Blue Blood Magazine : No 1

Page 15

Road to Champions เปิดมุมมาให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เทคตัวขึ้นโหม่ง ตีเสมอให้ เชลซี ยังไม่ตายได้แบบเหลือเชื่อ เรียกว่า ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นราชาแห่งการเล่นฟุตบอลรอบชิง ชนะเลิศอย่างแท้จริง ทุกๆ อย่าง เชลซี เสียเปรียบหมด แม้แต่ตอน ต่อเวลาพิเศษก็มาเสียจุดโทษ แต่ว่า ร็อบเบน ซัดไม่ ผ่านมือของ เพตเตอร์ เช็ก จนท�ำให้ทั้ง 2 ฝ่ายท�ำอะไร กันไม่ได้แล้วต้องไปดวลจุดโทษกัน.. 3 คนแรกของ บาเยิร์น มิวนิค ยิงได้อย่าง คมกริบ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลลิป ลาห์ม หรือ มาริโอ โกเมซ รวมถึง มานูเอล นอยเออร์ ที่อาสาขอยิงจุดโทษด้วย ตนเองอีกด้วย ส่วนทางฝั่ง เชลซี คนแรก ฆวน มาต้า ยิงไม่เข้าแต่ว่า ดาวิด ลุยซ์ กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ซัด ไม่พลาดท�ำให้สกอร์ยังไม่ขาดจนเกินไป คิวของ อิวิก้า โอลิช ที่ยิงไปติดเซฟของ เพต เตอร์ เช็ก กอปรกับการที่ แอชลีย์ โคล สังหารเข้าไป ท�ำให้สถานการณ์ของทั้ง 2 ทีมกลับมาเท่ากันอีกครั้ง.. 2 คนสุดท้ายที่จะชี้ชะตาก็คือ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ซึ่งดาวเตะทีมชาติ เยอรมัน ซัดไปโดนปลายนิ้วของ เช็ก ก่อนที่บอลจะชนเสา นั่นท�ำให้ถ้า หาก ดร็อกบา ยิงเข้าไป เชลซี จะเป็นแชมป์ยุโรปทันที ซึ่ง ดร็อกบา ที่เคยอดยิงในปี 2008 เพราะโดนใบแดงไม่พลาด ท�ำให้ เชลซี เป็นแชมป์ยุโรป

สมัยแรกของประวัติศาสตร์ในที่สุด..

(ล่าง) พลพรรคสิงโตน�้ำเงินครามแสดงความดีใจสุดขีดหลังได้แชมป์ยุโรปหนแรกในชีวติ

BLUE BLOOD นิตยสารชาวสิงห์บลู 15


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.