ทดลองอ่าน - คฤหาสน์ดำ - จินตวีร์ วิวัธน์

Page 1


คฤหาสน์ดำ�

คฤหาสน์ดำ�

1


คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์ คฤหาสน์ด�ำ เป็นนวนิยายในยุคต้นของจินตวีร์ วิวธั น์ เป็นนวนิยาย แนวโกธิคที่มีองค์ประกอบทุกอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของ คฤหาสน์หลังใหญ่ หอคอยที่ซุกซ่อนความลับอันดำ�มืดเอาไว้ ตัวเอกที่ ทุกคนล้วนแต่มีภูมิหลังที่ชวนให้เชื่อว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่ หายตัวไป ด้วยเหตุนี้ คฤหาสน์ด�ำ จึงเป็นนวนิยายเรือ่ งหนึง่ ทีผ่ อู้ า่ นติดใจ และ มีเสียงถามถึงมาโดยตลอด จนสำ�นักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ต้องลัดคิวนำ� มาให้ทา่ นได้อา่ นกันก่อนเรือ่ งอืน่ ๆ และเรามัน่ ใจว่าท่านจะเป็นอีกหนึง่ คน ที่ได้อ่านแล้วและจะเกิดอาการ ‘วางไม่ลง’ คฤหาสน์ดำ�เคยสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ทางช่อง ๙ อสมท. มีดารานำ�แสดงได้แก่ นาท ภูวนัย, ศันสนีย์ สมานวรวงศ์, ดวงใจ หทัยกาญจน์ และพิราวรรณ ประสบศาสตร์ ซึ่งเป็น

4

จินตวีร์ วิวัธน์


ดาราที่ดังมากในเวลานั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ละครประสบความสำ�เร็จ เป็นอย่างมาก และพาให้ชื่อเสียงของจินตวีร์ วิวัธน์ เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น บัดนี้ คฤหาสน์ดำ�พร้อมแล้วที่จะให้การต้อนรับท่านผู้อ่าน ขอเชิญ มาร่วมผจญภัยค้นหาปริศนาอันลับเร้นไปพร้อมกัน ณ บัดนี้...

ด้วยจิตคารวะ นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ บรรณาธิการที่ปรึกษา สำ�นักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ในเครือบริษัท กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง จำ�กัด

คฤหาสน์ดำ�

5


๑ “วี! เฮ้ ทางนี้ วี! แหม…เดินถนนไม่มองตาม้าตาเรือเลยนี่” เสียงใสๆ ร้องเรียกดังลั่นออกมาจากร้านอาหารริมถนน พร้อมกับ เจ้าของเสียงวิ่งเหยาะๆ ออกมาดึงแขนหญิงสาวร่างโปร่งที่เดินอยู่บน บาทวิถอี ย่างใจลอย วีรยา วัชรินทร์ หันไปมอง พอเห็นถนัด ดวงตาใหญ่เรียวยาวภาย ใต้แผงขนตางอนช้อยก็เบิกขึ้น อุทานออกมาเบาๆ “ต๊าย แป๋วหรือนี่?” “ก็เราน่ะซียะ ตัวคิดว่าเป็นใครเหรอ?...มาเดินโต๋เต๋ท�ำอะไรอยูแ่ ถว นี้ ท่าทางยังกะคนใจลอย” วีรยายิ้ม ริมฝีปากสีสดตามธรรมชาติได้รูปงามรับกับฟันซี่เล็กๆ เรียบขาวเป็นเงาน่าดู ยังไม่ทันเอ่ยตอบเจ้าของชื่อเล่น ‘แป๋ว’ ก็พูดต่อไป เร็วปรื๋อ “นี่ อย่ามัวยืนท�ำหน้างงอยูเ่ ลย เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ พรรคพวก เราอยู่กันครบเซตทั้งหมด ดีใจเป็นบ้าที่เจอตัวเข้าโดยบังเอิญ” เจ้าหล่อนฉุดแขนเพื่อนสาวลากลู่ถูกังเข้าไปในร้านอาหารแห่งนั้น วีรยาเดินตามพลางอุทธรณ์ “ไม่ต้องลากก็ได้น่า ตัวท�ำยังกะกลัวเราจะวิ่งหนีง้นั แหละ” “ไม่ได้ ก็แม่เจ้าประคุณชอบหลบหน้าหลบตาดีนัก หายไปไหนยะ คฤหาสน์ดำ�

7


ตั้งสามสี่เดือนไม่เห็นหน้าค่าตา เราลงทุนไปหาถึงบ้านตั้งหลายหนรู้มั้ย คุณอาดุสิตของตัวบอกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าตัวไปอยู่ซะที่ไหน” แป๋วหรือปรารถนาพูดแจ้วๆ โดยไม่ทนั สังเกตสีหน้าเพือ่ นเกลอ พอดี ทั้งคู่เดินมาถึงโต๊ะที่มีสาววัยรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่สองคน เสียง ทักทายขรมดังขึน้ เซ็งแซ่ จนคนทีน่ งั่ โต๊ะใกล้เคียงมองมาเป็นตาเดียว แล้ว ก็อดอมยิม้ ขันท่าทางของเด็กสาวๆ ผูเ้ สมือนอยูใ่ นวัยดอกไม้แรกบานเหล่า นั้นมิได้ “ไอ้วี! เอ้อเฮอ ลมอะไรหอบมาแถวนี้นะ ไม่ได้พบปะเจอะเจอเลย ตั้งโกฏิปี” เสียงทักถามส่วนใหญ่มใี จความคล้ายอย่างนี้ วีรยานั่งลงข้างเพื่อนสาวคนหนึ่ง สีหน้าแดงเรื่อด้วยความปีตยิ ินดี ตอบค�ำถามของทุกคนรวมกัน “ก็พวกตัวจะเจอเราได้ยังไงล่ะ ออกไปอยู่บ้านนอกตั้ง ๔ เดือน นี่นา” สาเหตุส�ำคัญในการเลิกเรียนของหล่อนก็คือ มารดาผู้ส่งเสียให้ เรียนหนังสือได้ถงึ แก่กรรมลง บิดาเลีย้ งของหล่อนซึง่ มีท่าทางไม่ซอื่ ต่อลูก เลีย้ งสาวสวยมาตัง้ แต่มารดาของวีรยายังป่วยอยู่ ก็เริม่ แสดงท่าทีโจ่งแจ้ง ขึ้น วีรยาพยายามหางานพิเศษท�ำเพื่อช่วยตัวเองเรียนหนังสือให้จบ แต่ รายได้พิเศษนั้นน้อยนิด จนหญิงสาวไม่อาจปลีกตัวออกไปจากบ้านได้ นายดุสิตพ่อเลี้ยงถือโอกาสนี้พยายามจะรวบหัวรวบหางหล่อน วีรยาคิด ว่าขืนทนอยู่บ้านเดียวกับเขาต่อไป หล่อนอาจเพลี่ยงพล�้ำเสียที และเมื่อ นัน้ คงต้องกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายแน่ๆ จึงออกจากบ้านร่อนเร่ไปอาศัย อยู่กับญาติห่างๆ เท่าที่พอมีอยู่ ซึ่งล้วนแต่มที ่าทางไม่สู้พอใจนัก ในที่สุด หล่อนก็ตัดสินใจเด็ดขาดลาออกจากวิทยาลัย แล้วเนรเทศตนเองไปอยู่ ต่างจังหวัดท�ำงานบ้าน ช่วยเหลือป้าห่างๆ ซึ่งท�ำไร่อยู่ที่น่นั แต่ดูเหมือน เคราะห์ร้ายจะตามรังแกวีรยาไม่มีท่สี ิ้นสุด บุตรชายของป้าซึ่งอายุรุ่นราว คราวเดียวกัน มีทา่ ทางมาชอบพอหล่อนเข้าอีก ซึง่ ท�ำให้ปา้ ของหล่อนเป็น 8

จินตวีร์ วิวัธน์


เดือดเป็นแค้น ไม่ตอ้ งการได้สะใภ้ทมี่ แี ต่ตวั และความรูค้ รึง่ ๆ กลางๆ อย่าง หล่อน “ตอนนี้ตัวมาเที่ยวกรุงเทพชั่วคราวหรือไง?” สุธาวรรณถามอย่าง สนใจ วีรยาสั่นหน้า ตอบเสียงแผ่ว “เปล่าหรอก มาอยู่เลยน่ะ” “งั้นก้อดี ตัวอยู่ที่ไหน เราจะได้ไปหาบ่อยๆ” “เช่าหอพักอยู่กับเพื่อน เราว่าจะหางานท�ำที่กรุงเทพนี่แหละ ถ้า พวกตัวรู้ข่าวว่ามีใครต้องการรับสมัครคนงานบ้างละก็บอกด้วยนะ เราไม่ เกี่ยงเลย ท�ำได้ทั้งนั้น ซักผ้า ถูบ้าน เลี้ยงเด็กก็ท�ำได้” “โถ...” ฤดีมนคราง เจ้าหล่อนผู้นี้ใจอ่อนที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งหมดของ วีรยา แววตาที่มองดูเพื่อนสาวเคราะห์ร้าย จึงเศร้าพอๆ กับตัวเจ้าของ ปัญหาเสียเอง “...อย่าท�ำเลย งานอย่างนัน้ หนักเกินไปส�ำหรับตัว เอาเถอะใจเย็นๆ สักนิด เราจะบอกเพื่อนของพ่อให้ช่วยฝากเข้าท�ำในโรงงานให้” “ขอบใจมาก ถ้าได้ก้อดีน่ะซี” สีหน้าของวีรยาสดใสขึ้น บิดาของฤดีมนมีเพื่อนฝูงมาก รวมทั้งผู้ จัดการฝ่ายบุคคลในโรงงานใหญ่ๆ หลายแห่งก็ล้วนสนิทสนมกับเขาด้วย มีโอกาสที่จะฝากงานให้หล่อนได้มากทีเดียว “ไม่ รู ้ ว ่ า ตอนนี้ ต�ำแหน่ ง เต็ ม หมดแล้ ว หรื อ ยั ง นะ แต่ จ ะให้ พ ่ อ พยายามพูดกับเพือ่ นๆ ให้ เมือ่ ออกจากคณะใหม่ๆ ตัวไม่มาหาเรานี่ ม่าย งั้นคงช่วยหางานให้ได้ต้งั แต่ตอนนั้นแล้วละ” ฤดีมนพูดเหมือนต่อว่า “ก็ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าเราก�ำลังว้าวุ่นเต็มทีมน แล้วก็อยากหนี หน้าใครต่อใครไปให้ไกลทีส่ ุด ก็เลยตัดสินใจเตลิดออกบ้านนอก” รถยนต์คนั หนึง่ แล่นมาจอดหน้าร้าน ปรารถนาชะเง้อคอยืดคอยาว คฤหาสน์ดำ�

9


มองดู ครั้นเห็นบุรุษที่ก้าวลงมาจากรถ ก็ถอนใจบ่นเบาๆ “ว้า ไม่ยกั กะใช่ ขี่รถเหมือนกันเปี๊ยบ” “ตัวคอยใครอยู่เรอะ?” วีรยาถามพลางขยับตัว แต่ปรารถนารีบกดขาไว้โดยเร็ว “จะลุกไปไหนอีกล่ะ นัง่ ด้วยกันนีแ่ หละ วันนีห้ า้ มหนีไปไหนนะ พบ ตัวแล้วต้องฉุดเอาไว้ทงั้ วัน...เราก�ำลังคอยญาตินะ่ วี ตัวคงชอบใจถ้าได้รจู้ กั เขา เคยได้ยนิ ชื่อไหม พระลบ หฤทยา นั่นไง” วีรยาส่ายหน้า “ไม่เคย เป็นใครกันนะ” ปรารถนาจุปาก “ไปอยู่บ้านนอกแค่ ๔ เดือน เชยแล้วไหมล่ะ ตัวไม่รู้จริงๆ หรือว่า พระลบ หฤทยา เป็นชื่อจริงของนักประพันธ์ที่ใช้นามปากกาว่า ‘เทพ สหัทยา’ ไงเล่า” คราวนี้วรี ยาเบิกตากว้าง “งัน้ เหรอ? เราเพิง่ รู้…ตาย เราเป็นแฟนหนังสือของเขาด้วยนะ เทพ สหัทยา เขียนเรือ่ งลึกลับตืน่ เต้นได้เยีย่ มยังกะอัลเฟรด ฮิทช์คอ็ ก เมืองไทย งั้นแหละ” ปรารถนายิ้มภาคภูมิ “นึกแล้วว่านักอ่านที่คิดจะเป็นนักเขียนด้วยอย่างตัวต้องรู้จัก นามปากกานี้ ที่จริงเขาใช้นามปากกาอื่นๆ อีกเยอะแยะจนเราขี้เกียจจ�ำ เพราะไม่ใช่นกั อ่าน พี่ลบเป็นญาติห่างๆ ของเราเองมีศักดิ์เป็นพี่ เราเรียก เขาพี่ลบๆ ทุกค�ำ วันนี้เขาจะเข้ากรุงเทพเลยนัดให้พวกเรามาล้มทับที่นี่” “ดูไอ้แป๋วซี...” สุธาวรรณค้อนเพื่อนมาจากที่นั่งตรงข้าม “...นักเขียนใหญ่จะให้ล้มทับทัง้ ที ดันมาเลือกร้านเล็กๆ ยังงี้ น่าจะ นัดไปที่เหลาใหญ่ๆ หรือคลับที่มีอาหารกลางวันมากกว่า จะได้กินข้าว เคล้าเพลงให้เอร็ด เซ่อชะมัดเลยตัวนี่!” 10

จินตวีร์ วิวัธน์


ปรารถนาค้อนตอบบ้าง “ตัวน่ะซีเซ่อ แถวนี้เป็นศูนย์การค้าใหญ่ไม่ใช่เหรอ กินข้าวร้านนี้ แล้ว เราจะชวนพี่ลบเข้าร้านขายเสื้อส�ำเร็จรูปให้พี่แกจ่ายให้เราสัก ๒-๓ ชุด ไม่รู้จกั กโลบายเลียดก๊กซะแล้ว” พรรคพวกถึงบางอ้อไปตามๆ กัน และคุยต่อจ้อกแจ้กจอแจอย่าง ไม่สนอกสนใจสิ่งอื่น แม้กระทั่งเมื่อรถเก๋งขนาดใหญ่คนั หนึ่งแล่นมาจอด หน้าร้านแล้ว ปรารถนาซึง่ คอยชะเง้อชะแง้มองก็ยงั มัวคุยติดลมเสียจนลืม ดู จนกระทั่งชายผู้หนึ่งลงจากรถเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะ นั่นเอง หล่อนจึงเหลือบตาขึ้นมอง และร้องอุทานออกมาดังลั่น “ต๊าย พี่ลบมา!” “มาตั้งนานแล้วละ ยายแป๋ว ยืนรอว่าเมื่อไรจะฝอยจบ จนเมื่อย ขาหมดแล้วถึงได้เดินเข้ามาขัดคอ” เสียงของบุรษุ ผู้นนั้ ทุ้มไพเราะน่าฟัง เขามองกวาดดูเด็กสาวทุกคน ทีร่ จู้ กั หน้ามาก่อน แล้วรับความเคารพของพวกเจ้าหล่อนแล้วยิม้ อย่างใจดี ครั้นสายตามองไปจนถึงสาวน้อยคนสุดท้ายที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างสุธาวรรณ คิ้วดกด�ำของเขาก็เลิกขึ้นนิดๆ อย่างสงสัย “เพื่อนของแป๋วคนนี้พี่ลบยังไม่เคยรู้จกั ค่ะ...” ปรารถนารีบแนะน�ำขึ้น “เขาชื่อวีรยา เคยเป็นดาวเด่นของคณะเชียวนะคะ แต่ไปอยู่ต่าง จังหวัดชั่วระยะหนึ่ง เดี๋ยวนี้กลับมากรุงเทพแล้ว” “อ้อ...” เขาพึมพ�ำ พนมมือรับไหว้ของวีรยา แล้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ บริกรยกมาเพิ่มให้ “กินอะไรกันบ้างหรือยังยายแป๋ว ขอโทษหน่อยที่พี่มาช้า เจ้าของ ส�ำนักพิมพ์มวั แต่คุยอยู่น่นั แล้วไม่ยอมจบ” “พี่ลบมาขายเรื่องใหม่หรือคะ?” คฤหาสน์ดำ�

11


สุธาวรรณถามอย่างสนิทสนม “เปล่าหรอก เจ้าของส�ำนักพิมพ์เขาชวนพีอ่ อกหนังสือใหม่นะ่ ก�ำลัง คิดอยู่ว่าจะร่วมมือด้วยดีหรือไม่” “ดีซีคะ พี่ลบ” ปรารถนาสนับสนุนมาทันที “เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โก้ดอี อก เผือ่ ยังไงๆ วีเขาจะได้เขียน เรือ่ งไปลงบ้างไงคะ เขาเป็นนักเขียนสมัครเล่นสมัยเรียนอยู่ทคี่ ณะน่ะค่ะ” “อ้อ...” ชายหนุ่มอุทานเป็นครั้งที่สอง หันไปมองสาวน้อยผู้นั้นตรงๆ แวว ทึ่งในดวงตาของเขา ท�ำให้วีรยารู้สกึ เขินจนต้องหลบตา “คุณชอบเขียนหนังสือเหมือนกันหรือ เขียนเรื่องสั้นหรือเรื่องยาว ล่ะครับ?” “เคยเขียนเรื่องสั้นเล่นๆ ๒-๓ เรื่องเท่านั้นค่ะ” วีรยาตอบเสียงแผ่ว “เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เขียนอีกแล้ว” “ท�ำไมเลิกเสียล่ะครับ ถ้าไม่กลัวค�ำว่านักประพันธ์ไส้แห้งก็น่าจะ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ” นักประพันธ์ใหญ่พูดเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง พอดีบริกรเดินเข้ามารอ รับค�ำสั่ง เขาจึงหันไปสนใจกับเมนูตรงหน้า วีรยาลอบพิจารณาบุรุษเจ้าของนามปากกาที่หล่อนชอบใจ แล้วก็ อดทึ่งแกมขันไม่ได้...หล่อนวาดภาพ ‘เทพ สหัทยา’ ไว้ในใจผิดพลาดไป ถนัดทีเดียว… หญิงสาวเคยเข้าใจว่า นักเขียนผู้เขียนเรื่องลึกลับเขย่าขวัญนั้น คงจะมีอายุมากกว่านี้ อาจจะเข้าวัยกลางคนหรือเกือบชรา หน้าตาถ้าไม่ ย่นยูเ่ พราะใช้ความคิดหนักก็คงจะเคร่งเครียดน่าเกรงขาม นัยน์ตาคมกริบ มองทุกสิ่งอย่างสังเกตสังกาถี่ถ้วน การแต่งเนื้อแต่งตัวคงไม่พิถีพิถันนัก และอาจจะมีกลิ่นเหล้าฟุ้งติดตัวอยู่ด้วยซ�้ำไป 12 จินตวีร์ วิวัธน์


ภาพพจน์ของหล่อนตรงข้ามกับบุรษุ ทีน่ ง่ั อยูเ่ บือ้ งหน้า ณ บัดนี้ ราว หน้ามือกับหลังมือ ชายผู้นี้มีอายุไม่เกิน ๓๖ ปี ใบหน้ารูปรีค่อนข้างยาวของเขา ไม่ปรากฏริ้วรอยของอายุให้เห็นเลย นอกจากนั้นริมฝีปากได้รูปงามบาง เฉียบกับดวงตาเชื่อม ภายใต้คิ้วด�ำยาวโค้งจรดหางตา และจมูกเป็นสัน ตรง รวมกันเข้าท�ำให้เขาเป็นบุรษุ หน้าตาดีมากทีเดียว รูปร่างออกจะโปร่ง บางไปหน่อยจนเกือบผอม แต่ก็ไม่น่าเกลียด ผิวสองสีค่อนไปทางน�้ำตาล แดง ท�ำให้วรี ยาแอบนึกในใจอย่างฝันๆ ‘ทอลส์ ดาร์ค แอนด์ แฮนด์ซ่มั อย่างนี้ไม่น่าเป็นนักเขียนเรื่องน่า กลัวเลย น่าจะเป็นพระเอกทีวีมากกว่า’ เพราะมัวแต่มองและคิดเพลิน เมือ่ ชายหนุม่ เหลือบตามาทางหล่อน วีรยาจึงหลบไม่ทัน ตาต่อตาประสานกันอย่างจัง หญิงสาวรู้สกึ หน้าร้อน ผ่าว ฝืนยิ้มอายๆ พร้อมกับก้มหลบตาลงต�่ำอย่างขวยเขิน มุมปากของนักเขียนหนุม่ กระตุกออกน้อยๆ เป็นรอยยิม้ อย่างเอ็นดู แต่ไม่พูดกระไร ยื่นเมนูให้ปรารถนาแล้วบอกเสียงแจ่มใส “เลือกสั่งอาหารเอาตามใจเถอะแป๋ว สั่งเผื่อพี่สักอย่างก็พอ วันนี้ รู้สึกตื้อๆ ไม่หวิ เลย” บุคคลทั้งหมดนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน และคุยไปพลางอย่าง ออกรส ส่วนใหญ่บุรุษผู้เดียวในกลุ่มเพียงแต่ฟังและยิ้มแล้วตอบค�ำถาม เสียงแจ๋วๆ ที่จ้อกแจ้กอยู่รอบตัวอย่างอารมณ์ดี เมื่อรับประทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรารถนาท�ำตามความตั้งใจ เดิม คือออกปากชวนชายหนุ่มให้ไปเดินดูร้านจ�ำหน่ายเสือ้ ส�ำเร็จรูปใกล้ๆ กันนั้น ถึงตอนนี้ วีรยาขยับตัว เอ่ยขึ้นเบาๆ “เราต้องขอตัวทีนะแป๋ว จะต้องรีบกลับไปซักผ้า” “ว้า ไม่เดินดูเสื้อกะเราเรอะ?” ปรารถนาร้อง ยื่นมือไปดึงแขนเพื่อนสาวไว้ อีกฝ่ายสั่นศีรษะ ยิ้มอ่อนโยน คฤหาสน์ดำ�

13


“ม่ายละ วันหน้ายังมีเวลาอีกมากที่จะเที่ยวด้วยกันกับตัว วันนี้ ขอตัวก่อนเถอะแป๋ว งานบ้านเรามีเยอะ วันนี้ตั้งใจแวบออกมาสมัครงาน แถวๆ นี้สักชั่วโมง พอเจอพวกตัวเราก็ดีใจจนลืมนึกถึงงานบ้านสนิท” “งานอะไรนักหนานะ” สุธาวรรณบ่น แล้วหันไปทางญาติหนุ่มของเพื่อน “ในบรรดาพวกเรานี่ วีเขาขยันกว่าเพือ่ นค่ะพีล่ บ ตอนเรียนหนังสือ ก็ขยันท่องต�ำรา พอไม่เรียนแล้วก็ขยันท�ำงานบ้านอีก” “อ้อ คุณวีรยาไม่ได้เรียนหนังสือกับแป๋วหรอกหรือครับ?” นักเขียนใหญ่ถาม มีแววแปลกใจเล็กน้อยในดวงตาเชือ่ มเศร้าทัง้ คู่ ปรารถนายื่นมือลอดใต้โต๊ะไปหยิกขาสุธาวรรณดังหนับฐานปาก โป้ง แล้วจึงบอกญาติหนุ่มตามตรง “วีเขามีเรือ่ งจ�ำเป็นต้องลาออกเมือ่ ปีทแี่ ล้วค่ะพีล่ บ ตอนนีก้ �ำลังหา งานท�ำ พีล่ บมีงานอะไรให้อดีตนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปี ๒ ท�ำบ้างไหม คะ?” ค�ำถามเล่นๆ ของปรารถนาได้รบั ผลเกินคาด ชายหนุ่มเหลือบมอง วีรยา แววอย่างหนึง่ ผ่านแวบไปในดวงตาอ่อนเชือ่ มของเขา วีรยาอ่านออก ว่าคล้ายๆ แววสมหวัง แต่หล่อนก็ไม่แน่ใจ หากเสียงทีเ่ ขาพูดราบเรียบดุจ เดิม “มีซี่ แป๋ว ถ้าคุณวีรยาพิมพ์ดดี เป็นและพอจะโต้ตอบจดหมายได้ บ้างละก็ พี่ก�ำลังมองหาเลขานุการส่วนตัวอยู่เหมือนกัน” “อุ๊ย เรื่องขี้ผงค่ะ พี่ลบ” ปรารถนาร้องดัง สีหน้าตื่นเต้น “เรื่องพิมพ์ดีด วีเขาคล่องเปรี๊ยะ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ส่วน โต้ตอบจดหมายก็สบายมาก เรียนมาแล้วทั้งนั้น...พี่ลบจะให้ท�ำที่ไหนล่ะ คะ?” “ถ้าคุณวีรยาไม่รังเกียจหอหฤทยาของพี่ งานก็รออยู่ที่นั่นแหละ และด่วนด้วย!” 14

จินตวีร์ วิวัธน์


“หอหฤทยา!” สองสามเสียงอุทานขึ้นพร้อมๆ กัน วีรยามองดูเพื่อนของหล่อน อย่างฉงน และยิง่ ประหลาดใจมากขึน้ เมือ่ เห็นแววพรัน่ พรึงปรากฏบนดวง หน้าอ่อนเยาว์เหล่านั้นโดยทั่วกัน “หอหฤทยาหรือคะ?” ปรารถนาพึมพ�ำ หลุบตาลงต�่ำ สีหน้าชักไม่สู้ดี “จ�ำเป็นต้องให้วไี ปท�ำที่นั่นด้วยหรือคะ พี่ลบ?” พระลบ หฤทยา หัวเราะเบาๆ “อ้าว ก็พอี่ ยูท่ นี่ นั่ ยายแป๋ว ถ้าจะท�ำงานให้พกี่ ต็ อ้ งไปอยูท่ หี่ อหฤทยาด้วยกันน่ะซี” “งานอะไรนะคะ?” วีรยาถามซ�้ำขลาดๆ หล่อนไม่กล้าเรียกชื่อเขา เพราะไม่แน่ใจว่า สมควรจะใช้ค�ำน�ำหน้าว่า ‘พี่’ อย่างเพื่อนๆ หรือ ‘คุณ’ ซึ่งฟังดูห่างเหิน กันแน่ “เลขานุการส่วนตัวของผมไงครับ คุณวีรยา...ถ้าไม่รงั เกียจ...” เป็นค�ำตอบเรียบๆ แต่จริงจัง พร้อมกันนั้นดวงตาของผู้พูดก็มองดู หล่อนอย่างเพ่งพิศ “ผมดูท่าทางคุณแล้ว รู้สึกว่าคงใจเย็นพอจะท�ำงานด้วยกันได้ ผม มองหาเลขานุการมาช่วยพิมพ์เรือ่ ง โต้ตอบจดหมายและอืน่ ๆ มานานแล้ว แต่พอไปเห็นหอหฤทยาเข้า ว่าที่เลขาของผมก็บอกศาลาเปิดแน่บกันทุก คน” “ท�ำไมคะ?” หญิงสาวซักทันที อีกฝ่ายอมยิ้ม มองไปทางปรารถนาก่อนตอบ “ถามยายแป๋วซีครับ ว่าท�ำไม...ยายแป๋วช่างตัง้ ชือ่ เก่ง เขาเรียกบ้าน ของผมว่า ปราสาทสยองขวัญครับ!” “ก็จริงๆ นี่คะ...” เพื่อนสาวของวีรยาท�ำไหล่ห่อ สีหน้าหวาดหวั่นโดยไม่เสแสร้ง คฤหาสน์ดำ�

15


“หอหฤทยาของพี่ลบน่ะ น่าจะชื่อปราสาทสยองขวัญมากกว่า... จริงๆ นะคะ น่ากลัวยังกะปราสาทผีสิง ขอโทษที่ต้องวิจารณ์ตรงๆ ว่ายัง งี้ แต่มันก็เป็นความจริงหรือพี่ลบจะเถียง?”

16

จินตวีร์ วิวัธน์


๒ พระลบ หฤทยา ยิ้มเล็กน้อย “พี่ไม่เถียงหรอก ยายแป๋ว ตามสายตาคนนอกคงจะเห็นอย่างนั้น จริงๆ แต่พี่อยู่มาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเลยรู้สกึ เฉยๆ ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน” ปรารถนาขยับปากจะพูดอีก แต่สุธาวรรณไวกว่า หันไปอธิบายให้ วีรยาซึ่งนั่งหน้าเหลอให้เข้าใจ “บ้านของพี่ลบน่ะ ควรเรียกว่าปราสาทหรือป้อมมากกว่า วี เป็น คฤหาสน์เก่าแก่โบราณตั้งแต่ต้นตระกูลหฤทยาทีเดียว คนที่กลัวผีมักอยู่ ไม่ได้นาน” “แต่เราไม่ใช่คนกลัวผี” วีรยาแย้งอ่อยๆ มองไปทางชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่ก�ำลังกล่าวถึง เขายิ้มให้หล่อนอย่างแจ่มใส ตอบมาทันที “ดีแล้วครับ ผีสางเป็นเรื่องเหลวไหล มันมีอยู่เฉพาะในความคิด ของคนเราเองไม่มตี วั ตนหรอก คุณวีรยาอย่าเอาอย่างยายแป๋วเลย ขานัน้ กลัวผีขึ้นสมอง” ปรารถนาค้อนญาติหนุ่มของหล่อนขวับใหญ่ “ไม่ตอ้ งมาสังกะเสินแป๋วยังงัน้ หรอก พีล่ บ ก็บา้ นพีล่ บชวนให้นกึ ถึง ผีน้อยอยู่เมื่อไรล่ะ แล้วก็เรื่องอื่นๆ ที่...” คฤหาสน์ดำ�

17


“แป๋ว” พระลบเรียก เสียงของเขาราบเรียบเหมือนสีหน้าก็จริง แต่กระแส บางอย่างในนัน้ ท�ำให้ปรารถนาชะงักค�ำพูดทันที หล่อนยักไหล่ แบมือ และ พูดห้วนๆ “ตามใจพี่ลบเถอะ...ถ้าได้วีเป็นเลขานุการ ก็นับว่าพี่ลบโชคดีเต็ม ที่ วีเขาพิมพ์ดดี เก่ง ท�ำงานคล่อง แล้วก็ขยันไม่อยูน่ งิ่ คงช่วยพีล่ บได้มาก” “คุณวีรยาว่ายังไงครับ ตกลงไปท�ำงานกับผมไหม?” หญิงสาวขยับตัว หลบตาผู้ถามลงมองมือของตนเองที่บีบกันอยู่ บนตักอย่างว้าวุ่นใจ พระลบมองกิริยานั้นอย่างเอ็นดู แล้วบอกอีก “อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย คุณวีรยา ผมชอบพูดตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ผมจะให้เงินเดือนคุณในอัตราเริ่มต้นเดือนละสองพันห้าร้อย บาท ในหน้าทีเ่ ลขานุการิณแี ละนางแบบกิตติมศักดิใ์ ห้ผมถ่ายรูปเป็นครัง้ คราว” “อุ๊ย! เป็นนางแบบถ่ายรูปด้วยหรือคะ?” ฤดีมนถาม ท�ำท่าตื่นเต้น “เหมาะดีจริง พี่ลบตาแหลมนะคะ วีน่ะนอกจากสวยแล้วยังถ่าย รูปขึ้นด้วย หน้าเขามีชีคโบนหน่อยๆ รับกับสันจมูก ใครๆ ก็พูดทุกคนว่า ถ้าประกวดนางงามต้องได้เป็นมิสโฟโตเจนิคแน่ๆ...ว่าไงวี งานทีพ่ ลี่ บเสนอ นี่ไม่เลวเลยนะ” “เอ้อ...” วีรยาตะกุกตะกักออกมาได้เพียงนั้น แล้วมองหน้าเพื่อนๆ อีกสอง คนอย่างขอความเห็น สุธาวรรณจึงพูดขึ้น “ไม่เลวนี่ วี นับว่าพี่ลบให้เงินเดือนตัวอย่างงามทีเดียว ถ้าไม่ รังเกียจบ้านเก่า ก็น่าจะลองไปท�ำดูก่อนแล้วถ้าคิดจะเปลี่ยนงานทีหลัง ค่อยขอแรงไอ้มนช่วยหาให้กไ็ ด้” “อ้าว ยังไม่ทนั ไร สุธาวรรณคิดจะให้คณ ุ วีรยาเปลี่ยนงานเสียแล้ว หรือ?” 18

จินตวีร์ วิวัธน์


พระลบแกล้งร้อง ท�ำหน้าเลิ่กลั่ก ท�ำให้สาวน้อยทุกคนหัวเราะ วีรยาจึงได้ความรู้อกี อย่างหนึ่งว่า ชายหนุ่มนักเขียนใหญ่ผู้น้มี ีอารมณ์ขัน แฝงอยู่ลึกซึ้ง ภายใต้สีหน้าสงบจนออกจะดูเศร้าของเขา “ขอให้วตี ัดสินใจสักวันสองวันได้ไหมคะ?” ในที่สุด หญิงสาวก็กล่าวอย่างไว้เชิง “ไม่ใช่กลัวบ้านเก่าหรอกค่ะ บ้านอะไรวีก็อยู่ได้ทั้งนั้น แต่ขอเวลา คิดดูให้แน่ใจก่อนว่า วีพอจะท�ำงานเลขานุการได้แค่ไหนเท่านั้น” “วุ้ย! ขี้ผง” สุธาวรรณร้องลั่น “กะอีงานโต้ตอบจดหมายนิดๆ หน่อยๆ ท�ำนัดแล้วก็พมิ พ์ดดี ก็อกๆ แก็กๆ ท�ำไมจะท�ำไม่ได้นะ ไอ้วี อย่าเกรงใจพีล่ บเลยน่า โอเคซิกาแร็ตเถอะ แล้วพวกเราจะถือโอกาสไปเยี่ยมตัวที่ซิมบาบวีของพี่ลบบ่อยๆ” พระลบได้ยินประโยคท้ายของสาวน้อยผู้น้นั ก็หัวเราะก๊ากใหญ่ “โอ้โฮ สุตงั้ ให้หอหฤทยาของผมเป็นซิมบาบวีไปเชียวหรือ? ขอบคุณ ที่ให้เกียรติถึงขั้นนั้น” “ซิมบาบวีคืออะไรคะพี่ลบ?” ปรารถนาถามเสียงอ่อย นึกอายเพื่อนเหมือนกันที่ไม่เคยได้ยินชื่อ นั้นมาก่อน แต่ความอยากรู้มมี ากกว่าความกลัวเสียหน้า จึงกล้าถามขึ้น “คือซากโบราณสถานประหลาด อยู่ในประเทศโรดีเซียไงเล่า ยาย แป๋ว มีชอื่ เสียงดังก้องโลก เพราะเคยมีคนเชือ่ ว่าเป็นเมืองทองสมัยพระเจ้า โซโลมอนกับพระนางชีบาทีเดียว...ที่จริงสุเก่งมากที่ยกให้หอหฤทยาเป็น ซิมบาบวี เพราะหอของผมมีลักษณะเป็นรูปกรวยสูงสอบขึ้นไปคล้ายๆ กัน” “แล้วก็ไม่มปี ระตูหน้าต่างทางเข้า เหมือนหอซิมบาบวีจริงๆ ด้วย หรือเปล่าคะ?” วีรยานึกสนุกพอที่จะถามขึ้นเบาๆ พระลบหัวเราะ คฤหาสน์ดำ�

19


“ไม่ถึงยังงั้นหรอกครับ คุณวีรยา ความประหลาดของซากโบราณ สถานซิมบาบวีอยูต่ รงทีไ่ ม่มที างเข้านีแ่ หละ หอหฤทยายังไม่ประหลาดถึง ขนาดนั้น เพราะมีประตูหน้าต่างเยอะแยะ...ว่าไงครับ ตกลงจะให้ผมรับ ค�ำตอบของคุณวีรยาได้เมื่อไหร่?” “วีเขาจะติดต่อพี่ลบได้ที่ไหนล่ะคะ หรือจะให้ผ่านทางแป๋ว?” ปรารถนาชิงถามขึ้น “วันมะรืนพีจ่ ะมากรุงเทพอีก ถ้าคุณวีรยาตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ก็ โทรบอกแป๋วไว้กไ็ ด้ พี่จะแวะไปหาแป๋วที่บ้านตอนบ่ายๆ” “เอายังงี้ดีกว่าค่ะ” สาวน้อยผู้ตาแป๋วสมชือ่ กล่าวอย่างตรึกตรอง “วีเขาไม่มีญาติมิตรที่ไหนอีกแล้ว เวลานี้ก็อยู่หอพักกับเพื่อน ถ้า ตกลงใจจะไปท�ำงานให้พลี่ บจริงละก็ วันมะรืนให้แพ็กของมารอทีบ่ า้ นแป๋ว พี่ลบจะได้รบั ไปเสียในวันนั้น แต่ถ้าโนเคก็แค่โทรบอกแป๋วก็พอ ดีไหมคะ พี่ลบ? ...เอายังงี้ไหมวี?” พระลบผงกศีรษะ มองดูญาติผู้น้อยของเขาอย่างชมเชย “ดีจริง ยายแป๋ว หัวแหลมดีมาก...ตกลงตามนี้ไหมครับ คุณวีรยา ถ้าต้องการไปท�ำงานให้ผมก็เตรียมข้าวของมารอที่บ้านแป๋วได้เลย ผมจะ ไปที่นั่นราวบ่ายสี่โมงของวันมะรืนครับ” “ค่ะ ดีเหมือนกัน” วีรยาตอบเสียงแผ่ว การสนทนาสิ้นสุดลง เมื่อพระลบเรียกบริกรมาเก็บเงิน หลังจาก นัน้ วีรยาก็ขอตัวจากเพือ่ นๆ แยกกลับบ้าน หล่อนปฏิเสธอย่างสุภาพ เมือ่ พระลบรับอาสาขับรถไปส่งถึงป้ายรถเมล์ เพื่อนฝูงทุกคนไม่คัดค้านที่ หล่อนแยกไปตามล�ำพัง เพราะวันมะรืนนี้ก็จะได้พบกันอีก... วีรยา วัชรินทร์ กลับถึงหอพักสตรีที่หล่อนแบ่งเช่าอยู่กับ เพื่อนอย่างอิดโรย แต่ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในอารมณ์ วันนี้เป็นวัน 20 จินตวีร์ วิวัธน์


วิเศษทีส่ ดุ นับตัง้ แต่คณ ุ แม่เสียชีวติ เป็นต้นมา เพราะนอกจากจะได้พบปะ นักเขียนใหญ่ท่นี ิยมชมชอบแล้ว เขาผู้น้นั ยังให้ข้อเสนอวิเศษแก่หล่อนอีก ด้วย นั่นคือเสนอให้งานท�ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่วีรยาปรารถนาที่สุดในเวลานี้ หญิงสาวเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดเรียบๆ อันเป็นหนึ่งในจ�ำนวน ไม่กี่ชุดที่มีอยู่ออกผึ่งไว้บนราว แล้วนุ่งผ้าซิ่นเก่าเนื้อน่ายแทบปริ และเสื้อ ซึ่งมีสารรูปเก่าแก่พอๆ กัน หอบผ้ากองโตใส่กะละมังพลาสติกใบใหญ่ไป นั่งข้างก๊อกน�้ำและลงมือซักผ้าไปพลางครุ่นคิดไปพลาง หล่อนตกอับถึงขนาดรับจ้างซักเสื้อผ้าของบรรดาเพื่อนผู้อยู่ร่วม หอพักเดียวกัน! วีรยาเศร้าใจทุกครั้งที่คิดอย่างนี้ แต่ก็ปลอบใจตนเองว่า หล่อนท�ำ มาหากินอย่างสุจริต ดีกว่างอมืองอเท้ารอหางานที่เหมาะสมซึ่งไม่รู้ว่าจะ ได้เมื่อไร ที่จริงหญิงสาวไม่ตั้งใจจะรับจ้างเช่นนี้มาก่อน หากแต่เจ้าของ หอพักซึ่งเป็นสตรีวัยกลางคนค่อนข้างใจดี ออกจะเอ็นดูหล่อนเป็นพิเศษ เมือ่ เห็นวีรยาหน้าแห้งกลับมาจากหางานท�ำทุกวัน ก็อดถามไถ่ไม่ได้ ครัน้ รู้ความจริงเข้า นางก็ช่วยแนะน�ำ ‘ถ้าหนูไม่รงั เกียจว่าเป็นงานต�ำ่ ไปละก็ ท�ำไมไม่ลองช่วยพวกพีๆ่ ที่ หอนี่ซักรีดล่ะจ๊ะ พวกนี้เขาท�ำงานกันทั้งนั้น ไม่มีเวลาซักผ้าเอง เขาเคย บ่นๆ กับฉันเหมือนกัน ว่าอยากหาคนรับจ้างซักรีดสักคน ฉันก็ก�ำลังหา คนที่ไว้ใจได้อยู่นี่แหละ หนูยังไม่มีการไม่มีงานอยู่ว่างๆ จะท�ำงานนี้ไป พลางๆ ก็ได้นะ ถ้าคิดว่าท�ำไหว งานหนักมากหน่อยแต่รายได้ก็ไม่เลว หรอก ดีกว่าอยู่เปล่าๆ’ วีรยาตกลงทันที เพราะขณะที่เจ้าของหอพักแนะน�ำนั้น หล่อนมี เงินติดกระเป๋าทั้งเนื้อทั้งตัวเพียง ๕๐๐ บาท ซึ่งจะต้องเจียดใช้ไปให้นาน ที่สุด วีรยาเริ่มงานรับจ้างของหล่อนด้วยการถามไถ่สาวรุ่นพี่ที่ท�ำงาน แล้วว่า มีผ้ใู ดต้องการให้หล่อนซักรีดเสือ้ ผ้าให้บ้าง ราคาค่าแรงแล้วแต่จะ ให้ ปรากฏว่ามีสาวผู้ส�ำรวย ๓-๔ คนตกลงจ้างหล่อนทันที โดยให้ค่าจ้าง คฤหาสน์ดำ�

21


แตกต่างกัน คนไหนช่างแต่งตัวมีเสื้อผ้ามากก็ให้ราคาสูง คนไหนเสื้อผ้า น้อยราคาก็ลดหลั่นลงมา วีรยาจึงพอยังชีพของหล่อนไปได้ตลอดเวลาที่ ยังหางานไม่ได้ แม้ว่างานซักรีดผ้าอันมากมายทุกวันนั้นจะท�ำให้น�้ำหนัก ตัวของหล่อนลดฮวบฮาบลงอย่างน่าวิตกก็ตาม ไม่นกึ ไม่ฝนั เลยว่า โอกาสทีจ่ ะเลิกท�ำงานหนักเดินทางมาถึงรวดเร็ว อย่างไม่คาดฝันเช่นนี้ หอหฤทยา...จะเป็นอะไรก็ตาม วีรยาตัดสินใจเด็ดเดีย่ วตัง้ แต่ได้ยนิ ค�ำชวนครั้งแรกว่า หล่อนจะไปอยู่ท่นี ั่น! ชื่อของมันฟังแปลกหู...ตามปกติเจ้าของบ้านใหญ่ๆ มักเรียกชื่อ คฤหาสน์ของตนว่า บ้านนั่น เรือนนี่ ทั้งๆ ที่มนั ใหญ่โตกว่า ‘บ้าน’ และ ‘เรือน’ ทัว่ ไปมากมาย ทว่าบ้านของนักเขียนใหญ่คนนัน้ กลับตัง้ ชือ่ ว่า ‘หอ’ แทน จึงเป็นชื่อที่เรียกร้องความสนใจเสียตั้งแต่ยังไม่ทันเห็น “น่าจะเป็นปราสาทสยองขวัญมากกว่า” ปรารถนาเพื่อนผู้มีความปรารถนาดีต่อหล่อนวิจารณ์อย่างนั้น ‘เอาเถอะน่า ต่อให้เป็นปราสาทแดร็กคูล่า หรือหอคอยแฟรงเกนสไตน์เราก็จะไปอยู่ ขอให้หนีพ้นคนคนนั้นเป็นพอ...’ วีรยานึกต่อไป ริมฝีปากเม้มแน่นและดวงตามีแววแค้นเคืองเมื่อ หวนนึกถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เพิ่งพานพบมา เมื่อวานนี้เอง คนที่หล่อนต้องการหลบลี้หนีหน้าที่สุด เกิดมาพบ หน้ากันเข้าอย่างจัง นายดุสิต พ่อเลี้ยงที่คดิ ไม่ซื่อผู้ท�ำให้อนาคตการเรียนของวีรยาพัง ครืนลง คนนัน้ นัน่ เอง...เขาไม่ลดละความพยายามทีจ่ ะติดตามหาสาวน้อย คนงาม ที่คดิ ว่าเป็นลูกไก่ในก�ำมือ เมื่อลูกไก่บินปร๋อหนีไปต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหน นายดุสิตจึงเดือดดาลยิ่งนัก พบกันเข้าโดยบังเอิญเมือ่ วานนี้ เขาปรีเ่ ข้ามาทันที แต่วรี ยาซึง่ มอง เห็นเขาก่อนแล้วไม่ยอมเปิดโอกาสให้ หล่อนวิง่ ไปกระโดดขึน้ รถเมล์ทกี่ �ำลัง แล่นออกจากป้ายอย่างไม่กลัวตกมาคอหักตาย และสู้อุตส่าห์เปลี่ยนรถ 22 จินตวีร์ วิวัธน์


ถึง ๓-๔ ทอด เพื่อป้องกันการติดตามของนายดุสิต ซึ่งรู้ดวี ่าเขาต้องนั่งรถ รับจ้างติดตามรถเมล์คนั ทีห่ ล่อนขึน้ ไปนัน้ แน่นอน ผู้คนทีข่ วักไขว่จอแจใน เวลาเลิกงาน กับการจราจรที่ติดขัดมาก ท�ำให้วีรยาปะปนซอกซอนเข้า ตรอก เข้าซอย หลบหนีหวั ซุกหัวซุนรอดพ้นสายตาพ่อเลีย้ งไปได้ เมือ่ กลับ ถึงบ้าน หลังจากเปลี่ยนรถประจ�ำทางถึง ๔ สายนั้นก็เป็นเวลาเกือบ ๓ ทุ่ม เหน็ดเหนื่อยเมื่อยเพลียไปหมดทั้งกายใจและสมอง นายดุสิตรู้แล้วว่าหล่อนกลับมาอยู่กรุงเทพฯ วีรยาจะต้องหาทาง หนีเขาให้ได้ และก็เหมือนสวรรค์โปรด พระเจ้าส่ง พระลบ หฤทยา มาพบหล่อน เข้าพอดีในวันนี้... ‘แต่แน่ใจหรือว่าเราไว้ใจเขาได้?...เดี๋ยวจะกลายเป็นหนีเสือปะ จระเข้เข้าเท่านั้น’ ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในใจ วีรยาชะงักมือที่ขยี้ผ้าในอ่าง ขมวด คิ้วคิด ‘...แต่เขาเป็นญาติของแป๋ว ถ้าเป็นคนไม่ดี แป๋วคงไม่แนะน�ำ เพราะ เพื่อนคนนี้รักและหวังดีต่อเราอย่างจริงใจนี่นา’ วีรยาพยายามหาค�ำตอบให้ตนเองเพื่อความสบายใจ ถึงอย่างไรหล่อนก็จะเสี่ยง...ท่าทางของนักเขียนใหญ่คนนั้นน่า นับถือไม่น้อย ดูเขาเป็นผู้ใหญ่ทวี่ างตัวดี ไม่เหลาะแหละ อ่านจากสายตา ทีม่ องดูหล่อนตรงๆ ก็ร.ู้ ..พระลบ หฤทยา คงจะเห็นว่าหล่อนเป็นเด็กแก่นๆ อย่างปรารถนาและเพือ่ นสนิทร่วมกลุ่มของหล่อนทุกคน แววตาทีเ่ ขามอง ดูจงึ มีทงั้ เอ็นดู และขันเหมือนพีช่ ายคนโตมองดูนอ้ งสาวคนสุดท้ายทีซ่ กุ ซน ไม่มีผิด กว่าจะซักผ้าเสร็จ น�ำขึน้ ตากบนราวก็เป็นเวลาบ่ายโข วีรยาจะต้อง รีดมันในเวลาค�ำ่ และส่งให้เจ้าของในตอนกลางคืน หล่อนก้มลงมองดูมอื ตัวเอง เพียงเดือนเศษๆ ที่ท�ำงานนี้ มือของหล่อนเริ่มหยาบกร้าน ข้อนิ้ว เริ่มแตกโปนไม่เรียวเป็นล�ำเทียนอย่างแต่ก่อนเสียแล้ว แต่ข้อส�ำคัญที่สุด คฤหาสน์ดำ� 23


ก็คือ วีรยาเหน็ดเหนื่อยปานสายตัวจะขาดทุกครั้งที่รีดผ้าชิ้นสุดท้ายเสร็จ หล่อนจะน�ำไปส่งคืนเจ้าของแล้วก็อาบน�ำ้ เข้านอนทันที เพือ่ ออมแรงไว้ซกั ผ้าหนักต่อไปในวันรุ่งขึ้น แต่ต่อไปนี้ หล่อนคงจะไม่ต้องท�ำงานอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว หอหฤทยา จะมีอะไรรออยู่ก็ตามที คงไม่มีผ้ากองใหญ่ให้ซกั และ รีดอย่างแน่นอน... วีรยาให้ค�ำตอบแก่ตนเองอย่างเด็ดเดี่ยว ณ บัดนี้...ไม่ว่ามีอะไรรอ อยู่เบื้องหน้า หล่อนพร้อมแล้วที่จะเสี่ยงอย่างกล้าหาญและอดทน! บ่ายโมงเศษของวันอาทิตย์ วีรยา วัชรินทร์ พร้อมด้วยกระเป๋า เสือ้ ผ้าขนาดย่อมเพียงใบเดียว ก็มาปรากฏกายทีบ่ า้ นของปรารถนาเพือ่ น รัก เพื่อนฝูงสนิทกลุ่มเดียวกันมารออยู่พร้อมหน้า มีจานขนมของว่าง และแก้วเครือ่ งดืม่ ต่างๆ มากมาย วางเกลือ่ นอยูร่ อบตัว บิดาของปรารถนา มีฐานะดี เขาเลี้ยงดูลูกสาวอย่างตามใจทุกอย่าง บ�ำรุงบ�ำเรอความสุขให้ หล่อนเท่าที่ต้องการ เคราะห์ดที ี่การตามใจนั้นไม่ท�ำให้ปรารถนาเพริดไป ในทางทีผ่ ดิ บ้านของหล่อนจึงเป็นทีร่ วมของเพือ่ นฝูงมาสนุกสนานกันแทบ ทุ ก วั น สุ ด สั ป ดาห์ แทนที่ จ ะไปแสวงหาความสุ ข จากแหล่ ง อื่ น อั น ไม่ปลอดภัยส�ำหรับเด็กสาววัยรุ่นขนาดนี้ “ฮั่นแน่ ไอ้วมี าแล้ว” สุธาวรรณร้องเอะอะ เมื่อมองเห็นวีรยาเดินเข้าประตูบ้านมา “ทางนี้ วี มาเร็วๆ ก่อนขนมจะหมด” เจ้าของบ้านสาวน้อยลุกขึ้นโบกมือ ร้องเรียกเสียงแจ๋ว วีรยาเดินเข้ามาร่วมกลุ่มกับเพื่อนๆ ด้วยใจที่พองขึ้นด้วยความสุข เช่นเดียวกับเมื่อครั้งยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกัน เพื่อนกลุ่มนี้ล้วนแต่มีทกุ อย่างเหนือกว่าหล่อน ไม่ว่าฐานะการเงิน หรือวงศ์ตระกูล แต่ทกุ คนก็รกั วีรยาอย่างจริงใจ เห็นจะเป็นเพราะอุปนิสยั 24 จินตวีร์ วิวัธน์


เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจเย็นรักเพื่อนและชอบช่วยเหลือคนของหญิงสาวนั่นเอง กระมัง ที่สั่งสมให้เพื่อนๆ รักหล่อน เข้าท�ำนองมิตรจิตรต่อมิตรใจ “ตัวโอเคเรื่องงานแล้วใช่ไหม ไอ้แป๋วมันบอกเราตั้งแต่เมื่อคืน” ฤดีมนถาม วีรยาพยักหน้า หล่อนโทรศัพท์มาบอกถึงการตัดสินใจของตนเอง แก่ปรารถนาเมือ่ วานนี้ และบอกว่า วันนีจ้ ะขนของมารอพระลบตัง้ แต่บา่ ย ปรารถนาจึงชักชวนเพือ่ นในกลุม่ ให้มาคอยพบด้วยอย่างพร้อมหน้าพร้อม ตา “วันนี้ไอ้แป๋วเลี้ยงส่งวีสักมื้อซียะ เขาเพิ่งมาจากบ้านนอกหยกๆ นี่ จะต้องออกไปอยู่บ้านนอกอีกแล้ว” “บ้านนอกที่ไหนกัน แค่นครชัยศรีเท่านั้นเอง” ฤดีมนขัดคอ แล้วพูดต่อไปเหมือนร�ำพึง “วีเป็นคนไม่กลัวผี คงอยู่ได้สบาย เป็นเราละก็ บรื๋อว์ว์ว์...” “บ้านนั้นน่ากลัวมากเรอะ?” วีรยาถามอย่างเอาจริง คราวนี้อีกฝ่ายท�ำท่าไม่แน่ใจ “ดูในรูปน่ากัว๊ น่ากลัว แต่เราไม่เคยไปเทีย่ วทีน่ นั่ หรอกนะ ได้แต่ฟงั ไอ้แป๋วกับไอ้สฝุ อยให้ฟังเท่านั้น” วีรยามองไปทางปรารถนาเป็นเชิงถาม “มันเป็นบ้านเก่าแก่น่ะวี” เพื่อนสาวเจ้าของบ้านอธิบาย “อยู่กันมานานตั้งแต่ต้นตระกูลหฤทยา นานเกือบ ๑๐๐ ปีแล้วมั้ง หน้าตาเหมือนหอซิมบาบวีอย่างไอ้สมุ ันว่า แต่ตวั อย่าห่วงเลย วี มีคนอยู่ คึกคักหลายคน ทั้งแม่บ้านกับลูกสาวเอย ครูของลูกสาวพี่ลบเอย ยังคุณ ปู่ของพี่ลบอีกล่ะ คนใช้ก็มากมายยุ่บยั่บ ไม่เหงาหงอยเป็นหอคอยผีสิง หรอกน่า” “ลูกสาวของพี่ลบ?” วีรยาทวนค�ำเบาๆ ญาติสาวของนักเขียนใหญ่หยิบฝรั่งดองชิ้นโต คฤหาสน์ดำ� 25


ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วอธิบายเสียงคับปาก “พีล่ บมีเมียมาแล้วสองคนนะวี ตัวจะไปอยู่กบั เขาควรจะรู้ภูมิหลัง ไว้บา้ งก็ดี คนแรกได้รบั อุบตั เิ หตุตกหอลงมาตาย...นีเ่ องทีท่ �ำให้เราเรียกว่า เป็นปราสาทสยองขวัญไงล่ะ...คนนี้มีลูกสาวอายุ ๗ ขวบคนนึง ส่วนเมีย คนที่สองของพี่ลบหายตัวไปจากบ้านอย่างลี้ลับ ไม่มีใครได้ร่องรอยเลย” “หาย” ผู้ฟังทวนค�ำเสียงสูง เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ ปรารถนาพยักหน้า แววร่าเริงช่างเล่นหายไปมีความเอาจริงเข้ามา แทน หล่อนขยับตัวจากท่าพังพาบพิงหมอนอย่างสบาย เป็นลุกขึ้นนั่งขัด สมาธิ มองหน้าอันแสดงความตั้งใจของเพื่อนๆ แล้วกล่าวต่อ “เขาว่ากันว่า คุณน้อยเมียคนที่สองของพี่ลบถูกผีหลอกจนทนไม่ ได้ ต้องหนีออกจากบ้านไปด้วยความกลัว แล้วก็เลยหายสาบสูญไปไม่พบ ตัวจนเดี๋ยวนี้ พี่ลบเลยกลายเป็นพ่อม่ายเนื้อหอมที่ครองความเป็นม่าย เหนียวแน่น ไม่ยอมลงเอยกับใครสักที” “เราได้ข่าวจากหน้าสังคมในหนังสือพิมพ์เสมอๆ ว่า พี่ลบของตัว ควงคนนั้นคนนี้ไม่ซ�้ำหน้า...” ฤดีมนจีบปากจีบคอพูด “เห็นจะทนอยู่เป็นพ่อม่ายไม่นานละมั้ง?” เจ้าของบ้านสาวน้อยส่ายหน้า พร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ไม่จริงร้อกมน มีสาวๆ ทอดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กให้พี่ลบ หลายรายก็จริง แต่ไม่มีสาวคนไหนอยากไปอยู่กบั พี่ลบหรอก บางคนรัก ใคร่กันดี พอไปเห็นหอหฤทยาเข้าเท่านั้น เปิดแน่บเลย ยิ่งพี่ลบประกาศ ว่าจะไม่ยอมจากหอหฤทยาไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาดด้วยยังงั้น สาวๆ ที่ขวัญ อ่อนก็เลยเก๊กซิมไปตามๆ กัน แม้แต่เลขานุการส่วนตัวที่พี่ลบอยากได้นี่ก็ เถอะ พอไปถึงบ้านช่องห้องหอนายจ้างเข้าแล้ว ขอลาออกทุกรายไปเชียว ถ้าไม่กลัวผี ก็คงกลัวว่าจะหายตัวลึกลับไปอย่างคุณน้อยอีกคนน่ะแหละ!” 26 จินตวีร์ วิวัธน์


๓ “ประหลาด...” ผู้รับฟังพึมพ�ำ นัยน์ตามีแววครุ่นคิด “...คนทั้งคนจะหายสูญไปโดยไม่เหลือร่องรอยได้ยังไง แป๋ว เรา ไม่เข้าใจ ต�ำรวจไม่ออกค้นบ้างหรือ?” “เรื่องนั้นตัวอย่าสงสัยไปเลย ไอ้วี พี่ลบรักเมียเขายังกะแก้วตา ลงทุนจ้างนักสืบออกสืบร่องรอยด้วยซ�้ำ แต่ไม่ได้ความ เลยเข้าใจกันว่า เมื่อคุณน้อยเมียคนที่สองของพี่ลบนั้นออกจากบ้านแล้ว อาจไปเสียชีวิต ที่ไหนโดยไม่มใี ครรู้เห็นก็เป็นได้” “แล้วคนแรกที่เกิดอุบัติเหตุล่ะ?” “คุณพินน่ะเรอะ? เธอชื่อเทพินทร์ แม่ของยายเพิร์ลลูกสาวพี่ลบ... วันที่ตายน่ะนึกยังไงไม่รู้ข้นึ ไปบนยอดหอคอยแล้วก้าวพลาด เลยตกจาก เฉลียงลงมาเท่งทึง พี่ลบโอดกาเหว่าไปเป็นปีกว่าจะหายโศก” “ตัวไม่เคยเล่าเรื่องพรรค์น้ใี ห้พวกเราฟังมาก่อนเลย” สุธาวรรณซึ่งนิ่งฟังอย่างสนใจขัดขึ้นเหมือนพ้อ ปรารถนายักไหล่ “พวกตัวไม่รอู้ ะไร พีล่ บน่ะไม่ถกู กับอาสาย อาผูช้ ายคนเล็กของเรา ขนาดไม่เผาผีเชียวละ ตอนที่อาสายอยู่บ้านเรา พี่ลบไม่มายุ่งเกี่ยวด้วย คฤหาสน์ดำ� 27


เลย เราจึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวของเขานัก พออาสายจากไปอยู่เมืองนอกปีที่ แล้ว พี่ลบถึงได้เริ่มไปมาหาสู่บ้านเราอีก” ทุกคนได้ฟงั ก็พยักหน้าหงึกๆ ไปตามๆ กัน ฤดีมนนิง่ คิดเป็นครูแ่ ล้ว เอ่ยถามขึ้น “ตะกี้ตัวว่าคุณน้อย ภริยาคนที่สองของพี่ลบกลัวผีมากน่ะ แสดง ว่าบ้านนั้นผีดุจริงๆ น่ะซิ?” ปรารถนามองไปทางวีรยาอย่างชั่งใจ ฝ่ายนั้นรีบพูดโดยเร็ว “เล่าเถอะแป๋ว เล่าเรื่องหอหฤทยาให้เราฟังทั้งหมดอย่าปิดบังเลย พวกตัวก็พดู อยู่แหม็บๆ ว่าเราไม่กลัวผี เพราะงัน้ ถึงตัวจะเล่าเรือ่ งผีดยุ งั ไง เราก็ไม่เปลี่ยนความตั้งใจหรอก” “งัน้ ก็โอเค...แต่เวลานอนคนเดียวในหอด�ำนัน่ น่ะตัวอย่าสะดุง้ วาบๆ ก็แล้วกัน...เราเคยไปทีห่ อหฤทยาสองหนแล้วก็ไม่กลับไปอีกเลย กลัวผีน่ะ บอกตรงๆ คนทีน่ นั่ เล่าให้ฟงั ว่าคุณน้อยถูกผีหลอกอย่างฉกาจฉกรรจ์ เรียก ได้ว่าขืนอยู่ต่อไปคงเป็นบ้า เธอจึงตัดสินใจหนีไปเสีย” “ผีของต้นตระกูลหฤทยาเรอะ?” สุธาวรรณช่วยซัก โดยวีรยายังไม่ทันออกปาก ปรารถนาส่ายหน้าจนผมกระจาย ท�ำหน้าหวาดเสียวขณะตอบ “คงไม่ใช่ม้งั สุ ตามค�ำร�่ำลือบอกว่ามีผีอยู่หลายตัวเหลือเกิน ล้วน แต่แปลกๆ ทัง้ นัน้ บางทีเห็นเป็นตัวตนสูงใหญ่เหมือนผีดบิ แฟรงเกนสไตน์ บางทีเห็นเป็นค้างคาวดูดเลือดแวมไพร์ บางคนเห็นเป็นแมงมุมตัวมหึมา ที่สุด และบางคนก็เห็นเป็นมนุษย์ประหลาดน่ากลัวเหมือนอสุรกายจาก อวกาศ...คนทีเ่ ล่าให้ฟงั เป็นคนใช้เก่าแก่ของบ้านชือ่ ป้าแก้ว แกคงไม่โกหก หรอก เพราะถือศีลแปด ถ้าตัวไปอยู่ที่นั่นแล้ว อยากรู้รายละเอียดก็ลอง คุยกับแกดู แต่อย่าไปถามพี่ลบนะ เราเคยเลียบเคียงถามแล้ว แกเอ็ดเปิง ออกมาทุกที...จุ๊ๆ พูดถึงก็มาพอดีเชียว อายุยืนจัง...พวกตัวเฉยๆ นะ ประเดีย๋ วเราจะลองถามแกเรือ่ งผีของหอหฤทยาต่อหน้าไอ้วนี แี่ หละ อยาก รู้นักว่าแกจะตอบว่ายังไง?” 28 จินตวีร์ วิวัธน์


วอลโว่สที องบรอนซ์สวยหรูแล่นช้าๆ มาจอดหน้าตึก สุธาวรรณมอง ดูแล้วหันไปพยักหน้ากับวีรยา “ใครว่าเป็นนักประพันธ์แล้วไส้แห้ง ดูพี่ลบซีขี่วอลโว่คันเบ้อเริ่ม ราคาครึ่งล้านเชียวนะนั่น ไอ้วีอยากเป็นนักเขียนก็รีบๆ เขียนเข้าเถอะย่ะ เผื่อฟลุกร�่ำรวยขึ้นมาจะได้ส่งั ต่อรถตุ๊กๆ เข้ามาขี่แข่งกับพี่ลบ” ทุกคนได้ฟังก็หัวเราะ เด็กสาวเจ้าของบ้านรีบพูดขึ้น “พี่ลบเค้ารวยมรดกมาก่อนหรอกย่ะ ไอ้สุ ไม่ใช่มีแต่ตวั แล้วเขียน หนังสือจนเป็นเศรษฐีอย่างที่ตัวเข้าใจ ตระกูลของพี่ลบเป็นขุนนางเก่าแก่ รวยกันอื้อซ่ามาแต่ไหนๆ แล้ว” “นี่ อย่ามัวอวดสรรพคุณอยู่เลย พี่ลบลงจากรถแล้ว ตัวรีบลุกไป ต้อนรับตามประสาเจ้าของบ้านที่ดีไป” ฤดีมนว่า ปรารถนากระวีกระวาดลุกขึ้น วิ่งเหยาะๆ จากที่นั้นตรงไปยังชาย หนุม่ ผูก้ �ำลังขึน้ บันไดหินอ่อนมายังเฉลียงทีพ่ วกเจ้าหล่อนนัง่ อยู่ พลางร้อง บอกเสียงแจ๋ว “หวัดดีค่ะพี่ลบ วีเขามารอพี่ลบตั้งนานแล้ว” “งั้นเหรอ?” ชายหนุม่ ถามยิม้ ๆ กวาดตามองสาวน้อยทุกนาง พร้อมกับรับความ เคารพของบรรดาเจ้าหล่อน “พีพ่ ยายามมาให้เร็วทีส่ ดุ แล้วนะ แต่กช็ า้ จนได้ คุณวีรยาคอยนาน แย่ซิ” “ไม่นานหรอกค่ะ” หญิงสาวผูถ้ กู ถามเอ่ยเบาๆ ช�ำเลืองไปทางกระเป๋าเดินทางใบน้อย ของหล่อน พระลบมองตามแล้วยิ้มอย่างพอใจ “คุณวีรยาตกลงใจแล้วใช่ไหมครับ?” “ค่ะ วีตกลงไปท�ำงานกับ...เอ้อ คุณพระลบ...” “ขอบคุณ ผมดีใจมาก สั่งแม่บ้านให้เตรียมห้องไว้ให้คณ ุ เรียบร้อย คฤหาสน์ดำ�

29


แล้ว พอคุณไปถึงจะไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลย” เขาพูดแล้วทรุดลงนั่งข้างปรารถนา ซึ่งรีบเอ่ยค่อนขึ้นทันที “แหม...นี่ถ้าวีเขาโนเคพี่ลบก้อจัดห้องเก้อซีนะคะ” “เก้อก็จะเป็นอะไรไปล่ะ ยายแป๋ว บ้านของเราเอง ผมต้องขอบอก คุณวีรยาว่า ขอให้นึกว่าหอหฤทยาเป็นบ้านคุณเองนะครับ คุณท�ำงานให้ ผมก็มีสิทธิ์จะอยู่ในบ้านได้อย่างสงบทุกอย่าง งานอื่นๆ นอกเหนือจาก หน้าที่ เช่นซักรีดเสือ้ ผ้าของคุณ และท�ำความสะอาดห้องพัก จะมีคนท�ำให้ ทุกอย่าง ผมสั่งไว้เรียบร้อยแล้ว” “แหม...” หญิงสาวร้องเบาๆ ใบหน้าแดงเรือ่ ขึน้ มองดูบรุ ษุ ตรงหน้าอย่างตืน้ ตัน “คุณพระลบกรุณาวีเหลือเกิน อย่าให้ถงึ ขนาดนั้นเลยค่ะ เสื้อผ้าวี ซักรีดเองได้ อยู่ท่หี อพักก็รับจ้างซักรีดด้วยซ�้ำไปค่ะ” ปรารถนารีบขยิบตากับเพือ่ นสาวไม่ให้หล่อนพูดเรือ่ งอาชีพรับจ้าง นัน้ กับญาติหนุม่ แต่พระลบกลับมองดูวรี ยาอย่างพอใจและชมเชยเปิดเผย “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องซักรีดอีกแล้วครับ เอามือที่ขยี้ผ้าถือเตารีดนั้น ไปเคาะแป้นพิมพ์ดดี ดีกว่า แต่กอ่ นจะพิมพ์คณ ุ ต้องฝึกอ่านลายมือของผม ให้ออก เพราะผมเขียนหนังสือหวัดมาก ขนาดเขียนตัวบรรจงแล้วส่งไป เรียงพิมพ์ ช่างเรียงยังบ่นอูเ้ ลย แล้วก็พมิ พ์ผดิ มากด้วยเพราะคนตรวจปรูฟ๊ ก็อ่านลายมือผมไม่ค่อยออกเหมือนกัน จึงต้องหาคนที่ใจเย็นๆ ไปนั่งแกะ ทีละตัวแล้วพิมพ์ต้นฉบับ” “ไอ้วีก็ชอบไปน่ะซี” ฤดีมนว่า “ตัวชอบอ่านหนังสืออยูแ่ ล้วนี่ โดยเฉพาะเรือ่ งของ ‘เทพ สหัทยา’... คราวนี้สมใจละ ได้ทั้งอ่านทั้งพิมพ์ต้นฉบับเลยเชียว” วีรยายิ้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปีตยิ ินดี “วีจะพยายามท�ำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ คุณพระลบ แต่ถ้ายังมีที่ขาด 30

จินตวีร์ วิวัธน์


ตกบกพร่องอยู่ ก็ขอความกรุณาแนะน�ำสัง่ สอนด้วยนะคะ วีชอบให้ผใู้ หญ่ สอนเพราะรู้สกึ อบอุ่นใจว่ายังมีคนเป็นห่วงอยู่” “วีเขาก�ำพร้าพ่อตั้งแต่เขาอายุ ๑๔ แน่ะค่ะ พี่ลบ มีแต่พ่อเลี้ยง...” สุธาวรรณบอกมาบ้าง แล้วก็รีบหยุดชะงักทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ไม่สมควรพูดเรือ่ งส่วนตัวของเพือ่ นให้ผอู้ นื่ ฟัง แต่ชายหนุม่ ท�ำหน้าเฉย พูด เสียงเรียบเพียงว่า “ผมเสียใจด้วยที่คุณก�ำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก” “และก็ก�ำพร้าแม่ด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้วีอยู่ตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร จริงๆ” “ผมคิดว่าหอหฤทยาจะเป็นบ้านใหม่ท่อี บอุ่นส�ำหรับคุณแน่ วีรยา ขอเพียงแต่ให้ท�ำตัวชินกับบรรยากาศเก่าแก่ของมันเท่านั้น ซึ่งคงไม่เหลือ บ่ากว่าแรงคุณ” ปรารถนาได้ช่องก็พูดขึ้นทันที “ถ้าเป็นแป๋วละก็ เห็นจะท�ำตัวให้ชินกับบ้านพี่ลบได้ยากที่สุดเลย ค่ะ เห็นใครๆ เล่าว่ามีผดี ุใช่ไหมคะ พี่ลบ? บอกตรงๆ เถอะ วีจะได้เตรียม ตัวเตรียมใจไว้ถูกผีหลอกล่วงหน้า” ทุกคนคิดว่านักเขียนหนุ่มคงท�ำหน้าไม่พอใจ แต่กผ็ ิดคาดไปหมด พระลบ หฤทยา ยังคงมีสีหน้ายิ้มๆ เหมือนเดิมขณะตอบเสียงราบ เรียบเป็นปกติ “ตัวพี่เองอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่เกิดยังไม่เคยเห็นผีสักทียายแป๋ว แต่ ใครๆ ในบ้านพูดกรอกหูเสมอว่าเห็นอะไรแปลกๆ รวมทั้งเทพินทร์และ แน่งน้อยด้วย กลัวผีมากที่สุด พี่ก็พยายามจะจับผีที่ว่านั่น แต่มันไม่เคย ออกมาให้เห็นตัวก็เลยไม่รู้จะท�ำยังไง” “เป็นอันว่าทุกคนในบ้านตาฝาด เห็นผีเห็นสางไปหมด ยกเว้น พี่ลบคนเดียวใช่ไหมคะ?” สาวน้อยเจ้าของบ้านท�ำเสียงประชด พระลบหัวเราะ คฤหาสน์ดำ�

31


“พีไ่ ม่โทษนัยน์ตาของทุกคนหรอกแป๋ว บรรยากาศเก่าแก่ทมึ ทึบใน บ้ า น บางครั้ ง ก็ ท�ำให้ ค นขวั ญ อ่ อ นเกิ ด ความหวาดระแวง และเกิ ด ภาพลวงตาขึ้นมา คุณปู่กบั พี่อยู่มานานไม่เคยถูกผีหลอกสักครั้งเดียว” “แต่ป้าแก้วก็อยู่มานานแล้วนี่คะยังเคยเห็นผีเลย” “ก็แป๋วจะเอาอะไรกับคนแก่หง�ำเหงอะอย่างนัน้ เล่า แกหูตาฝ้าฟาง เห็นเงาอะไรต่อมิอะไรเป็นผีสางไปหมด...คุณวีรยาไม่ตอ้ งตกใจนะครับ ถ้า ประสาทแข็งใจแข็ง และไม่ขนึ้ ไปในห้องทีต่ อ้ งห้าม ก็จะอยูห่ อหฤทยาอย่าง สบายที่สุด” “เป็นยังไงคะ ห้องที่ต้องห้าม?” ฤดีมนถาม หล่อนเป็นผู้หนึ่งที่สนใจเรื่องผีสางเป็นพิเศษ “ก็ห้องที่อยู่บนยอดหอน่ะซีครับ มันช�ำรุดเสียหายมาก ผมไม่มี ปัญญาซ่อมให้คืนสภาพเดิม เพราะคงใช้เงินมากก็เลยต้องปิดทิ้งไว้ อิฐ หินทีป่ พู นื้ ห้องบางแผ่นกะเทาะหลุดเป็นแผ่นๆ เวลาเดินข้ามอาจท�ำให้มนั หลุดออกจากที่ พาให้คนเดินตกลงไปข้างล่างได้ เหมือนอย่าง...เอ้อ เอ้อ... เทพินทร์...” เขาออกนามนัน้ เสียงแผ่วเบา แววสลดผ่านแวบเข้าไปในดวงตาซึง่ ทุกคนก็สังเกตเห็น จึงรีบเบนการสนทนาไปสู่เรื่องอื่นทันที เพื่อมิให้ สะเทือนใจชายหนุ่ม คุยกันต่อไปอีกเป็นครู่ พระลบก็ยกนาฬิกาข้อมือขึน้ ดูและออกปาก ลา สาวน้อยทั้งหมดเฮโลกันเดินลงไปส่งวีรยาจนถึงรถ สุธาวรรณพูดขึ้น ดังๆ “ตัวอยู่บ้านพี่ลบให้สบายนะ วี พวกเค้าจะหมั่นไปเยี่ยม” “หวังว่าพีล่ บคงไม่วา่ อะไรนะคะ ถ้าพวกเราไปเจีย๊ วจ๊าวกันทีน่ นั่ สัก วัน” ฤดีมนพูดต่อทันที พระลบยิ้มกว้าง “เชิญตามสบายได้เลยทุกๆ คน หอหฤทยาเงียบมานาน คงได้ 32 จินตวีร์ วิวัธน์


ครึกครื้นกับพวกคุณคราวนี้แหละ” เขาก้มลงคว้ากระเป๋าใบย่อมของวีรยาไปไว้ทางหลังรถ แล้วเปิด ประตูตอนหน้าให้หล่อน หญิงสาวเข้าไปนั่งตัวลีบ หันหน้าอันค่อนข้าง เซียวมาทางเพื่อนเกลอ พูดเสียงอ่อย “เราไปก่อนนะ ขอบใจเหลือเกินที่พวกตัวช่วยเรา” “ไม่เห็นได้ช่วยอะไรเลยซักหน่อย ตัวควรขอบใจพี่ลบมากกว่า...นี่ อย่าท�ำหน้าเหลือ ๒ นิ้วยังงั้นเลย พี่ลบไม่ใช่ยักษ์ จะได้พาเอาตัวไปเคี้ยว กิน” ปรารถนาพูดฉอดๆ แล้วมองไปยังญาติผู้พี่อย่างคาดคั้น “แป๋วฝากไอ้วดี ว้ ยนะ พีล่ บเมตตาแป๋วยังไงก็ขอให้เมตตาวีเหมือน ยังงั้นด้วย” “ฮั่นแน่ ไอ้แป๋วเข้าใจจีบ...” สุธาวรรณร้องลั่น หันไปยักคิ้วกับฤดีมน “...อยู่ใกล้นกั ประพันธ์หน่อยเดียว พูดจามีส�ำบัดส�ำนวนเข้าให้ม่งั แล้วมั้ยล่ะ” พระลบหัวเราะเสียงดังอย่างขบขัน มองดูสาวน้อยทัง้ สามทีย่ นื่ หน้า สลอนอยู่ตรงหน้าต่างรถ แล้วพูดพลางหัวเราะพลาง “อยูใ่ กล้พวกคุณนีผ่ มอายุยนื ขึน้ เยอะ พูดอะไรให้ข�ำเสียเรือ่ ย แป๋ว อย่าห่วงเพื่อนเลยน่ะ ขึ้นชื่อว่าพี่ลบไม่เคยท�ำให้ใครล�ำบาก...ลาก่อนนะ ทุกๆ คน แล้วคงพบกันใหม่ในเร็วๆ นี้ที่หอหฤทยา” เขาโบกมือให้สาวน้อยทัง้ สาม วีรยาชะโงกออกไปพูดกับเพือ่ นเกลอ เสียงเครือ “เราลาก่อนนะ เชื่อว่าพวกตัวคงแวะไปเยี่ยมบ้าง” “ลาทีมิใช่ลาก่อน...” ฤดีมนร้องเป็นเพลงขึ้น พลางโบกมือให้เพื่อนรักหย็อยๆ วอลโว่คนั งามแล่นออกจากบ้านของปรารถนาอย่างช้าๆ มุ่งสู่ถนน เพชรเกษมเพื่อออกสู่ปลายทางอันเป็นสถานที่ตั้งแหล่งพ�ำนักพักพิงใหม่ คฤหาสน์ดำ�

33


ของวีรยา วัชรินทร์ ตลอดทางบุคคลทั้งสองพูดคุยกันน้อยค�ำ พระลบขับรถอย่างตั้ง อกตั้งใจ สีหน้าของเขาเรียบ รอยหยักโค้งที่มุมปากทั้งสองมองดูเหมือน เขาอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาอย่างใจดี วีรยารู้สกึ อบอุ่นใจอย่างประหลาดที่เห็นสีหน้าแบบนั้น หล่อนไม่มี ทั้งพ่อและพี่น้องที่เป็นผู้ชาย หญิงสาววาดภาพไว้ในใจ ถ้าหล่อนมีพี่ชาย โตๆ สักคน เขาผู้น้นั ควรจะมีท่าทางใจดีอย่างบุรุษที่น่งั เคียงข้างอยู่ขณะ นี้ รอยยิ้มอันอบอุ่น ท่าทางเป็นกันเอง และค�ำพูดนุ่มนวลอ่อนโยนท�ำให้ วีรยานึกอยากอยูใ่ กล้ๆ เช่นนัน้ ตลอดไปเพราะอย่างน้อยหล่อนก็เกิดความ มัน่ ใจขึน้ เงียบๆ ว่า บุคคลผูม้ ลี กั ษณะเช่นนีจ้ ะเป็นทีพ่ งึ่ แก่หญิงสาวไร้ญาติ ขาดมิตรและว้าเหว่อย่างหล่อนได้ดี ถึงนครชัยศรีเมือ่ เวลาเกือบหกโมงเย็น พระลบเลีย้ วรถเข้าถนนแยก ทางซ้ายมือแล้วหันมาบอกวีรยา “จวนถึงแล้วคับ เข้าไปอีกราว ๘๐๐ เมตรก็จะถึงบ้าน...คุณวีรยา หิวหรือยัง?” “ยังค่ะ...วีขอร้องอย่างหนึง่ ได้ไหมคะ คุณพระลบโปรดอย่าเรียกว่า คุณเลย ไหนๆ ก็จะเป็นลูกน้องแล้วเรียกชื่อเฉยๆ ดีกว่าค่ะ” พระลบหัวเราะเห็นฟันเรียบเป็นเงารับกับริมฝีปากได้รปู สวย วีรยา รู้สึกว่าเขาหน้าตาดีขึ้นอีกมากในยามยิ้มหรือหัวเราะ ซึ่งคงเป็นเพราะฟัน ของเขาสวยเป็นพิเศษนั่นเอง “ตกลงครับ วีรยา และผมจะสบายใจมากถ้าคุณเรียกผมเช่นเดียว กับแป๋วและเพื่อนๆ กลุ่มนั้น” หญิงสาวห่อริมฝีปากส่ายหน้าทันที “อุย๊ วีไม่อาจเอือ้ มเรียกเจ้านายผูม้ พี ระคุณว่า ‘พี’่ หรอกค่ะ กรุณา อย่าให้วตี อ้ งอึดอัดใจเลย แป๋วเขาก็เรียกคุณพระลบว่าพีไ่ ด้นะ่ ซีคะ เพราะ เขาเป็นน้องจริงๆ ส่วนวีนะ่ เป็นลูกน้อง ไม่เหมือนกันค่ะ อย่าให้คนอืน่ มอง ไปผิดๆ เลยนะคะ” 34 จินตวีร์ วิวัธน์


“ผมไม่คิดว่าคุณเป็นลูกจ้างลูกออนเลยจริงๆ นะ วีรยา คิดว่าเป็น น้องนุ่งอย่างยายแป๋วเหมือนกัน แต่เอาเถอะ ถ้าคุณล�ำบากใจที่จะเรียก ผมตามยายแป๋วก็ไม่เป็นไร จะเรียกว่าอะไรก็ได้แต่อย่าเรียกเต็มยศว่าคุณ พระลบ ฟังดูเหมือนผมเป็นคุณพระสมัยเก่ามากกว่า เดี๋ยวคุณปู่จะนึกว่า ไปล้อท่าน เพราะท่านเป็นเจ้าคุณ” วีรยาหัวเราะออกมาได้ “ค่ะ ถ้างั้นวีจะเรียกคุณพระลบว่าคุณลบเฉยๆ นะคะ” “ดีครับ จะลบหรือจะบวกก็ได้ท้งั นั้น...ว่าแต่ยายแป๋วเล่าให้คณ ุ ฟัง เกี่ยวกับบ้านผมแล้วหรือยัง?” “เล่านิดหน่อยค่ะว่าอยู่กนั หลายคน ไม่เหงาเลย” “จริงครับ ถึงหอหฤทยาจะอยู่ห่างไกลเพื่อนบ้านออกไปหน่อยแต่ ก็ไม่เหงา เพราะอยูก่ นั หลายคน เริม่ จากเจ้าคุณปู่ ซึง่ ป่วยเป็นอัมพาตนอน อยูแ่ ต่ในห้องของท่าน แล้วก็นา้ ศจีญาติหา่ งๆ ของผมท�ำหน้าทีเ่ ป็นแม่บา้ น อรสวาท ลูกสาวของน้าศจี ยายเพิรล์ หรือพิณลภา ลูกสาวผมอายุ ๗ ขวบ เท่านั้น แกเป็นเด็กพิการครับ ป่วยเป็นโปลิโอแต่เด็กๆ เดินเหินไม่ได้ต้อง นั่งรถเข็น ผมจ้างครูมาสอนแกประจ�ำอยู่ที่บ้าน ชื่อครูสายทิพ อายุคง มากกว่าคุณไม่กี่ปี นิสัยเรียบร้อยคงพอจะเป็นเพื่อนของคุณได้บ้าง แล้ว ก็ยังมีนักขัตกับนันทินี ซึ่งเป็นน้องของแน่งน้อย ภริยาที่หายไปจากบ้าน ของผม นักขัตเป็นอาจารย์อยู่ท่วี ิทยาลัยทับแก้ว ผมขอให้เขามาอยู่ด้วย เพือ่ ช่วยให้ตวั เองไม่ตอ้ งกลายเป็นไข่แดงอยูท่ า่ มกลางสุภาพสตรีทงั้ หลาย ส่วนนันทินีเป็นพยาบาล อายุพอๆ กับครูสายทิพ แต่ข้อี ายไม่ช่างพูดเลย ผมขอให้เธอช่วยดูแลคุณปู่ท่ปี ่วยเป็นอัมพาตกับดูแลยายเพิร์ลด้วย...” พระลบหยุด ก้มลงจุดบุหรี่สูบ วีรยาจึงใช้เวลานั้นเอ่ยขึ้นเบาๆ “ก็รู้สึกว่าผู้คนอุ่นหนาฝาคั่งดีนะคะ แต่ท�ำไมเลขานุการคนก่อนๆ ที่คุณลบจ้างถึงอยู่ไม่ค่อยทนล่ะคะ?” ชายหนุ่มอมยิ้ม “เรื่องของความกลัวมันห้ามกันไม่ได้หรอก วีรยา บางคนใจแข็ง คฤหาสน์ดำ�

35


ไม่กลัวผี ผมก็คิดว่าคงจะอยู่ได้ยืด แต่ที่ไหนได้ สองเดือนเท่านั้น ขอลา ออกเสียแล้ว บอกว่าทนต่อบรรยากาศไม่ได้” เขาหันไปไขกระจกลง เพื่อให้ควันบุหรี่ระเหยออกไปทางนั้น เมื่อ หันกลับมาอีกทีก็พูดเรียบๆ ว่า “ผมอยากให้คุณไปเห็นหอหฤทยาเสียเร็วๆ จะได้ช่วยบอกว่า บรรยากาศมันน่ากลัวเหลือก�ำลังลากหรืออย่างไร...ที่จริงนอกจากความ เก่าแก่แล้ว ผมมองไม่เห็นความลี้ลับน่ากลัวอย่างที่เขาลือกันอยู่ในบ้าน หลังนี้เลยครับ คนใช้และคนท�ำสวนก็มีอยู่มากมายหลายคนพอจะอุ่นใจ ได้ว่า ไม่ใช่บ้านโดดเดี่ยว แม้จะห่างผู้คนเขาเข้าไปลึกหน่อยก็ตาม พอถึง บ้านแล้วคุณจะรูว้ า่ ท�ำไมเราต้องมีคนอยูด่ ว้ ยมากมาย คนเหล่านีส้ ว่ นมาก ล้วนมีอายุ เพราะอยู่กนั มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ของผม มีที่เป็นหนุ่ม เป็นสาวอยู่ไม่ก่คี นนักหรอกครับ” วีรยานั่งฟังเสียงทุ้มๆ ของเขาเพลิน จนกระทั่งรถผ่านพ้นแนวไม้ ข้างหน้าออกไป พระลบเลี้ยวรถเข้าซอยแยกโรยกรวดทางซ้ายมืออีกครั้ง คราวนี้ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าท�ำให้หญิงสาวเผลอตัวอุทานออกมาเบาๆ “โอ้โฮ!” ข้างหน้าโน้น ห่างออกไปราว ๓๐๐ เมตร คืออาณาบริเวณของสิ่ง ก่อสร้างชนิดหนึง่ ขวางอยู่เต็มซอย เป็นสิง่ ก่อสร้างประหลาดทีส่ ดุ ซึง่ หญิง สาวเคยเห็นมาในชีวติ ! ก�ำแพงอิฐสีแดงสูงใหญ่กนั้ รอบบริเวณ สิง่ ก่อสร้างเป็นแนวยาวชวน ให้คิดถึงเทวสถานโบราณ ประตูซึ่งคงจะท�ำเลียนแบบซุ้มจระน�ำแต่ ไม่ละเอียดประณีตเท่าโค้งเด่นอยู่ตรงกลาง มีบานประตูใหญ่มหึมาปิด สนิททั้งสองบาน ถัดเข้าไป...สูงโดดเด่นให้เห็นถนัดในแสงตะวันชิงพลบคือ ‘หอ หฤทยา’ ที่อยู่ใหม่ของหล่อนนั่นเอง เสียงวิพากษ์วจิ ารณ์ของเพื่อนๆ ดังก้องขึ้นในโสตประสาททันที “น่าจะเรียกว่าปราสาทแดร็กคูล่า หรือหอคอยแฟรงเกนสไตน์...” 36

จินตวีร์ วิวัธน์


“ควรจะเป็นปราสาทสยองขวัญมากกว่านะ!” “เหมือนซิมบาบวีของพี่ลบ...” สิง่ ก่อสร้างทีเ่ ห็นเด่นทะมึนครึม้ ปรากฏแก่ตาหล่อนในยามใกล้พลบ ขณะนี้ ไม่ผิดจากเสียงวิจารณ์ของเพื่อนๆ ก็จริง แต่วรี ยามองดูแล้วต้อง ครางอยู่ในอกด้วยความรู้สกึ ที่หนาวเยือกอย่างประหลาดว่า ‘คฤหาสน์ด�ำ! ควรจะชื่อนี้มากที่สุด…คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย เถิด!’

คฤหาสน์ดำ�

37


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.