รายงานผลการดำเนินงานของนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง

Page 1

รายงานสรุปผลการดาเนินงาน ของ นิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง

นิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ โทรศัพท์ 038 – 636105 โทรสาร 038 – 636455


สารบัญ หน้า ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดระยอง - ขนาดที่ตั้ง / การปกครอง - แผนที่จงั หวัดระยอง - ข้อมูลประชากร และจานวนบ้านจังหวัดระยอง

ส่วนที่ 2 ยุทธศาสตร์กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ / จังหวัดระยอง / นิคมสร้างตนเอง - ยุทธศาสตร์กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ - ยุทธศาสตร์จังหวัดระยอง - ยุทธศาสตร์นิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง ส่วนที่ 3 ข้อมูลทั่วไปอาเภอนิคมพัฒนา - ขนาดที่ตั้ง / การปกครอง - แผนที่จงั หวัดระยอง - ข้อมูลประชากร และจานวนบ้านจังหวัดระยอง

ส่วนที่ 4 ข้อมูลทั่วไปของนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง -

ความเป็นมาของงานนิคมสร้างตนเอง ขัน้ ตอนการจัดนิคมสร้างตนเอง โครงสร้างการบริหารงานนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง ลักษณะของการจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง พื้นที่นิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง ที่ตั้งและอาณาเขตที่ตั้ง การจาแนกพื้นที่ในนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง การบรรจุสมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง สภาพเศรษฐกิจ แผนการดาเนินงานและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจาปี 2556 ผลการดาเนินการตามโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณปี 2556


ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดระยอง ระยอง....เป็ น จั ง หวั ด ขนาดเล็ ก แห่ ง หนึ่ ง ในภาคตะวัน ออกของประเทศ เป็ น ที่ รู้ จั ก ในปั จ จุ บั น ว่ า เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีผลไม้ชั้นยอด เป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ มีสภาพเศรษฐกิจดี มีรายได้ ต่อหัวประชากรสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ คือ 1,143,740 บาท/ คน ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) เท่ากับ 672,104 ล้านบาท ซึ่งมาจากสาขาการผลิตด้านอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ กว่าร้อยละ 92 แต่เดิมจังหวัดระยองเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองผลไม้ดีของภาคตะวันออ ไม่ว่าจะเป็นมังคุด ทุเรีย น เงาะ รวมทั้งอาหารทะเลสด แปรรูป กะปิ น้​้าปลา เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศที่เอื้ออ้านวย และสภาพภูมิประเทศ ที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม มีชายหาดยาวสวยเลียบขนานไปกับอ่าวไทย และเกาะสวยงามระดั บ โลก เช่ น เกาะเสม็ ด ที่ รู้ จั ก กั น แพร่ ห ลายท่ า มกลางนั ก ท่ อ งเที่ ย วชาวไทยและ ชาวต่างประเทศฐานเศรษฐกิจที่ส้าคัญของจังหวัด คือ ภาคเกษตรกรรม การท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม (ข้อมูลสรุปจังหวัดระยอง ปี 2553) จั ง หวั ด ระยองเริ่ ม มี ก ารเปลี่ ย นแปลงเป็ น จั ง หวั ด อุ ต สาหกรรม นั บ ตั้ ง แต่ ค้ น พบก๊ า ซธรรมชาติ ในอ่าวไทยเมื่อปี พ.ศ. 2520 เป็นการเริ่มต้นยุค “โชติช่วงชัชวาล” และเป็นที่มาของ “โครงการพัฒนาพื้นที่ ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก” ( Eastern Seaboard Development Program ) ในปี 2524 ช่วงระยะเวลาเกือบ 30 ปี ท้ า ให้ โ ครงสร้ า งทางเศรษฐกิ จ ของจั ง หวั ด ระยองเปลี่ ย นเป็ น อุ ต สาหกรรมน้ า การท่ อ งเที่ ย วและ เกษตรกรรม ประวัติเมืองระยอง ระยองเริ่มปรากฏ ชื่อในพงศาวดาร เมื่อ ปี พ.ศ.2113 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่ง กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยา โดยมี ป ระวั ติ ดั้ ง เดิ ม ตามข้ อ สั น นิ ษ ฐานว่ า น่ า จะก่ อ ตั้ ง เมื อ งขึ้ น เมื่ อประมาณ พ.ศ. 1500 ยุคที่ขอมมีอ้านาจเฟื่องฟูแถบดินแดนสุวรรณภูมิ นักโบราณคดีได้สันนิษฐานจากหลักฐานที่พบคือ ซากศิ ล าแลงและคู ค่ า ย ที่ ยั ง หลงเหลื อ อยู่ ใ นเขตอ้ า เภอบ้ า นค่ า ย อั น เป็ น ศิ ล ปะการก่ อ สร้ า งแบบขอม โดยในสมั ย โบราณ “ระยอง” มี ช นพื้ น เมื อ งคื อ ชาวซอง ซึ่ ง เป็ น เผ่ า ที่ อ าศั ย อยู่ ก ระจาย โดยทั่ ว ไป ในภาคตะวันออก ในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงเมืองระยองในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาระหว่างที่ กรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ในสมั ย พระเจ้ า เอกทั ศ น์ ในเดื อ นยี่ ปี พ .ศ.2309 พระยาวชิ ร ปราการ หรื อ พระยาตาก พร้อมไพร่พลประมาณ 500 คน ได้ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า มุ่งสู่ภาคตะวันออกมาหยุดพักไพร่พลที่เมืองระยอง และได้ปราบปรามคณะกรรมการเมืองที่แข็งข้อยึดเมืองระยองได้จากความสามารถครั้งนั้นทหารจึงยกย่อง สถาปนาพระยาตากขึ้นเป็น "เจ้าตากสิน" เมื่อ พ.ศ. 2310 ณ วัดลุ่มมหาชัยชุมพล เมืองระยอง ก่อ นเดินทัพ ไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อยึดที่ดินในการกอบกู้อิสรภาพคืนจากพม่าได้ในปี พ.ศ.2113 -/ ตราสัญลักษณ์..........


ตราสัญลักษณ์ประจาจังหวัด เกาะในภาพ คื อเกาะเสม็ด ซึ่ง อยู่น อกฝั่ง ของต้ า บลเพ อ้ า เภอเมื อ งระยอง เป็ น เกาะที่ มี มะพร้าวมาก หาดทรายขาวสะอาดเหมือนน้​้าตาลทราย พลับพลาในภาพ หมายถึง พลับพลาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ให้สร้างไว้เป็นที่ประทับระหว่างเสด็จพระพาสเกาะนี้ คาขวัญประจาจังหวัด

“ผลไม้รสล้า อุตสาหกรรมก้าวหน้า น้าปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภู่กวีเอก” สีประจาจังหวัด สีแดง

หมายถึง สีนักสู้ ที่พระเจ้าตากได้กอบกู้ประเทศชาติพักกองทัพที่ใต้ตน้ สะตือ วัดลุ่ม จังหวัดระยอง สีเหลือง หมายถึง สีรักชาติ สีน้าเงิน หมายถึง สีแห่งความสดใส สีแห่งความเย็น หมายถึงสีของน้​้าทะเล ซึ่งจังหวัดระยองมีทางติดทะเลยาวไกลถึง 100 กิโลเมตร -/ ต้นไม้ประจ้าจังหวัด...


ต้นไม้ประจาจังหวัด

ต้นประดู่

ดอกไม้ประจาจังหวัด

ดอกประดู่

ต้นไม้พระราชทาน

ต้นสารภีทะเล

2. ขนาดและที่ตั้ง จังหวัดระยองมีพ้ืนที่ประมาณ 3,552 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,220,000 ไร่ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออก ของประเทศไทยระหว่างเส้นรุ้งที่ 12-13 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 101-102 องศาตะวันออก ห่างจาก กรุงเทพฯ ประมาณ 179 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้ ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก

ติดต่อกับเขตอ้าเภอหนองใหญ่ อ้าเภอบ่อทอง และอ้าเภอศรีราชา ของจังหวัดชลบุรี จดทะเลอ่าวไทย พืน้ ที่ฝงั่ ทะเลยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ของอ่าวไทย ติดต่อกับเขตอ้าเภอท่าใหม่ อ้าเภอนายายอาม ของจังหวัดจันทบุรี ติดต่อกับเขตอ้าเภอสัตหีบ อ้าเภอบางละมุง ของจังหวัดชลบุรี -/ แผนที่ท่องเที่ยว...


3. สภาพภูมิประเทศ ภูมปิ ระเทศ เป็นที่ราบชายฝั่งที่เกิดจากการทับถมของตะกอนบริเวณแอ่งลุ่มน้​้าระยอง และที่ลาดสลับ เนินเขาและภูเขา มีลักษณะเป็นลอนลูกคลื่นสูงต่้าสลับกันไป โดยมีพื้นที่ ทิวเขา 2 แนว คือ ทิวเขาชะเมาทาง ทิศตะวันออก ซึ่งสูงจากระดับน้​้าทะเล 1,035 เมตร และทิวเขาที่อยู่ประมาณกึ่งกลางของตัวจังหวัดเป็นแนว ยาวจากอ้าเภอเมืองระยองขึน้ ไปทางเหนือจนสุดเขตจังหวัด มีแม่น้าสายสั้นๆ ซึ่งเกิดจากเทือกเขาจันทบุรีและ เทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่อ่าวไทย แม่น้าที่ส้าคัญ ได้แก่ แม่น้าบางประกง แม่น้าจันทบุรี แม่น้าระยอง เป็นต้น ลักษณะชายฝั่งทะเลมีหาดทรายสวยงามและมีเกาะใหญ่น้อยเรียงรายเลียบตามแนวชายฝั่งนับเป็นทรัพยากร การท่องเที่ยวที่ส้าคัญของประเทศ 4. ลักษณะภูมิอากาศ จังหวัดระยองมีลักษณะภูมิอากาศ แบบมรสุมเขตร้อน ลมทะเลพัดผ่านตลอดปี อากาศอบอุ่นไม่ร้อน จัด บริเวณชายฝั่งทะเลเย็นสบาย ในฤดูฝนจะมีฝนตกชุกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี สามารถ เก็บน้​้าไว้ในอ่างเก็บน้​้าเพียงพอส้าหรับการใช้อุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมได้ตลอดทั้งปี

-/ 5. การปกครองและประชากร...


5. การปกครองและประชากร แบ่งเขตการปกครองเป็น 8 อ้าเภอ โดยประกอบด้วย 54 ต้าบล 439 หมู่บ้าน 80 ชุมชน ส่วนด้านการ ปกครองท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลต้าบล 24 แห่ง และองค์การบริหารส่วนต้าบล 40 แห่ง ประชากรของจังหวัดระยอง ณ ธันวาคม 2553 มีทั้งสิน้ 626,403 คน เป็นชาย 309,014 คน คิดเป็นร้อยละ 49.33 เป็นหญิง 317,388 คน คิดเป็นร้อย ละ 50.67 ของประชากรทั้งหมด อ้าเภอที่มีประชากรมากที่สุด คือ อ้าเภอเมือง มีจ้านวน 245,921 คน อ้าเภอที่มีประชากรน้อยที่สุด คือ อ้าเภอเขาชะเมา มีจ้านวน 23,324 คน จ้านวนครัวเรือนทั้งจังหวัดรวม 323,056 ครัวเรือน อ้าเภอเมืองระยองมีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุด คือ 486.03 คนต่อหนึ่งตาราง กิโลเมตร รองลงมาคือ อ้าเภอบ้านฉาง 261.91 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร อ้าเภอที่มีประชากรหนาแน่นน้อย ที่สุด คืออ้าเภอวังจันทร์ 64.67 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร จากการคาดการณ์ว่าประชากรของจังหวัดระยอง จะเพิ่มเป็น 638,017 คนในปี 2560 แต่ในสภาพความเป็นจริง จังหวัดระยองมีประชากรมากกว่าตัวเลขใน ทะเบียนราษฎร์ไม่ต่้ากว่า 300,000 คน ทั้งนี้เกิดจากการอพยพเข้ามาในแรงงานภาคอุตสาหกรรมและการ บริการ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึน้ อย่างรวดเร็วตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม 6. สถานที่ท่องเที่ยว 1. ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตะพง

เส้นทางจักรยานท่องเที่ยวตะพง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุ รักษ์ ในเขตต้าบลตะพง อ้าเภอเมือง ระยองมีเส้นทางจักรยานท่องเที่ยว ได้แก่ เส้นทางที่เริ่มจาก องค์การบริหารส่วนต้าบลตะพงผ่านกลุ่มเกษตร ข้าวกล้อง อ่างเก็บน้​้าห้วยหินดาด และไปสิ้นสุดที่โครงการบ้านปลา โดยองค์การบริหารส่วนต้าบลตะพงมี จักรยานไว้บริการให้นักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตะพง โทร. 0 3866 4053 นอกจากนี้ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์อยู่ในสวนปาหนัน หมู่ 3 ต้าบลตะพง อ้าเภอเมืองระยอง อัตราค่าที่ พัก 350 บาท/คน/คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อ, บ้านพัก พักได้ 25 คน ราคา 1500 บาท (ไม่รวม ค่าอาหาร) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สวนปาหนัน โทร. 0 3866 4477, 08 1300 9018 -/ 2. บ้านเพ...


2. บ้านเพ

อยู่หา่ งจากตัวเมืองระยอง 19 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 231 ไป ประมาณ 5 กิโลเมตร หรือแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 238 ประมาณ 3 กิโลเมตร มีร้านขายของพื้นเมืองต่าง ๆ เช่น น้​้าปลา ปลาหมึก กุ้งแห้ง กะปิ ฯลฯ และเป็นที่ตั้งของท่าเรือไปเกาะเสม็ด และท่าเทียบเรือประมงด้วย 3.พระเจดีย์กลางน้า

ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้ 2 กิโลเมตร ใกล้ปากแม่น้าระยอง องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้า ระยอง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2416 โดยพระยาศรีสมุทรโภคชัยโชค ชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เจ้าเมืองระยองคน แรกเป็นผู้สร้าง เจดีย์กลางน้​้า เป็นเจดีย์ก่ออิฐฉาบปูน ทรงระฆัง สูงประมาณ 10 เมตร นี้ใช้เป็นสัญลักษณ์ของ ชาวเรือว่าได้เดินทางมาถึงเมืองระยองแล้ว ใกล้ ๆ กันยังเป็นป่าชายเลนที่มตี ้นโกงกางหนาแน่น มีสะพานไม้คด เยวเข้าไปด้านใน ปลายสุดของศาลาเป็นจุดชมวิวที่ให้นั่งชมบรรยากาศของปากน้​้าระยอง พอถึงวันเพ็ญเดือน สิบสองของทุกปีจะมีงานประเพณีหม่ ผ้าพระเจดีย์ แข่งเรือยาว และงานลอยกระทง -/ 4. พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน...


4. พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน

ตั้งอยู่ที่วัดบ้านดอน เป็นที่เก็บรักษาตัวหนังใหญ่ จ้านวน 100 ตัว มีอายุมากกว่า 200 ปี ที่น้ามาจาก จังหวัดพัทลุง เมื่อ ปี พ.ศ. 2431 รวมถึงหนังใหญ่ชุดใหม่ที่ใช้แสดงในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเข้าชมการ แสดงหนังใหญ่ควรติดต่อก่อนล่วงหน้าประมาณ 3 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 08 5087 0235, 08 9831 6053 5. วัดป่าประดู่

อยู่ในเขตเทศบาลนครระยอง ข้างโรงพยาบาลระยอง ถนนสุขุมวิท เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ภายในวัดมีสิ่งที่ น่าสนใจ ได้แก่ วิหารพระปาลิไลยก์ พระปางปาลิไลยก์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่คู่ กับวัดนี้เช่นเดียวกับ พระพุทธไสยาสน์ องค์พระสูง 6.02 เมตร ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2501 พระพุทธ ไสย์ ย าสน์ เป็ น พระพุ ท ธไสยาสน์ ซึ่ ง ประทั บ อยู่ ใ นท่ า นอนตะแคงซ้ า ย องค์ พ ระท้ า ด้ ว ยอิ ฐ ถื อ ปู น เดิมอยู่กลางแจ้ง ต่อมาสร้างวิหารครอบเมื่อปี พ.ศ. 2524 ความยาว 11.95 เมตร โบสถ์ หลังเก่า พระครูสมุทสมานคุณและชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2449 การก่อสร้างใช้รูปแบบของสถาปัตยกรรม ในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีหลังคาซ้อนกันสองชั้นประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา / นอกจากนี.้ ..


นอกจากนี้ ยั ง มี ก ารผสมผสานศิ ล ปกรรมแบบจี น โดยเฉพาะลวดลายปู น ปั้ น ที่ห น้ า บั น ของโบสถ์ การเดินทาง สามารถใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก จากถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านตัวเมือง จังหวัดระยองจุดสังเกตคือ ผ่านโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนป่าประดู่ จะถึงวัดป่าประดู่ เส้นทางที่ 2 จากถนนสาย 36 (บายพาส) ถึงสี่แยกเกาะลอย ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนจันทอุดม ผ่านตัวเมืองจังหวัดระยอง พอถึงสามแยกโรงพยาบาลให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ แล้วเลีย้ วซ้ายเข้าซอยถนนป่าประดู่จะเห็นวัดป่าประดู่ 6. วัดสารนารถธรรมาราม

อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 265 ถนนสุขุมวิท ต้าบลทางเกวียน ปากทางเข้าอ้าเภอแกลง แยกซ้ายเข้าไป ประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2488 มีมหาอุโบสถปูชนียสถานที่สวยงาม เป็นสถานที่บรรจุพระบรม สารีริกธาตุและพระพุทธรูป องค์พระประธานจ้าลองมาจากพระพุทธชินราช วัดมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก บริเวณมุมก้าแพงแก้วรอบอุโบสถทั้ง 4 ได้จ้าลองเอาพระพุทธเจดีย์ที่ส้าคัญของแต่ละภาคไว้ คือ พระปฐม เจดีย์ พระธาตุพนม พระเจดีย์พุทธคยาจ้าลอง และพระบรมธาตุไชยา 7. วัดโขดทิมธาราม

ตั้งอยู่ที่ต้าบลท่าประดู่ สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2007 ผูส้ ร้างชื่อทิม เป็นเจ้าเมืองระยองในสมัย นั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนัง และหลวงพ่อขาวที่เป็น ที่เคารพสักการะบูชาของชาวระยอง และมีการจัดงานบูชานมัสการประจ้าปี ในวันที่ 13-14 เมษายนของทุกปี -/ 8. ศาลสมเด็จ...


8. ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ

อยู่ตรงข้ามกับทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ตรงกิโลเมตรที่ 278 เลี้ยวขวา เข้าไปประมาณ 10 กิโลเมตร หรือจะเข้าทางถนนที่เข้าสู่ปากน้​้าประแสร์ก็ได้ ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อ เท่ า องค์ จ ริ ง ของพลเรื อ เอกพระเจ้ า บรมวงศ์ เ ธอกรมหลวงชุ ม พรฯ พระบิ ด าแห่ ง กองทั พ เรื อ ไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองระยอง 6. ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น

1. งานประเพณีกีฬา-ชิมปลาทะเลนึ่งบ้านฉาง จัดโดยเทศบาลต้าบลบ้านฉาง ช่วงเดือนมีนาคม ณ สนามกีฬาเทศบาลต้าบลบ้านฉาง อ้าเภอบ้านฉางจังหวัด ระยอง 2. งานวันเกาะแก้วพิสดาร เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวและหอการค้าจังหวัดระยอง เพื่อเป็นการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวของจังหวัด โดยจัดขึน้ ในเดือนเมษายน ที่เกาะเสม็ด มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การแข่งขันว่ายน้​้า แข่งขันตกปลา แข่งขันกีฬาทางน้​้า และกีฬาพื้นบ้าน และออกร้านจ้าหน่ายสินค้าพื้นเมือง 3. งานเทศกาลผลไม้และของดีเมืองระยอง เป็นงานเทศกาลประจ้าปีที่จัดในช่วงฤดูผลไม้ ประมาณเดือนพฤษภาคมสถานที่จัดงาน จะสลับหมุนเวียนกัน ระหว่าง อ้าเภอเมืองระยองกับ อ้าเภอแกลง ในงานมีขบวนแห่รถ ประดับด้วยผลไม้ การประกวดผลไม้ ประกวดธิดาชาวสวน การจ้าหน่ายผลไม้และ ผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเล ตลอดจนการแสดงนิทรรศการ ด้านเกษตร 4.งานวันสุนทรภู่ จัดเป็นประจ้าทุกปี ในวันที่ 26 มิถุนายน บริเวณอนุสาวรีย์สุนทรภู่ อ้าเภอแกลง มีพธิ ีสักการะอนุสาวรีย์สุนทร ภูใ่ นช่วงเช้า ชมนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานและการแสดง ละครในวรรณกรรมของสุนทรภู่ และการแข่งขันอ่าน ท้านองเสนาะ / 5. งานพระเจดีย์...


5. งานพระเจดีย์กลางน้า เป็นงานประเพณีที่จัดขึน้ เป็นประจ้าทุกปี ในช่วงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ณ วัดปากน้​้า อ้าเภอเมือง ในงานมีพธิ ี ห่มผ้าพระเจดีย์กลางน้​้า การแข่งขันเรือยาว การลอยกระทง และการแสดงมหรสพต่าง ๆ 6. งานปีใหม่และงานกาชาด จัดขึน้ ระหว่างปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม จัดขึน้ ระหว่างปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัด ในงานมีการแสดงนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน การ จ้าหน่ายสินค้า 7. งานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและงานกาชาดจังหวัดระยอง วันที่จัดงานปลายเดือน ธ.ค. ถึงต้นเดือน ม.ค. ถือว่าเป็นงานประจ้าปีของชาวระยอง และถือเป็นงานส่งท้ายปี เก่า ต้อนรับปีใหม่ก็ได้ มีการออกร้าน ขายสินค้า อาหาร การแสดงที่น่าสนใจ บริเวณที่จัดงานที่สวนศรีเมือง 8. เทศกาลเที่ยวทะเลหาดบ้านเพ-เกาะเสม็ด จัดขึน้ ระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคมของทุกปี มีกิจกรรมภายในงานได้แก่ การล่องเรือรอบเกาะเสม็ด มหกรรม อาหารทะเล การประกวดธิดาชาวเล สถานการณ์ด้านสังคม ระยอง เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออก แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อ้าเภอ 58 ต้าบล การปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลต้าบล 24 แห่ง องค์การบริหารส่วนต้าบล 40 แห่ง มีประชากรชาย 309,014 คน หญิง 317,388 คน รวม 626,403 คน จ้านวนครัวเรือนทั้งหมด 323,056 ครัวเรือน (ข้อมูลระบบทะเบียนราษฎร์ จังหวัดระยอง ณ เดือนธันวาคม 2552) รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชาชนเพิ่มขึน้ เป็น 1,143,740 บาท/คน/ปี สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

-/ จังหวัดระยอง...


จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดที่มีการประกอบอาชีพแบ่งเป็น

4

กลุ่ม ซึ่งจังหวัดระยองมีพื้นที่

- ด้านการเกษตรกรรม 1,512608 ไร่ จากพื้นที่ทั้งจังหวัด 2,220,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 66 ของ พืน้ ที่ทั้งจังหวัด มีครัวเรือนเกษตรจ้านวน 49,377 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 16 ของจ้านวนครัวเรือนทั้งหมด ของจังหวัด พืชเศรษฐกิจที่ส้าคัญ ได้แก่ ยางพารา สัปปะรด มันส้าปะหลัง ข้าว ปาล์มน้​้ามัน อ้อย ผลไม้ต่างๆ และมีผลไม้ที่ข้ึนชื่อประเทศ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ล้าไย ลองกอง สละ ฯลฯ - ด้านการประมง เนื่องจากระยองมีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 100 กิโลเมตรเศษ การประกอบอาชีพ ประมงน้​้าเค็มจึงเป็นอาชีพส้าคัญอีกอาชีพหนึ่ง มีทั้งประมงน้​้าจืดและน้​้ากร่อย โดยมีเนื้อที่ท้าการประมงทะเล ประมาณ 1,500,000 ไร่ และมีประมงน้​้าจืดประมาณ 63,080 ไร่ ปัจจุบันมีครัวเรือนท้าการประมง 2,256 ครัวเรือน มีเรือประมงจ้านวน 813 ล้า ท่าเรือประมง 45 ท่า - ด้านการท่องเที่ยว ระยองมีแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่ หลากหลายทั้งน้​้าตก ภูเขา ทะเล เกาะแก่งต่างๆ และ ศิลปวัฒนธรรม ท้าให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจ้านวนมาก แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยว นิยมมาเที่ยว มี 3

แห่ง คือ เกาะเสม็ด แหลมแม่พิมพ์ และหาดแม่ร้าพึง โดยในปีงบประมาณ 2553

มีจานวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในและนอกประเทศเข้ามาท่องเที่ยวพักค้างแรมและทัศนาจร จานวน 2,913,241 คน สร้างรายได้ปีละ 15,477 ล้านบาท - ด้ า นการอุ ต สาหกรรม

จั งหวั ด ระยองเป็ น พื้ นที่ ที่ ไ ด้ รับ ความสนใจในการเข้ ามาลงทุ น จาก

ต่างประเทศเป็นอย่างมาก ที่รัฐบาลก้าหนดให้จังหวัดระยองเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณ ชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Seaboard) และถูกก้าหนดแนวทางการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ มีเนื้อที่ทั้งหมด 10,000 ไร่ ที่บริเวณต้าบลมาบตาพุด อ้าเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรม ที่ ส้ า คั ญ ๆ คื อ โรงแยกก๊ า ซธรรมชาติ กลุ่ ม อุ ต สาหกรรมปิ โ ตรเคมี แ ละอุ ต สาหกรรมปุ๋ ย เคมี เป็ น ต้ น มีจ้านวนนิคมอุตสาหกรรม 8 แห่ง เขตประกอบการอุตสาหกรรม 5 แห่ง ชุมชนอุตสาหกรรม 5 แห่ง สวนอุตสาหกรรม 2 แห่ง มีจ้านวนโรงงานกระจาย อยู่ทั่วพื้นที่ใน 8 อ้าเภอ ของจังหวัดระยอง ประมาณ 1,781 โรงงาน โดยมีโรงงานตั้งอยู่ในเขตอ้าเภอเมืองมากที่สุดถึง 600 โรงงาน ก่อให้เกิดการจ้างงานไม่ต่้ากว่า 200,000 คน แต่ละกลุ่มอาชีพ ท้าให้เ กิดปัญหาสังคมในจังหวัดระยอง อาทิเช่น ครอบครัวเกษตรทิ้งบุตรหลาน ให้อยู่กับปู่ย่า ตายาย มาท้างานโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มท้างานประมงทั้งประมงน้​้าจืดและประมงทะเล มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาท้างานเป็นจ้านวนมากก่อให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ กลุ่มท่องเที่ยวซึ่งมีนักท่องเที่ยว จ า ก ต่ า ง ถิ่ น เ ข้ า ม า จ้ า น ว น ม า ก ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ม ล ภ า ว ะ แ ล ะ ก า ร ล่ อ ล ว ง ค้ า ป ร ะ เ ว ณี / ผลพวงของ...


ผลพวงของการพั ฒ นาอุ ต สาหกรรม เช่ น เรื่ อ งของการขยายพื้ น ที่ อุ ต สาหกรรมในผั ง เมื อ ง (Buffer Zone) คือไม่มพี ืน้ ที่กันชนระหว่างพื้นที่อุตสาหกรรมกับพืน้ ที่ชุมชน เรื่องการขยายตัวของประชากรแฝง ส่งผลให้เ กิดปัญหาด้านอื่นมากมาย เช่น ปัญหาการควบคุมโรคระบาด เอดส์ การขาดแคลนที่อยู่อาศัย ชุมชนแออัด มีหอพักเอกชนเกิดขึ้นหลายแห่ง เกิดสถานการณ์รับเลี้ย งเด็กเอกชนจ้านวนมาก เนื่องจาก มี ป ระชากรกลุ่ ม ประชาชนต้ อ งท้ า งานในโรงงานไม่ มี เ วลาในการเลี้ ย งดู บุ ต ร เด็ ก เล็ ก ไม่ ไ ด้ รั บ การดู แ ล ขั้นพื้นฐาน ปัญหาการเพิ่มจ้านวนประชากรที่ไม่มีชื่อ ในทะเบียนราษฎร์ ปัญ หาเรื่องท้อง แท้ง ทิ้ง เกิด ปั ญ หาเรื่อ งของการค้ามนุ ษ ย์ ซึ่งมีก ารประมาณการจ้า นวนประชากรแฝงไม่ ต่ากว่า 300,000 คน โดยเฉพาะพื้นที่นิคมมาบตาพุ ด ท้าให้รัฐบาลประกาศให้พื้นที่นิคมมาบตาพุด และบริเวณใกล้เคียงเป็นเขต ควบคุ มมลพิษ

ปัญ หาเรื่องของที่อยู่อาศัย ปัญหาขยะ มลภาวะสิ่งแวดล้อมที่เ กิดจากคน และโรงงาน

อุตสาหกรรม ส่งผลกระทบเรื่องของการใช้บริการทางสาธารณสุข งานทะเบียนราษฎร์ การจัดระเบียบสังคม เป็นต้น ล้วนเป็นประเด็นปัญหาทางสังคมที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันทั้งสิน้ ท้าให้เกิดผลกระทบต่อประชากร ในทุกระดั บของจังหวั ด ตั้งแต่ ครอบครัว (เด็ก เยาวชน สตรี วันแรงงาน คนพิก าร ผู้สูงอายุ ) ชุมชน (กลุ่มผู้น้าทางธรรมชาติ และผูน้ ้าท้องถิ่น องค์กรต่างๆในชุมชน เครือข่ายต่างๆ ) เป็นต้น

วิสัยทัศจังหวัดระยอง “เมืองแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีและเศรษฐกิจที่สมดุล” (City of good quality of life and balanced economy.)


ส่วนที่ 2 ยุทธศาสตร์การพัฒนา ยุทธศาสตร์กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ วิสัยทัศน์ : “เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ภายใต้ ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายพึ่งตนเองได้” ค่านิยมขององค์กร : 1. ความรับผิดชอบต่อสังคม 2. เป็นศูนย์กลางในการให้บริการ 3. การมุง่ ผลสัมฤทธิ์ของงาน 4. การท้างานเป็นทีมและเป็นเครือข่าย 5. การมีจริยธรรม 6. การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พันธกิจ : 1. ก้าหนด และพัฒนาระบบการจัดบริการทางสังคมให้มีมาตรฐาน 2. ป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู คุ้มครอง และพัฒนาศักยภาพแก่กลุ่มเป้าหมาย 3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดระบบเครือข่าย และประสานให้มีการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการ ที่เหมาะสมในแต่ละพืน้ ที่ 4. พัฒนาระบบการจัดการที่มปี ระสิทธิภาพ ประสิทธิผล และได้มาตรฐาน ประเด็นยุทธศาสตร์ : 1. การพัฒนารูปแบบและวิธีการให้บริการสวัสดิการแก่กลุ่มเป้าหมาย 2. การเสริมสร้างศักยภาพในการด้ารงชีวิตแก่กลุ่มเป้าหมาย 3. การส่งเสริมศักยภาพผูส้ ูงอายุในการใช้ประสบการณ์และภูมปิ ัญญา 4. การส่งเสริมองค์กรเครือข่ายในการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการ 5. ส่งเสริมการใช้หลักธรรมาธิบาลในการบริหารองค์กร

-/ ยุทธศาสตร์...


ยุทธศาสตร์จังหวัดระยอง วิสัยทัศน์ : “เมืองแห่งคุณภาพชีวติ ที่ดีและเศรษฐกิจที่สมดุล” (City of Good Quality Of life and Balanced Economy) พันธกิจ : 1. พัฒนาฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 2. ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมที่มีความปลอดภัยและได้ มาตรฐานสามารถสร้างและขยายโอกาสทางการตลาดได้ 3. สร้างเสริมสังคมระยองให้มีคุณธรรมน้าความรู้ สูก่ ารด้ารงชีวติ ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 4. ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและ สามารถอยู่รว่ มกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน 5. พัฒนาภาคธุรกิจด้านการขายสินค้าและบริการให้สามารถแข่งขันได้เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้า อาเซียน 6. มีระบบสาธารณูปโภคขั้นพืน้ ฐานรองรับการให้บริหารอย่างมีประสิทธิภาพและระบบการ บริหารงานภาครัฐมีธรรมาภิบาล ประเด็นยุทธศาสตร์ : 1. พัฒนาและฟื้นฟูการท่องเที่ยว (ระยอง) อย่างยั่งยืน 2. ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมที่ได้มาตรฐาน สามารถสร้าง และขยายโอกาสทางการตลาดได้ 3. สร้างเสริมสังคม (ระยอง) ให้มีคุณธรรมน้าความรู้ สู่การด้ารงชีวติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 4. ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมของภูมิภาคที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยต่อ สิ่งแวดล้อม และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนสังคมได้อย่างยั่งยืน


ส่วนที่ 3 ข้อมูลทั่วไปของอาเภอนิคมพัฒนา ท้องที่อ้าเภอนิคมพัฒนาเดิมเป็นส่วนหนึ่งของอ้าเภอบ้านค่าย ทางราชการได้แบ่งพื้นที่การปกครอง ออกมาตั้งเป็น กิ่ งอ้าเภอนิค มพั ฒนา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 26 มิถุ นายน พ.ศ. 2539 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2539 และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ยกฐานะขึน้ เป็น อ้าเภอนิคมพัฒนา โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2550 ขนาดและที่ตั้ง อ้าเภอนิคมพัฒนา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดระยอง มีเนื้อที่ประมาณ 268.50 ตาราง กิโลเมตร หรือประมาณ 194,241.75 ไร่ แบ่งเป็นรายต้าบล ดังนี้ ตาบล

พื้นที่(คิดเป็นตารางกิโลเมตร)

พื้นที่ (คิดเป็นไร่)

มาบข่า

57.50

35,931.75

นิคมพัฒนา

57.00

34,372.00

พนานิคม

48.00

58,310.00

มะขามคู่

105.00

65,625.00

รวม

268.50

194,241.75

อาณาเขต - ทิศเหนือ - ทิศใต้

ติดต่อกับ ต้าบลแม่น้าคู้ ต้าบลมาบยางพร อ้าเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ติดต่อกับ ต้าบลห้วยห้วยโป่ง อ้าเภอเมืองระยอง ต้าบลส้านักท้อน อ้าเภอบ้านฉาง และอ้าเภอเมืองระยอง - ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ต้าบลหนองละลอก และต้าบลหนองตะพาน อ้าเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง - ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ต้าบลเขาไม้แก้ว อ้าเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

คาขวัญประจาอาเภอนิคมพัฒนา “สับปะรดหวานฉ่้า อุตสาหกรรมน้อยใหญ่ เสียงลือไกลหลวงพ่อชื่น”


ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขามีเทือกเขาที่ส้าคัญ 6 เทือกเขา คือ - เขาจอมแห, เขาหนังยอง อยู่ในเขตต้าบลมะขามคู่ - เขามะพูด อยู่ในเขตต้าบลพนานิคม - เขาหินโค่ง อยู่ในเขตต้าบลนิคมพัฒนา กับต้าบลมาบข่า - เขาทุ่งแฝก , เขาเขลง อยู่ในเขตต้าบลมาบข่า มีพื้นที่ป่าไม้จอมแห (เขตป่าไม้สมบัติส่วนกลางของนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง) เนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ อยู่ในบริเวณหมู่ 7 ต้าบลมะขามคู่ มีแหล่งน้​้าธรรมชาติที่ส้า คัญ ได้แก่ คลองชากเจ้าเดียว คลองปลวกแก้ว คลองพลู คลองชากอ้อน คลองลึก คลองเปลงกระทิง คลองไม้ตายเห่า คลองหนองระก้า คลองชากใหญ่ คลองกระเฉด คลองป่าแดง คลองหนองหิน และมีอา่ งเก็บน้​้าดอกกรายอยู่ทางตอนเหนือ สภาพภูมิอากาศ โดยทั่วไปเป็นลักษณะมรสุมเมืองร้อน เนื่องจากมีพืน้ ที่ติดกับชายฝั่งทะเลประกอบกับสภาพพื้นที่มปี ่า เขาเป็นส่วนใหญ่ จึงท้าให้ฝนตกในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายนอยู่เสมอปริมาณน้​้าฝนเฉลี่ย 1,400 มิลลิเมตรต่อปี จะประสบปัญหาฝนทิง้ ช่วง ในห้วงเดือนกรกฎาคม ของทุกปี และปริมาณน้​้าฝนที่ตกมากที่สุด จะอยู่ในห้วงเดือนตุลาคมของทุกปี

/ ข้อมูลด้าน…


ข้อมูลด้านการปกครอง อ้าเภอนิคมพัฒนา แยกจากอ้าเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 และ ยกฐานะเป็นอ้าเภอเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2550 ปัจจุบันประกอบไปด้วย 4 ต้าบล 30 หมูบ่ ้าน คือ 1. ต้าบลมาบข่า จ้านวน 8 หมูบ่ ้าน 2. ต้าบลนิคมพัฒนา จ้านวน 7 หมูบ่ ้าน 3. ต้าบลพนานิคม จ้านวน 8 หมูบ่ ้าน 4. ต้าบลมะขามคู่ จ้านวน 7 หมูบ่ ้าน

การปกครองท้องที่ อ้าเภอนิคมพัฒนา แบ่งการปกครองออกเป็น 4 ต้าบล มีก้านันเป็นผูป้ กครองท้องที่ดังนี้ 1. ต้าบลมาบข่า มี นายสานิต ล้​้าสุทธิ เป็นก้านัน 2. ต้าบลนิคมพัฒนา มี นายพัฒน์ จันมณี เป็นก้านัน 3. ต้าบลพนานิคม มี นายไพศาล อูเ่ จริญ เป็นก้านัน 4. ต้าบลมะขามคู่ มี นายนาวิน พูลสวัสดิ์ เป็นก้านัน การปกครองส่วนท้องถิ่น พืน้ ที่บางส่วนอยู่ในเขตเทศบาลต้าบลมาบตาพุด (หมูท่ ี่ 5,6,7,8 ต้าบลมาบข่า เป็นบางส่วน) มีหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่นจ้านวน 5 แห่ง ได้แก่ เทศบาล 3 แห่ง คือ เทศบาลต้าบลมาบข่า เทศบาลต้าบลมะขามคู่ เทศบาลต้าบลมาบข่าพัฒนา และมีองค์การบริหารส่วนต้าบล 2 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนต้าบลพนานิคม และองค์การบริหารส่วนต้าบลนิคมพัฒนา รายละเอียดดังนี้ 1. เทศบาลต้าบลมาบข่าตั้งอยู่ในพืน้ ที่ หมูท่ ี่ 1,2 (บางส่วน) ต้าบลนิคมพัฒนา หมูท่ ี่ 5,8 (บางส่วน) ต้าบลมาบข่า มี ด.ต.จริยวัฒน์ จารวัฒนธรรม เป็นนายกเทศมนตรี 2. เทศบาลต้าบลมะขามคู่ ตั้งอยู่ในพืน้ ที่ หมูท่ ี่ 1,7 ต้าบลมะขามคู่ มี นายเกียรติภูมิ มูลประเสริฐ เป็นนายกเทศมนตรี 3. เทศบาลต้าบลมาบข่าพัฒนา ตั้งอยู่ในพืน้ ที่ หมู่ที่ 1,2,3 ต้าบลมาบข่า หมูท่ ี่ 4,5,6,7,8 (บางส่วน) ต้าบลมาบข่า มี นายอนันต์ ศรีสมบัติ เป็นนายกเทศมนตรี 4. องค์การบริหารส่วนต้าบลนิคมพัฒนา ตัง้ อยู่ในพืน้ ที่ หมูท่ ี่ 1,2 (บางส่วน) ต้าบลนิคมพัฒนา หมูท่ ี่ 3,4,5,6,7 ต้าบลนิคมพัฒนา มี นายอรุณ อินทร์แก้ว เป็นนายกองค์การบริหารส่วนต้าบล 5. องค์การบริหารส่วนต้าบลพนานิคม ตัง้ อยู่ในพืน้ ที่ หมู่ที่ 1 – หมูท่ ี่ 8 ต้าบลพนานิคม มีนายนิคม รุ่งโรจน์ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนต้าบล / ข้อมูลประชากร...


ข้อมูลประชากร ที่

ต้าบล

จ้านวน

จ้านวนประชากร

หลังคาเรือน

ชาย

หญิง

รวม

3,381

3,116

3,151

6,267

2 อบต.พนานิคม

2,362

3,086

3,232

6,318

3 เทศบาลต้าบลมาบข่าพัฒนา

2,716

2,638

2,700

5,338

4

4,291

3,969

4,027

7,996

3,521

3,149

3,169

6,318

16,271

15,958

16,279

32,237

1

อบต.นิคมพัฒนา

เทศบาลต้าบลมะขามคู่

5 เทศบาลต้าบลมาบข่า รวม

** หมายเหตุ : มีประชากรแผงที่เข้ามาอาศัยท้างานโรงงานในพื้นที่ โดยประมาณ 100,000 คน ข้อมูลทางเศรษฐกิจ อาชีพหลัก ได้แก่ เกษตรกรรม ผลผลิตทางการเกษตรที่ส้าคัญ ได้แก่ สับปะรด ยางพารา มัน ส้าปะหลัง เงาะ ทุเรียน อาชีพเสริม ได้แก่ รับจ้าง การพานิชยกรรม การค้าขาย และการบริการ ธนาคารพาณิชย์ จ้านวน 5 แห่ง ดังนี้ 1. ธนาคาร กรุงเทพ จ้ากัด (มหาชน) 2. ธนาคาร นครหลวงไทย 3. ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จ้ากัด (มหาชน) 4. ธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) 5. ธนาคาร กรุงไทย จ้ากัด (มหาชน) การเกษตรและกสิกรรม อ้าเภอนิคมพัฒนา มีพ้ืนที่การเกษตรทั้งสิ้น จ้านวน 117,936 ไร่ จ้าแนกได้ดังนี้ 1. พืน้ ที่ปลูกสับปะรด 59,914 ไร่ 2. พืน้ ที่ปลูกยางพารา 29,485 ไร่ 3. พืน้ ที่ปลูกมันส้าปะหลัง 10,908 ไร่ 4. พืน้ ที่ปลูกมะพร้าว 6,257 ไร่ 5. พืน้ ที่ปลูกพืชผักและผลไม้อ่นื ๆ 11,372 ไร่


พืชที่ท้ารายได้หลักให้เกษตรกรอ้าเภอนิคมพัฒนาคือสับปะรด ยางพารา มันส้าปะหลัง ตามล้าดับ ปัญหาที่ ส้าคัญเกษตรกรคือ 1. พืชผลทางการเกษตรราคาตกต่้า ราคาไม่แน่นอนขาดการประกันราคา โดยเฉพาะราคาสับปะรดตกต่้า เกิดขึ้นเป็นประจ้าทุกปี 2. เกษตรกรผูป้ ลูกสับปะรดบางราย ไม่มีที่ดินท้ากินเป็นของตนเอง ต้องเช่าที่ในการปลูกสับปะรด ท้าให้ต้นทุน การผลิตสูงขึ้น 3. ขาดแคลนน้​้าเพื่อการเกษตร ไม่มแี หล่งน้​้าทางธรรมชาติที่เหมาะสม การชลประทานไม่ทั่วถึง เกษตรกรต้อง ซือ้ น้​้าในหน้าแล้ง เพื่อรดน้​้าสับปะรด 4. ราคาที่ดินสูง เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมต้องการที่ดิน เพื่อประกอบโรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ประกอบ การเกษตรลดน้อยลงเรื่อย ๆ การปศุสัตว์ ในเขตอ้าเภอนิคมพัฒนา ส่วนใหญ่ประชาชนจะท้าการเลีย้ งไก่เนื้อ ไก่พ้ืนเมือง และไก่ไข่กัน มากกว่าประเภทอื่น ๆ รองลงมาได้แก่ สุกร โคเนื้อ เป็ดเทศ เป็นต้น ปัญหาอุปสรรคของการปศุสัตว์ของอ้าเภอนิคมพัฒนา มีดังนี้ 1. พืน้ ที่ท้าการปศุสัตว์ลดน้อยลง เนื่องจากพื้นที่ในการอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็ว 2. สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมในการท้าปศุสัตว์ เนื่องจากชุมชนขยายตัวมากขึ้น ปัญหามลภาวะจาก ภาคอุตสาหกรรม 3. ราคาปศุสัตว์ไม่มั่นคง แน่นอนท้าให้เกษตรกรประสบภาวะขาดทุน ราคาอาหารสัตว์สูง ไม่มกี ารประกัน ราคา


ส่วนที่ 4 ข้อมูลทั่วไปของนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง

ความเป็นมาของงานนิคมสร้างตนเอง งานนิคมสร้างตนเองเป็นบริการทางสังคมสงเคราะห์รูปแบบหนึ่งซึ่งได้ ด้าเนินการมาพร้อมกับการ ก่อตั้งกรมประชาสงเคราะห์ เมื่อปี 2483 โดยรัฐบาลสมัยนั้น (จอมพล ป.พิบูลสงคราม) ได้พิจารณาเห็นว่า ประเทศไทยมีที่ดินรกร้างว่างเปล่าที่ยังไม่ได้น้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการเกษตรอยู่เป็นจ้านวนมาก และ ที่ดินเหล่านั้นมักจะอยู่ในท้องถิ่นทุรกั นดาร ห่างไกลความเจริญจึงเกินความสามารถของประชากรที่จะเข้าไป บุกเบิกท้าประโยชน์เป็นไร่นาและที่อยู่อาศัยได้โดยล้าพัง ในขณะเดียวกันก็มีราษฎรที่ยากจนขัดสนทุนรอน ขาดแคลนที่ดนิ ท้ากินและอยู่อาศัยในภูมิภาคต่างๆ เป็นจ้านวนมากเช่นเดียวกัน ราษฎรเหล่านั้นบางส่วนได้พา กันอพยพย้ายถิ่นเข้าไปประกอบอาชีพที่เสี่ยงอันตรายและมีรายได้ไม่มั่นคงอยู่ในเมืองหลวง บางกลุ่มก็ไป อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดหรือสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ก่อให้เกิดปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมตามมาหลาย ประการ ราษฎรในชนบทบางส่วนก็ได้เข้าไปจับจองหรือบุกรุกที่ดินของรัฐในป่าสงวนโดยพลการกระจายกัน อยู่เป็นหย่อม ๆ อย่างไม่เป็นระเบียบ ท้าให้ยากต่อการพัฒนาและจัดบริการพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลจึงได้มีนโยบายที่จะน้าที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาจัดสรรในรูปของนิคมสร้างตนเองในลักษณะก่อตั้งเป็น ชุมชนใหม่ที่มกี ารวางผังตามหลักการวางผังชุมนุมชนเพื่อใช้นิคมสร้างตนเองเป็นมาตรการสกัดกั้นมิให้ราษฎร อพยพย้ายถิ่ นจากชนบทเข้ ามาประกอบอาชีพในเมื องหลวงหรือเมื องใหญ่และพยายามที่จะกระจายตั ว ประชากรที่อพยพเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วให้ออกไปตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมในนิคมสร้าง ตนเองอย่างถาวรอีกด้วย เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว กรมประชาสงเคราะห์จึงได้รับมอบหมายให้ด้าเนินการจัดตั้ง นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และนิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรี ขึ้นเป็นรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ. 2483 นับเป็นก้าวแรกของการให้บริการสังคมในเรื่องที่ดินแก่ประชาชน


ในปี พ.ศ. 2485 รัฐบาลพิจารณาเห็นว่า ความจ้าเป็นในด้านการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องที่ดินท้า กินจะต้องขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยล้าดับ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พุทธศักราช 2485 ซึ่งต่อมาได้มีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพดัง กล่าว รวม 2 ครั้ง เพื่อให้ บทบัญ ญัติต่างๆ ที่ก้าหนดไว้ในกฎหมายมีความเหมาะสมกั บสภาพการณ์ใ นขณะนั้น และเพื่อให้อ้านาจ รัฐบาลด้าเนินการจัดสรรที่ดนิ ช่วยเหลือประชาชนได้มีขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้น การแก้ไขปรับปรุงครั้งสุดท้าย เมื่อปี พ.ศ.2511 เรียกว่า พระราชบัญญัติจัดที่ดนิ เพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ซึ่งกรมประชาสงเคราะห์ได้ใช้ หลักในการจัดตั้งและด้าเนินงานนิคมสร้างตนเองต่อมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองเพื่อช่วยเหลือราษฎรยากจนขาดแคลนที่ดินท้ากินตามที่ได้กล่าว มาแล้ว การพัฒนาความเจริญของบ้านเมืองในสมัยต่อมาท้าให้ราษฎรต้องประสบปัญหาความเดือดร้อนใน รูปแบบต่างๆ อาทิเช่น ต้องเสียสละการครอบครองที่ดินไปเพราะอยู่ในเขตพื้นที่น้าท่วมเนื่องจากการสร้าง เขื่อนพลังงานไฟฟ้าและการชลประทาน ต้องละทิ้งที่ดินไปเนื่องจากถูกผู้ก่อการร้ายคุกคาม หรือต้องอพยพ จากพื้นที่อันตรายตามแนวชายแดน เป็นต้น จึงเป็นเหตุให้รัฐบาลในยุคสมัย ต่อมาถือเป็นความจ้าเป็นที่ จะต้องแก้ไขความเดือดร้อนและช่วยเหลือราษฎรดังกล่าว โดยมีมติคณะรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะให้มีการ จัดตัง้ นิคมสร้างตนเองขึ้นเพื่อช่วยเหลือจัดสรรที่ดนิ ให้ราษฎรเหล่านั้นตามความจ้าเป็นและเหตุการณ์ วัตถุประสงค์ของการจัดนิคมสร้างตนเอง 1 . เพื่อจัดสรรที่ดนิ ให้ราษฎรเป้าหมายอพยพครอบครัวเข้าไปตั้งถิ่นฐานประกอบอาชีพและอยู่อาศัย ในนิคมสร้างตนเองอย่างเป็นระเบียบและถาวร พร้อมทั้งส่งเสริมให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนัน้ เป็นของตนเอง และเป็นมรดกตกทอดไปสู่บุตรหลาน 2. เพื่อพัฒนานิคมในด้านต่างๆ ให้สมาชิกนิคมมีรายได้และความเป็นอยู่สูงขึ้นมีคุณภาพชีวติ สามารถ ช่วยตนเองและชุมชนได้ 3. เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในลักษณะโครงการพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหา ทางสังคม เศรษฐกิจการเมืองการปกครอง


ขั้นตอนการจัดนิคมสร้างตนเอง 1. การเตรียมการ ได้แก่ การวางโครงการจัดนิคมสร้างตนเองและการจัดหาที่ดินมาด้าเนินการ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งนิคมสร้างตนเองขึ้นในท้องที่ใด กรมประชาสงเคราะห์จะต้องจัดท้าโครงการ เสนอให้คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติพิจารณาตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 20 และเมื่อ คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติพิจารณาเห็นชอบด้วยแล้วจึงน้าเสนอส้านักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพจิ ารณาเพื่อน้าเข้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป 2. การบริหารงานนิคม 2.1 การวางผังนิคม กรมประชาสงเคราะห์ จะร่วมกับกรมพัฒนาที่ดินท้าการส้ารวจและวิเคราะห์ ดิ น เพื่ อ เป็ น หลั ก ในการวางผั ง ก้ า หนดรายละเอี ย ด บริเวณการใช้ที่ดิน ที่ดินทั้งหมดจะแบ่งออกเป็นที่ดิน ท้ากิน ที่อยู่อาศัย และศูนย์กลางหมู่บ้าน ที่สงวนเพื่อ ใช้ ป ระโยชน์ ร่ ว มกั น รวมทั้ ง เป็ น สถานที่ ร าชการของ ส่วนราชการต่างๆ นอกจากนั้นยังต้องสงวนไว้เป็นพื้นที่ ป่าส่วนกลางตามข้อก้าหนดของคณะกรรมการจัดที่ดิน แห่งชาติอกี ด้วย 2.2 การบรรจุสมาชิกนิคม กรมประชาสงเคราะห์จะมีประกาศรับสมัครราษฎรเข้าเป็นสมาชิก นิคม โดยมีคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและหัวหน้าส่วน ราชการในท้องที่นั้นร่วมเป็นกรรมการ ราษฎรที่จะเข้าเป็นสมาชิกนิคมต้องมีคุณสมบัติตามที่ก้าหนดไว้ใน พระราชบัญญัติจัดที่ดนิ เพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 มาตรา 22 ดังนี้ - มีสัญชาติไทย - บรรลุนิตภิ าวะและเป็นหัวหน้าครอบครัว - มีความประพฤติดแี ละตั้งใจปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ก้าหนด - ขยันขันแข็ง มีร่างกายสมบูรณ์ และสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ - ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ - ไม่มที ี่ดนิ ท้ากินเป็นของตนเอง หรือมีแต่เล็กน้อยไม่พอแก่การประกอบอาชีพ - ไม่มีอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะนั้นพอแก่การครองชีพ


2.3 การจัดระเบียบปกครองในนิคม โดยให้ราษฎรที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกนิคม ท้า การเลือกตั้งหัวหน้าเขตและผูช้ ่วยขึน้ ท้าหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของสมาชิกนิคม ตลอดจนความเป็นระเบียบ เรียบร้อยในนิคมสร้างตนเอง โดยมีผู้ปกครองนิคมท้าหน้าที่รับผิดชอบ 3 การพัฒนานิคม 3.1 การพัฒนาสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐานทั่วไป ได้แก่ การสร้างถนน สะพาน จัดแหล่ง น้​้าบริโภคและใช้สอย โดยจัดสร้างระบบชลประทานขนาดย่อย ได้แก่ ฝายน้​้าล้ น อ่างเก็บน้​้า บ่อน้​้า สระน้​้า การประปา ไฟฟ้าชนบท รวมทั้งบริการสาธารณะอื่น ๆ เช่น โรงเรียน สุขศาลา สถานีต้ารวจ และย่านการค้า ของชุมชนในนิคม เป็นต้น 3.2 การพัฒนาอาชีพ จะส่งเสริมการผลิตพืชเศรษฐกิจให้เป็นพืชหลักในแต่ละนิคมโดยน้าเทคนิค วิชาการที่เ หมาะสมไปแนะน้าให้แก่ส มาชิก นิคมถึงไร่นาและบ้านเรือนเพื่อเพิ่มผลผลิตทั้งด้านบริหารและ คุณภาพ จัดหาเงินทุนหมุนเวียนให้แก่สมาชิกนิคมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวนอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมด้าน อุตสาหกรรมในครอบครัว เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดเป็นรายได้โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่ นเป็นหลัก 3.3 การจัด การตลาด ได้แก่ การจัดหาแหล่งซื้อขายและประสานงานกับ ภาคเอกชนให้เ กิด โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตการเกษตรขึ้นในนิคม จัดให้มีการเปิดตลาดนัดขึ้นในนิคมรวมทั้งการ จัดการให้สมาชิกนิคมรวมตัวกันจัดตัง้ สหกรณ์การเกษตร 3.4 การพัฒนาสังคม ได้แก่ การพัฒนาตัวสมาชิกนิคม จ้านวน 751 ราย เนื้อที่ 11,285 ไร่ สมาชิกนิคมประกอบอาชีพหลักปลูกพืชไร่ (สับปะรด, มันส้าปะหลัง) พืชสวนต่างๆ และยางพารา อาชีพรอง ได้แก่ การเลีย้ งสัตว์ รับจ้างทั่วไป และค้าขาย นิคมฯ ได้ด้าเนินการจัดบริการขั้นพื้นฐาน เช่น ทางคมนาคม การจัดแหล่งน้​้าบริโภคใช้สอยและการเกษตรมีหน่วยปกครองท้องถิ่นและแหล่งสวัสดิการต่างๆ เช่น สถานี อนามั ย โรงเรีย น สถานี ต้ารวจ สุ ขาภิ บ าล ที่ ท้าการไปรษณีย์ ไฟฟ้า ประปา สหกรณ์ก ารเกษตร ธนาคาร โรงงานต่าง ๆ รวมทั้งมีชุมชนใหม่เกิดขึน้ มีการจัดระเบียบชุมชนเป็นตลาดกลางและอาคารพาณิชย์ จ้าหน่ายผลิตผลการเกษตรและค้าขาย ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในชนบท ท้าความเจริญมาสู่ ท้องถิ่น


โครงสร้างการบริหารงานนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นางสาวนิภาพร พรหมศิริ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง

ฝ่ายบริหารงานทั่วไป

กลุ่มงานพื้นที่เฉพาะ

นางสาวสารภี บุญร่วม ลูกจ้างประจา พนักงานพิมพ์ดีด ชั้น ๓

งานจัดที่ดินแลสมาชิก

หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป งานธุรการ

งานการเงิน / พัสดุ

สารสนเทศ

งานจัดทรัพยากรนิคมฯ

นายแสงอาทิสตย์ คุณิรัตน์

นางสาวสารภีสบุญร่วม

ลูกจ้างประจา

ลูกจ้างประจา พนักงานพิมพ์ดีด ชั้น ๓

หัวหน้างานจัดที่ดินและสมาชิก

หัวหน้างานจัดทรัพยากรนิคมฯ

นางพัฒนชรินทร์ ประสานศักดิ์

นายประไพ รุ่งจารัส

พนักงานราชการ พนักงานคอมพิวเตอร์

ลูกจ้างประจา พนักงานบริการเอกสารทั่วไป

เจ้าหน้าที่งานจัดที่ดินและสมาชิก

เจ้าหน้าที่งานจัดทรัพยากรนิคมฯ

นางพัฒนชรินทร์ ประสานศักดิ์

นางสาวเกิดศิริ สวนียะ

พนักงานจ้างเหมาบริการ

พนักงานราชการ พนักงานคอมพิวเตอร์

พนักงานราชการ นักพัฒนาสังคม

เจ้าหน้าที่ธุรการ

หัวหน้าการเงินและบัญชี

เจ้าหน้าที่ระบบข้อมูล

นางวีณา มะริด

นางสุรีย์พร พราหมทัศ

พนักงานจ้างเหมาบริการ

พนักงานราชการ คนงานเกษตร

นายภิรมย์ กิจนพเก้า

นายบุญส่ง รดพรม

คนสวน

เจ้าหน้าที่พัสดุ

ลูกจ้างประจา พนักงานขับรถยนต์

พนักงานราชการ เจ้าพนักงานพัฒนาสังคม

เจ้าหน้าที่งานจัดที่ดินและสมาชิก

เจ้าหน้าที่งานจัดทรัพยากรนิคมฯ

นางบุญมาก เสือพันธุ์

นางสาวปาริฉัตร ขันชารี

พนักงานจ้างเหมาบริการ

พนักงานจ้างเหมาบริการ

คนสวนและแม่บ้าน

ผู้ช่วยการเงินและบัญชี


ลักษณะของการจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง เพื่ อ จั ด ที่ ดิ น ให้ แ ก่ ร าษฎรยากไร้ ทั่ ว ไปและผู้ ไ ด้ รั บ ผลกระทบจากการสร้ า ง

เขื่ อ นบางปะกง

จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่นิคมสร้างตนเอง ครอบคลุม 8 ต้าบล ในพื้นที่จังหวัดระยอง 1. ต้าบลห้วยโป่ง อ้าเภอเมืองระยอง 2. ต้าบลมาบข่า อ้าเภอนิคมพัฒนา 3. ต้าบลนิคมพัฒนา อ้าเภอนิคมพัฒนา 4. ต้าบลพนานิคม อ้าเภอนิคมพัฒนา 5. ต้าบลมะขามคู่ อ้าเภอนิคมพัฒนา 6. ต้าบลหนองละลอก อ้าเภอบ้านค่าย 7. ต้าบลแม่น้าคู้ อ้าเภอปลวกแดง 8. ต้าบลมาบยางพร อ้าเภอปลวกแดง ที่ตั้งและอาณาเขตที่ตั้ง ◦ ทิศเหนือ จดคลองหินลอย คลองระเวิง หมู่บ้านห้วยโป่งหนามมิด หมูบ่ ้านหนองมะปริง ต้าบลแม่น้าคู้ และอ้าเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ◦ ทิศใต้ จดต้าบลห้วยโป่ง เขานั่งยอง คลองซากใหญ่ และต้าบลส้านักท้อน อ้าเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ◦ ทิศตะวันออก จดเขาเขล็ง เขาหินโคร่ง ต้าบลหนองละลอก อ้าเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ◦ ทิศตะวันตก จดเขาห้วยใหญ่ และต้าบลเขาไม้แก้ว อ้าเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พืน้ ที่ตาม พรก. ประกาศจัดตั้งนิคมฯ จ้านวน 253,556 ไร่ พืน้ ที่ด้าเนินการในปัจจุบัน จ้านวน 253,556 ไร่ การจาแนกพื้นที่ในนิคมสร้างตนเอง 1. พืน้ ที่จัดสรรได้ จ้านวน 23,047 แปลง เนือ้ ที่ 203,014 ไร่ 1.1 พืน้ ที่ผังจัดสรร 3,826 ครอบครัว เนือ้ ที่ 88,510 – 0 – 00 ไร่ 1.2 พืน้ ที่ครอบครองเดิม 4,614 ครอบครัว เนือ้ ที่ 106,182 ไร่ 1.3 การรังวัดที่ดนิ เพื่อออก (น.ค.1,น.ค.3) - รังวัดแล้ว จ้านวน 8,438 ราย 22,985 แปลง เนือ้ ที่ 225,304 – 3 – 08.12 ไร่ - ยังไม่ได้ท้าการรังวัด เนื้อที่ 9,566 – 1 – 72.07 ไร่ / 2. พืน้ ที่จัดสรร..


2. พืน้ ที่จัดสรรไม่ได้ เนือ้ ที่ 18,571 – 0 – 36.81 ไร่ 2.1 ป่าไม้ส่วนกลาง 20% จ้านวน - แปลง เนือ้ ที่ - ไร่ 2.2 ที่ดนิ สงวนเพื่อกิจการนิคม เนือ้ ที่รวม 2,920 – 2 – 0.79 ไร่ แบ่งเป็น 2.2.1 อนุญาตให้ส่วนราชการขอใช้ประโยชน์ จ้านวน 37 แปลง เนื้อที่ 1,263 – 0 - 00 ไร่ 2.2.2 อนุญาตให้เอกชนขอใช้ประโยชน์ จ้านวน 2 แปลง เนื้อที่ 50 – 0 - 00 ไร่ 2.2.3 จัดสรรให้กับผูล้ งทะเบียนคนจนตามโครงการ จ้านวน 48 แปลง เนือ้ ที่ 139 – 2 – 86 ไร่ 2.3 ที่สาธารณประโยชน์ประเภทต่าง ๆ จ้านวน - แปลง เนื้อที่ 1,560 – 2 – 36.02 ไร่ 2.4 เอกสารสิทธิประเภท สค.1 โฉนด หรือ นส 3ก, น.ส.ล จ้านวน - แปลง เนื้อที่ - ไร่ 3. ข้อมูลประชากร ประชากรทั้งหมดในนิคมฯ จ้านวน 29,954 ครอบครัว ชาย 26,651 คน หญิง 27,616 คน รวม 54,267 คน จ้านวนสมาชิกทั้งหมด 8,508 ราย - แปลง เนื้อที่ - ไร่ การบรรจุสมาชิก โดยมีรายละเอียดดังนี้ เป็นสมาชิกครบ 5 ปี พ.ศ. 2555 จ้านวน 88 ราย 101 แปลง เนือ้ ที่ 1,182 – 2 - 8.32 ไร่ เป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปี พ.ศ. 2555 จ้านวน 177 ราย 197 แปลง เนือ้ ที่ 1,136 – 0 – 59.21 ไร่ เป้าหมาย (ในปี พ.ศ. 2556) จ้านวน 50 ราย เนือ้ ที่ 70 – 0 – 00 ไร่ บรรจุแล้ว (ถึงปัจจุบัน) จ้านวน 8,562 ราย เนือ้ ที่ 194,692 ไร่ โดยแบ่งเป็น ผังจัดสรร ราย เนื้อที่ ไร่ ครอบครองเดิม ราย เนือ้ ที่ ไร่ สภาพเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ อาชีพ การเกษตร ร้อยละ 60 ,อาชีพอื่น ๆ ร้อยละ 40 การออกหนังสือแสดงการทาประโยชน์ (น.ค. 3) สมาชิกนิคมฯ ปัจจุบัน จ้านวน 8,562 ราย การออกเอกสารสิทธิ์ (น.ค. 3) จ้านวน 8,438 ราย 22,985 แปลง เนื้อที่ 225,304 – 3 – 08.12 ไร่ โดยแบ่งเป็น -ผังจัดสรร จ้านวน 3,786 ราย 3,816 แปลง เนือ้ ที่ 202,374 ไร่ -การครองครองเดิม จ้านวน 4,516 ราย 4,546 แปลง เนือ้ ที่ 112,400 ไร่ ยังไม่ได้ออก น.ค. 3 จ้านวน 465 ราย 498 แปลง เนือ้ ที่ 11,385 – 0 – 39.60 ไร่ ด้าเนินการแล้วประมาณ 90% ของสมาชิกนิคมทั้งหมด ผลการออก น.ค. 3 ปี 2555 จ้านวน 93 ราย 101 แปลง เนื้อที่ 505 – 0 – 40.14 ไร่ / 4. การออก...


4. การออกโฉนดที่ดิน จ้านวน 8,297 ราย 21,487 แปลง เนือ้ ที่ 202,269 ไร่ 5. งานจัดทรัพยากรนิคมฯ ที่ดนิ สงวนเพื่อกิจารนิคมฯ ทั้งหมด จ้านวน 1,354 แปลง เนือ้ ที่ 2,920 – 2 – 0.79 ไร่ แบ่งออกเป็น 1. บริเวณที่ท้าการนิคมฯ จ้านวน 1 แปลง เนือ้ ที่ 30 -0 – 00 ไร่ 2. พืน้ ที่นิคมฯ ให้เช่า จ้านวน 1,354 แปลง เนือ้ ที่ 2,920 – 2 – 0.79 ไร่ แบ่งออกเป็น 2.1 ส่วนราชการ/เอกชน/รัฐวิสาหกิจ จ้านวน 39 แปลง เนือ้ ที่ 592 – 2 - 96 ไร่ 2.2 กิจการพาณิชย์ จ้านวน 921 แปลง เนื้อที่ 30 – 1- -95 ไร่ ผูเ้ ช่า 511 ราย คิดเป็นเงิน 202,373 บาท 2.3 อาคารร้านค้าไม้ 2 ชั้น จ้านวน 76 แปลง เนื้อที่ 2 – 0 – 66 ไร่ ผูเ้ ช่า 511 ราย คิดเป็นเงิน 21,350 บาท 2.4 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย จ้านวน 211 แปลง เนือ้ ที่ 159 – 0 – 00 ไร่ ผูเ้ ช่า 105 ราย คิดเป็นเงิน 55,800 บาท 2.5 เพื่อเกษตรกรรม จ้านวน 144 แปลง เนือ้ ที่ 1,737 – 0 – 00 ไร่ ผูเ้ ช่า 144 ราย คิดเป็นเงิน 323,800 บาท 6 การพัฒนาสาธารณูปโภค ถนนในเขตนิคมฯ จ้านวน 41 สาย 214 กิโลเมตร - ถนนลาดยาง จ้านวน 38 สาย 199.5 กิโลเมตร ถ่ายโอนแล้ว 38 สาย 199.5 กิโลเมตร โอนให้แก่หน่วยงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ส้านักงานทางหลวง ชนบท - ถนนลูกรัง จ้านวน 3 สาย 14.5 กิโลเมตร ถ่ายโอนแล้ว 3 สาย 14.5 กิโลเมตร โอนให้แก่หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7. อัตรากาลังเจ้าหน้าที่นิคมฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจ้า จ้างเหมาบริการ รวม

1 4 4 4 13

คน คน คน คน คน


ผลการดาเนินการตามโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณ ปี 2555 ทั้งของส้านักฯ และหน่วยงานอื่นที่ด้าเนินการในนิคมฯ 1. ต้าบลต้นแบบขยายผลในนิคมฯ เป้าหมาย 700 คน ผลการด้าเนินงาน จ้านวน 720 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการเบิกจ่าย คิดเป็นร้อยละ 100 2. ศูนย์เรียนรูใ้ นนิคมฯ เป้าหมาย 1,200 คน ผลการด้าเนินงาน จ้านวน 1,332 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการเบิกจ่าย คิดเป็นร้อยละ 100 3. Big home เป้าหมาย - คน ผลการด้าเนินงาน จ้านวน - คน คิดเป็นร้อยละ ผลการเบิกจ่าย คิดเป็นร้อยละ 4. อบรมอาชีพในนิคมฯ เป้าหมาย - คน ผลการด้าเนินงาน จ้านวน - คน คิดเป็นร้อยละ ผลการเบิกจ่าย คิดเป็นร้อยละ หมายเหตุ รายละเอียดเนื้อที่โดยประมาณ


ผลการดาเนินการตามโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณ ปี 2556 งานจัดทรัพยากรนิคมและที่ดินสงวน ๑. เก็บเงินบ้ารุงกิจการนิคม จ้านวน ๒,๖๐๓ ราย เป็นเงิน ๑,๒๘๘,๔๑๘.- บาท ๒. เก็บเงินบ้ารุงที่ดินสงวนเพื่อการเกษตร จ้านวน ๓๑๐ ราย เป็นเงิน ๑,๗๑๖,๖๔๕.- บาท ๓. โอนสิทธิอาคารร้านค้าและที่ดนิ สงวน จ้านวน ๑๔ ราย เป็นเงิน ๗,๒๔๔.- บาท ๔. ต่อสัญญาการใช้ประโยชน์ที่ดินสงวน (การเกษตร) และอาคารร้านค้า/ตึกแถว จ้านวน ๑๓๒ ราย ๕. ต่อสัญญาที่ดินสงวนเพื่อการเกษตรและที่อยู่อาศัย จ้านวน ๔๗ ราย


โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมในนิคมสร้างตนเอง ปี 2556 กิจกรรมหลักที่ 1 ส่งเสริมสนับสนุนการจัดสวัสดิการในชุมชน - การเตรียมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล

- ประชุมเชิงปฏิบัติการภาคีเครือข่ายเพื่อการคัดเลือกพืน้ ที่เป้าหมาย


การจัดเวทีค้นหาศักยภาพ (รวมประชาคมค้นหาศักยภาพความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย กิจกรรมการ พัฒนาอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง)


แนะน้าตัววิทยากร ประจ้ากลุ่ม

ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และเสนอความต้องการในชุมชน

สรุปประเด็นปัญหา อุปสรรค ความต้องการ ข้อเสนอแนะ ภาพรวมในชุมชน


- การประชุมเชิงปฏิบัติการการด้าเนินกิจกรรมการจัดสวัสดิการในชุมชน ในพืน้ ที่นคิ มสร้างตนเอง ผู้ ป กครองนิ ค มสร้ า งตนเองจั ง หวั ด ระยอง กล่าวต้อนรับและทักทายผู้เข้าร่วมประชุม พร้อม ทั้งชี้แจงวัตถุประสงค์โครงการ และรายละเอียด ของการด้าเนินโครงการฯ

- คุณปรีชา ภู่พันธ์ วิทยากรจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดระยอง ให้ความรู้เรื่อง “สวัสดิการและกฎหมายW - คุณนิตยา พลีพรหม วิทยากรให้ความรู้เรื่อง “สวัสดิการชุมชน กับการพัฒนาที่ยั่งยืนของคนในชุมชน” - เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน


- การศึกษาดูงานการด้าเนินงานสวัสดิการชุมชน ต้าบลบ้านพร้าว อ้าเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก


กิจกรรมหลักที่ 2 กิจกรรมศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสวัสดิการสังคมและภูมิปัญญาชาวนิคม - การจัดเตรียม ค้นหาข้อมูล ภูมิปัญญาชาวนิคมสร้างตนเองในพื้นที่

สัมภาษณ์สมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นายกุ่ย พงษ์รักษา จ้านวนที่ดนิ 1 แปลง เนื้อที่ 24 ไร่

สัมภาษณ์สมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นายทวน ประดับรัตน์ จ้านวนที่ดนิ 2 แปลง เนื้อที่ 48 ไร่


สัมภาษณ์สมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นางบุญลาภ หนูอุดม จ้านวนที่ดนิ 1 แปลง เนื้อที่ 24 ไร่

สัมภาษณ์สมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นางบุญชม ข้าคล้า จ้านวนที่ดนิ 1 แปลง เนื้อที่ 24 ไร่


สัมภาษณ์สมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นายนิน คงเจริญ จ้านวนที่ดนิ 2 แปลง เนื้อที่ 48 ไร่

สัมภาษณ์สมาชิกนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง นายวิเชียร เอี่ยมสอาด จ้านวนที่ดนิ 1 แปลง เนื้อที่ 24 – 2 - 85 ไร่


กิจกรรมหลักที่ 3 การพัฒนาอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง - การประชุมเชิงปฏิบัติการการด้าเนินกิจกรรมการการพัฒนาอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

ผู้ ป กครองนิ ค มสร้ า งตนเอง จั ง หวั ด ระยอง กล่ า วต้ อ นรั บ ทั ก ทายผู้ เ ข้ า ร่ ว มประชุ ม พร้ อ มทั้ ง ชี้ แ จง วัตถุประสงค์โครงการ และรายละเอียดของ การด้าเนินโครงการฯ

วิทยากรจากส้านักงานอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง ให้ความรู้เรื่องการพัฒนา ผลิตภัณฑ์


- ศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านลุงไสว ศรียา ต้าบลหินตั้ง อ้าเภอเมือง จังหวัดนครนายก


กิจกรรม/โครงการต่าง ๆ


ร่ ว มกิ จ กรรมเฉลิ ม พระเกี ย ตริ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว เนื่ อ งในโอกาสพระราชพิ ธี ม หามงคลเฉลิ ม พระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา เช่นกิจกรรม เดิน – วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ ณ อ่างเก็บ น้​้าดอกกราย ท้าบุญตักบาตร ณ อบต.นิคมพัฒนา และจุดเทียน ชัยถวายพระพร ณ บริเวณตลาดนิคม กม. ๑๒

พิธีอัญเชิญองค์พระสังกัจจายน์หยกขาว และ องค์ไฉ่ซิงเอี๊ยะ ปางบุ๋น และ ปางบู๊, ประดิ ษ ฐาน ณ ศาลเจ้ า หลวงเตี่ ย (แป๊ะกง) ตลาดนิคม กม. ๑๒


โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเพื่อครอบครัวเข้มแข็ง


ปัญหา/อุปสรรค ๑. บุคลากรออกจัดเก็บเงินบ้ารุงกิจการนิคมฯ ได้ไม่ทันเนื่องจากบุคลากรปัจจุบันมีจ้านวนน้อย ๒. ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในเขตนิคมสร้างตนเองส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพตามสถานประกอบการ อุตสาหกรรม (ท้างานเป็นช่วงเวลา) ท้าให้ไม่มเี วลาเข้าร่วมกิจกรรม และไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับการจัด กิจกรรมเท่าที่ควร ๓. เนื่องจากนโยบายการจัดที่ดนิ ของรัฐในรูปแบบของนิคมสร้างตนเอง เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ดนิ ท้ากิน แต่สมาชิกนิคมฯ ที่ได้รับสิทธิได้มกี ารขายสิทธิในที่ดิน ท้าให้เกิดกรณีพิพาทกับ สมาชิกในครอบครัว และปัญหาแนวเขตที่ดิน ท้าให้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมาย-ก้าหนด และท้าให้ การมอบเอกสารสิทธิลา่ ช้า เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนมือผูเ้ ข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ต้องรออีก ๕ ปี จึงจะสามารถขอ น.ค.๓ ได้ ๔. ปัญหาเรื่องแนวเขตที่ดินนิคมสร้างตนเอง มีการทับซ้อนพื้นที่กับหน่วยงานอื่น (ป่าไม้บางละมุง) ท้าให้สมาชิกนิคมฯ ไม่ได้รับเอกสารสิทธิที่ดิน


ข้อเสนอแนะ ๑. มอบหมายหน้าที่บุคลากรที่มอี ยู่จ้านวนจ้ากัด ให้ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มเติมหลายหน้าที่ ๒. สร้างความตระหนักให้สมาชิกนิคมมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดขึน้ ในนิคม ๓. รณรงค์สนับสนุนให้สมาชิกนิคมตระหนักในคุณค่าที่ดนิ ที่ได้รับ สร้างจิตส้านึกให้สมาชิกนิคม รู้จักหวงแหนที่ดิน โดยให้ด้าเนินการตามระเบียบที่ก้าหนดไว้ เพื่อให้ปัญหากรณีพิพาทในที่ดินลดลง และเป็น หลักประกันที่มั่นคงของครอบครัว โดยการค้นหาสมาชิกนิคมสร้างตนเองตัวอย่าง ๔. แก้ไขพระราชบัญญัติจัดที่ดนิ เพื่อการครองชีพ พ.ศ.๒๕๑๑ โดยเฉพาะมาตรา ๒๒ เกี่ยวกับคุณสมบัติของ ผูท้ ี่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกนิคมฯ ๕. พิจารณาให้นคิ มสร้างตนเอง ได้รับงบประมาณส่วนหนึ่ง (ร้อยละ ๕ –ร้อยละ ๑๐) จากการจัดเก็บ-เงิน บ้ารุงกิจการนิคม น้ามาพัฒนาปรับปรุงภายในนิคมสร้างตนเองนั้น ๆ ๖. การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ขอให้ส่วนกลางประสานกับหน่วยงานที่มีปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไข



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.