Application information with school exams.

Page 1

รายงาน

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศกับการเรียนการ สอน


เสนอ อาจารย์ สุธิดา

ชูเกียรติ


การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศกับการเรียนการสอน


คาว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ มาจากคา 2 คานามารวมกัน คือ คาว่า เทคโนโลยี และสารสนเทศ เทคโนโลยี + สารสนเทศ = เทคโนโลยีสารสนเทศ


 เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้าน

วิทยาศาสตร์ ความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มา ทาให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ เทคโนโลยีจึงเป็นวิธีการใน การสร้างมูลค่าเพิ่มของสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์มากยิง่ ขึน้

 สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต

ของมนุษย์ ข้อมูลดังกล่าวต้องผ่านการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ตรวจสอบความถูกต้อง แบ่งกลุม่ จัดประเภทของข้อมูล และ สรุปออกมาเป็นสารสนเทศ และมนุษย์นาเอาสารสนเทศนัน้ ไป ใช้ในชีวิตประจาวันได้ เช่น รายงาน ผลงานการวิจัย ข่าวสาร ต่าง ๆ


 เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) หมายถึงการนาเอาเทคโนโลยีมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ สารสนเทศ ทาให้สารสนเทศมีประโยชน์ และใช้งานได้กว้างขวางมาก ขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศรวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่จะ รวบรวม จัดเก็บ ใช้งาน ส่งต่อ หรือสื่อสารระหว่างกัน เทคโนโลยี สารสนเทศเกี่ยวข้องโดยตรงกับเครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดการ สารสนเทศ ซึ่งได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์รอบข้าง ขั้นตอน วิธีการดาเนินการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ เกี่ยวข้องกับตัวข้อมูล เกี่ยวข้องกับบุคลากร เกี่ยวข้องกับกรรมวิธีการดาเนินงานเพื่อให้ข้อมูล เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้แล้วยังรวมไปถึง โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์ โทรสาร หนังสือพิมพ์ นิตยสารต่าง ๆ ฯลฯ


การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศที่นามาใช้สาหรับการสอนเป็นการใช้ เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง ทาให้การเรียนการสอนด้วย อุปกรณ์ที่ทันสมัย ห้องเรียนสมัยใหม่ มีอุปกรณ์วิดีโอ โปรเจคเตอร์ (Video Projector) มีเครื่อง คอมพิวเตอร์ มีระบบการอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่างๆ รูปแบบของสื่อการศึกษาที่นามาใช้ในการเรียนการสอน ก็มี หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนามาใช้ เช่น มัลติมีเดีย อิเล็กทรอนิกส์ยุค วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ระบบ วิดีโอออนดีมานด์ ไฮเปอร์เท็กซ์ คอมพิวเตอร์ และระบบ อินเตอร์เน็ต เป็นต้น


คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นการนาเอาเทคโนโลยีรวมกับการออกแบบ โปรแกรมการสอนมาใช้ช่วยสอน ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่าบทเรียน ซี เอไอ ย่อมาจากคาในภาษาอังกฤษว่า ComputerAssisted Instruction หรือเรียกย่อๆ ว่า ซีเอไอ (CAI) การจัดโปรแกรมการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนในปัจจุบันมัก อยู่ในรูปของสื่อประสม (Multimedia) หมายถึงนาเสนอได้ทั้ง ภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวฯลฯ โปรแกรมช่วยสอนนี้ เหมาะกับการศึกษาด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถ โต้ตอบกับบทเรียนได้ตลอด จนมีผลป้อนกลับเพื่อให้ผู้เรียนรู้ บทเรียนได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจในเนือ้ หาวิชาของบทเรียนนั้นๆ


ลักษณะคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจึงเป็นบทเรียนที่ช่วยการเรียนการ สอน และมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยจัดบทเรียนให้เป็นระบบ และเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน โดยมีลักษณะสาคัญๆ ดังนี้

1. เริ่มจากสิ่งที่รู้ไปสู่สิ่งที่ไม่รู้ จัดเนื้อหาเรียง ไปตามลาดับจากง่ายไปสู่ยาก 2. การเพิ่มเนื้อหาให้กับผู้เรียนต้องค่อยๆ เพิ่ม ทีละน้อย และมีสาระใหม่ไม่มากนักนักเรียน สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างเข้าใจ


3. แต่ละเนื้อหาต้องมีการแนะนาความรู้ใหม่เพียงอย่างเดียวไม่ให้ที่ละ มากๆ จนทาให้ผู้เรียนสับสน 4. ในระหว่างเรียนต้องให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับบทเรียน เช่น มีคาถามมี การตอบ มีทาแบบฝึกหัด แบบทดสอบ ซึ่งทาให้ผู้เรียนสนใจอยู่กับการ เรียนไม่น่าเบื่อหน่าย 5. การตอบคาถามที่ผิด ต้องมีคาแนะนาหรือทบทวนบทเรียนเก่าอีกครั้ง หรือมีการเฉลย ซึ่งเป็นการเพิ่ม เนื้อหาไปด้วย ถ้าเป็นคาตอบที่ถกู ผู้เรียนได้รับคาชมเชย และได้เรียนบทเรียนต่อไปที่ก้าวหน้าขึ้น 6. ในการเสนอบทเรียนต้องมีการสรุปท้ายบทเรียนแต่ละบทเรียนช่วยให้ เกิดการวัดผลได้ด้วยตนเอง 7. ทุกบทเรียนต้องมีการกาหนดวัตถุประสงค์ไว้ให้ชัดเจน ซึ่งช่วยให้แบ่ง เนื้อหาตามลาดับได้ดี


ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 1. ทาให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการสอน มากขึ้น 2. ทาให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้หลายแบบตาม ความถนัดของแต่ละบุคคล 3. ทาให้ไม่เปลืองสมองในการท่องจาสิ่งที่ไม่ควรจะต้องจา ใช้สมองในการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจแทน


4. ทาให้สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนได้เหมาะสม กับแต่ละบุคคล 5. ทาให้ผู้เรียนมีอิสระภาพในการเรียน ไม่ต้องคอยครู อาจารย์ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ 6. ทาให้ผู้เรียนสามารถสรุปหลักการ เนื้อหา สาระของบทเรียนแต่ละ บทเรียนได้


ประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 1. คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อการสอน (Tutoring) เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นในลักษณะของ บทเรียนที่ลอกเลียนแบบ การสอนของครู กล่าวคือ มีบทนา มีคาบรรยาย ซึ่ง ประกอบด้วยทฤษฎี กฎเกณฑ์ แนวคิดที่สอนหลังจากที่นักเรียนได้ศึกษาแล้วก็มี คาถาม (Question) เพื่อใช้ในการตรวจสอบความเข้าใจของ นักเรียน มีการ ป้อนกลับ ตลอดจนมีการเสริมแรงและสามารถให้นักเรียนย้อนกลับไปเรียนบทเรียน เดิมได้ หรือข้ามบทเรียนที่ได้เรียนรู้ แล้วได้นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกการเรียนของ นักเรียนไว้ได้ เพื่อให้ครูนาข้อมูลการเรียนของแต่ละคนกลับไปแก้ไขนักเรียนบางคน ได้


2. คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อการฝึก (Drill and Practice) แบบฝึกส่วน ใหญ่ใช้เพื่อเสริมทักษะเมื่อครูได้สอน บทเรียนบางอย่างไปแล้ว จุดมุ่งหมายเพื่อฝึกหัดกับคอมพิวเตอร์เพื่อวัดระดับ หรือให้ฝึกจนถึง ระดับที่ยอมรับได้ บทเรียนประเภทนี้ จึงประกอบด้วยคาถามและคาตอบ การเตรียมคาถามต้องเตรียมไว้มากๆ ซึ่งผู้เรียนควรได้สุ่มขึ้นมาฝึกเองได้ สิ่งสาคัญของการฝึกคือต้องกระตุ้นให้นักเรียนอยากทา และตื่นเต้นกับ การทาแบบฝึกหัดนั้น ซึ่งอาจมีภาพเคลื่อนไหว คาพูดโต้ตอบ มีการ แข่งขัน เช่น จับเวลา หรือสร้างรูปแบบที่ท้าทายความสามารถในการคิด และการแก้ปัญหา


3. คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อสร้างสถานการณ์จาลอง (Simulation) โปรแกรมประเภทนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้จาลองสถานการณ์ให้ ใกล้เคียงกับสถานการณ์ในชีวิตจริงของนักเรียนโดยมีเหตุการณ์ สมมติต่างๆ อยู่ในโปรแกรม และผู้เรียนสามารถที่จะเปลี่ยนแปลง หรือจัดกระทาได้สามารถมีการโต้ตอบ และมีวัตแปร หรือทางเลือก หลายๆ ทาง การสร้างสถานการณ์จาลองขึ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เมื่อสถานการณ์จริงไม่สามารถทาได้ เช่น การเคลื่อนที่ของลูกปืน การ เดินทางของแสงการหักเหของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือการทา ปฏิกิริยาทางเคมีที่อาจเกิดการระเบิดขึ้น หรือการเจริญเติบโตนี้ใช้ เวลานาน หลายวันการใช้คอมพิวเตอร์ สร้างสถานการณ์จาลองจึงมี ความจาเป็นอย่างมาก


4. คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อเป็นเกมในการเรียนการสอน โปรแกรมประเภทนี้ นับเป็นแบบพิเศษของแบบจาลองสถานการณ์ โดยมีการแข่งขันเป็นหลัก ซึ่งสามารถเล่นได้คนเดียวหรือหลายคน ก่อให้เกิดการแข่งขันและร่วมมือ กัน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้มากโดยการเพิ่มคุณค่าทางการศึกษา จุดมุ่งหมาย เนื้อหา และกระบวนการที่เหมาะสม 5. คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อการทดสอบ (Testing) เป็นโปรแกรมที่ใช้รวม แบบทดสอบไว้และสุ่มข้อสอบตาม จานวนที่ต้องการ โดยที่ข้อสอบเหล่านั้น ผ่านการสร้างมาอย่างดีมีความ เชื่อถือได้ในการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โปรแกรมมีการตรวจข้อสอบ ให้คะแนน วิเคราะห์ และประเมินผลให้ผู้สอบได้ทราบทันที


6. คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อการไต่ถามข้อมูล (Inguiry) เป็นโปรแกรมที่ ช่วยในการค้นหาข้อเท็จจริงหรือข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในตัว คอมพิวเตอร์แบบนี้จะมีแหล่งเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสามารถ แสดงได้ทันทีเมื่อผู้เรียน ต้องการ ด้วยระบบง่ายๆ ที่ผู้เรียนสามารถทา ได้เพียงแต่กดหมายเลข หรือใส่รหัส ซึ่งทาให้คอมพิวเตอร์แสดงข้อมูล ที่ต้องการไต่ถามได้ตามต้องการ นอกจากนั้นยังนาคอมพิวเตอร์ช่วย สอนมาใช้ในลักษณะอื่นๆ เช่น การนาเสนอประกอบการสอน การใช้ เพื่อฝึกแก้ปัญหาการสาธิต เป็นต้น


การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก เป็นการจัดการเรียนที่มสี ภาพการเรียน ต่างไปจากรูปแบบเดิม การเรียนการสอนแบบนี้อาศัยศักยภาพและ ความสามารถของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นการนาเอาสื่อการเรียนการ สอนเป็นเทคโนโลยีสูงสุดมาช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้ จากการสืบค้นข้อมูล และเชื่อมโยงเครือข่ายทาให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุก สถานที่และทุกเวลา การจัดการเรียนการสอนลักษณะนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-based Instruction) การ ฝึกอบรมผ่านเว็บ (Web-based Trainning) การเรียนการสอน ผ่านเวิล์ดไวด์เว็บ (www-based Instruction) การฝึกอบรมผ่าน เวิล์ดไวด์เว็บ (www-based Trainning) เป็นต้น


ความหมายของการเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็น หลัก การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลักเป็นการ ประยุกต์ใช้ยุทธวิธีการสอนด้านพุทธพิสัย (Cognitive) ภายใต้สภาพแวดล้อมทางการ เรียนที่ผู้เรียนเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ และการเรียน แบบร่วมมือกัน (Collaborative Learning) เนื่องจากการเรียนแบบนี้ผู้เรียนเป็น ผู้ควบคุมการเรียนด้วยตนเอง เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ (Child Center) และเรียนด้วยการมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น


(Learner Interaction) องค์ประกอบของการเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก  ระบบการเรียนการสอน  ความเป็นเงื่อนไข  การสื่อสารและกิจกรรม

 สิ่งนาทางการค้นคว้า


ประเภทของสื่อที่ใช้ในการเรียนการ สอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก  World Wide Web  E-mail  Chat  Webbord

 ICQ  Conference


คุณค่าทางการศึกษาของการเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก  ช่วยเปิดโลกกว้างทางการศึกษา แหล่งความรู้วิทยาการต่างๆที่มีอยู่ทั่ว โลก  ฝึกทักษะการคิดที่เป็นระบบ โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การแก้ปัญหา และการคิดอิสระ เพื่อแยกแยะสารสนเทศที่เป็นสาระ สาหรับตน  ขยายขอบข่ายการเรียนรู้ในห้องเรียนออกไป เปิดโอกาศให้ผู้เรียน สามารถสารวจข้อมูลตามความสนใจของผู้เรียน  ทาให้เรียนได้มีโอกาศศึกษาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆบนคมพิวเตอร์และ บนเครือข่ายต่างๆได้พร้อมๆกับการเรียน


ข้อดีของการเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก 1. ช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้สอน และผู้เรียนกับแหล่งการเรียนผู้อื่นๆ 2. ช่วยลดรายจ่ายในสภาพการเรียนการสอนจริงที่มีอาคารพร้อม สิ่งอานวยความสะดวกอื่นๆ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายมาก มีการเตรียม วัสดุอุปกรณ์และบางครั้งอาจเสี่ยงอันตราย ดังนั้นการเรียนการ สอนโดยใช้เว็บเป็นหลักจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระ ค่าใช้จ่ายได้


3. ทาข้อมูลให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบันได้ง่ายและรวดเร็วจึงทาให้ เนื้อหาวิชาที่ผู้เรียนได้รับถูกต้องอยู่เสมอ 4. ข้อมูลต่างๆ ที่ใช้ในการเรียนการสอนสามารถอ้างอิงผ่านระบบ การสืบค้นได้ทันที


ข้อจากัดของการเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก 1.ค่าใช้จ่ายในเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ การติดตั้ง ค่าเช่า กรณี อยู่ต่างจังหวัดมีราคาสูงมาก 2. ขาดผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบระบบการเรียนการสอนผ่าน อินเตอร์เน็ต 3. มีอุปสรรคในด้านภาษาเนื่องจากข้อมูลที่อยูบ่ นอินเตอร์เน็ต ส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษ 4. ประสิทธิภาพการเรียนทั้งหมดอยู่ที่ผู้เรียนเป็นสาคัญ อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถควบคุมการเรียนของ ผู้เรียนได้


5. ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลและสืบค้นยังช้าทาให้เกิด ความน่าเบื่อหน่า 6. ผู้ใช้ยังขาดทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ และเครือข่ายจึงทา ให้ไม่ค่อยอยากใช้ และไม่สนใจที่จะเรียนใน รูปแบบนี้ 7. ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมการเรียนการสอนของสังคม ซึ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้จากครู-อาจารย์เป็นหลัก 8. ขาดการสนับสนุนและปฏิรูปการจัดการศึกษาจาก ผู้บริหารในทุกระดับซึ่งไม่เข้าใจในเทคโนโลยีสารสนเทศ


บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการศึกษา

เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคมมี บทบาทที่สาคัญต่อการพัฒนาการศึกษา ดังนี้ 1. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องการเรียนรู้ ปัจจุบันมี เครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ หลายด้าน มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วย สอน (CAI) ระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสาร เช่น การค้นหาข้อมูล ข่าวสารเพื่อการเรียนรู้ใน World Wide Web เป็นต้น


2. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดการศึกษาสมัยใหม่จาเป็นต้องอาศัยข้อมูล ข่าวสารเพื่อการวางแผน การดาเนินการ การติดตามและ ประเมินผลซึ่งอาศัยคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร โทรคมนาคมเข้ามามีบทบาทที่สาคัญ 3. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการสื่อสารระหว่างบุคคล ในเกือบ ทุกวงการทั้งทางด้านการศึกษาจาเป็นต้องอาศัยสื่อสัมพันธ์ ระหว่างตัวบุคคล เช่น การสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน โดยใช้องค์ประกอบที่สาคัญช่วยสนับสนุนให้เกิด ประสิทธิภาพในการดาเนินงาน เช่น การใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เทเลคอมเฟอเรนซ์ เป็น ต้น


ภาคผนวก


สมาชิกในกลุ่ม 1. นางสาวเพรชรัตน์ 2. นางสาวสิรริ ัตน์ 3. นางสาวสุขุมาลย์ 4. นางสาวภัสรา

คงทน แป้นกลัด สงวนพงษ์ จันแดง

รหัสนักศึกษา รหัสนักศึกษา รหัสนักศึกษา รหัสนักศึกษา

544188007 544188011 544188039 544188109


เอกการประถมศึกษา หมู่ 1

คณะ ครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ปี 2


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.