สรุปการสัมมนา ครั้งที่ 1

Page 1

สรุปผลการสัมมนาาครั้งที่ 1 เรื่อง รูปแบบบและกระบบวนการร่างรั ง ฐธรรมนูญที ญ เ่ หมาะสมม ภายใตต้โครงการศึศึกษา “รัฐธรรมนูญที่เหมาะสมสํ ห าหรั ห บประเทศศไทย” วันที่ 16 กรกฎาคม 2555 เวลาา 09.00 – 12.30 น. ณ ห้องประชาธิธิปก สถาบันพระปกเกล้ น ล้า อาคารรัฐประศาสน ฐ ภักดี ศูนย์ยราชการเฉลิมพระเกียรติ ร 80 พรรรษาฯ

สถาบั น พรระปกเกล้ า ร่ ว มกั บ อง ค์ ก รภาคี เครื อ ข่ าย า ได้ แ ก่ มู ล นิ ธิ เ อเชี ย สมาคมแหห่ ง สถาบั น พระปกเกล้า สมมาคมนักข่าว นักหนังสือพิ อ มพ์แห่ง ประเทศศไทย องค์ การกระจา ยเสี ย งและะแพร่ ภ าพ สาธารณ ณะแห่งประเทศไทย และสมาคมนิสิตเก่า นิติศาสตตร์ จุฬาลงกกรณ์มหาวิทยาลั ย ย ะบวนการ จัดสัมมนาลําดับที่ 1 เรื่องรูปแบบและกร แ ธ ญที่เ หมาะสม ห ภ โครงกการศึกษา ภายใต้ ร่างรัฐธรรมนู รัฐธรรมมนูญที่เหมาะะสมสําหรับประเทศไทย ป ย โดยในช่วงเช้า ศ.ดร.บบวรศักดิ์ อุววรรณโณ เลขาธิการ สถาบันพระปกเกล น ล้า และอดีตสมาชิกสภภารางรัฐธรรรมนูญ 25540 กล่าวเปิปิดงานโดยการเปิด ประเด็นอธิ น บายปัญหาภาพรวม ญ มของรัฐธรรรมนูญไทย โดยมองว่ โ าการที ก ่ประเททศไทยมีรัฐธรรมนู ธ ญ หลายฉบบับ และทํารัฐธรรมนูญกักนบ่อยมากนั้น แสดงใหห้เห็นถึงการไไม่มีพัฒนาททางการเมือง รวมถึง ปัญหาทีที่จะมีต่อไปใในอนาคต เมืมื่อบ้านเมืองยั ง งหาความมมั่นคงเกี่ยวกับกติกาในนการบริหารประเทศ ไม่ได้ ประเทศเองก็ก็ยากที่จะมีเสถี เ ยรภาพ พร้อมยกตัวอย่ ว างประเททศที่พัฒนาแล้วว่ามักมีกติกาใน ห ศที่มั่นคงถาววร เช่น สหรัรัฐอเมริกา มีรัฐธรรมนูญฉบั ญ บเดียวใช้มากว่า 200 2 ปี การบริหารประเทศ ถึงแม้จะมี ะ การแก้ไขเพิ่มเติมไปตตามยุคสมัย แต่ก็ไม่เคยถูถูกยกเลิกเลย ต่างจากปประเทศไทยใในวันที่มี ประชาธิธิปไตยครบ 80 ปี เรากําลั า งจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับับที่ 19 กันอยู อ ่ ซึ่งจุดนี้เองแสดงว่าประเทศ


ไทยยังมีการต่อสู้แย่ยงชิง ที่สําคั​ัญไม่ใช่การแย่งชิงอํานาาจทางการเมมืองธรรมดาา แต่เป็นกาารแย่งชิง กําหนดกติกาในการรบริหาร ศ.ดดร.บวรศักดิ์ ระบุ ใในช่วงท่านศาสตราจารย์ ดร.บวรรศักดิ์ อุวรรรณโณ ได้ทิ้งท้ ง ายไว้เกี่ยววกับกรณีการจั า ดทํา รัฐธรรมมนูญ เห็นว่าจํจาเป็นต้องมีมีหลักการสําคั า ญกํากับอยยู่ 3 ประการรด้วยกันคือ 1. ต้องคํ ง านึงถึงวัฒนธรรมการเ ฒ เมืองของไทยย ที่มีรูปแบบบหลากหลายและบางรูปแบบ ป อาจจขัดต่อหลักประชาธิ ป ปไตตย ซึ่งต้องมีการสั ก งเคราะะห์ เลือก-รับ 2. ศึกษาเปรียบเทีทียบระหว่างรั ง ฐธรรมนูญไทยกั ญ บต่างปประเทศเพื่ออพิจาณราดูว่วา ประะเทศอื่นในโลลกปฏิบัติและดํ ล าเนินการรกันอย่างไร 3. ต้องมี ง หลักนิติศาสตร์ า กํากับ เพราะหลักนินติศาสตร์ จะทํ จ าให้รฐั ธรรรมนูญเป็นทีท่ ยอมมรับกันทัว่ โลลก เสร็จสิ้นจากพิ น ธีเปิดการสั ด มมนาโดยเลขาธิธิการ สถาบั นพระปกเกล น ล้ า ศาสตราาจารย์ ดร. บวร ศัก ดิ์ อุ วรรณโณ ว น ทั ย พิ ม พ์ ใ จชน อดี นายอุ อ ต ประธานนรัฐ สภา และอดีตป ระธานสภาาร่า ง รัฐธรรมมนูญ 25400 เน้นย้ําในปประเด็นเกี่ยวกับ ปัจจัยที่ทําให้ประเเทศไทยต้องแก้ ง รัฐธรรมมนูญ บ่ อ ยครัรั้ ง ว่ า เกิ ด จา กการเปลี่ ย นแปลงการรปกครองจจากระบอบ สมบู ร ณาญ ญาสิ ท ธิ ร าชยย์ ม าเป็ น ประชาธิธิปไตย ทําให้มีรัฐธรรมนูญไว้เพื่อกําหนดการเข้าสู่อํานาจของผู้ใช้อํานนาจ กําหนดดอํานาจ ของประะชาชนว่าคววรจะมีมากน้น้อย ศักดิ์สิทธิ ท ์เพียงใด แต่ แ พอได้คนใใช้อํานาจเข้​้ามาแล้วพบบว่ามีการ ใช้อํานาาจเกิดขอบเขขต ใช้อํานาาจแสวงหาผลประโยชน์​์ จากนั้นจึงมีการปฏิวัติ อ้างเหตุผลความไม่ สงบ แตตกความสามัมัคคี โกงกิน และอธิบายยว่าด้วยเหตุตุผลดังกล่าวการแก้ ว ไขรัฐฐธรรมนูญจึ​ึงมุ่งไปที่ คนใช้อํ านาจ ต้องออยู่ในขอบเ ขตอะไรบ้าง า รัฐ ธรรมนนูญ เลยกลาายเป็น กฎห มายกํา หนดดลงโทษ นักการเเมือง พรรคการเมือง กลายเป็นเหมืมือนกฎหมาายอาญาทางงการเมืองขอองนักการเมืมือง ล้อม คอก วนอยู่แต่กับเรื เ ่องนักการเเมือง อํานาจจแค่ไหน คววรตรวจสอบบอย่างไร แลละที่สําคัญกลายเป็น เรื่อง “รรกรุงรัง”


อดีตประธานรัฐสภา มองว่าสิ่งที่นักประชาธิปไตย หรือคนที่สนใจการเมืองเป็นห่วงในการ เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญชัดๆ มีอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ 1. ห่วงกังวลเรื่องความไม่ชอบมาพอกล การใช้อํานาจของนักการเมือง 2. ห่วงกังวลเรื่องการปฏิวัติ ดั ง นั้ น เมื่ อ ห่ ว งใน 2 ประเด็ น ดั ง กล่ า วนายอุ ทั ย พิ ม พ์ ใ จชน จึ ง เสนอให้ มี ก ารเขี ย น รัฐธรรมนูญเพียง 3-4 มาตรา ได้แก่ • มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันผู้ใดจะ แบ่งแยกมิได้ • มาตรา 2 ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ประมุข การสืบราชสันตติวงศ์ให้เป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล • มาตรา 3 ประเทศไทยปกครองโดยประเพณีการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย หากมีกรณีเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา วินิจฉัย ส่ ว นเรื่ อ งสภาผู้ แ ทนผู้ แ ทนราษฎร คณะรั ฐ มนตรี การเลื อ กตั้ ง องค์ ก รอิ ส ระ รวมถึ ง ประเด็นอื่น ๆ ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วนั้นนายอุทัย พิมพ์ใจชน กล่าว ว่าควรบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาทิ กรณีกรณีของ “รัฐสภา” ให้มี พ.ร.บ.รัฐสภา โดยนําสาระบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาบรรจุไว้ รวมทั้งระบุว่ารัฐสภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา จากนั้นค่อยเริ่มหมวด 1 ว่าด้วยสภาผู้แทนราษฎร หมวด 2 ว่าด้วยวุฒิสภา เป็นต้น


จากนั้นในช่วงเวลา 10--00 – 12.000 น. เป็นกาารอภิปราย เรื เ ่อง “รูปแบบบและกระบบวนการ ร่างรัฐธรรมนู ธ ญที่เหมาะสม” ห โดดยวิทยากรผูผู้ทรงคุณวุฒิ ฒิที่ให้เกียรติเป็ เ นวิทยากรรร่วมอภิปราาย ได้แก่ ศาสตราาจารย์ ดร.นนครินทร์ เมมฆไตรรัตน์ จากคณะรั จ ฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ แ รอง ศาสตราาจารย์ ดร.บบรรเจิด สิงคะเนติ ค คณะะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิฑตพัฒนบริรหารศาสตร์ ดําเนิน รายการรอภิปรายโดดยรองศาสตรราจารย์มานินิตย์ จุมปา คณะนิ ค ติศาสตร์ จุฬาลงกกรณ์มหาวิทยาลัย รอ งศาสตราจจารย์ ดร.นนคริ น ทร์ เมฆไตรรั ตน์ ต รอง อ ธิ ก า ร บ ดี ฝ่ า ย บ ริ ห า ร ท รั พ ย า ก ร ม นุ ษ ย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ธ ร์ , อดีตคณ ณบดีคณะรัฐศาสตร์ ฐ แล ะอดี ต สมา ชิ ก สภาร่ า งรั ฐ ธรรมนูนู ญ ปี 25500 กล่ า ว ยอมมรับว่าแม้จะมี จ ประสบกการณ์ในการเรียนการสสอนวิชา รัฐธรรมนู ธ ญ รววมทั้งมีความทรงจําและประสบกาารณ์ทาง ปร ะวั ติ ศ าสตร์ร์ เ กี่ ย วกั บ รั ฐธรรมนู ฐ ญ แต่ ทั้ ง นี้ ยั ง ไม่ ไ แ น่ ใ จ า ฐธรรมนูญ ญฉบับใหม่ หรือการ เช่นกันว่วา ประเทศไไทยทุกวันนี้ต้ตองการอะไไร สิ่งที่จะทํา คือ การร่างรั แก้ไขรัฐธรรมนู ฐ ญกันแน่ น !!


พร้อมแสดงความเห็นส่วนตัวว่า “สร้างบ้านกับซ่อมบ้าน” ทั้งสองเรื่องมีวิธีคิดที่ต่างกัน ต้องพูดให้ชัด เพราะนอกจากมีวิธีคิดต่างกันแล้ว ก็มีโจทย์ที่ต้องตอบต่างกันด้วย... อีกทั้งเมื่อที่มา ของรัฐธรรมนูญหรืออํานาจสถาปนารัฐธรรมนูญของไทย มีความซับซ้อนกว่าแต่ก่อน และพัฒนา ไปไกลจนมีการลงประชามิติ ซึ่งไม่ว่าจะลงประชามติโดย "เทพ มาร ผี หรือคน" และไม่ว่าจะเห็น ด้ ว ย ห รื อ ไ ม่ แต่ นั่ น เ ป็ น ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า เ ป็ น ก า ร ใ ช้ อํ า น า จ ท า ง ต ร ง ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ศาสตราจารย์ ดร.นครินทร์ กล่าวว่าก่อนมีการจัดทําร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือแก้ไข ร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการอภิปรายเกิดขึ้นก่อน เพราะรัฐธรรมนูญเหมือนกับภูเขาน้ําแข็งจะตั้ง มั่นอยู่ได้ต้องอาศัยองค์ประกอบแวดล้อม ความเข้าใจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญ ใดๆ ในโลกนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ เราไม่สามารถถอยทุกอย่างไปสู่จุดศูนย์ แต่ต้องเริ่มจาก สภาพที่มีอยู่ โดยควรมีการอภิปรายถึงแนวคิดทางการเมืองและพัฒนาการทางการเมืองให้เป็นที่ เข้าใจกันอย่างกว้างขวาง โดยเสนอว่า 1. ควรมีการอภิปราย สรุปถึงข้อดี ข้อเสียของรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งประเทศไทย ร่ํารวยประสบการณ์เรื่องนี้มาก ดังนั้นจึงควรสรุปบทเรียนที่ได้ เพื่อจะสามารถมองเห็น ว่าจะแก้ไข หรือร่างใหม่อย่างไร 2. ควรมีการอภิปรายถึงสิ่งที่รัฐธรรมนูญไม่ได้มีการบัญญัติไว้ เนื่องจากกฎกติกาสูงสุดของ ประเทศ บางเรื่องต้องตีความ เป็นเรื่องของประเพณีการปกครอง ขนบธรรมเนียม การ ปฏิบัติ ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเดียว ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรม และฉบับสังคม เศรษฐกิจ ที่มีผลสําคัญต่อชีวิตของรัฐธรรมนูญด้วยว่า จะมีอายุสั้นหรือ ยาว มีการบิดเบี้ยว หรือผันแปรไปจากความตั้งใจเดิม ส่วนในประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ศาสตราจารย์ ดร. นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เห็นว่ามี 3 รูปแบบที่จะสามารถดําเนินการได้ คือ 1. จัดทําโดยคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ซึ่งจะเป็นกรรมาธิการของรัฐสภาฝ่ายเดียว หรืออาจเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมจัดทําก็สามารถได้ 2. จัดทําโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 3. จัดทําโดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา ศาสตราจารย์ ดร. นคริ น ทร์ เมฆไตรรั ต น์ มองจากประสบการณ์ ว่ า กระบวนการที่ เหมาะสมในการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ควรมีการเตรียมการเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ ปรับทัศนคติ ของประชาชนเสียก่อน และท้ายสุดเสนอว่ากระบวนการร่างไม่ควรรวบรัดมากนัก ทั้งในส่วนของ


การร่างและต้องให้เวลากั เ บการรประชามติ ให้ ใ ความรู้ด้านบวกลบแก า ก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ ใช้อํานาาจของตนเองง ลงมติเห็นชอบ ช ไม่เห็นชอบด้ น วย

รองศศาสตราจาารย์ ดร.บรรรเจิ ด สิ ง ค ะเนติ คณบบดี ค ณะ นิ ติ ศาสตร์ ศ สถาาบั น บั ณ ฑิ ตพั ต ฒ นบริ หหารศาสตร์ร์ (นิ ด้ า ) กล่าวถึ ว งรูปแบบบของรัฐธรรมนูญไทยว่าามีลักษณะเป็นลาย ลักษณ์ ษ อักษร ดังนั ง ้นไม่ควรจจะมีลักษณะะที่ยาวเกินไป ไ และ องค์กรตามรั ก ฐธรรรมนูญบางองค์กรก็ไม่ควรนําไปกําหนดไว้ ในรัฐธรรมนู ฐ ญ เพราะเห็นว่วาไม่ใช่องค์ค์กรตามรัฐธรรมนู ธ ญ โดยสภาาพ เช่น อัยการ ย เป็นต้​้น ส่วนรูปแบบการแก้ก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น รองงศาสตราจาารย์ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ มองว่าควรกําหนดรูปแบบให้ แ การแแก้ไขสามารถทําได้โดยยยาก เพราะโโดยหลัก แล้วรัฐธรรมนู ธ ญเป็นกติ น กาสูงสุด หลายประะเทศถึงขนาาดระบุให้มีการลงประช ก ามติในกระบบวนการ แก้ รั ฐ ธ รรมใช้ ม ติ 2 ใน 3 หรืรื อ 3 ใน 4 เพื่ อ ให้ ทุ กฝ่ ก า ยต่ า งส มานฉั น ท์ เเห็ น พ้ อ งต้ องกั อ น ว่ า จําเป็นต้องแก้ ไม่ใช่ชอาศัยเพียงเเสียงข้างมากกธรรมดา กระบวนกาารจัดรัฐธรรมมนูญ ไม่ว่าจะเรี จ ยกอะไไรก็ตาม "ปฏิฏิรูป เปลี่ยนนแปลง ทําใหหม่ หรือ แก้ไข" สิ่งสําคัญคือโจทย์ โ ของกาารจัดทํารัฐธรรรมนูญซึ่ง "โจทย์ " " ของประเทศไทยย 80 ปีที่ผ่านมา นั่น ก็คือ อํานาจการเมื า มืองถูกผูกขาาดโดยชนชั้นนํ น า ความเปลี่ยนแปลงงในทางการรเมืองของไททยหลังปี 2475 จนถึ จ งปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็ เ นความขัดแย้ ด งของกลลุ่มชนชั้นนําในแต่ า ละช่วง เช่น ความมขัดแย้ง ชนชั้นนําในคณะราาษฎร ความมขัดแย้งชนชชั้นนําในฝ่ายทหาร ย ฝ่ายทหารกั ย บฝ่าายการเมือง ขณะที่ ประชาชชนขาดพื้นที่กําหนดควาามเป็นความมตายของบ้านเมื า อง ดังนั ง ้น การที่เขียนรัฐธรรมมนูญ ใน มุมมองขของ รองศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ จึงเห็นว่าต้องสร้างให้ตตั​ัวแทนผลประโยชน์ ต่างๆ ในนสังคมเข้ามามี ม บทบาทททางการเมือง มีโอกาสกําหนดทิ า ศทาางบ้านเมือง


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.