ปีท่ี 14 ฉบับที่ 11 ประจำ�เดือนพฤศจิกายน 2016
วิถชี มุ ชนวัด...
ชุมชนวัดต้องสะท้อน การประทับอยูข่ องพระเจ้า ท่ามกลางเรา...
ปีศกั ดิส์ ทิ ธิ์
สำ�หรับนักโทษ
เกร็ดความรูค้ �ำ สอน
3
น.
4
น.
นักบุญออกัสตินยังเตือนพวกเรามิให้แสวงหาเกียรติ ความนิยมชมชอบเข้าตัว หากเราจะก้าวไปไกลจนเลยเถิดจนถึงขัน้ “เป็นการเอาอกเอาใจ มนุษย์” เราก็จะไม่ได้รบั ใช้เขาเพื่อพระเจ้าไปซะแล้วจะกลายเป็นการ แสวงหาความนิยมชมชอบเข้าตัว และจะทำ�ให้ความเมตตาที่ว่านั้น ไม่มพี ระเจ้าอยูด่ ว้ ย ไม่มพี ระประสงค์ของพระองค์ และไม่มแี นวทาง และจุดยืนของพระศาสนจักรอยูด่ ว้ ย สิง่ ต่าง ๆ เหล่านัน้ จะกลับกลายเป็นความรูส้ กึ สงสารประสามนุษย์ เป็นการ ยึดติดกับตัวบุคคลบางคน และจะนำ�พาไปสู่การหลงผิด อืน่ ๆ ทีม่ อี ยูใ่ นกระแสสังคมปัจจุบนั
8
น.
วาทะพระคาร์ดนิ ลั ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช บทเทศน์โอกาสปิดประตูศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ณ สักการสถานบุญราศีนโิ คลาสฯ วันเสาร์ท่ี 5 พฤศจิกายน 2016
สัมภาษณ์...ทีมสารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ในโอกาสปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดให้มีพิธีบวชพระสงฆ์ใหม่ คือ สังฆานุกร ยอแซฟ ชนภัทร ศุขะเนตร ในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2016 เวลา 17.00 น. ณ อาสนวิหาร อัสสัมชัญ จึงเป็นโอกาสที่ดี ทางทีมผู้จัดทำ�จึงได้สัมภาษณ์ถึงแรงบันดาลใจ ที่มาเป็นศาสนบริกรของพระเจ้า ติดตามอ่านได้เลยค่ะ
ทำ�ไมถึงเลือกที่จะมาเป็นศาสนบริกรของพระเจ้า
แรงบันดาลใจที่มาเข้าบ้านเณร
สิง่ แรกทีผ่ มตัดสินใจเลือกมาเป็นศาสนบริกรของพระเจ้า ผมปรารถนา อยากจะรับใช้พระเป็นเจ้าและพระศาสนจักรโดยการที่ติดตามองค์พระเยซู คริสตเจ้าและประกาศข่าวดี ในการบริการศีลศักดิ์สิทธิ์แด่พี่น้องสัตบุรุษ ที่ต้องการ และติดตามกระแสเรียกที่ได้รับ
เริ่มจากครั้งแรกเลยที่มีความคิดอยากจะเป็นพระสงฆ์คือ ย้อนไปถึงเมื่อสมัยยังเป็นเด็กช่วยมิสซา มีคุณพ่อ ท่านหนึ่งหลังทำ�มิสซาเสร็จ ผมเห็นเหงื่อคุณพ่อออกเยอะมาก ขณะนั้นผมยืนอยู่ข้างพระแท่น ผมจึงมีความตั้งใจว่า อยากเป็นเหมือนพระสงฆ์องค์นี้ พระสงฆ์ท่านนี้คุณพ่ออดุลย์ คูรัตน์ ประกอบกับเมื่อผมอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 คุณพ่อพรชัย บรัศวกุล ได้มาชวนให้ไปเข้าค่ายกระแสเรียก แต่วา่ ไปในนามเด็กช่วยมิสซาวัดนักบุญยอแซฟ ตรอกจันทน์ แต่ว่าตัวผมเองเป็นสัตบุรุษวัดอัครเทวดาราฟาแอล ปากน้ำ� เมื่อผมได้ไปเข้าค่ายกระแสเรียกผมรู้สึกสนุกมาก ก็เลย ตัดสินใจเข้าบ้านเณร
มีพระสงฆ์ท่านใดเป็นแบบอย่าง
สำ�หรับตัวผมเองมีหลายท่าน เพราะแต่ละท่านมีภาพลักษณ์ทแี่ ตกต่างกับ และเราก็ดงึ เอาจุดดีของท่านเหล่านัน้ มาเป็นแบบอย่าง หรือทีป่ ัจจุบันนีเ้ ราเรียกว่า idol มีทา่ นหนึ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษ และอยากจะแบ่งปันก็คอื คุณพ่อ ราแชลสกี้ คณะเยซูอิต ซึ่งเป็นพ่อ วิญญาณารักษ์ของผมด้วย ผมเป็นลูกวิญญาณของพ่อตั้งแต่เข้าปีหนึ่งถึงปีเจ็ด วิทยาลัยแสงธรรม สิ่งที่ได้รับจากท่านก็คือ การมองโลก ในแง่บวก ท่านมีทัศนคติที่ดีมาก สิ่งที่ประทับใจเป็นพิเศษ คือหลังจากที่เราไปสอนคำ�สอนภาคฤดูร้อนตามวัด พอกลับมาคุณพ่อจะถามเราว่า เราไปทำ�อะไร อยู่ ที่ไหน เราก็เล่าให้ท่านฟัง คุณพ่อพูดกลับมาว่าแค่บราเดอร์ไปก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ แล้ว เป็นการหากระแสเรียกอีกรูปแบบหนึ่ง และเด็กๆ ได้เห็นผู้ชายดีๆ คนหนึ่ง ไปสอนคำ�สอน ไปใช้ชีวิตร่วมกับเขา ไปเล่น ไปร่วมกิจกรรมกับเขา ก็เป็นการหากระแสเรียกแล้ว สุดท้ายแล้ว ที่เราเล่าไปให้คุณพ่อฟัง ดีทั้งหมด เวลาผมเล่าให้คุณพ่อราแชลสกี้ ฟังแล้วผมมีความรู้สึกเหมือนกับคุณพ่อฟังเรา ให้กำ�ลังใจเรา และ ทำ�ให้ผมมีกระแสเรียกเพิ่มเติมด้วย
บราเดอร์คิดว่ามีสิ่งใดเป็นปัญหาและอุปสรรค ก่อนบวช
ปัญหาและอุปสรรคสำ�หรับผม คือ เรื่องตัวตน หรืออีโก้ แต่ว่าพระเป็นเจ้าก็ทรงใจดี ทำ�ให้เราเห็นสิ่งเหล่านี้ก่อนที่เราจะบวชเป็น พระสงฆ์ ให้เรายอมรับความไม่ดขี องเรา ทำ�ให้เราสุภาพมากขึน้ และเติบโตมากขึน้ พระองค์ทรงมีวธิ กี ารสอนผ่านเหตุการณ์ตา่ งๆ ทีผ่ า่ น เข้ามาในชีวิต คำ�แนะนำ�จากผู้ใหญ่ และสำ�คัญที่สุดคือตัวเรา ที่เรายอมรับนำ�ไปคิด ไตร่ตรอง และเราก็พยายามที่จะพัฒนาปรับปรุง
อะไรเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้เรามั่นคงในกระแสเรียกอยู่ได้
สิ่งแรก คือการสวดภาวนา รวมถึงการสวดทำ�วัตรของพระสงฆ์นักบวช ทำ�ให้เราติดอยู่กับพระเป็นเจ้ามากขึ้น เพราะว่านักบุญ เทเรซาได้บอกไว้วา่ การสวดภาวนา คือการสนทนากับคนทีเ่ รารูว้ า่ เค้ารักเราบ่อยๆ เมือ่ เราสวดภาวนาเราก็จะมีพลังในการทำ�งานมากขึน้ ประการที่สองคือการอ่านพระวาจาประจำ�วัน หลังจากที่บวชเป็นสังฆานุกร เราสามารถเทศน์ได้แล้ว เวลาจะเทศน์อะไรเราก็ต้องอ่าน และไตร่ตรองพระวาจา ทำ�ให้เราเข้าใจพระวาจา พระต้องการเตือนสอนเราให้เราพัฒนามากขึน้ และเป็นหลักยึดเหนีย่ วจิตใจของเราด้วย
คติในการดำ�เนินชีวิต
ผมเลือก ผ่านกางเขนสู่แสงสว่าง ที่ผมเลือกอันนี้เพราะว่า โดยส่วนตัวผมเอง ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่เป็นความทุกข์ มามากมายพอสมควรก่อนจะได้มาบวชเป็นพระสงฆ์ เมื่อปีที่แล้ว บิดา-มารดาของผมก็เพิ่งเสียชีวิตครบ 1 ปีแล้ว บิดาเสียวันที่ 13 กุมภาพันธ์ มารดาเสียวันที่ 3 กรกฎาคม และอีกปีหนึ่งผมถึงจะได้บวชเป็นสังฆานุกร มีความรู้สึกว่าทุกคน ไม่ว่าจะกระแสเรียกไหน ก็ตาม นักบวช พระสงฆ์ หรือฆราวาส ทุกคนต้องพบปัญหาอุปสรรคในชีวิตเหมือนๆ กันหมด เพียงแต่ว่าเราจะเข้าใจแผนการณ์ ของพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน เราจะมีเวลาคิดมากน้อยแค่ไหน และเราเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราแล้ว เราจะรู้ว่า พระคริสตเจ้าอยู่ข้างหน้าเรา เหมือนกับผ่านกางเขน ความยากลำ�บาก สู่แสงสว่างในพระคริสตเจ้า
เมื่อเข้ารับหน้าที่แล้ว สิ่งที่ตั้งใจว่าจะทำ�เป็นลำ�ดับแรกๆ
เมื่อไปถึงวัดแล้วต้องดูว่าเราสามารถช่วยคุณพ่อเจ้าอาวาสทำ�อะไรได้บ้าง มีอะไรที่เราสามารถช่วยให้สัตบุรุษรู้จักพระเจ้า และได้สนิทกับพระองค์มากยิ่งขึ้นโดยผ่านทางกิจกรรม และกิจการต่างๆ
บราเดอร์อยากจะฝากถึงน้องๆ ที่กำ�ลังมองหากระแสเรียก หรือกล่าวถึง กระแสเรียกในปัจจุบัน
ผมคิดว่าปัจจุบนั การหากระแสเรียก การเป็นพระสงฆ์นบั วันยิง่ ยากมากขึน้ เรือ่ ยๆ แต่ละครอบครัวก็มีลูกน้อยลง ในสังคมมีอะไรที่ดึงดูดเรามาก แต่อย่างไรก็ตามครับ น้องๆ ถ้าเรามีประสบการณ์ในการเข้าค่ายกระแสเรียก ค่ายเยาวชน ค่ายอะไรก็ตาม เราจะเห็นว่าพระเป็นเจ้าทรงต้องการอะไรจากเรา และจากนั้นก็เป็นเราแล้วที่จะ ตอบสนองกระแสเรียก และเมื่อเราเข้าไปในบ้านเณรแล้วเราก็จะเข้าไปทำ�ความเข้าใจ กับกระแสเรียกนั้นๆ และถ้าอยากเป็นพระสงฆ์ก็ต้องเข้าใจชีวิตของพระสงฆ์ อันนี้ สำ�คัญมากๆ
บราเดอร์อยากจะขอบคุณใครเป็นพิเศษ
ขอบคุณพระเป็นเจ้า ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ ญาติ-พี่น้อง ขอบคุณเพื่อนๆ รุ่น 35 ทั้งยอแซฟและแสงธรรม ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาอบรมในชีวิต และสุ ด ท้ า ยขอบคุ ณ พี่ น้ อ งสั ต บุ รุ ษ ทุ ก คนที่ ผ่ า นเข้ า มาในชี วิ ต ของผมทั้ ง ที่ ไ ด้ คุ ย นิดหน่อยหรือได้คุยกันนานๆ มาจนถึงทุกวันนี้ สัญญาว่าจะนึกถึงชื่อหรือใบหน้า ของทุกคนเป็นพิเศษในตอนหมอบราบในพิธีต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และ สรรพานุภาพ และขอคำ�ภาวนาเพื่อผมเครื่องมือที่ต้องการพลังจากพระเจ้าด้วยครับ 2 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2016
บทความ...ทีมงานวิถีชุมชนวัดอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
วิถที างใหม่ของการเป็นชุมชนวัด (A New Way of Being Church)หรือวิถชี มุ ชนวัด คือ การเป็นชุมชนวัดทีป่ ระกอบด้วย ชุมชนคริสตชนย่อยๆ ที่เป็นจิตหนึ่งใจเดียวกัน (Communion of Communities) และ การกลับสู่วิถีชุมชนคริสตชนของยุค อัครสาวก (Apostolic Way of BeingChurch) ในหนังสือ “กิจการอัครสาวก” กล่าวถึงชุมชนคริสตชนยุคอัครสาวกไว้ดังนี้
ชีวิตของคริสตชนกลุ่มแรก (กจ 2:42-47)
กลุ่มคริสตชนสมัยแรก (กจ 4:32-35)
คนเหล่านั้นประชุมกันอย่างสม่ำ�เสมอเพื่อฟังคำ�สั่งสอนของ บรรดาอัครสาวก ดำ�เนินชีวิตร่วมกันฉันพี่น้อง ร่วม "พิธีบิ ขนมปัง" และอธิษฐานภาวนา พระเจ้าทรงบันดาลให้บรรดา อัครสาวกทำ�ปาฏิหาริย์และเครื่องหมายอัศจรรย์เป็นจำ�นวน มาก ทุกคนจึงมีความยำ�เกรง ผู้มีความเชื่อทุกคนดำ�เนินชีวิต ร่วมกันและมีทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม เขาขายที่ดินและทรัพย์ สินอื่นๆ แบ่งเงินให้ทุกคนตามความต้องการ ทุกๆ วัน เขา พร้อมใจกันไปทีพ่ ระวิหารและไปตามบ้านเพือ่ ทำ�พิธบี ขิ นมปัง ร่วมกินอาหารด้วยความยินดีและเข้าใจกัน สรรเสริญพระเจ้า และได้รับความนิยมจากประชาชนทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงทำ�ให้จำ�นวนผู้ที่ได้รับความรอดพ้นเพิ่มขึ้นทุกวัน
กลุ่มผู้มีความเชื่อดำ�เนินชีวิตเป็นน้ำ�หนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่า สิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม บรรดาอัครสาวกยังคงเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนพระ ชนมชีพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเครื่องหมาย อัศจรรย์ยิ่งใหญ่และทุกคนได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง ในกลุ่มของเขาไม่มีใครขัดสน ผู้ใดมีที่ดินหรือบ้านก็ขายและ มอบเงินทีไ่ ด้ให้บรรดาอัครสาวก เพือ่ แจกจ่ายให้ผมู้ คี วามเชือ่ แต่ละคนตามความต้องการ
เราสามารถสรุปวิถีชุมชนคริสตชนยุคอัครสาวก ได้ดังนี้ 1. พวกเขาประชุมกันอย่างสม่ำ�เสมอ เพื่อฟังคำ�สั่งสอนอัครสาวก 2. พวกเขาดำ�เนินชีวิตร่วมกันฉันพี่น้อง 3. พวกเขาพร้อมใจกันไปสรรเสริญพระเจ้าที่พระวิหารเป็นประจำ� 4. พวกเขาชุมนุมกันตามบ้านเพื่อร่วมพิธีบิปังและอธิษฐานภาวนาด้วยความยินดีและเข้าใจกัน 5. พวกเขามีทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม 6. พวกเขาได้รับความนิยมจากประชาชนทุกคน อาจกล่าวได้ว่าชุมชนวัดของเราในปัจจุบันก็จะต้องสะท้อนการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางเรา คือ คนรอบข้าง สามารถเห็นหรือพบพระเจ้าจากวิถีชีวิตที่เป็นประจักษ์พยานของคริสตชนที่รวมกันเป็นหมู่คณะ และมีความเป็นจิตหนึ่งใจเดียวกัน อย่างชัดเจน ดังนี้ พัฒนาความเชื่อและการภาวนา ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ร่วมกันในครอบครัว พระอาณาจักรพระเจ้า ช่วยกันสร้างสังคมทีเ่ ป็นธรรม ช่วยกันอนุรักษ์สภาพแวดล้อม/ ธรรมชาติ
เป็นจริงชัดเจน ในชุมชนวัด
ช่วยกันรับผิดชอบกิจกรรมของ ชุมชนวัดร่วมกัน ใช้วิธีการบริหารจัดการชุมชนวัด อย่างมีประสิทธิผลและเป็นธรรม
แผนภูมิข้างต้นแสดงให้เห็นวิธีการต่างๆ ที่คริสตชนสามารถทำ�ให้ “พระอาณาจักรพระเจ้า” เป็นจริงในสังคมปัจจุบัน ชุมชนหรือหมู่คณะเป็นที่ๆ ความรักของพระเจ้าปรากฏ หมู่คณะคริสตชนแสดงให้ทุกคนรอบข้างเห็นการประทับอยู่ของพระเจ้า ท่ามกลางเรา ไม่ว่าในบ้านหรือครอบครัวของตน ในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียง ในที่ทำ�งาน หรือในชุมชนวัด มีกิจกรรมร่วมกัน อาทิ การภาวนาร่วมกัน มีความสัมพันธ์กันฉันพี่น้อง ช่วยเหลือคนในละแวกบ้านเดียวกัน หรือมีการส่งเสริมความเป็นธรรมใน แวดวงใกล้ตน กิจการดีเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่า “พระอาณาจักรพระเจ้า” กำ�ลังปรากฏชัดขึ้นท่ามกลางเรา (จากหนังสือ “วิถีชุมชนวัด : สร้างชุมชนย่อยๆ ที่มีสัมพันธ์เป็นจิตหนึ่งใจเดียวกัน โดย ภราดาทินรัตน์ คมกฤส) สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2016 3
เจาะลึกพิเศษ...ทีมสารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พ
ระสันตะปาปาประกาศให้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ สำ�หรับนักโทษ เดือนพฤศจิกายนนี้เรา นึ ก ถึ ง ผู้ ต้ อ งขั ง นั ก โทษเป็ น พิ เ ศษ สำ � หรั บ อั ค ร สังฆมณฑลกรุงเทพฯ ของเราก็มีหน่วยงานที่ดูแล อภิบาลสำ�หรับบุคคลเหล่านี้ ในส่วนงานของฝ่าย สังคม แผนกผู้ถูกคุมขังและผู้อพยพย้ายถิ่น โดยมี คุณพ่อวิทยา ลัดลอย เป็นผู้จัดการแผนก ทาง ทีมสารฯ จึงขอให้คุณพ่อช่วยแบ่งปันประสบการณ์ งานทีค่ ณ ุ พ่อทำ�เกีย่ วกับนักโทษ ติดตามอ่านได้เลยค่ะ - งานอภิบาลผู้ต้องขัง เยี่ยมเยียน, ประกอบวจนพิธีกรรม, ศีลอภัยบาป, ส่งศีลมหาสนิท, ให้กำ�ลังใจ, สอนคำ�สอนแก่ผู้สนใจ, ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ต้องขังที่ขาดสิ่งของจำ�เป็น, ติดต่อญาติเท่าที่สามารถ - ผู้อพยพย้ายถิ่น ศูนย์คาทอลิกนักบุญอันนา, นักบุญยออากิม, นักบุญมารีสต์เพื่อสงเคราะห์ผู้อพยพย้ายถิ่น ให้การ ศึกษา-จริยธรรม-ภาษาไทย-อังกฤษ-คอมพิวเตอร์ผู้ใหญ่-อาหาร-สุขอนามัย ช่วยให้ได้รับสิทธิอันควร, ประชุม ร่วมกับพระสงฆ์-นักบวชชาวเวียดนามและช่วยประสานตามวัดเพื่อขอถวายมิสซาตามโอกาส, ส่งเสริมและ สนับสนุนงานอภิบาลของพระสงฆ์ชาวพม่า, ร่วมกับพระสงฆ์คณะ Salvarian ดูแลอภิบาลชนเผ่าที่ทำ�งานใน เขตสมุทรสาคร (เยี่ยม-พิธีบูชาขอบพระคุณ-กีฬา) สถานที่ที่ไป - ทัณฑสถานหญิงกลาง คลองเปรม - ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ปทุมธานี - ศูนย์คาทอลิกนักบุญอันนา, นักบุญยออากิม และนักบุญมารีสต์เพื่อสงเคราะห์ผู้อพยพย้ายถิ่น - เยี่ยม-อภิบาลตามโรงงานที่มีชนเผ่าทำ�งาน ในเขตจังหวัดสมุทรสาคร งานที่ควรทำ� - การเข้าเยี่ยมและให้การอบรมแก่ผู้ต้องขัง ยังไม่สามารถทำ�พิธีบูชาขอบพระคุณ เพราะทางทัณฑสถาน ไม่อนุญาตให้นำ�เหล้าองุ่นเข้าไป จึงทำ�ได้แค่วจนพิธีกรรมและส่งศีลมหาสนิท - ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกวัดมีงานเยี่ยมผู้ต้องขังในทัณฑสถานที่ใกล้ที่สุด เพราะพวกผู้ต้องขังต้องการ อภัย กำ�ลังใจและรับศีลศักดิ์สิทธิ์ ถือโอกาสให้การอบรมแก่ผู้สนใจ 4 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2016
ผู้อพยพลี้ภัย - มีชนเผ่าจำ�นวนมากที่ออกจากบ้านเกิด มาทำ�งานต่างจังหวัด หาโอกาสที่จะอภิบาลพวกเขา พวกเขา บางคนเมื่อมาต่างถิ่นก็ไม่ทราบว่ามีวัดที่ไหน บางทีอายไม่กล้าคุยกับใครในวัด - แรงงานต่างชาติ ช่วยเรื่องยารักษาโรคพื้นฐาน พวกแก้ปวด แก้ไข้ ยาใส่แผล บางคนสื่อภาษาไทยไม่ได้ ไม่กล้าไปซื้อยา ให้เขารู้เรื่องสิทธิแรงงานจะได้ไม่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง สอนภาษาไทยเพื่อจะได้สื่อสารได้ เพื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไทย ตอนแรกที่มีโอกาสได้ทำ�งานกับผู้ต้องขัง ก็โดยผ่าน ทางการชักชวนของคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ได้ ทำ�งานนี้ ซึ่งตอนนั้นพ่อเป็นพระสงฆ์ใหม่ คิดว่าจะทำ� อะไรให้พวกเขาได้ อยู่ต่อหน้าพวกเขาจะพูดอะไร คุณพ่อ ปิยะชาติ แนะนำ�ว่าห้ามถามถึงความผิดที่เขาทำ� ห้ามพูด ถึงโทษที่เขาได้รับ เพราะมันจะเป็นการตอกย้ำ�ถึงความ ผิดที่เขาทำ� อาจทำ�ให้พวกเขาอาย ไม่กล้าพบพวกเราอีก คุณพ่อปิยะชาติบอกว่าเราไปเพือ่ ฝ่ายจิตวิญญาณ นำ�การ อภัย เตรียมบทเทศน์ที่บรรเทาใจ ให้กำ�ลังใจ เพื่อกลับมา เป็นคนดีอีกครั้ง ให้พวกเขาได้พบพระเมตตาของพระเจ้า โดยผ่านทางศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิท และทุกครั้ง ที่ ไ ด้ เข้ า เยี่ ย ม ก็ ทำ � ให้ พ วกเราได้ รั บ พระพรจากพระ กลับมาด้วย นั่นคือ ทำ�ให้เรามีพลังและกำ�ลังที่ทำ�หน้าที่ พระสงฆ์ที่ดีต่อไป เหมือนพวกเขาก็ภาวนาให้เราด้วย เช่นเดียวกับเด็กๆ ชาวพม่าที่ 3 ศูนย์ พวกเขาก็รู้จักมอบ สิ่งดีๆ ช่วยเหลือกัน คำ�ว่า เมตตา (kindness, mercy) หมายความว่า ความรักและเอ็นดู, ความปรารถนาจะให้ผู้อื่นได้สุข (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒) พระวรสารนักบุญลูกา 6:37-38 เราต้องสำ�นึกได้ก่อนว่าเราได้รับพระเมตตาของพระเจ้าอย่างไร ในสถานการณ์ใดในชีวิต เราจึงจะสามารถ เป็นผู้นำ�พระเมตตาของพระเจ้าไปมอบให้กับผู้อื่นได้ ปีแห่งพระเมตตาธรรมนี้จึงถือเป็นโอกาสทอง และเป็น พระเมตตาจากพระที่จะให้เราเป็นเครื่องมือที่จะนำ�พระเมตตาไปสู่ทุกคน สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2016 5
บอกข่าวเล่าสาร
แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ
พิธีบูชาขอบพระคุณถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2016 เวลา 08.30 น. สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย นำ�โดย พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประธานสภาฯ จัดพิธีบูชาขอบพระคุณถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีบรรดาพระสงฆ์ นักบวช ฆราวาส มาร่วมพิธีวันนี้จำ�นวนมาก ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ ชุมนุมครูคาทอลิก ครั้งที่ 1 วันที่ 14 ตุลาคม 2016 แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จดั งานชุมนุมครูคาทอลิก ครัง้ ที่ 1 ขึน้ ในหัวข้อ "ครูคาทอลิกเจริญชีวติ ประกาศ ข่าวดี" ณ หอประชุมโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา, อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก การชุมนุมครั้งนี้มี ผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 674 คน พระสงฆ์ 19 องค์ นักบวช 6 ท่าน สามเณรใหญ่แสงธรรม 9 คน นักศึกษา พยาบาลวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ 78 คน และครูคาทอลิก 562 คน ซึ่งมาจาก 4 วัด 45 โรงเรียน และปิดด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณพระเป็นเจ้า โดยพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน
ฉลองปฏิญาณตนของสมาชิกสถาบันธิดาพระราชินีมาเรีย สถาบันธิดาพระราชินีมาเรีย จัดพิธีบูชาขอบพระคุณโมทนาคุณพระเป็นเจ้า โอกาสฉลอง ปฏิญาณตนของสมาชิก โดย พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประธานในพิธีวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2016 เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมเอ็มมานูแอล โรงเรียนพระแม่มารี สาทร กรุงเทพฯ หิรัญสมโภช มารีอา ประภาพร บวกหาร มารีอา ดาวรุ่ง ริ้วงาม มารีอา กมลรัตน์ กมลสุทธิ ปฏิญาณตนตลอดชีพ กาทารินา วิภาดา ทิพอุตร โยฮันนา ขวัญใจ เพียรพันธ์ ปฏิญาณตน ครั้งแรกอูร์สุลาสุนันทา กระบวนสง่า มารีอาสมศรี ลิมปนวุฒิ
รวมพลังวันฆราวาส วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2016 เวลา 13.00 - 15.30 น. คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตชน ฆราวาส สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย แผนกฆราวาส จัดงานวันรวมพลังฆราวาส "เสวนาพระคริสต์เจริญชีวิตประกาศข่าวดีใหม่" ห้องประชุมชั้น 4 อาคารเลโอแปรูดอง โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา 6 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2016
ฉลองอารามคาร์แมล สามพราน หิรัญ สมโภชในการปฏิญาณตนชีวติ นักบวช วั น อาทิ ต ย์ ท่ี 9 ตุ ล าคม 2016 พระคาร์ดนิ ลั เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็น ประธานพิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสฉลอง อารามคาร์แมล สามพราน และโอกาสหิรัญ สมโภชในการปฏิญาณตนชีวิตนักบวช เซอร์ ยูดธิ แห่งพระเยซูผถู้ กู ตรึงกางเขน เซอร์ มารีย์ เซซิล แห่งพระกุมารเยซู เซอร์ มารีย์ เอมี แห่งพระหฤทัย และในโอกาสนี้ได้ร่วมยินดี กับอธิการอารามคาร์แมล สามพราน คนใหม่ คือ เซอร์ เบเนดิกตา แห่งพระคริสตกษัตริย์ มี พระสงฆ์ นักบวช สัตบุรษุ มาร่วมจำ�นวนมาก
งานวันแพร่ธรรมสากลอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ วันอาทิตย์ท่ี 16 ตุลาคม 2016 เวลา 08.0012.00 น. ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผูอ้ �ำ นวยการ ฝ่ายฯ จัดงานวันแพร่ธรรมสากล ณ อาสนวิหาร อัสสัมชัญ พิธีบูชาขอบพระคุณโดยพระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช และในพิธมี กี ารมอบกางเขน พระสงฆ์-นักบวชที่รับการอบรมการประกาศข่าวดี (PRMP) 20 คน มีพระสงฆ์ 2 ท่าน สังฆานุกร 3 ท่าน ซิสเตอร์ 13 ท่าน บราเดอร์ 2 ท่าน พิธมี อบวุฒบิ ตั ร อาสาสมัครประกาศข่าวดีประจำ�วัด (PMG BKK) 14 คน ชุมนุมองค์กรฆราวาส หลังพิธบี ชู าขอบ พระคุณแล้วมีการบรรยายพิเศษ เรือ่ งประวัตสิ มณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS) โดยคุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ ต่อด้วย "ศิษย์พระคริสต์เจริญ ชีวติ ประกาศข่าวดีใหม่" โดยคุณพ่อคมทวน สุขสุทพ ิ ย์ พระสงฆ์คณะธรรมทูตไทย ณ ห้องประชุมชัน้ 4 อาคารเลโอแปรูดอง โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา วันรวมพล "คนในพิธีกรรม" วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2016 พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานพิธีบูชา ขอบพระคุณ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดช และโอกาสแต่งตั้งผู้อ่านพระคัมภีร์ และอวยพรนักขับร้อง อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ในเวลาบ่าย ซึ่งวันรวมพล "คนใน พิธีกรรม" มีกิจกรรมตั้งแต่เช้า เริ่ม จากพิธีผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ และการ อบรมจากคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนกิ ร และคุณพ่อประชาชาติ ปรีชาวุฒิ และในวันนี้ ยังได้มวี จนพิธกี รรมอุทศิ แด่ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทร มหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชโดยคุ ณ พ่ อ อนุสรณ์ แก้วขจร ณ สักการสถาน บุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำ�รุง
ปิดคอร์สอบรมพระคัมภีร์วันเสาร์ ปีที่ 27 เมือ่ วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2016 แผนกคริสตศาสนธรรมกรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อสมหมาย มธุรสสุวรรณ ผูจ้ ดั การแผนก ได้จดั อบรมพระคัมภีรว์ นั เสาร์ ปีที่ 27 โดยเริม่ มาตัง้ แต่วนั เสาร์ที่ 9 กรกฎาคม - 1 ตุลาคม 2016 จำ�นวน 11 ครั้ง ในหัวข้อ “หนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่ 1-2, พงศาวดาร ฉบับที่ 1-2, เอสรา, เนหะมีย์ (เรื่องราวพระเมตตาของพระเจ้าต่อชาวอิสราเอล “เมือ่ พลัดพรากจากแผ่นดินได้กลับบ้าน”) โดยคุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม เป็นวิทยากร มีผู้ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด 105 ท่าน และได้รับวุฒิบัตรจำ�นวน 67 ท่าน
เข้ า เงี ย บฟื้ น ฟู จิ ต ใจคณะกรรมการเยาวชน อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2016 เวลา 09.00-16.00 น. แผนกเยาวชนอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ ผู้ จั ด การแผนกจั ด เข้ า เงี ย บฟื้ น ฟู จิ ต ใจ คณะ กรรมการเยาวชน อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ หัวข้อ “ปีเมตตาธรรมกับบทบาทของเยาวชน ในครอบครัวและสังคม” ณ บ้านผู้หว่าน โดยเชิญ คุณพ่อสุพัฒน์ หลิวสิริ เป็นวิทยากร มีคณะ กรรมเยาวชนเข้าร่วมจำ�นวน 24 คน โดยช่วงเช้า มีการประชุมวางแผนงานเตรียมปิดปีศักดิ์สิทธิ์ แห่งเมตตาธรรม และพิธีบูชาขอบพระคุณโดย คุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ จากนั้นเป็นการ วางแผนโครงการปี 2017 และเป็นการฟื้นฟูจิตใจ
ปฏิทินกิจกรรม เดือนพฤศจิกายน 2016 5 พ.ย. พิธีตั้งศีลและอวยพรศีล ณ อารามคาร์แมล สามพราน เดินจาริกแสวงบุญสู่สักการสถานบุญราศีคุณพ่อนิโคลาส และพิธีปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ 6 พ.ย. พิธีบูชาขอบพระคุณและปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา 9-10 พ.ย. เข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจพระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บ้านผู้หว่าน 13 พ.ย. กิจกรรมปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เดินจาริกแสวงบุญ และพิธีบูชาขอบพระคุณ ปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม และพิธีบวชพระสงฆ์ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2016 7
เกร็ดความรูค้ �ำ สอน...คุณพ่อสมหมาย มธุรสสุวรรณ
สวัสดีพน่ี อ้ งทีร่ กั เราประชาชนชาวไทยกำ � ลั ง อยู่ ใ นช่ ว ง เวลาแห่งความเศร้าเสียใจจากการสวรรคต ของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหา ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ซึ่ ง เป็ น ศู น ย์ ร วมและ เป็นที่รักของชาวไทย นับเป็นการสูญเสียที่ ยิ่งใหญ่และเรายังทำ�ใจกันไม่ได้ ถึงแม้จะ มีข่าวถึงพระอาการประชวรมาเป็นระยะๆ ก็ตาม แต่ท่ามกลางความเศร้าเสียใจเราก็ ยังเห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคมไทยของเรา โดยเฉพาะที่ท้องสนามหลวง มีประชาชน มากมายจริงๆ มารวมกันในแต่ละวันเพื่อ ไว้อาลัยและมีการต่อแถวยาวเหยียดเพื่อเข้า คำ�นับพระศพเป็นครั้งสุดท้าย สิ่งดีๆ เกิดขึ้น เราเห็นคนหลากหลายกลุ่มมาแจกน้ำ�แจก อาหารแจกของ ร่วมทำ�กิจสาธารณะ เก็บ ขยะ ตัดผม ตัดเล็บให้แก่ผมู้ าร่วมงาน บริการ รถรับส่งฟรี ทุกคนต่างแสดงน้ำ�ใจดีต่อกัน เพราะอยากตอบแทนความดีที่ในหลวงของ เราเคยทำ�ความดีให้แก่เรา ผู้คนร่วมกันทำ�ความดีจากจิตสำ�นึกดีๆ ที่ตนมี น้ำ�ใจไมตรีแบบนี้มันห่างหายไปจาก สังคมไทยมานานแล้ว ทีท่ อ้ งสนามหลวงไม่มี สีเหลือง ไม่มีสีแดง ไม่มีการกีดกัน จำ�กัดกัน ด้วยความคิดที่แตกต่าง ทุกคนใส่สีขาวดำ� มีน้ำ�ใจช่วยเหลือกัน ความคิดที่ขัดแย้งกัน พ่ า ยแพ้ ค วามรั ก ที่ ต่ า งก็ มี ใ ห้ กั บ ในหลวง ของเรา อิทธิพลของความดีของคนๆ หนึ่ง ช่ า งมี ค่ า มหาศาลสำ � หรั บ สั ง คมโดยรวม ความดีที่แต่ละคนทำ�เพียงเพื่อแสดงให้พ่อ รู้ว่าลูกรักพ่อ แต่เราคงไม่แสดงเพียงแค่ช่วง เวลานี้ ถ้ารักพ่อจริงอย่าทำ�ให้พ่อเสียใจไม่มี พ่ อ คนไหนในโลกที่ จ ะมี ค วามสุ ข เมื่ อ เห็ น ลูกๆ ทะเลาะกัน ทุกคนมีผดิ มีพลาดแต่กเ็ ป็น ลูกเท่าเทียมกัน หากลูกคนใดอยากทำ�ร้าย ลูกๆ คนอื่นไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผู้เป็น พ่อย่อมไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ขอพระเป็นเจ้ารับดวงพระวิญญาณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชไว้ในสรวงสวรรค์ เสวยสุขร่วม กับพระองค์ และโปรดให้พวกเราคริสตชน คนไทยทุกคนกล้าหาญที่จะรักและให้อภัย กันและกันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อ ของเรา
สวัสดีครับพี่น้องคริสตชนที่รัก การภาวนาเพื่อดวงพระวิญญาณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชเป็นกิจการดีที่เราคริสตชนไทย สมควรที่จะปฏิบัติมากที่สุด ณ เวลานี้ เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภก ที่ ท รงมี พ ระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ล้ น เกล้ า ล้ น กระหม่ อ มเหนื อ คริ ส ตชนชาวไทยอย่ า งหา ทีส่ ดุ มิได้ เราสามารถประกาศความเชือ่ ของเรา อย่างเสรีตลอดรัชสมัยของพระองค์ทา่ น พ่อจึง เชิญชวนและขอร่วมโมทนาคุณพระเป็นเจ้า สำ�หรับพระทัยดีที่พระองค์ทรงมอบแก่เรา พระองค์ท่านเป็นของประทานล้ำ �ค่า สำ�หรับคริสตชนชาวไทย แบบอย่างชีวิตคุณธรรมและคำ�สอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นที่น่าประทับใจและสัมผัสใจคนไทยอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งมีความ สอดคล้องกับคำ�สอนของพระเยซูเจ้า พ่อแม่ทแี่ สวงหาทีจ่ ะปลูกฝังความเชือ่ และสอน การดำ�เนินชีวิตที่ดี พระสงฆ์ นักบวชหรือครูคำ�สอน อาจใช้โอกาสนี้ไตร่ตรองและ แบ่งปันแก่บรรดาเด็กๆ ลูกหลานหรือนักเรียนคำ�สอนของตน พ่อเชือ่ ว่าจะช่วยทำ�ให้ คำ�สอนของพระเยซูเจ้า คุณค่าแห่งพระวรสารและความเชื่อในองค์พระคริสตเจ้า เป็นที่เข้าใจเพิ่มมากขึ้น พิธีต้อนรับผู้สมัครเรียนคำ�สอนเป็นขั้นตอนหนึ่งที่มักจะทำ�ในช่วงสัปดาห์ แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า (ปีนตี้ รงกับวันที่ 27 พ.ย. 2016 หรือ อาจจัดในช่วงเวลาใกล้เคียง) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผู้สนใจเข้าเป็นคริสตชนและกำ�ลังเรียน คำ�สอนอยู่ ไม่ว่าจะโดยพระสงฆ์หรือครูคำ�สอนก็ตาม พวกเขาจะค่อยๆ ได้รับการ แนะนำ�ให้กับชุมชนคริสตชนได้รับรู้ ทั้งนี้เพราะว่ากระบวนการต้อนรับผู้ใหญ่เข้าเป็น คริสตชนหรือคำ�สอนผูใ้ หญ่ (RCIA) นัน้ ไม่ใช่แค่การสอนเรือ่ งเนือ้ หาความเชือ่ เท่านัน้ แต่หมายถึงการค่อยๆ เรียนรูจ้ กั วิถชี วี ติ คริสตชน ค่อยๆ เข้ามามีสว่ นร่วมในพิธกี รรม ในการปฏิบัติศาสนกิจ และการแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อจากพี่น้อง เพื่อว่า เมื่อเขาได้รับศีลล้างบาปแล้ว พวกเขาจะได้ก้าวเดินในหนทางชีวิตคริสตชนได้อย่างดี จึงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากพี่น้องคริสตชนหรือชุมชนคริสตชนนั้นๆ ด้วย เรากำ�ลังเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม คือสัปดาห์ที่ 34 เทศกาล ธรรมดา ซึ่งเราจะสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ซึ่งพระศาสนจักร ให้เราเห็นภาพและเชิญชวนพวกเราก้าวเดินไปพร้อมๆ กันผ่านทางพระวาจาและ พิธกี รรมทีเ่ รามาร่วมในทุกๆ อาทิตย์ ในทีส่ ดุ แล้วมนุษยชาติรวมทัง้ สิง่ สร้างทัง้ มวลจะ ถูกรวบรวมเข้าในพระอาณาจักรของพระองค์และมีพระเยซูเจ้าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ครอบครองดวงใจทุกดวง ก็ถือโอกาสนี้เป็นการเตือนใจกันและกันว่าเราได้ให้ พระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิตเข้ามาครอบครองดวงใจของเราแต่ละคนมากน้อยเพียงใด ขอพระเจ้าอวยพร คุณพ่อสมหมาย มธุรสสุวรรณ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวต่างๆ ในระดับวัด เขตและสังฆมณฑล ให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 2. เพื่อช่วยฟื้นฟูบทบาทการเป็นผู้มีส่วนร่วมในงานอภิบาลและธรรมทูตในชีวิตของสัตบุรุษ และบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล 3. เพื่อนำ�เสนอเครื่องมือ และแนวปฏิบัติในงานอภิบาลและธรรมทูตให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ผู้รับผิดชอบ : ฝ่ายงานอภิบาลของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่ปรึกษา : คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม, คุณพ่อสมหมาย มธุรสสุวรรณ บรรณาธิการ : คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ กองบรรณาธิการ : พฤกษา กิจเจริญ, มัลลิกา กิจบำ�รุง, เพชรี ชาวแพรกน้อย พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์อัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2233 0523 โทรสาร. 0 2235 1405 สำ�นักงาน : อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม 57 ซอยเจริญกรุง 40 เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0 2237 7315 โทรสาร. 0 2233 8159 E-mail : webmaster@catholic.or.th