MFA Thailand Channel
การบอกเล่าเรื่องราวด้านการ ต่างประเทศในหลากหลายมิติ คือวัตถุประสงค์ของวารสารวิทยุ สราญรมย์ ที่ดํ า เนินการมาตลอด ๒๕ ปี โดยกว่า ๒ ทศวรรษที่ผ่านมาวารสารวิทยุ สราญรมย์ได้ผ่านการปรับตัวและพัฒนา ทั งรูปแบบและเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัย ที่เปลี่ยนไป และในปี ๒๕๖๕ นี้ เรานํ าเสนอ วารสารในรูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อใหม่ คือ “MFA Thailand Channel” เพื่อเน้นยาถึงการเป็น ช่องทางสื่อสารด้านการต่างประเทศที่ทันสมัย และตอบโจทย์โลกยุคปัจจุบัน โดยในส่วน ของรูปเล่ม เราได้ปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีการจัดวางเนื้อหาและภาพประกอบให้ดู ทันสมัย อ่านง่าย สบายตา วารสาร “MFA Thailand Channel” ฉบับปฐมฤกษ์นี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย โดย highlight ของวารสารฉบับนี้คือ เรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพการประชุม เอเปค ปี ๒๕๖๕ ของประเทศไทย ซึ่งถือเป็น วาระแห่งชาติและมีความสํ าคัญต่อประชาชน คนไทยทุกคนอย่างมาก การเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมระหว่างประเทศในครั งนี้ นับเป็นโอกาสของประเทศไทยทั งในด้าน การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและ การท่องเที่ยว โดยไทยจะขับเคลื่อนนโยบาย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และ เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy ที่เป็น วาระแห่งชาติในเวทีเอเปคปีนี้ด้วย การเป็น เจ้าภาพครั งนี้ยังเป็นโอกาสในการสร้าง ความเชื่อมันต่อศักยภาพและความพร้อมของ ประเทศไทยในการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับ มิตรของเราจาก ๒๐ เขตเศรษฐกิจด้วย นอกเหนือจากเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การเป็นเจ้าภาพเอเปค ปี ๒๕๖๕ แล้วเรายังนําเสนอ เรื่องเล่าจากมุมมองและประสบการณ์ตรง
การทูตในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของ
ของนักการทูตและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ของไทย การขับเคลื่อนอํานาจละมุน หรือ “Soft Power” ในเวทีโลก ความสัมพันธ์ อันแนบแน่นและยาวนานระหว่างไทย - ญี่ปุ่น ไทย - สวิตเซอร์แลนด์ การช่วยเหลือแรงงานไทย ในลิเบีย วิถีธรรมทางการทูต และเรื่องราว ของคุณชวน นักการทูตในเอธิโอเปีย ที่หลายคน เฝ้าติดตาม พบกันใหม่ใน “MFA Thailand Channel” ฉบับหน้า และมาร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการเป็นเจ้าภาพเอเปค ปี ๒๕๖๕ นี้นะคะ (ชลธี จันทร์รัชชกูล) บรรณาธิการบริหาร
เส้นทางการเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ กว่า ๗๕ ปี
บทบรรณาธิการ
05 Contents MFA Thailand Channel 25 ปี วิทยุสร ญรมย์ จ กอดีต ถึงปัจจุบน สู่อน คต 1 กลอน “เอเปค 2565” 3 ธ นี ทองภกดี ปลด กต. เล่ ไทยกบก รเป็นเจ้ ภ พเอเปค 6 “ช ลอม” โลโก้ APEC 2022 Thailand เปิดกว้ งสร้ งสมพนธ์ เชื่อมโยงกน สู่สมดุล 12 ก รปร ช สมพนธ์ก รเป็นเจ้ ภ พ ก รปร ชุมเอเปค 2๐22 16 เส้นท งกว่ ๗5 ปี ของไทย ในสหปร ช ช ติ 22 กร ทรวงก รต่ งปร เทศ กบบทบ ทก รขบเคลื่อนอ� น จล มุน (Soft Power) ในเวทีโลก 30 กลอน “ภูมิใจ... ถิ่น ไทย ธรรม” 35 Dhamma Diplomacy วิถีธรรมท งก รทูต 36 นกก รทูตไทยในเอธิโอเปีย ตอนที่ ๑๔ อ� ล อ ลย 46 คร้งหนึ่งในก รปร จ� ก ร ที่ปร เทศลิเบียกบก รอพยพ แรงง นไทยออกจ กสงคร ม กล งเมือง 52 ๙๐ ปี คว มสมพนธ์ ไทย - สวิตเซอร์แลนด์ จ กยุงเฟร ถึงเข ใหญ่ 62 ๑๓5 ปี มิตรไมตรี ไทย - ญี่ปุ่น 66 กลอน “๑๓5 ปี ไทย - ญี่ปุ่น” 71 ๓๐ ๑6 สารบัญ
บทสัมภาษณ์จากหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ 0๖
เร ต้องก รส ท้อนอ ไรจ กก รก� หนดหวข้อหลก ในก รเป็นเจ้ ภ พเอเปคของไทยว่ Open. Connect. Balance. หรือ เปิดกว้ งสร้ งสมพนธ์ เชื่อมโยงกน สู่สมดุล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั งภาครัฐและเอกชนร่วมกันตั งใจ ให้การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ๒๕๖๕ เกิดประโยชน์ต่อคนไทย มากที่สุด หัวข้อหลัก (Theme) จึงต้องสะท้อนประเด็นที่คนไทย ต้องการและต้องได้ประโยชน์ โดยไทยยังสานต่อการทํา งานของ เอเปคได้ต่อเนื่อง กระทรวงการต่างประเทศเริมกระบวนการระดม สมองตังแต่ต้นปี ๒๕๖๓ กับคนหลายกลุ่ม อาทิ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ดําเนิน ธุรกิจหลากหลายสาขา รวมทัง SMEs และ start-ups สื่อมวลชน ข้าราชการรุ่นใหม่ และประชาชน รวมถึงเริมวางแผนงานร่วมกับ หน่วยงานและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องร่วมกันเตรียมการเป็นเจ้าภาพมาตั งแต่ต้น แนวคิดเบื้องหลังหัวข้อหลัก คือ การเน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังโควิด-๑๙ ให้ยังยืน ครอบคลุม และสมดุล โดยส่งเสริมให้คน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความคิด เพื่อนํ า ไปสู่การสร้างสมดุลการทํ า ธุรกิจ การดําเนินชีวิต และการอยู่ร่วม กับธรรมชาติในภาพรวมโดยไทยได้นํา โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจ หมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular-Green Economy (BCG Model) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ ชาติในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจาก โควิด - ๑๙ มาเป็นไอเดียตั งต้น ธานี ทองภักดี ปลัด กต. เล่า ไทยกับการเป็นเจ้าภาพเอเปค ปร เทศไทยมีโอก สได้กล บม เป็นเจ้ ภ พก รปร ชุมเอเปคอีกคร้ง โดยคร้งนี้เป็นคร้งที่ 3 ไทยจ ได้อ ไรจ กก รเป็นเจ้ ภ พ น ยธ นี ทองภ กดี ปล ดกร ทรวงก รต่ งปร เทศ จ ม อธิบ ยให้เร ได้เข้ ใจ สมาชิกเอเปค เอเปคมีสม ชิกรวม 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคน ด ญี่ปุ่น เก หลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สหรฐอเมริก บรูไน อินโดนีเซีย ม เลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย จีนไทเป ชิลี เม็กซิโก ป ปัวนิวกินี เปรู รสเซีย แล เวียดน ม 07 MFA Thailand Channel
า กจน
มจํานวนชนชันกล า ง เพิ มคว า มสะดวก
(ease of doing business) ทําให้ลดค่ า ใช้จ่ า ยสิ นเปลือง ในการค้าและการดําเนินธุรกิจลงไปมาก
า
รณสุขและผู้เกี่ยวข้อง
ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อไทยอย่างยิง และเพื่อสานต่อ
เพื่อกําหนดประเด็นหลัก " เปิดกว้ า ง สร้า งสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล " สะท้อน คว า มตั งใจของไทยในก า รส่งเสริมก า รฟื้นฟู เศรษฐกิจผ่ า นก า รปรับเปลี่ยนคว า มคิดและ พฤติกรรมเพื่อสร้างสมดุล • เปิดกว้ า ง คือ ก า รส่งเสริมก า รเปิดรับ มุมมองใหม่ที่ได้เรียนรู้จากสถานการณ์โควิด-๑๙ เพื่อนํามาสร้างเสริมบรรยากาศการดําเนินธุรกิจ และการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค • เชื่อมโยง คือ ก า รรื้อฟื้นก า รเดินท า ง เพื่อสร้า งเสริมปฏิสัมพันธ์และก า รทําธุรกิจ ในภูมิภาคให้คืนกลับอย่างสะดวกและปลอดภัย ยิงขึ้น • สมดุล คือ การนําโมเดลการพัฒนาต่ าง ๆ รวมถึง BCG ม า ปรับแนวท า งก า รทําธุรกิจ และการดําเนินชีวิตในมิติต่ าง ๆ เพื่อสร้างเสริม ก า รฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด - ๑๙ ที่ยั งยืน และครอบคลุม ผลลพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่เร ต้งใจ ให้เกิดปร โยชน์กบปร ช ชน ในก รเป็นเจ้ ภ พเอเปคคร้งนี้ มีอ ไรบ้ ง เอเปคไม่ได้เพิ งมีประโยชน์ต่อไทยในปี ที่เร า เป็นเจ้า ภ า พ แต่เอเปคมีพลวัตและสร้า ง ประโยชน์ให้ไทยเสมอม า นับตั งแต่ที่ไทย ได้ร่วมก่อตังเมื่อปี ๒๕๓๒ โดยเฉพาะการอํานวย คว า มสะดวกท า งก า รค้ า ลดจํานวนคนย
และเพิ
ในก
ปัจจุบัน มูลค่าการค้าของไทยกว่าร้อยละ ๗๐ คือ การค้า กับสมาชิกเอเปค ในช่วง ๒ ปีที่ผ่ า นม า เอเปคได้ดําเนิน ม า ตรก า รเร่งด่วนเพื่อบรรเท า ผลกระทบจ า ก โควิด - ๑๙ ต่อเศรษฐกิจ ก า รค้ า ก า รลงทุน โดยส่งเสริมการรักษา supply chain เพื่อขนส่ง วัคซีน ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมทัง ส่งเสริมการอํานวยความสะดวกการเคลื่อนย้าย บุคล า กรด้ า นส า ธ า
การดําเนินงานของเอเปคที่ผ่านมาโดยคํานึงถึง ประโยชน์ของคนไทยเป็นที่ตั ง การเป็นเจ้าภาพ ปี ๒๕๖๕ ของเราจะคํานึงถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เอเปคในระยะกล า งและระยะย า วอย่ า งสมดุล ซึ่งหัวข้อหลักแต่ละส่วนก็จะนําไปสู่ผลลัพธ์ ที่เกี่ยวข้อง ก รปร ชุม ABAC Chair-SOM Dialogue กบเจ้ หน้ ที่อ วุโสจ กภ ครฐเขตเอเปค เอเปคไม่ได้เพิ่งมีปร โยชน์ ต่อไทยในปีที่เร เป็นเจ้ ภ พ แต่เอเปคมีพลวตแล สร้ ง ปร โยชน์ให้ไทยเสมอม นบต้งแต่ที่ไทยได้ร่วมก่อต้ง 08
รประกอบธุรกิจ
การหารือเพื่อจัดทําความตกลงการค้าเสรีเอเปค (FTAAP) ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากบรรยากาศ ดํ า เนินธุรกิจที่ดีและมีคุณภาพในภูมิภาค เอเชีย - แปซิฟิกในอนาคตต่อไป สุดท้าย ไทยจะส่งเสริมการสร้าง " สมดุล ในทุกมิติ " โดยนํ า แนวคิด BCG ของไทย
การแปรขยะเป็นความมั
ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero greenhouse gas emissions) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศในเวที
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย
ไทยมองว่า วาระเร่งด่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เอเปคซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อไทย คือ การ " เชื่อมโยง " เชื่อมคนเข้าหากัน เชื่อมภูมิภาคด้วยการเปิดการเดินทางอย่าง สะดวกและปลอดภัย ซึ่งในเรื่องนี้ไทยจะผลักดัน การส่งเสริมการเดินทางที่สะดวกปลอดภัย (Safe Passage) และการหาวิธีเพิมคุณสมบัติ ของบัตรเดินทางสําหรับนักธุรกิจเอเปค (APEC Business Travel Card) ให้ครอบคลุมถึง ผู้ที่เดินทางเป็นประจํ า และนักท่องเที่ยว ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการมีนักธุรกิจและ นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยได้สะดวกขึ้น สํ า หรับระยะยาว ไทยให้ความสํ า คัญกับ การสร้างสมดุลเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยังยืน ประเด็นที่ไทยจะผลักดันจึงเป็นการ "เปิดกว้าง ทางความคิดเพื่อเปิดกว้างทางการค้า " นํ า บท เรียนจากโควิด - ๑๙ มาส่งเสริมการรวมตัว ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ดีขึ้น โดยนําประเด็น ด้านดิจิทัล สิ งแวดล้อม สาธารณสุข และ การส่งเสริมการเติบโตอย่างยั งยืนและ ครอบคลุมมาอยู่ในบทสนทนาเพื่อขับเคลื่อน ก รปร ชุมเอเปคในร ดบต่ ง ๆ ซึ่งจ มีกว่ ๑๐๐ ก รปร ชุมตลอดท้งปี
ไปแลกเปลี่ยนในเอเปค เพื่อให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ครอบคลุม ยั งยืน และคํ า นึงถึงการรักษาสิ งแวดล้อม ไปพร้อมกัน โดยจะเน้นส่งเสริมการใช้ประโยชน์ จากพลังงานหมุนเวียนอย่างมีนวัตกรรม
และเร่งบรรลุ
และต่อโลกในภาพรวม ไทยเป็นเจ้ ภ พเอเปคในช่วงเวล ที่มีคว มส� คญ เพร เป็นช่วงที่โลก ก� ลงฟื้นตวจ กโควิด ซึ่งส่งผลกร ทบ กบก รใช้ชีวิต ก รค้ ข ย ก รเดินท ง แล ก รติดต่อของคนบนโลก เร จ ใช้โอก สนี้ให้เกิดปร โยชน์สูงสุด กบไทยอย่ งไร เราตระหนักถึงช่วงเวลาสําคัญนี้และมองว่า เป็น "โอกาส" ที่ดีใน ๒ แง่มุม ไทยจ ส่งเสริมก รสร้ ง "สมดุล ในทุกมิติ" โดยน� แนวคิด BCG ของไทยไปแลกเปลี่ยนในเอเปค เพื่อให้ภูมิภ คเอเชีย - แปซิฟิก เติบโตอย่ งแข็งแกร่ง ครอบคลุม ย่งยืน แล ค� นึงถึงก รรกษ สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกน MFA Thailand Channel 09
งคั ง
COP26 ที่ผ่านมาด้วย
ต่อภูมิภาค
จึงเป็นโอกาสของไทยในการแสดง ศักยภาพและบทบาทที่สํ า คัญในครั งนี้ โดยเฉพาะการนํ า ประเด็นที่เป็นประโยชน์
ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
อย่างเต็มรูปแบบตลอดทังปี ยังช่วยดึงดูดความ สนใจจากเขตเศรษฐกิจสมาชิกและสื่อต่างชาติ ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เอเปคต้องจัดประชุม
ประการแรก เป็นโอกาสในการชูบทบาท ของไทยและนํ า ประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อ ไทยไปหารือในเอเปค เพราะเวลานี้ถือเป็นช่วง หัวเลี้ยวหัวต่อที่เอเปคและโลกต้องฟื้นฟูอย่าง ถูกทิศทาง
เช่น การท่องเที่ยว การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั
ม โอกาสและศักยภาพให้ MSMEs และกลุ่มที่ยัง ไม่ได้แสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ไปหารือในเอเปค นอกจากนี้ การประกาศ เป้าหมายจัดประชุมเอเปคแบบพบหน้ากัน
ผ่านระบบทางไกลมาตลอดสองปีที่ผ่านมา ประการที่สอง คือ เป็นโอกาสที่ไทยจะได้ รับเป็นพิเศษจากการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใน การเป็นเจ้าภาพปี ๒๕๖๕ ของเรา จะค�านึงถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเอเปค ในระยะกลางและระยะยาวอย่างสมดุล ช่วงเวลานี้ นอกเหนือจากผลลัพธ์การประชุม ที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยแล้ว ยังเป็นโอกาส ที่ไทยจะแสดงความพร้อมในการเปิดประเทศ และต้อนรับชาวต่างชาติ โดยสถานที่ที่จะใช้จัด ประชุมครังแรก คือ จังหวัดภูเก็ต เพื่อจัดการ ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอย่างไม่เป็นทางการ (Informal Senior Officials Meeting - ISOM) ทังนี้ จะมีการประชุมเอเปคในระดับต่าง ๆ กว่า ๑๐๐ ประชุมตลอดทั งปี แทบทั งหมด เป็นการประชุมแบบพบหน้าและกระจาย จัดไปทั วประเทศไทย โดยจะมีผู้นํ า รัฐมนตรี ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ นักธุรกิจ และสื่อชันนํา รวมกว่าหนึ่งหมื่นคนเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม และการประชุมในไทย จึงเป็นโอกาสในการ 10
งยืน การเพิ
คนไทยสามารถติดตามและแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ในประเด็นที่ตนสนใจได้ โดยตอนนี้ได้มีทวิตเตอร์ APEC2022Thailand ให้ทุกคนใช้ติดตาม ข่าวสารด้วยแล้ว
อยากให้คนไทยภาคภูมิใจกับการเป็นเจ้าภาพ เอเปคของไทย เพราะจะเปิดโอกาสให้ไทย ได้นําเสนอทังศักยภาพและวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ผ่านรายละเอียดปลีกย่อยของการจัดประชุม เช่น อาหาร ของที่ระลึก การแสดง ไปจนถึงรอยยิม และมิตรภาพที่คนไทยมอบให้ผู้เข้าร่วมประชุม เป็นแง่มุมสบาย ๆ แต่น่าภาคภูมิใจให้ทุกคน มีส่วนร่วมได้
ที่จริงแล้ว เอเปคเป็นเรื่องใกล้ตัวเพราะเป็น เรื่องความสะดวกในการค้าขายทํ า มาหากิน การเพิ มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็ก รายน้อยได้ดํ า เนินธุรกิจและได้กํ า ไร รู้เท่าทัน ความเปลี่ยนแปลงไปของโลก
กระจายรายได้สู่ชุมชน กระตุ้นอุตสาหกรรม ด้านการท่องเที่ยว และตอก ย า บรรยากาศ ของการเปิดประเทศของไทยได้เป็นอย่างดี ขณ นี้เร มีคว มพร้อมเต็ม ๑๐๐% ในก รท� หน้ ที่เจ้ ภ พเอเปค แล้วใช่หรือไม่ ทุกหน่วยงานมีความตั งใจและมีความพร้อม ในการเป็นเจ้าภาพเอเปคอย่างเต็มที่ โดยเป็น การเตรียมการที่ตระหนักถึงความท้าทาย อย่างระมัดระวัง และพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่คนไทย ทุกฝ่าย เตรียมการสํ า หรับการเป็นเจ้าภาพตั งแต่ต้นปี ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-๑๙ เริมระบาดแล้ว การเตรียมการจึงตระหนักถึงการรับมือ สถานการณ์โรคระบาดนี้มาตังแต่ต้น หน่วยงาน ราชการต่าง ๆ ได้ร่วมบูรณาการการทํางานจนเกิด การประชุมเตรียมการในทุกระดับ ขณะที่การประชุม คณะกรรมการระดับชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานก็ได้จัดประชุมไปแล้วถึง ๓ ครัง อย่างไรก็ดี สิงที่อยากจะยาคือ คนไทยทังประเทศ คือเจ้าภาพเอเปค ไม่ใช่แค่รัฐบาลเท่านัน เร ก� หนดให้ก รเป็นเจ้ ภ พเอเปค เป็นว ร แห่งช ติ แล้วคนไทยจ มี ส่วนร่วมกบก รเป็นเจ้ ภ พเอเปค ของไทยได้อย่ งไร คนไทยมีส่วนร่วมกับการประชุมได้ หลากหลายมิติ เพราะการประชุมกว่า ๑ ๐๐ การประชุมนี้ มีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นความ ร่วมมือในมิติต่าง ๆ นับตั งแต่การค้า การเกษตร สาธารณสุข สตรี MSMEs การท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งสะท้อนถึงการทํ า งานในทุกมิติของเอเปค เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน โดยคํ า นึงถึง บริบทที่ครอบคลุมและไม่ทิ งใครไว้ข้างหลัง
กระทรวง การต่างประเทศตั งใจจะสื่อสารเรื่องนี้ให้ชัดเจน สมาเสมอ ครอบคลุม เข้าใจง่าย เพื่อให้คนไทย ได้ติดตามข่าวสาร รับรู้ เข้าใจ และมีส่วนร่วม ในการเป็นเจ้าภาพเอเปคไปพร้อมกัน MFA Thailand Channel ๑๑
" ชวนนท์ วงศ์ตระกูลจง " นิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก " ชะลอม " ซึ่งเป็นเครื่องจักสานไทยที่ทํ า จาก ตอกไม้ไผ่ สํ า หรับใส่ของใช้ต่าง ๆ
ในการเดินทางหรือนําไปมอบกับบุคคล ที่เคารพในสังคมไทย จากรุ่นสู่รุ่น โดยแรงบันดาลใจที่ทํ า ให้ใช้ชะลอม มาจากความคิดว่า สัญลักษณ์นี้จะต้อง สะท้อนถึงความเป็นไทยและตัวตน ของเอเปค ชะลอมสื่อถึงหัวข้อหลัก
ของการประชุมเอเปคในปี ๒๕๖๕ คือ
Open: ชะลอมมีลักษณะปลายเปิด ไว้ใช้ใส่สิงของต่าง ๆ จึงเสมือนว่าเป็น
การสื่อถึงการค้าการลงทุนที่เปิดกว้าง
Connect: เพราะชะลอมมีไว้ใส่ สิงของเพื่อขนส่ง
กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก หรือเอเปค (Asia Pacific Economic Cooperation หรือ APEC) เป็นแหล่งบ่มเพาะความคิด เพื่อกํ า หนดมาตรฐานและนโยบาย ในประเด็นใหม่ ๆ ของโลก ซึ่งจะช่วย ให้ไทยสามารถปฏิรูปและยกระดับ มาตรฐานทางเศรษฐกิจให้มีความ ทันสมัย เป็นสากล และเสริมสร้าง ศักยภาพและความสามารถในการ แข่งขันให้แก่ภาครัฐและภาคเอกชน ดังนัน การที่ไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ เอเปค ปี ๒๕๖๕ จึงนับเป็นโอกาสสําคัญ อย่างยิ งของไทยที่จะเป็นผู้นํ า ในการ ร่วมขับเคลื่อนและกําหนดนโยบายและ ทิศทางของภูมิภาคให้เป็นที่ประจักษ์ ในสายตาประชาคมโลกต่อไป หนึ่งในไฮไลต์ของการเป็นเจ้าภาพ เอเปคของไทยในปี ๒๕๖๕ คือ งานเปิดตัว โลโก้เอเปค ที่ห้างไอคอนสยาม เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ซึ่งผู้เขียน ได้มีโอกาสเข้าร่วม โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศเป็นประธานเปิดงาน ตราสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพ เอเปคปี ๒๕๖๕ ของไทยซึ่งเป็น ผลงานของ
จึงเปรียบได้กับความ เชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาค “ชะลอม” โลโก้ APEC 2022 Thailand เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื อมโยงกัน สู่สมดุล ตร ส ญล กษณ์ก รเป็นเจ้ ภ พเอเปคปี ๒๕๖๕ ได้ร บแรงบ นด ลใจม จ ก "ช ลอม" ส ท้อนถึงคว มเป็นไทยแล ห วข้อหล ก Open. Connect. Balance. ของก รปร ชุมเอเปคคร้งนี้ได้อย่ งครบถ้วน 12 เรื่อง ศุภธัช วงค์เมฆ ตีพิมพ์ในมติชนสุดส ปด ห์ ฉบ บว นที่ ๑๗ - ๒๓ ธ นว คม ๒๕๖๔ ตราสัญลักษณ์ การเป็นเจ้าภาพ เอเปคปี 2022 ได้รบแรงบนด ลใจ ม จ ก "ช ลอม" ซึ่งเป็นเครื่องจกส นไทย ที่ท� จ กตอกไม้ไผ่ ส� หรบใส่ของใช้ต่ ง ๆ ในก รเดินท งหรือ น� ไปมอบกบบุคคล ที่เค รพในสงคมไทย
ช ลอมเป็นเครื่องส นชนิดหนึ่งรูปทรงกร บอกส นด้วย ตอกต ห่ ง ๆ ป กช ลอมปล่อยตอกไว้เพื่อจบ หรือ มดรวมเข้ ด้วยกนส� หรบหิ้ว ใช้ใส่ผก ผลไม้ แล สิ่งของ MFA Thailand Channel 13
Balance: ชะลอมทําจากวัสดุธรรมชาติ จึง ถือว่ า เป็นมิตรต่อสิ งแวดล้อมและสอดคล้อง กับรูปแบบเศรษฐกิจ BCG ที่เป็นว า ระสําคัญ ของไทยและกําลังผลักดันในเวทีเอเปค
เส้นตอกไม้ไผ่สานกันเป็นชะลอม ๒๑ ช่อง สื่อถึง ๒๑ เขตเศรษฐกิจสม า ชิกเอเปค สีเส้น ตอก ๓ สี ได้แก่ สีนําเงิน สื่อถึง Open การเปิดกว้าง สีชมพู สื่อถึง Connect ก า รสร้า งคว า ม สัมพันธ์เชื่อมโยง สีเขียว สื่อถึง Balance คว า มสมดุล ระหว่างกัน นอกจ า กง า นเปิดตัวโลโก้เอเปคแล้ว ในวันเดียวกันนั น ยังได้มีก า รจัดง า นเสวน า APEC Media Focus Group ซึ่งเป็นงานที่เชิญ สื่อมวลชนมาร่วมเสวนา เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจ โดยหวังว่า สื่อมวลชนจะช่วย เป็นสะพานส่งต่อความตระหนักรู้ไปยังประชาชน กระทรวงก า รต่ า งประเทศได้จัดกิจกรรม ระดมสมองกับหน่วยง า นภ า ครัฐ ภ า คเอกชน ภ า ควิช า ก า ร และสื่อมวลชนในลักษณะเช่นนี้ ม า ตั งแต่ช่วงกล า งปี ๒๕๖๓ เพื่อพัฒน า และ เตรียมประเด็นที่ใช้ในการประชุมเอเปค ๒๕๖๕ ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ของไทยและบริบท ของโลก น า ยธ า นี แสงรัตน์ อธิบดีกรมส า รนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่ างประเทศได้อธิบาย ถึงคว า มสําคัญของก า รเป็นเจ้ า ภ า พเอเปค ของไทยในปี ๒๕๖๕ โดยเริมต้นจ า กประเด็น บทบ า ทของสื่อมวลชน ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่า ง ภาครัฐกับประชาชน เพื่อทําให้เกิดความตระหนัก เข้าใจ ใช้ประโยชน์ และมีส่วนร่วม (InformInspire - Integrate - Involve) ในสังคม และยัง อธิบ า ยถึงยุทธศ า สตร์ด้ า นก า รประช า สัมพันธ์ ของกระทรวงก า รต่ า งประเทศ ที่กําหนดกลุ่ม เป้าหมายผู้รับสาร ทังผู้ประกอบการ ภาคเอกชน ช ลอมท�ำจำกวสดุธรรมชำติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล สอดคล้อง กบรูปแบบเศรษฐกิจ BCG ที่เป็น วำร ส�ำคญของไทยแล ก�ำลงผลกดน ในเวทีเอเปค ๒๕๖๕ นี้
14
๒๕๖๕ นี้
Open. Connect. Balance.
งแวดล้อมและสภาพอากาศ
และอธิบายถึงหนึ่งในเป้าหมาย
นโยบายการทูตด้านเศรษฐกิจของไทยที่ต้องการ
ความมันคงทางเศรษฐกิจ ทําให้ประเด็นหลัก ๆ
ที่ประเทศไทยผลักดันในการเป็นเจ้าภาพเอเปค
และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นักเรียน นักศึกษา และ ภาคประชาสังคม ให้ได้รับรู้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศได้อธิบายให้ผู้ร่วมเสวนา APEC Media Focus Group ถึงแนวโน้มความ เปลี่ยนแปลงและความท้าทายของโลกในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโรคโควิด
การปรับตัวไปสู่สังคม ดิจิทัล
ความสามารถในการปรับตัว ประเด็นเรื่องสิ
ที่เปลี่ยนแปลง
-๑๙
ความยังยืน
ได้แก่ Open: เปิดกว้างทางการค้าและการลงทุน โดยอํ า นวยความสะดวกในด้านการลงทุน และขับเคลื่อน FTAAP หรือเขตเศรษฐกิจเสรี เอเชีย - แปซิฟิก ให้เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นความมุ่งมัน ของสมาชิกเอเปคที่จะรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคและฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น Connect: ฟื้นฟูความเชื่อมโยงด้าน การเดินทางและการท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจ การบินและการท่องเที่ยวฟื้นตัวและเกิด ความปลอดภัย Balance: ส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยังยืน และครอบคลุม โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนมุมมอง เกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเกี่ยวข้องกับ เศรษฐกิจสีเขียวและการเติบโตอย่างยั งยืน อีกทั งเป็นวาระสํ า คัญของไทยในเวลานี้ หรือ ภาษาไทย คือ "เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล" น ยดอน ปรมตถ์วินย รองน ยก รฐมนตรีแล รฐมนตรีว่ ก ร กร ทรวงก รต่ งปร เทศ แล น ยอนุช น ค ศย รฐมนตรี ปร จ� ส� นกน ยกรฐมนตรี ถ่ ยรูปเป็นที่ร ลึกกบผู้ชน เลิศ ก รปร กวดตร สญลกษณ์ ก รเป็นเจ้ ภ พเอเปคของไทย MFA Thailand Channel 15
BCG Model
เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจ หมุนเวียน (Circular Economy) เศรษฐกิจ สีเขียว (Green Economy)
เศรษฐกิจชีวภ พ เศรษฐกิจหมุนเวียน แล เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Model) ปร เด็นส� คญที่ไทยจ ผลกดนในเวที APEC 2022 16 เรื่อง สิรภพ เดชะบุญ เจ้ หน้ ที่ปร มวลแล วิเคร ห์ข่ ว กรมส รนิเทศ
ปี๒๕๖๕ ถือเป็นปีที่สําคัญ สําหรับประเทศไทย เพร า ะได้รับโอก า สให้เป็น เจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค หรือ กรอบคว า มร่วมมือท า งเศรษฐกิจ เอเชีย - แปซิฟิก (Asia - Pacific Economic Cooperation: APEC) อีกครัง หลังจากที่เคยเป็นเจ้าภาพ มาแล้ว ๒ ครัง เมื่อปี ๒๕๓๕ และ ปี ๒๕๔๖ ซึ่งก า รประชุมเอเปค ในแต่ละครังถือว่ า มีคว า มสําคัญ อย่างมากในแง่มุมของความร่วมมือ ด้ านการค้ าและการลงทุน ไปจนถึง ก า รเตรียมก า รด้ า นต่ า ง ๆ ในก า ร ต้อนรับผู้นําจาก ๒๐ เขตเศรษฐกิจ ดังนั น ประเทศไทยจึงต้อง เตรียมพร้อมอย่ า งม า กต่อบทบ า ท เจ้า ภ า พ และโดยที่ภ า คประช า ชน เป็นส่วนสําคัญอย่างมากต่อการเป็น เจ้าภาพที่ดี การเตรียมความพร้อม ด้ านการประชาสัมพันธ์จึงเป็นเรื่อง ที่ต้องให้ความสําคัญ นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดี กรมส า รนิเทศและรองโฆษก กระทรวงก า รต่ า งประเทศ หรือ “ ท่ า นรองนิ ง ” ได้ให้สัมภ า ษณ์ ในร า ยก า รบันทึกสถ า นก า รณ์ (youtube/jBsPBgUmXFs) ไว้ว่า กรอบความร่วมมือเอเปคจัดตั
เมื่อปี
คือ การส่งเสริมการเปิดเสรีการค้ า ก า รลงทุน และก า รรวมตัว ทางเศรษฐกิจ รวมถึงความร่วมมือ ด้ า นวิช า ก า รและก า รแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา มีก า รเน้นเรื่องธุรกิจและเศรษฐกิจ ในภูมิภ า คของทั ง ๒๑ สม า ชิกเขต เศรษฐกิจเป็นหลัก ( ๑๙ ประเทศ และ ๒ เขตเศรษฐกิจ คือ ฮ่องกง และไต้หวัน ) และเอเปคได้มุ่งเป้ า การประชาสัมพันธ์ การเป็นเจ้าภาพ การประชุมเอเปค ๒๐๒๒ ก รปร ชุมเอเปคมีคว มส� ค ญอย่ งม กในแง่มุมของ คว มร่วมมือด้ นก รค้ แล ก รลงทุน ปร เทศไทย จึงต้องเตรียมพร้อมส� หร บก รปร ชุมแล ก รต้อนร บ ผู้น� จ ก ๒0 เขตเศรษฐกิจ MFA Thailand Channel 17
งขึ้น
๒๕๓๒ โดยมีเป้าหมายหลัก
-๑๙ โดยเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังยืน การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในครั้งนี้
า คัญต่อทวีปเอเชีย และทุกภูมิภาคทัวโลก และเอเปคเปรียบเสมือนแหล่งบ่มเพาะ
ไปที่การเปิดเสรีการค้าการลงทุนเรื่อยมา ตั งแต่ยุคเป้าหมาย โบกอร์ (Bogor Goals) และวิสัยทัศน์ปุตราจายา (Putrajaya Vision 2040) ในสมัยที่เขตเศรษฐกิจอื่น ๆ เป็นเจ้าภาพ การเป็นเจ้าภาพในครังนี้ของไทยมีความสํ า คัญเนื่องจาก สถานการณ์ปัจจุบันที่ระบบเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจาก โควิด-๑๙ ดังนัน ปี ๒๕๖๕ จึงเป็นโอกาสดีสําหรับประเทศไทย ที่จะเป็นเจ้าภาพในการหารือเกี่ยวกับแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ยุคหลังโควิด
มีความส�าคัญต่อไทยอย่างไร เนื่องด้วยไทยเป็นเขตเศรษฐกิจที่สํ
ทางความคิดที่มีอิทธิพลต่อการกําหนดมาตรฐาน นโยบาย และ ประเด็นใหม่ ๆ ของโลก ไม่จํากัดแค่เรื่องเศรษฐกิจ โดยกรอบเอเปค มีความทันสมัยและความเป็นสากล ดังนัน การรับบทบาทเป็น ธุรกิจ SMEs ที่ปร เทศไทยจ ได้ปร โยชน์จ ก ก รผลกดนให้เป็นปร เด็นส� คญในก รปร ชุม 18
ไทยจะได้ประโยชน์จากการผลักดัน ประเด็นสํ าคัญสําหรับประเทศไทยเอง
ไทยจ ได้ปร โยชน์ จ กก รผลกดน ปร เด็นส� คญส� หรบ ปร เทศไทยเอง เช่น ปร เด็นด้ นธุรกิจ SMEs โลกดิจิทล สงคมไร้เงินสด รวมถึง เรื่องก รเกษตรที่ย่งยืน แล เทคโนโลยี ในภ คก รเกษตร เจ้าภาพการประชุมในครังนี้
เช่น ประเด็นด้านธุรกิจ SMEs โลกดิจิทัล สังคมไร้เงินสด รวมถึงเรื่องการเกษตรที่ยังยืน และเทคโนโลยีในภาคการเกษตร เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Model) ที่ไทย กํ า ลังผลักดัน และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั นต่อมาตรการ การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และการแสดงความพร้อม ของไทยในการเปิดประเทศและเติบโตทางเศรษฐกิจอีกครัง ก รปร ชุมเอเปค 2022 ส ม รถแบ่งปร เด็น ส� คญได้ ๓ ปร ก ร ได้แก่ ๑ ) การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั งยืนและครอบคลุม ซึ่งรวมถึงความมันคงทางอาหาร การบริหารจัดการสิงแวดล้อม และการส่งเสริม BCG Model ๒) การอํานวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน ที่มีประเด็น เศรษฐกิจดิจิทัล การค้าดิจิทัล (Digital Trade Platform) และการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ MSMEs ๓) การฟื้นฟูความเชื่อมโยงการเดินทางและการท่องเที่ยว โลกดิจิทลแล สงคมไร้เงินสด เป็นหนึ่งใน ปร เด็นที่จ ถูกพูดถึงในก รปร ชุมคร้งนี้ MFA Thailand Channel 19
ที่จะเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวสีเขียว การจัดประชุมเอเปค ๒๐๒๒ เป็นการประชุม ลักษณะกายภาพ หรือการประชุมแบบเห็นหน้า เห็นตัวกันเป็น ๆ อย่างเต็มรูปแบบครังแรก ๆ ในโลกหลังเกิดสถานการณ์โควิด-๑๙ ที่ผ่านมา การประชุมถูกจัดในรูปแบบออนไลน์บ้างหรือ แบบผสม (Hybrid) บ้าง โดยหวังว่า สถานการณ์ โควิด - ๑๙ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัด การประชุมที่เปิดฉากขึ้นครั งแรกในเดือน ธันวาคม ๒๕๖๔ คนไทยทุกคนส
รเป็นเจ้ ภ พที่ดี ติดต มปร เด็นส� คญของกรอบคว มร่วมมือเอเปคผ่ นสื่อมวลชน หรือมีส่วนร่วมผ่ นเวทีแสดงคว มคิดเห็นช่องท งต่ ง ๆ ได้ รัฐบาลได้จัดตั งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับการเป็นเจ้าภาพ เอเปค และภายใต้คณะกรรมการนั นก็มี คณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ ที่ได้มีการประชุมเพื่อขับเคลื่อนประเด็นหลัก ๓ ประการข้างต้น โดยการประชาสัมพันธ์ ของไทยมีแนวคิดที่เป็นเสมือนไฟนํ า ทางว่า “ ตระหนัก เข้าใจ ใช้ประโยชน์ มีส่วนร่วม ” โดยมุ่งเน้นการสื่อสารและสร้างการรับรู้ถึง บทบาทของประเทศไทยทั งก่อนเป็นเจ้าภาพ ขณะเป็นเจ้าภาพ และหลังเป็นเจ้าภาพ รวมถึง 20
ม รถมีส่วนร่วมด้วยก
ย ก า รเป็นเจ้ า ภ า พที่ดี ติดต า ม ประเด็นสําคัญของกรอบคว า มร่วมมือเอเปค ผ่ า นสื่อมวลชน หรือมีส่วนร่วมผ่ า นเวทีแสดง ความคิดเห็นช่องทางต่
เน้นยําการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม เช่น ภ า คประช า สังคม ภ า คสื่อมวลชน โด ย มี การจัดกิจกรรมเชิงประชาสัมพันธ์กับสื่อมวลชน หรือ APEC Media Focus รวมถึงก า รจัด กิจกรรมกับภ า คเอกชนที่มีส่วนเกี่ ย วข้องกับ สภ า ที่ปรึกษ า ท า งธุรกิจเอเปค นอกจ า กนั น ยังมีกรมประชาสัมพันธ์ที่คอยสนับสนุนการสร้าง การรับรู้ให้กับประชาชนคนไทยด้วย การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทย ครังนี้เริมขึ้นตั งแต่เดือนพฤศจิก าย น ๒๕๖๔ จนถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ และจะมีการใช้ สถานที่หลายจังหวัดในการจัดประชุม โดยจะมี ผู้แทนจากเขตเศรษฐกิจต่ าง ๆ เดินทางเข้ามา ร่วมประชุมกว่าพันคน ซึ่งคนไทยทุกคนสามารถ มีส่วนร่วมด้ว
าง ๆ ได้ โดยตระหนักว่า การมีส่วนร่วมของไทยและความร่วมมือภายใต้ กรอบเอเปคมีความสําคัญอย างยงในช่วงที่เรา กําลังจะก้ า วข้ า มปัญห า วิกฤติเศรษฐกิจจ า ก โควิด-๑๙ นี้ ของที่ร ลึกที่กร ทรวง ก รต่ งปร เทศจดท� ขึ้น ในโอก สที่ไทยเป็นเจ้ ภ พ ก รปร ชุมเอเปค 2022 MFA Thailand Channel 21
22 เรื่อง เศรษฐศาสตร์ เรืองแสน เจ้ หน้ ที่พ ฒน ฐ นข้อมูล กรมองค์ก รร หว่ งปร เทศ
า คัญในสหประชาชาติมาอย่างยาวนาน
๑๕ ธันวาคม ๒ ๕ ๖๔ เป็นวาระ
๗ ๕ ปีที่ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกของ สหประชาชาติ สหประชาชาติก่อตั งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม
๒๔ ๘๘ ( ค ศ ๑๙๔ ๕ ) ภายหลังสงครามโลกครังที่
นสุดลง โดยมุ่งมั นที่จะเป็นองค์การระหว่างประเทศ
เส้นทางกว่า 75 ปี ของไทย ในสหประชาชาติ ปร เทศไทยเข้ ร่วมเป็นสม ชิก สหปร ช ช ติในล� ด บที่ 55 เมื่อว นที่ 15 ธ นว คม ๒๔๘๙ แล มีบทบ ทส� ค ญ ม อย่ งย วน นในสหปร ช ช ติ องค์ก รที่มีคว มส� คญร ดบโลก สหประชาชาติ (United Nations) เป็นองค์การ ระหว่างประเทศที่มีบทบาทสํ า คัญยิ งในการ รักษาสันติภาพและความมันคงของโลก ส่งเสริม สิทธิมนุษยชน การพัฒนาที่ยั งยืน ให้ความช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรม ผลักดันการพัฒนากฎหมายระหว่าง ประเทศ ตลอดจนประเด็นใหม่ ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลง ของสภาพภูมิอากาศ บทบาทสตรี เด็ก กลุ่มเปราะบาง ความมั นคงทางไซเบอร์ ฯลฯ ทั งนี้
บทบาทสํ
โดยเมื่อวันที่
ครบรอบ
ประเทศไทยมี
สิ
ที่เป็นตัวกลางสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สืบต่อเจตนารมณ์การรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ ขององค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) โดยมีกฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) เป็นธรรมนูญ และมีสํานักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก น ยดอน ปรมตถ์วินย รองน ยกรฐมนตรี แล รฐมนตรีว่ ก รกร ทรวงก รต่ งปร เทศ แล แขกผู้มีเกียรติที่เข้ ร่วมในง นเลี้ยง รบรองเพื่อฉลองโอก สครบรอบ ๗5 ปี ก รเป็นสม ชิกของไทยในสหปร ช ช ติ MFA Thailand Channel 23
๒
แผนที่โลกล้อมรอบด้วยกิ งมะกอกสองกิ ง กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพอันเป็น
เห็นได้จากข่าวสารและความร่วมมือระหว่าง รัฐบาลแต่ละประเทศผ่านการประชุมสมัชชา สหประชาชาติ (United Nations General Assembly - UNGA) ซึ่งเป็นกลไกที่ใหญ่ที่สุด ในสหประชาชาติ ประกอบด้วยรัฐสมาชิก ๑๙๓ ประเทศ
ภายใต้กรอบสหประชาชาติยังแสดงให้เห็นถึง
พลังในการร่วมขับเคลื่อนประเด็นระหว่าง
(World Health Organization - WHO) ได้แสดงบทบาท ที่โดดเด่นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด - ๑๙ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นบทบาท
โดยสมัยการประชุมของ UNGA มีระยะเวลา ๑ ปี เริมต้นในวันอังคารที่ ๓ ของเดือนกันยายนของทุกปี โดยในแต่ละปี รัฐสมาชิกจะเลือกตั งประธานสมัชชา สหประชาชาติ (President of the General Assembly - PGA) สลับสับเปลี่ยนตามภูมิภาค และรองประธานจํานวน ๒๑ คน ทบวงการชํ า นัญพิเศษ (Specialized Agencies) ต่าง ๆ ภายใต้สหประชาชาติ อาทิ องค์การอนามัยโลก
ประชากรทุกคน และกิ งมะกอกสองกิ ง เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงสันติภาพ ประสบการณ์ อันเลวร้ายจากสงครามโลกทังสองครัง ตลอดจน ความรุนแรงจากสงครามที่เกิดขึ้นทัวโลกในช่วง ต้นศตวรรษที่ ๒๐ เป็นบทเรียนราคาแพงที่สร้าง ภาพจํ า และผลักดันให้ผู้นํ า หลายประเทศ ดํ า เนินความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างสันติ ผ่านเวทีเจรจาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง สหประชาชาติ การทูตพหุภาคี (multilateral diplomacy) หรือความสัมพันธ์ทางการทูตหลายฝ่าย
ที่จดจําของผู้คนทัวโลกโดยแผนที่โลกหมายถึง
ประเทศที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไป อย่างต่อเนื่องนับตั งแต่ก่อตั งสหประชาชาติ ทั งในด้านสันติภาพและความมั นคง (Peace and Security) การพัฒนา (Development) และสิทธิมนุษยชน (Human Rights) ซึ่งผลลัพธ์จากการขับเคลื่อนของสหประชาชาติ 24
นคง และความเป็นศูนย์กลาง
ประเทศนันเอง
ก่อนหน้าที่ประเทศไทยจะเข้าเป็นสมาชิก
สหประชาชาติเมื่อ ๗๕ ปีที่แล้ว ประเทศไทย
ได้ดํ า เนินความสัมพันธ์แบบพหุภาคีมา ยาวนานแล้ว โดยไทยเป็นสมาชิกสหภาพ โทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International
Telecommunication Union - ITU) ซึ่งเป็น
สากล (Universal Postal Union - UPU)
เจรจาทางการทูตกับนานาประเทศและอํ านาจ ต่อรองของประเทศไทยในยุคอาณานิคม และผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจาก การเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ จึงทรงผลักดัน ให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ในลําดับที่ ๕๕ เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖) การเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ทํ า ให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในเรื่อง อํ า นาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน จากนานาประเทศ นอกจากนั น สหประชาชาติ ยังปกป้องและให้ความสํ า คัญกับความเห็น ของรัฐขนาดเล็ก และเป็นเวทีในการดํ า เนิน ความสัมพันธ์ทางการทูตพหุภาคีของประเทศ ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของประชาคมโลก
ปร เทศไทยมีบทบ ทส� คญในสหปร ช ช ติ ม อย่ งย วน น โดยเมื่อวนที่ 1๕ ธนว คม 2๕64 เป็นว ร ครบรอบ 7๕ ปี ที่ปร เทศไทย เข้ เป็นสม ชิกของสหปร ช ช ติ
ที่ทรงตระหนักถึงความยากลํ า บากในการ
า งานของสหประชาชาติ ทังด้านการสนับสนุนสันติภาพและความมันคง ไทยมีส่วนร่วมในปฏิบติก รรกษ สนติภ พของสหปร ช ช ติ ผ่ นก รส่งเจ้ หน้ ที่ทห ร ต� รวจแล พลเรือนเข้ ร่วม ที่หลากหลายของสหประชาชาติในเวทีโลก ตามกฎบัตรสหประชาชาติที่มุ่งเน้นการรักษา ความความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สันติภาพ และความมั
ให้แก่นานาชาติเสมือนเวทีในการพูดคุยระหว่าง
ตลอด ๗๕ ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยผลักดัน และสนับสนุนการทํ
องค์การระหว่างประเทศที่เก่าแก่ที่สุดตั งแต่ปี ค.ศ. ๑๘๘๓ และเข้าเป็นสมาชิกสหภาพไปรษณีย์
ตั งแต่ปี ค ศ ๑๘๘๕ ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระเจ้า วรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ น งกีต้ ซบบร ว ล ผู้ปร ส นง นสหปร ช ช ติปร จ� ปร เทศไทย ร่วมกล่ วถ้อยแถลง ในง นเลี้ยงรบรองฉลองโอก สครบรอบ ๗๕ ปีก รเป็นสม ชิกของไทยในสหปร ช ช ติ MFA Thailand Channel 25
โดยประเทศไทยมีส่วนร่วม
งแต่ปี ๒๕๐๑ ผ่านการส่ง
ตํ า รวจและพลเรือนรวมกว่า
สันติภาพ
นคง (Women, Peace and Security - WPS) โดยส่งเจ้าหน้าที่ทหารและ สตรีเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของ สหประชาชาติในภารกิจต่าง ๆ รวมถึงส่งเสริมให้ เจ้าหน้าที่สตรีที่กลับจากภารกิจรักษาสันติภาพ
ในระดับนานาชาติ และยังส่งผลกระทบต่อ
เศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยความนิยมในการ ติดต่อและการซื้อขายผ่านเครือข่ายระบบไร้สาย และแพลตฟอร์มออนไลน์ (platform online) เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผลักดันให้รัฐบาลแต่ละ ประเทศให้ความสํ
ระหว่างประเทศ
ในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ มาอย่างต่อเนื่องตั
เจ้าหน้าที่ทหาร
๒๗
คน เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ กว่า ๒๐ ภารกิจ ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั วโลก ทั งนี้ สหประชาชาติผลักดันปฏิบัติการรักษา สันติภาพ (Peacekeeping Operations - PKO) ผ่านการขับเคลื่อนของคณะมนตรีความมั นคง แห่งสหประชาชาติ (UN Security CouncilUNSC) ตั งแต่ปี ๒๔๘๘ เป็นต้นมา ประเทศไทยยังผลักดันบทบาทสตรี ในสหประชาชาติในวาระสตรี
กําลังพลอื่น ๆ เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจ ในยุคของเทคโนโลยีปัจจุบัน นานาชาติ ให้ความสํ า คัญในลํ า ดับต้นกับประเด็น ความมั นคงทางไซเบอร์ (Cyber Security) ในเวทีสหประชาชาติ เนื่องจากสงครามทาง ไซเบอร์คุกคามสันติภาพและความมั นคง
,๐๐๐
และความมั
มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับ
าคัญกับการกํ าหนดนโยบาย
ในประเด็นดังกล่าว ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทย ให้ความสําคัญเช่นกัน โดยได้ออก พ ร บ การรักษา ความมันคงปลอดภัยไซเบอร์ พ ศ ๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕ ๘ ที่ประชุม สหประชาชาติระดับสุดยอดว่าด้วยการพัฒนา ที่ยั งยืน ค ศ ๒๐๑๕ (UN Sustainable Development Summit 2015) ได้รับรองวาระ การพัฒนาที่ยังยืน พ ศ ๒๕๗๓ (2030 Agenda for Sustainable Development) โดยมีสาระ สําคัญในการมุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนา ที่ยังยืน (Sustainable Development GoalsSDGs) ทั ง ๑๗ เป้าหมายหลัก อาทิ การยุติ ปร เทศไทยมีส่วนร่วมในปฏิบติก ร รกษ สนติภ พของสหปร ช ช ติ ม อย่ งต่อเนื่องต้งแต่ปี ๒๕๐๑ ผ่ นก รส่งเจ้ หน้ ที่ทห ร ต� รวจ แล พลเรือนรวมกว่ ๒๗,๐๐๐ คน น ยดอน ปรมตถ์วินย รองน ยกรฐมนตรีแล รฐมนตรีว่ ก รกร ทรวงก รต่ งปร เทศเป็นปร ธ น ในง นเลี้ยงรบรองเพื่อฉลองโอก สครบรอบ ๗๕ ปีก รเป็นสม ชิกของไทยในสหปร ช ช ติ 26
ทางไซเบอร์และมีการหารือระหว่างประเทศ
HRC มาโดยตลอด กลไก UPR ดังกล่าวกํ าหนดให้ รัฐสมาชิกสหประชาชาติจัดทํา รายงานทบทวน สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศทุก ๔ ปีครึ่ง โดยใช้ระบบรัฐสมาชิกเป็นผู้ทบทวนกันเอง (peer review) เพื่อนํ าข้อเสนอแนะด้านสิทธิ มนุษยชนไปปฏิบัติต่อไปอย่างสมัครใจ ล่าสุด ไทยนํ า เสนอรายงาน UPR รอบที่ ๓ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕ ๖ ๔ โดยเน้นการให้ ข้อมูลเกี่ยวกับการดํ า เนินนโยบายของไทย
ความยากจน การศึกษาที่มีคุณภาพ พลังงาน สะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ ให้บรรลุผลภายในปี ๒๕๗๓ โดยไทยได้น้อมนํ า หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy - SEP) ซึ่งเป็น พระราชดํ าริของรัชกาลที่ ๙ มาใช้เป็นแนวทาง ในการดําเนินการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุ SDGs โดยเน้นหลัก “สามห่วง สองเงื่อนไข” ของ SEP กล่าวคือ ใช้สามห่วง ได้แก่ พอประมาณ มีเหตุ มีผล และมีภูมิคุ้มกันในตัว เป็นพื้นฐานสํ าคัญ ในการดําเนินการ บนเงื่อนไขสําคัญสองประการ ได้แก่ ความรู้และหลักคุณธรรม มาเป็นองค์ประกอบ สําคัญในการพิจารณา ในด้านสิทธิมนุษยชน ปัจจุบันไทยเป็นภาคี อนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชน จํ า นวนทั งสิ น ๗ ฉบับ อาทิ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติ ต่อสตรีในทุกรูปแบบ กติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งล้วนตั งอยู่บนพื้นฐานของปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights - UDHR) ซึ่งได้รับการ รับรองในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ ตั งแต่ปี ค ศ ๑๙๔๘ เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอันเป็นสิทธิ ขั นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน โดยครอบคลุม สิทธิทุกด้าน ทังสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ตั งแต่มีการก่อตั งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (Human Rights CouncilHRC) ไทยได้ให้ความร่วมมือในการนํ า เสนอ
ที่ให้ความสํ า คัญกับสิทธิมนุษยชนและ การพัฒนาที่ยังยืนควบคู่กัน ตลอดจนรายงาน การดําเนินการ พัฒนาการ ความสําเร็จ ตลอดจน ความท้าทาย ทั งสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม สิทธิพลเมืองและทางการเมือง และสิทธิของกลุ่มต่าง ๆ อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะ การดําเนินการด้านสิทธิมนุษยชนและการบริหาร จัดการกับความท้าทายและผลกระทบในช่วง หลก “ส มห่วง สองเงื่อนไข” ของ SEP กล่ วคือ ใช้ส มห่วง ได้แก่ พอปร ม ณ มีเหตุ มีผล แล มีภูมิคุ้มกนในตว เจ้ หน้ ที่ทห รของไทยเข้ ร่วมปฏิบติ ภ รกิจรกษ สนติภ พของสหปร ช ช ติ MFA Thailand Channel 27
รายงานประเทศภายใต้กลไก Universal Periodic Review หรือ UPR ของ
จากประเทศต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ
เข้ามาดํารงตําแหน่งในสหประชาชาติ โดยในส่วนของ
ประเทศไทย อาทิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ
(International Tribunal for the Law of the Sea: ITLOS)
ค ศ ๒๐๑๗ - ๒๐๒๖ และล่าสุด
(United Nations Security Council - UNSC) วาระปี ค.ศ. ๑๙๘๕ - ๑๙๘๖
การแพร่ระบาดของโควิด - ๑๙ อีกทั งให้มุมมอง เกี่ยวกับทิศทางการดํ า เนินการด้านสิทธิมนุษยชน ในอนาคตของไทย และในทางกลับกัน ได้รับรอง ข้อเสนอจากนานาประเทศในการยกระดับ การดําเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนต่อไป นอกจากนี้ สหประชาชาติยังเปิดโอกาสให้ผู้แทน
พระองค์เจ้า วรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ทรงดํ า รงตํ า แหน่งประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครังที่ ๑๑ เมื่อปี ค ศ ๑๙๕๖ นายอานันท์ ปันยารชุน ดํารงตําแหน่งประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับสูงด้านภัยคุกคาม ความท้าทาย และ การเปลี่ยนแปลง วาระปี ค.ศ. ๒๐๐๓ ศ.ดร. เกรียงศักดิ กิตติชัยเสรี ดํ า รงตํ า แหน่งผู้พิพากษาศาล กฎหมายทะเลระหว่างประเทศ
วาระปี
วิลาวรรณ มังคละธนะกุล อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับเลือกตั งให้ ดํ า รงตํ า แหน่งสมาชิกคณะกรรมาธิการกฎหมาย ระหว่างประเทศ (International Law Commission - ILC) วาระปี ค ศ ๒๐๒๓ - ๒๐๒๗ นอกจากการดํารงตําแหน่งสําคัญในสหประชาชาติ ในนามบุคคลแล้ว ประเทศไทยยังได้ดํ ารงตํ าแหน่ง สํ า คัญในองค์กรหลักภายใต้สหประชาชาติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ สมาชิกคณะมนตรีความมันคง แห่งสหประชาชาติ
สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council - HRC) วาระปี ค ศ ๒๐๑๐ - ๒๐๑๓ สมาชิกคณะมนตรีเศรษฐกิจ และสังคมแห่งสหประชาชาติ (Economic and Social Council - ECOSOC) วาระปี ค . ศ . ๒๐๐๕ - ๒๐๐๗ และวาระปี ค.ศ. ๒๐๒๐ - ๒๐๒๒ นอกจ กก รด� รงต� แหน่งส� คญ ในสหปร ช ช ติในน มบุคคลแล้ว ปร เทศไทยยงได้ด� รงต� แหน่งส� คญ ในองค์กรหลกภ ยใต้สหปร ช ช ติ ต่ ง ๆ อย่ งต่อเนื่อง ผู้แทนเย วชนของไทยที่เข้ ร่วมในง นเลี้ยงรบรองเพื่อฉลอง โอก สครบรอบ ๗๕ ปีก รเป็นสม ชิกของไทยในสหปร ช ช ติ ชีวิต/เศรษฐกิจ/สงคม/ สมดุล/ม่นคง/ย่งยืน เงื่อนไขคว มรู้ รอบรู้ รอบคอบ ร มดร วง เงื่อนไขคุณธรรม ซื่อสตย์ สุจริต อดทน แบ่งปัน ท งส ยกล ง คว ม พอปร ม ณ คว ม มีเหตุผล ในตมีภูมิคุ้มกน วเองที่ดี น� สู่ 28
ดร
และสมาชิกคณะกรรมการบริหารองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization Executive BoardUNESCO Ex Board) มาแล้ว ๖ วาระ ครังแรก ระหว่างปี ค ศ ๑๙๕๒ - ๑๙๕๖
ค ศ ๒๐๑๙ - ๒๐๒๓ การที่ไทยได้รับเลือกตังเป็นสมาชิกในกรอบต่าง
สะท้อนบทบาทที่แข็งขัน สร้างสรรค์ และต่อเนื่องของไทยอันเป็นที่ยอมรับ
(United Nations Economic and Social Commission for Asia and the PacificUNESCAP)
UNESCO Asia and Pacific Regional Bureau for Education (UNESCO Bangkok)
า เนินงาน ที่แข็งขัน สร้างสรรค์ และต่อเนื่องของประเทศไทย ในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติที่รักษาสถานะ ความเป็นกลางผ่านการทูตพหุภาคี และเป็นหนึ่งใน ประเทศที่ให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติผ่านความ
และปัจจุบันวาระปี
ๆ ขององค์การระหว่างประเทศ
ของนานาประเทศ โดยไทยได้มีส่วนร่วมในการ กํ า หนดบรรทัดฐานและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ขององค์การนัน ๆ อีกทังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพ และพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรของไทย ในด้านการทูตพหุภาคี ในฐานะประเทศเจ้าบ้าน (host country) ไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางขององค์การ ระหว่างประเทศและการประชุมระหว่างประเทศ ที่สํ า คัญในภูมิภาค โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั งขององค์การในระดับภูมิภาคและสํานักงาน ที่สํ า คัญของสหประชาชาติกว่า ๔๐ หน่วยงาน อาทิ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคม แห่งสหประชาชาติสํ า หรับเอเชียและแปซิฟิก
และ
โดยในโอกาสการพบหารือระหว่าง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศกับเลขาธิการสหประชาชาติ ณ สํ า นักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๖๔ เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวชื่นชมการที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง ของสหประชาชาติในเอเชียอีกด้วย ประเด็นต่าง ๆ ที่หยิบยกมาข้างต้นที่ประเทศไทย ดําเนินการร่วมกับนานาประเทศภายใต้สหประชาชาติ ตลอด ๗๕ ปีที่ผ่านมา แสดงถึงการดํ
ช่วยเหลือทังทางด้านทุนและองค์ความรู้ทางวิชาการ ภายใต้กรอบความร่วมมือต่าง ๆ ของสหประชาชาติ เจ้ หน้ ที่ทห รของไทยแล ทห รจ กน น ปร เทศ ที่เข้ ร่วมปฏิบติภ รกิจรกษ สนติภ พของสหปร ช ช ติ MFA Thailand Channel 29
และสถ า นกงสุลใหญ่ในต่ า งประเทศ ยังจัดทําสื่อวีดิทัศน์เพื่อประชาสัมพันธ์
กระทรวงการต่างประเทศกับ บทบาทการขับเคลื อนอ� านาจละมุน
ปร เทศไทยมีต้นทุนท งว ฒนธรรมแล Soft Power ม กม ย จึงต้องช่วยก นในก รน� เสนอปร เทศไทยออกไปสู่ส งคมโลก ทฤษฎี " อําน า จละมุน " หรือ Soft Power ของ Dr. Joseph Nye นักวิชาการ ท่ า นหนึ่งของสหรัฐอเมริก า ที่พูดถึง ความสามารถในการจูงใจเพื่อให้ได้สิงที่ ต้องการ เป็นการปฏิบัติอย่างแนบเนียน ต่อเนื่อง และซึมลึก โดยไม่ให้รู้ตัว โดยมิได้ต้องใช้อํานาจบังคับ โดยเฉพาะ ท า งก า รทห า ร ตัวอย่ า งอําน า จละมุน เช่น อิทธิพลทางด้านวัฒนธรรม ค่านิยม และนโยบ า ยต่ า งประเทศ ตลอดจน ผลิตภัณฑ์หรือแฟชันต่าง ๆ ที่ส่งอิทธิพล และสร้ า งภ า พลักษณ์ คว า มนิยม ความเชื่อมันและทัศนคติที่ดีต่อประเทศ อันจะนําไปสู่ผลประโยชน์ทางการเมือง และเศรษฐกิจ ประเทศไทยมีสิ งที่เป็น เอกลักษณ์และเป็นที่รู้จักในระดับโลก อยู่หลายอย่าง เราชาวไทยทุกคนจึงควร ช่วยกันส่งเสริมอํานาจละมุนดังกล่าว กระทรวงก า รต่ า งประเทศและ ส่วนร า ชก า รต่ า ง ๆ มีแผนขับเคลื่อน Soft Power ตามแนวทาง 5F ได้แก่ ๑ . Food อ า ห า รไทยเป็นที่รู้จัก และโด่งดังเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยกระทรวงก า รต่ า งประเทศและ หน่วยงานอื่น ๆ ได้จัดกิจกรรมเพื่อร่วม สนับสนุนร้านอาหารไทยในต่างประเทศ อยู่เสมอ รวมถึงโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก นอกจ า กนี้ สถ า นเอกอัครร า ชทูต
และสอนวิธีทําอ า ห า รไทยผ่ า นท า ง ออนไลน์อีกด้วย ๒. Fashion ผ้าไทยเป็นเอกลักษณ์
ผ้าไทยสู่วงการแฟชันในระดับนานาชาติ เช่น ง า น LA Fashion Week ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ และ อีกหลายเมือง โดยกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยง า นที่เกี่ยวข้องได้ส่ง นักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีคว า มส า ม า รถ ไปร่วมงานดังกล่าว และมีการสอดแทรก ความเป็นไทยผ่านการออกแบบผ้าไทย ที่ทันสมัยและได้รับความนิยมอย่างมาก เรียบเรียงจ ก บทสมภ ษณ์ในร ยก ร "รกเมืองไทย" เมื่อวนที่ 7 กุมภ พนธ์ 2565 โดย ณฐวฒน์ นิมิง เจ้ หน้ ที่บริห ร โครงก รปร ช สมพนธ์ กรมส รนิเทศ 30 เรื่อง ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมส รนิเทศแล โฆษกกร ทรวงก รต่ งปร เทศ
(Soft Power) ในเวทีโลก
การแต่งกายของไทย และมีการผลักดัน
31 MFA Thailand Channel
ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่าหนึ่งแสนคน
๓
ที่เกิดจากภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทย
และมวยไทย
า ลังกายที่ได้รับ ความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยกระทรวง การต่างประเทศกํ า ลังดํ า เนินนโยบายผลักดัน มวยไทยสู่เวทีการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น โอลิมปิก และเอเชียนเกมส์ ๔ . Festival เทศกาลไทยเป็นกิจกรรมที่ กระทรวงการต่างประเทศและหลายหน่วยงานรวมทัง ชุมชนไทยในต่างประเทศได้ร่วมกันจัดขึ้นทั วโลก ติดต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน
ที่จัดยิ งใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นที่นครลอสแอนเจลิส
โดยเทศกาลไทยมีการบรรจุไว้ในปฏิทินประจํา ปี ของหลาย ๆ มหานครทัวโลก ๕. Film ภาพยนตร์ ละคร ดนตรีไทย ผู้สร้าง ภาพยนตร์ชาวต่างชาตินิยมเดินทางเพื่อมาถ่ายทํา สิ่งหนึ่งที่น่ ภ คภูมิใจอย่ งม กคือ CEO WORLD MAGAZINE ได้จดอนดบให้ปร เทศไทยเป็น ปร เทศที่ทรงอิทธิพลท งวฒนธรรม อยู่ในอนดบ 5 ของโลก ภาพยนตร์ในประเทศไทย เนื่องจากมีภูมิทัศน์ ที่สวยงามและหลากหลาย รวมทั งมีอุตสาหกรรม ที่สนับสนุน มีบุคลากรที่มีความสามารถ มีความ เชี่ยวชาญ และเป็นที่ไว้วางใจ ปัจจุบัน มีละครซีรี่ย์ ของไทยไปโด่งดังอย่างมากในประเทศจีน จนกระทัง ชุดนักเรียนไทยที่ปรากฏในซีรีย์ดังกล่าวกลายเป็นที่ นิยมในหมู่วัยรุ่นจีนอย่างมาก ตลอดจนปรากฏการณ์ วง 4MIX ของไทย ซึ่งเป็นวง LGBTQ ที่ไปโด่งดังและ มีแฟนคลับติดตามอย่างมากมายในลาตินอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศยังมีกรมความร่วมมือ ระหว่างประเทศที่ดูแลและส่งเสริมความร่วมมือ กับหลายประเทศ ซึ่งถือเป็น Soft Power เช่นกัน เช่น การขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ 32
. Fighting มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้
ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในระดับโลก จนชาวต่างชาติจํานวนมากเดินทางมาประเทศไทย เพื่อมาเรียนมวยไทยเป็นการเฉพาะ
ได้กลายเป็นกิจกรรมการออกกํ
โดยเทศกาลไทย
ในยุโรปและ ญี่ปุ่นก็มีการจัดงานเทศกาลไทยกันมาอย่างต่อเนื่อง
พอเพียงของไทยที่ได้รับความร่วมมือ
และการยอมรับจากหลายประเทศ รวมทังยังมี
มูลนิธิไทย
รวมทั งภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมและผลักดัน
สิ งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างมากคือ CEO World Magazine ได้จัดอันดับให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลทางวัฒนธรรมอยู่ใน อันดับ ๕ ของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงต้นทุน ทาง Soft Power ของไทยที่ต้องมีการคัดสรร และผลักดันเพื่อต่อยอดและส่งเสริมด้าน การตลาดให้ส่งผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ของประเทศ ทั งนี้ ในการพัฒนาและต่อยอด Soft Power ของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องหารือเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านช่วยกันคิดว่า จะขับเคลื่อนแผนดังกล่าวให้ครอบคลุมอย่าง เป็นระบบได้อย่างไรในอนาคต นอกเหนือจาก กระทรวงการต่างประเทศที่กํ า ลังผลักดัน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีส่วนในการขับเคลื่อน Soft Power ในแต่ละด้าน จึงมีความจํา เป็น ที่จะต้องมีแผนยุทธศาสตร์เพื่อการขับเคลื่อน และส่งเสริมซึ่งกันและกันในแต่ละด้านให้ เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของ ประเทศชาติ โดยปัจจัยที่สําคัญมากข้อหนึ่งคือ การดํ า เนินนโยบายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง กระทรวงการต่างประเทศจึงได้จัดทําข้อเสนอแนะ แผนการดําเนินงานด้าน Soft Power ของไทย
๓ ระยะ ได้แก่
หรือ Thailand Foundation ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดตั งขึ้นและ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วัฒนธรรมไทยทั งในและต่างประเทศ โดยมี โครงการสําคัญหลายอย่าง เช่น ๑) Expat Training Program เป็นการจัด อบรมให้กับนักธุรกิจ นักลงทุน นักการทูต และ สื่อมวลชนชาวต่างชาติในไทย เพื่อสร้างการรับรู้ เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยในด้านต่าง ๆ ๒) การจัดทําสื่อการสอนภาษาไทยผ่านสื่อ ออนไลน์ โดยจัดทําเป็นภาษาต่าง ๆ เช่น ลาว จีน เวียดนาม เยอรมัน ญี่ปุ่น รัสเซีย เพื่อเผยแพร่ และสร้างความนิยมการเรียนการสอนภาษาไทย ๓ ) การจัดทํ า วีดิทัศน์เกี่ยวกับงานศิลปะ หัตถกรรม หัตถศิลป์ เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อนําเสนองานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย เช่น การแกะสลักผักและผลไม้ กร ทรวงก รต่ งปร เทศยงมี กรมคว มร่วมมือร หว่ งปร เทศ ที่ดูแลแล ส่งเสริมคว มร่วมมือ กบหล ยปร เทศ ซึ่งถือเป็น SOFT POWER เช่นกน MFA Thailand Channel 33
การปฏิบัติ ส่งเสริมและส่งออก Soft Power ให้ครอบคลุมทุกด้าน สร้างแบรนด์ของประเทศ
๑ . ระยะสั น : วางโครงสร้างและยุทธศาสตร์ โดยจัดตั งกลไกระดับชาติที่ประกอบด้วย หน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุนทังภาครัฐ และเอกชน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อยกระดับการดํ า เนินการด้าน Soft Power เป็นวาระแห่งชาติ กําหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ Soft Power ของไทยที่ชัดเจน และขับเคลื่อน การดําเนินงานอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และบูรณาการ อย่างมีเอกภาพ ๒ ระยะกลาง: ขับเคลื่อนโดยนํานโยบายไปสู่
(nation branding) มุ่งให้อุตสาหกรรม Soft Power เป็นอุตสาหกรรมหลักหนึ่งที่นํ า รายได้ เข้าประเทศเป็นอันดับต้น ๓. ระยะยาว: ทบทวน ปรับปรุง ต่อยอด แสวงหา โอกาสใหม่ โดยให้สอดคล้องกับบริบทภายใน ประเทศและแนวโน้มตลาดโลกที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ การดํ า เนินงานมีประสิทธิภาพยิ งขึ้นและสร้าง รายได้เข้าประเทศเพิมขึ้น ท้ายที่สุด สิงที่อยากฝากถึงประชาชนชาวไทย ในเรื่องการผลักดัน Soft Power คือ การที่ไทย มีต้นทุนทางวัฒนธรรมและ Soft Power มากมาย และมีสิงดี ๆ ในบ้านเมืองเราเยอะมาก เห็นได้ชัดจาก การมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยถึง ๔๐ ล้านคน ดังนั น เราควรผลักดันและต่อยอด สิ งดี ๆ เหล่านี้ต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทําการตลาดให้ได้มากที่สุด ซึ่งสิงเหล่านี้ไม่ได้เป็น หน้าที่ของหน่วยงานรัฐเท่านัน แต่ยังเป็นการบ้าน ของคนไทยทุกคนที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันในการ นําเสนอประเทศไทยออกไปสู่สังคมโลก ภ พยนตร์เรื่อง ฉล ดเกมส์โกง หนึ่งใน Soft Power ไทยที่ดงไปไกลถึงปร เทศจีน 34
ภูมิใจ...
ธรรม ประเทศไทย มีมา แต่ช้านาน ชื่อว่าขวาน ทองไทย ไพศาลทรัพย์ ลุ่มนาดิน ป่าเขา เนาสลับ คณานับ อุดมผล คนทํากิน สังสมภูมิ ปัญญา อารยะ ศิลป วัฒนธรรม ลาในถิน คือวิถี บรรพชน คนอยู่กิน รวมศาสตร์ศิลป์ ยินระบือ ชื่อว่าไทย ทังภาษา โคลงกาพย์กลอน อักษรศิลป์ วิจิตรจินต์ โขนรําฟ้อน สะท้อนสมัย เครื่องคาวหวาน ตามตํารับ สํารับไทย มวยแม่ไม้ อัตลักษณ์ ประจักษ์นาม มารยาท คนอ่อนน้อม กตัญญู บุญคุณรู้ คู่นาใจ ไทยล้นหลาม เอกลักษณ์ คุณค่าไทย ใจงดงาม ประกาศความ ด้วยภูมิใจ ถินไทยธรรม นานาชาติ ที่ขาดแคลน แสนลําบาก พ้นทุกข์ยาก เพราะพึ่งพา ปรัชญาลา แห่งพอเพียง ทฤษฎี ชี้ทางธรรม ไทยผู้นํา พัฒนา พายังยืน ชลทิพา วิญญุนาวรรณ นักการทูตช� า นาญการ (ที่ปรึกษา) กรมสารนิเทศ MFA Thailand Channel 35
ถิน ไทย
พร อ จ รย์อ รยวงโสได้รบนิมนต์จ กเอกอครร ชทูตป กีสถ น ปร จ� ปร เทศไทย เพื่อเยี่ยมชมพุทธศ สนสถ นที่เป็นมรดกโลก 36
Dhamma Diplomacy
ที่ได้ให้ความหมายไว้ดังนี้ “ วิถีธรรม ทางการทูต Dhamma Diplomacy คือ การนําหลักธรรมที่เป็นสัจธรรม อันมีอยู่ ในธรรมชาติที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ มาบูรณาการให้เหมาะควรในประโยชน์ เพื่อการสร้างสรรค์จิตวิญญาณ มวลมนุษยชาติให้สามารถเข้าถึง ประโยชน์แห่งธรรม เพื่อชีวิต เพื่อสังคม ประเทศชาติของตนได้อย่างไม่ติดอยู่ ในกรอบประเพณี วัฒนธรรม ลัทธิ ความเชื่อหรือศาสนาในท้องถิ นของตน โดยมุ่งให้เกิดรูปแบบที่กระชับที่สามารถ มองเห็นได้จริงอย่างเป็นปัจจุบัน เป็นไป ในเชิงรูปธรรม
วิถีธรรมทางการทูต ก รเผยแผ่ศ สน ไปย งปร เทศต่ ง ๆ นอกจ กจ เป็น Soft Power ใหม่ ที่จ ช่วย เสริมสร้ งนโยบ ยท งด้ นก รทูตของไทยแล้ว ย งจ ส่งผลต่อส นติสุขของโลกอีกด้วย ความหมายของ “ วิถีธรรม ทางการทูต” เป็นการแปลวลี Dhamma Diplomacy ได้ตรงดี คํานี้มาจากไหน ต้องให้เครดิต คุณดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศเป็นผู้ใช้คนแรก เพื่อนิยามการเยือนปากีสถานของ พระอาจารย์อารยวังโส เจ้าอาวาสวัดป่า พุทธพจน์หริภุญชัยในพระราชูปถัมภ์ จังหวัดลํ า พูน ตามคํ า กราบนิมนต์ ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐ อิสลามปากีสถานในประเทศไทย ซึ่งดิฉันจะเอ่ยถึงต่อไป ส่วนความหมาย ของ Dhamma Diplomacy นั น ยังไม่มีการนิยามหรือแปลตรง ๆ แต่ดิฉัน
คือ การปรากฏผลที่ สัมผัสจับต้องได้จริงจากการปฏิบัติ 37 MFA Thailand Channel เรื่อง จากบทสัมภาษณ์นางสาวสุจิตรา หิรัญพฤกษ์ ปร ธ นกรรมก รมูลนิธิม ย โคตมี แล อดีตเอกอ ครร ชทูต ณ กรุงเฮก
ขออนุญาตอ้างถึงพระอาจารย์อารยวังโส
และจะเห็นภาพ ผลงาน จากวิถีธรรมทาง
การทูต หรือ Dhamma Diplomacy ต่อไป ในการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตามวิถีธรรม ต้องอาศัยพรหมวิหารธรรม เพื่อประโยชน์และสันติสุขในมนุษยชาติอย่าง เสมอภาคกัน โดยยึดหลักยุติธรรมเป็นสํ า คัญ ที่เน้นความเสมอภาคทางจิตวิญญาณเหนือ วัตถุนิยม หรือความเห็นที่ผูกมัดในกรอบ ความเชื่อจากลัทธิ ศาสนาต่าง ๆ การยกอํานาจ แห่งธรรมด้วยการอ้างอิงสัจธรรมแห่งชีวิต ภายใต้กฏธรรมชาติจะยกระดับสู่มาตรฐานศาสนา สากลที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติได้จริงที่ จะทําให้ทุกคน ทุกสังคม ทุกประเทศ เดินทาง ร่วมกันได้อย่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน วิถีธรรมทางการทูตจึงเกิดขึ้นเพื่อเชื่อมโยง มนุษยชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้จริง ดังปรากฏ เหตุการณ์ระหว่างประเทศอิสลามและประเทศ พุทธศาสนา ปากีสถาน - ไทย ที่พระอาจารย์ อารยวังโส
ให้เห็นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน จับต้องได้ นํามาสู่
า เนินงานร่วมกันต่อไปได้ในทุกมิติทางสังคม เมื่อเกิดความรัก ความไว้วางใจต่อกันและกัน
พระเถระจากคณะสงฆ์ไทยได้กระทํา
ประโยชน์ของประชาชนทุกฝ่ายที่จะสามารถ ดํ
ที่จะให้ผลยิ ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มี ความเข้มแข็ง มันคงทางศาสนา และจิตวิญญาณ...” เป้าหมายของ Dhamma Diplomacy หรือวิถีธรรมทางการทูตคือ การสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้วยการเชื่อมโยง ทางจิตวิญญาณ Dhamma Diplomacy จึงถือเป็น soft power อย่างหนึ่ง เหมือนกับ ที่เรามีนโยบาย Cultural Diplomacy หรือ Culinary Diplomacy แต่ต่างกันตรงที่ จุดมุ่งหมายและวิธีการเป็นการดํ า เนินการ ทางการทูตที่ไม่ได้มุ่งประโยชน์ส่วนตนหรือ วิถีธรรมท งก รทูตไม่ได้หวงผลปร โยชน์ แต่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกเพศทุกวย 38
ของประเทศผู้ดําเนินก า ร แต่มุ่งประโยชน์ ต่อจิตใจของคนหมู่ม า ก
เพื่อสันติสุขของ
ประช า คมโลก เป็นก า รดําเนินนโยบ า ยที่
สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่กําลังเกิดขึ้น ในโลกปัจจุบันในโลกที่ไม่มีพรมแดน
า ฯ ให้มีก า
ฉบับสยามรัฐ และพิมพ์บนกระดาษขึ้นเป็นเล่ม
เป็นครังแรกในโลก และในปี ๒๔๓๖ (ค.ศ. ๑๘๙๓) โปรดเกล้ า ฯ ให้ส่งให้สถ า บันก า รศึกษ า ที่มี
า มเป็น อย่างไร เท่าที่ค้นพบหลายสถาบันยังเก็บรักษา พระไตรปิฎกดังกล่าวเป็นอย่างดี
๒ ต่อม า ในช่วงตอนต้นของปี ๒๕๔๖ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงต่อยอด พระราชดําริดังกล่าว ด้วยการเป็นองค์ประธาน
ภูมิปัญญาทางกฎหมาย มิใช่เพื่อเผยแผ่ศาสนา พุทธแต่อย่างไร
“วิถีธรรมท งก รทูต” เกี่ยวข้องกบ ข้ ร ชก รกร ทรวงก รต่ งปร เทศ อย่ งไร ที่ผ่านมา กระทรวงการต่ างประเทศค่อนข้าง จะระมัดระวังเวลามีการใช้คําว่า "ธรรม" เพราะ คิดว่าต้องเป็นเรื่องทางศาสนา เป็นการเผยแผ่ ศาสนาหรืออะไรทํานองนี้ แต่ถ้ าเราศึกษาจาก งานที่พระสงฆ์ โดยเฉพาะจากพระธรรมทูต หรือ สถานทูต สถานกงสุลของเราทําในประเทศต่าง ๆ จะเห็นว่าความคิดเก่า ๆ นี้แคบและไม่สอดคล้อง กับสิ งที่กําลังเกิดขึ้น ดิฉันจะขอยกตัวอย่ า ง ก า รดําเนินง า นต า มวิถีธรรมท า งก า รทูตที่เห็น ชัด ๆ มาสองสามตัวอย่าง ๑ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้
รจัดทําพระไตรปิฎก
ชื่อเสียงให้ประเทศต่าง ๆ สามร้อยกว่าแห่งทัวโลก อ า ทิ มห า วิทย า ลัยแห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Library of Congress สหรัฐอเมริกา เป็นต้น สําหรับดิฉันแล้ว รัชก า ลที่ ๕ ได้ทรงดําเนิน วิเทโศบายทางการทูตที่ชาญฉลาด โดยใช้ธรรม เป็นเครื่องมือ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าช่วงเวลานัน
า
า นของประเทศสย
สถ
นก า รณ์รอบด้
จัดพิมพ์พระไตรปิฎกป า ฬิเป็นอักษรโรมัน และพระร า ชท า นให้หล า ยสถ า บันที่มีชื่อเสียง ที่สําคัญ คือ ได้พระราชทานให้ศาลโลกเพื่อเป็น
๓. เรามาพูดถึงการดําเนินงานตามวิถีธรรม ทางการทูตโดยพระสงฆ์และพระธรรมทูตบ้าง ก รปร กอบภ รกิจด้วยวิถีธรรม ท งก รทูต โดยพร อ จ รย์ อ รยวงโส เจ้ อ ว สวดป่ พุทธพจน์ หริภุญชย ในพร ร ชูปถมภ์ ล� พูน ๑. เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม - ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ พระอ า จ า รย์อ า รยวังโสได้รับนิมนต์ จากเอกอัครราชทูตปากีสถานประจําประเทศไทย ให้ไปเยือนปากีสถาน เพื่อเยี่ยมชมพุทธศาสนสถาน พร อ จ รย์อ รยวงโสได้มอบร ฆงแห่งสนติภ พให้แก่ พิพิธภณฑ์เมืองเปช ว ร์ แล ได้ล่นร ฆงอย่ งเป็นท งก ร เป้ หม ยของ Dhamma Diplomacy หรือวิถีธรรมท งก รทูตคือ ก รสร้ งคว มสมพนธ์ร หว่ งปร เทศ ด้วยก รเชื่อมโยงท งจิตวิญญ ณ MFA Thailand Channel 39
การด�าเนินการทางการทูตเชิงธรรมที่ไม่ได้เน้นเรื่องศาสนา แต่เน้นเรื่องความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณเพื่อสันติภาพของสังคมโลก
ที่เป็นมรดกโลกในปากีสถาน ทางฝ่ายปากีสถาน มีนโยบาย religious tourism จึงมุ่งหวังว่า ท่านอาจารย์จะให้คําแนะนําและสร้างความมันใจ ให้ชาวโลกได้ว่า ปากีสถานมีความปลอดภัย ในระดับหนึ่งแล้ว ดิฉันได้ร่วมเดินทางไปด้วย จึงได้เห็นวิถีธรรมทางการทูต at work จริง ๆ ทางการปากีสถานได้จัดให้พระอาจารย์
เมืองเก่าแก่ของ แคว้นคันธาระ แหล่งกําเนิดของพระพุทธศาสนา สายมหายาน และมีศาสนสถานทางพุทธ หลงเหลืออยู่จํานวนมาก มีพิธีลันระฆังสันติภาพ อย่างเป็นทางการ มีการออกข่าวทางหนังสือพิมพ์ และทีวีอย่างกว้างขวาง ทั งหมดนี้ เราสามารถ ประมวลได้ว่า การเยือนปากีสถานครั งนี้ ได้สร้างทัศนคติที่ดีในหมู่คนชาวปากีสถาน ต่อประเทศไทย พระไทย คนไทย แม้ว่าเราจะ ต่างศาสนากันก็ตาม อันนี้เป็นการดํ า เนินการ ทางการทูตเชิงธรรมที่ไม่ได้เน้นเรื่องศาสนา แต่เน้นเรื่องความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณ เพื่อสันติภาพของสังคมโลก
พระอาจารย์อารยวังโสได้ตอบสนอง คํ า ขอของทางการท้องถิ นในสองเรื่องด้วยกัน
กล่าวคือ รับจะช่วยการปฏิสังขรณ์พระพุทธรูป ปางปรินิพพานที่วัด Bhamala ที่มีอายุเก่าแก่
เกือบสองพันปี และรับจะช่วยออกแบบ Meditation Hall ที่เจดีย์ Dhammarajika stupa ที่ตักศิลา
การไปเยือนดังกล่าวประสบผลสํ า เร็จมาก ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์สองประเทศ ไม่เพียงแต่ในระดับประชาชนต่อประชาชน แต่กับรัฐบาลด้วย กระทรวงการต่างประเทศ
ได้พบปะสนทนา สร้างความสัมพันธ์กับผู้นําระดับสูง ของปากีสถาน อาทิ ประธานาธิบดี รัฐมนตรี ศาสนา ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ ธนาคารโลก นอกจากนัน พระอาจารย์อารยวังโส ได้มอบระฆังแห่งสันติภาพติดตั งไว้ที่พิพิธภัณฑ์ เมืองเปชาวาร์และตักศิลา
MFA Thailand Channel
การเข้าไปช่วยรักษาทางการแพทย์เป็นกิจกรรมทางด้านมนุษยธรรม อีกหนึ่งภารกิจทางวิถีธรรมทางการทูต ที่ช่วยรักษาพยาบาลให้กับคนท้องถิ่น
ขอยกตัวอย่างการดํ าเนินงานตามวิถีธรรมทางการทูต โดยพระอาจารย์อารยวังโสที่น่าสนใจในอินเดียและจีน ท่านทํ า โดยไม่ได้ขอรับการสนับสนุนจากทางการไทย แต่อาศัยธรรม จึงได้สร้างศรัทธาในหมู่ชาวพุทธอินเดีย
วดไทยได้ริเริ่ม
กิจกรรมท ง
การช่วย สนับสนุนจากสถานทูตอินเดียในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปี
ก็ตามเข้าไปจําพรรษาและก่อสร้างศาสนสถานในบริเวณป่าไผ่
จึงควรใช้ประโยชน์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ครบรอบ ๗๐ ปี ที่เป็นรูปธรรม ๒
และชาวจีน
ง ต่อประเทศไทยและคนไทย การก่อสร้างอุโบสถโอวาทปาติโมกข์ ที่วัดเวฬุวัณ ซึ่งเป็นวัดแรกในพระพุทศาสนา คนที่เคยไปจะเห็นว่า สถานที่ค่อนข้างจะเสื่อมโทรม ไม่เหลือศาสนสถานใด ๆ เลย ท่านใช้เวลาหลายปีมากในการเจรจากับทางการของรัฐพิหาร ในระดับสูง อาศัยการประสานงานของศิษย์ชาวอินเดีย
กว่าทางเขาจะยอมอนุมัติให้ท่านไปจํา พรรษาและก่อสร้าง
ซึ่งมีผลสะท้อนให้พวกเขามีทัศนะคติที่ดียิ
อุโบสถในวนอุทยาน ซึ่งเป็นวิถีธรรมทางการทูตจริง ๆ เพราะทางการอินเดียไม่เคยอนุญาตให้พระสงฆ์จากประเทศใด
ด้ นมนุษยธรรม หล ยกิจกรรม ไม่ว่ จ เป็นก ร สอนภ ษ องกฤษ ให้แก่เด็กท้องถิ่น แล ก รเปิดคลินิก รกษ คนท้องถิ่น 42
Vinaya Monastery of Pune (DVMP) เพื่อเปิดโอกาสให้คนพุทธอินเดียได้เข้ามา
ศึกษาและฝึกอบรมพระธรรมวินัยและ
โอกาสให้คนอินเดียต่างศาสนาที่สนใจเข้ามา ศึกษาอบรมด้วย อันจะนํ า ไปสู่การสร้าง ความเข้าใจระหว่างคนต่างศาสนาต่อไป สํ า หรับการเชื่อมความสัมพันธ์ทาง จิตวิญญาณกับชาวจีนในสาธารณรัฐ ประชาชนจีนนัน พระอาจารย์อารยวังโสได้รับ นิมนต์จากวัดจีนที่เป็นที่ยอมรับจากทางการ จีนหลายแห่งให้ไปบรรยายธรรมและปฏิบัติ ภาวนา จนเป็นที่เรียกขานว่า
ทรงค้นพบ หลังจากที่ได้มีการก่อสร้างวัดไทย ในอินเดียและเนปาลเพื่ออํ า นวยความ สะดวกให้ชาวไทยได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรม และกราบสักการะสังเวชนียสถานมาเป็น
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนฮินดู
วัดไทยได้ริเริมกิจกรรมทางด้านมนุษยธรรม หลายกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการสอนภาษา
อังกฤษให้แก่เด็กท้องถินและการเปิดคลินิก ผู้สูงอายุที่เข้ามารับการรักษาจากภารกิจวิถีธรรมทางการทูต
นั นเลย เพราะเป็นที่ของกรมป่าไม้ของรัฐ ปัจจุบันได้พัฒนาทังเขตเป็นสวนสาธารณะ ตัวอย่างล่าสุดของการใช้วิถีธรรมทางการทูต เพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณของคนอินเดียก็คือ การที่ชาวพุทธอินเดียกลุ่มใหญ่ในเมืองปูเน่ รัฐมหาราช ได้มีศรัทธาอย่างมากต่ออารยวังโส กูรูจี (คําเรียกขานพระอาจารย์) และขออนุญาต ก่อสร้างวัดพุทธเถรวาทตามแบบอย่าง ของวัดพุทธไทย เพื่อถวายพระอาจารย์ให้เป็น สถานที่บ่มเพาะพระสงฆ์อินเดียในพระธรรม วินัยที่เคร่งครัด และจัดอบรมปฏิบัติธรรม โดยงบประมาณจัดหาจากในอินเดียทังหมด รวมทังได้งบประมาณบางส่วนจากทางการด้วย พระอาจารย์ได้ตั งชื่อวัดนี้ว่า Dhamma
หลักธรรมคํ า สั งสอนของสมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า นอกจากนั น วัดแห่งนี้จะเปิด
จังเหล่า หรือ พระอาจารย์ การประกอบภารกิจด้วยวิถีธรรม ทางการทูต โดยพระธรรมทูตไทย ในอินเดียและเนปาล ความจริงคํ า ว่า " ธรรมทูต " ใช้มาตั งแต่ พุทธกาล เป็นคํ า ที่เหมาะสมกับภารกิจ ของพระสงฆ์ที่จาริกไปในประเทศต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่คําสอนการดับทุกข์ที่พระพุทธเจ้า
เวลาหลายสิบปี จนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ คนอินเดียในท้องถิน
คว
ว่ "ธรรมทูต" ใช้ม ต้งแต่พุทธก ล เป็นค� ที่เหม สม กบภ รกิจของพร สงฆ์ที่จ ริกไปในปร เทศต่ ง ๆ เพื่อเผยแผ่ ค� สอนเพื่อก รดบทุกข์ที่พร พุทธเจ้ ทรงค้นพบ MFA Thailand Channel 43
มจริงค�
น ที่ขาดแคลนการรักษาทางการแพทย์ ท่านไม่ได้ทํา เพื่อผลประโยชน์หรือเผยแผ่พระศาสนา แต่เพื่อ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตามหลักคําสอน ของศาสนาพุทธที่ให้เรามีความเมตตากรุณา แก่เพื่อนมนุษย์ที่ประสบความยากลํ า บาก จึงถือได้ว่า เป็นการเชื่อมโยงทางด้านจิตวิญญาน สิงที่ได้รับตอบแทน
จึงเป็นกิจกรรมที่น่าอนุโมทนายิง ทังหมดที่ยก เป็นตัวอย่างเป็นวิถีธรรมทางการทูตโดย พระสงฆ์ไทย ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสันติสุข
รักษาคนท้องถิน เช่น วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ วัดไทยพุทธคยา และวัดไทยภูมิพโล ที่พุทธคยา และโครงการ “Brighter Vision for Nepal” ที่วัดไทยลุมพินีจัดร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ เป็นเวลากว่าสิบปีมาแล้ว เป็นภารกิจที่ท่านทํา
คือ มิตรภาพและไมตรีจิต จากคนท้องถิ น นอกจากนั น ปัจจัยส่วนใหญ่ มาจากการบริจาคของคนไทยในประเทศไทย
ให้เกิดขึ้นในโลก
จึงควรให้ความสําคัญ (Recognition) กับงาน ของพระสงฆ์ เพราะจริง ๆ แล้วท่านได้ทําหน้าที่ แทนกระทรวงการต่างประเทศ วนส�ำคญทำงพร พุทธศำสนำล้วนมี ควำมส�ำคญต่อกำรปฏิบติหน้ำที่ของ ข้ำรำชกำรกร ทรวงกำรต่ำงปร เทศ ที่ปร จ�ำกำรในต่ำงปร เทศ จากประสบการณ์เห็นว่า หลายสถานทูต มีการดํ า เนินวิถีธรรมทางการทูตอยู่แล้ว แต่พวกเราคงจะไม่ได้คิดจะเรียกว่า Dhamma Diplomacy แต่พอเอ่ยกับท่านทูตหลายท่าน ทุกท่านเข้าใจทันทีว่าหมายถึงอะไร ในปัจจุบัน สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ดําเนินนโยบายทางการทูตวิถีธรรมมาโดยตลอด เช่น การไปร่วมในกิจกรรมทางศาสนาที่วัดไทย ซึ่งสร้างความอบอุ่นให้แก่คนไทยที่รู้สึกว่า สถานเอกอัครราชทูตโดยเอกอัครราชทูตหรือ เจ้าหน้าที่ก็ตาม ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทย ไม่ได้ทอดทิ งเขา ยังมีความเป็นห่วงเป็นใย ก รเยือนป กีสถ นปร สบผลส� เร็จม กในก รเสริมสร้ งคว มสมพนธ์ร หว่ งสองปร เทศ ไม่เพียงแต่ในร ดบปร ช ชนต่อปร ช ชน แต่ส่งผลไปยงคว มร่วมมือกบรฐบ ลด้วย ภ รกิจที่ท่ นท� เพื่อช่วยเหลือคนท้องถิ่น ที่ข ดแคลนก รรกษ ท งก รแพทย์ ท่ นไม่ได้ท� เพื่อผลปร โยชน์หรือเผยแผ่ ศ สน แต่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ 44
เพื่อช่วยเหลือคนท้องถิ
ซึ่งแสดงถึงความเอื้ออารีของคนไทยด้วย
กระทรวงการต่างประเทศ
๑ . ไทยเป็นประเทศที่ประชาชนนับถือ
อิสลาม คริสเตียน ฮินดู ซิกส์ และ อาจจะมีผู้นับถือศาสนาอื่น
ความสมานสามัคคี คนไทยจึงมีความเข้าใจ เกี่ยวกับการเชื่อมโยงทางจิตวิญญานระหว่างกัน ซึ่งเป็น asset ที่มีคุณค่าความเป็นคนไทย Dhamma Diplomacy จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ดิฉันจึงอยากเห็นกระทรวงการต่างประเทศ ประกาศให้ Dhamma Diplomacy เป็น Soft Power ใหม่ ที่จะช่วยเสริมสร้างนโยบาย ทางด้านการทูตของไทยให้ดําเนินไปเพื่อสันติสุข ของโลก พูดโดยสรุป คือ อยากเห็นกระทรวง การต่างประเทศมีบทบาทนํ า ในการแสวงหา สันติภาพของโลก โดยอาศัย asset ที่มี ซึ่งกระทําได้ในทุกระดับ
โรงพย บ ลพร พุทธเจ้ (Buddha Hospital) ณ วดไทยพุทธคย เมืองพุทธคย รฐพิห ร ปร เทศอินเดีย ในสารทุกข์สุขดิบของคนไทย พระท่านก็ดีใจ ที่มีตัวแทนจากสถานทูตและสถานกงสุลมาร่วม แสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนพุทธที่ดี การไปวัด ทําให้ได้พบคนไทย เป็นสิงที่ดิฉันทําเป็นประจํา ตอนสมัยยังรับราชการอยู่ สิงที่เราทําเข้าถึงจิตใจ และจิตวิญญาณของคนไทย ยกตัวอย่างกิจกรรมที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล เชื่อมสายสัมพันธ์กับคนไทย ในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์มาตลอดเกือบ ๒ ปี ในช่วงโควิด เป็นโครงการออนไลน์ที่ให้โอกาส คนไทยจากหลากหลายอาชีพ หลายสถานะ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในช่วงโควิด ให้คนไทยอื่น ๆ ได้ทราบ และยังนิมนต์พระสงฆ์ ให้โอวาทธรรมบํ า รุงจิตใจของคนที่รับชม ต้องชื่นชมเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลและ เจ้าหน้าที่สถานทูตมากที่คิดโครงการนี้ขึ้นมา คือ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์ คนของเราก็สนุกไปด้วยกับสิงที่ทํา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม เป็นอีกหนึ่งสถานทูตที่ได้ใช้ธรรมมาสร้าง สายสัมพันธ์กับชาวพุทธท้องถิ นและในยุโรป เผอิญได้ข้อมูลเพียงโครงการเดียว คือ การจัด สัมมนาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาไร้พรมแดน ทางวัฒนธรรม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมโยง จิตวิญญาณของชาวพุทธจากหลากหลาย เชื้อชาติเพื่อสันติสุขโลก นับเป็นกิจกรรมที่ควร อนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิง สิ่งที่อยากจะเห็นจาก กระทรวงการต่างประเทศ
ศาสนาพุทธ
ๆ ที่อยู่ร่วมกันด้วย
๒ พิจารณาศึกษาว่า จะสนับสนุนการดําเนิน วิถีธรรมทางการทูตโดยพระสงฆ์ที่กล่าวถึงที่เป็น รูปธรรมอย่างไรได้บ้าง
๓
ในโลก MFA Thailand Channel 45
เพื่อให้การทํา งานของ ท่านในต่างประเทศราบรื่นและบรรลุเป้าหมาย ที่วางไว้
ควรชู Dhamma Diplomacy ให้เป็น เครื่องมือในการนํ ามาซึ่งสันติภาพและสันติสุข
46 เรื่อง พิมพ์พิรีย์
อัครราชทูตที่ปรึกษา
มณีรัตน์
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล
นักการทูตไทยในเอธิโอเปีย ตอนที ๑๔ อ� าลาอาลัย หล งจ กที่คุณชวนได้ใช้ชีวิตเป็นน กก รทูตอยู่ที่ปร เทศเอธิโอเปียเป็นเวล 4 ปี ก็ถึงคร วที่ต้องล จ ก เนื่องจ กกร ทรวงก รต่ งปร เทศมีค� ส่งให้ปิดสถ น เอกอ ครร ชทูต แต่ก็มีเรื่องร วม กม ย หล กหล ยคว มทรงจ� ย งอยู่ ณ ที่แห่งนี้ MFA Thailand Channel 47
๒๕๑๐ ซึ่งเป็น ปีสุดท้ายที่คุณชวนต้องประจํา การอยู่ สังคมนักการทูตต่างชาติเริมคึกคักขึ้น
ท่านเอกอัครราชทูตคนล่าสุดเสียชีวิตด้วยโรค หัวใจวายฉับพลันในเช้าวันหนึ่ง ครอบครัวของ ท่านเอกอัครราชทูตและชุมชนนักการทูต ต่างชาติในเอธิโอเปียต่างเสียใจ เนื่องจาก ท่านเอกอัครราชทูตเป็นคนดี มีคนเคารพนับถือ มากมาย ภริยาท่านเอกอัครราชทูตเศร้าโศกเสียใจมาก
ประกอบพิธีทางศาสนาที่เมืองไทย จึงขอให้คุณชวน
ช่วยจัดการให้ โดยภริยาท่านเอกอัครราชทูต และครอบครัวตั งใจจะกลับประเทศไทย อย่างถาวรพร้อมกัน
เพราะนอกจากท่านเอกอัครราชทูต แล้วก็ยังมีเพื่อนร่วมงานเพิ
ความรู้สึกว่าเราอยู่อย่างอ้างว้างตัวคนเดียว ในสภาพแวดล้อมที่ยากลํ า บากขัดสนนั น
ป
ๆ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ส่ง คุณบุญทอง
มมาอีก ๑ คน ส่วนวันว่างคุณชวนยังคงสนุกกับการขับรถ ท่องเที่ยว เดินป่า หัดยิงปืน ตกปลา และ ซ่อมรถยนต์ คุณบุญทอง มาทํา งานที่เอธิโอเปียไม่นาน ก็เดินมาบอกคุณชวนวันหนึ่งว่า “ ผมไม่รู้ คุณทําได้อย่างไร ถึงอยู่ได้มาถึง ๔ ปี สําหรับผม เดือนแรกผมก็แย่แล้ว ในชีวิตลูกผู้ชายอย่างผม ผมไม่เคยร้องไห้เลยแม้แต่ครังเดียว แต่ตั งแต่ มาอยู่ที่นี่ ผมนอนน ํ าตาไหลทุกคืนเลย” คุณชวน พยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะไม่มาอยู่เอธิโอเปียเอง คงไม่เข้าใจว่า ความเหงาแบบสุดหัวใจ หรือ
เป็นอย่างไร
ระเทศเอธิโอเปียในปี
หลายประเทศมาเปิดสถานเอกอัครราชทูต บรรยากาศการทํางานไม่เงียบเหงาเช่นปีแรก
มาประจําที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัดดิสอะบาบาด้วย คุณชวนจึงหายเหงา ไปได้มาก
ในปีสุดท้ายของคุณชวนที่เอธิโอเปีย เช้าวันหนึ่งก็เกิดเหตุเศร้าสลดไม่คาดฝันขึ้น
และต้องการนําศพท่านเอกอัครราชทูตกลับไป
ในปี ๒๕๑๐ คุณชวนได้พยายามติดต่อหา ร้านรับทํา หีบศพและสายการบินในกรุงอัดดิส อะบาบาแล้ว ก็ไม่มีบริการรับต่อหีบศพหรือ คุณชวนร หว่ งท� หน้ ที่อยู่ในสถ นทูต บรรย ก ศของถนนในปร เทศเอธิโอเปีย สมยที่คุณชวน ยงปร จ� อยู่ที่สถ นเอกอครร ชทูต ณ กรุงอดดิสอ บ บ 48