เที่ยวเมืองมินกุง doc

ChiangmaiCoffee.com จิบกาแฟ. เที่ยวเมืองบากัน. ทําบุญตักบาตรพระ 1,800 องค. พระราชวังไมสัก มัณฑเลยทง ั้ หลัง ลองเรือแมน้ําอิระวดี ไปเยือนเจดียใ หญ และ ระฆังยักษเมืองมิงกุน

รุงเชาวันสุดทายในเมืองมัณฑะเลย คณะในทริปของเราตื่นกันแตเชากอนไกโห.. เพื่อจะไปชมการลางพระพักร พระพุทธมหามัยมุน พระพุทธรูปที่มช ี ีวต ิ เพราะดวยเหตุทไี่ ดรบ ั ประทานพร ตามตํานานก็เลาวาไดรบ ั ประทานลมหายใจ จากพระพุทธเจา จึงมีประเพณีลา งพระพักตรถวาย โดยทุกเชา เวลาประมาณ 04.00 น. พระมหาเถระและสาธุช นทัว่ ไปที่ศรัทธา จะมาทําพิธีลา งพระพักตรดว ยน้าํ อบน้าํ หอมผสมทานาคา อยางดีพรอมกับใชแปรงฟนขัดสี เช็ดใบหนาทําความสะอาด ....แตไอเรามันเปนคนตืน ่ สาย ก็เลยไมไดไปรวมงานกับเขา...

แตก็ไดไปทําบุญตักบาตร วัดพระมหากันดายง อมรปุระ ซึ่งตัง้ อยูรม ิ ทะเลสาบตองตะมาน ใกลสะพานอูเบ็ง และเปนวิทยาลัยสงฆทใี่ หญทส ี่ ุดของพมา มีภิกษุและสามเณรมาศึกษาเลาเรียนทางธรรมกวา 1,800 องค และมีพระภิกษุจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุน ฯลฯ มาบวชเรียนดวย วิทยาลัยสงฆแหงนี้เปนสถานที่ศึกษาพระธรรมและ รักษาพระธรรมวินัยมากที่สด ุ ดวยวัตรปฎิบัติอันงดงามของภิกษุสงฆในวัดมหากันดายง ทําใหมช ี าวพมา จํานวนมากสงบุตรหลานมาศึกษาพุทธศาสนากันทีน ่ ี่ และทําใหมีผูมจ ี ิตศรัทธาจองคิวกันนําภัตตาหารมาถวายพระทัง้ วัดได ไมเวนแตละวัน ทําใหวิทยาลัยสงฆแหงนี้ดาํ รงคอยูไ ดแมจะไดรับงบประมาณจากรัฐบาลพมาไมมากนัก

งานบุญตักบาตรครั้งนี้เปนทีน ่ าปลื้มปติ ไดอนิสงฆผลบุญยิง่ นัก แมแตขา วกนบาตรทีพ ่ ระสงฆฉันแลว ยังไดนาํ ไปแจกจายใหกับผูคนที่ยากจน ตกทุกขไดยาก ไปจนถึงหมู หมา กาไก นกหนู ที่มาอาศัยในวัดแหงนี้......

ไดไปชม..พระราชวังมัณฑะเลยเดิมวัง ไมสก ั ชเวนานดอจอง (Golden Palace Monastry) หรือ Shwenandaw Knauang Temple วังที่สรางดว ยไมสักทั้งหลัง งดงาตามแบบศิลปะ พมาแทๆ วิจิตรตระการดวยลวดลายแกะสลักประณีต โดยเนนรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจา วังหลังนี้สรางโดยพระเจามินดง ซึ่งเปนปทพ ี่ ระองคยายราชธานีจากอมรปุระมาอยูที่เมืองมัณฑะเลยเพื่อเปนตําหนัก ที่ประทับยามแปรพระราชฐาน สมัยตอมา พระเจาธีบอหรือสีปอ พระโอรสก็ทรงยกวังหลังนีถ ้ วายเปนวัด โดยมีเจาอาวาสวัดขางๆเปนผูดูแ ล ซึ่งก็ทําการบูรณะแตเพียงภายนอกบางสวน ถือไดวา เปนงานฝมือทีป ่ ระณีตของชางหลวงชาวมัณฑะเลยอยางแทจริง

ที่ทาเรือหมูบา นมิงกุน เมื่อขึ้นฝงเราจะพบโบราณสถานจุดแรกที่มช ี ื่อวา เจดียเซตตอยา ซึง่ พระเจาปดุงโปรดฯ ใหสรางครอบรอยพระพุทธบาทจําหลังบนหินออน เปนสัญลักษณของการกาวยางสูดินแดนที่พระเจาปดุง มีพระราชดําริจะสรางเจดียมงิ กุน หรือ “เจดียจักรพรรดิ” ที่ใหญทส ี่ ุดและสูงกวาเจดียใ ดๆในสุวรรณภูมิ นี้แตสรางไมเสร็จ หมดเหลือไวแคเพียงหลักฐานและรองรอยแหงความพยายามของพระเจาปดุง ที่เหลือเพียงเศษซากสวนหนึ่งไวใหเปน อนุสรณ

ระฆังมิงกุน เดินจากเจดียมิงกุนไปไมไกลนัก ก็จะพบบริเวณเปนที่ตั้ง “ระฆังมิงกุน” โดยความตั้งใจที่พระเจาปดุงโปรดฯใหสราง เพื่ออุทิศถวายแกเจดียมิงกุน ระฆังจึงมีขนาดใหญมาก มีเสนรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ํา หนัก 87 ตัน ปจจุบน ั ระฆังใบนี้ถอ ื วาเปนระฆังยักษที่เล็กกวาระฆังแหงพระราชวังเคลมลินในกรุงมอสโคเพียงใบเดียว แตระฆังเคลมลินนัน ้ แตกราวไปใชงานไมไดแลว สวนระฆังมิงกุนจึงเปนระฆังยักษที่สามารถสงเสียงกองกังวานไดจริงๆที่เหลืออยูบนโลก