1
แพลทฟอร์ มการยอมรับการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ โดยกลไกลอจิสติกส์ ด้ านการผลิตทางการเกษตร (A Platform of Information Resources Management Adoption in Agricultural Products Machining Logistics ) by XIA Wen-hui and ZENG Hong
เรียบเรียงโดย นุชจรี ท้ าวไทยชนะ
บทนา แพลทฟอร์ มการประยุกต์ใช้ การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ หรื อ IRM ด้ วยกลไกลอจิสติกส์ทางผลผลิต การเกษตร การเติบโตทางด้ านอุตสาหกรรมโดยเฉพาะด้ านการบริ การพื ้นฐานเช่น อุตสาหกรรมเครื่ องจักรการผลิตทาง การเกษตร เป็ นต้ น เนื่องจากการคิดเรื่ องกาไรมากจากต้ นทุนการขนส่งและแรงงานในตลาดร่วมด้ วย การใช้ IRM จะช่วย ในการปรับปรุงการบริ การลอจิสติกส์ ด้ านการผลิตได้ และลดต้ นทุนการปฏิบตั ิโดยใช้ การบูรณาการในส่วนต่างๆ เข้ าสู่ ระบบกลไกลอจิสติกส์ ผลที่ได้ คือความชัดเจนของสารสนเทศที่เกิดจากการใช้ IRM ในการเพิม่ คุณค่าด้ านการติดตาม การ สนับสนุนระบบลอจิสติกส์ด้านสินค้ าคงคลัง การปรับปรุงการใช้ ทรัพยากรการขนส่งกับคลังสินค้ า และลดการซ ้าซ้ อนของ กิจกรรมลอจิสติกส์เพื่อบริ การลูกค้ า กระบวนการได้ รับสินค้ าไปจนถึงลูกค้ าตามวิธีการเดิมนันเรี ้ ยกว่า การกระจายสินค้ าเชิงกายภาพ ( physical distribution ) โดยเริ่ มต้ นจากโรงงาน ผู้จด ั การเลือกสินค้ าจากโกดัง (จุดเก็บรักษาสินค้ า) และการขนส่ง ซึง่ ต้ องขนถ่าย สินค้ าไปยังปลายทางตามเวลาทีก่ าหนดหรื อใช้ ต้นทุนโดยรวมให้ ต่าที่สดุ เมื่อเวลาผ่านไป โรงงานผลิตทางการเกษตรได้ คิดนา IRM มาใช้ การแข่งขันเพื่อการร่นระยะเวลา ซึง่ IRM ได้ ถกู นาไปใช้ ร่วมกับแนวความคิดการจัดการห่วงโซ่อปุ ทาน (supply chain management) ทังนี ้ ้ IRM เริ่ มจากความ พยายามใส่ input ที่ถกู ต้ อง (ได้ แก่ วัตถุดิบ, องค์ประกอบ, ทุนอุปกรณ์เครื่ องมือต่างๆ) แล้ วสร้ างประสิทธิภาพเข้ าไปใน ผลิตภัณฑ์ให้ เสร็ จสรรพ์ จากนันวางแผนการส่ ้ งสินค้ าไปยังปลายทาง นี่คือมุมมองทัว่ ไปที่ค้นหาแนวทางว่าบริ ษัทจะส่ง สินค้ าออกไปโดยเกิดจากการ input ระหว่างทางจนถึงวัตถุดิบได้ อีกทังยั ้ งสนับสนุนการปรับปรุงผลผลิตซึง่ สามารถลด ต้ นทุนการผลิตให้ กบั โรงงานได้ อกี ด้ วย
แพลตฟอร์ ม IRM ในด้ านการจัดการลอจิสติกส์ ผลิตผลทางการเกษตร ห่วงโซ่อปุ ทาน (supply chain) จะทาให้ มองเห็นกระบวนผลิตทางการตลาด ซึง่ ไม่เพียงแค่การเห็นจุดหมาย ปลายทางเท่านัน้ แต่บริ ษัทเหล่านี ้จะต้ องทาให้ เกิดประสิทธิภาพด้ วยการพิจารณาเป้าหมายความต้ องการของตลาดเป็ น อันดับแรกเสียก่อน จากนันก็ ้ คอ่ ยออกแบบห่วงโซ่อปุ ทานไปยังจุดต่างๆ ซึง่ สิง่ นี ้เรี ยกว่า วิธีการสร้ างลอจิสติกส์ ทาง การตลาด วิธีการทังหมดจะมี ้ ความเกี่ยวโยงกับการวางแผน วิธีการปฏิบตั ิ และการควบคุมการเคลือ่ นของวัตถุดิบและ ปลายทางของสินค้ าตังแต่ ้ จดุ เริ่ มต้ นของส่วนต่างๆ ไปยังจุดที่เป็ นความต้ องการของลูกค้ า ถือว่าเป็ นจุดของการทากาไร งานลอจิสติกส์ด้านการผลิตทางตลาด อาจเรี ยกว่าระบบการบูรณาการลอจิสติกส์ (Integrated Logistics Systems: ILS) ก็ได้ ซึง่ รวมถึงการจัดการด้ านวัตถุดิบ ระบบการเคลือ่ นของวัตถุดิบ และการกระจายสินค้ าซึง่ ได้ รับการ สนับสนุนด้ วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรื อ ไอที ตัวอย่าง เช่นในกรณีที่มีการภาคีความร่วมมือกัน 3 ส่วน ได้ แก่ บริ ษัทเฟดเอ็กซ์ (FedEx Logistics Services) หรื อ WALMART Integrated Logistics เป็ นต้ น ซึง่ บริ ษัทเหล่านี ้ได้ มี ความร่วมมือในการออกแบบหรื อจัดการระบบร่วมกัน ทัง้ WALMART และ FedEX โดยการติดตังระบบ ้ warehouse ใน
2
ประเทศจีนเพื่อใช้ เป็ นโกดังเก็บสินค้ าการเกษตร แล้ วยังได้ ร่วมมือกันในด้ านโทรศัพท์สายด่วนเพื่อตามสินค้ า ตังแต่ ้ การ เคลือ่ นออกของสินค้ าในวันเดียวกันและการขนส่งช่วงกลางคืน ทังที ้ ่สนามบินหรื อศูนย์รับแจ้ งข้ อมูลสินค้ าหรื อที่ตงของ ั้ ร้ านค้ าระหว่างทางที่บริ ษัทเฟดเอ็กซ์จะผ่านไปยังที่หมาย แพลตฟอร์ มการจัดการทรัพยากรสารสนเทศจะแสดงให้ เห็นถึงบทบาทการจัดการผลผลิตทางการเกษตรด้ วย ระบบลอจิสติกส์ โดยเฉพาะการนาคอมพิวเตอร์ สถานีจดุ ขาย รหัสผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบด้ วยดาวเทียม การ แลกเปลีย่ นข้ อมูลอิเลกทรอนิกส์ (Electronic data interchange: EDI) และการโอนเงิน (Electronic Funds Transfer : EFT) เป็ นต้ น ซึง่ ระบบนี ้จะทาให้ บริ ษัททาสัญญาต่างๆได้ เช่น สินค้ าจะจอดเทียบท่าชานชลาที่ 25 ภายในเวลา 10 โมง เช้ าของวันพรุ่งนี ้ และควบคุมสัญญาผ่านทางสารสนเทศ เป็ นต้ น อุตสาหกรรมลอจิสติกส์เกี่ยวข้ องกับหลายกิจกรรมเข้ าด้ วยกัน อันดับแรกคือเกี่ยวข้ องกับการคาดการณ์การขาย ตามตารางการขายสินค้ าของบริษัท (ตารางที่ 1) และระดับสินค้ าคงคลัง ดังนันการวางแผนจะชี ้ ้ให้ เห็นว่าวัตถุดิบเดิน ทางผ่านเข้ าสูร่ ะบบการขนส่งแล้ วหรื อยัง ทางเข้ าของสินค้ า และการเก็บรักษาวัตถุดิบคงคลังไว้ ส่วนวัตถุดิบจะถูกแปลง เข้ าสูก่ ารสิ ้นสุดของสินค้ าเมื่อไร และสาหรับสินค้ าที่ผลิตเสร็ จแล้ วเก็บไว้ ในคลังสินค้ านัน้ ได้ มีการเชื่อมต่อไปยังรายการ สัง่ ซื ้อของลูกค้ าและกิจกรรมการผลิตอย่างไร ส่วนรายการสัง่ ซื ้อของลูกค้ านันถู ้ กกาหนดไว้ บ นผลิตภัณฑ์ในสินค้ าคงคลัง แล้ วหรื อยัง รายการย่อยในโกดังสินค้ าภายใน (in-plant warehouse) กระบวนการขนถ่ายภายใน (shipping-room processing) การขนส่งภายนอก (outbound transportation) โกดังสินค้ าภายนอก (fielding warehousing) และ การขนส่งและบริ การถึงลูกค้ า ถือเป็ นการสิ ้นสุดกระบวนการ จุด นักบริ หารลอจิสติกส์ ผู้จดั การขาย/ผู้จดั การด้ านการตลาด CEO/ผู้บริ หาร/ผู้จด ั การทัว่ ไป ผู้จดั การฝ่ ายปฏิบตั ิการ/การขนส่ง โบรคเกอร์ การขนส่งสินค้ า อื่นๆ รวม
ความถี่
ร้ อยละ
37
19
54
27.7
53
27.2
20
10.3
8
4.1
23
11.7
195
100
การใช้ การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (IRM) สาหรับลอจิสติกส์ จุด ความถี่ ร้ อยละ 109 57.7 ประจาวัน 31 16.4 มากกว่า 2-3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ 9 4.8 ไม่น้อยกว่า 1 ครัง้ ต่อเดือน 35 18.5 ไม่เคยใช้ 5 2.6 อื่นๆ 189 100 รวม
3
จุดประสงค์ ของการใช้ กลไกลอจิสติกส์ ด้านผลิตผลทางการเกษตร ในหลายบริ ษัทได้ ใช้ ลอจิสติกส์ในการผลิตทางการตลาด เพราะ ต้ องการจัดการกับสินค้ าให้ ถกู ต้ อง ถูก สถานที่ ถูกเวลา เพื่อลดตันทุนให้ ได้ มากที่สุด แต่เป็ นเรื่ องทีท่ าได้ ยากยิง่ เนื่องจากแนวคิดนี ้นาไปปฏิบตั ิได้ ผลน้ อยซึง่ เป็ นเพียงแค่การชี ้แนะแนวทางเท่านัน้ เพราะว่าไม่มีระบบลอจิสติกส์การตลาดที่สมบูรณ์แบบที่จะสามารถให้ บริ การลูกค้ า ได้ สงู สุดไปพร้ อมกับการลดต้ นทุนด้ านการกระจายสินค้ าได้ เลย การบริ การลูกค้ าให้ ได้ สงู ที่สดุ นันมี ้ นยั ยะแฝงอยู่หลาย ประการด้ วยกัน ไม่วา่ จะเป็ นค่าพรี เมี่ยมการขนส่ง การใช้ แวร์ เฮ้ าส์ที่หลากหลาย (multiple warehouse) ทังหมดนี ้ ้เป็ น สิง่ ที่ทาให้ ต้นทุนสูงขึ ้น ซึง่ บริษัทหนึง่ ๆไม่สามารถประสบความสาเร็ จในด้ านประสิทธิภาพของกลไกลอจิสติกส์ ได้ อย่าง สมบูรณ์ แม้ วา่ จะถามผู้จดั การฝ่ ายการตลาดเพียงคนเดียวทีห่ ากจะมีสว่ นเกี่ยวข้ องกับลอจิสติกส์ก็ตามก็ไม่สามารถตอบ ได้ เพราะต้ นทุนสินค้ าทีผ่ า่ นระบบลอจิสติกส์นนมั ั ้ กจะมีปฏิสมั พันธ์ร่วมกับสิง่ ที่ไม่พงึ ประสงค์ทจี่ ะเกิดขึ ้นระหว่างทางได้ เสมอนัน่ เอง กรณีเช่น ผู้จดั การจราจรมักชอบการขนถ่ายสินค้ าทางรถไฟมากกว่าทางอากาศ เนื่องจากเสียค่าขนส่งถูกกว่า แต่ใช้ เวลานานกว่าจึงทาให้ การขนถ่ายสินค้ าใช้ เวลายาวนานตามไปด้ วย ส่งผลให้ การจ่ายเงินของลูกค้ าต้ องล่าช้ า และ อาจจะเป็ นสาเหตุให้ ลกู ค้ าเปลีย่ นใจสัง่ ซื ้อสินค้ าและบริ การจากผู้แข่งขันรายอื่นที่ให้ บริ การเร็ วกว่าก็เป็ นได้ สาหรับในส่วนของโกดังการขนถ่ายสินค้ า หากจาเป็ นต้ องใช้ โกดังราคาถูกเพื่อลดต้ นทุนลงนัน้ ก็มีโอกาสเสีย่ งสูง ต่อสินค้ าด้ วย ส่งผลให้ ลกู ค้ าไม่พอใจได้ สาหรับผู้จดั การสินค้ าคงคลังนัน้ มักพึงพอใจกับต้ นทุนสินค้ าคงคลังต่า ที่มีการถ่ายออกไปให้ ได้ มากที่สดุ มีใบ รายการสัง่ ของวิ่งเข้ าออกตลอดเวลา ซึง่ เรี ยกว่าเป็ นการขนถ่ายสินค้ าที่รวดเร็ วและใช้ ต้นทุนสูงในการจัดการ ประสิทธิภาพบริ ษัทต้ องทาสัญญาเกี่ยวกับการตลาดเพื่อกาหนดมาตรฐานการบริ การ ได้ แก่ การส่งสินค้ าให้ กบั ลูกค้ าหรื อการสัง่ ซื ้อจากดีลเลอร์ (dealer’s order) ต้ องส่งให้ ถึงมือภายใน 7 วันหรื อตามใบสัง่ ของ คิดเป็ นร้ อยละ 95 ของรายการทังหมด ้ ใบสัง่ จากลูกค้ าของต้ องมีความถูกต้ องในระดับร้ อยละ 99 หากลูกค้ าต้ องการรู้สถานภาพของสินค้ า ว่าถึงไหนแล้ วต้ องสามารถให้ คาตอบได้ ภายใน 3 ชัว่ โมง และต้ องให้ แน่ใจว่าความเสียหายที่เนื่องจากระหว่างการ สับเปลีย่ นการขนถ่ายระหว่างทางนันต้ ้ องไม่เกินร้ อยละ 1 เป็ นต้ น นี่คือกลไกการตลาดลอจิสติกส์ ซึง่ บริ ษัทต้ องออกแบบ ระบบให้ รัดกุม คาถึงถึงปั จจัยต่างๆ ที่สง่ ผลต่อกระบวนการให้ ได้ มากที่สดุ
องค์ ประกอบ 4 ประการสาหรับการตัดสินใจร่ วมกับผลผลิตทางการเกษตร การตัดสินใจด้ านกลไกลอจิสติกส์ การตัดสินใจในสิง่ ทีเ่ กี่ยวข้ องกับกลไกลอจิสติกส์ทางการเกษตรมีด้วยกัน 4 ประการที่ต้องพิจารณา คือ (รูปที่ 1) 1) กระบวนการสัง่ สินค้ า (order processing) จะต้ องมีการจัดการสัง่ สินค้ าอย่างไร มีประเด็นอะไรบ้ างที่ต้อง จัดการ 2) โกดังสินค้ า (warehousing) สถานที่ใดเป็ นที่เก็บสินค้ า ควรตังอยู ้ ท่ ี่ใดบ้ าง 3) สินค้ าคงคลัง (inventory) สินค้ าคงคลังต้ องมีการจัดการอย่างไร 4) การขนส่ง (transportation) ต้ องจัดการการเรื่ องการขนถ่ายสินค้ าอย่างไร
4
1.
2.
3.
4.
การตัดสินใจด้ านกระบวนการสั่งสินค้ า ทุกวันนี ้บริ ษัทส่วนใหญ่พยายามหาวิธีการตังแต่ ้ การสัง่ สินค้ า-การจ่ายเงิน โดยใช้ ระยะเวลาที่สนที ั ้ ่สดุ การใช้ เวลาที่ยืดยาวเกินไปไม่วา่ จะเกิดขึ ้นในระหว่างกระบวนการออกใบสัง่ ของ การขนส่ง และการจ่ายเงิน รวมไปถึงการส่งข้ อมูลจากพนักงานขาย การสัง่ สินค้ าเข้ า และการตรวจสอบเครดิตลูกค้ า เป็ นต้ น ย่อมส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้ าเป็ นอย่างมาก และทาให้ ผลกาไรของบริ ษัทตกต่าไปด้ วย การตัดสินใจด้ านโกดังสินค้ า ทุกวันนี ้บริ ษัทต่างๆ ต้ องมีการเก็บสินค้ าเพื่อสารองไว้ ขาย เนื่องด้ วยการผลิตและการ บริ โภคไม่คอ่ ยสอดคล้ องกัน ดังนันการหาที ้ เ่ ก็บสารองสินค้ าไว้ จะช่วยในการผ่อนคลายความคลาดเคลือ่ นระหว่างการ ผลิตและความต้ องการปริ มาณสินค้ า ทังนี ้ ้บริ ษัทต้ องตัดสินใจว่าจะสารองสินค้ าไว้ ที่จานวนเท่าไร เก็บไว้ ที่ใดบ้ าง ยิง่ มีสถานที่เก็บสินค้ าไว้ หลายจุดก็ยิ่งสามารถส่งสินค้ าไปยังลูกค้ าได้ รวดเร็ วยิง่ ขึ ้น นันหมายความว่ ้ าต้ องมีต้นทุนโกดัง สินค้ าที่สงู ตามไปด้ วย การตัดสินใจด้ านสินค้ าคงคลัง ระดับของสินค้ าคงคลังเป็ นเรื่ องหลักในการตัดสินใจด้ านการตลาดด้ วยลอจิสติกส์ พนักงานขายต้ องการที่จะบริการสินค้ าแก่ลกู ค้ าเมื่อต้ องการได้ อย่างทันทีทนั ใด อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เป็ นต้ นทุนที่ สูงนัก แต่อยูท่ ี่การเพิม่ ค่าใช้ จ่ายสินค้ าคงคลังเพื่อบริการลูกค้ าให้ ได้ เต็มร้ อยเปอร์ เซนเท่านันเอง ้ การตัดสินใจจึง ขึ ้นอยูก่ บั วิธีการจัดการ ถึงความจาเป็ นทีต่ ้ องรู้วา่ การขายและกาไรจะเพิ่มขึ ้นเท่าไรเมื่อต้ องสารองสินค้ าคงคลังเอาไว้ และแน่ใจว่าจะมีการถ่ายสินค้ าออกได้ อย่างรวดเร็ วด้ วย เนื่องด้ วยการตัดสินใจด้ านสินค้ าคงคลังนี ้จาเป็ นต้ องรู้ถงึ การสัง่ สินค้ าว่าเกิดขึ ้นเมื่อใดและมียอดราคาเท่าไร ซึง่ การจัดการต้ องรู้วา่ มีระดับสินค้ าคงคลังทีเ่ หลืออยูเ่ พื่อที่จะ กาหนดการสัง่ สินค้ าเข้ ามาใหม่ได้ อีกเมื่อไร ในระดับการสต๊ อกสินค้ านี ้เรี ยกว่า จุดการสัง่ สินค้ า ( the order (reorder) point) กล่าวคือ เมือ่ จุดการสัง่ สินค้ าอยูท ่ ี่ระดับ 20 หมายความว่าสินค้ าในสต๊ อกเหลืออยู่ 20 หน่วย ซึง่ จุดการสัง่ สินค้ าจะต้ องสมดุลกับความเสีย่ งที่สนิ ค้ าในสต๊ อกทีไ่ หลออกไปหรื อล้ นสต๊ อก เป็ นต้ น การตัดสินใจด้ านการขนส่ ง นักการตลาดจะเข้ าไปเกี่ยวข้ องกับการตัดสินใจด้ านการขนส่ง ซึง่ ส่งผลกระทบต่อราคา สินค้ า การขนส่งทีต่ รงต่อเวลา และเงื่อนไขของสินค้ าเมื่อมาถึง เป็ นต้ น ทังหมดนี ้ ้ย่อมส่งผลต่อความพึงพอใจของ ลูกค้ าด้ วย
ในการขนถ่ายสินค้ าไปยังโกดัง ผู้ค้ารายย่อย และลูกค้ าก็ตามทางบริ ษัทสามารถเลือกเส้ นทางการขนส่งได้ 5 ประเภท คือ ทางรถไฟ ทางอากาศ รถบรรทุก ทางน ้า และระบบท่อ (pipeline) ทังนี ้ ้ผู้ที่ทาหน้ าที่โดยตรงต้ องพิจารณาเรื่ อง ความรวดเร็ ว ความถี่ ความน่าเชื่อถือ ความปลอดสะดวก ความสามารถติดตามสืบเสาะเส้ นทางได้ และต้ นทุนค่าใช้ จ่าย เป็ นต้ น หากพิจารณาเรื่ องความรวดเร็วแล้ ว การขนส่งทางอากาศและรถบรรทุกมักจะได้ รับพิจารณาอันดับแรก ส่วนสินค้ า ที่มีราคาไม่สงู นัก มักใช้ การขนส่งทางน ้าและท่อลาเลียง
5
การทาชิปปิ ง (shipping) มักจะใช้ การขนส่ง 2 ระบบควบคูก่ นั เสมอคือ แบบแท้ งก์ (tanks) ไปยังคอนเทนเนอร์ (ตู้สนิ ค้ า) เนื่องจากระบบคอนเทนเนอร์ เป็ นที่เก็บสินค้ าเป็ นลังหรือตู้พว่ งทีง่ ่ายต่อการขนถ่ายระหว่างการขนส่ง เพื่อนาไป วางไว้ บนรางหรื อบนรถบรรทุกได้ เลยวิธีนี ้เรี ยกว่า พิกกี ้แบค (piggyback) ส่วนการขนส่งทางรถบรรทุกร่วมกับการขนส่ง ทางเรื อเรี ยกว่า ฟิ ชชีแบค (fishyback) และการขนส่งทางน ้าร่วมกับรถไฟ เรี ยกว่า เทรนชิป (trainship) สุดท้ ายการขนส่ง ทางอากาศร่วมกับรถบรรทุก เรี ยกว่าแอร์ ทรัค (airtruck) ซึง่ ในแต่ละเงื่อนไขนันมี ้ ข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เช่นหากใช้ แบบ piggyback จะเป็ นต้ นทุนที่ถกู กว่าใช้ รถบรรทุกขนส่งเพียงอย่างเดียว อีกทังยั ้ งมีความยืดหยุน่ และสะดวกมากกว่า ไม่วา่ จะใช้ วิธีการใดร่วมกับวิธีการใดก็ตาม ชิปเปอร์ (shipper) ต้ องตัดสินใจด้ วยตนเอง (private) การติดต่อ (contract) และรูปแบบการบรรทุก (common carrier) หาก shipper เป็ นเจ้ าของกิจการรถบรรทุกหรื อดูแลสินค้ าทาง อากาศ shipper เองก็จะทาหน้ าที่เป็ นผู้ขนถ่ายสินค้ า ส่วน contract carriers ก็อาจจะเป็ นบริษัทที่ให้ การบริ การขนส่ง สินค้ าอิสระไปยัง contract อื่นๆ ทังนี ้ ้ต้ องกาหนดจุดสินค้ าให้ ตรงตามตารางให้ เป็ นมาตรฐานด้ วย สรุ ป แพลตฟอร์ มการจัดการทรัพยากรสารสนเทศนันเป็ ้ นการเพิ่มการขายให้ กบั กิจการโดยการเสนอสารสนเทศที่ เกี่ยวข้ องกับการเลือกผลิตภัณฑ์ เช่น บ. WALLMART ได้ เสนอให้ ลกู ค้ าเลือกสินค้ าและบริ การผ่านทาง e-commerce เหมือนกับการให้ บริ การของร้ านขายปลีก กล่าวคือใช้ พื ้นทีใ่ นการเก็บสินค้ าไปพร้ อมกับการขายปลีก ตัวอย่างอีกอันคือ การช้ อปปิ งผ่าน Yahoo! เป็ นการนาเสนอผลิตภัณฑ์จากร้ านขายปลีกต่างๆ ที่เป็ นเครื อข่ายของเว็บไซต์นี ้ โดยลูกค้ า สามารถติดต่อกับ Yahoo! Shopping ได้ เลย ซึง่ สามารถค้ นหาสินค้ าที่ต้องการได้ จากที่นี่ ส่วนร้ านค้ าปลีกก็สามารถเห็น ยอดการขายเพิ่มขึ ้นจากการติดต่อจากลูกค้ าทัว่ ทังอเมริ ้ กา หากไม่มีแพลตฟอร์ มทางด้ าน IRM นี ้ ร้ านค้ าต่างๆอาจจะต้ อง ติดต่อกับลูกค้ าในท้ องถิ่นด้ วยตนเอง อีกประการหนึง่ แพลตฟอร์ ม IRM ยังสามารถทาให้ ธุรกิจหรื อห่วงโซ่อปุ ทานได้ เปรี ยบ ในการติดตามรายได้ ที่เกิดจากโอกาสต่างๆ อีกทังยั ้ งเป็ นการนาเสนอวิธีการขายตรงให้ กบั ลูกค้ าจากที่ตา่ งๆให้ สามารถ เข้ าถึงได้ ตลอด 24 ชัว่ โมง จากการรวบรวมสารสนเทศจากแหล่งที่หลากหลาย การให้ สารสนเทศตรงไปยังกลุม่ เป้าหมาย การเร่งเวลาการตลาดให้ เร็วขึ ้น ความยืดหยุน่ ด้ านราคา การแยกราคาและบริ การออกจากกัน และประสิทธิภาพการโอน เงินที่สะดวกสบาย เป็ นต้ น