ปล่อย (RELEASE) #1

Page 1

ปล่อย 1


Editorial ปล่อย Release e-magazine

ting Floa

World

Vol.1

Vol. 1 April 2013

ล่อย Release e-magazine นิตยสารบนโลกออนไลน์ขอ สวัสดีผอู้ า่ นทุกท่านอย่างเป็นทางการ ก่อนอืน่ คงต้องขอ แนะน�ำตัวเองไว้สกั เล็กน้อย- ปล่อย Release e-magazine คือนิตยสารบนโลก ออนไลน์ จัดท�ำโดยกลุม่ คนหนุม่ สาวกลุม่ เล็กๆ ทีเ่ รียกตัวเอง เล่นๆ ว่า “กลุม่ (ปล่อย)กองโจร” ไม่รวู้ า่ ชือ่ จะน่ากลัวไปไหม แต่เราคิดเข้าข้างตัวเองประสาซือ่ ว่า “มันน่ารัก.. มันเท่” หรือ อาจจะเท่บา้ งล่ะ นัยจริงๆ แล้ว คือเราไม่อาจเรียกตัวเองให้ดู ยิง่ ใหญ่ไปกว่านี้ ด้วยส�ำเหนียกว่า ก่อนหน้าเราจะคิดรวมตัวกัน ท�ำนิตยสารเล่มนี้ ได้มผี คู้ นมากมายหลายกลุม่ ในแต่ละยุคแต่ละ สมัย ทีเ่ ขาคิดมาก่อนเรา และสร้างท�ำไว้เป็นอย่างดี กระทัง่ เป็น แบบอย่าง และแรงบันดาลใจให้กบั เรา และแน่นอนว่า ปล่อย รีลสิ ก็คอื ผลพวงของแรงบันดาลใจทัง้ หลายทีเ่ ราชาวกองโจร ต่างได้รบั เป็นทอดๆ กันมา ‘ขุนโจรปล่อย’ หากจะว่าไป ก็มติ า่ งจากจอมยุทธหนุม่ ผู้เริ่มออกท่องยุทธภพ ทุกก้าวย่างย่อมมีความตื่นเต้น-มั่นใจ พลังภายในที่สั่งสม จึงถูกปลดปล่อยออกมาด้วยแรงเร่าร้อน จึงนับเป็นการสมควรอย่างยิ่ง หากจะมีค�ำชี้แนะสู่แนวทางที่ ควรจะเป็นจากจอมยุทธทัง้ หลายผูเ้ ทีย่ วท่องในยุทธจักรมาก่อน เรา ..เราขอน้อมคาราวะท่านล่วงหน้า และดืม่ ขอบน�ำ้ ใจท่านที่ เมตตาสักหลายจอก ใน ปล่อย Release e-magazine ฉบับปฐมฤกษ์ นี้ ท่านจะได้สมั ผัสงานเขียนทีห่ ลากหลาย หลากรส หลากรูป แบบ หลากมุมมอง เรือ่ งจากปกได้รบั เกียรติจาก ครูชา่ ง ชน ประคัลภ์ จันทร์เรือง แห่งคณะละครมรดกใหม่ มานัง่ เผยตัวตน ความคิด ตลอดถึงเรือ่ งราวว่าด้วยเกียรติ กิน กาม ..เปลือ้ ง เปลือยอย่างหมดจด เฉพาะทีน่ ท่ี เี่ ดียวกันจริงๆ นอกจากนี้ นัก เขียนซีไรต์ชนั้ ครู ไพฑูรย์ ธัญญา ได้ให้เกียรติกบั กลุม่ ขุนโจร ปล่อยเช่นกัน ด้วยการหวนมาจับดาบคอลัมนิสต์อกี ครัง้ ส่วนจะ

2 ปล่อย

ร่ายร�ำเพลงดาบเช่นไร ย่อมตามติดได้ทนี่ ที่ กุ เดือน นักเขียนใหญ่อกี 2 ท่านคือ ขจรฤทธิ์ รักษา และ ชามา ในยุทธจักรอักษร สองชือ่ นีม้ มิ ใี ครไม่รจู้ กั ขจรฤทธิ์ รักษา ผ่อนพักจากการเขียนนวนิยาย ด้วยการตระเวนตีกอล์ฟ พบ เจอเรื่องราวและแง่มุมหลากหลายที่ผุดขึ้นบนกรีน ..ตามติด มุมความคิดตรงๆ ชัดๆ ซึง่ เกิดจากการหรีด่ วงตาเล็งไลน์ ได้ทนี่ ี่ ส่วน ชามา นักเขียนหญิงระดับอาจารย์ ผูม้ ากประสบการณ์ ชีวติ มอบเรือ่ งเล่าชวนฝัน ทว่าวูบวาบด้วยสีสนั หลากหลาย ในท่วงท�ำนองเรือ่ งเล่าอันนวลละมุนชวนให้ลอ่ งลอยดุจขนนก นอกจากนี้ ยังมีนกั เขียนหนุม่ สาวเจ้าของนามปากดัง ซึง่ มีคอลัมน์ตพี มิ พ์ตามหน้านิตยสารชัน้ น�ำของบ้านเราบางท่าน ที่ฝากบอกจะแวะเวียนผ่านมาทิ้งเรื่องเล่าไว้ในพื้นที่ตรงนี้บ้าง ตามแต่วาระโอกาส.. แม้วา่ วันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่ ณ วันนี้นับว่าเป็นเกียรติกับชาวขุนโจรปล่อยอย่างที่สุด ส่วนจะ เป็นใคร และเรือ่ งราวใดนัน้ คงต้องคอยติดตามไปพร้อมๆ กัน ส�ำหรับเหล่าขุนโจร ขอออกตัวสักเล็กน้อยว่า เป็น เพียงคนเล็กๆ มีทอ่ี ยูท่ ยี่ นื อันแตกต่าง หากแต่มจี ดุ ร่วมในด้าน ขีดเขียนที่โยงใยเราให้มารวมตัวกันก็เท่านั้น บางคนเป็นนัก หนังสือพิมพ์ บางคนยืนรายงานข่าวในหน้าจอโทรทัศน์ บางคน เป็นอาจารย์ เป็นครู เป็นเจ้าของร้าน เป็นนักการละคร เป็น นักเดินทาง เป็นคนขายหวย เป็นนักตกงาน เป็นนักอกหักรักคุด เป็นนักดืม่ เป็นหอบ เป็นริดสีดวง... ใครเป็นใคร โอกาสต่อไป เราคงได้รจู้ กั กันมากขึน้ ส่วนเรือ่ งเล่าใดทีพ่ วกเขาจะน�ำมาปล่อย ณ ทีน่ นี้ นั้ ขอท่านได้ทศั นาด้วยหัวใจทีร่ นื่ รมย์ และอย่าลืมส่งพลังใจหรือ ข้อติชมให้แก่พวกเขาด้วยเถิด ด้วยมิตรภาพและความรัก ประยูร หงษาธร


Content

www.facebook.com/ReleaseEMagazine

ปล่อยครู มนต์แม่นำ �้

4

‘คนเขียนข่าว’

8

พระจันทร์จบั มือฉันเขียน ตอน 1

10

ปล่อยข่าว ปล่อยผูห้ ญิงให้บนิ ได้ ปล่อยจากปก

เกียรติ กิน กาม “ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง” จากคณะละครมรดกใหม่การ “ช่าง” ผูเ้ ลือกอยูอ่ ย่างต�ำ่ ท�ำอย่างสูง

ปล่อยเธอ

32 ปล่อยให้นงั่ คุยกับหนังสือ ปล่อยใจไปดูหนัง

A Simple Life ชีวติ ดีๆ ทีง่ า่ ยงาม

ปล่อย(ใน)เพลง

ชิล ชิล ลอยฟ้า...อโบฟ อีเลฟเว่น

56

ณ ทีแ่ ห่งแรงบันดาลใจ

58

เสียงฝนจากหุบเขา

60

กีฬาเป็นยาวิเศษ

62

ปล่อยไปตีทา้ ยครัว ปล่อยเรือ่ งเล่า ปล่อยโปร

14

ปล่อยเธอ...เหยือ่ รายที่ 1 ปราง

หนังสือมุมหนัง : แดดเช้าร้อนเกินกว่า (เอเลีย่ น) จะนัง่ จิบกาแฟ #1

ปล่อยกันไปแฮ้ง

36 40

นิตยสาร

ปล่อย รีลสิ อีแมกกาซีน ทีป่ รึกษา

ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง, ไพฑูรย์ ธัญญา, เจน สงสมพันธุ,์ โสภี สุขเกษม, เฉลิมพล ปทะวานิช, วาสนา ชูรตั น์ บรรณาธิการ

ประยูร หงษาธร

ผูช้ ว่ ยบรรณาธิการ

ชาตรี เขตเขาเม็ง

กองบรรณาธิการ 42 ศิรพิ ร วงศ์ทางประเสิรฐ์ , ปล่อยทางกวี สุทธิดา มนทิรารักษ์, เติง้ เสีย่ วต้อง สุนทรพจน์ 44 ศิลปกรรม BonVi_Art ปล่อยทางคนหนุม่ ช่างภาพ โดยวิถขี องคนหนุม่ 46 ธนวรรธ ชายกุล, denprayoon คอมพิวเตอร์ ปล่อยคนผีๆ สุพฒ ั น์ สุขเกษม, ศุภกิตติ์ ยินดีอนันต์ 416 48 ปล่อย Release e-magazine ปล่อยใจสัมผัสใจ www.thai-emag.net รักทีเ่ พิง่ ผ่านพ้นไป 50 www.facebook.com/ReleaseEMagazine ปล่อยเล็บมังกร บริษทั ไวท์ ไดเมนชัน่ จ�ำกัด หวางซีจอื เซียนอักษรสวรรค์ 52 เลขที่ 67 ซอยพัฒนาการ 50 ถนนพัฒนาการ ปล่อยแขก แขวงสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 โทร.02-722-7322 , 081-010-7120 ล�ำน�ำ 54

ระหว่างเรา

e-mail : denprayoon@hotmail.com

ปล่อย 3


ปล่อยครู

4 ปล่อย

เรื่อง : ไพฑูรย์ ธัญญา


ผมยังประทับใจกับบรรยากาศและกลิ่นอายของเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ริมแม่น�้ำโขง ในห้วงเวลาที่แตกต่างกัน

มนต์แม่นำ�้

มไม่รู้เลยว่า ความรู้สึกเช่นนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มารูอ้ กี ทีกค็ อื ผมมีความรูส้ กึ ผูกพันกับแม่นำ�้ มากเป็น พิเศษ ผมชอบแม่นำ�้ ทุกสาย มีความสุขและตืน่ เต้นทีไ่ ด้มองดู แม่นำ�้ อย่างไม่รเู้ บือ่ สิง่ เหล่านีไ้ ม่ได้เกิดจากการเสแสร้งแกล้ง ท�ำ แต่มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ เหมือนกับทุกวันที่ผมขับรถ ข้ามผ่านแม่นำ�้ ชี ผมจะต้องเหลียวมองดูสายน�ำ้ สังเกตความ เปลีย่ นแปลงของมันวันแล้ววันเล่า เหมือนกับทีผ่ มท�ำบางสิง่ บาง อย่างอันเป็นกิจวัตรประจ�ำวัน เมือ่ หลายปีกอ่ น เพือ่ นชาวอเมริกนั คนหนึง่ ทีเ่ คยแปล เรือ่ งสัน้ ของผมเป็นภาษาอังกฤษ เคยตัง้ ข้อสังเกตว่า เรือ่ งสัน้ หลายเรือ่ งของผมมักจะมีแม่นำ�้ หรือน�ำ้ เข้ามาเกีย่ วข้องเสมอ ไม่ มากก็นอ้ ย ตัวอย่างเช่น ในรวมเรือ่ งสัน้ ชุดก่อกองทราย ก็มเี รือ่ ง สัน้ อย่างน้อย 3 เรือ่ ง คือ ก่อกองทราย, คนบนสะพาน, เรือ ปลาเทีย่ วสุดท้าย ในรวมเรือ่ งสัน้ ชุดอืน่ ๆ หรือแม้แต่ในนวนิยาย บางเรือ่ งก็มกั มีฉากเกีย่ วกับน�ำ้ หรือแม่นำ�้ ให้เห็นเช่นเดียวกัน ตอนแรกๆ ผมก็ไม่คอ่ ยสังเกตหรอก แต่พอไล่เลียงดู ก็ชกั เห็นด้วยกับเพือ่ นฝรัง่ คนนัน้ เขายังตัง้ ข้อสังเกตเชิงลึกอีก ว่า ผมมีอะไรทีเ่ กีย่ วข้องกับน�ำ้ ซ่อนอยูใ่ นใจบ้างหรือเปล่า เวลา เขียนหนังสือมันเลยโผล่ออกมาให้เห็น ชะรอยเขาเอาทฤษฎีจติ วิเคราะห์ของฟรอยด์มาตัง้ ค�ำถามกับผม เข้าท�ำนองทีว่ า่ งาน เขียนมักสะท้อนเรือ่ งราวทีฝ่ งั อยูใ่ นจิตใต้สำ� นึกของนักเขียนออก มา เหมือนกับทีเ่ รานอนหลับแล้วฝันถึงบางสิง่ บางอย่าง ค�ำถามของเขาท�ำให้ผมลองย้อนส�ำรวจตัวเองอยู่พัก ใหญ่ ค�ำตอบที่ได้ก็คือ ในวัยเด็กผมมีเรื่องที่ชวนให้จดจ�ำซึ่ง

เกี่ยวข้องกับน�้ำอยู่หลายเรื่อง ตามประสาเด็กบ้านนอกขอบ ชนบททั้งหลาย ที่มีชีวิตโลดแล่นอยู่ในท้องทุ่ง ผูกพันอยู่กับ ฤดูกาล ดินฟ้าอากาศ แผ่นดินถิน่ ฐาน เวลาหน้าฝนก็ได้เห็นน�ำ้ ทุง่ น�ำ้ ท่าเจิง่ นอง น�ำ้ ป่าไหลหลาก ทีท่ ำ� ให้พวกเราพากันได้เล่น สนุกและมีความสุข ว่าไปแล้วผมมีประสบการณ์ฝงั ใจเกีย่ วกับ น�ำ้ ทัง้ ทีด่ แี ละไม่ดี ทีไ่ ม่ดคี งเป็นตอนทีผ่ มจมน�ำ้ ในคลองใกล้บา้ น สองสามครัง้ กับตอนทีต่ กลงไปในบ่อน�ำ้ ลึกลิว่ ทัง้ หมดนี้ ท�ำเอา เฉียดตายได้ทงั้ นัน้ ถึงจะมีความหลังฝังใจทีน่ า่ กลัวเกีย่ วกับน�ำ้ แต่ผมก็รกั แม่นำ�้ ไม่เสือ่ มคลาย ส�ำหรับผมแล้ว แม่นำ�้ เหมือนมีมนต์ขลัง ลึกลับอะไรบางอย่าง ทีค่ อยเร่งเร้าย�ำ้ เตือนให้เราไปหา แม่นำ�้ ให้ความรูส้ กึ ถึงการเดินทางอันยาวไกล ความหวังและจุดหมาย ปลายทาง เพราะแม่นำ�้ มีทมี่ าทีไ่ ปทีช่ ดั เจน ถ้าเราเดินตามแม่นำ�้ ไปสุดสาย เราก็จะได้พบกับปากน�ำ้ และทะเลใหญ่ ในแง่นี้ อย่าง น้อยแม่นำ�้ ก็มที างออกเสมอ เมืองหลายเมืองมีแม่นำ�้ ไหลผ่าน นัน่ คือความโชคดีและ มนต์เสน่ห์ ใครบางคนเคยกล่าวไว้วา่ เมืองไหนทีม่ แี ม่นำ�้ ไหลผ่าน เมืองนัน้ จะเป็นเมืองทีย่ งิ่ ใหญ่เสมอ ผมว่าเห็นท่าจะจริง ลอง ไล่เฉพาะเมืองหลวงของหลายประเทศทีม่ แี ม่นำ�้ ไหลผ่าน ส่วน ใหญ่กเ็ ป็นอย่างทีว่ า่ ไม่วา่ จะเป็นแม่นำ�้ เทมส์ทลี่ อนดอน แม่นำ�้ แซนน์ทปี่ ารีส แม่นำ�้ ดานูบทีก่ รุงเวียนนา แม่นำ�้ ไนล์ทก่ี รุงไคโร เมืองหลวงของอียปิ ต์ แม่นำ�้ เจ้าพระยาของกรุงเทพฯ และอีก มากมายทีป่ รากฏอยูท่ วั่ โลก รวมถึงเมืองเล็กเมืองน้อยในบ้านเรา ทีม่ แี ม่นำ�้ ไหลผ่าน ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองทีน่ า่ อยูท่ งั้ นัน้

ปล่อย 5


ปล่อยครู ผมยังประทับใจกับบรรยากาศและกลิน่ อายของเมือง และหมูบ่ า้ นต่างๆ ทีอ่ ยูร่ มิ แม่นำ�้ โขง ในห้วงเวลาทีแ่ ตกต่างกัน แม่นำ�้ โขงทีน่ ครพนมยามเช้าตรูใ่ นต้นฤดูฝน ดูฉำ�่ ชืน่ และกระปรี้ ประเปร่าด้วยสายน�ำ้ ขุน่ ข้นชวนเกรงขาม ต่างจากน�ำ้ โขงยาม ใกล้ลน้ ฝัง่ แถวหนองคายทีด่ เู วิง้ ว้างกว้างไกลและทรงพลังด้วย แรงเชี่ยวกราก นั่นต่างกันลิบลับกับแม่น�้ำโขงยามหน้าแล้งที่ สีพ่ นั ดอนของลาวใต้ ทีน่ ำ�้ ดูใสสะอาดและเต็มไปด้วยเกาะแก่ง และดินดอนน้อยใหญ่อนั เป็นทีม่ าของสีพ่ นั ดอน ส่วนแม่นำ�้ โขง ช่วงทีไ่ หลผ่านนครหลวงพระบางก็มบี คุ คลิกและท่วงท่าสง่างาม ไปอีกแบบ แม่น�้ำฝาแฝดสายเลือดใหญ่ของอีสานคือแม่มูลกับ แม่นำ�้ ชี ก็เป็นแม่นำ�้ ทีผ่ มค่อนข้างฝังใจไม่เสือ่ มคลาย ระหว่าง น�ำ้ มูลกับน�ำ้ ชีนนั้ ผมค่อนข้างคุน้ เคยกับน�ำ้ ชีมากกว่า แม่นำ�้ ชี นัน่ สีขนุ่ ไหลแรงและลึก ด้วยว่าระหว่างต้นน�ำ้ กับแม่นำ�้ เป็นพืน้ ที่ ค่อนข้างลาดชัน แม่นำ�้ ชีรปู ร่างกระทัดรัด ปราดเปรียวเหมือนงู

6 ปล่อย

สิงตัวเขือ่ ง ขณะทีน่ ำ�้ มูลดูอวบอ้วน อุย้ อ้ายและใสกระจ่างกว่า ผมเคยเปรียบเทียบเล่นๆ ว่า โขง ชี มูล ของภาคอีสาน เหมือน งูใหญ่สามตัว ทีเ่ ลือ้ ยผ่านแผ่นดินกว้างใหญ่ แม่โขงนัน้ น่าจะเป็น พญานาค ส่วนแม่มูลให้เป็นงูจงอาง และแม่นำ�้ ชีก็น่าจะเป็น เหมือนงูเห่า ด้วยความเป็นงูใหญ่ ถึงแม้แม่นำ้� ทัง้ สามสายจะดูมี เสน่ห์ งดงาม แต่กย็ งั คงความดุดนั น่าเกรงขามไม่เสือ่ มคลาย สองสามปีก่อนผมได้ไปพักอยู่ในลอนดอนหลายเดือน เพื่อไปศึกษาเพิ่มเติมและเขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก ทีพ่ กั ของผมอยูย่ า่ นใจกลางของกรุงลอนดอน ทีพ่ เิ ศษทีส่ ดุ ก็คอื ผมต้องเดินทางผ่านแม่นำ�้ เทมส์อย่างน้อยวันละสองครัง้ คือตอน เช้ากับตอนเย็น ตอนเช้าผมนัง่ รถไปมหาวิทยาลัย ส่วนตอนเย็น ไม่รบี ร้อนผมก็เดินกลับ บางวันผมออกวิง่ ตอนเช้า ก็วนเวียน อยูก่ บั พืน้ ทีส่ องฝัง่ ของแม่นำ�้ เทมส์ ผมเฝ้ามอง เพ่งพินจิ และสูด กลิน่ แม่นำ�้ เทมส์วนั แล้ววันเล่า พูดได้เลยว่า ไม่มวี นั ไหนทีผ่ มไม่ ได้จอ้ งมองแม่นำ�้ สายนี้


บางวันที่รู้สึกหงอยเหงาคิดถึงบ้าน ผมเดินทางมาที่แม่น�้ำเทมส์ นั่งดูสายน�้ำเอื่อยไหล มันเหมือนว่า สายน�้ำได้น�ำพาเอาความคิดถึงของผมเดินทางไปด้วย แม่นำ�้ เทมส์ทำ� ให้ผมนึกถึงแม่นำ�้ เจ้าพระยาทีก่ รุงเทพฯ เพราะมีอะไรบางอย่างทีด่ คู ล้ายกัน แม่นำ�้ เทมส์ไหลผ่ากลางกรุง ลอนดอน เหมือนแม่นำ�้ เจ้าพระยาทีก่ รุงเทพฯ ขนาดก็ไล่เลีย่ กัน และมีนำ�้ ขึน้ ลงเหมือนกัน เพราะอยูใ่ กล้ทะเล แต่ทตี่ า่ งกันก็คอื แม่นำ�้ เจ้าพระยาสกปรก ส่วนแม่นำ�้ เทมส์ใสสะอาดและมีระบบ นิเวศทีด่ เี ยีย่ ม ยิง่ นัง่ เรือย้อนขึน้ ไปต้นน�ำ้ ห่างจากลอนดอนไป มากๆ แม่นำ�้ เทมส์ยงิ่ ใสสะอาดแทบจะดืม่ กินได้ แม้แต่ชว่ งที่ ไหลผ่านกรุงลอนดอน ซึง่ หนาแน่นไปด้วยตึกรามบ้านช่อง ผม ก็ยงั เห็นตัวนากด�ำผุดด�ำว่ายอยูต่ รงเสาสะพานและหาดทราย ริมฝัง่ มันเป็นนากจริงๆ ว่ากันว่า นากเป็นตัวบ่งชีถ้ งึ ความ อุดมสมบูรณ์ของแม่นำ�้ บางวันทีร่ สู้ กึ หงอยเหงาคิดถึงบ้าน ผมเดินทางมาทีแ่ ม่ น�ำ้ เทมส์ นัง่ ดูสายน�ำ้ เอือ่ ยไหล มันเหมือนว่า สายน�ำ้ ได้นำ� พา เอาความคิดถึงของผมเดินทางไปด้วย ผมรูส้ กึ ดีและผ่อนคลาย ขึน้ แม้ผมจะไม่รเู้ ลยว่า ความรูส้ กึ เหล่านัน้ มันจะไปสิน้ สุดลงที่ แห่งใด...

ปล่อย 7


ปล่อยข่าว

เรื่อง : มนตรี อุดมพงษ์

’ ว ่ า ข น ี ย ข เ น ค ‘ ทันทีทไี่ ด้รบั การประสานงาน จากกองบรรณาธิการว่า เป็นไปได้ ไหมทีจ่ ะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ การลงสนามข่าว ในนิตยสารเล่มทีช่ อื่ แปลกๆ “ปล่อย รีลสิ ” เล่มนี้ ผมตอบทันทีวา่ ยินดี ทัง้ ทีไ่ ม่แน่ใจว่า จะมี เวลานัง่ เล่าเรือ่ งราวผ่านตัวหนังสือแบบนีห้ รือเปล่า ทีเ่ ป็นเช่นนี้ เพราะท�ำงานข่าวทีวี และดูขา่ วทีวยี ามเช้า จนชัก จะเคยชินกับการ ฟังผูป้ ระกาศเล่าข่าว จนลืมวิธกี ารเขียนเล่าข่าวผ่านตัว หนังสือ ทัง้ ทีค่ วามจริง ข่าวทีค่ นอืน่ เอาไปเล่า ส่วนหนึง่ ก็เป็นข่าวทีเ่ ราเขียน เพียงแต่ผมชอบเขียนเป็นเนือ้ หาข่าวมากกว่า นีก่ ระมังครับ จึงเป็นทีม่ าของค�ำว่า “คนเขียนข่าว” ซึง่ ผมรูส้ กึ ดี กับค�ำๆ นีม้ าก ข่าวทีวมี กั ใช้เวลาไปกับการลงพืน้ ที่ เช่นเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป ปัตตานีกว่า 1,000 กิโล นัง่ รถ 10 กว่าชัว่ โมง ถ่ายภาพไว้ 3-4 ชัว่ โมง น�ำมาตัดต่อ บันทึกเสียง และส่งอินเตอร์เน็ต เพือ่ ออกอากาศด้วยความ ยาวเพียง 3 นาทีเท่านัน้ 3 นาทีเท่านัน้ ต่อสกูป๊ ข่าวทีวี ๑ ข่าว ทีอ่ อกอากาศ มันแตกต่าง กันมาก หากเทียบกับเวลาทีใ่ ช้ในกระบวนการท�ำงานทัง้ หมด แต่กน็ นั่ แหล่ะ ครับ ด้วยอานุภาพข่าวทีวี ทีเ่ ห็นภาพ ฟังเสียง

8 ปล่อย


เมื่อเรื่องราวที่พบเห็นในสนามข่าว ถูกบังคับให้คัดเลือกประเด็นน�ำเสนอให้จบในเวลาเพียง 3 นาที ทั้งที่ยังมีหลายแง่มุมที่น่าสนใจอีกมาก ผมจึงเลือกที่จะน�ำเรื่องราวเหล่านี้มาพูดคุยกัน

แม้เพียง 3 นาที ก็ทำ� ให้คนนับล้านได้เห็น และ หากเป็นข่าวสืบสวนการทุจริต ก็ถงึ ขัน้ ท�ำให้คนในข่าว เป็น เดือดเป็นร้อน ต้องรีบชีแ้ จง แถลงข่าว กันเลยทีเดียว เมือ่ เรือ่ งราวทีพ่ บเห็นในสนามข่าว ถูกบังคับให้ คัดเลือกประเด็นน�ำเสนอให้จบในเวลาเพียง 3 นาที ทัง้ ทีย่ งั มีหลายแง่มมุ ทีน่ า่ สนใจอีกมาก ผมจึงเลือกทีจ่ ะน�ำเรือ่ งราว เหล่านีม้ าพูดคุยกัน ภายใต้ชอื่ “ปล่อยข่าว” ซึง่ ยืนยันได้วา่ ไม่ใช่นำ� ข่าลือ หรือข่าวโคมลอยในช่วงลอยกระทง มาปล่อย เป็นแน่ มีเรือ่ งหนึง่ ทีผ่ มอยากเล่าให้ฟงั ครับ ตัง้ แต่ระเบิด กลางเมืองสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส และกราดยิง ทหารลาดตระเวน 4 นาย ทีจ่ งั หวัดปัตตานี เมือ่ ปลาย เดือนกรกฎาคม กระทั่งข่าววางระเบิดโรงแรมซีเอส จังหวัดปัตตานี เมือ่ ต้นเดือนสิงหาคม ทุกเหตุการณ์ตอกย�ำ้ ให้ภาพของพืน้ ทีน่ อี้ นั ตรายยิง่ ชาวบ้านแห่อพยพโยกย้ายไปซือ้ บ้านจัดสรร ที่ อ�ำเภอหาดใหญ่ ซึง่ นักธุรกิจหัวใส ได้จงั หวะสร้างหมูบ่ า้ น รองรับคนกลุ่มนี้ จนเรียกแบบติดปากว่า หมู่บ้าน 3 จังหวัด ส่วนในพืน้ ที่ 3 จังหวัดจริงๆ หลายคนคงคิดว่า ไม่ตา่ งจากเมืองร้าง ทีค่ นแห่อพยพหนีกนั หมด ความจริง แล้ว ไม่ใช่อย่างนัน้ ครับ ผมแทบไม่คดิ ว่ามันจะเป็นไปได้ เมือ่ พบว่า ใน เขตตัวเมืองปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีการก่อสร้าง ตึกแถว บ้านจัดสรรอย่างคึกคัก ราคาตึกแถว 3 ชัน้ คูหาละไม่ตำ�่ กว่า 3 ล้าน หรือสูงถึง 5 ล้านบาท แต่ขาย หมดทุกโครงการทีส่ ร้างขึน้ เห็นไหมครับว่า มันสวนทาง กับภาพความรุนแรงทีป่ รากฏผ่านจอทีวี ยิ่ ง กว่ า นั้ น ครั บ ราคาที่ ดิ น ก็ ป รั บ ตั ว สู ง มาก เห็นได้จากเมือ่ ต้นเดือนกรกฎาคมทีผ่ า่ นมา กรมธนารักษ์ ประกาศราคาประเมิ น ที่ ดิ น ใหม่ จั ง หวั ด นราธิ ว าส ราคาทีด่ นิ เฉลีย่ เปลีย่ นแปลงสูงขึน้ ถึง 141 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับเมือ่ 5 ปีกอ่ น ถือว่าเปลีย่ นแปลงสูงกว่า หลายจังหวัดในประเทศไทยที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงด้วย ซ�ำ้ ครับ

สาเหตุเป็นแบบนีค้ รับ เหตุการณ์กระตุน้ ให้คนน�ำ เงินออกมาใช้จา่ ย คนทีอ่ ยูใ่ นตัวเมือง หรือเขตเทศบาล ต่างก็ขายทีด่ นิ ขายบ้าน ย้ายไปหาดใหญ่ ส่วนคนทีอ่ ยูใ่ น หมูบ่ า้ นนอกเขตเทศบาล หรืออยูอ่ ำ� เภอรอบนอก ก็นำ� เงิน ทีเ่ ก็บ หรือขายสวนยาง ขายสวนผลไม้ ไปซือ้ ตึกแถวใน เมืองแทนทีเ่ จ้าของเดิมทีย่ า้ ยไปหาดใหญ่ สถานทีอ่ พยพ โยกย้ายแตกต่างกันไป แต่เหตุผลเหมือนกัน คือรูส้ กึ ว่าที่ อยูใ่ หม่ ปลอดภัยกว่าเดิม ความรู ้ สึ ก เป็ น สิ่ ง ที่ วั ด มาตรฐานได้ ย ากครั บ เหมือนมีคนเขาบอกว่า อย่าล้อเล่นกับความรูส้ กึ ของคน ผมเคยบุกตะลุยไปถึงอ�ำเภอจะแนะ จังหวัด นราธิวาส ทีต่ งั้ ฐานทหาร สังกัดกรมทหารราบที่ 8 ค่าย สีหราชเดโชชัย จังหวัดขอนแก่น ซึง่ ไปปฏิบตั งิ านทีน่ นั่ เรียกได้วา่ ทบ.2 ลูกอีสานขนานแท้ ระหว่างนัง่ คุยกับผูบ้ งั คับการกองพัน ถึงแผนการ ท�ำงาน ผมได้ยนิ เสียงวิทยุสอื่ สารของทหารในหน่วย สัง่ การเรือ่ งแผนคุม้ ครองครูทโี่ รงเรียน “มื่ออื่นเซ่า พวกเฮาซุคน ให้ไปจอบป่องเข้า โรงเรียน จอบยูฮ่ นั่ ถ่าให้ครูเข่าโรงเรียนครบซุคน จัง่ คอย เมือ แล้วตอนแลง จัง่ ไปจอบใหม่ ให้เข่าใจตามนี้ เด้อ” ผมท�ำหน้างงครับ จนได้คำ� ตอบจากผูพ้ นั ว่า ที่ ผ่านมาเคยยึดวิทยุสอื่ สารทีค่ นร้ายแอบฟังทหารได้ “เมือ่ ป้องกันการดักฟังไม่ได้ ก็สร้างภาษาใหม่ในการสัง่ งาน ซะเลย” นีอ่ าจจะเป็นยุทธวิธหี นึง่ ของทหาร ทีส่ ร้างความ รูส้ กึ ถึงความปลอดภัยในการสือ่ สาร ด้วยการ เว้าภาษาอีสานกันซือ่ ๆ ถือเป็นระหัสลับ ป้องกัน การดักฟังข่าวเคลือ่ นไหว แล้ววางระเบิดของฝ่ายตรง ข้าม ผมเชื่อว่าหากคนร้ายหวังจะวางระเบิดคงหา วิทยุอนั ใหม่มาดักฟังได้ไม่ยาก แต่มนั ไม่งา่ ยเลย ส�ำหรับ คนต่างถิ่นที่จะถอดระหัสค�ำสั่งว่า ให้ไปจอบป่องเข้า โรงเรียน

ปล่อย 9


ปล่อยผูห้ ญิงให้บน ิ ได้

เรื่อง : ชามา

พระจันทร์จบั มือฉันเขียน

10 ปล่อย


งานเขียนช่วยให้ชีวิตพ้นจากความยากแค้น สอนให้รู้จักนับถือตนเองและผู้อื่น และท�ำให้จิตวิญญาณ เปี่ยมล้นไปด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์

ระจันทร์งามทุกค�ำ่ คืน ...ไม่เคยทีจ่ ะท�ำให้ฉนั หยุดมองได้ ไม่วา่ ฟ้าจะเปลีย่ นฉากไปอย่างไรก็ตาม ค�ำ่ คืนนีฉ้ นั มองพระจันทร์ผา่ นระเบียงดอกไม้ไปบนฝัง่ ฟ้าทีม่ จี นั ทร์เสีย้ วเกีย่ วดวงล้อสายตาผืนดิน “ท�ำไมจึงต้องเขียน?” นัน่ เป็นค�ำถามที่ คะทาวุธ แวงชัยภูมิ กระบวนจิตต ปัญญา ป้อนค�ำถามแก่ทกุ คนในวันนัน้ ในฐานะผูด้ ำ� เนินการ อภิปรายบนเวทีชอื่ “THE WAY TO PHILADELPHIA” ณ ร้านหนังสือ ฟิลาเดลเฟียบุก๊ ส์ แอนด์ บาร์ บริเวณหน้า มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี “ท�ำไมจึงต้องเขียน” ฉันถามตัวเอง ขณะคิดไปถึงค�ำตอบของนักประพันธ์ ทีไ่ ด้รบั การยกย่องระดับโลกหลายคน วิลเลียม ฟอล์คเนอร์ กล่าวว่า งานเขียนเป็นการ ช่วยยกระดับจิตใจของเพือ่ นมนุษย์ อัลแบร์ กามูส์ กล่าวว่า งานเขียนคือวิถีน�ำทาง เพือ่ นร่วมโลก แม็กซิม กอร์กี้ กล่าวว่า งานเขียนช่วยให้ชวี ติ พ้นจาก ความยากแค้น สอนให้รจู้ กั นับถือตนเองและผูอ้ นื่ และท�ำให้ จิตวิญญาณเปีย่ มล้นไปด้วยความรักต่อเพือ่ นมนุษย์ ธีร์ อันมัย อาจารย์หนุ่มนักนิเทศน์ศาสตร์แห่ง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยากรร่วมเวทีวนั นัน้ ซึง่ เคย เป็นอดีตนักข่าว นักเคลือ่ นไหว และนักบวชได้นงั่ สนทนากับ ฉัน ณ ระเบียงดอกไม้รา้ นฟิลาเดลเฟีย และได้เล่าให้ฟงั เกีย่ ว กับแนวทางท�ำงานเขียนเรือ่ งสัน้ ล่าสุดของเขา ผ่านแนวคิดว่า “ท�ำไมจึงต้องเขียน” เขาเล่าถึงกระบวนการเขียนครัง้ หนึง่ ว่า วันหนึง่ ขณะ ทีเ่ ขาก�ำลังไปสอนหนังสือทีม่ หาวิทยาลัย เขาเห็นปลาช่อนตัว ใหญ่ในหนองน�ำ้ ซึง่ ไปกระตุน้ วิญญาณเด็กชาวนาในร่างของเขา เมือ่ วัยเด็ก ท�ำให้เขาเตรียมจะตกปลาช่อนนัน้ ไปท�ำเป็นอาหาร แต่จติ กระหวัดไปถึงภาพของพ่อนักตกปลาซึง่ เคยห้ามเขาไว้ เมื่อเห็นแม่ปลาช่อนพร้อมลูกคลอกฝูงใหญ่ ท�ำให้วิญญาณ เพชฌฆาตในตัวเขาอ่อนแรงลง

ปล่อย 11


ปล่อยผูห้ ญิงให้บน ิ ได้

เรือ่ งนีเ้ ป็นแรงบันดาลใจให้ ธีร์ อันมัย กลับมาเขียนเรือ่ งสัน้ ด้วยแก่นเรือ่ งทรงพลังชือ่ “เพชฌฆาตน�ำ้ จืด” (ตีพมิ พ์ครัง้ แรกในเนชัน่ สุดสัปดาห์) บนเวทีวนั นัน้ มีชาวคณะคอลัมนิสต์ คอลัมน์ “จับคูเ่ ต้นร�ำ” จาก นิตยสารกุลสตรีได้รบั เชิญไปร่วมเสวนาด้วยหลายคน เช่น อาจารย์ทรง พร ศรีชว่ ย รองคณบดีฝา่ ยกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วัฒนชัย แจ้งไพร หรือ “มัคคุเทศก์ทางวิญญาณ” ซึง่ เป็นไกด์ทวั ร์อนิ เดีย ประจ�ำเมืองพัทยา และ สุธดิ า วงษ์อนันต์ นักวิจยั และอดีตบรรณาธิการ แห่งส�ำนักพิมพ์สวนเงินมีมา นักเขียนและกวีหญิงนาม ภูสคี ราม และบรรณาธิการหนุม่ ธิติ มีแต้ม สองคอลัมนิสต์จากคอลัมน์ จับคูเ่ ต้นร�ำ นิตยสารกุลสตรี ติด ภารกิจบางประการ จึงไม่ได้ไปร่วมงานตามก�ำหนดการเดิม นอกจากนัน้ ยังมีสามนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทีอ่ ยูไ่ ม่ไกลจากร้านหนังสือฟิลาเดลเฟีย คือ อาจารย์นกั การละครและ ศิลปินนาม สรพจน์ เสวนคุณากร ซึง่ ไปแสดง “Performance Art ที่ ใช้ทา่ เคลือ่ นไหวแบบ LABAN” ได้นา่ ประทับใจ อาจารย์นกั เขียน

12 ปล่อย

นาม ธีร์ อันมัย และ ดร.ทาคาฮาชิ คัทซูยกู ิ นักเขียนผูเ้ ชีย่ วชาญ ด้านประวัตศิ าสตร์ไทยแห่งภาควิชาภาษาญีป่ นุ่ ไปร่วมสร้างความคึกคัก มีนักเขียนรางวัลรพีพรคนแรก และเป็นเจ้าของรางวัลช่อ การะเกดยอดเยีย่ ม คือ มาโนช พรหมสิงห์ พร้อมด้วยศิลปินอาวุโสผู้ เนรมิตภาพแห่งประวัตศิ าสตร์การปักกลดวิปสั สนาครัง้ แรกของหลวงปู่ ชา สุภทฺโท ณ วัดหนองป่าพง คือ อาจารย์โชคชัย ตักโพธิ์ ไปร่วม เติมคุณค่าในงานด้วย มาโนช พรหมสิงห์ ลาออกจากงานครูมาปลูกสวนอักษรพร้อมๆ กับปลูกสวนดอกไม้ ณ อ�ำเภอวารินช�ำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ดังนัน้ ค�ำตอบว่า “ท�ำไมจึงต้องเขียน” จึงอาจอยูท่ ดี่ อกไม้ดอกเดียวทีบ่ านหอม อยูใ่ นสวน ดูเหมือนเขาจะกล่าวไว้ทำ� นองนัน้ ในบทน�ำหนังสือเล่มหนึง่ ของ เขา ชือ่ “ร่างแหแห่งวิหค” ส�ำหรับ วิทยากร โสวัตร หนึง่ ในชาวคณะจับคูเ่ ต้นร�ำ ซึง่ เป็น เจ้าของร้านฟิลาเดลเฟีย และเจ้าของงานครัง้ นี้ ไม่ได้ขนึ้ เวที ส่วนค�ำตอบ ว่า “ท�ำไมจึงต้องเขียน” นัน้ ปรากฏบางส่วนใน “ค�ำน�ำ” นวนิยายเรือ่ ง แรกของเขาชือ่ “ทาง” ซึง่ เขาถือโอกาสนีเ้ ป็นวาระเปิดตัวนวนิยายของ ตัวเองไปด้วย ดังนี้


“พระจันทร์” ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสายตาที่มีคุณค่าทุกค�่ำคืน เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วได้ลงมือ เขียน และไม่ว่าฉากฟ้าวันนั้นจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็น “รสนิยม” ส่วนตัว

“เมือ่ คุณตัดสินใจว่าจะเป็นนักเขียนและยอมแลกชีวติ เอากับมัน แล้ว คุณจินตนาการถึงงานสร้างสรรค์ทยี่ งิ่ ใหญ่ จินตนาการถึงงาน อันทรงคุณค่าทีค่ ณ ุ จะรังสรรค์ขนึ้ และดูเหมือนว่าภาพในจินตนาการนัน้ ชัดเจน แล้วคุณก็เดินไป... “ระหว่างทางทีเ่ ดิน คุณจะรูส้ กึ ถึงลมหายใจทีห่ อมด้วยพลังขับ เคลือ่ นของความรักอันเกิดแต่อำ� นาจวรรณกรรม ไม่พรัน่ พรึงต่อความ ล�ำเค็ญเข็ญใจทีเ่ ข้ามาทดสอบชีวติ ...” คณะผูร้ ว่ มเวที ต่างมีคำ� ตอบว่า “ท�ำไมจึงต้องเขียน” อย่างไรก็ตาม ยิง่ กว่าค�ำตอบจากปากผูเ้ ขียน “ตัวอักษร” ทุก ตัวของผู้ที่ได้ชื่อว่า “นักเขียน” ต่างหากที่น่าจะเป็นค�ำตอบแทนตัวผู้ เขียนได้ดที สี่ ดุ ฉันหาค�ำตอบไม่ได้วา่ ท�ำไมจึงต้องเขียน เพราะเท่าทีจ่ ำ� ความได้ หากไม่เขียนก็จะอ่าน และหากไม่อา่ น ก็จะเขียน จนกลายเป็นพฤติกรรม เสพติดมาตัง้ แต่เด็ก สองสิง่ ทีจ่ ำ� เป็นคือ พิมพ์ดดี และโต๊ะท�ำงาน ทีส่ ำ� คัญโต๊ะท�ำงาน ต้องติดหน้าต่าง เพือ่ จะสามารถมองออกไปได้กว้างไกล และหากเลือก ได้ ฉันก็มกั จะให้ความส�ำคัญกับ “ฉาก” นอกหน้าต่างเป็นพิเศษในการ เขียน เพือ่ ความรืน่ รมย์ ผ่าน “มุมมอง” เฉพาะหน้าขณะเขียนนัน้ แม้ เรือ่ งทีเ่ ขียนอาจไร้ความรืน่ รมย์สนิ้ เชิงก็ตาม! “พระจันทร์” ดูเหมือนจะเป็นเพือ่ นสายตาทีม่ คี ณ ุ ค่าทุกค�ำ่ คืน เมือ่ มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วได้ลงมือเขียน และไม่วา่ ฉากฟ้าวันนัน้ จะเปลีย่ นไปอย่างไรก็ตาม ซึง่ สิง่ นีอ้ าจเป็น “รสนิยม” ส่วนตัว เมือ่ ครัง้ ทีเ่ คยไปท�ำงานในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมือ่ เห็นพระจันทร์ทไี ร ฉันก็มกั จะคิดไปถึงนวนิยายเรือ่ ง “เดือนเสีย้ ว” ของ “เหลาเส่อ” นักเขียนเรืองนามชาวจีนผูก้ ระท�ำอัตวินบิ าตกรรมเพราะความ ปวดร้าวจาก “เหตุการณ์ปฏิวตั วิ ฒ ั นธรรมใหญ่ของจีน” เรือ่ งนีม้ โี ครงเรือ่ งเกีย่ วกับโสเภณีจนี ในอดีตทีต่ อ้ งท�ำงานหาเงิน เลี้ยงครอบครัวแสนล�ำเค็ญ และโสเภณีคนนั้นมีพระจันทร์เป็นเพื่อน พระจันทร์จนี ท�ำให้สมั ผัสแรกในผืนแผ่นดินจีนของฉันก่อเกิดแรงบันดาล ใจเขียนเรือ่ งสัน้ ด้วยฉากกรุงปักกิง่ แล้วส่งไปตีพมิ พ์ในหนังสือมติชนสุด สัปดาห์ เรื่องนั้นมีผลท�ำให้ผู้อ่านเขียนจดหมายถึงผู้เขียน ผ่านไป ยังบรรณาธิการบริหาร และท�ำให้บรรณาธิการเขียนถึงฉันในหน้า “บทบรรณาธิการ” ฉบับนัน้ ยิง่ กว่านัน้ เรือ่ งสัน้ เรือ่ งนัน้ ยังถึงกับท�ำให้ ฉันถูกทักท้วงจากหัวหน้าหน่วยงานสือ่ มวลชนจีนแห่งหนึง่ ในเวลานัน้ ว่า “เขียนอย่างนี้ รัฐบาลจีนไม่ชอบนะ!”

หัวหน้าหน่วยงานผู้นั้นคงคิดไปเองด้วยส�ำนึกรักชาติ เพราะ “รัฐบาล” ไม่ได้บอกฉันโดยตรง เรือ่ งนีส้ ะท้อนสภาพสังคมเสือ่ มโทรม ทัง้ โสเภณี ยาเสพติด ชน ส่วนน้อย และชุมชนแออัดบนถนน “เว่ยกงชุน” ละแวกทีพ่ กั หรูหราของ ฉัน คือ “โรงแรมมิตรภาพปักกิง่ ” หรือ Beijing Friendship Hotel ซึง่ เป็นสวัสดิการท�ำงานในประเทศจีน เมือ่ พ.ศ. 2539 ปัจจุบนั กลายเป็น แหล่งทันสมัยในย่านนีไ้ ปแล้ว ตอนนัน้ สถานะของฉันเป็นเสมือน “ข้าราชการจีน” คนหนึง่ ซึง่ ท�ำหน้าทีห่ ลายอย่าง เช่น เป็นทีป่ รึกษา เป็นผูป้ ระกาศข่าว จัดรายการ วิทยุ ตรวจแก้งานเขียน เป็นต้น หน่วยงานนัน้ สังกัดกระทรวงวิทยุ โทรทัศน์และภาพยนตร์แห่งชาติจนี “รัฐบาลจีนไม่ชอบ !” ในฐานะนักเขียน ฉันทบทวนค�ำพูดนั้นอย่างตรวจสอบตัวเอง หลายรอบ พร้อมทบทวน “หมวก” ทีส่ วมอยู่ และสิง่ เดียวทีฉ่ นั ท�ำได้ก็ คืออ้างนักประพันธ์ใหญ่นาม “เหลาเส่อ” ว่า เขาได้ทำ� สิง่ นีม้ าก่อนฉัน จ�ำได้วา่ ฉันยังแนะน�ำให้ผตู้ ำ� หนิฉนั ไปอ่านนวนิยายเรือ่ ง “เดือน เสี้ยว” ของ เหล่าเส่อ นักประพันธ์เรืองนามของจีน ซึ่งเขียนฉาก เสือ่ มโทรมในสังคมจีนในอดีตได้ “จริง” กว่าฉากเสือ่ มโทรมของจีนปัจจุบนั ในเรือ่ งสัน้ เรือ่ งเดียวทีช่ อื่ “ความมืด” โดย ชามา! นอกจากนัน้ ฉันยังอ้างประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองใน ฐานะ “จีน-ไทยใช่อนื่ ไกล พี-่ น้องกัน” โดยบอกว่า “สภาพเสือ่ มโทรม โสเภณี ยาเสพติด ชุมชนแออัดอย่างนี้ ในประเทศไทยก็มีให้เห็นอยู่ มากมาย แม้ในย่านทีท่ นั สมัยทีส่ ดุ ของประเทศก็ตาม” ในฐานะคนท�ำงาน ฉันได้คำ� ตอบว่า ฉันอาจผิดมรรยาทในการ เขียน หากมุง่ มองเป็น “กระบอกเสียง” หรือเพือ่ การประชาสัมพันธ์ แต่ ในนามของ “นักเขียน” คนหนึง่ ฉันตระหนักดีวา่ เราควรเสนอ “ความ จริง” แม้อาจจะเล่าผ่านเรือ่ งแต่งก็ตาม เพือ่ “ความสมจริง” และนัน่ คือสิง่ ทีอ่ าจจะเรียกว่าคือ “จรรยาบรรณ” ประการหนึง่ “ท�ำไมจึงต้องเขียน” ค�ำถามจากกระบวนการจิตตปัญญาบน เวทีรา้ นหนังสือร่วมกับนักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ นักคิด นักเขียนหลายคน ยังคงตามมาถามฉันในค�ำ่ คืนนี้ ซึง่ ฉันจ�ำเป็น ต้องเขียนเพือ่ “ปิดเล่ม” หลายชิน้ งาน ทัง้ เขียน “เรือ่ งสัน้ ” “บทความ” “บทบรรณาธิการ” “บทสัมภาษณ์” “โครงการวิชาการ” “เค้าโครง ต�ำรา” ฯลฯ และที่ ส� ำ คั ญ คื อ วั น นี้ ฉั น ไม่ นึ ก อยาก “เขี ย น” แต่ ต ้ อ ง “เขียน”! ...................... ...อ่านต่อฉบับหน้า...

ปล่อย 13


ปล่อยจากปก

14 ปล่อย


ไม่มีสิ่งใดในละครที่ส�ำคัญไปยิ่งกว่า “สิ่งที่เราต้องการจะบอก” และเมื่อใดที่มีพลังจะบอก เมื่อนั้นละครจะ เกิดขึ้น ยิ่งฝึกฝนเพิ่มขึ้นเท่าใด ความละเอียดอ่อน ประณีต ก็จะเพิ่มขึ้น

เกี ย รติ กิ น กาม “ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง” จากคณะละครมรดกใหม่การ “ช่าง” ผูเ้ ลือกอยูอ่ ย่างต�ำ่ ท�ำอย่างสูง

“ช

นประคัลภ์ จันทร์เรือง” คือลูกหลานของศิลปิน สืบสายมาแต่หลวงประดิษฐ์ไพเราะ เลือดในร่าง จึงข้นเข้มด้วยศิลปะ ผ่านเส้นทางเคีย่ วกร�ำและสรรสร้างงานศิลป์มาหลากรูปแบบ กระทัง่ ค้นพบ ว่าการท�ำละครเท่านัน้ ทีจ่ ะน�ำพาชีวติ และสังคมไปอยูใ่ นโลกยูโทเปียในแบบทีเ่ ขาคิดได้ เรือ่ งราวของผูช้ ายทีถ่ กู เรียกขานว่า “ครูชา่ ง” แห่งคณะละครมรดกใหม่ อาจเป็นทีร่ บั รูบ้ า้ ง แต่ ก็เพียงในวงล้อมทีไ่ ม่กว้างนักในสังคมยุคบริโภคนิยมปัจจุบนั และวิถจี รยุทธ์ของเขาก็อาจท�ำให้สงั คมไทย เข้าใจว่าเป็นพวกนักการละครเร่ นักการละครชายขอบ นักการละครฝันเฟือ่ ง หรือสารพัดทีจ่ ะว่าคิด ใน ขณะทีห่ ลายประเทศในแทบทุกทวีปกลับรูจ้ กั พวกเขาเป็นอย่างดี ด้วยการตระเวนเผยแพร่ละครเวทีจาก ประเทศไทยของชาวมรดกใหม่ ครัง้ แล้วครัง้ เล่า … ในวันทีล่ กู ศิษย์ลกู หาทีส่ ร้างบ่มไว้มากมาย เติบใหญ่กลายเป็นนักการละครมืออาชีพ นักเขียนบท มือฉมัง บ้างเป็นดารามีชอื่ หลายคนถูกเรียกขานว่าเป็นเทพในวงการของพวกเขา เช่นนัน้ ครูผปู้ ระสิทธิ์ ประสาทวิชาให้เหล่าทวยเทพ หากไม่ยกให้เป็นพรหมแล้ว คงไม่มถี อ้ ยค�ำใดทีจ่ ะเหมาะไปกว่านี้ กระนัน้ หากไม่ยดึ เอาถ้อยสมัญญาเท่ๆ แบบสมัยนิยมนัน้ แท้จริงแล้วเขาก็เป็นเพียงครูนนั่ แหละครู ค�ำเรียกขานเก่าแก่ ฟังแล้วช่างขรึมขลัง ศักดิส์ ทิ ธิ์ ให้ความหมายถึงการเป็นผูใ้ ห้ ทัง้ เชิงกว้าง เชิงลึก แก่บรรดาลูกศิษย์อย่างมิมวี นั สิน้ สุด ทว่า ครู ก็เป็นค�ำทีค่ นอืน่ เรียกขานยกย่อง หากเอาฝ่ามือปิดค�ำนีไ้ ว้ ก็จะเห็นเขาเป็นเพียงปุถชุ น คนหนึง่ ว่ายวนอยูก่ บั โลกสามัญ มีความอยากเป็นพืน้ ฐาน ซึง่ ผลักให้ปมุ่ กระสันต่างๆ ยังคงคึกคัก เร่าร้อน อยูต่ ลอดเวลา ทัง้ เรือ่ ง เกียรติ เรือ่ งกิน เรือ่ งกาม เขาล้วนคลุกคลีอยูก่ บั สิง่ เหล่านี้ แต่อะไรผลักให้เขาก้าว ข้ามมาได้ แม้ในใจบางครัง้ เขาบอกว่าก็ยงั อยากจับนมจับก้นลูกศิษย์เล่นอยูบ่ า้ งก็ “ช่าง” ครูเถิด ทางทีผ่ า่ นในวันวาน แม้จะวกวนและตืน่ เต้น แต่กผ็ า่ นมาได้ ทางปัจจุบนั ทีด่ เู หมือนจะราบเรียบ แต่กม็ หี ลุมมีบอ่ ให้ปรับแก้ ทางอนาคตทีต่ งั้ หวังให้เกิดมีวทิ ยาลัยการละครแห่งแรกในเมืองไทยจะท�ำได้ดงั หวังแค่ไหน ตามติดเรือ่ งราวของครูผอู้ ทุ ศิ ชีวติ นีเ้ พือ่ ละคร และมุมคิดว่าด้วยเรือ่ งของ เกียรติ กิน กาม ได้ ณ บัดนี้ ........................................

ปล่อย 15


ปล่อยจากปก

เรานัดพบกันที่หมู่บ้านซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาของอ�ำเภอ ปากชม จังหวัดเลย ในช่วงฤดูฝนของปีทแี่ ล้ว.. ท�ำไมต้องดัน้ ด้นไปไกล ถึงทีโ่ น่นก็ไม่รู้ ทัง้ ทีค่ วามจริง เราต่างมีทพี่ กั พิงอยูแ่ ถบชายขอบปริมณฑล ของเมืองหลวงด้วยกันทัง้ คู่ หน�ำซ�ำ้ ฐานทัพใหญ่ของโรงละครมรดกใหม่ก็ อยูแ่ ค่คลอง 6 ปทุมธานีนเี่ อง ผมควบม้ายนต์สขี าวคันเล็ก ซึง่ มีเพือ่ นหนุม่ อีกคนหนึง่ นัง่ ไปด้วย เราออกจากรังสิตตัง้ แต่เช้า กว่าจะหาทางเข้าแก่งปลาปก อ�ำเภอปากชม ได้กค็ ำ�่ มืด (ทีน่ คี่ อื อีกหนึง่ สาขาของโรงละครมรดกใหม่ อีกแห่งหนึง่ อยูต่ ดิ กับ ม.ราชภัฏเชียงราย) ทีน่ นั่ ครูไก่ หรือกวีไก่ หทัยสินธุ รอพวกเราด้วย ใจระทึก - - ไม่ให้ระทึกได้อย่างไร- - เขาบอกภายหลังทีเ่ ราทักทายกัน - - ค�ำ่ มืดกะด้อ เกิดขับรถไปตกแม่นำ้� โขงก็จบกันพอดี – อ�ำเล่นพอเป็น กระษัยแล้ว ตามประสาคนหนุม่ พบเจอกันในสถานทีก่ ลางหุบเขาเช่นนัน้ ก็คงต้องสนทนาฮาเฮกันสักหน่อย.. เรานัง่ บนกระต๊อบเล็กๆ ท่ามกลาง ความมืดทีไ่ ม่มไี ฟฟ้าใช้ จุดเทียนไข ดาวไม่กดี่ วงหรุบเมฆส่องแสงอยูห่ รอ มแหรม กีตาร์ถกู บรรเลงสลับกับแบหนังสืออ่านกวี ด้วยเสียงทีแ่ ผ่วเบา เพราะเกรงใจน้องๆ ทีซ่ กุ ตัวอยูภ่ ายในเต็นท์ซงึ่ กางบนกระต๊อบทีป่ ลูกเรียง รายกันไป เราผลัดเวียนยืน่ เมรัยให้แก่กนั ตัง้ ใจจะนัง่ กรึบ๊ ยันครูชา่ งมา ถึง แต่ครูไก่แย้งว่า มิสมควร - - ครูชา่ งไม่โปรด! – เขาบอกแค่นนั้ ครูชา่ งควบกระบะแค็บสองตอน มีภรรยาคือ พบจันทร์ ลีลา ศาสตร์สนุ ทร นัง่ มาด้วย ออกจากคลอง 6 ธัญบุรี ช่วงบ่ายแก่ๆ แต่ ตามประสาคนสูงวัย จึงเปลีย่ นให้ภรรยาช่วยขับบ้าง มาถึงโรงละคร แก่ง ปลาปกราวตีสามกว่าๆ แต่แทนทีจ่ ะนอนพักเอาแรง เขากลับนัง่ คุยกับเมีย อยูต่ รงหน้ากระต๊อบหลังหนึง่ จนนาฬิกาขยับเหยียบตีสี่ จึงเดินเข้าไปใน บ้านดินหลังใหญ่ นัง่ ลงหน้าระนาดเอก จากนัน้ เสียงระนาดก็ถกู ไล่ไปที ละคู่ แล้วสะท้านไปทัว่ โรงละคร สะท้อนกังวานไปทัง้ หุบเขา ปลุกเด็กๆ นักเรียนของโรงละครมรดกใหม่ให้ตนื่ ขึน้ มาประกอบกิจวัตรของตนอย่าง ซือ่ สัตย์และอย่างเท่าเทียมพร้อมหน้า ไม่เว้นแม้แต่ครูไก่ ซึง่ เพิง่ ได้งบี ไป

16 ปล่อย

ก่อนหน้าทีค่ รูชา่ งจะมาไม่ถงึ ชัว่ โมงด้วยซ�ำ้ แต่กต็ อ้ งพยุงร่างซะเงาะซะ แงะไปอยูก่ บั เด็กๆ ของเขาเช่นกัน ผมนอนอยูใ่ นเปลยวนซึง่ ผูกขึงไว้กบั เสากระต๊อบ หลับๆ ตืน่ ๆ ในหูกอ้ งอยูด่ ว้ ยเสียงระนาด เสียงไวโอลิน เสียงกีตาร์ เสียงร้องร�ำ ผสม ปนเป-สนัน่ หวัน่ ไหวเรือ่ ยไปยันฟ้าสาง ในภาวะของอาการกึง่ หลับกึง่ ตืน่ ผมเห็นภาพชายวัยแย้มสูป่ ระตูอาวุโส หนวดเครา-ผมเผ้ายาวเฟือ้ ย ไม่รวู้ า่ ขาวแซมด�ำ หรือด�ำแซมขาว แล้วพลันให้นกึ ไปถึงเหล่าจอมยุทธชัน้ เซียน ในหนังจีนก�ำลังภายใน ก�ำลังร�ำร่ายเพลงกระบีข่ นั้ สูงอย่างวิจติ รพิสดาร กระทัง่ จวบสาย เด็กๆ ซึง่ เสร็จจากการฝึกซ้อมในหน้าทีข่ องตัว เองแล้ว บางคนก็เดินไปตักน�ำ้ รดผักตรงแปลงปลูกข้างบ้านดิน- บ้านดิน ทีพ่ วกเขาสร้างขึน้ ด้วยมือด้วยตีนกันจริงๆ บางคนเล่นกับม้าเซือ่ งๆ 2 ตัว บางคนนัง่ ท�ำการบ้าน ฝึกเขียนรูป เขียนกวี ตามไก่ครูไก่จะสัง่ บางคนเพิง่ จะไปล้างหน้าแปรงฟันตรงเขตสุขาและลานอาบน�ำ้ ทีอ่ ยูอ่ กี ฟากของบ้าน ดิน โดยแบ่งเป็นฝัง่ ผูห้ ญิงฝัง่ ผูช้ าย (วันนัน้ เราแก้ผา้ อาบน�ำ้ กันทีน่ ี่ ผมได้ เห็นก้นขาวๆ หย่อนๆ ของครูชา่ งก็คราวนัน้ แหละ) หลายคนหายเข้าไปใน ป่าไผ่ขา้ งโรงละคร ไม่นานก็กลับออกมาพร้อมหน่อไม้สดๆ เป็นกระบุง เด็ก หญิงสองคนถือหน่อไม้หน่อใหญ่มาอวดหนุม่ ผิวเผือกตาน�ำ้ ข้าวชาวฝรัง่ เศส คนหนึ่งที่ขอมาอยู่อาศัยเพื่อศึกษาในวิถีแปลกประหลาดของชาวมรดก ใหม่ ซึง่ ก�ำลังนัง่ อ่านหนังสือสลับเขียนอะไรอยูเ่ งียบๆ ด้วยความรืน่ เริง เช้านัน้ เมือ่ เสียงตีกลองส่งสัญญาณว่าได้เวลากินข้าว ทุกคนจึง กลับเข้าไปในบ้านดินหลังใหญ่อกี ครัง้ พร้อมหน้ากันแล้ว ครูชา่ งจึงบอกให้ เริม่ กินข้าวกันได้..เรากินไก่ผดั หน่อไม้กนั อย่างหอมหวาน อิม่ อร่อยกันแล้ว นัน่ ละ ถึงได้เวลานัง่ สนทนากับครูชา่ ง ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง โดยมีพี่ จู พบจันทร์ ลีลาศาสตร์สนุ ทร คอยเสริมข้อมูลส�ำคัญหลายช่วงทีผ่ เู้ ป็น สามีมกั จะหลงลืม (สรรพนามทีใ่ ช้แทนตัวเองขณะสนทนามีทงั้ ครู ทัง้ กู และถ้อยค�ำสบถทัง้ หลาย ผมเห็นว่ามันไม่ใช่คำ� หยาบคายอะไร จึงขอคง ไว้เพือ่ เก็บ และ “ปล่อย” ให้ถอ้ ยค�ำได้ทำ� หน้าทีข่ องตัวเองอย่างถึงทีส่ ดุ )


Q : ครูคดิ อะไรได้ถงึ ได้มาสร้างคณะละครเวทีในแบบมรดก ใหม่ เหตุปจั จัยเริม่ ต้นเป็นมาอย่างไร A : เป็นค�ำถามซึง่ จะตอบยังไงก็ไม่เหมือนกัน พรุง่ นีม้ าถาม หรือว่าบ่ายนีม้ าถามก็ได้คำ� ตอบคนละอย่าง แต่ทกุ ค�ำตอบถูกหมด แต่ ไม่นา่ ถาม อยูท่ ว่ี า่ ครูจะอยูใ่ น Mood ไหน ครูจะตอบอะไร เพราะทุก เหลีย่ มถูกหมดเลย เหตุผลเพราะว่าหวังดีจริงๆ กับโลกใบนีก้ ใ็ ช่ เหตุผล เพราะว่าแค้นก็ใช่ โอ้...มันมีหลายเหตุผล คราวนีพ้ อมันตัง้ ใจท�ำแล้วจะ ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่นะ มันก็ตอ้ งใช้สงิ่ ทีเ่ ราคุน้ เคย รูปแบบทีเ่ รา คุน้ เคย เช่นเกิดมาในตระกูลทีอ่ ดอยากปากแห้ง เกิดมาในครอบครัวทีม่ ี ส�ำนัก ส�ำนักครูเนีย่ นะ เพิง่ คุยกันมาหยกๆ ตอนขับรถขึน้ มาทีน่ กี่ บั จู มัน เยอะจริงๆ ส�ำนักนีเ้ ป็นส�ำนักเดียวทีไ่ ด้ศลิ ปินแห่งชาติถงึ 6 คน มีอยูค่ น เดียวทีเ่ ขาไม่ได้ให้ ให้ไม่ทนั คือหลวงประดิษฐ์ไพเราะ ฮ่าๆ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ เป็นเจ้าส�ำนัก แต่เขาให้ไม่ทนั ตอนนัน้ ยังไม่มรี างวัล คนแรกเลยคือ บุญยงค์ เกตุคง, บุญยัง เกตุคง พีน่ อ้ ง, ประสิทธิ์ ถาวร, อ.ชิน้ ศิลปะบรรเลง ทีเ่ ป็นลูกหลาน นึกออกมัย้ แล้ว คนสุดท้ายทีเ่ พิง่ ได้กค็ อื อาจารย์อทุ ยั แก้วละเอียด มีทไี่ หนทีจ่ ะได้อย่างนี้ ก็แสดงว่ามัน Work จริงๆ ไง ส�ำนักนีท้ งั้ หมด วิธกี ารฝึกแบบนี้ เหมือน ระนาด คือต้องฝึกจริงจัง ตืน่ มาตีสกี่ ต็ อ้ งตีระนาดก่อนเลย ตีแม่งยัน สว่างจึงจะลุก ท�ำแบบนีเ้ พราะมัน work จริงๆ ไง ครูกไ็ ม่ได้คดิ ใหม่ ไม่ ได้อะไรใหม่เลย ทุกอย่างเขาออกแบบวิธกี ารไว้หมดแล้ว แม้แต่เรือ่ งเมีย เยอะ ตระกูลครูเมียเยอะทัง้ นัน้ พ่อครูกเ็ มียเยอะ แต่ครูเสือกมีเยอะไม่ ได้ (หัวเราะ) ท�ำไม!! (เสียงสูง) เรือ่ งการฝึกนีเ่ รือ่ งจริง ไม่งน้ั มันไม่มพี ลัง ครูไม่ได้พดู เล่นๆ นะ นี่คือสิ่งที่ครูเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ซึมซับเข้ามาเลย.. อ้อ ยังสิ..ไม่ใช่ ซึมซับเลย เพราะว่ายายครูเป็นผูด้ ี เพราะว่ายายครูถกู โปรแกรมว่าลูก หลานจะต้องเรียนหนังสือ เพราะฉะนัน้ ครูเติบโตขึน้ มาบนความขัดแย้ง คือครูตอ้ งไปเรียนหนังสือ เพราะว่าครูตอ้ งปิดปากว่ามีชาติตระกูลเป็น

นักดนตรีไทย เพือ่ นทีโ่ รงเรียนไม่มใี ครรูเ้ ลยนะว่าครูเล่นดนตรีไทย พอ Beatle มาเพือ่ นครูขนึ้ ไปเล่นบนโต๊ะ ขึน้ ไปดีดกีตาร์ แม่ง แล้วได้รบั การ ยอมรับ ในขณะทีค่ รูพยายามไม่เข้าไปห้องดนตรีไทยเลยนะทีโ่ รงเรียนน่ะ เพราะว่าครูทสี่ อนดนตรีไทยก็รวู้ า่ ครูเป็นใคร ครูกลัวว่าคนเขาจะรู้ แล้ว ครูทสี่ อนดนตรีไทยเขาจะอายมาก ครูกเ็ ดินหนี พยายามไปหาเล่นกีตาร์ นึกออกมัย้ พอกลับไปบ้านก็มา 1 2 3 4 3 2 3 4 ...เบือ่ ฉิบหาย ไม่ อยากเลย ครูอยากจะ แอ๊ด อ๊าด อ๊าด (ท�ำเลียนเสียงกีตาร์) เพราะ ฉะนัน้ ครูกโ็ ตมาโดยการ deny หรือปฏิเสธรากเหง้า ทุกโปรแกรมทีม่ นั สัง่ สมมา ไม่รใู้ ครโปรแกรมนีใ้ ห้คนไทยว่าต้องไปโรงเรียน ไม่ไปโรงเรียน แล้วจะต้องตาย อดตาย สร้างให้กู deny รากเหง้า มันไม่ตา่ งอะไรกับ สร้างให้ลกู ชาวนา ชาวนาส่งลูกมาเรียนหนังสือแล้วท�ำนาไม่ได้ ไม่ตา่ งกัน เลย แล้วสุดท้ายเป็นยังไง เราก็เสียนาไปให้กบั นายทุน แล้วก็จบแค่นนั้ ใช่มยั้ ครูไม่ตา่ งกันเลย กรณีเดียวกันเลยกับลูกชาวนาทัง้ หลาย ไม่กล้า บอกว่าทีบ่ า้ นท�ำนา เหมือนกันเลย แต่พอไปเมืองนอกเราก็เล่นกีตาร์สู้ เขาไม่ได้ สูฝ้ รัง่ ไม่ได้ ยังไงก็แล้วแต่ ถึงแม้จะเป็นหลาน ก็ต้องให้ได้อะไรสักอย่าง แต่ถกู สนับสนุนให้ไปเรียนมากกว่า ระหว่างท�ำการบ้านกับหัดตีระนาด แม่ให้ทำ� การบ้านมากกว่าให้ไปนัง่ หน้าเครือ่ งดนตรี ในขณะทีล่ กู ศิษย์ไล่ ระนาดไป ไม่ตอ้ งเรียน แสดงว่าไอ้กระบวนการท�ำลายมีมารุน่ ครูนเี้ ห็น ชัดๆ เลย แรกๆ เลย Q : ครูอยู่ในรุ่นรอยต่อ เห็นการล่มสลายของระบบเก่า เลยอยากสร้างส�ำนักของตัวเองให้รงุ่ โรจน์เหมือนยุคของตา (หลวง ประดิษฐ์ไพเราะ) ขนาดนัน้ ไหม A : เห็นเลย เห็นคนเก่งๆ ต่างๆ นานา สมัยก่อนเนี่ย สุดยอด อย่างพิธีไหว้ครู ไหว้กันแบบคนมาจากทุกจังหวัด มาจาก ไหนกันนักก็ไม่รู้ คลาคล�่ำ รถเหมือนกับเทศกาล วงจากเพชรบุรี

ปล่อย 17


ปล่อยจากปก

เสร็จลงมาปุ๊บ วงราชบุรีขึ้นต่อแล้ว สุพรรณฯ มาเตรียมตัว ไม่ ขาดเลย โอ้โห ยิ่งกว่าเทศกาลอีก ลูกศิษย์ลูกหาก็รักใคร่กัน แล้ว ตรงนั้ นมั นท� ำ ให้ เ กิ ด กระบวนการแลกเปลี่ยน มันคือการเสริ มต่ อ เพราะว่าศิลปะไม่หยุด ถูกต้องมั้ย นับจากครูตายปุ๊บมันก็ได้ต่อยอด แล้วพวกเทศกาลอืน่ ก็พยายามท�ำเลียนแบบ เทศกาลภาพยนตร์ นานาชาติกพ็ ยายามท�ำเลียนแบบสิง่ ทีเ่ คยเห็นมาแล้ว ตามวิถที างของ เขาด้วย อันนีม้ นั เรือ่ งใหญ่เลยนะ เป็นเรือ่ งส�ำคัญมากเลยนะ สมัยก่อน มันไม่ใช่จะมากันง่ายๆ นะ พายเรือกันเลยนะจะมาไหว้ครู ไม่ใช่มารถ อย่างเดียว คนแบกของมาอะไรต่างๆ นานา แล้วก็ตอนทีม่ าท�ำทีน่ ี่ มา ท�ำโรงเรียนนี้ มาท�ำหลังจากทีศ่ กึ ษาธรรมะ ศึกษาพุทธศาสนาแล้วด้วย มันก็มอี ยู่ 2 sort เท่านัน้ เองทีจ่ ะท�ำ หนึง่ ก็คอื เต๋า อีก sort หนึง่ ก็คอื สิง่ ทีเ่ ราศึกษา สิง่ ทีเ่ ราใฝ่ใจศึกษา แล้วก็จะมีพวกทีม่ าจุดประกายไว้แล้วก็ หายไป ..หมายถึงพวกลูกศิษย์ ทีเ่ ข้ามาแล้วก็ออกไป กูเลยต้องแก้ปญ ั หา อยูต่ ลอดเวลา ซึง่ นัน่ ก็ทำ� ให้รปู แบบมันเปลีย่ นอยูเ่ รือ่ ย แต่นี่ครูก็มองเป็นเรื่องสัจธรรม สัจธรรมเนี่ยลึกซึ้งมากเลย นะ จักจัน่ แม่ง มีชวี ติ แค่กวี่ นั วะ..วันเดียว มันจะร้องเสียงหลงเลยเพือ่ ภารกิจเดียวในชีวติ เป็นดักแด้อยู่ 7 ปี เป็นตัวหนอน พอถึงโอกาสมัน ก็แสดงเต็มที่ เห็นมัย้ ว่าหน้าทีม่ นั ชัดเจนมากเลย ต้องเห็นต้องรูว้ า่ หน้าที่

18 ปล่อย

คืออะไร ฉะนัน้ ไม่วา่ อะไรจะเกิด จะเปลีย่ นยังไง ก็ตอ้ งรูช้ ดั ในข้อนีข้ อง ตัวเอง ต้องมีแนวทางเป้าหมายทีช่ ดั เจนด้วย และก็ไม่ได้คดิ จะรุง่ โรจน์ เหมือนเมือ่ ก่อนเลย ท�ำแค่นกี้ ม็ คี วามสุขแล้ว แต่กม็ หี ลุดบ้างนิดๆ หน่อยๆ อย่างก�ำลัง สอนธรรมะเด็กๆ... บางทีกค็ ดิ แกอย่าเยอะๆ เซ็กส์จะเสือ่ ม (หัวเราะ) Q : ครูไปเรียนอะไรทีเ่ มืองนอก A : เรียนอะไรช่างแม่งเหอะ ตอนแรกก็ยงั ไม่ได้เรียนละคร เพราะว่าไม่รวู้ า่ ตัวเองคือละคร ก็ไปเรียนมัธยมก่อน 1 ปี หลังจากนัน้ ก็ถกู ไล่ออก เพราะรูส้ กึ ว่ามันคับข้องใจ มันไม่ใช่วะ่ ระบบก็ไม่ใช่ ไปเรียน ก็ไม่ได้คดิ ทีจ่ ะเรียนละครนะ เพราะว่าทีบ่ า้ นเราท�ำละครด้วย เป็นนางร�ำ ด้วย เล่นดนตรีดว้ ย ครบหมดเลย มีรำ� ไทย มีละครเวที แต่สงิ่ พวกนี้ คือสิง่ ทีค่ รูปดิ ไว้หมดเลยไม่ยอมบอก ก็พยายามจะไปเรียนอย่างอืน่ ไป เล่นดนตรีกส็ ฝู้ รัง่ ไม่ได้ แต่ไปได้ดบิ ได้ดตี รงทีไ่ ปเรียนละคร ...เราเห็นมา ตัง้ แต่เด็ก ...ตืน่ เต้นกัน ตืน่ ตัว มันใช่จริต มันถูกต้องเลย เฮ้ยแม่ง...เรียน แบบปล่อยจริงๆ น่ะ มันได้ปล่อยวิญญาณบ้าออกมา แต่พวกฝรัง่ มันก็ไม่ ยอมรับเราง่ายๆ นะ นึกออกมัย้ จนกระทัง่ ไม่รเู้ ป็นเพราะอะไร ทีบ่ า้ น ทีเ่ มืองไทยส่งขลุย่ มาให้เลาหนึง่ แล้วก็วธิ กี ารทีไ่ ด้รบั การยอมรับคือ พ่อ


เขียนหนังสือภาษาอังกฤษเรือ่ ง My Boyhood in Siam (เขียนโดย กุมทุ จันทร์เรือง พิมพ์ครัง้ แรกเมือ่ ปี 1940 ถือเป็นชาวสยามคนแรกที่ มีงานเขียนสูส่ ายตาสาธารณชนทีพ่ ดู ภาษาอังกฤษ) มีไว้เป็นสต็อกหลาย เล่มแล้วก็แจก แจก เขาก็เฮ้ย I like very much. นัน่ คือ revolution ทีไ่ ด้ คือได้จากการแจกหนังสือของพ่อ แล้วเนือ้ หาในนัน้ คือว่าด้วยเรือ่ ง ของประเทศไทย แล้วมาได้อกี ทีเมือ่ เป่าขลุย่ ทีม่ หาวิทยาลัย ฝรัง่ ฟังแล้ว มันอึง้ เลย มันตะลึงมากกับไม้เจาะรูทอ่ นเล็กๆ Q : กลับมาจากเมืองนอกแล้วมาท�ำอะไรก่อน เป็น

ดาราหรือเล่นละครทีวเี ลยมัย้

A : กลับมาจากเมืองนอกก็ไปเป็นอาจารย์ทจี่ ฬุ าฯ กลับมาสอน ก่อนเพราะคนไม่คอ่ ยจบมีเยอะ เห็นภาพตัวเองตอนทีเ่ รียนอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เวลาฝันปุบ๊ จะเห็นภาพตัวเองสมัยเรียนสาธิตจุฬาฯ ตึกอักษรเป็น ตึกทีส่ วยทีส่ ดุ ...ตรงนีต้ อ้ งให้ขอ้ มูลนิดนึง คือเราเคยไปต่อยไปชกรุน่ น้อง แล้วมีอาจารย์คนหนึง่ ซึง่ นัน่ คิดว่ามันโดนมากเลย เขาบอกว่า ชลประ คัลภ์ เธอเนีย่ ต้องไปเรียนอาชีวะนะ...ชลประคัลภ์ อย่างเธอเนีย่ ไม่ไหว หรอก อย่างเธอเนีย่ ไม่ได้.. คือไปเรียนสายอาชีพ เราไม่ได้เป็นช่างกลไปไล่ตใี ครเขาอย่างนี้

กูไฮโซ (หัวเราะ) พอโดนไล่ออกแล้ว พ่อครูจะจับส่งไปต่างประเทศ ครู ยังไม่ไปเลย ต้องหัวเกรียนน่ะ สมัยก่อนเนือ่ งจากว่าปิดบังว่าตัวเองเป็น คนไทย เพราะว่าโตมาแบบไฮโซ เรียกว่าเดิรน์ เลย แล้วจะจับให้ไปอยูโ่ รง เรียนวัดน่ะไม่ได้ ก็เลยไปเมืองนอก พอกลับมามันก็คล้ายๆ กับว่าแค้นนี้ ต้องช�ำระ ครูโดนไล่ออกจากสาธิตจุฬาฯ แล้วพอเขารูว้ า่ ครูเป็นอาจารย์ จุฬาฯ เขาก็เชิญครูมาสอนเด็กสาธิต ตอนนัน้ ครูมคี วามสุขมากเลย เดิน ข้ามสะพานลอยจากจุฬาฯ มาสาธิตจุฬาฯ พยายามจะเดินให้นานทีส่ ดุ เท่า ทีจ่ ะนานได้ เดินช้าๆ นึกถึงอดีต นึกถึงคุณครู นึกถึงว่าเราเคยท�ำอะไร ไว้ในอดีตแล้ววันนีก้ เู ดินไปเพือ่ จะไปสอนในโรงเรียนทีก่ โู ดนไล่ออก ตอน โดนไล่ออกกูไม่มาเหยียบอีกเลยนะทีส่ าธิตจุฬาฯ ผูห้ ญิงทีท่ งิ้ ครูไปก็สอน อยูท่ นี่ นั่ แต่ครูนเ่ี ดินเชิดหน้าผ่านห้องไปเลยนะ คือเห็นภาพตั้งแต่อยู่เมืองนอกโน่นเลยว่าครูต้องเป็นอาจารย์ ไม่รเู้ พราะอะไร มันมีบางอย่างชีน้ ำ� ไว้ในระดับหนึง่ วางชีวติ ครูไว้ในระดับ หนึง่ ท�ำให้ครูตอ้ งเชือ่ คนโน้น ต้องเชือ่ คนนี้ แล้วกลับมาก็มาสอน สอน แล้วก็เป็นดารา ทีเ่ ป็นดาราก็เพราะสอนละคร อย่างครูไปสอนทีอ่ ศั วิน ด้วย อัศวินภาพยนตร์ของเสด็จองค์ชายใหญ่ (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์ เจ้าภาณุพนั ธุย์ คุ ล) สอนแอ็คติง้ สอนละคร สอนการแสดงนีแ่ หละ แต่ที่ อักษรฯ สอนเขียนบท แล้วเขาก็อยากได้คนเขียนบท เราก็เข้าไปเขียนบท เริม่ จากเขียนบทให้ชอ่ ง 7 ก่อน เขียนบทละครทีวนี แี่ หละ เขียนไปเขียน มาก็เล่นซะเลย เพราะว่าเขียนไปแล้ว ไปดูทก่ี องถ่ายผูก้ ำ� กับมันก�ำกับไม่ ได้ ก็เลยก�ำกับแม่งซะเลย จากนัน้ ก็เลยกลายเป็นผูก้ ำ� กับ ก�ำกับไปก�ำกับ มาก็เล่น ก็เลยกลายเป็นนักแสดงไปด้วย แต่ปรากฏว่าสิง่ ทีไ่ ม่ชอบทีส่ ดุ คือไม่ชอบแสดง แต่กลายเป็นสิง่ ทีถ่ กู จดจ�ำทีส่ ดุ ครูชอบแสดงละครเวที แต่ไม่ชอบผ่านกล้อง ต้องมาคอยระวัง เรือ่ งมุมกล้อง กล้องอยูต่ รงไหน กล้องอยูต่ รงนีก้ โู ยกมานีไ่ ม่ได้แล้ว กล้อง บัง ก็ตอ้ งให้เห็นหน้าไว้ ถ้าไม่เห็นหน้ามันไม่จา่ ยตังค์ ออกอากาศไปต้องให้ เห็นหน้า แล้วก็ตอ้ งหาแดกด้วยการให้เห็นหน้าตัวเองอยูใ่ นกล้อง เจตนา คือเพือ่ ให้มแี ดก แต่เสือกดังขึน้ มา แล้วพบว่าไม่ได้ ไม่ใช่ คือให้ความหวังกับมัน แล้วไอ้ความหวัง มันก็หายไปเพราะว่าอยากท�ำเรือ่ งโดนๆ ให้คนเข้าถึง เราก็อยากเสนอ เรือ่ งอะไร เมือ่ ก่อนมันท�ำง่าย มันไม่มกี ระบวนการอะไรต่างๆ ทุกวันนี้ ผมอยากท�ำเรือ่ งนี้ มันมาจากเรือ่ งทีเ่ รา need express เราก็ทำ� อย่าง เรือ่ ง ระนาดเอก เป็นต้น ฉะนัน้ คนก็ตอบรับเป็นอย่างดี แต่ตอนหลัง พอจะท�ำขึน้ มาปุบ๊ เริม่ มีคณะกรรมการแล้วก็เป็นห่วงเรือ่ งเรตติง้ เขา แคร์เรือ่ งเรตติง้ มีคนทีช่ ำ� นาญเรือ่ งการตลาดมาดู มาตัดสินงานของเรา เช่น หนังเรือ่ งหนึง่ เราจะท�ำเรือ่ งนางสาวสิน้ หวี่ แม่ง บอกชือ่ นีไ้ ม่ขาย ให้ เปลีย่ นชือ่ เลิกคุยกันเลย ตอนหลังก็พบว่าธุรกิจเหล่านัน้ มันไม่ตอ้ งการ ให้คนเข้าถึงอะไร หลับหูหลับตาให้คนดู แล้วครูกต็ อ้ งฝืนใจสร้างสิง่ พวก นีไ้ ปเรือ่ ยๆ รูส้ กึ เหมือนตัวเองเป็นกะหรี่ สนองความอยากของใครก็ไม่รู้

ปล่อย 19


ปล่อยจากปก

20 ปล่อย


อะไรสนุกเท่ากับละครเวทีมาก่อนในชีวติ ได้ทงั้ ความสนุก ได้นำ� เสนอ ความคิดทีเ่ ราอยากน�ำเสนอ ทัง้ เรือ่ งดีเรือ่ งห่าเหวปนกันอยูใ่ นนัน้ มีเด็ก หนุม่ ๆ สาวๆ อะไรต่างๆ นานา พออยูใ่ นมุมมืดก็แอบจับตูดลูกศิษย์นดิ นึง หาเรือ่ งจับนมมันบ้าง มันสนุกมากเลย และมันยังสนองอีกต่างหาก Q : ช่วงนัน้ ละครเวทีบา้ นเราเป็นยังไง A : ยังไม่เป็นทีย่ อมรับเท่าทุกวันนีน้ ะ ทุกวันนีถ้ อื ว่าก้าวกระโดด จากเมือ่ ก่อนเยอะมาก เมือ่ ก่อนนีค้ นก็ยงั มีคอนเซ็ปต์กบั ละครเวทีอย่าง หนึง่ เพราะว่าความทีม่ นั ถูก expose ออกมา รวมกับสือ่ ทางทีวอี ะไร ต่างๆ นานา เพราะฉะนัน้ คอนเซ็ปต์ของละครเวทีทคี่ นเข้าใจยาก อันดับ แรกคือท�ำให้คนเข้าใจสิวา่ ละครเวทีนมี่ นั ส�ำคัญกับชีวติ ยังไง ให้คนเข้าใจ ตรงนีก้ อ่ นอันดับแรก ทีนพี้ อมันได้แล้วก็ตอ้ งเปลีย่ นแปลงหน้าทีก่ นั ไป ครูมคี วามมัน่ ใจมากเลยว่าครูจะต้องท�ำได้สำ� เร็จเพราะครูดงั วัน ทีค่ รูประกาศ press conference นักข่าวมากันทัว่ ทัง้ หมดเลย มีเพือ่ น นักแสดงทีเ่ ป็นดาราด้วยกันส่งกระเช้ามาให้ มาแสดงความยินดี ทีต่ กึ ช้างเรือ่ งแรกน่าจะเป็นเรือ่ ง “เจ้าจันทร์ผมหอม” รอบสือ่ มีคนเต็มเลย ไปได้สวยมาก แต่พอรอบเก็บเงิน ทุม่ สิบห้าแล้วยังไม่มใี ครมาเลย แล้ว การประชาสัมพันธ์กท็ ำ� ไม่เป็นด้วย ก็ได้แต่บอกพรรคพวกเพือ่ นฝูงไปแบบ ลอยๆ นึกว่าเขาจะมา แต่เอาเข้าจริง รอบแรกมีคนดู 2 คน ตลกมัย้ แล้วก็ตงั้ แต่เล่นมาพบว่าคนเล่นจะเยอะกว่าคนดูเสมอ แต่กย็ งั เล่นอยู่

เมือ่ ก่อนสอนเขียนบททีจ่ ฬุ าฯ ก็ไม่ได้สอนจริงจังหรอก แต่พอ ย้ายมาอยูท่ ตี่ กึ ช้าง ค่าเช่ามันหนัก ต้องสอนเพือ่ ให้ตวั เองอยูร่ อด ตอน นัน้ เก็บค่าเขียนบทคอร์สหนึง่ 4,500-5,000 บาท คนเต็มๆๆๆๆ เต็มแบบ ไม่มใี ครเปิด ไม่เหมือนยุคนี้ ...พอยิง่ สอนมันยิง่ ท�ำให้ตวั เราตกตะกอนชัด ขึน้ ท�ำให้ได้องค์ความรูท้ สี่ กัดเลย ออกมาชัดโป๊ะเลย แต่นนั่ แหละ เขียนบทก็ตอ้ งเลิกเขียน ก�ำกับก็ตอ้ งเลิกก�ำกับ เพราะเราท�ำไม่ได้ จะมาเล่นมุมกล้องแบบนิง่ ๆ เฟรมเดิน มันไม่ได้ มัน ไม่เร้าใจ เพราะไม่รวู้ า่ เขาจะปรับเปลีย่ นเป็นโฆษณาตอนไหน การตัดต่อ ไม่รเู้ รือ่ ง มีปญ ั หาเยอะแยะไปหมด ก�ำกับก็มปี ญ ั หา ตอนหลังก็เลยมาตัง้ คณะละครมรดกใหม่ ก็ยงั หาแดก..ท�ำบริษทั กับเมียรัก แล้วพอท�ำไปเราก็ พบว่ามันไม่ใช่ เพราะว่ามันฉาบฉวยมาก ตอแหลทัง้ วงการ Q : ก็เลยเลือกทีจ่ ะท�ำละครเวทีเพียงอย่างเดียว A : มันตอบสนองความสนุก เพราะจริงๆ เลยครูไม่เคยท�ำ

Q : ละครมันส�ำคัญกับครูขนาดนัน้ ? A : ไม่มสี งิ่ ใดในละครทีส่ ำ� คัญไปยิง่ กว่า “สิง่ ทีเ่ ราต้องการจะ บอก” และเมือ่ ใดทีม่ พี ลังจะบอก เมือ่ นัน้ ละครจะเกิดขึน้ ยิง่ ฝึกฝนเพิม่ ขึน้ เท่าใด ความละเอียดอ่อน ประณีต ก็จะเพิม่ ขึน้ ภารกิจของละครทีแ่ ท้ จริงคือ การเผยแพร่ การให้และการรับทีส่ มดุลระหว่างนักแสดงและคน ดู และการพัฒนาละครให้สามารถท�ำหน้าทีน่ นั้ ได้คอื ภารกิจทีแ่ ท้จริงของ คณะละครมรดกใหม่ Q : ครูเคยบอกว่านักการละครทีเ่ จ๋งจะต้องเล่าความ

ชัว่ ของตัวเองได้

A : ไอ้เรือ่ งระย�ำเนีย่ เป็นเรือ่ งส�ำคัญนะ คือท�ำละครมันสนุกถ้า มันมีเรือ่ งส่วนตัวอยู่ ถามว่าเอาเรือ่ งระย�ำมาจากไหน ก็เอามาจากตัวเอง นีแ่ หละ เป็นความรูท้ ร่ี ไู้ ด้ดว้ ยตัวเอง แล้วเอามาใช้กบั ละคร เอาทุกสิง่ ทุก อย่างทีเ่ รียนมาใช้ มันลงล็อกด้วย ธรรมะอะไรก็ลงล็อกหมด เป๊ะเลย แต่ จริงๆ แล้วครูเขียนแล้วจะมีเรือ่ งส่วนตัวอยูเ่ สมอ เพราะว่าพ่อเป็นคนทีม่ ี เรือ่ งส่วนตัว ตัง้ แต่ตอนเด็กแล้ว เขียนกลอนเนีย่ ครูจะเป็นคนแปล พ่อ จะมาบอกมาสอน แล้วงานเขียนของพ่อน่ะ ยังอ่านอยูเ่ ลย ยังมีคนฟังนะ คือเรารูว้ า่ การเล่าเรือ่ งระย�ำของตัวเองมันถึงได้ดี เราก็เลยค้น

ปล่อย 21


ปล่อยจากปก พบต่อว่า อ๋อ คนมันอยากฟังเรือ่ งระย�ำ แล้วเรือ่ งระย�ำของใครล่ะ ก็เรือ่ ง ระย�ำของคนท�ำนัน่ แหละ จริงๆ เลยนะ เรือ่ งกามครูคดิ เยอะ เพราะว่า ครูยงั มีหริ โิ อตัปปะอยู่ กลัวทีจ่ ะมีปญ ั หาต่อไปอะไรๆ และไอ้สงิ่ ทีม่ หี ริ โิ อตัป ปะนีแ่ หละคือธรรมะ แสดงว่ามันมาคูก่ นั ตลอดเวลา แต่ครูพบครูมคี วาม สุขในการเสพสังวาส... ใช่วา่ ธรรมะจะยัง้ ยืนไปทุกครัง้ เพราะในเมือ่ เรือ่ ง เสพสังวาสมันยังมีอยูใ่ นตัวมนุษย์ Q : ครูเป็นนักเสพสังวาสมัย้ A : เฮ้ย ครูเก่ง... เรือ่ งนีก้ เู ก่งมากนะ อายุขนาดนีแ้ ล้วยัง เปรีย๊ ะๆ อยูเ่ ลย (หลับตาพริม้ แล้วท�ำเสียง อืมมมม) เรือ่ งนีส้ ำ� คัญมาก อย่าตัดทิง้ เป็นอันขาด มึงต้องรักษาความเงีย่ นเอาไว้ มึงท�ำทุกอย่างก็ เพราะความเงีย่ นนีแ่ หละ ไม่วา่ จะท�ำอะไร รักษาไว้ มันเป็นพลังผลัก ดันของจริง แต่อย่ารูส้ กึ กับมันมากนะ อย่าติดยึดกับมัน แต่อย่าท�ำเป็น ฟอร์มว่ากูไม่เหีย้ ยอมรับเสมอเลยว่าเลว อยากได้ใคร่ดี เห็นผูห้ ญิงแล้ว เกิดอารมณ์ กามเกิดทันที อันนีอ้ ย่าปฏิเสธ แต่เกิดแล้วต้องรูใ้ ห้เท่าทันสติ อันนีส้ ำ� คัญ มันเป็นพลังขับให้มแี รงสร้างสรรค์งานอยูต่ ลอดเวลา รักษา มันไว้ อย่าให้มนั หมด แต่ตอ้ งมีสติ มีเซ็กซ์ไป แต่อย่าขาดสติ จะบอกอะไรให้ นีย่ งั ไม่มใี ครรูเ้ ลยนะ ครัง้ หนึง่ ครูประสบอุบตั เิ หตุ นอนโรงพยาบาลเป็นเดือน เศร้าใจฉิบหาย เพราะมือทีใ่ ช้เล่นกีตาร์ เล่น ดนตรีมนั ขยับไม่ได้ หมอก็ไม่บอกอะไร ท�ำใจว่าชาตินกี้ คู งพิการแน่แล้ว แต่อยูม่ าวันหนึง่ เพราะความเงีย่ น นิว้ มันค่อยๆ กระดิกของมันได้เอง เห็นก้นพยาบาลแล้วมันเกิดอารมณ์ ทุกอย่างมันมาหมดเลย คือมันนิด เดียว โอ้โห แล้วขึน้ มาทีละนิดๆ จนกระทัง่ กลับมาเป็นปกติได้ เป็นมา ร่วมครึง่ ปีแน่ะ ตอนนัน้ รูส้ กึ จะมีหมอนวดมานวด แล้วก็เลย..ซักหน่อย อะไรอย่างนี้ โอ้โหมีความสุขมาก เมือ่ ก่อนนะ เผลอไม่ได้เผลอ เป็นเ..ด เป็นเป้าหมายเลยนะ ก็ มีอย่างนี้ ก็คดิ อย่างนี้ ก็เสือกมีชวี ติ อยูต่ อ่ ไป ก็ไม่รมู้ นั เป็นยังไง นีแ่ หละ เรือ่ งจริงๆ ลึกๆ มันคืออันนีจ้ ริงๆ นะ แต่ครูจะบอกว่าไอ้ตวั ยับยัง้ ชัง่ ใจ เนีย่ คือธรรมะไง ตัวนีค้ อื ตัวธรรมะ ท�ำให้ใจบอกว่า ไม่เอาก็ได้ Q : ครูกา้ วข้ามเรือ่ งกามทีว่ า่ มาได้ยงั ไง A : ผมก้าวข้ามสิง่ เหล่านีไ้ ด้ยงั ไง ผมก็ไม่รเู้ หมือนกันว่าก้าวข้าม มายังไง อาจจะเป็นยีนก็ได้นะ เลยชิลชิล ไม่จริงจังกับอะไร ชอบหยอก ชอบลามกจกเปรต แล้วความเป็นคนลามกจกเปรตก็มสี ว่ นท�ำให้ไม่จริงจัง กับอะไรนะ เรือ่ งนีเ้ มียครูยงั ทึง่ เลย เขาบอกทักษะนีท้ ำ� ได้ยงั ไง.. ก็ไม่ได้ ท�ำอะไร ก็ปล่อยๆ ให้เป็นเรือ่ งผูห้ ญิงเขาจัดการกันไป ครูไม่เครียดกับเรือ่ ง พวกนีน้ ะ แต่จะหงุดหงิดเรือ่ งเล็กๆ เช่นไม่มปี ลาทูกนิ มากกว่า... โอ จริงๆ แล้วสิง่ ทีค่ รูตอ้ งการมันยิง่ ใหญ่กว่า ผูห้ ญิงไม่มคี า่ เท่ากับเป้าหมายครูหรอก อันนีไ้ ม่ได้ดถู กู ผูห้ ญิง แต่เราต้องมีเป้าหมายทีม่ นั ใหญ่กว่ากิเลสในตัวเรา

22 ปล่อย

Q : ครูพดู หล่อไปเปล่าครับ A : ถามเมียกูส!ิ ก็ตอ้ งบอกว่ากูหล่ออยูแ่ ล้ว มันคือเรือ่ งจริง ฮ่าๆๆๆ Q : กับเรือ่ งการตัง้ โรงเรียน อย่างมรดกใหม่โฮม

สคูล มีมานานรึยงั

A : ครูใช้ชวี ติ เป็นปฏิกริ ยิ า ครูไม่ได้มแี ผนเซ็ตวางไว้ ถ้าเป็น พวก business man พวกนักธุรกิจมันจะมีแผนเซ็ตไว้ชดั เจนเลยว่า ขัน้ นีแ้ ล้วต่อไปขัน้ นี้ ไม่ มันคือปฏิกริ ยิ าตลอด โรงเรียนไม่เกิดนะถ้าเราไม่ ย้ายไปทีค่ ลอง 6 อีกอย่างนะ โรงเรียนไม่เกิดหรอกถ้าไอ้เหีย้ (พาดพิง ลูกศิษย์ทเี่ คยหมายมัน่ ) พวกนีไ้ ม่ออก พอแม่งไปหมด ท�ำไงดีวะ เมือ่ ก่อนท�ำละครเดินสายเล่นเป็นรอบไง มันก็มปี ญ ั หาให้คดิ ให้แก้อยูต่ ลอด.. ก็เลยเปิดโรงเรียนเลยดีกว่า และคิดว่าท�ำยังไงกูจะต้องไปให้ถงึ เป้าหมาย ประเด็นหนึง่ นะ คนไม่คอ่ ยรูว้ า่ กูทำ� อะไรจริงๆ คือถ้าพูดกันตรงๆ นะ กูสอนหนังสือดีมากเลย แต่จริงๆ แล้วการสอนหนังสือคือละคร เข้าใจ หรือเปล่า เพราะฉะนัน้ อันนีม้ นั หนีกนั ไม่พน้ มันคือเหตุผลอย่างเดียวกัน กับการสอนหนังสือ ละครก็คอื การสอนหนังสือ แต่กอ่ นก็งงนะ สร้าง อะไรเนีย่ ไม่ชดั เจนว่าจะสร้างคนให้คดิ ได้ยงั ไง... ตอนนีแ้ หละสนุกเลย เด็กจบจากมรดกใหม่จะได้ปริญญาหรือไม่ได้ปริญญาจะไปอยูท่ ไี่ หนก็แล้ว แต่ จะต้องรูจ้ กั พิจารณาว่าตัวมีดอี ะไร ไม่ดอี ะไร แล้วพัฒนา ไอ้ความที่ ไม่ดนี นั้ อย่างไร ถ้ามีตรงนีไ้ ด้นะ จบเลย ชัดเลย Q : ครูมเี ป้าหมายอะไร A : เป้าหมายสูงสุดไม่เคยเปลีย่ นเลยนะ ครูจะพูดตรงนีว้ นิ าที นีเ้ ลยนะ ครูไปไกลถึงขนาดเชือ่ แน่นอนเลยว่าพระพุทธเจ้าจะต้องมาเกิด ในดินแดนของครู พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปต้องมาเกิดที่ดินแดนของครู ตามพุทธท�ำนาย ว่าจะเกิดทางปัจฉิมประเทศของชมพูทวีป เราอยูใ่ น ฆราวาสธรรม เด็กฝึกฝนอยูต่ ลอดเวลา มีทไี่ หนท�ำอย่างนี้ ฝรัง่ บ้าบอ อะไรไม่เห็นท�ำอย่างนี้ คือเป้าหมายนีม่ ี แต่วธิ ไี ปไม่ชดั ไม่เคยเคลือบแคลงกับเป้าหมาย เลยนะ ครูเชือ่ ว่าศิลปินทุกคนมีตรงนีอ้ ยู่ แล้วครูกม็ มี าแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป้าหมายครูชดั มาตัง้ แต่อยูเ่ มืองนอกแล้ว แต่ไม่รวู้ ธิ ไี ป ตอนแรกคิดว่ามี เงินแล้วถึงจะพาไปได้ เลยต้องท�ำหลายๆ อย่างเพือ่ ทีจ่ ะไป หรือกูจะมา ตรงนี้ กูจะมาอยูอ่ ย่างนี้ จะมีชวี ติ อยูอ่ ย่างนี้ แต่กไ็ ม่รวู้ ธิ ไี ปเท่านัน้ เอง คือมรรควิธเี ป็นเรือ่ งใหญ่ ปัจเจกพุทธเจ้าต่างกับสัมมาพุทธเจ้าตรงทีว่ า่ ปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้กลับมาสอนวิธวี า่ ไปถึงนิพพานยังไง คือรูว้ า่ ตรงนัน้ น่ะ คือดินแดนสุขาวดี แต่กจู ะไปยังไงนีส่ ิ ก็พยายามหาทางไป เอาเท่าทีเ่ ข้าใจ นัน้ แหละ ทีม่ าสร้างโรงละครทีค่ ลอง 6 เราได้เห็นทุกอย่างตัง้ แต่ เป็นผืนดินโล่งๆ ไม่มอี ะไร เราถางแล้วก็หาต้นไม้มาปลูก นัง่ ดู เห็นต้นไม้


งอก ตอนเราอยู่ RCA เราไม่เห็นต้นไม้งอกนะ แต่มาคลอง 6 ดินมัน ไม่มอี ะไรเลย แต่พอปลูกแล้วมานัง่ รอ เห็นมันงอกจริงๆ เราก็รอ้ งเพลง ให้ตน้ ไม้ จนกว่ามันจะขึน้ เติบโตงอกงาม.. เป็นอีกมิตหิ นึง่ ทีเ่ ราสัมผัสมัน ได้จริงๆ นัน่ แหละ เหมือนชีวติ ในแต่ละช่วงมันทีเ่ ป็นเหตุให้นำ� พาเราไป สูแ่ ดนสุขาวดี Q : แดนสุขาวดีของครูคอื อย่างไร A : โอ้โฮ ...ไอ้นมี่ นั คือ พอเราไปถึงปุบ๊ ข้างหน้าเรา เราเห็น เป้าหมายข้างหน้าแล้ว ลึกๆ ลึกเกินไปแล้ว เอาใหม่ๆ ถอยกลับมา เป้า หมายจะเปลีย่ นไปในขณะทีเ่ ราเติบโตขึน้ เพราะว่า product อันนีม้ นั จะ

สร้าง process หรือแนวทางปฏิบตั อิ นั ต่อไป เข้าใจรึยงั ผลของมันทีเ่ รา ได้ตอนนีจ้ ะไปเป็นเหตุของอีกปัจจัยหนึง่ ต่อไป ณ วินาทีนคี้ รูกม็ หี ลงระเริง คิดว่า โอ้โหมีคนมีบริษทั เอกชนมานึกว่าจะสร้างมหาวิทยาลัยอะไรต่างๆ นานาให้เกิดขึน้ ทีน่ ี่ (แก่งปลาปก) ให้มนั เรียบร้อย นีไ่ ง... ครูตอ้ งการ สร้างสถานที่ สร้างบรรยากาศทีพ่ ระพุทธเจ้ามาอุบตั ขิ นึ้ ให้ได้ พูดให้ชดั ขึน้ ง่ายๆ ก็คอื ว่าเชือ่ ว่าบรรยากาศทีเ่ ราสร้าง จะสร้างมนุษย์ทปี่ ระเสริฐ ได้จริงๆ ซึง่ มันก็เริม่ จากลูกศิษย์ลกู หาเรา ครูจงึ เอาละครเข้ามาสอนให้ เห็นความจริง อยูก่ บั ความจริง ทุกคนบริสทุ ธิห์ มด อยูเ่ ป็นฆราวาสธรรม อย่างดี เป็นสังคมทีพ่ ร้อมไปด้วยบริบรู ณ์ บริสทุ ธิส์ ดใส แล้วพระพุทธเจ้า จะมาเกิดทีว่ ทิ ยาลัยแห่งนี้

ปล่อย 23


ปล่อยจากปก

Q : ไม่คดิ ว่าเพ้อฝันไปนะครับ A : การสร้างชุมชนใหม่เล็กๆ สร้างเมืองใหม่ให้มนั enjoy เรา ก็ได้เปลีย่ นแปลงตัวเอง มันมีมติ ขิ องการเปลีย่ นแปลงตัวเอง พลังของ การเปลีย่ นทีม่ นั ท�ำให้เรามีความสุขโดยทีเ่ ราไม่ตอ้ งพึง่ อย่างอืน่ เยอะ มัน คือความสุข เหมือนเราเจออะไรใหม่โดยทีไ่ ม่มที สี่ นิ้ สุด Q : ชุมชนเล็กๆ ทีส่ ร้าง หมายถึงคอมมูน? A : เป็นคอมมูนโดยทีไ่ ม่รวู้ า่ คอมมูนคืออะไร ต้องไปศึกษาว่า คอมมูนท�ำยังไง เสียเวลา กูทำ� ในสิง่ ทีก่ รู ดู้ กี ว่า ทีก่ ถู นัดดีกว่า ครูไม่แยก ส่วน ละคร ชีวติ พุทธศาสนา คอมมูนนิตี้ บูรณาการกันหมดเลย แยกส่วน ไม่ได้ มันคือสังคมนิยมอย่างแท้จริง... แบ่งเงินคือแบ่งไม่เท่ากันนะ แบ่ง มากกว่ากันนะ แต่กมู คี วามอาวุโสนี่ คอมมูนไง เพราะฉะนัน้ ครูตอ้ งเป็น คอมมิวนิสต์แน่นอน ครูเชือ่ มัน่ ในระบบคอมมูนมาก ครูไม่เชือ่ ว่าปัจเจก จะเป็นไปได้ ครูเชือ่ ในสิง่ นี้ มันคือตรงกับว่าจะต้องจัดรูปแบบความเป็น อยูใ่ นสังคมให้มนั มีวถิ แี บบนีด้ ว้ ย เพราะว่าคนเกิดมาต้องพึง่ คนอืน่ ถ้า คนไม่พงึ่ คนอืน่ มันตาย มันชัดเจนเลยว่าคนต้องอยูด่ ว้ ยกัน แต่จะอยูก่ นั อย่างไร เพราะฉะนัน้ คนต้องอยูแ่ บบพึง่ พาอาศัยกัน ตรงนีช้ ดั เจนมาก เป็นคอมมิวนิสต์โดยทีไ่ ม่รเู้ ลยว่าระบบคอมมิวนิสต์คอื อะไร ช่วงหลังก็ไป อ่านหนังสือพวกนี้ เฮ้ย ไอ้นมี่ นั พ้องกับเรา ลอกเรา มันลอกเรา เพียง

24 ปล่อย

แต่วา่ มันท�ำก่อนเราเท่านัน้ เอง

ละคร

Q : ครูเลยสร้างคอมมูนด้วยการตัง้ โรงเรียนตัง้ โรง

A : อย่างทีบ่ อกไป มันบูรณาการ คือครูอยากท�ำละครให้มนั มีองค์ประกอบทีค่ รบ นักแสดง เรือ่ งราว คนดู จบ แม้ไม่มใี ครดู เราก็ ดูกนั เอง ดูกนั แล้วมันเกิดกระบวนการแลกเปลีย่ นอะไรต่างๆ นานา อัน นี้สิคือสิ่งที่ครูต้องการมากที่สุดเลย ครูต้องการสร้างนักแสดงกับคนดู นักแสดงทีด่ ที สี่ ดุ คือใครรูม้ ยั้ คือคนดู จบ มึงเขียนหนังสือมัย้ .. แล้วมึง จะอ่านหนังสือมัย้ .. แล้วคนอ่านหนังสือทีด่ ที สี่ ดุ คือใครล่ะ ก็คอื คนเขียน หนังสือ ถูกต้องมัย้ ตอนนีไ้ ม่ตอ้ งไปคิดอะไรมากเลย ครูตอ้ งการสร้างคน ดูแล้วสร้างวัฒนธรรมการดูละครให้เกิดขึน้ ทีน่ ี่ ชุมชนนีก้ จ็ ะมีกระบวนการ ดูซงึ่ กันและกัน Q : เคยคิดกังวลกับระบบนีข้ องมรดกใหม่บา้ งไหม A : ครูยงั อยากให้มนั ชุมชนตรงนีม้ นั Sustain คือค�ำ้ จุนรักษา ระบบนีเ้ อาไว้ เพราะครูไม่แน่ใจว่าพระพุทธเจ้าจะมาเกิดในยุคครูรเึ ปล่า อาจจะมาเกิดในยุคเหลนก็ได้ แต่ประเด็นคือต้องรักษาไง ครูเห็นปัจจัย ภายนอกมันเปลีย่ นแปลงได้ตามเหตุปจั จัยอยูต่ ลอด ยิง่ คนข้างนอกเห็น


แก่ตวั เท่าไหร่ ตรงนีย้ งิ่ ต้องแข็งแรง ถ้ากลัวคือกลัวตัวนีม้ ากกว่า กังวล บ้างเป็นธรรมดา เพราะกลัวแพ้ภยั คนเห็นแก่ตวั ข้างนอก ฉะนัน้ ตรงนี้ จริงๆ แล้วมันเห็นชัดนะ ชัดว่าถ้าท�ำอย่างนีไ้ ม่มที างเสือ่ ม เป็นอย่างนี้ ต้องปฏิบตั อิ ย่างนี้ อะไรต่างๆ นานา มันชัดเลย ยกตัวอย่างง่ายๆ คืออย่างทีค่ ลอง 6 เนีย่ อย่าอยูก่ นั แต่ในห้อง ออกมาเจอเด็ก ออกมาแต่เช้า อย่าอยูใ่ นห้อง เพราะคลอง 6 มันเสือก สร้างไว้แบบมีหอ้ งหับ ไอ้หอ้ งหับเหล่านีค้ อื ห้องหับทีส่ ร้างโลกส่วนตัว แล้ว มันจะเกิดความเสือ่ มแน่นอนเลยในอนาคต ถ้าเกิดว่าคนมีโลกส่วนตัวกัน มากเนีย่ จะเห็นความเสือ่ มเลย ความเสือ่ มมันมาพร้อมกับการท�ำอะไรที่ ไม่เกือ้ ไปแก่สว่ นรวม มันจะท�ำอะไรเพือ่ เห็นแก่ตวั คนทีอ่ ยูใ่ นโลกส่วนตัว เช่น เฮ้ย มานีก่ มู ขี นมซ่อนอยู่ มาเดีย๋ วกูแบ่ง ไอ้อาการแบบนีค้ อื การแบ่ง พรรคแบ่งพวกแล้ว มึงพวกกู มึงไม่ใช่พวกกู ความแปลกแยกมันเกิดขึน้ เลย เพราะฉะนัน้ ครูไม่ตอ้ งการ ท�ำลายไปเลยไอ้โลกส่วนตัวเนีย่ อย่า ไปมี เอ้า ให้นอนเฉยๆ นอนเสร็จรีบออกมาจากห้อง มาท�ำงานด้วยกัน แล้วมันก็ชดั อยูแ่ ล้ว แม้แต่ไอ้พวกรุน่ พีท่ เี่ ป็นครูสอนน้องๆ ก็เหมือนกัน บางทีกว่าจะ ออกมาก็สายแล้ว เด็กต้องการตัวอย่างทีด่ ี ไม่ใช่ตอ้ งการให้เด็กตืน่ เช้าแล้ว มึงตืน่ สาย มึงก็ตอ้ งตืน่ ก่อน ใช่มยั้ มาตืน่ ทีหลังไม่ได้ ทีนเี้ ห็นอยูแ่ ล้วว่ามันสามารถเป็นไปได้ พระพุทธเจ้าท่านก็มพี ระ สูตรหลายพระสูตรให้ปฏิบตั ติ าม ถ้าปฏิบตั แิ ล้วไม่เสือ่ มเราก็เอาพระสูตร เหล่านัน้ มาปรับให้เข้ากับชีวติ ประจ�ำวันเรา พระสูตรต่างๆ นานาของ พระพุทธเจ้าทีใ่ ห้ไว้ อย่างเช่น อภิธรรม 7 โพชฌงค์ 7 ปฏิบตั ิ 4 อะไร อย่างนี้ ก็มาปรับให้เข้ากับหมวกของเราซะ แล้วให้อยูภ่ ายใต้อนั นัน้ ซะ มัน ก็จะสามารถเดินทางไปได้อย่างมีแนวทาง ไม่ใช่ไม่มแี นวทาง เพราะฉะนั้นตรงนี้ถามว่ากลัวอะไร กลัวมันไม่ปฏิบัติตามใน แนวทางที่วางไว้ อะไรที่เป็นเหตุปัจจัยจะท�ำให้เกิดการไม่ปฏิบัติตาม แนวทางทีว่ างไว้ ก็เรือ่ งเ..ดกันเนีย่ อันดับแรก เห็นมัย้ อยูไ่ ด้เพราะเ..ด ฉิบหายได้เพราะเ..ด เพราะฉะนัน้ อันนีต้ อ้ งรูเ้ ท่าทันมัน เข้าใจรึยงั อันนี้ สามารถท�ำให้ฉบิ หายได้เลย ฉะนัน้ เราเอาเรือ่ งเ..ดให้เป็นประโยชน์ เรา รูแ้ ล้วยังไงชีวติ มนุษย์แม่งหนีเรือ่ งเ..ดกันไม่ได้ เราก็จบั ให้มนั หยุด ให้มนั ไม่มโี ทษ ก็จบ แค่นี้ แต่โอกาสทีม่ นั จะมีอย่างนีก้ ม็ สี งู เพราะฉะนัน้ ตรง นีก้ ค็ อื สิง่ ทีอ่ ยากจะใช้คำ� ว่า “ห่วง” มากกว่า “กลัว” เพราะถ้ากลัวแล้ว เนีย่ มันไม่มอี ะไรต้องกลัวแล้วมัง้ โลกใบนี้ แต่หว่ ง Q : เรือ่ งส่งเด็กไปเรียนทีอ่ นิ เดีย เพือ่ ตัง้ ใจจะให้กลับ

มาเป็นครูทวี่ ทิ ยาลัยการละครในอนาคต?

A : การส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ คือหนึง่ คล้ายๆ ลักษณะย่น ระยะเวลา จากไม่พร้อมให้พร้อม จริงๆ ลึกๆ แล้ว เน้นทีพ่ มี่ าก่อน มัน

ต้องมีอะไรสอนน้อง ถ้าไม่มอี ะไรสอนน้องนีจ่ บเลย ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้า เด็กมันเก่งอย่างนีน้ ะ กูหนาวว่ะ หนาวอะไรรูม้ ยั้ กูไม่ตอ้ งด่ามันแล้ว กู ไม่ตอ้ งจ�ำ้ จีจ้ ำ�้ ไชมันแล้ว กูตอ้ งหาของใหม่มาสอนมันแล้ว แต่ถา้ ไม่พร้อม กูกไ็ ม่ตอ้ งท�ำอะไร กูกไ็ ม่แสวงหา ตรงนีค้ อื เป็นการท�ำให้เด็กมันพร้อม พี่ ต้องรีบหา พีต่ อ้ งเป็นนักศึกษายิง่ กว่าน้อง (เสียงสูง) ถ้าเด็กมันพร้อมเมือ่ ไหร่กตู อ้ งเป็นนักเรียนทีย่ งิ่ กว่ามันอีก กูตอ้ งไปหาสิง่ ทีม่ นั Profound ลึก ซึง้ กว่าไปอีก กูไม่ได้หนีในเชิงทางกว้าง แต่หนีในเชิงทางลึก หาให้มนั ใหม่ เด็กต้องเจอของใหม่ แล้วกูกเ็ ป็นของทีก่ สู อน ไม่งนั้ ก็สอนของเดิม บางที เด็กมันก็ไม่คดิ ว่ากูจะไปถึงไหน ...อ้าวกูยงั ไม่แม่นเลย กูตอ้ งมาแอบหาแล้ว แต่ตอ้ งไม่ให้มนั เห็นนะ ไอ้ไก่กไ็ ม่ได้เห็นกูนะ เวลาทีก่ ไู ปค้นอะไร ไม่เคยได้ เห็นกูหรอก กูไปค้นไม่ให้มนั เห็น แล้วกูกม็ าเป็น.. อย่างนีน้ ะไก่ อย่างผูร้ ู้ เลย แต่เมือ่ วานเนีย่ กูไม่รหู้ รอก เข้าใจทีพ่ ดู มัย้ ส�ำคัญมาก แล้วการส่ง เด็กไปอินเดียก็เหมือนกัน ลึกๆ แล้วเพือ่ ให้แม่งหนาว เพือ่ ทีม่ นั จะได้ไปหา อะไรมา แต่ถา้ มึงเป็นผัก จบเลยนะ ส่งไป 10 คน กลับมา 8 คนมันจะ แตกหน่อความคิดเอง เพราะฉะนัน้ ไปเอาวิชามาแม็ตกับพวกทีอ่ ยูท่ นี่ ี่ แต่ ถ้ามันกลับมาแล้วแข็งแรงหมดนะ โอ้โห รับรองได้เลยแต่ละคนเนีย่ ต้อง หนาว ...คือมันต้องรักษาสิง่ ทีม่ อี ยู่ แล้วก็พฒ ั นาสิง่ ทีก่ ำ� ลังจะก้าวหน้าขึน้ ไป Q : เน้นทีต่ วั ครูผสู้ อนเป็นอันดับแรก A : ครูจะเข้ามามีผลต่อชีวติ คนเชือ่ อย่างนีเ้ ป็นเรือ่ งศักดิส์ ทิ ธิ์ เลยนะ กูสอนในสิ่งที่ไม่รู้จริงไม่ได้ มันต้องมีขนบรองรับ ของเรามี กระบวนการในการจัดการเรือ่ งการไหว้ครูไว้ชดั เจน เป็นรูปแบบชัดเจน เป็นภูมปิ ญ ั ญาไว้อย่างชัดเจนให้ปฏิบตั ติ าม เราต้องสร้างคน เพราะฉะนัน้ แล้ว จะกลับมาเก่งกว่ามึงแล้วนะ คิดดูวา่ จะยอมรับมัน หรือมึงจะเป็นคน ดูกบั มัน หรือมึงจะเป็นร่มเงาให้มนั หรือมึงจะอะไรก็แล้วแต่ อย่างกูนไี่ ป เล่นละครใครเขาก็สมู้ งึ ไม่ได้นะ แต่ถา้ เอาคณะมึงมาฝึกทัง้ คณะ กูเชือ่ ว่า กูชนะเพราะกูเก๋ากว่า เพราะกูรมู้ ากกว่า กูรวู้ า่ อะไรทีก่ สู มู้ งึ ไม่ได้ แต่กู รูก้ มู ดี อกนีท้ มี่ งึ ไม่มี กูจะเก๋ากว่ามันตรงนี้ แล้วกูกจ็ ะสามารถชนะมันได้ เรารูต้ รงนีต้ า่ งหากล่ะ เหมือนกับการทีเ่ ราทัวร์เทศกาลละคร ของโลก เราถึงชนะมาทุกครัง้ เลยนะ ไม่ใช่วา่ เราเก่งกว่าฝรัง่ นะ เราชนะ เพราะกูเก่ง เพราะไอ้ทา่ นเก่ง (นายท่าน-ฐานชน จันทร์เรือง ลูกชายคน โต) เพราะว่าเรารูเ้ ขารูเ้ รา เรารูจ้ งั หวะแบบนี้ เปิดประตูตขี มิ ไอ้แหม่ม ปรับกระบวนท่าไม่ทนั หงายเก๋งไปเลย เรารูอ้ ะไรควรอะไรไม่ควร เรา ส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศคือบังคับให้รไู้ ปเลยว่า เฮ้ย มันต้องกลับมา เก่ง แล้วมันจะเก่งกว่ามึง มึงไม่คดิ ทีจ่ ะเติมส่วนทีม่ นั ขาดเหรอ มึงไม่คดิ จะท�ำหน้าทีท่ มี่ นั ถูกต้องเหรอ มันเหมือนกับอนุบาล เราก็ตอ้ งท�ำหน้าทีท่ ี่ ให้รม่ เงามัน เราก็เอาประสบการณ์ทเี่ รามีอยูไ่ ปบอกมัน การทีเ่ ราจะมีวทิ ยาลัย เราจึงต้องสร้างเด็กให้พร้อมก่อนเป็น

ปล่อย 25


ปล่อยจากปก

อันดับแรก ไม่งนั้ มันจะสอนน้องได้ไง ก็เหมือนกับเรือ่ ง “นนทก” ถ้าไม่ พร้อมทีจ่ ะได้อำ� นาจไป ก็เละ นนทกไม่พร้อมทีจ่ ะมีนวิ้ เพชร แต่คนอยาก ได้นวิ้ เพชรกันเหลือเกิน โดยทีไ่ ม่ได้ประเมินว่าตัวเองพร้อมหรือไม่พร้อม แล้วนีก่ ต็ วั อย่างชัดเจนเลยว่าเราไม่พร้อมทีจ่ ะได้ประชาธิปไตย ใช่มยั้ เรา จึงมีปญ ั หา อบต. อบจ. ไม่พร้อมทีจ่ ะมี อบต.(เสียงสูง) กูได้ควาย ควาย มาตัดสิน มันชัดเจนอยูแ่ ล้ว นีไ่ ม่ใช่เรือ่ งเหลวไหล ต้องพร้อม มันก็ไม่ตา่ ง จากขนบของเราหรอก มึงไปรับมอบซะมึงถึงจะมาสอนเขาได้ Q : การส่งเด็กไปเรียนต่างแดน มีปญ ั หาอะไรไหม A : ปีทแี่ ล้วส่งเด็กไป 10 คน เราหวังว่าต้องมีสกั 8 คนที่ จะแตกหน่อความคิดเอง แต่เด็กของเราบางคนก็ไปก่อปฏิกริ ยิ า เราจึง คิดว่าวิธที จี่ ะส่งเด็กไปอยูด่ ว้ ยกันหมดตอนนีไ้ ม่เวิรก์ แล้ว ต่อไปในอนาคต เด็กทุกคนจะได้เรียนหลักสูตรคนละทีต่ ามจุดต่างๆ ทัว่ โลก แทนทีจ่ ะส่ง ไปเรียนทีอ่ นื่ เต็มๆ ปริญญาทีไ่ ด้จะเป็นปริญญาทีเ่ ราต้องภาคภูมิ เพราะ มันมีมาตรฐานจากทุกมุมโลกซึง่ เราได้เรียนรูแ้ ละปฏิบตั มิ นั จริงๆ นีค่ อื เป้า หมายของมหาวิทยาลัย แต่หมายความว่าไป pressment ทีโ่ รมาเนีย

26 ปล่อย

pressment ทีฮ่ งั การี pressment ทีอ่ งั กฤษ 6 เดือน อะไรก็วา่ ไป หรือ 3 เดือนทีน่ ี่ 3 เดือนทีน่ นั่ ปีละหน ปีละสองหนก็วา่ กันไป Q : ถามจริงๆ ว่าทุกวันนีเ้ ห็นครูทำ� ละครอย่างเดียว

อยูไ่ ด้ยงั ไง เด็กๆ มีรายได้บา้ งมัย้ และภาระทีต่ อ้ งดูแลเด็กๆ 40-50 คน ทัง้ ทีม่ รดกใหม่คลอง 6 ทีป่ ากชม จังหวัดเลย ครู จัดการยังไง

A : ตลกมัย้ ค�ำถามนีเ้ ป็นค�ำถามทีแ่ ปลกมาก มีคนไม่เชือ่ อยู่ 2 อย่าง เราไม่เป็นเจ้าของอะไรจริงหรือเปล่า หรือว่ามีกอ๊ กสอง ก๊อก สาม จะบอกให้กไ็ ด้ ทุกวันนีเ้ ราอยูไ่ ด้ดว้ ยเงินบริจาค ใครอยูไ่ ม่ได้กว็ า่ กัน ไป เอาง่ายๆ เพราะว่าครูทำ� ขัน้ เงินเดือนมาก่อน ครูรวู้ า่ เงินก้อนใหญ่เสีย ไปกับงบประมาณห่าเหวต่างๆ แล้วครูเคยท�ำบริษทั ประเทศไทยนีจ่ ะต้อง มีเงินเดือนวะ ไม่มนี นั่ คือค�ำว่าอดตาย ใครอดตายในประเทศไทยนีบ่ า้ แล้ว ท�ำไมต้องท�ำงานหาเงิน มีแต่วา่ จะต้องวิง่ เร่วา่ กูจะต้องมีรถใหม่ กูจะต้อง ผ่อนบ้าน อย่างเนีย้ จะต้องมีเงินเดือนมารองรับ ต้องจ่ายทุกเดือน นึก ออกมัย้ แต่ถา้ มึงไม่มี มันไม่มคี วามจ�ำเป็นเลย อย่างกูนะ ตอนทีม่ เี งิน


เดือน รถไม่เคยผ่อนหมดเลย ตลกมาก พอเราเลิกมีเงินเดือนนะ เออ เราผ่อนรถหมด เป็นของเราเอง แล้วเราก็ไม่ตอ้ งซือ้ รถอะไรเยอะ มีคนั เดียว แทนทีจ่ ะเอาเงินเดือนไปท�ำอะไร แต่วา่ ระบบเงินเดือนคือระบบที่ ไปหาความสุขส่วนตัว แต่ของเราพอตัดกลายเป็นสุขทัง้ หมดเลย จะบอกให้ สมัยก่อนตอนทีใ่ ช้ระบบเงินเดือนนะ เราเดินสาย เล่นละคร คิดเป็นระบบรอบละ 200 รอบละ 300 รอบละ250 เล่นกี่ รอบก็คดิ กันไป หารกันไป แต่พอไม่ใช้ระบบเงินเดือน... ยกตัวอย่างง่ายๆ เลย อย่างไอ้ตวิ้ (ลูกศิษย์ครูทไี่ ปเรียนการละครทีว่ ทิ ยาลัยศานตินเิ กตัน อินเดีย) กลับมาเนีย่ มันกับน้องอีกสิบคนใช้เงินไปทัง้ หมด 80,000 บาท เงิน 80,000 บาท ไอ้ตว้ิ สามารถมาทัวร์ได้ 3 อาทิตย์ ใน 3 อาทิตย์ไอ้ ติว้ ไม่ตอ้ งอะไรทัง้ สิน้ เลย ไอ้ตวิ้ ทัวร์ได้แสนห้า ก�ำไรอ่ะ เพราะฉะนัน้ การก ลับมาของไอ้ตวิ้ คือก�ำไร แต่ถา้ คิดเป็นอย่างอืน่ เป็นขาดทุนหมด ทุกคนมี ค่าตัว โอ้โหหมดเลย ไม่มที างเป็นไปได้เลย พอตัดตรงนีป้ บุ๊ นะ (เงินเดือน) ความเป็นไปได้ผดุ ขึน้ มามหาศาลเลย เต็มไปด้วย possibilities เต็มไป ด้วยความเป็นไปได้หมดเลย อันนีไ้ ม่ใช่เรือ่ งโกหก ไม่ใช่เรือ่ งเหลวไหลเลย ครูกล้ายืนยันได้ เลย เพราะไม่มเี งินเดือนต่างหาก เราถึงได้มขี องเป็นของเรา เพราะไม่มี ไง พอไม่มปี บุ๊ ทุกอย่างเป็นก�ำไรหมดเลย

Q : ไม่มอี ะไรคือก�ำไร? A : ท่านพุทธทาสก็พดู เพราะกูลอกมาจากท่านพุทธทาส กูพบ ว่ากูพอเพียง อย่างทีพ่ ทุ ธทาสพูดเลยว่า พอแล้วดี ท่านพุทธทาสตรงชัด มาก “พอแล้วดี” จริงหมดเลย Q : ครูเอาเงินทีไ่ หนมาส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ

เป็นสิบๆ คน นีย่ งั ไม่นบั การทัวร์ตามเทศกาลละครในประเทศ ต่างๆ และเรือ่ งการบูรณะโรงละครทีค่ ลอง 6 หลังจากถูก น�ำ้ ท่วมอีกล่ะ

A : สมัยก่อนไม่มที างเป็นไปได้เลย จะไปยังไง เพราะเงินใน บัญชีไม่มี แต่เดีย๋ วดูสิ ไปได้ ก็เราทัวร์อาทิตย์เดียวเราก็ไปได้แล้ว อัน นีม้ นั ชัดเจนอยูแ่ ล้วคือบริจาค ตอนนีเ้ ราพบอย่างเดียวแล้วว่าเงินบริจาค ไม่ตอ้ งไปใช้อย่างอืน่ เพราะว่าเราเปิดหมวกหาแดกได้ มันเพิม่ ออปชัน่ ขึ้ นมานะ คือตอนแรกก็กงั วลว่าจะไหวมัย้ วินาทีทเี่ ราตัดสินใจมาใช้รปู แบบ บริจาคมาปุบ๊ นะ วินาทีนน้ั แม่งให้ความสุขเลยทันที เปิดหมวกจ่ายค่ารถ ทัง้ หมด เราเปิดหมวกจ่ายค่าอาหารทัง้ หมด จ่ายค่าทีพ่ กั ทัง้ หมด เย็ด แม่ง เงินทีไ่ ด้จากโรงเรียนไม่ตอ้ งแตะเลย ก�ำไรกว่าเดิมอีก เห็นภาพมัย้ ในขณะทีเ่ มือ่ ก่อนต้องมาจ่ายค่ารถ จ่ายค่าน�ำ้ มัน จ่ายค่าโรงแรม จ่าย ค่าอาหาร จ่ายค่าตัวของแต่ละคน เหลือเข้าออฟฟิศไม่เท่าไหร่ พอเหลือ เข้าออฟฟิศปุบ๊ จ่ายเงินเดือนหารรอบอีกอะไรต่างๆ นานา อย่างเมือ่ กีข๊ า ขึน้ มาก็แดกสเต็ก ขอโทษนะ แวะกลางดงแดกสเต็กกัน แล้วอันนีท้ กุ สิง่ ทุกอย่างมันมีทางออกให้หมดเลย อ้าวไอ้เหีย้ แม่ง คนตัง้ ยีส่ บิ กว่าคนกว่า จะลงไปนัง่ รถทัวร์นลี่ อ่ ไปเท่าไหร่ 600 กว่าบาทต่อคน สิบคนเท่าไหร่ 6 พัน ยีส่ บิ คนหมืน่ สอง ค่าอาหารค่าอะไรต่างๆ นานา แต่นเี่ รามีรถไป ก็ พากันไปเปิดหมวกทีน่ นั่ ทีน่ ที่ ี พอได้เงินมาซือ้ ข้าวสาร พริกก็ปลูกกินเอง สิ แต่กม็ โี รคลืมตัว คือไปตลาดก็จะซือ้ อยูเ่ รือ่ ย แม่งหมดเว้ยไปซือ้ หน่อย เว้ย อุย้ เฮ้ยย ลืมไปว่าของเราก็มปี ลูก (หัวเราะ) ไม่นา่ เชือ่ สุดยอด มากเลย พอเป็นอย่างนีป้ บุ๊ คนบริจาคข้าวให้ คือมันเริม่ ต้นจากไปเอา ข้าวจากบ้านไอ้ไก่กอ่ น ข้าวจากบ้านไอ้ตวิ้ ก่อน ข้าวจากบ้านไอ้ฝา้ ยก่อน นึกออกมัย้ ข้าวจากทีโ่ น่นทีน่ อี่ ะไรต่างๆ นานา น�ำ้ มันพืช น�ำ้ ปลา ก็จะ มีคนบริจาคให้อยูเ่ รือ่ ยๆ อย่างตอนนีบ้ ริษทั ทิปโก้ฟดู ส์ เขาก็มาช่วย yes are I กับ มรดกใหม่ รูม้ ยั้ คืออะไร coroperate social responded ability แปล ว่า เขาจะท�ำให้ฝนั เราเป็นจริงให้ได้ อันนีค้ อื ง่ายๆ แค่นเี้ ลย อย่างเช่น เดือนสิงหาคมซึง่ เป็นช่วงทีเ่ ด็กเปิดเทอม เรายังมีปญ ั หาทีว่ า่ แล้วจะเงิน ทีไ่ หนส่งเด็ก เราก็คดิ ท�ำกิจกรรมล้วนๆ เลยนะ เพือ่ จะเอาเงินส่งให้เด็ก เรียน แล้วทิปโก้กเ็ ป็นคนลิงค์งบ กทม.มาให้ มันก็จะเป็นอะไรอย่างนี้

ปล่อย 27


ปล่อยจากปก

ทิปโก้วางแผนทางการตลาดให้เลย ว่าตอนนีเ้ ราพูดถึงเรือ่ งอะไร เขาก็ อยากให้เด็กทีม่ าเรียนกับเรามีลกู ผูร้ ากมากดีบา้ ง แต่กไ็ ม่เถียงเขา ท�ำก็ ท�ำไป เพราะเขายังไม่ได้ลงหลักเสาเข็มหอพักทีร่ บั ปากว่าจะสร้างให้เด็ก ทีค่ ลอง 6 นัน่ แหละ เดีย๋ วพอเขาปักเสร็จก็จะเถียงนิดหน่อย แล้วก็มพี วกอยากให้ครูไปออกรายการทีวี ล่าให้กไู ปออกหลาย ครัง้ แล้ว ไม่ไป ก็โบ้ย คือเขาอยากจับครูไปคูแ่ ข่งกับคนอืน่ แข่งท�ำหอก อะไร เราไม่มคี แู่ ข่งอยูแ่ ล้ว ก็แล้วเราจะไปแข่งกับใครท�ำบ้าอะไร อย่า ไปคิดว่าจะต้องแข่งกับใคร แข่งกับตัวเองนัน่ แหละนีค่ อื ค�ำพูดทีถ่ กู ต้อง เลย ...แต่ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี ช่วยตัวเองให้ได้เป็น หลักก่อนเลย Q : ครูเคยได้ดู เดอะมิวสิคลั ของซีเนริโอมัย้ A : อ่อ ไม่รจู้ กั ครูไม่ยอมรับ? ครูวา่ ไม่ใช่ละครแล้ว เขาเล่นเรือ่ งนึงได้เงินเป็นล้าน ครูอจิ ฉาเขามัย้ กูแฮปปีม้ ากเลย ไม่คดิ อิจฉาใคร ก็ทำ� ของกูไป ครูจะเป็นแบบ นี้ คือผวาว่าระหว่างละครทีไ่ ปเล่นทีอ่ อกซ์ฟอร์ด คนทีเ่ ขาคาดหวังว่าจะ ดูเรานีจ่ ะได้อะไรหรือเปล่า ผวามากกว่าจะขายบัตรหมดมัย้ ถ้าครูไม่กา้ ว มาสูจ่ ดุ ทีเ่ รียกว่าบริจาค ถ้าครูหวังตรงนัน้ นะ ก็ไปไหนไม่ได้หรอก ตอน นีห้ ากมีบริษทั จ่ายเราก็ไปนะ 700-800 เราก็ไปเล่น ไม่ตอ้ งเก็บ 5 พัน 6 พัน มันสนุกนะ มันมีความท้าทายมากกว่า อย่างทีเ่ พิง่ บอกไปว่าทุก อย่างเป็นปฏิกริ ยิ าหมด มันไม่มเี ซ็ตไว้ลว่ งหน้าว่าเราจะเก็บเงิน 3 ปี แล้ว พอปีท4ี่ เราจะเลิกเก็บ มันไม่ใช่ มันเป็นปฏิกริ ยิ าจากสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ทัง้ นัน้ น�ำ้ ท่วมใหญ่เมือ่ ปีกอ่ น ถือเป็นจุดเปลีย่ นใหญ่เลย ตัง้ แต่มาอยู่ ทีน่ ี่ (แก่งปลาปก จ.เลย) ตอนมาสร้างบ้าน ไม่มไี ฟเลย เรามีแค่ที่ เราก็ มาถาง พอถางเสร็จนะ กระดูกงูเพียบเลยนะในนี้ แล้วก็ปเู ต็นท์อยู่ ไม่มี เหีย้ อะไรเลยนะ แต่มคี วามสุขมากเลยทีไ่ ด้จดุ ไฟ นัง่ ล้อมวงร้องเพลง แล้วก็คอยหลบควันทีม่ นั จะปลิวเข้าหน้าเข้าตา สนุกจะตายไป แม่งแค่นี้ โคตรมีความสุขเลย ท�ำไมเราต้องอะไรมากมาย นึกออกมัย้ เข้าใจรึยงั Q : ทุกวันนีเ้ ริม่ มีคณะละครเหมือนมรดกใหม่เกิดขึน้

หลายคณะ แม้ไม่ได้เป็นส�ำนักเรียนรู้ แต่กเ็ ดินสายเล่นละคร เวที เก็บค่ารอบการแสดงตามโรงเรียนต่างๆ ครูมองเรือ่ งนี้ เป็นการแข่งขันไหม

A : วัฒนธรรมคนดูนะ่ แข่งแน่นอน เรือ่ งแบบนีอ้ ยากให้มี ไม่ ได้อยากให้มนั ตายด้วยซ�ำ้ ไป อยากให้มนั มีมากๆ อยากให้มนั มีชวี ติ อยูไ่ ด้ พวกทีต่ งั้ คณะละครต่างๆ แล้วท�ำแบบนีก้ ล็ กู ศิษย์ลกู เกือบทัง้ นัน้ ดูสวิ า่ กู

28 ปล่อย

จะแข่งอะไรมันได้ อ่ะมึงมาดอกนี้ งัน้ กูมาดอกนีน้ ะ คือมันท�ำให้กเู ก่งขึน้ นะ มันท�ำให้เราแข็งแรงขึน้ เพราะฉะนัน้ ต้องขอบคุณด้วยซ�ำ้ ไม่งนั้ กูก็ เป็นผักสิ ก็เน่าสิ ฉกคนมรดกใหม่ไปเล่น แล้วกูจะมาดอกไหนล่ะ เปิดโรง เรียนแม่งเลย เห็นมัย้ ไม่งนั้ โรงเรียนไม่เกิด ไม่มมี นั ไม่มโี รงเรียนนะ กู จะเอาเด็กทีไ่ หน กูจะเอาคนทีไ่ หนมา นีไ่ งถึงบอกว่าอย่าท�ำตัวเป็นแชมป์ หลงเมือ่ ไหร่มงึ ก็พงั ด้วยธาตุภมู ขิ องเราเรามีอะไร เรามีแค่ไหนก็แค่นนั้ แล้วจริงใจ กับมัน รบร้อยครัง้ ชนะร้อยครัง้ เขาบอกว่ารูเ้ ขารูเ้ รา รบร้อยครัง้ ชนะร้อย ครัง้ ไม่ได้แปลว่ารูว้ า่ เรามีแค่ไหน ไม่ได้มปี ริมาณนะ นึกออกมัย้ รูเ้ ขารูเ้ รา แม้เรามีอยูแ่ ค่นี้ รบไงก็ชนะ ค�ำพูดนีแ้ ม่งสุดยอดมากนะ เพราะฉะนัน้ รูใ้ ห้ จริงๆ รูต้ รงนีว้ า่ เรามีแค่นี้ แล้วรูว้ า่ เราเหีย้ รูว้ า่ เราระย�ำ รูว้ า่ เรายังขาด กระบวนการเหล่านี้ แล้วเขามีอย่างนี้ สิง่ นีม้ นั จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง และต้องท�ำตัวให้เป็นผูท้ า้ ชิงตลอดเวลา อย่าท�ำตัวเป็นแชมป์ ไม่งน้ั ชีวติ มึงก็จบ แต่ตอนนีก้ ไู ม่ได้ทำ� ละครเองแล้วนะ ให้เด็กท�ำ อย่างนีพ้ ฒ ั นามัย้ ถ้าครูตอ้ งท�ำอยูน่ สี่ ิ โอ้โหตายห่าเลย ถึงตายเลย ละครประเทศนีก้ ไ็ ม่มี การพัฒนา เด็กก็ตายเลยสิ เพราะจะคิดอะไรเองไม่เป็น Q : ละครทีท่ ำ� อยูท่ กุ วันนีพ ้ อใจหรือยัง คิดว่ามันให้ใน

สิง่ ทีค่ าดหวังไว้หรือยัง

A : เป็นค�ำถามทีต่ อบยากมากเลยว่าให้อะไร เวลาเราตัง้ ใจให้ แล้วเขาได้อะไรเนีย่ ไอ้การให้เนีย่ มันไม่เคยสัมผัส มันไม่เคยเจอกันเลย แต่เรารูอ้ ย่างเดียวเลยว่าเจตนาเรา ณ วินาทีนคี้ อื อยูร่ อดให้ได้กอ่ น ด้วย การท�ำให้มนั เป็นไปได้กอ่ น แต่ทใี่ ห้แน่ๆ เลย ชัดๆ เลย มันดึงคนอยูใ่ น กระแสง่ายขึน้ เด็กอยากจะมาเรียนทีน่ เี่ ยอะมาก จากละครทีเ่ ราไปเล่น ครูบาอาจารย์เห็นอยากมาเป็นเครือข่าย นึกออกมัย้ คืออันนีใ้ ห้รเึ ปล่า ไม่รนู้ ะทีเ่ รียกว่าให้ หลังการพูดคุยสนทนา ครูชา่ งคะยัน้ คะยอให้เดินขึน้ ไปดู ยอดเขา ซึง่ ตัง้ ใจจะสร้างวิทยาลัยบนนัน้ ครูไก่จงึ พาผมและเพือ่ น หนุม่ ดัน้ ฝ่าทางรกเลีย้ วและลาดชันขึน้ ไปจนถึงบนยอดภู เนือ้ ที่ 200 ไร่ บนภูสงู ลูกไหนนัน้ ผมไม่อาจรู้ แต่เท่าทีเ่ ห็น มันสวยงาม เหลือเกิน สวยทัง้ ทิวทัศน์ งามทัง้ อุดมคติ บนทีส่ งู แห่งนัน้ สายลมโชยผ่านมาเป็นระยะ วูบหนึง่ คล้ายกับผมได้สมั ผัสถึงกลิน่ ประหลาดบางอย่าง กลิน่ ซึง่ ไม่เคย ได้ลิ้มชิมบนโลกของความจริง...หรือต้องดั้นด้นขึ้นมายังที่แห่ง นี้ ถึงจะได้สมั ผัสกับโลกแห่งยูโทเปียของชายทีผ่ คู้ นเรียกขานว่า ครูชา่ ง ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง


ปรัชญาของชาวมรดกใหม่บอกไว้ว่า ไม่มีสิ่งใดในละครที่ส�ำคัญไปยิ่งกว่า “สิ่งที่เราต้องการจะบอก” และเมื่อใดที่มีพลังจะบอก เมื่อนั้นละครจะเกิดขึ้น

คณะละครมรดกใหม่

ก่อตัง้ โดย ครูชา่ ง ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง ในปี 2538 หลังจากล้มลุกคลุกคลานในการท�ำธุรกิจ เขาได้พบว่าวิถแี ห่ง ทุนนิยมไม่ใช่คำ� ตอบของชีวติ และละครก็ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ ได้ภายใต้เงือ่ นไขเหล่านัน้ เขาจึงตัดสินใจหยุดทุกอย่าง รวมทัง้ การลาออกจากการเป็นอาจารย์ประจ�ำภาควิชาศิลปะการละคร คณะอักษรศาสตร์จฬุ าฯ หลังจากสอนอยูเ่ กือบ 20 ปี และพบ ว่าไม่มหี นทางใดทีจ่ ะท�ำให้คน้ พบสัจธรรมจากละครถ้าหากไม่ ลงมือท�ำละครอย่างต่อเนือ่ งด้วยตัวเอง และนัน่ หมายความว่า จะต้องท�ำเป็นอาชีพให้ได้ดว้ ย คณะละครมรดกใหม่ ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมแรง ร่วมใจของเหล่าลูกศิษย์ลกู หาหลายคน ฝึกฝนตนเองผ่านการ ท�ำละครมากมาย ทัง้ ไทยและเทศ ท�ำแล้วท�ำเล่า เพือ่ ตอกย�ำ้ ความคิดที่ว่า นักแสดงที่ดีจะเกิดได้ก็ด้วยการฝึกฝนอย่าง หนักเท่านัน้ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี กระทัง่ วันนีค้ วาม มหัศจรรย์ในโลกของละครยังคงถูกค้นพบเพิม่ ขึน้ ทุกวัน และ ยิง่ ตอกย�ำ้ ว่านีค่ อื ความจริง และมาถูกทางแล้ว ปี 2544 มรดกใหม่เริม่ สร้างละครเวทีสญ ั จรเพือ่ การ ศึกษา ตระเวนเล่นตามโรงเรียนต่างๆ ทัว่ ประเทศ และลดรูป แบบละคร ให้เหลือเพียงรูปแบบทีส่ นับสนุนเนือ้ หาจริงๆ เท่านัน้ ปลายปี 2544-2547 ได้เช่าส�ำนักงานทีอ่ าร์ซเี อ ท�ำ เธียเตอร์ อาร์ต ควบคูไ่ ปกับละครทัวร์ เน้นทีส่ ถาบันการศึกษา มรดกใหม่ มีโรงเรียนเครือข่ายละครยามเช้า ทีไ่ ด้รบั งบประมาณสนับสนุน จากส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

กว่า 60 แห่ง ทีม่ รดกใหม่ตอ้ งจัดอบรมครู นักเรียน ให้เรียนรู้ ละคร โดยเน้นไปทีล่ ะครสะท้อนคุณธรรม ต่อมา ครูชา่ ง ได้สร้างโรงเรียนมรดกใหม่โฮมสคูลขึน้ ที่ คลอง 6 ปทุมธานี เป็นโรงเรียนมัธยมด้านละคร ทีใ่ ช้หลักสูตร บ้านโรงเรียน คัดเลือกนักเรียนจากเครือข่ายละครของมรดก ใหม่ทสี่ นใจเรียนต่อระดับมัธยม หรือเด็กทีต่ อ้ งการเรียนแบบ โฮมสคูล หรือเด็กทีอ่ ยูใ่ นกลุม่ เสีย่ งต่างๆ มาเรียนรูผ้ า่ นละคร ฟรี ภายใต้แนวทางปฏิบตั ิ 6 ข้อคือ 1.พร้อมใจกันท�ำ พร้อมใจ กันเลิก คือ ความเป็นหนึง่ เดียวเพือ่ พัฒนากระบวนการเรียน รู้ 2.ท�ำแล้วท�ำเล่าจนท�ำได้ คือ พัฒนาทักษะทางด้านการคิด อ่าน เขียน และการละคร 3.แผ่วทีผ่ ล ท�ำทีเ่ หตุ น�ำพาชีวติ ไป สูก่ ระบวนการคิดวิเคราะห์ 4.อยูอ่ ย่างต�ำ่ ท�ำอย่างสูง เน้นการ ด�ำรงอยูเ่ รียบง่ายพอเพียง และมีสนุ ทรียศาสตร์ 5.ไม่มเี รือ่ งที่ เล่าไม่ได้ มีแต่คนทีเ่ ล่าไม่เป็น คือการเน้นทีก่ ารมีอดุ มการณ์ทำ� เพือ่ ผูอ้ นื่ และ 6.เป็นอย่างทีส่ อน เพือ่ จะสอนอย่างทีเ่ ป็น เน้น การให้เป็นตัวอย่าง ปรัชญาของชาวมรดกใหม่บอกไว้วา่ ไม่มสี งิ่ ใดในละคร ทีส่ ำ� คัญไปยิง่ กว่า “สิง่ ทีเ่ ราต้องการจะบอก” และเมือ่ ใดทีม่ พี ลัง จะบอก เมือ่ นัน้ ละครจะเกิดขึน้ ยิง่ ฝึกฝนเพิม่ ขึน้ เท่าใด ความ ละเอียดอ่อน ประณีต ก็จะเพิม่ ขึน้ ภารกิจของละครทีแ่ ท้จริง คือการเผยแพร่ การให้และการรับทีส่ มดุลระหว่างนักแสดง และคนดู และการพัฒนาละครให้สามารถท�ำหน้าทีน่ นั้ ได้คอื ภารกิจทีแ่ ท้จริงของคณะละครมรดกใหม่

ปล่อย 29


ปล่อยจากปก

ผูห้ ญิงของครู

พีจ่ ู พบจันทร์ ลีลาศาสตร์สน ุ ทร Q : รูจ้ กั ครูชา่ งตอนไหน เข้ามาอยูใ่ นมรดกใหม่

ได้ยงั ไงครับ

A : ช่วงครูเขาท�ำบริษทั พีเ่ ป็นลูกศิษย์มาช่วยเขียนบท รูจ้ กั เขาก็ตอนนัน้ บททีเ่ ขียนเป็นบทสารคดี คือมรดกใหม่นไี่ ม่ใช่จๆู่ มาเป็นคณะละครเลยนะ เป็นรายการสารคดีอยูป่ ระมาณ 3 ปี เป็น รายการศิลปวัฒนธรรมกึง่ ละคร น่าจะช่วงปี 2532-2533-2534 ทาง ช่อง 5 แล้วก็ไปท�ำอย่างอืน่ อยูป่ สี องปีนะ ถึงจะมาเป็นมรดกใหม่ แต่ ก่อนหน้านัน้ เขาก็ยงั ท�ำละครเวทีปลี ะเรือ่ งสองเรือ่ ง เช่น โลกียชน ที่ มีดารามาเล่น แล้วทุกปีครูกจ็ ะต้องท�ำละครอักษรจุฬาฯ เพราะว่ายัง สอนอยู่ ในยุคนัน้ ครูเขาก�ำกับ “ขอรับฉัน” ทีม่ ี เปิล้ หอย เล่น เขา เรียนท�ำละครเป็นกระษัย แต่ทที่ ำ� คณะละครเวทีจริงๆ น่าจะประมาณ กลางปี 2537 จ�ำช่วงเดือนไม่ได้ชดั โปรดักส์ชนั่ แรกทีเ่ ขาท�ำก็คอื เล่น เดือนมกราคม 2538 ทีห่ อเล็ก ศูนย์วฒ ั นธรรม เป็น Timing คร่าวๆ

30 ปล่อย

Q : พอรูจ้ กั กับครูถงึ กับชอบเลยไหม A : ชอบฟังเขาพูด ตอนนัน้ ไม่รหู้ รอกว่าทีเ่ ขาพูดน่ะความ จริงมันเป็นยังไง แต่ให้พดู แบบพีว่ เิ คราะห์ตอนนีน้ ะ ครูเขาเป็นคนมี เสน่ห์ มันไม่ใช่มวี าทศิลป์ คือยังไม่เคยเจอใครพูดแบบชนประคัลภ์ จันทร์เรือง ยังไม่เคยเจอนะ ...ตอนนัน้ ทีฟ่ งั เราไม่รสู้ กึ ว่าเป็นความเพ้อ ฝัน พีเ่ ป็นคนทีฟ่ งั ครูเยอะทีส่ ดุ แล้วมัง้ หรือพีค่ วายก็ไม่รู้ คือพีเ่ ชือ่ เขา น่ะ ว่าง่ายๆ แล้วพีก่ ม็ าตามเขาน่ะ ...ชอบฟังครูพดู ต้องคิดถึงว่าตอน พี่ทำ� สารคดี พี่ท�ำสลับกับเพื่อนอีกคนนึง แล้วพี่ต้องมานั่งฟังสิ่งที่ ครูเขาพูด เขาสัมภาษณ์ เขาจะคุยในสิง่ ทีเ่ ขาเป็น ในความเป็นเขา เราก็นงั่ ฟัง.. อ๋อๆ แล้วท�ำตาโต คือความคิดเขามันมหัศจรรย์ แล้ว ความศรัทธามันก็เกิดจากตรงนัน้ ฟังแล้วคิดตามว่าโลกอุดมคติของ เขาคืออะไร พอฟังมากๆ เรารูส้ กึ ว่าเราอยากจะไปโลกอุดมคตินนั้ กับเขาด้วย


...เขามีทักษะสูงมากในการท�ำให้ตัวเองไม่มีความทุกข์นะ อันนี้เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าเก่งมาก จริงๆ คือผ่านอะไรมาเยอะนะ แต่เป็นคนที่ delete ความทุกข์ได้เร็วมาก Q : ศรัทธาอะไรในตัวครู A : พีว่ า่ ครูชดั ว่าเป้าหมายคืออะไร ครูมอี ดุ มคติทชี่ ดั มาก ส่วนเรือ่ งอืน่ เป็น เรือ่ งรองหมดเลย รวมทัง้ เรือ่ งผูห้ ญิงด้วย เพราะฉะนัน้ มันไม่ใช่ suffer กับเรือ่ งกาม นะ พีม่ องเขาโดยไม่เกีย่ วว่าเป็นเมียนะ คือเป้าหมายมันใหญ่กว่านัน้ แล้วเป้าหมาย มันมีพลังทีม่ นั เป็นเรือ่ งสูงส่งมาก ทุกเม็ดทีเ่ จอการเปลีย่ นแปลงของคน ของเด็กนีม่ นั ท�ำให้ครูกา้ วข้ามพวกนีไ้ ปได้หมด แล้วทุกวันนี้ ทุกวินาทีนตี่ ลอดเวลาคุยกันแต่เรือ่ งเด็ก วันนีเ้ ด็กคนนีจ้ ะแก้ยงั ไง คือ 24 ชัว่ โมงนีแ่ ทบจะคุยเรือ่ งนีต้ ลอดเวลา เว้นตอนหลับ นะ พีว่ า่ นีค่ อื พลังทีพ่ าครูไป มันคือทัง้ ชีวติ หมายความว่าถ้าไม่มเี ป้าหมายที่ strong มาขนาดนีไ้ ม่ได้หรอก ถ้าไม่มคี วามมุง่ มัน่ ทีจ่ ะไปสูเ่ ป้าหมายสูงสุดนี่ ครูผา่ นเรือ่ งพวก นัน้ มาไม่ได้หรอก Q : ศรัทธาในตัวครูมากขนาดนัน้ A : ก็คงต้องอย่างนัน้ ละมัง้ ไม่งนั้ ถ้าเป็นฉาบฉวยปีสองปีกเ็ อาไม่อยูแ่ ล้ว เงิน ก็ไม่มี รวยก็ไม่รวย หล่อก็ไม่ได้หล่ออะไรเลย.. คือพีก่ บั ครู พีไ่ ม่ได้มองว่าเขาเป็นผัว มัน มาจากเป็นครู ง่ายๆ ก็คอื เป็นฮีโร่ ศรัทธามันน�ำอย่างอืน่ ความรักมาทีหลัง เพราะ ฉะนัน้ เวลามองกันมันจึงไม่ได้มองเป็นแบบคูผ่ วั ตัวเมีย มันมอง beyond นัน้ มากกว่า Q : จริงๆ แล้วครูมเี มียเยอะมัย้ A : โอ้โห เมือ่ ก่อนลูกศิษย์ทนี่ งั่ กันอยูส่ ลอนนีเ่ มียหมด โอ๊ย ไม่อยากจะลง detail ขนาดนัน้ ดิฉนั ผ่านมาแบบว่า..อยูท่ า่ มกลางเมียๆ เขาทัง้ นัน้ แหละ แต่ละช่วง ของเขาจะมีผหู้ ญิงไม่ซำ�้ กันหรอก เช่น เมียกลางวันคนนึง ตอนเย็นคนนึง อะไรแบบ นี้ บางช่วงแค่ 2 นะ ไม่ยงุ่ เท่าไหร่ บางช่วงนี่ 3-4 คนพร้อมกัน แต่เขาไม่จดั การอะไร หรอก ปล่อยให้ผจู้ ริงจัดการกันเอง ผูห้ ญิงนีจ่ ะรูว้ ธิ หี ลบ ชนประคัลภ์ทำ� ให้เรารูซ้ งึ้ ใน ความเป็นผูห้ ญิง ...เขามีทกั ษะสูงมากในการท�ำให้ตวั เองไม่มคี วามทุกข์นะ อันนีเ้ ป็นสิง่ ทีบ่ อกได้วา่ เก่งมาก จริงๆ คือผ่านอะไรมาเยอะนะ แต่เป็นคนที่ delete ความทุกข์ ได้เร็วมาก มันท�ำให้ครูไม่เป็นมะเร็ง เพราะแต่ละเรือ่ งทีเ่ จอถ้าเป็นคนอืน่ นีน่ า่ จะไม่ไหว แล้ว แต่ครูนอ้ ยครัง้ มาก อันนีต้ อ้ งยอมรับเลย เป็นคนทีท่ กุ ข์ยาก แต่ผหู้ ญิงทีอ่ ยูก่ บั ครูกอ็ ยูน่ านนะ ผูห้ ญิงฉาบฉวยน้อย เพราะเขาเอาแต่ลกู ศิษย์ เขาไม่เอาคนอืน่ เลย แต่ละคนก็ไม่ตำ�่ กว่าสิบปี ไม่ใช่เรือ่ งธรรมดา ไม่ใช่ Relationship ฉาบฉวย เอาหลักๆ one night stand ตัดทิง้ ไปนะ ประเภทแบบเป็นจริงเป็นจัง เป็น สิบปี หรือไม่กห็ ย่อนสิบปี 7-8 ปี อย่างพีก่ ็ 23 ปีแล้วมัง้ เรียกว่าท�ำลายทุกสถิตผิ หู้ ญิง ของเขา ..ท�ำไมล่ะ ก�ำลังคิดว่ามันไม่ใช่เรือ่ งธรรมดา เพราะฉะนัน้ มันไม่ใช่เกีย่ วกับเรือ่ ง เซ็กส์ ไม่เกีย่ วกับเรือ่ งเงินทอง ชือ่ เสียง อ�ำนาจ พีม่ องว่ามันคือเป้าหมายทีท่ ำ� ให้คน อยากจะไปกับเขา พีเ่ ชือ่ ว่าอย่างนัน้ นะ

ขอบคุณภาพถ่ายบางส่วน จากคณะละครมรดกใหม่

Q : แล้ววันนีค้ รูเป็นยังไงครับ A : เขาเก่งมากทีเ่ ปลีย่ นตัวเองได้ขนาดนี้ ต้องใช้คำ� นีน้ ะ นีค่ อื เหตุผลทีพ่ ี่ ศรัทธาเขา ถ้าพูดในแง่ความเป็นมนุษย์นะ..ไม่รจู้ ะพูดว่าไง.. คือคนทีต่ อ้ งไม่ทำ� ในสิง่ ที่ ตัวเองชอบท�ำ และเพือ่ เป้าหมายทีม่ นั ยิง่ ใหญ่มากทีจ่ ะท�ำดินแดนในอุดมคตินะ พีว่ า่ อย่างนีห้ าไม่ได้แล้ว

ปล่อย 31


ปล่อยเธอ

เรื่อง : นายท่าน จันทร์เรือง sir_tanachon@hotmail.com

ปล่อยเธอ... เหยื่อรายที่ 1 ปราง

สํา

หรับผูช้ ายแล้ว ผมเชือ่ ว่าคงมีหลายคนทีม่ คี วามฝันว่าสักครัง้ หนึง่ จะมี ร้านเหล้าเป็นของตัวเอง บ่อยครัง้ ทีพ่ ร�ำ่ บ่นเพ้อกับเพือ่ นฝูงว่าอีกไม่นาน กูจะเปิดร้านเหล้า จนเวลาผ่านไปก็ไม่มอี ะไรเกิดขึน้ นอกจากไปนัง่ กินเหล้าร้าน คนรูจ้ กั แล้วพูดประโยคเดิมๆซ�ำ้ อยูอ่ ย่างนัน้ และแน่นอนว่าเมือ่ ใดก็ตามทีเ่ พือ่ น ในกลุม่ เกิดมีรา้ นเหล้าของตัวเองขึน้ มาสักคน ร้านนัน้ จะเป็นร้านรวมเพือ่ นนักฝัน ผูอ้ ยากมีรา้ นเหล้าในทันใด ปราง คือหญิงสาวร่างเล็กคนหนึง่ ทีด่ อู ย่างไรก็ไม่มที า่ ทีวา่ จะเปิดร้าน เหล้าได้ เพราะบุคลิกเธอเหมาะจะเปิดร้านขนมเค้ก ร้านรับตัดขนพูดเดิล้ หรือ ร้านกาแฟกระจุม๋ กระจิม๋ อะไรท�ำนองนีม้ ากกว่า ทว่าเธอกลับท�ำให้กลุม่ เพือ่ นผูช้ าย ประหลาดใจ ร้านเหล้า concept bar สองชัน้ ติดถนนเกษตรนวมินทร์ สไตล์ โมเดิรน์ ผสมอิเล็คทริค มีดนตรีองั กฤษแนว brit rock , brit pop และ indie บรรเลงคลอทุกค�ำ่ คืน และในวันพิเศษจะมีวงดนตรีมชี อื่ ผลัดกันบรรเลงดนตรี สดสร้างความสุนทรียใ์ ห้พน่ี อ้ งนักดืม่ ผูม้ รี สนิยมแลดูหวั สมัยใหม่ ได้เสพ ได้ปล่อย อารมณ์หลังเลิกงานด้วยการผุดขึน้ ของร้านนี.้ . ใช่แล้ว เธอท�ำให้เพือ่ นๆผูช้ ายอิจฉา “ตอนแรกอยากท�ำร้านอาหาร แต่พอดีโซนนัน้ มันเป็นร้านเหล้ากัน ก็ เลยท�ำร้านเหล้า” ปรางอธิบายสัน้ ๆ สามปีมาแล้ว ทีร่ า้ นนีถ้ อื ก�ำเนิดขึน้ ด้วยเหตุทปี่ รางค์เป็นเพือ่ นคนแรก ในรุน่ ทีท่ ำ� ร้านเหล้า ร้านนีจ้ งึ เป็นทีร่ วมเพือ่ นสมัยมัธยมเลยก็วา่ ได้ ในวัยประมาณ เบญจเพศ อาชีพการงานของแต่ละคนยังไม่มนั่ คงนัก รวมถึงมีบางคนยังไม่มงี าน

32 ปล่อย

ท�ำ จึงมีเพือ่ นประเภท ขอลด ขอแถม ติดไว้กอ่ น และ เมาอ้วก มากมาย แต่โดยรวมก็ดดู อี ยู่ เพราะมนุษย์ขี้ เมาในกรุงเทพมหานคร มักจะมาพร้อมท่าทีกระแดะทีด่ ู ดีไว้เสมอเวลาเข้าร้านอะไรแบบนี้ แต่ละคนรักษามาด พอสมควร ผมสอบถามปรางถึงชีวติ ปัจจุบนั ได้ความว่าเธอ ก�ำลังเรียนต่อปริญญาโททีอ่ งั กฤษ เธอเรียน fashion brand management ทีเ่ มือง Preston ปรางเล่าว่าที่ เมืองนีเ้ ป็นเมืองเล็กๆ สงบ สาเหตุทมี่ าเรียนทีน่ ี่ มีสาม เหตุผลคือ หนึง่ ชอบเพลงอังกฤษ สอง อยากท�ำงาน ด้านแฟชัน่ แต่ไม่อยากออกแบบเอง อยากบริหารมากกว่า และ สาม “เบือ่ คน”...... “เมืองนี้ไม่มีอะไรเที่ยว ปราสาทก็ไม่มี มีแต่ ต้นไม้ กับทะเลสาบเล็กๆ” เธอบอกผมหลังจากทีผ่ ม ถามไปว่า ผมไปเทีย่ วเปรสตันดีไหม? เบือ่ คน แต่กลับท�ำร้านเหล้า... เธอเลิกกิจการ มาปีหนึง่ แล้ว เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมไปร่วมเทศกาล ละครทีเ่ มืองแมนเชสเตอร์ ปรางขึน้ รถไฟมาหาผมจาก เปรสตันแต่ไม่ได้ดลู ะคร เธอแค่แวะมาหา แล้วด่า


ร้านเหล้าก็ไม่ต่างจากคาสิโนที่พร้อมจะลวงปุถุชนให้ลืมวันลืม คืน ลืมเส้นแบ่งเวลา ลืมเงื่อนไขของนาฬิกา “ไอ้หา่ มาอังกฤษแทนทีจ่ ะมาหาเพือ่ น กลับให้ เพือ่ นไปหา แล้วก็ไม่มเี วลาให้เพือ่ นอีก” ผมไม่รู้จะตอบยังไงนอกจากยิ้มเจื่อนๆ แล้วถ่ายรูปด้วยกันหนึ่งรูปตามธรรมเนียมคนเจอ กันต้องท�ำอะไรด้วยกันสักอย่าง แล้วปรางก็กลับไป ป ร า ง จ บ ป ริ ญ ญ า ต รี ด ้ า น อ อ ก แ บ บ อุตสาหกรรม ผมไม่คอ่ ยเข้าใจนักว่ามันเรียนอะไรบ้าง เพราะผมเกลียดค�ำว่าอุตสาหกรรมตั้งแต่เริ่มฟังเพลง ของวงดอนผีบนิ ผมถามปรางว่าปัน้ หม้อได้ไหม ปราง ตอบว่าได้ แจกัน ไห ได้หมด เย็บผ้าก็ได้.. อย่างว่า ผมไม่คอ่ ยเข้าใจนัก รูว้ า่ ปรางเป็นนักออกแบบ จับงาน หลายอย่าง ท�ำอาร์ทเวิร์คนิตยสารแฟชั่น ออกแบบ นิทรรศการ และออกแบบอะไรอีกหลายๆอย่าง เพียง แต่วา่ ท�ำแต่ละทีไ่ ม่นานก็เปลีย่ น ส่วนใหญ่เป็นฟรีแลนท์ ร้านเหล้าของเธอชือ่ null เป็นภาษาฝรัง่ เศส แปลว่าอะไรผมไม่รู้ ปรางบอกว่าที่ชื่อนี้เพราะชอบ ลักษณะตัวอักษร ผมดูกี่ทีมันก็เหมือนภาษาไทยค�ำว่า “ทน” ทีม่ เี ครือ่ งหมายตกใจสองตัวตามหลัง แบบนี้ ... “ทน!!” ... มันอาจจะเป็นอุบาย เป็นสัญลักษณ์บางอย่าง ทีแ่ อบซ่อนไว้ให้นกั ตีความวิเคราะห์เผือ่ จะบรรลุธรรมได้ จากการพิจารณาชือ่ ร้านเหล้า “อร่อยโคตรๆ” คือค�ำบรรยายสรรพคุณอาหาร แกล้มเหล้าทีม่ ชี อื่ เสียงของร้านนี้ มันคือ กุง้ แช่นำ้� ปลา ทีอ่ ร่อยจริงๆ เพราะปรางใช้ความเจนจัดในวงการ แม้ เข้าวงการไม่นาน จ้างเจ้าของร้านอาหารอีกร้านหนึง่ มาเป็นพ่อครัวด้วยค่าจ้างวันละไม่กรี่ อ้ ย จากนัน้ ก็จดจ�ำ สูตรมาท�ำเอง กุง้ แช่นำ�้ ปลาจึงเปรียบได้กบั อาหารประจ�ำ ชาติทผี่ มและกลุม่ เพือ่ นขีเ้ มาต้องสัง่ แกล้มเหล้าทุกครัง้ ทีม่ าร้านนี้ “ถ้ากุง้ หมด จะท�ำอะไรให้กนิ ” ผมถาม “หมูมะนาว น�ำ้ ราดแบบเดียวกัน แทนกันได้” ปรางตอบ แต่ผมก็ไม่สงั่ หมูมะนาว ถ้าไม่มกี งุ้ ก็ไม่กนิ ช่าง มัน ว่าแล้วก็นงั่ แช่ให้รากงอก นัง่ ดวลสุรากับเพือ่ นต่อยัน เช้า แต่ถา้ เกินตีหนึง่ ปรางจะปิดประตูดา้ นหน้า กลาย เป็นคลับวีไอพีสำ� หรับพวกพ้อง ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพา กลปรางจะรูล้ ว่ งหน้าราวกับนอสตราดามุส “เฮ้ย ต�ำรวจจะมาแล้ว”

“รูไ้ ด้ไงวะ” แล้วปรางก็ยนื่ โทรศัพท์มอื ถือให้เพือ่ นๆดูขอ้ ความทีค่ ณ ุ ต�ำรวจส่งมา ให้เธอ ความว่า “ก�ำลังจะไปหานะครับ เตรียมเงินใส่ซองให้ดว้ ย ขอบคุณครับ” ช่างเป็นต�ำรวจที่สุภาพจริงๆ น่ารักอะไรเช่นนี้ ระบบอุปถัมภ์เช่น นีแ้ หละทีท่ ำ� ให้สงั คมเราเจริญได้แบบมีอตั ลักษณ์ไม่เหมือนชาติใดในทางช้าง เผือก... และแม้วา่ เพือ่ นสนิทจะนัง่ ต่อได้ แต่กเ็ ป็นอันรูก้ นั ว่าอีกไม่นานงาน เลีย้ งต้องเลิกรา กาลเวลาล้วนเดินไปข้างหน้า กวีชอบแพร่มว่าสายน�ำ้ ไม่มวี นั ไหลย้อน กลับ แต่หว้ งเวลาในวงสังสรรค์ทมี่ สี หายสุรามากมายนัน้ ร้านเหล้าก็ไม่ตา่ ง จากคาสิโนทีพ่ ร้อมจะลวงปุถชุ นให้ลมื วันลืมคืน ลืมเส้นแบ่งเวลา ลืมเงือ่ นไข ของนาฬิกา และหลายรายก็ลมื นาฬิกาข้อมือราคาแพง ลืม..ลืมกติกาจนหมด สิน้ แล้วรวบเอาอดีตปัจจุบนั อนาคต มารวมไว้บนโต๊ะทีม่ ขี เี้ มาเฝ้าดู ราวกับ พระเจ้าทีเ่ ฝ้าดูการเกิดขึน้ ของจักรวาล มวล สสาร คืนหนึง่ พวกเรานัง่ กินกันทีช่ นั้ สองของร้านถึงเช้า เราค่อยๆเห็นการ เปลีย่ นผ่านช่วงสัน้ ๆของวันเวลา ท้องฟ้าทีเ่ ต็มไปด้วยหมูด่ าว เสียงรถยนต์ทวี่ งิ่ ผ่านถนนหน้าร้าน ดนตรีรอ๊ คส�ำเนียงอังกฤษทีเ่ ปิดแผ่วเบามาจากชัน้ หนึง่ ทุก อย่างหายไปหมดเมือ่ แสงแรกของพระอาทิตย์คอ่ ยๆปรากฏกายขึน้ ท้องฟ้าสอง สี มีสที องทีป่ ลายขอบฟ้า ซ้อนกันกับสีดำ� ทีเ่ ป็นความมืดเดิมของคืนก่อน ความ มืดค่อยๆหายไป ช่วงเวลาประมาณสามนาทีเท่านัน้ ทีท่ อ้ งฟ้าทัง้ หมดเป็นสีสม้ อม ชมพูทอ้ งฟ้ายืนยันสัจธรรมของธรรมชาติ ถนน สีแ่ ยก ตึกรา และร้านเหล้า ยืนยันวิถใี หม่ของมนุษย์ทยี่ งั ไม่ยตุ ิ แต่ภาพนีเ้ วลานี้ สวยดี สวยจนเพือ่ นคนหนึง่ ปล่อยให้บหุ รีม่ อดไหม้จนหมดมวนโดยไม่ได้สบู มันแม้แต่นอ้ ย... ได้เวลากลับบ้าน “ท�ำไมมึงเลิกท�ำร้านเหล้าวะ เจ๊งหรอ” “ไม่เจ๊ง ก�ำไร มีเงินเก็บมาเรียนต่อทีอ่ งั กฤษ” “อืม..แล้ว..” “แค่รสู้ กึ ว่าเรียนรูค้ รบหมดแล้วกับสิง่ นี”้

ปล่อย 33


ปล่อยให้นงั่ คุยกับหนังสือ

เรื่อง : เภตรา ละคร

หนังสือมุมหนัง :

แดดเช้าร้อนเกินกว่า (เอเลีย่ น) จะนัง่ จิบกาแฟ (#1)

สวัสดีครับคุณผูอ้ า่ น ... ก่อนการประกาศชือ่ หนังสือทีไ่ ด้รบั รางวัลซีไรต์ปนี ้ี ผมขอหยิบ “แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนัง่ จิบกาแฟ” ของ จเด็จ ก�ำจรเดช หนังสือรางวัลนีข้ องปีกอ่ นมา “เล่า” และจินตนาการดูเล่นๆ ว่าหากหนังสือเล่มนีก้ ลายเป็นหนังจะเป็นอย่างไร ส�ำหรับหนังสือ, ก่อนอ่าน ผมได้ยนิ สรรพคุณทีน่ า่ หวัน่ ใจค่อนข้างมาก ทัง้ จากโลกจริงและโลกเสมือน เช่น อ่านยาก เข้าใจ ยาก และเป็นหนังสือแบบ-โพ้ดๆ แม้วา่ วรรณกรรมไทยทีไ่ ม่ใช่แนวสมจริง (สัจนิยม) จะมีมานานแล้ว ตัง้ แต่วรรณคดีโบราณจนมาถึงงานที่ โดดเด่น ในยุคก่อน 14 ตุลา 16 (เช่น งานเขียนของสุชาติ สวัสดิศ์ รี ทรนง ศรีเชือ้ วิทยากร เชียงกูล วีรประวัติ วงศ์พวั พันธ์) แต่หลังการปรากฏตัวในวงวรรณกรรมและหลังการได้รบั รางวัลซีไรต์ของ วินทร์ เลียววาริณ เป็นต้นมา รางวัลนีก้ ด็ เู หมือน จะถูกมอบให้งานร้อยแก้วทีม่ แี นวการเขียนนอกไปจากแนวสมจริงมากขึน้ การปรากฏตัวของหนังสือวรรณกรรมแนวต่างๆ ก็ มีมากขึน้ ไปด้วย อาทิ แนวทดลอง กระแสส�ำนึก สัจนิยมมายา และ หลังสมัยใหม่ (postmodern) แม้ แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนัง่ จิบกาแฟ จะไม่ใช่งานเขียนแบบหลังสมัยใหม่เต็มตัว แต่กม็ กี ลิน่ อายท่าทีและมีแนวคิด เช่นนัน้ สอดแทรกอยูอ่ ย่างน่าสนใจ “หลังสมัยใหม่” (postmodern) เป็นชือ่ ทีใ่ ช้เรียกตรรกะ มโนทัศน์ทางสังคม วัฒนธรรมรวมไปถึงสกุล (genre) ทางศิลปะและวรรณกรรม และยังขยายพรมแดนเชือ่ มต่อออกไปอีกมากมาย postmodern จึงเป็นเสมือนกล่องเครือ่ งมือที่ ใช้เพือ่ อธิบายสังคมร่วมสมัยทีม่ ลี กั ษณะส�ำคัญอยูท่ กี่ ารแปรปรวนของระบบคุณค่าแบบ “สมัยใหม่” อันน�ำมาซึง่ การพร่ามัว ของสรรพสิง่ ลีโยตาร์ด (Jean-Francois Lyotard) นักคิดหลังสมัยใหม่ กล่าวว่า postmodern เป็นการสูญสิน้ ศรัทธาในเรือ่ ง เล่าขนาดใหญ่ (meta-narrative) เช่น ความดี ความจริง ความเป็นวิทยาศาสตร์ ความมีเหตุผล ซึง่ เป็นเรือ่ งเล่าทีม่ โี ลกทัศน์ ครอบจักรวาล และลดทอนทุกอย่างลงเป็นเรือ่ งเหตุผล จนไม่มที วี่ า่ งให้กบั ความไร้เหตุผล ความเหลวไหล ความบ้าหรือจิต เภท และความเป็นอืน่ (the other) ในแบบต่างๆ – ในทรรศนะหลังสมัยใหม่ มนุษย์ไม่ใช่พลังแห่งเจตจ�ำนงเสรี ดังเช่นที่ ฟูโกต์ (Michel Foucault) กล่าวว่า มนุษย์เป็นเพียงผลผลิตและผลพลอยได้แห่งยุคสมัยทีต่ อ้ งเปลีย่ นแปลง และฐานะของ มนุษย์คล้ายกับการเขียนหนังสือบนผืนทราย ซึง่ วันหนึง่ ก็จะถูกลบเลือนไปเมือ่ น�ำ้ ทะเลมาถึง ...

34 ปล่อย


แม้ แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ จะไม่ใช่งานเขียนแบบหลังสมัยใหม่เต็มตัว แต่ก็มีกลิ่นอายท่าทีและมีแนวคิดเช่นนั้นสอดแทรกอยู่อย่างน่าสนใจ

ปล่อย 35


ปล่อยให้นงั่ คุยกับหนังสือ

“แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนัง่ จิบกาแฟ” เป็นวรรณกรรมที่ เป็นผลผลิตของยุค postmodern และมีแนวความคิดทีส่ มั พันธ์กนั หลายด้าน ดังความเห็นของกรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์หลาย ๆ ท่าน อาทิ “... นักเขียนสมัยปัจจุบนั ไม่แตะอะไรทีช่ ดั เจน ตรงไปตรง มาเหมือนสมัยผม อาจเพราะสังคมตอนนี้เป็นสังคมแห่งการกระ จัดกระจาย เห็นอะไรไม่ชดั เจน นักเขียนก็ไม่ได้ให้คำ� ตอบส�ำเร็จรูป ... โลกทุกวันนี้ความหมายมันเลื่อนไหล ไม่มีค�ำตอบตายตัว ...” (รศ.ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์) “... เป็นความจงใจทีต่ วั งานไม่ได้มงุ่ ไปสูก่ ารน�ำเสนอปัญหา แต่มองไปทีต่ วั ปัญหาว่ากระทบต่อปัจเจกอย่างไร นักเขียนไม่ได้เล่น กับความจริง แต่ตงั้ ใจจะเล่นแง่มมุ ทีว่ า่ ด้วยความจริง เป็นความจริง ของปัจเจกทีไ่ ปสัมผัสในแต่ละประเด็นมากกว่า ฉะนัน้ เลยเกิดความ พร่ามัวของปมต่างๆ ซึง่ ไม่สามารถจะจับหรือชีช้ ดั ... (รศ.ดร.สรณัฐ ไตลังคะ) เป็นต้น (ข่าวจากมติชน) – นัน่ อาจเป็นการอธิบายต่อ ค�ำวิจารณ์แง่ลบ (บางแง่) ทีเ่ คยมีผวู้ จิ ารณ์วา่ หนังสือเล่มนีข้ าด แง่ ลึกและความแหลมคมของเนือ้ หา ประเด็นต่างๆ ทีห่ ยิบมาเล่นอย่าง ฉาบฉวยและลอยตัวผ่านกลวิธที ยี่ อกย้อน เข้าใจยาก ขาดสิง่ ทีเ่ รียก ว่าพลังแห่งการเล่าเรือ่ ง ฯลฯ แม้วา่ งานทีข่ าดความลึกหรือดูเหมือนว่าขาดความลึก จะ สามารถอธิบายได้ดว้ ยมโนทัศน์หลังสมัยใหม่ เช่นที่ เจมสัน (Fredric Jameson) ผูร้ ว่ มเปิดตัวสกุลความคิดหลังสมัยใหม่อย่างเป็นทางการ ในวงวิชาการ กล่าวว่า คุณสมบัตแิ บบหลังสมัยใหม่คอื ไม่เน้นหรือไม่มี ความลึก (a new depthlessness) มีแต่ความเรียบและผิวหน้าที่

36 ปล่อย

หลากหลาย-แต่นนั่ ย่อมไม่ได้เป็นตัวชีว้ า่ งานชิน้ นัน้ “ดี” สร้างผลกระ ทบเชิงตัวบทต่อผูอ้ า่ น หรือถึงกับน�ำพาผูอ้ า่ นไปสูก่ ารเปลีย่ นแปลง ได้แต่อย่างใด ส�ำหรับ จเด็จ ก�ำจรเดช เองไม่ได้บอกว่างานของเขาเป็น postmodern หรือใช้หลักคิดใดมาสร้างงาน นอกจากบอกว่างาน ของตนเป็น “เพือ่ ชีวติ ทีส่ วมเสือ้ ใหม่” แม้วา่ ความจริงงานของเขาจะ ห่างไปจาก “เรือ่ งเล่าขนาดใหญ่” แบบมาร์กซิสต์ทเี่ น้นเสนอปัญหา การต่อสูท้ างชนชัน้ ไปพอสมควรแล้ว เนือ้ หาหลักของหนังสือตามค�ำประกาศรางวัลซีไรต์ กล่าว ว่า ... น�ำเสนอประเด็นอันหลากหลายของมนุษย์ในสังคมไทยร่วม สมัยทีม่ คี วามซับซ้อน ความยอกย้อนและความไร้สาระ ผูเ้ ขียนได้ เสนอการปะทะกันระหว่างความจริง กับความจริงเสมือน ความรู้ กับความเชือ่ ตลอดจนความเป็นเรากับความเป็นเขา นักคิดอย่าง ลีโยตาร์ด เคยกล่าวว่ายุคนีโ้ ลกจะไม่มงี าน บุกเบิก ก้าวหน้า (the avant-garde) อีกต่อไป มีแต่การลอกเลียน เลียนแบบ จับแพะชนแกะ และหยิบยืมอย่างไม่รจู้ บ (eclecticism) น�ำไปสูว่ ฒ ั นธรรมแบบหลังสมัยใหม่ทพี่ ยายามกลับไปตัง้ ค�ำถามกับ “ความจริง” อีกครัง้ มากกว่าสัจนิยมแบบเดิมทีน่ ยิ มความจริงแต่ หลีกเลีย่ งทีจ่ ะถามว่าอะไรคือความจริง เพราะยอมรับว่ามีความจริง ด�ำรงอยูก่ อ่ นแล้ว งานเขียนเล่มนีใ้ ช้การผสมผสานแนวเรือ่ งหลายแนวและใช้ วิธกี ารเขียนหลายแบบ ทีโ่ ดดเด่นคือการซ�ำ้ แบบบทกวีและเพลง และ การยืมวิธกี ารเขียนและการเล่าเรือ่ งแบบ หนัง มาใช้ โดยใช้การตัด ต่อ และใช้มมุ มองหลายแบบ จึงท�ำให้แนวเรือ่ งทัง้ เพือ่ ชีวติ สมจริง เหนือจริง สัญลักษณ์และหลังสมัยใหม่ ถูกเสนอออกมาค่อนข้าง แปลกใหม่และหวือหวาโดยเฉพาะส�ำหรับวรรณกรรมไทย อย่างไร ก็ตาม หลังจากอ่านหนังสือเล่มนีแ้ ล้ว พบว่าออกจะ “เข้าใจ” ยาก จริงๆ ต้องใช้สมาธิในการอ่านสูง ต้องอ่านซ�ำ้ กลับไปกลับมา แม้จะมี ความสนุกและความน่าสนใจจากแนวเรือ่ งทีห่ ลากหลายและสามารถ เข้าใจ “เนือ้ เรือ่ ง” ได้ไม่ยากก็ตาม ถ้าเช่นนัน้ ท�ำไมจึง อ่านยาก - เหตุสำ� คัญมาจากวิธกี ารเล่า เรือ่ งซึง่ ผูเ้ ขียนบอกว่าเป็นการเล่าเรือ่ งแบบหนัง เขียนแบบบทหนัง


จเด็จ ก�ำจรเดช นัน่ คือ มีการใช้ภาษาบรรยายฉากทีเ่ รียบง่าย กระชับ แต่ให้ความ รูส้ กึ ขับเน้นภาพเล่าเรือ่ ง เน้นความขัดแย้ง มีจดุ วิกฤติ (crisis) ที่ เข้มข้นหลายครัง้ ในหนึง่ เรือ่ ง ใช้เทคนิคการตัดต่อ (montage) ให้ ความส�ำคัญกับ โทน จังหวะ การแสดงออกเชิงพืน้ ที่ ทีว่ า่ ง (space) การดันอารมณ์ของเรือ่ ง, ทว่า ตัวการส�ำคัญทีท่ ำ� ให้งงก็อยูท่ ี่ วิธกี าร เล่าเรือ่ ง การตัดต่อ และมุมมองผูเ้ ล่านีเ่ อง , เพราะหนังนัน้ จะเล่าตี ลังกากลับหัวอย่างไรก็ได้ แต่วรรณกรรมอาจต่างออกไป โดยเฉพาะ อย่างยิง่ – ต่อความคุน้ ชิน หาก แดดเช้าฯ กลายเป็นหนังนัน้ จะออกมาแบบไหน ผม คิดว่าจะเป็น หนังทีด่ แี ละดูสนุก เนือ้ เรือ่ งหลากหลาย ครบรส เต็ม อิม่ และชวนติดตามด้วยความแปลกของเนือ้ หาและแนวเรือ่ ง ตัง้ แต่ หนังสงครามถึงรักต้องห้าม หนังการเมืองถึงโพสต์ไซไฟ เพือ่ ชีวติ ไป จนถึงแมจิคอลเรียลลิสต์ บวกด้วยความน่าสนใจจากตัวละครทีแ่ ปลก พิลกึ พิลนั่ จนถึงบิดเบีย้ ว ประหลาด วิปริต (grotesgue) จากทัง้ ความไม่สมประกอบของพวกเขาและจากโลกทีพ่ วกเขาอยู่ ตัวละครเหล่านี้ ได้แก่ พ่อค้าขายนาฬิกาละเมิดลิขสิทธิผ์ ถู้ กู ซือ้ นาฬิกาไปท�ำระเบิด กระเทยทีก่ ำ� ลังผ่าตัดแปลงเพศ มนุษย์ตา่ งดาว (เช้าวันนีม้ แี ดด) ชายทีฆ่ าตกรรมลูกชายและภรรยาตัวเอง แล้วกลายมาเป็น นักฆ่า กับ อดีตศัลยแพทย์ทกี่ ำ� ลังจ้างมือปืนให้มาฆ่าพีช่ ายแฝดของ ตัวเอง (สิง่ ช�ำรุดของพระเจ้า) เด็กชายชาวมอญขาพิการ ซึง่ เคยเป็นทหารกูช้ าติรนุ่ เล็ก กับเหล่าทหารมอญผูบ้ า้ คลัง่ (คล้ายว่าเริม่ มาจากฝน) คนตาบอด (ด้วยดวงตามืดบอดนัน้ , ฉันเห็น) เหล่านักรบในเกมออนไลน์ ซึง่ มีชวี ติ จริงอยูใ่ นท่อน�ำ้ โสโครก ใต้ดนิ อดอยากแต่อว้ น และสามารถกินเนือ้ หนังมนุษย์ดว้ ยกันได้ อย่างหน้าตาเฉย (แม่ทพั ตายแล้ว) คูผ่ วั เมียวิกลจริต ทีฝ่ า่ ยหนึง่ เชือ่ ในเหตุของความบ้าแบบ วิทยาศาสตร์ ส่วนอีกฝ่ายเชือ่ เรือ่ งไสยศาสตร์ (หนุมานเหยียบเมือง) ชาวมอร์แกน (ชาวเลเผ่าหนึง่ ) (หวังว่ากิมาซ์จะไม่พลาดอีก) นักผจญ เพลิงพิการ และคนป่วยทางจิตนานา (นาฏกรรมแห่งไฟ) นักสืบ มือปืน โสเภณี เมียน้อย ชายชู้ คนทรง มิจฉาชีพ เจ้าพ่อ และ

ยอดมนุษย์ (มิตทิ บั ซ้อนในโลกซ่อนเร้น) คนนอกศาสนา ผูก้ อ่ การ ร้าย ทหารผูม้ อี าการจิตหลอน (แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนัง่ จิบกาแฟ) คนต่างด้าว มือปืน อดีตนายกทีก่ ลายเป็นผูร้ า้ ยข้ามแดน ฮิปปี้ และ มนุษย์ตา่ งดาว! (ไปกินมือ้ เช้าทีด่ าวพลูโต) ตัวละครทัง้ หมดนีต้ า่ งเป็น “ตัวเอก” ในเรือ่ งของพวกเขา มองผิวเผินคล้ายจะเป็นยอดมนุษย์มาปราบเหล่าร้าย เหมือนกับยอด มนุษย์มากมายในหนังยุคปัจจุบนั ซึง่ ได้รบั ความนิยมแพร่หลายอย่างไม่ เคยเป็นมาก่อน จนแทบกล่าวได้วา่ ยุคนีค้ อื ยุคแห่งยอดมนุษย์ ... ทว่า มันไม่เป็นเช่นนัน้ เมือ่ งานเขียนแบบ anti-hero ท�ำให้พวกเขากลับ กลายเป็น เอเลีย่ น ของริตลีย่ ์ สก็อต! และเป็นเอเลีย่ น (ALIEN) ตัวจริงในโลกมนุษย์ - เป็นคนนอก เป็นคนแปลกแยก เป็นคนผิด ปรกติ เช่น คนอ้วน คนพิการ เป็นคนบ้า เป็นชนกลุม่ น้อย เป็นคน ไร้รฐั (stateless people) เป็นคนชายขอบ (marginalization) ที่ ถูกกด-เหยียบ-ปิดกัน้ ไว้ และต่างมี ความฝันห่างไกลทีเ่ กินไปถึง ... “คิดดูวา่ อะไรดึงเรามาพบกัน ท�ำไมเราแปลกแยกจากคน อืน่ เราได้อะไรจากสังคมนีบ้ า้ ง ทุกวัน คนก็มองว่าเราบ้าอยูแ่ ล้ว เรา เป็นมนุษย์ตา่ งดาวในสายตาพวกเขา ดังนัน้ พรุง่ นี้ เราจะไปกินข้าว เช้าทีด่ าวพลูโตกัน” (ไปกินมือ้ เช้าทีด่ าวพลูโต) ตัวละครมากมายเหล่านีเ้ อง เป็นตัวแทนคนหลายๆ กลุม่ ที่ postmodern พยายามจะให้พนื้ ที่ (เพราะไม่เชือ่ ในป้ายต่างๆ ทีผ่ ลิต สร้างบนฐานวิธคี ดิ แบบ รัฐ-ชาติ) เมือ่ ผนวกกับวิธกี ารเขียน การเล่า เรือ่ งที่ “เอือ้ ” ส�ำหรับหนังอยูแ่ ล้ว ผมจึงเชือ่ ว่า แดดเช้าฯ เป็นได้ ถึงระดับหนังไทยยอดเยีย่ มเรือ่ งหนึง่ เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม มันย่อมไม่ใช่หนังที่ดูง่ายนัก (เพราะการ เล่าเรือ่ งและการตัดต่ออีกนีแ่ หละ) ท�ำให้ตอ้ งใช้สมาธิคอ่ นข้างมาก เช่นเดิม เพราะไม่ได้มพี ล็อตเดียว ผูเ้ ล่าไม่ได้มคี นเดียว และไม่ได้มี action line (เส้นเรือ่ ง-หมายถึงเหตุการณ์ตา่ งๆ ทีต่ วั ละครประสบ) เพียงเส้นเดียว เหตุของความ “ไม่งา่ ย” เหตุผลหลักนัน้ อยูท่ ี่ เรือ่ งราวเหล่านีไ้ ม่ได้ยดึ “สูตรสาม องก์” (Three Acts) อย่างเคร่งครัด สูตรสามองก์นคี้ อื อะไร กล่าว ย่อๆ คือสูตรการเล่าเรือ่ งทีม่ มี าตัง้ แต่สมัยอริสโตเติล ผูก้ ล่าวว่า เรือ่ ง

ปล่อย 37


ปล่อยให้นงั่ คุยกับหนังสือ เล่าทุกประเภทต้องมี ต้น-กลาง-จบ และจากการพัฒนาอย่างโดด เด่นของบิดาแห่งสามองก์คอื เออช็อง สกรีบ นักเขียนบทละครชาว ฝรัง่ เศส ทีพ่ ฒ ั นาขึน้ ใช้ในยุค 1820 ขยายความง่ายๆ ว่า องก์หนึง่ ปูเรือ่ ง องก์สอง เผชิญหน้า และองก์สาม คลีค่ ลาย ความจริงแล้วหนังทีไ่ ม่ได้ยดึ สูตรสามองก์มอี ยูม่ ากมาย ทัง้ ทีม่ สี ององก์ หรือสีอ่ งก์ แต่คงน้อยมากทีม่ อี งก์เดียว เช่น ปูเรือ่ งแล้ว ไม่ไปไหน หรือเผชิญปัญหาแล้วจบ ตัวอย่างหนังคลาสสิก ได้แก่ หนัง ของ สแตนลีย่ ์ คูบริค (Full Metal Jacket ปี 1987) ทีพ่ ดู ถึง การฝึกทหารใหม่สดุ โหดในองก์แรก องก์สองพูดถึงสภาพความจริงที่ พวกเขาได้เจอ – แล้วจบ หรือ สไปค์ ลี (Mo’ Better Blues ปี 1990) หลังจากจบองก์สามแล้ว มีองก์สเี่ พิม่ เข้ามาว่า ถ้าตัวละคร เลือกทางออกทีต่ า่ งไปจากเดิมจะเป็นเช่นไร หรือล่าสุด หนังไทย เรือ่ ง “รักฉันอย่าคิดถึงฉัน” ก็มเี กินสามองก์ จากตอนจบสามแบบ หรือหนังแนวคลุมเครือทีม่ อี ยูม่ ากมาย โดยเฉพาะจากกลุม่ ผูส้ ร้างที่ เห็นว่าความคลุมเครือคือความสมจริง เจ้าพ่อแหกกฎการเขียนบทคนหนึง่ ของโลก วูด้ ดี้ อัลเลน นัน้ เคยพลิกสูตรสามองก์ไปมากมาย (หนังเรือ่ ง Crimes and Misdemeanors ปี 1989 เขาเขียนสองพล็อตไว้ในเรือ่ งเดียว แต่ ละพล็อตก็มสี ามองก์ของตัวเอง) ในโลกของหนัง มีหนังทีม่ โี ครง สร้างแปลกๆ เต็มไปหมด (เช่น หนังของ อะตอม อีโกยาน, วูด้ ดี้ อัลเลน, เควนติน ทาแรนติโน่, อาเลคันโดร กอนซาเลซ อินาริต,ู

38 ปล่อย

หลุยส์ บุนเยล, ฌอง – ลุค โกดาร์, ดัก๊ ลีแมน, ปีเตอร์ โฮวิตต์, แวร์เนอร์ แฮร์โซก, พอล โธมัส แอนเดอร์สนั , คริสโตเฟอร์ โน แลน (momento) ,อภิชาตพงศ์ วีรเศรษกุล ฯลฯ) ในโลกของวรรณกรรมเองก็มแี ละมีความโดดเด่นเช่นกัน อาทิ วรรณกรรมหลายเล่มของ วิลเลียม ฟอล์กเนอร์ (เช่น The Sound and the Fury ทีเ่ ปลีย่ นมุมมองผูเ้ ล่าไปตามตัวละคร โดย ผูเ้ ล่าทุกคนต่างใช้สรรพนาม ‘ฉัน’ ทัง้ สิน้ ) หรือวรรณกรรมหลายๆ เล่มของนักเขียนสาย high modernism ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เช่น เจมส์ จอยซ์ (เปลีย่ นมุมมองผูเ้ ล่าใน A Portrait of the Artist as a Young Man สลับด้วยการใช้ ‘เสียงเล่า’ รวมถึงใน งานเล่มหลังๆ ของเขา) หรือจากวรรณกรรมของ มาแชล พรุสต์ ผูไ้ ด้ชอ่ื ว่าเป็นผูร้ เิ ริม่ เทคนิคการประพันธ์ซงึ่ คล้ายสิง่ ทีภ่ าษาหนังใน ปัจจุบนั เรียกว่าการตัดต่อ (montage) ฟุตเตจ โดยเขามักเขียนฉาก (scene) หรือ ช่วง (sequence) ต่างๆ แยกกันไว้กอ่ นอย่างเป็น อิสระ แล้วจึงน�ำมาร้อยเรียง เชือ่ มโยง ให้เกิดความต่อ เนือ่ งภายหลัง (เช่น นวนิยายเรือ่ ง A la Recherche du Temps Perdu ทีผ่ อู้ า่ นจะได้รบั รูเ้ รือ่ งราวทีไ่ ม่ ต่อเนือ่ ง แต่ตดั สลับไปมาอย่างอิสระราวกับหนัง), หรือ นวนิยายเรือ่ ง มาดามโบวารี ของ กุสตาฟ โฟลแบรต์ ทีเ่ ล่าโดยสลับมุมมองทีห่ นึง่ และสาม และเรือ่ ง Mrs. Dalloway ของเวอร์จเิ นีย วูลฟ์ ทีเ่ ปลีย่ นมุมมองไปตามตัวละครอย่างแนบเนียน หรือเรือ่ งสัน้ บางเรือ่ งของปราบดา หยุน่ หรือ วิ นทร์ เลียววาริณ เช่น เรือ่ งสัน้ “เกม” (สมุดปกด�ำกับ


“แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ” เล่าเรื่องราวความรุนแรงของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัดสลับ ระหว่างความฝันกับความจริง จนกระทั่งเส้นแบ่งความฝันและความจริงเริ่มพร่าเลือนขึ้นเรื่อยๆ

ใบไม้สแี ดง) ทีเ่ ปลีย่ นมุมมองไปตามตัวละครเช่นกัน รวมทัง้ หลายเรือ่ ง สัน้ ใน แดดเช้าฯ นีด้ ว้ ย ทว่า เปรียบเทียบหนังกับวรรณกรรมนัน้ หนังน่าจะเข้าใจได้ ง่ายกว่า ไม่วา่ จะเล่าหรือตัดต่อแบบไหน เพราะคนดูจะตามตัวละครได้ ง่ายกว่า ในขณะทีว่ รรณกรรมมีหลายอย่างต่างไป เช่น ต้องใช้ความคิด และจินตนาการมากกว่า วรรณกรรมจึงต้องการความชัดเจนมากกว่าหนัง วิธกี าร “แฟลชแบ็ค” (Flashbac Narrative) ของหนัง คือ การเล่าตัดสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบนั โดยอาจน�ำเหตุการณ์ชว่ งหลัง มาเล่าก่อนแล้วตัดย้อนกลับไป หรือตัดสลับโดยไม่เรียงตามเวลาของ เหตุการณ์ หรือเล่าเรือ่ งจากหลัง มาหน้าก็ได้, อีกวิธคี อื Sequential Narrative คือ การเล่าแต่ละเรือ่ งราวแยกจากกัน แต่ขมวดเข้าหากัน ในไคลแมกซ์สดุ ท้าย (เช่น หนังเรือ่ ง Pulp Fiction หรือ Go) ส่วนวิธี การ Antagonist Narrative คือการเล่าเรือ่ งราวของตัวละครกลุม่ ที่ ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์เดียวกัน เป็นวิธกี ารทีพ่ บบ่อยในหนัง soft concept หรือ low concept (หมายถึงหนังทีเ่ น้นตัวละครในฐานะ มนุษย์เป็นหลัก) ทัง้ หมดนีเ้ ป็นวิธกี ารทีไ่ ม่พบบ่อยในวงวรรณกรรม และ เป็นวิธที ี่ จเด็จ ใช้ในเรือ่ งสัน้ หลายเรือ่ งของเขา เรือ่ งสัน้ “สิง่ ช�ำรุดของพระเจ้า” เปิดฉากด้วย “ภาพหลอน” (visual hallucination) ของตัวละคร “ผม” (ทางการแพทย์เรียก อาการนีโ้ ดยย่อว่า PTSD ซึง่ เป็นอาการประสาทหลอน (hallucination) ประเภทหนึง่ เช่น เห็นภาพหลอน หูแว่ว หลังจากผ่านเหตุการณ์ทรี่ นุ แรง มาก) ซึง่ เกิดหลังจากทีต่ วั เขาฆาตกรรมลูกชายตัวน้อยและภรรยาทีป่ ว่ ย หนัก แล้วไม่ฆา่ ตัวตายตามไปตามสัญญาทีใ่ ห้ไว้ จากนัน้ “ผม” ซึง่ มี อาการประสาทหลอนบ่อยๆ ก็กลับกลายมาเป็นนักฆ่า และถูกติดต่อ จ้างจากอดีตศัลยแพทย์คนหนึง่ ให้ไปฆ่าพีช่ ายฝาแฝดของเขา – ผูเ้ ขียน เล่าสลับไปมาจนกลับไปทีฉ่ ากแรกอีกครัง้ ก่อนจะกลับมาทีเ่ หตุการณ์ ปัจจุบนั และจบอย่างหักมุม เนือ่ งจากเรือ่ งสัน้ เรือ่ งนี้ มีตวั ละครเอกเป็นคนทีม่ อี าการเห็น ภาพหลอนควบคูไ่ ปกับอาการเดจาวู (เห็นภาพหรือเหตุการณ์ทเี่ หมือน เคยเห็นเคยพบมาแล้ว) คล้ายคลึงกับทีต่ วั ละคร “จอห์น แนช” นัก คณิตศาสตร์อจั ฉริยะในภาพยนตร์เรือ่ ง A Beautiful Mind ทีเ่ ห็น ภาพหลอนตลอดเรือ่ ง กระทัง่ ตอนจบหนังจึงเผยว่า ตัวละครใดบ้างที่ มีจริงและไม่มีจริง เราจึงไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องสั้นนี้มี เหตุการณ์ใดเป็นจริงบ้าง (นอกจากการฆ่าภรรยาและลูก ซึง่ น่าจะเป็น สาเหตุของอาการประสาทหลอนนี้) แม้แต่ตัวละครอดีตศัลยแพทย์ที่ “ผม” นัง่ สนทนาด้วยก็ไม่แน่วา่ อาจเป็นเพียงภาพหลอนเหมือนกัน เห็น ได้จากทีท่ งั้ คูต่ า่ งมี “พีช่ ายแฝดสยาม” ทีเ่ คยถูกหมอท�ำลายเสียชีวติ ไป นานแล้ว เพือ่ รักษาอีกชีวติ ทีแ่ ข็งแรงกว่าไว้เหมือนๆ กัน

“สิ่งช�ำรุดของพระเจ้า” จึงเป็นเรื่องราวเบลอๆ ของสอง ตัวละครหลักที่สับสนและสิ้นหวังต่อคุณค่าของชีวิต ถึงกับสงสัย ว่า “มนุษย์” อาจเป็นเพียงผลผลิตของโรงงานผลิตมนุษย์ในนาม “พระเจ้า” ผู้ซึ่งทั้งขี้เล่น ไร้มาตรฐาน ไร้อ�ำนาจจัดการ ทั้งยังผิด พลาดเป็นประจ�ำ นอกจากนี้เรื่องสั้นเรื่องนี้ยังได้ใช้สัญลักษณ์ (นก และปลาที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้, ช่างปั้น หรือพระเจ้า, ดักแด้และ ผี เ สื้ อ ) เพื่ อ สื่ อ ถึ ง ความอั ป ลั ก ษณ์ แ ละงดงาม รวมทั้ ง สื่ อ ถึ ง การ เปลี่ยนผ่านและการเป็นอื่น (becoming-other) ทั้งยังมีการใช้ อุปลักษณ์ (metaphor) และ อธินามนัย (Metonymy) ทีน่ า่ สนใจ เรือ่ ง “คล้ายว่าเริม่ มาจากฝน” เริม่ ต้นทีค่ วามตายของตัวละคร หลัก แล้วแฟล็ชแบ็คกลับไปหาสาเหตุของโศกนาฏกรรม และกลับมา จบทีจ่ ดุ เริม่ อีกครัง้ มีการใช้สญ ั ลักษณ์และอุปลักษณ์ (metaphor) ทีน่ า่ สนใจมากมาย เช่น ฤดูกาล ชือ่ ของตัวละคร กีฬาและสงคราม ความ เป็นเรา ความเป็นเขา เป็นต้น เรือ่ ง “อยากได้สกั บทเรียนไหม” เริม่ ทีเ่ หตุการณ์ปจั จุบนั แล้ว เล่าย้อนกลับไปในอดีต ตัดย้อนไปเหตุการณ์กอ่ นหน้านัน้ เล็กน้อย ย้อน ไปสูอ่ ดีตทีน่ านกว่า ย้อนกลับมาสูอ่ ดีตอันใกล้ แล้วตัดไปอดีตไกลทีส่ ดุ ก่อนกลับมาทีป่ จั จุบนั อีกครัง้ แล้วจบแบบหักมุมสะเทือนใจก่อนคลีค่ ลาย หากจัดเรียงการสลับฉากในเรือ่ งเป็นตัวเลขตามเวลาก่อนหลังทีเ่ กิดขึน้ จริง จะได้ตวั เลขงงๆ เช่นนี้ ฉาก 6-4-3-2-4-1-5-6 เรือ่ ง “แม่ทพั ตายแล้ว” เล่าเรือ่ งของโลกความจริง คูไ่ ปกับโลก เสมือน (เกมออนไลน์) โดยมีเนือ้ หาเป็นอุดมการณ์การเมือง! เรือ่ ง “นาฏกรรมแห่งไฟ” และ “เช้าวันนีม้ แี ดด” (บันทึกนัก เขียน) เล่าเรือ่ งราวหลายๆ เรือ่ ง ด้วยวิธกี าร Antagonist Narrative คือการเล่าเรือ่ งราวของตัวละครกลุม่ ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ เดียวกัน (การวางระเบิดก่อวินาศกรรมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดน ภาคใต้) เรือ่ ง “แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนัง่ จิบกาแฟ” เล่าเรือ่ งราวความ รุนแรงของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัดสลับระหว่างความฝันกับความ จริง จนกระทัง่ เส้นแบ่งความฝันและความจริงเริม่ พร่าเลือนขึน้ เรือ่ ย ๆ เรือ่ ง “ไปกินมือ้ เช้าทีด่ าวพลูโต” เล่าเรือ่ ง 3 เรือ่ งต่อเนือ่ ง กัน แต่ละเรือ่ งก็มสี ามองก์ของตัวเอง และมาขมวดเข้าหากันในตอนจบ (วิธกี าร Sequential Narrative) ผูเ้ ขียนเล่าเรือ่ งราวแปลกประหลาด ควบคูไ่ ปกับสร้างตัวละครทีใ่ ห้ภาพลักษณ์ทางความคิด (the image of thought) อันน่าสนใจ เช่น เหล่าคนนอกผูพ้ ยายามเดินทางไปกินมือ้ เช้าทีด่ าวพลูโต, นักปีนเขาผูเ้ คยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และปัจจุบนั กลายเป็นคนไร้รฐั ! (อ่านต่อฉบับหน้า)]

ปล่อย 39


ปล่อยใจไปดูหนัง

เรื่อง : Joe-June

A Simple Life

“ท้า

ยที่สุดแล้ว เราต่างก็ต้องอยู่เพียง ล�ำพัง” “แอนน์ ฮุย” ผู้ก�ำกับหญิง เคย ลัน่ วาจานีไ้ ว้ ก่อนหน้าทีเ่ ธอจะมาท�ำหนัง A Simple Life เธอค้นพบสัจจะแห่งชีวติ แล้วอย่างนัน้ หรือ ถ้ามองตามจริง อาจจะใช่ เพราะปัจจุบนั การเป็นสาวใหญ่วยั 65 ของเธอ ไม่มสี ามี ไม่มี ลูก ไม่มคี รอบครัว ก็คงตอกย�ำ้ ชัดว่า สุดท้าย… คนเราต้องอยูเ่ พียงล�ำพัง และคนที่ต้องอยู่เพียงล�ำพัง ก็คือ “แอนน์ ฮุย” (!!?) ฟังดูค่อนข้างจะโดดเดี่ยวอยู่ไม่น้อย ทว่านัน่ ก็เป็นเรือ่ งจริงที่ “แอนน์ ฮุย” ยอมรับ ได้และพร้อมรับมือกับวาระสุดท้าย

ไม่ตา่ งอะไรกับตัวละคร “อาเถา” ทีต่ ดั สิน ใจขอเกษียณงานรับใช้ เพือ่ ไม่อยากเป็นภาระหนัก กับนายน้อย “โรเจอร์ ลี” จึงขอย้ายไปอยูบ่ า้ น พักคนชรา “แอนน์ ฮุย” สือ่ สารกับคนดูดว้ ยชือ่ ทีต่ รง ไปตรงมา “ชีวติ ทีเ่ รียบง่าย” เป็นการเฝ้ามองชีวติ อย่างตรงไปตรงมาและซือ่ สัตย์ทสี่ ดุ โดยเล่าผ่าน ตัวละครหลัก 2 คน หนึง่ คือ โปรดิวเซอร์หนังไฟ แรง อีกราย คือคนใช้สงู วัย ซึง่ มีความรักและภักดี อย่างยิง่ ยวดต่อนายจ้าง

ชีวิตดีๆ ที่ง่ายงาม

40 ปล่อย


“แอนน์ ฮุย” สื่อสารกับคนดูด้วยชื่อที่ตรงไปตรงมา “ชีวิตที่เรียบง่าย” เป็นการเฝ้ามองชีวิตอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ที่สุด การเดินเรือ่ งของหนังไม่ได้มคี วามซับ ซ้อน หรือเล่นล้อกับอารมณ์ยอกย้อนความเป็น มนุษย์สกั เท่าไหร่ ถึงกระนัน้ หนังก็มคี วามงดงาม และความซาบซึง้ ซ่อนอยู่ งดงามในความรัก… ซาบซึง้ ในความรูส้ กึ … ยิ่ ง เฉพาะความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง “อาเถา” กับ “โรเจอร์ ลี” ทีท่ ง้ั คู่ แสดงต่อกัน กระท�ำต่อกัน และมอบให้กนั เรียกได้วา่ หมดจด แบบไร้ขอ้ กังขา อาจเป็นจริงดัง่ ที่ “แอนน์ ฮุย” เคยลัน่ วาจาไว้ “ท้ายทีส่ ดุ แล้ว เราต่างก็ตอ้ งอยูเ่ พียง ล�ำพัง” สาวใช้ทที่ ำ� งานมาทัง้ ชีวติ ในครอบครัว มัง่ คัง่ อย่าง “อาเถา” สุดท้ายเธอก็มชี วี ติ ไม่ตา่ ง กับค�ำพูดของ “แอนน์ ฮุย” เพียงแต่ชวี ติ บัน้ ปลายของ “อาเถา” ถือว่าโชคดีกว่าคนแก่หลายๆ คนที่ยังมี “โร เจอร์ ลี” คอยดูแลและยืนเคียงข้าง จวบจนถึง วันทีเ่ ธอสิน้ ลม มากกว่าเจ้านายกับคนใช้ มากกว่า นายจ้างกับลูกจ้าง นัน่ คือสิง่ ที่ “โรเจอร์ ลี” ปฏิบตั ติ อ่ “อาเถา” ซึง่ พอจะบ่งชีไ้ ด้วา่ การ เป็นคนนอก (ครอบครัว) ก็อาจได้รบั การปฏิบตั ิ เหมือนคนใน (ครอบครัว) หากว่าคนๆ นัน้ “ดี พอ” และ “พอดี” กระทั่งในวันที่ตายจากกันไป ภาพ ความดีเหล่านั้น ก็ยังคงจะติดตราตรึงใจมิลืม เลือน เหมือนคุณงามความดีที่ “อาเถา” สร้าง ไว้ตลอดการมีชวี ติ ก็ยงั จะอยูใ่ นเมมโมรีของ “โร เจอร์ ลี” ตราบชัว่ นาน ไม่ใช่ในฐานะ “คนใช้” แต่อยูใ่ นฐานะ “ญาติผใู้ หญ่” ทีน่ า่ เคารพ ในแง่การน�ำเสนอ A Simple Life อาจไม่หวือหวาน่าอัศจรรย์ใจ แต่ในแง่ความ บันเทิงที่สร้างแรงกระเพื่อมไหวในใจแล้วละก็ ถือว่าหนังท�ำได้ผา่ นฉลุยแบบไม่ตกหล่น สามารถ เรียกน�ำ้ ตาคลอได้ไม่ยาก จากฉากซึง้ ฉากเหงา นับไม่ถว้ นทีป่ ระดังใส่เข้ามา ข้ อ ดี อ ย่ า งหนึ่ ง คื อ การที่ ห นั ง ไม่ พยายามบีบเค้นอารมณ์ดรามาอย่างเอาเป็น เอาตาย เพื่อให้เกิดภาพฟูมฟายร้องไห้ขี้มูก

A Simple Life

ปี 2011 ประเภท ชีวติ ประเทศ ฮ่องกง ความยาว 118 นาที ภาษา จีนกลาง / จีนกวางตุง้ / อังกฤษ ก�ำกับ แอนน์ ฮุย แสดงน�ำ หลิวเต๋อหัว / เยีย่ เต๋อเสียน / หงจินเป่า / ฉีเคอะ

ไหลน�้ำตาท่วมจอ ทว่าหนังเลือกที่จะเล่นกับ ความรูส้ กึ คนดู ด้วยคาแรกเตอร์ตวั ละครและ บทสนทนาซึง้ กินใจ รวมไปถึงภาพสะท้อนสังคม ยุคใหม่ของฮ่องกง ทีน่ บั วันจะมีคนแก่เพิม่ มาก ขึ้นและจ�ำต้องมาใช้บริการบ้านพักคนชราใน วาระสุดท้าย แน่นอน… หนึง่ ในนัน้ ก็คอื “อาเถา” และไม่แน่วา่ อีกหนึง่ คนก็อาจมีชอื่ “แอนน์ ฮุย” รวมอยูใ่ นนัน้ ด้วย (?!?) ส�ำหรับ A Simple Life นัน้ ได้กลาย เป็นผลงานน่าจดจ�ำของวงการหนังฮ่องกง ทัง้ ตัวผูก้ ำ� กับ“แอนน์ ฮุย” 2 นักแสดงน�ำ “หลิว เต๋อหัว” และ “เยีย่ เต๋อเสียน” “แอนน์ ฮุย” มีหนังน่าจดจ�ำหลาย เรือ่ ง ทีอ่ ยากให้ลองหามาดู ได้แก่ Song of the Exile (ปี 1990) The Story of Woo Viet (ปี 1981) ซึง่ หลายคนชอบกันมาก เช่นเดียวกับ A Simple Life ก็อยูใ่ นลิสต์หนังน่าจดจ�ำของเธอ และมีแฟนหนังชืน่ ชอบกันมาก “หลิวเต๋อหัว” กับการฉีกบท ทีไ่ ม่คอ่ ย ได้เห็นกันบ่อยๆ มาแบบนิง่ ๆ แต่เอาคนดูอยู!่ !! ด้วยการแสดงที่สะกดอารมณ์ให้อินได้ในทุกๆ ฉาก ทีส่ ำ� คัญ พีห่ ลิวก็ยงั หล่อเท่เหมือนเดิม “เยีย่ เต๋อเสียน” คนดูหนังรุน่ ใหม่อาจ ไม่คนุ้ เธอเป็นนักแสดงตัวแม่ยคุ 70 ซึง่ เรือ่ ง นีค้ อื การกลับมาหน้าจอในรอบ 10 ปี ซึง่ ก็ไม่ สร้างความผิดหวัง ในความเป็นนักแสดงตัวแม่ ต้องขอยกให้เธอ สุดยอดดดดดด!!! ทันทีทอี่ อกฉาย A Simple Life ก็ กวาดค�ำชมและได้คะแนนวิจารณ์คอ่ นข้างดี มี รางวัลใหญ่การันตีความน่าดูมากมาย ตั้งแต่ ม้าทองค�ำทีไ่ ต้หวัน ฮ่องกง ฟิลม์ เฟสติวลั จน ถึงเวนิซ ฟิล์ม เฟสติวัล แถมยังถูกเลือกให้ เป็นตัวแทนหนังฮ่องกงชิงออสการ์ปลี า่ สุด แม้ กรรมการออสการ์จะท�ำเฉยใส่ แต่เชือ่ ว่าหนัง จะครองใจแฟนๆ ไปอีกนาน เพราะนีค่ อื หนังซึง้ แห่งปี ทีท่ ำ� ให้รวู้ า่ ชีวติ มันง่ายและงาม (จริงๆ นะ) ยิง่ เติมค�ำว่า “ดี“ ลงไปด้วย ก็ยงิ่ เป็นชีวติ ทีง่ ามและง่ายแต่ โดยดี (เชียวแหละ)

ปล่อย 41


ปล่อย(ใน)เพลง

“ค

เรื่อง : โก๋ ปากอ่าว ภาพ : ธนาชัย ประมาณพาณิชย์

ระหว่างเรา

บเพือ่ นไม่มเี พศ” ผมได้ยนิ ค�ำนีจ้ ากอาจารย์ทเี่ คารพรัก เธอเป็น ผูห้ ญิง เป็นแม่มา่ ย และผมนับถือเป็นแม่อกี ที ความสัมพันธ์ อันลึกซึง้ ความลึกของความรักไม่มเี ครือ่ งมือใดหยัง่ ได้ ความสมมาตร ของหัวใจเราไม่เคยบ่งชีไ้ ด้ชดั เจนว่าเราแบ่งระดับความสัมพันธ์กบั ใคร ได้นอ้ ยหรือมากกว่ากัน อาจารย์ทา่ นนีม้ ชี วี ติ ทีห่ วือหวา รุนแรงและนุม่ นวลในคราวเดียวกัน ผมมักเปลือยความลับ (ไม่ใช่ของลับนะครับ) กับ ท่านผูน้ เ้ี สมอ และนัน่ ท�ำให้ผมก้าวเข้าสูโ่ ลกแห่งความลับของเธอเช่นกัน ในปกติของความเป็นหนุม่ การเล่าเรือ่ งราวความรักกับเพือ่ น เพศเดียวกัน ย่อมพูดได้รนุ แรงและสะใจกว่า ถ่ายเทความเศร้าออกมา ได้มากกว่า ทว่ามักได้คำ� ตอบในมุมมองของเพศเดียวกัน ตรงกันข้ามหาก ปรึกษาเรือ่ งความรักกับเพศตรงข้าม ส�ำเนียงและน�ำ้ เสียงของเราจะดูนมุ่ นิม่ มีลกู อ้อน ลูกหยอดมากมาย แน่นอนว่าท�ำแบบนีก้ บั เพือ่ นชายไม่ได้ แน่ ถ้าคุณไม่ใช่พวกนิยมพันธุไ์ ม้เดียวกัน ผมสงวนถ้อยค�ำในบทความนี้

42 ปล่อย

ส�ำหรับเพศหญิงและเพศชายเท่านัน้ นะฮะ ทอม ดี้ เกย์ ตุด๊ พวกนี้ สงบจิตใจกันไว้กอ่ น ผมอกหักโดยทีห่ กั อกตัวเอง (แน้!!) จ�ำได้วา่ ผมเริม่ ต้นบท สนทนาไว้ลกั ษณะนี้ และตามด้วยเรือ่ งเล่าแห่งความสุข ผมเกริน่ กับ อาจารย์ทรี่ กั ว่าผมกับเธอเป็นเพือ่ นร่วมรุน่ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จับ คูท่ ำ� งานกลุม่ โปรเจกต์จบส่งท้ายการศึกษา จากทีไ่ ด้แต่แอบมอง ลอบ ส่งยิม้ หรือแอบสูดกลิน่ น�ำ้ หอมเข้าปอดเฮือกใหญ่เมือ่ เธอเดินผ่าน แต่ ไม่ถงึ ขัน้ แอบดูกางเกงลิง ช�ำเลืองร่องตูด หรือลอบชมหว่างอก เพราะ เดีย๋ วจะเสียโรแมนติก เราเดทกันโดยผมอ้างว่าชวนไปถ่ายรูป ล�ำบากล�ำบนแบก กระเป๋ากล้องใบเขือ่ งพร้อมขาตัง้ กล้อง ท�ำท่าทีดขู งึ ขังเอาจริงเอาจัง มานึกย้อนทีหลังวิธขี อนัดเทีย่ วสาวแบบนีเ้ ธอจับผิดได้ตงั้ แต่ตน้ ละครับ เอาเข้าจริงได้แต่สบตาไม่วอกแวกเลยเชียว อีกทัง้ กลิน่ เหงือ่ จากการ แบกของหนักไม่ชวนอภิรมย์สกั เท่าไหร่ บนถนนข้าวสารเราเดินเล่น เดินทะลุซอยรามบุตรี แหวกฝูง ลิงต่างชาติจนมาถึงถนนพระอาทิตย์ จึงค่อยหาร้านนัง่ ดืม่ แถว ๆ ป้อม พระสุเมรุ แค่นแี่ หละครับ อยากชวนเธอดืม่ แต่ไม่กล้าออกปากตรง ๆ ไอ้กล้องทีแ่ บกมาก็ไม่คดิ แม้แต่จะหยิบออกมาท�ำเก๊กถ่ายบรรยากาศ ในร้านเล็ก ๆ เราสัง่ เบียร์และกับแกล้มสองสามอย่าง พูดคุย กับเรือ่ งรสนิยมส่วนตัว สูบบุหรีป่ รบมือให้กบั นักดนตรีไปพลาง แกล้ง ร้องท่อนฮุคเพลงฝรัง่ อวดรสนิยมตัวเอง จนท้ายทีส่ ดุ จุดไคลแมกซ์กค็ อื ตอนกลับบ้าน ระหว่างเราก�ำลังลังเลเมือ่ ร้านปิดให้บริการ เธอชวนผม


“เวลานี้ เวลาไหน เธอยังคงเป็นส่วนลึกอยู่ในใจ ความทรงจ�ำเก่าๆ มันช่างเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน” ดืม่ ต่อ หรือเป็นผมทีช่ วนก็จำ� ไม่คอ่ ยได้ (ฮิฮ)ิ เธอฉุดมือไปยังสถานทีต่ อ้ ง ห้ามเขตสงวนยามวิกาลทีม่ ดื ด�ำสนิท... อย่าคิดลึก เธอแค่ชวนผมขึน้ ไปชมวิวบนป้อมพระสุเมรุ เราปีนข้ามรั้วกั้นโดยระแวดระวังสายตาพี่ยาม อ�ำพรางตัว ด้วยความเงียบ หามุมใดมุมหนึง่ นัง่ มองพระจันทร์ อากาศดี อารมณ์ดี เรือ่ งเล่าส่วนตัวถูกแอลกอฮอร์ทำ� ลายก�ำแพงกัน้ ของตัวเอง ผมไม่มที าง หนีได้เลย ผมเลยต้องเอ่ยปาก บอกรักเธอ รักเธอมานานแสนนาน... (จินตนาการหน้าผมว่าเป็นพีเ่ บิรด์ ก�ำลังร้องเพลงนะฮะ) พืน้ ทีบ่ นป้อม พระสุเมรุกว้างและอากาศหนาวเย็นเกินกว่าจะอยูค่ นเดียว ด้วยความ หงอยใจเราจึงเขยิบก้นชิดกัน มากขึน้ มากขึน้ ... เอาละสิ กลิน่ ตัวเธอ นีห่ อมชะมัด ผมสัน้ ด�ำแบบทอมบอยขับดวงตาหวานแว๋ว กับถ้อยค�ำ ทีพ่ รัง่ พรูจากริมฝีปากบาง ๆ เธอพูดไม่หยุด ผมได้แต่จอ้ ง แล้วก็จอ้ ง สัญชาตญาณดิบเริม่ แตกซ่าน ผมอยากหยุดค�ำพูดของเธอด้วยริมฝีปาก ของผม สารเคมีในร่างกายก�ำลังพลุกพล่าน ผมโน้มตัวเข้าใกล้ เธอก็ เช่นกัน จมูกโด่ง ๆ ของเราห่างกันประมาณ 3 เซนติเมตร นับในใจ นืง ซ่อง ซัม๊ !! เรือ่ งเล่าไร้สาระเหล่านีถ้ กู อรอรีย์ จุฬารัตน์ สาวกรันจ์โด่งดัง ในยุคดนตรีอลั เทอร์เนทีฟบ้านเรา ขุดคุย้ ความทรงจ�ำขึน้ มา ในเนือ้ เพลง “ระหว่างเรา” ในอัลบัม้ Natural High เพลงทีเ่ ธอเขียนขึน้ มาใส่ความ เป็นตัวเองเข้าไป ฟังแล้วยิง่ บีบหัวใจ ผมมีนสิ ยั ทีแ่ ก้ไม่หายอยูอ่ ย่างหนึง่ คือเมือ่ ถูกศิลปินเล่นงาน จิต วิญญาณของผมจะหลุดออกจากร่าง (ลองจินตนาการดูเหมือนผีกระสือ ก�ำลังถอดไส้ประมาณนัน้ น่ะครับ) ความรูส้ กึ จากเพลงมักตกค้างเวียน วนไม่เป็นอันท�ำอะไร คือแค่ขนึ้ เพลงก็ชวนโหยหาอดีตเสียแล้ว “เวลานี้ เวลาไหน เธอยังคงเป็นส่วนลึกอยูใ่ นใจ ความทรงจ�ำเก่า ๆ มันช่างเจ็บ ปวดรวดร้าวเหลือเกิน” อรอรีย์ หรือพีอ่ รของหนุม่ สาวในยุคนีเ้ ธอท�ำอัลบัม้ ล่าสุดไว้เมือ่ สิบปีทแี่ ล้ว กระแสเพลงร็อคทางเลือกในสมัยนัน้ ยังสูก้ ระแสป๊อปแดนซ์ ดิน้ กระจายแบบตัดให้ขาดเลยฉับ ๆ ๆ ของพีเ่ จมส์ขา้ วมันไก่ ยังไม่ได้ แต่เธอก็เป็นหนึง่ ในต�ำนานทีข่ นึ้ รูปแนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟในบ้านเรา ถ้า เธอไม่เริม่ ไว้กอ่ น ศิลปินร็อคทีม่ อี ยูท่ กุ วันนีค้ งไม่เกิด อย่างเช่นสองมือกีตาร์วง Flure เคยกล่าวกับเธอว่า เพลง ของอรอรีย์ เป็นต้นแบบให้คดิ ท�ำวงดนตรี ถึงกับน�ำไปคัฟเวอร์บรรจุไว้ ในอัลบัม้ ของพวกเขาเอง คนรุน่ ใหม่อาจคุน้ ชินกับการแสดงของปาล์มมีท่ ี่ ถอดร้องเท้าวาดลีลาบ้าบิน่ บนคอนเสิรต์ ผมจะบอกว่าอรอรียน์ แ่ี หละครับ ทีแ่ หวกกระแสท�ำมาก่อนแบบไม่แคร์ใคร และอีกจุดหนึง่ ทีน่ า่ สนใจคือ สมาชิกในวง อรอรีย์ ซึง่ ประกอบด้วยมือกีตาร์คนดังอย่าง โต้ง-มณเฑียร แก้วก�ำเนิด แห่ง P.O.P และมือเบสเจ้าพ่อฟังก์ดสิ โก้ ปิยะ ศาสตร์วาหา หรือ โป้ โยคีเพลย์บอย เคยร่วมงานกันมาก่อน

ล่าสุดผมมีโอกาสได้ไปดูคอนเสิรต์ Sonic Attack 2012 90’s The Best จัดทีไ่ บเทคบางนา ก็ได้ชมไลฟ์โชว์มนั ๆ จากเธอ อีกครัง้ หลายคนทีช่ นื่ ชอบเธอคงโหยหาอ้อนวอนอยากให้กลับมาท�ำ ผลงานเพลงอีก แต่เธอเองเลือกเดินอีกเส้นทางคือรับช่วงต่อกิจการ ครอบครัว เชือ่ ไหมครับว่าเธอเป็นกรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั ผูผ้ ลิต รายการ “กระจกหกด้าน” “ฉันไม่อยากฟังเพลง คุณเล่าต่อ สรุปได้จูบกันไหม” อ้าว! …ดูสผิ มฟังเพลงใจลอยอีกแล้ว ลืมเรือ่ งทีก่ ำ� ลังเล่าอยูเ่ สีย ฉิบ จมูกเราแทบจะชนกันแล้ว แต่พยี่ ามขึน้ มาไล่พอดี เราเลยรีบ หนีเอาตัวรอด อาจารย์ของผมบอกว่าก็ดมู คี วามสุขดี อกหักยังไง ผม ตอบว่า มีความสุขมากครับ มีความสุขจนท�ำงานท�ำการไม่ได้เพราะ หัวใจว้าวุน่ ตลอด วันต่อมาผมจึงนัดเธอเพือ่ ไปสารภาพรัก และขอ ยุตคิ วามสัมพันธ์ เพราะผมไม่อยากทรยศต่อคนรักทีค่ บหาดูใจกัน อยู่ นีไ่ งเล่าทีผ่ มหักอกตัวเอง เศร้าไหมครับ “คบเพื่อนไม่มีเพศ” ที่ปรึกษาของผมกล่าวสั้น ๆ ซึ่ง หมายความว่า อนาคตเรายังไม่ทราบว่าความสัมพันธ์จะไปอยูใ่ น ระดับใด อาจแต่งงานกัน หรืออาจเป็นเพือ่ นหญิงทีด่ ที สี่ ดุ ก็เป็นได้ ฉะนัน้ ควรคบ ๆ กันไว้ เป็นเพือ่ นก็ไม่เสียหายอะไร ช่วงวัยรุน่ ทุกเรือ่ งทีเ่ ข้ามากระทบ เราก็เหมารวมว่าเป็น เรือ่ งใหญ่ทกุ เรือ่ ง อารมณ์เหล่านัน้ จะแทรกซึมเข้าไปร่วมวงกับเรือ่ ง อืน่ ๆ ในชีวติ ประจ�ำวัน ไม่ถงึ กับตายแค่อาจกินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วพาลให้เรือ่ งอืน่ เสียไปด้วย ฟังเพลง “ระหว่างเรา” ท�ำให้ผมคิดถึงเรือ่ งราวเหล่านี้ คุณล่ะ ฟังเพลงนีแ้ ล้วคิดถึงอะไร ผมอยากรู… ้

ปล่อย 43


ปล่อยทางกวี

44 ปล่อย

เรื่อง : หทัยสินธุ สินธุหทัย


เธอเท่านั้น เพียงเธอเท่านั้น ผู้ตีฝ่าร่างแหแห่งขนมหวานออกมาได้อย่างน่าหวาดเสียว

สุนทรพจน์

เธอเท่านัน้ ทีน่ งั่ ฟัน่ สายแดดเพือ่ ถักทออาภรณ์หม่ ให้ยามเช้า เธอเท่านัน้ ... ที่อาจหาญหยิบเกล็ดสกาวของน�้ำค้างมาจัดวางบนหน้า กระดาษ รอยแส้ทพี่ าดบนอกซ้าย ใช่ไหมคือริว้ เรียวหนามจากกิง่ กุหลาบ รอยช�ำ้ บนอกขวา ใช่ไหมเกิดจากความดือ้ บ้าจักปีนข้ามก�ำแพงสวรรค์ เธอผูย้ งั เดินเก็บถ้อยค�ำในตรอกมืด เธอผูเ้ ฝ้าหลบลีไ้ ปวิง่ ซนในสนามเด็กเล่นแห่งความเงียบงัน เธอผู้เฝ้าร�่ำไห้เสียจนสะกดได้ว่าเสียงครวญครางนั้น ประกอบไปด้วยพยัญชนะใดกัน เธอเท่านัน้ เพียงเธอเท่านัน้ ด้วยไม่มใี ครปรารถนาจะต่อเรือ ขณะมหาธารวัตถุกำ� ลังกลืนกินยอดเขา นักบุญชราเฝ้าคุกเข่าวิงวอนบนยอดวิหารสีทอง ร�ำ่ ร้องวอนขอพืน้ ทีส่ กั เล็กน้อย เพือ่ รอคอยเครือ่ งสักการะน่าสมเพช เธอเท่านัน้ เพียงเธอเท่านัน้ ผูต้ ฝี า่ ร่างแหแห่งขนมหวานออกมาได้อย่างน่าหวาดเสียว เธอเองผูฟ้ าดกระหน�ำ่ ตัวเองจนสาแก่ใจในยามหลับ กระทัง่ ตระหนักรูว้ า่ ชูชพี ขลิบทองนัน้ คือภาระ ต่อจังหวะการโถมทะยานในลีลาฉลามหนุม่ เธอเท่านัน้ เธอทีจ่ ดจ้องตะครุบถ้อยค�ำในความเงียบ เธอผูข้ ว้างปาความเงียบเพือ่ ฟังเสียงถ้อยค�ำ จุ๊ จุ๊ จุ๊ เงียบไว้ถอ้ ยค�ำก�ำลังย่องมา

เอาหละ! ตะครุบมันไว้ ขบหัวมันไว้เสียให้อยูม่ อื เอ้า! แล้วตะโกนกันให้เต็มก�ำลัง ด้วยน�ำ้ เสียงทีพ่ งุ่ ตรงไปยังผูห้ ลับอยู่ จุดพลุไฟแห่งโรแมนติก ลัน่ กลองแห่งสัจนิยม เป่าให้สดุ เสียงนัน่ แตรแห่งนามธรรม ประกาศการมาถึงของขบวนคาราวานอันเก่าแก่ ไม่วา่ ใครคือแถวหน้า ไม่วา่ เธอจะพกพาอาวุธใด จงตระหนักรูว้ า่ เธอถูกหนุนมาจากแถวหลัง ส่งต่อก�ำลังกันดุจมหาคลืน่ ครืนครัน่ ขับไล่หมอผีพอ่ มดไปให้หมดสิน้ จากนัน้ จงทุบค้อนลงบนสันคอแห่งปัจจุบนั เผือ่ ว่าเขาจักได้สะบัน้ สายระโยงระยางออกจนหมดสิน้ แล้วค่อยพักดืม่ กินความโดดเดีย่ ว กลัว้ คอด้วยความจนยาก ใต้ผนื ธงคร�ำ่ คร่าของตัวเธอเอง! …………………………….

.................................................................. ..................................................................ชูว่ ชูว่

ปล่อย 45


ปล่อย(ทาง)คนหนุม่

เรื่อง : สุทัศน์ ธรรมสถิตนิเวศ

โดยวิถขี องคนหนุม่

1 ล�ำห้วยสายนัน้ ไหลลงมาจากยอดภู เราทัง้ สามปีนป่าย ไปบนแผ่นหิน บางช่วงเราต้องก้มต�ำ่ จนหน้าแทบจะสัมผัสกับ ผิวน�ำ้ เพือ่ หลบหลีกแนวกิง่ ไม้ทปี่ กคลุมล�ำห้วย และไม่ตำ�่ กว่า สามครัง้ ทีเ่ ราต้องป่ายปีนข้ามขอนไม้ใหญ่ซงึ่ พาดขวางทางข้าง หน้า กว่าจะปรับร่างกายและจังหวะการหายใจให้เข้ากับการ เดินขึน้ ทีส่ งู เราก็เดินกันมาได้คอ่ นทางแล้ว แสงแดดเร้นหายไปหลังกลีบเมฆตัง้ แต่เช้า ป่าทัง้ ป่า เงียบราวกับวิหารศักดิส์ ทิ ธิ์ ฝนเพิง่ หยุดตกไปได้ไม่นาน ทาง เดินในป่าช่วงแรกก่อนลงล�ำห้วยเต็มไปด้วยขวากหนาม ผมก้ม มองดูแผลที่นิ้วก้อยเท้าขวา มันเป็นแผลที่เกิดจากคมหนาม ไมยราบ ทีข่ นึ้ อยูก่ ระจัดกระจายอยูต่ ลอดรายทาง เป็นแผลที่ ได้จากความสะเพร่าในการก้าวย่าง คงเหมือนกับการด�ำเนิน ชีวติ กระมัง เมือ่ ใดทีเ่ ราเลินเล่อกับชีวติ เมือ่ นัน้ เราอาจได้รบั ผลตอบแทนทีเ่ จ็บปวดรวดร้าวเช่นกัน เราลัดเลาะกันมาตามความคดโค้งของล�ำห้วยจน กระทัง่ เมือ่ พบเส้นทางตัดตรงขึน้ สูด่ า้ นบน เราจึงทิง้ ล�ำห้วยไว้ เบือ้ งหลัง และจากมาอย่างไม่ยนิ ดียนิ ร้าย ผมมองขึน้ ไปตามทาง สายใหม่นี้ มันเป็นทางป่าทีค่ อ่ นข้างรก แต่ไม่ครึม้ เพราะไม่มไี ม้ ต้นใหญ่ ปัญหามันอยูท่ เี่ ราต้องเดินขึน้ ทีส่ งู ด้วยองศาการเดินที่ ชันเอาการทีเดียว เราทัง้ สามคนได้แต่อาศัยขนาดของหัวหัวใจ เท่านัน้ ทีจ่ ะใช้ตอ่ สูก้ บั แรงโน้มถ่วงของโลก หลังจากทุลกั ทุเลอยูพ่ อสมควร เราก็ขนึ้ มาถึงยอดภู จนได้ ต่างคนต่างวางสัมภาระลงกับพืน้ เพือ่ นผูเ้ ป็นเจ้าถิน่ คว้า กระบอกน�ำ้ ออกมาจากย่าม รินน�ำ้ แล้วส่งให้ผม ผมจิบกลัว้ คอ อย่างละเลียดในคุณค่าของน�ำ้ ทุกหยด ก่อนทีจ่ ะรินต่อให้เพือ่ น

46 ปล่อย

คนถัดไป บางทีนำ�้ มิตรของลูกผูช้ ายก็สามารถพิสจู น์กนั ได้อย่าง เรียบง่ายและไม่จำ� เป็นต้องมีพธิ รี ตี องใดๆ 2 ชีวติ เป็นเรือ่ งทีล่ ะเอียดอ่อนและซับซ้อน ส�ำหรับบาง คนอาจมากเกินกว่าทีจ่ ะท�ำความเข้าใจในวิถขี องใครก็ตามทีไ่ ม่ ได้ด�ำเนินชีวิตเหมือนตนเอง ส�ำหรับผม ความละเอียดอ่อน และซับซ้อนคือเสน่หท์ หี่ ลากหลายและสร้างสรรค์ของแต่ละชีวติ หลังจากกร�ำงานหนักจากหน้าทีก่ ารงานมาเป็นแรมปี เราอาจพบว่าชีวติ อันเร่งรีบในเมืองหลวง ไม่ปล่อยให้เราได้มี เวลาทักทายกับหลายสิง่ หลายอย่างรอบตัว ชีวติ จึงไร้ชวี าเสีย จริงๆ เหตุนกี้ ระมัง ทันทีทมี่ วี นั หยุดยาวสีว่ นั ติดต่อกัน ผมกับ เพือ่ นจึงได้จดั โปรแกรมเดินทางเพือ่ ทักทายโลกกันขึน้ อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสักหน่อย ที่วันหยุดยาว แบบนี้แทนที่จะนอนพักผ่อนอยู่กับบ้านสบายๆ หรืออาจ แวะไปตากแอร์ในศูนย์การค้าที่แทบจะมีอยู่ทุกหัวมุมถนนใน กรุงเทพมหานคร แต่เรากลับเลือกทีจ่ ะคว้าเป้ปนี ภูเพือ่ ไปนอน ในหมูบ่ า้ นกลางหุบเขา คืนแรกที่เรามาถึงหมู่บ้านนั้น ความมืดก็ปกคลุมไป ทั่วทั้งหุบเขาแล้ว เมฆที่ครึ้มมาทั้งวันบดบังแสงแห่งความโร แมนติกของดวงจันทร์มใิ ห้เล็ดลอดลงมา เรามีเพียงแสงจาก ตะเกียงน�ำ้ มันก๊าด ซึง่ ตัง้ ไว้กลางวงสนทนา แสงสีทองขรึมขลัง ของตะเกียงสะท้อนน�ำ้ สีอำ� พันในแก้วกลางวง ส่งให้บรรยากาศ เหมือนเราก�ำลังนั่งร่ายคาถา และร�่ำดื่มน�้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างไร อย่างนัน้ ยิง่ เสียงกีตาร์และเสียงบทเพลงจากเพือ่ นทีข่ บั ขาน ด้วยพลังของกวีหนุม่ ทีท่ ว่ มท้น ยิง่ อดรูส้ กึ ไม่ได้วา่ แท้จริงแล้ว


“การเดินทางคือการเรียนรู้...ถ้าเราออกสู่โลกกว้างแล้วกลับมาโดยที่พบว่าตัวเองไม่ได้รู้จักโลก และชีวิตเพิ่มขึ้นเลย เราก็ยังไม่ได้เดินทาง”

เรากับขุนเขาเป็นอันหนึง่ อันเดียวกันนัน่ เอง “ขุนเขายะเยือกหวังเพียงผูเ้ ดินทางผ่าน ไปให้ไกลสุด ไกล เพียงคนเดินทางนัน้ ไปไม่มวี นั สิน้ กองเกวียนยังเคลือ่ นไหล ชีวติ มีวนั สิน้ คนไม่มวี นั พอ... ...มีรกั ยิง่ ใหญ่ให้คนผูเ้ ดินทางผ่าน ใครต้องการดืม่ กิน... ...มากินเหล้ากันเว้ย มาร้องเพลงเย้ยยัว่ เย้าจันทรา มาเชิญมาเถิดหนา...มาร�ำ่ สุราประสานเพลงกล่อม อ่านกวีเย้ยจันทร์ ฝันให้ไกลทีส่ ดุ ร�ำ่ สุราเย้ยจน ทนทุกข์นานทานทน” อ่านกวีเย้ยจันทร์ ฝันให้ไกลที่สุด ช่างไพเราะและ งดงามอะไรเช่นนี้ ในใจนึกขอบคุณและนับถือนิด ลายสือ ผู้ รจนาเพลงนีอ้ ยูเ่ งียบๆ ในทีส่ ดุ ...คืนนัน้ เราต่างหลับไปท่ามกลาง อ้อมกอดของภูผา 3 หลังจากดืม่ น�ำ้ แก้กระหายกันแล้ว เราก็หามุมเหมาะนัง่ มองลงไปยังแผ่นดินเบือ้ งล่าง ผมจ�ำได้วา่ เรานัง่ ทอดหุย่ กันอยู่ บนนัน้ พักใหญ่ๆ ไม่นานเกินกว่าเราจะได้ระบายความฝันออกมา ให้กนั และกันฟัง อย่างอบอุน่ พรัง่ พรูและงดงาม ในขณะทีผ่ มนัง่ มองลงไปยังหมูบ่ า้ นกลางหุบเขาซึง่ เรา เพิง่ จากมา จากระดับความสูงท�ำให้เห็นบ้านหลังใหญ่ทสี่ ดุ เล็ก เท่าก�ำปัน้ ทัง้ ๆ ทีม่ นั เป็นเรือ่ งธรรมดา แต่ผมเหมือนโดนอะไร บางอย่างฟาดลงมาทีห่ วั เปล่า!!! มันไม่เจ็บ แต่มนั เหมือนได้ เข้าใจอะไรบางอย่าง แท้จริงแล้วบ้านก็เล็ก ตัวเราก็ยิ่งเล็ก เช่นกัน แม้กระทัง่ ขุนเขาโอบกอดเราไว้กไ็ ม่ได้กว้างใหญ่ไพศาล

เท่าใดเลย ในเมือ่ โลกทีห่ มุนรอบตัวเองของเราก็โคจรอยูร่ อบ ดวงอาทิตย์ และเหนือจากระบบสุรยิ ะของเราออกไป จักรวาล ทีเ่ ราอาศัยอยูก่ ก็ ำ� ลังขยายตัวอย่างไม่สนิ้ สุดและไม่มขี อบเขต การได้มองโลกในแง่มุมที่ต่างออกไป ท�ำให้เห็นสีสัน และระดับความสูงต�ำ่ ของวัตถุตา่ งๆ มากขึน้ ทัง้ ในบางขณะมัน อาจท�ำให้เราได้เรียนรูแ้ ง่มมุ ของชีวติ ทีห่ ลากหลายขึน้ ได้เช่นกัน ผมจ�ำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าหนังสือเล่มหนึ่งที่เคย อ่านได้ให้ทรรศนะต่อการเดินทางว่า “การเดินทางคือการเรียนรู้...ถ้าเราออกสู่โลกกว้าง แล้วกลับมาโดยทีพ่ บว่าตัวเองไม่ได้รจู้ กั โลกและชีวติ เพิม่ ขึน้ เลย เราก็ยงั ไม่ได้เดินทาง” ส�ำหรับตัวผมแล้ว ทุกครัง้ ทีเ่ ดินทาง จะว่ารูจ้ กั โลกและ ชีวติ เพิม่ ขึน้ หรือเปล่าคงต้องบอกว่าตอบยาก ทรรศนะต่อบาง เรือ่ งค่อนข้างอธิบายให้ใครเข้าใจได้ยาก กระนัน้ ผมก็ชนื่ ชมความ คิดนีไ้ ม่นอ้ ยเหมือนกัน และทุกครัง้ ทีไ่ ด้เดินทาง ผมก็พยายาม ท�ำความรูจ้ กั กับสิง่ ต่างๆ เท่าทีน่ กั เดินทางคนหนึง่ จะท�ำได้ 4 ถนนที่ทอดยาวลดเลี้ยวไปไกลสุดลูกหูลูกตา บางที คล้ายจะลับหายเข้าไปในหุบเขา ช่างมีเสน่หจ์ นบอกไม่ถกู เรา ก�ำลังเดินทางกลับเข้าสูม่ หานครอันวุน่ วาย เร่งรีบ! ทิง้ หมูบ่ า้ น กลางหุบเขาไว้เบือ้ งหลัง สีว่ นั กับระยะทางสองพันกว่ากิโลเมตร ผ่านภูมปิ ระเทศ ทีแ่ ปลกตา แต่เหมือนคุน้ เคยอยูใ่ นหัวใจ ทัง้ เทือกเขาสลับซับซ้อน ป่ารกครึม้ หมูบ่ า้ นกลางหุบเขา ชุมชนริมแม่นำ�้ โขง วิถที เี่ รียบ ง่ายของชาวบ้านพืน้ ถิน่ ...เราฝ่าความทุรกันดารของชีวติ เพือ่ มา หาอะไรบางอย่าง ซึง่ เอาเข้าจริงๆ แล้วน้อยคนนักทีจ่ ะเข้าใจ แต่เราก็ยงั เชือ่ มัน่ ในการเดินทาง และเราจะยังคงเดินทางต่อ ไป โดยวิถขี องเรา..ไปด้วยกันเถิดคนหนุม่

ปล่อย 47


ปล่อยคนผีๆ

เรื่อง : ผีส�ำแดง

ลังบึ่งรถจากกรุงเทพฯ มาถึงอุดรธานีเป็นเวลา 4 ทุ่มกว่า จุดหมายปลายทางของเราคือจังหวัด หนองคาย ผมกับแม่ตดั สินใจทีจ่ ะแวะพักเอาแรงสักหนึง่ คืน เพราะความอ่อนเพลียทีก่ ร�ำงานมาตลอดวันและขับ รถเป็นเวลาเกือบ 7 ชัว่ โมง ขับรถหาโรงแรมอยู่นานพอสมควร เนื่องจาก ความเจริญของเมืองเติบโตไปอย่างรวดเร็ว เกือบ 10 ปี ทีจ่ ากบ้านเกิดเข้ามาเป็นพนักงานเงินเดือนในเมืองกรุง ก้ม หน้าแอ่นหลังท�ำงานจนชาชินกับความเหน็ดเหนือ่ ย เพือ่ ผล ตอบแทนทีจ่ ะมาประทังชีวติ วันๆ ของเดือนถัดไป จากการโทรศัพท์สอบถามเส้นทางจากเพือ่ นเจ้า ถิน่ เป็นระยะ ในทีส่ ดุ ก็มาถึงโรงแรมแห่งหนึง่ ในตัวเมือง ซึง่ เพือ่ นยืนยันว่าเป็นโรงแรมเปิดใหม่ ราคาไม่แพง แวบแรก ทีเ่ ห็น เสียงค�ำว่า “เปิดใหม่” สะท้อนขึน้ ในหู “ใหม่ตรงส่วน ไหนของมึง อย่างต�ำ่ ก็ 10 ปี” ผมยัว๊ ะไอ้คนบอกอยูใ่ นใจ ผมกับแม่มคี วามเชือ่ เรือ่ งสิง่ ลีล้ บั เทวดา วิญญาณ หรือผี เป็นทุนอยูแ่ ล้ว และถ้ามีครัง้ ไหนทีต่ อ้ งไปค้างแรม ต่างทีต่ า่ งถิน่ ก็มกั จะเจอเรือ่ งราวแปลกๆ และน่ากลัวอยู่ เป็นนิตย์ และครัง้ นีก้ เ็ ช่นกัน “คงไม่รอด!!” เราได้หอ้ งพักชัน้ 4 ทันทีทปี่ ระตูลฟิ ต์เปิด กลิน่ เหม็นอับของพื้นพรมกระแทกเข้าจมูก ความสงัดเงียบ วังเวงจนท�ำให้คิดแค้นเคืองไปถึงไอ้เพื่อนระย�ำที่แนะน�ำ แต่ดว้ ยความเหนือ่ ยและอ่อนเพลีย พอถึงห้องผมกับแม่ ก็ลา้ งหน้าตาจับจองกันคนละเตียง เปิดไฟทีห่ น้าตูเ้ สือ้ ผ้า ตรงประตูทางเข้าไว้กนั เหนียว แม่กะจะเปิดโทรทัศน์เพือ่

48 ปล่อย


มองซ้ายขวา ตั้งสติสักพักค่อยๆ ลุกขึ้นไปเปิดโทรทัศน์อีกครั้ง ก็ติดเหมือนเดิม พอล้มตัวนอน ไม่กี่นาทีจาก นั้นขนก็ลุกทั้งตัว มือเท้าเกร็ง เหงื่อแตกพลั่ก เย็นไปถึงสันหลัง ความรู้สึกที่ไหล่ขวาว่ามีนิ้วมาสะกิดเบาๆ

ท�ำลายความสงัด แต่เจ้ากรรมเปิดยังไงก็ไม่ตดิ เจ๊งสนิท ปรับ โน่นปรับนี่สักพักก็ล้มความตั้งใจ ไม่นานแม่ก็หลับไปด้วยความ อ่อนเพลีย จะเหลือก็แต่ผมทีเ่ ป็นเหมือนเซ็นเซอร์คอยตรวจจับ เสียงต่างๆ ภายในห้อง ก๊อก…อ๋อเสียงแอร์ แกร๊ก…อือเสียงอยู่ ในห้องน�ำ้ ตุบ้ …อืมเสียงจากประตู หนึง่ ชัว่ โมงทีเ่ นิน่ นานผ่านไป ไม่ไหวละ ผมต้องท�ำอะไรสัก อย่าง ลุกขึน้ ไปลองเสีย่ งกับโทรทัศน์ทเี่ ป็นความหวังสุดท้าย ก้มๆ เงยๆ ส่องดูกพ็ บว่าปลัก๊ ไม่ได้เสียบ อา…รอดแล้วเรา หลังจากเปลีย่ นช่องไปมา ช่องโน้นที ช่องนีท้ ี มันช่างน่า โมโหนัก เคเบิลท้องถิน่ ไม่วา่ ทีไ่ หนๆ ก็มกั เปิดแต่หนังผี พอเลือก ได้หนึง่ ช่องซึง่ เป็นช่องขายสินค้าจ�ำพวกเครือ่ งออกก�ำลังกายเทือก นัน้ เปิดทิง้ ไว้สกั พักก็มอ่ ยหลับไป แต่ดว้ ยความระแวงจึงหลับไม่ ค่อยสนิท สะดุง้ ตืน่ ขึน้ มา ใครปิดโทรทัศน์…หันไปมองแม่ทเี่ ตียง ข้างๆ ก็นอนหลับสนิทอยูท่ า่ เดิม หลังคิดไปต่างๆ นานาเลยลุก ไปส�ำรวจ ปรากฏว่าโดนปิดสวิตช์ (โทรทัศน์สมัยเก่าเป็นปุม่ เปิด ปิด) ก็เริม่ ใจไม่ดี เลยลองกดสวิตช์อกี ครัง้ ปรากฏว่าโทรทัศน์กต็ ดิ เหมือนเดิม หันไปดูแม่กห็ ลับไม่ขยับเขยือ้ น เอาแล้วไง ดูเวลา ตี 2 กว่า กลัน้ ใจนอนและหลับไป ผ่านไปไม่นานตืน่ ขึน้ มาอีกที เอ้ย…มันปิดอีกแล้ว หันไปมองทีแ่ ม่กย็ งั นอนหลับอยูท่ า่ เดิม “โดน ซะแล้ว” มันคิดเป็นอืน่ ไม่ได้จริงๆ มองไปทีห่ อ้ งน�ำ้ ก็มเี สียงกุกกัก หลอกหลอนตลอดเวลา ด้วยความทีเ่ ป็นคนชอบดูหนังผี สมองจึง จินตนาการและลุน้ ว่าจะมีใครโผล่ออกมาทางประตู ท�ำผมปิดหน้า ใส่ชดุ ขาว หน้าขาว แยกเขีย้ ว เหมือนทีเ่ คยดูในหนัง มองซ้ายขวา ตัง้ สติสกั พักค่อยๆ ลุกขึน้ ไปเปิดโทรทัศน์อกี ครัง้ ก็ตดิ เหมือนเดิม พอล้มตัวนอน ไม่กนี่ าทีจากนัน้ ขนก็ลกุ ทัง้ ตัว มือเท้าเกร็ง เหงือ่ แตกพลัก่ เย็นไปถึงสันหลัง ความรูส้ กึ ทีไ่ หล่ ขวาว่ามีนวิ้ มาสะกิดเบาๆ หัวใจเต้นเสียงดังคล้ายคนมาตีกลองใน หู ชัว่ ขณะนัน้ ทุกอย่างหยุดสนิท แต่ไม่กอี่ ดึ ใจก็กลับมาสะกิดอีก ครัง้ แต่ครัง้ นีร้ นุ แรงกว่าเดิม ไม่ไหวแล้ว เป็นไงเป็นกัน นึกถึง ค�ำสัง่ สอนของครูบาอาจารย์ยามบวชร�ำ่ บวชเรียน คาถาป้องกัน ภัย “นะ โม พุท ธา ยะ ยะ ธา พุท โม นะ” ท่องในใจไปเรือ่ ยๆ จนตัง้ สติได้ ตัดสินใจหันไปดูให้รดู้ ำ� รูแ้ ดง!! “ท�ำไมโทรทัศน์มนั เปิดเอง แม่ปดิ ไปตัง้ 2 ครัง้ ” แม่เบือน หน้ามาทางผมด้วยสีหน้าตืน่ กลัว!!

ปล่อย 49


ปล่อยใจสัมผัสใจ

เรื่อง : Secret

รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป กา

รเปลีย่ นแปลง...เกิดขึน้ ได้ตลอดเวลา ฟ้าสีคราม เมฆ ขาวบดบัง เมฆด�ำพัดผ่าน ฟ้าร้องไห้ ธรรมชาติสอน ให้เราเรียนรูอ้ ยูเ่ สมอ แต่ฉนั ก็ยงั เป็นเพียงแค่คนๆ หนึง่ ทีก่ ลัวการ ผิดหวัง กลัวการเปลีย่ นแปลง ฉันนัง่ มองการเปลีย่ นแปลงอย่าง นิง่ ๆ เงียบๆ อยูใ่ นมุมหนึง่ ของโลกใบนี้ ใจหนึง่ ก็พร้อมยอมรับการ เปลีย่ นแปลงทีจ่ ะเกิดขึน้ ฉันจึงเปิดทุกสัมผัสเพือ่ ได้รบั รูค้ วามเป็น ไป ซึง่ ไม่เคยคิดว่าสิง่ นัน้ จะกลับมาท�ำร้ายอย่างช้าๆ และฉันก็ได้รวู้ า่ จริงๆ แล้วฉันไม่พร้อมทีจ่ ะรับรูก้ ารเปลีย่ นแปลงใดๆ สิง่ ไหนทีเ่ คย มี เคยได้รบั ตอนนีก้ ลับเหือดหาย และจะจางลงไปในไม่ชา้ กลาย เป็นหมอกควันและความทรงจ�ำสีจางๆ จะเรียกร้อง ยือ้ แย่งยังไง ก็คงไม่ได้กลับมาเหมือนเก่า เมือ่ ฉันเฝ้ามองดู และเห็นถึงการเปลีย่ นแปลงทีก่ ระจ่าง แจ้งออกมาอย่างช้าๆ ปลายนิว้ และจิตใจสัน่ ระรัว เหมือนทัง้ สอง ส่งสัญญาณแทนการกรีดร้องว่าไม่สามารถยอมรับสิง่ เหล่านีไ้ ด้ ฉัน นัง่ จมกองมหาสมุทรแห่งน�ำ้ ตาในห้องเดิมๆ ซึง่ เต็มด้วยความทรง จ�ำเก่าๆ ตราตรึงทุกซอกทุกมุมของห้อง ฉันตัดสินใจเดินออกมา จากภาพเดิมๆ ทีต่ ามหลอกหลอน เพือ่ ไปทีไ่ หนสักแห่ง อุทกภัย ในดวงตาได้ถาโถมกระหน�ำ่ น�ำ้ ตาแต่ละหยดบ่งบอกว่าจิตใจของ

50 ปล่อย


ฉันพร�่ำขอโทษหัวใจของตัวเอง ที่ท�ำให้เจ็บปวด ฉันร้องไห้กับเรื่องเดิมๆ แบบนี้มากี่ครั้งแล้ว และฉันก็เฝ้าถามตัวเองว่าที่ฉันเจ็บปวดเพียงนี้ ใครท�ำ หรือว่าเพราะตัวฉันเอง

ฉันบอบซ�ำ้ เพียงใด ฉันพร�ำ่ ขอโทษหัวใจของตัวเอง ทีท่ ำ� ให้เจ็บปวด ฉัน ร้องไห้กบั เรือ่ งเดิมๆ แบบนีม้ ากีค่ รัง้ แล้ว และฉันก็เฝ้าถามตัวเองว่าทีฉ่ นั เจ็บปวดเพียงนี้ ใครท�ำ หรือว่าเพราะตัวฉันเอง ฉันเริม่ มอง และส�ำรวจตัวตนทีแ่ ท้จริงของฉันว่าทีฉ่ นั เจ็บซ�ำ้ และร�ำ่ ไห้อยูอ่ ย่างนี้ เพียงเพราะความเสียดายใช่ไหม เสียดายเวลาที่ ผ่านมา เสียดายอนาคตทีจ่ ะมีรว่ มกัน ทุกอย่างพังทลาย เหลือเพียงเศษ เสีย้ วความทรงจ�ำให้ได้ทกุ ข์ระทม ฉันจึงตระหนักว่าตลอดเวลาในช่วงชีวติ นี้ ฉันเอาความสุขของฉันไปผูกติดกับคนๆ หนึง่ ทีห่ าความแน่นอนไม่ได้ เลย ทีฉ่ นั เหนือ่ ยล้าเช่นนีก้ เ็ นือ่ งมาจากการวิง่ ไล่ตามความสุข เพราะคิด ว่าเขาคือความสุขทัง้ หมดในชีวติ ของฉัน แต่เขาก็พงึ่ พาความสุขจากทีอ่ นื่ เช่นกัน ความสุขสิง่ นีข้ องฉันจึงไม่เคยทีจ่ ะหยุดนิง่ เคลือ่ นย้ายและแปร เปลีย่ นอยูเ่ สมอ ฉันจึงเริม่ ต้นมองหาความสุขแท้จริงทีฉ่ นั สามารถเป็นผูส้ ร้างเอง ได้ ฉันเปลีย่ นทัศนคติ และมุมมองต่อสิง่ ต่างๆ รอบตัวใหม่ มองทุกอย่าง ด้วยใจทีเ่ ป็นสุข ละเมียดละไมไปกับทุกวินาทีของชีวติ พอใจในสิง่ ทีฉ่ นั มี ไม่ยดึ สิง่ ไหนว่านัน่ คือสิง่ ทีจ่ ะน�ำพาความสุขมาให้กบั ฉัน ไม่เรียกร้องร�ำ่ ไห้ ร�ำพัน กับสิง่ ทีเ่ พิง่ ผ่านพ้นไป เนือ่ งเพราะฉันไม่สามารถไปควบคุมสิง่ อืน่ ๆ ได้ แม้แต่ตวั เองฉันยังไม่สามารถควบคุมได้เลย และฉันก็ไม่ลมื ทีจ่ ะเผือ่ ใจ ไว้ดว้ ยว่า หากวันนีฉ้ นั มีความสุข อีกไม่นานความทุกข์กจ็ ะมาเยือน สอง สิง่ นีจ้ ะเกิดขึน้ อีกเป็นร้อยเป็นพันรอบในช่วงชีวติ ของฉัน ฉันจึงต้องเตรี ยมตัวและเตรียมใจไว้สำ� หรับอนาคต นีค่ อื ความสุขของฉัน ความสุขซึง่ ผลิยอดเบ่งบานต่อจาก “ความรักทีเ่ ดินจากไป”

ปล่อย 51


ปล่อยเล็บมังกร

เรื่อง : เติ้ง เสี่ยว ต้อง

หวางซีจือ

เซียนอักษรสวรรค์ นิ

ยายสามก๊ก (ซานกว๋อเหยียนจี)้ นิยามประวัตศิ าสตร์จนี ได้ กระชับรัดกุมยิง่ ว่า “แผ่นดินจีนนัน้ แต่เดิมสงบ ครัน้ สงบแล้วเกิดศึก ครัน้ เกิดศึกแล้วจึงสงบ” ในแผ่ น ดิ น ที่ ผ ลั ด เปลี่ ย นเวี ย นวนระหว่ า งศั น ติ แ ละ ยุทธการ สิง่ ทีม่ เิ คยขาดตอนคือผูเ้ ยีย่ มยอดด้วยทักษะศิลป์ จอม ยุทธผูเ้ ปีย่ มสามารถในทางกวี เสนามาตย์และองค์อธิราชผูส้ นุ ทรีย์ กระทัง่ ในสมัยทีแ่ ผ่นดินแตกเป็นเสีย่ งอย่างสมัยสามก๊ก ยังไม่อาจขาดการสร้างสรรค์ทางศิลปะวรรณกรรม หรือล่วงเลย จนถึงยุคราชวงศ์จนิ้ ทีอ่ อ่ นแอจากภัยคุกคามของชนเผ่าทางเหนือ ยังไม่ขาดตอนพัฒนาการทางสุนทรียะ แผ่นดินจิน้ แม้นไม่นบั เป็นก�ำเนิดแห่งศิลปะทัง้ ปวง แต่ นับเป็นยุคสมัยที่แนวทางด้านสุนทรียะคลี่คลายสู่สภาวะอันเป็น อุดมคติของศิลปะจีน เป็นข้อเชือ่ มระหว่างยุคบุรพชนและอนุชน ก�ำเนิดศิลปินและจินตกวีนบั ไม่ถว้ น ผูท้ ไี่ ด้รบั การบรรจุฉายานาม เป็นเกียรติในต�ำราประวัตศิ าสตร์และมหาสารานุกรม นั บ แต่ ส มั ย ราชวงศ์ ฮั่ น จิ ต รกรรมจี น ยั ง คงสื บ ทอด แนวทางโบราณแห่งราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฉิน แม้ก่อก�ำเนิด ลักษณะใหม่ แต่ยงั ไม่อาจนับเป็นการฉีกตัวตามขนบเดิม ทว่า ในวงการอักษรวิจติ ร กลับแสวงหาแนวทางใหม่ๆ

52 ปล่อย

อย่างต่อเนือ่ ง เปลีย่ นแปรรูปแบบการเขียนไม่หยุดนิง่ สืบทอดทัง้ รูปแบบดัง้ เดิม และพัฒนาแนวทางส่วนตัว ผสมผสานจนกลาย เป็นแนวทางศิลปะที่ก้าวหน้ายิ่งกว่าจิตรกรรม แม้ศิลปะทั้ง 2 แขนงจะเดินบนมรรคาเดียวกันก็ตาม

รูปลักษณ์แห่งอักษร

บทแรกของศิลปะแห่งอักษรเริม่ จาก อักษรโบราณ หรือ อักษรตราประทับ เป็นภาพสะท้อนชัดเจนจากยุคอักษรภาพ หาก ปรับแปรเป็นเชิงมโนทัศน์ มิอาจคาดเดาความหมายได้ หากมิได้ ร�ำ่ เรียนรหัสนัยของภาพมโนทัศน์นนั้ อักษรจ้วนแบ่งเป็นสองสาย ‘อักษรตราประทับใหญ่’ สืบทอดจากราชวงศ์โจว รูปแบบนี้ต่อมาแตกแขนงเป็นนับสิบ แนวทางส�ำนัก หลังจากราชวงศ์โจวสูญสิน้ อธิปตั ย์ อ�ำนาจกระจาย สูแ่ ว่นแคว้นนับไม่ถว้ น แต่ละแคว้นจึงพัฒนาอักขรวิธตี า่ งๆ กัน แปลกพิสดารกระทัง่ ไม่อาจสือ่ สารข้ามแว่นแคว้น ต่อมาจิน๋ ซีฮอ่ งเต้สยบร้อยแว่นแคว้น รวมแผ่นดินเป็น หนึง่ มุง่ หมายสร้างเอกภาพ จึงก�ำหนดมาตรฐานการอ่านเขียน เพียงหนึง่ เดียว เรียก ‘อักษรตราประทับเล็ก’ เปิดฉากราชวงศ์ฮั่น อักษรตราประทับเติบโตต่อยอด เป็น ‘อักษรทางการ’ ค�ำว่า ‘ทางการ’ หมายความชัดเจนถึง


สมัยสามก๊ก อักษรได้วิวัฒน์อีกครั้งเป็น ‘อักษรมาตรฐาน’ อันเป็นแบบฉบับมาตรฐานตัวอักษรที่ ใช้กันโดยทั่วไป ยาวนานนับสองพันปีจนถึงวันนี้

อักษรส�ำหรับใช้ในวงราชการ ลักษณะปราดเปรียว ไม่ประสงค์ เปิดเผยความหมายชัดเจนผ่านการคลี่คลายของภาพสู่ลายเส้น ดังเช่นรูปแบบรุน่ ก่อน ทัง้ นีเ้ พือ่ ความรวดเร็วจึงลดทอนบางส่วน และเพิม่ ส่วนทีจ่ ำ� เป็นส�ำหรับการผสมความหมาย แต่ยงั คงท่วงที หรูหรางามสง่าเยีย่ งอักษรภาพโบราณ ยิง่ ยุคสมัยพบพานความแปลกใหม่ของปรัชญา ยิง่ พบ รสชาติหลากหลายแห่งศิลปะ อักษรจึงยิง่ คลีค่ ลายสูร่ ปู ทรงใหม่ เปิดทางสู่การพัฒนา ‘อักษรหวัด’ เบื้องหลังของศิลปะอักษร แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งความเร่งรีบของบัณฑิตสมัยฮั่น และ การบรรลุถงึ ศิลปะแห่งร่ายรูปค�ำโดยไม่ยดึ ติดกับรูปทรงตายตัว ราวกับแท่นพิมพ์ สมั ย สามก๊ ก อั ก ษรได้ วิ วั ฒ น์ อี ก ครั้ ง เป็ น ‘อั ก ษร มาตรฐาน’ อันเป็นแบบฉบับมาตรฐานตัวอักษรทีใ่ ช้กนั โดยทัว่ ไป ยาวนานนับสองพันปีจนถึงวันนี้ แต่แบบอักษรทีย่ กย่องกันว่าเป็นศิลปะแห่งการแสดงถึง เอกภาพระหว่างมนุษย์และรูปค�ำมากทีส่ ดุ คือ ‘อักษรหวัด’ อย่าง ไม่ตอ้ งสงสัย นับแต่โบราณแล้วทีว่ งวิจารณ์กระบวนท่าพูก่ นั ชีข้ าด ความสูงส่งกันด้วยแนวทางอักษรรูปแบบนี้ ก่อนหน้าสมัยฮัน่ วิถแี ห่งอักษรเริม่ ต่อยอดจากรุน่ ก่อน ก�ำเนิดเป็นบุคคลิกเฉพาะตน ก่อนหน้านีว้ ถิ แี ห่งอักษรพัฒนาตาม รูแบบเคร่งครัด หากในความเคร่งครัดซ่อนความหมายลึกซึง้ ไว้ ในยุคนีม้ มี อื พูก่ นั เลือ่ งชือ่ อย่าง ไช่หยง

ละเลงเพลงอักษร

ในสมัยจิน้ ต่อมาจนถึงสมัยถัง ปรากฏปรามาจารย์อกั ษวิจิตรมากมาย ยืนยันความเป็นหมายหลักเชื่อมต่อระหว่าง แนวทางดัง้ เดิมจากยุคโบราณ สูแ่ นวทางสากลทีจ่ ะสืบทอดจนถึง คนรุน่ เรา แต่ในบรรดานามอุโฆษนับแต่สมัยฮั่นจวบจนยุคร่วม

สมัย ไม่มผี ใู้ ดจะทัดเทียมได้กบั หวางซีจอื ผูย้ นื อยูบ่ นต�ำแหน่ง ‘ปรมาจารย์อกั ษรวิจติ ร’ หาใช่นกั ตวัดผูก้ นั ชัน้ สามัญ หรือบัณฑิต ผูเ้ พียงได้ชอื่ ว่าหลงใหลในรูปลักษณ์แห่งค�ำไม่ และ เซียนอักษร ไม่ใช่เพียงฉายา แต่เป็นการประกาศ ว่า อักษรคือครรลองชีวติ และชีวติ ด�ำรงอยูบ่ นครรลองแห่งอักษร เคลือ่ นไหวสอดประสาน แน่วแน่ประดุจจิตและลมหายใจจดจ่อต่อ อานาปาณสติฉนั นัน้ คนรุน่ หลังชมเชยอักษรวิจติ รจากปลายพูก่ นั เซียนอย่าง เลิศเลอไว้วา่ “ประหนึง่ มังกรเกีย่ วร่างกลางประตูสวรรค์ ประหนึง่ พยัคฆ์หมอบในเคหาสหงสา” คืออุปมาถึงความอลังการและงาม สง่าแห่งลายหวัด ผลงานของ หวางซีจอื ควรค่ากับค�ำสรรเสริญเพียงนัน้ ! หวางซีจอื เป็นบุคคลเช่นไร? ภายนอกอาจเป็นเพียงบัณฑิตคงแก่เรียน ในยามสงบ ร�ำงับสายตาจับอยูท่ กี่ อ้ นเมฆเหนือยอดผา เฝ้าค�ำนึงถึงอักษรนับ หมืน่ ตัวทีผ่ า่ นเข้ามาในหัวใจ และโลดแล่นออกมาจากปลายพูก่ นั เขาอาจเป็นบุคคลเยีย่ งนัน้ หวางซีจอื เกิดเมือ่ ปีค.ศ. 303 ทีเ่ มืองหลางหยา ปัจจุบนั คือเมืองหลินอี๋ (บ้านเกิดของจูจดั เหลียง ขงเบ้ง) วงศ์สกุลของ หวางซีจอื มีอทิ ธิพลในแถบถิน่ นัน้ มาตัง้ แต่สมัยราชวงศ์ฮนั่ ตะวัน ออก เรียกขานกันว่าสกุลหวางสายหลางหยา มีเครือญาติรบั ราชการหลายรุน่ รวมถึงบิดาของ หวางซีจอื ในหลายรุน่ นัน้ ล้วน แต่เป็นมือพูก่ นั อักษรวิจติ รอยูไ่ ม่นบั ถ้วนคน ในวัยเยาว์สบื ทอดทักษะอักษรวิจติ รจากฮูหยินเหวยซัว่ มือพูก่ นั สตรีเพียงไม่กคี่ นในหน้าประวัตศิ าสตร์ทไี่ ด้รบั การยกย่อง เทียบชัน้ ปรมาจารย์ เหวยซัว่ ผูน้ เี้ ป็นใคร? .............................. (อ่านต่อฉบับหน้า)

ปล่อย 53


ปล่อยแขก

เรื่อง : ศุภเมธ หมายมุ่ง

ล�ำน�ำ เมื่

อไม่กวี่ นั ก่อน ผมได้รบั เกียรติจากเพือ่ นให้ชว่ ยเขียนอะไรให้ สักนิด เพือ่ จะน�ำลงนิตยสาร e-magazine เหตุทผี่ มต้อง บอกว่าได้รบั เกียรตินนั้ ด้วยว่าเพือ่ นรูจ้ กั ผมดีวา่ เป็นคนขีเ้ กียจ อย่างเหลือร้าย และทัง้ ๆ ทีเ่ ขารูก้ ำ� พืดข้อนีด้ เี ช่นนีแ้ ล้ว เขายังกล้า เสีย่ งให้เขียนอะไรให้อกี จึงต้องนับถือเขาว่าให้เกียรติอย่างแรง เรือ่ งทีจ่ ะให้เขียนก็ออกจะเปิดโอกาสให้เขียนอะไรอย่าง สบายใจ จะได้ไม่มเี งือ่ นไขให้ได้ผดั วันประกันพรุง่ อย่างทีผ่ มถนัด ซึง่ ข้อนีอ้ อกจะเป็นสิง่ ทีเ่ ขาให้เกียรติอกี นัน่ แหละ นับเป็นเรื่องบังเอิญกันอยู่บ้างเพราะผมได้มีโอกาส มาใช้ชวี ติ ต่างประเทศ คือประเทศอันเดีย ประเทศใหญ่โต มี ประวัตศิ าสตร์ยงิ่ ใหญ่ มีอะไรๆ ทีเ่ ป็นขาวและด�ำ หรือนรกกับ สวรรค์ในเรือ่ งเดียวกันอย่างน่าอัศจรรย์ใจ อินเดียถือเป็นประเทศ ยากจนที่ใครหลายคนอยากมาเที่ยวสัมผัสสักครั้ง แต่ส�ำหรับ ท่านๆ ทีค่ าดหวังว่าจะได้อา่ นล�ำน�ำการพาเทีย่ วตามสถานทีต่ า่ งๆ ข้าพเจ้าต้องขอออกตัวไว้กอ่ นว่า สงสัยท่านจะต้องผิดหวังเสีย แล้ว ผมว่าคุณหาอ่านตามนิตยสารน�ำเทีย่ วน่าจะดีกว่า

54 ปล่อย


คนที่เกิดมาต�่ำกว่า เขาก็จะยินดีกับสิ่งที่เขาเกิดมา เขาจะถือว่าเมื่อชาติที่แล้วท�ำบุญมาน้อย ดังนั้นหากจะเกิดในวรรณะที่สูงกว่า ต้องก่อกรรมดีในชาตินี้ จริงแล้ว ผมมาอินเดียเพือ่ ร�ำ่ เรียน แสวงอะไรบางอย่างเพือ่ ชุมชนของผม ซึง่ ก็ไม่จำ� เป็นต้องอธิบายให้ยดื ยาว แต่เป็นคนทีช่ อบ มองชีวติ คนเป็นนิจ อาจจะเป็นเพราะนิสยั ขีเ้ กียจนีก่ ไ็ ด้ เลยได้แต่มอง ชีวติ มองโน่นนีต่ ามประสา ดังนัน้ สิง่ ทีผ่ มเขียนน่าจะเป็นความสบายใจในการเล่าให้ฟงั ออกจะเกรียนๆ หน่อย ส�ำหรับคนทีเ่ ป็นประเภทอินเดียนิยม หรือ แอนตีอ้ นิ เดีย ก็ขออภัยไว้ลว่ งหน้า เพราะสิง่ ทีก่ ำ� ลังจะเขียนมันคือ สิง่ ทีม่ นั ปรากฏต่อสายตา โดยออกมาในทางทัศนะเสียมากกว่า และ อย่าถือเป็นเอกสารอ้างอิงให้เมือ่ ย ถือเสียว่าอ่านเอาสนุกก็แล้วกัน เมือ่ พูดถึงอินเดีย ภาพในมโนทัศน์ของคนส่วนมากทีไ่ ม่เคย มาน่าจะมีไม่กเี่ รือ่ ง ผมว่าน่าจะมี หนึง่ วรรณะ สองความยากจน(ภาพ รถไฟทีค่ นโหนเต็มเป็นพรวน) สามขี้ เป็นอันดับต้นๆ ก่อนจะนึกถึงสี่ สังเวชนียสถานเสียด้วยซ�ำ้ ไม่นา่ แปลกหรอกครับ ผมเองก็เหมือนกัน ว่าด้วยเรือ่ งวรรณะนีห่ ลายคนคงพยายามนึกภาพว่ามันเป็น อย่างไรกันแน่ เมือ่ แบ่งชนชัน้ วรรณะกันแล้วเขาอยูก่ นั ได้อย่างไร แล้ว ท�ำไม่เขาไม่ประท้วงเพือ่ ความเท่าเทียมกัน เท่าทีเ่ ราได้รจู้ กั วรรณะทีต่ ำ�่ กว่ามีมากกว่าเสียด้วยซ�ำ้ ประชากรเขาก็มากแม้จะเป็นรองแค่จนี แต่ ถ้าเทียบอัตราส่วนกับพืน้ ทีแ่ ล้วชนะจีนขาดแบบครึง่ ต่อครึง่ และคิด หรือว่าคนอินเดียจะมีสมั โนครัวกันทุกคน ทีต่ กส�ำรวจอีกเท่าไหร่กไ็ ม่รู้ ผมเองก็ไม่รหู้ รอกครับ เอาเป็นว่าผมจะเล่าสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ใน แถบทีผ่ มอยูก่ แ็ ล้วกัน อย่างแรก ศาสนาฮินดูทอี่ นิ เดียนัน้ แข็งแรงมากครับ ต้อง ยอมรับว่าเป็นศาสนาที่เก่าแก่มาก มากกว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม เสียด้วย แต่ศาสนาพุทธดันมีคมั ภีรค์ ำ� สอนก่อนเขา เขาเลยต้องมา เขียนคัมภีรต์ ามหลังพุทธ เพราะมิฉะนัน้ เข้าข่ายการเป็นศาสนาไม่ได้ (ศาสนาประกอบด้วย ศาสดา คัมภีร์ นักบวช สาวก) เดีย๋ วได้เป็นแค่ ลัทธิ แต่วา่ ด้วยการนับถือนีเ่ ขามีมานานมาก และมีพระเจ้าของใคร ของมัน ครอบครัวใครครอบครัวมัน วรรณะใครวรรณะมัน

คนทีเ่ กิดมาต�ำ่ กว่า เขาก็จะยินดีกบั สิง่ ทีเ่ ขาเกิดมา เขาจะ ถือว่าเมือ่ ชาติทแี่ ล้วท�ำบุญมาน้อย ดังนัน้ หากจะเกิดในวรรณะทีส่ งู กว่า ต้องก่อกรรมดีในชาตินี้ และจะทะลึง่ ไปแกล้งตบตาว่าตัววรรณะสูงก็ ไม่ได้ ครอบครัว ญาติพนี่ อ้ ง คนในสังคมเดียวกันประณามเอาตาย ห่า ครัง้ หนึง่ เพือ่ นชาวอินเดียเล่าให้ฟงั ว่าคนแถวรัฐพิหารเคยเปลีย่ น ศาสนามาเป็นพุทธ เพือ่ จะได้สทิ ธิเ์ ท่าเทียมคนอืน่ ปรากฏว่าพ่อแม่ ไล่ออกจากบ้าน ไม่คบค้าด้วยเลย ถือว่าไม่เจียมตัว ลบหลู่ หายนะ จะมาเยือน คนทีว่ รรณสูงกว่าก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระก�ำเสียทีเดียว อย่างแถวๆ ทีผ่ มอยูน่ ี่ มีหมูบ่ า้ นของชาวบ้านทีว่ รรณะต�ำ่ กว่า ยากจน อยูบ่ า้ นดิน ท�ำงานกรรมกรทุกอย่าง มีฐานะขึน้ มาหน่อยก็ปน่ั สามล้อ หรือจักรยาน ส่วนตัว ส่วนผูห้ ญิงออกท�ำงานบ้าน บ้านทุกหลังต้องจ้างเข้าท�ำงานนะ ครับ เดือนละ 300 รูปี ท�ำทุกอย่างกวาดบ้านถูบา้ น ประมาณ 2-3 ชัว่ โมงไปบ้านหลังใหม่ คนหนึง่ ตกวันละ 4-5 หลังต่อวัน อย่างบ้านเจ้าของบ้านทีผ่ มเช่าอยูน่ กี้ ต็ อ้ งจ้างทัง้ คนท�ำความ สะอาด คนสวน เขาบอกว่าไม่จา้ งก็ได้ แต่เราต้องช่วยกัน ไม่งนั้ เขา ไม่มีกินมีใช้ เป็นการดูแลกัน ถ้ามาอยู่ที่นี่เราก็จะเห็นพวกเขาเดิน ตามถนนกันขวักไขว่เพือ่ ไปบ้านนายจ้าง จะจ้างมากก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะคนจ้างก็แบกภาระค่าใช้จ่ายสูงเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่ผู้ชาย ต้องออกท�ำงานคนเดียว ผูห้ ญิงดูแลบ้าน มีนอ้ ยมากทีผ่ หู้ ญิงจะต้อง ออกท�ำงานนอกบ้าน อะไรๆ ก็เลยต้องเป็นแบบถ้อยทีถอ้ ยอาศัยกัน คนทีไ่ ม่จา้ ง พวกเขาท�ำงานให้ จะเป็นคนประหลาดในละแวกนัน้ เชียวล่ะครับ เป็น เช่นนี้ ความยากจนจึงด�ำเนินต่อไป เมือ่ มีความยากจนก็จะมีขโมยตาม มา เป็นเรือ่ งธรรมดาครับ ดังนัน้ ถ้าได้มาอินเดียอย่าแปลกใจเมือ่ เห็น ทุกบ้านมีลกู กรงแน่นหนา ล้อมรัว้ ราวกับว่าเป็นสถานทีร่ าชการ หรือ บ้านเศรษฐีรอ้ ยล้าน เพราะถ้าไม่ทำ� มีคนดอดมาเอาของคุณแน่ ฉบับนีอ้ อกแขกไปก่อน ฉบับหน้าค่อว่ากันต่อ

ปล่อย 55


ปล่อยกันไปแฮ้ง

เรื่อง : KEN ภาพ : อ๊อด อ๊อด

ชิล ชิล ลอยฟ้า... 56 ปล่อย

อโบฟ อีเลฟเว่น


อโบฟ อีเลฟเว่น ชั้น 33 โรงแรมเฟรเซอร์ สวีท สุขุมวิท 11 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00 น.-02.00 น. โทร. 02-207-9300

วัสดีครับพวกเราชาวปล่อย...จะปล่อยของ ปล่อยใครแต่ อย่าลืมปล่อยใจ กับปล่อยกันไปแฮ้ง กันด้วยนะครับ อิอิ แม้ตอนนีเ้ ป็นทีของฤดูฝนทีก่ ระหน�ำ่ ตกทุกวีท่ กุ วัน คน อืน่ ๆ อาจปวดเฮด แต่สำ� หรับพวกเราชาวปล่อย...ทัง้ หลายจะ ให้ยอม แพ้ฤดูกาลคงไม่ใช่... ดังนั้นค�่ำคืนนี้พอฝนจางสาย เราจึงมีจุดหมายใหม่ ทีใ่ ห้ชาวปล่อย ได้ออกไปปล่อยของแบบชิล ชิลกันเสียให้อมิ่ อุรา ด้วยการสัมผัสกับบรรยากาศลอยฟ้าทีจ่ ะท�ำให้คณ ุ ทัง้ สุข และแสนสนุกบนดาดฟ้าทีส่ งู ทีส่ ดุ ในซอยสุขมุ วิท 11 (นานา) จุดหมายทีว่ า่ ก็คอื อโบฟ อีเลฟเว่น (Above Eleven) บาร์ลอยฟ้าทีต่ งั้ อยูบ่ นชัน้ ดาดฟ้า ของโรงแรมเฟรเซอร์ สวีท สถานทีจ่ ะท�ำให้คณ ุ ๆ ได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของกรุงเทพฯ อย่างเต็มตาในมุมมอง 360 องศาเชียวนะเออ.. ลิฟท์สว่ นตัวพาเราขึน้ มาชัน้ ที่ 33 ของโรงแรม สัมผัส แรกเราจะเจอ อโบฟ อีเลฟเว่น ในมุมทีช่ วนสัมผัสยิง่ ภายใต้ แนวคิดสวนส่วนตัวทีเ่ จ้าของได้รบั แรงบันดาลใจมาจากเซนทรัล พาร์ค สวนใหญ่ใจกลางเมืองนิวยอร์คโน่น การตกแต่งนะเหรอ...เน้นความเป็นโมเดิรน์ ประดับ ประดาด้วยประติมากรรมต้นไม้เหล็ก และครอบคลุมด้วย สนามหญ้า เสมือนอยู่กลางป่าเขา ให้อารมณ์คล้ายๆ กับ ก�ำลังนัง่ ดินเนอร์อยูใ่ ต้ตน้ ไม้ใหญ่กลางเมือง และทีแ่ น่ๆ เรา จะได้สมั ผัสความตืน่ ตาตืน่ ใจกับมุมเอาท์ดอร์ ในมุมมองทีไ่ ม่ เคยสัมผัสมาก่อน เก้าอีไ้ ม้นงั่ โซฟารูปสวยตัวเขือ่ ง และเสียง เพลงประสานเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เรียกพลังทีห่ าย ไปกับความเมือ่ ยล้าหนักหน่วงมาตลอดสัปดาห์ ให้คนื กลับมาก ระชุม่ กระชวยกันทีเดียวล่ะเออ เอาซี!้ !! ณ ทีแ่ ห่งนี้ นอกจากไวน์ เบียร์ และบรัน่ ดี คัดสรรค์ มาเอาใจแบบไม่อิดออด ยังพร้อมสัมผัสกับรสชาติอาหาร ลูกผสมระหว่างญีป่ นุ่ กับเปรู ในสไตล์ “นิเคอิ” ศิลปะการปรุง อาหารทีผ่ สมผสานระหว่างอาหารญีป่ นุ่ และเปรูอย่างลงตัว เอาเป็นว่าสัง่ เครือ่ งดืม่ ย้อมใจมาท�ำความคุน้ เคยกัน ก่อน แล้วก็อย่าลืมเรียกหานิเคอิมาสมทบความสนุกสนานกัน นะ ขอเริม่ ต้นกับเมนูยอดนิยม เชบิเช อโบฟ อีเลฟเว่น ปลา กะพงดิบเนือ้ หวานผสานกับปลาหมึก กุง้ ราดด้วยน�ำ้ ย�ำสูตร พิเศษ น�ำมาคลุกเคล้าจนเข้ากัน รับประทานคูก่ บั สวีตโปเตโต ..อืมอร่อยแสนเพลินเชียวล่ะ

คานิ เกาซา คืออีกเมนูทไี่ ม่ควรพลาด คานิในภาษา ญีป่ นุ่ แปลว่า “ปู” เมนูนจี้ งึ ใช้มนั บดปรุงรสยัดไส้ดว้ ยอโวคาโด ออกเปรีย้ วอมเค็ม หอมกลิน่ พริกเหลืองของเปรูเบาๆ แล้วข้าง บนจะท็อปปิง้ ด้วยเนือ้ ปูบด แหม...เมนูนสี้ ดุ ๆ ไปเลยขอบอก อีก เมนู อาร์รอซ กอน มาริสกอส หรือข้าวอบสไตล์เปรู อุดมไป ด้วยของฝากจากทะเล ทัง้ กุง้ หอยพาร์ม มีกลิน่ หอมของเครือ่ ง เทศ ไปลองเองแล้วกันนะ อิอิ ตบท้ายด้วยเมนูนา่ ใจหาย หัวใจวัวเสียบไม้ยา่ ง เนือ้ หัวใจวัวทีเ่ ลาะเอากล้ามเนือ้ ออก เหลือไว้แต่หวั ใจล้วน ทีน่ มุ่ และ แน่นหนึบหนับขนาดพอค�ำ แล้วน�ำไปหมักกับน�ำ้ ส้มสายชู และ เครือ่ งเทศนานา ก่อนน�ำมาย่างจนหอมฉุย กินกับซอสต�ำรับเปรู 3 ชนิด จะบอกไงดีละ่ เออ...ไม่ควรพลาดทีจ่ ะสัง่ มาลอง อ่อ...ไม่ชอบเหล้าไม่เป็นไร มาถึงทีน่ ท่ี งั้ ทีกล็ องสัง่ พิส โก ซาวด์ เมนูประจ�ำชาติเปรูกนั ดู ท�ำจากบรัน่ ดีชน้ั ดีของเปรู หมักจากองุน่ ใส่ไข่ขาว ผสมกับมะนาวหรือเสาวรส สัง่ มาซดสัก แก้วสองแก้วเดีย๋ วได้เรือ่ ง 5555 พูดมากไปเดี๋ยวจะหาว่าฝอย เอาเป็นว่าราตรีนี้ยัง เยาว์นกั ไปปล่อยยยย..เมือ่ ไหร่กอ็ ย่าลืมโทร. มาชวนกันด้วยนะ คร้าบ อิอ!ิ !!

ปล่อย 57


ปล่อยไปตีทา้ ยครัว

เรื่อง : 11 สิงหา

ณ ทีแ่ ห่งแรงบันดาลใจ ก่

อนอืน่ ก็ตอ้ งขอแนะน�ำตัวหน่อย ว่าเป็นนักข่าวธรรมดา ทีม่ โี อกาสพิเศษกว่าคนอืน่ อยูน่ ดิ หน่อย ย�ำ้ นะครับ ว่านิด หน่อย คือ การได้มโี อกาสเดินทางไปตามทีต่ า่ งๆ เวลาไปท�ำ ข่าว และความชอบส่วนตัว ทีช่ อบท่องเทีย่ ว เมื่อมีพรรคพวกพี่น้อง ที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ชักชวนให้มาเขียนต้นฉบับปล่อยของกันอย่างทีช่ อบ ถึงแม้ จะมีไม่เยอะ แต่ทเี่ ก็บไว้กไ็ ม่นอ้ ย เลยไม่พลาดทีจ่ ะมีของมา ปล่อยกับเขาบ้าง จากการที่ ผ มได้ อ อกต่ า งจั ง หวั ด หรื อ แม้ แ ต่ ใ น กรุงเทพฯ ก็ดี ท�ำให้มีโอกาสได้ไปพบเจอกับร้านอาหาร บรรยากาศดีๆ มาก็เยอะ จึงขอปล่อยของเหล่านีใ้ ห้คณ ุ ผู้ อ่านได้รจู้ กั กันบ้าง เรือ่ งราวของต้นฉบับในตอนนีม้ นั เริม่ จากนานๆ ที่ ผมจะมีวนั หยุดยาวๆ กับเขาบ้าง เมือ่ ประจวบเหมาะมีโอกาส ได้หยุดยาว 3 วัน เลยตัง้ เป้าหมายกับตัวเองว่า ท�ำยังไงก็ได้ ขอออกจากกรุงเทพฯ เป็นพอ จะเป็นทะเลทีห่ วั หิน ชะอ�ำ เทีย่ วตลาดน�ำ้ ค้างคืนดูหงิ ห้อย อะไรก็ได้ แต่กย็ งั ตัดสินใจ ไม่ได้วา่ จะไปทีไ่ หนดี แต่กเ็ หมือนสวรรค์มาโปรด เมือ่ มีรนุ่ พีท่ รี่ จู้ กั ชวนไป

58 ปล่อย


ณดล มีความหมายว่า “ณ ที่แห่งแรงบันดาลใจ” ตั้งอยู่ริมธารน�้ำตก ท่ามกลางความสมบูรณ์ของ ธรรมชาติ ความฉ�่ำเย็นของธารน�้ำตกที่ไหลริน ลดหลั่นเป็นชั้นจากน�้ำตกมวกเหล็ก

ขับรถไปตามถนนมิตรภาพบริเวณ อ.มวกเหล็ก ก่อนถึงปากช่องและ โคราช เพียงชัว่ โมงครึง่ จากกรุงเทพฯ และ 30 นาทีกอ่ นถึงเขาใหญ่ ทีต่ งั้ 191 หมู1่ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 18180 โทรศัพท์ +66(0)36 342 455-7 โทรสาร +66(0)36 342 458 อีเมล rm@ndolvillas.com เว็บไซต์ www.ndolvillas.com

อ�ำเภอมวกเหล็ก จะไปถ่ายงานทีน่ นั่ เดินทางฟรี พร้อมมีที่พักให้อีกต่างหาก ผมเลยไม่พลาดที่จะ ตัดสินใจร่วมทริปนี้ ส่วนการเดินทางก็ใช้เวลาไม่ นาน เพียงชัว่ โมงครึง่ เราก็ถงึ ทีห่ มาย อ�ำเภอมวก เหล็กโดยสวัสดิภาพ “มวกเหล็ก” เป็นอ�ำเภอหนึ่งในจังหวัด สระบุรี เดิมอยูใ่ นการปกครองของอ�ำเภอแก่งคอย แต่เนือ่ งจากมีพนื้ ทีก่ ว้างขวางมาก ภูมปิ ระเทศเป็น ป่าไม้ภเู ขาทีอ่ ดุ มสมบูรณ์ ท�ำให้ทางราชการดูแลได้ ไม่ทวั่ ถึง ต่อมาความเจริญเริม่ เข้ามา รัฐบาลจึง แยกพืน้ ทีส่ ว่ นหนึง่ มาตัง้ เป็นอ�ำเภอมวกเหล็ก ทีเ่ รา รูจ้ กั กันปัจจุบนั ทีน่ มี่ แี หล่งท่องเทีย่ วทางธรรมชาติ ทีน่ า่ สนใจมากมาย อาทิ อุทยานแห่งชาตินำ�้ ตก เจ็ดสาวน้อย น�ำ้ ตกมวกเหล็ก และสวนรุกขชาติ มวกเหล็ก เป็นต้น นอกจาก มวกเหล็ก จะเป็นแหล่งท่อง เที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจแล้ว ผมยังสังเกตเห็น รถราที่ดูขวักไขว่ คิดว่าหลายคนก็แอบหนีความ วุน่ วายของเมืองกรุง มาสูดบรรยากาศอันสดชืน่ ของทีน่ กี่ ม็ ไี ม่นอ้ ย ด้วยความเจิรญทีเ่ ข้ามาท�ำให้ทพ่ี กั ของทีน่ ี่ จึงผุดขึน้ กันอย่างกับดอกเห็ด ทัง้ เจ้าของพืน้ ทีเ่ อง และนายทุนทีเ่ ข้ามาลงทุน มีทงั้ แบบบ้านๆ โฮม สเตย์ รีสอร์ทสุดหรู หรือแม้แต่ทพี่ กั รายวันราคา ถูก แต่ในวันทีผ่ มไปนัน้ มีโอกาสได้รบั ความกรุณา จากเจ้าของรีสอร์ทให้เข้าไปพักที่ ณดล วิลล่า พนักงานบอกกับผมว่า ณดล มีความ หมายว่า “ณ ที่แห่งแรงบันดาลใจ” ตั้งอยู่ริม ธารน�ำ้ ตก ท่ามกลางความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความฉ�ำ่ เย็นของธารน�ำ้ ตกทีไ่ หลริน ลดหลัน่ เป็น ชัน้ จากน�ำ้ ตกมวกเหล็ก โดยปลายทางของธารน�ำ้ แห่งนี้ คือ น�ำ้ ตกเจ็ดสาวน้อย และด้วยความได้ เปรียบด้านภูมปิ ระเทศ บวกกับการอยูใ่ กล้แหล่ง น�ำ้ ท�ำให้ทนี่ มี่ อี ากาศเย็นสบายอยูต่ ลอดทัง้ ปี ส่วนการตกแต่ง เจ้าของรีสอร์ทบอกว่า ได้แรงบันดาลใจจากการที่อยากให้ทุกคนได้เห็น ถึงวัฒนธรรมความเป็นอยูอ่ ย่างไทย ตัวบ้านทีท่ ำ� จากไม้ ตัง้ อยูบ่ นเสายกระดับจากพืน้ หลังคาหน้า จัว่ สง่างาม เป็นเอกลักษณ์ทเี่ ด่นชัดของเรือนไทย เดิมทีห่ าดูได้ยาก

การตกแต่ ง ของที่ นี่ จึ ง เน้ น ความเป็ น เรือนไทย น�ำเสนอมรดกแห่งความงดงามของ เรือนไทยเดิม และเสน่หข์ องวิถตี ะวันออกผสมกัน อย่างลงตัว ในส่วนของทีพ่ กั ของ ณดล วิลา่ มีทงั้ หมด 15 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 สไตล์เพือ่ ความชอบที่ ต่างกัน สยาม วิง สัมผัสของเอกลักษณ์เรือนไทย แบบดัง้ เดิมทีเ่ ป็นฝาไม้ปะกน ทีอ่ นุรกั ษ์แบบดัง้ เดิม เอาไว้ โอเรียนทอล วิง เป็นห้องสไตล์เดอลุกซ์ ตกแต่งด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย กับยุโรป และทีส่ ดุ แห่งความเป็นส่วนตัวด้วย เดอะ วิลล่า วิลล่าส่วนตัวสุดหรูตดิ กับล�ำธาร นอกจากทีพ่ กั ของทีน่ จี่ ะน่าพักผ่อนอย่าง มากแล้ว เมนูอาหารทีน่ กี่ ไ็ ม่ธรรมดา การันตีดว้ ย สูตรต้นต�ำหรับชาววังของ หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล วันทีเ่ ราไปนัน้ ทางร้านได้นำ� เสนอเมนูหลาย อย่าง ทัง้ ต้มผัด แกง ทอด แต่มอี ยูห่ นึง่ เมนู ที่ อยากจะแนะน�ำให้ไปรับประทานกันเหลือเกิน เป็น เมนูธรรมดาทีใ่ ครหลายคนอาจจะยังไม่เคยทาน “ต้นอ่อนทานตะวันผัดน�ำ้ มันหอย” เคย ทานกันไหมครับ ตัวผมเองต้องยอมรับตรงๆ แหละครับ ว่าเพิง่ เคยได้ยนิ และรับประทานทีน่ เี่ ป็นครัง้ แรก ทางรีสอร์ท เขาเอาวัตถุดบิ จากท้องถิน่ คือ ต้น อ่อนของทานตะวัน ทีด่ คู ล้ายๆ กับถัว่ งอก แต่ ต่างกันทีห่ วั มันจะโตกว่ามาก มาผัดกับน�ำ้ มันหอย บุบพริกกับกระเทียมใส่ลงไปเพิม่ รสชิ เหยาะซอส ปรุงรส เพิม่ น�ำ้ มันหอย ปรุสรสตามใจชอบเป็น อันเสร็จ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยแบบง่ายๆ ต้องยอมรับจริงๆ ว่าเมนูนมี้ นั ท�ำง่ายแต่จะให้อร่อย แบบนีค้ งยาก ทีน่ นี่ อกจากจะบริการห้องพักและอาหาร แล้ว ยังมี ณ ดล สปา ให้บริการนวดไทย ด้วย อโรม่าและ สครับ จากสมุนไพรธรรมชาติ ไม่มสี าร เคมีเจือปน หรือจะซือ้ ของตกแต่งบ้านกลับไปฝาก เพือ่ นๆ ที่ ณ ดล บูตคิ เขาก็มใี ห้บริการ ไม่วา่ วันหยุดสุดสัปดาห์ไหน หากยังไม่รู้ จะไปทีใ่ ด ลองไปพักรีสอร์ททีต่ ดิ กับธรรมชาติ หรือ ไปชิมอาหารต้นต�ำหรับชาววัง ที่ ณ ดล วิลล่า มวกเหล็ก ก็ไม่เลวนะครับ

ปล่อย 59


ปล่อยเรือ่ งเล่า บทคารวะ

เรื่อง : ประยูร หงษาธร

ค�ำ่ คืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 หาใช่ฤดูวสันต์แต่อย่างใดไม่ ทัง้ ท้องฟ้าก็พราวระยิบด้วยหมูด่ าว ทว่าอยูๆ่ ฝนก็กระหน�ำ่ ลงมา ลานหญ้าสนาม ฟุตบอลโรงเรียนวัดพิกลุ ทอง ซึง่ คลาคล�ำ่ ผูค้ น หญิง ชาย เด็กเล็กเด็กน้อยยัน เฒ่าชราหัวหงอก ต่างวิง่ กรูเข้าไปเบียดกันอยูใ่ ต้อาคารเรียนสองชัน้ ซึง่ ตัง้ ขนาบ สนามฟุตบอลฝัง่ ทิศเหนือและทิศตะวันออก ส่วนตรงกลางสนามฟุตบอลมีเวที คอนเสิรต์ ขนาดย่อมตัง้ ท่ามกลางห่าฝนหลงฤดูอย่างเดียวดาย ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่นาที นักดนตรีผมยาวคนหนึ่งเพิ่งจะขับร้อง บทเพลง ‘คนเลว’ ในแนวอะคูสติก นิว้ มือขวาของเขาเกีย่ วสายเอ็นทัง้ หก นิว้ มือซ้ายพรมพลิว้ ระหว่างเฟลตบนคอกีตาร์ สอดล้อรับจังหวะกับเพอร์คตั ชัน่ ของ ศิลปินหนุม่ ใหญ่ ผูร้ ะรัวสองฝ่ามือบนเครือ่ งดนตรีตรงหน้าอย่างผึง่ ผาย ณ มุม หนึง่ ของเวที - - ‘หลับตาเถิดหลับฝัน ให้ฝนั นัน้ ลอยไป ลอยไปสูโ่ ค้งฝัน แค่นี้ แหละแค่นนั้ ชีวติ ฉันทุกวัน แค่ฝนั ทีม่ .ี ..หลับฝันถึงความดี หลับฝันถึงความดี’ โฆษกเวทีขึ้นมากล่าวกับผู้ชมด้านล่างว่าบทเพลงคนเลวที่เพิ่งจะจบ ไป เป็นงานเพลงทีผ่ ตู้ ายเขียนเมือ่ นานมาแล้ว มีนกั ร้องหลายคน หลายวง น�ำ ไปร้องบันทึกเสียงไว้หลายเวอร์ชน่ั ในทันทีนนั้ ขีเ้ มาคนหนึง่ ซึง่ ร่ายลีลายักย้าย หน้าเวที ร่างผอมกะหร่องโชว์ซโี่ ครงเรียงเป็นแนวเพราะเสือ้ ยืดสีขาวมอมทีม่ ไี ว้ ใส่ แต่แกกลับใช้พาดบ่า นุง่ ยีนส์ขายาวขาดและมีรอยปะอยูเ่ ต็ม ตะโกนตอก หน้าโฆษกด้านบนว่า - - รูแ้ ล้วว่าใครแต่ง แม่ง เหมือนพีเ่ ขาเขียนให้ผม..ชีวติ ทีฉ่ นั เป็น คนเลว หลับฝันถึงความเลว - - เสียงขีเ้ มาแหลมสูงตอนท้าย โฆษก ยิม้ แหย พูด - - ครับ ครับ สงสัยพีเ่ ป็นแฟนพันธุแ์ ท้กนกพงศ์ – ขีเ้ มาเหมือน ได้ใจ ถลาไปข้างหน้า มือข้างหนึง่ เกาะขอบเวที ขย้อนก้อนน�ำ้ ลายอยูห่ ลายอึก ก่อนกระแทกถ้อยค�ำเด็ดขาด - - พี่ เมือ่ ไหร่มาลีฮวนน่าจะขึน้ จะฟังมาลีฮวน น่า คนเลว มาลีฮวนน่าน่ะมายัง - - โฆษกหนุม่ ร่างใหญ่โบกมือให้ไอ้หนุม่ ขีเ้ มา ก่อนประกาศด้วยส�ำเนียงภาษาปักษ์ใต้ – พีน่ อ้ งทุกท่านเฮ้อ ผมขอคัน่ รายการ เพลงสักแป๊บหนึง่ เพราะช่วงต่อไปนีน้ บั ว่าเป็นช่วงเวลาส�ำคัญเลยละครับพีน่ อ้ ง - - เขาหยุดมองทีข่ า้ งเวทีแวบหนึง่ - - ขอเชิญคุณแม่ของกนกพงศ์ แม่ยพุ า สงสมพันธุ์ และพีช่ าย คือพีเ่ จนนะครับ ขึน้ มากล่าวอาลัยต่อนักเขียนหนุม่ ผูจ้ าก ไป และกล่าวถึงงานในค�ำ่ คืนสุดท้ายนีด้ ว้ ยครับ – ค�ำ่ คืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 หาใช่ฤดูวสันต์แต่อย่างใดไม่ ทัง้ ท้องฟ้าก็พราวระยิบด้วยหมูด่ าว ยิง่ ดึกฟ้ายิง่ กระจ่าง คุณแม่ยพุ าในวัย 70 กว่าๆ

ค่อยๆ ไต่บนั ไดเหล็กขึน้ บนเวทีคอนเสิรต์ ทีส่ งู เกือบสอง เมตร เจน- ลูกชายคอยระวังอยูข่ า้ งหลัง หญิงชรารับ ไมโครโฟนจากโฆษก สายตากวาดมองผู้ชมด้านล่าง กายสัน่ เทิม้ เป็นระยะ กว่าจะหลุดก้อนค�ำพูดออกมาได้ แต่ละค�ำช่างยากเย็นแสนเข็ญ กระนั้นค�ำพูดกระอึก กระอักเต็มตื้นด้วยความรักและโศกเศร้าเสียใจของ มารดาผูต้ าย กลับสยบอารมณ์คะนองของฝูงชนเรือน พันที่อยู่ในสนามฟุตบอลโรงเรียนวัดพิกุลทองได้อย่าง ชะงัด แม้แต่ไอ้หนุม่ ขีเ้ มาตัวป่วนหน้าเวทียงั ถึงกับทรุด ลงนัง่ กับพืน้ หญ้าอย่างไร้สนิ้ เรีย่ วแรง คล้อยหลังเพียงอึดใจทีแ่ ม่ยพุ าพูดจบ พลุดอก ที่หนึ่งก็ถูกจุดขึ้น ลูกไฟสีแดงแหวกชั้นอากาศ ก่อน ระเบิดเสียงสะท้าน ประกายไฟสว่างไสว พลุลกู ทีส่ อง ยิงขึน้ ตามกระชัน้ และแตกระเบิดในวินาทีถดั จากนัน้ พลุลกู ทีส่ ามทะยานฟ้า ประดับสรวงสวรรค์เป็นประกาย พร่างพราว พร้อมเสียงกัมปนาทก้องนภา ขณะทีร่ ะยิบ พริบพร่างของสะเก็ดพลุไฟสุดท้ายดับลง ท้องฟ้าพลัน มืดมิด ฝนเม็ดใหญ่ก็กระหน�่ำลงมา ลานหญ้าสนาม ฟุตบอลโรงเรียนวัดพิกลุ ทอง ซึง่ คลาคล�ำ่ ผูค้ น หญิง ชาย เด็กเล็กเด็กน้อยยันเฒ่าชราหัวหงอก ต่างวิง่ กรู เข้าไปเบียดกันอยูใ่ ต้อาคารเรียนสองชัน้ ซึง่ ตัง้ ขนาบ สนามฟุตบอลฝัง่ ทิศเหนือและทิศตะวันออก ส่วนตรง กลางสนามฟุตบอลมีเวทีคอนเสิร์ตขนาดย่อมตั้งอยู่ ท่ามกลางห่าฝนหลงฤดูอย่างเดียวดาย มีเพียงป้ายผ้า สีขาวขึงเป็นฉากหลังเวทีทยี่ งั ขยับไหวด้วยแรงกระทบ กระแทกจากเม็ดฝน หากใครมีสายตาปกติ ในระยะ เกือบหนึง่ ร้อยเมตรก็คงจะอ่านข้อความสีดำ� ทีป่ รากฏอยู่ บนผ้าขาวผืนนัน้ ได้วา่ ‘นักเขียนหนุม่ ผูเ้ กิดและดับก่อน กาล’ และภาพเขียนจากปลายพูก่ นั หยาบๆ รูปใบหน้า ด้านข้างของใครคนหนึ่งตรงมุมขวาสุดอย่างเด่นหรา

เสียงฝนจากหุบเขา

60 ปล่อย


ลมพัดกลิ่นหอมนวลของดอกล�ำดวนต้นริมรั้ว ซึ่งถูกคลึงเคล้าด้วยเถาวัลย์ข้าวใหม่ ใบสดเขียวชื่นตา สมกับที่ได้รับน�้ำในต้นฤดูฝน และหากใครอีกเช่นกัน ซึง่ เคยผูกพันกับคนในภาพเขียนก็อาจหลงนึกไปว่า ฝนทีร่ วั่ ฟ้าครานีค้ งเป็นเขาแน่ๆ ทีเ่ ล่นซุกซน กลัน่ แกล้งเพือ่ น มิตรทีย่ งั มีลมหายใจให้ได้ตนื่ เต้นกันเล่น- ถ้อยค�ำ ‘หนุกเหมือนเดิม’ คล้ายแว่วมาจากทีใ่ ดทีห่ นึง่ แต่แทนทีจ่ ะได้ฉกี ยิม้ กลับกลายเป็นความ ข่มปร่าวิง่ มาจุกคอหอยแทน เสียงทีแ่ ว่วสัมผัส กับภาพขยับของผืนผ้าฉากหลังเวที เสมือนมีชายคนหนึง่ ก�ำลังร�ำ่ ไห้ ในค�ำ่ คืนเวิง้ ว้าง ไร้ซงึ่ คนเคยรูจ้ กั ปราศจากหุบเขาฝนโปรยไพร มีเพียงเขาทีเ่ ดียวดายอยูใ่ นห้วงเวลาแสนมหัศจรรย์ชวั่ นิรนั ดร์

บทแรก

เจ้าของบ้านเรียกบ้านหลังนีว้ า่ บ้านชมนาด วันนัน้ ไผ่เลีย้ งกอหน้าบ้านแทงกิง่ ยาวเลือ้ ยระอยูเ่ หนือหลังคา เราเพิง่ จัดการตัดแต่ง กิง่ ใบไปเมือ่ ครู่ ใหม่ ติว้ และผมจึงก�ำลังจะหย่อนก้นลงบนพืน้ เขียวสดของลานหญ้าใต้เชิงหลังคาบ้าน น�ำ้ เสียงเข้มๆ พลันลอยมา “ติว้ เอ็งไปซือ้ น�ำ้ แข็งกับโซดา.. เด่น ไปหยิบแก้วในครัว” ค�ำสัง่ เจ้าบ้านทีพ่ วกผมต่างเฝ้ารอ “อาจารย์ลาวัณย์กลับมา คงด่าพวกผมว่าชวนอาจารย์กนิ เหล้า” ใหม่พดู เย้ากลับ เจ้าบ้านจ้องเขม็งมาทีผ่ ม แล้วไล่กวาดไปยังเพือ่ นทัง้ สอง มือข้างหนึง่ ตบกระเป๋าเสือ้ เชิต้ ทัง้ สองด้าน มืออีกข้างคล�ำกระเป๋ากางเกง ขายาวแบบทหาร ก่อนดึงซองบุหรีส่ แี ดงเลือดหมูพร้อมไฟแช็คออกมา “แหม.. เหมือนไม่เคยนะพวกเอ็ง.. กินซักหน่อยแกจะว่าอะไรเล่า” “น�ำ้ แข็งอย่างเดียวหรือครับ” ติว้ ถามย�ำ้ เขาจุดบุหรีท่ คี่ าบไว้มมุ ปาก สืดควันเข้าปอดอึกใหญ่ “ซือ้ ถัว่ มาแกล้มด้วยสิ” ท้ายเสียงลากเน้น “ฉันมีรเี จนซีอยูข่ วด ลูกศิษย์ ปริญญาโทเพิง่ ให้มา” ติว้ จับจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์จากโรงรถ ควบไปร้านช�ำปากซอยทางเข้าหมูบ่ า้ น ผมเปิดประตูมงุ้ ลวดแบบรางเลือ่ นเข้าไปภายในตัว บ้าน หันไปสบตากับเจ้าแมวตัวสีเทา ทีร่ อ้ งทักทายมาจากชัน้ วางทีวตี ดิ ผนังทางเข้า เดินทะลุสกู่ น้ ครัว เปิดตูเ้ ก็บถ้วยชามทีส่ งู เกือบสอง เมตร ขนแมวสามสีเ่ ส้นร่วงหล่นลงมาจากหลังตู้ เลือกแก้วทรงงามสีใ่ บ แล้วกลับออกไปลานหน้าบ้านพร้อมกระติกใส่นำ�้ แข็งลูกเล็ก และ ไม่ลมื สบตากับเจ้าแมวตัวนัน้ ซึง่ หมอบนิง่ อยูท่ เี่ ดิม ใหม่และเจ้าของบ้านลากโต๊ะกับเก้าอีอ้ อกมาจากมุมใดมุมหนึง่ โต๊ะซีเมนต์ทรงกลมขนาดเล็ก เก้าอีไ้ ม้สองตัว เก้าอีป้ นู สีขาวเก่าซีดสองตัว บนโต๊ะมีรเี จนซีหนึง่ ขวด น�ำ้ เปล่าหนึง่ ขวด โซดาสี่ ขวด กระติกน�ำ้ แข็ง และแก้วปริม่ น�ำ้ สีอำ� พัน วางตรงหน้าเหล่าชายหนุม่ กลิน่ หอมของรีเจนซีกระชุน่ ให้ทกุ คนพร้อมรับความรืน่ รมย์ทรี่ อ อยูห่ ลังแก้วใสทัง้ สีใ่ บ “ฝีมอื ชงเหล้ายังใช้ได้วะ่ ติว้ ” เจ้าบ้านกล่าวเปิดวง หลังสาดเหล้าจากแก้วหายลงคอรวดเดียว “นีข่ นาดไม่ได้ชงมาสามเดือนกว่านะครับ” ใหม่โพล่งขึน้ เมือ่ เห็นเพือ่ นมือชงเอาแต่ยมิ้ กรุม้ กริม่ “ท�ำไม” เจ้าบ้านขยับตัวรุกเร้า “อยูไ่ ร่กบั กนกพงศ์ เขาไม่พาไปกินเหล้าเลยรึ” ลมพัดกลิน่ หอมนวลของดอกล�ำดวนต้นริมรัว้ ซึง่ ถูกคลึงเคล้าด้วยเถาวัลย์ขา้ วใหม่ ใบสดเขียวชืน่ ตา สมกับทีไ่ ด้รบั น�ำ้ ในต้นฤดูฝน เจ้าบ้านกระแทกแก้วเปล่าเป็นสัญญาณ ก่อนผละมือข้างนัน้ คว้าหมับเอาไฟแช็คขึน้ มาแทน สายตาคาดคัน้ จดจ้องมาทีผ่ ม “มีบา้ งครับ” ผมหลุดค�ำตอบภายหลังฝ่ายตรงข้ามระเบิดไฟแช็คขึน้ อีกครัง้ “อาจารย์กร็ ู้ พีห่ นกเขาคอเหล้าเสียเมือ่ ไหร่” (อ่านต่อฉบับหน้า)

ปล่อย 61


ปล่อยโปร

เรื่อง : ขจรฤทธิ์ รักษา

กีฬา

เป็นยาวิเศษ

62 ปล่อย

มี

คนเริม่ ถามบ้างแล้วว่าเล่นกอล์ฟบ่อย ๆ ภรรยาไม่วา่ เอา หรือ ผมตอบว่าไม่รเู้ หมือนกัน แต่ใจนัน้ คิดเข้าข้างตัวเอง อยูเ่ สมอว่า ไม่นา่ จะเป็นอะไร อาจจะท�ำงานน้อยไปหน่อยเมือ่ เปรียบกับสามีคนอืน่ เพราะมัวแต่คดิ เรือ่ งกอล์ฟ คิดอยูแ่ ต่เรือ่ ง เกมในสนามครัง้ ต่อไป คิดหาจุดบกพร่องของตัวเองทีจ่ ะต้องน�ำ ไปปรับปรุงให้ดขี นึ้ ในคราวหน้า ท�ำให้ไม่ได้คดิ เรือ่ งการงาน บางครั้งผมเองก็ตั้งค�ำถามว่า เล่นกอล์ฟขนาดหนัก อย่างนีไ้ ด้อะไรขึน้ มา ผมก็ตอบเหมือนเดิมทุกครัง้ ก็คอื ออกก�ำลัง กายแล้วได้ความสุขกลับมา เหมือนกับทีผ่ มเคยเล่นรัมมีข่ า้ มวัน ข้ามคืน ใครมาพูดมาห้ามก็ไม่ฟงั คิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า ความ สุขเล็กๆ ของเราใครจะท�ำไม หรือบางครัง้ เบือ่ ๆ ขึน้ มาก็หาซือ้ ตั๋วเครื่องบินราคาถูกบินไปนอนสิงเหมือนผีอยู่ตามเมืองเล็กๆ สักแห่ง อยูใ่ นสถานทีท่ คี่ นเขาไม่พดู ภาษาไทยกันเป็นเดือน พอ มีใครทักหรือมีใครสักคนถามว่า ภรรยาไม่วา่ บ้างหรือ ผมก็ไม่รู้ ไม่เคยถาม เธอก็ไม่พดู อะไร ช่วงนี้ผมไปไหนมาไหนด้วยหน้า ด�ำคล�ำ้ มีรอยแว่นทีข่ อบตาเห็นได้ชดั แขน เกรียมแดด เพือ่ นๆ ก็ถามอีกว่า ภรรยาที่ บ้านไม่วา่ หรือ ผมส่ายหัวแต่นกึ ข�ำ ท�ำไม เขาต้องถามว่า “ภรรยาทีบ่ า้ น” แสดงว่าในโลกนีต้ อ้ งมีภรรยา ทีอ่ นื่ ด้วย เมือ่ มีคนถามเข้าบ่อย ผมก็ชกั เอะใจว่า เรือ่ งนีน้ า่ จะ เป็นเรือ่ งส�ำคัญส�ำหรับชีวติ แน่นอน จนกระทัง่ อดสงสัยไม่ได้วา่ ภรรยาผมน่าจะว่าอะไรบ้างสักอย่างสองอย่าง เช่นผมชักไม่เอา ไหน งานการไม่ทำ� เอาแต่เล่นกอล์ฟ ผมอยากจะรู้ แต่ไม่กล้า ถาม กลัวค�ำตอบจะเป็นอย่างทีใ่ จคิด ไม่อยากแก้ตวั ไม่อยาก สบตา เรือ่ งกลัวภรรยานัน้ ผมนับเป็นคนหนึง่ ทีม่ ชี อื่ เสียงและได้ คะแนนมากทีส่ ดุ ในกลุม่ ผมถือหลักว่า แม้แต่นายกรัฐมนตรียงั กลัวภริยา ผมเป็นใคร แน่มาจากไหนถึงจะไม่กลัวบ้าง อาทิตย์ทแี่ ล้ว ผมออกรอบทุกวัน จันทร์ อังคาร พุธ หยุดพฤหัส และต่อด้วยศุกร์เสาร์อาทิตย์ หยุดจันทร์กบั อังคาร และต่อด้วยวันพุธอีก


ทุกการกีฬาบอกให้เรารู้ถึงศักยภาพและความสามารถของตัวเอง กีฬาทุกชนิดให้บทเรียนที่ส�ำคัญเหมือนกัน อยู่ไม่กี่ข้อ เช่น การอดทน การฝึกฝน การรู้จักแพ้ รู้จกั ชนะ และการให้อภัยต่อกัน มีนอ้ งคนหนึง่ คงเห็นว่าผมเป็นนักเขียนยากจนธรรมดา ๆ เขาถามว่า พี่ใช้เงินมากไปหรือเปล่า ผมก็หยุดคิด และค�ำนวนเงิน ว่า ใช้ไปมากแค่ไหน สุดท้ายก็สรุปว่าไม่ได้มากอะไร สนามไหน ที่แพงๆ ผมก็ไปเล่นวันสปอร์ตเดย์ เขาลดราคาให้มากกว่าครึ่ง สนามไหนที่เศรษฐีเขานิยมไปออกรอบกัน ผมก็ไม่ไป (ยกเว้นมีใคร ชวนและซื้อตั๋วให้) แม้ผมเป็นนักเขียนรายได้ตำ่� แต่ผมก็มเี พือ่ นเป็นเศรษฐีอยู่ จ�ำนวนหนึง่ เขารูว้ า่ ผมท�ำส�ำนักพิมพ์กอ๊ ก ๆ แก๊ก ๆ ไม่ได้รำ�่ รวยอะไร ดังนัน้ เมือ่ เขาอยากให้ผมไปร่วมก๊วนลงสนามด้วยกัน เขาก็มเี มตตาให้ คนขับรถมารับ ซือ้ ตัว๋ ให้ และเดินเคียงคูล่ งสูแ่ ฟร์เวย์พร้อมกัน ระหว่างทางในฐานะนักเขียนผมก็มหี น้าทีฟ่ งั เขาพูด เพราะ เศรษฐีนั้นจะมีเรื่องให้พูดมากกว่าคนธรรมดา ระหว่างเศรษฐีต่อ เศรษฐีคยุ กันจะไม่คอ่ ยมีใครยอมฟังใคร แต่ผมนัน้ มีเวลาเหลือเฟือ พร้อมทีจ่ ะฟังได้ทงั้ วัน ไม่วา่ เขาพูดอะไร ผมฟังได้ทกุ เรือ่ ง รับรูไ้ ด้ หมด ไม่มปี ญ ั หา ผมคิดว่าการฟังก็เป็นศิลปะอย่างหนึง่ ทีส่ ำ� คัญไม่ น้อยส�ำหรับการใช้ชวี ติ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่ากอล์ฟเป็นกีฬาของคนมีฐานะ เป็นกีฬาของอีกชนชัน้ หนึง่ แต่ไม่ใช่เรือ่ งจริงครับ ผมรูจ้ กั เพือ่ นใหม่ ๆ หลายคนทีเ่ ป็นครูบาอาจารย์ เป็นพ่อค้าธรรมดาๆ เป็นข้าราชการ เล็กๆ แต่เขาก็ชอบกอล์ฟ เล่นกอล์ฟมาเป็นสิบๆ ปี เขาบอกว่ากอล์ฟ เป็นกีฬาอย่างเดียวทีเ่ ขาเล่นแล้วมีความสุข และในประเทศไทยนีไ้ ม่ ได้มแี ต่สนามกอล์ฟแพงๆ สนามกอล์ฟทีใ่ ห้บริการในราคาถูก ราคา แค่รอ้ ยสองร้อยก็มอี ยูไ่ ม่นอ้ ย ดังนัน้ เราก็ตอ้ งเลือกสนามจากก�ำลัง ทรัพย์ของตัวเอง เขาว่า เหมือนคนทีอ่ ยากจะมีรถนัน่ แหละ มีเงินน้อยก็ไป เลือกรถมือสอง ราคาแสนสองแสนก็เอามาขับได้ ไม่ได้หมายความ ว่าพออยากจะขับรถหรือมีรถส่วนตัวขึน้ มาก็มงุ่ แต่จะไปเปอร์โยต์ บี เอ็มดับบลิว เบ๊นซ์ หรือปอร์เช่ อย่างนัน้ มันก็สร้างความยุง่ ยากให้ กับชีวติ เกินไป ช่วงหลังผมอ่านนิตยสารกอล์ฟบ่อย ได้รคู้ วามเคลือ่ นไหวที่ น่าสนใจอย่างหนึง่ คือ ตอนนีก้ ฬี ากอล์ฟได้เข้าไปสูโ่ รงเรียนหลายแห่ง มีครูกอล์ฟหลายคนได้เข้าไปฝึกสอนให้เด็กนักเรียนเล่นกอล์ฟเป็น ใคร สนใจก็มาสมัคร ทางโรงเรียนมีอปุ กรณ์ให้ยมื ใช้ ยืมเรียน ปัจจุบนั มี นักกอล์ฟเยาวชนเพิม่ ขึน้ ทัว่ ประเทศหลายหมืน่ คน ผมคิดว่ากีฬาเป็นเรือ่ งของรสนิยมหรือความชอบส่วนบุคคล ไม่มีกีฬาใดดีกว่ากีฬาใด ทุกการกีฬาบอกให้เรารู้ถึงศักยภาพและ ความสามารถของตัวเอง กีฬาทุกชนิดให้บทเรียนทีส่ ำ� คัญเหมือนกัน อยูไ่ ม่กขี่ อ้ เช่น การอดทน การฝึกฝน การรูจ้ กั แพ้ รูจ้ กั ชนะ และการให้อภัยต่อกัน บางคนชอบเล่นฟุตบอล บางคนชอบเล่นสนุกเกอร์ บางคนชอบวิง่ มาราธอน บางคนก็ชอบ

เตะตะกร้อ หรือก็ชอบเล่นกีฬาในร่มไม่ยอมให้ตวั ถูกแดดถูกลม ทุก กีฬาจะส่งผลที่เห็นได้ชัดต่อตัวผู้เล่นชัดเจนสุดก็คือกาได้มีสุขภาพที่ แข็งแรงกระฉับกระเฉง หลายคนเกิดมาไม่เคยออกก�ำลังกาย ท�ำแต่งาน หาแต่ เงิน เพือ่ วางเป้าหมายว่าแก่ตวั ลงจะได้มบี า้ นหรูๆ มีรถงามๆ จะ ได้ทอ่ งเทีย่ วพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ สมกับการทีอ่ ตุ ส่าห์อดทนหาเงิน มาตลอดชีพ แต่ผมไม่เชือ่ เรือ่ งนี้ ผมคิดว่า ไม่มพี ระเจ้าองค์ไหนรับประกัน ได้เลยว่า เราจะอยูไ่ ปได้ถงึ ตอนแก่ และไม่มใี ครรับประกันได้วา่ ถ้า เราท�ำงานมาก ท�ำงานหนักแล้วเราจะร�ำ่ รวย อีกอย่างทีส่ ำ� คัญ ความร�ำ่ รวยนัน้ เป็นจินตนาการ ไม่มี เครือ่ งชีว้ ดั ทีแ่ น่นอน บางคนมีสองแสนก็บอกว่าตัวเองรวยแล้ว บาง คนมีสบิ ล้านก็คดิ ว่าตัวเองยังยากจนอยู่ บางคนหาเงินเป็นหมืน่ ล้าน ก็ไม่พอ เพราะคิดว่าตัวเองต้องหาเผื่อไว้ส�ำหรับลูกหลานใช้ต่ออีก สองชัว่ โคตร ท�ำราวกับว่าลูกหลานนัน้ เกิดมาเป็นง่อยเปลีย้ เสียขา กันไปหมด ขงจือ้ กล่าวไว้วา่ รวยจนนัน้ ขึน้ อยูก่ บั ฟ้าลิขติ แม่ยายผมอายุ 85 ปี เคยพูดกับผมว่า รวยหรือจนขึน้ อยู่ กับวาสนา อย่าไปคาดหวังมาก ให้ทำ� หน้าทีข่ องตนเองไปให้ดที ส่ี ดุ ก็ พอแล้ว ผมจึงไม่คอ่ ยคิดเรือ่ งการสะสม ไม่เคยคิดทีจ่ ะสร้างความ ร�ำ่ รวยให้กบั วงศ์ตระกูล ผมเชือ่ เรือ่ งเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ตายวัน นีก้ ต็ ายพรุง่ ดังนัน้ จึงคิดว่าควรท�ำวันนีใ้ ห้ดที สี่ ดุ เพือ่ ว่าวันพรุง่ นีจ้ ะ ได้ไม่มปี ญ ั หา เมือ่ หกเดือนก่อน น�ำ้ หนักผม 80 กิโลกรัม รูส้ กึ อึดอัดมาก กางเกงทุกตัวรัดติว้ เดินเหินไม่คล่อง นัง่ นาน ๆ แล้วลุกไม่ขน้ึ แถม เป็นโรคนิ่ว ต้องไปผ่าตัดถุงน�้ำดีทิ้ง กินอะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้อง อืด อาหารไม่ยอ่ ย หายใจไม่ออก ปวดท้องร้องครวญครางทรมาน แสนสาหัส ต่อมาผมไปเรียนโยคะ ไปฝึกสมาธิ เข้าสูโ่ ปรแกรมการอด อาหาร และเล่นกอล์ฟอย่างหนัก ผ่านมาได้จนถึงวันนี้ ผมท�ำน�ำ้ หนัก หายไปสิบกิโลกรัม รูส้ กึ ดี แข็งแรง และมีความสุข ไขมันทีห่ น้าท้อง หายไป อาการปวดท้องหลังอาหารก็ไม่เกิดขึน้ อีก ระบบขับถ่ายเข้า สูภ่ าวะปกติ ไปไหนมาได้คล่องแคล่ว เมือ่ สุขภาพดี ชีวติ ก็มคี วามสุข ขึน้ อย่างเห็นได้ชดั ผมไม่ได้พดู แนะน�ำให้ทกุ คนเล่นกอล์ฟ แต่ทงั้ หมดนีเ้ พือ่ จะ บอกว่า เมือ่ ถึงเวลาหนึง่ เราควรหมัน่ ดูแลตัวเองด้วยการออกก�ำลัง กายบ้าง ไม่อย่างนัน้ เงินทีเ่ ราหามาได้ทงั้ หมด อาจจะต้องเอาไปรักษา เนือ้ รักษาตัวตอนทีเ่ ราป่วยด้วยสารพัดโรค ถึงตอนนัน้ คิดขึน้ มาได้ก็ อาจจะสายไป กีฬา เป็นยาวิเศษครับ ปล่อย 63


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.