จะสั ง เกตเห็ น ได้ ว ่ า จากอดี ต ถึ ง ปั จ จุ บั น การแสดงตอนนี้ ก็ ยั ง คงเนื้ อ ร้ อ งแม่ บ ทเล็ ก ไว้ ค งเดิ ม จะมีเปลี่ยนแปลงในบทที่ต่อท้ายเพลงชมตลาด ที่ร้องร่ายเป็นบางครั้งเท่านั้น เป็นบทนางนารายณ์ร�ำต่อ แล้วให้ นนทุกร�ำตาม ที่ว่า “ฝ่ายว่านนทุกก็ร�ำตาม ด้วยความพิสมัยใหลหลง ถึงท่านาคป่วนม้วนหางลง ก็ชี้ตรงเพลาพลันทันใด ด้วยอ�ำนาจนิ้วเพชรสิทธิศักดิ์ ขายักษ์หักลงไม่คงได้ นนทุกล้มคว�่ำขม�ำไป ตกใจไม่เป็นสมประดี จากนั้นปี่พาทย์บรรเลงเพลงรัว ตัวนนทุกจะท�ำท่าชี้นิ้วเพชรลงไปที่ขา แล้วล้มลง ซึ่งบางครั้งพอจบเนื้อร้องเพลง ชมตลาด ปี่พาทย์จะบรรเลงเพลงรัว ให้ตัวนางนารายณ์ท�ำท่าชี้นิ้วที่ขา แล้วนนทุกท�ำตาม ซึ่งมิได้ท�ำให้ผิดเนื้อเรื่อง เพียงแต่ให้การแสดงกระชับขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่ก�ำหนดแสดงในแต่ละครั้ง ส่วนแม่บทใหญ่ จะมีท่าที่เป็นแม่ท่า ๖๔ ท่า โดยถูกก�ำหนดตามเนื้อเพลงที่ร้องในท�ำนองเพลง ชมตลาดเช่นเดียวกับแม่บทเล็ก แต่ละท่ามีชอื่ ก�ำหนดเรียกและมีความหมาย อีกทัง้ เป็นท่าแม่แบบในการแสดงนาฏศิลป์ โขน ละครต่อมา บางท่าบางชื่อก็จะซ�้ำและใกล้เคียงกับร�ำแม่บทเล็ก ได้แก่ ท่าเทพนม ปฐม พรหมสี่หน้า สอดสร้อย มาลา ช้านางนอน ผาลาเพียงไหล่ พิศมัยเรียงหมอน กังหันร่อน แขกเต้าเข้ารัง กระต่ายชมจันทร์ จันทร์ทรงกลด พระรถโยนสาร มารกลับหลัง เยื้องกาย ฉุยฉายเข้าวัง มังกรเลียบถ�้ำ กินนรร�ำ ช้างประสานงา ท่าพระรามาโก่งศิลป์ ภมรเคล้า มัจฉาชมวาริน หลงใหลได้สิ้น หงส์ลินลา ท่าสิงโตเล่นหาง นางกล่อมตัวร�ำยั่ว ชักแป้งผัดหน้า ลมพัดยอด ตอง บังสุริยา เหราเล่นน�้ำ บัวชูฝัก นาคาม้วนหาง กวางเดินดง พระนารายณ์ขว้างจักร ช้างหว่านหญ้า หนุมานผลาญ ยักษ์ พระลักษมณ์แผลงอิทธิ์ฤทธี กินนรฟ้อนฝูง ยูงฟ้อนหาง ขัดจางนาง ท่านายสารถี ตระเวนเวหา ขี่ม้าตีคลี ตีโทน โยนทัพ งูขว้างค้อน ร�ำกระบีส่ ที่ า่ จีนสาวไส้ทา่ ชะนีรา่ ยไม้ทงิ้ ขอน เมขลาล่อแก้ว กลางอัมพร กินนรเลียบถ�ำ้ หนังหน้าไฟ ท่าเสือท�ำลายห้าง ช้างท�ำลายโรง โจงกระเบนตีเหล็ก แทงวิไสย กรดสุเมรุ เครือวัลย์พันไม้ ประลัยวาตยั้งคิด ประดิษฐ์ ท�ำ กระหวัดเกล้า ขี่ม้าเลียบค่าย กระต่ายต้องแล้ว ชักซอสามสาย
ปฐม
พรหมสี่หน้า
สอดสร้อยมาลา
ที่มา : สารานุกรมไทยส�ำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีประกาศขึ้นทะเบียน
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำ�ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗
33