Bakery Lover

เมนูเติมความหวาน

ร้านเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่น เคล็ดลับ

สูตรเบเกอรี่แสนอร่อย เพื่อสุขภาพที่ทุกคนก็ทำ�ได้

สุดยอด 20 ไอเดีย ตกแต่งหน้าเค้ก

เเนะนำ� 8 ร้านเบเกอรี่ สุดเปรีย้ วใจ

ฉบับที่1 ปีที่ 1

1

-เมนูเติมความหวานร้านเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่น...................................4-7

-เคล็ดลับสูตรเบอเกอรี่แสนอร่อย เพื่อสุขภาพที่ทุกคนก็ทำ�ได้.................8-15

-เคล็ดไม่ลับ สำ�หรับคนอยากมีอาชีพ.......................................17-19

-แนะนำ� 8 ร้านเบเกอรี่สุดเปรี้ยวใจ...........................................20-28

-9 ขั้นตอนการเริ่มเปิดร้านอาหารอย่างมืออาชีพ............................30-33

-อุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานต้องมีอะไรบ้าง.....................................35-37

-สุดยอด 20 ไอเดีย ตกเเต่งหน้าเค้ก.........................................39-60 2

3

ร้าน Little Spoon “ร้ า นสไตล์ ส บายๆ ออกแนวHipster เน้ น เอิ ร์ ธ โทนเรี ย บๆน่ า ถ่ายรูปลงโซเชียลเป็นอย่างมาก สาวๆไม่ควรพลาด ทุกเมนูของ ร้านจะตกแต่งน่ารักเอาใจสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รีชอร์ต เค้ก วาฟเฟิลเนย สโคน หรือ affogato ไอศกรีมวานิลลาที่ถูก แต่งเป็นรูปตุ๊กตาหิมะน่ารักมุ้งมิ้ง เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มร้อนๆ สามารถเลือกโกโก้ร้อน กาแฟ หรือชาเขียวร้อนก็ได้”

ซอย สุขุมวิท 21 (อยู่ชั้น 2 ของร้านขายโคมไฟ) ปากซอยอโศก 3 (สุขุมวิท 21 ซอย 3) คลองเตยเหนือ ,วัฒนา,กรุงเทพมหานคร

เมนูเติมความหวานร้านเบเกอรี่

สไตล์ญี่ปุ่น ร้าน White Day Patisserie Central Ladprao “ร้านเบเกอรีโฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนวันยุ่งเหยิงของคุณให้ เป็นวันสบายๆด้วยบรรยากาศภายในร้านที่คล้ายโรงงานทําของ ขวัญของซานตาคลอส และเบเกอรีรสละมุน แทรกซึมไปทุกคําที่ เคี้ยวแถมมีลูกเล่นไว้ให้ลูกค้ามีส่วนร่วม อย่างเช่นเมนู Matcha Dome โดมช็ อ กโกแลตปริ ศ นาที่ ร อให้ เรานํ า ซอสช็ อ กโกแลต ร้อนๆเทราดลงไปจนเจอเครปพุดดิ้งชาเขียวไส้ถั่วแดงที่อยู่ด้านใน หรือเมนู Bread Pudding ที่มี Rich Vanilla Custard ไว้เทราด ลงบนขนมปังฉ่ำ�ๆ” ถนน พหลโยธิน (ชั้น 4 เซ็นทรัล ลาดพร้าว) ลาดยาว ,จตุจักร กรุงเทพมหานคร

4

5

ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้า The Crystal Veranda (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ถนน ประดิษฐ์มนูธรรม

6

Farm Design Thailand

Bake a wish เป็นร้านขนมโฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นที่สาวกขนมหวาน ที่ทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดี ร้านนี้จะมีขนมหลากหลายอย่างค่ะ เช่น ชูว์ครีมญี่ปุ่น ขนมเค้กญี่ปุ่น และคุกกี้สไตล์ญี่ปุ่น

เมนูแนะนำ�ชูว์ครีมไส้จัดเต็มมาก กัดไปคำ�แรกก็เจอกับ ไส้หวานๆของชูว์ครีมทันที แถมยังมีหลายไส้ให้เลือกอีกด้วย คุก กี้ชูว์ครีมรสช็อกโกเเลต แป้งชูว์เเบบเดิมเเต่เพิ่มเติมด้วยความ กรอบแบบคุกกี้สอดไส้ครีมช็อกโกเเลตรสเข้มข้น

ร้านขนมหวานlสไตล์พี่มออออ เป็นเคล็ดลับความอร่อยที่ทำ�ให้ คนติดใจเพราะขนมเเละเครื่องดื่มร้านนี้ทั้งหอมเเละหวานมัน เป็นพิเศษ จุดเด่นของร้านจะมีเมนูที่เน้นนมเเละชีส ซึ่งนมของ ร้านจะใช้ส่วนผสมจากนมโคเเท้ 100% หอมมันจากฮอกไกโด ซึ่งเป็นสูตรลับสไตล์ญี่ปุ่นที่ใครที่รักเบเกอร์รี่เเนวนี้ต้องไม่พลาด เมนูขายดีที่เป็นพระเอกนางเอกของร้านก็หนีไม่พ้นเครื่องดื่มนม เเละชีสเค้ก Choco Moo กับ Hokkaido Cheesecake สูตร ลับฉบับพี่มอ รสชาติหอมมัน เนื้อเนียนเเต่ว่าเเน่นเคี้ยวเพลิน อมเปรี้ยวนิดๆกำ�ลังอร่อย ฮันนี่โทส รสชาติอร่อยหวานมัน ทานง่าย สะดวก ขนมปังกรอบหอมเนยนิดๆเเต่ชุ่มเนย ทาน คู่กับไอศกรีมชีสเค้กโรยอัลมอนด์กรุบกรอบราดเมเปิ้ลไซรัป หอมหวานรับรองว่าอร่อยเเบบถ้วยเดียวไม่พอเลยค่ะและคนรัก มะม่วงต้องลอง เมนู Mamuang Cheeesecake เมนูไอศกรีม เนื้ อ ชี ส เค้ ก รสนุ่ ม สอดไส้ เ นื้ อ มะม่ ว งหวานฉ่ำ � สุ ด ๆตั ก เข้ า ไป คำ�เเรกเนี้ย บอกเลยว่าฟิน ยิ่งทานคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ราดซอส มะม่วง เเละเนื้อมะม่วงที่ทางร้านเบิร์นไฟเบาๆ รู้สึกอุ่นหน่อยๆ

ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

ร้าน Hiro Keki Thailand คากิโกริเป็นหวานเย็นเกล็ดหิมะจากญีปุ่น ดังนั้นเพื่อ ให้สัมผัสความอร่อยแบบออริจินัลเราก็ต้องไปทานที่ ร้านขนมหวานสัญชาติญี่ปุ่นสิ! แต่ไม่ต้องบินไปไกลถึงที่ ญี่ปุ่นก็ได้ทานคากิโกริแบบญี่ปุ่นแท้ๆที่คาเฟ่ Hiro Keki Thailand ร้านขนมหวานชื่อดังส่งตรงมาจากฮอกไกโด ที่ขนขนมหวานมาทุกแบบทุกสไตล์มาให้ชาวไทยได้ชิม โดยเฉพาะคากิโกริที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Tiramisu Kakigori ที่ด้านบนจะเป็น Mascarpone Cheese & Fresh Whipped Cream โรยด้านบนด้วย Cocoa Powder และ ยังมี Kabocha (Japanese Pumpkin) Kakigori หรือฟักทอง ญี่ปุ่นราดด้วย Sweet Pumpkin Sauce & Caramel และด้าน ในยังมีขนมปังฟักทองนุ่มๆอีกด้วย อยากจะบอกว่าน่ากินซะ ขนาดนี้ใครจะอดใจไหว!

นอกจากคากิโกริหวานฉ่ำ�ชื่นใจแล้วทางร้านยังมีขนม หวานอื่ น ๆอี ก มากมายให้ ล องทานกั น ด้ ว ยค่ ะ เอาเป็ น ว่ า มี ใ ห้ เลือกเยอะจนเลือกสั่งไม่ถูกเลย และที่จะมาแนะนำ�อีกเมนูก็คือ Hokkaido Fluffy Pancake

ร้าน Bake a wish

275 ถนน เพชรเกษมสายเก่า แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ร้าน Pablo Cheesetart ความเด้ง ความดึ๋งของชีสทารต์เจ้าดังที่หากไปญี่ปุ่นต้องไป ลองให้ได้! แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นละทำ�ไงดี นี่เลย พาโบล ชีสทาร์ต ไทยแลนด์ สัมผัสความอร่อยของชีสทาร์ตสีเหลือง ก้อนโตที่ผลิตใหม่ทุกวัน แฮนด์เมดทุกชิ้น แอบกระซิบอีกหน่อย ว่าที่ญี่ปุ่นมีรสชาติอะไรที่ไทยก็มีรสชาตินั้นไม่ว่าจะเป็น Plain Matcha และ Chocolate ในไซส์ปกติ รวมไปถึงไซส์เล็กหรือไซส์ มินิกับ 2 รสชาติให้เลือกคือ Plain และ Matcha

เมนูแนะนำ�น่าทานอีกหนึ่งเมนูก็คือ พาโบลโรสต์มาร์ช เมลโลว์สตรอเบอร์รี่ที่มีมาทั้งแบบชีสทาร์ตชิ้นใหญ่และแบบมินิ ชิ้นเล็กๆน่ารักๆ ขอบอกว่าฉ่ำ�ไปด้วยสตอร์วเบอร์รี่ สยามพารากอน ชั้น G โซน Food Hall ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

7

เคล็ดลับ

บราวนี่ถั่วดำ�

สูตรเบเกอรี่เเสนอร่อย เพื่อสุขภาพที่ทุกคนก็ทำ�ได้

กราโนลาทาร์ต ส่วนผสม แป้งพาย • แป้งเค้ก 170 กรัม • เนยสดชนิดเค็ม หั่นเต๋าเล็ก แช่เย็น 100 กรัม • น้ำ�ตาลทราย 22 กรัม • เกลือป่น 0.5 กรัม • นมข้นจืด 36 กรัม ส่วนผสม ครีมเนยถั่ว • ครีมชีส 126 กรัม • เนยจืด 26 กรัม • น้ำ�ตาลไอซิ่ง 78 กรัม • น้ำ�มะนาว 38 กรัม • เนยถั่ว 116 กรัม

วิธีทำ� กราโนลาทาร์ต 1.ผสมนมข้นจืด น้ำ�ตาลทราย และเกลือป่นลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้ละลาย พักให้เย็น 2.ผสมแป้งกับเนยให้เข้ากันจนมีลักษณะคล้ายเม็ดทราย จากนั้นเทส่วนผสมในข้อ 1 ลงไปแล้วก็นวดให้เป็นเนื้อ เดียวกัน พักไว้สัก 10 นาที แล้วตักใส่พิมพ์เพื่อนำ�เข้าอบที่ อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที 3.ทำ�ครีมเนยถั่ว โดยใช้หัวตีใบไม้ตีครีมชีส และเนยให้อ่อน ตัว เติมน้ำ�ตาลไอซิ่ง น้ำ�มะนาว และเนยถั่ว ตีต่อให้เข้ากัน พอดี เเละพักไว้ 4.ทำ�กราโนลา โดยละลายเนยแล้วเติมน้ำ�ผึ้งลงไป คนผสม ให้เข้ากัน พักให้เย็น ใส่มูสลี่ กล้วยน้ำ�ว้าตากแห้ง เมล็ด ฟักทอง และแครนเบอร์รีอบแห้ง คนผสมให้เข้ากัน 5.บีบครีมชีสลงไปให้ได้ครึ่งหนึ่งของทาร์ตแล้วตักส่วน ผสมกราโนลาทับจนเต็ม

ส่วนผสม บราวนี่ถั่วดำ� • ถั่วดำ�ต้มสุก 1 ถ้วยตวง + 1/2 ถ้วยตวง • ไข่ไก่ 3 ฟอง • ผงโกโก้ (แบบไม่หวาน) 1/4 ถ้วยตวง • สารสกัดจากหญ้าหวาน (Stevia) 3 ช้อนชา (เพิ่ม-ลดตามความชอบ ต้นฉบับใช้น้ำ�ตาล 3/4 ถ้วยตวง) • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา • ผงฟู 1/2 ช้อนชา • เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา • น้ำ�มันมะพร้าว (หรือน้ำ�มันดอกคาโนลา) 3 ช้อนโต๊ะ • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ในสูตรใช้ Vanilla Extract เพราะถ้าเป็น Vanilla Essence อาจจะต้องใส่มากหน่อย) • ช็อกโกแลตชิพ หรือถั่วต่างๆตามชอบ

วิธีทำ� บราวนี่ถั่วดำ� 1.เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้

2.นำ�ถั่วดำ� ไข่ไก่ ผงโกโก้ และสารสกัดจากหญ้าหวาน เกลือป่น ผงฟู เบกกิ้งโซดา น้ำ�มันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เนียนสวยงาม 3.เทส่วนผสมลงในพิมพ์หรือถาดทนความร้อนทเตรี​ียมไว้จะ เอาเข้าเตาอบ (ในสูตรนี้ไม่ได้ทาเนยหรือรองกระดาษไข) โรยช็อกโกแลตชิพลงไปหรือจะผสมลงไปในเนื้อขนมเลยก็ได้ (ในสูตรผสมช็อกโกแลตชิพลงไปในเนื้อบราวนี่) พอสุดท้ายก็ โรยอัลมอนด์ 4.นำ�เข้าเตาอบประมาณ 20-25 นาที (เช็กความสุกด้วยไม้ จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเนื้อขนมติดไม้ออกมาเป็นอันใช้ได้) ข้อควร ระวังอย่าอบนานไปเพราะเนื้อขนมจะแห้ง ตัดออกมาใส่จาน เสิร์ฟ

ส่วนผสม กราโนลา • มูสลี่ 134 กรัม • กล้วยน้ำ�ว้าตากแห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก 84 กรัม • เมล็ดฟักทอง กะเทาะเปลือกอบ 50 กรัม • แครนเบอร์รีอบแห้ง 50 กรัม • น้ำ�ผึ้ง 50 กรัม • เนยเค็ม 34 กรัม

8

9

แพนเค้กเรด เวลเว็ทกับครีมชีสน้ำ�ผึ้ง ส่วนผสม ของแห้ง • แป้งโฮลวีท 1/2 ถ้วย • แป้งมะพร้าว 1/2 ถ้วย • ผงโกโก้ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ • ผงฟู 1 ช้อนชา • เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา • เกลือ 1/4 ช้อนชา ส่วนผสม ของเหลว • นมถั่วเหลือง (สูตรไม่มีน้ำ�ตาล) 1 ถ้วย • แอปเปิลไซเดอร์ หรือน้ำ�ส้มสายชูหมักแอปเปิล (Apple Cider Vinegar) 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำ�ผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ • ไข่ไก่ 1 ฟอง • สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนชา • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

10

ส่วนผสม ครีมชีสน้ำ�ผึ้ง • ครีมชีส (Less Fat 60%) • น้ำ�ผึ้ง วิธีทำ�แพนเค้กเรด เวลเว็ทกับครีมชีสน้ำ�ผึ้ง 1.ผสมส่วนผสมของแห้งทั้งหมด คือ แป้งโฮลวีท แป้งมะพร้าว ผงโกโก้ ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือ เอามาร่อนรวมกันและพักไว้ 2.ผสมแอปเปิ ล ไซเดอร์ กั บ นมถั่ ว เหลื อ ง พั ก ทิ้ ง ไว้ สั ก ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นก็นำ�ส่วนผสมของเหลวที่เหลือ ทั้งหมดคือ น้ำ�ผึ้ง ไข่ไก่ สีผสมอาหารสีแดง และกลิ่นวานิลลา ผสมให้เข้ากัน 3.ค่อยๆเทส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมของแห้ง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันก็จะได้ส่วนผสมแบทเทอร์สำ�หรับทำ� แพนเค้ก 4.นำ�ส่วนผสมตักลงไปทอดในกระทะเทฟลอน พอแป้งเริ่มมี ฟองอากาศปุดๆก็กลับด้าน ทอดให้สุกทั้ง 2 ด้าน 5.ทำ�ครีมชีสโดยตีครีมชีสให้นุ่ม ผสมน้ำ�ผึ้งลงไปให้เข้ากัน แต่ฟิล์มไม่ได้ตวงนะ ชิมเอาตามชอบ

11

เครปเค้กไข่ขาวไส้บานาน่าช็อกโกแลต ส่วนผสม เครปเค้กไข่ขาวไส้บานาน่าช็อกโกแลต • ไข่ขาว 6 ฟอง • ผงโกโก้แท้ 2 ช้อนโต๊ะ • กล้วย 1 ลูก • นมจืดสูตรไม่มีไขมัน 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ�แผ่นเครป 1.แยกเฉพาะไข่ ข าว 6 ฟอง ใส่ถ้วยและเตรียมช้อน ทัพพี ที่ตักซุป หรืออะไรก็ได้ที่คอยตวงหรือที่สามารถ กะให้การเทแต่ละครั้งเท่าๆกัน 2.เตรียมกระทะ เปิดไฟอ่อน และฉีดด้วยสเปรย์น้ำ�มัน มะกอกลงไป 3.พอร้อนเล็กน้อยก็ตักไข่ขาวหยอดลงไปในกระทะ หยอดตรงกลางกระทะและร่อนให้ทั่วกระทะ ไม่ให้หนา หรือบางมากเกินไป ไข่ขาวสุกเร็วต้องดูให้ดีถ้าแช่ไว้ นานจะไหม้เกรียมได้ 4.เสร็จแล้วก็นำ�ไปพัก แล้วก็ทำ�ต่อไปแบบนี้เรื่อยๆจนไข่ ขาวหมด

12

วิธีทำ�ครีม • นำ�ผงโกโก้ กล้วย และนมจืด ปั่นรวมกัน วิธีทำ�เครปเค้กไข่ขาวไส้บานาน่าช็อกโกแลต 1.นำ�แผ่นเครปไข่ขาวมาวางและค่อยๆปาดครีมลงไป เสร็จแล้วก็วางแผ่นเครปอีกชั้น ทำ�สลับไปมาจนครบ หรือจะม้วนเป็นโรลก็ได้ 2.นำ�ไปแช่ในตู้เย็นสักพักให้เซตตัว ประมาณ 30 นาที เป็นอย่างน้อย 3.พอจะทานก็ใส่ของที่ชอบตามต้องการได้เลยซึ่งในรูปนี้ ราดช็อกโกแลตไซรัปและโรยอัลมอนด์นิดหน่อย

Black Bean Brownie ส่วนผสม Black Bean Brownie • ถั่วดำ�ต้มสุก 2 ถ้วย • น้ำ�มันคาโนลา ถ้วย • ผงโกโก้ 100 เปอร์เซ็นต์ 3 – 4 ช้อนโต๊ะ • เกลือป่น ¼ ถ้วย • น้ำ�ตาลทรายแดง ¼ ถ้วย • วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา • ผงฟู 1 ช้อนชา • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ¼ ถ้วย • เม็ดมะม่วงหิมพานต์หั่นหยาบสำ�หรับโรยหน้า • ใบสะระแหน่สำ�หรับตกแต่ง

วิธีทำ� Black Bean Brownie 1.ตั้งเตาที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบน – ล่าง ที่ได้เตรียมไว้ 2.สะเด็ ด น้ำ � ถั่ ว ดำ � ให้ แ ห้ ง สนิ ท นำ � ไปปั่ น รวมกั บ เม็ ด มะม่วงหิมพานต์ จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลง ผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถาดอบขนาด 4 × 5 นิ้ว รองด้วย กระดาษไข โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์หั่นหยาบ 3.นำ�เข้าอบนาน 20 – 25 นาที หรือจนผิวนอกแห้งดียก ออกจากเตาพักไว้ บนตระแกรงให้อุ่น 4.หั่นเป็นชิ้นตามชอบ จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เสิร์ฟได้ทันที

13

Avocado Muffin

Carrot Cake ส่วนผสม Carrot Cake • ไข่ไก่ 2 ฟอง • น้ำ�มันคาโนลา ½ ถ้วย • น้ำ�ตาลทรายแดง ¾ ถ้วย • วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา • แป้งโฮลวีต 1 ถ้วย • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา • ผงฟู 1 ช้อนชา • เกลือป่น ¼ ช้อนชา • อบเชยป่น 1 ช้อนชา • แครอตขูดฝอย 1 ถ้วย • วอลนัทสับหยาบ ½ ถ้วย • โยเกิร์ตชนิดข้นและแครอตขูดฝอยสำ�หรับโรยหน้า • ใบสะระแหน่สำ�หรับตกแต่ง

14

วิธีทำ� Carrot Cake 1.ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบน – ล่าง ที่ได้เตรียมไว้ 2.ผสมแป้งโฮลวีต เบกกิ้งโซดา ผงฟู เกลือป่น และอบเชย ป่นเข้าด้วยกันและพักไว้ 3.ใช้ตะกร้อมือตีไข่ไก่ น้ำ�มันคาโนลา น้ำ�ตาลทรายแดง และวานิลลาเข้าด้วยกันจนขึ้นฟู ใส่ส่วนผสมแป้งในข้อ ที่ 2 ลงไป ตะล่อมให้เข้ากันและตามด้วยแครอตขูดและ วอลนัทตะล่อมให้เข้ากันอีกครั้ง 4.เทใส่พิมพ์กลมขนาด 2 ปอนด์ รองด้วยกระดาษไข 5.นำ�เข้าอบนาน 40 – 50 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกออกจากเตา พักไว้พอให้อุ่นแล้วเคาะออกจากพิมพ์ 6.หั่นเป็นชิ้นตามชอบ จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยโยเกิร์ต แครอตขูดฝอย และใบสะระแหน่ก่อนเสิร์ฟ

ส่วนผสม Avocado Muffin • ข้าวโอ๊ตอบแห้งป่นหยาบ 2 ถ้วย • แอ๊ปเปิ้ลแดงหรือเขียวปอกเปลือกปั่นละเอียด 1 ถ้วย • กล้วยหอมบด 1 ถ้วย • อะโวคาโดบด ¾ ถ้วย • แครนเบอร์รี่อบแห้งหั่นหยาบ ¼ ถ้วย • ไข่ไก่ 1 ฟอง • ผงฟู 1 ช้อนชา • น้ำ�มันคาโนลาสำ�หรับทาพิมพ์ • แครนเบอร์รี่อบแห้งสำ�หรับโรยหน้า

วิธีทำ� Avocado Muffin 1.ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ไฟบน – ล่าง จากนั้นทาน้ำ�มันคาโนลาลงในพิมพ์มัฟฟินที่เตรียมไว้ 2.นำ�ส่วนผสม อาทิ ข้าวโอ๊ต แอ๊ปเปิ้ล กล้วยหอม อะโวคา โด ไข่ไก่ แครนเบอร์รี่และผงฟูรวมกันและใช้ตะกร้อมือคน เข้าด้วยกันตักใส่พิมพ์มัฟฟิน (จะได้ประมาณ 5 – 6 หลุม) โรยหน้าด้วยแครนเบอร์รี่อบแห้ง 3.นำ�เข้าอบนาน 25 – 30 นาที หรือจนสุก ยกออกจาก เตาและพักไว้ให้พออุ่น 4.แกะออกจากพิมพ์ จัดใส่จาน เสิร์ฟได้ทันที

15

บ ั ล ่ ม ไ ็ด สำ�หรับคนอยากมีอาชีพ

คเ ล

3 อาชีพเบเกอรี่ขายดี คืนทุนไว 1.อาชีพขายทาร์ตไข่ คืนทุนภายใน 10 วัน แบรนด์ทาร์ตไข่ คุณตา (GRAND PA’S EGG TART) ขนมทาร์ตไข่ ถือเป็นขนมที่โด่งดังมากในประเทศมาเก๊า แต่ ต้ น กำ � เนิ ด จริ ง ๆแล้ ว มาจากประเทศโปรตุ เ กสซึ่ ง เป็ น ขนมที่วัยรุ่นนิยมรับประทานมาก ทำ�ให้มีแบรนด์ดังหลาย ร้ า นหั น มาจำ � หน่ า ยทาร์ ต ไข่ ม ากขึ้ น หากท่ า นใดสนใจที่ อยากจะมีอาชีพ ขายทาร์ตไข่วันนี้ใช้งบประมาณลงทุน เพียงเเค่ 20,000 บาท เท่านั้ก็สามารถมีร้านทาร์ตไข่เป็น ของตนเองได้แล้ว และสามารถคืนทุนได้ใน 10 วัน เพราะ เนื่องจากแม็คโครสามารถความต้นทุนต่อชิ้นให้ต่ำ�อยู่ที่ ประมาณ 9 บาทเท่านั้นเพื่อให้ผู้ประกอบการสารมารถนำ� ไปขายต่อทำ�กำ�ไรได้สูงๆ โดยสามารถขายต่อในราคาชิ้นละ 15 บาท คิดเป็นกำ�ไร 43% ถ้าหากคุณสามารถขายได้วัน ละ 300 ชิ้น จะทำ�ให้มีรายได้ต่อวัน 4,500 บาท ใช้ระยะเวลา เพียงแค่ 10 วัน ก็จะคืนทุน โดยมีเมนูหลัก คือ Tart Shell และ Egg tart Filling ซึ่งคุณสามารถนำ�ไปทำ�แบรนด์ของ ตัวเอง ต่อยอดรสชาติ ทำ�เมนูใหม่ๆ เช่น ทาร์ตไข่ ท้อปปิ้ง ต่างๆ เพิ่มราคาได้อีก อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 1.ตู้โชว์อาหารพร้อมอุ่นไปในตัว (Hot Display) 2.เตาอบ (Oven)

16

17

2. อาชีพขายวาฟเฟิล คืนทุนภายใน 3 วัน แบรนด์วาฟเฟิล คุณพ่อ (DADDY WAFFLE ) วาฟเฟิลเป็นขนมที่คนไทยรู้จักกันมานานจนทุกวันนี้ยังได้รับความ นิยมไม่เสื่อม เนื่องจากเป็นขนมที่ทานง่าย สามารถทานเป็นอาหาร เช้า อาหารคาว หรืออาหารหวานได้ ทางแม็คโครได้คิดเมนูใหม่ สำ�หรับวาฟเฟิลอย่าง Pizza Waffle dog Mini Waffle dog burger Waffle dog wrap with cheese and mushroom และ Crispy Waffle dog เพื่อสร้างความแตกต่างตอบสนองความนิยมของคน ยุคนี้ อาชีพขายวาฟเฟิลใช้งบลงทุนเริ่มต้นเพียง 7,425 บาท โดยมี ต้นทุนสินค้าต่อชิ้น 39.25 บาท สามารถขายในราคาชิ้นละ 79 บาท คิดเป็นกำ�ไร 50.32% ถ้าหากคุณขายได้วันละ 50-70 ชิ้น จะทำ�ให้มี รายได้ต่อวัน 5,530 บาท หรือกำ�ไรต่อวัน 2,765 บาท ใช้ระยะเวลา คืนทุนแค่ 3 วันเท่านั้น อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 1.เตาอบ (Oven) 2.เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction cooker) 3.กระทะเทฟล่อน (Teflon pan) 4.หม้อทอดไฟฟ้า (Deep fried)

18

3.อาชีพขายขนมปังโทสต์ คืนทุนภายใน 30 วัน แบรนด์โทสต์ คุณลุง (UNCLE TOAST ) “ฮันนี่โทสต์” เมนูขนมหวานที่ฮอตฮิตในเวลานี้ ซึ่งถือว่าเป็น เมนูที่มีความหวาน ความหอม และความอร่อย คิดว่าต้องเป็นที่ โปรดปรานของบรรดาหนุ่มๆสาวๆรวมถึงคนทำ�งา เมนูนี้ทำ�ให้ ร้านเบเกอรี่แทบทุกร้านต้องมีเมนูนี้ไว้บริการ แต่จะเสียเวลา ตรงที่ ต้ อ งเตรี ย มของแต่ ที่ แ ม็ ค โครของเรานั้ น ได้ อ อกแบบ เมนู “ฮั น นี่ โ ทสต์ ” พรี เ มี่ ย มที่ ส ามารถนำ � ไปจำ � หน่ า ยได้ ทั น ที พร้ อ มกั บ เสริ ม ทั พ ด้ ว ยเมนู ที่ ห ลากหลายและเด่ น ๆ อย่ า ง Chocolate Lav โดยวั ต ถุ ดิ บ ต่ า งๆ รวมไปถึ ง อุปกรณ์สามารถหาซื้อได้ที่แม็คโครทุกสาขาเพียงใช้งบลงทุน ประมาณ 10,680 บาท แบ่งเป็นลงทุนซื้อเตาอบขนาดเล็ก ราคา 5,690 บาท ไมโครเวฟ ราคา 1,990 บาท และอุปกรณ์ อื่นๆ 3,000 บาท โดยมีต้นทุนสินค้าอยู่ที่ประมาณ 22-25 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมท้อปปิ้งต่างๆ) ซึ่งสามารถขายได้ในราคา 85-120 บาท ถ้าหากคุณขายได้ถึง 20 รายการ คิดเป็นกำ�ไร ต่อวันสูงถึง 40-50% จะใช้ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 1 เดือน อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 1.เตาอบเล็ก 2.ไมโครเวฟ

19

1.Hiro Keki Cafe

เเนะนำ�

8

ร้านเบเกอรี่

สุดเปรี้ยวใจ

เสิร์ฟหวานสไตล์ฮอกไกโด “ฮิโระ เคกิ” คาเฟ่น่ารักย่านราชพฤกษ์ เอาใจคนรักของหวานด้วยเมนูขนมญี่ปุ่นสไตล์ออกไกโด แถมขนมในตู้โชว์มันยั่วยวนใจจนเลือกไม่ถูก มีการตกแต่งภายในร้านใช้โทนสีขาวเหลือง และมีน้องหมีขาวเป็นสัญลักษณ์อิง บรรยากาศเมืองฮอกไกโด มีน้องหมีเป็นโลโก้ ใครเลิฟชีสเค้กอย่าพลาด ที่นี่อบใหม่วันต่อวัน มีให้เลือกหลากหลายรส ทั้ง ชีสเค้ก สไตล์ฮอกไกโด Original Double Fromage เนื้อเนียนนุ่ม ส่วน White Chocolate Mousse with Raspberry Jelly Inside ก็เนรมิตออกมาเป็นนกสีเหลืองน่าตาจิ้มลิ้ม สำ�หรับใครที่ชอบดาร์กช็อกโกแลต ไส้นุ่มมูส เข้มข้น Valrhona Chocolate Mousse with Praline Lava ชนะเลิศเลยตัวนี้ Summer Fruits Cake เมนูไลท์ๆ เบาๆ ที่จัดเต็มด้วยความสดหวานของผลไม้สารพัดทาน คู่ครีมสด และซอสผลไม้สูตรพิเศษละมุนลิ้นแต่ที่เด็ดสุดต้องยกให้แพนเค้กซิกเนเจอร์ สไตล์ Fluffy หนา นุ่ม เด้งดึ๋งชวนน่ารับ ประทานมีหลายหน้าหลากรสให้เลือก ใช้แต่ผลไม้เกรดพรีเมี่ยมทั้งนั้น แนะนำ� Chocolate Yuzu เสิร์ฟมาตามสูตรหนา นุ่ม ฟู ใช้ ช็อกโกแลตเนื้อมูสสุดพรีเมี่ยมจากฝรั่งเศส Valrhona ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานของ Yuzu Curd เมื่อราดฮอกไกโด ฮันนี่ ไซรัป ก็ยิ่งชุ่มฉ่ำ�หวานหอมไปอีกส่วนเครื่องดื่มเย็นมีทั้งสไตล์ฟรุ้ตตี้ และสมูทตี้ Clestnut Mont Blanc เนื้อเกาลัดญี่ปุ่นปั่นกับนมสด เข้มข้น ท็อปด้วยครีมจากเกาลัดแก้วนี้หวานมันได้ใจ แต่ถ้าชอบแนวหวาน Strawberry Yogurt Smoothies ดีกรีความอร่อยไม่ แพ้กัน ที่ตั้งร้าน : ชั้น 2 คริสตัลพาร์ค ราชพฤกษ์ โทร : 062 530 3232 ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมงถึง 4 ทุ่ม Facebook : Hiro Keki Thailand

20

21

2.Patisserie Rosie

3.Elmar Offwhite

ชั่วโมงแห่งความหวาน สวยงามเกินห้ามใจต้องที่นี่ “พาทิชเชอรี โรซี่” กับร้านขนมฝรั่งเศสที่รวมมิตรสารพัดชนิดขนมฝรั่งเศส ที่ดัดแปลงเมนูแบบโอลด์คลาสสิกมาครีเอทใหม่ให้หน้าตาและรสชาติผสมเข้ากันอย่างลงตัว การันตีทุกเมนูในร้านด้วยการใช้ ช็อกโกแลตแบรนด์ดัง เวโรน่า ใครชอบกินล่ะก็มาด่วนๆ ถ้าใครชอบมูสเค้กเนื้อบางเบา ทานเพลิ๊นเพลินไม่เฮฟวี่ ก็มีหลายรสให้เลือก อย่างเช่น Cherry Ripe, Yuzu Tart แต่ที่โดนใจต้อง La Rosie, Bulgarian Rose Yoghurt Mousse ทั้งหอมหวานเหมาะกับ คุณสาวๆ เป็นที่สุด บอกไว้ก่อนว่า แม้แต่น้ำ�สกัดจากดอกกุหลาบก็มาจากบัลกาเรีย เรียกว่าสกัดกลิ่นออกมาแบบดั้งเดิม ไร้สารเคมี เจือปน แถมเสิร์ฟมาบนจานงดงามทรงยุโรปอีกตะหาก อีกเมนูที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ถึงหน้าตาไม่สวยแต่ควรค่าแก่การสั่ง Basque burnt chessecake ชีสเค้กสไตล์บาส์ก อบจนหน้าเกรียมไหม้ ข้างในจะมีเดี่ยมแรให้อารมณ์แบบครีมบุเล่ ตักคำ�เดียวแล้ว หยุดไม่อยู่ จริงๆ นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมแบบกรานิต้าให้สั่งหลายรส พ่วงด้วยเมนูคาวทานง่ายอย่างพาสต้าด้วย ที่ตั้งร้าน : ซอยทองหล่อ 10 โทร : 092 542 9900 ร้านเปิดตั้งแต่ 11โมงถึง 2 ทุ่ม (ปิดวันจันทร์) Facebook : Patisserie Rosie

22

โฉบไม่แถวท่าน้ำ�มหาราช มีร้านขนมหวานน่ารัก ให้เข้าไปลองชิมรับรองต้องติดใจ ถ้าใครเลยเป็นลูกค้าเก่าของร้านเดิม ย่านเอกมัย ซอย 2 วันนี้ย้ายมาที่ใหม่ไฉไลกว่าเดิมกับ บรรยากาศร้านขนมหวานในบ้านสีขาวริมน้ำ�เจ้าพระยา มีมุมให้ถ่ายภาพเก๋ๆ ด้านหน้าตาม ประสาร้านชิคๆ ต้องมี ทีเด็ดต้องยกให้น้ำ�แข็งใสหม้อไฟสไตล์เกาหลี “บิงซู” ซิกเนเจอร์ อย่าง Canary Mango Bingsu บิงซูมะม่วง น้ำ�ดอกไม้หวานฉ่ำ�ๆ เกล็ดน้ำ�แข็งที่ละเอียดนุ่มละมุนลิ้นมาก และรสชาติก็หวานกำ�ลังดี จะไม่ใส่นมราดก็ยังอร่อย หรือถ้าชอบเมล่อน หอมหวาน Smoky Melon Bingsu ก็อร่อยถูกปาก ทานพร้อมบิงซูนมเข้ากันสุดๆ นอกจากนั้นยังมีขนมปังโทสต์จานโตให้เลือกกัน ถึง 3 แบบ ทั้ง Honey Toast / Strawberry Nutella / Banana Caramel ขนมปังอบสดใหม่สั่งแล้วอดใจรอสักนิดไม่มีผิดหวังแน่ นอน ยิ่งทานคู่กับอิตาเลี่ยนโซดา Bubble Gum ก็เพลินดีแบบไม่รู้ตัว

ที่ตั้งร้าน ท่ามหาราช พระนคร โทร 099194 6169 Facebook : Elmar Offwhite

23

5.Walf Me

4.Delicatezza Baan Phra-Arthit

ตำ�นานอันเป็นที่สุดของคออาหารอิตาเลี่ยน ที่นี่ไม่ใช่เด็ดแค่อาหารคาวเท่านั้น ยังมีไอศกรีมโฮมเมด ซอร์เบท์ ทำ�จากผลไม้สด ด้วยนะ แต่ทีเด็ดต้อง Granita ของหวานแบบเกล็ดน้ำ�แข็งใส สไตล์อิตาลีมากๆ ได้รสสัมผัสของผลไม้ซะฟินไปเลย เรียกว่าทุก จานอร่อยของที่นี่จึงเป็นความละมุนละไมสมดังเช่นชื่อร้านเลยแหละ

ที่ตั้งร้าน : ถนนพระอาทิตย์ โทร 02 629 5775 ร้านเปิด 2 ช่วงเวลา คือ 11.30 น. ถึงบ่าย 2 ครึ่ง และ 5 โมงครึ่งถึง 5 ทุ่ม Facebook : Delicatezza Baan Phra-

24

ร้านที่คนรักวาฟเฟิลไม่ควรพลาด มีให้เลือกทั้งของหวานของคาว บรรยากาศกันเอ๊งกันเอง ร้านนี้ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน ที่สำ�คัญมีเมนูเด็ดที่เราสามารถออกแบบได้ด้วยตัวเองด้วยนะ เปิดเมนูปุ๊บ ไม่สั่งไม่ได้ “Waft in a Cup” ที่เป็นการผสมระหว่าง ขนมและเครื่องดื่มในแก้วเดียวกัน ด้านล่างสุดจะเป็นผงโอวัลติน และไอศกรีมวานิลลา แต่ละชั้นจะเป็นช็อกโกแลตปั่นสลับกับวิป ปิ้งครีม ท้อปด้วยวาฟเฟิล ราดด้วยซอสช็อกโกแล็ตและนมข้น ส่วนซิกเนเจอร์คือ “Wafger” ก็ออกแบบได้เอง ทางร้านมีแป้ง วาฟเฟิลให้เลือก 3 แบบ ท้อปปิ้ง 13 ตัว ซอส 5 แบบ อยากได้รสไหนก็จัดไป ยังมี Caramel Honey Toast เสิร์ฟมาในถ้วยใบ โตที่ตักกินง่ายขึ้นกว่าเดิม

ที่ตั้งร้าน :The Avenue, เมเจอร์รัชโยธิน โทร 094 996 9265 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11โมงถึง 4 ทุ่ม Facebook : Waft Me

25

6.บ้านบางเขน

7.Lemoncurd Tearoom

จุดเช็คอินยามค่ำ�คืนสุดฮิตแห่งใหม่ กับร้านย้อนยุคแต่ทันสมัยด้วยบริการที่ตอบโจทย์ของคนเมือง ไม่มีเวลาเปิดปิดมาได้ตลอด 24 ชั่วโมงใครชอบนั่งชิลล์ จิบกาแฟ เครื่องดื่มขนมหวาน บิงซูน้ำ�แข็งใส ขนมปังปิ้งสไตล์ทันสมัยแแบบชิคๆ โซนร้านกาแฟติดแอร์ ด้านในที่รวมของเก่าเก๋ๆ ตกแต่งร้านอยู่ด้านในก็มีที่นั่งเบาะนุ่มๆ หย่อนใจ สบ๊ายสบายให้เอนกายเม้าท์มอยกับเพื่อนที่นัดมาเจอ กันได้แบบไม่ต้องสนใจเวลาเปิดปิด แถมที่นี่ยังไร้เมนูแอลกอฮอล์ จะดึกดื่นแค่ไหนก็ปลอดภัยเสมอ

ที่ตั้งร้าน ถนนพหลโยธิน ตรงข้ามกรมทหารราบ11 ติดสวนอาหารบางบัว โทร 085 921 6666 Facebook : บ้านบางเขน

26

ทีรูมสไตล์อิงลิชคันทรี่ ที่มีครบ จบในที่เดียว ทั้งขนมหวาน ไฮทีเซ็ท อาหาร วงออเคสตร้าที่คอยขับกล่อม ในทีรูมสวยเก๋ บรรยากาศอบอุ่น สะดุดตาด้วยโทนสีขาว ใครอยากนั่งชิลล์ Lemoncurd High Tea Set มาแบบจัดเต็มกับเลมอนสโคน คู่ แยมมิกซ์เบอร์รี่และแยมรูบาบ, เลม่อนทาร์ต, มินิเวลเว็ท ฯลฯ ถ้ายังไม่จุใจ ซิกเนเจอร์ของหวาน Lemon Crumbar Ice Cream ไอศกรีมเลม่อนเข้มข้นด้วยส่วนผสมของชีส พิเศษสุดๆ เฉพาะบ่ายวันอาทิตย์ ใครแวะมาจิบชา จะได้ฟังออเคสตร้าบรรเลงเพลง สด ได้อรรถรสแห่งสุนทรียภาพอย่างครบครัน ทั้งชาและของหวาน

ที่ตั้งร้าน : บรรทัดทอง ราชเทวี โทร 082 459 2662 ร้านเปิด 11 โมงถึง 2 ทุ่ม (ปิดวันจันทร์) Facebook : Leamoncurd tearoom

27

8.Cold Spring Cafe

โอเอซิสแห่งใหม่ที่หันไปมุมไหนก็น่ารักไปซะหมด คาเฟ่ที่มาพร้อมคอนเซปต์ดอกไม้ผลิบานสดใสในทุกเมนู อยู่ภายใต้บ้านไม้หลัง เล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ทีเด็ดของที่นี่ไม่ได้เจ๋งแค่สไตล์การตกแต่งร้านเท่านั้น อาหารแต่ละจานถูกครีเอทให้ เข้าคอนเซ็ปต์สไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดทานง่าย หน้าตาก็ดี มีเรื่องราวของดอกไม้มาช่วยสร้างสตอรี่ให้เมนูของหวานเพิ่มความพิเศษ สุดๆ ซิกเนเจอร์จานสวยสูตรเด็ดของคุณแม่เจ้าของร้าน ต้องเมนูนี้ Cold Spring Jelly มาในรูปเยลลี่ผลไม้หลากชนิด เสิร์ฟ พร้อมสตรอว์เบอร์รี่ และกลีบกุหลาบ เนื้อเยลลี่เด้งดึ๋งน่าทานเป็นที่สุด และยังไม่หวานเกินไปอีกตะหาก อีกเมนู Rose Panna Cotta พานาคอตต้ากุหลาบที่มาพร้อมซอสราสเบอร์รี่และผลไม้สด

ที่ตั้งร้าน แถวโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ซอย 10 โทร 089 011 7077 ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมงถึง 4 ทุ่ม (ปิดวันจันทร์) Facebook : Cold Spring Cafe

28

29

9 ขั้นตอนการ เริ่มต้นเปิดร้านอาหาร

อย่างมืออาชีพ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คอนเซ็ปต์ร้านที่ดีต้องมาจากการสำ�รวจความต้องการ ตลาดที่ถูกต้อง จำ�ไว้เสมอว่า “รสชาติอาหาร” นั้นไม่ใช่ จุดขายเสมอไป เพราะไม่มีร้านอาหารไหนบอกว่าอาหาร ของตัวเองไม่อร่อยแน่นอนเพราะในเมื่อจุดขายของร้าน เราไม่ใช่รสชาติอาหารเราก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าที่ ลูกค้าต้องมาร้านเราเพราะอะไร ทุกวันนี้ลูกค้าไม่ได้ไป ร้านอาหารเพียงเพราะแค่รสชาติอาหารที่ถูกปากอย่าง เดียว แต่ลูกค้าเลือกร้านนั้นเพราะอาจอยากสัมผัสถึง ประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากร้านอื่น

ทำ�เล ถือเป็นประเด็นสำ�คัญที่ตัดสินว่าร้านจะประสบความสำ�เร็จหรือล้มเหลว ปัจจัยสำ�คัญในการเลือกทำ�เลตั้งร้านอาหาร มีทั้ง ฐานลูกค้า คู่แข่ง การเข้าถึง ที่ จอดรถ รวมไปถึงการมองเห็น นอกจากนี้ ทำ�เลในหรือนอกห้างสรรพสินค้าก็เป็น ประเด็นสำ�คัญในการพิจารณา การตั้งอยู่ในห้างฯ มีข้อดีคือ เราจะได้กลุ่มลูกค้า ที่หลากหลายและแน่นนอนไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องที่จอดรถหรือสภาพอากาศแต่ ก็ต้องแลกกับค่าเช่าที่แพงหรืออาจจะเป็นแบบแชร์ผลกำ�ไร (GP) ในขณะที่ร้านแบบ stand alone หรืออยู่ภายนอกห้างฯ ย่อมมีค่าเช่าถูกกว่า แต่ก็ต้องเสี่ยงกับสภาพ อากาศที่ไม่แน่นอนรวมถึงที่จอดรถที่อาจมีจำ�กัด แต่ต่อให้เราได้ทำ�เลที่ต้องการ เหมาะกับฐานลูกค้าแล้ว สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือการวิเคราะห์คู่แข่งบริเวณเดียวกันคง ไม่ดีแน่ถ้าคุณคิดจะเปิดร้านเบเกอรี่ในทำ�เลที่มีร้านเบเกอรี่เจ้าดังอยู่แล้ว 3 ร้าน รวม ไปถึงการสังเกตยอดขายร้านประเภทเดียวกันในทำ�เลนั้นๆเพื่อที่นำ�มาวิเคราะห์ถึง โอกาสและอุปสรรค หากเราจะเข้ามาแข่งขันในทำ�เลนี้

30

ชื่อของร้านอาหารเปรียบได้กับประตูบานแรกที่ลูกค้าจะ รู้ จั ก กั บ เรา ฉะนั้ น ให้ เ วลากั บ การตั้ ง ชื่ อ สั ก นิ ด สั ก หน่ อ ย เพราะนอกจากจะเป็นตัวบอกว่าร้านเราอยู่ตรงไหนของ ตลาดแล้วยังเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ�แบรนด์ดิ้งของร้าน ด้วยซึ่งเทคนิคการตั้งชื่อร้านอาหารมีอยู่หลายวิธีไม่ว่าจะ เป็นการเอาชื่อตัวเองมาตั้งหรือตั้งชื่อตามทำ�เลที่อยู่ก็ได้ แต่ไม่ว่าจะตั้งชื่ออะไรก็ตามพยายามหลีกเลี่ยงชื่อร้านที่ เรี ย กได้ ย าก ไม่ คุ้ น หู ค นไทย รวมไปถึ ง การตั้ ง ชื่ อ ร้ า นที่ คล้ายๆกับคู่แข่ง เพราะอาจทำ�ให้ลูกค้าสับสนได้ ไม่ว่าจะทำ�ธุรกิจอาหารประเภทไหนหรือแม้กระทั่งขายทางออนไลน์ เงิ น ทุ น คื อ สิ่ ง จำ � เป็ น เสมอ การลงทุ น ทำ � ร้ า นต่ า งๆ คุ ณ จะต้ อ ง วางแผนเงินลงทุนตั้งต้นช่วงก่อนเปิดร้าน (Pre-operating) ให้ ครอบคลุม เช่น เงินมัดจำ�ค่าเช่าสถานที่ ค่าตกแต่ง ค่าอุปกรณ์ ครัว ค่าวัตถุดิบในตอนต้น ค่าโฆษณาตามช่องทางต่างๆ ฯลฯ แต่ ไม่ว่าคุณจะคิดคำ�นวนเป็นอย่างดีแค่ไหน ก็ต้องเผื่องบประมาณ ฉุกเฉินไว้อีก 10% เพราะมักมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือแผนเสมอ เช่น ค่าทำ�กราฟฟิก ค่าก่อสร้างเพิ่มเติม แม้กระทั่งค่าขออนุญาตต่างๆ นอกจากนี้ยังต้องกันเงินลงทุนสำ�รองไว้สำ�หรับช่วงเปิดร้าน 3 เดือนแรก อย่างน้อยก็ต้องให้เพียงพอกับค่าเช่า เพราะเราตอบไม่ ได้เลยว่า ช่วงแรกที่เปิดร้านจะมีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน การวางแผน เงินทุนสำ�รองจะช่วยให้ร้านผ่านช่วงที่ยากลำ�บากนี้ไปได้

ธุรกิจร้านอาหารถือเป็นธุรกิจนึงที่มีอัตราความเสี่ยงต่อการ เจ๊งสูงมาก ทุกคนที่เข้ามาในธุรกิจนี้ล้วนมี passion ที่แรงกล้า โดยมั่นใจว่าถ้า ทำ�เลดี ร้านสวย อาหารอร่อยยังไงก็ขายได้ แต่สิ่งที่พบเกือบทั้งหมดคือ ไม่มีการทำ�แผนธุรกิจ (Business plan) เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเริ่มธุรกิจด้วยเงินหลักหมื่น แสน หรือหลักล้าน การทำ�แผนธุรกิจ (Business plan) และการ ศึกษาความเป็นไปได้ในลงทุน (Feasibility study) จะทำ�ให้ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไปเกิดประโยชน์สูงสุด การเขียนราย ละเอียดทุกอย่างและแบ่งแยกหมวดหมู่จะทำ�ให้คุณเห็นภาพ รวมธุรกิจชัดเจนขึ้น คุณอาจจะเห็นปัญหาหรืออุปสรรคบาง อย่างที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน

31

ในยุคที่โซเซียลมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ อาหารอร่อย หรือบริการดีเป็นเลิศ อาจไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว การ ตกแต่งร้านที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ย่อมสร้างโอกาส ในการแข่งขัน ทำ�ให้ลูกค้าประทับใจและแชร์ประสบการณ์ เหล่านั้นลง social media ทำ�ให้ร้านเป็นที่รู้จักในเวลา อันรวดเร็ว ทั้งนี้หนทางที่ดีที่สุดในการสร้างร้านให้เป็น ไปตามที่เราวาดฝันไว้ คือการมอบความรับผิดชอบนี้ ให้สถาปนิกหรือดีไซเนอร์ เพื่อที่คุณใช้เวลาที่เหลือไป โฟกัสกับการวางแผนด้านอื่นๆ โดยคุณอาจกำ�หนด งบประมาณการตกแต่ง รวมถึงธีมร้านส่งให้สถาปนิก ออกแบบต่อไป ซึ่งปัจจุบันมี เว็ปไซต์ที่สามารถหา แรง บันดาลใจสำ�หรับออกแบบร้านอาหาร เป็นจำ�นวนมาก ร้านที่ตกแต่งดีมีเอกลักษณ์ย่อมมีโอกาสเพิ่มราคาอาหารของคุณได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วยทั้ง งบประมาณ การตกแต่ง ฐานลูกค้า ทำ�เลที่ตั้ง บางครั้งการตกแต่งที่ดูหรูหราเกินไป อาจทำ�ให้ลูกค้าไม่กล้าเข้ามาใช้บริการเพราะคิดว่ามีราคา แพงจนเกินไปก็เป็นได้

การจัดทำ�เมนูถือเป็นหนึ่งในงานยากที่สุดงานหนึ่งเพราะเมนูเป็น มากกว่าแค่รายการอาหารที่แสดงราคา แต่คือตัวแทน คือสิ่งที่ บอกตัวตนร้านคือเหตุผลหลักที่ลูกค้าอุตส่าห์เดินทางมาเพื่อลิ้ม ลองอาหารที่คุณตั้งใจนำ�เสนอ อาหารที่คุณปรุงนอกจากรสชาติ จะต้องถูกปากลูกค้าแล้วอีกสิ่งที่ลืมไม่ได้คือต้องตกแต่งจานให้ดู สวยน่ากิน เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าถ่ายรูปและแชร์ ที่สำ�คัญอาหารจาน นั้นต้องสร้างรายได้ให้ร้านอาหารได้ด้วย หลายๆครั้งพบว่าบาง เมนูยิ่งขายดี ยิ่งขาดทุน เพราะเจ้าของร้านขาดการวางแผนต้นทุน วัตถุดิบ การจัดทำ � Soft opening ก่อนที่จะเปิดร้านจริงนั้น ซึ่งก็ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทดลองระบบต่างๆรวมไปถึงเรื่องเมนู อาหารว่าเป็นไปตามที่วางแผนไว้หรือไม่ ทั้งในเรื่องของรสชาติ การจัดการ ต้นทุน ฯลฯ อย่างไรก็ตามต่อให้เปิดร้านไปแล้ว คุณก็ควรอัพเดตข้อมูลวัตถุดิบอย่างสม่ำ�เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าต้นทุน วัตถุดิบยังอยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งไว้ รวมทั้งต้องคอยสังเกต Feedback จากลูกค้าว่ารู้สึกอย่างไรกับรสชาติอาหาร

32

ต้องยอมรับว่า เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้ คุณไม่ได้อยู่ ในธุ ร กิ จ อาหารเพี ย งอย่ า งเดี ย ว แต่ คุ ณ กำ � ลั ง อยู่ ใ น ธุรกิจเกี่ยวกับ “คน” ด้วย มื้ออาหารที่ดีสำ�หรับลูกค้า เกิดจากการปรุงอาหารที่ดีของพ่อครัวรวมไปถึงการ บริการที่ดีจากพนักงานเสิร์ฟ พนักงานเปรียบเหมือน ตัวแทนเจ้าของร้าน พวกเขาคือคนสำ�คัญที่จะสร้าง ความสัมพันธ์กับลูกค้าทำ�ให้ร้านคุณแตกต่างจากคู่แข่ง และช่วยให้ธุรกิจของคุณมีกำ�ไร เจ้าของร้านไม่สามารถ ทำ�ทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง หน้าที่ของเจ้าของร้านหลัก คือ วางแผน (Planning) ควบคุม(Controlling) และ ติดตาม(Monitoring) การมีทีมงานดี ก็เหมือนกับเรือ ที่มีคุณภาพสูง หางเสือก็ไม่ต้องทำ�งานหนักและทำ�ให้ เราไปถึงเป้าหมายได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ การเฟ้นหาทีมงานที่เหมาะกับร้านไม่ใช่เรื่องง่าย จากประสบการณ์ที่ทำ�ร้าน อาหารมาหลายสาขาพบว่า คุณสมบัติของพนักงานที่จำ�เป็นที่สุด ไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์สูง หรือมีการศึกษาดี เพราะฝีมือความ รู้เป็นสิ่งที่สอนได้ แต่ทัศนคติเป็นสิ่งที่สอนกันไม่ได้ แถมยังเปลี่ยนได้ยาก คนที่มีทัศนคติดีเวลาเจอปัญหา (ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านอาหาร ต้องเจอตลอดเวลา) จะไม่มองว่าเป็นปัญหาหรืออุปสรรค แต่จะมองเป็นความท้าทายที่จะต้องข้ามผ่านไปให้ได้

หลั ง จากวางแผนจั ด การทุ ก อย่ า งเป็ น อย่ า งดี แ ล้ ว ก็ ถึ ง เวลาทำ�ให้ร้านเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คนทำ�ร้านอาหาร ส่วนใหญ่มักเริ่มทำ�การตลาดหลังจากเปิดร้านไปแล้วทั้งที่ ความจริงคุณสามารถทำ�การตลาดได้ตั้งแต่วันแรกที่คุณ ได้ชื่อร้านด้วยซ้ำ � ถ้าคุณเริ่มทำ�การตลาดตอนที่เปิดร้าน แล้วอย่าลืมว่าวันนั้นคุณจะเริ่มมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเช่า ค่า พนักงาน ค่าวัตถุดิบอาหาร หากร้านคุณขายได้ก็ถือว่า โชคดีไปแต่ถ้าวันนั้นลูกค้ายังไม่รู้จักนั่นหมายถึงร้านคุณ กำ�ลังเสี่ยงต่อการขาดทุนทันที ทุกวันนี้มีเว็ปไซต์หรืองาน สัมมนาต่างๆที่สอนเทคนิคการทำ�การตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ค่อนข้างมากคงไม่ยากสำ�หรับเจ้าของร้าน อาหารที่จะเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเริ่มธุรกิจร้าน แต่สิ่งที่ สำ�คัญกว่าเทคนิคต่างคือ เนื้อหา (Content) ที่เรานั้นจะ ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้า รวมไปถึง ประสบการณ์ (Experience) ที่ลูกค้าได้รับทั้งก่อนและหลังเข้ามาใช้บริการการทำ�โปรโมชั่น เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้ามาที่ร้าน ซึ่งมี เทคนิคการทำ�โปรโมชั่นที่น่าสนใจมากมาย แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ลูกค้ากลุ่มหนึ่ง อาจเข้ามาลองร้านอาหารคุณเพราะโปรโมชั่นราคา และจะหายไปหากวันนึงคุณเลิกทำ�โปรโมชั่นสิ่งที่ดีที่สุดในการทำ�การตลาดคือ การมัดลูกค้าของคุณให้อยู่หมัด การตลาดและการโฆษณาอาจช่วยดึงลูกค้ามาร้านคุณเป็นครั้งแรก แต่ประสบการณ์ที่เขาได้รับ กลับไป จะทำ�ให้เขากลับมาเป็นลูกค้าประจำ� (Repeat customer) และบอกต่อ (Word of mouth) ในที่สุด

33

อุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานต้องมีอะไรบ้าง 1.ถ้วยตวงของแห้งและของเหลว

3.ตาชั่ง

โดยถ้ วยตวงทั้ ง สองประเภทนี้ จ ะมี การใช้ ง านที่ แตกต่ า งกั น อย่างมากเลยก็คือจุดประสงค์ของการใช้งานโดยถ้วยตวง ของแห้งนั้นจะใช้กับส่วนผสมที่เป็นของแห้งและมีน้ำ�หนักเบา มีปริมาณไม่มากอย่าง เช่น ผงฟู,น้ำ�ตาล,นมผง,แป้งเป็นต้น แต่สำ�หรับถ้วยตวงของเหลวนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าถ้วย ตวงของแห้งเพราะในการทำ�เบเกอรี่หลายๆชนิดส่วนผสมที่เป็น ของเหลวนั้นจะมีปริมาณที่เยอะกว่าส่วนผสมที่เป็นของแห้งโดย ใช้ตวงส่วนผสมประเภท นมสด,ไข่ขาว,น้ำ�เชื่อเป็นต้น

ตาชั่ ง ก็ ยั ง สามารถแยกได้ เ ป็ น สองประเภทคื อ ตาชั่ ง แบบ ธรรมดาคือใช้เข็มปัดในการนับปริมาณแต่อีกแบบหนึ่งก็คือ ตาชั่งแบบดิจิตัลถ้าในความเหมาะสมแล้วตาชั่งแบบดิจิตัลจะ มีความแม่นยำ�และเที่ยงตรงมากกว่าตาชั่งแบบเข็มปัดเพราะ สามารถคาดคะเนและใส่ส่วนผสมได้ในปริมาณที่แม่นยำ�กว่า

2.เตาอบ เตาอบถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำ�คัญอย่างมากสำ�หรับ การทำ�เบเกอรี่เพราะว่าเป็นตัวทำ�ให้ตัวเบเกอรี่สุกและสามารถ รับประทานได้โดยเตาอบมีหลากหลายขนาดและหลากหลาย ประเภทสำ�หรับนักทำ�เบเกอรี่มือใหม่ควรเลือกซื้อเตาอบที่มี ขนาดไม่ใหญ่มากนักเพราะการใช้งานจะง่ายกว่าเตาอบที่มี ขนาดใหญ่และเตาอบที่มีขนาดใหญ่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย

34

4.เครื่องตีหรือเครื่องผสม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรมีค่ะ เอาไว้ตีผสมพวกเนย น้ำ�ตาล ไข่ ให้เข้ากันหรือตีเนยให้ขึ้นฟู สำ�หรับการทำ�บัตเตอร์ครีม อีกทั้ง ใช้ตีวิปปิ้งครีมได้อีกด้วย สำ�หรับเครื่องผสมนี้ มีทั้งแบบมือถือ เล็กๆ แบบที่เอาไว้ตีไข่ทำ�ไข่เจียวหรือทำ�โฟมนม หรือแบบมือถือที่ ถอดหัวตีได้ และแบบมีสแตนด์มาให้ *ถ้าสำ�หรับมือใหมที่อยากหัดทำ�เบเกอรี่ ขอแนะนำ�ให้เอาแบบ มือถือแบบถอดหัวได้หรือแบบมีแสตนด์*

35

5.ช้อนตวง

7.พายยาง

10.มีด

13.ถ้วยคัพเค้กแบบ

ใช้ในการตักหรือตวงส่วนผสมที่มีปริมาณน้อยๆโดยในทั่วไป แล้วช้อนตวงในการทำ�เบเกอรี่จะแบ่งออกเป็น 4 ขนาดหลักๆ คือ 1 ช้อนโต๊ะ 1,1/2ช้อนชา,1/4ช้อนชา

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการคนกวาดหรือปาดส่วนผสมเข้าหรืออก จากภาชนะผสมในการเลือกซื้อควรจะเลือกในแบบที่ไม่แข็งจน เกินไปเพราะจะทำ�ให้พายยางไม่สามารถโค้งตามแนวก้นภาชนะ ผสมได้เท่าที่ควร

มีดมีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นมีดแบบหั่นแบบตัดหรือแบบสไลด์ ทั้งนี้ควรเลือกมีดให้เหมาะสมกับงานที่ใช้

ซึ่งถ้วยคัพเค้กก็มีหลายขนาดขึ้นอยู่กับความต้องการการใช้งาน ทั้งถ้วยจีบ และถ้วยกระดาษที่สามารถเอาเข้าเตาอบได้เลย

11.ตะแกรงร่อนแป้ง 6.พิมพ์อะลูมิเนียม สำ�หรับใส่ถ้วยกระดาษจีบอีกทีเพื่อให้อยู่ทรงเวลาเข้าเตาอบ อาจใช้เป็นถาดเทฟลอนก็ได้

8.ตะกร้อตีไข่ เอาไว้ใช้สำ�หรับตีไข่หรือส่วนผสมให้ขึ้นฟูในการเลือกซื้อที่ตีไข่ นั้นควรเลือกรูปแบบที่ถนัดมือและไม่ควรเลือกซื้อที่ตีไข่ที่มีขนาด ซี่ใหญ่เกินไปเพราะจะทำ�ให้ตีส่วนผสมขึ้นฟูยาก

เป็นอุปกรณ์ที่สำ�หรับทำ�ให้อากาศเข้าไปในแป้งเพื่อที่จะให้แป้ง ที่ได้จากการทำ�ขนมนั้นมีความพองฟูน่ารับประทานโดยวิธีใน การเลือกซื้อตะแกรงร่อนแป้งนั้นควรจะมีขนาดรูที่พอดีไม่ควร ใหญ่หรือเล็กเกินไปขึ้นอยู่กับประเภทของขนมหรือเบเกอรี่ที่เรา เลือกทำ� 14.เม็ดสีประดับตกแต่ง อันนี้ไม่ค่อยจำ�เป็น แต่เพื่อความสวยงามในการประดับคัพเค้กก็ หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ค่ะ

12.สีผสม

11. ถาดอะลูมิเนียม ใช้สำ�หรับใส่ถ้วยคัพเค้กเพื่อเตรียมสำ�หรับเข้าเตาอบอีกที

9.ตะแกรงสำ�หรับผึ่งเค้ก เพื่อช่วยระบายความร้อนของเค้กหลังจากนำ�ออกจากเตาอบ

36

สีผสมอาหารมีหลากหลายรูปแบบทั้งสีน้ำ� สีผง สีเจล ขึ้นอยู่ กับลักษณะการใช้งานและงบประมาณที่มีอยู่

37

สุดยอด 20 ไอเดีย

ตกแต่งหน้าเค้ก

38

39

1. เค้กช็อกโกแลตพีนัตบัตเตอร์ (Peanut Butter Chocolate Layer Cake)

2. เค้กคิทแคท (Kit Kat Cake)

ไอเดียแต่งเค้กช็อกโกแลตที่น่าสนใจทีเดียว จับเค้กช็อกโกแลตมาปาดบัตเตอร์ครีมเนยถั่ว จากนั้นราดช็อกโกแลตกานาช ให้ค่อยๆ ย้อยลงไป ด้านบนแต่งด้วยสารพัดท็อปปิ้งอย่างช็อกโกแลตชิพ วิปปิ้งครีม และช็อกโกแลตไส้เนยถั่วให้สวยงามตามชอบ

เค้กคิทแคท อบเค้กช็อกโกแลตหรือเค้กอื่น ๆ ที่ชอบให้สุกแล้วนำ�มาปาดครีมให้ทั่วทั้งชิ้น แล้วค่อย ๆ นำ�คิทแคทไปแปะ รอบ ๆ เค้ก จากนั้นใช้โบสวย ๆ มัดเพื่อยึดไม่ให้หลุดออกจากกัน โรยช็อกโกแลต M&M ด้านบนเพิ่มเข้าไปจนเต็ม เชื่อว่าใครชอบกิน ช็อกโกแลตต้องปลื้มแน่ ๆ

40

41

3. เค้กหมีเทดดี้สีฟ้า (Teddy Blue Bear Cake)

อีกหนึ่งไอเดียแต่งเค้กด้วยบัตเตอร์ครีมผสมสีฟ้า บีบไปทั่ว ๆ เค้กให้เหมือนขนฟูนุ่ม สุดท้ายก็แต่งด้วย ฟองดองที่ตัดแต่งเป็นตา จมูก ปาก แค่นี้ก็ได้เค้กน่ารัก ๆ ไว้ในครอบครองแล้ว

42

4.เค้กช็อกโกแลตฟองดอง

เค้กช็อกโกแลตฟองดอง สูตรเค้กวันเกิดสุดสร้างสรรค์ หน้าตาเหมือนเค้กทั่วไป แต่ข้างในใส่ไส้ทะลัก เพียงแค่นำ� ช็อกโกแลตไปละลายแล้วใส่ลงพิมพ์ทำ�ให้เป็นถ้วย นำ�ไปแช่เย็นให้ช็อกโกแลตแข็ง จากนั้นก็นำ�ออกมาใส่เอ็มแอนด์เอ็มหลากสีเข้าไป ห่อหุ้มด้วยฟองดองสีขาว ตกแต่งให้สวยงาม พอผ่าเค้กออกมาเม็ดช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็มก็จะล้นทะลักออกมาแล้ว

43

5.เค้กกระเป๋าเครื่องสำ�อาง

เค้กกระเป๋าเครื่องสำ�อาง มีส่วนผสมแค่ 3 อย่างเท่านั้นเอง เค้กที่อบสุกแล้วตัดเป็นทรงกระเป๋า ฟองดองไอซิ่ง (Fondant Icing) สีชมพูและสีดำ� และเกล็ดน้ำ�ตาลเม็ดกลมสีทอง จากนั้นก็ใช้จิตนาการบรรเลงให้เป็นกระเป๋าหรู ๆ ได้แล้ว

44

6.เค้กป๊อกกี้ (Pocky Strawberry Shortcake)

วิธีแต่งเค้กง่าย ๆ ที่จับเอาขนมป๊อกกี้แท่ง ๆ ที่เรากินกันบ่อย ๆ มาแปะ ๆ เรียงสลับสีให้สวยงาม เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ดูอลังการ งานสร้างไม่เบาเลยล่ะ

45

46

7.เค้กกัมมี่แบร์ (Gummy Bear Cake)

8.เค้กสตรอว์เบอร์รีสีชมพู (Strawberry Cake)

ไอเดียแต่งเค้กง่าย ๆ จากของที่หาง่าย ๆ นำ�หมีกัมมี่แบร์ไปแปะไว้รอบ ๆ เค้กที่ปาดด้วยบัตเตอร์ครีมจนทั่วทั้งก้อน สุดท้ายก็โรยไว้ด้านบนอีกสักหน่อย แจ่ม !

เริ่มจากทำ�ส่วนผสมเค้กสตรอว์เบอร์รีใส่ในพิมพ์รูปหัวใจ จากนั้นนำ�ไปอบจนสุก ปาดบัตเตอร์ครีมสีชมพูลงบนเค้กให้ ทั่วทั้งก้อน จากนั้นบีบครีมโดยใช้หัวบีบครีมรูปดาวแล้วค่อย ๆ บีบลงไปให้ทั่วเค้ก ทั้งด้านบนและด้านข้าง นำ�ไวท์ช็อกโกแลตชิพ มาแต่งบนหน้าเค้กให้สวยงาม ตัดกระดาษสีเขียวเป็นรูปใบไม้ จากนั้นนำ�ไปติดกับไม้เสียบลูกชิ้นแล้วแปะด้วยเทปกาว จากนั้นนำ�ไป เสียบด้านบนของเค้ก

47

48

9. เค้กลวดลายแฟนซี

10. เค้กสวยด้วยท้อปปิ้ง

ถ้าคุณมีทักษะ และถนัดตกแต่งหน้าเค้กด้วยครีมอยู่แล้ว ก็ลองดีไซน์ครีมเป็นรูปต่าง ๆ เช่น รูปดอกมะลิ รูปสวนดอกไม้ รูปบอลลูน หรือรูปการ์ตูนดังก็ได้ แต่ถ้าชอบรับประทานแยมมากกว่า น่าจะแต่งหน้าเค้กเป็นรูปการ์ตูนแฟนซี หรือหน้าคนก็เก๋ไป อีกแบบนะ

หน้าเค้กเกลี้ยงเนียนที่มีแต่ครีมรสชาติกล่อมกลม และคุณเองก็ไม่ถนัดจะวาดลวดลายลงบนหน้าเค้กสักเท่าไร อย่าง นี้จะลองแต่งเค้กด้วยท้อปปิ้งต่าง ๆ ดูก็ได้ อาจจะวางน้ำ�ตาลไอซิ่งรูปการ์ตูน หรือดอกไม้มาวางประดับด้านข้างของเค้ก โรย เกล็ดน้ำ�ตาลแต่หน้าเค้กให้มีสีสัน หรือจะสไลด์ผลไม้โปรดเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำ�มาจัดเรียงให้สวยงามเป็นเค้กผลไม้สดก็ดี ถูกใจ แบบไหนก็จัดไปตามนั้นได้เลยจ้า

49

11. แสนเก๋กับดีไซน์ข้างเค้ก ด้านข้างของเค้กก็มีพื้นที่เหลือให้เราตกแต่งลวดลายได้ตามใจชอบเช่นกัน แต่หลายคนอาจจะถูกใจกับขอบเค้กที่เป็นเกล็ด น้ำ�ตาล หรือช็อกโกแลตชิพมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วครีม และผลไม้สด และเม็ดถั่วก็สามารถนำ�มาตกแต่งหน้าเค้กได้ โดยเฉพาะเปลือก ส้ม หรือสตรอว์เบอร์รีสด นำ�มาสไลด์บาง หรือหั่นพอดีคำ�แล้วมาคาด หรือวางประดับขอบเค้กได้สวยเก๋ แถมยังเพิ่มความอร่อยแบบ กลมกล่อมให้เค้กอีกด้วย นอกจากนี้ขนมปังกรอบ หรือบิสกิตก็สามารถนำ�มาแต่งขอบเค้กเป็นรูปรั้วได้น่ารักสุด ๆ อีกด้วยล่ะ

50

12. ฟรุตสลัดสุดชุ่มฉ่ำ� วิธีแต่งหน้าเค้กที่ง่ายและอร่อยไปด้วยในตัวก็คือ การวางฟรุตสลัดลงไปบนหน้าเค้ก โดยเฉพาะกับคัพเค้กก้อนเล็ก ๆ ถ้า บีบครีมแต่งหน้าเค้กเป็นฐานก่อน แล้วค่อยหยอดฟรุตสลัดแช่เย็นลงไปสักหน่อยก็จะอร่อยกลมกล่อม หน้าเค้กก็สวยสดใส หรือ ถ้าชอบสตรอว์เบอร์รี ก็คลุกสตรอว์เบอร์รีสดกับน้ำ�ตาลไอซิ่ง แช่ไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง แล้วค่อยนำ�มาทำ�เป็นหน้าเค้กก็ดี รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ และความเย็นสดชื่นของสตรอว์เบอร์รีจะตัดกับความหวานมันของครีมได้ลงตัวที่สุดเลยล่ะ

51

13.ลายอักษรบอกความในใจ ไอเดียแต่งเค้กด้วยการบีบครีมเป็นตัวอักษร ประกันเป็นคำ�อวยพร หรือคำ�พูดน่ารัก ๆ ก็เป็นไอเดียที่เรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ไม่ หยอก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบละเลียดครีมบนเค้กมากนัก แต่เน้นสัมผัสนุ่มลิ้นของแป้งเค้กมากกว่า อีกทั้งการบีบครีมเป็นคำ�พูด แบบนี้ ก็ยังสามารถบ่งบอกความในใจของคนทำ�ได้มากกว่ารูปแบบต่าง ๆ ของหน้าเค้กทั่วไป อยากสื่อสารคำ�พูดอะไรกับคนรับ เค้กก็แค่บีบครีมเป็นคำ� ๆ นั้นได้เลย

52

14. เค้กดอกไม้หลากสี ( Rainbow Buttercream Flower Cake)

ใครพอจะมีฝีมือในการบีบครีมเป็นดอกไม้เชิญทางนี้จ้า ค่อย ๆ บีบ ค่อย ๆ บบรจงแต่งให้เป็นสวนดอกไม้หลาก สีให้ทั่วทั้งก้อนเค้กที่อบสุกแล้ว แค่นี้ก็สวยสดใสสุด ๆ แล้วจ้า

53

15. เค้กแฮมเบอร์เกอร์ (Cheeseburger Cake)

ไอเดียแต่งเค้กให้เป็นแฮมเบอร์เกอร์ก็เก๋ไม่เบา จับเค้กช็อกโกแลตที่อบสุกแล้วมาสไลซ์เป็นแผ่น ๆ วางเรียงสลับชั้นกัน ส่วนที่เป็นแผ่นชีสคือฟองดองผสมสีเหลือง แต่งด้วยบัตเตอร์ครีมผสมสีเขียว สีแดง และสีเหลืองให้คล้ายกลับแฮมเบอร์เกอร์ เท่านี้ก็แจ่มแล้ว

54

16. เค้กโดนัทยักษ์ (Giant Donut Cake)

แปลงร่างเค้กก้อนกลมธรรมดาให้มีรูตรงกลางเหมือนโดนัท ทาครีมสีน้ำ�ตาลให่ทั่วทั้งเค้ก จากนั้นแต่งด้วยฟองดอง สีชมพูมา โรยเกล็ดน้ำ�ตาลหลากสี เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

55

17. Strawberry Blossom cake

สตอเบอรี่สดๆถูกวางบนลาร์นาเค้กเพิ่มความอร่อยสุดๆ เราล้างและเช็ดแห้งสตอเบอรี่ทุกลูกก่อนจะบรรจงวางลงบน ลาร์นาเค้ก ช็อกหน้านิ่ม ขายดีที่สุดของเรา สามารถเก็บไว้ได้เพียง 1-2 วันในตู้เย็นเท่านั้นครับเนื่องจากเป็นผลไม้สดๆและไม่ผ่าน การเคลือบเงาใดๆ อร่อย และยังดูอลังการดีเหมาะเป็นเค้กวันเกิด

18.Chocolate Heaven Larna cake

สตอเบอรี่สดๆถูกวางบนลาร์นาเค้กเพิ่มความอร่อยสุดๆ เราล้างและเช็ดแห้งสตอเบอรี่ทุกลูกก่อนจะบรรจงวางลงบน ลาร์นาเค้ก ช็อกหน้านิ่ม ขายดีที่สุดของเรา สามารถเก็บไว้ได้เพียง 1-2 วันในตู้เย็นเท่านั้นครับเนื่องจากเป็นผลไม้สดๆและไม่ผ่าน การเคลือบเงาใดๆ อร่อย และยังดูอลังการดีเหมาะเป็นเค้กวันเกิด

56

57

58

19. คัพเค้กดอกเดซี่

20. เค้กแกะน้อยขนฟู (Fluffy Lamb Cake)

หรือใครอยากลองบีบครีมเป็นดอกไม้บนคัพเค้กชิ้นเล็ก ๆ ไอเดียแต่งเค้กดอกเดซี่สีขาวก็น่าสนใจทีเดียวนะคะ

น่ารักสุด ๆ กับเค้กแกะน้อยขนฟู ชอบเค้กรสไหนก็นำ�ไปอบจนสุกแล้วนำ�มาปาดบัตเตอร์ครีมสีขาวให้เรียบทั่ว ทั้งก้อน จากนั้นก็นำ�ครีมที่เหลือมาบีบวน ๆ รอบ ๆ เค้ก แต่งด้วยตา จมูก ปาก และหู ด้วยฟองดองให้สวยงาม

59

60