SPT Editor's Picks APRIL 2015

Page 1

SPTEP 16 STREET PHOTO THAILAND EDITOR’S PICK ISSUE 16TH APRIL 2015



EDITOR’s TALK สวัสดีและขออภัยในความล่าช้าของ emag เล่มนี้ เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่เราทดลองทำ�บทสัมภาษณ์เป็นแบบอินเตอร์เอค ทีพ ซึ่งต้องขอบพระคุณ พี่ดิว นภดล ไมตรีจิตร์ เป็นอย่างสูง ที่เสนอ วิธีการนี้ และสละเวลาร่วมสนทนาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ เพื่อมาเป็น บทสัมภาษณืที่อัดแน่น ยาวเหยียด ในช่วงเวลาที่ได้พูดคุยกับพี่ดิวนั้น ผู้สัมภาษณ์สามารถสัมผัสได้ถึง พลังงานบางอย่างที่มีมากมายเหลือล้น เรียกว่าหลังจบการสนทนา ในแต่ละวัน ตัวผู้สัมภาษณืแทบจะกระโดดออกจากห้องออกไปถ่าย รูปในทันที หากแต่ยังมีภาระหน้าที่ การงาน ที่ต้องทำ�อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ผู้สัมภาษณจึงอยากคงสภาพบทสนทนานั้นให้คงสภาพ สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อส่งต่อพลังงานมาให้ผู้อ่านทุกท่าน พร้อมที่จะ สปริงตัวเด้งออกไปถ่ายรูปโดยพลัน แต่อย่างไรก็ดี หากท่านผู้อ่านอยากติชมอะไร ให้เพิ่มเต็มส่วนใด สามารถเสนอแนะมาได้เต็มที่ เพื่อที่เราจะนำ�ไปปรับปรุงต่อไป ศราวุธ แต้โอสถ

Nattawoot Kurtumm Peanpunyaruk



CONTRIBUTORS Adam Birkan Animalsallwildlife Thailand Artyt Lerdrakmongkol Ateneo Sta Ines Chakrit Leelachupong Chu Việt Hà Dương Nguyễn Thanh Eakkachai Jakkawanpitak Enrico Markus Essl Gurunathan Ramakrishnan Jojosung Kung Jonathan Onte Kamphon Saeng-iam Kob Obob Mahesh Balasubramanian Nattawoot Kurtumm Peanpunyaruk Naung Charnyuth Noppadol Maitreechit Pikaro Nice Poupay Jutharat Rammy Narula Sandip Koodali SNutt S. Nuttapong Street Naja Supornchai Ratanamethanon Tanapon Saowapa Tatum Wulff Thanakorn Treratanaboot Vineet Vohra Wan Zuharuddin

สุภาพบุรุษ ไปสตรีท

Animalsallwildlife Thailand



NOPPADOL MAITREECHIT STREET PHOTO TALK


NOPPADOL MAITREECHIT

หากผู้อ่านท่านใดได้มีโอกาสเข้าไปชมภาพในกลุ่ม Street Photo Thailand ใน facebook คงจะคุ้นชื่อของ Noppadol Maitreechit ผู้ซึ่งโพสรูปลง ในกลุ่มอย่างสม่ำ�เสมอ และยังรักษาคุณภาพของภาพที่โพสลงในกลุ่มได้อยากมีมาตรฐาน จะเห็นว่าภาพของคุณ Noppadol หรือคุณดิว ถูกพินโดย แอดมินเกือบทุกใบ ซึ่ง SPTEP ฉบับนี้เรามีโอกาสดีได้มาคุยกับคุณดิวถึงเบื้องหลังวิธีการ แนวคิด และประเด็นต่างๆ ในการถ่ายภาพ เราไปคุยกับ คุณดิวกันเลยครับ SPT: สวัสดีครับพี่ดิว ช่วยแนะนำ�ตัวแบบคร่าวๆหน่อยครับ Noppadol: ดิว ครับ นภดล ไมตรีจิตร์ ตอนนี้ต้องเรียกว่าเป็นพ่อครัว เต็มตัว มีร้านอาหารเล็กๆอยู่ที่บ้านเกิดที่ ชุมพร ครับ จริงๆพี่จบด้าน ภาพยนตร์ จาก ม.รังสิตมา ก็ได้มีโอกาสทำ�หนังอยู่สักระยะครับ แต่ชีวิต มันก็ผกผันอ่ะนะครับ ฮา มีหนังที่เคยมีโอกาสได้ทำ�ก็อย่าง goal club เกมส์ล้มโต๊ะ, พรางชมพู ครับ แล้วก็ละครบ้างครับ ตอนสมัยเรียนหนังก็ ชอบที่จะดูหนังนอกกระแสที่เค้ามีมาจัด เรื่อยๆ เช่น ดวงกมล film houe , สถาบันเกอเธ่ , ธรรมศาสตร์ ประมาณนี้ครับ พี่คิด ว่ามันเป็นต้นทุนทั้งหมดที่พี่มีเลยนะ SPT: ตอนทำ�หนังนี่ ทำ�ส่วนไหนบ้างครับ? Noppadol: ตอนทำ�หนังนี่ Goal club เป็นการฝึกงานครับ หน้าที่ตอน นั้นที่ได้รับคือ ทำ�ทุกอย่าง 5555 โชคดีที่เข้าไปตั้งแต่แรกเริ่ม คือผ่านทุก-

งานตั้งแต่ casting จนมาสุดท้ายที่ถ่ายเสร็จแล้วเข้าไปช่วยในห้องตัด แต่ ที่รับผิดชอบจริงๆ คือ ผู้ช่วย continue พอจบออกมาก็มาทำ�กับ ผกก. คนเดิม พี่ เรียว กิตติกร เรื่องพรางชมพู เรื่องนี้ทำ� continue เต็มตัวเลย ดูแลความต่อเนื่องทั้งหมดของหนัง เสื้อผ้า หน้าผม การแสดง ส่วนละคร นี่ออกมาเป็น ผู้ช่วย 2 ครับ SPT: แล้วทำ�ไมถึงมาสนใจถ่ายรูปแนวสตรีทละครับ Noppadol: ต้องบอกเลยว่าน้อง พงษ์ (ทวีพงษ์ ) เป็นแรงบันดาลใจเลย ล่ะครับ คือหลังจากพี่เปลี่ยนมาทำ�อาหาร ก็ยังชอบถ่ายรูปอยู่นะแต่ไม่ได้ จริงจัง มีเพียงแค่มือถือก็ถ่ายนู่นนี่ไปเรื่อย แล้วฟิล์มที่จะใช้ถ่ายมันก็เริ่ม หายๆ ไปจากตลาด ร้านล้างอัดก็ไม่มีใน ตจว. ก็อาศัยมือถือนี่แหละครับ ถ่ายแก้ขัด ...จนวันนึงมาเจอพงษ์ลงรูปตอนไป อินเดีย ก็ตามน้องเค้ามาดู รูปในกลุ่ม Street Photo Thailand เหมือนเปิดโลกใหม่เลยล่ะครับ


ตื่นตาตื่นใจ จนมาถึงวันนี้ ช่วงแรกๆในการถ่าย street สำ�หรับพี่ คือ การทำ�ความเข้าใจ เพราะอะไร คือภาพ street? แล้วที่ถ่ายมามันใข่ street มั้ย? ซึ่งมันก็คงเหมือนๆกับ ทุกคนนะที่เริ่มต้น พี่คิดว่า ก็ใช้เวลาร่วม 6 เดือน กับการศึกษาและค้นหา ได้พี่ๆน้องๆในกลุ่มแนะนำ� สิ่งที่ควรมอง ทำ�ให้พอเข้าใจอะไรมากขึ้นกว่าแต่ก่อน การดูงานมากๆ และทำ�ความเข้าใจ พี่คิดว่าเป็นส่วนที่ทำ�ให้พี่เริ่มมองเห็นภาพคำ�ว่า street photo ชัดเจนขึ้น จนพี่มีเงินพอที่จะซื้อกล้องและเลนส์สักตัว คราวนี้ก็ เริ่ม จริงจังมากขึ้นครับ พยายามออกไปถ่ายทุกครั้งที่มีโอกาส ความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละ...คุณไม่รู้หรอกว่าคุณจะได้พบเจออะไร และ เก็บมันได้ทันมั้ย ซึ่งมันต้องใช้ทั้งการวางแผน และสัญชาตญาณ ควบคู่ กันนะพี่ว่า วางแผนในที่นี้คือสำ�หรับพี่ อยู่ ตจว. คุณมีอะไรที่ที่คุณมี ผู้คน วิถีชีวิต ทะเล ซึ่งพี่ก็ต้องยอมรับว่าพี่ไม่สามารถเดินทางไปสถานที่ สวยๆ หรือท่องเที่ยว ได้บ่อยๆเพราะมีงานที่ต้องทำ� แต่ก็ใช้วิธีคิดอย่างที่ว่า เอาจุดแข็งของ สถานที่ที่เราอยู่ วางแผนการออก ไปถ่าย ส่วนสัญชาตญาณก็หน้างานล้วนๆ เพราะเราเป็นเพียงผู้สังเกต เหมือนดูหนัง ดูละคร นั่นเลย เราแค่รอดู อาจจะมีหนัง ดรามา ตลก แอ คชั่น หรือวันนั้นโรงหนังอาจจะปิดทำ�การ ฮา SPT: ในช่วงก่อนที่จะมาถ่ายสตรีทจริงจังนี่ ถ่ายภาพประมาณไหน แนว ไหนครับ? Noppadol: ภาพที่พี่ถ่ายก่อนที่จะมาถ่าย street อย่างจริงจังนี่ เอาเข้า จริงๆมัน เรื่อยเปื่อยมากนะ อย่าเรียกว่าถ่ายแนวไหนเลย เพราะการถ่าย ภาพของพี่ตลอดมา ถ้ารู้สึกว่ามันสวย มีคอมโพสท์ดีก็ถ่ายไว้ ไม่ได้จริงจัง เลย ตอนเล่นกล้อง film ก็ใช้แค่ตอนศึกษาช่วงเรียน ทั้งการ load ล้างอัด ขาวดำ� ถือว่ามาถ่ายรูปจริงจังก็ตอนถ่าย street นี่แหละ แต่คิดว่าตัวเองเป็นคนชอบคิดเรื่องการวางเฟรมมากๆตั้งแต่ตอนเรียน แต่ไม่ถนัดเรื่องกล้องเลย ไปสนใจด้าน acting แทน ตอนเรียนได้กำ�กับ หนังสั้นเรื่องนึง ก็ได้ รางวัลช้างเผือก การถ่ายภาพมานะ (ภาพยนต์สั้น เรื่อง อั่งเปาของแม สามารถรับชมในใน youtube) ตอนนั้นเค้าเรียก BANGKOK FILM FESTIVAL ช่วยๆกันกับเพื่อนๆ คือพี่พยายามเรียน รู้หมดนะมันเลยกลายเป็นสิ่งที่มีในหัวตอนนี้ ถ่าย street มันก็เหมือนทำ� หนังนะแค่เปลี่ยนเป็นภาพนิ่ง SPT: จากทำ�หนังที่มีการเซต และจัดฉาก มากสู่การถ่ายสตรีทที่ไม่มีการ เซต ต้องปรับตัวอะไร ยังไงบ้างอะครับ Noppadol: เป็นคำ�ถามที่ดีมากเลย หนังถึงแม้เราจะเตรียมการมาดียัง ไง แต่พอถึงหน้ากองพร้อมถ่ายอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ครับ ทั้งอากาศ การ แสดง รวมถึงการอิมโพรไวส์ของ ผกก. อันนี้เราควบคุมไม่ได้ street ก็เหมือนกันนะในส่วนนี้ที่บอกไป เราสามารวางแผน สถานที่ได้ แต่ก็ควบคุมไม่ได้ นั่นเลยทำ�ให้พี่คิดว่า ทั้งหนัง และ street เอาเข้าจริง คุณทั้งเหมือนควบคุมได้และไม่ได้ มันคือ เสน่ห์ ของทั้งหนัง และ street เข้าใจมั้ยฮะเนี่ย พี่พูดเองยัง งง ๆ

พี่เลยว่า Street มันตอบโจทย์พี่มากๆตอนนี้ เพราะโอกาสที่จะกลับไปทำ� หนังคงไม่มี แต่เรายังคงสามารถเติมเต็ม ความรัก ในหนัง ผ่านการถ่าย street ได้ ตอนนี้ก็ดีใจมากที่ภาพเราพอจะสื่อสารอะไรได้บ้าง SPT: มีหนังในดวงใจตลอดการไหมครับ? Noppadol: คำ�ถามนี้ตอบยาก มันอยู่ที่ช่วงเวลา แต่มันก็เข้ามาในหัวเรื่อง แรกเลยนะ Citizen Kane ของ ออร์สัน เวล ตอนเรียนจะจดจำ�เรื่องนี้ เป็นพิเศษ เพราะทั้งมุมกล้อง การวางเฟรม และการตีความ มันสุดมากๆ พอต่อมาอินกับหนัง ของจางอี้โหมว เริ่มสนใจความนิ่ง การเล่าเรื่อง การ ขบถ อะไรประมาณนี้ แต่เดี๋ยวนี้พอมาอยู่ในส่วนของคนดูหนังแบบเต็มตัว เพื่อความบันเทิง ชอบ independence day มาเลย ฮา ดูหลายรอบมาก เลยเริ่มเข้าใจบาง อย่างของชีวิต บางครั้งการที่เราคิดว่า เสพงาน art เท่ห์ คนดูไม่เข้าใจ มัน เจ๋ง มันไม่ใช่เลยนะ คุณจะเก่งมาก ถ้าคุณทำ�ให้เค้าเข้าใจในงาน และสนุก กับมันส์ เหมือนภาพ street ถ้ามันดูเก๋เท่ห์ อย่างเดียว สวย มีคอมโพสท์ ดี แต่มันเล่าเรื่องไม่ได้ คนดูไม่เข้าใจ มันก็อยู่แค่นั้น SPT: ออกรอบครั้งหนึ่งนานไหมครับ ถ่ายเยอะไหมครับ? Noppadol: พี่มีวันหยุด อาทิตย์นึง 2 วัน ก็ออกมันทั้ง 2 วันเลยครับ ช่วงแรกๆนะ แต่ออกแต่ช่วงเย็น สัก 3 ชม.ได้ ถ่ายต่อวันประมาณ 3050 ภาพ แต่มาช่วงหลังๆ ถ่ายได้ 10-20 ภาพ ก็เต็มที่ล่ะ อาจเพราะพอ เข้าใจอะไรมากขึ้น เลยกดน้อยลง แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของพี่คือเรื่องเบื่อ สถานที่ ช่วงนี้แย่เลยครับ ตอนนี้ต้องพึ่งกำ�ลังภายในขั้นสูงสุด ผลักดันตัว เอง SPT: ยังไงอะครับ? Noppadol: ผลักดันตัวเองให้ออกไปเดินที่อื่นครับในซอกหลืบ หรือที่ๆ เราคิดไม่ถึงในตัวจังหวัด พี่ว่าส่วนของหนัง ที่มีผลต่อการถ่ายภาพ street ของพี่ ก็คงเป็นเรื่อง ต้นทุนที่เก็บมาจากการได้ดูได้ทำ� แล้วก็ มาเรื่องทำ�อาหาร SPT: เรื่องอาหาร เกี่ยวกับถ่ายสตรีทด้วยเหรอคับ? Noppadol: (หัวเราะ) มีนะ คือจะบอกยังไงดี มันก็เป็นศิลปะอย่างนึง นะ การที่เราใช้สัดส่วน ในการปรุง มากน้อย เพื่อทำ�ให้อาหารอร่อย มันก็ เหมือนการทำ�ให้ภาพหนึ่งภาพ น่าดู น่าสนใจเลยนะ สัดส่วนการวางเฟรม สีสัน เรื่องพื้นที่ก็มี การจัดวาง อาหาร ก็เหมือน การเล่นพื้นที่ในเฟรม SPT: เรื่องการวางเฟรมนี่ วางองค์ประกอบนี่ ฝึกยังไงอะครับ? Noppadol: โดยส่วนตัวของพี่นะ พี่ว่าเพราะพี่ดูหนังมาก มันเลยซึมซับ การวางคอมที่ดีนี่พี่ยกให้ Kurosawa เลยนะ มันมีทั้ง ระยะและการเคลื่อนไหว ในเฟรมเดียว


SPT: ขอกลับมาเรื่องหนังอีกนิดนะครับ ด้วยความสงสัยส่วนตัว เรียนทำ� หนังนี่เค้าสอนอะไรบ้างอะครับ เห็นคนเรียนทำ�หนังถ่ายสตรีทเก่ง ๕๕ (ทวีพงษ์ก็เหมือนเรียนทำ�หนัง) Noppadol: พงษ์นี่เป็นรุ่นน้องพี่ที่สาขาเลยครับ SPT: ฮา Noppadol: เรียนอะไร? โดยรวมก็ ให้คุณเข้าใจถึงการกำ�เนิดมัน ประวัติศาสตร์ แล้วมาเรียนการ ตีความการวิจารณ์ เครื่องมือ อุปกรณ์ หน้าที่ ส่วนต่างๆ แล้วก็แยกออกไปเรื่อง บท ซึ่งอันนี้ยากหน่อย การ แสดง การกำ�กับ การจัดแสง เยอะมากๆ ที่มหาลัยจะให้เราได้ลองทำ�เยอะ มาก มันได้ฝึกอะไรเยอะ แต่พี่ว่า มันมีเรื่องการแสดงมาช่วย กับเรื่องคอม โพสนะ คือ วิธีที่พี่ใช้ถ่ายให้ได้จังหวะดีๆ บางครั้งก็อาศัยการพูดคุยนำ�ไป ก่อน แล้วรอจังหวะ ซึ่งช่วยได้เยอะมาก ถ้าเข้าไปแล้วไม่ทัน แล้วมันยังได้ อยู่ ก็อาศัยคุย แล้วรอใหม่ SPT: ที่พี่ดิวบอกพูดนำ�นี่คือชวนคุยเหรอครับ Noppadol: อย่างภาพ คุณป้า กับ ต้นไม้ในทะเลนี่ พี่รอจังหวะให้มีคน มาร่วมกับต้นไม้ รอนานมาก อยู่ๆ คุณป้าเก็บหอยนางรมย์ขึ้นมาจากทาง ซ้ายพอดี เราก็เข้าไปถ่ายภาพอื่น แต่พอแกเห็นเราก็ ตกใจอ่ะนะ เราก็ชวน คุยเรื่องหอยนางรมย์ อะไรประมาณนี้ แล้วพอแกมาถึงเฟรมที่คิดไว้ ก็ ถอยออก แล้วก็ จัดไปหลายใบ คือมันเป็นการทำ�ให้เกิดความผ่อนคลายนะสำ�หรับพี่ คือพี่จะดูว่า ตอน-

นั้นเราเข้าไปแล้วมันเป็นไง แล้วถอยออกมา มันแล้วแต่วิธีการอ่ะนะ ถ้าเป็น street จ๋า เค้าก็จะไม่ยุ่งกับ subject เลย แต่พี่คนนึงล่ะไม่ใช่ เราไม่ได้จัดฉากอะไรนั่นล่ะสำ�คัญ เรายังคงเป็นผู้ สังเกต Alex Webb ก็ยังมีการพูดคุยกับแบบเลย มันอยู่ที่จังหวะ SPT: ปกติซีนหนึ่งถ่ายเยอะไหมอะครับ Noppadol: ภาพดีๆที่ได้นี่ประมาณ 10 ใบ ต่อภาพครับ ถ่ายเผื่อจังหวะ เลย พอดูแล้วมันใช่นี่ วัดรัวล่ะครับ แต่นานๆจะได้กดยับสักที SPT: เจอซีนที่มี potential นี่หยุดรอนานไหมครับ Noppadol: รอเต็มที่ก็ 30-40 นาทีล่ะครับ เพราะจริงๆเป็นคนชอบเดิน หรือ ขับรถถ่ายไปเรื่อยๆ เอาเข้าจริงสถานที่ๆจะรอ ตามบ้านพี่มีไม่เยอะ นัก พี่อาศัยดูจากกิจกรรมผู้คนมากกว่า อย่างภาพต้นไม้ริมทะเลนั่น โชค ช่วยมากๆ เพราะมันเป็นที่ๆไม่มีคนผ่านเลย พี่ไปเพราะจะไปดูเค้าตกปลา ก็เลยรอ เห็นต้นไม้แล้วก็นึก ถ้ามีคนผ่านมาก็จะถ่ายเก็บไว้ แต่นั่นแหละ พออะไรมันเข้าที่เข้าทาง มันก็อยู่ที่เราแล้วล่ะ SPT: ถ่ายบ่อยๆ เคยเจอคนไม่ชอบใจไหมครับ Noppadol: (หัวเราะ) พี่เคยโดนการ์ด ตัวใหญ่ 3 คน คุมตัวเลยล่ะครับ เล่นเอาแย่เลย ตอนนั้นมีงานกาชาด อะไรประมาณนั้น แล้วเราก็เดินถ่าย ในงานมาเรื่อย อยู่ก็มาคุมตัวขอดูรูป ให้ลบรูปให้หมด เราก็โอเค ลบก็ลบ


มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเลย ตอนนี้เลยกลัวอะไรน้อยลง อาจเพราะเจอ แบบโหดมาแล้ว SPT: มีรูปดีไหมครับตอนนั้น Noppadol: ตอนนั้นคิดว่าดี แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่ล่ะ SPT: ฮา Noppadol: ตอนนี้เริ่มเห็นว่า สถานที่ถ่ายนั้นสำ�คัญมากๆ SPT: ยังไงอะคับ Noppadol: ถ้าเลือกได้ เลือกที่มัน clean ไม่รก ถ้ามีแสงที่ดี หรือมีบาง อย่างที่รอจะเล่นได้นี่ เยี่ยมเลย ส่วนการถ่ายกับผู้คนน ี่เพราะพี่อยู่ ตจว. มันเลยต้องอาศัยการหลบ หรือเลือกมุมให้ถูก เพราะบ้านเรามันรกน่ะ จุด นี้ต้องยอมรับ SPT: นี่เป็นสาเหตุที่มีช่วงหนึ่งเห็นรูปจากสนามกีฬาอยู่บ่อยๆ รึเปล่า ครับ ฮา Noppadol: (หัวเราะ) ใช่ครับ เพราะสถานที่เลย ชุมพรเมืองเล็กมากๆ ครับ ขับรถ 15 นาทีก็รอบเมืองล่ะ ตัวเลือก สถานที่น้อยมากๆ นี่กะทำ� series กีฬา ดีมั้ยครับเนี่ย ฮา

SPT: แล้วเดินที่เดิมๆบ่อยๆ มีคนจำ�ได้ไหมครับ Noppadol: จะเหลือเรอะ ยิ่งพี่ทำ�ร้านอาหาร พอมีคนรู้จัก แต่นั่นแหละ ไม่เป็นปัญหาครับ SPT: ต่างจังหวัดไม่กว้างขวางนักมีถ่ายแบบคนเดิมบ้างไหมครับ Noppadol: มีครั้งเดียวเองนะ ตลกมากๆ คือตอนพี่เริ่มถ่ายใหม่ๆ มี ผู้หญิงชายคู่นึงมาทานข้าวตรงข้ามพี่ ลองนึกภาพตามนะ ผู้ชายเปิด หนังสือพิมพ์อ่าน ผู้หญิงเล่นมือถือ ต่างอยู่ในโลกตัวเอง ภาพที่พี่ถ่ายมัน จะมี ขวกโค๊กเปล่า คั่นอยู่ตรงกลาง ตอนนั้นตั้งชื่อเวลาในขวดแก้ว ฮา ปีนึงผ่านไป พี่นั่งกินข้าวร้านอื่นนะ เจอคู่เดิม เฟรมเดิม ต่างคนต่างทำ�ไร ของตนเหมือนเดิม ก็ถ่ายไว้ ไม่รู้ปีหน้าจะเจออีกมั้ย ฮา แต่ที่เดินถ่ายจริงจังแล้วซ้ำ�นี่ยังไม่เคยนะ มีคู่นี้คู่เดียวเลย SPT: ฮา ขอให้เจออีกนะครับ ทำ�เป็นซีรีย์ น่าจะฮา Noppadol: นั่นสิน่าจะดีนะ เผลอๆปีนี้มีลูก SPT: งี้ต้องมีตอนท้องอีกสักช้อต ก่อนมีลูก ฮา Noppadol: (หัวเราะ) ไม่รู้มีไปยัง SPT: ปกติมีกล้องติดตัวพร้อมถ่ายตลอดเวลาไหมครับ Noppadol: ไม่ครับ เพราะไม่สะดวกจริงๆ แล้วมันก็ทำ�ให้การที่เราต้อง-


ตั้งใจทำ�งานหรืออะไรมันหายไปครับ พี่จะใช้เวลาวันหยุดครับ มันยังเป็น งานอดิเรกอ่ะนะครับ เพราะเรายังต้องดำ�เนินชีวิต ก็ต้องทำ�มาหากิน ใช้ ช่วงวันหยุดให้มันคุ้มมากที่สุด แต่ตอนนี้ ตัน ฮา กำ�ลัง ชาร์จแบต อย่างแรง เห็นพี่เงียบๆไปนี่ ชารจ์แบต เต็มๆเลยล่ะครับ SPT: ชาร์จแบตยังไงบ้างครับ Noppadol: หยุดถ่ายครับ หันมาดูงานมาก หลายๆแบบ หาแรงบันดาล ใจมั้ง ตอนนี้อยากจะทำ�อะไรบางอย่างครับ ให้มันมีความหมาย คิดเรื่อง series อยู่ ที่มันให้อะไรบางอย่างครับ SPT: ช่วงนี้มีติดตามงานของใครเป็นพิเศษไหมครับ Noppadol: คนนี้เลยครับ Dimitris Makrygiannakis งานสุดมากๆ ถ้าเป็นคนไทย ก็พี่กอล์ฟ (T-bone) พี่นะ (MR.Lightman) SPT: มีเก็บพวกหนังสือบ้างไหมครับ Noppadol: มีนิดหน่อยครับ มี World atlas of street photography แล้วก็ Street Photography Now ส่วนมากจะดูในเวปแหละครับ ประหยัดเงิน ที่ซื้อนี่คือที่ชอบจริงๆ แต่ก็ยังมีเล็งๆไว้อีกหลายเล่ม เพราะ การดูจากนังสือมันให้ความรู้สึกดีกว่ากันมากๆครับ ขอหยอดกระปุกก่อน

SPT: เล็งเล่มไหนบ้างครับ เผื่อจะไปสอยบ้าง Noppadol: magnum contact sheets, Alex Webb: The Suffering of Light แล้วก็ The Americans เล่มแรกนี่ รอ ผบทบ. อนุมัติงบอยู่ SPT: เห็นบางภาพของพี่ดิวถ่ายใกล้แบบมากๆ สามารถทำ�ได้แต่แรก หรือมีวิธีฝึกยังไงบ้างอะครับ Noppadol: แรกๆพี่ก็ยังไม่กล้าครับ..ก็ค่อยๆฝึกครับ เริ่มจากพี่ฝึกกับ ระยะชัดก่อนครับ กะไว้คร่าวๆ ถ้าเจอซับเจคที่ดูแล้วน่าสนใจก็จะตาม แล้วรอจังหวะครับ..อาจจะกลัวตอนแรกๆแต่หลังๆชักสนุก แต่ตอนนี้มี ปัญหาใหม่อ่ะ ชอบเข้าใกล้เกิน เบลอตลอด อ้อที่สำ�คัญ ยิ้มไว้เสมอครับ และขอบคุณทุกครั้ง ต้องฝึกไว้บ่อยๆ แล้วจะ เลิกกังวลในการเข้าใกล้ SPT: ปกติไม่พกกล้องตลอดเวลา เวลาไม่พกกล้องเคยเจอซีนที่สะดุด ทำ�ให้อยากถ่ายไหมครับ Noppadol: จริงพี่ก็มองตลอดเลยนะครับ ถือว่าเป็นการฝึก แล้วก็เล็ง สถานที่ เผื่อไว้ในวันหยุด บางครั้งก็เจออะไรที่โดนๆบ่อยๆ แต่ไม่มีกล้อง ก็ทำ�ใจล่ะครับ อนาคตก็เล็งๆกล้อง film เล็กๆไว้สักตัว กะเปลี่ยนเป็น พกกล้อง film เลยแล้วกัน เช้าไปจ่ายตลาด มือช้ายหิ้วตระกร้า มือขวา ถือกล้อง คงสนุกไปอีกแบบ


SPT: มีวันแย่ๆ ประมาณตั้งใจเดินถ่ายเต็มที่ แต่กลับมาไม่ได้อะไรเลย ไหมครับ Noppadol: มีครับ ยิ่งพักหลังๆ เริ่มเบื่อกับสถานที่เดิมๆ ใจอยากออกไป เดินถ่ายมาก แต่มันไม่รู้จะไปไหน ก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อย ถ่ายมาบ้าง นิดหน่อย แต่พอกลับมาดูมันก็ไม่ใช่ครับ เดี๋ยวนี้พยายามถ่ายเสร็จแล้ว ทิ้งมันไว้สักระยะ แล้วกลับมาดูใหม่ แล้วมันจะมองภาพได้ชัดขึ้นครับ SPT: หมายถึงทิ้งช่วงสักพักก่อนมาคัดภาพใช่ไหมครับ Noppadol: ครับ..บางทีสัก 2-3 วัน แต่วันไหนที่รู้ว่าใช่ อย่างภาพ ขาใน สระว่ายน้ำ� พี่รีบเอามาดูทั้งหมดเลยล่ะครับ คร่าวๆ ดูคอมโพส ความชัด แล้วทิ้งใหม่ กลับมาดูอีกที SPT: ดูแล้วยังทำ�ไมยังทิ้งไว้เพื่อมาดูใหม่อีกอะคับ Noppadol: คือตอนแรกแค่ให้ชัวร์ว่าเราเก็บได้ไม่พลาด ทิ้งไว้อีกรอบ เหมือนการดูจิตใจตัวเอง แบบเป็นกลางครับ ว่ามันใช่ หรือดีมั้ย และใบ ไหนดีกว่ากัน ช่วงถ่ายแรกๆนี่ใช่หมด 5555 พักหลังๆ ลองคัดภาพครับ ไม่เคยเรียน edit ภาพนะครับ แค่ลองแล้วทำ�ดูครับ ภาพ b-side หรือ แย่ๆนี่เยอะมาก SPT: นิยามคำ�ว่า b-side ของพี่ดิวนี่ คือ อะไรครับ Noppadol: ภาพรอง อาจจะไม่ใช่ในเหตุการณ์เดียวกัน แต่มัน มีความ

ไม่สมบูรณ์ (ในความคิดพี่ รกไป ไม่มีเรื่องราว ดูแล้วไม่รู้สึกอะไร) ประมาณนี้ครับ พี่ก็จะพยายามเลือกที่ใช่ (ในความคิดพี่) เก็บไว้เป็น พอร์ท ใน Flickr ครับ แล้วก็ลงในกลุ่ม Street แต่พักหลังๆ ไม่มีภาพ ก็ขุด b-side ลงบ้างล่ะครับ ต้องบอกก่อนนะว่าพี่ก็เพิ่งจะพอเข้าใจขึ้นมา บ้าง ช่วงแรกๆ ก็ลงอย่างสนุกสนานกันเลยทีเดียวครับ SPT: ที่บอกว่า ”เพิ่งพอจะเข้าใจ” นี่ คือเข้าใจเรื่องอะไรครับ ช่วยขยาย ความหน่อยครับ Noppadol: พอเห็นภาพคำ�ว่าภาพ street ชัดขึ้นครับ แล้วก็จะเลือกภาพ ที่เราคิดว่าพอจะดีหรือใช้ได้ เมื่อก่อนถ่ายภาพได้มาก็จะคัดระดับนึง แต่ ด้วยที่ยังไม่ค่อยชัดเจน ก็ลงไปหมด ส่วนนึงมันก็ดีครับ ได้มีงานให้คน เห็นตลอด แต่พักหลังๆรู้สึกมันจะช้ำ� คือลงภาพไม่ดีก็ลง มันช้ำ�ๆ ยังไง บอกไม่ถูก ตอนนี้คือจะพยายามถ่ายเก็บไว้แล้วค่อยๆดู ถ้าดีถึงจะค่อย ลงครับ แต่บางครั้ง เห็นพี่ๆน้องๆลงกัน ก็อยากลง ก็ไปหามาลงก็บ่อย ครับ ฮา SPT: แล้วตกลงถ่ายสตรีทมันสนุกยังไงบ้างครับ Noppadol: สำ�หรับพี่เลยนะ ตื่นเต้นว่าจะได้เจออะไร แล้วจับมันทัน มั้ย แถมได้ คิด ตลอดเวลา หน้านี่เดินยิ้ม แต่ในหัวที่หมุนไปหมดล่ะ ฮา เหมือนการออกไปผจญภัยนะพี่ว่า ยิ่งสถานที่ที่ไม่เคยไปนี่ ตื่นเต้นสุดๆ มันเหมือนความสด ของภาพด้วยส่วนนึงนะพี่ว่า อะไรดูบ่อยๆ ก็น่าเบื่อ



คิดว่างั้นนะ SPT: ปกติเวลาถ่ายเนี่ยพอจบหนึ่งซีน ส่วนใหญ่แบบรู้ตัวไหมครับ? Noppadol: มีทั้งรู้และไม่รู้ครับ..แต่ส่วนใหญ่จะรู้ ฮา จะเหลือเหรอ คน ถ่ายตัวใหญ่ซะขนาดนี้ แต่พี่ก็ใช้วิธีพูดคุยอย่างที่เคยบอกครับ คือพอพี่ ได้ภาพจังหวะแรกที่เค้าไม่รู้ตัวแล้ว พี่ก็ยังคงถ่ายอยู่ พอดูท่าไม่ได้การก็ ...พูดขอบคุณ ชวนคุยนู่นนี่ ทำ�ให้พี่รู้จักคนเพิ่มขึ้นด้วยครับ ระหว่างนั้น ก็อาจมีแอบมองจังหวะ ซึ่งบางครั้งก็ดีกว่าจังหวะแรกอีกฮะ SPT: ปกติเวลาชวนคุยนี่ออกประมาณไหนอะครับ ชวนเค้าคุยเรื่องไรอะ ครับ? Noppadol: ทั่วไปครับ คือบางทีเราเข้าไปอยู่ในพื้นที่ safe zone ของ เค้านะพี่ว่า คนรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เราก็ถ่ายไปแล้วนั่นแหละฮะ ก็ใช้ ยิ้ม และถามถึงกิจกรรมที่เค้าทำ�อยู่บ้าง ซักถามเกี่ยวกับพื้นที่ ขอข้อมูลเค้า บ้าง คราวนี้พอมีการพูดคุย มันก็ผ่อนคลายระดับนึง ทั้งเราและแบบครับ

ถ่ายภาพแบบไหน มันก็ช่วยได้ง่ายขึ้นครับ อย่างพี่เข้าไปถ่ายรูปในสระ ว่ายน้ำ� รร. ก็ต้องขออนุญาตจาก อ. เวร เข้าไปก็มีการพูดคุยให้ดูงานบ้าง เพื่อขอเข้าไปเดินครับ ใช้หลายวิธีครับเพื่อหาสถานที่เดิน SPT: คือเปิด flickr ให้ดู ไรงี้เหรอครับ Noppadol: ครับ นี่พูดถึงการเข้าไปในที่ราชการนะเพราะมันก็คงแปลกๆ ถ้ามีคนเดินเข้าไปถ่ายรูปคนอื่นในสระ แต่เราก็ขอแค่คนดูแลนะฮะ พอ เข้าไปก็เหมือนเดินถ่ายปรกติ พวกนี้มันก็แค่วิธีการพาเราเข้าไปในสถาน ที่ที่ตั้งใจก็แค่นั้นแหละครับ ของพี่มันคือการ 1 วางแผน 2 สัญชาตญาณ ที่เหลือ ก็แค่ รู้สึก แล้วกด SPT: ดูเหมือนพี่ดิวมีการวางแผนเยอะทีเดียว Noppadol: ครับ เพราะอยู่ ตจว. นะพี่ว่า มันมีสถานที่น้อย ต้องคิดถึง สถานที่ก่อน แล้ววางแผน ดูกิจกรรม ดูแสง เข้าไปอยู่ แล้วรอ แต่ตอนนี้ ไม่รู้จะไปไหนแล้วฮะ ตันสุดๆ

SPT: คือถามหรือชวนคุยในสิ่งที่เค้าทำ�ใช่ไหมครับ? Noppadol: แล้วแต่เลยครับ มันอยู่ที่เหตุการณ์ พอเค้าผ่อนคลายลง คราวนี้ก็ง่ายขึ้นครับ คนไทยเราชอบพูดคุย ยิ่ง ตจว. เราก็สามารถเล็งบาง จังหวะได้ ก็ลองถ่ายๆดูครับ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่ามันจะเป็นวิธีที่ ถูกต้องมั้ย แต่มันช่วยพี่ในการเดินถ่ายได้ง่ายขึ้นมากครับ เพราะถ้าคิดว่า street ต้องไม่มีปฎิสัมพันธ์กับแบบเลย พี่ก็คงทำ�ไม่ได้ 555 มันแล้วแต่ สถานการณ์ครับว่าจะเลือกแบบไหน วิธีการไหนที่จะทำ�ให้เราสามารถเข้า ถึงและเก็บช่วงเวลานั้นมาได้

SPT: แล้วมีแผนผ่านทางตันนี้ยังไงครับ Noppadol: ตอนนี้คิดถึงเรื่องกลุ่มคนครับ อย่างเช่นตลาด พี่กำ�ลังเล็งๆ อยากลองใช้ช่วงเวลาเล่าเรื่อง ตั้งแต่กิจกรรมตอนเช้ายันคำ� ในจุดๆเดิม แต่คงเก็บพักใหญ่

SPT: จากที่พี่ดิวเล่า เหมือนฟีดแบ็คจากตัวแบบส่วนใหญ่เป็นบวก Noppadol: (หัวเราะ) เป็นลบก็มีครับ

SPT: ปกติชอบงานแบบไหนมากกว่ากันครับ series หรือ จบในภาพ? Noppadol: มันดีต่างกันนะพี่ว่า จะบอกชอบทั้ง 2 เลย ฮา ถ้าทำ�ได้ และ มีจังหวะ คือไงอ่ะ จบใบเดียว ก็เหมือนหนังสั้น 5- 10 นาที เราต้องมี theme ที่แข็งแรง ชัดเจน conflict แข็งแรง หนังมันถึงดี จบใบเดียวก็ คงเป็นแบบนั้น แต่ series เหมือนเราได้มีโอกาสทำ�หนังยาว เรามีเวลาที่ จะเล่าเรื่องมากขึ้น กว่าหนังสั้น แต่ก็ยังคงต้องมี theme และ conflict ที่แข็งแรง หนังยาวจึงสนุก แต่เรามีอะไรที่จะใส่ในรายละเอียดได้เพิ่มขึ้น

SPT: แล้วทำ�ไงอะครับ Noppadol: แต่เราก็ชิงขอบคุณ ยิ้ม แล้วจากไป แต่มีน้อยครับ SPT: มีโดนวิ่งตามไหมครับ ฮา Noppadol: เคยครับ ตอนนั้นพี่ไปเดินแถวเยาวราชถ่ายคนขายผ้า เค้า เห็นเราถ่าย แล้วเดินไป เค้าวิ่งมาขอดูแล้วยืนยันให้ลบ เราก็โอเคครับ ลบก็ลบ ไม่เป็นไร คือเราเคยเจอที่มีการ์ดมาคุมตัวแล้ว อย่างที่เคยเล่า เหมือนมีภูมิ SPT: เชื่อว่าพี่ดิวคงเคยเจอคำ�ถาม ประมาณ ถ่ายอะไร ถ่ายทำ�ไม ปกติ ตอบว่าอะไรอะครับ Noppadol: ใช่ครับ ประจำ� พี่ตอบสั้นๆครับ “ฝึกถ่ายรูปครับ” เพราะถึง เราจะอธิบายมากมาย ว่าเป็นภาพยังไง คิดว่าเค้าคงไม่เข้าใจ เลยใช้คำ� ตอบที่เข้าใจง่ายและไม่น่าเป็นปัญหาครับ แต่ถ้ามีคนขอดูและถามว่าทำ�ไม ภาพเป็นแบบนี้พี่ก็จะอธิบายเพิ่มครับ แถมบางทีมีงานที่เคยถ่ายให้ดูว่าเรา

SPT: แสดงว่าเป็น series? Noppadol: ครับ พอเริ่มถ่ายเรื่อยๆ มันก็เบื่อบ้างนะ ก็หาจุดมุ่งหมายขึ้น สักนิด ลองๆ ดูครับ ไม่ได้คาดหวังอะไรแต่ก็อยากทำ�ให้ดีเท่าที่ได้

SPT: conflict เป็นสิ่งจำ�เป็น? Noppadol: ใช่ สำ�หรับ หนัง ในภาพก็น่าจะเหมือน กิมมิค แต่ถ้า series มีความขัดแย้ง เป็น theme ก็ดีนะ น่าสนใจ ว้าว SPT: ช่วยขยายความคำ�ว่ากิมมิคหน่อยครับ ได้ยินบ่อย แต่ไม่ค่อย เข้าใจความหมาย Noppadol: ได้ไอเดีย! เหมือนลูกเล่น นะพี่ว่า มันทำ�ให้เกิดความน่าสนใจ จะทั้ง จากคอมโพส จังหวะ มุมมอง ที่คาดไม่ถึงบลาๆๆๆๆ แล้วแต่ทำ�ให้ ภาพน่าสนใจ


SPT: ในศาสตร์ของหนัง ถือว่าเป็นสิ่งจำ�เป็นที่ต้องมี? Noppadol: มันเป็น ส่วนนึงที่สำ�คัญในบทครับ คือถ้ามันไม่มี ความขัด แย้ง มันก็ไม่เกิดเรื่อง หนังมันก็ไม่เดิน อย่างหนังรัก แก่นของเรื่องคือ ความรัก แต่ก็มีรัก หลายรูปแบบนะ ในส่วนความรักก็ต้องมาสร้างความ ขัดแย้ง เช่น รักต่างชั้น ต่างเพศ แล้วแต่ คราวนี้ก็ลองพัฒนาบทไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็น street นำ�วิธีนี้ไปใช้ดู พี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกต้องมั้ยนะ อาจจะ กลายเป็น documentary ก็ลองๆดู street ของพี่มันคือการลองอยู่แล้ว ครับ ขอแค่ เราสังเกตุ และไม่จัด แต่พี่คิดว่าเรามีสิทธ์คิดแนวทาง 5555 บอกแล้วนะพี่ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการถ่ายภาพเลย นอกจากการ เรียน ถ่ายภาพเบื้องต้น นอกนั้น เรียนหนังอย่างเดียว street ก็ค้นคว้า กับได้พี่ๆน้องๆในกลุ่มแนะนำ� SPT: โพสภาพใน flickr กับ facebook เนี่ย เหมือนหรือต่างกันยังไง บ้างครับ Noppadol: ใน flickr นี่ พี่จะคิดมากกว่าครับ เพราะตั้งใจให้เป็น พอร์ท ส่วนใน fb. ก็ผ่อนลงมา ลงทั้งที่คิดว่า ดี และรองๆ ครับ บางที่ไม่ใช่ street ก็ลงครับ เพราะเราก็ชอบที่จะถ่ายอย่างอื่น อีกอย่างหากเราลงภาพ ใน flickr เยอะๆ มีอะไรก็ลง พี่ว่าคนที่ตามดูงานเค้าก็ดูไม่หมดนะครับ ต้องชอบกันจริงจังเลย ขนาดตัวพี่เองดูภาพคนอื่น บางทีเต็มที่ 10-20 ภาพ หรืออาจน้อยกว่านั้น ยิ่งบางทีภาพไม่ได้ แบบกด ผ่านๆ คือ ของ คนเก่งๆ อย่าง พี่กอล์ฟ พี่นะ หรือพงษ์ ยกตัวอย่างนะจริงๆตามอีกเพียบ นี่แต่ล่ะภาพทำ�ให้เราหยุดที่จะมองได้นานเลย ควรใส่ใจสักนิดครับพี่ว่า ในการลงภาพใน flikr นะ fb. หรือในกลุ่มนี่ อีกเรื่อง เอาสนุกด้วย

SPT: พวกกรุ๊ปใน Flickr ที่ approve กันยากๆ เนี่ย เลือกรูปยังไงอะ ครับ มีหลักอะไรไหม Noppadol: สำ�หรับพี่คือการเก็บรวบรวมผลงาน เหมือนเป็นที่เผยแพร่ งานของเรา ...ในกลุ่ม flickr ที่ว่ายากๆนั้นก็ต้องแล้วแต่มุมมองของผู้ดูแล ครับ เราก็แค่ลองเสนองานเข้าไปที่เราคิดว่าน่าจะเหมาะสม ซึ่งภาพที่เราส่ง เข้าไปนั้น ทุกคนก็ส่งได้หมดนะครับ มีโอกาสทุกคน มันก็อยู่ที่ภาพแล้ว ภาพที่เข้าได้ก้คงต้องชัดเจนทางใดทางนึง หรือน่าสนใจเข้ากับกลุ่มนั้นๆ ตามความเห็นของผู้ดูแล แต่ทั้งหมดก็แค่การมีโอกาสเผยแพร่งานตัวเอง ในวงกว้างได้มากขึ้น รู้จักช่างภาพ street เก่งๆจากทั่วโลก..จุดนี้สำ�คัญ ทำ�ให้เราเห็นว่าตอนนี้ street มันเดินไปทางไหน พี่จะตื่นตาทุกครั้งที่เห็น อะไรแบบ เฮ้ยถ่ายได้ไง!!!...จริงๆช่วงนี้พักหลังๆก็ไม่ได้ลงตามกลุ่มมาก นักครับ เริ่มอยากแค่ถ่ายแล้วถ้าโชคดี ได้ภาพที่ดี ก็จะลงภาพไว้ในพอร์ท ตัวเองเฉยๆ เก็บไปเรื่อยๆ ความแข็งแรงของภาพเราเอง อย่างที่พี่บอกว่า พี่ได้รับคำ�แนะนำ�จากพี่เต้ย (Taey Kittipong) ให้ลองเลือกภาพดูแล้ว ตัดออกบ้าง รวมถึงการแยกภาพสีกับขาวดำ� ถ้าจะถ่ายสีก็สีให้สุด แล้ว ค่อยมาจับขาวดำ� (พี่กอล์ฟ แนะนำ�) มันเป็นการทำ�ให้ภาพเราน้อยลง แข็ง แรง และชัดเจนขึ้น นี่คือที่พี่กำ�ลังเรียนรู้อยู่ครับ ทั้งการ แยกภาพดี ไม่ดี วิเคราะห์ภาพให้ได้ จริงๆพี่เองก็เหมือน เด็กที่ เพิ่งจะเริ่มยืนได้ และกำ�ลังจะลองเดิน แต่ก็มีกลัวบ้างกับการล้ม ที่พูด มา ก็แค่ประสบการณ์ในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ถามผู้อื่น มันอาจจะมีผิด หรือถูก ก็ขอโทษไว้ด้วยนะครับ สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำ�กับการเริ่มต้น หาก อยากจะทำ�ความเข้าใจกับอะไร เอาตัวและความอยากรู้เข้าไปในกลุ่มคนที่ สนใจเรื่องเดียวกัน คุณจะได้ทั้งความรู้ และ มิตรภาพ


SPT: ตั้งแต่เล่นกลุ่ม Street Photo Thailand มา ได้ไปออกรอบกับ ใครในกลุ่มบ้างไหมครับ Noppadol: ไม่เคยครับ จริงๆพี่คิดว่า พี่ชอบเดินคนเดียวนะครับ มันมี สมาธิดี แต่ถ้าได้มีโอกาสก็อยากไปเดินกับคนอื่นๆดูบ้าง เพื่อสังเกต ดู การถ่าย เพราะแต่ละคนก็คงมีวิธีการไม่เหมือนกัน ตอนไปเชียงใหม่เจอ บาส (Krerkburin Kerngburi) ก็เป็นช่วงสั้นๆ จังหวะเดินกลับรถ จะ เรียกว่าเดินถ่ายก็ไม่น่าใช่นะ ฮา SPT: ช่วงเริ่มถ่ายสตรีทใหม่ๆ พี่ดิวเหมือยท้อมาก เกิดอะไรขึ้นครับ Noppadol: เริ่มแรกมัน ไม่เข้าใจเลยครับ ตอนแรกก็คิดว่าใช่ ช่วงนั้นจะ ถ่ายอะไรที่มันแปลก สวย ดูแล้ว สะดุดตา เช่นภาพแขน หรือ คนมีแอร์ ต่อหัว ต่อนู่นนี่ แต่มันไม่เล่าเรื่องไง street มันต้องทำ�ให้เราได้คิด ได้ตั้ง คำ�ถาม หรือทำ�ให้เราเสียเวลาที่จะดูมัน อาจจะเพราะมันสวย ก็ได้ พี่นึกถึง พี่ กอล์ฟ ขึ้นมาเลยฮะ แกเคยแนะพี่ว่า ถึงคอมโพสท์จะสวยแค่ไหน หาก ไม่มีการเล่าเรื่องที่ดีก็เหมือนบ้านไม่มีเสา นับแต่นั้นพี่ก็พยายาม ฝึกการ เล่าเรื่อง ได้บ้างไม่ได้บ้าง ใช่ว่าพี่จะถ่ายภาพได้ดีตลอดนะครับ ออกตัวไว้ เลย ภาพแย่เยอะมาก ใน 30 ใบ จะได้สัก ใบ ออกวันนึงได้โดนๆ สักใบ ก็สุดล่ะ มีคิดจะเลิกถ่ายช่วงนึง เพราะตันมาก คราวนี้พยายามไม่กดดัน ตัวเอง ลองปล่อยๆ คิดว่าเราถนัดเรื่องอะไร เรามีหัวเรื่องคอมโพส ก็ เอาจุดนั้นมาก่อน แล้วค่อยๆฝึก ดูภาพของ magnum บ้าง ดูงานแบบ ใน observe บ้าง แล้วลองวิเคราะห์ภาพดูว่าชอบไม่ชอบเพราะอะไรอันนี้ พี่กอล์ฟก็แนะนำ� เลยพอจับทางได้บ้าง ตอนนี้ก็คิดว่า ถ่ายไปเถอะ อย่า คิดมาก สนุก เข้าไว้ street มันไม่ตายตัว รอบตัวคุณมันใช่หมด มันอยู่ที่ คุณจะสังเกตุเห็นและจับมันไว้ได้มั้ย ดีไม่ดีนั่นอีกเรื่องนะ แถมต้องอาศัย

โชคอีก SPT: ทีนี้ถ้ามีคนมาปรับทุกข์ ว่าตัน ไปต่อไม่ได้ จะให้คำ�แนะนำ�ยังไง ครับ Noppadol: ถ้าถึงคำ�ว่า ตัน ไปต่อไม่ได้..อยากให้ลองถามตัวเองครับว่า เรามาถ่ายภาพแนว street เพราะอะไร ยังสนุกกับมันอยู่มั้ย..ถ้ายังสนุก ก็แค่ออกไปเดินถ่ายใหม่ ศึกษาหาความรู้เพิ่ม เข้าดูภาพในกลุ่ม street ที่ ชัดเจน เรื่อยๆ ดูภาพจาก master เช่น magnum ทำ�ให้เต็มที่ ...ที่พูด มาเป็นวิธีที่พี่ใช้ตอนพี่ท้อมากๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นบางครั้ง แต่ปัญหาเปลี่ยน ไปคือ ตัน สถานที่ แต่ก็นั่นแหละฮะ ยังสนุก มีเวลาก็อยู่ไม่ติด ต้องออก ไปเดิน... SPT: เคยคิดจะใช้แฟลชไหมครับ Noppadol: ถ้ามีโอกาสก็อยากลองครับ ก็คงสนุกไปอีกแบบ แต่ตอนนี้ยัง ชอบ แสงแดดอยู่ 555 ฝึกด้วยตัวเอง มาถึงตรงนี้ก็ดีใจมากแล้วครับ ถ้า มีโอกาส ยังอยากไปอบรมเลยครับ แต่ด้วยงานและเวลา ถ้าเป็นเมื่อก่อน หรืออยู่ กทม. นี่ไม่พลาดแน่ๆ ก็ต้องลองผิดลองถูกต่อไปครับ SPT: มีเทคนิคออกเดินในช่วงหน้าร้อนนี้ไหมครับ? Noppadol: รักจะถ่าย street ต้องอดทน ฮา ไม่มีไรมากหรอกครับ ร้อน นักก็หา ตรอกซอกซอย เดินในร่มบ้าง เลือกเวลาให้แสงอ่อนแรงลงหน่อย อย่าตากแดดจัดเกินเดี๋ยวจะไม่สบายเอาครับ



SPT: ถ้ามีคนคิดค้นนวัฒกรรมใหม่ขึ้นมาได้สักอย่าง ที่จะช่วยให้การ ถ่ายสตรีทง่ายขึ้น คิดว่ามันจะเป็นอะไรครับ Noppadol: ปัจจุบันพี่ก็ว่าเทคโนโลยี่มันก็ไปไกลมากแล้วนะ อย่างเช่น กล้องที่มีขนาดเล็กลง ค่า iso ที่สูงจนถ่ายกลางคืนเป็นกลางวัน ถ้าทำ�ให้ ถ่าย... ง่าย... กว่านี้พี่ว่าความสนุกของมันอาจจะน้อยลงแน่ พี่ว่าความ ยากในการถ่ายภาพแนวนี้ จะทั้งจากตัวแบบเอง การรู้จักมอง เทคนิค ต่างๆ ล้วนเป็น สเน่ห์ ของภาพ street ....อะไรที่มันได้มาง่ายๆบางทีอาจ ทำ�ให้เราลืมคุณค่าของมันไป.... SPT: ในมุมมองพี่ดิว มองว่าการถ่ายภาพแนวสตรีทนี่อยู่ตรงไหน มี พื้นที่มากไหมในวงการถ่ายภาพโลกครับ? Noppadol: จริงๆพี่ว่า street ....นี่มันเข้าไปอยู่ในทุกแบบ ของการถ่าย ภาพเลยนะครับ จะ landscape portrait Architecture ภาพข่าว และอื่นๆ มันมีการหยิบยืมรูปแบบ street นำ�ไปใช้ ซึ่งก่อนที่พี่จะมา ถ่าย street ก็เคยเห็น แต่ไม่รู้ว่าเป็นภาพแนว street ไม่รู้พี่คิดไปเองมั้ย นะ ลองคิดเล่นๆ หากภาพ street เป็นเพียงสิ่งที่ คน กำ�หนดคำ� และ ตั้งกฏเกณ์ขึ้น อีกหน่อยมันก็เหมือนคำ�ว่า วัฒนธรรม เมื่อเวลาผ่านไปรูป แบบของวัฒนธรรมมันก็มีการเปลี่ยนแปลง แนวทางของภาพ street ใน

อนาคตก็น่าสนใจว่ามันจะไปทางไหนต่อ บางทีพี่เห็นผู้คนจำ�กัดตัวเอง ว่า ถ่ายภาพแนวนี้ห้ามนั่นนี่ แต่พี่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับความคิด และการ สร้างสรรค์ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน มันอาจจะไม่ดีตอนนี้ แต่ใครจะรู้ ล่ะว่าอีกหน่อยจะเป็นไง แค่ตอนนี้ ถ่ายภาพให้ สนุก ก็น่าจะดีแล้วนะครับ สำ�หรับพี่ อย่าคิดมากนัก (อันนี้แอบบอกตัวเอง) ภาพที่เราถ่ายมันก็บอก อะไรของมันเองอยู่แล้ว... หน้าที่เราจบตั้งแต่กดภาพแล้วล่ะครับ SPT: คิดว่าตัวเองในอีก 3 -5 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไงในโลกของการถ่าย ภาพครับ Noppadol: ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยครับ เพียงแค่คิดว่า ถ้ายัง ...สนุก.... ซึ่งพี่จะคอยตั้งคำ�ถามนี้กับตัวเองเสมอ ...เราก็ยังคงที่จะออกไปเดินถ่าย พบปะพูดคุยกับผู้คน หาความรู้เพิ่ม ...ก็คงมีเท่านั้นครับ ส่วนงานจะดีขึ้น กว่าตอนนี้มั้ย มันก็คงเหมือนมีวันที่ได้ภาพดี และไม่ดี ...อย่าไปตั้งอะไร กับมันมากครับ SPT: ถ้ารู้ตัวว่ามีคนถ่ายรูปเราอยู่ จะทำ�ไงครับ Noppadol: ทำ�เป็นไม่เห็นครับ เผื่อเค้ากำ�ลังฝึกถ่าย street



EDITOR’s PICKS



Vineet Vohra


Sandip Koodali


Poupay Jutharat


Gurunathan Ramakrishnan


Mahesh Balasubramanian


Artyt Lerdrakmongkol


Supornchai Ratanamethanon


Kob Obob


Dương Nguyễn Thanh


Mahesh Balasubramanian


Naung Charnyuth



Supornchai Ratanamethanon


Jonathan Onte


Jojosung Kung


Jonathan Onte


Thanakorn Treratanaboot


Chakrit Leelachupong


Noppadol Maitreechit


Enrico Markus Essl


Noppadol Maitreechit



Ateneo Sta Ines


Pikaro Nice


สุภาพบุรุษ ไปสตรีท


Wan Zuharuddin


Supornchai Ratanamethanon


Adam Birkan


Street Naja


Tatum Wulff


Supornchai Ratanamethanon



Rammy Narula


Kob Obob


Chu Việt Hà


Kamphon Saeng-iam


SNutt S. Nuttapong


Supornchai Ratanamethanon


Ateneo Sta Ines


Eakkachai เก้ ่าสามห้า ชัตJakkawanpitak เตอร์ลั่น


Gurunathan Ramakrishnan



Tanapon Saowapa




SPTWORKSHOP#01 AFTERMATH#01

TOP PICK: TANAPON SAOWAPA


HONORABLE MENTION: JAYAROP PIYAPRAMOTE


SUBMISSION

Post your photo on www.facebook.com/groups/streetphotothailand If your photo is cool, we’ll publish your photo in this e-magazine.


Pack Ck



Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.