สารเจ้าอาวาส 2010

Page 1


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันพระคริสตเจาสําแดงองค (Epiphany) เปนวันที่พระยาสามองคตามดาวมาพบองค พระผูไถ มีความหมายวา พระผูไถสําแดงองคแกนานาชาติ พระผูไถมิใชพระผูไถบาปเฉพาะของ ชาวยิว แตทุกชาติทุกภาษา โดยมีพระยาสามองคเปนผูแทนของนานานชาติรวมถึงชาติไทยของ เราด ว ย พระยาสามองค ที่ เ ราเรี ย กนี้ ไ ม รู ว า หมายถึ ง ใครกั น แน อาจจะเป น นั ก ปราชญ (Wise Men) หรือ นักโหราศาสตร (Magi หรือ Astrologers) เพลงบางเพลงก็ใชคําวา three kings มาจากทางตะวันออกโดยเดินตามดวงดาวมา นี่ก็เปนอี กเรื่องหนึ่งที่เราไมรูแนชัด วา ดวงดาวนี้คือดวงดาวไหนกันแน หอดูดาวที่ชิคาโกเคยจัดแสดงดาวที่ชื่อวา “ดาวแหงเบธเลแฮม พวกเขาใชเทคโนโลยีเพื่อจะแสดงถึง ดาวดวงที่พระยาสามองคติดตามมาวาเปนดาวดวงไหนกัน แน พวกเขาสรางทองฟาจําลอง และคํานวณระยะเวลากลับไปในสมัยพระเยซูเจาบังเกิด ผล ปรากฎวามีสองคําตอบ คําตอบแรกก็คือ เปนดาวหางดวงหนึ่ง และคําตอบที่สองก็คือ ดาวศุกร (Venus) ดาวศุกร เปน ดาวที่สว างสุ กใสอยู จนกระทั้ งรุง เชา ดัง นั้น เราจึงเรียกดาวดวงนี้ดว ยว า “ดาวประจํารุง” ชื่อนี้ก็เปนอีกชื่อหนึ่งที่เราใชเรียกแมพระโดยใชเรียกในบท ลีตาเนียแมพระวา เปน “ดาวประจํารุง” ภาษาลาตินใชคําวา Stella Matutina แมพระเปรียบเหมือนดาวประจํารุงที่นํา ทุกคนที่ตามดาวดวงนี้ไปพบพระเยซูเจาได ดาวดวงนี้สวางสุกใสอยูทั้งคืนจนรุงเชา หากพระอาทิตย ยังไมขึ้นเต็มที่ เราก็ยังเห็นดาวดวงนี้ สิ่งที่นาสังเกตุก็คือวา เมื่อพระยาสามองคไดพบพระเยซูเจาแลว พวกทานก็มิไดมองดูดาว ดวงนี้อีก ถาหากจะเปรียบก็เปรียบไดวา เมื่อพระอาทิตยขึ้นแลว เราก็จะไมเห็นดาวดวงนี้อีกตอไป เพราะแรงของดวงอาทิตยยอมบดบังแสงของดวงดาว พอเชื่อวา แมพระเปนดาวประจํา รุงที่ทําหนาที่เดียวกันนี้คือ นําเราไปพบพระเยซูเจาแลวจากนั้นพระนางก็จะปลอยใหเราอยูกับพระ ผูไถของเรา พระยาสามองคจึงไดเขาเฝาพระผูไถ และมอบสิ่งที่ตนตั้งใจจะนํามาถวายแดพระองค พี่นองก็อยาลืมมอบความตั้งใจตาง ๆ ของเราแดพระกุมารดวยเวลาที่เราเขาไปจูบพระกุมาร เรื่อ งของดวงดาวยัง ไม จบครับ พ อคงตอ งพู ดสัก หน อยเพราะคนไทยเราก็ มีความเชื่ อ เกี่ยวกับดวงดาวเหมือนกัน แตมักจะเชื่อ “ดวง” มากกวา “ดาว” มีหมอดู หมอเดาหลายตอ หลายคนชอบพูดเรื่อง ดาวพระศุกรเขา พระเสารแทรก สามารถหยั่งรูอนาคตไดจากการดูดาว

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

2


เรียกงาย ๆ วา ดูดวงดวยการดูดาว พอก็มองไมเห็นเหตุผลตรงไหนวา ดาวบนทองฟาจะบอก อนาคตของเรามนุษยแตละคนไดอยางไร แตพอเชื่ออยางหนึ่งคือ การศีกษาดวงดาวสามารถนําทาง เราได การเดิ น เรื อ ในสมั ย ป จ จุ บั น ก็ ม าจากการดู ด าวนี่ แ หละ หรื อ เราสามารถรู ว า จะ เกิดปรากฎการณอะไรไดบางตามแนวทางวิทยาศาสตรและดาราศาสตร การดูดวงดาวก็ชวยใหผู ที่หลงทางกลับบานถูก พระเปนเจาทรงใชดวงดาวเพื่อเปดเผยพระองคเองแกชาวเรา เมื่อเรามีพระองคแลว ก็เหมือนกับพระอาทิตยขึ้นมาบดบังแสงของดาว บนทองฟา ยึดถือพระเยซูเจาเปนดังดวงอาทิตย เราก็เห็นแสงสวางในการดําเนินชีวิตอยาไปหลงงมงายกับเรื่องการดูดวง การทํานายทายทัก เพราะสิ่งเหลานี้ไมสามารถเอาชนะดวงอาทิตยไดหรอก และดาวอีกดวงหนึ่งที่เราตองติดตามอยูเสมอ ก็คือ “ดาวประจํารุง” แมพระยังทําหนาที่นี้อยูตลอดเวลา คือเปนดาวประจํารุงพาเราไปพบ พระเยซูเจา และเมื่อพระอาทิตยขึ้นแลว แมพระก็ปลอยใหเราพบกับพระบุตรของพระนาง นี่แหละ ครับ คือหนาที่ของดวงดาว

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 3 มกราคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

3


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันนี้เราฉลอง “พระเยซูเจาทรงรับพิธีลาง” เราตองเขาใจความหมายของวันฉลองนี้ดี ๆ ไมงั้นก็ อาจจะเขาใจผิดได เขาใจผิดตรงที่วา พระเยซูเจาเปนพระไมมีบาป ทําบาปไมไดดวย ทําไมจึงตองรับพิธีลาง อธิบายไดงาย ๆ แบบนี้นะครับ พระเยซูเจาใหความสําคัญของการรับศีลลางบาป และการรับศีลลางบาปนี้ ตองควบคูไปกับความเปนทุกขเสียใจในการทําบาปดวย และที่สุดพระองคก็แสดงใหเราเขาใจอยางชัดเจนวา พระเปนเจาพระตรีเอกภาพประทับอยูกับผูที่ไดรับศีลลางบาป เทศกาลพระคริสตสมภพจบลงแลว พระเยซูเจาเริ่มภารกิจของพระองค ภารกิจแหงการไถบาปพวกเรา เวลาที่พอสอนคําสอนเกี่ยวกับศีลศักดิ์สิทธิ์ พอจะสอนวา ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่จําเปนที่สุด ไดแก ศีลลางบาป และ ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่สําคัญที่สุด ไดแก ศีลมหาสนิท พระศาสนจักรใหความสําคัญตอศีลลางบาปอยางมาก ตามปกติ วัดตาง ๆ ในยุโรปจะมีสถานที่พิเศษที่ใชในการลางบาป มีอางลางบาปหรือบางแหงก็เปนหองลางบาป โดยใช ศิลปะตกแตงที่สวยงามมาก เทียนปาสกาก็จะเปนเทียนที่มี การตกแตงพิเศษ คนที่เคยไปเที่ยวยุโรปคงเคยเห็น แตก็อาจจะไมรูวาเปนอะไร ที่เมือง Pisa เวลาที่เราไปเยี่ยมชมหอเอนเมือง Pisa เราก็ไปดูแตหอเอนแลวก็วัด ที่ จ ริ ง ด า นหน า วั ด มี อ าคารหลั ง หนึ่ ง เป น อาคารเพื่ อ การโปรดศี ล ล า งบาป ภายในตกแต ง สวยงามมาก เชนเดียวกับที่เมือง ฟลอเรนซ อาคารที่อยูดานหนาอาสนวิหารของเมืองก็คืออาคารที่ใชโปรดศีลลางบาป อาคารนี้มี ศิลปะที่ตระการตามาก ที่สําคัญก็คือชาวยุโรปเขาใหความสําคัญตอวันรับศีลลางบาปของลูก ๆ หลาน ๆ ของ เขาอยางมาก ทั้งการแตงตัว การเชิญแขกมารวมพิธี การจัดงานเลี้ยง พวกเขาถือวาเปนวันที่มีความหมาย เปนการเริ่มตนชีวิตพระ ภาพเหลานี้เราไมคอยไดเห็นในเมืองไทยของเรา อางลางบาปของบานเราก็คือโถแกว ใบหนึ่ง อางลางบาปที่พอเคยเห็นวาสวยมากหนอยก็คงจะเปนอางลางบาปที่วัดอัสสัมชัญ ใครที่ไปวัดอัสสัมชัญ ก็ลองไปดูได ที่จริงวัดทุกวัดควรจะทําอางลางบาปใหสวยงาม มีศิลปะที่สวยงามตกแตง พอแมพี่นองก็ควรให ความสําคัญตอการรับศีลลางบาปใหมากขึ้น สมัยกอนคุณพอเขาจะสอนวา เมื่อใหกําเนิดลูกแลว ตองนํามารับ ศีลลางบาปใหเร็วที่สุด บางคนเกิดมา 2 วัน 3 วัน ก็รับศีลลางบาปแลว นานหนอยก็หนึ่งอาทิตย แตสมัยนี้เรารับศีลลางบาปหลังจากเกิดมา 3 เดือน บางรายก็เปนป บางที ตองรอใหลูกๆ โตกอนจึงจะตัดสินใจได วันฉลองพระเยซูเจารับพิธีลาง ก็เปนวันที่เราหันมาทบทวนเรื่องนี้กัน ทั้งพี่นองและก็พอเองดวย วาควรใหความสําคัญตอศีลลางบาปกันอยางไรดี ใครมีความคิดดีๆ ที่จะเสนอก็ สงมาไดเลยนะครับ พี่นองเองก็ควรจะเอาใจใสเรื่องการรับศีลลางบาปของเด็ก ๆ ในครอบครัวใหมากขึ้น นักบุญหลุยส กษัตริยแหงฝรั่งเศส ทําใหเราพบวาการรับศีลลางบาปเปนเรื่องที่มีความสําคัญและ จําเปน พระองคไดพบกับประชาชนคนหนึ่งซึ่งเพิ่งจะรับศีลลางบาป พระองคตรัสวา “เมื่อสักครูที่ผานมา เจาเปนลูกของขา แตเวลานี้เจาคือลูกของพระเจาแลว” อีก เรื่ องหนึ่ ง ที่สํ าคั ญเกี่ ย วกับการรั บศี ล ลางบาปก็ คื อ “นั ก บุ ญศี ล ล างบาป” เราต างมี นั กบุ ญ องค อุปถัมภของเรา บางทีเราก็ไดชื่อนี้โดยที่ยังไมรูจักเลยเพราะเรายังเด็กเล็ก ๆ อยู แตเมื่อเราโตขึ้น เราก็ควรที่ จะรูจักนักบุญของเราเอง สวดภาวนาขอทานบอย ๆ ความสัมพันธนี้จะชว ยใหเรากาวหนาไปสูความศักดิ์สิทธิ์ และไปสูทางแหงความรอด นักบุญทุกองคบนสวรรค พรอมที่จะชวยเราเสมอ คนที่ไมรูจักนักบุญของตนเอง ก็คงจะเปรียบเหมือนกับคนที่ไมรูวา ชื่อของเราแปลวาอะไร ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 10 มกราคม 2010 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

4


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พระเยซูเจาทรงทําอัศจรรยเปลี่ยนน้ําใหเปนเหลาองุนรสเลิศในงานเลี้ยงแตงงานที่เมือง คานา เหตุการณนี้เราทราบดีวามาจากความเอาใจใสในความตองการของผูอื่นของแมพระ นี่เปน ขอคิดประการแรกที่เราไดรับจากพระวาจาอาทิตยนี้ ถาเราจะเลียนแบบแมพระ เราก็ตองเอาใจใส ผูอื่นบาง ดูวาคนอื่นเขารูสึกอยางไร คิดอยางไร หลายคนไมคอยสนใจนักวาคนอื่นเขาจะคิดอยางไร เพราะฉะนั้น เขาจะพูดอะไร จะทําอะไรก็พูดและทําตามใจ แบบนี้ก็ไมคอยดีเทาไหร เวลาที่อยูใน วัดก็เปนเวลาที่เราสามารถเอาใจเขามาใสใจเราไดเหมือนกัน บางทีเราก็ตองระวังที่จะไมไปรบกวน ผูอื่นที่กําลังสวดภาวนา เชน การคุยกันในวัด การปลอยใหเด็ก ๆ ร องเสียงดังในวัด การเปด โทรศั พ ท มื อ ถื อ หากเราเอาใจใส กั น และกั น มากกว า นี้ ก ารภาวนาของเราในวั น อาทิ ต ย ก็ จ ะมี ความสุ ข และสงบใจได ดี ขึ้ น แต เ รื่ อ งที่ พ อ อยากคุ ยกั บพี่ น องวั นนี้ เป นเรื่ องความสํ าคั ญของ การแตงงานมากกวา พระเยซูเจาไปงานเลี้ยงแตงงานก็เพื่อใหเราเห็นความสําคัญของการ แตงงาน พระองคสอนเราหลายอยางเรื่องนี้เชน สอนวา “สิ่งที่พระเจาไดรวมไว มนุษยอยาแยก จากกันเลย” นี่ก็คือหามการหยาราง “เขาไมใชสองคนอีกตอไป แตเปนหนึ่งเดียว และยังสอน เรื่องการผิดประเวณีตอผูอื่น แมดวยการมองและความคิด การมีภรรยาหรือสามีเพียงคนเดียว พระองคก็ทรงสอนเราอยูเสมอๆ การแตงงานสมัยนี้ มีการหยารางกันสูงมาก แยกกันอยูก็มาก ทั้งๆ ที่กอนแตงงานก็มีความรักตอกันแทบจะเรียกวาตายแทนกันได อยูไปอยูมากลายเปนวา แทบจะฆากันได เยาวชนสมัยนี้ก็มีแนวโนมที่จะอยูกันกอนแตง หรือ ชิงสุกกอนหาม อะไรทํานองนี้ จนเราผูใหญตางก็เปนหวงกันทั้งบานทั้งเมือง พระศาสนจักรใหความสําคัญกับเรื่องการแตงงาน อยางจริงจัง มีกฎระเบียบคอนขางจะเครงครัด ทั้งกอนแตงงานและหลังแตงงานแลวก็จะสอนเรื่อง ความซื่อสัตยตอกัน เรื่องการหามการคุมกําเนิดนอกธรรมชาติ การทําแทง ฯลฯ อีกหลายประการ เราลองคิดดูกันเลนๆ นะครับ ถาหากพระศาสนจักรไมสอนเรื่องนี้แบบเครงครัด อะไรจะเกิดขึ้น เชน แตงงานแลวหยารางไดตามสบาย อยูกันกอนแตงก็ได มีภรรยาหรือสามีไดหลายคน เลือกเอา ตามใจชอบอยากมีลูกก็มี ไมอยากมีก็ฆามันทิ้งซะ พอวาโลกของเราคงจะอลหมานไปดวยชีวิตที่ ไรศีลธรรม มนุษยจะใหเกียรติกันและกันอยางไร แมเราจะมีสติปญญา แตเราก็คงไมแตกตางไป กวาสิ่งสรางอื่นๆ ในโลกใบนี้ ใครจะแตงงานก็ตองรูจักกันใหดี เรียนรูกันดวยใจกวาง คนที่แตงงาน แลวก็ตองพยายามอุทิศตนดวยความเสียสละ และใหอภัยกันใหมาก ๆ การแตงงานเรียกรอง การใหอภัยกัน พอเชื่อวาทุกคูที่แตงงานไปแลวก็คงตองทําอะไรผิดดวยกันไมมากก็นอย อยางนี้ ก็ตองผอนหนักผอนเบากัน พอสังเกตวาคูแตงงานที่เมืองคานานี้ เชิญพระเยซูเจาและแมพ ระมารวมงานเลี้ยง และ เมื่อมีแมพระและพระเยซูเจาแลว พวกเขาก็ไดรับพระหรรษทานอยางอุดมและดีกวาเดิม พอก็เชื่อ วา คูแตงงานทุกคูที่มีพระอยูดวยยอมจะไดรับสิ่งที่ดีกวา มีความสุขมากกวา อุทิศตนใหแกกัน ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

5


ไดมากกวา ครอบครัวที่มาวัดทุกอาทิตยดวยกัน เขามีเวลาที่มีคาที่สุดอยูดวยกันในครอบครัว สวดดวยกัน รองเพลงดวยกัน รับศีลดวยกันเปนภาพแหงความสุขใจ หลังจากนั้นเขาก็ไปพักผอน ดวยกันอีก การแตงงานก็คือการรูจักใหเวลาที่ดี ๆ ตอกันครับ พอก็แนะนําใหพี่นองอยาทอถอย ในการไปวัดทุกอาทิตยเลย บางทีก็เหนื่อยหนอย ฟงเทศนยาวหนอย เบื่อบาง แตที่สุดแลวพี่นอง จะไดอัศจรรยแหงการเปลี่ยนน้ําใหเปนเหลาองุน ที่บานของเราก็ควรจะมีเวลาสวดพรอมกันบาง เวลาทานอาหาร หรือกอนนอน อานพระคัมภีรดวยกันบาง และที่สําคัญก็คือ เชิญแมพระและ พระเยซู เ จ า มาที่ บ า น ของเราควรจะมี แ ท น บู ช า หิ้ ง พระสวย ๆ ตั้ ง ให เ ด น ที่ สุ ด ในบ า น บางบานมีหองพระเลย นาชมมาก รับประกันวาชีวิตครอบครัวจะไดรับพระหรรษทานมากมาย การแตงงานเปนพระพรอยูแลว ชวยกันทําใหพรนี้ทวีมากขึ้น

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 17 มกราคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

6


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันนี้ เป นวัน พิเ ศษสํ าหรับพ อเพราะวั นนี้ เปน วัน เกิด ของพระคาร ดินัล มี ชัย กิจ บุญ ชู ที่บอกวาเปนวันพิเศษก็เพราะวาพระคุณเจาเปนผูที่มีพระคุณอยางใหญหลวงสําหรับพอ เปนอธิการที่ บานเณรเล็ก เปนผูที่บวชใหพอ เปนผูที่สงพอไปเรียนตอที่กรุงโรม และเปนผูที่ใหพอทํางานและ ติดตามพระคุณเจามานานประมาณเกือบ 20 ป ตั้งแตกอนที่จะใหพอเปนเลขานุการดวยซ้ํา พอขอ ถือโอกาสนี้เชิญชวน พี่นองทุกทานระลึกถึงพระคุณเจาเปนพิเศษ ในคําภาวนา Happy Brithday ครับ พระคุณเจา พี่นองบางคนอาจจะจําพระสันตะปาปา ยอหนปอลที่หนึ่งไดนะครับ พระสันตะปาปาผูนี้ ดํารงตําแหนงอยูไดเพียง 33 วันเทานั้น ก็สิ้นพระชนมและเราก็ไดพระสันตะปาปาจอหนปอลที่ สอง ดํารงตําแหนงตอจากพระองค พอขอกลาวถึงพระสันตะปาปาจอหน ปอลที่หนึ่งเล็กนอย พระองคไดรับสมญานามวา “พระสันตะปาปาแหงรอยยิ้ม” ถาเปรียบกับประเทศไทยก็เรียก ประเทศของเราวา “Land of Smile” พระองคก็คือ “Pope of Smile” กลาวกันวาพระองคยิ้ม เสมอ และรอยยิ้มของพระองคก็ออนโยนนารักมาก หนึ่งวันหลังจากที่พระองคไดรับการเลือกตั้ง เป น พระสั น ตะปาปาแล ว พระองค ต รั ส เล า ใฟ ฟ ง ว า “เมื่ อ วานนี้ เราเข า ไปที่ โ บสถ ซิ ส ติ น เพื่อเลือกตั้งพระสันตะปาปาองคใหม ตอนนั้นยังไมรูวาอะไรจะเกิดขึ้น แตเวลาผานไปจนกระทั่ง รูสึกไดแลววาอันตรายจะมาถึงตัวเอง ก็มีเพื่อนคารดินัล 2 องคเขามาหาและพูดวา “ไมตองกลัว หากพระใหภาระเราแบก พระองคก็จะประทานพละกําลังใหเราสามารถแบกได ” ในที่สุด พระองคก็เชื่อคําพูดนี้ ไดตัดสินพระทัยรับตําแหนงพระสั นตะปาปา บางทีอาจจะนึกถึงคําของ องค พ ระเยซู เ จ า ที่ ต รั ส ไว ว า “ผู ที่ แ บกภาระหนั ก จงมาหาเราเถิ ด เราจะให ท า นพั ก ผ อ น แอกของเราออนนุมและแอกของเราก็เบา” มาดูตัวอยางอีกตัวอยางหนึ่งในพระคัมภีรกันนะครับ บทอานที่หนึ่งวันอาทิตยนี้เลาวา เอสราซึ่งเปนสมณะนําเอาธรรมบัญญัติของพระออกมาอานตอหนาชุมนุมชน อานตั้งแตเชาตรู ถึงเที่ยง (สมัยนี้มีใครอานพระคัมภีรประจําวันได 1 รอบก็ตองชมแลวครับ) อานเสร็จ ประชากร ก็ ต อบรั บ อาแมน อาแมน หมายถึ ง ตกลงตามนั้ น ตกลงตามนั้ น พอฟ ง คํ า อธิ บ ายเสร็ จ (ซึ่งก็คงประมาณวาเปนบทเทศนนั่นแหละ) ประชาชนที่ฟงอยูก็รองไห สืบไปสืบมาไดความวา ที่ประชาชนรองไหก็เพราะวา ธรรมบัญญัตินั้นทําใหพวกเขาตองปฏิบัติอะไร ๆ ในชีวิตเพิ่มขึ้นอีก หลายอย า ง เรี ยกง า ย ๆ ว า เพิ่ ม ภาระให ห นั ก อึ้ ง ในชี วิ ต ชาวเลวี ก็ เ ลยปลอบโยนพวกเขาว า “อยาเศราโศกไปเลย อยารองไห กลับบานไปกินอาหารดี ๆ ดื่มเหลาองุนดี ๆ แบงปนใหคนที่ไมมี วันนี้เปนวันศักดิ์สิทธิ์ พระยาหเวหเปนพละกําลังของทาน พวกเขาก็ไดรับความบรรเทาใจและ กําลังจากพระ พระคัมภีรอาทิตยนี้ก็เลยมีบทสอนเรามากมายพอพอจะแยกแยะออกเปนขอ ๆ ไดดังนี้นะครับ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

7


1. สอนเราใหเรารูจักอานพระคัมภีรกัน อานใหคนอื่นฟง หรือ ไมก็ฟงคนอื่นอาน การฟงพระคัมภีรก็เทากับฟงพระเปนเจากําลังตรัสกับเรา 2. ฟงพระคัมภีรเสร็จ ก็มาฟงคําอธิบาย ก็คือ ฟงเทศน ฟงเทศนก็คือฟงดูวาพระพูด อะไรสั่ ง อะไรเรา ไม ใช ไ ปฟ ง พระสงฆ พอ ทุ กองค กํา ลั งพู ด อธิ บ ายแทนพระทั้ ง นั้ น ฟงเนื้อหาแตอยามุงเฉพาะบุคคล (ตององคนี้เทานั้น องคอื่นไมฟง) 3. คําสอน และคําสั่งบางประการ อาจทําใหเราลําบากใจ บางครั้งก็ลําบากกายดวย แตพระก็คือพละกําลังของเรา บางทีตองตื่นแตเชา การเดินทางมาวัดก็ลําบาก ฟงเทศนก็นาน (ที่จริงวัดเราก็เทศนไมนานเทาไหร) และอื่นๆ บางขอก็สั่งใหเราอภัยคนที่ เราเกลียด อยางนี้ก็คือลําบากใจ พี่นองครับ อยาเศราใจไปเลยครับ อาทิตยหนึ่งเรามีวันอาทิตยเปนวันศักดิ์สิทธิ์ ฟงพระ วาจาแลว กลับบานไป พักผอนกับครอบครัว ทานอาหาร ไปเที่ยวบาง ไปแบงปนความสุขใหแก คนอื่นบาง วันนี้เปนวันพระและพระเปนผูประทานพละกําลังแกเรา ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 24 มกราคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

8


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ปพระสงฆเป นปที่มี การสวดภาวนาเพื่อบรรดาพระสงฆ อยางมากมาย และสวดอยา ง เอาจริงเอาจัง หลายคนไดรับมอบหมายจากองคกรใหสวดเพื่อพระสงฆโดยเฉพาะเปนองค ๆ ไป เลย พอไดรับไปรษณียบัตรจากผูที่สวดใหพอหลายตอหลายใบ ถามพอวาพอรูสึกยังไง พอรูสึกวา บรรดาสัตบุรุษยังเคารพและยิ่งกวาเคารพก็คือ “รักพระสงฆ” และอยากใหพระสงฆเปนพระสงฆ ที่เปยมไปดวยความรัก เรียกงาย ๆ ก็คืออยากใหเปนพระสงฆที่ดี ที่ประเทศเกาหลีมีการสํารวจ ความคิดเห็นของบรรดาฆราวาสวาพวกเขาตองการพระสงฆแบบไหนจึงจะเรียกวาเปนพระสงฆที่ ดี พอวาคริสตังเกาหลีก็คงมีความเห็นเรื่องนี้เหมือน ๆ กับคริสตังไทยพวกเขาบอกวา - เปนพระสงฆที่เอาใจใสคนออนแอและถูกแยกออกจากสังคม - เปนพระสงฆที่ไมติดยึดอยูกับวัตถุ เครื่องใชไมสอย ทรัพยสมบัติ - เปนพระสงฆที่สุภาพ ถอมตน - เปนพระสงฆที่สอน และปฏิบัติตามที่ตนเองสอน - เปนพระสงฆที่ไมบาอํานาจ - เปนพระสงฆที่นบนอบผูใหญ และเปนเพื่อนกับเพื่อนพระสงฆ (รักกันและกันฉันทพี่นอง) - เปนพระสงฆที่เอาใจใสพิธีกรรม และเตรียมเทศนอยางดี - เปนพระสงฆที่ไมมีอคติตอสัตบุรุษ และไมลําเอียง - เปนพระสงฆที่สนใจ และสงเสริมใหมีพระสงฆเพิ่มขึ้น - เปนพระสงฆที่ไมยะโส และชอบใชแตอํานาจหนาที่ (ไมจองหอง) - เปนพระสงฆที่ซื่อสัตยตอศักดิ์สงฆจนตาย ความคิดเห็นเหลานี้เกิดขึ้นจาก “ความรัก” และ “ความหวังดี” ที่มีตอพระสงฆดวยจริงใจ พี่นองบางคนก็อาจจะตองการเสนอความคิดเห็นเหมือนกัน ถามาจาก “ความรัก” ก็สามารถทําไดนะ ครับ หลาย ๆ ขอเปนเหมือนคําเตื อนใจสําหรับบรรดาพระสงฆ พออาน ๆ ดูก็รูสึกวามีหลาย อยางที่ พอตองเอาไปไตรตรอง หลายอยางที่จะตองแกไข แสดงวาความคิดเห็นเหลานี้เปนเรื่องที่ ดีครับ พอเชื่อวาปพระสงฆปนี้ บรรดาพระสงฆซาบซึ้งน้ําใจของพี่นองที่ไดสวดภาวนาใหตลอด ทั้งป นอกจากภาวนาแลว ยังรวมมือและสงเสริมใหมีกระแสเรียกการเปนพระสงฆเพิ่มขึ้น ปนี้ที่วัด เรามี ก ระแสเรี ยกการเป น พระสงฆ เพิ่ ม ขึ้ น มี ผู สมั ครเข าเป น เณรที่ บ า นเณรยอแซฟ (ถ า ยั ง ไม เปลี่ยนใจ) 7 คน และมี ผูใ หญ อีก 1 คน ที่ ป ระสงคจ ะเป นพระสงฆ และทางสัง ฆมณฑลกํา ลั ง พิ จ ารณาให เ ข า บ า นเณรกลาง ยั ง ไม ท ราบว า จะได เ ป น พระสงฆ ห รื อ ไม แต ก็ เ ป น เรื่ อ งที่ ดี ที่ มี แนวโนมวากระแสเรียกเพิ่มขึ้น พวกเราก็ตองชวยกันสนับสนุนตอไป ใครอยากจะสนับสนุนเณร ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

9


ของเราจะสมทบทุนชวยเณรดวยก็ไดนะครับ การเปนเณรสมัยนี้ไมเหมือนสมัยกอน ตองมีคาใชจาย เหมือนกัน ครอบครัวเราไมมีเณร ก็ชวยใหคนอื่นไดเปนก็ยังดี เณรเหลานี้จะถูกจดบันทึกลงไปวา เปนเณรในปพระสงฆ และวันหนาหากเขาเปนพระสงฆ ก็จะไดรับการบันทึกอีกวา ปพระสงฆชวย ใหมีพระสงฆเพิ่มขึ้นจริง ๆ และนี่คืองานของ “ความรัก” และ “คําภาวนา” ที่เกิดขึ้นในปพระสงฆ ปนี้เปนปที่มีความหมายจริง ๆ ครับ สําหรับพระสงฆ และพี่นองเองดวย นักบุญเปาโลในบทอานวันอาทิตยนี้สอนเราเรื่อง “ความรัก” เปนบทที่อานแลว เราจะ เขาใจเรื่องความรักเกือบทุกดานเลย ปญหาไมไดอยูที่วาเขาใจหรือไม อยูที่วาจะทําไดหรือไม ความรักของเรามนุษย มักจะมีเงื่อนไขตามมาเสมอ แตความรักแบบนักบุญเปาโล ไมมีเงื่อนไขเลย ความรักแบบพระเยซูเจาก็ไมมีเงื่อนไขเชนเดียวกัน พอแนะนําวาใหพี่นองอานบทอานนี้บอย ๆ พี่นองจะพบวาทุกครั้งที่อาน จะมีอะไรสอนใจเราเรื่องความรัก ไดอย างไมมีที่สิ้นสุดเลย เพราะ ความรักนั้นไมมีขอบเขต ไมมีพรมแดน ไมมีเงื่อนไขครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 31 มกราคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

10


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ประกาศกอิสยาหรูสึกตกใจ เวลาที่พบวาทานกําลังอยูตอหนาพระเจา ทานกลาววา “วิบัติ แกขาพเจา เพราะขาพเจาพินาศแลว เพราะขาพเจาเปนคนริมฝปากไมสะอาด และขาพเจาอยู ในหมู ช นชาติ ที่ ริ ม ฝ ป ากไม ส ะอาด” ข อ ความนี้ เ ป น ข อ ความที่ น า คิ ด มาก นั ก บุ ญ เปโตร ในพระวรสารวันนี้ก็รูสึกคลาย ๆ กับประกาศกอิสยาห ทานกราบลง ทูลพระเยซูเจาวา “โปรดไปจาก ขาพเจาเสียเถิด พระเจาขาเพราะขาพเจาเปนคนบาป” เวลาที่เราอยูใกล ๆ กับพระ เราจะรูสึก ถึงความไมเหมาะสมของเราหลายตอหลายอยาง เราจะรูสึกวาเราเปนคนบาป และก็จะรูสึกเสียใจ ที่เปนเชนนี้ คนที่เสียใจคือคนที่กลาสารภาพออกมาวา “ฉันเปนคนบาป” “ฉันเปนคนที่มีริมฝปาก ไมสะอาด” แลวพระเจาก็จะใชคนที่รูสึกเสียใจนี่แหละไปประกาศขาวที่ดีเพื่อทําให “ริมฝปากของเขา สะอาด” พระเจาตรัสวา “เราจะใชผูใดไป” ประกาศกอิสยาหตอบวา “ขาพเจาอยูนี่แลว ขอทรงใช ขาพเจาไปเถิด” พระเยซูเจาตรัสกับเปโตรวา “อยากลัวเลย ทานจะเปนชาวประมงหามนุษย” วัน ๆ หนึ่ง เราใชริมฝปากของเราพูดอะไร ๆ ที่ไมสะอาดมากมายจนกระทั่งมีคนเคยสอน ไววา “พูดนอยก็ผิดนอย พูดมากก็ผิดมาก” แตทําอยางไรไดมนุษยเราเปนคนชอบพูด ชางพูด โดยเฉพาะในเรื่องที่ไมคอยจะดีของคนอื่น สวนเรื่องที่ไมดีของตนเองก็ไมคอยอยากใหใครเขารู หรือใหใครเขาพูด ขาวฉาวของใครตอใครเปนขาวที่ขายไดตลอดกาล ขาวฉาวของประธานาธิบดี Bill Clinton กับ Luwinski ก็ยังสามารถพูดกันไดจนถึงปจจุบัน ขาวฉาวของนักกอลฟชื่อดัง อยาง Tiger Woods หรือนักฟุตบอลชื่อดังอยาง John Terry พอคงไมตองบอกดวยซ้ําวา เรื่องอะไร พี่นองก็คงจะรูอยูแลว (ถายังไมรู อีกไมนานก็คงรู) นอกจากนี้ก็ยังมีขาวฉาวของบรรดา ดาราทั้ งหลาย พี่ น อ งอาจจะรู เ รื่ อ งเหล า นี้ ดี ก ว า หนั ง ที่ พ วกเขาเล น ซะด ว ยซ้ํ า ไป นี่ แ หละครั บ มนุษยเราชอบรูและชอบพูดเรื่องฉาว ๆ ขาวฉาว ๆ ของพระสงฆนักบวชก็เปนอีกเรื่องหนึ่งที่อยูใน ความสนใจ หากเรื่ องอะไรมาเข าหู ละก็ รั บรองว าติ ดทอปเท็ น (Top Ten) ในวงการสนทนา อยางแนนอน คุณพอองคหนึ่ง เทศนเกี่ยวกับเรื่องการนินทาใหพี่นองฟง และสรุปวา “แมแตพอเองก็ยังถูกเขาเอาไป นินทา หลังมิสซาก็มีผูหญิงคนหนึ่งเดินไปพบกับคุณพอองคนั้น ตอนแรกคุณพอก็คิดวาคงเขามา แสดงความเห็นใจพอ หรือ ไมก็แ สดงความไมพอใจที่มี คนมานินทาพอ แตก ลับมาแสดงความ ไมพอใจที่วา “คุณพอ ยังไมไดเลาใหฟงเลยวา พวกเขานินทาพอวาอยางไร” ประมาณไดเลยวา “อยากรู”

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

11


ปญหาสําคัญของเรื่องนี้อยูตรงที่วา เรามักไมคอยจะรูสึกวาการนินทาเปนสิ่งไมดี หลายคน มั ก จะพู ด ว า “ไม เ ห็ น เสี ย หายตรงไหน ก็ ฉั น พู ด เรื่ อ งจริ ง ” อย า ลื ม นะครั บ ว า การนิ น ทา คื อ การเอาเรื่ องจริ ง (ที่ ไม ดี ) ของผู อื่ นมาพู ดให อี กผู หนึ่ งฟ ง แต การพู ดของเราอาจจะกลายเป น การใสความ ไปก็ได ในกรณีเรื่องที่เราพูดไปนั้นไมเปนความจริง ดังนั้น ทั้งการนินทา และการ ใส ความก็ เ ป นความบาปทั้ งสิ้ น เรากํ า ลัง ทํ า ลายชื่ อ เสี ย งของคนอื่น โดยที่ ไ ม สามารถจํ า กั ด ขอบเขตได เรื่องที่เรานินทาหรือใสความสามารถกระจายไปไดทั่วโลก แลวเราจะคืนชื่อเสียงของ เขาไดอยางไร ก็ลองใหใครเขาเอาเรื่องของเราไปนินทาดูก็ได เราจะรูสึกอยางไร เรากําลังทําราย จิตใจของคนหลายคน เจาตัวเอง ครอบครัวของเขา เพื่อน ๆ ของเขา การงานของเขา ทําราย แบบที่เราเองไมตองปรากฎตัวเลย อยางที่พอบอก นี่เปนธรรมชาติอยางหนึ่งของมนุษย แตธรรมชาติอีกอยางหนึ่งของมนุษย ก็คือ “การชําระลาง” และ “การรูสึกผิดชอบชั่วดี” นี่แสดงวาเรายังมีทางแกไข เราตองพยายาม เอาชนะธรรมชาติบางอยางที่ไมดี เราตองเขาใกลพระใหมากขึ้น และพระองคจะใชเราไปประกาศ ขาวดี ขาวดีหรือเรื่องดี ๆ นี่แหละที่จะชําระริมฝปากของเรา หรือมิฉะนั้น เราก็ควรใชยาขนาน เอกที่มีผลดีมากที่สุดเลย นั่นก็คือความเงียบ อยาลืมดวยวา ปากเรานั้นสามารถ ชวยชีวิต และ สามารถ “ทําลายชีวิต” เคยมีคนสอนพอวา “ถาพูดดีไมได ก็อยาพูดเลยก็จะดี”

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 7 กุมภาพันธ 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

12


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ไมบอยนักที่วันตรุษจีนและวันวาเลนไทนจะมาตรงกันและเจาะจงมาตรงกับวันอาทิตย ซะดวย พอเลยไมรูวาจะฉลองอะไรดี เอาเปนวาฉลองทั้ง 3 อยางเลย คือ ฉลองวันพระ ฉลองวัน ตรุ ษ จี น และฉลองวั น วาเลนไทน แต ก็ ต ามที่ นั ก บุ ญ เปาโลสอนเราไว “ที่ สํ า คั ญ กว า หมดก็ คื อ ความรัก” เราฉลองวันพระ วันอาทิตย ก็เพราะเรารั กพระ พี่น องที่ ฉลองตรุษ จีนก็ ขอพรจาก พระเจาที่เรารัก และฉลองวันวาเลนไทนก็เพื่อระลึกถึงความรักนั่นเอง พูดถึงความรัก ก็อดที่จะพูด ถึงสมณสารของสมเด็จ พระสันตะปาปาเบเนดิกตที่ 16 ไมได นั่นคือ “Deus Caritas Est” แปลได ว า “พระเจ า คื อ องค ความรั ก ” ก อ นที่ จ ะเขี ยนถึ ง สมณสารฉบั บ นี้ พ อ ขอเล า เรื่ อ งจริ ง ใหอานกันสักเรื่องหนึ่ง ในป 1920 ที่ประเทศเยอรมันนิยมการหาคูทางหนังสือพิมพก็คงเหมือน ๆ กับคอลัมนหาคูในหนังสือพิมพบานเรา ชายคนหนึ่งชื่อ โจเซฟ ก็ประกาศหาคูโดยลงขอความดังนี้ “ชายอายุ 43 ชนชั้นกลาง เปนคาทอลิก ไมมีประวัติเสื่อมเสีย เปนคนชนบท ตองการรูจักกับสตรี ที่ เ ป น คาทอลิ ก ที่ ดี ไม มี ประวั ติ การแต งงานมาก อน ทํ าอาหารและดู แลบ านได และประสงค ที่ จะแตงงาน” ผูหญิงคนหนึ่งชื่อ มาเรีย ตอบรับการประกาศนี้ หลังจากทั้งคูไดทําความรูจักกัน 4 เดือน ก็แตงงานกันโดยตกลงกันวา “อนาคต เพียงแคไวใจพระเทานั้น” ทั้งคูรักกันมีความเชื่อและไวใจ พระ มีบุตรชาย 2 คน และบุตรสาว 1 คน บุตรชายคนเล็กไดรับชื่อวา โจเซฟ เหมือนชื่อของพอและ ตอมา โจเซฟ รัตซิงเกอร (Josef Ratzinger) ไดรับเลือกใหเปน Pope Benedict 16 ลูก ๆ ไมเคย ไดฟงเรื่องราวของพอแมเลยวาพบกันไดอยางไร จนกระทั่งพระสันตะปาปาเสด็จเยือนแควน บาเยิรน แลวชาวเมืองนี้นําเอาหนังสือพิมพเกามาใหพระองคอาน จึงทราบเรื่องราว พระองคเขาใจ ทันทีวา “พระเจาคือองคความรัก” บิดามารดาของพระองคตางเปนคาทอลิกที่ดี และเขาใจทันทีวา ทําไมทานทั้งสองจึงวางใจในพระอยางเปยมลน และทําไมจึงสอนลูก ๆ ใหมีความรักพระและไวใจ ในพระ ความรัก ของพระมี แ ผนการที่ ดี เ สมอ ทา นเห็ น แบบอยา งแห ง ความรั ก ความไว ใ จใน พระของบิดามารดา พระสันตะปาปาทรงเขียนสมณสารฉบับนี้เพื่อใหคริสตชนทั่วโลกไดเขาใจความรักของ พระ และใหเขาใจวาความรักสําคัญตอชีวิตมนุษยเพียงใด ในสมณสารฉบับนี้ พระสันตะปาปาเบเนดิกตที่ 16 ไดแยกแยะใหเห็นความรักในรูปแบบ ตาง ๆ เชน ความรักตอประเทศชาติ ความรักเพื่อน ความรักของพอแมที่ มีตอลูก ๆ ความรักที่มี ตอเพื่อนบานและความรักที่มีตอพระเจา พระองคทรงเนนย้ําวา “ความรักของชายและหญิงนั้น เปนสิ่งที่สวยงามมากเพราะ “รางกายและวิญญาณของทั้งสองไดรวมเปนหนึ่งเดียวกันอยางแยก

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

13


จากกั น ไม ไ ด ” ความรั ก เช น นี้ ห ากมี ความไว ใ จในพระด ว ยแล ว ก็ เ ป น ความสุ ข ของมนุ ษ ย เ อง พระองคยังวิเคราะหความรักของมนุษยออกมาในลักษณะตาง ๆ ที่นาอานมาก ใครที่อยากจะเขาใจ ความรักดี ๆ ก็ควรอาน อยางไรก็ตามอยาหวังวาจะเขาใจความรักไดทั้งหมด พระองคตรัสวา ความรักนั้นไมอาจสอนกันได แตสัมผัสได ความรักเปนความลึกลับอยางหนึ่งของมนุษย และ มนุษยก็มีชีวิตอยูในความลึกลับนี้เอง (Mystery) พี่ น อ งครั บ สิ่ ง ที่ พ อ เป น ห ว งไม ใ ช “ความรั ก ” แต ที่ เ ป น ห ว งก็ คื อ “ความเกลี ย ดชั ง ” มนุษยเราไมไดมีแตความรัก แตมีความเกลียดอยูดวย วันแหงความรักควรเปนวันที่เราจะตอง ละทิ้งความเกลียดชังไปซะ โดยเฉพาะผูที่มีความรักตอพระและไวใจพระ Dr.Martin Luther King jr. เคยพูดประโยคที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไวอยางนาฟงทีเดียว ทานพูดวา “ความเกลียด ทําใหชีวิตของเราเปนอัมพาต ความรัก ทําใหเราหายจากอัมพาต ความเกลียด ทําใหชีวิตของเราสับสนวุนวาย ความรัก ทําใหชีวิตกลมกลืนกัน ความเกลียด ทําใหชีวิตมืดมน ความรัก ทําใหชีวิตสดใส มหาตมะ คานธี กลาวไววา “ที่ใดมีความรัก ที่นั่นมีชีวิต” อีกคนหนึ่งครับ Robert Bro. เปนใครพอก็ไมรูจัก แตเขาสอนดีครับ เขาสอนวา “หากโลกไมมีความรัก โลกก็คือหลุมฝงศพ”

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 14 กุมภาพันธ 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

14


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พระเยซูเจาถูกผีป ศาจลอลวงถึง 3 ครั้ง ในระหวางการจําศีลอดอาหาร 40 วัน ปศาจ ลอลวงใหพระเยซูเจาจองหองในอํานาจของตนเอง ใหแสวงหาสิ่งตาง ๆ ที่ตองการตามใจชอบ ใหกอบโกยทุกสิ่งที่มีอยูในโลกนี้มาเป นของตน หลงระเริงอยูกับสิ่งตางๆ เหลานี้ ปศาจมันชางรู จุดออนของมนุษยดีเหลือเกิน แตพระเยซูเจาก็แสดงใหเราเห็นวา มนุษยไมจําเปนหรือจําเปนตองมี สิ่งเหลานี้ “มนุษยมิไดเจริญชีวิตดวยขนมปงแตอยางเดียว แตดวยพระวาจาทุกคําที่ออกมาจาก พระโอษฐ พระเจ า” คนที่มี ทุกอยางหรื อคิ ดวามี เกื อบทุ กอย าง มิ ไดหมายความว าจะมีความสุ ข เสมอไป พี่นองคงรูจักหรือเคยไดยินชื่อนักแสดงฮอลลีวูดสที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งชื่อ เมล กิบสัน (Mel Gibson) เขามิใชเพียงนักแสดงแตเปนผูสรางภาพยนตร และผูกํากับการแสดงดวย เขาสราง หนังเรื่องหนึง่ ที่มีคุณคามากสําหรับเราคริสตชน นั่นคือภาพยนตรเรื่อง The Passion เขาพยายาม ศึกษาเรื่องราวของพระเยซูเจา เรื่องราวของชาวยิวและชาวโรมันอยางละเอียด และพยายามสราง ใหสมจริงกับสมัยพระเยซูเจามากที่สุด กอนที่จะนําภาพยนตรเรื่องนี้ออกฉาย เขานําไปฉายใหแก พระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่สอง และพระชั้นผู ใหญที่วาติกันไดชมกอน พระสันตะปาปายอหน ปอลที่2 ถึงกับตรัสออกมาวา “เหตุการณเปนไปอยางที่ภาพยนตรแสดงใหเห็น” (It happened that way) เมล กิบสันใหเหตุผลที่เขาสรางหนังเรื่องนี้ขึ้นมาวา “ในชีวิตผม ผมมีทุกอยาง มีความสําเร็จ มีหนาตาดี มีชื่อเสียงเกียรติยศ มีคนตองการและถาตองการอะไรก็สามารถมีได แตผมก็ยังคงรูสึก วางเปลา และหดหูจนบางครั้งอยากจะกระโดดหนาตางตาย” ในที่สุดความเชื่อและพระหรรษทานของพระ ทําใหเขาพบคําตอบที่เติมเต็มชีวติที่วางเปลานี้ ได นั่นคือ การรวมทนทุกขทรมานกับพระเยซูเจา มิใชการมีความสุข เขาจึงคิดสรางหนังเรื่องนี้ เพื่อเปนพยานในความคิดของเขา เขาตองการบอกวาความทุกขทรมานสําหรับเรานั้นก็มีคาเชนกัน มีความหมายและมีคําตอบที่ชัดเจนสําหรับชีวิตของเรา ในระหวางเทศกาลมหาพรตนี้พี่นองนาจะ หาเวลานั่งชม ภาพยนตเรื่อง The Passion นี้กับครอบครัวแลวพี่นองจะเขาใจความหมายของความทุกข ทรมานของพระเยซู เจา และจะรักพระเยซูเจ ามากขึ้น พระองคปฏิเสธความยิ่งใหญ ในอํานวจ การแสวงหาและการทํ าตามใจ เกี ยรติ ยศชื่ อเสี ยงและมายอมรั บ ความทุ กข ทรมาน ขอเตื อ น นิดเดียว เวลาชมภาพยนตรเรื่องนี้ควรเตรียมผาเช็ดหนาไวดวย พอดู 2 ครั้งก็ตองรองไหทั้ง 2 ครั้ง และก็เชื่อวาผูชมมากมายก็รวมความรูสึกนี้เชนกัน

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

15


เทศกาลมหาพรตอาทิตยแรกนี้สอนเราทุกคนใหระมัดระวังการประจญลอลวงของผีปศาจ มันรูจุดออนของเรามนุษยดีมาก อาดัมและเอวาถูกปศาจลอลวงดวยความรูสึกงาย ๆ “เจาจะเปน เหมือนพระองค” ความจองหอง ความทะเยอทะยานก็เกิดขึ้นในใจมนุษยทันที มองดูสิ่งที่ตนเอง จะกระทํานั้นเล็กนอย “แอบเปลนี่ก็นากิน” หรืออาจจะกลายเปนคําวา “ไมนาจะเปนอะไร” ปศาจ มันทําใหเราเห็นวา สิ่งที่เราจะทํานั้น เล็กนอยซะเหลือเกิน ไมเปนอะไรหรอก แตพอทําไปแลวมันก็ ทําใหเราเห็นวา มันเปนเรื่องใหญมากซะจนเราตองหนีออกจากสวนเอเดน อยูตอไปไมไดแลว อีกเรื่องหนึ่งที่ปศาจมันชอบทํากับพวกเราก็คือ ขัดขวางไมใหเราทําดี พยายามขัดขวาง ไมใหเราสวดภาวนา พอจะสวดก็ทําใหเราเห็นวา ไมมีเวลา เดี๋ยวตองทําโนนกอน นี่กอน หรือ ลองคิดดูสิครับ เวลาที่เราจะไปวัดวันอาทิตย มักจะมีอะไร ๆ ใหเราทํา ใหเราเตรียมจนกระทั่ง เราไปไมทันวัดทั้ ง ๆ ที่ เราก็ตั้งใจจะไปใหทัน หรือทั้ง ๆ ที่เราตื่นกอนเวลาตั้งนาน เรื่ องแบบนี้ มันไมเกิดขึ้นเองหรอก ปศาจมีวิธีการของมัน หรือแมแตตอนที่เราจะชวยคนจนคนยาก คนดอย โอกาส หลายครั้งเราก็มักจะมีเหตุผลเขามาเพื่อที่จะไมชวย หรือเอาไวชวยภายหลัง อยาเลย พวกนี้มาหลอกเรา ยังจําเปนตองใชเงินของเราอยู เราเองก็ลําบาก เปนตน เราตองทําเหมือนพระเยซูเจาครับ ตองขับไลปศาจออกไป อยาลืมนะครับ มันทําอะไร เราไมไดหรอก มันไดแตลอลวง เทศกาลมหาพรตเราควร สวดภาวนาใหมาก ๆ ทําบุญใหทาน และมาวัดใหมาก ๆ ดวย

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 21 กุมภาพันธ 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

16


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พี่นองเคยไดยินคําวา “จําแลงพระกาย” (Transfiguration) บอกตรง ๆ เลยวา พอไมชอบ คํานี้เลย เพราะฟงดูคลาย ๆ กับพระเยซูเจาทรงปลอมพระกายทั้ง ๆ ที่พระองคไดแสดงพระองคเอง ใหเราทุกคนเขาใจอยางถูกตองวาพระองคเปนใครและเสด็จลงมาทําอะไร เราจึงนาจะเรียกวา พระเยซูเจา “แสดงพระกาย” พอเชื่อวา พี่นองก็คงจําไดวาพระเยซูเจาทรงพาสาวก 3 องคคือ เปโตร ยากอบและยอหนขึ้นไปบนภูเขาและแสดงพระวรกาย แตพี่นองสังเกตหรือไมครับ สาวก 3 องค นี้ เป นคนชอบนอน พระวรสารเล าว าขึ้ นไปบนภู เขาทาบอร ก็ ง วงนอนและนอนหลั บไป ตื่ นขึ้ นมาก็ พ บการแสดงพระกายของพระเยซู เ จ า คราวนี้ พ อ จะพาไปถึ ง ตอนที่ พ ระเยซู เ จ า พาสานุศิษยขึ้นไปสวดภาวนาที่สวนเกทเสมนี กอนที่จะถูกตรึงกางเขนนะครับ พระองคก็เลือก เปโตร ยากอบและยอหน อีกเชนเคยใหขึ้นไปกับพระองค เชื่อหรือไมครับ สามคนนี้ก็ขึ้นไปนอน หลับอีกแลว “เห็นเขานอนหลับอยู และตรัสกับเปโตรวา เปนอยางไรนะทานทั้งหลายจะคอยเฝาอยู กับเราสักทุมเดียวไมไดหรือ ทานทั้งหลายจงเฝาระวังและอธิษฐานเพื่อทานจะไมตองถูกทดลอง” (มธ.26:40-41) และพี่นองจะเชื่อหรือไมวาพระองคขึ้นไปสวด 3 ครั้ง กลับลงมาก็พบพวกเขา หลับอยูทั้ง 3 ครั้ง นอนเกงจริง ๆ เลยสาวกสามองคนี้ พระเยซูเจาทรงแสดงองคและทรงปลุก ใหเราตื่นขึ้นมาพบความจริงและพบหนทางและพบชีวิตเที่ยงแท เวลาที่เราหลับ เราไมสามารถ รูหรอกครับวาเราอยูที่ไหนและกําลังทําอะไร ยกตัวอยางเชน เรานอนหลับในวัด เราไมมีทางรูเลยวา พระคัมภีรเรื่องอะไร พอเทศนเรื่องอะไรหรือเกิดอะไรขึ้นบางในวัดตอนนั้น เทศกาลมหาพรต พระเยซู เจ าแสดงใหเราเห็นและทรงปลุ กเราให ตื่ นจากชี วิตเดิม ๆ เราตองหันมาดูชีวิตของเราวา “ชีวิตเดิม ๆ” ของเราคืออะไร พออาจจะยกตัวอยางมาใหคิดกันนะครับ เชน - ชีวิตที่ยังไมไดแสดงตนเปนศิษยของพระเยซูเจาเพียงพอ แสดงตนเปนคริสตชน - ชีวิตที่ยังชวยเหลือเพื่อนพี่นองที่ตกทุกขไดยาก เรียกวา สนใจคนอื่นนอยไป - ชีวิตที่ยังไมอภัยคนอื่น ยังเกลียดชัง เคียดแคน - ชีวิตที่แสวงหาแตสิ่งของของโลกนี้มากจนเกินไป - ชีวิตที่ยังจมอยูกับบาปบางประการและไมยอมเปลี่ยนแปลง ไมยอมตัดใจทิ้งมันไป ในปหนึ่ง ๆ พระเยซูเจามาปลุกเราใหตื่นหลายครั้ง และเราก็กลับไปนอนหลับอีกคลาย ๆ กับบรรดาสาวกนั่นแหละ พอเชื่อวาพระเยซูเจาขยันพอที่จะมาปลุกเราบอย ๆ ขอใหเราตื่นขึ้นมา

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

17


เท า นั้น เองเราก็ จ ะเห็ น หนทาง ความจริง และชี วิ ต เรื่อ งแบบนี้ มัน อยู ที่ “ความจริง ใจ” และ “จริงจัง” นักภาษาศาสตรผูหนึ่งเขาอธิบายคําวา “sincere” ซึ่งแปลวา ความจริงใจ ไววา คํานี้ มาจากคําภาษาละติน 2 คํา ก็คือ sine + cere กลายมาเปนคําวา sincere, sine แปลวา ปราศจาก รวมกับคําวา Cere แปลวา ขี้ผึ้ง สมัยกอนเขาใชขี้ผึ้งทําหนากาก ก็รวมความไดวา “ปราศจากหนากาก” กลายมาเปนความจริงใจ ความจริงใจก็คือ แสดงตัวตนที่แทจริงออกมา ไมเสแสรงแกลงทํา และหากเราจริงใจกับ ตนเองก็หมายความวา อยาหลอกตนเอง หรือพยายามหาเหตุผลเพื่อจะทําในสิ่งที่ไมดี การยอมรับ ทุกอยางและพยายามดวยจริงใจที่จะแกไขทุกอยางที่ไมดีนั้น จะนําใหเราพบหนทางที่เที่ยงแท เทศกาลมหาพรตนี้ พระเยซูเจาเสด็จมาปลุกเราใหตื่นอีกครั้งหนึ่ง ไมรูวาจะเปนครั้ ง สุดทายหรือเปลา เพราะพระองคกําลังจะถูกนําไปตรึงกางเขนแลว เมื่อเราตื่นขึ้นมา พอรับรอง วาเรายังมีอีกหลายตอหลายอยางที่เราสามารถทําได แตถายังขยันนอนหลับอยูอยางนี้ก็แสดงวา เราพอใจเฉพาะ “ชีวิตเดิม ๆ” เทานั้นเอง

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 28 กุมภาพันธ 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

18


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ในชีวิ ตของเรามี คํ าถาม อยูมากมาย ตั้ง แตเราเกิ ดมาและพอจะพูดไดเราก็มีคํ าถาม นั่นอะไร? บางครั้งหรือหลายครั้งเราก็ถามซ้ําซาก ตอนเด็ก ๆ ก็เปนคําถามธรรมดา ๆ พอโตขึ้น ก็เปนคําถามที่คอนขางลึกซึ้ง นาแปลกเหมือนกัน บางครั้ง เด็กเล็กก็ถามคําถามชนิดที่เราเองก็ยัง งงอยูเลยวา เด็กคิดคําถามที่ลึกซึ้งอยางนี้ไดอยางไรกัน แนนอนที่สุดมีคําถามมากมายบนโลกนี้ที่ เราไมสามารถหาคําตอบได เราอาจจะพยายามตอบก็ตอบไดเพียงสวนเดียว คําถามของเราเองหลาย ครั้งก็ไมมีใครสามารถตอบได มีเด็กคนหนึ่งถามพอวา “ทําไมแมหนูตองตาย หนูยังไมโตเลย” ใครจะตอบวาทําไมแมเด็ก คนนี้ตองตาย เวลาที่เกิดสงคราม แผนดินไหว สึนามิ และภัยพิบัติตาง ๆ เชนที่เพิ่งเกิดที่ประเทศ เฮติ มีคําถามอยูเสมอ ๆ วา “ทําไมพระเจาจึงปลอยใหเกิดเรื่องอยางนี้ขึ้นมา” บางคนถึงกับบอกวา “พระเจาไมมีอยูจริงหรอก ถามีจริง พระองคคงไมปลอยใหผูบริสุทธิ์มากมายหลายแสนคน ต องตายแบบนี้ หรอก” ใครจะตอบคํ าถามเหล านี้ พ อเองก็ ตอบไม ได คริ สตั งคนหนึ่ งไปตั ดผม ชางตัดผมก็ชวนคุยตามปกติคุยจนกระทั่งมาถึงเรื่อง พระเจา เขาบอกวา พระเจาไมมีจริงหรอก ถามีอยูจริง ทําไมถึงปลอยใหมีสงคราม ภัยพิบัติตาง ๆ มากมายบนโลกใบนี้ มนุษยที่ตายไปเขาทํา ผิดอะไร” คริสตังคนนั้นก็อยูนิ่ง ๆ ไมอยากจะทะเลาะกันดวยเรื่องนี้ ตัดผมเสร็จเขาก็ออกไป นอกรานตัดผม พบกับชายคนหนึ่งที่ผมยาวรุงรัง ทั้งหนวด ทั้งเครา สกปรกมอมแมม เขาก็กลับไป หาชางตัดผมบอกวา “คุณรูมั้ย ผมวาชางตัดผมไมมีอยูจริงหรอก” ชางตัดผมก็สวนกลับมาวา “ผมนี่ไง ผมอยูนี่ไง” คริสตังคนนั้นก็เลยตอบวา “ถาชางตัดผมมีอยูจริง ทําไมถึงยังมีคนผมยาว สกปรก มีหนวดมีเครารุงรังอยูละ” ชางตัดผมก็เถียงวา “ชวยไมไดก็เขาไมมาหาผมเอง” คริสตัง คนนั้นก็สรุปใหเขาฟงวา “พระเจามีอยูจริง เพียงแตมนุษยไมไดไปหาพระองคเทานั้น” พอเชื่อวา พี่นองมีคําถามมากมายในชีวิตนี้ที่อาจจะทําใหความเชื่อของเรา ความไววางใจ ในพระของเราลดน อ ยลง หรื อ บางคนอาจจะสู ญ เสี ย ไปเลย คํ า ถามเช น ว า ทํ า ไมคนดี ๆ เป น คริ ส ตั ง ดี ถึ ง ต อ งตายอย า งทนทุ ก ข ท รมาน ทํ า ไมถึ ง ยากจน ทํ า ไมคนไม ดี ทั้ ง หลาย จึงรุงเรืองเหลือเกิน และอื่น ๆ อีกมาก ใครจะตอบคําถามเหลานี้ พระเยซูเจามีคําตอบที่พอคิดวาดี กวาใหเหตุผล เพราะแมจะมีเหตุผลแตมนุษยเราเวลา เผชิ ญ กั บ เรื่ อ งเหล า นี้ ก็ มั ก จะไม ฟ ง เหตุ ผ ล พระเยซู เ จ า ตอบว า “ท า นคิ ด ว า ชาวกาลิ ลี เ หล า นี้

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

19


เปนคนบาปมากกวาชาวกาลิลี ทุกคนหรือจึงตองถูกฆาตายเชนนี้ แลวสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอิม พั ง ทั บ เสี ย ชี วิ ต เล า ท า นคิ ด ว า คนเหล า นั้ น มี ความผิ ด มากกว า คนอื่ น ทุ ก คนที่ อ าศั ย อยู ใ นกรุ ง เยรูซาเลมหรือ มิได เราขอบอกทานทั้งหลายวา “ถาทานไมกลับใจเปลี่ยนชีวิตทุกทานจะพินาศไป เชนเดียวกัน” หลายคนทิ้ ง พระทิ้ ง วั ด ไปเพราะหาคํ า ตอบไม ไ ด คนพวกนี้ จ ะพิ น าศไป หลายครั้ ง แมเราจะไมมีคําตอบที่เราพอใจ แตถาหากเรายังมีความเชื่อและความไววางใจในพระ เราก็ยังมี คําตอบที่แนนอนในอนาคตได และก็มีหลายตอหลายครั้งมิใชหรือ ที่เราเองก็ไมสามารถตอบคําถาม ของลูกๆ ของเพื่อน ๆ เราได มนุษยเราไมสามารถรูคําตอบสําหรับคําถามทุกคําถามอยางแนนอน เทศกาลมหาพรตเปนเทศกาลแหงการกลับใจ พ อไม เคยเขา ใจเลยว า ทํ าไมคนเราถึ ง ตองฆากัน เกลียดกัน โกงกัน ดาวากัน ทะเลาะกัน แตกแยกกัน ทําไมคนที่มีจิตใจเปนโจรผูราย เขาก็ยังรูจักรักคนที่รักเขา หรือคนที่เขารัก เราเองก็ยังไมสามารถตอบคําถามงาย ๆ เหลานี้เลย สูเ รารู จั กเปลี่ ยนแปลงแก ไ ข กลั บใจดี กว า เพราะนี่ คือ หนทางที่ดี ที่ สุด ที่ จะทํ า ให อ ะไร ๆ ดีขึ้นเสมอ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 7 มีนาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

20


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก อาทิตยที่ผานมา (7 มีนาคม’10) พอไดนําคณะครูของเราไปแสวงบุญที่เมืองลูรด ที่เมืองอารส และที่ปารีส ในโอกาสปพระสงฆ อากาศที่ฝรั่งเศสหนาวมาก ๆ มีลมแรงมีฝนบาง หลายคนที่ไปดวย ก็เปนการเดินทางไปยุโรปครั้งแรกก็รูสึกตื่นเตนดีใจ อากาศหนาวไมไดทําใหรูสึกกลัว กลับชอบดวยซ้ํา และแมวาจะไมไดไปเที่ยวมากนัก สวนใหญก็ไปสวดภาวนา ทํามิสซา แตทุกคนก็มีความสุขที่จะสวด ภาวนาดวยกัน ถวายบูชามิสซาดวยกัน แตถึงแมวาจะมีความสุขใจเพียงใด แตทุกคนก็คิดถึงบาน อยากกลับบาน จะมีที่ไหนที่มีความสุขเทากับบานเรา พระวรสารอาทิตยนี้พูดถึง การกลับบาน ของลูกลางผลาญ เปนนิทานเปรียบเทียบที่กินใจ ที่สุดเรื่องหนึ่งในพระวรสาร มีความหมายมากที่สุดสําหรับชีวิตคริสตชน บังเอิญพอไปอานเจอเรื่องจริง เรื่องหนึ่งซึ่งบังเอิญมีความคลายคลึงกับนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้มาก เปนเรื่องของลูกสาวสองคน ของพอแม คนพีช่ ื่อ Meg สวนคนนองชื่อ Jenny Jenny เปนเด็กหญิง รักสนุก ชอบแตงตัว เอาแตใจ ชอบเที่ยวแตร คบเพื่อน วันหนึ่ง Jenny ทะเลาะกับพอในเรื่องการใสแหวนที่จมูก ดวยความที่เปนเด็ก เอาแตใจก็ขโมยเงินพอแม บัตรเครดิต เงินสดจํานวน 12,500 ดอลลาห หนีออกจากบานไปอยูอีก รัฐหนึ่ง Jenny ใชชีวิตอยางสนุกสนาน ไมตองเรียนหนัง สือ มีเพื่อนใหม ๆ ทดลองทุกอยาง เงินจํานวนนี้หมดไปอยางรวดเร็ว บัตรเครดิตก็ถูกยกเลิกไปดวย ที่สุด Jenny ก็ตองกลายเปน โสเภณี เ พื่ อเลี้ ยงชี พ และพบว า ตัว เองเป น เอดส Jenny ไปพบโปสเตอร รู ป เธอตามเสาไฟฟ า เปนโปสเตอรที่พอแมตามหาเธอและขอใหกลับบาน เธอเริ่มนึกถึงชีวิตวัยเด็กเมื่อ 10 ป ที่ผานมา และก็บอกตัวเองวา “เธอทิ้งบานมาทําไม” ที่สุดเธอก็ตัดสินใจโทรศัพททิ้งขอความไวที่บานวา เธอจะกลับบาน จะนั่งรถไฟมาถึงเวลา ตีหนึ่ง 20 นาที ถาหากไมพบใครที่สถานี เธอก็เขาใจดีและ ก็จะนั่งรถไฟตอไปทันที ที่สถานีรถไฟ ทันทีที่ลงจากรถไฟ เธอมองไมเห็นใครเลย แลวอยู ๆ ก็มี เสียงเรียกชื่อของเธอ พรอมทั้งปายเขียนวา “ตอนรับกลับบาน” มีพอแม นา มี ลุง ปาและหลาน ๆ เธอจะพูดขอโทษพอแมแตก็ถูกพอ หามไว พอบอกเธอวา “ไมตองพูดขอโทษอะไรทั้งนั้น พออยากกอดลูกอยางเดียว” มีอยูเพียงคน เดียวที่ไมยอมมา ที่สถานี คือ Meg พี่สาวของเธอ และ Meg ก็ไมเชื่อเลยวา พอกับแมจะตอนรับ Jenny ถึงขนาดนี้ คืนนั้นที่บานมีงานปารตี้ งานปารตี้แบบนี้ Meg เคยขอใหพอแมจัดใหบางโอกาส แตก็ไมเคยไดเลย อันที่จริง Jenny ก็มีชีวิตอยูตอไปอีกไมนาน เธอก็เสียชีวิตดวยโรคเอดส Jenny ได กลับบานแทของเธอ มีขอคิดมากมายจากพระวรสารวันนี้เพื่อเปนการเตรียมตัวของเราในเทศกาลมหาพรต

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

21


ข อแรก : จงระวั งที่ จะกลายเป น ลู กล างผลาญ ลู กที่ คอยหาแต ความสุ ขในโลกนี้ ชอบสนุกสนาน ชอบชีวิตที่สบาย ๆ และทําตามใจตัวเอง ชีวิตแบบนี้มักพาเราไปทางที่ผิดเสมอ ขอสอง : รูจักเสียใจในสิ่งที่เราทําไป รูจักขอโทษ คิดดูดี ๆ วาเราทําผิดไปมากเพียงใด หลายคนไมคอยรูสึกเสียใจแมวาไดทําผิดไป ขอสาม : กลับบาน ไปสารภาพบาปของเรากับพระสงฆ ขอโทษพระ พระบิดาเจาเปนพอ แมของเรายื่นแขนออกมาและตองการที่จะโอบกอดเราเทานั้น ขอสุดทาย : พระเปนเจาพรอมจะยกโทษเราเสมอ รอคอยที่จะยกโทษให มีแตมนุษย เทานั้นที่ไมยอมยกโทษแกกันและกัน พี่ น องลองคิ ดดู ซิ ว า ยั งมี เรื่ อ งอะไรกั บใครที่ เรายั งไม ยอมยกโทษให บางที ก็ เป นคนใน ครอบครัวของเรานั่นแหละ นี่เปนเรื่องจริง ๆ ที่เกิดขึ้น ขออยาใหเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเราเลย กลับบานเราเถอะ และใหคนอื่น ๆ พี่นองของเราไดกลับบานดวย เรามีงานปารตี้กันในวันปสกา ครับ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 14 มีนาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

22


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พอกับคณะครูไดมีโอกาสไปแสวงบุญที่เมืองอารส เมืองที่คุณพอยอหน มารีย เวียนเนย เปนเจาอาวาส มีโอกาสไปเยี่ยมบานที่เธออาศัย วัดที่ฝงศพของทาน บานเด็กกําพราที่ทานตั้งขึ้น เห็นชีวิตที่เรียบงายของทาน แตรอนรนในการใชชีวิตเพื่อคนอื่น ที่นั่นมีวัดนอยแหงหนึ่งซึ่งเก็บ หัวใจของทานไวเปนพิเศษ พวกเราไดมีโอกาสสวดภาวนาพรอม ๆ กันที่นี่ ตอนนั้นพอขอใหทุกคนสวด ภาวนาเพื่อบรรดาพระสงฆทั้งหลาย ทั้งที่ทําหนาที่อยู สงฆที่มีปญหาและวิกฤติในชีวิต บรรดาสงฆ สูงอายุ สงฆที่เจ็บปวย และสงฆที่เสียชีวิตไปแลว พอขอใหคณะครูไดดู “หัวใจ” ของพอยอหน เวียนเนย เปนหัวใจที่ตองการปลอบประโลม หัวใจที่ตองการเยียวยารักษาแผลทางวิญญาณและ ทางกายดวย หัวใจที่ใหอภัยตลอดเวลาและเปนหัวใจที่ไมเคยคิดตัดสินลงโทษ หรือกลาวประณาม ใครทั้ ง สิ้ น ท า นต อ งการเพี ย งแต ว า “อย า ทํ า บาปอี ก เลย” ท า นช า งทํ า หน า ที่ แ บบเดี ยวกั บ องคพระเยซูเจาไมมีผิดเลย พระวรสารวันนี้เลาเรื่องนี้ไวอยางชัดเจน ฟาริสีและคีมภีราจารย นําตัวหญิงที่ผิดประเวณีมาประจาน และตัดสินลงโทษ ประณามหญิงชั่วคนนี้ แตพระเยซูเจา ไมทําเชนนั้น ขอเพียงอยาไดทําบาปอีก มนุษยเราไมรูเปนอะไรนะครับ เราชอบกลา วประณามผูคน วิจารณผูคนใหเสีย ๆ หาย ๆ บางทีเราก็สาปแชงผูคนใหถึงตาย เราชอบเอาผูคนออกมาประจานในที่สาธารณะ งายเหลือเกิน ที่เราจะกลาวประณามหญิงที่ไปทําแทงวาเปนแมใจยักษ ใจมาร แทนที่เราจะรูสึกเศราใจกับชีวิต ทีส่ ูญเสียไป หรือเศราใจแทนผูหญิงคนนัน้ หรือสงสารผูหญิงคนนั้น พระเยซูเจาและพระศาสนจักร ไมประณามและตัดสินลงโทษใคร เพียงแตเศราใจและไมอยากใหเกิดขึ้นอีกเทานั้น ในชีวิต ของเราแตละคน เราคงจะไดเคยลากใครตอใครมาประจาน มาประนาม มาวิจารณ หลายตอ หลายคนแลว โดยที่เราอาจจะไมไดคิดเห็นอกเห็นใจเขาเลย กลับสมน้ําหนาและพอใจที่ไดทํา เชนนั้นก็ไ ด แตก็อ ยางวานะครับ หลายครั้งเราก็ทําโดยไมรูตัว วาเราทํา รายจิตใจของเขา เพียงใด เราอยาทําอีกเลยนะครับ พอชอบเรื่องของเด็กหญิงอายุ 7 ขวบคนหนึ่ง เปนชาวอเมริกันไปเที่ยวที่ลอนดอนกับแม ขณะที่ไปดูบัลเลยดวยกัน เธอเขียนจดหมายไปเลาใหคุณพอเจาวัดฟงวา เธอเห็นกลองกระดาษ ใบหนึ่งที่ใหญมากอยูขางถนนดูสกปรกแมบอกวานี่เปนบานของใครซักคนหนึ่ง แลวเธอก็เห็นชาย คนหนึ่ ง เดิ น ผ า นมา แล ว ขว า งกระป อ งน้ํ า ดื่ ม ลงไปในกล อ งใบนั้ น แม ก็ บ อกเธอต อ ไปว า แลวใครบางคนก็ทํากับเขาเหมือนกับวาเขาเปนขยะเทานั้น เธอรูสึกเศราใจมาก และถามคุณพอ เจาวัดวา “หนูอยากจะชวยเขาจังเลย หนูควรทําอะไรดี ” เด็กคนนี้อายุแค 7 ขวบมีความรูสึก

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

23


เศราใจ และก็ไมอยากใหเกิดเรื่องแบบนี้อีกเลย พี่นองครับองคการอนามัยโลกไดรายงานวา ประชากร 1 ใน 5 ของโลกอยูในสถานยากจนอยางที่สุด และ 1 ใน 3 ของเด็ก ๆ ในโลกนี้ไมได รับการเลี้ยงดูอยางดีเทาที่ควร ยังมีผูหญิงในโลกนี้อีกมากมายก็ถูกประณาม และประจานโดยไมได รับความเห็นใจเลย อีก เรื่ อ งหนึ่ ง นะครั บ พ อ ได รั บ อี เ มล ที่ ดี ม ากฉบั บ หนึ่ง เล า ถึ ง ความคิด ของเด็ก คนหนึ่ ง เปนเด็กไทยเรานี่แหละ เธอบอกพอวา หนูคิดวา ทําใหตัวขาว ยากกวาทําใหตัวดํา ถาอยากดําไปตาก แดดก็ ดํ าแลว แต ทํา ใหตั วขาวนี่ ยากจัง หนู วา ทํ าดี ยากกว าทํ า ชั่ว นะคะ เธอรูจั ก เปรียบเที ยบ การทํา ให ตัว ขาวก็ คือ ความดี สวนตั วดําหมายถึง การทํ าชั่ว เด็กคนนี้อายุ 9 ขวบเทา นั้นเอง ถาเราทุกคนรูจักพยายามทําใหวิญญาณเราขาวสะอาดบริสุทธิ์ เหมือนความคิดของเด็กคนนี้ก็คง จะดี เราคงมีจิตใจที่เห็นอกเห็นใจมนุษยมากขึ้น เราพบความแตกตางอยางชัดเจนระหวาง จิตใจของพวกฟาริสี และคัมภีราจารย ที่มีตอ ผูหญิงคนนี้กับจิตใจของพระเยซูเจาที่มีตอเธอ ดังนั้นใหเรามนุษยชวยเหลือกันและกัน เห็นอกเห็นใจกัน ใหอภัยแกกันและกันดีกวา นะครับ ในชีวิตนี้ของเรา เรามีโอกาสชวยเหลือคนไดไมกี่คนหรอกครับ เมื่อมีโอกาสก็อยาลืมที่จะทําแตความดีตอกันและกัน ทั้งดวยความคิด กิจการ และคําพูดของเรา

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 21 มีนาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

24


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันเสารที่ 20 มีนาคมที่ผานมา พอและสภาอภิบาลฯ ไดรวมกันจัดทําพิธีเดินรูปโดยใช ภาพยนตรเขามาประกอบการรําพึงและการสวดภาวนา ภาพยนตรที่นํามาตัดตอนี้มาจากเรื่อง The Passian สรางจากการศึกษาพระคัมภีรและใชภาษาอารามาอิค ที่ใชกันในสมัยนั้น เพื่อให สมจริงที่สุด แตวิธีการสรางก็คอนขางจะดูโหดรายและรุนแรงมาก โดยเฉพาะฉากพระมหาทรมาน ของพระเยซูเจา ตองนับวาเปนภาพยนตรที่ดูแลวใหความรูสึกที่ดีหลายประการสําหรับความเชื่อ ของเรา ดูแลวเขาใจพระเยซูเจาและแมพระมากขึ้น วาทําไมพระองคจึงตองไถบาปเราดวยวิธีเชนนี้ ดูแลวรูสึกถึงบาปของเราเอง ดังนั้นเวลาที่ดูพรอม ๆ กับการสวดภาวนาในการเดินรูปซึ่งมีเนื้อหา เตือนใจเรา ก็ทําใหเราถึงกับอึ้งไป หลายคนเดินรูปสิบสี่ภาคนี้ แลวก็รูสึกสะเทือนใจในบาปของตน หลายคนรักพระเยซูเจามากขึ้น รักแมพระมากขึ้น เกือบทุกคนที่ไดรวมกันเดินรูปในวันเสารที่แลวตางก็ ใหความเห็นวา การเดินรูป 14 ภาคแบบนี้มีความหมายมากมายและทําใหเขาใจมหาทรมานของ พระเยซูเจามากขึ้น ที่พอบอกวาเกือบทุกคนก็หมายความวา มีบางคนเหมือนกันที่รูสึกไมคอยสบายใจ กับการเดินรูปแบบนี้ ไมสบายใจตรงที่เนื้อหาที่ออกมานั้นดูโหดรายและสะเทือนใจและไมเหมาะกับ บรรดาเด็ก ๆ และเยาวชน พูดงาย ๆ ก็คือรุนแรงเกินไปสําหรับพวกเขา ซึ่งพอเองก็รูสึกเชนนั้น เปนหวงพวกเด็ก ๆ และเยาวชน บางที่เห็นภาพความรุนแรงเหลานี้และอาจจะรูสึกไมดีมากเกินไป ก็เปนได ความรุนแรงแบบนี้สําหรับบางคนอาจจะทําใหรูสึกสงสาร สําหรับบางคนอาจจะรูสึกกลัว และสําหรับบางคนก็อาจจะรูสึกไมเขาใจก็เปนได อยางไรก็ตามสําหรับหลาย ๆ คนที่ไดยินเรื่องนี้ และตั้งใจจะมาเดินรูปแบบนี้ พอก็แนะนําวา ขอใหมาติดตอรับไฟลการเดินรูปแบบนี้และนําไปดู เองที่บานกอน พิจารณาดูและบอกความเห็นใหพอ ปนี้อาจจะไมทันที่จะทําอะไร แตก็มีประโยชน สําหรับใชในการเขาเงี ยบอบรมสัมมนา ประชุ มภาวนาของผูใหญ พอรับรองไดว า มีประโยชน มากกวา เสียประโยชน พี่นองที่สนใจกรุณาติดตอกับสภาอภิบาลที่หนาวัดก็แลวกันนะครับ ทุก ๆ คําชมเชย และคําติเตียนมีประโยชนทั้งสิ้น ขอขอบคุณผูที่ใหความเห็นทุกความเห็นนะครับ ขอคิดหนึ่งที่พอไดรับจากการอานพระวรสารเรื่องพระมหาทรมาน หรือจากการเดินรูป 14 ภาค ก็ คื อ ความนอบน อ มเชื่ อ ฟ ง ของพระเยซู เ จ า และแม พ ระ พระบิ ด าเจ า สั่ ง อะไร พระเยซูเจาและแมพระก็ทําตามนั้นโดย ไมมีเงื่อนไขเลย บางทีก็อาจจะรูสึกวาไมอยากทํา กลัว เชน ตอนที่พระองคภาวนาที่สวนเกทเสมนี ทรงทราบวาจะเกิดอะไรขึ้น พระองคเหงื่อออกเปนโลหิต ทีเดียว ภาวนาขอพระบิดาวา “ขอใหกาลิกซนี้ผานพนไปเถิด แตอยาใหเปนไปตามน้ําใจของขาพเจา เลย จงเปนไปตามน้ําพระทัยพระองค” ขอนี้สอนเราหลายอยางเพราะมนุษยชอบทําตามน้ําใจ ของเราเอง เมื่อพันปที่แลว พระเจาเฮนรี่แหงบาวาเรีย เปนกษัตริยของเยอรมัน และกษัตริยของ อิตาลีดวย เหนื่อยหนายตอการเมืองและการสงคราม พระองคไปหาอธิการฤษีแหงหนึ่ง ขอเขาบวช ในอาราม อธิ การฤษี ก็ อธิบายกฎระเบียบต าง ๆ ให พระองค ฟง ซึ่ งพระองค ก็ ยอมรั บ ทุก อย า ง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

25


อธิการฤษีอธิบายตอไปวา ขอสําคัญที่สุดก็คือการนอบนอมเชื่อฟงผูใหญ ของอาราม พระองค จะรับไดหรือไมที่จะตองมาเชื่อฟงอธิการ พระเจาเฮนรี่ตรัสวา พระองคทราบเรื่องนี้ดีและยินดีจะ เชื่อฟงนบนอบอธิการทุกอยาง อธิการจึง บอกวา “กลับไปที่พระราชวัง เปนกษัตริยที่ดีตามที่ พระเจ า มอบหมายให ” พระเจ า เฮนรี่ ตกพระทั ยแต ก็ ก มหน ายอมรั บคํ าสั่ งนั้ น พระองค กลั บไป เปนกษัตริย ทํานุบํารุงพระศาสนาและเปนผูหนึ่งที่รวมออกกฎเกณฑเรื่อง “การถือความบริสุทธิ์ของ พระสงฆ นั กบวช” พระองค เองตั้ งสิ นบนกั บพระว า พระองค กั บ พระมเหสี จ ะถื อ ความบริ สุ ท ธิ์ ต อ กั น และกั น ด ว ย พระองค ไ ม มี บุ ต รเลย ในป 1174 พระองค ไ ด รั บ การประกาศเป น นั ก บุ ญ เปนกษัตริยเยอรมันเพียงองคเดียวที่ไดเปนนักบุญ เราเรี ย นรู เ รื่ อ งความนอบน อ มเชื่ อ ฟ ง ได มากมายจากพระเยซูเจาในพระมหาทรมานและเราจะพบวาเราไมเชื่อฟงพอแม ครูบาอาจารย ผูใหญข องเรา เราไมตอ งการนบนอบเชื่อ ฟงใคร ก็ เพี ยงเพราะว าเราไมมีใจสุภาพถอมตน เพียงพอ หรือเราอาจจะจองหองมากเกินไป ความสุภาพถอมตนยอมชนะทุกสิ่ง แมตัวเราเอง

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 28 มีนาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

26


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก สุขสันตวันปสกา แดพี่นองทุกทาน ทุกครอบครัวขอใหพี่นองมีความสุขมาก ๆ ในชีวิตคริสตชน ความสุขของ เราไมเหมือนความสุขทางโลก ทางเนื้อหนัง แตเปนความสุขที่มีพระเจาในชีวิตของเรา พระองคอยูกับเรา ความสุข ที่เราไดรับการอภัย ความสุขที่เราใหอภัย ความสุขที่เราได ชวยเหลือผู ตกทุกขไดยาก ความสุขที่ เราได สวดภาวนาและไปวัด นี่คือความสุขปสกา อัลเลลูยา แตก็มีความสุขอีกประการหนึ่งนั่นคือ “ความสุขของชีวิตใหม” ถาจะเปรียบ ก็คงเปรียบไดกับความสุข ของแมที่ไดเห็นลูกของตนเกิดมาในโลก ชีวิตใหมเกิดแลว และเกิดมาจากความรักดวย วันปสกาเปนวันแหง ชีวิตใหมเพราะวา พระเยซูเจาซึ่งกลับเปนขึ้นมาไดนําชีวิตใหมมาให แกเรา พระศาสนจั กรใหมีการโปรดศี ล ลางบาปแกผูใหญหรือแมกระทั่งเด็ก ๆ ในวันปสกา ปนี้วัดเรามีผูรับศีลลางบาป 16 คน ทุกคนเรียนคําสอนดวยความสนใจและหมั่นสวดภาวนา มาวัด ทุกอาทิตย วันปสกาปนี้เปนวันแหงการเกิดใหม พวกเขาไดเกิดมาเปน “บุตรพระเจา” ดวยศีลลางบาปไดชําระ วิญญาณของพวกเขาจากบาปทุกชนิดในชีวิตที่ผานมา รวมทั้งชําระลาง “โทษบาป” ทั้งสิ้นที่ติดมากับบาป ทั้งหมดใหหมดสิ้นไป นาอิจฉาจริง ๆ ถาเปนไปไดพอก็ยังอยากจะ “ลางบาปใหม” อีกสักครั้งหนึ่ง เสียดายที่เรา สามารถรั บศี ลล างบาปไดเพียงครั้งเดี ยวเท านั้ น น าอิ จฉามากไปกว านี้ อีก พวกเขายั งไดรั บสิ ทธิ์ ในการรั บ ศี ลอภั ยบาป ได รั บศี ลมหาสนิ ท และได รั บศี ลกํ าลั ง ยั งมี แถมอี กนิ ดหน อยด วย บางคนที่ ได รั บศี ลล างบาป ในวันปสกานี้ทําพิธีสมรสทางตางศาสนามากอน พอรับศีลลางบาปทั้งครอบครัว การแตงงานของพวกเขา ในครั้งแรกนั้นไดรับการเปลี่ยนใหเปนศีลศักดิ์สิทธิ์ของการแตงงานในทันทีอีกดวย เพราะฉะนั้นบางคนก็จะไดรับ ศีลศักดิ์สิทธิ์ในวันเดียวถึง 5 ศีล คงเหลือศีลเดียวเทานั้นที่ยังไมไดรบั พี่นองทราบหรือไมวา คือศีลอะไร? พอขอ แสดงความยินดีเปนพิเศษกับทุก ๆ คน ที่ไดรับศีลลางบาปในโอกาสนี้ดวย ขอขอบคุณคุณครูทิพย ซึ่งได สอนคําสอนใหแกบุคคลเหลานี้ ครูทิพยไดสอนใหแกผูใหญวัดนี้มา หลายรุน เรียกไดวาเปนคุณแมวิญญาณ ถึงตอนนี้มีลูกวิญญาณมากมาย พอเองไมรูจะตอบแทนคุณครู ทิพยไดยังไง เชื่อแนวา พระเปนเจาไดจัดเตรียมรางวัลของพระองคไวใหแลว ตองเปนรางวัลที่ดีกวาที่พอจะใหอยาง เปรียบเทียบกันไมไดเลย ขอใหครูทิพยมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขเปนพิเศษในโอกาสปสกาปนี้ ในบรรดาผู ที่ได รั บศี ลล างบาปป นี้ มี ค รอบครั วหนึ่ งซึ่ งจะรั บศี ลล างบาปพร อมกั นทั้ งครอบครั วคื อ พอ แม และลูก 2 คน พวกเขามอบครอบครัวของเขาทั้งหมดแดพระ และยังมีอีกครอบครัวหนึ่ง ฝายภรรยาจะ รับศีลลางบาปปนี้ และฝายสามีกําลังเรียนคําสอนอยู คาดวาจะรับ ศีลลางบาปปหนา แตเรื่องที่มีความหมาย ตอพอมากที่สุดก็คือ ผูรับศีลลางบาปคนหนึ่ง ในขณะที่กําลังเรียนคําสอน เขาพบวา “เปนมะเร็งขั้นสุดทาย” แต เขาก็ยังคงมีความเชื่อเข็มแข็งมั่นคง ไมไดคิดวาทําไมพระเจาจึงใหเปนไปอยางนี้ แมสุขภาพจะไมแข็งแรงเลย แตเขาก็ยังขอรับศีลลางบาป ขอเปนลูกของพระจนถึงที่สุด พวกเราทุกคนขอเปนกําลังใจให จะสวดภาวนาให เปนหนึ่งเดียวกันในความเปนคริสตชน และขอขอบคุณในตัวอยางแหงความเชื่อที่เข็มแข็ง แมจะเปนคริสตชน ใหม แตความเข็ มแข็ งในความเชื่ ออาจจะมีมากกวาพวกเราซะอีก บางคนเพี ยงแต ไมพอใจอะไรบางอย าง ความเชื่อก็ไมมีความหมายซะแลว ปสกาปนี้ชางมีความหมายมากมายเหลือเกินสําหรับพวกเรา ขอใหความสุขแหงปสกาอยูในจิตใจของ พวกเราทุกคนเสมอ ใหเรารักพระมากขึ้น และรักเพื่อนพี่นองของเรามากขึ้นทุก ๆ วันนะครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 4 เมษายน 2010 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

27


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก คุณพ อดานิเอเล หรื อที่เรารู จั กในชื่ อคุ ณพอ “แดน” สงฆชาวอิ ตาเลี ยน คณะป เม ซึ่งมาอยู กับเรา เพื่อฝกฝนการใชภาษาไทยไดประมาณ 2 เดือน เวลานี้พูดภาษาไทยชัดแลว สามารถฟงแกบาปและสามารถเทศน ในมิ ส ซาวั น อาทิ ต ย ไ ด แถมยั ง เทศน ดี อี ก ด ว ย คุ ณพ อสนใจในเรื่ อง การฟ ง แก บาป และเตรี ย มการเทศน เตรียมการถวายมิสซาแตละครั้งอยางดี ดีกวาพอเองตั้งเยอะ ผูใหญของคณะมีความจําเปนที่จะตองใหพอไป ชวยงาน ตองกลับไปประจําที่วัดแมพระมหาการุณย ปากเกร็ด ไดขาวมาแวว ๆ วา จะตองทําหนาที่เปนผูถือถุง เงินของคณะดวย อาทิตยนี้พวกเราจึงมีพิธีอําลา คุณพอเล็ก ๆ นอย ๆ ขออวยพรใหคุณพอมีพละกําลังกาย และใจ ทํางานรับใชพระและเพื่อนพี่นองตามน้ําพระทัยของพระ พวกเราทุกคนจะเปนกําลังใจใหพอเสมอ มีเวลาก็กลับมาเยี่ยมเยียนกันบางนะครับ อาทิตยนี้พระวรสารพูดถึงเรื่อง “ความสงสัยของนักบุญโทมัส” โทมัสสงสัยวา พระเยซูเจากลับเปนขึ้นมา จริง ๆ หรือไม ไมเชื่อวาที่อัครสาวกองคอื่น ๆ บอกข อพิสูจนเสียกอน ความสงสัยจึงเปนเรื่องที่เกิดขึ้นได ในชีวิตของพวกเรา บางครั้งก็สงสัยในเรื่องใหญโต และหลายครั้งก็ในเรื่องเล็ก ๆ นอย ๆ ไมแปลกอะไรหรอกครับ พระศาสนจักรเองก็สงสัยอยูหลาย ๆ อยาง ยกตัวอยางงาย ๆ - พระศาสนจักรเคยสงสัยวา แมพระประจักษจริง ๆ หรือ ที่เมืองลูรด ตั้งกรรมการสอบสวนอยู หลายตอหลายป จนในที่สุดเหตุผลไมสามารถอธิบายได พระศาสนจักรประกาศรับรอง - พระศาสนจักรเคยสงสัยวา แมพระประจักษมาจริง ๆ หรือ ที่ฟาติมา ก็ตั้งกรรมการสอบสวนโดย ละเอียด - พระศาสนจั ก รกํ า ลั ง สงสั ย ว า แม พ ระประจั ก ษ ม าที่ เมดจู ก อเร จริ ง หรื อ เวลานี้ ก็ กํ า ลั ง ตั้งกรรมการสอบสวนอยูยังไมรูผล - พระศาสนจักรสงสัยวา ผาหอพระศพพระเยซูเจาที่ตูริน เปนผาหอพระศพ พระเยซูเจาหรือไม ก็ใหนักวิทยาศาสตรเขามาพิสูจน แมตอนนี้ก็ยังพิสูจนไมเสร็จสิ้น - พระศาสนจักรสงสัยวา พระสันตะปาปายอหนปอลที่สอง อยูบนสวรรคแลวหรือยัง เวลานี้ก็กําลัง พิสูจนกันอยู ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกหลายรอย หลายพันเรื่องที่พระศาสนจักรกําลั งสงสัยอยู แมใ นเรื่องความเชื่ อ บางอยางดวย พระศาสนจักรตองยอมรับดวยวา วิทยาศาสตรเราก็ยังไมสามารถหาคําตอบที่ตนเองสงสัยอยู และไมสามารถหาคําตอบไดดวย พระเปนเจาจึงใหเรามี “ความเชื่อ” หลายอยางเหตุผลไมสามารถเขาถึง เหตุผลไมสามารถตอบคําถามได แตความเชื่อเทานั้นทําได แมแตอิจฉริยะอยาง อัลเบิรต ไอนสไตนเอง ก็ยังตอง ยอมอ อนน อมต อ “ความเชื่อ” ดังนั้ นความสงสัยของโทมั สจึ งมี ค วามสําคัญ น อ ยกว า ความเชื่ อของท าน คําตอบของโทมัสลึกซึ้งและกินใจกวาคําถามของทาน “องคพระผูเปนเจาของขาพเจา และพระเจาของ ขาพเจา”และคําพูดขององคพระเยซูเจาเองก็ชางแจมแจงชัดเจนจริง ๆ ครับ “ทานเชื่อเพราะไดเห็นเราผูที่เชื่อ แมไมไดเห็น ก็เปนสุข” พี่นองครับเรามีความสงสัย เรามีคําถามไดมากมายในทุกเรื่องแมเรื่องความเชื่อ พอเอง ก็สงสัยและ หลายอยางก็ยังหาคําตอบไมได แตคําถามและขอสงสัยเหลานั้นไมสามารถทําใหเราตองสูญเสียสิ่ งที่มีคาที่สุด ในชีวิตของเราไป นั่นคือ “ความเชื่อ” ใหเราเพิ่มพูนความเชื่อของเราเสมอดวยการสวดภาวนา ไวใจพระ และ ไวใจในพระเมตตาของพระ พระเปนเจาใหของขวัญที่ดีที่สุดแกเราแลว *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 11 เมษายน 2010 ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

28


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ตามปกติหนารอนในบานเราก็รอนเอามาก ๆ โดยเฉพาะเดือนเมษายน ปญหาที่ตามมาของ หนารอนก็คือการแตงตัวโดยเฉพาะการแตงตัวมาวัด ที่ประเทศอิตาลี โดยเฉพาะที่กรุงโรมก็มี อากาศรอนมากๆ ในฤดูรอนเหมือนกัน และก็พบกับปญหาเดียวกันดังนั้นตามวัดตาง ๆ เขาก็จะมี ประกาศเรื่องการแตงตัวทั้งของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี สําหรับสุภาพบุรุษหามสวม T-shirt เขาวัด และสําหรับสุภาพสตรีตองสวมกระโปรงคลุมเขา ที่วัดเรายั งคงไมตองออกระเบียบ กฎเกณฑมากถึงขนาดนั้น เพราะอันที่จริงพอก็ใหเกียรติเสมอวา “เราคงรูอยูแลววาควรแตงตัว อยางไรไปวั ด ไปเขาเฝาพระเจาของเรา” พี่ นองคงจําพระสันตะปาปายอหนที่ 23 ไดนะครั บ พระองคเป นบุ ญราศีในป 2000 เวลาที่ นํ าพระศพของพระองค ขึ้ นมาจากที่ ฝ งศพใต มหาวิหาร นักบุญเปโตรมาตั้งไวในมหาวิหาร ใบหนาของพระองคไมเนาเปอย หนาตายังคงผองใส ยิ้มแยม ออนโยนเหมือนเดิมเลย กอนที่พระองคจะเปนพระสันตะปาปา พระองคทําหนาที่ทางการทูตใหแก สันตะสํานัก พวกทูตก็มักจะมีการเลี้ยงเสมอ ๆ ตองจัดงานเลี้ยง ตองไปรวมงานเลี้ยง ในงานเลี้ยง ครั้งหนึ่ง พระองคนั่งกับสตรีผูหนึ่ง ซึ่งแตงตัวโปมากๆ แตพระองคก็มิไดตรัสวาอะไรเลย หลังอาหาร พระองคก็สงลูกแอปเปล ลูกหนึ่งใหกับสตรีผูนั้น เธอจึงถามพระองควา “พระคุณเจาใหแอปเปลแก ดิฉันทําไม?” พระองคจึงตอบวา “เปนสิ่งที่ตองทํากับ เอวา เพราะจนกระทั่งเอวาไดทานแอปเปลจึงรู วาตนเองเปลือยกายอยู” พอไมทราบจริงๆ วาสตรีผูนั้นรูสึกอยางไร หรือมีเหตุการณอะไรตอไป แตคุณพอทานหนึ่งไดเลาเรื่องนี้ใหสัตบุรุษที่วัดของทานฟงเพราะสัตบุรุษแตงตัวไมเรียบรอยมาวัด จะพูดวาเสีย ๆ หาย ๆ ก็ไมดเี พราะเปนเรื่องละเอียดออน คุณพอก็เลยพูดออมๆ วาบางทีเรานาจะมี ตระกราแอปเปลไวหนาวัด และหากใครไดรับแจกผลแอปเปลก็คงจะตองรูเหตุผลวาทําไมจึงไดรับ แจกผลแอปเป ล พี่ น อ งแต ง ตั ว ให สุ ภ าพเรี ย บร อ ยและให เ กี ย รติ พ ระอย า งนี้ ดี แ ล ว นะครั บ แอปเปลเดี๋ยวนี้ก็ไมใชจะราคาถูก อันที่จริงเรื่องนี้เปนเรื่องที่มาจากคําถามงาย ๆ คําถามเดียว กับที่พระเยซูเจาถามนักบุญเปโตรในพระวรสาร “เปโตร เจารักเราไหม” เพียงแตวาพระองคถามถึง 3 ครั้ง และทุกครั้งที่เปโตรตอบ พระองคก็จะมอบหมายบางสิ่งบางอยางที่สําคัญใหทํา ดังนั้น ถาหากเราตอบวา “เรารักพระองค” เราก็รูวาเราจะตองทําอะไรบาง เริ่มตนจากเรื่องที่งายที่สุดก็ คื อการให เกี ยรติ พระ นี่ ยั งไม ต อ งพู ด ถึ ง การทํ า ตามที่ พ ระต อ งการ ตามที่ พ ระองค ท รงสอน มีคนเคยสอนพอวา เวลาที่เราแตงตัวไปวัด พยายามแตงตัวให “Attractive” คือใหมีเสน ห ไมใชแตงตัวจนกระทั่ง “Distractive” หมายถึง ดึงความสนใจจากผูคนมากไป ปญหาของเราก็คือ เราคิดวาเราแต งตั วแบบนี้ มีเสนห ทั้ ง ๆ ที่ เป นการดึ งความสนใจชัด ๆ ขอบคุ ณพี่น องทุก ทา น ที่แตงตัวอยางเหมาะสมมาวัด พระวรสารอาทิ ตยนี้ยังมี อีกตอนหนึ่งที่น าคิดมาก ๆ พอ ไมเขา ใจวาทํา ไมบรรดาสาวก จําพระเยซูเจาไมได แมจะพูดกันวา นั่นคือพระอาจารย พวกเขารูวาเปนพระอาจารย แตดูเหมือนไมใช ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

29


คนเดิมกอนการกลับคืนพระชนมชีพ นึกดูงาย ๆ ตอนที่เดินรวมทางไปกับศิษยสองคนไปเมือง เอมมาอุส ศิษยสองคนนี้ก็จําพระอาจารยไมไดจนกระทั่งเวลาที่พระองคทรงปขนมปงจึงจะจําได แสดงวา ในการกลับคืนชีพของพระเยซูเจาและวันหนึ่งของเราทุกคนดวยจะตองเปนตัวเรานี่แหละ แตในลักษณะใดนั้น ไมทราบแนชัด แตก็คงจะไมเหมือนอยางที่เราเปนแบบนี้ซะทีเดียว นี่พอก็คิดไป เรื่อย ๆ ประเด็นที่สําคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือ บางครั้งเราก็จําพระเยซูเจาไมได บางครั้งเรา อาจจะไมรูจักพระองคเลย และบางครั้งเราอาจจะไมรักพระองคเลย นี่เปนประเด็นที่สําคัญ มาก เราอาจจะไมเคยพบพระเยซูเจาในพี่นองเพื่อนมนุษยของเรา เราอาจจะเปนศัตรูดวยซ้ํากับ เพื่อนมนุษยบางคน เราจําพระเยซูเจาไมไดเลย ก็ตอนที่เราทําบาปดวยความตั้ งใจและเต็มใจทํา เวลาที่ เราทํ าสิ่ งต าง ๆ เพื่ อให เกี ยรติ พระไม ว าจะเป นการสวดภาวนา การแห ต าง ๆ การไปวั ด รวมพิธีกรรมตาง ๆ เราก็กําลังใหเกียรติตนเอง และก็กําลังใหเกียรติเพื่อนพี่นองของเราทุกคนดวย อยาลืมนะครับ เรารักพระมากเทาไร เราก็ใหเกียรติพระมากขึ้นเทานั้น ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 18 เมษายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

30


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พอเพิ่งจะเรียนรูเรื่องของ “แกะ” เพิ่มขึ้นมาอีกนิดหนอย แกะเปนสัตวที่ไมมีไหวพริบเลย ออนแอและไมฉลาดเอาซะเลย เปรียบเทียบงาย ๆ ก็คือ สุนัขและแมว ยังรูจักวิธีกลับบานเองได แตแกะนี่ถาหากหลงไปจากฝูงเมื่อไรก็จะเดินสะเปะสะปะไปเรื่อย ๆ ไมมีทางกลับบานเองไดเลย จนกวาจะมีคนไปพบและพามันกลับบาน พระวรสารอาทิตยนี้พูดถึงเรื่อง แกะนี่แหละ พระเยซูเจาเขาใจชีวิตของแกะดีจึงนํามาเปรียบเทียบกับเราทุกคน เวลาที่เราไดยินพระองคตรัสวา “ไมมีใครแยงชิงแกะเหลานี้ไปจากมือเราได” อีกตอนหนึ่ง “และไมมีใครแยงชิงไปจากพระหัตถของ พระบิดาได” ทําใหพอรูสึกและเขาใจมากยิ่งขึ้นวา พระเยซูเจาหวงแหนแกะของพระองคยิ่งกวา สิ่งใด ตัวไหนอยูไหน ตัวไหนหลงไปไหนก็จะตองตามกลับมาใหครบทุกตัว ถามนุษยเราเปนคนซื่อ ๆ อยางเด็กเล็ก ๆ เราก็คงเปนเหมือนแกะที่ดีไมยากนักหรอก และจะกลายเปนที่หวงแหนของพระไม ยากนั ก เลย เพี ย งแต ม นุ ษ ย เ รามี ป ญ ญา และคิ ด ว า ตนเองฉลาด ก็ เ ลยทํ า ตั ว ไม ใ ช แ บบแกะ แตอาจจะแตกตางจากผูมีปญญาทั้งหลายซึ่งคิดวาเขาไมตองการพระเจาอีกตอไปแลว สามารถ กลับบานเองได ไมมีทางหลงไปไหนคําพูดของพระสงฆเม็กซิโก คนหนึ่งประทับใจพอมาก เขาเปน พระสงฆที่อยูในระหวางการเบียดเบียนศาสนาในประเทศเม็กซิโก และในที่สุดคุณพอองคนี้ก็ตาย อยางมรณสักขี ทานเปนพระสงฆที่ดําเนินชีวิตไมดีเลย ชอบดื่มสุราเมามาย และไดสมญานามวา พระสงฆวิสกี้ ทานพูดไวอยางนี้ครับ “ผมรูวาผมเปนพระสงฆเลว แตสิ่งที่ทําใหผมรูจักปวดราวใน หัวใจมากที่สุดก็คือ บรรดาสัตบุรุษที่กําลังคิดวาตนเองดีเหลือเกิน ” พวกที่คิดวาตนดี ตนฉลาด ก็กําลังหลงทางนั่นเอง และพวกนี้พากลับบานยากซะดวยเพราะเขาไมคิดวากําลังหลงทางอยู เราทุกคนจึงตองการนายชุมพาบาลที่ดี ตองการผูนําเรากลับบาน เราจึงตองการพระสงฆ นักบวชที่เปนนายชุมพาบาลที่ดี เวลาที่เราไดยินเรื่องราวของพระสงฆและนักบวชที่ไมดี ที่ไมสนใจ ที่จะตามหาลูกแกะ หรือพาลูกแกะกลับบาน เราก็รูสึกไมดีเลย พระสงฆและนักบวชบางคนก็ สนใจแตเรื่องของตนเอง สนใจแตเรื่องการหาเงินหาทองและการใชเงินใชทอง บางคนขับไลแกะ ออกจากฝูงซะดวย ก็ไดแตหวังวาพอคงไมเปนอยางนั้น เราจึงตางตองทําหนาที่ของตนใหดีที่สุด เปนนายชุมพาบาล และเปนลูกแกะที่ยอมฟงเสียงของนายชุมพาบาล หลายครั้งเราก็เรียกรอง ใหมีแตเฉพาะนายชุมพาบาลที่ดี แตเวลาเดียวกันตัวเรากลับไมยอมเปนแกะ พอแมก็พยายามดูแล ลูก ๆ พอแมก็จะตองทําตัวดี เปนตัวอยางและรูจักสั่งสอนลูก ๆ ไมตามใจจนเกินไป สวนลูก ๆ เองก็จะตองฟงเสียงพอแม เรื่องนี้คนที่เปนพอแมคงเขาใจดีวา “ไมใชเรื่องงาย ๆ” เราจึงตองรวมใจ กันครับ สวดภาวนา รวมมือกันในเรื่องตาง ๆ และโดยเฉพาะสวดภาวนาใหมีกระแสเรียกที่ดีมาก ๆ ไม มี ใครอยากเป นพระสงฆ ที่ ไม ดี หรอกครั บ ทุ กคนอยากเป นนายชุ มพาบาลที่ ดี ทั้ งนั้ นเหมื อนอย าง “คุณพอวิสกี้” แมตัวเขาเองจะประพฤติไมดี แตในใจเขาก็ยังคงเปนหวงลูกแกะของทาน ตลอดเวลา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

31


พี่ น อ งคงทราบดี แ ล ว ว า พระศาสนจั ก รของเรากํา ลั ง ขาดแคลนพระสงฆ แ ละนั ก บวช วัดหลายแหงทั้งในยุโรปและอเมริกากําลังประสบกับวิกฤตขาดแคลนพระสงฆ สมาชิกของนักบวช คณะตาง ๆ ในโลกก็กําลังประสบปญหาเดียวกัน มีวัดแหงหนึ่งในอเมริกาเปนวัดเล็ก ๆ เขียนปาย ติดไวที่วัดวา “เราตองการพระสงฆ พระสงฆซึ่งรักเราและใหเรารัก” ที่จริงไมจําเปนตองเปนวัด ที่ขาดแคลนพระสงฆหรอก เพราะแมแตวัดที่มีพระสงฆอยูแลวก็ตองการพระสงฆอยางนี้ และ ถาหากใหพระสงฆมีโอกาสเขียนปายติดหนาวัดในลักษณะนี้บาง พี่นองคิดวาพระสงฆควรเขียน อยางไรดี พอวาก็คงจะเขียนในลักษณะเดียวกันนี่แหละ เราทุกคนจึงตอง “รักที่จะเปนพระสงฆ รักที่จะเปนนักบวช และรักที่จะเปนลูกแกะ” อาทิตยนี้ใหเราสวดภาวนาเปนพิเศษสําหรับกระแสเรียกใหพระเยซูเจาผูกลับเปนขึ้นมา ทรงพระชนมอยูในชีวิตของพวกเราทุกคน

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 25 เมษายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

32


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ถ า พ อ ถามว า “บั ญ ญั ติ ข อ ใดสํ า คั ญ ที่ สุ ด ” เชื่ อ ว า พี่ น อ งทุ ก คนคงตอบได ไ ม ย ากนั ก เพราะเราได ยิ น บ อ ย ๆ ในพระวรสาร คํ า ตอบก็ คื อ จงรั ก พระเจ า สิ้ น สุ ด วิ ญ ญาณ สิ้ น สุ ด สติ ป ญ ญา สิ้ น สุ ด จิ ตใจ และจงรั ก ผู อื่ น เหมื อ นรั ก ตนเอง คราวนี้ ล องเอาพระวรสารวั น นี้ มาเปรียบเทียบดูนะครับ พระเยซูเจาตรัสวา “ทานทั้งหลายจงรักกันและกันเหมือนที่เรารัก ทาน” และก็ยังเคยตรัสเพิ่มเติมอีกวา “คนทั้งหลายจะรูวาทานเปนศิษยของเรา เมื่อทานทั้งหลาย รักกันและกัน” พระเยซูเจาไมไดเสนอแนะ ไมไดชักชวนเราให “รัก” ไมไดบอกวา “เราควรรักกันและ กัน” แตพระองคสั่งเราใหรักกันและกัน ถาพระองคเสนอแนะหรือชักชวนเรา เราสามารถปฏิเสธ ได แต ถ า พระองค สั่ ง เราปฏิ เ สธไม ไ ด แมเราปฏิ เสธไม ได แตเราก็ อาจจะยั งทํ าไม ได พี่ น อง ลองคิดตามพอดูนะครับวาหัวขอตอไปนี้จริงหรือเปลา 1. รักพระสิ้นสุดจิตใจ ไมยากเลย เราทําไดแน ๆ บางครั้งอาจจะบกพรองบาง แตเรา ก็ยังรัก แมเราจะมองไมเห็นพระ เราก็ยังเชื่อและรักพระไดเสมอ 2. รักคนที่เราไมรูจัก งายกวารักคนที่เรารูจักกันดี คนที่เรารูจักดี ๆ บางทีเราไมไดรักเลย แตรูจักเฉย ๆ เราไมเคยทําอะไรใหเขาดวยซ้ํา แตคนที่เราไมรูจักเลย เรากลับชวยเขา เต็มที่ เวลาที่เรารูวาเขากําลังลําบาก เชน ผูประสบภั ยพิบัติตาง ๆ คนยากจนที่เรารู ทางทีวีหรือขาวสาร หรือเวลาที่พอประกาศขอความชวยเหลือผูยากจน เราเต็มใจชวย แตเวลาญาติพี่นองเราเองขอความชวยเหลือ เรากลับลังเลใจ 3. บทจะรักเราก็รักงาย แตบทจะเกลียด ก็เกลียดแบบลืมไมลง เขาตําราวา รักมาก ก็เกลียดมาก 4. ถารักหมายถึงเพียงแค “ชวยเหลือ” ก็เปนเรื่องไม ยากเกิ นไป แตถารักหมายถึ ง “ใหอภัย” มันเปนเรื่องยากแสนยาก เราชอบที่จะชวยเหลือ แตเราไมชอบที่จะใหอภัย ถาเราชอบที่จะใหอภัยก็มิไดหมายความวา เราสามารถอภัยได เราอาจจะอภัยคนบางคนได แตเราจะอภัยใหกับทุกคนไมได ถาจะตองใหอภัยศัตรูดวยแลว ยิ่งไมมีทางเปนไปไดเลย อภัยคนที่ ทํารายเราทั้งกายและใจ อภัยคนที่โกงเรา อภัยคนที่คอยกลั่นแกลงเรา ปญหาเกือบทั้งหมดในเรื่อง บัญญัติแหงความรัก มักมาตกอยูที่ปญหาของการใหอภัย เราจะสามารถให อภั ยศั ตรู เหมื อนที่ พระเยซู เ จ าทรงให อภั ยผู ที่ ทํ าร า ยพระองค บนไม กางเขน “พวกเขาไมรูวากําลังทําอะไร” มีคริสตังจํานวนไมนอยที่กําลังตอสูกับตัวเอง พยายามที่จะทําใจ และใหอภัยเพราะเขาใจดีถึ งคําสั่งของพระเยซูเจา บางครั้งก็สําเร็จครับ บางครั้งก็ ไมสําเร็ จ บางทีก็สําเร็จแคชั่วครั้งชั่วคราวเทานั้น พอรับทราบเรื่องราวเหลานี้ดวยความเห็นอกเห็นใจและ เขาใจดีถึงความยากลําบาก พอเองก็รูสึกลําบากไมนอยไปกวากัน เพียงแตพอไมคอยจะมีเรื่องที่ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

33


จะตองใหอภัยใคร มากนัก สวนใหญมักจะไมใหอภัยตัวเองมากกวา พอมักจะสอนคนที่มีปญหาเหลานี้ ดวยคําสอนงาย ๆ วา กอนอื่นหมด ใหอภัยตัวเอง ใหไดเสียกอน แลวจึงพยายามใหอภัยผูอื่น หากยังใหอภัยไมได ก็ขอเพียงแต สวดภาวนาใหเขา ถาหากแมวา สวดภาวนาก็ยังสวดใหไมได ก็ใหพยายามเริ่มตนสวดตอไป ขออภัยดวยที่พอไมสามารถสอนเรื่องความรักที่ตองใหอภัยไดมาก ไปกวานี้ แตก็ขอเปนกําลังใจใหพี่นองทุกคนที่กําลังตอสูภายในมโนธรรมของตนที่จะใหอภัยคน บางคน แตยังทําใจและเอาชนะใจตนเองไมได ใหพยายามสวดภาวนา และพยายามใหอภัยตอไป ศัตรูตัวจริงของเรื่องนี้ไมใชใครที่ไหน ก็คือ ตัวเรานั่นเอง มีความลับอยูอยางหนึ่งที่พระเยซูเจา พยายามที่จะบอกกับเรา นั่นก็คือ ทุกครั้งที่เราสามารถใหอภัยกับพี่นองที่เรารูสึกวาใหอภัยไมได เวลานั้น เราพบกับสันติ และความสงบสุขภายในอยางเปยมลน แบบที่เราไมสามารถหาไดจาก ที่ใดเลยในโลกนี้ ความสุขใจแบบนี้หลายคนเคยพบมาแลว คนที่ตองการอภัย พระเจาประทาน พระกําลังใหเสมอ พยายามตอไปนะครับ พี่นองจะพบกันสันติสุข ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 2 พฤษภาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

34


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ในสมั ยสมเด็ จ พระนารายณ ม หาราช (1656 – 1688) พวกเราคริ ส ตั ง ได รั บ พระมหา กรุณาธิคุณอันใหญหลวง ใหสามารถปฏิบัติศาสนกิจไดอยางอิสระ มีทูตฝรั่งเศสจากพระเจาหลุยสที่ 14 เขามาเจริญสัมพันธไมตรีชื่อวา Simon de la Loube`re ไดเขียนบันทึกไวเลมหนึ่งเกี่ยวกับ อาณาจักรไทยสมัยนั้น มีตอนหนึ่งเขียนเกี่ยวกับศาสนาคาทอลิกไวอยางนาสนใจมาก และในนั้น ก็บันทึกบทภาวนาบางบทที่ สําคัญ ๆ เอาไวดวย คริ สตังสมัยนั้นสวดบท “ขาแต พระบิดาของ ขาพเจาทั้งหลาย” แตกตางจากสมัยนี้อยางสิ้นเชิง แตคําที่เขาใชนั้นดูออนโยน นิ่มนวลและซึ้งใจ เขาสวดวาอยางนี้ครับ “พอเราอยูสวรรค ชื่อพระใหปรากฎทุกแหง เมืองพระขอใหไดแกเรา” พวกเขาเรียกพระเปนพอ ดูใกลชิดสนิทสนมดีจริง ๆ พี่นองเอาไปเทียบกับคําสอนของพระเยซู เวลาที่สอนใหเราสวดบทนี้ พระองคสอนใหเราเรียก พระบิดาวา “อับบา” ซึ่งแปลวา “พอ หรือ เตี่ย หรือ ปา หรือ แดดดี้ นั่นเอง เปนคําที่สนิทสนม บทขาแต พระบิดาของเราในปจจุบันเปนบทที่ 7 แลวที่ไดรับการแกไข ปจจุบันเราคุยกับพอเราโดยใหเกียรติสูงสุด เราจึงขอใชราชาศัพทตาง ๆ ดวย ถึงตอนนี้เราคงไมสามารถหันหลังกลับไปใช “พอเรา” ไดอีกแลว แตหากวาเราใกลชิดกับ พระพอเพียง เราก็ สามารถคุ ยกับ พระองคได แบบเดี ยวกั บพ อลูก ที่ใกลชิ ดกัน สํา คัญ ตรงที่ว า เราใกลชิดกับพระมากพอแลวหรือไม พอขอเลาตัวอยางหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเปรู พระสงฆองคหนึ่งตองการไปเยี่ยมสัตบุรุษ ในเขตวัด แตพื้นที่นี้อยูบนเทือกเขาแอนดีส การเดินทางตองใชมา พอก็ขี่มาขึ้นไปบนเทือกเขา ดวยความที่ไมคุนเคยเสนทาง ในที่สุดก็หลงทางทานก็เลยปลอยมาไป และพยายามมองหาแสงไฟ พอเห็นกระทอมหลังหนึ่งจุดตะเกียงอยูพอเดินไปถึงกระทอมชายหนุมคนหนึ่งก็รีบออกมาพรอม ตะเกียง ตะโกนดวยความดีใจวา “พอ พอมา ผมรูวาพอตองมา” พอองคนี้แปลกใจมาก เพราะ ปกติเวลานั้นเปนเวลาที่คนเหลานี้จะตองนอนแลว และเขารูไดอยางไรวาทานจะมา จึงถามชายหนุม นั้นวารูไดอยางไรวาทานจะมา ทานไมไดบอกใครและก็มาถึงก็เพราะหลงทางชายหนุมตอบวา “แมผมสวดภาวนาทั้งวันขอใหมีพระสงฆมา ทานกําลังจะตายครับ ” พอจึงเขาไปในบาน ฟงแกบาป และโปรดศีลเจิมใหแกแมของชายหนุม และศีลเสบียงดวย หญิงชราผูนี้จึงพูดออกมา ดวยความสุขใจอยางยิ่งวา “Taita Dios ฟงคําภาวนาของลูกแลว” คําวา Taita เปนคําภาษา สเปน ซึ่งใชเรียกพอที่สนิทสนมกัน เปรียบเทียบไดกับคําวา Daddy หรือ ปา ฟงคําภาวนาจริง ๆ หญิงคนนี้ไมใชเพียง เชื่อ และไวใจพระเทานั้น แตมีความใกลชิดสนิทสนมกับ พระอยางพอลูกนา ประทับใจจริง ๆ พระวรสารอาทิตยนี้ พระเยซูเจาตรัสสอนวา “ผูใดรักเรา ผูนั้นจะปฏิบัติตาม วาจาของเรา พระบิ ด าของเราจะทรงรั ก เขา” พระบิ ด าจะเสด็ จ พร อ มกั บ เรามาหาเขา พระจิตเจาจะสอนทานทุกสิ่ง” นี่คือความใกลชิดกันอยางที่สุดของพระตรีเอกภาพ พระเจาตองการ ใกล ชิ ด และสนิ ท สนมกั บ มนุ ษ ย อ ย า งเรา และพยายามสอนให เ รารู จั ก ถึ ง ความใกล ชิ ด นี้ ด ว ย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

35


ยิ่งเราใกลชิดกับพระมากเทาใด เราก็ยิ่งมีความไวใจพระมากเทานั้น เชนเดียวกับหญิ งที่กําลังจะ ตายคนนี้ และพระบิดาก็ฟงคําภาวนาของเราทุกอยาง แตคิดไปคิดมา เราก็ยังไมแนใจวาใกลชิด กับพระบิดาเพียงใด ออกจะหางเหินดวยซ้ําไป สวดภาวนาเพียงพอหรือเปลา ไปวัดสม่ําเสมอ แกบาปรับศีล และอื่น ๆ เสียดายเหมือนกันที่เราไมคอยมีคําที่ใชแบบใกลชิดกับพระเหมือนกับ ภาษาอื่น ๆ เขา เราไดใหเกียรติพระอยางที่สุดแลว แต เราก็สามารถที่จะใกลชิดกับพอแท ๆ ของเรา เวลาที่เราพูดคุยกับพระองค ตอนที่เราภาวนาสวนตัว พูดถึงภาวนาสวนตัวก็เปนเรื่อง ที่เราควรคิดและใชเสมอ ๆ เพราะเปนวิธีการที่จะนําพาเราใหใกลชิดกับพระไดอยางดีที่สุด เวลาที่เราภาวนาสวนตัวกับพระ เราสามารถพูดคุยไดทุกเรื่อง เลาอะไร ๆ ที่เราไมรูจะเลา ใหใครฟงดี พระฟงเราครับ และไมใชแตฟงอยางเดียว พระหาทางที่ดีที่สุดชวยเราดวย บางที เราคิดวาไมไดชวยเลย แตแทที่จริงชวยครับ เราตองไวใจอยางหญิงที่ปวยคนนี้ เธอและลูกชายรู วา “พอตองมา”

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 9 พฤษภาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

36


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พอเขามารับหนาที่เจาอาวาสตั้งแตวันที่ 10 พฤษภาคม 2009 นับมาจนถึงวันนี้ก็ครบ 1 ป พอดี เวลาชางผานพนไปเร็วเหลือเกิน พอเริ่มเขียนสารวัดฉบับแรกก็ตรงกับวันสมโภชพระเยซูเจา เสด็จขึ้นสวรรค คือ 24 พฤษภาคม 2009 และก็เขียนเรื่อยมาทุกสัปดาห พอชอบอานยอนหลัง สิ่งที่พอเขียนไว เพื่อวาจะไดไมเขียนซ้ํา กลัวพี่นองจะเบื่อ แตก็เชื่อวาแมจะเขียนซ้ํา พี่นองก็คงจะจํา ไมไดหรอก ที่จําไมไดเพราะวาเรื่องมันนานมาแลว หรืออาจจะไมไดอานเลยก็ได พอเพียงบันทึกไว ในสารวัดเพื่อเตือนความจําเรื่องตาง ๆ ที่เกิดขึ้นในวัดของเราเทานั้นเอง ขอบคุณพระและพระมารดา นิจจานุเคราะหสําหรับ 1 ปที่ผานมา เปนวันเวลาที่ดีมากสําหรับพอและก็หวังวาจะเปนเวลาที่ดีสําหรับ พี่นองทุกทานดวย วันนี้เราสมโภชพระเยซูเจาเสด็จขึ้นสวรรค พระเยซูเจาคลายๆ จะบอกกับเราวา เราตอง พยายามตามพระองคไปสวรรคใหไดนะ อุตสาหแบกกางเขนตามพระองคมาจนถึงเขากัลวารีโอแลว ก็น าจะต องตามไปจนถึ งสวรรค ที่ จริ งพระเยซู เจ าก็ ไม ได ไปไหนหรอกครั บก็ อยู กั บเรานี่ แหละ เพียงแตกลัวเราลืมสวรรคเทานั้นเอง การมีชีวิตในโลกนี้ก็อาจทําใหเราลืมที่จะไปสวรรคก็ได พี่นอง ลองนึกถึงคนที่กําลังจะจากเราไปสิครับ อาจเปนพอแมพี่นองเราเองก็มักจะสั่งเสียเรื่องบางเรื่อง กลัวพวกเราจะลืม บางคนกอนตายก็มักจะสั่งเสียลูก ๆ วา “ใหลูก ๆ รักกันนะ มีอะไรก็ชวยเหลือกัน” บางคนก็จะสั่งวา “รักพระนะ อยาลืมไปวัด สวดภาวนา ไปแกบาปรับศีล ” อะไร ๆ ทํานองนี้ ก็ดวยเหตุผลงาย ๆ ครับคือ คนที่จะจากไปเขาเปนหวงเรา และ กลัวเราลืม ก็เหมือนพระเยซูเจา ที่เปนหวงเราและก็กลัวเราจะลืม พระองคก็สั่งวา “จงเปนทุกขกลับใจ ประกาศใหนานาชาติ กลับใจ เพื่อรับศีลอภัยบาป” พระองคยอมสิ้นพระชนมก็ดวยเหตุนี้เอง มีเรื่องนารัก ๆ เกี่ยวกับการยอมตายของเด็กชายเล็ก ๆ คนหนึ่งครับ เด็กคนนี้ชื่อจอนหนนี่ เป น เด็ ก ที่ เ คยติ ด เชื้ อ โรคชนิ ด หนึ่ ง และก็ รั ก ษาตั ว จนหาย ต อ มาพี่ ส าวของจอห น นี่ ก็ ติ ด เชื้ อ นี้ เชนเดียวกัน แตอาการหนักกวากันมาก หมอลงความเห็นวาวิธีที่จะชวยรักษาชีวิตของเธอไดก็คือ การถายเลือดจากเลือดของผูที่เคยติดเชื้อนี้มาแลว ไมมีใครเหมาะเทากับเด็กนอยจอหนนี่ ผูนาสงสาร เขาเปนคนกลัวเข็มมาก หมอมาถามจอหนนี่วา “หนูจะยอมใหเลือดแกพี่สาวหรือ เปลา?” จอหนนี่ตกใจตัวสั่นและก็ลังเลใจ แตหลังจากคิดอยูชั่วขณะ จอหนนี่ก็ตอบหมอวา “ตกลง ครับ เพื่อพี่สาวของผม” ทั้งสองคนถูกนําเขามาอยูในหองถายเลือด ไมไดพูดอะไรกัน เพียงแต สบตากันเทานั้น ระหวางที่ถายเลือดจอหนนี่มีอาการสั่นเทา เมื่อถายเลือดเสร็จเรียบรอยแลว พี่นองทราบมั้ยครับวาจอหนนี่ถามหมอวาอยางไร คําถามนี้ทําใหเราเขาใจจอหนนี่มากกวาที่เราคิด เขาถามหมอวา “หมอครับ ผมจะตายตอนไหนครับ?” จอหนนี่ตัวสั่นเทา เพราะเขาคิดวาการให เลือดแกพี่สาวนั้นหมายความวา เขาจะตองตายเพื่อใหพี่สาวมีชีวิตอยู และเขาก็เต็มใจตาย เพื่อพี่สาว ของเขา พระเยซูเจาก็เปนเชนนี้ครับ ยอมตายเพื่อใหเรามีชีวิต ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

37


จะมี อ ะไรที่ ทํ า ให พ อ แม มี ค วามสุ ข เท า กั บ การเห็ น พี่ น อ งรั ก กั น ช ว ยเหลื อ กั น และจะมีอ ะไรเปน ทุ กข เท า กับ การเห็น พี่ นอ งทะเลาะกั น เกลีย ดชัง กัน นี่เ ป นความห วงใย ของพระ เปนความหวงใยของพอแมทุกคน โอกาสที่เราสมโภชพระเยซูเจาเสด็จขึ้นสวรรคนี้ใหเรา จูงมือพี่นองของเรา ญาติ ๆ เราไปสวรรคดวยกัน ใครที่ทะเลาะกันก็ยกโทษกันซะ ใครที่ไมคอย ไดมาวัดมาวา ก็ชวยกันตักเตือน ใครไมไดมาแกบาปก็แนะนําเขาหนอย ใหกําลังใจเขาหนอย รักกันไวเถอะครับ จะชวยใหเรากาวหนาไปได พระเยซูเจาทรงเปนหวงเปนใยเราทุกคน พระองคทรงสั่งเสียเราไวหลายอยาง แตก็ดู เหมือนวาคําสั่งเสียที่สําคัญที่สุดกอนที่พระองคจะเสด็จสูสวรรคก็คือ “จงรัก...” ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 16 พฤษภาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

38


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก “สมโภชพระจิตเจ า ” คนสมัยกอนรู จั กวั นสมโภชนี้ในชื่อวา “เปนเตคอสเต” ซึ่ งเปนคํ า ที่มาจากภาษากรีกแปลวา “50 วัน” หมายถึง วันฉลอง 50 วันหลังจากปสกา ชาวยิวทําการฉลอง นี้ ก็เพื่อเตือนความจําถึงวั นที่พระเจาประทานบัญญัติ 10 ประการใหแกพวกเขาที่ภูเขาซีนาย มาถึงสมัยพระเยซูเจา 50 วันหลังปสกา พระเจาประทานพระจิตของพระองคเองใหแกเรา นี่คือ ที่มาของวันสมโภชนี้ ที่จริงพระจิตเจามีชื่อหลายชื่อครับ พระคัมภีรใหชื่อพระจิตไวอยางนาสนใจ เชน ใหชื่อวา “พระผูชวย” “พระผูบรรเทา” ไหนๆ ก็พูดถึงพระจิตเจาแลวก็ขอตออีกหนอย เราพบ สัญลักษณ ของพระจิตในพระคัมภีรที่เราคุนเคยกันดี ก็ คือ นกพิราบ และลิ้นไฟ นกพิ ราบเป น สัญลักษณ หมายถึง สันติภาพ และ ลิ้นไฟ หมายถึง ความรอนรน และ ฤทธิอํานาจ นี่ก็ทําให เราเขาใจอยางชัดเจนวา พระเยซูเจามิใชเพียงแตมอบบัญญัติแหงความรักแกเราเทานั้น แตยังมอบ พระจิตเจาซึ่งจะชวยใหเราพบกับสันติสุขแทจริง สันติสุขที่โลกนี้ใหเราไมไดและยังใหพละกําลัง แกเรา ใหเรามีใจรอนรนในคําสอนของพระองคอีกดวย เราเรียกพรเหลานี้วา พระคุณ 7 ประการ ของพระจิตเจา เทาที่พอพูดมานี้ก็แสดงวาพระจิตเจาทําหนาที่หลายอยางเหลือเกิน ตั้งแตการบังเกิดมา ของพระเยซูเจา จนกระทั่งปจจุบัน พระจิตก็ยังทํางานอยูในพระศาสนจักรของเรา เวลานี้พอหวังอยางเหลือเกินวาอยากใหพระจิตเจาทํางานในจิตใจของพวกเราคริสตชน ชาวไทยทามกลางความปนปวนวุนวายภายในบานเมืองของเราเราอยูทามกลางความเกลียดชัง การสาบแชง การตอสู และการประหัดประหารกัน เราเครียดเกี่ยวกับเหตุการณมากมายที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเราไมมีที่วางสําหรับความเมตตา การใหอภัย พอเศราใจและหดหูใจมาก เวลาที่ไดยินคริสตชน บางคนสาปแชงคนนั้นคนนี้ใหตาย ๆ ไป บางคนมาถามพอวาบาปมั้ยที่เราอยากใหคนบางคนตายไปซะที ดีนะที่คน ๆ นั้นไมใชพระเยซูเจา หากพระองคคิดอยางนี้บาง ปานนี้พระองคก็คงไมตองถูกตรึงกางเขน และพระองคก็คงจะไมตองใหอภัยคนที่กําลังประหารพระองค บานเมืองเราตกต่ําลง แตที่นาเสียใจ กวานั้นอีกก็คือ จิตใจของเราก็ตกต่ําลงไปดวย ขออยาใหเปนเชนนั้นเลยในหมูพวกเรานะครับ ความโกรธเปนธรรมชาติของมนุษยครับ โกรธไดครับ แตอยาถึงกับ “เกลียด” กันเลย อยาใหปศาจทํางานในจิตใจของเรา ขอใหพระจิตเสด็จลงมา นําไฟรักมาสูหัวใจของเราดีกวา พอก็คงจะทําไดแคเตือน พี่นองเทานั้น คําเตือนที่ดีกวาเปนของพระเยซูเจาครับ พระองคตรัสวา “ทุกคนจะรูวาทานเปนศิษยของเรา เมื่อทานทั้งหลายรักกันและกัน” เรื่องนี้เครียดเกินไปแลวครับ มาคุยกันเรื่องพระจิตเจาที่ไมตองทํางานเครียดเกินไปดีกวา เปนเรื่องของชาวสวิสครับ พี่นองก็ทราบดีกวา ชาวสวิสเปนบิดาแหงนาฬิกา คิดคนการทํานาฬิกา ไขลาน และตอมาเปนผูคนพบวิธีการสรางนาฬิกากันน้ําไดกอนใคร ในป 1968 ก็คือ 42 ปที่แลว มีการสํารวจและพบวา ชาวสวิสเปนเจาของตลาดนาฬิกาของโลก และจะเปนเจาของตําแหนงนี้ไปอีก อยางนอย 50 ป แตอีกเพียงแค 12 ปตอมาคือในป 1980 เทานั้นปรากฎวา สวิสครองตลาด ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

39


นาฬิกาของโลกเพียง 10% เทานั้นเอง สาเหตุก็คือ การสรางนาฬิการะบบควอทซ ที่แปลกก็คือ ชาวสวิสเปนคนสรางนาฬิการะบบนี้ขึ้นมาเอง แตคนสรางนาฬิกาชาวสวิสรับไมไดกับระบบใหมที่ไมมี ปุมหมุนและไมมีสปริง พวกเขาก็เลยไมสรางนาฬิกาแบบนี้ออกขาย ชาติอื่น ๆ ก็เลยแซงหนาไปเลย บางทีเราก็อาจจะเปนอยางชาวสวิสนี่แหละ นิยมชมชอบแตความคิด ความเห็นเดิม ๆ ไม ยอมเปลี่ ยนแปลง หรือ ยอมรับ ความคิ ด เห็ น ใหม ๆ บ า ง บอกแต เ พียงว า มั น แปลกเกิน ไป ใหมเกินไป ไมเหมือนที่ฉันคิด บางคนก็อาจบอกวาเสี่ยงเกินไปที่จะนําสิ่งใหมเขามา อาจจะไมดีกวา ก็ได นาฬิกาสวิสก็ยังคงเปนนาฬิกาที่ดีและดีมากดวยนะครับ แตก็มิไดหมายความวา ไมควร มี นาฬิ กาควอทซ เ ข า มาในโลก พระจิ ต เจ า ทํ า งานแบบนี้ แ หละครั บ จิ ต ใจเดิ ม ที่ ดี อ ยู แ ล ว พระองคชวยใหดีขึ้น และเพิ่มเติมจิตใจใหมใหแกเรา เพื่อใหเรามีจิตใจที่สูงสงขึ้น ใจกวางมากขึ้น และสามารถเปดจิตใจของเรา ยอมรับจิตตารมณใหม ๆ ที่ดี ๆ แกเรา เปดใจของเรานะครับ ในนั้นมีความรักและสันติสุข ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 23 พฤษภาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

40


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันนี้เราสมโภช “พระตรีเอกภาพ” ขอความเชื่อซึ่งเปนรหัสธรรม สติปญญามนุษยไมสามารถ เขาถึงได พระสงฆไมคอยชอบวันนี้เทาไหร อยางนอยพอคนหนึ่งดวยเหตุผลที่วา เปนวันสมโภชที่พวกเรา เทศนยากมาก จะเทศนยังไงครับในเมื่อเหตุผลไมสามารถอธิบายได ขอความเชื่อนี้ก็คือ “พระบิดา พระบุตร และพระจิต สามพระบุคคลในพระเจาหนึ่งเดียว” พอเลยคิดวาถาอธิบายยากนัก ก็เริ่มตน กันดวยเรื่องงาย ๆ กอนก็แลวกัน เมื่อประมาณ 1700 ปที่แลว มีชายคนหนึ่งชื่อ เอเรียน (Arian) (ไม ใช Alien นะครั บ ออกเสี ยงคล าย ๆ กั น ) เขาสอนว า พระเยซู คริ สต ไ ม มี ส ภาวะพระเจ า พระเยซูเปนมนุษยเทานั้น มีลูกศิษยลูกหาเชื่อตามนี้และเผยแพรไปอยางรวดเร็ว เรื่องนี้เปนเรื่อง สําคัญมากเพราะเทากับทําใหขอความเชื่อเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพกระทบอยางรุนแรง ดังนั้นในบท ขาพเจาเชื่อถึงพระเปนเจาจึงมีคําบางคําที่พระศาสนจักรใชเพื่อยืนยันถึงพระตรีเอกภาพ และความเปน พระเจา ขององคพระเยซูเจาของเรา ตั้งแตนั้นมาพระศาสนจักรก็พยายามใหความสําคัญกับคําสอน เรื่ อง พระตรี เอกภาพมาโดยตลอด เช นพระสั นตะปาปาเกรโกรี ผู ยิ่ งใหญ (590-604) จนมาถึ ง พระอัครสังราช Thomas Becket กําหนดใหมีวันฉลองพระตรีเอกภาพ ที่สุดแลวพระสันตะปาปา ยอหนที่ 22 ก็กําหนดใหพระศาสนจักรสมโภชพระตรีเอกภาพในป 1334 เห็นมั้ยครับเลาเรื่องที่มาของ วันสมโภชงายจะตายไป แตจะใหอธิบายรหัสธรรมนี้ยากนาดู พี่นองคงจําเรื่องนักบุญเอากุสตินไดแน ๆ เพราะวันฉลองนี้ทีไร พระสงฆก็จะตองนํามาเลา เปนตัวอยางใหพี่นองฟง ปที่แลวพอเองก็นําไปเทศนในวัด แตไมไดเขียนไวในสารวัดปที่แลว ก็เปน ตั ว อย า งที่ ดี ม าก เอากุ ส ติ น เป น นั ก ปราชญ แ ละนั ก เทววิ ท ยา เธอพยายามขบคิ ด ว า พระตรีเอกภาพคืออะไร พระเจามีองคเดียวและสามพระบุคคลหมายความวาอยางไร จะอธิบายอยางไร สรรหาเหตุผล ตาง ๆ เทาที่ความฉลาดของทานจะทําไดก็ไมสามารถใหคําตอบได วันหนึ่งทานเดินไป ชายหาดเห็นเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง บางแหงก็เลาวาเปนเด็กชาย บางแหงก็วาเปนเด็กหญิง เด็กคนนี้ ขุดหลุมเล็ก ๆ ที่ชายหาด แลวก็นําฝาหอยเดินลงไปในน้ํา ตักน้ําดวยฝาหอย แลวเดินขึ้นมาเทน้ําลง ในหลุมที่ขุดเอาไว เอากุสตินมองดูสักพักหนึ่งก็อดถามเด็กคนนี้ไมไดวา กําลังทําอะไร เด็กคนนั้นก็ ตอบวา “หนู กําลังจะตักน้ําทั้งทะเลนี้ลงไปอยูในหลุมเล็ก ๆ นี้ใหหมดเลย” เอากุสตินก็เลยหัวเราะใหญ บอกเด็กวา หลุมทรายนี้เล็กนิดเดียว ฝาหอยก็เล็กนิดเดียว ทะเลทั้งทะเล ตักอยางไรก็ไมมีทางเต็ม หรอกหนู เด็กคนนั้นตอบกลับมาทันทีเลยครับวา “แลวทานเลากําลังทําอะไร ทานจะใชสมองเล็กนิด เดี ยวของมนุ ษย ความฉลาดซึ่ งมี ขี ดจํากั ดของมนุ ษย เพื่ อที่ จะเข าใจพระตรีเอกภาพซึ่ งยิ่ งใหญ มหาศาลไดอยางไรกัน” เอากุสติน ปราชญผูยิ่งใหญ นักเทววิทยาผูยิ่งยงตองยอมจํานนกับเหตุผล ธรรมดา ๆ ของเด็กคนนี้ พูดเสร็จในเรื่องก็เลาวา เด็กคนนี้ก็อันตระธานหายไป คงอยากจะบอกวา พระเจาสงสารเอากุสติน ก็เลยสงเทวดามาเตือนสติใหคิดได ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

41


เรื่องเด็กเตือนสติผูใหญนี้ก็มีใหเห็นอีกเรื่องหนึ่งครับ พระสังฆราชองคหนึ่งตอนไปโปรดศีลกําลัง ที่วัดแหงหนึง่ ถือโอกาสนี้สอนคําสอนเด็ก ๆ ถามวา “ใครอธิบายใหพอฟงไดมั้ยวา พระตรีเอกภาพ คืออะไร” เด็กคนหนึ่งก็ตอบขึ้นมาวา “พระตรีเอกภาพก็คือ พระบิดา พระบุตร พระจิต สามบุคคล ในพระเจาเดียว” พระคุณเจาก็บอกเด็กคนนั้นวา “พอไมคอยเขาใจเทาไรเลย” เด็กยอนกลับมาบอกวา “พระคุณเจาก็ไมนาจะเขาใจได เพราะนี่เปนรหัสธรรม” นี่คือคําตอบที่ชัดเจนที่สุด และมาจากเด็กเล็ก ๆ ที่ไมตองคิดอะไรซับซอน เราสามารถเขาใจพระตรีเอกภาพไดบางสวนครับ ถาหากเราไมคิด อะไรใหมันซับซอนนัก มีความเชื่อซื่อ ๆ ยืนยันความเชื่อของเราแบบงาย ๆ ก็เทากับเราเขาไป เกือบถึงพระตรีเอกภาพ ถาคิดมากเกินไปก็อาจกลายเปนแบบ เอเรียน หรือ กลุมใจแบบนักบุญเอากุสตินได พอขอทํ าตามเด็ กดี กว า ก็คื อ มี ความเชื่ อซื่ อ ๆ ง าย ๆ ครั บ ยื นยั นความเชื่ อในเรื่ อง พระตรีเอกภาพอยางงาย ๆ เวลาที่เราทําเครื่องหมายกางเขน เวลาทีเ่ ราจุมน้ําเสกตอนเขามาในวัด และสวดเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต ใหเราทําโดยระลึกถึงพระตรีเอกภาพดวย ความตั้งใจ ระลึกถึงศีลลางบาปของเรา เพราะเวลาที่เรารับ ศีลลางบาปนั้น เรารับในนามของ พระตรีเอกภาพ ทุกครั้งที่เราสวดบทสิริพึงมีแดพระบิดา และพระบุตร และพระจิตนั้น ก็เทากับ เรายืนยันความเชื่อนี้ และขอพึ่งพระเดชานุภาพของพระเจาผูสูงสุดแตพระองคเดียว พระตรีเอกภาพ นั้นมิไดประทับอยูที่สมองหรือความฉลาดของมนุษยนะครับ แตประทับอยูในชีวิตคริสตชนของ เรานั่นเอง ทุกครั้งที่เราทําเครื่องหมายกางเขน “เดชะพระนาม...” มีความหมายครับ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 30 พฤษภาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

42


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันนี้เปนวันสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจาในศีลมหาสนิท งาย ๆ ก็คือการประทับอยู ของพระเยซูเจาในศีลมหาสนิทนั่นเอง มีอัศจรรยศีลมหาสนิทเกิดขึ้นทั่วโลก ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน ในป 1263 ที่เมือง Liege ในประเทศเบลเยี่ยม พระโลหิตไดไหลออกมาจากแผนปงที่เสกแลวอยางนา อัศจรรย พระสันตะปาปาอูรบันที่ 4 สั่งใหตรวจสอบเรื่องนี้และพบวาเปนเรื่องที่เกิดขึ้นอยางอัศจรรย ในปเดียวกันที่ที่เมือง Bolsena ในประเทศอิตาลี พระสงฆองคหนึ่งมาจากกรุงปราก เดินทางมาที่โรม เพื่อตองการรื้อฟนกระแสเรียกแหงการเปนพระสงฆ ทานไดถวายมิสซาที่เมือง Bolsena ครับ ขณะที่ ทานเสกปงและเหลาองุนนั้น ก็ปรากฎวาแผนปงไดกลายเปนเนื้อจริงๆ และเลือดก็เริ่มไหลออกมา จากปงนั้นและหยดลงมาที่ผาปูรองศีล ผาปูรองศีลนี้ยังถูกเก็บรักษาไวอยางดีอยูที่อาสนวิหาร เมือง Orvieto ไมไกลจากกรุงโรมมากนัก ปตอมาพระสันตะปาปาก็ประกาศใหมีก ารสมโภชนี้ ในพระศาสนจักรคือตั้งแตป 1264 และขอใหนักบุญผูยิ่งใหญทานหนึ่งไดแตงบทเพลงและพิธีกรรม สมโภชนี้ขึ้น เพลง 2 เพลงที่เรารูจักกันดีก็มาจากนักบุญโทมัสอไควนัสนี่เองคือเพลง Tantum ergo และ O salutaris ซึ่งเราก็ยังคงรองมาจนถึงทุกวันนี้ ยังไมสามารถหาเพลงใดมาทดแทนได เลยขณะที่อวยพรศีลมหาสนิท ย อ นกลั บ ไปจนถึ ง ป ป ระมาณ 700 มี เ หตุ ก ารณ คล า ย ๆ กั น เกิ ด ขึ้ น ที่ เ มื อ ง Lanciano ในประเทศอิ ตาลี พระสงฆ อ งค ห นึ่ ง กํ า ลั ง เกิ ด ความสงสั ยในกระแสเรี ย กและในขณะที่ กํ า ลั ง ถวายมิส ซา แผ นปงก็ไ ดกลายเปนเนื้อ และองุนก็กลายเปนโลหิต ป จจุบันทั้ง เนื้อและโลหิต นี้ ก็ถูกเก็บรักษาและใหคริสตชนเขาเยี่ยมคารวะไดที่เมือง Lanciano นี้ ใครไปแสวงบุญที่อิตาลี ก็อยาลืมหาโอกาสไปที่ 2 แหงนี้ดวย ถาหากไมรูวาจะไปอยางไร พอยินดีใหคําปรึกษานะครับ แตเรื่องที่นาแปลกกวานี้อีกก็คือในป 1971 และ 1981 คณะแพทยไดมีการตรวจสอบกอนเนื้อและ เลือดนี้อยางละเอียดและพบวากอนเนื้อนี้เปนสวนของเนื้อที่มาจากหัวใจมนุษย และเลือดก็เปน เลือดมนุษยกรุป AB ซึ่งเปนกรุปเลือดที่ปกติของคนในดินแดนตะวันออกกลาง นี่ก็เทากับวาเรามี “พระหฤทัยของพระเยซูเจาแท ๆ อยูกับเรา” เรื่องที่นาแปลกกวานี้อีกก็คือในป 1978 องคการ นาซ า ได ทํ า การตรวจสอบคราบเลื อ ดที่ ติ ด อยู กั บ “ผ า ห อ พระศพที่ เ มื อ งตู ริ น และได พ บว า คราบเลือดนี้เปนเลือดกรุป AB เหมือนกัน เรื่องนี้ยังไมจบครับ พี่นองรูจักผาหอพระศพที่เมืองตูริน ไดยินบอย ๆ แตไมคอยไดยินเรื่องราวของผาพันพระเศียรพระเยซูเจา ถาพี่นองไปเปดดูพระวรสาร นักยุญยวง บทที่ 20 ขอ 6 และขอ 7 จะพบวานักบุญยวงบันทึกไวดังนี้ “ซีมอนเปโตรซึ่งตามไป ติด ๆ ก็มาถึง เขาไปในพระคูหา และเห็นผาพันพระศพวางอยูที่พื้น รวมทั้งผาพันพระเศียรซึ่งไมได วางอยูกับผาพันพระศพ แตพับแยกวางไวอีกที่หนึ่ง ” เรื่องราวของผาพันพระเศียรนี้มีประวัติ คอนขางยาวนานมาก พอคงไมสามารถเลาไดในสารวัดนี้ ปจจุบันผานี้ถูกเก็บรักษาไวที่อาสน วิห ารที ่เ มือ ง Oviedo ประเทศสเปนครั บ เขาจะเป ดให เข าชมเพี ยงป ละ 3 ครั้ งเท านั้ นคื อ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

43


วันศุ กรศั กดิ์สิ ทธิ์ วันสมโภชมหากางเขน 14 กันยายน และวัน สุดท ายของวั นสมโภชนี้คือ วัน ที่ 21 กันยายน ของทุกปเทานั้น ประเด็นที่พอตองการบอกก็คือวาเมื่อมีการตรวจสอบผาหอพระศพ ที่เมืองตูริน คณะผูตรวจสอบก็ตองการตรวจสอบผาพันพระเศียรนี้ดวย และก็ไดพบวาเลือดที่อยูที่ผา ทั้งสองผืนนี้เปนเลือดกรุปเดียวกันคือ AB อยางนอยที่สุดเราก็รูวา พระเยซูเจามีเลือดกรุป AB และ ไมวาจะมีอัศจรรยศีลมหาสนิทที่ใด ก็ปรากฎเลือดเปนกรุปเดียวกันเสมอ และการตรวจสอบก็ ตรวจสอบโดยคณะนักวิทยาศาสตร หลายปกอนมีภาพยนตรเรื่องหนึ่งชื่อ “El cid” เปนหนังเกี่ยวกับการสูรบของคริสเตียนกับ พวกมุ สลิ มในประเทศสเปน พระเจ าอั ลฟอนโซ นองสาวและเอลซิ ด ทราบว า ผาพันพระเศียรนี้ อยู ที่ไหนและต องการเขาคารวะ ทั้ งสามทา นนี้ จํา ศีล อดอาหาร 40 วัน ก อนที่จ ะเขา ชมผา พั น พระเศียรนี้ และเมื่อเปดหีบออกดูก็พบเอกสารที่ระบุเรื่องราวของผานี้ เอกสารนี้ยังคงเก็บอยูที่ หอจดหมายเหตุข องอาสนวิ ห ารอยู จ นถึ ง ป จ จุบั น นี้ พอ รู สึ ก วา กษั ตริย น องสาวและเอลซิ ด ให เกี ย รติ ต อองค พ ระเยซู เ จ าอย างที่ สุ ด จนกระทั่ ง คนยุ ค หลั ง อย า งเราต อ งอาย เพราะ ดูเหมือนวาเราใหเกียรติพระเยซูเจานอยเกินไป โอกาสที่เรารวมใจกันมาสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจานี้ ใหเราทบทวนดู สักนิดก็ดีเกี่ยวกับการใหเกียรติพระเยซูเจาในศีลมหาสนิท เริ่มกันตั้งแตเขามาในวัดกันเลยนะครับ การแต ง ตั ว ของเรา การเตรี ย มรั บ ศี ล มหาสนิ ท ด ว ยการอดอาหาร 1 ชั่ ว โมงก อ นรั บ ศี ล การวางตัวของเราในวัด อีกเรื่องหนึ่งที่นาสังเกตก็คือในระหวางการแห พอสังเกตมาหลายตอ หลายแหง ไมใชการแหศีลอยางเดียวนะครับ การแหแมพระและนักบุญองคอุปถัมภเวลาไปฉลองวัด ตางๆ พอจะเห็นพระสงฆที่รวมขบวนแหคุยกันไปตลอดทาง หรือไม ตลอดทางก็อาจจะเรียกวา คุยกันมากกวาสวดหรือรองเพลงเทิดเกียรติ พี่นองหลายทานก็ทําเชนเดียวกัน ที่จริงการแหแหน เปนการใหเกียรติอยางสูง ดังนั้นเวลาเรามีวีรบุรุษเหรียญทอง เราก็ทําการแหแหนพวกเขา พอก็ เลยคิ ดวา เรานาจะทํา แบบเอลซิ ดนะครับ ตอ งให เกีย รติพ ระมากกว าให เกีย รติม นุษย และ โดยเฉพาะอยางยิ่ง ในวัดใหเราใหเกียรติตอองคพระเยซูเจาในศีลมหาสนิทใหเหมาะสม ไมวาจะ ดวยวิธีใดก็ตาม เวลาที่เราเดินไปรับศีลมหาสนิทเปนเวลาที่มีความสําคัญอยางมาก เพราะเรากําลัง จะเข าไปรั บ พระผู สู งสุ ด เข ามาในจิ ต ใจของเรา เป น เวลาสํ า คั ญ ที่ เ ราจะต อ งกระทํ า ด ว ย ความเอาใจใส สํารวมและภาวนา ดังที่เราสวดทุกครั้งวา “ขาพเจาไมสมจะรับเสด็จเขามาในตัว ขาพเจา แตขอตรัสเพียงพระวาจาเดียว และจิตใจขาพเจาก็จะบริสุทธิ์ ” ไมวาจะมีอัศจรรยที่ใด มากมายแค ไ หน ก็ ไ ม มี อั ศ จรรย อั น ใดสํ า หรั บ เราทุ ก คนยิ่ ง ใหญ ไ ปกว า การที่ เ ราสามารถ รับองคพระเยซูเจาเขามาในชีวิตของเรา โดยผานทางศีลมหาสนิทครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 6 มิถนุ ายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

44


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก กอนอื่นหมดพอขอแสดงความยินดีกับคุณพอใหม ใหมแบบถอดดามเลย เพราะพึ่งไดรับ การบวชเปนพระสงฆเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.’10) โอกาสปดปพระสงฆ นั่นคือคุณพอสุพัฒน หลิวสิริ ซึ่งก็ ไมใชใครที่ไหน ปลัดวัดของเราเอง ระยะแรก ๆ นี้ก็คงตองรับเชิญไปถวายมิส ซาแรกตามวัดและ อารามตางๆ คงตองเหนื่อยหนอยนะครับ เพราะบวชองคเดียว ไมมีใครชวยแบงเบาภาระเลย ทั้งตอง เดินทาง เตรียมเทศน อวยพรแรก แจกของที่ระลึก ใครไมไดบวชก็ไมรูหรอกครับวาเหนื่อยขนาดไหน แมจะเหนื่อยก็สุขใจครับ เพราะไดรับเลือกจากพระใหมาทําหนาที่อุทิศตน นาภาคภูมิใจแทนพอแม และครอบครัวดวย พวกเราขอเปนกําลังใจสําหรับคุณพอใหเปนพระสงฆที่ดีและเปนสงฆนิรันดร พวกเราจะมีพิธีตอนรับคุณพอ และอําลาคุณพอเดชา อาภรณรัตน อยางเปนทางการในวันอาทิตย ที่ 11 กรกฎาคม 2010 เห็นมั้ยครับคิวยาวมาก ไดยินวามีคิวไปจนถึงเดือนสิงหาคมแลว อาทิตยนี้ที่วัดเราไดรับเกียรติจากพระสงฆใหมอีก 2 องคซึ่งทั้ง 2 องคนี้เคยทํางานอภิบาล ที่วัดของเราและคุนเคยกับพวกเราดี การถวายมิสซาแรกมีความหมายเพราะเปนวันที่พระสงฆ ใหม จะมอบพรพิเศษแกเรา สมัยกอนสัตบุรุษมีโอกาสไดจูบมือพระสงฆ เพราะมือนี้ไดถูกเจิมดวยน้ํามัน คริสมา ใหมีอํานาจเหมือนองคพระเยซูเจาในการถวายบูชามิสซาและในการอภัยบาป ในการมอบพระพร และพระคุณตาง ๆ ตลอดชีวิตของเขาทีเดียว ยิ่งใหญมากนะครับ ทั้งสององคนี้เพิ่งไดรับการบวช เมื่อเดือนที่ผานมา นั่นคือ คุณพอ เลิศอัมพร (ปาน) และพอญาณารณพ มหัตกุล ขอตอนรับและ รวมแสดงความยินดีดวยครับ พระวรสารอาทิตยนี้มีความหมายอยางยิ่งตอพวกเราเพราะไดสอนเราเรื่อง “การใหอภัย” ซึ่งพระเจามีตอชาวเรา นึกถึงตอนที่เราเขาไปแกบาป เพียงแตเราเสียใจและขอโทษ พระก็ ใหอภัยเสมอเลย ไมวาจะเปนใคร ชั่วชาแคไหน ไมวาจะทําอะไรเพียงแตเสียใจ และขอโทษ พระก็ ใหอภัย นึกถึงมนุษยเรา กลับกลายเปนผูที่ไมยอมอภัยใหแกกันและกัน อาจเปนเพราะเรากลา ขอโทษพระ อาจเปนเพราะเราเสียใจที่เราทําบาป แตเราไมอยากขอโทษเพื่อนมนุษย และอาจจะ เปนเพราะเราไมเคยเสียใจที่เราไดทําสิ่งนั้นสิ่งนี้กับเพื่อนมนุษย พี่นองคงจําเรื่องของกษัตริยดาวิดไดตอนที่ดาวิดเห็นนางบัทเชบากําลังอาบน้ําและที่สุด ดาวิดก็แอบเปนชูกับนาง จนนางบัทเชบาตั้งครรภ ดาวิดสงอุรีอาหสามีของนางไปรบในที่ที่อันตราย ที่ สุ ด และจงใจให เขาถู กฆ าตายโดยชาวอั มโมน พ อชอบตอนที่ ประกาศกนาธานไปเตื อนดาวิ ด โดยเลาเรื่องคนรวยคนหนึ่งที่มีฝูงแกะ แพะ และโคมากมาย กับคนจนคนหนึ่งขางบานที่มีแตแมแกะตัว เดียวซึ่งเขาเลี้ยงดู ทนุถนอมอยางดี คนรวยเสียดายแกะของตัวเองที่จะตองฆาเลี้ยงแขก ก็ใหคนไป ขโมยเอาแกะของคนจนมาฆาเลี้ยงแขกแทน ดาวิดโกรธมาก บอกวา เศรษฐีคนนี้ตองตาย และ ชดใชให 4 เทา นาธานก็เลยบอกดาวิดวา ชายคนนั้นคือพระองคเอง เทานั้นเองครับดาวิดเสียใจ ตรัสวา “เรากระทําบาปตอพระเจาแลว” ในพระคัมภีรเลาตอทันทีวา “พระเจาทรงใหอภัยบาป ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

45


ของฝ า พระบาทแล ว ” บาปของดาวิ ด มี ม ากมายครั บ สรุ ป ง า ย ๆ ก็ คื อ เริ่ ม ตั้ ง แต ป ลงใจ ในความอุลามก ลวงประเวณี ฆาคน บาปก็มักเปนอยางนี้ครับ พอทําบาปหนึ่งก็ตามมาดวยอีก บาปหนึ่ ง แต พ ระก็ ใ จดี เหลื อ หลายครั บ เพี ยงเราแค เ สี ยใจและขอโทษ เราก็ ไ ด รั บ การอภั ย ดูอยางในพระวรสารนะครับ หญิงคนบาปคนนี้ ลางเทาพระเยซูเจา หลั่งน้ําตา เช็ดเทาดว ยผม จูบเทาพระองค เพื่อเปนการแสดงวา นางเสียใจในสิ่งที่ทําไป ไมวานาง จะมีบาปอะไรมากอน ก็แลวแต พระองคก็ใหอภัยทันทีและใหอภัยทั้งหมด ในขณะที่พวกฟาริสียังพูดจาดูถูกดูแคลน เธออยูเลย นี่แหละครับมนุษยที่มีใจใหอภัยยากเหลือเกิน อยากแนะนําหนังสือเลมหนึ่งใหพี่นองรูจัก เขียนโดย Anthony DeStefano ชื่อ “Ten Prayers God always Says Yes to” แปลแบบพอไดความวา “คําภาวนา 10 บทซึ่งพระเจา พรอมเสมอที่จะตอบตกลง” มีขายในบานเราดวยครับ เชน รานนายอินทร ศูนยหนังสือจุฬ า ซีเอ็ดบุคส เลมนี้จะใหเราเขาใจวา คําภาวนาของเรามากมายที่ดูเหมือนวาพระจะไมได ตอบสนอง ขอแลวขอเลา สวดแลวสวดเลาก็ไมไดซักที แตจะมีคําภาวนา 10 บท ซึ่งถาหากเราสวดแลว พระตอบรับ ทุกครั้งไป พอยังไมไดอานหมด แตก็พอจะรูวาทั้ง 10 บทนั้นคืออะไรบาง ตองอานเองจึงจะเขาใจ อยางดี แตมีบทหนึ่งซึ่งเหมาะกับขอคิดอาทิตยนี้ สอนใหเราสวดวา “ขาแตพระเจา อภัยใหลูก ดวย” สวดบทนี้เมื่อไร พระใหอภัยทันทีและใหอภัยเสมอ ใครมีโอกาสไปซื้อหนังสือเลมนี้หากวาอาน จบแลว แบงมาใหพออานดวยนะครับ เพราะอยากจะเขาใจอีก 9 บท ที่เหลือจริง ๆ วา มีอะไรอีกบางที่ พระตอบคําภาวนาของเราเสมอ อยาลืมขออภัยพระเสมอนะครับ และก็อยาลืม ใหอภัยเสมอดวย

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 13 มิถุนายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

46


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก สารวัดอาทิตยนี้พอขอตั้งชื่อวา “คําถามที่สาม”มีคําถาม 2 คําถามที่พอแนใจวา ถาหาก พระเยซูเจาประจักษมาและถามพวกเรา พวกเราทุกคน ตองตอบได ถาพระองคถามวา “พอเล็ก ประชาชนวาเราเปนใคร” และคําถามอีกวา “พอเล็ก ทานละวาเราเปนใคร” พอก็สามารถตอบได แบบเปโตรทันทีเลย สองคําถามนี้เปนคําถามที่ตอบงายครับ “พระองคคือพระคริสตของพระเจา” บางคนอาจจะตอบไดมากกวานี้อีกมากเลย ก็ เพราะวาพระเยซูเจาสําหรับเรา แตละคนนั้นก็มี ความหมายที่มากนอยแตกตางกันขึ้นอยูกับวาเรารักพระองคแคไหน แตที่แน ๆ ก็คือเรารูวา พระเยซูเจาคือพระเจาของเรา และพระองคตองแบกกางเขน หลั่งโลหิตสิ้นพระชนมก็เพื่อพวกเรา พระองคไมคิดที่จะรักษาชีวิตของตน แตยอมสูญเสียชีวิตเพราะเห็นแกเรา พอวาคําถามที่อาจจะ ตอบยากสักหนอยคงเปนคําถามที่พระองคอาจจะถามวา “พอเล็ก ทานวา ทานเปนใคร” พี่นองก็ ลองตอบดูดวยละกันวาจะตอบอยางไร คําตอบก็คงจะเปนทํานองนี้ครับ “ผมเปนพระสงฆ ผมเปน นักบวช ผมเปนคาทอลิก ผมเปนลูกพระองค พอวา เรื่องสําคัญมิใชอยูที่วาตอบอะไร อยูที่วา ทํ าตั วอย า งไรมากกว า เพราะหากพ อ บอกว า พ อ เป น พระสงฆ เป น นั ก บวช แต ทํ า ตั ว ไม ใ ช พระสงฆ นักบวช บอกวาเปนคริสตัง แตทําตัวไมเหมือนที่พระเยซูเจาทรงสอน ก็เทากับวาเรายัง ไมรูครับวา เราเปนใคร เมื่อตอนที่กษัตริยดาวิดเปนกษัตริยใหม ๆ พระเจาทรงสนทนากับดาวิดวา “เราเอาเจามาจาก ทุงหญา จากการตามฝูงแพะแกะ เพื่อใหเจาเปนเจาเหนืออิสราเอลประชากรของเรา เราไดกําจัด ศัตรูของเจา กระทําใหเจามีชื่อเสียงใหญโต ราชวงศของเจาและอาณาจักรของเจาจะดํารงอยู ตอ หนาเจาอยางมั่นคงเปนนิตย” พอชอบตอนที่ดาวิดทูลตอบพระเจาวา “ขาแตพระเจา ขาพระองค เปนผูใดเลาและพงศพันธุข องขาพระองคเปนผูใด พระองคจึงทรงนําขาพระองคมาไกลถึงแค นี้ (2 ซมอ.7:8-18) กษัตริยดาวิดตอบคําถามที่สามนี้ไดอยางนาฟงที่สุด ตอบแบบรูตัวจริงๆ วา เปนใครมาจากไหน และทําไมพระเจาจึงทรงยกยองทานขึ้นมาถึงเพียงนั้น เรื่องแบบนี้พวกเรา พระสงฆ นั ก บวช และคริ ส ตั ง ทั้ งหลายควรถามตั วเองบ อย ๆ และตอบคํ าถามนี้ บ อย ๆ ว า ทานรูมั้ยวา ทานเปนใคร ถาเราเปนพระสงฆ ถาเราเปนนักบวช ถาเราเปนคริสตัง และทําไมเราจึง ดําเนินชีวิตแบบนี้ ทําไมถึงทําแบบนี้แบบนั้น นาคิดนะครับ พี่นองลองเปดพระคัมภีรที่เกี่ยวของกับ กษัตริยดาวิดดูนะครับ มีหลาย ๆ อยางที่นาสนใจและใหขอคิดที่ดีมาก ๆ ความสุภาพถอมตนของดาวิดปรากฏอยูหลายตอน อาทิตยที่แลวก็เปนตอนที่ดาวิดยอมรับ วา “ทําบาปผิดตอพระเจา” นี่ก็เปนตอนที่บอกวา “ทานรับรูวาทานมาจากเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่ง” บางที่ความสุภาพถอมตนแบบนี้แหละที่สามารถเปนคําตอบคําถามที่สามของพวกเราคริสตังก็คือ ผูที่สุภาพถอมตน

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

47


ยอมรั บ แบกไม ก างเขนและตามพระเยซู เ จ า ไปโดยไม บ น นี่ ก็ ย อ มหมายความว า เราคริสตังตองสุภาพมาก ๆ ถอมตนมาก ๆ เวลาไปแกบาป ตองสารภาพแบบเดียวกับที่ดาวิด ไดทําและยอมรับวา “ทําบาป ผิดตอพระเจาแลว” เราคริสตังยังตองสุภาพถอมตนยอมรับแบก ไม กางเขนของตน นั่ นก็ คื อ ความทุ กข ยาก ความลํ าบากต าง ๆ รวมถึ งป ญหาต าง ๆ ในชี วิ ต เราคริ สตั งยั งต องสุ ภาพถ อมตนที่ จะต องรู จั กปฏิ เสธตั วเอง ให พ นจากกิ เลสตั ณหาต าง ๆ ความเห็นแกตัว ที่รูมานะความโลภ และที่สุด เราคริสตังยังตองสุภาพถอมตนที่จะตองรูจักรัก และใหอภัย กษัตริยดาวิดยังเปนแบบอยางที่ดีแกเราดวยในการรูจักขอบพระคุณพระเจาเสมอ ดาวิดไดรับ อะไร ๆ มากมายจากพระและก็ยังดีที่ทานไมเคยลืมเรื่องนี้วาทุกสิ่งลวนมาจากพระทั้งสิ้น ดาวิดคิด เสมอวา จะทําอะไรเพื่อพระไดบาง ๆ ทานคิดจะสรางพระวิหารและก็ขอพระปรีชาญาณ เพื่อจะได เปนผูรับใชที่ดีของพระ เราคริสตังก็ตองรูจักโมทนาคุณพระสําหรับทุกสิ่งทุกอยางที่ดี ๆ มากมาย ในชีวิตของเรา บางทีเราก็แบกกางเขนไป บนไป สวดไปก็บนไปดวยก็มี มีบทเพลงภาษาอัง กฤษอยูเ พลงหนึ่ง ใชร องในวัดนะครั บ มี เนื้อ หาดี สุด ๆ เลยสํ าหรั บ คําถามขอที่สามนี้ มีชื่อวา “Who am I” เอาไวตองหาทางเอามาฟงดูวาเพราะแคไหน เปนเพลงที่ เปนที่นิยมร องกั นมากในโบสถต าง ๆ ก็นาจะเพราะดีนะครับ มี เนื้อหาที่ พอพอจะสรุ ปก็ ดังนี้ ครั บ “ฉันเปนใคร พระเจาแหงสากลโลกจึงทรงสนพระทัยทีจ่ ะรูจักชื่อของฉัน รวมรับรูความเจ็บปวดของฉัน ฉันเปนใคร ดาวประจํารุงในยามเชาจึงสองสวางหนทางใหแกหัวใจที่รวนเรเสมอของฉัน ไมใชเปน เพราะวาฉันเปนใครหรอก หากแตเปนเพราะวาพระองคทรงทําอะไรมากกวา ไมใชเปนเพราะวา ฉันไดทําอะไรหรอก หากแตเปนเพราะวาพระองคทรงเปนใครมากกวา ฉันเปนเพียงแคดอกไมที่กําลัง เหี่ยวเฉาไปอยางรวดเร็ว วันนี้สวย พรุงนี้ก็หมดสิ้นแลว ฉันเปนเพียงคลื่นเล็ก ๆ ที่กระทบมหาสมุทร เปนไอน้ําในสายลมเทานั้น ถึงกระนั้นพระองคก็ยังคงไดยิน เมื่อฉันรองเรียก พระองคทรงจับฉันไว เมื่อฉันกําลังลมลง และพระองคก็ทรงบอกฉันวาฉันเปนใคร “ฉันเปนของพระองค” “ฉันเปน ของพระองค” นี่แหละครับคําตอบ ฉันเปนคริสตัง หมายถึง ฉันเปนของพระองค นั่นเอง ใครรูจัก เพลงนี้ ชวยบอกพอดวย และถาหากใครมีเพลงนี้ก็ยิ่งดีใหญเลย นํามาแบงปนใหพอหนอย ดีจริง ๆ เลยนะครับ อยางนอยอาทิตยนี้ พวกเราก็สามารถตอบคําถามทั้งสามคําถามของพระเยซูเจา ได และรูจักเพลงเพราะ ๆ อีกหนึ่งเพลง ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 20 มิถุนายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

48


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก วันนี้เราสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล พอขออวยพรใหพี่นองทุกทานที่มีนักบุญเปโตรและ เปาโลเปนองคอุปถัมภไดมีจิตใจรอนรนในความเชื่อเชนเดียวกับทานนักบุญ พรอมที่จะกลับใจ เชนเดียวกับทาน และมีสวนในการประกาศพระวรสารเชนเดียวกับทานทั้งสองดวย Happy Feast Day ครับ พระสังฆราชองคหนึ่งพอจําชื่อไมไดแนนอนนัก เลยไมกลาเอยชื่อ เคยเทศนไว มีใจความวา “ทําไมพระศาสนจักรจึงทําการสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลในวันเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ ทานทั้งสองตางก็เปนนักบุญที่ยิ่งใหญ ก็อาจเปนเพราะวา ในขณะที่มีชีวิตอยูบนโลก ทานทั้งสองก็ไม คอยจะลงรอยกันนัก ก็เลยใหทานทั้งสองไปจับมือกันบนสวรรค” พี่นองคงแปลกใจวาทานทั้งสองไมลง รอยกันในเรื่องอะไร และก็คงฉงนสนเทหเล็กนอยวาขนาดเปนอัครสาวกยังมีเรื่องระหองระแหงกัน เชี ย วหรื อ ก็ เ ป น เรื่ อ งที่ เ ข า ใจไม ย ากครั บ บางเรื่ อ งท า นทั้ ง สองคนนี้ ก็ คิ ด ไม เ หมื อ นกั น เปรียบเทียบงาย ๆ คนในครอบครัวเดียวกันก็ยังคิดไมเหมือนกัน พระสงฆนักบวชเองบางครั้ง บางเรื่อง ก็คิดไมเหมือนกันครับ เรื่องของทานเปโตรและเปาโลนี้พบไดในจดหมายนักบุญ เปาโล ถึงชาวกาลาเทีย บทที่ 2 ขอ 11-14 เลาใหฟงวา เมื่อเปโตรมาถึงเมืองอันทิโอก ขาพเจา (เปาโล) คั ด ค า นเขาซึ่ ง ๆ หน า เพราะเขาเป นฝ ายผิ ด ข าพเจ าพู ดกั บเปโตรต อหน าทุ กคนว า “ทานเปนชาวยิว ยังประพฤติตนอยางคนตางชาติ มิใชอยางชาวยิว แลวเหตุไฉนจึงบังคับคนตางชาติ ใหประพฤติตนอยางชาวยิวเลา” นี่เปนคําตัดพอและวากลาวที่คอนขางรุนแรง เปนคําพูดที่เชือด เฉือนจิตใจคนฟง แหม! จะพูดทั้งที่ก็เอาใหเจ็บ พวกเราเองบางครั้งหรือ หลายครั้ง เราก็ทํากัน อยางนั้นมิใชหรือ เพียงแตทานทั้งสองมิไดโกรธบุคคลแตโกรธความคิดและการกระทํา เพราะสิ่ง ที่เราเห็นตอมาก็คือ ทานนักบุญเปาโลยังใหความเคารพเปโตร ในฐานะผูนําพระศาสนจักร ที่พระเยซูเจาแตงตั้งขึ้น ทานยังนบนอบเชื่อฟงและใหเกียรติทานเปโตรสืบมา ใกล ๆ กั บโคลี เซี ยม สนามกี ฬาของชาวโรมั นในกรุ งโรมเก า มี วั ดอยู แห งหนึ่ งชื่ อว าวั ด S.Giuseppe dei Falegnami ใตวัดแหงนี้เคยเปนคุกของชาวโรมัน ใชขังนักโทษที่มีโทษอุกฉกรรจ อับชื้นและสกปรกมาก ไมมีแสงสวาง ตามที่เราทราบนะครับวานักบุญเปโตรและเปาโลตางก็ถูกจับ ที่กรุงโรม และก็ชางบังเอิญเหลือเกิน กอนที่ทานทั้งสองจะถูกประหารชีวิต ไดถูกนําตัวมาขังที่นี่และ ขังในหองเดียวกัน มีโซเสนเดียวกันลามทั้งสองทานเอาไว พอเคยนําคณะจาริกแสวงบุญมาที่นี่ ในโอกาสปนักบุญเปาโลอยางนอยก็สองครั้ง ไปยืนอยูในหองที่ทานถูกขัง ในนั้นมีเสาหินที่มีโซเสน เดียวที่ใชลามทานทั้งสองเอาไว ใกล ๆ กันมีตาน้ําแหงหนึ่ง และมีหินออนสลักขอความไวเลาใหฟง วา ที่นี่เปนที่ทานนักบุญเปโตรและเปาโลถูกขังไวดวยกัน ทานไดทําให ผูคุมขังสองคนชื่อ Processo และ Martiniano ไดกลับใจ พรอม ๆ กับคนอื่น ๆ อีก 47 คนไดกลับใจ ทานไดใชน้ําจากตาน้ําที่ เกิ ด ขึ้น มาอย า งอัศ จรรย ภ ายในหอ งของท า นนั้ น ลา งบาปคนเหล า นั้น พอ อ า นมาถึ ง ตรงนี้ พอก็คิดถึงพอนิโคลาสของเราทันทีเลย เพราะในสถานการณคลาย ๆ กันนี้ พอนิโคลาสก็ไดลางบาป ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

49


คนที่อยูในคุกถึง 68 คน เห็นมั้ยครับคนที่เราไมคอยคาดคิดวาเขาจะกลับใจก็กลับใจได บางที คนที่ เ ราคาดคิ ดว า น า จะกลั บ ใจก็ ไ ม ยอมกลั บใจก็ มี สมเด็ จพระสั นตะปาปาเบเนดิ ก ต ต รั ส ถึ ง เรื่ อ งท า นทั้ ง สองในคุ ก ว า ท า นทั้ ง สองได มี โ อกาสสวมกอดกั น และกั น ด ว ยความรั ก ในพระคริสตเจา คงไดมีโอกาสเตือนใจกันและกัน เปนกํา ลังใจใหแกกันกอนที่ทานทั้งสอง จะถูกนําตัวไปประหารชีวิต เปนภาพที่พอลองจินตนาการดูแลว รูสึกสะเทือนใจและก็ประทับใจ เหลือเกิน นารักทั้งสององค เขมแข็งทั้งสององคเลย มีความเชื่อที่เขมแข็งที่สุด เปโตรถูกนําตัวไปขัง ตอที่เนินเขาวาติกัน ที่นั่นเปนสนามกีฬาของชาวโรมัน และถูกประหารชีวิตดวยการตรึงกางเขน และด ว ยความสุ ภ าพ ท า นขอให ท หารนํ า ศี ร ษะของท า นลงดิ น แม แ ต ค วามตายที่ จ ะคล า ย พระอาจารยทานก็ยังคิดวา ไมสมควร เปนแบบอยางแกพวกเราดีจริง ๆ ครับเพราะสําหรับเรา แมแตกางเขนไมหนักมากนัก เราก็ยังอยากจะมีสิทธิ์ขอเลือกกางเขนเอง สวนทานนักบุญเปาโล ถูกนําตัวไปที่เนินเขาอีกแหงหนึ่งซึ่งตอมาถูกเรียกวา “เนินเขาแหงน้ําพุ 3 แหง” เขาเรียกกัน เตร ฟอนตาเน (Tre Fontane) และถูกตัดศีรษะที่นี่เอง ศีรษะของทานตกลงมาตามเนินเขานี้และ เกิดน้ําพุขึ้น 3 แหงจึงเปนที่มาของชื่อนี้ ถาเราไปที่นี่เราจะพบแทน 3 แทน และเสาหินที่ใชพาด ศีรษะทานกอนที่จะถูกเพชฌฆาตตัดศีรษะ หดหูครับ แตก็ไดเห็นความเชื่อที่ยิ่งใหญกับตาตนเอง ป จ จุ บั น ศพของท า นนั ก บุ ญ เปโตรถู ก ฝ ง อยู ที่ เ นิ น วาติ กั น และเหนื อ เนิ น นี้ ไ ด กลายมาเป น มหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งถูกเรียกและไดรับการยอมรับวา เปนมหาวิหารที่สําคัญและสงางามที่สุด ในโลก สวนศพของทานนักบุญเปาโลถูกนํามาฝงที่ปจจุบันนี้ไดกลายเปน มหาวิหารนักบุญเปาโล ที่มีมนตขลังและเสนหแหงความเชื่อของทาน วันเวลาผานไปเกือบสองพันป ความยิ่งใหญของ ทานทั้งสองนี้ยังปรากฏใหเห็นอยูอยางชัดเจนครับ พอพาพี่นองไปแสวงบุญเกือบทั่วกรุงโรมแลวนะครับ และในการพาชมครั้งนี้ก็มีขอคิดสําหรับ พวกเราหลายอย างด วยกั น มนุ ษย เราผิ ดพลาดได นั กบุ ญก็ เป นมนุ ษย มาก อนมี ความอ อนแอ ผิ ดพลาดด วยกั นทั้ งนั้ น แต ก็ มี การกลั บใจ มี การอภั ย มี ความรั กอยู ด วยเสมอ เข มแข็ งใน ความเชื่อของเราเถอะครับ ทั้งหมดนีเ้ ราทุกคนก็ทําไดเหมือนกัน กอนจบขอขอบคุณสภาอภิบาลและพี่นองทุกทานที่มาอวยพรพอโอกาสฉลองศาสนนาม และขอรวมแสดงความยินดีกับผูไดรับการแตงตั้งเปนผูอานพระคัมภีรในวันนี้ จงภูมิใจที่เรามี โอกาสและมีสวนในการประกาศพระวรสาร ทําอะไรเพื่อพระไดก็ทําเถอะครับ กอนที่เราจะ ไมสามารถทําได ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 27 มิถุนายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

50


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก มีประโยคหนึ่งในพระวรสารอาทิตยนี้ทําใหพอตองนึกถึงเมืองโสโดมและโกโมราห พระเยซูเจา ตรัสวา “ในวันพิพากษา ชาวเมืองโสโดม จะรับโทษเบากวาเมืองนั้น” เมืองที่วานั้นก็คือเมืองที่ ไมยอมรับฟงคําเตือนและคําสอนของพระองคนั่นเอง พระเยซูเจาใชศิษยไปทุกตําบลทุกเมือง แมจะมีไมกี่คนที่เปนศิษยแตก็สงออกไปหมด “ขาวจะเกี่ยวมีมาก แตคนงานมีนอย” พอก็เลย สงสัยวาบาปของเมืองโสโดมมีอะไรบาง แลวยังมีบาปอะไรที่หนักกวาบาปของเมืองโสโดมนี้ ถาเรา ไปอานเรื่องราวของเมืองโสโดมในหนังสือพระคัมภีรปฐมกาล เราจะรูไมคอยมากวามีบาปอะไรบาง ในเมืองนี้ แตถาไปอานในหนังสือพระคัมภีรประกาศกเอเสเคียล บทที่ 16 : 49-50 เราจะเขาใจทันทีเลย ครับ มีใจความวาดังนี้ “ดูเถิด นี่แหละเปนความชั่วของโสโดมนองสาวของเจา คือตัวเขาและลูกสาวของเขา มีความจองหอง มีอาหารเหลือรับประทานและมีความสบายเกิน ไมชวยเหลือคนยากจนและคน ขัดสน เขาเยอหยิ่งและกระทําสิ่งลามกตอหนาเรา เพราะฉะนั้น เมื่อเราเห็นแลว เราจึงขจัด เขาเสีย” นี่แหละครับบาปทั้งหลายของเมืองโสโดม เรามาชวยกันชําแหละทีละบาปดีมั้ย บาปแรกและ บาปหนักมากก็คือบาปที่คลาย ๆ กับบาปของอาดัมและเอวาก็คือ จองหอง ความจองหองนี้อยูใน ตัวเรามนุษยมาตั้งแตเกิด เราก็เรียกวาเปนบาปกําเนิด นี่แหละครับเปนเหตุผลใหญที่วา ทําไม พระเยซูเจาจึงตองเกิดมาดวยความสุภาพถอมตนอยางที่สุด ก็เพื่อใหเราเอาชนะความจองหอง พอจองหองแลวก็ไมเห็นหัวใครหรอกครับ บางทีแมแตพระ คนที่จองหองก็ยังมองขามไป หนาตาเฉยเลย คนพวกนี้ใหญคับบาน ใหญคับเมืองจริง ๆ ดูถูกไมไดแตชอบดูถูกคนอื่น หาวาโงบางละ บาบางละ มองคนอื่นผิดตลอด พวกเราคงเจอมาเยอะนะครับ พอคงไมตอง อธิบาย บาปตอไปนี้ก็ไมใชเลน จะเรียกวาบาปก็ไมถูกนัก เรียกวา ตนเหตุของบาปหลาย ๆ บาปก็ แลวกัน นั่นคือ มีอาหารเหลือเฟอและสบายเกิน พวกนี้หมกมุนอยูกับการแสวงหาเงินทอง ในโลกนี้ หาความสบาย ฝายโลกนี้จนลืมคนอื่น ๆ หมด บาปที่ตามมาทันทีเลยก็คือ ขี้เหนียว ใจแคบ ไมชวยคนจนและขัดสน เรียกงาย ๆ วา ขาดความรักตอเพื่อนมนุษย รักแตตนเองเทานั้น พระเยซูเจาจึงตองสอนบัญญัติแหงความรัก เปนบัญญัติเอก คุณแมเทเรซาแหงกัลกัตตา เคยพูด ไวประโยคหนึ่งที่กินใจมากวา “ทุกสิ่งทุกอยางที่เราเปนเจาของนั้น แทที่จริงเปนเจาของเรา” (Everything we own owns us) ดังนั้นคนที่มีทุกสิ่งทุกอยางก็อาจจะกลายเปนคนเห็นแก ตัวอยางที่สุดก็ได คนที่มีอํานาจมากที่สุด ก็กลายเปนคนที่เห็นแกตัวที่สุดก็ได พวกเราเองก็คงตอง ระวังเรื่องนี้ไวมาก ๆ บาปสุดทายก็คือ เยอหยิ่งและกระทําสิ่งลามกตอหนาเรา เราทําบาปผิดตอ หนาพระเจาตลอดเวลา ไมใชแคบาปอุลามกอยางเดียว แตพอวาไมมีอะไรหนักหนาไปกวาบาป จองหองและขาดความรั ก ต อ เพื่ อ นพี่ น อ งบาปอะไร ๆ ทั้ งหลายที่ เรามี ก็ รวมอยู ในบาป สองประการนี้แหละ พอจึงเขาใจพระเยซูเจามากขึ้น เวลาที่กําชับกําชาลูกศิษยที่จะสงไปตามที่ ตาง ๆ วา เปนแกะในฝูงสุนัขปา อยานําถุงเงิน ยาม รองเทา อยาเสียเวลาพูดคุย ไปมอบสันติสุข ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

51


กับดื่ มเท าที่ เขานํ ามาให รั กษาคนเจ็ บป วย นี่คื อวิ ธี การอั นชาญฉลาดที่ สอนลู กศิ ษย พระองค ให สุ ภ าพถ อ มตน ไม ฟุ ง เฟ อ ไม ใ ช ห าแต ท รั พ ย ส มบั ติ ห รื อ เกี ย รติ ย ศชื่ อ เสี ย งบนโลกนี้ จะไดไมจองหอง ไมสบายจนเกินไป คนที่สบายจนเกินไปก็ปลอยใหตนเองตกอยูในการประจญ ลอลวงและก็ทําผิดในที่สุด ตามมากันเปนพรวนเลยครับ มาดูกันตอนจบดีกวา ศิษยทั้งหมดกลับมา จากทํางาน “พระเจาขา แมแตปศาจก็ยังออนนอมตอเรา เดชะพระนามของพระองค” นี่ก็คือ ความจองหองของมนุษยประเภทหนึ่ง ภาคภูมิใจในความสําเร็จ ภาคภูมิใจในอํานาจ และโออวด อํานาจ ฟง ๆ ดูก็จะดูวาดวยอํานาจพระเจา แตก็อดที่จะชื่นชมไมได นิดนึ่งก็ยังดี บางที เราก็ พยายามสุภาพเพื่อใหคนชื่นชมบาง ก็เปนความสุขแบบหนึ่งของเรามนุษย ไมผิด ไมบาปอะไร แตพระเยซูเจาก็ยังตองเตือนศิษยเหลานั้นวา “อยาชื่นชมยินดีที่ปศาจออนนอมตอทาน แตชื่นชม ยินดีมากกวาที่ชื่อของทานจารึกไวในสวรรคแลว” บางคนตองการชื่อเสียง จารึกไวในโลกนี้ ดูตัวอยางของอเล็ก ซานเดอรมหาราช ยิ่งใหญ ที่สุดในโลก สุดทายเวลานี้แมแตหลุมศพของกษัตริยองคนี้ก็ยังไมมีใครรูวาอยูที่ไหน หายไปกับโลกนี้ นั่นแหละ ไมมีอะไรยั่งยืนหรอกครับ ลองสํารวจตัวเองดี ๆ นะครับ เวลาพิจารณาบาป ดูสิวา มี บ าปอะไรบ า ง คนที่ รู จั ก สํ า รวจตนเอง พิ จ ารณาตนเองดี ๆ เป น คนสุ ภ าพ ถ อ มตน เพราะการยอมรับวาเราเป นคนบาป บกพรองตาง ๆ นานา ๆ นั้น ไมใชเปนเรื่องงาย ๆ สําหรั บ เรามนุษยเลย

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 4 กรกฎาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

52


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก อาทิต ยนี้ เ รามีพิ ธีอํ า ลาและขอบคุ ณคุ ณพ อ เดชา อาภรณรั ตน พอ ก็ข อพู ด ถึง พอ เดชา ของเรา สักเล็กนอยในสารวัดนี้ พอมาที่นี่พรอม ๆ กับพอเดชา เรียกวา มือใหมสําหรับที่นี่ดวยกัน ทั้งคู ทุกวันเสารเย็น เราก็จะนั่งคุยกัน ถามีบราเดอรอยูดวย ก็คุยพรอม ๆ กัน เรื่องเกี่ยวกับงาน อภิบาล การแกบาป วันฉลองตาง ๆ กฎเกณฑของพระศาสนจักร พวกเราชอบเอาคําถามเรื่องนี้เรื่อง นั้นมาหาคําตอบดวยกัน ฟงดูคลาย ๆ เครียด แตไมเครียดเลย คุยกันสนุกมาก หลาย ๆ ครั้ง พอเดชา ก็มักจะนําเอาเรื่องที่เกี่ยวกับฝายการศึกษามาแนะนําพอ และก็ตอบคําถามตาง ๆ เกี่ยวกับโรงเรียน ไดอยางคลองแคลว แตพอก็คอนขางมั่นใจวาพอเดชามีหัวใจเปน นักอภิบาลมากกวา เพราะเธอดู เอาใจใสในเรื่องงานอภิบาลอยางมาก ทั้ง ๆ ที่ก็มีภารกิจมากมายในแตละวัน และก็ดูเธอมีความสุขที่ ไดมีงานอภิบาล มีความสุขที่ไดมาที่นี่ มานั่งฟงแกบาป และฟงแกบาปตรงเวลาเสมอ เตรียมเทศน มาอยางดีทุกครั้ง บางคนก็มาชื่นชมใหพอฟงวาพอเดชามีวิชาการที่ดีและมีประโยชน อีกเรื่องหนึ่งที่ พอขอขอบคุณพอเดชาเปนพิเศษก็คือ ทุกครั้งที่พอขอรองใหทําหนาที่เพิ่มเติม หรือเปลี่ ยนแปลง เวลา เพิ่มวันมาที่วัด พอก็ไมเคยปฏิเสธเลย ยินดีและเต็มใจทุกครั้ง ประสบการณในชีวิตที่ผานมา ทําใหพอเดชาสามารถทําหนาที่ทั้งเจาอาวาส ทั้งผูชวยพระสังฆราช ผูชวยงานอภิบาล ไมวาจะ ใหทําอะไร ก็ไมมีอะไรสามารถหยุดคุณพอเดชาไดแลว ขอขอบคุณคุณพอเดชาอยางมากสําหรับ ทุกสิ่งที่พอไดทําเพื่อวัดของเรา พอขอยืนยันวาพอจะคอยเชิญพอเดชามาชวยงานที่วัดของเรา ในยามที่ขาดแคลน และพวกเราก็ยินดีตอนรับคุณพอเสมอ พอก็ตองเขียนลงสารวัดเชนกันสําหรับการตอนรับคุณพอสุพัฒน หลิวสิริ ปลัดใหมของเรา โชคดีของเรา แตก็ไมรูวา โชคดีของพอสุพัฒนหรือเปลา หวังวาจะใช กอนอื่นหมดพวกเราขอแสดง ความยินดีอยางเปนทางการสําหรับศักดิ์สงฆซึ่งพระเจาประทานให ศักดิ์สงฆซึ่งพวกเราทั้งรักและ เคารพ กอนพอสุพัฒนจะมาที่วัด ก็มีเรื่องชมเชยตางๆ นาๆ มาถึงเราแลววา พอเปนพระสงฆที่มี จิ ต ใจดี นิ สั ย ดี ใบหน า รั บ แขก บางคนถึ ง กั บ บอกว า หล อ มาก หล อ มากกว า เสื้ อ หล อ ซะอี ก วาไปนั่น อยางไรก็ตามความเปนสงฆของพอ เปนสิ่งที่พวกเราชื่นชม เพิ่งมาใหม ๆ พอก็ยังไมรูจัก อะไรมากนัก สังเกตวาพอสุพัฒนพยายามเรียนรูงานอภิบาลทุกอยางดวยความเอาใจใส บอกใหไป ประชุมอะไรก็ไปหมด บอกใหทําอะไร ใหชวยอะไร ใหไปไหนก็ไปหมด สงสัยจะพูดคําวา No ไมเปน และหลายครั้งก็เสนอความคิดที่ดี ๆ ใหพอดวย ขอตอนรับคุณพอดวยความชื่นชมยินดีอยางยิ่ง และ ขอใหทําหนาที่ที่วัดนี้ดวยความสุขมีอะไรใหคุณพอเจาวัดชวย ก็บอกไดเสมอ เราตางก็มีศักดิ์ สงฆเดียวกัน ตองชวยกัน พระวรสารอาทิตยนี้เปนเรื่องของชาวสะมาริตันผูใจดี แตก็ดูเหมือนวาจะตําหนิพระสงฆ นักบวช ไปในตัว ในพระวรสารพระสงฆนักบวชละเลยที่จะชวยเหลือเพื่อนมนุษย และพวกเขาก็มี เหตุผลบางประการ ที่ไมชวย มีบัญญัติบางอยางของพวกเขาที่ไมใหชวย แตพระเยซูเจาสอนวา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

53


สิ่ งที่ จาริ กลงในบทบั ญญั ติ ไม สํ าคั ญ เท า กั บ บั ญ ญั ติ แ ห ง ความรั ก ที่ จ ารึ ก ลงในจิ ต ใจมนุ ษ ย นี่ก็เปนที่มาของมนุษยที่มักจะมีเหตุผลตาง ๆ นานาที่จะไมชวยเหลือเพื่อนมนุษยดวยกัน มีคําถาม อยูสามคําถามที่นาคิดอยูในพระวรสาร 1. ขาพเจาจะตองทําสิ่งใด เพื่อจะไดชีวิตนิรันดร? คําตอบคือ รักพระสุดจิตใจ และ รักเพื่อนมนุษยเหมือนรักตนเอง 2. ใครเลาเปนเพื่อนมนุษยของขาพเจา ? คนที่กลาถามคําถามนี้ตองเปนคนที่มีจิตใจดี ครับ เพราะถาเราลองกลาถามแลวละก็เราจะเห็นเพื่อนมนุษยของเราผานไปผานมาหนาเราทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง และหลายครั้งอาจเปนองคพระเยซูเจาเองดวยที่เดินผานมาหรือแบกกางเขน ผานมา 3. คําถามสุดทายก็คือ ใครในสามคนนี้เปนเพื่อนมนุษยของคนที่ถูกโจรปลน? พระสงฆ องคนั้น ชาวเลวีคนนั้น หรือ ชาวสะมาริตันคนนั้น ปญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เรามองไมเห็นวาคนอื่น ๆ นั้นคือเพื่อนมนุษยของเรา พอ ๆ กับที่ เรามองไมเห็นวาเรานั่นแหละตองเปนเพื่อนมนุษยของคนอื่น ๆ ในความหมายของพระเยซูเจา และเราก็ไมพรอมที่จะเปนเพื่อนมนุษยของใครบางคนตลอดเวลา เราอาจจะเปนเพื่อนมนุษยของเขา แคบางครั้งบางคราวเทานั้นเอง และก็เปนเพื่อนมนุษยแบบผอนสงดวยคือเปนทีละเล็กทีละนอย บางครั้งพอก็ตําหนิตัวเอง ที่ใจแคบ ใจดํากับเพื่อนมนุษย บางครั้งก็เศราใจเหมือนกันเวลาที่ รูวาพระสงฆนักบวชบางองคไมมีจิตใจเมตตากรุณาตอผูอื่นอยางที่ควรจะเปนในฐานะสงฆและ นักบวช บางครั้งคนตางศาสนาเขายังมีจิตใจดีกวาศิษยของพระเยซูเจาอยางเราเลย นาอาย นะครับ พอเองก็อาย อยางไรก็ตามพอเชื่อวาพระเยซูเจาคงมิไดตองการเตือน เฉพาะพระสงฆ และนักบวชหรอกครับ เตือนศิษยของพระองคทุกคนนั่นแหละ มี ตั ว อย า งมากมายของศิ ษ ย พ ระเยซู เ จ า ที่ ม องเห็ น เพื่ อ นมนุ ษ ย แ ละเป น เพื่ อ นมนุ ษ ย ที่โดดเด นมาก ๆ ก็ไ ด แก คุ ณแม เ ทเรซา แห ง กั ลกั ต ตา นัก บุ ญ วิน เซนเดอปอล นั กบุ ญ มาร ติ น เดอ ตูร หลาย ๆ เรื่องที่ทานเหลานี้ไดทําก็เปนเรื่องธรรมดาแสนธรรมดาครับ แตทานทําดวย ญัตติที่จารึกในหัวใจจริง ๆ มิใชทําดว ยการใชเ หตุผ ลตา ง ๆ นานา หรือ ทํา ตามบทบัญ ญัติ เทา นั้น เรามัก จะมีเ หตุผ ลมากมายที่จ ะชวยเหลือเพื่อนมนุษยของเรา แตก็มักจะมีเหตุผลมากกวาที่ จะไมชวยครับ อยาถามเพียงแตวาใครคือเพื่อนมนุษยของเรา แตตองถามวา เราเปนเพื่อนมนุษย ของใครบางแลวหรือยัง ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 11 กรกฎาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

54


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พระเยซูเจามีเพื่อนรักอยูคนหนึ่งชื่อลาซารัส ลาซารัสมีนองสาวสองคนชื่อมารธาและมารีย ในพระวรสารมีคนชื่อมารียอยูหลายคนครับ มารีย พระมารดา, มารีย มักดาเลนา สวนมารียคนนี้ เรี ยกกั นว า มารี ย แห งเบธานี เรื่ อ งของลาซารั ส ก็ เ ป น เรื่ องที่ ลาซารั ส เสี ยชี วิ ต ได 4 วั นแล ว พระเยซูเจาทรงปลุกใหกลับคืนชีพ เรื่องนี้เราคงจํากันไดดี ตอนที่พระเยซูเจามาถึงบานลาซารัส มาร ธ าได อ อกมาต อนรั บ และแสดงความเชื่ อ ของเธอออกมาอย างน าทึ่งที เดี ยว เธอพู ดกั บ พระเยซูเจาวา “ถาพระองคอยูที่นี่ พี่ชายของดิฉันคงไมตาย” ตอมาอีกนึดหนึ่งมารธาเสริมวา “ดิฉันรูวาเขาจะกลับคืนชีพเมื่อมนุษยทุกคนจะกลับคืนชีพในวันสุดทาย” ตอนสุดทายของ บทสนทนานี้ เธอแสดงความเชื่ อ อย า งนี้ ค รั บ “เชื่ อ พระเจ า ข า ดิ ฉั น เชื่ อ ว า พระองค เ ป น พระคริสตเจา พระบุตรของพระเจา (ยน.11:21-27) ความเชื่อของมารียนองสาวคนนี้ก็ไมนอยหนา มารธา เปนมารียคนนี้ที่ใชน้ํามันหอมชโลมองคพระเยซูเจา และใชผมเช็ดพระบาทพระองค (ยน.11:2) พอเลาเรื่องนี้ใหฟงกอนก็เพื่อจะไดเห็นวาความเชื่อและความรักที่สามคนพี่นองนี้มีตอ พระเยซู เจ าลึ กซึ้งขนาดไหน และเป นเพราะเหตุ นี้แหละครั บที่ พระเยซูเจา ถึงรักครอบครัวนี้มาก สําหรับคนที่มีความเชื่อ พระเยซูเจาทั้งรัก ทั้งชวยเหลือ เราเห็นตัวอยางเหลานี้มามากมาย ในพระวรสาร พระวรสารอาทิ ตยนี้ ทํา ใหเ ราเขา ใจถึ งความรัก และความเชื่อของทั้งมารธ าและมารี ย สองคนนี้ รักพระเยซูเจามากจนกระทั่งไมรูวาใครรักพระองคมากกวากัน มารธา กุลีกุจอจัดโนนทํานี่ เตรียมหลายสิ่งหลายอยาง คงตื่นเตนนาดูเพราะพระอาจารยมาถึงที่บาน เห็นแบบนี้เราตองบอก เลยครับวา มารธาตองรักพระเยซูเจาและมีความเชื่อวาพระองคคือใคร สวนมารียใชโอกาสนี้ นั่งสนทนากับพระเยซูเจา ใกลชิดกับพระองคและคงมีความสุขใจมากที่มีโอกาสไดฟงคําสอนตาง ๆ จากพระองค นีก่ ็เปนการแสดงใหเห็นวามารียก็รักพระเยซูเจาเหมือนกัน คนเราเนี่ย เวลาจะแสดงวา รักใครสักคนก็มักจะแสดงออกในรูปแบบที่ไมเหมือนกัน เราฟงดูพระวรสารตอนนี้ก็อาจจะรูสึกวา พระเยซูเจาตําหนิมารธา ไมใชนะครับ อยาเขาใจผิด พระองคเรียก “มารธา มารธา เธอเปนหวง และวุนวายหลายสิ่ งนัก” การเรียกชื่อสองครั้ งติ ดตอกันเปนการแสดงความเอ็นดู แบบชาวยิ ว แสดงถึงความรักตอบ ความหวังดีตอบ คลาย ๆ กับจะบอกวาที่ทํามาใหนี้พอแลวมากเกินพอแลว อะไรทํ านองนี้ อยากให ม าร ธ าได รั บ บางอย า งเพิ่ ม เติ ม บางอย า งที่ ดี ที่ สุ ด ที่ พ ระองค จ ะให ไ ด เหมือนกับที่ใหกับมารีย อานพระวรสารตอนนี้แลว เขาใจเลยครับวาเวลาที่พระรักมนุษย พระองค ต องการให เราได รั บแต สิ่ งที่ ดี ที่ สุ ดจริ ง ๆ ตอนนั้ นมาร ธ าก็ ไ ม เ ข า ใจจึ ง ตั ด พ อ พระเยซู เ จ า ว า “พระองคไมสนพระทัยหรือที่นองสาวปลอยดิฉันคนเดียวใหปรนนิบัติรับใชพระองค บอกเขาใหมา ชวยดิฉันบาง” แตพอเชื่อวา ตอมาเธอก็เขาใจ ความรักตอพระแสดงออกไดหลายทาง

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

55


นักบุ ญเอากุ สติ นเคยสอนไว แบบนี้ ครั บ สอนวา มาร ธาเป นตั วแทนของบรรดานักบวช ที่ชอบทํางาน รับใชพระ สวนมารียเปนตัวแทนของบรรดานักบวชที่ชอบสวดภาวนาและ ใกลชิดกับพระ เราจะบอกและตัดสินวาแบบไหนดีกวากันไมได ดีทั้งสอง เพราะรักพระดวยกันทั้ง สองแบบนี้แหละ เวลาที่เรารูวามีคนรักเรา เชื่อเรา เราก็อยากจะรักตอบ หวังดีตอบเหมือนกัน เรื่องความรักระหวางพระเยซูเจากับครอบครัวของลาซารัสนี้ทําใหพอนึกถึงเรื่องของสามีภรรยาคู หนึ่ง เปนเรื่องที่นารักและซาบซึ้งใจมาก สามีชื่อจิม สวนภรรยาชื่อเดลลา สองคนนี้แตงงานกัน และรั ก กั น มาก แต เ ป น ครอบครั ว ที่ ย ากจน เดลลามี ส มบั ติ ที่ เ ธอหวงแหนมากอยู อย างหนึ่ ง ซึ่งจิมก็รูดี คือ เธอมี ผมยาวสลวย สวยเก และเธอก็พยายามรักษาผมของเธออยางดี วันกอนวั น คริสตมาสเธอมีเงินอยูเพี ยงหนี่ งดอลล าหเศษ ๆ เทานั้นที่จะซื้ อของขวัญให กับจิม เธอรู วาจิมมี นาฬิกาเรือนหนึ่งที่บิดาของจิมมอบใหและจิมก็หวงแหนนาฬิกาเรือนนี้มาก เดลลาไปที่ในเมือง ตัดผม ของเธอขายไดเงินมา 20 ดอลลาห เธอนําเงินนี้ไปซื้อสายนาฬิกาพลาตินัมเพื่อมอบใหกับจิมเปน ของขวัญคริสตมาส เย็นนั้นพอจิมกลับจากทํางาน จิมมองเห็นเดลลา ที่มีผมสั้นเกรียนแตก็ไมได พูดอะไร เดลลานําของขวั ญที่เตรียมไว มอบใหจิม จิม ก็มีของขวัญใหเดลลาเชนกัน พี่ นองเดา ออกมั้ยครับของขวัญชิ้นนี้คืออะไร จิมซื้อหวีที่ทําดวยมุกและประดับดวยลวดลายที่สวยงามมากมา มอบใหแกเดลลา เขาไปขายนาฬิกาที่เขารักเพื่อจะมีเงินมาซื้อหวีใหแกเดลลา เธอจะไดใชหวีรักษา ผมของเธอใหส วยงาม ต างคนต า งต อ งการมอบความรั ก ตอบ ใหทุ ก อย า ง ทํ าทุ ก อย า งเท า ที่ สามารถเพื่อแสดงใหเห็นวาเปนความรักแทและบริสุทธิ์จริง ๆ ที่จริงเรื่องของจิมกับเดลลา ควรจะ นําไปเทศนในระหวางมิสซาแตงงานมาก เปนเรื่องที่ฟงแลวรูสึกถึงความรักที่สวยงาม ตางคนตาง มอบสิ่งที่ดีที่สุด มีคาที่สุดแกกันและกัน มารธาตองการมอบการรับใชและบริการทุกอยางเทาที่ทําได และรูสึกวายังไมพอ อยากใหนองสาวมาชวยเพิ่มขึ้นอีก สวนมารียก็รูสึกวาไมเคยอิ่มเลยที่จะอยู ใกลชิดกับพระอาจารยผูนี้ พระเยซูเจาที่ตองการรักตอบทั้งมารธาและมารีย พอจึงไมเคยตําหนิมารธาและก็ไมชมมารียมากไปกวามารธา สองคนนี้รักพระ เชื่อพระ ในรูปแบบแตกตางกัน แตเต็มรอยทั้งสองคน อยากให พี่นองทุกทานเปนแบบนี้บาง เต็มรอยกับ พระตามรูปแบบของเรา เวลาสวดก็สวดเต็มรอย ไปวัดวันอาทิตยที่ตั้งใจไปใหทันมิสซาและ กลับบานดวยความสุขใจ ทําอะไรใหพระก็ ทําเต็มที่เทาที่เราสามารถ พูดงาย ๆ ก็คือ รักพระ เชื่อพระ สุดความสามารถของเรา สุดจิตใจ สุดสติปญญาของเรา เพราะหลาย ๆ ครั้ง เราไมไดทํา เต็มที่นะครับ เราทําแคบางสวน และเราก็ยังไมไดเลือกสวนที่ดีที่สุดที่เราจะทําไดเพื่อพระและ เพื่อเพื่อนมนุษยของเรา

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 18 กรกฎาคม 2010

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

56


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก บทภาวนาที่ พ ระเยซู เ จ า ทรงสอนให เ ราสวดคื อ “บทข า แต พ ระบิ ด า” ในพระวรสาร อาทิตยนเี้ ปนบท ขาแตพระบิดาเขียนโดยนักบุญลูกา (ลก.11:1-13) อานดูแลว สั้นๆ หวนๆ ยังไง พิกล ไมเหมือนกับบท ขาแตพระบิดาของขาพเจาทั้งหลายที่เขียนโดยนักบุญมัทธิว (มธ.6: 7-15) ซึ่งเปนบทที่พระศาสนจักรนํามาใหพวกเราสวดกัน คลาย ๆ กันแตก็ไมเหมือนกันซะทีเดียว นั ก บุ ญ ลู ก าจะสอนเพิ่ ม เติ ม ให เ ราอย า ท อ ถอยในการสวดภาวนาโดยใช ค วามคิ ด ตาม ประสามนุษยวา พอที่ไหนจะทนฟงคําขอของลูกอยูได และพอที่ไหนจะใหสิ่งที่ไมดีแกลูก เรียกงายๆ ตามภาษาไทยเราก็คือ ตื้อเทานั้นที่ครองโลก พระตองฟงและประทานใหอยางแนนอน สวนบทของ นักบุญมัทธิวนี้ทานเนนใหเรารูจักการใหอภัย เพราะขนาดสวดจบแลวทานยังอธิบายเพิ่มเติมวา ถาทานใหอภัย พระก็อภัย ถาไม พระก็ไมเหมือนกัน พี่นองลองไปเปดอานดูนะครับจะไดพบความ แตกต า ง และก็ เ ป น ความแตกต า งที่ มี คุ ณ ค า อยา งยิ่ ง บางคนอาจจะยัง ไม เ คยรู ดว ยซ้ํ า ว า มั น แตกตางกัน อยางไรก็ตาม เราก็สามารถสรุปไดอยางงาย ๆ วา บทภาวนาบทนี้เปนบทภาวนาที่ ดีที่สุด สมบูรณที่สุด เพราะพระเจาเปนผูสอนใหเราสวดเอง และมีความหมายทุกตัว อักษร มีทั้งสรรเสริญพระ ขอบคุณพระ ขอโทษพระและวอนขอจากพระ ครบเครื่องเลยครับ แตพอวา บทนี้ ในภาษาไทยออกจะทํ าให เรากั บ พระอยู ห างกั นสั กหน อยเพราะเราเอาราชาศั พ ท เ ข า มา ใชมาก เปนเพราะเราตองการใหเกียรติพระอยางสูงสุด อาทิตยนี้พอก็เลยนําเอาบทขาแตพระบิดา ที่ พวกเราใช กั นมาในประเทศไทย ตั้ งแต สมั ยพระนารายณ มาให พี่ น องได รู จั กกั นบ างและลองดู ความแตกตางวาการเปลี่ยนแปลงภาษาในแตละยุคสมัยนั้นเขาคงตองการใหเราสวดภาวนาดวย ความหมายอยางใดกัน เริ่มกันดวยตั้งแตสมัยพระสังฆราชลาโน (1674-1696) ก็คือสมัยพระนารายณนั่นแหละครับ พวกเราคริสตังสวดแบบนี้ครับ “พอเรา อยูสวรรค ชื่อพระใหปรากฏทุกแหง คนทั้งหลายถวาย พระพร” เอาแบบสั้น ๆ กอนนะครับ พอคงไมสามารถลงในสารวัดแบบเต็ม ๆ ได บทนี้ใชสวด มายาวนานมาก จนกระทั่งมาถึงสมัยรัชกาลที่ 4 กรุงรัตนโกสินทรคือสมัยพระสังฆราช ปลเลอกัวที่มี ชื่อเสียง (1841-1862) ก็เปลี่ยนมาเปน “ขาแตพระพุทธิบิดาแหงขาพระเจาทั้งหลาย ทานอยูสวรรค ขอโปรดใหพระนามรุงเรืองไป” จากคําวาพอที่ใกลชิดก็เริ่มใชราชาศัพทเข ามาเต็มรูปแบบแลว ท า นจงใจใช คํ า ว า “ข า พระเจ า ” ไม ไ ด ใ ช คํ า ว า “ข า พเจ า ” บทนี้ ใ ช ต อ กั น มาอี ก 50-60 ป สมัยพระคุณเจาแปรรอส ก็เปลี่ยนอีกหนอยโดยตัดคําวา พุทธิออกไป จึงกลายมาเปน “ขาแต พระบิดาแหงขาพเจาทั้งหลาย” สมัยทานโชแรงเราก็เริ่มคุนเคยแลวครับ เราหมายถึงรุนพอนะครับ จะไดยินชื่อพระคุณเจาโชแรง เปลี่ยนมาเปน “ขาแตพระบิดาของเรา” และในสมัยพระคุณเจา ยวง นิตโย เปลี่ยนมาเปน “ขาแตพระบิดาของขาพเจาทั้งหลายตั้งแตนั้นเปนตนมา เนื้อหาภายในบทนี้ก็เปลี่ยน ตามไป แตละสมัยดวย เสียดายจะนํามาอธิบายทั้งหมดก็จะยาวไป อานไปอานมาอาจหลับไดเลย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

57


ใครที่สนใจจริงๆ ก็แนะนําใหไปเปดเว็บไซด http://haab.Catholic.or.th. ซึ่งเปนเว็บหอจดหมายเหตุ ของเราและก็คลิกไปที่ “ประวัติขาแตพระบิดา” พี่นองก็จะรูจักเรื่องราวเหลานี้อยางละเอียด การสวดภาวนานั้นมีผลที่ดีตามมาเสมอครับ แมวาจะไมสามารถทําใหหลุดพนจาก ผลรายไดก็ต าม ตั วอยา งงาย ๆ ชัด ก็คือ บทภาวนาของอับ ราฮัมที่ ขอและตอรองกับ พระว า ถา หากเมื อ งโสดมมี คนดี สิบคน พระองค จะลงโทษเมื องนี้ หรื อ พระก็ ตอบสนองคําภาวนาทั นที พระตอบวา ไมลงโทษ ถามีคนดีสิบคน แตก็ไมมี ถึงกระนั้นกอนลงโทษเมืองโสดม พระองคก็ยังรักษา ชีวิตของครอบครัวลอท เอาไวได คําภาวนาของเรานอกจาก มีผลแลว ยังมีประโยชนอีกดวย พอดี พ อ ไปอ า นพบเรื่ อ งนี้ เ ข า เล า ให ฟ ง ว า ในป 1999 มี การวิ จั ยเรื่ องการสวดภาวนาจากคน ในอเมริกา 22,000 คนโดยใชเวลา 9 ป พบวา ผูที่เขารวมมิสซาทุกวันอาทิตยเปนประจํา มีอายุยืนกวา พวกที่ไมเขารวมมิสซาถึง 10 % และสามารถลดและเลิกสูบบุหรี่ และดื่มเหลาได ในอัตราที่มากกวา อยางเห็นไดชัด และไมนานมานี้มหาวิทยาลัยดุก (Duke) ก็ทําการศึกษาคนที่มีอายุมากกวา 65 ป จํานวน 4,000 คน พบวา คนที่สวดภาวนาเปนประจํามีความดันโลหิตต่ํากวาพวกที่ไมสวด และผูที่ รวมพิธีทางศาสนาเปนประจํามีระบบตาง ๆ ในรางกายที่ดีกวา นอกจากนี้มหาวิทยาลัย Yale และ Dartmouth ยังพบวา ผูปวยในโรงพยาบาลที่ไมเขารวมพิธีทางศาสนาจะอยูในโรงพยาบาลนานกวา ผูที่เขารวมถึงสามเทา และการศึกษาในอิสราแอลพบวาอัตราการเสียชีวิตของผูที่สวดภาวนาและ รวมพิธีทางศาสนาต่ํากวาถึง 40 % นักวิทยาศาสตรและแพทยใหความเห็นวามีการเปลี่ยนแปลง ในร างกายของเราเมื่ อ มนุ ษ ย เรารํา พึ ง ภาวนา แสดงวา ทุ ก ครั้ ง ที่เ ราสวดภาวนาและรํ า พึ ง มีบางอยางเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงทั้งทางดานรางกายและทางดานจิตใจครับ พระเยซูเจาทรงรูเรื่อง ประโยชนและผลของการภาวนาดีจึงสวดภาวนา และสอนเราใหภาวนาเสมอ ๆ ในขณะที่นักวิจัย นักวิทยาศาสตรและแพทยเพิ่งจะมาคนพบเมื่อไมนานมานี้เอง เรื่องนี้เลยทําใหบท “ขาแต พระบิดาของขาพเจาทั้งหลาย” นี้มีคาขึ้นมาอีกมาก ลองสวดบทนี้ชา ๆ และรําพึงตามเนื้อหาดู นะครับ เราจะพบการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเรา ในจิตใจของเราทุกครั้งเลย พระเยซูเจายืนยันเรื่องนี้เวลาที่ทรงสอนเราวา “จงขอเถิด แลวทานจะไดรับ จงแสวงหา เถิด แลวทานจะพบ จงเคาะประตูเถิด แลวเขาจะเปดประตูรับทาน” บางคนก็อาจจะเถียง และ ก็เถียงแบบนี้เสมอๆ ซะดวยวา ขอแลวไมเห็นไดรับเลย ลองมองยอนกลับไปนะครับ และเราจะ พบวาเราไดรับบางอยางที่ดีเสมอในการภาวนาวอนขอของเรา แตคราวนี้เราลองมาเปนพระดูบาง นะครับ ลองดูวา เวลาที่มี คนมาขอเรา เราไดใหรึ เปลา หรื อเราให อะไร เราไดชวยใครที่กํ าลั ง แสวงหาบางสิ่งบางอยางอยู ใหเขาไดพบวาที่แสวงหาอยู หรือเวลาที่มีคนมาเคาะประตูบานเรา ขอความชวยเหลือ พอมองกลับไปจริง ๆ เราก็จะพบวา เปนเรานี่แหละครับที่ไมให ไมเปด โอกาส และไมเปดประตูรับใครเลย ถาหากเกิดเหตุการณอยางนี้ไมรูจะทํายังไง สวดบท “ขาแตพระบิดาของขาพเจาทั้งหลาย” นะครับจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นในจิตใจของเรา ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 25 กรกฎาคม 2010 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

58


สารเจาอาวาส

พี่นองทีร่ ัก ปญญาจารยพูดวา “ไมเที่ยงแทที่สุด ทุกสิ่งทุกอยางไมเที่ยงแท” (ปญจ.1:2) และในจดหมายนักบุญ เปาโลอาทิตยนี้สอนวา “จงใฝหาแตสิ่งที่อยูเบื้องบนเถิด อยาพะวงถึงสิ่งของบนแผนดินนี้ ” (คส 3:1-5) พระเยซูเจาในพระวรสารก็เตือนเราเรื่องนี้ “จงระวังและรักษาตัวไวใหพนจากความโลภ ทุกชนิด คนที่สะสมทรัพยสมบัตไิ วสําหรับตนเองแตไมเปนคนมั่งมีสําหรับพระเจา ก็จะเปนเชนนี้” (ลก:12:13-21) บทอานทุกบทของอาทิตยนี้พูดเรื่องเดียวกันคือ สมบัติในโลกนี้อาจทําใหเราลืมไปว า เราตองสะสมทรัพยสมบัติในสวรรคดวย คนเราจะมั่งมีในโลกนี้ก็ไดครับ แตตองมั่งมีในสวรรคดวย หลายคนมัวแตสะสมทรัพยสมบัติในโลกนี้ และไมสะสมทรัพยสมบัติ ในสวรรคเลยก็เปนอันตราย คนเราก็ มักจะเปนอยางนี้ซะดวย มินาเลาพระเยซูเจาจึงเปรียบเทียบวา “อูฐลอดรูเข็ม ยังงายกวาเศรษฐีจะเขา อาณาจักรสวรรค” คือหมายความวาเขาสวรรคไดแตยาก เพราะเราไมสามารถรับใชพระเจาและเงินตรา ไดในเวลาเดียวกัน อธิบายงาย ๆ ก็คือ ทรัพยสมบัติและความร่ํารวย ไมใชบาป ไมใชความผิดอะไรเปน พระพรดวยซ้ํา แตเราตองรูเทาทันมัน ทุกคนเลยนะครับไมใชเฉพาะคนรวย คนจน ก็ตองรูเทาทัน ดวยเพราะคนจนคนที่ไมมี คนที่ไมพอ นี่แหละที่มัวแตแสวงหาแตทรัพยสมบัติในโลกนี้ ดีไมดีขวนขวาย หาซะจนตองตกนรกไปเลยก็ได สวรรคมีไวสําหรับทุกคน สวนนรกมีไวสําหรับบางคนนะครับ หวังวา จะไมใชเรา พระเยซูเจา เปนแบบอยางในเรื่องความยากจนแกพวกเราที่ดีที่สุด พี่นองคงรูจัก “พระกุมารเยซู” รูปพระกุมารเยซูที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะไมมีรูปไหนไดรับความ สนใจเทากับ รูปพระกุมารเยซูแหงปราก ที่จริงดานหลังของวัดเราก็มีรูปนี้ตั้งอยูดวย ถาพี่นองไปดูนะ ครับก็จะเห็น พระกุมารเยซูสวมมงกุฎ และฉลองพระองคที่สวยงามมาก พระหัตถขวาทรงยกขึ้นอวยพร และพระหัตถซายถือโลกเอาไว รูปนี้มีกําเนิดมาจากประเทศสเปน และดวยเรื่องราวที่คอนขางยาว ในที่สุด ก็มาประทับอยูที่เมืองปราก มีอัศจรรยมากมายที่เกิดขึ้น กับผูที่มาสวดภาวนาตอหนาพระรูปนี้ อัศจรรย ตาง ๆ เหลานี้ไดรับการบอกกลาวเลาขานกันไปทั่วโลก ทําใหมีผูที่ศรัทธาตอพระกุมารเยซูแหงปรากกันทั่ว โลก วัดพระกุมารเยซูที่ถนนบางนา-ตราด กม.8 ก็มาจากความศรัทธานี้เอง พี่นองหลายคนก็ไปแสวงหา รูปนี้มาตั้งไวสวดภาวนาที่บาน มีเหตุผลบางอยางที่ผูสรางรูปนี้ขึ้นโดยใหพระกุมารเยซูสวยสงาแบบนี้ พอจะพยายามสรุปใหสั้น ๆ นะครับ พระกุมารสวมมงกุฎทองคํา เพราะมงกุฎที่พระเยซูเจาทรงสวมนั้นคือ มงกุฎหนาม พระองคทรงรับทุกขทรมานและทําตามน้ําพระทัยของพระบิดาเสมอ บัลลังคที่พระองคประทับ ก็คือ ประทับบนไมกางเขน และอาภรณของพระองคก็คือเสื้อคลุมที่พวกทหารเอามาคลุมพระองคไว เพราะฉะนั้นเวลาเรามองดูรูปนี้ เราก็จะพบกับความจริงที่วา พระองคคือกษัตริยที่แท และกษัตริยที่แท ก็ คื อ ผู ที่ ย อมสละทุ ก อย า งเพื่ อ พระอาณาจั ก ร ไม ไ ด แ สวงหาสิ่ ง ใดในโลกนี้ เ พื่ อ ตนเอง แต แสวงหา จิตวิญญาณ จิตใจที่ยากจนแบบนี้แหละคือ พระพรและดูแลรักษาโลกนี้ไวได ภายในความสวยงาม ในรูปพระกุมารเยซูแหงปราก เราจะไดพบกับความรักที่ยิ่งใหญที่สุด และเปนทรัพยสมบัติที่มีคา ที่สุดดวย มองดูรูปนี้นานเทาใด เราก็จะพบคําสอนที่วา “จงสะสมทรัพยสมบัติในสวรรคเถิด” อยางชัดเจน เรื่องนี้ตองเลาควบคูไปกับนักบุญ องคหนึ่ง ซึ่ง เขาใจเรื่องนี้อยางดี เคยร่ํารวย แตง ตัวดี มีทุกอยาง

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

59


แตพอเขาใจคําสอนขอนี้ ก็สะสมทรัพยสมบัติในสวรรคแทน นั่นคือ นักบุญฟรังซิส แหงอัสซีซี ที่เรา ทุกคนรูจักนั่นเอง ที่จริงตอนเกิดมาในป ค.ศ. 1181 ทานไดรับชื่อตอนลางบาปวา John (Giovanni) แตเนื่องจาก บิดาเปนพอคาขายผา และมีธุรกิจในประเทศฝรั่งเศสดวย พอกลับมาจากฝรั่งเศสก็เลยเปลี่ยนชื่อใหเปน Francesco (Francis) ซึ่งแปลวา คนฝรั่งเศส Francis เติบโตเปนหนุมที่มีแตคนรัก มีสังคมกับเพื่อน ๆ ใช ชี วิ ต หรู หรา ฟุ ม เฟอ ย สนุ ก สนานทางโลก และในที่ สุ ด ก็ ถู ก ดึ ง ดู ด ไปมั่ ว สุม กั บ สิ่ ง ที่ ไม ดี ทั้ ง หลาย ทานยอมรับในภายหลังวาเวลานั้นทานมีชีวิตอยูในบาป วัยหนุมทําใหมีความทะเยอทะยานอยากเปน มากกวา เศรษฐี อยากเป น ขุน นาง และอัศ วิน ทา นจึง สมัครไปทํ าสงครามครู เสด (ครั้ง ที่ สี่) และก็ ตองการเสื้อเกราะและมาดี ๆ เสื้อเกราะก็ตองทําดวยทองคํา พอออกมาจากอัสซีซีไดวันเดียว พระเจาก็ บอกกับทานในฝนวา “เจากําลังมาผิดทาง” หมายถึงทางชีวิตที่กําลังดําเนินอยูนี้ผิดทาง ทานจึงกลับมา อัสซีซี คราวนี้ผูคนหัวเราะเยาะกันยกใหญเพราะอุตสาหลงทุนมหาศาลสําหรับเสื้อเกราะและมา ไปได วันเดียวก็กลับบานซะแลว ทานเริ่มสวดภาวนามากขึ้นและไปรองไหเสียใจเพราะบาปตาง ๆ ที่ทําไป ในถ้ําแหงหนึ่ง พระเจาตรัสกับทานทางไมกางเขนวา “ฟรังซิส ซอมแซมพระศาสนจักรของเรา” ทานก็เลยถอดเสื้อผาทั้ง หมดที่บิดาให มา ดําเนิน ชีวิตยากจนและชวยเหลื อคนจน เทศนสอนและมี ผูติดตามแบบอยางชีวิตของทานมากขึ้น ๆ ใครที่เคยดูภาพยนตรเรื่อง “Brother sun, sister moon” จะได พบเห็นฉากที่นาประทับใจเหลานี้ ทานกลายเปนนักบุญผูยิ่งใหญ เปนนักเทศนและมีอัศจรรยมากมาย แตไมเทากับแบบอยางชีวิตของทานเลย ทานตอสูกับการผจญลอลวงดวยการกระโดดเขาไปในกอหนาม ใหความเจ็บปวดเอาชนะการผจญลอลวง ทานตายตอนอายุเพียง 45 เทานั้น แตกอนตาย ทานมีบุญไดมี รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ที่รางกาย มีเรื่องแปลกอยูอยางหนึ่ งก็คือ ฟรังซิสแหงอัสซีซีไมไดบวชเปนพระสงฆ เปนเพียงสังฆานุกรเทานั้น และที่จริงทานก็ไมตองการเปนสังฆานุกรดวย ความสุภาพถอมตนถึงความ ไมเหมาะสมของทาน และความบาปตาง ๆ ทําใหทานพบวา ทานตองยอมรับความทุกขทรมานและ น้ําพระทัยของพระตามแบบอยางองคพระคริสตเจา โลกนี้ไมมีอะไรที่จะยั่งยืนจริง ๆ เลย ทรัพยสมบัติในโลก ทําใหคนที่นารักไมนารัก ทําใหคน ซื่อสัตย ไมซื่อสัตย ทรัพยสมบัติทําใหคนเห็นแกตัวมากขึ้น รักเพื่อนพี่นองนอยลง ทรัพยสมบัติ ทําใหเราทําบาปไดงายขึ้น แตก็ไมไดหมายความวาเราไมตองหาเงินเลี้ยงชีพนะครับ เพียงแตวาอยามัว แตหาเงินหาทองจนลืมพระลืมพวกลืมหนาที่ และจะเปนบุญสักเทาใดนะครับหากเรามีทั้งทรัพยสมบัติ ในโลกนี้ และมีทรัพยสมบัติรอคอยอยูในสวรรคดวย จริงมั้ยครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 1 สิงหาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

60


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ทุก ๆ ปในวันศุกรศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรามักจะเรียกกันวา “ศุกรพระตาย” ถาพี่นองสังเกต ดูพิธี ในวันนั้นพระสงฆจะสวมอาภรณสีแดง เปนเครื่องหมายถึงชัยชนะตอความตายขององค พระเยซูเจา ที่แปลกก็คือสัตบุรุษจะสวมอาภรณสีขาว-ดํา เปนการไวทุกขที่พระตาย เคยมีพอ องคหนึ่งเพิ่งบวชไมนาน มีแนวคิดทางเทววิทยาสอนสัตบุรุษวันศุกรพระตายวา เราตองแสดงความเชื่อ ของเราดวยความยินดีที่วันหนึ่งเราจะชนะความตายดวย ดังนั้นใหเราใสเสื้อสีสดใสมารวมพิธีกัน พี่น องคงรูคํ าตอบดี วาเกิดอะไรขึ้ น ไมมี ใครสั กคนเดียวกล าใส เสื้ อผ าสีสั นมาร วมพิ ธี ยั งคงแต ง ชุ ด ขาว-ดํ า มากั น ทุ ก คน จนถึ ง ทุ ก วั น นี้ ก็ ยั ง ไม ค อ ยเห็ น ใครแหวกแนวออกมาเลย ซึ่ ง ก็ เ ป น ความหมายที่ดี เหมือนกันครับ พระเยซูเจาในฐานะมนุษยนั้นตองตาย และก็เตือนใจเราทุกคนให รูจักเตรียมเผชิญความตาย ทุกปในวันศุกรพระตายพระสันตะปาปาจะเสด็จไปที่โคโลเซียมที่กรุงโรม เพื่ อเดิ นรู ป 14 ภาคที่นั่ น ทํ าไมถึงตองมาที่นี่ ก็เพราะต องการใหสนามกีฬาแห งนี้ เปนที่เตื อนใจ สัตบุรุษทั่วโลกใหระลึกถึง “ความเชื่อ และความตาย” ที่จริงสนามกีฬาโคโลเซียมนี้มีคริสตังที่ตอง ตายเปนมรณสักขีไมมากเทากับสนามกีฬาที่เนินเขาวาติกัน พี่นองคงจําไดวานักบุญเปโตรก็ถูกจับ ตรึ ง กางเขนโดยศี ร ษะลงดิ น ที่ ว าติ กั น และต อ มาสนามกี ฬ าที่ นั่ น ก็ ถู ก เปลี่ ย นแปลงให เ ป น “มหาวิหารนักบุญเปโตร” สนามกีฬาโคโลเซียมก็กลายเปนสนามกีฬาที่โดดเดนขึ้นมา ทุกครั้งที่มี โอกาสไปที่สนามกีฬาแหงนี้ พอมักจะนึกถึงและวาดภาพบรรดาบรรพบุรุษและสตรีแหงความเชื่อ ของเรา พวกเขาถูกจับมาดวยขอหาเปนคริสตัง พวกเขาทราบวาจะตองตายอยางทารุณที่สุดและ เจ็บปวดทรมานมากที่สุด สัตวรายตาง ๆ ถูกจับใหอดอาหารเพื่อจะไดจับคนเหลานี้ฉีกกินตอหนา ชาวโรมที่ มานั่ งดู มหรสพที่ ร ายกาจนี้ เวลาที่ พ อเรี ยนเรื่ องนี้ พ อจึ งรู ว า คริ สตั งทุ กคนตอนนั้ นมี ความกลั ว บางคนขาอ อ นมื ออ อน เป นลมสลบไปเพราะความกลั ว พวกเขาทํ า ได เ พี ย งแต สวดภาวนา พูดเตือนความเชื่อของกัน และจับกลุมรองเพลงสรรเสริญพระ รูปภาพบางรูปที่ ศิลปนทั้งหลายวาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทําใหเราเกิดความกลัวแทนพวกคนเหลานั้นจริง ๆ ถาเปนเรา เราจะทนไดขนาดไหนกัน เราจะรองเพลงสรรเสริญพระตอนนั้นไดมั้ย พอเองก็ยังตอบไดยาก มรณสักขีเหลานี้รูวันเวลา รูวาจะตายอยางไร ทรมานเพียงใด พอไมรูจะหาคําพูดใดมาบรรยายถึง “ความเชื่อ” ของพวกทานได พระเจาประทานพละกําลังที่เพียงพอแกเราเสมอในการเผชิญความ ทุกขยากตาง ๆ แมในการเผชิญกับความตาย เราก็จะมีกําลังเพียงพอที่จะยอมรับ ใครที่มีโอกาสไป ที่กรุงโรม และมีโอกาสไปเยี่ยมโคโลเซี ยม อยาลืมหยุดรําพึงกับความเชื่ออันยิ่งใหญซึ่ง มา จากคนธรรมดา ๆ แบบเรานี่แหละครับ ยอมตายทั้ง ๆ ที่กลัวแสนกลัว ตายขณะที่สรรเสริญ พระได ความตายของเราคงเปนความตายที่เราไมรูตัวกอนแนนอน จะตายอยางไรก็ไมรู เวลาที่พอ ขับรถผานโรงพยาบาลเซนตหลุยส พอก็มักจะบอกวา นี่คือสถานที่ที่พอจะตาย ปกติพระสงฆจะ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

61


ตายที่นี่ครับ เวลาไปที่สามพรานก็มักบอกตัวเองวา เราจะถูกฝงที่นี่แหละ ถาปาชาไมเต็มซะกอน ถาเต็มคงตองไปเปดเฟสใหมที่ “ศานติคาม” พระเยซูเจาเตือนใจเราเรื่องความตายที่เราตอง พรอมเสมอ และสิ่งที่ทําใหเราพรอมเสมอก็คือ “ความเชื่อ” ถาความเชื่อของเราพรอม เราก็ พรอมสําหรับทุกสิ่งทุกอยาง แมความตายดวย แตความเชื่อของเราอาจจะไมเพียงพอก็ได หรือ อาจจะมี น อ ยเกิ น ไปหน อ ย หรื อ อาจจะมี ร ะยะเวลาที่ จ ะเชื่ อ น อ ยไปหน อ ยก็ ไ ด ส ว นใหญ แ ล ว เรามักจะคิดวา เรายังไมตายตอนนี้หรอก แตหลายตอหลายคนก็มักจะตายตอนที่ไมไดคิดเรื่องนี้ เลย มาในเวลาที่เราไมคาดคิด คําถามที่ดีที่สุดสําหรับตอนนี้ก็คือ เราจะเตรียมตัวใหพรอมไดอยางไรบาง? เราจะอยู ในโลกนี้ไมนานหรอกครับ อยาไปติดใจกับของของโลกมากนักเลย หลายคนไมอยากตายก็เพราะ เสียดายความสุขทางโลกนี่แหละ บางคนตองการกลับใจแตก็ออนแอเกินไป ปญหาของการกลับ ใจอยางหนึ่งที่พอเห็นก็คือ การไปแกบาปโดยที่เตรียมตัวไมดีเลย หรือไมเตรียมตัวมากอนเลย ไมไดพิจารณาบาปดี ๆ พวกนี้ขอแตใหยกบาปให แตไมไดคิดกลับใจเปลี่ยนแปลง บางคนก็ ทอแทถึงบาปที่แกแลวแกอีก เลิกไมไดซะที หมดกําลังใจ พอวาถาหากเรามีความเชื่อมากกวานี้ เราจะแกบาปดีขึ้น และจะมีกําลังที่จะแกไขตัวเรามากขึ้นดวย คําตอบก็คือความเชื่อของเรายัง ไมดีพอ อีกเรื่องหนึ่งที่สําคัญก็คือ บางคนมีความเชื่อไมพอที่จะเชื่อวา บาปของเราไดรับการยก แลวทุกครั้งที่เราแกบาปอยางดี บางคนรูสึกตลอดเวลาวา บาปยังอยู สงสัยวาจะหลุดมั้ยหรือ อะไร ๆ ในทํานองนี้ ก็เปนคําตอบเดิมครับ ความเชื่อของเราอาจจะนอยไป นักบุญเปาโลบอกวา “ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว เปนขอพิสูจนถึงสิ่งที่ เรามองไมเห็น” เราตองใหความเชื่อของเราแข็งแกรงขึ้น ดูตัวอยางความเชื่อของบรรดามรณสักขี อานเยอะ ๆ ครับเรื่องของทานเหลานี้ เรื่องของพอนิโคลาสและมรณสักขีที่สองคอน สวดภาวนา มาก ๆ และไปรวมปฏิบัติศาสนกิจเปนประจํา สม่ําเสมอ ความเชื่อของเราจะเติบโตขึ้น และ ทีละเล็กละนอยก็จะเปนความเชื่อที่เข็มแข็ง อยาลืมนะครับ ผูที่มีความเชื่อนี้จนถึงที่สุด ผูนั้นก็ จะรอดครับ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 8 สิงหาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

62


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก สมโภชแมพระรับเกียรติยกขึ้นสวรรคทั้งกายและวิญญาณ ปนี้พิเศษหนอยเพราะมาตรงกับ วันอาทิตย พอดี ปที่แลวพอเลาใหฟงแลววา แมคริสตชนจะมีความศรัทธาในเรื่องนี้มาตั้งแตสมัยอัครสาวก แตพระสันตะปาปาปโอที่ สิบสองเพิ่งประกาศใหเปนขอความเชื่อ (Dogma) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 1950 นั่นคือ 60 ปที่ผานมานี้เอง เปนขอความ เชื่อหมายความวา คาทอลิกทุกคนตองเชื่อเพราะเปนความจริงที่ไมอาจผิดพลั้งได แตตอนที่ประกาศขอความเชื่อนี้ พระสันตะปาปาก็มิไดประกาศถึงเรื่องวันเวลาและสถานที่ เพราะตองการหลีกเลี่ยงขอมูลที่ยังไมแนนอนจริง ๆ พอ ก็จะขอนําเอาขอมูลที่ไมแนนอนมาเลาใหพี่นองฟงบาง เปนเรื่องที่คริสตชนเชื่อสืบตอ ๆ กันมานะครับ เชื่อก็ได ไมเชื่อก็ไดครับ ความเชื่อเรื่องนี้เริ่มมาตั้งแตสมัยอัครสาวกแลว ไมปรากฏหลักฐานเรื่องการเคารพสักการะ “พระธาตุ” ของแมพระเลย แตมีเรื่องเลาเกี่ยวกับหลุมฝงศพที่วางเปลาของแมพระบริเวณชานเมืองเยรูซาแลม ใกลๆ กับ สถานที่ พระนางสิ้ นพระชนม ป จ จุบัน สถานที่ นี้ เป น ที่ แสวงบุ ญ มี อารามฤษี คณะเบเนดิก ติ น อยูที่นี่ ชื่ อว า Abbey of the Dormition of Mary ใหพอแปลก็จะแปลวา อารามแมพระบรรทม นี่ก็เทากับวาเรารูเรื่องแม พระเพิ่มขึ้นมากมาย เรารูวาแมพระสิ้นพระชนมแนนอน แตก็เหมือนหลับ เพราะไดรับการยกขึ้นสวรรคทั้งกาย และวิญญาณหลุมศพวางเปลา แมพระสิ้นพระชนมที่ใกล ๆ กับกรุงเยรูซาแลม นี่ก็เปนไปตามความเชื่อของคน ยุคแรกๆ นะครับ ต อ มาอี ก สามร อยกว าป ใ นการประชุ ม สั ง คายนา คาลซิ โ ดน ป 451 จั ก รพรรดิ ม าร เ ซี ย น ขอให สังฆอัยกาแหงเยรูซาแลม นําพระธาตุของแมพระมาไวที่คอนสแตนตินโนเปล สังฆอัยกาก็ตอบองคจักรพรรดิ วา พระนางมารียสิ้นพระชนมตอหนาบรรดาอัครสาวก แตตอมาเมื่อเปดหลุมฝงศพของพระนางก็พบวาวางเปลา บรรดาอัครสาวกจึงสรุปวา รางกายของแมพระไดรับการยกขึ้นสวรรค ตั้งแตนั้นมา นักบุญสําคัญ ๆ ของเราก็เริ่ม เทศนสอนความเชื่อนี้ดวยความศรัทธาอยางยิ่ง จนกระทั่งในศตวรรษที่ 8 ความเชื่อนี้ก็ขยายไปทั่วพระศาสน จักร วันฉลองแมพระนี้มีอยูหลายวันในพระศาสนจักร แตวันสมโภชแมพระรับเกียรตินี้เปนการสรุปงานไถบาป ของพระเยซูเจา และเปนการนําทางมนุษยชาติไปสูความหวังที่จะกลับเปนขึ้นมาและไปสวรรค ในพระวรสารอาทิตยนี้มีบทภาวนาบทหนึ่งของแมพระ ไพเราะมากและเต็มไปดวยความหมาย ขอความ ตอนหนึ่งซึ่งพอคิดวาเปนขอความที่สรุปชีวิตบนโลกนี้ของแมพระไดอยางดี บรรดาพระสงฆและนักบวชจะสวด ภาวนาบทนี้ในเวลาภาวนาตอนเย็นทุกวัน นั่นก็คือ “ทรงขับไลผูมีใจมักใหญใฝสูงใหกระจายไป และทรงยก ยองผูต่ําตอยให สู งขึ้ น ” ชี วิ ต ของแม พระเปน ชี วิต ที่ เต็ม ไปด ว ยความสุ ภาพ ถ อมตนอยางหาที่ ติไ ม ได เลย อีกหลาย ๆ ตอนในบทภาวนานี้ก็จะเตือนใจเรามนุษย ไมใหจองหอง แตใหสุภาพ และคําสอนนี้ก็เปนจริงเมื่อพระ นางรับเกียรติใหสูงขึ้นในฐานะที่พระนางเปน “ผูต่ําตอย” และ “ผูรับใช” ทาสีของพระ สุภาพสุดยอดจริงๆ ครับ แมพระของเรา พูดถึงที่ฝงศพของแมพระแลว พอก็อยากจะเปรียบเทียบกับที่ฝงศพของเรามนุษยกันบางนะครับ เมื่อเราตาย ก็คือตายนะครับ ที่ฝงศพเราจะเปนอยางไรก็ตาม ก็ไมมีความหมายอะไรกับเราเลย แตควรเปนสถานที่เตือนใจคนที่ มี ชี วิ ต อยู ใ ห รู จั ก คิ ด ถึ ง ชี วิ ต หน า ดี ๆ ที่ ป ระเทศออสเตรี ย กรุ ง เวี ย นนา มี โ บสถ อ ยู แ ห ง หนึ่ ง รู จั ก กั น ในชื่อ Kapuzinergru (Capuchins’ Crypt) อยูภายในอารามของคณะกาปูชิน ตั้งขึ้นมาตั้งแตป 1618 และ ตั้งแตป 1633 ก็เปนที่ฝงศพของราชวงศ Hapsburg ซึ่งเปนราชวงศที่ปกครองยุโรปมาถึง สามรอยกวาป ปกครองดิ น แดนต าง ๆ ในยุ โ รปรวมกั น ประมาณถึ ง หนึ่ ง ในสามของยุ โ รปที เดี ย ว เชื้ อสายของราชวงศ นี้

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

63


สื บ ต อ กั น มาจนถึ ง ป จ จุ บั น ในป 2009 ราชวงศ นี้ ถู ก ฝ ง ที่ นี่ ถึ ง 143 คนด ว ยกั น ในจํ า นวนนี้ มี จั ก รพรรดิ 12 องค และจักรพรรดินีถึง 18 องค ในการฝงศพที่นี่ก็มีธรรมเนียมหลายอยางสืบตอกันมา แตมีธรรมเนียม หนึ่ ง ซึ่ ง น า สนใจ ผู นํ า ศพมาฝ ง ที่ นี่ จ ะรออยู ที่ ป ระตู โ บสถ ผู ดู แ ลโบสถ จ ะถามคํ า ถามจากภายในโบสถ ว า “ใครตองการเขามาในโบสถนี้” ผูนําขบวนศพจะตอบวา “เปนจักรพรรดิผูยิ่งใหญแหงโลกนี้” ผูดูแลโบสถก็จะ ตอบกลับมาว า “ที่นี่ ไมรูจักจั กรพรรดิ ผู ยิ่งใหญแ ห งโลกนี้ ” ผู นําขบวนศพจะเคาะประตูโ บสถอีก ครั้ งหนึ่ ง ผูดูแลโบสถก็จะถามคําถามเดียวกัน ครั้งที่สองนี้ผูนําขบวนศพจะตอบวา “เปนพระจักรพรรดิ” คําตอบจาก ภายในก็คือ “ไมรูจัก” ครั้งที่สามนี้แหละครับที่นาสนใจ เพราะคําตอบครั้งนี้ผูนําขบวนศพจะตอบวา “เปนคน บาปคนหนึ่ง” คําตอบจากภายในก็คือ “ขอเชิญเขามาได” จนกวาจะยอมรับวาเปนคนบาป จนกวาเราจะสุภาพ ถอมตน เราจึงจะเขาอาณาจักรสวรรคได ไมวาในชีวิตนี้คุณจะยิ่งใหญเพียงใด แตทุกคนเทาเสมอกันในความ ตายและการเขาสูชีวิตนิรันดร ใครไปที่เวียนนาไปเยี่ยมสถานที่นี้ดูนะครับและถายรูปมาใหพอดวย ที่นี่เขามีที่ เก็บหีบศพที่ทําดวยโลหะถึง 104 โลงดวยกัน ทําดวยศิลปะตกแตงสุดยอดเลย (Sarcophagi) อีกแหงหนึ่งที่อยากแนะนําใหรูจักก็คือ ที่ฝงศพพระสันตะปาปา ซึ่งอยูใตพื้นมหาวิหารนักบุญเปโตร นั่นเอง ถารวมทุกพระองคที่ฝงในมหาวิหารนี้ทั้งใตดินและบนดิน ก็มีถึง 106 องคแลว นับตั้งแตศพของนักบุญ เปโตร หลายองคก็ถูกนําไปฝงที่อื่นครับ แตที่นี่มีเทานี้ ถ าเราไปเดินใตพื้นมหาวิหาร เราพบที่ฝงศพที่ตกแตง อยางสวยงาม ที่เก็บหีบศพทําดวยหินสวยงามมาก ที่นาสังเกตก็คือบางศพก็จะถูกยกขึ้นสูง บางศพก็ตั้งไวกับพื้น อย างพระศพของพระสั น ตะปาปา บอป ฟ าสที่ แ ปด องค ที่ก อ ตั้ ง ป ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ค รั้ ง แรกในป 1300 ตั้ ง ไว สู ง แตศิลปะทําใหเราสามารถมองหินออนที่เปนรูปของพระองคไดอยางชัดเจน แปลกจริงๆ นะครับ แตที่พออยาก เลาใหฟงก็คือ นับตั้งแตพระศพของพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6, ยอหน ปอลที่ 1 และ ยอหน ปอลที่ 2 เปนที่ ฝงศพลงกับพื้นดิน และตกแตงอยางเรียบๆ ราวก็ศพของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง เตือนใจเราถึงความสุภาพถอม ตนไดเปนอยางดี เปนศพของผูรับใชในยุคปจจุบัน ยุคที่ไมมีใครอยากเปนผูรับใชใครเลย ที่นี่ก็นาไปแสวงบุญ เหมือนกันครับ เพราะชวยใหเราคํานึงถึง การดําเนินชีวิตบนโลก และวาระสุดทายของเรา อาทิตยนี้พอเขียนมากหนอยนะ ใหเกียรติแมพระ คราวนี้ก็มาพูดถึงที่ฝงศพของแมพระของเราบางนะ ครับ อยางที่บอกไวตอนตนวาเปนไปไดที่จะอยูใกลๆ กับกรุงเยรูซาแลม ศิลปนหลายทานไดวาดภาพการรับ เกียรติยกขึ้นสวรรคนี้ในหลายๆ แบบศิลปนที่มีชื่อเสียงในยุคฟนฟูศิลปะวัฒนธรรมคือ ราฟาแอลโล ไดวาดไว ภาพหนึ่ ง ป จ จุ บั น ภาพนี้ อ ยู ที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ ว าติ กั น แต ก็ มี รู ป จํ า ลองตั้ ง ไว ใ นมหาวิ ห ารนั ก บุ ญ เปาโล (นอกกํ าแพง) หลายคนคงไปมาแล ว รู ปนี้ ดู เฉย ๆ ก็ ไ ม มี อะไรพิ เศษ แต ห ากลองเดิ น ดู ภ าพนี้ ไ ปทางซ า ย เดินกลับไปทางขวาสุด หรือทําตรงขามก็ได หีบศพของแมพระจะหันตามเราไปทุกแหงเลย ทางศิลปะเขาทําได แตก็มีความหมายที่ดีวา มนุษยทุกคนตองตายไมวาเราจะเปนใคร ไมวาจะอยูที่ไหน แตมนุษยทุกคนก็มีสวรรค รอเราอยู แมพระคือตนแบบของมนุษยแท ๆ ที่ไปสวรรคดวยเกียรติมงคล ใหเราเฉลิมฉลองวันนี้ดวยใจยินดี และที่สําคัญดวยใจสุภาพถอมตน สวดภาวนาของแมพระที่อยูในพระวรสารวันนี้บอย ๆ จะชวยใหเราเขาใจชีวิต บนโลกนี้ดีขึ้น วัดเราฉลองวันแมในวันนี้ดวย ขอใหเราทุกคนเลียนแบบอยางแมพระผูประเสริฐของเรา ขอใหแม ทุกคนมีความสุขพิเศษในวันนี้ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 15 สิงหาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

64


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก อาทิตยนี้เปดตัวคอลัมน “ปลัดอยากเลา” พอสุพัฒนจะชวยเขียนเรื่องตาง ๆ ลงในสารวัด จะทําใหสารวัดของเรามีประโยชนมากขึ้น พี่นองอยาลืมติดตามอานนะครับ งานวันแมที่วัดของเรา ก็ผานพนไปดวยดี มีคุณแมบางคนตองหลั่งน้ําตาดวยความตื้นตันใจ หลายคนเห็นแลวก็อยากจะ รองไหตามไปดวย ภาพแบบนี้ก็ยากที่จะกลั้นน้ําตาไวได เวลาเดียวกันทุกป ในวันแมก็จะมีคุณแม อีกจํานวนไมนอยที่ยังคงตองหลั่งน้ําตาดวยความเสียใจ เสียใจที่ลูกของตนไมไดสนใจแมตัวเอง อยางทีล่ ูกคนอื่นๆ เขาทํา เสียใจที่ไมมีใครมากราบ มาทานขาวดวย ไมมีลูกคนไหนมากอดแมเลย อะไร ๆ ทํานองนี้ ใคร ๆ ที่เปนลูกแลวยังไมไดทําอะไรใหแมชื่นใจเลย ไมตองรอวันแมปหนาก็ได ลงมือทําไดเลย แมวาแมบางคนอาจเสียชีวิตไปแลว เราก็ยังสามารถทําอะไรดี ๆ เพื่อทานไดเสมอ ไมเคิ้ลอันเยโล เปนศิลปนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง มีผลงานที่โดดเดนและเปนที่ ยอมรับมากมายโดยเฉพาะงานปนแกะสลักหินออน และแมแตงานวาดภาพไมเคิ้ลก็มีความสามารถ อยางที่จะหาคนเปรียบเทียบไดยาก ไมเคิ้ลเปนคนศรัทธาและเขามีความกลัวการตกนรกอยางมาก เขาคิดวาเขาทํางานรับใชพระสันตะปาปาและพระศาสนจักร นาจะเปนคนแรก ๆ ที่ไดเขาสวรรค แตในขณะที่ ทํางานเขาเองก็มีความไมพอใจในพระสันตะปาปาบางองค รวมทั้งพระคารดินั ล และสังฆราชบางองคในวาติกัน เขาเริ่มคิดวาคนแรกอาจเปนคนสุดทาย และคนสุดทายอาจเปน คนแรกก็ได ที่คิดวาจะไดไปสวรรค อาจจะไปนรกก็ได เขาก็ทําบาปและก็ทําบุญในเวลาเดียวกัน คือ เขาไดวาดภาพ “หนาของเขาเอง” ไวในหนังของนักบุญบารโธโลมิว ฝากใหทานนักบุญพาทาน ไปสวรรคดวย และก็เขียนภาพหนาของพระสันตะปาปาและคารดินัลที่ตัวเองไมชอบใหไปอยูในนรก ซะเลย ภาพวาดภาพนี้มีชื่อวา “การพิพากษาประมวลพรอม” ปจจุบันอยูในโบสถซิสติน ซึ่งเปนวัดนอย ของพระสันตะปาปา และเปนสถานที่ใชเลือกตั้งพระสันตะปาปา พระคารดินัลมีชัยของเราก็เคยไป เลื อกตั้ งโป ปในวัด น อยแหง นี้ มาแล ว ประวั ติ ของภาพนี้ร วมทั้ งเรื่ องราวของภาพนี้ มีม ากมาย นาสนใจมาก ไมเคิ้ลอันเยโลตองการบอกวาในการพิพากษาครั้งสุดทายนั้น บางคนจะไปสวรรค และบางคนจะไปนรก พระเปนเจาจะใหเทวดาเรียกทุกคนมาพรอมหนากันและตัดสินทุกคน บางคนที่เราคิดวานาจะไปสวรรคก็อาจจะตกนรก และบางคนที่เราคิดวานาจะตกนรก ก็อาจจะ ไปสวรรคก็ได พระเยซูเจาเตือนใจชาวยิวตรง ๆ เลยวา แมวาชาวยิวจะเปนประชากรที่พระเลือกสรร ก็ มิ ได หมายความว าจะเป นพวกแรกที่ ได เข าสวรรค “จะมี คนมาจากที่ ต าง ๆ มากมายที่ จะได เข าสวรรค จะมี ค นมาจากทิ ศ ตะวั น ออกและทิ ศ ตะวั น ตก ทิ ศ เหนื อ และทิ ศ ใต ม านั่ ง ร ว มโต ะ ในพระอาณาจักรของพระเจา” พวกเราคนไทย คริสตังไทยแมจะเปนกลุมเล็ก ๆ ในพระศาสน จักรก็ไมนอยหนาใครในอาณาจักรสวรรค เราทุกคนจึงเทาเทียมกันในเรื่องการเขาอาณาจักร

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

65


สวรรค ใครก็ตามที่ “กระทําการชั่วชา” พระเจาก็จะตรัสตอบวา “เราไมรูวาพวกเจามาจาก ที่ใดไปใหพนจากเราเถิด” บางทีเราคิดวาโปป พระสังฆราช พระสงฆ และนักบวชคือพวกแรก ๆ ที่คงไปสวรรค แนนอน พอขอตอบวา พวกแรก ๆ นี้ก็อาจจะเปนพวกสุดทายก็ได บางทีเราคิดวา เราเปนคริสตัง จะไดไปสวรรคแน ๆ คนที่นับถือศาสนาอื่น ๆ เขาอาจจะไปสวรรคแทนพวกเราก็ได ทั้งหมดนี้ อยูที่การกระทําจริง ๆ ตามที่พระเยซูเจาไดเตือนเราไว พอเองก็ตองไมประมาทเพราะบางทีพี่นอง ไปสวรรคแลวอาจจะไมเจอพอก็ได ใครจะไปรู แคเปนพระสงฆ นักบวช เปนคริสตัง ยังไมได หมายความวา “รอด” ทั้ง ๆ ที่นาจะเปนพวกแรก ๆ ที่รอดได ใชมั้ยครับ ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 22 สิงหาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

66


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก เอยถึงอดอลฟ ฮิตเลอร เกือบทุกคนจะรูจักผูชายคนนี้ เขาตองการใหอาณาจักรไรคที่สาม เปนใหญที่สุดในโลก และตัวเขาเองจะเปนผูยิ่งใหญที่สุดในโลก ตนเหตุของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มีคนตายไปถึง 25 ลานคน ในยุโรปและชาวยิวในยุโรปก็ถูกประหารชีวิตอยางเหี้ยมโหดถึง 6 ลานคน แตพระวรสารอาทิตยนี้ก็ไดแสดงใหเห็นความจริงอีกครั้งหนึ่ง “ทุกคนที่ยกตนขึ้นจะถูกกดใหต่ําลง ทุกคนที่ถอมตัวลงจะไดรับการยกยองใหสูงขึ้น” ฮิตเลอรตองฆาตัวตายพรอมกับภรรยา Eva Braun แตที่พอตองการจะบอกพี่นองก็คือ คนจองหองแบบนี้ แมแตที่ฝงศพก็ยังไมเปนที่รูจักเลย ตัวฮิตเลอรเอง จองหองจนไมตองการใหใครรูเรื่องศพของตนเอง แตที่จริงก็ไมมีใครใสใจเรื่องนี้มากนัก พูดงาย ๆ วา จะไปฝงที่ไหนก็เชิญเลย จนทุกวันนี้ก็ยังไมมีใครแนใจนักวาศพของทั้งสองคนนี้อยูที่ไหนกันแน บางคน บอกวาอยูที่มอสโค บางวาที่อารเจนตินา เร็ว ๆ นี้มีทฤษฎีบอกวาอยูที่อินโดนีเซีย ปจจุบันมีหลักฐาน และเหตุผลที่พอจะเชื่อ ไดวา สวนที่เหลือจากการเผาศพของสองคนนี้ถูกฝงอยูที่ใตรางรถไฟใตดิน ในเบอรลินนั่นเอง และบนพื้นดินเหนือบริเวณนั้นก็คือที่จอดรถแหงหนึ่งเทานั้น นี่แหละครับบั้นปลาย ของผู ที่ จ องหองและถู กกดให ต่ํ าลงจนถึ งที่ สุ ดจริ ง ๆ เท านี้ ยั งไม พอนะครั บ บ านของฮิ ตเลอร ในประเทศออสเตรียที่เมืองลินซ ประชาชนเมืองนี้ตองการใหรื้อออกไปเลย แตผูวาเมืองนี้ตัดสินใจ ที่จะใหใชเปนที่เก็บโลงศพของสุสานของเมืองนี้แทน เพื่อบอกวาพวกเขาไมใหความสําคัญตอชายคนที่ ชื่อฮิตเลอรเลย โรงเรียนที่เขาเคยเรียนก็ไมภูมิใจในตัวของเขา กลับใหจัดนิทรรศการสอนนักเรียนถึง อาชญากรรมสงครามที่ชายคนนี้ไดกระทําลงไป ตายไปอยางผูแพและไมมีใครตองการเลยในโลกนี้ ยังไง ๆ ซะคนเราก็ไมชอบคนที่จองหองพองขนหรอกครับ แมวาเราสวนใหญจะเปนคนจองหอง ดวยกันทั้งนั้น เหตุการณทํานองนี้ไดเคยเกิดขึ้นมาแลว พี่นองจําเรื่องของ “เจงกีสขาน” ไดนะครับ เขาเอามาทําภาพยนตรหลายครั้งแลว เริ่มตนจากคนที่ไมมีอะไรเลย กลายมาเปนผูนําทัพมองโกล และในที่สุดอํานาจก็พาเจงกิสขาน ใหคิดที่จะเปนผูยึดครองโลก สุดทายเวลานี้พี่นองเชื่อมั้ยครับ เจงกิสขานผูยิ่งใหญเกือบจะสามารถยึดครองโลกไดทั้งหมด ปจจุบันนี้ไมมีใครรูว าศพเขาฝงอยูที่ไหน กลับกลายเปนคนที่โลกตองการลืมไปซะ ไมวาจะเปนยุคสมัยไหน ไมมีใครตองการคนที่จองหอง แบบนี้แนนอน นอกจากเจงกิสขานก็มีอีกคนหนึ่งที่พี่นองคงรูจักกันพอสมควรนั่นคือ อเล็กซานเดอร มหาราช อยูในสมัยสามรอยปกอนคริสตศักราช คนนี้ดังมากมีอาจารยที่เปนนักปราชญที่มีชื่อเสียง ไปทั่วโลกแมปจจุบันก็คือ อริสโตเติล ขณะที่ยังหนุมเขารูสึกวาเขาฉลาดกวาใคร เกงกวาใคร และตองการเปนผู ยึดครองโลก นําทัพมาซิโดเนียและกรีกไปยึดครองเกือบทั่วโลกเหมือนกัน มาถึงอินเดียใกลบานเรานี่เอง โลกยกยองวาเกงกาจมากจนตั้งฉายาวา มหาราช ใหเปนองคแรกของโลกเลย ทําไมคนเหลานี้จึงตองการ เปนเจาของโลกนี้กันนักก็ไมรู สุดทายทุกวันนี้ก็ไมมีใครที่จะรูวาศพของเขาอยูที่ไหนกันแน มีบันทึก ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

67


เกี่ยวกับการฝงศพของมหาราชองคนี้ไวและทําใหเราเขาใจวา แทที่จริงอเล็กซานเดอรมาเขาใจชีวิต ก็ตอนที่สายไปแลวนี่เอง เขาพบวา ชีวิตบนโลกนี้ไมมี อะไรสําคัญไปวา “ความรักของแม” เทานั้น ทรัพยสมบัติ ชื่อเสียง อํานาจแผนดินตาง ๆ ไมมีประโยชนอะไรเลย ที่สุดเขาอยากจะไปกอดแมสักครั้ง กอนตาย เขาก็ยังทําไมไดเลย บันทึกนั้นเลาวาเมื่ออเล็กซานเดอรรูวากําลังจะตาย ก็เรียกบรรดานายพล เขามาที่เตียงแลวขอใหพวกเขาทําตามที่ตองการ 3 ขอหลังจากที่ตายแลว ขอแรกก็คือขอใหบรรดา คณะแพทยที่ทําการรักษาตัวเองนั้นเปนคนแบกศพ ขอสองก็คือใหเอาเพชรนิลจินดา ทองคําที่ยึดมาได จากแควนประเทศตางๆ โรยตามถนนที่แบกศพไปจนถึงที่ฝงศพ ขอสามขอใหเอามือทั้งสองขางของตน ปรากฏออกมานอกโลงศพ บรรดานายพลไดฟงแลวก็งุนงงและที่สุดนายพลคนสนิทก็พูดวา ทั้งสามขอนี้ พวกเราจะทําตามทุกอยาง แตขอถามหนอยวาทําไมจึงเปนเชนนี้ อเล็กซานเดอรจึงอธิบายใหทุกคนฟงวา เพื่อสอนคนทั้งหลายใหเขาใจชีวิตอยางที่ตนเองเขาใจ ที่ใหคณะแพทยแบกศพก็เพื่อจะบอกวาไมมีใคร ในโลกนี้ที่จะชวยไมใหทานไมตายไดเลย เราตองดูแลชีวิตของเราเองใหดีที่สุด ดําเนินชีวิตของเรา ใหดีที่สุดตางหาก อยาคิดพึ่งคนอื่นเลย ที่นําเอาเพชรนิลจินดามาโรยตามถนน ก็เพื่อบอกวาสําหรับ คนที่จะตองตายแลว สิ่งเหลานี้ก็เปนเพียงกรวดหินที่ไมมีคาเลยเทานั้น ที่ใหเอามือของตนออกมา ปรากฏนอกโลงศพ ก็ เ พื่ อ บอกว า เราทุ ก คนเกิ ด มามื อ เปล า เราก็ จ ะกลั บ ไปมื อ เปล า เช น กั น จองหองในตอนแรก สุภาพถอมตนในตอนสุดทาย ชาวโลกจึงยังคงเรียก มหาราช แตก็ยังไมมี ใครรูจักที่ฝงศพของชายคนนี้อยูดี คนที่สุภาพถอมตนมักจะเปนที่รักของคนทั่วไป เปนคนใหเกียรติคนอื่น เคารพศักดิ์ศรีของคนอื่น ไมคิดวาตนเองอยูเหนือคนอื่น ๆ คนจองหองมักจะแสดงอํานาจบาตรใหญ และคิดวาตนเอง เปนตนเหตุของความเจริญ ความกาวหนา และความเกงกาจทั้งปวง คนที่สุภาพที่สุดในโลก และนารักที่สุดในโลกก็คือ พระเยซูเจา แมพระ และนักบุญยอแซฟ คนที่ยิ่งใหญจริงๆ มักจะ สุภาพถอมตนแตคนที่ใหญไมจริงมักจะแสดงความจองหองออกมา พวกเราคริสตชนแสดงตน เปนคนสุภาพถอมตน เวลาที่เราสวดภาวนา เวลาที่เราไปวัด และโดยเฉพาะเวลาที่เราคุกเขาลง และสารภาพบาปตาง ๆ ของเรา เปนภาพที่นารักจริง ๆ นะครับ หนังสือบุตรสิรา เตือนใจเราวันนี้ นาฟงมากเลย “ลูกเอย ไมวาทานจะทําสิ่งใด จงทําดวยความถอมตนเถิด แลวทานจะเปนที่รัก” บสร.3:17 ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 29 สิงหาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

68


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก กระทรวงพลังงานไดมารณรงคเรื่องการใชพ ลัง งานที่ถูกตองที่วัดของเราเมื่อ อาทิต ย ที่ผานมา ไดรับความสนใจพอสมควรจากพี่นองและก็ไดรับประโยชนจากการรณรงคครั้งนี้ดวย นี่เปนตัวอยางหนึ่งในสังคมของเราที่จะบอกเราวา ตองทําทุกอยางเพื่อใหไดมาตามที่เราวางแผน เอาไว พี่นองก็อยาลืมที่จะใชพลังงานที่เรามีอยูนี้ใหถูกตอง ใชอยางประหยัดและคุมคาที่สุด ลดภาวะโลกรอ นและไม ทํ าลายหรื อ เป นอั นตรายต อสิ่งแวดล อม ชวยกั นคนละนิ ดละหน อย บานเราดีขึ้น ประเทศดีขึ้นและชวยโลกใหดีขึ้นดวย มีนักเขียนชาวโรมันคนหนึ่งชื่อ Pliny มีชีวิตอยูในสมัยเดียวกับพระเยซูเจาคือประมาณสอง พันปที่แลว เลาเรื่องเกี่ยวกับการขึ้นเสาโอเบลิส (Obelisco) ซึ่งก็คือ เสาสูง ๆ ทําดวยหินมีอักษรและ มีอักขระภาษาอียิปตบางลาตินบาง มีสลักรูปภาพสัญลักษณตาง ๆ เอาไวดวย ถาเราไปที่ยุโรป เราก็จะ พบเสาเหลานี้ตั้งอยูตามวงเวียน หรือลานกวาง ๆ เปนความภาคภูมิใจของชาวตะวันตกที่สามารถ ไปขนเอาสิ่งเหลานี้ม าจากทางตะวั นออกได จักรพรรดิซี ซารจะมอบหมายใหน ายชางควบคุ ม การกอสรางซึ่งปวดหัวมากที่จะตั้งเสาเหลานี้ เขามีคนงานในการควบคุมถึงสองหมื่นคน ชวยกันยึด เชือกที่อยูรอบเสานี้ และก็ตองใชเทคนิคการคํานวณอยางดีเพื่อมิใหเสานี้ลมลงมาได Pliny เลาวา เพื่อใหชางควบคุมนี้พยายามสุดความสามารถและใหผิดพลาดนอยที่สุด ซีซาร จะสั่งใหนําเอาลูกชาย ของผูควบคุมเหลานี้ไปมัดไวที่ยอดเสาจนกวาจะตั้งเสาเปนผลสําเร็จ พี่นองก็คิดดูก็แลวกันวานายชาง ผูควบคุมจะทําทุกอยางเพื่อมิใหเกิดความผิดพลาดขึ้นไดเลย มิฉะนั้นลูกชายของเขาก็จะตองตาย นักบุ ญเปาโลเขี ยนจดหมายถึ ง ขา ราชการชาวโรมัน คนหนึ่ งในบทอา นที่ สองวั นนี้ ชื่ อ ฟเ ลมอน แม ว า จะเป นชาวโรมั น แต ก็ ไ ด ก ลั บ ใจเป น คริ ส ต ฟ เ ลมอนมีท าสอยู ใ นบา นหลายคน คนหนึ่งชื่อ โอเนสิมัส ทาสคนนี้ขโมยของและหนีออกจากบานของฟเลมอน แนนอนที่สุดวา ฟเลมอนจะตองโกรธมาก เปนเราก็คงโกรธเหมือนกันเวลาที่คนรับใชในบานเราเองขโมยของเราแลว หนีไป เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบอย ๆ ซะดวย โอเนสิมัสไปพบนักบุญเปาโลและในที่สุดก็ไดเรียนคําสอน และลางบาปแบบคริ สต เหมื อนกั น เปาโลตอนนั้น ติ ดคุก อยู ตัด สินใจส งตัว โอเนสิ มัสกลับไปหา ฟเลมอน เปาโลตองทํ าทุกอย างเพื่อ ใหโอเนสิมัสสํา นึกผิด และให ฟเลมอนอภัยให จะทํ า อยางไรดี ทานก็เขียนจดหมายถึงฟเลมอน พยายามที่จะโนมนาวใหเขา “รักทาสคนนี้” ในฐานะ “นองชาย” จดหมายฉบับนี้ทําใหฟเลมอนใหอภัยโอเนสิมัส รับเขาเขามาในบานและปฏิบัติตอกัน แบบคริสตชน มนุษยเรามีวิธีการมากมายหลายอยางที่จะไดมาทั้งในเรื่องที่ดีและก็ไมดีดวย เราทําได ทั้งเรื่องทีย่ ากที่สุด ลําบากที่สุด หลายอยางไมนาเชื่อ เราก็ยังทําได พระเยซูเจา ก็ยกตัวอยางใหเรา ฟง เชนวาจะตามพระเยซูเจา ตองละทิ้งทุกสิ่ ง แบกกางเขนตามพระองคไป ก็มีคนมากมาย

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

69


ทุกยุคทุกสมัยยอมทําตาม ขนาดรักพอแมพี่นองก็ตองรักนอยกวาพระ เราก็เขาใจ แบกกางเขนก็ยาก แสนยากเราก็ยอม แตหลายครั้ง มนุษยก็พยายามอยางที่สุดเหมือนกันครับ แตในทางที่ผิด ๆ ในป 1992 มี ก ลุ ม นั ก การศึ ก ษาและนั ก ประวั ติ ศ าสตร ก ลุ ม หนึ่ ง ได ร วบรวมข อ มู ล ไว ในหนังสือ Taday in the World ฉบับ 19 มิ.ย. 1992 ไวดังนี้นะครับ นับตั้งแต 3600 ปกอน คริสตกาลจนถึงป 1992 คือ 5592 ป มีเพียง 292 ปเทานั้นที่โลกเราไมมีสงคราม มีสงคราม เกิดขึ้นทั้งหมด 14,351 ครั้ง มีคนที่ถูกฆาตายในสงครามทั้งหมด 3.64 พันลานคน ความสูญเสีย ทางดานเศรษฐกิจนั้นมากมายมหาศาล ศาสตราจารยชาวดัชคนหนึ่งเคยคํานวณคาใชจายในการ ฆาศัตรูคนหนึ่งในสงครามไวอยางนี้ครับวา ในสมัยของ Julius ซีซาร ฆาศัตรูคนหนึ่งจะเสีย คาใชจายไมถึง 1 ดอลลาห พอมาถึง สมัย นโปเลียน ประมาณสองรอยปที่ผานมานี้เอง ศัตรูตาย หนึ่งคนตองเสียถึงสองพันดอลลาร สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งตองเสีย 17,000 ดอลลาร และใน สมั ยสงครามโลกครั้ง ที่ ส องเสี ยถึ ง 40,000 ดอลล า ร สงครามเวี ยดนามสิ้น สุ ด ลงในป 1975 คํานวณดูแลว ศัตรูหนึ่งคนตอ งเสียคาใชจายถึง 200,000 ดอลลาร และปจจุบันคํานวณดูไดวา ค า ใช จ า ยทางการทหารของทั่ ว โลกคิ ด เป น นาที ล ะ 1 ล า นดอลล า ร น า เศร า ใจมั้ ย ละครั บ เรามนุษยพยายามทุกวิถีทางที่จะใหไดมาซึ่งอันตราย พยายามฆากันทําสงครามกัน เรามนุษย ทําไดงายมากครับ เราถึงมีสงครามในโลกแทบจะไมไดหายใจหายคอกันเลย ขนาดไมมีสงคราม เราก็ยังฆากันอยูทุกวัน แตความพยายามที่พระเยซูเจาสอนเรา ก็คือ ใหเราพยายามแบก กางเขนนะครับ ในสมัยที่ประเทศโปแลนดยังปกครองดวยระบบคอมมิวนิสต รัฐบาลสั่งใหปลดกางเขนออก จากหองเรียน โรงพยาบาล โรงงานและสถานที่ราชการตางๆ ออกใหหมด สภาสังฆราชโปแลนด ตอตานคําสั่งนี้กอใหเกิดความโกรธแคนกันทั้งสองฝายไปทั่วประเทศในที่สุดรัฐบาลก็ตัดสินใจ ให ก ฎหมายเรื่ อ งนี้ ยั งคงอยู แต ก็ จะไม บั งคั บใช ในโรงเรี ยนหนึ่ งซึ่ งปกครองโดยผู บริ หารที่ เป น คอมมิ วนิ สต ตั ดสิ นใจใช กฎหมายปลดกางเขนออกจากโรงเรี ยน บรรดาผู ปกครองต างไม พอใจ วันรุงขึ้นตางก็นําเอากางเขนมาติดที่โรงเรียนมากกวาเดิมซะอีก ผูบริหารนี้ก็เอาออกอีก วันตอมา บรรดาผูปกครองเกือบทั้งโรงเรียนตางก็มานั่งประทวงกันที่โรงเรียน กองกําลังตํารวจมาถึง เด็ก ๆ นักเรี ยนถู กแยกออกมาทั นที ผูปกครองทั้ งหลายก็ แห ไมกางเขนทั้ งหมดไปที่วั ดใกล ๆ ที่นั่ นมีเด็ ก นักเรียนจากโรงเรียนตาง ๆ มาชุมนุมสนับสนุนอยูแลวถึงสองพันหารอยคน ทุกคนชูกางเขนเหนือ ศีรษะของตน ภาพนี้ไดปรากฏออกไปทั่วโลก พรอมทั้งขอความที่ทุกคนรวมใจกันประกาศพรอม ๆ กันวา “ไมมีประเทศโปแลนด โดยปราศจากกางเขน” เราต อ งวางแผนที่ จ ะไปสวรรค ต อ งละทิ้ ง บาปต า งๆ ของเรา คํ า นวณดี ๆ ว า ทํ า อยางไรจึงจะสําเร็จ แบกกางเขนของเราและตามพระองคไป ทุมเทชีวิตที่จะสรางความดี ไมใชทุมเท เพื่อความไมดี ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 5 กันยายน 2010 ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

70


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พระเยซูเจามาตามหาคนบาป นี่คืองานหลักของนายชุมพาบาลทุกคน ตองตามหาแกะหลง ทางแลวพากลับมาเขาฝูงแกะ แกะเปนสัตวที่แปลกกวาสัตวอื่นๆ นะครับ บานเราไมคอยเลี้ยงแกะ กันก็อาจจะไมเขาใจชีวิตของมัน แตพระเยซูเจาอยูในดินแดนที่เขาเลี้ยงแกะก็เลยเขาใจดี และก็ เอามาเปรียบเทียบใหเราเขาใจชีวิตของคนบาปดวย แกะเปนสัตวที่ “ไมฉลาด” จะเรียกมันวา “โง” ก็กลัววามันจะโกรธเอา ถาหากมันกินหญาเพลิน ออกไปจากฝูง มันจะหาทางกลับไปที่ฝูงไม เจอ หาทางกลั บ บ า นเองไม ไ ด ไม เ หมื อ นสุ นั ข หรื อ แมว เพราะฉะนั้ น มั น จะหลงทางได เ สมอ คนเลี้ยงจะตองคอยดู คอยนับฝูงแกะไววาขาดตัวไหนไปหรือเปลา ตองพามันไปหาอาหารและตอง พามันกลับเขาคอก อีกเรื่องหนึ่งก็คือ แกะหาอาหารเองไมเปน ไมเหมือนอูฐ ซึ่งจะไดกลิ่นของน้ํา แมจะอยูหางกันหลายกิโล อีแรงก็ยังรูวาจะมีอะไรกําลังจะตาย แมวาจะอยูหางกันมาก แตแกะ แมแตทุงหญาใกล ๆ ก็ยังไมรู ตองพามันไป เรื่องสุดทายที่แกะหลงทางจะอยูในอันตรายมากๆ ก็คือ มันไมมีพิษมีภัย ปองกันตัวเองไมไดเลย สัตวมากมายหลายชนิดจะมีอาวุธปองกันตนเอง เชน มีความเร็ วแบบกวาง คอยหนี บางอยางมีพิ ษอยูในตั วเอง บางอยางใชกลิ่นอั นรุนแรงขับไลศัตรู บางอยางก็มีเขี้ยวเล็บ แตแกะไมมีอะไรปองกันตัวเลย ถาหลงทางก็รอคอยอันตรายแตอยางเดียว มันเปนอาหารโปรดของสัตวรายทั้งหลาย เรื่องเหลานี้พระเยซูเจาเขาใจดีเลยครับ และสําหรับ พระองคแลว แกะตัวเดียวที่หลงทาง พระองคก็เปนหวงกังวลและตองออกตามหาจนกวาจะพบ แกะหลงทางก็เหมือนคนบาปหลงทาง คนบาปคนเดียวที่กลับใจก็นําความยินดีมาใหกับพระ และสวรรคไดแลว คนบาปเปนเหมือนกับอาหารจานโปรดของสัตวราย นั่นคือปศาจ มันจอง และติดตามและพรอมที่จะขย้ํากินเปนอาหารเสมอ คนบาปมักไมรูทิศทางที่จะกลับบานดวยตนเอง ตองมีคนออกไปตามหาและนําทางกลับบาน กลับฝูงของตน เปรียบเทียบแบบนี้พี่นองก็คงจะ เขาใจไดแลว เพียงแตวา แกะกับคนบาปตางกันตรงที่วา แกะมันไมเถียง มันตามอยางเดียว แตคนบาปนี่สิ ทั้งเถียง ทั้งดื้อ คนบาปจึงมักจะไมยอมกลับใจงาย ๆ ถาคนบาปเหมือนแกะ ทุกอยางละก็ ปานนี้คงมีคนกลับใจมากมาย เราคงมีความสุขกันถวนหนาไปแลว พูดถึงความสุขแบบนี้ก็นึกถึง ความสุขของพอที่รอคอยลูกลางผลาญ และวั นหนึ่งลูกคนนี้ ก็กลับมาบาน ตอนนั้นพอจะมีความสุขมากเพียงใด พี่นองก็ทราบดีวา เวลานี้มีการถายทอด พิธีกรรมมิสซา ถายทอดการเทศน บทภาวนาตาง ๆ ในวัดของเรา พอก็รูสึกดีใจมากที่วันหนึ่ง มีพี่นองมาบอกวา การถายทอดนี้กําลังนําคนบาปคนหนึ่งกลับมาเขาวัดเขาวา หลังจากที่ทิ้งวัด ไปนานแลว แมแตจะเปนเพียงคนเดียว พอก็รูสึกปลื้มใจที่การลงทุนของเราไมวาจะกี่สตางคก็ตาม ไดทําใหเกิดงานเลี้ยงบนสวรรคขึ้นมาได เราทุกคนในวัดก็คงรูสึกดีใจเชนเดียวกัน ตรงกันขาม พอจะรูสึกปวดราวใจมากทีเดียว ถาหากรูวาจะมีคริสตังคนหนึ่งทิ้งพระไป และจะรูสึกปวดราวใจ มากกวาอีก ถาหากวา พอเองจะเปนเหตุใหคนใดคนหนึ่งทิ้งวัด บางทีก็อาจจะรูตัว หรือบางทีก็ไม ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

71


รูตัว มารูทีหลังก็รูสึกเสียใจ เพราะรูตัวดีวา หนาที่หลักของเราคือ ตามหาลูกแกะที่หลงทาง ไมใชขับไลลูกแกะใหพนฝูง มีเรื่องดีเรื่องหนึ่งที่พอเรียนรูมาจากพระคุณเจาเกรียงศักดิ์ นายชุมพาบาลของเรา ตอนที่ ทานเปนเจาวัดแมพระประจักษเมืองลูรด หัวตะเข วัดนี้มีโรงเรียนชื่อวาโรงเรียนมาเรียลัย ปจจุบัน เปนโรงเรียนใหญมีนักเรียนมากมาย แตก็มีนักเรียนคาทอลิกหลายคนตองไปเรียนโรงเรียนวัดพุทธ ทานรูสึกวาเปนหนาที่นายชุมพาบาลที่จะตองนําเด็กเหลานี้กลับมาเรียนในโรงเรียนของเราใหได ทานก็ออกตามหา ไปตามบาน ขอรองใหนําเด็กมาเรียนที่โรงเรียนเพื่อจะไดรับการอบรมเปนลูกพระ แบบคริสตัง ครอบครัวที่พอจะชวยคาใชจายโรงเรียนไดก็พยายามชวย ที่ชวยไมได ทานก็จะชวย ใหเรียนใหได ปรากฏวาทานสามารถนําเด็กคาทอลิกจํานวนมากกลับมาเรียนที่โรงเรียนของทาน การตามหาลูกแกะตัวนอย ๆ เหลานี้ก็ยังไมใชงานยากเทาไหร เด็ก ๆ มักจะวานอนสอนงาย บอกไปสอนไปก็เชื่อไดแลว แตการตามหาลูกแกะผูใหญที่หลงทางไปนี่สิครับ ไมงายเลย อยางที่พอบอก คนบาปไมเหมือนแกะ มักจะเถียงและดื้อ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ เราตองชวยกันครับ พอคนเดียว คณะเซอร คณะครู สภาอภิบาล พี่นองทุกคน ตองชวยกันตามหาแกะหลงทาง เจอะแลวตอง พยายามชักชวน ใหกําลังใจ และทําทุกอยางอยาไดทอแท ทําจนสุดความสามารถใหคนบาป เหลานี้กลับมา ทําเหมือนกับนักบุญมอนิกาที่ไมยอมแพ จนกระทั่งเอากุสตินกลับใจ พอชอบ เรื่องของ วินสตัน เชอรชิลลนายกรัฐมนตรีอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทานตอสูกับนาซีอยางเต็มที่ ปลุกเราคนทั้งประเทศ ปลุกเราประเทศในยุโรปใหชวยกันตอตานนาซีจนสุดความสามารถ ครั้งหนึ่ง ทานตองไปพูดปาฐกถา พิธีกรกลาวนําทาน สดุดีทานมากมาย เปนเวลานานมากจากนั้นก็เชิญทานขึ้นพูด เชอรชิลลขึ้นมา เงียบเล็กนอย และพูดวา Never Never Never Never Never…give up แปลพอไดความวา “จงอยา จงอยา จงอยา จงอยา จงอยา..ยอมแพ” แลวก็กลับไปนั่งที่ของทาน ฝูงชนงงอยูพักหนึ่ง จากนั้นก็เขาใจสิ่งที่ทานตองการจะกลาว ไมตองพูดอะไรมาก จงทําและ พยายามสุดความสามารถ ทุกคนลุกขึ้นปรบมือใหทานเปนเวลานาน การตามหาลูกแกะที่หลงทางตามหาคนบาปก็ตองเปนเชนเดียวกันคือ ชวยกันสุดความสามารถ แม เ ป น เพี ย งคนเดี ย ววิ ญ ญาณดวงเดี ย ว ก็ มี ค า เหลื อ ล้ํ า สํ า หรั บ พระเจ า อย า ยอมแพ ค รั บ เพราะบางทีคนเดียวคนนั้น ก็อาจจะอยูใกลตัวเรานั่นเอง ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ *สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 12 กันยายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

72


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก อาทิตยนี้พระเยซูเจาพูดถึงเรื่อง เงินทอง บานเรามักจะพูดใหเราคิดเสมอ ๆ วา “เงินทอง ไมเขาใครออกใคร” ความโลภทําใหเราหลงผิด ความไมซื่อสัตยทําใหเราเสียคน พอชอบตอนที่ พระเยซูเจาสอนบอกวา “จงคืนของซีซารใหแกซีซาร และคืนของพระเจาใหแกพระเจา ” ก็หมายความซื่อ ๆ วา ของของโลกก็คืนไปใหแกโลก และของพระก็คืนใหพระไป ใคร ๆ ก็อยากมีเงิน ใคร ๆ ก็อยากรวยทั้งนั้น แตความหมายของทรัพยสินเงินทองมิไดอยูตรงที่วา “มีเทาไหร” แตอยู ตรงที่ ว า “เราให เท าไหร ” ต างหาก พวกรั บบี ของชาวยิ วมั กจะสอนแบบนี้ ครั บ “คนรวยช วย คนจนในโลกนี้ คนจนชวยคนรวยในโลกหนา” ฟงดูดีจังเลย แตก็ไมใชเรื่องงายนะสําหรับการมี ชีวิตในสังคมทุกวันนี้ที่มีแตเรื่องของผลประโยชน ผลกําไร ผลงาน การแขงขันเพื่อความกาวหนา มีผูหญิงคนหนึ่งชื่อ ลินน ทวิส (Lynn Twist) อุทิศตนใหกับมูลนิธิที่ชื่อวา Hunger Project หาเงินเขามูลนิธิเพื่อชวยผูหิวโหย ในป 1970 เธอไดรับการตอบรับใหไปพูดหาทุนกับบริษัทที่มีชื่อเสียง แหงหนึ่ง เธอเตรียมตัวอยางดี ในการนําเสนอ แตงตัวอยางดีที่สุด และเขาไปพบ CEO ของบริษัทใน หองประชุมสุดอลังการ เธอพูดเพียง 15 นาที CEO ซึ่งไมไดสนใจจะฟงเธอเลย ก็เอาเช็คหาหมื่น ดอลลาร ให แกเ ธอ เป นการหาทุน ที่เ ธอไดมากที่ สุดเทา ที่เคยได รับ มา แต เธอก็รูสึ กไดทัน ทีว า นี่คือการให ที่ไมไดใสใจตอผูหิวโหย แตใหเพราะชื่อเสียงของบริษัทเทานั้น เธอบอกภายหลังวา เธอรู สึกแย มากและรูสึ กว าเงิน นี้เ ปน เงิ นสกปรก และไม อยากจะรับ ไว เลย วัน เดี ยวกัน เธอไป บรรยายที่โบสถเล็ก ๆ แหงหนึ่งเปนโบสถของคนผิวดํา คราวนี้เธอถูกนําไปอยูที่หองประชุมใตหลังคา มีบรรดาแมบานมาฟงเธอหลายคน พอเธอบรรยายจบและขอบริจาค ทุกคนนั่งเงียบกันหมด จนกระทั่ง ผูหญิงคนหนึ่งชื่อ เกอรทรูด ลุกขึ้นยืนพูดวา “ฉันชอบและ ชื่นชมเธอที่อุทิศตนทํางานที่ยากลําบาก นี้ แตพวกเราไมคอยมีเงินที่มีก็ตองใช ฉันเองทําหนาที่เปนคนทําความสะอาดใหแกคนผิวขาว มีเงินไมมากนัก ในกระเปาฉันมีอยูหาสิบดอลลาร ฉันขอบริจาคใหหมด เพราะฉันอยากใหเงิน ที่มาจากน้ําพักน้ําแรงของฉันมีประโยชนอยางแทจริงกับผูที่กําลังหิวโหยมากกวาฉัน” แลวเธอก็ เดินไปบริจาคเงินและสวมกอดลินน เพื่อใหกําลังใจ คนอื่น ๆ ในหองตางก็ทะยอยมา เธอรวบรวมได ทั้งหมดประมาณ 500 เหรียญ แตเธอรูสึกวานี่คือเงินที่มาจากหัวใจที่บริสุทธิ์จริง ๆ เธอรูสึกเคารพ รัก และเห็นเกอรทรูด เปนบุคคลที่มีคา เหลือเกิ นสําหรั บสังคม วันรุงขึ้ นเธอส งเช็ค 50,000 เหรียญ คืนให แกบริษั ท เพราะเธอรูสึ กไม สบายใจเลยที่ จะรั บเงิ นนั้นซึ่งเป นเงิ นที่ไมมี จิตวิญญาณ หกปต อมาเธอไดรั บ จดหมายฉบั บหนึ่ งจาก CEO คนที่ เ ธอเคยไปบรรยายด ว ยและตอนนี้ เ กษี ยณแล ว เขายั ง เก็ บ จดหมายของเธออยู เขาเขียนในจดหมายวา การคืนเช็คครั้งนั้นของเธอทําใหเขา ช็อค เขาไมเคย เรียนรูเรื่องนี้มากอน ลินนไดสอนใหเขารูจักคําวา “ให” ที่แทจริงวาคืออะไร พอนึกยอนหลังทีไร ก็รูสึกวาตนเองทําไมถูกเลย ดังนั้นเวลานี้เขาจะขอบริจาคจากเงินสวนตัวของเขาเองดวยน้ําใสใจจริง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

73


ตั้งแตนั้น เขาก็บริจาคเปนเช็คใหเธอหลายครั้งจนครบ 50,000 เหรียญ ครั้งนี้เปนการใหที่มา จากใจ จํานวนเงินที่บริจาคนั้นไมสําคัญ หัวใจตางหากที่สําคัญที่สุด เรื่องนี้ทําใหพอนึกถึงพระวรสารตอนที่คนรวยไปทําบุญในวิหาร กับหญิงมาย ที่ทําบุญแคเศษ เงิ น แต พ ระเยซู เ จ า สอนว า หญิ ง ม า ยนี้ ทํ า บุ ญ มากที่ สุ ด เพราะเป น เงิ น ที่ เ ธอจํ า เป น ต อ งใช สวนเศรษฐีนั้นทําบุญจากเงินที่เหลือใช คําเหลานี้ก็ชวยใหเราเขาใจถึงหนาที่ของเงินในโลกนี้ อย า ให เ งิ น มาเป นนายเรา และเป นนายที่ แย มากซะด วยเพราะเป นนายที่ จะบั งคั บให เรา เอาเปรียบ คดโกง ไมซื่อสัตย และในที่สุดเราจะกลายเปนคนไรน้ําใจ และไรหัวใจ มีขอความตอนหนึ่งในหนังสือ สุภาษิต (11:24-25) เขียนไววา “บางคนยิ่งจําหนาย (ให) ยิ่งมั่งคั่ง บางคนยิ่งยึดสิ่งที่ควรจําหนาย (ให) ยิ่งขัดสนก็มี บุคคลที่ ใจกวางขวางยอมไดรับความมั่ง คั่ง บุคคลที่รดน้ํา เขาเองจะไดรับการรดน้ํา พี่นองไดทําบุญชวยเหลือคนจนอยางดีเสมอมา ก็เปนกิจการที่ดีมาก โดยเฉพาะอยางยิ่ง ในระหวางเทศกาลมหาพรต พวกเราไดชวยกันอดออมเงิ นเพื่ อชวยคนจน เงินทุ กบาททุกสตางค ที่พี่นองไดทําบุญมานี้ พวกเราพระสงฆทุกองคตามวัดตาง ๆ ก็ไดนําไปใชชวยเหลือคนจน ผูยากไร ตามที่พี่นองตั้งใจไวอยางเต็มที่ โดยไมไดนําไปใชอยางอื่นเลยแมแตบาทเดียว ถาหากเราเคยมีความสัม พันธกับเงินทองในรูปแบบที่ไมถูกตอง เปลี่ยนซะใหมนะครับ ใหเราเปนเจานายของเงินทอง ดีกวาใหมันมาเปนเจานายเรา บงการชีวิตเราใหทําผิด ๆ อยาไปรับใชมัน แตใหมันรับใชเรานะครับ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 19 กันยายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

74


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ถาอยากจะรู ว านรกเปนอยางไร ต องอ านพระวรสารอาทิ ตยนี้ เรื่ องเศรษฐีกั บลาซาลั ส อานจบแลวเราสามารถสรุปได งาย ๆ เลยว า ที่แทนรกก็คื อ ผูที่ มองเห็นสวรรคว าเปนอย างไร แตตัวเองไปไมได เศรษฐีคนนี้มองเห็นลาซาลัสอยูในออมอกของอาบราฮัม สวนตัวเขาอยูในหุบ เหวแหงความทรมาน ทรมานจริง ๆ ที่เห็นแบบนั้น นิทานเรื่องนี้สอนเราในเรื่องสําคัญ ๆ สองเรื่อง ครับ เรื่องแรกก็คือ สอนใหเราเปนมนุษยที่มี “หัวใจ” เศรษฐีคนนี้รวยสุด ๆ บนโลกนี้ “แตงกายดวยเสื้อผาเนื้อดีราคาแพง จัดงานเลี้ยงใหญทุกวัน” นักพระคัมภีรอธิบายวา เสื้อผาเนื้อดีที่เศรษฐีใสนั้น เทียบราคาในปจจุบันแลวก็ประมาณตัวละหนึ่งแสน สามหมื่ น บาท ถึ ง เกื อ บสองแสนบาท ส ว นงานเลี้ ย งก็ เ ป น งานเลี้ ย งใหญ ทุ ก วั น นั่ น ก็ คื อ รวม วันอาทิตยดว ย ไมสนใจกฎเกณฑอะไรทั้งนั้น เอาแตหาความสุขใสตัวดวยความร่ํารวย เขาทําไมตกนรก เขาไมไดทําบาปอะไร นี่นา ความร่ํารวยไมใชบาป เขาไมไดไลลาซาลัสไปใหพนหนา สิ่งที่ทําใหเขา ตกนรก ก็คือ เขาไมมีหัวใจที่จะใหแกลาซาลัสผูนาสงสารเลยแมแตนอย เขาไมใสใจคนยากคน จน เขาผิดที่ไมไดทําอะไรใหแกลาซาลัสเลย แตในนรกเขายังตองการใหลาซาลัสเอาน้ํามาใหเขาซะอีก ด วย เป น เศรษฐี จ นเคยตั ว แน ๆ แบบนี้ ชาวฮี บ รู โ บราณมั ก จะสลั ก บนหิ น หลุ ม ศพต า ง ๆ ว า “หลับในออมอกอาบราฮัม” คลาย ๆ กับสมัยเรานี้ก็ชอบใชคําวา “R.I.P” ถาแปลเปนอังกฤษก็ แปลวา Rest in Peace พักผอนในสันติสุข ถาจากลาตินก็คือ Requiescat in Pace แปลเหมือนกันครับ พอเศรษฐีเห็นลาซาลัสอยูในออมอกอาบราฮัม จึงยิ่งทุกขใจอยางยิ่ง พี่นองพอจะ เขาใจนรกไดเล็กนอยแลวนะครับ บาปของเศรษฐีนี้ตองไปเปรียบเทียบกับเรื่องของชาวสะมาเรีย ผูใจดี คนที่ชวยเหลือเพื่อนมนุษยที่ตกทุกขไดยากจนถึงที่สุด ในขณะที่คนที่ควรจะชวยนั้นไมยอม ชวยเหลือเลย ประกาศกอามอสในบทอานที่หนึ่งก็พูดเรื่องเดียวกันนี้วา วิบัติแกผูที่สบาย นอนเหยียด บนเกาอี้ยาว กินแกะกินวัว รองเพลง ดื่มเหลาองุนจากถวยใหญ ๆ ชโลมตัวดวยน้ํามันอยางดี แตไมใส ใจความพินาศของคนอื่น ๆ เลย” สิ่งที่พระเยซูเจาตองการจากเราก็คือ “หัวใจ” ที่มีใหแกเพื่อนมนุษย ของเรา เราอาจบอกวาเราไมใชเศรษฐี คิดดูดี ๆ นะครับ เทียบกับคนในโลกนี้อีกมากมาย เราแต ละคนตอนนี้ก็เทียบไดกับเศรษฐีคนหนึ่งแลว เรื่องที่สองก็คือ สอนใหเรารูจัก “ธรรมชาติของคนที่ไมเชื่อ” อาบราฮัมบอกกับเศรษฐีวา “ถาเขาไมเชื่อฟงโมเสสและบรรดาประกาศก แมใครที่ กลั บ คื น ชี วิ ต จากบรรดาผู ต ายเตื อ นเขา เขาก็ ไ ม เ ชื่ อ ” พี่ น อ งจํ า ตอนที่ พ ระเยซู เ จ า ร อ งไห เพราะลาซาลัส (พี่ชายของมารธาและมารีย) ไดนะครับ บางที่ก็เปนเพราะพระองครูวาแมจะไป ปลุกลาซาลัสใหตื่นขึ้นได คนทั้งหลายก็จะยังโหรอง ใหตรึงกางเขนพระองคอยูดี คนทั้งหลายบาง ทีก็ไมสนใจหรอกครับวา พระเยซูเจาจะเดินบนน้ําหรือเปลี่ยนเหลาองุนที่เมืองคานา หรือจะรักษา คนโรครายตาง ๆ มนุษยทุกยุคทุกสมัยจะมีคนที่มีใจแข็งกระดาง และพยายามบอกใหไมเชื่อวา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

75


มีพระ ไมตองปฏิบัติศาสนกิจ ไมตองมีศาสนาเลย นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงคือ วอลแตร (Voltaire) ไมเชื่อในพระเจาเขาสอนวา “ภายในหนึ่งรอยป ศาสนาคริสตจะตองตายไป” พี่นองคิดดู นะครับภายในหนึ่งรอยปนั้นวอลแตรตายไปครับ คริสตศาสนายังอยู บานของวอลแตรเองไดกลาย มาเปนบริษัทจัดพิมพหนังสือ “พระคัมภีร” พระเจายืนยันตัวพระองคเองดวยวิธีงาย ๆ แบบนี้เอง พระสงฆองคหนึ่งพูดคุยกับทหารคนหนึ่งซึ่งมีขอโตแยงในเรื่องตาง ๆ ทางศาสนาอยูเสมอ คุณพอถาม ทหาร คนนี้วา ถาพอสามารถตอบคําโตแยงทุกขอของคุณได คุณจะยอมรับพระเยซูคริสตเปน พระผูไถของคุณมั้ย ทหารคนนั้นตอบวา “ไมหรอก ผมเพียงชอบโตแยงเทานั้น” นักพระคัมภีรคนหนึ่ง ชื่อ Josh Mcdowell ไดถามคําถามเดียวกันนี้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยแหงหนึ่ง เขาตอบงาย ๆ วา “ผมไม รับ พระเยซู คริ ส ต เพราะผมไมอ ยากเปลี่ ยนแนวทางการดํ า เนิ น ชีวิ ตของผม” มีคนจําพวกนี้อยูจริง ๆ ครับ แมจะเห็นอัศจรรยมากมายกับตา หรือตอใหคนตายกลับมาบอกเรื่อง นรก เขาก็คงไมเชื่อ ดังนั้น ธรรมชาติของคนที่ไมเชื่อนี้คือ เอาแตรักตัวเองมากกวารักพระ มากกวารักเพื่อนมนุษย เหมือนกับเศรษฐีในพระวรสารนี้แหละ กอนที่คริสโตเฟอร โคลัมบัสจะคนพบอเมริกา ประเทศสเปนมีคติพจนวา “Ne Plus Ultra” แปลวา “ไมมีอะไรมากไปกวานี้แลว” สเปนเขาใจวาตนเองยิ่งใหญที่สุดแลวนั่นเอง โคลัมบัสตายที่เมือง มายาโดลิค ในป 1506 ที่นั่นมีอนุสาวรียของเขาตั้งอยูสิ่งที่นาสนใจก็คือวาที่อนุสาวรียของเขานี้ มี รู ป สิ ง โตตั ว หนึ่ ง กํ า ลั ง ทํ า ร า ยตั ว อั ก ษร “Ne” ที่ อ ยู ใ นคติ พ จน ข องสเปนซึ่ ง หมายความว า “ยังมีอะไรมากกวานี้อยู ” คติพจนของสเปนเปลี่ยนแปลงไปเพราะการคนพบของโคลัมบัสทําให พวกเขาเขาใจ หัวใจมนุษยไมสามารถหยุดเพื่อตนเองได หัวใจมนุษยสามารถเผื่อแผไปยังผูอื่นไดเสมอ มีอะไร ๆ ที่หัวใจเรายังสามารถทําไดอีกมากมาย ธรรมชาติของมนุษยก็ไมใชมีแตความไมเชื่อ เรามนุษย ยั ง สามารถเชื่ อ ได เชื่ อ ได ใ นพระและในส ว นดี ในโลกนี้ มี อ ะไร ๆ ให เ ราทํ า เพื่ อ พระและ เพื่อเพื่อนมนุษยของเราอีกมากมาย ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 26 กันยายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

76


สารเจาอาวาส พี่นองที่รัก เราเคยสวดขอพระหลายเรื่อง พอแนะนําใหสวดเพิ่มอีกเรื่องหนึ่งคือขอ “โปรดเพิ่มความเชื่อ ใหพวกเราเถิด” เพราะความเชื่อของเราอาจจะนอยเกินไป รูไดอยางไรวาความเชื่อของเรานอยลง ก็ถาเราขี้เกียจสวด รูสึกไมอยากมาวัดวันอาทิตยหรือพบความลําบาก ความทุกขก็รูสึกทอแทและที่ สํ า คั ญ ก็ คื อ ไม ไ ด คิ ด ถึ ง พระเลย แสดงว า ความเชื่ อ ของเรากํ า ลั ง เหลื อ น อ ยแล ว ป ที่ แ ล ว พ อ เอาหนังสือเลมหนึ่งมาแจกใหพี่นองอานชื่อวา “ภูเขาเคลื่อนได” เขียนจากชีวิตจริงของคริสตังใหม คนหนึ่งคือ คุณศรินธร เมธาวัชรานนท เธอเลาใหฟงตั้งแตยังไมไดเชื่อในพระและมามีความเชื่อ จากนั้นไดดําเนินชีวิตตามความเชื่อในพระอยางไร เธอเขียนไดนาอานมาก พอเริ่มอานก็อยากจะ ติดตามจนจบราวกับเปนนิยายเรื่องหนึ่งทั้ง ๆ ที่เปนชีวิตจริง มีคนมากมายตองการอานหนังสือเลมนี้ จนเธอตองพิมพหลายครั้ง คุณศรินธรไมตองการขายแตตองการใหคนอานไดรูจักพระเจาที่เธอรูจัก ไดรูจักกับอํานาจของความเชื่อ อํานาจที่เธอเปรี ยบเชนเดียวกับพระวรสารวา “ภูเขาเคลื่อนได ” หลายคนอานแลวมีความเชื่อมากขึ้น ใครที่มีหนังสือเลมนี้ก็แบงปนใหคนที่เรารูจักอานบางก็จะทําให เขาใจคําวา “อํานาจแหงความเชื่อไดดีขึ้น” พระวรสารอาทิตยนี้พูดถึงเรื่องความเชื่อเพียงเปรียบเทียบกันคนละอยางเทานั้น “ถาทาน มี ความเชื่ อเท าเมล็ ดมั สตาร ด และพู ดกั บต นหม อนนี้ ว า จงถอนรากแล วไปขึ้ นอยู ในทะเลเถิ ด ตนหมอนตนนั้นก็จะเชื่อฟงทาน” พอเขาใจวาเราไดยินพระเยซูเจาสอนเรา เราไดอานไดฟงพระวาจา แหงความเชื่อเหลานี้ เพียงแตพอสงสัยวาเราเคยพูดถึงความเชื่อของเราเองบางหรือยัง พูดใหคนอื่น ฟง เขียนใหคนอื่นอาน สอนลูกหลานเรา เรามักจะไมไดพูด ไมมีโอกาสพูด รูสึกอยูในใจคนเดียว ถึงอาจจะพูดก็ไมรูจะพูดอยางไร มีชาวอาฟริกันคนหนึง่ เคยพูดกับมิชชานารีคนหนึ่งครับ มิชชันนารี คนนี้เอาจริงเอาจังกับงานทานมาก มาอาฟริกาก็เรียนภาษาทองถิ่น พอเรียนรูเรื่องแลวก็เทศนสอน นําความรูของตนทั้งหมดมาถายทอดใหชนเผาที่ทานทํางานอยูไดเขาใจเรื่อง ความเชื่อในพระเจา ใหลึกซึ้งขึ้น วันหนึ่งชาวอาฟริ กันคนหนึ่งมาคุยกับทานพูดวา “คุณพอพูดถึงความเชื่อในพระเจา แบบที่พระองคอยูในจักรวาลอันยิ่งใหญ ฟงดูแลวหางไกลเหลือเกิน พวกเราพบวาแทที่จริงพระก็คือ เสือ พวกเราเปนเหยื่อของพระองค เวลาที่พระองคตะปบเราก็คือศีลลางบาปนั่นเอง เราไมอาจ ไปไหนไดอีกแลว พระองคเปนเจาของเราแลวจะทําอะไรกับเราก็ได จะใหเราตายก็ได ” ชายคนนี้ เขาใจพระจากชีวิตประจําวันของเขาและเขาก็อธิบายความเชื่อดวยความเขาใจงาย ๆ ในป 1996 มีการสํารวจนักวิทยาศาสตร หนึ่งพันคนเกี่ยวกับความเชื่อในพระเจา ผลสํารวจ ก็คือ นักวิทยาศาสตร สี่รอยคนคือประมาณ 40% เทานั้นที่เชื่อในพระเจา ที่แปลกกวานี้ก็คือวาในป 1916 คือ 80 ปกอนหนานี้ ก็มีการสํารวจแบบเดียวกันนี้ ผลสํารวจออกมาเทากันเลยครับคือ 40% ของนักวิทยาศาสตรมีความเชื่อในพระเจา นักวิทยาศาสตร 60% ที่ไมเชื่อก็เพราะวา เขามีคําถาม ทีค่ ิดวาฉลาดมากมายเกินไป ในขณะที่อีก 40% พยายามคนหาคําตอบตาง ๆ ในโลกอันนาพิศวงนี้ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

77


ในเรื่ องของความเชื่อ เราอาจจะมี คําถามมากมาย แตเราตองยอมรับวาเราไมสามารถ หาคําตอบไดทุกอยางจากหัวสมองอันนอยนิดของเรามนุษย พระเจาจึงประทานของขวัญแกเรานั่น คือ ใหเรามีความเชื่อ ของขวัญชิ้นนี้มีพลังอํานาจมหาศาลผูที่มีความเชื่อจึงมีอํานาจพิเศษ อํานาจ ที่จะยอมรั บ ทุกสิ่ง และยอมรับแมความตาย ผูที่ มีความเชื่อมากมายก็ไดยอมรับมาแล ว เรื่องความเชื่อจึงไมใชเรื่องที่เราจะมานั่งเถียงกัน ทะเลาะกัน แตเปนเรื่องที่เราจะตองแสดงออกถึง ความเชื่อของเราตางหาก ความเชื่อที่ไมแสดงอะไรออกมากเลย ก็เปนความเชื่อที่ตายแลว นั่นเอง นักบุญเปาโลสอนเราวันนี้วา “ทานอยาอายที่จะเปนพยานถึงองคพระผูเปนเจาของเรา” นี่ก็ เป นการแสดงความเชื่ อของเราอย างหนึ่ ง ที่ จริ งความเชื่ อสามารถทํ าอะไร ๆ ไดอี กมากมาย ความเชื่อทําใหคนหลายคนอุทิศตนเพื่อรักพี่นองรวมโลก อยางไมรูเหน็ดเหนื่อย ความเชื่อทําใหคน หลายคนยอมตายเพื่อพระและเพื่อเพื่อนมนุษย ความเชื่อทําใหคนกลาเปนพยานถึงพระทั้งดวยการพูด การเขียน ทั้งหมดนี้เปนตัวอยางที่ดีสําหรับความเชื่อของพวกเรา อยาลืมนะครับ หมั่นสวดภาวนาขอใหเพิ่มพูนความเชื่อของเราบอย ๆ ใหความเชื่อของเรา มี มากขึ้ น มากจนเรากล าที่ จะเป นพยานถึ งพระ กล าที่ จะพู ด จะเขี ยนเกี่ ยวกั บพระเจ าของเรา นี่แหละครับอํานาจของความเชื่อในตัวเราทุกคน

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 3 ตุลาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

78


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก เวลาที่พอดูภาพยนตรฝรั่งในทีวีก็มักจะไดยินคําวา“ขอบคุณ” อยูบอย ๆ จนถึงบอยมาก ไมวาจะเปนใครเชน พอแมขอบคุณลูก ๆ หรือครูขอบคุณลูกศิษย ไมวาจะเปนเรื่องเล็ก ๆ หรือ เรื่องใหญ ๆ แบบชวยชีวิตกัน เรื่องเล็ก ๆ ก็อยางเชนเปดประตูรถให หยิบโนนหยิบนี่สงใหเปนตน นึกถึงคนไทยเราก็อาจจะมีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง เวลาเราทําอะไรใหกับคนที่เรารัก เราก็ไมอยากใหเขา มาขอบคุณเรา เพราะดูเหมือนวา หางไกลกัน เปนใครที่ไหนละคนกันเอง ทําไมตองขอบคุณกันดวย ภาษาไทยก็แบงแยกคําที่ผูใหญขอบคุณผูนอยโดยการใชคําวา “ขอบใจ” ขณะที่ผูนอยใชคํานี้กับ ผูใหญไมไดตอง “ขอบคุณ” อยางเดียว เลยทําใหเราคิดวาจะขอบคุณใครก็จะตองเปนเรื่องใหญ ๆ เทานั้น สมัยนี้เราเริ่มไดยินคนไทยขอบคุณกันมากขึ้น ทั้งจากผูใหญและก็จากผูนอยดวย คําขอบคุณ เปนการแสดงจิตใจแหงความกตัญูรูคุณ และคําขอบคุณนี่แหละที่แสดงวา เราไมสามารถทํา ทุกสิ่งทุกอยางไดเองมีบางคนตองชวยเรา ทําใหเรา บางคนไดใหบางสิ่งบางอยางแกเรา เราคริสตชน รูจักขอบคุณพระเสมอ เวลาที่เรามาวัด เราฟงพระวาจาของพระ เราก็ขอบคุณพระองค เวลาที่เรา รับศีลมหาสนิทแลว เราก็ภาวนาโมทนาคุณพระองค และเวลาที่มิสซาจบแลวเราก็ยังขอบคุณ พระองค พระวรสารอาทิตยนี้เลาเรื่องการขอบคุณพระ เรื่องของ นาอามาน ชาวซีเรีย เขาเปนแม ทัพใหญ มีอํานาจมากมาย แตเปนโรคเรื้อน คนใชชาวยิวบอกใหไปพบประกาศกเอลีชาเพราะจะ รักษาโรคนี้ใหหายได นาอามาน ทํายังไงทราบหรือไมครับ นาอานามนําเอาราชสาสนของกษัตริย ซีเรีย ไปถึ งกษัตริย ยูดา ให ยูดารั กษาโรคนี้ให ยู ดาก็คิ ดว านี่ มาหาเรื่ องทําสงครามกันชัด ๆ เลย ในที่สุดเอลีชาก็สั่งใหเขาลงไปอาบน้ําในแมน้ําจอรแดน 7 ครั้ง โรคเรื้อนของเขาก็หายไป บทอานที่ หนึ่งเลาวา นาอามานตองการขอบคุณเอลีชาดวยการมอบของขวัญให แตเอลีชาไมรับโดยบอกวา พระเจาตางหากที่เปนผูรักษาทาน นาอามานจึงขอบคุณดวยการขอนําดินจากแผนดินนี้กลับไป บานเมืองของตนและจะบูชาพระเจาแหงอิสราแอลแตผูเดียว พระวรสารเลาเรื่องคนโรคเรื้อน 10 คน มีชาวตางชาติคือชาวสะมาเรียคนเดียวที่หายแลว กลับมาหาพระเยซูเจาเพื่อขอบคุณพระเจา ชาวยิวเกาคนที่ควรจะมาขอบคุณพระกลับไมไดมาเลย พอฟงเรื่ องขอบคุณพระทั้งสองเรื่องนี้แ ลวก็รูสึ กวา พวกเรามี เรื่องที่ ตองขอบคุณพระ มากมายเหลือเกินในชีวิตของเรา ในสมั ยสงครามโลกครั้ งที่ สอง ทหารอเมริกั นเสียชีวิ ตไปมากมายที่จ ริง มีผู เสี ยชี วิต ไป ทั้ง หมดประมาณ 25 ลา นคนจากสงครามครั้ งนั้ น ลู กชายครอบครัว หนึ่ งเสียชี วิต ในสงคราม พอ แม ไปวั ด และบอกพ อ เจา วั ด ว าจะขอบริ จ าคเงิ น ของครอบครั วเพื่ อ เป น อนุ สรณ แ ดลู ก ชาย ผูลวงลับไป พอเจาวัดเห็นดวยและขอนําเรื่องนี้พูดใหสัตบุรุษฟงในวัดวันอาทิตย หลังมิสซาอีก ครอบครั ว หนึ่ ง ซึ่ ง ลู ก ชายไปรบในสงครามนี้ ด ว ย กํ า ลั ง ขั บ รถกลั บ บ า น ผู เ ป น พ อ ก็ พู ด ขึ้ น ว า ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

79


ทําไมเราไมบริจาคเงินเพื่อเปนอนุสรณถึงลูกชายเราบางละ ผูเปนแมกลาววา จะทําอยางนั้นทําไม ลูกชายของเรายังไมตายนะ พอจึงพูดขึ้นวา นั่นละประเด็นสําคัญ ทําไมเราตองระลึกถึงคนที่ ตายไปแลว ในขณะที่เราไมขอบคุณพระสําหรับลูกชายที่ยังมีชีวิตอยูละ ทําไมเราไมขอบคุณ พระในตอนนี้สําหรับพระพรที่เราไดรับอยูในปจจุบัน ตองรอใหลูกชายเราตายกอนหรือ Thomas a kempis นักคิดที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 14 เคยพูดถึงเรื่องนี้ไววา “จงรูจัก ขอบคุณสําหรับพระพรที่เล็กที่สุด ทานจึงจะสมควรไดรับพระพรที่ยิ่งใหญกวา ใหคุณคากับ ของขวัญที่เล็กที่สุดเทากับที่ทานใหคุณคากับของขวัญที่ใหญที่สุด ศักดิ์ศรีของผูใหทําใหของขวัญ ที่เล็กที่สุดมีคาฉันใด ของขวัญของพระผูสูงสุดแมจะเล็กที่สุดในชีวิตของเรา ก็มีคาฉันนั้น” เราไมตองรอใหหายจากโรครายกอนจึงจะขอบคุณพระนะครับ แตจงขอบคุณพระ ในขณะที่เรามีสุขภาพดี ไมตองรอใหรวยเสียกอนจึงจะทําบุญ จึงจะชวยเหลือผูอื่น จงทําบุญ ตามความสามารถของเรา เราคริสตชนจึงมิใชเพียง ผูที่จะคอยขอบคุณพระสําหรับพระพรตาง ๆ แตเราเปนผูที่สามารถขอบคุณพระดวยการกระทําตาง ๆ สําหรับพระและเพื่อนมนุษย ไมวาพระพร ที่เราไดรับมาจากพระจะเล็กเพียงใดก็ตามในสายตาของเรา แตเปนพระพรที่ยิ่งใหญเสมอเพราะ มาจากพระผูสูงสุดเอง เรามีเรื่องที่จะตองขอบคุณพระองคมากเหลือเกิน เราตองทําอยางนาอามาน และคนโรคเรื้อนคนนั้นที่กลับมา “ขอบพระคุณพระเจา” ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 10 ตุลาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

80


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ในป 1956 ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศสมีการลุกฮือของประชาชนตอตาน “คนเชื้อสายยิว” มีชาวยิวหลายคนถูกฆาตายดวย (พี่นองก็คงจําไดดีวาในระหวางสงครามโลกครั้งที่สอง (1939-1945) ฮิตเลอรไดสั่งฆาชาวยิวไปถึง 6 ลานคน) บนหลุมฝงศพของชาวยิวคนหนึ่ง มีขอความสลักไววา “Remember Amalek” แปลไดวา “จงจดจําเรื่องราวของชาวอามาเลข” มีความนัย ๆ จะบอก กับผูที่อานขอความนี้วา พระเจาจะชวยใหเราชนะชาวอามาเลข เรื่องนี้เราไดฟงในวันอาทิตยนี้เอง ชาวอามาเลขเปนชนชาติดุราย มีกองทัพเกรียงไกร ทัพของโมเสสดูเหมือนวาไมมีทางสูเลย แตเมื่อ โมเสสขึ้นไปบนเขา ยกมือขึ้นขอพระใหชวย อิสราเอลก็ไดเปรียบ เมื่อโมเสสเมื่อยลา อาโรนกับเฮอร ก็นํากอนหินมาใหโมเสสนั่งและทานทั้งสองก็ยกมือของโมเสสขึ้นจนกองทัพอิสราเอลไดรับชัยชนะ ขอความที่วา “จงจดจําเรื่องราวของชาวอามาเลข” จึงหมายถึง จงอยาทอถอย วอนขอพระเสมอ และพระองคจะทรงชวยทาน จงอยาทอถอย ดูแบบอยางการภาวนาของโมเสส เมื่อเราสวดภาวนา ก็จงสวดภาวนาดวยความไวใจ ดวยความหวังและความเชื่อ พยายามสวดอยาไดหยุดหยอน เมื่อเราออนลาแลว เราก็ตองหาทางฟนฟูจิตใจของเราขึ้นมาใหม พระเจาจะชวยเราอยางแนนอน ที่จริงเรื่องนี้เราเองก็ไดฟงจากพระวรสารอาทิตยนี้ เปนเรื่องระหวางหญิงมายและผูพิพากษา หญิงมายแสวงหาความยุติธรรม สวนผูพิพากษาแสวงหาผลประโยชน แตหญิงมายไมมีทางให ผลประโยชน ใ ด ๆ แก ผู พิ พ ากษาเลย ถึ ง กระนั้ น ความพยายามวอนขอของหญิ ง ม า ยอย า ง ไม ล ดละทํ าให ผู พิพ ากษาคนนี้ยอมทํา ตามที่ น างขอรอ ง “ฉัน จึ ง จะให นางไดรั บ ความยุ ติธ รรม เพื่อมิใหนางรบเราฉันอยูตลอดเวลา” พวกเรามักจะชอบพูดวา “ตื้อเทานั้นครองโลก” ก็ขนาดมนุษย เรายังยอม แลวพระเจาซึ่งรักเรา เขาใจเราและชวยเราไดจะไมยอมตามที่เราภาวนาวอนขออยาง ไมหยุดหยอนเลยหรือ การภาวนามีพลังพิเศษเสมอ การภาวนาชวยใหเราสามารถเอาชนะ อุปสรรคในชีวิต ชวยใหเราเอาชนะปญหาตาง ๆ ชวยใหเรารูจักสงบนิ่ง การภาวนาชวยใหเราคืนดี กั นได การภาวนาช ว ยให ค นกลั บ ใจก็ ไ ด การภาวนายั ง ช ว ยให เ ราเปลี่ ย นแปลงตนเอง การภาวนายังชวยใหเรามีสุขภาพดีทั้งทางกายและทางใจ พูดถึงเรื่องการภาวนาแลว พอเคย ไดยินบางคนสอนวา เวลาที่เราสวดภาวนา ถาเราสวดอยางไมตั้งใจ สวดใหมันจบ ๆ ไป ก็อยา สวดเสียดีกวา พอไมคอยเห็นดวยกับการสอนแบบนี้เพราะมีความเชื่อวา แมเราจะไมสามารถมีสมาธิ เต็มรอยในการสวดภาวนา หรือเพราะเราเรงรีบในเรื่องตาง ๆ การสวดภาวนาแบบใด ๆ ก็ตาม ก็ยังดีกวา การไมสวด เพราะฉะนั้นจงสวดเถิด และถาหากสวดอยางดีดวย ก็ยิ่งดีเขาไปใหญเลย พี่นองเคยรูจักแมพระแหงเหรียญอัศจรรย เคยไดยินวา นักบุญอันตนแหงปาดัว คือนักบุญ แหงอัศจรรย และที่ประเทศเปรู เขามีรูปพระเยซูเจารูปหนึ่ง ไดรับชื่อวา “พระเจาแหงอัศจรรย” วาดโดยทาสชาวอั ง โกลาคนหนึ่ ง ชื่ อ เบนิ โ ต ในป 1651 วาดรู ป พระเยซู เ จ า ตรึ ง กางเขนไว บนกํ า แพงแห ง หนึ่ ง ต อ มาในวั น ที่ 13 พฤศจิ ก ายน 1655 เกิ ด แผ น ดิ น ไหวครั้ ง ใหญ ที่ ก รุ ง ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

81


ลิมา ประเทศเปรูนี้ บานเมืองพังราบหมด ที่นาแปลกก็คือ รูปนี้บนกําแพงนั้นยังคงอยูในสภาพดีมาก (คล าย ๆ กั บเรื่ อ งไม กางเขนที่ ประเทศไฮติ หลั ง จากแผ น ดิน ไหวแล ว ไมก างเขนนี้ยั ง คงอยู ดี ทามกลางซากปรักหักพังของประเทศ) ประชาชนตางพากันมาสวดภาวนาโดยเฉพาะพวกทาส ทั้งหลายจนกระทั่งผูปกครองเมืองกลัววาทาสจะกอกบฏ จึงสั่งใหทําลายรูปภาพรูปนี้ แตก็ไมมีใคร กลาทําลาย จนในที่สุดเจาหนาที่ทั้งหลายก็ยอมรับภาพแหงอัศจรรยนี้ อัศจรรยไดเกิดขึ้นมากมาย เมื่อเร็ว ๆ นี้ เด็กชายอายุสี่ขวบคนหนึ่งตกลงมาจากอาคารชั้นสองไดรับความกระทบกระเทือน ทางสมอง หมอลงความเห็นวาไมมีทางรอดเลย แตผูที่เปนแมไมยอมแพ สวดภาวนาวอนขอตอ พระเยซูเจาแหงอัศจรรยนี้ เหมือนกับหญิงมายในพระวรสารเลย เธอไปที่กําแพงนี้ทุกวัน เฝาสวด ภาวนาและ บนบานวาหากลูกชายหายเปนปกติ เธอและครอบครัวจะอุทิศตนเพื่อ “พระเจาแหง อัศจรรย” พอเธอกลั บ ไปที่ บ า น เธอได พบว า เลโอนาร โ ด ลู กชายของเธอ หายเป นปกติ โ ดย เด็ดขาดอยางอัศจรรยที่สุด และเธอก็ไดอุทิศตนและครอบครัวดวยการทํางานเผยแพรความเชื่อ ความศรัทธานี้ จงจดจําเรื่องราวของชาวอามาเลข และจดจําเรื่องราวหญิงมายและผูพิพากษาวันนี้ จงเชื่อเถิดวาพระเจาจะทรงชวยเราอยางแนนอน ขอเพียงแตเราอยาทอถอยในการสวดภาวนาเลย

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 17 ตุลาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

82


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พระศาสนจักรของเราแบงยุคเวลาออกเปนสมัยตาง ๆ คือ ยุคแรก ยุคกลาง ยุคปฏิรูป ยุคใหม สวนชวงระยะเวลาของการแบงก็มีแตกตางกันออกไป ยุคกลาง (Middle Age) ตองถือวาเปนยุค ที่พระศาสนจักรของเราเสื่ อมถอยมากที่สุด สาเหตุที่ พระศาสนจักรของเราเสื่ อมถอยก็คื อ พระศาสนจักรร่ํารวยมากไป แสวงหาเกียรติยศ แกงแยงชิงดีกัน มีอํานาจทางบานเมืองมากไป และมุงแสวงหาแตทรัพยสินเงินทอง การดําเนินชีวิตของพระสันตะปาปา สังฆราช และสงฆ นักบวชตาง ๆ ก็เต็มไปดวยวิถีชีวิตทางโลก คริสตชนสมัยนั้นนาสงสารที่สุด เพราะไมสามารถ พึ่งพิงทานเหลานั้นไดเลย ในขณะที่กฎเกณฑการไปสวรรคสมัยนั้นเครงครัดมาก หนทางหนึ่งซึ่ง คริสตังสมัยกลางใชเปนทางไปสวรรคก็คือ “การจาริกแสวงบุญ” ใครที่ไปจาริกแสวงบุญวัดตาง ๆ ที่ใหพระคุณการุณยก็จะเปนหลักประกันความรอด เพราะสามารถยกบาปและโทษของบาปทั้งใน โลกนี้และโลกหนาไดดวย เรื่องที่นาสนใจที่สุดเรื่องหนึ่งของการแสวงบุญก็คือ เมื่อพวกเขาเขาไป ในวัดที่จาริกแสวงบุญ พวกเขาจะสวดวา “ขอทรงพระเมตตาเถิดพระเจาขา เพราะขาพเจา เปนคนบาป” เรื่องนี้ทําใหพอนึกถึงพระวรสารอาทิตยนี้ คนเก็บภาษีเขาไปในวิหารดวยใจสุภาพ ถอมตนยืน อยูหา ง ๆ ไมก ลา แมแ ตจ ะแหงนหนา มองทอ งฟา ขอ นอกพูด วา “ขา แตพ ระเจา โปรดทรงพระกรุณาตอขาพเจาคนบาปดวยเถิด” ในขณะที่ฟาริสีคนหนึ่งยืนสวดอยูหนาแทน อวดตน อวดความดีทั้งหลายที่ทํา พรอมทั้งเปรียบเปรยคนเก็บภาษีวาเปนคนบาปหยาบชาเพียงใด ฟาริสีคนนี้ทําใหพอนึกถึงการดําเนินชีวิตของบรรดาผูนําพระศาสนจักรในตอนสมัยกลางจริง ๆ สมัยนั้นผูนําพระศาสนจักรมีอํานาจแมแตจะสั่งฆาใคร หรือสั่งเผาคนทั้งหมูบานใหตายไปก็ได ถาพี่นอง ไปอานเรื่องราวของเราในสมัยกลางก็ไมตองสะดุดใจมากนะครับ เพราะแมจะมีคนพวกนี้อยู ก็ยังคงมี คนดี ๆ อีกมาก และพระจิตเจาก็นําพาพระศาสนจักรใหรอดพนมาไดก็โดยอาศัยคนที่สุภาพ ถอมตนแบบเดียวกับคนเก็บภาษีคนนี้ พระเปนเจาฟงคําภาวนาของคนสุภาพถอมตนเสมอ ผูศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในโลกของเรา ลวนแลวแตเปนคนสุภาพถอมตนทั้งสิ้น และเราก็มักจะวางใจคําภาวนาของคนศักดิ์สิทธิ์เหลานี้ หนังสือบุตรสิราก็กลาวไวเชนกันวา “ผูที่เต็มใจรับใชพระเจายอมเปนที่ยอมรับของพระองค คําวอนขอ ของเขาจะขึ้นไปถึงเมฆ คําอธิษฐานของผูต่ําตอยทะลุเมฆขึ้นไปและจะไมหยุดจนกวาเขาจะไดรับ ความบรรเทา” เราคริ ส ตั ง ก็ เ ลยมั ก จะไปขอให “ผู รั บ ใช พ ระ” สวดภาวนาให ขอให ผู ที่ “ต่ําตอย” คือสุภาพถอมตนสวดภาวนาให หลายคนก็มักไปขอใหอารามคารแมลสวดใหเปนพิเศษ เพราะนักบวชเหลานี้อุทิศตน สวดภาวนา ใชโทษบาปใกลชิดพระ บางคนก็ชอบขอใหพระสงฆสวดให ยิ่งเปนสังฆราชสวดใหก็ยิ่งดี บางคนโชคดีหนอยมีโอกาสรับพรพระสันตะปาปา หรือขอใหพระองค สวดภาวนาใหไดดวยก็ยิ่งอุนใจ พระเปนเจาฟงคําภาวนาของผูที่รับใชพระองค สุภาพถอมตน และ ต่ําตอยเสมอ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

83


สายตาของฟาริ สี ที่ กํ า ลั ง มองคนเก็ บ ภาษี ก็ เ ป น บทเรี ย นที่ ดี สํ า หรั บ เราด ว ยครั บ เพราะสายตานี้มองตางจากสายตาของพระเยซูเจามากเหลือเกิน เขามองดูหญิงโสเภณี คนเก็บ ภาษี คนโรคเรื้อน คนพิการตาบอด เขามองดูคนอื่น ๆ ทั้งหลายเปนคนบาปไปหมดและคําพูดก็ แสดงความรังเกียจ ในขณะที่พระเยซูเจาชวยเหลือหญิงโสเภณี รักษาคนโรคเรื้อน พิการทั้งหลาย และ กินดื่มรวมกับคนบาป เรื่องแบบนี้บางที่พวกเราก็เปนเหมือนกัน เราอาจเคยมองคนเหลานี้ดวยสายตา ที่ดูถูกดูแคลน หรือรังเกียจก็ได บางทีเราก็มองคนบางเชื้อชาติที่มาอาศัยในประเทศเราดวยสายตา แบบนั้น ตัดสินโสเภณีวาเปนหญิงชั่ว บางครั้งเราก็รูสึกรังเกียจคนขอทานอะไร ๆ ทํานองนี้ นั่นก็ เทากับเรากําลังพูดเหมือนฟาริสีทํานองที่วา เราดีกวาคนพวกนี้ เราอยางโนน เราอยางนี้ดี ๆ ทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่เราตางก็เปนคนบาป มิใชหรือ เราตางเปนคนบาปนะครับ และเราก็จําเปนที่จะไดรับพระเมตตาจากพระ จงสวด ภาวนาขอพระแบบคริสตังสมัยกลาง เวลาไปจาริกแสวงบุญ หรือแมแตไมไดไปแสวงบุญ ทุกครั้งที่เรา เขามาในวัดก็จงทําแบบคนเก็บภาษีบอกพระวา “ขาแตพระเจาโปรดทรงพระกรุณาตอขาพเจาดวยเถิด เพราะขาพเจาเปนคนบาป” มีแมคนหนึ่งเขาไปพบจักรพรรดิ นโปเลียน เพื่อวอนขอชีวิตลูกชายที่ ถู กตั ดสิ นให ประหารชี วิ ต นโปเลี ยนบอกกั บแม คนนั้ นว า ลู กชายของเธอทํ าผิ ดร ายแรงถึ งสอง ครั้งแลว และความยุติธรรมตัดสินใหเขาตาย เขาสมควรตาย แมคนนั้นก็วิงวอนวา ขามิไดวอน ขอความยุ ติ ธ รรม แต วิ ง วอนขอความเมตตาต า งหากละ นโปเลี ยนพู ด ว า แต ลู ก ชายเจ า ไมสมควรไดรับความเมตตา หญิงคนนั้นจึงวิงวอนตอไปวา ทานจักรพรรดิ มันคงไมใชความเมตตา อยางแนนอน ถาเขาสมควรจะไดรับมัน และความเมตตานี่แหละที่ขาวอนขอ จักรพรรดิ นโปเลียน จึงตรัสวา ถาเปนอยางนั้น ขาเองก็จะมีความเมตตา นโปเลียนไวชีวิตบุตรชายของนาง จงสวดภาวนาดวยความถอมตน มองผูอื่นทุกผูคนดวยความเมตตารัก และปฏิบัติต อ ผูอื่นอยางที่ทานตองการใหผูอื่นปฏิบัติตอทานเถิด

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 24 ตุลาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

84


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก “เราตองเกลียดบาป แตรักคนบาป” พระเยซูเจาทรงสอนเราเรื่องนี้เสมอมา พระองค เสด็จมาในโลกนี้ก็เพื่อคนบาปมาตามหาคนบาป คนสบายดีไมตองการหมอ คนปวยตางหากที่ตองการ เราเองก็มีเหตุผลมากมายที่จะตองรักคนบาป เหตุผลหลักเลยก็คือ เราตางก็เปนคนบาปดวยกัน ทั้งนั้น ดีไมดีอาจจะเปนคนบาปมากกวาคนที่เราคิดวาเปนคนบาปซะอีก ในขณะที่เรากําลังตําหนิ ผูอื่นถึงความบาปตาง ๆ นานาของเขา บาปจองหองของเราก็ไมยิ่งหยอนไปกวากันเลย หรือบางที อาจจะมีบาปอื่น ๆ ในตัวเรา ที่หนักกวาคนที่เรากําลังตําหนิอยูก็ได ศักเคียสในพระวรสาร อาทิตยนสี้ อนใจเราหลายอยางทีเดียว เพียงเพราะเขาเปนคนเก็บภาษี เขาก็กลายเปนคนบาปในสายตา ชาวยิว เพราะคนเก็บภาษีก็คือ คนโกง คอรรับชั่น ขูดรีดเงินประชาชนเขากระเปาตัวเอง และขอหา สุดทาย ก็คือเปนคนทรยศบานเกิดเมืองนอนของตนเอง ขอหาหนัก ๆ ทั้งนั้นเลย ศักเคียสเปน คนบาปจริงหรือเปลาก็ไมรูนะครับ ถาเปนคนบาปก็ตองยอมรับวาเปนคนบาปที่นารักมาก ๆ เปน คนบาปที่ พยายามพบพระเยซู เ จ า แค อ ยากเห็ น ก็ ย อมทํ า ทุ ก อย า งที่ จ ะเห็ น ลงทุ น ป น ต น ไม เพื่อจะไดเ ห็น เปนคนบาปที่ ดีใจเหลือเกินที่ไดตอนรับพระเยซู เจาที่ บาน เปนคนบาปที่บอก พระเยซูเจาวา “ขาพเจาจะยกทรัพยสมบัติครึ่งหนึ่งใหแกคนจน” อันที่จริงภาษากรีกที่ใชใน พระคัมภีรตอนนี้ใชคําที่หมายความวา ศักเคียสไดชวยคนจนดวยทรัพยสมบัติครึ่งหนึ่งของเขา เสมอมาตั้งแตกอนพบพระเยซูเจาซะดวย เปนคนบาปที่บอกกับพระเยซูเจาวา “ถาขาพเจาโกงสิ่งใด ของใครมา” มีนัยบอกวา ศักเคียสไมเคยคิดหรือตั้งใจที่จะโกงใครเลย และตอนที่พอคิดวาสําคัญที่สุดก็ คือตอนทีศ่ ักเคียสกําหนดโทษของตนเอง บอกวา “ขาพเจาจะคืนใหเขาสี่เทา” มาถึงตอนนี้พอเลย ไมแนใจวา ศักเคียสเปนคนบาปจริงหรือเปลา เปรียบเทียบกับคนบาปอยางเรา เวลาที่เขาไปแก บาปกับพระสงฆก็ไมรูวาเคยคิดจะกําหนดกิจใช โทษบาปของเราเองใหเหมาะสมหรือไม สวนใหญ ก็รอใหพระสงฆกําหนดกิจใช โทษบาปให และก็คิดวานั่นเปนกิจใชโทษบาปที่พอเพียงแลว เชนวา กําหนดใหสวดวันทามารีย 5 ครั้ง เราก็มาสวดบทนั้นหาครั้งและก็จบกันไปเลย ตกลงเงินที่เราโกงมา เจาของก็ยังไมไดคืน คํานินทาที่เราเผยแพรออกไป คนนั้นก็ยังไมไดชดใชอะไรเลย แตดูศักเคียสสิ ครับ เขาจะคืนใหสี่เทา พอจึง บอกวาศักเคียสเปนคนบาปที่นารักที่สุดเลยสําหรับพระ พระเยซูเจา จึงตรัสวา “วันนี้ ความรอดพนมาสูบานนี้แลว” ทําไมศักเคียสถึงถูกมองวาเปนคนบาป ทั้ง ๆ ที่ชื่อศักเคียสแปลวา “ผูชอบธรรม” เรื่องนี้ อธิบายไดงายๆ ก็คือ ศักเคียสทํางานใหชาวโรมัน ชาวโรมันก็ใหคาตอบแทนศักเคียส ชาวยิว เกลียดชาวโรมันก็เกลียดทุกคนที่ทํางานใหชาวโรมันไปดวย ถาจะใหเขาใจงาย ๆ สมัยสงครามอินโดจีน คนไทยเรียกรองดินแดนที่สูญเสียใหแกฝรั่งเศสกลับคืนมา ตอนนั้นคนไทยเกลียดฝรั่งเศสมาก ๆ และก็เกลียดทุกอยาง ทุกคนที่เกี่ยวของกับฝรั่งเศส วัดของพระสงฆฝรั่งเศส คริสตังที่เปนผูที่นับถือ ศาสนาคริสตก็ถูกมองวาเปนศาสนาของฝรั่งเศสก็ถูกเกลียดไปดวย เกลียดจนเรามีมรณสักขีทั้งแปดคน ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

85


ในประเทศไทย พอนิโคลาสของเราก็กลายเปนผูรายไป ถูกกลาวหาวาทรยศตอประเทศ เปนแนวที่หา ถูกตัดสินและที่สุดก็ตายในคุก ศักเคียสก็ถูกชาวยิวเกลียดชังดวยเรื่องเดียวกันนี้เอง และชาวยิว ถือวา เปนคนบาป พวกเขาจึงรูสึกโกรธเคืองใจมากที่เห็นพระเยซูเจาไปพักและทานอาหารกับคนบาป อยางนั้น ศักเคียสไมเพียงยอมรับวาเปนคนบาปเทานั้น แตยอมรับการชดใชทั้งสิ้นที่จะเกิดขึ้นดวย ครั้งหนึ่งพระเจาเฟเดอรริกมหาราชแหงปรัสเซียเสด็จไปเยี่ยมนักโทษในคุกที่เบอรลิน นักโทษทั้งหลาย ตางก็คุกเขาลงตอหนาพระเจาเฟเดอรริก ทูลวาพวกเขาเปนผูบริสุทธิ์ ยกเวนนักโทษคนเดียว ซึ่ ง อยู เงี ยบ ๆ ไม ทู ลอะไรเลย พระองค จึ งเรี ยกเขาเข า มาถามว า “เจ าทํ าอะไรมาจึ งติ ดคุ ก ” เขาทู ลตอบวา “ปลน พระเจาข า” พระองคจึงตรัสถามต อไปว า “เจามีความผิดหรื อไม ” เขาทูลว า “ผิดจริงพระเจาขา และขาพระพุทธเจาควรไดรับโทษนี้แลว” พระเจาเฟเดอรริกจึงเรียกผูคุมมา และสั่งวา “จงปลอยชายผูนี้ทันที เราจะไมยอมปลอยใหชายที่มีความผิดมหันตนี้อยูทามกลางบรรดา ผูบริสุทธิท์ ั้งหลายที่อยูในคุกนี้” พระเจาทรงเกลียดบาป แตรักคนบาป คนบาปที่นารักก็คือคนที่ยอมรับถึงความผิดของตนและ ยินดีชดใชสําหรับความผิดตาง ๆ ทั้งหลาย เวลาที่เราเขาไปที่ฟงแกบาป เทากับเรากําลังไตตนไม เพื่อพบพระเยซูเจา และเราก็ตอนรับพระองคเขามาในบานคือหัวใจของเรา จากนั้นเราสารภาพ บาปของเราเหมือนศักเคียส และที่สุดเราก็ตั้งใจชดใชความผิดตาง ๆ ของเรา สักกี่เทาถึงจะดี เรื่องนี้พี่นองตองกําหนดเองครับ พระสงฆกําหนดใหไดสวนเดียวเทานั้น อีกสามรอยเกาสิบเกาสวนนั้น อยูที่ตัวเรากําหนด ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 31 ตุลาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

86


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ปนี้วันฉลองนักบุญทั้งหลายเลื่อนมาเปนวันอาทิตยที่ 7 พฤศจิกายน พอจะสรุปใหฟงสั้น ๆ นะครับวา เราควรระลึกถึงอะไรบางในวันฉลองนี้ เราระลึกถึงวิญญาณทุกดวงที่อยูบนสวรรคครับ ทั้งที่พระศาสนจักรประกาศและที่ไมไดประกาศแตงตั้งใหเปนนักบุญ อยาลืมวา เราไมตองสวดภาวนา ใหพวกเขานะครับ แตเราตองขอใหพวกทานเหลานั้นภาวนาเพื่อเรา พวกเขาที่อยูบนสวรรค ไมตองการคําภาวนาของเรา เราตางหากตองการคําภาวนาของพวกเขา พอคิดถึงพวกเขาแลว ก็ตองหันมาคิดถึงพวกเราเองบาง เราตองคิดถึงอะไรบาง งายมากครับเรื่องแรกคือ เรื่องความตาย ของเรา อยาลืมคิดวา “ยังไง ๆ เราก็ตองตาย” และก็คิดอีกเรื่องหนึ่งที่ตามมาคือ “ถาเราตาย ตอนนี้ เราจะไปไหน” หลายคนพยายามจะสรางสวรรคบนดิน แตกอนนี้ก็มีคนสรางลัทธิคอมมิวนิสตขึ้นมาบอกวา จะทํา ใหโ ลกนี้ มีความเทาเทียม มีความสุขถ วนหนา ทําไปทํา มาทํ าให มีความสุ ขอยู กันไมกี่คน คนทั้งหลายรับทุกขเทาเทียมกันตอสูกันตายไปหลายลานคน พี่นองเชื่อมั้ยครับในศตวรรษที่ 20 ที่ผาน มา มีจอมเผด็จการเกิดขึ้นมากมาย ใหสัญญาวาภายใตการปกครองอันเด็ดขาดของเขา โลก จะเป น หนึ่ ง เดี ย วกั น และมี ค วามสุ ข ผลที่ อ อกมาก็ คื อ ป 1920 นายพลฟรั ง เชสโก ฟรั ง โก ของสเปน เบียดเบียนศาสนาเราครับ มีคริสตังตายไปมากมาย พระสันตะปาปาเบเนดิกติ์ประกาศ ในป 2007 ใหคริสตังจํ านวน 498 คน ซึ่งมีทั้ งพระสงฆ นั กบวช ฆราวาส เด็กชาย เด็กหญิ ง เป น บุ ญ ราศี เป น การประกาศแต ง ตั้ งบุ ญราศี ม ากที่ สุ ด ในประวั ติ ศาสตร ที่ จ ริ ง คอมมิ ว นิ ส ต ในเวียดนามก็ฆาพวกเราไปหลายแสนคนนะครับ ที่เกาหลีก็เปนแสนคน ญี่ปุนก็จํานวนมาก เผด็จการ ทั้งนั้น ที่ประเทศเม็กซิโก ในป 1930 ก็เบียดเบียนศาสนาคริสตมีมรณสักขีเกิดขึ้นมากมาย มาถึง สมัยของฮิตเลอร นี่ก็เผด็จการอีกเหมือนกัน โลกนี้ไมมีอะไรสมบูรณหรอกครับ อยาไปหวังอะไร จากสวรรคบนดิน เพราะแทที่จริงมันก็คือ นรกบนดินตางหากโลกนี้ไมนิรันดร พูดถึงความไมสมบูรณของโลกนี้นะครับ บางคนวาดภาพวา ถาสักวันหนึ่งไดมีโอกาสไป พักผอนอยูในเรือสําราญสัก 2 อาทิตยก็คงเหมือนไปสวรรค คิดถึง 2 อาทิตยบนเรือสําราญอาจเหมือน ติดคุกอยู 2 อาทิตยก็ได มีการสํารวจถึงความไมสมบูรณในโลกนี้ไวนาสนใจมากครับ ทําใหเรา ยอมรับถึงความไมสมบูรณของโลกใบนี้ พระตองการบอกเราวา “โลกนี้ของเราจะผานพนไป และ เรามีหวังที่จะไดรับโลกที่สมบูรณในชีวิตนิรันดร เขาสํารวจวา - ทุก ๆ ชั่วโมง จะมีเช็ค 22,000 ใบไดรับการดําเนินการผิดพลาดโดยทางธนาคาร - ทุก ๆ นาที จะมีการตอโทรศัพทผิด 1314 ครั้ง - ทุก ๆ วัน จะมีการเขาปกหนังสือผิดพลาด 2488 เลม - ทุก ๆ ป จะมีการจายยาผิดพลาด 20,000 ครั้ง - ทุก ๆ วัน จะมีทารกถูกมอบใหแกคนที่ไมใชพอแมแท ๆ ถึง 12 คน ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

87


โลกใบนี้ไมดีพอที่จะใหความสุขนิรันดรแกเรา เวลาเดียวกันเราก็ตองถามวา ตอนนี้เรา ดีพอที่จะไปสวรรคเชนเดียวกับนักบุญทั้งหลายหรือเปลา พอจําเรื่องในพระวรสารตอนหนึ่งได และก็ชอบมากคือเรื่องเด็กหนุมคนหนึ่งถามพระเยซูเจาวา “ผมตองทําอะไรจึงจะไดชีวิตนิรันดร” (Mt.19:16) พวกเราคงไมตองถามเพราะเราไดคําตอบจากพระเยซูเจาแลว “ถาความชอบธรรม ของทานไมดีไปกวาความชอบธรรมของธรรมาจารยและฟาริสีแลว ทานจะเขาอาณาจักรสวรรคไมได เลย (Mt.5:20) และพระองคกําชับวา “ฉะนั้นทานจงเปนคนดีอยางสมบูรณดังที่พระบิดาเจาสวรรค ของทานทรงความดีอยางสมบูรณเถิด” (Mt.5:48) อันที่จริง ดีสมบูรณ ก็ไมยากหรอก ถาไมคิดมากไปนะครับ การไปสวรรคก็ไมยากอยางที่คิด เพราะพระเยซูเจาสิ้นพระชนมไถบาปเราไวแลว เวลาเราทําบาป ออนแอพระก็ยกโทษบาปใหแลว ดีพอหรือดีสมบูรณก็คือ รับการไถบาป รับพระเมตตาของพระอยูเสมอ นักบุญทั้งหลายคือความหวัง ของเรา และเปนผูชวยเราใหไปสวรรค กิจการบาปไมสําคัญเลยสําหรับพระ สําคัญอยูตรงที่เรา ทําอยางไรหลังจากไดรับการอภัยแลวตางหาก บางทีเปนเรานี่แหละที่ปฏิเสธการใหอภัยของพระซะเอง ในศตวรรษที่ 19 อเมริ กา มี กฎหมายแขวนคอฆาตกร เด็ กหนุ มคนหนึ่ งถู กตั ดสิ นให แขวนคอ ผูพิพากษามีเมตตา นําเอาใบปลอยตัวใสไวในหนังสือพระคัมภีร นําไปใหเด็กหนุมคนนั้นในคุ ก แตหนุมคนนี้ทั้งดาทั้งไลผูพิพากษาคนนี้บอกวา ไมตองการพระคัมภีรในตอนนี้ เขามารูกอนจะถูก ประหารชีวิตวา เขาไดปฏิเสธใบปลอยตัวของเขาเอง กอนตายเขาพูดวา “ผมไมไดตายเพราะ ฆาคน แตผมตายเพราะปฏิเสธการใหอภัย” ถาเราไมปฏิเสธการใหอภัยของพระ รับการใหอภัย รับพระเมตตา เราไปสวรรคแนนอน อยูรวมกับบรรดานักบุญทั้งหลาย ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 7 พฤศจิกายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

88


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ภาพยนตรเรื่อง “2012 วันสิ้นโลก” เปนเรื่องเกี่ยวกับอวสานของโลกนี้ สรางมาจากคําทํานาย ของชนเผา Maya ซึ่งเปนชนเผาที่เชื่อกันวามีอารยธรรมและมีความรอบรูในทวีปอเมริกาใต พวกเขา ทําปฏิทินขึ้นมาเปนปฏิทินทํานายอนาคต และก็บังเอิญที่มีการตีความปตางๆ ที่มีอยูในปฏิทิน และ เกิดเหตุการณที่ตรงกับที่ทํานายไวในปฏิทิน และก็บังเอิญอีกนั่นแหละปฏิทินมาจบเอาป 2012 ก็เลยลือกันใหญเลยวา 2012 เปนปสิ้นโลก เขาก็เลยเอามาทําหนัง โกยเงินไปกันเยอะ คนก็ชอบดู ดวยความอยากรูอยากเห็นราวกับอยากจะรูวา ตัวเองจะตองตายอยางไร ชนเผานี้อาจจะเกงในเรื่อง ทํานาย แตพวกเขาก็ไมสามารถรูลวงหนาไดเลยวา ชนเผาของตนจะถูกชาวสเปนรุกราน และ ทําลายอารยธรรมของพวกเขา นี่แหละครับสิ่งที่ควรรู กลับไมรู ไปรูในสิ่งที่ไมนาจะรูได และรูจริง หรือเปลาก็ไ มรู เหมือนอยางตอนที่ นอสตราดามุส (1503-1566) เคยทํานายวา โลกจะแตก ป 2000 ก็มาจากการตีความของคนโง ๆ ไมกี่คน ตอนนั้นก็ตกใจกันยกใหญ นี่ก็เลยมาหลายปแลว พระวรสารก็พูดถึงเรื่องวันสิ้นโลกกับเขาเหมือนกัน แตไมไดทํานายวาจะเกิดขึ้นปไหนบอกแต เพียงเหตุการณที่จะเกิดขึ้น ใครอยากรูวามีพูดไวตอนไหนบางก็ไปเปดดูตามนี้นะครับ ลก.21:2-36, 2ปต.3:1-13, 2ทส.2:1-12 อั นที่ จ ริง ยัง มี อีก หลายแหง นะครับ ในพระคัม ภีร เ กา แต ทั้ง หมดนี้ ก็ไมบอกเวลา บอกแตเพียงใหเตรียมตัวใหพรอม วันสิ้นโลกนี้มีแน ๆ ครับ นักวิทยาศาสตร มักจะพูดถึงระยะเวลาอีกหลายลานป แตพอรูมากกวานั้นครับ วันสิ้นโลกของเราก็คือวันที่เรา ตายครับ ไมตองรอใหโลกแตก โลกของเราก็สิ้นลงไดแลว คริสตังสมัยแรกเริ่มก็ไมแตกตางไปจากเราสมัยนี้ สมัยนั้นก็เชื่อวาโลกกําลังจะสิ้นเหมือนกัน นักบุญเปาโลเขียนจดหมายถึงชาวเธสะโลนิกา บอกใหพวกเขาอยาขี้เกียจ ใหทํางาน ทําหนาที่ ของตนใหดีที่สุด ชาวเมืองนี้ไมยอมทํางานเพราะเชื่อวาโลกกําลังจะแตกอยูแลว เหตุการณ ลักษณะเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นอีกเมื่อป ค.ศ.1000 คนสมัยนั้นก็รอคอยป 1000 ดวยความวิตกกังวล คลาย ๆ ป 2000 พอก็ชักจะสงสัยวา ทําไมพวกเขาไมหวงวันที่ตัวเองจะตาย ทําไมไปหวงวันที่โลก จะตายก็ไมรู หรืออยากจะใหพวกเราตายพรอม ๆ กัน วันที่เราแตละคนจะตายนั่นแหละครับสําคัญที่สุด ดังนั้นการมีชีวิตอยูอยางดีที่สุด อยางซื่อสัตยที่สุด ทําหนาที่ของตนอยางถูกตองที่สุด ก็คือ การมีสวนรวมในพระอาณาจักรสวรรค พอพูดถึงเรื่องที่ดีที่สุดเหลานี้ก็หมายความงายๆ ก็คือ การหลีกหนีบาปสุดชีวิต บรรดานักบุญทั้งหลายเขาใจเรื่องนี้ดี ในโลกนี้เราตองหลีกหนีบาป นักบุญโดมินิโก ซาเวรีโอ บอกวา “ยอมตายดีกวาทําบาป” นักบุญ มารีอา กอแร็ตตี ก็พูดกับซานโดรวา “นี่เปนบาป เราทํา บาปไมได” เปนตน มนุษยตางก็มีบาป พระสันตะปาปาเกรโกรีผูยิ่งใหญ (540-604) เรียกบาป เหลานี้รวมกันวา “บาปตน 7 ประการ” อันที่จริงพระองคไดรับความคิดนี้มาจากฤษี ผูมีชื่อเสียง ผูหนึ่งชื่อ Evragrius Ponticus (345-399) ฤษีองคนี้มีชื่อเสียงมาก เปนนักคิด นักเขียน นักพูด ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

89


ที่มีพรสวรรค ใชชีวิตโดดเดี่ยวในทะเลทรายเพื่อหลีกหนีจากบาป เพราะมารูตัววาตนเองจองหอง และมองเห็นตัวเอง มีความเกงและมีความสําคัญมาก ยังมีอีกครับ ทานยังไปตกหลุมรักผูหญิง คนหนึ่งที่แตงงานแลวดวย ทานคิดวาถาทานไมหนีจากบาป ทานไมรอดแน ทานก็เลยหนีไป เยรูซาเลม แตก็ยังถูกผจญลอลวงอยู ที่สุดก็ไปมีชีวิต ในทะเลทรายที่ประเทศอียิปต ทานเริ่มสอน บรรดาลูกศิษยใหหลีกหนีบาป หนีการผจญลอลวงตาง ๆ ของปศาจ คําสอนนี้กลายมาเปนมรดกตก ทอดมาถึ งเราทุ ก คนด วย ท า นสอนรายชื่ อ ของบาปสํ า คั ญ ๆ ที่ เ ราถู ก ล อ ลวงเป น ประจํ า 8 ประการ เรี ย กเป น ภาษากรี ก ว า “Logosmoi” ภาษาเราก็ เ รี ย กว า “บาปต น ” หรื อ “พยศชั่ว” ใครติดตามบาปตนเหลานี้จะตองพินาศทางวิญญาณ พระสันตะปาปาเกรโกรีเรียนรู เรื่องเหลานี้อยางลึกซึ้ง และกําหนดใหสอนในพระศาสนจักรตั้งแตนั้นเปนตนมา แตไดรวมบาปให เหลือเพียง 7 ประการเทานั้น ตอนเราเรียนคําสอนเราก็ตองทองบาปเหลานี้ใหขึ้นใจ และเวลาที่ เราพิจารณาบาปกอนจะเขาไปแกบาป เราก็ตองพิจารณาดูวามีบาปอะไรมาจากบาปเหลานี้บาง หรือไม พอคงไมตองทองใหพี่นองนะครับ ลองนึกดูในใจก็ได เห็นมั้ยครับ บาปตนเจ็ดประการนี้ พระศาสนจักรสอนพวกเรามาเกือบจะหนึ่งพันหารอยปแลว มนุษยทุกยุค ทุกสมัยก็ยังคงมีบาป เหลานี้อยูเสมอ ฤษี Evragrius สอนวา ไมใชเพียงไมทําบาป แตตองพยายามไมใหมีแนวคิดถึง เรื่องเหลานีอ้ ยูในชีวิตของเราเลย สองปที่ผานมานี้พอสังเกตวามีเหตุการณทางธรรมชาติผิดปกติอยูมาก ทั้งพายุ น้ําทวม อากาศรอนจัด อากาศหนาวจัด แผนดินไหว ที่เกิดขึ้นแบบไมปกติเลย รุนแรงและพิสดาร พอจะไม พูดวาเปนเครื่องหมายของวันสิ้นโลก แตพอจะบอกวา ความตายของเราอาจจะไมไดมาจากธรรมชาติ เหลานี้ก็ได เชื่อพระเยซูเจาดีที่สุดครับ เราไมรูวันเวลา แตวันเวลาของเราทุกวินาทีเปนเวลาของ เราครับ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 14 พฤศจิกายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

90


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก พระศาสนจักรใหเราสมโภชพระคริสตกษัตริยในอาทิตยสุดทายของปพิธีกรรม (ปนี้ป C, อาทิตยหนาเราเริ่มป A) ก็เพื่อเตือนเราทุกคนวาพระเยซูคริสตเจาทรงเปนกษัตริยทางวิญญาณ และเปนความรอดของเรา พอเชื่อเหลือเกินวาเราคริสตังไทยโชคดีมาก ๆ ที่เรามีพระมหากษัตริย ผูเปยมไปดวยทศพิธราชธรรมในแผนดินไทยของเรา และก็เปนโชคสองชั้ นเพราะทําใหเราเขาใจ ความเปนกษัตริยของพระเยซูเจา ในชีวิตคริสตังของเราไดงายขึ้น เพราะพระเยซูเจา กษัตริยของเรา ไถบาปเราดวยเลือดและชีวิตของพระองคเอง อาทิตยนี้เราคริสตังทั่วโลกจึงพรอมใจกันประกาศ ดวยความพรอมเพรียงกันวา “พระเยซูคริสตเจา กษัตริยของชาวเรา จงเจริญ” ในป 1925 ประเทศเม็กซิโกปกครองโดยเผด็จการคนหนึ่งชื่อ Plutarco Calles และเพราะ เปนเผด็จการ เขาจึงเกลียดชังศาสนา มีการเบียดเบียนศาสนาโดยทั่วไป คริสตังที่นั่นก็ตอตานเขา ดวยการประกาศ “คริสตกษัตริย จงเจริญ” คริสตังพวกนี้ถูกเรียกวา Cristeros พระสงฆเยซูอิต หนุมผูหนึ่งชื่อคุณพอ มีเกล โปร ถูกจับและถูกตัดสินประหารชีวิตในที่สาธารณะ ประธานาธิบดี Calles คิดวาคุณพอองคนี้จะตองวอนขอเมตตาจากเขาแน ๆ เลยเชิญสื่อมวลชนตาง ๆ เขามา ชมการประหารชีวิตครั้งนี้ คุณพอมีเกล โปร ขอเวลาสวดภาวนาเล็กนอย ทานคุกเขาลง มือถือ ไมกางเขนไว เมื่อทานภาวนาจบแลว ทานจูบไมกางเขน ยืนขึ้น ทานถือ ไมกางเขนไวดวยมือขวา มือซายยื่นไปขางหนา พรอมกับตะโกนเสียงดังวา “คริสตกษัตริย จงเจริญ” แทนที่จะรองขอชีวิต ทานยืนยันวามีแตพระคริสตเจาเทานั้นที่ปกครองวิญญาณของทาน นักหนังสือพิมพ และนักขาวได ถายรูปนี้ไว เวลานี้คุณพอมีเกล โปร ไดรับการประกาศเปนนักบุญแลว ทุกวันนี้เราอาจจะไมมีการเบียดเบียนศาสนาโดยตรง แตหลาย ๆ ประเทศในโลกของเรา ก็ กํ า ลั ง เบี ย ดเบี ย นคํ า สอนของพระคริ ส ตเจ า อยู พระศาสนจั ก รต อ งร อ งตะโกนให ดั ง ๆ เพื่อตอตานคําสอนผิด ๆ ของประเทศเหลานั้นในโลก เชน การออกกฎหมายใหทําแทงเสรี การใหฆา ตัวตายได การแตงงานเพศเดียวกัน พวกเราคงตองรองตะโกนรวมกับพระศาสนจักรตอตาน สิ่ง เหล านี้ ในโลกของเรา “คริ สตกษั ตริ ย จงเจริ ญ” เติ มอี กหน อยดี มั้ ยครั บว า “คํ าสอนพระองค จงเจริญ” พี่นองคงไดยินชื่อเมือง อิสตันบูล ในประเทศตุรกี ชื่อเดิมของเมืองนี้คือ คอนสแตนดินโนเบิล ตั้งชื่อตามจักรพรรดิคอนสแตนติน ผูซึ่งกลับใจและใหศาสนาคริสตเปนศาสนาประจําชาติของ อาณาจักรโรมันสมัยนั้น ในเมืองนี้มีพระราชวังของจักรพรรดิคอนสแตนติน หองโถงของจักรพรรดิ องคนี้มีชื่อวา Hall of God พอไมรูวาจะแปลอยางไร เพราะแปลงายๆ ก็ได แตจะแปลใหดู ยิ่ ง ใหญ จ ริ ง ๆ สมชื่ อ ก็ ไ ม ง า ยเท า ไหร โต ะ เก า อี้ ต า ง ๆ ในห อ งนี้ ทํ า ด ว ยทองคํ า และเงิ น ขนาดผาม านก็ยังประดับดว ยทองคําและเพชรนิลจินดา แตสิ่งที่น าสังเกตก็คือ เหนือบัลลัง ค ของจักรพรรดิคอนสแตนตินนี้ พระองคใหจารึกคํา ๆ นี้ไวครับ “พระเยซูคริสตเจา กษัตริย ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

91


แหงกษัตริยทั้งหลาย” ที่เลามานี้พอเองก็ยังไมเคยไปดูดวยตานะครับ อานเจอเขาก็เห็นวาตรงกับ วันสมโภชของเรา จักรพรรดิคอนสแตนดินไดรับศีลลางบาปกอนสิ้นพระชนมเพียงวันเดียว แสดงวา พระองคไดยอมรับพระคริสตเจากอนหนานี้หลายปทีเดียว องคนี้แหละครับเปนผูสรางมหาวิหาร นักบุญเปโตรที่กรุงโรม แตทําไมพระเยซูเจาจึงตองตายอยางทนทุกขทรมานบนไมกางเขน ทามกลางการดูถูก เยาะเยยตาง ๆ และมีเพียงโจรคนหนึ่งที่อยูขางๆ ไดยอมรับพระองค เวลาเดียวกับที่เขายอมรับ ความผิ ด ของตนเอง คํ า ตอบก็ คื อ คนที่ ย อมรั บ ความผิด บาปของตนเช นเดี ย วกั บ โจรคนนี้ ก็เทากับยอมรับการไถบาปของพระองคนั่นเอง พระองคมิไดเสด็จมาในโลกเพื่อตัดสินลงโทษ โลก แตมาเพื่อชวยโลกใหรอดโดยผานทางพระองค(ยน3 : 17) พระองคมิไดเสด็จมาเพื่อเปน เจานาย แตมาเพื่อรับใช ผูที่ยอมรับพระคริสตเจามีตั้งแตโจรจนถึงจักรพรรดิคอนสแตนติน พอก็จะขอแนะนําคํา 2 คํา ซึ่งเปนคําที่เราใชเสมอ ในโอกาสสมโภชนี้ก็คือ“คริสตกษัตริย จงเจริญ” สวนอีกคําหนึ่งเปนคําของ โจรบนไมกางเขน เลือกเอาโจรกลับใจนะครับ อีกคนหนึ่งแมกําลังจะตายก็ยังพูดจาดูหมิ่นพระองค อยูเลย โจรที่กลับใจพูดวา “เรารับโทษสมกับการกระทําของเรา” แตตอนที่โจรคนนี้พูดและ มีความหมายมาก ๆ เพราะทําใหเขาไดรับการประกาศจากพระเยซูเจาเองใหเปนนักบุญ ประกาศ จากบัลลังคของพระองคคือ ไมกางเขน ก็คือคําที่บอกวา “ขาแตพระเยซู โปรดระลึกถึงขาพเจา ดวย เมื่อพระองคจะเสด็จสูพระอาณาจักรของพระองค ” เราทุกคนก็ควรพูดกับพระองคบอยๆ ด ว ยคํ าพู ดนี้ นะครั บ “ระลึ กถึ งข าพเจ าด วย” เราก็ คงอยากจะได ยิ นพระองค ตรั สกั บเราจาก พระบัลลังควา “วันนี้ ทานจะอยูกับเราในสวรรค”

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 21 พฤศจิกายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

92


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ขอตอนรับพี่นองเขาสูปพิธีกรรมใหม นั่นคือ ป A และเริ่มตนปดวยการเตรียมรับเสด็จ พระคริสตเจา คนโบราณแบบพอชอบเรียกวา “เทศกาลอัดแวนโต” เทศกาลนี้ก็เปนระยะเวลาที่เรา ตองเตรียมจิตใจครับ ลางบาปลางมลทินในชีวิต กลับอกกลับใจจากบาปตาง ๆ เพราะเราตระหนัก ดีวาพระกุมารเจาเสด็จลงมาไถบาปของเรา พระคัมภีรจะพูดถึงปรับเนินใหราบเรียบหรือการทําให หลุมบอตาง ๆ ในชีวิตใหเต็มเพื่อใหพระกุมารเสด็จพระดําเนินอยางสะดวกสบาย เปรียบเทียบ ก็คือหากเรามีบาปก็คลาย ๆ กับเนินเขา เอามันออกไป หากมีอะไรที่เรายังไมไดทําก็เทากับ หลุม บอก็ถมใหเต็ม ก็คือ จงทําในเทศกาลนี้ ที่สําคัญก็คือ เราจะรูหรือเปลาวา ในชีวิตของเรา มีเนิน หรือมีบออะไรบาง สิ่งสําคัญกวาหมดในการเตรียมรับเสด็จก็คือ การกลับใจครับ เคยมีคนสงสัยวา นักบุญเอากุสติน ซึ่งเปนคนหนุมเสเพล ชอบทําอะไรตามใจ แสวงหา สิ่ง ที่ไร แก นสารในชีวิ ตจนแม คื อ นั กบุ ญมอนิกา ต องสวดภาวนาและเสียน้ําตาถึ งสิบเจ็ ดป กลับใจ ไดอยางไร ถาเราตอบแบบผูมีความเชื่อ เราก็ตองบอกวา เพราะคําภาวนาของแมคือ มอนิกา ก็ถูกตองครับ มาดูกันอีกนิดนะครับจากคําบอกเลาของเอากุสตินเองในหนังสือที่ทานเขียนขึ้น หลังจากกลับใจแลวคือ “Confession” (สารภาพ) ทานเลาวา ขณะที่ทานอยูในสวนคนเดียวเงียบๆ ท านรู สึ กว าความเงี ยบทํ าให ท านต องการสวดภาวนา ท านจึ งสวดภาวนาดั งนี้ “ข าแต พระเจ า โปรดประทานความบริสุทธิ์ แกขาพเจา แตยังไมตองก็ได ” แสดงวาทานก็ยังคงอยากจะอยู ในชี วิ ต แบบเดิ ม อยู แม ว า จะมี ค วามตั้ ง ใจที่ ดี ก็ ต าม ตอนนั้ น ท า นได ยิ น เสี ย งตอบกลั บ มาว า “Tolle et legge” เปนภาษาลาตินแปลวา “จงรับไวและอาน” ทานเขาใจวาพระเจาทรงประสงค ใหทานรับพระคัมภีรแลวเปดอานดู ทานก็ลองดูครับ ทานหยิบพระคัมภีรขึ้นมาและก็เปดออก อานหนาที่ทานเปดอานก็คือจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรม บทที่ 13 ขอที่ 13 ซึ่งเปน บทที่เราไดฟงในบทอานที่สองอาทิตยนนี้ ั่นเอง แปลกแตจริงครับ คําพูดตาง ๆ เหลานั้นตรงกับ ชี วิ ต ของท า นจริ ง ๆ “จงละทิ้ ง กิ จ การของความมื ด มนเสี ย แล ว สวมเกราะของความสว า ง เราจงดําเนินชีวิตอยางมีเกียรติเหมือนกับเวลากลางวัน มิใชกินเลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใชปลอยตัว เสพกามอย า งผิ ด ศี ล ธรรม มิ ใ ช วิ ว าทริ ษ ยา แต จ งดํ า เนิ น ชี วิ ต โดยสวมพระเยซู ค ริ ส ตเจ า เปนอาภรณ” พอทานอานจบ ทานทราบทันที่วาอาศัยคําภาวนาของมอนิกา พระเจาชี้ทางแหง ความสว า งให แ ก ท า น ตั้ ง แต นั้ น มาท า นก็ เ ปลี่ ย นแปลงการดํ าเนิ นชี วิ ต ท านเข าไปหามารดา บอกกับนักบุญมอนิกาวา “ลูกมาถึงจุดที่ตนเองตองการแลว ลูกพบแลว” นักบุญมอนิกาดีใจ ที่สุดในชีวิต ขอบคุณพระสําหรับการเสด็จมาของพระองคในจิตใจของลูกชาย เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจานี้ พอก็ขอแนะนําพี่นองซักสองสามเรื่องนะครับ เรื่องแรก : พี่นองควรหาเวลาเงียบ ๆ สวนตัวเพื่อฟงเสียงของพระ ในความเงียบเรา จะไดยินเสียงพระพูดกับเรา โลกของเรามีเสียงอึกทึกวุนวายอยูตลอดเวลา พระสันตะปาปา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

93


เบเนดิกตตรัสสอนวา เรามีคลื่นความถี่และวิญญาณตาง ๆ มากมายเหลือเกินรอบตัวเรา จนเราเอง หาคลื่นของพระไมพบ เราก็ไมสามารถรับฟงพระองคได เปรียบเทียบไดดีจริง ๆ คลื่ นโทรศัพท คลื่นวิทยุ สัญญาอินเตอรเน็ท คลื่นโทรทัศน สารพัดจริง ๆ อยูรอบตัวเรา ผานตัวเราไป หากเรา ไมมีเวลาเงียบ ๆ แบบนักบุญเอากุสติน เราจะไดยินพระไดอยางไร นี่ในกรณีที่เราอยากไดยิน นะครับ คนที่ไมอยากไดยิน ตอใหตะโกนใหฟงพวกเขาก็ไมไดยินหรอกครับ เรื่องที่สอง : หยิบพระคัมภีรขึ้นมาแลวเปดอานดู (Tolle et legge) เปดไปหนาไหน ก็ได แลวอานตรงนั้น พอรับประกันว า พระจะพูดกับเราตรงประเด็นในชี วิตของเราเลยครั บ นี่คืออัศจรรยทุกครั้ง ที่เราเปดอานพระคัมภีรดวยตนเอง ไมเชื่อก็จะตองเชื่อครับ เรื่องที่สาม : เปลี่ยนแปลงอะไรบางอยางในชีวิตเสียบาง อยาจมอยูกับบางอยาง ที่ไมดีเลย ใจดีกับคนบาง อภัยบาง เลิกนิสัยบางอยาง หรืออยางนอยก็ลด ๆ ลงซะบาง ทําอะไรก็ได ใหคนที่เรารักมีความสุขที่สุด แบบที่นักบุญเอากุสติน ทําเพื่อแมของทาน พระกุมารเสด็จมาปนี้จะทําใหเราเปยมสุขสุด ๆ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 28 พฤศจิกายน 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

94


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก ฉลองวั ดปนี้ตรงกับวัน อาทิตย ที่ 5 ธั นวาคม’10 มี พระคารดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญ ชู ใหเกียรติมาเปนประธาน ทําใหสารวัดของอาทิตยนี้ไมไดแจกจายในมิสซาสาย จํานวนสารวัดอาทิตย นี้ก็จะลดลงตามไปดวย ลดลงไปพรอม ๆ กับเนื้อหาของพอดวย แตพอก็ลงกําหนดการตาง ๆ สําหรับการเตรียมพระคริสตสมภพ เพื่อใหพี่นองสามารถติดตามเวลามิสซาไดอยางถูกตอง ดังนี้ - ศุกรที่ 24 ธันวาคม 10 18.00 – 21.00 น. งานรื่นเริง สอยดาว บิงโก 21.00 – 22.00 น. ฟงแกบาป 22.00 น. มิ ส ซาสมโภชพระคริ ส ตสมภพ หลั ง มิ ส ซามี ม อบ ของขวั ญ พระกุ ม ารและทานอาหารรอบดึ ก (เฉลิมฉลองกันหนอย) - เสารที่ 25 ธันวาคม 10 9.30 น. มิสซาสมโภชพระคริสตสมภพ 17.00 น. ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ - อาทิตยที่ 26 ธันวาคม 10 7.00 น. มิสซาฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ 9.30 น. มิสซาฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ขอขอบคุณพี่นองทุกทานที่ไดสมทบทุนชวยงานฉลองวัดของเรา ขอพระมารดานิจจานุเคราะห ประทานพรแดทุกทานเสมอไป

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 5 ธันวาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

95


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก เผลอนิดเดียว เรามาถึงอาทิตยที่สามเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระกุมารเจาแลว เดือนนี้ จะผานเราไปเร็วมากเพราะเราจะมีกิจกรรมตาง ๆ มากมาย รวมไปถึงการจับจายใชสอย การสงการด ความสุข อวยพร การเตรียมการพักผอน ไปเที่ยว พอวาก็ดีนะครับ เราจะไดมีเวลาพักกายพักใจ จากเรื่องตาง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ในสังคมของเราบาง อยางไรก็ตามเรามาคิดถึงการเตรียม รับเสด็จพระคริสตเจาของพวกเรากันดวยดีกวา ชวงเวลานี้เปนเวลาที่มีคุณคาอยางมากสําหรับเราทุกคน เราเคยไดยินเกี่ยวกับการประหารชีวิตแบบชาวโรมันซึ่งมีอยูหลายรูปแบบ แตละแบบก็ลวน แลวแตสยดสยองทั้งนั้น การตรึงกางเขนก็เปนแบบหนึ่ง มีอยูแบบหนึ่งที่นากลัวและโหดรายมาก คือ โหดรายทั้งกายและทั้งใจของนักโทษ เขาจะจับนักโทษคนนั้นมัดไวกับศพของคนตายคนหนึ่งโดยหันหนา ชนกัน รางกายทั้งหมดติดกัน แลวก็ทิ้งไวอยางนั้นจนกวานักโทษคนนั้นจะตาย พี่นองลองนึกดูนะครับ ศพจะคอย ๆ เนา จะมีแมลงหนอนเต็มไปหมด กลิ่นเนาของศพและเชื้อโรคตาง ๆ จะเขาไปในตัวของ นักโทษ เขาจะไมสบาย ออนแอลงทุกวัน อดอาหาร ถาจะใหเขากินอะไร พอก็เชื่อวาคงกินไมลงแลวก็ คงไมมีใครอยากจะไปสงอาหารใหดวย นักโทษคนนั้นคงคิดเหมือนเรา คือฆาฉันใหตายไปเลยเถอะ เขาจะต องอยู อ ย า งนั้ นจนตาย ผู เ ทศน ทั้ งหลายในสมั ยนั้ นมั ก จะเตื อนใจคริ ส ตชนว า ศพนั้ น ก็เหมือนกับบาปของเรา หากเรามีชีวิตอยางใกลชิดกับบาป บาปนั้นก็จะสงกลิ่นเนาเหม็นและทําให เราคอย ๆ ตายอยางทรมานที่สุด ตางกันตรงที่วา นักโทษนั้นถูกจับมัดติดกับศพ สวนเรามนุษยอิสระ ทั้งหลาย เราผู กตั วเราเองกั บบาป แต ผลที่ เกิ ดขึ้ นตามมาเหมื อนกั นเลยนะครั บ นั่นคื อ เราตาย อาทิตยนี้เราจึงตองพิจารณาดี ๆ วา เรามีบาปอะไรที่คอยสงกลิ่น กัดกรอนชีวิตของเรา บาปอะไร ที่ เราผู กไว กั บตั วเราเอง ไม ยอมปล อยมั นไป ถึ งเวลาแล วครั บที่ จะต องเอาตั วเราออกจากกลิ่ น เนาเหม็นเหลานั้น และเตรียมตัวรับเสด็จพระคริสตเจาอยางดี พอไมเคยนึกเลยนะครับวามนุษยเรา จะมีจิตใจโหดรายทารุณไดถึงเพียงนี้ และก็ไมเคยนึกเลยวามนุษยเราจะผูกพันกับความชั่วรายตาง ๆ ไดแนบแนนถึงขนาดนี้ พออยากเลาใหฟงอีกเรื่องหนึ่งครับ เปนเรื่องของศิลปนชื่อกองโลก ไมใชแคศิลปนแตเปนนักคิด นักวิทยาศาสตรดวย เขาคือ เลโอนารโด ดาวินชี่ เขาวาดรูปที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่งของโลก คือ ภาพ “อาหารค่ําครั้งสุดทาย” ภาพตนฉบับอยูที่ผนังวัดซานตา มารีอา แดลลา กราเซีย ที่เมืองมิลาโน ในอิตาลี เปนภาพเฟรซโก (Fresco) ในขณะที่วาดภาพนี้ก็มีนักวาดภาพบางคนที่พยายามแอบเขามาดู การวาดของเขา ในหมูศิลปนเขามักจะไมคอยชอบที่จะมีคนมาดูหรือมาลอกเลียนแบบงานวาดของ ตนเอง ดาวินชี่ มีเรื่องบาดหมางกับนักวาดภาพคนหนึ่ง เขาโกรธและเกลียดมากจนกระทั่งเขาลงทุน วาดหนาของคนนั้นใหเปน ยูดาส อิสคาริโอทศิษยทรยศของพระเยซูเจา ดาวินชี่พอใจมาก บานเรา ก็คงเรียกวา สะใจ แตสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ พอเขาจะวาดภาพพระเยซูเจา จิตใจของเขาที่ เต็มไปดวยความเกลียด โกรธ สะใจ ทําใหสับสนไปหมด เขาไมสามารถวาดภาพของพระเยซูเจา ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

96


ไดเลย ที่สุดเขาพบวาความเกลียดทําใหเขาถึงพระไมได เขาจึงไปลบหนาของคนที่เขาเกลียด ออกไปจากรูปของยูดาส และกลับมาวาดภาพของเขาตอไปดวยใจสงบ ภาพนี้กลายเปนภาพ ที่สวยงามและสมจริงที่สุด ภาพหนึ่งของโลก เพราะในภาพนี้มีบทเรียนแหงการใหอภัย บทเรียนแหง ความโกรธเกลียดอยูดวย ถาเราเอาความโกรธ ความเกลียดมาผูกติดกับชีวิตของเรา มันก็พาเราไปในทางที่ผิด มันทําลายงานของเรา ชีวิตของเรา ทําลายความสงบสุขของเราเอง ถาเราจับมันออกไปได เราก็เขาถึงพระเจาได และพระเจาก็เขาถึงเราไดดวย ผลที่ตามมาก็คือ เราสามารถทําอะไรดี ๆ ไดอี กมากมาย เราจะสามารถชว ยคนตาบอด ชวยคนงอ ย ช วยคนยากจน เราสามารถ ประกาศขาวดีของพระคริสตเจาได นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะไมทํารายผูอื่นอยางที่นักบุญ ยากอบเขียนในจดหมายของทานอาทิตยนี้ เราจะไมบนวานินทากัน ไมพิพากษากันและกัน นี่แหละครับ ความหมายของการเตรีย มรับเสด็จพระคริสตเจาของพวกเรา นาสงสาร นักบุญยอหน บัปติสตา ทานอยากรูจักพระเมสซิยาหเหลือเกิน ทานทําทุกอยางที่จะรู พวกเรา อาจกลายเปนผูที่นาสงสารมากกวา เพราะเราไมตองพยายามที่จะรูจัก เรารูจักพระผูไถแลว แตเราไมเตรียมรับเสด็จพระองคอยางสมควรนะครับ ลด ๆ ความโกรธของเราลงบาง ถาลดไมได ก็อยาถึงกับเกลียดกันเลยนะครับ

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 12 ธันวาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

97


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก อีกไมกี่วันเราก็จะฉลองวันเกิดของพระเยซูเจาแลว อาทิตยนี้เราจะไดยินชื่อของพระองค “เอมมานูแอล” ชื่อนี้เราคุนเคยดีและก็รูความหมายดวย “พระเจาสถิตกับเรา” พอคิดถึงเรื่อง พระเจาสถิตกับเราก็เลย คิดตอไปวา พระเจาอยูกับเราตอนไหนบางในชีวิต พอเขาใจวาตั้งแต พระองคเกิดมา ก็อยูกับเราแบบ “อยูแลวอยูเลย” คือไมเคยไปไหนเลยตั้งแตเกิดจนถึงปจจุบัน จําตอนที่พระองคสั่งเสียบรรดาศิษยกอนขึ้นสวรรคไดมั้ยครับ พระองคบอกวา “จงไปเทศนสอน นานาชาติ...อยากลัว เราจะอยูกับทานเสมอไปจนสิ้นพิภพ” นอกจากนี้พระองคก็ยังอยูกับเรา อีกในศีลอภัยบาป ศีลมหาสนิทเปนพิเศษ ยังมีแถมอีกหนอยตอนที่พระองคสอนเราวา “ทุกสิ่งที่ ทานทําตอผูต่ําตอยคนใดคนหนึ่ง ทานไดทําตอเราเอง” ก็แสดงวา พระองคอยูกับเราในภาพของ คนเจ็บปวย คนยากจน คนขัดสน คนต่ําตอยทุกคน นี่แหละครับความหมายของ เอ็มมานูแอล คือ อยูแลวอยูเลย ตอใหเราไมอยากเชื่อ ไมสนใจวาจะอยูหรือไม พระองคก็ยังคงซื่อสัตยที่จะอยูกับเรา เรามนุษยนี่แหละครับ ชอบบังคับพระใหอยูกับเราและชวยเหลือเราตลอดเวลา หากเมื่อไรไมอยูช วย ละก็ เราก็จะไมอยูกับพระองคอีก มีพอองคหนึ่งขับรถไปรับเพื่อนพระสงฆซึ่งเปนมิชชันนารีที่กลับบานเพื่อพักผอนที่สนามบิน ในระหวางที่ขับรถจากสนามบินมา รถของพอองคนั้นไดรับไฟเขียวมาตลอดทาง ไมติดไฟแดงเลย แมแ ตแยกเดี ยว พอองคนั้ นถึง กับอุ ทานขึ้นมาดว ยความประหลาดใจ บอกวา นี่เป นครั้ งแรก ที่ผมไดไฟเขียวตลอดทาง ยอดจริง ๆ พระเจาตองอยูกับเราแน ๆ เลย สวนมิชชันนารีคนนั้นก็ หยอกเพื่อนอยางฉลาดเลยครับ บอกวา แลวถาหากตลอดทางมานี่ พอพบแตไฟแดงตลอดเลย พระเจายังจะอยูกับเราหรือเปลา คิด ๆ ดูก็จริงของพอองคนั้นครับ ถาหากในยามที่เราประสบ เคราะหตาง ๆ ปญหาตาง ๆ ในชีวิตเราจะคิดหรือไมวา พระเจายังอยูกับเราหรือไม เรามักจะ คิดวา พระทิ้งเราเสียแลว ในสมัยที่ยุโรปตะวันออก ยังเปนประเทศคอมมิวนิสต เด็กหนุมคาทอลิกคนหนึ่งถูกจับขังคุก เขาถูกขังคุกอยูทั้งสิ้น 8 ป เขาทั้งถูกซอม ถูกเฆี่ยนตี ถูกทรมานตาง ๆ นานา รวมทั้งถูกลางสมอง ในที่สุดเขาก็ทนพิษการทรมานเหลานั้นไมไหว เขาถูกพบนอนตายจมกองเลือดอยูบนพื้นหองในคุก นั่นเอง สิ่งที่นาประทับใจมากที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ กอนที่เขาจะตาย เขาไดพยายามคืบคลานไปถึง ผนังหอง และใชเลือดของเขาเองเขียนบางสิ่งบางอยางบนผนังหองนั้น คําพูดตาง ๆ ที่อยูบนผนังหอง ทําใหผูคุมคุกยอมแพความเชื่อของนักโทษคนนี้ กลับใจมารับพระเยซูเจาเปนพระผูไถ และบอกเลา เรื่องราวของนักโทษคนนี้ ขอความนั้นเขียนไวดังนี้ครับ “ผมเชื่อในพระอาทิตย แมผมจะไมเคย เห็นแสงอาทิตยเลย 8 ปแลว ผมเชื่อในความรัก แมวาจะไมไดรูสึกถึงความรักเลย (ดูเหมือนไมมี ใครรักผมเลย) และผมเชื่อในพระผูเปนเจา แมวา พระองคจะอยูกับผมแบบเงียบ ๆ (พระไมเคยชวย ผมเลย) และดวยความเชื่อนี่แหละที่ผมยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม” ความเชื่อของหนุมคนนี้ ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

98


ชางยิ่งใหญจริง ๆ นะครับ พอชอบตอนที่บอกวา แมพระจะอยูอยางเงียบ ๆ ก็อยางที่พอบอก บางคนตองการใหพระทําอะไรบางอยางสําหรับตัวเองเสมอ ไมเชนนั้นก็แยกกัน เอมมานูแอล สําหรับเรามีความหมายมากวานั้นนะครับ เพราะพระองคเสด็จลงมาเพื่ออยู กับเราอยางแทจริงอยูตลอดเลย มาสอนใหเรารูจัก ขาวดี สอนใหเรารัก สอนใหเราใหภัย สอนใหเราสวดภาวนา สอนใหเราชวยเหลือกันและกัน สอนใหเราเชื่อมั่น และไวใจพระ สอนให เ รารู จั ก เตรี ย มตั ว เตรี ย มวิ ญ ญาณของเรา สอนให เ ราแบ ง ป น ความสุ ข แก กั น ปลอบประโลมบรรเทาใจกันและกัน ยังมีอะไรอีกครับที่พระองคยังไมไดสอนเรา นอกจากสอน แลว พระองคยังไดปฏิบัติเปนแบบอยางแกเราดวย แมสิ้นพระชนมแลว พระองคก็ยังคงอยู กับเราเสมอมา ไมมีใครยิ่งใหญไปกวานี้ อีกแลว ขอใหเราทุกคนรับเสด็จเอมมานูแอล พระองคนี้ ใหดีที่สุด ยิ่งใหญที่สุด ฉลองวันเกิดของพระองคดวยความเชื่อมั่นอยางที่สุดวา พระองคอยูกับ เราเสมอไป

ดวยความเคารพรัก พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 19 ธันวาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

99


สารเจาอาวาส

พี่นองที่รัก สารวัด ฉบั บนี้ เป นฉบับ สุด ทา ยของป 2010 และเปน โอกาสที่ เราทุ กคนร วมกัน สมโภช พระคริสตสมภพและสมโภชครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ไปดวย พวกเราเตรียมตัวกันมาอยางดีเพื่อใหการ เสด็ จ มาของพระองค มี ค วามหมายต อ เราอย า งแท จ ริ ง พ อ มี โ อกาสได อ า นบทเทศน ข อง พระสันตะปาปา ยอหน ปอลที่สอง ซึ่ งเทศนเมื่ อวันที่ 24 ธันวาคม 1976 นั่นก็คือ 2 ปกอนที่ พระองคจะไดรับเลือกเปนพระสันตะปาปา ตอนนั้นพระองคเปนอัครสังฆราชแหงคราเคาที่โปแลนด ครับ อานแลวก็ชอบมาก ไมใชแตชอบบทเทศนแตชอบวิธีการดวย ที่นั่นหนาวมาก แตพระองคก็ เจาะจงใหทํามิสซาเที่ยงคืนภายนอกอาสนวิหาร ไปทําบริเวณโรงงานที่บรรดาคาทอลิกทํางาน เพื่อใหเขาเห็นความหมายของคริสตมาสอยางแทจริง ที่จริงพระองคเทศนไมยาว แตพอก็นํามา ทั้งหมดไมได พระองคตรัสสอนสรุปไดดังนี้ ในโลกปจจุบันนี้ โลกปฏิเสธพระเจาจนกระทั่งไมมีที่ จะยืนอยูแลว แตพวกเราทุกคนที่นี่กําลังเฉลิมฉลองพระองค พระที่อยูใกลชิดกับโลกมากที่สุด ซึ่งลงมาเกิดเปนมนุษย (พูดงายกวานี้ก็คือ โลกจะลืมพระ ก็ชางเถอะ แตเราไมลืม) แมวาโลก และสังคมโลกจะสอนใหเราปฏิเสธพระเจา แตเราทุกคนจะชวยกันนําพระองคออกมาใหโลก รูจักอีกครั้งหนึ่ง เราจะนมัสการพระองค ถวายทุกสิ่งแดพระองค และเราไมทําในอาสนวิหาร แตเราทําที่นี่ ที่คลายกับการบังเกิดของพระองคมากที่สุด (นอกจากพวกเราไมลืมแลว พวกเรา ยิ่งจะแสดงพระองค ใหปรากฏ เปนพยานใหพระองคอยางแจงชัดถึงการเสด็จมา และการไถ บาปของพระองค ) และพระองค จ ะอยู กั บ เราเสมอไป แผ น ป ง และองุ น ในคื น นี้ จ ะเป น เอมมานูแอลของเราเสมอไป ชางเปนบทเทศนที่ใหกําลังใจ มีแรงบันดาลใจแกพวกเราไดจริง ๆ และในชีวิตแหงการเปน พระสันตะปาปา 26 ปของพระองค ยอหน ปอล ที่สอง ไดนําขาวดีและนําองคพระคริสตเจา ไปประกาศทั่วโลก พระองคเปนพยานใหแกการเสด็จมาในโลกนี้ของพระเจาไดอยางชัดเจนที่สุด จริง ๆ ในขณะที่โลกกําลังสอนใหเราลืมพระซะ ทิ้งพระ เรากลับไดกําลังที่ จะเขาไปชิดสนิทกับ พระมากขึ้น วันคริสตมาสเปนวันที่พระเจาเสด็จมาใกลชิดกับเรามากที่สุด ก็ขอใหเปนวันที่ เราใกลชิดกับพระเจา มากที่สุดเชนเดียวกัน อยาลืมเขาไปนมัสการพระกุมาร จูบพระองค ถวายดวงใจของเรา ครอบครัวของเราแดพระองค และประกาศถึงเรื่องของพระองคดวย มีเรื่องแปลกแตจริง ที่พออยากจะเลาใหพี่นองฟง วัดแหงหนึ่งจัดละครคริสตมาส นักแสดงทุกคนไดรับการฝกซอมมา อย า งดี จนกระทั่ ง การแสดงกํ า ลั ง จะเริ่ ม ขึ้ น ปรากฏว า เด็ ก ที่ จ ะแสดงเป น นั ก บุ ญ โยเซฟ ปวยกะทันหัน ไมสามารถมาแสดงได ซิสเตอรที่จัด การแสดง ก็เลยตัดบทของ โยเซฟออกจาก การแสดงทั้ ง หมด ส ว นที่ เ หลื อ ก็ แ สดงไปตามปกติ จ บการแสดงแล ว ทุ ก คนก็ โ ล ง อก แต เวลา เดียวกันก็แปลกใจวา ไมมีผูชมและนักแสดงสักคนเดียว ถามหาโยเซฟ ราวกับวาไมมีโยเซฟในฉาก ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

100


การบังเกิดมาเลย พี่นองวาแปลกมั้ยครับ หลายครั้งเราก็มักจะใหความสนใจแตตัวเดน ๆ คน สําคัญ ๆ จนลืมคนบางคนไปอยางงายดาย เราอาจใหความสําคัญกับเพื่อน มากกวาพอแม หรือ ใหความสําคัญกับพอแมจนลืมนองของเราเอง อะไร ๆ ทํานองนี้ ขอใหคริสตมาสนี้ เราอยาลืม ใครเลยในคําภาวนาของเรานะครับ อีกเรื่องหนึ่งหนักกวาเรื่องที่แลวอีกก็คือวา คราวนี้ไมใชนักแสดงหายไป แตเปนรูปพระกุมาร ของวัดที่จะตองใชในการแสดงหายไป เปนรูปที่ใชมานานหลายปแลวดวย ทั้งนักแสดงและซิสเตอร พอเจาวัดวุนวายกันใหญ และรูปที่จะใชสํารองก็ไมมี เด็ กหญิงอายุ 12 ป สองคนเดินเขามาหา คุณพอ พูดวา พอสอนพวกเราวา การเสด็จมาบังเกิดของพระกุมารทําใหเราระลึกถึงการหลอเลี้ยง ชีวิตเราดวยศีลมหาสนิท การชิดสนิทของพระกับเราโดยทางศีลมหาสนิท แลวทําไมเราไมนําเอา แผนปงที่เราจะใช แบกเขาไปในวัดแทนพระกุ มารละคะ คุณพอเจาวัดเลาเรื่องนี้ใหสัตบุรุษฟง ในบทเทศน ของท านคืน นั้น สั ตบุ รุษ ทุก คนที่ไ ดฟ งต างประทั บใจกั บความคิ ดของเด็ กสองคนนี้ ซึ่งเขาใจถึงการเสด็จมาของพระกุมารและชิดสนิทกับพระเยซูเจามากถึงขนาดนี้ เปนคริสตมาสที่ดี ที่สุดปหนึ่งของวัดทีเดียว อยาลืมนะครับพี่นองวันคริสตมาสเปนวันที่เราจะตองใกลชิดกับพระเจา ใหมากที่สุด ดวยเหตุผลงาย ๆ ขอเดียวก็คือ พระเจาทรงเสด็จมาใกลชิดกับเรามนุษยอยางที่สุด กอน ขอพระกุมาร และครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ อวยพรพี่นอง เปนพละกําลังแกพี่นองในชีวิตนี้ เสมอไป

Merry X’Mas พอสุรชัย ชุมศรีพันธุ

*สารวัด ฉบับวันอาทิตยที่ 26 ธันวาคม 2010

ส า ร เ จ า อ า ว า ส 2 0 1 0 วั ด พ ร ะ ม า ร ด า นิ จ จ า นุ เ ค ร า ะ ห ค ล อ ง จั่ น

101


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.