สารสองล้อ พฤศจิกายน 2557

Page 36

เจอแบบนี้ ต้องยืนรอจนกว่าชาวบ้านจะผ่าน มาแล้วถามครับ วิธีถามก็เอาโพยชื่อเมือง “ล่าวเม้ง” ทีต่ งั้ ใจจะไปให้เขาดู เขาดูกบ็ อกว่ามาผิดทาง เวรล่ะซิ ไอ้เรื่องที่กลัวต้องปั่นย้อนกลับขึ้นเขา ดูท่าจะจริง แต่ของแบบนี้ ถามคนเดียวไม่ได้ครับ ถามคนที่ สองก็ยนื ยันว่าผมมาผิดทาง ถามคนทีส่ ามโน่นละครับ ถึงยืนยันว่าผิดทางอีกคน ถึงเชื่อครับ แต่ครั้งนี้เขา ให้เวลาผมซักไซ้ได้ละเอียดขึ้น ว่าแล้วไอ้ทางที่ถูกมัน ต้องไปทางไหน เขาก็ตอบว่าต้องย้อนกลับทางเดิม ผมได้ยินก็ชักมีอาการขาอ่อน ใจมันถอยที่จะ ต้องปั่นกระดึ๊บๆกลับทางเดิม พยายามเซ้าซี้ให้เขา ชี้ให้แน่ ไอ้ที่ว่าต้องปั่นย้อนกลับนะไปทางไหน เขา ก็ใจเย็น ชี้ให้ผมชัดเจนให้ย้อนกลับไปตามทางที่เพิ่ง ข้ามสะพานมาเมื่อตะกี้น่ันแหละ แล้วปั่นตามถนน เลียบกับสายน�้ำ ผมก็มึน เอ..มันมีถนนเลียบสายน�้ำด้วยเหรอ ก็ผมปั่นลิ่วลงมาจากบนภูเขานะ ผมนึกไม่ออกครับ โชคดีชาวบ้านคนทีส่ ามทีผ่ มสอบถามเส้นทางใจดีและ ใจเย็น อดทนที่ผมเซ้าซี้ถาม เมื่อชาวบ้านยืนยันอย่างงี้ ลองครับลอง ลอง ปั่นย้อนกลับไปทางสะพานข้ามล�ำน�้ำ ซึ่งก็ไม่ได้ปั่น ย้อนไปไกลอะไรหรอก แค่ร้อยกว่าเมตร เพียงแต่ มั น ผิ ด ความรู ้ สึ ก จากที่ ดู จ ากแผนที่ ไม่ ไ ด้ ม องให้ ละเอียดว่าจะมีถนนเลียบล�ำน�้ำ พอปั่นย้อนกลับไป อีกฝั่งถึงได้สังเกตเห็นก่อนถึงสะพาน มันเป็นสาม แยกแบบลงเขาแล้วต้องท�ำยูเทิรน์ ทางซ้ายไปหาถนน เล็กๆ ต้องอยูใ่ นท่าปัน่ ย้อนกลับครับ จึงจะเห็นชัดเจน มีถนนเลียบล�ำน�้ำ ตั้งหลักปั่นกลับไปตามถนนเลียบล�ำน�้ำได้แล้ว ก็สบายใจหน่อย พอเห็นร้านค้าร้านเล็ก มองเข้าไป มีพวกน�้ำขวดของขบเคี้ยว จึงแวะเข้าไปนั่งพัก ไม่ได้ อุดหนุนอะไรเขาหรอกครับ สารภาพครับงบปัน่ เทีย่ ว งวดนี้ ไม่ได้จัดเผื่อส�ำหรับของกินเล่น อาศัยเขานั่งพักซักหน่อยตรงชายคาหน้าบ้าน แล้วปากก็ถามเฮียหนุ่มว่าเมืองล่าวเม่งอีกไกลไหม 36 │ สารสองล้อ 281 (พฤศจิกายน 2557)

ตรงนีล้ ะ่ ครับทีเ่ ป็นเรือ่ ง ทีเ่ กิดจากความประมาทของ ตัวเอง เมือ่ เฮียหนุม่ บอกผมว่าล่าวเม่งนะหรือแค่นเี้ อง แล้วท�ำไม้ท�ำมือชูนิ้วนับให้ผมดู ผมตีความว่า อ๋อ.. ล่าวเม่งอีกแค่ห้ากิโลเมตร จึงชะล่าใจถึงขั้นหยิบ อุปกรณ์ต้มน�้ำร้อนและเครื่องชงกาแฟ ยึดหน้าร้าน ของเฮียพักต้มกาแฟกิน กินเล่นนั่งเล่นจนเกือบสี่โมงเย็น ถึงมีใจปั่นต่อ ก็มันแค่ห้ากิโลเมตร ต่อให้ขึ้นเขา ก็ไม่กลัวละครับ เอาเข้ า จริ ง ๆ.. ห้ า กิ โ ลเมตรก็ แ ล้ ว สิ บ กิ โ ล ก็แล้ว จนถึงหกโมงเย็นมันเกินสิบกิโลเมตรไปโข ไม่เห็นวี่แววจะผ่านเมืองใหญ่เลย ทั้งก่อนเดินทาง เมื่อเช้าศึกษาจากแผนที่ บวกระยะทางก็น่าจะต้อง ปั่นแค่สามสี่สิบกิโลเมตรแค่นั้นเอง แต่ตอนนี้เกิน ห้าสิบกิโลเมตรแล้ว ยังไม่ถึงซักที ใจเริ่ ม มี ค วามกั ง วลขึ้ น มาอี ก แล้ ว ไม่ รู ้ อี ก กี่ กิโลเมตรจึงจะถึง พอกังวล ไอ้เรื่องที่ท�ำให้เสียเวลา มากขึ้นและยิ่งวุ่นมากขึ้น ก็เรื่องนี้แหละครับ.. เจอ บ้านคนกี่หลังเป็นต้องลงไปหา เอาโพยไปให้เขาดู ทุ ก คนที่ ถ ามก็ ชี้ ไ ปทางเดี ย วกั น ก็ ท างที่ ก� ำ ลั ง ปั ่ น มุ่งหน้าไปนะแหละ ยังดีทวี่ นั นีจ้ ดั ค�ำถามแค่ถามว่าเมืองล่าวเม่งอยู่ ตรงไหน ส่วนค�ำถามว่าจะนอนกับเขาได้หรือไม่ เลิก ถามเขาแล้วล่ะครับ รูส้ กึ วันนีจ้ ะเป็นวันแรกทีต่ ดั ใจได้ แล้วครับ ไม่คิดจะออกปากขอชาวบ้านนอนแล้ว แต่ ก็ยังคิดว่าต้องไปหาโรงแรมนอนในเมืองอย่างเดียว เพราะมัวเสียเวลาลงแวะถามชาวบ้านเขาอย่างนี้ แทบจะทุกระยะหนึ่งกิโลเมตร เพราะใจมันวุ่นวาย กลัวความมืด กลัวปั่นไม่ถึงเมือง พอตกเย็นใกล้จะ มืด.. จิตใจมันเหมือนลิงที่ว้าวุ่นจริงๆ ก็ทรุ นทุราย ปัน่ จนมืดค�ำ่ อีกคืน หวังให้ถงึ เมือง ล่าวเม่งจุดพักคืนนี้ สองวันที่ปั่นออกจากจิ่นผิ้งวางแผนปั่นดิบดี ก�ำหนดแผนปั่นตั้งใจก�ำหนดจุดพัก ปั่นเช้าตกเย็น ถึงเมือง มัวแต่ปั่นเล่นจนมืดค�่ำถึงสองวัน ปั่นไม่ถึง เมืองสักวัน ต้องตกค้างกลางทาง


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.