
3 minute read
Exness vs OctaFX เทียบกันชัด ๆ โบรกไหนดีกว่ากัน
from Exness
by Exness_Blog
การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ในปี 2025 ตลาด Forex ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสองโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ทั่วโลกคือ Exness vs OctaFX (หรือที่รู้จักในชื่อ Octa ในบางภูมิภาค) ทั้งสองโบรกเกอร์นี้มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน บทความนี้จะเปรียบเทียบ Exness และ OctaFX ในแง่มุมต่าง ๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ, แพลตฟอร์มการเทรด, ค่าธรรมเนียม, โบนัส, และการบริการลูกค้า เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าโบรกเกอร์ใดเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณมากที่สุด

1. ภาพรวมของ Exness และ OctaFX
Exness
Exness ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อเดือนที่สูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ Exness ได้รับการยอมรับในด้านความโปร่งใสและนวัตกรรมทางการเงิน
ใบอนุญาต: ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส), และ FSA (เซเชลส์)
จุดเด่น: สเปรดต่ำ, การถอนเงินที่รวดเร็ว, รองรับหลายแพลตฟอร์ม
เหมาะสำหรับ: เทรดเดอร์ที่เน้นความเร็วในการดำเนินการและสเปรดต่ำ
OctaFX
OctaFX (หรือ Octa) ก่อตั้งในปี 2011 และเป็นที่รู้จักในฐานะโบรกเกอร์ที่เน้นการให้บริการในเอเชียและภูมิภาคอื่น ๆ มีฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศไทย
ใบอนุญาต: ได้รับการกำกับดูแลโดย CySEC และหน่วยงานในเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
จุดเด่น: โบนัสและโปรโมชันมากมาย, ค่าสเปรดแข่งขันได้, รองรับการเทรดแบบ Copy Trading
เหมาะสำหรับ: เทรดเดอร์มือใหม่และผู้ที่ชื่นชอบโบนัส
2. การเปรียบเทียบด้านความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล
ความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยแรกที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาเมื่อเลือกโบรกเกอร์ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเงินลงทุน
Exness:
ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานระดับ Tier-1 เช่น FCA และ CySEC ซึ่งมีมาตรฐานสูง
มีกองทุนชดเชยนักลงทุน (Investor Compensation Fund) สำหรับลูกค้าในสหภาพยุโรป
มีประวัติการดำเนินงานที่โปร่งใสและรายงานปริมาณการซื้อขายสาธารณะ
ได้รับรางวัลมากมาย เช่น “โบรกเกอร์ที่มีความโปร่งใสสูงสุด” จากงาน World Finance Awards
OctaFX:
ได้รับการกำกับดูแลโดย CySEC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ แต่หน่วยงานในเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์มีมาตรฐานที่ต่ำกว่า
มีนโยบายความปลอดภัยของเงินลูกค้า เช่น การแยกบัญชีเงินฝาก
ได้รับความนิยมในเอเชีย แต่มีประวัติการร้องเรียนบางส่วนเกี่ยวกับการถอนเงินในบางกรณี
สรุป: Exness มีความได้เปรียบในด้านความน่าเชื่อถือ เนื่องจากได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูงกว่า แต่ OctaFX ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาความยืดหยุ่นและโบนัส
3. แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือ
แพลตฟอร์มการเทรดเป็นหัวใจสำคัญของประสบการณ์การเทรด ทั้ง Exness และ OctaFX รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยม แต่มีข้อแตกต่างที่น่าสนใจ
Exness:
รองรับ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), และ Exness Terminal (แพลตฟอร์มภายในที่พัฒนาเอง)
มีแอปมือถือที่ใช้งานง่าย เช่น Exness Trade
รองรับการเทรดหลากหลายสินทรัพย์ รวมถึง Forex, หุ้น, คริปโต, และโลหะมีค่า
มีเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Trading Central และ VPS ฟรีสำหรับบัญชีบางประเภท
OctaFX:
รองรับ MT4, MT5, และ OctaTrader (แพลตฟอร์มที่พัฒนาเอง)
มีฟีเจอร์ Copy Trading ที่ช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่สามารถคัดลอกกลยุทธ์จากเทรดเดอร์มืออาชีพ
รองรับสินทรัพย์ที่หลากหลาย แต่เน้นที่ Forex และ CFD
มีเครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐาน เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจและข่าวการเงิน
สรุป: Exness เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นในแพลตฟอร์มและเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง ส่วน OctaFX เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจ Copy Trading และแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย
4. ค่าธรรมเนียมและสเปรด
ค่าธรรมเนียมและสเปรดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของเทรดเดอร์
Exness:
สเปรด: ต่ำมาก โดยเฉพาะบัญชี Raw Spread และ Zero (เริ่มต้นที่ 0.0 pip สำหรับบางคู่สกุลเงิน)
คอมมิชชัน: มีในบัญชี Raw Spread และ Zero แต่ไม่มีในบัญชี Standard
ค่าธรรมเนียมการถอน: ฟรีสำหรับวิธีการถอนส่วนใหญ่
Swap: มีบัญชี Swap-free สำหรับเทรดเดอร์มุสลิม
OctaFX:
สเปรด: ค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะในบัญชี ECN (เริ่มต้นที่ 0.4 pip)
คอมมิชชัน: มีในบัญชี ECN แต่ไม่มีในบัญชี Standard
ค่าธรรมเนียมการถอน: ฟรีสำหรับวิธีการถอนบางวิธี แต่บางช่องทางอาจมีค่า� blown
4. ค่าธรรมเนียมและสเปรด (ต่อ)
OctaFX (ต่อ):
ค่าธรรมเนียมการถอน: ฟรีสำหรับวิธีการถอนบางวิธี เช่น การโอนผ่านธนาคารหรือ e-wallet บางประเภท แต่บางช่องทาง เช่น Skrill หรือ Neteller อาจมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย
Swap: มีบัญชี Swap-free สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการปฏิบัติตามกฎชารีอะห์
จุดเด่นด้านต้นทุน: OctaFX มีสเปรดที่แข่งขันได้และมักมีโปรโมชันที่ช่วยลดต้นทุนการเทรด เช่น โบนัสเงินฝาก
สรุป: Exness มีสเปรดที่ต่ำกว่าสำหรับบัญชีระดับสูง (Raw Spread, Zero) และเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นต้นทุนต่ำ ส่วน OctaFX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสเปรดที่สมดุลและโปรโมชันเพิ่มเติม

5. ประเภทบัญชีและความยืดหยุ่น
Exness:
ประเภทบัญชี: Standard, Standard Cent, Raw Spread, Zero, Pro
ยอดฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นที่ $10 สำหรับบัญชี Standard (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค)
เลเวอเรจ: สูงสุด 1:2000 (ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบในภูมิภาค)
จุดเด่น: รองรับบัญชี Cent สำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกเทรดด้วยเงินจำนวนน้อย
OctaFX:
ประเภทบัญชี: Micro, Pro, ECN
ยอดฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นที่ $100
เลเวอเรจ: สูงสุด 1:500
จุดเด่น: บัญชี Micro เหมาะสำหรับมือใหม่ และมีโปรโมชัน เช่น โบนัสเงินฝาก 50%
สรุป: Exness มีความยืดหยุ่นมากกว่าด้วยยอดฝากขั้นต่ำที่ต่ำและตัวเลือกบัญชีที่หลากหลาย ส่วน OctaFX มีข้อได้เปรียบในด้านโบนัสและการสนับสนุนสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
6. การฝากและถอนเงิน
Exness:
วิธีการฝาก/ถอน: รองรับหลากหลายช่องทาง เช่น การโอนผ่านธนาคาร, e-wallets (Skrill, Neteller), และคริปโตเคอร์เรนซี
ระยะเวลาดำเนินการ: ถอนเงินทันที (มักใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง)
จุดเด่น: ระบบถอนเงินอัตโนมัติที่รวดเร็วและฟรีค่าธรรมเนียมในหลายช่องทาง
OctaFX:
วิธีการฝาก/ถอน: การโอนผ่านธนาคาร, e-wallets, และคริปโตบางส่วน
ระยะเวลาดำเนินการ: ภายใน 1-3 วันทำการ
จุดเด่น: มีตัวเลือกการฝาก/ถอนที่หลากหลายในเอเชีย รวมถึงธนาคารในประเทศไทย
สรุป: Exness มีความได้เปรียบในด้านความเร็วและความสะดวกในการถอนเงิน ส่วน OctaFX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางการฝากที่หลากหลายในภูมิภาคเอเชีย
7. การบริการลูกค้า
Exness:
รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย
ช่องทางการติดต่อ: แชทสด, อีเมล, โทรศัพท์ (24/7)
จุดเด่น: การตอบสนองที่รวดเร็วและมีทีมงานในประเทศไทย
OctaFX:
รองรับภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ
ช่องทางการติดต่อ: แชทสด, อีเมล, โซเชียลมีเดีย
จุดเด่น: มีชุมชนออนไลน์ที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนที่เป็นมิตร
สรุป: ทั้งสองโบรกเกอร์มีบริการลูกค้าที่ดี แต่ Exness มีความได้เปรียบเล็กน้อยในด้านความเร็วและการสนับสนุน 24/7
8. โบนัสและโปรโมชัน
Exness:
ไม่เน้นโบนัสเงินฝาก แต่มีโปรแกรมพันธมิตร (Affiliate Program) ที่ให้ผลตอบแทนสูง
จุดเด่น: เน้นความโปร่งใสมากกว่าโปรโมชันที่ซับซ้อน
OctaFX:
มีโบนัสเงินฝาก 10%-50% ขึ้นอยู่กับโปรโมชัน
มีการแข่งขันเทรด เช่น cTrader Weekly Contest
จุดเด่น: โปรโมชันที่ดึงดูดเทรดเดอร์มือใหม่
สรุป: OctaFX เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาโบนัสและการแข่งขัน ส่วน Exness เน้นความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำ
9. ความเหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์ประเภทต่าง ๆ
เทรดเดอร์มือใหม่:
Exness: บัญชี Standard Cent และยอดฝากขั้นต่ำต่ำ เหมาะสำหรับการฝึกเทรด
OctaFX: Copy Trading และโบนัสเงินฝากช่วยให้เริ่มต้นง่าย
เทรดเดอร์มืออาชีพ:
Exness: บัญชี Raw Spread และ Zero มีสเปรดต่ำและการดำเนินการที่รวดเร็ว
OctaFX: บัญชี ECN และเครื่องมือวิเคราะห์เหมาะสำหรับการเทรดขั้นสูง
สรุป: Exness เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นและต้นทุนต่ำ ส่วน OctaFX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโบนัสและฟีเจอร์ Copy Trading
10. ข้อดีและข้อเสีย
Exness:
ข้อดี: สเปรดต่ำ, ถอนเงินรวดเร็ว, ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ
ข้อเสีย: โบนัสและโปรโมชันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
OctaFX:
ข้อดี: โบนัสมากมาย, รองรับ Copy Trading, เหมาะสำหรับมือใหม่
ข้อเสีย: การกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับรองในบางภูมิภาค, การถอนเงินอาจช้ากว่า
11. สรุป: Exness หรือ OctaFX เหมาะกับคุณ?
การเลือกโบรกเกอร์ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและสไตล์การเทรดของคุณ:
เลือก Exness หากคุณต้องการสเปรดต่ำ, การถอนเงินที่รวดเร็ว, และความน่าเชื่อถือจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูง เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นต้นทุนต่ำและความยืดหยุ่น
เลือก OctaFX หากคุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการโบนัส, Copy Trading, หรือโปรโมชันที่ช่วยเพิ่มเงินทุน
ทั้งสองโบรกเกอร์มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และในปี 2025 ทั้ง Exness vs OctaFX ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในวงการ Forex ลองพิจารณาความต้องการของคุณ เช่น งบประมาณ, ประเภทการเทรด, และความสำคัญของการกำกับดูแล เพื่อเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมที่สุด
อ่านเพิ่มเติม: