เมดิคอลไทม์ ฉบับ 424

Page 1

ป‚ที่ 22 ฉบับที่ 424 ประจำเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 www.medi.co.th ขŒอมูลสำคัญล‹าสุดของยากลุ‹ม DOACs ในแง‹ bleeding สำหรับป‡องกัน stroke ในผูŒป†วย AF
23 ขŒอมูลสุขภาพ 25 ส‹องโรครอบโลก 27 Medical Technology 30 สมุนไพรใกลŒตัว 32 สาระน‹ารูŒ 34 ปฏิทินข‹าว »‚·Õè 22 ©ºÑº·Õè 424 »ÃШíÒà´×͹ ¾.Â. - ¸.¤. 2565 15 30 27 21 4 บทบรรณาธิการ 5 Cover Story ¢ŒÍÁÙÅÊíÒ¤ÑÞÅ‹ÒÊØ´¢Í§ÂÒ¡ÅØ‹Á DOACs ã¹á§‹ bleeding ÊíÒËÃѺ»‡Í§¡Ñ¹ stroke ã¹¼ÙŒ»†Ç AF 7 Journal Watch 9 บทความพ�เศษ ¡ÒÃá·Œ§ÅÙ¡¢Í§¤Ø³áÁ‹µÑ駤ÃÃÀ 12 News Update à¨ÒÐÅÖ¡àÃ×èͧÁÐàÃç§...âÅ¡ÁÒ¶Ö§Âؤ “ÁÐàÃç§áÁ‹¹ÂíÒ” àÁ×ͧä·Â¹íÒÁÒ㪌áÅŒÇËÃ×ÍÂѧ 15 เวทีว�จัย Á.ÁËÔ´Å - Ǫ. ¤Ô´¤Œ¹áÅоѲ¹Ò¡ÒÃà¤Å×ͺἋ¹¡ÃͧÍÒ¡ÒÈ »ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾ÊÙ§´ŒÇ “«ÔÅàÇÍÏ«ÕâÍäÅ·” à¾×èͤ¹ä·ÂË‹Ò§ä¡Å ¨Ò¡àª×éÍâä 16 หนึ่งโรค หนึ่งรูŒ àÃÔÁ âä¼ÔÇ˹ѧµÔ´µ‹Íä´Œ ¶ŒÒäÁ‹ÃÐÇѧ! 19 รายงานพ�เศษ ‘¼ÙŒÊÙ§ÍÒÂØ-Êѧ¤ÁÊÙ§ÇÑÂ’ ã¹ÁØÁÁͧ¢Í§¤¹ ‘Generation Z’ 21 รูŒทันโรค

ปีที่ 22 ฉบับที่ 424 ประจำ�เดือน พ.ย. - ธ.ค. 2565

ADVISORY BOARD

รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท์

รศ.ดร.ภก.สุนิพนธ์ ภุมมางกูร

ดร.ภญ.พร้อมจิต ศรลัมพ์

ภญ.อุไร หนุนภักดี พรวิทย์ พัชริทร์ตนะกุล

ภญ.ปรานี ภิญโญวัฒยากร รศ.ดร.ภญ.จุฑามณี สุทธิสีสังข์ ภก.ทวีศักดิ์ สีทองสุรภณา

ภก.สมเกียรติ มหพันธ์ ภก.นิพนธ์ ศิริชัยพหรหม ภญ.พนิดา ปัญญางาม ภก.คทา บัณฑิตานุกูล พ.อ.ภก.สมโชค แดงบรรจง ภก.ประวิทย์ ตันติสุวิทย์กุล รศ.ดร.ภญ.เฉลิมศรี ภุมมางกูร EXECUTIVE

สุริโย EDITORIAL DEPARTMENT รักษ์ชนม์ จิตระทาน บริษัท เมดิ แอนด์ เวลเนส จำ�กัด เลขที่ 158 ซ.บางขุนนนท์ 29 ถ.บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทร. 0 2424 3434 แฟกซ์ 0 2434 3434 E-mail : medijournal999@gmail.com PRINTING ห้างหุ้นส่วนจำากัด วี.เจ. พริ้นติ้ง 172 ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140 โทร. 063-932-1441 (ข้อความและเนื้อหาที่ปรากฏในวารสารเมดิคอลไทม์เป็นความ คิดเห็นและทรรศนะเฉพาะตัวของผู้เขียนจึงอยู่เหนือความรับผิดชอบ ของผู้จัดทำา ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจรับทราบข้อมูล ด้วยตนเอง) …เริ่มด้วยข่าวดีมาก ๆ สำาหรับเด็กในยุโรปก่อน แล้วต่อไปก็คงจะเป็นข่าวดี สำาหรับเด็กในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกด้วย ซึ่งรวมถึงเด็กในประเทศไทยเรา เมื่อสหภาพ ยุโรป (European Union หรือ EU) ได้ให้การรับรองการทำาการตลาดของยาฉีด ตัวแรกของโลก นั่นก็คือ nirsevimab (มีชื่อทางการค้าว่า Beyfortus) ไปเป็น ที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 โดย nirsevimab เป็นยา long-acting antibody หรือยาชีววัตถุแบบออกฤทธิ์ยาวนาน ซึ่งมีข้อบ่งใช้ด้วย การฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงเข็มเดียว (single-dose injection) สำาหรับป้องกัน ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคหลักที่ทำาให้ เกิดโรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง โดยเฉพาะปอด ในเด็กแรกเกิดทุกคนไป จนถึงอายุ 2 ขวบ หรือผ่านฤดูกาลแพร่ระบาดของไวรัส RSV ไปแล้ว 1 รอบ... โดยผลจากการศึกษาทางคลินิกที่มีชื่อว่า MELODY และ MEDLEY พบว่า การฉีดยา nirsevimab เพียงแค่เข็มเดียวสามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงที่เด็กจะต้องได้ รับการดูแลทางการแพทย์ รวมถึงการนอนโรงพยาบาลจากโรคระบบทางเดินหายใจ ส่วนล่างที่เกิดจากไวรัส RSV ได้เป็นอย่างดีและค่อนข้างมีความปลอดภัยสูงด้วย... ข้อมูลล่าสุดในปี 2019 ขององค์การอนามัยโลก พบว่า มีเด็กแรกเกิดและเด็กอายุ ต่ากว่า 5 ปี จำานวนถึงประมาณ 33 ล้านคนทั่วโลก ที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ส่วนล่างเฉียบพลันจากการติดเชื้อไวรัส RSV ในจำานวนนี้มีเด็กมากกว่า 3 ล้านคน ที่ต้องเข้านอนโรงพยาบาลและเสียชีวิตระหว่างนอนโรงพยาบาลถึงประมาณ 26,300 คน...ขณะที่การพัฒนาวัคซีนต้นแบบสำาหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในผู้ใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีรายงานความคืบหน้าอย่างมากและได้ผลดีเสียด้วยสำาหรับ วัคซีนต้นแบบ 2 ตัว ได้แก่ RSV prefusion F protein vaccine (RSVPreF3 OA) และ RSV prefusion F protein vaccine (RSVPreF) ที่สามารถป้องกันหรือ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงลงได้เป็นอย่างดี... ...สำาหรับการระบาดของโรค COVID-19 ทั้งในทั่วโลกและในประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานว่า สถานการณ์ ระบาดของโรค COVID-19 มีแนวโน้มลดลงทั่วโลก สัปดาห์ที่ผ่านมาไทยพบ ผู้ป่วยรายใหม่ 2,551 คน เสียชีวิต 33 คน เฉลี่ยวันละ 4 คน การติดเชื้อยังมา จากกิจกรรมรวมกลุ่มและไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุและ โรคเรื้อรังถึง 97% ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีน/ได้รับไม่ครบ/ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ส่วนเด็กเล็กต่ากว่า 4 ปี น่าเป็นห่วงเพราะติดเชื้อมากขึ้นและมีโอกาสมีอาการ รุนแรง/เสียชีวิตสูงกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า ดังนั้น จึงขอให้พ่อแม่/ผู้ปกครองพาเด็ก มารับวัคซีนเพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตจากโรค COVID-19…ขณะเดียวกัน สธ. ยังคงเดินหน้ารณรงค์การให้บริการวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง และกลุ่มเด็กเล็ก 6 เดือน ถึง 4 ปี เนื่องจาก หากเกิดการติดเชื้อ COVID-19 จะมีโอกาสเกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูงกว่า กลุ่มอื่น… แล้วพบกันใหม่ใน Medical Time ฉบับหน้า สวัสดีครับ...
EDITOR รักษ์ชนม์ จิตระทาน ADVERTISING MANAGER จารุวัล

systemic embolism

ischemic stroke

systemic embolism, intracranial hemorrhage (ICH), gastrointestinal bleeding (GIB)

ตัวตาง ๆ ในกลุม DOACs ประกอบดวย 281,320 คน ไดรับ apixaban, 61,008 คน ไดรับ dabigatran, 12,722 คน ไดรับ edoxaban และ 172,176 คน ไดรับ rivaroxaban ผลการศึกษาพบวา การใช apixaban สัมพันธกับการมีความเสี่ยง ของการเกิด GIB ตํ่าที่สุด เมื่อเทียบกับยาตัวอื่น ๆ ในกลุม DOACs ไมวา จะเปน dabigatran (HR, 0.81 [95% CI, 0.70 to 0.94]), edoxaban (HR, 0.77 [CI, 0.66 to 0.91]) หรือ rivaroxaban (HR, 0.72 [CI, 0.66 to 0.79]) อยางไรก็ตาม ไมไดมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญระหวาง ยาในกลุม

5 ¾.Â.-¸.¤. 2565 Cover Story ขอมูลสําคัญลาสุดของยากลุม DOACs ในแง bleeding สําหรับปองกัน stroke ในผูปวย AF ขอมูลจากการศึกษาขนาดใหญในผูปวยหัวใจเตนผิดจังหวะ (atrial fi brillation หรือ AF) มากกวาครึ่งลานคน ในสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ที่ไดรับยากลุม direct oral anticoagulants (DOACs) ในการปองกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) พบวา apixaban มีความสัมพันธกับการเกิด gastrointestinal (GI) bleeding นอยที่สุด เมื่อเทียบกับยาตัวอื่น ๆ อีก 3 ตัว ในกลุม
Dr.Wallis
ซึ่งรายงานไวในวารสาร
ฉบับวันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยมีเปาประสงคเพื่อเปรียบ เทียบประสิทธิภาพและความปลอดภัยแบบตัวตอตัว (headto-head comparison) ของยา 4 ตัว ในกลุม DOACs ไดแก apixaban, dabigatran, edoxaban และ rivaroxaban ซึ่งปจจุบันหลาย guidelines มีคําแนะนําใหใชยากลุม DOACs แทนที่ warfarin ในการปองกันการเกิด ischemic stroke หรือ systemic embolism ในผูปวย AF เนื่องจากมีขอมูล ยืนยันวา ยากลุม DOACs มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ดีกวา warfarin อยางไรก็ตาม ยังไมมีขอมูลจาก head-tohead comparison trial ในเวชปฏิบัติจริงที่จะชวยแพทยใน การเลือกใชยาแตละตัวในกลุม DOACs Dr.Wallis C.Y. Lau และคณะ ทําการศึกษาดวยการนําเอา ขอมูลที่เปนเปาหมายจาก standardized electronic health care databases จํานวน 5 ฐานขอมูลที่ครอบคลุมประชากร จํานวนประมาณ 221 ลานคน ในสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร มาวิเคราะห โดยขอมูลที่เปนเปาหมายก็คือ ผูปวยที่ไดรับ การวินิจฉัย AF ในชวงป 2010 ถึง 2019 และไดรับการจายยากลุม DOACs ในการปองกันการเกิด ischemic
หรือ
แลววิเคราะหประมาณการ hazard
ของ
ระหวางยาตัว ตาง ๆ ในกลุม DOACs โดยใช Cox regression model โดยมีผูปวย AF จํานวนทั้งสิ้น 527,226 คน ที่มีคุณสมบัติตรงกับ เกณฑคัดเขา
ซึ่งในจํานวนนี้มีผูปวย
DOACs ทั้ง 4 ตัว ในแงของ outcomes อื่น ๆ ไมวาจะเปน อุบัติการณของ ischemic stroke หรือ systemic embolism, ICH หรือ all-cause mortality Dr.Wallis C.Y. Lau และคณะ ระบุวา ผลลัพธดังกลาวพบไดอยาง ชัดเจนจากการวิเคราะหการใชยากลุม DOACs ในผูปวย AF ที่มีอายุตั้งแต 80 ปขึ้นไป โดยเฉพาะ ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบระหวาง apixaban และ rivaroxaban พบวา การใช apixaban มีความเสี่ยงของ GI bleeding ที่ตํ่ากวาการใช rivaroxaban ในผูที่ใช standard dose ของ apixaban (HR
95%
ในผูที่ใช reduced
ของ apixaban
และในผูที่มีโรคไตเรื้อรัง
DOACs ดวยกัน การศึกษาดังกลาวเปนการศึกษาแบบ multinational population-based cohort study ที่ดําเนินการโดย
C.Y. Lau (Research Department of Practice and Policy, University College London School of Pharmacy, London, United Kingdom) และคณะ
Annals of Internal Medicine
stroke
ratios (HRs)
or
และ all-cause mortality
(inclusion criteria)
AF ที่ไดรับยา
= 0.72;
CI, 0.64-0.82),
dose
(HR = 0.68; 95% CI 0.61-0.77)

KDIGO เกี่ยวกับ transient creatinine elevations) ขณะที่ secondary outcomes ไดแก death, major bleeding และ composite of stroke and systemic embolism โดยผูปวย non-valvular AF สวนใหญ 56% ในการศึกษานี้ เริ่มตนไดรับ การรักษาเพื่อปองกัน stroke หรือ systemic embolism

VKA โดยมี adjusted hazard ratio สําหรับการใชยากลุม DOACs เมื่อเทียบกับ VKA อยูที่ 0.87 (95% CI 0.78-0.98) ในแงของ risk of CKD progression และอยูที่ 0.88 (95% CI 0.80-0.97) ในแง AKI ขณะเดียวกัน พบวามี hazard ratios อยูที่ 0.77 (95% CI 0.67-0.89) สําหรับการใชยากลุม DOACs ในแง ความเสี่ยงของการเกิด major bleeding, 0.93 (95% CI 0.78-1.11) ในแง composite of stroke/systemic embolism และ 1.04 (95% CI 0.95-1.14) ในแง death เมื่อเทียบกับการใช VKA

: www.healio.com, www.acpjournals.org, www.medscape.com, https://medicalxpress.com, www.newsmedical.net

¾.Â.-¸.¤. 2565 6 Cover Story (chronic kidney disease) รวมดวย (HR = 0.68; 95% CI, 0.59-0.77) โดยผูปวย AF ที่มีอายุมาก ๆ และมีโรคไตเรื้อรัง รวมดวย มักจะไมคอยถูกนํามาทําการศึกษาทางคลินิกเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใชยาตานการแข็งตัว ของเลือดชนิดรับประทาน หรือ oral anticoagulants ในการปองกันการเกิด ischemic stroke หรือ systemic embolism “ผลลัพธจากการศึกษาแบบ multinational populationbased cohort study ของเรา บงชี้วา apixaban นาจะเปน preferable option เมื่อเทียบกับยา DOACs ตัวอื่น ๆ เนื่องจากมีความเสี่ยงของการเกิด GI bleeding ที่ตํ่ากวา และมีอุบัติการณของ stroke ไมแตกตางจากยา DOACs ตัวอื่น ๆ อยางไรก็ตาม ยังจําเปนตองอาศัยการยืนยันในเรื่องนี้ จากการศึกษาทางคลินิกแบบ head-to-head randomized controlled trials” Dr.Wallis C.Y. Lau และคณะสรุป ขณะที่ขอมูลอื่น ๆ ลาสุดที่ชวยใหมีหลักฐานที่หนักแนน มากขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยากลุม
การลด progression ของ chronic kidney disease (CKD) และลดอุบัติการณของ kidney failure และ acute
injury (AKI) ไดดีกวา vitamin K antagonists (VKA) ใน กลุมผูปวย non-valvular atrial fibrillation (AF) การศึกษาดังกลาวของ Marco Trevisan และคณะ เปนการศึกษาที่รวบรวมผูปวย non-valvular AF จํานวน ทั้งสิ้น 32,699 คน ในกรุง Stockholm ของสวีเดน และ เริ่มตนไดรับการรักษาเพื่อปองกัน stroke หรือ systemic embolism ดวยยากลุม DOACs หรือ VKA ในชวงป 2011-
โดยมี primary outcomes อยูที่ CKD progression (composite
eGFR decline and kidney
และ AKI (ดวยการวินิจฉัยหรือตามนิยามของ
ดวยยากลุม DOACs มีอายุเฉลี่ยอยูที่
และ 27% มี baseline eGFR นอยกวา 60 ml/min/1.73 m2 ผลการศึกษาจากการติดตามผูปวย non-valvular AF ในการศึกษา นี้เปนเวลาเฉลี่ย 3.8 ป พบวา การใชยากลุม DOACs มีความเสี่ยง ของ kidney function decline หรือ kidney failure ตํ่ากวา 13% (95% CI, 2-22%) และความเสี่ยงของ AKI ตํ่ากวา 12% (95% CI, 3-20%) เมื่อเทียบกับการใช
แหลงที่มาของขอมูล
DOACs ในผูปวย AF นั้น มีผลการศึกษาจาก retrospective cohort study ขนาดใหญในสวีเดน โดย Marco Trevisan (Department of Medical Epidemiology and Biostatistics, Karolinska Institutet, Sweden) และคณะ ที่รายงานไวใน วารสาร American Journal of Kidney Diseases ฉบับ เดือนตุลาคม ป 2022 พบวา ยากลุม DOACs ใหผลลัพธในแง cardiorenal outcomes ที่ดีกวา ซึ่งรวมถึงการปองกันหรือ
kidney
2018
of >30%
failure)
75 ป 45% เปนผูปวยหญิง
7 ¾.Â.-¸.¤. 2565 Journal Watch Bionic Pancreas รุนใหม ชวยผูปวยเบาหวานควบคุมนํ้าตาลดีขึ้น New England Journal of Medicine ตีพิมพผลการ ทดลองเครื่องมือที่เรียกวาตับออนเทียม (bionic pancreas) รุนลาสุดในชื่อ iLet bionic pancreas ที่ใชเทคโนโลยี รุนใหมในการตรวจวัดและจายอินซูลินเขารางกาย โดยอัตโนมัติ ชวยคงระดับนํ้าตาลในเลือดใหปกติได อยางมีประสิทธิภาพกวาแบบเข็มเจาะปลายนิ้วที่ผูปวย โรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 นิยมใชกันอยูในขณะนี้ (standardof-care) การทดลองแบบ multicenter clinical trial ใชเวลา นาน 13 สัปดาห ณ จุดทดลอง 16 จุด ทั่วสหรัฐอเมริกา รับสมัครผูรวมการทดลองอายุ 6-79 ป จํานวน 326 คน ที่เปนโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 และใชอินซูลินมาแลวอยางนอย 1 ป สุมแบงผูรวมการทดลองออกเปน 2 กลุม กลุมหนึ่ง ใช iLet bionic pancreas อีกกลุมเปนกลุมควบคุมซึ่ง ใชอุปกรณใหอินซูลินที่ใชกันอยูแลวกอนรวมการทดลอง ผูรวมการทดลองที่ใช iLet bionic pancreas มีปริมาณ นํ้าตาลที่จับกับฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดงดีขึ้นจาก 7.9% เปน 7.3% (เปนคาที่ใชในการวินิจฉัยโรคเบาหวาน ซึ่งคนปกติจะมีคานี้อยูระหวาง 4-6%) ขณะที่ไมมีความ เปลี่ยนแปลงในกลุมควบคุม ผลการทดลองนี้เหมือนกันใน ผูรวมการทดลองทั้งวัยรุนและวัยผูใหญ และยิ่งเห็นผลชัด ในคนที่มีระดับนํ้าตาลในเลือดสูงมากตอนเริ่มการทดลอง อาการไมพึงประสงคที่พบมากสุดในกลุมผูใช iLet bionic pancreas คือ นํ้าตาลในเลือดสูงเกินไป (Hyperglycemia) อันเนื่องมาจากตัวปมอินซูลินมีปญหา แตความถี่ของการ เกิดอาการรุนแรงไมไดแตกตางจากกลุมควบคุมแตอยางใด ขณะที่ปญหาระดับนํ้าตาลในเลือดตํ่าพบนอยมาก นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยเรื่องเดียวกันนี้อีก 4 ชิ้น ที่ตีพิมพ ใน Diabetes Technology and Therapeutics 2 ชิ้น พูดถึงผลการทดลองที่มีรายละเอียดมากกวาในผูใหญและ วัยรุน ชิ้นที่ 3 รายงานผลการทดลองเปรียบเทียบแบบสุมใน กลุมควบคุมที่ใช standard-of-care แลวเปลี่ยนมาใชแบบ bionic pancreas นาน 13 สัปดาห กับกลุมที่ใช bionic pancreas ตั้งแตเริ่มการทดลอง พบวา กลุมแรกควบคุม ระดับนํ้าตาลในเลือดไดเชนเดียวกับกลุมหลัง สวนงานวิจัย ชิ้นที่ 4 แสดงผลวาการใช bionic pancreas กับอินซูลิน ชนิดออกฤทธิ์เร็ว (faster-acting insulin) ในผูใหญ จํานวน 114 คน ทําใหการควบคุมระดับกลูโคสดีขึ้นและมีประสิทธิภาพ เชนเดียวกับการใชอุปกรณนี้กับอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปกติ (standard insulin) ระบบจายอินซูลินอัตโนมัติถูกนํามาใชกับผูปวยเบาหวาน ชนิดที่ 1 หลายปแลว เพื่อปองกันผูปวยจิ้มเข็มไมถูกตองและระดับนํ้าตาลใน เลือดกระฉูด เปนระบบที่ชวยติดตามระดับกลูโคสและประมวลผลวา รางกายผูปวยตองการอินซูลินมากนอยเพียงใด แลวจึงปมอินซูลินเขา รางกายตามนั้นอยางตอเนื่อง แตระบบอัตโนมัตินี้ยังไมสมบูรณ ผูปวย ยังตองคํานวณปริมาณคารโบไฮเดรตแลวปอนขอมูลเขาเครื่องดวย ตัวเองกอนมื้ออาหาร เพื่อที่ระบบจะไดจายปริมาณอินซูลินไดถูกตอง แต iLet bionic pancreas ที่พัฒนาลาสุดนี้ใชลําดับการประมวล ผลระดับนํ้าตาลในเลือดที่ตอเนื่องและปรับโดสการจายอินซูลินตาม ความจําเปนของรางกายโดยใช insulin pump และผูปวยไมตองนับ จํานวนคารโบไฮเดรตอีกตอไป เพียงบอกใหเครื่องรูวาคารโบไฮเดรต มากขึ้น นอยลง หรือเทาเดิม ระบบก็จะคํานวณสวนที่เหลือเอง นอกจากไมตองนับปริมาณคารโบไฮเดรตหรือใสโดสของอินซูลิน ใหเครื่อง ไมตองปรับการตั้งคาเปนระยะ ๆ แลว เริ่มตนผูใชเพียงใส นํ้าหนักตัวลงไปในซอฟตแวรของเครื่องเพียงครั้งแรกที่ใชเทานั้น ขอมูล : https://bit.ly/3fsf5Lk https://www.statnews.com/2022/09/28/diabetes-beta-bionicpancreas-insulin/
¾.Â.-¸.¤. 2565 12 News Update หากพูดถึงโรคมะเร็ง...ในใจของผูคนจะเต็มไปดวยความกลัว เพราะมะเร็งอันตรายถึงชีวิต นับเปนปญหาทางสาธารณสุขที่ สําคัญของโลกและประเทศไทย มีสถิติลาสุดจากองคการระหวาง ประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (International Agency for Research on
IARC)1 ในป 2563 พบผูปวยมะเร็ง รายใหมมากกวา 19 ลานคนทั่วโลก ซึ่งเปนชาวเอเชียมากกวา 9.5 ลานคน หรือคิดเปนรอยละ 49.32 สวนเอเชียตะวันออก เฉียงใตอยูที่รอยละ 5.5 เฉพาะชาวไทยพบผูปวยใหม จํานวน 190,636 คน และพบการเสียชีวิตจากมะเร็งมากถึง 124,866 คน มะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย 3 อันดับแรก ไดแก มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งเตานม ตามลําดับ ในงานประชุมวิชาการของบริษัท โรช ไดแอกโนสติกส (ประเทศไทย) จํากัด ที่จัดขึ้นเปนประจําทุกป ภายใตชื่อ Roche Scientific Days ซึ่งแตละปจะไดรับเกียรติจากวิทยากร ผูทรงคุณวุฒิดานการแพทยและสาธารณสุขมารวมแบงปน ประสบการณและความรูทางวิชาการ เพื่อใหผูเขารวมประชุมได รับแรงบันดาลใจ เพิ่มพูนความรู และประสบการณใหม ๆ อัน สามารถนําไปตอยอดในงานได สวนหนึ่งของงานในปนี้มีการ อภิปรายพิเศษในหัวขอ “หองปฏิบัติการทางคลินิกผลักดันมะเร็ง แมนยําในประเทศไทยไดอยางไร” โดยแพทยผูเชี่ยวชาญดาน มะเร็งวิทยา และบุคลากรผูชํานาญการดานหองปฏิบัติการของ เมืองไทยรวมอภิปรายใหขอมูลและความรูที่นาสนใจและเปน ประโยชนตอวงการแพทยสาธารณสุขไทยและประชาชน ดังตอไปนี้ มะเร็งแมนยํา หรือ Precision Oncology วาดวยเรื่องของ การรักษามะเร็งแบบแมนยําจําเพาะบุคคล โดยคํานึงถึงความ หลากหลายของพันธุกรรมหรือยีน สิ่งแวดลอม และวิถีการใชชีวิต ซึ่งโดยหลักการของการรักษาผูปวยจะตองเปนไปตามแนวทาง เจาะลึกเรื่องมะเร็ง...โลกมาถึงยุค “มะเร็งแมนยํา” เมืองไทยนํามาใชแลวหรือยัง เวชปฏิบัติ แตในทางปฏิบัติแพทยจําเปนตองปรับยา และการ รักษาตามบริบทของผูปวย บางรายอาจมีขอจํากัดบางอยาง หรือ บางรายมีการตอบสนองตอยาหรือการรักษาบางอยางไดดี โดย ในอดีตเราไมทราบวาเพราะเหตุใด ศ.นพ.มานพ พิทักษภากร หัวหนาศูนยวิจัยเปนเลิศดาน การแพทยแมนยํา คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ไดอภิปรายใหความรูไววา “มะเร็งมีความซับซอนในหลายมิติ แตปจจุบันเรามีองคความรูมากขึ้น เชน จากการศึกษาพันธุกรรม จีโนม การถอดรหัสพันธุกรรมมะเร็ง ทําใหรูวามะเร็งแตละชนิด มีการกลายพันธุไมเหมือนกัน มีภูมิทัศนจีโนม หรือ genome landscape แตกตางกัน มะเร็งบางชนิดมีการกลายพันธุบาง อยางที่ตอบสนองตอยาบางตัวไดดี ทําใหแพทยเขาใจถึงที่มาที่ไป จึงสามารถใหการรักษาผูปวยแบบจําเพาะเจาะจงแบบมีเหตุผล มีหลักการทางวิทยาศาสตรรองรับ ซึ่งไดผลดีมากขึ้น รวมทั้ง สามารถทําซํ้าได จึงเรียกวา มะเร็งแมนยํา หรือ precision oncology โดยอาศัยขอมูลทางแล็บ การสะสมองคความรู สงผล ใหแพทยมีความรูและความเขาใจมากขึ้น และที่สําคัญปจจุบัน เรามีเทคโนโลยีที่กาวหนามากขึ้น สามารถเขาถึงไดงายขึ้น มีคาใชจายที่ถูกลง และใชเวลาในการประมวลผลสั้นลง” อ.ดร.ชินโชติ ธีรภัคภิญโญ นักวิจัยชํานาญการและ หัวหนาศูนยจุฬายีนโปร คณะแพทยศาสตร จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย กลาววา “วงการแพทย และหองปฏิบัติการ มาถึง ยุค Next Generation Sequencing หรือ NGS ซึ่งเปนเทคโนโลยี
Cancer:
13 ¾.Â.-¸.¤. 2565 News Update ที่ใชตรวจลําดับสารพันธุกรรมหรือยีนของมนุษย แตเดิม เราตรวจสอบยีนไดทีละตําแหนง ในขณะที่เทคโนโลยี NGS ชวยใหเราสามารถตรวจยีนไดเปนกลุมไปจนถึงยีนทั้งหมด ในจีโนมของมนุษยไดในระยะเวลาสั้น ๆ ปจจุบัน NGS อาจ ไมไดเขามาแทนที่เทคโนโลยีดั้งเดิมทั้งหมด แตจะเริ่มมีบทบาท เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และใหผลการตรวจวิเคราะหที่ชวยให แพทยพยากรณและวินิจฉัยโรคมะเร็งไดอยางแมนยําขึ้น” นพ.ภาสกร วันชัยจิระบุญ ผูชวยเลขาธิการแพทยสภา และผูชวยผูอํานวยการ และรองประธานศูนยความเชี่ยวชาญ ระดับสูงสาขามะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกลา จันทบุร ได ใหความเห็นวา “เทคโนโลยีสมัยกอนตองลุนเหมือนแทงหวย ยิ่งมะเร็งบางชนิดอยางมะเร็งปอด เราไดชิ้นเนื้อนอย ถาสง ตรวจทีละตําแหนงแลวไมเจอก็ตองเริ่มใหม คนไขก็ตองเจ็บตัว อีกรอบ ไหนจะคาใชจาย แตสมัยนี้ชิ้นเนื้อเดียวตรวจทีเดียวได หมดเลย เจอสาเหตุไดมาก ไมตัดทางเลือกในการรักษาของ คนไข เมื่อสามารถเขาถึงแล็บไดก็จะทําใหเขาถึงยาได โอกาส รักษาก็เพิ่มมากขึ้น” ทุกวันนี้ก็ยังมีคําถามวา มะเร็งเกิดจากอะไร สาเหตุสวน หนึ่งเรายังไมทราบ แตอีกสวนหนึ่งเราทราบแลววาเกิดจากมี การกลายพันธุบางอยาง เชน ยีน Epidermal Growth Factor Receptor (EGFR) เปนยีนที่พบการกลายพันธุมากที่สุด จึง อธิบายไดวา ทําไมผูปวยบางคนทั้งชีวิตไมเคยสูบบุหรี่ ไมเจอ pm2.5 แตเปนมะเร็งปอด เมื่อเกิดการกลายพันธุจะเหมือน การเปดสวิตชไฟ มะเร็งก็จะโตขึ้นอยางรวดเร็ว เมื่อแพทย ทราบไดวามีการกลายพันธุที่ตําแหนงใดก็จะสามารถใหยา แบบ targeted medicine ซึ่งก็เหมือนเปนการเขาไปปดไฟ ทําใหกอนมะเร็งยุบเร็ว ยุบนาน ยุบเยอะ สงผลใหอาการ ขางเคียงหายไป ผูปวยจึงมีสุขภาพดีขึ้น และคุณภาพชีวิตก็ ดีขึ้นดวย ศ.นพ.ชนพ ชวงโชติ ผูอํานวยการศูนยจุฬาลงยีนโปร คณะ แพทยศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ไดสรุปไววา “เรามาถึงยุคที่ สามารถตรวจยีนมะเร็งพรอมกันเปนชุด ในการตรวจเพียงครั้งเดียว ตอบโจทยความตองการของแพทยผูรักษาที่ตองการขอมูลพันธุกรรม มะเร็งมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเลือกวิธีรักษาผูปวยแตละรายใหเหมาะสม และทันเวลา อยางไรก็ตาม การเขาถึงการตรวจยังมีขอจํากัดอยู ในบานเรา ตองอาศัยความรวมมือจากหลายฝาย เพื่อยกระดับการ บริการการตรวจใหแกผูปวยมะเร็งในประเทศไทย” นายพิเชษฐพงษ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผูจัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส (ประเทศไทย) จํากัด ไดกลาวขอบคุณผูเขารวมงาน ทั้งหมดกวา 500 ทาน ทั้งแพทย วิทยากรผูทรงคุณวุฒิในหลากหลาย สาขาวิชาชีพ และนักเทคนิคการแพทยจากโรงพยาบาลตาง ๆ ทั่ว ประเทศ “เราตระหนักดีวา คุณคาของการตรวจวินิจฉัย เปนหัวใจ สําคัญของการแพทยและสาธารณสุข ดังนั้น จึงจําเปนตองไดรับการ ผลักดันใหทุกหนวยงานสาธารณสุขของประเทศ ไดรับทราบและเห็น ถึงคุณคาของงานตรวจวินิจฉัย ซึ่งจะนําไปสูการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ ดีของผูปวย พรอมกับสงเสริมใหระบบสาธารณสุขมีประสิทธิภาพที่ดี และมีความยั่งยืน”

1 https://gco.iarc.fr/today/data/factsheets/ cancers/39-All-cancers-fact-sheet.pdf access dated 31 October 2022

2 https://gco.iarc.fr/today/online-analysis-pie?v=2020&mode=population&mode_po pulation=continents&population=900&pop ulations=900&key=total&sex=0&cancer=39& type=0&statistic=5&prevalence=0&populati on_group=0&ages_group%5B%5D=0&ages_ group%5B%5D=17&nb_items=7&group_cancer=1& include_nmsc=1&include_nmsc_other=1&halfpie= 0&donut=0 access dated 31 October 2022

¾.Â.-¸.¤. 2565 14 News Update
และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก โรชคือผูริเริ่มรูปแบบ การดูแลรักษาสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล (Personalised Healthcare) และมุงหวังที่จะพลิกโฉมบริการดานเฮลธแคร บริษัทไดรวมมือกับ พันธมิตรตาง ๆ มากมายเพื่อสงมอบการดูแลที่ดีและเหมาะสมที่สุด กับแตละบุคคล โดยการผสานความแข็งแกรงของงานดานเวชศาสตร เขากับศาสตรแหงการวินิจฉัย และใชขอมูลเชิงลึกที่ไดจากการปฏิบัติงาน จริงทางการแพทย ทั้งนี้ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส (Dow Jones Sustainability Indices, DJSI) ไดยกยองใหโรชเปนหนึ่งในบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดใน วงการเภสัชกรรมเปนระยะเวลาติดตอกันมาแลวถึง 13 ป ถือเปน เครื่องยืนยันความอุตสาหะ และความมุงมั่นในการดําเนินตามวิสัยทัศน ของโรชไดเปนอยางดี อีกทั้งยังเปนการสะทอนใหเห็นถึงความพยายาม ของโรชในการเพิ่มการเขาถึงบริการเฮลธแคร ผานความรวมมือกับ องคกรพันธมิตรที่มีอยูในแตละประเทศ ยีนเอ็นเทค (Genentech) ในสหรัฐอเมริกา เปนบริษัทที่กลุม บริษัทโรชเปนผูถือหุนทั้งหมด และโรชเปนผูถือหุนหลักของบริษัท ชูไก ฟารมาซูติคอล (Chugai Pharmaceutical) ในประเทศญี่ปุน เกี่ยวกับโรช โรชกอตั้งขึ้นในป พ.ศ. 2439 ที่เมืองบาเซิล ประเทศส วิต-เซอรแลนด และเปนหนึ่งในผูผลิตยารายแรก ๆ จวบจนวัน นี้ โรชเปนบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ใหญที่สุดในโลก และเปน ผูนําทางดานศาสตรแหงการตรวจวินิจฉัยแบบภายนอกรางกาย (in-vitro diagnostics) บริษัทมุงมั่นสูความเปนเลิศในการคนควา วิจัย และพัฒนาเวชภัณฑ รวมถึงวิธีการตรวจวินิจฉัย เพื่อรักษา
15 ¾.Â.-¸.¤. 2565 เวทีวิจัย เมื่อโลกตองตกอยูภายใตวิกฤต COVID-19 ที่ทําใหหลาย กิจการตองหยุดนิ่งเพื่อเฝาระวังการติดเชื้อ แมในที่ที่คิดวา ปลอดภัยที่สุด ก็อาจเปนที่ที่อันตรายที่สุด ในเมื่อระบบกรอง อากาศยังคงใชเพียง “กรองฝุน” และ “ดักเชื้อโรค” เทานั้น มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ภาควิชาอาชีวอนามัยและความ ปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร ไมไดนิ่งนอนใจ ไดทําหนาที่ “ปญญาของแผนดิน” ขยายขอบเขตการวิจัยเพื่อสรางสรรค นวัตกรรมกรองอากาศ จากเดิมที่ใชเพื่อกรองฝุนในโรงงาน อุตสาหกรรมจนไดผลเปนที่ประจักษ และขยายประโยชนออก ไปในวงกวาง จนปจจุบันไดยกระดับสูแผนกรองเคลือบสารกําจัด เชื้อโรค เพื่อคนไทยหางไกลจากเชื้อโรค ผลงานอีกเรื่อง คือ “การเคลือบแผนกรองดวยซิลเวอรซีโอไลท” เปนการเพิ่มประสิทธิภาพในการฆาเชื้อ จากการพบวาการกรองดวย แผนกรองอยางเดียวเปนการ “ดักเชื้อโรค” ซึ่งเปนเพียงการ “กั้นคน ออกจากเชื้อโรค” แตเพียงชั่วคราว โดยเมื่อผูวิจัยไดทดลองนําเอาเชื้อ จุลชีพที่อยูบนแผนกรองมาเพาะเลี้ยงในหองปฏิบัติการ พบวา ยังคง มีชีวิตสามารถเจริญเติบโต และพรอมแพรกระจายไดตอไป ผูวิจัยจึงไดรวมกับ อ.นัฐชานนท เขาราธ อาจารยประจําภาควิชา อนามัยสิ่งแวดลอม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน คิดหาทางออกโดยนําซิลเวอรซีโอไลท ซึ่งมีฤทธิ์ในการกําจัดเชื้อโรคมาเคลือบที่แผนกรอง โดยพบวาสามารถกําจัดเชื้อโรค “สแตปฟโลคอคคัส ออเรียส” (Staphylococcus aureus) ซึ่งเปนเชื้อโรคติดตอไดอยางเห็นผล ชวยตัดกังวลเรื่องการติดเชื้อได โดยเฉพาะอยางยิ่งในสถานที่ที่จําเปน ตองไดรับการดูแลในดานสุขอนามัยเปนพิเศษ เชน ตามโรงพยาบาล หรือสถานดูแลเด็กออน เปนตน ม.มหิดล - วช. คิดคนและพัฒนาการเคลือบแผนกรองอากาศ ประสิทธิภาพสูงดวย “ซิลเวอรซีโอไลท” เพื่อคนไทยหางไกลจากเชื้อโรค รศ. ดร.ประมุข โอศิริ อาจารยประจําภาควิชาอาชีวอนามัย และความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร ม.มหิดล รศ.ดร.ประมุข โอศิริ อาจารยประจําภาควิชาอาชีวอนามัย และความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร มหาวิทยาลัย มหิดล ไดเลาถึงความสําเร็จที่ผานมาจากการคิดคนนวัตกรรมชุด กรองฝุนและระบบการทํางานของชุดกรองฝุน ที่ไดรับอนุสิทธิบัตร เลขที่ 12926 โดยไดรวมกับ นายสําเริง สาลีวัฒนพงศกุล ผูชวยผูอํานวยการ สํานักโรคจากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดลอม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ใชเทคนิค “การดักมลสาร ดวยมลสาร” ที่สามารถใชกรองฝุนในโรงงานอุตสาหกรรมได แมจะเปนฝุนขนาดเล็ก โดยอาจใชรวมกับถุงกรองดวยก็ได และ มีความยินดีหากสถานประกอบกิจการดําเนินการปองกัน การฟุงกระจายของฝุนไม เพื่อแรงงานไทยรอดพนจากโรคมะเร็ง หลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal cancer) ที่คอยคุกคามสุข ภาวะของผูที่ตองทํางานอยูกับฝุนโดยยากที่จะหลีกเลี่ยง โดยเปนผลงานที่ไดรับทุนวิจัยและนวัตกรรมเทคโนโลยีและ อุตสาหกรรม สํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.) ซึ่งไดรับการตีพิมพ ถึงผลการวิจัยอันเปนที่ยอมรับแลวในวารสารวิชาการ และไดยื่นคําขอ รับสิทธิบัตรไวแลว รอการอนุมัติเพื่อขยายผลสูเชิงพาณิชย ในฐานะ ผลงานนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยมหิดลที่จะสรางชื่อ และคุณประโยชน ไดตอไปในวงกวาง และในฐานะอาจารยประจําภาควิชาอาชีวอนามัยและความ ปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล รศ.ดร.ประมุข กลาวใหความเชื่อมั่นทิ้งทายวา ขอเพียงไดรับการสนับสนุนจากภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนหนวยงานที่เกี่ยวของอยางตอเนื่อง เพื่อรวมคํานึง ถึง “แรงงานไทย” อันเปนฟนเฟองสําคัญของหวงโซเศรษฐกิจและ อุตสาหกรรมของประเทศชาติ ใหมีชีวิตอยูอยางมีคุณภาพ ปลอดภัย และมีสุขภาวะที่ดี เชนเดียวกับพี่นองชาวไทยทุกคน ทีมวิจัยพรอม เดินหนาทํางานวิจัยอยางเต็มที่ ติดตามขาวสารที่นาสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลไดที่ www. ma hidol.ac.th
¡.Â.-µ.¤. 2565 16 หนึ่งโรคหนึ่งรูŒ โรคเริม คือ โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอรปส ซิมเพล็กซ (Herpes simplex virus) หรือ HSV เปน โรคเรื้อรัง เริมไมสามารถรักษาใหหายขาดได บางคน เปนเริมที่ปาก เริมที่อวัยวะเพศ เริมที่ตา ผูติดเชื้อเริม สวนใหญมักจะไมแสดงอาการของโรค และอาจมีการ กําเริบกลับมาเปนซํ้าไดอีก ซึ่งผูปวยที่มีภูมิคุมกันตํ่ามัก มีอาการกําเริบบอยมากกวา โรคเริมพบมากในวัยหนุม สาวไปจนถึงวัยผูใหญ เชื้อเริมแบงออกเปน 2 ชนิด ไดแก - HSV-1 : พบมากบริเวณปาก และผิวหนังเหนือสะดือ - HSV-2 : พบมากบริเวณอวัยวะเพศ และสามารถ ติดตอทางเพศสัมพันธได โรคเริมเกิดจากอะไร? โรคเริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม หรือ HSV ซึ่งเปนเชื้อไวรัส ที่กอใหเกิดตุมนํ้าบริเวณผิวหนังทั่วไป ชองปาก อวัยวะเพศ รวมถึง บริเวณเยื่อเมือกตาง ๆ คลายกับโรคอีสุกอีใสและโรคงูสวัด โดยโรคเริมสามารถติดตอผานการสัมผัสกับรอยโรคที่ผิวหนัง ของผูที่มีเชื้อไวรัสเริม แลวนํามาสัมผัสบริเวณที่สามารถติดเชื้อไดงาย เชน ผิวหนัง ปาก ตา และบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึงสวนบริเวณอื่น ของรางกาย เชน รอยบาดแผล บริเวณผื่นที่ผิวหนัง ก็สามารถรับ เชื้อเขาสูรางกายไดเชนกัน ผูที่ไดรับเชื้อเริมครั้งแรกและไดรับการรักษาจนดีขึ้นแลว เชื้อไวรัสเริมจะยังคงกอตัวสะสมในปมเสนประสาท หากมีปจจัย กระตุนเชื้อเริมจะเคลื่อนตัวตามเสนประสาทไปจนถึงปลาย ประสาททําใหเกิดโรคเริมกําเริบขึ้นอีกได โดยจะมีอาการนอยกวา ครั้งแรก คือ มีตุมนํ้าขนาดเล็กกวา จํานวนตุมนํ้านอยกวา อาจ มีอาการคัน และแสบรอนบริเวณที่จะเปนกอน แลวจึงเกิดกลุม ตุมนํ้าขึ้นในตําแหนงเดิมจากครั้งกอนหรือบริเวณใกลเคียง สิ่งที่กระตุนใหสามารถเปนเริมซํ้าได - ความเครียด - มีภูมิตานทานในรางกายตํ่าลง - พักผอนไมเพียงพอ - การติดเชื้อไวรัส หรือเปนไข - มีการเปลี่ยนแปลงของฮอรโมน - รางกายออนเพลีย - ไดรับยากดภูมิคุมกัน เชน สเตียรอยด - ผานการผาตัดที่กระทบตอเสนประสาท - ขาดสารอาหาร เริม โรคผิวหนังติดตอได ถาไมระวัง! อาการของโรคเริมเปนอยางไร? โรคเริมจะมีอาการที่แตกตางกันไปขึ้นอยูกับวาเปนการ ติดเชื้อครั้งแรกหรือเคยเปนมากอน หลายคนมักเรียกวา เริม งูสวัด ผูที่ติดเชื้อเริมครั้งแรกนั้นจะมีอาการหรือไมก็ได โดย รวมแลวอาการของเริมที่ปาก และเริมที่อวัยวะเพศคอนขาง คลายกัน หากมีอาการจะมีความรุนแรง อาทิ มีตุมนํ้าแตก เปนแผลตื้น ปวดแสบรอน อาจมีไข ปวดเมื่อยตามรางกาย และอาจมีตอมนํ้าเหลืองโตรวมดวย ผูที่ไดรับเชื้อเริมครั้งแรกและไดรับการรักษาจนดีขึ้นแลว เชื้อไวรัสเริมจะยังคงกอตัวสะสมในปมเสนประสาท หากมีปจจัยกระตุนเชื้อเริมจะเคลื่อนตัวตามเสนประสาท ไปจนถึงปลายประสาททําใหเกิดโรคเริมกําเริบขึ้นอีกได โดยจะมีอาการนอยกวาครั้งแรก คือ มีตุมนํ้าขนาดเล็กกวา จํานวนตุมนํ้านอยกวา อาจมีอาการคัน และแสบรอน บริเวณที่จะเปนกอน แลวจึงเกิดกลุมตุมนํ้าขึ้นในตําแหนง เดิมจากครั้งกอนหรือบริเวณใกลเคียง
17 ¡.Â.-µ.¤. 2565 หนึ่งโรคหนึ่งรูŒ ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคเริม - แพทยวินิจฉัยโรคเริมจากการซักประวัติอาการ และ การตรวจลักษณะตุมนํ้า - ในกรณีผูปวยไมมีอาการเริมที่ชัดเจน แพทยอาจวินิจฉัย โดยการตรวจหาเชื้อจากการตรวจทางหองปฏิบัติการ เชน การขูดผิวหนังบริเวณแผลเพื่อตรวจโดยกลองจุลทรรศน การตรวจเลือด การเพาะเชื้อ การทดสอบทางนํ้าเหลือง เพื่อหาระดับสารภูมิตานทาน - หากแพทยวินิจฉัยแลววาผูปวยเปนโรคเริม แพทย จะสั่งจายยาเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสและบรรเทาอาการตอไป ภาวะแทรกซอนของโรคเริม โดยสวนใหญภาวะแทรกซอนของโรคเริม มักเกิดจาก การไมดูแลทําความสะอาดบริเวณแผลเริมอยางถูกวิธี จึง ทําใหบริเวณแผลเกิดการติดเชื้อและการอักเสบไดงาย ซึ่ง ภาวะแทรกซอนของโรคเริมที่อาจเกิดขึ้นได เชน - ตุมนํ้ากลายเปนแผลพุพองและเปนหนอง ที่เกิดจาก การอักเสบซํ้าของเชื้อแบคทีเรีย - การติดเชื้อบริเวณดวงตาจากการติดเชื้อซํ้า อาจทําให กระจกตาอักเสบและสงผลกระทบตอการมองเห็นได - กรณี ผูที่ปวยเปนโรคเกี่ยวกับผิวหนังอักเสบ อยูแลว หากมีการติดเชื้อเริมที่ปากรวมดวย จะทําใหมีโอกาสสูงที่ เชื้อ ไวรัสเริมจะแพรกระจายไปทั่วรางกายได - เริมบริเวณอวัยวะเพศที่พบในเพศหญิง มีความเสี่ยง ตอการเกิดมะเร็งปากมดลูก - เริมบริเวณอวัยวะเพศ มีความเสี่ยงตอการติดเชื้อทาง เพศสัมพันธอื่น ๆ มากขึ้น - เชื้อไวรัสเริมที่เกิดขึ้นสามารถสงผลตออวัยวะอื่น ๆ นอกเหนือจากปาก ผิวหนัง และอวัยวะเพศ อาทิ สมอง ไขสันหลัง - อาจเกิดการอักเสบของเยื่อบุบริเวณทวารหนัก ผูปวยโรคเริมบางรายอาจมีภาวะแทรกซอนขั้นรุนแรง ซึ่งมักพบไดในหญิงตั้งครรภ ทารกแรกเกิด เด็กที่เปนโรค ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ รวมถึงผูที่มีภูมิคุมกันตํ่า เปนตน โดยภาวะแทรกซอนรุนแรงของโรคเริมที่อาจพบได เชน - ภาวะแทรกซอนที่พบในหญิงตั้งครรภ - กรณีมารดาติดเชื้อเริมชวงของการตั้งครรภไตรมาส สุดทาย อาจสงผลใหทารกในครรภเจริญเติบโตชากวาปกติ หรือ คลอดกอนกําหนด - กรณีมารดาเปนโรคเริมบริเวณปากมดลูก หรือ ชองคลอด ในชวงใกลคลอด อาจทําใหทารกติดเชื้อเริมในขณะ คลอด และมีความเสี่ยงเปนโรคเริมชนิดรุนแรงได - ทารกเปนโรคเริมตั้งแตกําเนิด ทําใหทารกมีนํ้าหนักตัวนอย ตาเล็ก ศีรษะเล็ก ปอดอักเสบ ตับโต ตอกระจก เนื้อเยื่อคอรอยด และจอตาอักเสบ มีผื่นขึ้นตามผิวหนังหรือนิ้วมือ - ภาวะแทรกซอนที่พบในเด็ก - โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพที่อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได หรือ Eczema herpeticum - ภาวะแทรกซอนที่พบในทารกแรกเกิด - การติดเชื้อเริมชนิดแพรกระจาย หรือ Disseminated infection ที่สามารถแพรกระจายเขาสูปอด สมอง ระบบทางเดินอาหาร ตับ ไต ไขกระดูก เปนตน - ภาวะแทรกซอนที่พบในผูที่มีภูมิคุมกันตํ่า - หลอดอาหารอักเสบ - ตับอักเสบ วิธีการรักษาเริม โดยปกติแลวโรคเริมจะมีอาการไมรุนแรงและสามารถหายเองได ภายใน 2 สัปดาห แตไมสามารถรักษาใหหายขาดได เนื่องจาก เชื้อไวรัสเริมนั้นยังคงแฝงตัวอยูบริเวณประสาท ซึ่งจะแสดงอาการ ขึ้นอีกเมื่อภูมิคุมกันตํ่าลง หากผูปวยมีอาการของโรคเริมที่ชัดเจน แพทยจะใหการรักษาเริมไปตามอาการของผูปวย เพื่อการบรรเทา อาการเจ็บปวดจากแผลเริม ควบคุมความรุนแรงของอาการโดย การใหยาตานไวรัส ลดความถี่ในการกําเริบซํ้าของโรคเริม และ ลดโอกาสของการแพรเชื้อไวรัสเริมใหกับผูอื่น สวนในกรณีที่ผูปวย บางรายไมมีอาการที่ชัดเจน แนะนําใหปรึกษาแพทยผูเชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยและทําการรักษาไดอยางถูกตอง
¡.Â.-µ.¤. 2565 18 หนึ่งโรคหนึ่งรูŒ ยาสําหรับรักษาเริม ยาตานไวรัส มีทั้งชนิดรับประทาน และชนิดทาผิวหนัง มีสรรพคุณ ในการชวยตานไวรัสเริม ทําใหแผลเริมหายเร็วขึ้น ซึ่งสวนใหญ แพทยจะตองเปนผูสั่งจายยาเทานั้น ไดแก Zovirax (acyclovir), Famvir (famciclovir), Abreva (docosanol), Valtrex (valacyclovir) ยาแกปวด ยาแกปวดชนิดรับประทาน และชนิดเจลหรือขี้ผึ้ง มี สรรพคุณชวยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากเริม สวนมาก สามารถซื้อไดตามรานขายยาทั่วไป ไดแก Aspirin , Tylenol (acetaminophen) , Motrin (ibuprofen) , Advil และยา แกปวดชนิดที่ใชทาลงบนแผลเริม
แพทยแลว อีกหนึ่งสิ่งที่ตองคํานึงถึงเพื่อชวยใหอาการของโรค เริมหายไดเร็วมากขึ้นและลดโอกาสในการกลับมาเปนซํ้า ควร ปฏิบัติตามวิธีดังตอไปนี้ - ควรตรวจเลือดเปนประจํา
ๆ ดวยสบูฆาเชื้อและนํ้า -
- หลีกเลี่ยงไมใหแผลอับชื้น - หากเปนเริมที่ปาก ให หลีกเลี่ยงการทานอาหารรอน อาหารรสเผ็ดหรือเค็ม และผลไมรสเปรี้ยว เนื่องจากอาหาร ดังกลาวจะทําใหรูสึกแสบรอนหากโดนบริเวณตุมนํ้า วิธีปองกันเริม ปจจุบันยังไมมีวิธีการรักษาโรคเริมใหหายขาดได ผูที่ ติดเชื้อเริมจึงตองปองกันโรคเริมโดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรม ที่เสี่ยงตอการติดเชื้อซํ้า รวมถึงปองกันไมใหเชื้อเริมแพรกระจาย ไปสูผูอื่นได ดังนี้ - หลีกเลี่ยงปจจัยหรือสิ่งที่กระตุนใหสามารถเปนเริมซํ้า - กรณีเปนเริมซํ้ามากกวา 6 ครั้งตอป หรือเปนเริมซํ้าและ มีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทยเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม - ผูที่ไมติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของ ผูปวย - ผูที่มีรอยโรคเริมบริเวณอวัยวะเพศ ควรงดการมีเพศสัมพันธ เมื่อเริ่มมีอาการไปจนกวาแผลเริมที่อวัยวะเพศจะหายสนิท เพราะเชื้อสามารถแพรสูคูนอนได - ผูที่มีรอยโรคเริมบริเวณอวัยวะเพศที่ไมแสดงอาการ ควรใช ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ - ระยะแพรเชื้อสูผูอื่น คือ ตั้งแตเริ่มมีอาการนําจนกระทั่ง แผลหายตกสะเก็ด - ผูปวยตองงดใชของใชสวนตัวรวมกับผูอื่น เชน ชอนสอม เครื่องสําอาง แกว ผาเช็ดตัว เสื้อผา ฯลฯ เพราะอาจทําใหเกิด การแพรเชื้อไวรัสไดงาย - ผูหญิงตั้งครรภที่ติดเชื้อไวรัสเริม ควรรีบปรึกษาแพทยโดย เร็วที่สุด เพื่อปองกันการสงผลตอทารกในครรภ ถาม-ตอบเกี่ยวกับเริม 1. เปนเริมและแผลแหงแลว จะมีโอกาสถายทอดไปใหอีกคน หรือไม? ตอบ : หากแผลแหงสนิทแลว โอกาสการถายทอดเชื้อก็จะ ลดลง แตอยางไรก็ตาม ควรจะลดการสัมผัสแผลโดยตรงในชวง นี้ 2. พบวาตัวเองเปนเริมบอยมาก มีอาการแสบ ควรมีการ รักษาอยางไร? ตอบ : แสดงวารางกายมีภาวะภูมิคุมกันบกพรอง แนะนํา ลดปจจัยการกระตุนตาง ๆ เชน ความเครียด การตากแดด ควรมีการออกกําลังกายและพักผอนใหมาก และพบแพทยเพื่อ วางแผนการรักษา รักษาเริมที่ไหน กรุงเทพมหานคร - สามารถเขาการรักษาไดทุกโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน - คลินิกเอกชน ตางจังหวัด - รักษาไดที่โรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ฟรี เริม เปนโรคติดตอทางเพศสัมพันธที่สามารถปองกันและรักษา ได หากเราปองกันเริ่มไดตั้งแตการไมเปลี่ยนคูนอนบอย และใช ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธก็ถือวาสามารถปองกันได แลว และหากเราตรวจเจอและรักษาเร็ว ก็จะมีประโยชนมาก เชนกัน อยาลืมวาเริมแมวาจะรักษาได การที่ไมเปนหรือไมรับ เชื้อเริมมาเลยจะถือวาดีที่สุด เพราะเมื่อเปนแลวการรักษาก็ตอง ทําใหเราเสียเวลา ขอขอบคุณแหลงที่มา : https://lovefoundation.or.th/ herpes/
ไดแก Benzoyl alcohol , Benzocaine , Dibucaine , Lidocaine การดูแลรักษาโรคเริมดวยตัวเอง นอกจากจะเขารับการรักษาโรคเริมอยางถูกตองจาก
- สวมใสเสื้อผาโปรงโลง ไมอึดอัด - ทําความสะอาดตุมนํ้าเบา
ประคบเย็นบริเวณที่ปวด
19 ¾.Â.-¸.¤. 2565 รายงานพิเศษ เมื่อชวงตนเดือนตุลาคม 2565 ที่ผานมา สํานักงานการวิจัย แหงชาติ (วช.) รวมกับ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผูสูง อายุ (มส.ผส.) เผยแพรผลสํารวจ เรื่อง “ทัศนคติตอผูสูงอายุ และความตองการในการเตรียมความพรอมเขาสูสังคมสูงวัย ของคนในวัย Generation Z” ทางเพจเฟซบุค “สูงวัย” มี กลุมตัวอยาง 636 คน เปนประชากร Generation Z หมาย ถึง “ผูที่เกิดระหวางป 2539-2555” แบงเปนชาย รอยละ 39.9 หญิง รอยละ 56.4 ไมระบุรอยละ 3.6 รอยละ 39.5 เขาใจวา ผูสูงอายุมีสภาพรางกายและสภาวะทางจิตใจ ไมเหมือนคนวัยอื่น 3.เมื่อถามวาสถานการณผูสูงอายุของประเทศไทยในปจจุบัน อยูในระดับใด พบกลุมตัวอยางตอบอยางใกลเคียงกันมาก ประกอบ ดวย อันดับ 1 สังคมสูงวัยอยางสมบูรณ รอยละ 28.1 อันดับ 2 สังคมสูงวัยระดับสุดยอด รอยละ 25.9 อันดับ 3 สังคมสูงวัย รอยละ 25.4 และอันดับ 4 ไมทราบรอยละ 20.6 4.เมื่อถามวารูสึกอยางไรกับคําวาสังคมสูงวัย กลุมตัวอยางสวน ใหญ รอยละ 46.7 ระบุวา ตองเตรียมตัว รองลงมา รอยละ 31.6 เฉย ๆ และรอยละ 21.7 วิตกกังวล 5.ทัศนคติ 5 อันดับแรก ที่กลุมตัวอยาง Generation Z มองผูสูง อายุ อันดับ 1 หลงลืม, เลอะเลือน อันดับ 2 เชื่องชา, ไมคลองแคลว อันดับ 3 ไมเปดรับสิ่งใหม, ไมยอมรับฟงความคิดเห็นผูอื่น อันดับ 4 เจ็บปวยงาย และอันดับ 5 มีประสบการณสูง, นาเชื่อถือ ‘ผูสูงอายุ-สังคมสูงวัย’ ในมุมมองของคน ‘Generation Z’ ซึ่ง 3 อันดับแรกของอายุกลุมตัวอยาง อันดับ 1 อายุ 16 ป รอยละ 22.2 รองลงมา อายุ 17 ป รอยละ 17.9 และอันดับ 3 อายุ 18 ป รอยละ 13.8 กลุมตัวอยางสวนใหญรอยละ 56.4 อยูในกรุงเทพฯ จังหวัดอื่น ๆ รอยละ 33.6 และเขตปริมณฑล รอยละ 9.9 ระดับการศึกษา 3 อันดับแรกของกลุมตัวอยาง อันดับ 1 มัธยมศึกษาตอนปลาย รองลงมา อุดมศึกษา และ อันดับ 3 มัธยมศึกษาตอนตน พบวา 1.กลุมตัวอยางสวนใหญรอยละ 57.9 ทราบวา วัย สูงอายุตามคํานิยามของประเทศไทย เริ่มนับเมื่อมีอายุ 60 ป รองลงมา รอยละ 22 เขาใจวาอยูที่อายุ 65 ป อันดับ 3 เขาใจวา อยูที่อายุ 16.8 2.กลุมตัวอยางสวนใหญ รอยละ 60.5 เขาใจวา ผูสูงอายุมี สภาพรางกายและสภาวะทางจิตใจเหมือนคนวัยอื่น ขณะที่อีก 6.ความตองการในการเตรียมความพรอมเขาสูสังคมสูงวัย (ดาน สุขภาพ) อันดับ 1 เพิ่มสิทธิการรักษาพยาบาล การบริการและการ สนับสนุนคาใชจายที่ครอบคลุมทุกการรักษา อันดับ 2 การออกแบบ บริการที่สงเสริมใหผูสูงอายุสามารถดูแลและสรางเสริมสุขภาพของ ตนเอง อันดับ 3 บริการออกตรวจสุขภาพ เยี่ยมบาน จากเจาหนาที่ วิชาชีพทางการแพทย อันดับ 4 บริการรถรับ-สงยังสถานพยาบาล ตามการนัดหมายของแพทย และอันดับ 5 บริการจัดตรวจสุขภาพ ประจําปฟรี
¾.Â.-¸.¤. 2565 20 รายงานพิเศษ 7.ความตองการในการเตรียมความพรอมเขาสูสังคม สูงวัย (ดานเศรษฐกิจและการมีรายไดเพื่อการยังชีพ) อันดับ 1 การเพิ่มจํานวนเบี้ยยังชีพใหมากขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจและ คาครองชีพ อันดับ 2 การสนับสนุนสวนลด หรือกําหนดอัตรา คาใชจายตาง ๆ ที่ถูกลงเปนกรณีพิเศษสําหรับผูสูงอายุ อันดับ 3 การเพิ่มโอกาส หรือการออกมาตรการเพื่อรองรับใหเกิดการ จางงานผูสูงอายุ อันดับ 4 การพัฒนาศักยภาพ การใหความ รูเพื่อการประกอบอาชีพในวัยสูงอายุ และอันดับ 5 การออก มาตรการหรือการออกแบบสินเชื่อเพื่อรองรับการลงทุน สําหรับผูสูงอายุ 8.ความตองการในการเตรียมความพรอมเขาสูสังคม สูงวัย (ดานที่อยูอาศัย) อันดับ 1 การเพิ่มจํานวนและปรับ ลดอัตราคาบริการศูนยที่พักอาศัยสําหรับผูสูงอายุแบบครบ วงจรใหเขาถึงไดงายขึ้น อันดับ 2 การซอมแซม การปรับปรุง สภาพบานเรือนที่อยูอาศัย เพื่อใหใชชีวิตวัยสูงอายุในที่เดิมได อันดับ 3 บริการ ประสานงานสงตอ เพื่อจัดหาบานเรือน และที่อยูอาศัยสําหรับผูสูงอายุยากไร อันดับ 4 บริการจัด สรางบานเรือนที่อยูอาศัยสําหรับผูสูงอายุยากไร และอันดับ 5 การเพิ่มจํานวนและบริการสถานสงเคราะหที่สอดคลองกับ จํานวนผูสูงอายุ 9.ความตองการในการเตรียมความพรอมเขาสูสังคม สูงวัย (ดานสภาพสังคม) อันดับ 1 การออกแบบระบบหรือ บริการที่ทําใหผูสูงอายุเขาถึงขอมูลขาวสาร สิทธิ สวัสดิการ ตาง ๆ ไดอยางรวดเร็ว ทั่วถึงและเปนธรรม อันดับ 2 การ จัดกิจกรรมหรือการเปดพื้นที่เพื่อสงเสริมการมีสวนรวม ระหวางผูสูงอายุ การจัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อใหเกิดการ มีปฏิสัมพันธของผูสูงอายุ อันดับ 3 การสงเสริมใหผูสูงอายุ เขาถึงเทคโนโลยี อาทิ การจัดสวัสดิการทั้งรูปแบบของ เครื่องมือและระบบ เชน การสนับสนุนการเขาถึงคอมพิวเตอร สมารทโฟน ระบบอินเตอรเน็ต เปนตน อันดับ 4 การออกแบบ และพัฒนาระบบขนสงสาธารณะเพื่อผูสูงอายุ ทั้งเรื่องอัตรา คาเดินทางและการเขาถึงการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น และ อันดับ 5 การจัดสวัสดิการดานการศึกษา การเปดหองเรียน การสงเสริมความรูผานรูปแบบหรือกระบวนการตาง ๆ 10.เมื่อถามวาใหความสําคัญหรือมีการเตรียมความ พรอมเพื่อใชชีวิตในวัยสูงอายุดานใดมากที่สุด กลุมตัวอยาง สวนใหญรอยละ 40.9 ระบุวา ดานสุขภาพ สวนอันดับ 2 กับ 3 ใกลเคียงกัน คือ ดานที่อยูอาศัยกับดานสภาพสังคม รอยละ 20.9 กับรอยละ 20.6 ตามลําดับ ขณะที่ดานเศรษฐกิจอยูใน อันดับ 4 รอยละ 17.6 ทั้งนี้ องคการสหประชาชาติ (UN) แบงสังคมสูงวัยออกเปน 3 ระดับ คือ 1.สังคมสูงวัย มีสัดสวนประชากรอายุ 60 ปขึ้นไป มากกวา รอยละ 10 หรือประชากรอายุ 65 ปขึ้นไป มากกวารอยละ 7 ของ ประชากรทั้งหมด 2.สังคมสูงวัยอยางสมบูรณ มีสัดสวนประชากรอายุ 60 ปขึ้นไป มากกวารอยละ 20 หรือประชากรอายุ 65 ปขึ้นไป มากกวา รอยละ 14 ของประชากรทั้งหมด และ 3.สังคมสูงวัยระดับสุดยอด มี สัดสวนประชากรอายุ 60 ปขึ้นไป มากกวารอยละ 28 หรือประชากร อายุ 65 ปขึ้นไป มากกวารอยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ขอมูล “World Population Dashboard” โดย กองทุน ประชากรแหงสหประชาชาติ (UNFPA) สืบคน ณ วันที่ 14 ต.ค. 2565 ระบุวา ทั่วโลกมีประชากรทั้งหมด 7,954 ลานคน ในจํานวนนี้รอยละ 10 หรือ 795.4 ลานคน เปนผูมีอายุ 65 ปขึ้นไป แตเมื่อเจาะจงดูที่ ประเทศไทย ขอมูลชุดนี้ระบุวา ประเทศไทยมีประชากรทั้งหมด 70.1 ลานคน ในจํานวนนี้รอยละ 14 หรือราว 9.8 ลานคน เปนผูมีอายุ 65 ป ขึ้นไป เทากับวา....ในป 2565 ประเทศไทยกําลังเขาสูภาวะ “สังคมสูงวัย อยางสมบูรณ” กันแลว!!! ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://www.naewna.com/local/ 686876
21 ¾.Â.-¸.¤. 2565 รูŒทันโรค ภาพ : Shutterstock นอกจากนี้ ปจจัยเสี่ยงตาง ๆ อาทิ อายุมาก นํ้าหนักตัวมาก สูบบุหรี่เปนประจํา ตั้งครรภ เปนมะเร็ง เคยรับการผาตัดมากอน หรือการรับประทานยาคุมกําเนิดก็ทําใหเกิดลิ่มเลือดไดงายเชนกัน วิธีการแกไขที่นักวิชาการ นักวิจัย หรือแพทยแนะนํา ก็คือ 1.ใหลุกเดินเปนระยะ ๆ หรือทําการบริหารเทาดวยการกระดก ขอเทาขึ้น-ลง แกวงขา เพื่อชวยใหการไหลเวียนของเลือดที่ขาดีขึ้น 2.ดื่มนํ้าเปลามาก ๆ ชวยใหความเขมขนของเลือดลดลง โอกาส เกิดลิ่มเลือดจึงมีนอย และควรงดดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่ม แอลกอฮอล เพราะอาจทําใหรางกายสูญเสียนํ้าจากการปสสาวะบอย 3.ใสถุงนองชนิดรัดพิเศษ เพื่อใหเลือดไหลเวียนไดดีขึ้น 4.รับประทานอาหารเบา ๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดของ กระเพาะอาหาร ทําใหเกิดการเคลื่อนที่ของเลือด และชวยเพิ่ม ระดับออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมอง 5.หากมีอาการปวดบวมที่เทา ขา ควรรับประทานแอสไพริน เพื่อปองกันการเกิดลิ่มเลือด Deep Vein Thrombosis (DVT) คงเปนชื่อที่ไมคอยคุนหู สักเทาไร แตถาพูดถึง Economy Class Syndrome หรือ โรคชั้นประหยัด นักเดินทางหลายคนคงรอง “ออ” ขึ้นมา ทันที เพราะมักเกิดขึ้นกับผูที่นั่งเครื่องบินเปนเวลานานหลาย ชั่วโมง สาเหตุที่แทจริงของโรคชั้นประหยัด นักวิจัยชาวนอรเวยได ทําการทดลองนําอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรง 20 คน มาอยู รวมกันในหองหองหนึ่ง จากนั้นเปลี่ยนแปลงความกดอากาศใน หองใหคลายกับอากาศภายในเครื่องบินนานกวา 10 นาที โดย ทําเปนชวง ๆ ติดตอกัน 8 ชั่วโมง เทากับเวลานั่งเครื่องบินใน เสนทางไกล ๆ พวกเขาพบวาเกิดการเปลี่ยนแปลงในรางกาย ของคนเหลานั้นอยางเห็นไดชัด คือ ปริมาณกาซออกซิเจนใน เลือดลดลง และปริมาณสารเคมีในรางกายที่เกี่ยวพันกับการ ทําใหเลือดแข็งตัวเพิ่มขึ้น เมื่อรางกายไดรับออกซิเจนไมเพียงพอ จึงเรงสรางเม็ดเลือดแดงใหมากขึ้น เพื่อใหเม็ดเลือดแดงชวยดูด จับออกซิเจนใหออกซิเจนสามารถเขาสูกระแสเลือดไดเทาเดิม แตเมื่อเม็ดเลือดแดงมากขึ้น เลือดมีความเขมขนขึ้น จึงงายตอ การเกิดลิ่มเลือดดวย Deep Vein Thrombosis หรือโรคชั้นประหยัด ภาพ : Shutterstock หากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นไปอุดตันเสนเลือดฝอยที่ขา จะทําให เกิดเสนเลือดขอด หรือหนักกวานั้น อาจเกิดอาการปวดบวม ที่เทาได แตถาลิ่มเลือดเหลานี้เกิดไปอุดตันเสนเลือดหัวใจหรือ เสนเลือดสําคัญ ๆ อื่น ๆ ขึ้นมาละก็ อาจถึงเสียชีวิตไดเลยทีเดียว ภาพ : Shutterstock อันที่จริงโรคชั้นประหยัดหรือลิ่มเลือดอุดตันนี้เกิดไดกับผูที่ ตองเดินทางติดตอกันเปนเวลานาน ๆ ไมวาจะโดยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถทัวรก็ตาม แมแตผูปวยที่ตองนอนอยูบนเตียงนาน ๆ ก็เกิด ภาวะนี้ได เพราะฉะนั้น ใครที่นั่งนาน ๆ แลวเริ่มรูสึกปวดขา เจ็บ หนาอก หายใจไมสะดวก อาจจะตองลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถบาง ดูแลตัวเองกันสักหนอย เพื่อหางไกลจากโรค ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://www.trueplookpanya.com/ knowledge/content/90894
23 ¾.Â.-¸.¤. 2565 ขŒอมูลสุขภาพ เราอยูในยุคสมัยที่คนนอนหลับพักผอนไมเพียงพอ การ นอนหลับไมเพียงพอเปนประจําสงผลใหเกิดอาการซึมเศราได การเขานอนและตื่นนอนเวลาเดิมเปนประจําทุกวัน ชวยให คุณภาพการนอนดีขึ้น อยาอดนอนตลอด 5 วัน แลวไปหลับ ชดเชยในวันหยุด ควรนอนหลับใหเพียงพอ 8 ชั่วโมงตอวัน 7 วันตอสัปดาห วิธีนี้จะชวยใหอารมณดีขึ้น เติมเต็มใจดวยการออกกําลังกาย มีงานวิจัยมากมายแสดงใหเห็นวา การออกกําลังกายสงผลดี ตอสุขภาพจิต ทั้งชวยตานซึมเศรา (antidepressant) และบรรเทา อาการซึมเศราระดับเล็กนอยถึงปานกลางได หากแตการออกกําลัง กายอาจเปนเรื่องยากสําหรับคนที่ขาดแรงบันดาลใจหรือรูสึกหมด เรี่ยวแรงจากโรคซึมเศรา ดังนั้น จงเริ่มตนงาย ๆ อยางการเพิ่มกาว เดินในแตละวัน นอกจากนี้ การออกกําลังกายยังชวยใหนอนหลับดี ขึ้น ตราบใดที่ไมออกกําลังกายใกลกับเวลานอนมากเกินไป กินอาหารใหสมดุล อุดมดวยสารอาหาร การกินอาหารที่อุดมดวยวิตามิน แรธาตุ และสารตานอนุมูลอิสระ ไมเพียงแตชวยใหรางกายแข็งแรงขึ้น แตยังทําใหสุขภาพจิตดีขึ้นดวย งานวิจัยที่ติดตามชาวออสเตรเลีย จํานวน 12,385 คน เปนระยะ เวลาประมาณ 7 ป พบวา คนที่ทานผักและผลไมเพิ่มขึ้น ใหคะแนน ตนเองสูงขึ้นอยางมากเมื่อตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับระดับความสุข และความพึงพอใจในชีวิต ดังนั้น เลือกทานธัญพืชไมขัดสี ถั่ว หลากชนิด ผักและผลไมเปนประจํา วางสมารทโฟนลงบาง หลายคนมีอาการซึมเศราและวิตกกังวลเพิ่มขึ้นจากการเสพ โซเชียลมีเดีย ปจจุบันคนไทยจํานวนมากมีอาการ FOMO (Fear of Missing Out) หรือกลัวตัวเองจะตกกระแส สงผลใหหมกมุน อยูกับเรื่องราวตาง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่คนอื่นกําลังทําในโซเชียล สรางความวิตกกังวลวาตัวเองจะพลาดที่ไมไดรับรูขาวสารหรือได ทําสิ่งเหลานั้น จําไวเสมอวา ผูคนตางอวดดานสดใสบนโลกออนไลน ระวังการเปรียบเทียบตัวเองกับผูอื่น ลดการเช็กโทรศัพทลง ลองหัน มาเขียนบันทึกเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตลงในสมุด อาจคนพบวาที่จริง แลวชีวิตของเราก็มีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยไมจําเปนตอง อาศัยผูอื่นชื่นชม เชื่อมตอกับคนอื่นอยูเสมอ ขอความชวยเหลือเมื่อตองการ แมวาการใชเครื่องมือสื่อสารมากเกินไปอาจสงผลเสีย แต เทคโนโลยียังมีประโยชนชวยเชื่อมตอผูคนเขาดวยกัน ยิ่งในชวงเวลา วันสุขภาพจิตโลก World Mental Health Day 2022 การนอนหลับที่เพียงพอ ชวยใหอารมณจิตใจแจมใสขึ้น
¾.Â.-¸.¤. 2565 24 ขŒอมูลสุขภาพ ที่ตองอยูหางกัน (Social Distancing) การใชเทคโนโลยีติดตอกับ ครอบครัวและเพื่อนฝูงเพื่อเลาเรื่องราวและพูดคุยถึงความรูสึก ชวยยกระดับอารมณและสรางความผาสุกทางอารมณได หากรูสึกโดดเดี่ยวทวมทนจนไมสามารถรับมือเพียงลําพังได อยาลืมขอความชวยเหลือจากผูอื่น ฝกสมาธิเปนประจํา เสริมจิตใจใหเขมแข็ง การทําสมาธิเปนหนึ่งในขั้นตอนที่ดีที่สุดที่สามารถทําได เพื่อคลายความเครียด และสงเสริมการมีสมาธิ งานวิจัยแสดง ใหเห็นวา การทําสมาธิชวยเพิ่มความตระหนักรู (Awareness) รูทันเหตุการณ ความคิด และอารมณที่กําลังเกิดขึ้น และยิ่งเรา นั่งสมาธิมากเทาไหร เรายิ่งสรางความยืดหยุนทางจิตใจ (Mental resilience) ไดมากขึ้นเทานั้น ซึ่งจะชวยเพิ่มความสามารถใน การจัดการกับความเครียด ชวยใหทํางานสําเร็จลุลวง และอยู ภายใตแรงกดดันไดดีขึ้น ปจจุบันมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ชวย
สามารถใหประโยชนดานสุขภาพจิตในระยะยาว สรางพื้นที่ปลอดภัยดวยการเขียนบันทึก การเขียนบันทึกเปนวิธีที่ดีที่ชวยบรรเทาอาการวิตกกังวล การเขียนมอบพื้นที่สวนตัวในการปลดปลอยความคิด ความรูสึก และเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดวันใหเปนระบบมากยิ่งขึ้น แทนที่จะปลอยใหความคิดเหลานั้นวนเวียนในหัวและสรางความ กังวล ลองใชเวลากอนเขานอนไมเกิน 15 นาที ในการปลดปลอย ความกังวลลงบนกระดาษ หรือแมกระทั่งสิ่งที่ตองทําในวันรุงขึ้น จะชวยบรรเทาความวิตกกังวลไดดีขึ้น และอาจพบวิธีแกปญหาที่ ไมไดนึกถึงมากอน สรางสุขดวยการให เมื่อชวยเหลือผูอื่นสมองจะหลั่งสารสื่อประสาทที่สรางความ รูสึกดี ไดแก โดพามีน ออกซิโตซิน เซโรโทนิน และ เอ็นดอรฟน สงผลใหคุณมีความสุข การชวยเหลือผูอื่นยังชวยสรางความสัมพันธ ที่ดีกับคนในสังคม ชวยปองกันจากภาวะซึมเศราได ไมจําเปนวา ตองไปทํางานอาสาสมัครใหญโตอะไร เพียงแคชวยคนยกของ เสียสละที่นั่งใหคนชรา หรือมีนํ้าใจชวยเหลือเพื่อนรวมงาน แคนี้ ก็เพียงพอ หมั่นขอบคุณเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต หมั่นขอบคุณผูอื่น รวมทั้งเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ การแสดงออกถึงความซาบซึ้งสัมพันธกับความสุขจากการมองโลก ในแงดี ไมเพียงแตชวยสรางความสัมพันธที่ดีกับคนรอบขาง แตยัง ชวยเพิ่มความแข็งแกรงทางอารมณไดอีกดวย ลองขอบคุณสิ่งเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในแตละวัน เชน ขอบคุณตัวเองที่ไปทํางานกอนเวลา ทําใหไดมีเวลาซื้อกาแฟดี ๆ มาดื่มกอนเริ่มงาน หรือขอบคุณ พนักงานรักษาความปลอดภัยหนาตึกที่ทํางานที่ชวยดูแลความสงบ เรียบรอย ดูแลตัวเองในวันที่เหนื่อยลา เปนเรื่องงายที่จะใหความสําคัญกับความตองการของคนอื่น แตการใหเวลากับตัวเองเปนประโยชนอยางมากตอสุขภาพจิตของคุณ ลองหาเวลาทําเรื่องเล็ก ๆ ใหตัวเอง เชน การอานหนังสือที่ชอบ หรือจุดเทียนหอมพรอมฟงเพลงโปรด การดูแลตนเองยังหมายถึง การพูดกับตัวเองดวยคําพูดดี ๆ และกลาปฏิเสธสิ่งที่เราไมตองการ ไมวาวิธีการดูแลตัวเองจะเปนอยางไร แตจําไววา ไมใชเรื่องเห็น แกตัวที่จะดูแลสุขภาพจิตตัวเองใหดี เพราะสุขภาพจิตเปนเรื่อง สําคัญ ที่จะชวยสงเสริมใหทุกทานกาวผานปญหาตาง ๆ ไปได ทาง บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จึงอยากเปนกําลังใจใหกาวผานในชวง ทายป 2565 ดวยสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง BDMS Wellness Clinic มุงมั่นพัฒนาและวิจัยเรื่องสุขภาพ เพื่อมอบเปนของขวัญสุขภาพแกคนไทยทุกคน เพราะสุขภาพที่ดี คือของขวัญที่ดีที่สุด Live longer, Healthier and Happier สอบถามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ไลน : @bdmswellnessclinic or https://lin.ee/rdIDv1A เว็บไซต : www.bdmswellness.com ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://www.msn.com/th-th/news/
ฝกฝนสมาธิ เชน Headspace, Calm, The Mindfulness App หรือ สถาบันพลังจิตตานุภาพ (www.samathi.com) โดยใช หลัก “วิทิสาสมาธิ” แบงทําวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที รวม ได 15 นาทีตอวัน และถาสามารถทําไปไดเรื่อย ๆ การทําสมาธิ
national-world-mental-health-day-2022
¾.Â.-¸.¤. 2565 28 Medical Technology เคยสงสัยกันไหมวา นิ้วกอยเทา สนเทา หัวเขา หรือแมกระทั่ง หัวไหลของเรา มักมีแรงดึงดูดกับขอบโตะ ขอบตู ขอบเตียง หรือ แมแตผนังมุมใดมุมหนึ่งของบาน โดยมักจะทิ้งรอยเขียวชํ้าเปน อนุสรณไวใหระลึกถึงความไมระวังตัว เคยสงสัยกันตอไปอีกหนอย ไหมวา การที่เราเดินชนสิ่งของในบานอาจจะเปนเพราะการจัด วางสิ่งของไมเหมาะสม หรือเปนสัญญาณของการมีปญหาทาง สายตา หรืออาจเปนเพราะ ‘แสงสวาง’ ภายในบานที่ทําใหการ มองเห็นไมชัดเจน ซึ่งหากมีสมาชิกในบานเปนผูสูงอายุหรือผูที่มี สายตาเลือนราง ปจจัยเหลานี้จึงเปนเรื่องที่ไมควรมองขามอยาง ยิ่ง เพราะผลเสียอาจจะไมใชแครอยฟกชํ้าตามรางกาย รศ.ดร.พิชญดา เกตุเมฆ และทีมวิจัย จากภาควิชา เทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย มองเห็นปญหาจากแสงสวาง ปรับปรุงและพัฒนา ผลงานวิจัยรวมกับภาควิชาเคหะการ คณะสถาปตยกรรมศาสตร ภาค วิชาวิศวกรรมไฟฟา คณะวิศวกรรมศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ทีมแพทยจากโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ และบริษัท ไลทติ้ง แอนด อีควิปเมนท จํากัด (มหาชน) ภายใตการสนับสนุนจาก สํานักงานการวิจัยแหงชาติ (วช.) นํางานวิจัย “การพัฒนานวัตกรรม ที่ชวยเหลือการดํารงชีวิตดานการมองเห็นสําหรับผูสูงอายุและผูที่ มีสายตาเลือนราง” สูหลอดไฟ LED รุนแรกที่ชวยใหผูสูงอายุ ผูที่มี สายตาเลือนราง หรือแมแตผูที่มีสายตาปกติสามารถมองเห็นความ แตกตางระหวางพื้นที่ตางระดับและวัตถุภายในบานไดดียิ่งขึ้น โดย ไมตองปรับตัว และไมขัดตอการใชชีวิตประจําวัน “ระบบแสงสวาง LED จากการวิจัยนี้มีความยาวคลื่นที่ผานการ ทดสอบกับผูสูงอายุและผูที่มีสายตาเลือนรางแลววา ชวยเพิ่มความ ตางระหวางสีทําใหการมองเห็นชัดเจนและเคลื่อนไหวไดสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ชวยลดการเกิดอุบัติเหตุจากการลมที่ไมสามารถ สังเกตเห็นความแตกตางระหวางพื้นตางระดับ วัสดุอุปกรณเครื่องใช และสภาพแวดลอมที่แตกตางกัน โดยหลอดไฟที่ไดรับการพัฒนาจะ ใชคลื่นแสงที่มีความยาว 3 ชวง ไดแก แดง เขียว และนํ้าเงิน เมื่อ ผสมกันแลวจะไดเปน “แสงสีขาว” ที่ชวยเพิ่มความตางระหวาง สีไดอยางชัดเจน นอกจากนี้ ยังเพิ่มแสงสีขาวที่เพิ่มความสามารถ ในการขยายความแตกตางของสีบางคูใหเดนชัดยิ่งขึ้น ในสวนของ ผลิตภัณฑหลอดไฟผลิตออกมาทั้งหมด 3 ชุด ไดแก ชุด FR-L แสงไฟทั่วไป (General Lighting) ชุด BV-L และชุด CV-L แสงเฉพาะ จุด (Task Lighting) ซึ่งไดผานการทดสอบกับผูมีสายตาเลือนราง จากงานวิจัยของนิสิตปริญญาเอก (ทุนจุฬาฯ ดุษฎีภิพรรธน) ครั้งนี้ เปนสวนที่ตอยอดเพื่อนําไปผลิตและใชไดจริงในเชิงพาณิชย ขณะนี้ พัฒนาเปนหลอดชนิดยาวเสร็จสมบูรณและมีแผนผลิตหลอดชนิด กลมเพิ่มเติม ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2564 มีแผนนําไปทดสอบการใช งานจริงในศูนยฟนฟูการมองเห็นของโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ และในบานพักผูมีสายตาเลือนรางตามลําดับ ซึ่งอยูในกระบวนการ ขอจริยธรรมการวิจัยและเตรียมความพรอม” รศ.ดร.พิชญดา กลาว “ถาทํางานวิจัยก็ตองกัด ไมปลอยคะ ทําใหตอเนื่อง ถาเลือกจะทําผลงานนี้แลว ก็ตองทําไปใหสุด มีความ อดทน และการมีความรวมมือ กับผูเชี่ยวชาญและ นักวิจัยในดานที่เกี่ยวของ คือสิ่งที่สําคัญที่สุดคะ” แสงสวางเพื่อผูสูงอายุและผูที่มีสายตาเลือนราง รศ.ดร.พิชญดา เกตุเมฆ ภาควิชาเทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
29 ¾.Â.-¸.¤. 2565 Medical Technology พระราชบัญญัติการฟนฟูสมรรถภาพคนพิการป พ.ศ.2534 ให นิยามผูที่มีสายตาเลือนราง (low vision) วาเปนผูที่มีทัศนวิสัยใน การมองเห็นเพียง 20 ฟุต ในขณะผูที่มีสายตาปกติสามารถมองเห็น ไดถึง 70 ฟุต (20/70) เนื่องจากการมองเห็นที่ไมชัดเจน สงผลใหการ เคลื่อนไหวชาลง เพราะตองแยกแยะพื้นผิววัตถุและความสูง-ตํ่า ของทางเดินอยางระมัดระวัง การแยกแยะสี-ความตางระหวางสีความสวาง (contrast) จึงเปนการมองเห็นพื้นฐานที่ทําใหผูมีปญหา ดานสายตาสามารถแยกแยะความแตกตางไดงายที่สุด รศ.ดร.พิชญดา จึงทําการวิจัยคูสีและแอปพลิเคชันสําหรับนักออกแบบเพื่อนําไปใช ในงานออกแบบผลิตภัณฑเครื่องใชภายในบานที่ตอบโจทยกับสังคม สูงวัยและผูที่มีสายตาเลือนราง “อีกผลงานหนึ่งที่เราทําการวิจัย คือ แอปพลิเคชันสําหรับนักออกแบบ เปนการจําลองการมองเห็นของ ผูที่มีสายตาเลือนราง เพื่อใหนักออกแบบสามารถเห็นมุมมอง จุดอับ และเลือกสีที่เหมาะสม ที่ทําใหเกิดความแตกตางของวัตถุ โดย แอปพลิเคชันทํางานรวมกับกลองมือถือเพื่อถายรูปมุมมองพื้นที่ที่ ตองการออกแบบ เลือกฟงกชัน รอการประมวลผล และจําลองภาพ การมองเห็นของผูสูงอายุในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งยังอยูในขั้นตอนของการ พัฒนา นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับ Color palette ชุดเทียบ คูสี และเทรชโชลของคาความสวาง คาความอิ่มตัวและคาความตางสี* เปนการจับคูสีที่ทําใหเห็น Contrast อยางชัดเจน โดยมีการบอก คาสีและบอกเกณฑการเลือกคูสี ซึ่งในอนาคตตองการใหมีการนําไป ใชอยางแพรหลายเพื่อความปลอดภัยของทุกคนดวยคะ” *Color palette ชุดเทียบคูสี มีเทรชโชล ดังนี้ 1. คาความสวางของสี / คาการสะทอนแสง (Light reflectance value (LRV) ตามมาตรฐาน British Standard 8493 มากกวาหรือ เทากับ 30 2. คาความอิ่มตัวสี (Chroma: ∆C*) มากกวาหรือเทากับ 12 (จาก การทดลอง) 3. คาความตางสี (∆E2000) มากกวาหรือเทากับ 9.8 (จากการ ทดลอง) ถึงแมวางานวิจัยชิ้นนี้จะสมบูรณเพียงพอตอการนําไปใชประโยชน แตการพัฒนายังไมสิ้นสุด รศ.ดร.พิชญดา กลาวถึงอนาคตการตอยอด งานวิจัยวา “มีนวัตกรรมอื่นที่อยูในโครงการนี้และตั้งใจทําตอยอดอยูคะ อาจจะเปนผลงานที่มีคนทําไปเยอะแลว นั่นก็คือ ‘Guide Light’ สอง ทางตอนลุกไปเขาหองนํ้าตอนกลางคืน ซึ่งเราจะผสมสีไฟและปรับการ สองสวางใหม เพื่อไมใหสงผลกระทบตอการนอนหลับอยางตอเนื่องของ ผูสูงอายุ ซึ่งยังตองทําการทดลองตอไปถึงประสิทธิภาพที่สามารถใชได จริงตามที่คาดการณไวคะ” “ถาทํางานวิจัยก็ตองกัดไมปลอยคะ ทําใหตอเนื่อง ถาเลือกจะทํา ผลงานนี้แลวก็ตองทําไปใหสุด มีความอดทน และการมีความรวมมือกับ ผูเชี่ยวชาญและนักวิจัยในดานที่เกี่ยวของคือสิ่งที่สําคัญที่สุดคะ” ขอขอบคุณแหลงที่มาของขอมูล : https://www.research.chula.ac.th/th/news/11949/
¾.Â.-¸.¤. 2565 30 สมุนไพรใกลŒตัว ทองพันชั่ง ชื่อสามัญ White crane flower ทองพันชั่ง ชื่อวิทยาศาสตร Rhinacanthus nasutus (L.) Kurz (ชื่อพองวิทยาศาสตร Rhinacanthus communis Nees) จัดอยูในวงศเหงือกปลาหมอ (ACANTHACEAE) สมุนไพรทองพันชั่ง มีชื่อทองถิ่นอื่น ๆ วา ทองคันชั่ง หญามันไก (ภาคกลาง) เปนตน โดยมีถิ่นกําเนิดในประเทศอินเดีย มาเลเซีย และมาดากัสการ โคนเปนหลอด มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ปลายแยกเปน 2 กลีบ กลีบมีขนยาวประมาณ 0.8 เซนติเมตร และกวางประมาณ 0.1 เซนติเมตร ปลายแยกเปน 2 แฉกแหลมสั้น ๆ สวนกลีบลาง แผกวางประมาณ 1.5 เซนติเมตร แยกเปน 3 แฉก สวนกานเกสร จะสั้นติดอยูที่ปากทอดอก - ผลทองพันชั่ง ลักษณะผลเปนฝกและมีขน ภายในฝก มีเมล็ด 4 เมล็ด สมุนไพรทองพันชั่ง เปนสมุนไพรที่นิยมนํามาใชในการ รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน เชื้อราบนผิวหนังเปนหลัก ซึ่งสวน ที่นํามาใชเปนยาสมุนไพรนั้นก็ไดแก ตน ใบสด รากสดหรือแหง และ ทั้ง 5 สวนของตน (ตน, ดอก, ใบ, กาน, ราก) และทองพันชั่งยัง สามารถชวยรักษาอาการอื่น ๆ และโรคตาง ๆ ไดอีกมากมาย ไปดู กันเลยครับ สรรพคุณของทองพันชั่ง -
30
10-15
กรวดตมเปนนํ้าดื่ม (กาน, ใบ) - ชวยแกลมสาร (ไมมีการระบุสวนที่ใช) - ใชเปนยาหยอดตา
-
แกพิษไขก็ได (ใบ, ราก) - ชวยแกไขเหนือ (ไมมีการระบุสวนที่ใช) - ชวยแกอาการไอเปนเลือด (ใบ) - ชวยแกอาการชํ้าใน (ไมมีการระบุสวนที่ใช) - ชวยทําใหระบบกระเพาะอาหารทํางานไดดีมากขึ้น (ใบ) - ชวยแกอาการจุกเสียด (ไมมีการระบุสวนที่ใช) - ชวยแกไสเลื่อน ไสลาม (ทั้งตน) - ชวยแกปสสาวะผิดปกติ ปสสาวะบอย - ชวยรักษาโรคนิ่ว ดวยการใชทองพันชั่งทั้งตน ดอก ใบ กาน และ ราก นํามาสับเปนชิ้นเล็ก ๆ แลวตากแดดใหแหง ตมเปนนํ้าดื่ม (ทั้งตน) - ชวยรักษาริดสีดวงทวาร (ใบ) - ชวยแกโรคมุตกิดระดูขาวของสตรี (ใบ) ใชรักษาโรคตับอักเสบ (สารแนพโทควิโนนเอสเทอร) - ชวยฆาพยาธิ (ใบ) - ชวยขับพยาธิตามผิวหนัง ชวยแกพยาธิวงแหวนตามผิวหนัง ตามบาดแผล (ใบ, ราก, ทั้งตน) ทองพันชั่ง สรรพคุณและประโยชนของตนทองพันชั่ง 50 ขอ ! โดย เมดไทย ปรับปรุงเมื่อ 02 กันยายน 2020 (เวลา 00:41 น.) ลักษณะของทองพันชั่ง - ตนทองพันชั่ง เปนไมพุมขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร โคนของลําตนเปนเนื้อไมแกนแข็ง มีกิ่งออนเปนสี่เหลี่ยม - ใบทองพันชั่ง เปนใบเดี่ยว ลักษณะใบเปนรูปไข ปลายใบ และโคนใบแหลม ยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร และกวาง ประมาณ 2-3 เซนติเมตร ขอบใบเรียบหรือเปนคลื่นเล็กนอย ใบออกตรงขามกันเปนคู ๆ - ดอกทองพันชั่ง ออกดอกเปนชอตรงซอกมุมใบ กลีบดอก มีสีขาว กลีบรองดอกมี 5 กลีบ และมีขน กลีบดอกติดกัน
ชวยบํารุงธาตุ บํารุงรางกาย และใชเปนยาอายุวัฒนะ (ราก, ตน) - ชวยแกโรค 108 ประการ (ตน) - ชวยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบ) - ชวยรักษาวัณโรคปอดในระยะเริ่มแรก ดวยการใชกานและ ใบสดประมาณ
กรัม (ถาแหงใช
กรัม) นํามาผสมกับนํ้าตาล
(ไมมีการระบุสวนที่ใช)
ใบรสเบื่อเมาชวยดับพิษไข หรือจะใชรากนํามาตมรับประทาน
¾.Â.-¸.¤. 2565 32 สาระน‹ารูŒ สายปงยาง ตองเคยประสบอยางแนนอน ปงหมูอยูดี ๆ นํ้ามันหมู ปะทุใส แสบสุด ๆ นองพนักงานบอกใหใสเห็ดเข็มทอง ก็ทําแลวนะ แตกระเด็นโดนแลวนี่สิ สิ่งเดียวที่คิดออกตอนนั้น คือ การเอานํ้าแข็งประกบ แตรูหรือไมวา ถาหากเอานํ้าแข็ง ประกบแผลโดยตรง อาจทําใหแผลติดเชื้อได ปฐมพยาบาลเบื้องตน - ลางแผลดวยนํ้าสะอาดทันที หรือเปดใหนํ้าไหลผานแผลอยางนอย 10 นาที - ประคบแผลดวยความเย็น ใหหอกอนนํ้าแข็งดวยผาสะอาดกอน - ทายาทาแผลสด เพื่อยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง และเพิ่มความชุมชื้น แกผิวหนัง ขอควรระวัง! - หากมีตุมใสเกิดขึ้น หามเจาะ เพราะถุงนํ้าจะคอย ๆ หายไปเอง แตถา หากเปนขนาดใหญ ใหพบแพทยเพื่อทําหัตถการที่ปลอดเชื้อ - ไมควรตัดผิวหนังที่พองออก เพราะจะเปนการเปดแผลใหกวางขึ้น และเสี่ยงตอการติดเชื้อได - ไมควรใชยาสีฟนทาเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทําใหแผลหายชา และทําให แผลเสี่ยงติดเชื้อได - หากแผลที่โดนนํ้ามันลวกเปนวงกวาง ควรไปโรงพยาบาลทันที เมื่อโดนนํ้ามันกระเด็นใส ไมวาจะแสบสักแคไหน แตเราควรมีสติ และ รีบลางแผลโดยใหนํ้าไหลผานแผลใหเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาอาการแสบรอน เปนลําดับแรกนะคะ สายปงยาง ตองรู โดนนํ้ามันหมูกระเด็นใส รักษาอยางไร เมื่อเปนแผลสด สิ่งแรกที่แว็บขึ้นมาในหัว แลวฉันเลือกอะไร ไดไหม เลือกไมเปน “แผลเปน” ไดรึเปลา แนนอน สิ่งหนึ่ง ที่อาจทําใหเราขาดความมั่นใจไป นั่นก็คือ แผลเปน ดังนั้น เปนแผลปุบ ใหตั้งสติปบ รักษาทีละสเต็ป แผลเปนก็ไมถาม หาอยางแนนอน แลวจะมีวิธีไหนบาง อยาไดรอชาเราไปดู พรอมกันเลย กดหามเลือด กรณีแผลมีเลือดออก ใหกดทับบริเวณแผลใหเลือดหยุด ไหล โดยใชผาสะอาดหรือผากอซปลอดเชื้อ แตกอนกดหาม เลือดตองลางมือใหสะอาดกอนเสมอ ลางแผลใหสะอาด อยาใหมีสิ่งสกปรกกอนลาง กดหามเลือดเรียบรอยแลว ใหลางแผลดวยนํ้าสะอาด นํ้าเกลือ หรือสบูออน ๆ และแอลกอฮอล ใชเช็ดรอบแผลได แต!! ไมควร เช็ดบริเวณแผลโดยตรง เพราะแอลกอฮอลจะไปทําลายโปรตีน ในเนื้อเยื่อ สงผลใหแผลหายชาลง ทําใหแผลมีความชุมชื้นดวยตัวยาปฏิชีวนะ สาเหตุสําคัญ! คือ ปลอยใหแผลสดแหงและตกสะเก็ด ดังนั้น ควรหาตัวยาที่ชวยเพิ่มความชุมชื้น เพื่อปองกันแผลตก สะเก็ด และทําใหแผลหายเร็วขึ้น ปกปองแผล ปองกันเชื้อโรค หลังจากทายาเสร็จแลวใหหาผากอซปดแผล เพื่อปองกันการกระทบ กระเทือนการสมานแผล และที่สําคัญหากเปนแผลในรมผายิ่งตองปด เมื่อ แผลเสียดสีกับเนื้อผา จะทําใหคัน และทําใหเราอดใจไมไหว แกะ เกาแผล จนกลายเปนแผลเปนได ดูแลแผล ใหดูจนหาย 100% ทําตามสเต็ปไปเรื่อย ๆ ดูแลแผลใหสะอาด งดการทํากิจกรรมหนัก ๆ หรือออกกําลังกายหนัก ๆ เชน การวิ่ง เพราะจะทําใหแผลตึงจนปริออกมา และทําใหแผลหายชาลง สิ่งสําคัญ ควรเลือกใชยาปฏิชีวนะที่ปลอดภัยตอ ผิว หรือที่เภสัชกรแนะนํา และหมั่นสังเกตแผลตลอด เพราะหากแผลหายชา หรือลุกลามเปนวงกวาง ควรรีบพบแพทยทันที วันนี้ สายปงยางตองรู เมื่อโดนนํ้ามันกระเด็นใส ตอง ปฐมพยาบาลยังไง ไมแผลเสี่ยงติดเชื้อ ไปดูกันเลย ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://www.udl.co.th/ แผลสด อยากใหหายเร็ว และไมเปนแผลเปน ตองทําไง? ขอขอบคุณแหลงขอมูล : https://www.udl.co.th/
¾.Â.-¸.¤. 2565 34 ปฏิทินข‹าว 25 พฤศจิกายน 2565 ณ หองประชุมเมืองพะเยา คณะแพทยศาสตร ม.พะเยา จัดประชุมวิชาการคณะแพทยศาสตร โทร. 06 5961 9057 ตึกคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยพะเยา ครั้งที่ 1: “Current Biomedical Research มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา and Innovation 2022” 26 พฤศจิกายน 2565 ณ หองประชุม 1210 ชั้น 12 สมาคมการศึกษาเรื่องความปวดแหงประเทศไทย โทร. 0 2716 7010, (โซน B) อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ จัดประชุมวิชาการ One Day in Pain Medicine 08 1170 7010 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ หรือ www.tasp.or.th สภากาชาดไทย 1-4 ธันวาคม 2565 ณ เชียงใหม ราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทยแหงประเทศไทย จัดงานประชุม www.asca2022.com รวมกับ Asian Society of Cardiothoracic Anesthesia (ASCA
27 มกราคม 2566 ณ หองประชุมพัชราวดี 1-2 ภาควิชาจิตเวชศาสตร คณะแพทยศาสตรโรงพยาบาลรามาธิบดี โทร. 0 2201 2193 ชั้น 11 อาคาร 2 ม.มหิดล จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ผสานองคความรู โรงแรมปรินซพาเลซ มหานาค งานวิจัยกับการเจริญสติ” (Mindfulness
1-4 กุมภาพันธ 2566 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม ภาควิชาศัลยศาสตร คณะแพทยศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม โทร. 0 5393 6132 รวมกับ ราชวิทยาลัยศัลยแพทยแหงประเทศไทย จัดประชุมวิชาการราชวิทยาลัยศัลยแพทยสวนภูมิภาค แหงประเทศไทย ครั้งที่ 37 ประจําป 2566 “New Normal and Update in Surgical Management” 22-24 กุมภาพันธ 2566 ณ โรงแรม เดอะ เบอรเคลีย ราชวิทยาลัยพยาธิแพทยแหงประเทศไทย www.rcthaipatholo ประตูนํ้า กรุงเทพมหานคร จัดประชุมวิชาการพยาธิวิทยาแหงชาติ ครั้งที่ 33 ภายใตหัวขอ gist.org “Building resilience in pathology practice” 25 มีนาคม 2566 ณ การประชุมวิชาการออนไลน วิทยาลัยการแพทยแผนตะวันออก ม.รังสิต จัดงานประชุม โทร. 0 2997 2220-30 วิชาการระดับชาติ Oriental Medicine and Sciences ตอ 5172 หรือ 5164 Conference 2023 หรือ 5140 วันที่ สถานที่ รายละเอียด สนใจติดต‹อ
2022)
Research)

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.