
บทที่ 4
รายละเอียดโครงการ
การศึกษาความเป็นไปได้โครงการโรงเรียนนานาชาติศิลปะการแสดง ( School of Performing Art Thailand ) ผู้จัดทำได้
ศึกษาค้นคว้าเอกสารและ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถจัดทำโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปได้ด้วยดี โดยทำการศึกษา ค้นคว้าเอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
4.1 รายละเอียดจำนวนนักเรียนในหลักสูตร
SOPA THAILAND เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการแสดงที่มีหลักสูตรภาควิชาทั้งหมด 4 สาขา โดยจะมีรายละเอียดในการรับจำนวนนักเรียนตาม ตารางดังนี้
ตารางที่ 9 จำนวนที่เปิดรับนักเรียน
สาขา วิชาเอก จำนวนที่รับ/คน
สาขาละครและภาพยนตร์ ภาควิชาการละครและภาพยนตร์
4.2.1 กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้สอย
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก ผู้ใช้สอยโครงการสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่
กลุ่มผู้ใช้หลัก
คือกลุ่มเด็กนักเรียนที่เข้ามาศึกษาในโรงเรียน ที่มีตั้งแต่ระดับชั้น ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6 ผู้อำนวยการ คุณครู เจ้าหน้าที่ของโครงการฝ่ายต่าง
4.2.2 ปริมาณผู้ใช้สอยภายในโครงการ
ตารางที่ 10 แสดงปริมาณผู้ใช้สอย
ค่าเฉลี่ยจำนวนนักเรียน 25คนต่อ
1 ห้อง/ชั้นปีละ5ห้องมี3ชั้น ปี
5*3 = 15 ห้อง
15 *25 = 375 ห้อง
จำนวนนักเรียน = 375 คน
นักเรียน แสดงจำนวนบุคลากร/ฝ่าย บริหาร/กลุ่มงานสำนักงาน
ภาควิชาการละครและ
ภาพยนตร์
สาขาวิชาดนตรีประยุกต์
35
ฝ่ายสนับสนุน
= 77 เจ้าหน้าฝ่ายเทคนิค อาคาร 2 คน
1 คน นายช่างชำนาญงาน 2 คน
สาขาวิชาแดนซ์ 20 คน รองผู้อำนวยการ 2 คน แม่ครัว
กลุ่มผู้ใช้หลัก
จำนวนนักเรียน 375 คน
จำนวนบุคลากรและเจ้าหน้าที่ใน
โครงการ 88 คน
จำนวนฝ่ายสนับสนุน 15 คน
มี 4 สาขา ชั้นปี 1 มีรวม
ทั้งหมด 125*3 ชั้นปี
รวม


4.2.4 วิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้สอยโครงการช่วงเวลาการดำเนินงาน วิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้โครงการช่วงเวลาการดำเนินงานของผู้มาใช้อาคาร ภาพที่ 53 แสดงวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้โครงการช่วงเวลาการดำเนินงานของผู้มาใช้อาคาร
4.3 รายละเอียดโครงการด้านองค์ประกอบและพื้นที่ใช้สอยโครงการ
4.3.1 องค์ประกอบโครงการ

4.3.2
การคำนวณพื้นที่ใช้สอย
1. ส่วนการศึกษา
1.1
สาขาวิชาการละครและภาพยนตร์
1) ห้องซ้อมการแสดง
จำนวนครู 1 คนใช้พื้นที่ (3x1.50) = 4.5 ตร.ม.
เด็ก 1 คนใช้พื้นที่ = 3 ตร.ม.
รับเด็ก 50 คน/Class ใช้พื้นที่ 3x50 = 150 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =45 ตร.ม.
มีทั้งหมด ห้อง = 195 ตร.ม.

ที่มา :การวิเคราะห์จำนวนผู้ใช้โครงการ Architects’ Data
ห้องซ้อมการแสดง ( ย่อย ) 2 ห้อง
คนใช้พื้นที่ = 3 ตร.ม.
จำนวนครู 1 คนใช้พื้นที่ (3x1.50) = 4.5 ตร.ม.
เด็ก 1 คนใช้พื้นที่ = 3 ตร.ม.
1 Class รับเด็ก 30 คน
ใช้พื้นที่ (3x30) = 90 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =27 ตร.ม.
รวม = 117 ตร.ม.
มีทั้งหมด 2 ห้อง = 234 ตร.ม.

ที่มา : การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้โครงการ Architects’
Data
2) ห้องตู้ ล็อกเกอร์ สมาชิก 240 Unit.
1 ชุด 30 ล็อกเกอร์ พื้นที่ 3 ตร.ม.
90 ล็อกเกอร์ = 8 ชุด
พื้นที่ 3 * 8 = 24 ตร.ม.
ขนาด 11 x 5.40 = 60 ตร.ม.

ที่มา : การวิเคราะห์จากเฟอร์นิเจอร์ Architects’ Data
3) ห้องตัดต่อ
ขนาด 4 x 2.5 = 10 ตร.ม.
7 ห้อง 7 x 10 = 70 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์จากกรณีศึกษา SO PA
4) ห้องประชุม
ขนาด 7.5 x 5 = 37.5 ตร.ม.
ห้องประชุม = 18 คน
ที่มา : การวิเคราะห์จากกรณีศึกษา SO PA
5) โถงรองรับ
ห้องรับรอง รองรับผู้ใช้งาน = 20 คน
ใช้พื้นที่ = 2 ตร.ม. / คน



พื้นที่ห้องรับรอง = 40 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% = 12 ตร.ม.
พื้นที่ห้องรับรองทั้งหมด 52 ตร.ม.
ขนาด 8 x 6.5 = 52 ตร.ม.
มี 2 ห้อง = 104 ตร.ม.
ที่มา:การวิเคราะห์จำนวนผู้ใช้โครงการ Architects’ Data
1.2 สาขาวิชาดนตรีประยุกต์
6) ห้องเรียนดนตรี
พื้นที่รองรับสำหรับ 40 คน
ขนาดห้อง 8 x 8 = 64 ตร.ม.
3 ห้อง 3 x 64 = 192 ตร.ม.

ที่มา : ข้อมูลจากการคำนวณขนาดและสัดส่วนผู้ใช้
7) ห้องซ้อมเดี่ยว
ขนาด 2 x 2.5 = 5 ตร.ม.
7 ห้อง 7 x 5 = 35 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =10.5 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์จากกรณีศึกษา SO PA
8) ห้องซ้อมกลอง
ขนาด 3 x 3 = 9 ตร.ม.
3 ห้อง 3 x 9 = 27 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =8.1 ตร.ม.
รวม = 35.1 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์จากเฟอร์นิเจอร์
9) ห้องตู้ล็อกเกอร์ สมาชิก 240 Unit.
1 ชุด 30 ล็อกเกอร์ พื้นที่ 3 ตร.ม.
90 ล็อกเกอร์ = 8 ชุด
พื้นที่ 3 * 8 = 24 ตร.ม.
ขนาด 11 x 5.40 = 60 ตร.ม.



ที่มา : การวิเคราะห์จากเฟอร์นิเจอร์ Architects’ Data
10) ห้องซ้อมรวมวงใหญ่
ขนาด 8 x 7 = 56 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =160.8 ตร.ม.

ที่มา : ข้อมูลจากการคำนวณขนาดและสัดส่วนผู้ใช้
11) ห้องอัดสตูดิโอ มี 3 ส่วน
ห้อง control ขนาด 5 x 5 = 25 ตร.ม.
ห้อง studio ขนาด 7 x 6 = 42 ตร.ม.
ห้องเก็บของ ขนาด 4 x 2 = 8 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =22.5 ตร.ม
1 ห้อง = 97.5 ตร.ม.
ที่มา : ข้อมูลจากกรณีศึกษา
12) ห้องเก็บเครื่องดนตรี
ขนาด 4 x 6 = 24 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =7.20 ตร.ม
2 ห้อง 4 x 6 = 31.2 ตร.ม.
ที่มา : ข้อมูลจากกรณีศึกษา
1.3 สาขาวิชาแดนซ์
13) ห้อง Performance studio
พื้นที่สำหรับ 1 คน = 4 ตร.ม.
สำหรับ 40 คน 40x 4 = 160 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% = 48 ตร.ม.
รวมพื้นที่ 17 x 12 = 204 ตร.ม.

18) ห้องซ้อม ขนาด 25 ตร.ม. 4 ห้อง
พื้นที่สำหรับ 1 คน = 4 ตร.ม.
สำหรับ 4 คน 4 x 4 = 16 ตร.ม
โต๊ะ 1.20 x 0.70 = 0.84 ตร.ม
เก้าอี้ 0.80 x 0.60 = 0.48 ตร.ม
ทางสัญจร 30% =4.8 ตร.ม.
รวม = 20.8 ตร.ม.
รวมพื้นที่ 4 x 20.80 = 83.20 ตร.ม.

ที่มา :การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้ ตรม./คน
Architects’ Data
19) ห้อง LOCKER ตู้ล็อกเกอร์สำหรับสมาชิก 90 Unit
1 ชุด 30 ล็อกเกอร์ แบ่งเป็น 2 unit unit ละ 2 ชุด
ขนาดห้อง 2.70 x 5.50 = 14.85 ตร.ม.

ที่มา : ข้อมูลจากกรณีศึกษาศูนย์เต้นรำ Sandi Simon
14) ห้องซ้อม ขนาด 100 ตร.ม. 2 ห้อง
พื้นที่สำหรับ 1 คน = 4 ตร.ม.
สำหรับ 20 คน 20 x 4 = 80 ตร.ม
ทางสัญจร 30% =24 ตร.ม.

ที่มา : การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้ ตรม./คน จาก
Architects’ Data
15) ขนาดห้อง 10 x 10 = 100 ตร.ม.
รวมพื้นที่ 2 ห้อง 2 x 100 = 200 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้ ตรม./คน จาก
Architects’ Data
16) ห้องซ้อม ขนาด 55 ตร.ม. 3 ห้อง
พื้นที่สำหรับ 1 คน = 4 ตร.ม.
สำหรับ 10 คน 10 x 4 = 40 ตร.ม
ทางสัญจร 30% =12 ตร.ม. รวม = 52
17) ขนาด 8 x 6.50 = 52 ตร.ม.
รวมพื้นที่ 3 ห้อง 3 x 52 = 156 ตร.ม.


ที่มา : การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้ ตรม./คน จาก
Architects’ Data
รวมพื้นที่ห้องล็อกเกอร์ 2 unit 14.85 x 2 = 29.7 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์จากเฟอร์นิเจอร์ ARCHITECTS’ DATA
ห้องอาบน้ำ,ห้องน้ำ จำนวน 6 ห้อง ชาย 3 หญิง 3 ขนาด 9
x 6 = 54 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์โดยอ้างอิง Architects’ Data ทั้งหมด
1.4 สาขาวิชาศิลปะ
20) ห้อง classroom ศิลปะ
รองรับนักเรียน 40
ห้อง classroom ขนาด 8 x 8 = 64 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =19.20
รวม = 83 ตร.ม.
รวมพื้นที่ 3 ห้อง = 249.60 ตร.ม.
ที่มา : การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้โครงการ
21) ห้องศิลปะ
คนใช้พื้นที่ = 3 ตร.ม.

จำนวนครูพี่เลี้ยง1คนใช้พื้นที่ 3x1.50 = 4.5 ตร.ม.
เด็ก 1 คนใช้พื้นที่ = 3 ตร.ม.
รับเด็ก 20 คน/Class ใช้พื้นที่ (3x20) = 60 ตร.ม.
ทางสัญจร 30% =18 ตร.ม. พื้นที่ห้องศิลปะ = 78 ตร.ม
ที่มา : การวิเคราะห์จากจำนวนผู้ใช้ ตรม./คน
ห้องเเสดงผลงาน ผลงานนักเรียน ห้องหอศิลป์
ขนาด 12 x 8 = 96 ตร.ม.

ที่มา : การวิเคราะห์จากเฟอร์นิเจอร์ Architects’ Data
4.3.3 ตารางสรุปพื้นที่ใช้สอย
1.ส่วนการศึกษา
ตารางที่ 11 แสดงสรุปพื้นที่ใช้สอยส่วนส่วนวิชาเอกห้องซ้อมการแสดง
ตารางที่ 12 แสดงสรุปพื้นที่ใช้สอยส่วนสาขาวิชาดนตรีประยุกต์
ลำดับ 1.2 ห้องซ้อม สาขาวิชา
B = ข้อมูลจากหนังสือ
1.ส่วนการศึกษา (ต่อ)
ตารางที่ 13
แสดงสรุปพื้นที่ใช้สอยส่วนสาขาวิชาการเต้น
ตารางที่ 14 แสดงสรุปพื้นที่ใช้สอยส่วนสาขาวิชาศิลปะ
A = ข้อมูลจากการคำนวณขนาดและสัดส่วนผู้ใช้ C = ข้อมูลจากกรณีศึกษา
B = ข้อมูลจากหนังสือ Architects’ Data
D = ข้อมูลจากการอ้างอิงเทศบัญญัติและข้อบังคับทางกฎหมาย
2 . ส่วนสนับสนุนโครงการ
ตารางที่ 16 แสดงสรุปพื้นที่ใช้สอยส่วนส่วนสนับสนุนโครงการ
A = ข้อมูลจากการคำนวณขนาดและสัดส่วนผู้ใช้
C = ข้อมูลจากกรณีศึกษา
B = ข้อมูลจากหนังสือ Architects’ Data D = ข้อมูลจากการอ้างอิงเทศบัญญัติและข้อบังคับทางกฎหมาย
แสดงสรุปพื้นที่ใช้สอยส่วนส่วนสาธารณะ
6. ที่จอดรถยนต์ พิจารณาจากพระราชบัญญัติควบคุม
ตารางที่ 20 แสดงสรุปพื้นจอดรถ
อาคารส่วนบริหาร = 294 ตร.ม.
คิดตามกฎหมายแบ่งตามประเภทของอาคาร (1:120)
294/ 120 = 3 คัน
ส่วนการศึกษา= 9878 ตร.ม.
คิดตามกฎหมายแบ่งตามประเภทของอาคาร (1:120)
9878/ 120 = 75 คัน
ส่วนสนับสนุนโครงการ = 1736 ตร.ม.
คิดตามกฎหมายแบ่งตามประเภทของอาคาร (1:120)
1736 / 120 =14 คัน
ส่วนสาธารณะ = 1672ตร.ม.
คิดตามกฎหมายแบ่งตามประเภทของอาคาร (1:120)
1671.15 / 120 = 14 คัน
ส่วนบริการ = 550 ตร.ม.
คิดตามกฎหมายแบ่งตามประเภทของอาคาร (1:120)
550 / 120 = 4 คัน
รถยนต์ขนาด 2.5*5 = 12.50 ตร.ม./คัน
รวมทั้งหมด 85 คัน * 12.50 = 1064 ตร.ม.
ทางสัญจร 100 % = 2128 ตร.ม.
รถจักยานยนต์ 1 *2 = 2 ตร.ม./คัน
คิดเป็น10 % ของจำนวนผู้ใช้โครงการ = 62 คัน* 2 = 124ตร.ม.
ทางสัญจร 100 % =248 ตร.ม. รวมพื้นที่จอดรถทั้งหมด 2376 ตร.ม.
จอดรถยนต์บุคลากร
จอดรถจักรยนต์
บทที่ 5
การศึกษาที่ตั้งโครงการ
5.1
ที่ตั้งโครงการระดับจังหวัด
จำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนนานาชาติ
และจำนวนโรงเรียนนานาชาติในไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ว่า
จำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ ที่ต่างจังหวัดเมื่อเทียบกับกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครมีแนวโน้มว่าจะมีอัตราการเข้า
เรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แผนภูมิที่ 1 แสดงจำนวนนักเรียนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ที่มา: https://thaipublica.org/2023/08/scb-eic-in-focus-inter-school/
เนื่ิองจากโครงการโรงเรียนสอนศิลปะการเเสดง SOPA THAILAND มีกลุ่มผู้ใช้งานช่วงอายุ 14- 18 ปี หรือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4- 6 โครงการนี้นี้โรงเรียนเอกชน ซึ่งมีรายได้หลักจากค่าธรรมเนียมการศึกษา จึงมีกลุ่มเป้าหมายโครงการเป็นครอบครัวที่มีรายได้สูง อยู่ ในพื้นที่ที่มีความเจริญ จึงสรุปได้ว่าที่ตั้งโครงการระดับจังหวัด คือกรุงเทพมหานคร ภาพที่ 54 แสดงภาพจุดที่ตั้งโรงเรียนนานาชาติ แผนภูมิที่ 2 แสดงการวิเคราะห์การเดินทางมาโรงเรียน

การกระจุกตัว ของโรงเรียน นานาชาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะเห็น ได้ว่าโรงเรียนนานาชาติ ส่วนมากจะมีที่ตั้ง
บริเวณใกล้เคียงกับขนส่งมวลชน ในใช้การ
เดินทางในกรุงเทพมหานครมากกว่าการ
เดินทางด้วยรถส่วนตัว จึงสรุปได้ว่าที่ตั้งควร
อยู่ใกล้กับขนส่งมวลชน

5.1.1
เกณฑ์ในการเลือกพื้นที่
กรุงเทพมหานครมีประชากรมาก เป็นศูนย์กลางของการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง เดินทางโดยการรถไฟฟ้าใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นระบบขนส่งทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยในปัจจุบันมีรถไฟฟ้าที่เปิด ให้บริการแล้วทั้งสิ้น 9 สาย 160 สถานี โดยพื้นที่ที่มีรถไฟฟ้าผ่านนั้น จะมีความสะดวกด้านการคมนาคม จึงมีสาธารณูปโภคเกิดขึ้น มาก โดยเลือกสาย 5 สาย คือ สายสุขุมวิท สายสีเเดง สายสีน้ำเงินสายสีเหลือง สายสีม่วง การวิเคราะห์เลือกพื้นที่
ตารางที่ 21 แสดงการวิเคราะห์เลือกสายรถไฟ
เกณท์การเลือกที่ตั้งโครงการ ค่าน้ำหนัก สายสีเหลือง
มีแนวเส้นทางพาดผ่านพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกเป็นส่วนใหญ่ ตลอดจนพื้นที่ส่วนเหนือของจังหวัดสมุทรปราการ และช่วยเชื่อมต่อการเดินทางจากย่านพักอาศัย เข้าสู่เมือง ใกล้เคียงกับพื้นที่สีเขียว
5.2 ที่ตั้งโครงการระดับย่าน
5.2.1
ข้อมูลพื้นที่ทางผ่านของรถไฟสายสีเหลือง
ตารางที่ 22 แสดงที่ตั้งรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง
ที่มา : th.wikipedia.org/wiki/รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง
แขวง/ตำบล
จอมพล/จันทรเกษม จตุจักร
เขต/อำเภอ จังหวัด
สามเสนนอก ห้วยขวาง
สะพานสอง/วังทองหลาง/คลองเจ้าคุณสิงห์/พลับพลา วังทองหลาง
คลองจั่น/หัวหมาก บางกะปิ
พัฒนาการ/อ่อนนุช สวนหลวง
หนองบอน ประเวศ
บางนาเหนือ/บางนาใต้ บางนา
กรุงเทพมหานคร
สำโรงเหนือ/เทพารักษ์ เมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ พื้นที่ที่อยู่อาศัย มีจำนวน 14 เขต ประกอบด้วย เขตหลักสี่ เขตดอนเมืองเขตสายไหม เขตบางเขน เขตลาดพร้าว เขตวัง ทองหลาง เขตบางกะปิ เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตสะพานสูง เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตพระโขนง และเขตบางนา มี จำนวนชุมชนมากที่สุดเป็นลำดับที่ 1 โดยมีจำนวน ชุมชนมากที่สุด 694 ชุมชน จำแนกเป็น ชุมชนบ้านจัดสรร 279 ชุมชน ชุมชนเมือง 179 ชุมชน ชุมชนแออัด130 ชุมชน เคหะชุมชน 46 ชุมชน ชุมชนชานเมือง 39 ชุมชน และชุมชนอาคารสูง 21 ชุมชน มีพื้นที่ประมาณ35,126.60 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 13.92 ของพื้นที่กลุ่มเขตการวางผังที่ 3 มีจำนวนประชากรชุมชน
660,538 คน คิดเป็นร้อยละ 35.43 ของประชากรกลุ่มเขตการวางผังที่ 3 จำนวนบ้านในชุมชน 167,338 หลังคาเรือน และ จำนวนครัวเรือน 177,764 ครัวเรือน
5.2.2 เกณฑ์ในการเลือกย่าน
1) ที่ตั้งโครงการระดับนั้นต้องเลือกย่านระหว่าง สถานีรถไฟสายสีเหลือง
2) อยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนและหมู่บ้านหรู พื้นที่โครงการต้องสามารถเข้าถึงได้สะดวก
3) สถานที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้เเหล่งชุมชนเมือง
4) สามารถเข้าถึงได้สะดวก
ตารางที่ 23 แสดงการวิเคราะห์เลือกย่าน
เกณฑ์การเลือกที่ตั้งโครงการระดับย่าน น้ำหนัก เขตวังทองหลาง เขตสวนหลวง เขตบางนา
1. ที่ตั้งโครงการระดับนั้นต้องเลือกย่านระหว่าง สถานีรถไฟสายสีเหลือง
2.อยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนและหมู่บ้านหรู
3. สถานที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้เเหล่งชุมชนเมืิอง
มีอณาเขตทิศเหนือติดกับเขตลาดพร้าวและเขตบาง กะปิ ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดกับเขตบางกะปิ ทิศตะวันตกติดกับเขตห้วยขวางและมีย่านการค้าหนาแน่นอยู่บริเวณทางด้านตะวันตก เฉียงเหนือของพื้นที่เขตวังทองหลาง 5.3 การเลือกที่ตั้งโครงการ


ภาพที่ 55 แสดงภาพวิเคราะห์ตั้งโครงการ A
ที่มา: https://landsmaps.dol.go.th/




จากการใช้ค่าถ่วงน้ำหนักจึงเป็น SITE B - ใกล้ BTS สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นชุมชนย่านพักอาศัยและพาณิชยกรรม ใกล้เคียงกับย่านที่พักอาศัย ติดถนนศรีนครินทร์
5.4 การวิเคราะห์ที่ตั้งโครงการ
5.4.1 บริบทและสภาพแวดล้อมของที่ตั้งโครงการ

การคมนาคม
ถนนศรีนครินทร์ , บีทีเอสกลันตัน
การเข้าถึงโครงการ
- เข้าถึงได้รถยนต์ส่วนตัวและรถ
มอเตอร์ไซค์ ทางรถประจำทาง ทาง
รถไฟฟ้า BTS
สาธารณูปโภค สาธารณูปการ
- สาธารณูปโภค สาธารณูปการครบ
สภาพพื้นที่ตั้งโครงการ - พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวน
ภาพที่ 59 แสดงภาพบริบทและสภาพแวดล้อมของที่ตั้งโครงการ ที่มา: https://landsmaps.dol.go.th/
5.4.2 วิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อที่ตั้ง

ภาพที่ 60 วิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อที่ตั้ง




แนวคิดและผลการออกแบบ
6.1 แนวความคิดและประเด็นในการออกแบบ การสร้างกระตุ้น ในการพัฒนาที่จะเป็นไอดอล โดยการกลสร้างเเรงบันดาลใจให้นักเรียน ด้วยการออกเเบบพื้นที่สถาปัตยกรรมให้เป็นพื้นที่ที่ทำให้เกิดเเรงผลักดันในการฝึกฝนทักษะ คือการ สร้างพื้นที่ที่เป็นห้องที่อยู่บริเวณที่นักเรียนสามารถทำกิจกรรมที่ผู้อื่นสามารภมองเห็นได้ เป็นการ เสริมสร้างความมั่นใจให้นักเรียน เเละมีเเรงกระตุ้นที่จะทำให้นักเรียนตั้งใจในการฝึกฝนมากขึ้น เเละพื้นที่ที่เป็นเเรงจูงใจของนักเรียน ในเเต่ละปีโรงเรียนจะมีค่ายมาเลือกนักเรียนไปเป็นเด็กฝึกโดย ผ่านการออดิชั่น เเละที่นักเรียนจะออดิชั่นได้ต้องถูกเลือกเท่านั้น เเละพื้นที่นี่ นักเรียนที่ถูกเลือก เท่านั้น ถึงจะสามารถเข้ามาได้





ลานอเนกประสงค์ ความทะลุปรุโปร่ง การเรียนในพื้นที่นอกห้องเรียน ห้องอเนกประสงค์
Mass Development การพัฒนารูปเเบบอาคาร

กล่องแมส เเมสสองก้อนซ้อนกัน เจาะเเมสด้านหลังเป็นพื้นที่ว่าง

เจาะเเมสด้านหน้าเป็นพื้นที่ว่าง เจาะเเมสด้านหน้าเป็นพื้นที่ว่าง
ภาพที่ 63
การพัฒนารูปเเบบอาคาร
เจาะเเมสจากด้านข้าง

Zoning ภาพที่ 64 โซนในโครงการ มีการแบ่งสีการแต่ละโซน เพื่อให้เห็นการวางโซน


1 ภาพที่ 65 ผังพื้นชั้น 1 จะออกแบบที่จะมีพื้นที่ที่ด้านหน้าจะเป็นสำนักงาน ทางเข้านักเรียน และโถงผู้ปกครองเข้าไปอันดับแรกของนักเรียนจะเจอให้ส่วนของลาน กิจกรรมตรงกลาง และบันไดและลิฟต์จะอยู่ซ้าย และเดินไปด้านหลัง ก็จะมีโรงอาหารของนักเรียนและมีห้องครัว ถัดจากห้องครัวจะเป็นโรงยิม และมี สนามหญ้า ที่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
ผังพื้นชั้น 2 ผังพื้นชั้น 3

ภาพที่ 66 ผังพื้นชั้น 2

ภาพที่ 67 ผังพื้นชั้น 3
ออกแบบให้ขึ้นบันไดมาแล้วจะเจอกับห้องพักครู ออกแบบให้ขึ้นบันไดมาจะเจอกับห้องเรียนประจำ และส่วนของปกผู้ครองจะสามารถขึ้นมาจากโถงรองรับผู้ปก และเชื่อมกับห้องสมุดและห้องเรียนวิชาการ และจะเจอกับ ครองมายังหอประขุมได้ ห้องซ้อมการแสดง ด้านหลังจะเป็นห้องชุมนุม ผังพื้นชั้น 4 ผังพื้นชั้น 5

ภาพที่ 68 ผังพื้นชั้น 4

ภาพที่ 69 ผังพื้นชั้น 5
ออกแบบให้ขึ้นบันไดมาจะเจอกับห้องเรียนประจำ ออกแบบให้ขึ้นบันไดมาจะเจอกับห้องบรรยายของ สาขาและเชื่อมกับห้องซ้อมการแสดง และห้องตัดต่อ ศิลปะ และห้องปฏิบัติการศิลปะ
และด้านหลังจะเป็นสาขาดนตรี
6.3 การนำเสนอผลงานการออกแบบ ครั้งที่ 2
การนำเสนอผลการออกแบบครั้งที่ 2 ได้มีการแก้ปัญหาใน
กาออกแบบครั้งที่ 1 โดยได้มีการเพิ่มพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
มากขึ้น และมีการเพิ่มรายละเอียดงานให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
แนวคิดในรอบที่สอง ได้มีการปรับเปลี่ยนกรอบอาคารให้มีความ
สวยงามและดูมีมิติมากขึ้น

ผังพื้นชั้น 1 ผังพื้นชั้น 2

ภาพที่ 70 ผังพื้นชั้น 1
ได้มีการเพิ่มโซนด้านหน้าเพื่อเป็นที่นั่ง และขยายส่วนของโถง

ภาพที่ 71 ผังพื้นชั้น 2
มีพื้นที่ห้องซ้อมการแสดงเพิ่มเข้ามา และห้องไลฟ์สตูดิโอ ผังพื้นชั้น 3 ผังพื้นชั้น 4

ภาพที่ 72 ผังพื้นชั้น 3
ออกแบบโดยการเพิ่มกล่องอเนกประสงค์ และจัดสาขาดนตรี

ภาพที่ 73 ผังพื้นชั้น 4
เพิ่มห้องอเนกประสงค์ และด้านหน้าเปลี่ยนเป็นห้องพักครู















6.4 การนำเสนอผลงานการออกแบบ ครั้งที่ 3
ได้รับคำแนะนำว่าอาคารควรมีความเปิดโล่งมากขึ้น
และมีความเกาหลีมาขึ้น โครงการยังไม่ตอบโจทย์ความ
สนุกสนาน การเป็นโรงเรียนการแสดงและดนตรี มุมมองของ
อาคารดูไม่ทันสมัย

ภาพที่ 83 แนวความคิดในการออกแบบ

โทนสีศิลปะสไตล์เกาหลี Dancheong
เป็นโทนสีของเกาหลีที่มาความโดนเด่น
และมีความนิยม อย่างมากในสถาปัตยกรรมเกาหลี และมี
พื้นผิวของไม้มาใช้งานวัสดุภายนอก เพื่อทำให้อาคารมีความ
เบามากขึ้น และได้นำหลังคาจั่วเข้ามาใช้ในอาคาร เพื่อความ
โล่งมากขึ้น โดยการนโครงสร้างเคเบิลทรัส ( Cable Truss )มา
ใช้ เพื่อจะได้ความโล่งโปร่ง และยังได้มุมมองที่มีความ
สวยงาม


ภาพที่ 85
โครงสร้างที่ใช้ในโครงการ
ในการออกแบบครั้งที่ 3ได้มีการปรับเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ทำ
พื้นที่ให้มีความโล่งมากขึ้นโครงสร้างสอดคล้องกับการใช้งาน มากขึ้น เช่น ส่วนของหอประชุม

ผังบริเวณ

ภาพที่ 87 ผังบริเวณ
ผังพื้นชั้น 1

ด้านหน้าของโครงการ จะมีรถไฟฟ้าสายสีเลืองวิ่ง
ผ่าน ฝั่งซ้ายจะเป็นร้านสะดวกซื้อ และด้านหลังโครงการจะมี
หมู่บ้าน ฝั่งขาวมือจะเป็นปั๊มน้ำมัน ด้านน้าโครงการ
ในการออกแบบจะแบ่งทางเข้า เป็นสองทางสำหรับผู้ปกครอง
และนักเรียนเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน
และพื้นที่ทางเข้าได้เปิดโล่ง เพื่อที่ผู้ที่อยู่ภายนอกอาคารจะได้
สามารถมองเข้ามาแล้วเห็นกิจกรรมภายในอาคาร











C






งานระบบ
งานระบบสุขาภิบาล
งานระบบ ตำเเหน่งถังเก็บน้ำใต้ดิน ห้องเครื่องน้ำประปา
เเละปั๊มน้ำดับเพลิง

ภาพที่ 101 งานระบบสุขาภิบาล ภาพที่ 102 ตำเเหน่งถังเก็บน้ำใต้ดิน ห้องเครื่องน้ำประปา เเละปั๊มน้ำดับเพลิง
งานระบบไฟฟ้า

ภาพที่ 103 งานระบบไฟฟ้า




7.1
สรุปการศึกษาภาคข้อมูล
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
การศึกษาด้านข้อมูลในการจัดทำโรงเรียนศิลปะการเเสดงเกาหลี กรุงเทพ ได้ศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตรของโรงเรียน School of Performing Art Seoul เพื่อนำปรับการใช้งานในรูปแบบที่เหมาะสมในแบบหลักสูตรการเรียนแบบประเทศไทย จึงได้นำหลัก สองหลักสูตรมาหาจุดร่วมกัน เพื่อให้เหมาะสมกับโครงการ ศึกษาความเป็นไปได้ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านผู้ใช้สอยโครงการ ความเป็นไป ได้ของที่ตั้งโครงการ ระดับจังหวัด ระดับย่าน ความเป็นไปได้ของงบประมาณค่าใช้จ่ายในโครงการ ความเป็นไปได้ด้านกฎหมาย ความเป็นไปได้ด้านทัศนียภาพของโครงการ และศึกษาที่ตั้งโครงการ วิเคราะห์ที่ตั้งและปัจจัยที่ส่งผลต่อที่ตั้งหาศักยภาพของที่ตั้งเพื่อ นำมาออกแบบให้เหมาะสม
7.2 การศึกษาภาคออกแบบ
การออกแบบโครงการ โรงเรียนศิลปะการเเสดงเกาหลี กรุงเทพ เริ่มจากกหารศึกษาโรงเรียนต้นแบบ และหลักสูตรว่า ต้องการพื้นที่การใช้งานแบบใดบ้าง และสิ่งที่ควรมีเพิ่มเข้ามาในโครงการ โดยจะคำนึงถึงกิจกรรมภายในโครงการว่าเป็นลักษณะใด โครงการจะแบ่งสาขาเรียน เป็น 4 หลักสูตร โดยจะมี สาขาการแสดง สาขาดนตรี สาขาเต้น สาขาศิลปะ เพื่อนักเรียนใน โครงการได้ฝึกฝนความสามารถได้อย่างเต็มที่ จึงสร้างพื้นที่ให้เหมาะสมกับแต่ละสาขา โดยแนวความคิดของโครงการ คือการสร้าง แรงกระให้นักเรียน ส่วนที่เป็นห้องซ้อมการแสดง ห้องซ้อมเต้น จึงเป็นพื้นที่ ที่สามารถมองเห็นกันได้ และสร้างห้องที่นักเรียน สามารถทำคอนเทนต์ได้อย่างสะดวกโดยการสร้างกล่องอเนกประสงค์ สร้างพื้นที่ให้เด็กสาขาศิลปะได้แสดงผลงาน โดยเป็นพื้นที่ที่มี นักเรียนผ่านไปมา รูปแบบของอาคารภายนอกจะออกแบบให้อาคารมีความโล่งโปร่ง เพื่อให้บุคคลที่ผ่านไปมามองเห็นกิจกรรมข้าง ในอาคาร และบรรยากาศสีเขียวภายในอาคาร
7.3 ข้อเสนอแนะ
เนื่องจาก School of Performing Art ,Seoul (SOPA) โรงเรียนหลักสูตรนั้นอยู่ประเทศเกาหลี เน้นความเป็น K-pop
ในการออกแบบจึงต้องสื่อความเป็นเกาหลี K-pop ออกมา
หากศึกษาสถาปัตยกรรมเกาหลีได้มาก รูปแบบของอาคารจะมีความ น่าสนใจ และมีความเป็นภาพลักษณ์เกาหลีที่ลงตัวในประเทศไทยมากขึ้น
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ (2564). นโยบายการศึกษาไทย ปี 2567. 5 ตุลาคม 2566, จาก https://moe360.blog/2022/09/12/policy-andfocus-moe-2023/
กระทรวงศึกษาธิการ (2565). การศึกษาของประเทศเกาหลีใต้. สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน2566, จาก https://www.bic.moe.go.th/images/stories/pdf/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0% B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B 9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9 %83%E0%B8%95%E0%B9%89.pdf
นายพันรัก. (2557). รูปแบบการจัดห้องประชุมในงานอบรม สัมมนา และกิจกรรมกลุ่ม. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2566, จาก www.phanrakwork.com www.fin.ucar.edu
สุภัทธา สุขชู. (2549). “Hallyu คลื่นความมั่งคั่งของเกาหลี”. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2566, จาก
http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=45405
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2564). สถิติประชากรศาสตร์ ประชากรและเคหะ. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2566, จาก
http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/01.aspx
สุพิทย์ กาญจนพันธ์, เอกสารประกอบการสอนการออกแบบสตูดิโอเบื้องต้น, หน้า 8 ; สุพิทย์ กาญจนพันธ์, แนวทางในการออกแบบสตูดิโอ
AVL Deing Community (2564). องค์ประกอบที่สำคัญของห้องประชุมขนาดใหญ่
https://avl.co.th/blogs/elements-of-a-large-conference-room/
Ernst Neufert Neufert. (2523). ARCHITECTS' DATA. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2566, จาก
https://www.uceb.eu/DATA/CivBook/03.%20Architect_s%20Data.pdf
InnovatorX. (2565). รูปแบบทางสัญจร. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2566, จาก https://www.wazzadu.com/article/6059
ประวัติผู้เขียนวิทยานิพนธ์

นิสิต นางสาวสิริยากร บุญด้วง รหัสนิสิต 62011110047
สาขาวิชา สถาปัตยกรรม
วัน-เดือน-ปีเกิด 29 มกราคม 2543
จังหวัดที่เกิด จังหวัดศรีสะเกษ
ที่อยู่ปัจจุบัน 179 หมู่ 12 ต.ก้านเหลือง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ 33120
เบอร์โทรศัพท์ 0836017429
ประวัติการศึกษา ระดับประถมศึกษา: โรงเรียนบ้านกงพาน และโรงเรียนอุทุมพรวิทยา
ระดับมัธยมศึกษา: โรงเรียนกำแพง
ระดับปริญญาตรี: คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ประสบการณ์ ฝึกงาน บริษัท มีดีไซน์แอนด์ไอ