powerpoint

Page 1


นวัตกรรมการศึกษา หมายถึง การนำาแนวคิดใหม่ วิธีการใหม่ หรือสิ่ งใหม่ มาใช้ หรือการ พัฒนา ปรับปรุง เปลีย่ นแปลง หรือเพิม่ เติม แนวคิดเดิม วิธีการเดิมหรือสิ่ งเดิมทีช่ ่ วยให้ เกิด กระบวนการเรียนรู้ เพือ่ ความเจริญงอกงามของบุคคล และสั งคมอย่ างต่ อเนื่องตลอดชีวติ


เทคโนโลยี หมายถึงการใช้ เครื่องมือให้ เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการ แก้ปัญหา ผู้ทนี่ ำาเอาเทคโนโลยีมาใช้ เรียกว่านักเทคโนโลยี (Technologist) (Boonpan edt01.htm) เทคโนโลยีทางการศึกษา (Educational Technology) ตามรู ปศัพท์ เทคโน (วิธีการ) + โลยี (วิทยา) หมายถึง ศาสตร์ ทวี่ ่าด้ วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำาวิธีการ มาปรับปรุงประสิ ทธิภาพของการศึกษาให้ สูง ขึน้ เทคโนโลยีทางการศึกษาครอบคลุมองค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ (boonpan edt01.htm)


1. ความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์ กายภาพ ตามความคิดรวบยอดนี้ เทคโนโลยีทางการศึกษาหมายถึง การประยุกต์ วทิ ยาศาสตร์ กายภาพ ใน รู ปของสิ่ งประดิษฐ์ เช่ น เครื่องฉายภาพยนตร์ โทรทัศน์ ฯลฯ มาใช้ สำ าหรับการเรียนรู้ ของนักเรียนเป็ นส่ วนใหญ่ การใช้ เครื่องมือเหล่ านี้ มัก คำานึงถึงเฉพาะการควบคุมให้ เครื่องทำางาน มักไม่ คาำ นึงถึงจิตวิทยาการ เรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องความแตกต่ างระหว่ างบุคคล และการเลือกสื่ อให้ ตรงกับเนือ้ หาวิชา


2. ความคิดรวบยอดทางพฤติกรรมศาสตร์ เป็ นการนำาวิธีการทาง จิตวิทยา มนุษยวิทยา กระบวนการกลุ่ม ภาษา การสื่ อความหมาย การ บริหาร เครื่องยนต์ กลไก การรับรู้ มาใช้ ควบคู่กบั ผลิตกรรมทาง วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม เพือ่ ให้ ผ้ ูเรียน เปลีย่ นพฤติกรรมการเรียนรู้ อย่ างมีประสิ ทธิภาพยิง่ ขึน้ มิใช่ เพียงการใช้ เครื่องมืออุปกรณ์ เท่ านั้น แต่ รวมถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เข้ าไปด้ วย มิใช่ วสั ดุ หรืออุปกรณ์ แต่ เพียง อย่ างเดียว (boonpan edt01.htm)


1. การเพิม่ ปริมาณของผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็ นไปอย่ างรวดเร็ว 2. การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีเป็ นไปอย่ างรวดเร็ว 3. การเรียนรู้ ของผู้เรียนมีแนวโน้ มในการเรียนรู้ ด้วยตนเองมากขึน้ 4. ความก้าวหน้ าของเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยี โทรคมนาคม


1. การขยายพิสัยของทรัพยากรของการเรียนรู้ กล่าวคือ แหล่ งทรัพยากร การเรียนรู้ มิได้ หมายถึงแต่ เพียงตำารา ครู และอุปกรณ์ การสอน ทีโ่ รงเรียน มีอยู่เท่ านั้น แนวคิดทางเทคโนโลยีทางการศึกษา ต้ องการให้ ผ้ เู รียนมี โอกาสเรียนจากแหล่ งความรู้ ทกี่ ว้างขวางออกไปอีก แหล่ งทรัพยากรการ เรียนรู้ ครอบคลุมถึงเรื่องต่ างๆ เช่ น


1.1 คน คนเป็ นแหล่ งทรัพยากรการเรียนรู้ ทสี่ ำ าคัญซึ่งได้ แก่ ครู และวิทยากร อืน่ ซึ่งอยู่นอกโรงเรียน เช่ น เกษตรกร ตำารวจ บุรุษไปรษณีย์ เป็ นต้ น


1.2 วัสดุและเครื่องมือ ได้ แก่ โสตทัศนวัสดุอุปกรณ์ ต่าง ๆ เช่ น ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องวิดโี อเทป ของจริงของจำาลองสิ่ งพิมพ์ รวมไปถึงการ ใช้ สื่อมวลชนต่ างๆ


1.3 เทคนิค-วิธีการ ควร เปิ ดโอกาสให้ ผ้เู รียนได้ ศึกษาค้ นคว้ าด้ วยตนเอง ได้ มากทีส่ ุ ด ครู เป็ นเพียง ผู้วางแผนแนะแนวทางเท่ านั้น


1.4 สถานที่ อันได้ แก่ โรงเรียน ห้ องปฏิบัตกิ ารทดลอง โรงฝึ กงาน ไร่ นา ฟาร์ ม ทีท่ าำ การรัฐบาล ภูเขา แม่ น้ำา ทะเล หรือสถานทีใ่ ด ๆ ทีช่ ่ วยเพิม่ ประสบการณ์ ทดี่ แี ก่ ผ้ เู รียนได้


2. การเน้ นการเรียนรู้ แบบเอกัตบุคคล นักการศึกษาและนักจิตวิทยาได้ พยายามคิด หาวิธีนำาเอาระบบการเรียนแบบตัวต่ อตัวมาใช้ แต่ แทนทีจ่ ะ ใช้ ครู สอนนักเรียนทีละคน เขาก็คดิ ‘แบบเรียนโปรแกรม’ ซึ่งทำาหน้ าที่ สอน ซึ่งเหมือนกับครู มาสอน นักเรียนจะเรียนด้ วยตนเอง จากแบบเรียน ด้ วยตนเองในรู ปแบบเรียนเป็ นเล่ม หรือเครื่องสอนหรือสื่ อประสม หลายๆ อย่ าง จะเรียนช้ าหรือเร็วก็ทาำ ได้ ตามความสามารถของผู้เรียน แต่ ละคน


3. การใช้ วธิ ีวเิ คราะห์ ระบบในการศึกษา การใช้ วธิ ีระบบ ในการปฏิบัติ หรือแก้ปัญหา เป็ นวิธีการทีเ่ ป็ นวิทยาศาสตร์ ทีเ่ ชื่อถือได้ ว่าจะสามารถแก้ ปัญหา หรือช่ วยให้ งานบรรลุเป้ าหมายได้ เนื่องจากกระบวนการของวิธี ระบบ เป็ นการวิเคราะห์ องค์ประกอบของงานหรือของระบบ อย่ างมี เหตุผล หาทางให้ ส่วนต่ าง ๆ ของระบบทำางาน ประสานสั มพันธ์ กนั อย่ าง มีประสิ ทธิภาพ


4. พัฒนาเครื่องมือ-วัสดุอุปกรณ์ ทางการศึกษา วัสดุและเครื่องมือ ต่ าง ๆ ทีใ่ ช้ ในการศึกษา หรือการเรียนการสอนปัจจุบนั จะต้ องมีการ พัฒนา ให้ มศี ักยภาพ หรือขีดความสามารถในการทำางานให้ สูงยิง่ ขึน้ ไปอีก


1. ความแตกต่ างระหว่ างบุคคล (Individual Different) การจัดการศึกษา ของไทยได้ ให้ ความสำ าคัญในเรื่องความแตกต่ างระหว่างบุคคลเอาไว้ อย่ าง ชัดเจนซึ่งจะเห็นได้ จากแผนการศึกษาของชาติ ให้ ม่ ุงจัดการศึกษาตาม ความถนัดความสนใจ และความสามารถ ของแต่ ละคนเป็ นเกณฑ์ ตัวอย่ าง ทีเ่ ห็นได้ ชัดเจนได้ แก่ การจัดระบบห้ องเรียนโดยใช้ อายุเป็ นเกณฑ์ บ้าง ใช้ ความสามารถเป็ นเกณฑ์ บ้าง นวัตกรรมทีเ่ กิดขึน้ เพือ่ สนองแนวความคิด พืน้ ฐานนี้


2. ความพร้ อม (Readiness) เดิมทีเดียวเชื่อกันว่ า เด็กจะเริ่มเรียนได้ ก็ ต้ องมีความพร้ อมซึ่งเป็ นพัฒนาการตามธรรมชาติ แต่ ในปัจจุบันการ วิจัยทางด้ านจิตวิทยาการเรียนรู้ ชี้ให้ เห็นว่ าความพร้ อมในการเรียนเป็ น สิ่ งทีส่ ร้ างขึน้ ได้ ถ้ าหากสามารถจัดบทเรียน ให้ พอเหมาะกับระดับความ สามารถของเด็กแต่ ละคน วิชาทีเ่ คยเชื่อกันว่ ายาก และไม่ เหมาะสม สำ าหรับเด็กเล็กก็สามารถนำามาให้ ศึกษาได้ นวัตกรรมทีต่ อบสนองแนว ความคิดพืน้ ฐานนีไ้ ด้ แก่ ศูนย์ การเรียน การจัดโรงเรียนในโรงเรียน นวัตกรรมทีส่ นองแนวความคิดพืน้ ฐานด้ านนี้


3. การใช้ เวลาเพือ่ การศึกษา แต่ เดิมมาการจัดเวลาเพือ่ การสอน หรือ ตารางสอนมักจะจัดโดยอาศัยความสะดวกเป็ นเกณฑ์ เช่ น ถือหน่ วยเวลา เป็ นชั่วโมง เท่ ากันทุกวิชา ทุกวันนอกจากนั้นก็ยงั จัดเวลาเรียนเอาไว้ แน่ นอนเป็ นภาคเรียน เป็ นปี ในปัจจุบันได้ มีความคิดในการจัดเป็ นหน่ วย เวลาสอนให้ สัมพันธ์ กบั ลักษณะของแต่ ละวิชาซึ่งจะใช้ เวลาไม่ เท่ ากัน บาง วิชาอาจใช้ ช่วงสั้ นๆ แต่ สอนบ่ อยครั้ง การเรียนก็ไม่ จำากัดอยู่แต่ เฉพาะใน โรงเรียนเท่ านั้น นวัตกรรมทีส่ นองแนวความคิดพืน้ ฐานด้ านนี้


4. ประสิ ทธิภาพในการเรียน การขยายตัวทางวิชาการ และการ เปลีย่ นแปลงของสั งคม ทำาให้ มีสิ่งต่ างๆ ทีค่ นจะต้ องเรียนรู้ เพิม่ ขึน้ มาก แต่ การจัดระบบการศึกษาในปัจจุบันยังไม่ มีประสิ ทธิภาพเพียงพอจึงจำาเป็ น ต้ องแสวงหาวิธีการใหม่ ทมี่ ีประสิ ทธิภาพสู งขึน้ ทั้งในด้ านปัจจัยเกีย่ วกับ ตัวผู้เรียน และปัจจัยภายนอก นวัตกรรมในด้ านนีท้ เี่ กิดขึน้


นวัตกรรมทางการศึกษาทีส่ ำ าคัญของไทยในปัจจุบนั (2546) · E-learning หมายถึงการศึกษาที่เรี ยนรู้ผา่ นเครื อข่ายอินเตอร์เน็ตโดยผู ้ เรี ยนรู้จะเรี ยนรู ้ ด้วยตัวเอง การเรี ยนรู้จะเป็ นไปตามปัจจัยภายใต้ทฤษฎีแห่ง การเรี ยนรู้สองประการคือ เรี ยนตามความรู้ความสามารถของผูเ้ รี ยนเอง และ การตอบสนองใน ความแตกต่างระหว่างบุคคล(เวลาที่แต่ละบุคคลใช้ ในการเรี ยนรู ้)การเรี ยนจะกระทำาผ่านสื่ อบนเครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต โดยผู ้ สอนจะนำาเสนอข้อมูลความรู้ให้ผเู้ รี ยนได้ทาำ การศึกษาผ่านบริ การ World Wide Web หรื อเว็ปไซด์ โดยอาจให้มีปฏิสมั พันธ์ (สนทนา โต้ตอบ ส่ ง ข่าวสาร) ระหว่างกัน


1. เป็ นแนวคิดใหม่ วิธีการใหม่ หรือสิ่ งใหม่ ทไี่ ม่ เคยใช้ มาก่อน 2. เป็ นแนวคิดเดิม วิธีการเดิม หรือสิ่ งเดิมจากทีอ่ นื่ แล้วนำามาใช่ กบั สภาพการณ์ ใหม่ 3. เป็ นแนวคิดเดิม วิธีเดิม หรือสิ่ งเดิม ทีถ่ ูกพัฒนาปรับปรุงเปลีย่ นแปลงหรืเพิม่ เติม ให้ มปี ระสิ ทธิภาพมากขึน้ แล้วใช้ ในสภาพการณ์ เดิม หรือนำาไปใช้ สภาพการณ์ ใหม่ 4. เป็ นแนวคิด วิธีการ หรือสิ่ งทีย่ งั ไม่ ได้ เป็ นส่ วนหนึ่งของระบบงานในปัจจุบัน ถ้ าใช้ จนกลายเป็ นส่ วนหนึ่งของระบบงานในปัจจุบันจะไม่ ถอื ว่าเป็ นนวัตกรรม แต่ เปลีย่ น เป็ นเทคโนโลยี 5. เป็ นแนวคิด วิธีการ หรือสิ่ งทีอ่ ยู่ในระหว่างการวิจยั หรือพิสูจน์ ด้วยการวิจัยแล้ วว่ า ช่ วยให้ การทำางานมีประสิ ทธิภาพสู งขึน้


เนื่องจากนวัตกรรมเมื่อนำามาใช้ งานและยังไม่ เป็ นส่ วนหนึ่งของ ระบบงาน หรืออยู่ในช่ วงการทดลอง พัฒนา ปรับปรุ ง จะยังเป็ นนวัตกรรม แต่ เมื่อไหร่ กต็ ามได้ นำาไปใช้ จนเป็ นส่ วนหนึ่งของระบบงาน นวัตกรรมก็จะ กลายเป็ นเทคโนโลยีหรืออีกนัยหนึ่งถ้ ามองทางด้ านเทคโนโลยี เทคโนโลยี จะเป็ นการมุ่งเอาสิ่ งต่ าง ๆ รวมทั้งวิธีการเข้ ามาประยุกต์ ใช้ กบั การทำางานให้ มีประสิ ทธิภาพ การนำานวัตกรรมเข้ ามาใช้ กน็ ่ าจะเป็ นเทคโนโลยีอย่ างหนึ่ง


1. 2. 3. 4.

นำาเอาวิธีเก่ าจากทีอ่ นื่ มาทดลองใช้ ดัดแปลง ปรับปรุงของเก่ าให้ เหมาะกับสถานการณ์ ฟื้ นฟูสิ่งทีเ่ คยปฏิบัตมิ าแต่ ก่อน การคิดสิ่ งใหม่ ทไี่ ม่ เคยปรากฏมาก่อน


นวัตกรรมการศึกษาในประเทศไทยออกเป็ นหมวดหมู่ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ นวัตกรรมวิธีการหรื อกระบวนการ (Technique of Process) นวัตกรรม ที่ประสมวิธีการหรื อกระบวนการและการผลผลิต (Process and Product) และคอมพิวเตอร์ที่นาำ มาใช้ในการศึกษา (Computer-Based Education) ซึ่ง แยกออกมาจากนวัตกรรมที่ประสมวิธีการหรื อกระบวนการ และ ผลผลิต เนื่องจากเห็นว่าคอมพิวเตอร์มีบทบาทมากในปัจจุบนั และแนวโน้ม คอมพิวเตอร์กจ็ ะเป็ นส่ วนหนึ่งของชีวติ ประจำาวันของผูค้ น ส่ วนนวัตกรรม ที่เป็ นผลผลิตอย่างเดียวได้นาำ ไปกล่าวไว้ในเทคโนโลยีประเภทอุปกรณ์แล้ว


1. ศูนย์ การเรียน 2. การสอนแบบโปรแกรมและบทเรียนสำ าเร็จรู ป 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.

ชุ ดการเรียนการสอน การเรียนการสอนระบบเปิ ด การสอนเป็ นคณะ การจัดโรงเรียนไม่ แบ่ งชั้น การจัดโรงเรียนในโรงเรียนและการเรียนการสอนทางไกล แบบฝึ กหัดปฏิบัตเิ ฉพาะกิจ คอมพิวเตอร์ ช่วยสอน ( CAI ) และการนำาคอมพิวเตอร์ มาใช้ ในการ


มีข้นั ตอนทีส่ ำ าคัญประกอบด้ วย 1. กำาหนดจุดประสงค์ การเรียนรู้

2. กำาหนดกรอบแนวคิดของ

กระบวนการเรียนรู้ 3. สร้ างต้ นแบบนวัตกรรม 4. หาและพิสูจน์ ประสิ ทธิภาพของนวัตกรรม 5. ทดลองใช้ นวัตกรรม 6. เผยแพร่ นวัตกรรม


ระยะที่ 1 การประดิษฐ์ คดิ ค้น (Invention) เป็ นระยะทีม่ ีการคิดสร้ างสรรค์ แนวคิดใหม่ วิธีการใหม่ หรือสิ่ งใหม่ หรือเป็ นการพัฒนา ปรับปรุ ง เปลีย่ นแปลงหรือเพิม่ เติม แนวคิดเดิม วิธีการเดิมหรือสิ่ งเดิม เพือ่ ให้ เหมาะ สมกับสภาพงาน ทันสมัย ตลอดจนเพิม่ ประสิ ทธิภาพและประสิ ทธิผลของ การทำางานให้ สูงขึน้


ระยะที่ 2 การพัฒนา (Development) เป็ นระยะทีน่ ำาสิ่ งทีค่ ดิ ขึน้ ในระยะ ที่ 1 มาทำาการทดลองใช้ เพือ่ ทีจ่ ะดูว่าสิ่ งทีค่ ดิ ขึน้ นั้น มีประสิ ทธิภาพจริงและ น่ าเชื่อถือแค่ไหน และอาจจะปรับปรุ งพัฒนาจนกว่ าจะมีประสิ ทธิภาพทีน่ ่ า เชื่อถือซึ่งการทดลองบางลักษณะอาจจะอยู่ในรู ปโครงการทดลองปฏิบัติ ก่อน หรือทีเ่ รียกกันทัว่ ไปว่ า โครงการนำาร่ อง (Pilot Project)


ระยะที่ 3 การนำาไปใช้ (Implementation) เป็ นระยะทีส่ ื บเนื่องจากระยะ ที่ 2 เมื่อมีการทดลอง และพัฒนาจนมีประสิ ทธิภาพทีน่ ่ าเชื่อถือ ก็นำาสิ่ งใหม่ นีไ้ ปใช้ ในสภาพการณ์ จริง ในระบบงานจริงซึ่งไม่ เคยปฏิบัตมิ าก่ อนถ้ า ระบบกระบวนการของนวัตกรรมดำาเนินมาถึงระยะที่ 3 แล้ วจริงจะถือว่ า เป็ นนวัตกรรมขั้นสมบูรณ์


การนำานวัตกรรมทางการศึกษาไปใช้จดั การเรี ยนการสอน นอกจากจะส่ ง ผลให้ผเู้ รี ยนได้พฒั นาการเรี ยนรู้ตามจุดประสงค์ของรายวิชาแล้ว ยังมี ประโยชน์ดงั นี้ 1. ช่วยให้ผเู้ รี ยนเรี ยนรู ้ได้เร็ วขึ้น 2. ช่วยให้ผเู้ รี ยนเข้าใจบทเรี ยนเป็ นรู ปธรรม 3. ช่วยให้บรรยากาศการเรี ยนรู้ สนุกสนาน 4. ช่วยให้บทเรี ยนน่าสนใจ 5. ช่วยลดเวลาในการสอน 6.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย





Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.