Volume 22 No.3: November 2016

Page 1


วารสารเพลงดนตรี

MUSIC JOURNAL

Volume 22 No. 3 November 2016

Editor’s Talk

สวัสดีท่านผู้อ่าน เพลงดนตรีฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ขอถวายอาลัย และร�ำลึกถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ด้วยภาพปก พระบรมรูปหล่อส�ำริด ของพระองค์ ท่าน ทรงบาริโทนแซ็กโซโฟน ประดิษฐานบนอาคาร ภูมิพลสังคีต ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นห้วงเวลาอัน เศร้าโศกของประเทศไทย ภายใต้ความสูญเสีย อันประเมินค่ามิได้นั้น ท�ำให้เราได้เห็นถึงความ สามัคคี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของประชาชน ได้ เห็นถึงความอาลัยรักของลูก ที่มีต่อพ่อหลวง ไม่ ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใดในโลก ถึงแม้พ่อจะไม่ได้อยู่ กับพวกเราแล้ว แต่ทุกสิ่งที่พ่อสร้าง ทุกค�ำที่พ่อ สอน ยังคงอยู่กับเราตลอดไป

“...ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า จะเป็น แจ๊สหรือไม่ใช่แจ๊สก็ตาม ดนตรีลว้ นอยูใ่ นตัวทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา ส�ำหรับข้าพเจ้า ดนตรีคอื สิง่ ประณีตงดงาม และทุกคนควรนิยมใน คุณค่าของดนตรีทกุ ประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละ ประเภท ต่างก็มีความเหมาะสม ตามแต่โอกาส และอารมณ์ที่ต่างกันไป...” ดวงฤทัย โพคะรัตน์ศิริ

เพลงดนตรีฉบับนี้ขอน�ำเสนอบทความ สาระความรู้เกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ จาก อาจารย์กติ ติ ศรีเปารยะ ทีจ่ ะน�ำท่านผูอ้ า่ นไปท�ำความ รูจ้ กั ความเป็นมา และเบือ้ งหลัง บทเพลงพระราช นิพนธ์ในแต่ละเพลง ท�ำให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ ด้านการประพันธ์ดนตรีของ “ในหลวง” ดังพระราชด�ำรัส ที่ว่า แก้ไข วารสารเพลงดนตรี ปีที่ ๒๒ ฉบับที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๙ บท Editor’s Talk บรรทัดที่ ๑๙ ที่กล่าวถึงบทเพลง Siamese Patrol (เพลงแตรวง) ซึ่งนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน Paul Lincke ได้ประพันธ์ขึ้นใน พ.ศ. ๒๕๔๔ - แก้ไขเป็น พ.ศ. ๒๔๔๕

เจ้าของ

วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

กองบรรณาธิการ

บรรณาธิการบริหาร

นพีสี เรเยส พงศ์สิต การย์เกรียงไกร บวรภัค รุจิเวชนันท์ (นักศึกษาฝึกงาน)

ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ

คนึงนิจ ทองใบอ่อน

สุกรี เจริญสุข

สนอง คลังพระศรี

ผู้ช่วยบรรณาธิการ ดวงฤทัย โพคะรัตน์ศิริ Kyle Fyr นิธิมา ชัยชิต

ฝ่ายภาพ

ฝ่ายศิลป์

จรูญ กะการดี นรเศรษฐ์ รังหอม

พิสูจน์อักษรและรูปเล่ม ธัญญวรรณ รัตนภพ

เว็บมาสเตอร์

ภรณ์ทิพย์ สายพานทอง

ฝ่ายสมาชิก

สรวิทย์ ปัญญากุล

ส�ำนักงาน

วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล (วารสารเพลงดนตรี) ๒๕/๒๕ ถนนพุทธมณฑลสาย ๔ ต�ำบลศาลายา อ�ำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐

โทรศัพท์ ๐ ๒๘๐๐ ๒๕๒๕-๓๔ ต่อ ๑๕๗ โทรสาร ๐ ๒๘๐๐ ๒๕๓๐ musicmujournal@gmail.com

พิมพ์ที่

หยินหยางการพิมพ์ โทรศัพท์ ๐ ๒๙๐๓ ๘๖๓๖

จัดจ�ำหน่าย

ร้านค้าวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ โทรศัพท์ ๐ ๒๘๐๐ ๒๕๒๕-๓๔ ต่อ ๕๑๕, ๕๑๖

กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ส� ำหรับข้อเขียนที่ได้รับการพิจารณา กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ที่ จะปรับปรุงเพื่อความเหมาะสม โดยรักษาหลักการและแนวคิดของผู้เขียนแต่ละท่านไว้ ข้อเขียนและบทความที่ตีพิมพ์ ถือเป็นทัศนะส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการ ไม่จ�ำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่ขอรับผิดชอบบทความนั้น


สารบัญ Contents Jazz Studies

Music Technology

42

54

ดริน พันธุมโกมล (Darin Pantoomkomol)

Michael David Brice (ไมเคิล เดวิด ไบรซ์)

แจ๊สล้วนๆ การใช้ Pentatonic Scale

Dean’s Vision

04

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับดนตรี

Woodwind

Interview

46

58

ฮิโรชิ มะซึชิม่า

นิธิมา ชัยชิต (Nitima Chaichit)

สนุกกับฟลู้ท

(Hiroshi Matsushima)

สุกรี เจริญสุข (Sugree Charoensook)

วิศวัส ปัญญาวงศ์สถาพร (Visawat Panyawongsataporn)

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ เพลงพระราชนิพนธ์ (ตอนที่ ๑)

34

ถอดเทป การตรวจประเมินคุณภาพ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ตอนที่ ๔)

บุรินธร สันติชีวะเสถียร (Burinthon Santichewasatian)

Music Theory

38

Intervals in Music Theory of Ancient Greece (Continuation) Valeriy Rizayev (วาเลรี รีซาเยฟ)

Review TPO Tchaikovsky and Stravinsky Concert ค�ำถามคือความไพเราะ

16

EdPEx

ค่ายเอื้อมอารีย์อินคอนเสิร์ต

62

H.M. the King’s Compositions

กิตติ ศรีเปารยะ (Kitti Sripaurya)

Introduction to Sound Synthesis

66

TPO Festival Finale คอนเสิร์ต ปิดซีซั่น ที่ท�ำให้ ‘คิดถึงบ้าน’

Getting Ready

กฤตยา เชื่อมวราศาสตร์ (Krittaya Chuamwarasart)

50

72

Pedagogy Tools for Applied Music Teachers (Special) The King, a College, and Dreams of Music Joseph Bowman (โจเซฟ โบว์แมน)

Music Business

52

การจัดการการเงินกับธุรกิจ ดนตรี เข้าใจงบการเงินก่อน วิเคราะห์งบการเงิน (ตอนที่ ๒) ภาวัต อุปถัมภ์เชื้อ (Pawat Ouppathumchua)

ดนตรีเพื่อพ่อ ด้วยส�ำนึกในพระ มหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ธนัชญกร พงศ์ปกรณ์ฤทธิ์ (Tanatchayakorn Pongpakornrith)


Dean’s Vision

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับดนตรี เรื่อง: สุกรี เจริญสุข (Sugree Charoensook) คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

วิ

ทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล เป็นสถาบันที่รับผิดชอบการ เรียนการสอนดนตรี มีขนาดใหญ่สดุ ของไทย ใหญ่ในด้านพื้นที่ (๑๐๑ ไร่) ใหญ่เพราะ เปิดสอนในทุกระดับ ตัง้ แต่เด็กเล็กอายุ ๓ ขวบ ซึง่ มีโครงการสอนดนตรีสำ� หรับบุคคล ทัว่ ไปในศูนย์การค้า ๓ โครงการ มีนกั เรียน ประมาณ ๓,๐๐๐ คน เปิดสอนหลักสูตร ชั้นเตรียมอุดมดนตรี (มัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖) เปิดหลักสูตรในระดับอุดมศึกษาใน ทุกสาขาวิชา ทุกระดับปริญญา (ตรี-โทเอก) และเปิดสอนทุกๆ เครือ่ งมือเป็นวิชา เอก วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งเดียวใน ภูมิภาคอาเซียนที่มีความสมบูรณ์ในทาง

04

วิชาการดนตรี วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล มีอาคารชื่อ “ภูมิพลสังคีต” ซึ่ง เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการ เรียนการสอนดนตรี มีกิจกรรมดนตรีที่ เกี่ยวกับงานเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (๒๕๓๙) มีสวน พฤกษาดุรยิ างค์ (๒๕๕๐) มีประติมากรรม แซกโซโฟนพระเจ้าอยู่หัวที่สลักด้วยหิน อ่อน (๒๕๕๐) ประติมากรรมพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแซกโซโฟนที่ หล่อด้วยโลหะส�ำริด (๒๕๕๗) การจัด แสดงภาพทรงแซกโซโฟนของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั การแสดงมหกรรม ดนตรีแจ๊สประจ�ำปีถวายแด่พระบาท

สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และการบันทึกเสียง บทเพลงพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ รัฐบาลได้ให้ งบประมาณก่อสร้างอาคารวิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อ เป็นเสมือนพระบรมราชานุสาวรียถ์ วายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในวาระทรง ครองราชย์ครบ ๕๐ ปี เนือ่ งจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักดนตรี ทรงเป็นดุรยิ กวี ทรงเป็นอัครศิลปิน และ ทรงเป็นพระมหากษัตริยท์ ยี่ งิ่ ใหญ่ อาคาร ดนตรีได้รับพระราชทานนามว่า “ภูมิพล สังคีต” ได้รับอนุมัติงบประมาณในการ ก่อสร้างปีแรก จ�ำนวน ๑๕๘ ล้านบาท


บนพืน้ ทีก่ ว้างขวาง ซึง่ ยังมีพนื้ ทีว่ า่ งเพียง พอที่จะขยายออกไปได้รอบทิศทาง เพื่อ สร้างอาคารเพิ่มเติมในภายหลัง อาคารเฉลิมพระเกียรติภมู พิ ลสังคีต เป็นอาคารหลักของวิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ใช้เพือ่ จัดการศึกษา ดนตรี เป็นกลุม่ อาคาร ๔ หลัง ประกอบ ด้วย อาคารเรียนดนตรี อาคารห้องสมุด ดนตรี หอแสดงดนตรี เรือนรับรองศาลา กลางน�้ำ ซึ่งเป็นเรือนกระจกแสดงถึง ความโปร่งใส และอาคารส�ำหรับการฝึก ซ้อมดนตรี ได้เริ่มโครงการก่อสร้างเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ใช้เวลาก่อสร้าง ๑๐ ปี บนพื้นที่ ๔๕ ไร่ ซึ่งเป็นวิทยาลัยดนตรีที่ มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย ต่ อ มา วิ ท ยาลั ย ดุ ริ ย างคศิ ล ป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ก่อสร้างเพิ่มเติม ขยายอาคารขึ้นอีก ๕ หลังด้วยกัน เพื่อ ให้เหมาะสมกับความจ�ำเป็นและความ

ต้องการ ขยายเป็นร้านอาหาร เรือน ศิลปิน อาคารมิวเซียมดนตรีอุษาคเนย์ อาคารเตรียมอุดมดนตรี และอาคารมหิดล สิทธาคาร (Prince Mahidol Hall) โดย ได้รบั พระราชทานชือ่ จากสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวม พื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๑๐๑ ไร่ อาคาร ใหม่ทั้งหมดของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะก่อสร้างแล้ว เสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ถือเป็นสถาบัน การศึกษาดนตรีที่มีกายภาพใหญ่ที่สุดใน ภูมิภาคอาเซียน ยกเว้นอาคารมิวเซียม ดนตรีอุษาคเนย์ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ อาคารภูมิพลสังคีต ออกแบบโดย บริษัท ต้นศิลป์ สตูดิโอ จ�ำกัด สถาปนิก ชื่อ นายชาตรี ลดาลลิตสกุล เป็นอาคาร ที่ออกแบบขึ้นเฉพาะการเรียนวิชาดนตรี มีระบบเก็บเสียงที่ดี มีห้องฝึกซ้อมเดี่ยว มีหอ้ งแสดงดนตรีทที่ นั สมัย มีหอ้ งบันทึก

เสียง มีห้องเรียนที่มีอุปกรณ์เทคโนโลยี และมีพื้นที่สีเทา (ที่ว่าง) ไว้ส�ำหรับเดิน เล่นหายใจ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ และคนท�ำงานทั้งหลายได้มี บรรยากาศที่ดี เป็นพื้นที่ส�ำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครองและผู้ที่มาติดต่อราชการกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ด้วย พื้นที่ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กลายเป็นพืน้ ทีส่ เี ขียว ที่สวยงาม ได้รับความนิยมจากบริษัท โฆษณาสินค้าต่างๆ มาขอใช้พนื้ ทีเ่ พือ่ ถ่าย ท�ำโฆษณาสินค้า ถ่ายท�ำภาพยนตร์ ถ่าย ท�ำละคร ถ่ายรูปงานแต่งงาน หรือถ่ายรูป เก็บไว้เป็นทีร่ ะลึก ซึง่ ปรากฏในสือ่ โทรทัศน์ อย่างต่อเนื่อง เป็นความภาคภูมิใจของ ชาวมหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นที่รู้จัก ของสังคมไทยในวงกว้าง

แตรพระเจ้าอยู่หัว

วิ

แตรเฉลิ ม พระเกี ย รติ ที่ ไ ด้ ส ร้ า งขึ้ น ใหม่ เปรียบเทียบกับแตรราชส�ำนักเดิมที่ทรุดโทรม

ทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำ� โครงการสร้างแตรเฉลิมพระเกียรติ น�ำขึน้ ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั ตามข้อมูลทางวิชาการทีน่ กั วิจัยได้ศึกษาค้นคว้า เมื่อ (สุกรี เจริญสุข) กลับมาจาก การศึกษาดนตรีจากต่างประเทศ (พ.ศ. ๒๕๒๘) มีความร้อนวิชา อยากท�ำโน่นอยาก ท�ำนีพ่ อสมควร ก็พยายามทีจ่ ะศึกษาเรือ่ ง ต่างๆ ที่เกี่ยวกับดนตรีในสังคมไทย โดย เฉพาะอย่างยิง่ ดนตรีทเี่ กีย่ วกับพิธกี รรมใน สังคมไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ก็ได้คน้ คว้า เขียนหนังสือประวัติเพลงสรรเสริญพระ บารมี และได้เขียนหนังสือ “๙๙ ปี เพลง สรรเสริญพระบารมี” ส�ำเร็จ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ก็ได้เขียนหนังสือประวัตขิ อง เพลงชาติ ทัง้ นี้ ได้เขียนบทความเกีย่ วกับ ดนตรี การวิจารณ์ดนตรี (สัพเพเหระ) ลงในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หนังสือ ศิลปวัฒนธรรม วารสารถนนดนตรี ท�ำให้

05


ต้องค้นคว้าหาข้อมูลทีเ่ กีย่ วกับดนตรี พบ ผู้คนดนตรี นักดนตรี เครื่องดนตรี และ พบเรือ่ งราวทีไ่ ม่เคยรูม้ าก่อน ท�ำให้รเู้ รือ่ ง ดนตรีในพิธีกรรม ได้ค้นพบแตรราชส�ำนักเมื่อครั้ง งานบันทึกเสียงดนตรีชาวสยาม โดยได้ บันทึกเสียงแตร สังข์ ปี่ไฉน กลองชนะ ที่ใช้ในงานพระราชพิธีทั้งหลาย ซึ่งก็พบ ว่า “แตรราชส�ำนัก” ที่รับใช้งานต่างๆ มานานนั้น ช�ำรุดทรุดโทรมเต็มที ในใจก็ อยากเพียงศึกษาให้มีความรู้เท่านั้น อีก ใจหนึ่งก็อยากจะซ่อมแตรให้สมบูรณ์ขึ้น เพราะได้พบเห็นแตรแล้วเหนื่อยล้าเสีย เหลือเกิน อีกใจหนึ่งนั้นก็ต้องการที่จะ สร้างแตรให้ใหม่กับกองเครื่องสูง ซึ่งถือ เป็นกองเกียรติยศส�ำหรับพระราชา และ เพือ่ ทีจ่ ะได้รบั ใช้งานพระราชพิธตี า่ งๆ ใน อนาคตได้อย่างสมพระเกียรติ เมื่อได้เริ่มค้นคว้าเรื่องแตรเฉลิม พระเกียรติตงั้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ พยายามที่

จะหาแหล่งทุนเพือ่ ทีจ่ ะสร้างแตรราชส�ำนัก ขึน้ ใหม่ เพือ่ ถวายแตรเฉลิมพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ได้ตดิ ต่อไป ยังบริษทั ทีเ่ ป็นผูเ้ ชีย่ วชาญท�ำแตรโบราณ ชาวเนเธอร์แลนด์ แต่เนือ่ งจากช่างแก่เกิน ไปและไม่มีลูกน้องที่จะช่วยท�ำงาน เกรง ว่าจะสร้างแตรได้ไม่สำ� เร็จ ต่อมาได้ตดิ ต่อ ช่างชาวฝรั่งเศส เมื่อติดต่อประสานงาน กันแล้ว ช่างก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ประกอบกับค่าเงินบาทลอยตัว (กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๐) ท�ำให้งบประมาณทีเ่ ตรียม ไว้ไม่พอ ซึง่ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ตดิ ต่อกับ ช่างชาวเยอรมัน ๒ คนพีน่ อ้ ง (Max and Heinrich Thein) ซึง่ มีรา้ นท�ำแตรโบราณที่ เมืองเบรเมน (Bremen) ประเทศเยอรมนี ซึง่ สามารถท�ำเสร็จจ�ำนวน ๒๒ คัน โดยค�ำ แนะน�ำของผูอ้ ำ� นวยการกองงานเครือ่ งสูง มีจำ� นวนแตรเพียงพอทีจ่ ะใช้งานในโอกาส ต่างๆ หากมีงานซ้อนพร้อมๆ กันได้ เมือ่ สร้างแตรเฉลิมพระเกียรติเสร็จ จึงได้น�ำ

ทูลเกล้าฯ ถวายแตรเฉลิมพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๓ แตรเฉลิมพระเกียรติ ได้พระราชทาน ให้แก่กองเครื่องสูง (สังข์ ปี่ไฉน กลอง ชนะ) ซึ่งเป็นกองที่ท�ำหน้าที่ประโคม ในพระราชพิธีต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประโคมในงานพระศพสมเด็จพระเจ้า พีน่ างเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวฒ ั นา กรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ (พ.ศ. ๒๕๕๑) และประโคมในงานพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช (พ.ศ. ๒๕๕๙) กองแตรเฉลิมพระเกียรติ ถือเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ ของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ จ�ำนวนแตรที่เป่า ขึ้นอยู่กับชั้นยศของเจ้านายด้วย

ประติมากรรมหินอ่อน

ประติ ม ากรรมแซกโซโฟนของ พระเจ้าอยู่หัว ในบริเวณสวนพฤกษา ดุริยางค์

06

ระติมากรรมหินอ่อนแซกโซโฟน ของพระเจ้าอยู่หัว ในบริเวณสวน พฤกษาดุรยิ างค์ มีปรัชญาและแนวคิดของ ความเป็นประติมากรรมแกะหินกระดาษ โน้ตบทเพลงพระราชนิพนธ์และบาริโทน แซกโซโฟน (เครื่องดนตรีที่พระองค์ทรง โปรด) แกะสลักด้วยหินอ่อนจากประเทศ อิตาลี โน้ตเพลงไหวพลิว้ ออกมาจากลิน้ ชัก หลัง่ ไหลพรัง่ พรูออกมาไม่รจู้ บ ขับกล่อม บรรเลงอยู่ในแมกไม้กลางสวนพฤกษา ดุริยางค์ ท่ามกลางความเงียบสงบของ ป่า เพื่อพระราชทานให้แก่พสกนิกร ของพระองค์ บรรเลงอยู่ในสวนพฤกษา ดุริยางค์ประจ�ำทุกค�่ำคืน ประติมากรรมแซกโซโฟนของ พระเจ้าอยูห่ วั ได้ลงทุนด้วยราคาทีแ่ พง โดยคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิต์ ระกูล เป็น ผูใ้ ห้ความอนุเคราะห์คา่ ใช้จา่ ยทัง้ หมด มี หลักคิดอยูเ่ บือ้ งหลังว่า สถานทีร่ าชการ


ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ก็ จะตัดต้นไม้แล้วสร้างอาคารจนหมดพืน้ ที่ มีวธิ เี ดียวทีจ่ ะรักษาต้นไม้ไว้ได้กค็ อื การปลูก เป็นป่าพฤกษาดุรยิ างค์ และมีประติมากรรม แซกโซโฟนของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะเป็น ยันต์รกั ษาผืนป่าและต้นไม้เอาไว้ได้ ดังนัน้ นอกจากแซกโซโฟนของพระเจ้าอยูห่ วั จะ

เป็นการเทิดทูนพระองค์แล้ว ยังสามารถ ให้ประติมากรรมรักษาป่าให้มหาวิทยาลัย มหิดลสวยงามด้วย มาติโอ เปดูซิ (Matteo Peducci) ศิลปินหนุม่ อายุ ๒๗ ปี (ในขณะนัน้ พ.ศ. ๒๕๕๐) มีผลงาน มีประสบการณ์ มีความ ส�ำเร็จเทียบชัน้ ศิลปินรุน่ ใหญ่ มีงานแสดง

ภาพวาดพระราชาแห่งแจ๊ส โดยศิลปินสีน�้ำ ดร.สุชาติ วงษ์ทอง

พระราชาแห่งแจ๊ส

ร.สุชาติ วงษ์ทอง ผูส้ ร้างสรรค์ศลิ ปะ มาตลอดชีวติ ได้ปรารภขึน้ ว่า น่าจะ ได้ท�ำอะไรสักอย่างหนึ่ง เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงครองราชย์ ครบ ๖๐ ปี เมื่อคิดกันไป ปรึกษากันมา ก็ได้บทสรุปว่า ควรจัดงานเขียนภาพตาม บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว จ�ำนวน ๖๐ ภาพ จาก ศิลปิน ๖๐ คน น�ำโดย ดร.สุชาติ วงษ์ทอง

เพือ่ น�ำแสดงในวันที่ ๙ มิถนุ ายน ๒๕๔๙ ณ หอศิลป์ วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล ซึ่งท�ำให้ศิลปะหลากหลายสาขา “ส่องทางกัน” มีเสียงเพลงจากบทเพลง พระราชนิพนธ์เป็นสือ่ ร้อยให้ศลิ ปะทีห่ ลาก หลายประสานกันอย่างงดงาม ดร.สุชาติ วงษ์ทอง เป็นศิลปินที่ มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องสีน�้ำ เป็นครูศิลปะ ทีไ่ ม่มสี งั กัด สอนพิเศษทุกทีท่ มี่ คี นอยาก เรียนศิลปะ เป็นการเรียนศิลปะนอกระบบ

หลายชิน้ ในระดับนานาชาติ และมีผลงาน ติดตั้งอยู่ในเมืองต่างๆ เป็นอาจารย์สอน แกะหินในสถาบันศิลปะที่เมืองคาราร่า ประเทศอิตาลี ได้เดินทางมาประเทศไทย เพือ่ แกะสลักหิน เมือ่ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๐ แล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑

เรียนศิลปะตามใจฉัน เป็นมหาวิทยาลัย ศิลปะเคลือ่ นที่ มีเวลาไม่แน่นอน สถานที่ ไม่ได้กำ� หนดและจ�ำกัด ขึน้ อยูก่ บั ผูส้ อนและ ผูเ้ รียนจะตกลงกัน ค่าเล่าเรียนขึน้ อยูก่ บั ความพอใจ ไม่มีหลักสูตรประจ�ำ ใช้ชีวิต เป็นต�ำรา และเนือ้ หาขึน้ อยูก่ บั ความพอใจ ของผูเ้ รียนและผูส้ อน ประมาณว่า วาดได้ ทุกที่ เรียนได้ทุกเรื่อง ในเรื่องที่นักเรียน อยากเรียน อยากเรียนก็เรียน อยาก เลิกก็เลิก เลิกเรียนแล้วครูและลูกศิษย์ ก็ไปนั่งดื่ม กินอาหาร และสนทนาภาษา ศิลปะกัน ดร.สุชาติ วงษ์ทอง เห็นว่าวาระส�ำคัญ ที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และศักยภาพของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งความเชื่อม โยงทีเ่ กีย่ วข้องกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ จึงเลือกที่จะท�ำโครงการภาพวาด “พระ ราชาแห่งแจ๊ส” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ใน เวลาอันรวดเร็ว เป้าหมายเพือ่ จะเปิดการ แสดงให้ทันกับเหตุการณ์ส�ำคัญของชาติ ภาพวาด “พระราชาแห่งแจ๊ส” เป็นภาพวาดตามอารมณ์บทเพลงพระ ราชนิพนธ์ วาดตามเนื้อร้องที่มี วาด ตามบรรยากาศที่สามารถจะประมวลได้ ตามความรูส้ กึ นึกคิดของสุชาติ วงษ์ทอง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั โดยวิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ และใน ขณะนั้นก็มีการบรรเลงดนตรีประกอบ ภาพที่แสดงด้วย

07


ผลงานบันทึกเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยวงบางกอกแซกโซโฟนควอเตต

ผลงานวงบางกอกแซกโซโฟนควอเตต เพลงลูกทุ่ง และบทเพลงพระราชนิพนธ์ โอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาอยู่ทุกปี

เมื่

อพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๔ ขณะ นั้นยังไม่มีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผูเ้ ขียนก็ได้ตงั้ วงดนตรี บางกอกแซกโซโฟนควอเตต (Bangkok Saxophone Quartet, BSQ) เพือ่ เผยแพร่ ดนตรีให้แก่ประชาชนคนฟังทั่วไป เพราะ ขึน้ ชือ่ ว่า “ดนตรีคลาสสิก” ท�ำให้คนเข้าใจ ว่าเป็นดนตรีชั้นสูง ต้องปีนบันไดฟัง จึง ได้ตัดสินใจรวบรวมเพื่อนที่ชอบเล่นแซก โซโฟน เล่นดนตรีข้างถนน เพื่อน�ำเพลง คลาสสิกมอบให้บุคคลทั่วไปได้ฟัง สร้าง มิตรภาพด้วยเพลงคลาสสิก เมือ่ วงบางกอกแซกโซโฟนควอเตต เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็เริ่มพัฒนาจากเพลง คลาสสิกมาเล่นเพลงไทย เพลงพื้นบ้าน

08

ท�ำให้ดนตรีมคี วามใกล้ชดิ กับผูฟ้ งั ข้างถนน มากขึน้ แต่เนือ่ งจากนักดนตรีทกุ คนไม่ได้ เล่นดนตรีเพื่อหารายได้ (ท�ำมาหากิน) จึงมีโอกาสที่จะสร้างสรรค์ผลงานได้มาก ขึ้น ในที่สุดก็ได้ท�ำโครงการบันทึกเสียง บทเพลงพระราชนิพนธ์ครัง้ แรก ชุดสายฝน ซึง่ มีเพลงทัง้ หมด ๑๗ เพลงด้วยกัน โดย ว่าจ้างนักเรียบเรียงเสียงประสานชาว เนเธอร์แลนด์ (Prof. Ab Schaap) เป็น ผู้เรียบเรียงเสียงประสานให้ ซึ่งถือเป็น บทเพลงพระราชนิพนธ์ชดุ แรกทีเ่ ล่นด้วย เครือ่ งแซกโซโฟน ๔ คัน สนับสนุนโครงการ โดยธนาคารกสิกรไทย ต่อมาบทเพลงชุดนี้ ถูกน�ำมาใช้ประกอบสารคดีตา่ งๆ ทีเ่ กีย่ ว กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เนือ่ งใน

ซีดีแผ่นนี้ถือเป็นแผ่นเสียงที่เล่น โดยวงแซกโซโฟนล้วนๆ เพียงชุดเดียวทีม่ ี เพราะว่าจะได้เป็นตัวอย่างส�ำหรับครู ดนตรีที่จะน�ำบทเพลงพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ไปเรียบเรียง เสียงประสานเพื่อให้นักเรียนดนตรีได้ ฝึกหัดบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์และ เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางดนตรี ของพระองค์


ผลงานบันทึกเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยวงดุริยางค์เครื่องเป่า มหาวิทยาลัย นอร์ทเทกซัส

ซีดีบทเพลงพระราชนิพนธ์ครบชุด

เมื่

อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ โครงการจัดตั้ง วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ได้เริ่มก่อตั้ง ขึ้นในมหาวิทยาลัยมหิดล และได้รับงบ ประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนดนตรี ของโครงการจัดตั้งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จากรัฐบาล เพือ่ เป็น พระบรมราชานุสาวรีย์ถวายแด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทีพ่ ระองค์ทรงครอง ราชย์ครบ ๕๐ ปี เนือ่ งจากพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักดนตรี ทรงเป็น ดุรยิ กวี ทรงเป็นอัครศิลปิน และยังทรงเป็น พระมหากษัตริยท์ ยี่ งิ่ ใหญ่ อาคารเรียนดนตรี ได้รับพระราชทานนามว่า “ภูมิพลสังคีต” โครงการจัดตัง้ วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ทำ� โครงการบันทึก เสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ทงั้ หมด ๔๘ ท�ำนอง ซึง่ ครบทีส่ ดุ ในขณะนัน้ โดยมอบให้ นายวิจติ ร์ จิตรรังสรรค์ และศาสตราจารย์ เดนนิส ฟิสเชอร์ (Dennis Fisher) เป็น ผูเ้ รียบเรียงเสียงประสานเพลงส�ำหรับวง ดุริยางค์เครื่องเป่า (Symphonic Band) เพราะเล็งเห็นว่าในระบบการศึกษา ของไทย มีวงดุรยิ างค์เครือ่ งเป่าอยูจ่ ำ� นวน มาก ในทุกโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษา หากมีโน้ตเพลงพระราชนิพนธ์ส�ำหรับวง ดุริยางค์เครื่องเป่า ก็จะช่วยให้นักเรียน

ได้มีโน้ตเพลงพระราชนิพนธ์ส�ำหรับการ ฝึกซ้อมดนตรีและบรรเลงประกอบการ เรียนการสอนดนตรีได้ ทัง้ นีก้ เ็ พือ่ เผยแพร่ พระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์ และเป็นของขวัญส�ำหรับปวงชนชาวไทย ทั้งนี้ประเทศไทยได้ลงทุนจ�ำนวน มาก เพือ่ สัง่ ซือ้ โน้ตเพลงจากต่างประเทศ มาใช้ประกอบการเรียนการสอนดนตรีใน ชั้นเรียน หากมีบทเพลงไทยที่สามารถ ใช้ประกอบการเรียนการสอนได้ หรือคน ไทยสามารถทีจ่ ะพัฒนาสร้างโน้ตเพลงขึน้ มาใช้เองได้ ก็จะเป็นมิติใหม่ส�ำหรับการ ศึกษาดนตรีในประเทศไทย โดยเริ่มต้น จากบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้น (พ.ศ. ๒๕๓๙) วง ดุริยางค์เครื่องเป่าของไทยยังไม่เข้มแข็ง เพียงพอ (ผูจ้ ดั การโครงการ) จึงได้เลือกวง ดุรยิ างค์เครือ่ งเป่าของมหาวิทยาลัยนอร์ท เทกซัส (University of North Texas) ใช้บรรเลงบันทึกเสียง ทั้งนี้ ผู้ควบคุมวง ศาสตราจารย์ยจู นี คอร์พอรอน (Eugene Corporon) ซึง่ เป็นผูท้ มี่ ชี อื่ เสียงมากและ เคยเป็นครูของผู้จัดการโครงการมาก่อน จึงมีความคุ้นเคยและสะดวกที่จะท�ำงาน ร่วมกัน โดยได้รับการสนับสนุนโครงการ บันทึกเสียงจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ�ำกัด (มหาชน) เมื่อบันทึกเสียงเสร็จ ผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็ได้ผลิต แผ่นเสียงน�ำขึน้ ทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมเงิน จ�ำนวน ๙ ล้านบาท โดยเสด็จพระราชกุศล

แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และได้ มอบแผ่นเสียงเป็นของขวัญให้แก่ลูกค้า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ�ำกัด (มหาชน) จากผลงานการบันทึกเสียงบทเพลง พระราชนิพนธ์โดยวงดุรยิ างค์เครือ่ งเป่าชุด นี้ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๔๗ ศาสตราจารย์ลี แจ็กสัน (Lee Jackson) อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ทเทกซัส (University of North Texas) ได้ทลู เกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบณ ั ฑิตกิตติมศักดิ์ สาขา การประพันธ์เพลงและบรรเลงดนตรี แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระ ต�ำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ�ำเภอ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จ สวรรคต เมือ่ เวลา ๑๕.๕๒ น. ทีโ่ รงพยาบาล ศิริราช รองโฆษกประจ�ำส�ำนักนายก รัฐมนตรี (พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค) ได้ตดิ ต่อประสานมายังวิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อขอส�ำเนาแผ่น ซีดีชุดนี้ ซึ่งเป็นชุดที่ได้บันทึกเสียงครบ ทุกเพลง และได้บันทึกเสียงโดยวงดนตรี ชัน้ น�ำของโลก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพือ่ ทีจ่ ะท�ำส�ำเนาให้นายกรัฐมนตรีนำ� ไปมอบ เป็นของทีร่ ะลึกแก่แขกบ้านแขกเมือง ซึง่ จะเป็นของขวัญจากนายกรัฐมนตรีของไทย และเป็นความภูมใิ จยิง่ ของปวงชนชาวไทย

09


ผลงานบันทึกเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยอาจารย์แขนงวิชา ดนตรีแจ๊ส

ผลงานวงโพเมโลทาวน์

ใน

ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึง่ ได้เปิดแขนง วิชาดนตรีแจ๊ส ได้บนั ทึกเสียงบทเพลงพระ ราชนิพนธ์ บรรเลงโดยอาจารย์แขนงวิชา ดนตรีแจ๊ส จ�ำนวน ๑๑ เพลง โดยใช้วง ดนตรี ๕ ชิน้ (เปียโน กีตาร์ เบส แซกโซโฟน และกลอง) ทั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่างที่จะน�ำ บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั มาบันทึกเสียงในรูปแบบต่างๆ เพือ่ เผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางดนตรีของ

พระองค์ และเป็นการน�ำผลงานเพลงทีเ่ ป็น บทเพลงที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นมาใช้บรรเลง บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มีรากฐานเป็นเพลง แจ๊สอยู่แล้ว จึงเป็นตัวอย่างที่ดีส�ำหรับ นักเรียนดนตรีแจ๊สทุกคนทีจ่ ะน�ำบทเพลง ของพระองค์มาบรรเลง วงโพเมโลทาวน์ (Pomelo Town) เนือ่ งจากเมืองนครชัยศรีเป็นเมืองทีป่ ลูก ส้มโอเป็นพืชท้องถิน่ ทีม่ ชี อื่ เสียง ซึง่ เคยมี ค�ำขวัญของเมืองว่า “พุทธมณฑลเป็นเมือง

ศาสนา ศาลายาเป็นเมืองดนตรี นครชัยศรี เป็นเมืองส้มโอ” ดังนั้น การพัฒนาเมือง ศาลายาให้เป็นเมืองดนตรีของไทยจึงเป็น เป้าหมายหลักของวิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล การจัดกิจกรรมระดับ ชาติและเทศกาลดนตรีในระดับนานาชาติ จึงจัดขึน้ ในเมืองศาลายาจ�ำนวนมาก เพือ่ ที่จะสร้างจุดขาย สร้างจุดเด่นให้เกิดขึ้น ในประเทศไทย เป็นเมืองที่รู้จักในระดับ นานาชาติด้วย

ทีพีโอบันทึกเสียงบทเพลงพระราช นิพนธ์

วิ

ทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล เป็นวิทยาลัยดนตรีของชาติ จึงมีกิจกรรมการแสดงดนตรีเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานแสดงดนตรีครั้ง ส�ำคัญๆ จะต้องมีบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมอยู่ ในรายการ อาทิ การแสดงของวงดุรยิ างค์ ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (Thailand Philharmonic Orchestra, TPO) ซึ่งได้ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบ ด้วยนักดนตรี ๙๓ คน มีรายการแสดง ๖๐ รายการต่อปี ทุกๆ ปี ก็จะมีโครงการ แสดงบทเพลงพระราชนิพนธ์ บทเพลงไทย ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา (๕ ธันวาคม) ของทุกปี นอกจากนี้แล้ว วงดุริยางค์ฟีล ฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย ยังพัฒนาโดยน�ำ

10

ผลงานบันทึกเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย


บทเพลงพื้นบ้าน เพลงไทย เพลงท้องถิ่น ของภูมภิ าคอาเซียน และบทเพลงทีป่ ระพันธ์ ขึ้นใหม่ น�ำเสนอต่อผู้ฟังเสมอๆ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาทุกปี มี รายการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาท

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ และทีอ่ าคารมหิดล สิทธาคาร สิ่งส�ำคัญก็คือ วงดุริยางค์ฟีล ฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย ได้บันทึกเป็น แผ่นเสียงบทเพลงพระราชนิพนธ์เอาไว้ ด้วย โดยสถานีวทิ ยุ สถานีโทรทัศน์ และ

รายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติ ก็ได้ใช้ บทเพลงพระราชนิพนธ์ทบี่ นั ทึกเสียงโดย วงดุรยิ างค์ฟลี ฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทยนี้ เปิดประกอบรายการอยู่เป็นประจ�ำ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตร “ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน” (ที่มา: โพสต์ทูเดย์สุดสัปดาห์ ประจ�ำวันเสาร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วงทีพีโอแสดงถวายพระเจ้าอยู่หัว

วั

นที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓ เป็นครั้ง แรกที่วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่ง ประเทศไทย (TPO) ได้มโี อกาสแสดงถวาย หน้าพระทีน่ งั่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ณ หอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศริ ริ าชพยาบาล ในการ แสดง “ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัคร ศิลปิน” โดยได้อัญเชิญบทเพลงพระราช นิพนธ์มาบรรเลงถวายตลอดทั้งรายการ การแสดงครัง้ นีถ้ อื เป็นความส�ำเร็จสูงสุดของ วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ครัง้ นัน้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ยังคงประทับรักษาพระองค์อยูท่ โี่ รงพยาบาล ศิรริ าช คณะแพทย์ได้กราบบังคมทูลเสด็จฯ ทอดพระเนตรการแสดงของวงดุรยิ างค์ฟลี ฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (TPO) ที่หอ ประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ ศิรริ าชพยาบาล ในการด�ำเนินการครัง้ นัน้ เป็นการท�ำงานทีจ่ ะต้องปรับปรุงขยายเวที แสดง เพราะเดิมมีขนาดเล็ก ให้สามารถ รองรับวงดนตรีขนาดใหญ่ได้ ต้องมีการ ติดตั้งลิฟต์เพื่อที่จะเป็นเส้นทางเสด็จ พระราชด�ำเนิน แต่เนื่องจากหอประชุม มีความจุผู้ชมไม่มากนัก (๘๐๐ ที่นั่ง)

จึงต้องคัดสรรผูท้ จี่ ะเข้าชมอย่างพิถพี ถิ นั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใน ฐานะนักดนตรี ประทับทอดพระเนตรการ แสดงด้วยความสนพระทัยยิง่ ในฐานะนัก ดนตรีนั่งมองนักดนตรีแสดงดนตรีของ พระองค์ โดยการเรียบเรียงเสียงประสาน ส�ำหรับวงซิมโฟนีออร์เคสตร้า ท�ำให้นัก ดนตรีเองก็ตนื่ เต้นเป็นอย่างยิง่ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงถ่ายรูปวงดนตรี ด้วยพระองค์เอง

11


พระราชาแซกโซโฟน

ใน

ประติมากรรมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแซกโซโฟน

12

ที่สุด เมื่อวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สร้างอาคาร “ภูมิพลสังคีต” แล้วเสร็จ สิ่งส�ำคัญของ อาคารเฉลิมพระเกียรติ “ภูมพิ ลสังคีต” คือ ประติมากรรมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงบาริโทนแซกโซโฟน สูง ๑๐ เมตร กว้าง ๔.๕ เมตร หนา ๑๒ เซนติเมตร และหนัก ๔.๒ ตัน ติดที่ฝาผนังอาคารภูมิพลสังคีต (อาคารเอ) ด้านทิศตะวันตก ออกแบบ โดยนายช่างเอกของกรมศิลปากร (โสพิศ พุทธรักษ์) หล่อโดยนายช่างอิตาเลียน ชือ่ อามานโด เบนาโต (Armando Benato) ที่ได้มาตั้งรกรากในเมืองไทยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๑ ยึดอาชีพหล่องานศิลปะ หล่อ บาทหลวงและหลวงพ่อ ส่งให้โบสถ์ต่างๆ ทีม่ คี วามต้องการ ซึง่ เป็นงานทีส่ วยงามมาก ท�ำให้วทิ ยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งเดียว ในประเทศไทยที่มีงานศิลปะสวยงามเพื่อ ใช้ส่องทางกัน เพื่อให้บุคลากรนักศึกษา อาจารย์ คนท�ำงาน และผู้พบเห็น ได้เกิด พลังทีด่ ี มีพลังในการสร้างสรรค์งานดนตรี รูปหล่อในหลวงทรงแซกโซโฟน เริม่ ท�ำงานตั้งแต่มีนาคม ๒๕๕๖ แก้แล้วแก้ อีก จากต้นแบบเป็น ๑๐ แบบ จากช่าง ปั้นแบบหลายคน จนได้รูปต้นแบบเป็น ที่พอใจของทุกฝ่าย ให้ทุนสนับสนุนการ ท�ำงานชิน้ นีโ้ ดย ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิต์ ระกูล และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิต์ ระกูล ใช้งบ ประมาณในการด�ำเนินงานทั้งหมด ๔.๕ ล้านบาท แล้วเสร็จและติดตั้งเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ระหว่างที่มีงานดนตรีที่จัดขึ้นใน วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล อาทิ งานแข่งขันแซกโซโฟน งานการประพันธ์เพลง งานรับปริญญา จึงมีผู้มาถ่ายรูปบรรยากาศในวิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ส่งให้แก่กันแล้วไม่ต�่ำกว่า ๖,๐๐๐ คน และส่งต่อไปอีกเท่าไหร่กไ็ ม่รู้ ซึง่ เป็นผลงานทีส่ ร้างความภาคภูมใิ จให้แก่ คนไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะ ชาววิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล เป็นอย่างยิ่ง


วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล จึงเป็นสถาบันดนตรีที่จารึกและ เผยแพร่ผลงานของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอย่างต่อเนื่องมีระบบและ เป็นแผนงานระยะยาว เพื่อที่จะสืบทอด ผลงานของพระองค์มอบให้แก่คนรุน่ ใหม่ ต่อๆ ไป

สารคดี (สายธารพระราชไมตรี) วงดุรยิ างค์ ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (ทีพีโอ) จะน�ำบทเพลงพระราชนิพนธ์มาแสดง เต็มวงในวันที่ ๒-๓ ธันวาคม ๒๕๕๙ ที่ อาคารมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัย มหิดล ศาลายา เพือ่ เผยแพร่แก่ประชาชน ทั่วไปให้สามารถเข้าชมได้

ดนตรีประกอบสารคดี สายธารพระราชไมตรี

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ

ใน

ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ บริษัท โกลบอล อินเตอร์คอมมิวนิเคชัน่ จ�ำกัด (Global Intercommunication) ได้จัดท�ำสารคดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เสด็จประพาส ประเทศต่างๆ ระยะเวลา ๕๐ ปี จ�ำนวน ๒๙ ประเทศ เป็นสารคดีที่อยู่ในช่วงเวลา พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๑๐ โดยมอบให้วงดุรยิ างค์ ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (ทีพโี อ) เป็น ผูบ้ รรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ประกอบ สารคดี (สายธารพระราชไมตรี) ซึ่งได้น�ำ ออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๙ MCOT HD จ�ำนวน ๕๒ ตอน ตอนละ ๒๐ นาที ตลอดปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ น. ท�ำให้ รายการสารคดีสารธารพระราชไมตรีตอ้ งน�ำ มาออกเผยแพร่ทางโทรทัศน์กอ่ นก�ำหนด เพราะเป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้ถวายพระ เกียรติยศและเป็นช่วงเวลาทีร่ ว่ มร�ำลึกถึง พระองค์ท่าน ส�ำหรับวงดุรยิ างค์ฟลี ฮาร์โมนิกแห่ง ประเทศไทย (ทีพีโอ) โชคดีที่มีโอกาส บรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ตลอดเวลา ๑๑ ปี (พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๕๘) โดยเฉพาะ ในช่วงเวลาวันเฉลิมพระชนมพรรษา ก็จะ มีรายการแสดงบทเพลงพระราชนิพนธ์เป็น ประจ�ำทุกปีอยูแ่ ล้ว ในการบรรเลงประกอบ สารคดีครั้งนี้จะต้องน�ำบทเพลงพระราช นิพนธ์มาเรียบเรียงใหม่ เพือ่ ให้เหมาะสม กับประเทศนั้นๆ โดยใช้บรรยากาศของ แต่ละประเทศเป็นเป้าหมาย ส�ำหรับเพลงพระราชนิพนธ์ประกอบ

ริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จ�ำกัด ได้ ผลิตภาพยนตร์เรื่องใหม่ขึ้นชื่อ พรจากฟ้า (A Gift) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ รักอบอุ่นชื่นมื่น เป็นของขวัญให้แก่กัน ด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยมอบ หมายให้ผู้ก�ำกับมือทองรุ่นใหม่ ๓ คน (ชยนพ บุญประกอบ นิธิวัฒน์ ธราธร และจิระ มะลิกลุ ) ได้กำ� หนดจะใช้บทเพลง พระราชนิพนธ์ ๓ เพลงด้วยกัน คือ บทเพลง ยามเย็น บทเพลงในดวงใจนิรันดร์ และ บทเพลงพรปีใหม่ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จ�ำกัด ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ขึ้น เนื่องในโอกาสที่ปีนี้ (๒๕๕๙) เป็นปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น ครองราชย์ครบ ๗๐ ปี และทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษา และ เพื่อที่จะมอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ให้ เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยทุกคน ผู้ก�ำกับทั้ง ๓ คน ก็ได้ก�ำหนดเรื่องสั้นๆ แต่ละเรือ่ งมีความยาวประมาณ ๔๕ นาที รวม ๓ เรื่อง ติดต่อกัน ๑๓๕ นาที (๒ ชั่วโมง ๑๕ นาที) เรือ่ งแรก จากบทเพลงพระราชนิพนธ์ ยามเย็น ก�ำกับภาพยนตร์โดย ชยนพ บุญประกอบ เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า “ก่อนทีง่ านเลีย้ งอ�ำลาและการมอบ ทุนการศึกษาต่อประเทศรัสเซียจะเริม่ ขึน้ “บีม” หนุ่มนักเรียนที่ได้ทุนปริญญาโท ถูกคณะผูจ้ ดั งานขอให้ชว่ ยมาเป็นตัวแสดง แทน (stand-in) แสดงเป็นท่านทูต เพือ่ ซักซ้อมคิวงานและคิวกล้อง จึงเป็นโอกาส ทีท่ ำ� ให้เขาได้พบกับแป้ง สาวสวยจากวง ขับร้องประสานเสียง ที่ถูกขอให้มาช่วย

รับบทเป็นภรรยาทูต คู่กันกับบีม การ ที่ทั้งคู่ต้องมารับบทบาทสมมติเป็นสามี ภรรยากัน จึงท�ำให้เกิดบทสนทนาต่างๆ ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บีมรุกจีบแป้ง ไปตามสัญชาตญาณ ความเจ้าชูก้ รุม้ กริม่ ในขณะทีแ่ ป้งซึ่งเพิง่ ผิดหวังในความรักจากผูช้ ายเจ้าชูห้ มาดๆ ก็ตอ้ งตัง้ การ์ดรับการจีบครัง้ นีอ้ กี ครัง้ ด้วย ความระมัดระวัง แต่ดว้ ยเคมีความฉลาด เท่าเทียมกัน กลับท�ำให้ทงั้ คูอ่ ยูด่ ว้ ยกันไหล ลื่นลงตัว จนต่างฝ่ายต่างค่อยๆ รู้จักตัว ตน แลกเปลีย่ นทัศนคติเรือ่ งความสัมพันธ์ จนมีทา่ ทีวา่ มีความรูส้ กึ พิเศษต่อกัน อาจ เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก�ำหนดการที่ได้ก�ำหนดไว้นั้น แป้งต้องร้องเพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น เพื่อเป็นของขวัญอ�ำลาให้กับนักเรียนทุน ความรู้สึกของทั้งคู่จึงก�ำลังเริ่มต้นอยู่บน เงื่อนไขของการจากลากัน” เรื่องที่สอง จากบทเพลงพระราช นิพนธ์ในดวงใจนิรันดร์ ก�ำกับภาพยนตร์ โดย นิธิวัฒน์ ธราธร เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า “ฟาร์ อดีตสาวออร์แกไนเซอร์ทตี่ อ้ ง ลาออกมาดูแลพ่อทีป่ ว่ ยเป็นโรคอัลไซเมอร์ การที่จะต้องปรับตัวเพื่อดูแลผู้ป่วยที่ไม่ สามารถจะจ�ำอะไรได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ฟาร์เหนือ่ ยมากกับการเปลีย่ นแปลงชีวติ ครั้งใหญ่ แต่เธอก็ยินดีเต็มที่ที่จะท�ำเพื่อ พ่อ แต่ความเหนื่อยกายไม่เท่ากับความ ล�ำบากใจ เพราะสิ่งเดียวที่ท�ำให้เธอรู้สึก แย่ที่สุดคือ การที่พ่อยังคงถามถึงแม่ที่ เสียไปแล้ว ฟาร์เองก็ไม่รู้จะรับมือกับ เรื่องนี้ได้อย่างไร ถึงแม้วา่ ฟาร์จะรูว้ า่ มันเป็นเรือ่ งยาก ที่พ่อจะกลับมาเป็นปกติ แต่ฟาร์เองก็ พยายามจะหัดเล่นบทเพลงทีพ่ อ่ ชอบ “ใน ดวงใจนิรนั ดร์” ให้ได้ เพือ่ ให้เป็นของขวัญ วันครบรอบแต่งงานของพ่อและแม่ โดยที่ ฟาร์ได้รบั ความช่วยเหลือจากช่างจูนเปียโน สุดกวน (เอ) ทีเ่ คยช่วยจูนเปียโนให้กบั แม่ ฟาร์มาก่อน จนสนิทกับพ่อและแม่ของฟาร์ เป็นอย่างดี ทีเ่ ข้ามาช่วยดูแลพ่อของฟาร์ ให้ในระหว่างที่เธอซ้อมเปียโน และนั่น

13


คือจุดเริม่ ต้นของความรักของทัง้ สองคน” เรื่องที่สาม จากบทเพลงพระราช นิพนธ์พรปีใหม่ ก�ำกับภาพยนตร์โดย จิระ มะลิกุล เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า “หลง ร็อกเกอร์หนุ่ม ตัดสินใจลา ออกจากวงดนตรีอาชีพที่เล่นมา ๑๐ ปี แต่ไม่มีคนรู้จัก มาเป็นพนักงานออฟฟิศ ด้านการวิเคราะห์การเงิน ซึ่งเมื่อ คิม พนักงานฝ่ายบุคคล รูว้ า่ หลงเป็นนักดนตรี จึงได้ตามตือ้ หลงให้มาเป็นหัวหน้าวงดนตรี สมัครเล่นของพนักงานออฟฟิศ โดยเมื่อแรก หลงดูจะปฏิเสธคิม อย่างไร้เยือ้ ใย เพราะอยากหนีจากความ เจ็บปวดในอดีต อาชีพนักดนตรี ผู้ไม่ ประสบความส�ำเร็จตลอด ๑๐ ปีของเขา แต่เมื่อได้เริ่มเล่นดนตรีกับวงที่มีสมาชิก หลากหลายสถานะ ตั้งแต่ป้าพนักงาน อาวุโสเล่นทรอมโบน คุณลุงใกล้เกษียณสี ไวโอลิน ไปจนถึงยามรักษาการณ์ตกี ลอง น้องรักษาความสะอาดร้องเพลง ท�ำให้ หลงพบว่า การแอบเจ้านายเล่นดนตรีกนั ในออฟฟิศหลังเลิกงานกับวงดนตรีทเี่ ล่น กันเป็นงานอดิเรกวงนี้ กลายเป็นครัง้ แรก ทีเ่ ขาเพิง่ รูส้ กึ ถึงความสุขในการเล่นดนตรี ท่ามกลางบรรยากาศปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ใกล้เข้ามา หลงและสมาชิก

14

เตรียมเพลงพรปีใหม่ไว้สำ� หรับโชว์เป็นของ ขวัญให้แก่เพื่อนร่วมงานทุกคน โดยหวัง ลึกๆ ว่า คณะผู้บริหารของบริษัทก็จะได้ อนุมตั สิ ร้างห้องซ้อมดนตรีตามทีพ่ วกเขา ยื่นเรื่องของบประมาณไปเช่นกัน เพราะ มันคงเป็นของขวัญวันปีใหม่ที่จะท�ำให้ พวกเขามีความสุขที่สุดในปีนี้” เรือ่ งราวของภาพยนตร์ทงั้ ๓ เรือ่ ง เป็นเรื่องของชีวิตเล็กๆ ทั่วไปในสังคม ที่ น�ำมาเล่าเป็นภาพยนตร์โดยใช้บทเพลง พระราชนิพนธ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของ ความประทับใจและใช้เป็นสื่อกลางของ หัวใจที่เกี่ยวข้องทุกดวง ส�ำหรับคุณจิระ มะลิกุล (เก้ง) นั้น เป็นผู้ก�ำกับภาพยนตร์รุ่นใหม่ มีผลงาน การก�ำกับภาพยนตร์ที่ประสบความ ส�ำเร็จไว้หลายเรื่อง อาทิ ๑๕ ค�่ำเดือน ๑๑ มหา’ลัย เหมืองแร่ และเป็นผู้ดูแล ภาพยนตร์เรือ่ งเพราะอากาศเปลีย่ นแปลง บ่อย (Seasons Change) ซึ่งก�ำกับโดย คุณนิธิวัฒน์ ธราธร ได้ใช้เรื่องราวของ การเรียนดนตรีและใช้พื้นที่ของวิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ถ่ายท�ำภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ท�ำให้มีความผูกพันกันมานาน เมื่อคุยกันเรื่องดนตรีประกอบ ภาพยนตร์ครัง้ ใด ก็มกั จะได้รบั ค�ำตอบว่า

ไม่มงี บประมาณ นอกจากไม่มงี บประมาณ แล้ว ก็จะไม่มีเวลาให้กับการท�ำดนตรี ประกอบภาพยนตร์ด้วย เพราะคนถ่าย ท�ำมักจะใช้เวลาทัง้ หมดกับการถ่ายท�ำและ ตัดต่อภาพยนตร์ เมือ่ ท�ำภาพยนตร์เสร็จ ก็จะหมดเวลาแล้ว ภาพยนตร์จะต้องเข้า ฉายจนไม่มเี วลาท�ำดนตรีประกอบ สุดท้าย การท�ำภาพยนตร์ไทยจึงต้องใช้ดนตรีทงี่ า่ ย สะดวก และใช้ราคาถูกตลอดกาล ในที่สุดก็ได้แสดงเจตจ�ำนงอาสาที่ จะท�ำดนตรีประกอบภาพยนตร์ ๗๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราช สมบัติให้ โดยใช้วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิก แห่งประเทศไทย (Thailand Philharmonic Orchestra, TPO) เต็มวง ซึง่ มีสมาชิกวง ๙๓ คน จะใช้มากหรือใช้นอ้ ยก็ขนึ้ อยูต่ าม ความจ�ำเป็นของภาพยนตร์ ส่วนผู้เขียน เพลงประจ�ำทีท่ ำ� กันอยูก่ ใ็ ห้เขาท�ำไปเหมือน เดิม ซึง่ มีคณ ุ วิชญ วัฒนศัพท์ (โหน่ง) เป็น ผู้เขียนเพลงประกอบภาพยนตร์ โดยน�ำ เพลงทีม่ ผี ปู้ ระพันธ์เอาไว้แล้ว มาเรียบเรียง เสียงประสานใหม่ ส�ำหรับเป็นวงออร์เคสตร้า เต็มวงเท่านั้นเอง โดยมอบหมายให้ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ เป็นผู้เรียบเรียง เพลงทั้งหมดให้กับเรื่อง


ส่วนผู้ควบคุมวง ก็ได้มอบหมาย ให้กับเดลตา เดวิด เกียร์ (Delta David Gier) ซึ่งเป็นวาทยกรรับเชิญของวง ดุรยิ างค์ฟลี ฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย จาก สหรัฐอเมริกา มาช่วยบันทึกเสียง โดยใช้ อาคารมหิดลสิทธาคารเป็นห้องบันทึกเสียง ใช้คณะท�ำงานทั้งหมดของอาคารมหิดล สิทธาคาร และคณะท�ำงานของวงดุรยิ างค์ ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ใน ความดูแลของอาจารย์นพดล ถิรธราดล ผู้จัดการวงดนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนภาระทางการเงินนัน้ เป็นหน้าที่ ของผู้อ�ำนวยการวงดนตรี (คณบดีสุกรี เจริญสุข) จะต้องไปหางบมาเพือ่ เป็นค่าใช้ จ่ายส�ำหรับค่าจัดการวงดนตรี นักดนตรี ผู้ควบคุมวง ค่าตอบแทนผู้เรียบเรียง เสียงประสาน และเป็นค่าสถานที่ใช้ใน การบันทึกเสียง ท� ำ ไมวิ ท ยาลั ย ดุ ริ ย างคศิ ล ป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงเดือดร้อนที่จะ ท�ำเพลงประกอบภาพยนตร์มากนักหนา ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า ประการแรก เป็น ภาพยนตร์ ๗๐ ปี เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราช สมบัติ ควรใช้ดนตรีที่อลังการเพื่อให้สม

พระเกียรติ ประการที่สอง ผู้ก�ำกับเป็น บุคคลทีท่ ำ� งานด้านคุณภาพมาตลอด แต่ มีเงือ่ นไขด้านงบประมาณทีจ่ ำ� กัด แม้การ ท�ำงานเพื่อความเป็นเลิศในอาชีพผลิต ภาพยนตร์กต็ าม แต่เมือ่ ดนตรีทใี่ ช้ประกอบ ภาพยนตร์ไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สามารถที่จะ สร้างความสมบูรณ์ให้กับภาพยนตร์ได้ ประการทีส่ าม ยังไม่เคยมีภาพยนตร์ ไทยเรือ่ งใดเลยทีท่ ำ� เพลงประกอบด้วยวง ดุรยิ างค์ฟลี ฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทยหรือ ใช้วงออร์เคสตร้าเลย เนื่องจากเป็นการ ท�ำงานที่ยากและมีค่าใช้จ่ายแพง ดัง นั้น ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ๗๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ครองราชย์ จึงเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ใช้เพลง ประกอบโดยวงซิมโฟนีออร์เคสตร้า ประการทีส่ ี่ เป็นการพลิกโฉมหน้าใหม่ให้ กับวงการภาพยนตร์ไทย ทีใ่ ช้วงออร์เคสตร้า เป็นดนตรีประกอบภาพยนตร์ และประการ ที่ห้า เป็นการสร้างโอกาส ยกฐานะ และ สร้างคุณภาพให้กบั ภาพยนตร์ไทยได้สร้าง งานในระดับสากล ท�ำให้เสียงดนตรีได้อมุ้ ภาพยนตร์ให้เต็มศักยภาพของภาพยนตร์ ท�ำให้คนดูรู้สึกเต็มจอและให้ความรู้สึกที่ เต็มอิ่มมากขึ้น

ความหวังสุดท้าย ซึ่งก็หวังว่าจะ เป็นการสร้างงานให้อาชีพของนักดนตรี เพิ่มศักยภาพมากขึ้น ให้สามารถเล่น ดนตรีประกอบภาพยนตร์ได้อกี อาชีพหนึง่ ประการแถมท้าย หากว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพที่จะท�ำเพลง ประกอบภาพยนตร์ดว้ ยวงออร์เคสตร้าได้ ในอนาคตก็จะมีความหวังว่า โอกาสทีจ่ ะให้ ภาพยนตร์จากต่างประเทศ อย่างฮอลลีวดู ในสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามาบันทึกเสียง ดนตรีประกอบภาพยนตร์ในประเทศไทย ได้บา้ ง เป็นภาพลักษณ์วา่ ประเทศไทยนัน้ เจริญแล้ว ซึง่ จะเป็นเรือ่ งของคุณภาพและ ฝีมือล้วนๆ ที่เพื่อนบ้านในอาเซียนยังไม่ สามารถที่จะท�ำได้ ในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เป็นการเปิดรอบปฐมทัศน์ (รอบสือ่ มวลชน) ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ๗๐ ปี ครอง ราชสมบัติ เปิดตัวที่ศูนย์การค้าสยาม พารากอน โดยใช้วงดุรยิ างค์ฟลี ฮาร์โมนิก แห่งประเทศไทย (TPO) เต็มวง ยกวง ไปแสดงบทเพลงพระราชนิพนธ์ ทั้งนี้ได้ มีนักร้องและนักดนตรีรับเชิญร่วมแสดง เป็นการเปิดให้ประชาชนทัว่ ไปร่วมเข้าชมได้

กวีรตั นโกสินทร์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้ประพันธ์บทกวีมอบให้วทิ ยาลัยดุรยิ างคศิลป์ เมือ่ วันเสาร์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๔๓ ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงเป็นศิลปิน และทรงเป็นดุริยกวี ดังนี้

15


H.M. the King’s Compositions

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ปี เพลงพระราชนิพนธ์ (ตอนที่ ๑) เรื่อง: กิตติ ศรีเปารยะ (Kitti Sripaurya) อาจารย์ประจ�ำสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

16

พุทธศักราช ๒๔๘๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช พระราชทาน ๔ บทเพลง ได้แก่ แสง เทียน (Candlelight Blues) ยามเย็น (Love at Sundown) สายฝน (Falling Rain) และใกล้รุ่ง (Near Dawn) ในปีถัด มา พ.ศ. ๒๔๙๐ พระราชทานอีก ๒ บทเพลง ได้แก่ ชะตา ชีวิต (H.M. Blues) และดวงใจกับความรัก (Never Mind the Hungry Men’s Blues) วงดนตรีวงแรกที่ได้รับความไว้ วางพระราชหฤทัยให้บรรเลง ๖ เพลงนี้ คือ วงสุนทราภรณ์ ซึง่ ในสมัยนั้นเป็นวงดนตรีประเภท Big band ชั้นน�ำวงหนึ่งที่อยู่ ในความนิยมของคนไทย มีการบันทึกเสียงลงแผ่นครัง่ น�ำออก จ�ำหน่ายทั่วไป ส่วนวงสุนทราภรณ์ก็น�ำบทเพลงออกบรรเลง สดในวาระต่างๆ รวมทั้งส่งกระจายเสียงผ่านทางสถานีวิทยุ กรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์) สร้างความประทับใจ ให้แก่ปวงชนชาวไทยเป็นอย่างมาก ปกติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงประพันธ์เฉพาะแนวท�ำนองเพลง ส่วนเนื้อร้องทรงมอบ ให้กับบุคคลที่ไว้วางพระราชหฤทัยเป็นผู้แต่งถวาย ราย พระนามและรายนามของท่านผู้ประพันธ์เนื้อร้อง ๖ เพลง แรก ได้แก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ท่านผูห้ ญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา และรองศาสตราจารย์สดใส พันธุมโกมล


เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ ๑

แสงเทียน (Candle light Blues) ท�ำนองเพลงแรกของพระองค์ท่าน เนื้อร้องภาษาไทยและอังกฤษ

แสงเทียน ทํานอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภุมพิ ลอดุลยเดชฯ คําร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

b7

D G B ## 4 « « ‰ . ‰ . « « « « « ««« ««ˆ . ««ˆ “ { ˙« « ««« _««« ««ˆ« l nˆ«« . ««j nˆ«« «ˆ« . ««ˆ« l _««˙ ˆ« «««ˆ . ˆ««« b_ˆ««« . = ========================= & 4 ˆ _ « _ « _«ˆ ˆ« . _ˆ««« l 7

จุด เทียน บวง

สรวง

เปรียบ เทียน สิน้

แสง

ปวง เท - พ - เจ้า ยาม แรง ลม เปา่

ถึง คราว ระ ทม ทน

สวด มนต์ คํ่า เช้า

เฉา เหมือน เงา ไร้ ดวง เทียน

ชีพ ดับ อับ

b7

B ## D ‰ . « « «« Gm ‰ . «« « « « «£ « « « « «««ˆ ˆ«« . «ˆ l b˙»»» ˆ« ˆ«« . nˆ«« l «««ˆ nˆ«« ˆ«« ««ˆ ‰ . ««« ««« ««ˆ l n˙«« ‰ . ««ˆ« ««ˆ. = ========================= & _««« « _ˆ««« l « « _ˆ« ˆ. _«˙ 5

Gm7

โอ้

ชี - วิต หนอ

จุด เทียน ถ - วาย

Dm6

ล้วน รอ ความ ตาย ทุก คน

หลีก ไป ไม่

พ้น

ทุกข์ ทน อา -

หมาย บน บู - ชา ร้อง เรียน

โรค ภัย เบียด เบียน

แสง เทียน ทาน

Ab A ## D £ £« D « ‰ . « « « « « « « « « « « « « « « « « « #ˆ.« ««ˆ _««ˆ _«« ««ˆ l w ========================= & b_ˆ««« ««ˆ _«« _«« _«« n_ˆ«« . _«« l n_««˙ . =l l «« . nˆj _««ˆ . _ _ˆ« _«ˆ _«ˆ _«««ˆ _ _«ˆ _«ˆ _«ˆ 9

7

7

ทร ร้อน ใจ

ต่าง คน เกิด แล้ว

ตาย

ไป

ลม พัด โบย

โรค รุม เร่า ร้อน

แรง

โรย

ชด

ใช้ เวร กรรม จาก จร

หวน โหย อา วรณ์ อ่อน ใจ

Bb7

G D ## ‰D. œ» »œ . »œ »œ . œ» nœ.» « « « « « » œ « « « « « ‰ . nœ. » « « « » » » » » œ » « » » » » » »» »»» œ»»» l ˆ.« nˆ«« #ˆ.«« ˆ« ˙« l » »» »» ˆ.« nˆ«« #ˆ.« ««ˆ l w ========================= & =l 13

7

นิจ จัง สัง ขาร นัน้ ไม่ เทีย่ ง

เสีย่ ง บุญ - กรรม

ทุก คน เคย ทํา กรรม ไว้ ก่อน

ทํา บุญ ทํา ทาน กัน ไว้ เถิด

เกิด เป็น คน

ไว้ เตรียม ผ - จญ ชี วิต ใหม่

Gm ## Bm œ»» œ.»» œ»» »»œ. œ»» œ.»» E »»œ » . œ»» ˙»» «««ˆ.A «« «« « D » œ » ‰ . nœ. » œ œ » Œ » » » » » » » » » nˆ« #ˆ.« ««ˆ l w ========================= & =l l » » » » l » » »» 17

7

7

7

7

เชิญ

ปวง เท- ว - ดา ข้า ไหว้ วอน

ขอ พร คุม้ ไป ชี วิต หน้า

เคย

ทํา บุญ ทํา คุณ ปาง ก่อน ใด

ขอ บุญ คุม้ ไป ชี วิต หน้า

b7

b7

B »œ»»B . œ» œ»» . œ»» A ˙»» nœ»»» »»œ. »»œ »œA . bœ» ## Bm‰ . œ»» œ.»» œ»» »œ.» E »œ œ . nœ»» »»»œ ‰ . » » » » » »» »» »»œ. = » » » » » » » l » » »» »» » l l ========================= & 21

7

7

7

7

ทน ท ร - มาน มา มาก แล้ว

จะ

กราบ ลา

หนี ปวง โร คา ที่ เบียด เบียน

ทน ท ร -มาน มา มาก แล้ว

จะ

กราบ ลา

แสง เทียน บู ชา จะ ดับ พลัน

A 1. D 2. D U ## ‰D. œ» nœ.» « « « « « « ‰ . » » œ « « « « « » « « ˆ. « « « » « «ˆ« ˆ« . ˆ« ”{ «˙« nˆ« #ˆ.« «ˆ« l «˙« «j.ˆ« ========================= & =” 24

7

แสง แวว ชี แสง เทียน บู

วา เปรียบ แสง เทียน ชา ดับ ลับ ไป

-----

เปรียบ เทียน สิน้

--------------------

สงวนลิขสิทธิ ์ ตามพระราชบัญญัติ

17


CANDLE LIGHT BLUES Music : H.M. King Bhumibol Adulyadej Lyric : Assoc. Prof. Sodsai Pantoomkomol

b7

G B ««D ## 4 « « « ‰ . nˆ«« «« . « « ‰ . « « « nˆ« . ««j « « «« ««ˆ« . ˆ«« “ { ˙« « l ========================= & 4 «_««ˆ _««ˆ« . ««ˆ l « ˆ« ««ˆ . ˆ«« b_ˆ«««« . = ˆ« ««ˆ l _««˙ ˆ« _ _ _ˆ««« 7

The can- dle

light

is shin ing low,

My on - ly love I'm miss ing you so.

b7

B ## D ‰ . « « «« Gm ‰Gm. «« « « Dm« «£ « « « ˆ« «ˆ« . nˆ«« l ««« nˆ«« «« «« ‰ . «« «« ˆ«« l n˙«« ‰ . ««ˆ« «« = ««« l «_«« ««ˆ« «ˆ« . «ˆ l b˙»»» ========================= & ˆ ˆ ˆ « « ˆ. « « ˆ. « _ _ ˆ « «ˆ _«˙ 5

7

I know I've lost

6

but still I dream of you.

b7

I'll hope and dream

till all my

A A D ## D £ £ ‰ . « « «««ˆ . _««« l _««« . nˆ«j « #ˆ.«« «««ˆ _ˆ««« _««« ˆ««« l w ========================= & b_ˆ«««« ˆ««« _««« _««« _««« n_ˆ««« . _««« l n_«««˙ . =l _ _ˆ« _«ˆ _«ˆ _«ˆ _«ˆ _ˆ« _ˆ« 9

dreams come true.

Just by the can -

7

dle light

you used to hold me tight.

b7

B G D ## ‰D. œ» œ» . »œ »œ . œ» nœ.» « « « « « « « » œ ‰ . nœ. « « « « « « « « » »» »» »» »» »» »» »»œ l ˆ.« nˆ«« #ˆ.«« «ˆ ˙« l » » »»»œ ˆ.« nˆ«« #ˆ.«« «« l ========================= & «ˆ w =l 13

This candle light re minds me

so of you;

7

By can dle light you kissed me.

A D ## ŒBm œ»» œ.»» œ»» œ.»» œ»» »»œ.E »œ . œ»» ˙»» ‰Gm. œ» nœ.» « « » »» »» »» »» l »» »» »»œ »» » l »» »» »»»œ ««ˆ. nˆ«« #ˆ.««« ˆ««« l w ========================= & =l 17

7

7

Still

7

the can dle's burning for

two,

b7

7

But dar ling where can you be?

b7

B A ## ‰Bm. œ»» œ.»» »»œ œ.»»E »»œ » . nœ»»» B »œ» . œ» . œ»» A ˙»» nœ » œ. » œ » » »»»œ ‰. » »œ . bœ » » » »» »» »œ » l »» œ»» »»» »» » ========================= & l » » »» »» »»» »»œ. = » l 21

7

7

Come back, my love, if you're feel -

7

ing this

blue.

A D U ## ‰D. œ» nœ.» « « « « « « » œ » « ˆ. » « « « « « » » »» nˆ« #ˆ.« ˆ«« l «˙« «j.ˆ« ================= & ” 24

7

By can dle light you'll meet me.

7

But dar ling where can you be?

(All Rights Reserved)

สรุปเนื้อร้องไทย: หลักสัจธรรม “ชีวิตไม่เที่ยง” สรุปเนื้อร้องอังกฤษ: เรื่องของความรักระหว่างหญิงและชาย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ประชาชนคนไทยไม่คุ้นเคยกับส�ำเนียงเสียงท�ำนองเพลงแบบ Blues ที่ก่อก�ำเนิดมาจากประเทศ สหรัฐอเมริกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้ส�ำเนียงเสียงแบบนี้กับเพลงแสงเทียน โดยมีในหลวง

18


อานันทมหิดล พระเชษฐาธิราช ให้ค�ำแนะน�ำ ด้วยว่าทั้ง ๒ พระองค์ทรงมีความรู้เกี่ยวกับเพลง Blues ล�้ำยุคสมัยในช่วงนั้น จาก โน้ตเพลงแสงเทียนด้านล่าง โน้ตที่วงกลมไว้คือเสียง Blues (จังหวะตก - strong beat เป็น Blues แท้ ส่วนจังหวะยก - weak beat เป็น Blues เสริม)

พ.ศ. ๒๕๑๐ วงดนตรีศรีกรุงบรรเลงบันทึกเสียงเพลงนี้ในลีลาจังหวะ slow latin ซึ่งฟังแปลกออกไปจากเดิมๆ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ทรงมีรับสั่งให้ปรับบันไดเสียงจากเดิม D major ขึ้นเป็น Eb major พร้อมทั้งแก้ไขแนวทาง chord ใน บางจุด (อ้างจากหนังสือ “เลิศล�้ำค�ำกรอง ท�ำนองแห่งแผ่นดิน” โดย ผศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์)

19


เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ ๒

ยามเย็น (Love at Sundown)

ยามเย็น ทํานอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชฯ คําร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิร ิ

F C+ F «« . «« «« « «Bb «« « . œ » œ 4 » ˙»» ˙»» œ.»»» œ»»» »» »» «ˆ ˆ« ˆ.«« ˆ«« b˙«« «ˆ« b ˙« =l 4 «l » ========================= & “{ » l » 7

แดด

รอน

รอน

รอน

รอน

เมื่อ

ทิ - น กร จะ

-

ลับ

เหลีย่ ม เม

หมู่ มวล ภ - มร บิน ลอย

ล่อง ตาม

ฆา ลม

««« «« «« «« ««« «« «« «« «« «« « ««˙« b bˆ « . « . « « « ˆ ˙ ˙ ˆ « « « ˆ « « l «ˆ . bˆ« «ˆ . ««ˆ ««ˆ« _«««ˆ l «˙« ========================= & =l ˆ« _««ˆ l 5

C7

ทอ แสง เรือง อ - ร่าม ช่าง คลอ เคล้า พฤก ษา ชาติ ชืน่

F

งาม เชย

ตา ชม

น- ภา ส- ลับ จับ ใน ชม สม ตาม อา รมณ์ ล่อง

- พร ไป

อัม เลย

F C+ F Bb « ««ˆ« ««˙« «« ˙»» ˙»» œ.»»» »»»œ »»»œ . œ»»» ««ˆ . ˆ««« ««ˆ.« «««ˆ b˙««« b ˙« . « l » ========================= & l » l =l

9

7

แดด

รอน

รอน

เมือ่

ลา โลก

ไป

ลิว่

ลม

โชย

กลิน่ พรรณ ไม้ โปรย โรย ร่วง ห่วง

อา

ทิ - น - กร

จะ

ไกล

-

ลัย

««« «« «« «« ««« «« «« «« ««˙« ««˙« « « « « b « bˆ . . « « ˆ ˆ « « « ˆ « « l «ˆ . bˆ« «ˆ . ««ˆ ««ˆ« _«««ˆ l ˙«« ˙«« l ˙«« . ˆ««=l ========================= & ˆ« _««ˆ l ยาม นี้ จํา ต้อง พราก จาก ดวง - ใจ ไกล แสน ไกล สุด ห่วง ยอด ดวง - ตา แต่ 13

C7

F

ยาม สา ยัณห์ พลัน พราก จาก ดวง - ใจ

คอย แสง ทอง วัน ใหม่ กลับ

คืน

มา

แต่

อุ อุ -

รา รา

ต้อง ต้อง

Bb7

˙»» . œ»»» bœ»» ««ˆ« « ««« . œ»» œ»» ««ˆ« «« «« ««ˆ« œ»» œ»»» b b˙ » «ˆ«=l » » ˆ « » » l l l ========================= & ˆ« 18

F7

Am

ก่อน ก่อน

เคย เคย

คลอ คลอ

กัน กัน

เคลีย เคลีย

ทุก ทุก

วัน วัน

คืน คืน

รืน่ ชืน่

˙»» . œ»»» »»»œ œ»» . ««j ««« nœ»» œ»»» . ««j œ»» . Jœ»»» œ»» . ««j œ b » « ˆ ˆ«=l « #ˆ ˆ » « » « » l » l » ========================= & ˆ« l » » 22

E7

Am

อยู่ อยู่

เดียว เดียว

เปลีย่ ว วิญ เปลีย่ ว วิญ -

ญา ญา

เหมือน เหมือน

ดัง ดัง

Cdim

Bb7

น - ภา น - ภา

ไร้ ไร้

Gm

C7

ทิ ทิ

- น - กร - น - กร

แดด โอ้

««« «« «« «« ««˙« ˙»» ˙»» œ.»»» »»œ »»»œ . œ»»» »œ»» . œ»»» œ.»» œ» b˙««« b » » » ========================= & l l «ˆ . bˆ« «ˆ . ˆ«« ««ˆ« _«««ˆ=l »l 26

F

C+

รอน ยาม

รอน เย็น

F

หาก ทิ น กร จะ ลา โลก ไป ไกล จวบ ยาม นี้ เป็ น เว ลา สุด อา - วรณ์

ความ รัก เรา คง อยู่ คู่ ยาม ไร้ ความ ส ว่าง ห่าง

1. 2. ««C «« ««ˆ« «« . bˆ««« «« . ««« « « ««F «« « ««˙« . b « ˙« ˙« l «ˆ «ˆ ˆ« «ˆ« _«ˆ l ˙« ˙« ˙ . « l { ” ========================= & =” « 30

7

กัน

ไป

ทิน - กร

ใน หัว ใจ คง อยู่

คู่

ยาม รัก จํา จะ จร จาก

เชย

ชม

กัน

ไป

แดด

(สงวนลิขสิทธิ ์ ตามพระราชบัญญัต)ิ

20


LOVE AT SUNDOWN Music : H.M. King Bhumibol Adulyadej Lyric : Prof. Thanpuying Nopakhun Thongyai Na Ayudhya F C+ F «« . «« «« «« Bb . » œ « ««˙« œ 4 » ˙ ˙ » œ. » œ » « » » b4 »»» »» «ˆ «ˆ ««ˆ. «««ˆ b˙««« ˆ » » « » » » » » » ========================= & l l » l l 7

'Tis

sun

-

down.

The gol- den sun - light tints the blue

sea.

C F « « « « « « « « « « « « « « « « « ««˙« b ««ˆ . bˆ« ˆ«« . ««ˆ «« « «˙« «˙« l ««ˆ . bˆ« ««ˆ . ««ˆ «« « l «˙« ========================= & l ˆ« _««ˆ l ˆ« _««ˆ 5

7

Paints the hill and gilds the

palm

tree,

Hap- py be, my love, at

sun

-

Bb 7

down.

«« «« œ ˆ««« . «««ˆ «« «« «« . » œ » ˙ ˙ » œ. œ » » » » b ««˙« . » ˆ « ˆ. b˙ ˙« » » » « » « » » ˆ« l » ========================= & l » l » » l 9

F

'Tis

C+

sun

-

F

down.

The mul ti col oured danc ing sun

- beam.

C F ««« «« «« «« « ««« «« «« «« « « « «« «« «« «« « b « « ˙« l «ˆ . bˆ« ˆ« . ««ˆ «ˆ« «« l «˙« ˙ ˙« . ˆ« ˆ« l « ========================= & «ˆ . bˆ« «ˆ . ««ˆ «ˆ« _«««ˆ l ˙« l _«ˆ 13

7

Bright ly shines on in my heart's dream. Of the one I love, at

sun -

down.

The

Bb 7

˙»» . œ»»» bœ»»» œ»» œ» «« « ««ˆ« «« «« . «« ««ˆ« œ»» œ»»» b ˆ b˙ » » « « « » ˆ ˆ« l » » « ========================= & ˆ« l l l 18

F7

Am

birds come to their

nest

At peace, they bill

and

coo.

The

œ»»» œ»»» œ»» . ««j œ»» . Jœ»»» œ»» . ««j . ««j ˙» ˙»» «« #ˆ««« nœ»» œ»»» ˙»»» . b œ » ˆ « ˆ « » » » » ========================= & ˆ« l l l » l » » ˆ« l »» 22

E7

Am

wide world sinks to

rest,

Cdim

And so do I Bb 7

Gm

and so

C7

do you. 'Tis

F

C+

sun -

down.

«« «« ««« «« «« «« « ««˙« œ.»» œ»» »œ»» . œ»»» »œ»» . œ»» œ.» b b˙ ˙« l «ˆ . bˆ« ˆ« . ˆ«« «ˆ «« l ««˙« « » » » »» œ»» l ========================= & l « _«ˆ 27

F

C7

In splen dour sinks the sun, Come twi - light, Day is done, Now greets the cool

night.

«««ˆ . bˆ««« «««ˆ . ««« « «« « b «_««ˆ l ««˙« «ˆ «ˆ« ˙« ========================= & l «˙« . ” Hap py be, my love, at sun - down. 31

F

(All Rights Reserved)

เพลงนี้ ทรงใช้อัตราจังหวะแบบ 44 อยู่ในบันไดเสียง F major ลีลาท�ำนองอยู่ในรูปแบบของเพลงสมัยนิยมยุคนั้น คือ ๔ ท่อน ท่อนที่ ๑ ท่อนที่ ๒ และท่อนที่ ๔ เหมือนกัน ส่วนท่อนที่ ๓ มีลีลาที่ต่างออกไป (song form - AABA) เนื้อร้องของทั้ง ๒ ภาษา ความหมายโดยรวมเป็นเรื่องของความรัก เปรียบเทียบกับธรรมชาติ ในการบันทึกเสียงเพลงยามเย็นครั้งแรกโดยวง ดนตรีสุนทราภรณ์ ขับร้องโดย ชวลี ช่วงวิทย์ ท�ำนองท่อนที่ ๓ (ท่อนแยก) จะไม่เหมือนกับที่เราท่านได้รับฟังกันอยู่ในปัจจุบัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ (ผู้เขียนแกะจากไฟล์เสียงที่ ศ.นพ.พูนพิศ อมาตยกุล กรุณาส�ำเนาจากแผ่นครั่งต้นฉบับ)

21


44 « « ««ˆ« œ»» œ»»» ˙»»» . ‰ bœ»J»» œ»»» œ»» ««ˆ« «ˆ« «« ‰ « b « « ˆ j « » « l ˙« . «j ======================== & l ˆ« l l » #ˆ= « l แต่

ก่อน เคย คลอ เคลีย

กัน

ทุก

วัน

ไร้

ทิ

คืน รืน่

อุ

รา

ต้อง

œ» ˙» . ‰ Jœ»»» œ»» . Jœ»»» œ»» . Jœ»» ««ˆ« . Jœ»» «ˆ«« . ««j ˙»» « « ˆ« l ˙»»» » =l ======================== & b «ˆ« #ˆ«« nœ»»» »» l »» l» » » l » อยู่ เดียว เปลีย่ ว วิญ

ญา

เหมือน ดัง

น ภา

น กร

แดด รอน

รอน

ต่อมาจึงทรงพระกรุณาแก้ไขให้เป็นแบบที่ได้ยินกันในทุกวันนี้ นอกจากนั้น แนวท�ำนองของพระองค์ท่านทรงก�ำหนดให้ เคลื่อนที่แบบ jazz (รวมถึงเพลงแสงเทียน) ตัวอย่างต่อไปแสดงถึงแนวท�ำนองดังกล่าวที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม และเสียงที่วงกลม ไว้นั้นเป็นเสียง Blues

ความหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติส�ำนวนดนตรี jazz - swing ที่นิยมเขียนกันเป็นดังตัวอย่างด้านล่าง

เราจะได้เห็นแนวท�ำนองแบบ jazz - swing ในบทเพลงของพระองค์ท่านอีกหลายต่อหลายเพลง

22


เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ ๓

สายฝน (Falling Rain)

เพลงนี้ทรงพระราชนิพนธ์ในลีลาจังหวะ Waltz 34 ต้นฉบับพิมพ์ออกเผยแพร่ยุคแรกอยู่ในบันไดเสียง Ab major บันทึกเป็น โน้ตส�ำหรับเปียโน (Piano score) หลังปี พ.ศ. ๒๕๔๐ จึงมีการพิมพ์ออกมาเป็นโน้ตบรรทัดเดียว (Lead sheet)

สายฝน Ab

Abdim

ทํานอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชฯ คําร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

Bb7

Eb7

bb3 « ««˙« «« ««ˆ ««ˆ ««ˆ « b b 4 « « « « ========================== & ˙« l l ˙« l «˙« . =l เมื่อ สาด

Ab

ลม เป็ น

ฝน สาย

Cm7

F7

บน พราย

ฟ้า พลิว้

กิง่ ร่าม

Bb7

มา ทิว

E b7

ลิว่ ทุ่ง

bbb ««˙« ˙» « ««ˆ« œ»» ˙»» ˙. b l »» l «ˆ« l »»» ========================== & =l » » 5

ต้น แดด

ไม้ ทอ

พลิว้ รุง้

ลู่ อ

เหมือน รุง้

จะ เลื่อม

เอน ลาย

ราก พร่าง

เหล่า เมื่อ

ไม้ ฝน

Eb7

Bb

-

ใบ ตา

E b7

Eb7sus4

Ab

bbb ˙»» ««ˆ« «« «« « ««ˆ« ˙ b » » ˆ ˙ « » « l » l l «˙« . ========================== & =l 9

b

b7

คลอน พราย

ถอน น

b7

-

ไป ภา

Bm E œ»»E œ»» nœDdim bb b ˙»» . ˙»» . ˙ œ » » » » » » » b » » » » » ========================== & =l l l l » 13

7

แต่ ยาม

b

ยิง่ มา

b

กลับ แต่

งาม ไกล

b

b7

C Fm D A E F bb b ˙»A ˙ » « « « œ » » œ œ»» » « œ»» Jœ»» »» »» «ˆ« l «˙« . » =l ========================== & b »» l » l ˙»»» » l ˆ« . » 17

7

พระ พระ

b

พรหม พรหม

ท่าน ช่วย

บัน ดาล ให้ อํา นวย ให้

b

ฝน ชื่น

7

หลัง่ ฉํ่า

b7

b

ทิพย์ ฝน

สาด หลัง่

เพือ่ เพือ่

b

ประ จะ

A E A A dim bb b b B»»œ m. Jœ»» œ»»»Ddim œ»»» œ»» œ» ˙»» . « « « ««ˆ« « œ»» » «ˆ« l ˙« » ========================== & =l l » l » »» » l «˙« 22

ทัง นํา

B b7

7

ชี - วิต มิ ดับ ความ ร้อน Eb7

ทราม ใจ

Bbm7

นํ้า นํ้า

Bbm7

E b7

Ab

เป็ น ลง

สาย มา

พราย จาก

bb « «« œ» « « ««˙« . œ»» ««ˆ« « ˙ ˆ« l » l »» «ˆ« . «j l «˙« . l »»» l ˙« . =” ========================== & b b «˙« 27

พลิว้ ฟ้า

ทิว แดน

งาม ไกล

ทั ่ว พืช

F7

เขตต์ พรรณ

คาม ชุม่ ไม้ ชืน่

ธา - รา ยืน ยง

(สงวนลิขสิทธิ ์ ตามพระราชบัญญัต)ิ

23


FALLING RAIN Music : H.M. King Bhumibol Adulyadej Lyric : Prof. Thanpuying Nopakhun Thongyai Na Ayudhya

««˙ «« ««˙« ««ˆ« ««ˆ« ««ˆ« «« . b b b b 43 «« œ»» « ˙ « ======================== & l l ˙« l l l ˙« l » =l Rain Bright

winds the

sweep a - cross rain - bow comes

the in

plain. view.

Thun All

der the

˙»» b b ˙» «« . ««ˆ« «« ˙»» ««ˆ« ˙ b » b » » ˆ« l ˙»»» » » l ˆ« » l » l l ========================= & 6

rum world's

bles cool

on and

high. clean.

Light - ning An - gels'

flash tears

es; the

-œ» - ˙»» . ˙»» . bb b b «« ««ˆ ˙ œ » » »» œ»»» nœ»»» « » » « » ˙ » » « « . l ˙« l l l l » l ========================= & 11

Bows flowers

the re

grain. - new.

Birds in Na - ture

fright nest -ward glis - tens in

fly. green.

. Jœ»» œ»»» œ»»» b b b ˙» «« «« . ««ˆ« . Jœ» œ»» œ»» ˙»»» œ » œ » ˙ œ b » » » » » ˆ« l ˙« »» l »» » » l » l » » » ========================= & l »» l 17

But Rain

the beads

rain pours down in bless spar - kle in your hair,

ing. love.

Filled with Rain - bows

chee ourhearts ex glit ter when you

b b b ˙»» . œ»» -œ» -œ» «« ««˙« «« ««˙« «« b « » » » » « ˆ« l ˆ« l ««˙« . ========================= & l » » l l ˙« ˆ« l l 23

- pand. smile.

As the Thus we

woods soon

with notes for - get

of the

plea - sure ring, clouds a - bove.

«« «« b b b ˙» œ»» «« ««j œ»» b ˙ . « ˆ » « » ˆ« . » l l ˙« . ” l ========================= & » 29

Sun Beau

-

light ty

streams so

o'er does

the be -

land. guile.

All Rights reserved

เนื้อร้องเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน และ Falling Rain มีเนื้อหาโดยรวมพ้องตรงกัน พรรณนาถึงธรรมชาติของสายฝนที่ ให้ความชุ่มฉ�่ำแก่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกนี้ โดยเฉพาะพืชพรรณไม้นานาพันธุ์ที่ไม่สามารถสร้างสิ่งก่อก�ำเนิดน�้ำได้ ต้องรอฝนจาก ฟ้าเท่านั้น ในยุคแรกของการบันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ ได้มีการน�ำเพลงนี้มาเรียบเรียงเสียงประสานในลีลาของ jazz แบบ swing ซึ่งแตกต่างออกไปจากแนวเดิมของพระองค์ท่านโดยสิ้นเชิง ดนตรีบรรเลงโดยวงสุนทราภรณ์ ขับร้องโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี มีการปรับเปลี่ยนอัตราโน้ตเป็นแบบ 44 ดังตัวอย่างต่อไป

24


iq = qK e q = 140

     

 

เมื่อ

ลม

ฝน

 

บน

ฟา

  

มา

ลิ่ว



 

ตน

ไม พลิ้ว

     ลู

กิ่ง

ใบ

9

อย่างไรก็ตามบทเพลงสายฝนในลี ้งกับลีลาเดิ มๆ (Medium Waltz) ของ  ลา jazz  - swing  ไม่เป็นที่นิยมผู้ฟังยังคงซาบซึ    เพลงนี้จวบจนปัจจุบัน 18

  

27

   

36

   

45

  

54

   

63

  

72

  

81

  

90

  

95

  

 

แนวท�ำนองเพลงนี้องค์ผู้ประพันธ์ทรงใช้กลุ่มเสียงแบบเรียงล�ำดับเต็ม (diatonic) ของบันไดเสียง Ab major เป็นหลัก มี เสียงนอกคอร์ดเพียงเสียงเดียวในวงกลมด้านบน อาจเป็นสาเหตุหนึง่ ทีท่ ำ� ให้ปวงชนชาวไทยรูจ้ กั และประทับใจเพลงนีก้ นั อย่างกว้าง ขวาง ด้วยว่าหูคนไทยเราคุน้ เคยกับระบบเสียงเต็มทีไ่ ด้ยนิ กันมาเป็นเวลาช้านานผ่านบทเพลงไทยแต่ดงั้ เดิม การบรรเลงหรือขับร้อง ห้องเพลงที่ ๑๙-๒๐ ต้องให้ตรงส่วนโน้ตต้นฉบับของพระองค์ท่าน นักดนตรีหรือนักร้องบางคนเผลอบรรเลงหรือขับร้องตาม ตัวอย่างด้านล่าง (ส่วนโน้ตไม่ตรงตามต้นฉบับ)

การบรรเลงเพลงนี้เพื่อขับร้องนิยมใช้บันไดเสียง F major ซึ่งช่วงเสียงของท�ำนองไม่สูงหรือต�่ำเกินไป

25


เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ ๔

ใกล้รุ่ง (Near Dawn) ใกล้รงุ่

ทํานอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชฯ คําร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิร ิ

b7

b

F D D+ F F F Cm D « « « « « « « « « « « » œ 4 « « » œ « « « « « » ˙ » œ « « » b œ»»» l »» œ»»»» œ»»»» = ======================== & 4 œ»»» »» » “ { «ˆ ««ˆ ««ˆ ««ˆ #ˆ«« ˆ« l ˙« ˆ« ««ˆ ˆ«« ˆ« l »»

ได้ ยิน เสียง

6

แว่ว ดัง แผ่ว มา แต่ ไกล

ไกล

7

ชุ่ม ชีน่ ฤ - ทัย

หวาน ใด จะ

b ««˙« «««ˆ« ˆ««« ˆ«« ˆ««« l ««˙« ««ˆ« «««« ««« «« l ««˙« ««ˆ« ««ˆ« ««ˆ «««ˆ l ««˙« ««ˆ« ««« ««« ««« l ======================== & _ˆ« «ˆ _««ˆ _«ˆ «ˆ = _«ˆ 5

C7

Gm

ปาน

C7

Gm

ฟงั เสียง บรร - เลง

F

ขับ เพลง ประ - สาน

F6

C7

จาก ทิพย์ วิ - มาน

ประ ทาน กล่อม

F Gm ««« «««ˆ ««««ˆ ˙»»F œ»F . Jœ «F F œ»» œ» œ» «F Cm D »œ œ « « « » » « « « »»» »» ˙« œ»» »» »» »»œ «˙« «««ˆ «««ˆ« ««« «««ˆ b » » » « « ˆ ˙ » œ » « « » » « ˆ » ˙ » « ======================== & l l l » » » » l «ˆ =l 9

6

ใจ

6

ใกล้ ยาม เมือ่ แสง ทอง

ส่อง

7

ฉัน คอย มอง จ้อง

ฟ้า เรือง รํา

ไร

ลม โบก โบย

«« « « «« «« ˆ«« «« «« «« «« « « « « «« «« «« ««˙« ««j ˆ« «j «˙« b « ˆ « ˆ ˆ« ˆ« ˆ« l ˙« ˆ« «« ««ˆ «« l «˙« «ˆ« ˆ«« ˆ« bˆ= « l ======================== & l « _«ˆ _ « ˆ มา หนาว ใจ รอ ช้า เพียง ไร ตะ วัน จะ มา เพลิด เพลิน ฤ 14

Gm

C7

C7

F

F

«« . «« «« ««« «««ˆ ˆ««« ««˙« ««ˆ« ««« ««« bˆ««« «« . «« «« «« «« «« «« ««ˆ« ««ˆ« ‰ b ˆ ˆ ˆ « « « « ˆ« «ˆ« «ˆ j ˆ« «ˆ« «ˆ ««ˆ bˆ«« l _««˙ j ˆ« =l j «ˆ ======================== & l l 18

Fm

F

ทัย ฟงั ไก่ ประ สาน เสียง กัน

Fm

F

ดอก มะ - ลิ - วัลย์

อวล กลิน่ ระ คน มณ - ฑา

โอ้ ใน ยาม

b7 b

œ»»F . Jœ» ««ˆC «« «« ˆ««« ««F Jœ» ««ˆ C «« «« «« «F «« «« ««ˆ« ««ˆ« ««F «« «« « D« ««D + œ » ‰ J œ ˙ » » ˆ« ˆ«« l ˆ« . »» «ˆ ˆ«« ˆ« l «˙« «ˆ« ˆ« ˆ« l ======================== & b »» »» »» l » »» l ˆ« ˆ«« ˆ«« ˆ«« #ˆ«« = 22

F6

F

7

7

นี้ เพลิน หนัก หนา แสง ทอง นวล ผ่อง น -ภา แสน เพลิน อุ รา สํา - ราญ หมู่ มวล วิ - หค บิน ผก มา แต่ รัง

«« «« «« ««« «« ˙» »»»œ »»œ »œ ««˙ ««ˆ« «««ˆ ˆ«« ˆ««« ««˙ ««ˆ« ««« «« « » œ b « ˆ ˆ » » « ˙ « « ˆ « » » » »» l « «ˆ ======================== & l » l « _ˆ«« ˆ«« = _ˆ««« l 27

F

F6

F Cm

เฝ้า เชย ชิด

นอน

ช้อน

D7

Gm

ลิม้ ชม บัว

บาน

C7

C7

Gm

ยิน เสียง บรร เลง

ดัง เพลง ขับ

F F C F F « « « « « « « œ » « « « « « ˆ « « ‰ » œ « « « « « «ˆ l «˙« «ˆ« ««« ˆ««« «« l «˙« ˆ« »» »» ”{ «˙« ‰ j ======================== & b ˙« ˆ« «ˆ =” _ˆ« _ˆ« 31

6

ขาน

สอด คล้อง กัง

1.

7

วาน

ซาบ ซ่าน จับ

2.

ใจ

(สงวนลิขสิทธิ ์ ตามพระราชบัญญัต)ิ

26

ได้ ยิน เสียง

ใจ


NEAR DAWN Music : H.M. King Bhumibol adulyadej Lyric : Prof. Thanpuying Nopakhun Thongyai Na ayudhya Db7

Db +

44 ««j œ»»» œ»»» ˆ««« «««ˆ ««« «««ˆ #ˆ««« ««ˆ« ««˙« ««ˆ« ««« ««««ˆ ˆ««« ˙»» œ»»» œ»»» »»»œ »»œ b ˆ « ˆ« «ˆ ========================= & =l l l l» F

F6

F

How calm the world, All na ture slum ber

still.

F

Gray is the

Cm

sky,

D7

No bree zes

«« ««« ˆ«««« ˆ««« ˆ«««« «« ««« «« ««« «« ««˙« «««ˆ« ˆ«««« ˆ««« ˆ«««« «« «« «« «« « b « ˙« ˆ« l ˙« ˆ« _««ˆ« ««ˆ _«««ˆ l l ˙« ˆ« _««ˆ« ˆ«« = ========================= & _ˆ«« l 5

Gm

blow.

C7

C7

Gm

O'er roof and

hill,

F6

F

The moon now

low

C7

Sends gen - tle

light

To guard be -

F F ««« ««« ˙»F « « . Jœ» ««F F œ»»» »»œ »œ ««F Cm D »»œ »»œ » « « ˆ » » œ « « ˆ « « b » » œ»»» »» »» = œ»» l »» l ˙« œ»»» »» »» »»» l ˙« » ˙«« ˆ«« ˆ« ========================= & l » » 9

6

low.

Cocks wak - ing

call

'Cross

6

the

fields:

7

Gray sha dows

flee;

Stars dis ap

«« «« ««« ««« ˆ««« ««« « « « « ««˙« «« ««« «« «« «« ««j œ » b « ˆ ˆ« l ˙« ˆ« «ˆ «ˆ l «˙« «ˆ« ««« «« = « » « ˆ « ˙ «ˆ ««ˆ «ˆ l » j ========================= & _«ˆ «ˆ _«««ˆ l 13

Gm

C7

Gm

pear.

But, here I

lie

C7

F

sleep less ------ dear

Bats flut - ter

home,

The dawn is

««« ««« ˆ««« ˆ««« ««˙ ««ˆ« «« ««« bˆ«« «« « «« « « « ««˙« ««ˆ« ««ˆ« ˆ««« bˆ««« ««ˆ« . ««j b «ˆ« ˆ« « l ˆ« . «j ˆ« «ˆ« ˆ«« ˆ« ˆ«« ««ˆ «««ˆ = ========================= & l l« bˆ««« l 17

F

Fm

near.

F

Fm

Gold streaks the east. Its glow, the roofs re - flect,

Dark leaves turn green And flow'rs with light, are

«« «« «««ˆ ˙»» œ»» ‰ Jœ»» œ»»» . Jœ»» «««ˆ ˆ«««« «««« «««ˆ ««ˆ« . Jœ»» «ˆ« «««ˆ ««« «««ˆ ‰ b « » » «ˆ «ˆ =l ˆ« ˆ« l » » j » l ========================= & l _««˙ 21

F

deck'd.

F

F6

Now birds and babes wake

C7

F

F

C7

to play. The world ex pec tant waits. To greet a bright new

b7

b

««« ««« ˆ««« «««ˆ ««F «« «« « «D ««D + ««F ««F «« «« «« F˙» Cm Dœ» œ» œ» « « « »» »»» »» = œ»»» l ========================= & b «˙« «ˆ« ˆ« l ˆ« ˆ«« ˆ«« ˆ« #ˆ« ˆ« l ˙« ˆ« «ˆ« ««ˆ ˆ« l »» 25

F

day.

Dew fresh and cool the town a wakes from

6

sleep!

7

Its throb I

hear:

Car, speeding,

«« ««« «««ˆ «««ˆ ««««ˆ «« «« «« «« « ««˙ ««ˆ« ««ˆ« ˆ««« ˆ«««« «« «« «« «« « « ‰ b ˙« ˆ« l ˙« ˆ« _««ˆ« ˆ«« _«««ˆ l « l ˙« ˆ« _«««ˆ ««ˆ _«««ˆ l «˙« =” ========================= & 29

Gm

hum.

C7

Gm

Of love and

C7

F

hope, The birds sing, dear

F6

C7

Come, rise don't mope,

F

The dawn is near.

(All Rights Reserved)

เพลงนี้บันทึกอยู่ในบันไดเสียง F major เนื้อร้องทั้งแบบไทยและอังกฤษมีเนื้อหาโดยรวมคล้ายคลึงกัน เป็นการพรรณนา ถึงธรรมชาติยามเช้าก่อนแสงทิวาจะมาเยือน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เพลงนี้มีการเรียบเรียงเสียงประสานในลีลาที่แปลกออกไปจาก เดิมๆ โดยวงดนตรีศรีกรุง ซึ่งท�ำเป็นจังหวะ Latin - Cha Cha Cha เป็นที่นิยมน�ำมาบรรเลงกันอยู่บ่อยครั้งจนปัจจุบัน ทั้งเป็น แรงบันดาลใจให้นักเรียบเรียงฯ รุ่นต่อๆ มามีความกล้าที่จะแหวกขนบเดิมๆ สร้างความร่วมสมัยให้แก่บทเพลงของพระองค์ท่าน ตัวอย่างต่อไปคือการสร้างความสดใสให้กับเพลง “ใกล้รุ่ง” ที่กล่าวมาแล้ว

27


q = 120 cha cha cha q = 120 cha cha cha

7

                                              



16



25



34



43



52



61



70



79



88



94



 

จากโน้ตเพลง “ใกล้รุ่ง” ด้านบนนี้ แบ่งออกเป็น ๔ ท่อน ท่อนแรกเริ่มจากห้องเพลงที่ ๒ ตรงค�ำร้อง “แว่ว” (ส่วนโน้ต ๓ เสียงก่อนหน้า ตรงค�ำร้อง “ได้-ยิน-เสียง” ถือเป็นจังหวะยก - pickup note) ไปถึงห้องเพลงที่ ๙ ท่อนที่ ๒ เริ่มจากห้องเพลง ที่ ๑๐ ตรงค�ำร้อง “แสง” ไปถึงห้องเพลงที่ ๑๗ ท่อนที่ ๓ เริ่มจากห้องเพลงที่ ๑๘ ตรงค�ำร้อง “ทัย” ไปถึงห้องเพลงที่ ๒๕ ท่อน ที่ ๔ เริ่มจากห้องเพลงที่ ๒๖ ตรงค�ำร้อง “หค” ไปถึงห้องเพลงที่ ๓๓ (ประทุน ๑ หรือ ๒) ในมุมมองแบบดนตรีวชิ าการนิดๆ พบว่า ท่อนที่ ๑ และท่อน ๔ แนวท�ำนองเป็นแบบตะวันตกด้วยเสียงโน้ตทีว่ งกลมไว้ (G#) เป็นต้นเหตุ ท่อนที่ ๒ ใช้กลุ่มเสียงเพียง ๕ ตัวเท่านั้น (ปัญจเสียง - pentatonic) ท่อนนี้น่าจะฟังติดหูคนไทยได้ง่าย ส่วนท่อนที่ ๓ มีเสียง “Blues” ติดมานิดหนึ่ง (โน้ต Ab ในวงกลม) จะเห็นว่า พระองค์ท่านทรงมีพระอัจฉริยภาพในการสร้างงานเพลง (ทรง มีลูกเล่น) ให้ปวงประชาทั้งหลายได้เข้าถึงส�ำเนียงเพลงตะวันตกผ่านทางส�ำเนียงไทยที่คุ้นเคยกันมานมนาน

28


เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ ๕

ชะตาชีวิต (H.M. Blues)

เพลงนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระราชนิพนธ์ท�ำนองในแบบเพลงบลูส์ ๑๒ ห้อง (12-bar Blues) ที่ก�ำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากในประเทศตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา เจ้าต�ำรับในสมัยนั้น (พ.ศ. ๒๔๙๐ / ค.ศ. ๑๙๔๗) ทรงบันทึกลงบันไดเสียง C major with blues notes ดังตัวอย่าง (ในวงกลมคือเสียง Blues)

ชะตาชีวติ ทํานอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชฯ คําร้อง : ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร

««« ««ˆ« œ.» »œ bˆ««« . «« «« « 44 ‰ . Kœ»» œ.»» œ»» bˆ««« . «««ˆ «««ˆ . ««ˆ w ˆ« «ˆ . = »» »» «l » » » ======================= & l «ˆ . #ˆ««« l C

นก น้อย คล้อย บิน มา เดียว ดาย

คิด คิด

มิ วาย กัง วล ให้

F bœ.»» »»œ œ»» . œ»» «« «««ˆ »œ» . bœ»»» ˙»» «««C ˆ««« ««ˆ.« bˆ«««« ˙» œ » » œ. » œ » » =l »» » l »» »» » » » » » l ˆ.« ======================= & ˆ« . « 4

7

หม่น

ฤ - ทัย

หมอง

ขาด มวล มิตร ไร้ คน ส - นิท

คู่

เคียง ครอง

œ.»» œ»» œ.» œ»» bˆ««« . «« «« «« ««G. «« ««ˆ.« «« bˆ««« . ˆ«« «« . «« ˆ » » . « « «ˆ = «ˆ ˆ« l w «ˆ » » » «ˆ l l «ˆ ˆ« ======================= & 7

7

C

หลง ใหล หมาย ปอง คน ปรา - นี

ขาด

b G7( 9)

เรือน แหล่ง พัก พํา นัก นอน

« « «« « «« « « « « «« « « « ======================= & ˆ.«« ˆ«« ˆ« . ˆ«« bˆ.« ˆ«« ˆ.«« ˆ««« l ««ˆ . «««ˆ ««ˆ. #ˆ«« «ˆ . ««ˆ bˆ«« . «««ˆ l _w =l 10

F

C

ขาด ญาติ บิ - ดร และ น้อง พี่

G+

บาป กรรม คง มี

G7

C

จํา ทน ระ - ทม

C ««« «««ˆ« œ.» œ» bˆ««« . «« «« « ‰ . Kœ»» œ.»» »»»œ bˆ««« . ˆ««« «««ˆ . «««ˆ w »» »» «ˆ «ˆ . = » » l l «ˆ . ======================= & #ˆ««« l 13

ท้อง ฟ้า สา -ยัณห์ ตะ - วัน

เลือน

แสง ลับ นับ วัน จะ เตือน ให้

»œ »»»œ . bœ»»» ˙»»» œ» œ.» œ» bœ.»» œ»» œ» . œ» ««« . «««ˆ ««ˆ.« bˆ««« ˙»»» l »» »» »» » »» »» »» l œ.»»» »» ======================= & ˆ =l 16

C7

ใจ

F

ต้อง

ขืน่

หาก เย็น ลง ฟ้า คง ยิง่ มืด ยิง่

ขม

ตรอม

ตรม

จวบ จันทร์ แจ่ม ฟ้า

น - ภา

»»»œ. »»œ œ.»» œ»» bˆ««« . ««ˆ «« «« ««G. «« ««ˆ.« «« bˆ««« . ««ˆ ««« . ««« . « « «ˆ = «ˆ ˆ« l w ˆ« » » » «ˆ l l «ˆ ˆ« ======================= & 19

7

C

ชี วิต ระ - ทม เพราะ รอ

มา

ผ่อง

« « «« « «« « « « « «« « « « « ======================= & ˆ.«« ««ˆ «ˆ . ««ˆ bˆ.« ˆ«« ˆ.«« ˆ««« l ««ˆ . ˆ««« «ˆ.« #ˆ«« ˆ« . ˆ«« bˆ«« . ˆ««« l _w =” 22

F

G7(b9)

C

เฝ้า มอง ให้ เดือน ชุบ วิญ - ญา

G+

สัก วัน

(สงวนลิขสิทธิ ์ ตามพระราชบัญญัต)ิ

บุญ มา

C

ชะ - ตา คง

G7

ดี

29


H.M. BLUES H.M. BLUES

Music : H.M. King Bhumibol Adulyadej lyric : H.H. Prince Chakrabandh Pensiri Music : H.M. King Bhumibol Adulyadej lyric : H.H. Prince Chakrabandh Pensiri

««« ««ˆ« œ.» œ» bˆ««« . «« «« « 44 ‰ . Kœ»» œ.»» œ»» bˆ««« . ˆ««« «««ˆ . «««ˆ w ˆ« «ˆ . #ˆ«« l » » » ========================= & l l «ˆ . »» »» « We've You'll be« hun gry too, if C got the Hun gry Men's Blues. ««« «ˆ« œ.» œ» bˆ««« . «« «« « 44 ‰ . Kœ»» œ.»» œ»» bˆ««« . ˆ««« ˆ««« . ˆ««« w ˆ« «ˆ . #ˆ««« l » » » ========================= & l l «ˆ . »» »» 4 C F We've got the Hun gry Men's Blues. «« be«««ˆ »œ»hun. bœgry œ»» »œ» . »œ You'll »» ˙»» too, if bœ. » » œ » œ. » «« . ˆ««« ««ˆ.« bˆ««« ˙»» » œ » » » » ========================= & ˆ« l »» »» » » » » »» l ˆ.« l » 4 you're in this band. Don't you think that our mu sic is « grand? C F »»»œ bœ.»» œ»» »œ»» . »»œ ˆ.««« ««ˆ œ»»» . bœ»» ˙»»» ««« «««ˆ. bˆ««« ˙»» » œ. « œ » » « ˆ » » » » » l ========================= & C ˆ« . l » » l » 7 G you're in this band. Don't you think that our mu sic is grand? œ.»» œ»» œ.»» œ»» bˆ««« . «««ˆ «« . «« «« . «« ««ˆ.« «« bˆ««« . ˆ««« «« . «« ˆ « ˆ « w «ˆ «ˆ «ˆ l » » » » l l «ˆ «ˆ ========================= & C

7

7

7

œ.»»» »»œ œ.»» œ»» bˆ««« . «««ˆ «« . «« «« . «« ««ˆ.« «« bˆ««« . ˆ««« «« . «« « ˆ ˆ « w «ˆ «ˆ «ˆ l » » » b l l «ˆ «ˆ ========================= & 10 F G C G+ C G We've got the Hun gry Men's Blues. You've ea - ten now all of you «« «« «««ˆ . «« bˆ.««« «««ˆ «« «« «« «« «« «« «««ˆ . «««ˆ «« « ˆ« ˆ.« «ˆ l «ˆ . «ˆ ˆ.« #ˆ« ========================= & «ˆ. «ˆ bˆ« . ««ˆ l _w ” 10 We'dF like to eat withG byou too, That's why We've got the H. M. Blues. C G+ C G «««ˆ. «««ˆ «««ˆ . ˆ«« bˆ.««« «««ˆ ««ˆ.« «« «« . «« ««ˆ.« #ˆ««« ˆ««« . «««ˆ «« . «« « ========================= & bˆ« «ˆ l _w ” «ˆ l «ˆ «ˆ 7

We'veC got the Hun gry Men's Blues.

You've G7 ea - ten now all of

7( 9)

you

7

7( 9)

7

We'd like to eat with you too,

That's why We've got the H. M.

Blues.

(All Rights Reserved)

ความหมายโดยรวมของเนื้อเพลง นี้ ทัง้ ๒ ภาษาไปกันคนละเรือ่ ง ภาคไทย กล่าวถึงชีวติ คนโชคร้ายเปรียบเทียบกับนก ทีร่ ะหกระเหินไปไร้รงั นอน ขาดผูอ้ ปุ ถัมภ์ เลีย้ งดู ส่วนภาคอังกฤษบรรยายถึงเหล่า นักดนตรีบรรเลงอยูใ่ นวง มองดูผฟู้ งั ก�ำลัง ดื่มกินกันอย่างสุขสราญ ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ภาพยนตร์ไทยเรือ่ ง “นกน้อย” สร้างและก�ำกับการแสดงโดย

นายดอกดิน กัญญามาลย์ น�ำแสดงโดย (All Rights Reserved) มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์ ได้รบั พระมหากรุณาธิคณ ุ พระราชทานเพลง “ชะตาชีวติ ” เพือ่ เป็นเพลงเอกในภาพยนตร์ เรื่องนี้ ตามที่นายดอกดินกราบบังคม ทูลขอพระราชทาน เสียงขับร้องในฟิล์ม เป็น “จินตนา สุขสถิต” ภาพยนตร์เรื่อง นี้ได้รับความนิยมอย่างมาก สร้างรายได้ เกิน ๑ ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงในยุคนั้น

เพลง “ชะตาชีวติ ” จึงเป็นทีร่ จู้ กั กันในอีก ชื่อหนึ่งว่า เพลง “นกน้อย” ข้อพึงสังวรส�ำหรับผูท้ มี่ หี นังสือรวม เพลงพระราชนิพนธ์ที่พิมพ์ออกเผยแพร่ ก่อน พ.ศ.๒๕๔๐ ห้องแรกของเพลงนี้ จะเป็นจังหวะยก - pickup note ดัง ตัวอย่างด้านล่าง ซึ่งไม่ถูกต้อง

ต้องแก้ไขให้เป็นไปตามโน้ตดังต่อไปนี้

สรุปคือ เพลง “ชะตาชีวติ ” และ “H.M. Blues” กลุ่มโน้ตเริ่มต้นไม่เป็นจังหวะยก (pickup note)

30


เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ ๖

ดวงใจกับความรัก

(Never Mind the Hungry Men’s Blues) เพลงนี้ลีลาท�ำนองมีความเป็น jazz swing อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยมีการโยงโน้ตเสียงเดียวกัน (syncopation) (ในกรอบ สี่เหลี่ยม) พร้อมด้วยเสียง blues (ในวงกลม) ช่วยเสริมอีกแรง แถมด้วยการเคลื่อนที่ของเสียงขึ้นและลงทีละครี่ง (chromatic) - ในวงรี ดังตัวอย่าง

31


แน่

นอน แท้ จริง คือ ดวง ใจ

ส่อง

แวว

รัก ไป ยืน

ตะ

วัน นัน้ เหมือน ดัง ดวง ใจ

หาก

สิน้ แสง ไป รัก

นาน คลาย

‰ «« ««« «««ˆ œ»»» bœ»»» »»œ »»œ œ»» . bœJ»» «««ˆ« «««ˆ ˆ«««« bˆ«««« «««ˆ« «««ˆ ˆ«««« bˆ«««« «« ˆ« . = » » l » ========================= & w l «ˆ« ˆ« l » _««j «ˆ l 28

32

A7

1.

G7

Dm

C

Dm7

G7

เปรียบ ดัง กับ แสง ตะ วัน ตระการ

ยัง คง แสง งาม สะ - คราญแสง ทอง ยืน นาน เรือ่ ย

ขาดความ รัก เหมือนชี วา วาย

จะ เป็น หรือ ตาย ทัง้

2.

C

ใจ และ กาย ไม่ วาย

=================== & =” ”{ _w _w มา

โทรม

สงวนลิขสิทธิ ์ ตามพระราชบัญญัติ

32

โศก


เนือ้ หาของค�ำร้องของบทเพลง “ดวงใจกับความรัก” และ “Never Mind the Hungry Men’s Blues” แตกต่างกันโดยสิน้ เชิง ภาคภาษาไทยพรรณนาถึงท้องฟ้ายามราตรีมีดวงดาวพร่างพรายแข่งกับแสงจากดวงจันทร์ ท่อนแยกมาเปรียบเทียบกับจิตใจคน ส่วนภาคภาษาอังกฤษว่าไปอีกแบบหนึง่ เลย เป็นการพร�ำ่ บ่นของเหล่านักดนตรีทบี่ รรเลงให้แขกนัง่ ฟังพร้อมนัง่ กินนัง่ ดืม่ อย่างสราญใจ (สืบเนื่องต่อจากเพลง “H.M. Blues”) ข้อควรระวังส�ำหรับผู้ที่จะขับร้องเพลงนี้ ต้องท�ำความเข้าใจเรื่อง Blues มาบ้าง เพราะที่ผ่านๆ มา มักจะออกเสียง Blues ตัวแรกผิดเพี้ยนไป (โน้ต Eb ตรงเสียงร้องค�ำว่า “คืน” ชอบเผลอออกเสียงเป็นโน้ต E) ข้อพึงสังวรส�ำหรับผู้ที่มีหนังสือรวมเพลง พระราชนิพนธ์ที่พิมพ์ออกเผยแพร่ก่อน พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่ห้องแรกของเพลงนี้จะเป็นจังหวะยก - pickup note ดังตัวอย่างข้างล่าง ซึ่งไม่ถูกต้อง

ต้องแก้ไขให้เป็นไปตามโน้ตดังต่อไปนี้

สรุป คือ เพลง “ดวงใจกับความรัก” และ “Never Mind the Hungry Men’s Blues” กลุม่ โน้ตเริม่ ต้นไม่เป็นจังหวะยก (pickup note) (ต่อตอนที่ ๒ ฉบับหน้า)

33


Review

ดนตรีเพื่อพ่อ ด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ วันศุกร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ อาคารภูมิพลสังคีต วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง: ธนัชญกร พงศ์ปกรณ์ฤทธิ์ (Tanatchayakorn Pongpakornrith) เจ้าหน้าที่การตลาดและประชาสัมพันธ์ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ดนตรีเป็นส่วนหนึง่ ของข้าพเจ้า จะเป็น แจ๊สหรือไม่ใช่แจ๊สก็ตาม ดนตรีล้วน อยู่ในตัวทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ใน ชีวิตคนเรา ส�ำหรับข้าพเจ้า ดนตรีคือ สิง่ ประณีตงดงามและทุกคนควรนิยม ในคุณค่าของดนตรีทกุ ประเภท เพราะว่า ดนตรีแต่ละประเภทต่างก็มคี วามเหมาะสม ตามแต่โอกาสและอารมณ์ทตี่ า่ งกันออกไป

72

ระราชด�ำรัสในพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับดนตรีแก่นักข่าวชาวอเมริกัน ใน รายการเสียงแห่งวิทยุอเมริกา เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๐๓ พระราชด�ำรัสนีแ้ สดงให้เห็นถึงความ สนพระทัยและความรักในดนตรีของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ได้อย่างถ่องแท้กับพระราชกรณียกิจทาง ด้านดนตรีต่างๆ ที่พสกนิกรชาวไทยได้ ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถและสร้าง

ความสุขให้แก่ปวงชนชาวไทยมาตลอด การครองราชย์ ๗๐ ปี อย่างร่มเย็น ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ช่วงเวลาปวด ร้าวที่สุดของประชาชนชาวไทย เมื่อได้ ทราบประกาศจากส�ำนักพระราชวังถึงการ สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช หัวใจของพสกนิกร ชาวไทยทั้งประเทศร�่ำไห้ทั้งแผ่นดิน และ เกิดค�ำถามมากมายในใจว่า เราจะท�ำ อะไรให้ในหลวงในเวลานี้ได้บ้าง เหล่า คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา จึงรวม


ตัวกันด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ เพื่อท�ำสิ่งที่รักที่สุด ถวายแด่พ่อหลวง การแสดงดนตรีเพื่อ พ่อ นั่นคือค�ำตอบเดียวที่คิดและท�ำได้ใน ฐานะข้าแผ่นดิน เช้าวันรุง่ ขึน้ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็น วันที่เหล่าคณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ร้อยรวมใจกันเป็น หนึง่ เดียวเพือ่ ถวายบทเพลงเพือ่ พ่อ “ของ ขวัญจากก้อนดิน” เพลงเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธมี หา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ จัดท�ำโดยบริษทั จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จ�ำกัด (มหาชน) แต่งโดย นิติพงษ์ ห่อนาค ต่อด้วยบทเพลง “ตาม รอยพ่อ” ประพันธ์โดย ยืนยง โอภากุล ซึง่ เป็นบทเพลงทีค่ ณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล ร่วมใจน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย โดยมีหัวหน้าสาขาวิชาการอ�ำนวยเพลง อาจารย์ธนพล เศตะพราหมณ์ เป็นผู้ ควบคุมวง อาจารย์ประจ�ำสาขาวิชาเครือ่ ง สายสากลและดนตรีเชมเบอร์ อาจารย์

ตปาลิน เจริญสุข (เชลโล) พร้อมใจกัน ร่วมท�ำสิ่งนี้ โดยมิได้มีการนัดหมายหรือ ซักซ้อมใดๆ มีเพียงแค่ค�ำพูดสั้นๆ จาก อาจารย์ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กเท่านั้น และไม่ คิดว่าพลังแห่งความจงรักภักดีจะท�ำให้ เกิดความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในวัน นัน้ ทีต่ งั้ ใจมาร่วมกันท�ำเพือ่ พ่อของปวงชน ชาวไทย จากนัน้ ต่อด้วยดนตรี “แจ๊ส” ใน แบบที่พระองค์ทรงชื่นชอบและประพันธ์ ไว้หลากหลายบทเพลง โดยคณาจารย์ และนักศึกษาสาขาวิชาดนตรีแจ๊สร่วมกัน ถ่ายทอดบทเพลงเพือ่ พ่อนีด้ ว้ ยใจ น�ำโดย รองคณบดีฝา่ ยพัฒนาสิง่ ปลูกสร้าง อาจารย์ กฤษติ์ บูรณวิทยวุฒิ (แซกโซโฟน) รอง คณบดีฝา่ ยบริการวิชาชีพ อาจารย์นพดล ถิรธราดล (ดับเบิลเบส) หัวหน้าสาขา วิชาดนตรีแจ๊ส อาจารย์ดริน พันธุมโกมล (เปียโน) และอาจารย์ประจ�ำสาขาวิชา ดนตรีแจ๊ส อาจารย์สฤษฎ ตันเป็นสุข (ทรัมเป็ต) พร้อมนักเรียนนักศึกษา ขับ กล่อมบทเพลงของพ่อตลอดช่วงสาย ของวันนั้น พลังแห่งความรัก ความภักดี ที่มี ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

ภูมิพลอดุลยเดช ได้ท�ำให้เราประจักษ์ ว่าพระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชน เพียงใด การแสดงของเหล่าคณาจารย์ และนักศึกษาในวันนั้น ได้ถูกแชร์ไปใน โลกโซเชียลมากมายอย่างไม่รจู้ บ และได้ รับความสนใจจากผู้เข้าชมมากมาย ทุก คนรักและเข้าใจในบทเพลงอย่างไม่กงั ขา และอีกมากมายที่ร่วมถวายความจงรัก ภักดีและน้อมส่งเสด็จด้วยการส่งข้อความ ผ่านเฟซบุ๊กวิทยาลัยดุริยางคศิลป์อย่าง ล้นหลาม และขอขอบพระคุณสือ่ มวลชน จากหลากหลายสาขาทีใ่ ห้ความสนใจร่วม ส่งต่อบทเพลงของพ่อ ด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ วิทยาลัยดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล

73


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.