ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับองค์กร

Page 1

กล่ มุ ที่ 2 ภูมิใจเสนอ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่ อสารสำ าหรับองค์ กร


เสนอ

อาจารย์ สุจติ ตรา จันทร์ ลอย


จัดทำาโดย

ปุ๊

นางสาวปรารถนา อุย้ ฟัก รหัสนักศึกษา 564152002


มัย

นางสาวสาวิตตรี เผ่าคนชม รหัสนักศึกษา 564152033


ออนซ์

นางสาวยุลาวรรณ วิง่ ปัญญา รหัสนักศึกษา 564152037


ที

นายทีปกร อาริ ภู รหัสนักศึกษา 564152039


แป๋ม นางสาวนิรชา จันทร์หอม รหัสนักศึกษา 564152060


วิชา...เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่ อสารสำ าหรับครู (PC54504) สาขาวิชาชีววิทยา ชั้นปี ที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง



ระบบ? เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร? ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารสำ าหรับองค์ กร?


ระบบ (System)


ความหมายของระบบ (System)

ระบบ หมายถึง การนำาปัจจัยต่างๆ อันได้แก่ คน (People) ทรัพยากร (Resource) แนวคิด (Concept) และกระบวนการ (Process) มาผสมผสานการทำางานร่ วมกันเพื่อให้บรรลุเป้ าหมาย อย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ได้วางแผนไว้ โดยภายในระบบอาจ ประกอบไปด้วยระบบย่อย (Subsystem) ต่างๆ ที่ตอ้ งทำางานร่ วมกัน เพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์เดียวกัน



ตัวอย่ างองค์ ประกอบของระบบต่ างๆ


ประเภทของระบบ

พิจารณาจากจำานวนหน่ วยงานย่ อย และความสั มพันธ์ ระหว่ างหน่ วยงาน

· ระบบอย่ างง่ าย (Simple System) หมายถึง ระบบที่มีสมาชิก หรื อหน่วยงานย่อย จำานวนไม่มาก มีความสัมพันธ์ระหว่าง หน่วยงานแบบไม่ยงุ่ ยาก สลับซับซ้อน · ระบบซับซ้ อน (Complex System) หมาย ถึง ระบบที่มีสมาชิก หรื อจำานวนหน่วยงาน ำ ความสัมพันธ์ จำานวนมาก มิหนำาซ้ามี เกี่ยวข้องกันแบบ สลับซับซ้อนในทางขวาง และทางตั้ง


พิจารณาจากปฏิกริ ิยาทีม่ ตี ่ อสิ่ งแวดล้อมภายนอก

ระบบเปิ ด (Open System) หมายถึง

ระบบที่มีปฏิสมั พันธ์กบั สิ่ ง แวดล้อมภายนอก · ระบบปิ ด (Closed System) หมาย ถึง ระบบที่ไม่มีปฏิสมั พันธ์กบั สิ่ ง แวดล้อมภายนอก


พิจารณาจากการเปลีย่ นแปลงของระบบ ระบบคงที่ (Stable System) หมายถึง ระบบที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ แวดล้อม หรื อเมื่อสภาพแวดล้อมมีการ เปลี่ยนแปลง ระบบอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ระบบไม่ คงที่ หรือ พลวัตร (Dynamic System) หมายถึง ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ "เทคโนโลยี"


พิจารณาจากความสามารถในการปรับตัว · แบบปรับตัว (Adaptive) หมายถึง ระบบที่ มีความสามารถในการปรับการ เปลี่ยนแปลงตนเอง หรื อปรับตนเอง เพื่อ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพ แวดล้อม · แบบไม่ ปรับตัว (Non-adaptive) หมายถึง ระบบที่ไม่มีความสามารถในการปรับการ เปลี่ยนแปลงตนเอง หรื อปรับตนเอง เพื่อ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพ แวดล้อม


พิจารณาจากอายุของระบบ

· แบบถาวร (Permanent) หมายถึง ระบบที่มี การดำารงอยู่ หรื อดำาเนินงานอยูไ่ ด้เป็ นระยะ เวลายาวนาน · แบบชั่วคราว (Temporary) หมายถึง ระบบ ที่มีการดำารงอยูไ่ ด้เป็ นระยะเวลาสั้นๆ หรื อ หมายถึง ระบบที่มีอายุตามระยะเวลา ที่ปฏิบตั ิ ภารกิจ เมื่อภารกิจเสร็ จสิ้ นระบบนั้นก็ยตุ ิ บทบาท หรื อเลิกไป


เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื ่ อ สาร (Information and Communication Technologies)


ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ข้อมูล (Data) มีความหมายแตกต่างจากสารสนเทศ (Information) หรื อสารนิเทศ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คาำ จำากัดความคำาว่า ข้ อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริ งหรื อสิ่ งที่ถือ หรื อยอมรับว่าเป็ นข้อ เท็จจริ ง สำาหรับใช้เป็ นหลักอนุมานหาความจริ ง หรื อการคำานวณ ข้อมูลจึงมักมีความหมายในลักษณะที่เป็ นข้อมูลดิบ (Raw Data) เรี ยก ได้วา่ เป็ นสิ่ งที่ได้จากการสังเกต ปรากฏการณ์การกระทำาหรื อลักษณะ ต่างๆของวัตถุ สิ่ งของ คน สัตว์หรื อพืชแล้วบันทึกไว้เป็ นตัวเลข สัญลักษณ์ ภาพหรื อเสี ยง


สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารที่ได้จากการนำา ข้อมูลดิบ (Raw Data) มาคำานวณทางสถิติหรื อประมวลผลอย่างใด อย่างหนึ่ง ซึงข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยูใ่ นรู ปที่สามารถนำาไปใช้ งานได้ทนั ที เทคโนโลยี หมายถึง วิทยาการที่เกี่ยวกับศิลปะในการนำาเอา วิทยาศาสตร์ประยุกต์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางปฏิบตั ิและ อุตสาหกรรม


การสื่ อสาร หมายถึง การติดต่อระหว่างมนุษย์ดว้ ยวิธี ต่างๆ ซึ่งทำาให้ฝ่ายหนึ่งรับรู้ความหมายจากอีกฝ่ ายหนึ่งและเกิด การตอบสนอง ปั จจุบนั การสื่ อสารมีมากมายหลายวิธี อาจเป็ นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสื อพิมพ์ โทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม ระบบ โทรคมนาคม หรื อการสื่ อสารระบบเครื อข่ายที่อาศัยดาวเทียมและ สายเคเบิลใยแก้ว เรี ยกอีกอย่างหนึ่งว่า อินเตอร์เน็ต ก็ได้


ความสั มพันธ์ ระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศกับเทคโนโลยีการ สื่ อสาร เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร (Information and Communication Technologies –ICT) เกิดจาก การทำางานส่ วนหนึ่ง ของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการใช้เทคโนโลยีการสื่ อสารเพื่อให้ได้ ข้อมูลสารสนเทศที่สมบูรณ์ ถูกต้อง รวดเร็ ว ตามความต้องการของผูใ้ ช้ งาน แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารของประเทศไทย พ.ศ. 2545-2549 ได้กาำ หนดความหมายของ ICT ดังนี้


“เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร หมายถึง เทคโนโลยีที่ เกี่ยวข้องกับข่าวสาร ข้อมูล และการสื่ อสาร นับตั้งแต่การสร้าง กา รนำามาวิเคราะห์หรื อประมวลผลการรับและส่ งข้อมูล การจัดเก็บ และการนำาไปใช้งานใหม่ เทคโนโลยีเหล่านี้ มักจะหมายถึง คอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยส่ วนอุปกรณ์ (hardware) ส่ วนคำาสัง่ (software) และส่ วนข้อมูล (data) และระบบการสื่ อสารต่างๆ ไม่วา่ จะเป็ นโทรศัพท์ ระบบสื่ อสารข้อมูล ดาวเทียม หรื อเครื่ องมือสื่ อสาร ใดๆ ทั้งมีสายและไร้สาย”


จากความหมายข้างต้น สรุ ปได้วา่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่ อสาร หมายถึง ข้อมูลที่ได้ถกู ผ่านกระบวนการต่างๆ กลัน่ กรองมาเป็ นข้อมูลสารสนเทศ ซึ่ งเป็ นทั้งเทคโนโลยีและ การสื่ อสาร อาจเรี ยกได้วา่ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนำามาวิเคราะห์หรื อประมวลผล การรับ และส่ งข้อมูล การจัดเก็บและการนำาไปใช้งานใหม่


ระบบเทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื ่ อ สารสำ า หรั บ องค์ ก ร (Information technology and communications for the organization)


ระบบสารสนเทศ? ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ? ระบบเทคโนโลยี สารสนเทศกับ องค์ก ร?


ระบบสารสนเทศ

ความหมายของระบบสารสนเทศ Information System หรื อ IS คือ กระบวนการจัดการข้อมูล ให้มีสถานภาพเป็ นสารสนเทศ เริ่ มตั้งแต่การจัดหา การรวบรวม การ ประมวลผล การสื บคืน การแสดงผล ตลอดจนการเผยแพร่ หรื อถ่ายทอด สารสนเทศแก่ผทู ้ ี่ตอ้ งการ เพื่อให้สารสนเทศนั้นถูกนำาไปใช้ประโยชน์ ตามวัตถุประสงค์ และเป้ าหมายขององค์การ


1. การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล ควรประกอบด้วย -การเก็บรวบรวมข้อมูล -การตรวจสอบข้อมูล 2. การดำาเนินการประมวลผลข้อมูลให้กลายเป็ นสารสนเทศ อาจประกอบ ด้วย -การจัดแบ่งข้อมูล -การจัดเรี ยงข้อมูล -การสรุ ปผล -การคำานวณ


3. การดูแลรักษาสารสนเทศเพื่อการใช้ งาน -การเก็บรักษาข้ อมูล -การค้ นหาข้ อมูล -การทำาสำาเนาข้ อมูล -การสื่อสาร


ความสำ าคัญของระบบสารสนเทศต่ อองค์ กร 1. ทำาให้องค์การมีการจัดเก็บอย่างเป็ นระบบ และมีมาตรฐานเดียวกัน ำ อนและลดภาระของหน่วยงาน ช่วยขจัดความซ้าซ้ 2. เพิ่มความสะดวก รวดเร็ ว ในสามารถเรี ยกใช้สารสนเทศได้ตลอด เวลา 3. ทำาให้ผบู ้ ริ หารมีสารสนเทศที่สามารถนำาไปใช้ในการตัดสิ นใจ สัง่ การ และวางแผนด้านการปฏิบตั ิงานได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ 4. สามารถนำาเอาสารสนเทศไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ ขององค์การได้ เช่น การจัดทำารายงานประจำาปี การจัดทำาเอกสารประชาสัมพันธ์ องค์การ เป็ นต้น


ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ยังมีการสับสนอยูม่ ากระหว่างคำาว่า ระบบสารสนเทศ ( Information System) กับ เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology) ความจริ งทั้งสองคำา คือสิ่ งเดียวกันแต่แตกต่างกันที่เทคโนโลยี ในส่ วนแรก หมายถึงระบบที่มีการนำา ข้อมูลดิบไปประมวลผลให้อยูใ่ นรู ปสารสนเทศที่พร้อมใช้งาน เช่น การอ่านข่าวใน หน้าหนังสื อพิมพ์แล้วไปเล่าต่อให้อีกคนหนึ่งฟัง ก็ถือได้วา่ เป็ นระบบสารสนเทศ อย่างหนึ่งแล้ว เพราะมีการอ่านข้อมูลดิบจากแหล่งข่าวสารแล้วมีการประมวลผลใน สมอง บันทึกจดจำา และมีการแจกจ่ายไปยังบุคคลอื่น แต่ในกรณี เดียวกันนี้ถา้ มี เทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น ทำาการป้ อนข้อความในข่าวนั้นด้วยเครื่ องสแกนเนอร์ แล้ว บันทึกเป็ นไฟล์ภาพ ทำาการส่ งผ่าน Email ไปยังบุคคลที่ตอ้ งการ ทั้งสองวิธีการนี้ มี วัตถุประสงค์เดียวกันคือต้องการเผยแพร่ ข่าวสารไปยังบุคคลอื่นแต่ใช้วธิ ีการที่ต่าง กัน


ระบบสารสนเทศทีใ่ ช้ เทคโนโลยี (Use Information Technology )


องค์ ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์


2. เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม


ความสำ าคัญของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 1.ทำาให้สงั คมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็ นสังคมสารสนเทศ 2.ทำาให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็ นเศรษฐกิจโลก 3.ทำาให้องค์กรมีลกั ษณะผูกพัน หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง และเชื่อมโยงกับ หน่วยธุรกิจอื่นเป็ นเครื อข่าย 4.เป็ นแบบสุ นทรี ยสัมผัส และสามารถตอบสนองตามความต้องการการใช้ เทคโนโลยีในรู ปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง 5.ให้เกิดสภาพทางการทำางานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา 6. ก่อให้เกิดการวางแผนการดำาเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทำาให้วิธีการ ตัดสิ นใจ หรื อเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้ น


ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับการบริหารจัดการภายในองค์ กร ความหมายขององค์ กร องค์ กร หมายถึง บุคคลกลุ่มหนึ่งที่มารวมตัวกัน โดยมี วัตถุประสงค์หรื อเป้ าหมายอย่างหนึ่งหรื อหลายอย่างร่ วมกัน และดำาเนิน กิจกรรมบางอย่างร่ วมกันอย่างมีข้นั ตอนเพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์น้ นั โดยมีท้ งั องค์กรที่แสวงหาผลกำาไร คือองค์กรที่ดาำ เนินกิจกรรมเพื่อการ แข่งขันทางเศรษฐกิจ เช่น บริ ษทั ห้างหุน้ ส่ วน ห้างสรรพสิ นค้า ร้านค้า ต่างๆ และ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำาไร คือองค์กรที่ดาำ เนินกิจกรรมเพื่อ สาธารณประโยชน์เป็ นหลัก เช่น สมาคม สถาบัน มูลนิธิ เป็ นต้น


รู ปแสดง ระดับภายในองค์กร


ความจำาเป็ นและประโยชน์ ต่อการจัดองค์ กร ประโยชน์ต่อองค์กร •องค์กรเจริ ญก้าวหน้า •ทำาให้งานไม่ซาซ้ ้ ำ อน ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ ประโยชน์ต่อผูบ้ ริ การ •การบริ หารงานง่าย •แก้ปัญหางานไม่ซาซ้ ้ ำ อน •งานไม่คงั่ ค้าง


บทบาทขององค์ กรทีม่ ตี ่ อระบบสารสนเทศ องค์กรมีผลต่อระบบสารสนเทศในหลายด้านพอสรุ ปได้ดงั นี้ คือ 1.การตัดสิ นใจเรื่ องบทบาทของระบบสารสนเทศและการนำา ระบบสารสนเทศมาใช้ 2.การตัดสิ นใจว่าจะพัฒนาระบบสารสนเทศอย่างไร 3. การตัดสิ นใจเกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานสารสนเทศ 4. การตัดสิ นใจว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ตอ้ งคำานึงถึงในการพัฒนา ระบบสารสนเทศ


ความสำ าคัญของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่ อองค์ กร

ปั จจุบนั มีการกล่าวถึงระบบสารสนเทศกันมาก ไม่วา่ จะ เป็ นหน่วยงานของภาคเอกชน หรื อ ภาครัฐก็ตาม การดำาเนิน งานเกือบทุกขั้นตอนจะต้องมีสารสนเทศเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่วา่ จะเป็ นเรื่ องการบริ หาร หรื อการปฏิบตั ิงานก็ตาม เช่น ร้าน ค้าขายสิ นค้าก็จะมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ นค้าในแต่ละ ประเภท ,ข้อมูลลูกค้า ,ข้อมูลการขาย ,ฝ่ ายบุคคลก็จะมีขอ้ มูล เกี่ยวกับพนักงานแต่ละคน เป็ นต้น


ระบบสารสนเทศที่ดีน้ นั จะต้องมีความเหมาะสมกับ องค์กรซึ่งแต่ละองค์กรมีความต้องการสารสนเทศไม่เหมือนกัน ขึ้นอยูก่ บั เป้ าหมายขององค์กรและขึ้นอยูก่ บั ลักษณะการตัดสิ นใจ ของผูบ้ ริ หาร ผูบ้ ริ หารมักจะได้รับสารสนเทศที่ไม่ตรงกับความ ต้องการ เช่น ได้รับสารสนเทศมากเกินไป สารสนเทศที่ไม่อยูใ่ น รู ปแบบที่ตอ้ งการ สารสนเทศที่ไม่ได้รับในเวลาที่ตอ้ งการ สารสนเทศที่เหมาะสมในการนำาไปใช้สนับสนุนการตัดสิ นใจ การจัดเตรี ยมสารสนเทศให้กบั ผูใ้ ช้จะเป็ นรู ปแบบใดนั้นอยูก่ บั ความต้องการของผูใ้ ช้เป็ นหลักจึงจะทำาให้เกิดประโยชน์สูงสุ ด


การนำาระบบสารสนเทศมาใช้ ในองค์กร 1. ทำาให้ผบู ้ ริ หารมีสารสนเทศ (Information)มาช่วยในการตัดสิ น ใจ การวิเคราะห์ การจัดการ และการควบคุมที่ดีข้ึ น 2.ทำาให้ผบู ้ ริ หารสามารถจัดการการงานที่มีประสิ ทธิภาพขึ้ น ด้วย การเสริ มทางด้านการติดต่อสื่ อสารที่สะดวกรวดเร็ ว 3.ทรัพยากรสารสนเทศมีความสำาคัญมากขึ้น และถือเป็ นส่ วน หนึ่งขององค์กรเช่นเดียวกับทรัพยากรด้านอื่นๆ ดังนั้นการจัดสรร งบประมาณการจัดซื้ อหรื อหรื อหามาซึ่งทรัพยากรสารสนเทศถือ เป็ นส่ วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ขององค์กร


4.ผูบ้ ริ หารทุกคนถือว่ามีส่วนสำาคัญในการจัดการ และการ ใช้ประโยชน์ของทรัพยากรสารสนเทศ 5. ทำาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง วัฒนธรรม และ อิทธิพลทางการเมืองในองค์กรหน่วยงานสารสนเทศหรื อหน่วย งานทีมีส่วนในการเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ขอ้ มูลจะมีความ สำาคัญมากขึ้นในองค์กร


ระบบสารสนเทศทีน่ ำาไปใช้ ในองค์กร ระบบสารสนเทศที่นาำ ไปใช้ในองค์กร ในปัจจุบนั นั้นที่ สำาคัญมี 3 อย่าง คือ 1.นำาไปใช้ในการประมวลผลรายการ และการจัด ทำารายงาน 2.นำาไปใช้ในการช่วยการตัดสิ นใจ 3.นำาไปใช้ในการช่วยการติดต่อสื่ อสาร


ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร ด้ านต่ างๆ (ICT In Organization) 1.ด้ านการศึกษา •การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ทำาให้ผทู้ ี่อยู่ ห่างไกลหรื อไม่สะดวกในการเดินทางสามารถ ได้รับการศึกษาเช่นเดียวกับผูท้ ี่อยูใ่ นเมือง


•บทเรี ยนอิเล็กทรอนิกส์ยงั ช่วยเสริ ม ประสิ ทธิภาพการเรี ยนการสอนในวิชา ต่างๆ เช่น ฟิ สิ กส์ เคมี ชีวะ ทำาให้บท เรี ยนมีความน่าสนใจมากขึ้น และเกิด ความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น การแสดง สถาณการณ์จาำ ลอง แบบจำาลอง ภาพ เคลื่อนไหว แสงสี และเสี ยงประกอบ •บทเรี ยนอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มโอกาสใน การเรี ยนรู้ให้กบั ผูพ้ ิการทางสายตาหรื อหู


2. ด้ านการแพทย์ และสาธารณสุ ข เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารถูก นำามาใช้เริ่ มตั้งแต่การทำาทะเบียนคนไข้ การ รักษาพยาบาลทัว่ ไป ตลอดจนการวินิจฉัยและ รักษาโรคต่างๆ ได้อย่ารวดเร็ วและแม่นยำา นอกจากนี้ ยงั ใช้ในห้องทดลอง การศึกษาและ การวิจยั ทางการแพทย์ รักษาคนไข้ดว้ ยระบบ การรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่านเครื อข่ายการ สื่ อสาร เครื่ องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่เรี ยกว่า อี เอ็มไอสแกนเนอร์ ( EMI scanner )


3. ด้ านการเกษตรและอุตสาหกรรม เช่น การจัดทำาระบบข้อมูลเพื่อ การเกษตรและพยากรณ์ผลผลิตด้าน การเกษตร นอกจากนี้ ยงั ช่วยพัฒนาความ ก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม การ ประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ทาำ งานบ้าน และ หุ่นยนต์เพื่องานอุตสาหกรรมที่ตอ้ งเสี่ ยง ภัยและเป็ นอันตรายต่อสุ ขภาพ เช่น โรงงาน สารเคมี โรงผลิตและควบคุมการ ำ เช่น จ่ายไฟฟ้ า รวมถึงงานที่ตอ้ งทำาซ้าๆ โรงงานประกอบรถยนต์ และโรงงาน แบตเตอรี่ เป็ นต้น


4.ด้ านการเงินการธนาคาร เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่ อสารถูกนำามาใช้ในด้านการเงินและ ธนาคาร โดยใช้ช่วยงานด้นบัญชี การ ฝากถอนเงิน โอนเงิน บริ การสิ นเชื่อ แลกเปลี่ยนเงินตรา บริ การข่าวสารการ ธนาคาร การใช้คอมพิวเตอร์ดา้ นการ เงินการธนาคารที่รู้จกั และนิยมใช้กนั ทัว่ ไป เช่น บริ การฝากถอนเงิน การ โอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์


5 .ด้ านความมั่นคง มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร กันอย่างแพร่ หลาย เช่น ใช้ในการควบคุม ประสานงานวงจรสื่ อสารทหาร การแปลรหัส ลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ การส่ งดาว ทียมและการคำานวณวิถีการโคจรของจรวดไปสู่ อวกาศ สำานักงานตำารวจแห่งชาติของ ประเทศไทยมีศูนย์ประมวลข่าวสาร มีระบบมี ระบบจัดทำาระเบียนปื น ทะเบียนประวัติ อาชญากร ทำาให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ วใน การสื บค้นข้อมูลเพื่อการสื บสวนคดีต่างๆ


6.ด้ านการคมนาคม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่ อสารในส่ วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ มีการเชื่อมโยงข้อมูล การจองที่นงั่ ไปยังทุกสถานี ทำาให้สะดวกต่อ ผูโ้ ดยสาร การเช็คอินของสายการบิน ได้จดั ทำาเครื่ องมือที่สะดวกต่อลูกค้า ในรู ปแบบ ของการเช็คอินด้วยตนเอง


7 .ด้ านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารในการออกแบบ หรื อจำาลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสัน่ สะเทือนของอาคาร เมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยการคำานวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้ เคียงความจริ ง ตัวอย่างซอฟแวร์การเกิดแผ่นดินไหว


8 .ด้ านการพาณิชย์ องค์กรในภาคธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารใน การบริ หารจัดการ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุน่ ให้กบั องค์กรในการทำางาน ทำาให้การ ประสานงานหรื อการทำากิจกรรมต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานในองค์กร หรื อระหว่าง องค์กรเป็ นไปได้อย่างมีประสิ ทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยงั สามารถนำามาใช้ปรับปรุ ง การให้บริ การกับลูกค้าซึ่ งเป็ นการสร้างภาพพจน์ที่ดีขององค์กรต่อลูกค้าทัว่ ไป ตัวอย่างเช่น การให้บริ การชำาระค่าสิ นค้าบริ การ การสัง่ ซื้อสิ นค้าทางอินเทอร์เน็ต และการตรวจสอบราคาสิ นค้าผ่านเครื่ องอ่านราคาสิ นค้า


ประโยชน์ จากการนำาระบบ ICT มาใช้ ในองค์ กรพอสรุปเป็ นข้ อได้ ดงั นี้ 1.มีความสะดวกรวดเร็ วในระหว่างการดำาเนินงาน 2.ลดปริ มาณผูด้ าำ เนินงาน และประหยัดพลังงานเชื้ อเพลิงได้อีกทางหนึ่ง 3.ระบบการปฏิบตั ิงานเป็ นไปอย่างมีระเบียบมากขึ้น 4.ลดข้อผิดพลาดของเอกสารในระหว่างการดำาเนินการได้ 5.สร้างความโปร่ งใสให้กบั หน่วยงานหรื อองค์กรได้ 6.ลดปริ มาณเอกสาร (กระดาษในระหว่างการดำาเนินงานได้มา 7.ลดขั้นตอนในระหว่างการดำาเนินการได้มาก 8.ประหยัดเนื้อที่จดั เก็บเอกสาร (กระดาษ)


การประยุกต์ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ ากับงานในองค์ กร การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับระบบงานในองค์กรและ งานด้านบริ หารในโลกยุคใหม่มีการแข่งขันกันอย่างรุ นแรง จึงทำาให้ การค้าและการดำาเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงองค์กรต่างๆเริ่ มพยายาม เปลี่ยนแปลงให้มีความก้าวทันเข้าสู่ ยคุ ของการค้ารู ปแบบใหม่ โดยผ่าน เครื อข่ายทางอินเตอร์เน็ต เพื่อเพิ่มช่องทางการบริ การให้ไปสู่ กลุ่มลูกค้า ทั้งเก่าและใหม่ และเป็ นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลกู ค้า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับงานในองค์กรแบ่ง ได้ดงั นี้ คือ - ประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่ อสารและโทรคมนาคม -ประยุกต์ใช้ในสำานักงานภาครัฐและเอกชน


ตัวอย่ างการนำาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศไปประยุกต์ ใช้ ในองค์ กร

“นกแอร์ ” เป็ นสายการบินที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจองตัว๋ เครื่ องบิน อีกทั้งยังมีการจัดตารางปฏิบตั ิงานของพนักงาน มีการบันทึก ข้อมูลผูโ้ ดยสารที่เคยใช้บริ การของสารการบิน การควบคุมการขึ้นลง ของเครื่ องบิน และข้อมูลการดูแลรักษาเครื่ องบิน ผ่านทางระบบ ออนไลน์ท้ งั หมด เป็ นต้น


‘Agoda’ บริ การจองโรงแรมออนไลน์ราคาพิเศษมากกว่า 150,000 โรงแรม ทัว่ โลก ทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริ กา กรุ งเทพฯ สิ งคโปร์ ฮ่องกง ภูเก็ต ไทย มาเลเซีย บาหลี ลอนดอน ปารี ส กับบริ การที่ท่านมัน่ ใจด้วยระบบ Real time บริ การตลอด 24 ชัว่ โมง รวดเร็ ว ปลอดภัย รับประกันราคาถูกสุ ด โดย Agoda!





บริ ษทั ปตท.บริ หารธุรกิจค้าปลีก จำากัด บริ ษทั ปตท.บริ หารธุรกิจค้าปลีก จำากัด (PTTRM ) ซึ่งเป็ นผู ้ บริ หารร้านค้าสะดวกซื้ อภายใต้แบนด์ Jiffy ซึ่งตั้งอยูใ่ นสถานีบริ การ ำ น ปตท PTT ทัว่ ประเทศ ได้คดั เลือกให้บริ ษทั ไอซีทีสมาร์ท น้ามั ทำาการติดตั้งระบบ Time Attendance บันทึกเวลาเข้าออกงานด้วยลาย นิ้วมือ Fingerprint โดยเลือกใช้สินค้ายีห่ อ้ ICT รุ่ น BS100 จำานวน 160 สาขา ทัว่ ประเทศ


ผลดีทเี่ กิดขึน้ 1. เพิ่มประสิ ทธิภาพการทำางาน 2. เพิ่มคุณภาพบริ การลูกค้า 3. ค้นหาสารสนเทศที่ตอ้ งการได้ใน เวลาสั้น 4. สร้างทางเลือกเพื่อการแข่งขัน 5. สร้างโอกาสทางธุรกิจ ดึงดูดลูกค้า และป้ องกันคู่แข่ง

ข้ อเสี ยทีอ่ าจเกิดขึน้ 1. วงจรชีวิตค่อนข้างจำากัด ต้องมี การปรับเปลี่ยนตลอดเวลา 2. ลงทุนสูง 3. ซับซ้อนและยากต่อการจัดการ ข้อมูล 4. ยากต่อการรักษาความทันสมัย ของข้อมูลและของระบบ 5.ความเสี่ ยงสู ง


สรุ ป... จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ วา่ ระบบสารสนเทศมีความสำาคัญในการ บริหารจัดการภายในองค์กร เพราะทำาให้ การทำางานมีประสิทธิภาพมากยิ่ง ขึ ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปั จจุบนั สิ่งแวดล้ อมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลาและมีการแข่งขันทางธุรกิจสูง องค์กรที่มีระบบการบริ หารงานที่ มีประสิทธิภาพและเข้ าถึงข้ อมูลได้ เร็วเท่านันถึ ้ งจะอยู่รอดได้ ในปั จจุบนั


ขอบคุณ http://3.bp.blogspot.com http://61.19.202.164/resourc http://www.learners.in.th/blogs/posts/179976 http://elearning.northcm.ac.th/it/lesson8-1.asp http://552110293naratipna.blogspot.com/


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.