การออกแบบและเทคโนโลยี Design and Technology

Page 1

ระบบทางเทคโนโลยี

ระบบเครืองคิดเลข

Calculator system

1.ตั วปอน (Input) พิ ม พ์ ชุ ด ข้ อ มู ล เ ป น จํา น ว น ตั ว เ ล ข แ ล ะ เ ค รื อ ง ห ม า ย

2.กระบวนการ (Process) ก า ร ทํา ง า น คํา น ว ณ ห า คํา ต อ บ ข อ ง ชุ ด ข้ อ มู ล ที ป อ น

3.ผลลัพธ์ (Output) คํา ต อ บ ข อ ง ชุ ด ข้ อ มู ล ที ป อ น แ ส ด ง เ ป น ตั ว เ ล ข ขึ น บ น จ อ ภ า พ

4.ข้อมู ลย้อนกลับ (Feedback) ไ ด้ รั บ คํา ต อ บ อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ ไ ด้ ผ ล ลั พ ธ์ ที แ น่ น อ น

น า ง ส า ว ผ ริ ต า สั ง เ ก ต กิ จ


ก า ร เ ป ลี ย น แ ป ล ง ข อ ง

เ ค รื อ ง คิ ด เ ล ข ลูกคิด (Abarcus) ประมาณ 2600 ปก่ อ นคริ ต์ ศั ก ราช ชาวจี น ได้ ป ระดิ ษ ฐ์ เ ครื องมื อ การนั บ ซึ งถื อ เปนเครื องคํา นวณเครื องแรก ลั ก ษณะการทํา งานของลู ก คิ ด ใช้ วิ ธี ก ารนั บ ข้ อ เสี ย คื อ ไม่ ส ามารถบั น ทึ ก การ คํา นวณเอาไว้ ต รวจสอบไม่ ไ ด้

ตารางลอกการทึม (Napier's bone) ในป ค.ศ. 1617

จอห์ น เนปยร์ (JOHN NAPIER) นั ก คณิ ต ศาสตร์ ช าวสก็ อ ตแลนด์ ได้ ส ร้ า งอุ ป กรณ์ ที ช่ ว ยในการคู ณ หาร ถอดกรณฑ์ ใ ห้ ง่ า ยขึ น เรี ย กอุ ป กรณ์ ชนิ ด นี ว่ า ตารางลอกการิ ทึ ม

ในปถั ด มา : วิ ล เลี ย ม ออกเกด (WILLIUM OUGTRED) นั ก คณิ ต ศาสตร์ ชาวอั ง กฤษได้ ผ ลิ ต ไม้ บ รรทั ด คํา นวณ (SLIDE RULE) เพื อช่ ว ยในการคู ณ นิ ย ม ใช้ กั น มากในงานด้ า นวิ ศ วกรรมและงานด้ า นวิ ท ยาศาสตร์

อารทโมมิเตอร์ (Arithmometer Machine) ในป ค.ศ. 1623 กอทฟริ ด วิ ล เฮลม ลิ ป นิ ซ (GOTTFRIED WILHELM LEIBNIZ) นั ก ประดิ ษ ฐ์ ช าวอเมริ กั น ได้ ป ระดิ ษ ฐ์ เ ครื องคํา นวณที สามารถคู ณ หาร และหารากที สอง เรี ย กเครื องมื อ ชนิ ด นี ว่ า อาริ ท โมมิ เ ตอร์

Calculating Machine วิ ล เลี ยม สเวี ย ด เบอร์ ร็ อ คส์ (WILLIAM SEWARD BURROUGHS) เขาได้ ป ระดิ ษ ฐ์ เ ครื องมื อ ในการคํา นวณขึ นมาเปนครั งแรก และยื นจดทะเบี ย น สิ ท ธิ บั ต รในป 1885 ซึ งได้ สิ ท ธิ บั ต รในป 1888 และได้ ส ร้ า งระบบการ คํา นวณสํา หรั บ ธนาคารในยุ ค นั นขึ นมา

นางสาวผริ ต า สั ง เกตกิ จ


ผลกระทบจากเทคโนโลยีตอ ่ สังคมและมนุษย์ ของการสร้าง

สวนสาธารณะ ผลกระทบด้านบวก เพื่อใหมีสถานที่พักผอนหยอนใจสาธารณะที่ทุกคนสามารถเขาถึงได เพื่อใหคนไดทํากิจกรรมนันทนาการหลังจากการทํางาน หลังเลิกเรียน หรือในชวงวันหยุด

ผลกระทบด้านลบ ความขัดแยงการใชที่ดิน เชน ประชากรที่อยูอาศัยบริเวณนัน ้ อาจ ตองโยกยายที่อยู หรือรานคารายยอยตาง ๆ ตองปิ ดตัวลง เพราะความตองการพื้นที่ในการสรางสวนสาธารณะ

แนวทางแก้ไข เลือกสถานที่ที่เหมาะแกการสรางสวนสาธารณะ คือ ใกลแหลงชุมชน และเป็ นทางผานของถนนหลายเสน แตเลือกบริเวณที่ไมมีสถาน ที่พักอาศัย และมีการวางระบบการผังเมืองที่ดีและเหมาะสม นางสาวผริตา สั งเกตกิจ ม.4/4 เลขที 12ข


วัสดุพืนฐาน

CERAMIC

หมายถึ ง ผลิตภั ณฑ์ ทีทําจากวัตถุดิบในธรรมชาติ เช่น ดิ น หิ น ทราย และแร่ธาตุต่าง ๆ นํามาผสมกั น แล้วทําเปนสิงประดิ ษฐ์ หลังจากนันจึงนํา ไปเผาเพือเปลียนเนือวัตถุให้ แข็งแรง สามารถคงรู ปอยู่ได้

- พอร์ซเลน (Porcelain) เปนเซรามิกเนือสีขาว เคลื อบผิวเปนมัน โปร่งแสง - โบนไชน่า (Bone China) เปนเครืองปนดินเผาชันดีทีสุดมีราคาแพงสุด มีความขาวและเคลื อบเปนมันวาวมาก เนือละเอี ยด บางเบาและโปร่งแสงมาก - เอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware) เปนผลิ ตภัณฑ์เซรามิกเคลื อบผิวทึบแสง มีความพรุนสามารถดูดซึมนําได้เนือละเอี ยดสีไม่ขาวมาก - สโตนแวร์ (Stoneware) เปนกลุ่มดินผลิ ตภัณฑ์ทีมีความหลากหลายในการ เลื อกใช้ ทังดินงานปน, งานหล่ อ, งานอั ดปม - เทอราคอตตา (Terra Cotta) เปนผลิ ตภัณฑ์ทีมีดินเหนียวผิวดินเผาแล้ ว มักมีสีแดง เนือไม่แกร่ง มีความพรุนตัวสูง - แก้ ว (Glass) เปนเซรามิกทีโปร่งแสง บางชนิดขุ่น - วัสดุทนไฟ (Refractories) เปนวัสดุประเภทอนินทรีย์พวกดิน หิน แร่ธาตุ ทีหลอมตัวได้ยากในอุ ณหภูมิสูง ทนอุ ณหภูมิได้อย่างน้อย 1,600 ° C

ควรคํานึงถึ งอันตรายที อาจเกิ ดขึนจากสารตะกั ว ที ใช้เปนตั วช่วยลดอุ ณหภูมิการหลอมละลาย และทําให้ มีสีสดใส ถ้ าเคลือบยึดติ ดกั บผิวเนือดิ นปนไม่ดี สารที เคลือบอาจกะเทาะและมีสารตะกั วหลุดออกมาได้ เพราะ ฉะนันการนําผลิตภั ณฑ์ ดังกล่าวไปใช้ใส่สารที เปนกรด หรือเปนเบส จึงไม่สมควร เช่น การใส่อาหารที เปนกรด เบส ก็ จะทําให้ ภาชนะนันถูกกร่อน และมีสารตะกั วปน หลุดออกมา ปนอันตรายต่ อผู้บริโภค

- ชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ - ฉนวนไฟฟา - วัสดุขัดเจียร - ชินส่วนยานอวกาศ - ภาชนะ และเครืองครัว - เครืองประดั บตกแต่ งเครืองสุขภั ณฑ์ - ชินส่วนในร่างกายมนุษย์


DRILL สว่าน

สว่าน

ประเภทของสวาน Δ สวานไขควงไฟฟ า หน าที่หลักคือการไขสกรู จึงมีระบบควบคุมแรงบิดและรอบ หมุน สามารถกลับทางหมุนได เพื่อใหเหมาะกับทัง้ การไขสกรูและการคลายสกรู Δ สวานไฟฟ า เหมาะกับงานเจาะไม เหล็ก และพลาสติก หรือวัสดุที่ไมหนามากนัก Δ สวานกระแทกไฟฟ า ใชการทํางาน 2 ระบบ คือระบบธรรมดา และระบบกระแทก ที่ทําหน าที่เหมือนคอน ชวยในการเจาะปูนแบบกอฉาบ Δ สวานโรตารี่ แบงออกเป็ นแบบ 2 ระบบ คือระบบเจาะ ระบบกระแทก กับแบบ 3 ระบบ ที่มีทงั ้ ระบบเจาะ ระบบกระแทก และระบบสกัด เพื่อชวยสกัดหน าปูนเพิ่มขึ้นมา Δ สวานไรสาย หรือสวานแบตเตอรี่ เหมาะกับงานเจาะไม เหล็ก หรือขันน อต ขอ จํากัดคือตองคอยชารจหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่นัน ่ เอง

ประเภทของดอกสวาน Δ ดอกสวานไฮสปี ด – ดอกสวานเจาะเหล็ก สแตนเลส สามารถใชเจาะไม กระเบื้อง โลหะ ทองแดง อลูมิเนียมและพลาสติก Δ ดอกสวานคารไบด – ดอกสวานเจาะเหล็กแข็ง สามารถใชเจาะปูนและคอนกรีตได

วิธีการใชสวานใหปลอดภัย Δ แตงกายใหรัดกุม สวมอุปกรณปองกัน เชน แวนตา ถุงมือ ผาปิ จมูก พับแขนเสื้อให เรียบรอย งดใสเครื่องประดับบริเวณมือ Δ ตรวจสอบอุปกรณกอนใชงาน ทัง้ ตัวอุปกรณและสายไฟ ขันดอกสวานใหแนน ไม แกวงหรือเคลื่อนที่ขณะใชงาน Δ หากตองการเจาะวัสดุที่ตองการใหทะลุ ควรนํ าวัสดุมารองรับเสมอ หากตองการ เจาะวัสดุที่ขยับไดควรล็อควัสดุใหแนนหนากอนกอนเจาะทุกครัง้ Δ ควรใชเหล็กตอกนํ าศูนยตรงจุดที่ตองการเจาะ จับอุปกรณใหกระชับและตรงจุด ขณะเจาะควรออกแรงกดใหสัมพันธกับการหมุนของอุปกรณ

นางสาวผริตา สังเกตกิจ ม.4/4 เลขที่ 12ข


เฟอง (GEAR) ประเภทของเฟื อง เฟองเกลียวสกรู เป็ นเฟื องเกลียวที่ใชสงกําลังระหวางเพลาที่ ทํามุมกัน 90° สวนมากใชในการเปลี่ยน ทิศทางในการสงกําลังของเพลา

เฟองดอกจอก เป็ นเฟื องที่มีการตัดฟั นเฟื อง ใชสําหรับ สงกําลังจากเพลาหนึ่งไปยังอีกเพลาหนึ่ง ที่ตัดกัน มุมระหวางเพลา 90°

เฟองเฉียง

เฟองเฉียงก้างปลา

เฟองตัวหนอน

เฟองวงแหวน

เฟองสะพาน

เฟองตรง

เป็ นเฟื องสงกําลังที่มีฟันเฉียงทํามุม กับแกนหมุน

เป็ นเฟื องที่ทํางานโดยการหมุน เพลาขับ และเพลาตามทํามุมที่มุม 90°

ใชในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ จากการเคลื่อนที่ในลักษณะการเคลื่อนที่ เชิงมุมเป็ นเชิงเสน

การดูแลรักษาเฟื อง เมื่อใชไประยะหนึ่ง ควรมีการทําความ สะอาด และสเปรยน้ํ ามันหลอลื่นคลุมไว เพื่อประโยชนในการหลอลื่น และกันการ เกิดสนิม

เป็ นเฟื องที่มีลักษณะคลายกับเฟื องตรง แตฟันของเฟื องจะเอียงสลับกันเป็ น ฟั นปลา

เป็ นเฟื องตรงชนิดหนึ่ง แตฟันเฟื องจะอยูดาน บนของวงกลม และตองใชคูกับเฟื องตรงที่มี ขนาดเล็กกวาขบอยูภายใน

เป็ นเฟื องที่มีฟันขนานกับแกนหมุน และใชในการสงกําลังการหมุนจาก เพลาหนึ่งไปยังอีกเพลาหนึ่ง

การผลิตเฟื อง การผลิตเฟื องเพื่อใชในงานอุตสาหกรรม ทําไดหลายวิธี เชน การหลอ การปั ๊ มขึ้นรูป การแปรรูปดวยเครื่องจักร และ การทําโมลดพลาสติก เป็ นตน ซึ่งแตละวิธีนัน ้ ผูผลิตจะตอง คํานึงถึงตนทุนการผลิต จํานวนที่ผลิต และชนิดของเฟื อง แลวมาเลือกวาวิธีไหนจึงจะเหมาะสมและประหยัดที่สุด สวน การผลิตเฟื องเพื่อทําตนแบบซึ่งจะผลิตจํานวนไมมาก

นางสาวผริตา สังเกตกิจ ม.4/4 เลขที่ 12ข


มอเตอร์

MOTOR

ความหมายของมอเตอร์ เปนเครืองกลไฟฟาชนิดหนึงทีเปลียนแปลงพลังงานไฟฟามาเปนพลังงาน กล มอเตอร์ไฟฟาทีใช้พลังงานไฟฟาเปลียนเปนพลังงานกลมีทังพลังงาน ไฟฟากระแสสลับและพลังงานไฟฟากระแสตรง

ประเภทของมอเตอร์ มอเตอร์ไฟฟากระแสสลับ (A.C. MOTOR) 1. มอเตอร์ไฟฟากระแสสลับชนิด 1 เฟส 2. มอเตอร์ไฟฟากระแสสลับชนิด 2 เฟส 3. มอเตอร์ไฟฟากระแสสลับชนิด 3 เฟส

มอเตอร์ไฟฟากระแสตรง (D.C. MOTOR) 1. มอเตอร์ไฟฟาแบบอนุกรม 2. มอเตอร์ไฟฟาแบบอนุขนาน 3. มอเตอร์ไฟฟาแบบผสม

ลักษณะการใช้งาน มอเตอร์ไฟฟากระแสสลับ — นิยมใช้งานทุกประเภทตังแต่อุปกรณ์ขนาด เล็กไปจนถึงในอุสาหกรรมทุกประเภท เนืองจากมีราคาถูกกว่าเครืองจักรกล ไฟฟากระแสตรง และสามารถต่อกับไฟฟากระแสสลับได้โดยง่าย

มอเตอร์ไฟฟากระแสตรง — มีคุณสมบัติทีเด่นในด้านการปรับความเร็วรอบ ตังแต่ความเร็วรอบตําสุ ดไปจนถึงความเร็วรอบสู งสุ ด นิยมใช้ในโรงงานทอผ้า โรงงานเส้ นใยโพลี เอสเตอร์ โรงงานถลุงโลหะ และเปนต้นกําลังขับในรถไฟฟา

นางสาวผริตา สั งเกตกิจ ม.4/4 เลขที 12ข


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.