ทำคลิ๊ป การใช้ยา v.2

Page 1

เรื่ อง การใช้ ยา


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กสาวจิตใจดี มีเมตตานามว่ าใบหม่ อน ทุกๆคนต่ างชอบเธอ ถึงแม้ รูปลักษณ์ ภายนอกของเธอจะไม่ ได้ งดงาม เหมือนจิตใจ แต่ เธอก็ยงั คงเป็ นที่ของเพื่อนๆของเธอ เธอมีเพื่อนสนิทที่คบ กันมาตั้งแต่ สมัยอนุบาลอยู่สองคนชื่ อฝนและฝ้าย ฝ้าย : เป็ นยังไงบ้ างพวกแก ปิ ดเทอมนีไ้ ปเทีย่ วที่ไหนมาบ้ าง ฝน : เราไปเทีย่ วต่ างจังหวัดกับครอบครัวมา สนุกมากๆ ใบหม่ อน : เราไม่ ได้ ไปไหนเลย อยู่แต่ ทบี่ ้ าน


วันหนึ่งฝ้ายก็แน่ นท้ องมาก ใบหม่ อนและฝนต่ างก็เป็ นห่ วง จึงจะพา ฝ้ายไปห้ องพยาบาล ใบหม่ อน : ฝ้ายเป็ นอะไรมากไหม? ฝ้าย : ฉันเดินไม่ ไหวแล้ ว รู้ สึกแน่ นท้ องมาก ฝน : ใบหม่ อนแกรีบวิ่งไปห้ องพยาบาลขอยาครู มา ฉันจะอยู่ดูแลฝ้ายเอง ใบหม่ อน : ได้ ฉันจะรีบมานะ


ด้ วยความเป็ นห่ วงเพื่อน ใบหม่ อนจึงวิง่ ไปเอายาให้ เร็วทีส่ ุ ด ด้ วย ความประมาทจึงทาให้ ใบหม่ อนวิง่ ไปชนกับเด็กชายคนหนึ่งชื่ อต้ นไม้ ผู้ เป็ นที่ชื่นชอบของเด็กสาวทั้งโรงเรียน ซึ่งก็ทาให้ หัวใจของใบหม่ อนนั้น เต้ นไม่ เป็ นจังหวะเลยทีเดียว ใบหม่ อน : ขอโทษคะ พอดีรีบไปหน่ อย ต้ นไม้ : ไม่ เป็ นไรครับ คราวหลังให้ ระวังกว่ านีน้ ะครับ


ใบหม่ อน : มาแล้วช้ าไปหน่ อย โทษทีนะพอดีเกิดอุบัตเิ หตุนิดหน่ อยนะ ฝน : อ้าว! นั่นมันยาธาตุนา้ ขาวนิ แก้ แน่ นท้ องได้ ด้วยหรอ ใบหม่ อน : ได้ สิ แก้ ปวดท้ อง ท้ องเสี ย ท้ องอืดท้ องเฟ้ อ จุกเสี ยด แน่ นท้ อง แก้ ได้ หลายอาการเลยแหละ ครู ห้องพยาบาลบอกว่ าให้ ฝ้ายทาน 1-2 ช้ อน โต๊ ะ ประมาณ 15-30 มิลลิลติ รนะ แล้วก็บอกว่ าให้ อ่านฉลากก่อนทานด้ วย ฝน : จ้ าๆ แม่ คนดี...


ฝ้าย : ขอบใจนะพวกแกที่ช่วยฉันนะ แต่ ทาไมแกดูแปลกๆ มีอะไรเกิดขึน้ รึเปล่า ใบหม่ อน : อืม ก็นิดหน่ อย พอดีไปเผลอวิง่ ชนต้ นไม้ มานะ ฝน : เฮ้ ย!! แกเพีย้ นขนาดนีเ้ ลยหรอวิ่งไปชนต้ นไม้ เนี่ย ใบหม่ อน : ไม่ ใช่ ต้นไม้ ทเี่ ป็ นพืช แต่ เป็ นคน เขาเท่ ห์ดนี ะ ฝน : ใช่ เท่ ห์มากด้ วย แฟนเก่ าของเขาสวยมากด้ วย ใบหม่ อน : เอ๋ !!!!!!


ด้ วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ เพื่ อให้ ต้นไม้ หันมามองตนบ้ าง ใบหม่ อนจึง เริ่ ม พัฒ นาตนเอง ให้ ดู ดี ขึ้น หลัง จากวัน นั้ น ใบหม่ อ นเริ่ ม ด้ ว ยการดู แ ล ตนเอง คอยออกกาลังกาย ควบคุมปริมาณอาหาร แต่ มนั ก็ยงั ไม่ ได้ ผลทันใจ ใบหม่ อนจึ งค้ นหาข้ อมู ลต่ างๆในอินเทอร์ เ น็ ต จึ งเห็ นรี วิว การกินยาลด น้าหนัก อาหารเสริ มต่ างๆที่ทาให้ ผอม ขาวได้ ภายใน 1 เดือน ใบหม่ อนจึง ได้ ตัดสิ นใจเลือกเส้ นทางนี้


ผลจากการกินยาลดความอ้ วน และยาผิวขาวของใบหม่ อนนั้น เริ่ม เห็นผลอย่างไม่ เหลือเชื่ อ ใบหม่ อนนั้นสวยขึน้ มากกว่ าปกติหลายเท่ า คน ทีโ่ รงเรียนต่ างจากันเกือบไม่ ได้ เพราะเธอเปลีย่ นไปเป็ นคนละคนกันเลย และทุกคนก็ชื่นชมในความพยายามของเธอ และได้ เตือนเธอว่ าให้ หยุด กินไม่ ง้ันมันอาจเกิดอันตรายได้ แต่ ใบหม่ อนก็ไม่ สนใจคาเตือนใดๆ เธอ กลับกินยามากขึน้ กว่ าเดิมเพื่อให้ ผอม สวยมากขึน้


เมื่อเวลาผ่ านไป อาการของใบหม่ อนก็เริ่มหนักขึน้ เรื่ อยๆ เธอมีอาการ ที่เปลี่ยนไปอย่ างเห็นได้ ชัด เช่ น มีอาการเหนื่ อยมากกว่ าปกติ ไม่ หิวข้ าว หงุดหงิดง่ าย คอแห้ ง ปากแห้ ง มีอาการนอนไม่ หลับ เพื่อนๆและพ่ อแม่ ต่าง ก็เป็ นห่ วงเธอ


แม่ : ใบหม่ อน มากินข้ าวสิ ลูก ใบหม่ อน : ไม่ กนิ ค่ ะแม่ เดีย๋ วจะอ้วน พ่ อ : ลูกลงมาข้ างล่ างบ้ าง อยู่แต่ บนห้ องตลอดเลย ช่ วงนีพ้ ่ อไม่ เห็นลูก ออกกาลังกายเลยนะ แม่ : เป็ นอะไรรึเปล่ าลูก ลูกดูหงุดหงิดผิดปกตินะ มีปัญหาอะไรหรื อเปล่ า ปรึกษาแม่ ได้ นะ ใบหม่ อน : พ่ อกับแม่ ไม่ ต้องมายุ่งกับหนู หนูไม่ ได้ เป็ นอะไรจริงๆค่ ะ


คาพูดที่ดูผดิ ปกติของลูกสาวซึ่งเมื่อก่ อนนั้นเคยอ่ อนหวาน อ่ อนโยน กลับหายไปกลายเป็ นคนละคน ทาให้ ใจของพ่ อแม่ ของ ใบหม่ อนนั้น เหมื อ นสู ญเสี ยสิ่ งที่ มี ค่ ามากที่ สุ ดไป พ่ อ และแม่ ของเธอจึ ง ต้ อง รับประทานยานอนหลับตามที่แพทย์ แนะนา เพื่อให้ ตนนั้นนอนหลับไม่ วิตกกังวลเรื่ องลูกมากจนเกินไป


วันแล้ ววันเล่ าผ่ านไป จนกระทั่งถึงวันที่ใบหม่ อนเป็ นลมหมดสติไป ที่โรงเรี ยน ฝ้ าย ฝนและครู ได้ รีบส่ งนาตัวใบหม่ อนส่ งโรงพยาบาล เมื่อ ทุกคนรู้ เรื่ องตกใจมาก และทราบสาเหตุได้ ทันทีว่าเป็ นเพราะ ใบหม่ อน ทานยาที่ไม่ ได้ รับรองมาตรฐานจากอย. ไม่ อยู่ในการดูแลของแพทย์ หรื อ เภสั ชกร ไม่ ตรวจสอบข้ อมูลให้ แน่ ชัดถึงผลข้ างเคียงของยาที่ใช้ และทาน ยาเกินขนาด


เมื่ อพ่ อแม่ ของใบหม่ อนทราบเรื่ องจากฝ้ ายและฝนต่ างถึงกลับเข่ า ทรุ ด แต่ ด้วยความรั กและเป็ นห่ วง กลัวลูกสาวเพียงคนเดียวของตนจะ เป็ นอะไรไป ทั้งสองจึงรี บไปโรงพยาบาลทันทีและภาวนาอย่ าให้ ลูกสุ ดที่ รักต้ องจากตนไป


พ่อ : คุณหมอ ลูกผมเป็ นยังไงบ้ างครับ หมอ: คนไข้ อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ วนะครั บ คงต้ องพักผ่ อนซั กพัก และ ควรเลิกกินยาด้ วยนะครับ ไม่ ง้นั อาจเกิดอันตรายถึงขั้นเสี ยชีวติ ได้ นะครับ แม่ : เป็ นยังไงบ้ างลูกพ่ อกับแม่ เป็ นห่ วงลูกมากนะรู้ ไหม อย่ าทาอีกนะลูก ใบหม่ อน: ค่ ะ หนู ต้องขอโทษพ่ อกับแม่ นะคะ หนู จะไม่ ทาอีกแล้ วค่ ะ หนู สั ญญา


หลังจากวันนั้น ใบหม่ อนก็เลิกกินยา และหันมาทากิจกรรมและออก กาลังกายให้ สุขภาพร่ างกายแข็งแรงแทน เมื่อใบหม่ อนกลับมาเป็ นคนเดิม พ่ อ แม่ ของใบหม่ อนก็หายจากความเครี ยด วิตกกังวลและครอบครั วก็ได้ กลับมามีความสุ ขดังเดิม


วันวาเลนไทน์ กม็ าถึง ใบหม่ อนได้ รวบรวมความกล้า ใบหม่ อน : ต้ นไม้ เราชอบนายนะ ต้ นไม้ : ... เรื่ องแบบนีต้ ้ องให้ ผ้ ูชายเขาบอกสิ ยัยบ้ า จริ งๆเราชอบเธอตั้งแต่ ครั้งแรกที่เจอแล้วล่ ะ เราว่ าเธอน่ ารักดี ดูเป็ นตัวของตัวเอง ใบหม่ อน :จริงหรอ ดีจัง เอ๋ ! แล้วฉันจะเปลีย่ นแปลงตัวเองทาไมเนี่ย



ความร้ ู เกีย่ วกับการใช้ ยา เป้าหมายการใช้ ยา 1.ใช้ ในการรักษาโรคให้ หายขาด 2.ใช้ ในการควบคุมโรคหรื อบรรเทาอาการ 3.ใช้ ในการป้องกันโรค ความหมายความเสี่ ยงต่ อการใช้ ยา ความเสี่ ยงต่ อการใช้ ยา หมายถึง โอกาสทีอ่ าจเกิดขึน้ ได้ กบั ผู้ที่ใช้ ยา แต่ เกิดอาการอื่นๆทีอ่ าจเป็ นอันตรายต่ อร่ างกายผู้ใช้ ยา อาการเหล่ านี้ เรียกว่ า อาการอันไม่ พงึ ประสงค์ หรื อผลข้ างเคียงของยา เช่ น คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่ หลับ อาการผื่นลมพิษ แน่ นหน้ าอก หายใจไม่ ออก ช็อก (shock)หรื อหมดสติ


แนวปฏิบัติในการใช้ ยาทีถ่ ูกต้ อง 1. ใช้ ยาให้ ถูกโรค 2. ใช้ ยาให้ ถูกขนาด ขนาดของยามักกาหนดไม่ แน่ นอน ขึน้ อยู่กบั อายุ นา้ หนักตัว ความรุ นแรงของโรค ภาวการณ์ ดือ้ ยาของผู้ป่วย ปัญหาการใช้ ยาไม่ ถูกขนาด มักจะเป็ นยานา้ ที่กาหนดให้ รับประทานเป็ นช้ อนชา หรื อ ช้ อนโต๊ ะ ชาวบ้ านมักเข้ าใจว่ าช้ อนชา หมายถึงช้ อนที่คนกาแฟหรื อชา ส่ วนช้ อนโต๊ ะ หมายถึง ช้ อนที่ใช้ ตักข้ ารับประทาน ซึ่งที่จริง ช้ อนชาและ ช้ อนโต๊ ะ มีมาตรฐานขนาดเทียบกับมาตราตวงวัดดังนี้ 1 ช้ อนชา = 5 มิลลิลติ ร (ประมาณ) 1 ช้ อนแกง = 10 มิลลิลติ ร (ประมาณ) 1 ช้ อนโต๊ ะ = 15 มิลลิลติ ร (ประมาณ)


3. ใช้ ยาให้ ถูกเวลา + ยาก่ อนอาหาร ควรทานก่ อนอาหารอย่ างน้ อย 30 นาที เพราะยาจะถูกดูด ซึมได้ ดขี ณะท้ องว่ าง ถ้ าลืมรับประทานยา ให้ กนิ เมื่อผ่านมื้ออาหารนั้นไป แล้วอย่างน้ อย 2 ชั่วโมง + ยาหลังอาหาร ให้ รับประทายหลังอาหารทันที หรื อประมาณ 15-20 นาที + ยาก่ อนนอน ให้ รับประทานหลังจากรับประทานอาหารเย็นไม่ ต่ากว่ า 4 ชั่วโมง 4. ใช้ ยาให้ ถูกบุคคล หมายถึง การใช้ ยาจะต้ องให้ เหมาะสมกับสภาวะของ ผู้ป่วยแต่ ละคน เนื่องจากยาชนิดเดียวกันอาจมีฤทธิ์ทที่ าให้ เกิดผลแตกต่ าง กัน และผู้ป่วยแต่ ละคนมีการตอบสนองต่ อยาแตกต่ างกัน 5. ใช้ ยาให้ ถูกทางและวิธี + ยาอม ไม่ ควรเคีย้ วหรื อกลืนเพราะยาอมจะออกฤทธิ์อย่างช้ าๆได้ ดใี นช่ อง ปาก + ยาอมใต้ ลนิ้ เป็ นยาทีจ่ ะถูกดูดซึมในปาก เพื่อให้ ผลในทันที หากกลืนลง ไปจะไม่ ได้ ผล เช่ น ยาไนโตรกลีเซอรีนที่ใช้ รักษาโรคหัวใจขาดเลือด


+ ยาเหน็บ เช่ น เหน็บทีช่ ่ องคลอดหรื อทวารหนัก หากนาไปกิน หรื อเหน็บ ผิดช่ องทางก็จะไม่ ได้ ผล + ยาทา เช่ น ยาหม่ องเป็ นยาทีใ่ ช้ ทาภายนอก แต่ บางคนนาไปใช้ รับประทานแก้ ปวดท้ องซึ่งไม่ ใช่ วธิ ีการรักษาทีถ่ ูกต้ อง + อื่นๆ เช่ น ยาที่ใช้ พ่นหรื อหยอด ควรใช้ ให้ ถูกวิธีตามทีแ่ พทย์ สั่งเท่ านั้น คาแนะนาในการใช้ ยาบางประเภท 1. ยาปฏิชีวนะหรื อยาแก้อกั เสบ (Antibiotics) มีระยะเวลาของการใช้ ยาที่ ต่ อเนื่องแม้ ว่าอาการของโรคจะทุเลาหรื อหายแล้ วก็ตาม จะต้ องรับประทาน ยาต่ อไปอีกจนครบระยะเวลาตามทีแ่ พทย์สั่ง 2. ไม่ ควรรับประทานยาปฏิชีวนะประเภทเตตราซัยคลีน (Tetracycline)พร้ อมกับนมอาหารทีท่ าจากนม หรื ออาหารที่มแี ร่ ธาตุๆสู ง เนื่องจากทาให้ ยาถูกดูดซึมน้ อยลง จึงควรรับประทานยานีก้ ่ อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรื อหลังอาหาร 1 ชั่วโมง 3. ยาซัลฟา(Sulfonamide)ชนิดต่ างๆ จะถูกขับถ่ ายทางปัสสาวะได้ ดเี มื่อ ปัสสาวะมีความเป็ นด่ าง จึงควรดื่มนา้ ตามมากๆ ห้ ามดื่มเครื่ องดื่มทีท่ าให้ ปัสสาวะเป็ นกรดเช่ น นา้ ส้ ม นา้ มะนาว


อาการอันไม่ พงึ ประสงค์ จากการใช้ ยา การใช้ ยาในแต่ ละครั้ง นอกเหนือจากผลของการรักษาที่เราต้ องการ แล้ว ยาแต่ ละอย่ างยังอาจส่ งผลให้ เกิดอาการอันไม่ พงึ ประสงค์ จากการใช้ ยา ด้ วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่ น + การรับยาติดต่ อกันเป็ นเวลานาน ลักษณะอาการอาจแตกต่ างจาก ผลข้ างเคียงจากการใช้ ยาและพิษของยา เช่ น ยากลุ่มสเตียรอยด์ อาจทาให้ เกิดความผิดปกติทางจิตใจ หรื อทาให้ กล้ ามเนื้อลีบ และกระดูกผุ + การดื้อยา เป็ นการทีใ่ ช้ ยาแล้วไม่ สามารถทาลายเชื้อโรคได้ ที่พบมาก ทีส่ ุ ดมักมาจากการใช้ ยาปฏิชีวนะไม่ ตรงกับชนิดของเชื้อโรค ใช้ ไม่ ถูก ขนาด หรื อใช้ ในระยะเวลาที่น้อยไป หรื อไม่ เพียงพอต่ อการทาลายเชื้อโรค + การติดยา ยาบางชนิดถ้ าใช้ ไม่ ถูกต้ อง หรื อใช้ ต่อเนื่องกันไปชั่วระยะเวลา หนึ่ง จะทาให้ ติดยาชนิดนั้นได้ เช่ น มอร์ ฟีน ยากล่ อมประสาท ยาแก้ไอบาง ชนิด เป็ นต้ น + อันตรายจากพิษของยา มักเกิดจากการใช้ ยาเกินขนาดโดยอาจ รู้ เท่ าไม่ ถึงการณ์ หรื อรับประทานเกินขนาดด้ วยความตั้งใจ เมื่อพบเห็นต้ อง รีบนาส่ งแพทย์ ทนั ที


+ การเสื่ อมและการหมดอายุของยา การเสื่ อมสภาพของยาอาจเกิดก่ อน การหมดอายุของยา ซึ่งโดยมากมักเกิดจากการเก็บยาไม่ ถูกวิธี เช่ น ถูก ความร้ อน ความชื้น หรื อแสงแดดทาให้ ยามีลกั ษณะทีเ่ ปลีย่ นไปจากเดิมจึง ไม่ ควรนามาใช้ เพราะอาจทาให้ เกิดอันตรายจนถึงตายได้ ตามปกติแล้ วยาทีม่ อี ายุส้ั นหรื อเสื่ อมสภาพง่ าย กฎหมายจะกาหนดให้ บอกวันหมดอายุไว้ บนภาชนะบรรจุ โดยใช้ คาว่ า Expiry Date หรื อ Expiration Date หรื อใช้ ย่อว่ า Exp. หรื อใช้ คาว่ า Used before แล้วตาม ด้ วยวันเดือนปี ที่หมดอายุ สาหรับยาทีม่ อี ายุยาว หรื อเสื่ อมสภาพช้ า แม้ ว่ากฎหมายจะไม่ บังคับให้ บอกวันหมดอายุไว้ กไ็ ม่ ควรเก็บไว้ นานเกิน5ปี นับจากวันที่ผลิต ซึ่งมักจะ เขียนต่ อท้ ายคาว่ า Manufacturing Date หรื อใช้ ย่อว่ า Mfg. Date หรื อ Mfd. เพราะยาจะเสื่ อมคุณภาพ และต้ องดูลกั ษณะของสี กลิน่ รส ประกอบด้ วยว่ าเปลีย่ นแปลงไปจากเดิมหรื อไม่


ความหมายของการแพ้ ยา และผลข้ างเคียงของยา การแพ้ ยา การแพ้ ยาส่ วนใหญ่ มกั เกิดจากการที่ตวั ยาไปกระตุ้นภูมิต้านทานของ ร่ างกาย ทาให้ เกิดปฏิกริ ิยาตอบสนองเป็ นอาการแพ้ โดยอาการเหล่านีม้ ี ระดับความรุ นแรงแตกต่ างกันไป บางอย่ างมีความแรงมาก เช่ น ทาให้ ผ้ ใู ช้ ยาถึงขั้นช็อก หายใจไม่ ออก ในขณะทีอ่ าการแพ้ ยาบางชนิดอาจไม่ รุนแรง มากนัก เช่ น อาการผื่นคันทีผ่ วิ หนังหรื ออาการอื่น ๆ นอกจากนีร้ ะยะเวลา แพ้ยาบางครั้งเกิดอาการอย่ างรวดเร็วภายหลังการได้ รับยาทันที แต่ บางราย อาการแพ้ยาภายหลังการได้ รับยาเป็ นเวลานานหลายสั ปดาห์ หรื อเป็ นเดือน ผลข้ างเคียงของยา ผลข้ างเคียงของยา สามารถระบุได้ ชัดเจนว่ าอาจจะเกิดขึน้ กับผู้ใช้ ยานี้ ได้ ทุกวัน เพราะเป็ นอาการทีเ่ กิดขึน้ จากกลไกการออกฤทธิ์ของยาปกติ เช่ น ยาคลอร์ เฟนิรามีน ทาให้ เกิดอาการง่ วงซึม ยาแก้ ปวดแอสไพริน ทาให้ เลือด แข็งตัวช้ า หูอือ้ ยาเตตราซัยคลิน ทาให้ เกิดอาการคลื่นไส้


อย่ างไรก็ตามอาการผลข้ างเคียงของยามีระดับความรุ นแรงแตกต่ างกัน ขึน้ อยู่กบั การตอบสนองของยากับผู้ใช้ ยาแต่ ละคน บางคนอาจตอบสนอง ต่ อยามากทาให้ เกิดอาการข้ างเคียงเหล่ านีไ้ ด้ มากและอาจรุ นแรงจนผู้ป่วย ไม่ สามารถยอมรับการใช้ ยานั้นได้ อกี กลุ่มทีม่ คี วามเสี่ ยงต่ อการแพ้ ยา หรื อผลข้ างเคียงของยา อาการตอบสนองของยาขึน้ อยู่กบั ธรรมชาติของสภาวะร่ างกาย เพศ โรค หรื ออาการของผู้ป่วย พันธุกรรม หรื อปัจจัยอื่นๆ กลุ่มทีเ่ สี่ ยงต่ อการเกิดอาการแพ้ ยา -

ผู้ตดิ เชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยทีม่ ีการติดเชื้อไวรัสร่ วมด้ วย ผู้ป่วยทีม่ ีประวัตกิ ารแพ้ ยาทีม่ ีโครงสร้ างทางเคมีแบบเดียวกันมาก่ อน ผู้ป่วยโรคหืดหอบ ผู้ป่วยทีม่ หี น่ วยพันธุกรรม หรื อยีน(gene) เฉพาะบางชนิด ผู้ป่วยโรคลูปัส หรื อเอสแอลอี (SLE)


กลุ่มทีเ่ สี่ ยงต่ อการเกิดอาการผลข้ างเคียงของยา -

ผู้ที่มกี ารเจ็บป่ วยทีร่ ุ นแรง ผู้ป่วยทีม่ ีการทางานของไตน้ อยกว่ าปกติ เป็ นโรคตับ ผู้ป่วยทีม่ ีการใช้ ยาหลายชนิดร่ วมกัน ผู้ตดิ เชื้อเอชไอวี ผู้ตดิ เชื้อเฮอร์ ปีส (Herpes Infection) ผู้ทตี่ ดิ แอลกอฮอล์ ผู้ป่วยโรคเอสแอลอี(SLE)

แนวปฏิบัติเมื่อเกิดการแพ้ยา 1. เมื่อเกิดการแพ้ ยาอย่ างรุ นแรง ผู้ป่วยควรหยุดการใช้ ยาแล้ วแจ้ งแพทย์ ทันทีเพื่อตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ าเป็ นการแพ้ ยาจนเกิดอาการผิดปกติ รุ นแรงจริง ก็ไม่ ควรใช้ ยานั้นอีกเด็ดขาดตลอดชีวิต 2. เมื่อเกิดการแพ้ ยาอย่ างไม่ รุนแรง ผู้ป่วยควรสั งเกตดูว่าอาการนั้น เกิด จากการแพ้ยาหรื อไม่ และต้ องมีการเฝ้าระวังเนื่องจากอาการดังกล่ าว อาจเกิดความรุ นแรงเพิม่ ขึน้ ได้ และควรแจ้ งให้ เภสั ชกรหรื อแพทย์ ให้ ตรวจสอบ


แนวปฏิบัติเมื่อเกิดผลข้ างเคียงของยา 1. เมื่อเกิดผลข้ างเคียงของยาที่มอี าการรุ นแรง โดยทัว่ ไปแพทย์ หรื อ เภสั ชกรจะต้ องแจ้ งผลข้ างเคียงของยาให้ ผ้ ูป่วยทราบโดยให้ ข้อมูลไว้ บนฉลากยาทีจ่ ่ ายให้ ผ้ ูป่วยเพื่อเตือนให้ ผ้ ูป่วยระมัดระวังตนเอง พร้ อม แนะนาวิธีปฏิบัติตนทีจ่ ะช่ วยลดอาการข้ างเคียงเหล่านั้น 2. เมื่อเกิดผลข้ างเคียงของยาทีม่ ีอาการไม่ รุนแรง โดยทัว่ ไปผลข้ างเคียง ทีไ่ ม่ รุนแรงมักจะไม่ เป็ นปัญหาใดกับการใช้ ยา ซึ่งแต่ หากอาการนั้นมี การพัฒนาความรุ นแรงมากขึน้ หรื อเกิดอาการอย่ างต่ อเนื่องจน รบกวนการใช้ ชีวติ ปกติ ผู้ทใี่ ช้ ยาก็อาจขอคาปรึกษาจากเภสั ชกรหรื อ แพทย์ให้ แนะนาวิธีการปฏิบัติตวั ทีจ่ ะสามารถลดอาการข้ างเคียงได้ แนวทางปฏิบัติตนเพื่อการใช้ ยาอย่างปลอดภัย การใช้ ยาอย่างปลอดภัย หมายถึง การทาให้ ความเสี่ ยงจากการใช้ ยา ลดลง และได้ รับประโยชน์ จากยาสู งสุ ด หรื อลดอันตรายจากการใช้ ยาลง 1. คุยกับแพทย์ หรื อเภสั ชกร โดยบอกรายละเอียดเกีย่ วกับผู้ป่วยในเรื่ องที่ เกีย่ วข้ องกับอาการป่ วยให้ มากที่สุด 2. ทาความรู้ จักยาทีใ่ ช้ ทั้งยาทีแ่ พทย์ สั่งจ่ าย หรื อซื้อเองจากร้ านขายยา


3. อ่านฉลากยาและปฏิบัติตามอย่างเคร่ งครัด 4. หลีกเลีย่ งการเพิม่ ความเสี่ ยงต่ อการเกิดปฏิกริ ิยาระหว่ างยา 5. สั งเกตตัวเองต่ อผลของยาและอาการข้ างเคียงจากการใช้ ยา ทีส่ าคัญคือผู้ป่วย หรื อญาติผ้ ูป่วยควรระลึกอยู่เสมอว่ า การใช้ ยาอาจ ก่อให้ เกิดอันตรายต่ อร่ างกายได้ ดังนั้นการมีส่วนร่ วมกับแพทย์ หรื อเภสั ช กร และผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติตามวิธีการใช้ ยาอย่ างถูกต้ องเหมาะสมกับ ตัวท่ านเอง หรื อผู้ป่วย จะทาให้ ความปลอดภัยจากการใช้ ยามากขึน้ กิจกรรมการมีส่วนร่ วมป้องกันความเสี่ ยงต่ อการใช้ ยา 1. อ่ านฉลากยาทุกครั้งก่ อนใช้ และใช้ ยาตามทีแ่ พทย์ สั่งอย่ างเคร่ งครัด

หากมีข้อสงสั ยให้ ปรึกษาเภสั ชกร หรื อแพทย์ ก่อนใช้ ทุกครั้ง 2. ดูแลให้ คนในครอบครัวใช้ ยาตามทีแ่ พทย์ สั่งอย่ างเคร่ งครัด ถ้ าเกิดผู้ใช้ ยามีอาการแพ้ ยา หรื ออาการผิดปกติให้ นาส่ งแพทย์ทนั ที 3. เข้ าร่ วมกิจกรรมการประชาสั มพันธ์ เรื่ องเกีย่ วกับยา เพื่อลดความเสี่ ยง ทีเ่ กิดขึน้ จากการใช้ ยา ซึ่งจัดโดยหน่ วยงานทางสาธารณสุ ขในท้ องถิ่น 4. ร่ วมมือกับเพื่อนนักเรียนจัดกิจกรรมกลุ่มอาสาสมัครทั้งใน สถานศึกษา และในชุ มชนเพื่อรณรงค์ การใช้ ยาให้ ถูกต้ อง


THE END


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.