Pie issue 10

Page 1

SUPPORT by

ISSUE TEN : MAY 2014

SPRINKLE DRINKING WATER iF Packaging Design Award 2014

FATBLACK RECORDS Democrazy Theatre Studio Palmmetto terrarium artist TABUN STUDIO : TOY is LIFE Fawalai Sirisomphol out of frame art POOMJIT BAND THE SHOW MUST GO on


THANK FOR YOUR SUPPORT

2


3


B E ~ F

R

EDITOR’S TALK PIE มีสปอนเซอร์แล้ว เย้ ขอบคุณน้ำ�ดื่มสปริ​ิงเคิลมากๆ ครับ ที่ช่วยสนุบสนุนนิตยสารทางเลือกเล็กๆ อย่าง PIE magazine พวกเราจะพยายามสร้างสรรค์งานดีๆ ให้ผู้อ่านอย่าง แข็งขันต่อไป (สินค้าอื่นๆ ผ่านตามาเห็น กลัวน้อยหน้าก็เชิญ มาลงโฆษณากันท่านละตัวสองตัวนะครับ) เข้าเรื่องเลยดีกว่า ช่วงนี้อากาศร้อนระอุ การเมืองดุเดือด ทางแก้ก็ดูจะตีบตันซะ จริงๆ สิง่ หนึง่ ทีเ่ ราๆ ท่านๆ ทำ�ได้แน่ๆ คือทำ�ใจให้สบาย ยิม้ รับ สถานการณ์เศรษฐกิจ พิษการเมืองและทำ�หน้าทีข่ องตัวเองให้ ดีทสี่ ดุ ร้อนนักก็อย่าออกไปข้างนอกให้มากนัก เงินทองไม่คอ่ ย มีกใ็ ช้ชวี แี บบพอเพียง นัง่ อ่านนิตยสารออนไลน์สบายๆ ไม่เสีย สตางค์อยู่บ้านดีกว่าครับ เพราะด้วยความร้อนและความรีบ Editor’s talk เล่มนี้จึงไม่มีสาระแก่นสารอะไรมากมาย เสีย เวลาและอารมณ์กนั ไปมากแล้ว พลิกหน้าต่อไปอ่านมุมมองดีๆ จากนักสร้างสรรค์คุณภาพกันเลย :) สุรเชษฐ์ ศิลปบรรเลง PIE MAKER

E

SH

~ 4


5


CONTENTS SPRINKLE DRINKING WATER MORE FRESH MORE DESIGN

Palmmetto terrarium AND miniature garden

PIE ONLINE MAGAZINE

100/99 Chaiyaruk Village’ soi 55 Sukapibal 5 road, O-ngoen, saimai, bangkok, thailand , 10220

FATBLACK RECORD

SUMMER PHOTO SET BY Alisa Jivacate

tel : 08 0233 5492 E-MAIL : pieonlinemag@gmail.com www.pieeveryday.com www.facebook.com/piemagazine2013

6


ISSUE # IO

PIE ONLINE MAGAZINE FAWALAI SIRISOMPHOL OUT OF FRAME ART

DEMOCRAZY THEATRE STUDIO

7

TABUN STUDIO TOY IS LIFE

MAKING CO-LUMN POOMJIT THE SHOW MUST GO ON


PIE UPDATES

Moomin Cafe : YOU ARE NEVER Alone

หากไปนั่งร้านอาหารคนเดียวแล้วเกิดอาการ เก้ๆ กังๆ เหงาเศร้าอยากหาใครสักคนมาเติม ที่ว่างตรงหน้าคุณ เราขอเชิญที่ Moomin Cafe ร้านอาหารเก๋ไก๋น่ารักที่ ทางร้านจะมี บริการแถมเพื่อนตุ๊กตาจากนิยายเรื่องดัง Moomin มานั่งจังก้าตรงหน้าคุณทันที แถม ในร้านยังมีขนมนมเนย หรือลาเต้อาร์ตที่เกี่ยว โยงกับเจ้า Moomin ใครเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ และมีโอกาสแวะไปเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นก็ ลองไปเที่ยวดูนะครับ

8


The rug / chair

ไอเดียเก๋ไก๋สายยุ่นอีกตามเคยกับเก้าอี้สุดเรียบง่าย เรียก ว่าเรียบแบบจริงๆ จังๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าเก้าอี้ตัวนี้ ปาดตามองแว๊บแรกมันคือพรมแบนๆ ชัดๆ แต่เมื่องอ ขึ้นมาเจ้า The rug สามารถคงตัวเป็นเก้าอี้นั่งดีไซน์ สวยได้ ไอเดียนี้มาจาก Naoki Ono และ Yuuki Yamamoto ดูโอดีไซเนอร์ที่ใช้ชื่อว่า YOY ทั้งแปลก ประหยัดเนื้อที่ ไอเดียแบบนี้ญี่ปุ่นเขาถนัดนัก

Design Nori

งานไดคัตตัดกระดาษดูจะธรรมดาไป เลย เมื่อเจองานไดดัตเจาะลวดลาย สุดสวยบทสาหร่ายของ Umino Hiroyuki ที่ร่วมคิดกับทางเอเจนซี I&S BBDO โดยสาหร่าย Design Nori ตัวนี้จะเป็นแผ่นสาหร่ายแผ่น ใหญ่ส�ำ หรับทำ�มากิหรือข้าวห่อสาหร่าย ความไม่ธรรมดาคือสาหร่ายแต่ละแผ่น จะฉลุลวดลายด้วยเลเซอร์มาอย่าง สวยงามคมกริม เมื่อนำ�ไปห่อก็จะเห็น ลายเป็นสีขาวของข้าวด้านใน น่าสนใจ ไปอีกแบบ แต่เอ๊ะ...แบบนี้ เราจะได้กิน สาหร่ายน้อยลงหรือเปล่าอ่ะ

9


Record Store Day make up

เอาไอเดียเท่ๆ เกี่ยวกับดนตรีและศิลปะมาฝาก ผลงานชิ้นนี้จากศิลปินชื่อ Natalie Sharp ที่นำ�ปกอัลบั้มแผ่นเสียงวง ดนตรีดังมา Make Up ลงบนใบหน้า เพื่อฉลองในช่วง Record Store Day (Record Store Day คือ กิจกรรมส่ง เสริมการขายระดับนานาชาติของวงการดนตรี ที่จะจัดขึ้นทุกเสาร์ที่ 3 ของเดือนเมษายนของทุกปี เริ่มจัดขึ้นในปี 2007 จ้า) ตามด้วยคำ�พูดทิ้งท้ายว่า “Record Store Day, here is my gift to you.” นี่คงเป็นการร่วมส่งเสริมวงการ ดนตรีในแบบที่ศิลปินเพ้นท์ติ้งคนหนึ่งจะทำ�ได้ นับเป็นสิ่งที่ดีนะครับ จริงๆ ปกอัลบั้มเหล่านี้ก็คุ้นตาแฟนเพลงสากลในบ้าน เรากันอยู่แล้ว แต่พอมาเพ้นท์ลงบนหน้าแบบนี้ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ แหม เสียงดนตรีให้แรงบันดาลใจได้จริงๆ ติดตาม ได้ที่ nataliesharp.co.uk

10


The Uncomfortable

ปกตินักออกแบบส่วนมาก พยายามสร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานให้ง่ายดายและสะดวกขึ้น แต่จะเป็นยังไง ถ้าเราดีไซน์สิ่งของเครื่องใช้ให้ใช้ยากขึ้นหรือบางทีถึงขั้นใช้ไม่ได้เลย “The Uncomfortable” ผลงานสุดประชดประชันจาก kkstudio หรือ Katerina Kamprani นักออกแบบประเทศ กรีซ โดยสิง่ ของทัง้ เซตนีม้ เี ป้าหมายในการออกแบบเพือ่ ให้ผใู้ ช้ ใช้งานได้ไม่สะดวกสบายทีส่ ดุ ซึง่ เมือ่ ทำ�แล้ว กลายเป็นว่าของบางชิน้ ต้องใช้พลังความคิดมากกว่าดีไซน์ให้ใช้งา่ ยซะอีก แถมยังดูสนุกขึน้ อีกด้วย

11


TINY KITCHENS IN THE BOTTLE

งานโฆษณาสวยๆ จากบริษัทเครื่องดื่มในญี่ปุ่น Kirin ที่เขาจัดวางโมเดลตัวจิ๋วสเกล 1/48 ลง ในขวดพลาสติก น่ารักน่าเอ็นดู เพื่อประกอบการ โปรโมทผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีคอนเซปต์ว่าด้วยเรื่อง “From The Kitchens of The World” ที่นำ� เสนอเรื่องที่มาที่ไปของผลไม้ตั้งแต่ปลูก ขาย จน มาถึงโต๊ะอาหารของเรา แถมคอนเซปต์นี้พี่เขาได้ แรงบันดาลใจมาจาก ประเทศไทยเราด้วย

The minjjoo children’s door

เด็กทุกคนมีโลกใบเล็กๆ ของตัวเอง ฉะนั้นมันก็ ควรมีประตูเล็กๆ ให้เขาด้วยสิ กับ The minjjoo children’s door ประตูบานน้อยที่ทำ�มาเพื่อลูก น้อยของคุณ เพื่อลดปัญหาในการใช้งานประตู ปกติที่มีขนาดใหญ่ หรือปัญหาแบบที่คุณต้องมา เปิดและปิดให้ลูกน้อยตลอดเวลา ดูสะดวกดีเหมือนกันกับไอเดียนี้ สำ�หรับพ่อแม่ ยุคใหม่ที่ยุ่งกับงาน แต่ถ้าลูกของคุณโตเร็ว ก็อาจจะลำ�บากหน่อยนะ

12


Around Famous Landmarks

อันนี้เป็นงานภาพถ่ายเชิงสารคดีที่ผมชอบมาก เมื่อเราพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวหรือ Landmarks สำ�คัญๆ ก็คงนึกถึงสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นชื่ออย่าง มัชมาฮาล พีระมิด หรือสโตนเฮนจ์ เป็นอันดับต้นๆ เราอาจจะประทับใจ ในความสวยงาม ลึกลับและเรื่องราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาพที่เราเคยเห็นกันทางหนังสือหรือนิตยสาร นำ�เที่ยวต่างๆ แต่ภาพเซตนี้ทำ�ให้เห็นความเป็นจริงของสภาพแวดล้อมที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งโดยมากจะโดนตัด ออกเพื่อความสวยงามและภาพเซตนี้นอกจากจะสะท้อนความเป็นจริงที่ไม่ลวงหลอกของภูมิทัศน์รอบสิ่ง มหัศจรรย์ของโลกแล้ว ยังบอกถึงความทรุดโทรมและไม่เอาใจใส่ของภาครัฐ ที่เจ๋งคือวิธีที่ช่างภาพคนนี้ทำ�ก็ แสนจะง่ายดายมาก แค่ซมู ภาพให้กว้างขึน้ หรือไปถ่ายในมุมอืน่ ๆ ภาพแห่งความจริงทีเ่ ราไม่คอ่ ยได้เห็นกัน มันก็ ปรากฎขึ้นมาเอง (ข้อมูลจาก www.whudat.de)

13


PIE INSPIRATION

SPRINKLE DRINKING WATER MORE FRESH MORE DESIGN

ช่วงหลังๆ มานี้ ผลงานของนักออกแบบไทยและผลิตภัณฑ์สินค้าแบรนด์ต่างๆ ในบ้านเรา ได้รบั รางวัลและการพูดถึงจากต่างชาติมากขึน้ ซึง่ นำ�มาทัง้ ชือ่ เสียงและ โอกาสใหม่ๆ ให้กบั วงการสร้างสรรค์ในบ้านเรา และในช่วงต้นเดือนมีนาคมทีผ่ า่ นมานี้ ก็มอี กี หนึง่ ผลงานคุณภาพจากฝีมอื คนไทยทีไ่ ด้รบั เกียรติจากรางวัลโปรดักส์ดไี ซน์ ระดับโลก อย่าง iF Design Award ในสาขา Packaging Design วันนี้เราจึง ขอไปแสดงความยินดีและพูดคุยกับ คุณกฤตวิทย์ เลาหธนาพร กรรมการบริหาร บริษทั เอ็มวอเตอร์ จำ�กัด เจ้าของแบรนด์น�้ำ ดืม่ Sprinkle เพือ่ ถามถึงแรงบันดาลใจ ที่ใส่ลงในขวดน้ำ�ดื่มที่ได้ไปคว้ารางวัลระดับโลกชิ้นนี้ 14


PIE : เล่าถึงการแนวคิดที่จะเปลี่ยนดีไซน์ขวดน้ำ�ดื่ม Sprinkle หน่อยครับ

คุณกฤตวิทย์ : เร่ิมมาจากการรีแบรนด์ครับ พอผม เข้ามาก็เริ่มศึกษาตัวองค์กรของเราว่าเป็นยังไง แล้ว ก็ตัดสินใจที่จะรีแบรนด์ จากที่ผมเคยศึกษามาว่าการ จะรีแบรนด์เนี่ย เขาจะทำ�ตอนที่ยอดขายตกหรือตอน ที่บริษัทเกิดวิกฤต หรือออกสินค้าใหม่ ซึ่งในตอนนั้น ยอดขายก็ยังไม่ได้ตกนะ แต่ผมมองว่าถ้ารอตอน ยอดตกมันจะช้าไป แล้วคู่แข่งของเราเขาก็เกิดขึ้นมา เยอะขึ้น ผมเลยตั้งใจจะให้น้ำ�ดื่ม Sprinkle มีความ พรีเมียมขึ้น ในมุมของ Emotional Value เพราะ ว่าน้ำ�เปล่าเนี่ย ถ้าเราเล่นเรื่องความสะอาด สดชื่น ปลอดภัย มันก็เหมือนกันทุกแบรนด์ และเราก็มี

15

ความเป็น Professional ในเรื่องคุณภาพของน้ำ�อยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็มีลูกค้าเอาน้ำ�ดื่มของเราไปผลิตเครื่องสำ�อาง ผลิตยา บางคนเขาเอาไปอาบน้�ำ ให้เด็กอ่อน หรือชงนม ให้ลูก คราวนี้เลยต้องเอา Emotional มาเล่น คิดว่า จะรีแบรนด์ยังไงให้ดูทันสมัยขึ้น เท่ขึ้น เจาะกลุ่มคน รุ่นใหม่มากขึ้น เพราะคนที่รู้จัก Sprinkle ส่วนใหญ่ จะเป็น กลุ่มผู้ใหญ่ แม่บ้าน สำ�นักงาน เราอยากจะ กระโดดลงมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนที่ใส่ใจเรื่องของ ไลฟ์สไตล์และอิมเมจของตัวเอง พอเริ่มรีแบรนด์ก็ทำ� ใหม่ทั้งหมดเลยทั้ง โลโก้, สี, Corporate identity ขององค์กรทั้งหมด ในตัวแพ็คเกจจิงปกติก็เป็นขวด ธรรมดาทั่วไป พอเราจะรีแบรนด์ก็เลยจะใช้ตัวขวด Sprinkle เป็นตัวนำ�เหมือนพระเอกเข้าไปลุยก่อน


เพื่อบอกให้คนรู้ว่า Sprinkle เปลี่ยนโฉมใหม่แล้วนะ ใช้ฟอร์มของขวดใหม่ตีตลาดเพื่อให้คนรู้จัก ซึ่งก็ได้ผล เพราะว่าเราเปิดตัวในวันสงกรานต์ 2 ปีที่แล้ว ก็มีคน ชอบเยอะมาก PIE : คุณกฤตวิทย์จบโปรดักส์ดีไซน์ ลงมาทำ�งาน ตรงนี้ยากไหมครับ

คุณกฤตวิทย์ : คือผมจบโปรดักส์ดีไซน์ พอเรียนจบ ก็ทำ�งานด้านดีไซน์อยู่หลายปี แล้วก็ไปเรียน MBA ต่อ ก็เลยพอจะเข้าใจภาพรวมของธุรกิจบ้าง แล้วก็ มาทำ�งานที่นี่ก็เหมือนมาเรียนรู้ใหม่เพิ่มอีก แต่ตอน เรียนโปรดักส์ดีไซน์ ด้วยความที่วิชานี้มันมีความเป็น คอมเมอร์เชียลอยู่ในตัว ซึ่งทำ�ให้ต้องเรียนรู้ทางด้าน การตลาดบ้างพอสมควร

PIE : เริ่มดีไซน์ตัวขวดน้ำ�ดื่ม Sprinkle ยังไง

คุณกฤตวิทย์ : เราออกแบบกันใช้เวลาร่วมสองปี เริ่ม จากการ Research ขวดน้ำ�ที่มีอยู่ในตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจาก คุณลักษณะของน้ำ� เช่น การกระเพื่อมของน้ำ� หยดน้ำ� คลื่น วงน้ำ� เราก็เอารูปแบบพวกนี้มาทำ�ขวดแต่ละแบบ สุดท้ายที่ผมเลือกดีไซน์ที่มาจากผลึกน้ำ�แข็ง เพราะว่ามัน สร้างฟอร์มใหม่ขึ้นมา ถ้าเป็นแบบอื่นลักษณะมันจะเป็น ปล้องเหมือนเดิม โจทย์ที่ผมให้คุณมกร เชาวน์วาณิชย์ (ผู้ก่อตั้งบริษัท Cerebrum Design) ไปทำ�คือ การ ออกแบบขวดที่ไม่มีปล้องแบบเดิม และมีความแข็งแรง เท่ากับขวดแบบเดิมที่เป็นปล้องๆ สุดท้ายก็มาจบที่ตัวนี้ แต่กว่าจะผลิตได้ก็อีกนานมาก เพราะไปหาโรงงานผลิต เจ้าเก่าเขาเห็นแบบก็บอกว่าทำ�ไม่ได้ 16


PIE : ตอนนั้นไปพูดกับทางโรงงานยังไครับ

คุณกฤตวิทย์ : ก็มีเป็นภาพ 3D และไฟล์ CAD ไปคุยกับเขา ขนาดที่นี่เป็นโรงงานที่ทำ�ให้เรามา เป็น 10 ปี เขาก็ยังทำ�ให้เราไม่ได้ ตอนนั้นรู้สึก ว่ายากมาก หาโรงงานอยู่หลายที่ คิดว่าเราอุตส่าห์ ออกแบบขวดมาซะสวย จะทำ�ได้จริงหรือเปล่า สุดท้ายก็มาเจอโรงงานหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนๆ กัน เขา ทำ�โรงงานทำ�ขวดอยู่แล้ว และกำ�ลังจะเปิดไลน์การ ผลิตใหม่ พอเขาเห็นขวดของเราปุ๊บ ก็ตกลงรับทำ� ทันที เขาก็ซื้อเครื่องจักรใหม่มาเลย ทำ�โรงงานใหม่ เพื่อที่จะผลิตขวดนี้ คือถ้าไม่ได้พี่คนนี้ขวดน้ำ�ดื่ม Sprinkle ก็คงจะไม่เกิด เหมือนว่าผู้ประกอบการคน ไทยยิ่งบริษัทใหญ่เป็นโรงงานดั้งเดิม เขาคิดว่าแบบ เดิมเขาขายได้อยู่แล้ว จะมาเสียเวลาเหนื่อยทำ�ไม เขาก็ทำ�แต่แบบเดิมๆ แต่คนนี้เขาเป็นคนรุ่นใหม่ เหมือนกัน พอเห็นปุ๊บเขาก็เอาเลย หลังจากนั้นเราก็ เริม่ พัฒนามาด้วยกัน การผลิตก็คอ่ นข้างยุง่ ยากซับซ้อน อยู่เหมือนกัน ต้องเอาไปคำ�นวณเรื่องการรับแรง ความสมดุลต่างๆ ซึ่งทางนั้นเขาก็เป็นคนจัดการให้ เพราะสิ่งที่ยากที่สุดของขวดนี้คือ มันไม่สมมาตร ซ้ายขวาหน้าหลังไม่เท่ากันเลย เวลาเป่าขวดออกมา แล้วไม่ได้รปู ตามแบบ กว่าจะทำ�ได้กใ็ ช้เทคนิคเยอะ มาก ทีย่ ากอีกอันหนึง่ คือฉลากสติก๊ เกอร์ ซึง่ ต้นทุน ค่อนข้างสูง เพราะปกติขวดน้�ำ ดืม่ ในตลาดจะใช้ฉลาก แบบ Shrink Film ด้วยความร้อน ตัวสติก๊ เกอร์เนีย่ ไม่คอ่ ยมีใครใช้กนั แล้วมันเป็นเทคโนโลยีคนละแบบกัน อันนี้ต้องมีเรื่องของคุณภาพกาว ต้องกันน้ำ� กัน ความเย็นได้ และการติดฉลากลงบนขวดอีก 17

PIE : ใช้ขั้นตอนยุ่งยากพอสมควร เพื่อที่จะได้แบบ ที่ต้องการที่สุด

คุณกฤตวิทย์ : ใช่ครับ เราเริ่มทำ�ไปแล้วก็ต้องทำ�ให้ ถึงที่สุดจะล้มเลิกกลางคันก็ไม่ได้ ตัวสติ๊กเกอร์นี่ ขั้นตอนที่ยากที่สุดก็คือตอนติด มันจะมีคราบฝุ่น ฟองอากาศ กาวไม่ใส บางทีติดแล้วมีคราบกาว บ้าง กว่าจะหาซัพพลายเออร์ที่ผลิตสติ๊กเกอร์ตัวนี้ ได้ก็หลายเจ้าอยู่ ซึ่งปกติขวดที่เขาติดกัน มันจะไม่ ใสเช่นพวกขวดแชมพูมีคราบกาวมันจะมองไม่เห็น แล้วต้องสั่งทำ�เครื่องติดสติ๊กเกอร์โดยเฉพาะ เพราะ เครื่องอื่นก็ติดไม่ได้ มันต้องแก้กันทุกรายละเอียด จริงๆ กว่าจะออกมาเป็นขวดนี้ได้ก็ลากเลือดอยู่ เหมือนกัน PIE : รางวัลแรกที่ได้จากขวดนี้คือรางวัลอะไร

คุณกฤตวิทย์ : DEmark Design Award 2013 ได้เมื่อปีที่แล้วครับ จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก และสถาบันนวัตกรรมเพื่อการค้า กระทรวงพาณิชย์ จริงๆ ตัวนี้เพิ่งจะออกสู่ตลาดเมื่อช่วงสงกรานต์ปี ที่แล้ว พอเราได้รางวัล DEmark ทางกรมส่งเสริม การส่งออกก็ส่งเราไปประกวดที่ญี่ปุ่นต่อ เราก็เลย ได้รางวัล Gmark (Good Design Award 2013) มาด้วย และในระหว่างนั้นผมก็ส่งไปที่อังกฤษด้วยใน งาน Beverage Innovation ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่จัดในยุโรป มีทั้งน้ำ�แร่ เหล้า เบียร์ น้ำ�ผลไม้ ฯลฯ อันนี้ได้เข้ารอบสุดท้าย Best bottle in PET (PET = Poly Ethylene Terephthalate) ก็คือออกแบบขวดยอดเยี่ยม


PIE : แล้วรางวัล iF Packaging Design Award 2014 ล่ะครับ

PIE : แล้วในบ้านเราล่ะครับ

PIE : มองเรื่องแพ็คเกจจิงของสินค้าในต่าง ประเทศกับบ้านเราเป็นยังไงบ้างครับ

PIE : ถามถึงมุมมองของคุณ กฤตวิทย์ ถึงเรื่อง คนยุคใหม่กับงานดีไซน์หน่อยครับ

คุณกฤตวิทย์ : ในบ้านเราก็มีบ้าง ถ้าเป็นสินค้าพวก งานดีไซน์ ของตกแต่งบ้านหรือพวกแฟชั่น ก็ดูดีเยอะ คุณกฤตวิทย์ : รางวัลนี้เพิ่งได้มาเลย ก็ถือว่าเป็น สุดยอดของเวทีการประกวดโปรดักส์ดีไซน์ระดับโลก แต่ในบ้านเราถ้าเป็นคอนซูเมอร์โปรดักส์หรือของอุปโภค บริโภคที่เราเห็นทั่วๆ ไป ก็อาจจะยังเป็นส่วนน้อยที่ iF Design Award เป็นสถาบันที่รับรองเรื่องการ ออกแบบโปรดักส์โดยตรง ซึ่งเป็นรางวัลที่เก่าแก่มีมา เห็นความสำ�คัญตรงนี้ เขาอาจจะมองว่าแบบเดิมก็ ห้าสิบกว่าปีแล้วถือว่ามีชื่อเสียงมาก อันนี้เราก็ส่งใน ขายได้ดีอยู่แล้ว ไม่จำ�เป็นต้องเปลี่ยนอะไรมาก แต่ก็ สาขาทีเ่ ป็น Packaging Design ทีเ่ ป็น Baverage มีที่เจ๋งๆ นะ ที่ชอบเลยคือโค้ก ที่พิมพ์ชื่อลงบนฉลาก อันนี้ถือว่าประสบความสำ�เร็จมาก เข้าถึงใจผู้บริโภค ซึ่งขวดอื่นๆ ที่ได้รางวัลนี้ส่วนมากจะเป็นขวดแก้ว เพราะในการเปลี่ยนดีไซน์ของแพ็คเกจจิงสำ�หรับเรามัน พวกน้ำ�แร่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีส่วนน้อย ไม่ใช่แค่การเปลีย่ นรูปแบบภายนอกให้แตกต่างเท่านัน้ นะ มากที่เป็นขวดพลาสติกแบบของเรา และเราก็ได้ แสดงผลงานอยูใ่ นพิพธิ ภัณฑ์ของ iF ทีเ่ มือง Hamburg อย่างของ Sprinkle มันคือการเปลีย่ นวิธคี ดิ คือแตกต่าง ตั้งแต่วิธีคิดและวิธีการผลิตเลย ประเทศเยอรมันนี

คุณกฤตวิทย์ : มันก็มีความเกี่ยวโยงกันเยอะขึ้น ผม ยกตัวอย่างตอนที่ Ikea เข้ามา ผมก็คิดนะว่าบ้านเรา จะรับได้หรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าคนเริ่มเสพงานดีไซน์ กันมากขึ้น สนุกกับการแต่งบ้าน แต่งคอนโดฯ เริ่ม สนุกกับของดีไซน์ต่างๆ อาจเริ่มในแบบที่เล็กๆ ก่อน อย่าง กรอบรูป โคมไฟ จนไปถึงเฟอร์นเิ จอร์ชน้ิ ทีใ่ หญ่ขน้ึ ส่วนแบรนด์อื่นๆ ในบ้านเราที่ขายของตกแต่งบ้าน ก็ เริ่มปรับตัวให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเมื่อก่อน อาจจะมีแค่โมเดิร์นเป็นส่วนใหญ่ คนซื้อก็จะเริ่มสนุก กับดีไซน์และเริม่ หาสไตล์ทม่ี คี วามเป็นตัวเองมากขึน้ ร่วมถึงสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ อย่าง facebook หรือ instagram ที่เข้ามาทำ�ให้คนได้แสดงความเป็น ตัวเองและโชว์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ มันก็เป็นการนำ�เสนอ สไตล์ของตัวเองแบบหนึ่ง

คุณกฤตวิทย์ : ผมมองว่าต่างประเทศเขาให้ความ สำ�คัญกับเรื่องแพ็คเกจจิงมาก เหมือนกับตัวโปรดักส์ เราดีแล้ว ก็ต้องใส่เสื้อผ้าแต่งตัวให้ดูดีด้วย แพ็คเกจ จิงมันคือการแต่งตัวให้สินค้า มันเป็น Emotional Value ทุกคนก็คงเคยซื้อสินค้าที่แพ็คเกจจิงสวยๆ แล้วเก็บแพ็คเกจจิงนั้นไว้ ยิ่งตอนผมไปงาน iF ผม เห็นชาวเอเชียเยอะมากที่ได้รางวัล จีน เกาหลี ไต้หวัน ตอนนี้มาแรงมาก งานของเขาเรียบง่ายและ มันเหมาะกับตัวโปรดักส์ของเขามากๆ เห็นแล้วไม่ สงสัยเลยที่เขาจะได้รางวัล ปกติประเทศทางฝั่งยุโรป จะได้รางวัลแบบนี้เยอะอยู่แล้ว แต่ปีที่ผ่านมาเอเชีย ก็มาแรงมาก ก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้โลกให้ความ สำ�คัญกับดีไซน์มากขึ้นเรื่อยๆ และประเทศเพื่อน บ้านเราเขาก็เริ่มให้ความสนใจกันอย่างจริงจัง 18


19


20


PIE : ในปีที่แล้ว Sprinkle มีกิจกรรมประกวด ถ่ายภาพ ปีนี้จะมีแผนยังไงบ้างครับ

คล้ายๆ กับขวดเล็ก แต่ด้วยขนาด น้ำ�หนักและ การใช้งาน ทำ�ให้การออกแบบและการผลิตค่อน คุณกฤตวิทย์ : ปีนี้ก็น่าจะมี แต่ยังคิดอยู่ว่าจะ ข้างยาก เราอยากให้มันทั้งสวยงามและใช้งานได้ เป็นการถ่ายรูปแบบเดิมดีไหม ผมอยากทำ�อะไรที่ จริง ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วย มันใหม่ ไม่จำ�เจ ให้คนที่มาร่วมกิจกรรมตื่นเต้นกับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทดสอบอยู่ น่าจะได้เห็น กิจกรรมของเรา กำ�ลังมองๆ อยู่ ปลายปีหรือต้นปีหน้าครับ PIE : ดีไซน์ของขวดน้ำ� Sprinkle จะมีการ เปลี่ยนอีกไหมครับ

คุณกฤตวิทย์ : คิดว่าคงยังไม่มีการปรับเปลี่ยน ในช่วงนี้ ผมตั้งใจให้ขวดใหม่นี้เป็น Signature ของน้ำ�ดื่ม Sprinkle อยากให้ผู้บริโภคจดจำ�ภาพ ของขวดนี้ให้ได้ ตอนนี้เรากำ�ลังออกแบบตัว บรรจุภัณฑ์ของน้ำ�ถังด้วย อยากให้มีรูปแบบ

หลังจากที่ได้ฟังคุณกฤตวิทย์เล่าถึงที่มาที่ไปของ ขวดน้ำ�ดื่ม Sprinkle แล้ว ก็คิดได้ว่านอกจาก แนวความคิดที่แตกต่าง แปลกใหม่และชัดเจนแล้ว ความมุ่งมั่นที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ การคิด แก้ไขปัญหาและทักษะความรู้ความเข้าใจก็เป็นสิ่ง สำ�คัญที่จะช่วยสร้างให้แรงบันดาลใจให้กลายเป็น ผลงานที่เกิดขึ้นจริงได้ อย่างขวดน้ำ�ดื่ม Sprinkle

facebook.com/SprinkleDrinkingWater

21


PIE TALK

p

a

terrarium AND

m

e

t

miniature garden

น่ารักแถมสดชื่น เมื่อได้มองต้นไม้จิ๋วที่อยู่ในขวดแก้วใส ทั้ง เพลิดเพลินและได้พักสายตาจากบรรยากาศเมืองอันวุ่นวาย ดีจริงๆ วันนี้ผมเลยขอมาคุยกับหนึ่งในนักทำ�สวนในขวดหรือ เทอราเรียม คุณปาล์ม ปุณยวีร์ ฐอสุวรรณ นักจัดสวนขวด ที่มีผลงานแตกต่างและชัดเจนในชื่อ Palmmetto

22


23


PIE : เรียนจบอะไรมาครับ

PIE : เรียนสายออกแบบมามีผลไหมครับ

PIE : เทอราเรียมคืออะไร

PIE : ความยากง่าย

จบตกแต่งภายในมาครับ ทีม่ .ศิลปกร แล้วก็ท�ำ งาน ทางสายนี้อยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นก็ลาออกไปเรียน ดนตรีที่ ม.รังสิตครับ เรียนเชลโล ผมเป็นอาจารย์ สอนพิเศษด้วยสอนตกแต่งภายใน และสอนเชลโล ตามบ้านนิดหน่อย ส่วนเทอราเรียม (สวนในขวด) เนี่ยทำ�มาตั้งแต่เด็กๆ ครับ เคยทำ�ในวิชาเรียน แล้วก็ทำ�เป็นงานอดิเรก ทำ�เป็นของขวัญให้เพื่อนๆ บ้าง อ๋อ..เคยทำ�กระเป๋าหนังนิดหน่อยด้วย มันเป็นการจำ�ลองระบบนิเวศลงในพื้นที่เล็กๆ ถ้า ทำ�ระบบนิเวศดีๆ นี่ไม่ต้องดูแลอะไรเลย เขาจะ อยู่ได้ของเขาเอง เป็นปีๆ เลย แต่มันก็อาจจะ ไม่สวยเหมือนตอนแรกนะครับ เราก็ต้องเข้าใจว่า มันเป็นธรรมชาติเป็นต้นไม้ เขาก็จะมีความเป็น ธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้อยู่ PIE : อุปกรณ์ที่ใช้หาจากไหน

อุปกรณที่ใช้ก็เป็นของใกล้ตัวนี่แหละครับ เอามา ดัดแปลง เพราะในบ้านเราอาจจะไม่ได้มีอุปกรณ์ เฉพาะทางขายเท่าไหร่ ตอนช่วงแรกที่ทำ�ก็ต้อง ทดลองเยอะครับ ทำ�เสร็จก็ต้องมาดูว่าอยู่ได้นาน แค่ไหน ต้องปรับเปลี่ยนอะไรยังไง ตอนแรกทำ�คือ เอาสวยเป็นหลัก แต่ไม่ได้คิดถึงว่ามันจะอยู่ได้นาน แค่ไหน ต้นไม้ต้นไหนควรปลูกกับต้นไหน รากมัน จะยาวเท่าไหร่ ก็ใช้การสังเกตเอาครับ ศึกษาจาก อินเตอร์เ์ น็ตบ้าง แล้วเริม่ มาทำ�ขายประมาณปลายปี ที่แล้วครับ

การเรียนออกแบบมามันก็มีผลแหละครับ เรื่องความ สวยงาม องค์ประกอบ เพราะต้นไม้มนั สีเขียวเกือบหมด เราก็ต้องดูรายละเอียด พื้นผิว น้ำ�หนักของเขาว่า จะจัดออกมาให้สวยงามยังไง ของเราจะชอบใส่ตัว โมเดลเล็ก และจัดสิ่งต่างๆ รอบๆ ให้มีสเกลใกล้กัน คล้ายๆ เป็นฉากๆ หนึ่ง สมัยเด็กๆ ผมชอบเล่น โมเดลด้วยครับ พวกกันดั้ม หุ่นยนตร์ต่างๆ มาจัด เป็นฉากเหมือนสู้กันทำ�เป็นฉากจำ�ลองแล้วถ่ายรูป ความยากคือทำ�ให้มันอยู่ได้นานนี่แหละครับ ซึ่งมันมี ปัจจัยหลายอย่าง เรื่อการดูแล สถานที่ที่เอาไปตั้งด้วย เวลาลูกค้าถามเราก็ไม่กล้าการันตีมาก ก็บอกว่าอย่าง ต่ำ�ก็สามเดือนนะ แต่จริงๆ มันขึ้นอยู่กับการดูแล ส่วนเรื่องการทำ�เราจะมีแบบคร่าวๆ ที่ให้ลูกค้าเลือก ครับ แล้วลูกค้าเขาอาจจะขอปรับเปลี่ยนรายละเอียด ตามความต้องการของเขา อย่างพวกตุ๊กตาต่างๆ อยากได้เป็นเนิน มีผู้หญิงเดินอยู่ตรงนี้ มีผู้ชายถือ ลูกโป่งยืนใต้ต้นไม้ อะไรทำ�ได้เราก็โอเค PIE : ขั้นตอนการทำ�นานไหม

ใช่เวลาไม่นานครับ สัก 45 นาทีหรือไม่ก็ประมาณ ชั่วโมงหนึ่งแล้วแต่ขนาด แต่นี่คือเตรียมของต่างๆ อย่างพวก โมเดล ดิน หิน ต้นไม้ต่างๆ เรียบร้อย แล้วนะ นับแค่เวลาทำ�จะไม่นาน เพราะแค่ตัวโมเดล ฟิกเกอร์เนี่ย ผมต้องสั่งจากอังกฤษครับ แล้วตัวโมเดล ของผมนีจ่ ว๋ิ มากๆ 1 ต่อ 160 ตัวเล็กมาก การเตรียม การก็ยุ่งยากนิดนึง 24


25


26


t

e

PIE : เทอราเรียมมีกี่แบบ

rrarium

เทอราเรียมหลักๆ จะมีสองแบบครับ คือแแบบปิด กับแบบเปิด แบบปิดนี่คือทำ�เสร็จปุ๊ปเราปิดตายเลย เปิดออกมาไม่ได้ เขาจะทำ�งานเป็นระบบนิเวศของ เขาเอง มีการคายน้ำ� ความชื้นกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ� ในตัวของเขาเองเลย เราไม่ต้องไปยุ่ง และแบบเปิด ที่เรารดน้ำ�เอง จัดอะไรๆ ได้เอง อันนี้ต้องดูแลเยอะ หน่อย แต่จะควบคุมอะไรได้ง่ายกว่า อย่างการตัด แต่ง คีบต้นไม้เข้าออก ลดเพิ่มได้ ส่วนที่ลูกค้าชอบ จะเป็นขนาดไม่ได้ใหญ่มาก คงสะดวกกับลูกค้าด้วย ที่เขาจะมารับกลับหรือย้ายที่ตั้ง ที่ผมทำ�ก็ขนาดไม่ ได้ใหญ่โตมาก พวกขนาดใหญ่จริงๆ ยังไม่มีโอกาส ได้ลองทำ� ที่ผมทำ�แบบหนึ่งคือเป็นเรขาคณิต แบบ Geometric ซึ่งตัวขวดจะเป็นกระจกหลายๆ แผ่น มาต่อกัน เชื่อมด้วยขอบทองแดง อันนี้คนยังทำ�ไม่ เยอะ เพราะมันค่อนข้างยุ่งยากเพราะอุปกรณ์ใน ไทยยังไม่ค่อยมีครับ มันจะเป็นเทคนิคที่เขาเอามา จากการทำ�กระจกสีในโบสถ์ ในบ้านเราก็พอมีแต่ เขาจะเอาไว้ทำ�อย่างอื่นซะมากกว่าอย่างพวกประตู หน้าต่าง อะไรแบบนั้น ตอนแรกผมทำ�ก็ไม่ได้ตั้งใจ จะขายนะ เพราะมันยากและราคาแพง ใช้เวลา มากกว่าแบบปกติเยอะ ทำ�เพราะชอบแต่พอมีคนมา ขอซื้อก็โอเค

27


28


29


30


facebook.com/palmmettostudio

ใน instagram ก็มีชาวต่างชาติตามเยอะ เขาก็ ตอนทำ�งานอินทีเรียมันก็เป็นตัวของตัวเองยากนะ ชอบเพราะมันมีเรื่องราว เคยมีคนมาเลเซียอยาก มันก็เป็นโจทย์ของลูกค้า แล้วก็วุ่นวายทั้งผู้รับเหมา ให้ผมไปจัดที่ร้านเขา แต่ก็ปฎิเสธไป ตอนนั้นยังไม่ หัวหน้า ลูกน้อง ลูกค้า งบประมาณต่างๆ มันก็ พร้อมหลายๆ อย่างเทอราเรียมมันก็มีทำ�กันหลาย ทำ�ให้เราอึดอัดเลยออกมาทำ�สิ่งนี้ดู รายได้มันก็ เจ้านะ แต่ของผมจะไม่หวานแหววคิขุเท่าไหร่ ของ ไม่ท�ำ อยูแ่ ล้ว แต่กไ็ ด้ความสบายใจมาแทน ตอนนี้ ผมจะเน้นขรึมๆ ลอยๆ หน่อย อยากให้มันดูมี ก็วางแผนทำ�ร้านกาแฟด้วยครับ ผมทำ�ขนมด้วย เรื่องราว คล้ายกับฉากในหนังสือ ในหนัง อาจต้อง พวกบราวนี่ มาการอง เลยอยากทำ�ร้านกาแฟ จินตนาการหน่อยอะไรแบบนั้น บางคนมองก็อาจ เหมือนกันและอาจจะมีสตูดโิ อไว้ท�ำ เทอราเรียมด้วย จะดูเหงาๆ หม่นๆ ไปเลย เราจะทำ�แบบเรียบๆ หน่อย แต่ก็พยายามหาอะไรใหม่มาลองทำ�นะครับ PIE : เป็นคนใจเย็นไหมครับ ทำ�ของขนาดเล็กๆ แต่ต้องเป็นแบบที่เราโอเคด้วย PIE : ทำ�ไมไม่ทำ�งานออกแบบภายในต่อ

แบบนี้

จริงๆ ผมใจร้อนนะ แต่พอมาทำ�สิ่งเหล่านี้ก็ โอเคขึ้น อย่างเล่นดนตรี ทำ�เทอราเรียมก็ใจเย็น ขึ้นและผมชอบท่องเที่ยว ปีที่แล้วไปเนปาล ไป เขาหิมาลัยเดินกันสิบเอ็ดวัน เจอทั้งแดด หิมะ ลูกเห็บ ข้างบนนี่ลบสิบองศานะ ชอบไปแบบนี้ มันก็ฝึกความอดทนได้

PIE : อนาคตข้างหน้าครับ

อยากเปิดร้านกาแฟครับและทำ�เทอราเรียมไปด้วย จริงๆ อยากไปเรียนต่อด้าน Landscape การจัด สวนอะไรพวกนี้ ชอบปลูกต้นไม้ PIE : ฝากบอกคนที่อยากซื้อสวนในขวด

ตอนส่งของผมพยายามจะอธิบาย บอกวิธีการดูแล PIE : กลุ่มลูกค้า กับลูกค้า หลังๆ มาผมเริ่มทำ�คู่มือบ้างเหมือนกัน ส่วนมากก็เอาไปเป็นของขวัญบ้าง เอาไปแต่งร้าน ลูกค้าต้องเข้าใจก่อนว่า มันคือต้นไม้ คือธรรมชาติ อาหาร วางบนโต๊ะที่ออฟฟิศบ้าง เคยจัดใส่กาน้ำ� มันไม่คงทนถาวรหรอก มันอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่ ชาใสๆ บางคนก็เอาโหลยาดองมาให้จัด มีล่าสุด ด้วย อย่างลูกค้าสองคนเอาไป คนหนึ่งยังเฉาตาย ให้ไปในตู้ปลาบ้านเขาอันนี้ขนาดใหญ่อยู่เหมือนกัน ตั้งแต่อาทิตย์แรก บางคนอยู่ได้สามสี่เดือนก็ยังโอเค 31


PIE TALK

~ RECORD

F

A

~

T BLACK

กรี๊ดกร๊าดอย่างยิ่ง เมื่อวงดนตรีโปรดของผมอย่าง วงพราวและสี่เต่าเธอออกแผ่นเสียง ทั้งน่าฟัง น่ากอด น่าฟัด (ไปกันใหญ่แล้ว) น่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างยิ่ง ซึ่ ง ผู้ ที่ ทำ � ให้ สิ่ ง นี้ เ กิ ด ขึ้ นคื อ พี่ ตื อ ศิ ว กร จารุ พ งศา เจ้าของและผูก้ �ำ กับภาพยนตร์โฆษณา แห่งบริษทั WINK WINK Production และอีกตำ�แหน่งคือเจ้าของร้าน แผ่นเสียง FATBLACK RECORD เรามาถามถึงทีม่ าทีไ่ ป ของร้านแผ่นเสียงร้านนี้กัน 32


กว่าปีแล้วนะ และเมื่อสองปีก่อนเราก็มาคุยกับ เราชอบตั้งชื่อที่มันดูไม่หล่อ เหมือนโปรดักชั่นเฮ้าส์ เพื่อนๆ ว่าอยากทำ�แผ่นเสียงของวงดนตรีบ้านเรา ของเราที่ชื่อ Wink Wink Production วิ๊งๆ มันก็ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของร้านเลยนะ ตอนแรกไม่ได้ มาจากการขยิบตาให้กัน และ FATBLACK มันก็มา คิดเรื่องการขายแผ่นเสียงวงเมืองนอกเลย จุดเริ่ม จากรูปร่างของแผ่นเสียง ที่มันใหญ่ๆ กลมๆ ดำ�ๆ จริงๆ อยากทำ�แผ่นเสียงของศิลปินไทย และก็มา คิดถึงคนฟังว่าเขาจะมีเครื่องเล่นไหม ถ้าเขาอยาก เลยได้ชื่อว่า FATBLACK ฟังแผ่นเสียงเมืองนอกจะทำ�ยังไง ก็เลยทำ�เป็นร้าน ขึ้นมา PIE : พี่ทำ�อาชีพอย่างอื่นด้วย Wink Wink Production เป็นบริษัทเรา อาชีพ หลักคือตรงนั้น เราเริ่มจากทำ�โฆษณามาก่อน ทำ� PIE : เปิดมานานหรือยังครับ เอเจนซี่แล้วเปิดโปรดักชั่นเฮ้าส์ ส่วนเรื่องแผ่นเสียง ร้านเพิ่งเปิดปีที่แล้ว แต่คุยกันมาก่อนหน้าเป็นปี เราฟังตลอดมานานมากแล้ว เล่นแผ่นเสียงมา 20 เพราะกว่าจะหาคนผลิตแผ่นเสียง ติดต่ออะไร PIE : ชื่อ FATBLACK RECORD

33


ต่างๆ มันก็ยุ่งยาก ของเราไปผลิตแผ่นไวนิลที่ อเมริกา รัฐเทนเนสซี ที่นี่เขาทำ�มานาน ทำ�มา ตั้งแต่พวกแนวร็อคยุค 70’s แล้ว ทำ�ให้ Pink Floyd ทำ�ให้วงที่เรารู้จักหลายๆ วง เราก็คิดว่า คุณภาพน่าจะโอเค แต่ที่อื่นก็ดีนะ อย่างญี่ปุ่น เยอรมัน ส่วนใหญ่โรงงานเหล่านีเ้ ขาทำ�มาตลอดนะ ตัง้ แต่ยคุ ทีแ่ ผ่นไวนิลเฟือ่ งฟู พอยุคหนึง่ ทีม่ นั เริม่ ซา เขาก็ผลิตน้อยลงมา แต่ทำ�อยู่ตลอด

ก็ผูกพันมาตลอด โตมาเราก็ซื้อเครื่องมาเล่นเอง เรา เป็นดีเจอยู่ช่วงหนึ่งด้วย เปิดพวกแนว House มันเลย ไม่มีจุดที่ว่า เอ๊ย จะเริ่มเล่นแผ่นเสียงอะไรแบบนั้น คืออยู่ด้วยกันมาตลอดมากกว่า PIE : สิ่งที่ยากในการทำ�ร้านแแผ่นเสียง

มันก็กงั วลเรือ่ งความอยูร่ อดแหละ อย่างแผ่นเสียงเนีย่ ขายแพงเกินไปคนก็ไม่เข้า ถูกเกินไปเราจะอยูร่ อดได้ไหม วัฒนธรรมการซื้อแผ่นเสียงบ้านเราก็ยังไม่เหมือน PIE : เริ่มสนใจแผ่นเสียงได้ยังไง เมืองนอก ที่โน่นถ้าแผ่นใหม่เป็นรอยเขาไม่เปลี่ยน ตอนเด็กๆ เรามาจากจังหวัดนราธิวาส ย้ายมา ให้นะ มันเป็นเรื่องของดวง แต่ถ้าเป็นลูกค้าเราเขา อยู่กับญาติ ช่วงนั้นเราสักป.1 พี่ๆ เขาก็เข้า มาเปลี่ยนเราก็ต้องให้ ต้องดูแลลูกค้า ในช่วงแรก มหาวิทยาลัยกันพอดี และมีญาติคนหนึ่งเขาไป ก็ลำ�บาก แต่ช่วงหลังก็พอได้ มีทั้งลูกค้ามาซื้อ เรียนที่ประเทศฟิลิปปินส์ ยุคนั้นแผ่นเสียงที่โน่นถูก แผ่นเสียงของศิลปินไทยที่เราทำ� ซื้อเครื่องเล่นและ มาก เขาก็นิยมเล่นกัน ซื้อกลับมาเป็นตั้งเลย เป็น แผ่นต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้กำ�ไรเยอะแยะนะ เพลงพวกร็อคยุค 70’s เราก็ฟังมากับเขา จากนั้น คือพอทำ�ต่อไหว 34


PIE : ถามเรื่องที่พี่ทำ�แผ่นเสียงของศิลปินไทยหน่อยครับ

อยากทำ�มาตลอดและเราก็รู้แต่แรกแล้วล่ะว่าคงทำ�ศิลปินไทยวงเดียวไม่ได้ ก็คุยกับศิลปิน ไว้กลุม่ หนึง่ อย่าง พราว, สีเ่ ต่าเธอ, Kidnappers เข้าไปคุยกับเขาแบบเป็นทางการเลยนะ มีค่าลิขสิทธิ์ให้ แต่อาจจะไม่เยอะนะ ทำ�ล็อตเดียวจบหมดแล้วก็คือหมดเลย การเลือก แน่นอนเลยคือเราต้องชอบวงนั้นก่อน เพราะในขั้นตอนการทำ�มันยุ่งยาก ก็ขอให้เราชอบ ก่อนไม่งั้นคงไม่ไหว อีกอย่างคือดูๆ ศิลปินที่เขาน่าจะมีแฟนเพลงอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ ถึงขนาดว่า โห..ดัง…ขายดีเป็นเทน้ำ�เทท่านะ ให้ขายได้เรื่อยๆ ก็พอ อย่าขาดทุนพอแล้ว อย่างเราทำ�โฆษณา เราเป็นเจ้าของบริษัทต้องรับผิดชอบต้องเลี้ยงน้องๆ ในออฟฟิศมันก็ ต้องการกำ�ไร แต่ Fatblack มันเป็นธุรกิจที่สอง ทำ�ด้วยความชอบของเราจริงๆ ให้มัน แค่อยู่ได้ก็โอเคแล้ว 35


36


37


หิน แบบเรียบง่ายไม่ต้องหวือหวามาก แผ่นเสียงก็ คล้ายกันจับต้องได้ เวลาฟังก็จะไม่มีชัดเป๊ะ คมกริบ แต่จะเป็นอารมณ์ของความอุน่ ความไม่สมบูรณ์แบบ มันจริงกว่า มีเสน่ห์กว่าดิจิตอล จริงๆ แผ่นเสียง มันอยู่คู่กับการฟังเพลงของมนุษย์มานานแล้ว เป็น ร้อยปี มันก็ฮิตบ้างไม่ฮิตบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่มันก็ ไม่เคยหายไป อย่างที่เพิ่งผ่านมาเลย ฮิตมากๆ ก็ ต้อง Daft Punk เอามาเท่าไหร่ก็หมด อัลบั้มนี้ดี มากๆ คนฟังกันหมดไม่ใช่แค่คนเล่นแผ่นเสียง ทั้ง ลูกค้ารุ่นเล็กรุ่นใหญ่ก็ซื้อเก็บ ฮิตทั่วโลกเลย

PIE : แผ่นเสียงในร้านพี่มีเพลงอินดี้เยอะเลย

เดี๋ยวมันจะหลากหลายขึ้น แรกๆ เราอยากลอง ก่อนว่าเพลงแนวอินดี้แบบนี้ เอามาวางแล้วจะเป็น ยังไง มันก็มีกลุ่มของเขานะ แต่ตอนนี้ก็จะเริ่ม มีแจ๊ซ มีเพลงเก่าๆ เขามาปนแล้ว เราอยากให้ ผสมผสานกันไม่ได้เป็นเพลงอินดี้ทั้งหมด ตัวเรา เองก็ฟังเพลงหลากหลาย แต่เราว่าน้องๆ ที่เพิ่ง เล่นแผ่นเสียงเนี่ย เขาน่าจะได้เริ่มจากวงที่เขาชอบ ก่อน พอเล่นแผ่นเสียงต่อไปแล้วเขาไม่ฟังเพลงวง เดียวหรอก ดนตรียุคนี้มันก็มีรากจากเพลงยุคก่อน ใช่ไหม อย่างแนวโฟล์คที่มันกลับมาในช่วงนี้ เรา ก็จะเปิดเพลงโฟล์คเก่าๆ ให้เขาลองฟัง เขาก็จะ เก็ตแล้วก็เริ่มสนุกกับการฟังเพลง

PIE : แผ่นล่าสุด ซิงเกิ้ลของวง Part Time Musicians

เริ่มจากเราฟังเพลงของวง DOT ก่อน แล้วชอบ แล้วมาได้คุยกับทาง Rats Records ก็คุยกันว่า อยากลองทำ�แผ่นเสียงแบบนี้ดู แล้วเราก็ชอบเพลง ของวง Part Time Musicians เป็นแผ่นซิงเกิ้ล คือ ถ้าคิดตามหลักธุรกิจมันไม่ควรทำ�หรอก เพราะไม่ได้ กำ�ไรแน่ๆ ต้นทุนมันค่อนข้างสูง แต่ทำ�เพราะอยาก ทำ�จริงๆ เลยลองดู แผ่นเสียงศิลปินไทยที่เดี๋ยวจะ มีออกมาอีกก็จะมี Kidnappers, โยคี เพลย์บอย แล้วก็ อรอรีย์ ก็จะเป็นสไตล์เพลงแบบร้านเรา

PIE : กลุ่มลูกค้าล่ะครับ

กลุ่มลูกค้าหลากหลายนะ ยิ่งพอมาขายแผ่นของ ศิลปินไทย ลูกค้าก็ยิ่งหลากหลายขึ้นอีก แต่ก็ อย่างที่บอกคือเราก็ต้องเลือกแผ่นที่เราชอบระดับ หนึ่งมาขาย ไม่ใช่เดินเข้ามาในร้านตัวเองแล้วมีแต่ เพลงที่เราไม่ชอบ เรื่องเครื่องเล่นแผ่นเสียงเราก็ พยายามให้ลูกค้ามีตัวเลือกหลากหลายนะ ตั้งแต่ เริ่มเล่นใหม่ๆ สนุกๆ ไปถึงเริ่มเล่นแบบจริงจัง จนไปถึงลำ�โพงตัวละแสนเราก็หาให้ได้

PIE : ที่บ้านมีแผ่นเสียงกี่แผ่นครับ และพี่ฟังเพลง แนวไหน

PIE : แผ่นเสียงกลับมาฮิตได้ยังไง

ที่บ้านเรามีแผ่นเสียงประมาณสองพันแผ่น จริงๆ ไม่เยอะนะ เพราะบางคนเขามีกันห้าหกพันแผ่น แล้วเราก็มีเพื่อนหลายกลุ่มบางกลุ่มก็ฟังแจ๊ส บาง กลุ่มก็ฟังอินดี้ แล้วเราก็ยังทำ�งานกับกลุ่มวัยรุ่นด้วย อยู่บ้านเพลงสนุกๆ เราก็ฟัง เพลงลูกทุ่งเราก็ฟัง

เป็นสิ่งกระแสโลกด้วย แผ่นเสียงเพิ่งจะกลับมาฮิต จริงๆ ก็ 3-4 ปีนี้เอง พอคนเรามันฟังเพลงที่จับ ต้องไม่ได้มาพักหนึ่งเนี่ยมันก็เริ่มพยายามหาสิ่งที่ จับต้องได้ สิ่งที่มีความเป็นธรรมชาติ สังเกตอย่าง การแต่งบ้านก็เริ่มหันมาใช้วัสดุจริง พวกไม้ พวก 38


39


40


facebook.com/Fatblackrecordbkk

เราโชคดีที่งานที่เราทำ� มันเป็นสิ่งที่เราชอบ งานโฆษณามันมีเรื่องของเทรนด์เรื่องแฟชั่นเรา ก็ชอบ งานที่ร้านก็ฟังเพลง หาเพลงใหม่ๆ ให้ ลูกค้า PIE : แผนในอนาคตครับ

แผนในอนาคตจะมีการขยายร้าน จะย้ายร้าน แต่อยู่แถวๆ นี้แหล่ะ ให้มันใหญ่ขึ้นมีห้องไว้ ลองฟังแผ่นเสียง แต่ไม่ซีเรียสนะ เราชอบ บรรยากาศสบายๆ เราอยากให้รา้ นดูเป็นกันเอง อยากให้ลูกค้าเขามาแล้วไม่เกร็ง พูดคุยกันได้ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องดนตรีกันได้ มันไม่มี หรอกคนที่จะรู้จักเพลงทุกเพลง แผ่นเสียงทุก แผ่น มาแชร์กันดีกว่า อยากให้ทุกคนสนุกกับ การฟังเพลง 41


PHOTO SET by พลอย Alisa Jivacate : alisa.jiv@gmail.com

42


43


44


45


46


47


PIE TALK

48


F AWA LA I ~ SI RI SOM PH ~ OL 49


ในช่วงที่ผ่านมานี้ วงการสตรีทอาร์ตบ้านเรามีการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก ทั้งศิลปินหน้าเก๋า หน้านวลออกมาวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนาน แต่วันนี้ที่เราเลือกมาคุยไม่ได้เป็นหนุ่มฮิปสเตอร์ รอยสักเต็มแขน แต่เป็นสาวน้อยตัวเล็กนามว่า ฝ้าย - ฟ้าวลัย ศิริสมพล ศิลปินหญิงที่มีลายเส้น ที่มีเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับตัวตลกหน้าเศร้า ทำ�เลที่ตั้งในการพูดคุยเป็นห้องเล็กๆ แต่บรรยากาศ แสนสบาย ที่แอบซ่อนเงาไม้ในย่านพร้อมพงษ์

PIE : ฝ้ายจบออกแบบภายในที่ลาดกระบัง แล้วมา ทำ�งานด้านนี้ได้ยังไง

จะจบออกมาแล้วมีพอร์ทเกี่ยวกับสายอาชีพที่เรา เรียนมาด้วย สุดท้ายเลยได้ฝึกงานที่นั่น ซึ่งเขาจะ ให้เด็กฝึกงานทำ�โมเดลเป็นหลัก ส่วนคนที่ทำ�คอมพ์ เก่งๆ จะได้ทำ�เปอร์สเปคทีฟ ส่วนฝ้ายเป็นพวกที่ ไม่เก่งคอมพ์เลยก็จะเป็นพวกสายแรงงาน ติดกาว ทำ�โมเดล เข้างาน 10 โมง หลังๆ เริ่มไปบ่าย 2 แล้วก็ไม่ไป เขาก็เรียกไปพบว่ามันจะมีประเมินจาก ที่ออฟฟิศด้วยนะ ซึ่งตอนนั้นฝ้ายฝึกงานแต่ว่าก็มีไป สอนเด็กด้วย เพราะว่ายังต้องหาเงินอยู่

ฝ้าย : เร่ิมจากทำ�งานเพื่อหาเงินเรียน ฝ้ายเป็นคน ชอบวาดรูปอยู่แล้ว ไม่ได้เงินก็วาด ตอนนั้นวาดทั้ง ภาพล้อเลียน ภาพรับปริญญา วาดบนผนังตกแต่ง ร้านบ้าง ช่วงที่เรียนที่บ้านมีปัญาด้านการเงิน เราก็ เลยทำ�งานไปด้วย เพื่อส่งตัวเองเรียนทางบ้านจะได้ ไม่เดือดร้อน ใครจ้างให้ทำ�อะไรก็ทำ�หมด มีไปเป็น เด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารด้วย วาดรูป ทำ�งานจิปาถะ ที่ได้จากรุ่นพี่บ้างพวกโมเดลบ้าน และฝ้ายได้ทุน ของมหาวิทยาลัย แล้วเราก็ตั้งใจเรียนเพราะต้องทำ� PIE : แต่ถ้าเราไปทำ�งานด้านนี้ก็น่าจะได้เงินเยอะ ฝ้าย : ตอนฝึกงานเราก็รู้แล้วว่าเราทำ�ไม่ได้ เกรดให้ถึง โดยเฉลี่ยเอาจากวิชาที่เราถนัดๆ เหมือนฝ้ายไม่มีระบบในตัวเอง ตอนเรียนก็ไปสาย PIE : แล้วจบมาได้ทำ�งานทางด้านออกแบบภายใน เหมือนจะมีปัญหากับเรื่องแบบนี้ตลอด ไม่ได้เป็น คนดื้ออะไรนะคะ แต่เหมือนว่าเราเป็นคนสบายๆ บ้างไหม ฝ้าย : จะได้ทำ�พวกเขียนเปอร์สเปคทีฟ ลงสีน้ำ� หน่อย พอเรารู้สึกว่าต้องทำ�แบบนี้ทุกๆ วัน มันจะ ไม่ได้ทำ�เป็นประจำ�หรือเป็นอาชีพหลักค่ะ แต่เคย ถอยเอง ไปฝึกงานที่บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค ตอนนั้นฝ้าย PIE : เริ่มมาเพ้นท์ผนังได้ยังไง สมัครไว้หลายที่ a day ก็อยากทำ� แต่ก็อยาก 50


ฝ้าย : ตอนอยู่ปี 4 ทำ� Exhibition กับเพื่อนๆ ชื่อ ว่ากลุ่ม Space มีกัน 5 คน คนละสไตล์กันเลย พี่ คนหนึง่ ชอบพวกหุน่ ยนต์มนุษย์ตา่ งดาว อวกาศ ก็เลย ตั้งชื่อว่า Space เหมือนเอางานมามิตติงกัน 5 คน ซึ่งเราก็ไม่เคยจัดกันมาก่อน พอเอางานมาแขวนรวม กันในแกลเลอรีมันออกมาคนละแนว เลยมาคิดกันว่า จะเชือ่ มมันเข้าด้วยกันยังไง กลายเป็นมาช่วยกันเพ้นท์ ต่อกันบนผนัง 5 คน PIE : แล้วตัวตลกมาอยู่ในงานได้ยังไง

ฝ้าย : เป็นความชอบค่ะ ก็พูดยากเหมือนกันไม่รู้ ที่มาที่ไปแน่นอน ปกติคนจะมองว่าตัวตลกมันดู 51

เจ้าเล่ห์ น่ากลัว แต่เราชอบหน้าตาเสื้อผ้าที่มันดู เว่อร์ สีจัด หรือแพทเทิ้ลลายตารางหมากรุก ฝ้าย ลองไปอ่านเรื่องเกี่ยวกับคนที่เป็นตัวตลกแบบนี้ การแต่งตัวและการแสดงออกของเขามันเป็นการ ตั้งใจผิดพลาด ตั้งใจให้หกล้มหรือโดนแกล้ง มันมี ดีเทลความรู้สึกเยอะ ฝ้ายรู้มาว่าเขาแต่งหน้าเอง ด้วย ลวดลายมันสะท้อนความรู้สึกบางอย่าง งาน ธีสิสของฝ้ายก็ทำ�สวนละครสัตว์ด้วย ซึ่งตอนแรก หัวข้อเกือบจะไม่ผ่าน ทำ�เป็นพื้นที่เพื่อให้นักแสดง ได้ใช้ในการดำ�เนินเรื่อง สีสันที่ใช้ก็คล้ายกับพวก ละครสัตว์ ฉูดฉาดหน่อย มีเขาวงกลม ตอนอธิบาย พรีเซนต์ก็เปิดเพลงละครสัตว์ด้วย


52


PIE : ทำ�ไมไม่ทำ�เรื่องที่จบง่ายๆ

ฝ้าย : โรงแรม รีสอร์ท เป็นเรื่องที่คนทำ�กัน เยอะแต่เราไม่อินตรงนั้นเลย อยากทำ�ในสิ่งที่ ชอบมากกว่า ถ้าชอบจริงๆ เราจะอยากทำ�ด้วย ไม่ต้องมานั่งหาข้อมูลเพื่อที่จะมาบิวท์ตัวเอง

เราไม่ได้มีทักษะทางการวาดรูปมาก่อน วาดเส้น ก็ได้ประมาณหนึ่ง ก็พัฒนาสไตล์เรามาเรื่อย หาความพอดีให้กับงาน PIE : แล้วงานพวกลายเส้นหวานๆ ตัวตลก สี น้อยๆ เริ่มตั้งแต่ตอนไหน

ฝ้าย : เริ่มจากเราทำ�งานมากขึ้น วาดรูปทุกวัน ฝ้าย : ไม่เคยสมัครงานเลยค่ะ ก็มีบริษัทติดต่อ จังหวะก็จะแม่นขึ้น เราจะรู้ว่าบางอย่างไม่ต้อง เข้ามาเหมือนกัน ตอนนั้นฝ้ายเขียนภาพประกอบ ใส่เข้าไปก็ได้ แค่นี้ก็พอแล้ว แรกๆ ที่ทำ�เยอะ สอนสถาปัตยกรรมให้กับหนังสือด้วยค่ะ เขาก็มา เพราะเรายังไม่รู้ว่าเราชอบประมาณไหน จะใส่ เสนอซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้เงินเดือนที่สูง ทุกอย่างไม่มีเก็บเลย นึกอะไรออกก็ใส่เข้าไปด้วย กว่าเด็กทั่วๆ ไป แต่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน และ บางทีมนั ล้น หรือบางทีเวลาทำ�งานเราไปเจอเพือ่ น ฝ้ายก็ไม่ได้มคี วามคิดทีอ่ ยากจะทำ�งานประจำ�ด้วย ที่ทำ�งานสายเดียวกัน จะมีการพูดคุย เราก็จับเอา ไม่สามารถทำ�งานซ้ำ�ๆ นานๆ ได้ จากคำ�พูดหรือมุมมองของเขาแล้วมาคิดต่อ ซึ่ง บางทีก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องของฝ้ายนะ เป็นเรื่องอื่น PIE : แล้วลูกค้าเขามารู้จักฝ้ายได้ยังไง แต่เราก็เอามาใช้ได้ ฝ้าย : เริ่มจาก Exhibition ที่จัดไปรอบแรก เขาก็เห็นว่าเราเพ้นท์ผนังได้เลยมาคุยกัน พอเริ่ม PIE : แล้วเริ่มทำ�งานสาย Street Art ได้ยังไง ทำ�เยอะขึ้น คนก็เริ่มเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะ ฝ้าย : ออกทำ�เองค่ะ มันเป็นงานที่จะไม่มีบรีฟ ติดต่อเข้ามาให้เราวาดเรื่อยๆ จากลูกค้า เวลาทำ�งานกับลูกค้าแบบแรกๆ อย่าง ที่ฝ้ายคิดจะไม่ค่อยผ่านหรอก จะมีการปรับแก้ PIE : ตอนแรกคิดไหมว่าจะอยู่ได้ด้วยวิธีนี้ เสมอ ซึ่งสุดท้ายบางทีมันไกลจากแบบแรกที่เรา ฝ้าย : ยังไม่คิด ตอนนั้นสนุกกับงาน อยาก คิด ฝ้ายก็เลยไปเดินหากำ�แพงเพื่อวาดสิ่งที่เรา พัฒนาผลงาน ทักษะของตัวเองมากกว่า เพราะ อยากวาดจริงๆ บางทีก็ชวนเพื่อน เจอกำ�แพงก็ PIE : เรียนจบแล้ว ไปสมัครงานไหม

53


ไปวาดได้หลายๆ คนเลย งาน Street Art มันก็มี ความต่างกับงานของลูกค้านะ อย่างงาน Street Art ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ใช้เวลาไม่มาก เพราะเวลา คนมองงาน Street Art เข้าก็เดินผ่าน บางทีก็มี ถ่ายรูปบ้าง เราวาดให้ได้อารมณ์ก็พอ แต่ถ้างาน เพ้นที่ร้านอาหารบางทีคนก็จะมานั่งมองนานๆ เราจะเพ้นท์หยาบๆ ไม่ได้ อันนี้ต้องใช้เวลาหน่อย

PIE : แล้วเพื่อนๆ สาย Street Art หรือทำ�งาน เพ้นท์แบบนี้ล่ะ งานเยอะไหม

PIE : นอกจากเพ้นท์ที่ร้านอาหาร โรงแรม มีงาน อะไรอีกไหม

ฝ้าย : ฝ้ายไม่ค่อยมีคนรู้จักเยอะ อย่างที่หอศิลป์ ฝ้ายไปเพ้นท์ให้ร้าน Gallery กาแฟดริป ตอนนั้น อยากทำ�คาแรกเตอร์ ปกตินึกอะไรได้ก็สเก็ตใน กระดาษไว้ตลอด บางทีก็ไปเจอร้านที่เขามีกำ�แพง ว่างๆ อยู่ ถ้าฝ้ายเห็นว่าเข้ากับงานเราก็จะขอเขา เพ้นท์เลย อย่างที่ Gallery กาแฟดริป นั่งกิน กาแฟอยู่ก็บอกพี่เขาเลยว่าอยากจะเพ้นท์ให้ ซึ่งเรา ก็ไม่รู้จักด้วยนะ ไปที่นั้นครั้งแรก แต่ก็มีที่ๆ เคยไป ขอแล้วเขาปฏิเสธก็เยอะค่ะ

ฝ้าย : จะมีพวก Exhibition แล้วก็มีกระเป๋าที่จะ ทำ�กับทาง URFACE เสื้อก็มีค่ะ เริ่มขยับสเกลไป เรื่อยๆ มีงานที่มิวเซียมสยามด้วย อันนี้มีโจทย์ คือจะทำ�ยังไงให้คนอยากมาดู ที่ไม่ใช่การจัดวาง การฉายสไลต์ เลยใช้เป็นงานวาดเป็นลายเส้น ดรออิ้ง บนแผ่นไม้วางซ้อนๆ ให้ดูมีมิติด้วย คล้ายๆ กับเป็นฉากละครค่ะ มีนักแสดงมานั่ง ประกอบฉาก ให้เขากับเนื้อหาด้วย PIE : เคยมีงานมากที่สุดเดือนละกี่งาน

ฝ้าย : 8-9 งานค่ะ ทำ�งานทุกวัน ไปคุยงาน เตรียมพรีเซ้นต์ สเก็ตงาน แก้แบบ PIE : เหนื่อยกับงานหรือท้อบ้างไหม

ฝ้าย : ฝ้ายชอบตอนที่งานเยอะๆ ค่ะ ฝ้ายวาด ทุกวันจะมากหรือน้อยจะเป็นรูปหรือไม่เป็นก็วาด อาจจะเพราะว่าเราชอบ เพื่อนก็จะบอกว่าทำ�งาน หนักนะ แต่ว่าเราไม่เหนื่อย แต่ถ้างานมีน้อยจะ เริ่มท้อ

ฝ้าย : ส่วนใหญ่โอเคค่ะ ถ้าขยันไม่มีใครที่จะอยู่ ไม่ได้ ฝ้ายก็ทำ�งานฟรีมาเยอะเหมือนกันเพื่อให้คน เห็นงาน ทำ� Street Art ด้วย เคยไปขอเพ้นท์ที่ หอศิลป์ด้วย PIE : ไปขอเพ้นท์ ยังไงครับ

PIE : เห็นงานฝ้ายชิ้นหนึ่งที่ค่อนข้างไม่เหมือนอัน อื่นๆ เป็นแบบ อวกาศ ที่มีกลุ่มดาวล่ะ

ฝ้าย : ชิ้นนี้เป็นงานของลูกค้าค่ะ เขาติดต่อมา ว่าอยากได้ห้องนอนของลูก ตอนแรกอยากให้เป็น กราฟฟิก แล้วอยู่ดีๆ ก็ได้ Reference ขึ้นมาว่า อยากทำ�อวกาศ ฝ้ายก็เลยขอเวลาเขาไปซื้อของเพิ่ม เพราะฝ้ายจะมีสเต็ปอยู่ในหัวเวลาทำ�งานอยู่แล้ว ซึ่งงานนี้ก็ทำ�วันเดียว แต่ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่อยาก ทำ�มาตั้งนานแล้ว อยากทดลองเทคนิคใหม่ๆ ช่วง ปีแรกๆ อยากรู้ว่าเราจะทำ�ได้แค่ไหน ยิ่งลูกค้าเรื่อง มากยิ่งชอบ เพราะอยากรู้ว่าเราจะทำ�ได้หรือเปล่า 54


PIE : ดูฝ้ายจริงจังเรื่องงานศิลปะพอสมควร มองเป็น เรื่องเครียดไหม

ฝ้าย : ซีเรียสนี่ไม่ได้มีความหมายว่าเครียดนะคะ มัน จะคิดขึ้นมาของมันเอง เหมือนมีเรื่องนี้คิดวนเวียนใน หัวอยู่ตลอดเวลา เราวาดอะไรได้ ทำ�อะไรก็อยากจะ พัฒนาให้ดีขึ้น จินตนาการจะนำ�ไปก่อนที่จะลงมือ ทำ�ได้ด้วยซ้ำ� มันจะเหมือนขั้นตอนของการทำ�ดีไซน์เลย จินตนาการจะมาก่อนแล้วค่อยทำ�มันออกมา ค่อยๆ คิดต่อ ทดลองไปเรื่อยๆ ซึ่งฝ้ายก็ยังหาความพอดีอยู่ ยังฝึกคิด ฝึกทำ�ไปเรื่อยๆ 55


56


PIE : ขั้นตอนการทำ�งานของฝ้ายล่ะ

ฝ้าย : คุยกับลูกค้าก่อน แล้วก็ดูว่าเขาเป็นคนประมาณ ไหน เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าควรเสนออะไรให้เขา แต่ก็จะมี ลูกค้าที่บอกว่าให้วาด “รูปอะไรก็ได้” ซึ่งรูปอะไรก็ได้นี่ แหละยากมาก จะต้องคุยกับเขาเยอะเลยว่าจะเป็นแบบ ไหน กราฟฟิก สีหรือขาวดำ� แล้วก็ลองให้เขาดูหลายๆ แบบ ซึ่งเราจะมีสิ่งที่อยากทำ�ในหัวอยู่แล้ว ก็จะเสนอ อะไรพวกนี้ไปก่อน PIE : งานอดิเรกล่ะครับ

ฝ้าย : อ่านหนังสือ ก็ทั่วไปอย่างของมูราคามิก็อ่าน แต่ ช่วงนีอ้ า่ น “เสียงพูดสุดท้าย รงค์ วงษ์สวรรค์” อยากอ่าน อะไรที่เหมือนได้คุยกับใครสักคน ได้สั่งสมประสบการณ์ และมุมมองของเขา แล้วก็อ่านการ์ตูนค่ะ ชอบการ์ตูน ของ อ.อาดาจิ มิซึรุ ฟังเพลงบ้างแล้วก็วาดรูป PIE : ศิลปินที่ชอบ

ฝ้าย : James Jean คนนี้ฝีมือเขาดีมาก ทุกทางเลย คอมพ์ก็เก่งลายเส้นก็เทพ สีน้ำ�มัน งานสตรีท ได้​้หมด แค่งานสเก็ตช์ของเขาก็สวยแล้ว ฝ้ายชื่นชอบเขาอาจเป็น เพราะว่าเรายังทำ�งานไม่ได้แบบเขา ส่วนคนไทยจะเป็นพี่ โลเลค่ะ ดูพี่เขามีความสุขกับชีวิตและการทำ�งานดี ทุก อย่างของเขาดูเป็นศิลปะหมด เอาน้องโรมันมาถ่ายรูป ก็เป็นงาน วาดรูปตอนกินข้าว จัดจานอาหารก็เป็นงาน

57


58


คนแบบนี้ฝ้ายว่าเขาจะดูกลมๆ ไปแล้ว คืองาน PIE : ที่ฝ้ายบอกว่าไปขอกำ�แพงเขาวาดรูป คือเรา กับชีวิตมันกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน งานคือเขา ชอบคุยกับคนแปลกหน้าด้วย เขาก็คืองาน ฝ้าย : ชอบค่ะ เพราะว่าเปิดมุมมองของเรา คุย กับคนทุกประเภทเลย อย่างพี่ที่ร้านกาแฟหรือร้าน PIE : มีงานแบบไหนอีกไหมที่อยากลองทำ� ขายผลไม้ ก็ไปซื้อกล้วยเขาทุกวัน อยากกินแค่ใบ ฝ้าย : อยากลองทำ�งานที่เล่นเกี่ยวกับสเปซ สองใบเขาก็ขายให้ อย่างเพื่อนที่เรารู้จักก่อนที่เรา เยอะๆ เป็นพื้นที่ในจินตนาการในแบบของฝ้าย จะรู้จักกัน เราก็เคยเป็นคนแปลกหน้ามาก่อน ใช่ ยังหาพื้นที่แบบนั้นไม่เจอเหมือนกันแต่ก็อยากทำ� ไหมค่ะ มันมีประโยชน์นะ อย่างที่ฝ้ายไปคุยกับพี่ อย่างฝ้ายเรียนจบทางสถาปัตยกรรมมาก็จะมี เจ้าของร้าน Gallery กาแฟดริป เขาก็ใจดีมาก เรื่องเกี่ยวกับสเปซ หรือพวกโครงสร้าง แนะนำ�เราเรื่องกาแฟ เอามาให้ชิมใหญ่เลย ฟรี ด้วย (หัวเราะ) เราก็ได้ความรู้ นี่ถึงขนาดไปทริป PIE : คนวิจารณ์งานฝ้ายว่าไงบ้าง ชิมกาแฟกันเลย ไปดูเขาปลูกกาแฟ ทำ�กาแฟ ก็ ฝ้าย : ก็มีพูดว่ามันดู Dark ไปบ้าง ใช้ตัวตลก เริ่มจากการคุยครั้งนั้น มันดูไม่ดีบ้าง บางคนเขาก็จะแนะนำ�ว่าควรจะ ใช้สีเยอะหน่อย หรือบางทีก็แนะนำ�ให้เราลอง PIE : ทำ�ไมถึงชอบงานแมนนวล งานที่ทำ�ด้วยมือ ทำ�แนวกราฟฟิกดูเพือ่ ให้งานมันเข้าถึงคนมากขึน้ ฝ้าย : มันเป็นการพูดชั้นเดียว ไม่ต้องแปลงค่ะ ฝ้ายก็ไม่ได้คดิ อะไรมากนะ คือเรารูจ้ กั ตัวเองดี อย่างบางทีคุยงานกับลูกค้า ต้องเสิร์ชหาในกูเกิ้ล ระดับหนึง่ รูถ้ งึ ความชอบของตัวเอง แต่งานมันก็ ก็ไม่มีแบบที่เราต้องการ แต่เรามีแค่กระดาษกับ คือตัวเรานะ บางคนเขาจะคิดว่าสิง่ นีส้ ง่ิ นัน้ เหมาะ ปากกาก็สเก็ตช์ออกมาเลย จากตัวเราไปที่ดินสอ กับเรา อย่างบอกว่าทำ�ไมฝ้ายไม่ใส่เสือ้ เชิต้ ล่ะ ลงไปที่กระดาษเลย ฝ้ายกลับไปสู่เบสิก เพราะว่า หรือว่าแต่งหน้าหน่อยไหม แต่เขาก็จะได้เจอคนอืน่ เราพึ่งพาเครื่องมือเยอะเกินไป กลายเป็นว่าจะ ทีไ่ ม่ใช่เรา แบบนัน้ มันเป็นแค่ First Impression ไปไหนก็ต้องเอาของไปเยอะ ทั้งสี แปรง คอมพ์ ซึง่ บางทีมองการแต่งตัวตอนแรกดีแต่พอได้ท�ำ งาน เม้าท์ปากกา ไม่มีแล้วทำ�งานไม่ได้ เลยย้อนกลับ ด้วยแล้วไม่ได้เรือ่ งมันก็มี อย่างเรือ่ งสไตล์งานที่ มาดูว่าแค่กระดาษกับดินสอก็ทำ�ได้แล้ว และการ เปลีย่ นไปก็มคี นพูดเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้ตามติด ถ่ายทอดสิ่งที่จะสื่อออกไปมันไม่ซับซ้อน มันได้ ชีวติ เขาอาจจะมองว่าเราได้รบั อิทธิพลใครทีไ่ หน ความรู้สึกมากกว่า อย่างคุยกับคนฝ้ายก็ชอบคุย มาหรือเปล่า แต่ถา้ เขาติดตามชีวติ เราก็จะรูว้ า่ เรา แบบเห็นหน้ามากกว่านะ แบบเจอตัวคุยกัน เรา ค่อยๆ เปลีย่ น ค่อยๆ พัฒนา กับเรือ่ งคำ�วิจารณ์ จะเห็นอารมณ์ เห็นสีหน้าของเขา เพราะมัน ก็ไม่ได้คดิ มาก ทำ�สิ่งที่ตัวเองตั้งใจต่อไป ชั้นเดียว มันง่าย 59


60


61


PIE : หวังจะทำ�งานศิลปะไปในระดับไหน

ฝ้าย : ก็ทำ�ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ อยากมีสตูดิโอเหมือนกัน แต่สตูดิโอที่ฝ้ายอยากทำ�ไม่ใช่ว่าจะรับงานที่มันสเกลใหญ่ ขึ้นนะคะ อยากทำ�งานในสเกลที่เล็กลงแต่ให้มันอยู่ตัว มากขึ้น ในอนาคตเลยอยากทำ�อะไรที่ไม่ต้องขนของทุก อย่างไปเวลาทำ�งานหรือต้องติดต่อกับคนเยอะ เพราะ ฝ้ายไม่ได้เก่งเรื่องการจัดการที่ต้องมีลูกทีม อยากจะดูแล งานได้ด้วยตัวเอง facebook.com/fawalaiplanet

62


63


PIE TALK

d e mo crazy theatre s ~ tu di o 64


“เฮ้ย เสาร์นี้ไปดูละครเวทีกัน” คงเป็นประโยคที่เราๆ ท่านๆ คงได้ยินกันน้อยเหลือเกิน ทั้งที่ ละครเวทีก็อยู่กับสังคมไทยเรามานานพอสมควรแต่ดูเหมือนวันเวลาไม่ได้ทำ�ให้ละครเวที สนิทสนมกับพวกเรามากขึ้นเท่าไหร่นัก วันนี้ผมมาถึงโรงละครเล็กๆ แถวลุมพินี เพื่อ มาฟังมุมมองของคนละครเวทีตวั จริงที่ Democrazy Theatre Studio จากคุณเอ๋-ภาวิณี สมรรคบุตร ผูก้ อ่ ตัง้ โรงละครโรงเล็กคุณภาพสูงนีแ้ ละคุณตัม๋ ธนพล วิรฬุ หกุล นักเต้นฝีมอื ดี ที่มาช่วยสร้างฝันของโรงละครแห่งนี้ให้เป็นจริง

ผมชอบการถ่ายทอดต่อหน้าคนจริงๆ เอ๋ : หลังจากเรียนจบการแสดงมาก็อยู่ใน มากกว่า เลยคิดว่าละครเวทีนา่ จะตอบโจทย์ สายนี้มาตลอด มีทำ�อีเว้นท์บ้าง ทำ�งาน มากที่สุด มีช่วงหนึ่งที่ผมไปต่างประเทศ ดีไซน์ สอนการแสดงบ้าง แต่รวมๆ ก็ทำ� ด้วย ไปเรียนเต้น มันเหมือนเป็นช่วงค้นหา สายละครซะส่วนใหญ่ ก่อนหน้าจะมาเปิด ตัวเองด้วย Democrazy ก็ทำ�โรงละครเวทีเล็กๆ ที่อื่น มาก่อนชื่อ 8x8 Corner หลักๆ เราจะทำ� ชื่อ Democrazy ในส่วนการแสดงกับเรื่อง Lighting Design เอ๋ : พอเราไปทำ�ที่ 8x8 Corner ก็ได้ ตั๋ม : ผมเรียนภาพยนตร์มาครับ มารู้สึก ประสบการณ์พอสมควร เราก็เห็นทั้งข้อดี ตัวเองในตอนทำ�ธีสสิ ว่า สำ�หรับเราภาพยนตร์ และข้อเสียหลายอย่าง เห็นความเป็นไป มันบอกสิ่งที่เราจะถ่ายทอดได้ไม่หมด พอ ได้ที่เราจะลองมาเปิดโรงละครเล็กๆ แล้ว เรียนจบเลยไปอยูท่ ภ่ี ทั ราวดีเธียเตอร์ ทำ�งาน มาเจอทำ�เลตรงนี้ ตึกนีเ้ ป็นสตูดโิ อถ่ายภาพ ด้วยและเรียนการแสดงไปด้วย จริงๆ ผม มาก่อน ก็ลงตัวทั้งพื้นที่ ทั้งค่าใช้จ่าย เต้นมาตลอดนะ หยุดไปพักหนึ่งช่วงมัธยม ส่วนเรื่องชื่อ Democrazy มาจากที่เรา ทำ�อาชีพอะไรกันมาก่อน

65


เคยทำ�สตูดิโอเกี่ยวกับเรื่องเสียงเรื่องเพลงกับเพื่อน แล้วใช่ชื่อนี้ และเราก็คิดว่าชื่อนี้มันเหมาะกับที่ ตรงนี้ เหมาะกับความเป็นอาร์ตสเปซ โรงละคร

เรียนการแสดง เขาก็บอกว่าได้นำ�วิชา และทักษะ ในการแสดงไปใช้ในชีวิต ใช้ในการประกอบอาชีพ ด้วย อย่างพี่คนหนึ่งเขาทำ�อาชีพ Movement Therapy มันก็เป็นศาสตร์ของการแสดงนี่แหละ แล้วเขาก็ไปศึกษาต่อ ในเรื่องค่าตอบแทนของ นักแสดงตอนนี้ถึงไม่มาก แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน มันเริ่มจะเป็นรูปร่างมากขึ้น ซึ่งเราเองก็พยายาม จะให้เป็นระบบมากขึ้น ตั๋ม : คือลำ�บากหน่อย แต่ก็อยู่ได้ มันยังบอก ไม่ได้วา่ วงการหรือกลุม่ มันดีหรือยัง เพราะมันกำ�ลัง อยู่ในช่วงการเคลื่อนที่ ยังไม่ชัดเจนนัก แต่เราก็ พยายามกันอยู่ ในเรื่องระบบ เรื่องการอยู่รอด

รูปแบบการแสดงใน Democrazy

เอ๋ : เป็นช่วงๆ นะ ช่วงแรกเราตั้งใจในการเปิด พื้นที่อิสระในการแสดง มันก็มีความหลากหลาย แต่พอมันเริ่มมาได้สักพัก เราก็เริ่มรู้ว่ากลุ่มคนดู ของเราเป็นใคร งานที่เราอยากเห็นเป็นยังไง ส่วน มากงานของเราเป็นงานร่วมสมัย และมีคุณภาพ หลายคนยังเข้าใจว่าละครเวทีเป็นละครแบบที่ นักศึกษามาแสดงหรือเป็นมือสมัครเล่น เราอยาก บอกสังคมว่า กลุ่มนักแสดงที่เรานำ�เสนอเป็นกลุ่ม คนที่เขาทุ่มเทและทำ�มันเป็นอาชีพจริงจัง

เจอปัญหาอะไรบ้างครับ

เอ๋ : อาจจะเรื่องคนมากกว่า ในช่วงเริ่มแรก มันมีการเปลี่ยนคนเข้าออกตลอดในการทำ� Democrazy บางคนก็อาจจะไม่ไหวก็ออกไปก่อน บางคนสนใจก็เข้ามา จะวุ่นวายตรงนี้มากกว่า แต่ หลังๆ เราเริ่มมีการวางระบบจัดการที่ดีขึ้น ทำ�กัน จริงจังมากขึ้น มีการวางแผนว่าปีนี้จะเอายังไง จะมีการแสดงกี่ครั้งกี่รอบ เราคุยกับทางนักแสดง ที่มาโชว์ตลอดว่า ไม่ใช่การมาช่วยกันแบบเพื่อนฝูง แต่เป็นการทำ�แบบมืออาชีพ ทั้งการซ้อม ทั้งเวลา ทีต่ อ้ งทุม่ เท เรือ่ งรายรับเงินทองอาจจะยังไม่มากมาย แต่เราจะพยายามบอกนักแสดงว่าเรามีจุดยืนยังไง มีเนื้อหาอะไรที่จะบอกออกไปในสังคม การที่

บอกสังคมถึงการมีอยู่ของนักแสดงอาชีพ

เอ๋ : ใช่ เราว่าการแสดงมันเป็นงานที่ต้องใช้ ความชำ�นาญ ใช้เวลาฝึกฝน คือไม่ใช่แค่งาน อดิเรกหรือกิจกรรมในเวลาว่าง และในเมื่อ นโยบายของรัฐ ของประเทศหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้ เราน่าจะเป็นกลุ่มคนที่พูด ถึงเรื่องเหล่านี้ การแสดงละครเวทีเลี้ยงตัวได้ไหม

เอ๋ : มันอาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่เลี้ยงตัวเองได้ชัดเจน ขนาดนั้น แต่ก็มีบางคนที่เขาทำ�อาชีพอยู่แล้วมา

66


67


68


69


70


ละครเวทียังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างอาจจะเป็น เพราะพวกเรายังทำ�งานไม่เต็มที่ก็ได้ เราจึงอยาก ลองว่าถ้าเต็มที่ มีผลงานที่ดีและสม่ำ�เสมอจะ เป็นยังไง ตั๋ม : คนส่วนมากอาจจะมองละครเวทีคือ นักแสดงหรือผู้กำ�กับ แต่จริงๆ แล้วเบื้องหลัง มันประกอบด้วยทีมงานมากมาย ทั้งประสานงาน ฉาก เสื้อผ้าหน้าผม รถตู้ขนของ ช่างไฟ คนทำ� โปสเตอร์ มันมีหลายสัดส่วนมากที่มองไม่เห็น ซึ่ง มันต้องการการจัดการที่เป็นระบบมาก

เราจำ�เป็นต้องบอกออกไปว่าเราต้องใช้เงิน เรียกว่า ขอเงินเลยล่ะ แน่นอนว่าเราไม่อาจทำ�แบบนี้ไปได้ ตลอดหรอก แต่เป็นวิธีที่ทำ�ให้สถานการณ์ตอนนั้น ผ่านไปได้ ก็มีคนยื่นมือมาช่วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณ ทีเ่ ขาก็เห็นความตัง้ ใจของเรา รายได้ของเรามาจาก คนดูเป็นหลัก ซึง่ เราก็ไม่อาจจะตัง้ ราคาทีส่ งู มากได้ ต่อไปมันอาจจะมีเรื่องการขอทุนจากต่างประเทศ ถ้าเป็นในประเทศเราคงยาก กลุ่มคนที่มาดูครับ

ตั๋ม : นักเรียนการแสดงนี่แน่นอน พนักงาน คุณตั๋มเข้ามาทำ� Democrazy ในช่วงหลัง ก่อน ออฟฟิศก็มี คือเรามีบัตรเข้าชมแบบเป็นแพ็กเกจ ห้าเรื่องอะไรแบบนั้น คนที่ซื้อส่วนมากก็เป็น หน้านี้คุณตั๋มมอง Democrazy ยังไงบ้าง ตั๋ม : แรกๆ ก็เริ่มจากมา HANG OUT ด้วยกัน พนักงานออฟฟิศ คนทำ�งานในสาขาอื่นๆ ก็น่า วงการละครส่วนมากก็จะรู้จักกันนะ คุยกันแล้ว จะมีมากขึ้น เราไม่ได้จำ�กัดแค่ผู้ที่สนใจศิลปะนะ ถูกคอมีมุมมองใกล้กัน ตอนนั้นผมเห็นการเคลื่อน แค่การโปรโมทของเรามันยังไปได้ไม่กว้างพอ อย่าง ไหวของพื้นที่และบุคลากรตรงนี้ ทีมเบื้องหลังที่นี่ดี ใน facebook ก็กระจายได้กว้างในระดับหนึ่ง มากๆ รู้สึกประทับใจ ด้วยความที่เราเป็นนักเต้น เราไม่สามารถสร้างกลุ่มคนแบบนี้ขึ้นมาได้ แต่เขา คุณตั๋มเริ่มมาทำ� Democrazy แล้วรู้สึกยังไงบ้าง กำ�ลังสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับวงการเพิ่มขึ้น ตั๋ม : พอเข้ามาเริ่มช่วยทำ� Democrazy มันคือ เรื่อยๆ เป็นพื้นที่ที่มีคุณภาพ ในห้าปีที่ผ่านมาทาง การทีต่ อ้ งเริม่ เคลือ่ นไหว ทำ�อะไรสักอย่างให้เกิดขึน้ Democrazy ก็มีกลุ่มคนดูที่มากขึ้น มีแฟนละคร แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็คงมีมุมมองอยู่แล้ว ว่าอยาก เวทีที่มากันทุกเดือน ทำ�แบบนั้นแบบนี้ น่าจะมีตรงนั้นตรงนี้ แต่สำ�หรับ ผมมันคือการทำ�จริงๆ ซึ่งเราจะแลกเปลี่ยน ห้าปีที่ผ่านมา เอาตัวรอดเชิงธุรกิจยังไง ความคิดกันตลอด แชร์กัน เพื่อจะหาทิศทางที่ เอ๋ : มันมีช่วงที่แย่จริงๆ เหมือนกัน เป็นช่วงที่ จะไปข้างหน้า

71


72


73


ใกล้ชิดกับคนมากยิ่งขึ้น ให้มันเข้าถึงคนมากขึ้น เรารู้สึกว่าในบ้านเราการละครหรือศิลปะแขนง ตั๋ม : จิ๊กซอร์ของวงจรของเขา เรียกว่าเป็น ต่างๆ มันถูกทำ�ให้แยกส่วนออกจากชีวิตประจำ�วัน อุตสาหกรรมการแสดงก็ได้ มันครบ ครบจริงๆ ซึ่งเราอยากจะลดระยะห่างตรงนี้ ซึ่งจริงๆ ก็เป็น ทั้งเรื่องกลุ่มคนดู ตั้งแต่เรื่องนโยบายของรัฐ สิ่งที่เราทำ�อยู่ตลอดนะ แต่ต่อไปคงจะชัดเจนขึ้น เลยแหละ อย่างเรื่องเงินสนับสนุนในต่างประเทศ กว้างขึ้น เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ในส่วนของเราเอง โรงละครจะได้ตรงนี้จากรัฐหรือองค์กรต่างๆ ก็เป็นเรื่องการพัฒนาบุคลากร พัฒนามาตรฐาน ก่อนเลยหนึ่งในสามของค่าใช้จ่าย อีกสองส่วน การแสดงและส่วนต่างๆ ให้ดีขึ้น เรามีโอกาสได้ ก็ต้องทำ�เอง ที่เขาทำ�โปรดักชั่นใหญ่ๆ ที่ราคา ร่วมงานกับกลุ่มคนหลายแบบ แม้จะเป็นคนในสาย ตั๋วถูกได้ก็มาจากส่วนนี้ กระทั่งการส่งข่าว การ งานศิลปะแต่ก็มีระบบระเบียบในการคิดมาก เรา โปรโมทเขาก็มีช่องทางที่ชัดเจน เข้าถึงคนดู ก็ดึงสิ่งเหล่านี้มาใช้กับ Democrazy ด้วย เราเอง วงจรทุกส่วนมันครบไปหมด เราก็อยากหยิบเอา เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการคิด การสื่อสาร มีเดีย สิ่งเหล่านี้มาทำ�ที่ Democrazy ใหม่ๆ ในการถ่ายทอดอารมณ์และข้อมูลต่างๆ คุณตั๋มเคยไปเรียนและเห็นวงการละครเวทีในต่าง ประเทศ เขาเป็นยังไงบ้าง

เด็กที่จบการแสดงมาจะไปต่อทางไหน

ตั๋ม : ผมคิดว่า ทุกอาชีพมันไม่จำ�เป็นต้อง ตรงสายขนาดนั้น การแสดงมันเป็นทักษะการ เชื่อมโยงระหว่างคนอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถเอาไป ประยุกต์ใช้ในการทำ�สิ่งอื่นๆ ได้มากมาย แต่ ถ้าใครจะมาสายนี้โดยตรงก็ได้ แต่อาจจะต้อง พยายามหน่อย ต้องชัดเจนในตัวเอง ชัดเจนใน ทัศนคติมุมมองของตัวเอง มันเป็นทุกที่ทั่วโลกนะ ไม่มที ไ่ี หนง่าย คนทีเ่ ขาดูเหมือนลำ�บาก กลางวัน ทำ�อีกอย่าง กลางคืนไปซ้อมการแสดง คือเขา เลือกแล้วที่จะเป็นแบบนั้น แผนในอนาคตของ Democrazy

Democrazy : เราก็จะพยายามทำ�งานละครให้

เสน่ห์ของละครเวทีครับ

Democrazy : สำ�หรับเรามันเหมือนสังคมจำ�ลองนะ การที่คนดูต่างเพศ ต่างวัย ที่แต่ละคนอาจจะรู้จัก หรือไม่รู้จักกัน มารวมกันในพื้นที่หนึ่งนานหลาย ชั่วโมง และรับข้อความบางอย่างซึ่งการตีความ ความเข้าใจ การรับรู้ก็ต่างกัน มันเป็นการเรียนรู้ บางสิ่งบางอย่างในการรับชม มันไม่ใช่แค่การ มาดูละครเรื่องหนึ่ง แต่ความแปลกใหม่มันเริ่ม ตั้งแต่การมาซื้อตั๋ว ยืนรอดูการแสดง มันคือการ พบเจอคนอื่น การเห็นปฏิกริยาของคนอื่น มัน มีการล่วงรู้ตลอด และด้วยพื้นที่เล็กๆ อย่างใน Democrazy มันทำ�ให้เราพูดข้อความบางอย่างที่ ตรงไปตรงมาได้ อิสระในการแสดงและการรับชม มันยิ่งมีเสน่ห์

74


75


อันนี้ถามคุณเอ๋หน่อย อะไรคือสิ่งที่แย่ในการทำ� Democrazy

มันคือความกังวล สับสนในบางทีนะ เพราะเราก็มีคนรอบๆ ตัวเราที่ต้อง ดูแล ที่เขาอาจจะต้องใช้เงิน เราต้อง รบกวนคนอื่นหลายอย่างในการทำ�งาน มันก็แอบมาเครียดบ้าง อะไรคือสิ่งที่ดีในการทำ� Democrazy

การได้ตัดสินใจทำ�ในสิ่งที่เราเลือก

อะไรคือสิ่งที่บ้าในการทำ� Democrazy

ก็สิ่งที่ทำ�อยู่นี่แหละค่ะ (หัวเราะ)

facebook.com/democrazystudio

76


77


PIE TALK

TA

~ BUN

St

u

~ o d i 78


TOY IS LIFE “ของเล่นเนี่ยจริงๆ ผมถือว่าเป็นงานศิลปะนะ คำ�ว่า Toy มันไม่ได้บอกเลยนะว่าต้องเป็นของสำ�หรับเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่เราเข้าใจกันเองว่าเป็นสินค้าสำ�หรับเด็ก เลยดูเหมือนของที่ไม่จำ�เป็นในชีวิต เราถูกสังคมบอก ว่าโตแล้วอย่าเล่นของเล่นเลย ไปสนใจอย่างอื่นเถอะ”ประโยคนี้ลอยออกมาจากใจของพี่ต้น ชัยวัฒน์ เสริมสุธีอนุวัฒน์ แห่ง TABUN Studio ผมหาข้อมูลมาว่าชายคนนี้ที่เป็นทั้งนักสะสม นักเขียน และนัก สร้าง “ของเล่น” ยิง่ ได้ฟงั ประโยคข้างต้น ผมยิง่ มัน่ ใจว่าเรือ่ งของเล่นสำ�หรับพีค่ นนีไ้ ม่ใช่เรือ่ งเล่นๆ แน่นอน

PIE : ชื่อ TABUN Studio

พี่ต้น : เกิดขึ้นราวปี 2005 ผมทำ�งานประจำ� อยู่แล้วเริ่มเบื่อๆ อยากทำ�อะไรสนุกๆ เลยรวม กับเพื่อนประมาณ 5-6 คน แต่ด้วยความที่มีผม คนเดียวที่จบมาทางด้านศิลปะ งานอะไรต่างๆ ที่รับมาก็จะมาลงที่ผม ชื่อกลุ่มเขาก็เลยให้ผม คิด คำ�ว่า TABUN มันแปลว่าแก็ซพิษที่มีผลอ ย่างรวดเร็ว แล้วตัว T กับตัว A มันก็มาจาก ชื่อคำ�ขึ้นต้นของผมกับแฟนด้วย ซึ่งเพื่อนๆ กับ ผมทำ�งานร่วมกันได้หนึ่งงานถ้วน แล้วก็แบ่งเงิน กันได้คนละ 70 บาท สุดท้ายทุกคนก็แยกย้าย กลับไปทำ�งานประจำ�ของตัวเองเพราะมันไม่คุ้ม TABUN ก็เลยอยู่ที่ผมคนเดียว จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจ ให้เรียกว่า “ตะบัน” มันจะอ่านว่า “ทาบุน” แต่มันไปตรงกับคำ�ในภาษาไทยว่า “ตะบี้ตะบัน” คนก็เรียกกันแบบนี้ก็โอเค แล้วเวลาที่ผมติดต่อ กับชาวต่างชาติ ชื่อ ”ต้น” เขาอ่านไม่ค่อยได้ เลยเรียกผมว่า Mr.TABUN 79

PIE : TABUN STUDIO ทำ�งานอะไรมาบ้าง

พี่ต้น : ผมสนใจในเรื่องของเล่นและอะไรที่เกี่ยว กับกราฟฟิกดีไซน์ทุกอย่าง อีเว้นท์ Corporate identity โลโก้ ฯลฯ ทำ�งานส่วนตัวบ้าง ออกสื่อ บ้างไม่ได้ออกบ้าง มีงานเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับ ของเล่น ลงในนิตยสารการ์ตูนและบล็อคของผม PIE : Designer Toy เกิดขึ้นยังไง

พี่ต้น : Designer Toy มันก็เกิดขึ้นจากงาน ศิลปะของผู้ใหญ่ที่ใช้ของเล่นเป็นสื่อในการ แสดงออก Designer Toy มันเกิดขึ้นชัดๆ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีมานี่เอง (ใครจะแย้ง ก็ได้นะ อันนี้คือที่ผมรู้มา) โดยผู้ชายคนหนึ่งชื่อ Michael Lau เขาทำ�งานอาร์ต วาดการ์ตูนแนว ฮิปฮอป ชอบฟิกเกอร์ เขาก็ทำ�ของเล่นไปเรือ่ ยๆ พอได้จ�ำ นวน 101 ตัว เขาก็จดั เป็น Exhibition ขึน้ แล้วคนมาเห็นก็ชอบกัน แต่เด็กๆ คงไม่ชอบ หรอกเพราะมันไม่ใช่ของเล่นด้วยซ้ำ� เพียงแต่ว่า


มันถูกสร้างมาให้มีลักษณะเหมือนของเล่น จึงเกิด คำ�ว่า Designer Toy คือของเล่นจากดีไซเนอร์ สำ�หรับผม ผมสนใจเรื่องนี้และคิดว่าอยากทำ� ของเล่นของตัวเอง มันเกิดจากการทำ�งานศิลปะ ผมชอบของเล่นพวกนี้ ชอบอาร์ตเวิร์คที่กล่องของ มัน มันคืองานกราฟฟิกทั้งนั้น ชอบสีสันของมัน โดยเฉพาะของเล่นในช่วงยุค 80 นี่ชอบมาก มี ความเฉพาะตัว มีการวาดและลงสีต่างๆ ด้วยมือ แรกๆ ผมก็เลยพยายามจะทำ�โดยปั้นดินน้ำ�มันบ้าง ทดลองใช้วัสดุต่างๆ มาทำ�ของเล่นดูทำ�มาเรื่อยๆ ใช้ช่วงเวลาหลังเลิกงาน พยายามหาวัสดุอื่นๆ ที่ มันโดนใจเรามากขึน้ เริม่ ไปใช้เรซิน กระดาษ วัสดุ หลายๆ อย่าง

PIE : วิธีขั้นตอนในการทำ�

พี่ต้น : จริงๆ แล้วมันมีหลายวิธีมาก สำ�หรับตัวนี้ (หยิบฟิกเกอร์ให้ดู) ผมทำ�โมเดลขึ้นมา ก็ปั้นขึ้นมา จาก Epoxy ก่อน ผมชอบสัดสวนที่ช่วงบนใหญ่ ช่วงขาเล็ก แล้วตัดเป็นส่วนๆ ซื้อพวกพลาสติกที่ เป็นข้อต่อมาใส่ มันมีแบบเฉพาะขายนะ แบบดีๆ เลยแต่แพงมาก ผมก็จะไปซื้อจากของเล่นจีนถูกๆ แผงหนึ่งได้มาเพียบเลย เอามาตัดและใส่เข้าไปมัน ก็จะขยับได้ จริงๆ แต่ละแบบมันขึ้นอยู่กับวัสดุครับ ดินน้ำ�มันก็ได้แต่ถ้าโดนความร้อนก็จะอ่อนยวบ ทำ� แม่พิมพ์ยางแล้วหล่อออกมาด้วยปูนหรือเรซินก็ได้ วัสดุแต่ละอย่างมีเทคนิคที่ต่างกันไป แต่จุดประสงค์ คือต้องการให้มันเป็นของเล่น มีปฏิสัมพันธ์กับมันได้ และต้องมีความคงตัวพอสมควร ในช่วง 10 กว่าปี หลังนี่มันเริ่มมีการนำ�เอาวัสดุอื่นๆ มาทำ�ของเล่น PIE : ทดลองเองศึกษาเอง พี่ต้น : ทดลองเองศึกษาเองหมด ผมไม่ได้เรียน มากขึ้น อย่างเช่น Epoxy จริงๆ ตัวนี้ในตลาดมัน มาทางประติมากรรม ผมเริ่มง่ายๆ จากการไปซื้อ คืออุปกรณ์ที่เอาไว้อุดท่อน้ำ� พอมันเอามาผสมกัน ของเล่นแบบถูกมากๆ ในตลาด ซึ่งมันเป็นของเล่น แล้วมันจะมีความแข็ง สามารถตกแต่งเพิ่มเติ​ิมได้ ที่ดูไม่ค่อยมีค่า แต่เราเอามาทำ�เป็นของๆ เรา ก็เลยมีการนำ�เอามาใช้ทำ�โมเดลหรือของเล่นมากขึ้น เองได้ ผมซื้อมาแล้ววาดรูปเล่นลงไปหรือเอาแขน ขาเติมอะไรต่างๆ ที่เราคิดลงไป มันเริ่มจากอะไร PIE : พี่เคยเขียนในบล็อคว่า Custom Toy เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ตอนเด็กๆ ผมดูเรื่อง The เป็นการทดลองวิทยาศาตร์กึ่งศิลปะ Nightmare Before Christmas แล้วก็อยากลอง พี่ต้น : ใช่ ผมชอบเรื่องวิทยาศาสตร์นะ เรื่อง ทำ� Stop Motion ก็หาวิธีทำ�ให้ของเล่นผมมันขยับ อวกาศ อะตอม ทฤษฎีต่างๆ การทำ�ของเล่นมันก็ ได้มากขึ้น ผมก็ไปหาของในสำ�เพ็ง หาพวกข้อต่อ มีการทดลองคล้ายๆ กัน จะใช้วัสดุอะไร อยากให้ พลาสติกเล็กๆ เพื่อทำ�ให้มันมีจุดขยับเยอะขึ้นแล้ว มีความใสหรือจะทาสีลงไปทีหลัง คนบ้านเราเข้าใจ เราก็ถ่ายทีละเฟลม ตอนนั้นผมทำ�ให้ MTV เป็นตัว ว่าเรซินแข็งหรือมีการตกแตกได้ แต่จริงๆ แล้ว เรซินมีความยืดหยุ่นพอสมควรนะ มันคือพลาสติก ที​ี่ใช้ขั้นรายการ 80


81


82


ชนิดหนึง่ เลย ถ้าเรารูว้ ธิ ใี ช้งานและวิธที �ำ ให้นม่ิ ลง มันก็จะมีความใกล้เคียงกับของเล่นที่ใช้ยาง และ จะทำ�ยังให้ใกล้เคียงกับความเป็นพลาสติกมาก ที่สุด ผมเป็นคนชอบเรื่องวิทยาศาสตร์ ซึ่งมัน มีประโยชน์มาก อย่างเรซินปกติมันมีความแข็ง มาก เราจะทำ�อย่างไรให้มันนิ่มลงแต่ก็ยังมีความ แข็งอยู่ ผมต้องหาวัสดุหลายๆ อย่างมาผสม เมื่อก่อนผมทดลองเล่นหลังเลิกงานทุกวัน ที่ได้ มาคือลองผสมสีสเปรย์เก่าที่ตกตะกอนเข้าไปใน เนื้อของเรซิน ผลที่ได้คือเนื้อมันน่ิมลงแต่ก็ยังคง แข็งอยู่ระดับหนึ่ง ผมต้องทดลองเยอะ เพราะ พวกพลาสติกเราไม่สามารถทำ�เองได้เพราะว่า ต้นทุนสูง ต้องซื้อมาทำ�ออกมาในปริมาณมาก ในบ้านเราโชคดีที่มีพวกสารเคมีแบบนี้ขายกัน เต็มไปหมด จริงๆ ก็น่าแปลกนะ อย่างเรซินนี่ เป็นสารอันตรายบางประเทศไม่มีขาย เพราะมัน ต้องใช้ความร้อนสูงมากที่จะทำ�ให้แข็งตัว และ ผสมไปมามันกลายเป็นระเบิดได้เลยนะ แต่ใน บ้านเราใช้กันอย่างสนุกสนานเลย PIE : พี่เคยทำ�เป็น Paper Toy ด้วย

พี่ต้น : เริ่มแรกเลยคือทำ�ไม่เป็น ผมเป็น กราฟฟิกดีไซเนอร์ก็เลยวาดขึ้นมาบนโปรแกรม Illustrator, Photoshop แล้วก็ปริ้นออกมา คิด ว่ามันสวยดีก็เลยทำ�ออกมาอีก แรกๆ เริ่มจาก การทำ�บนกล่อง บนกระดาษ จากนั้นก็ไปดู แปลนการพับกล่องเอามาต่อเป็นแขนขาแล้ว เขียนลายทับลงไป และพัฒนาขึ้นเป็นการวาด 83

ลงในคอมพ์แล้วเอามาต่อกันให้มันมีมิติขึ้น PIE : Custom Toy ตัวแรกที่ทำ�ออกมา

พี่ต้น : เป็น Custom Model ชื่อ เดอะ ฮ่วย เป็นความกากกับความเท่ผสมกัน ผมก็ไปซื้อ ของเล่นจากสำ�เพ็งแล้วมาปัน้ เพิม่ มี 3 ตัว เป็น คาแรกเตอร์ที่เกิดขึ้นจากชีวิตประจำ�วันของผม และเพื่อน ตัวหนึ่งจะเป็นเหมือนหัวตะปูที่มีอะไร โปะอยู่ มันเกิดจากผมซื้อไอศครีมไฮโซมากินแล้ว มันหล่นบนหัวตะปู มีตะปูโผล่ขึ้นมาตรงกลาง ก็ เลยตัง้ ชือ่ มันว่า Zia-Dai ก็คอื ความรูส้ กึ ตอนไอศครีม หล่น มันเสียดาย ผมทำ�เพือ่ ให้ความสนุกกับตัวเอง ส่วนตัวที่มี 3 หัวนี้ เป็นตัวคาแรกเตอร์ที่ผมชอบ วาดบ่อยๆ เพราะคือตัวผมเอง เป็นเรือ่ งบ้าๆ บอๆ ของความคิดตัวเองตั้งแต่เด็กๆ PIE : ความหมายของ 3 หัวนี้คืออะไร

พี่ต้น : ตอนเด็กผมมีลักษณะบางอย่าง เป็นเด็ก ที่เกิดมาแล้วพ่อแม่งานยุ่งมากไม่ได้ดูแลผมเท่าไหร่ ตอนเด็กๆ ผมไม่รู้ว่าพ่อแม่คืออะไร เขามีความ สำ�คัญกับผมยังไง ต้องกินข้าวกับไข่เจียวอยู่ 7-8 ปี เพราะแม่ไม่มีเวลาทำ�อย่างอื่นให้กิน แล้วผมจะ เป็นเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยเล่นกับเพื่อน จะชอบอยู่ คนเดียวและจินตนาการถึงเพื่อนอีก 2 คน ซึ่ง เป็นเพื่อนในจินตนาการของผม มันเป็นหัวด้าน ซ้ายและขวาซึ่งผมจะอยู่ตรงกลางคอยปรึกษาพูด คุยกับอีก 2 หัวข้างๆ มีหัวหนึ่ง (ด้านขวาของพี่ เขา) ที่ไม่พูดอะไรเลยแต่จะคอยเก็บความทรงจำ�


84


เก็บบันทึก ส่วนอีกตัวหนึ่งเป็นดาร์กไซด์ ชั่วร้าย คอยบอกให้ทำ�เรื่องไม่ดีตลอดเวลา (หัวด้านซ้าย ของพี่เขา) ปกติมันควรจะเป็น Angel กับ Devil ใช่ไหม แต่ผมมีแต่ Devil และตัวผมเองที่ต้อง คอยตัดสินว่าจะทำ�หรือไม่ทำ� ส่วนอีกตัวหนึ่งมันไม่ ทำ�อะไรเลย ไม่เคยพูด ถ้าพูดมันจะพูดเบาๆ ไม่ ค่อยมีความคิดเห็นอะไรเท่าไหร่ และจะมีควันลอย ออกจากปากตลอด ก็เลยกลายเป็นตัวที่มี 3 หัว PIE : ตัว 3 หัวนี้ไม่ใช่เป็นแค่ดีไซน์เท่ๆ แต่เป็นความ ทรงจำ�จริงๆ

พีต่ น้ : เป็นความทรงจำ� เมือ่ โตขึน้ แล้วถึงถ่ายทอด มันออกมาได้ ใครๆ ก็คงอยากมีเพื่อนที่ดีที่สุดและ อยู่ด้วยกันได้ตลอดเวลา เราอยากจะมีอีกตัวที่มัน เหมือนกับเราทุกอย่างไม่ต้องพูดหรืออธิบายอะไร ก็ได้ เพราะเพื่อนที่ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง

85


86


PIE : งานประจำ�ที่ทำ�อยู่

พี่ต้น : ผมทำ�งานประจำ�เป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ แต่ ก็อยู่ในบริษัทที่ทำ�ของเล่น ก็เลยได้ใช้ความหลงใหล ของตัวเองในการทำ�งาน เราก็สนุกใช้พลังเยอะ กลับมาบ้านก็เหนื่อยแล้ว ในงานถ้าเป็นไอเดียของ ผม ผมก็จะพยายามโยนเข้าเรื่องของเล่น บริษัท ที่ผมทำ�งานอยู่ผลิตพวก Platform Toy ด้วย คือ เป็นของเล่นที่เป็นโมเดลเปล่าให้ศิลปินมาเพ้นท์ PIE : ในบ้านเราเรื่อง Toy ยังดูเงียบๆ

พี่ต้น : จะบอกว่าทั้งโลกเลยก็ได้ ของเล่นเป็นของ ฟุ่มเฟือยมีความจำ�เป็นต่ำ�แต่ราคาสูง ประเทศเรา เป็นประเทศเล็กๆ มีคนสนใจไม่มากอยู่แล้ว

คนที่ทำ�งานศิลปะ อยากทำ�งานของตัวเองขึ้นมา แต่อีกทางก็จะ Commercial จะใช้วัสดุที่ดีกว่า ผลิตได้มากกว่าของ Handmade ที่จะทำ�จำ�นวน น้อยมากๆ ถ้าสร้างความน่าสนใจจะเป็นทางฝั่ง ของ Handmade ถ้าเป็น Commercial จะเป็น อิมแพ็กใหญ่ๆ เป็นกลไก เรื่องของการนำ�เสนอ สินค้า PIE : อธิบายถึงความเป็น Fine Art ในของเล่น หน่อยครับ

พี่ต้น : อย่าง Designer Toy ก็คล้ายๆ ว่าเป็น ลูกหลานของศิลปะ สมัยก่อนเรามองงานเพ้นท์ มันก็คือการทำ�เพื่อตอบสนองความรู้สึกบางอย่าง ของตัวเอง คนจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็แล้วแต่การ PIE : แล้วอย่างเฟอร์บี้มาได้ยังไงครับ ตีความ พอยุคสมัยเปลี่ยนไป การนำ�เสนอก็ พี่ต้น : มันถูกไวรัลยิงจนเกิดเป็นกระแสขึ้นมา เมื่อ เปลีย่ นไปเรือ่ ยๆ เพราะคนรุน่ ใหม่กจ็ ะหาวิธนี �ำ เสนอ ก่อนการเกิดของคาแรกเตอร์มันจะมีเรื่องราว จนมี ใหม่ๆ และเริ่มแอนตี้ความรู้สึกเก่าๆ จนมาถึงยุค คนสนใจผูกพันกับมันจึงทำ�ของขึ้นมาขาย เฟอร์บี้ Designer Toy ที่เป็นรุ่นหลานรุ่นเหลนของศิลปะ ก็เช่นกัน จริงๆ เกิดมาเป็นสิบปีแล้ว ผมไม่แน่ใจ ซึ่งศิลปินเขาก็จะใช้ของเล่นมาใช้ในการสื่อสาร นะว่ามันมากจากหนังเรื่องเกรมลินส์หรือเปล่า แสดงความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน แล้วมันก็ถูกพัฒนาให้น่ารักขึ้นจากนั้นก็ใส่พวก อิเล็กทรอนิกส์ลงไปให้เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ยิ่งถูก PIE : ในเมืองนอกก็ยังเป็นวงแคบ เฉพาะกลุ่ม เชื่อมต่อกับแอปฯและมันเป็นส่ิงที่ใกล้ตัวคนด้วย เหมือนกับในบ้านเรา สังคมก็พร้อมที่จะโอบรับพร้อมที่จะรักมัน ซึ่งการ พี่ต้น : ใช่ แต่ทันทีที่อินเตอร์เน็ตแพร่หลายมัน ตลาดมันถูกวางแผนมาอย่างดีมากๆ เชื่อมโยงคนทั้งโลกมากขึ้น ทำ�ให้สามารถดึงดูดคน ที่ไม่สนใจหันมาสนใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเมือง PIE : Toy Art แบ่งใหญ่ๆ ได้กี่ประเภท ไทยมันขึ้นอยู่กับค่านิยมอะไรบางอย่าง เช่นพ่อแม่ พีต่ น้ : หลักๆ เลยก็เป็น Industrial กับ Handmade มีลกู ก็จะไม่ซอ้ื ของเล่นให้เพราะคิดว่ามันไร้สาระ หรือ ทั้งสองอย่างนี้มันจะมีที่มาคือ Commercial Art ซื้อให้ก็เป็นของเล่นห่วยๆ ที่ผลิตออกมามากมาย กับ Fine Art ทาง Handmade คล้ายกับเป็น หรือเอาราคาถูกที่สุด เคยมีคนถามเหมือนกันว่า 87


อนาคตมุมมองเรื่องของเล่นในบ้านเรามันจะเป็น ยังไง ผมตอบไม่ถูกหรอก แต่ว่าคุณเกิดที่นี่ ทำ� ในสิ่งที่คุณรักก็พอ อาจจะมีคนเห็นหรือไม่เห็น ก็ได้ แต่ทุกอย่างก็ทำ�เพื่อตัวคุณเอง ผมก็ไม่รู้ว่า วันไหนจะมีคนที่ลุกขึ้นมาทำ�แล้วสามารถทำ�ให้ คนสนใจเรื่องของดีไซเนอร์ทอยขึ้นมาได้ เหมือน ทีผ่ มทำ�โมเดลชัชชาติกบั ต๊อด สเลดทอย ตอนนัน้ มีบริษัท 3D printing ติดต่อมา (บริษัท 3D 4x100) เลยคิดกันว่าจะปริ้นโมเดลคุณชัชชาติ พอเอาลงเฟสบุ๊กแล้วมีคนอยากได้ มันก็ทำ�ให้คน หันมามองเรื่องของโมเดลกันมากขึ้น บางทีก็เป็น เรื่องของจังหวะด้วย PIE : ประเทศที่มีความคึกคักทางด้านนี้

พี่ต้น : สำ�หรับคนทำ�งานด้านนี้นั่นคือสิ่งที่เรา อยากเห็นอยากเป็น แบบทางอเมริกามีคนทำ�อยู่ เยอะ มีศิลปินที่หันมาสนใจทางด้านนี้มากขึ้น สิ่งที่สำ�คัญมากๆ เลยก็คือนักลงทุน ในบ้านเรา บอกเลยว่ามันเกือบเป็นศูนย์ มันมีแต่ก็น้อยมาก อย่างคุณตันที่ตอนแรกทำ�กระปุกออมสิน ต่อมา ก็ทำ�ไวนิลฟิกเกอร์ที่เพิ่งจะแสดงงานไป ก็มี เสียงบอกว่าแพง แต่สินค้าตัวนั้นถูกทำ�ขึ้นโดย ดีไซเนอร์ที่เป็นศิลปินต่างชาติชื่อดัง ซึ่งเขาก็คิด ราคาค่าความคิดของเขาในราคาที่สูง และผมคิด ว่าที่เขาขายในราคา 2,500 บาท มันไม่สูงเลย แต่คนบ้านเราก็ยังมองว่าแพงมาก

PIE : เคยอ่านที่พี่ต้นเขียนว่าในเมืองนอกมีห้างฯ ที่ วางขายฟิกเกอร์เกี่ยวกับศาสนาด้วย

พี่ต้น : ใช่ คือในบางห้างฯ จะมีอยู่ส่วนหนึ่งที่เป็น ของเล่นทางศาสนา เอาไว้เผยแพร่ศาสนา ส่วนใหญ่ เป็นคริสเตียน เขามองว่าศาสนาเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ได้มีสิ่งที่เรียกว่าการถือ ขณะที่ประเทศเราถือเรื่อง ศาสนาเป็นเรื่องห้ามแตะต้อง แต่ที่จีนมีนะอย่างองค์ ทะไลลามะ หรือทำ�พระพุทธถือปืนอาก้าซึง่ ขายดีมาก เขามองว่าศาสนาเป็นเรื่องสนุก ชักจูงให้คนไปสนใจ แล้วค่อยไปหาแก่นแท้ของศาสนานั้นอีกที ทำ�ยังไง ก็ได้ให้คนสนใจ ไม่มีคำ�ว่าถูกหรือผิด พระเยซูใส่ชุด ทหาร อะไรอย่างนี้ อย่างพระรามผมก็ชอบ (หยิบ ฟิกเกอร์มาให้เราดู) ผมจะชอบอะไรพวกนี้มากเลย เขาจะมีหนังสือการ์ตนู มาด้วย คนทีท่ �ำ เป็นชาวอินเดีย ที่อยู่ในอเมริกา ตั้งสตูดิโอของตัวเองชื่อสตูดิโอว่า กฤษณะ ทำ�ของเล่นชุดแรกออกมาเป็นพระรามกับ หนุมาน เขาทำ�ขึ้นมาเพื่อสืบสานเรื่องรามายณะ ให้เด็กได้เข้าใจง่ายขึ้น ไม่ได้บิดเบือนเรื่องศาสนา เลยนะ แต่ทำ�ปุ๊บเจ๊งเลย (หัวเราะ) แน่นอนมันคง ขายได้ไม่เยอะ แต่ผมจะชอบสตูดิโอที่เกิดขึ้นใหม่ๆ แบบนี้มาก เพราะว่าเราได้เห็นการทดลองของเขา PIE : เมืองนอกก็มีเจ๊งเหมือนกัน

พี่ต้น : มีทุกที่ มันก็เป็นบทเรียนให้กับเรา ทำ�ให้คิด ว่าต้องทำ�ถูกที่ถูกเวลา แต่ถ้าเราพึ่งพามาเก็ตติ้งมาก ไปของเล่นมันก็จะน่าเบื่อ

88


89


90


PIE : พี่ต้นมีของเล่นที่สะสมไว้กี่ชิ้น

พี่ต้น : ราวๆ 5 ปีก่อนผมนับได้สองพันกว่าชิ้น มันมี ส่วนหนึ่งอยู่บ้านที่ระยองด้วย ที่แต่ตอนนี้น่าจะเกินกว่านั้น มีพวกหนังสือการ์ตูนด้วย พวกหนังสือภาพเก่าๆ หรือ หนังสือการ์ตูนแปลกๆ คนต่างชาติเอามาขายผมเห็นปก สวยดีอ่านไม่ออกก็มี PIE : ราคาแพงที่สุดกับถูกที่สุด

พี่ต้น : แพงที่สุดตอบไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ไม่แพงมาก หรอก ผมไม่ได้ชอบซื้อของเล่นแพงๆ ถ้าถูกที่สุดก็จะได้ ฟรีหรือของเล่นราคา 5-10 บาทผมก็ซื้อบ่อย แต่มันจะมี กรณีที่ของเล่นบางชิ้นเราเคยเห็นแต่ไม่ได้ซื้อไว้ สมัยก่อน ราคาแค่ 10-20 บาท แต่ต้องกลับมาซื้อเพราะคิดถึงมันใน ราคา 1,500 บาท แบบนี้ก็มีเหมือนกัน PIE : อนาคตฝันอยากจะทำ�อะไร

พี่ต้น : มีรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ชื่อกลุ่ม TGU หรือ “ทีกู” เพื่อทำ�ของเล่นและงานศิลปะ ผมอยากทำ� Toy ที่ เป็นตลาดล่าง ราคาถูกดีไซน์สวย วัสดุไม่ต้องดีมากแต่ว่า คอนเซปต์มันให้ความคิดให้แรงบันดาลใจได้ อยากให้มีตัว เลือกให้กับเด็กๆ มากขึ้น ถ้าเดินสำ�เพ็งบ่อยจะรู้เลยว่าของ ในตลาดตอนนี้มันไม่ได้ให้ความคิดสร้างสรรค์ ของในราคา ถูกที่เด็กจะเล่นมันกลายเป็นของที่ดูไม่ให้อะไร ผมพยายาม จะเดินในตลาดขายส่งบ่อยๆ เพื่อที่จะหาอะไรที่มันน่า สนใจ แต่ระยะ 5-6 ปีหลังมานี้แทบไม่เจอเลย น้อยมาก อีกอย่างที่อยากทำ�คืออยากทำ�มิวเซียมของตัวเอง เป็น พิพิธภัณฑ์ของเล่น เหมือนแหล่งที่บอกเล่าเรื่องราวให้ คนรุ่นต่อไป

91


PIE : ถ้าคนที่เพิ่งเริ่มสะสมหรือหันมาสนใจควรเริ่มยังไง

พี่ต้น : ต้องเริ่มจากความอยาก อยากได้ อยากมีไว้ ครอบครองต้องชอบก่อน ทันทีที่คุณอยากได้จริงๆ คุณ จะยอมจ่ายให้มัน และเริ่มหาว่าตัวเราเป็นยังไง ซึ่งตัว ผมเป็นแบบไหนผมก็เลยซื้อของเล่นแบบนี้ ส่วนใหญ่คน ที่ซื้อจะเริ่มจากที่ผูกพันก่อน แล้วค่อยๆ ไล่ไปเป็นตัว แปลกๆ ถ้าศึกษาลึกขึน้ แต่กม็ แี บบทีเ่ ห็นเขาฮิตก็ซอ้ื บ้าง แบบนีอ้ าจจะขาดความผูกพัน ไม่นานมันก็จะถูกตัง้ ให้ฝนุ่ เกาะอยูใ่ นบ้าน ของเล่นราคาแพงบางอย่างผมไม่ได้ว่าไม่ ดีนะ แต่บางตัวเราจ่ายในราคาแพงและ่มันไม่ค่อยให้ ไอเดียหรือให้เรื่องราวกับเราเท่าไหร่ ดีไซเนอร์ทอยนี่ชัด มาก บางคนอาจจะซื้อเพราะกระแส แต่ถา้ ลองได้รถู้ งึ คน ทีด่ ไี ซน์ รูเ้ รือ่ งราวการเดินทางของมัน จะสนุกและมีคุณค่า มากขึ้น PIE : พี่ซื้อของเล่นที่ไหนครับ

พีต่ น้ : มีคนถามเยอะ ไม่ได้กวนนะ ซือ้ ทีไ่ หนก็ได้ มันมี อยู่ทุกที่แหละ

facebook.com/customizeman.actionfigure

92


93


MAKING COLUMN FOR PIE

P

O

J

O I

T

THE SHOW

G

O

เรื่อง : กันดิศ ป้านทอง ภาพ : ธนวัฒน์ เพชรจันทร

94

M


สมาชิกวงภูมิจิต พุฒิ - พุฒิยศ ผลชีวิน (ร้องนำ�, กีตาร์) กานต์ - เกษม จรรยาวรวงศ์ (กีตาร์) บอม - ธิตินันท์ จันทร์แต่งผล (เบส) แม็ก - อาสนัย อาตม์สกุล (กลอง)

จากศิลปินนอกกระแสที่ใช้เวลา เดินทางในโลกของเสียงดนตรี มาอย่างยาวนาน เวลาล่วงเลย ผ่านไปทำ�ให้พวกเขาเติบโตและมี ประสบการณ์ในการทำ�เพลงมากขึน้ คำ�ว่า ภูมจิ ติ คือ ชือ่ ของวงดนตรี แนวป๊อบเพื่อชีวิตที่มอบพลังทาง ความคิดและให้กำ�ลังใจแก่ผู้ฟัง มากมายผ่านบทเพลงของพวกเขา วันนีว้ งภูมจิ ติ พร้อมแล้วทีจ่ ะมาเล่า ให้ฟงั ทุกเรือ่ งราวทีเ่ กิดขึน้ กับพวกเขา ตลอดระยะเวลา12 ปีที่ผ่านมา 95


96


ครับ ถ้าวงเขาเล่นกันอยู่แล้วเราไม่ต้องไปขัดเขา แต่วันนั้นที่ตัดสินใจที่จะฝืนมารยาททางสังคมเพราะว่า ผมเห็นกานต์แต่งตัวเหมือนรุ่นพี่ที่ศิลปกร ผมก็คิดว่า มันคือรุ่นพี่ผม เลยขึ้นไปตีกลองแล้วตีไปตีมาปรากฏ ว่าไม่ใช่ (หัวเราะ) พอเล่นเสร็จวันนั้น พุฒิมาขอ เบอร์ผมแล้วให้เทปวง Radiohead มาฟัง จากนั้น ก็ไปเล่นงานแรกกับภูมิจิตครั้งแรกที่ Central World นานมากประมาณสิบกว่าปีแล้วครับ กานต์ : หลังจากได้แม็กมาแล้ว พวกเราเริ่มอัดอัลบั้ม กันแล้วครับ ตอนนั้นทำ�กับพี่ต้าร์​Paradox เดโม เพลงเราเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องราวก็ดันมา เกิดขึ้นอีกครับมือเบสคนเก่าขอลาออกไปจากวง ซึ่ง ทำ�ให้เราต้องตามหามือเบสคนใหม่กัน เลยเอาวะ.. ลองหากันดู บอม : ทำ�ไมเรื่องเล่าแม็กมันยาวจังครับ แล้วเมื่อไหร่ ผมจะมีบทพูดครับ (หัวเราะ) กานต์ : บอมเล่นอยู่วง Peanuty ครับ เรามีความ รู้จักสนิทสนมกันอยู่แล้วกับวงนี้ ในตอนนั้นมือเบสคน ที่พุฒิอยากได้มาเล่นให้วงเราตอนนั้น คือมือกีต้าร์วง นั้นที่ชื่อ บอล มาเล่นเบสให้ครับ บอม : แต่ไอ้บอลมันไม่ชอบพุฒิ มันบอกว่า ถ้าอยู่ กะไอ้พุฒิต้องทะเลาะกับมันแน่ๆ จากนั้นมันเลยส่ง ผมมารับชะตากรรมแทนครับ คำ�ถามแรกที่วงนี้ถาม ผมจำ�ได้ดีเลย “อ่านคุโรมาตี้มั้ย” ถ้าอ่านเข้าเลย การเข้ามาของกูนี่มันมันไม่เท่เลยวะครับ (หัวเราะ)

จุดเริ่มต้นของภูมิจิต

พุฒิ : จุดเริ่มต้นของวงเรามันมาจากการพบกัน ของผมและกานต์ครับ ตอนนั้นผมไปเจอกานต์ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กานต์ : มันเป็นช่วงปีสองขึ้นปีสาม เรารู้สึกว่าเรา ฟังดนตรีฟังเพลงคล้ายๆ กัน ถ้าย้อนไปช่วงเวลา นั้นเราหาคนคุยเรื่องดนตรีไม่ได้เลย ในคณะก็ ไม่มีใครฟังแบบเราพอเจอพุฒิก็แบบ เฮ้ย...มีคน ฟังเพลงแบบเราด้วยหรอในมหาวิทยาลัยที่มีคน 3 หมื่นกว่าคนเนี่ยนะ ช่วงนั้นไปไหนมาไหนจะไป กับพุฒิตลอดคล้ายๆ คู่เกย์กันเลย อยู่มาวันหนึ่ง พุฒิโทรมาหาผมว่ามีประกวดดนตรีแบบอะคูสติก ในงานเกษตรแฟร์นะ ลองไปประกวดกันมั้ยก็ไป ประกวดกัน จากนั้นมาไม่นานก็ตั้งวงกันเลย การเข้ามาของสมาชิกที่ชื่อว่าแม็กและบอม

พุฒิ : บอกก่อนเลยครับว่าการเจอสมาชิกที่เหลือ ของเรามันเป็นอะไรทีน่ า่ ตืน่ เต้นมาก เราได้เจอแม็ก ก่อนเลยครับ วงภูมิจิตจะเป็นวงที่มีการผจญภัยที่ น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ มีงานหนึ่งเป็นงานของรายการ Music Help Tv วันนั้นอยู่ๆ มือกลองคนเก่าของ เราก็ไม่มาเฉยเลย เราเหลือกันอยู่สามคน วันนั้น เล่นกันไปแบบไม่มีมือกลอง ระหว่างที่เรากำ�ลัง เล่นดนตรีอยู่นั่นเอง มีชายคนหนึ่งครับวิ่งขึ้นมา ด้วยความรวดเร็ว ขึ้นมาตีกลองแล้วสามารถตี เพลงเราจนจบเพลงได้เลย โดยที่ไม่เคยฟังเพลงวง เรามาก่อนเลย สุดท้ายชายคนนี้อยู่เล่นจนจบโชว์ เลยครับ ว่าแต่วันนั้นทำ�ไมถึงขึ้นมาครับพี่แม็ก แม็ก : ผู้ชายที่ชื่อว่า “เฮง โครตอินดี้” ครับ มากระซิบผมแล้วบอกว่า แม็กวงนี้เขาไม่มีมือ กลอง มึงอ่ะออกไปตีเลย ด้วยมารยาททางสังคม

แนวเพลงของวง

ภูมิจิต : เมื่อก่อนเราเรียกตัวเองว่า Modern Psychedelic Contemporary Traditional เพื่อชีวิต Dream Pop Dance Rock ครับ ชื่อแนวของเพลง 97


เรามันยาวจริงๆ แต่พวกเราเรียกมันแบบนั้นครับ แต่ถ้าให้ตอบตอนนี้สั้นๆ เลย เรานิยามว่ามันคือ เพลงป๊อป ครับ ก้าวสำ�คัญกับวงดนตรีที่ชื่อว่า ภูมิจิต

ภูมิจิต : จริงๆ วงเราก้าวไปเรื่อยๆ นะ ยก ตัวอย่างง่ายๆ เช่น การที่กานต์ไม่อยู่ ก็เป็น เรื่องใหญ่เหมือนกัน เพราะตอนนั้นกานต์อัดเพลง อัลบั้ม BANGKOK FEVER เสร็จก็ไปเมืองนอก เลย แล้วกลับมาอีกทีก็มีคอนเสิร์ตใหญ่ของวง ซึ่ง ก่อนทำ�อัลบั้มนั้นเราไม่ได้มองเลยว่าจะมีแฟนเพลง เยอะขนาดนี้ คอนเสิร์ตใหญ่ก็เช่นกันไม่คิดว่าจะ มี อีกอย่างเราเคยมีประสบการณ์ตอนทำ�ชุดแรก ทำ�เพลงมันดาร์กมาก ช่วงชุดแรกก็มีคอนเสิร์ต ใหญ่ด้วยนะ แต่ไม่ประสบความสำ�เร็จอย่างที่เรา คาดหวังกันไว้ เลยมองว่าก้าวสำ�คัญของเรามันมี มาเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดมากกว่า แต่ถ้าไม่นับเรื่อง ตัวเพลง บางครั้งก้าวสำ�คัญของวงเราก็อาจจะเกิด จากเรื่องเล็กๆ เช่น บางคนเลิกยาได้เพราะฟัง ภูมิจิต บางคนทำ�ปริญญาเอกจบเพราะฟังภูมิจิต เรามีคนมาขอบคุณวงเราอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนี่ก็เป็นก้าว เล็กๆ ที่สำ�คัญของวงเราเช่นกันครับ ขั้นตอนการทำ�เพลงของภูมิจิต

ภูมิจิต : วิธีทำ�มันจะไม่เหมือนกันนะในแต่ละ อัลบั้ม ชุดแรกทุกอย่างจะเริ่มจากที่พุฒิคิดจะ ค่อยๆ แทรกซึมความคิดของตัวเองไปว่าเล่นอย่างนี้ ท่อนนี้ต้องเป็นแบบนี้นะ พอมาอัลบั้มสอง เรามี โครงบางอย่างคร่าวๆ มาแล้วให้ทุกคนต่อยอด ไอเดียกันไปเรือ่ ยๆ เพลง 80 เปอร์เซ็นต์จะมาจาก พุฒิเหมือนเดิมแต่จะออกมาในรูปแบบของเป็น

เพลงค่าย เพลงค่ายสำ�หรับเรา คือให้นึกง่ายๆ ว่า เหมือนเพลงที่เราไปค่ายอาสาแล้วมีเพื่อนๆ ในคณะ นั่งร้องเพลงกันไปทำ�นองแบบสามัคคีชุมนุมนั้นแหละ ครับ เพราะฉะนัน้ แล้วทุกเพลงทีพ่ ฒุ แิ ต่งจนถึงตอนนี้ ล้วนขึ้นตามด้วยจังหวะสามัคคีชุมนุมหมดเลย ซึ่ง ในวงพวกเราจะเรียกว่าเพลงค่ายนั้นเอง ส่วนใน อัลบั้ม Home Floor พวกเราทดลองให้แม็กตีความ เพลงของภูมิจิตใหม่ โดยคิดว่าถ้าภูมิจิตเริ่มจากแม็ก จะเป็นอย่างไร เลยกลายเป็นอัลบั้มดังที่ทุกคนเห็น กันครับ แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง

พุฒิ : เราอยากเล่าเรื่องอะไรสักอย่างครับ ส่วน ใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่เราตกตะกอนชุดความรู้ได้สัก ชุดนึง แล้วอยากจะเล่าให้ฟัง บางทีมันอาจจะเริ่ม จาก motto อะไรสักอย่าง เช่น ผู้ใหญ่ชอบอาบน้ำ� ร้อนมาก่อน บางทีผู้ใหญ่ไม่ได้เรื่องก็มีเหมือนกันนะ แบบประสบการณ์ในเรื่องนั้นไม่เท่าเรา เราจะใช้ค�ำ นี้ ยังไงดีละ หรือเพลงใหม่ทเ่ี รานำ�คำ�ว่า “ลิงหลอกเจ้า” มาใช้ดู แต่ถ้าเกิดคิดกลับกันละเป็นมันมีโอกาส หรือเปล่าที่เจ้าอาจจะหลอกลิง เราจะฉุกคิดอะไร จากเรื่องเล็กๆ นิดเดียวแล้วมาขยายความต่อครับ ความรู้สึกของการเล่นสดที่มีต่อคนดูรู้สึกอย่างไร

ภูมิจิต : พวกเรารู้สึกว่ามันรู้สึกดีทุกครั้งนะ ถ้า คอนเสิร์ตในวันนั้นซาวด์ดีอะไรหลายๆ อย่างดี จะมีความรู้สึกเหมือนมันส่งพลังถึงกันจากคนเล่น ถึงคนดูหรือถ้าพูดง่ายๆ ถ้าข้างล่างสนุกคนร้องเพลง ตามเราบ้างกระโดดโลดเต้นกัน ข้างบนเวทีก็จะสนุก ตาม สำ�หรับพวกเรามันเหมือนการมีเซ็กซ์แต่มันไม่ ท้องครับ (หัวเราะ) 98


บ่อย แต่เฮ้ยทำ�ไมตัวผมแลดูชิวกว่าเพื่อน (หัวเราะ) ภูมิจิต : พูดยากเหมือนกันนะเรื่องนี้ เราอยากให้ เปรียบเหมือนการเดินทาง เราตั้งเป้าการเดินทางไว้ กานต์ : อัลบั้มใหม่ที่ทำ�อยู่บอกตรงๆ เลยว่า แค่พิษณุโลก พอเดินทางไปถึงพิษณุโลกแล้วรู้สึกว่าไป อุปสรรคเยอะมาก แล้วจะมีในหลายๆ อย่างที่ ลำ�ปางกันต่อเถอะ พอไปถึงลำ�ปางแล้วก็ไปเชียงใหม่ ต้องมาจูนกันใหม่ เหมือนเราไปอยู่อังกฤษสองปี ต่อนะ เหมือนเป้าหมายเรามันถึงแล้วนะ แต่เราว่า ต่างคนต่างไม่อยู่ด้วยกัน เราเพิ่งกลับมาต้องมา ความต้องการของมนุษย์มันไม่สิ้นสุด เราก็อยากได้ ปรับจูนความคิดกันใหม่ทั้งวงเลย เป้าหมายใหม่ๆ ขับเคลื่อนตัวเองให้ไปข้างหน้าอย่าง พุฒิ : จูนกันเป็นปีเลย เพื่อที่จะทำ�ให้เกิดเพลงที่ดี ที่สุดเราต้องเข้าใจกันให้มากที่สุดครับ ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน แม็ก : จริงๆ วงดนตรีที่ดีมันต้องเถียงกันครับ เราเคยอ่านเจอว่าตอนที่ The Eagles ที่เป็น อุปสรรคในการทำ�เพลงของภูมิจิต บอม : หลักๆ เป็นเรื่องของเวลาครับ แต่ละคนไม่ เจ้าของเพลง Hotel California มือกีต้าร์ของ วงเขาอยากจะทำ�ให้เพลงของวงไปได้ไกลกว่านี้ ค่อยมีเวลาที่ตรงกันเท่าไร พุฒิทำ�งานหนักเกินไป แม็กทำ�งานหนักเกินไป กานต์ก็ไปทำ�งานต่างจังหวัด เลยค่อยๆ พัฒนาเพลงให้มันดีที่สุดจนมาเป็น เป้าหมายในการเล่นดนตรีของภูมิจิต

99


100


แต่เราเล่าเรื่องด้วยมุมมองอีกแบบเท่านั้นเอง อยากให้ มองว่าเป็นเพลงป๊อปอีกแบบหนึ่งมากกว่า กานต์ : เอกลักษณ์มันเกิดจากพวกเราสี่คนมารวมกัน คือด้านเนื้อร้องของวงเรา พุฒิจะพูดถึงเรื่องสังคมเยอะ อย่างตัวผมเองในซาวด์กีต้าร์เราจะใส่อะไรไทยๆ ลงไป ภาพรวมในวงการดนตรีไทยในปัจจุบัน ภูมิจิต : เรามองว่าในปัจจุบันมีวงดนตรีใหม่ๆ เกิด ในกีต้าร์ให้มันดูมีความเป็นไทยและมีความแปลกใหม่ใน ตัวเพลงครับ ขึ้นมากมายนะครับ มันเกิดขึ้นทุกวันเลยแหละวง ดนตรี แต่เรามองว่าทัศนคติในการเล่นดนตรีของวง บอม : มันเป็นอะไรแปลกๆ ที่ลงตัวนะ เราไม่ใช่วง ใหม่ๆ มีนอ้ ยเหลือเกิน ไม่ใช่วา่ วงดนตรีใหม่ๆ ไม่เก่ง ร็อคชุดดำ�ที่ทุกคนต้องโยกหัวพร้อมกัน เราไม่ได้เป็น นะครับ แต่เราแค่รู้สึกว่าทัศนคติหรือมุมมองต่างๆ แบบนั้นเลย แต่เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่เราเข้ากันได้ดีด้วย ที่จะสร้างอะไรใหม่ๆ มันยังมีน้อยอยู่ครับ แต่โดยรวม บทเพลงครับ มันก็ถือว่าไปในทางที่ดี ทุกคนสนใจและเริ่มทำ�ตาม นิยามดนตรีแบบภูมิจิต ความฝันในโลกของเสียงดนตรีกันมากขึ้นครับ ภูมจิ ติ : พวกเราทำ�เพลงป๊อปครับ ชุดใหม่เราพยายาม จะทำ�ให้มันมีความเป็นไทยเยอะหน่อย แต่ในขณะ วงภูมิจิตคาดหวังอะไรจากวงการเพลง พุฒิ : เมื่อก่อนตัวเราเองเป็นคนที่หวังมากนะ แต่ เดียวกันเราอยากให้คนฟังได้ฟังเพลงของเราแล้วรู้สึกว่า ตอนนี้คิดว่ามีอะไรที่พอจะทำ�ได้บ้างก็ทำ�เลยมากกว่า มันมีความเป็นสากลอยู่เหมือนกันนะ พูดง่ายๆ เป็น เราทำ�เพลงไปเรื่อยๆ พยายามหาไอเดียใหม่ๆ ทั้ง เพลงไทยที่ไม่เชย ให้คำ�นิยามเพลงเราในอัลบั้มใหม่ ได้ว่า “ไทยเท่” ครับ เพลง ทั้งการจัดการ ทั้งการPR ทำ�ไปในทุกๆ มุมมอง ทดลองไปเรื่อยๆ ภูมิจิต : อีกเรื่องหน่ึงที่เราคาดหวังเลย เรารู้มาว่า ถ้าแนะนำ�ให้คนทั่วที่ไม่เคยฟังภูมิจิต เพลงเรามันสามารถสร้างประโยชน์ให้กับคนมากมาย ภูมิจิต : เพลงวงเราเปรียบเหมือนอาหารครับ คุณเบื่อ เลยหวังว่าจะทำ�ให้เพลงของเราให้ดีกว่านี้อยากจะเก่ง อะไรที่กินๆ อยู่บ้างมั้ย อะไรที่ไม่เคยกินก็หัดกินดูบ้าง ไม่ชอบก็ไม่ว่ากัน เรารู้สึกว่าคนเราไม่ค่อยยอมกินผัก และพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้ครับ เท่าไร แต่จริงๆ แล้วคนเราต้องการความหลากหลาย ทางอาหารนะ ดนตรีก็เช่นกัน ลองฟังเพลงวงเรากันดู เอกลักษณ์ของวงภูมิจิต พุฒิ : เราเป็นวงป๊อปที่คนไม่ค่อยเชื่อว่าเราป๊อปครับ ครับ ส่วนช่องทางการติดต่อของพวกเราทางนี้เลยครับ เรารู้สึกว่าภูมิจิตทำ�โครงสร้างเพลงเป็นเพลงป๊อปนะ www.facebook.com/poomjitband

Hotel California ที่เราได้ฟังกันทุกวันนี้ครับ ซึ่งวง ดนตรีที่ดีมันต้องมีอะไรแบบนี้ครับ มันต้องเถียงกัน เพื่อให้เพลงมันออกมาดีที่สุด

101


PIE TEAM : 08 0233 5492, 08 6918 6216 www.pieeveryday.com facebook.com/piemagazine2013 100/99 chaiyapruk village soi 55 Sukapibal 5 O-ngoen Saimai Bangkok 10220

102


CREATIVE

IDEAS

LIFESTYLE

CULTURE

PIE NEED YOUR SUPPORT

FREE ONLINE MAGAZINE ADVERTISING INFORMATION CONTACT TO pieonlinemag@gmail.com

103


SEE YOU SOON 104


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.