สาวหลงยุค (ทดลองอ่าน)

Page 1


สาวหลงยุค

พงศกร : เขียน ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๗๗๓๕-๘๙-๔ พิมพ์ครัง้ ที่ ๑ : ส�ำนักพิมพ์เพื่อนดี สิงหำคม พ.ศ.๒๕๔๗ พิมพ์ครัง้ ที่ ๒ : ส�ำนักพิมพ์เพื่อนดี พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๔๘ พิมพ์ครัง้ ที่ ๓ : ส�ำนักพิมพ์เพื่อนดี ธันวำคม พ.ศ.๒๕๕๓ พิมพ์ครัง้ ที่ ๔ : ส�ำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง กุมภำพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ พิมพ์ครัง้ ที่ ๕ : ส�ำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๕๖ พิมพ์ครัง้ ที่ ๖ : ส�ำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ตุลำคม พ.ศ.๒๕๕๖ พิมพ์ครัง้ ที่ ๗ : ส�ำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๖๑ พิมพ์ครัง้ ที่ ๘ : ส�ำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง สิงหำคม พ.ศ.๒๕๖๑ สงวนลิขสิทธิ์ตำมพระรำชบัญญัตลิ ขิ สิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ.๒๕๕๘ หมวดนวนิยำย ล�ำดับที่ ๑๖

จัดท�าโดย  ส�านักพิมพ์   กรู๊ ฟ  พับลิชชิ่ง ในเครื อบริษัท  กรู๊ ฟ  พับลิชชิ่ง  จ�ากัด เลขที ่ ๒๙/๑๐๖ วิสต้ำ อเวนิว วัชรพล แขวงคลองถนน เขตสำยไหม กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐ โทรศัพท์ : ๐๘๕-๖๖๕-๕๔๒๒ โทรสำร : ๐-๒๑๕๓-๐๕๐๐ อีเมล : groove_publishing@hotmail.com เว็บไซต์ : www.groovebooks.com, http://www.facebook.com/groovepublishing บรรณาธิการที่ปรึกษา : อรรถรัตน์ จันทรวริ นทร์ บรรณาธิการส�านักพิมพ์   : อรรถรัตน์ จันทรวริ นทร์ ประสานงานการผลิต : สุลวัณ จันทรวริ นทร์ พิสูจน์ อักษร : กฤษดำ ศิริกิจพำณิชย์กลู และ เนตรนภำ ณ ถลำง ออกแบบปก : วัชริ ศ สุมนวรำงกูร และ ชนำพร พัฒนเลิศรัตนไชย ประสานงานการออกแบบปก : อรรถรัตน์ จันทรวริ นทร์ รู ปเล่ ม : พฤจิกำ ประสานงานการผลิตรู ปเล่ ม : กิ่งกรุณำ ไพบูลย์ โทรศัพท์ ๐๘๑-๖๒๖-๙๑๒๓ โทรสำร ๐-๒๘๘๓-๖๑๒๑ พิมพ์ที่ : บริษัท รุ่ งแสงการพิมพ์  จ�ากัด เลขที่ ๓๗๒,๓๗๔,๓๗๖,๓๗๘ ซอยเจริ ญนคร 46 ถนนเจริ ญนคร แขวงบำงล�ำภูลำ่ ง เขตคลองสำน กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๘๖๒-๔๑๓๗๙ จัดจ�ำหน่ำยโดย : บริษัท  อมรินทร์   บุ๊ค  เซ็นเตอร์   จ�ากัด ๑๐๘ หมูท่ ี่ ๒ ถ.บำงกรวย-จงถนอม ต.มหำสวัสดิ ์ อ.บำงกรวย จ.นนทบุรี ๑๑๑๓๐ โทรศัพท์ ๐-๒๔๒๓-๙๙๙๙ โทรสำร ๐-๒๔๔๙-๙๒๒๒, ๐-๒๔๔๙-๙๕๐๐-๖ Homepage: http://www.naiin.com ราคา  ๔๙๐  บาท



ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ‘สาวหลงยุค’  เป็ นหนึง่ ในนวนิยายของ  ‘พงศกร’  ที่ได้ รับความ นิยมสูงสุดตลอดกาล  เพราะไม่ว่าจะพิมพ์ ซ�ำ้ กี่ ครั ง้   ก็จะได้ รับการ ตอบรับจากนักอ่านเป็ นอย่างดีและจ�ำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว หลัง จากการพิ ม พ์ ค รั ง้ ที่   ๖  ซึ่ง เป็ นครั ง้ ล่า สุด   เมื่ อ ปลายปี พ.ศ.๒๕๕๖  ‘สาวหลงยุค’  ก็ถกู ถามถึงมาโดยตลอด และหลังจากปล่อยให้ นกั อ่านถามไถ่มาเนิ่นนาน  ถึงเวลาเสียที ที่  ส�ำนักพิมพ์  กรู๊ ฟ  พับลิชชิ่ง  จะน�ำความสนุกจากนวนิยายเรื่ องนี ้ กลับมาอีกครัง้   ขอให้ อา่ นกันอย่างมีความสุขนะครับ

อรรถรัตน์   จันทรวรินทร์ บรรณาธิการทีป่ รึกษา ส�ำนักพิมพ์  กรู๊ฟ  พับลิชชิง่ ในเครือบริษทั   กรู๊ฟ  พับลิชชิง่   จ�ำกัด


ค�ำน�ำนักเขียน ผมเขียนสาวหลงยุคเมื่อปี   พ.ศ.๒๕๔๖-๒๕๔๗  เป็ นนวนิยาย เรื่ องที่  ๔  ต่อจากสร้ อยแสงจันทร์   เมื่อลงตีพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย สาวหลงยุคกลายเป็ นนวนิยายที่สร้ างชื่อให้ กบั ผม  ท�ำให้ คนอ่านรู้ จกั ‘พงศกร’  มากขึ ้น สาวหลงยุค  เป็ นนวนิยายรักโรแมนติก  ข้ ามกาลเวลา  ตัวเอก มีโอกาสได้ ย้อนเวลากลับไปในช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้ าเจ้ าอยู่หวั   รัชกาลที่  ๖  สลับตัวกับผู้หญิงอีกคนหนึง่ ที่ ปรารถนาจะหนีไปจากชีวิตของตนเอง  ประเทศไทยในช่ว งเวลานัน้   บ้ า นเมื อ งก� ำ ลัง ก้ า วเข้ า สู่ส มัย ใหม่  เป็ นช่วงเวลาที่เป็ นรอยต่อระหว่างวัฒนธรรมเก่าและใหม่  มี ความเปลี่ยนแปลงมากมายหลายด้ าน  ไม่วา่ จะเป็ นเศรษฐกิจ  สังคม และการเมือง  จึงจ�ำเป็ นอย่างมากที่จะต้ องสืบค้ นข้ อมูลต่างๆ  โดย ละเอียด  จนกระทัง่ เกิดจินตภาพ  เห็นว่าผู้คนสมัยนันอยู ้ ก่ นั อย่างไร  สาวหลงยุค  อาจจะเป็ นเพี ยงนวนิ ยายหนึ่งเรื่ องในชี วิตการ ท�ำงานของพงศกร  แต่สาวหลงยุคนันมี ้ คณ ุ ค่าเป็ นอย่างมาก  เพราะ เป็ นรากฐานหนึ่งที่ท�ำให้ พงศกรเห็นแนวทางการท�ำงานของตนเอง อย่างชัดเจน  ตลอดเวลาที่สาวหลงยุคลงในนิตยสารสกุลไทย  ผมได้ รั บความเมตตาจากท่านอาจารย์ สุภัทร  สวัสดิรักษ์   เป็ นอย่างมาก ทังที ้ เ่ ริ่มมีอาการป่ วยแล้วในตอนนัน ้ อาจารย์ยงั สละเวลาอ่านสาวหลงยุค อย่างละเอียด  มีค�ำแนะน�ำต่างๆ  มากมาย  หลายอย่างผมยึดเป็ น หลักการท�ำงานมาจนถึงทุกวันนี ้  จึงอาจกล่าวได้ ว่าความส�ำเร็ จของ สาวหลงยุค  ส่วนหนึง่ มาจากอาจารย์สภุ ทั รนัน่ เอง สาวหลงยุคขาดหายไปจากตลาดเนิ่นนาน  บัดนี ้ได้ กลับมาอีก ครัง้   จึงหวังว่าท่านผู้อ่านที่เคยสอบถามกันมาถึงนวนิยายเรื่ องนี ้ จะ ได้ อา่ นอย่างอิ่มเอมใจครับ ‘พงศกร’ มิถนุ ายน  ๒๕๖๑



เป็ นเวลาบ่ ายคล้ อยที่อากาศร้ อนแรงเหลือจะบรรยาย  และรถราบนท้ องถนนคับคัง่ ผิดไปจากทุกวัน  หล่อนจึงเปิ ดวิทยุใน รถฟั งเพียงเพื่อจะได้ ร้ ู ว่า  มีเหตุการณ์ อะไรอยู่ข้างหน้ า  ที่ท�ำให้ รถ ติดมากผิดปกติ มนุษย์กม็ กั จะเป็ นเช่นนี ้…หล่อนนัง่ นึกไป  เงีย่ หูฟังเสียงสนทนา ในรายการวิ ท ยุไ ป  อะไรที่ ม นุษ ย์ ไ ม่ร้ ู   มัก จะท� ำ ให้ อึด อัด ขัด ข้ อ ง เสมอแต่หากได้ ร้ ู แล้ วละก็   ถึงแม้ ว่าจะไม่ได้ ท�ำให้ สถานการณ์ ที่ เป็ นอยู่เปลี่ยนแปลงไป  อย่างน้ อยก็ท�ำให้ มีความหวัง  หรื อท�ำให้ ความรู้สกึ กระวนกระวายกระสับกระส่ายที่ก�ำลังเป็ นอยูน่ นดี ั ้ ขึ ้น แต่ก็อีกละ…หลายเรื่ องที่ได้ ร้ ู ล่วงหน้ า  อาจน�ำมาซึ่งความ วุ่นวาย  หรื อความวิตกกังวลมากกว่าเก่า  ถ้ าเรื่ องที่ได้ ร้ ู มานันเป็ ้ น เรื่ องไม่ดี  ท�ำให้ ไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม  ข่าวที่ได้ ฟังจากผู้ด�ำเนินรายการสาว  เรื่ อง ผู้เดินขบวนประท้ วงที่ท�ำการปิ ดถนนข้ างหน้ าของหล่อน  ก็ท�ำให้ พลอยบุษย์ร้ ูสกึ ดีขึ ้นมาหน่อยหนึง่ …หน่อยเดียวเท่านันจริ ้ งๆ ให้ ตายเถอะ… หญิงสาวกระแทกก�ำปั น้ ลงกับพวงมาลัยรถยนต์  แล้ วเหลือบ มองดูนาฬิกาแบบตัวเลข  ที่อยู่บนหน้ าปั ดรถยนต์ คนั หรู หราด้ วย ความกังวลใจ ก� ำ ลัง รี บ อย่ า งมากมาย  แต่ก ลับ ต้ อ งมาเจอเหตุก ารณ์ ไ ม่ คาดฝั นเช่นนี ้  ท�ำให้ ความเครี ยดภายในใจของหญิงสาวทบทวีขึ ้น สาวหลงยุค  7


หลายเท่าตัว เสียงมอเตอร์ ไซค์หลายคันเร่ งเครื่ องผ่านไปสองข้ างระหว่าง ช่องว่างของรถราซึ่งจอดติดกันเป็ นแพ  พลอยบุษย์ ปรายตามอง รู้สกึ อิจฉาขึ ้นมาภายในใจ รู้อย่างนี ้เรี ยกใช้ บริการรถมอเตอร์ ไซค์  ตังแต่ ้ ตอนออกมาจาก บ้ านเสียก็ดีหรอก หญิงสาวแอบพึมพ�ำกับตนเองเบาๆ แสงแดดภายนอกที่ส่องลอดฟิ ล์มกรองแสงเข้ ามาภายในรถ ร้ อนจนหญิงสาวรู้สกึ ผิวเกรียมกรม  พลอยบุษย์ละมือจากพวงมาลัยรถ เอื ้อมไปหยิบตะกร้ าใส่เครื่ องส�ำอาง  และของใช้ กระจุกกระจิกที่วาง อยู่บนเบาะหลัง  แล้ วควานหาหลอดครี มกันแดดที่ใช้ อยู่เป็ นประจ�ำ เมื่อหยิบได้ แล้ วหล่อนก็เปิ ดฝาออก  บีบเนื ้อครี มออกมา  และทาลง บนแขนสองข้ างที่สมั ผัสกับเปลวแดด เนื ้อครีมอ่อนนุม่   และส่งกลิน่ หอมหวานของดอกไม้   แทรกซึม ลงในผิวเนื ้อเนียนอย่างรวดเร็ ว  ในขณะที่หญิงสาวยังคงนัง่ จ้ องมอง ท้ ายรถคันหน้ า  สลับกับการแหงนหน้ าขึ ้นมองท้ องฟ้า  ที่เต็มไปด้ วย ควันขมุกขมัวจากท่อไอเสียของบรรดารถที่จอดเรี ยงกันอยู่  ด้ วย สายตาวิตก เสียงกริ่งโทรศัพท์มอื ถือทีว่ างอยูบ่ นทีน่ งั่ ข้ างคนขับดังขึ ้น  เสียง ของมันรัวเร็ ว  เร่งร้ อน  ไม่ตา่ งจากความรู้สกึ ภายในใจของหล่อน “พี่จี๊ด”  หล่อนร้ องเสียงดังลัน่   เมื่อแลเห็นหมายเลขที่แสดงอยู่บน หน้ าจอ  ว่าเป็ นผู้ใดโทร.มา “โอย  โอย…ตายแน่  นี่หนูติดแหง็กอยู่บนถนนพิษณุโลกมา เกือบชัว่ โมงแล้ว  ไม่ยอมขยับไปไหนเลย  จะถอยหลังกลับก็กลับไม่ได้ ” 8  ‘พงศกร’


“ฉันก็จะตายเหมือนกันละย่ะ”  เสียงอีกฝ่ ายร้ อนรนมาตาม สาย  “งานจะเริ่ มอยู่อีกครึ่ งชัว่ โมงนี ้แล้ ว  แม่นางแบบของฉันยังมา ไม่ถงึ อีก…” “โธ่ ”  พลอยบุษย์ ท�ำเสียงอุบอิบ  “หนูรีบจะแย่แล้ วนะพี่จี๊ด นีอ่ ตุ ส่าห์เผือ่ เวลาเอาไว้ ตงสองชั ั้ ว่ โมง  ใครจะรู้ละ่ คะ  ว่าจะมาประท้ วง ปิ ดถนนกันเอาวันนี ้” “ลงมาจากรถเดี๋ยวนี ้เลย”  อีกฝ่ ายสัง่   น� ้ำเสียงติดจะโมโหอยู ่ ไม่น้อย  “ลงมาเดี๋ยวนี ้  แล้ วหามอเตอร์ ไซค์รับจ้ างมาด่วนจี๋  ฉันให้ เวลาหล่อนยี่สิบนาทีเท่านัน  ้ ขืนมาไม่ทนั ฉันเปลี่ยนเอาคนอื่นเดิน แทน  อย่ามาว่ากันนะยะ” “พี่จี๊ด”  พลอยบุษย์ร้องเสียงหลง  “หนูจะไปยังไงล่ะ  หนูมา คนเดียว  ไม่มีใครขับรถให้   พี่จะให้ หนูทิง้ รถเอาไว้ อย่างนี ห้ รื อไง โดนคนข้ างหลังด่าตายเลย” “ไม่ร้ ู ละ”  ดีไซเนอร์ ชื่อจี๊ดตัดบท  “ฉันจะรอยี่สิบนาทีเท่านัน ้ ท�ำยังไงก็ได้   ให้ มาถึงให้ ทนั   ถ้ ามาไม่ทนั   อย่ามาว่าใจร้ ายก็แล้ วกัน” พูดแค่นัน้   เจ้ าหล่อนก็วางสายฉับลงไป  ทิง้ ให้ หญิ งสาวได้ แต่อ้าปากค้ าง พลอยบุษย์พยายามกดหมายเลขของจี๊ดเพื่อติดต่อกลับไป อีกครัง้   เสียงสัญญาณโทรศัพท์ติด  หากอีกฝ่ ายไม่มีทีท่าว่าจะรับ สายของหล่อน …เอาละสิ…ท�ำไงดี… หัวสมองของหล่อนเริ่มท�ำงาน  และความคิดก็วนุ่ วายไปหมด …พุทธชาด… ต้ องพุทธชาดคนเดียวเท่านัน ้ ทีจ่ ะช่วยหล่อนได้ ในเวลาคับขัน เช่นนี ้… สาวหลงยุค  9


คิดได้ ดงั นัน ้ พลอยบุษย์จงึ รีบกดโทรศัพท์  ติดต่อน้ องสาวด้ วย มือไม้ สนั่ เทา  เสียงสัญญาณว่าโทรศัพท์ติด  ดังอยู่เป็ นนาน  กว่าที่ อีกฝ่ ายจะรับสาย “ฮัลโหล” พลอยบุษย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่  เมื่อได้ ยินเสียงใสๆ ของ น้ องสาว “เพิ ้ง…ช่วยฉันด้ วย…”  หล่อนกรอกเสียงแหบแห้ งไปหาน้ อง “อ้ าว  เจ๊ เองหรอกหรื อ”  อีกฝ่ ายฉงน  เพราะพี่สาวเพิ่งจะออก จากบ้ านไปไม่ถงึ สองชัว่ โมงนี ้เอง  “มีอะไรล่ะ  โดนใครฉุด” “บ้ า”  หล่อนอดหัวเราะออกมาไม่ได้   แม้ วา่ อารมณ์ยงั ไม่คอ่ ย ดีนกั   “ฉันยังไปไม่ถงึ งานเลย” “อ้ าว”  น้ องสาวหล่อนร้ องออกมาเป็ นครัง้ ที่สองติดกัน  “แล้ ว มัวไปไถลอยูท่ ี่ไหน  ถึงได้ ยงั ไปไม่ถงึ ” น้ องสาวหล่อนนิง่ ไปชัว่ อึดใจ  ซึง่ พลอยบุษย์เดาเอาว่า  หล่อน คงจะมัวมองหานาฬิ กาอยู่  เพราะอี กประเดี๋ ยวหนึ่งหลังจากนัน้ หล่อนก็ร้อง  “ว้ าย”  ออกมาเสียงดังลัน่ “ตายแล้ ว เจ๊ … อี ก ครึ่ ง ชั่ว โมงเท่า นัน้ เอง”  น้ อ งสาวหล่อ น โวยวาย  “แล้ วจะไปทันได้ ไง  งานนี ้งานใหญ่ด้วยนะ  ผู้หลักผู้ใหญ่ มากันเยอะแยะ” “นัน่ สิ  ฉันถึงได้ โทรมาหาเธอไง”  เสียงพีส่ าวออดมาตามสาย “ไม่นะ”  พุทธชาดรี บปฏิเสธ  “ไม่นะเจ๊   ฉันรู้นะว่าเจ๊ ก�ำลังคิด อะไรอยู.่ ..” “ช่วยหน่อยน่า…นะ  นะ  แล้ วฉันจะให้ ยืมต่างหู  คู่ที่อยาก ได้ ไง…นะ  นะ…ช่วยฉันหน่อยนะ  ใครจะรู้ ล่ะว่า  ม็อบพวกนันจะ ้ มาปิ ดถนนแบบนี ้ ตอนฉันออกจากบ้ านยังไม่มีทีท่าว่าจะติดเลย” 10  ‘พงศกร’


พลอยบุษย์อ้อน “แล้ วนั่งทนอยู่ได้ ไงตัง้ นานถึงเพิ่งจะโทรมา”  คนเป็ นน้ อง ต่อว่า  “ไม่รอให้ เหลืออีกห้ านาทีก่อนล่ะยะ  ถึงค่อยโทร” “ก็ …ก็ …”  พี่ สาวอึกอักเหมื อนก� ำลังนึกหาเหตุผล  พอหา ไม่ได้   เลยพาลพาโลยกเอาค�ำของพ่อและแม่ขึ ้นมาอ้ าง  “เหอะน่า ฉันเป็ นพี่นะ  แล้ วพ่อกับแม่ก็สงั่ เสียเอาไว้ แล้ วด้ วยว่า  พี่น้องต้ องรัก กัน  ต้ องช่วยเหลือกันเวลาเดือดร้ อนไง  แล้ วนี่ฉันก็ก�ำลังเดือดร้ อน อยูเ่ สียด้ วย” “อยูท่ ี่ตรงไหนแล้ วล่ะ”  พุทธชาดถามพีส่ าวเสียงสะบัด  พลางบ่นงึมง�ำไปด้ วย  ขณะที่ ผู้เป็ นพี่สาวพยายามอธิบายต�ำแหน่งที่รถจอดติดอยู ่ “เจ๊ นะเจ๊   ฉันต้ องรี บจนตาเหลือกตาปลิ ้น  คอยดูนะ  ตกมอ- เตอร์ ไซค์ตายไป  จะเป็ นผีมาหลอกทุกวันเลย” น้องสาวของหล่อนนั่งจักรยานยนต์รบั จ้างจากซอยหน้าบ้าน มาถึงบริ เวณที่รถจอดติดอยู ่ ภายในเวลาไม่ถงึ สิบนาทีหลังจากนัน้ พลอยบุษย์เปิ ดประตูรถก้ าวลงมา  ท�ำท่าแตะมือกับน้ องเหมือน ตอนเปลี่ยนตัวนักกีฬา  แล้ วขึ ้นนัง่ คร่ อมซ้ อนข้ างหลังมอเตอร์ ไซค์ แทนน้ องสาว  ในขณะที่พทุ ธชาดก้ าวขึ ้นไปนัง่ แทนที่หล่อนหลังพวง- มาลัย หญิ ง สาวพยายามกลัน้ หัว เราะเต็ม ที่   เมื่ อ เห็ น สภาพของ น้ องสาว  ที่ออกมาจากบ้ านทังชุ ้ ดนอน  คนที่รถจอดติดเหมือนกันกับหล่อน  คงจะขบขันไม่แพ้ กนั   ที่ จู่ๆ ก็เห็นผู้หญิ งผมฟู  สวมชุดกระโปรงยาว  ซ้ อนมอเตอร์ ไซค์ อยู่ กลางถนนในยามบ่ายอย่างนี ้ สาวหลงยุค  11


พุทธชาดเป็ นพยาบาลห้ องฉุกเฉิน  และหล่อนเพิ่งอยู่เวรดึก เมือ่ คืนทีผ่ า่ นมา  น้ องของหล่อนกลับมาถึงบ้ านเวลาเกือบเก้ าโมงเช้ า ดังนัน  ้ ตอนที่หล่อนออกมาท�ำงาน  พุทธชาดจึงเพิ่งจะอาบน� ้ำและ เข้ านอน  การที่หล่อนโทร.ไปปลุกน้ องแบบนี  ้ ย่อมจะสร้ างความ หงุดหงิดให้ กบั น้ องเป็ นธรรมดา ช่วยไม่ได้ …หล่อนยักไหล่  พลางรั บหมวกกันน็อกมาสวม แล้ วแลบลิ ้นให้ น้องสาวหนหนึ่ง…ก็ใครใช้ ให้ เกิดมาเป็ นพี่เป็ นน้ อง กันล่ะ  อยากเกิดมาเป็ นพี่น้องกันแล้ ว  ก็ต้องช่วยกันไปแบบนี ้ละ และด้ วยความช่วยเหลือของพุทธชาด  หล่อนจึงมาถึงโรงแรม ที่จดั งานแฟชัน่ โชว์เครื่ องเพชร  ในอีกสิบนาทีตอ่ มา เมื่อพลอยบุษย์ก้าวเข้ าไปในห้ องแต่งตัว  ก็พบว่าจี๊ดก�ำลังยืน รอหล่อนอยูแ่ ล้ ว  ด้ วยสีหน้ าท่าทางกระวนกระวาย “เฮ้ อ…”  เสียงจี๊ ดถอนใจออกมายาวใหญ่   เมื่อเห็นหล่อน กระหืดกระหอบเข้ ามา “รี บไปแต่งหน้ าด่วนจี๋”  ดีไซเนอร์ สาวใหญ่ชีม้ ือไปทางกลุ่ม ช่างแต่งหน้ า  ที่อยู่ทางมุมด้ านหนึ่งของห้ อง  ท่ามกลางสายตาของ นางแบบคนอื่น  ที่เตรี ยมพร้ อมอยูใ่ นชุดของตัวเองเรี ยบร้ อยแล้ ว “ถือว่าดังหรื อไง  เลยมาเสียสาย  ต้ องให้ คนอื่นรอ…” เสียงใครคนหนึง่ เอ่ยขึ ้นมาลอยๆ ด้ วยเสียงที่ไม่เบานัก พลอยบุษย์ หนั ขวับกลับไปทางต้ นเสียงด้ วยท่าทางไม่ค่อย พอใจเท่าใดนัก  เมือ่ จ�ำได้ วา่ ผู้ทเี่ อ่ยวาจาเช่นนันออกมา  ้ เป็ นนางแบบ รุ่นน้ องผู้หนึง่   ซึง่ เพิ่งเข้ าสูว่ งการได้ ไม่นาน หญิงสาวจึงชะงักเท้ าทีก่ �ำลังจะเดินไปหาช่างแต่งหน้ า  เหวีย่ ง กระเป๋ าสะพายใบโตในมือลงบนโต๊ ะกลางห้ องเสียงดังโครม  และหัน กลับไปทางต้ นเสียงด้ วยสีหน้ าท่าทางเอาเรื่ อง 12  ‘พงศกร’


“เดี๋ยวนี ้นางแบบรุ่นใหม่ๆ ไม่มีสมั มาคารวะกันแล้ วหรื อไงนะ พี่จี๊ด”  หล่อนถามจี๊ดด้ วยเสียงที่ดงั พอกัน  นัยน์ ตาของหล่อนจ้ อง มองฝ่ ายนันเขม็ ้ ง  ด้ วยท่าทีราวกับต้ องการกินเลือดกินเนื ้อ  น� ้ำเสียง ไม่ยอมลดราวาศอกให้ “โอ๊ ย …เอาละ  เอาละ”  จี๊ ด ร้ อง  พร้ อมกับ โบกไม้ โ บกมื อ สีหน้ าของเธอเหมือนกลืนไม่เข้ าคายไม่ออก  “หยุดทะเลาะกันได้ แล้ ว  เดี๋ยวงานฉันจะล่มไปเสียก่อน  ยังไง ขอให้ เสร็ จงานก่อนได้ ไหม  ไหว้ ละ่ ” ประโยคสุดท้ ายดีไซเนอร์สาวใหญ่ยกมือไหว้ ขึ ้นมาจริงๆ  ท�ำให้ พลอยบุษย์ต้องสะกดอารมณ์โมโห  แล้ วรี บเดินมาโอบเอวจี๊ดเอาไว้ “เดี๋ ย วหนูรี บ แต่ง หน้ า ก่ อ น  พี่ จี๊ ด ปล่อ ยน้ อ งออกไปได้ เ ลย รับรองว่าพอถึงคิว  หนูเสร็ จเรี ยบร้ อยทันเดินออกไปแน่…” งานแฟชั่นโชว์ แสดงเครื่ องเพชรในคืนวันนัน้   เสร็ จสิน้   ลงด้ วยความเรี ยบร้ อยจริ งดังเช่นที่พลอยบุษย์วา่ หญิงสาวเดินออกมาในชุดสุดท้ าย  หรื อที่เรี ยกว่า  ชุดฟิ นาเล (Finale)  ด้ วยท่วงทีงามสง่าราวกับนางพญา เสื ้อราตรี ก�ำมะหยี่สีด�ำเข้ มตัดกันกับผิวขาวสะอาดราวน� ้ำนม ของหญิ งสาว  ส่วนสร้ อยเพชรขนาดมหึมา  ชิน้ ที่เป็ นจุดเด่นที่สุด ของงานในคืนนี ้นัน  ้ วางทาบทับอยู่บนทรวงอกของพลอยบุษย์  ส่ง ให้ หญิงสาวดูงดงาม  และเครื่ องประดับดูสวยเด่น “โอ๊ ย…อกจะแตก” จี๊ดบ่นกระปอดกระแปดกับพลอยบุษย์  หลังจากที่แฟชัน่ เลิก และบรรดานางแบบทังหมดทยอยเดิ ้ นมารับเงินค่าตัว  ที่จี๊ดจัดใส่ สาวหลงยุค  13


ซองแยกเอาไว้ ให้ แต่ละคน  ก่อนจะแยกย้ ายกันกลับไป “นีถ่ ้ าฉันเดินเองได้ ละก็  รับรองว่าไม่ไปง้ อพวกนันอย่ ้ างนี ้หรอก” “เอาน่าพี่จี๊ด”  คราวนีก้ ลับกลายเป็ นพลอยบุษย์ที่เป็ นฝ่ าย ใจเย็น  “งานก็เสร็ จแล้ ว  อย่าเครี ยดไปหน่อยเลย” “ต้ องขอบใจหล่อนมากนะยะที่มาทันเวลา…ฉันละใจหาย กลัวหล่อนมาไม่ทนั จะแย่  ถ้ าเธอมาไม่ทนั   ฉันไม่มีทางเลือก  ต้ อง เอายายโรสมาเดินชุดสุดท้ ายแทนละก็…ดูไม่จืดแน่…”  ดีไซเนอร์ สาวจีบปากจีบคอ  เมื่อเดินออกมาด้ วยกันตามล�ำพัง “ไม่ชอบเขาแล้ วเรี ยกเขามาท�ำไมล่ะ”  พลอยบุษย์ว่าเสียงเรี ยบ  หล่อนยังจ�ำสีหน้ าและแววตาของ เด็กคนนันที ้ ่วา่ หล่อนขึ ้นมาลอยๆ ท่ามกลางเพื่อนนางแบบมากมาย ได้ ดี อาชีพนางแบบกับนักออกแบบเสื ้อ  เหมือนกับน� ้ำทีต่ ้ องพึง่ เรือ เสือที่ต้องพึ่งป่ า  นางแบบจะมีชื่อเสียงได้   ก็ต้องอาศัยดีไซเนอร์ ดี ดูแลเอาใจใส่กบั เสื ้อผ้ าที่ท�ำให้ แต่ละชุด  ในขณะเดียวกัน  หากดีไซ- เนอร์ ท�ำให้ นางแบบสวยงามได้ มากเท่าใด  เสื ้อผ้ าของตนเองก็จะ ขายได้ มากขึ ้นเท่านัน้ หญิ งสาวอยู่ในวงการมานานหลายปี จึงรู้ จักและสนิทสนม กันดีกบั นักออกแบบเสื ้อผ้ าหลายคน  รวมทังจี ้ ๊ดด้ วย “ที่ จ ริ ง ฉัน ก็ ไ ม่อ ยากเรี ย กมาหรอก  ‘ท่า น’  น่ ะ สิ  สั่ง มาว่า งานนี ้ต้ องมีโรส” พลอยบุษ ย์ พ ยัก หน้ า หงึก ๆ  หล่อ นยัง จ� ำ สี ห น้ า แววตาหื่ น กระหายของผู้ชายคนนัน ้ ที่มองจ้ องมายังกลุม่ นางแบบได้ ดี  แค่คิด หล่อนก็ขนพองสยองเกล้ าด้ วยความขยะแขยง ใครบ้ างที่ไม่ร้ ูจกั   ‘ท่าน’  ผู้มีอิทธิพลล้ นเหลือ… 14  ‘พงศกร’


พลอยบุษ ย์ ร้ ู จัก ท่ า นดี   เพราะเมื่ อ ตอนที่ ห ล่อ นเข้ า วงการ ใหม่ๆ  ท่านยังเคยส่งคนมาติดต่อทาบทาม  แต่เมื่อหล่อนปฏิเสธ ไปอย่างนุ่มนวล  ท่านก็หายไป  ประกอบกับช่วงนัน  ้ มีนางแบบอีก คนที่ก�ำลังรุ่ งไม่แพ้ พลอยบุษย์   แถมนางแบบคนนัน้   ยังมีดีกรี มา จากเวทีนางงามระดับประเทศ  ท่านจึงเบี่ยงเบนความสนใจไปเสีย จากหล่อน ไม่นานนัก  ท่านก็เบื่อนางแบบนางงามคนนัน  ้ และเริ่ มมอง หารายใหม่  แต่กระนัน  ้ แม่นางงามคนนันก็ ้ ได้ ดิบได้ ดี  ร�่ ำรวยไปจน ตังตั ้ วได้   และเลิกอาชีพนางแบบ  หันไปลงทุนเปิ ดร้ านอาหารของ ตนเอง “มิน่า…”  หล่อนพึมพ�ำ  “เด็กเองก็คงจะรู้ ดีว่า  ‘ท่าน’  ก�ำลัง สนใจ  ถึงได้ ท�ำกร่างนัก” “เธอต้ องระวังเด็กคนนีเ้ อาไว้ บ้างนะบุษย์ ”  จี๊ดเตือน  “ฉัน ได้ ยินมาว่า  มันเที่ยวพูดกับใครต่อใครว่า  จะขึ ้นมาเป็ นอันดับหนึ่ง แทนเธอให้ ได้ …” พลอยบุษย์ยกั ไหล่ “หนูไม่สนหรอกพี่จี๊ด  อันดับหนึง่ อันดับสอง  ไม่มีความหมาย อะไรกับหนูอยูแ่ ล้ ว  พีก่ ร็ ้ ู…หนูตงใจจะท� ั้ ำงานให้ ดที สี่ ดุ   ต่างคนต่างอยู ่ และเด็กนัน่ ก็ควรจะรู้ ว่าใครรุ่ นพี่  ใครรุ่ นน้ อง  ขืนแหลมมา  หนูสวน กลับไปแน่…ก็เท่านัน” ้ “ทุกคนก็ร้ ูวา่ เธอเป็ นยังไง  ท�ำงานดี  มีความรับผิดชอบแค่ไหน แต่นนั่ ละ…”  จี๊ดไม่วายเป็ นห่วง  “ฉันก็ยงั อดห่วงเธอไม่ได้ อยูด่  ี ยังไง ก็ระมัดระวังตัวเอาไว้ หน่อย  เด็กเดี๋ยวนี ้ ไม่ร้ ู เป็ นไง  จะมาหวังให้ รู้จกั คิดเหมือนรุ่นเราไม่ได้ หรอก” “ค่ะ”  พลอยบุษย์ยิ ้มให้ เพื่อนรุ่ นพี่  “ยังไงหนูก็ขอบคุณพี่จี๊ด สาวหลงยุค  15


มาก  ที่เป็ นห่วง” “ย่ะ”  หญิงสาวรุ่ นพี่พยักหน้ าให้   แล้ วถามออกมาเหมือนนึก ได้   “อ้ อ…แล้ วจะให้ ไปส่งที่ไหนล่ะ…ที่บ้านหรื อที่ไหน” หล่อนหยุดยืน  จ้ องมองอีกฝ่ ายใช้ กญ ุ แจไขประตูรถยนต์  ที่ จอดอยูใ่ นลานจอดรถของโรงแรม  “ยายเพิ ้งขับรถหนูกลับบ้ านไปเรี ยบร้ อย  ตังแต่ ้ ตอนบ่ายแล้ ว ละค่ะ  ยังไงหนูติดรถพี่ไปลงแถวบางล�ำพูดีกว่าค่ะ  อยากจะแวะไป หายายสักหน่อย…” ยายของหล่อนอายุมากแล้ ว  และอยูค่ นเดียวทีบ่ ้ านหลังเก่าแก่ ของคุณตาที่แถวถนนพระอาทิตย์ ปกติหล่อนกับน้ องมักจะไปเยี่ยมยายในวันหยุด  หรื อตอนที่ หล่อนกับน้ องมีเวลาว่าง  ยายมักจะห้ ามไม่ให้ หล่อนแวะไปเยี่ยมใน ยามวิกาล  โดยให้ เหตุผลว่า  เป็ นเวลาที่ต้องการพักผ่อน หญิงสาวดูนาฬิกาข้ อมือ  และรู้ สกึ ลังเลขึ ้นมาเล็กน้ อย  เมื่อ เป็ นเวลาใกล้ สองทุ่มแล้ ว  เอาน่า…หญิงสาวบอกตัวเอง…ยังไม่ดกึ สักหน่อย  ยายคงไม่วา่ อะไรหรอก… อีกอย่าง…ท�ำไมวันนี ้หล่อนคิดถึงยายขึ ้นมาอย่างมากมายก็ไม่ร้ ู จีด๊ แวะส่ งหล่ อนที่ส่ ีแยกคอกวัว  ก่ อนจะขับรถเลยต่ อไป  ยังสะพานพระปิ่ นเกล้ า  เพื่อข้ ามไปบ้ านที่พทุ ธมณฑล พลอยบุษ ย์ เ ดิ น เลาะจากสี่ แ ยกคอกวัว   ผ่า นบริ เ วณบาง- ล�ำพูไปทางถนนพระอาทิตย์เป็ นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ ว  เมื่อตอนที่ หล่อนเดินมาถึงบริ เวณป้อมพระสุเมรุ   หนึง่ ในสองป้อมก�ำแพงเมือง กรุงเทพฯ ที่ยงั คงเหลืออยูใ่ นปั จจุบนั กรุ ง เทพมหานครปรั บ ปรุ ง ภูมิ ทัศ น์ บ ริ เ วณนัน้ ให้ เ ป็ นสวน 16  ‘พงศกร’


สาธารณะขนาดใหญ่  และสวยงาม  ส�ำหรับให้ ผ้ ูคนได้ มาพักผ่อน หย่อนใจ  เรี ยกชื่อว่า  ‘สวนสันติชยั ปราการ’  สวนสันติชยั ปราการอยู่ติดริ มแม่น� ้ำเจ้ าพระยา  ภายในสวน มีทางเดินและเก้ าอี ้ให้ มานัง่ เล่นมากมาย  มีทางส�ำหรับผู้พิการจะ เข็นรถมาเที่ยวชมบริ เวณโดยรอบได้   นับเป็ นสวนสาธารณะแห่ง แรกในกรุ งเทพฯ ที่มีทางส�ำหรับผู้พิการ  ถัดไปตรงบริ เวณริ มฝั่ งน� ้ำ มีต้นล�ำพูต้นสุดท้ ายของชาวบางล�ำพูปลูกอยูด่ ้ วย ยายอยู่ที่แถวนีม้ าตังแต่ ้ เกิด  ยามมาเดินเล่นด้ วยกันที่สวน แห่งนี ้ ยายมักเล่าให้ ฟังเสมอว่า  เมื่อเกือบแปดสิบปี ก่อน  ตอนที่ ยายยังเล็กมากนัน ้ บริเวณนี ้มีต้นล�ำพูมากมายขึ ้นเป็ นดง  ตกกลางคืน หิ่งห้ อยนับร้ อยตามกิ่งล�ำพู  จะกะพริ บวิบวาวให้ เห็นแสงสวยงาม ราวประดับด้ วยโคมไฟ  ดงต้ นล�ำพูจงึ เป็ นที่หมายของผู้ที่ลอ่ งเรื อมา จากต่างจังหวัด  เมื่อเห็นดงต้ นล�ำพู  ก็คอื ถึงกรุงเทพฯ แล้ ว  บริเวณนี ้ จึงถูกเรี ยกขานกันต่อมาว่าบางล�ำพู ยายเป็ นคนชอบอ่านหนังสือ  ยายจึงมีความรอบรู้ มากมาย นอกจากที่เล่าให้ หล่อนฟั งเกี่ยวกับต้ นล�ำพูแล้ ว  ยายยังเล่าต่อไปอีก ด้ วยว่า  มีผ้ รู ้ ู บางคนเชื่อว่า  ‘บางล�ำพู’  น่าจะเพี ้ยนมาจากค�ำมลายู ว่า  ‘สุไหงลัมปู’  (Su-ngai  Lampu)  ซึง่ แปลว่า  ‘คลองที่มีตะเกียง’ มากกว่า  ดังนัน  ้ ค�ำว่า  ‘บางล�ำพู’  จึงเคยเขียนว่า  ‘บางล�ำภู’  อยู ่ ระยะหนึง่ จนกระทัง่ เมื่อประมาณปี   พ.ศ.๒๕๔๐  จึงมีนกั วิชาการจาก มหาวิทยาลัยกลุม่ หนึง่   จัดโครงการ  ‘ถนนคนเดิน’  ขึ ้น  และได้ ร่วม กันศึกษาวิถีชีวิตความเป็ นอยู่  และประวัติศาสตร์ ดงเดิ ั ้ มของชุมชน จนสรุ ปออกมาว่า  ค�ำว่า  ‘บางล�ำภู’  ที่ถูกต้ องนัน้   น่าจะเขียนว่า ‘บางล�ำพู’  ซึ่งมีความหมายมาจากต้ นล�ำพูที่มีอยู่มากในอดีตมาก สาวหลงยุค  17


กว่าข้ อสันนิษฐานอื่น แม้ ว่ า ตอนที่ พ ลอยบุษ ย์ เ ดิ น ผ่ า นสวนและป้ อมพระสุเ มรุ จะเป็ นเวลาเกื อบสองทุ่มแล้ วก็ ตาม  แต่ผ้ ูคนที่ เดินไปมาในสวน สาธารณะท�ำให้ บรรยากาศดูคกึ คัก บ้ านของยายอยู่ในซอยเล็กๆ เลยจากบริ เวณสวนสาธารณะ ไปอี ก หน่อ ย  เดิ น ยัง ไม่ทัน ถึง ปากซอยเข้ า บ้ า น  พลอยบุษ ย์ ร้ ู สึก หิวขึน้ มา  จึงแวะทานก๋วยเตี๋ยวจากร้ านที่ อยู่ฝั่งตรงข้ ามกับสวน สาธารณะ ยายอยู่บ้านคนเดียว  บ้ านของยายเป็ นบ้ านไม้ ครึ่ งตึกหลัง ไม่ใหญ่โตมากนัก  ปลูกในแบบที่เรี ยกว่า  ‘เรื อนขนมปั งขิง’  อันเป็ น แบบบ้ านที่นิยมสร้ างกันมากในสมัยรัชกาลที่  ๖  ตัวบ้ านทาสีฟ้าดู อบอุน่   และอยูส่ บาย ตัวบ้ านชัน้ ล่างเป็ นตึกที่ก่อด้ วยอิฐ  ส่วนตัวบ้ านชัน้ บนเป็ น เรื อนที่ท�ำด้ วยไม้   หน้ าบ้ านมีห้องกลาง  ที่มีลกั ษณะเป็ นห้ องแปด เหลี่ยม  ยื่นออกจากตัวบ้ านเป็ นมุขกลาง  ข้ างหน้ าห้ องแปดเหลี่ยม เป็ นระเบียงโล่ง  มีบนั ไดปูนสูงสามขันทอดลงสู ้ ่ทางเดินโรยกรวดที่ ต่อมาจากประตูรัว้   สองข้ างของห้ องแปดเหลี่ยม  มีต้นปี บสูงใหญ่ แผ่กิ่งก้ านสาขา  ให้ ร่มเงาครึม้ เย็น หน้ าต่างเกือบทุกบานของบ้ านเป็ นหน้ าต่างบานเกล็ดไม้   เหนือ บานหน้ าต่างมีหลังคาเล็กๆ ที่เรี ยกกันว่าหลังคาปี กนก  ประกอบ จากไม้ ฉลุเป็ นลวดลายสวยงามยื่นออกมาปกคลุมเพื่อกันแดดและ ฝน  หน้ าจัว่ ของบ้ านฉลุเป็ นลวดลายสวยงาม  กับมีช่องลมระบาย อากาศ ในวัยแปดสิบปี   ยายยังแข็งแรง  เดินเหินได้ คล่องแคล่ว  ช่วย เหลือตัวเองได้ ดี  แต่ทงพลอยบุ ั้ ษย์และพุทธชาดก็อดที่จะเป็ นห่วง 18  ‘พงศกร’


ไม่ได้   เมื่อคิดถึงว่ายายมีอายุมากแล้ ว  อยู่ล�ำพังคนเดียว  และเป็ น ญาติคนสุดท้ ายที่มีเหลืออยูใ่ นโลก ยายยืนยันที่จะอยู่และตายที่บ้านหลังนี ้ ไม่ยอมย้ ายไปอยู ่ บ้ านหลังใหม่  ไม่ว่าหลานทังสองจะอ้ ้ อนวอน  และอ้ างเหตุผลสัก เพียงใด ‘ฉันเกิดที่นี่  โตที่นี่  ก็จะขอตายที่นี่…ถ้ าไม่อยากให้ ฉันตาย เร็ ว  ก็อย่ามาบังคับให้ ไปอยูท่ ี่อื่น’ ยายว่าอย่างนัน  ้ และหล่อนก็เข้ าใจดีวา่ คนแก่อย่างยาย  มัก จะติ ด ที่   ไม่ อ ยากจะย้ า ยที่ อ ยู่ไ ปไหน  แต่ ที่ ห ล่อ นไม่ เ ข้ า ใจก็ คื อ เหตุใดเมื่อหล่อนและน้ องต้ องการจะย้ ายมาอยู่ด้วย  ยายกลับไม่ ยินยอมเช่นเดียวกัน  ทังๆ ที ้ ่น่าจะรี บตอบรับด้ วยความยินดี  ยาย อ้ างเหตุผลว่า ‘อย่าย้ ายมาเลย  อยู่ดูแลสมบัติของพ่อของแม่พวกเจ้ าไป เถอะ  ยายอยู่คนเดียวเสียชินแล้ ว…ใครมาอยู่ด้วยจะพลอยท�ำให้ ร� ำคาญ  คิดถึงมากนักก็แวะมาเยี่ยมกันบ้ างก็แล้ วกัน…ถ้ ามีอะไร หนักหนาสาหัสละก็  ฉันจะโทรไปเรี ยกให้ มาช่วย…’ พลอยบุษย์เดินเลี ้ยวเข้ าซอยเล็กๆ  และมาหยุดอยู่หน้ ารัว้ ไม้ ที่มีต้นเล็บมือนางเลื ้อยปกคลุมจนมองแทบไม่เห็นตัวบ้ าน กลิ่นหอมแรงของดอกเล็บมือนางสีแดงสลับขาว  กรุ่ นอวล อยู่รอบกาย  พลอยบุษย์ชะเง้ อมองข้ ามรัว้ เข้ าไปภายในบ้ าน  หาก ตัวบ้ านที่อยูเ่ บื ้องหลังของรัว้ กลับเงียบสนิท  มองไม่เห็นแสงไฟ …เอ…หรื อว่ายายจะไม่อยู่บ้าน  ค�่ำจนป่ านนี ้แล้ ว  ยายออก ไปไหนนะ… พลอยบุษย์ถามตนเองด้ วยความรู้สกึ สงสัยขึ ้นมาครามครัน สาวหลงยุค  19


บ้ านของยายมืดสนิท มองไม่ เห็นสิ่งใดนอกจากเงาตะคุ่ม  ของต้ นปี บสูงใหญ่สองต้ นหน้ าตัวบ้ าน สองทุม่ กว่าแล้ ว…ยายไปไหน ปกติยายติดละครโทรทัศน์ต้องดูจนดึกดื่นทุกวัน  เมื่อละคร จบแล้ วจึงจะเข้ านอน  หรื อวันนี ้  ยายจะเข้ านอนเร็ วกว่าปกติ  พลอยบุษย์ถามตัวเอง  แต่ก็ตอบได้ ในทันทีว่า  ไม่น่าจะใช่ เพราะทุกครัง้ ที่ยายเข้ านอน  ยายจะเปิ ดไฟแรงเทียนต�่ำที่มขุ หน้ า บ้ านทิ ้งเอาไว้ เสมอ หญิงสาวค้ นกุญแจส�ำรองที่มีติดอยู่ในกระเป๋ าครู่ ใหญ่  ก่อน จะใช้ มนั ไข  และเปิ ดประตูรัว้ ก้ าวเข้ าไป ทางเดินโรยด้ วยกรวดละเอียด  ที่ทอดผ่านสนามหญ้ าหน้ า บ้ าน  ไปยังตัวบ้ านไม้ สีฟ้าอ่อนดูเยียบเย็น  แม้ จะเป็ นเวลาหัวค�่ำ หากน� ้ำค้ างเริ่ มพร่ างพรม  กลิ่นหอมของดอกไม้ ไทยลอยกรุ่ นอยู่ทวั่ บริ เวณ ยายชอบดอกไม้   โดยเฉพาะดอกไม้ ไทยๆ ทุก ครั ง้ ที่ ห ล่อ นกับ น้ อ งสาวมาเยี่ ย ม  ถ้ า ยายไม่อ ยู่ใ นครั ว พลอยบุษย์ก็มกั จะพบยายนัง่ ชื่นชมต้ นไม้ อยูใ่ นสวนหน้ าบ้ านเสมอ สวนของยายมีต้นไม้ มากมาย  ต้ นไม้ ที่ยายปลูกส่วนมากเป็ น ไม้ ไทยที่ให้ ดอกมีกลิ่นหอม  บ้ านของยายจะมีกลิ่นหอมของดอกไม้ ตลอดทัง้ วัน  ไม่ว่าจะเป็ นสายหยุดที่ บานและส่งกลิ่นหอมหวาน 20  ‘พงศกร’


ตังแต่ ้ รุ่ งเช้ า  ราตรี   ดอกแก้ ว  บุหงาส่าหรี   และอีกหลายชนิด  ที่ส่ง กลิน่ หอมอ่อนๆ ตังแต่ ้ เวลาย�่ำค�่ำ  ไปจนถึงยามดึกที่น� ้ำค้ างลงแรง อายุแปดสิบกว่าของยาย  ไม่เป็ นอุปสรรคต่อการท�ำสวนแม้ แต่น้อย  ยายยังรดน� ้ำต้ นไม้   ปลูกต้ นไม้   พรวนดินด้ วยตนเอง  มิไย ที่พุทธชาดพยายามจะห้ ามไม่ให้ ยายท�ำงานหนัก  หากไม่เป็ นผล เพราะยายมักจะบอกว่า ‘ยายแก่ขนาดนี ้แล้ ว  ขืนให้ เอาแต่นงั่ ๆ นอนๆ  ไม่ขยับท�ำอะไร บ้ างเลย  จะเป็ นง่อยเอานะ…’ ต้ นไม้ ที่ยายปลูกทุกต้ นเจริ ญงอกงามดี  อารั ม  คนรั กของ หล่อนถึงกับเคยเอ่ยปากว่า ‘Green  hand…ยายของบุษย์มือเขียว  ปลูกต้ นไม้ ขึ ้นงามดี ไม่เหมือนกับผม  ปลูกต้ นอะไรก็ตายหมด…’ พลอยบุษย์เดินเลี่ยงดอกปี บสีขาว  ก้ านยาวเรี ยวเหมือนร่ ม คันน้ อย  ที่ร่วงเกลื่อนกล่นบนพืน้ ดินบริ เวณหน้ าบ้ านไป  ด้ วยไม่ ต้ องการจะย�่ำเหยียบลงบนกลีบแบบบางของดอกไม้ ดอกจ้ อย เห็นรองเท้ าแตะของยายยังวางอยู่ที่ข้างบันได  พลอยบุษย์ เลยถอนหายใจออกมาได้   เพราะนั่นแสดงให้ เห็นว่ายายคงอยู่ใน บ้ าน  ไม่ได้ ออกไปไหนอย่างที่หล่อนนึกวิตก  เพียงแต่ยายอาจจะ ลืมเปิ ดไฟหน้ าบ้ านเอาไว้ พลอยบุษย์ ถอดรองเท้ าส้ นสูงออก  วางเอาไว้ เคียงข้ างกับ รองเท้ าของยาย  แล้ วเดินขึ ้นบันไดของมุขโล่งหน้ าบ้ านไป  บรรยา- กาศโดยรอบกายเงียบสงัด  เหมือนไม่ใช่เวลาหัวค�่ำ  น่ า แปลก  ที่ เ สี ย งหรี ด หริ่ ง เรไร  ซึ่ง ปกติ จ ะกรี ด ปี กขับ ขาน บรรเลงอยู่ในสวนทุกคืนนัน  ้ กลับพร้ อมใจกันเงียบสนิท…เงียบเสีย จนพลอยบุษย์ได้ ยินเสียงลมหายใจของตนเอง… สาวหลงยุค  21


ลมเย็นๆ จากริ มแม่น� ้ำเจ้ าพระยาพัดโชยมาแผ่วเบา  พลอย- บุษย์เอื ้อมมือไปที่สวิตช์ไฟริ มผนัง  กดเปิ ดไฟที่ระเบียงหน้ าบ้ านให้ เกิดแสงสว่าง แสงไฟสีเหลืองอ่อนสว่างขึ ้นมา  และหญิงสาวต้ องกะพริ บตา ถี่ๆ เพื่อปรับสายตาให้ ชิน  พร้ อมกันนัน้ ก็เพิ่งสังเกตเห็นว่า  ประตู ด้ านหน้ าของห้ องแปดเหลี่ยมที่ยื่นออกมาจากตัวบ้ านไม้ ครึ่งตึกเปิ ด แง้ มเอาไว้ ยายใช้ ห้องแปดเหลี่ยม  อันเป็ นมุขหน้ าบ้ านและมีชานยื่น ออกไปเป็ นระเบียงโล่งๆ นีเ้ ป็ นห้ องโถงกลางของบ้ าน  ส�ำหรั บไว้ รับแขกและกินข้ าว  รวมทังนั ้ ง่ เล่นสารพัดประโยชน์ “ยาย…ยายคะ” พลอยบุษย์ส่งเสียงร้ องเรี ยก  แล้ วก็นึกขึ ้นมาได้ ว่าอาจจะไม่ ค่อยเหมาะ  เพราะเสียงของหล่อนอาจจะรบกวนยาย  ที่ก�ำลังนอน พักผ่อนอยูก่ ็ได้ ไม่มีเสียงตอบจากผู้สงู วัย… ปกติยายเป็ นคนหูไว  ไม่เหมือนกับคนชราอื่นในวัยเดียวกัน ท่ามกลางความเงียบสนิท  ที่ไม่มีแม้ แต่เสียงของหรี ดหริ่ งเรไรเช่น คืนนี  ้ เสียงร้ องเรี ยกยายของหล่อน  จึงดูเหมือนดังมากกว่ายาม ปกติ “ยาย  ยายอยูท่ ี่ไหนคะ…ยายนอนอยูห่ รื อเปล่า…” หล่อนตัดสินใจร้ องเรี ยกด้ วยเสียงทีด่ งั ขึ ้น  เพราะรู้สกึ ถึงความ ผิดปกติบางประการที่เกิดขึ ้น… เมือ่ ก้ าวเข้ าไปในห้ องกลาง  ทีย่ ายใช้ เป็ นห้ องสารพัดประโยชน์ ใช้ นั่ง กิ น อาหาร  ดูโ ทรทัศ น์   อ่า นหนัง สื อ   และท� ำ กิ จ กรรมต่างๆ พลอยบุษย์ร้ ูสกึ ว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติอย่างยิ่ง 22  ‘พงศกร’


หล่อนกวาดสายตามองไปโดยรอบ  ก็เห็นว่าความผิดปกติที่ หล่อนรู้สกึ นันคื ้ อ  แก้ วน� ้ำที่วางอยูค่ กู่ บั จานอาหารในห้ องนัน่ เอง พลอยบุษย์เปิ ดไฟ  และเดินไปยังจานข้ าวทีเ่ ย็นชืด  กับมีมดด�ำ ไต่จนเต็มจาน  ใกล้ กนั นัน ้ มีจานใส่ไข่เจียวและแกงส้ มวางอยู่ ช้ อนรับประทานอาหารทีอ่ ยูใ่ นจาน  ยังวางเอาไว้ ในลักษณาการ ที่ดเู หมือนกับว่า  ยายเพิ่งลุกออกจากโต๊ ะไปเมื่อสักครู่ นี ้เอง  แต่ฝงู มดด�ำที่ขึ ้นอาหารในจาน  บอกให้ พลอยบุษย์ร้ ูวา  ่ ยายคงลุกไปนาน พอสมควร… ยายรี บร้ อนไปไหน  พลอยบุษย์ใจเต้ นแรงขึ ้นมาด้ วยความหวาดวิตก  เมื่อความ คิดของหล่อนเริ่ มท�ำงาน หล่อนคิดไปต่างๆ นานา  ตังแต่ ้ เรื่ องของโจรผู้ร้ายที่อาจเข้ า มาปล้ นหรื อท�ำร้ ายยาย  โดยเฉพาะเมื่อยายเป็ นผู้หญิ งแก่ๆ ที่อยู ่ เพียงล�ำพังคนเดียว  หรื อว่ายายอาจเกิดอาการเจ็บป่ วยขึ ้นมาอย่าง กะทันหัน… หญิ งสาวทิ ้งกระเป๋ าในมือลงบนเก้ าอี ้นวมตัวที่ยายชอบนัง่ แล้ ววิ่งตรงไปที่ห้องนอนของยาย  กระชากประตูเปิ ดออก  โดยไม่ ยอมแม้ แต่จะเสียเวลาเคาะ  ในใจของหล่อนหวังเพียงว่า  จะพบ ยายนอนหลับอยูบ่ นเตียง แต่ความหวังทังหมดของหล่ ้ อน  ก็ต้องหลุดลอยไปพร้ อมกับ สายลมเย็น  เมื่อเตียงในห้ องของยายนันว่ ้ างเปล่า แสงไฟที่ สว่างขึน้   แสดงให้ เห็นผ้ าปูที่นอนซึ่งเรี ยบและตึง ซึง่ หมายถึงว่า  ยายยังไม่ได้ เอนหลังลงนอนเลยแม้ แต่น้อย  พลอย- บุษย์รีบวิ่งไปทางหลังบ้ าน  วิ่งขึ ้นบันไดไปชันบน  ้ หล่อนเปิ ดประตูด ู ทุกห้ องด้ วยความตกใจที่ทวีมากขึ ้นทุกขณะ สาวหลงยุค  23


ไม่มียาย… “ยาย…ยายคะ…” หล่อนตะโกนเรี ยกด้ วยน�ำ้ เสียงสัน่ สะท้ าน  อกใจเต้ นระรั ว เหมือนเด็กหลงทาง ไม่มีส้ มุ เสียงใดตอบกลับมาแม้ แต่น้อย… พลอยบุษย์สะอื ้นฮัก  เมื่อวิ่งกลับมาที่ห้องกลางอีกครัง้   และ หยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ า  และรี บต่อไปหาพุทธชาด น้ องสาวของหล่อนออกจากบ้ านไปแล้ ว  เพราะคืนนีห้ ล่อน อยู่เวรบ่าย  ต่อด้ วยเวรดึกแทนเพื่อน  และจะลงเวรตอนเช้ าของวัน พรุ่ งนี ้  พุทธชาดรับรู้ เรื่ องด้ วยความตกใจไม่แพ้ กนั   หากแต่ความที่ เป็ นพยาบาลประจ�ำห้ องฉุกเฉิน  ท�ำให้ หล่อนเคยชินกับเรื่ องตื่นเต้ น พุทธชาดจึงควบคุมสติได้ ดีกว่า  หล่อนบอกว่าจะรี บตามมาสมทบ โดยเร็ วที่สดุ   และแนะน�ำให้ พลอยบุษย์แวะไปถามคนข้ างบ้ าน  ว่า วันนี ้พวกเขาเห็นยายบ้ างหรื อไม่ วางหูจากน้ องสาว  หล่อนก็โทร.หาอารัม “รัมคะ…”  หล่อนปล่อยโฮ  เมื่ออีกฝ่ ายรับสาย “เป็ นอะไรบุษย์”  เสียงของอารัมตกใจ  “เกิดอะไรขึ ้น” “ยายค่ะ”  หล่อนเสียงสัน่   “ยายหายไป” “คุณยายของคุณน่ะหรื อ  บุษย์”  น� ้ำเสียงของอีกฝ่ ายดูไม่ตื่น ตกใจเท่ากับตอนแรก  ติดจะเบื่อหน่ายเสียด้ วยซ� ้ำ  “หายไปยังไง เมื่อไหร่กนั ” “ไม่ร้ ูคะ่   ฉันเพิ่งเสร็ จงาน  เกิดคิดถึงยายขึ ้นมาเลยแวะมาหา พอมาถึง…ยายก็หายไปแล้ ว”  หล่อนค่อยๆ ล�ำดับความคิด “ใจเย็นๆ ก่อน”  คนรั กของหล่อนบอกด้ วยน� ำ้ เสียงราบเรี ยบเสียจนพลอย- 24  ‘พงศกร’


บุษย์ร้ ูสกึ เหมือนกับเด็กขี ้ฟ้อง  ที่พอมีเรื่ องอะไรนิดอะไรหน่อย  ก็จะ รี บวิ่งมาฟ้องครู  “ยายอาจจะเดินเล่นอยูแ่ ถวนี ้ก็ได้   บุษย์หาดูทวั่ หรื อยัง…” “ยังค่ะ”  พลอยบุษย์เสียงอ่อนอ่อย  “ฉันจะลองออกไปเดิน หาดูแถวนี ้ก่อน  บางทียายอาจจะเดินไปหาใคร  อย่างทีร่ ัมว่าก็ได้ …” “ดี”  อีกฝ่ ายว่า  “ได้ ความว่ายังไง  คุณโทรมาบอกผมด้ วยก็ แล้ วกัน…” ได้ ยินอารัมว่าดังนัน ้ พลอยบุษย์จงึ กลืนค�ำพูด  ที่ก�ำลังจะขอ ให้ เขาตามมาสมทบกับหล่อนที่บ้านของยาย…หายลงไปในล�ำคอ บางทีหล่อนอาจจะเป็ นกระต่ายตื่นตูมจนเกินไป ใครจะรู้  ยายอาจจะก�ำลังนัง่ คุยกับใครแถวนี ้  ด้ วยความสนุก สนานอยูก่ ็เป็ นได้ หญิงสาวเดินแกมวิ่งย้ อนกลับไปที่ประตูหน้ าบ้ าน  แล้ วเดิน เลยไปกดกริ่ งประตูบ้านหลังถัดไป แม้ กรุ งเทพฯ จะเจริ ญมากเสียจนน�ำ้ ใจของคนเหือดแห้ งไป มากแล้ วก็ตาม  แต่ยงั โชคดีที่บ้านของยายและคนที่อยูใ่ นซอยนี ้  ยัง ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากมายนัก  อย่างน้ อยๆ ผู้คนที่อยู่อาศัยในซอย ก็ยงั พอรู้ จกั หน้ า  รู้ จกั ชื่อกัน  และทักทายกันบ้ าง  ท�ำให้ ชมุ ชนเล็กๆ แห่งนี ้ยังอบอุน่ และน่าอยู่ อาจจะเป็ นเพราะคนส่ว นใหญ่ ใ นซอยเป็ นคนสูง วัย   ที่ อยู ่ อาศัยกันมานานนม  บ้ านเรื อนส่วนใหญ่ยงั คงสภาพเดิมเหมือนเมื่อ ห้ าสิบหกสิบปี ก่อน  แต่กระนันหลายหลั ้ งบริ เวณปากซอยก็เปลี่ยน เจ้ าของ  และเริ่ มเปลี่ยนแปลงไปเป็ นเกสต์เฮาส์บ้างแล้ ว บ้ านหลังทีอ่ ยูต่ ดิ กันกับยายเป็ นบ้ านของหญิงม่ายวัยกลางคน ที่ร้ ูจกั สนิทสนมกับยายมานานหลายสิบปี   ในขณะที่บ้านหลังอื่นใน สาวหลงยุค  25


ซอยอยู่ห่างออกไป  และไม่สนิทกันมากขนาดที่ยายจะไปนัง่ คุยอยู ่ ตามบ้ านเหล่านัน้ ลมเย็นยามค�่ำที่พดั ผ่านผิวกายของหล่อน  ไม่ได้ น�ำพาความ เย็นสบายมาให้ เหมือนตอนแรก  ตรงกันข้ าม  สายลมเยือกเย็นกลับ ท�ำให้ หล่อนรู้สกึ หนาวเหน็บ  และสัน่ สะท้ านขึ ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พลอยบุษย์ยืนรออยูช่ วั่ อึดใจ  กว่าที่ดวงไฟสีเหลืองแก่ที่ประตู รัว้ ไม้ ของบ้ านที่หล่อนยืนกดกริ่ งอยู่จะสว่างไสวขึ ้น  และประตูรัว้ ก็ เปิ ดออก “อ้ าว  หนูบษุ ย์…มีอะไร  วันนี ้มาถึงนี่ได้ ” เสียงของสตรี วยั กลางคนร่ างท้ วมส่งเสียงทักทาย  เมื่อเห็น ว่าแขกยามวิกาลที่มากดออดเรี ยกเป็ นหล่อน “ไปยังไงมายังไง  ไปหาคุณยายมาแล้ วรึคะ” “น้ านวล…”  เสียงของพลอยบุษย์สนั่ จนอีกฝ่ ายรู้สกึ ได้   นางนวลจึงก้ าวออกมาจากในบ้ าน  และจับมือของหล่อนเอา ไว้ แน่น  พลางถามว่า “เป็ นอะไรไปหนูบษุ ย์  หน้ าซีดเชียว…” “คุณยาย…คุณยาย…”  พูดได้ แค่นน  ั ้ ก้ อนสะอื ้นก็ขึ ้นมาจุก ที่คอหอย  แล้ วหล่อนก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ อีก “คุณยาย…คุณยายเป็ นอะไร”  นวลเขย่ามือของหญิ งสาว ร่างสูงระหงโดยแรง “คุณยายหายไปจากบ้ านค่ะ  น้ านวล”  พลอยบุษย์ สูดลม หายใจแรงๆ เพื่อรวบรวมสติสมั ปชัญญะ  “ยายไม่ได้ อยูท่ ี่บ้าน  ยาย มาที่นี่หรื อเปล่าคะ” “ไม่นี่คะ”  นวลสัน่ หน้ า  ท่าทางงุนงง  “ก็เมื่อตอนเย็น  น้ ายัง เห็นคุณยายนัง่ เล่นอยูใ่ นสวนอยูเ่ ลย…” 26  ‘พงศกร’


รัว้ บ้ านที่กนระหว่ ั้ างบ้ านของยายกับน้ านวล  เป็ นเพียงรัว้ ไม้ เตี ้ยๆ ที่ยืนชะเง้ อก็แลเห็นกัน  ดังนัน  ้ จึงไม่ใช่เรื่ องแปลกที่ยายกับ น้ านวลจะตะโกนข้ ามรัว้ เพื่อคุยกันบ่อยๆ “หนูมาถึงประมาณสองทุ่มก็ ไม่เห็นยายแล้ ว  น้ านวลเห็น ยายครัง้ สุดท้ ายประมาณกี่โมงคะ” หญิงวัยกลางคนนิ่งคิดไปชัว่ ขณะ  ก่อนจะตอบหญิงสาวด้ วย น�ำ้ เสียงที่ค่อนข้ างแน่ใจว่า  “น้ าเห็นคุณยายตอนประมาณเกื อบ ทุ่มนึงแล้ ว  ที่จ�ำได้ เพราะน้ ายังทักเลยนะคะว่า  ท�ำไมคุณยายยังไม่ เข้ าบ้ านอีกเพราะมืดแล้ ว  แต่คณ ุ ยายก็ไม่ได้ ตอบอะไร” “น้ านวลแน่ใจนะคะ  ว่าเห็นยายตอนประมาณทุม่ นึง”  พลอย- บุษย์ถามย� ้ำ “แน่ใจสิหนู  เพราะตอนนันละครก่ ้ อนข่าวมาพอดี  น้ ายังว่า จะอยู่คยุ กับคุณยายเลย  แต่อยากดูละครมากกว่า  ก็เลยเข้ าบ้ าน ไปก่อน…”  หญิงวัยกลางคนเริ่ มมีสีหน้ าไม่ดี  “หนูบษุ ย์แน่ใจนะ  ว่า ยายไม่ได้ เดินไปหาใครที่ไหน…” “ยายไม่เคยไปไหนหลังหกโมงเย็นหรอกค่ะ”  พลอยบุษย์บอก ด้ วยน� ้ำเสียงมัน่ ใจ  “น้ านวลก็ร้ ูอยู… ่ ” “นัน่ สินะ”  อีกฝ่ ายพยักหน้ าหงึกๆ อย่างเห็นด้ วย หล่อ นย้ า ยมาอยู่ใ นซอยเล็กๆ แห่ง นี ต้ อนแต่ง งานกับสามี เมื่อเกือบสามสิบปี มาแล้ ว  คุณเมตตา…ยายของพลอยบุษย์เป็ น เพื่ อนบ้ านคนแรกที่ นวลรู้ จัก  ทุกวันหล่อนจะเห็นคุณเมตตาเดิน ออกมาดูต้นไม้ และท�ำสวน  กับท�ำกิจวัตรประจ�ำวัน ในโลกสมัย ใหม่ ที่ ผ้ ูค นไม่ ส นใจกัน และกัน   หล่อ นกับ คุณ เมตตากลับกลายเป็ นเพื่อนบ้ านที่สนิทสนมกันมาก  จะว่าไปแล้ ว วันหนึ่งๆ  หล่อนยังเจอหน้ าคุณยายมากกว่าสามีซึ่งมีอาชีพขับรถ สาวหลงยุค  27


รับจ้ างเสียอีก  ตอนที่สามีหล่อนตายไป  ก็ได้ คณ ุ ยายเมตตานี่ละที่ ช่วยปลุกปลอบจนหล่อนมีก�ำลังใจลุกขึ ้นมาสู้ชีวิตได้ อีกครัง้ หนึง่ “ตายจริ ง…”  น้ านวลยกมือขึ ้นทาบอก  ท่าทางตกใจ  “ถ้ างัน ้ น้ าว่า…เรารี บไปแจ้ งความเถอะ  ท่าทางจะไม่ดีเสียแล้ ว  เพราะช่วง นี ้แถวบ้ านเรามีคนแปลกหน้ าเข้ ามาป้วนเปี ย้ นหลายวันมาแล้ วนะ คะหนู  ไปโรงพักชนะสงครามนี่ละ  ใกล้ ที่สดุ   หนูบษุ ย์รอน้ าเดี๋ยว” นวลผลุบเข้ าไปในบ้ าน  ปล่อยให้ พลอยบุษย์ยืนรอด้ วยความ กระวนกระวายใจครู่ ใหญ่  ก่อนที่จะโผล่หน้ ามาด้ วยชุดแต่งกายที ่ รัดกุม  และพาหญิงสาวออกเดินไปด้ วยกัน ต�ำรวจที่โรงพักยังไม่ ยอมรั บแจ้ งความ  เพราะยายเพิ่ง  หายไปไม่เกินยี่สิบสี่ชวั่ โมง  แต่กระนัน  ้ นายต�ำรวจที่เป็ นร้ อยเวรก็ ยังอุตส่าห์มีน�ำ้ ใจ  ตามมาช่วยดูร่องรอยของยายที่บ้านซึ่งอยู่ห่าง ออกไปเพียงสองร้ อยเมตร “ท่าทางคุณยายของคุณ  น่าจะรี บร้ อนผลุนผลันไปที่ไหนสัก แห่ง”  ร้ อยต�ำรวจเอกนพดลกล่าวด้ วยน� ำ้ เสียงครุ่ นคิด  หลังจาก เดินส�ำรวจดูโดยรอบบริ เวณ  “เพราะรองเท้ าที่สวมอยู่เป็ นประจ�ำก็ ยังถอดทิ ้งเอาไว้   และอาหารเย็นก็ดเู หมือนยังกินไม่เสร็ จ…” “ฉันอยู่บ้านติดกัน  ไม่เห็นได้ ยินเสียงอะไรผิดปกติเลยนะ คะ”  น้ านวลเล่า “ยายของคุณอาจจะรีบร้ อนไปไหนสักแห่ง…”  นายต�ำรวจหนุม่ สรุ ป  “เพราะไม่มีร่องรอยของการต่อสู้อยู่ในบ้ านเลย  และเพื่อน บ้ านก็ไม่ได้ ยินเสียงผิดปกติอะไรด้ วย” “แต่แปลกนะคะ”  พลอยบุษย์ตงข้ ั ้ อสังเกต  “ยายจะไปที่ไหน ป่ านนี ้…อีกอย่างถ้ ายายจะไปไหน  ท�ำไมไม่กินข้ าวให้ เสร็ จเสียก่อน 28  ‘พงศกร’


และท�ำไมไม่ใส่รองเท้ าไปด้ วย…จะเป็ นไปได้ ไหมคะว่า  ที่จริ งยาย ไม่ได้ ออกไปไหนเลย  แต่อยูใ่ นบ้ านนี ้…” “อยู่ในบ้ าน  แล้ วท�ำไมเราไม่เจอคุณยายล่ะคะ”  นวลขมวด คิ ้ว  เพราะยังตามความคิดของพลอยบุษย์ไม่ทนั “เพราะรองเท้ าของยายก็อยู่นี่…ยายทิง้ ช้ อนเอาไว้ บนจาน ข้ าว” พลอยบุษย์สดู ลมหายใจยาว  ในขณะที่ทกุ คนเงี่ยหูฟังหล่อน ด้ วยความอยากรู้จนแทบไม่หายใจ “อีกอย่าง…ตอนที่ฉนั มาหายาย…ฉันใช้ กญ ุ แจส�ำรองไขเข้ า มาในบ้ าน  ถ้ ายายออกไปไหน  ยายจะใส่กญ ุ แจลูกใหญ่เอาไว้ ข้าง นอกบ้ านเสมอ  แต่นี่ประตูลอ็ กจากข้ างใน…คุณนพดลคะ…” ประโยคหลังหญิงสาวหันไปหานายต�ำรวจหนุม่   ทีย่ นื ท�ำสีหน้ า ประหลาดใจอยูไ่ ม่หา่ ง “เราจะท�ำยังไงกันดีคะ” “ถ้ าคุณคิดเช่นนัน…เรามาช่ ้ วยกันหาคุณยายในบ้ านอีกหน ก็แล้ วกัน…บ้ านเนื ้อที่แค่แปดสิบตารางวาเท่านี ้  ให้ มนั รู้ ไปว่าจะหา คุณเมตตาไม่เจอ…”

สาวหลงยุค  29


การค้นหาคุณเมตตาสิน้ สุดลงเมื่อเวลาประมาณใกล้ ส่ที ่มุ   หลังจากที่ค้นทุกห้ องในบ้ าน  และค้ นหาโดยรอบบริ เวณบ้ าน จนร้ อยต�ำรวจเอกนพดลแน่ใจแล้ วว่าไม่มีตารางนิ ้วใดจะรอดสายตา ไปได้   ชายหนุม่ จึงตัดสินใจบอกกับนางแบบสาวว่า “ผมคิดว่าตอนนี ้มีอยู่ทางเดียว  คือต้ องรอครับ…คุณอาจจะ นอนพักที่นี่  เพื่อรอดูวา่ ยายคุณจะกลับมาหรื อเปล่า  หรื อบางที…” ประโยคสุด ท้ า ย  น� ำ้ เสี ย งของเขามี แ ววลัง เล  นพดลถอน หายใจเล็กน้ อย  ก่อนจะตัดสินใจบอกไปว่า “หรื อบางทีอาจมีใครพบคุณยาย  แล้ วติดต่อมา…” พลอยบุษย์พยักหน้ าด้ วยความเหนื่อยอ่อน  แม้ ความหวังที่ มีเหลืออยู่จะริ บหรี่ เต็มทน  แต่หล่อนก็ยงั หวังว่า  อีกสักพักยายอาจ จะกลับมาเอง มี ถมไป  ที่ คนแก่ๆ เดินออกจากบ้ าน  แล้ วหลงทางเลยไป ไหนต่อไหน  ยิ่งอายุขนาดยายแล้ วด้ วย  ยายอาจจะเดินเรื่ อยเปื่ อย และกลับบ้ านไม่ถกู   ร้ อยต�ำรวจเอกนพดลช่วยหล่อนโทรศัพท์แจ้ ง เข้ าไปในรายการวิทยุที่เป็ นรายการจราจร  ผู้ประกาศหญิงที่รับสาย รับปากว่าจะคอยประกาศให้ ผ้ ฟู ั งรายการฟั งเป็ นระยะ  หากมีผ้ ใู ด เห็นหญิงชราที่มีรูปพรรณสัณฐานอย่างคุณเมตตาติดต่อเข้ ามาใน รายการ  หล่อนจะรี บติดต่อมาที่พลอยบุษย์ทนั ที “ค่ะ”  หล่อนหันไปหานายต�ำรวจหนุ่มด้ วยแววตาขอบคุณ “ฉันต้ องขอบคุณหมวดมากนะคะ  ที่ชว่ ยฉัน…” 30  ‘พงศกร’


“ฉันกลัวอยูอ่ ย่างเดียว…”  น้ านวลบ่นพึมพ�ำอยูใ่ นล�ำคอ ทังพลอยบุ ้ ษย์  และหมวดนพดลเหลียวไปมองหน้ าน้ านวล พร้ อมกันโดยมิได้ นดั หมาย  หญิงสาวใจหายวูบเมื่อเห็นสีหน้ ากังวล ของหญิงสูงวัย  ผู้เป็ นเพื่อนบ้ านกับยายของหล่อนมานานนม “ขอโทษนะหนูบุษย์ …น้ าไม่อยากจะพูดเล้ ย…แต่เมื่อสอง อาทิตย์ก่อน  ยายทองที่บ้านอยูอ่ ีกซอยก็หายไปอย่างนี ้ละ  รุ่งขึ ้นอีก วันก็โน่น…ลอยไปขึ ้นที่ท่าพระจันทร์ โน่นแน่ะ  เขาว่ากันว่าแกเดิน ไปทีท่ า่ น� ้ำ  แล้ วเป็ นลมหน้ าคว�ำ่ ลงไป  กว่าจะรู้วา่ แกหายไป  ก็จนเมือ่ แกไปขึ ้นแถวโน้ นนัน่ ละ…” พลอยบุษย์ยกมือที่สนั่ สะท้ านขึ ้นมากอดเอาไว้ กบั อก  ราวจะ ไล่ความหนาวเหน็บที่จโู่ จมขึ ้นมาโดยกะทันหัน… ซอยบ้ านยายเป็ นซอยเล็กๆ และไม่ยาวนัก  เดินไปหน่อยเดียว ก็จะถึงแม่น� ้ำ  จากท่าน� ้ำที่ท้ายซอย  มองไปก็จะเห็นป้อมพระสุเมรุ กับต้ นล�ำพูต้นสุดท้ ายของย่านบางล�ำพูยืนเด่นเป็ นสง่า สายน� ้ำเจ้ าพระยาทีไ่ หลรี่ มาจากทางตอนเหนือสูงจนปริ่มตลิง่ คอนกรี ต  และไหลแรง  ด้ วยเป็ นหน้ าน�ำ้ เหนือหลาก  สีที่เคยจาง อ่อนกลับกลายเป็ นสีแดงเข้ มของดินดีที่ไหลมากับน� ้ำ เมื่ออาทิตย์ก่อนที่มาแวะเยี่ยมยายพร้ อมกับพุทธชาด  ยาย เล่าเรื่ องนีใ้ ห้ หล่อนกับน้ องฟั งเช่นกัน  ตอนนัน้ หล่อนยังนึกต�ำหนิ ลูกหลานของยายทองด้ วยซ� ้ำไปว่า  อยู่กันตังหลายคน  ้ เหตุใดจึง ปล่อยให้ หญิงชราอย่างยายทองไปเที่ยวเดินแถวท่าน� ้ำ  จนพลัดตก ลงไปได้ … มาตอนนี ้  เมื่อน้ านวลเล่าเรื่ องนี ้ขึ ้นมาอีกครัง้   หล่อนจึงรู้ สกึ หนาวยะเยือก  เพราะกรณี ของยายนัน้ ร้ ายกว่ากรณี ของยายทอง เสี ย อี ก   ยายทองยัง อยู่กับ ลูก หลานเต็ ม บ้ า น  ในขณะที่ ย ายอยู ่ สาวหลงยุค  31


คนเดียว พลอยบุษย์บอกกับตนเองว่า  หล่อนจะไม่ให้ อภัยตัวเองเลย หากว่าครั ง้ นีเ้ กิดอะไรร้ ายแรงขึน้ กับยาย  และเมื่อยายกลับมา... หล่อนสัญญาว่าจะต้ องเอาตัวไปอยูด่ ้ วยให้ ได้   จากนันค่ ้ อยขายบ้ าน ทิ ้งไป  หรื อถ้ ายายไม่ยอมไปอยูก่ บั หล่อน  หล่อนนี่ละ…จะมาอยูก่ บั ยายเอง… “อย่ากลุ้มไปเลยนะจ๊ ะหนู”  น้ านวลลูบต้ นแขนของพลอย- บุษย์  ท�ำหน้ าเห็นอกเห็นใจ  “คุณยายอาจจะไม่ได้ ไปไหนไกลอย่าง ที่เรานึกกลัวกันก็ได้   หนูบษุ ย์จะพักอยู่ที่นี่ไหมล่ะ  น้ าจะมาอยู่เป็ น เพื่อน” “หนูว่า จะนอนค้ า งที่ นี่ ต ามที่ ผ้ ูห มวดแนะน� ำ ค่ะ   แต่ค งไม่ รบกวนน้ านวลหรอก  หนูอยู่คนเดียวได้   เดี๋ยวเพิง้ ลงเวร  ก็คงจะ แวะมาหาหนูที่นี่…”  พลอยบุษย์ส่งยิ ้มให้ อ่อนๆ  นึกขอบคุณหญิงเพื่อนบ้ านภาย ในใจ  และคิดว่าถึงแม้ น้านวลจะมีน� ้ำใจดีก็จริ ง  แต่หากมาค้ างอยู ่ เป็ นเพื่อนหล่อน  เห็นจะท�ำให้ หล่อนยิ่งกลัดกลุ้มเป็ นกังวลมากกว่า เก่า  เพราะข้ อสันนิษฐานแต่ละอย่างของน้ านวล  ล้ วนแต่ฟังแล้ ว ท�ำให้ พลอยบุษย์ร้ ูสกึ ไม่สบายใจมากยิ่งขึ ้น “ผมไปก่อนนะครับ”  ร้ อยต�ำรวจเอกนพดลเอ่ยลา  เมื่อเห็นว่า เวลาล่วงเลยมามากแล้ ว  “ผมอยู่เวรที่โรงพักจนถึงเช้ า  คุณพลอย- บุษย์ได้ ข่าวคุณยายหรื อว่ามีอะไร  โทรหาผมตามเบอร์ นี ้ได้ เลยนะ ครับ” เขาก้ มศีรษะให้ หล่อนเล็กน้ อย  ก่อนจะส่งนามบัตรให้   และ เดินน�ำน้ านวลออกจากบ้ านไป “น้ าไปก่อนนะจ๊ ะ”  น้ านวลหันกลับมาบอกพลางโบกมือให้ 32  ‘พงศกร’


“มีอะไรหนูบษุ ย์ตะโกนเรี ยกน้ า  นะหนูนะ” พลอยบุษย์ พยายามต่ อโทรศัพท์ หาอารั มทันทีด้วยใจ  อันรุ่ มร้ อนหลังจากที่นายต�ำรวจหนุ่มและเพื่อนบ้ านวัยกลางคนลับ กายไปแล้ ว  ดูเหมือนว่าอีกฝ่ ายจะปิ ดโทรศัพท์มือถือ  เพราะไม่ว่าหล่อน จะเพียรพยายามติดต่อเข้ าไปสักเพียงไร  หากเสียงสัญญาณปลาย ทาง  เป็ นเสี ย งเหมื อ นสายไม่ ว่ า งอยู่ต ลอดเวลา  โทร.เข้ า ไปที่ คอนโดมิเนียมของเขา  ก็มีเพียงเสียงเครื่ องตอบรับอัตโนมัติ  เป็ น เสียงของอารัมบอกว่าขณะนี ้เขาไม่อยู่ที่ห้อง  และให้ ฝากข้ อความ ไว้ พลอยบุษย์ตดั สินใจไม่ฝากข้ อความอะไรไว้   เพราะหล่อนไม่ ชอบพูดอยู่ฝ่ายเดียว  หล่อนสังเกตว่าระยะหลังมานี ้  อารัมดูแปลก ไป… เขามักจะเลี่ยง  ไม่อยู่กับหล่อนโดยล�ำพังเหมื อนอย่างแต่ ก่อน  หล่อนและอารัมไม่เคยไปกินข้ าวด้ วยกันตามล�ำพังนานเสีย จนหล่อนเองก็จ�ำไม่ได้ เสียแล้ วว่า  ครั ง้ สุดท้ ายที่หล่อนกับเขาไป กิ น ข้ า วด้ ว ยกัน สองต่ อ สองนัน้ เป็ นเมื่ อ ใด  ทุก ครั ง้ ที่ นัด ไปทาน อาหารเย็นด้ วยกันอารัมมักจะลากเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่ไปด้ วยเสมอ หญิงสาวเคยพูดกับเขาเป็ นท�ำนองบ่น  หากอารัมมีค�ำตอบที่ฟังดูดี ทุกครัง้ ว่า ‘ก็ผมเป็ นห่วงบุษย์ น่ะสิ  บุษย์ ก�ำลังดัง  ผมไม่อยากให้ เป็ น ข่า ว  บุษ ย์ ก็ ร้ ู ว่า ถ้ า มี ข่า วไม่ดี อ อกมา  จะเป็ นผลเสีย กับงานของ บุษย์อย่างไร’ ทุกครัง้ ที่เขาอ้ างเช่นนี ้  พลอยบุษย์จึงได้ แต่พยายามบอกกับ สาวหลงยุค  33


ตนเองว่า  อารัมรักและหวังดีกบั หล่อนจริ งๆ  แม้ ว่าลึกลงไปภายใน ใจแล้ ว  หล่อนจะไม่เชื่อก็ตาม ‘เจ๊ น่ะดีแต่เก่งกับคนอื่น’  น้ องของหล่อนเคยว่า  เมื่อพลอย- บุษย์ปรับทุกข์ด้วย  ‘กับแฟนตัวละท�ำเป็ นตาบอดมองไม่เห็น  ยอม ไปหมดทุก อย่ า ง…อย่า งนี ม้ ัน ผิ ด ปกติ ม ากแล้ ว นะบุษ ย์   มี ที่ ไ หน เป็ นแฟนกัน  แต่ไม่อยากไปไหนด้ วยกัน  ไปไหนกันที  ต้ องเอาเพื่อน ไปด้ วยเป็ นโขยง  อย่างกะยกทัพ’ น้ องกับหล่อนมีอายุหา่ งกันเพียงปี เดียว  สองสาวจึงเติบใหญ่ ขึ ้นมาไล่ๆ กัน  ดูไปแล้ วเหมือนเป็ นเพื่อนกันมากกว่าเป็ นพี่เป็ นน้ อง พุทธชาดไม่เคยเรี ยกหล่อนว่าพี่  อย่างดีน้องก็จะเรี ยกหล่อนว่า  เจ๊ อย่างนัน ้ เจ๊ อย่างนี ้ ฟั งน้ องว่าอย่างนัน ้ พลอยบุษย์จงึ กลืนเรื่องทีก่ �ำลังจะเล่าออก มาอีก  กลับลงไปในล�ำคอ  และพยายามจะลืมมันเสีย  เพราะหาก พุทธชาดรู้ ว่า  หล่อนออกบัตรเครดิตเสริ มให้ อารั มใช้   และอารั ม ก็ใช้ อย่างเต็มที่  โดยไม่เคยจ่ายเงินให้ หล่อนเลยแม้ แต่บาทเดียว รั บรองได้ ว่าแม่น้องสาวของหล่อน  จะต้ องแล่นไปด่าอารั มจนถึง บ้ านแน่ เสียงโทรศัพท์มือถือของหล่อนที่อยู่บนโต๊ ะกินข้ าวของยาย ดังขึ ้น  พลอยบุษย์รีบทิ ้งจานชามของยายที่ก�ำลังล้ างเอาไว้ ในอ่าง ซับมือที่เปี ยกน� ้ำกับกางเกงยีนส์ตวั เก่งที่สวมมาตังแต่ ้ เย็น  แล้ ววิ่ง ไปรับสาย หล่อนแอบภาวนาให้ คนที่ติดต่อเข้ ามาเป็ นอารัม  แต่เมื่อเห็น ว่าเบอร์ ที่ตดิ ต่อเข้ ามาเป็ นน้ องสาว  พลอยบุษย์จงึ ได้ แต่ถอนใจ  “เพิ ้งเหรอ...”  หญิงสาวพยายามควบคุมไม่ให้ เสียงสัน่ “เจอยายไหม”  อีกฝ่ ายถามมาอย่างเร่งร้ อน  34  ‘พงศกร’


“ยังไม่เจอ”  พลอยบุษย์เล่าเรื่ องราวทังหมดให้ ้ น้องฟั งคร่าวๆ ได้ ยินเสียงพุทธชาดถอนหายใจยาวไม่แพ้ กนั   “แย่จัง  ฉันตามใครมาขึน้ เวรแทนไม่ได้ เลย”  น้ องสาวของ หล่อนบ่น  “นี่ยงั ต้ องควงเวร  อยูต่ อ่ จนถึงแปดโมงเช้ า  เฮ้ อ...” “ไม่เ ป็ นไรเพิ ง้ ”  พลอยบุษ ย์ ตัด สิน ใจให้ น้ อ ง  “ฉัน จะอยู่ท่ี บ้ านยายคืนนี ้ เธอมาก็ช่วยอะไรไม่ได้ หรอก  ถ้ ามีข่าวอะไรฉันจะ ติดต่อไปก็แล้ วกัน  เปิ ดมือถือไว้ นะ” “พรุ่งนี ้เจ๊ มีงานไม่ใช่เหรอ”  น้ องหล่อนอุตส่าห์จ�ำได้   “แล้ วจะ ไปยังไง  รถของเจ๊ ฉนั เอาไปจอดไว้ ให้ ที่บ้านแล้ ว” “ไม่เป็ นไร  งานพรุ่ งนี ้ไปสายหน่อยได้   แค่เปิ ดตัวร้ านผ้ าไหม เดินสองชุดก็เสร็ จแล้ ว  ฉันตื่นนอนแล้ วค่อยแวะไปเปลี่ยนเสื ้อ  เอา รถที่บ้านก็ยงั ทัน” “อย่านอนดึกล่ะ”  น้ องสาวเป็ นห่วง  ด้ วยพอรู้เรื่ องราววงในที่ หล่อนเล่าให้ ฟังมาบ้ าง  “ต้ องประชันกับยายโรสอีกไม่ใช่เหรอ  เดี๋ยว หน้ าเหี่ยวกว่าละก็แย่เลย” “เหอะน่า”  พลอยบุษย์พยายามฝื นยิ ้ม  บอกกับน้ องก่อนจะ วางสายไปว่า  “มือชันนี ้ ้แล้ ว…” พลอยบุษย์ และพุทธชาดทิง้ เสือ้ ผ้ าชุ ดล�ำลองเอาไว้ ท่  ี บ้ านยายหลายชุด  เพราะเวลาที่หล่อนหรื อน้ องมาค้ างกับยายที่บ้าน จะได้ ไม่ต้องขนเอากระเป๋ าเสื ้อผ้ ามา ที่ นี่เหมื อนกับเป็ นบ้ านหลังที่ สอง  เพราะมี พร้ อมทุกอย่าง ทังเสื ้ ้อผ้ า  เครื่ องนอน  และเครื่ องส�ำอางที่หล่อนใช้ เป็ นประจ�ำ  ยายจัดห้ องชันบนให้ ้ หล่อนและน้ อง  เพื่อที่หล่อนและน้ องจะ สามารถมาพักที่บ้านยายได้ ทกุ เมื่อที่ต้องการ  ส่วนตัวยายเองจะอยู ่ สาวหลงยุค  35


ห้ องชันล่ ้ างทางด้ านหลังของตัวบ้ าน  เปิ ดหน้ าต่างออกไป  จะเห็น พุม่ แก้ วที่มีสีเขียวชอุม่ ตลอดทังปี ้   และดอกกระจิริดสีขาว  ที่สง่ กลิน่ หอมชื่นใจในยามค�่ำคืน หลังจากอาบน� ้ำเสร็ จเรี ยบร้ อย  พลอยบุษย์ก็เดินส�ำรวจโดย รอบบริ เวณบ้ านอีกครั ง้   เผื่อว่าจะเห็นร่ องรอยอะไรของยาย  แต่ ทุกสิ่งกลับว่างเปล่าและเงียบสงัด  หญิงสาวจึงกลับเข้ ามาในบ้ าน และลงกลอนประตู หล่อนย้ อนกลับเข้ าไปในห้ องนอนของยาย  และเหลียวมอง สิง่ ของต่างๆ ที่ยายจัดเอาไว้ อย่างเป็ นระเบียบ  ทุกอย่างยังคงเหมือน เดิมเช่นทุกครัง้ ที่หล่อนมาเยี่ยมยาย  เข้ ามานอนเล่น  หนุนตักคุย กับยายอยูบ่ นเตียง พลอยบุษย์นงั่ ลงบนเตียงนอนไม้ สกั ขนาดใหญ่ของยาย  และ รู้สกึ คิดถึงยายขึ ้นมาอย่างมาก… ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งที่ยายใช้ อยู่เป็ นประจ�ำ  ลอย กรุ่นอยูท่ วั่ ไปโดยรอบห้ อง  หมอนใบนิ่มๆ ที่ยายใช้ นอนหนุนนันยั ้ งมี รอยบุม๋ ของศีรษะอยู ่ ราวกับว่ายายเพิ่งลุกจากเตียงไปไม่นานนัก ที่หัวเตียงของยายมีโต๊ ะไม้ สักตัวใหญ่  ที่ยายเอาไว้ ใช้ วาง ข้ าวของกระจุกกระจิกหลายอย่าง  โต๊ ะไม้ ตวั นี ้มีอายุนานขนาดไหน พลอยบุษย์ไม่อาจรู้ได้   เพราะตังแต่ ้ จ�ำความได้   หล่อนก็เห็นโต๊ ะตัวนี ้ ตังอยู ้ ใ่ นห้ องนอนของยายแล้ ว  และหล่อนก็ไม่เคยถามยายเสียด้ วย ว่า  ตาและยายได้ มาจากไหน  หล่อนเดาเอาว่าน่าจะเป็ นของที่มี ติดมากับบ้ าน  ซึง่ มีอายุนานเป็ นร้ อยปี ยามอารมณ์ดี  ยายจะเล่าว่า  บ้ านหลังนี ้มีอายุอานามเกือบ หนึ่ ง ร้ อยปี แล้ ว   เจ้ า ของดัง้ เดิ ม เป็ นขุน นางเก่ า  ตัง้ แต่ส มัย ก่ อ น เปลี่ยนแปลงการปกครอง  เมื่อเสียชีวิตไปหมด  ลูกหลานจึงขาย 36  ‘พงศกร’


บ้ า นให้ กับ ตาซึ่ง เป็ นข้ า ราชการหนุ่ม และเพิ่ ง แต่ง งานกับ ยายได้ ไม่นาน  ยายชอบบ้ านหลังนี ้มาก  เพราะเป็ นเรื อนหอของยายกับตา อีกทังยั ้ งปลูกอย่างสวยงาม  เป็ นเรื อนมนิลา  หรื อที่บางคนเรี ยกว่า เรื อนขนมปั งขิง  ตามแบบซึง่ เป็ นที่นิยมในสมัยนัน้ ยายเคยเห็ น บ้ า นหลัง นี ม้ าตัง้ แต่เ ป็ นเด็ ก   ยัง จ� ำ ได้ ว่า เคย แอบพ่อและแม่มาวิ่งเล่นแถวซอยนี ้บ่อยๆ  ยายบอกว่าผู้หญิงที่เป็ น เจ้ าของบ้ านสวยเก๋และใจดี  ยายมักเดินมาหาหล่อนเสมอ  เพราะ นิวาสสถานเดิมของยายอยู่แถววัดสังเวชวิศยาราม  ซึ่งอยู่ไม่ไกล จากบ้ านหลังนี ้มากนัก  เมือ่ ออกเรือนมากับตาและได้ มาอยูท่ บี่ ้ านนี ้  ยายจึงมีความสุข เพราะไม่ได้ อยู่ไกลจากบ้ านเดิมนัก  สามารถเดินไปมาหาสู่กบั พ่อ แม่  และพี่น้องของยายที่มีอาชีพท�ำทองได้ โดยสะดวก แม้ จะอยู่เพียงล�ำพังคนเดียว  แต่ยายก็ดแู ลบ้ านเป็ นอย่างดี ทุกๆ ปี ยายจะจ้ างบริ ษัทก�ำจัดปลวกให้ คอยมาดูบริ เวณบ้ าน  และ ตัวบ้ านที่เป็ นไม้ ครึ่ งตึก  นอกจากนัน้ ยังจ้ างบริ ษัทตกแต่งบ้ าน  ที่ เจ้ าของเป็ นอาจารย์มหาวิทยาลัย  มาคอยดูแลปรับปรุ งซ่อมแซม ส่วนต่างๆ ของบ้ านอยู่อย่างสม�่ำเสมอ  ไม่ว่าจะเป็ นหน้ าต่างบาน- เกล็ดไม้ โดยรอบบ้ าน  ที่มีหลังคาไม้ ฉลุยื่นมาคลุม  หรื อแม้ แต่ห้อง แปดเหลี่ยมที่ยื่นออกมาเป็ นมุขทางด้ านหน้ าบ้ าน  ซึง่ เป็ นลักษณะ เฉพาะของเรื อนเก่าแก่ในสมัยนัน้ ยายจัดวางสิ่งต่างๆ ในห้ องนอนเอาไว้ อย่างเป็ นระเบียบ  มุม โต๊ ะด้ านที่อยู่ใกล้ กบั เตียงมีไฟฉายกระบอกโตอยู่ในรัศมีที่เอื ้อมมือ ไปคว้ าได้   ยายคงเตรี ยมเอาไว้ ในยามที่ไฟฟ้าดับ  หรื อตื่นขึน้ มา กลางดึกนัน่ เอง สาวหลงยุค  37


ตรงกลางของโต๊ ะ มี ลิ น้ ชัก   ซึ่ง ปกติ แ ล้ ว ยายจะใส่ กุญ แจ ล็อกเอาไว้ เสมอ  และหญิงสาวไม่เคยรู้ ว่ายายใส่อะไรเอาไว้ ในนัน ้ พลอยบุษย์ลองขยับลิ ้นชักดูก็พบว่าครัง้ นี ้กลับเปิ ดออกโดยง่ายดาย และเมื่อเปิ ดออกมาก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า  ไม่มีอะไรอยู่ภาย ในนัน้ หนังตาของหล่อนเริ่ มหนาหนัก  ทัง้ ๆ ที่ ในสมองยังมี อะไร ให้ คิดอีกมาก  ไม่ว่าจะเป็ นเรื่ องของยายหรื อเรื่ องของอารัม  หล่อน เหลือบไปมองนาฬิกา  เป็ นเวลาล่วงเที่ยงคืนไปมากแล้ ว  การนอน ดึกนันไม่ ้ เป็ นผลดีตอ่ อาชีพของหล่อนแม้ แต่น้อย  บานกระจกจากมุม ข้ า งตู้เ สื อ้ ผ้ า ซึ่ง เป็ นที่ แ ต่ง ตัว ของยาย ส่องสะท้ อนใบหน้ าเผือดสีของหล่อนออกมา  กับรอยคล� ้ำที่อยู่ใต้ ดวงตา  ท�ำให้ พลอยบุษย์ลกุ ขึ ้นและเดินไปปิ ดไฟ  เพื่อเข้ านอน หล่อนเหนื่อยมาทังวั ้ น  และมีเวลานอนได้ อีกเพียงหกชัว่ โมง เท่านัน้ พลอยบุษย์เกรงว่า  หากหล่อนนอนอยูบ่ นเตียงของยาย  อาจ จะเพลินจนลืมตื่นก็เป็ นได้   ดังนันหล่ ้ อนจึงตัดสินใจฟุบหลับลงบน โต๊ ะไม้ สกั ตัวใหญ่ นัน้ …อีกอย่าง  หากมีต�ำรวจ  หรื อรายการวิทยุ หรื อใครก็ตามที่ติดต่อเรื่ องยายเข้ ามา  หล่อนจะได้ รีบลุกขึ ้นมารับ โทรศัพท์ได้ อย่างรวดเร็ ว ด้ วยความเหน็ดเหนือ่ ยและเครียด  พลอยบุษย์กระสับกระส่าย อยูพ่ กั ใหญ่  ก่อนจะเคลิ ้มหลับไปโดยไม่ร้ ูตวั … เสียงของคนสองคนที่ท่ ุมเถียงกันอยู่ภายในห้ องด้ วย  ความโมโหนัน่ เอง  ที่ปลุกให้ หล่อนตื่นขึ ้น พลอยบุ ษ ย์ ไ ม่ แ น่ ใ จว่ า เป็ นความฝั นหรื อ เป็ นความจริ ง 38  ‘พงศกร’


เพราะแสงสว่ า งที่ ป รากฏอยู่โ ดยรอบกายนัน้ ดูเ ลื อ นราง  แม้ ว่ า พลอยบุษย์ จะลืมตาไม่ขึน้   หากก็ยังรู้ สึกได้ ว่า  ไม่เหมือนกับเป็ น เวลากลางคืนแม้ แต่น้อย หญิ งสาวรู้ สึกแขนขาชาราวกับเป็ นเหน็บ  และขยับเขยือ้ น อย่างยากล�ำบาก เสียงของคนสองคนที่ทะเลาะกันนัน้ ดังขึน้ ทุกขณะ  ดังเสีย จนพลอยบุษย์พอจะจับน�ำ้ เสียงได้ ว่า  มีผ้ ูหญิ งคนหนึ่ง  กับผู้ชาย คนหนึง่   “คุณหลวงจะท�ำกับดิฉนั เช่นนันมิ ้ ได้ ” เสียงแหลมด้ วยอารมณ์โกรธของสตรี ดงั จนพลอยบุษย์ได้ ยิน ชัดเจน  หากหนังตาของหล่อนหนักอึ ้ง “ท�ำไมจะท�ำมิได้   ในเมื่อฉันเป็ นผัวของหล่อนนี่นะ” เสียงผู้ชายโต้ ตอบกลับมาด้ วยน�ำ้ เสียงที่กราดเกรี ย้ วไม่แพ้ กัน อ้ อ…หล่อนบอกกับตัวเอง…ละครวิทยุ… “คุณหลวงจะมาบังคับฉัน  ให้ ทำ� ตามอ�ำเภอน� ้ำใจของคุณหลวง มิได้   ฉันเป็ นภริ ยา  มิใช่ทาส  ทาสน่ะเลิกไปตังแต่ ้ รัชกาลก่อนโน้ น แล้ ว”  เสียงของสตรี ผ้ นู นยั ั ้ งมิยอมลดราให้ ฝ่ายชาย “หล่อนเป็ นเมียฉัน”  เสียงของอีกฝ่ ายเริ่ มสัน่ ด้ วยความโมโห “เมียก็คือสมบัติของผัว  ดังนันฉั ้ นจะท�ำอย่างไรก็ย่อมได้   ฉันสัง่ ให้ หล่อนไป  หล่อนก็ต้องไป…” “ดิฉนั ไม่ไป”  สตรี ผ้ นู นกรี ั ้ ดเสียงร้ อง  “ปล่อยดิฉนั นะ” อะไรกันนักกันหนา… พลอยบุษย์ ร้ ู สึกหงุดหงิ ดที่ เวลานอนของหล่อนถูกรบกวน ใครเปิ ดวิทยุทิง้ เอาไว้   ท่าทางคงจะติดละครวิทยุเอาเสียงอมแงม สาวหลงยุค  39


ถึงได้ ลกุ มาฟั งแต่เช้ ามืด  ไม่เกรงใจเพื่อนบ้ านเสียเลย  สงสัยคงจะ เป็ นน้ านวล… ละครเรื่ องนีก้ ็ช่างเชยเสียนี่กระไร…เล่นเรื่ องอะไรก็ไม่ร้ ู   มี คุณหลวง  มีเลิกทาส…ท่าทางจะเป็ นเรื่ องย้ อนยุคเสียละมัง “ปล่อยดิฉนั นะ”  เสียงผู้หญิงคนเดิมยังคงกรี ดร้ องเร่าๆ  ราว กับเหตุการณ์ดงั กล่าวเกิดขึ ้นจริ งๆ  “ไม่ปล่อย  ไปแต่งตัวเดี๋ยวนี ้  แม่บษุ ย์”  เสียงทุ้มต�่ำของผู้ชายคนนันร้ ้ องสัง่ เล่นเอาพลอยบุษย์สะดุ้ง เพราะชื่อของผู้หญิงคนนันเกิ ้ ดมาคล้ ายกันกับชื่อของเธอ  หญิ งสาวพยายามจะปรื อตาขึน้ มอง  ว่าเกิดอะไรขึน้ กันแน่ ในห้ องนอนของยาย  เพราะการถกเถียงที่ร้อนแรงขึน้ ทุกขณะนัน้ ชัดเจนแจ่มชัดราวกับเกิดขึ ้นจริ ง  เหมือนกับว่าหล่อนก�ำลังร่ วมอยู ่ ในเหตุการณ์นนด้ ั ้ วย  หนังตาหล่อนหนักอึ ้ง  ความง่วงงุนเข้ าครอบง�ำสติสมั ปชัญญะ ท�ำให้ พลอยบุษย์ไม่อาจฝื นได้   เหตุการณ์ทกุ อย่างจึงเป็ นเหมือนดัง่ ความฝั น… ฝั นกึง่ จริ ง  จริ งกึง่ ฝั น…ความฝั นที่แปลกประหลาดที่สดุ ตังแต่ ้ เธอจ�ำความได้ “ฉันให้ เวลาหล่อนชัว่ หม้ อข้ าวเดือด  ถ้ าหล่อนยังแต่งตัวไม่ เสร็ จ  เป็ นได้ เห็นด�ำเห็นแดงกัน” “เอาสิคะ”  ผู้หญิงที่ชื่อแม่บษุ ย์ร้องท้ า  “คุณหลวงจะท�ำอะไร กับดิฉนั ก็เชิญได้ เลย  เพราะอย่างไร  ดิฉนั ก็ไม่ไป…” “เธอต้ องไป…งานเลี ้ยงนี ้ส�ำคัญเพียงไร  หล่อนย่อมรู้ดี” “มันส�ำคัญส�ำหรับคุณหลวง  แต่ไม่สำ� คัญส�ำหรับดิฉนั ”  เสียง แม่บุษย์ ขมขื่น  “ดิฉันไม่ต้องการไปนั่งเป็ นหุ่น  คอยยิม้ คอยหัวให้ 40  ‘พงศกร’


กับผองเพื่อนของคุณหลวงดอก…งานนี ้เป็ นงานมงคล  ขืนดิฉนั ท�ำ หน้ าหมองไหม้   พรรคพวกของคุณหลวงก็จะว่าเอาได้   สู้ปล่อยให้ ดิฉนั อยูบ่ ้ านจะดีเสียกว่า” “อยู่บ้าน…เชอะ…”  เสียงคุณหลวงผู้สามีประชด  “ท�ำอย่าง กับฉันโง่เง่า  ไม่ร้ ู ไม่เห็นอย่างนันละว่ ้ าที่หล่อนจะอยู่บ้าน  ก็เพราะ จะรอพบไอ้ …” “หยุดนะคุณหลวง  อย่าได้ พาดพิงถึงผู้คนอื่น  โดยเฉพาะ เมื่อบุคคลผู้นนก็ ั ้ มิได้ อยู่ในสยามเสียด้ วย”  เสียงแม่บษุ ย์ร้องแทรก ขึ ้นมาก่อนที่สามีจะพูดจบประโยค  “เรื่ องระหว่างดิฉนั กับเขาจบไป นานแล้ ว  อย่าได้ รือ้ ฟื น้ ขึ ้นมาอีกเลย…” “อย่าได้ รือ้ ฟื น้ ขึ ้นมาอีกเลย”  คุณหลวงท�ำเสียงเยาะ  พลอยบุษย์นกึ วาดภาพไปว่า  หากเป็ นเหมือนในละคร  คุณ- หลวงคนนันก็ ้ จะต้ องเดินเข้ าไปหาหญิงสาวผู้เป็ นภรรยา  และกระชาก ตัวของหล่อนให้ เข้ ามาหา  พร้ อมกับบีบข้ อมือของอีกฝ่ ายอย่างรุนแรง ด้ วยมือที่แข็งราวกับคีมเหล็ก  เพราะมีเสียงของผู้หญิงคนนันร้ ้ องขึ ้น มาด้ วยความเจ็บปวดว่า “โอ๊ ย…ดิฉนั เจ็บ  ปล่อยมือดิฉนั เดี๋ยวนี ้นะ” “ไม่ปล่อย…ฉันจะไม่ปล่อยจนกว่าหล่อนจะบอกฉันมาก่อน ว่า  ลูกกบฏอย่างไอ้ เอื ้อมันมีอะไรดีมากกว่าฉัน  หล่อนจึงไม่เคยลืม มันเลย…”  พลอยบุษย์คิดว่ามีส�ำเนียงรวดร้ าวแฝงอยู่ในค�ำพูดของ ผู้ชายคนนันด้ ้ วย “อะไรน่ะหรื อ…”  แม่บษุ ย์หวั เราะเสียงแหลม  “ก็ความเป็ น เยนเติ ้ลแมนไง  ความเป็ นลูกผู้ชายที่คุณหลวงไม่มี  และไม่เคยมี อย่างไรเล่าคะ  พี่เอื ้อไม่เคยท�ำร้ ายผู้หญิ ง  อย่างที่คณ ุ หลวงก�ำลัง ท�ำอยูอ่ ย่างเดี๋ยวนี ้…” สาวหลงยุค  41


สิ ้นประโยคสุดท้ าย  พลอยบุษย์ได้ ยินเสียงผู้หญิงคนนันร้ ้ อง หวีดขึ ้นมาอีกครัง้ ด้ วยความตกใจ  พร้ อมกันนัน ้ พื ้นไม้ ห้องนอนของ ยายก็สนั่ ไหว  เหมือนใครบางคนที่ยืนอยูถ่ กู ใครอีกคนหนึง่ เหวี่ยงจน ถลาข้ ามห้ องมา แม่บุษย์คงจะถูกคุณหลวงเหวี่ยงเอาจริ งๆ เสียด้ วย  เพราะ นอกจากพืน้ ห้ องจะไหวแล้ ว  ร่ างของหญิ งสาวคนนัน้ ยังเซมาจน กระทั่งชนเข้ ากับโต๊ ะที่พลอยบุษย์ ก�ำลังฟุบหลับอยู่เสียงดังโครม ใหญ่  โต๊ ะตัวหนาหนักขนาดนันถึ ้ งกับสัน่ สะเทือนจนหล่อนรู้สกึ ได้ หญิงสาวสะดุ้งจนสุดตัว  และลุกพรวดขึ ้นมาจากท่าที่ก�ำลัง ฟุบหลับอยู ่ ด้ วยความตกใจเป็ นที่สดุ

42  ‘พงศกร’


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.