archmsu2023thesis_Arthittiya_01

Page 1

ชื่อวิทยานิพนธ์

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

ชื่อผู้ทำวิทยานิพนธ์ นางสาวอาทิตติญา สาพิมาน

อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ณัฐวัฒน์ จิตศีล

สาขาวิชา สถาปัตยกรรม

ปีการศึกษา 2566

บทคัดย่อ

ประเทศไทยมีผลการวิจัย อนาคตสุขภาพจิตสังคมไทย พ.ศ. 2576 ที่เผยบทวิเคราะห์สถานการณ์ เอาไว้ในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนผู้ประสบปัญหาสุขภาวะทางจิตเพิ่มขึ้น มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันมีผู้ค้นพบหลักการทฤษฎีที่มีการประเมินแล้วว่า สามารถใช้สถาปัตยกรรมในการผ่อนคลายระบายอารมณ์ให้แก่ผู้ใช้ โครงการพื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นพื้นที่รองรับอัตราการเติบโตของผู้ที่มีภาวะเสี่ยง ให้มีสภาวะทางร่างกายและจิตใจที่ดี ยิ่งขึ้น ส่งเสริมการรักษาสภาวะทางอารมณ์ด้วยกิจกรรมที่เกิดขึ้นในโครงการ วิทยานิพนธ์นี้มุ่งเน้นศึกษาการออกแบบพื้นที่คลายความเครียดสำหรับวัยทำงาน วัยรุ่นโดยนำทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาใช้ในการออกแบบ ศึกษาพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาวิเคราะห์ ลักษณะพื้นที่ใช้สอยและ กิจกรรมในโครงการ ที่ตั้งโครงการ เพื่อหาแนวทางในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่สามารถบรรเทาความเครียด ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ผลการออกแบบสถาปัตยกรรม พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ มีข้อมูลโดยคร่าว ดังนี้ 1. โครงการเป็นอาคารที่ใช้ในการทำกิจกรรมและเป็นพื้นที่สำหรับผ่อนคลาย มีองค์ประกอบคือ ส่วนพื้นที่ นันทนาการประกอบด้วย บอร์ดเกมส์ ปีนผาจำลอง และอื่นๆ ส่วนเวิร์กชอป ศิลปะบำบัด ส่วนพื้นที่สงบ ทางอารมณ์ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ และส่วนสนับสนุนโครงการ พื้นที่ใช้สอยรวม 6,055.74 ตารางเมตร

2. โครงการตั้งอยู่ที่ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่อำนวยความ สะดวกอื่นๆ มีขนาดเนื้อที่รวมประมาณ 5 ไร่ 3 งาน 11 ตารางวา

3. แนวคิดการใช้ธรรมชาติมาช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ โดยรูปแบบการแทรกและจัดมุมมอง ให้สามารถ เห็นธรรมชาติได้ในทุกโซนพื้นที่ ภายในโครงการมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ในการใช้ ผ่อนคลายระบายอารมณ์ เนื่องจากความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานที่ต้องการผ่อนคลายความเครียด 4. มีการจัดกลุ่มอาคารแยกตามลักษณะการใช้งานของพื้นที่ รูปร่างอาคารไม่ซับซ้อนและมีการเข้าถึงที่เรียบง่าย มีการแยกพื้นที่โซนสงบ ที่ต้องใช้สมาธิให้เข้าถึงยาก กำหนดกิจกรรมแต่ละประเภทให้สอดคล้องกับผู้ใช้งาน และเน้นการนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้เพื่อลดอาการตึงเครียด ทำให้เกิดความผ่อนคลาย การออกแบบพื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ เน้นการออกแบบที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้ โครงการ จึงเน้นการเชื่อมต่อระหว่างธรรมชาติและอาคาร

ให้สามารถเห็นธรรมชาติได้ในทุกพื้นที่ โซนส่วนตัว เช่น
พื้นที่ทำสมาธิ โซนสงบจิตใจ โซนรำลึกสุสานเดิม ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่าโซนอื่นๆ ถูกจัดวาง ให้อยู่ไกลจากโซนกิจกรรมอื่นๆ สร้างทางสัญจรที่เข้าถึงยาก แยกทางสัญจรออกจากเส้นทางหลัก กั้นผนังสร้าง ขอบเขตของพื้นที่เพื่อลดจำนวนการเข้าถึงของผู้ใช้

กิตติกรรมประกาศ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้สำเร็จได้ด้วยความกรุณาของ อาจารย์ณัฐวัฒน์ จิตศีล ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ในครั้ง นี้ที่เสนอแนะแนวทาง มุมมอง ความรู้ การออกแบบในด้านต่างๆ และช่วยชี้นำแนวทางการแก้ไขปัญหา ข้อบกพร่องในเนื้องานและเรื่องต่างๆ ด้วยความดูแล เอาใจใส่ ตลอดจนสำเร็จการดำเนินงานวิทยานิพนธ์ ผู้จัดทำวิทยานิพนธ์ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบพระคุณคณะกรรมการในการสอบวิทยานิพนธ์ ทุกท่านที่คอยให้คำแนะนำ ส่งเสริม ชี้แนะแนวทางตลอดจนการเสนอแนะการแก้ปัญหาต่างๆตลอดการขึ้นสอบ วิทยานิพนธ์และวิทยานิพนธ์ฉบับนี้สำเร็จได้ เพราะได้รับความร่วมมือ ความช่วยเหลือ การสนับสนุนและ กำลังใจ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และขอขอบคุณผู้ปกครองสำหรับการสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ตลอดจนวิทยานิพนธ์ฉบับนี้สำเร็จ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้จัดทำวิทยานิพนธ์เอง ที่สามารถทำให้วิทยานิพนธ์ครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยความ ตั้งใจ และความพยายามในการผลิตงาน รวมถึงแรงบันดาลใจต่างๆ ที่ทำให้การจัดทำวิทยานิพนธ์ครั้งนี้ เป็นไป ด้วยความสนุกตลอดระยะเวลาในการดำเนินงาน

นางสาวอาทิตติญา สาพิมาน

ผู้จัดทำวิทยานิพนธ์

ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง จ สารบัญแผนภูมิ ฉ สารบัญรูปภาพ. ช บทที่ 1 บทนํา 1 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปญหา 1 1.2 วัตถุประสงค์โครงการ 3 1.3 วัตถุประสงค์การศึกษา 3 1.4 ขอบเขตโครงการ 3 1.5 ขอบเขตการศึกษา 3 1.6 ระยะเวลาในการทำงาน 3 1.7 นิยามคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 3 บทที่ 2 วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องและกรณีศึกษา 4 2.1 การทบทวนวรรณกรรม 4 2.1.1 ความหมายของอารมณ์ 4 2.1.2 สาเหตุของการเกิดสภาวะทางอารมณ์ 4 2.1.3 ระดับความเครียด 5 2.1.4 ประเภทของอารมณ์ 5 2.1.5 การแสดงออกทางอารมณ์ 6 2.1.6 แนวทางการควบคุมอารมณ์ที่สำคัญ 7 2.2 ทฤษฎีผ่อนคลายทางอารมณ์ 8 2.2.1กลุ่มใช้กิจกรรมนันทนาการผ่อนคลาย 8 2.2.2 กลุ่ม Workshop 9 2.3 ทฤษฎีเส้นสายกับความรู้สึก (Line) 14 2.4 Form / Space Relationship 15 2.5 ทฤษฎีพื้นที่ว่างกับอารมณ์ 16 2.6. ทฤษฎีแสงสีและอารมณ์……………………………………………………………………………………………………… 18 2.7 กรณีศึกษาอาคารตัวอย่าง……………………………………………………………………………………………………..19 2.7.1 กรณีศึกษาที่ 1…………………………………………………………………………………………………………..19 2.7.2 กรณีศึกษาที่ 2…………………………………………………………………………………………………..…….….21 2.7.3 กรณีศึกษาที่ 3………………………………………………………………………………………………………...….22 2.7.4 กรณีศึกษาที่ 4…………………………………………………………………………………………………...………..23

3.1 ความเป็นไปได้ด้านนโยบายและแผนที่เกี่ยวข้อง

3.2 ความเป็นไปได้ด้านงบประมาณการลงทุน

3.3 ความเป็นไปได้ด้านผู้ใช้โครงการ………………………………………………………………………………………....24

3.4 ความเป็นไปได้ต้านผู้ใช้สอยโครงการ ...25

3.5 ความเป็นไปได้ด้านที่ตั้งโครงการ

3.6

หน้า บทที่ 3 ความเป็นไปได้ของโครงการ .....24
สารบัญ(ต่อ)
24
24
…………………………………………………………………………….
25
ความเป็นไปได้ด้านกฎหมาย ...26
ความเป็นไปได้จินตภาพโครงการ…………………………………………………………………………………….....27 บทที่ 4 รายละเอียดโครงการ 28 4.1 พฤติกรรมผู้ใช้สอยโครงการ ...28 4.2 ผังโครงสร้างองค์กร ..28 4.3 รายละเอียดกิจกรรมและผู้ใช้โครงการ………………………………………………………………………………...29 4.4 จำนวนผู้ใช้สอยโครงการ ..30 4.5 รายละเอียดพื้นที่ใช้สอย 32 4.6 รายละเอยดดานเทคโนโลยีอาคาร 41 บทที่ 5 วิเคราะห์ที่ตั้งโครงการ……………………………………………………………………………………….………………...42 5.1 การวิเคราะห์ระดับย่านที่ตั้งโครงการ………………………………………………………………………….……....42 5.2 กำหนดเกณฑ์การเลือกที่ตั้งระดับย่าน 43 บทที่ 6 แนวความคิดและผลงานการออกแบบ ..47 6.1 แนวความคิด……………………………………………………………………………………………………….…………..47 6.2 การนำเสนอแบบร่าง ..47 6.2.1 การนำเสนอแบบร่างครั้งที่ 1 47 6.2.2 การนำเสนอแบบร่างครั้งที่ 2 .58 6.2.3 การนำเสนอแบบร่างครั้งที่ 3 ครั้งสมบูรณ์………………………………………………………………...50 บทที่ 7 ข้อสรุปการศึกษาและข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………….....58 7.1 สรุปผลการศึกษา .58 บรรณานุกรม ...59 ประวัติผู้จัดทำวิทยานิพนธ์ ...60
3.7

ตารางที่ 4.6 ตารางแสดงรายละเอียดพื้นที่ใช้สอย………………………………………………………………..……………32

ตารางที่ 4.7 ตารางแสดงรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของโครงการ.......................................................40

ตารางที่ 5.1 ตารางแสดงรายละเอียดเกณฑ์การวิเคราะห์พื้นที่ตั้งโครงการ .............46

หน้า ตารางที่ 1.1 แสดงระยะเวลาในการดำเนินงา 3 ตารางที่ 2.1 แสดงการวิเคราะห์ในแต่ละกรณีศึกษา 19 ตารางที่ 4.1 แสดงผังโครงสร้างองค์กร 28 ตารางที่ 4.2 แสดงรายละเอียดกิจกรรมและผู้ใช้โครงการ 29 ตารางที่ 4.3 ตารางสรุปโปรแกรมโครงการ 30 ตารางที่ 4.4 ตารางแสดงช่วงเวลาในการใช้งานภายในโครงการ ในวันจันทร์-ศรุกร์ 31 ตารางที่ 4.5 ตารางแสดงช่วงเวลาในการใช้งานภายในโครงการ
สารบัญตาราง
ในวันเสาร์-อาทิตย์…………………...……...….31

แผนภูมิที่ 1.1

แผนภูมิที่ 1.2

แผนภูมิที่ 1.3

แผนภูมิที 3.1

สารบัญแผนภูมิ

หน้า

แสดงสถิตเกี่ยวกับผลกระทบด้านจิตใจ …………………………………………………………………………..1

แสดงแผนภูมิแสดงผลสำรวจเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงและปัญหา……………………………………....2

แสดงผลสำรวจเรื่องอะไรที่มักทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้……………………………………………………2

แสดงสถิตเกี่ยวกับผลกระทบด้านจิตใจของคนไทย

…………………………………………………………..25 แผนภูมิที่ 4.1 แสดงความหนาแน่นของจำนวนงานในแต่ละย่าน 29 แผนภูมิที่ 4.2 แสดงร้อยละของประชากรในกรุงเทพฯ 29 แผนภูมิที่ 4.3 แสดงสิ่งที่คนไทยอยากทำเมื่อรู้สึกเครียดมาก 29
ช สารบัญรูปภาพ หน้า ภาพประกอบที่ 2.1 แสดงระดับอารมณ์ MARKALANFISH 4 ภาพประกอบที่ 2.2 แสดงอารมณ์ความเครียด 5 ภาพประกอบที่ 2.3 แสดงอารมณ์พื้นฐานของ Paul Ekman 5 ภาพประกอบที่ 2.4 การแสดงอารมณ์ทางใบหน้า 6 ภาพประกอบที่ 2.5 การแสดงอารมณ์ก้าวร้าวและรุนแรง 6 ภาพประกอบที่ 2.6 ภาพที่แสดงกิจกรรมการเล่นบอร์ดเกมส์ 7 ภาพประกอบที่ 2.7 ภาพที่แสดงกิจกรรมการทุบของระบาย 7 ภาพประกอบที่ 2.8 แสดงกิจกรรมการสาดสีระบายอารมณ์ 8 ภาพประกอบที่ 2.9 แสดงกิจกรรมปีนผาระบายอารมณ์ ..............................................................................8 ภาพประกอบที่ 2.10 แสดงกิจกรรมเทคโนโลยี Total VR ...........................................................................8 ภาพประกอบที่ 2.11 แสดงกิจกรรมปรึกษาพูดคุยแบบกลุ่ม.........................................................................8 ภาพประกอบที่ 2.12 แสดงกิจกรรม Art Therapy 9 ภาพประกอบที่ 2.13 ภาพที่แสดงกิจกรรมทำเครื่องปั้น 9 ภาพประกอบที่ 2.14 แสดงกิจกรรมปักผ้า 10 ภาพประกอบที่ 2.15 แสดงกิจกรรมเขียนระบายอารณ์ 10 ภาพประกอบที่ 2.16 แสดงการร้องไห้ระบายความเคลียด 11 ภาพประกอบที่ 2.17 แสดงกิจกรรม Yoga therapy 11 ภาพประกอบที่ 2.18 แสดงพืชพรรณบำบัด ...............................................................................................11 ภาพประกอบที่ 2.19 แสดงเทียนหอมความเคลียด ....................................................................................12 ภาพประกอบที่ 2.20 แสดงสัตว์เลี้ยงเยียวยาจิตใจ.....................................................................................13 ภาพประกอบที่ 2.21 แสดงการกรีดร้องบำบัด 13 ภาพประกอบที่ 2.22 แสดงเส้นตั้ง 13 ภาพประกอบที่ 2.23 แสดงเส้นนอน 13 ภาพประกอบที่ 2.24 แสดงเส้นเฉียง 14 ภาพประกอบที่ 2.25 แสดงเส้นหยัก 14 ภาพประกอบที่ 2.26 แสดงเส้นโค้งแบบคลื่น 14 ภาพประกอบที่ 2.27 แสดงเส้นโค้ง 14 ภาพประกอบที่ 2.28 แสดงเส้นโค้งวงแคบ.................................................................................................14 ภาพประกอบที่ 2.29 แสดงเส้นเส้นประ.....................................................................................................14 ภาพประกอบที่ 2.30 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 15 ภาพประกอบที่ 2.31 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 15 ภาพประกอบที่ 2.32 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 15
หน้า ภาพประกอบที่ 2.33 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 16 ภาพประกอบที่ 2.34 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 16 ภาพประกอบที่ 2.35 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 16 ภาพประกอบที่ 2.36 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 16 ภาพประกอบที่ 2.37 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ 16 ภาพประกอบที่ 2.38 แสดงการรับรู้ของพื้นที่.............................................................................................16 ภาพประกอบที่ 2.39 แสดงการรับรู้ของพื้นที่.............................................................................................17 ภาพประกอบที่ 2.40 Cincinnati Hospital ..............................................................................................18 ภาพประกอบที่ 2.41 Cincinnati Hospital 18 ภาพประกอบที่ 2.42 Cincinnati Hospital 18 ภาพประกอบที่ 2.43 Cincinnati Hospital 19 ภาพประกอบที่ 2.44 Cincinnati Hospital 19 ภาพประกอบที่ 2.45 Cincinnati Hospital 19 ภาพประกอบที่ 2.46 ศูนย์สุขภาพ Raga Svara 20 ภาพประกอบที่ 2.47 ศูนย์สุขภาพ Raga Svara 20 ภาพประกอบที่ 2.48 Neon Splash Painting by Fickle Lifestyle 21 ภาพประกอบที่ 2.49 Windhover Contemplative Center...................................................................22 ภาพประกอบที่ 2.50 Windhover Contemplative Center...................................................................22 ภาพประกอบที่ 3.1 แสดงผลแผนที่เกี่ยวข้องกรมสุขภาพจิต......................................................................24 ภาพประกอบที่ 3.2.แสดงตำแหน่งที่ตั้งเขตแต่ละจุด 25 ภาพประกอบที่ 3.3 แสดงตำแหน่งผังสีกรุงเทพ 26 ภาพประกอบที่ 3.4 แสดงจินตภาพโครงการภายนอก 27 ภาพประกอบที่ 3.5 แสดงจินตภาพโครงการภายใน 27 ภาพประกอบที่ 4.1.โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก 41 ภาพประกอบที่ 4.2. Green roofs 41 ภาพประกอบที่ 4.3.ระบบน้ำประปา 41 ภาพประกอบที่ 4.4.โครงสร้าง Green roofs.............................................................................................41 ภาพประกอบที่ 5.1.แสดงถึงทิศทางความเป็นไปได้ของย่านที่ตั้งโครงการ ..................................................42 ภาพประกอบที่ 5.2.แสดงความเป็นไปได้ของย่านที่ตั้งโครงการ .................................................................43 ภาพประกอบที่ 5.3.พื้นที่สวนสาธารณะสีเขียวในแถบกรุงเทพ 44 ภาพประกอบที่ 5.4.แสดงมุมมองต่างๆ ภายนอกพื้นที่ตั้งโครงการที่ 1 44 ภาพประกอบที่ 5.5.แสดงมุมมองต่างๆ ภายนอกพื้นที่ตั้งโครงการที่ 2 45
สารบัญรูปภาพ(ต่อ)
ฌ สารบัญรูปภาพ(ต่อ) หน้า ภาพประกอบที่ 5.6.แสดงมุมมองต่างๆ ภายนอกพื้นที่ตั้งโครงการที่ 3 45 ภาพประกอบที่ 5.7.แสดงการวิเคราะห์บริบทพื้นที่ตั้งโครงการ 46 ภาพที่ 6.1 ภาพแสดง Mass model space ของโครงการ 47 ภาพที่ 6.2 แบบแสดง การแสดงวิเคราะโครงการสู่ Design 48 ภาพที่ 6.3 แบบแสดง zoning แต่ละชั้นของโครงการ 49 ภาพที่ 6.4 แบบแสดงทัศนียภาพภายนอกโครงการ 49 ภาพที่ 6.5 แบบแสดงผังพื้นโครงการชั้น 2 50 ภาพที่ 6.6 แบบแสดงผังพื้นโครงการชั้น 1 51 ภาพที่ 6.7 แบบแสดงผังพื้นโครงการชั้น 2.................................................................................................52 ภาพที่ 6.8 แบบแสดงผังพื้นโครงการชั้น 3.................................................................................................53 ภาพที่ 6.9 แบบแสดงรูปด้านโครงการ .......................................................................................................54 ภาพที่ 6.10 แบบแสดงรูปตัดโครงการ 55 ภาพที่ 6. 11 แบบแสดงงานระบบประปา 55 ภาพที่ 6.12 แบบแสดงรูปขยาย isometric diagram ของโครงการ 56 ภาพที่ 6.13 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนสระกลางโครงการ 56 ภาพที่ 6.14 แบบแสดงรูปทัศนียภาพชั้น2ของโครงการ 56 ภาพที่ 6.15 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนพื้นที่สงบ 56 ภาพที่ 6.16 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนสระกลางโครงการ .................................................................56 ภาพที่ 6.17 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนร้านอาหาร.............................................................................56 ภาพที่ 6.18 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนหน้าโครงการ .........................................................................56 ภาพที่ 6.19 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนนิทรรศการ 57 ภาพที่ 6.20 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนพื้นที่รำลึกสุสานเดิม 57 ภาพที่ 6.21 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนห้องโยคะ 57 ภาพที่ 6.22 แบบแสดงรูปทัศนียภาพชั้น2ของโครงการ 57 ภาพที่ 6.23 ทัศนียภาพภายในโครงการส่วนห้องสมาธิ 57 ภาพที่ 6.24 แบบแสดงรูปทัศนียภาพชั้น2ของโครงการ 57

สภาวะอารมณ์ เป็นความรู้สึกปกติของสิ่งมีชีวิต อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีผลต่อร่างกายต่างกัน แต่สิ่งที่ เหมือนกันก็คือ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ถ้าหากมากเกินไป ไม่พอดีในระดับที่ตัวเราจัดการได้หรือร่างกายรับได้ เมื่อ ร่างกายปรับตัวให้เข้ากับภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ทัน การมีอารมณ์ค้างกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งยาวนาน เกินไป การทำงานของร่างกายก็มีปัญหาตาม การปล่อยให้ตัวเองมีอารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะจะ ทำให้ร่างกายแปรปรวนผิดปกติได้ ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อการทำงานในส่วนต่างๆของร่างกาย ประเทศไทยมีผลการวิจัย อนาคตสุขภาพจิตสังคมไทย พ.ศ. 2576 (Futures of Mental Health in Thailand 2033) ที่เผยบทวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์เอาไว้ในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าประเทศไทยเองก็มี แนวโน้มที่จะมีจำนวนผู้ประสบปัญหาสุขภาวะทางจิตเพิ่มขึ้นทั้งเครียด–เหงา -รู้สึกโดดเดี่ยว -หวาดกลัว เป็นต้น จากการเก็บสถิติเกี่ยวกับผลกระทบด้านจิตใจของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบ Mental Health Check In ตั้งแต่เดือน เมษายน 2564 เป็นต้นมา พบว่าประชาชนในประเทศไทยมีความ เสี่ยงสุขภาพจิตสูงขึ้นเรื่อยๆ

แผนภูมิที่ 1.1 แสดงสถิตเกี่ยวกับผลกระทบด้านจิตใจของคนไทย ตั้งแต่ปี (2564-2565)

ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนวัยทำงานอย่างมาก

หลายคนต้องเผชิญการสูญเสียทั้งคนที่รักงานที่ทำ

บทบาทความสำคัญในสังคม อนาคตกลับกลายเป็น ความน่ากลัว ไม่ใช่ความหวังอีกต่อไป ซ้ำยังกลายเป็น

สิ่งที่ไม่แน่นอนจากสถิติดังกล่าวสะท้อนได้ว่า คนไทย

จำนวนไม่น้อยต้องการที่จะระบายความรู้สึก เพื่อหลุด

พ้นออกจากภาวะเครียดและซึมเศร้าที่ พวกเขากำลัง

เผชิญหน้าอยู่ โดยที่หลายคนได้พูดถึงความรู้สึกหมด

คุณค่าในตัวเองและบางคนได้ระบายอารมณ์ถึง

ความรู้สึกที่อยากตาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้คือเรื่องใหญ่

และสังคมไทยจำเป็นต้องหาวิธีการแก้ไข

โดยมีตัวเลขสูงสุดที่เดือนสิงหาคม คือมี

ภาวะเครียดสูง 45.5%เสี่ยงซึมเศร้า 51.5% เสี่ยงฆ่า

ตัวตาย 30.6 % และมีภาวะหมดไฟ17.6%แน่นอนว่า ในจำนวนนี้มีคนวัยทำงานรวมอยู่ด้วย เกินกว่า90%

ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ทั้งที่

รู้ตัวและไม่รู้ตัวและเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุยิ่งกับ คนวัยทำงานด้วยแล้ว ความเครียดยิ่งเป็นเหมือน “เพื่อนสนิท”ที่พร้อมจะเข้ามาทักทายได้ตลอดเวลา

เนื่องจากวัยทำงานมีภาระรับผิดชอบหลายอย่างทั้ง การงาน การเงิน การดูแลครอบครัวและการแบกรับ ความหวังจากคนใกล้ตัวเหล่านี้สอดคล้องกับผลสำรวจ ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2562 ที่พบว่า ร้อยละ 70 ของผู้ทำงานทั้งหมดในประเทศถือเป็นกลุ่มเสี่ยง เกิดความเครียดได้สูงกว่าวัยอื่น ยิ่งหากต้องทำงา มากกว่าสัปดาห์ละ 50 ชั่วโมงก็ยิ่งเกิดความเครียดสูง และรวมถึงเมื่อทั่วโลกเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ-โค วิด-19 ตั้งแต่ปลาย ค.ศ.2019 เป็นต้นมา

1
1 บทนำ
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์
บทที่
1.1 ความเป็นมาและควาสำคัญ

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ.2565 สำรวจความคิดเห็น ของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น

1,138 คน (สำรวจทางออนไลน์)ระหว่างวันที่ 17-22 ก.ย. 2565 หัวข้อ “คนไทยกับการควบคุมอารมณ์” เพื่อสะท้อน ความคิดเห็นกรณีในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าข่าวความรุนแรงในสังคมไทยมีให้เห็นมากขึ้น เกิดพฤติกรรมรุนแรงถึง ขั้นทำร้ายร่างกายหรือเสียชีวิต ทั้งนี้หลายฝ่ายก็มองว่าอาจเกิดจากภาวะทางอารมณ์ ซึมเศร้าขาดสติ ถูกกดดัน หรือทำ ให้โกรธแค้น การจัดการและควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงที่อยู่ในภาวะ เศรษฐกิจเช่นนี้

แผนภูมิที่ 1.2 แสดงแผนภูมิแสดงผลสำรวจเมื่อเกิดการ

เปลี่ยนแปลงและปัญหาคนมักจะมีอารมณ์แบบใด

ที่มา:สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (25 ก.ย.2565)

แผนภูมิที่ 1.3

แสดงผลสำรวจเรื่องอะไรที่มักทำให้ควบคุมอารมณ์

ที่มา : สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (25 ก.ย.2565)

“คนไทยกับการควบคุมอารมณ์”

ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าข่าวความ

รุนแรงในสังคมไทยมีให้เห็นมากขึ้น เกิดพฤติกรรม

รุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือเสียชีวิต ทั้งนี้หลาย

ฝ่ายก็มองว่าอาจเกิดจากภาวะทางอารมณ์ ซึมเศร้า

ขาดสติ ถูกกดดัน หรือทำให้โกรธแค้น การจัดการและ

ควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนอย่าง

ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงที่อยู่ในภาวะเศรษฐกิจ

ดังนั้นโครงการพื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะ อารมณ จึงกำเนิดขึ้นเพื่อที่รองรับอัตราการเติบโตของ ผู้ที่มีอาการจำนวนเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันและใน อนาคต เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนมีสภาวะทางร่างกายและ จิตใจที่ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การรักษาจากทาง การแพทย์ แต่ตัวอาคารทางสถาปัตยกรรมจำยังเป็น ต้องช่วยส่งเสริมเรื่องการรักษาสภาวะทางอารมณ์ ส่งผลให้การออกแบบต้องต้องเข้าใจความรู้สึกและ รองรับกับการใช้สอยพื้นที่ในอาคารเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกิจกรรมส่วนใหญ่ขอผู้ใช้งานจะอยู่ในอาคาร เป็นหลัก จึงต้องสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับผู้ใช้ ภายในอาคาร โดยการนำหลักการทฤษฎีต่างๆ ที่มีการ ประเมิณแล้วว่าสามารถใช้ในการผ่อนคลาย ระบายาง ภาวะของผู้มาใช้งานอาคารได้ โดยให้ธรรมชาติและกิจ

กรรองค์ประกอบขอพื้นที่ช่วยในการผ่อนคลายสภาวาง อารณ์แก่ผู้มาใช้งานได้

2

1.2 วัตถุประสงค์โครงการ

1. เป็นพื้นที่กิจกรรม สำหรับการคลายความ

เคลียด

2. เป็นสถานที่ให้คำปรึกษา พบปะ พูดคุย

3. เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อน ผ่อนคลาย ลดความ

ตึงเคลียดของผู้ที่มาใช้งาน

1.3 วัตถุประสงค์การศึกษา

1. ศึกษารูปแบบพื้นที่และกิจกรรมที่มีผลต่อ การคลายความเคลียด

2. ศึกษา Space พื้นที่ ที่มีผลต่อการใช้งานสำ

หรับการรวมกลุ่ม (Group Counseling)

3. ศึกษารูปแบบความสัมพันธ์ของพื้นที่กับ

ความรู้สึกการรับรู้

1.6 ระยะเวลาในการทำงาน

ตารางที่ 1.1 แสดงระยะเวลาในการดำเนินงาน ที่ ขั้นตอนการดำเนินงาน

1.4 ขอบเขตโครงการ

1. ออกแบบพื้นที่ทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับ

การใช้งานประเภทคลายความเคลียด

2. เป็นพื้นที่สำ หรับทำ กิจกรรม พบปะ พูดคุย

เพื่อผ่อนคลายอารมณ์

3. พื้นที่ของผู้ใช้งานอายุ 15-45 ปี

1.5 ขอบเขตการศึกษา

1. ประเภทอาคาร พื้นที่ทำ กิจกรรมที่ส่งเสริม

ทางด้านอารมณ์

2. การงางผังที่มีความสอดคล้องกันระหว่างพื้นที่

สีเขียวกับการผ่อนคลายอารมณ์

3. ศึกษาการออกแบบพื้นที่ ให้การรับรู้ทางด้าน

อารมณอารมณ์

4. ศึกษาการออกแบบอาคารสาธารณะขนาดกลาง

1.7 นิยามคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

“การใช้ที่ดิน” เกี่ยวข้องกับการจัดการและการเปลี่ยนแปลง สิ่งแวดล้อมหรือที่ดินในสภาพธรรมชาติ เป็น สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างเช่นนิคมและแหล่งที่อยู่กึ่งธรรมชาติเช่นพื้นดินเพาะปลูกได้และที่ป่าเชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย ธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม ถนนสถานที่ราชการ โรงเรียน สาธารณะสถานะ

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 3
ก.ค ส.ค ก.ย ต.ค พ.ค 1 เก็บรบรวมข้อมูล 2 บทที่ 1 บทนำ 3 บทที่ 2 วรรณกรรม/กรณีศึกษา
3 ความเป็นไปได้ขงโครงการ 5 บทที่ 4 รายละเอียดโครงการ 6 บทที่ 5 วิเคราะห์ที่ตั้งโครงกการ
4 บทที่

บทที่ 2

วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องและกรณีศึกษา

2.1 การทบทวนวรรณกรรม

2.1.1 ความหมายของอารมณ์

(Baron, 1989 : 304) อารมณ์มีความหมาย

ว่าอารมณ์เป็นความรู้สึกภายในที่เร้าให้บุคคลกระทำ

หรือเปลี่ยนแปลงภายในตัวของเขาเอง ซึ่’ความรู้สึก

เหล่านี้จะเป็นความรู้สึกที่พึงพอใจ ไม่พึงพอใจ หรือ

รวมกันทั้งสองกรณี อารมณ์เป็นสิ่งที่ไม่คงที่มีการ

แปรเปลี่ยน อยู่ตลอดเวลา

องค์ประกอบทั้งสามอารมณ์ : สภาวะการรู้

คิด ปฏิกิริยาทางสรีระ และการแสดงออกพฤติกรรม

อารมณ์มีอยู่มากมายหลายชนิดซึ่งเราอาจเรียกมันว่า

อะไรก็ตามแต่ว่าอารมณ์เหล่านั้น ก็มีความเด่นชัดและ

เป็นอิสระ นักจิตวิทยาได้จำแนก อารมณ์ โดยคำ นึง

สิ่งเร้าที่มาเป็นตัวกระตุ้นและรูปแบบการตอบสนอง

พฤติกรรมที่มีต่อสิ่งเร้านั้น และส่วนมากมีความเชื่อว่า

บุคคลมีอารมณ์พื้นฐานอยู่ 3 ชนิด คือ ความโกรธ (anger) ความกลัว (fear) และความพึงพอใจ (pleasure)

(Carlson, 1993 : 400) ส่วนอารมณ์ อื่นๆ

เป็นผลที่เกิดจากอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งหรือมากกว่า

ของอารมณ์ทั้งสามนี้ตัวอย่างเช่น -รังเกียจ เดือดดาล เครียดแค้น เป็นรูปแบบของอารมณ์

โกรธ

-การอิจฉาและความรู้สึกผิดจะอยู่บนพื้นฐานของความ

กลัว

-ความรักและความสุขจะมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกพึง

พอใจ

-ความโศกเศร้าเป็นเสมือนการรวมกันของอารมณ์กลัว

และอารมณ์โกรธ

Marc Brackett, Ph.D.(2022) Emotions

อารมณ์คือการตอบสนองสั้นๆ จากสิ่งที่มากระตุ้น (ทั้ง

ความจริงและจินตนาการ) ส่งผลต่อความคิด ร่างกาย

การแสดงออกและพฤติกรรม

เทพ สงวนกิตติพันธุ์ (2521)อารมณ์

หมายถึง การแสดงออกของภาวะจิตใจที่ได้รับการ

กระทบหรือกระตุ้นให้เกิดมีการแสดงออกต่อสิ่งที่มา

กระตุ้น อารมณ์สามารถจำแนกออกได้ 2 ประเภท

ใหญ่ คือ 1. อารมณ์สุข คือ อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากความ

สบายใจ หรือ ได้รับความสมหวัง

2. อารมณ์ทุกข์ คือ อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากความไม่สบาย

ใจ หรือได้รับความไม่สมหวัง

ภาพประกอบที่ 2.1 แสดงระดับอารมณ์ MARKALANFISH ที่มา : th.wikipedia.org

2.1.2 สาเหตุของการเกิดสภาวะทางอารมณ์ อ. นพ.กานต์ จำรูญโรจน์ (2018) เกิดจากการ

ถูกกดดันหรือถูกรบกวนทางอารมณ์ ทำ ให้เกิดภาวะ

โกรธ หงุดหงิด บางรายอาจแสดงพฤติกรรมความ รุนแรงออกมาได้ ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดจากสาเหตุนี้มักมี เป็นครั้งคราวไม่ใช่ทุกครั้ง และการแสดงออกไม่ถึงขั้น

ทำ ร้ายร่างกายผู้อื่นจึงไม่เป็นอันตรายสามารถเกิดได้ กับคนทั่วไปไม่จำเป็นต้องป่วยเป็นโรค

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 4

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2022)

สภาวะจิตใจที่เป็นทุกข์อันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อม

สถานการณ์ที่ยากลำบาก หรือภาวะจิตใจที่ไม่เป็นสุข ไม่

อาจจัดการรับมือด้วยวิธีที่เคยใช้เป็นปกติ เป็นผลให้

บุคคลรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัย สูญเสียสภาวะของความ

สมดุล มีความเครียดและความรู้สึกอารมณ์รุนแรง

เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ยิ่งกับคนวัยทำงานด้วยแล้ว

ความเครียดยิ่งเป็นเหมือน“เพื่อนสนิท”ที่พร้อมจะเข้า

มาทักทายได้ตลอดเวล เนื่องจากวัยทำงานมีภาระรับผิด

ขอบหลายอย่าง ทั้งการงาน การเงิน การดูแลครอบครัว

และการแบกรับความหวังจากคนใกล้ตัว

ภาพประกอบที่ 2 2 แสดงอารมณ์ความเครียด

ที่มา: www.bbc.com/thai/international-45533427

2.1.3 ระดับความเครียด

ความเครียดแบ่งเป็น 4 ระดับดังนี้

2.1.3.1. ความเครียดระดับต่ำ (Mild Stress)

เป็นความเครียด ที่ไม่คุกคามต่อการดำเนินชีวิตอาจมี

ความรู้สึกเพียงแค่เบื่อหน่าย ขาดแรงกระตุ้น และมี

พฤติกรรมที่เชื่องช้าลง

2.1.3.2. ความเครียดระดับปานกลาง (Moderate Stress) เป็นความเครียดในระดับปกติที่ไม่

ก่ออันตรายและไม่แสดงออกถึงความเครียดที่ชัดเจน

ส่วนใหญ่จะสามารถปรับตัวกลับสู่ภาวะปกติได้เองจาก

การได้ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบซึ่งช่วยคลายเครียด

2.1.3.3. ความเครียดระดับสูง (High Stress)

เป็นความเครียดที่เกิดจากเหตุการณ์รุนแรงหาก ปรับตัวไม่ได้ จะทำให้เกิดความผิดปกติตามมาทาง ร่างกายอารมณ์ ความคิดและพฤติกรรม เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย หงุดหงิด

พฤติกรรมการนอนและการรับประทานอาหาร เปลี่ยนไป จนมีผลต่อการดำเนินชีวิต

2.1.3.4. ความเครียดระดับรุนแรง (Severe Stress) เป็นความ เครียดระดับสูงและเรื้อรังต่อเนื่องจน ทำ ให้คนคนนั้นมีความล้มเหลว ในการปรับตัวและ

ก่อให้เกิดความผิดปกติและเกิดโรคต่างๆที่รุนแรงขึ้นมา ได้ เช่นอารมณ์แปรปรวนมีอาการทางจิต มีความ

บกพร่องในการดำเนินชีวิตประจำวัน

2.1.4 ประเภทของอารมณ์

MARKALANFISH (2020) อารมณ์ 7 ระดับ แต่

ละระดับจะได้รับการจัดอันดับตั้งแต่ +3 ที่ด้านบน ถึง -3

ที่ด้านล่าง โดยมีระดับกลางอยู่ที่ 0 ดังที่คุณเห็นจาก ยิ่ง

จำ นวนบวกมากเท่าไร อารมณ์เชิงบวกก็จะยิ่งแข็งแกร่ง

ดังนั้น ยิ่งจำ นวนลบต่ำ อารมณ์เชิงลบก็จะยิ่งแรงขึ้น เรา

ถือว่าอารมณ์ที่ระดับ 0 เป็นกลาง สมดุล และเป็น

พื้นฐานที่จะวัด

ภาพประกอบที่ 2 3 แสดงอารมณ์พื้นฐานของ Paul Ekman

ที่มา: markalanfish.com/2020/06/24/7-level-emotionalscale/

5

คาร์รอล อิซาร์ด (Carroll Izard)

-Interest-Excitement (สนใจ-ตื่นเต้น) เป็น

อารมณ์ที่ช่วยทําให้บุคคลเกิดแรงจูงใจที่จะเรียนรู้และใช้

ความพยายามในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้นเช่นอยากเรียนสูงๆ

-Joy(รื่นเริง) เป็นอารมณ์ที่ก่อให้เกิดสภาวะของ

ความเชื่อมั่นมองว่าโลกนี้ ช่างน่าอยู่เหลือเกิน และเกิด

ความรู้สึกว่าตนยังเป็นที่รักของบุคคลอื่นๆอยู่

-Surprise(ประหลาดใจ)เป็นอารมณ์ที่ก่อให้เกิด

การเปลี่ยนแปลงของสิ่งเร้าในระบบประสาทอย่าง

ฉับพลัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็พร้อมรับมือในทุก สถานการณ์

-Distress-Anguish (เสียใจ-เจ็บปวด)เป็น อารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องประสบกับความพลัด พราก หรือเผชิญกับความล้มเหลวในชีวิต

-Anger-Rage (โกรธ-เดือดดาล) เป็นอารมณ์ที่

เกิดขึ้นเมื่อบุคคลพบการขัดขวางหรืออุปสรรคทางด้าน

ร่างกายหรือด้านจิตใจ

-Disgust(รังเกียจ) เป็นอารมณ์อันเกิดจากการ

กระทบกับสัมผัสที่ไม่พึงปรารถนา

-Contempt-Scorn (ดูถูก-เหยียดหยาม) เป็น

อารมณ์ทีอาจเกิดการผสมกับอารมณ์โกรธหรืออารมณ์

ขยะแขยง จัดเป็นอารมณ์ที่มีลักษณะเย็นชา

-Fear-Terror (กลัว-สยองขวัญ)เป็นอารมณ์

ที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลกําลังเผชิญอยู่กับสิ่งที่ตนไม่ สามารถจะเข้าใจได้ หรือเกิดความไม่แน่ใจในภัย

อันตรายที่กําลังจะมาถึง

-Shame Sin Shyness-Humiliation (อับอายขายหน้า)เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลถูกลงโทษ เพราะไม่ประพฤติตามกฎเกณฑ์ของสังคม

-Guilt (รู้สึกผิด) เป็นอารมณ์ที่มีความเกี่ยวพัน

อย่างใกล้ชิดกับความวิตกกังวลและความอาย เป็นความ

สํานึกผิดชอบชั่วดี

2.1.5 การแสดงออกทางอารมณ์

2.1.5.1 การแสดงอารมณ์ทางใบหน้า

การแสดงออกทางอารมณ์ที่มีลักษณะเป็น สากลมากที่สุดคือ การแสดงออกทางใบหน้า ทั้งนี้

เพราะมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาจะแสดงความรู้สึกได้

ตรงกันกล่าวคือ เมื่อเกิดอารมณ์นั้นกล้ามเนื้อแต่ละมัด

บนใบหน้าจะมีการยืดหดคล้ายคลึงกันการแสดง

อารมณ์ความรู้สึกออกทางใบหน้าจัดว่าเป็นสิ่งที่มี ความสําคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแสดงออกถึง สภาวะทางอารมณ์ต่างๆ ในตัวเราและบุคคลอื่นที่ สามารถสังเกตเห็นได้บ่อยๆโดยนักสรีรวิทยาเชื่อว่า

ใบหน้าของมนุษย์สามารถแสดงความรู้สึกได้แตกต่าง กันมากถึง20,000แบบ

ภาพประกอบที่ 2 4 การแสดงอารมณ์ทางใบหน้า

ที่มา : mommy.teenee.com/kid-trick/1388.html

\

ภาพประกอบที่ 2 5 การแสดงอารมณ์ก้าวร้าวและรุนแรง

ที่มา: www.unlockmen.com/anger-room/

6
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

2.2 ทฤษฎีผ่อนคลายทางอารมณ์

2.2.1กลุ่มใช้กิจกรรมนันทนาการผ่อนคลาย

(recreationalactivities)

เพื่อกระตุ้นต่อมความสุข สดใสร่าเริงของตัว

คุณขจัดความเครียดที่สามารถเข้าถึงง่าย ลดการคิดใน

เรื่องเดิมๆ หากิจกรรมเพื่อโน้มน้าวจิตใจไปโฟกัสเรื่อง

อื่นความเครียดในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยทำให้การ

ทำงานมีประสิทธิภาพมาก รวมถึงสุขภาพกายและ

จิตใจที่ดีขึ้นด้วย

2.2.1.1 การเล่นบอร์ดเกมส์(Board Game)

ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย เซ็นทรัลฟลอริด้า

พบว่าการพักเบรกด้วยการเล่นเกม ช่วยให้เรารู้สึกผ่อน

คลาย หายเครียด และลดอาการเหนื่อยล้าได้มากกว่า

การพักเบรกแบบอื่นๆ “บางเกมเป็นพื้นที่เพื่อที่จะศึกษา

พฤติกรรมของคน เพราะเมื่อเป็นโลกของเกมจึงสร้าง

สถานการณ์จำ ลองบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ง่ายบน

โลกความจริง

ภาพประกอบที่ 2 6 ภาพที่แสดงกิจกรรมการเล่นบอร์ดเกมส์

ที่มา: www.pptvhd36.com/news/

2.2.1.2 กิจกรรมการทุบของระบายอารมณ์

บำบัดความโกรธด้วยการระบายก่อนระเบิด

โดยมีความเชื่อว่าการระบายความรู้สึกรุนแรงออกไป

จะช่วยชำระล้างจิตใจให้สะอาดหมดจดได้อีกทั้งการ ทำลายเพื่อบำบัด ที่มีชื่อเรียกว่าDestrotherapyซึ่งสื่อ

มักแสดงและนำเสนอการระบายควาแค้นเพื่อความ

สะใจนั้นสามารถช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้

ฟรอยด์ เสนอว่า “คนเราเก็บความรู้สึกลบ

เอาไว้ภายในที่ทำ ให้เกิดอาการทางจิต หากเก็บไว้ก็

เหมือนการสุมไฟจนระเบิด”ดังนั้นการบำ บัดผู้ป่วยทาง

จิตในยุคของฟรอยด์จึงมีเทคนิคให้ผู้ป่วยช่วยกันพูดจา

กระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงความโกรธออกมาเพื่อปลดปล่อย ความคืบหน้าของการรักษาการระเบิดความโกรธออกมา

แสดงถึงความจริงแท้ภายในของคนๆนั้นซึ่งนั้นก็เวิร์ก

สำหรับบางคน

Hydraulic Model

คือความโกรธที่เริ่มจาก

ความไม่พอใจผิดหวัง (Frustration) เก็บไว้ภายใน

เหมือนหม้อความดันสะสม anger เอาไว้จนกว่ามันจะ

ถูกปลดปล่อยออกมา หากไม่ได้ระบายออกความโมโห

จะระเบิดออกมากลายเป็นความโกรธที่กระทำการ รุนแรง (Aggressive Rage)

Hannah Arendt นักทฤษฏีการเมือง เชื่อว่า ความโกรธคือการตอบสนองตามธรรมชาติต่อความอ ยุติธรรม หากทุกคนไม่โกรธ ความเป็นมนุษย์และความ ยุติธรรมก็อาจหมดไปด้วย ความโกรธทำให้คนเรายอม ไม่ได้เมื่อถูกปฏิบัติแย่ๆ และตอบโต้เมื่อมีสิ่งที่ไม่

ถูกต้องเกิดขึ้น ความโกรธเป็นแรงผลักดันให้เกิดการ

ประท้วงเมื่อมีความไม่เป็นธรรมในสังคม การลุกฮือใน

ประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดการปฏิวัติ การเรียกร้องความ เปลี่ยนแปลง ล้วนเกิดจากโกรธเดือดดาลคั่งแค้นทั้งสิ้น ความโกรธไม่ได้มีแต่โทษและเลวร้ายเสมอไป

ภาพประกอบที่ 2 7 ภาพที่แสดงกิจกรรมการทุบของระบายอารมณ์ ที่มา: thefragmentroom.com/

7
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

2.2.1.3 ปลดปล่อยอารมณ์ผ่านศิลปะ

สาดสีสาดศิลป์กับกิจกรรม “Neon Splash

Painting”

ระบายอารมณ์แบบสร้างสรรค์ปลดปล่อย

ความคิดผ่านงานศิลปะกิจกรรมที่จะชวนให้คุณมาร่วม

บรรเลง สาดสี สาดศิลป์ลงเฟรมผ้าใบขนาดใหญ่ดีไซน์

เรื่องราวไม่ซ้ำใครพร้อมก้าวออกจากกรอบ

ภาพประกอบที่ 2 8 แสดงกิจกรรมการสาดสีระบายอารมณ์

ที่มา: facebook.com/ficklelifestyle

2.2.1.4 กิจกรรมปีนผาจำลอง

เหล่าคนรักกีฬาแอดเวนเจอร์ย่อมชอบเพราะ

ไม่ใช่แค่สนุกแต่ยังท้าทายขีดความสามารถของร่างกาย

และจิตใจ ด้วยการปีนแต่ละครั้งต้องใช้แรงกล้ามเนื้อ

ในการส่งใช้แรงใจในการปีนฮึดสู้กับอุปสรรค

ขณะเดียวกันก็ต้องคิดวิเคราะห์ว่าจะปีนอย่างไรก้าว

อย่างไรจะถึงเป้าหมายได้

ภาพประกอบที่ 2 9 แสดงกิจกรรมปีนผาระบายอารมณ์

ที่มา: th.theasianparent.com/rock-climbing-for-kids

2.2.1.5 เทคโนโลยี Total VR

VR นอกจากได้สนุกคลายเครียดและกระชับ

ความสัมพันธ์กับเพื่อนรักคนสนิทแล้ว ก็ยังมีข้อดีอยู่อีก

มากมาย อย่างแรกเลยคือเราไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ ผู้เล่นจะ

ได้ขยับเคลื่อนไหวเป็นการออกกำ ลังกายไปในตัว บาง

เกมอย่างเช่น เกมต่อยมวย มันคือการออกกำลังกาย

อย่างจริงๆ จังๆ ก็ว่าได้ และสำหรับกลุ่มเด็กๆ วัยกำลัง

พัฒนานี่คือการฝึกทักษะตอบสนองและทักษะการ เคลื่อนไหว

ภาพประกอบที่ 2 10 แสดงกิจกรรมเทคโนโลยี Total VR

ที่มา: droidsans.com/htc-vive-focus-standalone-vrheadset/

2.2.2 กลุ่ม Workshop

2.2.2.1กลุ่มใช้การพูดคุยแบบกลุ่ม(support Group)

การบำบัดแบบกลุ่มจะทำ ให้ผู้เข้าร่วมจะมี

โอกาสเข้าไปสำรวจความคิดในระดับที่ลึกลงไปและ

เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ซึ่ง

สภาวะทางอารมณ์ที่น่าเป็นห่วง ปัญหาส่วนตัว หรือ

ปัญหาทางความสัมพันธ์จะค่อยๆ คลี่คลายลงผ่าน

รูปแบบหนึ่งของการบำบัด

ภาพประกอบที่ 2 11

แสดงกิจกรรมปรึกษาพูดคุยแบบกลุ่ม

ที่มา: www.urbinner.com/post/what-is-group-therapy

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 8

2.2.2.2 ปลดปล่อยอารมณ์ผ่านศิลปะ

สาดสี สาดศิลป์กับกิจกรรม “Neon Splash

Painting”ระบายอารมณ์แบบสร้างสรรค์ ปลดปล่อย

ความคิดผ่านเวิร์กช็อปศิลปะกิจกรรมที่จะชวนให้คุณ

มาร่วมบรรเลง สาดสี สาดศิลป์ลงเฟรมผ้าใบขนาด

ใหญ่ดีไซน์เรื่องราวไม่ซ้ำ ใครพร้อมก้าวออกจากกรอบ

ภาพประกอบที่ 2 12 แสดงกิจกรรม Art Therapy

ที่มา : www.facebook.com/ficklelifestyle

ประโยชน์ของ Art Therapy

ลดความเครียด การใช้ศิลปะบำบัดสามารถลด

ความเครียด เพราะในขณะที่เราสร้างสรรค์งานศิลปะนั้น

ร่างกายเราจะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่เป็นออร์โมน

ความเครียดลดน้อยลง

เพิ่มสมาธิ ศิลปะจะช่วยให้ผู้คนนั้นเข้าสู่

สภาวะ Flow State ที่จะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่ง

หนึ่ง และอยู่ในโลกของตัวเอง ที่มีแค่ตัวเราเท่านั้น ไม่

มีใครมาตัดสินตัวของเราได้

การแสดงออกของอารมณ์ ศิลปะบำบัดจะ

ช่วยให้เราได้มีพื้นที่ในการรู้จักคิดและทบทวนการ

แสดงของอารมณ์ตัวเอง และเป็นพื้นที่ให้เราได้

ปลดปล่อยอารมณ์ผ่านมุมมองที่แตกต่างกันออกไป

สร้างพื้นที่ปลอดภัย แน่นอนว่าศิลปะบำบัด

นั้นไม่ใช่เพียงแค่การวาดรูประบายสีแต่เป็นการสร้าง

พ้นที่ปลอดภัยให้กับตัวเอง ที่ที่เราสามารถทำอะไรกับ

มันก็ได้ รู้สึกอะไรก็ได้ เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย

ของเราเอง

ลดความวิตกกังวล การเชื่อมโยงความคิดเข้า

กับศิลปะนั้นจะช่วยให้เราลดความวิตกกังวลลงไปได้

เพราะเราจะรู้สึกผ่อนคลาย และสบายในหัวใจของเรา

เพิ่มความ Creative

อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องได้รับ

อย่างแน่นอนนั่นก็คือการได้ฝึกความ Creative หรือ

ความคิดสร้างสรรค์ผ่านการสร้างงานศิลปะ เพราะเป็น

การบริหารสมองในส่วนซีกขวา

ลดภาวะซึมเศร้า ศิลปะบำบัดนอกจากจะช่วย

ลดความเครียดได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้เราลดภาวะ ซึมเศร้าได้ เพราะเราจะได้พื้นที่ในการแสดงออกของ

ความรู้สึกและสามารจัดการกับจิตใจที่ฟุ้งซ่านได้

ภาพประกอบที่ 2 13 ภาพที่แสดงกิจกรรมทำแครื่องปั้น

ที่มา: www.facebook.com/ficklelifestyle/

2.2.2.3 งานเครื่องเคลือบดินเผา (Ceramics)

ศิลปะที่มีเรื่องของงานดีไซน์สร้างสรรค์ผลงาน

ได้มากมายความรู้สึกสื่อสารบอกเล่าแนวคิดออกเป็น รูปธรรมให้เห็นภาพ จับต้องชัดเจนอย่างเช่นความรู้สึก

ร่าเริงสดใสหรือหดหู่ศิลปะทำ ให้ได้แสดงความรู้สึก

และความคิดออกมาเพื่อช่วยให้ค้นหาเปิดรับภาวะ อารมณ์ของตัวเอง

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 9

2.2.2.5 ปักผ้าบำบัด(embroidery therapy)

การเย็บผ้าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ใน

การรับมือกับภาวะซึมเศร้า

มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายงานที่ศึกษา

ถึงความสัมพันธ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับ

สุขภาพจิตที่ดี และพบว่าการทำงานด้วยมือมี

ประโยชน์มากต่อผู้ที่มีภาวะป่วยทางจิตใจ การจมจ่อม

ตัวเองและมืออยู่กับฝีเข็มตรงหน้าช่วยให้เราอยู่ใน

ภาวะ flow ที่ช่วยลดความเครียดและทำให้ความ

ขัดแย้งภายในสงบลงได้ การทำชิ้นงานเล็กๆ สำเร็จ ก็

ช่วยให้เกิดความรู้สึกมีคุณค่าและบูสต์อัพระบบ

ประสาทของเรา และนี่ก็เป็นวิธีที่เราใช้ด้วยเหมือนกัน

เวลาเศร้าหรือเจอกับพายุความกังวลในใจตัวเองการลง

มือเย็บ ปัก และซ่อมผ้า จึงเป็นทั้งหนทางในการ

แสดงออก บางครั้งระบาย บางครั้งแก้แค้น ความรู้สึก

หรืออารมณ์ที่ไม่อาจแสดงออกมาด้วยคำพูดหรือ

แสดงออกในชีวิตจริงได้

ภาพประกอบที่ 2 14 แสดงกิจกรรมปักผ้า

ที่มา: adaybulletin.com/know-fashion-mattershandcrafted-therapy/52711

2.2.2.6 เขียนระบายอารณ์ (Expressive Writing)

Expressive writing คือรูปแบบการเขียนที่

แสดงความรู้สึกความเชื่อ ความตั้งใจ ความเจ็บปวด

หรือสภาวะที่เกิดขึ้นของตัวเอง เขียนแบบนี้แตกต่างกับ

การเขียนทั่วๆ ไปแต่จะเป็นการเขียนเพื่อเยียวยา

ความรู้สึกของคุณ แสดงออกและระบายสิ่งที่คุณเป็น

ภาพประกอบที่ 2.15 แสดงกิจกรรมเขียนระบายอารณ์

ที่มา: www.urbinner.com/post/expressive-writing

Expressive writing เป็นเรื่องของคุณ การ

เขียนนี้เป็นของคุณ ที่คุณจะได้ค่อยๆ ปลดปล่อยทุก

อย่างออกมา ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยเป็นมุมมองที่เกิดจาก

คุณ และเป็นเวลาที่คุณจะสามารถโอบกอดตัวเองได้

อย่างเต็มที่ งานวิจัยเกี่ยวกับ expressive writing ได้

ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1986 ในครั้งนั้นงานวิจัยนี้ได้

สร้างความสนใจให้กับนักจิตวิทยาคลินิก

นักจิตวิทยาสังคมมากทีเดียว เพราะเขา

ทดลองโดยการสุ่มให้นักศึกษาเขียน expressive writing โดยเขียนสิ่งที่เกี่ยวข้องกับบาดแผลและปม ของตัวเองเป็นเวลา 15 นาทีต่อวัน ปรากฏว่านักศึกษา

จำนวนกว่า 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่ง ที่ได้เขียน expressive writing เหล่านี้สามารถเลือกที่หยุดการ รับบริการจากศูนย์บริการทางสขภาวะนักศึกษาใน 6

เดือนถัดมาได้

นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยอีกมากมายที่พบว่า expressive writing ยังช่วยให้คนที่เผชิญกับ PTSD

(Post-Traumatic Stress Disorder) หรือผู้ที่ได้รับ

การกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ เลวร้าย สามารถดูแลสภาวะของตนเองได้ดีขึ้น และ ดูแลสภาวะอื่นๆ เช่น ความกังวล ความโกรธ ได้ดีขึ้น

10
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

2.2.2.7 ร้องไห้ระบายความเคลียด(cryingout stress)

ร้องไห้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนการระบาย

ความรู้สึกไม่ดีที่อยู่ในจิตใจออกไป แล้วยังช่วยเพิ่ม

ความผูกพัน ความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุน

ระหว่างครอบครัว และเพื่อนได้อีกด้วยอย่างไรก็ตาม

ไม้ได้หมายความว่า การร้องไห้ จะมีผลดีต่อร่างกายใน

ทุกกรณี เพราะในความจริงแล้ว น้ำตาที่ไหลออกมา

ขณะร้องไห้มีอยู่หลายประเภท ดังนี้

-น้ำตาที่เกิดจากการระคายเคือง (Reflex Tear)

-น้ำตาที่ทำหน้าที่หล่อลื่นดวงตา(Continuous Tear)

-น้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ (Emotional Tear)

ซึ่งน้ำตาประเภทที่ส่งผลดีต่อร่างกาย ช่วย

ระบายความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้น คือน้ำตาที่เกิดจาก

อารมณ์ เพราะในน้ำตาชนิดนี้จะมีสาร Oxytocin และ

Endorphins ซึ่งทำหน้าที่ผ่อนคลายทั้งด้านร่างกาย

และความเจ็บปวดด้านจิตใจ

ภาพประกอบที่ 2.16 แสดงการร้องไห้ระบายความเคลียด

ที่มา: brandinside.asia/crying-good-for-your-mental-

health/

2.2.2.8 โยคะ (Yoga therapy)

สาลี่ สุภาภรณ์(2544) กล่าวว่า โยคะ (Yoga)เป็นภาษาสันสกฤตแปลว่า การรวมให้เป็นหนึ่ง (Union)ซึ่งก็หมายถึงการรวมกายจิตและวิญญาณให้

เป็นหนึ่งเดียวกันการฝึกโยคะจึงเป็นกระบวนการ

สำหรับฝึกกายฝึกการหายใจ

ภาพประกอบที่ 2.17 แสดงกิจกรรม Yoga therapy

ที่มา: thesis.swu.ac.th/swuebook/h55620

2.2.2.9 พืชพรรณบำบัด (Therapeutic Garden)

หรือการจัดสวนเพื่อบำบัด โดยใช้ธรรมชาติ

เป็นตัวช่วย โดยมีการปรับสมดุลของร่างกาย จิตใจ

งานวิจัย พบว่าความเครียดของคนเราสามารถลดลงได้

ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง

ภาพประกอบที่ 2 18 แสดงพืชพรรณบำบัด

ที่มา: www.baanlaesuan.com/250083/ideas/gardenideas/therapeutic-garden

11
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

2.2.2.10 เทียนหอม (scented candle)

เทียนหอมถูกนำ มาใช้ในพิธีกรรมต่างๆมานานหลายศตวรรษเนื่องจากช่วยส่งเสริมการบำ บัดเพิ่มสมาธิและ ชำ ระล้างพลังคุณภาพของแสงที่อ่อนโยนและน่าหลงใหลทำ ให้เป็นตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบสำ หรับกิจวัตรการพักผ่อน Melt นำ วิทยาศาสตร์ของเทียนไปอีกขั้นหนึ่ง การสร้างสรรค์เทียนหอมที่พิสูจน์แล้วว่า สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของ คุณได้ ประสาทรับกลิ่นของเรามีพลังอย่างเหลือเชื่อและไม่ควรมองข้ามกลิ่นของเทียนหอมช่วยกระตุ้นสมองส่วนที่ เชื่อมต่อกับความจำ และอารมณ์ตั้งแต่การเพิ่มพลังงานไปจนถึงการคลายความเครียดหรือแม้แต่การเพิ่มความชัดเจน ของจิตใจ คุณสมบัติการรักษาที่มาจากเทียนหอมที่จุดไฟสามารถส่งผลทางจิตใจได้ ดังนั้นการใช้เทียนในการบำ บัด ด้วยการพูดคุยสามารถปลดล็อกเส้นทางแห่งจิตไร้สำ นึกได้Keville และ Green (2009) รายงานว่าความไม่สมดุลของ

สุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าสามารถปรับปรุงได้ด้วยการใช้เทียนหอมและน้ำ มัน ตัวอย่างเช่น เทียนหอมบางชนิด สามารถช่วยลดความรู้สึกกลัวและวิตกกังวล ลดความเครียด และทำ ให้อารมณ์ดีขึ้นเทียนสำ หรับความวิตกกังวลคุณ เคยคิดหรือไม่ว่าการทำ ความเข้าใจผลกระทบที่แตกต่างกันของกลิ่นต่างๆ คุณจะสามารถควบคุมอารมณ์และจุดเทียน ที่คุณต้องการได้ ต่อไปนี้เป็นเทียนหอมที่สามารถใช้บรรเทาความวิตกกังวลหรือความเครียดได้ ลาเวนเดอร์ - ผ่อนคลายทันทีทั้งร่างกายและจิตใจ

clary sage - ยกระดับอารมณ์

อบเชย - ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น

ส้ม - ลดความเครียด

มะนาว - ช่วยเพิ่มอารมณ์

แอปเปิ้ล - ควบคุมความวิตกกังวล

สะระแหน่ - ปลุกความคิดของคุณและเพิ่มสมาธิ

กำยาน - ช่วยต่อสู้กับความวิตกกังวลเครียดได้ดี

ภาพประกอบที่ 2 19 แสดงเทียนหอมความเคลียด ไม้จันทน์ - ผ่อนคลายและสงบร่างกายและจิตใจ

ที่มา: www.cozxy.com/read-our-

2.2.2.11 การอ่าน (reading)

การอ่านทำ ให้ลีกหนีจากโลกความจริงบ้างแม้จะชั่วคราวมีผลการวิจัยกล่าวว่าการอ่านหนังสือเพืยง 6นาที จะทำ ให้ให้ความเครียดลดลงถึง 60% ดีกว่าการฟังเพลง และการดื่มชาเสียอีก แม้ว่าการอ่านจะไม่ใช่ยารักษา ความเครียด แต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำ ให้ผู้อ่านรู้สึกดีขึ้นได้ ปัจจุบันการบำ บัดจิตด้วยการอ่านในทางการแพทย์มีอยู่หลาย แบบ ทั้งการจ่ายยาเป็น ‘รายชื่อหนังสือที่ควรอ่าน’ ให้ผู้ป่วย หรือการเล่าเรื่องจากหนังสือให้ผู้ป่วยฟัง และอันที่จริง แล้วไม่ใช่แค่ผู้ป่วยเท่านั้นที่สามารถรับ Bibliotherapy แต่ใครก็ตามที่อาจพบเจอกับปัญหาในชีวิต มีภาวะตึงเครียด ไม่มีความสุขทั้งจากการทำ งานความสัมพันธ์กับคนรอบตัวหรืออะไรก็ตามแต่ก็สามารถอ่านหนังสือเพื่อบรรเทาความ ทุกข์จากปัญหาเหล่านั้นได้

12
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

2.2.2.12 สัตว์เลี้ยงเยียวยาจิตใจ( Pets Therapy)

งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายงานที่ศึกษาถึง

ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับ

สุขภาพจิตที่ดีและพบว่าการทำงานด้วยมือมีประโยชน์

มากต่อผู้ที่มีภาวะป่วยทางจิตใจการจม

จ่อมตัวเองช่วยให้เราอยู่ในภาวะflowที่ช่วยลด

ความเครียดและทำให้ความขัดแย้งภายในสงบลงได้

2.2.2.13 การกรีดร้องบำบัด (Scream Therapy)

เป็นแสดงความโศกเศร้า ความเครียด และ

ความโกรธ ออกมาด้วยการกรีดร้อง แทนที่จะเก็บ

อารมณ์เหล่านั้นไว้ จนมันแน่นอยู่ในอก ซึ่งแนวคิดนี้

ได้รับการพัฒนาโดยอาเธอร์ ยานอฟนักจิตวิททยา

อายุรเวทชาวอเมริกัน มาตั้งแต่ยุค 1970 โดยยานอฟได้

ใช้วิธีนี้ในการรักษาอาการของจอห์น เลนนอน ภาพประกอบที่ 2.20 แสดงสัตว์เลี้ยงเยียวยาจิตใจ

ที่มา : www.petexpothailand.net/page-press-article17.php

ภาพประกอบที่

ที่มา : www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1070053

2.3 ทฤษฎีเส้นสายกับความรู้สึก (Line)

เกิดจากจุดที่เรียงต่อกัน หรือเกิดจากการลากเส้นไปยังทิศทางต่างๆ มีหลายลักษณะ เช่น ตั้ง นอน เฉียง โค้งฯลฯ เส้น เกิดจากเคลื่อนที่ของจุดหรือถ้านำ จุดมาวางเรียงต่อๆ กันก็จะเกิดเป็นเส้นขึ้นเส้นมีมิติเดียวคือ ความยาว ไม่มีความ กว้างทำ หน้าที่เป็นขอบเขตของที่ว่าง รูปร่าง รูปทรง สี น้ำ หนักรวมทั้งเป็นแกนหลักโครงสร้างของรูปร่างรูปทรงต่างๆ

เส้นเป็นพื้นฐานที่สำคัญของงานศิลปะทุกชนิด เส้นสามารถให้ความหมาย แสดงความรู้สึกและอารมณ์ด้วย การสร้างเป็น รูปทรงต่างๆ

ภาพประกอบที่ 2 22 แสดงเส้นตั้ง

2.3.1 เส้นตั้ง หรือเส้นดิ่งให้ความรู้สึกทาง

ความสูง สง่า มั่นคง แข็งแรงหนักแน่นเป็สัญลักษณ์ของ

ความซื่อตรง

ภาพประกอบที่ 2.23 แสดงเส้นนอน

2.3.2 เส้นนอน ให้ความรู้สึกทางความกว้าง

สงบ ราบเรียบ นิ่ง ผ่อนคลาย

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 13
2.21 แสดงการกรีดร้องบำบัด

ภาพประกอบที่ 2.24 แสดงเส้นเฉียง

2.3.3 เส้นเฉียง หรือเส้นทะแยงมุม ให้ความรู้สึก

เคลื่อนไหวรวดเร็ว ไม่มั่นคง

ภาพประกอบที่ 2.25 แสดงเส้นหยัก

2.3.4 เส้นหยัก หรือ เส้นซิกแซก แบบฟันปลา

ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว อย่างเป็นจังหวะมีระเบียบไม่รา

เรียบน่กลัวอันตรายขัดแย้งความรุนแรง

ภาพประกอบที่ 2.26 แสดงเส้นโค้งแบบคลื่น

2.3.5 เส้นโค้งแบบคลื่น ให้ความรู้สึก

เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ลื่นไหลต่อเนื่องสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวล

ภาพประกอบที่ 2.27 แสดงเส้นโค้ง

2.3.6 เส้นโค้งแบบก้นหอยให้ความรู้สึก

เคลื่อนไหว

คลื่นคลายหรือเติบโตในทิศทางที่หมุนวนถ้า

มองเข้าไปจะเห็นพลังความเคลื่อนไหวที่ไม่สิ้นสุด

ภาพประกอบที่ 2.28 แสดงเส้นโค้งวงแคบ

2.3.7 เส้นโค้งวงแคบให้ความรู้สึกถึงพลังความ เคลื่อนไหวที่รุนแรง การเปลี่ยนทิศทางที่รวดเร็วไม่หยุดนิ่ง

ภาพประกอบที่ 2.29 แสดงเส้นเส้นประ

2.3.8 เส้นประให้ความรู้สึกที่ไม่ต่อเนื่องขาด

หายไม่ชัดเจนทำ ให้เกิดความเครียด

2.4 Form / Space Relationship รูปทรง

และความสัมพันธ์ของที่ว่าง

Irregular forms – รูปทรงที่ไม่ปกติ ไม่สม่ำ เสมอ

Solid – ปริมาตรทึบ ที่ไม่มีที่ว่างข้างใน

Void – ที่เป็นช่องว่าง ที่เปิดโล่ง (ใช้กับลักษณะ

ปริมาตร ที่ไม่ทึบ แต่เป็นที่ว่างภายในเปิดโล่ง)

Subtract – ดีงออก ลบออก ตักออกจากของเดิม

Interlock – เกี่ยวกัน คล้องกัน

Interpenetrate – ทิ่มแทง ทะลุเข้าไป

Overlap – ซ้อนทับ

Merge – หลอมรวม

Additive forms – รูปทรงที่โดนต่อเติมเพิ่ม

Subtractive forms – รูปทรงที่โดนลดส่วน : รูปทรง

ที่โดนหักชิ้นส่วนออกไป

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 14

ผลการศึกษาพบว่า ปัจจุบันเราใช้เวลา 87%

ของชีวิตอยู่ในที่ร่ม สภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ส่งผลดีต่อ

อารมณ์และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยเช่นเดียวกับ

สถานที่ที่มีแสงน้อยและอึดอัดสามารถทำให้ชีวิตเป็น

ทุกข์ได้ นั่นคือเหตุผลที่งานฝีมือในการออกแบบตกแต่ง

ภายในมีความสำคัญมาก แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนมักจะ

มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม เมื่อออกแบบตกแต่ง

ภายใน สถาปนิกมีอำนาจในการปรับเปลี่ยนตัวแปรที่

สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแสงประดิษฐ์แสงธรรมชาติ สัดส่วน

หรือวัสดุ โดยองค์ประกอบดังกล่าว ทั้งหมดจะมีอิทธิพล

ต่อประสบการณ์ที่ผู้อยู่อาศัยจะมีในพื้นที่หนึ่งๆ

ปัจจุบันเราใช้เวลา 87% ของชีวิตอยู่ในที่ร่ม

สภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ส่งผลดีต่ออารมณ์และความ

เป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย เช่นเดียวกับสถานที่ที่มีแสง

น้อยและอึดอัดสามารถทำ ให้ชีวิตเป็นทุกข์ได้ นั่นคือ

เหตุผลที่งานฝีมือในการออกแบบตกแต่งภายในมี

ความสำคัญมาก

2.5.1 ขยายพื้นที่ ในการสร้างความรู้สึก

กว้างขวางในสภาพแวดล้อม วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้สี

อ่อนซึ่งจะสะท้อนแสธรรมชาติและทำให้พื้นผิวดูใหญ่

ขึ้นในสายตา

ภาพประกอบที่ 2.30 แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.2 กระชับพื้นที่ ในทางกลับกัน เมื่อไอเดีย คือการทำให้ห้องดูกะทัดรัด เล็กลง และสบายขึ้น การ

เลือกใช้สีที่เข้มกว่าบนพื้นผิวผนังก็ทำงานได้ดี พวกเขา

จะดูดซับแสงธรรมชาติส่วนใหญ่ ให้ความรู้สึกปิดล้อมที่

อาจเป็นประโยชน์ต่อการทำงานบางอย่าง

ภาพประกอบที่ 2.31 แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.3 ลดเพดานลง มีหลายครั้งที่การลดความ

สูงของเพดานลงจะทำให้พื้นที่ดูน่าอยู่ยิ่งขึ้นและให้

ความรู้สึกอบอุ่น เมื่อทาสีด้วยสีเข้มกว่าผนังหรือปล่อย

ให้พื้นผิวของวัสดุมองเห็นได้ คุณสมบัตินี้จะให้ความรู้สึก

ว่าเพดานต่ำกว่า

ภาพประกอบที่ 2.32 แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.4 ยืดพื้นที่ ในสถานการณ์อื่นๆ มันจะ ตรงกันข้าม มีอพาร์ตเมนต์ หลายห้องที่มีเพดานต่ำทำ

ให้รู้สึกอึดอัดกับพื้นที่ การทาสีผนังด้วยสีเข้มและปล่อย ให้เพดานเป็นสีขาวทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพดานที่สูงขึ้น

15
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์
2.5 ทฤษฎีพื้นที่ว่างกับอารมณ์

ภาพประกอบที่ 2.33 แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.5 ทำให้พื้นที่กว้างขึ้น การทาสีผนัง

ด้านหลังและเพดานด้วยสีเข้มเหมือนเดิมและปล่อยให้

ผนังด้านข้างสว่างขึ้นจะทำให้พื้นที่ดูกว้างและกว้างขวาง

มากขึ้น ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางเดิน

หรือห้องแคบ

ภาพประกอบที่ 2.34 แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.6

ทำให้พื้นที่แคบลง การทาสีผนังฝั่งตรง

ข้ามทั้งสองสีเข้มและปล่อยให้พื้นหลังและเพดานเป็นสี

อ่อนจะทำให้พื้นที่ดูแคบลง ช่วยเพิ่มสัดส่วนของห้องที่มี

มิติไม่สมดุล

ภาพประกอบที่ 2.35

แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.7 ลดขนาดพื้นที่ หากคุณมีพื้นที่กว้างขวาง

ในบ้านและต้องการให้รู้สึกใกล้ชิดมากขึ้น ให้ลงทุนใน

โทนสีเข้มที่ผนังด้านหลังซึ่งตรงกันข้ามกับสีที่สว่างกว่า บริเวณอื่น

ภาพประกอบที่ 2.36 แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.8 ไฮไลท์กำแพง หากต้องการเน้นผนัง ขอ

แนะนำให้ใช้สีอ่อนกว่าในขณะที่สีอื่นมีสีเข้มกว่า ส่งผล

ให้สายตาถูกดึงดูดไปที่มัน

ภาพประกอบที่ 2.37

แสดงการรับรู้ของพื้นที่

2.5.9 ร่นกำแพง หากไอเดียคือการทำให้ผนังสั้น

ลง การทาสีเข้มลงที่ด้านล่างของผนังก็จะได้ผล

ภาพประกอบที่ 2.38

แสดงการรับรู้ของพื้นที่

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 16

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

สีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และสีแต่ละสีก็ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกแตกต่างกันไป การนำทฤษฎี

สีบำบัดเข้ามาช่วยในเรื่องการบำบัดจึงเป็นอีกทางเลือกเพื่อช่วยในการกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกต่างๆของผู้บำบัด Faber Birren บิดาแห่งวิชาจิตวิทยาการประยุกต์ใช้สี เค้าคือชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งอาชีพที่ปรึกษาการใช้สีเมื่อปี 1936 เคยกล่าวเอาไว้ว่า “การศึกษาเรื่องโทนสีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลักการจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ เพราะ ทุกเฉดสีล้วนส่งผลต่อความรู้สึกของมนุษย์ ”สีมีความสัมพันธ์กับสไตล์ของการออกแบบ ซึ่งสีเป็นปัจจัยสนับสนุนด้าน ความรู้สึกของงานสถาปัตยกรรม ยกตัวอย่างเช่น งานออกแบบสไตล์ Loft จะใช้สีเทาจากวัสดุอย่างปูนเปลือยเพื่อให้ ความรู้สึกถึงสัจจะวัสดุ หรืองานสไตล์ Minimal ที่เลือกใช้สีโทนสว่างอย่างขาวและน้ำตาล ให้ความรู้สึกที่สบายตา

เรขากลลดาเรืองไกรจิตแพทย์(2564) ได้กล่าวถึงทฤษฎีสีบำบัดว่าหลักการทำงานของสีว่าสีแต่ละสีมีความยาวคลื่น และความถี่ ที่แตกต่างกัน เมื่อจอประสาทตาของเรารับแสงสีต่างๆ ผ่านเข้าไปสู่ต่อมไพเนียลในสมอง ซึ่งส่งผลให้ความรู้สึก จิตใจ ฮอร์โมน และอารมณ์ในร่างกายของเราในขณะนั้นแตกต่างกัน เช่น เมื่อจอประสาทตารับแสงสีแดงจะทำให้เกิด ความรู้สึกตื่นตัว รับแสงสีม่วงจะทำให้รู้สึกสงบ ด้วยความหลากหลายของสีนี่เอง นักจิตวิทยาจึงสามารถนำพลังของแต่ละ สีมาปรับใช้เพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของร่างกายและจิตใจให้กับผู้ป่วยมากมาย บรรจบ กำจัด (2549) สีที่ใช้ในการบำบัด แบ่งเป็น กลุ่มโทนร้อน สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีม่วง ซึ่งกลุ่มนี้

17
2.6. ทฤษฎีแสงสีและอารมณ์
จะช่วยใน การกระตุ้นความรู้สึก กลุ่มโทนเย็น สีเขียว สีน้ำเงิน สีฟ้า กลุ่มนี้จะช่วยให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลาย ภาพประกอบที่ 2.39 แสดงการรับรู้ของพื้นที่ ที่มา:
architizer.com/projects/nemours-childrens-hospital/

2.7 กรณีศึกษาอาคารตัวอย่าง

ตารางที่ 2.1 แสดงการวิเคราะห์ในแต่ละกรณีศึกษา

2.7.1 กรณีศึกษาที่ 1 ภาพประกอบที่ 2.40 Cincinnati Hospital

ภาพประกอบที่ 2.41 Cincinnati Hospital

ที่มา: www.mkskstudios.com/projects/cincinnati-childrens

โรงพยาบาลเด็กซินซินนา ติ ซินซินนาติ โอไฮโอ Cincinnati Children's Hospital Clinical Sciences Pavilion Cincinnati, OhioMaster Planning Rick Espe Urban Design

Karen McCoy สถานที่พักฟื้นสำหรับเด็ก รวมถึงการพักรักษาตัวของผู้ป่วย

แนวคิดด้านการออกแบบ

เขาวงกตสวนแสงจันทร์ และ สนามหญ้า

วิ่งเล่นสวนของผู้พูดคุยปรึกษา และพื้นที่เล่นแบบ

โต้ตอบองค์ประกอบเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่ส่วนที่สำคัญ

ที่สุดของสวนบำบัด ซึ่งก็คือพืชพรรณ ต้นไม้ ไม้พุ่ม

และดอกไม้

ภาพประกอบที่ 2.42 Cincinnati Hospital

ที่มา: www.mkskstudios.com/projects/cincinnati-childrens

18
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

สภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร

กำแพงน้ำสูงในแกลเลอเรีย คอร์ทยาร์ด การรักษา และพื้นที่พักผ่อนแบบสะท้อนแสงตามทางเดินในสวนไป ยังลานวิจัยเพื่อความร่วมมือ และมุมมองที่กว้างไกลจากระเบียงดาดฟ้า ใช้สวนเพื่อช่วยในกระบวนการบำบัด ด้วยการ ทำความเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติ

ภาพประกอบที่ 2.43 Cincinnati Hospital

กิจกรรมหลักของโครงการ

ภาพประกอบที่ 2.44 Cincinnati Hospital

พื้นที่ให้การรักษาทางการแพทย์สวนนั่งเล่นวิ่งเล่นสำหรับเด็กๆและผู้มาเยี่ยมไข้ สวนเขาวงกต เป็นที่ทำให้เกิด ความผผ่อนคลายของเด็กๆ พื้นที่สำหรับการเขียน ระบายอารมณ์ความเคลียดผ่านการระบายสีกำแพงให้เด็กวาดเขียน กันได้ เป็นการรักษาที่ตอบสนองควาต้องการทางร่างกาย จิตใจ

ภาพประกอบที่ 2.45 Cincinnati Hospital ที่มา: www.mkskstudios.com/projects/cincinnati-childrens

19
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์

ภาพประกอบที่ 2.46 ศูนย์สุขภาพ Raga Svara

ศูนย์สุขภาพ Raga Svara Shanmugam Associates

ขนาดพื้นที่ 6,967.728 ตารางเมตร ก่อสร้างเมื่อ 2022

แนวคิดด้านการออกแบบ

เป็นการออกแบบพื้นที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาทาง

สุนทรียศาสตร์ และความเป็นอยู่ที่ดีทางนิเวศวิทยาร่วม กับสิ่งแวดล้อม แทรกแซงภูมิทัศน์ที่มีอยู่ให้น้อยที่สุด

การวางผังโครงการ

มีการจัดองค์ประกอบของแต่ละส่วนอาคาร เชื่อมต่อกันแต่ไม่เกิดความอึดอัดของพื้นที่ มีความเป็น

ส่วนตัวและเข้าถึงสภาพแวดล้อมพื้นที่สีเขียวได้ในทุก

ส่วนสีและพื้นผิว วัสดุ ของโครงการ

หลังคา ผนัง และพื้น เชื่อมผสานภายในและภาย

นอกด้วยภูมิทัศน์ กับพืชพรรณ หลังคาเป็นแผ่นพื้นคอน

กรีตเรียบเจาะรูเพื่อรับแสงธรรมชาติผนังเปิดรับบริบท ภายนอกอาคาร เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายทางอารมณ์

พื้นที่ต้อนรับ มีการออกแบบที่มี ความโปร่งโล่งสามารถ

มองเห็นภายในได้ สร้างความเชื่อใจให้ผู้มาใช้พื้นที่

ภาพประกอบที่ 2.47 ศูนย์สุขภาพ Raga Svara

ที่มา: www.archiscene.net/medical-architecture/

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 20 2.7.2 กรณีศึกษาที่ 2

Neon Splash Painting by Fickle Lifestyle

ศิลปะบำบัดที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้สื่อสาร

และเยียวยา 333 ถ.รัชดาภิเษก 14 แขวงห้วยขวาง.กรุงเทพมหานคร 10310 ประเทศไทย

ภาพประกอบที่ 2.48 Neon Splash Painting by Fickle Lifestyle

ที่มา: adaybulletin.com/know-fashion-matters-handcrafted-therapy แนวคิดด้านการออกแบบ

จุดเริ่มต้นของคลาส Splash Painting เกิดจากนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ เตียว ยง กวน เฮนรี่ ผู้รักและอาศัย อยู่ที่ประเทศไทยเห็นว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้หลายคน เป็นคลาสที่ช่วยให้ผู้คนสามารถ ระบายความรู้สึกได้ ด้วยการเลือกสีแล้วใส่อารมณ์ไปในการสาด ปาด หรือยิงสีใส่ผ้าใบได้อย่างอิสระ

SplashPainting สาดสีบนผ้าใบ กิจกรรมสร้างศิลปะแบบใหม่ที่ปลดปล่อยศิลปะได้อย่างอิสระ ผ่าน ผ้าใบขนาด 60 cm x 80 cm พร้อมเฉดสีที่ให้เลือกมากถึง 42 เฉดสีทั้งสีปกติ และสีนีออน Candle Pouring Experience ออกแบบกลิ่นเทียนหอม พื้นที่ให้คุณมาสร้างสรรค์กลิ่นเทียมหอมเป็น ของตัวเอง กำหนดขนาด กำหนดดีไซน์ และปรุงแต่งกลิ่นที่ชอบได้จากกลิ่นออร์แกนิกกว่า 50 กลิ่น สามารถนำกลับบ้าน ได้รวมไปถึงสามารถตกแต่งเป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับคนรัก

Tufting Gun ปืนยิงไหมพรม สร้างสรรค์งานทอไหมพรมในแบบของตัวเอง โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะได้ใช้

Tufting Gun ปืนยิงไหมพรมสร้างผลงานศิลปะตามลวดลายที่ชื่นชอบ (ไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านศิลปะ) ทุกคน สามารถทำตามได้

Customized Flipflops ออกแบบรองเท้า ออกแบบรองเท้าแตะคู่เดียวในโลกด้วยตัวเอง ทุกคน สามารถจับแมตช์ ‘พื้นรองเท้า’ ที่มีขนาดไซต์ ตั้งแต่ 34-46 เข้ากับสายรองเท้าในคู่สีตามชอบ แมตช์ของตกแต่งไม่ว่า จะเป็นผ้าลายถูกใจมัดเป็นโบว์ให้โดดเด่น และเสริมด้วยเครื่องประดับให้เก๋ในแบบไม่ซ้ำใคร นำกลับบ้านไปใช้งานจริง ได้เลย

21
กรณีศึกษาที่ 3
พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์
2.7.3

2.7.4 กรณีศึกษาที่ 4

Windhover Contemplative Center

Architects: Aidlin Darling Design ศูนย์วิปัสนา Windhover

ภาพประกอบที่ 2.49 Windhover Contemplative Center

ที่มา: www.archdaily.com/608268/windhover-contemplative-cente

แนวคิดด้านการออกแบบ

การแทรกธรรมชาติเข้ากับอาคาร มีมุมมอง ต่างๆที่สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงไปของ ฤดูกาล

ช่วงเวลาธรรมชาติ ผืนผิวน้ำสะท้อนแสง

การวางผังโครงการ

การวางผังไม่ซับซ้อนของพื้นที่แต่มีสเปส ที่เป็นส่วนตัว ใช้เพียงผนังเป็นการกั้นของพื้นที่แต่ละโซน เส้นสาย

ที่เรียบง่ายสื่อถึงการออกแบบเพื่อการเข้าถึงสมาธิ

ภาพประกอบที่ 2.50 Windhover Contemplative Center

ที่มา: www.archdaily.com/608268/windhover-contemplative-cente

พื้นที่ปลดปล่อยทางสภาวะอารมณ์ 22

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.