Thesis Graphic Design "Motion ศิลป์ กับ ดาวน์"

โครงงานการออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว สื่อให้ความรู้ ศิลป์ กับ ดาวน์ (ศิลปะบาบัด กับ ดาวน์ซินโดรม)

โดย นางสาววรินทร อุทโยชาติ

โครงงานออกแบบกราฟิกนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาการออกแบบกราฟิก คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ปีการศึกษา 2560

GRAPHIC DESIGN PROJECT ART THERAPY & DOWN SYNDROME

By MISS WARINTORN UTTAYOCHAT

A GRAPHIC DESIGN PROJECT SUBMITED IN PARTIAL FULFILLMENT OF THE REQUIREMENT OF THE DEGREE OF BACHELOR OF FINE AND APPLIED ARTS PROGRAM DEPARTMENT OF GRAPHIC DESIGN SCHOOL OF DIGITAL MEDIA, SRIPATUM UNIVERSITY 2016

คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม อนุมัติให้โครงงานออกแบบกราฟิกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตาม หลักสูตรศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต

……………………………………………………. (ผศ.ดร.กมล จิราพงษ์) คณบดีคณะดิจิทัลมีเดีย

……………………………………………………. (อาจารย์วีรภัทร สุธีรางกูร) หัวหน้าสาขาวิชาการออกแบบกราฟิก

……………………………………………………. (อาจารย์อาคม จงไพศาล) อาจารย์ประจาสาขาการออกแบบกราฟิก

……………………………………………………. (อาจารย์สุนทรี เฉลียวพงษ์) อาจารย์ประจาสาขาการออกแบบกราฟิก

…………………………………………………….

……………………………………………………

(อาจารย์ณัฐพล พิชัยรัตน์)

(อาจารย์อภิสิทธิ์ ปุรสาชิต)

อาจารย์ประจาสาขาการออกแบบกราฟิก

อาจารย์ประจาสาขาการออกแบบกราฟิก

คณะกรรมการตรวจและตัดสินโครงงานออกแบบกราฟิกประจาภาคการศึกษาต้น/ปลาย ปีการศึกษา 2560 1. ผศ.ดร.กมล จิราพงษ์ 2. อาจารย์เกรียงไกร กงกะนันทน์ 3. อาจารย์นภนต์ คุณะนิติสาร 4. อาจารย์วีรภัทร สุธีรางกูร 5. อาจารย์อาคม จงไพศาล 6. อาจารย์สุนทรี เฉลียวพงษ์ 7. อาจารย์ณัฐพล พิชัยรัตน์ 8. อาจารย์อภิสิทธิ์ ปุรสาชิต 9. อาจารย์วุฒิกุล โอเจริญ 10. อาจารย์มัทนิน วรมาลา 11. อาจารย์พรเทพ ลัคนาวัฒน์ 12. อาจารย์สถาพร คงคติธรรม 13. อาจารย์สุหฤท วินิจฉัยกุล 14. อาจารย์กิตติยา ภู่รอด

ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ

จ หัวข้อโครงงาน

: ศิลป์ กับ ดาวน์ : ART THERAPY & DOWN SYNDROME

ผู้วิจัย : นางสาววรินทร อุทโยชาติ อาจารย์ที่ปรึกษา : อาจารย์สถาพร คงคติธรรม ชื่อนักศึกษา : นางสาววรินทร อุทโยชาติ หลักสูตร : ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา : 2560

________________________________________________________________________________

บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาออกแบบกราฟิก เคลื่อนไหว สื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ ศิลปะบาบัดกับเด็กดาวน์ซินโดรม เพื่อให้เข้าใจถึงเด็กดาวน์ซินโดรมว่าเป็นอย่างไร มีอาการแบบไหน แล้ว ศิลปะบาบัดนั้นจะช่วยเด็กดาวน์ซินโดรมให้ดีขึ้นได้อย่างไร โดยจะนาเสนอวิธีแนวทางจากศิลปะบาบัดเบื้องต้น ให้กับผู้ปกครองของเด็ก ซึ่งได้ข้อมูลอ้างอิงจากสถาบันราชานุกูล การดาเนินงานแบ่งได้ตาม 3 ขั้นตอน คือ Research (หาข้อมูลเกี่ยวกับอาการของเด็กดาวน์ซินโดรม และศิลปะบาบัด), Pre Production (คิดบทเรื่อง ออกแบบคาแรคเตอร์ ), Post Production (นาบทเรื่องที่ เรียบเรียงมาทาเป็นกราฟิกเคลื่อนไหว เพื่อเป็นสื่อให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย) ปัญหาที่ได้พบ คือ ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางการแพทย์ และข้อมูลที่เกี่ยวกับการบาบัดเป็นเรื่องที่ มีรายละเอียดเยอะ จึงต้องแก้ไขโดยการเข้าไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม และสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ผลการวิจัยพบว่า การออกแบบกราฟิก เคลื่อนไหว สื่อให้ความรู้ ศิลป์ กับ ดาวน์ (ศิลปะบาบัด กับ ดาวน์ซินโดรม) เป็นผลที่น่าพอใจ สามารถนาไปเป็นแนวทางปฏิบัติและเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ปกครอง รวมถึง ตัวเด็กดาวน์ซินโดรมเอง

คาสาคัญ

:

ดาวน์ซินโดรม, กลุ่มอาการดาวน์, เด็กพิเศษ, ศิลปะบาบัด, ศิลปะบาบัดสาหรับเด็กพิเศษ

ฉ

กิตติกรรมประกาศ ผลงานการออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว สื่อให้ความรู้ เรื่อง ศิลป์ กับ ดาวน์ (ศิลปะบาบัด กับ ดาวน์ซิน โดรม) สาเร็จลุล่วงไปได้ดี ด้วยความกรุณาและความช่วยเหลือในการให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์หลัก จาก ท่านอาจารย์สุจิตรา สุขเกษม นักวิชาการศึกษาพิเศษ ชานาญการพิเศษ ตาแหน่งหัวหน้างานศิลปกรรมบาบัด สถาบันราชานุกูล รวมถึงอาจารย์ที่ปรึกษาคณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุมทุกๆ ท่าน ที่ช่วยให้คาปรึกษา แนะนา พิจารณาข้อบกพร่องต่างๆ และช่วยชี้แนะแนวทางแก้ไขด้วยความเอาใจใส่ พร้อมยังเป็นแรงกระตุ้น ผลักดัน ซึง่ ทาให้ผลงานการออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหวชิ้นนี้ ประสบความสาเร็จไปอย่างราบรื่นต่อเนื่องและ สามารถสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและผู้ที่สนใจทั่วไปได้ ขอขอบพระคุณคณาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทุกๆ ท่าน และคณะผู้บริหารในหลักสูตรที่ถ่ายทอดวิชา ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ได้ให้การออกแบบโครงงานฉบับนี้สาเร็จลุล่วงได้อย่างสมบูรณ์ ท้ายที่สุดนี้ ผู้วิจัยขอขอบพระคุณบุคคลอีกหลายท่านที่คอยเป็นกาลังใจ ช่วยเหลือ และสนับสนุน คุณค่าของงานวิจัยฉบับนี้ ทาให้เกิดความตั้งใจในการสร้างผลงานครั้งนีใ้ ห้สาเร็จลุล่วง

ผู้วิจัย พฤษภาคม 2561

ช

สารบัญ บทที่

หน้า บทคัดย่อ...............................................................................................................................................จ กิตติกรรมประกาศ................................................................................................................................ฉ สารบัญ..................................................................................................................................................ช สารบัญภาพประกอบ............................................................................................................................ฌ

1

บทนา……………......................................................................................................................................1 1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา………………………………...........................……….....…….……1 1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย……..........................................................................................................1 1.3 คาถามการวิจัย............................................................................................................................. ..2 1.4 ขอบเขตการวิจัย.............................................................................................................................2 1.5 นิยามศัพท์......................................................................................................................................2 1.6 วิธีการศึกษาและขั้นตอนการดาเนินงาน.........................................................................................2 1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ..............................................................................................................3

2

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง.............................................................................................................4 2.1 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย...........................................................................................................4 2.2 หลักการและทฤษฎีที่สนับสนุนการสร้างผลงานด้านการออกแบบ...............................................11 2.3 ข้อสรุปแนวความคิดที่ได้จากการศึกษาข้อมูล..............................................................................18

3

การดาเนินงาน.....................................................................................................................................19 3.1 ผลงานออกแบบร่าง Character...................................................................................................19 3.2 ผลงานออกแบบร่าง Story Board...............................................................................................23 3.3 ผลงานออกแบบร่าง Poster.........................................................................................................28 3.4 ผลงานออกแบบร่าง Brochure....................................................................................................29

4

ผลงานภาคออกแบบ...........................................................................................................................30 4.1 ผลงานออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ศิลป์ กับ ดาวน์.....................................................................30 4.2 ผลงานออกแบบ Poster...............................................................................................................45 4.3 ผลงานออกแบบ Brochure..........................................................................................................46

ซ

สารบัญ (ต่อ) บทที่ 5

หน้า บทสรุปและข้อเสนอแนะ.....................................................................................................................47 5.1 สิ่งที่ได้รับจากการทางานวิจัย.......................................................................................................47 5.2 ปัญหาที่พบในการทางาน.............................................................................................................47 5.3 แนวทางแก้ไข...............................................................................................................................47 บรรณานุกรม............................................................................................................................. ..........48 ภาคผนวก............................................................................................................................................49 ประวัติย่อผู้วิจัย...................................................................................................................................50

ฌ

สารบัญภาพประกอบ ภาพที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29

หน้า โครโมโซมคู่ที่ 21 ของเด็กดาวน์ซินโดรม...............................................................................................4 ลักษณะเด็กดาวน์ซินโดรม.....................................................................................................................5 คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์.............................................................................................................8 รูปงานนิทรรศการศิลปะของ คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์............................................................10 รูปงานนิทรรศการศิลปะของ คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์............................................................10 ระบบสี RGB........................................................................................................................................15 วรรณะสี............................................................................................................................. .................17 ภาพร่าง เด็กดาวน์ซินโดรม.................................................................................................................19 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม แบบที่ 1..............................................................................20 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม แบบที่ 2, 3, 4, 5................................................................20 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม ท่ายืน..................................................................................21 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม ท่านั่ง...................................................................................21 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม แสดงสีหน้าปกติ, ไม่เข้าใจ, หัวเราะ, หลับ..........................22 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ ผู้ปกครอง เด็กดาวน์ซินโดรม............................................................................22 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 1..............................................................................................23 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 2..............................................................................................23 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 3..............................................................................................24 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 4..............................................................................................24 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 1..............................................................................................25 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 2..............................................................................................25 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 3..............................................................................................26 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 4..............................................................................................26 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ Poster..............................................................................................................28 ภาพร่าง Layout Brochure...............................................................................................................29 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากเปิด...........................................................................................30 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากเปิด...........................................................................................30 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากเปิด...........................................................................................30 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................31 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................31

ญ

สารบัญภาพประกอบ (ต่อ) ภาพที่ 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58

หน้า ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................31 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................32 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................32 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................32 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................33 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................33 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................33 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................34 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................34 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................34 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1...........................................................................................35 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................35 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................35 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................36 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................36 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................36 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................37 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................37 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................37 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................38 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................38 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................38 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2...........................................................................................39 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3..........................................................................................39 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3..........................................................................................39 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3..........................................................................................40 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3..........................................................................................40 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3..........................................................................................40 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3..........................................................................................41

ฎ

สารบัญภาพประกอบ (ต่อ) ภาพที่ 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74

หน้า ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3...........................................................................................41 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3...........................................................................................41 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3...........................................................................................42 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 4...........................................................................................42 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 4...........................................................................................42 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด............................................................................................43 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด............................................................................................43 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด............................................................................................43 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด............................................................................................44 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด............................................................................................44 ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด............................................................................................44 ภาพออกแบบ Poster ศิลป์ กับ ดาวน์................................................................................................45 ภาพออกแบบ Brochure เนื้อหาหน้าที่ 4, ปกหลัง, ปกหน้า..............................................................46 ภาพออกแบบ Brochure เนื้อหาหน้าที่ 1, 2, 3.................................................................................46 ภาพ Poster แสดงผลงาน...................................................................................................................49 ภาพรวมแสดงผลงาน..........................................................................................................................49

1

โครงงานการออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว สื่อให้ความรู้ ศิลป์ กับ ดาวน์ (ศิลปะบาบัด กับ ดาวน์ซินโดรม)

บทที่ 1 บทนา 1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา ดาวน์ซินโดรม โรคที่ใครหลายคนรู้จักและเรียกว่าเป็นเด็กพิเศษ ซึ่งดาวน์ซินโดรมเป็นกลุ่มอาการที่ เกิดจากความผิดปกติทางโครโมโซมและเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ ถ่ายทอดมาตั้งแต่กาเนิด ส่งผลให้ เด็กมีลักษณะผิดปกติของหน้าตาที่สามารถเห็นชัดเจนตั้งแต่แรกเกิด เด็กจะมีความพิการที่เด่นชัดทางด้าน สติปัญญา มีพัฒนาการล่าช้า มีเชาวน์ปัญญาต่า รวมถึงมีปัญหาในการใช้กล้ามเนื้อ และมีความเสี่ยงต่อโรค แทรกซ้อน เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง ความผิดปกติที่ระบบลาไส้ หรือมีระบบการได้ยินที่ผิดปกติ กลุ่มอาการดาวน์สามารถเกิดได้ในคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติภาษา และทุกภูมิประเทศ ที่ผ่านมาพบ เด็กจานวนไม่น้อยป่วยด้วยโรคนี้ และโอกาสในการมีบุตรเป็นกลุ่มอาการดาวน์นั้นเกิดขึ้นได้ในหญิงตั้งครรภ์ทุก วัย แต่จะเพิ่มขึ้นเมื่อหญิงตั้งครรภ์มีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะอายุ 35 ปีขึ้นไป ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่ทาให้หายขาดได้ การดูแลเด็กกลุ่มนี้จึงมุ่งเน้นในเรื่องของการรักษาความ ผิดปกติทางร่างกาย ควบคู่ไปกับการฝึกฝนและส่งเสริมทักษะและพัฒนาการในด้านต่างๆ อย่างเช่น การใช้ ศิลปะบาบัด เพื่อเสริมสร้างทักษะและพัฒนาการเด็กในด้านต่างๆ อาทิ การควบคุมอารมณ์ให้สงบ ฝึกสร้าง จินตนาการ และฝึกใช้ความคิด รวมถึงได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อให้แข็งแรง ซึง่ เด็กกลุ่มอาการดาวน์จะมีพัฒนาการเป็น ลาดับขั้นตอนเช่นเดียวกับเด็กทั่วๆ ไป แต่อาจมีความล่าช้ากว่าเด็กปกติ ผู้ปกครองต้องเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับเด็กและช่วยเหลือเด็กในด้านต่างๆ ไปพร้อมกับเด็ก เพื่อใน อนาคตเด็กจะได้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในชีวิตประจาวัน และปรับตัวอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างราบรื่นที่สุด 1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.2.1 เพื่อเสนอวิธีแนวทางบาบัดจากศิลปะให้กับผู้ปกครองของเด็กดาวน์ซินโดรม 1.2.2 เพื่อช่วยให้เด็กกับผู้ปกครองสามารถเข้าใจกันได้มากขึ้น 1.2.3 เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดาวน์ซินโดรมและศิลปะบาบัด 1.2.4 เพื่อออกแบบให้สื่อสารออกมาให้เข้าใจง่ายและสวยงาม

2

1.3 คาถามการวิจัย 1.3.1 ศิลปะบาบัดจะช่วยให้เด็กดาวน์ซินโดรมมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้อย่างไร 1.3.2 เราจะสามารถช่วยเด็กดาวน์ซินโดรมให้ช่วยเหลือตัวเองในสังคมได้ในระดับไหน 1.4 ขอบเขตการวิจัย 1.4.1 ขอบเขตทางข้อมูล - ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กกลุ่มอาการดาวน์ และศิลปะบาบัดที่ใช้สาหรับเด็กดาวน์ซินโดรม - ศึกษาวิธีการและขั้นตอนของศิลปะบาบัด 1.4.2 ขอบเขตทางการออกแบบ - ออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว - ออกแบบ Poster - ออกแบบ Brochure 1.5 นิยามศัพท์ 1.5.1 ดาวน์ซินโดรม หรือ กลุ่มอาการดาวน์ หมายถึง โรคที่มีความผิดปกติของโครโมโซม ส่งผลให้ เด็กมีใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะ พัฒนาการล่าช้า สื่อสารไม่ค่อยได้ และยังเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง 1.5.2 เด็กพิเศษ หมายถึง เด็กที่มีความต้องการพิเศษในการดูแลและส่งเสริมด้านต่างๆ เป็นพิเศษ มากกว่าเด็กปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย จิตใจ หรือสติปัญญา 1.5.3 ศิลปะบาบัด หมายถึง การบาบัดรักษาทางจิตเวชรูปแบบหนึ่ง ที่ประยุกต์ใช้กิจกรรมทางศิลปะ เพื่อค้นหาข้อบกพร่อง ความผิดปกติบางประการของกระบวนการทางจิตใจ 1.6 วิธีการศึกษาและขั้นตอนการดาเนินงาน 1.6.1 Pre - Production - คิด Concept และเนื้อเรื่องของงาน - Research ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับดาวน์ซินโดรม และศิลปะบาบัด - ศึกษากรณีศึกษา - รวบรวมและคิดวิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้ - สรุปย่อแนวความคิดเพื่อเตรียมการออกแบบ

3

1.6.2 Production -

คิด Script บทเรื่อง Sketch ตัวละคร และภาพรวมของงาน Story Board นาเสนองานให้อาจารย์ที่ปรึกษาดู ออกแบบทาลงคอมพิวเตอร์ ปรับปรุงและแก้ไขงานที่ยังไม่สมบูรณ์ ตามคาแนะนาของอาจารย์ที่ปรึกษา จัดทาสื่อกราฟิกเคลื่อนไหว, Poster, Brochure ออกมาเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์

1.6.3 Post-production - รวบรวมผลงานต่างๆ ที่ออกแบบ เพื่อนาเสนอและเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ - จัดแสดงผลงาน 1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.7.1 ผู้ปกครองของเด็กดาวน์ซินโดรมได้ความรู้ และสามารถนาไปปฏิบัติตามได้อย่างถูกวิธี 1.7.2 สื่อชิ้นนี้สามารถเป็นประโยชน์ให้กับใครหลายๆ คน 1.7.3 เข้าใจในภาพกราฟิกที่มีความเคลื่อนไหว และสามารถนาไปปฏิบัติใช้งานจริงได้

4

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย 2.1.1 โรคดาวน์ซินโดรม ดาวน์ซินโดรม เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่ง ที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่กาเนิด โดยเกิดจากความผิดปกติ ของโครโมโซมคู่ที่ 21 ทาให้เด็ก ดาวน์ซินโดรมมีลักษณะหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน เช่น ศีรษะเล็กและแบน หน้า แบน จมูกแบน ตาเฉียงขึ้น ปากเล็ก ใบหูเล็ก คอสั้น มือแบนกว้าง นิ้วมือสั้น และอาจมีความผิดปกติในระบบ ต่างๆ ของร่างกาย เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด กล้ามเนื้อ ทางเดินอาหาร ระบบต่อมไร้ท่อ และอื่นๆ อีก หลายระบบ ที่สาคัญคือ เด็กกลุ่มนี้จะมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาร่วมด้วย ส่วนใหญ่มีระดับสติปัญญาใน เกณฑ์บ กพร่องทางสติปัญญาระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง รวมไปถึงด้านพัฒนาการ เด็กดาวน์ซินโดรมจะมี พัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป และจะมีปัญหาในการใช้ภาษาและการพูด มักพูดช้าและพูดไม่ชัด เพราะ การทางานของกล้ามเนื้อในปากผิดปกติเนื่องจากมีกล้ามเนื้ออ่อนนิ่ม กลุ่มอาการดาวน์ส ามารถเกิดได้ในคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติภ าษา ทุกภูมิประเทศ โดยทั่วไปพบ ประมาณ 1 ต่อ 600-1000 ของเด็กเกิดใหม่

ภาพที่ 1 โครโมโซมคู่ที่ 21 ของเด็กดาวน์ซินโดรม ที่มา : http://www.vcharkarn.com/varticle/44419 เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

5

ภาพที่ 2 ลักษณะเด็กดาวน์ซินโดรม ที่มา : https://www.phyathai.com เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

2.1.2 การดูแลช่วยเหลือเด็กดาวน์ซินโดรม การดูแลช่วยเหลือเด็กกลุ่มอาการดาวน์ นั้น เด็กควรจะได้รับการกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการตั้งแต่ ในระยะแรกเริ่มอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ และมีคุณภาพ ชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้การกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการอย่างถูกต้องเหมาะสมยังสามารถ ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลของผู้ปกครองได้อีกด้วย องค์ประกอบสาคัญในการกระตุ้นและส่งเสริม พัฒนาการ คือ การฝึกเมื่อเด็กมีความพร้อม การฝึกอย่างสม่าเสมอ และผู้ฝึกจาเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจ พัฒนาการในแต่ละด้านของเด็กกลุ่มอาการดาวน์ และวิธีการหนึ่งที่นิยมนามาใช้ในการศึกษาพัฒนาการของ เด็ก อ้างอิงจากสถาบันราชานุกูล นั่นก็คือ ศิลปะบาบัด ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์มากที่สุด ในปัจจุบัน ศิลปะบาบัด มีการนามาใช้ในกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ อย่างกลุ่มอาการดาวน์ เนื่องจากศิลปะบาบัดนั้น สามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ บรรเทาปัญหาทางด้านอารมณ์จิตใจ และพฤติกรรมได้เป็นอย่างดี 2.1.3 แนวคิดทางศิลปะบาบัด ศิลปะบาบัด คือ การบาบัดรักษาทางจิตเวชรูปแบบหนึ่ ง ที่ประยุกต์ใช้กิจกรรมทางศิลปะเพื่อค้นหา ข้อบกพร่ องความผิ ดปกติบ างประการของกระบวนการทางจิตใจ โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการประเมินทาง จิตวิทยา เพื่อเปิดประตูเข้าสู่จิตใจในระดับจิตไร้สานึก และเลือกใช้กิจกรรมทางศิลปะที่เหมาะสมช่วยในการ

6

บาบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพให้ดีขึ้น จากแนวคิดที่ว่า ศิลปะ คือ หนทางแห่งการปลดปล่อยอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ตามความต้องการ ของแต่ละคน เด็กก็เช่นกัน พวกเขาต้องการ สิทธิ เสรีภาพ ที่จะแสดงออกซึ่ง ความต้องการของเขาอย่างมี ความสุ ข พวกเขาต้องการโอกาสที่จ ะพั ฒ นาศักยภาพของตัว เขาเองในด้าน การเรียน การเล่ น และการ แสดงออกต่างๆ ศิลปะบาบัด ยังนับเป็นรูปแบบหนึ่งของการทาจิตบาบัด (Psychotherapy) ที่ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือ สาคัญ เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจ ซึ่งหลักการของศิลปะบาบัด คือใช้ศิลปะเป็นสื่อใน การแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึก ความขัดแย้ง และความต้องการ ที่ซ้อนเร้นอยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจ การแสดงออกทางผลงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นลายเส้น สีรูปทรง สัญลักษณ์ อารมณ์ ความหมาย ที่สื่อออกมา ทั้งหมดสามารถนามาวิเคราะห์ให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดว่าเป็นอย่างไร หรือสภาพจิตมีปัญหาอย่างไร การ ประเมินผลการบาบัดรักษาด้วยศิลปะบาบัด เน้นที่กระบวนการ และกิจกรรมทางศิลปะ ไม่ได้เน้นที่ผลงานหรือ คุณค่าทางศิลปะ ซึ่งเทคนิคสาคัญที่นามาใช้ในกระบวนการทางศิลปะบาบัด คือ การสนับสนุน เสริมสร้าง กาลังใจ และการตีความหมายที่ซ้อนเร้นภายในจิตใจ การสนับสนุน เสริมสร้างกาลังใจ ทาได้โดยให้ความสนใจ ให้กาลังใจ และการชมเชยเมื่อทาได้สาเร็จหรือพยายามเพิ่มขึ้น ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สงบ ปลอดภัย และท่าที เป็นมิตร การตีความหมายที่ซ้อนเร้นภายในจิตใจ ทาได้โดยการตีความสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เห็น สีที่ใช้ภาพที่วาด เพื่อให้เกิดความเข้าใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น 2.1.4 กิจกรรมทางศิลปะ ที่ให้เด็กได้เรียนรู้ จะเน้นกิจกรรมทั้ง 2 แขนงนี้ในหลักของทัศนศิลป์ (Visual arts) ได้แก่ 1. งานปั้นและงานประดิษฐ์ เช่น งานปั้นดินน้ามัน งานร้อยลูกปัด งานแขนงนี้จะช่วยควบคุมเรื่องการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายเด็ก ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อให้ แข็งแรง และยังช่วยควบคุมอารมณ์ให้ใจเย็นและผ่อนคลาย 2. งานวาดและงานระบายสี งานแขนงนี้จ ะช่วยฝึ กให้ เด็กมีความคิด จินตนาการ ซึ่งมีห ลากหลายเทคนิค เช่น งานวาดดินสอ ระบายสีด้วยสีไม้ สีเทียน หรือสีน้า ซึ่งผู้ปกครองควรให้เด็กเลือกใช้เทคนิคตามความชอบ 2.1.5 ขั้นตอนการใช้ศิลปะบาบัดกับเด็กดาวน์ซินโดรม 1. ผู้ปกครองต้องมีส่วนช่วยให้เด็กค้นหาตัวเองว่า ศิลปะแขนงไหนที่เขาชอบและสนใจเป็นพิเศษ 2. เมื่อเด็กเลือกสิ่งที่เขาสนใจได้แล้ว ต้องหมั่นให้เด็กลงมือทาการบาบัด อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง 3. ผู้ ป กครองควรจดบั น ทึ ก ในแต่ ล ะครั้ ง ของการบ าบั ด เพื่ อ ให้ เ ห็ น ถึ ง ความเปลี่ ย นแปลงของ พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็ก

7

4. นาผลพัฒนาการของเด็กแต่ละครั้ง ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการบาบัด (เช่น สถาบันราชานุกูล) 5. บาบัดต่อเนื่อง และทาซ้าๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 4-6 เดือน 2.1.6 ประโยชน์ของศิลปะบาบัด 1. ช่วยเยียวยาจิตใจ ศิลปะบาบัด ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ขจัดความขัดแย้งภายในส่วนลึกของจิตใจ ช่วยให้มีระดับ อารมณ์คงที่ดีขึ้น ไม่ฉุน เฉียว การนาศิลปะบาบัดมาใช้ในการเยียวยาจิตใจ จะช่ว ยให้ ผู้ที่มีปัญหาทางด้าน อารมณ์และจิตใจ ได้ระบายอารมณ์ ความคับข้องใจความรู้ สึกที่ซ่อนเร้นภายในใจ ผ่านออกมาทางงานศิลปะ ระบายอารมณ์ออกมาในหนทางที่สร้างสรรค์ผ่านการวาดรูป ระบายสี การปั้น และกระบวนการอื่นๆ ทาง ศิลปะ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความขุ่นมัวในจิตใจ 2. เสริมสร้างทักษะการเคลื่อนไหว ในผู้ที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา จะได้ประโยชน์จากศิลปะบาบัดในด้านนี้มาก เพราะส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ การวาดลายเส้น การปั้น การถักทอ ช่วยให้สามารถควบคุมทิศทางการ เคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และกะน้าหนักการออกแรงได้ดีขึ้น 3. เสริมสร้างทักษะการสื่อสาร ศิลปะบาบัด ช่วยเสริมสร้างทักษะด้า นการสื่อสาร เนื่องจากศิลปะเป็นภาษาสากลที่สามารถเข้าใจ ตรงกันได้ แม้จะใช้ภาษาพูดแตกต่างกัน เด็กสามารถเรียนรู้ความคิดรวบยอดในเรื่องต่างๆ ผ่านทางศิลปะได้เร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้การสร้างสรรค์งานศิลปะ แสดงออกให้เห็นถึงความคิด อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ที่ซ่อน เร้นอยู่ภายในจิตใจได้เป็นอย่างดี ช่วยสื่อสารให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันได้ดี 4. เสริมสร้างทักษะสังคม ช่ ว ยให้ เ ข้ า ใจอารมณ์ ค วามคิ ด ของตนเอง และเข้ า ใจความรู้ สึ ก ของผู้ อื่ น มี ทั ก ษะการสร้ า ง มนุษยสัมพันธ์ มีทักษะการแก้ปัญหาที่เหมาะสม สามารถปรับตัวในสังคมได้อย่างเหมาะสม หากเด็กได้ทาการบาบัดซ้าๆ แล้ว จะเห็นได้ว่า เด็กมีสมาธิ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งยังได้ฝึกออกกาลัง ทางด้านกล้ามเนื้อ ช่วยในเรื่องของการสื่อสาร โดยจากอาการของเด็กดาวน์ซินโดรมที่มีปัญหาทางด้านการ สื่อสาร พูดช้า หรือพูดไม่ชัด ศิลปะก็เหมือนเป็นตัวแทนแห่ งการสื่อสาร จินตนาการ ความนึกคิด จิตใต้สานึก ลึกๆ ของเด็กที่อาจจะพูดออกมาไม่ได้ แต่เขาสามารถที่จะสื่อมันออกมาในรูปแบบของศิลปะได้ ซึ่งตรงนี้จะทา ให้ผู้ปกครองและตัวเด็กเองมีความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น

8

2.1.7 กรณีศึกษา Case Study ของ “คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์” ศิลปินดาวน์ซินโดรมคนแรกของประเทศไทย ที่มีผลงานศิลปะมากกว่า 200 ภาพ อันเกิดจากความ เพียรและการสร้างฝันด้วยหัวใจไร้ขีดจากัด ผู้รังสรรค์ผลงานด้านศิลปะแนวอิมเพรสชันนิสม์ ด้วยการวาดภาพ ลงสีในลักษณะฉูดฉาด ร้อนแรง ที่จะสื่อเชิงสัญลักษณ์ถึงอารมณ์และความรู้ สึกต่อมุมมองในสถานการณ์และ ช่วงเวลาต่างๆ

ภาพที่ 3 คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์ ที่มา : https://www.posttoday.com/life/life/533068 เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

คุณเหมียวเป็นดาวน์ซินโดรมที่มีพัฒนาการล่าช้า แต่โชคดีที่ว่าเธอมีความสนใจศิลปะตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ นั้นมาคุณแม่ของคุณเหมียวก็ได้ให้การสนับสนุนเต็มที่ ในสิ่งที่เธอชอบ เพื่อที่จะได้ฝึกเสริมสร้างพัฒนาการ จนกระทั่งปัจจุบันนี้เธอสามารถเปิดนิทรรศการภาพวาด “จากดาวน์สู่ดาว ศิลปะแห่งแรงบันดาลใจ The Art of Inspiration” ของเธอได้แล้ว จากบทสัมภาษณ์ของคุณแม่ พรประภา อัศวานันท์ “เมื่อทราบเรื่องอาการของลูก ความกังวลก็มาทันทีเลยค่ะว่าลูกเราจะโตขึ้นมายังไง คุณพ่อก็ไปดูตารา จากต่างประเทศ และก็พูดปลอบว่า ไม่ต้องไปกังวลว่าลูกจะเป็นอย่างไร อยากให้ลูกเป็นอะไร เราต้ องเป็นคน ทา มันเป็นหน้าที่เรา ก็โอเค เข้าใจตามนั้น ชีวิตตั้งแต่นั้นมาก็มีแต่หน้าที่ว่าจะต้องทานั่นทานี่ให้ลูก”

9

คุณพรประภาเล่าความรู้สึกหลังจากทราบว่าลูกสาวคนแรกเป็นดาวน์ซินโดรม และตัดสินใจจับมือกับคุณพ่อ เดินหน้าเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้ต่อไปอย่างไม่มีแผนการใดๆ ทั้งสิ้น แต่ความโชคดีของคุณเหมียวและพ่อแม่ก็เกิดขึ้นในอีก 1 ปีต่อมา เมื่อคุณแม่มีลูกสาวคนที่สอง ที่เป็น เด็กปกติและเติบโตไปพร้อมกันกับคุณเหมียว ซึ่งทั้งสองก็เล่นซน ใช้ชีวิต และทาทุกอย่างตามๆ กัน ทาให้เธอ ไม่ได้รู้สึกแปลกแยกจากคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวจะแข็งแรงมากจนทาให้เหมียว ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่เมื่อต้องก้าวไปสู่สังคมที่ใหญ่กว่าอย่างโรงเรียน เหมียวและคุณแม่กลับต้องพบกับอุปสรรค ที่ใหญ่กว่า คือการถูกโรงเรียนหลายแห่งปฏิเสธ จนกระทั่งได้มาเรียนที่โรงเรียนอนุบาลรักลูก ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ เน้นกิจกรรมเสริมพัฒนาการซึ่ง “เข้าทาง” ของเหมียวแบบเต็มๆ ประกอบกับการที่เด็กๆ อยู่ร่วมกันอย่างไม่ แบ่งแยก ทาให้คุณเหมียวสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ที่เป็นเด็กปกติได้อย่างสบาย ส่วนเรื่องการ เรียนนั้น คุณแม่ก็เปิดกว้างและพร้อมสนับสนุนเต็มที่ “เราต้องพยายามไม่จริงจังกับชีวิต คนที่เป็นแม่เด็กพิเศษ รวมทั้งแม่เด็กธรรมดาด้วย ต้องยอมรับในสิ่ง ที่ลูกเป็น ลูกอาจจะไม่ได้หน้าตาดี ไม่ได้เรียนเก่ง แค่เรายอมรับให้ได้ว่าลูกเป็นอย่างไรเท่านั้นก็พอ แล้วเราก็ ค่อยๆ ประคับประคองเขาไป เขาชอบอะไรก็สนับสนุนให้ทา เขาไม่ช อบอะไรก็ไม่เป็นไร ไม่บังคับ เพราะเด็กก็ มีความเครียดเหมือนกัน” หลั ง จากที่ เ ฝ้ า สั ง เกตความถนั ด และความสามารถของลู ก สาวมาระยะหนึ่ ง คุ ณ พรประภาก็ พ บ ความสามารถทางศิลปะของเหมียว และเดินหน้าสนับสนุนอย่างเต็มที่ เรียกว่าประคับประคองอยู่ห่างๆ ตั้งแต่ ก้าวแรกมาจนกระทั่งทุกวันนี้ “เราดูจากสิ่งที่เขาชอบทาเวลาอยู่บ้าน มีวาดรูปกับร้องเพลง แต่เหมียวร้องเพลงไม่ได้เรื่องเลย ก็เลย ไม่สนับสนุน เราเห็นเขาชอบทาอะไรก็แอบมองหน่อย ว่าอันนี้ไปต่อได้ไหม และต้องติเพื่อก่อ เขาชอบวาดรูปก็ วาดไป มีกระดาษ มีดินสอก็วาดไปเรื่อยๆ ได้ มันเหมือนกับเป็นความสุขของเขาที่ได้นั่งทาอะไรบางอย่างแล้ว ชอบ ถ้าลูกชอบทา เราก็พอใจแล้ว” คุณพรประภากล่าว จะเห็นได้ว่านอกจากตัวเด็กเองที่หมั่นฝึกฝนพยายามในด้านที่ตัวเองชอบแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เลยก็คือ ครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นแรงสนับสนุนหลักที่มาช่วยให้เป็นแรงผลั กดัน และกาลังใจที่สาคัญที่จะทาให้ เด็กดาวน์ซินโดรมสามารถเรียนรู้ และช่วยเหลือตัวเองในสังคมได้อย่างปกติสุข

10

ภาพที่ 4 รูปงานนิทรรศการศิลปะของ คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์ ที่มา : https://www.sanook.com/women/94141/gallery/637013/ เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

ภาพที่ 5 รูปงานนิทรรศการศิลปะของ คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์ ที่มา : https://www.sanook.com/women/94141/gallery/637029/ เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

11

2.2 หลักการและทฤษฎีที่สนับสนุนการสร้างผลงานด้านการออกแบบ 2.2.1 ทฤษฏีกราฟิกเคลื่อนไหว Motion Graphic (กราฟิกเคลื่อนไหว) ความหมายอย่างเป็นทางการคือ งานกราฟิกที่เคลื่อนไหวได้โดยการนาเอามาจัดเรียงต่อๆ กัน อธิบาย ให้เข้าใจอย่างง่ายคือการทาให้ภาพวาด 2 มิติของเราเคลื่อนไหวได้ เหมือนการทาการ์ตูน Animation นั่นเอง ซึง่ ปัจจุบันได้มีการใช้ Motion graphic เป็นสื่อในโลกออนไลน์กันมาขึ้นเนื่องจากสามารถอธิบายและทาความ เข้าใจได้ง่ายเมื่อถูกสื่อสารออกไป แต่อย่างไรก็ตาม Motion graphic ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิดแต่ก็ไม่ยาก เกินความสามารถ เพราะผู้ที่จะออกแบบและสร้างสรรค์ตัว Motion graphic จะต้องมีพื้นฐานความรู้ในการใช้ โปรแกรมและพื้นฐานในด้านการออกแบบ โดยตัวโปรแกรมที่ใช้ออกแบบทา Motion graphic มีดังนี้ - Adobe Illustrator - Adobe Photoshop - Adobe After Effect - Adobe Premiere Pro ซึ่งตัว Adobe After Effect นี้เองที่จะทาให้ตัวละครที่เราสร้างขึ้นมานั้นสามารถขยับได้ 2.2.2 หลักการสร้างภาพเคลื่อนไหว สาหรับหลักการสร้างภาพเคลื่อนไหว ก็เหมือนกับการสร้างการ์ตูน โดยประกอบไปด้วย ฉากการแสดง (Scene) เป็นเนื้อหาย่อยๆ ของเรื่องทั้งเรื่อง ซึ่งประกอบไปด้วยฉากต่างๆ หลายๆ ฉาก โดยที่ตัวละครในฉาก จะแสดงบนเวทีการแสดง (Stage) ในแต่ละฉากก็จะมีตัวละครหรือสิ่งที่ต้องแสดงหลายๆ ตัวละคร เรียกว่า เลเยอร์ (Layer) ในแต่ละท่าทางของตัวละครที่แสดงเรียกว่าเฟรม (Frame) และเมื่อนาเฟรมต่างๆ มาแสดงจะ ได้ภาพเคลื่อนไหวของตัวละครนั้นๆ หากต้องเสียเวลาทาภาพต่อเนื่องทีละภาพ ที่ละเฟรมเพื่อสร้างภาพเคลื่อนไหว คงจะต้องเสียเวลานาน พอดูกว่าจะทางานเสร็จ ซึ่งตรงนี้ After Effect จะใช้ระบบ Key frames เข้ามาช่วยในขั้นตอนต่างๆ ให้ สะดวกรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม Key frames เป็นการสั่งให้โปรแกรมจาค่าตาแหน่งและคุณลักษณะ “ตาแหน่งเริ่มต้น ” และ “ตาแหน่งสุดท้าย” ของชิ้นงานในช่วงเวลาต่างๆ จากนั้นโปรแกรมจะคานวณค่า “ตาแหน่งเริ่มต้น” และ “ตาแหน่งสุดท้าย” เพื่อสร้างการเคลื่อนไหวให้โดยอัตโนมัติ

12

2.2.3 รูปแบบในการจัดเก็บข้อมูล รูปแบบในการจัดเก็บข้อมูลลงในแฟ้มข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน และได้รับความนิยมมีดังนี้ - AVI (Audio Video Interface) เป็นรูปแบบมาตรฐานบนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows เมื่อผู้ ใช้ต้องการแสดงภาพเคลื่ อนไหวซึ่งถูกจัดเก็บในรูป แบบ AVI สามารถทาได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์ Microsoft Media Player แฟ้มข้อมูลรูปแบบนี้จะมีส่วนต่อขยายของแฟ้มข้อมูลเป็น .avi - QuickTime Movie เป็นรูปแบบมาตรฐานบนระบบคอมพิวเตอร์จากบริษัท Apple Computer เมื่อผู้ใช้ต้องการแสดงภาพเคลื่อนไหวซึ่งถูกจัดเก็บในรูปแบบ QuickTime Movie สามารถทาได้โดยการใช้ ซอฟต์แวร์ QuickTime Player ซึ่งทางานบนระบบปฏิบัติการได้หลายระบบ เช่น Microsoft Windows Unix MacOS แฟ้มข้อมูลรูปแบบนี้จะมีส่วนต่อขยายของแฟ้มข้อมูลเป็น .mov - MPEG (Moving Picture Experts Group) เป็นรูปแบบมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่ใช้กันทั่วไปบน ระบบปฏิบัติการต่างๆ และนิยมใช้กับเครื่องเล่นภาพเคลื่อนไหว 2.2.4 ประโยชน์ของภาพเคลื่อนไหว - ง่ายต่อการใช้งาน - สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของภาพตัวละคร - สร้างเสริมประสบการณ์ - เพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ - เข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น 2.2.5 ทฤษฏีองค์ประกอบศิลป์ 1. จุด (dot) เป็นองค์ประกอบที่สามารถสัมผัสและรับรู้ได้น้อย แต่ในทางศิลปะจุดๆ หนึ่งที่ปรากฏใน ภาพอาจจะค่อยๆ ขยายใหญ่ในความรู้สึกแปรเปลี่ยนเป็นรูปสัญลักษณ์สิ่งต่างๆ เช่น การนาเอาจุดมาแทนสิ่ง ต่างๆ ที่อยู่ในระยะหนทางที่ห่างไกล เช่น ดวงดาว แสงไฟ ฯลฯ การตีความในจินตนาการอาจขยายกว้างใหญ่ กว่าการรับรู้หลายเท่า และมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปได้อย่างไม่สิ้นสุด 2. เส้น (Line) เส้นตรง เส้นโค้ง เส้นซิกแซก เส้นขยุกขยิก เป็นต้น ซึ่งเส้นที่ปรากฏในลักษณะที่ ต่างกันก็จะมีอิทธิพลที่สามารถกระตุ้นเร้าความ รู้สึกจากการรับรู้ให้แตกต่างกันออกไป

13

3. รูปร่างและรูปทรง (Shape & Form) - รูปร่าง (Shape) คือ รูปแบนๆ มี 2 มิติ มีความกว้างกับความยาวไม่มีความหนาเกิดจากเส้นรอบ นอกที่แสดงพื้นที่ขอบเขต ของรูปต่างๆ เช่น รูปวงกลม รูปสามเหลี่ยม หรือ รูปอิสระที่แสดงเนื้อที่ของผิวที่เป็น ระนาบมากกว่าแสดงปริมาตรหรือมวล - รูปทรง (Form) คือ รูปที่ลักษณะเป็น 3 มิติ โดยนอกจากจะแสดงความกว้าง ความยาแล้ว ยังมี ความลึก หรือความหนา นูน ด้วย เช่น รูปทรงกลม รูปทรงสามเหลี่ยม ทรงกระบอก ให้ความรู้สึกมีปริมาตร ความหนาแน่น มีมวลสาร ที่เกิดจากการใช้ค่าน้าหนัก หรือการจัดองค์ประกอบของรูปทรง หลายรูปรวมกัน 4. ค่าน้าหนัก (Value) คือ ค่าความอ่อนแก่ของบริเวณที่ถูกแสงสว่าง และบริเวณที่เป็นเงาของวัตถุ หรือ ความอ่อน - ความเข้มของสีหนึ่งๆ หรือหลายสี เช่น สีแดง มีความเข้มกว่าสีชมพู หรือ สีแดงอ่อนกว่าสีน้า เงิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังหมายถึงระดับความเข้มของแสงและระดับ ความมืดของเงา ซึ่งไล่เรียงจากมืดที่สุด (สีดา) ไปจนถึงสว่างที่สุด (สีขาว) น้าหนักที่อยู่ระหว่างกลางจะเป็นสีเทา การใช้ค่าน้าหนักจะทาให้ภาพดูเหมือนจริง และมีความกลมกลืน ถ้าใช้ค่าน้าหนักหลายๆ ระดับ จะทา ให้มีความกลมกลืนมากยิ่งขึ้น และถ้าใช้ค่าน้าหนักจานวนน้อยที่แตกต่างกันมากจะทาให้เกิด ความแตกต่าง ความขัดแย้ง 5. บริเวณว่าง (Space) คือ ส่วนที่เป็นพื้นที่ที่ปราศจากองค์ประกอบใดๆ ถ้าบริเวณที่ว่างมีน้อย ความรู้สึกจากการรับจะรู้สึกแน่ น แต่ถ้าบริเวณว่างมีมากจะให้ความรู้สึกว่างเปล่า เงียบเหงา อ้างว้าง หดหู่ ฯลฯ แต่ถ้าบริเวณว่างมีเท่ากันจะให้ความรู้สึกพอดี สมดุล เสมอภาค เป็นต้น 6. สี (Color) สี เป็นคุณลักษณะที่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทตา โดยอาศัยแสงเป็นตัวส่องสว่าง สี แต่ละสีมีสมบัติเฉพาะตัวที่สามารถกระตุ้นเร้าให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกัน 7. พื้นผิว (Texture) คือ พื้นผิวอาจเป็นเนื้อหยาบหรือเนื้อละเอียด แข็งหรือหยาบ นิ่มหรือเรียบ พื้นผิวจะทาให้ผู้ดูเกิดความรู้สึก ไม่ว่าด้วยสายตาหรือร่างกาย พื้นผิวเปรียบเสมือนตัวแทนของมวลภายในของ วัตถุนั้น จากลักษณะพื้นผิวที่ทาให้ความรู้สึกที่แตกต่ างกัน ทาให้มีการนาเอาลักษณะต่างๆ ของพื้นผิวเข้ามามี ส่วนร่วมในการสร้างงานศิลปะ เพื่อกระตุ้นเร้าผู้ดูเกิดความรู้สึกที่ต่างกัน 2.2.6 องค์ประกอบทางทัศนศิลป์ หลักการจั ดองค์ประกอบทางทัศนศิล ป์ (Composition) คือ การนาเอาทัศนะธาตุ ได้แก่ จุด เส้ น รู ป ร่ า ง รู ป ทรง น้ าหนั ก อ่ อ นแก่ บริ เ วณว่ า ง สี และพื้ น ผิ ว มาจั ด ประกอบเข้ า ด้ ว ยกั น จนเกิ ด ความพอดี เหมาะสม ทาให้งานศิลปะชิ้นนั้นมีคุณค่าอย่างสูงสุด ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ต่อไปนี้

14

1. เอกภาพ (Unity) การรวมกลุ่มก้อน ไม่แตกแยกกระจัดกระจายไปคนละทิศทางจนทาให้ขาด ความสัมพันธ์กัน ในทางทัศนศิลป์เอกภาพยังเป็นส่วนที่แสดงให้เห็นถึงเนื้อหาเรื่องราวที่ต้อง การแสดงอย่าง ชัดเจนด้วย 2. ความสมดุล (Balance) ความสมดุลของสิ่งที่ซ้าหรือเหมือนกัน (Symmetrical) คือ เป็นการนาเอาส่วนประกอบที่มี รู ป ลั ก ษณะเหมื อนกัน มาจั ดองค์ ป ระกอบรวมเข้า ด้ว ยกั นให้ ป ระสานกลมกลื น เกิ ดการถ่ ว งน้ าหนัก ของ องค์ประกอบส่วนต่างๆ ในลักษณะที่พอเหมาะพอดีจนรู้สึกว่ามีความสมดุล อาจด้วยการจัดวางตาแหน่งที่ตั้ง ช่องไฟ ระยะห่าง อัตราจานวน ขนาดรู ปร่าง น้าหนักอ่ อนแก่ ฯลฯ ที่เหมือนกันหรือเท่า ๆ กันจนเกิดเป็น เอกภาพเดียวกัน ความสมดุลของสิ่งที่ขัดแย้งหรือต่างกัน (Asymmetrical) เป็นการนาเอาส่ว นประกอบที่มี รูปลักษณะที่ต่างกันหรือขัดแย้งกัน มาจัดองค์ประกอบเข้าด้วยกันให้ประสานกลมกลืนกัน เกิดการถ่ วงน้าหนัก ขององค์ประกอบส่วนต่างๆ ในลักษณะที่พอเหมาะพอดีจนรู้ สึกว่ามีความสมดุล โดยที่วัตถุหรือเนื้อหาในภาพ ไม่จาเป็นต้องเหมือนกัน 3. จุดสนใจหรือการเน้น (Emphasis) ส่วนที่สาคัญที่สุดของภาพที่ ต้องการแสดง ซึ่งนาไปสู่การ บอกเล่าเนื้อหาของภาพทั้งหมดหรือเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจให้ มอง ในทางทัศนศิลป์จุดสนใจควรมีเพียงจุด เดียว ซึ่งอาจเป็นส่วนที่แสดงความสาคัญหรือมีสีสันสดใสที่สุด นอกจากนั้นยังเน้นให้เกิดจุดสนใจด้วยการสร้าง ความแตกต่างขึ้นในภาพ จุดสนใจไม่จาเป็นจะต้องอยู่จุดกึ่งกลางเสมอไป อาจอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพก็ได้ 4. ความกลมกลืน (Harmony) เป็นสิ่งที่สาคัญที่สุดของการจัดองค์ประกอบทางทัศนศิลป์ เพราะ ความกลมกลืนจะทาให้ภาพงดงาม และนาไปสู่เนื้อหาเรื่องราวที่นาเสนอ ความกลมกลืนมี 2 แบบ คือ - ความกลมกลืนแบบคล้อยตามกัน หมายถึง การนารูปร่าง รูปทรง เส้น หรือสี ที่มีลักษณะเดียวกัน มาจัด เช่น วงกลมทั้งหมด สี่เหลี่ยมทั้งหมด ซึ่งแม้ ว่าอาจจะมีขนาดที่แตกต่างกัน แต่เมื่อนามาจัดเป็นภาพขึ้น มาแล้วก็จะทาให้ความรู้สึกกลมกลืนกัน - ความกลมกลืนแบบขัดแย้ง หมายถึง การนาเอาองค์ประกอบต่างชนิด ต่างรูปร่าง รูปทรง ต่างสี มา จัดวางในภาพเดียวกัน เช่น รูปวงกลมกับรูปสามเหลี่ยม เส้นตรงกับเส้นโค้ง ซึ่งจะทาให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้น แต่ก็ยังให้ความรู้สึกกลมกลืนกัน 5. จังหวะ (Rhythm) คือ ระยะในการจัดภาพหรือการวางของวัตถุ ซ้าไปซ้ามา อย่างสม่าเสมอ เช่น ลายไทย การปูกระเบื้อง หรือการแปรอักษร เป็นต้น

15

2.2.7 หลักการจัดวาง กฎและทฤษฏีการจัดวางองค์ประกอบภาพ 1. Rule Of Third กฏหนึ่งในสาม และจุดตัดเก้าช่อง เรียนรู้การใช้งานแบบพื้นฐานและประยุกต์ เพื่อผลงานที่สวยงามและสมบูรณ์ 2. Golden Ratio หรือ Golden Mean การเลือกใช้ในการจัดวางองค์ประกอบภาพ 3. Brake Of Law การคานึงถึงอารมณ์ ความรู้สึกและสวยงามมากกว่ากฎและทฤษฏี 2.2.8 ทฤษฎีสี ระบบสี RGB

ภาพที่ 6 ระบบสี RGB ที่มา : http://www.artaddesign.com เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

เป็ น ระบบสี ของแสง ซึ่งเกิดจากการหั กเหของแสงผ่ านแท่งแก้ว ปริซึม จะเกิดแถบสี ที่เรียกว่า สี รุ้ง (Spectrum) ซึ่งแยกสีตามที่สายตามองเห็นได้ 7 สี คือ แดง แสดเหลือง เขียว น้าเงิน คราม ม่วง ซึ่งเป็น พลังงานอยู่ในรูปของรังสี ที่มีช่วงคลื่นที่สายตาสามารถมองเห็นได้ แสงสีม่วงมีความถี่คลื่นสูงที่สุด คลื่นแสงที่มี ความถี่สูงกว่าแสงสีม่วงเรียกว่า อุลตราไวโอเลต (Ultra Violet) และคลื่นแสงสีแดง มีความถี่คลื่นต่าที่สุด คลื่น แสงที่ต่ากว่าแสงสีแดงเรียกว่า อินฟราเรด (InfraRed) คลื่นแสงที่มีความถี่สูงกว่าสีม่วง และต่ากว่าสีแดงนั้น สายตาของมนุษย์ไม่สามารถรับได้ และเมื่อศึกษาดูแล้วแสงสีทั้งหมดเกิดจากแสงสี 3 สี คือ สีแดง (Red) สี

16

น้าเงิน (Blue) และสีเขียว (Green) ทั้งสามสีถือเป็นแม่สีของแสง เมื่อนามาฉายรวมกันจะทาให้เกิดสีใหม่ อีก 3 สี คือ สีแดงมาเจนต้า สีฟ้าไซแอนและสีเหลือง และถ้าฉายแสงสีทั้งหมดรวมกันจะได้แสงสีขาว จาก คุณสมบัติของแสงนี้เราได้นามาใช้ประโยชน์ทั่วไป ในการฉายภาพยนตร์ การบันทึกภาพวิดีโอภาพโทรทัศน์การ สร้างภาพเพื่อการนาเสนอทางจอคอมพิวเตอร์ และการจัดแสงสีในการแสดง เป็นต้น การเลือกใช้สีจะแสดงถึงอารมณ์ที่ต้องการได้ชัดเจนมากกว่าส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งหมด สาหรับเรื่องสี เป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงละเอียดอย่างมาก ลักษณะกระทบต่อสายตาให้เห็นเป็นสีมีผลถึงจิตวิทยา คือมีอานาจให้ เกิดความเข้มของแสงที่อารมณ์และความรู้สึกได้ การที่ได้เห็นสีจากสายตาสายตาจะส่งความรู้สึกไปยังสมองทา ให้เกิดความรู้สึก ต่างๆตามอิทธิพลของสี เช่น สดชื่น ร้อน ตื่นเต้น เศร้า สีมีความหมายอย่างมากเพราะศิลปิน ต้องการใช้สีเป็นสื่อสร้างความประทับใจในผลงานของศิลปะและสะท้อนความประทับใจนั้นให้บังเกิดแก่ผู้ดู มนุษย์เกี่ยวข้องกับสีต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวนั้นล้วนแต่มีสีสันแตกต่างกันมากมาย สีเป็น สิ่งที่ควรศึกษาเพื่อประโยชน์กับตนเองและ ผู้ส ร้างงานจิตรกรรมเพราะ เรื่องราวของสี นั้นมีห ลักวิช าเป็น วิทยาศาสตร์จึงควรทาความเข้าใจวิทยาศาสตร์ ของสีจะบรรลุผลสาเร็จในงานมากขึ้น ถ้าไม่เข้าใจเรื่องสีดี พอสมควร ถ้าได้ศึกษาเรื่องสีดีพอแล้ว งานศิลปะก็จะประสบความสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วยในเรื่องของ มุมมอง และความหมายที่จะออกมาช่วยสนับสนุนการอธิบายผลงานที่เราสร้างขึ้นเพื่อให้คนเข้าใจ 2.2.9 หลักการใช้สี การใช้สีกับงานที่ทาออกมานั้น ขึ้นอยู่ที่นักออกแบบมีจุดมุ่งหมายใด ที่จะสร้างความสนใจ ความเร้าใจ ต่อผู้ดู เพื่อให้เข้าถึงจุดหมายที่ตนต้องการ ซึ่งหลักของการใช้มีดังนี้ 1. การใช้สีวรรณะเดียว ความหมายของสีวรรณะเดียว (Tone) คือกลุ่มสีที่แบ่งออกเป็นวงล้อของสีเป็น 2 วรรณะ คือ - วรรณะสีร้อน (Warm Tone) ประกอบด้วยสีเหลือง สีส้มเหลือง สีส้ม สีส้มแดง สีม่วงแดงและสี ม่วง สีในวรรณะร้อนนี้จะไม่ใช่สีสดๆ ดังที่เห็นในวงจรสีเสมอไป เพราะสีในธรรมชาติย่อมมีสีแตกต่างไปกว่าสี ในวงจรสีธรรมชาติอีกมาก ถ้าหากว่าสีใดค่อนข้างไปทางสีแดงหรือสีส้ม เช่น สีน้าตาลหรือสีเทาอมทอง ก็ถือว่า เป็นสีวรรณะร้อน - วรรณะสีเย็น (Cool Tone) ประกอบด้วย สีเหลือง สีเขียวเหลือง สีเขียว สีเขียวน้าเงิน สีน้าเงิน สี ม่วงน้าเงิน และสีม่วง ส่วนสีอื่นๆ ถ้าหนักไปทางสีน้าเงินและสีเขียวก็เป็นสีวรรณะเย็นดังเช่น สีเทา สีดา สีเขียว แก่ เป็นต้น จะสังเกตได้ว่าสีเหลืองและสีม่วงอยู่ทั้งวรรณะร้อนและวรรณะเย็น ถ้าอยู่ในกลุ่มสีวรรณะร้อนก็ให้ ความรูสึกร้อนและถ้า อยู่ในกลุ่มสีวรรณะเย็นก็ให้ความรู้สึกเย็นไปด้วย สีเหลืองและสีม่วงจึงเป็นสีได้ทั้งวรรณะ ร้อนและวรรณะเย็นสีตรงข้าม หรือสีตัดกัน หรือสีคู่ปฏิปักษ์ เป็นสีที่มีค่าความเข้มของสี ตัดกันอย่างรุนแรง ในทางปฏิบัติไม่นิยมนามาใช้ร่วมกัน เพราะจะทาให้แต่ละสีไม่สดใสเท่าที่ควร

17

Warm Tone

Cool Tone

ภาพที่ 7 วรรณะสี ที่มา : https://www.pinterest.com/pin/265079128038687631/ เข้าถึงเมื่อ 4 พ.ค. 2561

การใช้สี แต่ล ะครั้ งควรใช้สี ว รรณะเดียวในภาพทั้งหมด เพราะจะทาให้ ภ าพความเป็นอันหนึ่งอั น เดียวกัน (เอกภาพ) กลมกลืน มีแรงจูงใจให้คล้อยตามได้มาก 2. การใช้สีต่างวรรณะ หลักการทั่วไป ใช้อัตราส่วน 80% ต่อ 20% ของวรรณะสี คือ ถ้าใช้สีวรรณะร้อน 80% สีวรรณะเย็นก็ 20% เป็นต้น ซึ่งการใช้แบบนี้สร้างจุดสนใจของผู้ดู ไม่ควรใช้อัตราส่วนที่เท่ากันเพราะจะทาให้ไม่มีสีใดเด่น ไม่ น่าสนใจ 3. การใช้สีตรงกันข้าม สีตรงข้ามจะทาให้ความรู้สึกที่ตัดกันรุนแรง สร้างความเด่น และเร้าใจได้มากแต่หากใช้ไม่ถูกหลัก หรือ ไม่เหมาะสม หรือใช้จานวนสีมากสีจนเกินไป ก็จะทาให้ความรุ้สึกพร่ามัว ลายตา ขัดแย้ง ควรใช้สีตรงข้าม ใน อัตราส่วน 80% ต่อ20% หรือหากมีพื้นที่เท่ากันที่จาเป็นต้องใช้ ควรนาสีขาว หรือสีดา เข้ามาเสริม เพื่อ ตัด เส้นให้แยกออก จาก กันหรืออีกวิธีหนึ่งคือการลดความสดของสีตรงข้ามให้หม่นลงไป

18

2.3 ข้อสรุปแนวความคิดที่ได้จากการศึกษาข้อมูล แนวความคิด ศิลปะบาบัดเพื่อเด็กดาวน์ซินโดรม สนับสนุนแนวความคิด การสื่อสาร เป็นอะไรที่จาเป็นในการใช้ชีวิตประจาวัน หากไม่มีการสื่อสารกัน ก็จะทาให้การเข้าใจกัน เป็นเรื่องยากมากขึ้น และกระทบต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งควรที่จะหาอะไรมาทดแทนใน การพูด อย่างการใช้ศิลปะบาบัด ที่จะช่วยในเรื่องของพัฒนาการเด็ก และใช้เป็นตัวแทนแห่งการสื่อสารระหว่าง เด็กและผู้ปกครองได้ กลุ่มเป้าหมาย กายภาพ

จิตภาพ

-

วัยทางาน ทั้งเพศชายและเพศหญิง อายุ 35 ปีขึ้นไป

-

ผู้ปกครองที่มีบุตรเป็นเด็กพิเศษ

อารมณ์และความรู้สึก - Knowledge (ให้ความรู้) - Inspiration (แรงบันดาลใจ) การตอบสนองที่คาดหวังจากกลุ่มเป้าหมาย - กลุ่มเป้าหมายได้รับความรู้ วิธีการ และสามารถนาไปปฏิบัติใช้ได้จริง

19

บทที่ 3 การดาเนินงาน 3.1 ผลงานออกแบบตัวละคร ภาพผลงานออกแบบร่างทั้งหมดที่ส่งในการตรวจครั้งที่ 1 - ตัวละคร เด็กดาวน์ซินโดรม

ภาพที่ 8 ภาพร่าง เด็กดาวน์ซินโดรม

20

ภาพผลงานออกแบบร่างคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ส่งในการตรวจครั้งที่ 2 - นาตัวละครเด็กดาวน์ซินโดรม ที่ร่างจากการส่งครั้งที่ 1 มาพัฒนาต่อ

ภาพที่ 9 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม แบบที่ 1

ภาพที่ 10 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม แบบที่ 2, 3, 4, 5

21

ภาพผลงานออกแบบร่างคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ส่งในการตรวจครั้งที่ 3 - เลือกแบบตัวละครเด็กดาวน์ซินโดรม และแก้ไขให้สมบูรณ์ (แก้ไขจากภาพร่างแบบที่ 3)

ภาพที่ 11 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม ท่ายืน

ภาพที่ 12 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม ท่านั่ง

22

ภาพที่ 13 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ เด็กดาวน์ซินโดรม แสดงสีหน้าปกติ, ไม่เข้าใจ, หัวเราะ, หลับ

ภาพที่ 14 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ ผูป้ กครอง เด็กดาวน์ซินโดรม

23

3.2 ผลงานออกแบบร่าง Story Board ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1

ภาพที่ 15 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 1

ภาพที่ 16 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 2

24

ภาพที่ 17 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 3

ภาพที่ 18 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 1 หน้า 4

25

ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 - แก้ไขให้สมบูรณ์

ภาพที่ 19 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 1

ภาพที่ 20 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 2

26

ภาพที่ 21 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 3

ภาพที่ 22 ภาพร่าง Story Board ครั้งที่ 2 หน้า 4

27

เนื้อเรื่อง ศิลป์ กับ ดาวน์ - เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กดาวน์ซินโดรม - อยู่ในวัยเรียน อายุ 6 ปี - IQ 35-50 อยู่ระดับปานกลาง - มีพัฒนาการช้า และสื่อสารไม่ค่อยได้ ทาให้ผู้ปกครองไม่สามารถที่จะเข้าใจในตัวเด็กได้ ซึ่งการสื่อสารในชีวิตประจาวันถือเป็นสิ่งที่สาคัญมาก หากสื่อสารไม่ได้ ก็จะไม่มีใครเข้าใจ ในกรณีของ เด็กดาวน์ซินโดรมนี้ จะมีตัวช่วยให้เด็กสามารถหาทางสื่อสารออกมา และฝึกพัฒนาการของเด็กด้วยไปในตัว นั่นก็คือการใช้ศิลปะบาบัด หากมองเข้าไปในจุดลึก ถึงแม้จะเป็นเด็กพิเศษ เขาก็คือเด็กคนหนึ่งที่ในใจก็มีความ ต้องการ อยากจะมีเพื่อนเล่นหรือพูดคุยกับคนรอบข้าง เพียงแต่เขาสื่อออกมาให้รับรู้ไม่ได้ แต่พอได้ศิลปะมา ช่วยบาบัด เขาก็จะสามารถใช้ศิลปะวาดภาพหรือระบายสิ่งที่อยู่ในใจของเขา โดยสื่อออกมาเป็นภาพวาด ซึ่งถือ ว่าเป็นตัวกลางสื่อสารว่าตัวเด็กอยากบอกอะไร สิ่งนี้จะสามารถช่วยให้พ่อแม่เข้าใจในเด็กมากขึ้น และพอมีคน เข้าใจ ก็จะทาให้ตัวเด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีก ทั้งยังช่วยในเรื่องการพัฒนากล้ามเนื้อ ฝึกสมาธิ และเด็กก็จะมี พฤติกรรมที่ดีขึ้นด้วย

28

3.3 ผลงานออกแบบร่าง Poster ภาพผลงานออกแบบร่างคอมพิวเตอร์

ภาพที่ 23 ภาพร่างคอมพิวเตอร์ Poster

29

3.4 ผลงานออกแบบร่าง Brochure - ออกแบบ Layout แผ่นพับ

ภาพที่ 24 ภาพร่าง Layout Brochure

30

บทที่ 4 ผลงานภาคออกแบบ 4.1 ผลงานออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ศิลป์ กับ ดาวน์ ฉากเปิด ศิลป์ กับ ดาวน์ เป็นฉากที่อยู่ในอวกาศ มีดวงดาว ที่จะสื่อเป็นนัยว่าเกี่ยวกับเด็กดาวน์ซินโด รม และเครื่องบิน กระดาษซึง่ เป็นตัวนาทางไปที่ประตู เตรียมเปิดเรื่อง ภาพที่ 25

ภาพที่ 26

ภาพที่ 27

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากเปิด

31

ฉากที่ 1 - เปิดตัวแนะนาเด็กดาวน์ซินโดรม

ภาพที่ 28

ภาพที่ 29

ภาพที่ 30

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1

32

- อธิบายอาการของเด็กว่าเป็นแบบไหน มีพฤติกรรมเป็นอย่างไร - การที่เด็กมีพฤติกรรมแบบนี้ มีผลกระทบต่อใคร อย่างไรบ้าง - หาวิธีสื่อสารที่จะช่วยให้เข้าใจในตัวเด็กมากขึ้น

ภาพที่ 31

ภาพที่ 32

ภาพที่ 33

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1

33

- ยกตัวอย่าง Case Study

ภาพที่ 34

ภาพที่ 35

ภาพที่ 36

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1

34

- บอกเล่าพฤติกรรมก่อนและหลังการใช้ศิลปะบาบัดจาก Case Study

ภาพที่ 37

ภาพที่ 38

ภาพที่ 39

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 1

35

ฉากที่ 2 - เกริ่นเข้าเรื่องของศิลปะบาบัด

ภาพที่ 40

ภาพที่ 41

ภาพที่ 42

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2

36

- อธิบายว่าศิลปะแบ่งได้กี่แขนง และแต่ละแขนงจะช่วยเด็กในเรื่องใดบ้าง

ภาพที่ 43

ภาพที่ 44

ภาพที่ 45

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2

37

ภาพที่ 46

ภาพที่ 47

ภาพที่ 48

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2

38

ภาพที่ 49

ภาพที่ 50

ภาพที่ 51

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 2

39

ฉากที่ 3 - อธิบายถึงขั้นตอนการบาบัดจากการใช้ศิลปะ มีทั้งหมด 5 ขั้นตอน - ขั้นตอนที่ 1 - 3

ภาพที่ 52

ภาพที่ 53

ภาพที่ 54

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3

40

- ขั้นตอนที่ 4 – 5

ภาพที่ 55

ภาพที่ 56

ภาพที่ 57

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3

41

บอกผลลัพธ์ที่ได้จากศิลปะบาบัด ว่าหลังจากที่ได้ทาการบาบัดแล้ว เด็กจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เพราะได้ใช้ความคิดในการวาดระบายสีภาพ มีสมาธิเพิ่มขึ้น และช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง

ภาพที่ 58

ภาพที่ 59

ภาพที่ 60

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 3

42

ฉากที่ 4 - ผู้ปกครองได้เข้าใจในตัวเด็กมากขึ้น เพราะศิลปะที่เด็กได้วาดออกมา

ภาพที่ 61

ภาพที่ 62

ภาพที่ 63

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากที่ 4

43

ฉากปิด - เด็กรู้สึกมีความสุข เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็มีคนเข้าใจเขาแล้ว จากการใช้ศิลปะในการสื่อสาร ผู้ปกครองก็มีความสุข เพราะได้เข้าใจว่าเด็กต้องการอะไร - ถึงแม้จะแตกต่าง แต่ผู้ปกครองและเด็กก็อยู่ด้วยกันด้วยความรัก ความเอาใจใส่ อย่างมีความสุข

ภาพที่ 64

ภาพที่ 65

ภาพที่ 66

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด

44

-

ขึ้นโลโก้ของสถาบันราชานุกูล และข้อมูลติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ภาพที่ 67

ภาพที่ 68

ภาพที่ 69

ภาพออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ฉากปิด

45

4.2 ผลงานออกแบบ Poster

ภาพที่ 70 ภาพออกแบบ Poster ศิลป์ กับ ดาวน์

46

4.3 ผลงานออกแบบ Brochure -

เป็นเนื้อหาสรุปความรู้เกี่ยวกับดาวน์ซินโดรม และศิลปะบาบัด

ภาพที่ 71 ภาพออกแบบ แผ่นพับ เนื้อหาหน้าที่ 4, ปกหลัง, ปกหน้า

ภาพที่ 72 ภาพออกแบบ แผ่นพับ เนื้อหาหน้าที่ 1, 2, 3

47

บทที่ 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ 5.1 สิ่งที่ได้รับจากการทางานวิจัย 5.1.1 ข้อดีทไี่ ด้รับจากการทาโครงงานออกแบบกราฟิกกราฟิกเคลื่อนไหว ศิลป์ กับ ดาวน์ - ได้เรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับโรคดาวน์ซินโดรม และศิลปะบาบัด - ได้ทราบว่าศิลปะบาบัด นั้น ไม่ใช่แค่เด็กดาวน์ซินโดรมที่ใช้ได้ แต่เด็กพิเศษประเภทอื่นๆ เช่น กลุ่มเด็กออทิสติก เด็กสมาธิสั้น หรือแม้กระทั่งคนปกติทั่วไป ก็สามารถใช้ศิลปะบาบัดเป็นตัวระบายสิ่งที่นึกคิด ออกมาได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปตามลักษณะบุคคล - ได้ออกแบบกราฟิกเคลื่อนไว้เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เด็กดาวน์ซินโดรม และวิธีการใช้ศิลปะให้กับ ผู้ปกครองที่มีลูกเป็น ดาวน์ซินโดรม และทางสถาบันราชานุกูล รวมถึงคนทั่วไปที่ไม่รู้จัก กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมด้วย - ได้ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ อาทิ โปสเตอร์ แผ่นพับ เพื่อให้เป็นความรู้ 5.1.2 ข้อเสียที่ได้รับจากการทาโครงงานออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ศิลป์ กับ ดาวน์ - ใช้เวลาในการทางานมาก - ต้องสรุปข้อมูลอย่างละเอียด เพราะเป็นเนื้อหาที่ค่อนข้างยาก จึงใช้เวลารวบรวมข้อมูลนาน 5.2 ปัญหาที่พบในการทางาน 5.2.1 คอมพิวเตอร์อาจมีปัญหาในบางทีทาให้ทางานได้ไม่สะดวก 5.2.2 เทคนิคในการใช้โปรแกรมการเคลื่อนไหว ยังไม่ชานาญเพียงพอให้งานออกราบรื่น และเป็นไป ตามทีค่ าดหมายไว้ 5.3 แนวทางแก้ไข 5.3.1 นาคอมพิวเตอร์ไปซ่อม 5.3.2 เรียนรู้การใช้โปรแกรมจากอินเตอร์เน็ตเสริม 5.3.3 หาข้อมูลเพิ่มในการทางาน

48

บรรณานุกรม หนังสือ

ศิลปะบาบัด ศาสตร์และศิลป์แห่งการบาบัด โดย นายแพทย์ทวีศักดิ์ สิรริ ัตน์เรขา (จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น) สถาบันราชานุกลู กรมสุขภาพจิต

เว็บไซต์

กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม https://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มอาการดาวน์ กรณีศึกษาของ คุณเหมียว แคทลียา อัศวานันท์ https://www.posttoday.com/life/life/533068 https://www.sanook.com/women/94141 ทฤษฎีกราฟิกเคลื่อนไหว https://www.phranakornsoft.com หลักการสร้างภาพเคลื่อนไหว https://sites.google.com/site/kantima54540026/home/motion-graphic https://sites.google.com/site/animationsites/ ทฤษฏีองค์ประกอบศิลป์ https://tasanee12.weebly.com/

49

ภาคผนวก

ภาพที่ 73 ภาพ Poster แสดงผลงาน

ภาพที่ 74 ภาพรวมแสดงผลงาน

50

ประวัตยิ ่อผู้วิจัย

ชื่อ วัน/เดือน/ปีเกิด ประวัติการศึกษา

นางสาววรินทร อุทโยชาติ 15 มิ.ย. 2539 2557-2561

2554-2557 2551-2554 สถานที่อยู่ปัจจุบัน โทร

ป. ตรี จาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตบางเขน คณะดิจิทัลมีเดีย สาขาการออกแบบกราฟิก ม. 4 - 6 จาก โรงเรียนอุดมศึกษา ลาดพร้าว ม. 1 - 3 จาก โรงเรียนคลองลานวิทยา 25/91 ซอยรามคาแหง 124 ถนนรามคาแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10240 083 294 2255