ข่าวสภาทนายความ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2558

พระมหากษัตริย์ผู้เป็นทนายความ

ท่านราม ณ กรุงเทพ

ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (วันทนายความ

ประจำ�ปี 2558) เดือนกุมภาพันธ์ 2558

2

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

สารนายกสภาทนายความ เนื่องในวันทนายความ ปี 2558

ทุกปีของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ทัว่ ทุกแห่งทัง้ ประเทศจะร่วมกันฉลองวันสำ�คัญวันนี้ นับตัง้ แต่กอ่ ตัง้ สมาคม ทนายความแห่งประเทศไทยของบรรพชนทนายความที่ออกมาเรียกร้อง ความเป็นอิสระในการปกครองตนเอง เฉกเช่นในสากลประเทศ และการ ต่อสู้ร่วมพลังสามัคคีอย่างเหนียวแน่นสืบต่อเนื่องกันมาจนมีการแก้ไข พระราชบัญญัตทิ นายความในขณะนัน้ หลายครัง้ จนมาถึงครัง้ ทีส่ �ำ คัญก็คอื การตราพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ซึ่งนับเป็นองค์กรวิชาชีพ อิสระตามกฎหมายอย่างแท้จริง แต่ถา้ หากเราย้อนในประวัตศิ าสตร์ของการ พระราชทานพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.

2457 พร้อมกับพระราชบัญญัติเนติบัณฑิตย สภาในวันที่ 1 มกราคม 2457 ของพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเห็นได้ว่า พระองค์ทรงเข้าใจอย่างถ่องแท้ถงึ หลักการของ วิชาชีพทนายความ และที่สำ�คัญอย่างยิ่งคือได้

ทรงปฏิบตั หิ น้าทีท่ นายความสามัญชนในนามของ “ท่านราม ณ กรุงเทพ” ซึ่ ง ถ้ า หากอ่ า นรายละเอี ย ดของพระราชประวั ติ ข องพระองค์ ใ นวิ ช าชี พ ทนายความแล้ว คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “ท่านราม ณ กรุงเทพ” คือองค์ “พระราชบิดาแห่งวิชาชีพทนายความ” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในช่วง ที่จะปรับเปลี่ยนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชไปสู่ระบอบประชาธิปไตย

ในวันสำ�คัญเช่นนี้ สภาทนายความจึงได้นำ�บทความเรื่อง The Lawyer King พร้อมคำ�แปลที่ได้แจกจ่ายให้กับทนายความ นักกฎหมาย ในสมาคม LAWASIA ในการประชุมใหญ่ทกี่ รุงเทพมหานครเมือ่ เดือนตุลาคม พ.ศ.2557 ทีผ่ า่ นมา เผยแพร่ในทุกสือ่ ด้วยความสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ อย่างหาที่สุดมิได้

สภาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งในอดีตและปัจจุบันไม่เคยปฏิเสธไม่รับฎีกาหรืออุทธรณ์ของ ประชาชนในทุกเรื่องและได้ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท ให้แก่นักกฎหมายทั้งหลายว่า “ต้อง มีศาลไว้ถึง 3 ศาล” ในบริบทของข้อโต้แย้งทีเ่ พือ่ นพีน่ อ้ งทนายความทีแ่ สดงออกถึงความไม่เห็นพร้อมด้วย กับการแก้ไขกฎหมายให้คดีสิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์ เพราะมองว่าเป็นการตัดตอนการเข้าถึง กระบวนการยุ ติ ธ รรมของประชาชน โดยมี แ นวคิ ด และยึ ด หลั ก การต่ อ สู้ ค ดี ข องประชาชน ผู้มีอรรถคดีต้องมีโอกาสพิสูจน์ถูกผิดถึง 3 ชั้นศาล และเห็นว่า “การอุทธรณ์หรือการฎีกานั้น เป็น “สิทธิ”์ ขัน้ พืน้ ฐานของคูค่ วามและเป็นหลักสิทธิมนุษยชนของมวลชนทัว่ ทุกมุมโลกทีป่ ระชาชน ต้องต่อสู้คดีได้จนครบสามชั้นศาลและการต่อสู้คดีในศาลฎีกานั้นเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมและ ไม่จำ�ต้องขออนุญาตดังที่มีการเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวนั้นอยู่” ดังเดียวกันเมื่อวนเวียนมาถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ของทุกปี ผู้ประกอบวิชาชีพ ทนายความได้ยึดถือติดต่อกันมาให้เป็น “วันทนายความ” เราท่านได้ระลึกถึงคุณงามความดี ของบรรพชนทนายความและเสริมสร้างความดีงามของเพื่อนทนายความผู้ยึดมั่นผู้มีจิตอาสา รักษาจริยธรรมมุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชนด้วยหลักวิชาชีพทนายความอันโดดเด่น เราท่านจึงได้

เชิดชูให้ทนายความท่านนัน้ “เป็นทนายความดีเด่น” แต่นนั้ ก็เป็นความดีงามของทนายความเพียง บางส่วนทีถ่ กู เสนอชือ่ และคัดเลือกมา แต่ยงั มีเพือ่ นพีน่ อ้ งทนายความผูม้ ากด้วยคุณธรรมและความ ดียังมีอีกมากหลายแม้ยังไม่ได้เป็นทนายความดีเด่น แต่ความดีงามที่โดดเด่นในตัวท่านก็มาก มีดีอยู่ล้น คนทั้งหลายย่อมมองเห็นเป็นประจักษ์ กองบรรณาธิการข่าวสภาทนายความ จึงขอแสดง ความยินดีกบั เพือ่ นพีน่ อ้ งทนายความผูไ้ ด้รบั เลือกเป็นทนายความดีเด่น ขอเชิดชูพนี่ อ้ งทนายความ ผู้มีจิตอาสาที่ประกอบวิชาชีพทนายความด้วยการยึดหลักจริยธรรมนำ�ชีวิตและงาน ข่าวสภาทนายความที่อยู่ในมือท่านเป็นของท่าน ท่านมีสิทธิ์แนะนำ �ติชมโดยไม่ต้อง ขออนุญาต กองบรรณาธิการฯ ยินดีน้อมรับข้อเสนอนั้นและ กองบรรณาธิการข่าวสภาทนายความพร้อมสามัคคีเป็นหนึ่ง เดียวกับเพื่อนพี่น้องทนายความเพื่อให้ “การต่อสู้คดีด้วย การยืน่ ฎีกาต่อศาลฎีกานัน้ เป็นสิทธิ์ ไม่เป็นการให้สทิ ธิ”์ เพราะ การเข้าถึงความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นสิทธิ์ อันชอบธรรมของประชาชน นิวัติ แก้วล้วน บรรณาธิการบริหาร

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 20 กุมภาพันธ์ 2558

สภาทนายความร่วมให้ความเห็นร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิม่ เติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความแพ่ง (ห้ามอุทธรณ์ฎีกา) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 13.30 น. : นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือ ประชาชนทางกฎหมาย พร้อมด้วย นายวีรศักดิ์ โชติวานิช กรรมการช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมาย, นายชวน คงเพชร อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ ในฐานะผู้แทนสภาทนายความ เข้าร่วม ให้ความเห็นในการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เกี่ยวกับการ พิจารณาร่า่ งพระราชบัญญัตแิ ก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพ่ง (ฉบับที.่ ..) พ.ศ.... (การอุทธรณ์ฎีกา) พร้อมทั้งได้มอบ “สมุดปกขาว เรื่อง ปัญหามาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม เมื่อห้ามอุทธรณ์/ฎีกาคดีต่อศาลฎีกา กับ หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชน” แก่ คณะกรรมาธิการฯ ที่อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ.

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

3

พระมหากษัตริย์ผู้เป็นทนายความ ท่านราม ณ กรุงเทพ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั (รัชกาลที่ ๖) เป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาญาณในด้านต่างๆ พระราชกรณียกิจของพระองค์ได้น�ำ พาความเจริญมาสู่สยาม ทั้งงานด้านวรรณกรรม การละคร ทรงเป็นผู้ริเริ่มด้านกิจการลูกเสือ และได้มีพระบรมราชโองการตั้งเนติบัณฑิตยสภาและพระราชบัญญัติ ทนายความ พ.ศ. ๒๔๕๗ โดยเฉพาะได้ทรงเลือกประกอบวิชาชีพทนายความใน “นครดุสิตธานี” เมืองแห่ง ประชาธิปไตยที่พระองค์ใช้ให้ข้าราชบริพารและประชาชนเข้าถึงระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกในสยาม หรือนับ แต่สยามได้ยกเลิกการมีทาสโดยไม่เสียเลือดเนื้อในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปิยะมหาราช

His Majesty, the King Rama VI, was renowned for his sagacity. The fulfillment of His Royal Duties brought great prosperity to Siam. He was an avowed patron of the arts, especially literature and drama. He was the founder of the Boy Scouts of Thailand and established the Thai Bar and enacted the Lawyers Act B.E. 2457 (A.D. 1914) by Royal Decree. He is remembered for his inclination to the law by being a Lawyer in “Dusit Thani City”, the city of democracy where he acquainted his people for the first time in Siam with the democratic system. Slavery was abolished in the reign of King Rama V.

“ท่านราม ณ กรุงเทพ” เป็นพระนามแฝงที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้สำ�หรับการ เป็นพลเมืองคนหนึ่งในดุสิตธานี หรือมณฑลดุสิตธานี โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองจำ�ลองแห่งนี้ขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑ เพื่อเป็นต้นแบบการบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อเป็นพื้นฐานและแนวทางในการดำ�เนินการจัดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้ยั่งยืน และเพื่อให้ประเทศ สยามมีความเจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ ณ พระราชวังดุสิต ในเนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ รอบพระที่นั่งอุดร

“Atty.Rama Na Krungthep” is the patronymic title used by His Majesty, the King Rama VI while practicing as a commoner in the Dusit Thani City which consisted of Dusit Palace with an area of 3 Rai around Udorn Throne-Hall. He was exceedingly generous to build this democratic city as a pilot project of people administration to implementing the democratic system in Siam so as to make his people better understand the system. Democracy in Siam would endure and the prosperity achieved was equivalent to the standard seen in other democratic nations.

ภายในเมืองดุสิตธานี มีการสร้างบ้านเรือน ตัดถนนหนทาง สร้างวัดวาอาราม ร้านค้า โรงเรียน โรงพยาบาล โรงอาหาร ตลอดจนพระราชวัง อาคารสถานที่ในเมืองดุสิตธานีนั้น สร้าง ย่อส่วนในสัดส่วน ๑ ใน ๒๐ ส่วนของขนาดของจริง เป็นโมเดลที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือประณีตบรรจง ตกแต่งสีสวยงาม และฉลุสลักลวดลายวิจิตรคล้ายของจริง ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น ต่อมา ได้ย้ายเมืองดุสิตธานีไปที่พระราชวังพญาไท และได้ขยายเมืองออกไปกว้างใหญ่มากขึ้น จนมีบ้านเรือนในเมืองราว ๓๐๐ หลังคาเรือน

Within Dusit Thani City, there were many habitable buildings, temples, trading shops, schools, hospitals, and dining halls. The buildings at Dusit Thani City were built in proportion of 1:20 of the original size with elegant decoration which was new to the people at the time. Thereafter, Dusit Thani City was moved to Phaya Thai Palace and this modern democratic city was expanded to accommodate 300 constituencies.

อ่านต่อหน้า 4

4

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงเป็นราษฎรหรือทวยนาคร ของดุสิตธานีด้วย ทรงประกอบอาชีพ ทนายความ และ ทรงใช้พระนามแฝงว่า “ท่านราม ณ กรุงเทพ” ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้มหาดเล็กยกโต๊ะทรงพระอักษรไป ไว้ใกล้ๆ ริมอ่างหยก และตั้งเต็นท์ ขึ้น แล้วขึ้นชื่อว่า “สำ�นักงานทนายความ ท่านราม ณ กรุงเทพ” เพื่อให้ทวยนาคร ทั้งหลายได้มาปรึกษาความ โดยได้ทรง ใช้พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ (ปัจจุบันคือ พระตาหนักเมขลารูจี) เป็น สำ�นักงานทนายความของ ท่านราม ณ กรุงเทพ ในนครดุสิตธานี

His Majesty, the King Rama VI, considered himself one of the constituencies of the Dusit Thani City. He ordered his royal page to move his working desk near the edge of a Jade basin and set up tent, naming it “The Law Office of Atty. Rama Na Krungthep”. Here his people consulted him and the Udomwanaporn Throne-Hall (The MekhalaRuchi Pavilion) became his law office within City of Dusit Thani.

แม้ว่าเหล่าขุนนางสมัยเก่าจะไม่เข้าใจถึงกุศโลบายในการสวมบทบาทเป็นพลเมืองของพระองค์ และเข้าใจว่าเป็นเพียงการ “เล่น” อย่างหนึ่งเท่านั้น แต่ท่านราม ณ กรุงเทพ ก็ได้พิสูจน์ ความมุ่งมั่นที่จะประกอบวิชาชีพทนายความอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการประนอมความ เช่น ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวหมิ่นประมาทเทศาภิบาล หาว่าไม่สอดส่องดูและกิจการของคณาภิบาลที่ ปฏิบัติต่อทวยนาคร เป็นคนเงื่อหงอยเป็นเต่าตุ่นอะไรทำ�นองนั้น ท่านเทศาภิบาลก็ได้มาหาท่านรามให้ช่วยสืบสวนหาตัวผู้เขียนข่าว ท่านรามได้ช่วยสืบสวนจนรู้ตัว ท่านเทศาขอร้องให้ท่านราม เป็นทนายความฟ้องยังโรงศาล แต่ว่าผู้เขียนข่าวนั้น คือ ปลัดเมือง คนในบังคับบัญชาท่านเทศานั่นเอง ท่านรามจึงไม่รับเป็นทนาย อ้างว่า เป็นกรณีระหว่างข้าราชการ เมื่อนำ�ความขึ้นฟ้องร้องยัง โรงศาลก็จะเป็นเอกเกริกครึกโครม ทำ�ให้เสื่อมเสียแก่วงราชการ จึงแนะให้จัดการสอบสวนลงโทษกันตามระเบียบวินัย ซึ่งท่านเทศาก็กระทำ�ตาม ต่อมาปลัดเมืองผู้นั้นก็ถูกออกจากราชการ

Old Nobility did not understand the King’s strategy to act as one of the people in the city and perceived it as a jest. Atty. Rama Na Krungthep took his profession as a Lawyer very seriously, and was especially successful at conciliation. A newspaper was accused of libel by publishing that the Tesapibal (“the City’s Govenor”) did not monitor and manage the business with Good Governance. The Tesapibal therefore petitioned Atty. Rama to investigate who was responsible for publishing the news and sought to instigate legal proceedings in Court. As it turned out, after his investigating, the publisher was the Permanent Secretary of the city, and a subordinate of the Tesapibal. Atty. Rama thus declined to proceed with the prosecution of the case citing that that this was a matter between government officers. Filing the case in Court was a highly vexatious proposition and the government’s reputation would have been irreparably damaged. Atty. Rama therefore suggested the ethic proceed\ings be used in lieu thereof. Upon resolution of the dispute, the Permanent Secretary of the City was later dismissed from the government.

นอกจากนี้ ยังมีอีกคดีหนึ่งซึ่งท่านรามได้ช่วยให้คำ�แนะนำ�ในการประนีประนอมกันระหว่างสภาเลขาธิการกับ ทวยนาครรายหนึง่ คดีนมี้ ขี อ้ เท็จจริงโดยย่อคือ หลวงสรรสารกิจ (เคล้า คชนันท์) ได้ซอื้ ทีด่ นิ แปลงหนึง่ จากพระ คลังข้างทีใ่ นราคา ๑๕ บาท และได้สร้างโรงเรียนศรีวรรธนาลัยบนที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งที่ดินแปลงนี้เป็นที่ลุ่ม เมื่อฝนตกจึงเกิดน้ำ�ขังนอง หลวง สรรสารกิจจึงถมที่ดินให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันมิให้มีน�้ำ ขัง แต่สภาเลขาธิการได้สั่งให้หลวงสรรสารกิจปรับที่ดินให้เป็นที่ลุ่มตามเดิม เพราะน้ำ�ฝนไหลเข้าบ้านผู้อื่น หลวงสรรสารกิจจึงได้ทำ�คำ�ร้องถึงท่านราม ณ กรุงเทพ เพื่อขอบารมีเป็นที่พึ่ง เมื่อท่านราม ณ กรุงเทพ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลวงสรรสารกิจ จึงมีบันทึกคำ�แนะนำ�ไปให้หลวงสรรสารกิจสอบถามสภาเลขาธิการให้แจ้งชัด ว่าคำ�สัง่ ทีใ่ ห้ปรับทีล่ งนัน้ เป็นการสัง่ ตามหน้าทีห่ รือเป็นเพียงการแสดงความเห็นส่วนบุคคล เพือ่ หลวงสรรสารกิจจะได้ดำ�เนินการ ต่อไป

Another case in which Atty. Rama suggested conciliation was a dispute between the Council’s Secretary and the Luang Sunsarakij [Royal Title] (Mr. Klao Kotchanun) who had purchased the land from the Privy Purse for a sum of THB 15 and built the Sriwanthanalai School on such land which was a marsh. Luang Sunsarakij therefore filled up the land to prevent water logging but the Council’s Secretary ordered the Royal Sansarkij to restore the land to its original state because the water flowed into neighbouring houses. Luang Sunsarakij thus filed a petition to Atty. Rama seeking his legal assistance. Upon receiving the petition, Atty.

Rama suggested that Luang Sunsarakij should firstly enquire from the Council’s Secretary whether the order to restore the land was an official order issued in line of his duties or whether it was a merely personal whim.

สำ�นักงานทนายความท่านราม ณ กรุงเทพ เปิดให้บริการให้คำ�ปรึกษาอรรถคดีเรื่อยมา จนกระทั่งพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตด้วยอาการพระโลหิตเป็นพิษในพระอุทร เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ จึงถือว่าวันดังกล่าว เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ “วันมหาธีรราชเจ้า” เพื่อรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ ทรงบำ�เพ็ญมาตลอด ๑๕ ปีแห่งรัชกาลของพระองค์

The Law Office of Atty. Rama was open for consultation until His Majesty the King Rama VI passed away on 25 November 1925. It heralded the end of Dusit Thani City as well but his Royal desire to help his people survives in Thai legal profession today whose hallmark is perseverance for the greater good of the people.

ด้วยเดชะพระบารมีปกเกล้า ขอพระองค์โปรดทรงสถิตในไอศูรย์สวรรค์ทิพยพิมานนิรันดร์กาล.

With our heart-full respect Be His Majesty King Rama VI blessed with all comforts in the most-heavenly extravaganza eternity.

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

ทนายความดี เ ด่ น ประจำ�ปี 2557

5

จากการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกทนายความดีเด่น เมือ ่ วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม 2558 โดยนายชวน คงเพชร อุปนายก ฝ่ายกิจการพิเศษสภาทนายความ เป็นประธานกรรมการคัดเลือกทนายความดีเด่น ประจำ�ปี 2557 ได้มก ี ารพิจารณาคัดเลือกทนายความ ดีเด่นจากประวัตข ิ องทนายความจากภาคส่วนต่างๆ ทีถ ่ ก ู เสนอชือ ่ เข้ามาจำ�นวนมากและผ่านการตรวจสอบประวัตแ ิ ละคุณงามความดีอน ั เป็นประจักษ์ยงิ่ แล้ว จึงได้มก ี ารเสนอ และได้มก ี ารลงคะแนนคัดเลือกฯ มีทนายความผูม ้ ากด้วยจิตอาสาเป็นผูค ้ รองตนด้วยหลักจริยธรรม มรรยาทของผู้ประกอบวิชาชีพทนายความที่โดดเด่นได้รับการคัดเลือกเป็นทนายความดีเด่นจำ�นวน 15 ท่าน ดังนี้

1. ทค.เกรียงศักดิ์ สุวพงษ์

2. ทค.ทรงยศ ยอดดนตรี

3. ทค.ธารีรัฐ ทองฉิม

4. ทค.นิพนธ์ จันทเวช

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 619/2529 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - กรรมการสอบสวนมรรยาททนายความจังหวัดร้อยเอ็ด - กรรมการ (เลขานุการ) คณะกรรมการสภาทนายความ จังหวัดร้อยเอ็ด 3 สมัย ตัง้ แต่ปี พ.ศ.2541-2544, พ.ศ.25442547, พ.ศ.2547-2550 - ประธานสภาทนายความ ปี พ.ศ.2550-ปัจจุบัน - เป็นทนายความให้ความช่วยเหลือประชาชนในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด - เป็นทนายความขอแรงจากศาลจังหวัดร้อยเอ็ด และศาลจังหวัดร้อยเอ็ดแผนกคดีเยาวชน และครอบครัว ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2528-ปัจจุบัน ประมาณกว่า 100 คดี

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 1156/2534 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - กรรมการดำ�เนินกิจการของการฌาปนกิจสงเคราะห์ สภา ทนายความ ปี2553-2559 - อนุกรรมการสำ�นักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สำ�นักนายกรัฐมนตรี) ปี 2557 - กรรมการสภาทนายความจังหวัดมีนบุรี - กรรมการสภาทนายความภาค 1 ปี 2547-2550 - อนุกรรมการสำ�นักงานคณะกรรมการคุม้ ครองผูบ้ ริโภค (สำ�นักนายกรัฐมนตรี) ปี 55-57

5. ทค.ประกฎษฎิ์ สายชล

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 6254/2529 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ที่ปรึกษาประธาน และกรรมการทนายความภาค 1 พ.ศ.

2547-2550 - กรรมการสอบสวนคดี ม รรยาททนายความ ปี 2547-ปัจจุบัน - กรรมการสภาทนายความภาค 1 พ.ศ.2550-2553 - กรรมการสิทธิมนุษยชนสภาทนายความ - กรรมการฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ สภาทนายความ พ.ศ.2553-ปัจจุบัน - ทนายความผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ถึงปัจจุบัน - ประธานคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค (ชุดที่ 3) สำ�นักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำ�นักนายกรัฐมนตรี

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 634/2531 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง - ปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ - หัวหน้าสำ�นักงานทนายความทรงยศ ยอดดนตรี - รองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี - ที่ปรึกษาสภาทนายความจังหวัดเวียงสระ

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 5666/2529 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - เป็นประธานสภาทนายความจังหวัดพิจิตร 2 สมัย - เป็นอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดพิจิตร - เป็นอนุกรรมการพิจารณาวินจิ ฉัยคำ�ร้องขอรับเงินช่วยเหลือ เบื้องต้นจังหวัดพิจิตร - ประธานอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือชาวนา จ.พิจิตร - ประธานอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณะสุขระดับพิจิตร - กรรมการทดสอบผู้เข้ารับการฝึกอบรมวิชาว่าความ รุ่น 1 - รุ่น 7

6. ทค.ประนมยง ไชยปะ

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 92/2539 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ประธานสภาทนายความจังหวัดเลย - เป็นคณะกรรมการปรับปรุงรายละเอียดของสูตรนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย - เป็นอาจารย์พิเศษสอนอยู่สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏเลย

6

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

7. ทค.ปรัชญา คณานุรักษ์

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 7735/2529 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ประธานสภาทนายความจังหวัดปัตตานี - กรรมการศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์ 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ และประธานศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ จังหวัดปัตตานี - อนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่า ทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำ�เลยในคดีอาญา พื้นที่พิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ - คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดปัตตานี ปี พ.ศ. 2552-2553 - ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการติดตามและประเมินผลด้านการเยียวยา วุฒิสภา - ทีป่ รึกษาคณะอนุกรรมาธิการติดตามและประเมินผลด้านการอำ�นวยความยุตธิ รรมสิทธิ มนุษยชน การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ คำ�สั่ง และ การจัดองค์กรบริหารที่เกี่ยวข้อง กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา

9. ทค.ไพฑูรย์ หมายมั่น

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 838/2531 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ประธานสภาทนายความจังหวัดรัตนบุรี ปี 2556 - 2559 - เป็นประธานคณะทำ�งานให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย กรณีช่วยเหลือประชาชนบ้านเขวาโค้ง จังหวัดสุรินทร์ - เป็ น กรรมการคณะทำ � งานให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ ทาง กฎหมาย กรณีช่วยเหลือประชาชนบ้านหนองผือ จังหวัด สุรินทร์ ในคดีแพ่ง คดีหมายเลขดำ�ที่ สว.(พ)1,2/2557 ระหว่างนายศุภมงคล พลราช ที่ 1 กับพวกรวม 19 คน (โจทก์) กับนายสมพิศ สุกใส ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (จำ�เลย) และ ในกรณีเดียวกันนี้ได้ยื่นฟ้องเป็นคดีที่ศาลปกครองนครราชสีมา ในคดีหมายเลขดำ�ที่ ส.

10/2557 ระหว่างนายศุภมงคล พลราช ที่ 1 กับพวกรวม 19 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับองค์การ บริหารส่วนตำ�บลเบิด ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี)

11. ทค.วีรศักดิ์ โชติวานิช

ใ บ อ นุ ญ า ต ท น า ย ค ว า ม ป ร ะ เ ภ ท ต ล อ ด ชี พ เ ล ข ที่ 12493/2529 ประวัติและผลงาน โดยสังเขป : - ที่ปรึกษารองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนที่หนึ่ง - กรรมการบริหารสภาทนายความ ปี 2550-2556 - ประธานกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ปี พ.ศ.

2553-2556 - ประธานกรรมการคุม้ ครองผูบ้ ริโภค สภาทนายความ ปี พ.ศ.2550-2553, 2553-2556 - อดีตอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองสัญญาร้องทุกข์จากผู้บริโภคด้านอสังหาริมทรัพย์ สำ�นักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำ�นักนายกรัฐมนตรี - กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ ปี 2550-2553,25532556,2556-2559 - ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณา ศึกษา ติดตาม และตรวจสอบการดำ�เนินด้าน การคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกรรมาธิการสิทธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพ และการ คุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

13. ทค.สุนทร ทรัพย์ตันติกุล

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 15861/2529

ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ที่ปรึกษากรรมการการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย - ประธานกรรมการคณะกรรมการสอบสวนคดีมรรยาท ทนายความ - อนุกรรมการกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ การรถไฟขนส่ง มวลชนแห่งประเทศไทย - อดีตกรรมการมรรยาททนายความ - อดีตผู้อำ�นวยการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ 2 สมัย - สมาชิกและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมพิทักษ์ประโยชน์ผู้บริโภค - อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

8. ทค.พรสวัสดิ์ บุญยิ่ง

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 8390/2529 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ประธานสภาทนายความจังหวัดนครสวรรค์ และสมาชิก สภาเทศบาลนครสวรรค์ - ประธานสภาทนายความจังหวัดนครสวรรค์ - อุทิศตนเพื่อรับใช้องค์กรสภาทนายความ และท้องถิ่นใน จังหวัดนครสวรรค์ และประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน

10. ทค.วิชกรพุฒิ รัตนวิเชียร

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 555/2530 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - กรรมการสอบสวนคดีมรรยาททนายความ 2540-2556 - ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราช บัญญัตแิ ก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพ่ง และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2550 – 2553 - คณะทํางานผู้ช่วยเลขานุการ/คณะทํางานยกร่างแผนปฏิบติงานในคณะอนุกรรมาธิการ ฝ่ายนโยบายและแผนของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา - พนักงานเจ้าหน้าทีผ่ ทู้ รงคุณวุฒิ คณะกรรมการตรวจสอบกระทําทีก่ อ่ ให้เกิดความ เสียหาย แก่รัฐ (คตส)

12. ทค.สมพร ดำ�พริก

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 1735/2533 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - การบริหารสำ�นักงานสภาทนายความจังหวัดมีนบุรี - ประสานงานประธานกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 1 - จัดทนายความอาสาให้คำ�ปรึกษาและเข้าร่วมฟังการสอบ ปากคำ�ผู้ต้องหาในคดีอาญา - ที่ปรึกษาประธานและกรรมการสภาทนายความ ภาค 1 - ประธานสภาทนายความจังหวัดมีนบุรี ปี 2550 -2553 ประจำ�ปี 53-56 รวม 3 สมัย - ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา

14. ทค.สุรพงศ์ อัมพันศิริรัตน์

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 474/2531 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ�จังหวัดพัทลุง - ที่ปรึกษาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติประจำ�จังหวัดพัทลุง - อนุกรรมการสภาทนายความประจำ�จังหวัดพัทลุง พ.ศ. 2536 - ทีป่ รึกษาประธาน/คณะกรรมการสภาทนายความ จ.พัทลุง - คณะกรรมการวิ ส ามั ญ รั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น และ ประชาสัมพันธ์ประจำ�จังหวัด พัทลุงสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540

15. ทค.อารักษ์ ไชยริปู

ใบอนุญาตทนายความประเภทตลอดชีพ เลขที่ 18722/2529 ประวัติและผลงานโดยสังเขป : - ประธานคณะอนุกรรมการสมาคมสภาทนายความประจำ� จังหวัดตราด ปี 2529-2532 - ประธานคณะอนุกรรมการสภาทนายความประจำ�จังหวัด ตราด ปี 2533-2538 - อนุกรรมการสภาทนายความประจำ�ภาค 2 ปี 2535 - 2541 - กรรมการสอบสวนคดีมรรยาททนายความ - ทนายความอาสาประจำ�คุรุสภาประจำ�จังหวัดตราด (ทนายความครู จังหวัดตราด) - ได้รับเลือกตั้งเป็นทนายความดีเด่นปี ประจำ�จังหวัดตราด ประจำ�ปี 2540 -เป็นกรรมาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ 2547

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

7

สภาทนายฯ ไม่เห็นด้วยแก้ กม.ห้ามอุทธรณ์-ฎีกา ชีต้ ดั สิทธิ ปชช. ขัดหลักสากล และติงการเสนอข่าวที่ไม่ชอบด้วยจริยธรรมของสื่อสิ่งพิมพ์

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ที่สภาทนายความ ถนนราชดำ�เนิน กรุงเทพฯ : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายก สภาทนายความ พร้อมด้วย นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ/โฆษกสภาทนายความ, นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการฯ และนายชวน คงเพชร อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษฯ ร่วมอ่านแถลงการณ์เรื่อง “เมื่อประชาชน หมดสิทธิ์อุทธรณ์-ฎีกาคดีต่อศาลฎีกาในคดีแพ่งและคดีอาญา (คดียาเสพติด) กับข่าวที่ไม่ชอบด้วยจริยธรรม ของสื่อสิ่งพิมพ์” โดยแถลงว่า สื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับเสนอข่าวให้ร้ายวิชาชีพทนายความในทางที่สร้างความเข้าใจผิดให้ แก่ประชาชน ในกรณีศาลยุติธรรมเสนอแก้ไขกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ต้องห้ามฎีกา และสิ้นสุดคดีในชั้นอุทธรณ์

ทางสภาทนายความได้ส่งผู้แทนไปชี้แจงต่อกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยไม่เห็นด้วย กับการเสนอกฎหมายดังกล่าวของศาลยุติธรรม เพราะเป็นการตัดสิทธิประชาชนในการฎีกา ซึ่งร่างแก้ไขประมวลกฎหมาย วิธพี จิ ารณาความแพ่ง ฉบับทีส่ ภานิตบิ ญ ั ญัตไิ ด้รบั ไว้เพือ่ พิจารณานัน้ หากผ่านใช้เป็นกฎหมายจะทำ�ให้คดีแพ่งและคดีอาญา (คดียาเสพติด) สิน้ สุดแค่ชนั้ ศาลอุทธรณ์ โดยศาลได้ขอแก้ไขเปลีย่ นแปลงหลักการเดิมให้เป็นการต้องขออนุญาตต่อผูพ้ พิ ากษา 4 คนแทน ซึ่งสภาทนายความเห็นว่าขัดหลักการสากลของสิทธิมนุษยชนที่องค์กรในประเทศไทยพึงถือปฏิบัติ

นอกจากนี้สื่อบางฉบับกลับไปเสนอข่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพราะทนายความต้องการค่าจ้างในชั้นฎีกา ซึ่งการฎีกา นัน้ เป็นการเสนอฎีกาในข้อกฎหมายและหรือข้อเท็จจริงสูก่ ารพิจารณาของศาลฎีกา ไม่มกี ารสืบพยานเหมือนศาลชัน้ ต้นและ ค่าวิชาชีพทนายความนั้นในชั้นฎีกาน้อยกว่าค่าธรรมเนียมศาลและการวางหลักประกัน ดังนั้นกรณีการกล่าวอ้างของ สือ่ มวลชนจึงเป็นการทำ�ให้เกิดการเข้าใจผิด เป็นการละเลยหน้าทีข่ องสือ่ มวลชนทีจ่ ะต้องสอบถามผูท้ ถี่ กู กล่าวหาอีกฝ่ายหนึง่ ก่อนจะเสนอข่าว.

สภาทนายความช่วยเหลือทาง กม.ชาวบางบัวทองเดือดร้อน จากน้ำ�ท่วม เพราะนายทุนถมที่ก่อสร้าง

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมประธานดวงรัตน์ สภา ทนายความ ถ.ราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ : นายนิวตั ิ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ พร้อมด้วย นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ฯ และ ทนายความสำ�นักงานคณะกรรมการสิง่ แวดล้อมฯ ร่วมให้ค�ำ แนะนำ�และรับเรือ่ งร้องขอความ ช่วยเหลือทางกฎหมายจากตัวแทนชาวบ้าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทีไ่ ด้รบั ความเดือดร้อน จากน้ำ�ท่วม สาเหตุจากการถมที่ของการก่อสร้างโครงการบางใหญ่ซิตี้.

สภาทนายความช่วยเหลือทาง กม.กลุ่มชาวบังคลาเทศและ ชาวพม่า กรณีบตุ รหลานจบการศึกษาแต่ไม่สามารถประกอบ อาชีพในประเทศไทยได้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2558 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมประธานดวงรัตน์ สภาทนายความ ถนนราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ : นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภา ทนายความ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนด้าน ชนชาติฯ ร่วมรับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจาก กลุ่มชาวบังคลาเทศและ ชาวพม่าในประเด็นปัญหาเรือ่ งบุตรทีเ่ กิดจากบิดามารดาเป็นแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย ได้รับการศึกษาในประเทศไทย แต่เมื่อจบการศึกษาแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพใน ประเทศไทยได้

คุยกับ นายทะเบียน เรียน เพื่อนทนายความทุกท่าน

เนื่องในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ถือว่าเป็นวันที่มีความสำ�คัญต่อวิชาชีพทนายความอย่างยิ่งนั่นคือ “วันทนายความ” ในทุกๆ ปี ช่วงเช้าสภาทนายความฯ จะจัดให้มีพิธีการทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่เพื่อนทนายความที่ล่วงลับและเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ประกอบ วิชาชีพทนายความ นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสัมมนาวิชาการทางกฎหมาย (ไม่มีค่าใช้จ่าย) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางวิชาชีพที่เป็นประโยชน์แก่ เพื่อนทนายความ รวมถึงการให้ความรู้และความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย

ในปี 2558 นี้ สภาทนายความฯ จัดสัมมนาวิชาการในหัวข้อ เรื่อง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2557 (ค้ำ�ประกัน จำ�นอง), ร่างพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ....., และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย นายทะเบียนสภาทนายความ วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่..) พ.ศ..... (การดำ�เนินคดีแบบกลุ่ม) โดยมีวิทยากรร่วมบรรยายในหัวข้อดังกล่าวหลายท่าน การสัมมนาวิชาการ เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00-16.30 น.

หลังจากสัมมนาวิชาการเสร็จสิ้นแล้ว ในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. จัดงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ของเพื่อนทนายความและมอบโล่ทนายความดีเด่น ประจำ�ปี 2557 อีก ด้วย หากทนายความท่านใดยังไม่ได้ซื้อบัตรที่นั่งสามารถสั่งซื้อได้ที่สภาทนายความฯ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยงานสัมมนาวิชาการและงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์วันทนายความ 2558 จัด ขึ้น ณ ห้องแกรนด์บอลรูม เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ นนทบุรี

นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2558 จะมีการแข่งขันฟุตบอล “ASIAN FOOTBALL CUP FOR LAWYERS” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยสภาทนาย ความฯ ได้ท�ำ การคัดเลือกทนายความจากทัว่ ประเทศ เพือ่ เป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันและมีทมี ฟุตบอลทนายความจากประเทศอืน่ ๆ ในอาเซีย่ นเข้าร่วมการแข่งขันหลาย ประเทศด้วยกัน ดิฉันจึงขอประชาสัมพันธ์เพื่อนทนายความทุกท่านให้เข้าร่วมชมและเป็นกำ�ลังใจให้นักฟุตบอลทีมสภาทนายความฯ ในการแข่งขันฟุตบอล “ASIAN FOOTBALL CUP FOR LAWYERS” ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ด้วยค่ะ

อนึ่ง ดิฉันขอเรียนประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมว่า กรณีที่เพื่อนทนายความท่านใดมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว และ/หรือ ข้อมูลสำ�นักงานที่ท่านสังกัดอยู่ และยังไม่ได้แจ้งการ เปลี่ยนแปลง ขอความกรุณาแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้สำ�นักงานทะเบียนทนายความเพื่อดำ�เนินการปรับปรุงข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบันที่สุด ทั้งนี้ เพื่อที่สภาทนายความฯ จะได้ส่งข่าวสาร ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ไปยังเพื่อนทนายความทุกท่านค่ะ.

8

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

บทความพิเศษ

กองบรรณาธิการ

สภาทนายความ จัดระดมความเห็น ค้านแก้ไข วิ แพ่ง ห้ามอุทธรณ์ฎกี า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 9.30 น. ที่ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับวิชาชีพทนายความ กับการเป็นผู้นำ�มหาชนในมิติของการบัญญัติกฎหมาย ซึ่งเป็นการจัดระดมความคิดเห็นจากประธานสภาทนายความจังหวัด และกรรมการสภาทนายความจังหวัดทุกเขตศาลจังหวัดทั่วประเทศ เกีย่ วกับการแก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายวิธพ ี จิ ารณาความแพ่ง ฉบับแก้ไขเพิม่ เติมอุทธรณ์ฎกี า ทีก่ ระทบสิทธิของประชาชน โดยมีกรรมการบริหารสภาทนายความร่วมการสัมมนา เพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางวิชาการ โดยนายเดชอุดม กล่าวในการเปิดการสัมมนาว่า “การระดมความคิดเห็นครั้งนี้เป็นการเสนอข้อความเห็นที่เป็นหลักการและ เหตุผลที่ต่อไปคดีแพ่งจะพิจารณาจบในสองศาลคือ ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ที่จากเดิมต้องพิจารณาสามศาลจนถึงชั้นศาลฎีกา สิทธิในการอุทธรณ์/ฎีกา จะเปลี่ยนเป็น “การขออนุญาต” ที่ต้องผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการกลั่นกรองจำ�นวน 4 คน ประกอบด้วย ผู้พิพากษาในชั้นศาลฎีกา 3 คน และรองประธานศาลฎีกาจำ�นวน 1 คน เป็นผู้วินิจฉัยว่ากรณีคดีนั้นๆ ควรจะขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลฎีกาได้หรือไม่ สภาทนายความไม่เห็นด้วย โดยได้ทำ�สมุดปกขาวแสดงความเห็นคัดค้านส่งให้วิป สนช. เพื่อ ให้ สนช. เห็นว่าหลักการดังกล่าวเป็นการตัดสิทธิของประชาชนที่จะได้รับการคุ้มครองจากการใช้สิทธิทางศาล หากร่าง กฎหมายฉบับนีผ้ า่ นการพิจารณาจะทำ�ให้มาตรฐานสิทธิมนุษยชนในการเข้าถึงกระบวนการยุตธิ รรมตามมาตรฐานระหว่าง ประเทศจะถูกลดระดับลง” นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการร่างกฎหมายวิธีสบัญญัติที่มีการเสนอการปรับปรุงแก้ไข จากวิทยากรผู้ทรง คุณวุฒิ ได้แก่ นายเจษฎา อนุจารี ผู้อำ�นวยการสำ�นักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ, นายวีรศักดิ์ โชติวานิช กรรมการ สำ�นักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายสภาทนายความ และนายคมสรรค์ เมธีกุล คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ โดยนายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ เป็นผู้ดำ�เนินการอภิปราย ซึ่งได้มีการเสวนาร่วมกันของวิทยากรทั้ง 3 ท่าน โดยมีข้อห่วงใยว่า หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งได้ เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ส�ำ คัญที่แต่เดิมการฎีกาคัดค้านคำ�พิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นสิทธิของคู่ความในคดีโดยมีข้อจำ�กัดเพียงบาง ประการทีต่ อ้ งห้ามฎีกา เปลีย่ นเป็นให้สทิ ธิค์ คู่ วามต้องขออนุญาตจากศาลฎีกา หากเกิดขึน้ จริงก็อาจจะเกิดปัญหาในด้านกระบวนพิจารณา คดีเหมือนกับที่เคยเป็นปัญหาในระบบกระบวนการพิจารณาคดีต่อเนื่อง ซึ่งในที่สุดก็ต้องยกเลิกไป อีกทั้งหากแก้กฎหมายฉบับนี้ที่ให้มี สองศาลโดยให้คดีสิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์ มีข้อกังวลว่าจะไปขัดกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยร่วมเป็นภาคีสมาชิกอยู่ หรือไม่ ซึ่งจะขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงวิธีปฏิบัติระหว่างประเทศ และขัดต่อรัฐธรรมนูญ ประการสำ�คัญที่เห็นตรงกันคือ อยากให้กระบวนการยุติธรรมนั้นยังคงไว้ซึ่งระบบ 3 ศาลเช่นเดิม เพื่อศาลสูงจะได้ ทบทวนคำ�พิพากษาของศาลล่างอย่างละเอียดรอบคอบ ให้ประชาชนได้มีโอกาสต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ผู้กระทำ�ความผิด ได้รับการลงโทษ ผู้บริสุทธิ์ได้รับความคุ้มครอง และเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ หลังจากการสัมมนาทนายความผู้ร่วมการสัมมนาได้ร่วมกันระดมความคิดเห็น (Focus Group) โดยแบ่งกลุ่มเป็น 9 กลุ่ม ตามเขตของสภาทนายความภาคต่างๆ 9 ภาค ซึ่งได้บทสรุปร่วมกันว่า “ความเห็นและขอเสนอแนะต่างๆ ในการสัมมนาครั้งนี้ จะเป็นแนวทางที่จะนำ�ไปเขียนไว้ในสมุดปกขาว เรื่อง ปัญหามาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมเมื่อห้ามอุทธรณ์/ฎีกา คดีต่อศาลฎีกา กับ หลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ 2)” ซึ่งประธานและกรรมการสภาทนายความทุกเขตศาลจังหวัด ทั่วประเทศ ร่วมกันลงมติเป็นเอกฉันท์ 3 ประเด็นในการเคลื่อนไหวคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ คือ 1.สภาทนายความจะนำ� “สมุดปกขาว” ฉบับที่ 2 เสนอต่อ นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานศาลฎีกา รวมทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และนำ�เสนอต่อสาธารณชน ซึ่งคาดว่าจะมีผลให้ ผู้เสนอกฎหมายต้องพยายามหาเหตุผลมาหักล้างความเห็นคัดค้านของสภาทนายความ 2.หากการเคลื่อนไหวในการเสนอความเห็นผ่านสมุดปกขาว ไม่สามารถผลักดันให้มีการทำ�ประชาพิจารณ์การ แก้ไขร่างกฎหมายฉบับนีไ้ ด้ สภาทนายความจะนำ�เรือ่ งนีท้ ลู เกล้าถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เพือ่ เป็นฎีกา ของประชาชนและสภาทนายความต่อไป 3.ร่วมกันแสดงการคัดค้านโดยการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ ขึ้นป้ายข้อความเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ ประชาชนในการแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ ด้วยข้อความเดียวกันทั้งประเทศ ณ หน้าที่ทำ�การสภาทนายความส่วนกลาง และที่ทำ�การสภาทนายความจังหวัดทุกศาลจังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ซึ่งเป็นวันทนายความ ท้ายการสัมมนา นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาทนายความทีร่ ว่ มกันแสดงความคิดความเห็น และเข้าใจในพันธกิจของสภาทนายความ ทำ�ให้ การสัมมนาครั้งนี้สำ�เร็จครบถ้วนในความมุ่งหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำ�งานให้กับประชาชนนั้น วิชาชีพทนายความต้องเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน เชื่อว่าท่านทนายความ ทุกท่านมีความภูมิใจที่วิชาชีพทนายวามเป็นที่มุ่งหวัง เป็นหลักประกัน ที่ให้ประชาชนได้มีโอกาสต่อสู้คดีถึง 3 ชั้นศาลตามหลักสากล ตามแนวทางแห่งพระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ณ พระตำ�หนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2512 ความว่า

“...ในฐานะทนายความผู้เป็นนักกฎหมายสาขาหนึ่ง ไม่พึงนิ่งเฉยต่อการแสดงความคิดเห็นและในการเผยแพร่ความรู้ในทางกฎหมายให้เป็นประโยชน์ต่อ ประชาชน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้กฎหมายอย่างแท้จริง หากสิ่งใดที่ดำ�เนินอยู่ในสังคมทุกวันนี้ เป็นไปโดยไม่ถูกต้องด้วยความยุติธรรมแล้วนักกฎหมาย ที่ดีไม่พึงนิ่งเฉยเสีย ควรแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต โต้แย้งด้วยเหตุผลเพื่อความถูกต้องและเพื่อความเป็นธรรมของบ้านเมือง หากนักกฎหมายสามารถกระทำ� ได้เช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นกำ�ลังส่วนหนึ่ง ที่ทำ�ให้บ้านเมืองเจริญไปได้...”

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

บันทึกลงพื้นที่

9

ช่วยเหลือเด็กไร้สัญชาติ อำ�เภอ อมก๋อย นอก,หมู่ที่ 14 ห้วยไก่ป่า,หมู่ที่ 13 ปิยอทะ, หมูที่ 11 ทุ่งต้น งิว้ โดยส่วนใหญ่เป็นชาติพนั ธุก์ ะเหรีย่ ง ปกาเกอญอ เข้าร่วม รับฟัง และขอคำ�แนะนำ�ในการยื่นเอกสารขอลงรายการ ทะเบียนราษฎร ซึง่ ทางคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้าน ชนชาติ ฯ ได้ ใ ห้ ค วามรู้ ท างด้ า นกฎหมายและคำ� แนะนำ � เบื้องต้นในการยื่นเอกสาร และการเตรียมพยานบุคคลเพื่อ ให้ปากคำ�ต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร

วันที่ 5 มกราคม 2558 : เวลา 19.00 น. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้ สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผูพ้ ลัดถิน่ สภาทนายความ พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปพบชาวบ้าน ประมาณ 50 คน ณ โบสถ์บา้ นสบอมแฮด ตำ�บลอมก๋อย อำ�เภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพือ่ ให้ค�ำ ปรึกษา ให้ความรูใ้ นเรือ่ งการลงรายการสัญชาติไทย ตาม รายการผู้ถือบัตรประจำ�ตัวประชาชนขึ้นต้นด้วยหมายเลข 7, 6 และ 0 รวมทั้งกระบวนการเตรียมเอกสาร พยานหลักฐานและพยาน บุคคลในการลงรายการสัญชาติ ให้แก่ชาวบ้านทีม่ าร้องขอความช่วย เหลือและผู้ที่เข้าร่วมรับฟัง วันที่ 6 มกราคม 2558 : เวลา 09.30 น. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้ สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผูพ้ ลัดถิน่ สภาทนายความ และอนุกร รมการฯ เป็นวิทยากรร่วมกับ นายเกรียงศักดิ์ สิทธิเสน สำ�นักงาน ส่งเสริมกิจการ สำ�นักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในการอบรม ให้ความรูเ้ รือ่ ง “นโยบายของรัฐบาล,ข้อกฎหมายทีม่ ผี ลกระทบ ต่อการจัดการศึกษาให้เด็กไร้สญ ั ชาติในประเทศไทย”และการ ช่วยเหลือเด็กนักเรียนด้านสถานะ และสิทธิ ให้กับบุคคลลากรครู อาจารย์จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ในพื้นที่การศึกษาเขต 5 จำ�นวน 230 คน โดยมี นายเจริญ ธรรมบัณฑิต ผูอ้ �ำ นวยการศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำ�เภออมก๋อย กล่าว ต้อนรับและร่วมรับฟังการอบรม ณ หอประชุมอำ�เภออมก๋อย จังหวัด เชียงใหม่

จากนั้น เวลา 13.30 น. คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภา ทนายความ เดินทางไปตำ�บลแม่ตื่น เพื่อพบปะชาวบ้านที่มีปัญหา ด้านสถานบุคคล โดยมีผู้นำ�หมู่บ้านกล่าวต้อนรับ และมีชาวบ้าน ประมาณ 300 คน จาก 10 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 6 ขุนแม่ตื่นน้อย, หมู่ที่ 12 บ้านแม่เทย, หมู่ที่ 15 บ้านพริกเต, หมู่ที่ 8 แม่ตื่น, หมู่ที่ 8 ชิแปร,หมู่ที่ 9 บ้านแม่ระอาใน, หมู่ที่ 10 ลูกูดู บ้านแม่ระอา

วันที่ 7 มกราคม 2558 : เวลา 8.30 น. คณะ อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผูไ้ ร้สญ ั ชาติ แรงงาน ข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ให้ความรู้ประเด็น การลงรายการสัญชาติไทย ตามรายการผู้ถือบัตรประจำ�ตัว ประชาชนขึน้ ต้นด้วยหมายเลข 7, 6 และ 0 รวมทัง้ กระบวนการ เตรี ย มเอกสาร พยานหลั ก ฐานและพยานบุ ค คลในการ ลงรายการสัญชาติ ณ โครงการช่วยเหลือประชาชนบ้าน ทุ่งต้นงิ้ว อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ สำ�นักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 6 ตำ�บลแม่ตื่น อำ�เภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีชาวบ้าน ตำ�บล แม่ตื่น และตำ�บลใกล้เคียง จำ�นวน ประมาณ 200 คน เข้าร่วมรับฟังการให้ความรู้ทางด้าน กฎหมายและเข้าร้องขอความช่วยเหลือ เวลา 11.00 น. คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เดินทางไปโรงเรียนบ้านทุ่งต้นงิ้ว ต.แม่ตื่น อ. อมก๋อย จ. เชียงใหม่ สังกัดสำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 เพือ่ พบปะกับนักเรียนกลุม่ ชาติพนั ธุ์ และคณะครูโรงเรียน บ้านทุง่ ต้นงิว้ พร้อมทัง้ ให้ค�ำ แนะนำ�เรือ่ งแนวทางการศึกษาของนักเรียนกลุม่ ชาติพนั ธุ์ เวลา 14.00 น. คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เดินทางไปโรงเรียนตำ�รวจตระเวน ชายแดนรางวัลอินทิรา คานธี โดยมีคณะครู ตำ � รวจตระเวนชายแดน ให้ ก ารต้ อ นรั บ คณะอนุ ก รรมการฯ ทั้ ง นี้ ท างคณะ อนุกรรมการ ฯได้สอบถามความคืบหน้าในการยื่นเอกสารขอลงรายการใน ทะเบียนราษฎรของนักเรียนในสังกัด จำ�นวน 2 ราย ซึง่ ใน 1 ราย นัน้ ทัง้ ครอบครัว ยังไม่ได้รบั การเพิม่ ชือ่ ในรายการทะเบียนราษฎร ทางคณะอนุกรรมการ ฯได้หารือ กับครูและให้คำ�แนะนำ�การลงรายการสัญชาติไทย รวมทั้งกระบวนการเตรียม เอกสาร พยานหลักฐานและพยานบุคคลในการลงรายการสัญชาติ และสิทธิการศึกษา ให้แก่ครูเพือ่ ดำ�เนินการติดตามเรือ่ ง ที่ยื่นเอกสารไว้กับทางอำ�เภอ วันที่ 8 มกราคม 2558 : เวลา 9.00 น. นายสุวิทย์ เชย อุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธาน อนุกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติฯ สภา ทนายความ นายเกรียงศักดิ์ สิทธิเสน นักวิเคราะห์นโยบายและแผน และคณะเจ้าหน้าที่จากสำ�นักส่งเสริมกิจการการศึกษา สำ�นักงานปลัด กระทรวงศึกษา เข้าร่วมหารือข้อขัดข้อง แนวทางการแก้ไขปัญหาใน การลงทะเบียนราษฎร ร่วมกับนายอำ�เภออมก๋อย,ปลัดอำ�เภออมก๋อย ฟังสรุปผลงานในรอบปีที่ผ่านมาของสำ�นักทะเบียนอำ�เภออมก๋อย เวลา 13.30 น. เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของสำ�นักทะเบียนและ บัตรอำ�เภออมก๋อย ถึงกระบวนการแจ้งเกิดเกินกำ�หนดและลงรายการในทะเบียนราษฎร ให้กับเด็กชายพะโมแซ เนาะดี และเด็กหญิงยุพิน เนาะดี ซึ่งทั้งสองรายนี้เป็นผู้ร้องเรียนมายังคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติฯ เพื่อขอความ ช่วยเหลือในการทำ�บัตรประจำ�ตัวประชาชน.

ที่ปรึกษาประจำ�กองบรรณาธิการ :

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์, นายสัก กอแสงเรือง, นายบำ�รุง ตันจิตติวัฒน์, นายเจษฎา อนุจารี, นายสุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล, นายพูนศักดิ์ บุญชู, ดร.สุธรรม วลัยเสถียร, นายสุมิตร มาศรังสรรค์, นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง, นายธีรศักดิ์ วิชชุตานนท์, ผศ.ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา, นายชวน คงเพชร, นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์, นายวิเชียร ชุบไธสง, นายชลิต ขวัญแก้ว, นายสุรศักดิ์ รอนใหม่, นายพิเชษฐ คูหาทอง, นายอาสา เม่นแย้ม, นายผาติ หอกิตติกุล, นายวิทยา แก้วไทรหงวน, นายวันรัฐ นาคสุวรรณ, นายโอฬาร กุลวิจิตร

บรรณาธิการ : นายนิวัติ แก้วล้วน กองบรรณาธิการ : นายสุนทร พยัคฆ์, นายสุวทิ ย์ เชยอุบล, ดร.เกียรติศกั ดิ์ วรวิทย์รตั นกุล, นายไสว จิตเพียร, นายศุภกิจ หล่อพัฒนากูร,

นายสุชาติ ชมกุล, นายสุรนิ ทร์ ทาซ้าย, นายวิบลู ย์ นาคทับทิม, ว่าทีร่ อ้ ยตรี สมชาย อามีน, นายคราศรี ลอยทอง, นายโอวาท จุลโคตร, นายเจษฎา คงรอด, นายสัมฤทธิ ์ เชือ้ สาวถี, นายดนัย พุม่ เล็ก, นางสาวชืน่ ชนก วชิรธาราธาดร, ดร. วิเศษ แสงกาญจนวนิช, นางสาวนงลักษณ์ แตงเจริญ ผู้ช่วยกองบรรณาธิการ : นางสาวนัทธมน จันดี, นางสาวพรธิรา แจ้งสว่าง, นายไพศาล แก่ฉมิ

• ผลิตโดย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 0-2629-1430 ต่อ 129, 146 โทรสาร : 0-2282-9908

10

มุมกิจกรรม

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

นธป. รุ่นที่ 3 : เมื่ อ วั น ที่ 14 มกราคม 2558 ที่ สำ � นั ก งานศาล รัฐธรรมนูญ : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภา ทนายความ เข้าร่วมการอบรมหลักสูตร “หลักนิตธิ รรม เพื่อประชาธิปไตย” (นธป.) รุ่นที่ 3 โดยสำ�นักงาน ศาลรัฐธรรมนูญจัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง จิตสำ�นึกและพฤติกรรมของบุคลากรทั้งในภาครัฐและ เอกชนให้สอดคล้องกับวิถกี ารปกครองตามหลักนิตธิ รรม ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีผู้เข้ารับการฝึกอบรบทั้งสิ้น 52 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางการเมืองเข้าร่วมอบรมหลักสูตรดังกล่าว เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์, นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศฯ, นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1, พล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ, พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สนช.และปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายเกษม คมสัตย์ธรรม รองประธาน ศาลปกครองสูงสุด, นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.), นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการ แผ่นดิน และนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นต้น. พบปะสังสรรค์กรรมการสวัสดิการสภาทนายความ :

เมือ่ วันที่ 14 มกราคม 2558 เวลา 19.30 น. : สำ�นักงานสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ สภาทนายความ โดย นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ จัด งานเลี้ยงสังสรรค์เชื่อมสัมพันธ์สร้างไมตรีจิต ระหว่างคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ, ทนายความอาวุโส และกรรมการฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์สภาทนายความ ซึ่งได้รับ เกียรติจากบุคคลสำ�คัญในวิชาชีพทนายความร่วมงานหลายท่าน อาทิ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ, นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นาย วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช อดีต กรรมการบริหารสภาทนายความ ซึ่งบรรยากาศงานเป็นไปด้วยความสนุกสนานชื่นมื่น ทำ�ให้ เห็นถึงความรักความสามัคคีระหว่างพี่น้องทนายความ ซึ่งแม้ว่าแต่ละท่านจะมีบทบาทหน้าที่ ที่แตกต่างกัน แต่โดยเนื้อแท้ในสายเลือดของวิชาชีพทนายความทำ�ให้ทุกท่านรักและอุทิศตน เพื่อวิชาชีพทนายความมาโดยตลอด และร่วมกันผลักดันเพื่อสร้างเกียรติและศักดิ์ศรีให้แก่ วิชาชีพทนายความให้เป็นรากฐานการอำ�นวยความยุติธรรมแก่สังคมอย่างยั่งยืนตลอดไป. วิทยากรหลักสูตร นธป. รุ่นที่ 3 :

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 13.00 น. : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ และ Mr.Marc Honinckx Attorney เป็นวิทยากรบรรยาย หลักสูตร “หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย” (นธป.) รุ่นที่ 3 ในหัวข้อวิชา “สิทธิ มนุษยชนกับหลักนิตธิ รรมของพระมหากษัตริยไ์ ทย” ซึง่ สำ�นักงานศาลรัฐธรรมนูญ จัดขึ้น ที่ห้องประชุมสำ�นักงานศาลรัฐธรรมนูญ 4/1 ชั้น 4 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ. หารือการร่างกฎหมาย และประชุมร่วมหน่วยงานยุติธรรม :

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 เวลา 09.30 น. (ณ อาคารรัฐสภา 2) : นาย สุวทิ ย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบตั กิ าร พร้อมด้วย นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายก ฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และนายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่าย สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ได้เข้าพบ นายสุรชัย เลีย้ งบุญเลิศชัย รองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 เพื่อมอบรูปหล่อพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ และ อวยพรเนือ่ งในวาระขึน้ ปีใหม่ รวมทัง้ หารือแนวทางประสานในการขอแก้ไขปัญหา เกี่ยวกฎหมายที่จะเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิประชาชน และส่งผลกระทบต่อวิชาชีพทนายความ จากนัน้ เวลา 10.00 น. ทีห่ อ้ ง 104 อาคารรัฐสภา 2 เป็นผูเ้ เทนสภาทนายความ เข้าร่วมประชุมหารือเพือ่ เเก้ไขปัญหาการส่งเสริมสิทธิของผูต้ อ้ งหาในชัน้ สอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณา ความอาญา มาตรา 134/1 โดยมี พลตำ�รวจเอกชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานที่ประชุม ทัง้ นี้ มีผเู้ ข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานในกระบวนการยุตธิ รรมหลายหน่วยงาน อาทิ กรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพ, สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ, สำ�นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, สำ�นักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง.

มุมกิจกรรม

สัมมนาประเพณี ภาค 5-ภาค 6 :

เมื่อระหว่างวันที่ 9-10 มกราคมที่ผ่านมา นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภา ทนายความ เป็นประธานเปิดการสัมมนาประเพณีทนายความภาค 5-ภาค 6 ซึง่ เป็นการถ่ายทอด ความรู้ทางกฎหมาย ค้ำ�ประกัน จำ�นอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แก้ไขใหม่ พ.ศ.

2557 โดยนายสุมิตร มาศรังสรรค์ อุปนายกฝ่ายวิชาการ เป็นวิทยากร อีกทั้งยังจัดการเสวนา ความร่วมมือระหว่างนักกฎหมายไทย กับ นักกฎหมาย สปป.ลาว โดย ดร.สุธรรม วลัยเสถียร อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ และหัวหน้าองค์กรอัยการแขวงไชยบุรี ร่วมเป็นวิทยากร และมีการตอบ ข้อซักถามเกีย่ วกับการดำ�เนินงานของสภาทนายความ โดยนายกสภาทนายความ และกรรมการ บริหารสภาทนายความ ที่อูปแก้วรีสอร์ท อำ�เภอปัว จังหวัดน่าน

ทั้งนี้ การจัดสัมมนาประเพณีสภาทนายความภาค 5-ภาค 6 นี้เป็นการจัดต่อเนื่อง เรือ่ ยมาตัง้ แต่ปี พ.ศ.2523 โดยความริเริม่ ของสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ กับสภาทนายความ จังหวัดเชียงราย จนกลายเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน นอกจากงานวิชาการแล้ว ยังมีการแข่งขัน ฟุตบอลประเพณีระหว่างทีมฟุตบอลทนายความภาค 5-ภาค 6 อีกส่วนหนึง่ และวันที่ 9 มกราคม 2558 โดยนายนิวัต แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ เป็นประธานเปิดการแข่งขัน

ในปีนี้ (2558) จัดขึ้นเป็นปีที่ 35 โดยสภาทนายความภาค 5 เป็นเจ้าภาพ ภายใต้ ความร่วมมือระหว่าง นายอาสา เม่นแย้ม กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 5, นายผาติ หอกิตติกุล กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 6 และสภาทนายความส่วนกลาง ซึ่งในปีนี้ จัดขึน้ ทีจ่ งั หวัดน่าน ได้รบั การต้อนรับจาก นายสุรพันธ์ คำ�นันท์ ประธานสภาทนายความจังหวัด น่าน อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง มีสมาชิกทนายความทั้งภาค 5 และภาค 6 เข้าร่วมงาน อย่างคับคั่ง ทั้งร่วมส่งทีมแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์และงานสัมมนาทางวิชาการ

ขอขอบคุณคณะผู้จัดงานฯ ทุกท่าน พบกันใหม่ปี 2559 ที่จังหวัดนครสวรรค์ โดย สภาทนายความภาค 6 เป็นเจ้าภาพ.

63 ปี ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง :

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 : นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง นายทะเบี ย นสภาทนายความ เป็นผู้แทนสภาทนายความ มอบ แจกันดอกไม้แก่ นายสุภัทร อยู่ ถนอม อธิบดีศาลเยาวชนและ ครอบครัวกลาง เพื่อแสดงความ ยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวัน สถาปนาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ครบรอบ 63 ปี ที่อาคารที่ทำ�การศาลเยาวชนและ ครอบครัวกลาง กรุงเทพมหานครฯ.

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

11

LAWYER’S CUP ครั้งที่ 17 จังหวัดอุดรธานี :

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เป็นประธานเปิดการแข่งขัน แข่งขันฟุตบอลประเพณีทนายความ LAWYER’S CUP (เกมส์แห่งมิตรภาพและ สมานฉันท์สานสัมพันธ์ทนายความ) ครั้งที่ 17 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและ สิทธิประโยชน์ฯ กล่าวสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ และนายพิเชฐ คูหาทอง กรรมการ บริหารสภาทนายความภาค 4 ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และความเป็นมาของการจัดการแข่งขันฯ

ทั้งนี้ การจัดการแข่งขันฯ ครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับสภาทนายความภาค 4 ซึง่ มีกรรมการบริหารสภาทนายความ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมชมการแข่งขัน และส่งทีมฟุตบอลทนายความเข้าร่วม การแข่งขันกว่า 15 ทีม การแข่งขันจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17-18 มกราคม 2558

ผลการแข่งขัน : รางวัลชนะเลิศ (ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเหรียญทอง) ได้แก่ ทีมทนายความมีนบุร,ี รอง ชนะเลิศ (ถ้วยรางวัลพร้อมเหรียญเงิน) ได้แก่ ทีมสภาทนายความภาค 7, รางวัล ทีมมารยาทยอดเยีย่ ม ได้แก่ ทีมสภาทนายความภาค 4 ทีม A และทีม B, รางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ได้แก่ ทนายความพีระวัฒน์ เทียนศิริ เบอร์ 22 นักกีฬา จากทีมทนายความมีนบุรี, รางวัลดาวซัลโว ได้แก่ ทนายความสุริยัน เย็นใจ เบอร์ 11 นักกีฬาจากทีมสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์, รางวัลนักฟุตบอลอาวุโส ทรงคุณค่า ได้แก่ ทนายความนำ�พล จุลพันธ์ นักกีฬาจากทีมสภาทนายความภาค 5, รางวัลกองเชียร์ดีเด่น ได้แก่ ทีมสภาทนายความภาค 7 และรางวัลผู้จัดการ ทีมยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีมสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์. สรรหากรรมการ Thai PBS : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เป็น ป ร ะ ธ า น ก า ร ป ร ะ ชุ ม กรรมการสรรหากรรมการ นโยบายของไทยพี บี เ อส (ThaiPBS) เมื่ อ วั น ที่ 8 มกราคม 2558.

12

บ้านของเรา

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2558

ความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ

ความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 : งานโครงสร้าง : ขณะนี้กำ�ลังดำ�เนินการก่อสร้างในส่วนโครงสร้างหลังคาดาดฟ้า นอกจากนี้เมื่อ วันที่ 15 มกราคม 2558 สภาทนายความได้ลงพืน้ ทีก่ อ่ สร้างพร้อมกับทีมผูอ้ อกแบบและเจ้าหน้าทีจ่ ากกรมศิลปากร เพื่อตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่จะประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่ง อยู่ภายในบริเวณอาคาร และได้ร่วมหารือกับทีมสถาปนิกเพื่อปรับรูปแบบไปเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2558

ขอขอบคุณผู้ให้ยืม-บริจาคเงิน

สมทบกองทุนจัดซื้อที่ดิน

และก่อสร้างที่ทำ�การสภาทนายความ

รายนามผู้บริจาคเงินสมทบกองทุนจัดซื้อที่ดินและก่อสร้างที่ทำ�การสภาทนายความ ดังนี้ ปี 2549 : (ต่อ)

นางอรวรรณ หงษ์ศรีสุวรรณ 3,000 บาท, นายกิตติพงษ์ เกียรติธนภูมิ 3,000 บาท, นายสุชาติ สุภาพ 3,000 บาท, นายนพ รัตติธรรม 2,000 บาท, นายธวัชชัย อุ่นจัตตุรพร 2,000 บาท, นางอนงค์พร ธนชัยอารีย์ 1,300 บาท, นางศรัณยา ไชยสุต 1,000 บาท, นายชาญวัฒน์ เกตุสวัสดิวงศ์ 1,000 บาท, นายฐิติพงศ์ งามมีศรี 1,000 บาท, นายประสงค์ แสงพงษ์ชัย 1,000 บาท, นายสมัย จุรุเทียบ 1,000 บาท, นายสวาท เอกตาแสง 1,000 บาท, นายปรีชา ประเสริฐศักดิ์ 1,000 บาท, นายประสาน โกศลบุญ 1,000 บาท, นายธวัชชัย วัจน์ประภาศักดิ์ 1,000 บาท, นายชัยวัฒน์ นุกูลกิจ 1,000 บาท, นางสาวนวรัตน์ พัชราวุธ 1,000 บาท, นางสาวปรัษฐา วงศ์อากาศ 1,000 บาท, นางสาวมยุรี น่วมเจริญ 1,000 บาท, นางสงบ ดุจจานุทัศน์ 1,000 บาท, นายวิรัตน์ เหรียญทอง 1,000 บาท, นางรัตนา เกตุตรีกร 1,000 บาท, นายสมชัย เลี้ยงจรูญรัตน์ 1,000 บาท, นายจรูญ ศรีคะ 1,000 บาท, นายอุดม คณารักษ์สันติ 1,000 บาท, บ.จ.เดอะลีเกิลลิสด์ลอว์ออฟฟิส 1,000 บาท, นางอารี ภัทรกุลพิเชษฐา 1,000 บาท, นายนิ รันดร์ ประดิษฐกุล 1,000 บาท, นายจิตตพัฒน์ โหกุศลสินธุ์ 1,000 บาท, นายถาวร มุสิกศรี 1,000 บาท, นายธนกร ราชรองเมือง 1,000 บาท, นายวิชัย พลอยงาม 500 บาท, นายสุรศักดิ์ โกสิยะจินดา 500 บาท, ร.อ.หญิงญาดา ณ ลำ�พูน 500 บาท, นายศิริพันธ์ เรืองจันทร์ 500 บาท, นายสมคิด คงธนอักษา 500 บาท, นาวาอากาศสุทัศน์ พิลาล้ำ� 500 บาท, นางพรทิพย์ภา ออประยูร 100 บาท, ศ.มารุต บุนนาค 50,000 บาท, นายธวัชชัย เอี่ยมสินทอมร 20,000 บาท, นายอิทธิศักดิ์ บุญพิคำ� 50,000 บาท, นางอนงค์นาถ ซา ดัท ทูซี่ 10,000 บาท, นายประเสริฐ ท้าวธงชัย 5,000 บาท, นายบุญเกิด ยาคำ� 5,000 บาท, นางสาวเสาวณิต เหลืองอรุณรุ่ง 5,000 บาท, ด.ต.ดิเรกราช ไชยสาคร 4,000 บาท, นายศักดา พรมานุสรณ์ 3,000 บาท ติดตามต่อได้ในฉบับหน้า... สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ

ËÇÁÊ‹§ÀÒ¾¢‹ÒÇ-º·¤ÇÒÁÁÒŧà¼Âá¾Ã‹ ไดที่ ¡Í§ºÃóҸԡÒÃ˹ѧÊ×;ÔÁ¾ ¢‹ÒÇÊÀÒ·¹Ò¤ÇÒÁ àÅ¢·Õè 7/89 ÍÒ¤Òà 10 ¶.ÃÒª´Óà¹Ô¹¡ÅÒ§ á¢Ç§ºÇùÔàÇÈ à¢µ¾Ãй¤Ã ¡ÃØ§à·¾Ï 10200

â·ÃÈѾ· 0-2629-1430 µ‹Í 129, 146 â·ÃÊÒà 0-2282-9908

Facebook : ÊÀÒ·¹Ò¤ÇÒÁã¹¾ÃкÃÁÃÒªÙ»¶ÑÁÀ

E-mail : lctnews2013@gmail.com

เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท 0-2629-1430 ตอ 129, 146 โทรสาร 0-2282-9908

ชำระคาฝากสงเปนรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ พ.211/2547

ปณ.ราชดำเนิน