ผืน
นาที่ถูกทิ้งรางกวา ๒,๐๐๐ ไร เปนเวลากวา ๑๐ ป นอกจากนำสัมมาอาชีพที่เปนของ บรรพบุรุษ จากไปพรอมกับวิถีชุมชนเดิม จนมาถึงวันนี้ ป ๒๕๕๒ จากทุงนารางสุดลูกหูลูกตา เริ่มปรากฏรวงขาว เขียวปลัง่ ระบัดใบพลิว้ ตามแรงลม ตนขาวเติบโต พรอมๆ กับพาชีวิตจิตใจคืนสูชุมชนแหงนี้ ที่ตำบลนาเกตุ อำเภอ โคกโพธิ์ จังหวัดปตตานี ที่นี่มีเรื่องราวเกิดขึ้น มากมาย เปนการมีสวน รวมระหวางคนในชุมชนดวยกันเอง และระหวางคนใน ตำบลกับวิทยาลัยชุมชน กับเรื่องราวที่จะไดบอกเลา ตอไปนี้
เมื่อแหลงอาหาร กลายเปนนาราง “แตกอน ทุงนาเกตุ ทุงบอทอง และทุงชะเมา แถวนี้มีแตขาว ชวงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ทุงนาจะมี แตตนขาว มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา พอเดือนกุมภาพันธ ถึงมีนาคม ทุงนาจะเต็มไปดวยคน เพราะชาวบานจะไป ช ว ยกั น เกี่ ย วข า ว ทุ ง นาเรานี่ แ หละที่ ป ลู ก ข า วให ค น ปตตานี เขาวาขาวบานเราดีท่สี ุด” น้ำเสียงสะทอนความ
ระลึกถึง บรรยายภาพคืนวันเกาๆ ของคุณลุงโตย หรือ คุ ณ อารี ศั ก ด แ ก ว อดี ต ชาวนาอาชี พ แห ง บ า นนาเกตุ ปจจุบันเปนหนึ่งในนักศึกษาหลักสูตรพลิกฟนผืนนาราง ของวิทยาลัยชุมชนปตตานี ครั้ ง หนึ่ ง พื้ น ที่ เ กื อ บทั้ ง ตำบลของตำบลนาเกตุ เปนแหลงปลูกขาวที่ดีที่สุดของจังหวัดปตตานี ถึงฤดูทำ นา สุดสายตามองไปที่ขอบฟา มองเห็นแตสีเขียวของตน ขาว พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว ชาวบานทุกหลังคาเรือนจะออก มาลงแขกชวยกัน จากบานนี้ไปบานนั้น ถอยทีถอยอาศัย เปนความสุขแบบเรียบงาย แตหาซื้อที่ไหนไมได แล ว อะไรกั น ที่ ท ำให วิ ถี ชี วิ ต และวิ ถี ข องชุ ม ชน เปลี่ยนแปลง ชนิดจากหนามือเปนหลังมือ คำตอบมา จากคำบอกเลาของกำนันวิบูลย บุญมี กำนันตำบลนา เกตุแหงนี้ “เกือบ ๑๐ ปกอน การปลูกยางพารา กำลังเปน ที่นิยม เพราะราคายางพาราในตลาดราคาดีมาก ชาว บ า นบางคนก็ เ ลยหั นไปรั บ จ า งกรี ด ยาง และรั บ จ า ง ทำงานในโรงงาน เพราะทำนาแลวมันเหนื่อยกวา” แต ข ณะนั้ น ผื น นาก็ ยั งไม ไ ด ร กร า งอย า งใน ปจจุบันนี้ และยังมีชาวบานบางกลุมยังคงออกมาทำนา วิทยาลัยชุมชน : พลวัตแหงการพัฒนา
107