ซาตานอ้อนรัก วารีรำเพย ตัวอย่างทดลองอ่าน

Page 1



ปกใน


รายละเอียดหนังสือ นวนิยายไทย

ซาตานอ้อนรัก วารีรําเพย : ประพันธ์ บรรณาธิการ พิสูจน์อักษร ออกแบบปก จัดรูปเล่ม เจ้าของลิขสิทธิ์

ร้อยเรื่อง พันรัก amany amany amany วารีรําเพย

พิมพ์ครั้งแรก : ล่าฝันบุ้ค : ตุลาคม 2554 สงวนลิขสิทธิ์ : โดยได้รับอนุญาตจัดพิมพ์จากเจ้าของลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data. วารีรําเพย ซาตานอ้อนรัก. -- กรุงเทพฯ : ล่าฝันบุ้ค, 2554 32 หน้า 1. นวนิยายไทย. I. ชื่อเรื่อง. 895.913 ISBN 978-616-90976-0-0

ราคา 399 บาท จัดพิมพ์โดย : ล่าฝันบุ้ค 71/194 หมู่บ้านพฤกษา 49/1 ซ.แก้วอินทร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140


เล่าสู่กันฟัง


ก่อนเข้าเนื้อหา


บทที่ 1 Love Club “เลิฟคลับ? มันคืออะไร?” มาริอรจ้องมองเพื่อนสนิทดวงตาโตใสแจ๋ว ไม่รู้จักสถานที่ ที่ เพื่อนรักกําลังทําท่าปลาบปลื้มยามที่พูดถึงจริงๆ ไม่ใช่แกล้งทํา “แกหลบไปอยู่ที่ไหนมายะยัยมิลค์ถึงได้ไม่รู้จักเลิฟคลับที่แสน จะโด่งดัง?” แก้วเกล้าสะบัดเส้นผมดัดเป็นลอนเคลือบสีน้ําตาลเข้ม ดวงตา กลมโตตวั ด ค้ อนขวั บ ส่ งให้ เพื่อนรัก ส่งผลให้อี ก ฝ่ายนึ ก อยากจะเอา รองเท้าคู่ละเก้าสิบเก้าบาทที่เพิ่งสอยมาใหม่โยนใส่หน้า มันให้รู้แล้วรู้ รอด ถ้าไม่ติดว่า ‘เสียดายเงิน’ เงินทองอาจจะเป็นของนอกกายก็จริง แต่สําหรับมาริอรแล้วเธอถือคติที่ว่า ‘เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ตายหาย้ากยาก’ เพราะในแต่ละวันหญิงสาวต้องทํางานเหน็ดเหนื่อย สายตั ว แทบขาด แลกกั บ เงิน ค่ าแรงเพี ย งน้ อ ยนิ ด เพื่อใช้ ป ระทั งชีวิ ต บัณฑิตสาวอย่างมาริอรที่ไม่ได้มี สมองเลอเลิศจนผลการเรียนโดดเด่น


ซาตานอ้อนรัก คว้าเกียรตินิยมมาครอง ทางเลือกของหญิงสาวจึงมีไม่มากนัก แถมเธอ ยังไร้เส้นสายหัวเดียวกระเทียมลีบ ร่อนใบสมัครงานไปที่บริษัทไหน ก็ เป็นอันเงียบเชียบไร้ซึ่งข่าวคราว เพื่อความอยู่รอด หญิงสาวจึงรอโอกาสไม่ได้ เพราะไหนจะต้อง หาเลี้ยงปากท้อง แล้วไหนจะต้องส่งน้องสาวคนเดียวซึ่งเป็นครอบครัวที่ เหลืออยู่เรียนหนังสือ งานนั่งโต๊ะรับเงินเดือนประจําจึงถูกผลักออกจาก สมองชั่วคราว ยอมลงแรงทํางานตามแต่จะมีคนจ้างเพื่อแลกกับ ‘เงิน’ ซึ่งคนให้ความสําคัญเปรียบเสมือนพระเจ้า “ฉั น ไม่ ไ ด้ มี เ วลาเยอะเหมื อ นแกนี่ ไ อ้ เ กรซ วั น ๆ จะได้ เ จาะ เกาะติดเฉพาะเรื่องผู้ชาย ผู้ชาย และก็ผู้ชาย” มาริอรอดทีจ่ ะแขวะเพื่อนรักไม่ได้ ถึงเธอจะไม่แน่ใจว่า ‘เลิฟคลับ’ ที่ยัยแก้วเกล้าเพื่อนสนิทสุดเลิฟพูดถึงมันคืออะไร แต่ที่เธอแน่ใจยิ่งกว่าแน่ก็คือมันจะต้องมีบรรดาป้อชายหน้าตาดีสิงสถิต อยู่ แ น่ น อน ไม่ งั้ น คงจะไม่ ไ ด้ รั บ ความสนใจแอนด์ ป ลาบปลื้ ม จาก แก้วเกล้าขนาดนี้หรอก “เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแกยังไม่รู้อีกเหรอว่าการลิสต์รายชื่อ ผู้ชายหน้าตาดีเป็นงานหลักของฉัน ส่วนที่หายใจทิ้งไปวันๆ เนี่ยเป็นงาน อดิเรก” “เออ! เจริญ ล่ ะ แล้ว ตกลงแกจะบอกฉั น ได้ รึยั งว่ า เลิฟ คลั บ อะไรของแกเนี่ยทําไมมันถึงได้โด่งดังนัก?” “ก็ไม่มีอะไรมากมายแค่มันเป็นที่สิงสถิตของผู้ชายหน้าตาดีขั้น เทพทั้งหลายแหล่แค่เนี้ยก็เพียงพอที่จะทําให้บรรดาสาวๆ ตามไปกรี๊ด กร๊าดใช้บริการได้แล้ว” “ฉันว่าแล้วว่าต้องหนีไม่พ้นเรื่องผู้ชาย” มาริอรแอบถอนหายใจ ทําไมเวลาเธอซื้อลอตเตอรี่มั นไม่ถู ก รางวัลที่หนึ่งซะทีฟระ? จะได้เลิกจน ตั้งแต่จําความได้ก็ได้สัมผัสแต่กับ ความจน จน และก็จน จนเบื่อแทบกระอักอยู่แล้ว อยากจะสัมผัสกับ

6


วารีราเพย ความรวย รวย และก็รวยบ้างจัง “เลิฟ คลั บ ไม่ ใ ช่ สถานที่ ธ รรมดานะมิ ล ค์ แ ต่เป็ น สถานบั น เทิ ง สุด เลิศ อลังการเกรดหรูระดับไฮโซไซเอตี้ ที่รวบรวมบรรดาหนุ่ มหล่อ ระดับ เทพที่ไ ม่ อ าจจะหาได้ ต ามท้ อ งถนนเอาไว้ เป็ น เพื่ อนคุ ย เพื่อ ให้ ผู้ใช้บริการได้รับความประทับใจและความสบายใจ ฉันเคยไปใช้บริการ มาแล้ว เดินออกมาเนี่ยแฮปปี้สุดๆ” “อะไรนะเกรซ! แกไปใช้บริการพวกผู้ชายขายตัวงั้นเหรอ!?” มาริอรเบิกตากว้างจนตาแทบถลน ดวงตากลมโตของหญิงสาว จ้องมองแก้วเกล้าราวกับว่าเพื่อนรักของเธอได้กลายเป็นมะนาวต่างดุ๊ด มนุษย์ต่างดาวทีเ่ พิ่งเข้ามาในโลก เธอรู้ว่าเพื่อนเธอชอบป้อชายหน้าตาดี แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะคลั่งจัดจนถึงขนาดลงทุนไปใช้บริการพวกผู้ชายขาย ตัว! ป้าบ! แก้วเกล้าถวายฝ่ามือลงบนศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมนุ่มสลวย เป็ น มั น เงาของเพื่ อ นเมื่ อ ได้ ยิ น สรรพนามที่ ม าริ อ รใช้ เ รี ย กบรรดา ชายหนุ่มหน้าตาดีในเลิฟคลับ “บ้า! พวกเขาไม่ใช่ผู้ชายขายตัวนะยะ!” หญิงสาวรีบแก้ตัวให้กับบรรดาชายหนุ่มรูปงามในฝันที่เธอกําลัง หลงใหลได้ปลื้มทันที “เพื่อผู้ชายขายตัวพวกนั้ นแกถึงกับตบหัวฉันและก็จ้องฉันตา เขียวเลยเหรอเกรซ!?” “ฉันบอกแล้วไงยะว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้ชายขายตัว พวกเขาขาย ความสุขย่ะ” มาริอรเบ้ปาก ทําเป็นใช้ถ้อยคําซะเริ่ดหรู ดูดี ‘ขายความสุข ’ แล้วมันต่างจากขายตัวตรงไหนวะ? “ฉั น รู้ น ะว่ า แกคิ ด อะไรอยู่ ฉั น หมายความว่ า พวกเขาขาย ความสุขจริงๆ ขายเสียงหัวเราะ ขายความอบอุ่น อ่อนโยน และเอาอก

7


ซาตานอ้อนรัก เอาใจเป็นเพื่อนคุยชั้นเลิศที่จะขจัดความทุกข์ในหัวใจของผู้ใช้บริการให้ หายไป ไม่ใช่ผู้ชายขายตัวย่ะ!” แก้วเกล้าเน้นเสียงอธิบายเพิ่มเติม พร้อมกับปรายตามอง มาริอรที่พยักหน้าขึ้นลงงึกๆ งักๆ ตามคําบอกเล่าของแก้วเกล้า แต่บอกตามตรงว่ามาริอรก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจอยู่ดี “พวกเขาเป็น แค่ เพื่อนคุย อย่างเดียวย่ ะ ไม่ ได้ขายบริก ารทาง เพศ” “งั้นเหรอ? จะพยายามเข้าใจก็แล้วกันนะ” “เข้าใจแล้วใช่มั้ย ? พวกเขาจะเป็นเพื่อนคุยที่ดีเลิศที่สุดเท่าที่ พวกเราจะหาได้เชียวล่ะ ฉันนะเอากลับไปนอนฝันตั้งหลายคืน” “บ้ า ! กะอี แ ค่ ไ ปคุ ย ด้ ว ยต้ อ งเสี ย เงิ น ด้ ว ยเหรอยะ ? ธุ ร กิ จ หลอกลวงเงินในกระเป๋าผู้หญิงชัดๆ พวกเกาะผู้หญิงกินนะสิไม่ว่า” “ถึงเขาหลอกก็ เต็มใจให้ห ลอกย่ ะ! อีกอย่างจะไปว่าพวกเขา หลอกลวงไม่ได้นะยะมันเป็นธุรกิจและผลตอบแทนที่พวกเขาให้เรามันก็ คุ้มค่าเกินจะบรรยายออกมาเป็นคําพูดได้” แก้วเกล้าทําหน้าเคลิ้มตาลอย เอาแล้ว ! เพื่อนของเธอมันบ้าไป แล้ว! อ้อ! แลกเปลี่ยนความพอใจ แกเสียเงินมันได้เงินว่างั้น เถอะ พอใจ กันทั้งสองฝ่ายแต่ฝ่ายหญิงเสียเปรียบฝ่ายชายมีแต่ได้กับได้ “แล้วแกหมดเงินไปกับสโลแกน ‘ขายความสุข’ เท่าไรละยะ? หนึ่งพันสองพันหรือว่าสามพัน?” “จะบ้าเหรอยัยมิลค์! เงินแค่นั้นมันจะไปพออะไรพวกเขาไม่ใช่ คนธรรมดาสามัญที่จะหาได้ตามสี่แยกไฟแดงนะยะ!” แก้วเกล้าเสียงสูง มาริอรส่งค้อนให้เพื่อนด้วยความหมั่นไส้ เงิน แค่นั้น! พูดออกมาได้นะแก เงินแค่นั้นของแกอะต่อชีวิตฉันได้เกือบทั้ง เดือนเชียวนะยะ! “คนที่มีโอกาสได้สัมผัสตัวเป็น ๆ ของบรรดาเทพบุตรสุดหล่อ ที่สุ ด แสนจะอ่ อ นโยนและน่ า รั ก น่ า เอ็ น ดู ร าวกั บ เทวดาตั ว น้ อย ต้ อ ง

8


วารีราเพย กระเป๋ าหนั ก พอสมควรเลยแหละ คนที่ จะได้ใ กล้ชิด พวกเขาจะต้อ ง ประมูลนะยะใช้เงินประมูลไม่ใช่เดินไปจิ้ม ๆ เลือกเอาเหมือนซื้อผักใน ตลาด” แก้วเกล้าหยุดหอบหายใจและยกแก้วน้ํ าขึ้นดื่ม เพื่อดับความ กระหายหลังจากที่บรรยายมาเสียยืดยาว มาริอรแอบเบ้ปากนิดหนึ่งพูด ออกมาได้ประมูลไม่ใช่จิ้มๆ เหมือนซื้อผักในตลาด แต่จิ้มๆ ผักในตลาด แล้วมันทําให้อิ่มท้องเฟ้ย แต่จิ้มไอ้พวกนั้ นมันไม่อิ่มแถมกระเป๋ายังเบา หวิวเพราะเงินหมดอีกต่างหาก “ประมูล! ขายตัว หรือขายเครื่องเพชรวะเนี่ย ทําไมต้องมีการ ประมงประมูลด้วย?” มาริ อ รพ่ น น้ํ า ออกจากปาก หญิ ง สาวยกมื อ ขึ้ น เช็ ด ทํ า ความ สะอาดริมฝีปากในขณะที่ดวงตากลมโตก็ยังจ้องมองแก้วเกล้าไม่คลาด สายตา ป้าบ! “แกตบหัวฉันอีกแล้วนะเกรซ!?” “ฉันบอกแกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าพวกเขาไม่ได้ขายตัวแต่ขาย…” “ความสุข” มาริอรขัดขึ้นก่อนที่แก้วเกล้าจะพูดจบ เอาวะ! ขายความสุขก็ ขายความสุข! “เออ! หัดจําให้ได้บ้างสิแก แกรู้มั้ยว่าในแต่ละคืนนะมีบรรดา ชะนีทั้งสาวแท้สาวเทียมแย่งกันประมูลเทวดาตัวน้อ ยเหล่านั้นจนแทบ จะตบกันตาย” “บอกตามตรงนะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพิ่งรู้ตอนแกเล่าให้ฟัง เมื่อกี๊เนี่ยแหละ แล้วแกล่ะเสียค่าความสุขไปเท่าไร?” “ห้าหมื่น” “ห้าหมื่น!” มาริอรเบิกตากว้างเกือบจะพ่นน้ําในปากทิ้ง เป็นครั้งที่สองของ

9


ซาตานอ้อนรัก วั น นี้ ด้ ว ยความตกใจ ดี ที่ ว่ า น้ํ า ที่ เ พิ่ ง ดื่ ม เข้ า ไปเธอกลื น มั น ลงคอไป เรียบร้อยแล้ว ไม่งั้น หญิงสาวอาจจะสําลักเพราะตกใจกับคําตอบของ แก้วเกล้าก็เป็นได้ แก้วเกล้า! ฉันหลงคบคนโง่เป็นเพื่อนมาได้ยังไงวะตั้ง สิบกว่าปี! “เล็กน้อยน่ามิลค์สําหรับความสุขทางใจที่เขามอบให้กับฉัน” “แกโง่หรือบ้ากันแน่?” เงินห้าหมื่นเนี่ยฉันใช้ได้ตั้งหลายเดือนเชียวนะยะ! ยิ่งช่วงนี้เธอ กําลังจนกรอบเพราะตกงานอยู่ด้วยแค่คิดถึงเงินห้าหมื่นมาริอรก็น้ําลาย ไหลหยดย้อยด้วยความอยากได้แล้ว! “ถ้าแกได้เจอพวกเขาละก็…แกจะไม่พูดแบบนี้แน่นอน ตอนนั้ น ฉันรู้สึกว่าความสุขมันผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินสองชั่วโมงที่ได้อยู่กับเขา ฉันแทบจะหลอมละลาย” “ห้าหมื่นแลกกับสองชั่วโมงเนี่ยนะ! ห้าร้อยก็หรูแล้วย่ะ” “แม่เด็กน้อย…เธอไม่เข้าใจหรอกย่ะ ว่าความรู้สึกราวกับกําลัง ล่องลอยอยู่ในสวรรค์บนดินอะมันเป็นยังไง? ความจริงฉันก็อยากจะใช้ เวลาอยู่กับเขานานๆ นะ แต่มีคนที่ประมูลรายต่อไปรออยู่นะสิ” “สรุปแล้วพวกเขาก็ป้อยอเอาใจแกเพราะว่าอยากจะได้เงินแก นี่เอง” มาริอรเบ้ปาก แต่ก็แอบอิจฉาเจ้าพวกนี้เหมือนกันแฮะ รายได้ดี ชะมัด! โอ้! อยากเกิดเป็นผู้ชายหน้าตาดีจะได้หลอกเอาเงินผู้หญิงโง่ ทึ่ม แบบไอ้เกรซไปใช้เล่น เหอ เหอ “ปากแกเนี่ยไม่เป็นมงคลกับจิตใจของฉันเลย ต่อมความสุขของ ฉันทํางานถดถอย ระดับความสุขลดลงไปตั้งเยอะ” แก้วเกล้าตัดพ้อแล้วก็ส่งค้อนวงใหญ่ให้เพื่อนรัก “แกต่างหากที่ไม่ยอมรับความจริง ถ้าจะต้องเสียเงินขนาดนั้น ทําไมแกไม่จีบเขาทําแฟนซะเลยล่ะง่ายกว่ากันเยอะ แถมถ้าได้เป็นแฟน กันแกก็ไม่ต้องเสียเงินให้เขาด้วยมีแต่เขานะแหละจะต้องเสียเงินเอาใจ

10


วารีราเพย แกในฐานะแฟนไม่ดีกว่าเหรอยะ?” “พูดน่ะพูดง่ายแต่ทํามันทํายากนะ พวกเขาอยู่สูงเกินอาจเอื้อม ขนาดนั้น แค่ได้มีความสุขกับการพูดคุยกับพวกเขาบ้างฉันก็พอใจแล้ว” มาริอรแอบบ่นในใจ ‘อยู่สูงเกินอาจเอื้อม’ กะอีแค่ ‘ผู้ชายขาย ตัว’ เนี่ยนะ! อะไรมันจะขนาดนั้นท่าทางเธอจะต้องพายัยเกรซไปบําบัด สมองสักวัน “เกรซแกไปใช้บริการกี่ครั้งแล้วเนี่ย ? ระวังอีตาบรรดาเทวดา น้อยๆ อะไรของแกจะสูบเอาเงินแกไปจนหมดตัวนะ ทีนี้ล่ะได้ตัวเบา สมใจแน่ เพราะกระเป๋าฉีก เคยได้ยินที่เขาพูดกันว่ากระเป๋าแบนแฟน ทิ้งไหม แต่แกอะแฟนเขาก็ไม่ใช่ พอแกกระเป๋าแบนปุ๊บนะบรรดาเทวดา น้อยๆ ของแกคงสะบัดตูดวิ่งหนีแกแทบไม่ทัน” “ฉันเพิ่งไปแค่สองครั้งเองย่ ะ แต่พูดก็พูดเถอะตอนนี้ฉันหายใจ เข้าออกเป็นเลิฟคลับไปแล้วละแก” “ฉันก็ว่าอีตาพวกนั้ นก็คงหายใจเข้าออกเป็นแกเหมือนกันแต่ เป็นเงินแกนะไม่ใช่ตัวแก” มาริอรประชดให้กับความบ้า ‘ผู้ชาย’ ของเพื่อน บ้าไม่พอยังไป เสียเงินให้พวกนั้นเป็นฟ่อนๆ อีก บ้าหรือโง่กันแน่ฟระ? แต่ถ้ามันอาการ หนักขนาดนี้เธอขอฟันธงเลยว่ามันทั้งโง่ทั้งบ้า! “ถ้ า แกได้ เ ห็ น พวกเขาแกจะต้ อ งไม่ พู ด แบบนี้ แ น่ น อนฉั น รับรอง” “ฉัน ก็ อยากจะบอกแกเหมื อนกัน ว่ าฉั น ไม่ มี ปั ญ ญาหรอกย่ ะ ! ตอนเนี้ยฉันกําลังตกงานถึงต้องไปเข็นผักในตลาดงกๆ แค่จะเลี้ยงตัวเอง ก็ลําบากลําบนจะแย่อยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงไอ้พวกนั้ นล่ะ ถ้า ให้พวกมันมาเลี้ยงฉันก็ว่าไปอย่าง” “ฉันจะพาแกไปเองแถมจะเป็นสปอนเซอร์ให้แกด้วยเอาป่ะ?” แก้ ว เกล้ า นั ย น์ ต าเป็ น ประกาย ไม่ ต้ อ งบอกมาริ อ รก็ นึ ก รู้ ไ ด้ ในทันทีว่าเพื่อนรักของเธอคงกําลังฝันเพ้อถึงบรรดาชายหนุ่มรูปงามใน

11


ซาตานอ้อนรัก เลิฟคลับ “ไม่! ฉันเอาเวลาไปทํางานหาเงินดีกว่า แกอย่าลืมสิว่าฉันไม่ได้ ตัวคนเดียว ฉันยังมียัยมิ้นที่ฉันต้องคอยดูแลอีกนะ เทอมนี้ยัยมิ้นเรียน จะจบแล้วด้วย ฉันต้องรีบเร่งทํางานหาเงินเพื่ออนาคตของยัยมิ้น ไม่มี เวลาไปเที่ยวผู้ชายขาย…ความสุขของแกหรอก” มาริอรปฏิเสธเสียงแข็ง หญิงสาวรีบเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียก บรรดาเทวดาน้อยๆ ของแก้วเกล้าเสียใหม่เพราะกลัวว่าเพื่อนสาวจะเอา มือมากระแทกเข้ากับศีรษะของเธออีก ให้เอาเงินไปประเคนให้ผู้ชาย พวกนั้นเนี่ยนะ? สู้เอาเวลาไปทํางานหาเงินเอามาซื้อข้าวปลาอาหาร ประเคนกระเพาะยังดีเสียกว่า “แกเองก็เหมือนกันนะไอ้เกรซ เพลาๆ ลงบ้างก็แล้วกันเดี๋ยวจะ หมดตัวไปซะก่อน ฉันรู้ว่าบ้านแกรวยแต่ พ่อแกคงไม่ภูมิใจนักหรอกถ้ารู้ ว่าแกเอาเงินมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้” มาริอรถือโอกาสเทศนาเพื่อนไปด้วยในตัวและแก้วเกล้าก็ยกมือ ขึ้นพนมมือทําท่าสาธุทันทีที่หญิงสาวพูดจบ “ฉันเตือนแกด้วยความหวังดีนะเนี่ย ถ้าไม่ใช่เพื่อนหางตายังไม่ แลเลยขอบอก” “ฉันรู้ย่ะยัยเพื่อนเลิฟ” แก้วเกล้ายื่นหน้ามาหอมแก้มมาริอรเบาๆ ส่งผลให้เจ้าของแก้ม ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้ทําไมยัยเพื่อนเลิฟมันถึงชอบแทะโลม แก้มเธออยู่เรื่อยแม้ตอนแรกเธอจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจแต่มันก็แทะโลม เธอแบบนี้ ตั้งแต่วั น แรกที่รู้จัก กั น ผ่านมาสิบ กว่ าปี มั น ก็ ยังไม่ ย อมเลิก หลังๆ เธอก็เลยชักจะชินปล่อยเลยตามเลย “แกจะไปทํางานใช่มั้ย? ฉันจะขับรถไปส่งแกก่อนแล้วค่อยกลับ บ้าน” “ไม่เป็นไรฉันไปเองได้” “ไม่เอาฉันจะไปส่ง ปะ ไปขึ้นรถ”

12


วารีราเพย ไม่ ร อให้ป ฏิเ สธ แม่ คุ ณ ก็ ว างเงิน ค่ า อาหารไว้ บ นโต๊ะ ก่ อ นจะ กระชากแขนมาริอรให้ลุกเดินตามไปที่ลานจอดรถหน้าคาเฟทีเรีย ที่สอง สาวนัดแนะกันมานั่งพูดคุยเป็นประจํา

13


บทที่ 2 เมื่อเราพบกัน “ขอบใจนะที่มาส่ง” มาริอรเปิดประตูลงมาจากรถยนต์ของแก้วเกล้า หญิงสาวยกมือ ขึ้นโบกให้เพื่อน ริมฝีปากสีระเรื่อไร้การแต่งแต้มด้วยลิปสติกแย้มยิ้ม สดใส ไม่ใช่ว่ามาริอรเป็นหญิงสาวที่มั่นใจในความงดงามตามธรรมชาติ ของตัวเองเสียจนไม่คิดจะดูแลรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองให้ดึงดูด เพศตรงข้าม หญิงสาวก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้เกิดมามีรูป โฉม โนมพรรณงดงามไม่มีที่ติตั้งแต่ตอนคลอดออกมา เธอก็อยากจะประทิน โฉมแต่งตัวให้สวยงามสมวัย แต่ก็จนปัญญาที่จะทําแบบนั้นได้ เพราะ เธอไม่มีเงินมากพอ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ห ญิงสาวหามาได้ นอกจากจะต้องใช้ เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจําวันสําหรับเธอและมาริสาน้องสาวคนเดียว ของเธอแล้ว มาริอรยังต้องเจียดเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้สําหรับจ่ายค่าเทอม


วารีราเพย ให้กับมาริสาอีกด้วย แค่จะใช้ประทังชีวิตยังลําบาก เรื่องประทินโฉมวัย สาวหญิงสาวก็เลยไม่เคยแตะต้องนอกจากแป้งเด็กกับลิปมันราคาถูก เท่านั้น “ไม่ต้องขอบใจหรอก เพื่อนกันนะยะทําท่าเกรงอกเกรงใจไปได้ อย่าหักโหมทํางานหนักมากนะ มีอะไรก็โทรหาฉัน” แก้วเกล้าโผล่หน้าออกมาคุยกับเพื่อนผ่านกระจกรถ “โอเค ขับรถดีๆ ละแก อย่าซิ่งมาก ฉันยังไม่อยากไปงานปาร์ตี้ ของแกก่อนวัยอันควร” แก้วเกล้ายิ้มหวานก่อนจะเคลื่อนรถออกไปโดยมี มาริอรยืนโบก มื อ ส่ ง เพื่ อ น รอจนรถของแก้ ว เกล้ า หายลั บ ไปจากรั ศ มี ส ายตาของ หญิงสาวแล้ว มาริอรถึ งได้รีบ วิ่ ง เข้าไปในร้านขายส่งผัก ที่เธอทํางาน พิเศษอยู่ งานใช้แรงงานที่บัณฑิตหลายต่อหลายคนอาจจะรังเกียจ แต่ มาริอรไม่มีสิทธิ์นึกรังเกียจ เพราะงานใช้แรงงานพวกนี้สามารถสร้าง รายได้ให้กับหญิงสาวได้ ถึงแม้รายได้จะไม่มาก แต่อย่างน้อ ยมันก็พอจะ ช่วยเหลือเธอในยามตกทุกข์ได้ยากเช่นนี้ ดีกว่าไม่มีงาน ไม่มีเงินเอาซะเลย ไม่น่าเชื่อว่าบัณฑิตแบบเธอ จะต้องมาเข็นผักส่งตามตลาด แต่ชีวิตมันเลือกเกิดไม่ได้ มันก็ต้องดิ้นรน กันต่อไปแบบนี้แหละวะ “สวัสดีค่ะเจ๊” “อ้าว! อามิลค์มาแล้วเหรอ?” เจ๊เล็กเจ้าของร้านขายผักที่สุดแสนจะใจดีเปรียบเหมือนแม่คนที่ สองของมาริอรเงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชีและส่งยิ้มให้หญิงสาว “ค่ะเดี๋ยวมิลค์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” มาริ อรวิ่ งผ่ านบรรยากาศจอแจของร้านขายส่ง ขนาดใหญ่ ที่ กําลังจัดผักใส่รถเข็นเพื่อให้เด็ก ๆ เข็นเข้าไปส่งให้ร้านค้าย่อยในตลาด เข้าไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนใส่ชุดทํางาน หญิงสาวหายไปครู่หนึ่งก็ออกมา

15


ซาตานอ้อนรัก พร้อมกับชุดทํางานชุดเก่งที่เธอใส่เป็นประจํา “อามิลค์วันนี้ไปส่งที่ร้านเจ๊อ้อยกับเจ๊ติ๊กเหมือนเดิมนะ” “ค่ะเจ๊” มาริอรเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เจ๊เล็กตอนนี้เธออยู่ในชุดทํางานชุดเก่ง เสื้อยืดเก่ามอซอที่ถูกซักรีดจนมองหาสีเดิมแทบไม่เจอ กับกางเกงยีนสี ซีดๆ ที่มีเอี๊ยมพลาสติกสีน้ําเงินเข้มทับอีกชั้น สภาพโกโรโกโสสิ้นดี! แต่ ก็เป็นงานที่เธอภาคภูมิใจ แต่ถึงแม้มาริอรจะมองว่าสภาพของเธอช่าง ทุเรศลูกตา แต่กลับมีลูกจ้างของเจ๊เล็กคนหนึ่งที่มักมองเธอราวกับเธอ เป็นนางฟ้านางสวรรค์ “อาปองมัวแต่มองอามิลค์อยู่ได้ รีบไปส่งของได้แล้ว” เจ๊เล็กหันไปเรียกปองพลที่ยืนมองมาริอรด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม มาริอรก้มหน้าลงมองสภาพของตัว เองแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมา ดังๆ สภาพเธอทุเรศขนาดนี้พี่ปองยังจะมายืนเหม่อมองเหมือนเธอเป็น นางฟ้าเดินดินได้อีก นับถือจริงๆ “ครับเจ๊” ปองพลเงยหน้าขึ้นยิ้ม ขวยเขินให้เจ๊เล็ก เขาแอบมองมาริอรมา นานแล้ว แต่ก็ทําได้แค่มองอย่างเดียว ไม่เคยกล้าพอที่จะเขยิบฐานะไป มากกว่าคนแอบมอง มาริอรหันไปโบกมือให้ปองพลนิดหนึ่งแล้ วเข็ น รถเข็นที่บรรจุตะกร้าผักไว้และก็เข็นอย่างคล่องแคล่วตรงไปที่ตลาด แต่ แค่การกระทําเล็กน้อยของเธอก็ทําให้ปองพลยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ “อาปองยังจะมายืนยิ้มเป็นคนบ้ าอยู่ได้ ไปทํางานได้แล้ว อา มิลค์อีไปถึงไหนแล้ว” “ครับเจ๊!”

ร้านแรกสําหรับตารางงานของวันนี้ก็คือร้านของเจ๊อ้อย ซึ่ง

มาริอรสามารถทํา งานเสร็จเรี ย บร้อ ยอย่า งรวดเร็ว เหมื อนกั บ ทุก วั น เพราะมาริอรไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแต่เป็นผู้หญิงที่มีแรงวัวแรงควายและ

16


วารีราเพย เลือดบ้าค่อนข้างเยอะทําให้ หญิงสาวสามารถทํางานใช้แรงงานได้ดีไม่ แพ้ผู้ชายอกสามศอก ยกของพึ่บพั่บแป๊บเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อย หญิ ง สาวยกมื อ ขึ้ น ปาดเหงื่ อ เข็ น รถเข็ น คั น เก่ ง ออกมาจาก ตรอกเพื่อจะตรงไปที่ร้านเจ๊ติ๊กหลังจากที่ส่งผักที่ร้านเจ๊ติ๊กเสร็จงานวันนี้ ของเธอก็จะเสร็จแล้วเธอจะได้ไปทํางานพิเศษที่ร้านหมูกระทะต่อซะที มาริอรเข็นรถไปร้องเพลงไปและปากก็ทักทายกับคนในตลาดที่ คุ้นเคยกันดีไปด้วย แต่จังหวะที่ หญิงสาวหมุนข้อมือจับรถเข็น เข้าโค้ง ด้วยความเร็วร้อยแปดสิ บกิโลเมตรต่อชั่วโมงก็มีรถเข็นที่เพิ่งส่งปลาทู ให้กับร้านข้างหน้าเสร็จวิ่งตรงมาพอดี หญิงสาวพยายามบิดข้อมือหักหลบ แต่เพราะมือลื่น รถคันเก่ง ของเธอก็เลยลื่นไถลด้วยความเร็วสูงออกไปยังถนน มาริอรยืนเบิกตา กว้างเมื่อเห็นรถเบ็นช์คันหรูสีดําสนิทเงาวับที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเบรก สุดชีวิตเพราะ ‘รถเข็น’ คันเดียว เสียงเบรกดังสนั่นหวั่นไหวก่อนรถเข็น จะกระแทกเข้ากับข้างรถคันหรูและรถคันนั้นก็หมุนตลบสามร้อยหกสิบ องศาไปจอดสนิทอยู่ริมฟุตบาท “ตายแน่!!” มาริอรวิ่งพรวดพราดไปหารถเข็นที่สุดแสนจะต่ําต้อยที่บังอาจ ใฝ่สูงไปจูบแก้มรถเบ็นช์คันหรูอยู่ริมถนนแล้วก็อยากจะฆ่าตัวตาย ทําไม รถเข็นของเธอมันไม่รักดี ใฝ่สูงสะเออะไปเลิฟๆ น้องรถเบนซ์ซะได้ แล้ว แบบนี้เธอจะเอาปัญญาที่ไหนไปจ่ายค่าซ่อมรถให้เขาล่ ะ แค่ค่าซ่อมยาง รถข้ างเดีย วเธอยัง ไม่ มี ปั ญ ญาจะจ่ ายเลย! เทวดาเจ้ าขาลูก อยากถู ก ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง! “เอ่อ…” มาริอรอึ้งไปนิดหนึ่งเมื่อประตูรถฝั่งคนขับเปิดออกมา คนขับรถ ใส่สูทสีดําสนิทมือข้างหนึ่งกุมศีรษะเอาไว้เลือดสีแดงสดไหลออกมาจาก บาดแผล เธอนึกว่าอีตาคนขับจะวิ่งมาด่าเธอแต่คนขับ กลับวิ่งไปเปิ ด ประตูรถเบาะหลัง รองเท้าสีดําสนิทขัดจนขึ้นเงาดูราคาแล้วคงจะราคา

17


ซาตานอ้อนรัก แพงกว่ารองเท้าผ้าใบคู่ชีพคู่ละเก้าสิบเก้าบาทสําหรับใส่ทํางานของเธอ หลายเท่าก้าวลงมา มาริอรอ้าปากค้างเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงที่ก้าวลงมาจากเบาะ หลังของรถยนต์คันหรูถนัด ดวงตากลมโตใสแจ๋วของหญิงสาวเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นระรัวจนแทบหายใจไม่ทัน หล่อมากกกกกกกกก! หล่อไม่บันยะบันยัง! หล่อลากไม่เกรงใจใคร! หล่อจนน่าลากไปข่มขืน! อุ๊บ! เผลอออกอาการเยอะไปหน่อย เธอเป็นกุลสตรีศรีสยามนี่ หว่า ลืมตัวไปได้ยังไงกันเนี่ย? แม้ว่ามาริอรจะไม่ค่อยบ้าผู้ชายหน้าตาดี เท่าไรแต่ก็อดยอมรับ กั บ ตัว เองไม่ ได้ว่ าผู้ชายคนนี้ ห ล่อ ลากไม่ เกรงใจใคร ชายหนุ่ ม พกพา ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรลงมายืนมองสภาพรถด้วยใบหน้าและ แววตาไม่บ่งบอกความรู้สึก สงสารก็แต่คนขับรถขนาดหัวแตกยังต้องมา เปิดประตูให้คุณชายผู้ยิ่งใหญ่ท่านลงมาเพราะอีตาคนหล่อมันคงลืมเอา มือมาเลยเปิดประตูลงมาเองไม่ได้ “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” มาริอรบอกเสียงอ่อยรู้ตัวว่าผิดเต็มประตูบรรดาคนในตลาดก็ ออกมายืนมุงดูกันเต็มไปหมดแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ ๆ ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ตามประสาไทยมุงที่ดี “รู้มั้ยว่ารถของผมราคาเท่าไร?” คําถามแรกที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเขาทําให้มาริอรรู้ว่า ผู้ชายคนนี้นอกจากจะหน้าตาดีแล้วยัง มีเสียงที่ไพเราะทุ้มหูอีกต่างหาก ดวงตาของหญิงสาวเหม่อลอยเคลิบเคลิ้มราวกับว่าชายหนุ่มกําลังขับ ขานเสียงเพลงไพเราะเสนาะหูให้เธอฟัง หาใช่การเอ่ยปากถามเธอเพื่อ รอคอยคําตอบอย่างที่ควรจะเป็น

18


วารีราเพย “ไอ้หนูไม่ได้ยินเหรอคุณชายถามเราอยู่นะ?” ไอ้ได้ยินน่ ะได้ยินอยู่หรอก แต่เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่ารถของอีตา คุณชายราคาเท่าไรแต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือมันต้องแพงมากนั่นแหละและคน อย่างเธอก็คงไม่มีปัญญาแม้แต่จะซื้อล้อมันมากลิ้งเล่น มาริอรยังไม่ทันอ้าปากตอบก็มีรถเก๋งสีดํา แต่ไม่หรูเท่ารถเบ็น ซ์ คันแรกที่ตอนนี้ข้างหน้าพังยับไปแถบหนึ่ งวิ่งเข้ามาจอดอีกสี่ห้าคันและ ผู้ชายในชุดสูทสีดําคันละสี่คนก็วิ่งพรวดพราดลงมาล้อมเธอและคู่กรณี สุดหล่อเอาไว้ ตายแล้ว ! ฉันจะต้องเอาชีวิ ตมาสังเวย เพราะรถเข็ นใฝ่สูงคั น หนึ่งเนี่ยนะ ฮือ ฮือ ฉันมีน้องสาวที่ต้องเลี้ยงดู มีเพื่อนที่ต้องคอยเกาะ มันกินเป็นบางครั้ง อย่าเพิ่งเอาชีวิตน้อยๆ ของมิลค์ไปเลยนะเจ้าคะ “เกิดอะไรขึ้นครับคุณชาย? คุณชายไม่เป็นอะไรนะครับ?” บรรดาลูกสมุนวิ่งเข้าไปสุมหัวถามอาการคุณชายกันยกใหญ่โดย ไม่ มีใ ครสนใจคนขับ รถตาดํา ๆ ที่ยืน หัว แตกเลือดอาบแม้ แต่คนเดีย ว เฮ้ อ ! อนิ จ จั ง ชี วิ ต คนขั บ รถช่ า งไร้ ค่ า ใครๆ ก็ ไ ปห้ อ มล้ อ มคุ ณ ชาย ผู้ยิ่งใหญ่กันหมด “ไอ้หนู! ฝีมือนายใช่มั้ย?” คนใส่สูทสีดําหนึ่งในนั้นหันหน้ามาหามาริอรและเดินมาหิ้วคอ เสื้อเธอขึ้นจนมาริอรตัวลอย หน็อย! แมนมากนะแก ข่มขู่ผู้หญิงเนี่ยน่า ภูมิใจจริงๆ “ปล่อยฉันนะ!” หญิงสาวพยายามปัดมือของมันออกและก็ดิ้นเป็นเจ้าเข้าเพื่อให้ มันปล่อยมือออกจากคอเสื้อเธอ แต่ดิ้นเท่าไรก็ดิ้นไม่หลุด เธอก็เลยยิ่ง เพิ่มแรงดิ้นมากขึ้นจนหมวกที่สวมเอาไว้หลุด เส้นผมดํายาวสลวยเป็น มันเงาของเธอค่อยๆ สยายตัวลงมาและคนที่หิ้วคอเธออยู่ก็ปล่อยมือ ทันที “ผู้หญิง!”

19


ซาตานอ้อนรัก มาริอรลงมานั่งจุกบนพื้นเพราะมันปล่อยแบบไม่บอกให้เธอรู้ตัว มาก่อน หญิงสาวก็เลยไม่ทันได้ตั้งตัวลงมานั่งพับเพียบเรียบร้อยกับพื้น โดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้ว่าท่าทางการนั่งของเธอจะเป็นกุลสตรีศรีสยาม น่าชื่นชม แต่จะมีใครรับรู้ถึงความจุกและเจ็บที่กําลังเกิดขึ้นกับเธอบ้าง ไหมว่ามันสร้างความทรมานให้เธอมากเพียงใด “ก็ผู้หญิงนะสิ! จะปล่อยก็ไม่บอกกันล่วงหน้าเจ็บชะมัด” หญิงสาวยันตัวลุกขึ้น กระดูกตรงสะโพกของเธอคงจะหักเกือบ หมดแล้วละมั้งถึงได้รู้สึกเจ็บสะโพกขนาดนี้ “หลีกไป พาคนขับรถไปหาหมอด้วยและไปจัดการเคลียร์คนที่ มุงดูให้เรียบร้อยฉันไม่ชอบคนเยอะๆ” คุณ ชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ม าริอรไม่ ทราบชื่อออกคํ าสั่งด้ว ยน้ํ าเสีย ง ราบเรียบ มันเป็นมาเฟียรึเปล่าฟระ? ไปไหนมาไหนถึงได้พกลูกน้องเป็น โขยงไปด้วย ไม่จริงนะ! ถ้าอีตาบ้านี่เป็นมาเฟีย เธออาจจะถูกลงโทษอย่าง รุนแรงก็ได้ เธอเคยเห็นในหนังที่มาเฟีย ลงโทษคนที่บังอาจขัดใจมาเฟีย ด้วยการ ตัดนิ้วคน! ตัดแขนคน! ตัดขาคน! ตัดลิ้นคน! และสารพัด วิ ธี ก ารลงโทษที่แ สนน่ ากลัว ไม่ น ะ! เธอไม่ อยาก พิการ! ขนาดครบสามสิบสองยังจนขนาดนี้ ถ้ าอวั ยวะหายไปไม่ ครบ สามสิบสองแล้วจะจนขนาดไหน? “ครับคุณชาย” บรรดาพวกคนใส่สูทพาคนขับรถที่หน้าซีดเพราะเลือดใกล้จะ หมดตัวไปขึ้นรถและก็ขับออกไปก่อนจะแยกย้ายกั นไปเคลียร์พื้นที่ตาม คําสั่งของ ‘คุณชาย’ โดยไม่ลืมเหลือบรรดาพวกสูทชุดดําทิ้งไว้อีกสี่ห้า

20


วารีราเพย คนให้คอยคุ้มครองคุณชาย คงจะกลัวว่าผู้หญิงตัวเล็กแถมเตี้ยอย่างเธอ จะเข้าไปประทุษร้ายคุณชายผู้บอบบางที่ตัวสูงปรี๊ด เหมือนเปรตไม่มีผิด จนร่างกายสะบักสะบอม “นาย…เอ่อ…คุณจะชดใช้ค่าเสียหายไหวเหรอ?” คุ ณ ชายสุด หล่ อหน้ า นิ่ งมองมาริอ รตั้ งแต่ศี ร ษะจดปลายเท้ า หน็อย! ดูถูกกันรึยังไง? เห็นแบบนี้ฉันก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะยะ! กล้า ทําก็ ต้องกล้ารับ อยู่แ ล้ว ในเมื่ อเขากล้าถามหญิงสาวก็ ก ล้าที่จะตอบ ออกไปทันที “ไม่ไหว!” ลําพังค่าล้อข้างเดียวฉันยังมืดแปดด้าน แล้วจะไปมีปัญญาชดใช้ ค่าเสียหายได้ยังไงละวะ? สวรรค์จ๋า โปรยเงินลงมาให้ลูกช้างทีเจ้าค่ะ “จริงๆ ไอ้ค่าซ่อมรถเนี่ยคงจะราคาไม่เท่าไรผมไม่ซีเรียส” “จริงเหรอ!? ขอบคุณคุณชายมากเลยนะ” มาริอรยิ้มกว้างและก็โผเข้าไปจับมือของชายหนุ่มด้วยความดีใจ เธอไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรก็เรียกเขาว่าคุณชายเหมือนที่ลูกสมุนของเขาเรียก นั่นแหละดีที่สุด แต่มืออีตานี่นุ่มดีแฮะท่าทางเกิดมาจะไม่เคยหยิบจับ อะไรเลยละสิ? อุ๊ย! ชักจะอยากจับนานๆ ไม่อยากปล่อยซะแล้วสิ “คุ ณ เป็ น คนดีม ากๆ เลยถึ งบุ ค ลิก ภายนอกของคุ ณ จะเชิด ๆ หยิ่งๆ ไม่ค่อยน่าคบเท่าไรก็เถอะ” เธอพูดอะไรผิดเหรอ? มาริอรมองไปรอบตัว เพราะพอเธอพูด จบบรรดาไอ้พวกใส่สูทก็ทําท่าจะวิ่งเข้ามาบีบคอเธอแต่คุณชายโบกมือ เป็นเชิงห้าม แล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปาก ดูไปดูมาอีตานี่ก็เท่เหมือนกัน นะเนี่ย ชาติก่อนทําบุ ญด้ว ยอะไรนะ? ถึงได้มีพร้อมทั้งรูป สมบัติและ ทรัพย์สมบัติแบบนี้ น่าอิจฉาชะมัด “แต่…ค่าความเสียหายทางจิตใจของผมที่คุณทําให้ผมตกใจมัน ไม่อาจจะประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้” มาริอรขมวดคิ้วมองหน้า คนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ‘ค่าความ

21


ซาตานอ้อนรัก เสียหายทางจิตใจ’ อะไรมันจะเลิศหรูปานนั้น? แต่ไม่ว่าจะค่าอะไรเธอก็ ไม่มีจ่ายทั้งนั้นแหละ “คุณจะรับผิดชอบความรู้สึกที่ประเมินค่าไม่ได้ของผมยังไงครับ คุณผู้หญิง?” ชายหนุ่ ม ยกมื อ ขึ้ น ใช้ ป ลายนิ้ ว ชี้ เ คาะขมั บ ตั ว เอง เบาๆ ความรู้สึกที่ประเมินค่าไม่ได้ ของชายหนุ่มกําลังทําให้มาริอรพูดไม่ออก บอกไม่ถูกไปชั่วขณะ นายต้องการอะไรกันแน่ยะ? คนไม่สวยแถมโง่งง เฟ้ย! “คุณต้องการอะไรกันแน่? บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเป็นเงินฉันไม่มี ปัญญาชดใช้ให้คุณหรอก แต่ฉันก็มีความรับผิดชอบพอ ในเมื่อฉันเป็น คนผิดฉันก็ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้แต่เอ่อ …คงต้องขอผ่อนเป็นราย เดือน” “คุก” คุณชายหนุ่มรูปงามขัดขึ้นด้วยน้ําเสียงราบเรียบ ใบหน้าหล่อ เหลาประดับด้วยรอยยิ้มนิดหนึ่ง โอ๊ย! ใจละลาย ยิ่งยิ้มยิ่งหล่อ แม้มันจะ เป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เพทุบายก็เถอะ คนมันหล่อช่วย ไม่ได้จริงๆ มาริอรพยายามตั้งสติทบทวนว่าเมื่อ ครู่เขาพูดว่าอะไร ก่อนจะ เบิกตากว้าง ‘คุก’ ไม่อาวววว! เธอไม่อยากติดคุก! “คุก…ผมไม่มีเวลาจะมารอคุณทุกเดือนหรอกกี่ปีกี่ชาติคุณถึง จะผ่อนใช้ผมหมด” มาริ อ รเงยหน้ า ขึ้ น มองชายหนุ่ ม คอแทบหลุ ด แต่ เ ขากลั บ กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธออีกแล้ว โอ้! หล่อเหลือเกิน ! พ่อเจ้าประคุณรุน ช่องเอ๊ย! มาริอรอยากจะตบหัวตัวเองให้กะโหลกแตก มันไม่ใช่เวลาจะ มาชื่นชมรูปลักษณ์ภายนอกของอีตาคุณชายอยู่นะโว้ยมาริอร! “ถ้าคุณไม่รับผิดชอบการกระทําของคุณด้วยการมาเป็นผู้ดูแล ผม ผมจะส่งคุณเข้าคุก”

22


วารีราเพย “คุณจะบ้าเหรอ!?” มาริอรเบิกตากว้างมีผู้ดูแลเป็นโขยงอยู่แล้วยังจะเอาเธอไปทํา อะไรอีก? “คุณเห็นไหม? คนขับรถของผมต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะ คุณและผมก็เป็นเจ้านายที่ใจดีก็เลยจะให้ เขาพักผ่อนต่อไปอีกสักสอง สามเดือน” “โห! แผลหัวแตกหรือกระดูกหักทั้งตัววะนั่น” “คุณบ่นอะไร?” “เปล่าบ่น” “คุณจะต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายด้วยการมาเป็นผู้ดูแล ผม เพราะถ้าเป็นเงินคุณก็คงไม่มีปัญญาชดใช้ให้ผม” ถึงแม้คําพูดของเขาจะแฝงไปด้วยการดูถูกดูแคลนแต่มาริอรก็ ไม่มีปัญญาจะอ้าปากเถียงเขา เพราะเธอคงไม่มีปัญญาชดใช้ค่าเสียหาย ให้เขาอย่างที่ชายหนุ่มว่านั่นแหละ ทุกวันนี้ก็แทบจะกินข้าวคลุกเกลือ ไอโอดีนอยู่แล้ว จะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเสียหายล่ะ? “โธ่ ! ทํามาเป็ น เรีย กซะเลิศ หรู ผู้ดูแ ล ที่จริงคุ ณ จะเอาฉั น ไป เป็ น เบ๊ ค อยรับ ใช้ใ ช่ ไหมล่ ะ ? แล้ว ทําไมฉั น ต้องไปเป็ น เบ๊ ใ ห้คุ ณ ด้ว ย? แบบนี้มันไม่แฟร์เลย ฉันมีงานที่ต้องทํานะไหนจะต้องคอยดูแลน้องสาว ของฉันอีกด้วย” มาริอรถอนหายใจ ถ้าหากว่าเธอไปเป็นเบ๊ให้เขา แล้วมาริสา น้องสาวของเธอจะอยู่กับใครล่ะ? “งั้นก็จ่ายค่าเสียหายให้ผมซึ่งคงไม่ต่ํากว่าหลักล้านเดี๋ยวผมจะ ให้ทนายของผมประเมินค่าเสียหายแล้วส่งรายละเอียดให้คุณอีกที” “หลั ก ล้ า น! ฉั น ไม่ มี ห รอกตอนนี้ ทั้ งเนื้ อ ทั้ ง ตัว มี แ ค่ ร้อ ยเดี ย ว เท่านั้นแหละ มัดจําไว้ก่อนแปดสิบบาทได้มั้ย ? คุณทอนมายี่สิบฉันจะ เอาไว้เป็นค่ารถกลับบ้าน” มาริ อ รพยายามต่ อ รอง แต่ ดู ท่า ผู้ ช ายตรงหน้ า จะไม่ มี ค วาม

23


ซาตานอ้อนรัก ปรานีให้เธอเลยสักนิด “ไม่งั้นก็คุก” เมื่ อเห็น ท่าทางดื้อรั้นของเธอ อีก ฝ่ายก็ งัด มาตรการเด็ด ขาด ออกมาข่มขู่ ส่งผลให้หญิงสาวถึงกับตาเหลือก ไม่เอา! เธอไม่อยากเข้า คุก “คุณไปอยู่กับผม ไม่ต้องกลัวอดและไม่ต้องเหนื่อยทํางานงกๆ เข็นรถเข็นอะไรแบบนี้ด้วย หน้าที่ของคุณก็แค่คอยดูแลผม ที่พักผมก็ให้ พักฟรี อาหารก็ฟรี แถมผมยังจะคอยดูแลเวลาคุณมีเรื่องเดือดร้อนอีก ด้วย” “จ่ายเงินเดือนให้ด้วยรึเปล่าคะ?” มาริอรกลั้นใจ เปล่งเสียงถามเขาเบาๆ ถึงเธอจะไปทํางานชดใช้ หนี้ แต่ถ้าไม่มีเงินเดือนแล้วเธอจะอยู่ได้ยังไงล่ะ? “ผมจะจ่ า ยเงิ น เดื อ นให้ แต่ หั ก ครึ่ ง หนึ่ ง เป็ น ค่ า เสี ย หายทุ ก เดือน” มาริอรขมวดคิ้ว แล้วเขาจะจ่ายเงินเดือนให้เธอเท่าไรวะ? เอา น่า…ท่าทางเขาออกจะร่ํารวยหรูหราคงจะให้มากอยู่ละมั้ง? “ถ้าคุณลําบากใจก็ไม่เป็นไร คุณมีน้องสาวใช่ไหม?” “มีค่ะ” “หน้าตาเป็นยังไงบ้าง?” “น้องฉันน่ารักมากเลยนะคะ แถมยังเรียบร้อยอ่อนหวาน ว่า นอนสอนง่าย ทํากับข้าวก็อร่อยเป็นแม่บ้านแม่เรือน” พอพูดถึงน้องสาวมาริอรก็อดจะชื่นชมไม่ได้ เพราะน้องสาวของ เธอเป็นเด็กดีและน่ารักทําให้คนเป็นพี่แบบเธอยอมทํางานหนักทุกอย่าง เพื่อจะส่งเสียให้น้องของเธอได้เรียนให้สูงที่สุดเท่าที่เธอจะทําได้ “อายุเท่าไร?” “ยี่สิบสองแล้วค่ะ ตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยเทอมสุดท้าย ฉันถึง ต้องทํางานหนักเพื่อส่งน้องฉันเรียนให้จบให้ได้”

24


วารีราเพย ใบหน้าของมาริอรเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ “กําลังดี ถ้าคุณไม่อยากไปเป็นผู้ดูแลของผม ก็ส่งน้องสาวของ คุณมาให้ผมเพื่อเป็นการชดใช้ค่าเสียหายแทนคุณ” มาริอรหุบยิ้มเบิกตากว้าง จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า “คุณจะเอาน้องฉันไปทําอะไร?” “แล้วคุณคิดว่าผู้ชายเขามีผู้หญิงไว้ทําอะไรล่ะครับคุณผู้หญิง?” มาริอรช็อกยิ่งกว่าช็อกไม่น่าเชื่อว่าคนหน้าตาดี ๆ แบบเขาจะมี ความคิดร้ายกาจแบบนี้ได้ เชอะ! สมควรหรอกที่ต้อ งมีลูกน้องคอยคุ้ ม กันเป็นฝูง คงจะไปสร้างศัตรูเอาไว้เยอะละสิ ไอ้คุณชายมาเฟียขี้เก๊ก! “ตัดสินใจดีๆ ก็แล้วกันนะครับ” “ฉันไม่มีวันยอมเป็นเบ๊ของคุณ และก็ไม่ยอมส่งน้องสาวฉันไป อยู่ในอุ้งมือมารของคนแบบคุณแน่นอน ไอ้คุณชายโรคจิต!”

25


ภาคพิเศษ กว่าจะเป็น Love Club “อะ ไรนะ!!!!? จะให้ ผ มเนี่ ย นะไปเป็ น เพื่ อ นคุย ในคลั บ ไม่

เด็ดขาด!” ชายหนุ่ ม ร่างสูง ใบหน้ าหล่อเหลาคมเข้ ม ละมื อจากการขี ด เขียนออกแบบเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง หันขวับไปมองคนพูดจน คอแทบหลุด เมนี่เกิดนึกคึกอะไรขึ้นมา อยู่ดี ๆ ก็จะให้เขาไปทํางานใน คลับด้วยอาชีพประหลาดล้ํา ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเอาใจผู้หญิงคน ไหนเลยนะ มีแต่ผู้หญิงมารุมเอาใจ แล้วจะให้เขาไปเป็น เพื่อนคุยคอย เอาอกเอาใจผู้หญิงได้ยังไง? “อยากหาอะไรสนุกๆ ทําเหรอเมนี่? ทําอย่างอื่นดีกว่า เลิกคิด เหอะ ขอร้อง” เมนี่ยิ้มหวานหยด รีบเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งลงข้างกายกัลเลียโน่ พร้อมกับส่งยิ้มประจบออดอ้อนขอความเห็นใจ “กัลจ๋าช่วยเมนี่ด้วยนะ เมนี่จําเป็นต้องพึ่งพากัลจริงๆ นะ”


วารีราเพย กัลเลียโน่ถอนหายใจ สงสัยเมนี่จะมีเวลาว่างมากเกินไป ถึงได้มี เวลาคิดเรื่องประหลาดพวกนี้ หรือว่าเขาจะต้องหางานให้เพื่อนสาวทํา เสียแล้ว เธอจะได้ไม่มีเวลาว่าง “รับรองเลยว่าเลิฟคลับจะไม่มีการขายบริการเด็ดขาด เราขาย แค่ ค วามสุ ข ให้ ลู ก ค้ า เป็ น เพื่ อ นคุ ย อะไรแบบเนี้ ย นะกั ล นะ กั ล จ๋ า พลีสสสสสสส” “ดูปากนะ ไม่!! ยังไงก็ไม่!!!” กัลเลียโน่ตอบปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ถึงแม้จะอยากช่วยเพื่อน แต่ชายหนุ่มก็ขอช่วยด้ว ยวิธีอื่น แล้วกัน เรื่องให้ไปทํางานบริการ คน อย่างกัลเลียโน่ไม่มีวันยอมเสียล่ะ “แต่เมนี่จําเป็นจริงๆ นะ เมนี่ต้องทําเลิฟคลับให้มีกําไรเพิ่มขึ้น ทุกเดือนเป็นเวลาสามปี ไม่งั้นคุณพ่อจะให้เมนี่แต่งงานกับเครียสช์ พวก ผู้ใหญ่เขาตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย” กัลเลียโน่พยักหน้าทําท่ารับรู้ “เออ…ก็ดีนะ แต่งสิ แต่งไปเลย จะแต่งวันไหนก็บอกด้ว ยล่ะจะ ได้เตรียมตัวตัดชุดไว้รอ” เมนี่ค้อนขวับส่งให้เพื่อนจนตาคว่ํา เมื่อกัลเลียโน่ไม่สนใจความ เดื อ ดเนื้ อ ร้ อ นใจของเธอเลยสั ก นิ ด แต่ ก ลั บ ไล่ ส่ ง ผลั ก ไสเธอไปให้ เครียสช์อีกต่างหาก “กัลอะ เมนี่อุตส่าห์มีเพื่อนหน้าตาดีกว่าชาวบ้านเขา เรื่องแค่นี้ เองช่วยเมนี่หน่อยสิจ๊ะ เมนี่ไม่อยากแต่งงานกับเครียสช์” “ปากให้มันตรงกับใจบ้างเหอะเมนี่ แต่ง ๆ ไปซะ รวบหัวรวบ หางไปเลย ไอ้เครียสช์มันจะได้ตกเป็นของเมนี่โดยชอบธรรม ไม่ต้องไป เสียเวลาตบตีกับผู้หญิงคนอื่น” “ไม่!!! ถ้าเมนี่จะแต่งงานกับใคร เมนี่จะต้องรักเขาและเขาก็ต้อง รักเมนี่ด้วย” กัลเลียโน่ส่ายหน้า ระอากับความดื้อรั้นท่ามากของเครียสช์กับ

27


ซาตานอ้อนรัก เมนี่ไม่น้อย มีใจให้กัน แต่กลับปากแข็งทําตัวเป็นคู่กัดกันเสียอย่างนั้น แบบนี้มันน่าจับโยนเข้าห้องหอขังไว้สักสามวันสามคืนให้เข็ด “รู้ได้ยังไงว่าเครียสช์มันไม่ได้รักเมนี่เหมือนที่เมนี่รักมัน” “กัล!!!!!! เมนี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาซะหน่อย” “โอเค ไม่คิดก็ไม่คิด ผมจะยอมไปเป็นเพื่อนคุยอะไรนั่นก็ได้ แต่ เมนี่ต้องชวนไอ้เครียสช์มาเป็นด้วย ไม่งั้นยังไงก็ไม่” กัลเลียโน่ตอบเสร็จก็ก้มหน้าลงทํางานของเขาต่อ เป็นอันว่าปิด การเจรจา เมนี่ ถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม ชวนเครียสช์เนี่ ย นะ? แล้วเขาจะยอมช่วยเธอเหรอ? . . . . . . . .

28


ท้ายเล่ม1 หน้าคี่


ท้ายเล่ม2 หน้าคู่


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.