ปีที่ 10 เล่มที่ 169 ประจ�ำวันที่ 5 มกราคม 2565 - 5 กุมภาพันธ์ 2565 ราคา 10 บาท
ติดตามอ่านได้ทางทางเว็บไซต์ www.การเมืองชุมชน.com
หน้า 2
^ ขึ้นบ้านใหม่ : ปราโมทย์ ทองกุญชร นายกสมาคมสื่อมวลชนส่งเสริมพระพุทธ
ศาสนาและสังคม พร้อมด้วย นพรัตน์ หลิมสุนทร เลขาสมาคมฯ และสื่อมวลชน ท�ำบุญขึ้นบ้านใหม่ สหภาพ โพธิ์เงิน กรรมการสมาคมฯ ณ หมู่บ้านศุภาลัยวิลล์ จ.นนทบุรี
^อวยพร :ปราโมทย์ ทองกุญชร นายกสมาคมสือ่ มวลชนส่งเสริมพระะพุทธศาสนา และสังคม พร้อมคณะกรรมการสมาคมฯร่วมอวยพรปีใหม่ พ.ต.อ.สุกฤต มังคละ สวัสดิ์ ผกก.สน.ราษฏร์บรู ณะ ทีส่ ถานีตำ� รวจนครบาลราษฏร์บรู ณะ เขตราษฏร์บรูณะ กทม. เมื่อ 16 ธ.ค.64
^ ร่วมมือ : อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพน ั ธุ์
^ขอพรปีใหม่ : ผู้แทนสหภาพแรงงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ น�ำโดยนาย บุญเหลือ ขุนพรม เลขาธิการสหภาพฯ พร้อมคณะท�ำงานสหภาพ ฯ เข้าพบดอกเตอร์ ณรงค์ วงศ์สกุล ประธานที่ปรึกษาสหภาพฯ เพื่อขอพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ณ ที่ท�ำการสหกรณ์ออมทรัพย์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ส�ำนักงานใหญ่ บางบัวทอง) รหัส 05
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามบันทึกความร่วมมือ ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสุขภาพผู้ต้องขัง ระหว่างกรม ราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย มี อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง หัวหน้าโครงการฯ วีระกิตติ์ หาญปริ พรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ ศ.นพ.รังสรรค์ ฤกษ์นิมิต ผอ.ศูนย์นวัตกรรม ทางการแพทย์และประกอบการ ร่วมลงนาม ณ ห้องเธียเตอร์ อาคารหอสมุด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
^สู่สุขคติ :ปราโมทย์ ทองกุญชร บก.นสพ.การเมืองชุมชน ทอดผ้าบังสกุลฌาปนกิจ คุณแม่บุญยืน วงอุทร มารดาของบรรจง วงอุทร (ทนายหนุ่ม) ณ วัดปากน�้ำฝั่งใต้ เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อ 27 ธ.ค.64
^ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่..นายนิวัฒน์ จุ้ยเส็ง (ผู้สื่อข่าว นสพ.การเมืองชุมชน)
พร้อม นายรณชัย จุ้ยเส็ง (บิดา)และ ครอบครัว ได้ถวายสังฆทานให้กับบรรพบุรุษ ณ วัดเขาน้อยสระบัวแก้ว(วัดหนองหว้า)ต.วังไคร้ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมี พระครูพิพิธวชิรกิจ(หลวงพ่อเต้) ให้การต้อนรับ เมื่อ 25 ธ.ค.64
^ พบปะสังสรรค์ : นางวชิราพิมพ์ ขาวมานิตย์ อุปนายกสมาคมสื่อมวลนส่งเสริม
พระพุทธศาสนาและสังคม พร้อมด้วย นางทับทิม มาศิริ, นางสิริเพ็ญ ลอยพงษ์ศรี, นางสงบ ศรีรัตนา นายมงคล, นายปรีดา นายบรรเจิด, นายแสนโชติ ร่วมฉลองวัน คริสมาสและร่วมงานเลี้ยงรุ่นเมธี 25 ณ สวนอาหารบ้านไร่ปลายน�้ำ อ.เมืองพิจิตร
หน้า 3
ผู ้ สื่ อ ข่ า วรายงานว่ า พระราชกฤษฎี ก า พระราชทานอภั ยโทษ เนื่อ งในโอกาสวันคล้าย วั น พระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็ จ พระบรมชนกาธิ เ บศร มหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่ง ชาติ 5 ธันวาคม 2564 ส�ำหรับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ไม่ ได้รบั พระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับนี้ ประกอบไปด้วย ผู้กระท�ำความผิดซ�้ำและ ไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม นักโทษเด็ดขาดชั้น ต้องปรับปรุงหรือชั้นปรับปรุงมาก ผู้กระท�ำความ ผิดในคดียาเสพติดรายใหญ่ทเี่ พิ่งรับโทษจ�ำคุกภาย หลังพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 (28 กรกฎาคม 2564) บังคับใช้ และผู้ต้อง ราชทัณฑ์ทถี่ กู ศาลลงโทษประหารชีวติ ทีเ่ คยได้รบั พระราชทานอภัยโทษแล้ว ทั้งนี้จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออก จากเรือนจ�ำ และได้รบั พระราชทานลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวอีกกว่า 1.3 แสน
ราย ตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องขังรายส�ำคัญที่เป็นที่ สนใจของสั ง คม ทั้ ง นั ก การเมื อ ง และอดี ต ข้าราชการระดับสูง ทีถ่ กู ศาลพิพากษาในคดีสำ� คัญ จ�ำนวน 5 ราย ที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับพระราชทาน อภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา อภัยโทษ 2564 รอบ 2 ประกอบด้วย 1.นช. นายภูมิ สาระผล อายุ 65 ปี เป็น นักโทษ ชั้นเยี่ยม ศาลพิพากษา ปี 60 ก�ำหนดโทษ 36 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 64 ในรอบ แรก เหลือวันต้องโทษจ�ำคุก 12 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี’64 ในรอบสอง เหลือวันต้อง โทษ 8 ปี จะพ้นโทษ 25 ส.ค. 2568 2.นช.บุญทรง เตริยาภิรมย์ อายุ 61 ปี เป็น นักโทษ ชั้นเยี่ยม ศาลพิพากษา ปี 60 ก�ำหนดโทษ 48 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 64 ในรอบ แรก เหลือวันต้องโทษจ�ำคุก 16 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 64 ในรอบสอง เหลือวันต้อง โทษ10 ปี จะพ้นโทษ 21 เม.ย. 2571
3.น.ช.มนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการ ค้าต่างประเทศ อายุ 69 ปี เป็นนักโทษ ชัน้ เยีย่ ม ศาล พิพากษา ปี 60 ก�ำหนดโทษ 40 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี’64 ในรอบสอง เหลือวันต้องโทษ 8 ปี จะพ้นโทษ 11 ก.ค. 2569 ทั้ง 3 รายจ�ำคุกมาแล้ว 4 ปี 3 เดือน 14 วัน 4.นายอภิชาติ (เสีย่ เปีย๋ ง) จันทร์สกุลพร อายุ 64 ปี นักโทษชั้นเยี่ยม ศาลพิพากษาปี 61 ก�ำหนด โทษ 48 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษปี 64 ใน รอบแรก เหลือโทษจ�ำคุก 9 ปี ได้รับอภัยโทษ ลด วันต้องโทษ ปี 64 ในรอบสอง เหลือโทษจ�ำคุก 6 ปี 3 เดือน 26 วัน พ้นโทษ 26 ธ.ค. 2566 5.นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการ ท่องเทีย่ วฯ อายุ 75 ปี นักโทษชัน้ เยีย่ ม ศาลพิพากษา ปี 60 ก�ำหนดโทษ 50 ปี ได้รับอภัยโทษปี 64 ใน รอบแรก เหลือโทษจ�ำคุก 17 ปี ได้รับอภัยโทษ ลด วันต้องโทษ ปี 64 ในรอบสอง เหลือโทษจ�ำคุก 9 ปี 5 เดือน 24 วัน พ้นโทษ 19 ก.ย. 2569 นอกจากนี้ทางส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ เปิดสถิตเิ หตุอาชญากรรม พบประชาชนหวาดกลัว ภัยอันตราย ท�ำร้ายร่างกาย ฆ่า และข่มขืนกระท�ำ ช�ำเรามากที่สุดการเก็บสถิติเหตุอาชญากรรมที่เกิด ขึ้ น ในบ้ า นร้ า ง พบว่ า ไม่ ไ ด้ มี ก ารลงลึ ก ในราย ละเอียดว่า เป็นเหตุที่เกิดขึ้นภายในตึกร้างหรือไม่ อย่ า งไร มี แ ค่ เ พี ย งการแสดงตั ว เลขของปั ญ หา อาชญากรรมทีเ่ กิดขึน้ เท่านัน้ โดยสถิตติ งั้ แต่วนั ที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 31 สิงหาคม 2564 พบว่าทั่ว ประเทศมีการรับแจ้งความผิดเกีย่ วกับชีวติ ร่างกาย และเพศ 14,024 ราย เป็นความผิด ฆ่าผู้อื่น(คดี อุกฉกรรจ์) 1,014 ราย, ท�ำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย 378 ราย, พยายามฆ่า 1,639 ราย, ท�ำร้ายร่างกาย 3,093 ราย, ข่มขืนกระท�ำช�ำเรา 1,465 ราย, อื่นๆ 6,435 ราย ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ รับแจ้ง 45,033 ราย แบ่งเป็น ปล้นทรัพย์(คดีอกุ ฉกรรจ์) 35 ราย, ชิง ทรัพย์ 388 ราย, วิ่งราวทรัพย์ 561 ราย, ลักทรัพย์ 19,109 ราย, กรรโชกทรัพย์ 131 ราย, ฉ้อโกง 9,122 ราย, ยักยอกทรัพย์ 5,253 ราย, ท�ำให้เสียทรัพย์ 3,490 ราย, รับของโจร 1,167 ราย, (อ่านต่อหน้า 4)
(ผอ) บรรณาธิการ บริหาร นายปราโมทย์ ทองกุญชร.....ที่ปรึกษา นายธีรยุทธ ผู้พัฒน์.....ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายสุนทร ช่วยตระกูล(ทอนส์ 79) นายอนันต์ นิลมานนท์ (นายกสมาคม หนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย).....นายจรัญ รุ่งมณี (นายกสมาคมสื่อท้องถิ่นไทย).....นายปรีดา มากมูลผล นายภากร ยังแจ่ม นายบัญชา อ�ำนาจรุ่งเจริญ (หญิงอรชร) ดร.สุชิต ผลเจริญ นายชาติชาย สุขสมนึก นายธนกร มณีโชติ ประจ�ำกองบรรณาธิการ...นายนพตล พินยงค์-นายยศ พูลผล ผู้ช่วย บก. .....นายชนะชัย ศรีไชนัยนต์ นายอนุชา ทอง กุญชร นายวัชระ ชูทอง นายพิศิษฐ์ ภู่พันธ์ศรี ที่ปรึกษาส่วนตัว บก. .....นายชูศักดิ์ วรรณสินธิ์ บก.ข่าวภูมิภาค.....นายสุวิทย์ กองแก้ว บก. ผู้สื่อข่าวพิเศษ.....นายเอนกพงศ์ เทียนสว่าง บก.ข่าวกรม.....นายราเชนทร์ พูนมา บก.ททท. .....นายนิวัฒน์ จุ้ยเส็ง บก.ข่าวตะเวน.....นายนพรัตน์ หลิมสุนทร บก.อาชญากรรม.....นายโกศล ลาวิรัตน์ บก.ข่าวชุมชน.....นายนาวิน เกตุแก้วเจริญ หัวหน้าข่าว กทม. ... นายประยงค์ วิลัย ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี......นางการย์สิริ ยั่งยืนเตชา จ.สมุทรปราการ......นายธีระวิทย์ ก�๋ำรามัญ จ.สมุทรสาคร.....นายณรงค์ฤทธิ์ กิจเจริญ จ.นครปฐม.....นายชวลิต บุญปาน นายทอง บ�ำรุงผล จ.ราชบุรี.....นายวันชัย แก้ววิลัย จ.กาญจนบุรี......นายวันพจน์ คล้ายใจดี ข่าวไทรโยค จ.กาญจนบุรี.....นิติธาดารัตน์ เคน จิ จังหวัดกาญจนบุรี..... นายกษาปณ์ พูลสวัสดิ์ จ.ชลบุรี....นายราเชนทร์ พูนมา จ.ขอนแก่น...นายสมปอง สกุลทับ หัวหน้าข่าว จ.ภูเก็ต ผู้ช่วย บก. ...นายสหภาพ โพธิ์เงิน นายจิระชัย เกษมพิมลพร นายวิชิต สุริวงศ์ นายธนินโชติ กิตติรัตน์ธนาโชติ ผู้ช่วย บก.ฝ่ายอาชญากรรม...นายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร หัวหน้าผู้สื่อข่าวเชียงราย...นายพงศ์พัฒน์ ปิยปาณานนท์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่... นายกฤษฎ์ จันทร์แก้ว ผู้สื่อข่าวเชียงราย...นายเกษม รุ่งศรี ผู้สื่อข่าวอยุธยา ติดต่อ 089-690-5214, 094-786-9441 บก. pramot_thong@hotmail.com
หน้า 4
(อ่านต่อจากหน้า 3) ลักพาเรียกค่าไถ่ 5 ราย, วาง เพลิง 417 ราย,อื่นๆ 5,355 ราย ต�ำรวจ เปิดสถิติคดี อาชญากรรมไทยรอบ 1 ปี ในปี ที่ ผ ่ า นมาทาง ส�ำนักงานแห่งชาติได้มกี ารสํารวจ ความหวาดกลัว ภัยอาชญากรรม และความเชือ่ มัน่ ของประชาชนต่อ ประสิทธิภาพการป้องกันอาชญากรรมของเจ้าหน้า ที่ตํารวจ (PEOPLE POLL) เพื่อปรับรูปแบบการ ท�ำงานของต�ำรวจ โดยน�ำเทคโนโลยีมาช่วยส�ำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนในรูปแบบโพลล ผ่าน กูเกิ้ล ฟอร์ม ซึ่งให้สถานีตํารวจทั่วประเทศทั้ง 1,484 แห่ง สํารวจความคิดเห็นของประชาชนอย่าง น้อยสถานีละ 100 คน มีผลการส�ำรวจตั้งแต่วันที่ 1 - 20 สิงหาคม 2564 มีประชาชนตอบแบบสอบถาม จํานวน 197,860 คน เป็นหญิง ร้อยละ 51.70 ชาย ร้อยละ 48.30 ช่วงอายุที่ตอบแบบสอบถามมาก ที่สุด คือ ช่วงอายุ ตั้งแต่ 20 - 29 ปี ร้อยละ 28.90
ช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 25.2 และช่วงอายุ 40 - 49 ปี ร้อยละ 20.30 ถึงความหวาดกลัวภัยอาชญากรรม จะต้องไม่เกินร้อยละ 40 ในภาพรวมทั้งประเทศ ผลพบว่าประชาชนมีความหวาดกลัวภัย อาชญากรรม ร้อยละ 32.75 ถือว่าผ่านเกณฑ์ตวั ชีว้ ดั ที่กําหนด ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ประชาชน มี ค วามหวาดกลั ว ภั ย อาชญากรรม ร้ อ ยละ 39 อย่างไรก็ตามใน ภาพรวมทั้งประเทศ ประชาชนมี ความเชื่ อ มั่ น ต่ อ ประสิ ท ธิ ภ าพการป้ อ งกั น อาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตํารวจ ร้อยละ 77 (ไม่ ผ่านเกณฑ์) แต่มีระดับ ความเชื่อมั่นมากกว่าผลการสํารวจ เมื่อ เดือน มิ.ย.64 ซึ่งมีความเชื่อมั่นเพียง ร้อยละ 67.50 และเดือน ก.ค.64 ซึ่งมีความเชื่อมั่น เพียง ร้อยละ 73 ส�ำหรับประเภทความหวาดกลัวในชีวติ ร่างกาย เพศ และทรัพย์สนิ ทีป่ ระชาชนหวาดกลัวมากทีส่ ดุ
ระหว่าง 1-20 สิงหาคม 2564 ประชาชนมีความ หวาดกลัวต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ มากที่สุดคือ ท�ำร้ายร่างกาย59.03%, ฆ่า 44.41%, ข่มขืนกระท�ำ ช�ำเรา 38.59%, ทะเลาะวิวาท 25.92%, การค้ายาเสพ ติด 24.28%, ไม่มคี วามหวาดกลัว 23.57%, ก่อความ เดือดร้อนร�ำคาญ 19.06%, ข่มขู่ 18.83%, ล่วงละเมิด ทางเพศ 13.59%, อนาจาร 13.07%, แก๊งอันธพาล 11.54%, ลักพาตัว 5.02%, อื่นๆ 3.09% ส่วนความ หวาดกลัวในทรัพย์สิน ดังนี้ ลักทรัพย์ 68.83%, ชิง ทรัพย์ 53.39%, วิง่ ราวทรัพย์ 49.52%, ฉ้อโกง 27%, ท�ำให้เสียทรัพย์ 24.12%, โจรกรรมจยย. 20.59%, ยักยอก 16.37%, โจรกรรมรถยนต์ 14.36%, รับ ของโจร 8.79%, วางเพลิง 7.21%, ลักพาเรียกค่าไถ่ 5.38%, อื่นๆ 4.44% /////////////////////////////////////////////////// ทีมข่าวอาชญากรรม............รายงาน
หน้า 5
สถิติคุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 สูงกว่าปีที่แล้วถึง 60% - ขับรถในขณะเมาสุรา 4,883 คดี คิดเป็นร้อย ละ 89.84 ติด EM 10 ราย - ขับรถประมาท 11 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.20 ติด EM 1 ราย - ขับเสพจ�ำนวน 541 คดี คิดเป็นร้อยละ 9.95 จังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ ชัยภูมิ 403 คดี บุรีรัมย์ 350 คดี และ สกลนคร 278 คดี หากเปรียบเทียบสถิตคิ ดีทเี่ ข้าสูก่ าร วันนี้ (3 มกราคม 2565) นายวิตถวัลย์ สุนทร คุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2565 กับปีที่แล้ว มี ขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีที่ศาลสั่ง คดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติสูงขึ้น 3,239 คดี คุ ม ความประพฤติ วั น ที่ ห ้ า ของ 7 วั น อั น ตราย (2 มกราคม 2565) มีจ�ำนวนทั้งสิ้น 2,483 คดี จ�ำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 2,425 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.66 ติด EM 8 ราย คดีขับรถประมาท 1 คดี คิดเป็น ร้อยละ 0.04 และคดีขบั เสพ 57 คดี คิดเป็นร้อยละ 2.30 ส�ำหรับช่วง 7 วันอันตรายปี 2565 มียอดคดีสะสมทั้ง สิ้น 5,435 คดี จ�ำแนกเป็น
คิดเป็นร้อยละ 60 การติดอุปกรณ์ EM กับผูก้ ระท�ำผิดเมาแล้วขับ มีตัวเลขสะสม 5 วัน จ�ำนวน 11 ราย มีเงื่อนไขห้าม ออกจากทีพ่ กั อาศัย ในช่วงเวลาตัง้ แต่ 22.00 น. -04.00 น. เป็นระยะเวลา 15 วัน โดยมีสำ� นักงานคุมประพฤติ ทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระท�ำผิด ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center -EMCC) หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ พนักงานคุมประพฤติทำ� หน้าทีป่ ระสานเครือข่ายภาค ประชาชน และอาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมความ พร้อมลงพื้นที่
“สั ง คมต� ำ รวจ”By”ลอย เสาหิ น ” รายงานตัวครับ***สวัสดีปใี หม่ 2565 สุขภาพ แข็งแรง ไม่เจ็บไม่จน คิดเงินได้เงินคิดทองได้ ทอง ครับทุกๆท่าน***ตัดกลับมาเทศกาลปี ใหม่ที่ต�ำรวจเราไม่เคยหยุดพักเพื่อให้พี่น้อง ประชาชนได้เดินทางกลับบ้านอย่างมีความ สุข....ปีนี้ “ฝากบ้านไว้กับต�ำรวจ” มาเก๋...ใช้ โซเชี่ยลมาช่วยการจัดท�ำแอปพลิเคชัน OBS i-Service...สุ ด ยอดครั บ ท่ า น***ปิ ด คดี รวดเร็ว...กรณีหญิงสาววัย 23 ปี ถูกคนร้าย แอบซ่อนตัวภายในห้องรอเวลาสาวกลับห้อง หมายขนขื่น...แต่เหยี่อร้องจึงใช้มีดแทงที่ตน ขาจนสาวเสี ย ชี วิ ต ในพี่ น ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ...ต�ำรวจใช้เวลาไม่ถึง 24 ชม.ก๋รวบตัวคนร้ายวัย 41 ปีอ้าง “เมาเมียเพิ่ง คลอดเลยคิดจะข่ม ขืนหญิงสาว”....งานนี้ ได้ ยิ น มาว่ า พ.ต.อ.โชติ วั ฒ น์ เหลื อ งวิ ลั ย “รองเก่ง” รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ “นัก สีบมืออาชีพ”จัดเต็มลากคอเข้าซังเตอย่าง รวดเร็ว....สุดยอด***เมือ่ วันก่อนสมาคมผูส้ อื่ ข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศ ไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯตัง้ ฉายา10 นายต�ำรวจประจ�ำปี 64 มีพล.ต.อ.
สืบสวนนครบาล ฉายา “อาจารย์นพ จบทุก จ็อบ”...***โดนสอยเป็นทีเ่ รียบร้อยอดีต สิระ เจนนาคะ สส.หลักสี โดนศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้พน้ จากสภาพการเป็นส.ส. เนือ่ งจาก ถู ก จ� ำ คุ ก ในความผิ ด เกี่ ย วกั บ ทรั พ ย์ . ..โดย พล.ต.อ. เสรีพศิ ทุ ธ์ เตมียเวส ในฐานะสมาชิก สภาผู ้ แ ทนราษฎร ได้ ยื่ น ค� ำ ร้ อ งต่ อ ศาล รัฐธรรมนูญไว้...ว่ากันว่าเรื่องนี้ต้องปรบมือ ให้พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท. ที่เก็บ พยานหลักฐานไว้ถึง 26 ปี***แต่ประเทศนี้ แปลกๆคนโดนจ�ำคุกแต่ไม่มหี ลักฐานไม่วา่ จะ เป็น ศาล,อัยการ และราชทัณฑ์ ...ชาวบ่านเขา อยากรู ้ ว ่ า ข้ อ มู ล มั น ถู ก ลบจากระบบได้ ยั ง ไง???...จริงไหม*** “ลอย เสาหิน”ขอแสดง ความยินดีกบั พ.ต.ท.กิตติพนั ธ์ แท่นตัง้ เจริญ ชั ย ที่ ไ ด้ รั บ ต� ำ แหน่ ง รอง ผกก.ป.สน. เตาปูน...***ฉบับนีข้ อลาไปก่อน...พบกันใหม่ ฉบับหน้า...สวัสดีครับ. ///////////////////////////////////////
สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการต�ำรวจแห่ง ชาติ ฉายา “หมอปั๊ด ตัดเนื้อร้าย”,พล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการ ต�ำรวจแห่งชาติ ฉายา “เด่น ชิงด�ำ”,พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รองผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจแห่ง ชาติ ฉายานายพล take me home ”,พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผูช้ ว่ ยผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจแห่ง ชาติ ฉายา “โจ๊ก บิ๊กคัมแบ็ก”,พล.ต.ท.ส�ำราญ นวลมา ผู้บัญชาการต�ำรวจนครบาล ฉายา “ส�ำราญ ส�ำเร็จ”,พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ บัญชาการต�ำรวจสอบสวนกลาง ฉายา “จิรภพ ครบ เครือ่ ง”,พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชยั ผูบ้ ญ ั ชาการ ต� ำ รวจภู ธ รภาค 5 ฉายา “มื อ ปราบยาน รก”,พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ ต�ำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี ฉายา “ไซเบอร์ แจง แรงแล้ว จ้า”,พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธ�ำรง ผู้บัญชา การต�ำรวจภูธรภาค 7 ฉายา “พยัคฆ์ร้ายคืน ถิ่น”,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการ
หน้า 6
“กรุงเก่า” จัดการประกวดคีตะมวยไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตแบบใหม่ New Normal นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดการจัด งานประกวดคีตะมวยไทย ภายใต้ชื่อ “กรุงศรีคีตะ มวยไทย 2021” โดยมี นายวิรตั ิ แข็งขัน ท่องเทีย่ วและ กีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเทวพงศ์พันธ์ เมืองยม ผูบ้ ญ ั ชาการเรือนจ�ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารการ ตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค คณะนักกีฬา และ แขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมกิจกรรม ณ เดอะฮอลล์ คอน เวนชัน่ เซ็นเตอร์ อยุธยาซิตพี้ าร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างกลมกลืน ซึง่ จะเป็นประโยชน์ตอ่ ผูเ้ รียนมวยไทย โดยการจั ด งานในครั้ ง นี้ จั ง หวั ด พระนคร ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ท�ำให้มวยไทย ศรีอยุธยา ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรม กลายเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของคนไทย เป็น ทั้งศาสตร์และศิลป์ อีกทั้งเป็นภูมิปัญญาที่คิดค้น ท่าทางต่างๆ น�ำมาใช้ในการต่อสู้ อันเป็นเป็นมรดก ทางวัฒนธรรมของชนชาติไทย ซึ่งเป็นความภาค ภูมิใจของคนไทย ที่ก�ำเนิดศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ประจ�ำชาติ ส�ำหรับการจัดการประกวดครั้งนี้ ได้จัดพิธี ให้กับส�ำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนคร บวงสรวง ไหว้ครูมวยไทย ก่อนเริม่ การประกวดคีตะ ศรีอยุธยา จัดการประกวดคีตะมวยไทย ภายใต้ชอื่ งาน “กรุงศรีคีตะมวยไทย 2021” เพื่อส่งเสริมการท่อง เทีย่ ว Ayutthaya Sport Tourism 2021 เน้นการอนุรกั ษ์ ศิลปะมวยไทย พร้อมส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กและ เยาวชนเห็นคุณค่า และมีใจรักศิลปะมวยไทย รวมถึง แสดงออกถึงความรูค้ วามสามารถด้านทักษะมวยไทย ซึ่งการแข่งขันคีตะมวยไทย เป็นการใช้ทักษะของ ศิลปะมวยไทยมาประกอบจังหวะเพลง โดยการใช้ ส่วนต่างๆ ของร่างกายผสมกับพลังกายและพลังจิต แสดงทักษะท่าทางอย่างงดงาม จึงท�ำให้มวยไทยเป็น มรดกของการสัง่ สมวัฒนธรรมประเพณีหลายๆ ด้าน
มวยไทย “กรุงศรีคีตะมวยไทย 2021” ได้รับความ สนใจจากเด็ก เยาวชน และโรงเรียนทั้งในจังหวัด พระนครศรีอยุธยาและจังหวัดต่างๆ ให้ความสนเข้า ร่วมแข่งขันกว่า 320 คน โดยจัดการแข่งขันเป็น ประเภททีมละ 10 คน รุน่ อายุไม่เกิน 12 ปี และรุน่ อายุ ไม่เกิน 18 ปี ชาย/หญิง ในส่วนเพลงที่ใช้ประกอบจะ ต้องแสดงถึงการอนุรกั ษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และมี ก ารแต่ ง กายด้ ว ยชุ ด มวยโบราณที่ แ สดงถึ ง เอกลักษณ์ ซึ่งผู้ชนะการประกวดทั้ง 2 รุ่น จะได้รับ ถ้วยรางวัล และเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล อีกด้วย
< วันที่ 20 ธ.ค.64 เวลา 06.30 น.ภายใต้การอ�ำนวยการของ นายนรภัทร รัตน วรายุทธ ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอ�ำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้ รับแจ้งจากนายนิมติ ร เมฆจันทร์ฉาย ผูใ้ หญ่บา้ น บ้านกะทะทอง ว่ามีตา่ งด้าว อยู่บริเวณหลังวัดพุรุ่งเรือง ม.5 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี (ทราบ ภายหลังว่าเขามาทางช่องทางพุชะนี) จึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนาย สุ ช าย ไม้ แ ก่ น จั น ทร์ ปลั ด อ� ำ เภอหั ว หน้ า ฝ่ า ยความมั่ น คง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรแี ละ นายเตชทัต เหรียญเครือ ปลัดอ�ำเภอฝ่ายความมัน่ คง สมาชิก อส.อ.ไทรโยคท 7 ทหารชุด ปชดที1่ / ตร.สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ชุดฉก.ลาด หญ้า/ตร.สภ.กาญจนบุรี ตชด136 ได้บรู ณาการร่วมจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้า เมือง จ�ำนวน 15 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 7 คน (ผู้น�ำพาหลบหนี) บริเวณหลัง วัดพุรุ่งเรือง ม.5 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และพบรถยนต์นั้งส่วน บุคคล ยี้ห้อโตโยต้า รุ้นวีโก้ หมายเลขทะเบียน บย 9818 กาญจนบุรี จากการ สอบถามบุคคลต่างด้าวได้เดินทางมาจาก จ.พะโค, จ.เมาะล�ำไย, จ.ย่างกุ้ง, จ.ทวาย, และจ.ผาอัน และจะไปท�ำงานที่กทม.และจ.สมุทรสาคร เสียค่าเดิน ทาง 15,000 บาท - 20,000 บาท เดินทางมาแล้ว 1-2 ครั้ง ทางชุดเจ้าหน้าที่ได้ จัดท�ำประและประสานทางต�ำรวจตรวจคนเข้าตามระบบการจัดเก็บประวัติ และส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพือ่ ด�ำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หน้า 7
รมว.ยุติธรรม ลุยนครพนม ขอชรบ.ช่วยสกัดกั้นยาเสพติด สร้างชุมชนเข้มแข็ง ชวนผู้ต้องขังเป็นสายแจ้งเบาะแส
นายสมศั ก ดิ์ เทพสุ ทิ น รั ฐ มนตรี ว ่ า การ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจ ยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายศุภชัย โพธิ์สุ รอง ประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 2 ส.ส.นครพนม พรรคภูมใิ จไทย นายวิชยั ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครพนม โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายณรงค์ จุ้ย เส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายจรูญ เหง่าลา ผู้ บัญชาการเรือนจ�ำกลางจังหวัดนครพนม และนาย ประเสริฐ อินทรัตน์ ยุตธิ รรมจังหวัดนครพนม ให้การ ต้อนรับ โดยภารกิจแรก รมว.ยุตธิ รรม และคณะ เยีย่ ม ชมอนุสรณ์สถานประธานโอจิมินห์ และพบปะชาว บ้าน ผู้น�ำชุมชน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และได้พูดคุยถึงการสร้างการรับรู้ประมวล กฎหมายยาเสพติ ด ฉบั บ ใหม่ และการเสริ ม สร้ า ง หมู่บ้าน ชุมชนเข้มแข็ง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กฎหมายใหม่ๆ จะเป็น อาวุธที่เพิ่มขึ้นให้กับพวกท่าน ซึ่งประมวลกฎหมาย ยาเสพติดฉบับใหม่ จะเพิ่มในเรื่องของการยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด สามารถยึดทรัพย์ยอ้ นหลังได้ถงึ 10 ปี ตามมูลค่ายาเสพติด วันนี้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ยังไม่ค่อยเข้าใจ ดังนั้นในเดือน ม.ค.2565 เราจะเปิด อบรมเรื่องการสืบค้นธุรกรรมการเงินของผู้ค้า และ
การสืบทรัพย์ โดยจะมีข้าราชการจาก ดีเอสไอ กรม บังคับคดี มาเป็นวิทยากร นอกจากนี้ในส่วนของคดี แพ่งหรือคดีทรัพย์ จะแยกออกจากคดีอาญา ซึง่ ในอดีต เราแค่จบั ยึดเม็ดยา และทรัพย์สนิ ทีเ่ ห็น แต่ของใหม่เรา จะขยายผลไปยังคนบงการ และตนมัน่ ใจว่าข้าราชการ จะไม่มีการทุจริต เพราะเราได้แก้ปัญหาโดยการตั้ง รางวัลการแจ้งเบาะแสส�ำหรับประชาชน 500 ล้านบาท และมีรางวัลส�ำหรับเจ้าหน้าที่ในกระบวนการท�ำงาน อีกด้วย ยาเสพติดวันนี้ใช้สารเคมี มีต้นทุนแค่ 50 การนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก สตางค์ โรงงานแย่งกันผลิต หากโดนจับ 99 ครั้ง ผ่าน รัฐมนตรี ทีบ่ อกว่า เราจะไม่ทงิ้ ใครไว้ขา้ งหลัง และใน แค่ครั้งเดียวเขาก็ก�ำไรแล้ว นี่จึงเป็นเหตุให้ยาออกมา งานต่างๆของกระทรวงต้องท�ำให้หน่วยงานทุกจังหวัด เยอะ ไม่ใช่เราไม่ปราบปราม เข้าใจ นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนมัน่ ใจในบันไดขัน้ ภารกิจต่อมา รมว.ยุติธรรม และคณะ ตรวจ ที่ 2 ที่เราได้ตั้งไว้จะประสบผลส�ำเร็จ เพราะเรามี เยี่ยมเรือนจ�ำกลางนครพนม โดยมีตัวแทนญาติผู้ต้อง ประมวลกฎหมายใหม่ มีการยึดทรัพย์ มีการแยกคดี ขังมอบดอกไม้ขอบคุณ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การดูแล แพ่งและอาญา ท�ำให้การท�ำงานสะดวกขึน้ และตนขอ ผูต้ อ้ งขังตนดูแลอย่างดีตามกฎระเบียบและสิทธิมนุษย ให้ทกุ ท่านช่วยบอกชาวบ้าน ถึงงานกระทรวงยุตธิ รรม ชน ตนขอให้ญาติช่วยเตือนผู้ต้องขังโดยเฉพาะคดียา เรามีกองทุนยุติธรรม ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ เสพติด ขอให้เลิกเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก เพราะหากกระท�ำ เดื อ ดร้ อ นทางด้ า นกฎหมาย และยั ง มี พ .ร.บ.ค่ า ผิดซ�้ำก็จะไม่ได้รับการเลื่อนชั้นและลดโทษได้ง่าย ตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน ค่าใช้จ่ายจ�ำเลยในคดี แบบครั้งแรก ขอให้มาช่วยเป็นสายให้ทางราชการดี อาญา เรามีเงินช่วยเหลือตรงนีป้ ลี ะ 450 ล้านบาท และ กว่า เพราะมีรางวัลน�ำจับด้วย แต่หากกลับมาค้ายาจะ ยั งมี ก ารช่ วยเหลื อ ผู ้ เ ป็ น หนี้ กยศ. ที่ เ ราจะจั ดงาน หมดอนาคตทันทีเพราะกฎหมายใหม่รุนแรงมากใน มหกรรมไกล่เกลีย่ หนีใ้ นเดือน ม.ค.2565 เราได้ดำ� เนิน การยึดทรัพย์ หากอยากจะให้ข้อมูลโทรได้ที่ 1386 ส่วนการปรับโทษตามกฎหมายใหม่ เรามีกองทุน ยุติธรรม และป.ป.ส. มาให้ค�ำแนะน�ำกับผู้ต้องขังใน การท�ำค�ำร้องต่อศาลด้วย จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมโครงการโคกหนองนา โมเดล และตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และแปลงเกษตร ผลิตภัณฑ์ไม้จากผู้ต้องขังโดยนาย สมศักดิ์ ได้ลงมือปลูกมะพร้าวด้วย ************************************* ^ วันที่ 21 ธันวาคม 64 เวลา 10.30 น. นายสาวิตร เจียม จิระพร อดีตนายอ�ำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ร่วมกับ ผู้ใหญ่ฯ เกียรติศักดิ์ เกตุบุตร บ้านลุ่มผึ้ง ม 3 ลุ่มสุ่ม / อดีต ผูใ้ หญ่ฯ กมลพร สุรยิ งค์ /ผูช้ ว่ ยฯ สุชาติแย้มสรวล / ผูช้ ว่ ยฯ มาโนช เกิดสุข ผู้ช่วยฯ กฤษจนา เที่ยงแท้ บ้านลุ่มผึ้ง ม.3 ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมผู้น�ำ และชาวบ้าน ลุ่มผึ้ง ประมาณ 50 กว่าคน ได้อาสาท�ำความดีด้วยหัวใจ ร่วมอาสาเทคอนกรีต รอบๆ อุโบสถวัดเครือมิตรสันติ ธรรม ม.3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จนเสร็จ เรียบร้อย โดยมีผู้ใจบุญได้ร่วมบริจาคหิน ปูน ทราย แบบ ผสมส�ำเร็จรูป จนกิจกรรมเทคอนกรีตรอบอุโบสถแล้ว เสร็จเรียบร้อย โดยเจ้าอาวาสวัดนี้ ได้มาอยู่ให้ก�ำลังใจทุก คนตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ นายได้มอบอาหาร เครื่องดื่ม ให้โรง ทานร่ ว มเลี้ ย งอาหาร ตลอดทั้ ง วั น ในครั้ ง นี้ ด ้ ว ย / ขอ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมกันท�ำความดีด้วย เพื่อ บูรณะ และจรรโลงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองและยั่งยืน ต่อไป ทีมงาน นสพ.การเมืองชุมชน รายงาน
หน้า 8
ข่าวกรม-กระทรวง
ราชทัณฑ์ จับมือ TK park ร่วมส่งเสริมการเรียนรู้ให้ผู้ต้องขัง ขยายต่อไปอีก 3 ปี
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช รองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน บริหารและพัฒนาองค์ความรู้ และผูอ้ ำ� นวยการสถานบัน อุทยาน การเรียนรู้ (TK Park) พร้อมด้วย นายสิทธิ สุทธี ว งศ์ รองอธิ บดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายพัฒนา นาง วราพร ตยานุกรณ์ ผู้อ�ำนวยการฝ่ายพัฒนาเครือข่าย อุทยานการเรียนรู้ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วม มือโครงการการจัดการส่งเสริมการเรียนรู้ สนับสนุน พัฒนามุมเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่ผู้ต้องขัง ภายใน “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ใช้เวลาว่าง ให้เกิดประโยชน์ ช่วยพัฒนาศักยภาพให้ได้มคี วามรู้ และ ทักษะที่จ�ำเป็น เพื่อพร้อมที่จะเป็นคนดีกลับคืนสู่สังคม ต่ อ ไป ณ อุ ท ยานการเรี ย นรู ้ ต ้ น แบบและบริ ก าร ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8
นายอายุตม์ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลง ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 สืบเนื่องจากส�ำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ได้ให้การ สนับสนุนการด�ำเนินงาน ตามภารกิจกรมราชทัณฑ์ ด้าน พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง โดยตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ทั้ง
ขังให้มีความรู้ และทักษะที่จ�ำเป็น พร้อมที่จะเป็นคนดี กลับคืนสู่สังคมและน�ำไปปรับใช้ภายหลังพ้นโทษ กรมราชทัณฑ์ ขอขอบคุณคณะผู้บริหารและเจ้า หน้าที่ของส�ำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ และ สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ทุกท่าน ที่ได้ให้ ความอนุเคราะห์และมีสว่ นร่วมสนับสนุนภารกิจด้านการ พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์มาอย่างต่อ เนื่อง และและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลงนามบันทึกข้อ สองหน่วยงานได้ตกลงท�ำความร่วมมือการเสริมสร้าง เครือข่ายระหว่างกัน ส�ำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ ความรู้ และสถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ให้การ สนั บ สนุ น และส่ ง เสริ ม การเรี ย นรู ้ โ ดยใช้ เ ทคโนโลยี สารสนเทศและการเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อกระจายความ รู ้ ใ ห้ แ ก่ ข องผู ้ ต ้ อ งขั ง ในเรื อ นจ� ำ และทั ณ ฑสถานทั่ ว ประเทศเป็นจ�ำนวนมาก ทัง้ นี้ หน่วยงานทัง้ สองได้มคี วามประสงค์ตรงกัน ตกลงเพือ่ ขยายความร่วมมือในครัง้ นีจ้ ะเป็นประโยชน์ตอ่ เพือ่ ทีจ่ ะขยายบันทึกข้อตกลงความร่วมมือต่อไปอีก เป็น ภารกิจด้านการแก้ไขพัฒนาผู้ต้องขังให้มีสัมฤทธิ์ผล ระยะเวลา 3 ปี โดยร่วมสนับสนุนพัฒนามุมเทคโนโลยี สูงสุดต่อไป สารสนเทศ ภายใน “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” ซึง่ ประกอบ ไปด้วยสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบออฟไลน์ ทั้งสื่อที่เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันอุทยาน การเรียนรู้ และ สื่อที่จัดหาเพิ่มเติมภายใต้หมวดต่าง ๆ เช่น การเกษตร คหกรรม การประกอบอาชีพ การพัฒนาตนเอง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังได้จัดการอบรมผู้ต้องขังที่ปฏิบัติงานใน ห้องสมุดฯ ในการใช้สื่อการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อให้ผู้ต้อง ขังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ช่วยพัฒนาศักยภาพผูต้ อ้ ง
“ราชทัณฑ์” ไม่ทนต่อการทุจริต ขับเคลื่อนองค์กร “ราชทัณฑ์ร่วมใจ โปร่งใส ไร้ทุจริต”
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่อง การขับ เคลื่อนกรมราชทัณฑ์ ภายใต้แนวคิด “ราชทัณฑ์ร่วมใจ โปร่งใส ไร้ทจุ ริต” โดยมี นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดี กรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ จุย้ เส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้ อ มด้ ว ยข้ า ราชการ และเจ้ า หน้ า ที่ จ ากเรื อ นจ� ำ / ทัณฑสถานทัว่ ประเทศ 143 แห่ง ร่วมรับชมการสัมมนาฯ ผ่านระบบออนไลน์ Webex เพือ่ เป็นการเปิดเวทีอภิปราย ให้บคุ ลากรกรมราชทัณฑ์ ได้รว่ มแสดงความคิดเห็น แลก เปลีย่ นประสบการณ์ ร่วมกันสร้างแนวทางการขับเคลือ่ น กรมราชทัณฑ์สู่ความโปร่งใส ไร้ทุจริตคอร์รัปชัน โดย การสัมมนาฯ ครัง้ นี้ ได้รบั เกียรติจากวิทยากรผูท้ รงคุณวุฒิ ประกอบด้วย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒสิ ภา นายธาดา เตี ย ประเสริ ฐ กรรมการองค์ ก รต่ อ ต้ า น คอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และ ดร.นัทธี จิตสว่าง ที่ ปรึกษาสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ)
ร่วมอภิปราย มีนางสาววริศรา ศิริสุทธิเดชา รองหัวหน้า กลุม่ งานคุม้ ครองจริยธรรมฯ เป็นผูด้ ำ� เนินรายการ ณ ห้อง สั ม มนากรมราชทั ณ ฑ์ ชั้ น 3 อาคารกรมราชทั ณ ฑ์ จ.นนทบุรี นายอายุตม์ กล่าวว่า วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี ได้ถูกก�ำหนดให้เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (International Anti-Corruption Day) ซึ่งเป็นวันที่ทั่วโลกให้ ความส�ำคัญร่วมรณรงค์เพือ่ ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ 2565 พร้อมทั้งสั่งการให้เรือนจ�ำ ทัณฑสถาน และสถาน ในนามของกรมราชทัณฑ์ขอแสดงพลังร่วมเป็นส่วนหนึง่ กักขังทัว่ ประเทศยึดถือปฏิบตั ใิ ห้เกิดประสิทธิภาพและผล ในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ได้ก�ำหนดนโยบายการ สัมฤทธิเ์ กิดผลเป็นรูปธรรม ด้วยการปลูกฝังให้ขา้ ราชการ ด�ำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ ในปีงบประมาณ 2565 เน้น กรมราชทัณฑ์ทุกคนต้องตระหนักในปัญหาดังกล่าว หนักให้ความส�ำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการ ปฏิบตั หิ น้าทีด่ ว้ ยความซือ่ สัตย์ สุจริต และช่วยกันปลูกจิต ทุจริตในภารกิจงานราชทัณฑ์ทุกมิติ ด้วยการยกระดับ ส�ำนึกให้ข้าราชการทุกคนยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม ให้การด�ำเนินงานด้านการต่อต้านและป้องกันการทุจริต เรียนรู้การเป็นข้าราชการที่ดี เพื่อเดินรอยพระยุคลบาท เป็น 1 ใน 5 เป้าหมายหลักของกรมราชทัณฑ์ ประจ�ำปี น้อมน�ำพระราชกรณียกิจ และพระราชด�ำรัส ยึดถือเป็น แนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นข้าราชการที่ดี ต่อไป ทัง้ นี้ เพือ่ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ในความมุง่ มัน่ ตั้งใจสร้างองค์กรราชทัณฑ์ให้โปร่งใสไร้ทุจริต หาก พบเห็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนใดมีพฤติกรรมเรียกรับผล ประโยชน์ ท่านสามารถส่งหลักฐานโดยตรงถึงผู้บริหาร กรมราชทัณฑ์ได้ผ่านช่องทาง QR Code : DOCAntiCorruption
หน้า 9
แม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีการก�ำหนดคร่าวๆ แล้วว่าจะมีการเลือกตั้งกันไม่เกินกลางปีหน้า แม้โดยส่วนตัวผมคิดว่าคุณรสนาจะเป็นตัวเลือกทีน่ า่ สนใจ ถ้ามองถึงผลงานทีผ่ า่ นมา จุดยืนอุดมการณ์ทางการเมือง การท�ำงานหนักในหลายด้าน แต่ผมก็คิดว่า การแข่งขันครั้งนี้ น่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดสูสี ระหว่างชัชชาติและสุชัชวีร์ นีพ่ ดู ในโอกาสทีเ่ รายังไม่รวู้ า่ ตัวผูส้ มัครของพรรคก้าวไกลเป็น ใคร ชัชชาตินนั้ ลงสมัครในนามอิสระ แต่เป็นทีร่ กู้ นั ว่า ชัชชาติ เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ แต่มีข่าวว่าไปขอ ทักษิณเพื่อลงในนามอิสระ แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทยกล่าว ว่า มีคนไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะพรรคเพื่อไทยมี ส.ส.ใน กทม.หลายคน มี ส.ก.และ ส.ข.ของพรรค ดังนั้นควรจะส่งคน ลงผูว้ า่ ฯ ในนามของพรรค ถ้าชัชชาติไม่ลงในนามพรรคก็ควร จะเฟ้นหาบุคคลลงสมัคร แต่ทกั ษิณไม่เห็นด้วย เพราะจะไปตัด คะแนนของชั ช ชาติ สุ ด ท้ า ยฝั ่ ง ที่ ไ ม่ เห็ น ด้ ว ยเช่ นคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ต้องแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่ การลงสมัครในนามอิสระของชัชชาติก็คือ การพราง ตัวเพื่อให้เจือจางจากสีเสื้อทางการเมืองนั่นเอง ในการส�ำรวจ โพลก่อนที่สุชัชวีร์จะเปิดตัว ชัชชาติมาแรงมากเมื่อเทียบกับ หลายคนที่มีข่าวว่าจะลงสมัคร จนมีเสียงพูดกันว่า ต�ำแหน่งผู้ ว่าฯ กทม.ครัง้ นีน้ า่ จะแบเบอร์ ส่วนสุชชั วีร์ ตอนแรกมีขา่ วออก มาว่าได้รับการทาบทามจากหลายพรรค แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจ เลือกพรรคประชาธิปตั ย์ โดยสุชชั วีรอ์ า้ งเหตุผลว่า เห็นกระแส พลังการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ที่เปิดโอกาสให้ คนรุ่นใหม่เลือดใหม่ได้เสนอตัวเข้ามาท�ำงาน และผู้ว่าฯ กทม. ไม่สามารถท�ำงานคนเดียวตามล�ำพังได้ เพราะฉะนั้นต้อง ท�ำงานเป็นทีม “โชคดีที่พรรคมีคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ส.ก. 50 เขตเตรียมพร้อมแล้ว กรุงเทพฯ มีประมาณ 1 ล้าน 6 แสนตารางเมตร จะเดินให้ได้ 1 ล้าน 6 แสนก้าว กับตัวแทนทุก เขต” นายสุชัชวีร์ กล่าว การเปิดตัวของสุชัชวีร์ได้รับกระแส พอสมควรแม้จะพลาดไปเรือ่ งความเข้าใจผิดว่า อาจารย์ของตัว เองที่เอ็มไอทีเป็นหลานของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จนเสียรังวัด ไปบ้าง แต่เชือ่ ว่าหลังจากนี้ กระแสในโพลน่าจะเปลีย่ นไป แม้ ว่าชัชชาติจะยังมาแรงเพราะท�ำคะแนนน�ำไปก่อนหลายยก แต่ สุชชั วีรก์ น็ า่ จะท�ำให้สถานะแบเบอร์ของชัชชาติลำ� บากมากขึน้ และต้องไม่ลมื ว่าผลการเลือกตัง้ ผูว้ า่ ฯ กทม.หลายครัง้ ตรงข้าม กับผลลัพธ์ของโพล ทั้งสองคนมีคุณสมบัติไม่แตกต่างกันนักเป็นวิศวกร ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกทั้งคู่ ต่างเคยเป็นอาจารย์ใน มหาวิทยาลัยมาก่อน แม้สชุ ัชวีรอ์ าจจะโดดเด่นกว่าในการเป็น อธิการบดีที่ได้รับการกล่าวขวัญมาก ในหมู่คนรุ่นใหม่ก็ตาม แต่ชชั ชาติมปี ระสบการณ์ทางการเมืองมากกว่า แม้ในสมัยแรก ที่เป็น รมช.คมนาคมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะถูกมองว่า เป็น รัฐมนตรีที่โลกลืม แต่เมื่อได้โอกาสเป็นรัฐมนตรีว่าการก็มี ความโดดเด่นขึน้ ในฐานะรัฐมนตรีทสี่ นใจในการพัฒนาระบบ ราง แม้ชัชชาติจะลงสมัครในนามอิสระ แต่เชื่อว่า ทักษิณต้อง สัง่ ให้ทมี งานของพรรคเพือ่ ไทยใน กทม.หนุนช่วยชัชชาติอย่าง เต็ ม ที่ แต่ ถ ้ า พรรคก้ า วไกลส่ ง สมั ครและเปิ ด ตั ว บุ ค คลที่มี น�ำ้ หนักโดดเด่นพอสมควร ก็เชือ่ ว่าทัง้ ชัชชาติและตัวแทนของ พรรคก้าวไกลจะตัดคะแนนกันเองในหมู่คนเสื้อแดง ส่วนสุชชั วีรน์ น้ั ก็คงเป็นอย่างทีพ่ ดู คือ หวังว่าจะได้รบั การสนับสนุนจากกลไกของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. แม้ เลือกตัง้ ใหญ่ครัง้ ทีแ่ ล้วพรรคประชาธิปตั ย์จะพ่ายแพ้อย่างย่อย ยั บ ในกทม. แต่ ก็ ไ ม่ อ าจประมาท ฐานเสี ย งของพรรค ประชาธิปัตย์ในระดับท้องถิ่นผูกพันกับคน กทม.มาอย่าง ยาวนานได้และต้องไม่ลืมว่า การพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในการ เลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เพราะคนกรุงเทพฯ
ราชการกรุงเทพมหานคร เริ่มมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลัง จากมีการเปิดตัวผูส้ มัครเพิม่ มากขึน้ จากเดิม “ยืนหนึง่ ” มาเป็น เวลานานก่อนใคร คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ประกาศเป็นผู้ สมัครอิสระ และล่าสุด นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีต อธิ ก ารบดี ส ถาบั น เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้ า เจ้ า คุ ณ ทหาร ลาดกระบัง ทีล่ งสมัครในนามพรรคประชาธิปตั ย์ ขณะที่ นาย ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ที่คาดว่าพรรคพลังประชารัฐ พยายามผลักดัน แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ อ้างว่า ยังต้องการรับราชการเป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานีต่อไป อีกทั้งระบุว่า ตัวเองขาด คุณสมบัติในการ สมัครเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เนื่องจากมีชื่อในทะเบียนบ้านใน กรุงเทพมหานครไม่ครบหนึ่งปี ขณะที่ มีการจับตากันว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คน ปัจจุบัน ที่อยู่ในต�ำแหน่งด้วยค�ำสั่ง คสช. มานานกว่า 5 ปี จะ ลงสมัครหรือไม่ โดยคาดหมายว่าหากลงสมัคร อาจลงแบบ อิสระ แต่ขอให้พรรคพลังประชารัฐให้การสนับสนุน แต่จนถึง ปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งเจ้าตัวเองและพรรคพลัง ประชารัฐ โดยล่าสุด มีรายงานว่า ก�ำลังพยายามทาบทาม นางนวลพรรณ ล�ำ่ ซ�ำ ผูจ้ ดั การฟุตบอล ทีมชาติไทย มาลงสมัคร ในนามพรรค แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันใดๆ ออกมา ดังนัน้ หากพิจารณาจากรายชือ่ ผูท้ เี่ ปิดตัวยืนยันว่าจะ ลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้วมีจ�ำนวนสาม คน นอกเหนือจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าจะสมัครในนาม อิสระ โดยมีพรรคเพื่อไทย ให้การสนับสนุน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา จะลงในนามอิสระ นาย สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึง พรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคก้าวไกล พรรคกล้า และพรรค ไทยสร้างไทย ก็ประกาศจะส่งผูส้ มัคร เช่นเดียวกัน โดยจะเปิด ตัวในปีหน้า อย่างไรก็ดี หากโฟกัสกันที่พรรคพลังประชารัฐ ถือว่าน่าจับตาไม่น้อย เพราะเมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหว ของ อดีตแกนน�ำ กปปส. คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่จะ ผลักดัน นายสกลธี ภัทธิยกุล ลงสมัคร ที่บอกว่าน่าจับตา ก็คือ อาจออกมาในลักษณะทีต่ อ้ งการ “ไฟเขียว” จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มากกว่าการขอการสนับสนุนจาก พรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะจาก “บิก๊ ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุ รรณ หัวหน้าพรรค เพราะทีผ่ า่ นมาถือว่าได้ “มองข้าม” มาตลอด แต่ส�ำหรับกลุ่มของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ ต้องการผลักดันนายสกลธี ลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เนือ่ งจากมัน่ ใจในฐานเสียงทัง้ ในฐานะอดีต ส.ส.กรุงเทพฯ ทัง้ ในฐานะรองผูว้ า่ ฯ กทม. ของนายสกลธี ทีม่ คี วามพยายามขาย ภาพลักษณ์ “คนรุน่ ใหม่” อีกทัง้ ยังมีฐานคะแนนเสียงของกลุม่ กปปส.ในกรุ ง เทพฯ ที่ มั่ น ใจว่ า หั น หลั ง ให้ กั บ พรรค ประชาธิปัตย์ ก็มีไม่น้อย และที่ส�ำคัญ กลุ่มของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ มี “กลุ่มทุน” ที่พอยืนระยะได้จนจบเหมือนกัน อย่ า งไรก็ ดี นาที นี้ ยั ง ไม่ แ น่ ชั ด ว่ า ท่ า ที ข อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงกลาโหม จะเป็นแบบไหน แต่ส�ำหรับ นายสกลธี ภัทธิยกุล ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตามองว่าเป็น ไปได้แค่ไหน ทั้งในลักษณะเป็นผู้สมัครแบบอิสระ แต่พรรค พลังประชารัฐให้การสนับสนุน หรือเป็นแบบที่ “บิ๊กตู่” ไฟเขียว และที่ส�ำคัญ เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพเฉพาะตัวแล้ว “พอไปไหว” หรือไม่สามารถเป็นคูต่ อ่ กรกับว่าทีผ่ สู้ มัครทีเ่ ปิด ตัวไปแล้ว และก�ำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ได้หรือไม่ และแม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีการ ก�ำหนดคร่าวๆ แล้วว่าจะมีการเลือกตั้งกันไม่เกินกลางปีหน้า ยังพอมีเวลาในการตัดสินใจ แต่ขณะเดียวกัน ทุกอย่างต้อง ชัดเจน จะแทงกั๊กได้อีกไม่นาน!!
ฝัง่ หนึง่ เลือกเชิงยุทธศาสตร์เพราะกลัวว่าจะพ่ายแพ้พรรคของ อีกฝั่งจึงยอมทิ้งพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เทคะแนนให้ พ รรคพลั ง ประชารั ฐ ที่ ส นั บ สนุ น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่คราวนี้มี แนวโน้มค่อนข้างชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งใคร หลังจากผู้ว่าฯ หมูป่านายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ประกาศที่ จะไม่ลงสมัคร ดังนั้นเชื่อว่าในเชิงยุทธศาสตร์คน กทม.ฝั่ง เหลืองก็อาจจะเทคะแนนให้สุชัชวีร์ ส่วนพล.ต.อ.อัศวินที่มี ข่าวว่าจะลงสมัครอีกครั้ง ผมไม่คิดว่าจะได้คะแนนมากนัก เพราะคน กทม.เห็นว่า พล.ต.อ.อัศวินมีวาสนาในต�ำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม.มาแล้วกว่า 5 ปี ส่วนคนอื่นๆ หลังจากนี้นอกจาก คุณรสนา ทีบ่ อกแล้วว่าเป็นตัวเลือกทีน่ า่ สนใจเหมือนกัน ก็ยงั มองไม่เห็นว่าจะมีใครมาสูก้ นั สนุกเหมือนกับคูข่ องชัชชาติกบั สุชชั วีรท์ เี่ ปรียบเหมือนตัวแทนของสองฝัง่ สีเสือ้ ความขัดแย้ง ทางการเมืองทีด่ ำ� เนินมายาวนาน และน่าสนใจว่าคนกลางๆ ที่ มีพลังอยูไ่ ม่นอ้ ยจะเทเสียงให้ใคร ฝัง่ เพือ่ ไทยจะมาถึงฟากฝัน ในเก้าอี้ กทม.ได้มั้ย แม้จะส่งลงในนามอิสระ หรือพรรค ประชาธิปัตย์เจ้าเก่าจะยังคงรักษาเก้าอี้ไว้ได้ หรือว่าสุดท้าย แล้วคนกทม.จะเลือกคนกลางๆ ทีเ่ ป็นอิสระจากพรรคการเมือง ไม่วา่ สุดท้ายแล้วคน กทม.จะเลือกใครมาดูแลเมืองหลวงแห่ง นี้ แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลควรจะประกาศให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้คน กทม.ออกจากอ�ำนาจรัฐประหารเสียที ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 64 ที่ผ่านมา ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธเี ปิดงานมหกรรมสมุนไพร แห่งชาติ และการประชุมวิชาการ ประจ�ำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ที่สยามพารากอน ได้เดินทางเข้าท�ำเนียบรัฐบาล โดยมี นาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสกลธี ภัทธิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตแกนน�ำ กปปส. ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้า พบนายกรัฐมนตรีเป็นการส่วนตัว ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ท�ำเนียบ รัฐบาล ทั้งนี้ การเข้าพบดังกล่าวคาดว่า เป็นการหารือถึงการ ส่งผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะความ พยายามในการผลักดัน นายสกลธี ลงสมัครแข่งขัน และขอให้ พรรคพลังประชารัฐ สนับสนุน เป็นทีน่ า่ สังเกตว่า หากเป็นการ หารื อ เพื่ อ ขอการสนั บ สนุ น ในการลงสมั ค รผู ้ ว ่ า ราชการ กรุงเทพมหานคร ตามที่คาดการณ์จริง ก็น่าจะเป็นการล็อบบี้ ขอความเห็นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อให้เกิดแรง กด ดันภายในพรรคพลังประชารัฐ ให้ได้รบั การสนับสนุน ซึง่ รูปแบบน่าจะออกมาในลักษณะเป็นผู้สมัครอิสระ แต่พรรค ให้การสนับสนุนตามความเห็นก่อนหน้านี้ การเคลือ่ นไหวดัง กล่าวของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายสกลธี ภัทธิยกุล สอดคล้องกับค�ำพูดไม่กี่วันก่อนของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุ สรณ์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม ที่ระบุถึงการเคลื่อนไหวของแกนน�ำ กปปส. ในการลงสมัคร รับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ส�ำหรับแกนน�ำ กปปส.ทีเ่ คยเป็นกลุม่ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ จ�ำนวน 3 คน ที่ต่อมาย้ายมาสังกัดพรรค พลังประชารัฐ นอกเหนือจาก นายณัฏฐพล และ นายสกลธี แล้ว ยังมี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งนายณัฏฐพล และ นายพุทธิพงษ์ ถูกด�ำเนิน คดีจากการร่วมชุมนุมของ กปปส.และถูกเพิกถอนสมาชิก สภาพ ส.ส. ยกเว้นนายสกลธี ที่รอดคดี ความเคลือ่ นไหวในการลงสมัครรับเลือกตัง้ เป็นผูว้ า่
ทีมข่าวอาชญากรรม........................รายงาน
หน้า 10
^ ลงพื้นที่ตรวจ : 23 ธ.ค.64 เวลา 12.00 น. นายบุญมา ป๋งมา รก.ประธานสหภาพ นายบุญเหลือ ขุนพรม รก.เลขาธิการสหภาพ กิจกรรมลงพื้นที่ ตรวจติดตามวัดค่าไอเสียรถโดยสารประจ�ำทาง ขสมก.ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการลดมลภาวะPM.2.5 มีรองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นางปณิสรา ดวงสอดศรี กรรมการบริหาร ขสมก. นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผอก.ขสมก. ผอ.ขดร.1-8 ช. ผอ. ขดร.1-8 กปด.1-8 รก.กรรมการบริหาร 1-8 รวมสังเกตุการ
^เปิดถนนสายบุญ : วันที่ 29 ธ.ค.64 เวลา 07.30 น. นายบุญมา ป๋งมา รก.ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพร่วม กับผอ.ขดร.5 นายวิโรจน์ แหวนทองค�ำ และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทฮาตาริคุณวิทยา พร้อมด้วยประชาชนซอยแสมด�ำ 94 เปิดถนนสายบุญ ที่ประชาชนร่วมกันสละเงินคนละเล็กละน้อยจนส�ำเร็จและเปิดถนนอย่างเป็นทางการเวลา 10.00 น. ร่วมกันเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติตาม นโยบาย 7 วันอันตรายช่วงปีใหม่ของเขตการเดินรถที่ 5
หน้า 11