังแตกยามเข้าสู่วัยรุ่น ยิ่งให้ความรู้สึกว่าเสียงของคน ตรงหน้านั้นเซ็กซี่ “ถ้าไม่เรียกพี่ว่าพี่ธี ต่อไปพี่จะท�ำแบบนี้” “โรคจิต” ลมถอยหนีอย่างรวดเร็วพร้อมกับจ้องเขาตาขวาง ผิดกับธีรวิทย์ที่ หัวเราะชอบใจ กับการที่ลมนั่งฮึดฮัดคนเดียวอยู่บนเตียง “ผมอยากกลับบ้าน” 11


เปลือยรัก...กลางพงไพร อยูๆ่ ลมก็พดู ขึน้ มา เมือ่ มองออกไปนอกกระท่อมกระอาทิตย์ทเี่ คยอยู่ ริมขอบฟ้าลับตาไปแล้วท�ำให้ภายนอกนั้นมืดสนิท “เดี๋ยวพี่อุ้มไปส่งที่บ้าน” ธีรวิทย์ตั้งท่าจะขยับเข้าไปอุ้มแต่ลมกลับยกมือห้าม “กลับเองได้” “ลมเดินไม่ไหวหรอก ตอนนีล้ มเจ็บขาและทีส่ ำ� คัญขาลมบวมมาก เมือ่ กี้แค่ยืนยังแทบไม่ไหว ให้พี่อุ้มไปส่งดีกว่า” “ไปตามให้พ่อมารับก็ได้” น�้ำเสียงที่เอาแต่ใจท�ำให้ธีรวิทย์หัวเราะออกมา “พีต่ อ้ งเดินไปตามพ่อเราและเดินกลับมาอีกนีน่ ะ เสียเวลา และทีส่ ำ� คัญ พี่ไม่รู้ว่าบ้านลมอยู่ไหน” พอธีรวิทย์แกล้งเดินเข้าไปในระยะประชิดตัวลมสะดุ้งถอยห่าง ภาพที่ เห็นท�ำให้เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ผมจะกลับบ้าน หมอ.. พี่ธีไปส่งก็ได้” เมื่อเห็นสายตาของธีรวิทย์จากเสียงที่เรียกหมอเปลี่ยนเป็นเรียกพี่ธี อย่างรวดเร็วนั่นท�ำให้ธีรวิทย์รู้สึกพอใจ “กอดคอพี่ดีๆ ล่ะ” ธีรวิทย์เคลือ่ นตัวเข้าไปดึงแขนลมให้โอบรอบต้นคอ พร้อมประคองร่าง ของอีกฝ่ายเข้าสูอ่ อ้ มกอด กลิน่ ดิน กลิน่ หญ้าทีแ่ สนสดชืน่ ลอยเข้ามาปะทะจมูก อีกครั้งจนเขาต้องพยายามยับยั้งใจที่จะไม่เข้าไปขโมยหอมแก้มคนตรงหน้า “ท�ำไมไม่ให้ขี่หลัง” “เดี๋ยวพี่เผลอท�ำเราหลุด พี่ถนัดแบบนี้มากกว่า” ..เพราะแบบนี้พี่สามารถใกล้ชิดเราได้มากกว่า.. 12


อนันตกาล

ธีรวิทย์ได้แต่คิดในใจ “แน่นพอหรือยัง” ลมถามด้วยใบหน้าแดงและหงิกงอ ไม่บอกก็รวู้ า่ อีกฝ่ายทัง้ โกรธทัง้ อาย ที่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้ “พอแล้ว อย่าดิ้นอีกล่ะ อย่าลืมบอกพี่ด้วยนะว่าบ้านหลังไหน” ธีรวิทย์เตือนอีกครั้ง ก่อนจะยื่นตะเกียงไฟน�ำทาง กระท่อมของเขาอยู่ ท้ายหมูบ่ า้ นห่างไกลจากบ้านหลังอืน่ ๆ มากพอตัว ธีรวิทย์กา้ วยาวๆ ไปตามทาง เดินเพื่อตรงเข้าไปยังหมู่บ้านที่เห็นไฟสว่างไสวอยู่ไม่ไกล “บอกพี่ด้วยนะว่าบ้านหลังไหน” ธีรวิทย์เอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบริเวณหมู่บ้าน “เออ” น�้ำเสียงขาดห้วงท�ำให้ธีรวิทย์หยุดยืนนิ่ง “ครับ พี่ธี คราวหลังพูดแบบนี้นะ” “ท�ำไมต้องพูด” ลมถามอย่างเอาเรื่องพร้อมกับจ้องหน้าเขา “ถ้าเราไม่พดู พีจ่ ะพาเรากลับกระท่อม หรือไม่กพ็ งไม้แถวนีแ้ ทนดีไหม” เงาหน้าท่ามกลางความมือสลัวๆ ท�ำให้ลมไม่สามารถแยกออกว่าจริง หรือเล่น “ครับพี่ธี” น�ำ้ เสียงทีไ่ ม่คอ่ ยจะพอใจนัก และปากทีข่ มุบขมิบท�ำให้ธรี วิทย์หวั เราะ ..ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายก�ำลังสรรเสริญเขา.. “ตกลงบ้านอยู่ไหน” ธีรวิทย์ถามคนในอ้อมกอดทีย่ งั หน้ามุย่ เด็กชายยกแขนขึน้ ชีไ้ ปข้างหน้า 13


เปลือยรัก...กลางพงไพร เหมือนชี้ส่งเดซ “ไม่บอกพี่ล่ะว่าหลังไหน” “หลังนั้นแหละ” “หลังนั้นแล้วหลังไหน” เขาไม่ได้ตงั้ ใจทีจ่ ะกวนเพียงแต่ไม่แน่ใจว่าหลังไหน ในเมือ่ ตรงหน้าเขา มีบ้านตั้งหลายหลัง “คนเป็นหมอต้องฉลาดไม่ใช่เหรอ” น�ำ้ เสียงยอกย้อนท�ำเอาธีรวิทย์อยากวางลงแล้วบีบคอให้ตายจริงๆ เด็ก อะไรกวนประสาทชะมัด “ไม่บอกเดี่ยวพี่ลงโทษนะ” “ถ้าท�ำผมจะร้อง คนทั้งหมู่บ้านจะได้แห่มาดูหมอบ้ากาม เขาจะได้รู้ กันสักทีว่าหมอแสนดีที่เขาพูดกันน่ะมันก็แค่ไอ้บ้ากาม” ..ปากเก่ง.. ค�ำนี้ผุดขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองเขาอย่างเป็นต่อ ธีรวิทย์จอ้ งมองคนในอ้อมกอดทีด่ สู ดใสขึน้ มาในทันทีทไี่ ด้ตอกย�ำ้ ใส่เขา ธีรวิทย์ก�ำลังชั่งใจ เขาก�ำลังคิดว่าควรพาลมไปส่งหรือควรพากลับกระท่อมของ ตนกันนะ “พี่หมอมาแล้ว พี่หมอ” เสียงเล็กๆ ที่ได้ยินอยู่ไกลๆ พร้อมกับเงาร่างเล็กที่วิ่งดุกๆ เข้ามาอย่าง ร่าเริงของน�้ำท�ำให้ธีรวิทย์อดเอ็นดูไม่ได้ “พี่ลมเป็นอะไรหรือเปล่า” ทั น ที ที่ วิ่ ง มาถึ ง ตั ว น�้ ำ ถามถึ ง พี่ ช ายของตนทั น ที สายตาใสแจ๋ ว ท่ามกลางไฟมืดสลัวเต็มไปด้วยความสงสัย พร้อมกับร่างเล็กๆ ที่เกาะชายเสื้อ 14


อนันตกาล

เขาพร้อมพยายามเขย่งมอง “ขาเจ็บเฉยๆ ไม่กี่วันก็หายแล้ว ว่าแต่บ้านอยู่หลังไหน” “ตามมาเลย” ร่างเล็กของน�้ำที่วิ่งไปในทิศทางที่ลมชี้ พร้อมกับดึงชายเสื้อของเขาให้ วิ่งตาม “น�ำไปเลยครับ ไม่ต้องห่วงพี่ เดี๋ยวพี่เดินตาม” พอได้ยินดังนั้นร่างเล็กของน�้ำวิ่งน�ำไปอย่างคล่องแคล่ว “พี่หมอเร็วๆ” น�้ำโบกมืออย่างร่าเริงพร้อมกับธีรวิทย์ที่เดินตามไปอย่างไม่เร่งรีบ “คืนนี้เลยอดไปนอนที่กระท่อมพี่เลย โอ๊ย” ธีรวิทย์ร้องลั่นเมื่อลมใช้ข้อศอกถองเข้าที่หน้าของเขา ชายหนุ่มตกใจ จนเกือบปล่อยมือจากร่างของลมที่อุ้มเอาไว้ “เหวอ” แม้แต่ลมเองก็ผวากอดคอเขาเอาไว้แน่น “ไม่กลัวหล่นหรือไงหรือว่าอยากโดนท�ำโทษ” เขากระซิบถามคนในอ้อมกอด “พี่หมอ เร็วๆ สิ พี่หมอ พี่หมอ” เสียของน�้ำเร่งเร้าเมื่อใกล้ถึงบ้านของลมมากขึ้นทุกที “น�้ำเรียกแล้ว รีบเดินสิ” ลมสะบัดเสียงออกค�ำสั่ง ท�ำให้ธีรวิทย์อดคิดไม่ได้ว่า ปากแบบนี้มันไม่ น่าพามาส่งเลยจริงๆ เขาน่าจะกักตัวเอาไว้ในกระท่อม อยู่บนเตียงของเขา “สวัสดีจ๊ะหมอ” น�้ำเสียงของหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านไม้พร้อมกับร่างสูงใหญ่ 15


เปลือยรัก...กลางพงไพร ของเด็กหนุ่มอีกคน “คุณหมออุ้มคงหนักแย่ ดินรับน้องไปวางไว้ในบ้าน ส่วนคุณหมอมา ทานข้าวเย็นด้วยกันเถอะ” เธอชวนอย่างเป็นกันเองพร้อมเด็กหนุม่ ทีช่ อื่ ดินเดินเข้ามาท�ำท่าจะรับ “ผมอุ้มเองดีกว่าลมขาเจ็บมากอุ้มไม่ดีอาจจะเป็นหนักได้ เดี๋ยวผมจะ เช็คขาลมก่อนกลับด้วยครับ” พอได้ยนิ ค�ำพูดดินเดินถอยออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับหญิงสาวทีย่ กมือ ขึน้ ทาบอก ท่าทางตกใจของหญิงสาวท�ำให้ธรี วิทย์รสู้ กึ ผิดนิดๆ ทีต่ นเองโกหกว่า ลมเจ็บหนัก ทั้งๆ ที่ความจริงเขาก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ ลมก็เท่านั้น “ตายแล้ว งัน้ หมอพาลมเข้าข้างในเลย น�ำ้ ช่วยพาพีห่ มอไปทีห่ อ้ งพีล่ ม สิลูก” เด็กชายพยักหน้ารับและรีบก้าวน�ำเข้าบ้านทันที บ้านไม้สองชั้น “ห้องของพี่ลมอยู่ตรงกลาง” บ้านถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งมีประตูสามบาน ส่วนอีกฝั่งถูกกั้น เป็นห้องและเป็นชานเรือนที่กว้าง น�ำ้ เปิดประตูหอ้ งออก ภายในห้องมีตเู้ สือ้ ผ้า ชัน้ หนังสือและเตียงเพียง เท่านั้น “ปล่อยได้แล้ว” น�ำ้ เสียงไม่พอใจของเด็กชายท�ำให้ธรี วิทย์หวั เราะ เขาวางลมลงบนเตียง พอสัมผัสถึงพื้นเตียงเท่านั้น เขาก็ถูกผลักออก เตียงของลมอยูร่ มิ หน้าต่างบานใหญ่ และพระทิตย์ทกี่ ำ� ลังตกดินท�ำให้ แสงสีส้มอ่อนสาดส่องเข้ามาจนทุกอย่างถูกย้อมเป็นสีทอง ผิวคล�้ำนวลเนียนที่ อยู่ภายใต้แสงแดดนั้นผุดผ่อง เสียจนเขาอดที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสไม่ได้ 16


อนันตกาล

เร็วเท่าความคิด ฝ่ามือใหญ่ขยับเข้าลูบไล้ทขี่ า้ งแก้มแต่กถ็ กู ลมปัดออก อย่างรวดเร็ว “อะไรกัน อุตส่าห์พามาส่งถึงที่ ไม่ขอบคุณสักค�ำแถมยังท�ำร้ายร่างกาย พี่อีก” พอได้ยินค�ำตัดพ้อต่อว่า ใบหน้าอ่อนเยาว์กลับหงิกงอ ธีรวิทย์มอง ใบหน้าของเด็กชายด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าลมจะมีปฏิกิริยาเช่นไร “คนอะไรใจร้ายชะมัด” “ตอแหล” เสียงกระแทกกระทัน้ ทีแ่ สดงออกถึงความหงุดหงิดไม่พอใจและสายตา ทีจ่ อ้ งมองอย่างเอาเรือ่ งไม่ปกปิด อาการดังกล่าวท�ำให้หมอหนุม่ หัวเราะออกมา ‘ก็รวู้ า่ แกล้งเด็กมันผิด แต่ความต้องการเอาชนะเด็กปากแข็งและอวดดี มันมีมากกว่า’ สายตาที่จ้องมองอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ และท่าทางแยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ เหมือนแมวป่านั่นท�ำให้ธีรวิทย์รู้สึกอยากแกล้งมากขึ้นไปอีก ฝ่ามือของของชายหนุม่ ขยับเข้าจับทีข่ า้ งแก้ม แต่แค่เพียงสัมผัสเท่านัน้ มือของเขาก็ถูกเด็กชายคว้าเข้าปาก “โอ๊ย” ธีรวิทย์ร้องลั่น พร้อมกับสะบัดแขนจนลมกลิ้งไปอีกทาง “สมน�้ำหน้า” ท่าทางเย้ยหยันของเด็กชายท�ำให้ธีรวิทย์ที่ก�ำลังถูมือของตน มอง ใบหน้ายิ้มแย้มที่น่าจับมาฟาดสักทีสองที “ทั้งๆ ที่พี่ช่วยเราแท้ๆ นี่นะ” “ตอแหล พูดเอาดีเข้าตัวแล้วโยนความชัว่ ให้คนอืน่ ทัง้ ๆ ทีต่ วั เองโรคจิต 17


เปลือยรัก...กลางพงไพร บ้ากามแท้ๆ” ไม่มีค�ำพูดหลุดออกมาจากปากของหมอหนุ่ม พอเจอค�ำเยาะเย้ย ถากถางของลมเท่านั้น เล่นเอาเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก “หมอ เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ น้าได้ยินเสียงโครมคราม” เสียงเรียกไกลๆ ของเจ้าของบ้านท�ำให้ธรี วิทย์รบี ขานตอบก่อนทีจ่ ะโดน จับได้ถึงความผิดปกติ “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่สะดุดล้มเท่านั้น” ธีรวิทย์ขานตอบกลับไป และฉับพลันเขาคว้าขาของลมที่ขยับถอยตัว ออกห่างจนล้มลง “โอ๊ย” เสียงร้องและสีหน้าทีเ่ จ็บปวดท�ำให้เขารูส้ กึ ผิด แต่สายตาขุน่ เคืองทีจ่ อ้ ง มองอย่างเอาเรื่องและพร้อมจะเข้าขย�้ำ ท�ำให้เขาปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่ “เจ็บไหมครับ” “ไอ้ โรค จิต” ลมกัดฟันต่อว่าเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง หมอหนุ่มหัวเราะออกมาอีกครั้ง จากความรู้สึกผิดที่ตนท�ำไปตาม อารมณ์โกรธกลับกลายเป็นสุขใจกับการที่ได้กลั่นแกล้งเด็กชายตรงหน้า “พูดกับพี่ธี ดีๆ สิครับเดี๋ยวพี่ธีจะท�ำแผลให้” หมอหนุม่ กระซิบเสียงอ่อนหวานพร้อมทัง้ ประคองร่างทีล่ ม้ ลงอยูท่ พี่ นื้ ให้นั่งลงบนเตียง “ถ้าคิดจะท�ำอะไรบ้าๆ ผมจะร้องให้ลั่นบ้าน” ค�ำขู่ฟ่อๆ ของเด็กน้อย ที่เป็นต่อเมื่อถือว่าอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง “ยิ้มบ้าอะไร” 18


อนันตกาล

เสียงตวาดดังขึน้ เมือ่ เห็นว่าหมอหนุม่ เอาแต่ยมิ้ กับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ที่แสดงออกอย่างไม่ปิดบัง และยิ่งตอนนี้ภายในห้องมีเพียงเขาทั้งสองคน ยิ่ง ท�ำให้เด็กชายอดรู้สึกระแวงไม่ได้ ธีรวิทย์มองรอบๆ อีกครั้ง เสียงของดอกแก้ว หญิงสาวผู้เป็นแม่ดังอยู่ ไกลๆ ท�ำให้รู้ว่าน�้ำก�ำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวครัว ธีรวิทย์มองสายตาหวาดหวั่นและหวั่นไหว ที่ถูกปิดซ่อนเอาไว้ภายใต้ ความไม่พอใจของเด็กชาย ท่าทางแข็งขืนก้าวร้าวไม่ยอมคน ท�ำให้เกิดความ รู้สึกอยากกลั่นแกล้งให้ยอมจ�ำนน “นึกอะไรดีๆ ออกแล้ว” รอยยิม้ ชัว่ ร้ายปรากฏขึน้ มาทีม่ มุ ปาก บรรยากาศทีไ่ ม่นา่ ไว้วางใจ ท�ำให้ ลมขยับจะคว้าของใกล้มือมาท�ำร้ายหมอหนุ่มแต่ก็ช้าเกินไป เมื่อชายหนุ่มผู้มี ร่างกายสูงใหญ่กว่าตนขยับเข้าประชิดตัว “จะท�ำอะไร” เสียงที่สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ “จะสอนบทเรียนให้เด็กดื้อ ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นเหมือนที่คิด” “หมายความว่า....อื้อ” ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ริมฝีปากอุ่นขยับเข้าประชิด จุมพิตที่ รวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว และเรียวลิ้นที่ก�ำลังรุกรานสร้างความตระหนกตกใจกับ เด็กชายเป็นอย่างมาก “ปละ..” การห้ามปรามกลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้ปลายลิน้ รุกล�ำ้ อย่างง่ายดาย ลิ้นร้อนกระหวัดไปมาอย่างเชี่ยวชาญ พยายาม ดูดดึง ชักน�ำ ให้เด็กชาย เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสเร่าร้อน อ่อนหวาน 19


เปลือยรัก...กลางพงไพร “อื้อ” เสียงครวญครางหลุดออกมาจากริมฝีปากทีช่ มุ่ ชืน้ แขนและขาเรียวเล็ก ที่เคยต่อต้านค่อยๆ อ่อนแรงลง ฝ่ามือที่พยายามจะผลักไส ขยุ้มขย�ำเสื้อของ ธีรวิทย์แน่น ความรู้สึกพลุ่งพล่านที่ไม่เคยสัมผัสแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ธีรวิทย์สัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มผ่านผิวคล�้ำแดด ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ ควรไร้เดียงสา ฉายแววความปรารถนาที่ถูกปลุกเร้า ดวงตาสีเข้มหวานฉ�ำ่ และ กลีบปากนุ่มที่บวมช�้ำ ท�ำให้ธีรวิทย์รู้สึกราวกับตนเป็นคนใจบาปที่ฉุดกระชาก ความบริสุทธิ์ให้ต้องแปดเปื้อน แต่ถึงอย่างนั้นศีลธรรมและความปรารถนามักสวนทางกัน เมื่อความ ต้องการเบื้องต�่ำ อยู่เหนือเหตุผล “เห็นหรือยัง ว่าไม่มีอะไรเป็นอย่างที่คิด” ดวงตาที่มองอย่างหวานฉ�่ำเปลี่ยนเป็นดุดัน ทันทีที่ได้ยินเสียงหยอก กระเซ้าของธีรวิทย์ “แม่ พี่ดิน ช่วย....” เสียงร้องตะโกนทีท่ ำ� ให้ธรี วิทย์ตอ้ งใช้มอื ปิดปากทีก่ ำ� ลังร้องเรียกคนใน บ้านด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าลมจะกล้า ‘ซวยแล้ว เอาไงดี’ จากที่คิดจะแกล้งเล่นๆ สนุกๆ ดูเหมือนว่างานนี้จะไม่สนุกแล้วสิ เสียงคนวิ่งตึงตังใกล้เข้ามาทุกที ธีรวิทย์เหงื่อแตกซิกรีบคิดหาหนทาง เอาตัวรอด “เกิดอะไรขึ้น” ร่างสูงใหญ่ของดิน พี่ชายคนโตของลมก้าวเข้ามาหาน้องชายอย่าง รวดเร็ว พร้อมกับแม่ของลมที่เดินตามมาติดๆ 20


อนันตกาล

“ไอ้..” “ผมนวดข้อเท้าให้ลมและลองตรวจกระดูก ผมท�ำแรงไปหน่อย ลมเลย ร้องลั่นเพราะเจ็บน่ะครับ ลมพี่ขอโทษด้วย ไม่คิดว่าเราจะเจ็บขนาดนั้น” ธีรวิทย์รีบพูดแทรกออกไปก่อนที่ลมจะฟ้องคนที่บ้าน “แบบนี้น่ะเอง” ดอกแก้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เป็นการเข้าใจผิด “แม่..หมอมัน” “คุณป้าครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะมาดูอีกทีนะครับ ผมคิดว่าขาของลมน่า จะต้องใส่เฝือกอ่อน ผมไม่แน่ใจว่ากระดูกหักหรือเปล่าเพราะที่นี่ไม่มีเครื่อง เอ็กซเรย์ คงต้องรอดูอาการเอา” ธีรวิทย์ไม่ปล่อยให้ลมเปิดปากพูด เกิดปล่อยให้พูดอะไรออกไป เขานี่ สิจะเป็นฝ่ายซวย แม้ความจริงลมจะแค่ข้อเท้าแพลง แต่เขาก็พูดให้เวอร์ไว้ก่อน อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็มีโอกาสที่จะมาหาเด็กชายที่เอาแต่นั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่าง เอาเรื่อง “เป็นอะไรลม” เสียงทุ้มต�่ำของร่างสูงใหญ่ที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของน้องชาย ถามขึ้นด้วยความห่วงใย “ก็หมอ” “ลมพี่ขอโทษนะครับ เมื่อกี้พี่ไม่คิดว่าเราจะเจ็บแบบนี้ อ้อแล้วก็นี่ยา พี่จดไว้ให้แล้วว่าต้องกินอะไรบ้าง หลังอาหารหรือก่อนอาหาร” ธีรวิทย์รีบฉวยโอกาสเปลี่ยนเรื่องก่อนที่ลมจะฟ้องดินผู้เป็นพี่ชาย ดิน มองยาในมือแล้วก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างก่อนจะเดินกลับลงไปที่ด้านล่าง “หมอจ๊ะ กินข้าวเย็นด้วยกันนะ ใกล้เสร็จแล้ว” 21


เปลือยรัก...กลางพงไพร ดอกแก้วแม่ของลมชวนด้วยอัธยาศัยและน�้ำใจอันดี เมื่อเขาพยักหน้า ตอบ เธอก็ยิ้มกว้าง “เดี่ยวผมตามลงไปครับ ขอจัดการพันผ้าให้ลมดีๆ ก่อน” เมื่อแม่ของลมเดินจากไป ธีรวิทย์หันมายิ้มกว้าง ให้กับเด็กตัวแสบที่ ท�ำท่าจะตะโกนลั่นอีกครั้ง “เกือบซวยแล้ว ดีนะที่พี่ฉลาด” ท่าทางยัว่ โมโหของธีรวิทย์ทำ� ให้เด็กชายขยับจะถีบขาใส่เขา แต่ธรี วิทย์ ตั้งท่าหลบเอาไว้แล้ว “คนเจ้าเล่ห์ ตอแหล ตีสองหน้า” ลมพ่นค�ำผรุสวาทออกมาด้วยความโกรธจัดที่ถูกเอาเปรียบ หมอหนุ่ม ปล่อยให้ด่าไม่หยุดจนสุดท้ายเจ้าตัวก็ได้แต่หอบหายใจ “ด่าพอหรือยัง” พอถามเท่านั้น ดวงตาวาววับก็จับจ้องมาทันที “โรคจิต มาท�ำบ้าแบบนี้ท�ำไม” ธีรวิทย์ยิ้มหวาน พลางเอื้อมมือไปสัมผัสผิวแก้มคล�้ำเนียนแผ่วเบา “ก็เพราะพี่ชอบเราน่ะสิ” ค�ำตอบของเขาท�ำให้ลมมีทที า่ ตระหนกตกใจ ดวงตาสีเข้มเบิกออกกว้าง “บ้าไปแล้ว ผมเป็นผู้ชายนะ หมอเป็นบ้าอะไรเนี่ย” ลมเริม่ โวยวายอีกครัง้ เมือ่ รูว้ า่ ธีรวิทย์หมายถึงอะไร เด็กชายคว้าหมอน ที่อยู่ใกล้มือปาใส่ แต่หมอหนุ่มก็รับเอาไว้ทัน “รู้ว่าลมเป็นผู้ชาย แต่พี่ชอบไปแล้วจะให้ท�ำยังไง จะโวยวายให้เขารู้ 22


อนันตกาล

กันไปทั่วหรือไงครับ” ค�ำตอบของเขาท�ำให้ลมนิ่งไป ใบหน้าอ่อนเยาว์มีท่าทีเคร่งเครียด เด็ก ชายขมวดคิว้ พลางจ้องมองเขาสลับกับมองทีต่ วั เอง ก่อนจะเงยหน้าขึน้ สบตาเขา อีกครั้ง “หมอโรคจิต” ริ ม ฝี ป ากสวยพ่ น ค� ำ ต่ อ ว่ า ออกมา พร้ อ มกั บ มองเขาด้ ว ยสายตา หวาดระแวง ‘ท�ำไงดีล่ะทีนี้’ ถึงจะจบหมอก็ใช่ว่าจะเก่งไปซะทุกอย่าง ถ้าเรื่องในต�ำรานี่ไม่ยากแต่ พอเป็นเรื่องนอกต�ำรานี่สิ ธีรวิทย์ได้แต่เดินกระสับกระส่ายไปมา แล้วหันไปมองเด็กชายทีเ่ อาแต่ จ้องเขาไม่วางตาด้วยท่าทีที่พร้อมจะกระโดดหนีทุกเมื่อ ความนิ่งเงียบที่น่าอึดอัด ธีรวิทย์รู้สึกว่าต้องพูดอะไรสักอย่างออกไป “พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ” “อะไร อย่าเข้ามาใกล้นะ” ลมโบกมือไล่ธรี วิทย์ทนั ทีทขี่ ยับตัว ชายหนุม่ ถอนหายใจแล้วขยับนัง่ ลง บนเตียง ลมขยับตัวถอยหนีอย่างรวดเร็ว “ว่าแต่ ลมอายุเท่าไหร่แล้ว” ไม่ใช่เวลาที่เขาจะสนใจปฏิกิริยาของลม ก่อนอื่นเขาต้องรู้อายุของลม ให้ได้ก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขาไปหลงชอบเด็กขนาดไหน “15” 23


เปลือยรัก...กลางพงไพร ค�ำตอบที่แสนธรรมตา แต่กลับท�ำให้ธีรวิทย์ช็อคค้างไป เขา 25 เท่ากับว่าทั้งสองคนอายุห่างกัน 10 ปี แบบนี้เขาจะโดนข้อหา พรากผู้เยาว์ไหมเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าจะเห็นคุกขึ้นมาร�ำไร ยิ่งคิดยิ่งเครียด qr qr qr

หมอหนุม่ กลับมาทีก่ ระท่อมของตนด้วยความรูส้ กึ งุนงงสับสน ในหัว สมองมีแต่เรื่องของลมวนเวียนอยู่เต็มไปหมด ลมอายุ 15 นี่เขาชอบเด็กหรือนี่ แถมยังเป็นเด็กดื้ออีกต่างหาก พอนึก มาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มย้อนคิดถึงใบหน้าบึ้งตึงกับปากร้ายๆ เสียงแหบ ริมฝีปาก นุ่มที่เย้ายวน ที่พอสัมผัสก็รับรู้ถึงกลิ่นอายของต้นหญ้า และกลิ่นของธรรมชาติ ที่หอมหวาน ร่างสูงเพรียวทีไ่ ม่อว้ นหรือผอมเกินไปให้ความรูส้ กึ นุม่ นิม่ ร่างกายทีย่ งั ไม่โตเต็มที่ แต่กลับเย้ายวนชวนให้สมั ผัส ยิง่ ตอนทีไ่ ด้รบั รูถ้ งึ ริมฝีปากนุม่ ทีอ่ นุ่ จัด พอๆ ไอ้หมอธี เลิกฟุ้งซ่าน แค่นี้ก็คุกแล้ว แต่ท�ำยังไงนะถึงจะเอาชนะ ใจลมให้อยู่หมัดได้ ในเมื่อปากนุ่มๆ นั่นร้ายกาจจะตาย ยิ่งคิดถึงค�ำพูดช่างเจรจาที่พูดออกมาแต่ละค�ำ ช่างเจ็บแสบ ด่าเขาว่า บ้ากามงี้ วิปริตงี้ ถ้าปิดปากเงียบได้คงจะน่ารักเพิม่ อีกเป็นกอง ถ้าไม่ตดิ ว่าน่ารัก จะแกล้งฉีดยาผิดให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย เมื่อกี้นี้เหมือนกัน เขาไม่คิดว่าลมจะร้องออกมาแบบนั้น โชคดีที่ไหว ตัวทัน ไม่งั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง 24


อนันตกาล

ธีรวิทย์ถอดเสื้อแล้ววางลงบนเก้าอี้ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง แล้ว ก็อดนึกถึงลมขึ้นมาไม่ได้ ริมฝีปากนุ่มที่มักจะต่อว่าเขาด้วยค�ำพูดร้ายกาจ แต่ยามสัมผัสทั้งนุ่ม นวล ไร้เดียงสาและอ่อนหวาน ธีรวิทย์ส่ายศีรษะขับไล่ความฟุ้งซ่านออกไป เมื่อภาพของลมในความ ทรงจ�ำและความอบอุ่นซาบซ่านยังคงหลงเหลือที่อยู่ที่ปลายลิ้น ‘สงสัยพรุ่งนี้เขาต้องออกไปตรวจคนไข้จอมดื้อแต่เช้าซะแล้ว’ qr qr qr

25


อากาศยามเช้าทีแ่ สนสดชืน่ สร้างความกระปรีก้ ระเปร่าให้กบั ธีรวิทย์ ที่อาบน�้ำแต่งตัวเตรียมเข้าไปตรวจในหมู่บ้านเช่นทุกวัน แต่วันนี้เขามีภารกิจ พิเศษคือการไปดูแลเด็กชายปากร้ายที่ก�ำลังบาดเจ็บ หมอหนุม่ ไล่เดินตรวจตามบ้านต่างๆ โดยวางล�ำดับให้บา้ นของลมเป็น หลังสุดท้าย พอมาถึงหน้าบ้านของเด็กชายเท่านั้น ธีรวิทย์คว้าสเปรย์น�้ำแร่ขึ้น มาฉีดใส่ใบหน้า ท�ำราวกับว่าเขาเดินมานานจนเหงื่อออกท่วมตัว “สวัสดีครับ” หมอหนุม่ ส่งเสียงเรียกคนในบ้าน ไม่นานร่างสูงใหญ่ของดินก็กา้ วออก มารับ “พี่มาตรวจลมน่ะ” เด็กหนุ่มยิ้มเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเดินน�ำเขาตรงไปที่ใต้ถุนบ้าน


อนันตกาล

“สวัสดีครับคุณป้า” หมอหนุ่มยกมือไหว้ว่าที่แม่ยายในความคิดด้วยรอยยิ้มสดใส “สวัสดีจ๊ะหมอ มาแต่เช้าเชียว ท่าทางจะเหนื่อย ดินไปเอาน�้ำมาให้พี่ เขาหน่อยลูก ดูซิ เหงื่อแตกพลั่กๆ เลย” ดอกแก้วร้องเรียกลูกชายคนโตทีน่ งั่ อยูไ่ ม่ไกล เด็กหนุม่ ไม่สง่ เสียงตอบ รับแต่ก็ขยับลุกเดินหายไป “ลมล่ะครับ” หมอหนุม่ ถามหาเด็กตัวแสบปากร้าย ทีเ่ ขาสอดสายตาหาตัง้ แต่เข้ามา “พี่หมอ” ยังไม่ทนั ทีจ่ ะได้รบั ค�ำตอบ เสียงเล็กๆ และอะไรบางอย่างทีก่ ระทบกับ ขา ท�ำให้เขาก้มลงมอง เด็กชายกอดขาหมอหนุม่ พร้อมกับยิม้ กว้าง ธีรวิทย์ยมิ้ ตอบก่อนจะโอบ อุ้มร่างเล็กกว่าขึ้นมานั่งบนตัก “ว่าไงครับ น�้ำ” เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้างแล้วขยับเข้ามาหอมแก้มเขา “ตายแล้วน�้ำ” ดอกแก้วร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นลูกชายของตนขโมยหอมแก้มคนอื่น “ไม่เป็นไรหรอกครับ น่ารักดี” ธีรวิทย์หัวเราะ แล้วมองเจ้าตัวเล็กที่ท�ำตาแป๋วแหววเมื่อโดนแม่ดุ ร่าง เล็กผอมเพรียวกระโดดลงจากตักของธีรวิทย์แล้ววิ่งกลับไปหาแม่ของตน ก่อน จะตะกายขึ้นไปนั่งบนตัก “หอมคนอื่นมั่วซั่วไม่ได้นะ น�้ำ” ผูเ้ ป็นแม่ดลุ กู ชายคนเล็กทีไ่ ม่มที ที า่ จะสนใจในสิง่ ทีเ่ ธอพูด แต่พอจะอ้า 27


เปลือยรัก...กลางพงไพร ปากอธิบายถึงเหตุผลเท่านั้น “จุ๊บ” เด็กชายขยับเข้าจุบ๊ ปากแม่ของตัวเอง ดวงตากลมโตจ้องมองพร้อมกับ ยิ้มกว้างเอาใจ ท�ำให้ใบหน้าบึ้งตึงที่ก�ำลังจะดุเปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งทันที “ไม่โกรธนะคุณแม่” เสียงเจื้อยแจ้วและท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ท�ำให้ธีรวิทย์ยิ้มกว้าง “จ้า จ้า แม่ไม่โกรธแล้ว” ดอกแก้วตอบรับพร้อมกับคว้าตัวน�้ำเข้ามาหอมแก้มซ้ายขวา ดวงตา กลมโตและเสียงหัวเราะทีด่ งั มาจากร่างเล็ก ท�ำให้ธรี วิทย์รสู้ กึ เหมือนตัวเองก�ำลัง เห็นเทวดาตัวน้อยๆ “ว่าแต่ ลมไปไหนล่ะครับ ไม่เห็นเลย ผมมาตรวจขาน้องน่ะครับ” ธีรวิทย์ยกกล่องยาขึ้นสูง แสดงตนว่าเขาตั้งใจจะมาตรวจดูลูกชายคน รองของบ้าน “อยู่บนห้องน่ะจะ เห็นบ่นอยู่เหมือนกันว่าเจ็บขา ว่าแต่หมอกินข้าว มาหรือยังจ๊ะ” ถามแบบนี้ก็เข้าทางเขาสิ ธีรวิทย์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับแสดงสีหน้า เหนื่อยอ่อน “ยังครับ ผมว่าจะตรวจคนไข้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยกลับไปหาอะไรกิน ที่หลัง ผมมาตรวจลมเป็นคนสุดท้ายพอดี” ท่าทางของธีรวิทย์ท�ำให้หญิงสาวแสดงสีหน้าสงสารเขาขึ้นมาทันที “งั้น ทานข้าวด้วยกันก่อนสิจ๊ะ แล้วก็ไม่ต้องเรียกป้าหรอก เรียกน้าก็ พอน้าเพิ่ง สามสิบกว่าๆ เอง จะเรียกพี่ก็ได้นะ” ดอกแก้วกระเซ้าเย้าแหย่หมอหนุ่มด้วยความเอ็นดู 28


อนันตกาล

“ไม่เป็นไรครับคุณน้า เดี๋ยวผมไปหาอะไรกินเองจะสะดวกกว่า” ธีรวิทย์ตอบกลับด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ ทัง้ ๆ ทีค่ วามจริงนัน่ คือเป้า หมายของเขา “ไม่ตอ้ งเกรงใจ อุตส่าห์มาดูเจ้าลมแต่เช้า กินข้าวด้วยกันเถอะ นะจ๊ะ” ..ส�ำเร็จ.. ค�ำนีด้ งั ก้องขึน้ มาทันที เมือ่ เขาจะมีโอกาสได้ใกล้ชดิ เด็กชายทีห่ มายตา เอาไว้อีกนิด “ขอบคุณมากครับ ถ้าไม่ว่าอะไร ผมขอขึ้นไปตรวจลมได้ไหมครับ” ธีรวิทย์เอ่ยขอตามมารยาท แม้ในใจจะอยากออกวิง่ ขึน้ ไปหาเจ้าตัวแสบ ของเขาเต็มที “ได้สิจ๊ะ ห้องเมื่อวานนี้แหละ น�้ำพาพี่เขาไปสิลูก” ทันทีที่ได้ยินค�ำสั่ง เจ้าตัวเล็กกระโดดลงจากแคร่อย่างรวดเร็ว “ไป พี่หมอ” มือเล็กดึงขากางเกงให้เดินตาม พร้อมกับยิม้ กว้างจนดวงตากลมโตนัน้ หยีเล็ก ธีรวิทย์ก้าวตามขาสั้นๆ ที่เดินน�ำอย่างจริงจังไปเรื่อยๆ “อายุเท่าไหร่แล้วนะเรา” “ห้าขวบ อุ้มน�้ำได้ไหม” เมื่อได้ยินค�ำขอร้อง หมอหนุ่มย่อตัวลงอุ้มร่างของเด็กชายขึ้นแล้วเดิน จนไปถึงห้องนอนของลม “น�้ำลงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่ตามไป” ธีรวิทย์บอกเจ้าตัวเล็กที่ยังคงเกาะไหล่เขาเอาไว้ “จุ๊บ” เด็กชายเลือ่ นใบหน้ามาหอมแก้มธีรวิทย์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดด 29


เปลือยรัก...กลางพงไพร ลงจากแขนที่อุ้มอยู่ “เดี๋ยวเจอกันนะ พี่หมอ” พูดจบเท่านั้น ร่างเล็กก็วิ่งหายลงบันไดไป 'ลูกชายบ้านนี้นี่น่ารักจริงๆ' ธีรวิทย์ได้แต่คิดในใจ พร้อมกับขยับมือสัมผัสที่ข้างแก้ม วันนี้ เขาโดนเจ้าตัวเล็กขโมยหอมแก้มมา สองครั้งแล้ว อยากให้คนพี่ เป็นแบบนี้บ้างจัง ถ้าลมว่าง่ายแบบนี้จะน่ารักขนาดไหนนะ พอนึกถึงลม ก็อดนึกถึงใบหน้าบึ้งตึงและริมฝีปากที่เม้มแน่น ยามมอง เขาไม่ได้ ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เมื่อมองเข้าไปข้างใน ลมนอนอยู่ บนเตียงไม้ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ลงมากระทบกับใบหน้า คร้ามแดดเยาว์วัยที่ก�ำลังหลับพริ้ม ความรู้สึกแวบแรกที่เห็นคือเทวดาตัวน้อยๆ ที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา ธีรวิทย์เลื่อนตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะใช้ฝ่ามือขยับลูบไล้แก้มเนียน อย่างหลงใหล ลมขยับตัวเล็กน้อยราวกับร�ำคาญ และไวยิ่งกว่าความคิด เมื่อ อยู่ๆธีรวิทย์ก็ก้มลงหอมแก้มลมโดยไม่รู้ตัว “อื้อ” เสียงครางในล�ำคอพร้อมกับการขยับตัว ท�ำให้ธีรวิทย์ผละออกอย่าง ตกใจตัวเอง ที่เผลอไผลขนาดก่ออาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว ฉับพลัน สาบตาของเขาเหลือบไปเห็น เรียวขาเนียนสวยทีโ่ ผล่พน้ ออก มาจากกางเกงขาสั้นเนื้อบาง ยิ่งกว่าโดนฟ้าผ่า เมื่อส�ำนึกที่มีจางหายไปในทันที ฝ่ามือขยับลูบไล้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส ด้วยความรู้สึกหลงใหล และมันช่างยาก จะห้ามใจที่จะไม่ให้ตนมอบจุมพิตลงบนหน้า 30


อนันตกาล

เวลานอนดูไม่ออกเลยว่า ริมฝีปากที่มักจะพ่นค�ำผรุสวาทออกมานั้น จิม้ ลิม้ น่ารัก ดวงตาทีเ่ อาแต่จบั จ้องเหมือนพร้อมจะเข้ามาขย�ำ้ ทุกเมือ่ จะมีขนตา งอนยาวแบบนี้ แต่จะว่าลมอยูฝ่ า่ ยเดียวไม่ได้ ในเมือ่ เขาเองก็มสี ว่ นท�ำให้ลมเป็น แบบนี้ ธีรวิทย์นงั่ มองใบหน้ายามหลับของลมไปเรือ่ ยๆ ด้วยความคิดและความ รู้สึกที่หลากหลาย ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เส้นผมหยาบกระด้างพร้อมกับความคิดที่ว่า ‘อยากเอากลับบ้านจัง’ ปลายนิ้วใหญ่ขยับเกลี่ยปอยผมที่ข้างแก้มแผ่วเบา ดวงตากลมโตค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างปรือปรอย สายตาที่ล่องลอย มองเขาอย่างเคลิ้มฝัน “อื้อ” เสียงร้องอย่างตกใจ เมื่อใบหน้าของหมอหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ ส่งมอบ จุมพิตอ่อนหวาน เรียกร้อง ร่างของเด็กชายดิ้นไปมาก่อนที่จะใช้ฝ่ามือทุบเข้าที่ แผ่นหลัง แต่กลับถูกหมอหนุ่มตรึงเอาไว้ ฝ่ามือของทัง้ คูป่ ระสาทกัน พร้อมกับสายตาทีจ่ อ้ งมองกันอย่างไม่มใี คร ยอมใคร ก่อนที่ธีรวิทย์จะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้แผ่วเบา และอ่อนหวาน ปลายนิว้ ทีส่ มั ผัสอย่างเชือ่ งช้า ปลอบโยน อ่อนหวานจนไม่นานนักเด็ก ชายก็เป็นฝ่ายคล้อยตาม “อรุณสวัสดิ์ที่รัก” เสียงทักทายแหบพร่า ทันทีที่ริมฝีปากทั้งคู่ผละออกจากกัน ใบหน้าแดงซ่านล่องลอยและริมฝีปากที่บวมช�้ำท�ำให้เขาอยากจะก้ม ลงมอบจุมพิตให้กับลมอีกซักครั้ง แต่ก็ท�ำได้เพียงห้ามใจ 31


เปลือยรัก...กลางพงไพร ดูเหมือนลมก�ำลังจะใช้เวลารวบรวมความคิดและสติทกี่ ระเจิดกระเจิง เพราะต้องใช้เวลาสักพักเด็กชายถึงจะเริ่มมีปฏิกิริยา “หมอบ้ากาม มาได้ยังไงเนี่ย” สิ้นสุดค�ำถาม หมอนที่อยู่ใกล้มือก็ถูกฟาดใส่เขาทันที และลมเริ่มที่จะ ร้องตะโกนโวยวาย ถ้าเป็นที่อื่นเขาคงจะปล่อยให้ลมโวยวายได้เต็มที่ แต่นี่มัน คือบ้านของลม คงไม่ดตี อ่ เขาแน่ทจี่ ะปล่อยให้ลมเอะอะในบ้านทีม่ พี นี่ อ้ งอยูเ่ ต็ม หลังแบบนี้ “ลมอย่าดิ้นสิครับ” ธีรวิทย์กดลมลงกับเตียงก่อนจะกระซิบที่ข้างหู แต่ไม่ได้ผลเมื่อลมยิ่ง ดิ้นและเริ่มส่งเสียงร้อง “ถ้าไม่หยุดพี่ปล�้ำนะ” ค�ำขู่ที่คิดว่าจะได้ผล แต่กลับไม่ได้ผล เมื่อลมต่อต้านหนักกว่าเดิม ‘เวรแล้ว เอาไงดีวะ’ ธีรวิทย์เริ่มลนลาน เมื่อลมเริ่มร้องตะโกน ร่างสูงกว่าทาบทับพร้อมกับริมฝีปากที่ฉกวูบลง จูบที่คิดจะท�ำให้สงบ กลับกลายเป็นลึกซึง้ รุนแรง ฝ่ามือใหญ่สมั ผัสไปทัว่ ผิวกายผ่านเสือ้ ตัวโคร่ง ท�ำให้ ร่างผอมเพรียวเริ่มหยุดดิ้นไปทีละนิด สัมผัสรุกไล่ปลุกเร้าเรือนร่างที่ไร้เดียงสาให้อ่อนแรง ก่อนจะเลื่อนมือ ขึ้นสัมผัสยอดอกเล็กที่ก�ำลังดุนดันผ่านเสื้อยืดตัวหลวม เสียงแหบแห้งร้องออกมาพร้อมกับเสียงครางที่เล็ดรอดออกมาจาก ริมฝีปากช�้ำ ธีรวิทย์ไม่หยุดแต่ก้มลงจุมพิตแผ่วเบาที่แผ่นอกที่ก�ำลังหายใจหอบ ถี่ ไม่มเี สียงออกมาจากร่างอ่อนแรงตรงหน้า มีเพียงความเงียบทีน่ า่ แปลกใจท�ำให้ หมอหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง 32


อนันตกาล

ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยน�ำ้ ตาทีไ่ หลอาบแก้ม สายตาของเด็กชายเต็ม ไปด้วยความหวาดกลัว การกระท�ำดังกล่าวท�ำให้อารมณ์และความต้องการที่มี หายไปหมดสิ้น ธีรวิทย์ผละออกจากร่างผอมเพรียว ก่อนจะใช้ปลายนิว้ ปาดน�ำ้ ตาออก จากแก้ม ชายหนุ่มประคองร่างที่สั่นเทาขึ้นมาโอบกอดด้วยความทะนุถนอม พร้อมกับจูบซับน�้ำตาปลอบใจ “พี่ขอโทษครับ ไม่ท�ำแล้ว พี่ไม่ท�ำอะไรลมแล้ว อย่าร้องไห้เลย” ธีรวิทย์ดึงลมเข้ามากอด ไม่มีแรงขืนกายจากคนตรงหน้าที่ตัวแข็งทื่อ เพราะความตกใจ ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะปลอบประโลม “ขึ้น ขึ้นมาได้ยังไง” เสียงแหบแห้งถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก ก่อนจะจ้องมองเขาเขม็ง อย่างเอาผิด “พี่มาท�ำแผลให้เรา แล้วเดี๋ยวจะลงไปกินข้าวด้วยกันไง” พูดจบหมอหนุ่มก็ขยับข้อเท้าของอีกฝ่ายขึ้นมาส�ำรวจ “ใครชวน หน้าด้านจริงๆ” เสียงของลมแสดงออกชัดเจนถึงความไม่พอใจ แต่ธีรวิทย์ไม่โกรธเขา กลับยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อเด็กชายตรงหน้ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะยังมี ท่าทางเจื่อนๆ ราวกับท�ำตัวไม่ถูกอยู่บ้างก็ตามที ธีรวิทย์นวดไปตามข้อเท้าที่เจ็บอยู่แผ่วเบา เพื่อไม่ให้แผลกระเทือน การนวดมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นนักหรอก ก็แค่อาศัยเป็นข้ออ้างที่จะแตะเนื้อ ต้องตัวของลมก็แค่นั้น ใบหน้าหงิกงอทีจ่ อ้ งมองอย่างไม่พอใจ แต่กไ็ ม่ได้ชกั เท้าหนี ดวงตากลม โตจ้องมองเขาอย่างค้นหา จนอดคิดไม่ได้วา่ ถ้าข้อเท้าของลมหายดี เขาก็คงหมด 33


เปลือยรัก...กลางพงไพร โอกาสที่จะใกล้ชิด ‘ดึงข้อเท้าลมให้หลุดเลยดีไหมนะ จะได้มีข้ออ้างมาหา บ้า บ้าไปแล้ว ผิดจรรยาบรรณ’ หมอหนุ่มสลัดศีรษะไล่ความคิดบ้าๆ ที่แล่นเข้ามาในห้วงความคิด “เป็นบ้าอะไร” ลมที่เห็นอาการของธีรวิทย์มองอย่างสงสัยปนระแวง “ไม่ได้บ้าครับ” ธีรวิทย์ยังคงยิ้มและนวดลงบนน่องนวลเนียนโดยไม่สนใจสีหน้าและ อาการฮึดฮัดของลมเลยสักนิด “ตรงนั้นไม่เจ็บ” ลมร้องบอกเมื่อหมอหนุ่มขยับนวดสูงขึ้นมาถึงปลีน่อง “มันต้องนวดนะ เพราะเส้นพลิก ไม่งั้นก็ไม่หายสักที” ลมท�ำท่าจะค้านแต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของธีรวิทย์เด็กชายได้แต่ถอน หายใจแรง แสดงออกถึงความไม่พอใจชัดเจน แต่ก็ยอมสงบนิ่ง ธีรวิทย์ยิ้มพอใจที่เห็นอากับปริยาของเด็กชาย การนวดที่เขาท�ำอยู่ไม่ จ�ำเป็นเลยสักนิด แต่พอเห็นท่าทางขัดใจแล้วได้แต่อดทนจนแสดงออกมาเป็น ใบหน้าหงิกงอที่น่ารักเขาก็ถือว่าเป็นก�ำไรเล็กๆ น้อยๆ “สูงไปแล้วนะ หมอบ้ากาม” ฝ่ามือที่เลื่อนมาสัมผัสที่ต้นขาท�ำให้เด็กชายสะดุ้งก่อนจะเหวใส่ “ไม่อยากหายเหรอ หรืออยากอยู่กับพี่หมอนานๆ” เท่านั้นแหละ ลมถึงเงียบ ธีรวิทย์มองใบหน้าของลม ผิวสีน�้ำผึ้งที่ออก สีชมพูจางๆ แต่เจ้าตัวกลับพยายามปั้นหน้าเคร่งเครียดใส่เขา ต้นขาเนียนทีม่ รี อยแผลเป็นเล็กๆ อยูป่ ระปรายท�ำให้รวู้ า่ ตอนเด็กๆ ลม 34


อนันตกาล

คงจะซนไม่นอ้ ย ธีรวิทย์เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ จริงอยูท่ เี่ ขาอยากสัมผัสลมให้ มากกว่านี้ แต่ถ้าอยู่กับลมนานเกินไปคนในบ้านนี้อาจสงสัยได้ เขาผละมือออก จากขาเนียนด้วยความเสียดาย “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากเด็กชายอย่างไม่ปิดบัง ธีรวิทย์ยิ้มกว้างแล้วยื่นมือให้คนตรงหน้า “เสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่ธีอุ้มไปกินข้าว” พูดจบเท่านั้นสิ่งที่ได้รับคิดฝ่ามือที่ฟาดเข้าที่มือเขาอย่างไม่ยั้ง ดวงตา กลมโตจ้องมองราวกับสัตว์ป่าที่จ้องจะย�่ำเหยื่อ “ลมเดินเองคงไม่สะดวก ให้พี่อุ้มนี่แหละ” หมอหนุม่ ขยับเข้าประชิดตัว แต่กต็ อ้ งผงะเมือ่ เด็กชายไม่ได้ยอมให้เขา สัมผัสได้ง่ายๆ กว่าธีรวิทย์จะอุ้มลมไม่สิต้องเรียกว่าแบกลงไปได้ เขาเจอทั้งดิ้น ทั้งกัด ทั้งข่วน ทั้งทุบทั้งตี จนน่วมไปหมด “ถ้าลมดิ้นและดื้อ พี่ธีจะถือว่าลมอยากให้พี่จูบนะ” เขาต้องขูห่ ลังจากบังคับจูบปิดปาก ลมถึงได้ยอมสงบ แได้สายตาค้อนๆ ที่จ้องมองอย่างหงุดหงิด และทันทีที่เห็นว่าเขาจ้อง เด็กชายก็ก้มลงกัดที่หัวไหล่ เขาทันที ธีรวิทย์อยากร้องตะโกนให้ดงั ถ้าไม่ตดิ ว่ามันจะท�ำให้คนในบ้านจะแตก ตืน่ เขาจึงได้แต่กดั ฟันทนความเจ็บปวดอยูเ่ งียบๆ และมองเจ้าของรอยฟันอย่าง คาดโทษ “สม น�้ำ หน้า” น�้ำเสียงสมใจและท่าทางยินดีไม่ปิดบังท�ำให้หมอหนุ่มอดแยกเขี้ยวใส่ ไม่ได้ แต่ทันทีที่ขยับใกล้ ใบหน้าของลมก้ถอยห่างทันที 35


เปลือยรัก...กลางพงไพร “ปากแบบนี้มันน่านัก” หมอหนุ่มบนพึมพ�ำ ระหว่างทางที่อุ้มลมลงจากบ้าน แต่ก่อนที่จะถึง บันได อยู่ๆ ธีรวิทย์ก็หยุดเดิน “ลม” เสียงเรียกท�ำให้ใบหน้าหงิกงอหันกลับมามอง “อะไร” เสียงห้วนที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจตลอดเวลา และใบหน้าเยาว์วัยที่ หงิกงอ ท�ำให้เขาอดที่จะขยับเข้าไปใกล้ไม่ได้ “พี่ชอบลมนะ” “ไอ้..ไอ้บ้า” ไม่เพียงแค่เสียงต่อว่า แต่ก�ำปั้นเล็กทุบลงที่แผ่นหลังของเขาอีกหลาย ครั้ง แม้จะเจ็บแต่ก็ทน เมื่อแก้มสีชมพูระเรื่อด้วยความเขินอาย จนท�ำให้เขา อยากจะหอมแก้มลมอีกสักครั้ง “อ้าว ท�ำอะไรกันอยู่ตรงนั้น แล้วท�ำไมหมออุ้มลมละจ๊ะนั่น” ดอกแก้วที่ก�ำลังเดินขึ้นมาตาม ทักทั้งสองคนที่ยืจนนิ่ง “ลมขาเจ็บ ไม่อยากให้เคลื่อนไหวมาก อีก2-3 จะได้หาย” ธีรวิทย์อุ้มลมลงบันไดแล้ววางลงแคร่ไม้ไผ่ก่อนจะขยับลงนั่งข้างๆ ไม่ นานนักร่างสูงใหญ่ของดินก็หยิบโต๊ะแล้วเก้าอี้มากาง “ผมช่วยครับ” “ไม่ต้องหรอกจ๊ะ ให้ดินท�ำไปนั่นแหละดีแล้ว ลมขาเจ็บแบบนี้นั่งบน เก้าอี้จะดีกว่าเนอะ” เมื่อเห็นว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บดอกแก้วแสดงออกถึงความห่วงใย อย่างไม่ปดิ บัง หญิงสาวเอือ้ มมือลูบไล้เส้นผมชีแ้ ข็งฟูฟอ่ งของลูกชายอย่างเอ็นดู 36


อนันตกาล

“ช่วงนี้อย่าซนให้มากนักนะ” ลมยิ้มรับก่อนที่จะขยับไปนั่งบนเก้าอี้ ธีรวิทย์รสู้ กึ ว่าตัวเองไม่ควรอยูเ่ ฉย จึงขยับไปช่วยหยิบจานและกับข้าว มาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งข้างลมอย่างเนียนๆ “ไปไกลๆ เลยไป” เด็กชายไล่เขาเสียงเบา ถ้าให้เดาก็คงเพราะอยู่ต้องหน้าแม่จึงไม่กล้า แผงฤทธิ์เท่าไหร่นัก “พี่อยากนั่งกับลม อย่าดื้อนักสิครับ” ธีรวิทย์กระซิบตอบเสียงเบา “ไปไกลๆ เลยไอ้บ้า” ลมผลักเขาออกห่าง แต่เขาไม่สนใจ เมื่อมองรอบๆ ว่าไม่มีใครจับตามอง ธีรวิทย์ขยับเก้าอี้เข้าใกล้ก่อนจะ ก้มลงกระซิบ “ถ้าไม่อยากถูกพี่ธีปล�้ำก็อย่าดื้อ..” พูดยังไม่ทันจบประโยคดีข้อศอกของลมก็กระแทกเข้ามาที่ลิ้นปี่ “อุ๊ก” เสียงร้องของธีรวิทย์เรียกร้องความสนใจของทุกคนให้หันกลับมามอง “มดกัดนะครับ มดที่นี่กัดแรงจริงๆ” ชายหนุ่มได้แต่กัดฟันตอบกลับเพื่อไม่ให้ทุกคนผิดสังเกต “วิปริต บ้ากาม” เมื่อเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ลมก็ตอบโต้กลับทันที “ร้ายนะเรา” หมอหนุ่มคาดโทษทางสายตา แต่เด็กแสบตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะใส่ใจ 37


เปลือยรัก...กลางพงไพร แถมยังลอยหน้าลอยตาเยาะเย้ยเขาอีก “น�้ำ ไปตามพ่อมากินข้าวได้แล้วลูก” เสียงของดอกแก้วสัง่ ลูกชายคนเล็กทีว่ งิ่ ดุกๆ ไปทันทีทไี่ ด้ยนิ ค�ำสัง่ หญิง สาวมองหลังไวๆ ก่อนจะขยับมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา “ขอบคุณหมอมากนะคะ ที่อุตส่าห์ดูแลใส่ใจ” “ไม่เป็นไรครับ มันหน้าที่ผมอยู่แล้ว” ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาเมื่อเห็นท่าทีห่วงใยและเอื้ออารีของหญิงสาว ผู้เป็นแม่ ‘นี่ถ้ารู้ว่ามาฉวยโอกาสลวนลามลูกชายเขานี่จะเป็นยังไงกันนะ’ “ไม่เป็นไรครับผมยินดี ที่นี่ใครเป็นอะไรสามารถไปตามผมได้ตลอด เวลานะครับ” ครั้งนี้ธีรวิทย์พูดออกมาจากใจจริง “สวัสดีหมอ” เสียงห้าวหนักๆ ของพ่อลมดังขึ้นมา ชายหนุ่มหันกลับไปประนมมือ ไหว้ทักทาย “มาแต่เช้าเชียว” “พี่ไฟ หมอแกมาตรวจดูอาการลมน่ะ” ดอกแก้วเอ่ยปากบอกทันทีที่เห็นสามีของตนเดินเข้ามา “ขอบคุณหมอมากเลยนะ ที่อุตส่าห์มาดูแลไอ้ลูกลิง” ไฟลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู “ไม่ใช่ลูกลิงสักหน่อย” เด็กชายท�ำปากยื่นปากยาวใส่ เห็นแล้วให้ความรู้สึกน่ารักไปอีกแบบ แต่พอเห็นธีรวิทย์ยิ้มเท่านั้น ดวงตากลมก็ถลึงตาใส่ทันที 38


อนันตกาล

“พ่อมาแล้ว” เสียงเจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าวิ่งมาจากไหนโผล่ออกมา “ตามพ่อไม่ทันอีกตามเคย” ไฟพึมพ�ำก่อนจะอุ้มร่างของเด็กชายขึ้นกอด ท่าทางของผู้อาวุโสที่ยัง คงกระฉับกระเฉงยามเล่นกับลูกชายคนเล็ก เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยให้ ความรู้สึกว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่น “มาทานข้าวกันได้แล้ว” เสียงเรียกของผูเ้ ป็นแม่เรียกทุกคนให้กลับมานัง่ ทีโ่ ต๊ะ ไม่นานนักมือ้ เช้า ที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นก็เริ่มต้นขึ้น ลมที่มักจะพูดจาร้ายๆ ยามอยู่กับเขาแต่เป็นเด็กน่ารักยามอยู่กับ ครอบครัว รอยยิ้มน้อยๆ และเสียงหัวเราะยามคุยกับพ่อแม่ท�ำให้เขารู้สึกตัวว่า ลมก็เป็นแค่เด็ก เพราะรู้ตัวว่าถูกมอง ลมถึงได้หันมามองธีรวิทย์ตาขวางก่อนจะพึมพ�ำ อะไรบางอย่าง ชายหนุ่มสงสัยจึงขยับตัวเองเข้าไปใกล้ “โรคจิต” ค�ำพูดรอดไรฟันที่ได้ยินกันเพียงแค่สองคน ‘ลมไม่ใช่แค่เด็ก แต่เป็นเด็กทีท่ งั้ ดือ้ และปากจัดทีส่ ดุ คนนึงเลยทีเดียว’ ธีรวิทย์ท�ำทีเป็นเอื้อมมือเข้าไปตักอาหาร ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ “คราวหน้าบอกว่ารักพี่นะ” ไม่ใช่แค่ค�ำพูดเท่านั้น เขายังเอื้อมมือไปสัมผัสต้นขาขาวที่ใต้โต๊ะ “หมอ” ลมตะคอกใส่ จนทุกคนในโต๊ะหันมามองเป็นตาเดียว “ขอโทษลม พี่ไม่เห็นว่าลมจะกินไข่เจียว พี่ไปตัดหน้าซะได้ เอ้ากินซะ 39


เปลือยรัก...กลางพงไพร จะได้โตไวๆ” เขาแกล้งท�ำเป็นตักไข่ใส่จานข้าวของลมและขอโทษขอโพย “ตายจริงลูกคนนี้ แม่ตกอดตกใจหมด ร้องซะนึกว่าใครท�ำอะไร” ธีรวิทย์แอบสะดุง้ เมือ่ ได้ยนิ ประโยคสุดท้ายแต่หมอหนุม่ ก็ยงั คงปัน้ หน้า ยิ้มแย้มไม่เปลี่ยนแปลง “แม่” “ผมผิดเองครับที่ไม่ดูให้ดี” เขาชิงพูดก่อนที่ลมจะพูดอะไรที่เป็นการฟ้อง “เป็นอะไรไปเจ้าลม ดูท�ำหน้าท�ำตาเข้า” “คงเจ็บขาน่ะครับ ข้อเท้าก็แบบนี้บางช่วงก็จะปวดจี๊ดขึ้นมา” ธีรวิทย์อดคิดไม่ได้ว่าตายไปเขาจะตกนรกไหม เพราะตั้งแต่มาที่บ้าน นี้เขาก็โกหกแทบตลอดเวลา หมอหนุม่ เหลือบมองลมทีเ่ อาแต่ทำ� ท่าทีฮดึ ฮัดไม่พอใจทีท่ ำ� อะไรเขาไม่ ได้เลย qr qr qr

“ท�ำไมท�ำหน้าแบบนั้นครับ” หลังมื้อเช้าธีรวิทย์ได้มีโอกาสอยู่กับลมอีกสักพัก เด็กชายที่เดินขากระ เผลกทั้งๆ ที่เขาเตือนว่าอย่าเดินมาก แต่เจ้าตัวก็ไม่คิดที่จะฟัง “เงียบ” ธีรวิทย์มองเด็กหน้าบึ้งตรงหน้า แล้วเปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งสบายๆ ใบหน้าดื้อรั้นสะบัดหนี เมื่อรู้ตัวว่าก�ำลังถูกจับตามอง 40


อนันตกาล

ความเพลิดเพลินที่ได้รับจากการมองการเคลื่อนไหวและใบหน้าขุ่น เคืองของลม เป็นอีกสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้เขา “หายเจ็บหรือยัง” “เป็นหมอไม่รู้หรือไง” เสียงแหบห้าวสวนกลับมาทันที พอยิ่งเห็นธีรวิทย์ยิ้มลมก็ยิ่งมีทีท่า หงุดหงิด ใบหน้าหงิกงอที่ยิ่งเห็นก็รู้สึกว่าน่ารัก “พูดดีๆ กับพี่ไม่ได้เหรอ” ค�ำถามที่สื่อถึงการขอร้องท�ำให้ลมหันกลับมามองเขาอีกครั้ง เจ้าตัว ขยับตัวนั่งลงใต้ต้นไม้ ระยะห่างระหว่างพวกเขา ราวกับก�ำแพงที่กางกั้นเอาไว้ “ท�ำไมต้องพูดดีด้วย” ลมถามหาถึงเหตุผล “เพราะพี่ชอบลมไง” รู้ตัวดีว่าค�ำตอบเป็นการตอบแบบเอาสีข้างเข้าถู แต่ก็ยังตอบออกไป “บ้าผมเป็นผู้ชายนะ” ความลังเลและไม่มั่นใจบ่งบอกในน�้ำเสียง ถึงจะดื้อยังไง ลมก็เป็นแค่ เพียงเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่รู้จักโลกภายนอกดีพอ “แล้วผู้ชายรักกันไม่ได้หรือไง” ค�ำถามนี้ท�ำให้เด็กชายนิ่งเงียบ ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูสับสนกับค�ำถาม “พี่แค่อยากบอกให้เรารู้ว่า พี่ชอบเรานะ พูดดีๆ กับพี่บ้างจะได้ไหม” น�้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอน และสายตาลึกซึ้งที่มองมา ก่อให้ เกิดความสับสนในความคิด ลมไม่แม้แต่จะขยับตัวตอนที่ธีรวิทย์เดินเข้ามาใกล้ ชายหนุม่ เดินมาหยุดอยูต่ รงหน้า ก่อนย่อตัวลงคุกเข่า แล้วก้มลงจุมพิต ที่หน้าผาก 41


เปลือยรัก...กลางพงไพร “พี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าจะมาหาใหม่” ธีรวิทย์ยิ้มอ่อนโยนก่อนจะเดินผละออกมา ปล่อยให้ลมที่นิ่งเงียบได้มี โอกาสได้คิด แม้ในใจจะอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย อย่างน้อย .. ลมจะได้สนใจตนเองมากขึ้น แต่ถึงไม่สนใจ ก็มีแต่ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก คนเราต้องรูจ้ กั รุกรูจ้ กั ถอย แต่ตอนนีเ้ ขาควรถอยออกมา ก่อนทีจ่ ะโดน ปืนลูกซองจากคนในบ้าน โทษฐานที่ไปเกาะแกะลูกชายเขา ดวงตากลมโตคมซึ้งที่มองมาเมื่อสักครู่แสดงออกถึงความสับสนกับ ข้อมูลทีไ่ ด้รบั รู้ ก็รตู้ วั หรอกว่า การดึงลมเข้ามาในเส้นทางสายนีม้ นั ไม่ถกู แต่เมือ่ ความต้องการทีม่ อี ยูม่ นั มากเสียจนเขายอมท�ำได้ทกุ อย่าง ขนาดเอาวิชาชีพของ ตัวเองมาใช้ประโยชน์ คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็อดข�ำและต�ำหนิตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เขาท�ำแต่ละอย่างออกไป มันเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ ผิวเนียนนุ่ม ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม และดวงตากลมโต ที่มองค้อนเขาเป็น ระยะ และใบหน้าตกใจยามถูกจู่โจม จากซีดเป็นเขียวและเปลี่ยนเป็นแดงก�่ำ สลับกันนัน้ ดูนา่ รัก แต่ถงึ อย่างนัน้ ธีรวิทย์กด็ อู อกว่าลมนัน้ สนใจเขาแม้จะไม่รวู้ า่ สนใจในแง่ไหนก็เถอะ หมอหนุ่มเดินกลับมาที่กระท่อม ในใจก็มีแต่เรื่องราวของเด็กชาย วนเวียนอยูแ่ ทบตลอดเวลา จนต้องรือ้ เอกสารมาจัดใหม่และหางานให้ตวั เองท�ำ เพิ่ม ไม่อย่างนั้นเขาคงจะก้าวขากลับไปหาลมอีกครั้งก็เป็นได้ จดหมายจากเพือ่ นเก่า ถูกแนบมาในกล่องพัสดุขนาดใหญ่ทเี่ ต็มไปด้วย ขนม พอเห็นชื่อคนส่งมา ธีรวิทย์รีบแกะออกอ่านทันที 42


อนันตกาล

ถึงเพื่อนรัก เพื่อนบ้า โทรไปก็ปิดเครื่อง อีเมลล์หาก็ไม่ตอบ จนต้องส่งจดหมาย มาหาเนีย่ ไปอยูซ่ ะไกล ทีโ่ ทรไม่ตดิ นีม่ อื ถือไม่มสี ญ ั ญาณหรือว่าแบตหมด จน ต้องกลับมาหาการสื่อสารยุคเก่า คือเขียนจดหมายนี่แหละ เดือนหน้าไผ่อยากไปพักผ่อนแล้วเก็บตัวอย่างสมุนไพรมาท�ำวิจัย ด้วย ช่วยหาคนน�ำทางให้หน่อยแล้วก็ทพี่ กั มีเรือ่ งอะไรหลายอย่างทีอ่ ยากคุย และปรึกษา จะอะไรยังไง ธีก็ติดต่อไผ่กลับมาด้วยนะ แล้วเจอกัน

เรียวไผ่

ธีรวิทย์อ่านข้อความในจดหมายแล้วนึกถึงเพื่อนสมัยเด็กแล้วขยับตัว ค้นหาโทรศัพท์มือถือ ที่จ�ำได้ว่าวางที่ไว้ที่ไหนสักแห่งในห้อง “แบตหมดนี่เอง” ในที่สุดเขาก็หาโทรศัพท์มือถือเจอ มันถูกวางหลบไว้ใต้หนังสือที่โต๊ะ ท�ำงาน พอนึกถึงใบหน้าของเรียวไผ่ หมอหนุ่มนึกสนุก หยิบกระดาษขึ้นมา เขียนจดหมายตอบกลับไป

43


เปลือยรัก...กลางพงไพร

ถึง เรียวไผ่

เปิดเครื่องแล้ว โทรกลับมาได้ ธีรวิทย์ ข้อความสั้นๆ ที่ตั้งใจจะกลั่นแกล้งเพื่อนถูกพับวางไว้ ก่อนที่ร่างสูงจะ ขยับไปรื้อหาซองจดหมายที่เขาจ�ำได้ว่าอยู่ที่ไหนสักที่ “เจอจนได้” ธีรวิทย์สอดจดหมายลงซองแล้วจ่าหน้าซองถึงเรียวไผ่ทันที “ที่เหลือก็ฝากคนไปส่งเท่านั้น” แค่นึกถึงใบหน้าของเพื่อนที่เห็นจดหมายแล้วท�ำให้ธีรวิทย์อดข�ำไม่ได้ หมอหนุ่มหยิบจดหมายกะว่าจะเอาไปฝากส่งก็ต้องชะงัก เมื่อหันกลับมาเห็น สภาพห้องของตัวเอง “กลับมาค่อยเก็บแล้วกัน” ข้าวของทีเ่ กลือ่ นกลาดเต็มห้องนอนท�ำให้หมอหนุม่ หน้าเบ้ ก่อนจะหนี ความจริงด้วยการออกจากห้องของตน ยังไม่ทนั ทีจ่ ะปิดประตูสนิทอะไรบางอย่างพุง่ เข้ามาชนเขาจากด้านหลัง “พี่หมอ” เสียงเล็กๆ และดวงตาใสแจ๋วกลมโตพร้อมกับรอยยิ้มสดใสของน�้ำ ท�ำให้เขาย่อตัวลงนั่งยองๆ 44


อนันตกาล

“ว่าไงเด็กดี” เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นมือส่งกล้วยน�้ำว้าหวีใหญ่มาให้ “เอากล้วยน�้ำว้ามาให้ แม่ให้เอามาฝาก” ธีรวิทย์รับกล้วยวางไว้ที่ม้านั่ง ก่อนจะอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้น “มาได้ยังไงครับเนี่ย มาคนเดียวเหรอ พอดีเลยพี่มีขนมให้เราด้วย” “มากับพี่ลม พี่ลมอยู่ข้างนอก แต่ท�ำไมมันรกจัง” เขาเปิดประตูกระท่อมของตัวเอง เจ้าตัวเล็กตาโตทันทีที่เห็นด้านใน “ลมอยู่ข้างนอก” เขาถามทันทีซึ่งเจ้าตัวเล็กก็พยักหน้ารับ ร่างสูงชะเง้อมองที่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่เห็นมีใคร “พี่ลมยืนอยู่บนต้นไม้” เจ้าตัวเล็กเห็นพีห่ มอชะเง้อมองก็เดาว่าก�ำลังหาพีช่ ายของตน จึงเฉลย ออกมาในทันที “พี่มีขนมเยอะแยะ น�้ำกินขนมในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกพี่ลมมากิน ด้วยกัน” ธีรวิทย์แกะกล่องขนมที่เรียวไผ่ส่งมาให้ “ขอบคุณครับ” น�ำ้ ยืน่ หน้าเข้ามาหอมแก้ม พอเห็นท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูแบบนีแ้ ล้วชัก อยากเปลีย่ นใจมาชอบน�ำ้ แทน แต่เห็นทีจะไม่ไหว น�ำ้ เพิง่ จะ 6 ขวบ แค่คดิ ก็เห็น คุกลอยมาแล้ว ธีรวิทย์มองเด็กชายทีก่ ม้ หน้ากินขนมแล้วเดินเลีย่ งออกมาหาลมทีด่ า้ น นอกทันที หมอหนุ่มเดินไปที่ต้นไม้ มองหาด้านบนเพื่อมองหาร่างของเด็กชาย ที่คุ้นเคย 45


เปลือยรัก...กลางพงไพร “ขึ้นไปท�ำอะไรอยู่บนนั้น” ธีรวิทย์ทักลมซึ่งมองเขาตาโตอยู่บนต้นไม้ “จิ๊” ลมที่นั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งไม้ท�ำหน้าไม่พอใจแต่ก็ไม่ตอบเขา “พี่มาตาม ไปกินขนมด้วยกันเถอะ” “ไม่กิน หมอบ้ากาม” “ไม่กินขนม หรือไม่กินหมอ” ธีรวิทย์หยอกเย้า ซึ่งสิ่งที่ได้รับก็คือความเฉยเมย “ลงมาคุยข้างล่างมา ให้พี่แหงนคอแบบนี้ มันเมื่อยนะ” แม้จะอยากกระชากตัวอีกฝ่ายลงมาแค่ไหน แต่ธีรวิทย์ก็ห้ามใจเอาไว้ “เรื่องอะไร ลงไปก็โง่น่ะสิ” น�ำ้ เสียงเยาะเย้ยและขาเรียวทีเ่ หวีย่ งไปมาจนเฉีย่ วศีรษะเขา ชายหนุม่ ถอยตัวออกห่างพร้อมกับยิ้มกว้าง “นั่งแบบนี้ก็ไม่เลวนัก พี่ชอบ” ธีรวิทย์พูดด้วยใบหน้ากะลิ้มกะเลี่ย พอลมเห็นเท่านั้นก็ขมวดคิ้วด้วย ความสงสัย “หมายความว่ายังไง” “พี่หมายความว่า พี่เห็นชัดเลยไง ว่าลม ไม่ได้ใส่กกน” เพราะอีกฝ่ายนั่งอยู่สูงและกางเกงขาสั้นที่เขาใส่ชายกว้างเสียจนเขา มองเห็นทะลุทะลวงไปถึงไหนต่อไหน ความตกใจท�ำให้ลมหุบขาแล้วกระโดดลงจากิง่ ไม้ทนี่ งั่ อยูท่ นั ที ธีรวิทย์ ที่รอโอกาสที่ลมถึงพื้นแต่ยังทรงตัวไม่มั่นคงรวบตัวเด็กชายเข้ามากอดแน่น “คิดถึงจัง” 46


อนันตกาล

เสียงทุ้มต�่ำกระซิบพร้อมกับหอมเข้าที่แก้มเนียนใส ที่มีกลิ่นของต้น หญ้าลอยฟุ้ง “ปล่อยนะ ไอ้บ้ากาม” ลมดิ้นไปมาในอ้อมแขนไม่หยุด แต่ยิ่งดิ้นกลับยิ่งถูกธีรวิทย์กอดแน่น เข้าไปอีก “ไม่อยากปล่อยเลย อยากกอดแบบนี้ตลอดไปเลยรู้ไหม” หมอหนุม่ แกล้งท�ำมึนไม่สนใจเสียงโวยวายของลม เขายังคงกอดลมเอา ไว้ในอ้อมกอด มองใบหน้าแดงก�่ำและดวงตากลมโตที่จ้องมองอย่างไม่ยอมแพ้ แม้พวงแก้มจะแดงก�่ำก็ตามที “ลมคิดถึงพี่บ้างไหม” ธีรวิทย์ดันร่างที่หยุดนิ่งพิงกับต้นไม้ใหญ่ “คิดถึงท�ำไม” เสียงของลมเริ่มแผ่วเบา เมื่อร่างสูงกว่าขยับบดเบียดแนบชิดจนร่าง ของทั้งคู่ไม่มีช่องว่าง “ไปทีบ่ า้ นก็ไม่มโี อกาสได้อยูใ่ กล้ ได้แต่เห็นหน้า รูไ้ หมว่าคิดถึงแค่ไหน” ร่างกายทีบ่ ดเบียดจนสัมผัสได้ถงึ อุณหภูมริ ะหว่างกัน ใบหน้าอ่อนเยาว์ แดงซ่านขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าตัวก็ยังคงท�ำเฉยปิดบัง “คิดถึงท�ำไม” เสียงแหบพร่าสั่นเครือ เมื่อริมฝีปากร้อนจุมพิตลงที่ต้นคอขาว “ก็พี่ธีชอบลมนี่” ธีรวิทย์ไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไป เมื่อสัมผัสได้ถึงความหวั่นไหว ชาย หนุ่มกระซิบลงที่ข้างหู พร้อมกับจุมพิตแผ่วเบาที่ข้างแก้ม “ปล่อยนะ ไอ้หมอบ้า ปล่อยสิ” 47


เปลือยรัก...กลางพงไพร เด็กชายเริ่มดิ้นรนแต่ก็ไม่มากนัก ฝ่ามือเล็กพยายามที่จะดันเขาออก แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อริมฝีปากถูกช่วงชิงด้วยความอ่อนหวาน ปลายลิ้นที่สอด แทรกรุกรานดุนดันชักน�ำให้ได้รู้จักกับความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอ ริมฝีปากนุม่ ถูกบดเบียดจนบวมช�ำ้ แต่ถงึ อย่างนัน้ ชายหนุม่ ก็ไม่อาจละ จากความนุ่มชื้นหวานฉ�่ำที่ได้ลิ้มลอง ฝ่ามือที่เคยผลักไสทุบตีแปรเปลี่ยนเป็น โอบกอดด้วยความวาบหวามรัญจวน ธีรวิทย์ผละออกห่าง จ้องมองใบหน้าแดงเปล่งปลัง่ และดวงตากลม โตที่หวานหยดย้อย “ปล่อย รู้สึกแปลกๆ” แขนที่เกาะเกี่ยวเอาไว้พยายามดันออก เสียงหอบหายใจและน�้ำ เสียงที่แหบพร่าท�ำให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า “ไม่อยากปล่อยเลยรู้ไหม” เขาชอบเวลาที่ลมอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของเขา และเขาก็ชอบ เวลาที่เด็กชายพยศ ธีรวิทย์มองรอบๆ ก่อนจะอุ้มร่างที่อ่อนแรงเข้าหลบหลังต้นไม้ใหญ่ “อ๊ะ” เสียงร้องแหบพร่าเปล่งออกมาเมื่อฝ่ามือใหญ่ขยับลูบไล้ที่ต้นขานวล เนียนผ่านกางเกงขาสั้น หมอนุ่มลูบไล้สูงขึ้นเรื่อยๆ “ปล่อยนะ หมอบ้า.อื้อ” ค�ำพูดถูกกลืนกินด้วยริมฝีปากหนา แม้เด็กชายจะพยายามดิน้ รนขัดขืน แต่สัมผัสที่ปลุกเร้าท�ำให้ไม่อาจทานทน “อย่า” เสียงกระท่อนกระแท่นเริม่ เปลีย่ นเป็นเสียงหอบกระเส่าเมือ่ ฝ่ามือของ 48


อนันตกาล

ชายหนุ่มสัมผัสถึงความแข็งขืนที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ ร่างที่เคยแต่จะดิ้นหนีบิดไป มาด้วยความทรมานกับความรู้สึกรุมเร้าที่ไม่เคยพบเจอ “อ๊ะ พี่ธี” เสียงเรียกสั่นพร่า พร้อมกับปลายเล็บที่จิกลงบนแผ่นหลัง ชายหนุ่ม หยอกเย้ายอดอกสีเข้มที่แข็งชันด้วยปลายลิ้น แผ่นอกเล็กผอมบางแอ่นขึ้นสูง ตามสัมผัสที่ถูกหยิบยื่นให้อย่างห้ามไม่ถูก การปลุกเร้าที่รุนแรงท�ำให้ลืมเลือนทุกสิ่ง ในหัวสมองที่ว่างเปล่ารับรู้ เพียงสัมผัสที่โลมไล้ไปทั่วร่างกายที่ร้อนรุ่ม “ไม่..จะตาย....อย่า” เสียงแหบพร่าหวานจับใจ เมื่อน�้ำหนักที่ฝ่ามือใหญ่ชักน�ำอารมณ์บาง อย่างให้ใกล้เข้ามา ร่างกายที่บิดเกร็งและความรู้สึกรุนแรงที่ได้รับ ดึงประสาท สัมผัสทั้งหมดให้รับรู้เพียงจุดๆ เดียว “รู้สึกดีไหม” เสียงทุม้ ต�ำ่ กระซิบถามด้วยความรูส้ กึ ร้อนรุม่ ทัว่ ทัง้ กาย สายตาของชาย หนุ่มจ้องมองใบหน้าไร้เดียงสาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่ไม่มีทาง ระบายที่แสดงออกเป็นหยาดน�้ำตา “ฮึก” เสียงครางปนสะอื้นให้ท�ำให้ชายหนุ่มขยับเข้าจูบซับน�้ำตา “พี่จะท�ำให้ลมรู้สึกดี” แผ่นหลังของลมหยัดขึน้ สูงเมือ่ ริมฝีปากร้อนรุม่ จุมพิตปลอบประโลมที่ ยอดอกผอมบาง เสียงครางที่ถูกสะกัดกั้นเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม ฝ่ามือทีไ่ ร้เรีย่ วแรงทุบลงบนบ่าแผ่วเบาแทนการต่อต้าน แต่กเ็ ปลีย่ นเป็นกอดรัด แน่น เมื่อรับรู้ถึงความหฤหรรษ์ของเพศรส 49


เปลือยรัก...กลางพงไพร “จะ..ตาย..อยู่.ล..แล้ว” เสียงกรีดร้องแหลมสูงราวกับจะขาดใจท�ำให้ธีรวิทย์สัมผัสความร้อน ผ่าวที่ชุ่มฉ�่ำ ร่างผอมเพรียวบิดเร่าพร้อมกรีดร้องยาวก่อนจะสงบลง ใบหน้าของเด็กชายแดงก�ำ่ พร้อมทัง้ หอบหายใจแรง สายตาของเขาจ้อง มองธีรวิทย์อย่างสับสน ทั้งๆ ที่แขนเพรียวยังคงเกาะเกี่ยวต้นคอเขาเอาไว้ “รู้ไหมว่าเมื่อกี้คืออะไร” ธีรวิทย์แกล้งถามลมที่ยังคงหอบหายใจอยู่ “ไอ้บ้ากาม” เสียงแหบพร่าต่อว่าทั้งๆ ที่ร่างกายยังคงแนบชิด ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนจะประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากบวมช�้ำ เหตุผลในตัวยังคงอยูแ่ ต่ความปรารถนาทีม่ ากล้นก็ทำ� ให้เขาหันหลังให้ กับเหตุผล รู้ดีว่าผิดที่อาศัยความไร้เดียงสาของลมมาเป็นเครื่องมือ แต่ความต้องการมากมายที่มีมันยากที่จะหักห้ามใจ เมื่อคนตรงหน้า น่ารักและเย้ายวน “ท�ำบ้าอะไรอีก” ก�ำปั้นเล็กทุบลงที่ไหล่อีกครั้ง ความดื้อรั้นที่ไม่กลัวเกรงคือเสน่ห์ที่ท�ำให้เขาหลงใหล “อยากจะรักลมให้มากกว่านี้” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกพร้อมกับขบเม้มที่ใบหูเล็ก ผิวกายที่หอม กรุ่นไปด้วยกลิ่นของธรรมชาติปลุกเร้าร่างกาย ฝ่ามือที่เคยผลักไสจิกทึ้งที่แผ่นอกกว้าง เมื่อความรู้สึกรุนแรงกลับมา อีกครั้ง “สัมผัสพี่ซิ” 50


อนันตกาล

เสียงกระซิบแหบพร่า เมื่อไฟแห่งปรารถนาถูกจุดขึ้นมาอย่างไม่อาจ ปิดบัง “ไม่” เสียงร้องอย่างตระหนก เมื่อมือถูกชักน�ำให้ไปสัมผัสส่วนที่ร้อนผ่าว แข็งขืน มือที่พยายามจะดึงกลับต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความเปียกลื่น “ปล่อย” เสียงร้องแหบแห้งทัง้ ๆ ทีร่ า่ งกายไร้เรีย่ วแรง ความรูส้ กึ รุนแรง จนท�ำให้ ร่างเกร็งแน่น สร้างความสับสนให้กับร่างเล็กที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์รุนแรง ใจหนึ่งรู้สึกกลัวจนอยากหนีไปให้ไกล แต่อีกใจกลับเต็มไปด้วยความ อยากรู้อยากเห็น ริมฝีปากร้อนผ่าวขยับเข้ามาจุมพิต ดูดกลืนเรีย่ วแรงและความคิดทีจ่ ะ ต่อต้านขัดขีน สัมผัสรุกเร้ารุนแรงจนร่างกายสั่นสะท้าน “ซี๊ดด” ธีรวิทย์รอ้ งครางด้วยความเจ็บระคนสุขสม เมือ่ เล็บคมจิกลงบนบ่ากว้าง ก่อนที่จะปลดปล่อยน�้ำสีขุ่นออกมา “น่ารักจัง” หมอหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่า เมื่อเด็กชายได้แต่ซบหน้าลงบนไหล่ กว้างด้วยความอ่อนแรง ดวงตาหวานฉ�่ำจ้องมองเขาอย่างเลื่อนลอย ก่อนที่จะ ปิดลงช้าๆ “หลับซะแล้ว” ธีรวิทย์มองเด็กดื้อที่ตอนนี้สิ้นฤทธิ์ แล้วก้มมองเสื้อผ้าหลุดลุ่ยที่ เปรอะเปื้อน หมอหนุม่ จัดเสือ้ ผ้าและท�ำความสะอาดเท่าทีจ่ ะท�ำได้ ก่อนจะช้อนร่าง 51


เปลือยรัก...กลางพงไพร เล็กกว่าขึ้นอุ้มแล้วเดินกลับไปที่กระท่อม “พี่ลมเป็นอะไรไป” ทันทีทเี่ ห็นพีช่ าย เจ้าตัวเล็กทีม่ ขี นมอยูเ่ ต็มปากวิง่ เข้ามาถามด้วยความ เป็นห่วง ร่างเล็กกระโดดไปมาเพื่อมองหน้าของลม “พี่ลมปีนต้นไม้จนเหนื่อยน่ะ เลยหลับไป เอาขนมอีกไหมน�้ำ” ธีรวิทย์วางลมลงบนเตียงแล้วตอบค�ำถามของเจ้าตัวเล็ก น�้ำขยับมอง ใบหน้าหลับพริ้มของลมก่อนจะยิ้มร่า แล้ววิ่งกลับไปที่เดิม ธีรวิทย์จัดท่าทางของลมให้นอนได้สบาย แต่พอเห็นใบหน้ายามหลับ ของเด็กชาย เขาก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนิ่มอีกครั้ง ‘อยากรู้จังว่าตื่นมาจะออกฤทธิ์ขนาดไหน’ ธีรวิทย์หนั ไปมองน�ำ้ ทีย่ งั คงกินขนมอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจพีช่ าย ที่นอนอยู่เลย ‘เห็นทีต้องให้เรียวไผ่ส่งขนมมาให้เยอะๆ ซะแล้ว’ qr qr qr

52


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.