
4 minute read
Exness vs Pepperstone เทียบกันชัด ๆ โบรกไหนดีกว่ากัน
from Exness
by Exness_Blog
การเลือกโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ในประเทศไทย Exness vs Pepperstone เป็นสองโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2025 ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านความน่าเชื่อถือ ค่าสเปรด การฝาก-ถอนเงิน และแพลตฟอร์มการเทรด บทความนี้จะเปรียบเทียบ Exness และ Pepperstone แบบเจาะลึกในทุกมิติ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์ใดเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณมากที่สุด

1. ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล
Exness: ความน่าเชื่อถือระดับโลก
Exness ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในวงการ Forex ด้วยจำนวนลูกค้ามากกว่า 800,000 รายทั่วโลก และปริมาณการซื้อขายสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อเดือน (ข้อมูล ณ ปี 2023) Exness ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เช่น:
· FCA (UK): ใบอนุญาตเลขที่ 730729
· CySEC (Cyprus): ใบอนุญาตเลขที่ 178/12
· FSA (Seychelles): ใบอนุญาตเลขที่ SD025
· FSCA (South Africa), CBCS (Curaçao), FSC (BVI), และ CMA (Kenya)
นอกจากนี้ Exness ยังเป็นสมาชิกของ Financial Commission ซึ่งให้ความคุ้มครองนักลงทุนสูงสุด 20,000 ยูโรต่อกรณีข้อพิพาท และมีระบบ Compensation Fund เพื่อปกป้องเงินของลูกค้า เงินฝากของลูกค้าถูกแยกจากเงินทุนของบริษัทและเก็บไว้กับธนาคารบุคคลที่สาม เช่น Barclays ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
Pepperstone: โบรกเกอร์จากออสเตรเลีย
Pepperstone ก่อตั้งในปี 2010 และเป็นที่รู้จักในฐานะโบรกเกอร์จากออสเตรเลียที่มีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับการกำกับดูแลจาก:
· ASIC (Australia): หน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำที่มีความเข้มงวด
· FCA (UK), CySEC (Cyprus), BaFin (Germany), SCB (Bahamas), CMA (Kenya), และ DFSA (Dubai)
Pepperstone มีการแยกเงินทุนของลูกค้าไว้กับธนาคารชั้นนำ เช่น National Australia Bank และ Barclays อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าชาวไทย ใบอนุญาตที่ใช้คือ SCB (Bahamas) ซึ่งมีความคุ้มครองน้อยกว่าใบอนุญาตหลักอย่าง ASIC หรือ FCA
สรุป: ทั้งสองโบรกเกอร์มีความน่าเชื่อถือสูงและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ Exness อาจได้เปรียบเล็กน้อยในแง่ของจำนวนหน่วยงานกำกับดูแลและการเป็นสมาชิกของ Financial Commission ส่วน Pepperstone เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจาก ASIC ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
2. ค่าธรรมเนียม: สเปรดและค่าสวอป
Exness: สเปรดต่ำและตัวเลือก Swap-Free
Exness มีชื่อเสียงในด้านค่าสเปรดที่ต่ำ โดยเฉพาะในบัญชี Pro ซึ่งมีค่าสเปรดเฉลี่ยสำหรับคู่เงิน EUR/USD อยู่ที่ 0.6-0.8 pips และทองคำ (XAU/USD) อยู่ที่ 11.2 pips นอกจากนี้:
· บัญชี Standard: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น สเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pips
· บัญชี Raw Spread: ค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อล็อตต่อด้าน
· บัญชี Zero: ค่าคอมมิชชั่นแตกต่างกันตามคู่เงิน (เช่น EUR/USD $3.50, GBP/USD $4.50)
· Swap-Free: Exness มีตัวเลือกบัญชี Swap-Free (Extended) สำหรับคู่เงินและสินทรัพย์บางประเภท เช่น XAU/USD, EUR/USD, GBP/USD ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์ข้ามคืน
อย่างไรก็ตาม ค่าสเปรดสำหรับทองคำและน้ำมันอาจสูงกว่าโบรกเกอร์บางราย และ Swap-Free มีเงื่อนไขจำกัด เช่น ต้องไม่ถือออเดอร์ข้ามคืนมากเกินไป
Pepperstone: สเปรดที่แข่งขันได้
Pepperstone มีจุดเด่นด้านสเปรดที่ต่ำมาก โดยเฉพาะในบัญชี Razor:
· บัญชี Razor: สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip (EUR/USD เฉลี่ย 0.0-0.3 pips) แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อล็อตต่อด้าน
· บัญชี Standard: สเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
· ค่าสวอป: Pepperstone คิดค่าสวอปในทุกบัญชี และค่าสวอปสำหรับทองคำฝั่ง Buy สูงถึง -43.05 USD/ล็อต/วัน ซึ่งถือว่าแพงเมื่อเทียบกับ Exness
สรุป: Pepperstone มีสเปรดที่ต่ำกว่าในบัญชี Razor โดยเฉพาะสำหรับคู่เงินหลัก ส่วน Exness มีความยืดหยุ่นมากกว่าด้วยตัวเลือก Swap-Free และบัญชีที่หลากหลาย เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ
3. การฝาก-ถอนเงิน: ความสะดวกสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
Exness: ฝากถอนรวดเร็ว หลากหลายช่องทาง
Exness เป็นที่นิยมในประเทศไทยเนื่องจากระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วและรองรับช่องทางที่หลากหลาย เช่น:
· ธนาคารไทย: รองรับธนาคารชั้นนำ เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ไทยพาณิชย์
· Thai QR Payment, Neteller, Skrill, Perfect Money, และ คริปโต
· ระยะเวลา: ฝากเงินทันที ถอนเงินภายใน 5-30 นาที (สูงสุด 24 ชั่วโมง)
· เงินฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นที่ $10 สำหรับบัญชี Standard และ Standard Cent
Exness ยังมีจุดเด่นที่สามารถถอนเงินได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่น
Pepperstone: ฝากถอนรวดเร็วแต่มีข้อจำกัด
Pepperstone รองรับการฝาก-ถอนผ่าน:
· ธนาคารไทย, QR Code, Internet Banking, และ คริปโต
· ระยะเวลา: ฝากเงินทันที ถอนเงินภายใน 24 ชั่วโมง
· เงินฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นที่ $200 ซึ่งสูงกว่า Exness
อย่างไรก็ตาม การถอนเงินของ Pepperstone อาจช้ากว่า Exness เล็กน้อย และไม่สามารถถอนเงินในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้
สรุป: Exness มีข้อได้เปรียบในด้านความเร็วและความยืดหยุ่นในการฝาก-ถอน โดยเฉพาะการถอนเงินในวันหยุด ส่วน Pepperstone เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ซีเรียสเรื่องเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่า
4. แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือ
Exness: แพลตฟอร์มที่หลากหลาย
Exness รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย เช่น:
· MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5): มาตรฐานอุตสาหกรรม รองรับการเทรดอัตโนมัติด้วย Expert Advisors (EA)
· Exness Terminal: แพลตฟอร์มบนเว็บที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้ง
· Exness Trade App: แอปมือถือที่มาพร้อมฟีเจอร์การวิเคราะห์ กราฟขั้นสูง และปฏิทินเศรษฐกิจ
· Social Trading: รองรับการคัดลอกการเทรดผ่านแพลตฟอร์มของ Exness เอง
Exness ยังมีเครื่องมืออย่าง Exness Calculator เพื่อช่วยคำนวณค่าสเปรด สวอป และเลเวอเรจ รวมถึงบริการ VPS ฟรี สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ EA
Pepperstone: เน้นความหลากหลายของแพลตฟอร์ม
Pepperstone มีแพลตฟอร์มให้เลือกมากมาย เช่น:
· MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader, และ TradingView
· Smart Trader Tools: ชุดเครื่องมือเสริมสำหรับ MT4/MT5 เพื่อการวิเคราะห์ขั้นสูง
· Social Trading: รองรับผ่าน Myfxbook, DupliTrade, และ Signal Start
อย่างไรก็ตาม แอปมือถือของ Pepperstone อาจมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น โหลดข้อมูลช้า ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดผ่านมือถือ
สรุป: Pepperstone มีตัวเลือกแพลตฟอร์มที่หลากหลายกว่า โดยเฉพาะ cTrader และ TradingView ส่วน Exness เด่นในด้านแอปมือถือที่ใช้งานง่ายและบริการ VPS ฟรี

5. สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้
Exness: ความหลากหลายที่ครอบคลุม
Exness มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดหลากหลาย เช่น:
· Forex: มากกว่า 100 คู่เงิน รวมถึงคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงิน Exotic
· หุ้น: หุ้นยอดนิยม เช่น AMZN, TSLA, Visa (ประมาณ 100 รายการ)
· คริปโต: รองรับ BTC, ETH, XRP และอื่น ๆ
· สินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำ, เงิน, น้ำมันดิบ
· ดัชนี: ดัชนีหุ้นชั้นนำ เช่น S&P 500, NASDAQ
อย่างไรก็ตาม สินค้าโภคภัณฑ์ของ Exness มีจำกัด เช่น ไม่มีข้าวสาลีหรือกาแฟ
Pepperstone: เน้น Forex และคริปโต
Pepperstone มีสินทรัพย์ให้เลือกดังนี้:
· Forex: มากกว่า 70 คู่เงิน
· คริปโต: 30 เหรียญ เช่น BTC, ETH, XRP, SOL, DOGE
· หุ้นและดัชนี: รองรับดัชนีและ CFD หุ้นบางส่วน
· สินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำ, เงิน, น้ำมัน
Pepperstone มีตัวเลือกคริปโตมากกว่า Exness แต่จำนวนหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์น้อยกว่าโบรกเกอร์อื่น เช่น Eightcap
สรุป: Exness มีสินทรัพย์ที่หลากหลายกว่า โดยเฉพาะหุ้น ส่วน Pepperstone เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้น Forex และคริปโต
6. โปรโมชั่นและโบนัส
Exness: เน้นความเรียบง่าย
Exness ไม่เน้นโปรโมชั่นหรือโบนัสมากนัก แต่มี:
· Premier Program: สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่เทรดสม่ำเสมอ
· VPS ฟรี: สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ EA
· Swap-Free: สำหรับบัญชีบางประเภท
Pepperstone: โปรแกรมเพื่อนแนะเพื่อน
Pepperstone มีโปรแกรม Refer-a-Friend ที่ให้โบนัสสำหรับการแนะนำเพื่อน และมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่าเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม ไม่มีโบนัสเงินฝากหรือบัญชี Cent ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
สรุป: Exness มีข้อเสนอที่เน้นความยืดหยุ่น เช่น VPS ฟรี ส่วน Pepperstone เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการโปรแกรมแนะนำเพื่อน
7. ข้อดีและข้อเสีย
Exness
ข้อดี:
· สเปรดต่ำและตัวเลือก Swap-Free
· ฝาก-ถอนรวดเร็ว รองรับธนาคารไทยและวันหยุด
· ความน่าเชื่อถือสูง มีหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง
· รองรับเลเวอเรจไม่จำกัด (มีเงื่อนไข)
ข้อเสีย:
· สเปรดทองคำและน้ำมันสูงกว่าโบรกเกอร์บางราย
· ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
· ซัพพอร์ตอาจตอบช้าในบางครั้ง
Pepperstone
ข้อดี:
· สเปรดต่ำมากในบัญชี Razor
· รองรับแพลตฟอร์มหลากหลาย เช่น cTrader, TradingView
· ความน่าเชื่อถือสูงด้วยใบอนุญาต ASIC
ข้อเสีย:
· ค่าสวอปสูง โดยเฉพาะทองคำ
· เงินฝากขั้นต่ำสูง ($200)
· แอปมือถืออาจไม่เสถียร
8. โบรกไหนเหมาะกับใคร?
Exness เหมาะกับ:
· เทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการเงินฝากขั้นต่ำต่ำ
· ผู้ที่ต้องการฝาก-ถอนรวดเร็วและในวันหยุด
· เทรดเดอร์ที่ต้องการบัญชี Swap-Free หรือเลเวอเรจสูง
· ผู้ที่เน้นเทรด Forex และหุ้น
Pepperstone เหมาะกับ:
· เทรดเดอร์ที่เน้นสเปรดต่ำและการเทรด Forex หรือคริปโต
· ผู้ที่ต้องการแพลตฟอร์มหลากหลาย เช่น cTrader หรือ TradingView
· เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และไม่ซีเรียสเรื่องเงินฝากขั้นต่ำ
สรุป: Exness หรือ Pepperstone ดีกว่ากัน?
ทั้ง Exness vs Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือสูงและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในปี 2025 หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือต้องการความยืดหยุ่นในการฝาก-ถอนและบัญชีที่หลากหลาย Exness อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ด้วยสเปรดต่ำ เลเวอเรจไม่จำกัด และการถอนเงินในวันหยุด ในทางกลับกัน หากคุณเน้นสเปรดที่ต่ำมากและแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น cTrader หรือ TradingView Pepperstone จะตอบโจทย์มากกว่า
สุดท้าย การเลือกโบรกเกอร์ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความต้องการของคุณ ลองพิจารณาคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น ค่าสเปรด การฝาก-ถอน และแพลตฟอร์ม เพื่อเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมที่สุด
อ่านเพิ่มเติม: