สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เดือนเมษายน 2016

Page 1

ปีท่ี 14 ฉบับที่ 4 ประจำ�เดือนเมษายน 2016

วิถชี มุ ชนวัด...

ประสบการณ์ดๆี ทีน่ �ำ มาแบ่งปันกัน

50 ปี และ 25 ปี

แห่งพระพรชีวิตสงฆ์

กิจเมตตา

ฝ่ายกายและฝ่ายจิต

1

น.

2

น.

8

น.

บทความ...ทีมงานวิถีชุมชนวัด อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

พี่

ขอบฟ้าใหม่ (หรือ New Horizon) ของการประกาศข่าวดี คืออะไร? พ่อคิดว่า ขอบฟ้าใหม่ของการประกาศข่าวดีตามกฤษฎีกาของ พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย คือ 1) - คริสตชนคาทอลิกไทย จัดให้ประจักษ์พยานชีวิตความเชื่อ ของตนนำ�หน้า - และตามด้วยการประกาศข่าวดีด้วยวาจา - ซึ่งหมายถึงการบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตความเชื่อ ของตนแก่ผู้อื่น 2) - โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ชีวิตความรักต่อกันและกัน ในวิถีชุมชนคริสตชนย่อยที่มีบรรยากาศอารยธรรมความรัก วาทะพระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช กล่าวในการประชุมกรรมาธิการฝ่าย สภาพระสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016 ณ บ้านผู้หว่าน

น้องที่รัก วิถีชุมชนวัดมีรากฐานในองค์พระเยซูคริสตเจ้า โดยเฉพาะในพระวาจา และความเป็นน้ำ�หนึ่งใจเดียวกันใน ฐานะพี่น้องที่มีพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลาง เราเริ่มวิถีชุมชนวัดอย่างเต็มรูปแบบในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เป็นเวลา กว่าห้าปีแล้วมีประสบการณ์ดีๆ มากมายที่ได้นำ�มาแบ่งปันกัน อันเป็นผลมาจากพระวาจาของพระเจ้า และความรัก ความเป็น น้ำ�หนึ่งใจเดียวกันของสมาชิกในชุมชนวัดโดยมีพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลาง ในสารสังฆมณฑลฉบับนี้พ่อจึงขอยกประสบการณ์ดีๆ จากวิถีชุมชนวัดชุมชนหนึ่งที่อยู่ชานเมืองของกรุงเทพฯ มาแบ่งปันให้พี่น้องได้อ่านกันครับ ชุมชนวิถีชุมชนวัดชุมชนหนึ่งที่อยู่ชานเมืองของกรุงเทพฯ ได้ประชุมกัน แล้วพบว่าในละแวกบ้านมียายกับตาและหลานๆ ครอบครัวหนี่งมีความยากลำ�บากด้วยความยากจนขัดสน ตายายยังชีพด้วยเบี้ยผู้สูงอายุซึ่งมีไม่มากนัก แต่ครอบครัวมีค่าใช้จ่าย มากมายทั้งค่ากินอยู่ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ� ค่าไฟ ฯลฯ เนื่องจากรายได้มีไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่าย ยายจึงไปเก็บผักที่ขึ้นตาม ธรรมชาติโดยเฉพาะผักบุ้งมาขาย ปกติยายจะขายผักที่หน้าเซเว่นอีเลฟเว่นที่อยู่ใกล้ๆ ชุมชนนั้น คนที่ผ่านไปผ่านมาหลายคนให้ ความช่วยเหลือยายโดยการซื้อผักที่คุณยายนำ�มาขาย บางครั้งผักที่ยายเก็บมาขายก็ไม่ได้สวยเหมือนผักทั่วไป แต่คนที่ซื้อก้อยัง คงซื้อไปเนื่องด้วยมีเจตนาที่จะช่วยเหลือคุณยายและครอบครัว แต่ในเวลานั้นน้ำ�แห้งผักบุ้งไม่มีให้คุณยายเก็บไปขายตายายจึง ไม่มีรายได้ที่จะนำ�ไปใช้จ่ายสำ�หรับค่าใช้จ่ายในครอบครัว สมาชิกท่านหนึ่งของวิถีชุมชนวัดชุมชนนี้มีร้านขายผักได้เข้าร่วมประชุม วิถชี มุ ชนวัดเมือ่ ได้ทราบเรือ่ งราวของตายายจากการประชุมและแบ่งปันพระวาจา จึงไปเยีย่ มบ้านของตายาย และพบว่าครอบครัว นี้มีความยากลำ�บากอย่างมาก เมื่อกลับมาที่ร้านจึงตัดสินใจมอบผักในร้านให้คุณยายไปขายเป็นประจำ� ผักที่มอบให้ครอบครัวนี้ เป็นผักที่มีคุณภาพดีตายายสามารถนำ�ไปทำ�เป็นอาหารและนำ�ไปมัดเป็นกำ�ๆ ขายได้ พี่น้องครับ เราจะเห็นว่าประสบการณ์นี้แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แฝงด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของสมาชิกวิถีชุมชนวัด ชุมชนหนึ่งที่ตั้งใจดำ�เนินชีวิตตามพระวาจาและคำ�สอนของพระเยซูเจ้า ในเรื่องของความรักและเมตตาธรรม ความใส่ใจต่อเพื่อน พี่น้อง เป็นต้นบุคคลที่มีความยากลำ�บากในชุมชนของตน เรายังมีประสบการณ์ดีๆ อีกหลายเรื่องครับ ซึ่งพ่อคิดว่าจะค่อยๆ นำ�มาแบ่งปันในสารสังฆมณฑลของเรา ทั้งนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าผู้ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความดีงามทั้งปวงครับ สุดท้ายนี้ ขอส่งความสุขโอกาสปัสกาแก่พี่น้องทุกท่านครับ


อั

ครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ขอร่วมแสดงความยินดีกับ พระสงฆ์ที่ฉลอง 50 ปี คือคุณพ่อยอห์น ชุมภา คูรัตน์ ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ วันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ.1966 ที่ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดย พระคาร์ดนิ ลั เปโตร อากายาเนียน สมณมนตรีว่าการกระทรวงเผยแพร่ความเชื่อและ พระสงฆ์ที่ฉลอง 25 ปี คือ คุณพ่อฟรังซิสเซเวียร์ สุนัย สุขชัย คุณพ่อฟรังซิสเซเวียร์ สมชาย อัญชลีพรสันต์ คุณพ่อยอแซฟ วิทยา ลัดลอย และคุณพ่อเปโตร ประชาชาติ ปรีชาวุฒิ คุณพ่อทั้ง 4 ท่าน บวชเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ.1991 โดยพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู วิทยาลัยแสงธรรม สามพราน ทางทีมสารจึงขอให้คุณพ่อได้แบ่งปันประสบการณ์ ตลอด 50 ปี และ 25 ปีที่ผ่านมาว่าคุณพ่อได้รับพระพรของพระอย่างไรบ้าง

คุณพ่อยอห์น ชุมภา คูรัตน์

(คุณพ่อได้กล่าวเมื่อ วันพฤหัสฯศักดิ์สิทธิ์ ทางทีมงาน จึงขอนำ�มาแบ่งปันให้กับผู้อ่าน)

พ่อไปเป็นเณรเมื่ออายุ 10 ขวบ เวลานี้อายุ 77 ปี กว่าจะบวชก็ใช้เวลานานพอสมควร สิ่งแรกที่พ่ออยากจะแบ่งปัน คือ พ่อได้เลือกคติพจน์ วันบวช เป็นภาษาละติน Manenobiscum Domine มีความหมายว่า โปรดประทับอยู่กับข้าพเจ้าเถิดพระเจ้าข้า ซึง่ คำ�พูดนี้ อัครสาวก 2 องค์ ทีเ่ ดินทางไปทีเ่ อมมาอูส หลังจากพีพ่ ระเยซูเจ้าสิน้ พระชนม์แล้ว และกำ�ลังสิน้ หวัง และเมือ่ พระเยซูเจ้าได้อธิบาย ถึงชีวิตของพระองค์ ที่ต้องจบลงบนกางเขนนั้น ทั้งสองคนก็เข้าใจและเมื่อมาถึงที่บ้านของตัวเองจึงบอกกับพระองค์ว่า โปรดประทับอยู่กับ เราเถิดพระเจ้าข้า และพระเยซูเจ้าก็เข้าไปในบ้านของทั้งสองคนนั้น พระองค์หยิบขนมปัง หักปังนั้น ทั้งสองเปิดตามองเห็นพระองค์ และ จำ�ได้ และพระองค์ก็หายไป วันพฤหัสฯศักดิส์ ทิ ธิ์ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดฉลอง 50 ปีและ 25 ปี ให้กบั พระสงฆ์ทคี่ รบรอบ ซึง่ เป็นวันทีพ่ ระเยซูเจ้าตัง้ ศีลมหาสนิท ความหมายของศีลมหาสนิทหรือบูชามิสซา ก็มีความหมายลึกซึ้งสองประการ ก็คือ เหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้า ล้างเท้าบรรดาอัครสาวก เพื่อ เป็นประจักษ์พยานว่าภาระหน้าที่ของพระองค์นั้นคือ “การรับใช้” และเมื่อพระองค์รับประทานอาหารค่ำ�มื้อสุดท้าย พร้อมกับบรรดาสาวก ของพระองค์ทั้งหมด สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงปฏิบัติ คือ คำ�พูดดังต่อไปนี้ “นี่คือกายของเรา รับไปกินเถิด นี่คือโลหิตของเรา รับไปกินเถิด” และ “จงทำ�ดังนี้เพื่อระลึกถึงเรา” พ่อขอแปลความหมายสุดท้ายนี้ พระองค์คงไม่ได้บอกและไม่ได้ตั้งใจที่จะให้การรับประทานอาหารค่ำ�นั้น ให้บรรดาสาวกไปทำ�เพือ่ ระลึกถึงพระองค์เท่านัน้ แต่ตอ้ งการจะบอกบรรดาสาวกว่า ขอให้เลือดและเนือ้ ของบรรดาสาวกนัน้ เป็นอาหารหล่อ เลี้ยงชีวิตของตัวเองและของบรรดาคริสตชนทั้งหมด อย่างที่พระองค์ปฏิบัติ สละชีวิตของพระองค์ทั้งหมดเพื่อความรอดของมนุษย์ และขอ ให้สาวกและบรรดาตัวแทนของสาวกทัง้ หมดทีอ่ ยูต่ อ่ หน้าเรานีไ้ ด้ปฏิบตั ภิ าระหน้าทีส่ องอย่าง ด้วยชีวติ จิตใจทัง้ หมดเหมือนทีพ่ ระองค์ทรงเสีย สละนั่นก็คือ “รับใช้พี่น้องด้วยความรัก ด้วยชีวิตจิตใจ และยอมสละเลือดเนื้อเหมือนกับพระองค์ในฐานะที่มีชีวิตพระกับชีวิตมนุษย์ภายใน ตัวเองมอบให้กบั บรรดาพีน่ อ้ งทัง้ หลาย เพือ่ ให้เขาสามารถเดินตามพระองค์ไปมีความเชือ่ มัน่ ในการปฏิบตั ภิ าระหน้าทีข่ องพระองค์ และแม้จะ อยูใ่ นสถานภาพเหมือนสาวก 2 องค์นนั้ สิน้ หวัง หมดกำ�ลังใจ แต่เมือ่ พบกับพระองค์ และเมือ่ ได้ท�ำ พิธหี กั ปัง และพระองค์ได้อนั ตรธานไปนัน้ ขอให้ชวี ติ ทีเ่ ห็นเหตุการณ์ดงั กล่าวนัน้ ได้ท�ำ ให้พวกเขารูส้ กึ ว่า อาศัยความเชือ่ ทุกคนจะไม่เห็นพระเยซูเจ้าในฐานะมนุษย์ แต่พระองค์จะเข้าไป สถิตอยู่ในชีวิตของเราพี่น้องทุกคน รวมทั้งบรรดาพระสงฆ์ด้วย เพื่อเดินทางในชีวิต เพื่อสักวันหนึ่งจะพบกับพระองค์ ในช่วงเวลากลับคืนชีพ เมื่อเรามีความเชื่อความวางใจ ในพระองค์ พบกับอุปสรรคต่างๆ แบกกางเขน ตายบนกางเขน เช่นเดียวกับพระองค์ ด้วยความเชื่อ ถือว่าเป็น น้ำ�พระทัยของพระเจ้า และเรากลับคืนชีพเช่นเดียวกับพระองค์ นี่คือความหมายของชีวิตของเราพระสงฆ์ ของการถวายบูชามิสซา ของความ หวังและความสิ้นหวัง แต่นำ�เราไปสู่หนทางแห่งความเชื่อจนได้กลับคืนชีพเช่นเดียวกับพระองค์ ขอพระเจ้าอวยพรพวกเรา เพื่อให้พวกเรา ได้บรรลุถึงจุดหมายปลายทางตามสิ่งที่พระเป็นเจ้าเรียกร้องจากชีวิตของเราทุกคน และขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องให้พี่น้องจบชีวิตลงไม่ใช่ ที่กางเขน แต่ด้วยชัยชนะแห่งชีวิตแห่งความเชื่อ การกลับคืนชีพ เพื่อเราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้า ที่เรามีความเชื่อความวางใจใน พระองค์และเพื่อสักวันหนึ่ง เราจะรักพระองค์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระองค์ ในชีวิตที่พระองค์จะสัญญาจะประทานให้กับเราทุกคนที่ เรามุ่งหวังว่าพระองค์เป็นจุดหมายปลายทางของเราทุกคน ขอพระเจ้าอวยพรพวกเราทุกคนตั้งแต่บัดนี้จนกว่าเราจะพบกับพระองค์ สวัสดี 2 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2016


คุณพ่อฟรังซิสเซเวียร์ สุนัย สุขชัย รำ�พึงถึงองค์

1. รำ�พึงถึงองค์ผู้ทรงพระฤทธิ์เดชา สร้างดาวดาราสร้างดินสร้างฟ้าธานี สร้างลมสร้างฝนสร้างคนจนรวยมากมี สร้างวันเดือนปีให้มีชีวีวิญญาณ์ 2. รำ�พึงถึงเราพระเจ้าเฝ้าเอาใจใส่ สร้างเราเติบใหญ่อุ่นใจในพระเมตตา หมู่มิตรพี่น้องเพื่อนพ้องบิดามารดา สร้างสรรค์ปัญญาพาเราเข้าใจพระองค์ (รับ) แต่บางวันฉันไม่มีค่า เหมือนดาวดาราสิ้นแสงไสวใจปลง ทุกข์ยากลำ�บากตรากตรำ�ค่ำ�เช้าพะวง เพียงเพื่อดำ�รงความดีสู่ที่อำ�ไพ 3. รำ�พึงทุกวันฉันตันตื้นในดวงจิต มอบหมายชีวิตอุทิศสนิทพระทัย นำ�ทางข้าฯ นี้หากมีเหตุร้ายโพยภัย ร่มโพธิ์ร่มไทรให้ฉันมั่นรักพระเอย การบวชเป็นพระสงฆ์ของบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะกระผม ฟรังซิสเซเวียร์ สุนัย สุขชัย ถือว่าเป็นแผนการของพระเป็นเจ้าและโดยอาศัยความเชื่อในพระเป็นเจ้าอย่างเหนียวแน่นถือว่าเป็นโอกาสพิเศษที่พระประทานให้ การที่จะเขียนบรรยายเรื่องราวต่างๆ ของตนเองมากไปคงไม่สมควร เพราะอาจทำ�ให้เราดูดีกว่าคนอื่นประกาศความสำ�เร็จหรือผลงาน ต่างๆ ซึ่งอาจไร้ค่าต่อหน้าพระก็ได้ จึงขอนำ�บทเพลง “รำ�พึงถึงองค์” ข้างต้นนี้มาแบ่งปันก็แล้วกันเพราะเห็นว่าเพลงนี้มีความ “คม ชัด ลึก” และสะท้อนการเป็นตัวตนได้เป็นอย่างดีและเป็นการฟื้นฟูชีวิตสงฆ์และตระหนักถึงพระเมตตาของพระเป็นเจ้าด้วย

คุณพ่อยอแซฟ วิทยา ลัดลอย พระพรแห่งชีวติ สงฆ์ ทีพ่ อ่ ประทับใจช่วงทีพ่ อ่ เป็นเณรเล็ก พ่อเข้าบ้านเณรได้สองถึงสามอาทิตย์พอ่ คิดถึงบ้านมาก ไม่อยากอยู่บ้านเณร แต่ไม่รู้จะขออนุญาตคุณพ่ออธิการอย่างไร เพราะเมื่อไปพบคุณพ่ออธิการ พอเคาะประตู แต่พ่ออธิการไม่ได้ยินเสียง เคาะประตูของพ่อจึงไม่ได้ตอบรับอะไร พ่อก็ไม่ได้เข้าไปคุย พ่อจึงตัดสินใจว่าก่อนหน้านีท้ พี่ อ่ จะมาอยูบ่ า้ นเณร พ่อเคยได้ฟงั ชีวติ ของเณรคือ คุณพ่อที่สอนคำ�สอนที่วัด ได้พูดถึงชีวิตของเณร พ่อจึงเกิดความประทับใจ จึงได้สมัครเข้ามาบ้านเณรจึงได้จัดสินใจไปคุกเข่าหน้ารูปแม่พระ ที่วัดของบ้านเณร แล้วก็บอกกับแม่พระว่าถ้าอยากจะให้พ่ออยู่ต่อไปก็ขอให้ไปที่โรงเรียนแล้วมีใครก็ได้พูดถึงชีวิตของเณรให้ฟังอีก จะได้เกิด ความปรารถนาอยากที่จะอยู่ต่อ ให้มีกำ�ลังใจ พอไปถึงที่โรงเรียน ในวิชาหนึ่ง ในขณะที่จบจากการสอนของคุณครูแล้วปรากฏว่าคุณครูเคยเป็นเณรมาก่อน ก็ได้แบ่งปันชีวิตความ ยากลำ�บากของเณรในสมัยนั้นให้ฟัง ก็รู้สึกว่านี่เป็นเครื่องหมายที่แม่พระให้กับเราว่าเราต้องดำ�เนินชีวิตกระแสเรียกนี้ต่อไป พ่อจึงตัดสินใจ อยู่บ้านเณรต่อไปจนกระทั่งได้บวชเป็นพระสงฆ์ ความประทับใจทีส่ องทุกครัง้ มีความรูส้ กึ ว่าเมือ่ ได้เข้าไปมีสว่ นร่วมกับผูด้ อ้ ยโอกาสไม่วา่ จะเป็นการพูดคุยการให้ก�ำ ลังใจซึง่ บางครัง้ ไม่สามารถ จะช่วยเข้าได้ หรือบางโอกาสพอจะช่วยบุคคลเหล่านีไ้ ด้กท็ �ำ ให้เรามีความสุข ทำ�ให้ชวี ติ สงฆ์ของเรามีคณ ุ ค่า เหมือนกับงานทีเ่ ป็นแรงบันดาลใจ ให้เรามีพลังต่อไปในชีวติ สงฆ์ทจี่ ะทำ�เพือ่ เพือ่ นพีน่ อ้ งผูด้ อ้ ยโอกาส ในสังคมผูย้ ากไร้หรือแม้ผตู้ อ้ งขังด้วย นีจ่ งึ เป็นสองความประทับใจที่ ทำ�ให้ เกิดกำ�ลังใจและมุง่ มัน่ ทีจ่ ะเป็นพระสงฆ์ทดี่ ี มีพลังเวลาเกิดปัญหาชีวติ ก็ได้พลังทัง้ สองนีท้ �ำ ให้ชวี ติ สงฆ์นนั้ ดำ�เนินอยูต่ อ่ ไปจนกระทัง่ วันนี้ 25 ปี

คุณพ่อเปโตร ประชาชาติ ปรีชาวุฒิ ขอขอบพระคุณพระเจ้า สำ�หรับพระพรแห่งกระแสเรียกชีวติ สงฆ์ ตลอดระยะเวลา 25 ปี ชีวติ สงฆ์แห่งผูร้ บั ใช้ดว้ ยความ สำ�นึกในพระพรแห่งความรักของพระเจ้า ทีไ่ ด้เรียกและเลือกลูกผูเ้ ป็นคนบาปต่�ำ ต้อยให้มามีสว่ นในภารกิจแห่งรักและรับใช้ในงานศาสนบริกร อภิบาลสัตบุรษุ เป็นคนกลางแจกจ่าย พระหรรษทานและพระคุณแห่งพระเมตตารักของพระสูเ่ พือ่ นมนุษย์ทกุ คน พร้อมกับคำ�สัญญาทีจ่ ะร่วม ก้าวเดินในการเป็นพยานและประกาศความรัก ทีเ่ ป็นข่าวดีแห่งชีวติ ของพระสูเ่ พือ่ นพีน่ อ้ งทีพ่ ระองค์จะทรงนำ�ทางดูแลตลอดมาและตลอดไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในงานภารกิจนี้ ทั้งในคำ�ภาวนาและกำ�ลังใจพร้อมกับแบบอย่างชีวิตที่ดีตลอดมาที่เราทุกคนต่างเป็น พระพรแห่งความรักของพระเจ้าต่อเติมคุณค่าและความหมายพร้อมทั้งพลังใจที่มีต่อกันตามพระพรแห่งกระแสเรียกที่เราทุกคนได้รับ “ข้าพเจ้าทำ�ทุกสิ่งได้ ในพระองค์ผู้ประทานพละกำ�ลังแก่ข้าพเจ้า” (ฟป 4:13) “หนทางอีกยาวไกล ทางสายใหม่สู่ปวงชน ชีวิตความเป็นสงฆ์ ขอพระองค์ทรงดูแล” สงฆ์แห่งผู้รับใช้ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2016 3


คุณพ่อฟรังซิสเซเวียร์ สมชาย อัญชลีพรสันต์ 25 ปีแห่งความเป็นสงฆ์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งพระพร ที่พ่อต้องขอบพระคุณพระเป็นเจ้าอย่างไม่รู้จบสิ้น ย้อนคิดถึงเมื่อ 25 ปี ที่แล้วถ้าพระเป็นเจ้าไม่ทรงเป็นผู้เลือกเอง โดยอาศัยมนุษย์เป็นเครื่องมือของพระองค์ แต่ให้พระศาสนจักรใช้กลไกใดๆ ก็ตาม ตามประสามนุษย์ มาเป็นวิธีการคัดเลือกคนๆ หนึ่งตามความเหมาะสมให้มาเป็นพระสงฆ์ พ่อเชื่อเหลือเกินว่าพ่อคงไม่ได้รับการ เลือกสรรให้เป็นพระสงฆ์ศาสนบริกรของพระเจ้า เพราะเมื่อพ่อคิดถึงเพื่อนๆ ที่เคยอยู่บ้านเณรเล็ก บ้านเณรกลาง บ้านเณรใหญ่ เคยเรียนหนังสือด้วยกันมา มีเพื่อนหลายๆ คนเรียนเก่งมีความสามารถมากกว่าพ่อหลายเท่า แต่พระเป็นเจ้าไม่ทรงเลือกพวกเขา กลับเลือกคนอย่างพ่อซึ่งมีความจำ�กัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนและความสามารถในด้านอื่นๆ ในวันที่พ่อตัดสินใจ รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ พ่อยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ�ไปว่าสิ่งที่พ่อมีและเป็นอยู่เวลานั้นจะมีอะไรที่พ่อสามารถนำ�มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในชีวิตสงฆ์ได้บ้าง ที่ตัดสินใจรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์พ่อไม่ได้มีความมั่นใจในความสามารถของตนเองเลย คิดแต่เพียงว่า “ผมจะทำ�ทุกอย่างสุดความสามารถ ทีเ่ หลือฝากไว้ในอ้อมพระหัตถ์ของพระเจ้า” เมือ่ วันเวลาในชีวติ สงฆ์ผา่ นไปนานวันนานปี มากเท่าไร ความจริงยิง่ ปรากฏชัดมากขึน้ เท่านัน้ ว่า “ทุกสิง่ ทุกอย่างทีพ ่ อ่ ทำ�ในหน้าทีส่ งฆ์ไม่ได้มาจากความสามารถของพ่อเลย พ่อเพียงแต่ร่วมมือยอมเป็นเครื่องมือของพระเจ้า และทุกสิ่งก็ค่อยๆ ดำ�เนินไป โดยมีพระหัตถ์ของพระองค์คอยหนุนนำ� ช่วยเหลือเกื้อกูลอยู่เบื้องหลัง” สมตามที่ท่านนักบุญเปาโลมีประสบการณ์และบันทึกไว้ว่า “พระเจ้าทรงเลือกสรรคนโง่เขลา ในสายตาของโลก เพื่อทำ�ให้คนฉลาดต้องอับอาย พระเจ้าทรงเลือกสรรคนที่โลกถือว่าอ่อนแอ เพื่อทำ�ให้ผู้แข็งแรงต้อง อับอาย และพระเจ้าทรงเลือกสรรสิ่งต่ำ�ช้าน่าดูหมิ่นไร้คุณค่าในสายตาของชาวโลก เพื่อทำ�ลายสิ่งที่โลกเห็นว่าสำ�คัญ” (1คร.1:27-28) สำ�หรับคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองซึ่งมีลูกหลานอยากเข้าบ้านเณร เพื่อเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์หลายๆ ท่านอาจจะมีความ กังวลใจว่า “ลูกหลานไปเข้าบ้านเณรเตรียมตัวพระสงฆ์ เขาจะได้เป็นพระสงฆ์ไหม แล้วครอบครัวพ่อแม่พี่น้องจะทำ�อย่างไร” พ่อขอตอบสั้นๆ ว่า “จงวางใจในพระเจ้า และสวดภาวนาให้กับเขาอยู่เสมอ” จากประสบการณ์ของพ่อที่เป็นพระสงฆ์มาครบ 25 ปี ทุกวันนีพ้ อ่ ก็ยงั ต้องสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า โดยผ่านทางคำ�เสนอวิงวอนของแม่พระและบรรดานักบุญ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอยู่เสมอ เพราะพ่อตระหนักดีว่าพ่อเป็นคนธรรมดาสามัญ เป็นคนอ่อนแอ เป็นคนบาปเหมือนกับคนอื่นๆ ถ้าขาดพระองค์แล้วพ่อจะทำ�อะไรไม่ได้เลย สำ�หรับเด็กที่เข้าบ้านเณรแล้วจะเป็นพระสงฆ์ได้หรือไม่ พ่อคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของ การเรียกและเลือกของพระเจ้า “มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่านมอบภารกิจให้ท่านไปทำ�จนเกิดผล และ ผลของท่านจะคงอยู”่ (ยน.15:16) ดังนัน้ เด็กทีเ่ ข้าบ้านเณรแล้วภายหลังไม่ได้เป็นพระสงฆ์กไ็ ม่ใช่เรือ่ งผิดแปลกอะไรเลย ถ้าพ่อแม่ ผู้ปกครองและเด็กมีความบริสุทธิ์ใจกลับเป็นเรื่องที่ดี ที่พระเจ้าทรงเรียกคนๆ หนึ่งให้มาใช้ชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งในบ้านเณร ซึ่งเขา จะสามารถนำ�สิ่งที่เขาได้รับมาในช่วงการอบรมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคต อีกทั้งเขายังได้เป็นเพื่อนกับพระสงฆ์หลายองค์ที่ จะสามารถช่วยเหลือพระศาสนจักร และช่วยเหลือเกือ้ กูลกันต่อไปในโอกาสข้างหน้า ส่วนเรือ่ งครอบครัวพ่อแม่พนี่ อ้ งจะทำ�อย่างไร พ่อมีเพื่อนพระสงฆ์ที่เป็นลูกคนเดียวในครอบครัว จนกระทั่งตอนที่เขายังเป็นเณรเล็กพ่ออธิการเคยเรียกเขาไปพบ และบอกเขา ว่า “ให้เขาเปลี่ยนใจได้นะ เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวจะได้ออกไปดูแลพ่อแม่” แต่เขาไม่เปลี่ยนใจพ่อเห็นว่าครอบครัวเขาก็ไม่ได้ เดือดร้อนอะไรอยู่ได้ ถึงแม้จะไม่สะดวกสบายร่ำ�รวยอะไรแต่ก็ไม่เห็นว่าครอบครัวของเขาจะลำ�บากอะไรมากมายจนอยู่ไม่ได้ ส่วนครอบครัวของพ่อมีพี่น้อง 9 คน แถมยังเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างยากจนเสียด้วย แต่เราก็สามารถอยู่ได้ลูกๆ ก็สามารถดูแล พ่อแม่ได้ดีพอสมควรจนถึงวาระสุดท้ายของพวกท่าน ประสบการณ์ต่างๆ ที่พ่อเขียนให้พ่อน้องได้อ่านนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พระเจ้ามีแผนการสำ�หรับเราแต่ละคนแตกต่างกันไป ในแผนการที่พระองค์ทรงเตรียมไว้ให้กับเรานั้นช่างงดงามดีเลิศเต็มเปี่ยมไป ด้วยความรักทีม่ ตี อ่ เราแต่ละคน ถ้าเรามีความเชือ่ และวางใจในพระองค์ “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มใี ครทีล่ ะทิง้ บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่า ในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียน และในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร” (มก.10:29-30) ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงรักษาสัญญาที่ทรงให้ไว้เสมอ อาแมน

4 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2016


บอกข่าวเล่าสาร

แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปิดประตูศักดิ์สิทธิ์วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2016 เวลา 10.00 น. พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธานพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ประตูที่ 3 ณ วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา มีบรรดาพระสงฆ์และพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมเป็นจำ�นวนมาก

ครบรอบปีที่ 3 สมณสมัย พระสันตะปาปาฟรังซิส วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016 สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถานทูตวาติกนั ประจำ�ประเทศไทย ได้จดั พิธบี ชู าขอบพระคุณ โอกาสครบรอบ 3 ปี แห่งสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 17.00 น. โดย พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พร้อมด้วย พระอัครสังฆราช พอล ชาง อิน-นัม สมณทูต และบรรดาพระสังฆราชมีสัตบุรุษมาร่วม เป็นจำ�นวนมาก

พิธีมิสซาปลงศพ เทเรซา สมบัติ กิจสมัคร วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2016 คุณพ่อธนันชัย กิจสมัคร เป็นประธานพิธีมิสซาปลงศพ เทเรซา สมบัติ กิจสมัคร มารดาของคุณพ่อ โดย มีพระสังฆราชปัญญา กฤษเจริญ คุณพ่อจำ�เนียร กิจเจริญ คุณพ่อเทิดศักดิ์ กิจสวัสดิ์ คุณพ่อสุขุม กิจสงวน เป็นประธานร่วม พร้อมด้วย พระสงฆ์ บรรดาญาติมิตรมาร่วมอาลัยรักจำ�นวนมาก ณ วัดนักบุญเปโตร สามพราน หลังพิธีบูชาขอบพระคุณ เคลื่อนศพไปบรรจุ ณ สุสานของวัด จาริกแสวงบุญ โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม จากอาคารคาทอลิกแพร่ธรรมสู่อาสนวิหารอัสสัมชัญ วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2016 เวลา 10.40 น. ฝ่ายงานอภิบาล ร่วมกับฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อ ปิ ย ะชาติ มะกรครรภ์ และคุ ณ พ่ อ สมเกียรติ บุญอนันตบุตร จัดงานจาริก แสวงบุญ โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม จากอาคารคาทอลิกแพร่ธรรมสู่อาสนวิหาร อัสสัมชัญ มีสมาชิกจากฝ่ายงาน และจาก บริเวณใกล้เคียง ไตรอัสสัมชัญ โรงพิมพ์ สำ�นักเลขา ห้องเอกสาร และผู้สนใจมาร่วมแสวงบุญจำ�นวนกว่า 70 คน โดยมีการตั้งขบวนที่อาคาร คาทอลิกแพร่ธรรม แห่ไปยังอาสนวิหารอัสสัมชัญ พร้อมด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณโดย คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราช คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม คุณพ่อประจักษ์ บุญเผ่า คุณพ่อประยุทธ ศรีเจริญ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2016 5


ค่ายปัสกาสัมผัสชีวิต 2016 เมื่ อ วั น ที่ 10-13 มี น าคม 2016 แผนกเยาวชน อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อพรชัย แก้วแหวน จัดโครงการ “ค่ายปัสกาสัมผัสชีวิต” ประจำ�ปี 2016 โดยใช้หัวข้อว่า “ผู้มีใจเมตตา ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา” (มธ 5:7) ณ วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา โดยในปีนี้มี จุดประสงค์ เพื่อให้เยาวชนได้สัมผัสชีวิต คริสตชนในการใช้ชีวิตร่วมกัน แบ่งปัน จิตตารมณ์ ในเทศกาลมหาพรต และเตรียมจิตใจเพื่อต้อนรับการเสด็จกลับคืนพระชนมชีพของ องค์พระเยซูคริสตเจ้าในเทศกาลปัสกามีเยาวชนเข้าร่วมครั้งนี้จำ�นวน 71 คน

สร้างและพัฒนาผู้นำ�วิถีชุมชนวัด เขต 1 วันที่ 12 - 13 มีนาคม 2016 แผนกวิถีชุมชนวัดอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดย คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ผู้จัดการแผนกฯ ร่วมกับวิถีชุมชนวัดเขต 1 จัดอบรมโครงการสร้าง และพัฒนาผู้นำ�วิถีชุมชนวัด เขต 1 ที่ศูนย์พระมหาไถ่ พัทยา มีผู้เข้าร่วม จำ�นวน 32 ท่าน วิทยากร 4 ท่าน คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ ซิสเตอร์กลั ยา ตรีโสภา คุณสมใจ พนาภาส เป็นวิทยากร

โครงการอบรมผู้นำ�พระคัมภีร์ระดับวัด แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายบุคลาภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยมีคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร ผู้จัดการฯ และทีมงานในแผนกฯ จั ด ทำ � โครงการสร้ า งผู้ นำ � พระคั ม ภี ร์ ร ะดั บ วั ด ณ บ้านผู้หว่าน วันที่ 5-6 มีนาคม มีผู้เข้ารับ การอบรม 33 คนและวันที่ 12-13 มีนาคม มี ผู้เข้ารับการอบรม 30 คน สำ�หรับวันอาทิตย์ ที่ 13 มีนาคม คุณพ่อวรยุทธ กิจบำ�รุง ผู้ช่วย พระสังฆราชฝ่ายบุคลาภิบาลและอธิการบ้าน ผู้หว่าน เป็นประธานพิธีบูชาขอบพระคุณและ มอบวุฒิบัตร

เขต 4 สร้างและพัฒนาทักษะผู้นำ� “วิถีชุมชนวัด” วันที่ 5 – 6 มีนาคม 2016 แผนกวิถชี มุ ชนวัด ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นำ�โดยคุณพ่อเชษฐา ไชยเดช ผู้จัดการแผนกฯ ร่วมกับวิถีชุมชนวัดเขต 4 นำ�โดยคุณพ่อ พลาพล ลิ้มสุธาโภชน์ จิตตาภิบาล จัดโครงการสร้างและพัฒนาทักษะผู้นำ� “วิถีชุมชนวัด” ให้กบั กลุม่ วิถชี มุ ชนวัดเขต 4 โดยมีหวั ข้อว่า หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รบั ความวิบัติ (1คร 9:16) ณ สวนสันติธรรม ลำ�ไทร มีผู้เข้าร่วมครั้งนี้ จำ�นวนทั้งหมด 38 ท่าน ทีมวิทยากร 4 ท่าน รวม 42 ท่าน ให้ความรู้เรื่อง ปีศักดิ์สิทธิ์แห่ง เมตตาธรรม วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2016 เวลา 08.30 - 12.00 น. แผนกศาสนสัมพันธ์ ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ จัดอบรมให้ความรู้เรื่อง ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม โดยมี คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม เป็น วิทยากร มีผเู้ ข้าร่วมฟังครัง้ นีจ้ �ำ นวน กว่า 120 คน ณ อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม

6 สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2016


24 ชั่วโมงสำ�หรับองค์พระผู้เป็นเจ้า อาสนวิหารอัสสัมชัญ วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2016 อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ จัดเฝ้าศีล 24 ชั่วโมงสำ�หรับองค์ พระผูเ้ ป็นเจ้า โดยเวลา 18.00 น. วจนพิธกี รรม ศีลอภัยบาป คุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ ประธาน ต่อจากนั้นเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยพระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เป็นประธาน ร่วมกับคุณพ่อสานิจ สถะวีระวงส์ และคุณพ่อประยุทธ ศรีเจริญ หลังจาก พิ ธี บู ช าขอบพระคุ ณ แล้ ว เป็ น การเฝ้ า ศี ล 24 ชั่วโมงสำ�หรับองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยมีพิธีตั้งศีลมหาสนิท นมัสการและอวยพรศีลมหาสนิท พิธีในวันนี้เป็นไปด้วยความสง่างาม

ปฏิทินกิจกรรม เดือนเมษายน 2016

ปีที่ 51 บ้านเณร "ยอแซฟ" วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016 สามเณราลัยนักบุญยอแซฟ สามพราน ได้จัดสมโภช นักบุญและฉลองปีที่ 51 สามเณราลัยนักบุญยอแซฟพิธบี ชู าขอบพระคุณ โดย พระสังฆราช กิตติคุณ สังวาลย์ ศุระศรางค์พร้อมด้วยพระสงฆ์ และศิษย์เก่า มาร่วมเป็นจำ�นวนมาก

4-8 เม.ย. สัมมนาพระสงฆ์ประจำ�ปี บ้านผู้หว่าน 17 เม.ย. ฉลอง 350 ปี วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา เวลา 10.00 น. 24 เม.ย. คณะกรรมการวิถีชุมชนวัดเขต 1 เยีย่ มเยียนกลุม่ BEC ทีว่ ดั พระบิดา 29-30 เม.ย. ชุ ม นุ ม ผู้ สู ง อายุ ร ะดั บ ชาติ อั ค รสั ง ฆมณฑลกรุ ง เทพฯ เป็ น เจ้ า ภาพ ณ อาคารนักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 สามพราน

24 ชั่วโมง เฝ้าศีลและฉลอง 16 ปี การสถาปนาบุญราศี นิโคลาส วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2016 เวลา 19.00 น. หลังจากที่ ได้มีการตั้งศีล นมัสการและอวยพรศีลมหาสนิท เมื่อวันที่ 4 มีนาคมแล้ว ณ สักการสถานบุญราศี จากนั้นชั่วโมงที่ 24 ฉลองศีลมหาสนิท ด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณ และฉลอง 16 ปี การสถาปนาบุญราศีนิโคลาส 5 มีนาคม 2000 - 5 มีนาคม 2016 พิธีบูชาขอบพระคุณ โดย คุณพ่อคมทวน สุขสุทิพย์ สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน 2016 7


เกร็ดความรูค้ �ำ สอน...คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม

สุขสันต์ปัสกาพี่น้องที่รัก

The Corporal and Spiritual Works of Mercy

เราร่วมฉลองปัสกาวันที่พระเยซูเจ้า กลับคืนชีพจากความตาย นับแต่นคี้ วาม ตาย/บาปไม่ เ ป็ น ผู้ ช นะโดยอาศั ย การ ไถ่กู้ของพระเยซูเจ้า ถึงแม้เราซึ่งเป็น คนบาปหากเราเชื่ อ และปฏิ บั ติ ต ามที่ พระองค์สอนเมื่อตายไปแล้วเราจะร่วม ในพระราชัยของพระองค์ตลอดไป ในพระธรรมเดิ ม ก่ อ นพระเยซู เจ้ า มาไถ่ บ าปมนุ ษ ย์ ทุ ก คนไม่ ว่ า จะดี เ ลว มากน้อยเพียงใด เมื่อตายไปแล้วจะไป อยู่ในดินแดนผู้ตาย ทุกสิ่งจบสิ้น ชีวิต ในโลกจึงเป็นทุกสิ่งทั้งการลงโทษและ ให้รางวัล แต่เมื่อพระเยซูเจ้ากลับเป็น ขึ้นมาจากความตาย พระองค์นำ�ผู้ชอบ ธรรมจากดิ น แดนผู้ ต ายสู่ พ ระราชั ย คนที่ เชื่ อ และปฏิ บั ติ ต ามคำ � สอนของ พระองค์จึงได้รับผลการไถ่ของพระองค์ ต่ อ เนื่ อ งทั้ ง จากโลกนี้ ต่ อ เนื่ อ งไปยั ง ชีวิตหลังความตาย เราจึงต้องขอบคุณ พระเจ้ามากๆ ตลอดชีวิตของเรา ปัสกาเป็นการฉลองและความยินดี เราประกาศข่าวดีนี้แก่คนที่อยู่รอบข้าง ไม่เพียงพอที่เราจะพอใจเพียงแค่เห็น คนทั่วไปเป็นคนดี เพราะถ้าเราเชื่อ ว่ า พระเยซู เจ้ า เป็ น ข่ า วดี เราก็ พ ร้ อ มที่ จะบอกข่าวนี้กับคนอื่นด้วยความยินดี เช่นกัน ในโอกาสนี้เราร่วมยินดีกับพระสงฆ์ ที่บวชครบ 50 ปี 1 องค์และครบ 25 ปี 4 องค์ ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ของเราและให้เราร่วมกันภาวนาวอนขอ พระเจ้าเพื่อคุณพ่อจะได้รับพระพรจาก พระต่ อ เนื่ อ งและมี ค วามสุ ข ในหน้ า ที่ ที่พระมอบหมายให้เสมอ ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่าน

พระเยซูเจ้าทรงเรียกให้เราติดตามพระองค์โดยการระบุสิ่งที่เราควรจะต้อง แสดงออกซึ่งความเมตตากรุณาแก่บรรดาผู้ที่ต้องการนี่เป็นการเรียกที่ศักดิ์สิทธิ์ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสว่า “การสั่งสอนของพระเยซูเจ้าจะถูกทำ�ให้ เห็นเป็นจริงได้อีกครั้งหนึ่งในการตอบสนองต่อความเชื่อที่คริสตชนได้รับการ เรียกร้องให้เป็นพยานยืนยันถึง “กิจเมตตาฝ่ายกายและฝ่ายจิต” นี่เป็นกรอบ ปฏิบัติที่มีรากฐานมาจากความเมตตาดังที่มีเขียนไว้ในพระวรสารและลึกลงไปใน กิจเมตตาฝ่ายกายและฝ่ายจิตแต่ละประการนั้นกิจการเหล่านี้ก็ช่วยให้ข้อผูกพัน ที่เรามีมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานของเรานั้นได้มีชีวิตชีวาขึ้น กิ จ เมตตาฝ่ า ยกายและฝ่ า ยจิ ต นี้ เ ป็ น หนึ่ ง ในหนั ง สื อ ชุ ด แปดเล่ ม ที่ เ ป็ น แหล่งข้อมูลคำ�สอนคาทอลิกอย่างเป็นทางการสำ�หรับปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตา ธรรมที่ได้ถูกจัดทำ�ขึ้นโดยสมณสภาเพื่อการประกาศข่าวดีใหม่ตามคำ�ร้องขอของ พระสันตะปาปาฟรังซิส ดั ง ที่ พ ระสั น ตะปาปาทรงตรั ส ไว้ ว่ า พวกเราทุ ก คนในฐานะที่ เ ป็ น พระ ศาสนจักรเดียวกันที่ได้รับเรียกเพื่อที่จะ “สะท้อนพระวาจาของพระเจ้าให้ดัง กึกก้องยิ่งขึ้นและเป็นที่ชัดแจ้งว่าเป็นข่าวดีและเครื่องหมายแห่งการให้อภัย, เสริมกำ�ลัง, การเยียวยารักษา, และความรัก” หนังสือเหล่านี้เป็นแสงนำ�ทางให้ กับแต่ละคนแต่ละเขตวัดในการตอบสนองการเรียกร้องนี้ ขอขอบคุณ คุณโดม รุง่ เรือง เจ้าหน้าทีแ่ ผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ ที่ได้จัดแปลหนังสือ “กิจเมตตาฝ่ายกายและฝ่ายจิต” จากหนังสือ “The Corporal and Spiritual Works of Mercy” เพื่อช่วยให้พวกเราสามารถ ดำ�เนินชีวิตปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมได้อย่างเหมาะสม วัตถุประสงค์ 1. เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข่าวต่างๆ ในระดับวัด เขตและสังฆมณฑล ให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 2. เพื่อช่วยฟื้นฟูบทบาทการเป็นผู้มีส่วนร่วมในงานอภิบาลและธรรมทูตในชีวิตของสัตบุรุษ และบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล 3. เพื่อนำ�เสนอเครื่องมือ และแนวปฏิบัติในงานอภิบาลและธรรมทูตให้กับสัตบุรุษและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล สารอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ผู้รับผิดชอบ : ฝ่ายงานอภิบาลของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่ปรึกษา : คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม, คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม บรรณาธิการ : คุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ กองบรรณาธิการ : พฤกษา กิจเจริญ, มัลลิกา กิจบำ�รุง, เพชรี ชาวแพรกน้อย พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์อัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2233 0523 โทรสาร. 0 2235 1405 สำ�นักงาน : อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม 57 ซอยเจริญกรุง 40 เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0 2237 7315 โทรสาร. 0 2233 8159 E-mail : webmaster@catholic.or.th


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.