ปที่ 20 ฉบับที่ 160 Mar.-Apr. 2023 www.medi.co.th ขอมูลสำคัญลาสุดของ Tezepelumab มี long-term safety & efficacy ในคนไข severe asthma
ปที่ 20 ฉบับที่ 160 มี.ค. – เม.ย. 2566 ¤ÍÅÑÁ¹»ÃШíÒ 7 19 32 30 4 บทบรรณาธิการ 5 สกูปปก - ขอมูลสําคัญลาสุดของ Tezepelumab มี long-term safety & efficacy ในคนไข severe asthma 7 News Update - จุฬาฯ เปดตัว EarTest แอปพลิเคชันตรวจหูดวยตัวเอง ปองกันสาเหตุโรคสมองเสื่อม 10 เจาะขาวตลาดยา - ผูปวยเบาหวาน ชนิดที่ 2 มีความหวังยาใหม Brenzavvy อางผลลดความดัน-น้ําหนักดวย - Jesduvroq ชวยโลหิตจางในผูปวยไต เพิ่มระดับฮีโมโกลบิน-ฟอกไตนอยลง 12 บทความพิเศษ - “ภัยแลง ไมใชแคความแหงแลง แตคือหายนะที่อาจคราชีวิตผูคนไดนับลาน!!! 16 เทคโนโลยีสุขภาพ 19 รายงานพิเศษ - มากาเร็ต แซงเกอร: มารดาแหงการคุมกําเนิด 22 หนึ่งโรค หนึ่งรู - โรคลิ้นหัวใจรั่ว โรคที่คนเหนื่อยเร็วตองเขาใจ - มะเร็งรังไข 25 ขอมูลสุขภาพ 29 สมุนไพรใกลตัว - ชมพู ผลไมยาที่ปรากฏในพระไตรปฎก 30 รูทันโรค 32 เกร็ดนารูเรื่องสุขภาพ 34 ปฏิทินขาว
medijournal999@gmail.com
นอกเหนือไปจากการติดตามรายงานพยากรณอากาศ และสภาพการจราจรในแตละวัน...เรียกไดวาเปนหนึ่งในภัยคุกคามรายแรงของ มวลมนุษยชาติที่นับวันยิ่งจะทวีความรายกาจ และยากที่ชาติใดชาติหนึ่งหรือภูมิภาคใด ภูมิภาคหนึ่งของโลกจะสามารถรับมือหรือเอาอยูไดตามลําพัง...
ฟารมาไทม (PHAMATIME) เปนวารสารราย 2 เดือน จัดทําเพื่อเปนสื่อกลางเผยแพรขาวสารความ คืบหนา บทความ/งานวิจัยทางวิชาการในวงการเภสัชกรรม
ตามที่อยูบริษัทหรือ ติดตอผาน Email : medicaltime@hotmail.com ทั้งน�้ ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคัดเลือก บทความที่มีความสอดคลองกับแนวคิดหลักในแตละคอลัมน ตามทันเหตุการณและประโยชนที่ไดรับตอเภสัชกร
ที่เตรียมตัวในการเปนบุคลากรทางการแพทยที่มีคุณภาพ ฟารมาไทม ยินดีรับบทความ ขาวสารและผลงานเขียนของบุคลากรทางการแพทยทุกประเภทที่เกี่ยวกับ วงการเภสัชกรรม โดยสามารถสงบทความทั้งหมดมายังกองบรรณาธิการฟารมาไทม
ทุกทาน บทความหรือขอคิดเห็นตาง ๆ ในวารสารน�้ ถือวาเปนความคิดเห็นของผูเขียนโดยเฉพาะบริษัท เมดิ แอนด เวลเนส จํากัด และกองบรรณาธาการไมจําเปนตองเห็นดวยเสมอไปทั้งน�้ กองบรรณาธิการของสงวนสิทธิ์ในการตัดทอนแกไขถอยคํา สํานวนของขอเขียน เพื่อความเหมาะสมในการเผยแพร ADVISORY BOARD รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท รศ.ดร.ภก.สุนิพนธ ภุมมางกูร ดร.ภญ.พรอมจิต ศรลัมพ ภญ.อุไร หนุนภักดี พรวิทย พัชริทรตนะกุล ภญ.ปรานี ภิญโญวัฒยากร รศ.ดร.ภญ.จุฑามณี สุทธิสีสังข ภก.ทวีศักดิ์ สีทองสุรภณา ภก.สมเกียรติ มหพันธ ภก.นิพนธ ศิริชัยพหรหม ภญ.พนิดา ปญญางาม ภก.คทา บัณฑิตานุกูล พ.อ.ภก.สมโชค แดงบรรจง ภก.ประวิทย ตันติสุวิทยกุล รศ.ดร.ภญ.เฉลิมศรี ภุมมางกูร EXECUTIVE EDITOR รักษชนม จิตระทาน ADVERTISING MANAGER จารุวัล สุริโย EDITORIAL DEPARTMENT รักษชนม จิตระทาน บร�ษัท เมดิ แอนด เวลเนส จํากัด เลขที่ 158 ซ.บางขุนนนท 29 ถ.บางขุนนนท แขวงบางขุนนนท เขตบางกอกนอย กรุงเทพฯ 10700 โทร. 0 2424 3434 แฟกซ 0 2434 3434
PRINTING หางหุนสวนจํากัด วี.เจ. พริ้นติ้ง 172 ถนนราษฎรพัฒนา แขวงบางปะกอก เขตราษฎรบูรณะ กรุงเทพฯ 10140 โทร. 063-932-1441 บทบรรณาธิการ …ปญหามลพิษทางอากาศจากฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอน (particulate matter 2.5) หรือที่เรียกกันติดปากวา ฝุน PM 2.5 กลับมาชิงพื้นที่ขาวลําดับตน ๆ ที่คนไทยหลายคนใหความสนใจติดตามกันอยูเปนระยะ ๆ อีกแลวในป 2566 นี้ เนื่องจากมีความตระหนักกันมากขึ้นวา ปญหามลพิษทางอากาศสามารถมีผลกระทบ ตอสุขภาพและคุณภาพชีวิตของทุกคนถวนหนา ปญหานี้ไมใชเรื่องไกลตัวอีกแลว... โดยเฉพาะอยางยิ่ง ปจจุบันองคการอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) พยายามรณรงคสื่อสารใหทั่วโลกตระหนักวา มลพิษทางอากาศเปนหนึ่งใน ปจจัยเสี่ยงที่สําคัญตอสุขภาพและความเจ็บปวยของมวลมนุษยชาติเชนเดียวกับ การรับประทานอาหารที่ไมถูกตองตามหลักโภชนาการ หรือการสูบบุหรี่...จากขอมูล เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศขององคการอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ที่รายงานออกมาในเดือนเมษายน ป 2565 พบวา อากาศที่ประชากรโลก เกือบทั้งหมด (99%) สูดหายใจกันอยูในปจจุบัน มีสารมลพิษตาง ๆ เชน carbon monoxide, nitrogen dioxide และรวมถึง PM 2.5 เจือปนอยูเกินคามาตรฐาน ความปลอดภัยที่ WHO กําหนด...ที่ยิ่งนาวิตกไปกวานั้นก็คือ จากขอมูลลาสุดของ WHO ที่รายงานออกมาในเดือนธันวาคม ป 2565 พบวา มลพิษทางอากาศนอกอาคาร บานเรือนหรือในพื้นที่โลงแจง (ambient air pollution) เปนสาเหตุของการเสีย ชีวิตกอนวัยอันควรของประชากรโลกจํานวนถึง 4.2 ลานคน ในป 2562 ไมวาจะ เปนจากโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง อื่น ๆ...จึงไมแปลกที่ปจจุบันการติดตามรายงานเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะ ระดับฝุน PM 2.5 จากขอมูลหนวยงานของรัฐที่เกี่ยวของ สื่อสารมวลชนชองทางตาง ๆ และรวมถึงผานทาง applications บนโทรศัพทมือถือ เชน Air4Thai, GISTDA, AirVisual, AirBKK หรือแมแต IQAir ซึ่งเปน application รายงานคุณภาพอากาศ ทั่วโลกแบบ
ไมนอยไปแลว โดยเฉพาะที่อาศัยอยูในเมืองใหญ ๆ
ปริมณฑล และเมืองใหญ ๆ ในตางจังหวัด
ทั้งระดับกลุมธุรกิจและตัวบุคคล เพื่อรักษามาตรฐาน ในการประกอบวิชาชีพของเภสัชกร รวมทั้งเปนแหลงขอมูลทางการศึกษาเพิ�มเติมทางวิชาการสําหรับนักศึกษา
E-mail :
real time ไดกลายเปนสวนหนึ่งในชีวิตประจําวันของคนไทยจํานวน
ทั้งในกรุงเทพมหานคร
ในการรักษาคนไข severe และ uncontrolled asthma
โดยสามารถลดการกําเริบของโรคหืดและมีความปลอดภัย
Andrew Menzies-Gow
(Department of Respiratory Medicine, Royal Brompton and Harefield Hospitals, School of Immunology and Microbial Sciences, King’s College London, London, United
severe, uncontrolled asthma
12-80 ป ที่มี good treatment compliance และ
5 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 สกูปปก
ยา
ขอมูลสําคัญลาสุดของ Tezepelumab แสดงใหเห็นวา
ชีววัตถุตัวนี้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว
ตอคนไขเปนอยางดีจากการใชยาชีววัตถุตัวนี้นานถึง 2 ป ขอมูลดังกลาวเปนผลลัพธของการศึกษาทางคลินิกแบบ phase 3,
study ที่ มีชื่อวา DESTINATION ซึ่งไดรับการเผยแพรผานทางเว็บไซต ของวารสาร Lancet Respiratory Medicine เมื่อวัน ที่ 23 มกราคม 2566 โดย DESTINATION ดําเนินการโดย คณะนักวิจัยภายใตการนําของ ศ.นพ.
multicentre, randomized, double-blind, placebo-controlled, long-term extension
ระหวางเดือนมกราคม ป 2562 ถึงตุลาคม ป 2563 ศ.นพ.
Menzies-Gow กลาววา DESTINATION แสดงใหเห็นวาการรักษาดวย tezepelumab เปนเวลานาน ถึง 2 ป มีความปลอดภัยเปนอยางดี และชวยใหมีการลดลง อยางตอเนื่องและเปนการลดลงที่มีนัยสําคัญทางคลินิกของ การกําเริบของโรคหืด ขณะเดียวกันก็ชวยใหมี severe asthma , lung function , asthma control และมีคุณภาพชีวิตที่สัมพันธ กับสุขภาพสําหรับคนไขที่มี severe, uncontrolled asthma โดยเฉพาะอยางยิ่ง พบวา มีอุบัติการณของผลขางเคียงที่ ไมพึงประสงคตาง ๆ ในปที่ 2 ของการศึกษาไมแตกตางจาก ผลขางเคียงไมพึงประสงคตาง ๆ ที่พบไดในปแรกของการศึกษา (subcutaneous injection) ทุก 4 สัปดาหใน NAVIGATOR และ SOURCE จะยังคงไดรับ subcutaneous 210 มิลลิกรัม ทุก 4 สัปดาหตอไป ใน DESTINATION สวนกลุมคนไข severe, uncontrolled asthma ที่เคยถูกสุมใหไดรับ placebo ทุก 4 สัปดาห ใน NAVIGATOR และ SOURCE จะถูกนํามาสุมใหม (1:1) ใหไดรับ subcutaneous 210 มิลลิกรัม ทุก 4 สัปดาห หรือไมก็ไดรับ placebo ทุก 4 สัปดาห โดยมีเปาประสงคหลัก (primary endpoint) ของ การศึกษาอยูที่อุบัติการณของผลขางเคียงไมพึงประสงคตาง ๆ สวนเปาประสงค รอง (secondary endpoint) คือ annualized asthma exacerbation rate โดยรวมแลวใน DESTINATION เปนการศึกษาในคนไข severe, uncontrolled asthma จํานวนทั้งสิ้น 1,209 คน ประกอบดวย 1,059 คน จาก NAVIGATOR trial ซึ่งแบงเปน 528 คน (mean age, 49.9 years; 63% women ไดรับ tezepelumab และ 531 คน (mean age, 49 years;
women) ไดรับ placebo และอีก 150 คน จาก SOURCE trial ซึ่งแบงเปน 74 คน (mean age, 53.5 years; 66% women) ไดรับ tezepelumab และ 76 คน (mean age, 53.4 years; 59% women) ไดรับยาหลอก ผลการศึกษาที่ 104 สัปดาห ในแง primary endpoint ของ DESTINATION พบวา ในกลุมคนไข severe, uncontrolled asthma จํานวน 528 คน ที่ไดรับ tezepelumab ใน NAVIGATOR trial แลวมาให tezepelumab ตอไปอีก มี incidence rate of adverse events อยูที่ 49.62 ตอ 100 patientyears และ 62.66 ตอ 100 patient-years สําหรับกลุมคนไข severe, uncontrolled asthma จํานวน 531 คน ที่ไดรับ placebo ใน NAVIGATOR trial แลวมาให placebo ตอไปอีก โดยมี incidence rate of serious adverse events อยูที่ 7.85 ตอ 100 patient-years สําหรับกลุมคนไขที่ไดรับ tezepelumab และ 12.45 ตอ 100 patient-years สําหรับกลุมคนไขที่ไดรับ placebo ขอมูลสําคัญลาสุดของ Tezepelumab มี long-term safety & effi cacy ในคนไข
asthma DESTINATION trial เปนสวนหนึ่งใน Phase III PATHFINDER clinical program ของ tezepelumab ซึ่ง คณะนักวิจัยไดนําเอาคนไข
อายุ
เสร็จสิ้นจาก
3 ของ tezepelumab ที่เปรียบเทียบกับ placebo คือ NAVIGATOR และ SOURCE มาศึกษาตอในระยะยาวเปนเวลา 104 สัปดาห โดยกลุมคนไข severe, uncontrolled asthma ที่เคยถูกสุม ใหไดรับ tezepelumab (210 มิลลิกรัม ฉีดเขาชั้นใตผิวหนัง ขณะที่ผลการศึกษาที่ 104 สัปดาห ในแง primary endpoint ของ คนไข severe, uncontrolled asthma จํานวน 74 คน ที่เคยไดรับ placebo ใน SOURCE trial แลวถูกสุมใหไดรับ tezepelumab ใน DESTINATION พบวา มี incidence rate of adverse events อยูที่ 47.15 ตอ 100 patient-years และ 69.97 ตอ 100 patient-years สําหรับคนไข severe, uncontrolled asthma จํานวน 76 คน ที่เคยไดรับ placebo ใน SOURCE trial แลวถูกสุมให ไดรับ placebo ตอไปอีกใน DESTINATION โดยมี incidence rate of serious adverse events อยูที่ 13.14 ตอ 100 patient-years สําหรับกลุมคนไข ที่ไดรับ tezepelumab และ 17.99 ตอ 100 patient-years สําหรับกลุมคนไข ที่ไดรับ placebo สวนผลการศึกษาที่ 104 สัปดาห ในแง secondary endpoint ของ DESTINATION พบวา กลุมคนไข severe, uncontrolled asthma
Kingdom)
Andrew
63%
severe
2 การศึกษาทางคลินิกในระยะที่
tezepelumab ใน NAVIGATOR trial
มาให tezepelumab ตอไปอีกรวมกับ standard of care
มี asthma exacerbation rate ลดลง 58% (95% confidence interval, 49-65) สวนกลุมคนไข severe, uncontrolled asthma
placebo ใน SOURCE trial
tezepelumab ใน DESTINATION มี asthma exacerbation rate
ลดลง 39% (95% confidence interval, 4-62)
tezepelumab เปน human IgG2λ monoclonal antibody
Questionnaire-6 (ACQ-6) score และ Asthma Quality of Life
Questionnaire (standardized) for patients aged 12 years or older (AQLQ[S]+12) score
โดยในเดือนธันวาคม ป 2564
severe asthma อายุตั้งแต 12 ปขึ้นไป Tezepelumab นับเปนยาชีววัตถุตัวแรกที่ไดรับการรับรอง
จาก FDA สําหรับใชในการรักษาคนไข severe asthma โดยไมมีขอจํากัดทั้งในเรื่อง
inflammatory biomarkers
blood eosinophil count หรือ fractional exhaled nitric oxide (FeNO)
tezepelumab สําหรับใชเปนการรักษาเสริมรวมกับ การรักษามาตรฐาน (standard of care)
International Conference ของ American Thoracic Society (ATS)
ที่ใชกันอยูในปจจุบัน
2534 พบวา ถึงแมจะไมมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติระหวาง tezepelumab และ placebo ในการลดขนาดของยา oral corticosteroid (OCS) ที่คนไขจําเปนตองใชในแตละวัน
severe, uncontrolled
(95% confidence interval, 47-63; p<0.001)
severe, uncontrolled asthma มี forced expiratory volume in 1 second (FEV 1 ), Asthma Control
www.thelancet.com, www.healio.com, www.fda.gov, www.astrazeneca.com, www.nejm.org, www.dovepress.com
6 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 สกูปปก
ที่เคยไดรับ
แลวนํา
ที่เคยไดรับ
แลวนํามาให
อนึ่ง
ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการสรางและหลั่ง thymic stromal lymphopoietin (TSLP) ในทางเดินหายใจ ซึ่งเมื่อเยื่อบุ ทางเดินหายใจถูกกระตุนดวยสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรคหรือมลพิษ เยื่อบุทางเดินหายใจก็จะสรางและหลั่ง TSLP ซึ่งเปน epithelial cell–derived cytokine ที่ชักนําใหเกิดการอักเสบและเกี่ยวของ กับพยาธิกําเนิดของโรคหืด
Administration หรือ
ในการรักษาคนไข
สํานักงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (Food and Drug
FDA) ไดใหการรับรอง tezepelumab (Tezspire) สําหรับใชเปน add-on maintenance treatment
phenotype คือ ไมวาคนไขจะมี phenotype เปน eosinophilic หรือ allergic ก็สามารถใชได และไมมีขอจํากัดในเรื่องระดับของ
ขอมูลทางคลินิกที่สําคัญที่
รับรอง
สําหรับคนไข severe, uncontrolled asthma ก็คือ ผลลัพธ ของการศึกษาทางคลินิกในระยะที่ 3 ที่มีชื่อวา NAVIGATOR และ SOURCE โดยผลการศึกษาของ NAVIGATOR ที่ไดรับการ ตีพิมพในวารสาร New England Journal of Medicine (NEJM) ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม ป 2564 ซึ่งเปนการศึกษา แบบ phase 3, multicenter, randomized, double-blind, placebo-controlled trial ในคนไข severe, uncontrolled asthma ที่อยูในวัยผูใหญและเด็กอายุตั้งแต 12 ปขึ้นไป พบวา กลุมคนไข severe, uncontrolled asthma ทั้งเด็กและ ผูใหญ จํานวน 529 คน ที่ไดรับ tezepelumab 210 มิลลิกรัม ฉีดเขาใตชั้นผิวหนังทุก 4 สัปดาห มี annualized asthma exacerbation rate (AAER) ลดลง 56% ที่ 52 สัปดาหของ การศึกษา เมื่อเทียบกับกลุมคนไข
asthma ทั้งเด็กและผูใหญ จํานวน 532 คน ที่ไดรับยาหลอก
โดยเฉพาะ อยางยิ่ง พบวา กลุมคนไข severe, uncontrolled asthma ที่มี baseline blood eosinophil counts ≥300 cells/µL มี AAER ลดลงถึง 70% จากการรักษาดวย tezepelumab 210 มิลลิกรัม ฉีดเขาใตชั้นผิวหนังทุก 4 สัปดาห เปนเวลา 52 สัปดาห ขณะเดียวกันพบวา tezepelumab ชวยให คนไข
ไมวาจะเปน
FDA ใชประกอบการพิจารณา
ดีกวากลุมคนไขที่ไดรับ placebo แหลงที่มาของขอมูล:
สําหรับขอมูลดานความปลอดภัยที่สําคัญ ๆ ใน NAVIGATOR พบวา โดย รวมมีคนไข 77.1% ในกลุมที่ไดรับ tezepelumab และ 80.8% ในกลุมที่ได รับ placebo รายงานเกี่ยวกับการเกิดผลขางเคียงไมพึงประสงคอยางนอย 1 อยาง ในชวง 52 สัปดาหของการศึกษา โดยมีรายงานของการเกิด serious adverse events ใน 9.8% ของกลุมคนไขที่ไดรับ tezepe ในกลุมคนไขที่ไดรับ placebo ขณะเดียวกัน พบวา มีอัตราการหยุดยาเนื่องจาก adverse events อยูที่ 2.1% ในกลุมที่ไดรับ tezepelumab และ 3.6% ในกลุมที่ไดรับ placebo โดย adverse events ที่มีรายงานพบไดบอย ไดแก nasopharyngitis, upper respiratory tract infection, headache และ asthma (พบไดบอย มากกวาในกลุมที่ไดรับ placebo) สวน SOURCE trial ซึ่งเปนการศึกษาทางคลินิกแบบ phase III
randomised, double-blinded, parallel-group, placebocontrolled trial ที่เปรียบเทียบประสิทธิภาพและความปลอดภัยระหวาง tezepelumab และ placebo ในกลุมคนไข
asthma อายุตั้งแต 18 ปขึ้นไป จํานวน 150 คน โดยผล การศึกษาของ SOURCE ที่ไดรับการรายงานออกมาในงานประชุม
ป
ซึ่งเปนเปาประสงคหลักของ SOURCE trial อยางไรก็ตาม พบวา กลุมคนไข severe, oral corticosteroiddependent asthma ที่ไดรับ tezepelumab ขนาด 210 มิลลิกรัม ฉีดเขา ชั้นใตผิวหนังทุก 4 สัปดาห เปนเวลา 48 สัปดาห มี improvement ของ annualized exacerbation rate, FEV1, asthma control และรวมถึง symptoms และ quality of life อยางชัดเจนมากกวากลุมคนไขที่ไดรับ placebo นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาแบบ systematic review & meta-analysis เกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ tezepelumab ในคนไข severe, uncontrolled asthma ที่รวบรวมจากการศึกษาแบบ randomized controlled trial (RCT) จํานวน 6 การศึกษา ในคนไขจํานวนรวมกันทั้งสิ้น 2,667 คน ซึ่งในจํานวนนี้มีคนไข 1,610 คน ที่ไดรับ tezepelumab และ 1,057 คน ที่ไดรับ placebo โดยผลการศึกษาที่รายงานไวใน Journal of Asthma and Allergy (Dovepress) ฉบับประจําวันที่ 18 กันยายน ป 2565 แสดงใหเห็นวา tezepelumab ลด annualized exacerbation rate และ FeNO ควบคูไปกับการ improve asthma control และ quality of life ของ คนไข severe, uncontrolled asthma ไดดีกวา placebo และที่สําคัญก็คือ tezepelumab มี acceptable safety profile
multicentre,
severe, oral corticosteroiddependent
ในเดือนพฤษภาคม
การไดยินจะมีความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเปน 2 เทา และ
พบวาความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมนี้จะหายไป ถาไดรับ
การดูแลและรักษาปญหาดานการไดยินจนหายเปนปกติ จึงนับ ไดวาภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากปญหาการไดยินเปนสิ่งที่สามารถ ปองกันได อยางไรก็ตาม การตรวจการไดยินนั้นจําเปนตองใช
หองตรวจราคาแพงและมีจํากัดเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ
7 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 News Update จุฬาฯ เปดตัว EarTest แอปพลิเคชันตรวจหูดวยตัวเอง ปองกันสาเหตุโรคสมองเสื่อม สําเร็จแลว คนไทยมีเฮ เปดตัวแอปพลิเคชันแรกในไทย EarTest by Eartone ตรวจการไดยินบงชี้โรคสมองเสื่อม รองรับสังคมสูงวัย โดยทีมวิจัย ไทย-อังกฤษ หลายภาคสวน รวมกันผลักดันจนสําเร็จ องคการอนามัยโลกทําการศึกษาความเสี่ยงการเกิดโรค สมองเสื่อมมาตลอดหลายปที่ผานมา
พบวา โดยมากผูที่มีปญหา
ๆ เทานั้น ทําใหการตรวจเพื่อปองกันนี้ทําไดโดยจํากัด รวมกับ ผศ.ดร.ยุทธนา รุงธรรมสกุล อาจารยผูเชี่ยวชาญดาน ฟสิกส การไดยิน คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เปนผูคิดคน วิจัยและพัฒนา แอปพลิเคชัน Eartest by Eartone ซึ่งไดเปดตัวอยางเปนทางการใหประชาชนที่มีความเสี่ยงจากปญหา การไดยิน สามารถตรวจคัดกรองไดดวยตนเองที่บาน ฟรี ผานเสียง พูดในอุปกรณมือถือหรือแท็บเล็ตที่เชื่อมตอกับหูฟง เพื่อประเมิน ความเสี่ยงที่อาจทําใหเกิดปญหาสมองเสื่อมในอนาคตไดอยางทัน ทวงที แอปพลิเคชัน EarTest by Eartone (ฉบับภาษาไทย) ถือเปน นวัตกรรมใหมลาสุดที่ อ.ดร.พญ.นัตวรรณ อุทุมพฤกษพร แพทย ผูเชี่ยวชาญดานการไดยิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ สภากาชาดไทย อ.ดร.พญ.นัตวรรณ อุทุมพฤกษพร กลาวในงานเสวนา Chula the Impact ครั้งที่ 14 วา “แอปพลิเคชัน EarTest by Eartone เกิดจากโครงการวิจัย Thai Speech Acoustic Virtual Reality Test for the Detection of Early Dementia ที่ไดรับ ความรวมมือจากหลายภาคสวนที่เกี่ยวของ ทั้งจากประเทศอังกฤษ โดยมีความรวมมือกับราชวิทยาลัยวิศวกรรม The Royal Academy of Engineering ภายใตทุน Transforming System through Partnership ผานโครงการ Newton Fund ทําใหไดรับการ ถายทอดองคความรูจากผูเชี่ยวชาญจาก University College of London (UCL) รวมกับผูรวมทุนภาคเอกชน นอกจากนี้ ไดรับ การสนับสนุนเพิ่มเติมจาก British Council และกระทรวง อว. ผานโครงการ Thai-UK world class university consortium ที่ชวยสนับสนุนกิจกรรมถายทอดองคความรูจากมหาวิทยาลัยใน อังกฤษ
ของโครงการไดพัฒนาตูสําหรับตรวจการไดยินตามมาตรฐานสากล ไดรับการรับรองจากศูนยบริการวิชาการแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
เพื่อสังคมใหออกไปรับใชสังคมดวยงานวิชาการที่มีความยั่งยืนตอไป”
8 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 News Update จุดเริ่มตนโครงการรวมทุนพัฒนาตอยอดแอปพลิเคชัน EarTest by Eartone นี้ จากเทคโนโลยีเดิมผานการพัฒนา อยางตอเนื่องเปนเวลาหลายป ทั้งนี้ การที่เราจะพัฒนาการ
ตองมีความรวมมือกับทางตางประเทศดวย ซึ่งทางทีมโชคดีมาก ที่ไดรวมมือกับทาง University College London โดยรวมมือ กับ Professor Stuart Rosen ผูที่พัฒนาการตรวจการไดยิน ในภาษาตาง ๆ เกือบทั่วโลก โดยเริ่มจากการเก็บรวบรวม ความคิดเห็นและความตองการของผูสูงอายุ ซึ่งจะเปนผูใชจริง มากกวา 100 คน จากนั้นจึงนํามาออกแบบใหตอบโจทยการใช งานมากที่สุด
ตรวจลักษณะนี้ไดตองใชทั้งองคความรูและเทคโนโลยีที่จะ
Unisearch เพื่อลดการนําเขาจากตางประเทศ และสามารถนําไปใช ตามโรงพยาบาลและศูนยการแพทยทั่วประเทศได ทําใหไมเปนอุปสรรค อีกแลวสําหรับหนวยอนามัย โรงเรียน โรงพยาบาลในตางจังหวัด ใหเหมือนกับมาตรวจที่โรงพยาบาลใหญ ๆ ในกรุงเทพฯ ได โดยมีผล ไมตางกันเลย นอกจากนี้ ทีมรวมพัฒนาตอยอดแอปพลิเคชันตรวจ การไดยินเบื้องตนที่มีอยูเดิมของเอียรโทน ใหผูใชงานสามารถเขาถึง การทดสอบที่ละเอียดขึ้น มีประสิทธิภาพและฟงคชันที่หลากหลาย รวมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในไทยและตางประเทศ เพื่อรองรับ การใชงานโดยผูสูงอายุ” ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ อธิการบดีจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กลาววา โครงการวิจัยไดพัฒนามาจนเกิดเปนแอปพลิเคชัน Eartest by Eartone นี้ นับเปนการเตรียมพรอมของสังคมที่จะ รองรับสังคมผูสูงอายุที่กําลังเกิดขึ้นในประเทศไทยอยูขณะนี้ ตอบโจทย วิสัยทัศนของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ที่จะเปนมหาวิทยาลัยแหงชาติ ในระดับโลกมุงยกระดับมาตรฐานการสรางคน สรางผูนํารุนใหม การลงทุนในการพัฒนาการเรียนการสอน
ผูนําแหงอนาคต และสรางงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ
ผศ.ดร.ยุทธนา รุงธรรมสกุล อาจารยผูเชี่ยวชาญดาน ฟสิกส การไดยิน คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กลาววา เราใชเทคนิคแบบ Virtual Reality ซึ่งเปนการจําลอง หองไรเสียงสะทอนสภาพเหมือนจริงของเสียงที่เขามาจาก ทิศทางตาง ๆ ในหองปฏิบัติการขั้นสูง เพื่อนํามาใชในการแปล ผลของสมองดานภาษา เพื่อวิจัยตอไปวาผูรับการประเมินจะ บงชี้เริ่มมีภาวะสมองเสื่อมหรือ dementia ในอนาคตหรือไม” ผูบริหารของบริษัท เอียรโทน เอกชนผูรวมทุน ยังกลาว เสริมอีกวา “นอกจากเทคโนโลยีของแอปพลิเคชันแลว สิ่งที่ สําคัญไมแพกัน คือ โดยทั่วไปแลวการตรวจการไดยินจะทําใน หองเก็บเสียง ซึ่งจะตองทําดวยผนังเหล็กบุภายในไมใหเสียง เขาไป แตเดิมเราจะตองนําเขาจากเมืองนอก ซึ่งมีคาใชจายสูง มาก ดวยการสนับสนุนจาก Eartone ที่ทํางานดานการไดยิน มากวา 30 ป และเปนเอกชนผูรวมทุน Industrial partner ดร.อดิสร เตือนตรานนท ผูชวยผูอํานวยการสํานักงานพัฒนา วิทยาศาสตรและเทคโนโลยีแหงชาติ (สวทช.) กลาววา “สําหรับ สวทช. เรารวมสนับสนุนโครงการวิจัยนี้ เพราะโครงการนี้มีสวนสําคัญ ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ชวยใหประชาชนทั่วไปตระหนักรู สามารถ เขารับการวินิจฉัยในระบบอื่น ๆ ตอไปไดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อชวยใหสามารถ ปองกันความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมในผูสูงอายุได นับเปนการรวม ผลักดันการวิจัยพัฒนา ออกแบบ และวิศวกรรม ใหสามารถถายทอด
พัฒนางานวิจัยเพื่อสราง
ทํางานรวมกันระหวางภาครัฐและเอกชนทั้งในและตางประเทศ เพื่อใหเกิดงานวิจัยที่สามารถนํามาใชประโยชนไดจริง ในเชิงพาณิชย ความรวมมือดังที่กลาวมาขางตนทั้งหมดนี้
เกิดขึ้นเพื่อชวยพัฒนาและเสริมสรางศักยภาพประเทศไทยได
อยางยั่งยืน นับวาเปนโอกาสที่ดีที่ไดมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน EarTest by Eartone เปนภาษาไทยใหประชาชนชาวไทยสามารถ ดาวนโหลดแอปพลิเคชันในการตรวจการไดยินไดฟรี
9 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 News Update ขอขอบคุณแหลงที่มาของขอมูล : https://workpointtoday. com/eartest/ ไปสูการใชประโยชนไดจริงในวงกวาง เปนการสงเสริมโครงสราง พื้นฐานเพื่อสรางขีดความสามารถในการแขงขันและพัฒนา ประเทศอยางยั่งยืน” รศ.ดร.สิรี ชัยเสรี ผูอํานวยการหนวยบริหารและจัดการ ทุนดานการเพิ่มความสามารถในการแขงขันของประเทศ (บพข.) สํานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร วิจัยและนวัตกรรมแหงชาติ (สอวช.) กลาวทิ้งทายวา “ภารกิจ หลักของ บพข. คือ การสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มความ สามารถทางการแขงขันของประเทศ โดยผลักดันใหเกิดการ
sodium glucose co-transporter type 2 (SGLT 2)
ลดลง Brenzavvy ไดรับการยืนยันความปลอดภัยและ ประสิทธิภาพของยาดวยการทดลองทางคลินิก
Double-Blind, Placebo-Controlled
24 สัปดาห Brenzavvy ใชไดกับผูปวยโรคเบาหวาน
(ปริมาณเลือดที่ไหลผานตัวกรองของไตใน 1 นาที:
https://bit.ly/3j2YTC8
https://beta.clinicaltrials.gov/study/NCT03259789
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/news_week_full. php?id=1287
https://www.drugs.com/brenzavvy.html
10 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 เจาะขาวตลาดยา ผูปวยเบาหวาน ชนิดที่ 2 มีความหวังยาใหม Brenzavvy อางผลลดความดัน-นํ้าหนักดวย หลังจากที่มีการทดลองศึกษากันมายาวนานหลายป ในที่สุด Brenzavvy (bexagliflozin) ก็ไดรับการรับรอง และอนุมัติใหวางตลาดขายได Brenzavvy เปนยารักษา โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ใชควบคูไปกับการควบคุมอาหาร และการออกกําลังกายเพื่อควบคุมระดับนํ้าตาลในเลือด เปนยาเม็ดรับประทานขนาด 20 mg ใชวันละเม็ด ใน ตอนเชา กอนหรือหลังอาหารก็ได Brenzavvy มีกลไกการทํางานดวยการออกฤทธิ์ยับยั้ง
ซึ่งเปนตัวขนสงกลูโคส (glucose transporter) ทําหนาที่ พากลูโคสที่กรองผาน glomerulus กลับเขาสูระบบไหลเวียน เลือดในรางกาย จึงลดการดูดซึมกลับของกลูโคสที่ไต เพิ่ม การขับกลูโคสออกทางปสสาวะ ทําใหระดับกลูโคสในเลือด
23 ครั้ง กับ ผูปวยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 (T2DM) กวา 5,000 คน โดยการทดลองเฟส 3 ซึ่งเปนการทดลองแบบ Randomized,
กับกลุมตัวอยางผูปวยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 (T2DM) ที่ไม สามารถควบคุมอาการของโรคไดดวยการใชยา Metformin เพียงอยางเดียว จํานวน 311 คน ที่คัดกรองมาจากสหรัฐฯ และญี่ปุน ใชวิธีสุมแบงผูปวยออกเปน 2 กลุม กลุมที่ 1 ให ใชยา Brenzavvy ขนาด 20 mg วันละครั้ง อีกกลุมใหใช ยาหลอกวันละครั้ง เปนระยะเวลานาน 24 สัปดาห ทั้ง 2 กลุม และแสดงผลทั้งจากการตรวจแบบ hemoglobin A1c และ การตรวจแบบงดอาหารกอนการเจาะเลือดวา Brenzavvy ลดระดับนํ้าตาลในเลือดลงอยางเห็นไดชัดหลัง
ตร.ม.) สูงกวา 30 mL/min/1.73 m2 ซึ่ง ถือเปนคนไขที่เปนโรคไตระดับ 3 จึงตองหลีกเลี่ยงการใชยา Metformin กับคนไขกลุมนี้ เพื่อลดความเสี่ยงภาวะเลือด เปนกรดจากกรดแลคติกในเลือดสูง (Lactic Acidosis) Brenzavvy เปนยารับประทานขนาด 20 mg ใช วันละเม็ด ในตอนเชา กอนหรือหลังอาหารก็ได มีคําแนะนํา ไมใหใช Brenzavvy กับผูปวยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 และไมใหใชเพื่อรักษาภาวะนํ้าตาลในเลือดสูงรวมกับเลือดเปนกรด ซึ่งเปนหนึ่งในภาวะแทรกซอนรุนแรงของโรคเบาหวาน รวมทั้งมีขอหาม ใชกับคนที่แพ Bexaglifl ozin ซึ่งเปนยารักษาโรคเบาหวานใน กลุม SGLT2 inhibitor รวมถึงผูปวยโรคไตวายระยะสุดทาย หรือ ผูปวยที่ตองฟอกไตดวย ผูปวยสามารถใช Brenzavvy อยางเดียว หรือใช Brenzavvy รวมกับยารักษาโรคเบาหวานอื่น ๆ ไมวาจะเปน Metformin, Sulfonylureas, Insulin หรือ DPP4 Inhibitors ได ควบคูไปกับ การควบคุมอาหารและการออกกําลังกาย และแมวา Brenzavvy ไมไดรับการรับรองดานการลดนํ้าหนัก หรือความดันโลหิต แตผลจากการวิจัยทางคลินิกชี้ใหเห็นวา Brenzavvy ชวยในเรื่องนี้ดวยเชนกัน สวนผลขางเคียงจากการใชยา Brenzavvy นั้น ผูปวยบางคน อาจเกิดภาวะขาดนํ้า (Dehydration) ซึ่งเปนภาวะที่รางกายสูญเสียนํ้ามากกวาที่ไดรับ จึงมีปริมาณนํ้า ไมเพียงพอจนสงผลตอระบบไหลเวียนของของเหลวและการทํางาน ของอวัยวะตาง ๆ นอกจากนี้ ผูปวยเพศหญิงที่ใช Brenzavvy อาจมีการติดเชื้อยีสต (Vaginal Yeast Infection) ขณะที่เพศชาย มีอาการปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ (Balanitis) อันเนื่องมาจาก การติดเชื้อยีสตเชนกัน ขอมูล:
ชนิดที่ 2 ที่มี คา eGFR
มล./นาที/1.73
Jesduvroq (daprodustat) เปนยารักษาอาการโลหิตจาง
อันเปนผลจากโรคไตเรื้อรัง (CKD) ในคนไขที่ฟอกไตและตอง
มีการใหเลือด (RBC transfusions)
4 ป
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Jesduvroq
กับ Darbepoetin Alfa ในการรักษาอาการโลหิตจางในผูปวยโรค
ขอมูล:
https://www.drugs.com/jesduvroq.html
https://prn.to/3EMkeaQ
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/ NEJMoa2113380?query=featured_home
11 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 เจาะขาวตลาดยา
Jesduvroq ชนิดรับ ประทานตัวแรกที่ FDA รับรอง รักษาดวยการเพิ่มฮอรโมน Erythropoietin ที่ผลิตขึ้นจากไตและทําหนาที่ชวยสราง เซลลเม็ดเลือดแดง ทําใหลดความจําเปนในการเติมเลือดลง โดยมี Hypoxia-inducible Factor Prolyl Hydroxylase Inhibitors (HIF-PHI) เปนกลไกในการออกฤทธิ์ ซึ่ง Hypoxia-inducible Factor (HIF) นี้ ปรับสมดุลการตอบสนองตอ การลดลงของระดับออกซิเจนในเลือด คนไขจํานวน 3,872 คน ถูกแบงออกเปน 2 กลุม กลุมหนึ่ง ไดรับการรักษาดวย Jesduvroq อีกกลุมไดรับยา Darbepoetin alfa ไดผลวาคาเฉลี่ย baseline ของระดับฮีโมโกลบินในทั้ง 2 กลุม เทากัน และคาเฉลี่ยการเปลี่ยนแปลงของระดับฮีโมโกลบิน หลังจากรักษา 28 สัปดาห ไปจนถึง 52 สัปดาห ก็ใกลเคียงกัน นอกจากนี้ พบวาไมเกิน 2% ของคนไขในทั้ง 2 กลุม มีระดับ ฮีโมโกลบินเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว ทั้งนี้ ระดับที่เพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว หมายถึงเพิ่มขึ้น 2 grams per deciliter (g/dL) ในชวง 4 สัปดาห ของปแรกของการทดลอง ซึ่ง 4 สัปดาหนี้ จะเปนชวงไหนก็ได ภายในปแรกนี้ สรุปไดวา Jesduvroq ชวยทําใหฮีโมโกลบินอยูในระดับที่ ตองการ มีประสิทธิภาพในการเพิ่มและคงระดับฮีโมโกลบินดี ไมตางจาก Darbepoetin alfa สวนความปลอดภัยนั้น พบวา ประชากรทั้ง 2 กลุม มี ความเสี่ยงตอการเกิดเหตุการณชนิดรุนแรงจากสาเหตุหัวใจและ หลอดเลือด (Major adverse cardiovascular events: MACE) ผลขางเคียงรุนแรงของ MACE คือ หัวใจวาย สมองขาดเลือด และ เลือดแข็งตัว ผูปวยที่เปนโรคหัวใจหรือมีปญหาหลอดเลือดอยูกอน แลวมีความเสี่ยงนี้มากที่สุด ทั้งนี้ ภาวะ MACE ในกลุมที่ใช Jesduvroq เกิดขึ้นครั้ง แรกกับผูปวย 378 คน จากประชากร 1,937 คน คิดเปน 19.5% ขณะที่ MACE เกิดครั้งแรกในกลุมที่ใช Darbepoetin alfa กับ ผูปวย 371 คน จากจํานวนประชากร 1,935 คน คิดเปน 19.2% Jesduvroq ชวยโลหิตจางในผูปวยไต เพิ่มระดับฮีโมโกลบิน-ฟอกไตนอยลง Jesduvroq มีขนาด 1 mg, 2 mg, 4 mg, 6 mg, 8 mg รับประทานวันละครั้ง กอนหรือหลังอาหารก็ได ผลไมพึงประสงคจากการใช Jesduvroq ที่พบมากที่สุด คือ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตตํ่าขณะฟอกไต ขาบวมจาก ของเหลวในรางกายเพิ่มขึ้น ติดเชื้อในระบบทางเดินปสสาวะ และ ทองเสีย การวิจัยทางคลินิกเฟส 3 ของยา Jesduvroq (daprodustat) เปนแบบ
ใชระยะเวลา
ใน
randomized, open-label
ไตเรื้อรังที่ไมฟอกไต โดย Jesduvroq เปนยาเม็ดรับประทาน และ Darbepoetin Alfa เปนแบบฉีด
ภัยธรรมชาติหนึ่งที่เกิดจากการที่ฝนตกนอย
เปนระยะเวลานานหลายเดือนหรือหลายป หรือที่หลายคนเรียกวา ฝนแลง
บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก และจะมีภัยแลงอีกชวงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม โดย มักจะเกิดแคบางพื้นที่ แตบางครั้งอาจเกิดทั่วประเทศเลยก็ได ซึ่งภัยแลงเหลานี้สามารถเกิดขึ้นไดทั้งจากภัยธรรมชาติ และ
7.การตัดไมทําลายปาสงผลใหขาดความชื้นและขาดตนไม ซึมซับนํ้า
อันตรายของภัยแลงที่เปนมากกวาความแหงแลง ภัยแลงไมไดสรางแคเพียงความแหงแลงหรืออากาศที่รอน เทานั้น แตเนื่องดวยความแหงแลงนี้
12 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 บทความพิเศษ ปญหาภัยแลง เปนวิกฤติรายที่โลกกําลังเผชิญอยูในปจจุบัน อันเนื่องมาจากภาวะโลกรอน และ Climate Change องคการสหประชาชาติจึงไดกําหนดใหวันที่ 17 มิถุนายน ของทุกป เปนวันตอตานปญหาภัยแลงและฝนแลงของ โลก ALLWELL จึงขอพาทานผูอานไปรูจักกับความนากลัว ของภัยแลง และวิธีรับมือในวันที่ตองเจอกับปญหานี้ เพื่อให เราทุกคนตระหนักถึงความสําคัญของนํ้าและธรรมชาติ กันมากขึ้นคะ ภัยแลง เกิดจากอะไร? ภัยแลง คือ
หรือไมตกตามฤดูกาล
ซึ่งทําใหสภาพดินฟาอากาศ เกิดความแหงแลงและขาดแคลนนํ้า จนสงผลกระทบตอการ ดํารงชีวิต ไมวาจะการอุปโภค บริโภค เศรษฐกิจ สังคม และ ยังกอใหเกิดอัคคีภัยและโรคระบาดตามมาอีกมากมาย ภัยแลงเกิดจากอะไร? 1.สภาพภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง เชน ฝนตกนอยทิ้งชวงนาน นํ้าใตดินมีนอย ดินเก็บความชื้นไมดี 2.อุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลง อากาศรอนมากกวาปกติ ทําให ฝนไมตก-แหงแลง 3.ตําแหนงรองมรสุมเกิดความผิดปกติ ทําใหฝนทิ้งชวงหรือ ตกไมตอเนื่อง 4.พายุหมุนเขตรอนเคลื่อนที่ผานนอยกวาปกติ ทําใหไมเกิด ฝน 5.อุณหภูมิโลกสูงขึ้น จากการกระทําของมนุษย เชน การเผา พลาสติก มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม 6.ใชนํ้ามากจนเกินไป ทําใหปริมาณนํ้าในอางเก็บนํ้าและ นํ้าใตดินลดลง ภัยแลง ไมใชแคความแหงแลง แตคือหายนะที่อาจคราชีวิตผูคนไดนับลาน!!! ในประเทศไทยเองก็ประสบปญหาภัยแลงเปนประจํา ทุกป โดยมักเกิดในชวงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม
การกระทําของมนุษย
เปนบอเกิดของภัยพิบัติและ หายนะตาง ๆ ที่สงผลตอการดํารงชีวิตของทั้งมนุษยและสัตว ซึ่ง หากภัยแลงนี้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ทายที่สุดแลว อาจจะไมมีสิ่งมี ชีวิตใดดํารงชีวิตอยูเลยก็เปนได
ซึ่งถาวันหนึ่ง ภัยแลงนี้เกิดขึ้นกับเรา เราควรรับมือกับภัยรายนี้อยางไรบาง?
13 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 บทความพิเศษ อันตรายของภัยแลง - มนุษยเกิดภาวะขาดแคลนและอดอยาก เนื่องจาก ขาดนํ้าในการอุปโภค-บริโภค - ไมมีนํ้าในการทําการเกษตร และเลี้ยงปศุสัตว ทําให ขาดผลผลิตและอาหาร - เมื่อไมมีนํ้าดื่ม ก็จะตามมาดวยภาวะขาดนํ้า ขาด สารอาหาร และเกิดโรคระบาด - นํ้าประปาที่มีอยูอาจเกิดปญหานํ้าเค็ม อันตรายตอ ผูปวยโรคไต โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง - สัตวโลกจะลมตาย เนื่องจากขาดอาหารและที่อยูอาศัย - เกิดไฟปาไดงายขึ้น อาจสงผลกระทบตอทรัพยสิน และชีวิตเปนวงกวาง 2.โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เชน โรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ เรื้อรัง เนื่องจากมลพิษทางอากาศ 3.โรคอุจจาระรวง และอาหารเปนพิษ เนื่องจากอาหารบูดเสีย และปนเปอนเชื้อโรค 4.โรคผิวหนัง จากการไมมีนํ้าเพียงพอในการทําความสะอาด รางกาย 5.โรคลมแดด (Heat Stroke) 6.โรคสัตวเลี้ยงที่มากับอากาศรอน เชน พิษสุนัขบา 7.มีปญหาสุขภาพ เชน ปวดหัว เครียด หงุดหงิด นอนไมหลับ รับมืออยางไรในวันที่ภัยแลงมาเยือน ภัยแลง เปนเรื่องใกลตัวกวาที่เราคิด เห็นไดวามีประชากร 1 ใน 3 จากทั่วโลก ที่ประสบปญหาภัยแลง และดวยภาวะโลกรอน ที่มีแนวโนมจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจทําใหอนาคตความแหงแลงจะ เกิดขึ้นอีกในหลายพื้นที่ หรืออาจจะทั่วโลกเลยก็ได
วิธีรับมือภัยแลง-ฝนแลง - หากมีทีทาวาจะเกิดภัยแลง ใหเตรียมกักเก็บนํ้าสะอาด เพื่อใชอุปโภค-บริโภคใหเพียงพอ - บริหารจัดการใชนํ้าอยางประหยัดที่สุด - ติดตามขาวสารเรื่องภัยพิบัติอยูเสมอ - วางแผนเตรียมไว ในกรณีที่จําเปนตองอพยพ - กําจัดวัสดุหรือสิ่งที่เปนเชื้อเพลิงไฟรอบ ๆ บาน เพื่อปองกัน การลุกลามของไฟปา - เตรียมเบอรโทร.ฉุกเฉิน เมื่อขาดนํ้าในการบริโภค และ ขอความชวยเหลือในการดับไฟปา - หากตองใชนํ้าในการทําการเกษตร ควรใชในชวงเชาและ เย็น เพื่อลดอัตราการระเหยนํ้า - เกิดพายุฝุนหรือภัยพิบัติอื่น ๆ ตามมา - ขาดกระแสนํ้าไหลผานเขื่อน สงผลใหมนุษยผลิต กระแสไฟฟามาใชไดนอยลง - อุตสาหกรรมทุกอยางหยุดชะงัก เนื่องจากขาดนํ้า ผลผลิต และกระแสไฟฟา ทําใหประชากรตกงาน - รัฐจะตองใชเงินจํานวนมากในการชวยเหลือประชากร ที่ประสบภัยพิบัติ - อาจเกิดปญหาความขัดแยงและสูรบเพื่อแยงชิง ทรัพยากร 7 โรคที่มากับภัยแลง โรคที่มากับภัยแลงที่มักพบ สวนใหญจะมีจุดเริ่มตนมา จากการขาดนํ้าในการอุปโภค-บริโภค รวมทั้งสภาพอากาศที่ ยํ่าแย สงผลตอการใชชีวิต เชน 1.ภาวะขาดนํ้าและขาดสารอาหาร
- ใชนํ้าอยางประหยัดและใหเกิดประโยชนสูงสุด เชน ใชฝกบัวแทนการตักอาบ นํ้าเหลือนําไปรดตนไม ฯลฯ - หาบรรจุภัณฑที่สะอาด
สรุป
- รดนํ้าตนไมในชวงเชาและเย็นที่อากาศไมรอนจัด
14 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 บทความพิเศษ ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://allwellhealthcare. com/droughts/ เราจะสามารถปองกันไมใหเกิดภัยแลงอยางไรไดบาง? หัวใจหลักที่ทําใหเกิดภัยแลง คือเรื่องของการขาดนํ้าใน การใชอุปโภค-บริโภค
เราตองหยุดตนตอที่จะทําใหเกิดภัยนี้ แนนอนวา เรื่องภัยพิบัติ ธรรมชาติเราอาจหามไมได แตเราสามารถวางแผนรับมือ รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือกิจกรรมของมนุษยที่เปนตน เหตุของภัยแลงได วิธีปองกันภัยแลง
และมีฝาปดมิดชิด สําหรับ สํารองนํ้าสะอาดไวใช - เพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกปา ไมทําลายหรือบุกรุก ธรรมชาติ
ดังนั้น การจะปองกันไมใหภัยแลงเกิด
จะ ชวยลดอัตราการระเหยนํ้า
ปญหาภัยแลงไมใชเรื่องที่เราจะมองขามได เพราะภัยแลง ไมใชแคปญหาความแหงแลง
อีกมากมาย หากรุนแรงมากและขยายวงกวางไปทั่วโลก อาจทําให มวลมนุษยชาติไมสามารถดํารงชีวิตอยูได ดังนั้น กอนที่จะเกิด ปญหาเหลานี้ขึ้น เราควรหันมาดูแลรักษา และบริหารจัดการใช ทรัพยากรธรรมชาติอยางประหยัดกันนะคะ
- หมั่นตรวจสอบทอนํ้า หากนํ้ารั่วซึมใหรีบซอมแซม
แตคือภัยพิบัติที่เปนบอเกิดของปญหา
ซึ่งเปนการบําบัดเพื่อสรางสภาพแวดลอมการ
16 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 เทคโนโลยีสุขภาพ หนูทดลองอายุมากที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยูในปจจุบัน บงชี้แนวโนมความเปนไปไดของการชะลอวัย “สีมา” หนูเพศเมียอายุ 47 เดือน อยูระหวางการบําบัด ดวยอี5
ไหลเวียนของสัตวเลี้ยงลูกดวยนมอายุนอยขึ้นใหม โดยอายุขัยสูงสุดของหนูสายพันธุนี้ที่มีการบันทึกไว คือ 45.5 เดือน” สงผลใหเกิดการชะลอวัย 54% ในหนูเพศผู จากการวิเคราะห อายุชีวภาพ (epigenetic clock) โดยศาสตราจารยจากมหาวิทยาลัย แคลิฟอรเนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) ในขณะนั้น ดร.สตีฟ ฮอรวาธ (Steve Horvath) หลังจากนั้น องคกรไมแสวงกําไรสัญชาติ เบลเยียมอยางฮีลส (HEALES) ตัดสินใจมอบเงินทุนสนับสนุนการ ศึกษาเกี่ยวกับอายุขัยสองรายการ การศึกษารายการแรกใชการ บําบัดของยูวาน ชื่อวา “อี5” (E5) และการศึกษาอีกรายการ นําโดย ดร.โรดอลโฟ โกยา (Rodolfo Goya) ศาสตราจารยมหาวิทยาลัย ลา พลาตา (La Plata University) ประเทศอารเจนตินา ใชพลาสมา ของหนูอายุนอย การทดลองของ ดร.โกยาบรรลุการยืดอายุระดับ ปานกลาง และขณะนี้การทดลองของยูวานยังคงดําเนินอยู โดยสีมา ยังมีชีวิตอยูที่อายุ 47 เดือน นอกจากนี้ สีมาและหนูตัวอื่น ๆ ที่ไดรับการบําบัดแสดงกําลัง มือที่สูงกวากลุมควบคุม 2.8 เทา ดร.โกยา ชี้วา “ความแข็งแรง ของกลามเนื้อแสดงถึงอายุขัยที่มีสุขภาพสมบูรณที่ยาวนานขึ้น” สีมาเปนหนูสายพันธุแรทตัส นอรเวจิคัส (Rattus norvegicus) ซึ่งเปนสายพันธุที่มีอายุขัยยาวนานสูงสุด 45.5 เดือน อายุขัยเฉลี่ย ของหนูสายพันธุนี้อยูที่ 24-36 เดือน การบําบัดของยูวานเริ่มตน เมื่อหนูมีอายุได 24 เดือนแลว และแมจะเปนเชนนั้นก็สามารถขยาย อายุขัยสูงสุดของหนูสายพันธุนี้โดยใชกลุมทดลองประกอบดวย หนูเพียง 8 ตัว กระบวนการการผลิตอี5 อยูระหวางการรอรับสิทธิบัตร เรื่องราวของการคนพบอี5 อยูในหนังสือของ ดร.แคทเชอรอยาง The Illusion of Knowledge (มายาของความรู) ขณะนี้ยูวาน กําลังวางแผนการศึกษาทดลองในสายพันธุอื่น ๆ กอนที่จะทดสอบใน มนุษย หากเทียบเปนอายุของมนุษย ขณะนี้สีมามีอายุ 126 ปแลว โดย 122.5 ป เปนอายุขัยสูงสุดของมนุษย ทั้งนี้ “สีมา” แปลวา “ขีดจํากัด/พรมแดน/ขอบเขต” ในภาษาสันสกฤต และดวยการกาว ขามขีดจํากัดดานอายุขัยของสายพันธุของมัน สีมาไดยํ้าเตือนกับเรา วา ประวัติศาสตรของมนุษยคือประวัติศาสตรของการกาวขามขีด จํากัด เมานเทนวิว แคลิฟอรเนีย, 9 ก.พ. 2566 /พีอารนิวสไวร/อินโฟเควสท การทดลองนําโดย ดร.แฮโรลด แคทเชอร (Harold Katcher) หนึ่งในผูคนพบยีนมะเร็งเตานมตัวแรก มอบความ หวังใหแกมนุษยชาติในการเติมเต็มความฝนของการยอน ความชรา ขณะทํางานที่ยูวาน รีเสิรช อิงค (Yuvan Research Inc.) เขาไดคนพบวาสวนใดของเลือดสัตวอายุนอยเปนสวนที่ ควบคุมอายุของสิ่งมีชีวิต และไดทดสอบในหนูสปราก ดอวลีย (Sprague Dawley) เพศเมีย 8 ตัว โดย “สีมา” (Sima) เปนตัวสุดทายที่มีชีวิตรอดอยู แตอายุของมันทําใหเรามอง เห็นหนทางของการชะลอวัยในมนุษย “การแกของเซลลเปน กระบวนการที่ไมเปนอิสระ โดยไมไดขึ้นอยูกับประวัติของเซลล แตขึ้นอยูกับสภาพแวดลอมของเซลล” ดร.แคทเชอร ประธาน เจาหนาที่ฝายวิทยาศาสตรของยูวาน ธุรกิจสตารตอัปใน แคลิฟอรเนีย ซึ่งดําเนินงานดานการบําบัดเพื่อการชะลอวัย กลาว การทดลองดังกลาวนี้เปนการติดตามวัดผลหลังจาก การทดลองอีกรายการ ซึ่งแสดงใหเห็นวาการบําบัดของยูวาน
ปจจุบันเราสามารถเพาะเลี้ยงเนื้อสัตวในหองทดลองไดแลว โดยนวัตกรรมนี้กําลังไดรับความสนใจจากนักลงทุนเปน
เนื่องจากมันถูกมองวาเปน “อาหารแหงอนาคต (Future Food)” ที่ทําใหเราไมจําเปนตองฆาสัตวเพื่อใหได เนื้อสัตวสําหรับรับประทาน และอาจจะชวยลดการทําฟารม สัตวใหญที่เปนปจจัยหนึ่งของภาวะโลกรอน เนื้อเบอรเกอรจากหองทดลองชิ้นแรกของโลก ในป 2013 ศาสตราจารยมารค โพสต (Mark Post) แหง
อีกทั้งเนื้อสัตวที่ไดจากหองทดลองยังมีความสะอาดมากกวา เนื่องจากผลิตขึ้นในสภาพแวดลอมที่ปลอดเชื้อ ทําใหปลอดภัยจาก
เซลลกระดูก, เซลลหนัง และเซลลไขมันแยกกัน เพราะเซลลแตละชนิดตองการสารอาหาร ที่แตกตางกันออกไป
โดยเนื้อที่ไดจากหองทดลองไมไดมีรสชาติที่แตกตางจาก เนื้อสัตวทั่วไปและมีสารอาหารที่คลายกัน ซึ่งนักวิจัยสามารถ ปรับปรุงใหมันมีโปรตีนมากขึ้นหรือไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล
มีท (GOOD Meat) บริษัทที่วางขายเนื้อสัตวจากหอง
18 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566
เทคโนโลยีสุขภาพ
มหาวิทยาลัยมาสทริชต (Maastricht
ไดทําการนํา เซลลจากสัตว ซึ่งไดรับการตรวจสอบแลววาไมเปนอันตรายมาใส ในภาชนะที่อุนและไดรับการสเตอไรด (Sterile) หรือทําใหปลอด เชื้อดวยสารละลายที่เรียกวาสื่อการเจริญเติบโต โดยเปนสารที่มี สารอาหารตาง ๆ ที่จําเปนรวมทั้งเกลือ, โปรตีน และคารโบไฮเดรต ทําใหในทุก ๆ 24 ชั่วโมง เซลลจะเติบโตขึ้นเปน 2 เทา นอยลงได
เชื้อโรคและสารเคมีปนเปอน เนื้อสัตวจากหองทดลอง โปรตีนทางเลือกใหมแบบไมตองฆาสัตว
ตั้งแตเกษตรกรที่ทําฟารมปศุสัตว ไปจนถึงผูบริโภคที่ไมตองการทานเนื้อสัตวจากการฆา” อยางไรก็ตาม การทําฟารมเนื้อสัตวในหองทดลองใหผลลัพธ ไมเหมือนเนื้อสัตวจากฟารมปศุสัตวทั่วไป เนื่องจากนักวิจัยจะ ตองแยกจานเพาะเลี้ยงระหวางเซลลเนื้อ,
อยางมาก
University)
“การเพาะเลี้ยงเซลลสัตวในหองทดลองใหกลายเปนเนื้อสัตวสําหรับบริโภค อาจปฏิวัติวงการอาหารไปทั่วโลก
ทดลอง ในปจจุบันมีบริษัทที่ทําผลิตภัณฑจากเนื้อในหองทดลอง วางขายแลว นั่นก็คือ บริษัท กูด มีท (GOOD Meat) ในประเทศ สิงคโปร ซึ่งวางขายไกชุบเกล็ดขนมปงกับไกหยอง ตั้งแตป 2020 และกําลังขออนุมัติตอสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาของ สหรัฐอเมริกา (FDA) ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการอนุมัติกําลัง อยูระหวางการพิจารณา ขอขอบคุณที่มาของขอมูล : Science Focus, https://www.tnnthailand.com/news/tech/138102/ ภาพจาก : Pixabay และ Reuters
กูด
แซงเกอร: มารดาแหงการคุมกําเนิด
ทําใหเธอ ไดเห็นผูหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากภาวะแทรกซอนในการตั้งครรภ และยังไดเห็นผลที่ตามมาจากการทําแทงในทองถนนอีกดวย “สมัยนั้นมีกฎหมายคอมสตอก (Comstock)
19 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 รายงานพิเศษ มารกาเร็ต แซงเกอร ไดตอสูฝาฟนเพื่อใหความฝนของเธอที่ ผูหญิงจะสามารถเขาถึงยาคุมกําเนิดที่ใชไดงายเปนจริง แมวาในชวงหลังจะมีการกลาวหาวาเธอเปนพวกเหยียดผิว หรือเหยียดชนชั้น แตไมสามารถปฏิเสธไดเลยวา งานดาน คุมกําเนิดของเธอยิ่งใหญและเปลี่ยนโลกไดอยางแทจริง “คุณแม! คุณสามารถเลี้ยงดูครอบครัวใหญไดจริงหรือ? คุณตองการมีลูกอีกหรือ? ถาไม ทําไมคุณถึงมีพวกเขา? อยาฆาเขา อยาเอาชีวิตเขาไป แตปองกันได สามารถรับขอมูล ที่ปลอดภัยและไมเปนอันตรายจากพยาบาลที่ผานการฝก อบรม....” โฆษณานี้ปรากฏในนิวยอรกในป 1916 ที่คลินิกคุมกําเนิด แหงแรกของสหรัฐฯ กอตั้งโดย มารกาเร็ต แซงเกอร ซึ่งในสมัยนั้น การคุมกําเนิดจึงเปนเรื่องอื้อฉาวและผิดกฎหมาย ในไมชาคลินิก ก็ถูกปด และแซงเกอรถูกโยนเขาคุก แตเมื่อเธอเสียชีวิตในอีก 50 ปตอมา งานที่เธอทํามาทั้งชีวิตไดเปลี่ยนแปลงโฉมหนาของ การวางแผนครอบครัวทั่วโลก สื่อและนักวิชาการยกยองใหเธอเปน “มารดาแหงการ คุมกําเนิด” จากการที่แซงเกอรเปนผูที่รับผิดชอบการพัฒนา ยาเม็ดคุมกําเนิด ความเห็นที่ขัดแยง อยางไรก็ตาม วิธีการและแรงจูงใจของเธอยังคงเปนที่ถกเถียง กันอยู ความสัมพันธของเธอกับขบวนการสุพันธุศาสตร ที่มีแนวคิด วาควรสนับสนุนใหคนที่มียีนที่เปนที่ตองการเทานั้นมีลูกได ทําให เกิดขอกลาวหาวาเธอเหยียดเชื้อชาติ “มรดกของแซงเกอรนั้นผสมผสานกันจริง ๆ” ซานจาม อาหลุวาเลีย ศาสตราจารยดานประวัติศาสตรและผูหญิงและ เพศศึกษา มหาวิทยาลัยนอรทเทิรน แอริโซนา กลาว อาหลุวาเลีย ซึ่งเปนผูเขียนหนังสือ เรื่อง “Reproductive
กลาวอีก ดวยวา “ฉันไมคิดวามันผูกติดอยูกับการปลดปลอยแนวคิดเรื่อง การคุมกําเนิดเพียงอยางเดียว... แตฉันคิดวาปฏิเสธคนอยางแซงเกอร นั้นงายเกินไป... เราตองอานประวัติของเธอ [และ] อยางมีวิจารณญาณ” เธอบอกกับรายการเดอะ ฟอรัม ของบีบีซีเวิรล เซอรวิส เรดิโอ มารกาเร็ต
มารกาเร็ต แซงเกอร เปนผูปูทางไปสูสิทธิในการคุมกําเนิดของสตรี แตมรดกตกทอด ของเธอถูกทําลายโดยความเกี่ยวของของเธอกับขบวนการสุพันธุศาสตร ยาคุมกําเนิดตัวแรกออกสูตลาดเพียงหนึ่งป กอนแซงเกอรจะเสียชีวิต ‘ไมมีผูหญิงคนไหนสามารถเรียกตัวเองวาเปนอิสระ หากไมสามารถควบคุมรางกายของ ตัวเองได’: มารกาเร็ต แซงเกอร (ขวา) สวมหนากากเพื่อประทวงที่ถูกหามพูด เรื่องการคุมกําเนิดในบอสตัน ป 1929 จุดกําเนิด แซงเกอรเกิดในป 1879 ในรัฐนิวยอรก เปนลูกคนที่ 6 จาก ทั้งหมด 11 คน ไมเคิล พอของเธอเปนชางกอหินชาวไอริช ครอบครัว ของเธอยากจนและอาศัยอยูในกระทอม แมของเธอตั้งครรภถึง 18 ครั้ง ในจํานวนนี้ไดแทงลูกไป 7 ครั้ง แซงเกอรเริ่มตนจากการเปนพยาบาลในการดูแลแบบประคับ ประคองเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตใหผูปวยที่มีอาการหนัก
หรืออุปกรณคุมกําเนิด นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายตอตานการคุมกําเนิดในหลายรัฐดวย” เอเลน ไทเลอร เมย ศาสตราจารยดานการศึกษาอเมริกัน
Restraints: Birth Control in India, 1877-1947”
ที่หามใชไปรษณีย เพื่อเผยแพรการคุมกําเนิดหรือขอมูล
แซงเกอรเปดคลินิกคุมกําเนิดแหงแรกของประเทศที่นครนิวยอรก ซึ่งเปนเรื่องผิดกฎหมายในขณะนั้น
เธอเปดคลินิกคุมกําเนิดแหงแรกของประเทศที่นครนิวยอรก ในยานที่มีสตรีที่เปนผูอพยพและยากจนจํานวนมากอาศัยอยู แตคลินิกดังกลาวถูกบุกคนหลังจากนั้นเพียงไมกี่วัน
อยางไรก็ตาม กอนการฆาลางเผาพันธุโดยนาซีจะเกิดขึ้น
20 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 รายงานพิเศษ และประวัติศาสตรแหงมหาวิทยาลัยมินนิโซตา และผูเขียน หนังสือ “America and the Pill: A History of Promise, Peril and Liberation” กลาว นอกจากนี้ แซงเกอรยังตองตอสูกับคริสตจักรคาทอลิกที่มี อํานาจมาก ซึ่งถือวาการคุมกําเนิดเปนบาปอีกดวย สิทธิในการคุมกําเนิด ในเดือน มี.ค. 1914 แซงเกอรตีพิมพนิตยสารชื่อ The Woman Rebel ซึ่งสนับสนุนสิทธิในการคุมกําเนิด แตเธอก็ถูก กฎหมายเลนงานอีก ทําใหเธอตองขึ้นเรือหนีไปอังกฤษ ที่นั่น เธอไดรับอิทธิพลจากผลงานของโทมัส โรเบิรต มัลธัส ผูแยงวาทรัพยากรของโลกไมสามารถรองรับการเติบโตของ ประชากรที่ขาดการควบคุม เขาแนะนําใหคนทั้งหลายควบคุม ตนเองและชะลอการแตงงานออกไป แตนักเคลื่อนไหวที่เรียกวา “นีโอ-มัลธัส” กําลังกดดันใหมีการคุมกําเนิด “เธอเริ่มพัฒนาวิธีการสื่อสารขึ้น... [โดยการพูด] วาการคุม กําเนิดเปนวิธีรักษาสันติภาพ และ [หลีกเลี่ยง] การขาดแคลน อาหาร” ดร. แคโรไลน รัสเตอรโฮลซ นักประวัติศาสตรแหง มหาวิทยาลัยเคมบริดจของอังกฤษ กลาว โดยที่รัสเตอรโฮลซนั้น เนนประวัติศาสตรเรื่องประชากร ยา และเรื่องเพศสัมพันธ “จากเหตุการณนี้ ทําให [เธอ] กลายเปนบุคคลสําคัญใน สหรัฐอเมริกา พี่สาวของเธอก็อยูในคุก [และ] อดอาหารประทวง ดวย” เอลเลน เชสเลอร ผูเขียนชีวประวัติของแซงเกอร กลาว หลังจากไดรับการปลอยตัว แซงเกอรยื่นอุทธรณคําตัดสินที่บอก วาเธอมีความผิดแตไมสําเร็จ อยางไรก็ตาม ศาลตัดสินวาแพทยสามารถ สั่งยาคุมกําเนิดไดดวยเหตุผลทางการแพทย โศกนาฏกรรม ทามกลางการตอสูทางกฎหมาย เธอก็เผชิญกับปญหาในชีวิต สวนตัว ในป 1914 เธอแยกทางกับวิลเลียม ผูเปนสามี และในป 1915 เพ็กกี ลูกสาวคนเดียวของเธอก็เสียชีวิตอยางกะทันหันดวยวัยเพียง 5 ขวบเทานั้น หลังจากนั้นเธอคบหากับผูชายหลายคน รวมถึง แฮ็ฟล็อค เอลลิส นักวิจัยพฤติกรรมทางเพศ และ เอช จี เวลส นักเขียนชื่อดัง ป 1922 เธอแตงงานกับเจมส โนอาห เอช สลี เจาพอนํ้ามัน ซึ่งไดกลายเปน หนึ่งในผูสนับสนุนหลักในการเคลื่อนไหวของเธอ คลินิกแรก ในที่สุดแซงเกอรก็กลับมายังสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง
และแซงเกอร ก็ถูกจับกุม
และถูกจับกุมอีกครั้ง โดยถูกตั้งขอกลาวหาวากอความรําคาญในที่สาธารณะ เธอขึ้น สูพิจารณาคดีในป 1917 ทามกลางความสนใจอยางมากของ สาธารณชน ศาลตัดสินวาเธอมีความผิด โดยใหเลือกวาจะถูก จําคุก 30 วัน หรือจายคาปรับ
ซึ่งเมื่อ เขาไปแลว เธอก็ไดใหขอมูลการคุมกําเนิดแกผูตองขัง
เธอเปดคลินิกอีกครั้งในไมกี่วันตอมา
แซงเกอรเลือกการเขาคุก
ฝูงชนรวมตัวกันรอบ ๆ
แซงเกอรขอความชวยเหลือไปยังคนหลายกลุมสําหรับการ เคลื่อนไหวของเธอ รวมทั้งเขารวมกับกลุมที่มีมุมมองที่ปจจุบัน ไมยอมรับโดยสิ้นเชิง “เธอรวมมือกับสมาคมสุพันธุศาสตร… และไดรับเงินทุนจากพวกเขา ดวย” รัสเตอร โฮลซ กลาว สถาบันวิจัยจีโนมมนุษยธรรมแหงชาติของสหรัฐฯ ใหคําจํากัด ความของ “สุพันธุศาสตร” วาเปน “ทฤษฎีที่ไมถูกตองทางวิทยาศาสตร วา มนุษยสามารถพัฒนาใหดีขึ้นไดดวยการคัดกรองการเพื่อปรับปรุง พันธุของประชากร”
ทฤษฎี เชนนี้ไดรับการเผยแพรโดยไมมีการตอตานมากนัก “เธอตองการตอสูกับความยากจนจริง ๆ และเธอก็สนับสนุน แนวคิดบางอยางของสุพันธุศาสตรที่มีปญหา เชน เธอเสนอทําหมันใน หมูผูพิการ เปนตน” รัสเตอรโฮลซ กลาวเสริม
แซงเกอร หลังเธอเดินทางออกจากศาลสุพันธุศาสตร
กําเนิด ซึ่งไมสามารถปองกันได
- ชวงวัยเด็กโต หรือเปนผูใหญมักเกิดจากการเปนไขรูมาติก
สามารถตรวจการทํางานของหัวใจไดผานการทําอัลตราซาวด
22 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 หนึ่งโรคหนึ่งรู โรคลิ้นหัวใจ (Valve Heart Disease) คือ โรคที่เกิด ความผิดปกติขึ้นบริเวณลิ้นหัวใจทั้งอาการลิ้นหัวใจตีบ และ ลิ้นหัวใจรั่ว หากปลอยทิ้งไวจะทําใหการไหลเวียนของเลือด มีปญหาในระดับรุนแรง จะทําใหเสียชีวิตจากภาวะหัวใจ ลมเหลวได ซึ่งการรักษานั้นจะตองทําผานการผาตัด ทั้งการ ผาตัดแบบเปลี่ยนลิ้นหัวใจ และการผาตัดซอมแซมลิ้นหัวใจ ที่มีประสิทธิภาพแตกตางกัน การติดเชื้อจากการเจาะรูตาง ๆ ตามรางกาย นอกจากสาเหตุที่กลาวมาขางตน โรคนี้ยังสามารถเกิดจาก สาเหตุอื่น ๆ ได เชน เกิดจากกลามเนื้อหัวใจทํางานผิดปกติ เกิด จากลิ้นหัวใจติดเชื้อ เปนตน โรคลิ้นหัวใจรั่ว โรคที่คนเหนื่อยเร็วตองเขาใจ ทําไมลิ้นหัวใจจึงสําคัญ การไหลเวียนของเลือดในหัวใจทั้ง 4 หอง จะตองมี ลิ้นหัวใจซึ่งทําหนาที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดใหเปนไป ในทิศทางที่ถูกตอง เพื่อไมใหเลือดไหลยอนกลับ หากลิ้นหัวใจ เกิดรั่ว หรือเกิดความเสียหาย จะสงผลใหหัวใจทํางานหนัก เลือดไมไหลเวียน และเสียชีวิตในที่สุด โรคลิ้นหัวใจรั่วมีสาเหตุมาจากอะไร โรคนี้สามารถเกิดขึ้นภายใตอาการรั่ว และตีบของลิ้นหัวใจ ที่จะสงผลตอการทํางานของหัวใจโดยตรง โดยสาเหตุของการ เกิดโรคนั้นเพื่อใหงายตอการเขาใจ เราจึงแบงสาเหตุทั้งหมด ตามชวงอายุ ไดแก ชวงแรกเกิด ชวงเด็กหรือผูใหญ และชวง สูงอายุ นอกจากนี้ ยังสามารถเกิดจากปจจัยภายนอกไดอีกดวย - ชวงวัยเด็กแรกเกิดนั้นจะเกิดจากความผิดปกติแต
(อานบทความไขรูมาติก
- ชวงวัยผูสูงอายุเกิดจากความเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจเอง - เกิดจากปจจัยภายนอก เชน การติดเชื้อจากเข็มฉีดยา จะรูไดอยางไรวาเปนโรคลิ้นหัวใจรั่ว หรือตีบ โรคที่เกี่ยวกับหัวใจมีความอันตรายมากอยูแลว เพราะหัวใจ ถือวาเปนอวัยวะที่มีความสําคัญเปนอันดับตน ๆ ของรางกาย ดังนั้น การสังเกตวาเรามีอาการสุมเสี่ยงกับโรคลิ้นหัวใจจึงเปน สิ่งที่ตองรูไวกอน โดยอาการของลิ้นหัวใจรั่วจะเกิดขึ้นแตกตาง กันขึ้นอยูกับลิ้นที่เกิดความเสียหาย ไดแก - ลิ้นหัวใจดานขวา การทํางานของอวัยวะฝงขวาจะเสื่อมลง นอกจากนี้ ยังมีอาการทองอืด คอโปง อวัยวะตาง ๆ บวม เชน ขา ตับ และหัวใจฝงขวา - ลิ้นหัวใจดานซาย จะมีผลกับการลําเลียงออกซิเจนจึงสง ผลใหเหนื่อยเร็วกวาปกติ ในระดับรุนแรงอาการเหนื่อยจะเกิดขึ้น แมวาจะนั่งอยูเฉย
คลิก)
ๆ ก็ตาม วินิจฉัยลิ้นหัวใจรั่วอยางไร
หรือทําคลื่นเสียงสะทอน ซึ่งจะใชเวลาประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ การตรวจจะทําใหทราบการไหลเวียน และการสูบฉีดของเลือด รวมไปถึงการปด-การเปดของลิ้นหัวใจวามีการรั่วหรือไม
23 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 หนึ่งโรคหนึ่งรู ทําอยางไรหากเปนลิ้นหัวใจรั่ว ในชวงแรกยังสามารถใชชีวิตไดอยางปกติ แตเมื่อมี อาการเหนื่อยลาตองงดกิจกรรมที่ออกแรงมากทุกรูปแบบ แมวาจะเปนการออกกําลังกายก็ตาม รวมถึงตองงดการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล และตองระมัดระวังแผลติดเชื้อตาม จุดตาง ๆ ของรางกายอีกดวย อยางไรก็ตาม ควรเขารับ การรักษาเพื่อแกปญหา ซึ่งถือเปนทางเลือกที่ดีที่สุด การรักษาลิ้นหัวใจรั่ว สามารถรักษาไดผานการผาตัด ซึ่งมีอยูดวยกันทั้งสิ้น 2 รูปแบบ คือ 1. ผาตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม เปนการรักษาดวยการ เอาลิ้นหัวใจที่เสียหายออก และนําลิ้นหัวใจเทียมใสเขาไปแทน ซึ่งมีอยูหลายแบบทั้งจากโลหะ หรือเนื้อเยื่อของสัตว โดย อายุของลิ้นหัวใจใหมนี้จะอยูที่ประมาณ 10 ถึง 15 ป ควบคูกับการรับประทานยาเพื่อปองกันเลือดแข็งตัว การผาตัด ดวยวิธีนี้จะทําใหผูปวยไมสามารถตั้งครรภได 2. ผาตัดซอมลิ้นหัวใจ เปนการผาตัดซอมแซมแกไขสวน ที่เสียหายของลิ้นหัวใจ โดยใชเนื้อเยื่อหัวใจของผูปวยเอง การรักษาดวยวิธีนี้ถือวาเปนการรักษาที่ไดผลดีที่สุด เพราะ รางกายของผูปวยจะไมตอตาน และสามารถทํางานอยาง มีประสิทธิภาพใกลเคียงแบบเดิมอีกดวย ปองกันลิ้นหัวใจรั่วอยางไร โรคนี้ยากที่จะปองกัน เนื่องจากปจจัยในการเกิดโรคเปน ปจจัยที่ไมสามารถหลีกเลี่ยงได เชน การเปนแตกําเนิด และ การเสื่อมสภาพตามอายุ ถึงจะเปนอยางนั้นเราก็ยังสามารถปองกัน ปจจัยอื่น ๆ ได เชน ไขรูมาติก ซึ่งสามารถทําไดดังนี้ - หลีกเลี่ยงการใกลชิดกับผูปวยไขรูมาติก - หากรูวามีการแพรเชื้อโรคของไขรูมาติก ควรหลีกเลี่ยงการไปยัง พื้นที่นั้น หรือพยายามหลีกเลี่ยงชุมชนแออัด - ใหความรู ความเขาใจเกี่ยวกับไขรูมาติก - ดูแลสุขอนามัยของสถานที่ตาง ๆ โดยเฉพาะสถานที่สําคัญที่มี ผูคนพลุกพลาน เชน โรงเรียน เปนตน โรคลิ้นหัวใจรั่วปองกันไดบางปจจัย และผลของโรคนั้นถือวารุนแรง ดังนั้น หากเปนโรคนี้ควรเขารับการรักษากอนจะอันตราย ถาจะให ดีกวานี้เราควรตรวจการทํางานของหัวใจเพื่อหาความผิดปกติใน หัวใจ เพราะเราอาจไมรูเลยวาหัวใจของเรานั้นยังคงทํางานไดอยาง สมบูรณอยูหรือไม ขอขอบคุณแหลงที่มาของขอมูล : https://www.petcharavejhospital. com/th/Article/article_detail/Valve_Heart_Disease
การพยากรณโรคจะดีหรือไมขึ้นกับปจจัยหลายอยาง ทั้งระยะ ของโรค ชนิดของเนื้อเยื่อที่เปน และขนาดของมะเร็งที่เหลืออยู
24 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 หนึ่งโรคหนึ่งรู ในประเทศไทย มะเร็งรังไขเปนมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุสตรี พบไดบอยเปนอันดับ 2 รองลงมาจากมะเร็งปากมดลูก และเปน อันดับ 6 ของมะเร็งทั้งหมดที่พบในหญิงไทย ซึ่งอุบัติการณ ของมะเร็งรังไข 5.2 ตอประชากรสตรี 100,000 คนตอป ชวงชีวิตของสตรีที่ไมมีประวัติของมะเร็งรังไขในครอบครัว จะมีความเสี่ยงตอการเปนมะเร็งรังไขรอยละ 1.4 หรือ 1 ในสตรี 70 คน และโอกาสนี้จะสูงขึ้นถามีประวัติมะเร็ง รังไขในครอบครัว ปจจุบันไดมีการคนพบยีนที่เกี่ยวของกับ ความเสี่ยงตอการเปนมะเร็งรังไข ตอเนื่องทุกเดือน หญิงที่หมดระดูเมื่ออายุมาก สําหรับหญิง ที่เปนมะเร็งรังไขชนิดเยื่อบุผิวนอย ไดแก มีบุตรมาก มีภาวะ ไมตกไข และมีการใชยาเม็ดคุมกําเนิด โดยการใชยาเม็ดคุมกําเนิด นาน 5 ป สามารถลดอัตราเสี่ยงตอการเกิดมะเร็งรังไขลงได ครึ่งหนึ่ง หญิงที่ไดรับการผาตัดมดลูกโดยเหลือรังไขไว หรือไดรับ การทําหมัน การตั้งครรภและการใหนมบุตรเปนเวลานานมีผล ในการปองกันการเกิดมะเร็งรังไข สวนการสูบบุหรี่ การดื่ม แอลกอฮอลหรือกาแฟ และการใชฮอรโมนเอสโตเจนในวัยหมดระดู ไมพบวาเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข อาการและอาการแสดง อาการที่นําผูปวยมาพบแพทยบอยที่สุด ไดแก อาการทองโต อืดขึ้น เนื่องจากในทองมีนํ้าหรือมีกอนเนื้องอกใหญ แนนอึดอัด ในทอง ปวดทอง ซึ่งเปนอาการของโรคที่ไดแพรกระจายไปใน ชองทองมากแลว นอกจากนี้ ผูปวยที่โรคยังเปนไมมาก อาจมี อาการของระบบทางเดินอาหาร เชน เบื่ออาหาร อาหารไมยอย ทองผูกแนนเฟอ คลื่นไสอาเจียน ซึ่งอาการเหลานี้ไมจําเพาะกับ โรคใดโรคหนึ่ง ฉะนั้น สตรีที่อายุ 40 ปขึ้นไป มีอาการดังกลาวและ
ปสสาวะบอย นํ้าหนักตัวลด การปวดทองเฉียบพลัน อาการบิดขั้ว กอนแตกหรือ เลือดออกในชองทอง บางรายอาจไมมีอาการซึ่งอาจตรวจพบจาก การตรวจภายใน หรือการตรวจรางกายทั่วไป การรักษา การรักษาหลักของมะเร็งรังไขชนิดเยื่อบุผิว ประกอบไป ดวย การผาตัดและเคมีบําบัด รังสีรักษามีที่ใชนอย การใช immunotherapy กับการรักษาทางยีนกําลังอยูในชวงเริ่มตน
หลังการผาตัดครั้งแรก อยางไรก็ดี ตองมีการติดตามหลังการรักษาเพื่อใหคําปรึกษา ใหความรูและคําแนะนําในการปฏิบัติตัว อาการของมะเร็งกลับ เปนซํ้า รวมกับการตรวจรางกายทั่วไป การตรวจภายใน การตรวจ tumor marker และการตรวจทางรังสี หรือการตรวจพิเศษอื่น ๆ เมื่อมีขอบงชี้ มะเร็งรังไข ระบาดวิทยา มะเร็งรังไขพบไดทุกกลุมอายุ โดยชนิดและอุบัติการณของ มะเร็งแตกตางกันไปตามอายุ ในเด็กและสตรีที่อายุนอยกวา 20 ป รอยละ 60 จะเปนเนื้องอกรังไขชนิดเจอรมเซลล พบมะเร็งรังไข ชนิดเยื่อบุผิวรอยละ 85 ของมะเร็งรังไขทั้งหมด ซึ่งเปนชนิดที่ พบมากที่สุด มะเร็งชนิดนี้พบนอยในวัยรุน อุบัติการณจะสูงขึ้น ตามอายุ โดยเพิ่มขึ้นอยางชัดเจนหลังอายุ 40 ป และเพิ่มขึ้น เรื่อย ๆ จนอายุ 55 ป หลังจากนั้นจะลดลง ปจจัยเสี่ยง การศึกษาเกี่ยวกับปจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไขโดยเฉพาะ ชนิดเยื่อบุผิว โดยหญิงที่มีความเสี่ยงสูงตอการเกิดมะเร็งรังไข ชนิดเยื่อบุผิว ไดแก อายุมาก แตงงานแตไมมีบุตร มีประวัติเปน โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ลําไสใหญ หรือเตานม และมีประวัติ ญาติพี่นองในครอบครัวเปนมะเร็งรังไข การที่มีการตกไขอยาง ขอขอบคุณ : อ.พญ.สุวิชา จิตติถาวร อาจารยประจําหนวยมะเร็งวิทยา นรีเวช ภาควิชาสูติศาสตร-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอขอบคุณแหลงขอมูล :
center/th/knowledge/gyne/ovary
ไดรับการรักษาดวยยาโรคกระเพาะอาหารแลวไมดีขึ้น ควรตอง นึกถึงโรคมะเร็งรังไขไวบาง อาการอื่นที่พบ ไดแก
https://www.rama.mahidol.ac.th/cancer_
** ในเด็กที่มีอาการรุนแรงมากหรือในกลุมเด็กที่มีโอกาสเกิด
จนถึงบริเวณหลอดลมสวนตน สงผลใหหลอดลมบวม ตีบแคบ และเนื่องจากทางเดินหายใจของเด็กมีขนาดเล็ก จึงทําใหมีอาการแสดงที่ชัดเจน
มีไข ไอ นํ้ามูก
24-48 ชั่วโมง อาการของโรคมักหายภายในเวลา 3-7 วัน โดยสวนใหญโรคครูปไมไดมีความรุนแรงจนทําใหเกิดภาวะ แทรกซอนที่อันตรายถึงชีวิต แตอยางไรก็ตาม อาจมีความเสี่ยง ที่ทางเดินหายใจจะบวมจนสงผลกระทบตอการหายใจของผูปวย
คอบริเวณไหปลารามีลักษณะบุมเวลาหายใจเขา
- ใสหนากากอนามัยกรณีคนในบานปวยเพื่อหลีกเลี่ยงการ
- ในเด็กเล็กควรรับประทานนํ้านมแมอยางตอเนื่องเพื่อสราง ภูมิคุมกันจากแมสูลูก - พาบุตรหลานไปฉีดวัคซีนสรางภูมิคุมกันเพื่อปองกันการ ติดเชื้อ
25 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 ขอมูลสุขภาพ ลูกหอบ หายใจเสียงดัง ระวัง! โรคครูป... อันตรายที่พอแมไมควรมองขาม มีอาการดีขึ้นสามารถกลับบานได แตจะนัดเพื่อติดตามอาการ ภายใน 24-48 ชั่วโมง ** ในกรณีเด็กที่ประเมินแลวอาการอยูในระดับความรุนแรง ปานกลาง คาคะแนนอยูในชวง 4-7 คะแนน แพทยจะให พนยาอะดรีนาลีน (Adrenaline) เพิ่มเติมจากยาสเตียรอยด และประเมินอาการที่โรงพยาบาลในชวง 2-4 ชั่วโมง กรณีที่เด็ก อาการดีขึ้นหรือคาคะแนนลดลง ก็สามารถกลับบานได และนัด เพื่อติดตามอาการตอไป
ภาวะหายใจลมเหลว คาคะแนนสูงมากกวา
เด็กตอง นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยแพทยจะทําการดูแลอยาง ใกลชิด เนื่องจากครูปสามารถกลับมาเปนซํ้าได ดังนั้น จึงจําเปนตอง
ไดเชนกัน โรคครูป...ปองกันไดดวยวิธีนี้ - หลีกเลี่ยงพาเด็กไปที่ชุมชน สถานที่ที่มีคนแออัดหรือ พลุกพลาน เชน สนามเด็กเลน บานบอล หางสรรพสินคา ลางมือ ทุกครั้งหลังจากสัมผัสกับของเลนหรือเครื่องเลนสาธารณะ
แพรเชื้อไปสูเด็ก
ครูป (Croup) คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อของระบบ ทางเดินหายใจ พบบอยในเด็กเล็ก ชวงอายุ 6 เดือน ถึง 3 ป โดยสวนใหญเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เชน เชื้อพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza), ไวรัส อาร เอส วี (RSV) และ ไวรัสไขหวัดใหญ (influenza) เปนตน เมื่อมีการ ติดเชื้อจะทําใหเกิดการอักเสบบริเวณกลองเสียงลงไป
ลูกนอยเปนครูปหรือไม?
นํามากอนประมาณ 2 วัน - หายใจเสียงดัง โดยเฉพาะชวงหายใจเขา - ไอเสียงกอง เสียงแหบ - ในเด็กที่มีอาการรุนแรง เด็กจะมีอาการหอบเหนื่อย อกบุม
ซึ่งหากมีอาการดังกลาวควรรีบพามาพบแพทย วิธีการรักษาครูปทําไดอยางไรบาง - แพทยทําการประเมินสัญญาณชีพ ระดับออกซิเจน
- ประเมินความรุนแรงของโรค โดยประเมินตามคา คะแนนครูป (Croup score) จากลักษณะอาการไอ ลักษณะ การหายใจ เสียงหายใจ เสียงลมเขาปอด และระดับออกซิเจน โดยมีคาคะแนนตั้งแต 0-10 คะแนน ** ในกรณีเด็กที่ประเมินแลวอาการไมรุนแรง คาคะแนน นอยกวา 4 คะแนน แพทยจะใหยาสเตียรอยดโดยวิธี รับประทาน ฉีดเขากลามเนื้อหรือทางหลอดเลือดดํา ถาเด็ก พญ.รุจิรา มงคลกุล (ลีลาสุขารมย) ศูนยทางการแพทย : คลินิกเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2 ขอขอบคุณ : พญ.รุจิรา มงคลกุล (ลีลาสุขารมย) ศูนยทางการแพทย : คลินิกเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2 ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://www.phyathai.com/article_ detail/3116/th
7 คะแนน
มีการนัดเพื่อติดตามอาการในเด็กทุกรายหลังกลับบานภายใน
เชน วัคซีนปองกันโรคไขหวัดใหญ
พอแมสังเกตไดจากอาการเหลานี้ -
ลักษณะการหายใจของเด็กวามีอาการหอบเหนื่อยหรือไม
26 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 ขอมูลสุขภาพ หินปูนคืออะไร หินปูน คือ ภาษาชาวบานที่ใชเรียกคราบแข็งที่ติดตาม ตัวฟน พบมากและบอยในฟนหนาลางดานใน มีสีเหลือง นํ้าตาลจนถึงดํา มีลักษณะแข็ง อาจพบไดอยูบริเวณเหนือ เหงือกหรือใตขอบเหงือก ซึ่งมีความหมายเหมือนหินนํ้าลาย ซึ่งเปนภาษาทางทันตแพทย หินปูนไมสามารถกําจัดออก โดยการแปรงฟน ตองใหทันตแพทยเปนผูกําจัดออกให วิธีการรักษาหรือกําจัดหินปูนทําอยางไร หินปูนสามารถถูกกําจัดออกไดดวยการขูดหินปูนโดย ทันตแพทย การขูดหินปูนไมจําเปนตองฉีดยาชา ยกเวนในราย ที่มีอาการเสียวฟนมากหรือเปนโรครํามะนาดที่มีหินปูนอยูใน รองเหงือกลึก ๆ การขูดหินปูนบอย ๆ จะทําใหฟนของเราบางหรือสึกจริงหรือไม การทํางานของเครื่องมือขูดหินปูนไฟฟา คือ การสั่นของ ปลายเครื่องมือ ความเร็วสงเพื่อไปกระแทกใหหินปูนหลุดออกมา ไมไดไปสัมผัสกับตัวฟนโดยตรง จึงไมมีผลตอเนื้อฟน ขอขอบคุณ : อ.ทพญ.กัญญมณฑ ลออคุณ ภาควิชาเวชศาสตรชองปาก และปริทันตวิทยา ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://dt.mahidol.ac.th/ คราบหินปูน อ.ทพญ.กัญญมณฑ ลออคุณ ภาควิชาเวชศาสตรชองปากและปริทันตวิทยา หินปูนเกิดขึ้นไดอยางไร หินปูนเกิดจากการสะสมของธาตุจุลินทรียหรือคราบ อาหารที่ผูปวยไมสามารถแปรงออกไดหมด เมื่อเวลาผานไป เกิดการตกตะกอนแตธาตุจากนํ้าลายและอาหารทําให แข็งขึ้นทุกวันจนแข็งคลายหิน ถาปลอยใหหินปูนเกาะที่ฟนมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับฟน ของเรา เริ่มแรกจะมีการอักเสบของเหงือกกอน เพราะหินปูน เปนที่อยูอาศัยของเชื้อแบคทีเรียจํานวนมาก เมื่อปลอยไว นานเกินไปเชื้อเหลานี้จะสรางสารพิษทําอันตรายตอเหงือก และละลายกระดูกเบาฟนทําใหโยก มีกลิ่นปาก และอาจ มีเลือดออกงายขณะแปรงฟนได บางคนฟนโยกมากเคี้ยว อาหารจะเจ็บ สุดทายอาจตองถอนฟนทิ้งไป เราไมสามารถ สรางกระดูกเบาฟนใหกลับมาเหมือนเดิมได เนื่องจากเรา เลยวัยเจริญเติบโตไปแลว ถาไมรีบปองกันโรคตั้งแตวันนี้ อาจจะสายเกินไป เวลาที่เราขูดหินปูนเสร็จใหม ๆ จะรูสึกอยางไร สวนใหญจะรูสึกปากสะอาด โลงสบาย แตบางทานอาจ มีอาการเสียวฟนเมื่อดื่มนํ้าเย็นได ซึ่งเปนเพียงชั่วคราวเทานั้น ถาในกรณีเปนโรครํามะนาดที่มีหินปูนเกาะมากเปนแผง หลังขูด หินปูนออกอาจรูสึกเหมือนฟนโยก เนื่องจากเชื้อโรคไดทําลายกระดูก รอบรากฟนไปบางสวนทําใหฟนแข็งแรงนอยลง พอกําจัดหินปูน ออกไปฟนที่เคยถูกเชื่อมยึดกันเปนแผงก็เปนอิสระตอกันจึงรูสึกวา ฟนโยกได วิธีปองกันไมใหเกิดหินปูนจะทําอยางไร เนื่องจากหินปูนเกิดจากการตกตะกอนของแรธาตุบนคราบ อาหารที่คางอยู ดังนั้น การปองกันการเกิดหินปูน คือ การแปรงฟน ใหถูกวิธีและใชไหมขัดฟนเพื่อกําจัดคราบอาหารนั้นออกใหหมด ไมใชกําจัดเพียงเศษอาหารชิ้นใหญ ๆ เทานั้นจึงจะสามารถปองกัน ไดจริง ๆ
ปริมาณมาก เมื่อเกิดฝาขาวเปนปนหนาบนลิ้น จะเรียกวา
27 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 ขอมูลสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพชองปาก เรามักใหความสําคัญกับการดูแล ใหฟนขาวแข็งแรง และเหงือกสุขภาพดี แตบางครั้งก็ลืมดูแล อวัยวะอื่นในชองปาก เชน ที่เปนสวนสําคัญในการรับรสชาติ และใชเปนสวนหนึ่งในการออกเสียงเพื่อจะพูดคุยสื่อสารกับ คนอื่น และรูหรือไมวาอาการ ลิ้นเปนฝา ที่เราเปนกันบอย ๆ อาจไมใชเรื่องเล็ก เพราะฝาขาวบนลิ้นคือการสะสมของเชื้อโรค ที่หากดูแลไมดี อาจนําพาโรคมาได แลวลิ้นเปนฝาจะสง ผลเสียอยางไรตอพวกเรา และปองกันไดหรือไม ตามไปอาน คําตอบกันเลยคะ “ลิ้นเปนฝา” คืออะไร ? การอักเสบและติดเชื้อ เชื้อรานี้จะทําใหรูสึกแสบรอนในชองปาก และเกิดขุยสีขาวที่ลิ้น มักเกิดขึ้นกับผูสูงอายุที่ใสฟนปลอม ผูปวย โรคเบาหวาน ผูที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และคนที่มีระบบภูมิคุมกัน ตํ่า “ลิ้นเปนฝา” เรื่องใกลตัวนี้อันตรายแคไหน ลิ้นเปนฝา (White Tongue) คือ อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นกับลิ้น โดยมีสาเหตุเบื้องตนมาจากการมีเชื้อแบคทีเรียสะสมอยูเปน จํานวนมาก เมื่อรวมกับเซลลที่ตายแลวบนลิ้นจึงทําใหเกิดฝาขาวขึ้น โดยมากไมใชอาการเรื้อรัง แตเปนอาการที่เกิดขึ้นเปนครั้งคราว ในระยะสั้น ๆ ที่อาการบรรเทา หรือหายไปไดเมื่อทําการแปรงลิ้น และดื่มนํ้าในปริมาณที่เหมาะสม แตหากอาการลิ้นเปนฝาเกิดขึ้น ตอเนื่อง เรื้อรัง อาจเปนไปไดวา อาการลิ้นเปนฝานั้นไมได เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย แตมีสาเหตุอื่นที่สงผลตอ สุขภาพก็เปนได “ลิ้นเปนฝา” เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรบาง ? 1.เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยูเปนจํานวนมากที่ผิวลิ้น จนทําใหเกิดลิ้นเปนฝา ปลอยทิ้งไวก็จะยิ่งหนาเปนปนมากขึ้น และกอใหเกิดปญหาอื่น ๆ ในสุขภาพชองปากตามมา ซึ่งการ ที่เชื้อแบคทีเรียสะสมจํานวนมากก็เกิดจากหลายสาเหตุ เชน อาการปากแหงจากการดื่มนํ้าไมเพียงพอ และการหายใจ ทางปาก หรือทําความสะอาดชองปากไมเพียงพอ และไมเคย ทําความสะอาดลิ้น เปนตน 2.เกิดจากเชื้อราภายในชองปาก (Oral Thrush) ที่มีสาเหตุ มาจาก แคนดิดา ยีนส (Candida Yeast) ที่สงผลทําใหเกิด 3.มีคราบอาหารตกคางอยูในชองปาก เชน คราบนมติดบนลิ้น จนเปนปนขาว และชองปากขาดการดูแล จนเกิดฟนผุ และ คราบหินปูน จนทําใหลิ้นเปนฝา 4.การสูบบุหรี่ ทําใหชองปากมีความผิดปกติไดโดยงายเกิด การสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และจุลินทรีย ทําใหลิ้นเปนฝาขาว ไดงาย 5.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลเปนประจํา ทําใหลิ้นเปนฝาขาว ไดงาย และภายในชองปากออนแอ 6.เปนผลสืบเนื่องจากการเปนโรคตาง ๆ เชน โรคหัวใจพิการ แตกําเนิด 7.ผลจากการรับประทานอาหารนิ่ม ละเอียด มากเกินไปแลว ไมไดทําความสะอาดลิ้น 8.เกิดการระคายเคืองในชองปากจากสาเหตุตาง ๆ เชน แบร็กเก็ต (Bracket) เครื่องมือจัดฟนในชอง ลักษณะ “ลิ้นเปนฝา” พาใหเกิดโรคอะไรไดบาง อาการลิ้นเปนฝาถามองผิวเผินอาจไมตางกัน แตความจริง แลวลิ้นเปนฝาอาจมีอาการอื่น ๆ แฝงอยู และเกิดขึ้นพรอม ๆ กัน ซึ่งอาจนําไปสูการเปนโรคตาง ๆ ได ดังนี้ 1.ลิ้นมีลักษณะเปนฝาขาว รวมทั้งมีคราบสีขาวเล็ก ๆ เกิดขึ้น ที่กระพุงแกม เกิดจากโปรตีนเคอราตินที่เกิดขึ้นจํานวนมากใน ชองปาก เปนผลจากการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล
โรคฝาขาว (Leukoplakia) ไมเปนอันตรายมาก แตถาเปนนาน ๆ โดยไมไดดูแลจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งชองปากได 2.เนื่องจากระบบภูมิคุมกันผิดปกติ อาจทําใหเกิดโรคไลเคน พลานัส (Oral Lichen Planus) ในชองปากได โดยในระยะเริ่ม เปนจะไมรูสึกอะไร นอกจากลิ้นมีฝาขาว แตเมื่อมีอาการมากขึ้น จะทําใหรูสึกวาในชองปากเกิดอาการแสบรอนไมปกติขึ้น รูสึกวา เนื้อเยื่อกระพุงแกมระคายเคือง และเหงือกเจ็บระบมไมปกติ
30 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 รูทันโรค อาการ สัญญาณและอาการของการติดเชื้อในกระแสเลือด 1.มีไข ซึมลง หรือสับสน หายใจเร็ว รวมกับความดันตํ่ากวา 90 หรือในผูปวยที่มีโรคความดันสูง ความดันลดตํ่าลงกวาปกติมาก 2.อัตราการหายใจเทากับหรือเร็วกวา 20 ครั้งตอนาที สัญญาณและอาการของภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะช็อกอาจเกิดขึ้นในกรณที่ความดันโลหิตตํ่าลงมาก ทําให เลือดไหลเวียนไปที่ระบบตาง ๆ ลดลง เกิดภาวะอวัยวะลมเหลว หลายระบบ หากอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะนําไปสูการเสียชีวิต ได ควรไปพบแพทยเมื่อใด การติดเชื้อในกระแสเลือดมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการติดเชื้อ ลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ ไมไดรับการรักษาอยางเหมาะสมทันทวงที หรือเกิดขึ้นในผูปวยสูงอายุ ภูมิตานทานตํ่า โรคประจําตัว เชน เบาหวานที่ควบคุมไมได เปนตน ถาผูปวยมีอาการซึมลง สับสน รับประทานอาหารไดนอย ความดันตํ่าลง ปสสาวะออกลดลง ควร ไปพบแพทยทันที ในกรณีผูสูงอายุ บางครั้งอาจจะไมมีไขได โดยการ ที่มีอุณหภูมิตํ่ากวา 36 องศาเซลเซียส ถือวามีอาการรุนแรง สาเหตุ การติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะที่เกิดขึ้นจากระบบภูมิคุมกันของรางกายตอบสนองตอ การติดเชื้อมากกวาปกติจนอวัยวะสําคัญ ๆ เริ่มทํางานผิดปกติ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอาจรุนแรงมากขึ้นจนเกิดภาวะ ช็อก ความดันโลหิตตํ่าลงอยางรวดเร็ว การติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อในกระแสเลือด เปนภาวะที่เปนอันตรายถึง ชีวิต โดยเกิดขึ้นจากระบบภูมิคุมกันของรางกายตอบสนองตอ การติดเชื้อมากกวาปกติจนอวัยวะสําคัญ ๆ เริ่มทํางานผิดปกติ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอาจรุนแรงมากขึ้นจนเกิด ภาวะช็อก ความดันโลหิตตํ่าลงอยางรวดเร็ว และนําไปสูภาวะ อวัยวะลมเหลวหลายระบบ และเสียชีวิตในที่สุด การรักษา ประกอบไปดวย การคนหาตําแหนงอวัยวะที่มีการติดเชื้อ การให ยาปฏิชีวนะแบบกวางครอบคลุมการติดเชื้อเบื้องตน การผาตัด ในกรณีที่มีหนองหรือมีขอบงชี้ การใหสารนํ้า และ/หรือการให ยาอื่น ๆ เพื่อประคับประคองความดัน รวมถึงการสังเกตอาการ อยางใกลชิดในโรงพยาบาล การใหยาปฏิชีวนะ สารนํ้า และยาประคับประคองความดัน ทางหลอดเลือดเปนวิธีรักษาที่ชวยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของ ผูปวยได การติดเชื้อในกระแสเลือดสวนใหญเกิดจากการติดเชื้อ แบคทีเรีย สวนนอยเกิดจากการติดเชื้อราได โดยเปนผลแทรกซอน ตามมาจากการที่รางกายมีการติดเชื้อในระบบตาง ๆ เชน - การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เชน ปอดอักเสบ - การติดเชื้อระบบทางเดินปสสาวะ เชน กรวยไตอักเสบ - การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เชน ลําไสอักเสบ - การติดเชื้อจากการใสสายสวนหลอดเลือดดํา สายฟอกไต สายสวนปสสาวะ เปนตน - แผลอักเสบติดเชื้อลุกลาม ผูปวยกลุมเสี่ยงตอภาวะการติดเชื้อในกระเสเลือด - ทารกแรกเกิด ผูสูงอายุ - ผูปวยที่มีภาวะภูมิคุมกันบกพรอง ไดรับยาสเตียรอยดขนาดสูง หรือยากดภูมิตานทานสูง
การวินิจฉัยการติดเชื้อในกระแสเลือด แพทยผูดูแลรักษาประเมินจากประวัติและการตรวจรางกาย
อยางทันทวงที การดูแลและการรักษาของหนวยไอซียูอยางใกลชิด
- การใหสารนํ้าทางหลอดเลือดดํา - การใหยาเพิ่มความดันโลหิตหากความดันโลหิตของผูปวยตํ่า แมวาจะไดรับสารนํ้าทางหลอดเลือดแลว
ระบายฝหนอง โดยการใสสายระบาย การถอดสายสวนหลอดเลือดดําที่มีการติด เชื้อออก เปนตน เนื่องจากการติดเชื้อชนิดดังกลาวนั้นลุกลามเกิน กวาจะรักษาดวยการใหยาปฏิชีวนะแบบกวางเพียงอยางเดียวได
- การใหออกซิเจนหรือการใสทอชวยหายใจและเครื่องชวย
31 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 รูทันโรค
ผูปวยปลูกถายอวัยวะ
ผูปวย เม็ดเลือดขาวตํ่า - ผูปวยโรคเบาหวาน - ผูปวยโรคไตวายเรื้อรังหรือตับแข็ง - ผูปวยรักษาตัวในโรงพยาบาลเปนเวลานาน ผูปวยรักษาตัว ในหองไอซียู - ผูปวยรักษาดวยการใสทอหายใจหรือสายสวนทาง หลอดเลือดดํา ภาวะแทรกซอน การติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงนั้นสงผลกระทบใหความดัน ตํ่าลง เลือดไปเลี้ยงอวัยวะตาง ๆ ไดลดลง รวมถึงอาจมีภาวะ ลิ่มเลือดขนาดเล็กอุดตันในเสนเลือดฝอย ทําใหเกิดอวัยวะลมเหลว ไดหลายระบบ เชน ไตวายเฉียบพลัน การหายใจลมเหลว ภาวะ เลือดเปนกรดที่รุนแรงจากกรดแลกติกในเลือดคั่ง คนไขสวนใหญ ที่ไมมีภาวะช็อกจากการติดเชื้อนั้นสวนใหญจะสามารถฟนตัวได ขึ้นอยูกับความรุนแรงของอาการติดเชื้อ ในกรณีที่อาการรุนแรง รับการรักษาในไอซียู นั่นจะใชเวลาในการฟนตัวนานกวาที่จะฟนฟู อวัยวะที่ลมเหลวใหกลับมาทํางานไดปกติ
เพื่อวินิจฉัยตําแหนงการติดเชื้อ และจําเปนตองมีการตรวจทาง หองปฏิบัติการเพิ่มเติม เชน เพื่อใชวินิจฉัยการติดเชื้อในอวัยวะชองทอง ลําไสแตกรั่ว อุดตัน หนองในชองทอง หรือกลามเนื้อ เปนตน 7.การตรวจดวยเอกซเรยคลื่นแมเหล็กไฟฟา (MRI) แสดงภาพได ละเอียดกวาเอกซเรย ซึ่งชวยในการวินิจฉัยการติดเชื้อของเนื้อเยื่อ และกระดูก การรักษา การไดรับการวินิจฉัยและรักษาการติดเชื้อในกระแสเลือด
นั้น จะทําใหผลของการรักษาของผูปวยดีฟนตัวไดสูง การรักษาดวยยา ประกอบไปดวย - การใหยาปฏิชีวนะแบบกวางทางหลอดเลือดดํา ครอบคลุม ชนิดและตําแหนงของการติดเชื้อที่แพทยสงสัย
แพทยอาจสั่งยาเพิ่ม ความดันโลหิต ซึ่งชวยกระตุนการบีบตัวของหลอดเลือด - ยาอื่น ๆ เชน อินซูลิน ควบคุมนํ้าตาลในเลือด ยากลอมประสาทในกรณีใสทอชวยหายใจ เปนตน - การรักษาดวยวิธีอื่น ๆ เชน ซักประวัติโรคเดิมหรืออาการที่ ผิดปกติของผูปวย การรักษาดวยการผาตัด ในบางกรณีที่ผูปวยมีการติดเชื้อบางตําแหนง เชน ฝหนอง ในชองทอง ลําไสแตกรั่ว การติดเชื้อผิวหนังรุนแรง เนื้อเยื่อตายนั้น จําเปนตองไดรับการผาตัดเพื่อกําจัดตําแหนงที่ติดเชื้อ
1.การตรวจเลือดทั่ว ๆ ไป เปนการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาการ ติดเชื้อ ตรวจคาความสมบูรณเม็ดเลือด (CBC) คาการทํางานตับ ไต เกลือแร คาความสมดุลกรด-ดางในเลือด ตรวจปสสาวะ เปนตน 2.การตรวจเพาะเชื้อโดยตรงจากเลือด เสมหะ ปสสาวะ บาดแผล หรือหนอง ขึ้นอยูกับดุลยพินิจของแพทย และอาการ ของผูปวย 3.การตรวจวินิจฉัยโดยรังสีวิทยา 4. เอกซเรยปอด 5.อัลตราซาวนด เปนเทคโนโลยีคลื่นเสียงสงภาพไปยังหนาจอ เพื่อวินิจฉัยภาวะการติดเชื้อในชองทอง เชน ตับ ทางเดินนํ้าดี ไต หรือชั้นใตผิวหนัง เปนตน 6.การตรวจเอกซเรยคอมพิวเตอร (CT Scan) ซึ่งถายภาพ เอกซเรยจากหลาย ๆ มุม และแสดงโครงสรางภายในแบบตัดขวาง การรักษาดวยวิธีการอื่น
-
ผูปวยที่ไดรับยาเคมีบําบัด
ๆ
หายใจในกรณีที่มีภาวะหายใจลมเหลว - การฟอกไต ในกรณีที่มีภาวะไตวายเฉียบพลัน ปสสาวะออกนอย เลือดเปนกรด ความสมดุลเกลือแรผิดปกติรุนแรง - การใหเลือดหรือพลาสมาในกรณีที่มีภาวะซีดรุนแรงหรือ การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ขอขอบคุณ : รศ.พญ.มาเรีย นินา จิตะสมบัติ อายุรแพทยผูชํานาญการดานอายุรศาสตร โรคติดเชื้อ ขอขอบคุณที่มาของขอมูล : https://medparkhospital.com/content/septicemia
( Liquid Chlorine )
นํ้ายาฟอกขาว (Liquid Calcium Hypo 3.คลอรีนที่มาในรูปแบบของแข็ง – แคลเซียม ไฮโปคลอไรท
โซเดียมไดคลอโร ไอโซไซยานูเรท ( DCCNa )
บอเกิดของโรคมะเร็งไดเทากับการหายใจเขาไป ซึ่งนับเปนครั้งแรกที่มี การศึกษาถึงสารตกคางจากการฆาเชื้อโรค
ในสระวายนํ้าที่ใชจะมีปริมาณ 0.6 – 1.0 สวนในลานสวน แต
32 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 เกร็ดนารูเรื่องสุขภาพ สรุปประโยชน และโทษของสารคลอรีน - คลอรีน ถือวาเปนสารที่มีความปลอดภัยสูง เพราะสามารถ ฆาเชื้อโรคไดอยางมีประสิทธิภาพ ทําใหนํ้าใสสะอาดปลอดเชื้อ และ สามารถสลายตัวไดในเวลาอันรวดเร็ว แตตองใสในปริมาณที่เหมาะสม - หากใชในปริมาณที่มากเกินอัตราสวนที่กําหนด อาจเปนอันตราย ตออวัยวะของรางกายได เชน ตา จมูก ผิวหนัง เมื่อถูกคลอรีนจะอักเสบ และบวมพอง ถาสูดดมเขาไปจะทําใหเกิดอาการอึดอัด หายใจไมสะดวก เจ็บคอ แนนหนาอก ถาไดรับสารปริมาณมาก ก็อาจทําใหเสียชีวิตได - ทีมนักวิจัยจากศูนยวิจัยระบาดวิทยาสิ่งแวดลอม (Centre of Research in Environmental Epidemiology : CREAL) และ สถาบันวิจัยโรงพยาบาลเดล มาร (Research Institute Hospital del Mar) ในประเทศสเปน ไดรายงานผลการศึกษาผลตอสุขภาพของ นํ้าในสระวายนํ้าที่ใสสารฆาเชื้อโรคในวารสารอีเอชพี (Environmental Health Perspectives : EHP) ระบุวา การวายนํ้าในสระวายนํ้า ที่มีสวนผสมของคลอรีน อาจชักนําใหเกิดภาวะความเปนพิษตอ
ซึ่งเปนผลใหดีเอ็นเอถูกทําลายและอาจกลายเปน
อัตราสวนการเติมคลอรีนในสระวายนํ้า การใชคลอรีน
ชวงหนารอน หลายคนคงอยากกระโดดนํ้าลงไปแหวกวาย ในสระวายนํ้าใหฉํ่าใจ เพราะเห็นนํ้าใสสะอาดนาเลน แตคุณรู หรือไมวา นํ้าในสระวายนํ้าสวนใหญจะมีการผสมสารเคมีภัณฑ ที่มีชื่อวา คลอรีน (Chlorine) เราอาจจะเคยไดยินชื่อ แตไมรู วามันคือสารอะไร มีประโยชนและโทษอยางไร เราจะมาอธิบาย แบบคราว ๆ ใหคุณเขาใจเพื่อที่จะไดใชมันไดอยางเขาใจ คลอรีน คืออะไร ? คลอรีน เปนสารเคมีที่มีประสิทธิภาพสูง ถูกนํามาใชสําหรับ การฆาเชื้อโรค และนําไปใชในดานตาง ๆ มากมาย ไมวาจะเปน ดานอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ตลอดจนสาธารณสุข ที่เห็นไดชัด คือ การนํามาเปนสารในการฆาเชื้อจุลินทรียของกระบวนการผลิต นํ้าดื่ม-นํ้าใช ในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ฟารม เลี้ยงปศุสัตว ฟารมเลี้ยงสัตวนํ้า ในตลาดสดหรือครัวเรือน รวมทั้ง ใชในการบําบัดนํ้าเสียจากแหลงตาง ๆ และโดยเฉพาะอยางยิ่งใน สระวายนํ้า คลอรีนที่ใชโดยทั่วไปแบงไดเปน 3 รูปแบบ คือ 1.คลอรีนที่มาในรูปแบบกาซ 2.คลอรีนที่มาในรูปแบบนํ้า –
–
–
–
คลอรีน ในสระวายนํ้า สระวายนํ้า ไดมีการนําสารคลอรีนมาผสมในนํ้า เพื่อชวย ฆาจุลินทรียหรือเชื้อโรคตาง ๆ เพราะในแตละวันจะมีคนจํานวนมาก มาวายนํ้า ซึ่งแตละคนก็จะมีจุลินทรียจากรางกาย เชน เหงื่อ ขับออกมาทําใหเปนแหลงสะสมเชื้อโรคได ทั้งนี้ ปริมาณคลอรีน
ในปจจุบันผูดูแลสระวายนํ้าไดนําคลอรีนมาใสในปริมาณที่เกิน มาตรฐาน หรือไมก็นําสารประกอบคลอรีนอื่น ๆ มาใช ทําใหมี ความเสี่ยงที่จะเปนอันตรายตอสุขภาพผูใชบริการไดงาย ยิ่งเขาหู ตา จมูก ก็อาจจะทําใหเกิดปฏิกิริยาเกิดการสะสมในรางกายได ขอมูลจาก : siamchemi.com, ikipedia.org, Manager ขอขอบคุณแหลงที่มาของขอมูล : https://portal.weloveshopping.com/ blog/chlorine-in-pool หากคุณไปวายนํ้าที่สระเปนประจํา และไมใชสระสวนตัวในบาน ก็นับ
ที่กําหนด ดังนั้น จึงควรใชเวลาในสระนํ้าไมมาก ลางตัวอาบนํ้าทุกครั้ง หลังวายนํ้าเสร็จ และหมั่นตรวจสุขภาพอยางนอยปละ 2 ครั้ง เพื่อความ ปลอดภัยตอสุขภาพ เพราะหากไดรับสาร มันจะไมแสดงอาการทันที แตจะเกิดการสะสมในรางกาย ไมควรนิ่งนอนใจนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดี ของเรา :)
ยีน (genotoxicity)
ในสระวายนํ้า
โซเดียมไฮโปคลอไรท ( คลอรีนนํ้า )
คลอรีนเหลว
–
ไตรคลอโรไอโซไซยานูริคแอซิด
วามีความเสี่ยงตอการไดรับสารคลอรีนในปริมารที่มากเกินอัตราสวน
The 8th NCARO (National Pharmacy Conferenceon Antimicrobial Agents and Resistant Organisms)Infectious Disease Pharmacists 2023
“The Unfinished solution for Difficulty-to-Treat infectious disease form Difficulty-to-Treat Pathogen”
34 ÁÕ.¤.-àÁ.Â. 2566 ปฎิทินขาว วันที่ สถานที่ รายละเอียด สนใจติดตอ 27 ก.พ.-3 มี.ค. 2566 ณ หองเจาพระยา สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) โดย โทร. 0 2249 9333 โรงแรมมณเฑียร ริเวอรไซด กลุมชุมชนเภสัชกรนักปฏิบัติงานดูแลการบําบัดผูปวยโรคติดเชื้อ E-mail: hp@thaihp.org พระราม 3 กรุงเทพฯ ดวยยาตานจุลชีพ (ประเทศไทย) หรือ กลุม SOPITT จัดงานประชุมวิชาการ
ในหัวขอ
1 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร สมาคมเภสัชกรอุตสาหการ (ประเทศไทย) จัดประชุมวิชาการ โทร. 0 2116 5860 สุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ เรื่อง Cleaning, Disinfection and Sterilization –Annex 1 Requirement and Lessons Learnt from Regulatory Observations 8-10 มีนาคม 2566 ณ หองประชุม 302 ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 08 7559 7393 อาคารเทพรัตน จัดประชุมวิชาการ เรื่อง Pain Point in Pharmaceutical E-mail: supattra.kon คณะเภสัชศาสตร Care: Unraveling and Counseling Approach @mahidol.ac.th มหาวิทยาลัยมหิดล และผานระบบออนไลน 8-10 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมปาหนัน สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร โทร. 0 7428 8871-2 กระบี่รีสอรท อาวนาง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ จังหวัดกระบี่ งานเภสัชกรรมคลินิก เรื่อง Practical issues in Pharmacotherapy in Acute cares: Lessons learned 21 มีนาคม 2566 ณ โรงแรม แอมบาสซาเดอร สมาคมเภสัชกรอุตสาหการ (ประเทศไทย) จัดประชุมใหญสามัญ โทร. 0 2116 5860 สุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ ประจําป 2566 และประชุมวิชาการ เรื่อง “ Practical implementation of process validation lifecycle approach ” 18-19 พฤษภาคม 2566 ณ จังหวัดอุบลราชธานี คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดประชุมวิชาการ โทร. 0 4535 3603 โครงการประชุมวิชาการเภสัชศาสตรศึกษาแหงชาติ ประจําป 2566 Thai Pharmacy Education National Conference 2023 ประเด็นหลัก Foresight in Pharmacy Education: The Next Move 29-30 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมสุนีย แกรนด โฮเทล คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดประชุมวิชาการ โทร. 0 4535 3603 แอนด คอนเวนชั่น เซ็นเตอร โครงการ North Eastern Oncology Pharmacy Symposium อุบลราชธานี ครั้งที่ 5 เรื่อง “Advancing in cancer treatment: What pharmacist need to know?”