a day BULLETIN issue 91

Page 13

ทำร้ายร่างกาย อาจจะมีบา้ งนิดหน่อยแต่กไ็ ม่ถงึ กับเลือดตกยางออกมาก ทีนอ้ี าตมาคิดว่ามันเป็นสันติวธิ ี ในระดับพื้นฐานต่ำสุด ซึ่งก็ยังดีในแง่ที่ว่าประท้วงกันมาเกือบ 20 วันแล้ว มันก็ยังไม่มีอะไรเกินเลยไป จากนี้ เพราะคนก็กลัวตั้งแต่ 2-3 อาทิตย์ที่แล้วว่าอาจจะเกิดเหตุรุนแรง แต่อนาคตเราก็ไม่รู้ ตรงนี้ อาตมาเชือ่ ว่าเป็นสันติวธิ ขี องทัง้ สองฝ่าย แต่ถามว่าพอเลยจากจุดนัน้ ไปมันเป็นสันติวธิ หี รือเปล่า? สมมติ ว่าไม่มกี ารทำลายทรัพย์สนิ แต่วา่ ถ้ามันเริม่ จะมีการใช้คำพูดรุนแรง มีการด่าทอกันมากๆ ตรงนีอ้ าตมา คิดว่ามันจะสุ่มเสี่ยงต่อการไม่สันติ เพราะว่าการใส่ร้าย การโจมตี การใช้ถ้อยคำยั่วยุ ล้วนแต่เป็นการ กระตุน้ ทีจ่ ะนำไปสูค่ วามรุนแรงทางกายภาพ ถ้าถามเรือ่ งสันติวธิ ี อาตมาคิดว่า การทีจ่ ะเรียกว่าสันติวธิ ี จริงๆ แล้วมันต้องไม่ทำร้ายร่างกาย ไม่ทำลายทรัพย์สนิ เพือ่ ทีจ่ ะก่อความเสียหายแก่ผคู้ น อาจจะทำลาย ในเชิงสัญลักษณ์ได้ เช่น การฉีกบัตรเลือกตัง้ หรืออาจจะเผาหุน่ เผาปืนของเล่น แต่เรือ่ งการใช้ถอ้ ยคำ รุนแรง หยาบคาย เป็นสิ่งที่สันติวิธีไม่ทำ คนที่ทำงานสันติวิธีจริงๆ จะรู้ว่าการที่ไม่ระมัดระวังคำพูดจะ นำไปสูค่ วามรุนแรงได้งา่ ย ซึง่ เป็นสิง่ ทีเ่ ห็นพ้องตรงกันว่าการพูดจาใส่รา้ ย ยัว่ ยุ จะไม่ทำกัน แต่วา่ สันติวธิ ี จริงๆ อาจจะมีการกดดันได้ สันติวิธีไม่ใช่การเจรจาอย่างเดียว การกดดันบางครั้งอาจจะมีการทำสิ่งที่ เรียกว่าดื้อแพ่ง ขัดขืน คว่ำบาตร ซึ่งทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลกระทบว่ามันอาจจะผิดกฎหมาย เช่น ถ้าไปขวางถนนก็ตอ้ งพร้อมจะถูกจับ แต่ตอ้ งเข้าใจว่าสมรภูมกิ ารต่อสูแ้ บบสันติวธิ ไี ม่ได้อยูแ่ ต่บนท้องถนน ไม่ได้อยูบ่ นโต๊ะเจรจาอย่างเดียว แต่มนั อยูใ่ นคุกด้วย มันอยูใ่ นศาลด้วย ดูตวั อย่างที่ มหาตมะ คานธี ทำ หรือพวกนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เขาก็ไปขวางกั้น ยึดครองพื้นที่ที่จะสร้างโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์แล้วก็ยอมให้ตำรวจจับ ติดคุก แล้วก็สู้กันในศาล แล้วที่สำคัญ ต้องยอมรับด้วยว่าคานธีเป็น คนทีใ่ ช้คกุ และศาลเป็นเวทีตอ่ สูแ้ บบสันติวธิ ี ทัง้ เปิดโปงความอยุตธิ รรมของระบบอาณานิคมอังกฤษ ทั้ง ชนะใจคู่กรณี ซึ่งสุดท้ายศาลก็บอกว่า argument ของคานธีนั้นถูก แต่กฎหมายมันเป็นแบบนี้ก็ต้องทำ

เรื่องของความเป็นกลางในเรื่องต่างๆ เรื่องของการพยายามจะใช้สื่อของรัฐให้เป็นกลาง หลีกเลี่ยงการ ยั่วยุ ก็ถือว่าเป็นการสันติวิธีด้วยซึ่งรัฐก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำ แล้วสันติวิธีของผู้ที่ไม่ชุมนุมล่ะคะ ควรจะเป็นแบบไหน เรือ่ งนีส้ ำคัญมาก เพราะว่าถ้าประชาชนทัว่ ไปไม่มคี วามอดทนอดกลัน้ ขาดสติ ลุแก่โทสะ ก็จะ ไปปะทะกับผูช้ มุ นุม ประชาชนทัว่ ไปจะต้องมีความอดทนทีจ่ ะไม่ใช้ความรุนแรงกับผูช้ มุ นุม ไม่อย่างนัน้ มันจะเกิดภาวะม็อบชนม็อบ ซึง่ เรือ่ งนีเ้ ป็นหน้าทีร่ ฐั บาลทีต่ อ้ งควบคุมทัง้ สองฝ่าย และในขณะเดียวกัน ตอนนีก้ ม็ ปี ระชาชนทัว่ ไป ทีไ่ ม่ได้ชมุ นุมแต่จะกดดันรัฐบาลให้ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผูช้ มุ นุม อย่างเช่น ตอนนี้ก็มีเสียงเรียกร้องจำนวนมากว่า ทำไมรัฐบาลไม่ทำอะไร ทำไมรัฐบาลไม่ใช้มาตรการเด็ดขาด ตรงนีป้ ระชาชนก็ตอ้ งเข้าใจว่าถ้ากดดันรัฐบาลอย่างนัน้ ก็เท่ากับไปส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง เราต้องการ ความสงบ แต่สง่ิ ทีเ่ ราอาจจะได้กค็ อื ความไม่สงบยิง่ กว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเอาน้ำไปฉีดผูช้ มุ นุม ในแยกราชประสงค์ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ผู้ชุมนุมก็อาจจะลุกฮือ ร้านค้า ศูนย์การค้า กระจกแตก เละเทะหมดใช่ไหม? และนี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการหรือเปล่า? ประชาชนต้องการให้เกิดความสงบ คิดว่าความสงบจะเกิดขึน้ ได้จากการทีร่ ฐั ใช้มาตรการทีเ่ ด็ดขาด แต่ตรงกันข้าม สิง่ ทีไ่ ด้จากการทำเช่นนัน้ ก็คือความไม่สงบยิ่งกว่าเดิม และจะคุมได้ยากขึ้น เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องอดทนและเข้าใจว่านี่ เป็นเกมของฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ ทีต่ อ้ งการให้รฐั บาลใช้ความรุนแรง เพราะว่าถ้ารัฐบาลใช้ความรุนแรงเมือ่ ไหร่ รัฐบาลก็จะเป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำ เพราะว่า หนึ่ง หากสลายการชุมนุมถ้ามีใครตายขึ้นมา รัฐบาลก็ เดือดร้อน สอง ความรุนแรงทีเ่ กิดขึน้ การจลาจลทีเ่ กิดขึน้ ก็จะสร้างปัญหาให้รฐั บาล ว่าควบคุมสถานการณ์ ไม่อยู่ มันบานปลายมากขึ้น ก็เดือดร้อนทั้งรัฐบาล แล้วก็เดือดร้อนกับประเทศชาติทั้งหมด แต่ว่า มันมีคนกลุม่ หนึง่ ทีต่ อ้ งการแบบนัน้ ต้องการให้เกิดความรุนแรง รุนแรงแล้วเกิดการลุกฮือของประชาชน

ต้องเข้าใจว่าสมรภูมิการต่อสู้แบบสันติวิธีไม่ ได้อยู่แต่บนท้องถนน ไม่ ได้อยู่บนโต๊ะเจรจาอย่างเดียว แต่มนั อยู่ในคุกด้วย มันอยู่ในศาลด้วย ตามกฎหมาย ทำให้ท่านชนะใจคนอังกฤษ ชนะใจคนอินเดีย และชนะใจคนทั่วโลก นี่คือสิ่งที่สันติวิธี ต้องมี คือ หนึ่ง คุณกดดันได้ คุณฝ่าฝืนกฎหมายได้ เพราะกฎหมายบางอย่างก็ไม่เป็นธรรม แต่คุณ พร้อมจะรับผิดชอบหรือรับผลกระทบจากการกระทำนั้นๆ ไหม นี่คือคำถาม? ในประวัตศิ าสตร์การต่อสูข้ องคนผิวสีในอเมริกานัน้ มาร์ตนิ ลูเธอร์ คิง ไปประท้วงร้านอาหาร ภัตตาคาร ที่ห้ามคนดำเข้า คนดำก็ไปเข้า พวกคนขาวทำยังไง? คนขาวเอาน้ำ เอาเหล้าเทราดหัว คนดำนั่งเฉย จะทำก็ทำไป เมื่อถึงเวลาจะเอาตำรวจมาลากก็ลากไป ไม่ต่อสู้ ไม่ขัดขืน เพราะว่าสิ่งที่ เขาทำอยู่โดยเนื้อหามันแรงพออยู่แล้ว มันสั่นคลอนกฎหมายอยุติธรรม สั่นคลอนกฎหมายที่แบ่งแยก สีผวิ เพราะรัฐทางใต้มกี ฎหมายห้ามคนดำกินอาหารร่วมกับคนขาว ห้ามใช้หอ้ งน้ำเดียวกัน มีเขตทีจ่ ะ ให้นง่ั บนรถเมล์ เช่น ต้องนัง่ ข้างหลัง ต้องยกทีน่ ง่ั ให้คนขาว เพียงแค่คนดำฝืนไม่ทำตามมันก็สน่ั สะเทือน กับระบบแบ่งแยกสีผิว และเป็นข่าวไปทั่วโลก ถ้าคุณจะฝ่าฝืนกฎหมายที่เขียนไว้ คุณก็ต้องยอมรับผลกระทบ ไม่ใช่มาจับแล้วก็ไม่ยอม อ้าง ว่าไม่ผิด คานธี มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ออง ซาน ซูจี และนักต่อสู้เพื่อสันติวิธีทั้งหลายจะไม่ปฏิเสธว่าสิ่ง ทีต่ วั เองทำไม่ผดิ กฎหมาย ก็ในเมือ่ กฎหมายมันไม่ยตุ ธิ รรมนี่ เขาก็เลยต้องฝ่าฝืน แต่จะไม่มกี ารปฏิเสธ แบบหน้าตาเฉยว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่จะบอกว่าการกระทำของเขามันถูกต้องเป็นธรรม และเป็นความ ตั้งใจของเขาที่จะท้าทายกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม สันติวิธีต้องเป็นแบบนี้ ท่านคิดว่าในแง่ของรัฐบาล การตั้งรับแบบสันติวิธีควรจะเป็นอย่างไร รัฐมีสทิ ธิทจ่ี ะใช้ความรุนแรงเพือ่ รักษาความสงบเรียบร้อย จะว่าไปรัฐเป็นตัวผูกขาดการใช้ความ รุนแรงในสังคมทุกประเทศอยู่แล้ว อย่างที่อเมริกา สิทธิในการพกอาวุธเป็นของประชาชนทั่วไป แต่ใน หลายประเทศสิทธิในการพกอาวุธจะจำกัดมาก มีแต่เจ้าหน้าที่รัฐที่จะพกอาวุธได้ แต่การที่รัฐใช้ความ รุนแรงน้อยที่สุดมันก็จำเป็นสำหรับตัวรัฐเอง เพราะถ้ารัฐใช้ความรุนแรงเกินความจำเป็น ประชาชนก็ จะไม่สนับสนุน รัฐก็จะถูกโจมตี มีรัฐบาลจำนวนมากที่ล้มไปเพราะใช้ความรุนแรงเกินขอบเขต สันติวิธีของรัฐ คือ ต้องพยายามที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยโดยไม่ใช้ความรุนแรง แม้ว่า จะผิดกฎหมายแต่กอ็ ะลุม่ อล่วยให้ บางครัง้ ต้องหลีกเลีย่ ง บ่ายเบีย่ งไม่ให้คนใช้ความรุนแรง เช่น ไม่ให้ มีการเผชิญหน้า จัดหาเวทีให้คนได้ระบายอารมณ์โดยไม่ปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ถึงที่สุดแล้วรัฐบาล ควรจะจัดการทีส่ าเหตุ สาเหตุจริงๆ แล้วคือความไม่เป็นธรรมและไม่เป็นประชาธิปไตยใช่ไหม? เหมือน สาเหตุของการเกิดการชุมนุมครั้งล่าสุดทั้งที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์ในเวลานี้ นี่ถ้าเราไม่พูดถึงเรื่อง คุณทักษิณนะ เพราะเรื่องคุณทักษิณก็เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่เรื่องมันไม่ใช่แค่นั้น เพราะ สาเหตุทท่ี ำให้เกิดกระบวนการเสือ้ แดง หลักๆ เลยมันมาจากความเป็นไม่เป็นธรรม หรือสองมาตรฐาน ซึ่งความเป็นสองมาตรฐานนี่มันแสดงชัดเลย หรือคำว่าอมาตยาธิปไตยก็เป็นเรื่อง สองมาตรฐาน คือ เปิดโอกาสให้ขา้ ราชการเข้ามามีอำนาจในการเมืองมากจนสามารถทีจ่ ะทำการปฏิวตั ิรัฐประหารได้ หรือ ว่าเรื่อง กกต. ที่แลดูสองมาตรฐาน ที่กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าทำไมพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย ก่อนหน้านี้ ถูกยุบเร็วเหลือเกิน แต่ทำไมพรรคประชาธิปตั ย์ไม่ถกู ยุบ นีก่ เ็ ป็นตัวอย่างหนึง่ ของความเป็น สองมาตรฐาน จริงๆ แล้วเราก็ตอ้ งยอมรับว่ามันมีมากกว่านี้ เรือ่ งของความเหลือ่ มล้ำต่ำสูงระหว่างเมือง กับชนบท ระหว่างคนรวยกับคนจนมาก ซึง่ อันนีอ้ าตมาก็ไม่รวู้ า่ ทางกลุม่ คนเสือ้ แดงเขาพูดมากแค่ไหน เขาจะพูดเป็นเรื่องของสองมาตรฐานในแง่กฎหมายหรือการเมือง แต่ว่านี่คือสิ่งที่เป็นรากเหง้า และวิธี แก้มนั ต้องใช้สนั ติวธิ อี ย่างเดียว คุณจะใช้ความรุนแรงแค่ไหนมันก็ไม่สามารถลดช่องว่างระหว่างคนรวย กับคนจนได้ คุณใช้ความรุนแรงแค่ไหนก็ไม่ช่วยลดภาวะสองมาตรฐานได้ แต่คุณต้องปฏิรูป ปฏิรูป ระบบ ปฏิรปู เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อันนีเ้ ป็นสันติวธิ เี ลย คือต้องใช้สติปญ ั ญา แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่อง ระยะยาว แต่เรื่องในระยะสั้นนี้ สิ่งที่อาตมาคิดว่ารัฐบาลทำถูกคือหลีกเลี่ยงการปะทะ โดยไม่พยายาม บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะว่าถ้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดตายตัว ก็จะนำไปสู่การสลาย ฝูงชน นำไปสู่ความรุนแรง รัฐบาลจึงยังไม่ทำ ซึ่งนี่ก็คือสันติวิธีนั่นเอง แต่ว่ามันต้องมีมากกว่านั้น เพราะว่าตราบใดทีส่ อ่ื ของรัฐยังยัว่ ยุ หรือว่ายังโอนเอียง หรือว่ายังมีการปลุกระดม มันก็จะไม่นำไปสูส่ นั ติ เพราะว่าผู้ชุมนุมก็จะโกรธแค้น วันดีคืนดีก็จะไปยึดสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น

ขึ้นมา หรือรุนแรงแล้วจะเกิดรัฐประหาร ก็มันต้องมีคนที่ได้ประโยชน์จากสองสถานการณ์นี้ ถ้ามี รัฐประหารก็อาจจะทำให้มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจกันอีก หรือทำให้มีการปราบปรามรุนแรงขึ้นหลัง จากรัฐประหาร ที่ท่านพูดว่า ‘ประชาชนคนทั่วไปที่ไม่ได้ร่วมชุมนุมต้องอดทนอดกลั้น’ มีวิธีคิดแบบไหนที่ทำให้เขาไปสู่ ความอดทนอดกลั้นได้นานพอ ต้องคิดว่าไม่มีทางลัดสู่ความสงบ เหมือนกับที่เราไม่มีทางลัดไปสู่ประชาธิปไตย เราพลาดนะ ที่คิดว่าถ้ามีการชุมนุมมากๆ ก็จะวุ่นวาย และทางลัดที่จะนำไปสู่ความสงบนั่นก็คือปราบการผู้ชุมนุม หรือออกกฎหมายไม่ให้มกี ารชุมนุม นัน่ คือวิธคี ดิ แบบคนไทยทีต่ อ้ งการทางลัด จบเร็ว หลายคนเรียกร้อง เมือ่ ไหร่จะปฏิวตั จิ ะได้จบๆ เสียที แล้วเกิดอะไรขึน้ ? ปฏิวตั ิ 19 กันยายน แล้วมันจบไหม? ก่อนหน้านัน้ เราก็คิดว่ามันจะจบใช่ไหม ก่อนหน้า 19 กันยายน ก็มีกรณีเสื้อเหลืองกับคุณทักษิณใช่ไหม วุ่นวาย กันมาก ชุมนุมลากยาวกันเป็นเดือน เป็นปี พอเกิดปฏิวัติ ทุกคนบอกว่ามันสงบ ไม่มีการประท้วงแล้ว มันจริงไหม? ตอนนี้มันมีการประท้วงที่หนักกว่าเดิม การยึดสนามบินสุวรรณภูมิก็สืบเนื่องจากปฏิวัติ 19 กันยายน จนถึงปัจจุบันก็ยึดราชประสงค์ มันไม่มที างลัดสูค่ วามสงบ เช่นเดียวกับไม่มที างลัดสูป่ ระชาธิปไตย เราต้องเข้าใจว่าจะต้องอดทน มันไม่มีทางลัด บางทีเราก็ต้องอ้อมบ้าง ต้องยอมเสียเวลาบ้าง อาตมาคิดว่าเราต้องยอมเสียเวลามาก กว่ายอมเสียเลือดเนื้อ นั่นคือสิ่งที่เครือข่ายสันติวิธีกำลังรณรงค์อยู่ เพราะฉะนั้น เขาจะประท้วงยังไง ก็ปล่อยไป จะยึดราชประสงค์กย็ ดึ ไป แต่อย่ากดดันรัฐบาลให้ใช้ความรุนแรง ทีจ่ ริงวิธกี ารแบบนี้ วิธกี ารที่ ต่างฝ่ายต่างอดทนมันเป็นเรือ่ งจำเป็น รูไ้ หมบ้านเมืองเราสมัยก่อน กรุงศรีอยุธยามักจะถูกล้อมโดยพม่า อยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะเสียกรุง 2 ครั้ง วิธีการที่พม่าใช้คือการบุกรุกในช่วงหน้าแล้ง เดินทางมาล้อม กรุงศรีอยุธยา สิ่งที่กรุงศรีอยุธยาทำคือรอ เขาจะล้อมก็ล้อมไปแต่รอ รอ 3-4 เดือน จนถึงหน้าฝน พม่าก็ต้องถอนทัพกลับไป นี่คือวิถีที่กรุงศรีอยุธยาใช้ คือรอจนน้ำหลาก ฝ่ายพม่าก็รู้ว่าถ้ารอจนถึงฤดู น้ำหลากตัวเองก็ต้องแพ้ พม่าก็ต้องหาทางยั่วยุให้กรุงศรีอยุธยาส่งทหารออกมาสู้รบกัน ถ้าออกมาก็ เสร็จสิ ออกมาก่อนก็แพ้ แต่พม่าก็ไม่กล้าจะบุกเข้าไป ไม่กล้าตีกำแพงเมือง เพราะอยุธยาอยู่ในชัยภูมิ ทีเ่ หมาะกว่า นีค่ อื วิธกี ารทีเ่ ราใช้แต่กอ่ น คือรอ แต่ถา้ คนอยุธยาบอกว่า ‘ทำไมไม่ออกไปสู’้ ‘ทำไมปล่อย ให้พม่ามายึดเมืองอย่างนี้’ แต่พระมหากษัตริย์สมัยก่อนต้องยอมทนแรงกดดันของประชาชน อาตมาจะบอกว่านี่คือวิธีการที่ใช้กันมานานแล้ว สมัยสามก๊กก็ใช้วิธีนี้ บางครั้งคุณต้องรอ และมันนำไปสู่ชัยชนะโดยไม่สูญเสียเลือดเนื้อด้วย ต้องอย่ารีบร้อน ต้องเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่เราทำกัน มาในประวัติศาสตร์ และทุกวันนี้แม้จะอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์แล้วมันก็ยังได้ผล เราต้องรอ แล้ววิธีรอให้เป็นคืออะไร ต้องมีการปรับตัว เช่น ราชประสงค์ถูกยึดก็อ้อมบ้าง สะพานผ่านฟ้าถูกยึดก็อ้อมไปทาง พระราม 8 นี่คือการปรับตัวในระยะสั้นนะ แต่ระยะยาวต้องไปแก้ที่สาเหตุ ที่รากเหง้า เรื่องกฎหมาย ไม่เป็นธรรม เรือ่ งไม่เป็นประชาธิปไตย ก็วา่ กันไป แต่ประการแรกคือ คนไทยต้องอดทน ต้องอย่าใจร้อน อย่าไปคิดว่ามันมีทางลัดสู่ความสงบ มันไม่มีทางลัดสู่ประชาธิปไตย นปช. ก็ต้องคิดตรงนี้ด้วยว่าต้อง อดทน ไม่มที างลัดสูค่ วามเปลีย่ นแปลง ไม่มที างลัดสูค่ วามเป็นธรรมอย่างรวดเร็วเหมือนอย่างทีบ่ างคน ต้องการ มันไม่มีทางลัดแบบนั้น ประการที่สอง ทุกฝ่ายต้องเข้าใจว่าสาเหตุของความขัดแย้งคืออะไร มันไม่ใช่แค่เรื่องบุคคล มันไม่ใช่แค่เรื่องความขัดแย้งระหว่างทักษิณกับพลเอกเปรม เสื้อเหลืองอาจจะ บอกว่าเสื้อแดงเป็นเรื่องของทักษิณ เสื้อแดงก็บอกว่าเป็นเรื่องของพลเอกเปรมที่บงการอยู่เบื้องหลัง ประชาธิปตั ย์และเสือ้ เหลือง แต่ความจริงมันไม่งา่ ยอย่างนัน้ มันมีเรือ่ งของเงือ่ นไขทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เข้ามาเกีย่ วข้องเยอะ เราต้องเข้าใจปัญหาทีซ่ บั ซ้อนอย่างนีด้ ว้ ย ประการทีส่ ามคือ เราต้อง พยายามมองคนให้เป็นมนุษย์มากขึน้ เพราะตอนนีเ้ รามองฝ่ายตรงข้ามกับเราเป็นศัตรู เราทำลายความ เป็นมนุษย์ของเขาด้วยการใส่ยี่ห้อแก่เขาว่าเป็นพวกเลว ต้องมองว่ามนุษย์ไม่ใช่ศัตรู สิ่งที่เป็นศัตรูคือ ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว ความโลภ ความหลง ในตัวเราเองและในตัวเขาด้วย กลัว-เกลียด-โกรธ คือปัญหาของคนไทยในเวลานี้ ฝ่ายเสื้อเหลืองอาจจะกลัวว่าสถาบันที่รัก


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.