รักใคร่ด้วยใจนิรันดร์ (ตัวอย่าง)

Page 1



ปกใน


ผู้เขียน bigger พิสูจน์อักษร amany ปก-ศิลปกรรม amany พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 2555


จากใจ bigger การจะเขี ย นนิ ย ายสั ก เรื่ อ งขึ้ น มา ไม่ ว่ า จะสั้ น หรื อ ยาว จาเป็นต้องมีที่มาที่ไปหรือแรงบัน ดาลใจทั้งสิ้น ความจริงสาเหตุที่ เขีย น “รั ก &ใคร่ ” ก็ เพราะต้องการให้เ ป็น ของขวัญ แฟนๆ นิ ยาย ของเจ๊สาหรับปีใหม่ 2556 ซึ่งการแจกจ่ายย่อมไม่พออย่างแน่นอน ดัง นั้ น มัน เลยมีก ารพิม พ์เ พิ่ มจากของแจกตามความต้ องการของ น้องๆ พี่ๆ ขึ้นอีก พูดถึงนิยายเรื่องนี้ดีกว่านะคะ จากตอนแรกที่รู้ว่าต้องเขียน เราก็นั่งนึกๆๆ แต่นึกได้ไม่รู้กี่พล็อต จนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาแบบ ไหนดี คราวนี้เลยหาเรื่องแก้เครียดด้วยการให้แอดมินเว็ บคนสวยทา ปกไว้รอซะก่อน ^^…ประมาณว่าเรื่องไม่เสร็จ ไม่ได้เขียนไม่เป็นไร เราจะเอาปกไว้ชื่นชมประมาณนั้น คนทาปกก็ช่างสรรค์สร้าง เพราะทาปกโดยไม่รู้ทีมนิยายและ ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเรื่อง เจ๊นี่เลยลองใส่ชื่อ “รักใคร่ด้วยใจนิรันดร์” เข้า มาให้ก่อน แต่พอเราเห็นชื่อบนปกปุ๊ บ ปิ๊งไอเดียทันที คราวนี้เนื้อ เรื่องก็ไหลออกมาตามชื่อนิยายนั่นแหละค่า สุดท้ายก็อย่างเคยนะคะ ขอให้อ่านด้วยความสนุกสนานรื่นรมย์เพื่อผ่อนคลายจากหน้าที่การ งานค่ะ รักจากใจ bigger


ยอมได้ทุกอย่าง ปรนเปรอได้ทุกสิ่ง ...เพื่อให้เธอได้รู้ซึ้งถึงคาว่ารักจากเขา... ...จนหมดใจ...


1 ท่ามกลางความมื ดมิดในยามค่าคืน แต่บ้านไม้ชั้นเดียว มกลาง หลังกะทัดรัด ยังคงมีแสงไฟสว่างลอดออกมาจากกระจกเหนือ หน้าต่างของตัวบ้าน และภาพที่เห็นนั้นทาให้ทหารหลายคน ซึ่ง กระโดดลงมาจากรถ ต้องยกมือแตะริมฝีปากกันจ้า ละหวั่น แล้ว พึมพาอย่างเกรงใจชายหนุ่มที่หันมามองด้วยสายตาขุ่นคลัก “ขอโทษครับท่าน ผมนึกว่าคุณเฟื่องหลับไปแล้วเลยไม่ ทันระวัง” “พวกมึ ง ชอบเห่ า กลางดึ ก ประจ า ถึ ง ไม่ ใ ช่ เ ฟื่ อ งก็ น่ า จะต้องเกรงใจคนอื่นด้วย” “คร้าบ พวกเราไปนะครับท่าน วันหลังจะมาส่งท่านแบบ เงียบกริบเลยครับ” ถึงลูกน้องเขาจะพูดเหมือนกระซิบ แต่ เมื่อรถยีเอ็มซีออก ตั ว ภควั น ก็ ต้ อ งส่ า ยหน้ า อย่ า งเอื อ มระอา…ผ่ า เถอะ! รถเก่ า คร่าคร่าและเครืองหนักขนาดนั้น ป่านนี้เมียเขาไม่สะดุ้งตืนขวัญ เสียเพราะเสียงรถทีแล่นจากหน้าบ้านไปแล้วหรือ นายทหารหนุ่ม


คิดไม่ผิด เพราะเขายังไม่ทันหมุนตัวกลับด้วยซ้า เสียงเปิดประตู บ้านก็ดังขึ้นพร้อมๆ กับคาทักของเธอ “อ้าว! กลับกันแล้วหรือคะ เฟื่องนึกว่าจะแวะทานน้าหรือ ดื่มกาแฟก่อนเสียอีก” “ผมไล่ไปหมดแล้ว ไม่อยากให้อยู่กวนคุณ” เขาตอบเสี ย งห้ า วแล้ ว กดอารมณ์ บ างอย่ า งที่ แ ล่ น วาบ ขณะปล่อยให้ภรรยาสาวกอดแขนไปรอบเอวเขาแล้วเธอก็ซบหน้า นิ่งอยู่กับอกกว้างอยู่เป็นครู่ …ร่วมเดือนมาแล้ว ที่เฟื่องรัตน์จะทา แบบนี้เป็นประจาทุกครั้งเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน และการกระทา ของเธอนั้น นอกจากจะเพิ่มความสนิทสนมระหว่างคู่แต่งงานใหม่ มั น ยั ง สร้ า งความอบอุ่ น ให้ กั บ หญิ ง สาวจนเฟื่ อ งรั ต น์ ต้ อ งลอบ ถอนใจแผ่วยาว การนั่งรออยู่คนเดียว ในสถานที่ซึ่งไม่ใช่บ้านเกิดของเธอ มันก็ต้องใช้เวลาทาใจอยู่แล้ว ยิ่งสามีกลับบ้านจนดึกดื่น และถึงรู้ ว่าเขาไปทางานแต่เธอก็อดกังวลปนเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวกอด เขาจนคิดว่าพออุ่นใจและคลายกังวลลงบ้าง เธอจึงเป็นฝ่ายขืนตัว ออกห่าง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วหวิว “นั่งพักก่อนนะคะเดี๋ยวเฟื่องไปเอาน้าให้” “ขอบใจมาก” เขาตอบเสียงนุ่มแล้วมองตามร่างบางๆ ที่เดินหายไปครู่ เดียว แล้วกลับมาอีกครั้ง “น้าเย็นๆ ค่ะ…วันนี้ไปที่ไหนมาคะ ทาไมผู้พันกลับดึกจัง” น้าเสียงยังเจือง่วงงุนของหญิงสาวขณะที่มือเล็กๆ ยื่นแก้ว 6


น้ามาให้ ทาให้ชายหนุ่มซึ่งอยู่ในชุดลายพรางของทหารต้องอมยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายเอ่ยถามแทนที่เขาจะตอบคาถามของเธอ “ลุกขึ้นมาทาไม หรือลูกน้องผมเสียงดังจนคุณต้องตื่น ” “เสียงไม่ดังหรอกค่ะ แต่เฟื่องสะดุ้งตื่นเองต่างหาก คือ … เฟื่องเผลอหลับไปน่ะค่ะ ไม่อยากหลับหรอกนะคะ ความจริงนั่ง รอผู้พันมากกว่า แต่หลับไปได้ยังไงไม่รู้” “วันหลังอย่านั่งรออีกเลย ผมจะกลับกี่โมงก็ไม่รู้ ไม่อยาก เป็นภาระให้กับคุณ” ชายหนุ่ ม ที่พู ด ตอบด้ วยน้ าเสี ยงราบเรี ยบแต่เ จื อ ความ ห่ ว งใย ท าให้ ห ญิ ง สาวต้ อ งมองตามร่ า งของผู้ ช ายที่ อ ยู่ ใ นชุ ด ลายพรางของทหารซึ่งเดินเลี่ยงไปมุมห้อง ก่อนเขาจะถอดเสื้อ แขนยาวตั ว นอกออกจนเหลื อ แต่ เ สื้ อ ยื ด สี เ ขี ย วเข้ ม ด้ า นใน… เฟื่องรัตน์ค่อยๆ ปรับสายตาที่พร่ามัว เนื่องจากเพิ่งตื่นใหม่ๆ ใน ยามดึ ก เพื่ อ จั บ ภาพของคนที่ ไ ด้ ชื่ อ ว่ า เป็ น สามี ข องตั ว เองทุ ก จังหวะที่เขาก้าวเดินหรือทาอะไรก็ตาม หญิงสาวยังยืนมองเขาอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ความคิดของ เธอ ประหวัดไปถึงเรื่องราวที่เกิด ขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน…พันโท ภควัน กันทลัส นายทหารหนุ่มที่ได้ชื่อว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อม เพราะนอกจากเขาจะมียศตาแหน่งที่เหมาะสม ภควันยังนับได้ว่า เป็นชายหนุ่มซึ่งหน้าตาดีมากที่สุดคนหนึ่ง จนน่าจะเป็นที่ต้องการ ของผู้หญิงจานวนมาก แต่เขากลับมาอยู่ชายแดน หนาซ้ายั งตกลง แต่งงานกับเธอด้วยสาเหตุที่เฟื่องรัตน์ยังไม่แน่ใจมาจนบัดนี้ “ไปนอนเถอะ เดี๋ ย วผมอาบน้ าเรี ย บร้ อ ยก็จ ะเข้ า นอน 7


เหมือนกัน” “ผู้พันทานอะไรมาหรือยังคะ ให้เฟื่องหาให้ไหม” “อย่าเลย! รบกวนคุณเปล่าๆ แค่งานของคุณก็เหนื่อยจะ แย่” “เฟื่ อ งไม่ เ หนื่ อ ยหรอกค่ ะ อาจจะอยู่ ตั ว แล้ ว มั ง คะ ให้ เฟื่องหาอะไรง่ายๆ ให้ทานนะ” รอยยิ้มห่วงใยและจริงใจของเธอ ทาให้เขาต้องผงกศีรษะ รับก่อนชายหนุ่มจะตอบเสียงแผ่ว “ก็ได้” “รอสักครู่นะคะ ผู้พันอาบน้าเสร็จคงได้ทานพอดี” เขาพยักหน้ารับเมื่อเห็นรอยยิ้มสดชื่นขึ้นมาบ้างของเธอ และแค่ลับร่างบอบบางที่เดินหายไปทางห้องครัวเล็กๆ ของบ้าน หลังกะทัดรัดเท่านั้น พันโทภควันก็ต้องถอนหายใจยืดยาว ก่อน จะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่เหมือนหมดแรง…บ้าฉิบ! ให้เขา เจอศัตรูทีน่ากลัวยิงกว่าผีนรก มันคงจะดีกว่าได้เห็นหน้าหวานๆ และน้่าเสี ยงนุ่มนวลของหญิงสาวทีได้ชือว่าเป็นภรรยาของเขา คนนี้ ในขณะที่ หู เ ขาได้ ยิ น เสี ย งกุ ก กั ก ดั ง มาจากในครั ว นายทหารหนุ่มซึ่งนั่งนิ่งแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ก็ตัดสินใจลุก ขึ้ น อี ก ครั้ ง ก่ อ นจะเดิ น หายไปในห้ อ งน้ าภายในห้ อ งนอนของ ตัวเอง…ช่วงที่น้าอุ่นจัดไหลผ่านเรือนร่าง เรื่องราวต่างๆ เมื่อสาม เดือนก่อนก็แวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง… เฟื่องรัตน์ ผดุงวัฒน์ หญิงสาวทีเพิงจบการศึกษาระดับ 8


ปริญญาตรีหมาดๆ และน่าจะเพราะไฟทีแรงจัด ท่าให้เธอสมัคร เข้ามาเป็นอาสาพัฒนาในดินแดนทีเป็นตะเข็บชายแดนแบบนี้ ครั้งแรกทีเขาเห็นเธอ ก็คงเป็นงานเปิดศาลาชุมชนของ หมู่บ้าน และใบหน้าทีเปื้อนเปรอะไปด้วยฝุ่นผงของผู้หญิงคนหนึง ซึงยื น ยิ้ ม สว่ างช่ ว งที เขาเป็ น คนกระตุก เชื อ กเพื อเปิ ด แผ่ น ป้ า ย ศาลาเอนกประสงค์ ท่าให้ภควันต้องมองเธอด้วยความประหลาด ใจ…มือขาวบางขนาดนั้น และแขนเรียวเล็ กแค่นี้ เจ้าหล่ อนยัง สามารถถือถังบรรจุหินดินทรายได้ยังไง จากวั น นั้ น เขาก็ ยั ง เห็ น เธอบ่ อ ยๆ ตามงานพั ฒ นาในที ต่างๆ ของชุมชน ทั้งๆ ทีเขาคิดว่าเธอน่าจะกลับเมืองกรุงหลังงาน เสร็จ แต่ค่าตอบทีได้รับจากการฟังค่าพูดของลูกน้อง ท่าให้ภควัน ต้องขมวดคิ้วมุ่นในวันหนึง “ได้ข่าวว่าเธออกหักมังครับ เลยคิดจะอยู่ยาวทีนี” “อกหัก!” “ครับท่าน แฟนของเธอรู้สึกว่าจะท่างานร่วมกันทีนีด้วย” “มาท่างานพัฒนาด้วยกันรึ พวกมึงเคยเห็นไหม” “ไม่เคยเห็นครับ แต่ผมได้ข่าวมาอีกที พอดีได้ยินชาวบ้าน เขาคุยกันน่ะครับ” “ข่าวลืองั้นสิ” เขาพึ ม พ่ า แล้ ว ท่ า ตาขุ่ น ขึ้ น มาทั น ที เ มื อได้ ยิ น ค่ า ถาม ย้อนกลับจากลูกน้องทีก่าลังหัวเราะร่าอย่างไม่รู้ตัวว่าขัดหูขวางตา ของเจ้านาย “ท่านถามถึงเธอท่าไมครับ หรือว่าสนใจจะช่วยดามอก 9


ให้” “มึงไปไกลๆ ตีนกูเลยไป ถามแค่นี้ดันคิดไปโน่น” ลู ก น้อ งเขาแผ่ นแผล็ ว ไปจริ ง ๆ เมื อได้ ยิน เสี ย งกระชาก ห้วนๆ แต่ไอ้ตัวดีไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะหลังจากวันทีเขาเอ่ยปาก ถามถึ ง เฟื่ อ งรั ต น์ ไ ม่ น านเท่ า ไหร่ ข่ า วว่ า เขาสนใจในตั ว เธอก็ กระจายไปทัวทั้งค่าย รวมไปถึงน่าจะกระจายไปทั้งหมู่บ้าน สิงเหล่านั้นไม่ใช่สาเหตุทีท่าให้เฟื่องรัตน์แต่งงานกับเขา เพราะแค่ข่าวลื อและค่าหยอกล้ อเพือจับ คู่ ดูจะไม่ท่าให้ผู้ หญิง คนนั้นหวันไหวแม้แต่น้อย แต่สาเหตุทีเฟื่องรัตน์ยอมตกปากรับค่า แต่ ง งาน น่ า จะมาจากสาเหตุ ส่ า คั ญ ซึ งเขาและเธอดั น จั บ พลั ด จับผลูได้อยู่ด้วยกันข้ามคืนเพราะเหตุจ่าเป็นบางอย่างต่างหาก “ผู้พันคะเสร็จแล้วค่ะ” เสียงพูดหวานๆ ของเธอดึงภวังค์ความคิดของชายหนุ่ม ให้ก ลั บ เข้า สู่ ค วามเป็น จริง อีก ครั้ง ภควัน รีบ ออกจากห้อ งของ ตนเองก่อ นจะเดิน ตรงไปยังห้อ งครัวที่อ ยู่ติดๆ กับ ห้องรับแขก อย่างรวดเร็ว “ผมทาให้คุณยุ่งหรือเปล่า” เขาเอ่ ย ถามแล้ ว ทรุ ด ตั ว ลงนั่ ง ตรงกั น ข้ า มกั บ ภรรยาที่ เหมือนจะมีดวงหน้าระเรื่อขึ้นกว่าเดิม …เฟื่องรัตน์หน้าร้อนจริงๆ ตั้งแต่เห็นสามีหนุ่มซึ่งเดินออกมาจากห้อง และเขาอยู่ในสภาพ ท่อนบนโล่งเปลือยเพราะภควันสวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว “ไม่หรอกค่ะ เฟื่องต่างหากละคะที่เป็นตัวยุ่งสาหรับผู้พัน แต่ถ้าเฟื่องได้ดูแลผู้ พัน ก็คงรู้สึ กดีขึ้ นมาบ้าง ดังนั้น วัน หลังอย่า 10


ห้ามเฟื่องไม่ให้นั่งรอผู้พันเลยนะคะ” เธอพูดยิ้มๆ ก่อนยื่นช้อนส่ง ให้กับเขา “เฟื่อ งกลั วว่า จะหนัก ท้อ งเกิน ไปส าหรับ มื้อ ดึก เลยท า ข้าวต้มทรงเครื่องให้น่ะค่ะ ทานสิคะกาลังร้อนๆ” “ขอบใจมาก แต่ที่ผมถามเพราะเป็นห่วงและไม่อยากให้ คุณลาบาก” คาตอบเรียบง่ายแต่แฝงความเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียด นิ้ว ทาให้หญิงสาวต้องลอบถอนใจแผ่วขณะนั่งมองชายหนุ่มที่เริ่ม ทานอาหาร…นั บ วัน เธอก็ อ ยากอยู่ ใกล้ เขามากขึ้ น เรื่ อ ยๆ และ บางครั้งเฟื่องรัตน์เองก็ต้องตกใจกับความคิดพิเรนทร์ที่นึกไปถึง การได้นอนร่วมห้องกับเขา “อย่าทางานหนัก จนลื ม ดูแลตัวเองด้ วยล่ ะ คุณ ผอมลง มากเลยนะ” “น่าเกลียดไหมคะ ผู้พันคิดว่าเฟื่องผอมมากเกินไปหรือ เปล่า” เธอถามเสียงสูงเหมือนวิตก “ผอม…แต่ไม่น่าเกลียด” เขาตอบด้วยน้าเสียงเรื่อยๆ ก่อนจะตักอาหารเข้าปากแล้ว หลุบตาต่าเพื่อปิดบังความรู้สึกบางอย่างของตนเอง…เฟื่องรัตน์ อาจจะผอมแต่เขาก็รู้ด้วยสายตาของผู้ชายว่า ภรรยาเขามีในสิ่งที่ ควรมีและขาดในสิ่งที่ควรขาด… “เฟื่องก็ทานเยอะนะคะแต่อาจทางานหนักเหมือนผู้พัน ว่า เลยทาให้ผอมลงบ้างนิดหน่อย” ท้ายเสียงอุบอิบไม่ยอมรับ แต่แล้วเฟื่องรัตน์ก็พูดตามมา 11


ด้วยใบหน้าตื่นเต้นเหมือนนึกได้ “แต่ถ้าผู้พันไม่ชอบเฟื่องจะดูแลตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ” “ผมอาจจะบอกว่าคุ ณ ผอม แต่ ไ ม่ไ ด้ห มายความว่าผม รังเกียจ” “คือ…เอ่อ…เฟื่องรู้ค่ะว่าผู้พันไม่รังเกียจ ไม่อย่างนั้นคงไม่ แต่งงานกับเฟื่อง” คาพูดอึกอักและท่าทางประหม่าของเธอ ทาให้ชายหนุ่ม ต้องวางช้อนในมือก่อนจะจ้องอีกฝ่ายอย่างจริงจัง “คุณ อาจจะแต่งงานกับผมเพราะเหตุจาเป็น แต่ผมขอ บอกให้รู้ตรงนี้ว่า ถ้าผมตกลงแต่งงานกับคุณแล้ว ผมจะอยู่กับคุณ ไปจนตลอดชีวิต” “เฟื่องพอเข้าใจค่ะ แต่ว่า…คือ…เฟื่อง” เฟื่องรัตน์ตอบรับแล้วอึกอักขึ้นมาอีกหน เพราะหญิงสาว ไม่กล้าพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองแม้แต่น้อย…ก็เธออายเขานี! จะให้ เธอออกปากไปเหรอว่า เธอไม่ได้จ่าใจอยู่กับเขาแม้แต่น้อย แล้ว นับวันเธอก็แทบไม่เป็นอันท่างานเพราะหัวใจคอยร่าร้องคิดถึงแต่ ผู้ ช ายคนนี้ อ ยู่ ทุ ก วิ น าที อ ย่ า งนั้ น หรื อ และถ้ า บอกเขาไปแล้ ว ภควันจะคิดอย่างไร ในเมือตั้งแต่วันแต่งงานจนสามเดือนเข้าไป แล้ว เขายังไม่เคยเอ่ยปากว่ารักเธอสักที “คุ ณ ไปนอนเถอะ ขอบคุ ณ ที่ อุ ต ส่ า ห์ ตื่ น กลางดึ ก มา ทาอาหารให้” “ค่ะ” เธอรั บ ค าเสี ย งแผ่ ว แล้ ว ลุ ก ขึ้ น อย่ า งอิ ด ออด เฟื่ อ งรั ต น์ 12


อยากจะอยู่พูดคุยกับเขาอีกสักนิด แต่ในเมื่อชายหนุ่มพูดเหมือน ไล่ เธอจึงได้แต่ถอนอกถอนใจเท่ านั้น ท่าทางกระอักกระอ่วนใจ ของหญิงสาวราวจะมีเรื่องอึดอัดในใจ ทาให้ชายหนุ่มต้องเรียก ด้วยเสียงอ่อนโยน “เฟื่อง” “ขา” หญิงสาวหันขวับอย่างดีใจเมื่อได้ยินเขาเรียก “ก่อนออกจากบ้าน ผมตั้งใจจะซื้อของสวยๆ มาฝากคุณ แต่ว่าวัน นี้ผ มเข้ าป่า แล้ วแถวนั้ น ก็ไ ม่มีข องขาย เลยได้ไ อ้นี่ม า ฝาก” ดอกไม้ ช่ อ งามถู ก ยื่ น มาให้ แต่ ก่ อ นที่ ห ญิ ง สาวจะรั บ ชายหนุ่มก็เด็ดดอกเล็กๆ สีชมพูหวานเอาไปหนึ่งดอก “กล้วยไม้หรือคะสวยจัง” เธอถามอย่างตื่นเต้นและเต็มตื้น ขณะที่เฟื่องรัตน์กาก้าน แข็ง ซึ่งประดับด้วยดอกเรียงอัดแน่นเป็นพวงไว้ในมือ เธอก็ต้อง ก้มหน้าลงต่าอย่างขัดเขินเพราะแก้มร้อนจัด …ดอกไม้ในมือของ ภควันถูกทัดเข้ากับซอกหูของเธอ “เขาเรียกกันว่าเอื้อง ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเอื้องอะไร แต่ เห็นดอกมันแล้วทาให้ผมนึกถึงคุณ” “ยังไงคะ หรือว่าหน้าเฟื่องเหมือนดอกกล้วยไม้” “เปล่ า สี ข องมัน ต่างหากที่ ทาให้ผ มนึ ก ถึง แก้ม ของคุ ณ เวลาอาย” ค าตอบตรงๆ ของเขา แต่ เ มื่ อ หลุ ด ออกมาจากปาก ของผู้ ช ายหน้ า เข้ ม และก าลั ง มองเธอด้ ว ยดวงตาพราวระยิ บ 13


เฟื่องรัตน์ก็อึ้งแล้วหน้าร้อนซู่อย่างปัจจุบันทันด่วน…หญิงสาวกลัน้ หายใจอย่างไม่รู้ตัว เมื่อใบหน้าคมนั้นก้มใกล้ แค่ปากเรียวหนา แตะแผ่ ว บนกลี บ ดอกไม้ ที่ ข้ า งหู ลมหายใจร้ อ นจั ด ของเขาก็ กระทบกับซอกแก้ม จนเฟื่องรัตน์อยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด “ความจริงอยากดึงมาฝากทั้งกอ แต่เพราะเสียดายเลย เอามาแค่ช่อเดียว คุณไม่โกรธใช่ไหม” “ไม่ค่ะ” เธอตอบทั้งสั้นและเบาหวิวแล้วก้มหน้าต่ายิ่งขึ้นจนคาง แทบจรดอก คุณ พระคุณ เจ้า ! ดวงตาเข้ มสี ส นิม เหล็ก ที่ทอแวว หวานฉ่า มันทาให้เธอไม่อาจต่อสายตากับเขาได้ “ฝันดีนะเฟื่อง” มือกร้านที่แตะแผ่วบนแก้มเธอ ก่อนร่างสูงๆ นั้นจะเดิน แยกไปทางห้องของเขา ทาให้เฟื่องรัตน์ต้องกัดริมฝีปากแน่นเพื่อ ระงับหัวใจที่เต้นระรัวให้เข้าที่ …เธอแต่งงานกับพัน โทภควันมา สองเดือนแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่เคยร่วมห้องหรือร่วมเตียงสักที และ ตอนนี้เฟื่องรัตน์เพิ่งจะรู้ตัวว่า เธอกาลังหลงรักสามีของตนเองจน แทบจะคลั่งตาย…

14


2 ตั้งแต่แต่งงาน หญิงสาวยังแอบมองและเฝ้ามองสามีอยู่ อย่างนั้น จนแม้ขณะนี้พันโทภควันเข้าห้องนอนของเขาไปแล้ว เฟื่องรัตน์ก็ต้องลอบถอนใจแล้วเดินเหงาๆ เข้าห้องของตัวเอง… ร่างบอบบางที่นอนกระสับกระส่าย ก่อนจะยกปลายนิ้วขึ้นแตะ ริมฝีปากตัวเองเมื่อนึกวันแรกที่ได้แต่งงานกับเขา ภควันอุ้มเธอมาส่งถึงบนเตียงในห้องนี้ แล้วเขาก็โน้มตัว ลงทาบเรียวปากแผ่ วผิ วเหนือ ริม ฝี ปากเธอ ‘ฝันดีจ้ะ’ ประโยค สั้นๆ ในคืนแรกของการแต่งงาน กลายมาเป็นคาพูดติดปากของ เขาอยู่ทุก คืน และตอนนี้เ ฟื่อ งรัต น์ ก็นึก เกลี ย ดค าพู ด นั้น อย่า ง ที่สุด…เธออยากให้เขานอนลงข้างๆ มากกว่าจะบอกลาด้วยคาพูด เดิมๆ อยู่ทุกคืน ในขณะที่เฟื่องรัตน์นอนเหงาอย่างเซื่องซึม ห้องติดกันกับ หญิงสาวก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง นอนมองมือที่ยกขึ้นของตนเอง… ภควันจ้องนิ่งไปยังนิ้วซึ่งสวมแหวนปลอกมีดที่นิ้วนางซ้าย แล้ว ถอนหายใจอย่างหนักอก…


ความใคร่ที่มาก่อนรัก แต่เมื่อต้องจาก เขาจึงรู้ว่า ...ผู้หญิงที่ตนเองคิดแค่เธอเป็นเครื่องสนองตัณหานั้น... ...มันไม่ใช่


1 อีกครั้ง…ที่พาคินทร์ก้าวลงจากรถแล้วได้เห็นภาพซึ่งเจน ตามาหลายวัน นั่น ก็คือ เด็ก สาวที่นั่งเศร้าเจ่าจุก อยู่ค นเดียวใน ศาลาริมน้า…อาการแบบนี้ถึงไม่ต้องเดา เขาก็รู้ว่าหลานสาวนอก ไส้คงจะอกหักหรือมีปัญหาทางใจอีกแน่ๆ ชายหนุ่มเห็นแล้วก็ต้อง ทาท่าเอือมระอา แต่ขายาวๆ กลับก้าวตรงไปหา แล้วเอ่ยถามด้วย คาพูดที่ฟังเหมือนเหยียด “อกหักอีกแล้วละสิ” “อย่ามาซ้าเติม ลิ ล ลี่ น ะคะ ถ้าว่างงานนัก อาคิน ท์น่าจะ ออกไปเที่ยว…กับแม่พวกนั้น” “หยาบคาย! ผู้ห ญิงที่ลิ ล พูด ถึงน่ะเขาเป็นคนมีเชื้อ สาย ทั้งนั้น” “แน่ละสิ! ลิลลี่จะเลิศเลอเทียบพวกนั้นได้ยังไง” การเถี ย งค าไม่ ต กฟากของเธอ ท าให้ ช ายหนุ่ ม ต้ อ งกั ด กรามแน่ น แต่ ค รู่ เดี ย วเท่ านั้ น เขาก็ท าท่ าหมุน ตัว พร้ อ มพึม พ า อย่างฉุนๆ


“เบื่อคนกวนประสาท ฉันเข้าบ้านดีกว่า” “อาคินท์คะ นี่อาคินท์ไม่คิดจะถามเรื่องที่ลิลลี่นั่งเศร้าสัก นิดเหรอ” เธอถามแล้วลุกพรวด “เรื่องของเธอปะไร ถึงฉันถามไปเธอก็พูดโยกโย้ไม่เข้าท่า ฉันเบื่อที่จะคุยกับเด็กพูดไม่รู้เรื่อง เตือนไปก็ไม่เคยฟัง” “วันหลังก็อย่ามายุ่งสิ ปล่อยให้ลิลลี่อกหักงี่เง่าอยู่คนเดียว จะไปไหนก็ไปไป๊” “ฉันไปแน่” เขาพูดด้วยน้าเสียงเรื่อยๆ ก่อนชายหนุ่มจะ กระซิบแผ่วตามมาอีก “ยายเด็กใจแตก” “กรี๊ด” ลลิลดากรีดเสียงแล้วกระทืบเท้าอย่างเช่นเด็กสาวทีเ่ อาแต่ ใจ แต่ภาพและเสียงหวีดแหลมของเธอ ก็คล้ายจะเจนตาเจนใจ ชายหนุ่ม จนพาคินท์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างสังเวชก่อนเขาจะเดินขึ้น ไปชั้นบนอย่างหมดความสนใจในตัวเธอ…และแค่ลับร่างสูงใหญ่ นั่นเท่านั้น ร่างบอบบางในชุดอยู่กับบ้านง่ายๆ ก็ถึงกับทรุดฮวบ จนคนที่แอบดูเหตุการณ์อยู่ ต้องรี่เข้ามาแล้วลูบหลังลูบไหล่อย่าง ปลอบโยน “คุณลิลลี่ อย่าร้องนะคะ…อย่าร้องคนดี” “ลิ ล ลี่ ไ ม่ร้อ งค่ะป้า ลิ ล ลี่ จ ะไม่ให้เ ขาเห็น น้าตาเด็ ด ขาด ลิลลี่ไม่ร้อง” หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่น แต่เธอก็ไม่อาจกลั้นน้าตาที่พรูลง อาบแก้ม ถึงแม้ลลิลดาจะเพียรเช็ดและย้าตนเองอย่างมี ทิฐิ แต่ เธอก็ไม่สามารถบังคับน้าตาให้หยุดไหล…ลลิลดาไม่ใช่เด็กสาวที่ 72


เอาแต่ใจอย่างภาพที่แสดงออก แต่เธอตั้งใจทาทุกอย่างที่รู้ว่าจะ ขัดตาขัดใจพาคินท์ ตลอดจนสร้างความหงุดหงิดให้กับเขาเท่าที่ สามารถทาได้ และผลสุ ดท้ายเธอเองนั่น แหละ ที่ต้อ งเป็น ฝ่ าย ร่าไห้เมื่อลับสายตาของเขาคนนั้น วาจาเชือดเฉือนของชายหนุ่ม ทาร้ายเธอได้ทุกครั้ง และ ยิ่งเธอต่อต้านทาตัวเป็นอริกับเขามากเท่าไหร่ ลลิลดาก็รู้สึกถึง ความเจ็บที่สะท้อนกลับมาหาเธอเป็นทวีคูณ …เธอรักเขา รักยิ่ง กว่าทุกสิ่ง ลลิลดารักพาคินท์ รัก แม้ว่าชายหนุ่มจะเห็นเธอเป็น แค่ดอกไม้ไร้ค่าก็ตาม “อดทนไว้นะคะคุณ ลิลลี่ อีก ไม่นานท่านคงแต่งงาน ถึง ตอนนั้นคุณลิลลี่น่าจะสบายเสียที” “แล้วเมื่อไหร่ละคะ เมื่อไหร่เขาจะแต่งงาน เมื่อไหร่เขาถึง จะยอมปล่อยลิลลี่” “คงเร็วๆ นี้แหละค่ะ ตอนคุณลิลลี่ไปเรียนหนังสือ ป้าเห็น ผู้หญิงของท่านมา เธอบอกว่าท่านจะพาไปซื้อแหวนหมั้น แล้วเขา ก็ออกไปพร้อมกันนะคะ” เจ็บกับข่าวที่ได้ยิน แต่ถึงจะเจ็บจนชาไปทั้งหัวใจ ลลิลดา กลั บ แกล้ งยิ้ ม กระจ่า งแล้ ว เอ่ ย ถามคนที่ เ พิ่ง บอกด้ วยท่ าทางที่ เสแสร้งว่าตื่นเต้น “จริงหรือคะป้า” “น่าจะจริงนะคะ ปกติไม่เคยเห็นท่านเอาใจใส่ใครเท่ากับ คุณวรรณ รายนี้คงตกลงแน่นอนแล้วค่ะ” ค าตอบของคนที่ ตั้ ง ใจจะปลอบโยนและให้ ค วามหวั ง 73


กลายเป็นเรียกน้าตาของหญิงสาวให้หลั่งมากขึ้น …เขาจะแต่งงาน แล้วอีกไม่นานหน้าที่ของเธอก็จบลง และเมื่อถึงเวลานั้นเธอคง เป็นเพียงผู้หญิงที่หัวใจแหลกสลาย แล้วต้องอยู่อย่างเดียวดาย เมื่อใจปวดร้าวจนทนไม่ได้เธอต้องคร่าครวญอย่างสะเทือนใจและ เหว่ว้า “ป้าจะไปกับลิลลี่ไหม…ไปอยู่ด้วยกันนะ…ลิลลีไ่ ม่อยากอยู่ คนเดียว” “โถ! ไปสิคะคุณลิลลี่ ป้าจะทิ้งคุณหนูไปได้ยังไง” “หนูไม่มีใครแล้ว ป้าอย่าทิ้งหนูนะคะ ลิลลี่ไม่มีใครจริงๆ” ลลิลดาโผเข้ากอดหญิงกลางคนอย่างเสียขวัญ ขณะที่เธอ ร่าไห้จนร่างกายสะท้านแต่ไร้เสียง…เธอรู้ว่าสักวันตัวเองคงต้องไป จากที่นี่ แต่ทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้บ้างแล้ว หญิงสาวกลับโศกสลดจน ต้องอาศัยอ้อมแขนของคนที่ดูแลเธอมานานนักหนา เพื่อจะใช้ บรรเทาความปวดร้าวในหัวใจ ใครก็รู้ว่าพาคินท์ร้ายแค่ไหน แต่ในขณะที่คนอื่น ๆ เห็นว่า เขาร้ายกาจอย่างล้ น เหลื อ แล้วนั้น เธอเองต่างหากที่รู้ว่าผู้ ช าย คนนั้ น ยิ่ ง กว่า อสู ร ร้ า ยส าหรั บ สาวน้ อ ยเช่ น เธอ ลลิ ล ดาร้ อ งไห้ จนสาแก่ใจ ก่อนจะปลีกตัวขึ้นไปนอนทอดร่างอย่างอ่อนล้าบน เตียงอันอ่อนนุ่ม แต่แล้วน้าตาอุ่นๆ ก็เริ่มหลั่งอีกครั้งเมื่อหญิงสาว อยู่เพียงลาพังในห้องกว้าง…เธออยากหลับแล้วไม่ต้องตืน่ ขึน้ มาอีก เพราะตราบใดที่ยังตกอยู่ใต้เงื้อมมือของเขา เธอก็ทั้งเจ็บปวดและ สุขสมจนอยากตายไปให้รู้แล้วรู้รอด 74


หลายคนอาจจะสงสั ย ถ้ามาเห็นพาคินท์ซึ่งถูกเรียกว่า หลายคน จิ้งจอกแห่งวงการธุรกิจผิดกฎหมาย และมังกรร้ายแห่งกาสิโน จะ นั่งซึมเศร้าและทอดกายอย่างอ่อนล้าบนโซฟา ในขณะที่มือข้าง หนึ่งก็ถือแก้ววิสกี้และทอดแขนเรี่ยกับพื้น …เรื่องราวระหว่างเขา และลลิลดาเกิดขึ้นง่ายๆ ยิ่งกว่านิยายน้าเน่า แต่ใครจะเชื่อเล่าว่า คนที่ตีค่าสิ่งของหรือแม้แต่มนุษย์ด้วยกันเป็นตัวเงินอย่างเขา จะ ยินยอมรับเด็กสาวคนนั้นเข้ามาในบ้านด้วยเหตุผลห่วยๆ อย่าง ที่สุด ชายหนุ่ ม นึ ก ไปถึ ง วั น แรกที่ ไ ด้ เ จอกั บ เธอ ซึ่ ง ก็ คื อ เมื่ อ หนึ่งปีก่อน วันนั้นชาย-หญิงกลางคนคู่หนึ่งเดินทางมาหาเขาถึงที่ ทางานพร้อมกับเด็กสาวในชุดนักศึกษาที่หน้าตาซีดเผือดคนนี้ “ผมมาใช้หนี้ให้ท่านครับ คุณพาคินท์” “หนี้อะไร! แล้วใครปล่อยให้แกขึ้นมาถึงที่นี่” “อ้าว สองวันก่อนท่านบอกว่าให้ผมพาลูกสาวมาหา ท่าน จาไม่ได้หรือครับ” “พ่อ แม่ กลับบ้านเถอะ เขาจ่าไม่ได้แล้ว” ลลิลดากระซิบแผ่วเพราะรู้สึกกลัวผู้ชายตัวใหญ่ในชุดสูท อย่างที่สุด …เขาอาจจะดูดีและหล่อเลิศจนสาวหลงได้ง่ายๆ แต่ ดวงตาคมกริบที่ชายหางตามามอง มันช่างเย็นเยียบและอามหิต จนเธอขนลุกเกรียว “ฉัน ไม่มีเ วลาคุย กับ แก ถ้ามีเรื่อ งอะไรก็ไ ปคุย กับ เลขา 75


โน่น” ชายหนุ่มที่พูดด้วยท่าทางไม่สนใจ และทาท่าราคาญจน หมุนตัวจะเดินออกจากห้อง ทาให้มงคลต้องดึงมือลูกสาวแล้วดัน มาไว้ด้านหน้าของตัวเอง ก่อนจะพูดเสียงรัวอย่างรีบเร่ง “ผมฝากลิลลี่ด้วยนะครับ ถ้าท่านคิดว่าหนี้ของผมหมด เมื่อไหร่ก็ช่วยส่งเธอกลับบ้านเราด้วย ผมกับภรรยาต้องขอโทษที่ ติดหนี้ท่านเยอะแล้วหาเงินมาทดแทนไม่ได้ เอ่อ ผมกลับเลยนะ ครับ” “อะไรกัน! นี่แกหมายความว่ายังไง” พาคินท์หยุดไปบ้าง เมื่อพบกับคาพูดยัดเยียดชวนสงสัย “อ้าว! เอ่อ…ก็ผมกับภรรยาติดเงินท่านในบ่อนเมื่อสองวัน ก่อน แล้ววันนี้ลูกน้องของท่านไป เอ่อ! ไปบอกว่าให้ผมเอาเงินมา ใช้หนี้ท่านที่บริษัท แต่เผอิญเราไม่มีเงิน ผมกับภรรยาเลยตกลง กันว่า ให้ลิลลี่ลูกสาวเราอยู่รับใช้ท่านน่ะครับ” มงคลพูดตะกุกตะกัก และเขาก็จงใจเว้นวรรคที่จะเอ่ยถึง การข่มขู่และทาร้ายร่างกายจากลูกน้องของพาคินท์ “รับใช้อย่างนั้นเรอะ! บ้าหรือไง คนใช้ที่บ้านฉันตั้งเยอะ กลับไปเลยไป๊ อ้อ ! แกติดหนี้ฉันใช่ไหม ถ้าติดเป็นเงินก็ต้องจ่าย ด้วยเงิน” “แต่เราไม่มีเงินมากขนาดนั้น” “แกติดหนี้ฉันเท่าไหร่” “สองแสนครับท่าน” ตอบอ่อยๆ “สองแสนในบ่อนการพนันอย่างนั้นรึ บ้าฉิบ ! แล้วตอน 76


เล่นทาไมไม่คิด อยู่ๆ จะเอาลูกมายัดเยียดให้ฉันเลี้ยง มันไม่ง่าย ไปหน่อ ยเหรอ ถ้าไม่มีเงิน มาใช้ห นี้แกก็ไ ปคุยกับทนายของฉัน โน่น” “ท่านครับ ได้โปรดเมตตาเราด้วย ผมไม่มีเงินจริงๆ ผมถึง ยอมยกลูกสาวให้เป็นคนรับใช้ท่าน แต่ถ้าท่านไม่ต้องการ เราก็คง ต้องให้ลิลลี่ออกไปทางานกับคนอื่นเพื่อหาเงินมาคืนท่าน” ประโยคนั้นทาให้พาคินท์ซึ่งเตรียมเดินหนีออกจากห้อง ต้องหยุดชะงักเท้า …นี่หมายความว่าอะไร ไอ้หมอนี่ตั้งใจจะเอา ลูกสาวไปเร่ขาย เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ที่เขาแทบจาไม่ได้ด้วยซ้านะ หรือ “แกคิดจะใช้ลูกสาวทางานอะไร หรือเอาไปให้ใคร” “คื อ …เอ่ อ …ก็ มี ค นสนใจลิ ล ลี่ อ ยู่ เ ยอะ คงหาได้ ไ ม่ ย าก หรอกครับ” มงคลตอบอุบอิบแต่ลูกสาวก็กระซิบกลับอย่างตกใจ “พ่อ! ลิลลี่ไม่ขายตัวนะ พ่ออย่าทาอย่างนี้สิ ลิลลี่ไม่อยาก อยู่กับใครทั้งนั้น” พาคินท์ได้ยินเสียงทะเลาะกันเบาๆ นั้นแล้ว และทั้งๆ ที่ เขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับพวกผีพนัน แต่ชายหนุ่มกลับแทรกขัด ขึ้นเพราะอารมณ์กรุ่นๆ ปนหงุดหงิดอย่างไม่มีสาเหตุ “อ้อ! ตกลงแกตั้งใจจะขายลูกสาวใช่ไหม งั้นไม่เป็นไร ฉัน รับไว้ก็ได้ถ้าทางานจนหมดหนี้ก็ถือว่าจบกัน” “ขอบคุณ ครับ ท่ าน ลิ ล ลี่ อ ยู่ กั บ ท่ า นนะลู ก ถ้า พ่ อ มี เ งิ น เมื่อไหร่พ่อจะรีบมารับตัวลูกทันทีเลยล่ะ” “พ่อ” 77


“ผมทิ้งลิลลี่ไว้ที่นี่เลยนะครับ” “ตามสบาย ฉันจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน” และแล้ วลลิ ล ดาก็ยืน คว้างอยู่อ ย่างนั้น เมื่อ พ่อ ของเธอ หมุนตัวแล้วเดินแกมวิ่งออกไปจากบ้านในทันที หญิงสาวหันมาหา เขาอีกหน แต่นอกจากผู้ชายตัวสูงคนนี้จะไม่มองเธอแล้ว เขายัง เดินออกจากห้องราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่ที่นั่น …ลลิลดาตั้งสติ อยู่ น าน แต่ เ มื่ อ เธอเริ่ ม รู้ สึ ก ตั ว อี ก ครั้ง ร่ า งบางๆ ก็ วิ่ง ตามเขา ออกไปก่อ นจะกลายเป็น ชะงัก กึก …รถสี แดงคัน หนึ่งซึ่งจอดนิ่ง หน้าบันไดกว้างขวางหรูหรา กลายเป็นภาพพื้นหลังให้กับผู้ชาย คนนั้น และเขากาลังสวมกอดผู้หญิงคนหนึ่งแนบแน่น นั่น! คือวันแรกที่ได้พบกัน และตกค่าคืนเขาก็ปะทะคารม กับเธอ เพราะหลังจากออกไปกับคนรักและพาคินท์กลับเข้าบ้าน ชายหนุ่มก็พบกับสาวขัดหนี้คนนั้นในสภาพนั่งเมาหยาเป…ครั้ง แรกพาคินท์ไม่คิดจะยุ่งกับเธอแม้แต่น้อย แต่เพราะถ้อยคาหยาบ คายของหญิงสาว ทาให้เขาอยากเอาชนะและลืมตัวเองไปจนหมด “ไปนอนได้แล้ว เธอนี่มันทุเรศเป็นบ้า” เขาต่อว่าเสียงกร้าว แต่หญิงสาวที่นั่งสะลึมสะลือก็ย้อน เขามาอย่างเจ็บแสบ “จะให้ ลิ ล ลี่ อ ยู่ ที่ ไ หน? นอนหน้ า บั น ไดดี ไ หมล่ ะ ! ที่ นั่ น น่าจะเหมาะกับสุนัขซึ่งถูกเอามาทิ้งอย่างลิลลี่” “ปากคอเหลือทน ฉันไม่น่ารับเธอมาเลี้ยง” “ถ้าไม่อยากเลี้ยงก็ขายต่อไปที่ซ่องเลยสิ ได้ยินว่าคุณเองก็ มีบาร์ไม่ใช่เหรอ ไม่แน่นะ คุณอาจจะได้กาไรจากลิลลี่มากกว่าที่ 78


ได้จ่ายให้กับพ่อด้วยซ้า” พาคินท์ได้ยินประโยคนั้นเขาก็กัดกรามกรอด แล้วจังหวะ หนึ่งที่เขาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าใกล้ๆ เธอ ดวงตาของเขาก็เห็นเงา คนวอบแวบแถวประตูห้องรับแขกที่อยู่ไม่ไกล…สงสัยเจ้าหล่อน อาจจะรู้เรืองของเขาจากคนในบ้านหลั งนี้แน่ๆ …แต่หล่ อนจะรู้ เรืองมาจากไหนเขาไม่แคร์ ตอนนี้เขาขอแค่ได้จัดการกับแม่ปาก กรรไกรนีสักที “ฉันจะมีบาร์หรือมีซ่องมันก็เรื่องของฉัน แต่ผู้หญิงปาก หมาอย่างเธอขืนเอาเข้าไปไว้ในนั้น รับรองที่นั่นได้เจ๊งแน่ๆ ” “ถ้าลิลลี่เป็นหมาคุณก็หมาเหมือนกันล่ะน่ะ ไม่อย่างนั้น เราจะพูดกันรู้เรื่องเหรอ” พาคินท์สะอึกเมื่อเจอผู้หญิงปากคอจัดจ้านซึ่งขัดกับหน้า หวานๆ ของเธอ และเพราะประโยคดูถูกจนบาดใจแท้ๆ ฝ่ามือ กว้างจึงยื่นเข้าใกล้ ก่อนจะตะปบลงบนเส้นผมดกหนา แล้วเขาก็ กระตุกแรงๆ จนลลิลดาร้องวี้ดแล้วเริ่มด่าทอเขาอย่างทันใจ “ปล่อย…ไอ้เลว ไอ้คนเห็นแก่ได้” เธอเค้น เสี ยงผ่ า นไรฟัน ขาวที่ข บแน่น ก่อ นจะหวี ด ร้อ ง เสี ยงแหลม เมื่ อ ร่ า งบอบบางถู ก เขารวบอุ้ ม และแทบจะวิ่ง ขึ้ น บันได พาคินท์พาเธอไปไหนไม่รู้ เพราะกว่าลลิลดาจะรู้ตัวอีกครั้ง เธอก็ถูกเขาจับทุ่มลงไปนอนบนเตียงกว้างอย่างไร้ท่า “ช่วยด้วย” “ร้องให้ตายไปเลย ต่อให้ฉันฆ่าเธอในตอนนี้จ้างก็ไม่มีใคร มาช่วย” 79


พาคินท์แทบจะโถมตัวลงหา เมื่อเห็นหญิงสาวพลิกตัวขึ้น นั่งอย่างพร้อมจะสู้ และหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ได้แผลจากฟันคม กริบที่กัดลงกับต้นแขน และกว่าชายหนุ่มจะกดตรึงร่างบางที่ดิ้น เร่ า ลงได้ ส าเร็ จ เขาก็ ต้ อ งเจ็ บ ตั ว ไปหลายที่ แต่ ยิ่ ง เจ็ บ ตั ว มาก เท่าไหร่ จากความโกรธก็กลายอารมณ์ใคร่เดือดพล่าน ฝ่ามือหนา ที่กระชากเสื้อผ้าเธอจนหลุดเป็นชิ้นๆ นอกจากจะเรียกเสียงกรีด ร้องของลลิลดาแล้ว หญิงสาวยังด่าทอเขาโดยไม่หยุดปากอีกด้วย “สัตว์! หน้าตัวเมีย…รังแกผู้หญิง” เธอพูด กระหืด กระหอบพร้อ มปัด ป้อ งแล้ วตบตีเขาเป็น ระวิง “ดี! เพราะสัตว์ตัวนี้มันจะเป็นผัวของเธอ” เขาตอบเสี ย งเข้ ม ดวงตาลุ ก โชน ก่ อ นจะบี บ แก้ ม คนที่ ตนเองนั่งคร่อมทับอยู่ แล้วดึงใบหน้านั้นขึ้นสูงให้รับจูบที่กระแทก ลงหาอย่างรุนแรง ลลิลดาพยายามบิดหน้าหนี แต่ปลายนิ้วที่กด ตรึงทาให้เธอไม่สามารถหลบพ้นเขาไปได้ สุดท้ายเธอก็ต้องรับ เรียวปากที่กดเน้นจนทั้งคู่ได้รับรสเค็มจากเลือดของเธอ พาคิ น ท์ จ งใจกัด แรงๆ บนริม ฝี ป ากอิ่ ม ซ้ าอยู่ ห ลายครั้ ง และเมื่อเขาได้ยินเสียงครางอย่างเจ็บปวดของหล่อน ชายหนุ่มก็ กระตุกข้อมือทั้งสองข้างที่ เขารวบไว้อยู่ใต้สะโพกของเธอ…ร่าง สาวที่แอ่นหยัดพร้อมสีหน้าบิดเบ้ เหมือนจะเรียกความสะใจให้ เขามากขึ้น จนชายหนุ่มก้มใบหน้าต่าแล้วกระซิบเสียงกร้าวใกล้ๆ “เตียงนี่ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเคยได้นอน เธอต้องภูมิใจที่ได้ ใช้มัน” 80


“ให้ลิลลี่ตายเสียยังจะดีกว่าได้นอนบนเตียงโสโครกของ คุณ” “ปากเสีย! ฉันว่าค่าตัวเธอมันแพงเกินไป เพราะปากชั่วๆ อย่างนี้อย่าว่าแต่สองแสนเลย ห้าร้อยฉันก็ยังว่าแพง” “ไอ้บ้า คนทุเรศ เศษสวะ กรี๊ด…ปล่อยลิลลี่นะ” เธอหวีดร้องอย่างโกรธจัด ยิ่งฝ่ามือหนาที่ไล้แล้วบีบทรวง อกแรงๆ ลลิลดาก็น้าตาซึมอย่างเจ็บปวด เขาไม่คิดจะผ่อนแรงลง แม้แต่น้อย เพราะยิ่งเธอต่อสู้มากเท่าไหร่ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนจะ บ้าเลือด จนที่สุดเขาก็ถึงขั้นกระชากขาเปลือยเปล่าทั้งคู่ของเธอ แล้วแยกกว้าง

81


2 ลลิลดาพยายามเกร็ งขาทั้งคู่ให้เข้าชิดกันมากที่สุด แต่ขา ดา เรียวเล็กของเธอหรือจะสู้มือหนาที่บีบแน่นแล้วกดตรึงกับเตียงไว้ ที่สุดผู้ชายที่คุกเข่าคร่อมเธออยู่ก็เอ่ยเสียงกร้าวผ่านไรฟันที่ข บ แน่น “บอกมาว่าจะยอมดีๆ หรือจะให้ฉันข่มขืน” “ไม่นะ! ลิลลี่กลัวแล้ว…อย่าทาลิลลี่” เธอร้องวี้ดเพราะตื่น ตระหนกจนแทบคลั่ง “ฉันให้เลือกก็นับว่าบุญของเธอ เลือกมาสิว่าจะตกนรก หรือขึ้นสวรรค์” “ไม่! ฮือ” หญิงสาวร้องไห้อย่างหวาดกลัว แต่เมื่อสบกับดวงตาแข็ง กร้าวของชายหนุ่ม เธอก็ต้องสะอื้นฮัก …พาคินท์ไม่มีแววเมตตา หรือเข้าใจแม้แต่น้อย เพราะดวงตาดาสนิทคู่นั้นมันบรรจุไปด้วย ความโกรธและหื่ น กระหายเหมือ นสั ต ว์ ป่า ลลิ ล ดาเมื่ อ ไม่เ ห็ น หนทางรอดตัว เธอจึงได้แต่วิงวอนเขาทั้งน้าตากลบ


“คุณพาคินท์ลิลลี่กลัวแล้ว…ได้โปรด” “ตอบมา” เขากระชากเสียงห้วนอย่างไม่ส นใจคาอ้อ น วอนของเธอ “อย่ารุนแรงกับลิลลี่…ลิลลี่ยอมแล้วค่ะ” “ก็แค่นั้น” สิ้ น เสี ย งห้ ว นสั้ น สะใจของเขา ลลิ ล ดาก็ แ ทบจะลื ม เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เขาเพิ่งทาเมื่อครู่ …ความเชี่ยวชาญในเชิงกาม ของชายหนุ่ม ถูกร่ายและบรรเลงลงบนเนื้อหนังอ่อนนุ่มของสาว อย่างเจนจัด ครั้งแรกอาจจะหนักมือตามอารมณ์กรุ่นอยู่บ้าง แต่ เมื่อเวลาผ่านไป พาคินท์กลับผ่อนแรงลงเมื่อเห็นร่างสาวสั่นระริก “หน้าอกสวย” เขาเอ่ยชมแล้วพ่นลมร้อนๆ ออกจากปาก ก่อนจะดูดรัด อกตูมเข้าสู่อุ้งปากจนร่างเธอสะท้านยะเยือก “คุณพาคินท์” “หัดเรียกฉันใหม่ เรียกฉันว่าอาเถอะลิล ฉันไม่อยากให้ ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา” เขาพูดเสียงกร้าวกึ่งเย็นเยียบ และหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ ดื่มด่ากับร่างสาว แต่แล้วหัวใจที่แข็งกระด้างบางส่วนก็ออ่ นลงเมือ่ พบกั บ ความบริ สุ ท ธิ์ ที่ไ ด้ พาคิ น ท์ ตั ก ตวงความสุ ข แล้ ว สั่ ง สอน ตั้งแต่บทเรียนแรก และเมื่อใกล้รุ่งเขาก็ได้รับการสนองกลับจาก เด็กสาวจนพานจะไร้เรี่ยวแรงไปทางานเหมือนอย่างเคย ความหวานแอร่ ม และท่ า ทางเงอะงะของลลิ ล ดาขณะ ตอบสนองเขาในเช้าวันนั้น ยังเป็นภาพฝังใจของชายหนุ่มจนถึง 83


มายาไพร

เรื่องราวของหนึ่งในนักรบหน่วยยูโทเปีย ที่ ต้องคาสาป เพื่อความอยู่รอด และสุดท้าย ต้องดิ้นรนให้หลุดพ้นจากคาสาปนัน้ …เพียงเพราะรักเธอ

เหนือทรายใต้ผืนฟ้า องครักษ์หนุ่มรูปงาม ที่เก่งการรบทุกรูปแบบ แต่ เฉยชาต่ออิสตรีทุกนางมาตลอด ต้องตกเข้าสู่บ่วงรักและ เสน่หากับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง..การตามล่า เพื่อหาดวงใจเริ่มต้นขึ้น และมันไม่ยากเกิน ความสามารถของแมวป่าแห่งทะเลทรายเช่นเขา แต่..ทั้งๆ ที่เจอเธอแล้ว ฟาฮาสกลับพบว่ามันไม่ ง่ายอย่างที่คิดไว้แม้แต่น้อย สาหรับการไขว่คว้า “เจอรี่” สาวสวยที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของเขาไปอย่างไม่ตั้งใจ

สนใจสอบถามได้ที่ bigger_2000@windowslive.com




Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.