รายงานการวิจัย

Page 1

รายงานการวิจัย การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ประจาปี 2556

งานกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด

31 กรกฎาคม 2556


คำนำ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด (บวท.) ในฐานะหน่วยงานที่อยูภ่ ายใต้การกากับ ดู แ ลของรั ฐ ให้ ค วามส าคั ญ กั บ การพั ฒ นาแนวทางการบริห ารจั ด การภายใต้ ก ารก ากั บ ดู แลที่ ดี ข อง รัฐวิสาหกิจ โดยมุ่งหวังให้พนักงานของ บวท. เป็นส่วนหนึ่งของความสาเร็จในการกากับดูแลที่ ดีฯ ให้มาก ยิ่งขึ้น ในปีงบประมาณ 2556 บวท. ได้จัดทาแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ขึน้ โดยมียุทธศาสตร์ที่ 2 ผลักดันนโยบายการกากับดูแลที่ดี พร้อมการขยายการปฏิบัติให้ครอบคลุมทุกระดับทั่วทั้งองค์กร มี เป้าหมาย 2.1 สร้างองค์ความรู้และการ ตระหนักรู้ในเรื่องการกากับดูแลที่ดีของ บวท. ของฝ่ายจัดการและพนักงาน ด้ วยมาตรการและแนวทาง ปฏิบัติ 2.1.1 การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTTTHAI 2.1.3 จัดให้มีการสารวจความตระหนักรู้ ถึงความสาคัญในการนาไปปฏิบัติในเรื่องการกากับดูแลที่ดีของ บวท. และ 2.1.4 สร้างบรรยากาศของ องค์กรที่ส่งเสริมให้ เกิดการมีส่วนร่วมในการปฏิบั ติตามกฎหมาย และมีจริย ธรรมของฝ่า ยจัดการและ พนักงาน บวท. จึงได้ทบทวนสภาวะแวดล้อม/ศึกษาข้อมูล ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่า การมีส่วนร่วม ของบุคลากร และวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI น่าจะมีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของ การกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. จึงได้นาการมีส่วนร่วมของบุคลากรเข้ามาร่วมศึกษาด้วย เพื่อนา ผลการสารวจมาเป็นแนวทางผลักดันให้ การมีส่วนร่วมของบุคลากรเป็นองค์ประกอบในการพัฒนาความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 25562560 ซึ่งผลการวิจัยจะใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ต่อไป ดังนั้น บวท. จึงได้ทาการวิจัยเชิงสารวจในเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสัง คมของ บวท. ปี 2556-2560 ประจาปี 2556 มาตั้งแต่เดือ นพฤษภาคมสิ ง หาคม 2556 และจั ด ท ารายงานผลการส ารวจฯ ภายในเดื อ นกั น ยายน 2556 เพื่ อ น าเสนอต่ อ คณะกรรมการกากับดูแลที่ดีของ บวท. และคณะกรรมการบริษัทฯ ตามลาดับ งานกากับดูแลที่ดี บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด 17 กันยายน 2556


1

บทสรุปผู้บริหาร บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในด้านการกากับดูแลกิจการ ที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรม โดยคานึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ตลอดจนการดูแลรักษาสังคม สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ คณะกรรมการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ได้เห็นชอบแผนแม่บทด้านการ กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท.ปี 2556-2560 ซึ่งมีความ สอดคล้องกั บแผนวิสาหกิจปี 2556-2560 ของ บวท. โดยแผนแม่บ ทฯ ดังกล่าวได้ก าหนดยุทธศาสตร์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด มาตรการและแนวปฏิบัติ ระยะเวลาดาเนินงาน ตลอดจนหน่วยงานรับผิดชอบหลักไว้ อย่างชัดเจน เพื่อให้การดาเนินงานตามแผนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การจะไปถึงความสาเร็จของการดาเนินการตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ดังกล่าวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของพนักงาน บวท. ทุกคนและทุกระดับ สิ่งที่เ ป็นปัจจัยส่งเสริมความสาเร็จ หรือเป็นส่วนที่ ขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรไปสู่จุดหมาย คือ การปฏิบัติตนของพนักงาน บวท. ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา อย่างยาวนานจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ที่มุ่งเน้นให้พนักงานมีความใส่ใจใน ด้านความปลอดภัย การมีจริยธรรมเพื่อส่วนรวม การมีความรับผิดต่อตนเองและหน้าที่ การยอมรับ ในความเป็นมืออาชีพในระดับสากล และมีความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันของพนักงาน บวท. วัฒนธรรม องค์กรจะเข้มแข็งได้นั้น จะต้องมีการปฏิบัติตนแบบมีส่วนร่วมของพนักงาน บวท. ซึ่งถือเป็นหลักการ สากลที่นานาอารยองค์กรให้ความสาคัญ และเป็นประเด็นหลักที่องค์กรให้ความสนใจเพื่อพัฒนาการ บริหารจัดการเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมตามหลักการธรรมาภิบาล ที่องค์กรจะต้องเปิด โอกาสให้พนักงานและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการให้ข้อมู ล มีส่วนร่วมในการเปิดรับฟัง ความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการปรึกษาหารือ มีส่วนร่วมในการวางแผนร่วมกัน มีส่วนร่วมในการปฏิบัติ และมีส่วนร่วมในการควบคุมโดยพนักงาน เพื่อสร้างความโปร่งใสและเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจของ องค์กรให้ดีข้นึ และเป็นที่ยอมรับร่วมกันของทุก ๆ ฝ่าย เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น พนักงานและผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ทั้งนี้พระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริห าร กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ต่างให้ความสาคัญต่อการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส สุจริต เปิดเผย ข้อมูลและเปิดโอกาสให้พนักงาน บวท. ได้เข้ามามีสว่ นร่วมในการกาหนดนโยบายของ บวท. การตัดสินใจทางการบริหารจัดการ รวมถึงการตรวจสอบการใช้อานาจของผู้บริหารในทุกระดับ จากแผนการเดินทางไปพร้อมกัน เพื่อก้าวสู่จุดหมายตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 จึงมีความสาคัญต่อ บวท. ว่าจะเดินทาง


2

ไปสู่จุดหมายตามแผนแม่บทดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยอาศัยการมีส่วนร่วม ของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และการปฏิบัติ ตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ได้หรือไม่ ดังนัน้ บวท. จึงกาหนดปัญหาของการวิจัยในครั้งนี้ คือ การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรม ด้านการกากับ ดูแลกิ จการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการ กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการ ที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร (SMART AEROTHAI) และความตระหนัก รู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการ ที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI กับ ความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ปี 2556-2560 การวิจัยในครั้งนีจ้ ะเป็นการวิจัยเชิงสารวจในประชากรที่เป็นพนักงาน บวท. (กลุ่มเป้าหมาย คือ ฝ่ายจัดการและพนักงาน) โดยมีตัวแปรที่สาคัญ 2 ตัว คือ 1. การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการ ที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร (SMART AEROTHAI) เป็นตัวแปรอิสระ 2. ตัวแปรความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 เป็นตัวแปรตาม ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ 1. ทาให้ทราบถึงการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ


3

รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2555-2559 ในภาพรวม 2. ทาให้ทราบถึงความสัมพันธ์ของการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการ ที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร (SMART AEROTHAI) และ ความตระหนักรู้ถึงความสาคั ญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 3. สามารถนาผลการวิจัยไปใช้ในการกาหนดมาตรการหรือแนวทางปฏิบัติ ในการมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตน ในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรีย มความพร้อม ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ให้สูงยิ่งขึน้ 4. สามารถนาผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการกาหนดมาตรการหรือแนวทางปฏิบัติในการมี ส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมต่าง ๆ การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อมุง่ สูจ่ ุดหมายที่หวังไว้ (Journey to Newland) ในอนาคต ผลการสารวจประจาปี 2556 ผลการสารวจจากผู้ตอบแบบสอบถามที่ให้ข้อมูลครบถ้วนถูกต้องจานวน 833 ชุด คิดเป็น ร้อยละ 91.74 จากแบบสอบถามที่แจกจ่ายไปจานวน 908 ชุด พบว่า 1. ด้านการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานฯ พบว่าการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการ และพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีระดับการ ปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง มีคา่ เฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.27 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.835 และ เมื่อพิจารณาในแต่ละด้านของการมีส่วนร่วมแล้ว พบว่า การมีส่วนร่วมในการปฏิบั ติ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 3.80 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก รองลงมาคือการมีส่วนร่วมในการให้/รับข้อมูลและการมี ส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา มีค่าเฉลี่ย เท่ากัน เท่ากับ 3.32 มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง การมี ส่วนร่วมในการวางแผนและตัดสินใจ มีค่าเฉลี่ย 2.99 มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง และการมี ส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล มีคา่ เฉลี่ย 2.91 มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง ตามลาดับ


4

ด้านการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานฯ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.27

ปานกลาง

๒๕๕๖ 2556 2555 ๒๕๕๕

0.0

0.5 1.0

1.5 2.0

2.5

3.0 0

3.5

4.0

2. ด้านการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่ายจัดการและ พนักงานฯ พบว่าวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก มี ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.11 มีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.437 และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านของ วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI พบว่า วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.27 มีระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุด รองลงมาคือวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.24 มีระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุด วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน มี ค่าเฉลี่ย 4.21 มีระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุด ส่วนวัฒนธรรมความปลอดภัย มีค่าเฉลี่ย 3.97 มี ระดับการปฏิบัติในระดับมาก และวัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพ มีค่าเฉลี่ย 3.85 ระดับการปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ ด้านการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๑๑

2556 2555

0.0 0.5 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 4.0 4.5


5

3. ด้ า นความตระหนั กรู้ ถึ ง ความส าคั ฯ ฯ ของฝ่ า ยจั ด การและพนั ก งานฯ พบว่ า ความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีระดับความตระหนักอยู่ในระดับมาก มีค่า เฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.64 มี ค่าเบี่ย งเบนมาตรฐานรวมเท่ากั บ 0.545 และเมื่อ พิจารณาในแต่ละด้านของความตระหนัก รู้ถึ ง ความสาคัญแล้ว พบว่า ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 3.92 มีระดับความ ตระหนักในระดับมาก รองลงมาคือ ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.80 ความ ตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร มีค่าเฉลี่ย 3.67 ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง มีค่าเฉลี่ย 3.66 และความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา มีค่าเฉลี่ย 3.15 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ ด้านความตระหนักรู้ถงึ ความสาคัฯของการเตรียมความพร้อมฯ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.64

มาก

2556 2555

0.0

0.5

1.0

1.5

2.0

2.5

3.0

3.5

4.0

4.5

5.0

สรุปได้ว่าการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และการมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมอย่างมีนัยสาคัญ สรุปผลการดาเนินงานเปรียบเทียบ ปี 2554 2555 และ 2556 เกณฑ์ที่ใช้ในการวัดผลสาเร็จของการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 นั้น ได้กาหนดเกณฑ์การแปลผลเชิงปริมาณได้ดังนี้


6

1 ≤ 80

ระดับ ร้อยละ

ประเด็น สารวจ ปีท่ี สารวจ

2 81-85

3 86-90

4 91-95

5 96-100

จานวนฝ่าย

การมีส่วนร่วม

การปฏิบัตติ นใน

ความตระหนักรู้ถึงความสาคัฯ

จัดการและ

ของ

วัฒนธรรมองค์กร

ของการกากับดูแลกิจการที่ดี

พนักงาน

ฝ่ายจัดการและพนักงาน

SMART AEROTHAI

และการแสดงความรับผิดชอบ

(กลุ่มเป้าหมาย) ร้อยละ

ต่อสังคม ร้อยละ ค่าเฉลี่ย

ระดับ ร้อยละ

ค่าเฉลี่ย

ระดับ

ร้อยละ

ค่าเฉลี่ย

2554

84.19

-

-

-

82.10

4.10

2.48

82.40

4.12

2555

99.67

61.80

3.09

<1

82.20

4.11

2.49

83.80

4.19

2556

91.74

65.40

3.27

<1

82.20

4.11

2.49

72.80

3.64

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการสารวจในครั้งนี้ สอดคล้องตามเป้าหมายของโครงการ 000-0065 และงาน 555-0093 ในแผนวิสาหกิจ ประจาปี 2556 (ข้อ 2.1.2) และเป็นไปตามเป้าหมายตามตัวชี้วัด ของยุทธศาสตร์ที่ 2 ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี (CG) ดังนี้ ยุทธศาสตร์

มาตรการและ ค่าเป้าหมายตาม แนวทางปฏิบัติ แผนแม่บทฯ ปี 2556 ยุทธศาสตร์ที่ 2: ผลักดันนโยบายการ 2.1.1 การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร ≥ 2.5 กากับดูแลที่ดี พร้อมการขยายการปฏิบัติ SMART AEROTHAI ให้ครอบคลุมทุกระดับทั่วทัง้ องค์กร 2.1.3 จัดให้มกี ารสารวจความตระหนักรู้ ร้อยละความตระหนักรู้ของ ถึงความ สาคัญในการนาไปปฏิบัติในเรื่อง ฝ่ายจัดการและพนักงาน การกากับดูแลที่ดขี อง บวท. เพิ่มขึน้ จากปีงบประมาณที่ ผ่านมา 2.1.4 สร้างบรรยากาศขององค์กรที่ จัดทาข้อมูลฐาน ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรมของ ฝ่ายจัดการและพนักงาน

ผลการดาเนินงาน ในปี 2556 ทาได้ 2.๕ (เท่ากับปี 2555) ลดลง ร้อยละ 11.00 (72.80-83.80) <1


7

ข้อเสนอแนะ จากการอภิปรายผลสารวจการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ประจาปี 2556 มีข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายและการบริหารจัดการที่มนี ัยสาคัญ ดังนี้ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1. จากผลการวิจัยเชิงสารวจฯ พบว่าความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในด้านการวางรากฐานเพื่อ การพั ฒนามีค่าเฉลี่ยน้อยกว่าด้านอื่น บวท. จึงควรมีก ารผลัก ดันนโยบายสร้างความตระหนัก รู้ถึง ความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ โดยให้ความสาคัญ กับรากฐานเพื่อการพัฒนาความตระหนักรู้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของ บวท. ข้อเสนอแนะเชิงบริหารจัดการ 1. จากผลการวิจัยเชิงสารวจฯ พบว่า บวท. จึงควรส่งเสริม/ให้การสนับสนุนกิจกรรมสร้างความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ หรือ ความตระหนักรู้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของ บวท. ในขั้นตอนการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา ที่ก่อให้เกิด ความมั่นคง แข็งแรง

…………………………………………………………


สารบัญ บทสรุปผูบ้ ริหาร สารบัญ สารบัญตาราง สารบัญภาพ ส่วนที่ 1. บทนา ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัย สมมติฐานในการวิจัย กรอบแนวคิดในการวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย ข้อจากัดของการวิจัย นิยามศัพท์ 2. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของพนักงาน 2. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI 3. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ 4. แนวคิดเกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมสู่ดินแดนใหม่ 5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3 วิธีดาเนินการวิจัย การกาหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือในการวิจัย ลักษณะของแบบสอบถาม การจัดทาข้อมูลและวิเคราะห์ผล สถิตทิ ี่ใช้ในการวิจัย

หน้า ค ฎ ฑ ด 1 1 3 4 4 5 5 7 7 9 9 11 13 19 22 27 27 27 28 30 31 33


สารบัญ (ต่อ)

ส่วนที่ หน้า 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 35 4.1 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล 36 4.2 การวิเคระห์ข้อมูลด้วยสถิตเิ ชิงพรรณา 36 ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม 36 ตอนที่ 2 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในการมีส่วนร่วมของพนักงาน 44 ตอนที่ 3 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI 51 ตอนที่ 4 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของ 59 การเตรียมความพร้อมในการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR ปี 25562560 4.3 การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทดสอบสมมติฐานของการศึกษา 68 ตอนที่ 5 การวิเคราะห์การมีสว่ นร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ 68 ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตน ในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมในการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR ปี 2556-2560 4.4 สรุปผลทดสอบสมมติฐาน 79 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 81 วิธีดาเนินการวิจัย 81 การวิเคราะห์ข้อมูล 82 สรุปผลการวิจัย 83 ข้อเสนอแนะ 89 บรรณานุกรม 90 ภาคผนวก 91 ภาคผนวก ก แบบสอบถามที่ใช้ในการวิจัย 92 ภาคผนวก ข การทดสอบคุณภาพแบบสอบถาม 100 ภาคผนวก ค ผลการทดสอบทางสถิติ 103


สารบัญ (ต่อ) ส่วนที่ ภาคผนวก ง ผูเ้ ชี่ยวชาญพิจารณาเครื่องมือวัด ภาคผนวก จ คณะผูว้ ิจัย

ฐ หน้า 111 115


ฑ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1-1 แผนการดาเนินการวิจัยปี 2556 7 2-1 ลาดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัยของ แครทโวล และคณะ 18 4-1 จานวนและร้อยละ ตามปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม 40 4-2 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมให้ 45 หรือรับข้อมูลในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-3 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมวางแผน 46 และตัดสินใจในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-4 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมแก้ 47 ปัญหาในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคม 4-5 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมปฏิบัติ 48 ในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 4-6 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมในการ 49 ควบคุมประเมินผลในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-7 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมความปลอดภัย 52 ของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-8 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อ 53 ส่วนรวมของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 4-9 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรม 54 ความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรม ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม


ฒ สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ 4-10 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรม การเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรม ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 4-11 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมความเป็น น้าหนึ่งใจเดียวกันของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 4-12 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ใน การตรวจสอบตนเองในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-13 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ใน การเร่งสื่อสารในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-14 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ใน การวางรากฐานเพื่อการพัฒนาในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 4-15 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ใน การสร้างทีมงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-16 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ใน การสานสัมพันธ์ในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม 4-17 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแล ที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560

หน้า 55

56

60

62

63

64

65

69


ณ สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ 4-18 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตาม แผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 4-19 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 4-20 สรุปผลการทดสอบสมมติฐาน

หน้า 72

76

79


ด สารบัญภาพ ภาพที่ 1-1 กรอบแนวคิดในการวิจัย 2-1 ขั้นตอนและกระบวนการเกิดความตระหนักรู้ 2-2 กรอบแนวคิดในการวิจัยจากการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

หน้า 4 14 22


ส่วนที่ 1 บทนำ ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของปัญหำ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในด้านการกากับ ดูแลกิ จการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเพื่อให้ การบริหารงานเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรม โดยคานึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ตลอดจนการดูแลรักษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้เห็นชอบแนวทางดังกล่าว จึงแต่งตั้ง คณะกรรมการและคณะทางานกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมขึ้น โดย ให้มอี านาจหน้าที่เกี่ยวกับการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ให้เป็นไปตามแผนอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล (แผนแม่บท CG & CSR ของ บวท. ปี 25562560, คานา, 2556) อีกทั้ง บวท. ยังได้เล็งเห็นความสาคัญในการดาเนินการดังกล่าว จึงมีแนวทางในการ จัดทาแผนแม่บทขึน้ ประกอบด้วย แผนงานด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี (CG) และแผนงานด้านการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ตลอดจนแนวทางการส่งเสริมการดาเนินงานทั้ง CG & CSR โดยแผนแม่บทดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแผนวิสาหกิจปี 2556-2560 ของ บวท. (แผนแม่บท CG & CSR ของ บวท. ปี 2556-2560, บทสรุปผูบ้ ริหาร, 2556) และมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อเป็นแผนและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสาหรับส่งเสริมการกากับดูแลกิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคม ให้เกิดขึ้นในหน่วยงานและสามารถนาไปปฏิบัติและติดตามผลได้อย่าง เป็นรูปธรรม 2. เพื่อใช้เป็นแนวทางตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ของ บวท. และเพื่อเป็นการ ป้องกันมิให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์สว่ นตนอันจะทาให้เกิดความสูญเสียต่อรัฐ สังคม สิ่งแวดล้อม องค์กร ผูร้ ับบริการ ผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสีย และผูป้ ฏิบัติงานภายใน บวท. 3. เพื่อสร้างการยอมรับ ความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจและความศรัทธาให้เกิดขึ้นกับผู้ ถือหุน้ ผู้รับบริการ ประชาชนทั่วไปและผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอก บวท. โดยมีเป้ามาย ของการดาเนินการด้าน CG & CSR ดังนี้ เป้าหมายที่ 1 เป็นองค์กรที่มีการกากับดูแลกิจการที่ดี การดาเนินงานมีคุณภาพและ ประสิทธิภาพโดยยึดมั่นตามหลักธรรมาภิบาล เป้าหมายที่ 2 เป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป้าหมายที่ 3 มีภาพลักษณ์องค์กรที่ดี เป็นที่ยอมรับของบุคลากรภายใน ผูถ้ ือหุน้ ผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสีย และประชาชนทั่วไป


2

ทั้ ง นี้ ได้ ก าหนดยุ ท ธศาสตร์ ด้ า นการก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม และกลยุทธ์ในการพัฒนาไว้ในแผนแม่บท CG & CSR ปี 2556-2560 จานวน 5 ประเด็น ดังนี้ ยุทธศำสตร์กำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี (CG) ยุทธศำสตร์ท่ี 1: พัฒนาแนวทางและดาเนินการให้เป็นไปตามหลักการและแนวทาง ปฏิบัติที่ดี ยุทธศำสตร์ท่ี 2: ผลักดันนโยบายการกากับดูแลที่ดี พร้อมการขยายการปฏิบัติให้ ครอบคลุมทุกระดับทั่วทั้งองค์กร ยุทธศำสตร์กำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ยุทธศำสตร์ท่ี 3: ใช้ความสามารถหลักขององค์กรและรักษาความร่วมมือกับ ภายนอกในการส่งเสริม/สนับสนุนกิจกรรมที่แสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ยุทธศำสตร์ท่ี 4: แสดงจุดยืนขององค์กรในการให้ความสาคัญต่อปัญหา สิ่งแวดล้อม ยุทธศำสตร์ร่วมกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อ สังคมและสิ่งแวดล้อม (CG&CSR) ยุทธศำสตร์ท่ี 5: สร้างกลไกที่ดใี นการส่งเสริมเผยแพร่การดาเนินงานด้านการ กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้ง ได้กาหนดรายละเอียดแผนกิจกรรมด้าน CG & CSR ปี 2556-2560 -มาตรการและแนวทางปฏิบัติด้าน CG ประกอบด้วย 12 กิจกรรม -มาตรการและแนวทางปฏิบัติด้าน CSR ประกอบด้วย 9 กิจกรรม -มาตรการและแนวทางปฏิบัติรว่ มด้าน CG & CSR ประกอบด้วย 2 กิจกรรม แผนแม่บทการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CG & CSR) ของ บวท. ปี 2556-2560 ดังกล่าว มียุทธศาสตร์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด มาตรการและแนวปฏิบัติ ระยะเวลาดาเนินงาน ตลอดจนหน่วยงานรับผิดชอบหลักไว้อย่างชัดเจน การจะไปถึงความสาเร็จของการดาเนินการตามแผนแม่บท CG & CSR ปี 25562560 ดังกล่าวได้ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันของพนักงาน บวท. ทุกคนและทุกระดับ สิ่งที่เป็นปัจจัยส่งเสริมความสาเร็จ หรือเป็นส่วนที่ขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรไปสู่จุดหมาย คือ การปฏิบัติตนของพนัก งาน บวท. ที่ป ฏิบัติสืบทอดกั นมาอย่างยาวนานจนเป็นวัฒนธรรมองค์ก ร SMART AEROTHAI ที่มุ่งเน้นให้พนักงานมีความใส่ใจในด้านความปลอดภัย การมีจริยธรรมเพื่อ


3

ส่วนรวม การมีความรับผิดต่อตนเองและหน้าที่ การยอมรับในความเป็นมืออาชีพในระดับสากล และมี ความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันของพนักงาน บวท. (อ้างถึงวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI, 2553) วัฒนธรรมองค์กรจะเข้มแข็งได้นั้น จะต้องมีการปฏิบัติตนแบบมีส่วนร่วมของพนักงาน บวท. ซึ่งถือ เป็นหลักการสากลที่นานาอารยองค์กรให้ความสาคัญ และเป็นประเด็นหลักที่องค์กรให้ความสนใจ เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมตามหลักการธรรมาภิบาล ที่ องค์กรจะต้องเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล มีส่วน ร่วมในการเปิดรับฟังความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการปรึกษาหารือ มีส่วนร่วมในการวางแผนร่วมกัน มีส่วนร่วมในการปฏิบัติ และมีส่วนร่วมในการควบคุมโดยพนักงาน (สถาบันพระปกเกล้า, 2550) เพื่อ สร้างความโปร่งใสและเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจขององค์กรให้ดีขึ้น และเป็นที่ยอมรับร่วมกันของ ทุก ๆ ฝ่าย เพื่อประโยชน์สุ ขของผู้ถือหุ้น พนัก งานและ ผู้มีส่ว นได้ส่วนเสีย ตามรัฐ ธรรมนูญ แห่ ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ต่างให้ความสาคัญต่อการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส สุจริต เปิดเผยข้อมูล และการเปิดโอกาสให้ พนักงาน บวท. ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบายสาธารณะของ บวท. การตัดสินใจทางการ บริหารจัดการ รวมถึงการตรวจสอบการใช้อานาจของผู้บริหารในทุกระดับ จากแผนการเดินทางไป พร้ อ มกั น เพื่ อ ก้ า วสู่ จุ ด หมายตามแผนแม่ บ ทด้ า นการก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2555-2559 จึงมีความสาคัญต่อ บวท. ว่าจะเดินทางไปสู่จุดหมาย ตามแผนแม่บทดังกล่าวอย่างมีป ระสิท ธิภาพและเกิดประสิท ธิผล โดยอาศัย การมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และการปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ได้หรือไม่ วัตถุประสงค์ของกำรวิจัย 1. เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการมีสว่ นร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแล กิ จ การที่ดี แ ละการแสดงความรั บ ผิด ชอบต่ อสั ง คม การปฏิ บั ติต นในวั ฒนธรรมองค์ ก ร SMART AEROTHAI กับความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560


4

สมมติฐำนของกำรวิจัย 1. การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 หรือไม่ 2. การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการ กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 หรือไม่ 3. การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 25562560 หรือไม่ กรอบแนวคิดในกำรวิจัย ภาพที่ 1-1 กรอบแนวคิดในการวิจัย การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 การมีส่วนร่วมของพนักงาน ฯ (สถาบันพระปกเกล้า,2550) การปฏิบัตติ นในวัฒนธรรมองค์กร (SMART AEROTHAI) (วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, 2553)

ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR (วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, 2556)


5

ประโยชน์ท่คี ำดว่ำจะได้รับจำกกำรวิจัย 1. ทาให้ทราบถึงการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการ ที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ในภาพรวม 2. ทาให้ทราบถึงความสัมพันธ์ของการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและ การแสดงความรั บ ผิ ด ชอบต่อสั งคม ตามแผนแม่ บ ทด้ านการก ากั บ ดูแ ลที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 3. สามารถนาผลการวิจัยไปใช้ในการกาหนดมาตรการหรือแนวทางปฏิบัติในการมี ส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทการ กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ให้สูงยิ่งขึน้ 4. สามารถนาผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการกาหนดมาตรการ หรือแนวทางปฏิบัติ ในการมี ส่ ว นร่ ว มของพนั ก งานในกิ จ กรรมต่ า ง ๆ การปฏิ บั ติ ต นในวั ฒ นธรรมองค์ ก ร SMART AEROTHAI และความตระหนัก รู้ถึ ง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อม เพื่ อมุ่งสู่จุดหมายที่หวังไว้ (Journey to Newland) ในอนาคต 5. ผลสาเร็จและความคุ้มค่าที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืน และเป็นที่ไว้วางใจแก่ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า คู่คา้ และผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ขอบเขตของกำรวิจัย 1. การศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นการสารวจการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บ ทด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 โดยศึกษาเฉพาะฝ่ายจัดการและพนักงาน ของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด ที่ปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดย การศึกษาค้นคว้าข้อมูลทุติยภูมิจากตารา บทความ เอกสารงานวิจัยที่ เกี่ยวข้อง และใช้วิธีวิจัยเชิง ปริมาณ (Quantitative Study) จากการใช้แบบสอบถาม


6

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ฝ่ายจัดการและพนักงานของ บวท. ที่ ปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมภิ าค รวมทั้งหมด 2,815 คน 1.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ ฝ่ายจัดการและพนักงานของ บวท. จานวนทั้งสิ้น 908 คน และจาแนกกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนอัตรากาลังของแต่ละสายงาน 2. ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา 2.1 ตัวแปรอิสระ (Independent variables) ได้แก่ 2.1.1 ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ การทางาน สถานภาพการทางาน สังกัดสายงาน สถานที่ปฏิบัติงาน และลักษณะการปฏิบัติงาน 2.1.2 การสารวจการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แก่ การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล การมี ส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ และการมี ส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล 2.1.3 คุณค่าร่วม SMART AEROTHAI ได้แก่ คุณค่าร่วมความปลอดภัย (Safety) คุณค่าร่วมจริย ธรรมเพื่อส่วนรวม (Morality) คุณค่าร่วมความรับผิดชอบต่อตนเองและ หน้าที่ (Accountability) คุณค่าร่วมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพในระดับสากล(Recognition) และคุณค่าร่วมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน (Teamwork) 2.2 ตัวแปรตาม (Dependent variables) คือ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แก่ ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง ความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร ความตระหนักรู้ในการ วางรากฐานเพื่อการพัฒนา ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน และ ความตระหนักรู้ในการสาน สัมพันธ์ 3. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา การสารวจการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสั งคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์ก ร SMART AEROTHAI และความ ตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ในการเตรี ย มความพร้ อ มด้า นการก ากั บ ดู แ ลที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ประจาปี 2556 นี้ ใช้เวลาในการศึกษา เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กันยายน 2556 รวมเวลาที่ใช้ในการศึกษาทั้งสิน้ 150 วัน


7

แผนการดาเนินงานอธิบายเนื้องานหลักสาคัญ ๆ ที่ต้องดาเนินการ ระยะเวลาสามารถ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ แต่จะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2556 ดังนี้ ตารางที่ 1-1 แผนการดาเนินการวิจัยปี 2556 ระยะเวลำดำเนินกำร (ในปี 2556) ลำดับ ที่

รำยละเอียด/เนื้องำน

1.

จัดทาโครงร่างการวิจัย พร้อมสร้าง เครื่องมือวัดและทดสอบเครื่องมือวัด นาเสนอ SMM เพื่อให้ข้อคิดเห็น และ นาเสนอคณะทางาน CG & CSR เพื่อให้ ความเห็นชอบ แจกแบบสอบถามและเก็บรวบรวม

2.

3. 4. 5. 6.

พฤษภำคม 2556 สัปดำห์ ที่ 1-2

สัปดำห์ ที่ 3-4

มิถุนำยน 2556 สัปดำห์ ที่ 1-2

สัปดำห์ ที่ 3-4

กรกฎำคม 2556 สัปดำห์ ที่ 1-2

สัปดำห์ ที่ 3-4

สิงหำคม 2556 สัปดำห์ ที่ 1-2

สัปดำห์ ที่ 3-4

กันยำยน 2556 สัปดำห์ ที่ 1-2

ตรวจความถูกต้องของข้อมูล บันทึก และวิเคราะห์ข้อมูล เขียนรายงานการวิจัย รายงานผลการวิจัยเชิงสารวจต่อ SMM, คณะทางานและคณะกรรมการ CG & CSR และคณะกรรมการบริษทั ฯ เพื่อทราบ ตามลาดับ

ข้อจำกัดของกำรวิจัย การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนัก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ในการเตรี ย มความพร้ อ มด้ า นการก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ปี 2556-2560 มีขอ้ จากัดในเรื่องเวลาที่ใช้ในการวิจัย และการเก็บรวบรวมข้อมูลกลับคืน มาจากผู้ ต อบแบบสอบถาม ดั ง นั้ น ในการทดสอบสมมติฐ าน จะใช้ข้ อ มูล จากการเก็ บ รวบรวม แบบสอบถามจากกลุ่มเป้าหมายจานวน 908 ชุด ที่ส่งกลับคืนมาในช่วงเวลาที่กาหนดไว้ ซึ่งเพียง พอที่จะอธิบายความสัมพันธ์ของตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม

สัปดำห์ ที่ 3-4


8

นิยำมศัพท์ ฝ่ายจัดการและพนักงานของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด หมายถึง บุคลากรของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด ที่ปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่เ ป็นฝ่ายจัดการและพนัก งาน ซึ่งปฏิบัติ หน้าที่ตามคาพรรณนาลักษณะงาน (Job Description) การมอบหมายงาน (Job Assignment) และความรับผิดชอบในงาน (Job Responsibility) ตาม โครงสร้างใหม่ที่ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน 2556 ปัจจัยส่วนบุคคล หมายถึง คุณลักษณะส่วนบุคคลของฝ่ายจัดการและพนักงานของ บวท. ที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทางานสถานภาพการ ทางาน (ตามโครงสร้างใหม่ ที่ป ระกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน 2556) หน่วยงานในสังกัด สถานที่ ปฏิบัติงาน และลักษณะการปฏิบัติงาน การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม หมายถึง การมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล มีส่วนร่วมในการเปิดรับฟังความ คิ ด เห็ น ของพนักงาน มีส่วนร่วมในการปรึกษาหารือ มีส่วนร่วมในการวางแผนร่วมกัน มีส่วนร่วมใน การปฏิบัติ และมีสว่ นร่วมในการควบคุมโดยพนักงานของพนักงาน บวท. การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI หมายถึง การปฏิบัติสืบทอดกัน มาในด้านความปลอดภัย มีจริยธรรมเพื่อส่วนรวม มีความรับผิดต่อตนเองและหน้าที่ ยอมรับในความ เป็นมืออาชีพในระดับสากล และมีความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันของฝ่ายจัดการและพนักงานของ บวท. ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมสู่การกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 หมายถึง ความตระหนักรู้ในการเตรียมความพร้อม ของพนักงานโดยการตรวจสอบตัวเอง การเร่งสื่ อสาร การวางรากฐานเพื่อพัฒนา การสร้างทีมงาน และการประสานสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอกในการดาเนินการตามแผนแม่บทด้านการ กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560


9

ส่วนที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสารวจการเตรีย มความพร้อมด้านการก ากับ ดูแลกิจการที่ดี และการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ประจาปี 2556 คณะผู้วิจัยได้ค้นคว้าเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของพนักงาน 2. แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI 3. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ 4. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมสูด่ ินแดนใหม่ 5. งานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้อง 1. แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับกำรมีส่วนร่วมของพนักงำน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 กาหนดหลักการจัดการศึกษายึดหลักให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา (กระทรวง ศึกษาธิการ. 2546 : ค 5) หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วมจึงเกิดขึ้น การบริหารแบบมีส่วนร่วมเป็นรูปแบบการ บริหารที่เปิดโอกาสให้หลายบุคคลเข้ามามีส่วนร่วมเป็นกระบวนการของการให้ผู้ใต้บังคับ บัญชา และผู้มี ส่ ว นเกี่ ย วข้ อ งมีส่ ว นร่ว มในการตัด สิ น ใจ เน้ น การมี ส่ วนร่ ว มของบุค คลอย่ า งเข้ ม แข็ ง ใช้ ความคิด สร้างสรรค์ และความเชี่ย วชาญของกลุ่มบุค คลในการแก้ ปัญ หาของการบริหารอยู่บ น พื้นฐานของแนวคิดการแบ่งอานาจหน้าที่ที่ถือว่า ผู้บริหารแบ่งอานาจหน้าที่การบริหารให้กับผู้ใต้ บังคับบัญชา การบริหารแบบมีสว่ นร่วมเป็นความพยายามที่จะจูงใจให้ผู้ร่วมปฏิบัติงานในองค์การได้ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ร่วมรับผิดชอบและร่วมมือในการพัฒนางานด้วยความเต็มใจเป็นการเปิด โอกาสให้สมาชิกของชุมชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจ (อุทัย บุญประเสริฐ, 2545) โคเฮ็นและอัฟออฟ (Cohenand Uphf) ความหมายการบริหารแบบมีสว่ นร่วม หมายถึง การจูงใจให้ผรู้ ่วมปฏิบัติงานในองค์การได้มสี ่วนร่วมในการตัดสินใจ ความรับผิดชอบ และร่วมมือใน องค์กรพัฒนาปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจ การบริหารแบบมีสว่ นร่วมมีขั้นตอนในการบริหารตามแนวคิดของโคเฮ็นและอัฟออฟ มี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจประการแรกที่จะต้องทา คือ การกาหนดความ ต้องการและการจัดลาดับความสาคัญ ต่อจากนั้นก็เลือกนโยบายและประชากรที่เกี่ยวข้อง การตัดสินใจ ในช่วงเริ่มต้น การตัดสินใจในช่วงดาเนินการวางแผน และ การตัดสินใจในช่วงการปฏิบัติตามแผนที่ วางไว้


10

ขั้นที่ 2 การมีส่วนร่วมในการดาเนินงาน เป็นองค์ประกอบของการดาเนินงาน ได้มา จากคาถามที่วา่ ใครจะทาประโยชน์ให้แก่โครงการได้บ้างและจะทาประโยชน์ได้โดยวิธีใด เช่น การช่วยเหลือ ด้านทรัพยากร การบริหารงาน การประสานงาน และการขอความช่วยเหลือ ขั้นที่ 3 การมีส่ว นร่วมในการรับ ผลประโยชน์ เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ และต้อ ง พิจารณาถึงการกระจายผลประโยชน์ภายในด้วย ผลประโยชน์ของโครงการในทางบวกและผลเสีย หายของโครงการที่เกิดขึน้ ในทางลบ ซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นโทษต่อบุคคลและสังคม ขั้นที่ 4 การมีส่ว นร่วมในการประเมินผล สิ่ งสาคัญ จะต้องสังเกต คือ ความเห็ น (View) ความชอบ (Preference) และความคาดหวัง (Expectation) ซึ่งจะมีอิทธิพลและสามารถเปลี่ยน พฤติกรรมของบุคคลในกลุ่มต่าง ๆ ได้ การมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษา ต้องให้ผู้เรียน ครู ผูบ้ ริหาร ผูป้ กครอง และ ชุมชน มีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ตั้งแต่การวางแผนพัฒนาสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอน การ พัฒนาปรับปรุงสถานศึกษาและการติดตามประเมินผล ซึ่งคุรุสภากาหนดระดับคุณภาพผู้เชี่ยวชาญ เป็นการบริหารงานแบบผู้ร่วมงานทุกคนมีส่วนร่วมมุ่งเน้นให้ทุกคนร่วมวางแผน และปฏิบัติตามแผน ได้ จ ริง สามารถบ่ งชี้ ไ ด้ ชัด เจนว่ า ผลงานส่ วนใดเกิ ด จากผู้ร่ ว มงานคนใด ขยายผลสู่ก ลุ่ มบุ ค คล ใกล้เคียงกับผู้บริหารเป้าหมายปฏิบัติงานคานึงถึงผลการพัฒนาที่เกิดขึ้นกับผู้รับบริการและร่วมงาน ซึ่งเป็นไปตามที่ตกลง (สานักงานเลขาธิการคุรุสภา. 2541 : 4) ประโยชน์ของกำรบริหำรแบบมีส่วนร่วม 1. ช่วยสร้างความสามัคคี และการต่อต้านจากพนักงานระดับต่า 2. ช่วยให้ทราบถึงความต้องการขององค์การทั้งหมด 3. ช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทางานให้สูงขึ้น ลดความเฉื่อยชาในการทางาน การย้ายงานและการหยุดงาน 4. ช่วยลดความขัดแย้ง และการต่อต้านจากพนักงานระดับต่า 5. ช่วยสร้างบรรยากาศในการทางาน และทาให้สุขภาพจิตในองค์การดีข้นึ 6. ช่วยเพิ่มผลผลิตในองค์การ 7. สร้างหลักประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในองค์การ 8. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและทะนุถนอม 9. ทาให้พนักงานรู้สกึ ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์การ 10. เป็นการแบ่งเบาภาระหน้าที่ของผูบ้ ังคับบัญชา ในด้านการควบคุมงานให้ลด น้อยลง และทาให้ผลงานดีข้ึน สรุปการบริหารแบบมีส่วนร่วม หมายถึง การกระจายอานาจและความรับผิดชอบ ของผู้บริหารไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาหรือกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กลุ่มมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ


11

ก าหนดวิสั ย ทั ศน์ เป้า หมายและยุ ท ธศาสตร์ข ององค์ก าร พร้อ มทั้ งร่ วมดาเนิ นการให้ งานบรรลุ เป้าหมายอย่างเต็มใจ และเกิดความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ 2. แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI บริษัท วิทยุการบินแหงประเทศไทย จากัด (บวท.) เปนรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวง คมนาคม ที่มีภารกิจเปนส่วนหนึ่งของกลไกในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศ ดวยการให้ บริการควบคุมจราจรทางอากาศและสื่อสารการบินในอาณาเขตประเทศไทย โดยมี เครือข่ายเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีบริการภาคธุรกิจ คือ บริการเกี่ยวเนื่องกับกิจการ บินทั้งในและต่าง ประเทศ เพื่อการเพิ่มมูลคาการลงทุนของภาค อุตสาหกรรมการบิน และรองรับการ เจริญเติบโตของอุตสาหกรรมการบินใหอยูรวมกันอยางเปนระบบ เพื่อสนับสนุนความเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจอยางยั่งยืนควบคูกับการจัดการดานสิ่งแวดลอมและกอใหเกิดการกระจายความเจริญทาง เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการบินไปสู ทุกภูมิภาคของประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน (วัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI, 2553) วิสัยทัศน “เป็นองค์กรแห่งความปลอดภัยในการบริการการเดินอากาศด้วยการบริหารจัดการ ที่ทันสมัย การกากับดูแลที่ดี และคานึงถึงการลดก๊าซคาร์บอนในกิจการบิน” พันธกิจ (Mission) เพื่อให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายในวิสัยทัศน์ภายใต้หน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับ มอบหมาย บวท. กาหนดนโยบายและแนวทางในการดาเนินภารกิจดังนี้ 1. ดาเนินงานให้มคี วามปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตและ สร้างศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินของประเทศและภูมิภาค 2. พัฒนาระบบและวิธีการ ให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม 3. ตอบสนองความต้องการของผูใ้ ช้บริการอย่างฉับไวและเสริมสร้างการมีสว่ นร่วม 4. เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรอย่างต่อเนื่อง 5. พัฒนาความร่วมมือกับ องค์ก รชั้นนา เพื่อเพิ่มบทบาทและศักยภาพในการให้ บริการ 6. สร้างและปลูกฝังจิตสานึกเชิงพัฒนาการให้แก่บุคลากร 7. ส่งเสริมงานวิจัยเพื่อพัฒนาและสร้างนวัตกรรม 8. บริหารจัดการด้วยระบบบริหารคุณภาพทั่วทั้งองค์กร (TQM) 9. บริหารองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล 10. ร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและคานึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกิจการ บิน


12

ค่ำนิยมและระบบคุณคำ (Value Creations) “ตระหนักถึงความปลอดภัย ใส่ใจบริการ ทางานเป็นทีม” 1. มุงสรางความเจริญเติบโตทางดานเศรษฐกิจ 2. มุงกระจายความเจริญสูภูมภิ าค อยางทั่วถึง เทาเทียม 3. มุงรักษาสิ่งแวดลอม 4. มุงถายทอดเทคโนโลยี 5. มุงสรางจริยปรัชญาในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ปรัชญำในกำรดำเนินงำน Safety: ควำมปลอดภัย ให้ บ ริ ก ารลู ก ค้ า ทั้ ง ภายนอกและภายใน อย่ า งเต็ ม ก าลั ง ความสามารถ ด้ ว ย สัญชาตญาณความปลอดภัยที่ตรงตามมาตรฐานสูงสุด 1. จิตสานึกความปลอดภัย (Safety Instinct) 2. แรงขับเคลื่อนของความปลอดภัย (Safety Driven) 3. มาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standard) Morality: จริยธรรมเพื่อส่วนรวม ตั้งมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต ในการปฏิบัติงาน การเป็นผู้ให้ คิดถึงประโยชน์ของ ส่วนรวมและองค์กรเป็นสิ่งสาคัญ 1. ซื่อสัตย์ (Honest) 2. ทาเพื่อผู้อ่นื และส่วนรวม (Giver) 3. ประโยชน์องค์กรสาคัญที่สุด (Organization First) Accountability: ควำมรับผิดชอบต่อตนเองและหน้ำที่ รับผิดชอบ ทุ่มเท เสียสละในการปฏิบัติงาน สามารถควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบ ของวินัยแห่งความถูกต้องเป็นธรรมและตรวจสอบได้ 1. ควบคุมตนเอง (Self-control) 2. รับผิดชอบ (Accountability) 3. เสียสละ (Sacrifice) Recognition: กำรเป็นที่ยอมรับในควำมเป็นมืออำชีพในระดับสำกล ขวนขวาย ศึกษาเรียนรู้ และคิดริเริ่มปรับปรุงพัฒนาการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง มี ความน่าเชื่อถือด้วยจุดยืนในวิชาชีพของงานปฏิบัติการและสนับสนุนการจราจรทางอากาศอย่าง เสมอต้นเสมอปลาย 1. ใฝ่รู้ (Passion of Learning) 2. นวัตกรรม (Innovation)


13

3. น่าเชื่อถือ (Trustworthy) Teamwork: ควำมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของส่วนรวม ด้วยความเอือ้ เฟื้อ อาทร และมีสัมมาคารวะดุจเป็นพี่นอ้ งกัน 1. ผูกพันฉันท์พี่น้อง (Brotherhood) 2. ทางานเป็นทีม (Teamwork) 3. ร่วมแรงร่วมใจ (Collaboration) 3. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับควำมตระหนักรู้ถงึ ควำมสำคัญ แนวคิดเกี่ยวกับความตระหนักรู้ถึงความสาคัญและการวัด พจนานุกรมทางการศึกษา (Dictionary of education) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความ ตระหนัก รู้หมายถึง การกระท าที่แสดงว่าจาได้ การรับ รู้หรือมีความรู้ หรือมีความสานึก (Consciousness) พจนานุกรมเวบสเตอร์ (Webster’s Dictionary. 1961) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความ ตระหนักรู้ หมายถึง ลักษณะหรือสภาพของความรู้สึกตัว รู้สานึกหรือระวังระไว การรู้จักคิดหรือ ความสานึกทางสังคมและการเมืองในระดับสูง (จันทร์ขจร มะลิจันทร์, 2554) รูนส์ (Runes. 1971) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้เป็นการกระทาที่เกิดจาก ความสานึก กู๊ด (Good. 1973) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้ หมายถึง พฤติกรรมที่ แสดงถึงการเกิดความรู้ของบุคคล หรือการที่บุคคลแสดงความรู้สึกรับผิดชอบต่อปัญหาต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้น โวลแมน (Wolman. 1973) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้ เป็นภาวะที่บุคคล เข้าใจ หรือสานึกถึงบางอย่างของเหตุ ประสบการณ์ หรือวัตถุสิ่งของได้ บลูม (Bloom. 1971) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้เป็นขั้นต่าสุดของภาค อารมณ์และความรูส้ ึก (Affective domain) ความตระหนักรู้เกือบคล้ายกับความรู้ตรงที่ทั้งความรู้และ ความตระหนักไม่เป็นลักษณะของสิ่งเร้า ความตระหนักไม่จาเป็นต้องเน้นปรากฏการณ์หรือสิ่งใดสิ่ง หนึ่ง ความตระหนักจะเกิดขึ้นเมื่อมีส่งิ เร้ามาเร้าให้เกิดความตระหนัก จรินทร์ ธานีรัตน์ (2517) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้ หมายถึง ความรู้สึก หรือความสานึกหาเหตุผลในพฤติกรรมที่ได้กระทาไปทุกครั้ง ประภาเพ็ญ สุวรรณ (2520) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้ หมายถึง การที่ บุคคลฉุกคิดได้ หรือการเกิดขึ้นในความรู้สึกว่ามีสิ่งหนึ่ง เหตุการณ์หนึ่งหรือสถานที่หนึ่ง ซึ่งการรู้สึก ว่ามีหรือการได้ฉุกคิดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่เกิดในสภาวะของจิตใจ แต่ไม่ได้หมายความว่า บุคคลนั้นสามารถจาได้หรือระลึกได้ถึงลักษณะบางอย่างของสิ่งนั้น


14

วิชัย วงษ์ใหญ่ (2523) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความตระหนักรู้เป็นพฤติกรรมขั้น ต่าสุดทาง ด้านความรู้สึก (Affective domain) แต่ความตระหนักรู้นั้นไม่ได้เกี่ยวกับความจาหรือความ ระลึกได้ ความตระหนักรู้ หมายถึง ความสามารถนึกคิด ความรูส้ ึกที่เกิดขึน้ ในสภาวะของจิตใจ จากความหมายของความตระหนักรู้ที่นักวิชาการในสาขาต่าง ๆ ให้ไว้ดังกล่าวข้างต้น พอสรุป ความหมายได้ว่า ความตระหนักรู้ หมายถึง ความสานึกซึ่งบุคคลเคยมีการรับรู้ หรือเคยมี ความรู้มาก่อน โดยเมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นจะทาให้เกิดความสานึกขึ้นหรือเกิดความตระหนักรู้ขึ้น ความตระหนักรู้ จึงเป็นภาวะทางจิตใจที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก ความคิด และความปรารถนาต่าง ๆ อันเกิดจากการรับรู้และความสานึก ซึ่งเป็นภาวะที่บุคคลได้รับรู้ หรือได้รับประสบการณ์ต่าง ๆ มาแล้ว โดยมีการประเมินค่าและตระหนักรู้ถึงความสาคัญของตนเองที่มีต่อสิ่งนั้น ๆ ความตระหนักรู้ จึงเป็นการตื่นตัวทางจิตใจต่อเหตุการณ์ หรือสถานการณ์นั้น ๆ ซึ่งหมายความว่า ระยะเวลาหรือ ประสบการณ์และสภาพแวดล้อมจะทาให้เกิดการรับรู้ (Perceptions) ขึน้ และนาไปสู่การเกิดความคิด รวบยอด การเรียนรูแ้ ละ ความตระหนักรู้ ตามลาดับ ซึ่งขั้นตอนและกระบวนการเกิดความตระหนักรู้ ดังกล่าวแสดงเป็นแผนภูมิได้ดังรูป 2-1 การสัมผัส

การรับรู้

ความคิด รวบยอด

ความ ตระหนักรู้

การเรียนรู้

พฤติกรรม

ที่มา Good, Carter V.( 1973). Dictionary of Education. New York: MacGraw–Hill Book Company. รูปที่ 2-1 ขั้นตอนและกระบวนการเกิดความตระหนักรู้ จากภาพประกอบ 2-1 ความตระหนักรู้เป็นผลมาจากกระบวนการทางปัญญา (Cognitive Process) กล่าวคือ เมื่อบุคคลได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้ าหรือได้รับการสัมผัสจากสิ่งเร้า แล้วจะเกิดการรับรู้ และเมื่อรับรู้ในขั้นต่อ ๆ ไป ก็จะเข้าใจในสิ่งเร้านั้น คือ เกิดความคิดรวบยอดและ นาไปสู่การเรียนรู้ คือ มีความรู้ในสิ่งนั้นและนาไปสู่การเกิดความตระหนักรู้ในที่สุด ซึ่งความรู้และ ความตระหนักรู้ต่างก็นาไปสู่การกระทาหรือการแสดงพฤติกรรมของบุคคลต่อสิ่งเร้านั้น ๆ การที่ บุคคลจะเกิดความตระหนักรู้ขึ้นได้นั้นบุคคลนั้นจะต้องมีความรู้มาก่อน ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นความสาคัญ ความรับผิด ชอบและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาจะส่งผลให้ ผูเ้ รียนเกิดความตระหนักรู้ต่อสิ่งนัน้ ๆ ต่อไปในที่สุด (จันทร์ขจร มะลิจันทร์, 2554)


15

ปัจจัยที่มผี ลต่อความตระหนักรู้ ความตระหนักรู้ (Awareness) เป็นพฤติกรรมทางด้านอารมณ์หรือความรู้สึก (Affective domain) ซึ่งคล้ายกับความรู้ (Knowledge) ซึ่งเป็นพฤติกรรมขั้นต่าสุดของความรู้ ความคิด (Cognitive domain) ปัจจัยด้านความรู้สึกหรืออารมณ์นั้น จะมีความสัมพันธ์กับปัจจัยด้านความรู้ ความคิดเสมอ (ประสาท อิศรปรีดา, 2523) ดังที่กล่าวมาแล้วว่าความรูเ้ ป็นเรื่องที่เกิดจากข้อเท็จจริง จากประสบการณ์ การสัมผัส และการใช้จิตไตร่ตรองคิดหาเหตุผล แต่ความตระหนักรู้เป็นเรื่องของ โอกาสการได้ รั บ การสั ม ผั ส จากสิ่ ง เร้ า โดยไม่ ตั้ ง ใจ การใช้ จิ ต ไตร่ ต รองแล้ ว จึ ง เกิ ด ส านึ ก ต่ อ ปรากฏการณ์หรือสถานการณ์นั้น ๆ และในเรื่องของความตระหนักรู้นี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับความจา หรือการระลึกมากนัก เพียงแต่รู้สึกว่ามีสิ่งนั้นอยู่ (Conscious of something) จาแนกและรับรู้ (Recognitive) ลักษณะของสิ่งนั้นเป็นสิ่งเร้า ออกมาตรงว่ามีลักษณะเป็นเช่นไร โดยไม่มีความรู้สึกใน การประเมินเข้าร่วมด้วย และยังไม่สามารถแบ่งออกมาว่ามีลักษณะอย่างไร หรืออาจกล่าวโดยสรุป ได้วา่ ความรูห้ รือการศึกษาเป็นปัจจัยสาคัญที่มผี ลต่อความตระหนักรู้นั่นเอง ทนงศักดิ์ ประสบกิตติคุณ (2535) กล่าวว่า เนื่องจากความตระหนักรู้ของแต่ละ บุคคลขึ้นอยู่กับการรับรู้ของแต่ละบุคคล ดังนั้น ปัจจัยที่มีผลต่อการรับรู้จึงมีผลต่อความตระหนักรู้ ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้แก่ 1. ประสบการณ์ที่มตี ่อการรับรู้ 2. ความเคยชินต่อสภาพแวดล้อม ถ้าบุคคลใดที่มีความเคยชินต่อสภาพแวดล้อมนั้น ก็จะทาให้บุคคลนั้นไม่ตระหนักรู้ตอ่ สิ่งที่เกิดขึน้ 3. ความใส่ใจและการเห็นคุณค่า ถ้ามนุษย์มีความใส่ใจเรื่องใดมาก็จะมีความตระหนัก รู้ในเรื่องนั้นมาก 4. ลักษณะและรูปแบบของสิ่งเร้านั้นสามารถทาให้ ผู้พบเห็นเกิดความสนใจ ย่อมทาให้ ผูพ้ บเห็นเกิดการรับรู้และความตระหนักรู้ข้นึ 5. ระยะเวลาและความถี่ในการรับรู้ ถ้ามนุษย์ได้รับการรับรู้บ่อยครั้งเท่าใดหรือนาน เท่าไรก็ยิ่งทาให้มีโอกาสเกิดความตระหนักรู้ได้มากขึ้นเท่านัน้ ความตระหนักกับเหตุผลเชิงจริยธรรม 1. การจาแนกระดับของความตระหนักทางสังคม (สุดใจ บุญอารีย์, 2541) ในระดับก่อนเกณฑ์ บุคคลจะไม่มีการตระหนักทางสังคมหรือมีก็แคบมากมักจะ คิดถึงตัวเอง เช่น ถ้าถามว่าเหตุใดจึงต้องรักษาสัญญา จะได้คาตอบว่า “ถ้าคุณไม่รักษาสัญญาคุณ จะถูกตี” จะเห็นว่าทัศนะจากัดอยู่ที่ตัวเอง ไม่คิดถึงผู้อื่น ไม่เข้าใจถึงเจตนาหรือความคาดหวังของ ผูอ้ ื่น ในระดับนี้ ถ้าเด็กพัฒนาสูงขึ้นมาอีกความคิดก็จะกว้างขึ้น โดยจะคิดถึงผู้อื่นเป็นรายบุคคล เป็น การคิดแบบ “ฉัน” และ “เธอ” ไม่เป็นกลุ่ม เหตุผลในการกระทาเพื่อคนอื่นคือ ต้องการให้เขาเป็น ผูต้ อบแทน มิใช่การทาเพื่อการอยู่รว่ มกันในสังคม


16

ในระดับที่สอง คือ ระดับตามกฎเกณฑ์ เด็กจะคิดเรื่องสัมพันธภาพการเป็นสมาชิก ของกลุ่มจะมีความสาคัญคือ อยากจะดีตามที่กลุ่มหรือสังคมต้องการ ระดับที่สองนี้จะตระหนักถึง ผล ประโยชน์ของผูอ้ ื่นและสังคม เป็นระดับแรกที่การเห็นประโยชน์ข องผู้อื่นเป็นระดับที่เข้าใจว่า เหตุ ใดบุคคลจึงต้องเสียสละเพื่อสังคม สิ่งที่ไม่เคยตระหนักในระดับก่อนจะเริ่มมี ผู้มีพัฒนาการในระดับนี้ จะต้องการการยอมรับในการที่ตนทาดี ความแตกต่างระหว่างระดับนี้กับระดับก่อนในเรื่องกฎต่าง ๆ คือ ระดับก่อนเห็นว่ากฎต่าง ๆ เป็นเครือ่ งบังคับเขา แต่ในระดับนี้เห็นว่า กฎต่าง ๆ มีไว้เพื่อช่วยสังคม ที่เขาอยู่ ในระดับที่สาม คือ ระดับเหนือกฎเกณฑ์ ทัศนะจะกว้างออกไปจะไม่มองว่ามนุษย์ เป็นเสมือนฟันเฟืองของเครื่องจักรในสังคม และจะต้องยอมปฏิบัติตามที่สังคมกาหนดและรับใช้ สังคมที่ตัวเองเป็นสมาชิกอยู่ แต่จะกระทาตามหลักแห่งความยุติธรรมที่เห็นว่าทุกคนในสังคมจะต้อง ปฏิบัติไม่ว่าสังคมนั้นจะสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งเรียกได้ว่ามีลักษณะเป็นสากลเพราะใช้กับคนทุกคน ความแตกต่างระดับนี้กับระดับที่แล้ว คือ ระดับก่อนเห็นว่าการกระทาที่ดีจะต้องเป็นการสนับสนุน สังคม ผล ประโยชน์ของสังคมเป็นตัวกาหนดความถูกต้อง แต่ในระดับนี้เห็นว่าการกระทาที่ดี คือ การกระทาที่สอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมหลักแห่งความยุติธรรมนี้เป็นอิสระจากสังคมที่เขา อยู่ ดังนัน้ หลักแห่งความยุติธรรมเป็นพืน้ ฐานของสังคม 2. การจาแนกขั้นของความตระหนักทางสังคม การแยกระดับการหยั่งลึกทางสังคม จะช่วยในกระบวนการวัดพัฒนาการอย่างมาก ถ้าสามารถชี้ชัดถึงขั้นของการพัฒนาการได้ก็ยิ่งจะเป็นแรงสนับสนุนยิ่งขึ้น การรู้ขั้นของพัฒนาการ ด้านการหยั่งลึกทางสังคมของเด็ก จะทาให้เราทราบว่าเด็กใช้เหตุผลอยู่ในสองขั้นใดควบกัน (เช่น ขั้น ที่ 1 และขั้นที่ 2) ในที่นี้จะอธิบายเพียง 4 ขั้น ส่วนผู้ที่มีพัฒนาการด้านการหยั่งลึกทางสังคมในระดับ เหนือกฎเกณฑ์เกือบทั้งหมด จะใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมในขั้นที่ 5 ในระดับก่อนเกณฑ์ ความแตกต่างด้านการตระหนักทางสังคมระหว่างขั้นที่ 1 และ ขั้นที่ 2 ได้แก่ความคิดแบบเห็นแก่ประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย หรือการตระหนักถึงทัศนะของผู้อื่น ซึ่ง ขั้นที่ 1 ไม่มีผู้ใช้เหตุผล คือ จะไม่เข้าใจว่าผู้อื่นมีความคิดเป็นของตนเอง เขาจะคิดว่ามีตัวเขากับโลก ภายนอกเท่านั้น ในด้านจริยธรรมเด็กจะเข้าใจว่าตัวเขาและผู้อื่นอยู่ภายในลักษณะเผด็จการภายนอก อันเดีย วกั น หากไม่รวมตัว เองเข้ากั บ สิ่งนี้จะดี และจะรับ โทษโดยอัตโนมัติ การพิจารณาถึง ความสาคัญและสิทธิของมนุษย์ จะมีลักษณะเป็นรูปธรรมตรง ๆ และการตัดสินใจจากลักษณะพิเศษ ทางกายภาพ เช่น จะช่วยชีวิตผู้อ่นื ที่มีเครื่องประดับมากที่สุดหรือผูท้ ี่สูงที่สุด ในขั้นที่สอง เด็กจะสามารถพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ร่วมกันได้ เด็กจะคิดได้ว่าผู้อื่นมี ความคิดที่แตกต่างไปจากตนและแตกต่างกัน และรู้ว่าบางครั้งบุคคลคาดหวังและกระทาในสิ่งที่ ขึน้ อยู่กับผูอ้ ื่น อย่างไรก็ตาม แม้ความคิดในเชิงการตระหนักจะกว้างขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจากัดคือการเข้า ใจความ สัมพันธ์ระหว่างบุคคลผู้มีพัฒนาการในขั้นที่สองจะมองความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว ในแง่


17

จริยธรรมยังพิจารณาในสิ่งต่าง ๆ ในลักษณะกายภาพและสุขนิยม หลักสาคัญของการพัฒนาในขั้นนี้ คือ จะมิได้นึกถึงการเป็นกลุ่มหรือสังคมที่ดีงาม แต่นึกถึงเพียงประโยชน์ของบุคคลผู้ใฝ่ประโยชน์ ส่วนตัวเท่านั้น ในขั้นที่สาม กรอบความคิด คือ แต่ละคนในกลุ่มจะต้องฟังความเห็นของทุกคนใน กลุ่ม และจะต้องพยายามกระทาในสิ่งที่กลุ่มเห็นด้วย ผูใ้ ช้เหตุผลในขั้นนีจ้ ะพยายามจัดพฤติกรรมของ เขาให้อยู่ในรูปแบบ ของคนดีตามความคิดของตน ในขั้นที่สี่ จะพิจารณาสัมพันธภาพเช่นกัน แต่จะขยายร่วมไปถึงการหยั่งลึกถึงระดับ สังคมแทนที่จะคิดถึงบุคคลเพียง 2–3 คน เขาจะพิจารณาว่าบุคคลเป็นจุดหนึ่งของระบบสังคม ทั้งหมด จะอยู่ที่ผลของสัมพันธภาพหรือพฤติกรรมต่าง ๆ ที่มีต่อสังคม อันได้แก่การกระทาในทานอง ที่เกื้อหนุนหรือส่งเสริมให้สังคมได้ดาเนิ นไปอย่างราบรื่น โดยเชื่อว่าเราทั้งหมดเป็นสมาชิกของระบบ สังคมการขยายความคิดจากปัจเจกบุคคลหรือสัมพันธภาพของกลุ่มเล็ก ๆ ไปสู่ระบบสังคมที่กว้าง ออกไปเป็นความสาเร็จที่สาคัญของขัน้ ที่สี่ ที่พัฒนามาจากขั้นที่สาม การวัดความตระหนักรู้ ความตระหนักรู้ (Awareness) เป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการรู้สานึกว่าสิ่งนั้นมีอยู่ (Conscious of something) จาแนกและรับรู้ (Recognitive) ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับ ด้านความรู้สกึ และอารมณ์ ดังนัน้ การที่จะทาการวัดและการประเมิน จึงต้องมีหลักการและวิธีการ ตลอดจนเทคนิคเฉพาะจึงจะวัดความรูส้ ึกและอารมณ์นั้นมีหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งจะนามากล่าวไว้ ดังนี้ คือ (ชวาล แพรัตกุล, 2526) 1. วิธีการสัมภาษณ์ (Interview) อาจเป็นการสัมภาษณ์ชนิดที่โครงสร้างแน่นอน (Structure item) โดยสร้างคาถามและมีคาตอบที่เลือกเหมือน ๆ กัน แบบสอบถามชนิดเลือกตอบ และคาถามจะต้องตั้งไว้ก่อน เรียงลาดับก่อนหลังไว้อย่างดี หรืออาจเป็นแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructure item) ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ที่มไี ว้แต่หัวข้อใหญ่ ๆ ให้ผู้ตอบมีเสรีภาพในการตอบมาก ๆ 2. แบบสอบถาม (Questionnaire) แบบสอบถามอาจจะเป็นชนิดปิดหรือเปิดก็ได้ 3. แบบตรวจสอบรายการ (Checklist) เป็นเครื่องมือวัดชนิดที่ตรวจสอบว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรือมีไม่มีสิ่งที่กาหนดตามรายการ อาจอยู่ในรูปของการทาเครื่องหมายตอบ หรือเลือก ว่าใช่ ไม่ใช่ก็ได้ 4. มาตรวัดอันดับคุณภาพ(Rating scale) เครื่องมือนี้เหมาะสาหรับวัดอารมณ์และ ความรูส้ ึก ที่ตอ้ งการทราบความเข้าใจ (Intensity) ว่ามีมากน้อยเพียงไรในเรื่องนั้น 5. การเข้าใจความหมายภาษา (Semantic differential technique หรือ S.D.) เทคนิค การวัดโดยใช้ความหมายของภาษาของ ชาลล์ ออสกูด เป็นเครื่องมือที่วัดได้ครอบคลุมชนิดหนึ่ง เครื่องมือชนิดนี้จะประกอบด้วยเรื่องซึ่งถือเป็น “สังกัป” และจะมีคุณศัพท์ที่ตรงข้ามกันเป็นคู่ ประกอบสังกัปนั้นหลายคู่ แต่ละคู่จะมี 2 ขั้ว ช่องจะห่างระหว่าง 2 ขั้วนี้ บ่งด้วยตัวเลข ถ้าใกล้ข้างใด


18

มากก็จะมีคุณลักษณะตามคุณศัพท์ของขั้วนั้นมาก คุณศัพท์ที่ประกอบเป็น 2 ขั้วนี้ แยกออกเป็น 3 พวกใหญ่ ๆ คือ พวกที่เกี่ยวข้องกับการประเมินค่า (Evaluation) พวกที่เกี่ยวกับศักยภาพ (Potential) และพวกที่เกี่ยวกับกิจกรรม (Activity) กระบวนการวัดความตระหนักรู้ ทิศนา แขมมณี (2546) ได้กล่าวว่ากระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่กระตุ้นให้ผู้เรียน ให้ความสนใจ เอาใจใส่ รับรู้ เห็นคุณค่าในปรากฏการณ์หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งที่ เป็นรูปธรรมและนามธรรม ขั้นตอนการดาเนินการมีดังนี้ 1. สังเกต ให้ข้อมูลที่ตอ้ งการให้ผเู้ รียนเกิดความสนใจ เอาใจใส่ และเห็นคุณค่า 2. วิจารณ์ ให้ตัวอย่าง สถานการณ์ ประสบการณ์ตรง เพื่อให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์หา สาเหตุและผลดีผลเสียที่เกิดขึน้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 3. สรุปให้อภิปรายหาข้อมูล หรือหลักฐานมาสนับสนุนคุณค่าของสิ่งที่จะต้อง ตระหนัก และวางเป้าหมายที่จะพัฒนาตนเองในเรื่องนั้น ตาราง 2-1 ลาดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสัยของ แครทโวล และคณะ 1. การรับรู้

2. การตอบสนอง

3. การเกิดค่านิยม

4. การจัดระบบคุณค่า 5. การสร้างลักษณะนิสัย

1.1 ความตระหนักรู้ 1.2 ความยินดีที่จะรับรู้ 1.3 การควบคุมหรือการเลือกให้ความสนใจ 2.1 การยินยอมตอบตกลง 2.2 ความเต็มใจที่จะตอบสนอง 2.3 ความพอใจในการตอบสนอง 3.1 การยอมรับค่านิยม 3.2 การนิยมชมชอบในค่านิยม 3.3 การยึดมั่นในค่านิยม 4.1 การสร้างแนวความคิดของค่านิยม 4.2 การจัดระบบค่านิยม 5.1 การวางหลักทั่วไป 5.2 การสร้างลักษณะนิสัย

จากตาราง 2-1 แสดงลาดับขั้นของพฤติกรรมด้านจิตพิสั ย จะเห็นได้ว่าความ ตระหนักรู้อยู่ในลาดับขั้นของการรับรู้ ซึ่งเป็นขั้นแรกหรือขั้นพื้นฐานของการพัฒนาขึ้นไปสู่ขั้นสูงต่อไป คือ ขั้นการตอบสนอง การเกิดค่านิยม การจัดระบบคุณค่า การสร้างลักษณะนิสัยตามแบบค่านิยมที่ ยึดถือตามลาดับ ลักษณะนิสัยที่จะเกิดขึ้นได้นั้น จาเป็นที่จะต้องสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นในตัว


19

บุคคลนั้นก่อน เมื่อบุคคลนั้นมีความตระหนักรู้แล้วจึงจะพัฒนาไปสู่พฤติกรรมด้านจิตพิสัยที่สูงขึ้น ต่อไปได้ วิธีการสร้างแบบวัดความตระหนักรู้ มีลาดับขั้นดังนี้ คือ 1. การรวบรวมข้อมูล ข้อมูลนั้นอาจจะนามาจากเอกสาร บทวิเคราะห์งานการ ศึกษาวิจัย 2. การตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่นามาใช้ในการสร้างแบบวัดนั้น มี ความเหมาะสมกับการที่จะตอบหรือใช้วัดกับกลุ่มตัวอย่าง 3. สร้างแบบวัดโดยการสร้างข้อคาถาม เพื่อให้กลุ่มตัวอย่างได้แสดงความรู้สึกที่ แท้จริงของตนเองออกมา 4. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบวัด ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้กับความตระหนักรู้ จากความหมายของความรูแ้ ละความตระหนักรู้ที่นักวิชาการได้ให้ความหมายไว้ จะ พบว่าความรู้และความตระหนักรู้นั้นมีความสัมพันธ์คือ ทั้งความรู้และความตระหนักรู้ต่างเกี่ยวข้อง กับการสัมผัส และการใช้จติ ไตร่ตรองทั้งสิน้ โดยความรู้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง กฎเกณฑ์ ฯลฯ ซึ่งได้ จากการสังเกตและรับรู้ที่ต้องอาศัยเวลา ส่วนความตระหนักรู้เป็นเรื่องของความรู้สึกที่เกิดขึ้นใน ภาวะจิตที่ไม่เน้นความสามารถในการจาหรือระลึกได้ อย่างไรก็ตามการที่จะเกิดความตระหนักรู้ ขึน้ มาได้ก็ต้องผ่านการมีความรูม้ าก่อนเป็นเบือ้ งต้น 4. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับกำรเตรียมควำมพร้อมสู่ดินแดนใหม่ บุญชัย พงศ์รุ่งทรัพย์ ที่ปรึกษา HR เอพีเอ็มกรุ๊ป ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลง (change) ที่เกิดขึ้นในหลายๆ สถานที่ว่า ช่วงนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่คาว่า change เริ่มตั้งแต่ Obama ออกแคมเปญ Change we can believe in เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในอเมริกา ส่งผลให้ ทั่วโลกหันมาสนใจเรื่อง change กันมากขึ้น ในประเทศไทยเองก็มีการพูดถึงเรื่อง change กันอย่าง หนาหูทั้งภาครัฐและเอกชน แม้กระทั่งซีรีสญ ์ ี่ปุ่น ยังมีเรื่อง change นายกฯมือใหม่ หัวใจประชาชน ให้ เราได้ดูได้ชมกันอีก เรียกได้ว่า change กันไปทั่วทุกหัวระแหงเลยก็ว่าได้ แน่นอนก็คงจะหลีกหนีเรื่อง change กันไม่ได้ เมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน เพราะ change หนีเท่าไรก็หนีไม่พ้น เกิดขึ้นกับ เราและองค์กรตลอดเวลา โดยประเด็นและสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรอาจจะ แตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ซึ่งองค์กรต้องทราบว่าในการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งนั้นเป็นการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบใด เพื่อเลือกวิธีการในการวางแผนการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสม โดย change ใน องค์กรอาจจะเกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบในช่วงเวลาเดียวกัน โดยทั่วไปจะมีประเด็นการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึน้ 5 รูปแบบด้วยกัน คือ


20

1. evolutionary adaptation : การเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป 2. developmental change: การเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาปรับปรุงวิธีการหรือ กระบวนการทางานเดิมให้ดียิ่งขึ้น 3. transitional change : การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการนาสิ่งใหม่ ระบบใหม่ มาใช้ 4. drastic action : การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบทันทีทันใด 5. transformational change : การเปลี่ยนแปลงแบบปฏิรูปหรือเปลี่ยนรูปแบบการ ดาเนินธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงแต่ละรูปแบบ นัน้ ย่อมส่งผลกระทบต่อวิธีการ กระบวนการ รูปแบบ ในการทางาน จึงทาให้คนในองค์กรต้องเปลี่ยนทั้งวิธีคิด วิธีทา เพื่อให้สามารถสอดรับกับความ เปลี่ยน แปลงที่เกิดขึน้ ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นที่สุด ซึ่งทุกคนก็จะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติและ กระบวนการของการเปลี่ยนแปลงก่อนว่าเป็นอย่างไร “Bill Poole” ผูเ้ ชี่ยวชาญและผู้เขียนหนังสือ Journey to Newland ได้เปรียบเทียบการ เปลี่ยนแปลงเป็นเหมือนการเดินทางจากโลกเก่า (old land) ไปสู่โลกใหม่ (new land) ซึ่งประกอบไป ด้วย 8 ขั้นตอนหลักๆ คือ 1. prepare for the Journey : การเตรียมพร้อมสู่การเดินทางโดยองค์กรจะต้องมี ทิศทางของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ต้องรู้ว่าจะเปลี่ยนอะไร มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และคนต้องทาอย่างไร 2. survey the territory : การสารวจดินแดนโดยองค์กรจะต้องรู้วา่ ในการที่จะ เปลี่ยนแปลงมีปัจจัยอะไรที่เอือ้ หรือเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงบ้าง 3. set the guidelines : การกาหนดแนวทางโดยนาเอาข้อมูลทั้งหมดที่ได้จาก ข้อ 1 และ 2 มากาหนดแผนการเปลี่ยนแปลง 4. gather the team : การเลือกทีมงานเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง โดย เลือกจากผู้นาและพนักงานที่มคี วามพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถมีอิทธิพลต่อพนักงานคน อื่นๆ ได้ 5.choose the path : การเลือกเส้นทางโดยพิจารณาจากลักษณะของงานและคนใน แต่ละหน่วยงาน เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับงานและคนของหน่วยงาน 6.navigate the terrain : นาร่องสารวจเส้นทางโดยต้องสร้างความสอดคล้องของทุก หน่วยงาน ทุกคนทั่วทั้งองค์กรในด้านความคิด วิธีการในการเปลี่ยนแปลง 7.make the transition : การดาเนินการตามแผนการเปลี่ยนแปลง 8.cross the border : การก้าวเข้าสูด่ ินแดนใหม่ ซึ่งโดยปกติองค์กรจะสามารถเห็น การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนและทั่วถึงอย่างน้อย 24 เดือน


21

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ยากหรือล้มเหลวขึน้ อยู่กับความสามารถใน การนาความเปลี่ยนแปลงของผู้นาในองค์กร ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กรมักจะใช้ วิธีการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (change management) โดยทาเป็นโครงการ คือทาแล้วจบไปไม่ ต่อเนื่อง ซึ่งในการที่จะทาให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างยั่งยืน จาเป็นต้องมองการเปลี่ยนแปลงให้ เป็นกระบวนการ ที่สาคัญต้องดึงคนเข้ามามีส่วนร่วมแทนที่จะเป็นการผลักให้คนต้องเปลี่ยนตามที่ องค์กรคาดหวัง ซึ่งจะทาให้เกิดแรงต่อต้านและทาให้การเปลี่ยนแปลงไม่ประสบผลสาเร็จ นอกจากนี้ ยังจะต้องเปลี่ยนวัฒนธรรม องค์กรจากผู้นาของผู้ตาม (leader of followers) มาเป็นผู้นาของผู้นา (leader of leaders) ซึ่งจะทาให้การเปลี่ยนแปลงประสบผลสาเร็จจากความเป็นผูน้ าของทุกคน ความเป็นผู้นาในที่น้ีจะต้องนาด้วย 5 ผูย้ ิ่งใหญ่ หรือ big 5 competencies ที่จะต้องมีติดตัว คือ 1. leading change : ต้องเข้าใจถึงกระบวนการ วิธีการ ในการนาการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเข้าใจถึงธรรมชาติของคนที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง 2. developing leadership : พัฒนาความเป็นผู้นาที่สามารถมองได้ทั้งปัจจุบันและ อนาคต 3. building teams : ความสามารถในการสร้างทีม การทาให้คนในทีมมีวธี ีคิดและ ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน 4. valuing differences : ต้องเข้าใจและให้คุณค่ากับความแตกต่างระหว่างบุคคล และสามารถใช้ความแตกต่างนัน้ ให้เป็นประโยชน์ 5. optimizing communication : สื่อสารให้ได้ผลลัพธ์และชัดเจน เพื่อก่อให้เกิดความ เข้าใจและความเชื่อ ซึ่งจะนาไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมในที่สุด จะเห็นได้ว่าไม่ว่าองค์กรจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใด หากเราเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ถึงกระบวนการการเปลี่ยน แปลงทั้ง 8 ขั้นตอน รวมทั้งสามารถสร้าง 5 ผูย้ ิ่งใหญ่ให้เกิดกับ ผูน้ าและพนักงานทุกคน ก็จะสามารถนาองค์กรให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ความสาเร็จได้ (เข้าถึงข้อมูลได้ จาก http://www.wiseknow.com วันทีเ่ ข้าถึงข้อมูล 25 พฤษภาคม 2555) จากการศึกษาทางวิชาการทั้ง 4 แนวคิดทฏษฎี สามารถกาหนดกรอบแนวคิดในการ วิจัย ได้ดังรูปที่ 2-2


22

รูปที่ 2-2 แสดงกรอบแนวคิดในการวิจัย การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 การมีส่วนร่วมของพนักงาน ฯ (สถาบันพระปกเกล้า,2550) การปฏิบัตติ นในวัฒนธรรมองค์กร (SMART AEROTHAI) (วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, 2553)

ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR (วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, 2555)

5. งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้อง 1. ผลกำรสำรวจประจำปี 2554 พบว่า การสารวจการรับรู้ คุณค่าร่วม SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญของการกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. ประจาปี 2554 ผลการศึกษาการรับรู้ เกี่ยวกับการกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. พบว่าฝ่ายจัดการและพนักงาน มีการรับรู้ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับ การก ากับ ดูแลที่ดีใ นรัฐ วิสาหกิจของ บวท. อยู่ใ นระดับ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 85.09 ในความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลที่ดีในรั ฐวิสาหกิจของ บวท. พบว่าฝ่าย จัดการและพนักงานมีระดับความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลองค์กรที่ดีฯ อยู่ใ น ระดับสูง ( X =4.122) หรือคิดเป็นร้อยละ 82.44 และด้านคุณค่าร่วม SMART AEROTHAI พบว่าฝ่าย จัดการและพนักงานมีระดับความคิดเห็นในคุ ณค่าร่วม SMART AEROTHAI ที่มีต่อการกากับดูแล องค์กรที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. อยู่ในระดับเห็นด้วยมาก ( X =4.105) หรือ คิดเป็นร้อยละ 82.10 สรุปได้ว่าการรับรู้เกี่ยวกับการกากับดูแลที่ดี และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแล องค์กรที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. อยู่ในระดับสูงมาก คิดเป็นร้อยละ 83.77 หรือคิดเป็นเป้าหมาย ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.94 จากการประเมินผลจากปี 2553 ที่ผ่านมา ส่วนผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่าสมมติฐานวิจัยที่ 1 ปัจจัยบุคคลของฝ่ายจัดการ และพนั ก งาน บวท. ที่ แ ตกต่ า งกั น มี ค วามตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ของการก ากั บ ดู แ ลที่ ดี ใ น รัฐวิสาหกิจของ บวท. แตกต่างกัน มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 บางส่วน คือ อายุ ระดับ การศึกษา ประสบการณ์ทางาน สถานภาพการทางาน และหน่วยงานในสังกัดที่แตกต่างกัน มีความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. แตกต่างกัน


23

สมมติฐ านการวิจั ย ที่ 2 การรับ รู้เ กี่ย วกั บ การก ากั บ ดูแ ลที่ ดีของฝ่ ายจัดการและ พนักงาน บวท. ที่แตกต่างกัน มีความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ ของ บวท. แตกต่างกัน มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ทุกส่วน คือ การรับคู่มือ GCG การศึกษา คู่มอื GCG การรับทราบกลไกการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ การรับทราบกรอบและแนวทางใน การดาเนินงาน ความพึงพอใจ ความสาคัญ ความพอเพียงของข่าวสาร และช่องทางการรับรู้ข่าวสาร ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดีในรัฐวิสาหกิจของบริษัทฯ ที่แตกต่ างกัน มีความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญของการกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. แตกต่างกัน สมมติฐานการวิจัยที่ 3 คุณค่าร่วม SMART AEROTHAI มีอทิ ธิพลต่อความตระหนักรู้ ถึงความสาคัญ ของการกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 บางส่วน คือ คุณค่าร่วมความปลอดภัย (Safety) มีอิทธิพลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของ การกากับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจของ บวท. 2. ผลกำรสำรวจประจำปี 2555 พบว่า 1. ด้ำนกำรมีส่วนร่วมของฝ่ำยจัดกำรและพนักงำนฯ พบว่า การมีส่วนร่วมใน กิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม อยู่ในระดับปำนกลำง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.09 หรือคิดเป็นร้อยละ 61.80 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.68 และเมื่อ พิจารณาในแต่ละด้านของการมีส่วนร่วมพบว่า การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 3.74 มีระดับการปฏิบัติใ นระดับมาก รองลงมาคือ การมีส่วนร่วมในการแก้ ไขปัญหา มีค่าเฉลี่ย สูงสุดเท่ากับ 3.13 มีระดั บการปฏิบัติในระดับ มากเช่นกั น ส่วนการมีส่วนร่วมในการให้หรือรับ ข้อมูล มีคา่ เฉลี่ยเท่ากับ 2.99 การมีส่วนร่วมในการวางแผนและตัดสินใจมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.82 และการ มีส่วนร่วมในการควบคุ มประเมินผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.78 มีระดับการปฏิบัติใ นระดับปานกลาง ตามลาดับ ด้ำนกำรมีส่วนร่วมของฝ่ำยจัดกำรและพนักงำนฯ มีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 3.09


24

2. ด้ำนกำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่ำย จัดกำรและพนักงำนฯ พบว่า การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ในกิจกรรม ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม อยู่ในระดับมำก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.11 หรือคิดเป็นร้อยละ 82.20 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.47 และเมื่อพิจารณาในแต่ ละด้านพบว่า วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่ อส่วนรวมมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.27 มีระดับการปฏิบัติใน ระดับมากที่สุด รองลงมาคือวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 มี ระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุดเช่นกัน ส่วนวัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.18 วัฒนธรรมความปลอดภัยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.02 และวัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับใน ความเป็นมืออาชีพในระดับสากล มีคา่ เฉลี่ย 3.81 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ ด้ำนกำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.11

3. ด้ำนควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญฯ ของฝ่ำยจัดกำรและพนักงำนฯ พบว่า มี ค วามตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ในกิ จ กรรมด้ า นการก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี และการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม อยู่ในระดับมำก มีคา่ เฉลี่ยเท่ากับ 4.19 หรือคิดเป็นร้อยละ 83.80 มีค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน 0.30 และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านพบว่า ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์มีค่าเฉลี่ย สูงสุดเท่ากับ 4.37 มีระดับความตระหนักรู้ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ความตระหนักรู้ในการ สร้างทีมงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 มีระดับความตระหนักในระดับมากที่สุด เช่นกัน ส่วนความ ตระหนั ก รู้ ใ นการตรวจสอบตนเองมี ค่า เฉลี่ย เท่ ากั บ 4.14 ความตระหนัก รู้ใ นการเร่ง สื่อ สาร มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.13 และความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.05 มีระดับความตระหนักรู้ในระดับมาก ตามลาดับ


25

ด้ำนควำมตระหนักรู้ถงึ ควำมสำคัญของกำรเตรียมควำมพร้อมฯ

มีค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ

4.19

สรุปได้วา่ การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และการมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีนัยสาคัญ สรุปผลกำรเปรียบเทียบระหว่ำงปี 2554 กับปี 2555 เกณฑ์ที่ใช้ในการวัดผลสาเร็จของการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2555-2559 นั้น ได้กาหนดเกณฑ์การแปลผลเชิงปริมาณได้ดังนี้ ระดับ ร้อยละ

1 ≤ 80

2 81-85

3 86-90

4 91-95

5 96-100


26

ผลกำรดำเนินงำนเปรียบเทียบ ปี 2554 กับปี 2555 ประเด็น สำรวจ ปีท่ี สำรวจ 2554 2555

จำนวนฝ่ำย จัดกำรและ พนักงำน (กลุ่มเป้ำหมำย) ร้อยละ 84.19 99.67

กำรมีส่วนร่วม ของ ฝ่ำยจัดกำรและพนักงำน ร้อยละ ค่ำเฉลี่ย 61.80 3.09

กำรปฏิบัตติ นใน วัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI

ระดับ ร้อยละ 82.10 < 1 82.20

ค่ำเฉลี่ย 4.10 4.11

ระดับ 2.48 2.49

ควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญ ของ กำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี และกำรแสดงควำมรับผิดชอบ ต่อสังคม ร้อยละ ค่ำเฉลี่ย 82.40 4.12 83.80 4.19

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการสารวจในครั้งนี้ สอดคล้องตามเป้าหมายของโครงการ 0000065 และงาน 555-0093 ในแผนวิสาหกิจ ประจาปี 2555 (ข้อ 2.1.2) และเป็นไปตามเป้าหมาย ตามตัวชีว้ ัดของยุทธศาสตร์ที่ 1 และ 2 ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2555-2559 ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี (CG) ดังนี้ ยุทธศำสตร์ ยุทธศาสตร์ที่ 1: พัฒนาแนวทาง และ ดาเนิน งานให้เป็นไปตามหลักการและ แนวทางปฏิบัติทดี่ ี ยุทธศาสตร์ที่ 2: ผลักดันนโยบายการ กากับดูแลที่ดี พร้อมการขยายการ ปฏิบัติให้ครอบคลุมทุกระดับทั่วทัง้ องค์กร

มำตรกำรและ แนวทำงปฏิบัติ 1.1.1 พัฒนากระบวนการส่งเสริม วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI 2.1.2 จัดให้มีการสารวจความตระหนักรู้ ถึงความ สาคัญในการนาไปปฏิบัติใน เรื่องการกากับดูแลทีด่ ีของ บวท. 2.1.3 สร้างบรรยากาศขององค์กรที่ ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรมของ ฝ่ายจัดการและพนักงาน

ค่ำเป้ำหมำยตำม แผนแม่บทฯ ปี 2555 ≥ 2.5

ร้อยละความตระหนักรู้ของฝ่าย จัดการและพนักงานเพิม่ ขึน้ จาก ปีงบประมาณที่ผ่านมา จัดทาข้อมูลฐาน

ผลกำรดำเนินงำน ในปี 2555 ทาได้ 2.49

เพิ่มขึน้ ร้อยละ 1.40 (83.80-82.40) <1


27

ส่วนที่ 3 วิธีดำเนินกำรวิจัย การสารวจการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ประจาปี 2556 นี้ เป็นการสารวจด้วยระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Survey Quantitative Research) โดยศึกษาจากแนวคิด ทฤษฎี บทความทางวิชาการ และรายงาน การวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ออกแบบกรอบแนวคิดในการวิจัย และระเบียบวิธีวิจัย โดยใช้วิธีการเก็บ รวบรวมข้อมูลด้วยการใช้แบบสอบถาม แล้วนาข้อมูลต่าง ๆ เหล่านีม้ าวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อพรรณา และค้นหาความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ แล้วหาข้อสรุปผลการสารวจต่อไป ซึ่งผู้วิจัยกาหนด แนวทางในการดาเนินการวิจัย โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. การกาหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 3. ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือในการวิจัย 4. ลักษณะของแบบสอบถาม 5. ความเชื่อถือได้ของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 6. การจัดทาข้อมูลและวิเคราะห์ผล 7. สถิตทิ ี่ใช้ในการวิจัย กำรกำหนดประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ฝ่ายจัดการและพนักงานของ บวท. ที่ปฏิบัติงานทั้งใน ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งหมด 2,815 คน (ข้อมูล ณ 30 เมษายน 2556) ได้กาหนดกลุ่ม ตัวอย่างโดยวิธี การสุ่มตัวอย่างของทาโร ยามาเน่ (Yamane, 1967) กาหนดให้มีความคลาดเคลื่อน ของกลุ่มตัวอย่างที่ยอมให้เกิดขึ้นเท่ากับ 0.03 ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 797 คน สารองกลุ่มตัวอย่าง เพิ่มเติมอีก 111 คน รวมเป็นกลุ่มตัวอย่างทั้งสิน้ 908 คน วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลของการศึกษาการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการ เก็บรวบรวมข้อมูล ในส่วนการทดสอบแบบสอบถามเพื่อทาการทดสอบ (Pre-test) จานวน 60 ชุด กับ ฝ่ายจัดการและพนักงานที่คัดเลือกไว้เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยสานักเลขานุการคณะกรรมการ


28

กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการสารวจ แจกแบบสอบถาม อธิ บ ายวิ ธี ก ารตอบแบบสอบถามและก าหนดวัน เก็ บ รวบรวมข้ อ มูล เพื่ อ น า แบบสอบถามที่เก็บรวบรวมได้ไปทดสอบความเชื่อถือได้ของเครื่องมือวัด (Reliability) เพื่อปรับปรุง แบบสอบถามจนได้เ ครื่อ งมื อ วั ด ที่ มีป ระสิ ท ธิ ภาพ หลัง จากนั้น ในส่ ว นการเก็ บ ข้อ มู ลจริง สานั ก เลขานุการคณะกรรมการกากับดูแลที่ดีของ บวท. มอบหมายให้คณะทางานกากับดูแลที่ดี กญ. เป็น ผู้นาแจกแบบสอบถามไปยั งหน่ว ยงานต่าง ๆ ก าหนดเวลาเก็ บ แบบสอบถาม 30 วัน ส่งกลับ คืน ภายในวั น ที่ 30 มิ ถุ น ายน 2555 เมื่ อ ได้ แ บบสอบถามกลั บ คื น ครบตามจ านวนแล้ ว จะน า แบบสอบถามไปตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของข้อมูลก่อนนาไปวิเคราะห์ผล เพื่อหา ข้อสรุปในการศึกษาต่อไป ขั้นตอนกำรสร้ำงเครื่องมือในกำรวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามวัดการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับ ดูแลกิ จการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์ก ร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแล ที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 มีวธิ ีการสร้างเครื่องมือวัดดังนี้ (รูปที่ 3-1) 1. ศึกษาจากแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องเพื่อกาหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย ขอบเขต ของการวิจัย และสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการวิจัย 2. นาข้อมูลที่ได้มาสร้างแบบสอบถามฝ่ายจัดการและพนักงาน ลักษณะเป็นคาถาม แบบปลายปิดและปลายเปิด 3. นาร่างแบบสอบถามไปทดสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC: Index of Item Objective Congruence) จากผูเ้ ชี่ยวชาญและผูท้ รงคุณวุฒิ 3 ท่าน ซึ่งเป็นอาจารย์ประจาหลักสูตร รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย พลเอก ดร.บัณฑิต พิรยิ าสัยสันติ อาจารย์ ดร. อานวย บุญยรัตนไมตรี และ อาจารย์ ดร. วรรณารัตน์ อัศวเดชาชาญยุทธ์ พิจารณาตรวจสอบ โดยพิจารณาเลือกข้อคาถาม ที่มคี ่า IOC≥ 0.66 ขึน้ ไป และขอคาแนะนาในการแก้ไข ผลการพิจารณาค่า IOC = 1.00 4. นาแบบทดสอบที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาแล้วไปทาการทดสอบ กับกลุ่มฝ่ายจัดการและพนักงานที่คัดเลือกไว้เป็นกลุ่มตัวอย่าง จานวน 60 คน 5. นาแบบสอบถามที่เก็บรวบรวมได้ ทดสอบความเชื่อถือได้ (Reliability : ∞) โดย พิจารณาเลือกข้อคาถามที่มีค่าความเชื่อถือได้ ≥ 0.40ขึ้นไป ผลการพิจารณาค่าความเชื่อถือได้ของ แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมทั้งชุด = 0.954 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ทั้งชุด =


29

0.936 และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งชุด = 0.951 ตามลาดับ 6. ปรับปรุงรูปแบบสอบถามอีกครั้ง แล้วนาเสนอผูเ้ ชี่ยวชาญหรือผูท้ รงคุณวุฒิ เพื่อ แก้ไขปรับปรุงจนได้เครื่องมือวัดที่มปี ระสิทธิภาพ 7. นาแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ไปสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 908 คน รูปที่ 3-1 วิธีการสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย กาหนดจุดมุ่งหมายในการสร้างแบบวัด ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง เขียนนิยามปฏิบัติการเพื่อสร้างข้อคาถาม วิพากษ์และปรับแก้ขอ้ คาถามกับที่ปรึกษา ตรวจสอบความเที่ยงตรงโดยที่ผเู้ ชี่ยวชาญหรือผูท้ รงคุณวุฒิ ความเที่ยงตรงที่มี ความเที่ยงตรง

ไม่ผ่านเกณฑ์ ปรับปรุงข้อคาถาม

(IOC) ≥ 0.66

ผ่าน

ตัดทิง้

ความเชื่อถือได้ของ แบบสอบถาม (∞) ≥ 0.40

ผ่าน

ปรับปรุงแบบสอบถามจนได้เครื่องมือวัดที่มปี ระสิทธิภาพ จัดทาแบบสอบฉบับสมบูรณ์เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

ปรับปรุงข้อคาถาม


30

ลักษณะของแบบสอบถำม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมเพื่อการวิจัยปริมาณในครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามที่มี คาถามชนิดปลายปิดและปลายเปิด โดยแบบสอบถามปลายปิดแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เป็นแบบสอบถามข้อมูลปัจจัยด้านบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็น คาถามปลายปิด มี 8 ข้อ เป็นข้อคาถามที่กาหนดคาตอบไว้ล่วงหน้า ให้ผู้ตอบเลือกตอบในข้อที่ตรง กับความเป็นจริงเกี่ยวกับ เพศ อายุ ประสบการณ์การทางาน สถานะหรือสถานภาพการจ้ าง ระดับ ตาแหน่ง หน่วยงานที่สังกัด สถานที่ปฏิบัติงาน และลักษณะงาน ส่วนที่ 2 แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามการ ปฏิบัติในการมีส่วนร่วมออกเป็น 5 ด้าน รวม 16 ข้อ โดยแบ่งประเด็นคาถามการมีส่วนร่วมดังนี้ 1) การมีส่ว นร่วมให้หรือรับข้อมูล 2) การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ 3) การมีส่วนร่วมในการ แก้ปัญหา 4) การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ และ 5) การมีส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล เป็นข้อ คาถามมีคาตอบให้เลือกตอบระดับการปฏิบัติ (Rating Scale) โดยให้คะแนนเป็น 5 ระดับ คือ ปฏิบัติ น้อยที่สุด ปฏิบัติน้อย ปฏิบัติปานกลาง ปฏิบัติมาก และปฏิบัติมากที่สุด โดยมีมาตรวัด ดังนี้ 5 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 3 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย 1 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อยที่สุด ส่วนที่ 3 แบบสอบถามการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ผู้ ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กรออกเป็น 5 ด้าน รวม 24 ข้อ โดยแบ่ง ประเด็ นค าถาม ดั งนี้ 1) วั ฒ นธรรมความปลอดภั ย 2) วัฒ นธรรมจริ ย ธรรมเพื่ อส่ วนรวม 3) วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ 4) วัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพ และ 5) วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน เป็นข้อคาถามมีคาตอบให้เลือกตอบระดับการปฏิบัติ (Rating Scale) โดยให้คะแนนเป็น 5 ระดับ คือ ปฏิบัติน้อยที่สุด ปฏิบัติน้อย ปฏิบัติปานกลาง ปฏิบัติ มาก และปฏิบัติมากที่สุด โดยมีมาตรวัด ดังนี้ 5 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 3 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย 1 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อยที่สุด


31

ส่วนที่ 4 แบบสอบถามความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของฝ่ายจัดการและพนักงาน ผู้ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามการ ปฏิบัติในความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมออกเป็น 5 ด้าน รวม 22 ข้อ โดยแบ่งประเด็นคาถาม ดังนี้ 1) ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบ ตนเอง 2) ความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร 3) ความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา 4) ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน และ 5) ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ เป็นข้อคาถามมี คาตอบให้เลือกตอบระดับการปฏิบัติ (Rating Scale) โดยให้คะแนนเป็น 5 ระดับ คือ ปฏิบัติน้อยที่สุด ปฏิบัตนิ ้อย ปฏิบัติปานกลาง ปฏิบัติมาก และปฏิบัติมากที่สุด โดยมีมาตรวัด ดังนี้ 5 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 3 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย 1 หมายถึง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อยที่สุด ส่วนที่ 5 ข้อเสนอแนะอื่น ๆ เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้ตอบแสดงความคิดเห็น และ ให้ข้อ เสนอแนะเพิ่มเติม กำรจัดทำข้อมูลและวิเครำะห์ผล กำรจัดทำข้อมูล เมื่อได้ท าการรวบรวมแบบสอบถามทั้งหมดที่ ไ ด้ เ รีย บร้อ ยแล้ว คณะผู้วิจัย ได้น า แบบสอบถามทั้งหมดมาดาเนินการดังนี้ 1. การตรวจสอบข้อมูล (Editing) คณะผู้วิจัยตรวจสอบดูความสมบูรณ์ของการตอบ แบบ สอบถาม และทาการคัดแยกแบบสอบถามที่ไม่สมบูรณ์ออก 2. นาแบบสอบถามที่ถู กต้องเรียบร้อยแล้ว มาลงรหัสเพื่อประมวลผลข้อมู ลด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์สาเร็จรูปสาหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (SPSS for Windows) 3. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 4. ประมวลผลตามจุดมุง่ หมายของการศึกษาวิจัย กำรวิเครำะห์ผล สาหรับการวิเคราะห์ผลนั้น ได้ทาการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามทั้ ง 4 ส่วน ดังนี้ 1. แบบสอบถามข้อมูลปัจจัยด้านบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) เพื่อใช้เปรียบเทียบและอธิบายข้อมูลทั่วไปของปัจจัยส่วน บุคคล


32

2. แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้านการ ก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความรั บผิ ดชอบต่ อ สั ง คม ใช้ ค ะแนนเฉลี่ ย ( X ) ของผู้ ต อบ แบบสอบถามนามาแปลความหมายการมีส่วนร่วม โดยคานวณหาค่าช่วงของการวัดการปฏิบัติ ดังนี้ วิธีการแปลผลใช้เกณฑ์คะแนนดังนี้ (วิชิต อู่อน้ , 2550, หน้า 114) คะแนนสูงสุด-คะแนนต่าสุด = 5-1 = 0.8 จานวนชั้น 5 ระดับคะแนน ควำมหมำย ระดับ 5 ค่าเฉลี่ย 4.21-5.00 มีสว่ นร่วมมากที่สุด ระดับ 4 ค่าเฉลี่ย 3.41-4.20 มีสว่ นร่วมมาก ระดับ 3 ค่าเฉลี่ย 2.61-3.40 มีสว่ นร่วมปานกลาง ระดับ 2 ค่าเฉลี่ย 1.81-2.60 มีสว่ นร่วมน้อย ระดับ 1 ค่าเฉลี่ย 1.00-1.80 มีสว่ นร่วมน้อยที่สุด 3. แบบสอบถามการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ใช้คะแนน เฉลี่ย ( X ) ของผู้ตอบแบบสอบถามนามาแปลความหมายการปฏิบัติ โดยคานวณหาค่าช่วงของการ วัดการปฏิบัติ (คานวณเช่นเดียวกับแบบสอบถามการมีส่วนร่วมฯ) ดังนี้ ระดับคะแนน ควำมหมำย ระดับ 5 ค่าเฉลี่ย 4.21-5.00 มีการปฏิบัติมากที่สุด ระดับ 4 ค่าเฉลี่ย 3.41-4.20 มีการปฏิบัติมาก ระดับ 3 ค่าเฉลี่ย 2.61-3.40 มีการปฏิบัติปานกลาง ระดับ 2 ค่าเฉลี่ย 1.81-2.60 มีการปฏิบัติน้อย ระดับ 1 ค่าเฉลี่ย 1.00-1.80 มีการปฏิบัติน้อยที่สุด 4. แบบสอบถามความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ใช้คะแนนเฉลี่ย ( X ) ของผู้ตอบแบบสอบถาม นามาแปลความ หมายความตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ โดยค านวณหาค่ า ช่ ว งของการวั ด การปฏิ บั ติ (ค านวณ เช่นเดียวกับแบบสอบถามการมีส่วนร่วมฯ) ดังนี้ ระดับคะแนน ควำมหมำย ระดับ 5 ค่าเฉลี่ย 4.21-5.00 มีความตระหนักรู้ถึงความสาคัญมากที่สุด ระดับ 4 ค่าเฉลี่ย 3.41-4.20 มีความตระหนักรู้ถึงความสาคัญมาก ระดับ 3 ค่าเฉลี่ย 2.61-3.40 มีความตระหนักรู้ถึงความสาคัญปานกลาง ระดับ 2 ค่าเฉลี่ย 1.81-2.60 มีความตระหนักรู้ถึงความสาคัญน้อย ระดับ 1 ค่าเฉลี่ย 1.00-1.80 มีความตระหนักรู้ถึงความสาคัญน้อยที่สุด


33

ส่วนที่ 5 ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ได้ใช้คะแนนความถี่ของผู้ตอบแบบสอบถามที่นาเสนอ ข้อเสนอแนะนามาจัด กลุ่มประเด็นเสนอแนะในเรื่องต่าง ๆ ใหม่โดยคานวณหาค่าช่วงของการวัด ข้อเสนอแนะ ดังนี้ ระดับคะแนนร้อยละ 1.00 - 20.00 มีขอ้ เสนอแนะในประเด็นนั้น ๆ น้อยที่สุด ระดับคะแนนร้อยละ 21.00 - 40.00 มีขอ้ เสนอแนะในประเด็นนั้น ๆ น้อย ระดับคะแนนร้อยละ 41.00 - 60.00 มีขอ้ เสนอแนะในประเด็นนั้น ๆ ปานกลาง ระดับคะแนนร้อยละ 61.00 - 80.00 มีขอ้ เสนอแนะในประเด็นนั้น ๆ มาก ระดับคะแนนร้อยละ 81.00 - 100.00 มีขอ้ เสนอแนะในประเด็นนั้น ๆ มากที่สุด สถิติท่ใี ช้ในกำรวิจัย กำรวิเครำะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้ ใ นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สาเร็จรูปสาหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (SPSS for Windows) วิเคราะห์โดยใช้สถิติ ดังนี้ 1. สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ใช้อธิบายคุณลักษณะทั่วไปของผู้ตอบ แบบสอบถาม โดยใช้การแจกแจงความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) อธิบายคุณลักษณะ ประชากรศึก ษาและการรับ รู้ เ กี่ ย วกั บ การก ากั บ ดูแ ลที่ดีใ นรัฐ วิสาหกิจ ของ บวท. ใช้ ค่า เฉลี่ ย (Mean: X ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: S.D.) ในการวิเคราะห์ข้อมูลการมีส่วน ร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การ ปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการกากั บดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการ กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 2. สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร อิสระและตัวแปรตามในสมมติฐานต่าง ๆ สมมติฐาน 1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความ ตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ในการเตรี ย มความพร้ อ มด้า นการก ากั บ ดู แ ลที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยกาหนดค่านัยสาคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ไว้ที่ระดับ 0.05 สมมติฐานย่อย 1.1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความ พร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับ


34

ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้การวิเคราะห์สมการ ถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยกาหนดค่านัยสาคัญ ทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ไว้ที่ระดับ 0.05 สมมติฐานย่อย 1.2 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยกาหนดค่านัยสาคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ไว้ที่ระดับ 0.05 เกณฑ์ในกำรแปลควำมหมำย เกณฑ์ในการแปลความหมายมีผล/มีอิทธิพลต่อกัน (R Square) ดังนี้ ขนาดอิทธิพล 0.91-1.00 หมายถึง มีผล/มีอิทธิพลต่อกันสูงมาก ขนาดอิทธิพล 0.71-0.90 หมายถึง มีผล/มีอิทธิพลต่อกันสูง ขนาดอิทธิพล 0.31-0.70 หมายถึง มีผล/มีอิทธิพลต่อกันปานกลาง ขนาดอิทธิพล 0.01-0.30 หมายถึง มีผล/มีอิทธิพลต่อกันต่า ขนาดอิทธิพล 0.00 หมายถึง ไม่มผี ล/มีอิทธิพลต่อกัน เกณฑ์ในการแปลความหมายความสัมพันธ์กัน (R) ดังนี้ ขนาดความสัมพันธ์ 0.91-1.00 หมายถึง มีความสัมพันธ์กันสูงมาก ขนาดความสัมพันธ์ 0.71-0.90 หมายถึง มีความสัมพันธ์กันสูง ขนาดความสัมพันธ์ 0.31-0.70 หมายถึง มีความสัมพันธ์กันปานกลาง ขนาดความสัมพันธ์ 0.01-0.30 หมายถึง มีความสัมพันธ์กันต่า ขนาดความสัมพันธ์ 0.00 หมายถึง ไม่มคี วามสัมพันธ์กัน (ชูศรี วงศ์รัตนะ, 2541 อ้างถึงในศรัณยา เลิศพุทธิรักษ์, 2553, หน้า 217)


35

ส่วนที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาวิจัยเรื่อง”การมีส่วนร่วมของพนักงาน การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ในครั้งนี้ ผู้ศึกษานาข้อมูล ที่ไ ด้จากการตอบแบบสอบถามของกลุ่มตัวอย่าง คือ ฝ่ายจัดการและพนัก งาน บวท. ที่ ปฏิบัติงานส่วนกลางและส่ว นภูมิภาค จานวนทั้งสิ้น 833 คน แล้วนามาวิเคราะห์อย่างเป็น ระบบตามหลักวิชาการ และขอนาเสนอผลการศึกษาวิจัยโดยใช้ ภาพและตารางประกอบคา บรรยาย รายละเอียดดังต่อไปนี้ 4.1 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล 4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิตเิ ชิงพรรณนา ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในการมีสว่ นร่วมของพนักงาน ตอนที่ 3 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ตอนที่ 4 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ของการ เตรียมความพร้อมในการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผน แม่บ ทด้านการก ากั บ ดู แลกิ จการที่ ดี และการแสดงความรับ ผิ ดชอบต่อสั งคมของ บวท. ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ 4.3 การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทดสอบสมมติฐานของการศึกษา ตอนที่ 5 การวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิ จการที่ ดีและการแสดงความรับผิ ดชอบต่อ สังคม การปฏิบัติ ตนในวัฒนธรรมองค์ก ร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากั บ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 4.4 สรุปผลการทดสอบสมมติฐาน


36

4.1 สัญลักษณ์ท่ใี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ได้กาหนดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูลดังนี้ n แทน จานวนกลุ่มตัวอย่าง แทน ค่าเฉลี่ยระดับของอุดมคติ X SD แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน *P ≤ 0.05 แทน ค่านัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 R แทน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ 2 R แทน สัมประสิทธิ์ของการตัดสินใจ Sig. แทน ความน่าจะเป็นสาหรับบอกค่านัยสาคัญทางสถิติ * แทน ความมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 H0 แทน สมมติฐานหลัก (Null Hypothesis) H1 แทน สมมติฐานรอง (Alternative Hypothesis)

4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามที่ให้ข้อมูลครบถ้วนถูกต้อง จานวน 833 คน จากแบบสอบถามที่แจกไป จานวน 908 คน คิดเป็นร้อยละ 91.74 จาแนก ตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การทางาน สถานภาพการทางาน สังกัดสายงาน สถานที่ปฏิบัติงาน และลักษณะการปฏิบัติงาน วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ (F) และค่า ร้อยละ (%) ดังรายละเอียดตามตารางที่ 4-1


40

ตารางที่ 4-1 จานวนและร้อยละ ตามปัจจัยส่วนบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม

ปัจจัยส่วนบุคคล

จานวน คน

ร้อยละ

รวม

463 370 833

55.58 44.42 100.00

รวม

73 228 406 126 833

8.76 27.37 48.74 15.13 100.00

30 467 331 5 833

3.60 56.06 39.74 0.60 100.00

56 134 128 156 255 104 833

6.72 16.09 15.37 18.73 30.61 12.48 100.00

1. เพศ ชาย หญิง 2. อายุ 20 - 30 ปี 31 – 40 ปี 41 – 50 ปี 51 - 60 ปี 3. ระดับการศึกษา ต่ากว่าระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท ระดับปริญญาเอก รวม 4. ประสบการณ์ทางาน น้อยกว่า ๕ ปี 5 – 10 ปี 11 – 15 ปี 16 - 20 ปี 21 – 25 ปี มากกว่า 25 ปี รวม


41

ตารางที่ 4-1 (ต่อ)

ปัจจัยส่วนบุคคล 5. สถานภาพการทางาน ฝ่ายจัดการ พนักงาน รวม 6. สังกัดสายงาน ขึน้ ตรงต่อกรรมการผู้อานวยการใหญ่ สายบริหารจราจรทางอากาศ สายภูมิภาคและศูนย์ประกอบการ สายวิศวกรรมจราจรทางอากาศ สายมาตรฐานความปลอดภัย สานักพัฒนาธุรกิจ สายทรัพยากรบุคคล สายการเงิน สานักตรวจสอบภายใน สานักนโยบายและยุทธศาสตร์ สานักกรรมการผู้อานวยการใหญ่ รวม 7. สถานที่ปฎิบัติงาน ทุ่งมหาเมฆ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ ศูนย์ควบคุมการบินพิษณุโลก ศูนย์ควบคุมการบินอุดรธานี ศูนย์ควบคุมการบินอุบลราชธานี ศูนย์ควบคุมการบินนครราชสีมา

จานวน คน

ร้อยละ

99 734 833

11.88 88.12 100.00

18 223 181 124 45 60 59 29 6 20 68 833

2.16 26.77 21.73 14.89 5.40 7.20 7.08 3.48 0.72 2.40 8.16 100.00

493 35 87 30 33 23 14 10

59.19 4.20 10.45 3.60 3.96 2.76 1.68 1.20


42

ตารางที่ 4-1 (ต่อ)

ปัจจัยส่วนบุคคล 7. สถานที่ปฎิบัติงาน (ต่อ) ศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต ศูนย์ควบคุมการบินหาดใหญ่ ศูนย์ควบคุมการบินสุราษฎร์ธานี ศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน รวม 8. ลักษณะการปฏิบัติงาน Daywork เข้ากะ รวม

จานวน คน

ร้อยละ

29 38 23 18 833

3.48 4.56 2.76 2.16 100.00

584 249 833

70.11 29.89 100.00

จากตารางที่ 4-1 ผลการศึกษาทางด้านปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามที่ เป็นฝ่ายจัดการและพนักงาน บวท. ที่ปฏิบัติงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จานวนทั้งสิ้น ๙๐3 คน ด้านเพศ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยเพศชาย มีจานวน 463 คน คิดเป็นร้อยละ 55.58 ส่วนเพศหญิง มีจานวน 370 คน คิดเป็นร้อยละ 44.42 ด้านอายุ พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 41-50 ปี จานวน 406 คน คิดเป็นร้อยละ 48.74 รองลงมา คือ ผู้ที่มีอายุ 31 – 40 ปี จานวน 228 คน คิดเป็นร้อย ละ 27.37 ผู้ที่มีอายุ 51 – 60 ปี จานวน 126 คน คิดเป็นร้อยละ 15.13 และผู้ที่มีอายุ 20 - 30 ปี มีจานวนน้อยที่สุด จานวน 73 คน คิดเป็นร้อยละ 8.76 ตามลาดับ ด้านระดับการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญา ตรี จานวน 467 คน คิดเป็นร้อยละ 56.06 รองลงมาคือการศึกษาระดับปริญญาโท จานวน 331 คน คิดเป็นร้อยละ 39.74 การศึกษาต่ากว่าระดับปริญญาตรี จานวน 30 คน คิดเป็นร้อย ละ 3.60 และการศึกษาระดับปริญญาเอก มีจานวนน้อยที่สุด จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 0.60 ตามลาดับ ด้านประสบการณ์ทางาน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางาน 21-25 ปี จานวน 255 คน คิดเป็นร้อยละ 30.61 รองลงมา คือ ประสบการณ์ทางาน 16 – 20


43

ปี จานวน 156 คน คิดเป็นร้อยละ 18.73 ประสบการณ์ทางาน 5 – 10 ปี จานวน 134 คน คิด เป็นร้อยละ 16.09 ประสบการณ์ทางาน 11 – 15 ปี จานวน 128 คน คิดเป็นร้อยละ 15.37 คิด เป็นร้อยละ 17.60 ประสบการณ์ทางานมากกว่า 25 ปี จานวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 12.48 และประสบการณ์ทางานน้อยกว่า 5 ปี มีจานวนน้อยที่สุด จานวน 56 คน คิดเป็นร้อยละ 6.72 ตามลาดับ ด้านสถานภาพการท างาน พบว่า ผู้ ตอบแบบสอบถามเป็น พนั ก งานมากกว่า ฝ่า ย จัดการ โดยพนักงาน มีจานวน 734 คน คิดเป็นร้อยละ 88.12 ส่วนฝ่ายจัดการ มีจานวน 99 คน คิดเป็นร้อยละ 11.88 ด้านสังกัดสายงาน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่สังกัดสายบริหารจราจรทาง อากาศ จานวน 223 คน คิดเป็นร้อยละ 26.77 รองลงมา คือ สายภูมิภาคและศูนย์ประกอบการ จานวน 181 คน คิดเป็นร้อยละ 21.73 สายวิศวกรรมจราจรทางอากาศ จานวน 124 คน คิดเป็น ร้อยละ 14.89 สานักกรรมการผู้อานวยการใหญ่ จานวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 8.16 สานัก พัฒนาธุรกิจ จานวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 7.20 สายทรัพยากรบุคคล จานวน 59 คน คิดเป็น ร้อยละ 7.08 สายมาตรฐานความปลอดภัย จานวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 5.40 สายการเงิน จานวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 3.48 สานักนโยบายและยุทธศาสตร์ จานวน 20 คน คิดเป็นร้อย ละ 2.40 ขึน้ ตรงต่อกรรมการผู้อานวยการใหญ่ จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 2.16 และสานัก ตรวจสอบภายใน จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 0.72 ตามลาดับ ด้านสถานที่ปฏิบัติงาน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ปฏิบัติงานที่ทุ่งมหาเมฆ จานวน 493 คน คิดเป็นร้อยละ 59.19 รองลงมา คือ สุวรรณภูมิ จานวน 87 คน คิดเป็นร้อยละ 10.45 ศูนย์ควบคุมการบินหาดใหญ่ จานวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 4.56 ดอนเมืองจานวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 4.20 ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ จานวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 3.60 ศูนย์ ควบคุ มการบินภูเ ก็ ต จานวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 3.48 ศูนย์ควบคุมการบินสุ ราษฎร์ธ านี จานวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 2.76 ศูนย์ควบคุมการบินอุดรธานี จานวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 2.76 ศู น ย์ ค วบคุ ม การบิ นหั ว หิ น จ านวน 18 คน คิด เป็น ร้ อ ยละ 2.16 ศู นย์ ค วบคุ ม การบิ น อุบลราชธานีจานวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 1.68 และศูนย์ควบคุมการบินนครราชสีมา จานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 1.20 ตามลาดับ และด้านลักษณะการปฏิบัติงาน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถมเป็น Daywork มากกว่าเข้า กะ โดย Daywork มีจานวน 584 คน คิดเป็นร้อยละ 70.11 ส่วนเข้ากะ มีจานวน 249 คน คิดเป็น ร้อยละ 29.89


44

ตอนที่ 2 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในการมีส่วนร่วมของพนักงาน ในการศึกษาการปฏิบัติตนในการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรม ด้า นการก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความรั บผิ ดชอบต่ อ สั ง คม ผู้ ศึ ก ษาได้ ส ร้ า งแบบ สอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Likert’s scale) คือ มีการปฏิบัติตนในการมีส่วน ร่วมในระดับมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด จานวน 5 ประเด็นการมีส่วนร่วม รวม 16 ข้อ โดยแบ่งประเด็นคาถามการมีส่วนร่วมดังนี้ 1) การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล 2) การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ 3) การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา 4) การมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติ และ 5) การมีส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ (F) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ดังรายละเอียดตามตารางที่ 4-2 ถึง 4-6


ตารางที่ 4-2 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูลในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล 1. ท่านมีสว่ นร่วมในการเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ ผู้บังคับบัญชาเพื่อพัฒนางานของหน่วยหรือของบริษัทฯ 2. ท่านมีสว่ นร่วมในการให้ขอ้ มูล เพื่อประกอบการวางแผนงานต่างๆ ของ หน่วยงาน หรือของบริษัทฯ 3. ท่านมีโอกาสให้ขอ้ มูลข่าวสารที่ท่านเห็นว่าเป็นเรื่องสาคัญ ตาม ช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงาน หรือของบริษัทฯ 4. ท่านมีโอกาสรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ จาก ผู้บังคับบัญชา/เพื่อนพนักงาน รวมการมีสว่ นร่วมให้หรือรับข้อมูล

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

84 10.1 65 7.8 90 10.8 89 10.7

279 33.5 250 30.0 318 38.2 394 47.3

313 37.6 308 37.0 282 33.9 248 29.8

102 12.2 141 16.9 90 10.8 55 6.6

55 6.6 69 8.3 53 6.4 47 5.6

3.28

0.923

3.12

0.949

3.36

0.923

3.51

0.967

3.32

0.76

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม มาก มีส่วนร่วม มาก มีส่วนร่วม ปานกลาง

45


ตารางที่ 4-3 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ 1. ท่านมีส่วนร่วมในการวางแผนและกาหนดเป้าหมายในการพัฒนางาน 2. ท่านมีโอกาสในการตัดสินใจปัญหาร่วมกับผู้บังคัญชา / เพื่อนพนักงาน รวมการมีสว่ นร่วมวางแผนและตัดสินใจ

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

57 6.8 47 5.6

216 25.9 246 29.5

282 33.9 296 35.5

196 23.5 163 19.6

82 9.8 81 9.7

2.96

0.978

3.02

0.952

2.99

0.912

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง

46


ตารางที่ 4-4 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา 1. ท่านมีโอกาสแลกเปลีย่ นความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ภายในหน่วยงาน 2. ผู้บังคับบัญชา ส่งเสริม/สนับสนุนให้ท่านมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์หา สาเหตุของปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาภายในหน่วยงานของท่าน 3. ท่านมีสว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหาภายในหน่วยงาน ร่วมกับ ผู้บังคับบัญชา / เพื่อนร่วมงาน รวมการมีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหา

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

81 9.7 89 10.7 90 10.8

310 37.2 303 36.4 297 35.7

299 35.9 275 33.0 291 34.9

88 10.6 103 12.4 97 11.6

55 6.6 63 7.6 58 7.0

3.33

0.912

3.30

0.962

3.32

0.941

3.32

0.964

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง

47


ตารางที่ 4-5 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ ๑. ท่านมีส่วนร่วมในการปฏิบัตงิ านตามหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อให้บรรลุ 174 เป้าหมายของหน่วยงานของท่าน 20.9 ๒. ท่านปฏิบัตติ นตามแนวปฏิบัตทิ ี่ดตี า่ ง ๆ อย่างเต็มใจ โดยปราศจาก 210 อคติ หรือบนเงื่อนไขแห่งความขัดแย้ง 25.2 ๓. ท่านมีสว่ นร่วมในการปกป้องชื่อเสียง/ผลประโยชน์ของหน่วยงาน หรือ 238 ของบริษัทฯ 28.6 ๔. ท่านมีสว่ นร่วมในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของบริษัทฯ 141 16.9 รวมการมีสว่ นร่วมในการปฏิบัติ

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

432 51.9 419 50.3 378 45.4 348 41.8

165 19.8 143 17.2 150 18.0 247 29.7

21 2.5 23 2.8 29 3.5 50 6.0

41 4.9 38 4.6 38 4.6 47 5.6

3.81

0.858

3.89

0.866

3.90

0.903

3.58

0.902

3.80

0.851

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีส่วนร่วม มาก มีส่วนร่วม มาก มีส่วนร่วม มาก มีส่วนร่วม มาก มีส่วนร่วม มาก

48


ตารางที่ 4-6 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การมีส่วนร่วมในการควบคุม/ประเมินผลในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

การมีส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล ๑. ท่านมีสว่ นร่วมในการกาหนดหลักการหรือแนวทางการควบคุมการใช้ และการกระจายทรัพยากรของ บวท. ๒. ท่านมีสว่ นในการควบคุมการใช้และการกระจายทรัพยากรของ บวท. ๓.ท่านมีสว่ นในการประเมินผลการใช้และการกระจายทรัพยากรของ บวท. รวมการมีสว่ นร่วมในการควบคุมประเมินผล คะแนนรวมการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแลกิจการทีด่ ีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

65 7.8 52 6.2 55 6.6

213 25.6 216 25.9 198 23.8

277 33.3 292 35.1 276 33.1

170 20.4 166 19.9 185 22.2

108 13.0 107 12.8 119 14.3

2.95

0.913

2.93

0.910

2.86

0.913

2.91

0.958

3.27

0.835

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง มีส่วนร่วม ปานกลาง

49


50

จากตารางที่ 4-2 ถึง 4-6 พบว่า การมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานใน กิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีระดับการปฏิบัติ อยู่ในระดั บ ปานกลาง มีค่ า เฉลี่ ย รวมเท่า กั บ 3.27 มีค่า เบี่ย งเบนมาตรฐานรวมเท่ากั บ 0.835 และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านของการมีส่วนร่วมแล้ว พบว่า การมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 3.80 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก รองลงมาคือการมีส่วน ร่วมในการให้/รับข้อมูลและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน เท่ากับ 3.32 มี ระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง การมีส่วนร่วมในการวางแผนและตัดสินใจ มีค่าเฉลี่ย 2.99 มีระดับการปฏิบัติในระดับ ปานกลาง และการมีส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล มีค่าเฉลี่ย 2.91 มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง ตามลาดับ แต่เมื่อพิจารณาในองค์ประกอบย่อยของการมีส่วนร่วมในแต่ละด้าน พบว่า การมี ส่วนร่วมในการปฏิบัติ ฝ่ายจัดการและพนักงานมีส่วนร่วมในการปกป้องชื่อเสียง/ผลประโยชน์ ของหน่วยงาน หรือของบริษัทฯ มากที่สุด รองลงมาคือพนักงานปฏิบัติตนตามแนวปฏิบัติที่ดี ต่าง ๆ อย่างเต็มใจ โดยปราศจาก อคติ หรือบนเงื่อนไขแห่งความขัดแย้ง มีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของหน่วยงานของท่าน และท่านมี ส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของบริษัทฯ ตามลาดับ ในด้านการมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล ฝ่ายจัดการและพนักงานมีโอกาสรับฟังความ คิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากผู้บังคับบัญชา/เพื่อนพนักงานมากที่สุด รองลงมาคือ มี โอกาสให้ข้อมูลข่าวสารที่ท่านเห็นว่าเป็นเรื่องสาคัญ ตามช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงาน หรือ ของบริษัทฯ มีสว่ นร่วมในการเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ ผู้บังคับบัญชาเพื่อพัฒนางาน ของหน่วยหรือของบริษัทฯ และมีส่วนร่วมในการให้ข้อ มูล เพื่อประกอบการวางแผนงานต่างๆ ของหน่วยงาน หรือของบริษัทฯ ตามลาดับ ในด้านการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ฝ่ายจัดการและพนักงานมีโอกาสแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ภายในหน่วยงานมากที่สุด รองลงมาคือ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ภายในหน่วยงาน ร่วมกับผูบ้ ังคับบัญชา/เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชา ส่งเสริม/สนับสนุนให้ ท่านมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาภายในหน่วยงาน ของท่าน ตามลาดับ ในด้านการมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ ฝ่ายจัดการและพนักงานมีโอกาสในการ ตัดสินใจปัญหาร่วมกั บผู้บังคัญ ชา/เพื่อนพนักงานมากที่สุด รองลงมาคือ มีส่วนร่วมในการ วางแผนและกาหนดเป้าหมายในการพัฒนางาน


51

ในด้านการมีส่วนร่วมในการควบคุมประเมินผล ฝ่ายจัดการและพนักงานมีส่วนร่วม ในการกาหนดหลักการหรือแนวทางการควบคุม การใช้และการกระจายทรัพ ยากรของ บวท. มากที่สุด รองลงมาคือ มีสว่ นในการควบคุมการใช้และการกระจายทรัพยากรของ บวท. และมี ส่วนในการประเมินผลการใช้และการกระจายทรัพยากรของ บวท. ตามลาดับ ตอนที่ 3 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ในการศึกษาการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่ายจัดการ และพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Likert’s scale) คือ มีการ ปฏิบัติตนในการมีส่ว นร่วมในระดับ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด จานวน 5 ประเด็นวัฒนธรรมองค์กร รวม 24 ข้อ โดยแบ่งประเด็นคาถามวัฒนธรรมองค์กร ดังนี้ 1) วัฒนธรรมความปลอดภัย 2) วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม 3) วัฒนธรรมความรับผิดชอบ ต่ อ ตนเองและหน้ า ที่ 4) วั ฒ นธรรมการเป็ น ที่ ย อมรั บ ในความเป็ น มื อ อาชี พ และ 5) วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ (F) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( X )และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ดังรายละเอียดตามตารางที่ 4-7 ถึง 4-11


ตารางที่ 4-7 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมความปลอดภัยของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

วัฒนธรรมความปลอดภัย 1. ท่านวางแผนการทางานล่วงหน้าเพื่อลดความเสีย่ งที่จะเกิดขึ้น 2. ท่านถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย เพื่อให้ผู้เกีย่ วข้องตระหนักถึง ความปลอดภัยในการทางาน 3. ท่านปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และรักษามาตรฐานของการ ทางานอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดความเสีย่ งและความเสียหายต่อ บวท. 4. ในการใช้ชีวิตประจาวันท่านคานึงถึงความปลอดภัยในทุก ๆ เรื่อง 5. ท่านคิดว่างานที่ทาอยู่ในปัจจุบันดีอยู่แล้วแต่กย็ ังมีความจาเป็นต้องปรับปรุง รวมวัฒนธรรมความปลอดภัย

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

152 18.2 114 13.7 216 25.9 183 22.0 108 13.0

496 59.5 537 64.5 466 55.9 443 53.2 571 68.5

185 22.2 182 21.8 151 18.1 205 24.6 154 18.5

0 0.0 0 0.0 0 0.0 2 0.2 0 0.0

0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0

3.96

0.635

3.92

0.591

4.08

0.660

3.97

0.689

3.94

0.558

3.97

0.463

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีการ ปฏิบัตมิ าก มีการ ปฏิบัตมิ าก มีการ ปฏิบัตมิ าก มีการ ปฏิบัตมิ าก มีการ ปฏิบัตมิ าก มีการ ปฏิบัตมิ าก

52


ตารางที่ 4-8 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวมในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม 1. ท่านทางานด้วยจิตสานึกแห่งความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ 2. ท่านปฏิบัติงานโดยยึดกรอบธรรมาภิบาลของ บวท. อย่างเคร่งครัด 3. ท่านให้ความช่วยเหลือหน่วยงานและผูร้ ่วมงานโดยอย่างสม่าเสมอ 4. ท่านรัก หวงแหน หรือแสดงออกถึงการปกป้องชื่อเสียงของ บวท. 5. ท่านไม่ใช้อานาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ของตนหรือพรรคพวก รวมวัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

399 47.9 310 37.2 282 33.9 321 38.5 502 60.3

352 42.3 416 49.9 438 52.6 357 42.9 230 27.6

71 8.5 95 11.4 100 12.0 102 12.2 100 12.0

10 1.2 11 1.3 10 1.2 17 2.0 1 0.1

1 0.1 1 0.1 3 0.4 36 4.3 0 0.0

4.37

0.700

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.23

0.706

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.18

0.711

มีการปฏิบัติ มาก

4.09

0.985

มีการปฏิบัติ มาก

4.48

0.705

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.27

0.552

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

53


ตารางที่ 4-9 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ 1. ท่านทางานอย่างโปร่งใสและมีจิตสานึกรับผิดชอบ 2. ท่านยอมเสียสละผลประโยชน์ของตนเอง และยอมเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อ บวท. 3. ท่านมุ่งมั่นในการทางานให้สาเร็จ แม้จะพบอุปสรรคหรือปัญหาในการทางาน 4. ท่านเป็นผู้ที่ปฏิบตั ิงานและปฏิบตั ิ ภายใต้กรอบของระเบียบอย่างเคร่งครัด 5. เมื่อทางานผิดพลาด ท่านไม่ปดั ความรับผิดชอบให้ผู้อื่น รวมวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

384 46.1 244 29.3 298 35.8 237 28.5 534 64.1

381 45.7 438 52.6 452 54.3 420 50.4 216 25.9

58 7.0 136 16.3 73 8.8 126 15.1 82 9.8

5 0.6 12 1.4 6 0.7 9 1.1 1 0.1

5 0.6 3 0.4 4 0.5 41 4.9 0 0.0

4.36

0.692

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.09

0.734

มีการปฏิบัติ มาก

4.24

0.678

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

3.96

0.960

มีการปฏิบัติ มาก

4.54

0.673

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.24

0.537

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

54


ตารางที่ 4-10 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

วัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพ 1. ท่านแสดงความคิดเห็นและมีข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาวิธีการทางานใหม่ ๆ 2. ท่านมีการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้กับผู้อื่นในทุก ๆ โอกาส 3. ท่านขวนขวายที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการ ทางานและเป็นประโยชน์ตอ่ บวท. 4. ท่านชอบเรียนรู้งานใหม่ หรือค้นหาวิธีการทางานใหม่ ๆ รวมวัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพ

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

112 13.4 123 14.8 146 17.5 407 48.9

365 43.8 419 50.3 419 50.3 292 35.1

282 33.9 241 28.9 209 25.1 131 15.7

55 6.6 42 5.0 26 3.1 3 0.4

19 2.3 8 1.0 33 4.0 0 0.0

3.60

0.883

มีการปฏิบัติ มาก

3.73

0.808

มีการปฏิบัติ มาก

3.74

0.918

มีการปฏิบัติ มาก

4.32

0.746

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

3.85

0.606

มีการปฏิบัติ มาก

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

55


ตารางที่ 4-11 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

วัฒนธรรมความเป็นนาหนึ่งใจเดียวกัน 1. ท่านรู้จักการให้อภัยต่อกัน 2. ท่านยอมรับความสามารถและใช้ทักษะที่ดเี ด่นของแต่ละคน เพื่อ ช่วยกันทางานสาเร็จ 3. ท่านมีสัมมาคารวะและรูจ้ ักกาลเทศะ 4. ท่านร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มความสามารถ ไม่วา่ ในสถานการณ์ปกติ หรือวิกฤติของ บวท. 5. ท่านไม่ชอบทางานแบบต่างคนต่างอยู่ รวมวัฒนธรรมความเป็นนาหนึ่งใจเดียวกัน

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

270 32.4 292 35.1 309 37.1 279 33.5 410 49.2

451 54.1 459 55.1 433 52.0 426 51.1 274 32.9

95 11.4 78 9.4 82 9.8 84 10.1 147 17.6

9 1.1 4 0.5 8 1.0 11 1.3 2 0.2

8 1.0 0 0.0 1 0.1 33 4.0 0 0.0

4.16

0.737

มีการปฏิบัติ มาก

4.25

0.635

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.25

0.676

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.09

0.916

มีการปฏิบัติ มาก

4.31

0.763

มีการปฏิบัติ มากที่สุด

4.21

0.539

มีการปฏิบัติ มาก

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

56


ตารางที่ 4-11 (ต่อ) ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

คะแนนรวมวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการทีด่ ีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

(X) 4.11

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน (SD)

0.437

ระดับ การปฏิบัติ

มีการปฏิบัติ มาก

57


58 จากตารางที่ 4-7 ถึง 4-11 พบว่า วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่าย จัดการและพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สั ง คม มี ร ะดั บ การปฏิ บั ติ อ ยู่ ใ นระดั บ มาก มี ค่ า เฉลี่ ย รวมเท่ า กั บ 4.11 มี ค่ า เบี่ ย งเบน มาตรฐานรวมเท่ากับ 0.437 และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านของวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI พบว่า วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.27 มีระดับการ ปฏิ บั ติ ใ นระดั บ มากที่ สุ ด รองลงมาคื อ วั ฒ นธรรมความรั บ ผิ ด ชอบต่ อ ตนเองและหน้ า ที่ มี ค่าเฉลี่ย เท่ากั บ 4.24 มีร ะดั บ การปฏิบั ติใ นระดับ มากที่สุด วัฒ นธรรมความเป็น น้าหนึ่งใจ เดียวกัน มีคา่ เฉลี่ย 4.21 มีระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุด ส่วนวัฒนธรรมความปลอดภัย มี ค่าเฉลี่ย 3.97 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก และวัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมือ อาชีพ มีคา่ เฉลี่ย 3.85 ระดับการปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ แต่เมื่อพิจารณาในองค์ประกอบย่อยของวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ใน แต่ละด้าน พบว่า วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม ฝ่ายจัดการและพนักงานไม่ใช้อานาจหน้าที่ เพื่อประโยชน์ของตนหรือพรรคพวกมากที่สุด รองลงมาคือ ทางานด้วยจิตสานึกแห่งความซื่อสัตย์ สุจริตต่อหน้าที่ ปฏิบัติงานโดยยึดกรอบธรรมาภิบาลของ บวท. อย่างเคร่งครัด ให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานและผู้ร่วมงานโดยอย่างสม่าเสมอ และรัก หวงแหน หรือแสดงออกถึงการปกป้องชื่อเสียง ของ บวท. ตามลาดับ ในวั ฒนธรรมความรับ ผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ ฝ่ายจัดการและพนัก งานเมื่อ ทางานผิดพลาดจะไม่ปัดความรับผิดชอบให้ผู้อื่น มากที่สุด รองลงมาคือ ทางานอย่างโปร่งใส และมีจิตสานึกรับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทางานให้สาเร็จแม้จะพบอุปสรรคหรือปัญหาในการทางาน ยอมเสียสละผลประโยชน์ของตนเอง และยอมเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อ บวท. และปฏิบัติงานและปฏิบัติ ภายใต้กรอบของระเบียบอย่างเคร่งครัด ตามลาดับ ในวัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน ฝ่ายจัดการและพนักงานไม่ชอบทางาน แบบต่างคนต่างอยู่มากที่สุด รองลงมาคือ ยอมรับความสามารถและใช้ทักษะที่ดีเด่นของแต่ละคน เพือ่ ช่วยกันทางานสาเร็จ และมีสัมมาคารวะและรู้จักกาลเทศะ รู้จักการให้อภัยต่อกัน และร่วมแรง ร่วมใจอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าในสถานการณ์ปกติ หรือวิกฤติของ บวท. ตามลาดับ ในวัฒนธรรมความปลอดภัย ฝ่ายจัดการและพนักงานปฏิบัติงานด้วยความละเอียด รอบคอบและรักษามาตรฐานของการทางานอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดความเสี่ยงและความเสียหายต่อ บวท. ใช้ชีวิตประจาวันท่านคานึงถึงความปลอดภัยในทุก ๆ เรื่อง วางแผนการทางานล่วงหน้าเพื่อลด ความเสี่ ย งที่จ ะเกิ ดขึ้ น งานที่ท าอยู่ใ นปั จ จุบั นดี อยู่ แล้ ว แต่ ก็ยั งมี ความจ าเป็น ต้อ งปรั บปรุง และ ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องตระหนักถึงความปลอดภัยในการทางาน ตามลาดับ


59 ในวัฒนธรรมการเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพ ฝ่ายจัดการและพนักงานชอบ เรียนรู้งานใหม่ หรือค้นหาวิธีการทางานใหม่ ๆ มากที่สุด รองลงมาคือ ขวนขวายที่จะเรียนรู้ เพิ่มเติมในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการทางานและเป็นประโยชน์ตอ่ บวท. แลกเปลี่ยนและ แบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้กับผู้อื่นในทุก ๆ โอกาส และแสดงความคิดเห็นและมีข้อเสนอแนะเพื่อ พัฒนาวิธีการทางานใหม่ ๆ ตามลาดับ ตอนที่ 4 การวิเคราะห์การปฏิบัติตนในความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ของการ เตรียมความพร้อมในการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตาม แผนแม่บท CG & CSR ปี 2556-2560 ในการศึกษาความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของฝ่ายจัดการและพนักงาน ผู้ศึกษาได้สร้างแบบสอบถามแบบมาตรา ส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Likert’s scale) คือ มีการปฏิบัติตนในความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ในระดับมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด จานวน 5 ประเด็นความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญ รวม 22 ข้อ โดยแบ่งประเด็นคาถามความตระหนักรู้ ดังนี้ 1) ความตระหนักรู้ใน การตรวจสอบตนเอง 2) ความตระหนั ก รู้ ใ นการเร่ ง สื่ อ สาร ๓) ความตระหนั ก รู้ ใ นการ วางรากฐานเพื่อการพัฒนา 4) ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน และ 5) ความตระหนักรู้ใน การสานสัมพันธ์ วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ (F) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ดังรายละเอียดตามตารางที่ 4-12 ถึง 4-16


ตารางที่ 4-12 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเองในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง 1. ท่านรู้จักระบบการกากับดูแลกิจการที่ดี ของ บวท. ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องการ บริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน การบริหาร ทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ท่านรู้จักการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ซึ่งใช้แนวทาง มาตรฐานการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ISO 26000 3. ท่านพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูง ผู้บังคับบัญชา หรือตลอดจนพนักงานทุกระดับและทุกสายงาน ที่เกี่ยวข้องกับการกากับ ดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 4. ท่านปฏิบัตงิ านสอดคล้องกับแนวปฏิบัตทิ ี่ดี ซึ่งถือเป็นความสาคัญใน การกากับดูแลกิจการที่ดี บวท. และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

90 10.8

324 38.9

319 38.3

53 6.4

47 5.6

3.43

0.963

มีความ ตระหนักมาก

67 8.0

293 35.2

335 40.2

86 10.3

52 6.2

3.28

0.973

181 21.7

444 53.3

190 22.8

14 1.7

4 0.5

3.94

0.744

มีความ ตระหนัก ปานกลาง มีความ ตระหนักมาก

150 18.0

465 55.8

201 24.1

12 1.4

5 0.6

3.89

0.722

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีความ ตระหนักมาก

60


ตารางที่ 4-12 (ต่อ) ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง (ต่อ) 5. ท่านคิดว่า บวท. มีความพร้อมในการดาเนินระบบการกากับดูแล กิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ทัง้ ในปัจจุบนั และ อนาคต 6. ท่านพร้อมสาหรับการปรับเปลี่ยนการปฏิบัตงิ านให้สอดคล้องกับระบบ การกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้ แผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ 7. ท่านต้องการแสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบการ กากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม รวมความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

138 16.6

410 49.2

235 28.2

39 4.7

11 1.3

3.75

0.832

มีความ ตระหนักมาก

158 19.0

428 51.4

217 26.1

24 2.9

6 0.7

3.85

0.780

มีความ ตระหนักมาก

78 9.4

305 36.6

382 45.9

53 6.4

15 1.8

3.45

0.819

มีความ ตระหนักมาก

3.66

0.578

มีความ ตระหนัก มาก

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

61


ตารางที่ 4-13 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสารในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

ความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร 1. ท่านพอใจการตรวจสอบความพร้อมของตนเองและของ บวท. ใน เรื่องการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 2. ท่านทราบหรือไม่วา่ บวท. กาลังดาเนินการพัฒนาระบบการกากับ ดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. 3. ท่านต้องการให้ บวท. ประชาสัมพันธ์ให้ทราบเกี่ยวกับแผนการกากับ ดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ภายใต้ แผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ รวมความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

105 12.6 113 13.6 223 26.8

377 45.3 312 37.5 371 44.5

294 35.3 299 35.9 194 23.3

45 5.4 83 10.0 36 4.3

12 1.4 26 3.1 9 1.1

3.62

0.826

มีความ ตระหนักมาก

3.48

0.953

มีความ ตระหนักมาก

3.92

0.874

มีความ ตระหนักมาก

3.67

0.692

มีความ ตระหนัก มาก

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

62


ตารางที่ 4-14 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

ความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา 1. ท่านมีสว่ นร่วมในการวางรากฐานเพื่อพัฒนาการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมใน บวท. 2. ท่านคาดหวังว่า บวท. ควรมีกระบวนการสรรหาผู้บริหารระดับสูง ใน ด้านพัฒนาการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมเป็นการเฉพาะ 3. ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ในช่วงการประเมินผลการปฏิบัตงิ าน 4. ท่านมีสว่ นในการสร้างระบบบริหารงานกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมแบบมีส่วนร่วม 5. ท่านมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อให้เกิดแนวคิดการวางรากฐานและ พัฒนาการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม รวมความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

66 7.9 152 18.2

216 25.9 333 40.0

314 37.7 253 30.4

152 18.2 65 7.8

85 10.2 30 3.6

3.03

0.908

มีความตระหนัก มาก

3.61

0.887

มีความตระหนัก มากที่สุด

62 7.4 48 5.8 50 6.0

246 29.5 214 25.7 189 22.7

354 42.5 327 39.3 343 41.2

127 15.2 164 19.7 164 19.7

44 5.3 80 9.6 87 10.4

3.19

0.861

มีความตระหนัก มาก

2.98

0.903

มีความตระหนัก มาก

2.94

0.903

มีความตระหนัก มาก

3.15

0.777

มีความตระหนัก ปานกลาง

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

63


ตารางที่ 4-15 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน 1. ท่านพร้อมร่วมเป็นทีมงาน CG & CSR เพื่อเป็นกาลังในการขับเคลื่อนระบบ การกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. 2. ท่านให้ความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนระบบการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ร่วมกับผู้บริหารและพนักงานทุก หน่วยงาน 3. ท่านชื่นชอบการทางานเป็นทีม ทางานไปในทิศทางเดียวกัน มีการ ประสานงานทั้งภาคปฏิบัติงานและส่วนสนับสนุนอื่นๆ รวมความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

119 14.3

362 43.5

272 32.7

59 7.1

21 2.5

3.60

0.905

150 18.0

408 49.0

235 28.2

33 4.0

7 0.8

3.79

0.809

240 28.8

400 48.0

162 19.4

28 3.4

3 0.4

4.02

0.806

3.80

0.699

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

มีความ ตระหนักมาก ที่สุด มีความ ตระหนักมาก มีความ ตระหนักมาก ที่สุด มีความ ตระหนัก มากที่สุด

64


ตารางที่ 4-16 จานวน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ ๑. ท่านคิดว่าการเป็นบรรษัทภิบาลที่ดี ในเรื่องการกากับดูแลกิจการที่ดี ของ บวท. ควรสานสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่น ทัง้ ภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ เช่น ปปช. ปปท. กพร. กลต. เป็นต้น ๒. ท่านคิดว่าการเป็นบรรษัทบริบาลที่ดี ในเรื่องการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคม ควรสานสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่น ทัง้ ภาครัฐและภาคเอกชน เช่น ทอท. กสทช บพ. อต. กองทัพฯ สายการบิน เป็นต้น ๓. ท่านประสงค์จะร่วมสร้างเครือข่ายการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีสว่ นได้ ส่วนเสียกับ บวท. ๔. ท่านเห็นว่า บวท. ดาเนินการด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เพียงหน่วยงานเดียว จะสาเร็จไม่ได้อย่าง แน่นอน

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

207 24.8

418 50.2

179 21.5

24 2.9

5 0.6

3.96

0.795

มีความ ตระหนักมาก

219 26.3

420 50.4

166 19.9

25 3.0

3 0.4

3.99

0.784

มีความ ตระหนักมาก

164 19.7

398 47.8

237 28.5

28 3.4

6 0.7

3.82

0.806

มีความ ตระหนักมาก

241 28.9

350 42.0

194 23.3

33 4.0

15 1.8

3.92

0.915

มีความ ตระหนักมาก

(X)

(SD)

ระดับ การปฏิบัติ

65


ตารางที่ 4-16 (ต่อ) ระดับการปฏิบัติ ข้อคาถาม

มากที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

มาก (จานวน) (ร้อยละ)

ปานกลาง (จานวน) (ร้อยละ)

น้อย (จานวน) (ร้อยละ)

น้อยที่สุด (จานวน) (ร้อยละ)

ค่าเฉลี่ย

(X)

ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน (SD)

ระดับ การปฏิบัติ

รวมความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์

3.92

0.672

มีความ ตระหนักมาก

รวมความตระหนักรู้ถงึ ความสาคัญของการเตรียมความพร้อมใน การกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR ปี 2556-2560

3.64

0.545

มีความ ตระหนัก มาก

66


67

จากตารางที่ 4-12 ถึง 4-16 พบว่า ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ของฝ่ายจัดการ และพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มี ระดับความตระหนักอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.64 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมเท่ากับ 0.545 และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านของความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ แล้ว พบว่า ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 3.92 มีระดับความตระหนัก ในระดับมาก รองลงมาคือ ความตระหนักรู้ในการสร้างทีมงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.80 ความ ตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร มีค่าเฉลี่ย 3.67 ความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง มีค่าเฉลี่ย 3.66 และความตระหนัก รู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา มีค่าเฉลี่ย 3.15 มีระดับ การ ปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ แต่เมื่อพิจารณาในองค์ประกอบย่อยของความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ในแต่ละด้าน พบว่า ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ ฝ่ายจัดการและพนักงานคิดว่าการเป็นบรรษัทบริบาล ที่ดีในเรื่องการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ควรสานสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่น ทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชนเช่น ทอท. กสทช บพ. อต. กองทัพฯ สายการบิน เป็นต้น มากที่สุด รองลงมาคือ การเป็ น บรรษั ท บริ บ าลที่ ดี ใ นเรื่ องการแสดงความรั บ ผิด ชอบต่ อ สั งคมควรสานสั ม พัน ธ์ กั บ หน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิเช่น ปปช. ปปท. กพร. กลต. เป็นต้น เห็นว่า บวท. ดาเนินการด้านการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เพียงหน่วยงาน เดียวจะสาเร็จไม่ได้อย่างแน่นอน และประสงค์จะร่วมสร้างเครือข่ายการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ บวท.ตามลาดับ ในด้านความตระหนัก รู้ใ นการสร้างทีมงาน ฝ่ายจัดการและพนัก งานชื่นชอบการ ทางานเป็นทีม ให้ทางานไปในทิศทางเดี ยวกัน มีการประสานงานทั้งภาคปฏิบัติงานและส่วน สนับสนุนอื่นๆ มากที่สุด รองลงมาคือ ให้ความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนระบบการกากับดูแล กิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ร่วมกับผู้บริหารและพนักงานทุก หน่วยงาน และพร้อมร่วมเป็นทีมงาน CG & CSR เพื่อเป็นกาลังในการขับเคลื่อนระบบการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ตามลาดับ ในด้านความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร ฝ่ายจัดการและพนักงานต้องการให้ บวท. ประชาสัมพันธ์ให้ทราบเกี่ยวกับแผนการกากับดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ภายใต้แผนแม่บท CG & CSR ปี 2556-2560 มากที่สุด รองลงมาคือ พอใจ การตรวจสอบความพร้อมของตนเองและของ บวท. ในเรื่องการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ


68

แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และทราบว่า บวท. กาลังดาเนินการพัฒนาระบบการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ตามลาดับ ในด้านความตระหนักรู้ในการตรวจสอบตนเอง ฝ่ายจัดการและพนักงานพร้อมที่จะ รับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูง ผูบ้ ังคับบัญชา หรือตลอดจนพนักงานทุกระดับและทุก สายงาน ที่เกี่ยวข้องกับการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมมาก ที่สุด รองลงมาคือ ปฏิบัติงานสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดี ซึ่งถือเป็นความสาคัญในการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. พร้อมสาหรับการปรับเปลี่ยน การปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับระบบการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมภายใต้แผนแม่บท CG & CSR ปี 2556-2560 คิดว่า บวท. มีความพร้อมในการดาเนิน ระบบการก ากั บ ดู แลกิ จการที่ดี และการแสดงความรับ ผิดชอบต่อสังคม ทั้งในปัจจุบันและ อนาคต ต้องการแสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม รู้จักระบบการกากับดูแลกิจการที่ดี ของ บวท. ซึ่ง มุ่งเน้นเรื่องการบริหารความเสี่ย ง การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน การบริหาร ทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ และรู้จักการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ซึ่งใช้แนวทางมาตรฐานการแสดงความรับผิ ดชอบต่อสังคม ISO 26000 และ ตามลาดับ ในด้านความตระหนักรู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา ฝ่ายจัดการและพนักงาน คาดหวังว่า บวท. ควรมีกระบวนการสรรหาผู้บริหารระดับสูง ในด้านพัฒนาการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นการเฉพาะ มากที่สุด รองลงมาคือ สามารถแสดงความคิ ด เห็ น ในการพั ฒ นาการก ากั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ในช่วงการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีสว่ นร่วมในการวางรากฐานเพื่อพัฒนาการ กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมใน บวท. มีส่วนในการสร้างระบบ บริหารงานกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมแบบมีส่วนร่วม และมี โอกาสแลกเปลี่ยนความรูเ้ พื่อให้เกิดแนวคิดการวางรากฐานและพัฒนาการกากับดูแลกิจการที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามลาดับ

4.3 การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทดสอบสมมติฐานของการศึกษา ตอนที่ 5 การวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิ จการที่ ดีและการแสดงความรับผิ ดชอบต่อ สังคม การปฏิบัติ ตนในวัฒนธรรมองค์ก ร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากั บ


69

ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 สมมติฐานการวิจัย ในการวิเคราะห์สมมติฐานการวิจัย การมีส่วนร่วมของพนักงานใน กิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้าน การกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้สถิติ วิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดย สามารถเขียนเป็นสมมติฐานทางสถิติ ดังนี้ H0: การมีส่วนร่วมของพนักงานฯ และการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กรฯ ไม่มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมฯ H1: ด้านการมีส่วนร่วมของพนักงานฯ และการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กรฯ มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ตารางที่ 4-17 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสั งคม ตามแผนแม่บ ทด้านการกากั บดูแลที่ดีและการแสดงความรั บ ผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560

ตัวพยากรณ์

สัมประสิทธิ์ถดถอย B Beta 0.239 0.366

t

Sig.

การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการ 13.942 0.000* กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART 0.609 0.489 18.624 0.000* AEROTHAI Constant = 2.802 Standard Error of the Estimate = 0.390


70

R = 0.701 R2 = 0.491 F = 400.433 Sig = 0.000 จากตารางที่ 4-17 ผลการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ พบว่า การมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิ จกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การ ปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผน แม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง (R2 = 0.491 หรือ 49.10%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มี ความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.349 หรือ 34.90%) ดังนั้น ผลการทดสอบที่ได้จึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาตามด้านของการมี ส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม และการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI พบว่า การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการ กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสั งคมของ บวท. ปี 2556-2560 อย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิติที่ ระดับ 0.05 โดยตัวแปรการมีส่วนร่วมของพนักงานฯ มีค่า B เท่ากับ 0.239 มีค่า t เท่ากับ 13.942 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยตัวแปรการปฏิบัติตนในวัฒนธรรม องค์กร B เท่ากับ 0.609 มีคา่ t เท่ากับ 18.624 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 ดังนัน้ สามารถแสดงสมการได้ดังนี้ Unstandardized Yˆ = 2.802 + 0.239X1* + 0.609X2* เมื่อ Yˆ = ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ X1 = การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม X2 = การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI


71

จากสมการข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์ก ร SMART AEROTHAI เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วยแล้ว ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่ อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 จะ เปลี่ยนแปลง ดังนี้ การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม เท่ากั บ 0.239 หมายความว่า การมีส่วนร่วมของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึน้ 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะเพิ่มขึน้ 0.239 หน่วย การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร เท่ากับ 0.609 หมายความว่า การปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กรฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้ านการกากับดู แลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม จะเพิ่มขึ้น 0.609 หน่วย ดังนั้น จะต้องทดสอบสมการความถดถอยของการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรม ด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อมีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความ พร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการ กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ว่าเป็นจริง หรือไม่ ดังสมการ Standardized Yˆ = 0.366X1* + 0.489X2* เมื่อ Yˆ = ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ X1 = การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม X2 = การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI จากสมการ Standardized พบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรการมีส่วนร่วมของพนักงานฯ เท่ากับ 0.366 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กรฯ เท่ากับ 0.489


72

แสดงให้เห็นว่ามีข้อมูลเพีย งพอที่จะปฏิเสธสมมติฐานหลัก (H0) ที่ระดับนัย สาคัญ 0.05 จึงสรุปได้ว่าปัจจัยด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การ ปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผน แม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ในรูปแบบเชิงเส้น ดังนัน้ ผลการทดสอบที่ได้จงึ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้ สมมติฐานย่อย 1.1 หากพิจารณาในองค์ประกอบย่อยของการมีส่วนร่วมของพนักงาน ที่ มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ใช้สถิติวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยสามารถเขียนเป็นสมมติฐานทางสถิติ ดังนี้ H0: การมีส่วนร่วมของพนักงาน ไม่มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ H1: ด้านการมีส่วนร่วมของพนักงาน มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ตารางที่ 4-18 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้าน การกากับดูแลที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560

ตัวพยากรณ์ การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ การมีส่วนร่วมควบคุมประเมินผล Constant = 33.616 R = 0.542 F = 68.859

สัมประสิทธิ์ถดถอย t B Beta 0.067 0.112 1.642 0.056 0.104 1.651 -0.015 -0.026 -0.398 0.106 0.165 3.920 0.141 0.273 6.457 Standard Error of the Estimate = 0.460 R2 = 0.294 Sig = 0.000

Sig. 0.039* 0.099 0.050* 0.000* 0.000*


73

จากตารางที่ 4-18 ผลการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ พบว่า การมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างต่า (R2 = 0.294 หรือ 29.40%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.460 หรือ 46.00%) ดังนั้น ผลการทดสอบที่ได้จึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ ตั้ง ไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาองค์ประกอบของการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม พบว่า ตัวแปรการมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล มีค่า B เท่ากับ 0.067 มีค่า t เท่ากับ 1.642 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.101 ซึ่งมากกว่า 0.05 ตัวแปรการมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ มีค่า B เท่ากับ 0.056 มีค่า t เท่ากับ 1.651 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.099 ซึ่งมากกว่า 0.05 ตัวแปรการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา มีคา่ B เท่ากับ -0.015 มีค่า t เท่ากับ 0.398 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.691 ซึ่งมากกว่า 0.05 ตัวแปรการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ มีคา่ B เท่ากับ 0.106 มีค่า t เท่ากับ 3.920 มี ค่า Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 ตัวแปรการมีส่วนร่วมควบคุมประเมินผล มีค่า B เท่ากับ 0.142 มีค่า t เท่ากับ 6.457 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 ดังนัน้ สามารถแสดงสมการได้ดังนี้ Unstandardized Yˆ = 33.616 +0.067X1*+ 0.056X2-0.015X3*+ 0.106X4* +0.141X5* เมื่อ Yˆ = ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ X1 = การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล X2 = การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ X3 = การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา X4 = การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ X5 = การมีส่วนร่วมควบคุมประเมินผล


74

จากสมการข้า งต้ น แสดงให้เ ห็ นว่ า องค์ป ระกอบของการมี ส่วนร่ วมของพนักงานใน กิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วยแล้ว ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. 2556-2560 จะเปลี่ยนแปลง ดังนี้ การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล เท่ากับ 0.067 หมายความว่า การมีส่วนร่วมให้หรือรับ ข้อมูลของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการก ากั บดู แลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะเพิ่มขึ้น 0.067 หน่วย การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ เท่ากับ 0.056 หมายความว่า การมีส่วนร่วม วางแผนและตั ด สิน ใจของพนั กงานฯ เปลี่ ย นแปลงเพิ่ ม ขึ้น 1 หน่ว ย ความตระหนั ก รู้ ถึ ง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมจะเพิ่มขึน้ 0.056 หน่วย การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา เท่ากับ -0.015 หมายความว่า การมีส่วนร่วมในการ แก้ปัญหาของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงลดลงขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง 0.015 หน่วย การมีส่ว นร่ว มในการปฏิบัติ เท่ากั บ 0.106 หมายความว่า การมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการก ากั บ ดู แลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะเพิ่มขึ้น 0.106 หน่วย การมีส่วนร่วมควบคุมประเมินผล เท่ากับ 0.141 หมายความว่า การมีส่วนร่วมวาง ควบคุมประเมินผลของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะเพิ่มขึ้น 0.141 หน่วย ดังนั้น จะต้องทดสอบสมการความถดถอยขององค์ประกอบของการมีส่วนร่วมของ พนักงานในกิ จกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การ ปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผน


75

แม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี ๒๕๕๖๒๕๖๐ ว่าเป็นจริงหรือไม่ ดังสมการ Standardized Yˆ = 0.112X1+ 0.104X2-0.026X3+0.165X4*+0.273X5* เมื่อ Yˆ = ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ X1 = การมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล X2 = การมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ X3 = การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา X4 = การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ X5 = การมีส่วนร่วมควบคุมประเมินผล จากสมการ Standardized พบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรการมีส่วนร่วมให้หรือรับข้อมูล เท่ากับ 0.112 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรการมีส่วนร่วมวางแผนและตัดสินใจ เท่ากับ 0.104 ค่า สั ม ประสิ ท ธิ์ ค วามถดถอยของตั ว แปรการมี ส่ วนร่ ว มในการแก้ ปัญ หา เท่ า กั บ -0.026 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ เท่ากับ 0.165 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรการมีส่วนร่วมควบคุมประเมินผล เท่ากับ 0.273 แสดงให้เห็นว่ามีข้อมูลเพีย งพอที่จะปฏิเสธสมมติฐานหลัก (H0) ที่ระดับนัย สาคัญ 0.05 จึงสรุปได้ว่าปัจจัยด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มี ผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรั บผิดชอบต่ อสั งคม ตามแผนแม่ บ ทด้ า นการก ากั บ ดูแ ลที่ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ในรูปแบบเชิงเส้น ดังนั้น ผลการทดสอบที่ได้จึง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้ สมมติฐานย่อย 1.2 หากพิจารณาในองค์ประกอบย่อยของการปฏิบัติตนในวัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI ที่มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อม ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ใช้สถิติวิเคราะห์สมการถดถอย


76

พหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยสามารถเขียนเป็น สมมติฐานทางสถิติ ดังนี้ H0: การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กรฯ ไม่มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ H1: การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กรฯ มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ตารางที่ 4-19 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 สัมประสิทธิ์ถดถอย t Sig. B Beta วัฒนธรรมความปลอดภัย 0.249 0.212 6.397 0.000* วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม 0.098 0.100 2.264 0.024* วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเอง -0.087 -0.085 -1.844 0.066 วัฒนธรรมยอมรับความเป็นมืออาชีพ 0.309 0.344 10.143 0.000* วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน 0.221 0.219 5.490 0.000* Constant = 3.354 Standard Error of the Estimate = 0.417 R = 0.646 R2 = 0.418 F = 118.693 Sig = 0.000 จากตารางที่ 4-19 ผลการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ พบว่า การปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียม ความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้าน การกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ใน ระดับปานกลาง (R2 = 0.418 หรือ 41.80%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มี ความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.417 หรือ 41.70%) ดังนั้น ผลการทดสอบที่ได้จึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาองค์ประกอบย่อย ของการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI พบว่า ตัวพยากรณ์


77

ตัวแปรวัฒนธรรมความปลอดภัย มีค่า B เท่ากับ 0.249 มีค่า t เท่ากับ 6.397 มี ค่า Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 ตัวแปรวัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม มีค่า B เท่ากับ 0.098 มีค่า t เท่ากับ 2.264 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.024 ซึง่ น้อยกว่า 0.05 ตัว แปรวั ฒนธรรมความรั บ ผิดชอบต่อตนเอง มีค่า B เท่ ากั บ -0.087 มีค่า t เท่ากับ -1.844 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.066 ซึ่งมากกว่า 0.05 ตัวแปรวัฒนธรรมยอมรับความเป็นมืออาชีพ มีค่า B เท่ากับ 0.309 มีค่า t เท่ากับ 10.143 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 ตัว แปรวั ฒนธรรมความเป็นน้ าหนึ่งใจเดีย วกั น มีค่ า B เท่า กั บ 0.221 มีค่า t เท่ากับ 5.490 มีคา่ Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 ดังนัน้ สามารถแสดงสมการได้ดังนี้ Unstandardized Yˆ = 3.354 +0.249X1*+ 0.098X2*-0.087X3+0.309X4* +0.221X5* เมื่อ Yˆ = ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ X1 = วัฒนธรรมความปลอดภัย X2 = วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม X3 = วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเอง X4 = วัฒนธรรมยอมรับความเป็นมืออาชีพ X5 = วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน จากสมการข้างต้นแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบของการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วยแล้ว ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 จะ เปลี่ยนแปลง ดังนี้ วัฒนธรรมความปลอดภัย เท่ากับ 0.249 หมายความว่า วัฒนธรรมความปลอดภัย ของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความ พร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะเพิ่มขึน้ 0.249 หน่วย


78

วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม เท่ากับ 0.098 หมายความว่า วัฒนธรรมจริยธรรม เพื่อส่วนรวมของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรีย มความพร้อมด้านการก ากั บ ดูแ ลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจะเพิ่มขึ้ น 0.098 หน่วย วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเอง เท่ากับ -0.087 หมายความว่า วัฒนธรรม ความรับผิดชอบต่อตนเองของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงลดลง 1 หน่วย ความตระหนัก รู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมจะลดลง 0.087 หน่วย วัฒนธรรมยอมรับความเป็นมืออาชีพ เท่ากับ 0.309 หมายความว่า วัฒนธรรม ยอมรับความเป็นมืออาชีพ ของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมจะเพิ่มขึน้ 0.309 หน่วย วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน เท่ากับ 0.221 หมายความว่า วัฒนธรรม ความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน ของพนักงานฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมจะเพิ่มขึน้ 0.221 หน่วย ดังนั้น จะต้องทดสอบสมการความถดถอยขององค์ป ระกอบของการปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อมีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ว่า เป็นจริงหรือไม่ ดังสมการ Standardized Yˆ = 0.212X1*+ 0.100X2*-0.085X3+0.344X4*+ 0.219X5* เมื่อ Yˆ = ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ X1 = วัฒนธรรมความปลอดภัย X2 = วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม X3 = วัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเอง X4 = วัฒนธรรมยอมรับความเป็นมืออาชีพ X5 = วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน


79

จากสมการ Standardized พบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรวัฒนธรรมความปลอดภัย เท่ากับ 0.212 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรวัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม เท่ากับ 0.100 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเอง เท่ากับ -0.085 ค่าสัมประสิทธิ์ความถดถอยของตัวแปรวัฒนธรรมยอมรับความเป็นมืออาชีพ เท่ากับ 0.344 ค่า สั ม ประสิ ท ธิ์ ค วามถดถอยของตั ว แปรวั ฒ นธรรมความเป็ น น้ าหนึ่ ง ใจเดี ย วกั น เท่ากับ 0.219 แสดงให้เห็นว่ามีข้อมูลเพีย งพอที่จะปฏิเสธสมมติฐานหลัก (H0) ที่ระดับนัย สาคัญ 0.05 จึงสรุปได้ว่าปัจจัย การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสั งคม ตามแผนแม่บ ทด้านการกากั บดูแลที่ดีและการแสดงความรับ ผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ในรูปแบบเชิงเส้น ดังนั้น ผลการทดสอบที่ได้จึงเป็นไปตาม สมมติฐานที่ตงั้ ไว้

4.4 สรุปผลการทดสอบสมมติฐาน ตารางที่ 4-20 สรุปผลการทดสอบสมมติฐาน สมมติฐาน สมมติฐาน 1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติ ตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อม ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560

ผลการทดสอบสมมติฐาน ยอมรับสมมติฐาน H1


80

ตารางที่ 4-22 (ต่อ) สมมติฐาน สมมติฐานย่อย 1.1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อม ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 สมมติฐานย่อย 1.2 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผล ต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อม ด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560

ผลการทดสอบสมมติฐาน ยอมรับสมมติฐาน H1

ยอมรับสมมติฐาน H1


81

ส่วนที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การสารวจการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิ ดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ประจาปี 2556 นี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการมีสว่ นร่วมของพนักงานในกิจกรรมการกากับดูแล กิ จ การที่ดี แ ละการแสดงความรั บ ผิด ชอบต่ อสั ง คม การปฏิ บั ติต นในวั ฒนธรรมองค์ ก ร SMART AEROTHAI กับความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 วิธีดาเนินการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ฝ่ายจัดการและพนักงานของ บวท. ที่ปฏิบัติงานทั้งใน ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งหมด 2,815 คน (ข้อมูล ณ 30 เมษายน 2556) ได้กาหนดกลุ่ม ตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างของทาโร ยามาเน่ (Yamane, 1967) กาหนดให้มีความคาดเคลื่อนของ กลุ่มตัว อย่างที่ย อมให้เกิ ด ขึ้นเท่ากั บ 0.03 ได้ก ลุ่มตั วอย่ างทั้งสิ้น 797 คน สารองกลุ่มตัวอย่าง เพิ่มเติมอีก 11 คน รวมเป็นกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 908 คน และจาแนกกลุ่มตัวอย่างตามสัดส่วน อัตรากาลังของแต่ละสายงาน ได้แบบสอบถามกลับคืนรวมทั้งสิ้น 833 แบบสอบถาม คิดเป็นร้อยละ 91.74 เครื่องมือที่ใช้ในการสารวจเป็นแบบสอบถามประกอบด้วยคาถามประเภทเลือกตอบ แบบนามบัญญัติที่เป็นสเกลเรียงลาดับ และแบบมาตราประมาณค่า ๕ ระดับ (Rating Scale) เนื้อหา ของแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 5 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนที่ 3 แบบสอบถามการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI


82 ส่วนที่ 5 แบบสอบถามความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ส่วนที่ 6 ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ทาการทดสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดกับฝ่ายจัดการและพนักงาน บวท. โดยผ่าน กระบวนการ 2 ขั้นตอน คือ 1. ขั้นตอนคุณภาพของเครื่องมือวัดความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC: Index of Item Objective Congruence) โดยผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ทรงคุณวุฒิในระเบียบวิธีวิจัย 3 ท่าน โดยค่า IOC = 1.0 2. ขั้นตอนการทดสอบความเชื่อถือได้ของเครื่องมือวัด (Reliability : ∞) โดยกลุ่ม จานวน 60 คน โดยค่าความเชื่อถือได้ของเครื่องมือวัดการมีส่วนร่วมฯ เท่ากับ 0.954 การปฏิบัติตน ในวัฒนธรรมองค์กรเท่ากับ 0.936 และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญฯ เท่ากับ 0.951 ตามลาดับ การวิเคราะห์ข้อมูล คณะผู้ทาการสารวจฯ ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการอธิบายคุณ ลักษณะทั่วไปของผู้ตอบ แบบสอบถาม โดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ การวิเคราะห์ข้อมูล การมีส่วนร่วมของพนักงานใน กิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการ กากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับ ผิด ชอบต่อสั งคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้ ค่ าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ย งเบน มาตรฐาน (S.D.) และใช้สถิติเชิงอนุมาน เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปร ตาม ในสมมติฐานทั้ง 3 สมมติฐาน โดยกาหนดระดับนัยสาคัญทางสถิติ ณ ระดับ ๐.๐๕ ดังนี้ สมมติฐาน 1. การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความ ตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ในการเตรี ย มความพร้ อ มด้า นการก ากั บ ดู แ ลที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยกาหนดค่านัยสาคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ไว้ที่ระดับ 0.05 สมมติฐานย่อย 1.1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความ พร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้การวิเคราะห์สมการ


83 ถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยกาหนดค่านัยสาคัญ ทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ไว้ที่ระดับ 0.05 สมมติฐานย่อย 1.2 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Linear Regression Analysis) วิธี Enter Method โดยกาหนดค่านัยสาคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ไว้ที่ระดับ 0.05 สรุปผลการวิจัย ผลการสารวจสามารถสรุปผลได้เป็น 3 ตอน ดังนี้ 1. สรุปผลการสารวจ 2. อภิปรายผล 3. ข้อเสนอแนะ 1. สรุปผลการสารวจ คุณลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่าข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศชายมากกว่า เพศหญิง ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 31-50 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท มี ประสบการณ์ทางาน 5-25 ปี เป็นพนักงานมากกว่าฝ่ายจัดการ สังกัดสายบริหารจราจรทางอากาศ รองลงมาคือสายภูมิภาคและศูนย์ประกอบการ และสายวิศวกรรมจราจรทางอากาศ ปฏิบัติงานที่ ทุ่งมหาเมฆ สุวรรณภูมิ และดอนเมือง มีลักษณะการปฏิบัติเป็น Daywork มากกว่าเข้ากะ ด้านการมีส่ว นร่วมของฝ่ายจัดการและพนัก งานในกิจกรรมด้านการก ากั บ ดูแลกิจการที่ดแี ละการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม พบว่าการมีส่วนร่ว มของฝ่ายจัดการและพนัก งานในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแล กิ จ การที่ ดี แ ละการแสดงความรั บผิ ดชอบต่ อ สั งคม มี ร ะดั บ การปฏิ บั ติ อ ยู่ ใ นระดั บ ปานกลาง มี ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.27 มีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.835 และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน ของการมีสว่ นร่วมแล้ว พบว่า การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 3.80 มีระดับการ ปฏิบัติในระดับมาก รองลงมาคือการมีส่วนร่วมในการให้/รับข้อมูลและการมีส่วนร่วมในการแก้ไข ปัญหา มีค่าเฉลี่ย เท่ากัน เท่ากับ 3.32 มีระดับการปฏิบัติในระดับ ปานกลาง การมีส่วนร่วมในการ วางแผนและตัดสินใจ มีค่าเฉลี่ย 2.99 มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง และการมีส่วนร่วมในการ ควบคุมประเมินผล มีคา่ เฉลี่ย 2.91 มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง ตามลาดับ


84 ด้านการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI พบว่ า วั ฒ นธรรมองค์ ก ร SMART AEROTHAI ของฝ่ า ยจั ด การและพนั ก งานใน กิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีระดับการปฏิบัติอยู่ ในระดับมาก มีค่า เฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.11 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.437 และเมื่อ พิจารณาในแต่ละด้านของวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI พบว่า วัฒนธรรมจริย ธรรมเพื่อ ส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.27 มีระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุด รองลงมาคือวัฒนธรรม ความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.24 มีระดับ การปฏิบัติในระดับมากที่สุด วัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน มีค่าเฉลี่ย 4.21 มีระดับ การปฏิบัติในระดับมากที่สุด ส่วน วัฒนธรรมความปลอดภัย มีค่าเฉลี่ย 3.97 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก และวัฒนธรรมการเป็นที่ ยอมรับในความเป็นมืออาชีพ มีคา่ เฉลี่ย 3.85 ระดับการปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ ด้านความตระหนักรู้ถงึ ความสาคัญของการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมฯ พบว่าความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของฝ่ายจัดการและพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีระดับความตระหนักอยู่ในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.64 มีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.545 และเมื่อพิจารณาในแต่ ละด้านของความตระหนักรู้ถึงความสาคัญแล้ว พบว่า ความตระหนักรู้ในการสานสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ย สูงสุดเท่ากับ 3.92 มีระดับความตระหนักในระดับมาก รองลงมาคือ ความตระหนักรู้ในการสร้าง ทีมงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.80 ความตระหนักรู้ในการเร่งสื่อสาร มีค่าเฉลี่ย 3.67 ความตระหนักรู้ใน การตรวจสอบตนเอง มีค่าเฉลี่ย 3.66 และความตระหนัก รู้ในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา มี ค่าเฉลี่ย 3.15 มีระดับการปฏิบัติในระดับมาก ตามลาดับ ผลการทดสอบสมมติฐาน สมมติฐาน 1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความ ตระหนั ก รู้ ถึ ง ความส าคั ญ ในการเตรี ย มความพร้ อ มด้า นการก ากั บ ดู แ ลที่ ดี แ ละการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับระดับปานกลาง (R2 = 0.491 หรือ 49.10%) อย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.349 หรือ 34.90%) ดังนัน้ ผลการทดสอบที่ได้จงึ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้


85 สมมติฐานย่อย 1.1 การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความ พร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างต่า (R2 = 0.294 หรือ 29.40%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการ ทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.460 หรือ 46.00%) ดังนั้นผลการทดสอบที่ได้จึงเป็นไป ตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้ สมมติฐานย่อย 1.2 การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง (R2 = 0.418 หรือ 41.80%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.417 หรือ 41.70%) ดังนัน้ ผลการทดสอบที่ได้จงึ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้ 2. อภิปรายผลการสารวจ ในการอภิปรายผลการสารวจการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับ ดู แ ลกิ จการที่ดี แ ละการแสดงความรั บผิดชอบต่อ สั ง คม การปฏิ บั ติต นในวั ฒนธรรมองค์ ก ร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 นั้น ได้กาหนดเกณฑ์การแปลผลเชิงปริมาณ ดังนี้ คะแนนเฉลี่ย 4.21-5.00 3.41-4.20 2.61-3.40 1.81-2.60 1.00-1.80

ร้อยละ(%) 96-100 91-95 86-90 81-85 ≤ 80

ระดับ 5 4 3 2 1

การสารวจการมีสว่ นร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรมด้านการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 นี้ อยู่ในยุทธศาสตร์ที่ 2 : ผลักดันนโยบาย การกากับดูแลที่ดี พร้อมการขยายการปฏิบัติให้ครอบคลุมทุกระดับทั่วทั้งองค์กร มาตรการและ แนวทางปฏิบัติที่ 2.1.3 สร้างบรรยากาศที่สง่ เสริมให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรมของ ฝ่ายจัดการและพนักงาน ซึ่งกาหนดตัวชีว้ ัดไว้ คือ คะแนนประเมินระดับชั้นความสาเร็จด้านการสร้าง


86 บรรยากาศขององค์กรที่ส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรมของฝ่ายจัดการและ พนักงาน จากการสารวจพบว่าฝ่ายจัดการและพนักงาน มีคะแนนการมีสว่ นร่วมในกิจกรรม สร้างบรรยากาศที่สง่ เสริมให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรม มีค่าเฉลี่ยการมีส่วนร่วมอยู่ ในระดับปานกลางเท่ากับ 3.27 คิดเป็นร้อยละ 65.40 คานวณระดับของความสาเร็จฯ ดังนี้ ระดับของความสาเร็จฯ = 1.0 x 65.40 = 0.82 80.00 ดังนัน้ ระดับของความสาเร็จของการมีส่วนร่วมฯ จึงอยู่ไม่เกินระดับ 1 (0.82<1.00) การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ของฝ่ายจัดการและพนักงาน ในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้าน การก ากั บ ดู แ ลที่ ดี แ ละการแสดงความรั บ ผิด ชอบต่ อ สัง คมของ บวท. ปี 2556-2560 นี้ อยู่ ใ น ยุทธศาสตร์ที่ ๒ : พัฒนาแนวทางและดาเนินการให้เป็นไปตามหลักการและแนวทางปฏิบัติที่ดี มาตรการและแนวทางปฏิ บั ติ ที่ 1.1.1 พั ฒ นากระบวนการส่ ง เสริ ม วั ฒ นธรรมองค์ ก ร SMART AEROTHAI ซึ่งกาหนดตัวชี้วัดไว้ คือ ค่าคะแนนประเมินระดับวัฒนธรรมองค์กร (SMART AEROTHAI) โดยกาหนดค่าเป้าหมายไว้ ≥ 2.5 จากการสารวจพบว่าฝ่ายจัดการและพนักงาน มีคะแนนการปฏิบัติตนในวัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI ในปี 2556 มีค่าเฉลี่ยการปฏิบัติตนอยู่ในระดับระดับมาก เท่ากับ 4.11 คิ ด เป็ น ร้ อ ยละ 82.20 เที ย บเป็ น ระดั บ ของความส าเร็ จ ฯ ค านวณได้ จ ากค่ า กึ่ ง กลางของระดั บ วัฒนธรรมองค์กรที่คะแนนสารวจอยู่ในช่วงของระดับนั้น x คะแนน(ร้อยละ)ที่สารวจได้ หารด้วย คะแนนกึ่งกลางของคะแนน(ร้อยละ)ในระดับนั้น ดังนี้ ระดับของของความสาเร็จฯ = 2.5 x 82.20 = 2.49 82.50 ดังนัน้ ระดับของวัฒนธรรมองค์กร จึงอยู่ระหว่างระดับ 2 กับระดับ 3 (2.49) เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสารวจคะแนนประเมินความคิดเห็นในคุณค่าร่วม SMART AEROTHAI ในปี 2554 พบว่ า ฝ่ า ยจั ด การและพนั ก งานมี ค วามคิ ด เห็ น ในคุ ณ ค่ า ร่ ว ม SMART AEROTHAI ที่มีต่อการกากับดู แลที่ดีใ นรัฐวิสาหกิจของ บวท. อยู่ในระดับเห็นด้วยมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.10 คิดเป็นร้อยละ 82.00 คานวณเป็นระดับของของความสาเร็จฯ แล้ว อยู่ในระดับ 2 กับระดับ 3 (2.48) ในปี 2555 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.11 คิดเป็นร้อยละ 82.50 คานวณเป็นระดับ ของของความสาเร็จฯ แล้ว อยู่ในระดับ 2 กับระดับ 3 (2.49) ในปี 2556 มีค่า เฉลี่ยเท่ากับ 4.11


87 คิดเป็นร้อยละ 82.50 คานวณเป็นระดับของของความสาเร็จฯ แล้ว อยู่ในระดับ 2 กับระดับ 3 (2.49) เท่ากับปี 2555 แสดงให้เห็นว่าระดับวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI อยู่ในระดับทรงตัว ส่วนความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 นี้ อยู่ในยุทธศาสตร์ที่ 2 : ผลักดันนโยบายการกากับดูแลที่ดี พร้อมการขยายการปฏิบัติให้ครอบคลุมทุกระดับทั่วทั้งองค์กร มาตรการและแนวทางปฏิบัติที่ 2.1.๒ จัดให้มกี ารสารวจความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการนาไปปฏิบัติเรื่องการกากับดูแลที่ดีของ บวท. ซึ่งกาหนดตัวชี้วัดไว้ คือ จานวนร้อยละของฝ่ายจัดการและพนักงานมีการตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ในการนาไปปฏิบัติเรื่องการกากับดูแลที่ดีของ บวท. เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสารวจคะแนนประเมินความตระหนักรู้ถึงความสาคัญฯ ในปี 2554 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.12 มีระดับความตระหนักอยู่ในระดับมาก ในปี 2555 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.19 มีระดับความตระหนักอยู่ในระดับมาก ในปี 2556 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.64 มีระดับความ ตระหนักอยู่ในระดับมาก พบว่ามีค่าเฉลี่ยแตกต่างกันนั้นมีเพียงเล็กน้อย (4.19 – 3.64 = 0.55) แม้ระดับ ความตระหนักอยู่ในระดับมากเหมือนกับปี 2555 และ 2554 แต่ค่าเฉลี่ยลดลง 0.55 แสดงให้เห็นว่าฝ่าย จัดการและพนักงานมีการลดความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลที่ดีลงค่อนข้างมาก ส่วนจานวนร้อยละของฝ่ายจัดการและพนักงานที่เป็นประชากรในการสารวจความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญฯ ในปี 2554 คิดเป็นร้อยละ 84.19 ปี 2555 คิดเป็นร้อยละ 99.67 และปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 91.74 จะเห็นว่าจานวนร้อยละของฝ่ายจัดการและพนักงานมีการตระหนักรู้ถึง ความสาคัญในการนาไปปฏิบัติเรื่องการกากับดูแลที่ดีของ บวท. ในปี 2556 ลดลงจากปี 2555 ร้อย ละ 7.93 แสดงให้เห็นว่าจานวนฝ่ายจัดการและพนักงานมีการลดความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการ กากับดูแลที่ดีลงเล็กน้อย สาหรับการทดสอบสมมติฐานการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้านการกากับดูแล กิจการทีด่ ีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับ ดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างน้อย (R2 = 0.294 หรือ 29.40%) อย่างมี นัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.460 หรือ 46.00%) ตัวแปรการมีส่วนร่วมที่มีผลต่อ ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญใน การเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ ที่มีนัยสาคัญ ทางสถิติ คือ การมีส่วนร่วมในการให้/รับข้อมูล การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา การมีส่วน ร่วมในการปฏิบัติ และการมีส่วนร่วมในการควบคุม/ประเมินผล


88 ส่วนการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนักรู้ ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี ๒๕๕๕๒๕๕๙ ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง (R2 = 0.418 หรือ 41.80%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.417 หรือ 41.70%) ตัวแปร การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ทีม่ ีผลต่อความตระหนักรู้ถึงความสาคัญในการ เตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีนัยสาคัญทาง สถิติ คือ วัฒนธรรมความปลอดภัย วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม วัฒนธรรมยอมรับความ เป็นมืออาชีพ และวัฒนธรรมความเป็นนาหนึ่งใจเดียวกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลการวิจัย ปี 2554 ซึ่งผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ฝ่ายจัดการและพนัก งานให้ค วามสาคัญกั บวัฒนธรรมความปลอดภัยเพีย งวัฒนธรรมเดียว ในปี 2555 ให้ความสาคัญกับ 3 วัฒนธรรม คือ วัฒนธรรมความปลอดภัย วัฒนธรรมยอมรับความเป็น มืออาชีพ และวัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน ในปี 2556 ให้ความสาคัญกับ 4 วัฒนธรรม คือ วัฒนธรรมความปลอดภัย วัฒนธรรมจริยธรรมเพื่อส่วนรวม วัฒนธรรมยอมรับความเป็นมือ อาชีพ และวัฒนธรรมความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าในปี 2556 นี้ ฝ่ายจัดการและ พนั ก งานให้ ค วามส าคั ญ กั บ วั ฒ นธรรมจริ ย ธรรมเพื่ อ ส่ ว นรวมเพิ่ ม มากขึ้ น หรื อ อาจกล่ า วได้ ว่ า วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI (ปี 2554-2556) มีความเข้มแข็งมากขึ้นถึง 4 วัฒนธรรม แต่เมื่อพิจราณาภาพรวมในกิจกรรมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคม จะพบว่าการมีส่วนร่วมของพนักงาน และการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความ รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง (R2 = 0.491 หรือ 49.10%) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความคลาดเคลื่อนของการทานาย (Standard Error of the Estimate = 0.390 หรือ 39.00%) แสดงให้เห็นว่าการที่จะทาให้ฝ่ายจัดการและพนักงานมี ความ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญในกิจกรรมด้านการกากับดูแลที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมนั้น ต้องให้ค วามส าคัญ กั บ การมี ส่วนร่วมของฝ่ายจัดการและพนักงานอย่างมาก ร่วมกับ การปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI อย่างเข้มแข็ง จึงจะช่วยให้ การกากับดูแลกิจการที่ดีและการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. เป็นที่ไว้วางใจแก่ผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พนักงาน และประชาชน


89 3. ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะจากผลการสารวจการเตรียมความพร้อมด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมตามแผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี 2556-2560 มีดังนี้ 3.1 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1. บวท. ควรมีการจัดทานโยบายส่งเสริม การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมด้าน การกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมใน การให้หรือรับข้อมูล มีสว่ นร่วมในการวางแผนและตัดสินใจ และมีสว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหา 2. บวท. ควรมีก ารจัดท านโยบายสร้างเสริม/ส่งเสริ มการปฏิบัติต นในวัฒนธรรม องค์กร SMART AEROTHAI โดยให้ความสาคัญกับวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ 3. บวท. ควรมีการผลักดันนโยบายสร้างความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการ กากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ โดยให้ความสาคัญกับรากฐานเพื่อการ พัฒนาความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ 3.2 ข้อเสนอแนะเชิงบริหารจัดการ 1. บวท. ควรเปิ ด โอกาสให้ พ นั ก งานเข้ า มามี ส่ วนร่ วมในกิ จ กรรมที่ กี่ ย วข้ อ งกั บ พัฒนาการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมต่าง ๆ ของ บวท. โดยให้มี ส่วนร่วมตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมทา ร่ว มตัดสินใจ ร่วมควบคุม และร่วมประเมินผล เพื่อให้การมีส่วนร่วม ของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เป็นฐานรากสาคัญการพัฒนาให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง (High Performance Organization) 2. บวท. ควรให้การยอมรับ ความเป็นมืออาชีพของฝ่ายจัดการและพนักงานในทุก ระดับในด้านต่างๆ เพื่อใช้ความเป็นมืออาชีพในองค์ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การทางาน เป็น เครื่ อ งมื อ ในการพั ฒ นาองค์ ก ร โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง การพั ฒ นาคุ ณ ภาพการบริ ห ารจั ด การภาค รัฐวิสาหกิจ ให้เป็น บวท. เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจที่มคี ุณภาพทั่วทั้งองค์กร 3. บวท. ควรผลักดัน/ให้การสนับสนุนกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ของการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมฯ หรือความตระหนักรู้ในกิจกรรม ต่างๆ ของ บวท. ในขั้นตอนการวางรากฐานเพื่อการพัฒนา ที่ก่อให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง


90

เอกสารอ้างอิง จันทร์ขจร มะลิจันทร์. (2554). ผลของการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการเมตาคอกนิชั่น ที่มตี ่อความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ความตระรู้ในการคิด และ การกากับตนเองในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่องวิธีเรียง สับเปลี่ยน และวิธีจัดหมู่. กรุงเทพมหานคร : วิทยานิพนธ์ปริญญาโท, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2541). เทคนิคการใช้สถิตเิ พื่อการวิจัย. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสาร. ทนงศักดิ์ ประสบกิตติคุณ. (2534). การประเมินค่าความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จังหวัดตราด. กรุงเทพมหานคร : วิทยานิพนธ์ ปริญญาโท, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ทิศนา แขมมณี. (2546). การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม : จากทฤษฎีสู่ การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร : เมทีทิปส์. บุญชัย พงศ์รุ่งทรัพย์. (2552). คอลัมน์ HR CORNER. HR เอพีเอ็มกรุ๊ป. วันที่ค้นข้อมูล 15 กรกฎาคม 2555, เข้าถึงได้จากhttp://www.wiseknow.com/blog/2009/ 05/22/2535/. บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด. (2553). วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI. บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด. (2554). รายงานการวิจัยการรับรู้ คุณค่าร่วม SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการกากับดูแลที่ดี ในรัฐวิสาหกิจของ บวท. บทสรุปผูบ้ ริหาร. บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด. (2555). แผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 2555-2559 . คานา. บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จากัด. (2555). แผนแม่บทด้านการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 2555-2559 . บทสรุปผูบ้ ริหาร. ประสาท อิศรปรีดา. (2523). จิตวิทยาการเรียนรูก้ ับการสอน. กรงเทพฯ : กราฟิคอาร์ต. สถาบันพระปกเกล้า. ทศธรรม ตัวชี้วัดการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี. กรุงเทพฯ: สานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. ศูนย์การพิมพ์ แก่นจันทร์, 2550. สุดใจ บุญอารีย์. (2541). การฝึกเหตุผลเชิงจริยธรรม : ทฤษฎีการปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : ศูนย์พัฒนาหนังสือ กรมวิชาการ.


91

เอกสารอ้างอิง (ต่อ) วิชิต อู่อ้น. (2550). การวิจัยและการสืบค้นข้อมูลทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ: พรินท์แอทมี (ประเทศไทย). อุทัย บุญประเสริฐ. (2545). การบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. โรงพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร. Yamane, T. (1967). Elementary Sampling Theory. NJ: Prentice Hall.


ภาคผนวก ก แบบสอบถามทีใ่ ช้ในการวิจัย


ภาคผนวก ข การทดสอบคุณภาพแบบสอบถาม


ภาคผนวก ค ผลการทดสอบทางสถิติ


ภาคผนวก ง ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเครื่องมือวัด


ภาคผนวก จ คณะผู้วิจัย



แบบสอบถาม เรื่อง “การมีส่วนร่วมของพนักงาน การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการเตรียมความพร้อมในการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐” .................................................... สำนักกรรมกำรผู้อำนวยกำรใหญ่ ได้จัดทำแบบสอบถำม เพื่อสำรวจข้อมูลกำรมีส่วนร่วมของ พนักงำน กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญของกำร เตรียมควำมพร้อมในกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำนกำร กำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม (CG & CSR) ของ บวท. ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ของ ฝ่ำยจัดกำรและพนักงำน โดยขอควำมร่วมมือจำกฝ่ำยจัดกำรและพนักงำนทุกท่ำน ช่วยกรุณำกรอกแบบสอบถำม ให้ข้อมูลตำมควำมเป็นจริงของท่ำนให้ครบทุกข้อ และข้อมูลทั้งหมดจะได้มีกำรประมวลผลเสนอต่อบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ทำงกำรศึกษำวิจัยเท่ำนั้น โดยควำมคิดเห็นของท่ำนจะถือเป็นควำมลับและไม่มีผลกระทบต่อกำร ปฏิบัติงำนของท่ำน วัตถุประสงค์ : ๑. เพื่อศึกษำกำรมีส่วนร่วมของพนักงำนในกิจกรรมต่ำง ๆ กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญของกำรเตรียมควำมพร้อมในกำร กำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมตำมแผนแม่บท CG & CSR ของ บวท. ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ๒. เพื่อศึกษำควำมสัมพันธ์ของกำรมีส่วนร่วมของพนักงำนในกิจกรรมต่ำง ๆ กำรปฏิบัติตนใน วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI กับควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญในกำรเตรียม ควำมพร้อมกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมตำมแผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ประโยชน์ที่ได้รับ : ทำให้ทรำบถึงกำรมีส่วนร่วมของพนักงำนในกิจกรรมต่ำงๆ กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญในกำรเตรียมควำมพร้อมกำรกำกับ ดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ตำมแผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ให้เป็นที่ไว้วำงใจแก่ผู้ถือหุ้น พนักงำน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภำคส่วน กลุ่มเป้าหมาย : ฝ่ำยจัดกำร และพนักงำน บริษัท วิทยุกำรบินแห่งประเทศไทย จำกัด ทุกท่ำน จัดทาโดย : งำนกำกับดูแลที่ดี / สำนักกรรมกำรผู้อำนวยกำรใหญ่


-๒กรอบแนวคิดในการวิจัย กำรมีส่วนร่วมของพนักงำน กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และควำมตระหนัก รู้ถึงควำมสำคัญในกำรเตรียมควำมพร้อมด้ำนกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำนกำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ การมีส่วนร่วมของพนักงาน -กำรมีส่วนร่วมในกำรให้/รับข้อมูล -กำรมีส่วนร่วมในกำรวำงแผนและตัดสินใจ -กำรมีส่วนร่วมในกำรแก้ไขปัญหำ -กำรมีส่วนร่วมในกำรปฏิบัติ -กำรมีส่วนร่วมในกำรควบคุมและประเมินผล

การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI

ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของ การเตรียมความพร้อมใน การกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม -กำรตรวจสอบตัวเอง -กำรเร่งสื่อสำร -กำรวำงรำกฐำนเพื่อกำรพัฒนำ -กำรสร้ำงทีมงำน -กำรประสำนสัมพันธ์

-ควำมปลอดภัย -จริยธรรมเพื่อส่วนรวม -ควำมรับผิดชอบต่อตนเองและหน้ำที่ -กำรเป็นที่ยอมรับในควำมเป็นมืออำชีพใน ระดับสำกล -ควำมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

สมมติฐานการวิจัย ๑. กำรมีส่วนร่วมของพนักงำนมีผลต่อควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญของกำรเตรียมควำมพร้อมในกำร กำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำนกำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำม รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ๒. กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญของ กำรเตรียมควำมพร้อมในกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำน กำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐


-๓๑. แบบสอบถำมชุดนี้มีทั้งหมด ๕ ส่วน ส่วนที่ ๑ : ข้อมูลเบื้องต้นของผู้ตอบแบบสอบถำม ส่วนที่ ๒ : แบบสอบถำมกำรมีส่วนร่วมของพนักงำนในกิจกรรมต่ำงๆ ส่วนที่ ๓ : แบบสอบถำมกำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ส่วนที่ ๔ : แบบสอบถำมกำรเตรียมควำมพร้อมในกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบ ต่อสังคม ของ บวท. ส่วนที่ ๕ : ข้อเสนอแนะ ๒. โปรดส่งแบบสอบถำมกลับคืนที่งำนกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ด/ี สำนักกรรมกำรผู้อำนวยกำรใหญ่ ชั้น ๗ อำคำรอำนวยกำร บริษัท วิทยุกำรบินแห่งประเทศไทย จำกัด ภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ส่วนที่ ๑ : ข้อมูลเบื้องต้นของผู้ตอบแบบสอบถาม คาชี้แจง โปรดทาเครื่องหมาย  ลงใน  หน้าข้อความที่เป็นจริงเกี่ยวกับตัวท่าน ๑. เพศ

 ชำย

 หญิง

๒. อำยุ

 ๒๐ – ๓๐ ปี

 ๓๑ – ๔๐ ปี

 ๔๑- ๕๐ ปี

 ๕๑-

๖๐ ปี ๓. ระดับกำรศึกษำ ปริญญำเอก

 ต่ำกว่ำปริญญำตรี  ปริญญำตรี  ปริญญำโท

๔. ประสบกำรณ์ทำงำน  ไม่เกิน ๕ ปี  ๕ ปี ไม่เกิน ๑๐ ปี  ๑๐ปี ไม่เกิน ๑๕ ปี  ๑๕ ปี ไม่เกิน ๒๐ ปี  ๒๐ ปี ไม่เกิน ๒๕ ปี  มำกกว่ำ ๒๕ ปี ๕. สถำนภำพกำรทำงำน ๖. สังกัดสำยงำน (ตำมประกำศโครงสร้ำงบริษัทฯ)

๗. สถำนที่ปฏิบัติงำน

 ฝ่ำยจัดกำร

 พนักงำน

 ขึ้นตรงต่อกรรมกำรผู้อำนวยกำรใหญ่  สำยบริหำรจรำจรทำงอำกำศ  สำยภูมิภำคและศูนย์ประกอบกำร  สำยวิศวกรรมจรำจรทำงอำกำศ สำยมำตรฐำนควำมปลอดภัย  สำนักพัฒนำธุรกิจ  สำยทรัพยำกรบุคคล  สำยกำรเงิน  สำนักตรวจสอบภำยใน  สำนักนโยบำยและยุทธศำสตร์  สำนักกรรมกำรผู้อำนวยกำรใหญ่  ทุ่งมหำเมฆ  ดอนเมือง  ศูนย์ควบคุมกำรบินเชียงใหม่

 สุวรรณภูมิ  ศูนย์ควบคุมกำรบิน

พิษณุโลก  ศูนย์ควบคุมกำรบินอุดรธำนี  ศูนย์ควบคุมกำรบินอุบลรำชธำนี  ศูนย์ปฏิบัติกำรฯ นครรำชสีมำ  ศูนย์ควบคุมกำรบินภูเก็ต  ศูนย์ควบคุมกำรบินหำดใหญ่  ศูนย์ควบคุมกำรบินสุรำษฎร์ธำนี  ศูนย์ควบคุมกำรบินหัวหิน


๘. ลักษณะกำรปฎิบัติงำน

 Daywork

 เข้ำกะ

-๔-

ส่วนที่ ๒ แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของพนักงาน คาชี้แจง โปรดทำเครื่องหมำย  ลงใน  ที่ตรงกับกำรปฏิบัติของท่ำนมำกที่สุดเพียงคำตอบเดียวและ กรุณำตอบข้อมูลให้ครบทุกข้อ (มำกทีส่ ุด = ๕ มำก = ๔ ปำนกลำง = ๓ น้อย = ๒ น้อยที่สุด = ๑) ประเด็น

ระดับการปฏิบัติ มากที่สุด

การมีส่วนร่วมในการให้/รับข้อมูล ๑. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรเสนอควำมคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ต่อ ผู้บังคับบัญชำ เพื่อพัฒนำงำนของหน่วยงำนหรือของบริษัทฯ ๒. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรให้ข้อมูล เพื่อประกอบกำรวำงแผนงำนต่ำงๆ ของหน่วยงำน หรือของบริษัทฯ ๓. ท่ำนมีโอกำสสื่อสำรข้อมูลข่ำวสำรที่ท่ำนเห็นว่ำเป็นเรื่องสำคัญ ใน ช่องทำงต่ำง ๆ ต่อผู้บังคับบัญชำ/เพื่อนร่วมงำน ๔. ท่ำนมีโอกำสได้รับฟังควำมคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่ำง ๆ จำก ผู้บังคับบัญชำ/เพื่อนพนักงำน การมีส่วนร่วมในการการวางแผนและตัดสินใจ ๑. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรวำงแผนและกำหนดเป้ำหมำยในกำรพัฒนำงำน หรือกำรดำเนินกำรต่ำง ๆ หน่วยงำนหรือของบริษัทฯ ๒. ท่ำนมีโอกำสในกำรร่วมตัดสินใจในกำรดำเนินงำนต่ำง ๆ ร่วมกับ ผู้บังคับบัญชำ การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ๑. ท่ำนมีโอกำสแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นในประเด็นปัญหำต่ำง ๆ ภำยในหน่วยงำน ๒. ผู้บังคับบัญชำส่งเสริม/สนับสนุนให้ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรวิเครำะห์หำ สำเหตุของปัญหำและแนวทำงแก้ไขปัญหำภำยในหน่วยงำนของท่ำน ๓. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรแก้ไขปัญหำภำยในของหน่วยงำน ร่วมกับ ผู้บังคับบัญชำ/เพื่อนพนักงำน การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ ๑. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรปฏิบัติงำนตำมหน้ำควำมรับผิดชอบ เพื่อให้ บรรลุเป้ำหมำยของหน่วยงำนของท่ำน ๒. ท่ำนปฏิบัติตำมแนวปฏิบัติที่ดีต่ำง ๆ อย่ำงเต็มใจ โดยปรำศจำกอคติ หรือบนเงื่อนไขแห่งควำมขัดแย้ง ๓. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรปกป้องชื่อเสียง/ผลประโยชน์ของหน่วยงำนหรือ ของบริษัทฯ ๔. ท่ำนมีส่วนร่วมในกิจกรรมสำธำรณประโยชน์ของบริษัทฯ

มาก

ปานกลาง

น้อย

น้อยที่สุด


การมีส่วนร่วมในการควบคุม/ประเมินผล ๑. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรกำหนดหลักกำรหรือแนวทำงกำรควบคุมกำรใช้ และกำรกระจำยทรัพยำกรของ บวท. ๒. ท่ำนมีส่วนในกำรควบคุมกำรใช้และกำรกระจำยทรัพยำกรของ บวท. ๓. ท่ำนมีส่วนในกำรประเมินผลกำรใช้และกำรกระจำยทรัพยำกรของ บวท. -๕ส่วนที่ ๓ แบบสอบถามการปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI ประเด็นวัฒนธรรม

ระดับการปฏิบัติ มากที่สุด

ความปลอดภัย ๑. ท่ำนวำงแผนกำรทำงำนล่วงหน้ำเพื่อลดควำมเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ๒. ท่ำนถ่ำยทอดควำมรู้เกี่ยวกับควำมปลอดภัย เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องตระหนัก ถึงควำมปลอดภัยในกำรทำงำน ๓. ท่ำนปฏิบัติงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และรักษำมำตรฐำนของกำร ทำงำนอย่ำงเคร่งครัด ไม่ให้เกิดควำมเสี่ยงและควำมเสียหำยต่อ บวท. ๔. ในกำรใช้ชีวิตประจำวันท่ำนคำนึงถึงควำมปลอดภัยในทุก ๆ เรื่อง ๕. ท่ำนคิดว่ำงำนที่ทำอยู่ในปัจจุบันดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไร จริยธรรมเพื่อส่วนรวม ๑. ท่ำนทำงำนด้วยจิตสำนึกแห่งควำมซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้ำที่ ๒. ท่ำนปฏิบัติงำนโดยยึดกรอบธรรมำภิบำลของ บวท. อย่ำงเคร่งครัด ๓. ท่ำนให้ควำมช่วยเหลือหน่วยงำนและผู้ร่วมงำนโดยอย่ำงสม่ำเสมอ ๔. ท่ำนรัก หวงแหน หรือแสดงออกถึงกำรปกป้องชื่อเสียงของ บวท. ๕. ท่ำนใช้อำนำจหน้ำที่เพื่อประโยชน์ของตนหรือพรรคพวก ความรับผิดต่อตนเองและหน้าที่ ๑. ท่ำนทำงำนอย่ำงโปร่งใสและมีจิตสำนึกรับผิดชอบ ๒. ท่ำนยอมเสียสละผลประโยชน์ของตนเอง และยอมเสียสละเวลำส่วนตัวเพื่อ บวท. ๓. ท่ำนมุ่งมั่นในกำรทำงำนให้สำเร็จ แม้จะพบอุปสรรคหรือปัญหำในกำรทำงำน ๔. ท่ำนเป็นผู้ทปี่ ฏิบัติงำนและปฏิบัติ ภำยใต้กรอบของระเบียบอย่ำงเคร่งครัด ๕. เมื่อทำงำนผิดพลำด ท่ำนมักปัดควำมรับผิดชอบให้ผู้อื่น การเป็นที่ยอมรับในความเป็นมืออาชีพในระดับสากล ๑. ท่ำนแสดงควำมคิดเห็นและมีข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนำวิธีกำรทำงำนใหม่ ๆ ๒. ท่ำนมีกำรแลกเปลี่ยนและแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้กับผู้อื่นในทุก ๆ โอกำส ๓. ท่ำนขวนขวำยที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องต่ำง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในกำร ทำงำนและเป็นประโยชน์ต่อ บวท. ๔. ท่ำนไม่ชอบเรียนรู้งำนใหม่ หรือค้นหำวิธีกำรทำงำนใหม่ ๆ ความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกัน ๑. ท่ำนรู้จักกำรให้อภัยต่อกัน ๒. ท่ำนยอมรับควำมสำมำรถและใช้ทักษะที่ดีเด่นของแต่ละคน เพื่อช่วยกัน

มาก

ปานกลาง น้อย

น้อยที่สุด


ทำงำนสำเร็จ ๓. ท่ำนมีสัมมำคำรวะและรู้จักกำลเทศะ ๔. ท่ำนร่วมแรงร่วมใจอย่ำงเต็มควำมสำมำรถ ไม่ว่ำในสถำนกำรณ์ปกติ หรือวิกฤติของ บวท. ๕. ท่ำนชอบทำงำนแบบต่ำงคน ต่ำงอยู่ -๖ส่วนที่ ๔ แบบสอบถามความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการเตรียมความพร้อมในการกากับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ประเด็นความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ระดับการปฏิบัติ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย ของการเตรียมความพร้อม การตรวจสอบตัวเอง ๑. ท่ำนรู้จักระบบกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี ของ บวท. ซึ่งมุ่งเน้นเรื่อง กำรบริหำรควำมเสี่ยง กำรควบคุมภำยใน กำรตรวจสอบภำยใน กำรบริหำรทรัพยำกรมนุษย์ และกำรจัดกำรเทคโนโลยีสำรสนเทศ ๒. ท่ำนรู้จักกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ซึ่งใช้แนวทำง มำตรฐำนกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ISO 26000 ๓. ท่ำนพร้อมที่จะรับฟังควำมคิดเห็นของผู้บริหำรระดับสูง ผู้บังคับบัญชำ หรือตลอดจนพนักงำนทุกระดับและทุกสำยงำน ที่เกี่ยวข้องกับกำร กำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ๔. ท่ำนปฏิบัติงำนสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดี ซึ่งถือเป็นควำมสำคัญใน กำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี บวท. และกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อ สังคม ๕. ท่ำนคิดว่ำ บวท. มีควำมพร้อมในกำรดำเนินระบบกำรกำกับดูแลกิจกำร ที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในปัจจุบันและอนำคต ๖. ท่ำนพร้อมสำหรับกำรปรับเปลี่ยนกำรปฏิบัติงำนให้สอดคล้องกับระบบ กำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ภำยใต้แผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ๗. ท่ำนต้องกำรแสดงควำมคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบกำร กำกับดูแลกิจกำรทีด่ ีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม การเร่งสื่อสาร ๑. ท่ำนพอใจกำรตรวจสอบควำมพร้อมของตนเองและของ บวท. ใน เรื่องกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ๒. ท่ำนทรำบหรือไม่ว่ำ บวท. กำลังดำเนินกำรพัฒนำระบบกำรกำกับ ดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ๓. ท่ำนต้องกำรให้ บวท. ประชำสัมพันธ์ให้ทรำบเกี่ยวกับแผนกำรกำกับ ดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ภำยใต้แผนแม่บท CG & CSR ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐

น้อยที่สุด


-๗ประเด็นความตระหนักรู้ถึงความสาคัญ ระดับการปฏิบัติ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย ของการเตรียมความพร้อม การวางรากฐานเพื่อพัฒนา ๑. ท่ำนมีส่วนร่วมในกำรวำงรำกฐำนเพื่อพัฒนำกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี และกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมใน บวท. ๒. ท่ำนคำดหวังว่ำ บวท. ควรมีกระบวนกำรสรรหำผู้บริหำรระดับสูง ใน ด้ำนพัฒนำกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อ สังคมเป็นกำรเฉพำะ ๓. ท่ำนสำมำรถแสดงควำมคิดเห็นในกำรพัฒนำกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี และกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ในช่วงกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน ๔. ท่ำนมีส่วนในกำรสร้ำงระบบบริหำรงำนกำกับดูแลกิจกำรที่ดแี ละ กำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมแบบมีส่วนร่วม ๕. ท่ำนมีโอกำสแลกเปลี่ยนควำมรู้เพื่อให้เกิดแนวคิดกำรวำงรำกฐำนและ พัฒนำกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม การสร้างทีมงาน ๑. ท่ำนพร้อมร่วมเป็นทีมงำน CG & CSR เพื่อเป็นกำลังในกำรขับเคลื่อน ระบบกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดแี ละกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ๒. ท่ำนให้ควำมร่วมมือในกำรปรับเปลี่ยนระบบกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี และกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ของ บวท. ร่วมกับผู้บริหำร และพนักงำนทุกหน่วยงำน ๓. ท่ำนชื่นชอบกำรทำงำนเป็นทีม ทำงำนไปในทิศทำงเดียวกัน มีกำร ประสำนงำนทั้งภำคปฏิบัติงำนและส่วนสนับสนุนอื่นๆ การสานสัมพันธ์ ๑. ท่ำนคิดว่ำกำรเป็นบรรษัทภิบำลที่ดี ในเรื่องกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดี ของ บวท. ควรสำนสัมพันธ์กับหน่วยงำนอื่น ทั้งภำครัฐและภำคเอกชน อำทิเช่น ปปช. ปปท. กพร. กลต. เป็นต้น ๒. ท่ำนคิดว่ำกำรเป็นบรรษัทบริบำลที่ดี ในเรื่องกำรแสดงควำมรับผิดชอบ ต่อสังคม ควรสำนสัมพันธ์กับหน่วยงำนอื่น ทั้งภำครัฐและภำคเอกชน เช่น ทอท. กสทช บพ. อต. กองทัพฯ สำยกำรบิน เป็นต้น ๓. ท่ำนประสงค์จะร่วมสร้ำงเครือข่ำยกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำร แสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม กับหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มี ส่วนได้ส่วนเสียกับ บวท.

น้อยที่สุด


๔. ท่ำนเห็นว่ำ บวท. ดำเนินกำรด้ำนกำรกำกับดูแลกิจกำรที่ดีและกำร แสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม เพียงหน่วยงำนเดียว จะสำเร็จไม่ได้ อย่ำงแน่นอน -๘-

ส่วนที่ ๕ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... .............................................................................................................................. ........................................ ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ......................................................................................................................................... ............................. ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ***ขอขอบคุณผู้กรอกแบบสอบถามทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการสารวจข้อคิดเห็นครั้งนี้*** งำนกำกับดูแลที่ดี สำนักกรรมกำรผู้อำนวยกำรใหญ่ โทรศัพท์ ๙๒๒๕, ๙๔๖๐ โทรสำร ๘๔๑๖


กรอบแนวคิดในการวิจัย กำรมีส่วนร่วมของพนักงำน กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และควำม ตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญในกำรเตรียมควำมพร้อมด้ำนกำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบ ต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำนกำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. ปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙ การมีส่วนร่วมของพนักงาน -กำรมีส่วนร่วมในกำรให้/รับข้อมูล -กำรมีส่วนร่วมในกำรวำงแผนและตัดสินใจ -กำรมีส่วนร่วมในกำรแก้ไขปัญหำ -กำรมีส่วนร่วมในกำรปฏิบัติ -กำรมีส่วนร่วมในกำรควบคุมและประเมินผล

การปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI

ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของ การเตรียมความพร้อมใน การกากับดูแลกิจการที่ดีและ การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม -กำรตรวจสอบตัวเอง -กำรเร่งสื่อสำร -กำรวำงรำกฐำนเพื่อกำรพัฒนำ -กำรสร้ำงทีมงำน -กำรประสำนสัมพันธ์

-ควำมปลอดภัย -จริยธรรมเพื่อส่วนรวม -ควำมรับผิดชอบต่อตนเองและหน้ำที่ -กำรเป็นที่ยอมรับในควำมเป็นมืออำชีพใน ระดับสำกล -ควำมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

สมมติฐานการวิจัย ๑. กำรมีส่วนร่วมของพนักงำนมีผลต่อควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญของกำรเตรียมควำมพร้อมในกำร กำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำนกำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำม รับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. (๒๕๕๕-๒๕๕๙)


๒. กำรปฏิบัติตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI มีผลต่อควำมตระหนักรู้ถึงควำมสำคัญของ กำรเตรียมควำมพร้อมในกำรกำกับดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคม ตำมแผนแม่บทด้ำนกำรกำกับ ดูแลที่ดีและกำรแสดงควำมรับผิดชอบต่อสังคมของ บวท. (๒๕๕๕-๒๕๕๙)


สรุ ปผลการทดสอบคุณภาพของแบบสอบถามก่ อนดาเนินการสารวจฯ ในการทดสอบคุณภาพแบบสอบถามก่อนดาเนินการสารวจ จะต้ องหาคุณภาพของ แบบสอบถามใน 2 ขันตอน ้ คือ 1. หาความเที่ยงตรงเชิงเนื ้อหาโดยขอความอนุเ คราะห์จากผู้เชี่ยวชาญระเบียบวิธีวิจยั ทางสังคมศาสตร์ 3 ท่าน คือ พลเอก ดร. บัณฑิต พิริยาสัยสันติ ดร.อานวย บุญ รัตนไม่ตรี และ ดร. วรรณารั ตน์ อัศ วเดชาชาญยุทธ์ แห่ง วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มหาวิ ทยาลัยราชมงคล รัตนโกสินทร์ พิจารณาแบบสอบถาม ซึ่งทัง้ 3 ท่านได้ พิจาราณาแบบสอบถามแล้ ว มีความเห็น ตรงกันว่า แบบสอบถามมีความเที่ยงตรงเชิงเนื ้อหา สามารถนาไปใช้ ในการสารวจได้ 2. หาความเชื่อถือได้ ของแบบสอบถามโดยใช้ สถิติหาความเชื่อถือได้ (Alpha) โดยแจก แบบสอบถามให้ กบั พนักงาน 31 คน และฝ่ ายจัดการ 29 คน รวม 60 คน แล้ วนามาทดสอบทาง สถิติ โดยมีเกณฑ์ยอมรับ คุณภาพของแบบสอบถามที่ใช้ ในการวิจยั เชิงสารวจ คือ ต้ องมีคา่ ความ เชื่อถือได้ ไม่น้อยกว่า 0.7 ผลการทดสอบแบบสอบถามทัง้ 3 ส่วน ดังตาราง ส่วน ประเด็นคาถาม ที่ 1 การมีสว่ นร่วมของพนักงาน 2 การปฏิบตั ิตนในวัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI 3 ความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการเตรี ยมความพร้ อม ในการกากับดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมตามแผนแม่บท CG & CSR 2556-2560

ความเชื่อถือได้ มีคณ ุ ภาพ (Alpha) 0,9549  0.9368  0.9509 

ดัง นัน้ แบบสอบถามการมีส่วนร่ วมของพนักงาน การปฏิ บตั ิตนในวัฒ นธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการเตรี ยมความพร้ อมในการกากับ ดูแลกิจการที่ดีและการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมตามแผนแม่บท CG & CSR 2556-2560 นี ้ มีคณ ุ ภาพสูงมาก จึงใช้ ในการสารวจฯ ต่อไปได้


ผลการทดสอบความเชื่อถือได้ ของแบบสอบถาม (พนักงาน 31 ตัวอย่ างและฝ่ ายจัดการ 29 ตัวอย่ าง) รวม 60 ตัวอย่ าง ****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4.

GIVEINF1 GIVEINF2 GIVEINF3 GIVEINF4

Statistics for SCALE

.8295 .8772 .9088 .9242

60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 13.4333 9.4023 3.0663 4

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted GIVEINF1 GIVEINF2 GIVEINF3 GIVEINF4

3.3000 3.1000 3.4333 3.6000

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

10.1333 10.3333 10.0000 9.8333

5.9480 5.4802 5.0847 5.4294

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8884

.6836 .7676 .8519 .7241

.8822 .8518 .8180 .8691

N of Items = 4

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2.

PLANDEC1 PLANDEC2

Statistics for SCALE

3.0167 3.0667

.8535 .9543

60.0 60.0

N of Std Dev Variables 1.7495 2

Mean Variance 6.0833 3.0607

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted PLANDEC1 PLANDEC2

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

3.0667 3.0167

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9288

.9107 .7285

.8725 .8725

N of Items = 2

. .


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3.

CORPLOB1 CORPLOB2 CORPLOB3

Statistics for SCALE

3.4667 3.5333 3.3333

.9472 .9823 .9328

60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 10.3333 7.0734 2.6596 3

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted CORPLOB1 CORPLOB2 CORPLOB3

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

6.8667 6.8000 7.0000

3.3040 3.0441 3.4576

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9206

.8342 .8940 .7915

.8892 .8389 .9229

N of Items = 3

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4.

PRACTIC1 PRACTIC2 PRACTIC3 PRACTIC4

Statistics for SCALE

.8198 .7462 .6911 .6815

60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 15.9167 6.6201 2.5729 4

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted PRACTIC1 PRACTIC2 PRACTIC3 PRACTIC4

3.8500 4.0500 4.1167 3.9000

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

12.0667 11.8667 11.8000 12.0167

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8961

3.7243 3.6090 3.8915 4.1862

.7028 .8657 .8254 .7063

N of Items = 4

.8963 .8291 .8473 .8885


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3.

CTRLEVA1 CTRLEVA2 CTRLEVA3

Statistics for SCALE

1.0266 1.0167 1.1330

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

6.1167 6.0500 6.3000

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9660

60.0 60.0 60.0

N of Std Dev Variables 3.0773 3

Mean Variance 9.2333 9.4701

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted CTRLEVA1 CTRLEVA2 CTRLEVA3

3.1167 3.1833 2.9333

4.4438 4.3873 4.0102

.9178 .9507 .9204

.9571 .9344 .9589

N of Items = 3

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9549

N of Items = 16


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4. 5.

SAFETY1 SAFETY2 SAFETY3 SAFETY4 SAFETY5

.7917 .9441 .7357 .7009 .7041

60.0 60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 19.0333 8.4734 2.9109 5

Statistics for SCALE

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted SAFETY1 SAFETY2 SAFETY3 SAFETY4 SAFETY5

3.8167 3.4167 4.0333 4.0167 3.7500

15.2167 15.6167 15.0000 15.0167 15.2833

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted 5.3929 4.9523 5.5254 5.8811 6.7150

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8006

.6673 .6259 .6959 .6181 .3460

.7351 .7531 .7288 .7541 .8269

N of Items = 5

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4. 5.

MOREL1 MOREL2 MOREL3 MOREL4 MOREL5

Statistics for SCALE

.4903 60.0 .6509 60.0 .5907 60.0 .6490 60.0 .4739 60.0 N of Mean Variance Std Dev Variables 22.9333 5.0802 2.2539 5

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted MOREL1 MOREL2 MOREL3 MOREL4 MOREL5

18.2167 18.4333 18.5167 18.3833 18.1833

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8419

4.7167 4.5000 4.4167 4.5500 4.7500

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted 3.5285 2.8938 3.5421 3.0879 3.8472

.7119 .7959 .5349 .6889 .5425

N of Items = 5

.7974 .7643 .8403 .7990 .8363


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4. 5.

ACCOUNT1 ACCOUNT2 ACCOUNT3 ACCOUNT4 ACCOUNT5

Statistics for SCALE

.5513 .7202 .5365 .6979 .4903

60.0 60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 22.6000 5.8712 2.4231 5

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted ACCOUNT1 ACCOUNT2 ACCOUNT3 ACCOUNT4 ACCOUNT5

4.6333 4.3000 4.5167 4.4333 4.7167

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

17.9667 18.3000 18.0833 18.1667 17.8833

3.8972 3.6034 3.9421 3.3616 4.6472

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8587

.7672 .6397 .7704 .7904 .4653

.8085 .8452 .8091 .7975 .8750

N of Items = 5

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4.

RECOGNI1 RECOGNI2 RECOGNI3 RECOGNI4

Statistics for SCALE

.7287 .6604 .7386 .7636

60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 15.6833 5.5421 2.3542 4

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted RECOGNI1 RECOGNI2 RECOGNI3 RECOGNI4

3.6667 3.7333 3.8833 4.4000

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

12.0167 11.9500 11.8000 11.2833

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8291

3.1692 3.3703 3.1797 3.4607

.7098 .7157 .6898 .5274

N of Items = 4

.7594 .7614 .7687 .8443


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4. 5.

TEAMWRK1 TEAMWRK2 TEAMWRK3 TEAMWRK4 TEAMWRK5

Statistics for SCALE

.6715 60.0 .5635 60.0 .6223 60.0 .5928 60.0 .7584 60.0 N of Mean Variance Std Dev Variables 21.9833 6.4573 2.5411 5

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted TEAMWRK1 TEAMWRK2 TEAMWRK3 TEAMWRK4 TEAMWRK5

4.3000 4.4333 4.4500 4.4333 4.3667

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

17.6833 17.5500 17.5333 17.5500 17.6167

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8469

4.1862 4.2517 4.1514 4.3873 4.4777

.6625 .8125 .7566 .6921 .4376

.8137 .7799 .7890 .8073 .8846

N of Items = 5

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9368

N of Items = 24


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. CHKSELF1 3.6833 .7477 60.0 2. CHKSELF2 3.3000 .9442 60.0 3. CHKSELF3 4.1333 .7695 60.0 4. CHRSELF4 4.0167 .7009 60.0 5. CHKSELF5 3.7667 .6979 60.0 6. CHKSELF6 4.0167 .6507 60.0 7. CHKSELF7 3.5667 .7673 60.0 N of Statistics for Mean Variance Std Dev Variables SCALE 26.4833 17.3048 4.1599 7 Item-total Statistics Scale Scale Corrected Mean Variance ItemAlpha if Item if Item Total if Item Deleted Deleted Correlation Deleted CHKSELF1 22.8000 13.0102 .6926 .8796 CHKSELF2 23.1833 12.0167 .6716 .8863 CHKSELF3 22.3500 12.8076 .7090 .8776 CHRSELF4 22.4667 12.6938 .8249 .8652 CHKSELF5 22.7167 13.6302 .6186 .8878 CHKSELF6 22.4667 13.1345 .7944 .8702 CHKSELF7 22.9167 13.2641 .6177 .8884 Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8948

N of Items = 7

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3.

COMMU1 COMMU2 COMMU3

Statistics for SCALE

.7773 .8123 .7200

60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 11.4333 3.8768 1.9690 3

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted COMMU1 COMMU2 COMMU3

3.6500 3.8667 3.9167

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

7.7833 7.5667 7.5167

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8103

1.7997 1.7751 2.0845

.7062 .6661 .6128

N of Items = 3

.6906 .7352 .7871


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4. 5.

FOUNDAT1 FOUNDAT2 FOUNDAT3 FOUNDAT4 FOUNDAT5

Statistics for SCALE

.9943 .9442 .9037 .9088 .9356

60.0 60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 16.4667 15.3718 3.9207 5

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted FOUNDAT1 FOUNDAT2 FOUNDAT3 FOUNDAT4 FOUNDAT5

3.1667 3.7000 3.2167 3.2333 3.1500

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

13.3000 12.7667 13.2500 13.2333 13.3167

9.6034 11.4023 9.9873 9.5718 9.9489

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8923

.7756 .4827 .7997 .8845 .7704

.8599 .9233 .8552 .8357 .8612

N of Items = 5

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3.

TEAMBLD1 TEAMBLD2 TEAMBLD3

Statistics for SCALE

1.0246 .7782 .8530

60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 11.7000 6.1119 2.4722 3

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted TEAMBLD1 TEAMBLD2 TEAMBLD3

3.6333 3.9333 4.1333

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

8.0667 7.7667 7.5667

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9151

2.4362 3.0633 2.9955

.8211 .8968 .8090

N of Items = 3

.9054 .8395 .8948


****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Mean Std Dev Cases 1. 2. 3. 4.

RELATET1 RELATET2 RELATET3 RELATET4

Statistics for SCALE

.6881 .6993 .9708 1.0246

60.0 60.0 60.0 60.0

N of Mean Variance Std Dev Variables 15.8500 8.7059 2.9506 4

Item-total Statistics Scale Mean if Item Deleted RELATET1 RELATET2 RELATET3 RELATET4

4.0333 4.0500 3.8000 3.9667

Scale Corrected Variance ItemAlpha if Item Total if Item Deleted Correlation Deleted

11.8167 11.8000 12.0500 11.8833

Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .8808

5.6438 5.4169 4.4551 4.8506

.7918 .8602 .8073 .6217

.8406 .8173 .8225 .9110

N of Items = 4

****** Method 1 (space saver) will be used for this analysis ****** R E L I A B I L I T Y A N A L Y S I S - S C A L E (A L P H A) Reliability Coefficients N of Cases = 60.0 Alpha = .9509

N of Items = 22


ค่าเฉลี่ยการมีส่วนร่วมฯ วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถงึ ความสาคัญฯ (รายตัวแปรย่อยหรือรายข้อคาถาม) Descriptive Statistics N ร่วมให ้หรือรับข ้อมูล1 ร่วมให ้หรือรับข ้อมูล2 ร่วมให ้หรือรับข ้อมูล3 ร่วมให ้หรือรับข ้อมูล4 ร่วมวางแผนและตัดสินใจ1 ร่วมวางแผนและตัดสินใจ2 ร่วมวางแผนและตัดสินใจ3 ร่วมในการแก ้ปั ญหา1 ร่วมในการแก ้ปั ญหา2 ร่วมในการแก ้ปั ญหา3 ร่วมในการปฏิบัต1 ิ ร่วมในการปฏิบัต2 ิ ร่วมในการปฏิบัต3 ิ ร่วมในการปฏิบัต4 ิ ร่วมควบคุมประเมินผล1 ร่วมควบคุมประเมินผล2 ร่วมควบคุมประเมินผล3 ความปลอดภัย1 ความปลอดภัย2 ความปลอดภัย3 ความปลอดภัย4 ความปลอดภัย5 จริยธรรมเพือ ่ ส่วนรวม1 จริยธรรมเพือ ่ ส่วนรวม2 จริยธรรมเพือ ่ ส่วนรวม3 จริยธรรมเพือ ่ ส่วนรวม4 จริยธรรมเพือ ่ ส่วนรวม5 ความรับผิดชอบต่อตนเอง1 ความรับผิดชอบต่อตนเอง2 ความรับผิดชอบต่อตนเอง3 ความรับผิดชอบต่อตนเอง4 ความรับผิดชอบต่อตนเอง5 ยอมรับความเป็ นมืออาชีพ1 ยอมรับความเป็ นมืออาชีพ2 ยอมรับความเป็ นมืออาชีพ3 ยอมรับความเป็ นมืออาชีพ4 ความเป็ นน้ าหนึง่ ใจเดียวกัน1 ความเป็ นน้ าหนึง่ ใจเดียวกัน2 ความเป็ นน้ าหนึง่ ใจเดียวกัน3 ความเป็ นน้ าหนึง่ ใจเดียวกัน4 ความเป็ นน้ าหนึง่ ใจเดียวกัน5 ตรวจสอบตัวเอง1 ตรวจสอบตัวเอง2 ตรวจสอบตัวเอง3 ตรวจสอบตัวเอง4 ตรวจสอบตัวเอง5 ตรวจสอบตัวเอง6 ตรวจสอบตัวเอง7 ่ สาร1 เร่งสือ ่ สาร2 เร่งสือ ่ สาร3 เร่งสือ วางรากฐานเพือ ่ พัฒนา1 วางรากฐานเพือ ่ พัฒนา2 วางรากฐานเพือ ่ พัฒนา3 วางรากฐานเพือ ่ พัฒนา4 วางรากฐานเพือ ่ พัฒนา5 สร ้างทีมงาน1 สร ้างทีมงาน2 สร ้างทีมงาน3 สานสัมพันธ์1 สานสัมพันธ์2 สานสัมพันธ์3 สานสัมพันธ์4

Valid N (listwise)

903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903 903

903

Minimum

Maximum

1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 3 3 2 2 3 1 1 1 1 1 1 1 1 1 3 1 1 1 2 1 1 1 1 3 2 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 2 2 3 3 2 2

5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5

Mean 2.79 2.67 2.88 3.64 2.73 2.70 3.03 3.15 3.14 3.09 3.60 3.88 3.90 3.59 2.82 2.86 2.66 3.94 4.03 4.10 4.05 3.99 4.32 4.16 4.15 4.21 4.51 4.25 4.01 4.19 4.02 4.66 3.44 3.67 3.77 4.36 4.03 4.15 4.21 4.19 4.30 4.13 4.11 4.18 4.15 4.10 4.17 4.14 4.09 4.13 4.17 4.05 4.48 4.03 3.88 3.81 4.44 4.10 4.24 4.64 4.28 4.22 4.32

Std. Deviation .918 .991 .960 .824 1.021 1.029 1.001 .935 .933 .959 .867 .823 .849 .899 1.010 .990 1.030 .623 .603 .656 .636 .714 .777 .778 .755 .835 .711 .867 .783 .757 .864 .577 .925 .818 .871 .730 .882 .760 .763 .833 .742 .667 .670 .540 .563 .634 .629 .682 .602 .502 .666 .622 .680 .747 .760 .739 .670 .593 .591 .560 .589 .569 .612


ค่าเฉลี่ยการมีส่วนร่วมฯ วัฒนธรรมองค์กร SMART AEROTHAI และความตระหนักรู้ถงึ ความสาคัญฯ (ภาพรวมรายตัวแปร) Descriptive Statistics N

Minimum

Maximum

Mean

Std. Deviation

TGIVE

903

1.00

5.00

2.9950

.75834

TPLAN

903

1.00

5.00

2.8202

.92142

TCORP

903

1.00

5.00

3.1277

.83657

TPRAC

903

1.00

5.00

3.7431

.69526

TCTRL

903

1.00

5.00

2.7807

.94211

TPARTY

903

1.00

5.00

3.0934

.67745

TSAFE

903

3.00

5.00

4.0193

.46817

TMORE

903

1.00

5.00

4.2687

.61897

TACCO

903

1.80

5.00

4.2281

.60189

TRECO

903

1.50

5.00

3.8095

.63328

TTEAM

903

1.60

5.00

4.1779

.61406

TSMART

903

2.16

5.00

4.1107

.47269

TCHKE

903

2.86

5.00

4.1394

.45657

TCOMM

903

3.00

5.00

4.1318

.46401

TFOUN

903

3.00

5.00

4.0512

.54930

TTEAMB

903

2.67

5.00

4.2591

.45522

TRELA

903

2.75

5.00

4.3666

.45416

TNEWLAND

903

3.27

5.00

4.1896

.29647

Valid N (listwise)

903


ผลการทดสอบสมมติฐานที่ 1 Variables Entered/Removed(b)

Model 1

Variables Entered

Variables Removed

TSMART, TPARTY(a)

Method .

Enter

a All requested variables entered. b Dependent Variable: TNEWLAND Model Summary

Model 1

R

Adjusted R Square

R Square

.587(a)

.344

Std. Error of the Estimate

.343

.24039

a Predictors: (Constant), TSMART, TPARTY ANOVA(b)

Model 1

Sum of Squares

df

Mean Square

Regression

27.272

2

13.636

Residual

52.007

900

.058

Total

79.279

902

F

Sig.

235.980

.000(a)

t

Sig.

a Predictors: (Constant), TSMART, TPARTY b Dependent Variable: TNEWLAND Coefficients(a) Unstandardized Coefficients

Model

B 1

(Constant)

Std. Error

2.746

.073

TPARTY

.167

.012

TSMART

.226

.017

a Dependent Variable: TNEWLAND

Standardized Coefficients Beta

37.797

.000

.382

13.694

.000

.360

12.919

.000


ผลการทดสอบสมมติฐานที่ 1.1 Variables Entered/Removed(b)

Model 1

Variables Entered

Variables Removed

TCTRL, TPRAC, TGIVE, TCORP, TPLAN(a)

Method

.

Enter

a All requested variables entered. b Dependent Variable: TNEWLAND Model Summary

Model 1

R

Adjusted R Square

R Square

.524(a)

.274

Std. Error of the Estimate

.270

.25330

a Predictors: (Constant), TCTRL, TPRAC, TGIVE, TCORP, TPLAN ANOVA(b)

Model 1

Sum of Squares

df

Mean Square

Regression

21.727

5

4.345

Residual

57.553

897

.064

Total

79.279

902

F

Sig.

67.725

.000(a)

a Predictors: (Constant), TCTRL, TPRAC, TGIVE, TCORP, TPLAN b Dependent Variable: TNEWLAND Coefficients(a) Unstandardized Coefficients

Model

B 1

(Constant)

Std. Error

Standardized Coefficients

t

Sig.

Beta

3.333

.049

68.491

.000

TGIVE

.071

.017

.181

4.123

.000

TPLAN

.033

.017

.102

1.958

.050

TCORP

-.006

.018

-.016

-.325

.745

TPRAC

.147

.014

.345

10.174

.000

TCTRL

.007

.012

.023

.600

.549

a Dependent Variable: TNEWLAND


ผลการทดสอบสมมติฐานที่ 1.2 Variables Entered/Removed(b)

Model 1

Variables Entered

Variables Removed

TTEAM, TSAFE, TRECO, TMORE, TACCO(a)

Method

.

Enter

a All requested variables entered. b Dependent Variable: TNEWLAND Model Summary

Model 1

R

Adjusted R Square

R Square

.482(a)

.232

Std. Error of the Estimate

.228

.26052

a Predictors: (Constant), TTEAM, TSAFE, TRECO, TMORE, TACCO ANOVA(b)

Model 1

Sum of Squares

df

Mean Square

Regression

18.401

5

3.680

Residual

60.878

897

.068

Total

79.279

902

F

Sig.

54.225

.000(a)

a Predictors: (Constant), TTEAM, TSAFE, TRECO, TMORE, TACCO b Dependent Variable: TNEWLAND Coefficients(a) Unstandardized Coefficients

Model

B 1

(Constant)

Std. Error

Standardized Coefficients

t

Sig.

Beta

2.869

.085

33.709

.000

TSAFE

.135

.020

.214

6.619

.000

TMORE

.045

.026

.093

1.746

.081

TACCO

-.029

.028

-.059

-1.040

.299

TRECO

.081

.017

.174

4.650

.000

TTEAM

.096

.023

.198

4.102

.000

a Dependent Variable: TNEWLAND


ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเครื่องมือวัด อาจารย์ประจาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์

ดร. อำนวย บุญยรัตนไมตรี กำรศึกษำ ปริญญำเอก ปร.ด. (รัฐศำสตร์ ) มหาวิทยาลัยรามคาแหง ปริญญำโท รม. (รัฐศำสตร์ ) มหาวิทยาลัยรามคาแหง


คณะผู้ดำเนินกำรวิจัย หัวหน้าโครงการ

นางสาวดวงตา สมิตสุวรรณ

ผูอ้ านวยการใหญ่สานักกรรมการ ผูอ้ านวยการใหญ่ ผูช้ ่วยหัวหน้าโครงการ นางสาวสุมณฑา เชิดชื่น นักวิชาการ ระดับผูอ้ านวยการฝ่าย นางพรนับพัน ชูทัย ผูอ้ านวยการฝ่ายสื่อสารสัมพันธ์ ผูร้ ่วมวิจัย ดร.วัชระ ยาคุณ ผูจ้ ัดการงานวิศวกรรม / กญ. นางพจนา ศรีอาไพ ผูจ้ ัดการงานบริหารทั่วไป / กญ. นางสาวจีรพรรณ ณ สงขลา เจ้าหน้าที่บริหารทั่วไป / กญ.


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.